The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นักเรียนจะได้เรียนรู้ เรื่อง ภาษาคอมพิวเตอร์และการโปรแกรม ของภาษาคอมพิวเตอร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wimnicha, 2022-05-04 00:42:22

สป01_ภาษาคอมพิวเตอร์และการโปรแกรม

นักเรียนจะได้เรียนรู้ เรื่อง ภาษาคอมพิวเตอร์และการโปรแกรม ของภาษาคอมพิวเตอร์

Keywords: ภาษาคอม

หน่วยท่ี 1 ความรู้เบอื้ งต้นและองคป์ ระกอบของโปรแกรมภาษา

ภาษาคอมพิวเตอรแ์ ละการโปรแกรม

รายวิชา ว30284 ออกแบบเทคโนโลยี
ครูผู้สอน นางสาววมิ พณ์ ิชา สรุ ิยันต์

Overview

โปรแกรมภาษา
ข้นั ตอนการพฒั นาโปรแกรม
ภาษาคอมพิวเตอรส์ าหรับนักพัฒนาโปรแกรม
ขัน้ ตอนการพัฒนาโปรแกรมด้วยภาษาซี

2

บทนา

 คอมพวิ เตอร์เปน็ อุปกรณอ์ เิ ล็กทรอนกิ ส์ ในการส่ังให้คอมพวิ เตอรท์ างานจะต้องปอ้ นคาสัง่ ท่ีเครือ่ ง
คอมพวิ เตอร์เขา้ ใจใหก้ ับมนั

 การนาคาสั่งมาเรยี งต่อกันใหท้ างานอย่างใดอยา่ งหนงึ่ เรยี กวา่ โปรแกรม
 ภาษาทีค่ อมพวิ เตอรเ์ ข้าใจเรียกวา่ ภาษาเครอ่ื ง (Machine Language) ซงึ่ เปน็ เลขฐานสอง
 มีการออกแบบตวั อักษรภาษาองั กฤษใหแ้ ทนคาสัง่ เลขฐานสอง เรยี กวา่ ภาษาโปรแกรม

(Programming Language)
 ภาษาระดับตา่ (Low-level Language) คือภาษา Assembly สว่ นภาษาระดบั สูง (High-level

Language) เช่น ภาษา C, Pascal, Basic เปน็ ต้น

3

โปรแกรมภาษา

การแปลภาษา Assembly เป็นภาษาเครอ่ื ง

โปรแกรมตน้ ฉบับ โปรแกรม รหสั ภาษาเครอ่ื ง
ภาษา Assembly Assembler

4

โปรแกรมภาษา (cont.)

ขั้นตอนการแปลภาษาโปรแกรม

โปรแกรมต้นฉบบั Interpreter รหสั ภาษาเคร่ือง
(แปลทลี ะบรรทัด)
รหสั ภาษาเคร่ือง
โปรแกรมต้นฉบบั Compiler
(แปลทงั้ โปรแกรม) 5

Dennis Ritchie ผ้คู ิดคน้ ภาษา C และระบบปฏิบตั กิ าร Unix

6

ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม 7
1) กาหนดและวิเคราะหป์ ัญหา

2) เขียนผังงานหรือซูโดโคด้
3) เขียนโปรแกรม
4) ทดสอบและแกไ้ ขโปรแกรม
5) ทาเอกสารและบารุงรกั ษาโปรแกรม

ตัวอย่างท่ี 1: หากตอ้ งการออกแบบโปรแกรมใหร้ บั ค่าขอ้ มลู 3 คา่ แล้ว
แสดงค่าเฉล่ียทางจอภาพ จะกาหนดและวเิ คราะห์ปญั หาอยา่ งไร

นาข้อมูลเข้า ประมวลผล นาข้อมูลออก

รับข้อมลู ตวั ท่ี 1 นาตวั เลขทง้ั แสดงคา่ เฉล่ยี
รับขอ้ มลู ตัวที่ 2 3 ตัวมา เปน็ ทศนยิ ม
รบั ขอ้ มูลตวั ที่ 3 สองตาแหน่ง
รวมกัน แลว้
นาผลรวม
หารด้วย 3

8

ขนั้ ตอนการพัฒนาโปรแกรม: 2) การเขียนผังงานหรือซูโดโคด้

เป็นการใชเ้ ครอ่ื งมือชว่ ยในการออกแบบโปรแกรม

ลาดับขั้นตอนการทางานของโปรแกรม เรียกว่า อลั กอริทึม
(Algorithm)

อลั กอรทิ มึ อาจเขียนใหอ้ ยู่ในรูปซโู ดโคด้ (Pseudo code) หรอื ผงั งาน
(Flowchart) ก็ได้

ซูโดโค้ดจะใช้คาอธบิ ายโดยย่อ ไมม่ รี ูปแบบภาษาตายตวั

ผงั งานจะใช้สัญลกั ษณ์ตา่ ง ๆ แทนการทางาน 9

ตวั อย่างซูโดโค้ดและผงั งานของการจดั เรียงแบบแทรก
(Insertion Sort)

10

ข้ันตอนการพฒั นาโปรแกรม: 3) การเขยี นโปรแกรม

หลงั จากผา่ นการออกแบบมาแล้ว โปรแกรมเมอร์จะตอ้ ง
เขยี นโปรแกรมเพ่อื ให้คอมพวิ เตอรป์ ระมวลผลได้ โดยใช้
ภาษาที่คอมพิวเตอร์เขา้ ใจ

การเขียนโปรแกรมแต่ละภาษาต้องเขียนตามหลักไวยากรณ์
(Syntax) ในภาษานน้ั

การเลอื กใชภ้ าษาจะพิจารณาจากความถนัดของผู้เขียน

โปรแกรมและลกั ษณะของโปรแกรมทจ่ี ะเขยี น 11

ขัน้ ตอนการพัฒนาโปรแกรม: 4) การทดสอบและแก้ไขโปรแกรม

จุดผดิ พลาดของโปรแกรมเรียกว่า บกั (Bug)
การแก้ไขขอ้ ผดิ พลาดให้ถูกต้องเรียกวา่ ดบี กั (Debug)
ข้อผิดพลาดมสี องประเภทคือ

Syntax Error การเขยี นโปรแกรมผิดไวยากรณ์
Logic Error ผลลัพธข์ องโปรแกรมออกมาไม่ถูกต้อง

12

ข้ันตอนการพฒั นาโปรแกรม: 5) ทาเอกสารและบารุงรกั ษา

ทาให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ
เอกสารมี 2 ประเภท คอื User Guide และ Program

Document
การบารงุ รักษาโปรแกรม (Maintenance) ผูเ้ ขยี นโปรแกรมตอ้ ง

คอยตรวจสอบการใชง้ านจรงิ แกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาด และอพั เดต
โปรแกรมให้ทนั สมยั อยู่เสมอ

13

ภาษาคอมพวิ เตอร์สาหรบั พัฒนาโปรแกรม

ตัวอย่างเช่น
 Basic เป็นภาษาคอมพวิ เตอรร์ ะดบั สูง เกิดขึน้ เมอ่ื ปี 1963 รปู แบบภาษา

คอ่ นขา้ งงา่ ย แตป่ ระสิทธิภาพค่อนข้างตา่
 FORTRAN มาจากคาว่า FORmula TRANslator เกดิ ขึ้นเมอ่ื ปี 1950

เหมาะสาหรับใชใ้ นการคานวณทางคณิตศาสตร์
 COBOL ช่อื เตม็ คอื Common Business Oriented Language ถกู

ประกาศใช้ในปี 1960 เดมิ ทีเป็นภาษาที่ใชเ้ ขยี นโปรแกรมแบบโครงสร้าง
(Structure) แต่ปัจจุบันได้พฒั นาใหเ้ ขยี นโปรแกรมเชิงวตั ถุ (OOP)

14

ภาษาคอมพิวเตอร์สาหรบั พฒั นาโปรแกรม (cont.)

 PASCAL เกิดขึ้นในปี 1970 ต้งั ชอ่ื ตามนักคณติ ศาสตรท์ ่ีประดษิ ฐเ์ ครื่อง
คานวณในยุคแรกๆ เป็นภาษาท่ใี ชเ้ ขียนโปรแกรมเชงิ โครงสร้าง

 ภาษา C ถูกพฒั นาขึ้นในหอ้ งปฏิบัติการเบลล์ (Bell Laboratory) ของบรษิ ทั
AT&T ในปี 1970 เพื่อใชบ้ น Unix เปน็ ภาษาทไ่ี ดร้ บั ความนยิ มสูง และ
สามารถควบคุมฮาร์ดแวร์ไดโ้ ดยตรง

 C++ พัฒนาต่อจากภาษาซี โดยเพ่ิมความสามารถในการเขยี นโปรแกรม
เชิงวตั ถลุ งไป

 C# ถูกพฒั นาขน้ึ เม่ือปี 2000 โดยบริษทั ไมโครซอฟต์ เปน็ ภาษาท่ีใชเ้ ขียน
โปรแกรมเชิงวตั ถุ มีความคลา้ ยคลงึ กับภาษา Java มาก

15

ภาษาคอมพิวเตอร์สาหรบั พัฒนาโปรแกรม (cont.)

 Visual Basic (VB) พฒั นาโดยบริษัทไมโครซอฟต์ โดยชุดคาสั่งจะคล้ายกับ
ภาษา Basic เดมิ ผเู้ ขียนสามารถสร้างหนา้ จอเพ่อื ตดิ ตอ่ กับผู้ใช้ได้งา่ ย

 Java เกดิ ขึ้นเมอื่ ปี 1995 โดยบรษิ ทั Sun Microsystem (ปัจจบุ ันเป็นของ
Oracle) เป็นภาษาทีพ่ ัฒนาให้เป็นการเขยี นโปรแกรมเชงิ วตั ถโุ ดยเฉพาะ เปน็
ภาษาทีม่ ีการใช้งานอย่างแพรห่ ลายมากทส่ี ดุ ภาษาหน่ึง

 Python เกดิ ขึน้ เมือ่ ปี 1991 ถูกพัฒนาโดย Python software foundation
ถกู ออกแบบมาเพือ่ ให้เขียนโปรแกรมโดยใชจ้ านวนบรรทดั น้อยกวา่ ภาษา
C++ หรือ Java เปน็ ภาษาท่ีกาลังไดร้ บั ความนยิ มอย่างมากในปัจจบุ ัน

16

ภาษาโปรแกรมท่ไี ดร้ ับความนิยมทีส่ ุดในโลก ปี 2015

อ้างอิงจาก: http://spectrum.ieee.org/computing/software/the-2015-top-ten-pro1g7ramming-languages

ขน้ั ตอนการพฒั นาโปรแกรมดว้ ยภาษาซี

โดยปกติแลว้ การเขยี นโปรแกรมจะใชซ้ อฟตแ์ วรท์ ่ีเรียกวา่ IDE
(Integrated Development Environment) ในการพัฒนา

IDE ทใี่ ช้กบั ภาษา C เช่น Dev-C++, Turbo C และ Visual C++

18

ข้นั ตอนการพัฒนาโปรแกรมดว้ ยภาษาซี (cont.)

Text Editor Source Code Compiler

Object Include Executable
(Binary) Library file (.exe)

Runner Results 19


Click to View FlipBook Version