The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by GYPSY GROUP, 2019-05-29 03:44:29

Sea Monster สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล

History

Keywords: Monsters Sea

อุดมการณ์ของนักสัญจรบนหน้ากระดาษ
ผู้พิสมัยแสวงหาความรู้และภูมิปัญญาใหม่มาบรรณการนักอ่าน



3
สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล บนแผนท่ีสมัยกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ

4
Sea Monsters on Medieval and Renaissance Maps

5

Chet Van Duzer

SEA MONSTERS
on Medieval and Renaissance
MAPS
สัตวประหลาดแหงทองทะเล
บนแผนที่สมัยกลางและสมัยฟนฟูศิลปวิทยาการ
เชท แวน ดูเซอร: เขียน ชัยจักร ทวยุทธานนท: แปล

หอสมุดแห่งชาติอังกฤษ

สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล บนแผนท่ีสมัยกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ

SEA MONSTERS

on Medieval and Renaissance Maps

สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล
บนแผนที่สมัยกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
เชท แวน ดูเซอร์: เขียน
ชัยจักร ทวยุทธานนท์: แปล
ราคา 460 บาท

All rights reserved. บรรณาธิการอ�ำนวยการ : คธาวุฒิ เกนุ้ย
SEA MONSTERS ON MEDIEVAL
AND RENAISSANCE MAPS บรรณาธิการบริหาร : สุรชัย พิงชัยภูมิ
Text ©2013 by Chet Van Duzer
Illustration 2013 by The British Library Board ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร : วาสนา ชูรัตน์
Published by arrangement with: The British
Library Board, The British Libraly, St Pancras, บรรณาธิการเล่ม : ณิชาภา ชิวะสุจินต์
96 Euston Road, London, NW1 2DB, England
through Bridge Communications Co.,Ltd. กองบรรณาธิการ : คณิตา สุตราม
Thai Translation edition first published
in Thailand in 2019 by Gypsy Group Co.,Ltd. พรรณิกา ครโสภา
This book is published through an arrangement
with Bridge Communications Co.,Ltd. ดารียา ครโสภา
Tel. 66 2645 4424 Email: [email protected]
เลขากองบรรณาธิการ : อรทัย ดีสวัสด์ิ
© ข้อความและรูปภาพในหนังสือเล่มน้ี สงวนลิขสิทธ์ิ
พิสูจน์อักษร : ปัญชิกา แสนยะมูล
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพ่ิมเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกส่วนใดๆ ในหนังสือเล่มน้ีไปเผยแพร่ ศิลปกรรม : Rabbithood Studio
ไม่ว่าในรูปแบบใดต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน
ยกเว้นเพื่อการอ้างอิง การวิจารณ์ และประชาสัมพันธ์ ผอู้ ำ� นวยการฝา่ ยการตลาด : นุชนันท์ ทักษิณาบัณฑิต

ข้อมูลทางบรรณานุกรมของส�ำนักหอสมุดแห่งชาติ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด : ชิตพล จันสด
National Library of Thailand Cataloging
in Publication Data ผู้จัดการทั่วไป : เวชพงษ์ รัตนมาลี
ดูเซอร์, เชท แวน
จัดพิมพ์โดย : บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จ�ำกัด
Sea Monsters สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล.--
กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป, 2562. เลขท่ี 37/145
228 หน้า.
1. สัตว์ประหลาด. l. ชัยจักร ทวยุทธานนท์, ผู้แปล. II. รามค�ำแหง 98
ชื่อเร่ือง.
001.944 แขวง/เขตสะพานสูง

ISBN 978-616-301-682-9 กรุงเทพฯ 10240

โทร. 0 2728 0939

โทรสาร. 0 2728 0939

ต่อ 108

www.gypsygroup.net

พิมพ์ที่ : บริษัท วิช่ัน พรีเพรส จ�ำกัด

โทร. 0 2147 3175

จัดจ�ำหน่าย : บริษัท ยิปซี กรุ๊ป จ�ำกัด

โทร. 0 2728 0939

www.facebook.com/

gypsygroup.co.ltd

LINE ID : @gypzy

สนใจสั่งซ้ือหนังสือจ�ำนวนมากเพ่ือสนับสนุนทางการศึกษา ส�ำนักพิมพ์ลดราคาพิเศษ ติดต่อ โทร. 0 2728 0939

กิตติกรรมประกาศ

การได้ส�ำรวจสิ่งท่ีเราสามารถเรียนรู้ได้จากสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล
ท่ีเป็นส่วนประกอบประดับตกแต่งแผนท่ีสมัยกลางและสมัยเรอแนสซ็องส์
หรือท่ีเรียกว่า สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการนั้น เป็นประสบการณ์ที่ให้ผลล้�ำลึก
อย่างยง่ิ ของผม ตลอดเวลาท่ไี ด้ค้นควา้ วจิ ัย และเขียนหนงั สอื เล่มนี้ ผมรู้สกึ
โชคดีท่ีได้ท�ำงานในเรื่องที่สร้างความประทับใจท้ังในทางสายตา อารมณ์
และสตปิ ญั ญา ขณะเดยี วกนั กท็ ำ� ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจอยา่ งลกึ ซงึ้ ตอ่ แหลง่ ขอ้ มลู
และเทคนคิ ต่างๆ ของบรรดานกั เขียนแผนท่ี
ผมใคร่ขอขอบคณุ ตอ่ บุคคลทีช่ ว่ ยให้งานชิ้นนบ้ี รรลผุ ลสำ� เรจ็ ผมขอขอบคณุ
แคเทอรีน เดลาโน-สมิท ท่เี หน็ ว่างานวิจัยของผมสมควรยง่ิ ทจ่ี ะตีพิมพ์เปน็
หนงั สอื และขอบคุณ เดวิด เวย์ ผู้ด�ำเนนิ การจัดพิมพข์ องหอสมดุ แห่งชาติ
องั กฤษสำ� หรบั คำ� แนะนำ� และการสง่ เสรมิ ของเขา ผมใครข่ อขอบคณุ เจา้ หนา้ ที่
ของหอ้ งสมุดแผนทีท่ ห่ี อสมดุ แห่งชาติองั กฤษ โดยเฉพาะ ปีเตอร์ บารเ์ บอร์
และทอม ฮารเ์ พอร์ และขอบคณุ เจา้ หนา้ ทหี่ อ้ งสมดุ มหาวทิ ยาลยั สแตนฟอรด์
โดยเฉพาะจอห์น มัสเตน ทั้งน้ี ส�ำหรับค�ำแนะน�ำ การตรวจทานและการ
ช่วยเหลือ ผมเป็นหนี้บุญคุณอิเลีย ดินส์, จอห์น ไฟรด์แมน, แจ็คเกอลีน
ลุกแคลร์-มาร์กซ์, มาร์ครีต ฮูกวลีต, นาทาเลีย โลโซฟสกี, คิมเบอร์ลี
เมอร์รทิ ท,์ โรสแมรี มารค์ สั , เคลาส์ บาร์เทลเมสส์ (†), เกรกอรี แมค็ อนิ ทอช
และ ฮานา เซดโิ นวา ทา้ ยทส่ี ดุ ผมใครข่ อขอบคณุ มติ รสหายและเพอื่ นรว่ มงาน
อีกมาก ตลอดจนครอบครัวของผม ส�ำหรับการสนับสนุนโครงการนี้อย่าง
เตม็ ท่ี

เชท แวน ดูเซอร์
ลอสอลั ตอสฮลิ ส,์ แคลฟิ อร์เนีย, 2013

สารบัญ

กิตติกรรมประกาศ 7
บทน�ำ 12
บรรพบรุ ุษสมัยคลาสสิก 20
แผนทสี่ มยั กลางยคุ แรกสดุ กบั สตั วป์ ระหลาดแหง่ ทอ้ งทะเล 22
: แผนทโ่ี ลกของเบอาตสุ
“ใหท้ ุกสิง่ ก�ำเนดิ จากน้�ำ”: สัตวป์ ระหลาดแหง่ ท้องทะเลในการสรา้ งโลก 32
สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลในอา่ วบรินดซิ ิ 34
แผนทโี่ ลกในความนกึ คิดกับสตั วป์ ระหลาดแห่งท้องทะเล 35
สัตวป์ ระหลาดแห่งท้องทะเลบนเพดาน 37
สตั วป์ ระหลาดขนาดยักษ์แห่งท้องทะเลในแผนท่โี ลกขนาดเล็ก 2 ฉบบั 40
“ทะเลอันกว้างใหญ่หาใชอ่ นื่ นอกจากท่ีอย่ขู องเหลา่ สัตว์ประหลาด” 44
แผนทโ่ี ลกขนาดใหญ่ 2 ฉบับกับสัตว์ประหลาดแหง่ ทอ้ งทะเลจำ� นวนหนึง่ 46
สัตวป์ ระหลาดแหง่ ทอ้ งทะเล 3 ตัวต่อสู้กันในมหาสมุทรแอตแลนติก 51
สำ� รวจภาพ: อันตรายจากสตั วป์ ระหลาดแหง่ ท้องทะเล 54
สตั วป์ ระหลาดแห่งท้องทะเลในแผนทเ่ี ดินเรอื : หมึกยกั ษ์ ไซเรน และฉลาม 58
วธิ ซี อื้ สัตวป์ ระหลาดแหง่ ท้องทะเล 69

การลา่ วาฬในต�ำนานและความเปน็ จรงิ 71

รงั สัตว์ประหลาดแห่งทอ้ งทะเลท่กี ้นบ้งึ ของโลก 73

วาฬตัวใหญเ่ ทา่ ภูเขา 75

สัตว์ประหลาดสุดสยองจากมหาสมุทรอินเดีย 77

ความกงั ขาต่อสัตว์ประหลาดแหง่ ท้องทะเล: ภราดาเมาโร 80

ส�ำรวจภาพ: สตั ว์ประหลาดแหง่ ทอ้ งทะเลประหลาด 82

การประดิษฐส์ ร้างสัตว์ประหลาดแหง่ ทอ้ งทะเลในมหาสมุทรท่โี อบลอ้ มโลก 86

เอกสารลายมือเขียนท่มี สี ตั ว์ประหลาดแห่งทอ้ งทะเลจ�ำนวนมาก 89

สตั วป์ ระหลาดแห่งทอ้ งทะเลในเอกสารของโทเลมฉี บบั พิมพ์ 95

สตั ว์ประหลาดแหง่ ท้องทะเลในลูกโลกยคุ แรกท่ีหลงเหลืออยู่ 98

สัตวป์ ระหลาดแหง่ ทอ้ งทะเลในแผนที่ของวาล์ดซมี ลึ เลอร์ ปี 1507 101
และลูกโลกของเชอเนอร์ ปี 1515

การจดุ ไฟบนหลงั วาฬ 109

ส�ำรวจภาพ: พฒั นาการของวอลรัสในแผนที่ 112

การเผยโฉมของสัตวป์ ระหลาดแห่งท้องทะเลในสมยั ฟน้ื ฟูศลิ ปวทิ ยาการ 116

โอลาอสุ มักนสุ กับสัตวป์ ระหลาดแหง่ ท้องทะเลทสี่ ำ� คญั ท่ีสดุ ในศตวรรษท่ี 16 118

ลกู โลกของเมอร์กาเตอร์ ปี 1541: อิทธิพลของโอลาอุส มักนสุ 125
ลูกโลกของ อูลพอิ สุ : สตั วป์ ระหลาดแห่งท้องทะเลท่มี อี ยู่กอ่ น 128
สัตว์ประหลาดท่หี ยุดเรอื ท่ีหลงเขา้ มาในเขตของมนั 130
ส�ำรวจภาพ: สตั ว์ประหลาดแห่งท้องทะเลในจนิ ตนาการตัวอ่ืนๆ 134
จากมังกรทะเลสู่ปลากระโทงดาบ: แผนทีห่ ้องสมดุ ไรแลนดส์ ปี 1546 138
หลักฐานของผ้เู ช่ียวชาญดา้ นสัตวป์ ระหลาดแหง่ ท้องทะเล 143
พฒั นาการนา่ สนใจของเตา่ บิน 145
คตินยิ มสรรผสานของจักโกโม กสั ทัลดิ 147
สตั ว์ประหลาดแหง่ ท้องทะเลบนแผนที่ขนาดใหญ่ 151
ของ เกรารด์ เมอร์กาเตอร์ ปี 1569
สัตวป์ ระหลาดแหง่ ทอ้ งทะเลทโี่ ลดแลน่ อยทู่ ่ามกลางหมู่เกาะ 155
ในทะเลเมดิเตอรเ์ รเนียน
สัตวป์ ระหลาดแห่งทอ้ งทะเลรอบไอซ์แลนด์ในแผนทฉ่ี บับแรก 158
การปรากฏตัวอีกครงั้ ของสตั ว์ประหลาดสยอง 163
ความอศั จรรย์และความจริงของวาฬเม่อื ส้นิ ศตวรรษท่ี 16 165
สัตวป์ ระหลาดแห่งทอ้ งทะเลโลกใหม่ 2 ตัว 167
บทสรุป 170

เชงิ อรรถ 176

12

บทนำ�

ในสายตาของผู้คนสมัยกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล
ในแผนท่ีของยุโรปเป็นสิ่งอันตรายจริงๆ แต่ในมุมมองสมัยใหม่สัตว์ประหลาดเหล่านั้น
เกยี่ วพนั กับองคป์ ระกอบในแผนที่เก่ามากยงิ่ ขน้ึ ไม่ว่ามันจะแหวกวา่ ยอยา่ งกระฉบั กระเฉง
โลดแล่นอยใู่ นเกลียวคล่นื โจมตเี รือหรอื เพยี งปรากฏตวั ให้เป็นท่ีสนใจของเรากต็ าม แตน่ า่
ประหลาดใจที่เรื่องราวเหล่านี้กลับได้รับการศึกษาเพียงเล็กน้อย1 เหตุผลประการหน่ึง
ของการละเลยน้ีอาจมาจากความยากล�ำบากในการสืบหาความสัมพันธ์ของผลกระทบ
ของสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลท่ีปรากฏอยู่บนแผนท่ีสมัยกลาง (สถานการณ์นี้แตกต่าง
ไปในการทำ� แผนทสี่ มยั ฟน้ื ฟศู ลิ ปวทิ ยาการ) ไม่ตอ้ งสงสยั เลยว่าความยากล�ำบากน้มี าจาก
ความจริงท่ีว่ามีม้วนแผนท่ีฉบับด้ังเดิมในสมัยกลางหลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยและยังเป็น
เพราะสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลในแผนท่ีเหล่าน้ันมักจะมาจากแหล่งอ่ืนนอกเหนือจาก
ข้อความท่ีปรากฏอยู่บนแผนท่ี ดังน้ัน แม้แต่ในแผนที่ของตระกูลช่างโดยเฉพาะอย่าง
แผนที่โลก (mappaemundi) ท่ีให้ภาพต้นฉบับตัวเขียนของ ค�ำอธิบายว่าด้วยวันสิ้นโลก
(Commentary on the Apocalypse) ซ่ึงเขียนโดย เบอาตสุ แห่งลีเอบานา (Beatus of
Liébana, ประมาณ ค.ศ. 730-ประมาณ ค.ศ. 800) แล้ว มีความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์
ประหลาดแห่งทอ้ งทะเลบนแผนท่ีฉบบั หน่ึงกบั แผนทฉ่ี บับอ่นื ๆ เพียงเล็กนอ้ ยหรอื ไม่มีเลย

อย่างไรก็ตาม ความยากล�ำบากของการสืบหาการพัฒนาความสัมพันธ์ของสัตว์
ประหลาดแห่งท้องทะเลในแผนที่สมัยกลางไม่ใช่เหตุผลท่ีจะละเลยการศึกษาเร่ืองดังกล่าว
ประเด็นนี้มีความส�ำคัญต่อประวัติศาสตร์ไม่เพียงแต่ในแง่การท�ำแผนที่และแง่ศิลปะโดย
เฉพาะการวาดภาพสัตว์เท่านั้น หากแต่ยังมีความส�ำคัญต่อภูมิศาสตร์ของสิ่งประหลาด
และแนวคดิ โลกตะวนั ตกวา่ ดว้ ยมหาสมทุ ร ยงิ่ กวา่ นน้ั สตั วป์ ระหลาดแหง่ ทอ้ งทะเลทปี่ รากฏ
อยู่บนแผนที่ยังให้มุมมองส�ำคัญถึงหลักฐาน อิทธิพล และวิธีการท่ีช่างท�ำแผนท่ีเขียนหรือ
ระบายสพี วกมนั ขน้ึ มา ในหนงั สอื เลม่ นผ้ี มจะวเิ คราะหต์ วั อยา่ งทสี่ ำ� คญั มากของสตั วป์ ระหลาด
แหง่ ทอ้ งทะเลในแผนทส่ี มัยกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการทท่ี ำ� ข้นึ ในยุโรป โดยเริม่ จาก
แผนที่โลก ท่ีเก่าแก่ที่สุดซ่ึงปรากฏข้ึนและยังคงด�ำรงอยู่จนกระท่ังสิ้นศตวรรษที่ 16 โดย
ศึกษาแผนที่เหล่าน้ันอย่างลึกซ้ึงท่ีสุดเท่าท่ีจะท�ำได้และเสริมด้วยตัวอย่างคล้ายกันจาก

Sea Monsters on Medieval and Renaissance Maps

13

แผนทอี่ น่ื ๆ ในสมยั กลางและจากงานเขยี นดา้ นสตั ววทิ ยารว่ มสมยั ผลการศกึ ษาประการหนง่ึ
คอื ชา่ งทำ� แผนทม่ี กั จะใชง้ านเขยี นใหมล่ า่ สดุ เกย่ี วกบั สตั วป์ ระหลาดแหง่ ทอ้ งทะเลเปน็ แหลง่
ขอ้ มลู สำ� หรับสตั วป์ ระหลาดในแผนที่ของพวกเขา
แต่สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลคืออะไร ค�ำว่า “สัตว์ประหลาด” (monster) เป็นค�ำ
ท่ีนิยามได้ยากย่ิงและท่ีจริงแล้วค�ำนิยามของนักเขียนในสมัยกลางเองก็ขัดแย้งกันอยู่
ขณะทนี่ กั เขยี นหลายคนทงั้ สมยั คลาสสกิ และสมยั กลาง รวมทงั้ มารค์ สุ คอรเ์ นลอิ สุ ฟรอนโต
(Marcus Cornelius Fronto) (ประมาณ ค.ศ. 100–170) ปิแยร์ แบร์ซุยเยอร์ (Pierre
Bersuire) (ประมาณ ค.ศ. 1290-1362) และเซอรจ์ อหน์ แมนเดอวลิ ล์ (Sir John Mandeville)
(ปรากฏงานเขียนราว ค.ศ. 1360) นิยามสัตว์ประหลาดว่าเป็นส่ิงมีชีวิตที่มีลักษณะ
“ขัดธรรมชาติ” (contra naturam)2 ส่วนสัตว์ประหลาดในความคิดของนักบุญออกัสติน
(St. Augustine) (ค.ศ. 354-430) และอซี ดิ อเรแหง่ เซบยิ า (Isidore of Seville) (ประมาณ
ค.ศ. 560-636) นน้ั เปน็ สว่ นหนงึ่ ในแผนการของพระเปน็ เจา้ เปน็ เครอื่ งประดบั จกั รวาลทใี่ ช้
สอนอันตรายจากบาป3 ได้อีกด้วย ในสารานุกรม ว่าด้วยธรรมชาติของสรรพส่ิง (On the
Nature of Things ชอื่ ภาษาละตนิ วา่ De natura rerum) ของ โทมสั แหง่ คองแทมเปร
(Thomas of Cantimpré) นกั เขยี นและนกั เทววทิ ยาในศตวรรษที่ 13 กลา่ วถงึ สตั วป์ ระหลาด
แห่งท้องทะเลไว้เป็นการเฉพาะในเล่มท่ี 6 (ว่าด้วยสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล หรือ
De monstris marinis) และเล่มที่ 7 ว่าด้วยปลาในทะเลและแม่น้�ำ (De piscibus
marinis sive fluvialibus)4 ทัง้ นี้ ในตอนต้นของเลม่ ท่ี 6 เขาใช้การหายากและขนาดเปน็
ลักษณะในการจ�ำแนกความแตกต่างของสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล แต่จัดสัตว์บางชนิด
ไวใ้ นหมวดหม่ขู องปลาทเ่ี ราอาจพบเหน็ ไดย้ าก อาทิ กระต่ายทะเล หรอื lepus marinus
(เลปุส มารินุส) ส่ิงส�ำคัญที่ต้องจ�ำไว้เสมอคือจ�ำนวนของการพบเห็นได้ยากหรือสัตว์ทะเล
ขนาดใหญ่อย่างวาฬและวอลรัส (walrus) ซ่ึงปัจจุบันเราไม่ถือว่าเป็นสัตว์ประหลาดน้ัน
จัดเป็นสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลในสมัยกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ในหนังสือ
เลม่ น้ี สตั วป์ ระหลาดแหง่ ทอ้ งทะเลจะถกู นยิ ามวา่ เปน็ สตั วท์ ะเลทค่ี ดิ กนั วา่ มคี วามประหลาด
และผดิ ธรรมดา (ไมว่ า่ ทแ่ี ทแ้ ลว้ สตั วเ์ หลา่ นจี้ ะมอี ยจู่ รงิ หรอื เปน็ สตั วใ์ นตำ� นานกต็ าม) ในสมยั
คลาสสิก สมยั กลาง หรอื สมยั ฟื้นฟศู ลิ ปวิทยาการ
สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลจ�ำนวนมากที่ปรากฏในแผนที่สมัยกลางเป็นลูกผสม
เช่น สุนัขทะเล สิงโตทะเล สุกรทะเล เป็นต้น และแหล่งที่มาของสัตว์เหล่านี้คือทฤษฎี
สมัยโบราณและสมัยกลางที่ว่าสัตว์บกทุกชนิดล้วนมีเผ่าพันธุ์ในทะเลด้วย ทฤษฎีดังกล่าว
ปรากฏชัดเจนในหนังสือของพลีนีผู้อาวุโส (Pliny the Elder) (ค.ศ. 23-79) เรื่อง

สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล บนแผนท่ีสมัยกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ

14

ประวตั ิศาสตรธ์ รรมชาติ (Natural History) วา่ ...vera ut fiat vulgi opinio, quicquid
nascatur in parte naturae ulla, et in mari esse, แปลว่า “...ดังนั้น ความคิดของ
ชาวบา้ นอาจถกู ก็ได้ ท่วี ่าส่งิ ใดก็ตามที่ถกู สรา้ งขึ้นในส่วนใดๆ ของธรรมชาติ อาจพบได้ใน
ทะเลดว้ ยเช่นกัน”5 ภาพโมเสกโรมันจำ� นวนหนงึ่ สะทอ้ นทฤษฎดี งั กลา่ วด้วยการแสดงภาพ
สัตว์ทะเลลูกผสมอย่างแพะทะเล สงิ โตทะเล มา้ ทะเล และอื่นๆ (ภาพ 1)6 แนวคดิ ดังกล่าว
ไดร้ ับการกล่าวถึงอกี ครัง้ โดย อีซิดอเรแหง่ เซบิยา ในหนังสอื ต้นก�ำเนดิ (Etymologiae)
ของเขา และโดยเจอร์เวสแห่งทลิ เบอรี (Gervase of Tilbury) (ประมาณ ค.ศ. 1150-1228)
ในหนังสือ นันทนาการแด่พระจักรพรรดิ (Otia imperialia) ว่า nullam in nostra
habitatione terrena repertam cuiusuis animantis effigiem cuius similitudinem
non liceat in piscibus occeani Britannici ab umbilico superius speculari, แปลว่า
“ไม่มีรูปแบบของสิ่งมีชีวิตใดท่ีอาศัยอยู่บนบกในหมู่พวกเราซ่ึงมีความคล้ายคลึงกันนับแต่
สะดือข้ึนไปท่ีจะไม่พบได้ท่ามกลางหมู่ปลาในทะเลนอกชายฝั่งอังกฤษ”7 ทฤษฎีว่าด้วย
ก�ำเนิดสัตว์ประหลาดในทะเลท่ีนยิ มแพรห่ ลายนีย้ งั คงพบการสนับสนนุ อยู่ในศตวรรษที่ 168

สตั วป์ ระหลาดแหง่ ทอ้ งทะเลทจี่ ะอภปิ รายในหนงั สอื เลม่ นป้ี รากฏในแผนทส่ี มยั กลาง
2 ประเภทหลกั ๆ กล่าวคอื ประเภทแรกเปน็ เอกสารตวั เขยี น แผนท่โี ลก (mappaemundi)

ภาพ 1 สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลลูกผสมครึ่งสิงโตครึ่งปลา บนโมเสกของเทพเนปจูน ในห้องที่ 4 ของโรงอาบน้ำ�
เทพเนปจูน ที่เมืองออสเตียแอนติกา (Ostia Antica) ศตวรรษที่ 2

Sea Monsters on Medieval and Renaissance Maps

15

ท่ีเป็นแผนที่ลายมือเขียนหรือแผนที่ลงสีด้วยมือซ่ึงมีประโยชน์มากส�ำหรับแนวคิดทั่วไป
เกี่ยวกับภูมิศาสตร์โลก แต่กลับมีประโยชน์เพียงเล็กน้อยส�ำหรับการเดินทางหรือการ
เดนิ เรือ แผนทป่ี ระเภทนม้ี กั แสดงโลกเปน็ แผน่ ดนิ กลมลอ้ มรอบดว้ ยมหาสมทุ ร แผนทโี่ ลก
จ�ำนวนมากมีขนาดเล็กและมีลักษณะเป็นโครงร่าง แต่ก็มีแผนท่ีอื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่า
และมีภาพกับข้อความเกี่ยวกับผู้คนในดินแดนห่างไกลและสัตว์ประหลาดต่างๆ ด้วย
ประเภทที่สองเป็นแผนท่ีเดินเรือลายมือเขียนท่ีเรียกกันว่า แผนท่ีเดินเรือพอร์โทลาน
(portolan charts) ที่เม่ือก�ำเนิดข้ึนมาน้ันนับเป็นอุปกรณ์การเดินเรือที่มีประโยชน์มาก
ดว้ ยเสน้ แนวชายฝง่ั ทะเลทไ่ี ดร้ บั การวาดขนึ้ มาอยา่ งพถิ พี ถิ นั และเครอื่ งหมายระบเุ มอื งทตี่ ง้ั
อยตู่ ามชายฝง่ั ทะเล แต่กลับมีรายละเอียดเกีย่ วกบั พนื้ ท่ที ่ีอย่ถู ดั เข้าไปในแผ่นดนิ ใหญเ่ พียง
เลก็ นอ้ ยหรอื ไมม่ เี ลย อยา่ งไรกต็ าม ชา่ งทำ� แผนทยี่ งั มแี ผนทที่ ม่ี คี วามหรหู รางดงามมากกวา่
และมขี ้อความพรอ้ มภาพวาดเก่ยี วกบั กษตั ริย์ เมืองและส่งิ มีชวี ิตตา่ งๆ แผนทฉี่ บับหรูหรา
เชน่ นไ้ี มไ่ ดใ้ ชใ้ นการเดนิ เรอื แตถ่ กู เกบ็ สะสมและจดั แสดงโดยกษตั รยิ แ์ ละขนุ นาง นอกจากนี้
เรายงั จะพจิ ารณาแผนทส่ี มยั กลางฉบบั หนง่ึ ซง่ึ ไมส่ ามารถจดั เขา้ ในหมวดหมขู่ อง 2 ประเภท
ทีก่ ลา่ วมาขา้ งตน้ ได้ นั่นคือ แผนท่ฉี บบั รา่ งของเมอื งท่าบรนิ ดซิ ี (Brindisi) ในอิตาลี ท้งั นี้
แผนท่ีโลกและแผนที่เดินเรือฉบับตัวเขียนล้วนแต่มีการสืบทอดด้วยกระบวนการพิมพ์
แต่ประโยชน์ใช้สอยท่ีมากกว่าและความแม่นย�ำของขนบแผนท่ีเดินเรือได้รับความนิยม
มากกว่าและวิทยาการด้านการพิมพ์ใหม่ๆ ท�ำให้เกิดแผนท่ีโลกและภูมิภาคต่างๆ ซึ่งมี
ราคาถกู ลงและแพรก่ ระจายออกไปอยา่ งรวดเรว็ ยง่ิ กวา่
ส่ิงส�ำคัญที่ต้องเน้นย้�ำคือแผนท่ีสมัยกลางส่วนใหญ่ไม่ปรากฏสัตว์ประหลาดแห่ง
ท้องทะเล แผนท่ีเดินเรือส่วนใหญ่ปรากฏสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลเพียงเล็กน้อย
เพราะดงั จะไดท้ ราบตอ่ ไปวา่ องคป์ ระกอบเพอื่ การตกแตง่ นถ้ี อื เปน็ ทางเลอื ก และหากลกู คา้
ทสี่ ั่งท�ำแผนที่ไมไ่ ดจ้ า่ ยเงินเพ่ือสตั วป์ ระหลาดแห่งทอ้ งทะเล เขาหรอื เธอก็จะไมไ่ ดร้ บั มนั ไป
เหตุผลของการหายไปของสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลจาก แผนท่ีโลก ส่วนใหญ่ยังมี
ความซับซ้อนยิ่งกว่า กล่าวคือ แผนท่ีโลก ส่วนใหญ่เป็นงานลายมือเขียน อย่างเช่น
De bello jugurthino (สงครามยูเกอร์ทา) ของ ซัลลุสท์ (Sallust) Etymologiae
(ตน้ กำ� เนดิ ) ของ อซี ดิ อเร หรอื L’image du monde (ภาพโลก) ของ โกทเิ ยร์ เดอ เมทซ์
(Gautier de Metz) (เขียนข้ึนประมาณ ค.ศ. 1245) นั้นมีขนาดเล็กและมีลักษณะเป็น
โครงร่าง อีกทั้งยังมีพื้นท่ีไม่เพียงพอส�ำหรับสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลหรือแม้แต่
องค์ประกอบเพอ่ื การตกแต่งอื่นๆ อย่างภาพเมอื งต่างๆ แตส่ �ำหรบั แผนท่อี ื่นๆ ยังมคี วาม
คลุมเครืออยู่มาก แผนที่โลก ส่วนใหญ่ของเบอาตุส ซ่ึงมีขนาดใหญ่และมีองค์ประกอบ

สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล บนแผนท่ีสมัยกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ

16

เพอื่ การตกแตง่ หลายชนดิ แตม่ เี พยี งไมก่ ฉี่ บบั ทม่ี ภี าพสตั วท์ ะเล ขณะทฉี่ บบั อน่ื ๆ ไมม่ ี ซงึ่ เรา
กย็ งั ไมท่ ราบวา่ เพราะเหตุใด นอกจากนีย้ ังมแี ผนท่ขี นาดใหญจ่ ำ� นวนหน่ึงทเี่ ปน็ แผนท่โี ลก
ท่ผี ลิตขึน้ เปน็ พิเศษซงึ่ เราคาดว่าจะมภี าพสตั ว์ประหลาดแหง่ ท้องทะเลอยู่ แตก่ ลับไมม่ ีและ
ไม่ทราบสาเหตุว่าเหตุใดจึงไม่ปรากฏ ซ�้ำเรายังไม่ทราบว่าแผนท่ีเหล่าน้ันสร้างด้วยเหตุใด
หรือเพื่อใคร หรือแม้แต่แผนที่น้ีมีการซื้อขายหรืออย่างไร (หรือไม่) เช่น แผนที่โลก
ในศตวรรษท่ี 14 ท่ีมีรายละเอยี ดมาก วดั ขนาดได้ 46 x 34 เซนติเมตร (18 x 13.4 นิ้ว)
ทแี่ สดงภาพ Polychronicon ของรานูลฟ์ ฮกิ เดน (Ranulf Higden) มคี �ำอธบิ ายมากมาย
ของสัตว์ประหลาดบนบกแต่กลับไม่มีภาพหรือค�ำอธิบายของสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล
เลยแม้แต่ชนิดเดียว9 เป็นต้น เช่นเดียวกับ แผนท่ีโลก ขนาดใหญ่ของ อันเดรียส
วาลสแ์ ปร์เกอร์ (Andreas Walsperger) ในปี 1448 (เส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 42.5 เซนตเิ มตร
หรือ 16.7 น้ิว)10 และ แผนทโ่ี ลก ของบอรเ์ จยี (Borgia) ในศตวรรษท่ี 15 (เส้นผา่ ศนู ยก์ ลาง
63 เซนติเมตร หรือ 24.8 น้ิว)11 ส่วน Boke of Idrography (ต�ำราสัญลักษณ์ภาพ)
ของ ฌอง ร็อตซ์ (Jean Rotz) ท่ีท�ำข้ึนถวายพระเจ้าเฮนรีท่ี 8 ใน ค.ศ. 154212 นั้น
มีภาพประกอบสวยงามของสัตว์บนบกแต่กลับไม่มีภาพหรือข้อความท่ีเกี่ยวข้องกับ
สตั ว์ประหลาดแห่งทอ้ งทะเลเลย

ผมทราบว่ามีเพียงแผนที่ขนาดใหญ่และรายละเอียดมากอยู่ฉบับหน่ึงซึ่งช่างท�ำ
แผนที่ระบุเหตุผลของการหายไปของสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลเอาไว้ กล่าวคือ ในค�ำ
อธิบายจ�ำนวนมากใน แผนที่โลก ที่มีช่ือเสียงที่ภราดาเมาโร (Fra Mauro) ท�ำข้ึนซึ่งผม
จะอภิปรายต่อไปน้ันเน้นให้เห็นถึงความสงสัยต่อส่ิงน่าพิศวงเหล่าน้ี ในหลายกรณีการ
หายไปอาจเนือ่ งมาจากการอา้ งองิ ของช่างทำ� แผนท่ี ค�ำส่งั ให้ผลติ แผนที่ ข้อจ�ำกัดของเวลา
การขาดแคลนสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลบนแผนที่ที่จะใช้เป็นต้นแบบหรือปัจจัยอื่นๆ
ซง่ึ เราไมอ่ าจรู้ได้เลย

ความเปลย่ี นแปลงในวิทยาการการผลิตจากการเขยี นด้วยมอื มาเปน็ แผนที่ทต่ี พี ิมพ์
ขึ้นซึ่งเริ่มในปลายศตวรรษท่ี 15 ส่งอิทธิพลต่อแรงจูงใจของช่างท�ำแผนที่ในการรวม
สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลไว้ในแผนท่ี13 ขณะท่ีอาจมีสัตว์ประหลาดรวมอยู่ในทั้งแผนท่ี
ฉบบั ลายมอื เขยี นและฉบบั พมิ พเ์ พอ่ื เปน็ การแสดงความรขู้ องชา่ งทำ� แผนที่ บนแผนทลี่ ายมอื
เขียน (เท่าท่ีเรารู้) สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลเป็นส่วนหน่ึงของการว่าจ้างหรือข้อตกลง
ขณะที่บนแผนท่ีแบบพิมพ์พวกมันเป็นองค์ประกอบ (ไม่ว่าจะเป็นทางการตกแต่งหรือทาง
วทิ ยาศาสตรก์ ต็ าม) ทอ่ี าจชว่ ยใหข้ ายแผนทไี่ ดห้ ลายฉบบั ขนึ้ บา้ งกเ็ ปน็ ได้ ดงั นน้ั ผลตอบแทน
ทางการเงนิ จงึ เปลย่ี นจากการเปน็ กำ� หนดไวล้ ว่ งหนา้ (ผา่ นการวา่ จา้ ง) ไปเปน็ การคาดการณ์

Sea Monsters on Medieval and Renaissance Maps

17

(ผ่านการขาย) กระน้ันหากไม่พิจารณาในแง่การเงิน แผนที่แบบพิมพ์ขนาดใหญ่บางช้ิน
ก็มีสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล แต่ชิ้นอื่นๆ กลับไม่มี และส่วนใหญ่เราไม่ทราบว่าเพราะ
เหตใุ ด บางครงั้ ดเู หมอื นวา่ รสนยิ มของชา่ งทำ� แผนทใ่ี นเรอ่ื งดงั กลา่ วกเ็ ปลยี่ นไปดว้ ย กลา่ วคอื
แผนที่โลกแบบพิมพ์ 12 แผ่นของ มาร์ติน วาล์ดซีมึลเลอร์ (Martin Waldseemüller)
ฉบบั ปี 1507 มีคำ� อธิบายหลายแหง่ ท่ีบรรยายถงึ สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล แต่ไมม่ ีภาพ
ของสัตว์เหลา่ นน้ั ทวา่ ถึง แผนทท่ี ะเล (Carta Marina) 12 แผน่ ฉบับปี 1516 ของเขา
กลับมีค�ำอธิบายสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลในแผนที่ฉบับปี 1507 ไม่มากนักแต่กลับมี
รูปสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล 2 รูป คือ วอลรัส ท่ีรูปร่างคล้ายช้างและภาพพระเจ้า
มานเู อลแห่งโปรตเุ กส (ค.ศ. 1469-1521) ประทบั บนหลังสัตวท์ ะเลนอกชายฝง่ั ทางใต้ของ
ปลายทวีปแอฟริกา กล่าวโดยสรุป แม้ในหลายกรณีเราจะไม่ทราบเหตุผลของการปรากฏ
หรอื ไมป่ รากฏของสตั วป์ ระหลาดแหง่ ทอ้ งทะเลในแผนทส่ี มยั กลางและสมยั ฟน้ื ฟศู ลิ ปวทิ ยาการ
กต็ าม แตโ่ ดยหลกั ทว่ั ไปแลว้ พวกมนั เปน็ องคป์ ระกอบพิเศษในการตกแต่งซ่ึงทำ� ให้แผนท่ี
ท่ีมีรปู สตั ว์ประหลาดแห่งท้องทะเลสวยงามขึ้น หรูหราข้ึน และอลังการมากยง่ิ ข้นึ

ผมใคร่เสนอว่า สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลในแผนท่ีมีบทบาทส�ำคัญ 2 ประการ
ประการแรก พวกมันท�ำหน้าที่เป็นการบันทึกวรรณกรรมเก่ียวกับสัตว์ประหลาดแห่ง
ท้องทะเลผ่านรูปภาพ เพ่ือเป็นการบ่งบอกแก่นักเดินเรือถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและเป็น
จดุ กำ� เนิดของขอ้ มูลในภมู ศิ าสตรว์ ่าด้วยสงิ่ มหัศจรรย์ ประการท่ีสอง พวกมนั อาจท�ำหนา้ ท่ี
เป็นองค์ประกอบการตกแต่งท่ีท�ำให้ภาพของโลกดูมีชีวิตย่ิงข้ึนด้วยการเตือนว่าโดยทั่วไป
แลว้ ทะเลเตม็ ไปดว้ ยอนั ตราย แตก่ ย็ งั ยำ�้ และเชอื้ เชญิ ใหใ้ สใ่ จกบั ชวี ติ ของมหาสมทุ รและความ
หลากหลายของส่ิงมีชีวิตในโลกตลอดจนพรสวรรค์ทางศิลปะของช่างท�ำแผนที่อีกด้วย
แน่นอนบทบาทท้ังสองดังกล่าวเกิดขึ้นควบคู่กันไป และสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลก็มี
บทบาททั้งสองได้ในเวลาเดียวกัน ท่ีจริงแล้วส่ิงที่น่าสนใจคือการท่ีช่างท�ำแผนท่ีแต่ละคน
ก�ำหนดบทบาทของสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลของตนในสัดส่วนต่างกันออกไปอย่างไร
ตวั อยา่ งเช่น สตั ว์ประหลาดแห่งทอ้ งทะเลจ�ำนวนมากใน แผนทีโ่ ลก สมัยกลางของเบอาตุส
โดยพื้นฐานแล้วใช้ในการตกแต่ง ขณะที่มีบางตัวที่มาจากข้อเขียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์
ธรรมชาติ สัตวป์ ระหลาดแหง่ ท้องทะเล 3 ใน 4 ตัวปรากฏอยู่ในมหาสมุทรอินเดียบนแผนที่
ที่เรียกว่าแผนที่โลกของชาว “เจนัว” (Genoese) ฉบับปี 1457 ท่ีเป็นเช่นนั้นเพราะมี
ข้อเขียนหรือขนบที่ระบุว่ามีสัตว์เหล่าน้ันอยู่ในบริเวณดังกล่าว ขณะท่ีสัตว์ประหลาด
ในเอกสารตัวเขียนจากกรุงมาดริดของโทเลมี (Ptolemy) ช่ือ ภูมิศาสตร์ (Geography)
ซ่ึงก�ำหนดอายุได้ราวปี 1460 น้ันเป็นสิ่งที่ใช้ตกแต่งอย่างแท้จริงและปรากฏตามต�ำแหน่ง

สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล บนแผนท่ีสมัยกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ

18

ต่างๆ แบบสุ่ม แม้จะดูเหมือนว่าพวกมันจะมีรูปลักษณ์พื้นฐานมาจากสัตว์ประหลาดใน
ต�ำราสรรพสัตว์หรือสารานุกรมภาพก็ตาม ประเด็นส�ำคัญอีกอย่างหนึ่งเก่ียวกับหน้าที่ของ
สตั วป์ ระหลาดแห่งทอ้ งทะเลในแผนที่ อาทิ คำ� เตือนว่ามีสัตว์ประหลาดจ�ำนวนมากในทะเล
นอร์เวย์บนแผนท่แี ถบสแกนดิเนเวยี ของ โอลาอุส มักนุส (Olaus Magnus) ฉบับปี 1539
ตงั้ ใจใหช้ าวประมงชาตอิ นื่ ๆ กลวั จนไมก่ ลา้ เขา้ ไปในบรเิ วณดงั กลา่ วและปลอ่ ยใหช้ าวประมง
สแกนดิเนเวียจบั สตั วน์ ้�ำจำ� นวนมากไดโ้ ดยปราศจากคู่แขง่ น้ันจะอภิปรายต่อไป

นโิ คลสั แหง่ คซู า (Nicholas of Cusa) นกั ปรชั ญา นกั เทววทิ ยา และนกั ดาราศาสตร์
แห่งศตวรรษท่ี 15 เปรียบเทียบช่างท�ำแผนท่ีกับพระเป็นเจ้าไว้ว่า พระเป็นเจ้าสร้างโลก
ช่างท�ำแผนที่สร้างภาพลักษณ์ของโลก14 เราขยายความความคล้ายคลึงกันนี้ได้โดยใช้
ความเช่ือของนักบุญออกัสตินและนักคิดคนอื่นๆ (ดูเชิงอรรถ 3) ที่ว่าความหลากหลาย
ของสัตว์ประหลาดมีส่วนในความงดงามให้กับการสร้างสรรค์ของพระเป็นเจ้า กล่าวคือ
พระเป็นเจ้าสร้างสัตว์ประหลาดขึ้นมาประดับโลกและแสดงความหลากหลายในการ
สร้างสรรค์ของพระองค์ ช่างท�ำแผนท่ีก็ตกแต่งภาพลักษณ์โลกของเขาด้วยสัตว์ประหลาด
แห่งท้องทะเล ไม่ว่าแรงจูงใจของเขาจะเป็นความต้องการบันทึกข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์
ตอบสนองความตอ้ งการของผอู้ ปุ ถมั ภต์ น แสดงความหลากหลายของสง่ิ มชี วี ติ ในโลก แสดง
ความสามารถทางศลิ ปะของตน หรอื ทำ� แผนทใ่ี หน้ า่ สนใจยงิ่ ขน้ึ เพอ่ื ใหต้ นขายแผนทไ่ี ดห้ ลาย
ฉบับมากขึน้ กต็ าม

ในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลในแผนท่ีสะท้อนและ
แสดงออกถึงความสนใจท่ีเพิ่มขึ้นในสิ่งประหลาดและอัศจรรย์15 ข้อความที่ชัดเจนที่สุด
ในเรื่องนีป้ รากฏอยใู่ นขอ้ เขียนช่ือ De cardinalatu ของเปาโล คอรเ์ ตซี (Paolo Cortesi)
ซ่ึงเป็นกฎเกณฑ์ท่ีใช้ก�ำกับความเหมาะสมของพระคาร์ดินัลซ่ึงตีพิมพ์เม่ือปี 151016 ซึ่งใน
สว่ นทกี่ ลา่ วถงึ การตกแตง่ สำ� นกั พระคารด์ นิ ลั ทเี่ หมาะสมนน้ั คอรเ์ ตซกี ลา่ ววา่ ในการวาดภาพ
อปุ กรณ์ทางวศิ วกรรมนนั้ ย่ิงมีการแสดงหลกั คณติ ศาสตรท์ ่ลี ำ้� ลกึ มากเท่าใด กจ็ ะมคี นท่ไี ด้
เรียนรู้จากภาพดังกล่าวมากข้ึนเท่านั้น และผู้มีการศึกษาดีจะยินดีในภาพลักษณ์ของโลก
หรือแผนทท่ี ีแ่ สดงการคน้ พบทางภมู ิศาสตร์ในปจั จุบนั เขากล่าวตอ่ ไปว่า17

ลกั ษณะเดยี วกนั เปน็ ความจรงิ สำ� หรบั ภาพวาดทแี่ สดงธรรมชาตอิ นั นา่ ทง่ึ ของ
สิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่ซ่ึงการเฝ้าสังเกตติดตามด้วยความพากเพียรเป็นสิ่งที่
นา่ ช่ืนชมย่ิงนักทีส่ ัตวซ์ งึ่ ไม่คนุ้ เคยเหลา่ นจ้ี ะไดป้ รากฏอยใู่ นภาพวาด ดงั นนั้
ในแง่เรื่องแปลกๆ และนิทานประเภทน้ี การวาดภาพท่ีน่ายกย่องจึงเป็น

Sea Monsters on Medieval and Renaissance Maps

19

การวาดภาพท่ีให้ท�ำให้ปัญญาเฉียบแหลมขึ้นจากการตีความและโดยผ่าน
จิตใจของปัญญาชนผวู้ าดภาพซง่ึ จะทำ� ให้มีภมู ริ ู้สูงสง่ ยิ่งขนึ้
น่ันหมายความว่าย่ิงมีการแสดงภาพสัตว์ประหลาดมากเท่าไร ก็ยิ่งดีขึ้นและการศึกษา
ทง้ั แผนทแ่ี ละภาพสตั วป์ ระหลาดเหลา่ นน้ั ถอื วา่ เปน็ สง่ิ ทชี่ ว่ ยทำ� ใหป้ ญั ญาแหลมคม และเปน็
ผู้มีการศึกษาดีอีกด้วย18 แผนที่ท่ีตกแต่งด้วยภาพสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล จึงอาจให้
ประสบการณท์ างปัญญาทรี่ มุ่ รวยมากขนึ้ แกผ่ ไู้ ด้พบเหน็ โดยนัยนี้
ผลทางอ้อมของการปรากฏตัวของสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลบนแผนท่ีว่าเป็น
การใหพ้ ลงั แกผ่ ทู้ ก่ี ำ� ลงั มองดแู ผนทนี่ น้ั ยงั ไมม่ กี ารศกึ ษาคน้ ควา้ กลา่ วคอื การทช่ี า่ งทำ� แผนท่ี
น�ำสิง่ มีชีวติ ที่ปกติแล้วซ่อนตวั อยใู่ นนำ้� ลกึ ขนึ้ มาเปดิ เผยตัวบนพ้นื ผวิ น�ำ้ นนั้ เทา่ กบั ยอมให้
ผู้มองดูแผนที่มีส่วนในเอกสิทธ์ิและมุมมองเหนือธรรมชาติของโลกใบน้ี สัตว์ประหลาด
จึงเป็นตัวแทนของการเปิดเผยความรู้ซ่อนเร้นและถ่ายทอดส่ิงท่ีเป็นความอัศจรรย์ใจใน
เพลงสดุดี (Psalm) บท 104:25-26 (ฉบับ RSV) วา่ “ทะเลอยู่ขา้ งโน้น ทง้ั ใหญ่และกวา้ ง
ซึ่งในน้ันมีสงิ่ เคลือ่ นไหวนับไม่ถ้วน คอื สัตวท์ ่ีมชี วี ิตทัง้ เลก็ และใหญ่ ก�ำป่ันแลน่ ไปโนน่ แนะ่
และเลวอี าธานทีพ่ ระองคส์ รา้ งไว้ใหเ้ ลน่ นั้น”
ความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์ประหลาดกับวัฒนธรรมท่ีสร้างสัตว์ประหลาดเหล่าน้ัน
ข้นึ มามกั ซับซอ้ นเสมอ ในแงห่ นึ่งสัตว์ประหลาดเปน็ ศตั รตู วั ฉกาจของสงั คม ทวา่ ในมุมกลบั
วรรณกรรมและงานศิลปะหลายช้ินที่เก่ียวข้องกับสัตว์ประหลาดถือว่าเป็นผลผลิตทาง
วฒั นธรรมทม่ี คี วามสำ� คญั ยง่ิ ดงั นน้ั ขณะทใ่ี นแงเ่ รอ่ื งเลา่ หรอื งานศลิ ปะ สตั วป์ ระหลาดคกุ คาม
สังคม แต่ในโลกท่ีเป็นจริง สัตว์ประหลาดเป็นส่วนหน่ึงของวัฒนธรรมและมีคุณต่อสังคม
อีกด้วย ธรรมชาติของความสัมพันธ์นี้ต่างออกไปในกรณีของสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล
ในแผนที่ กล่าวคือ โดยทั่วไปสัตว์ประหลาดในแผนที่เป็นภัยคุกคามต่อสังคมน้อยกว่า
ต่อกิจการการส�ำรวจและการท�ำแผนท่ี การปรากฏตัวของสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล
บนแผนทอี่ ยา่ งนอ้ ยกอ็ าจเปน็ สง่ิ ทท่ี ำ� ใหห้ มดกำ� ลงั ใจในการสำ� รวจซง่ึ จำ� เปน็ เพอ่ื การปรบั ปรงุ
แผนท่ี โดยเฉพาะสัตว์ประหลาดซึ่งมักปรากฏอยู่ในบริเวณท่ีไม่มีใครรู้จักอันเป็นพื้นที่
ที่หากได้รับการส�ำรวจแล้วย่อมเกิดประโยชน์ต่อการท�ำแผนที่อย่างย่ิง แต่ในขณะเดียวกัน
สัตว์ประหลาดแห่งทอ้ งทะเลกเ็ ปน็ สหายสนทิ ของชา่ งท�ำแผนที่ ในแง่องค์ประกอบของการ
ตกแต่ง สัตว์ประหลาดเหล่านี้ช่วยให้ช่างท�ำแผนที่ม่ันใจกับการว่าจ้างคร้ังใหม่ได้หรือช่วย
เพิ่มยอดขายและมีรายได้หาเลีย้ งปากท้อง

สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล บนแผนท่ีสมัยกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ

20

บรรพบุรุษสมัยคลาสสิก

มีแผนท่ีเพียงไม่ก่ีชิ้นหลงเหลือมาจากยุคโบราณ19 กระน้ันก็ถือว่าเป็นหลักฐานท่ีดีเพราะ
อย่างน้อยก็มีแผนที่โบราณบางชิ้นที่มีภาพสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลรวมอยู่ด้วย
ภาพสลักการขนส่งไม้ซุง ของอัสซีเรียในศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสต์ศักราชจากพระราชวัง
ของกษัตริย์ซาร์กอนที่ 2 ในเมืองคอร์ซาบัด (Khorsabad) ทางตอนเหนือของอิรัก
ซึ่งปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์น้ันมีรูปลักษณ์แบบแผนที่คือปีกท้ังสองข้าง
ของภาพสลักมีรูปเรือบรรทุกไม้ซุงอยู่ใกล้เมืองบนเกาะที่มีการป้องกันแน่นหนาซึ่งอาจ
เป็นเมอื งไทร์ (Tyre) กบั เมอื งอาร์วาด (Arwad) กเ็ ป็นได้ โดยม่งุ หน้าสู่ชายฝงั่ ส่วนใน
นำ้� มีปลา เต่า งูทะเล และเงือกชาย 2 ตวั (ภาพ 2)20

นอกจากน้ียังดูเหมือนว่าอย่างน้อยก็มีแผนท่ีโลกโบราณบางชิ้นจากสมัยคลาสสิก
ทม่ี ภี าพสตั วป์ ระหลาดแห่งทอ้ งทะเลรวมอยู่ด้วย งานเขยี นเรอื่ ง การแปลงร่าง (Metamor-
phoses) ของโอวิด (Ovid) กวีโรมันบรรยายประตูพระราชวังสุริยะซึ่งภาพคล้าย
แผนที่โลกอยู่บนประตู ในภาพนี้ยังมีสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลและสัตว์ประหลาดต่างๆ
ซึง่ ในมหาสมุทรที่ล้อมรอบแผ่นดินน้นั มวี าฬและปลาทม่ี ีเทพประทบั อยู่บนหลัง21

พระราชวังสุริยะเปน็ อาคารสูงตระหงา่ นมเี สาเสยี ดฟา้ สวา่ งไสวดว้ ยทองค�ำ
สุกอร่ามและสัมฤทธ์ิท่ีเปล่งแสงราวอัคคี หลังคาดาดด้วยงาช้างขัดเป็นเงา
และบานประตูคู่มีแสงสะท้อนออกมาจากผิวที่เป็นเงิน ฝีไม้ลายมือท่ี
สร้างสรรค์สิ่งเหล่านั้นข้ึนมายิ่งน่าอัศจรรย์กว่าวัสดุ เทพมัลซิเบอร์ (อีกชื่อ
หนงึ่ ของเทพวัลแคน—ผแู้ ปล) จ�ำหลักรปู ทะเลท่โี อบล้อมผืนดินเอาไว้ มีรูป
แผ่นดินและรูปสรวงสวรรค์อยู่เหนือโลก เกลียวคลื่นมีเหล่าเทพแห่งทะเล
เทพไตรตนั (Triton) ผ้มู เี สยี งอนั ไพเราะ เทพโปรเตอุส (Proteus) ผเู้ ปลยี่ น
รปู รา่ งไม่สน้ิ สดุ และเทพเอจีออน (Aegeon) ทป่ี ระทับอยบู่ นหลงั วาฬมหึมา
2 ตัว แขนของพระองค์จับอยู่บนหลังวาฬเหล่าน้ัน เทพดอริส (Doris)
กับเหล่าธิดาก็อยู่ด้วยเช่นกัน บางคนก�ำลังว่ายน�้ำ บางคนน่ังหลังปลา
บางคนเกาะบนก้อนหินผ่ึงผมสีเขียวน้�ำทะเลให้แห้ง พวกนางมิได้มีรูปร่าง

Sea Monsters on Medieval and Renaissance Maps

21

เหมือนกันเสียทีเดยี ว แตม่ ีลกั ษณะคลา้ ยคลึงกนั มากอยา่ งท่พี ี่น้องมรี ่วมกนั
บนพนื้ โลก มองเหน็ ผ้คู นและเมอื งต่างๆ ปา่ ไมแ้ ละสตั วป์ า่ แม่น�ำ้ และนางไม้
ตลอดจนภูตต่างๆ ในชนบท เหนือข้ึนไปเป็นภาพของท้องฟ้าสุกสว่าง
มเี ครอื่ งหมายจกั รราศี 6 รปู บนบานประตดู า้ นขวาและอกี เทา่ กนั บนดา้ นซา้ ย
ขอ้ ความขา้ งตน้ ชวนใหค้ ดิ วา่ บทบรรยายดงั กลา่ วไดแ้ รงบนั ดาลใจมาจากแผนทโี่ ลกรปู วงกลม
สมัยโรมันซึ่งโอวิดเคยเห็นซงึ่ มรี ปู สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลปรากฏอยดู่ ว้ ย22

ภาพ 2 เงือกชายบนภาพสลักหินคล้ายแผนที่ของชาวอัสซีเรีย เป็นภาพการขนส่งไม้ซุงจากพระราชวังกษัตริย์ซาร์กอน
ที่ 2 ในเมืองคอร์ซาบัด ทางตอนเหนือของอิรัก ต้นศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสต์ศักราช (พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์, AO 19889–19890)

สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล บนแผนท่ีสมัยกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ

22

แผนที่สมัยกลางยุคแรกสุด
กับสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล:
แผนที่โลก ของเบอาตุส

แผนที่โลกสมัยกลางยุคแรกสุดท่ีหลงเหลืออยู่ก�ำหนดอายุได้ระหว่างศตวรรษท่ี 8-10
และเป็นแผนท่ีที่เรียบง่ายมาก จัดเป็นแผนท่ีแบบ “T-O” เหตุที่เรียกเช่นนั้นเพราะ
ทะเลเมดเิ ตอรเ์ รเนยี น แม่นำ้� ไนล์ และแม่นำ้� ทานาอิส (Tanais) แสดงเปน็ รูปตวั T ท่ีแยก
ทวีปยุโรป ทวีปแอฟริกา และทวีปเอเชียออกจากกัน ซ่ึงท้ังหมดอยู่ภายในมหาสมุทร
รูปตัว O ท่ีล้อมรอบโลกไว้23 แผนที่ดังกล่าวเป็นภาพประกอบในเอกสารลายมือเขียน
เรอื่ ง ว่าดว้ ยธรรมชาติของสรรพสงิ่ (De natura rerum) และ ตน้ กำ� เนดิ (Etymologies)
ของอีซิดอเร (Isidore) เรอ่ื งวา่ ด้วยธรรมชาติของสรรพสิง่ (De natura rerum) ของนักบญุ
บีดผู้น่าเคารพ (Venerable Bede) กับข้อเขียนที่ถือกันผิดๆ ว่าเป็นผลงานเขา คือ
เรื่อง De ratione computandi ตลอดจนงานของซลั ลสู ท์ (Sallust) เรอ่ื งสงครามยูเกอรท์ า
(The Jugurthine War) และงานเขียนเรื่อง ว่าด้วยสงครามกลางเมือง (Pharsalia/
ฟาร์ซาเลีย) ของลูคัน (Lucan) ท้ังน้ี แผนท่ีในยุคเดียวกันเป็นภาพประกอบในเอกสาร
ลายมอื เขยี นเรอ่ื ง ค�ำอธิบายว่าด้วยความฝันของสคิปิโอ (Commentary on the Dream
of Scipio) ของมาโครบิอุส (Macrobius) มีขนาดใหญ่กว่าและให้ข้อมูลทางภูมิศาสตร์
คอ่ นขา้ งมากกวา่ แตแ่ ผนทเ่ี หลา่ นเ้ี กอื บทงั้ หมดไมป่ รากฏภาพสตั วป์ ระหลาดแหง่ ทอ้ งทะเล24
แผนท่ีส่วนใหญ่มีขนาดเล็กเกินกว่าจะบรรจุสัตว์ประหลาดลงไป กระนั้นแผนท่ีที่ใหญ่ข้ึน
ซง่ึ มพี ื้นที่มากพอจะวาดภาพสตั วป์ ระหลาดตัวเล็กๆ ลงไปได้ กลับไมม่ ีธรรมเนียมการเพิ่ม
สตั วด์ งั กลา่ วลงไป ขณะเดยี วกนั แผนทโ่ี ลกแบบ T-O ซงึ่ มจี ำ� นวนมากทสี่ ดุ ในบรรดาแผนท่ี
สมยั กลาง แต่ส่วนใหญ่กลบั ไมป่ รากฏรูปสตั วป์ ระหลาดแห่งทอ้ งทะเล

กลุ่มของแผนท่ีโลกท่ีมีขนาดใหญ่กว่า มีรายละเอียดมากกว่าและประณีตงดงาม
ท่ีสร้างขึ้นจากศตวรรษที่ 10–13 ซ่ึงมีภาพสัตว์ทะเลและสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลรวม
อยู่ด้วย เรียกว่า แผนที่โลก (mappaemundi) เป็นภาพประกอบในเอกสารลายมือเขียน
เรอ่ื ง คำ� อธบิ ายวา่ ดว้ ยวนั สน้ิ โลก ซง่ึ เขยี นโดยเบอาตสุ แหง่ ลเี อบานา (Beatus of Liébana)
(ประมาณ ค.ศ. 730-ประมาณ ค.ศ. 800)25 งานเขยี นของเบอาตุสรวมแผนท่ีไว้เพื่อแสดง

Sea Monsters on Medieval and Renaissance Maps

23

การเปลยี่ นผคู้ นให้หันมานบั ถือศาสนาคริสต์โดยเหล่าอคั รสาวก (Apostles) ในโลกทร่ี ูจ้ ัก
กันเวลานั้น ความจริงแผนที่ดังกล่าวตามมาด้วยรายการท่ีระบุว่าอัครสาวกแต่ละท่าน
เดนิ ทางไปยงั สว่ นใดของโลกบา้ ง และมแี ผนทอ่ี กี ไมม่ ากนกั ทร่ี ะบตุ ำ� แหนง่ ดงั กลา่ วดว้ ยภาพ
ครึ่งตัวของอัครสาวกในพื้นท่ีท่ีท่านเดินทางไปเทศนา แผนที่ท่ีหลงเหลืออยู่แต่ละฉบับ
เขยี นไวเ้ ตม็ สองแผน่ และกำ� หนดตำ� แหนง่ ทศิ ตะวนั ออกไวด้ า้ นบนสดุ ซงึ่ มภี าพของสวนอเี ดน
(Garden of Eden) ปรากฏอยู่ ซงึ่ แทนด้วยภาพแม่น้�ำสวรรค์ทั้ง 4 สายหรือภาพของอดมั ,
อฟี และงู แผนทด่ี ังกลา่ วแสดงภาพภเู ขา แม่น�้ำ และบางฉบับยงั มีภาพเมืองตา่ งๆ ไดอ้ ย่าง
งดงาม (ภาพ 3)

สตั วท์ ะเลจำ� นวนมากบนแผนทส่ี ว่ นใหญน่ า่ สงั เกตอยไู่ มน่ อ้ ย โดยเฉพาะเมอ่ื ตรงขา้ ม
กับการหายไปอย่างสิ้นเชงิ ของสตั วบ์ ก ในแผนท่ี 17 ฉบับในกลุ่มนี้ มี 3 ฉบับที่ไมม่ ภี าพ
ปลาหรือสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลรวมอยู่เลย26 แต่ฉบับอื่นๆ อย่างน้อยก็มีภาพปลา
ในทะเลท่โี อบล้อมโลกไว้ และมแี ผนท่ี 3 ฉบบั ทแ่ี สดงภาพสตั วท์ ะเลทดี่ ูแปลกตาย่งิ กว่า

แผนที่ที่อยู่ในเอกสารลายมือเขียนของเบอาตุส เร่ือง บันทึกเหตุการณ์ปัจจุบันใน

ภาพ 3 แผนที่โลก ของเบอาตุส ที่เมืองฌิโรนา กำ�หนดอายุ ค.ศ. 975 (Museu de la Catedral de Girona, Num.
Inv. 7 (11), ff. 54v–55r)

สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล บนแผนท่ีสมัยกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ

24

ภาพ 4 ไก่ทะเลบน แผนที่โลก ของเบอาตุส ที่เมืองฌิโรนา (Museu de la Catedral de Girona, Num. Inv. 7 (11), ff.
54v–55r)

ฌิโรนา ประเทศสเปน (Commentary now in Gerona, Spain) ซ่ึงก�ำหนดอายุได้ใน
ค.ศ. 975 นัน้ 27 สว่ นดา้ นเหนอื ของมหาสมทุ รท่ีโอบลอ้ มโลกไว้ (ด้านซา้ ยของภาพ 3) มรี ูป
เรอื หลายลำ� กบั สตั วท์ ะเล ขณะทสี่ ว่ นอนื่ ๆ ของมหาสมทุ รไมม่ เี รอื แตม่ สี ตั วท์ ะเลจำ� นวนมาก
ในจ�ำนวนนม้ี อี ยู่ 4 ตวั ท่ีมีลกั ษณะเปน็ สตั ว์ประหลาดมากกว่าปลา ดา้ นขวา (ทิศใต้) มีภาพ
สัตว์ลูกผสมระหว่างสัตว์บกกับสัตว์น้�ำซึ่งมีศีรษะเป็นสุนัขและล�ำตัวเหมือนปลาที่ดูเหมือน
สุนขั ทะเล (sea-dog หรอื canis marinus) และทีด่ ้านบนซา้ ย (ทศิ ตะวันออกเฉยี งเหนือ)
มีไก่ทะเลซึ่งเปน็ สตั ว์ประหลาดลูกผสม (ภาพ 4)28 สัตว์ประหลาดแห่งทอ้ งทะเลซ่ึงเปน็ สตั ว์
ลกู ผสม ทง้ั สองชนดิ นี้ไดอ้ ภิปรายไปแลว้ ในบทนำ� สว่ นมุมบนขวา (ทศิ ตะวนั ออกเฉยี งใต)้
ของแผนท่ีมีรูปปลาซ่ึงมีหลังเป็นฟันเล่ือย หรือ “ปลาเลื่อย (saw-fish)” ซึ่งเป็นสัตว์
ประหลาดแหง่ ทอ้ งทะเลแตด่ ง้ั เดมิ ซงึ่ กลา่ วถงึ ไวใ้ นงานเขยี นของอซี ดิ อเรและนกั เขยี นคนอนื่ ๆ
ว่าท�ำให้เรือทะลุขณะว่ายอยู่ใต้ท้องเรือ29 ที่ด้านล่างสุดของแผนที่ซ่ึงคือทิศตะวันตก มีรูป
ชายคนหน่ึงอยู่ภายในสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลตัวใหญ่ ชายคนน้ันเป็นอื่นไปไม่ได้
นอกจากโจนาห์ (Jonah) (ภาพ 5) ซง่ึ พระเปน็ เจา้ สงั่ ใหส้ ตั วป์ ระหลาดแหง่ ทอ้ งทะเลกลนื เขา
เข้าไปเป็นเวลา 3 วันเพ่อื ปกป้องเขาจากพายุ การระบุตวั บคุ คลวา่ เป็นโจนาห์ยนื ยนั ได้จาก
ท่าทางของเขา กล่าวคือ เขายกมือขา้ งหนึ่งไว้ทปี่ ากซ่งึ แสดงว่าเขากำ� ลงั พดู อันเปน็ วิธีการ

Sea Monsters on Medieval and Renaissance Maps

25

ภาพ 5 ผู้ชายซึ่งอาจเป็นโจนาห์อยู่ภายในสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลขนาดใหญ่ บน แผนที่โลก ของเบอาตุส ที่เมือง
ฌิโรนา (Museu de la Catedral de Girona, Num. Inv. 7 (11), ff. 54v–55r).

ทศ่ี ลิ ปนิ ใช้แสดงวา่ โจนาหก์ ำ� ลงั สวดออ้ นวอนจากภายในทอ้ งสตั วป์ ระหลาด (โจนาห์ 2:1-9)
ในศิลปะสมัยกลาง โจนาห์มักจะปรากฏอยู่ในปากของสัตว์ประหลาดแทนที่จะเป็นภายใน
ท้องเกือบทุกคร้ัง ดังนั้น ภาพนี้จึงถือว่าแปลกออกไป นอกจากนี้ยังมีภาพเขียนบนผนัง
สมัยไบเซนไทน์ในศตวรรษท่ี 9 อยู่ 2 ภาพ ซึ่งเขียนโจนาหไ์ ว้ในตวั สัตวป์ ระหลาด30 ซึง่ มี
มากอ่ นภาพโจนาหใ์ น แผนทโ่ี ลก ในหนงั สอื ฌโิ รนาของเบอาตสุ แตก่ ระนนั้ กย็ งั ไมช่ ดั เจนวา่
ศิลปินท่ีวาดภาพในหนังสือฌิโรนาของเบอาตุสได้รับอิทธิพลจากขนบการวาดภาพบุคคล
ของไบเซนไทน์ได้อย่างไร ดังน้ัน ภาพโจนาห์บนแผนที่โลกในหนังสือฌิโรนาของเบอาตุส
จงึ ยังคงเปน็ ปรศิ นาอยู่

เอกสารลายมอื เขยี นเรอ่ื งบนั ทกึ ของเบอาตสุ ปจั จบุ นั อยทู่ เี่ มอื งแมนเชสเตอรซ์ งึ่ เขยี น
ขึ้นราวปี 1175 ทง้ั ในแผนทเ่ี มืองฌิโรนา พน้ื ทท่ี างตอนเหนอื ของทะเลที่โอบลอ้ มโลกไวข้ อง
แผนที่ดังกล่าวมีท้ังภาพเรือและสัตว์ทะเล การปรากฏตัวของเรือแสดงความจริงท่ีว่าพื้นที่
ทางตอนเหนือของโลกเป็นท่ีรู้จักดีกว่าและเหมาะส�ำหรับออกเรือมากกว่า ส่วนพ้ืนที่ทาง
ตอนใต้ของทะเลท่ีโอบล้อมโลกอยู่นั้นเป็นพื้นที่ที่ห่างไกลจากทวีปยุโรปจึงไม่มีรูปเรือแต่มี
กลุ่มสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลอยู่ (ภาพ 6)31 เป็นสัตว์ประหลาดไซเรน (siren) ล�ำตัว
ยาวมากซึ่งคว้างูทะเลไว้ในมือขณะท่ีมีปลาตอดอยู่ท่ีหางของนาง และมีงูทะเลตัวยาวซึ่งมี

สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล บนแผนท่ีสมัยกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ

26

ภาพ 6 ไซเรนคว้างูทะเลขณะที่ปลาตัวหนึ่งตอดหางเธออยู่ โดยมีงูทะเลตัวยาวกำ�ลังกินปลาตัวนั้นอีกทอดหนึ่ง ใน แผนที่โลก
ของเบอาตุสที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประมาณ ค.ศ. 1175 (Manchester, John Rylands University Library, MS Lat. 8,
ff. 43v–44r.)

ศีรษะคล้ายแมวกัดปลาที่ก�ำลังตอดหางของสัตว์ประหลาดไซเรนอยู่ สัตว์ประหลาดกลุ่มน้ี
ครองพนื้ ทสี่ ว่ นใหญข่ องมหาสมทุ รทางตอนใต้ ภาพสตั วท์ กี่ ดั กนิ กนั เปน็ ลกู โซน่ ไี้ มใ่ ชส่ งิ่ ทพ่ี บ
ได้ตามปกตใิ นศิลปะโรมาเนสก์ แต่ก็ไม่เหมอื นกลุ่มใดในแผนท่ีของเบอาตสุ ช้นิ อ่นื ๆ หรือที่
จริงแล้วไม่เหมือนกับแผนท่ีสมัยกลางช้ินอื่นๆ ท่ีผมเคยเห็นมาก่อนเลย ดังนั้น กลุ่มสัตว์
ประหลาดนจี้ งึ แสดงอสิ ระในการสรา้ งสรรคง์ านของศลิ ปนิ และยงั แสดงใหเ้ หน็ ชดั เจนถงึ ความ
ปา่ เถอื่ นของพน้ื ทหี่ า่ งไกลในทะเลทโี่ อบลอ้ มโลกและสตั วป์ ระหลาดในพนื้ ทดี่ งั กลา่ วอกี ดว้ ย

แผนที่ซานอันเดรสเดอาร์โรโยเบอาตุสที่เขียนข้ึนในราว ค.ศ. 1248 เป็นแผนที่
วงกลมท่ีตรงข้ามกับแผนที่สี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมนของเมืองฌิโรนาและเมืองแมนเชสเตอร์
แผนทด่ี งั กลา่ วมชี น้ั เชงิ ศลิ ปะทซ่ี บั ซอ้ นกวา่ ในแผนท่ี 2 ฉบบั ทกี่ ลา่ วมาดว้ ยภาพเมอื งจำ� นวน
มากและภาพภูเขาก็แสดงออกมาด้วยจินตนาการเป็นรูปกองก้อนหินและมีการใช้ช่วงสีที่
น่าตื่นใจต่างจากสีที่ใช้ในแผนที่อื่นๆ ของเบอาตุส กล่าวคือ แผ่นดินเป็นสีแดงอมน�้ำตาล
(สีเบอร์กันดี) และในน�้ำมีแถบสีขาวแทรกอยู่ด้วย สัตว์ทะเลหลายชนิดเป็นปลาท่ีมีล�ำตัว
ยืดยาวหรืองูทะเล แต่ก็มีสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลรวมอยู่ด้วยจ�ำนวนหนึ่ง กล่าวคือ
มีสัตว์ประหลาดไซเรน 2 ตัว ตัวหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ อีกตัวหนึ่งอยู่ทางทิศ

Sea Monsters on Medieval and Renaissance Maps

27

ภาพ 7 ไซเรนอยู่ข้างเรือในมหาสมุทรทางใต้ ในแผนที่ซานอันเดรสเดอาร์โรโยเบอาตุส (San Andrés de Arroyo Beatus)
ประมาณ ค.ศ. 1248 ท่าร่ายรำ�ของไซเรนอาจแสดงว่าเธอกำ�ลังร้องเพลงให้กะลาสีบนเรือฟังอยู่ก็เป็นได้ (Paris, Bibliothèque
nationale de France, MS nouv. acq. lat. 2290, ff. 13v–14r).

ตะวันออกเฉียงเหนือ32 สัตว์ประหลาดทั้งสองอยู่ข้างเรือและก�ำลังท�ำท่าชูไม้ชูมือเหมือน
เตน้ รำ� เราเขา้ ใจไดท้ นั ทวี า่ สตั วป์ ระหลาดเหลา่ นกี้ ำ� ลงั รอ้ งเพลงลอ่ ลวงกะลาสบี นเรอื เหลา่ นนั้
(ภาพ 7) เช่นเดยี วกบั ทีส่ ตั ว์ประหลาดไซเรนท�ำกับโอดิสซอี ุสในมหากาพยโ์ อดสิ ซี และใน
ตำ� ราสรรพสัตว3์ 3 (bestiary) หลายเล่มของสมัยกลางกย็ ืนยนั วา่ ไซเรนท�ำเช่นน้ีดว้ ย

ในมหาสมทุ รดา้ นตะวนั ตกของแผนทอ่ี ารโ์ รโยเบอาตสุ มภี าพมนษุ ยใ์ ตน้ ำ้� ทก่ี ำ� ลงั ปลำ้�
อยู่กับงูทะเล 2 ตัว นี่คือบุคลาธิษฐานของมหาสมุทรซ่ึงบางคร้ังไม่ปรากฏบนแผนท่ีฉบับ
อน่ื ๆ ของเบอาตสุ นอกจากนย้ี งั มหี มกึ ยกั ษ์ ดาวทะเล และสตั วร์ ปู รา่ งคลา้ ยกงิ้ กา่ ขนาดใหญ่
ซึง่ บางทอี าจเป็นมงั กรทะเล (sea-dragon หรอื draco marinus) ก็ได้ (ภาพ 8) ตำ� แหน่ง
ของดาวทะเลบนแผนที่ซานอนั เดรสเดอาร์โรโย สัมพันธ์กับตำ� แหนง่ ทโ่ี ทมสั แห่งกนั ติมเปร
กล่าวถึงดาวทะเลไว้ในข้อเขียนเรื่อง ว่าด้วยธรรมชาติของสรรพสิ่ง (De natura rerum)
บทที่ 7 บรรทดั 73 และขอ้ เขยี นของ อลั เบรต์ สุ มกั นสุ (Albertus Magnus) เรอ่ื ง วา่ ดว้ ยสตั ว์
(De animalibus) บทที่ 24 บรรทดั 52 ซงึ่ กลา่ ววา่ ดาวทะเลอาศยั อยใู่ นมหาสมทุ รตะวนั ตก
แผนที่ดงั กลา่ วท�ำขนึ้ ในศตวรรษที่ 13 (หลงั ค.ศ. 1248) และยังหลังจากโทมัสเขียนงานของ
เขาจบแล้ว (ราว ค.ศ. 1240) และอาจหลงั จากอัลเบร์ตสุ เขียนงานของตนจบแลว้ กเ็ ป็นได้

สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล บนแผนที่สมัยกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ

28

ภาพ 8 มังกรทะเลซ่ึงเป็นบุคลาธิษฐานของมหาสมุทรกำ�ลังปลุกปล้ำ�อยู่กับงูทะเล 2 ตัว และดาวทะเลในมหาสมุทรด้าน
ตะวันตกในแผนท่ีซานอันเดรสเดอาร์โรโยเบอาตุส ประมาณ ค.ศ. 1248 (Paris, Bibliothèque nationale de France,
MS nouv. acq. lat. 2290, ff. 13v–14r)

(กอ่ น ค.ศ. 1256 หรอื ราวปนี นั้ ) แทบกลา่ วไดว้ า่ ดาวทะเลในมหาสมทุ รตะวนั ตกแสดงอทิ ธพิ ล
จากงานเขียนของโทมัสแห่งกันติมเปร โดยเฉพาะใบหน้าท่ีมีรอยย้ิมซ่ึงคล้ายกันมากกับ
ภาพประกอบอยา่ งนอ้ ย 2 ภาพในเอกสารลายมอื เขียนของโทมสั ซ่งึ เปน็ เอกสารท่เี ขียนขึน้
ในเมอื งปราก (Prague) เมอ่ื กลางศตวรรษที่ 14 และเอกสารลายมอื เขยี นจากเมอื งกรานาดา
(Granada) เมื่อกลางศตวรรษท่ี 1534 กรณีนี้ถือว่าเป็นความแปลกของงานเขียนแนว
สารานุกรมทมี่ อี ทิ ธพิ ลต่อแผนที่โลกไม่นานหลงั จากงานเขียนได้รบั การเผยแพร่ นอกจากน้ี
ความแตกต่างระหว่างสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลบนแผนที่น้ีกับแผนท่ีอีก 2 ฉบับที่เรา
ศึกษามานี้แสดงให้เห็นได้ชัดว่าศิลปินมีอิสระท่ีจะสร้างสรรค์งานและไม่รู้สึกว่าต้องยึดมั่น
อยู่กับการจ�ำลองภาพสัตว์ประหลาดท่ีเขาพบในเอกสารลายมือเขียนของเบอาตุสท่ีใช้เป็น
ต้นแบบ

แผนทโี่ ลก ในขอ้ เขียนเรอ่ื ง ซองต์เซอแวร์เบอาตุส (St-Sever Beatus) ในปลาย
ศตวรรษท่ี 11 ท่ีกรงุ ปารีสเป็นหนึง่ ในแผนทข่ี องเบอาตุสทีม่ ีรายละเอียดทางภมู ศิ าสตรม์ าก
ท่สี ุดช้นิ หนง่ึ และยงั เปน็ แผนทีท่ ไ่ี ดร้ บั การทำ� ซ้ำ� มากท่สี ุดชิน้ หนึง่ อกี ด้วย35 แผนทด่ี งั กลา่ ว
มีภาพเรือหลายล�ำและมีภาพปลาที่จ�ำเป็นต้องเขียนข้ึนตามขนบการวาดภาพมหาสมุทร

Sea Monsters on Medieval and Renaissance Maps

29

ภาพ 9 ภาพโลกของซองตเ์ ซอแวรเ์ บอาตุส (St-Sever Beatus) ในปลายศตวรรษที่ 11 มีรูปปลา แพะทะเล และสงิ โตทะเล
ในมหาสมทุ รท่โี อบลอ้ มโลกอยู่ (Paris, Bibliothèque nationale de France, MS Lat. 8878, f. 119r)

สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล บนแผนที่สมัยกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ

30

โอบลอ้ มโลกไว้ แต่กลับไม่มีภาพสตั วป์ ระหลาดแหง่ ท้องทะเล อยา่ งไรกต็ าม ยงั มภี าพอน่ื
ของโลกในเอกสารลายมือเขียนบางฉบับที่มีท้ังภาพปลาและสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล
แผนที่ดังกล่าวมิได้ให้รายละเอียดทางภูมิศาสตร์ของพื้นโลกแต่กลับแสดงเป็นการเล่า
เรอ่ื งประวตั ศิ าสตรศ์ าสนาครสิ ตแ์ ทน เชน่ เดยี วกบั แผนทโ่ี ลก สมยั กลางบางฉบบั (ภาพ 9)36
โดยเฉพาะการแสดงภาพส่วนหนึ่งของเหตุการณ์วันสิ้นโลกดังท่ีอธิบายไว้ในวิวรณ์
(Revelation) บทที่ 7 บรรทัดที่ 1-837 ท่ีแสดงว่า “ทูตสวรรค์ส่ีองค์ยืนอยู่ที่มุมท้ังส่ีของ
แผน่ ดนิ โลก ห้ามลมในแผน่ ดินโลกท้งั ส่ที ิศไว้ เพ่ือไมใ่ ห้ลมพดั บนบก ในทะเล หรอื ที่ตน้ ไม้
ใดๆ” และทูตสวรรค์องค์หนึ่งปรากฏข้ึนมาจากทิศตะวันออกถือดวงตราของพระเจ้าผู้ทรง
พระชนมอ์ ยแู่ ลว้ ประทบั ตราไวท้ ห่ี นา้ ผากผรู้ บั ใชท้ ง้ั หลายของพระเจา้ ซง่ึ มารวมกนั อยทู่ ก่ี ลาง
แผนที่ พ้ืนโลกน้ันมีข้อความก�ำกับว่า terra (เทร์รา) ส่วนมหาสมุทรท่ีโอบล้อมโลกไว้มี
ขอ้ ความว่า mare (มาเร) ซงึ่ มปี ลาขนาดใหญ่จำ� นวนมากอยู่ในมหาสมทุ ร และทดี่ ้านซ้าย
มอื ของแผนท่ีซ่ึงเป็นทศิ เหนอื 38 มสี ัตว์ประหลาดแหง่ ทอ้ งทะเล 2 ตัว (ภาพ 10) เหน็ ได้ชดั
วา่ ตัวหนงึ่ เปน็ สัตวล์ ูกผสมแตย่ ากจะระบุได้ มันดคู ลา้ ยสิงโตทะเล (acquatic lion หรอื leo
marinus) ทม่ี ขี าหนา้ และลำ� ตวั สว่ นบนของสงิ โตและมหี างเปน็ ปลา อกี ตวั หนงึ่ เปน็ แพะทะเล
(goat-fish) แม้พลนี ีหรืออซี ดิ อเรไม่เคยกลา่ วถึงสตั วท์ ะเลชนดิ นี้ไว้ แตส่ ัตว์ลูกผสมนเี้ ป็นที่
รู้จักในวัฒนธรรมโบราณและวัฒนธรรมสมัยกลางดังที่ในสมัยคลาสสิกน�ำไปเป็นชื่อกลุ่ม
ดาวแพะทะเล (Capricorn) ท่ีแสดงด้วยภาพแพะที่มีหางเหมอื นปลา39 การเลอื กแพะทะเล
มาเปน็ สตั วป์ ระหลาดแหง่ ทอ้ งทะเลในแผนทด่ี งั กลา่ วถอื วา่ นา่ ประหลาดใจอยไู่ มน่ อ้ ย แตอ่ าจ
เป็นไปได้ว่าเลือกโดยความเป็นสัตว์ประหลาดลูกผสมมากกว่าการเป็นเครื่องหมายทาง
ดาราศาสตร์ ทงั้ นี้ แพะทะเลยังเปน็ ภาพประกอบในภาพวาดบนเพดานของโบสถ์สมัยกลาง
ช่ือโบสถ์นักบุญมาร์ติน (St Martin) ในเมืองซิลลิส (Zillis) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ดงั จะได้อภปิ รายถดั ไป (หน้า 37-39)

เราอาจมั่นใจไดใ้ นระดบั หนงึ่ ว่าเอกสารลายมือเขยี นต้นแบบสมยั ศตวรรษที่ 8 เร่อื ง
บนั ทึกฯ ของเบอาตุส รวมทงั้ แผนที่ ข้อความท่ีเป็นวลีในตอนต้นของแผนที่และการศึกษา
ลา่ สดุ ถงึ ขอ้ ความในบนั ทกึ ฯ นน้ั พบวา่ วลดี งั กลา่ วปรากฏอยใู่ นหนงั สอื เลม่ นนั้ มาตงั้ แตแ่ รก40
การปรากฏตัวของสัตว์ทะเลบนแผนที่ 3 ฉบับของแผนที่โลก ของเบอาตุสและท่ีจริงแล้ว
การปรากฏบนแผนท่ขี องเบอาตสุ 2 ฉบับน้นั ถือวา่ มคี วามใกลเ้ คยี งในแง่ศลิ ปะกบั ตน้ แบบ
มากที่สุด41 จึงท�ำให้เชื่อได้ว่าต้นแบบดังกล่าวนั้นก็มีสัตว์ทะเลอยู่ด้วย ดังนั้น แผนที่โลก
ของเบอาตุสจึงช่วยให้เราขยายเร่ืองราวของประวัติศาสตร์สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลบน
แผนท่สี มัยกลางยอ้ นกลบั ไปไดถ้ งึ ศตวรรษท่ี 842

Sea Monsters on Medieval and Renaissance Maps


Click to View FlipBook Version