BANGKACHA
VILLAGE
#ของดีบางกะจะ
ชุมชนน่าอยู่ ลือเลื่องเมืองท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พิทักษ์สิ่งแวดล้อม
พรั่งพร้อมสาธารณูปโภค รุ่งโรจน์ด้านการประมง มั่งคงภาคการเกษตร
www.bangkaja.go.th
เทศบาลตำบลบางกะจะ
[email protected]
039-391-516 , 039-391-321
BANGKACHA
VILLAGE
เที่ยว ชอป 34
37
ประวัติบางกะจะ วิสาหกิจเสื่ อกกบ้านท่าแฉลบ
แผนที่ 05 เจตนาจิวเวลลี่
วัดพลับทอง 06
ไร่ตามฟาร์มสุข 08
18
ชิม พักผ่อน 41
42
ปูจ๋าร้านอาหารและคาเฟ่ โฮมสเตย์ ป้าหลุยลุงทม
ไร่ตามฟาร์มสุข รันย่ารีสอร์ท
ร้านอาหารแพปากน้ำจันทร์
21
24
27
ประเพณีและภูมิปัญญา
ศาสนาคริสต์กับชุมชนบางกะจะ 44
ศาลเจ้าบางกะจะ 47
ประเพณีทิ้งกระจาด 51
เสื่ อกกบ้านท่าแฉลบ 57
ฟาร์มหอยป้าหลุยลุงทม 29
เจ๊เล็กก๋วยเตี๋ยวหมูสูตรดั่งเดิมหน้า 40
โรงเรียนบางกะจะ
ร้านอาหารนภาท่าแฉลบ
คาเฟ่บ้านสวนภัทรธรArt&Craft 40
40
บางกะจะ เวลา 2 โมงครึ่ง เลี้ยวแหลมมาเห็นเขาพลอยแหวน
สนัดที่เดียว 3 โมง 15 มินิต มาเห็นเรือกระมท ซึ่ง
เทศบาลตำบลบางกะจะเดิมทีเป็น ท่านกรมเจ้าท่าจอดอยู่ที่ท่าเสาธงที่ริมฝั่ งมีเสาหงส์
"สุขาภิบาลบางกะจะ" อยู่ข้างซ้ายมือ แล้วเข้าคลองบางกะจะข้างฝั่ งตะวัน
ซึ่งได้จัดตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2506 และต่อมาได้ยกฐานะ ออก มีศาลเจ้าและศาลาอยู่ข้างซ้ายมือ ต่อมานั้นมี
เป็น "เทศบาลตำบลบางกะจะ" โรงเรือน ประมาณ 20-30 หลัง เรือเราจอดที่
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2542 ตาม ตะพานหน้าพลับพลาเห็นพระยาจันทบุรีมาคอยรับ
อยู่ เราขึ้นนั่งพักบนพลับพลา เราขึ้นม้าพิรุณรัศมี
พระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงฐานะสุขาภิบาลเป็น ออกเดินมา ตามทาง หลานขึ้นม้าถือดาบเรามาด้วย
เทศบาล พ.ศ. 2542 พื้นที่ของเทศบาลประกอบ เห็นเป็นโรงจีน เป็นร้านขายของทั้ง 2 ข้าง มาก
ด้วย หมู่ที่ 1, 4, 6, 9 และ 10 รวมเป็นพื้นที่ หลายสิบโรง แต่เห็นเป็นฝาปูนอยู่โรงหนึ่งทางคด
ประมาณ 9 ตารางกิโลเมตร และได้แบ่งพื้นที่ ไปคดมา 3 ทบ 4 ทบ จึงหมดโรง แต่เราเห็นคนที่
ออกเป็น 6 ชุมชนย่อย ยืนตามโรงนั้นเป็นจีนแทบทั้งนั้นไม่ใคร่เห็นมีไทย
เว้นแต่ผู้หญิง เมื่อต่อมานั้นเป็นเนินต้องขึ้นทางสูง
บางกะจะถือได้ว่าเป็นดินแดนประวัติศาสตร์ เหมือนขึ้นเขาหน่อยหนึ่ง
เมื่อถึงที่ราบคราวนี้เราเห็นตึกจริงๆ
สำคัญแห่งหนึ่งของไทย เป็นเก๋งจีน ศาลเจ้าอยู่ 2 หลังมีโรงงิ้ว และโรงใกล้
ในปี พ.ศ. 2419 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เคียงหลายโรงอยู่ข้างขวามือ
เจ้าอยู่หัวได้เคยเสด็จประพาสบางกะจะซึ่งพระองค์
ได้พระราชนิพนธ์ถึงบางกะจะเมื่อเสด็จประพาส
จันทบุรี ณ วันอาทิตย์ แรม 1 ค่ำ เดือน 2 ปีชวด
อัฐศก จุลศักราช 1238 มีใจความบางตอน ดังนี้
ที่ท่องเที่ยว
#เที่ยวชิมชอปบางกะจะ
วัดพลับ
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ พระยอดธงเรืองฤทธิ์
สถาปัตยกรรมล้ำค่า พระเจ้าตากสินมาพักทัพ
154 หมู่ 1 ถนนสายท่าแฉลบ ต.บางกะจะ
อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี 22000
039-391-516
06:00 - 18:00 น.
ประวัติ และได้นำพระยอดธงที่หลือจากการแจกจ่ายทหาร
ก่อนไปทำการรบเข้าบรรจุในพระเจดีย์กลางทราย
ถวายเป็นพุทธบูชา
ความเป็นมา กาลต่อมาเมื่อราชวงศ์จักรีขึ้นครองราชย์ นับตั้งแต่
พระบาท สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกรัชกาลที่ ๑
“วัดพลับ” เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง ในจังหวัดจันทบุรี เป็นต้นมา พระองค์ก็ทรงใช้น้ำในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์วัด
ตั้งขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย จากหลัก พลับทำน้ำพระพุทธมนต์ราชาภิเษกในการเสด็จขึ้น
ฐานที่สำนักพระพุทธศาสนาบันทึกไว้ว่า ได้รับการ ครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ โดยกระทำพิธีที่
อนุญาตให้ตั้งเป็น วัดในปี พ.ศ. ๒๓๐๐ ในรัชสมัย อุโบสถวัดพลับจนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระ
ของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๓ (พระเจ้าอยู่หัว ปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗ เป็นพระมหากษัตริย์
บรมโกศ) ชื่อวัดพลับสุวรรณพิมพราราม ต่อมาได้ องค์สุดท้ายที่ใช้อุโบสถหลังเก่าวัดพลับเป็นสถานที่
เปลี่ยนเป็นสุวรรณติมพรุธาราม ซึ่งแปลว่า “วัด ทำน้ำพระพุทธมนต์ราชาภิเษก แต่การนำน้ำในบ่อ
พลับทอง” (ทองคำ) ในสมัยเจ้าอาวาสองค์ที่ ๑๒ ศักดิ์สิทธิ์ไปใช้ในพิธีสำคัญที่เกี่ยวเนื่องด้วยพระมหา
ท่านพระครูเขม์ ธมฺมทินโน ได้เปลี่ยน ชื่อจากวัด กษัตริย์ ทางราชการยังใช้น้ำในบ่อนี้จนถึงปัจจุบัน
สุวรรณติมพรุธารามเป็นชื่อ “วัดพลับ” ดังที่ใช้อยู่
ในปัจจุบันสำหรับที่มาของชื่อวัดทั้งเก่าและใหม่ได้ ทั้งนี้เนื่องจากวัดพลับเป็นวัดเก่าของจังหวัดจันทบุรี
ยึดถือเอาต้นพลับที่มีอยู่ในบริเวณวัด ซึ่งพอถึง มีโบราณสถาน โบราณวัตถุที่ทรงคุณค่าทางด้าน
ฤดูออกผลเมื่อแก่เต็มที่ผลพลับจะเหลืองอร่ามเต็ม ศิลปกรรมควรแก่การศึกษาหาความรู้เป็นอย่างยิ่ง
ต้นดูคล้ายทองคำจึงถือเอานิมิตเป็นชื่อวัด อนึ่งผล อาทิเช่น อุโบสถหลังเก่าที่มี ลวดลายแกะสลักและ
พลับเมื่อยังดิบอยู่จะมียางที่เหนียว ชาวบ้านในสมัย ภาพเขียนฝาผนังที่งดงามเป็นหนึ่งในภาคตะวันออก
ก่อนจะนำผลพลับที่ดิบนั้นมาตำให้แหลกเพื่อเอาน้ำ ศาลาการเปรียญหลังเก่าเป็นอาคารไม้ยกพื้น ปลูก
ยางจากผลพลับไปย้อมแหอวนและสายเบ็ดที่เป็น สร้างอยู่คู่กับอุโบสถตรงจุดที่เป็นทางเดินไป
เครื่องมือหากินให้มีความคงทนในการใช้งาน โรงเรียนวัดพลับจันทบุรชีบาอุทิศในปัจจุบันและพระ
เจดีย์กลางทรายสถานที่บรรจุพระยอดธงกู้ชาติของ
วัดพลับกับสถาบันกษัตริย์ ในอดีตเมื่อปี พ.ศ. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (ศาลาการเปรียญและ
๒๓๑๐ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงใช้สถาน พระเจดีย์กลางทราย ได้พังทลายไปแล้วไม่ได้สร้าง
ที่วัดพลับเป็นที่พักทัพจัดเตรียมกองทัพก่อนเข้าตี ทดแทน)
เมืองจันทบุรีและการยกทัพเรือไปกอบกู้กรุง
ศรีอยุธยาคืนจากพม่าก่อนที่จะยกทัพไปทำการสู้รบ สําหรับโบราณสถานเก่าที่ได้รับการบูรณะซ่อมบำรุง
พระองค์ทรงประกอบพิธีบำรุงขวัญทหาร สร้างพระ ให้คงสภาพเดิมอยู่จนถึงปัจจุบัน คือ พระปรางค์
ยอดธงแจกจ่ายและนำน้ำในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์มาทำ พระเจดีย์กลางน้ำ วิหารพระปางบำเพ็ญ ทุกรกิริยา
น้ำพระพุทธมนต์ประพรมเหล่าทหารหาญ หอไตรกลางสระน้ำ วิหารพระธาตุ หอระฆังหลังคา
ทรงเก๋งจีน สามสร้างหรือสำซ่าง(เมรุเผาศพโบราณ)
โดยกระทำพิธีปลุกเสกในอุโบสถหลังเก่าภายหลัง ที่สร้างขึ้นในสมัย รัชกาลที่ ๓ หลังเก่าล้มลงเมื่อวันที่
จากการกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมาได้และจัดการ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๑ และอีกสิ่งหนึ่งคือ บ่อน้ำ
บ้านเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้วสมเด็จพระเจ้าตากสิน ศักดิ์สิทธิ์ สำหรับโบราณวัตถุมีตู้พระไตรปิฎก พร้อม
มหาราชพร้อมด้วยแม่ทัพนายกองได้เสด็จกลับมา คัมภีร์โบราณสำซ่างธรรมาสน์ทรงบุษบก, เรือยาว
บูรณะวัดพลับ และสิ่งของเครื่องใช้โบราณ
โบสถ์
วัดพลับ
โบสถ์หลังเก่าได้รับการปฏิสังขรณ์
หลายครั้ง จนปัจจุบันมีลักษณะ
เหมือนโบสถ์ไทยทั่ว ๆ ไป มีหน้าบัน
เป็นลวดลายปูนปั้ นรูปพระนารายณ์
ทรงครุฑ หลังคาตกแต่งด้วย
เครื่องลำยองปูนปั้ น
โบสถ์วัดพลับเป็นโบสถ์ที่ใช้เป็น
สถานที่ปลุกเสกมุรธาภิเษกในพระ
ราชพิธีพระบรมราชาภิเษกของ
พระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรีทุก
พระองค์
สร้างใหม่ พ.ศ. ๒๕๐๖
ปฏิสังขรณ์ พ.ศ. ๒๕๓๓
เ จ ดี ย์ ก ล า ง นํ้ า
ตั้งอยู่ทางทิศเหนือด้านหน้าวัดเป็นอาคารไม้ มีอายุนับร้อย
ปี รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วนยอดของหลังคาเป็นทรงจตุร
มุข มีเจดีย์ขนาดเล็กประดับบนยอดจตุรมุข มีเครื่อง
ลำยองที่ทำด้วยไม้แกะสลักสวยงามตกแต่งจตุรมุขและ
บริเวณช่องลมทั้ง ๔ ด้านประดับด้วยการแกะสลักลวดลาย
ไม้ฉลุที่งดงาม แสดงให้เห็นร่องรอยของฝีมือช่างท้องถิ่น
ในอดีตที่สร้างสรรค์ศิลปะได้อย่างมีคุณค่ายิ่ง ภายในวิหาร
ประดิษฐานพระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกกรกิริยาหรือเรียก
กันทั่วไปว่า “ปางทรมาน” กรมศิลปากรได้ปฏิสังขรณ์
วิหารไม้แห่งนี้เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๔๖
หอไตรกลางน้ำ
เป็นหอไม้ทรงไทย อายุเก่าแก่สมัยอยุธยา หลังคา ๒ ชั้น ทรงจั่วโครงสร้างไม้ตกแต่งด้วยเครื่องลำยอง มี
ระเบียงรอบหอ เสารองรับหลังคาเป็นเสาเดิมยังเห็นร่องรอยการตกแต่งด้วยลายรดน้ำลงรักปิดทอง เป็น
หอไตรขนาดกลาง สร้างอยู่กลางสระน้ำ เดิมใช้เป็นที่เก็บพระไตรปิฎก กรมศิลปากรได้ปฏิสังขรณ์ แล้ว
เสร็จเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
นับตั้งแต่โบราณกาลผู้คนในชุมชนบางกะจะและใกล้เคียง ผู้ใดต้องการน้ำไปทำน้ำพระพุทธมนต์ในการ
รักษาโรคภัยไข้เจ็บ หรือ ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ก็จะมานำน้ำในบ่อนี้ไปใช้ในพิธีนั้น เมื่อ ครั้งสมเด็จ
พระเจ้าตากสินมหาราช นำทัพจัดเตรียมกองทัพอยู่ที่ วัดพลับ พระองค์ก็ทรงใช้น้ำในบ่อนี้ทำน้ำพระพุทธ
มนต์ประพรม กองทัพก่อนออกทำศึก ต่อมาราชวงศ์จักรีขึ้นครองราชย์ ก็ทรงใช้ น้ำในบ่อนี้ทำน้ำพระพุทธ
มนต์ราชาภิเษกในการเสด็จขึ้นครองราชย์ เช่นกัน
สํา
ซ่าง
สำซ่าง หรือ สำสร้าง
เป็นเมรุไม้สำหรับเผาศพ สร้าง
ด้วยต้นเสาไม้เหลี่ยมทรงสอบ
หลังคาเหลี่ยมย่อขึ้นไป ๕ ชั้น
มุงด้วยกระเบื้ องดินเผาปลาย
ยอดทรงแหลม สภาพเดิมชำรุด
กรมศิลปากรได้บูรณะใหม่ พ.ศ.
๒๕๔๕ และขึ้นทะเบียนเป็น
โ บ ร า ณ ส ถ า น ข อ ง ก ร ม ศิ ล ป า ก ร
แล้ว
พระ
ปรางค์
สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๑ เป็นศิลปะ
สมัยรัตนโกสินทร์ สูงประมาณ ๒๐
เมตร องค์พระปรางค์ตั้งอยู่บน
ฐาน ประทักษิณ ๒ ชั้น มีบันได มี
มุขยื่นทั้ง ๔ ด้านโดยรอบ ส่วนยอด
ของพระปรางค์ มีการซ้อนชั้น องค์
พระปรางค์เล็กมีชั้นฐานเชิงบาตร
รองรับประดับซุ้มด้วยรูปปั้ นเศียร
ช้างทั้ง ๔ ทิศ และส่วนยอดสุด
ตกแต่งด้วยยอดปรางค์ประดับ
ด้วยตรีศูลพระปรางค์ลักษณะเช่น
นี้ไม่ค่อยพบในภาคตะวันออก ได้
รับการบูรณะจากกรมศิลปากร
เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐
อนุสรณ์สถาน
สมเด็จพระเจ้า
ตากสินมหาราช
เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๐๙ สมเด็จพระเจ้าตากสิน
มหาราช (ขณะนั้นเป็น พระยาวชิรปราการ)
ได้รวบรวมเหล่าทหารไทยจำนวนหนึ่งตีฝ่า
ทหาร พม่าที่ล้อมกรุงศรีอยุธยา ผ่านมา
ทางระยองเรื่อยมามุ่งสู่จันทบุรี และได้มา
หยุดพักพลและประทับพักแรมที่บ้านบาง
กะจะ หัวแหวน (ปัจจุบัน เป็นพื้นที่ ๒
ตำบลคือตำบลบางกะจะ และตำบลพลอย
แหวน)
ก่อนที่จะนำกองทัพเข้าตีเมืองจันทบุรี และ
ยกทัพเรือไปกู้กรุงศรีอยุธยา พระองค์ได้
ประกอบพิธีตัดไม้ข่มนามบำรุงขวัญทหาร
โดยนำน้ำ ในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดพลับมาทำ
น้ำพระพุทธมนต์ประพรม และสร้างพระ
ยอดธงแจกจ่าย ส่วนพระที่เหลือได้นำไป
บรรจุในพระเจดีย์กลางทราย ถวายเป็น
พุทธบูชา
ต่อมา พ.ศ. ๒๔๗๙ พระเจดีย์ได้พังทลาย
ลงจึงพบพระยอดธงเป็นจำนวนมาก เป็น
ที่เลื่ องลือในหมู่นักนิยมพระเครื่องว่า
“พระยอดธงดีต้องพระยอดธงวัดพลับ”
วั ด พ ลั บ ท อ ง
บางกะจะ
เรื่องเล่า เรือยาวหม่อมหัวเขียว
เป็นเรือยาวที่มีขนาด 30 ฝีพาย สร้างโดยหลวงปู่สร้อยเจ้าอาวาสองค์ที่ 8 สำหรับใช้ในพีธีแห่กฐินผ้าป่า
และใช้ในการพายแข่งขันกัน ทำด้วยไม้ตะเคียนทองทั้งต้นซึ่งหลวงปู่สร้อยได้ทำพิธีอัญเชิญมาจากบ้าน
หนองคล้านำมาผาเป็น 2 ซีก ขุดเป็นเรือยาวได้ 2 ลำ คือ เรือหัวเขียวและเรือกาไว ลักษณะเป็นเรือยาวคู่
แฝด (ปัจจุบันเรือกาไว อยู่ที่ วัดโขดเขมาราม อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา)
ครั้นเมื่อวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสทางชลมารคมาจังหวัด
จันทบุรี เมื่อเรือพระที่นั่งวิ่งมาถึงบริเวณทางแยกจะเข้าเมืองจันทบุรี ปรากฏว่ามีกระแสน้ำเชี่ยวมากทำให้
เรือพระที่นั่งเกยตื้นไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ ชาวบ้านท่าแฉลบได้นำเรือยนต์มาลาก ปรากฏว่าเรือพระที่นั่งไม่
สามารถเคลื่อนตัวหลุดจากที่เกยตื้นได้ ในขณะนั้นเรือยาว ชื่อ “หัวเขียว” ของวัดพลับบางกะจะซึ่งออกมา
รับเสด็จแต่มาช้า เมื่อเห็นเรือพระที่นั่งเกยตื้นไม่มีเรือลำไหนสามารถช่วยออกมาได้ จึงได้เข้าไปช่วยเหลือ
ลากเรือพระที่นั่ง จนสามารถเคลื่อนตัว ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวหลุดออกมา และสามารถตั้งลำในแม่น้ำจันทบุรี
ได้สำเร็จ ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงใช้ให้ทหารเรียกเรือยาวที่มาช่วย ทรงตรัสถามว่า เป็นเรือของวัดอะไร ชื่อ
อะไร นายท้ายเรือหัวเขียวจึงทูลตอบไป แล้วพระองค์ทรงตรัสว่า “เราจะตั้งชื่อให้”
พระองค์ทรงพระเมตตานำดินสอฉนวนเขียนชื่อบนหัวเรือยาวว่า “หม่อมหัวเขียว”
ถือว่าเป็นเรือยาวลำเดียวที่ทรงพระเมตตาแต่งตั้งให้เป็น “หม่อม”
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
เล่าขานสืบต่อ
ในอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บางท่าน
ของจังหวัดจันทบุรีมีคำกล่าวว่า...
ผู้ใดมาจังหวัดจันทบุรีถ้าไม่ได้มาวัดพลับ
ถือได้ว่ายังมาไม่ถึงจังหวัดจันทบุรี
ไร่ตาม
ฟาร์มสุข
บางกะจะขอนำเสนออีกหนึ่งสถานที่เที่ยว
ที่จะเติมเต็มวันพักผ่อนที่แสนพิเศษของคุณ
ไร่ตามฟาร์มสุข มีให้คุณครบจบในที่เดียว
ทางฟาร์มมีพื้นที่ให้บริการ 2 โซน
คือ โซนเอ (Zone A) และ โซนบี (Zone B)
ซึ่งรวมทุกอย่างไว้ให้คุณไม่ว่าจะเป็นมุมถ่ายรูป
คาเฟ่ สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากผลผลิตของ
ฟาร์ม อัญมณี เครื่องประดับ ต่าง ๆ มากมายให้
เลือกซื้อเลือกหาเป็นของฝากกลับไปให้คนที่คุณ
รัก และนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสุดพิเศษอย่าง
กิจกรรมพาพาย SUP (Stand up Paddle
board) ชมธรรมชาติป่าชายเลน คลองบางกะจะ
และกิจกรรมสอนขี่ม้าฟาร์มสุข Horse Riding
สำหรับผู้ที่ที่แวะเวียนเข้ามาที่ไร่ตามฟาร์มสุข
ทางฟาร์มมีบริการ Welcome drink ให้กับผู้ที่เข้า
มาที่ไร่ตามฟาร์มสุขอีกด้วย
สนใจกิจกรรมใด เป็นพิเศษ สามารถอ่านราย
ละเอียด และ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ไร่ตามฟาร์มสุข
68/3 หมู่ 4 ถนนชาติอนุสรณ์
ต.บางกะจะ อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี
082-554-6287
07:00 - 18:00 น. หยุดทุกวันพุธ
07:00 - 18:00 น. หยุดทุกวันพุธ
ที่ กิ น
#เที่ยวชิมชอปบางกะจะ
ปูจ๋า
ท่าแฉลบ
คาเฟ่และร้านอาหาร
มาเที่ยวจันทบุรี ต้องห้ามพลาด
ร้านอาหารทะเล "ร้านอาหารปูจ๋า"
เป็นร้านที่มีชื่อเสียงในด้านอาหาร
ทะเล ที่เปิดมาอย่างยาวนานกว่า
40 ปี ร้านอาหารจะมี 2 โซน คือ
โซนห้องอาหารติดแอร์และโซน
แบบเปิดโล่งรับลมธรรมชาติ ที่มี
ความร่มรื่น เมนูชื่อดังของทางร้าน
ที่ใครๆ ก็ต้องห้ามพลาดนั้นก็คือ
เมนู "ปูจ๋า" โดยนำเนื้อปูไปผสมกับ
เนื้อหมูและคลุกเคล้ากับเครื่องเทศ
พร้อมเสิร์ฟบนเปลือกหอยเซลล์
สายซีฟู้ด อาหารทะเลต้องห้าม
พลาด นอกจากอาหารแล้วร้านปูจ๋า
ยังมีค่าเฟ่ปูจ๋าที่เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึง
มีกาแฟและเครื่องดื่ม รวมไปถึง
ของหวานอีกมากมายให้เลือกลิ้ม
ลองกัน
ร้านอาหารปูจ๋า
136/2 ม.9 ต.บางกะจะ
อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบรี
039-391-129, 081-377-7052
จ-ศ 10:00 - 21:00 น.
ส 09:30 - 21:00 น.
ไร่ตาม
ฟาร์มสุข
Bangkaja Backpacker
Cafe’ Chanthaburi
ร้านกาแฟที่เจ้าของใช้
ประสบการณ์การเดินทางมา
ปรับใช้ในร้าน และ นอกจาก
ร้านกาแฟแล้วยังมี
อาหารเช้า อาหารพื้นบ้าน
ท้องถิ่น
อาหาร และกาแฟของเราเน้น
วัตถุดิบที่ปลูกเอง
และเป็นอาหารประจำท้องถิ่น
ไร่ตามฟาร์มสุข
68/3 หมู่ 4 ต.บางกะจะ
อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี 22000
082-554-6287
พฤ-อ 07:00 - 18:00 น.
ร้านอาหาร
แพปากน้ำ
จันทร์
ร้านอาหารทะเลที่ตั้งอยู่ท่า
แฉลบและเป็นแพอยู่ในปากน้ำ
ตัวร้านเป็นแพ มีที่นั่ง 2 แบบ
คือแบบโต๊ะและแบบตั่งซึ่งจะ
อยู่ริมแพเพื่อให้เห็นวิวน้ำที่นั่ง
แบบโต๊ะมีขนาดกลางและใหญ่
สลับกันไป ส่วนที่นั่งแบบตั่งมี
เบาะรองให้นั่งอยู่ฝั่ งตรงข้าม
กับที่นั่งแบบโต๊ะ
มีลานข้างที่นั่งเป็นกระชังปลา
ตรงป้ายของร้านมีมุมให้ถ่าย
รูปวิวสวยๆ เยอะแยะมากมาย
มาพร้อมกับชิงช้า
ที่ร้านมีลมพัดเย็นสบายโดยไม่
ต้องอาศัยพัดลม
ร้านตั้งอยู่ในตัวอำเภอเมือง
ฝั่ งท่าแฉลบ ซึ่งเป็นบริเวณที่มี
ร้านอาหารทะเลชื่อดังมากมาย
เมื่อจอดรถแล้วให้ไปที่ท่าเรือ
จะมีเรือรับส่งตลอดเวลานั่งไม่
ถึง 2 นาที ก็ถึงแพแล้ว
ร้านอาหารแพปากน้ำจันท์
47 หมู่ 10 ต.บางกะจะ
อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี 22000
085-360-5550
10:30 - 20:30 น.
ป้าหลุยลุงทม
จันทบุรี
อิ่มอร่อยไปกับอาหารทะเลสดๆ
ที่มีเมนูให้เราได้เลือกสรรอย่าง
หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นปลากระ
พงแดงทอดกระเทียม ต้มยำ
ทะเล ไข่เจียวหอยนางรม และ
เมนูที่ขึ้นชื่อที่ต้องกินให้ได้ ก็คือ
"เมนูหอยตะโกรมสด" เป็นหอย
นางรมพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่
รสชาติหวานฉ่ำ เนื้อแน่น
สดใหม่ และใหญ่ทุกคำอย่าง
แน่นอน เพราะเป็นหอยนางรมที่
ได้มาจากฟาร์มของลุงทม และ
ป้าหลุยเอง โดยในการเลี้ยง
หอยนางรมของลุงทมจะ
เป็นการเลี้ยงแบบระบบเปิดโดย
ปักหลักผูกอีแปะ
(ที่ให้หอยมาเกาะ) เอาไว้กับไม้
แล้วปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติ
มีการดูแลอย่างเป็นพิเศษ ทำให้
เราได้มีหอยนางรมสดใหม่ ตัว
ใหญ่ เนื้อหวานฉ่ำให้เราได้รับ
ประทานกันนั้นเอง
ป้าหลุยลุงทม จันทบุรี
ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบรี
089-803-0020
จ-ส 10:00 - 21:00 น.
อา 11:00 - 17:00 น.
รับลูกค้าทานอาหาร 6 ท่านขึ้นไป
จองล่วงหน้า 3 วัน
เจ๊เล็กก๋วยเตี๋ยวหมูสูตรดั่งเดิม
หน้าโรงเรียนบางกะจะ
หน้าโรงเรียนบางกะจะ ใกล้กับวัดพลับ
085-360-5550
10:00 - 21:00 น.
ร้านอาหารนภาท่าแฉลบ
บ้านท่าแฉลบ ต.บางกะจะ
อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบรี
089-091-6797
09:00 - 21:00 น.
คาเฟ่บ้านสวนภัทรธรArt&Craft
ใกล้ร้านก๋วยเตี๊ยวลุงจู๊ ต.บางกะจะ
อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี
080-818-5644
อ-อา 10:30 - 18:00 น.
ที่ชอป
#เที่ยวชิมชอปบางกะจะ
เสื่อกก
บ้านท่าแฉลบ
วิสาหกิจชุมชนที่เป็นศูนย์กลาง
ของคนในชุมชนโดยรอบ
จำหน่ายสินค้าหัตถกรรมจากกก
ที่มีการปลูกในท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์
มีการออกแบบและผลิตโดยคนใน
ชุมชน และเป็นศูนย์กลางในการ
รับสินค้าจากคนในกลุ่มที่ผลิตขึ้น
เพื่อจัดจำหน่ายและเปิดเป็นศูนย์
เรียนรู้ให้บุคคลทั่วไปและสถาน
ศึกษาเข้ามาเรียนรู้การทอเสื่อกก
พร้อมพัฒนารูปแบบสินค้าร่วม
กับสถาบันการศึกษา เพื่อต่อยอด
ผลิตภัณฑ์ และส่งประกวดเชิง
นวัตกรรมวิสาหกิจชุมชนกลุ่ม
เสื่อบ้านท่าแฉลบ
ศูนย์การเรียนรู้ กลุ่มเสื่อบ้านท่าแฉลบ
เลขที่ 132 หมู่ที่ 9 ต.บางกะจะ
อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี
081-864-2393
ทุกวัน 08:00 - 19:00 น.
ไ ร่ ต า ม ฟ า ร์ ม สุ ข
เจตนาจิวเวลรี่
เลือกซื้อพลอยคุณภาพจากเหมือง
พลอยบางกะจะขึ้นรูปเครื่อประดับตาม
แบบที่พึงพอใจด้วยช่างฝีมือชาวจันท์
งานคาร์ฟทุกขั้นตอนด้วยประสบการณ์
ยาวนานกว่า 50 ปี ให้เจตนาดูแลคุณ
ร้านตั้งอยู่ในโซน A มุมเครื่องประดับ
อัญมณีเมืองจันท์แท้ๆ
เจตนาจิวเวลรี่
68/3 หมู่ 4 ถนนชาติอนุสรณ์
ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี
094-691-3443
พฤ-อ 09:30 - 18:00 น.
ที่พัก
#เที่ยวชิมชอปบางกะจะ
โฮมสเตย์ แวะพักผ่อนหย่อนใจ ใกล้ชิดธรรมชาติ ในรูปแบบโฮม
สเตย์แพกลางน้ำที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ชมวิถีชีวิตชาว
ป้ า ห ลุ ย ลุ ง ท ม ประมงที่ "ป้าหลุยลุงทม โฮมสเตย์"
สำหรับโฮมสเตย์ของที่นี่มีลักษณะเป็นแพที่ลอยอยู่กลาง
ป้าหลุยลุงทม จันทบุรี น้ำใช้ไฟฟ้าที่เป็นไฟนีออนจากแบตเตอรี่ เพื่อเป็นการช่วย
ท่าแฉลบ อ.เมือง จ.จันทบุรี รักษาสมดุลทางธรรมชาติ และรบกวนธรรมชาติให้น้อย
089-803-0020 ที่สุด ในการเดินทางไปยังโฮมสเตย์ต้องนั่งเรือเข้าไป
นอกจากนี้ยังมีเรือที่พาเราแล่นไปฟาร์มหอยลุงทม
และป้าหลุย ชมอู่ต่อเรือพระเจ้าตาก ดูเหยี่ยยวแดง
หรือนั่งเรือไปชมโชว์ปลาโลมาที่โอเอซิสซีเวิลด์ได้อีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจมาพักผ่อนที่โฮมสเตย์
หรือจะมารับประทานอาหาร
*หมายเหตุ
รับขั้นต่ำ 6 คน และต้องโทรจองก่อนล่วงหน้า
Runya Runya Resort รันย่ารีสอร์ท
168 ต. บางกะจะ อ.เมือง
Resort จ.จันทบุรี 22000
รันย่ารีสอร์ทที่พักแห่งความสุขและการผ่อนคลาย 093-924-4945 , 039-480-576
ที่พักใจกลางธรรมชาติ แวดล้อมไปด้วยระบบนิเวศ
ทางธรรมชาติ เป็นป่าชายเลน มีความสะดวกครบ
ครัน มีสวนน้ำสำหรับเด็กๆ และทุกคนในตรอบครัว
ใกล้แหล่งอาหารทะเล มีอาหารเมืองจันทบุรีบริการใน
ตอนเช้าตรู่ ห้องนอนสะอาด สะดวก สบาย
เตียงนอนหนานุ่ม
*หมายเหตุ
ขณะนี้ปิดปรับปรุงเปิดให้บริการประมาณปี พ.ศ. 2568
ประเพณี
วั ฒ น ธ ร ร ม
#เที่ยวชิมชอปบางกะจะ
การเผยแผ่ของศาสนาคริสต์นิกาย
โรมันคาทอลิกในจังหวัดจันทบุรีมีที่มาจากการที่
มิชชันนารี คณะมิสซังต่างประเทศ แห่งกรุง
ปารีสเข้ามาเผยแผ่ศาสนาที่กรุงศรีอยุธยาเมื่อ
พ.ศ. 2203 และจัดตั้งสามเณราลัย สถาน
พยาบาลและวัดขึ้นพร้อมกับการก่อตั้งมิสซัง
สยามแต่การแพร่ธรรมของมิชชันนารี
คณะต่าง ๆ ต้องสิ้นสุดลงเมื่อเกิดการเสียกรุง
ศรีอยุธยาแก่พม่า ครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2310)
นักบวชและคริสต์ศาสนิกชนบางกลุ่มหลบหนี
พม่าไปอยู่ที่เวียดนาม จันทบุรี และภูเก็ต
วัดธรรมาสน์ 101/1 ต.บางกะจะ อ.เมือง
นักบุญเปโตร ท่าแฉลบ จ.จันทบุรี 22000
089-500 -1412 , 0-3939-1148
โบสถ์แห่งนี้มีการผสานความเป็นไทย
เข้ากับคริสตศาสนา วัดธรรมาสน์นักบุญเปโตร
เป็นที่นับถือของชาวบ้านที่ท่าแฉลบ
จะต้องมาไหว้ขอพรจากนักบุญเปโตร
ก่อนออกทะเลกันจนเป็นธรรมเนียม
เมื่อปี พ.ศ.2300 พื้นที่ “บางกะจะ” แห่งนี้เป็นถิ่นที่มี
ชาวจีนแต้จิ๋วจากแผ่นดินใหญ่จำนวนมากตั้งถิ่นฐาน
อาศัยอยู่ ซึ่งยังมีหลักฐานเกี่ยวกับประเพณีและ
วัฒนธรรมหลงเหลืออยู่ ว่ากันว่าเมื่อชาวจีนไปอาศัย
อยู่ที่ใดก็มักจะสร้างศาสนสถานที่ใช้ประกอบ
พิธีกรรมและบูชาเทพเจ้าของตนเสมอเป็นผลทําให้
เกิดการสร้างศาลเจ้าจีนกระจายอยู่ทั่วไป
เสามังกรจากศาลจ้าวแม่เทียนโหวเซียโบ้
หรือศาลเจ้าปากคลองบางกะจะ อำเภอ
เมือง จังหวัดจันทบุรี ทั้งเสามังกรและศาล
เจ้าเป็นสิ่งยืนยันรกรากและร่องรอยความ
เป็นจีนในเมืองไทยที่เก่าแก่ของคนบางกะ
จะนอกจากนั้นยังมีพิธีเทกระจาดที่ถือเป็น
พิธีสำคัญของชาวบางกะจะอีกด้วย
ทิ้ ง ก ร ะ จ า ด
ประเพณีทิ้งกระจาด คือ การอุ ทิศส่วนกุศลให้ผีไม่มีญาติและแจกทานให้กับผู้ยากไร้
สำหรับศาลเจ้าแม่หัวตลาดจะจัดขึ้ นในวันแรม 5 ค่ำเดือน 9 ตามปฏิทินจีน
สำหรับศาลเจ้าทั้ง 2 แห่ง ของบางกะจะนั้น (ศาลฯหัวตลาด และ ศาลปากคลองฯ)
การนำกระจาดสี (วัตถุทรงกรวยแหลม โครงไม้ไผ่กรุด้วยกาบกล้วย ประดับตกแต่งเป็น
ลวดลายสวยงามด้วยขนมสี) มาถวายเจ้า คือ การแก้บนที่มาขอเจ้าไว้แล้วได้สัมฤทธิ์ผล
สมดังปรารถนา โดยพิธีจะเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ ชาวบ้านจะนำกระจาดสีมาถวายขึ้ นนั่งร้านที่
เตรียมทิ้งทาน แล้วทำบุญทำกุศลที่ศาลเจ้า (เรียกพิธีปิด-เปิดประตูผี ทำบุญให้วิญญาณ
เร่ร่อน สัมภเวสี ผีไม่มีญาติ) มีมหรศพสมโภชน์และพิธีสงฆ์ช่วงบ่าย ทำพิธีไหว้ผีไม่มีญาติ
แ ล้ ว จึ ง ถึ ง ช่ ว ง เ ว ล า ทิ้ ง ท า น ป ร ะ ม า ณ ห้ า โ ม ง เ ย็ น
ชุ ม ช น บ า ง ก ะ จ ะ ไ ม่ นิ ย ม แ ก้ บ น ด้ ว ย งิ้ ว ม ห ร ส พ ส ม โ ภ ช น์ แ ต่ จ ะ นิ ย ม เ ป็ น ลิ เ ก