The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติศาสตร์ เทพเจ้า

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by GYPSY GROUP, 2019-07-01 04:39:18

ตำนานเทพเจ้าไวกิ้ง

ประวัติศาสตร์ เทพเจ้า

Keywords: ประวัติศาสตร์ เทพเจ้า

èĀÐùĀÜ×òéèúèśāÐòÿãāø
ëĈśČùöÖúāÓöāðòĈśČôÿïĈðăêŠÜÜāðāéòòâāÐāòèĀÐüŚāè

ตำนานเทพเจาไวกิง้

คอสมอส: เขียน

พมิ พค ร้ังท่ี 1 2560
พมิ พครัง้ ท่ี 2 2562

ราคา 190 บาท

ขอ มลู ทางบรรณานกุ รมของสำนักหอสมุดแหง ชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
คอสมอส.

ตำนานเทพเจาไวกิ้ง.-- พมิ พค ร้งั ท่ี 2.-- กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุป, 2562.
224 หนา .
1. เทพปกรณมั . l. ชอ่ื เร่ือง.
398.2

ISBN 978-616-301-685-0

c ขอความในหนงั สือเลม นี้ สงวนลขิ สทิ ธิต์ ามพระราชบญั ญัติลขิ สิทธิ์ (ฉบบั เพ่ิมเติม) พ.ศ. 2558

การคัดลอกสวนใดๆ ในหนังสือเลม น้ไี ปเผยแพรไ มว าในรปู แบบใดตองไดรบั อนุญาตจากเจา ของลิขสทิ ธ์ิกอ น
ยกเวน เพ่ือการอา งอิง การวจิ ารณ และประชาสัมพันธ

บรรณาธิการอำนวยการ : คธาวุฒิ เกนุย
บรรณาธิการบริหาร : สรุ ชยั พิงชัยภูมิ
ผูชวยบรรณาธิการบรหิ าร : วาสนา ชรู ตั น
บรรณาธกิ ารเลม : ประลองพล เพ้ียงบางยาง
กองบรรณาธิการ : คณติ า สตุ ราม พรรณกิ า ครโสภา ดารยี า ครโสภา
เลขากองบรรณาธกิ าร : อรทยั ดีสวัสดิ์
พสิ ูจนอักษร : วรรษา
รปู เลม : ชา ณ กา
ออกแบบปก : Rabbithood Studio
ผูอำนวยการฝา ยการตลาด : นุชนันท ทักษิณาบัณฑติ
ผูจดั การฝายการตลาด : ชิตพล จนั สด
ผจู ดั การทวั่ ไป : เวชพงษ รตั นมาลี
จัดพมิ พโดย : บรษิ ัท ยิปซี กรุป จำกดั เลขที่ 37/145 รามคำแหง 98
แขวง/เขตสะพานสงู กรุงเทพฯ 10240
พมิ พที่ โทร. 0 2728 0939 โทรสาร. 0 2728 0939 ตอ 108
จัดจำหนาย www.gypsygroup.net
: บริษัท วชิ ั่น พรเี พรส จำกดั โทร. 0 2147 3175
: บริษทั ยปิ ซี กรปุ จำกัด โทร. 0 2728 0939
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
LINE ID : @gypzy

สนใจส่งั ซื้อหนงั สอื จำนวนมากเพ่ือสนบั สนนุ ทางการศกึ ษา สำนกั พิมพล ดราคาพิเศษ ตดิ ตอ โทร. 0 2728 0939

คอสมอส    3

คำ�น�ำ ส�ำ นกั พิมพ์

ธอร์, โลกิ และโอดิน คือนามเทพเจ้าของชาวนอร์ส 
(Norsemen) หรอื ทเี่ รามักเรียกกนั วา่ ชาวไวกิง้ ซงึ่ นามแห่งเทพทง้ั สาม
นีค้ นไทยเราคนุ้ หคู ้นุ ตากนั ดีจากภาพยนตร์, การ์ตูน, เกมคอมพิวเตอร ์
รวมทั้งจากสื่ออ่ืนอีกมากมาย  ทำ�ให้รู้สึกว่าเทพต่างแดนเหล่าน้ีหาได้
แปลกถ่นิ หรอื หา่ งไกลความสมั พันธ์จากพวกเราแต่อย่างใด
ทว่า ภาพยนตรห์ รือการต์ นู น้นั สร้างข้ึนเพ่ือความบันเทิงเป็น
หลัก มิไดย้ ดึ เอาเทพปกรณัมมาเปน็ แกน่ สารสำ�คัญ จงึ มกี ารดดั แปลง
เสริมแต่งไปตามจินตนาการของนักสร้างสรรค์  ซึ่งในบางครั้งอาจแตก
ต่างจากตำ�นานดงั้ เดมิ โดยสนิ้ เชิง และมกั จะกลา่ วถงึ เทพหลกั อยแู่ คไ่ มก่ ี่
องค์ ผู้ท่ีสนใจใครร่ ถู้ ึงความเปน็ มาและพฤตกิ ารณข์ องปวงเทพแหง่ แดน
เหนือจึงยังขาดข้อมูลที่ถูกต้องตามคำ�เล่าขานที่ชาวไวกิ้งยึดถือกันมา 
“คอสมอส” นักเขียนผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ อารยธรรม
โบราณ และเทพปกรณัม จึงได้คัดสรรข้อมูลที่มีเนื้อหาสาระชัดเจน 
มาเรียบเรียงให้นักอ่านชาวไทยได้ศึกษากัน  ทั้งเทือกเถาวงศ์วานของ
องค์เทพและยกั ษา การผจญภยั ศกึ สงคราม ความรัก และแมแ้ ต่เลห่ ์กล
ของเหล่าวายร้าย  โดยเล่าด้วยช้ันเชิงภาษาท่ีสนุกสนานเร้าใจตามสไตล์
ของนกั เขยี นผูน้ ี้
เม่อื ไดอ้ า่ นแล้ว ท่านจะรูส้ ึกว่า ‘สนทิ ’ กบั ทวยเทพของชาว 
นอรส์ ขน้ึ อกี เยอะเลย

ด้วยมติ รภาพ
ยิปซีสำ�นกั พิมพ์

4    ต�ำ นานเทพไวก้งิ

บทนำ�

ชาวเหนือคือใคร?  ชาวเหนือที่เป็นต้นตำ�นานเรื่องราวของ
เทพเจ้าอันแสนสนุกนี้ก็คือพวกไวก้ิงไงครับ  พวกเขาเป็นชนเผ่าเร่ร่อน
เชือ้ สายเยอรมัน รกั การต่อสู้ (ทั้งกับคนอ่นื และในภาวะปรกตกิ ็ตอ่ ส ู้
ด้วยกันเอง)  ตำ�นานของพวกเขาไม่เหมือนเร่ืองเทพในตำ�นานอื่น 
แทนที่สวรรค์จะหมายถึงความสุข  กลับเหมือนหลุมฝังศพที่รอการ
ทำ�ลายในช่วงสุดท้ายของจักรวาล  เทพเจ้าของชาวเหนือมีความตาย
เปน็ ท่ียุติ (หมายถงึ ตายได้ ไม่เหมอื นเทพเจา้ ทเ่ี ป็นอมตะของพวกโรมัน) 
วีรบุรุษ คนทรยศ แม่มด คนแคระ ของและอาวุธวิเศษมากมาย 
ไม่ต้องแปลกใจนะครับว่า อ่านๆ ไปแล้ว ท่านอาจจะอดนึกถึงเรื่อง
วงแหวนแห่งมหนั ตภยั (The Lord of the Rings) และ พิภพนิรันดร
(Ever World) รวมทั้งนยิ ายอน่ื ๆ ไมไ่ ด้ เพราะน่คี อื ตน้ แบบอันเป็นทม่ี า
ของนิยายเหลา่ นน้ั
แต่เห็นจะต้องบอกความเป็นมากันเสียก่อนว่า  ตำ�นานของ
ชาวเหนอื พวกนีก้ ม็ าจากต�ำ นานเทพอน่ื ๆ มาผสมกันบา้ ง ไม่ใช่เป็นของ
ชาวเหนือโดยแท้ บางทีกเ็ ป็นรูปลกั ษณะ บางทกี ็เปน็ คณุ สมบตั ิ เชน่ วา่
ลักษณะของรถพระอาทิตย์ที่เห็นอยู่ในพิพิธภัณฑ์เมืองโคเปนฮาเกน 
กม็ ีรูปแบบเหมือนกบั รถพระอาทิตยท์ ม่ี าจากตะวันออกเป็นแบบทีค่ ลา้ ย
กบั ความเช่อื ของคน เซลท,์ ลาตนิ , สลาฟ ซง่ึ นบั กันวา่ เป็นสาขาหนงึ่
ของคนอินโด-ยูโรเปยี น วา่ ที่จรงิ ศาสนาของคนโบราณเนีย่ มันกค็ ล้ายกัน
เกือบหมดแหละ ไม่วา่ จะมาจากเปอร์เซีย, กรซี หรือโรม
แล้วเรื่องราวของตำ�นานเทพชาวเหนือแผ่ออกไปในความเชื่อ
ของคนในยโุ รปไดอ้ ยา่ งไร? อนั นี้ก็ตอบได้ดงั น้ีครับ

คอสมอส    5

คือก่อนหน้าน้ี  ชาวไวกิ้งที่ต้ังบ้านเรือนอยู่แถวเดนมาร์ก,
นอรเ์ วย์ หรอื สวเี ดน เป็นคนกลุม่ เล็กๆ ท่รี กั การผจญภยั การค้าขาย
และการตอ่ สู้ ถึงขนาดมวี ลที ี่ว่าพวกเขามชี ีวติ อยู่อย่าง “ยามศกึ เรารบ
ยามสงบเราไปปล้น”  คุณสมบัติสองสามข้อที่ว่านี่แหละท่ีทำ�ให้ต่อมา
เขาแบ่งออกเปน็ สามพวก พวกทอ่ี ยูก่ บั ถนิ่ เกิด ขยายบ้านเรือนขนึ้ ไปถึง
พรมแดนทางด้านเหนือจนหมดคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย  อีกสองพวก
ท่ีออกเดินทางจากที่เกิด  พวกหนึ่งไปทางยุโรปตะวันออกเรียกกันว่า
เยอรมันตะวนั ออก (อยา่ สบั สนกับประเทศนะครบั เราก�ำ ลงั พูดถงึ คน
เช้ือสายเยอรมัน  ไม่ได้พูดถึงประเทศเยอรมันซ่ึงกว่าจะต้ังเป็นประเทศ
ชื่อน้ีได้ก็ต้องร้องเพลงรอไปจนกระทั่งอีกเป็นพันปีต่อมา  คือก่อน
สงครามโลกครงั้ ที่ 1 เล็กนอ้ ย) พวกนีเ้ ดินทางจนถึงทะเลดำ�ซึ่งต่อมาก็
เรยี กว่าพวก กอธ (Goth) มีพฒั นาการทางภาษาของตวั เองจนแตกตา่ ง
กบั ของเดมิ มาก กบั อีกพวกที่ไปทางตะวันตก เรยี กวา่ เยอรมันตะวนั ตก
พวกนี้เดนิ ทางเขา้ ไปในดินแดนยุโรปแล้วแบง่ ออกเป็นสามกลมุ่ คอื พวก
ที่ไปทางแมน่ �ำ้ ดานบู พวกหนึง่ ตอ่ ลงใต้ถึงโบฮเี มยี อีกพวกหน่งึ และสู่ 
แมน่ �ำ้ ไรน์ทางตะวันออก และเลยตอ่ ไปถึงเกาะองั กฤษซึง่ อยู่ทางตะวัน
ตกเฉยี งเหนอื ของเส้นการเดนิ ทาง
เดินทางไปมากทางขนาดเนี่ยะ ไม่ตอ้ งบอกก็รู้วา่ นอกจาก
พวกเราจะเรียนรู้อารยธรรมใหม่ของผู้คนพื้นถ่ิน  เขาก็ยังพกพาเอา 
ความเชอ่ื ของตัวเองไปดว้ ย สงิ่ น้ันกค็ ือเทพเจา้ ซึ่งเราค้นพบภายหลังวา่
ความเช่ืออย่างเหนียวแน่นในเรื่องนี้น่าจะเป็นส่ิงท่ีทำ�ให้พวกเราประสบ
ความสำ�เร็จในการขยายถ่นิ
...ด้วยการรบ!!
กพ็ วกไวกิง้ เชอื่ วา่ ไมม่ สี ิ่งใดในโลกคงทนถาวร ทกุ ส่งิ ทกุ อย่าง
เปลีย่ นแปลง มนษุ ยเ์ ราไม่ได้มีแคช่ วี ติ เดยี ว ตายแลว้ ก็ต้องมที ไ่ี ป สดุ  
แต่จะไปอยู่ที่ใด  แต่ดินแดนหลังความตายที่พวกเขาถือว่าเป็นสุดยอด

6    ต�ำ นานเทพไวกง้ิ

ปรารถนา ที่นัน่ คือ วัลฮัลลา สวรรค์ของนกั รบ มีแต่คนตายในทรี่ บ 
และต้องรบอย่างกล้าหาญเท่านั้นจึงมีสิทธิได้รับเลือกให้ข้ึนไปอยู่รอจะ
ตายจรงิ ๆ อกี ครั้งในช่วงเวลา แร็กนาร็อก (Ragnarok) ไวกิง้ จงึ ไมก่ ลวั
ตาย ชอบรุกรานและย�ำ่ ยจี นได้ในส่ิงท่ีปรารถนา ซึ่งนั่นก็เป็นวธิ ีของ 
คนเถ่อื น สมแล้วละทถ่ี กู เรียกวา่ เป็นคนเถือ่ น และกลายเป็นคนที่ไดร้ บั
การดถู กู ตลอดมาในประวตั ิศาสตร์
คุณผู้อ่านอย่าเอาอย่างนะครับ  การรุกรานยำ่�ยีไม่ใช่วิถีของ 
ปัญญาชน ที่สำ�คัญตำ�นานเป็นเพียงความเชื่อของคนโบราณ ส่วน
ประวัติศาสตร์ก็เป็นส่ิงท่ีผ่านไปแล้ว  เราควรพิจารณารับเอาส่ิงที่ดี 
ท้ิงส่วนท่ีเลวไป  (เช่ือไหมล่ะว่าประวัติศาสตร์เนี่ยมันย้อนรอยเสมอ
และเดย๋ี วนีท้ �ำ ท่าจะบ่อยเสียดว้ ย)
ตอนนี้เรามาอ่านตำ�นานเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินและ
ความมนั แตป่ ระการเดียวกันเถอะ

คอสมอส

คอสมอส    7

8    ตำ�นานเทพไวก้งิ

สารบัญ

คำ�นำ�สำ�นักพิมพ ์ 4
บทนำ� 5
ก�ำ เนดิ โลก 11
โอดิน จอมเทพ 27
สงครามระหว่างเทพสองวงศ์ และโลกิ เทพจอมโกง 41
ธอร์ เทพแหง่ สายฟา้ 59
เทยี ร์ เทพแหง่ สงครามตัวจรงิ 79
ยอรด์ เฟรย์ และเฟรยา 87
เฮมดัล อารักษ์แหง่ แอสการด์ 103
บรากิ และไอดนั 109
เทพอนื่ ๆ ของชาวเหนือ 125
เหตแุ หง่ ความเกลยี ดชงั 135
แร็กนารอ็ ก อวสานของเทพและโลกทัง้ เก้า 153
ค�ำ สาปแหง่ แหวน 167
รักรันทด 179
เบวลู ฟ์ 207

คอสมอส    9

แผนภูมิแดนทั้ง 9 ในตำ�นานไวกิ้ง

10    ตำ�นานเทพไวกิ้ง

ก�ำ เนิดโลก

หสั เดิมเรม่ิ แรกนั้น จักรวาลคอื ภาวะหมุนคว้าง มดื และสบั สน
มันเป็นอยา่ งน้นั อยนู่ านแสนนานจนประมาณเวลาไม่ได้ แล้วจๆู่ ความ
สบั สนกค็ ่อยๆ แตกแยกออก กลายเป็นห้วงว่างเปล่าเกิดขึน้ ตรงกลาง
เปน็ หว้ งทส่ี ดุ หยั่งความลกึ ภายในห้วงนี้ อณุ หภูมติ �ำ่ จดั ขนาดสามารถ
แชแ่ ข็งคนในฉับพลัน
ห้วงอันเย็นเยียบเกินทนนี้ ชาวไวกิ้งเรียกว่า กินนุนกาแกบ
(Ginnungagap)
ตอ่ มาเกดิ แผ่นดินข้ึนสองแห่ง แห่งแรกคอื นฟิ ลเ์ ฮม หรือ
นฟิ เฟิลเฮม (Niflheim) (ค�ำ ทล่ี งท้ายดว้ ย - hiem นี้ บางแห่งก็ออก
เสยี งเป็น - ไฮม)์ อยู่ทางทิศเหนอื ของกินนนุ กาแกบ เป็น โลกแห่งนำ้�
แข็งและความเย็น เป็นโลกแห่งความมืดมัวนิรันดร์ แต่ที่นี่ยังมีน้ำ�พ ุ

คอสมอส    11

เวอร์เกลเมียร์ (Hvergelmir) แฝงตัวอยู่ในความมืด มันเป็นต้นกำ�เนิด 
ของแม่น้ำ�  11  สายซึ่งก็ไหลไปไหนไม่พ้น  นอกจากตกไปสู่ห้วง 
กินนุนกากับ สายน้ำ�จากแม่น้ำ�ทั้ง 11 สายเจอเข้ากับความเย็นเฉียบที่นี่ 
น้ำ�ในแม่น้ำ�ก็จะค่อยๆ แข็งตัว แผ่ขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ มันค่อยๆ 
แทรกตัวเข้าไปในห้วงว่างชั้นแล้วชั้นเล่าจนเต็ม
ส่วนทางใต้ของห้วงกินนุนกากับ  คือมัสเปลส์เฮม  (Mus-
pelsheim) แผ่นดนิ แห่งไฟซึ่งเตม็ ไปดว้ ยความร้อนตลอดกาล - ตรงขา้ ม 
กับนิฟล์เฮล์มราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ  ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของเซิร์ท
(Surtr)  ยักษ์แห่งไฟ  ผู้ซ่ึงเช่ือกันว่าเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างแรกที่มีบทบาท
ตั้งแต่การสร้างโลก  และเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างเดียวที่อยู่ยงจนกระทั่งล้าง 
โลกในวาระสดุ ทา้ ย เมอื่ เวลาแรก็ นาร็อก (Ragnarok) มาถึง เซิรท์  
ปรากฏตัวออกจากความมืดพร้อมดาบบนแผ่นดินที่ลุกเรืองไปด้วยไฟ- 
มัสเปลส์เฮม  หน้าที่ของยักษ์ตนนี้  คือเฝ้ามัสเปลส์เฮมเอาไว้ ไม่ยอม
ใหใ้ ครเขา้ ความทีต่ อนนนั้ ยงั ไม่มีใครเกิด มแี ต่ยักษ์เซิร์ทตัวเดยี วโดดๆ
มนั จงึ เบือ่ เอามากๆ มนั ไม่รูจ้ ะทำ�อะไรนอกจากตีดาบ ท�ำ ของ และดดี
ประกายไฟลอยเขา้ ไปในกนิ นนุ กากับเล่นไปวนั ๆ
ต่อมา มัสเปลส์เฮม ค่อยๆ เคลื่อนเข้าใกล้นิฟล์เฮม-แผ่นดิน 
น้ำ�แข็ง ความร้อนของมัสเปลส์เฮม ทำ�ให้น้ำ�แข็งในห้วงละลายกลาย 
เป็นไอ ไอลอยข้ึนไปกระทบอากาศเย็น กลายเปน็ น�้ำ ค้างแข็งรว่ งลงมา 
กองอยู่กับพื้น  นับเดือนนับปี  นำ้�ค้างแข็งเหล่านี้รวมตัวกันจนกลาย
เป็นสิ่งมีชีวิตขึ้นมาสองอย่าง  อย่างหน่ึงคือยักษ์อีเมียร์  (Ymir)  กับ 
ววั ออดฮมั ลา  (Audhumla)
(แต่ในบางทีเ่ ล่าไวต้ ่างจากน้นี ะครบั คอื เล่าว่า ความร้อนของ
มัสเปลส์เฮมทำ�ให้นำ้�แข็งละลาย  เผยให้เห็นสิ่งมีชีวิตสองอย่างคือ
อีเมียร์กบั วัวออดฮัมลา นเ่ี ป็นวธิ อี ธิบายก�ำ เนิดชีวิตแบบไวก้งิ คือชวี ติ
เกดิ เม่ือความร้อนจัดและเยน็ จัดมาเจอกนั )

12    ต�ำ นานเทพไวก้ิง

เทพบรู ี
เกิดจากแม่วัว
เลียก้อนน้ำ�แข็ง

เม่ือเกิดแลว้ ยกั ษอ์ ีเมียร์กบั ออดฮัมลาก็หิวสคิ รับ อีเมียรห์ นั
ไปหันมาเจอเข้ากับเต้านมอันเต่งตึงของวัวก็ตรงเข้าดูดนมวัวเป็นการ
ใหญ่  แต่วัวออดฮัมลาโชคร้ายหน่อย  หล่อนไม่มีอะไรจะกินนอกจาก
น�ำ้ แขง็ ข้างหนา้ กเ็ ลยเลียน้�ำ แข็งกนิ ไปพลางๆ ปรากฏวา่ น้ำ�ลายอนุ่ ๆ
ของวัวสาว ทำ�ให้เกิดสิ่งมีชีวิตอีกหนึ่งจากก้อนน้ำ�แข็งที่มันเลีย นั่นคือ 
เทพบูรี (Buri) ผมของเขาโผล่ขึ้นมาก่อน จากนั้นก็เป็นหัว เป็นตัว 
เปน็ ชวี ิตของชายอีกคนหนงึ่
คนน้ลี ะครบั เป็นปู่ของเทพทั้งหมดทเี ดยี ว
ข้างอีเมียร์  ไม่ว่าอะไรจะเกิดข้ึน  ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจ
นอกจากทำ�ให้ตวั เองอิ่มไวก้ ่อน นเี่ ปน็ ความต้องการแรกของมนุษย์ตงั้ แต่

คอสมอส    13

เกดิ มา อเี มียร์ใช้เวลาไมน่ านเขากอ็ มิ่ แตด่ จู ะอิ่มมากไปหนอ่ ยเลยงว่ ง 
นกี่ เ็ ปน็ ธรรมชาติปกติอกี แหละ เขาทอดกายลงนอนบนพนื้ น้ำ�แขง็ แล้ว
หลบั สนทิ โดยพลนั ประกายไฟจากดาบของยกั ษเ์ ซิรท์ ลอยละลอ่ งมา
จากตกอยขู่ า้ งตัวเรอ่ื ยๆ สรา้ งความอบอ่นุ ท�ำ ใหเ้ ขาหลับนาน แต่ปรากฏ
วา่ ประกายไฟลอยถ่ีขนึ้ ท�ำ ให้อเี มยี รช์ ักร้อน เหงื่อไหล แตว่ า่ เหงอื่ ของ 
อเี มยี รป์ ระหลาดมาก เพราะมันให้ก�ำ เนดิ สิ่งมีชีวิตขน้ึ มาอีกหลายตน
ตัวแรกทเี่ กิดจากหยาดเหง่ือซอกขาของอีเมยี ร์ เป็นยกั ษห์ ก
หัวท่แี สนจะนา่ เกลยี ด เรยี กวา่ ธรุดเกลเมียร์ (Thrudgelmir) (ตนนีเ้ ปน็
ปขู่ องยกั ษน์ �ำ้ คา้ งแขง็ ตนอน่ื ๆ ต่อไปอีก พวกนี้เปน็ ศตั รตู ลอดกาลของ
เหล่าเทพ) สว่ นเหงอ่ื จากจ๊กั กะแร้ดา้ นซ้าย กเ็ ป็นยักษ์ชายหญงิ ค่หู นงึ่  
ถึงแม้จะมีตนละหัวเดียว แต่ก็น่าเกลียดพอๆ กับเจ้าหกหัวตัวแรก 
ขนาดไม่มีใครอยากจำ�ชื่อด้วยซ้ำ� แต่ยังนะครับอีเมียร์ยังไม่ได้หยุดให้
กำ�เนดิ
เรื่องกลายเปน็ ว่า ตอนน้ี มยี ักษ์น้ำ�แขง็ กลุ่มเล็กๆ เข้าอยอู่ าศัย
ที่นิฟล์ไฮล์ม์ แดนแห่งน้ำ�แข็งเรียบร้อยแล้ว และยังคงสร้างเผ่าพันธ์ุ 
แพรข่ ยายกันเรื่อยๆ
กลบั มาทบ่ี ูรี ตน้ กำ�เนิดเผา่ พนั ธคุ์ นน้ี เขามีลกั ษณะเดยี วกบั
อีเมียรต์ รงที่จๆู่ เมื่อเกดิ เองแลว้ ก็สามารถให้กำ�เนิดลูกไดเ้ ลย ลูกของ
เขามชี อ่ื วา่ บอร์ (Bor) บอร์ ตนน้ีแตง่ งานกับเบสลา่ (Bestla) ลกู สาว
ของยกั ษ์โบลเธอร์ (Bolthor) เธอให้กำ�เนิดเทพส�ำ คัญสามองค์ โอดนิ
(Odin) วลิ ลี (Villi) และวี (Ve) สามองคน์ ี่ละครบั ทีเ่ ป็นตน้ วงศข์ องเทพ
เอเซยี ร์ (Aesir) ผู้ครองสวรรคล์ ่ะ
คราวนี้พอเห็นเทพเกิดข้ึนเท่านั้นละครับ  ธรุดเกลเมียร์กับ
ลูกชายชื่อ เบลเกลเมียร์ (Belgelmir) ก็ชักจะตกใจกลัวเทพขึ้นมา 
ตะหงดิ ๆ ทัง้ สองเลยชว่ ยกนั รวบรวมพๆี่ นอ้ งๆ ที่เกิดขึ้นจากอีเมียรไ์ ว้
เป็นกำ�ลงั ฝา่ ยตัว

14    ต�ำ นานเทพไวกิ้ง

(กำ�เนิดของเบลเกลเมียรน์ ี่เป็นการก�ำ เนดิ แบบเทพๆ จรงิ ครับ
คือเขากระโดดออกจากร่างพ่อ-ธรุดเกลเมียร์  แบบเดียวกับเทพบอร์
กระโดดออกจากรา่ งของบรู ี ดูแล้วเหมือนเทพอี ธีน่ากระโดดออกมาจาก
หัวของซูสในนิยายกรกี เลยนะเนยี่ )
ความกลัวเทพอาจจะมาจากคุณสมบัติที่ยักษ์ไม่มีนะครับ
เช่นวา่ ทงั้ สามน่นั แขง็ แรงเหลือเช่ือ แผลบาดเจบ็ อะไรต่างๆ ท่ีเกิดขึ้น
ก็หายเองได้อย่างรวดเร็ว  ต่างจากพวกยักษ์ซึ่งแม้จะมีมากและมีเสริม
ขึน้ เรอ่ื ยๆ แต่ความแขง็ แกร่งกลับสู้เทพทัง้ สามไม่ได้เลย มันทำ�ให้เกิด
สงครามรุน่ แรกของโลกทีเดยี ว
เปน็ สงครามระหวา่ งลกู ๆ ของธรดุ เกลเมยี ร์และลูกๆ ของบอร ์
รบกันเป็นเวลานานนับพันๆ ปีในห้วงกินนุนกากับ โดยที่ไม่มีฝ่ายใด 
ชนะเด็ดขาด หรือฝา่ ยใดเพล่ียงพล้�ำ ฝา่ ยเทพมีพลังมาก แตฝ่ า่ ยยกั ษ ์
กม็ กี ำ�ลงั หนนุ เนื่องเกดิ ใหม ่ ทั้งจากอเี มียรแ์ ละญาตยิ กั ษไ์ ม่ได้ขาด
ในทสี่ ุดครับ พวกเทพจึงต้องยุตกิ ารทอ่ี ีเมยี ร์จะให้ก�ำ เนดิ อะไร
ต่อมิอะไรที่ไม่พึงปรารถนาอีกต่อไป ด้วยการ...ฆ่าอีเมียร์ทิ้ง (น่ากลัว
จังครับ เข้าข่ายฆ่าบรรพบุรุษเชียวนะ ถึงแม้ถ้าถามคนนอร์ส เขาจะ 
ไม่ยอมรบั ว่าอีเมียร์เปน็ เทพ แต่เปน็ ปศี าจก็ตาม)
อีเมยี ร์ถกู โอดนิ และพนี่ ้องรุมฆ่า
ไม่มีตำ�ราเลม่ ไหนบอกวา่ ทั้งสามคนฆ่าอีเมียร์อย่างไร แต่เลือด
ที่ไหลออกจากร่างของเขาก็มากมายจนกลายเป็นแม่น้ำ�เลือดขนาดใหญ่
ทว่ มเข้าไปในหว้ งว่างกินนนุ กากบั จนเตม็ ทายาทยกั ษท์ ัง้ หลายท่เี กิดขึน้
ในตอนแรก ต่างจมน�ำ้ ในแมน่ ้ำ�เลือดนต้ี ายเกลยี้ ง ยกเว้นลกู ชายคนหน่งึ
คอื เบลเกลเมยี ร์ สามารถหนีไปกบั เมียของเขา ไปข้ึนฝงั่ ทางใต้ และ 
ไดต้ ง้ั อาณาจกั รของยกั ษ์ขึน้ เรยี กว่า โยตนั เฮม (Jotunheim) สืบลูก 
สืบหลานวงศ์ยักษ์ต่อไป  แต่เขาส่ังสมและส่ังสอนลูกหลานให้เกลียด 
พวกเทพเขา้ กระดกู ดำ�มาตงั้ แต่เกิด ...มนั กน็ ่าอยู่หรอกครับ

คอสมอส    15

เกดิ แผ่นดินและโลกต่างๆ

ทีนี้พออีเมียร์ตาย...เทพทั้งหลายก็คิดว่า ร่างกายอันใหญ่
โตของอีเมียร์น่าจะมีประโยชน์ในการสร้างอีก อย่างน้อยก็น่าจะได ้
อะไรตอ่ มอิ ะไรแกโ่ ลกใหม่ ก็เลยช่วยกนั ลากศพอันมหึมา ลากไปเรอ่ื ยๆ
ข้ามหว้ งว่างกินนุนกากบั แลว้ ส่วนตา่ งๆ จากศพของอีเมยี รก์ ใ็ ห้ก�ำ เนิด
สรรพส่งิ ตา่ งๆ ไปตามทางจริงเสียด้วย เชน่ วา่ เลอื ดของอเี มยี ร์กลายเปน็
มหาสมุทร กระดกู เปน็ ภเู ขา และฟนั ซ่งึ แตกหกั กลายเปน็ หน้าผาตา่ งๆ
ผมกลายเป็นต้นไม้ใบหญ้า  หัวกะโหลกโค้งมโหฬารเทพก็เอาไปสร้าง 
โค้งสวรรค ์ สมองของอีเมยี รก์ ลายเปน็ เมฆ ลอยฟอ่ งอยเู่ ต็มฟ้า
ท่ีสำ�คัญที่สุด  เนื้อของอีเมียร์กลายเป็นแผ่นดินอันม่ันคง
อยตู่ รงกลางมหาสมุทร เรียกกนั ว่า มดิ การด์ (Midgard) แผ่นดินท่ีอย ู่
ตรงกลาง หมายถึงตรงกลางระหวา่ ง นิฟลเ์ ฮม-ดนิ แดนแห่งนำ�้ แข็ง
ความเยน็ และความเงียบนิรนั ดร์ กับ มสั เปลส์เฮม-อาณาจกั รแห่งไฟ 
แผ่นดินท่ีถูกแผดเผาด้วยดวงอาทิตย์ในเวลากลางวัน  อีกท้ังมิดการ์ด 
ยงั อยตู่ รงกลางของมหาสมทุ ร หรืออกี นยั หนึ่งคือถกู มหาสมุทรล้อมรอบ
ซะอีก มดิ การด์ นีล่ ะครับเปน็ แผน่ ดินของมนษุ ย์ ซ่ึงพวกเทพวางไวเ้ ปน็
อาณาเขตกันกระทบระหว่าง แอสการด์ ของตนกับโยตนั เฮมของยกั ษ์
เอ๊ะ...หวงั ดีหรอื เปล่าเน่ยี
(ท่านผู้อ่านพอคุ้นๆ กับชื่อ มิดเดิลเอิร์ทของท่านอาจารย์
โทลคนี ในเร่ืองเดอะลอร์ด ออฟ เดอะรงิ ส์ไหม ผมวา่ ท่านอาจารย์นา่ จะ
ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องตำ�นานไวกง้ิ เยอะเชียวครับ)
ตาน้ีภูมิประเทศของโลกแบบที่ชาวยุโรปเหนือเช่ือก็เป็นรูป
เป็นร่างแล้วสิ มีนิฟล์เฮม-แดนน้ำ�แข็ง, มัสเปลส์เฮม-แดนแห่งไฟ, 
โยตนั เฮม-แดนยักษ์ และมดิ การด์ -แดนมนุษย์
เมื่อโลกดูเปน็ ท่ีเป็นทางเรียบรอ้ ยขึน้ เทพทง้ั หลายกเ็ หน็ พ้อง
ตรงกันว่าแสงสว่างเป็นสิ่งที่จำ�เป็น  จึงพากันเดินทางไปมัสเปลส์เฮล์ม

16    ต�ำ นานเทพไวก้ิง

เก็บเอาประกายไฟที่กระเด็นมาจากดาบของเซิร์ท  ขว้างดวงท่ีไม่ดับ 
พ่งุ ขึ้นไปบนท้องฟ้า กลายเปน็ ดวงดาวพร่างพราวท่ัวไปหมด และยังเกิด
ดวงท่ีสว่างมากท่ีสดุ ขึ้นสองดวง กค็ อื ดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์
แต่การเปน็ ดวงเฉยๆ ไมเ่ คลอื่ นที่ ก็จะไมท่ ำ�ใหเ้ กิดฤดูกาล 
น่ะสิ เทพก็เลยสร้างราชรถสำ�หรับลากลูกไฟทั้งสองดวงไปทั่วท้องฟ้า
เฉพาะคันที่ลากดวงอาทิตย์มีระบบการป้องกันภัยสูงมาก  เพราะมีทั้ง
น�ำ้ แข็งและโล่ “สวาลนิ ” เอาไว้ด้านหลงั มา้ และคนขับเพอื่ ปอ้ งกนั ความ
ร้อนอนั รนุ แรงของดวงอาทติ ย์ ราชรถคันนมี้ ีมา้ สองตวั ลาก ตัวหน่ึงชอ่ื  
อาร์วาคร์ (Arvakr) แปลว่า ลากขึ้นแต่เช้า อีกตัวหนึ่งชื่อ อัลสวิน
(Alsvin) แปลว่า ฝีเท้าเร็ว ส่วนรถที่ลากดวงจันทร์ก็ธรรมดาครับ 
เพราะแสงของดวงจันทร์ไมแ่ รงเทา่ ดวงอาทติ ยท์ ั้งมขี นาดเลก็ กว่า จงึ มี
ม้าลากตัวเดยี วชอ่ื อลั สไวเดอร์ (Alsvider) แปลวา่ เรว็ เสมอ
สำ�หรับปัญหาต่อไปว่าจะหาใครเป็นผู้ขับรถพระอาทิตย์และ
รถพระจนั ทร ์ ต�ำ นานชาวเหนอื แบง่ ความเชื่อออกเปน็ สองพวก(ตัดสินใจ 
ไม่ไดค้ รบั เลยเล่าทง้ั สองอยา่ งเลยละกนั ) พวกหนึง่ กลา่ วว่า โอดนิ ได้
มองหาจากบรรดาลูกหลานท่ีเหลืออยู่ซ่ึงค่อนข้างจะเป็นพวกนอกคอก 
สักหน่อย คือเป็นลูกผสมของยักษ์กับเทพ ชื่อ มานิ (Mani) และ
โซล (Sol) ชื่อของพี่น้องทั้งสองแปลได้ความเดียวกับดวงอาทิตย์และ 
ดวงจนั ทร์ เพราะพ่อของทั้งสองคิดวา่ พวกเขางดงามเหมือนดวงอาทติ ย์
และดวงจันทร์ ส่วนอกี ตำ�นานหน่งึ กลา่ ววา่ พน่ี ้องสองคนน้ีเป็นลกู ของ
มันดลิ ฟาริ (Mundilfari) มนษุ ยจ์ ากมดิ การด์ ซงึ่ พ่อของเขาอาจหาญ
ตง้ั ชอื่ ว่า อาทติ ย์และจันทร์ ดว้ ยคดิ ว่าลูกของตัวงดงามเหมือนดวงดาว
ท้ังสองจริงๆ การหาญต้ังช่อื เปรยี บเทยี บเช่นนี้ท�ำ ให้โอดนิ โกรธมาก เลย
พรากตัวสองพ่ีน้องจากพ่อ  มาทำ�หน้าท่ีสารถีขับรถพระอาทิตย์และรถ
พระจันทรเ์ สียเลย สองต�ำ นานท่วี า่ มากแ็ ลว้ แต่อยากเชื่ออนั ไหนนะครบั  
อย่างไรก็ตามตำ�นานชาวเหนือได้กล่าวถึงศัตรูตัวฉกาจ

คอสมอส    17

ของ อาทติ ยแ์ ละจนั ทรไ์ วด้ ว้ ย น่ันกค็ อื พญาหมาปา่ สองตัวชอ่ื สกอลล์
(Scoll) และ ฮาติ (Hati) สตั วส์ องตวั นม่ี ีความปรารถนาเพียงอย่างเดียว 
ที่เกาะกินหัวใจมาตั้งแต่เกิด คืออยากจะงาบดาวทั้งสองให้สิ้นซาก 
แล้วพวกมันก็ทำ�ได้จริงๆ ในช่วงแร็กนาร็อกนั่นละครับ (อันนี้ไม่ยัก
เหมอื นของพ่ไี ทยเราเนาะ ของเราตวั ท่งี าบพระอาทิตย์กับพระจันทร์นะ่
เปน็ ตัวราห)ู

คนแคระกบั เอลฟ์

18    ต�ำ นานเทพไวกิ้ง

ระหว่างที่เทพท้ังสามองค์ช่วยกันสร้างโลกเป็นพัลวันน่ันเอง
ครบั เน้ือส่วนหนึ่งของอีเมียร์ท่ยี ังไมท่ ันสรา้ งเปน็ อะไรก็เรมิ่ เนา่ และ 
มันได้ผลิตสิ่งมีชีวิตขึ้นพวกหนึ่ง-อีกแล้ว เทพพบว่าเจ้าพวกที่เกิดใหม่
พวกนี้ทั้งดำ�และเหม็น ถึงแม้จะขยะแขยงกันขนาดไหน แต่เมื่อมันม ี
ชีวิตขน้ึ เองเสียก่อนกเ็ ปน็ ภาระท่ีพวกเขาจะตอ้ งช่วยมันต่อไป
เทพสำ�รวจอุปนิสัยของมันแล้วหาทางเปล่ียนรูปร่างให้เข้ากับ
อปุ นิสัยของมันเอง กลายเป็นสิง่ มชี ีวติ สองสายพนั ธ์ุ พวกที่ทำ�ท่าทาง
โลภ ชอบขู่ค�ำ รามและโค้งตวั คุย้ เข่ียพื้นดิน สามารถรอดชวี ติ ได้โดยท่ี
พวกอ่ืนตาย เทพสร้างให้เปน็ สง่ิ มชี ีวติ ทีเ่ รยี กว่า คนแคระ (Dwarf) ให้
ไปอยู่ในอาณาเขต สวาร์ทลั ฟ์ เฮม (Svartalfheim) ใต้พ้ืนผิวแผน่ ดนิ
มิดการ์ด อุปนิสัยของคนแคระก็คือ พวกมันชอบแร่และอัญมณีมีค่า 
ถงึ ขน้ั บา้ การสง่ คนแคระไปอยู่ใตด้ นิ นอกจากไมต่ อ้ งยงุ่ กบั พวกอน่ื ๆ มัน
ยังมีเวลาเท่ียวสรรหาแร่และอัญมณีเหล่านั้นมาเก็บไว้เป็นสมบัติ  และ
ไมน่ านนกั พวกมันก็พิสูจน์ใหเ้ หน็ วา่ มคี วามสามารถทจี่ ะเปล่ยี นแร่ธาตุ
ท้งั หลายใหก้ ลายเปน็ ส่งิ ประดษิ ฐอ์ ันเลศิ ล้�ำ ตงั้ แต่เครื่องมือวเิ ศษไปยัน
เคร่อื งประดับทีง่ ามทส่ี ดุ จนไดร้ บั ช่อื ว่าเป็นนายแห่งโลหะทงั้ มวล
ส่ิงเดียวท่ีพวกมันต้องระวังคืออย่าโผล่ขึ้นมาบนพื้นดินในเวลา
กลางวันเท่านนั้ แคแ่ สงแดดออ่ นๆ แตะต้องผิว มนั จะกลายเป็นหินทนั ที
ส่วนสิ่งมีชีวิตอีกพวกหน่ึงที่ดูสุภาพกว่ามีความใกล้เคียงกับ
ธรรมชาตมิ ากกว่า ไม่มีความโลภโมโทสัน ไดร้ ับการเปลี่ยนแปลงใหเ้ ปน็
เผา่ พันธ์ทุ สี่ วยงาม ตวั เบาเหมือนอากาศ เรียกกันวา่ พวก เอลฟ์ (Elf) 
พวกน้เี ทพจัดการใหไ้ ด้อาณาเขต อัลฟ์ เฮม (Alfheim) หรอื หมายความ
ถึงดินแดนแห่งพวกเอลฟ์ขาว  อยู่ระหว่างกลางแอสการ์ดกับมิดการ์ด
อยกู่ ันเปน็ สังคม มรี าชาปกครอง พวกนีม้ สี ิทธพิ เิ ศษกว่าคนแคระเยอะ
ตรงท่ีถึงแม้ถิ่นที่อยู่ของพวกเขาจะปลอดภัยดี  แต่ก็สามารถเดินทาง 
ลงมาเทีย่ วเลน่ บนโลกมนษุ ย์ไดโ้ ดยไมม่ ีอันตราย

คอสมอส    19

ที่อย่ขู องเทวา

เสรจ็ ภารกจิ สรา้ งโลกและจัดระบบเสรจ็ เรียบร้อย เทวดาก็หนั
มามองตวั เอง เอ๊ะ พวกข้าพเจ้ายังไมม่ ีที่อยู่เป็นทเี่ ป็นทางเลย เทพไวกิ้ง
รนุ่ แรกเลยสรา้ งดินแดนของตนข้ึนบา้ ง ให้ชือ่ วา่ แอสการ์ด (Asgard)
ตามช่อื วงศเ์ ทพเอเซียร์ วงศเ์ ทวัญของตน แลว้ ตกลงกันว่า ที่น่เี ปน็ ทๆี่
ไม่ต้องการสงคราม ไม่มีการสู้รบ สันติภาพจะต้องอยู่ตลอดไปตราบ 
เท่าทีเ่ ทพเอเซยี ร์ปกครองโลก แอสการ์ดค่อยๆ เติบโตขึน้ เร่อื ยๆ ตาม 
ลูกหลานเทพทจ่ี ะเกิดตามมาครบั

เฮล
และการ์ม20    ต�ำ นานเทพไวกิง้

ถึงอย่างนั้น พวกเอเซียร์ก็ไม่ประมาท จึงสร้างโรงตีเหล็ก 
เพื่อตีอาวุธยุทโธปกรณ์และเป็นที่ที่ค่อยๆ สร้างสรรค์ส่วนต่างๆ ของ 
แอสการ์ดให้ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ แอสการ์ดเชื่อมกับโลกมนุษย์ ด้วย 
สะพานรงุ้ น�ำ้ แขง็ เรียกกันว่า ไบฟรอส (Bifrost) สะพานนกี้ อ่ ร่างขน้ึ มา
จากสายรงุ้ สามสี สีแดงมาจากไฟ สเี ขยี วเปน็ ตัวแทนของพน้ื ดนิ และ 
สฟี ้าเปน็ ตวั แทนของอากาศ ท้งั สามแผ่ตัวประสานกนั เป็นแผน่ โค้งกว้าง
ใหญ่และกลายเป็นนำ้�แข็ง  มันท้ังกว้างและแข็งแรงพอที่บรรดาเทพ 
ทั้งหลายจะใช้ชกั รถศึกออกไปได้
อย่างไรกต็ ามครบั ทา่ นผอู้ ่าน ยงั มอี กี ชอ่ื หน่ึงทค่ี า้ งอยกู่ ่อนจะ 
ถึงแดนท่ี 9 ของชาวเหนือ นน่ั คือวานาเฮม (Vanaheim) ท่ีนเ่ี ปน็  
อาณาเขตของเทพอกี วงศห์ นง่ึ ของชาวยโุ รปเหนอื นน่ั คอื วงศเ์ ทพวาเนยี ร์
(Vanir) เปน็ เทพทไี่ มค่ ่อยแผลงฤทธเ์ิ ทา่ ไหร่ แตม่ อี �ำ นาจเกี่ยวกบั ชีวติ
มนุษย์โดยตรงเพราะส่วนใหญ่เป็นเทพแห่งการเกษตร  อาณาเขต 
แห่งนีอ้ ยทู่ างทิศตะวนั ตกของตน้ ไม้แห่งโลก ตำ่�ลงมาจากอัลฟ์เฮมและ 
แอสการ์ด  น่าแปลกท่ีไม่มีการกล่าวถึงเทพวงศ์น้ีว่ามาจากไหนหรือ 
วานาเฮมสรา้ งยังไง แตก่ ระน้นั เทพวงศ์เอเซยี รก์ ็รับรู้การมาถงึ เมอ่ื เทพ
วาเนียรจ์ ัดต้งั ถนิ่ ฐานของตัวเองขึ้นมาแลว้
(ถ้าจะให้ผมเดาก็ต้องว่า เทพเหล่านี้คือเทพพื้นถิ่นเดิมของ
ชาวยุโรปเหนือ เช่นเดียวกับเทพกรีกหลายองค์ที่เดิมก็มาจากเทพใน
พน้ื ที่ ต้องรวมกับคณาเทพรุ่นใหม่ และลดฐานะต�่ำ ลงละครับ)

นรกภูมิ

นรก นับเป็นแดนท่ี 9 ในอาณาเขตของชาวยุโรปเหนือ อันที่
จริง ชาวเหนือไม่ค่อยกล่าวถึงเรื่องนรก หรือแทบไม่เน้นความสำ�คัญ
เลยครับ แต่นรกของชาวเหนือก็มีอยู่ดีแหละ โดยที่เขาบอกไว้ว่านรก 

คอสมอส    21

ทีว่ ่า คอื สว่ นหนึ่งใน นิฟลเ์ ฮม-แผ่นดนิ ของคนตาย (มนั คงหนาวเยน็
สาหัส จนกระทง่ั คนเหนือซ่ึงคนุ้ ตอ่ ความหนาวยงั ไมอ่ ยากเจอ เลยยก
ให้เปน็ นรกไปซะ เหมอื นพวกเราพ่ีไทยเหมือนกัน ทเี่ กลยี ดความร้อน
ทั้งที่อยู่ในเมืองร้อน เลยยกให้นรกมีแต่ไฟเผาไงครับ) มีแค่ยักษ์กับ 
คนแคระเทา่ นน้ั ที่อยู่ร่วมกับวญิ ญาณคนตายได้ นรกของชาวเหนอื เป็น
อาณาจักรของเทพีเฮล (Hel) มีสุนัขยักษ์ตัวหนึ่งชื่อ การ์ม (Garm) 
เฝ้าอยู่ เทพีเฮลคนน้ีละครับทจ่ี ะกลายเป็นคนส�ำ คัญของเรือ่ งในตอน 
ต่อไปข้างหน้าจึงต้องบอกท่ที างท่หี ล่อนอย่ไู ว้ให้ท่านผ้อู ่านทราบเสียก่อน 

กำ�เนดิ มนุษย์

เปน็ เรอ่ื งแทรกนะครับ เพื่อใหร้ ูว้ า่ พวกเรานะ่ อยตู่ รงไหนเวลา 
ที่เหลา่ เทพกำ�ลังบันเทงิ ใจในการสร้างโลกและรบกนั เอง ชาวยุโรปเหนอื  
ให้อรรถาธิบายถึงมนุษย์ไว้น้ิสนึงเพ่ือให้เป็นผู้ชมและเป็นทั้งพยาน 
ที่จะเล่าเรื่องของเทพต่อไป  ผมแทรกไว้ให้เพราะดูจะเป็นส่ิงเล็กน้อย
เหลือเกนิ
คร้ังหน่งึ เมอ่ื เทพสามองค์ มี โอดนิ โฮเนียร์ (Hoenir) และ
โลเดอร์ (Lodur) กำ�ลงั เดินไปตามชายหาด ได้บงั เอิญพบตน้ ไมส้ องตน้ ท่ี
ลอยมาติดหาด ตน้ หนง่ึ คอื แอช (Ash) ตน้ หนง่ึ คือ เอลม์ (Elm) โอดนิ
หักเอากิง่ ท่ีมีสาขาของต้นไมท้ ง้ั สองขนึ้ มา แลว้ ถากให้เข้ารปู เป็นตุ๊กตา
มนุษย์ผู้ชายกับตุ๊กตามนุษย์ผู้หญิง โอดินให้วิญญาณ โฮเนียร์ให้ความ
รู้สึก และโลเดอร์ให้ชีวิตกับสีผิวที่เต็มไปด้วยเลือดเนื้อ จากนั้นกิ่งไม ้
ทั้งสองก็ปรากฏร่างขึ้น เป็นรูปร่างที่ใกล้เคียงเทพแต่มีขนาดเล็กกว่า  
นับเป็นมนุษย์คู่แรกของโลก ผู้ชายมาจากต้นแอช มีนามว่า อากสค์
(Askur) หรือ Ask แปลว่า ถาม สว่ นผ้หู ญิงมาจากตน้ เอล์มช่ือ เอมบลา
(Embla) เทพไดช้ ท้ี ิศใหท้ ง้ั สองหาท่ีทางตงั้ อยูก่ นั เองในมดิ การด์

22    ต�ำ นานเทพไวกงิ้

อก๊ิ ดราซลิ

เอาละครบั ทนี่ กี้ ็มาถึงส่ิงสำ�คัญสุดทา้ ย อิก๊ ดราซิล (Yggdrasil) 
ต้นไม้แห่งจักรวาล (ของชาวยุโรปเหนือ) นับเป็นต้นไม้สำ�คัญที่สุด 
เพราะเปน็ แกนกลางรองรบั โลกท้งั เก้าโดยท่ยี อดไมร้ ะเมฆบนท้องฟา้
อ๊กิ ดราซลิ เป็นไม้ แอช (พวกเดยี วกบั มะกอก) มนั ตอ้ งเปน็ ไม้
ที่ใหญ่มหากาฬทเี ดียว เพราะโอบรบั ไม่วา่ จะเป็นแดนสวรรค์ โลกมนษุ ย์

อิ๊กดราซิล
ต้นไม้แห่งจักรวาล
ในความเชื่อ
ของชาวไวกิ้ง
คอสมอส    23

โลกของยักษ์ โลกของคนแคระ หรือเอลฟ์ ไวก้ บั ก่ิงก้านสาขาและราก
ของมัน ความแข็งแกรง่ ของไม้อิ๊กดราซลิ ท�ำ ให้โลกท้ังหมดตั้งอยูอ่ ยา่ ง
มน่ั คง รากใหญส่ ามรากของมันหย่งั ลึกลงไป รากหนงึ่ ไปถึงโยตันเฮม 
แผ่นดนิ ของยกั ษ์ อนั หน่งึ ไปถึง นลิ ์ฟเฮม แผน่ ดนิ น�ำ้ แขง็ และอกี  
อันหนงึ่ ไปถึงแอสการด์ แผน่ ดนิ ของชาวสวรรค์ รากทง้ั สามรากนีท้ �ำ ให้
ต้นอิ๊กดราซิลสมั พันธก์ ับโลกทงั้ สาม คอื ยักษ ์ เทพ และมนุษย์
อิก๊ ดราซิลดดู เอาน�ำ้ จากบอ่ น้ำ�สามแหง่ ไว้หลอ่ เลี้ยงตน้ รากที่
อยู่กับชาวแอสการ์ด ไปโผลแ่ ถวน้ำ�พุ เอริ ด์ (Urd) น้ำ�พุแหง่ เยาวภาพ
(Fountain of Youth) นำ�้ พทุ ชี่ าวสวรรคใ์ ช้ดม่ื กนิ เพ่อื ใหม้ ีความเยาวว์ ยั  
อยู่เสมอ  เทพีที่คอยรักษาแหล่งน้ำ�และมีหน้าที่ตักนำ้�ไปให้ชาวสวรรค์ 
วันละครงั้ คือ พวกนอร์น (the Norns) สามพนี่ ้อง นามวา่ เอริ ์ด (Urd)
แปลว่า อดตี เวอร์ดานดิ (Verdandi) แปลว่า ปจั จุบัน และ สกลั ด์
(Skuld) แปลว่า อนาคต จะเรียกรวมกันว่าเป็นเทพีแหง่ ชะตามนุษย์ก็ 
ไมผ่ ดิ ครบั ดว้ ยเหตนุ อ้ี กิ ดราซลิ จงึ มชี อ่ื อกี ชอ่ื หนง่ึ วา่ ตน้ ไมแ้ หง่ ชะตาลขิ ติ
(tree of destiny) ดว้ ยเหมอื นกนั
รากท่ีสองแผ่ไปถึงแผ่นดินนิฟล์เฮม  แผ่นดินแห่งน้ำ�แข็ง 
อิ๊กดราซิลกจ็ ะไดน้ ้�ำ เลย้ี งจากนำ้�พุ เวอรเ์ กลเมยี ร์ (Hvergelmir) ซ่ึงมี
นำ้�ตกหลนั่ เป็นชน้ั แผส่ าขาออกไปเป็นแมน่ ำ�้ สายใหญๆ่ ของโลก
สว่ นรากท่สี าม แผ่ไปถึงแผน่ ดินของพวกยกั ษซ์ ึ่งปกคลุมด้วย
น�ำ้ แข็งตลอดกาล ได้น�ำ้ จากนำ�้ พุ ไมเมยี ร์ (Mimir) น�้ำ จากน้�ำ พุแห่งน้ี
เป็นน้�ำ วเิ ศษแห่งความรอบรู้ พวกยักษ์จึงต้องจัดเปลี่ยนเวรยามกันเฝา้
ไม่ยอมใหใ้ ครตกั ไปดื่มได้งา่ ยๆ
อ๊ิกดราซิลจะเขียวสดอยู่ตลอดท้ังปีและตลอดไป  แม้ว่าใบ 
ของมนั จะกลายเปน็ อาหารของสตั ว์ตา่ งๆ บนต้นไปบ้าง เช่นบนยอดไม ้
สูงสุดมีไก่ตัวผู้สีทองตัวหน่ึงคอยตรวจตราขอบฟ้า  เจ้าตัวนี้มีหน้าท่ีจะ
ต้องขันเตือนเทพเจ้าหากศัตรูตลอดกาลของพวกเขาเตรียมยาตราทัพ

24    ต�ำ นานเทพไวกงิ้

เข้ามาหา นอกจากนี้มีนกอนิ ทรอี กี ตวั หน่งึ จะคอยเกาะก่ิงไม้มองส�ำ รวจ
เช่นเดยี วกบั ไก่ นกตวั นมี้ ีผู้ช่วยกค็ ือนกเหยย่ี วเกาะอยู่ระหว่างตาของมนั
(นกึ ภาพไม่ออกวา่ มันเกาะกนั อีท่าไหนกันนะครบั นี่)
สว่ นสตั วท์ ไ่ี มใ่ ช่พวกนก ก็มกี ระรอกตวั หนงึ่ ช่อื ราตาโทสค์
(Ratatosk) ว่ิงข้ึนว่งิ ลงไม่เคยหยดุ ระหว่างต�ำ แหนง่ ท่นี กอินทรีเกาะอยู่
กบั ตรงรากของตน้ อันท่อี ยูบ่ นแผ่นดินน�ำ้ แข็งนิล์ฟเฮม เพราะว่าทีน่ ัน่ ม ี
พญางนู ิดฮอก (Nidhoggr) ขดลอ้ มรากไมอ้ ยู่ ราตาโทสค์มีหน้าทีจ่ ะ
คอยตรวจตราไม่ให้พญางูตัวน้ันกัดกินรากต้นไม้มากเกินไปยามที่เบื่อ 
จะแทะศพมนษุ ย์แล้วน่นั เอง
เราว่าเร่ืองภูมิศาสตร์ของตำ�นานชาวเหนือกันมาหมดแล้วละ
ครบั ทา่ นผอู้ า่ น ตอนต่อไปผมจะพาทา่ นไปถึงเรื่องการต่อสขู้ องเทพและ
ยักษท์ ่ีจะสนุกสนานเข้มเข้นขึน้ เรอื่ ยๆ เชียวละครบั

คอสมอส    25

โอดนิ จอมเทพ

ในตำ�นานไวกิ้ง โอดินดำ�รงฐานะจอมเทพครับ สูงที่สุดใน
บรรดาเทพชาวเหนือทั้งหลาย แต่ชีวิตของพระองค์ไม่ได้สบายเหมือน
กับตำ�แหน่งหรอกครับ กลับมีแต่ความรันทดตลอดมา สิ่งเดียวที่ช่วย
พระองค์ไว้กค็ ือความแข็งแกร่งครับทา่ นผอู้ ่าน ความแขง็ แกรง่ ของชาย
ชาตินักรบที่ถึงแม้จะรู้จุดจบของตัวเองและพวกพ้อง ก็ไม่เคยแสดง
ความอ่อนแอหรือเขลาขลาดใดๆ ใหใ้ ครเห็น
ความแข็งแกร่งของจิตใจนี่ละครับที่เป็นจุดเด่นของโอดิน
ทำ�ใหผ้ ู้คนทางยโุ รปภาคกลางซึ่งก็คอื คนเชอ้ื ชาตเิ ยอรมัน ทแ่ี ผต่ ัวลงไป
ตามพ้นื ทีย่ โุ รปตอนล่างในเวลาตอ่ มา ยอมรบั นบั ถอื เป็นทีย่ ง่ิ แตเ่ รียก 
ช่ือโอดินเพ้ียนไปจากเดมิ บ้าง เชน่ ว่า โวทนั (Wotan) หรอื โวเดน 
(Woden)  พระองค์เป็นเทพพิทักษ์นักรบ  เป็นที่มาของช่ือวันพุธ
(Wednesday) ในภาษาฝรั่งนน่ั ไง

คอสมอส    27

อยา่ งที่เลา่ ไว้แตต่ ้นวา่ โอดนิ เป็นลกู ของบอร์ เทพเร่มิ แรกของ
โลก เช่นเดยี วกบั บรรดาเทพอืน่ ๆ ท่อี ยู่บนแอสการด์ ตา่ งกเ็ ปน็ ลกู หลาน
ของเทพองคน์ ้ซี ะเกอื บทงั้ สิ้น รปู ร่างของโอดนิ ในความนกึ คิดของชาว
เหนือสว่ นใหญ่จงึ เปน็ ชายชราสวมหมวกปกี กว้างซอ่ นใบหน้าไวใ้ นเงามดื
น่ังอยู่บนบัลลงั ก์ฮลดิ เสคยี ฟ (Hlidskialf) ทำ�ให้สามารถสอดส่องความ
เป็นไปต่างๆ ในโลกทั้งเกา้ ได้ โดยมฟี รกิ ก้า (Frigga) (หรือ Frigg, Frija)
เมยี คนที่สองแต่รกั ที่สุดน่ังเคยี งขา้ งบนบลั ลงั ก์องคน์ ไี้ ดเ้ พียงคนเดียว
อนั ทจ่ี ริงโอดินมเี มยี หลายคนเชียวครบั ท่านผูอ้ า่ น มีท้งั เทพ
ด้วยกันและยกั ษีประเภทตา่ งๆ (ตามความนยิ มในสมัยน้ัน) ทว่าพวกที่
ได้รบั การยกย่องมีอยไู่ ม่เท่าไหร่ คนแรกคือ จอร์ด (Jord) หรอื เออดา
(Erda) คนนเ้ี ป็นธิดาของภาวะหมนุ วนสับสนรอบๆ กินนุนกาแกบ กับ
ยกั ษีตนหนึ่งไม่ปรากฏนาม (ผมละงง เปน็ ลักษณะการสบื พนั ธุ์ท่ีประ
หลาดจริงๆ ครับ) โอดินมลี กู กบั เมยี ผูม้ กี ำ�เนิดค่อนข้างประหลาดคนน้ี
เทา่ ทน่ี ับได้คอื ฟรกิ กา้ คนท่ีกลายเปน็ เมยี คนทีส่ องท่ีรกั ท่ีสดุ นัน่ แหละ 
และ ธอร์ (Thor) เทพแห่งสายฟ้าผู้ซึ่งแข็งแกร่งที่สุด (อย่าเพิ่ง
ประหลาดใจครับ คนเช้อื สายเยอรมนั ยุคแรก ๆ จะค่อนข้างม่ัวหนอ่ ย
พอ่ กบั ลกู สาวมั่ง พีก่ ับนอ้ งมง่ั พอๆ กบั ราชส�ำ นักอยี ปิ ต์ ต่างกนั แต่พวก
อียิปต์ไมไ่ ดเ้ ลือกด้วยความชอบใจ พอใจอยา่ งของเทพชาวเหนือนะครบั
อยี ปิ ต์ตราเปน็ กฎเลยว่าตอ้ งแต่งงานกันในวงศว์ านเท่านั้น นัยว่าเพอื่ ให้
สายเลือดเขม้ ข้น !!)
กับฟรกิ ก้า โอดนิ มีลกู อีกส่ีคือแฝด บาลเดอร์ กับโฮเดอร์ เทยี ร์
และเฮอร์มอด
ส่วนเมียคนสามชื่อว่ารินด้า (Rinda) คนนี้เป็นตัวแทนของ
ความแห้งแล้งของแผ่นดินที่หนาวเหน็บในช่วงหน้าหนาว ตอนไหนที่
เจ้าหล่อนไปอยู่กับสามี แผ่นดินที่เคยหนาวเหน็บจะอุ่นขึ้น (ก็เจ้าแม่
แห่งความหนาวไมอ่ ยเู่ สียแล้วน)ี่ เป็นช่วงท่ีตอนเหนือมฤี ดรู อ้ นช่วงสนั้ ๆ

28    ต�ำ นานเทพไวกง้ิ

ความท่ีรินด้าเจ้าแม่แห่งความแห้งแล้งจากแผ่นดินถิ่นท่ีอยู่ของมนุษย์ 
แค่ช่วงสั้นๆ  ชาวเหนือเลยทึกทักให้หล่อนเป็นภรรยาที่มีนิสัยค่อน
ข้างรังเกียจสามีเอามากๆ เจ้าหล่อนถึงให้เวลาโอดินอยู่ด้วยเพียงปีละ 
ชว่ งสั้นๆ เท่าน้ัน กบั รนิ ด้าคนนล้ี ะครับทีโ่ อดินก็มีลกู ด้วย ชอ่ื วา่ วาลี
(Vali)  เป็นหนึ่งในบรรดาเทพไม่ก่ีองค์ท่ีเหลือรอดจากแร็กนาร็อก 
ซง่ึ เปน็ คนสำ�คัญอกี คนหนงึ่ เกยี่ วกบั ความตายของบาลเดอร์ (Balder)
เทพแหง่ สจั จะและแสงสว่าง
โอดินจอมเทพมักแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักรบ  ถือหอก 
กุงเนียร์ (Gungnir) อาวุธประจำ�กายและใส่แหวนวิเศษเดราป์เนียร์
(Draupnir) ซึ่งบางแห่งก็ว่าเป็นกำ�ไลแขนครับ แหวนหรือกำ�ไลแขน 
เดราป์เนยี รท์ ีว่ า่ มลี กั ษณะพเิ ศษตรงท่เี กดิ ใหม่ทุก 7 วัน ...วา้ จะเขา้ ใจ
หรือเปลา่ เน่ีย เอางนี้ ะครบั ลองนึกวา่ แหวนอนั นแ้ี บง่ ตัวเองออกมาใหม่
แล้วตวั เกา่ กอ็ ันตรธานเพือ่ ใหแ้ หวนเดราปเ์ นยี รใ์ หม่อยูเ่ สมอ แหวนวงน้ี
ยังมีฤทธ์ิท�ำ ใหผ้ ู้ครอบครองรำ�่ รวยตลอดเวลาดว้ ย
โอดินมบี ริวารประจ�ำ กายดว้ ยครับ บรวิ ารทว่ี ่าไมใ่ ช่เทพหรอื
คนอีกตา่ งหาก แต่เปน็ อีกา ช่ือฮิวจิน (Hugin) ความคิด และมวิ นิน
(Munin) ความจ�ำ แต่ละตัวเกาะบนไหลซ่ ้ายขวาคอยกระซิบบอกขา่ ว
ใหม่ๆ ทีน่ ายส่ังใหม้ ันบนิ ออกไปสงั เกตเปน็ พิเศษ นอกจากนกทัง้ สองตัว
นแ่ี ล้ว เทพโอดนิ ยงั มสี ัตว์เลย้ี งแสนรกั เป็นหมาป่าอีกสองตัวชอ่ื เกอร่ี
(Geri) และเฟรกี (Freki) ซึง่ มอี ุปนิสยั คล้ายคลึงกบั โอดินมาก เพราะว่า
นิสัยของมันก็คือสัญชาตญาณการล่าที่มีอยู่ในตัวมหาเทพเอง  หมาป่า
ท้ังสองตัวมักจะคอยเฝ้าอยู่ข้างๆ  นายแทบตลอดเวลาแม้เมื่ออยู่ในโถง
วัลฮัลลา (Valhalla) โถงแหง่ วญิ ญาณนักรบท่ไี ดร้ ับเลอื ก ทนี่ ี่เปน็ ห้อง
โถงท่ีมีการงานเลี้ยงไม่มีวันจบ  เต็มไปด้วยอาหารจำ�พวกเนื้อที่มีให้กิน
อย่างไมอ่ ้นั เป็นท่ีชุมนุมของวิญญาณนกั รบหลากหลาย หมาป่าท้งั สอง
จะคอยรับอาหารจ�ำ พวกเน้อื ท่ีนางก�ำ นัลเอามาวางไวต้ รงหนา้ โอดิน แต่

คอสมอส    29

ฮิวจินและมิวนิน
คอยบอกข่าวต่อโอดิน

จอมเทพไม่เสวยอาหารพวกนี้หรอกครับ พระองค์เอาไว้ให้รางวัลสัตว์
เลี้ยงเท่านั้น สิ่งเดียวที่ทำ�ให้พระองค์ยังชีพในสวรรค์ได้เป็นอย่างดีคือ
เหล้าน้ำ�ผง้ึ หมาป่าทั้งสองก็เปรมไปละครบั

ท่มี าของปัญญา

นอกจากโอดินจะได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพแห่งนักรบแล้ว
ยังเป็นเทพแห่งปัญญาและภูมิรู้ด้วย  ซึ่งโอดินก็ได้ปัญญาและภูมิรู้มา
ต้งั แต่คร้ังแรกสร้างโลกนน่ั แหละ
ก็หลังจากท่ีโอดินกับน้องๆ  ช่วยกันสร้างโลกจากร่างของ 
อีเมียร์เสร็จแล้ว พระองค์ก็รี่ไปหาไมเมียร์ อารักษ์แห่งน้ำ�พุปัญญา
ด้วยรวู้ ่านำ้�ท่ีนี่ หากใครได้ดม่ื จะรู้สรรพวิชา รวมทง้ั เห็นกาลในอนาคต
อย่างชดั เจน ตดิ อยูแ่ ตว่ า่ ไมเมียรย์ ่อมไม่ให้คนท่ไี ม่มีเหตผุ ลพอจะไดด้ ื่ม 

30    ต�ำ นานเทพไวกิ้ง

ไดล้ ้มิ รสน�ำ้ จากแหลง่ น ี้ เรื่องน้ีเลา่ กนั ว่า...
โอดนิ ถงึ ขนาดตอ้ งออ้ นวอน อ า้ งวา่ ดว้ ยต�ำ แหนง่ ราชาแหง่ เทพ 
พระองค์จำ�เป็นต้องมีความรอบรู้ไม่ว่าจะในศาสตร์ไหน  เพ่ือให้การ
ปกครองของพระองค์ราบรืน่ ที่สุด ไมเมยี ร์คิดอยู่ครู่หน่งึ กต็ กลง โดยมี
ข้อแลกเปล่ียนกบั พระองคว์ า่ หากโอดินต้องการความร้มู ากจรงิ ๆ จะ
ต้องควักตาข้างหน่ึงออกมาแลกกับการด่ืมน้ำ�คร้ังเดียว  เพราะความ
กระหายในวิชาตา่ งๆ ทำ�ใหโ้ อดินไมห่ ยดุ คิดอะไรตอ่ ไป พระองค์ควกั ตา 
ข้างหน่งึ แลกกับความรทู้ ี่แฝงไปกับน้�ำ เช่ือไหมล่ะว่า “ดวงตาของโอดนิ ”
ที่วา่ เรายงั เห็นกนั อยทู่ ุกวนั นี้ ก็ดวงกลมๆ สีเหลืองนวลในบอ่ น�ำ้ ทกุ บอ่
นำ�้ ทุกแหลง่ ในคนื วนั เพ็ญนั่นไงละครับ (ก็คือเงาสะท้อนของดวงจันทร์
ในน้ำ�นั่นแหละ...เข้าใจคิดเหมือนกันแฮะ  ส่วนตาข้างที่เหลืออยู่ก็เลย
กลายเป็นสญั ลกั ษณข์ องดวงอาทิตย์ไปโดยปรยิ าย)
โอดินคอ่ ยๆ ละเลยี ดน�้ำ วิเศษผ่านล�ำ คอ ความรขู้ องสรรพ
วิชาต่างๆ ท่ีพระองคก์ ระหายอยากได้ก็คอ่ ยๆ ไหลเขา้ สรู่ า่ งไม่วา่ จะเป็น
ความรู้เรือ่ งกวีนิพนธ์ ไสยเวทย์หรอื อื่นใด จากนน้ั เปน็ ต้นมาเทพองค์น้ี
จึงกลายเป็นเทพอุปถัมภ์ หมอดู กวนี พิ นธแ์ ละพ่อมดไปในทันที ทวา่ สิง่
ที่รวมมากับนำ้�คือการเห็นอนาคตข้างหน้าที่พระองค์ต้องการหนักหนา
กลบั กลายเป็นความทกุ ขส์ าหสั เกนิ กว่าจะรับได้
เพราะนอกจากจะเห็นความเปล่ียนแปลงของจักรวาล  เห็น
ความตายของลูกรกั ยงั ได้เหน็ ชว่ งเวลาจบสิน้ ของทุกสิ่งทกุ อยา่ ง นัน่ คือ
ช่วงแร็กนาร็อก  ภาพทุกภาพชัดเจนอยู่ในหัวโอดินแค่ช่วงเสี้ยววินาที
นับเป็นอนาคตท่ีปวดร้าวแทบจะเกินทน  ดังนั้นเมื่อเห็นชะตากรรม 
ท่ีจะเกิดขึ้นต่อไป  ทำ�ให้ใบหน้าซึ่งเคยสดใสร่าเริงของโอดินหมองลง 
บางครั้งการรู้อนาคตล่วงหน้าก็ไม่ได้นำ�มาซ่ึงความสุขเสมอไปหรอกครับ 
จริงไหม ตั้งแต่นั้น พระองค์กลายเป็นคนเงียบขรึม ไม่กินอาหาร 
ดม่ื แต่เฉพาะเหลา้ น�ำ้ ผง้ึ เพื่อใหค้ วามเมาสลายความทกุ ขล์ งไปบา้ ง

คอสมอส    31

วลั ฮลั ลา

โอดินมีพระราชวังใหญ่ๆ อยู่สามแห่งในแอสการ์ด คือ 
แกลดส์เฮม (Gladsheim) โถงที่ประชุมของเทพ วาลาสเคียฟ
(Valaskialf) ซึง่ มีบัลลังกฮ์ ลิดสเคยี ฟ (Hlidskialf) ตงั้ อยู่ และวัลฮัลลา  
พระราชวังซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกวิญญาณนักรบที่ได้รับเลือกขึ้นมา  
อนั น้ตี งั้ อยู่ในเกลเซอร์ (Glasir) กลางปา่ วิเศษซึง่ ใบไม้ในปา่ น้เี ปน็ สที อง
อมแดง
พระราชวังวัลฮัลลาคอื พระราชวงั ทีม่ ขี นาดมหศั จรรย์ เล่ากนั
วา่ มปี ระตูเขา้ ออกถึง 540 แหง่ แต่ละแห่งกวา้ งพอท่จี ะให้นักรบตัวโตๆ
แปดคนเดินเรียงแถวหน้ากระดานเข้าไปได้อย่างสบายๆ  ที่น่ีมีโต๊ะยาว
เปน็ จำ�นวนมากให้พวกไอนเ์ ฮเรียร์ (Einheriar) เข้าประจำ�ที่ มคี บไฟจดุ
ไวต้ ามผนงั แสงคบเพลงิ สะทอ้ นใบหอกเป็นประกายวาววบั อยูใ่ นแสงไฟ
อาหารเตรียมพรอ้ มไวม้ ากมาย ไมว่ า่ จะเปน็ หมูย่างเบยี รห์ รือเหล้าน้ำ�ผึง้  

ไอน์เฮเรียรแ์ ละวัลคริ ี

เลา่ มาถึงตรงนีม้ ีชอ่ื แปลกข้ึนมาอกี ชือ่ หน่ึงครบั คอื ไอนเ์ ฮเรยี ร์ 
พวกน้ีคือใครกัน  ตอบได้ว่าคือวิญญาณนักรบผู้กล้าซ่ึงตายในสนามรบ
นั่นเอง
ก็เพราะโอดินรเู้ หตุการณล์ ว่ งหนา้ ไงครบั จึงทำ�ใหพ้ ระองคค์ ดิ
จะเริ่มสะสมกำ�ลังไวข้ ้างหน้า อย่างน้อยพระองค์ก็จะไม่จากไปอยา่ งเสีย
เกียรติเกินไป แต่ในการจะไปเท่ียวเกบ็ เกี่ยววิญญาณนกั รบ พระองค ์
ไม่ไดท้ ำ�เอง หากมอบหนา้ ท่คี ณานางวลั คริ ี (Valkyries)
วลั คริ ี คอื นางฟ้าด�ำ แห่งความตายซึง่ จอมเทพจัดตง้ั ขึ้นเปน็  
กองทัพ นางฟ้าดำ�เหล่านี้อยู่ในรูปลักษณ์หญิงสาวงดงาม ผิวขาว 

32    ต�ำ นานเทพไวกิ้ง

อนาคตโอดินก็ตกอยู่ในความขมข่ืน  พระองค์มักจะสิงอยู่ในวัลฮัลลา
ครงั้ ละนานๆ ดื่มเหลา้ พลางมองพวกนกั รบซอ้ มๆ กนั ไปพลาง วลั ฮัลลา 
กลายเป็นสวรรคแ์ สนสขุ ของนกั รบ คนมฝี มี อื ในการรบทุกคนในสมยั นั้น 
ฝันถึงวัลฮัลลา ทำ�ให้ผู้ชายจากมิดการ์ด (ก็คือมนุษย์เรานี่ละครับ) 
มศี รัทธาต่อการไดข้ ้ึนสวรรคแ์ บบนีม้ าก สงครามจงึ กลายเป็นความกล้า
หาญ เป็นส่ิงท่คี วรท�ำ และท�ำ อย่างดเุ ดือดโหดเหี้ยมในวยั หนมุ่ เพราะ
การตายด้วยวัยชราท่ีปราศจากคมหอกคมดาบ  เป็นการตายท่ีน่าอาย
ทส่ี ดุ (การขนึ้ สวรรคว์ ัลฮลั ลานี่ ภายหลังเช่อื ว่ามีทางลดั ด้วย คือการผูก
คอตายครับ  อันนี้เขาคงเอาไปปนกับความเช่ือตอนที่โอดินแขวนคอตัว
เองบนตน้ อิกดราซิล แต่ผลจะได้ขน้ึ สวรรค์หรือเปล่าไมร่ บั รอง)
เล่ากันว่าพวกที่โอดินชอบท่ีสุดเห็นจะเป็นวิญญาณนักรบที่
มสี มญานามว่า เบอร์เซอรก์ (Berserk) มาจากพวกทส่ี วมเส้อื หนังหมี
(Bearskin) แทนเกราะ (เหตุที่เขาใส่เพียงหนังหมีเพราะเชื่อว่าโอดิน 
เทพเจ้าของเขาจะเป็นโล่ป้องกันอยู่แล้ว)  นักรบพวกนี้จึงเป็นพวกที่ 
กล้าหาญท่ีสุด ร้ายกาจที่สุด จะฆา่ ศัตรูไม่ว่าหนา้ ไหนไมเ่ ว้นแมก้ ระทั่ง
ศตั รูน่ันจะเปน็ ญาตพิ ่นี ้องของตนเอง

งานเลีย้ งในวัลฮัลลา

ในวัลฮัลลา วัลคิรีจะมีหน้าที่ที่ดุเดือดน้อยลงเยอะ คือเจา้
หลอ่ นเหลา่ น้ันจะเป็นผูน้ �ำ อาหารมาเสริ ์ฟใหน้ ักรบ คอยดแู ลไมใ่ หอ้ าหาร 
พร่องจากจาน  ดูแลให้เขาสัตว์ท่ีใช้เป็นถ้วยดื่มมีเหล้าเต็มอยู่เสมอ 
นมแพะที่นำ�มาให้นักรบด่ืมมาจากเต้าของแพะเฮดรัน  เน้ือท่ีใช้เสิร์ฟ 
บนวัลฮัลลาเป็นเนื้อที่มาจากหมูป่าของเทพตัวหนึ่งช่ือ  แซริมเนียร์
(Saehrimnir) มนั จะถกู พอ่ ครวั แอนดร์ มิ เนียร์ (Andhrimnir) เชือด 

34    ต�ำ นานเทพไวก้งิ


Click to View FlipBook Version