The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

“กิจกรรม พัฒนาความคิดสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมทางภูมิปัญญาไทยโดยการจัดกิจกรรมชุมนุม” เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์”

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Anocha Utumsakulrat, 2020-08-08 00:44:10

“กิจกรรม พัฒนาความคิดสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมทางภูมิปัญญาไทยโดยการจัดกิจกรรมชุมนุม” เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์”

“กิจกรรม พัฒนาความคิดสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมทางภูมิปัญญาไทยโดยการจัดกิจกรรมชุมนุม” เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์”

ปญั หา/อุปสรรคท่พี บ
สมาชิกมปี ญั หา ในการออกแบบสถานการณ์ เพอ่ื ใหน้ กั เรียน พบนวตั กรรมทต่ี ้องการพฒั นา

กิจกรรม/ข้ันตอน/งานท่ีปฏบิ ตั ไิ ด้ดี
ร่วมศกึ ษาปัญหา แนวทางแกไ้ ขปัญหา หรือกระบวนการทจ่ี ะใชใ้ นการแกไ้ ขปัญหา ดงั นี้
1) นางสาวรุ่งทิวา วงค์ษา สมาชกิ ในกลุ่มลองเปิดเพจขายช้ินงาน สมาชกิ บางสว่ นทำเหรียญโปรยทาน
ตอ่ ปัญหาทเ่ี กิดคอื การเปิดเพจเปิดไดแ้ ต่ยังไมม่ ีผู้สนใจซอื้
2) นายอรรถพล ภูทอง เล่าว่า นกั เรยี นนำเสนอการถ่ายภาพ ตามกลุ่ม นกั เรยี นรว่ มกนั วิพากษง์ าน
3) นางสาวกาญจนา คงทน ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั ตัดตอ่ ภาพเคล่อื นไหว
4) นางสาวนงนุช ภิญโญทรัพย์ นักเรียนร่วมทำส่ิงประดิษฐ์ตามกลุ่มท่ีนัดหมาย เริ่มคิดทำในรูป
โครงงานห้องเรียนตอ่ จากคร้งั กอ่ น
5) นางสาวอโนชา อุทุมสกุลรตั น์ นกั เรียนในชมุ นุมชมุ นมุ สมุนไพรไทยสูส่ ากล (ม.ตน้ ) ร่วมกนั คดิ วา่ ควรมี
การสรา้ งรายได้โดยการนำยาหม่องเพอ่ื จำหน่ายโดยเร่มิ จากเพอ่ื นนักเรียนละครใู นโรงเรียน
6) นางสาวขวัญหล้า เกตุฉิม นักเรียนในชุมนุมสมุนไพรไทยสู่สากล (ม.ปลาย) ให้นักเรียนค้นหา
ข้อมูลการทำนำ้ สมุนไพร บอกประโยชน์ของนำ้ สมนุ ไพร แล้วใหเ้ ตรียมอปุ กรณ์มาทำในครง้ั ต่อไป
7) นางสาวรัศมี กุลสุวรรณ และ นายสมชาย กราบทอง ให้นักเรียนในชุมนุมสนุกกับคอมพิวเตอร์
นำเสนอโปสเตอรท์ ่ีนกั เรียนของตนเอง นักเรียนรว่ มกันวพิ ากษ์งาน

สิ่งที่ตอ้ งพฒั นาตอ่ ไป
1. ให้นกั เรียนมีโอกาส มีอิสระในการแสดงความคดิ เห็นในการใช้และให้เหคุผลของตนเองมากขึ้น
2. เพ่ิมการอภิปรายกระทำระหว่างครูกับนักเรียน หรอื ระหว่างนักเรียนด้วยกัน โดยมคี รูเปน็ ผปู้ ระ

สานงาน วิธกี ารสอนแบบอภิปรายจะชว่ ยส่งเสรมิ ให้นกั เรยี นคิดเป็น พูดเป็น และสรา้ งความเปน็ ประชาธิปไตย

ผลการประเมินการแกป้ ญั หา

 กระบวนการแกไ้ ขปญั หา ประสบความสำเร็จ

 กระบวนการแกไ้ ขปัญหา ไม่ประสบความสำเร็จ

เน่ืองจาก สมาชกิ ทกุ คนพร้อมหาวธิ ีการบรู ณาการรายวชิ าที่ไดร้ บั หนา้ ที่สอนตามหลักการจดั การเรยี นร้แู บบบรู ณา
การสะเตม็ ศึกษา

49

ขอ้ เสนอแนะผรู้ ายงานการบนั ทกึ กิจกรรม
....................................................นดั หมายคร้ังตอ่ ไป วนั ท่ี 24 ม.ค.63..................................

ลงชอ่ื ...............................................................Model Teacher
( นางสาวอโนชา อุทมุ สกุลรตั น์ )
ครผู ้รู ายงาน

ความคดิ เห็น / ข้อเสนอแนะ ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ลงชื่อผ้รู บั รองกจิ กรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ (Professional Learning Community
ลงชื่อ...............................................................................
(นายจงจัด จันทบ)
ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรียนสุวรรณารามวทิ ยาคม

50

แบบบันทึกกิจกรรม
ชุมชนแหง่ การเรียนร้ทู างวชิ าชีพ (Professional Learning Community )

สำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษาเขต 1

ชื่อกลุ่มกิจกรรม ครงั้ ท่ี ..8................................................................
ภาคเรยี นที.่ ...2.......ปีการศึกษา.....2562........
 วิชาการ  บุคลากร วันเดือนปที ี่จดั กจิ กรรม....... 24 ม.ค.62.................
สถานท่ี.....ห้องชา่ งยนต์...................................
 งบประมาณ  บริหารทั่วไป เวลา....... 15.10 - 18.10 น. ...............................
จำนวน.................3.............................ชั่วโมง
 กจิ การนักเรียน  พัฒนาผู้เรียน

 สง่ เสรมิ การสร้างนวัตกรรมทางภูมิปัญญาไทย

โดยการจัดกจิ กรรมชมุ นมุ …………

ช่อื กจิ กรรม
กจิ กรรม พัฒนาความคิดสรา้ งสรรคเ์ พ่อื ส่งเสริมการสรา้ งนวัตกรรมทางภมู ิปัญญาไทยโดยการจัดกิจกรรมชุมนมุ

1.Community ผรู้ ว่ มอภิปราย

Model Teacher ผู้พบปัญหา ............นางสาวขวญั หลา้ เกตฉุ มิ ............................

Buddy Teacher ผ้รู ่วมอภปิ ราย 1. นางสาวอโนชา อุทุมสกุลรัตน์ กรรมการ

2. นางสาวพรศรี เจริญวัย กรรมการ

3. นางสาวสุภาพร บุญศิริ กรรมการ

4. นางสาวนงนชุ ภิญโญทรัพย์ กรรมการ

5. นางสาวรัศมี กุลสวุ รรณ กรรมการ

6. นายอรรถพล ภูทอง กรรมการ

7. นางสาวกาญจนา คงทน กรรมการ

8. นางสาวรงุ่ ทิวา วงค์ษา กรรมการ

9. นายสมชาย กราบทอง กรรมการ

10. นายธงวุฒิ จันทรเ์ พชร กรรมการ

Mentor Coaching ผนู้ ำอภิปราย .........ผอ.จงจัด จนั ทบ........................

Recording ผู้บนั ทกึ ขอ้ มลู .........นางสาวอโนชา อุทุมสกุลรัตน์..............................

51

แบบบนั ทึกกิจกรรม
ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรทู้ างวิชาชีพ (Professional Learning Community )

สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษามัธยมศกึ ษาเขต 1

ประเด็นปญั หาที่พบ

ผูค้ ้นพบปญั หาได้รับมอบหมายให้รับผดิ ชอบในการจัดการเรียนการสอนวชิ าคอมพวิ เตอร์ และ

วทิ ยาศาสตร์ พบวา่ ในปกี ารศึกษาที่ผ่านมา นักเรียนมีปัญหาทางดา้ นการขาดความคิดสรา้ งสรรค์ ไมส่ ามารถสร้าง

นวัตกรรมทเี่ กิดประโยชนใ์ หก้ บั ตนเองและสงั คม และสามารถสรา้ งสรรค์ชนิ้ งานเพอ่ื ผลประโยชน์ในเชิงพาณชิ ย์ได้

ผคู้ ้นพบปญั หาได้คดิ หาแนวทางแกป้ ัญหาดงั กล่าว จงึ ได้ศึกษาหานวัตกรรมท้งั เก่าและใหมน่ ำมาแก้ปัญหา
จึงพบว่าการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนโดยเชือ่ มโยงความรูด้ า้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการทาง
วศิ วกรรม และคณติ ศาสตร์และแนวคิดทางภูมปิ ัญญาไทยจะทำใหส้ ามารถแก้ปญั หาดงั กลา่ วได้ ผคู้ น้ พบปญั หาจึง
ไดศ้ ึกษาแนวคดิ ทฤษฏที เ่ี กยี่ วขอ้ งดว้ ย

สาเหตขุ องปัญหา
นักเรยี นมีปญั หาทางด้านการขาดความคิดสร้างสรรค์ เมอื่ นักเรยี นขาดความคิดสร้างสรรค์ ยอ่ มสง่ ผลให้ไม่

สามารถสร้างนวัตกรรมไมไ่ ดต้ ามมาด้วย ความคิดสรา้ งสรรค์ เป็นจุดกำเนดิ แรกของนวตั กรรม เพราะ นวัตกรรม
ดๆี หลายชน้ิ กอ่ กำเนดิ มาจากความคิดสร้างสรา้ งสรรค์ นวตั กรรมจึงเป็นการนำความคดิ สรา้ งสรรค์
Creativity มาต่อยอดออกมาใหเ้ ห็นเปน็ รูปธรรมใหจ้ ับต้องได้ สรา้ งประโยชน์ใหก้ ับผคู้ น และสามารถสร้าง
ผลประโยชน์ในเชงิ พาณชิ ยไ์ ด้ อีกทัง้ การจดั การเรยี นการสอนในช่ัวโมงเรียนปกติไม่เพียงพอในการสรา้ งสรรค์
ช้ินงานทางภูมิปัญญาไทยได้เทา่ ทคี่ วรเพราะมคี วามจำกัดในเร่ืองเวลา และความสนใจเฉพาะบุคคล

ความรู้และหลกั การท่ีนำมาใช้
การบรู ณาการแบบขา้ มสาขาวชิ า

เป็นการจัดการเรียนรู้ที่ช่วยนักเรียนเชื่อมโยงความรู้และทักษะที่เรียนรู้จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
วศิ วกรรมศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์ กบั ชีวติ จริง โดยใหน้ กั เรยี นประยุกตค์ วามรู้และทกั ษะเหลา่ น้นั ในการแกป้ ัญหาที่
เกิดขึ้นจรงิ ในชมุ ชนหรอื สังคม และสร้างประสบการณ์การเรียนรูข้ องตนเอง ครผู สู้ อนจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ตาม
ความสนใจหรือปัญหาของนักเรียน โดยครุกำหนดกรอบหรือหัวข้อหลักของปัญหากว้างๆแล้วให้นักเรียนระบุ
ปัญหาที่เฉพาะเจาะจงและวิธีการแก้ปัญหา ท้ังน้ี ในการกำหนดกรอบของปัญหาให้นักเรียนศึกษาน้ัน ครูต้อง

52

คำนึงถึงปัจจัยที่เก่ียวข้องกับการเรียนรู้ของนักเรียน 3 ปัจจัย ได้แก่ 1) ปัญหาหรือคำถามที่นักเรียนสนใจ 2)
ตัวชี้วดั ในวชิ าต่างๆที่เก่ยี วข้อง 3) ความร้เู ดิมของนกั เรียน (ศนู ยส์ ะเตม็ ศกึ ษาแห่งชาติ,2558,น.5)

ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ท่ีสนับสนนุ การจดั การเรยี นรูแ้ บบบรู ณาการสะเต็มศึกษา ไดแ้ ก่
1. ทฤษฎีคอนสตรคั ติวิสต์ (Constructivist) ซงึ่ เปน็ ทฤษฎที ใี่ ห้ความสำคญั กับตัวผ้เู รียน เชื่อว่าผ้เู รียน
สามารถสร้างความรไู้ ดด้ ้วยตนเอง
2. ทฤษฎีการเรียนรแู้ บบมีสว่ นร่วม การไดร้ ับประสบการณท์ ่ีสัมพนั ธก์ บั ชีวติ จริง ไดร้ ับการฝึกฝนทักษะ
ชวี ติ ตา่ งๆ การแสวงหาความรู้ การคิด การจดั การความรู้ การแสดงอกก การสร้างความรใู้ หม่ และการทำงาน
3. ทฤษฎีการเรียนร้ขู องบรูเนอร์ (Bruner) บรเู นอร์ เช่ือว่ามนษุ ย์เลอื กจะรบั รู้ส่ิงท่ีตนเองสนใจ และการ
เรยี นรู้เกดิ จากกระบวนการคน้ พบด้วยตนเอง
4. ทฤษฎกี ารเรยี นรอู้ ย่างมีความหมาย (Meaningful verbal Learning) เนน้ ความสำคญั ของการเรียนรู้อย่างมี
ความเขา้ ใจและมคี วามหมาย
5. ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ตามแนวคอนสตรคั ชันนิสซมึ (Constructionism) เป็นการเรียนรู้ทเ่ี กดิ จากการสร้างพลัง
ความรู้ในตนเองและด้วยตนเองของผู้เรยี น
กิจกรรมชุมนุม
กิจกรรมชุมนุม หมายถึง การจดั กจิ กรรมเพื่อพฒั นาความถนัด ความสนใจ ตามความต้องการของผ้เู รยี น
เปน็ กจิ กรรมท่มี งุ่ เน้นการเติมเต็มความรู้ ความชำนาญและประสบการณข์ องผู้เรยี นให้กว้างขวางยิ่งข้ึน เพื่อการ
คน้ พบความถนัดความสนใจของตนเอง และพฒั นาตนเองใหเ้ ต็มศักยภาพ ตลอดจนการพฒั นาทกั ษะของสังคม
และการจดั กิจกรรมชมุ นุมท่ีมกี ารบรู ณาการแบบข้ามสาขาวิชา ของการทำประโยชนเ์ พอ่ื สังคม
การจดั กจิ กรรมชมุ นมุ มีหลักการที่สำคญั คือ

1. เปน็ กจิ กรรมทีเ่ กดิ จากความสมัครใจของผูเ้ รียน โดยมคี รูเปน็ ท่ีปรกึ ษา
2. เปน็ กจิ กรรมทผ่ี ู้เรยี นช่วยกันคดิ ช่วยกนั ทำ และชว่ ยกนั แก้ปัญหา
3. เปน็ กจิ กรรมท่พี ัฒนาผเู้ รยี นตามสาระที่กำหนดนอกเหนือจากการเรยี นการสอน
4. เปน็ กจิ กรรมทส่ี ง่ เสรมิ และพัฒนาศกั ยภาพของผู้เรยี น
5. เป็นกิจกรรมทเ่ี หมาะสมกับสภาพของสถานศึกษา หรอื ท้องถ่นิ
ดงั น้นั การจัดกจิ กรรมชมุ นุมที่มกี ารบรู ณาการแบบข้ามสาขาวิชา จะส่งเสรมิ การสรา้ งนวัตกรรมทางภูมิ
ปญั ญาไทยอย่างเป็นรูปธรรมได้

กจิ กรรมทีท่ ำ/ปฏิบัติ
6. กิจกรรม Share ครูแลกเปล่ยี นประสบการณ์ในการจัดการเรยี นรซู้ ึง่ กันและกนั

53

- เม่ือสมาชิกทราบถึงปญั หา จึงเหน็ พ้องกันในเร่อื ง การจัดกจิ กรรมชุมนมุ ทีม่ ีการบูรณาการแบบ
ข้ามสาขาวิชา เนน้ การนำภูมปิ ัญญาไทยเป็นหัวขอ้ หลกั ในการจัดกิจกรรมเพ่ือปลกู ฝงั ค่านยิ มให้
เกิดความภาคภมู ิใจในภูมิปัญญาไทย สร้างสถานการณใ์ หเ้ กดิ กระบวนการคิดอยา่ สรา้ งสรรค์

2. กจิ กรรม Learn ครูเรียนรูป้ ระสบการณใ์ นการจัดการเรยี นรูร้ ่วมกัน
- พิจารณา สอื่ นวัตกรรม ท่มี คี วามสอดคล้องกับการแกป้ ญั หา

3. กิจกรรม Grow ทมี ครู PLC มีแนวทางทีด่ ีในการแกป้ ญั หาคุณภาพผูเ้ รียนร่วมกนั
- เลือก สอ่ื นวตั กรรม ท่มี คี วามสอดคลอ้ งกบั การแก้ปัญหา

ผลท่ีได้รบั จากกจิ กรรม
ไดน้ วัตกรรมการจัดการเรยี นรู้ STEM 6 ข้ันตอน…ทม่ี ีข้นั ตอน ดงั นี้
ขน้ั ตอนท่ี 1 ระบปุ ญั หาในชวี ติ จริงที่พบหรอื นวัตกรรมทตี่ ้องการพฒั นา
ขน้ั ตอนที่ 2 รวบรวมข้อมูลและแนวคดิ ที่เกีย่ วขอ้ งกับปัญหาหรือนำไปสกู่ ารพฒั นานวัตกรรมนนั้
ขั้นตอนที่ 3 ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหาโดยเชอื่ มโยงความรู้ด้านวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี
กระบวนการทางวิศวกรรม และคณติ ศาสตร์
ข้ันตอนที่ 4 วางแผนและดำเนินการแกป้ ัญหาหรือพฒั นานวตั กรรม
ขั้นตอนท่ี 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแกไ้ ขวธิ ีการแก้ปัญหาหรือพฒั นานวตั กรรมได้
ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอวิธีการแก้ปญั หา ผลการแก้ปัญหาหรือผลของนวตั กรรมทพ่ี ฒั นาได้

การนำผลท่ไี ดไ้ ปใช้
นำไปจดั กิจกรรมการเรียนรูใ้ หม้ ีคณุ ภาพใน 6 ขนั้ ตอน และเตรยี มองค์ประกอบพืน้ ฐาน 3 องค์ประกอบ

คอื ส่อื ขน้ั ตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และการจดั ส่ิงแวดลอ้ ม ให้พร้อมทุกขัน้ ตอน ดงั น้ี
ขั้นตอนท่ี 1 ระบุปัญหาในชวี ิตจริงทีพ่ บหรือนวตั กรรมที่ตอ้ งการพัฒนา
ข้นั ตอนท่ี 2 รวบรวมข้อมูลและแนวคิดท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั ปัญหาหรอื นำไปสกู่ ารพัฒนานวัตกรรมนั้น
ขั้นตอนที่ 3 ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยเช่อื มโยงความรู้ดา้ นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวน
การทางวศิ วกรรม และคณติ ศาสตร์
ขั้นตอนท่ี 4 วางแผนและดำเนินการแกป้ ัญหาหรือพฒั นานวตั กรรม
ขน้ั ตอนท่ี 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรงุ แก้ไขวธิ ีการแกป้ ัญหาหรือพฒั นานวัตกรรมได้
ขั้นตอนท่ี 6 นำเสนอวิธกี ารแก้ปัญหา ผลการแกป้ ัญหาหรือผลของนวัตกรรมทพ่ี ฒั นาได้

อน่ื ๆ…สื่อท่ีใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ ใชส้ ่อื ธรรมชาติ ท่ีจัดหามาไดจ้ ากทรพั ยากรในทอ้ งถ่นิ …...

54

ปญั หา/อุปสรรคท่ีพบ
สมาชิกมีปญั หา ในการออกแบบสถานการณ์ เพ่อื ใหน้ กั เรยี น พบนวัตกรรมที่ต้องการพฒั นา

กจิ กรรม/ขั้นตอน/งานทป่ี ฏบิ ัติไดด้ ี
ร่วมศึกษาปัญหา แนวทางแก้ไขปญั หา หรือกระบวนการทีจ่ ะใชใ้ นการแกไ้ ขปญั หา ดังน้ี
1) นายอรรถพล ภูทอง เล่าวา่ นกั เรยี นนำเสนอการถ่ายภาพ ตามกลุ่ม นักเรียนร่วมกันวิพากษง์ าน
2) นางสาวกาญจนา คงทน ใหน้ ักเรียนรว่ มกันตัดตอ่ ภาพเคลอ่ื นไหวรว่ มกนั แก้ไขปรบั ปรุง
3) นางสาวนงนุช ภิญโญทรัพย์ นักเรียนร่วมทำส่ิงประดิษฐ์ตามกลุ่มที่นัดหมาย เริ่มคิดทำในรูป
โครงงานห้องเรยี นต่อจากครัง้ ก่อน
4) นางสาวอโนชา อุทุมสกุลรัตน์ นักเรียนในชุมนุมชุมนุมสมุนไพรไทยสู่สากล (ม.ต้น) ปรับปรุงสูตรยา
หมอ่ งให้นิม่ ข้นึ โดยช่วยกนั คดิ สตู รเพอื่ พฒั นา
5) นางสาวขวัญหล้า เกตุฉิม นักเรียนในชมุ นมุ สมุนไพรไทยสู่สากล (ม.ปลาย) น้ำสมุนไพร โดยนัก
เรยี กเลอื กต้มน้ำเกก็ ฮวย และน้ำใบเตย รว่ มกับชิมรสชาติ เพ่ิมความหวานตามชอบ
6) นางสาวรัศมี กุลสุวรรณ และ นายสมชาย กราบทอง ให้นักเรียนในชุมนุมสนุกกับคอมพิวเตอร์
นำเสนอโปสเตอรท์ ีน่ กั เรยี นของตนเอง นักเรยี นรว่ มกนั วพิ ากษง์ าน

สง่ิ ทต่ี ้องพัฒนาต่อไป
1. ใหน้ กั เรยี นมีโอกาส มอี ิสระในการแสดงความคิดเห็นในการใช้และให้เหคผุ ลของตนเองมากขน้ึ
2. เพมิ่ การอภปิ รายกระทำระหวา่ งครกู บั นักเรียน หรือระหว่างนักเรยี นด้วยกนั โดยมคี รูเปน็ ผปู้ ระ

สานงาน วิธีการสอนแบบอภิปรายจะชว่ ยสง่ เสริมให้นกั เรียนคดิ เปน็ พดู เปน็ และสร้างความเป็นประชาธปิ ไตย

ผลการประเมนิ การแกป้ ญั หา

 กระบวนการแก้ไขปัญหา ประสบความสำเร็จ

 กระบวนการแกไ้ ขปญั หา ไมป่ ระสบความสำเร็จ

เนอื่ งจาก สมาชิกทกุ คนพรอ้ มหาวธิ กี ารบูรณาการรายวชิ าท่ไี ด้รบั หน้าท่ีสอนตามหลักการจดั การเรยี นรแู้ บบบรู ณา
การสะเตม็ ศกึ ษา

55

ขอ้ เสนอแนะผรู้ ายงานการบันทกึ กจิ กรรม
....................................................นัดหมายครง้ั ตอ่ ไป วนั ท่ี 31 ม.ค.63..................................

ลงช่ือ...............................................................Model Teacher
( นางสาวอโนชา อุทมุ สกุลรตั น์ )
ครผู รู้ ายงาน

ความคดิ เห็น / ข้อเสนอแนะ ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ลงชื่อผู้รับรองกิจกรรมชมุ ชนแหง่ การเรยี นรู้ (Professional Learning Community
ลงช่อื ...............................................................................
(นายจงจัด จันทบ)
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนสุวรรณารามวทิ ยาคม

56

แบบบันทกึ กิจกรรม
ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรทู้ างวิชาชพี (Professional Learning Community )

สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามธั ยมศึกษาเขต 1

ชื่อกล่มุ กจิ กรรม ครัง้ ท่ี ..9................................................................
ภาคเรยี นที่....2.......ปีการศึกษา.....2562........
 วิชาการ  บุคลากร วนั เดือนปีทีจ่ ัดกิจกรรม....... 31 ม.ค.63.................
สถานท่ี.....หอ้ งช่างยนต์...................................
 งบประมาณ  บรหิ ารท่วั ไป เวลา....... 15.10 - 18.10 น. ...............................
จำนวน.................3.............................ชั่วโมง
 กิจการนกั เรียน  พัฒนาผเู้ รยี น

 ส่งเสริมการสร้างนวตั กรรมทางภมู ปิ ัญญาไทย

โดยการจดั กิจกรรมชมุ นุม…………

ชอื่ กิจกรรม
กิจกรรม พฒั นาความคดิ สรา้ งสรรค์เพอื่ สง่ เสริมการสร้างนวตั กรรมทางภูมิปญั ญาไทยโดยการจดั กจิ กรรมชมุ นุม

1.Community ผู้รว่ มอภิปราย

Model Teacher ผพู้ บปัญหา ............นางสาวขวญั หล้า เกตุฉิม............................

Buddy Teacher ผู้ร่วมอภปิ ราย 1. นางสาวอโนชา อุทมุ สกุลรัตน์ กรรมการ

2. นางสาวพรศรี เจรญิ วัย กรรมการ

3. นางสาวสภุ าพร บญุ ศิริ กรรมการ

4. นางสาวนงนุช ภญิ โญทรพั ย์ กรรมการ

5. นางสาวรศั มี กุลสุวรรณ กรรมการ

6. นายอรรถพล ภทู อง กรรมการ

7. นางสาวกาญจนา คงทน กรรมการ

8. นางสาวร่งุ ทิวา วงคษ์ า กรรมการ

9. นายสมชาย กราบทอง กรรมการ

10. นายธงวฒุ ิ จันทรเ์ พชร กรรมการ

Mentor Coaching ผู้นำอภปิ ราย .........ผอ.จงจดั จันทบ........................

Recording ผู้บนั ทกึ ขอ้ มูล .........นางสาวอโนชา อุทมุ สกุลรัตน์..............................

57

แบบบนั ทึกกิจกรรม
ชุมชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชพี (Professional Learning Community )

สำนักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษามธั ยมศกึ ษาเขต 1

ประเดน็ ปญั หาท่พี บ

ผูค้ น้ พบปญั หาได้รบั มอบหมายให้รับผดิ ชอบในการจัดการเรียนการสอนวิชาคอมพวิ เตอร์ และ

วิทยาศาสตร์ พบว่าในปกี ารศึกษาที่ผา่ นมา นักเรียนมีปัญหาทางด้านการขาดความคดิ สร้างสรรค์ ไมส่ ามารถสรา้ ง

นวัตกรรมทเ่ี กิดประโยชนใ์ ห้กับตนเองและสังคม และสามารถสร้างสรรคช์ ิน้ งานเพือ่ ผลประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้

ผคู้ ้นพบปัญหาได้คิดหาแนวทางแกป้ ัญหาดังกล่าว จึงได้ศึกษาหานวัตกรรมทงั้ เกา่ และใหม่นำมาแก้ปัญหา
จงึ พบว่าการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเช่ือมโยงความรดู้ า้ นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการทาง
วิศวกรรม และคณิตศาสตร์และแนวคดิ ทางภมู ิปัญญาไทยจะทำให้สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ผคู้ ้นพบปญั หาจงึ
ได้ศึกษาแนวคดิ ทฤษฏที เี่ กย่ี วข้องดว้ ย

สาเหตุของปญั หา
นักเรยี นมีปญั หาทางดา้ นการขาดความคิดสร้างสรรค์ เมอ่ื นกั เรียนขาดความคิดสร้างสรรค์ ยอ่ มสง่ ผลให้ไม่

สามารถสรา้ งนวัตกรรมไมไ่ ดต้ ามมาดว้ ย ความคิดสร้างสรรค์ เป็นจุดกำเนิดแรกของนวัตกรรม เพราะ นวตั กรรม
ดๆี หลายชน้ิ ก่อกำเนดิ มาจากความคิดสรา้ งสร้างสรรค์ นวตั กรรมจงึ เปน็ การนำความคดิ สรา้ งสรรค์
Creativity มาต่อยอดออกมาใหเ้ หน็ เป็นรปู ธรรมให้จับตอ้ งได้ สร้างประโยชนใ์ หก้ บั ผคู้ น และสามารถสร้าง
ผลประโยชนใ์ นเชงิ พาณชิ ยไ์ ด้ อกี ทง้ั การจัดการเรียนการสอนในชัว่ โมงเรียนปกติไมเ่ พียงพอในการสร้างสรรค์
ช้นิ งานทางภูมปิ ัญญาไทยไดเ้ ทา่ ทีค่ วรเพราะมีความจำกดั ในเร่ืองเวลา และความสนใจเฉพาะบุคคล

ความร้แู ละหลักการทีน่ ำมาใช้
การบูรณาการแบบข้ามสาขาวชิ า

เป็นการจัดการเรียนรู้ที่ช่วยนักเรียนเช่ือมโยงความรู้และทักษะที่เรียนรู้จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
วิศวกรรมศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์ กับชีวิตจรงิ โดยใหน้ กั เรียนประยกุ ต์ความร้แู ละทักษะเหลา่ นัน้ ในการแก้ปัญหาที่
เกดิ ขน้ึ จริงในชุมชนหรอื สงั คม และสรา้ งประสบการณก์ ารเรยี นรู้ของตนเอง ครผู ้สู อนจดั กจิ กรรมการเรยี นรตู้ าม
ความสนใจหรือปัญหาของนักเรียน โดยครุกำหนดกรอบหรือหัวข้อหลักของปัญหากว้างๆแล้วให้นักเรียนระบุ
ปัญหาท่ีเฉพาะเจาะจงและวิธีการแก้ปัญหา ทั้งน้ี ในการกำหนดกรอบของปัญหาให้นักเรียนศึกษานั้น ครูต้อง

58

คำนึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ของนักเรียน 3 ปัจจัย ได้แก่ 1) ปัญหาหรือคำถามที่นักเรียนสนใจ 2)
ตัวชี้วดั ในวชิ าต่างๆที่เก่ยี วข้อง 3) ความรู้เดิมของนกั เรียน (ศนู ยส์ ะเตม็ ศกึ ษาแห่งชาติ,2558,น.5)

ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ท่ีสนับสนนุ การจดั การเรยี นรูแ้ บบบรู ณาการสะเตม็ ศึกษา ได้แก่
1. ทฤษฎคี อนสตรคั ติวิสต์ (Constructivist) ซงึ่ เปน็ ทฤษฎที ่ใี ห้ความสำคญั กบั ตัวผู้เรยี น เช่อื ว่าผู้เรียน
สามารถสร้างความรู้ไดด้ ้วยตนเอง
2. ทฤษฎีการเรียนรแู้ บบมีสว่ นร่วม การไดร้ ับประสบการณท์ ่ีสัมพนั ธก์ บั ชีวติ จรงิ ได้รับการฝึกฝนทักษะ
ชวี ติ ต่างๆ การแสวงหาความรู้ การคิด การจัดการความรู้ การแสดงอกก การสร้างความรูใ้ หม่ และการทำงาน
3. ทฤษฎีการเรียนร้ขู องบรูเนอร์ (Bruner) บรเู นอร์ เช่ือว่ามนษุ ยเ์ ลอื กจะรบั รู้ส่งิ ท่ีตนเองสนใจ และการ
เรยี นรเู้ กดิ จากกระบวนการค้นพบดว้ ยตนเอง
4. ทฤษฎีการเรยี นรูอ้ ยา่ งมคี วามหมาย (Meaningful verbal Learning) เนน้ ความสำคญั ของการเรียนรอู้ ย่างมี
ความเขา้ ใจและมคี วามหมาย
5. ทฤษฎกี ารเรียนรู้ตามแนวคอนสตรคั ชันนิสซมึ (Constructionism) เป็นการเรยี นรทู้ ีเ่ กดิ จากการสร้างพลัง
ความรู้ในตนเองและด้วยตนเองของผู้เรียน
กิจกรรมชุมนุม
กิจกรรมชุมนุม หมายถึง การจัดกจิ กรรมเพื่อพฒั นาความถนดั ความสนใจ ตามความตอ้ งการของผ้เู รยี น
เปน็ กิจกรรมท่มี งุ่ เนน้ การเติมเต็มความรู้ ความชำนาญและประสบการณข์ องผู้เรยี นให้กว้างขวางยง่ิ ขนึ้ เพื่อการ
คน้ พบความถนัดความสนใจของตนเอง และพฒั นาตนเองใหเ้ ต็มศักยภาพ ตลอดจนการพฒั นาทกั ษะของสังคม
และการจดั กิจกรรมชมุ นุมทมี่ กี ารบรู ณาการแบบข้ามสาขาวิชา ของการทำประโยชนเ์ พอ่ื สังคม
การจดั กจิ กรรมชมุ นุม มีหลักการที่สำคญั คือ

1. เปน็ กจิ กรรมท่เี กิดจากความสมัครใจของผูเ้ รียน โดยมคี รูเปน็ ท่ีปรึกษา
2. เปน็ กจิ กรรมทผ่ี ูเ้ รียนชว่ ยกันคดิ ช่วยกนั ทำ และชว่ ยกนั แก้ปญั หา
3. เปน็ กจิ กรรมทีพ่ ฒั นาผู้เรยี นตามสาระที่กำหนดนอกเหนอื จากการเรยี นการสอน
4. เปน็ กจิ กรรมท่สี ่งเสรมิ และพัฒนาศกั ยภาพของผเู้ รยี น
5. เป็นกิจกรรมทเี่ หมาะสมกับสภาพของสถานศึกษา หรอื ท้องถ่นิ
ดงั น้นั การจัดกจิ กรรมชมุ นุมทม่ี กี ารบรู ณาการแบบข้ามสาขาวิชา จะส่งเสรมิ การสร้างนวัตกรรมทางภูมิ
ปญั ญาไทยอย่างเปน็ รปู ธรรมได้

กจิ กรรมทีท่ ำ/ปฏบิ ัติ
7. กิจกรรม Share ครแู ลกเปล่ยี นประสบการณ์ในการจัดการเรยี นร้ซู ่งึ กันและกนั

59

- เม่ือสมาชกิ ทราบถงึ ปญั หา จงึ เหน็ พ้องกันในเรื่อง การจดั กิจกรรมชมุ นุมทมี่ ีการบรู ณาการแบบ
ขา้ มสาขาวชิ า เนน้ การนำภูมปิ ญั ญาไทยเปน็ หัวขอ้ หลกั ในการจดั กจิ กรรมเพ่ือปลกู ฝังคา่ นยิ มให้
เกิดความภาคภูมิใจในภมู ิปัญญาไทย สร้างสถานการณใ์ หเ้ กดิ กระบวนการคดิ อย่าสร้างสรรค์

2. กจิ กรรม Learn ครเู รยี นรปู้ ระสบการณใ์ นการจัดการเรยี นร้รู ว่ มกนั
- พิจารณา สอ่ื นวัตกรรม ทม่ี คี วามสอดคลอ้ งกบั การแกป้ ัญหา

3. กิจกรรม Grow ทมี ครู PLC มีแนวทางทีด่ ีในการแก้ปัญหาคณุ ภาพผเู้ รียนร่วมกัน
- เลือก สอื่ นวตั กรรม ทีม่ คี วามสอดคลอ้ งกับการแก้ปัญหา

ผลท่ไี ด้รบั จากกิจกรรม
ได้นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ STEM 6 ขนั้ ตอน…ทมี่ ีขนั้ ตอน ดงั นี้
ขน้ั ตอนที่ 1 ระบปุ ัญหาในชีวติ จริงทีพ่ บหรอื นวตั กรรมที่ตอ้ งการพัฒนา
ขน้ั ตอนที่ 2 รวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั ปัญหาหรอื นำไปส่กู ารพฒั นานวัตกรรมนน้ั
ขน้ั ตอนที่ 3 ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหาโดยเชื่อมโยงความรู้ด้านวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี
กระบวนการทางวิศวกรรม และคณิตศาสตร์
ขั้นตอนท่ี 4 วางแผนและดำเนินการแกป้ ัญหาหรือพฒั นานวตั กรรม
ขั้นตอนที่ 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีการแกป้ ญั หาหรอื พฒั นานวัตกรรมได้
ขั้นตอนท่ี 6 นำเสนอวิธกี ารแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาหรือผลของนวัตกรรมทพ่ี ฒั นาได้

การนำผลทไี่ ดไ้ ปใช้
นำไปจัดกจิ กรรมการเรียนรใู้ หม้ คี ุณภาพใน 6 ขั้นตอน และเตรียมองค์ประกอบพ้นื ฐาน 3 องคป์ ระกอบ

คอื สอื่ ขนั้ ตอนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ และการจดั สิง่ แวดลอ้ ม ให้พรอ้ มทุกข้นั ตอน ดังนี้
ข้ันตอนท่ี 1 ระบปุ ัญหาในชีวิตจรงิ ทพ่ี บหรอื นวัตกรรมที่ตอ้ งการพัฒนา
ขน้ั ตอนท่ี 2 รวบรวมขอ้ มลู และแนวคดิ ท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั ปญั หาหรอื นำไปสู่การพฒั นานวตั กรรมนนั้
ขน้ั ตอนท่ี 3 ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยเชื่อมโยงความรู้ดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวน
การทางวศิ วกรรม และคณิตศาสตร์
ขั้นตอนที่ 4 วางแผนและดำเนนิ การแก้ปญั หาหรือพฒั นานวัตกรรม
ขั้นตอนท่ี 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรบั ปรุงแกไ้ ขวิธีการแกป้ ัญหาหรอื พฒั นานวตั กรรมได้
ขน้ั ตอนท่ี 6 นำเสนอวิธกี ารแกป้ ัญหา ผลการแกป้ ัญหาหรอื ผลของนวัตกรรมท่พี ัฒนาได้

อ่นื ๆ…ส่อื ทใี่ ช้ประกอบการจดั การเรยี นรู้ ใชส้ ื่อธรรมชาติ ที่จดั หามาไดจ้ ากทรัพยากรในท้องถนิ่ …...

60

ปัญหา/อุปสรรคท่พี บ
สมาชกิ มปี ญั หา ในการออกแบบสถานการณ์ เพือ่ ใหน้ กั เรยี น พบนวัตกรรมที่ตอ้ งการพฒั นา

กิจกรรม/ขน้ั ตอน/งานทีป่ ฏบิ ตั ไิ ด้ดี
รว่ มศึกษาปัญหา แนวทางแกไ้ ขปญั หา หรอื กระบวนการทจ่ี ะใชใ้ นการแกไ้ ขปัญหา ดงั น้ี

1) นายอรรถพล ภทู อง เลา่ ว่า นักเรยี นนำเสนอการถา่ ยภาพ ตามกลุม่ นักเรยี นรว่ มกันวิพากษ์งาน นักเรียน
พัฒนาไดม้ ากขน้ึ

2) นางสาวกาญจนา คงทน ใหน้ ักเรียนร่วมกันตดั ต่อภาพเคลื่อนไหวรว่ มกนั แก้ไขปรบั ปรุง
3) นางสาวนงนุช ภิญโญทรัพย์ นักเรียนร่วมทำส่ิงประดิษฐ์ตามกลุ่มที่นัดหมาย เร่ิมคิดทำในรูปโครงงาน

หอ้ งเรยี นต่อจากครง้ั ก่อน
4) นางสาวอโนชา อุทุมสกุลรัตน์ นักเรียนในชุมนุมชุมนุมสมุนไพรไทยสู่สากล (ม.ต้น) ทำยาหม่องตามสูตรท่ี

ปรบั ปรงุ
5) นางสาวขวัญหล้า เกตุฉิม นักเรียนในชุมนุมสมุนไพรไทยสู่สากล (ม.ปลาย) นำน้ำปรุงที่ได้จากการ

หมักบ่มมาดมกลิ่น นักเรียนบอกว่ากล่ินหอมละมุนขึ้นมาก ทุกคนลงความเห็นว่าควรเก็บบ่มไว้ต่อเพราะ
จะทำให้กลิน่ ของแอลกอฮอล์หายไป กลิน่ หอมของหัวน้ำหอมจะชดั ขึ้น
6) นางสาวรัศมี กุลสุวรรณ และ นายสมชาย กราบทอง ใหน้ ักเรียนในชุมนุมสนกุ กบั คอมพิวเตอร์นำเสนอ
โปสเตอร์ท่ีนกั เรยี นของตนเอง นักเรยี นรว่ มกนั วพิ ากษ์งาน

สิ่งทต่ี อ้ งพัฒนาต่อไป
1. ใหน้ กั เรยี นมีโอกาส มอี ิสระในการแสดงความคดิ เห็นในการใช้และให้เหคผุ ลของตนเองมากขนึ้
2. เพิ่มการอภปิ รายกระทำระหว่างครกู ับนักเรียน หรือระหวา่ งนักเรียนด้วยกัน โดยมีครเู ปน็ ผู้ประ

สานงาน วิธกี ารสอนแบบอภิปรายจะชว่ ยส่งเสริมให้นกั เรียนคดิ เป็น พดู เป็น และสร้างความเป็นประชาธปิ ไตย

ผลการประเมินการแก้ปัญหา

 กระบวนการแกไ้ ขปัญหา ประสบความสำเร็จ

 กระบวนการแกไ้ ขปัญหา ไมป่ ระสบความสำเรจ็

เน่ืองจาก สมาชิกทุกคนพร้อมหาวิธกี ารบรู ณาการรายวชิ าทไี่ ดร้ ับหน้าที่สอนตามหลกั การจดั การเรียนร้แู บบบูรณา
การสะเต็มศกึ ษา

61

ขอ้ เสนอแนะผู้รายงานการบันทกึ กจิ กรรม
....................................................นัดหมายครั้งต่อไป วนั ท่ี 7 ก.พ.63..................................

ลงชอื่ ...............................................................Model Teacher
( นางสาวอโนชา อุทุมสกุลรัตน์ )
ครูผรู้ ายงาน

ความคดิ เห็น / ขอ้ เสนอแนะ ผู้บรหิ ารสถานศึกษา
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ผ้รู ับรองกิจกรรมชมุ ชนแห่งการเรยี นรู้ (Professional Learning Community
ลงชือ่ ...............................................................................
(นายจงจัด จนั ทบ)
ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนสวุ รรณารามวิทยาคม

62

แบบบนั ทกึ กจิ กรรม
ชุมชนแห่งการเรียนรทู้ างวิชาชีพ (Professional Learning Community )

สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษาเขต 1

ช่อื กลุ่มกิจกรรม ครงั้ ที่ ..10...............................................................
ภาคเรยี นที.่ ...2.......ปีการศึกษา.....2562........
 วชิ าการ  บุคลากร วันเดือนปที ีจ่ ัดกจิ กรรม....... 7 ก.พ.63.................
สถานที่.....หอ้ งช่างยนต์...................................
 งบประมาณ  บรหิ ารทั่วไป เวลา....... 15.10 - 18.10 น. ...............................
จำนวน.................1.............................ชั่วโมง
 กิจการนักเรยี น  พฒั นาผเู้ รยี น

 สง่ เสรมิ การสร้างนวตั กรรมทางภมู ปิ ัญญาไทย

โดยการจดั กจิ กรรมชมุ นุม…………

ชอ่ื กิจกรรม
กิจกรรม พัฒนาความคิดสรา้ งสรรค์เพ่อื ส่งเสรมิ การสรา้ งนวัตกรรมทางภูมปิ ัญญาไทยโดยการจดั กจิ กรรมชมุ นุม

1.Community ผูร้ ว่ มอภิปราย

Model Teacher ผพู้ บปญั หา ............นางสาวขวญั หล้า เกตฉุ ิม............................

Buddy Teacher ผู้ร่วมอภปิ ราย 1. นางสาวอโนชา อุทมุ สกุลรัตน์ กรรมการ

2. นางสาวพรศรี เจริญวัย กรรมการ

3. นางสาวสุภาพร บุญศิริ กรรมการ

4. นางสาวนงนุช ภญิ โญทรพั ย์ กรรมการ

5. นางสาวรศั มี กุลสวุ รรณ กรรมการ

6. นายอรรถพล ภูทอง กรรมการ

7. นางสาวกาญจนา คงทน กรรมการ

8. นางสาวรงุ่ ทวิ า วงคษ์ า กรรมการ

9. นายสมชาย กราบทอง กรรมการ

10. นายธงวุฒิ จนั ทรเ์ พชร กรรมการ

Mentor Coaching ผู้นำอภปิ ราย .........ผอ.จงจดั จนั ทบ........................

Recording ผูบ้ นั ทึกขอ้ มูล .........นางสาวอโนชา อุทุมสกลุ รตั น์..............................

63

แบบบันทึกกจิ กรรม
ชมุ ชนแห่งการเรียนรทู้ างวชิ าชีพ (Professional Learning Community )

สำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษาเขต 1

ประเด็นปัญหาทีพ่ บ

ผ้คู น้ พบปญั หาได้รับมอบหมายใหร้ บั ผิดชอบในการจัดการเรียนการสอนวชิ าคอมพวิ เตอร์ และ

วทิ ยาศาสตร์ พบว่าในปกี ารศึกษาท่ีผา่ นมา นกั เรียนมีปัญหาทางดา้ นการขาดความคิดสรา้ งสรรค์ ไมส่ ามารถสร้าง

นวัตกรรมท่ีเกดิ ประโยชน์ให้กบั ตนเองและสงั คม และสามารถสร้างสรรคช์ ้ินงานเพอ่ื ผลประโยชนใ์ นเชงิ พาณิชยไ์ ด้

ผคู้ น้ พบปญั หาไดค้ ดิ หาแนวทางแกป้ ัญหาดังกลา่ ว จงึ ไดศ้ ึกษาหานวตั กรรมท้งั เก่าและใหมน่ ำมาแก้ปญั หา
จึงพบว่าการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนโดยเชื่อมโยงความร้ดู า้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการทาง
วศิ วกรรม และคณิตศาสตร์และแนวคดิ ทางภูมิปัญญาไทยจะทำให้สามารถแก้ปญั หาดงั กลา่ วได้ ผู้ค้นพบปัญหาจึง
ไดศ้ ึกษาแนวคดิ ทฤษฏที ีเ่ กยี่ วข้องดว้ ย

สาเหตขุ องปญั หา
นักเรียนมปี ญั หาทางด้านการขาดความคิดสรา้ งสรรค์ เมอ่ื นกั เรียนขาดความคิดสร้างสรรค์ ยอ่ มสง่ ผลให้ไม่

สามารถสร้างนวัตกรรมไมไ่ ด้ตามมาดว้ ย ความคิดสรา้ งสรรค์ เปน็ จดุ กำเนิดแรกของนวตั กรรม เพราะ นวัตกรรม
ดๆี หลายชน้ิ กอ่ กำเนดิ มาจากความคิดสร้างสรา้ งสรรค์ นวตั กรรมจงึ เปน็ การนำความคดิ สรา้ งสรรค์
Creativity มาต่อยอดออกมาใหเ้ ห็นเปน็ รูปธรรมใหจ้ บั ตอ้ งได้ สรา้ งประโยชน์ใหก้ บั ผคู้ น และสามารถสรา้ ง
ผลประโยชนใ์ นเชิงพาณชิ ยไ์ ด้ อีกทง้ั การจดั การเรียนการสอนในช่ัวโมงเรยี นปกติไม่เพียงพอในการสรา้ งสรรค์
ช้ินงานทางภูมิปัญญาไทยได้เท่าทคี่ วรเพราะมคี วามจำกัดในเรือ่ งเวลา และความสนใจเฉพาะบุคคล

ความร้แู ละหลกั การทน่ี ำมาใช้
การบรู ณาการแบบขา้ มสาขาวชิ า

เป็นการจัดการเรียนรู้ที่ช่วยนักเรียนเช่ือมโยงความรู้และทักษะท่ีเรียนรู้จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
วศิ วกรรมศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์ กับชีวิตจรงิ โดยใหน้ ักเรียนประยกุ ตค์ วามร้แู ละทกั ษะเหลา่ น้นั ในการแก้ปญั หาที่
เกิดขึ้นจรงิ ในชุมชนหรือสังคม และสร้างประสบการณ์การเรยี นรู้ของตนเอง ครผู สู้ อนจดั กจิ กรรมการเรยี นรตู้ าม
ความสนใจหรือปัญหาของนักเรียน โดยครุกำหนดกรอบหรือหัวข้อหลักของปัญหากว้างๆแล้วให้นักเรียนระบุ
ปัญหาที่เฉพาะเจาะจงและวิธีการแก้ปัญหา ทั้งนี้ ในการกำหนดกรอบของปัญหาให้นักเรียนศึกษานั้น ครูต้อง

64

คำนึงถึงปัจจัยที่เก่ียวข้องกับการเรียนรู้ของนักเรียน 3 ปัจจัย ได้แก่ 1) ปัญหาหรือคำถามที่นักเรียนสนใจ 2)
ตัวชี้วดั ในวชิ าต่างๆที่เก่ยี วข้อง 3) ความรู้เดิมของนกั เรียน (ศนู ยส์ ะเตม็ ศกึ ษาแห่งชาติ,2558,น.5)

ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ท่ีสนับสนนุ การจดั การเรียนรูแ้ บบบรู ณาการสะเต็มศึกษา ได้แก่
1. ทฤษฎีคอนสตรคั ตวิ สิ ต์ (Constructivist) ซงึ่ เปน็ ทฤษฎีท่ใี ห้ความสำคัญกับตัวผเู้ รียน เชอื่ ว่าผู้เรียน
สามารถสร้างความรไู้ ดด้ ้วยตนเอง
2. ทฤษฎีการเรียนรแู้ บบมีสว่ นร่วม การไดร้ บั ประสบการณท์ ี่สมั พันธ์กบั ชีวติ จริง ไดร้ ับการฝกึ ฝนทักษะ
ชวี ติ ตา่ งๆ การแสวงหาความรู้ การคิด การจดั การความรู้ การแสดงอกก การสร้างความรูใ้ หม่ และการทำงาน
3. ทฤษฎีการเรียนร้ขู องบรูเนอร์ (Bruner) บรูเนอร์ เช่ือวา่ มนษุ ย์เลือกจะรบั รู้สงิ่ ทตี่ นเองสนใจ และการ
เรยี นรู้เกดิ จากกระบวนการค้นพบดว้ ยตนเอง
4. ทฤษฎกี ารเรยี นรอู้ ย่างมคี วามหมาย (Meaningful verbal Learning) เนน้ ความสำคัญของการเรยี นรู้อย่างมี
ความเขา้ ใจและมคี วามหมาย
5. ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ตามแนวคอนสตรคั ชันนสิ ซึม (Constructionism) เป็นการเรยี นรทู้ ่เี กดิ จากการสร้างพลัง
ความรู้ในตนเองและด้วยตนเองของผู้เรียน
กิจกรรมชุมนุม
กิจกรรมชุมนุม หมายถึง การจัดกจิ กรรมเพอื่ พฒั นาความถนัด ความสนใจ ตามความต้องการของผ้เู รยี น
เปน็ กจิ กรรมท่มี งุ่ เน้นการเติมเต็มความรู้ ความชำนาญและประสบการณ์ของผเู้ รยี นใหก้ ว้างขวางย่งิ ข้นึ เพื่อการ
คน้ พบความถนัดความสนใจของตนเอง และพัฒนาตนเองใหเ้ ตม็ ศกั ยภาพ ตลอดจนการพฒั นาทกั ษะของสังคม
และการจดั กิจกรรมชมุ นุมท่ีมกี ารบูรณาการแบบข้ามสาขาวิชา ของการทำประโยชน์เพื่อสังคม
การจดั กจิ กรรมชมุ นมุ มหี ลักการที่สำคัญคอื

1. เปน็ กจิ กรรมท่เี กิดจากความสมคั รใจของผู้เรียน โดยมีครูเปน็ ท่ีปรกึ ษา
2. เปน็ กจิ กรรมทผี่ ูเ้ รียนช่วยกันคิด ช่วยกนั ทำ และชว่ ยกันแก้ปัญหา
3. เปน็ กจิ กรรมท่พี ัฒนาผเู้ รยี นตามสาระทกี่ ำหนดนอกเหนอื จากการเรยี นการสอน
4. เปน็ กจิ กรรมท่สี ง่ เสรมิ และพฒั นาศกั ยภาพของผูเ้ รยี น
5. เป็นกิจกรรมทีเ่ หมาะสมกับสภาพของสถานศึกษา หรือท้องถ่นิ
ดงั น้นั การจัดกจิ กรรมชมุ นุมทม่ี กี ารบูรณาการแบบข้ามสาขาวชิ า จะส่งเสรมิ การสรา้ งนวตั กรรมทางภูมิ
ปญั ญาไทยอย่างเป็นรูปธรรมได้

กจิ กรรมทีท่ ำ/ปฏิบัติ
8. กิจกรรม Share ครูแลกเปล่ยี นประสบการณ์ในการจดั การเรยี นรซู้ ึง่ กันและกนั

65

- เม่ือสมาชิกทราบถึงปญั หา จงึ เห็นพอ้ งกันในเรือ่ ง การจดั กิจกรรมชุมนมุ ท่ีมีการบูรณาการแบบ
ข้ามสาขาวิชา เนน้ การนำภมู ิปญั ญาไทยเป็นหัวข้อหลักในการจดั กิจกรรมเพ่ือปลกู ฝังค่านยิ มให้
เกิดความภาคภมู ิใจในภมู ปิ ญั ญาไทย สร้างสถานการณ์ให้เกิดกระบวนการคดิ อย่าสรา้ งสรรค์

2. กจิ กรรม Learn ครูเรียนรูป้ ระสบการณใ์ นการจัดการเรียนรู้ร่วมกัน
- พิจารณา สอื่ นวัตกรรม ทมี่ คี วามสอดคลอ้ งกับการแกป้ ัญหา

3. กิจกรรม Grow ทมี ครู PLC มีแนวทางทดี่ ใี นการแกป้ ัญหาคณุ ภาพผเู้ รียนรว่ มกนั
- เลือก สอ่ื นวตั กรรม ท่ีมีความสอดคล้องกับการแกป้ ญั หา

ผลท่ีได้รบั จากกจิ กรรม
ไดน้ วัตกรรมการจัดการเรยี นรู้ STEM 6 ข้ันตอน…ที่มีข้นั ตอน ดงั นี้
ขน้ั ตอนท่ี 1 ระบปุ ญั หาในชีวติ จริงท่ีพบหรอื นวตั กรรมที่ตอ้ งการพัฒนา
ขน้ั ตอนที่ 2 รวบรวมขอ้ มลู และแนวคิดที่เก่ียวขอ้ งกบั ปัญหาหรือนำไปสกู่ ารพัฒนานวตั กรรมนนั้
ขั้นตอนที่ 3 ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ญั หาโดยเชอื่ มโยงความรดู้ า้ นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
กระบวนการทางวศิ วกรรม และคณติ ศาสตร์
ข้ันตอนที่ 4 วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหาหรือพัฒนานวตั กรรม
ขั้นตอนท่ี 5 ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรับปรุงแกไ้ ขวธิ ีการแก้ปญั หาหรอื พัฒนานวตั กรรมได้
ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอวธิ กี ารแกป้ ญั หา ผลการแกป้ ัญหาหรอื ผลของนวัตกรรมท่ีพฒั นาได้

การนำผลท่ไี ดไ้ ปใช้
นำไปจดั กิจกรรมการเรียนรใู้ หม้ ีคุณภาพใน 6 ข้นั ตอน และเตรยี มองค์ประกอบพนื้ ฐาน 3 องคป์ ระกอบ

คอื ส่อื ขน้ั ตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และการจัดสิ่งแวดล้อม ใหพ้ รอ้ มทกุ ขนั้ ตอน ดังน้ี
ขั้นตอนท่ี 1 ระบุปัญหาในชวี ิตจริงทพ่ี บหรือนวัตกรรมทตี่ อ้ งการพฒั นา
ข้นั ตอนท่ี 2 รวบรวมข้อมูลและแนวคิดทีเ่ ก่ยี วข้องกบั ปัญหาหรอื นำไปสู่การพัฒนานวตั กรรมนั้น
ขั้นตอนที่ 3 ออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หาโดยเช่อื มโยงความรดู้ ้านวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวน
การทางวศิ วกรรม และคณิตศาสตร์
ขั้นตอนท่ี 4 วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหาหรือพฒั นานวัตกรรม
ขน้ั ตอนท่ี 5 ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรับปรุงแก้ไขวธิ ีการแกป้ ญั หาหรือพฒั นานวัตกรรมได้
ขั้นตอนท่ี 6 นำเสนอวธิ ีการแกป้ ญั หา ผลการแก้ปัญหาหรือผลของนวตั กรรมทีพ่ ฒั นาได้

อน่ื ๆ…สื่อท่ีใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ ใช้สือ่ ธรรมชาติ ที่จดั หามาได้จากทรพั ยากรในทอ้ งถิ่น…...

66

ปญั หา/อุปสรรคท่พี บ
สมาชกิ มปี ัญหา ในการออกแบบสถานการณ์ เพื่อใหน้ ักเรยี น พบนวัตกรรมท่ตี อ้ งการพฒั นา

กิจกรรม/ขนั้ ตอน/งานที่ปฏิบัติได้ดี
ร่วมศกึ ษาปญั หา แนวทางแก้ไขปญั หา หรือกระบวนการที่จะใชใ้ นการแกไ้ ขปญั หา ดังน้ี
1) นายอรรถพล ภูทอง สรุปวา่ นักเรียนมีช้ินงานที่ถ่ายทอดความเป็นเอกลักษณ์ของชมุ ชนได้เป็นอยา่ ง
ดี
2) นางสาวกาญจนา คงทน นักเรยี นตัดตอ่ ภาพเคล่อื นไหวเรอ่ื งการทำน้ำปรุงของไทยได้
3) นางสาวนงนชุ ภญิ โญทรัพย์ นกั เรยี นร่วมทำสิ่งประดิษฐ์ตามความสนใจมีความภาคภูมิใจในช้ินงาน
ของตนเอง
4) นางสาวอโนชา อุทมุ สกลุ รัตน์ นักเรยี นมยี าหมอ่ งสตู รทเ่ี ปน็ เอกลักษณ์ของตนเอง
5) นางสาวขวัญหล้า เกตฉุ มิ นกั เรยี นนกั เรียนมนี ้ำปรุงทเ่ี ป็นเอกลักษณข์ องตนเอง
6) นางสาวรัศมี กุลสุวรรณ และ นายสมชาย กราบทอง นักเรียนสร้างโปสเตอร์ได้ และมีความภูมิใจ
ในชน้ิ งาน

ส่ิงท่ตี อ้ งพัฒนาตอ่ ไป
1. ใหน้ กั เรียนมโี อกาส มีอิสระในการแสดงความคดิ เห็นในการใช้และให้เหคผุ ลของตนเองมากขึ้น
2. เพมิ่ การอภิปรายกระทำระหวา่ งครูกับนักเรยี น หรือระหวา่ งนกั เรียนดว้ ยกนั โดยมคี รูเปน็ ผูป้ ระ

สานงาน วธิ กี ารสอนแบบอภปิ รายจะช่วยสง่ เสริมใหน้ ักเรียนคดิ เป็น พูดเป็น และสรา้ งความเป็นประชาธิปไตย

ผลการประเมินการแก้ปัญหา

 กระบวนการแก้ไขปัญหา ประสบความสำเร็จ

 กระบวนการแกไ้ ขปัญหา ไมป่ ระสบความสำเรจ็

เน่ืองจาก สมาชิกทกุ คนพรอ้ มหาวธิ กี ารบรู ณาการรายวิชาท่ีได้รับหนา้ ท่ีสอนตามหลักการจดั การเรียนรู้แบบบรู ณา
การสะเต็มศึกษา
ข้อเสนอแนะผ้รู ายงานการบนั ทึกกิจกรรม

....................................................นัดหมายคร้งั ต่อไป -..................................

67

ลงช่อื ...............................................................Model Teacher
( นางสาวอโนชา อุทุมสกุลรตั น์ )
ครูผู้รายงาน

ความคดิ เหน็ / ขอ้ เสนอแนะ ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ผรู้ บั รองกจิ กรรมชุมชนแหง่ การเรยี นรู้ (Professional Learning Community
ลงชอื่ ...............................................................................
(นายจงจัด จันทบ)
ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนสุวรรณารามวทิ ยาคม

68

ภาคผนวก

• บันทึกข้อความ
• ภาพกจิ กรรม

บนั ทกึ ขอ้ ความ





ภาพบรรยากาศการเรียนการสอน
กจิ กรรมชุมนมุ ที่มกี ารบรู ณาการแบบขา้ มสาขาวชิ า ในการจัดการเรยี นรู้

เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์

กจิ กรรมชุมนมุ สมนุ ไพรสสู่ ากล ม.ต้น ทีม่ ีการบูรณาการแบบข้ามสาขาวชิ า ในการจัดการเรียนรู้
เพื่อพฒั นาทักษะความคิดสรา้ งสรรค์

กจิ กรรมชุมนมุ สมนุ ไพรสสู่ ากล ม.ปลาย ท่ีมีการบรู ณาการแบบขา้ มสาขาวชิ า ในการจดั การเรยี นรู้
เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสรา้ งสรรค์

กจิ กรรมชุมนมุ สมนุ ไพรสสู่ ากล ม.ปลาย ท่ีมีการบรู ณาการแบบขา้ มสาขาวชิ า ในการจดั การเรยี นรู้
เพื่อพฒั นาทักษะความคิดสรา้ งสรรค์

กจิ กรรมชุมนมุ สมนุ ไพรสสู่ ากล ม.ปลาย ท่ีมีการบรู ณาการแบบขา้ มสาขาวชิ า ในการจดั การเรยี นรู้
เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสรา้ งสรรค์

กจิ กรรมชุมนมุ สมนุ ไพรสสู่ ากล ม.ปลาย ท่ีมีการบรู ณาการแบบขา้ มสาขาวชิ า ในการจดั การเรยี นรู้
เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสรา้ งสรรค์

กจิ กรรมชมุ นมุ สมุนไพรส่สู ากล ม.ปลาย ที่มีการบูรณาการแบบขา้ มสาขาวิชา ในการจดั การเรยี นรู้
เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสรา้ งสรรค์

ภาพบรรยากาศ การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้
ดว้ ยชุมชนแหง่ การเรยี นรูท้ างวชิ าชีพ (Professional Learning Community )

ภาพบรรยากาศ การแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ กบั เพ่อื นสมาชกิ


Click to View FlipBook Version