The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by อุบลรัตน์ สุขพันธ์, 2022-02-28 09:12:39

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

7. ข้อใดเป็นประโยชนข์ องคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า
ก. การสือ่ สาร
ข. การมองเห็น
ค. การรักษาโรค
ง. ถูกทกุ ข้อ

7. ข้อใดเป็นประโยชนข์ องคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า
ก. การสือ่ สาร
ข. การมองเห็น
ค. การรักษาโรค
ง. ถูกทกุ ข้อ

8. คลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าเปน็ คล่นื ชนิดใด
ก. คลน่ื แนวเฉียง
ข. คล่นื ตามยาว
ค. คล่นื ตามขวาง
ง. คล่นื วงกลม

8. คลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าเปน็ คล่นื ชนิดใด
ก. คลน่ื แนวเฉียง
ข. คล่นื ตามยาว
ค. คล่นื ตามขวาง
ง. คล่นื วงกลม

9. คลืน่ วิทยุมีการสง่ สญั ญาณใด
ก. A.M. - S.M.
ข. F.F. - F.M.
ค. M.N - F.M.
ง. A.M. - F.M.

9. คลืน่ วิทยุมีการสง่ สญั ญาณใด
ก. A.M. - S.M.
ข. F.F. - F.M.
ค. M.N - F.M.
ง. A.M. - F.M.

10. คล่ืนแสง สามารถแบ่งออกเป็นแสงสตี ่างๆ

เรียกว่าสเปกตรมั ของคลื่นแสง แสงสใี ดไม่เป็น

สเปกตรัมของคลน่ื แสง

ก. มว่ ง ข. แดง

ค. เหลือง ง. ชมพู

10. คล่ืนแสง สามารถแบ่งออกเป็นแสงสตี ่างๆ

เรียกว่าสเปกตรมั ของคลื่นแสง แสงสใี ดไม่เป็น

สเปกตรัมของคลน่ื แสง

ก. มว่ ง ข. แดง

ค. เหลือง ง. ชมพู

11.คล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าชนดิ ใดตอ่ ไปนีทีม่ ีความยาว
คล่นื สนั ทีส่ ุด

ก. อนิ ฟราเรด
ข. ไมโครเวฟ
ค. คลื่นวทิ ยุ
ง. อัลตราไวโอเลต

11.คล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าชนดิ ใดตอ่ ไปนีทีม่ ีความยาว
คล่นื สนั ทีส่ ุด

ก. อนิ ฟราเรด
ข. ไมโครเวฟ
ค. คลื่นวทิ ยุ
ง. อัลตราไวโอเลต

12. รังสใี ด ไมใ่ ช่ คลืน่ แมเ่ หล็กไฟฟา้
ก. รงั สีบีตา
ข. รังสเี อกซ์
ค. รงั สแี กมมา
ง. รงั สอี ัลตราไวโอเลต

12. รังสใี ด ไมใ่ ช่ คลืน่ แมเ่ หล็กไฟฟา้
ก. รงั สีบีตา
ข. รังสเี อกซ์
ค. รงั สแี กมมา
ง. รงั สอี ัลตราไวโอเลต

13. ในธรรมชาตริ ่างกายมนุษยส์ ามารถสรา้ งวติ ามนิ
ไดจ้ ากรังสใี ด

ก. รังสเี อกซ์
ข. รงั สีแกมมา
ค. รังสอี ินฟราเรด
ง. รงั สีอลั ตราไวโอเลต

13. ในธรรมชาตริ ่างกายมนุษยส์ ามารถสรา้ งวติ ามนิ
ไดจ้ ากรังสใี ด

ก. รังสเี อกซ์
ข. รงั สีแกมมา
ค. รังสอี ินฟราเรด
ง. รงั สีอลั ตราไวโอเลต

14.รงั สีคู่ใดมีความถอี่ ยใู่ นช่วงเดียวกนั เป็นส่วนใหญ่
ก. รังสเี อกซ์ กบั รงั สีแกมมา
ข. รงั สเี อกซ์ กบั รังสอี ินฟราเรด
ค. รงั สีแกมมา กบั รงั สอี ลั ตราไวโอเลต
ง. รังสอี ินฟราเรด กบั รงั สีอลั ตราไวโอเลต

14.รงั สีคู่ใดมีความถอี่ ยใู่ นช่วงเดียวกนั เป็นส่วนใหญ่
ก. รังสเี อกซ์ กบั รงั สีแกมมา
ข. รงั สเี อกซ์ กบั รังสอี ินฟราเรด
ค. รงั สีแกมมา กบั รงั สอี ลั ตราไวโอเลต
ง. รังสอี ินฟราเรด กบั รงั สีอลั ตราไวโอเลต

15.คล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้าท่ีมอี านาจทะลทุ ะลวงได้มาก
ทสี่ ุดคอื

ก. รงั สเี อกซ์
ข. รังสีอนิ ฟราเรด
ค. รงั สีอลั ตราไวโอเลต
ง. รงั สีแกมมา

15.คล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้าท่ีมอี านาจทะลทุ ะลวงได้มาก
ทสี่ ุดคอื

ก. รงั สเี อกซ์
ข. รังสีอนิ ฟราเรด
ค. รงั สีอลั ตราไวโอเลต
ง. รงั สีแกมมา

16.สเปกตรัมของคล่นื แมเ่ หล็กไฟฟ้าท่เี ปน็ อันตราย
ตอ่ รา่ งกายมากคือ

ก. รังสีเอกซ์
ข. รังสีอนิ ฟราเรด
ค. รังสีอัลตราไวโอเลต
ง. รงั สีแกมมา

16.สเปกตรัมของคล่นื แมเ่ หล็กไฟฟ้าท่เี ปน็ อันตราย
ตอ่ รา่ งกายมากคือ

ก. รังสีเอกซ์
ข. รังสีอนิ ฟราเรด
ค. รังสีอัลตราไวโอเลต
ง. รงั สีแกมมา

17.คล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ท่นี ยิ มใชใ้ นรโี มทควบคมุ การ
ทางานของเครื่องรบั โทรทัศนค์ ือขอ้ ใด

ก. รังสเี อกซ์
ข. รงั สอี ินฟราเรด
ค. รังสอี ัลตราไวโอเลต
ง. รังสีแกมมา

17.คล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ท่นี ยิ มใชใ้ นรโี มทควบคมุ การ
ทางานของเครื่องรบั โทรทัศนค์ ือขอ้ ใด

ก. รังสเี อกซ์
ข. รงั สอี ินฟราเรด
ค. รังสอี ัลตราไวโอเลต
ง. รังสีแกมมา

18.แทนคุณไปโรงพยาบาลเพ่อื ตรวจสุขภาพ หมอ

แนะนาให้เอ็กซเรย์ อยากทราบวา่ คลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า

ทนี่ ามาใช้ในการเอก็ ซเรย์คอื ขอ้ ใด

ก. รังสเี อกซ์ ข. รังสอี ินฟราเรด

ค. รังสีอัลตราไวโอเลต ง. รังสีแกมมา

18.แทนคุณไปโรงพยาบาลเพ่อื ตรวจสุขภาพ หมอ

แนะนาให้เอ็กซเรย์ อยากทราบวา่ คลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า

ทนี่ ามาใช้ในการเอก็ ซเรย์คอื ขอ้ ใด

ก. รังสเี อกซ์ ข. รังสอี ินฟราเรด

ค. รังสีอัลตราไวโอเลต ง. รังสีแกมมา

19. ประสาทสมั ผสั มนุษย์สามารถตรวจรับ
สเปกตรัมคล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ในช่วงความถ่ใี ด

ก. รังสีเอกซ์
ข. รงั สอี ัลตราไวโอเลต
ค. รังสอี นิ ฟราเรด
ง. รังสแี กมมา

19. ประสาทสมั ผสั มนุษย์สามารถตรวจรับ
สเปกตรัมคล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ในช่วงความถ่ใี ด

ก. รังสีเอกซ์
ข. รงั สอี ัลตราไวโอเลต
ค. รังสอี นิ ฟราเรด
ง. รังสแี กมมา

20. คลนื่ ใดถูกใช้สาหรบั สือ่ สารผา่ นดาวเทียม
ก. รังสีเอกซ์
ข. ไมโครเวฟ
ค. อัลตราไวโอเลต
ง. รังสีแกมมา

20. คลนื่ ใดถูกใช้สาหรบั สือ่ สารผา่ นดาวเทียม
ก. รังสีเอกซ์
ข. ไมโครเวฟ
ค. อัลตราไวโอเลต
ง. รังสีแกมมา


Click to View FlipBook Version