แก้ไข วิเคราะห์ตัวชี้วัด และคำสำคัญเพื่อกำหนดกิจกรรมการเรียน ง๓๑๑๐๑ เมื่อ ๒๔ตค๖๒

แผนหลักการจดั การเรยี นรู้ (Ma

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การ

วิชา การงานอาชพี และเทคโนโลยีพน้ื ฐา

ช้นั มัธยมศ

ผจู้ ัด
นายวิรชั

โรงเรยี น
อาเภอพทุ ไธสง
สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ

aster plan for learning Management)

รงานอาชีพและเทคโนโลยี

าน ๑ (งานเกษตร) รหัสวชิ า ง๓๑๑๐๑

ศึกษาปที ่ี ๔

ดทา
วงสวาห์

นพุทไธสง
จงั หวัดบุรีรมั ย์

กษามธั ยมศึกษา เขต 32

จดุ ห

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน มุง่ พฒั นาผู้เรยี นใหเ้ ป็นคนดี มปี ญั ญา มีควา
ผ้เู รยี น เมอ่ื จบการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน ดังน้ี
๑. มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มที่พึงประสงค์ เหน็ คุณค่าของตนเอง มวี ินัยและปฏิบตั ติ นต
๒. มีความรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแกป้ ญั หา การใช้เทคโนโลยี และมที กั ษะชีว
๓. มีสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ทดี่ ี มสี ุขนิสยั และรกั การออกกาลังกาย
๔. มีความรักชาติ มีจิตสานกึ ในความเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลก ยึดม่ันในวิถีชวี ติ และ การปกคร
๕. มีจติ สานึกในการอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย การอนรุ กั ษ์และพัฒนาสิ่งแวดลอ้ ม มีจ

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น แ

ในการพฒั นาผู้เรยี นตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน มงุ่ เนน้ พฒั นาผูเ้ รียนให
ประสงค์ ดังนี้

สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน มุ่งใหผ้ ้เู รียนเกิดสมรรถนะสาคัญ ๕ ประการ ดังน้ี

๑. ความสามารถในการสือ่ สาร เปน็ ความสามารถในการรับและสง่ สาร มวี ฒั นธรรมในก
ข้อมูลข่าวสารและประสบการณอ์ นั จะเปน็ ประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเองและสงั คม รวมทั้งการเจร
หลกั เหตุผลและความถกู ต้อง ตลอดจนการเลอื กใชว้ ธิ ีการสื่อสาร ท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพโดยคานงึ ถงึ ผลก

๒. ความสามารถในการคดิ เป็นความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ การคดิ สงั เคราะห์ การ
ความร้หู รอื สารสนเทศเพือ่ การตดั สนิ ใจเกี่ยวกับตนเองและสงั คมไดอ้ ย่างเหมาะสม

๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เปน็ ความสามารถในการแก้ปญั หาและอปุ สรรคต่าง ๆ
เข้าใจความสมั พนั ธ์และการเปลีย่ นแปลงของเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกตค์
ผลกระทบท่เี กดิ ขึน้ ต่อตนเอง สงั คมและสงิ่ แวดล้อม

๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใ
การดาเนนิ ชีวติ ประจาวัน การเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง การเรยี นรู้อยา่ งตอ่ เน่ือง การทางาน และการอยรู่
ขดั แย้งต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกบั การเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม

๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลอื ก และใช้ เทคโนโลยดี ้านต
การสื่อสาร การทางาน การแกป้ ญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคุณธรรม

หมาย

ามสขุ มีศกั ยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชพี จึงกาหนดเปน็ จดุ หมายเพอื่ ใหเ้ กิดกับ

ตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาทต่ี นนับถือ ยดึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
วิต

รองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ
จติ สาธารณะท่ีมุ่งทาประโยชนแ์ ละสรา้ งสงิ่ ท่ดี งี ามในสังคม และอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมอยา่ งมีความสขุ

และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

หม้ ีคณุ ภาพตามมาตรฐานท่ีกาหนด ซึง่ จะช่วยใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดสมรรถนะสาคัญและคณุ ลักษณะอนั พงึ

การใชภ้ าษาถ่ายทอดความคิด ความรคู้ วามเขา้ ใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพอื่ แลกเปลยี่ น
รจาตอ่ รองเพ่อื ขจดั และลดปญั หาความขัดแยง้ ต่าง ๆ การเลือกรบั หรือไมร่ บั ขอ้ มลู ข่าวสารด้วย
กระทบทม่ี ีตอ่ ตนเองและสงั คม
รคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนาไปสู่การสรา้ งองค์

ๆ ทเี่ ผชญิ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมบนพื้นฐานของหลกั เหตผุ ล คณุ ธรรมและขอ้ มลู สารสนเทศ
ความรู้มาใช้ในการปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หา และมีการตดั สินใจทีม่ ปี ระสทิ ธภิ าพโดยคานึงถึง

ใชใ้ น
ร่วมกนั ในสังคมด้วยการสร้างเสรมิ ความสมั พันธ์อันดรี ะหว่างบุคคล การจดั การปัญหาและความ
และการรูจ้ ักหลกี เลี่ยงพฤตกิ รรมไม่พงึ ประสงค์ทสี่ ่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ ่ืน
ตา่ ง ๆ และมที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสงั คม ในด้านการเรยี นรู้

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรยี นใหม้ ีคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เพื่อให้สาม
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซ่ือสัตย์สจุ รติ
๓. มีวนิ ยั
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง
๖. มุ่งมัน่ ในการทางาน
๗. รักความเปน็ ไทย
๘. มีจิตสาธารณะ
นอกจากนี้ สถานศกึ ษาสามารถกาหนดคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคเ์ พม่ิ เตมิ ใหส้ อดคล้องตามบริบทแ

มารถอยรู่ ว่ มกับผอู้ ืน่ ในสังคมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี
และจดุ เน้นของตนเอง

ตารางที่ 10 ภาระงานของผู้เรียนรายวิชา การ

งานท่ี สัปดาห์ ชือ่ หน่วย ตวั ชว้ี ัด
ง๔.๑/๑,๒,๓,๔
๑ ๑-๒ เบอ้ื งตน้ ของอาชพี ทวั่ ไป -เขยี นประวตั ยิ
และอาชีพเกษตร เปน็ ภาษาอังกฤ
-ทาแบบทดสอ

๒ ๓-๔ ส่งิ แวดลอ้ มและเทคโนโลยี ง๒.๑/๑,๔,๕ -เขยี นแผนผงั ส
ของการเกษตร
ง๓.๑/๙ แวดล้อมและเท

ปลกู พืช เพียง

-ทาแบบทดสอ

๓ ๕-๙ กระบวนการปลูกพชื ง๑.๑/๑,๓,๔,๕,๖,๗ -ปลกู พืชลงในภ

ง๓.๑/๙ โดยการใชว้ สั ดุผ

-ทาแบบทดสอ

๔ ๑๑-๑๕ กระบวนการเล้ยี งสตั ว์ ง๑.๑/๑,๓,๔,๕,๖,๗ --เขียนแผนผงั ส

ง๓.๑/๙ กระบวนการเล

๑ หน้ากระดาษ

-ทาแบบทดสอ

๕ ๑๖-๑๙ การทาการเกษตรเชิง ง๑.๑/๑,๓,๔,๕,๖,๗ -เขยี นตอบคาถ

อนรุ ักษ์ ง๓.๑/๙ การอนรุ ักษด์ นิ

-ทาแบบทดสอ

รงานอาชีพและเทคโนโลยพี น้ื ฐาน ๑ (ง๓๑๑๐๑)

ภาระงาน เหตุผลที่ให้ภาระงาน คะแนน
ยอ่ (Resume of)ของตนเอง 2
ฤษ -สร้างความคนุ้ เคยกับการเขียน (กรอก) 1
อบประจาเร่ือง ข้อความในใบสมัครงาน 3
-ใชป้ ระกอบการประเมินการอ่าน เขยี น
สรุปความรู้ เก่ยี วกับปจั จยั คิดวิเคราะห์ 3
ทคโนโลยที ่เี กีย่ วข้องกับการ 13
๑ หน้ากระดาษ -เพื่อฝึกหัดการเขียน สรุปความร้จู าก 8
อบประจาเร่ือง เรือ่ งท่ีศึกษา 8
ภาชนะ (ถุงชา,ถุงปุย๋ ,อ่ืนๆ) -ใชป้ ระกอบการประเมินการอ่าน เขยี น
ผสม(substrate)แทนดนิ คิดวเิ คราะห์ 6
อบประจาเร่ือง 10
-เพื่อฝกึ วธิ ีการทางานปลูกพืชตาม 6
สรปุ ความรู้ เก่ียวกบั กระบวนการทางาน
ลยี้ งสัตวป์ ระเภทต่างๆ เพยี ง -ใช้ประกอบการประเมนิ การอา่ น เขียน
ษ คิดวเิ คราะห์
อบประจาเรื่อง
ถามอธิบายความคิด เกยี่ วกบั -เพอื่ ฝกึ หัดการเขียน สรปุ ความรูจ้ าก
นและน้า เร่ืองท่ีศกึ ษา
อบประจาเรื่อง -ใชป้ ระกอบการประเมนิ การอา่ น เขยี น
คดิ วเิ คราะห์

-เพอ่ื ประเมินทัศนคติและค่านิยมของ
ผู้เรยี นที่มที รัพยากรดนิ และน้า
-ใชป้ ระกอบการประเมินการอา่ น เขยี น
คิดวเิ คราะห์

การประเมนิ ชน้ื งาน/ภาระงาน (เก่ียวกับการเขียน)
แบบประเมนิ . การเขียนตอบคาถามประกอบเร่อื งในหน่วยการเรยี น

รายการประเมนิ ดมี าก (๓) คาอธิบายระดบั คุณภาพ/ระดับคะแนน ปรบั ปรงุ (๑)
พอใช้ (๒)
๑. การเขียนแผนผงั
ความคดิ สรุป -เขยี นได้ตรงประเดน็ -เขียนได้ตรงประเด็น -เขยี นไมต่ รงประเด็น
สาระสาคญั ของส่งิ ท่ี
เรยี น ครอบคลุม มีลาดบั ของความสัมพนั ธข์ องสงิ่ ที่ คาตอบ

๒.การเขยี นอธิบาย -มีลาดับของความสมั พนั ธ์ของ เขยี น อยู่บ้าง และมีความถูกต้อง -ไม่มคี วามถูกตอ้ งชัดเจน
เพือ่ ตอบคาถามทีใ่ ห้
ฝึกคิด สงิ่ ท่เี ขียน ถูกตอ้ งชัดเจน พอสมควร ของความสัมพันธใ์ นส่งิ ที่

๓.การทางาน เขยี น
ภาคปฏบิ ัติ
-เขยี นไดต้ รงประเดน็ -เขียนไดต้ รงประเดน็ มีความถกู -เขยี นไม่ตรงประเด็น
คาตอบ
ครอบคลุม ต้องอยูบ่ า้ ง -ไมม่ ีความถกู ตอ้ งชัดเจน
-ไมม่ ีความเป็นเหตเุ ปน็
-มคี วามถูกต้องชดั เจน มีความ - มคี วามเป็นเหตุเป็นผล ผล

เปน็ เหตเุ ป็นผล

-ทางานได้ตามขั้นตอน -ทางานได้ตามขน้ั ตอน -ทางานไม่เป็นไปตาม
ข้นั ตอน
-ใช้วัสดุ อปุ กรณ์ที่ถูกต้อง -ใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ท่ถี ูกต้อง -ใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ท่ีไม่
ถูกต้องเหมาะสม
เหมาะสม เหมาะสม -ผลงานที่ได้ไมม่ คี ุณภาพ
เชอื่ ถอื ไม่ได้
-ผลงานท่ีไดม้ คี ุณภาพดี -ผลงานทไี่ ดม้ คี ุณภาพพอใช้ -ไม่มีความเปน็ ระเบยี บ
เรียบร้อย
เชือ่ ถือได้ เชอื่ ถอื ได้

-มคี วามเปน็ ระเบียบเรยี บร้อย -ไมม่ คี วามเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย

เกณฑก์ ารตดั สินเพ่อื ตีคา่ เปน็ คะแนน

ระดับคุณภาพ ดีมาก พอใช้ ปรบั ปรงุ
ชว่ งคะแนน ๐–๔
๘ – ๑๐ ๕–๗