The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือท้องถิ่นรวมเล่ม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Library Bsru, 2020-08-03 00:54:47

คู่มือท้องถิ่นรวมเล่ม

คู่มือท้องถิ่นรวมเล่ม

46

ประดับลวดลายไทยดังอยํูท่ีเป็น กลําวโดยเฉพาะความยาก ซุ๎มลอยออกมา
จากฝา่ ผนงั ต๎องมีชาํ งเขียนแบบทฝ่ี าผนังชํางเหล็กคาํ้ ยนั ตามลวดลาย ชํางปูน
ป้๓นที่ต๎องป๓้นตามลายเขียนท่ีฝาผนัง ชํางไม๎แบบ ชํางปิดทอง ลํองชาด ชําง
ประดบั กระจก จึงสาํ เร็จ เปน็ ซมุ๎ ท่สี วยงามเชํนนี้

สถานท่ีตั้ง ซอยมัสยิดบางหลวง ถนนอรุณอมรินทร๑ตัดใหมํ
แ ข ว ง วั ด กั ล ย า ณ๑ เ ข ต ธ น บุ รี ก รุ ง เ ท พ ม ห า น ค ร 1 0 6 0 0
(สํานักงานเขตธนบรุ ี, 2549, น.68-70)
26. มัสยิดสวนพลู

ประวัติความเป็นมา เมื่อปี พ.ศ.2329 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า
จุฬาโลก ได๎สํงกองทัพอันเกรียงไกรของพระองค๑ลงไปตีเมืองป๓ตตานี หรือ
ตานีในสมัยนั้น ซ่ึงเป็นหัวเมืองเอก ทางใต๎กํอนถึงแหลมมาลายู ซึ่งสมัยของ
พระองค๑อาณาจักรของไทยได๎แผํไปถึงแหลมมาลายู ประเทศมาเลเซียบางรฐั
ซ่ึงประชาชนไทยร๎ูจักในขณะนั้นคือ รัฐปะลิศ กลันตัน ตรังกานู และไทรบุรี
การตีเมืองตานีในครั้งนั้นอยํูภายใต๎การบังคับบัญชาของเจ๎าพระยาบรม
ม ห า พิ ชั ย ญ า ติ ห รื อท่ี บ ร ร พบุ รุ ษขอ งชา วไ ท ย มุ ส ลิ ม รู๎ จั กใ นนา ม
"ดาโต๊ะสมเด็จ" ครั้ง กระนั้นกองทัพของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า

47

จุฬาโลก ได๎กวาดต๎อนและรวบรวมชาวตานีมายังกรุงเทพด๎วยและผู๎ที่ได๎รับ
มอบหมายให๎เป็นนายกองควบคุมชาวตานีในคร้ังน้ันก็คือ"ตนกูมะหมุด"
ซ่ึงเป็นชาวไทรบุรี ชาวตานีที่ถูกกวาดต๎อนมาทางการได๎จัดให๎พักอาศัยเป็น
สัดสํวนหลายแหํง โดยเฉพาะที่กรุงเทพและธนบุรี ท่ีปรากฏหลักฐานแนํชัด
มีดังน้ี บริเวณสุเหรําเกําสวนหลวงบ๎านไทร (อาณาบริเวณคลองตัน)
มหานาค บ๎านสมเดจ็ คลองบางหลวงทค่ี ลองบางหลวงนี้ ก็คอื ตลอดแนวทาง
ปากคลองจนถึงบริเวณวัดใหมํท๎องคุ๎ง(วัดเวฬุราชิณ) เป็นบริเวณตํอเน่ือง
บ๎านสวนพลูในป๓จจุบัน และเป็นท่ีตั้งของมัสยิดสวนพลูในขณะนั้ น
มสั ยิดสวนพลแู ตเํ ดิมเป็นอาคารไม๎ข้ันเดยี ว วนั เวลาท่ีเร่ิมปลูกสร๎างไมํปรากฎ
แนํชัด มีลักษณะเป็นรูปทรงแบบเรือนไทย (ป๓้นหยา) ขนาดกว๎าง 5 เมตร
ยาว 8 เมตร มีโดมเสาบัง (หอกลอง) เป็นไม๎เชํนเดียวกันจนถึงปี พ.ศ. 2379
ฮัจยโี ตะ๏ ชางอ (ชาย) ซึ่งเป็นอิหมํามคนแรกและเป็นผู๎ริเริ่มกํอสร๎างตัวอาคาร
แบบไทย (กุฎี) กํออิฐถือปูนซึ่งชาวบ๎าน (สัปปุรุษ) ในสมัยน้ันเรียกวําสุหรํา
หรือกุฎี (เพราะมีรูปรํางเหมือนกุฎีหรือวิหารทางพุทธศาสนา) ซึ่งลักษณะ
เชนํ นยี้ ังมีให๎คนรนํุ หลังได๎เหน็ อีกแหงํ เดียวคือมัสยิดบางหลวงหรือกุฎีขาว ริม
คลองบางหลวงในป๓จจบุ ัน

เดิมทีเดียว ตัวอาคารท่ีกํออิฐถือปูน มีลักษณะเป็นรูปทรงป๓้นหยา
เชํนเดียวกับอาคารไม๎เติม ตรงกลางอาคารมีเสากลางเพื่อรับนํ้าหนักโครง
หลังคาท่ีมุงด๎วยกระเบื้องโบราณ มีความกว๎าง 8 เมตร ยาว 12 เมตร เม่ือ
เวลาผํานไปประมาณปีพุทธศักราช 2446 จํานวนสัปปุรุษเพ่ิมมากข้ึนคณะ
บรหิ าร (ทรัสตี) ในยคุ น้นั ได๎ซํอมแซมปรบั ปรุงตวั อาคารนี้ดว๎ ยการขยายประตู
ทางเขา๎ ออกอีกรวมความยาวของตวั อาคารเปน็ 16 เมตร แตํความกว๎างยังคง
เดิม คือ 8 เมตร และได๎เปล่ียนโครงหลังคาใหมํใช๎กระเบื้องสี่เหลี่ยมขนาด
8x8 นิว้ ในป๓จจุบนั ยงั คงใชบ๎ างอาคารอยํูบ๎าง โดยได๎ร้ือเสากลางออก ทําซุ๎ม
ประตหู น๎าตํางเป็นลวดลายไม๎ฉลุแบบไทยใหมํทั้งหมดรวมท้ังศิลปะเป็นแบบ
ไทยทุกประการ มัสยิดสวนพลูคือชื่อที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตํอทาง
ราชการเม่ือวันท่ี 12 พฤศจิกายน 2491 กํอนหน๎านั้นเป็นที่รู๎จักกัน ในหมํู
ท่ัวไปวํา"บ๎านสวน" เนื่องจากเป็นมัสยิดท่ีเกําแกํแหํงหน่ึงในกรุงธนบุรี

48

มีประวัติความเป็นมาย๎อนหลังนับได๎ 180 ปี ตํอมาเม่ือมัสยิดได๎จดทะเบียน
และมีคณะกรรมการบรหิ ารตามพระราชบญั ญตั ิมสั ยดิ อิสลาม โดยการนาํ ของ
ทํานอหิ มาํ มฮัจยี อบั ดุล ฮามดิ จลุ รีระ ได๎ตอํ เติมอาคาร ด๎านตะวันออกไปอีก
8 เมตร แตํยังคงรักษารูปแบบของตัวอาคารเดิมไว๎ทุกประการและได๎
ปรับปรุงตัวบาแล (เรือนไม๎) ซึ่งมีอยํูตํอจากตัวอาคารมัสยิดด๎วยการปรับพ้ืน
ลดลงทาํ แนวตอํ เนื่องไปกบั ตัวอาคารมสั ยิด รวมแล๎วเป็นความยาวของมัสยิด
ประมาณ 24 เมตร แตํถึงกระนั้นเมื่อวันเวลาผํานไปความทรุดโทรมและคับ
แคบก็มาเยือนอีกเนื่องจากมีสัปปุรุษเพิ่มทวีขึ้นจํานวนมากในระยะหลัง ๆ
คณะกรรมการอิสลามประจํามัสยิด ได๎ประชุมรํวมกันกับสัปปุรุษ และ
ยุวมุสลิมสวนพลู เห็นพ๎องต๎องกันวํา ต๎องร้ือตัวอาคารเดิมออกท้ังหมดและ
วางโครงการกํอสรา๎ งมัสยิดหลังใหมขํ ณะนนั้ มีทนุ ดาํ เนินการอยํูแล๎ว 280,000
บาท ซึ่งบริจาคโดยฮัจยะฮ๑เนาะยกยอคุณ ผู๎มีจิตศรัทรา (สัปปุรุษ) และ
มุสลิม ท๎องถ่นิ อน่ื ๆ ไดส๎ นับสนนุ การกอํ สร๎าง อาคารหลังใหมํจนแล๎วเสร็จดัง
ปรากฏในป๓จจุบัน ซึ่งใช๎ทุนดําเนินการกํอสร๎าง อาคารเป็นเงินทั้งส้ิน
1,040552 บาทปรับปรุงเสาบัง (หอกลอง) ซ่ึงของเดิมชํารุดให๎เป็นรูปแบบ
ศิลปะเข๎ากับตัว อาคารหลังใหมํเป็นสัญลักษณ๑ที่มอง ดูเดํนเป็นตระหงําน
ประจาํ มสั ยิดเรียก ได๎วําเป็นสิ่งกํอสร๎างทส่ี ูงท่ีสุดประจาํ หมูบํ า๎ นสวนพลู

49

สถานท่ีตั้ง เลขที่ 76 ซอยเทอดไท 7 ถนนเทอดไท แขวงบางยี่เรือ
เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 (สํานักงานเขตธนบรุ ี, 2549, น.70-71)

27.มสั ยิดนูร้ ลู มู่บนิ (บ้านสมเด็จ)
ปีพุทธศักราช 2404 สมเด็จเจ๎าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ๑ หรือชํวง

บุนนาค พบวํามุสลิมเช้ือสายมาลายู ท่ีอยูํตามหัวเมืองจังหวัดป๓ตตานีและ
สตูลเป็นผ๎ูมีฝีมือการชํางและกํอสร๎าง จึงรวบรวมพ่ีน๎องมุสลิมระดับผ๎ูนําของ
ศาสนาตลอดจนทายาทเจ๎าเมืองป๓ตตานีมาพระนครตามพระประสงค๑ของ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล๎าเจ๎าอยูํหัว โดยประทานท่ีดินสํวนหน่ึงให๎เป็นท่ี
อยูอํ าศยั ในบรเิ วณซึง่ เป็นท่ตี ั้งของมหาวิทยาลยั ราชภัฏบ๎านสมเด็จเจ๎าพระยา
ในป๓จจุบันผ๎ูคนจึงเรียกพ่ีน๎องมุสลิมท่ีนี้วํา ก๏กสมเด็จหรือมุสลิมบ๎านสมเด็จ
หรือบ๎านแขกพ่ีน๎องมุสลิมกลํุมนี้ได๎สร๎างสุเหรําหลังแรกขึ้นบริเวณริมคลอง
ซอยตรงข๎ามกับวัดน๎อย หรือวัดหิรัญรูจี และเชิญทํานตวนกูโนซ่ึงเป็นเช้ือ
สายของเจ๎าเมืองป๓ตตานีและเป็นผู๎ทรงคุณวุฒิทางวิชาการศาสนาอิสลามขึ้น
เป็นอิหมํานคนแรกของมัสยดิ บา๎ นสมเด็จแรกเร่ิมมัสยดิ นีม้ หี ลายชือ่ แตพํ ี่น๎อง
มสุ ลิมพอใจจะใชช๎ ่ือสุเหรําบ๎านสมเด็จ เมื่อปีพุทธศักราช 2501 ทํานอิหมําน
มานิตเกียดธารัย ได๎ไปขอคําปรึกษาจากทํานอาจารย๑อะหมัดซีฮาบุดดีนบิน
ซอและหรือครสู วัสด์ิ ทาํ นได๎กรุณาตง้ั ชอ่ื ให๎วาํ “มสั ยิดนูรุล๎ มํูบนี ”

50

สถานทตี่ งั้ เลขที่ 1134 ถนนอิสรภาพ 9 แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี
กรุงเทพมหานคร 10600 (สาํ นักงานเขตธนบรุ ี, 2558)

28.วัดซางตาครูส้
เป็นวัดคริสต๑ศาสนานกิ ายโรมันคาทอลิก สร๎างขึ้นโดยกลํุมชาวโปรตุเกส

นําโดยคุณพํอกอร๑ ซ่ึงอพยพมาอยูํกรุงธนบุรีหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยา
คร้ังที่ 2 ในปีพ.ศ. 2310 โดยสมเด็จพระเจ๎าตากสินมหาราชได๎พระราชทาน
ทด่ี ินให๎สร๎างวดั ณ บริเวณรมิ แมนํ ้ําเจ๎าพระยา และคุณพอํ กอรต๑ งั้ ชื่อดินผืนนี้
วํา "คํายชางตาครูส" เพ่ือระลึกถึงวัดฉลองเทิดทูลไม๎กางเขนซึ่งตรงกับวันที่
ได๎รับพระราชทานที่ดินแล๎ว ในปีถัดมาทํานก็ได๎สร๎างวัดน๎อยช่ัวคราวหลัง
หน่ึงบนที่ดินผืนนี้พร๎อมตั้งช่ือวัดวํา "วัดชางตาครูส" ตํอมาในปี พ.ศ.2377
พระสังฆราชกรู ๑เวอซีได๎มอบหมายใหค๎ ุณพํอปล๓ เลอกัวซ๑เป็นผ๎ูดําเนินการสร๎าง
วัดใหมํหลังท่ีสองที่ซางตาครูส และในปี พ.ศ. 2456 วัดนี้ก็ได๎รับการสร๎าง
อีกคร้ังให๎สวยงามแข็งแรงแล๎วเสร็จในปี พ.ศ.2459 ซ่ึงเป็นวัดที่อยํูมาจน
ป๓จจุบนั นี้

ปชู นยี สถานท่ีสาํ คัญ ตวั โบสถ๑เป็นอาคารข้นึ เดยี วสร๎างในสถาป๓ตยกรรม
แบบนโี อคลาสสิก หอระฆังเปน็ ทรงโดม ตกแตํงด๎วยลายปูนป้๓น ภายในโบสถ๑
ประดบั ดว๎ ยสเตนกลาสเปน็ เรอื่ งราวเกีย่ วกบั ชีวประวัตขิ องพระเยซู

51

สถานท่ีต้ัง เลขท่ี112 ซอยกุฎีจีน แขวงวัดกัลยา เขตธนบุรี
กรงุ เทพมหานคร 10600 (สํานักงานเขตธนบุรี, 2558)

29.ครสิ ตจกั รท่ี 1 สาํ เหร่
คริสตจักรที่1 สําเหรํ เป็นคริสตจักรแหํงแรกของมิชชั่นนารี

คณะอเมรกิ นั เพรสไบทเี รยี น ซึ่งเดนิ ทางเขา๎ มาเผยแพรศํ าสนาในประเทศไทย
เมื่อปี พ.ศ. 2383 (รัชกาลท่ี 3) ในคร้ังน้ันยังไมํมีที่ตั้งคริสตจักรเป็นของ
ตนเอง พระบาทสมเด็จพระน่ังเกล๎าเจ๎าอยํูหัวได๎ไปรดเกล๎าฯ ให๎อยูํรวมกับ
ชาวตํางชาติอ่ืน ๆ ท่ีบริเวณ "กุฎีจีน" หรือบริเวณหลังวัดอรุณราชวราราม
ในปจ๓ จบุ นั ในวันที่ 31 สงิ หาคม พ.ศ. 2392 มชิ ชัน่ นารี 5 ทําน คอื

หมอแมตตูนและภรรยา (REV.STEPHEN MATTOON)
หมอบชุ และภรรยา (REV.STEPHEN BUSH)
หมอเฮาส๑ (REV.SAMUEL RENOLD HOUSE)
ได๎รํวมกนั กํอตงั้ คริสตจักรขนึ้ ชอ่ื วาํ "ครสิ ตจักรเพรสไบทเี รียนที1่ กรงุ เทพ"
มีหมอแมตตูน เปน็ ศษิ ยาภบิ าลแตยํ ังไมํไดส๎ ร๎างสถานทีน่ มัสการโดยเฉพาะแตํ
อยาํ งใด ยังคงใช๎สถานท่ีนมัสการในบ๎านพักของ มิชช่ันนารี ในปี พ.ศ. 2400
ได๎ย๎ายบ๎านพักของมิชช่ันนารีมาที่ "สําเหรํ" บริเวณนี้เดิมใช๎เป็นท่ีสําหรับ
ประหารชีวิตนักโทษ แตํก็ยังไมํได๎สร๎างพระวิหารเป็นการเพราะยังขาด
เงินทุนในการ ถาวรกํอสร๎าง ในวันอาทิตย๑ท่ี 7 สิงหาคม พ.ศ. 2402
"นายชื่น"คนไทยคนแรกท่ีรับศีลบัพติศ นับเป็นคนไทยคนแรกที่ กลับใจมา
เช่ือในพระเยซูคริสต๑ โดยการประกาศศาสนาของมิชชั่นนารีคณะอเมริกัน
เพรสไบทีเรียนในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2403 (สมัยรัชกาล ที่4) ได๎เริ่มสร๎าง
พระวหิ ารเปน็ การถาวรโดยอาศัยเงินเรี่ยไรจากพํอค๎า กะลาสี ทูต มิชช่ันนารี
ชาวตาํ งประเทศทอี่ ยูใํ นกรงเทพขณะนั้น ตลอดท้ังยังได๎ขอความรํวมมือไปยัง
ประเทศสหรัฐอเมริกาในการชํวยเร่ียไรเงินด๎วย แตํพอดีชํวงนั้นเกิดสงคราม
กลางเมอื งในประเทศสหรัฐอเมริกาจึงทาํ ให๎การกอํ สร๎างพระวิหารลําช๎าไปจน
มาสําเร็จในปี พ.ศ. 2405 และมีพิธีมอบถวายในวันท่ี 25 พฤษภาคม

52

พ.ศ. 2405 จากน้ันเป็นตน๎ มา "คริสตจักรที่ 1 สาํ เหร"ํ ได๎กลายเป็นศูนย๑กลาง
การทํางานของมิชชั่นนารี คณะอเมริกันเพรสไบทีเรียนมีทั้งบ๎านพักมิชช่ัน
นารี โกดังเก็บของโรงพิมพ๑ โรงเรียนใหมํเป็น "โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน
วิทยาลัย" มาจนกระท่ังทุกวันน้ี (เริ่มต๎นความเป็นโรงเรียนเม่ือวันที่ 30
กันยายน พ.ศ. 2395 เป็นโรงเรียนสอนเด็กชายที่กุฏิจีนนับเป็นโรงเรียน
ราษฎร๑ชายแหํงแรกในประเทศไทย) ทางด๎านคริสตจักรเม่ือสร๎างพระวิหาร
เป็นการถาวรแล๎ว ก็มีผ๎ูมานมัสการเพ่ิมมากขึ้นจนกระทั่งในปี พ.ศ.2453
(รัชกาลท่ี 5 สวรรคตในปีนี้) ได๎ทําการร้ือพระวิหารหลังเดิมท่ีสร๎างต้ังแตํปี
พ.ศ. 2403 และได๎สร๎างพระวิหารหลังใหมํข้ึนบนที่เดิมโดยสํวนใหญํ สําหรับ
โรงเรียนน้ันมีช่ือวํา"สําเหรํ บอยส๑คริสเตียน ไฮสคูล"(SAMRAY BOYS
CHRISTIAN HIGHSCHOOL) มีท้ังนักเรียนประจําและไปกลับ ครูสอนก็มีทั้ง
มิชชันนารีและตอํ มาโรงเรียนสําเหรํ บอยส๑คนไทย คริสเตียน ไอสคูล ได๎ย๎าย
ไปยังถนนประมวญฝ๓่งพระนครและเปล่ยี นช่ือยังคงรปู แบบสถาปต๓ ยกรรมเดิม
ไวม๎ ีการ จารกึ รายชอ่ื ผ๎ูรํวมสมทบทนุ ถวายเงนิ สร๎างพระวิหารไว๎ในคริสตจักร
ด๎วย และพระวิหารหลังน่ียังคงใช๎นมัสการอยูํจนกระท่ังป๓จจุบัน
ปี พ.ศ.2455 กอํ สรา๎ งหอ ระฆังโดยการเรย่ี ไรเงนิ จากสมาชิก และบุคคลทั่วไป

สถานท่ีต้ัง เลขท่ี 37 ซอยเจริญนคร 59 ถนนเจริญนคร แขวงสําเหรํ
เขตธนบุรี กรงุ เทพมหานคร 10600 (สํานกั งานเขตธนบรุ ี, 2549, น.65)

53

ภูมิปญั ญาทอ้ งถิ่นเขตธนบุรี

1.ขล่ยุ บ้านลาว
ชาวเวยี งจนั ทร๑ท่ถี ูกต๎อนมาไดน๎ ําขลํุยและแคนตดิ ตัวมาดว๎ ยเม่อื ยามคิดถึง

บ๎านจะนําขลํุยและแคนมาเลนํ ขบั กลอํ มดว๎ ยการรอ๎ งรําทาํ เพลงกันจงึ มีการทาํ
ขลุํยสืบตํอกันมา ซึ่งเป็นการสืบสานวัฒนธรรมการทําขลํุย โดยอาศัย
ภมู ปิ ๓ญญาชาวบ๎านมาตั้งแตํคร้ังนั้นจวบจนป๓จจุบันยาวนานกวํา 200 ปี ส่ิงที่
นําภาคภูมิใจอยํางย่ิงของขลุํยบ๎านลาวถือได๎วําเป็น ขลุํยที่มีคุณภาพชั้นดี มี
ความประณตี และมีเสียงไพเราะ อีกท้ังยงั มีเอกลกั ษณ๑ที่โดดเดํนไมํเหมือนใคร
คือขลํุยไม๎ลวกที่มีลวดลาย และขลุํยไม๎ลวกท่ีไมํมีลวดลายซึ่งเป็นลวดลายท่ี
เกดิ จากธรรมชาติของไม๎ลวกนนั่ เอง

สถานท่ีตั้ง เลขท่ี 343/1 ซ.อิสรภาพ 15 (บางไส๎ไกํ 4 ถนน อิสรภาพ
แขวงหริ ญั รูจี เขตธนบรุ ี กรุงเทพมหานคร 10600 (ขลุํยบา๎ นลาว, ม.ป.ป.)

2.บ้านศลิ ปะไทย
ชุมชนบางไส๎ไกํมีการทําหัวโขนเครื่องประกอบการแสดงเคร่ืองละคร

ตุ๏กตากระดาษ ต๏ุกตาปูน เป็นต๎น ซึ่งเป็นท่ีรู๎จักอยํางแพรํหลายในนาม
บ๎านศิลปะไทย กํอตั้งโดย นายสุข เพไพ ผ๎ูมีผลงานดีเดํนแหํงประเทศไทย
ดา๎ นวัฒนธรรมภาคกลางสาขาชาํ งศลิ ปะและการชาํ งฝมี ือประจําปี พ.ศ.2534
และ นางเจริญ กจิ ราษฎร๑ ผม๎ู ผี ลงานดีเดํนดา๎ นวฒั นธรรมภาคกลางสาขาชําง
ศิลปะด๎านอนุรักษ๑ไทยของกรุงเทพฯจนได๎คัดเลือกให๎เป็นสินค๎า หนึ่งตําบล
หนึง่ ผลิตภณั ฑ๑ (OTOP)

54

สถานที่ตั้ง ซอยอิสรภาพ 15 ถนนอิสรภาพ แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี
กรุงเทพมหานคร 10600 (บ๎านศลิ ปะไทย, ม.ป.ป.)

3. บา้ นปีพ่ าทย์ตระกูลพาทยโกศล
บ๎ า น ป่ี พ า ท ย๑ ต ร ะ กู ล พ า ท ย โ ก ศ ล เ ป็ น บ๎ า น ข อ ง นั ก ด น ต รี ไ ท ย ท่ี มี

ความสามารถและมีชื่อเสียงสืบแตํต๎นกรุงรัตนโกสินทร๑ ป๓จจุบัน
บ๎านพาทยโกศลยังปรากฏเครื่องดนตรีท่ีเลําสืบกันมาวําสร๎างขึ้นตั้งแตํ
สมัยรัชกาลที่ 2 ต๎นสกุลช้ันสูงสุดที่สืบได๎ คือ หลวงกัลยาณมิตตาวาส
(ทับ พาทยโกศล) คาดวําเกิดในราวปลายสมัยรัชกาลท่ี 3 มีความสามารถใน
การบรรเลงซอสามสายเป็นอยํางย่ิง และภรรยาของทํานก็มีฝีมือในการ
บรรเลงจะเข๎ ได๎เป็นครูสอนดนตรีฝ่ายในสมัยรัชกาลที่ 5 ด๎วยเชํนกัน ตํอมา
จางวางท่ัว พาทยโกศล บุตรชายมีความเชี่ยวชาญทางดนตรี โดยเฉพาะฆ๎อง
ระนาดเอก และการแตํ งเพลงจึงทําหน๎าที่ควบคุมวงปี่พาทย๑ใน
วังบางขุนพรหมของสมเด็จพระเจ๎าบรมวงศ๑เธอ เจ๎าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ๑
กรมพระนครสวรรค๑วรพินิต โดยได๎นําวงป่ีพาทย๑บ๎านพาทยโกศลเข๎าไปเป็น
วงประจําวัง และได๎รับตําแหนํงจางวางท่ีวังนี้ จางวางทั่วได๎เรียนโน๎ตดนตรี
สากลจากสมเด็จฯ เจ๎าฟ้ากรมพระนครสวรรค๑วรพินิต และได๎ทําการสอน
แตรวงให๎แกทํ หารท้งั ทหารเรอื และทหารมหาดเล็กซึ่งเป็นข๎าราชบริพารของ
สมเด็จฯเจ๎าฟ้ากรมพระนครสวรรค๑วรพินิต ตํอมาทายาทของจางวางท่ัวคือ
ครเู ทวาประสิทธิ์ และคุณหญงิ ไพฑูรย๑ กติ ตวิ รรณ ได๎ดูแลวงดนตรีพาทยโกศล
จนส้ินอายุขัย ป๓จจุบัน นายสมศักด์ิ ไตรย๑วาสน๑ เป็นผ๎ูควบคุมวงดนตรีและ

55

เป็นผู๎ถํายทอดองค๑ความร๎ูท้ังในด๎านเพลงและประวัติของบ๎านพาทยโกศล
ผูส๎ นใจสามารถขอเขา๎ ชมเคร่อื งดนตรีทีท่ รงคณุ คาํ ของบา๎ นพาทยโกศล ไดโ๎ ดย
ต๎องนดั หมายลํวงหนา๎

สถานท่ีตั้ง บ๎านพาทยโกศล 78 ถนนอรุณอมรินทร๑ตัดใหมํ แขวงวัดกัลยาณ๑
เขตธนบุรี กรงุ เทพมหานคร 10600 (บา๎ นปพี่ าทย๑ตระกูลพาทยโกศล, ม.ป.ป.)

4.เทศน์โลส้ ําเภา
เทศน๑โล๎สําเภา เป็นงานบุญประเพณีที่จัดขึ้นสืบตํอกันมาต้ังแตํสมัย

โบราณของชุมชนชาวมอญวัดประดษิ ฐาราม โดยจัดขึ้นควบคํูไปกับการเทศน๑
มหาชาติ ในชํวงวันออกพรรษาของทุกปี การเทศน๑มหาชาติจะเป็นการนํา
เน้ือความของพระพุทธเจ๎าคร้ังเมื่อเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดรท้ัง 13
กัณฑ๑มาเทศน๑ โดยนิมนต๑พระข้ึนเทศน๑ 3 ธรรมาสน๑และมีคาถาทั้งหมด
1,000 พระคาถา ซ่ึงชาวบ๎านเรียกกันวํา "การเดินคาถาพัน" พระรูปแรกจะ
เป็นผ๎ูเดินคาถาตั้งแตํต๎นจนจบแล๎วจึงจะเร่ิมเทศน๑เน้ือหาของแตํละกัณฑ๑
หลังจากท่ีพระเทศน๑จบแล๎วจะมีการโปรยข๎าวตอกดอกไม๎และประพรมนํ้า
พระพุทธมนต๑เพ่ือเป็นสิริมงคลแกํสาธุชนทั่วไปหลังจากเทศน๑มหาชาติจบลง
แล๎ว ประชาชนก็จะชํวยกันจัดสร๎างเรือสําเภาจําลองขนาดใหญํไว๎ที่บริเวณ
ลานวดั จะมีการตกแตํงเรือสําเภาด๎วยตอกไม๎ตําง ๆ อยํางสวยงามและมักจะ
ตกแตํงกนั ตลอดทง้ั คืนจนกวําจะแล๎วเสรจ็ เพื่อใหท๎ ันพิธี "บูชาสําเภา" ในเวลา
ย่าํ รํงุ (ตัวผู๎เลําเองก็เคยได๎ไปชํวยจัดและตกแตํงด๎วยเชํนกัน) การตกแตํงเรือ

56

สําเภาจาํ ลองนีม้ ีพธิ ีการสาํ คัญคือ การตกแตํงหวั เรอื สาํ เภา โดยการนําดอกไม๎
ไทยมาตกแตงํ เชนํ ดอกหงอนไก ดอกดาวเรือง ดอกบานไมํรู๎โรย ดอกสร๎อย
ทอง หรือดอกไม๎ไทยอ่ืน ๆ ที่สามารถหาได๎ตามฤดูกาล พวงมาลัยดอกไม๎สด
7 สี ยาว 7 ศอกสําหรับคล๎องหัวเรือ บายศรีเทพ สําหรับวางบนหัวเรือ และ
ผา๎ แพรเยือ่ ไม๎ สามสี (สีแดง เหลืองและเขียว) สําหรับผูกที่หัวเรือ นอกจากน้ี
ยังมีของทีใ่ ชบ๎ ชู าหัวเรอื คือ หมากพลู ขนมต๎มขาว-แดง ไขํต๎ม (สําหรับเสียบ
ยอดบายศรี) ข๎าวสวย 1 ถ๎วย ซึ่งได๎ถามจากนางเพลินพิศขาวผํอง และ
นางสาวจินตนา อิ่มวัฒน๑ (ป้าแต๐ว) ถึงสาเหตุท่ีนิยมใช๎ดอกไม๎ไทยเพราะ
ต๎องการให๎เป็นสิริมงคลและมีความเจริญรุํงเรืองแกํชีวิต หลังจากน้ันเวลา
ประมาณ 04.30 น. พระภิกษุสงฆ๑และสามเณร จะลงมาทําวัตรเช๎าแบบยํอ
เม่ือทําวัตรเช๎าเสร็จแล๎วพระภิกษุสามเณรจะมารํวมบูชาสําเภา ด๎วยข๎อมูล
สํวนนี้จากพระครูปริยัติวรานุสิฐ เจ๎าอาวาสวัดประดิษฐาราม ป้าแต๐ว
(นางสาวจินตนา อิ่มวัฒน๑) ซึ่งเป็นคนเช้ือสายมอญของชุมชนวัดประดิษฐา
รามอธิบายวําการบูชาสําเภาได๎มีการจัดเตรียมข๎าวสําหรับพระภิกษุสามเณร
และประชาชนท่ัวไป ซ่ึงข๎าวนี้เรียกวํา "ข๎าวมธุปายาส" โดยมีสํวนประกอบท่ี
สําคัญคือ ข๎าวสวย กล๎วยไขํสุกห่ันชิ้นเล็ก ๆ งาค่ัว (งาดํา) ข๎าวตอกเกลือ
เทียนข้ีผึ้งตัดเป็นทํอนส้ันๆ หมากพลูจีบ ดอกบานไมํร๎ูโรยและดอกหงอนไกํ
แกะกลีบคลุกเคล๎าให๎ข๎ากันวัตถุประสงค๑ของการจัดเตรียมข๎าวมธุปายาสน้ี
เพ่ือจัดเป็นเสบียงให๎พระสงฆ๑ในการเดินทางไปรับพระไตรปิฎกที่ประเทศ
มอญจากการศึกษาค๎นคว๎าประวัติความเป็นมาของการเทศน๑โล๎สําเภา มี
ตํานานของรามัญอยํูวําในรัชสมัยของพระเจ๎าธรรมเจดีย๑หรือพระธรรมราชา
กษัตริย๑ ผ๎ูครองกรุงหงสาวดี ซ่ึงเป็นชํวงที่บ๎านเมืองปราศจากสงคราม
พระองค๑ได๎ทรงทํานุบํารุงบ๎านเมืองให๎มีความเจริญรุํงเรืองแล๎วยังทรงทํานุ
บํารุงพระพุทธศาสนา โดยมีวัตถุประสงค๑ท่ีจะปรับปรุงพระพุทธศาสนาให๎
เรียบร๎อยดีงาม เนื่องจากคณะสงฆ๑ในขณะนั้นตํางฝ่ายตํางนิยมนับถือตาม
รูปแบบของตน พระองค๑จึงทรงดําริที่จะสํงพระสงฆ๑เป็นสมณทูตไปเจริญ
สัมพันธไมตรีกับสีหลประเทศ (ประเทศศรีลังกา) พระองค๑ทรงคัดเลือก
พระสงฆ๑สํงเป็นสมณทูตไป โดยจัดเรือสําเภาสําหรับบรรทุกขนสํง 2 ลํา

57

ลําหน่ึงมีช่ือวํา"รามคุตตะ" อีกลําหนึ่งมีชื่อวํา "จิตรคุตตะ"เรือท้ังสองลํา
เดินทางโดยสวัสดิภาพถึงเมืองสีหลประเทศ และได๎ปฏิบัติหน๎าที่เรียบร๎อย
เป็นอนั ดีและพกั ผํอนในสหี ลประเทศตามสมควร จึงกราบทูลลาพระเจ๎าสีหล
กลับหงสาวดี ในการน้ีพระเจ๎าผ๎ูครองเมืองสีหลได๎จัดสมณทูตมาเจริญ
สมั พนั ธไมตรีตอํ พระเจา๎ ธรรมเจดยี ๑ราชาโดยจดั สํงเรือสาํ มาด๎วยอีก 1 ลํา รวม
เปน็ 3 ลํา เรือทั้ง 3 ลํา ก็ออกจากทําสีหลประเทศมาพร๎อมกันครั้นถึงวันขึ้น
15 คา่ํ เดอื น 11 วันออกพรรษา เรอื สาํ เภา 2 ลาํ คือ เรือทตู ของพระเจ๎าสหี ล
กับ เรือรามคุตตะก็เข๎าจอดทําเมืองหงสาวดีพร๎อมกัน แตํไมํปรากฏว่ีแวว
ของเรือสําเภาจิตรคุตตะคณะทูตจึงเข๎าไปกราบทูลให๎พระเจ๎าธรรมเจดีย๑ทรง
ทราบ พระองค๑จึงรับสั่งให๎ทําพิธีบวงสรวง ให๎เรือจิตรคุตตะปลอดภัยตาม
ประเพณีโบราณทันที่ โดยจัดให๎ทําเป็นรูปเรือสําเภาและจัดสิ่งของอยํางละ
1,000 ให๎พร๎อมในวันน้ัน พอเช๎าตรํูวันรุํงขึ้น คือ วันแรม 1 คํ่า เดือน 11
พระองคจ๑ งึ เสด็จไปประกอบพิธีบวงสรวงเทพยดาอารักษ๑ ณ ทําเทียบเรือที่ มี
รูปเรือสําเภาประกอบอยูํ โดยจุดธูปเทียนบูชาพร๎อมสิ่งของอยํางละ 1,000
และทรงอธิษฐานตํอเทพยดาอารักษ๑ท่ีปกป้องรักษาในทะเลหลวง พร๎อมท้ัง
นา ง ม ณี เ ม ข ล าเ ท พ ธิ ดา ไ ด๎ ไ ปร ด คุ๎ ม คร อ ง เรื อ จิ ต รคุ ต ต ะ ให๎ ป ล อ ดภั ย จ า ก
อันตราย และนําสิ่งของในเรือพร๎อมรูปเรือสําเภาถวายแตํพระสงฆ๑สมณทูต
ทั้ง 30 รูปเป็นสังฆทาน พระสมณทูตท้ัง 30 รูป รับและอนุโมทนาถวาย
พระพรแตพํ ระเจา๎ ธรรมเจดีย๑ราชาปรากฏวาํ ในวันแรม 2 คํ่าเดอื น 11 จะเป็น
ด๎วยพลานุภาพของเทพยดาอารักษ๑และนางมณีเมขลาเทพธิดาก็ตามแตํเรือ
สาํ เภาจิตรคตุ ตะท่ีพลดั หลงกนั ไปกเ็ ข๎ามาเทียบทําเรือของเมืองหงสาวดีเป็นที่
อัศจรรย๑ยิ่งนัก ตั้งแตํน้ันมาพระองค๑จึงรับส่ังให๎ชาวเมืองยึดถือเป็นประเพณี
ปฏิบัตใิ หท๎ าํ พธิ บี วงสรวงดว๎ ยรปู เรอื สาํ เภาและสง่ิ ของอยํางละ1,000 ตํอเทพย
ดาอารักษ๑และนางมณีมขลาเทพธิดาผ๎ูปกป้องรักษาท๎องทะเลเพื่อเป็นสวัสดิ
มงคลแกํชวี ิตและทรัพย๑สนิ สืบตอํ กนั มาจนถงึ ทกุ วนั นี้

58

59

ในชํวงบํายของวันออกพรรษาชาวบ๎านจะออกมาชํวยกันตกแตํงเรือ
สําเภาสํวนที่เป็นลําเรอื โดยใชด๎ อกไมช๎ นดิ ตาํ ง ๆ ท่ีสามารถจัดหาไดม๎ าประดบั
รอบ ๆ เรือสําเภา พอถึงเวลาประมาณ 19.00 น. จะนิมนต๑พระข้ึนเทศน๑
ภายในเรือสําเภา 2 ธรรมมาสน๑ ซ่ึงเรียกวํา"เทศน๑โล๎สําเภา" การเทศน๑ครั้งน้ี
จะใช๎เนื้อหาของกัณฑ๑กุมาร โดยพระจะสาธยายถึงลักษณะทานท่ี
พระเวสสนั ดรได๎ประทานสองกุมาร (ชาลีและกัณหา)ให๎กับชูชก เพื่อเป็นทาส
รั บ ใ ช๎ พ ร ะ กุ ม า ร ทั้ ง ส อ ง ท ร า บ ค ว า ม จึ ง ห นี ไ ป ห ลุ บ ซํ อ น ตั ว ใ น ส ร ะ นํ้ า
พระเวสสันดรร๎จู ึงตรัสเรียกพระกุมารทั้งสองให๎ขึ้นจากสระน้ําโดยเปรียบสอง
กมุ ารเปน็ สาํ เภาทองท่ีจะพาพระองค๑เสดจ็ ไปสํพู ระโพธิญาณขณะที่พระเทศน๑
อยํูนน้ั จะจดุ เทยี นรอบ ๆ เรอื สาํ เภาซึ่งเปรียบได๎กบั แสงไฟท่ีใช๎สํองเดินทางใน
เวลากลางคืนในวันรุํงขึ้นจะจัดให๎มีการตักบาตรรอบเรือสําเภา ซ่ึงตรงกับวัน
แรม 1 ค่ําเดือน 11 เรียกกันวํา "การตักบาตรเทโวโรหณ" ในวันน้ี
พุทธศาสนิกชนจะจัดเตรียมอาหารท่ีใช๎ในการตักบาตร ซึ่งเป็นข๎าวสาร
อาหารแห๎งจัดใสํหํอ ออกมายืนรอบ ๆ เรือสําเภาเพ่ือเตรียมตักบาตร
พระภิกษุสามเณรใน เวลา 08.00 น.หลังจากตักบาตรเทโว เสร็จเรียบร๎อย
แล๎วจะร้ือเรือสาํ เภา บายศรีจะถกู นําไปลอยนํา้ เพ่อื เป็นการลอยเคราะห๑ ลอย
ทุกข๑ ลอย โศก และโรคภัยตํางๆไปกับแมํน้ํา ถ๎าบุคคลใดมีเคราะห๑จะใช๎ด๎าย
ตดั ใหย๎ าวกวาํ ความสูงของคนน้ัน นาํ ไปชบุ กบั เทียนไง นาํ ไปผูกกับหัวเรือหรือ
ท๎ายเรือก็ได๎แล๎วใช๎ไฟจุดจากปลายให๎ไหม๎ข้ึนไปจนหมดเพื่อให๎หมดเคราะห๑
ซ่ึงพิธีน้ีจะทํากันในเวลากลางคืนหลังจากพระเทศน๑จบแล๎ว ป๓จจุบันการ
เทศน๑โล๎สําเภายังทําสืบตํอมาทุกปีภายในชุมชนมอญวัดประดิษฐารามและ
ยังคงจะอนุรักษ๑และปฏบิ ัตเิ ป็นประเพณีสืบตํอ ๆ กันตลอดไป (สํานักงานเขต
ธนบุรี, 2549, น.92-94)

60

5.ปลาส้มบา้ นลาว
ชาวเวียงจันทร๑ท่ีถูกกวาดต๎อนมามีการถนอมอาหารปลาตะเพียนท่ีมีก๎าง

เป็นจํานวนมาก ด๎วยการทําปลาส๎ม โดยใช๎วิธีหมักเป็นเวลานานเพ่ือจะให๎
ก๎างปลาน่มิ จนสามารถนํามารับประทานได๎ท้ังตัว ป๓จจุบันคงเหลือบ๎านท่ีทํา
ปลาส๎มที่มีรสชาติด้ังเดิม ซึ่งสืบสานตํอจากบรรพบุรุษ อยํูไมํกี่หลัง ลักษณะ
ของปลาส๎มหมํูบ๎านลาวน้ีรสชาติคล๎ายคลึงกันกับปลาส๎มของชาวอํา เภอ
หลมํ สกั จังหวดั เพชรบรู ณ๑ หรือท่เี รียกกนั วํา ปลาสม๎ ของกาํ นนั จลุ

สถานท่ีต้ัง ซอยอิสรภาพ 15 ถนนอิสรภาพ แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี
กรุงเทพมหานคร 10600 (ปลาสม๎ บา๎ นลาว, ม.ป.ป.)

6.หมูกระดาษออมสินบ้านหมูกระดาษ
หมูกระดาษออมสิน “กระปุกออมสินทํามือ ตัวแทนของการประหยัด

อดออม เสริมความม่ังค่ัง” กระปุกรูปหมูสีแดง ซึ่งหมูกระดาษน้ี มีอายุเกิน
กวําร๎อยปี ประวัติแรกเริ่มของหมูกระดาษเกิดข้ึนจากการทําเป็นท่ีระลึกถึง
หมทู ่เี คยมีอยมูํ ากในวัดประยรุ วงศาวาสวรวิหาร โดยมีคุณพํอของป้าน๎อย ผ๎ูท่ี
เติบโตมาในชุมชนวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ได๎นําความสามารถทางด๎าน
ศลิ ปะบวกกบั ความสรา๎ งสรรค๑มาประดิษฐ๑หมูกระดาษตัวแรกขึ้นมา เพ่ือเป็น
สญั ลักษณ๑ของหมูวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ที่เคยอยูํในพื้นที่นี้ ในวันหน่ึง
คนจีนได๎สะดุดตาเจ๎าหมูกระดาษสีแดง เน่ืองจากหมูถือเป็นของนําโชคของ

61

ชาวจีน บวกกับสีแดงท่ีเป็นสัญลักษณ๑ของธาตุไฟ ซ่ึงหมายถึงความเจริญ
รํุงโรจน๑ หลังจากนั้นหมูกระดาษสีแดงก็กลายเป็นที่ต๎องการของตลาดอยําง
มาก

สถานที่ต้ัง เลขที่ 44 ถนนเทศบาลสาย2 แขวงวัดกัลยาณ๑ เขตธนบุรี
กรุงเทพมหานคร 10600 (หมูกระดาษออมสนิ บา๎ นหมูกระดาษ, ม.ป.ป.)

7. ขนมฝรั่งกุฎจี นี
ข น ม ฝ รั่ ง กุ ฎี จี น ไ ด๎ รั บ ก า ร บ อ ก เ ลํ า เ ป็ น ที่

แนํนอนวํา เคยมีชาวโปรตุเกสพํานักอยํูในบริเวณ
กุฎีจีนมาตั้งแตํสมัยกรุงธนบุรี และสืบเช้ือสายมา
จนป๓จจุบัน ชาวกุฎีจีนมีความเป็นอยํูอยํางเรียบ
งําย สาหรับแมํบ๎านก็หารายได๎เล็กน๎อยจากการ
ทําอาหารและขนมขาย เพราะมีฝีมือ และได๎รับ
การถํายทอดวิธีปรุงอาหารหลายชนิดท่ีแปลกไปจากท๎องถิ่นอ่ืน ๆ เชํน ขนม
ฝร่งั มีผ๎ูประกอบการทาํ ขนมฝรั่งกุฎจี นี ที่ยังคงสืบทอดวิธีการทําขนมในแบบ
โบราณดั้งเดิมหลงเหลืออยํู เชํน ขนมฝร่ังบ๎านแมํเป้า ร๎านป้าอาพรรณ และ
ร๎านธนูสงิ ห๑ (ขนมฝรัง่ กฎุ ีจนี , ม.ป.ป.)

62

8. ขนมกสุ รัง หรอื กุดสลัง
เดิมเรียกขนมกุสรังวํา ขนมตรุษฝร่ัง เป็นขนม

เฉพาะในเดือนธันวาคม เป็นขนมที่ทําทานกันในชํวง
เทศกาลครสิ ตม๑ าสหรอื ตรุษฝร่ังเป็นขนมท่ที ําเพื่อเป็น
ของฝากระหวาํ งครอบครัวท่ีนบั ถอื ศาสนาคริสต๑ แตํก็
สามารถทําข้ึนรับประทานได๎ในชํวงที่ไมํใชํเทศกาล
คริสต๑มาสแตํก็ยังไมํเป็นท่ีแพรํหลายเหมือนขนมฝร่ังกุฎีจีน (สํานักงานเขต
ธนบุรี, 2558)

9.ปลาตะเพียนสานใบลาน
การสานปลาตะเพียนใบลานเป็นอาชีพเกําแกํที่ทําสืบทอดกันมาตั้งแตํ

บรรพบุรุษนานกวํา 100 ปี โดยสันนิษฐานวําชาวไทยมุสลิมซ่ึงลํองเรือขาย
เคร่ืองเทศอยูํตามแมํนํ้าเจ๎าพระยาและอาศัยอยูํในเรือเป็นผ๎ูประดิษฐ๑
ปลาตะเพียนสานด๎วยใบลานขึ้นเป็นครั้งแรก
แรงบันดาลใจอาจจะมาจากความผูกพันกับท๎อง
น้ําและความค๎ุนเคยกับรูปรํางหน๎าตาของปลา
ตะเพียนเป็นอยํางดีปลาตะเพียนฉลุไทยลาย
วิจิตร ได๎กํอต้ังมาตั้งแตํปี พ.ศ.2549 ซึ่งเป็นการ
รวมกลํุมของคนในชุมชนตลาดพลูเพ่ือผลิต
ผลิตภัณฑ๑ปลาตะเพียน โดยได๎สํงประกวดครั้ง
แรกเมือ่ ปี 2550 และตอํ มาเมื่อปี 2553 ได๎มีครือ
ขํายการรํวมมือจากผ๎ูผลิตปลาตะเพียนท่ีอยูํ
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาหลายกลํุมเข๎ามาทําปลาตะเพียนสีรํวมกันจนถึง
ปจ๓ จบุ นั ปลาตะเพียนฉลไุ ทยลายวจิ ิตร ผลติ สินค๎าประเภทเครื่องสานใบลาน
โดยนําใบลานมาสานเป็นรปู ปลาตะเพยี น และตกแตํง เปน็ ลวดลายฉลุ มสี ีสัน
สวยงาม เป็นเคร่ืองแขนประดับตามบ๎าน หรือแขวนท่ีเปลนอนเด็ก ซ่ึง
เอกลกั ษณ๑ ของสนิ ค๎าในปลาตะเพียนฉลุไทยลายวิจิตร คือปลาตะเพียนที่สาน

63

ด๎วยใบลานฉลุเป็นลวดลายท่ีมีความประณีต งดงาม ป๓จจุบันได๎จดทะเบียน
สนิ ค๎า OTOP ที่เขตธนบีรภุ ายใตช๎ ือ่ วาํ กลุ่มปลาตะเพียนฉลุไทยลายวิจติ ร

สถานท่ีตั้ง เลขท่ี 415 ซอยเทอดไท 35 ถนนเทอดไทย แขวงตลาดพลู
เขตธนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10600 (ชฎากาญน๑ เจริญรบ, อารยา
เกียรติก๎อง และกมลศักดิ์ วงศ๑ศรีแก๎ว, 2559, น.69-70)
10.ชมุ ชนศูนย์ฝึกอาชีพหตั ถกรรมของจิ๋ว ธนบุรี

หัตถกรรมของจ๋ิวเป็นสวํ นหนึง่ และวธิ ีการหนึ่งท่ีใช๎ในการเก็บเรอ่ื งราวทาง
ประวัติศาสตร๑และวัฒนธรรม มีมาต้ังแตํโบราณเชํน การทําพระพุทธรูป
พระเครื่อง การป๓้นตุ๏กตาดินเผาหรือแม๎กระท่ังการป้๓นวัวป๓้นถวายเพื่อให๎
ลูกหลานเลํนก็ถือวําเป็นต๎นกําเนิดของ ของจิ๋วของไทยในยุคแรกท้ังส้ินใน
ป๓จจุบนั นีข้ องจิว๋ ไมไํ ดเ๎ ปน็ ของเลนํ เด็กเลนํ แตอํ ยํางเดียวเป็นทั้งของสะสมและ
ของฝากของท่ีระลึกท่ีเกอื บทุกประเทศทัว่ โลกไดผ๎ ลิตข้ึน

สถานที่ตั้ง เลขที่ 563 หมูํ 1 ถนนเจริญนคร แขวงบุคคโล เขตธนบุรี
กรุงเทพมหานคร 10600 (ชฎากาญน๑ เจริญรบ, อารยา เกียรติก๎อง และ
กมลศกั ด์ิ วงศ๑ศรีแก๎ว. 2559, น.171)

64

แหลง่ ทอ่ งเทีย่ วเขตธนบรุ ี

1.ศาลเจ้าเกยี นอนั เกง
ศาลเจ๎าเกียนอันเกง หรือศาลเจ๎าแมํกวนอิม เป็นศาลเจ๎าจีนเกําแกํของ

ชุมชนกฎุ ีจนี ต้ังอยบูํ รเิ วณริมฝ่๓งแมํน้ําเจ๎าพระยา แขวงวัดกัลยาณ๑ เขตธนบุรี
กรุงเทพมหานคร ระหวํางวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหารและวัดซางตาครู๎ส
ศาลเจ๎าไดส๎ ร๎างขึ้นในปีใดไมเํ ปน็ ทท่ี ราบแนชํ ัด แตํกลําวกันวําชาวจีนฮกเกี้ยน
ท่ตี ามเสด็จพระเจ๎าตากสินมหาราชเปน็ ผ๎ูสรา๎ งข้นึ เดิมศาลเจ๎าแหํงนี้มีจํานวน
2 หลังซึง่ ติดกนั คอื ศาลเจ๎าโจว ซอื กง และ ศาลเจ๎ากวนอู จนในเวลามาตํอ
ศาลเจ๎าก็ทรุดโทรมลงไปมาก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระน่ังเกล๎าเจ๎าอยํู
ได๎มีชาวฮกเก้ียนกลํุมหน่ึงได๎เข๎ามาร้ือศาลทั้ง 2 ลง แล๎วสร๎างใหมํเพียงหลัง
เดียว ซ่ึงกค็ ือศาลเจา๎ ในปจ๓ จบุ ัน เดมิ ท้งั 2 ศาล ประดษิ ฐาน เจา๎ พํอโจวซือกง
และ เจา๎ พอํ กวนอู ตามช่อื ศาลเจ๎า แตํภายหลังร้ือศาลเจ๎าแล๎วสร๎างใหมํเพียง
หลังเดียวทําให๎องค๑ประธานท้ัง 2 ได๎ถูกย๎ายไปด๎วยซ่ึงไมํปรากฏวําเป็นที่ใด
ป๓จจุบันศาลเจ๎ามีเจ๎าแมํกวนอิม เป็นองค๑ประธานหลักศาลเจ๎าเกียนอันเกง
นบั เปน็ ศาลเจ๎าที่เกําแกทํ ่ีสุดแหงํ หนงึ่ ในฝง่๓ ธนบุรี มอี ายุมากกวาํ ร๎อยปี ภายใน
ศาลเจา๎ ประกอบด๎วยสิง่ ของลํ้าคาํ ท่ีได๎รบั การอนรุ กั ษท๑ ง้ั ไมเ๎ คร่ืองแกะสลกั ท่ีมี
ความประณีตและสมบูรณท๑ ส่ี ดุ แหํงหนง่ึ ภาพจติ รกรรมฝาผนัง และภายนอก
ศาลเจ๎าท่ีมุงด๎วยกระเบื้องโค๎งตามแบบจีนแท๎ จนในปี พ.ศ. 2551 ป๓จจุบัน
ศาลเจ๎าอยํใู นความดูแลของตระกูลสิมะเสถียร หรือ แซํซ้ิม เดิมและตันติเวช
กุล หรือ แซํต้ัง เดิม ซ่ึงเป็นตระกูลที่เข๎ามากํอสร๎างปรับปรุงให๎กับศาลเจ๎า
ตัง้ แตคํ รงั้ รัชกาลท่ี 3

65

สถานที่ตั้ง เลขท่ี 230 ถนนเทศบาล แขวงวัดกัลยา เขตธนบุรี
กรุงเทพมหานคร 10600 (ศาลเจ๎าเกยี นอันเกง, 2561)
2.บ้านวนิ ดิ์เซอร์ สถาปตั ยกรรมเรือนไม้แบบขนมปังขงิ

สถาป๓ตยกรรมเรือนไม๎แบบขนมป๓งขิงเป็นบ๎านโบราณที่ตกทอดจาก
ตระกูลวินเซอร๑ ซึ่งได๎รับอิทธิพบจากสถาป๓ตยกรรมแบบตะวันตก มีการ
ประดับประดาตกแตํงลวดลายฉลุที่วิจิตรสวยงาม เหมือนขนมป๓งขิง เจ๎าของ
บ๎านคือ นางสมบญุ วินดเ์ิ ซอร๑ ลูกเจา๎ ของโรงสขี า๎ วยาํ นบางกอกใหญํ ซึง่ สมรส
กบั นายหลุยส๑ วนิ ดเิ์ ซอร๑ ลูกชายของกาเนยี ร วนิ เซอร๑ กปั ตนั เรือชาวองั กฤษ
ท่ีเดินเรือสินค๎าขายระหวํางกรุงเทพฯ -สิงคโปร๑-ฮองกง-ซัวเถา จนได๎รับ
พระราชทานสัญญาบัตร ขุนสมุทรโคจร จากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล๎า
เจา๎ อยหํู ัว และต้งั รกรากในชมุ ชนกุฏีจีนบนที่ดนิ ของโบสถ๑ซางตาคร๎สู ท่ไี ด๎รับ
พระราชทานจากสมเด็จพระเจา๎ ตากมหาราช

สถานท่ตี ั้ง ถนนเทศบาลสาย 1 ซอยกฎุ ีจีน 4 แขวงวัดกัลยาณ๑ เขตธนบุรี
กรุงเทพมหานคร 10600 (สาํ นกั งานเขตธนบรุ ี, 2558)

66

3. เรือนจันทนภาพ
เรือนไทยไม๎สักทั้งหลังแบบเครื่องสับ

ทรงจ่ัวจอมแหอายุกวํา 100 ปี กรอบหน๎า
บันเป็นลายอาทิตย๑อุทัยตัวเรือนประกอบ
ฝาถังโดยรอบหยํองหน๎าตํางแกะสลักเป็น
ลวดลายพุดตานเครือเถาที่มีความงดงาม
โดยคุณพํอของคุณแมํทองคํา จันทนภาพ
จากเมืองจันทบุรีเป็นผู๎สร๎างอยูํในชุมชนกุฎี
จนี และประดับตกแตํงเรือนด๎วยเอกลักษณ๑
ของคาทอลิกได๎อยํางลงตัวมีมนต๑เสนํห๑
ป๓จจุบันมคี ณุ จารภุ า จันทนภาพ เปน็ ผ๎ูดูแลสบื ตํอมา

สถานที่ต้ัง เลขที่ 265 ซอยวัดกัลยาณ๑ แขวงวัดกัลยา เขตธนบุรี
กรุงเทพมหานคร 10600 (เรอื นจนั ทนภาพ, 2560)

4.พิพธิ ภณั ฑท์ อ้ งถ่ินกรงุ เทพมหานครเขตธนบุรี
ภายในพิพิธภัณฑ๑ เก็บรวบรวมและจัดแสดงเร่ืองราวการผสมผสานทาง

วัฒนธรรมของกลํุมคนหลากหลายเชื้อชาติ ไทย จีน โปรตุเกส แขก มอญ
ลาว จดั แสดงเรอ่ื งราวของสมเด็จพระเจา๎ ตากสนิ มหาราช ของดีเขตธนบรุ ี

67

สถานทตี่ ั้ง ชัน้ 3 โรงเรยี นสอนพุทธศาสนาวนั อาทติ ย๑วัดประยุรวงศาวาส
วรวิหาร ถนนประชาธิปก แขวงวดั กัลยาณ๑ เขตธนบรุ ี กรงุ เทพมหานคร 10600
(สํานกั งานเขตธนบุรี, 2558)

5.พพิ ธิ ภัณฑบ์ า้ นกฎุ ีจนี
พิพิธภัณฑ๑บ๎านกุฎีจีนต้ังอยูํบริเวณท๎ายซอย

หลักของชุมชนกุฎีจีนเป็นท่ีตั้งของบ๎านไม๎ท่ีได๎รับ
การบูรณะใหมํให๎ดูขาวสะอาดตา ตกแตํงด๎วยพ้ืน
ลายกระเบื้องสไตล๑อาซูเลโฆส โดยพิพิธภัณฑ๑
บ๎านกุฎีจีนจัดทําขึ้นโดยเอกชนท่ีมีบรรพบุรุษเป็น
ชาวกุฎีจีนสบื ทอดมาตั้งแตํดั้งเดิม ไมํได๎เก็บเงินคํา
เข๎าชมสถานท่ี ด๎านลํางพิพิธภัณฑ๑ของเปิดชั้นลําง
เป็นร๎านอาหารและเครื่องดื่มพร๎อมขนมป๓งสัพพแหยกที่ได๎แรงบันดาลใจมา
จากอาหารโปรตุเกสซ่ึงทําจากหมูสับใสํมันฝรั่งและพริกสดภายในบอกเลํา
เรื่องราวความสัมพันธ๑ของราชอาณาจักรสยามและโปรตุเกสต้ังแตํสมัยพระ
เจ๎ามานูเอลที่ 1 ทรงสงํ เรือมาเยอื นประเทศในทวีปเอเชีย พร๎อมนําวิทยาการ
สมยั ใหมอํ ยํางการทหาร การแพทย๑ การสรา๎ งป้อม เรอ่ื ยไปจนถึงการรวบรวม
เรื่องรางของขนมไทยท่ีได๎แรงบันดาลใจมาจากโปรตุเกสของท๎าวทองกีบม๎า
นอกจากนี้ทางพิพิธภัณฑ๑ยังได๎รวบรวมข๎าวของเครื่องใช๎และรูปภาพของคน
กลุํมแรกๆ ที่เข๎ามาอาศัยในชุมชน พิพิธภัณฑ๑ท่ีเก็บรวบรวมความเป็นมาอัน
เกําแกํของชุมชนชาวสยาม-โปรตุเกส ตั้งแตํสมัยอยุธยาถึงป๓จจุบันและเป็น
แหลํงเรียนร๎ูวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี ภาษา ศาสนา และ
รากเหงา๎ ของชาวชมุ ชนกฎุ จี ีน โดยสร๎างจากทุนสวํ นตวั เปดิ ใหเ๎ ข๎าชมฟรี เวลา
9.30 -18.00 น.

สถานท่ีตั้ง ภายในชุมชนกุฎีจีน ชุมชุนริมแมํน้ําเจ๎าพระยา ถนนเทศบาล
สาย 1 แขวงวัดกัลยาณ๑ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 (พิพิธภัณฑ๑
บ๎านกุฎีจีน, ม.ป.ป.)

68

6.พพิ ิธภณั ฑพ์ ระประยูรภัณฑาคาร
พิพธิ ภณั ฑพ๑ ระประยรู ภัณฑาคาร เปน็ อาคารช้ันเดียวสถาป๓ตยกรรมแบบ

ยุโรปผสมผสานองค๑ประกอบแบบจีน เชํน กระเบ้ืองมุงหลังคาและสิงโตหิน
ชํองแสงเหนือขอบหน๎าตํางเป็นกระจกสีโดยศาลาสร๎างตํอจากมุขด๎าน
พระบรมธาตุมหาเจดีย๑โดยเจ๎าพระยาภาสกรวงศ๑ (พร บุนนาค ) ในปี พ.ศ.
2428 เพ่ืออุทิศให๎แกํทํานลูกอินผู๎มารดาและสมเด็จเจ๎าพระยาบรมมหา
ประยูรวงศ๑ ผู๎บิดาเดิมใช๎เป็นที่ศึกษาพระปริยัติธรรมของพระภิกษุสามเณร
และจารึกนามศาลานัน้ วํา “พรนิ ทรปรยิ ตั ธิ รรมศาลา”

สถานทตี่ ัง้ วดั ประยรุ วงศาวาสวรวหิ าร ถนนประชาธิปก แขวงวัดกัลยาณ๑
เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 (พิพิธภัณฑ๑พระประยูรภัณฑาคาร,
ม.ป.ป.)

7.แหล่งเรียนรกู้ รุงธนบรุ ีศกึ ษา
สบื เนือ่ งจากสํานักศลิ ปะและวฒั นธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบ๎านสมเด็จ

เจ๎าพระยา อันเป็นหนํวยงานที่รับผิดชอบและดําเนินงานด๎านการทํานุบํารุง
อนุรักษ๑ สํงเสริม เผยแพรํ และพัฒนาศิลปวัฒนธรรม ทั้งยังเป็นแหลํงรวม
องค๑ความรู๎ยํานฝ๓่งธนบุรี ในแงํประวัติศาสตร๑ ศิลปะวัฒนธรรม และสังคม
ประกอบกับป๓จจุบัน สํานักศิลปะและวัฒนธรรมมีฐานข๎อมูลและงานวิจัยท่ี
เก่ียวข๎องกับยํานธนบุรีเป็นจํานวนมาก จึงเล็งเห็นวําควรดําเนินการจัดทํา

69

โครงการกอํ สรา๎ งและปรับปรุง “แหลํงเรียนร๎ูกรุงธนบรุ ี” โดยมีมติเห็นชอบให๎
ป รั บ ป รุ งอา ค า ร ศ รี สุ ริ ย ว งศ๑ อัน เ ป็ น ท่ีทํา ก า ร ข อ งสํ า นั ก งา น แ ล ะ ภู มิ ทัศ น๑
โดยรอบ จดั ตัง้ เปน็ แหลงํ เรยี นร๎ูกรงุ ธนบุรี เพอื่ เปน็ แหลํงเรียนร๎ู สํงเสริม และ
เผยแพรํภูมิป๓ญญาของชุมชน ให๎แกํผ๎ูเข๎าชม อันได๎แกํ นักเรียน นักศึกษา
บุคคลากรภายในมหาวิทยาลัย และประชาชนท่ัวไป ทั้งยังเป็นการสนับสนุน
ใหอ๎ งค๑ความร๎ูเผยแพรอํ อกไปในวงกว๎างข้ึนสอดคล๎องกับยุทธศาสตร๑ของชาติ
ในด๎านการสร๎างเครือขํายทางวัฒนธรรม โดยบูรณาการกระบวนการทํานุ
บํารุงศิลปวัฒนธรรมให๎สอดประสานไปกับกิจกรรมการเรียนการสอน และ
กระบวนการพฒั นาการศึกษาของบคุ คลากรภายในมหาวิทยาลัย ตามภารกิจ
หลักของมหาวิทยาลัยด๎านการทํานุบํารุงศิลปวัฒนธรรม เนื้อหาของ ”แหลํง
เรยี นรู๎กรุงธนบุรีศึกษา” ถูกจัดแสดงเป็นห๎องตํางๆ จํานวน 10 ห๎อง โดยเลํา
เรอ่ื งราวผํานพฒั นาการของธนบรุ ี (Timeline) ตง้ั แตอํ ดีตจนถงึ ปจ๓ จุบัน

สถานท่ีตั้ง มหาวิทยาลัยราภัฏบ๎านสมเด็จเจ๎าพระยา ซอยอิสรภาพ 15
แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600

8.พระบรมราชานุสาวรีย์สมเดจ็ พระเจ้ากรงุ ธนบรุ ี
วงเวียนใหญํ เป็นวงเวียนที่ถนนประชาธิปก ถนนลาดหญ๎า ถนนสมเด็จ

พระเจ๎าตากสิน และถนนอินทรพิทักษ๑มาบรรจบกันในพ้ืนท่ีเขตธนบุรี
กรุงเทพมหานคร เปน็ ทต่ี ั้งของพระบรมราชานสุ าวรีย๑ พระบรมราชานุสาวรีย๑
สมเด็จพระเจ๎ากรุงธนบุรีสร๎างข้ึนเม่ือปี พ.ศ. 2496 ในสมัยจอมพล ป. พิบูล

70

สงคราม ออกแบบและควบคมุ การหลอํ โดยศาสตราจารยศ๑ ิลป์ พรี ะศรี ศิลปิน
ผ๎ูป้๓นคือนายแสวง สงฆ๑มั่งมี เป็นพระบรมรูปทรงเคร่ืองกษัตริย๑ ประทับบน
หลังม๎า ทรงพระมาลา เบี่ยงหันพระพักตร๑ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต๎
สจูํ นั ทรบรุ ี พระหัตถ๑ขวา ทรง พระแสงดาบชอู อกไปเหนอื พระเศียร พระหตั ถ๑
ซ๎ายทรงบังเหียน ทํานนําพลรุกไลํข๎าศึก โดยท่ีพระบรมราชานุสาวรีย๑แหํงนี้
ทางรัฐบาลได๎ให๎ประชาชนออกเงินบริจาคสร๎าง ทางราชการได๎ประกอบ
พระราชพิธเี ปดิ และถวายบงั คมพระบรมราชาอนสุ าวรยี ๑ ครง้ั แรกเม่ือวันท่ี 17
เมษายน พ.ศ. 2497 และในวันที่ 28 ธันวาคม ปีเดียวกัน จึงมีรัฐพิธีเปิดเป็น
ทางการอีกครั้งหน่ึง โดยพระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัวภูมิพลอดุลยเดช
เสด็จพระราชดําเนินทรงวางพวงมาลา ถวายราชสักการะ เนื่องจากในวันที่
28 ธันวาคม พ.ศ. 2310 เป็นวันที่สมเด็จพระเจ๎ากรุงธนบุรีทรงกอบกู๎เอกราช
ชาติไทยกลับคืนหลังจากการเสียกรุงครั้งท่ีสอง ปราบดาภิเษกข้ึนเป็น
พระมหากษัตริย๑แหํงกรุงธนบุรี ทางราชการจึงกําหนดให๎วันท่ี 28 ธันวาคม
ของทกุ ปีเปน็ วนั ถวายบงั คมพระบรมราชาอนสุ าวรีย๑สมเด็จพระเจ๎ากรุงธนบุรี
จะมีพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณของพระองค๑ ท่ีพระบรมราชานุสาวรีย๑
วงเวียนใหญํ (พระบรมราชาอนสุ าวรีย๑สมเด็จพระเจ๎ากรุงธนบรุ ี, 2563)

71

9.สถานรี ถไฟวงเวียนใหญ่
เป็นสถานีรถไฟระดับ 1 ตั้งอยํูท่ีถนนริมทางรถไฟ (วงเวียนใหญํ-ตลาดพลู)

ใกล๎วงเวียนใหญํ แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี เป็นสถานีต๎นทางของทางรถไฟ
สายแมกํ ลองเดมิ สถานตี น๎ ทางของรถไฟสายแมกํ ลองคอื สถานรี ถไฟปากคลอง
สาน แตํไมํมีการเดินรถชํวงปากคลองสาน-วงเวียนใหญํมาต้ังแตํวันที่ 1
มกราคม พ.ศ. 2504 สบื เนื่องจากมตคิ ณะรัฐมนตรี เมือ่ วนั ท่ี 24 พฤศจิกายน
พ.ศ. 2502 ในรัฐบาลจอมพลสฤษด์ิ ธนะรัชต๑ โดยรางรถไฟยังคงอยํู แตํราด
ยางมะตอยทบั ไว๎ใต๎พืน้ ถนน (วงเวียนใหญํ, 2563)

72

ประเพณแี ละวัฒนธรรม

1.ประเพณีศาสนาพทุ ธ

ประเพณสี งกรานต์วัดวดั ประยุรวงศาวาสวรวิหาร (นิกายหินยาน)
สงกรานต๑วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร จัดข้ึนทุกปีในชํวง วันสงกรานต๑

เดือนเมษายน มีการใหค๎ วามสําคัญกบั ประเพณีด้ังเดิมของชุมชน โดยมีความ
พิเศษคือ การรํวมกิจกรรมภายใต๎แนวคิด บวร หรือ บ๎าน โรงเรียน วัด โดย
การรวมตัวทํากิจกรรมของชาวบ๎านในทุกศาสนา ท้ังพุทธ คริสต๑ และอิสลาม
มาทํากิจกรรมรํวมกันอยํางสมัครสมานสามัคคี มีการประกวดการทํา
เมนูอาหารไทย ภาคกลาง เมนูขนมไทย ดังนั้นวันสงกรานต๑วัดประยุรวงศา
วาสวรวิหาร เป็นวันท่ีกํอให๎เกิดความสมัครสมานสามัคคีในชุมชน
(ประเพณีสงกรานตว๑ ดั ประยุรวงศาวงศ๑, ม.ป.ป.)

73

งานลอยกระทงวดั วัดประยุรวงศาวาสวรวหิ าร
ประเพณีลอยกระทง ลอยประทีปเทียนหอม ณ วัดประยุรวงศาวาส

วรวิหาร เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร จัดข้ึนโดยในชํวงเทศกาลลอยกระทง
ของทุกปี ในบรรยากาศการทํองเท่ียวงานมีการออกร๎านอาหารตามสะดวก
ตามอธั ยาศัย กจิ กรรมการแสดงวัฒนธรรมประเพณที ๎องถิ่น การประกวดร๎อง
เพลงสํงเสริมคุณธรรมจริยธรรม การไหว๎พระสวดมนต๑ขอพรหลวงพํอ
พระพุทธนาคองค๑ศักดิ์สิทธิ์ การจัดกิจกรรมงานของวัดมีทั้งชาวไทย และ
ชาวตํางชาติ ให๎ความสนใจเป็นจํานวนมาก (งานลอยกระทงวัดประยุรวงศา
วงศ๑, ม.ป.ป.)

74

สรงนํา้ พระหลวงพอ่ โต (ซาปอกง) ท้ิงกระจาดวัดกลั ยาณมิตร
ประเพณีสรงนํ้าหลวงพํอโต เป็นเทศกาลท่ีชาวไทยเช้ือสายจีนในยํานกุฎี

จีน และชาวไทยพุทธเช้ือสายจีนโดยทัว่ ไป ให๎ความสําคญั ซงึ่ ชาวไทยเชอ้ื สาย
จนี ทเี่ ปน็ เช้อื สายหลักท่ีอาศยั ในบริเวณชมุ ชนกุฎจี ีนจะนําข๎าวปลาอาหารแห๎ง
โดยเฉพาะข๎าวสารมาสักการะองค๑หลวงพํอโตหรือพระพุทธไตรรัตนนายก
(ซําปอกง) และบริจาคส่ิงของเหลําน้ันไว๎ที่วัด เป็นการเจริญเมตตาธรรมแกํ
ดวงวิญญาณ ที่ลํวงลับไปแล๎ว โดยนําเอาสิ่งของเครื่องใช๎ของผู๎ตาย และของ
ใช๎อ่ืน ๆ เพื่อให๎ทางวัดนําไปแจกจําย ให๎แกํผ๎ูยากไร๎ มีการนําไม๎แทํงเขียน
เบอร๑เป็นรางวัล โปรยออกไปให๎ผู๎คนมาแยํงกันแล๎วนํามาข้ึนสิ่งของตาม
หมายเลข พร๎อมเล้ียงอาหารฟรีตลอดงาน เพื่อเป็นขวัญกําลังใจให๎กับ
ประชาชน งานประเพณที ้งิ กระจาดจะจัดข้นึ หลังวนั สารทจนี ตรงกับวันท่ี 29
เดือน 7 (ตามปฏิทินจีน ชิกว่ัย ย่ีเก๎า) ประมาณปลายเดือนสิงหาคมหรือต๎น
เดือนกันยายน ตามปฏิทินไทย เร่ิมตั้งแตํเวลา 09.00 น. จนถึงเวลา 18.00
น. (สรงนํา้ พระหลวงพอํ โต (ซาปอกง) ทงิ้ กระจาดวดั กัลยาณมติ ร, ม.ป.ป.)

75

2.ประเพณีศาสนาครสิ ต์

วนั คริสตมาสของชาวกฎุ ีจนี
ชุมชนกฎุ ีจนี มีชาวไทยเชื้อชาตโิ ปรตเุ กส ท่นี บั ถอื ศาสนาคริสต๑นิกายโรมัน

คาทอลคิ ซง่ึ สําหรับชาวคาทอลิก ในชํวงคริสมาสต๑ จะมีการจัดงานประเพณี
วันคริสมาสต๑ นอกจากการเฉลิมฉลองท่ีจัดขึ้น เทศกาลน้ียังแฝงไปด๎วย
วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตอีกมากมาย ชาวชุมชนกุฎีจีนบริเวณรอบ
โบสถ๑ซางตาคร๎สู จะนาํ ดวงไฟและสายรุง๎ ออกมาประดบั ตามมุมตําง ๆ พร๎อม
ทงั้ เตรยี มอุปกรณแ๑ ละวัตถดุ บิ สําหรับสตู รอาหารหรือขนมเกําแกํที่สืบทอดกัน
มาต้ังแตํสมัยบรรพบุรุษ ซึ่งบางเมนูจะทําขึ้นเพ่ือเลี้ยงฉลองกันในแคํชํวง
เทศกาลน้ีเพยี งเทํานั้น นํามาซงึ่ เอกลกั ษณค๑ ริสตม๑ าสของชาวกุฎีจนี

ในวันท่ี 25 ธันวาคมของทุกปี มีความสําคัญซ่ึงเป็นวันประสูติของ
พระเยซูคริสต๑ ซึ่งประเพณีและการเฉลิมฉลองจะถูกจัดข้ึนต้ังแตํชํวงคํ่าของ
วันที่ 24 จนถึงหลังเท่ียงคืนของวันที่ 25 โดยจะมีประเพณีและกิจกรรม
ตําง ๆ อาทิ การทําพิธีมิสซา การรวํ มกนั ขบั รอ๎ งประสานเสียง และรับฟ๓งการ
อํานพระคัมภีร๑ ซ่ึงมีรายละเอียดคล๎ายคลึงกันแตํไมํเหมือนกันเสียทีเดียว
ระหวาํ งชาวคาทอลกิ และโปรเตสแตนต๑ (นิกายของชาวครสิ ต)๑ นอกเหนอื จาก
พิธีกรรมทางศาสนาในโบสถ๑แล๎วน้ัน ในบริเวณรอบโบสถ๑ ยังมีการจัดซ๎ุม
กิจกรรมและการละเลํนหรือเกมท่ีสร๎างความสนุกสนานให๎แกํเด็ก ๆ และ
บคุ คลทวั่ ไป เชนํ กจิ กรรมสอยดาวชิงรางวัล เกมบิงโก (Bingo) และการออก
ร๎านค๎าขายของ และมีการทําขนมตํางๆ ท่ีนอกเหนือขนม ฝร่ังกุฎีจีน ยังมี
ขนมหนา๎ นวล ขนมก๐วยตัด๊ และขนมกสุ รงั ทต่ี ํางหาชมิ ได๎ยากและสามารถติด
มอื ไปเปน็ ของฝากได๎อยาํ งดี ขนม “กสุ รงั ” หรือ “กดุ สลงั ” ทีม่ ีลักษณะคล๎าย
โบวค๑ ริสต๑มาส เดิมทเี รียกวําขนม “ตรษุ ฝรั่ง” เป็นขนมที่นิยมทําเพื่อนําไปให๎
ครอบครัวในชวํ งครสิ ต๑มาส หรอื ตรษุ ฝร่งั นน่ั เอง ขนมโบราณของชุมชนกุฎี
จีนจะทําข้ึนในครัวเรือนในชํวงเทศกาลคริสต๑มาส บางครอบครัวก็ทําแจก
กันเองภายในเครือญาติ เดิมทีขนมกุสรังจะมีรูปรํางเรียวยาวเป็นแทํงกลม
กํอนท่ีจะมาปรับเป็นรูปคล๎ายโบว๑ให๎มีความสวยงามและเข๎ากับเทศกาลมาก
ขึน้ สํวนผสมหลักซง่ึ มีความคลา๎ ยคลงึ กบั ขนมของชาวตะวนั ตก อาทิ แปง้ สาลี

76

เกลือ น้ํา น้ําตาลเช่ือม เนย และน้ํามันปาล๑มท่ีใช๎ทอด แตํจะมีความตํางกัน
ตรงข้ันตอนและวธิ กี ารทํา (วันคริสตมาสของชาวกุฎีจีน, ม.ป.ป.)

3.ประเพณีของศาสนาอสิ ลาม

การละหมาดของศาสนาอิสลาม
ในทุก ๆ วัน ชาวชุมชนมัสยิด ยังต๎องละหมาดวันละ 5 เวลา ได๎แกํ

(ยํ่ารุํง กลางวัน เย็น พลบค่ํา กลางคืน) เพราะถือเป็นการเข๎าเฝ้าตํอพระผ๎ูเป็นเจ๎า
โดยการสวดมนตต๑ อํ หน๎าพระองค๑ ทกุ ๆเย็น เมื่อกลับจากโรงเรียน เด็กๆ ก็จะ
พากันไปเรียนท่ีโรงเรียนสอนศาสนา เพื่อทราบในข๎อบัญญัติและส่ิงท่ีควร
ปฏิบัติในการเป็นมุสลิมท่ีดี และทุกวันศุกร๑ อิหมําม (ผู๎นําศาสนาอิสลาม
ประจํามัสยิด) ก็จะทําหน๎าที่ในการสั่งสอนคนในชุมชน (คล๎ายกับการข้ึน
เทศน๑แสดงธรรมของพระสงฆ๑) ซ่ึงเร่ืองที่พูดหรือส่ังสอนก็จะนํามาจาก
พระคัมภีร๑หรือเป็นเร่ืองสถานการณ๑ในขณะนั้น เชํน การพนัน ยาเสพติด
แมก๎ ระทั่งการทําหน๎าทผ่ี คู๎ ลายทุกข๑ เปน็ เหมอื นทพี่ ่ึงทางใจ สาํ หรับชาวชมุ ชน

77

วนั กวนอาซรู อ
จะมีเกี่ยวกับประวัติศาสตร๑ความเป็นมาของทํานศาสดาซึ่งเป็นที่มาของ

คําวํา “กวนอาซูรอ” ในด๎านประเพณีจะมี “วันฮารีรายอ” เป็นวันขึ้นปีใหมํ
ของชาวอิสลาม (วันตรุษอิสลาม หรือ วันตรุษอีด“วันอีด”) เป็นการเฉลิม
ฉลองของศาสนาอิสลาม (เหมือนวันขึ้นปีใหมํของไทย) โดยในวันนั้นจะมี
กิจกรรมตําง ๆ เชํน แตํงกายให๎สะอาดเรียบร๎อย รํวมกันทําพิธีละหมาดวัน
อีดทสี่ นามหรอื ในมัสยิด เย่ียมเยอื นญาตพิ ่ีนอ๎ ง รบั ประทานอาหารรวํ มกนั

การกวนขา้ วอาซรู อ
(ขนมอาซรู อ) เป็นประเพณีท๎องถิ่นของชาวไทยมุสลิม อาซูรอ เป็นภาษา

อาหรบั แปลวาํ การผสม การรวมกนั คอื การนาํ ส่ิงของทรี่ ับประทานได๎หลาย
สง่ิ หลายอยํางมากวนรวมกัน มีทัง้ ชนิดคาวและหวาน การกวนข๎าวอาซูรอจะ
ใชค๎ นในหมูํบา๎ นมาชวํ ยกันคนละไม๎คนละมอื เพอื่ ความสามคั คแี ละสรา๎ งความ
พรอ๎ มเพรียงเปน็ นํ้าหน่งึ ใจเดียวกัน อันมีผลตํอการอยํูรํวมกันของสังคมอยําง
มีความสุข กํอนจะแจกจํายให๎รับประทานกัน เจ๎าภาพจะเชิญบุคคลท่ีนับถือ
ของชมุ ชนขึ้นมากลําวขอพร (ดูอา) กอํ น จงึ จะแจกให๎คนทว่ั ไปรบั ประทานกนั

78

วันฮารรี ายอ (วนั ตรุษอิสลาม)
วันฮารีรายอ เป็นวันร่ืนเริงประจําปี ชาวมุสลิมจะไปเย่ียมเยียนพํอแมํ

ญาติพี่น๎อง เพ่ือนบ๎าน เพื่ออภัยตํอกันในสิ่งท่ีผํานมา เป็นวันท่ีทุกคนมี
ความสขุ มาก มสุ ลิมจะมีการประกอบพธิ ีกรรมไทยพร๎อมเพรียงกันท่ัวโลก ใน
วันอีดีลฟิตรี มุสลิมทุกคนจะต๎องจํายซะกาตฟิตเราะห๑ บริจาคทานแกํคน
ยากจนอนาถา สํวนในวันอีดิลอัฏฮา จะมีการเชือดสัตว๑พลี แล๎วจะทํากุรบัน
แจกจํายเน้ือเพื่อเป็นทานแกํญาติมิตร สัตว๑ท่ีใช๎ในการเชือดพลีได๎แกํ อูฐ วัว
แพะ เป็นการขัดเกลาจิตใจของมนุษยใ๑ หเ๎ ป็นผบู๎ ริจาค เปน็ การเอื้อเฟ้ือเผ่ือแผํ
ตอํ เพอ่ื นมนษุ ย๑

วันอดี
วนั อีดมี 2 วันในแตํละปี คือ อีดุลฟฏิ ริ หรือ ฮารีรายอปอซอ (ในวันท่ี 1

เดือนเชาวาล) เป็นเฉลิมฉลองที่ได๎ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน จะมีการ
ละหมาดทม่ี สั ยิด หากใครมีฐานะดี
ก็จะบริจาคเงินแกํเด็กและคนชรา
แ ล ะ ข อ อ ภั ย ญ า ติ มิ ต ร ห า ก เ ค ย
ลํวงเกินเลยตํอกันและ อีดุลอัฎหา
หรือฮารีรายอฮายี (ในวันท่ี 10
เดือนซุลหิจญะฮ๑ฺ) จะมีกิจกรรม
ใกล๎เคยี งกบั อดี ุลฟิฏ

ประเพณตี ามเดอื นตามระบบปฏิทนิ ฮิจเราะห์ มี 12 เดอื น ดงั นี้
เดือนที่ 1 มุฮัรรอม (‫ المح ّرم‬, “ต๎องห๎าม”) ได๎ช่ือน้ีมาเพราะเป็นการผิด

กฎหมายหากส๎ูรบกันในเดือนนี้ เป็นเดือนที่มีความศักด์ิสิทธิ์ท่ีสุดเป็นอันดับ
สองในปฏทิ นิ ฮิจเราะห๑ และมีวนั อาชูรออ๑

เดือนท่ี 2 เศาะฟ๓ร (‫ صفر‬, “วํางเปลํา”) คาดวําได๎ชื่อน้ีมาเพราะชาว
อาหรับนอกศาสนาปล๎นสะดมในเดือนน้ีและทิ้งให๎บ๎านวํางเปลํา บ๎างก็วํา
ชาวเมอื งเมกกะเดนิ ทางออกจากเมืองในเดือนน้ีจนเมืองวํางเปลํา

79

เดือนที่ 3 รอบีอลุ เอาวัล (‫ ربيع الأ ّول‬, “ฤดูใบไมผ๎ ลแิ รก”)
เดอื นท่ี 4 รอบีอุษษานี (‫ ربيع الثاني‬หรือ ‫ ربيع الآخر‬, “ฤดูใบไม๎ผลิ
ทีส่ อง (หรอื หลงั )”)
เดอื นท่ี 5 ๒มุ าดลั อลู า (‫جمادى الأولي‬, “เดอื นแรกท่ผี ืนดนิ แห๎งแล๎ง”)
เดือนท่ี 6 ๒ุมาดัษษานียะฮฺ ( ‫ جمادىالثانية‬, ‫ جمادىالآخرة‬, “เดือนท่ี
สอง (หรือหลัง) ทีผ่ ืนดินแห๎งแลง๎ ”)
เดือนท่ี 7 เราะญับ (‫ رجب‬, “เคํารพ” หรือ “ให๎เกียรติ”) เป็นเดือน
ต๎องห๎ามอีกเดอื นหนงึ่ ซ่งึ แตโํ บราณแลว๎ ห๎ามส๎ูรบกนั ในเดือนน้ี
เดือนที่ 8 ชะอ๑บาน (‫ َش ْعبَا ن‬,“กระจําย) ตรงกับชํวงท่ีเผําอาหรับ
กระจายกนั ไปหาน้าํ
เดือนท่ี 9 เราะมะฎอน (‫ رمضان‬, “ร๎อนจัด”) เป็นเดือนที่ศักด์ิสิทธิ์
ทสี่ ุดในปฏิทนิ ฮิจเราะห๑ ชาวมุสลมิ จะถอื ศีลอดในชํวงเช๎าจนถึงตะวันตกดนิ
เดือนที่ 10 เชาวาล (‫ َش َّوال‬, “ยก”) เป็นชํวงของปีท่ีอูฐตัวเมียยกหางข้ึน
หลังจากเกดิ ลกู แล๎ว

เดือนที่ 11 ซุลกิอฺดะฮฺ (‫ذو القعدة‬‎, “เดือนแหํงการพักรบ”)เป็นอีกเดือน

หนึง่ ท่ีสงครามถูกห๎าม

เดือนที่ 12 ซุลหิจญะฮฺ (‫ ذو الحجة‬, “เดือนแหํงการแสวงบุญ”) หมายถึง

การแสวงบุญไปยังเมกกะประจาํ ปขี องมุสลิม ท่ีเรียกวาํ หจั ญ๑
(ภมู ิป๓ญญาประเพณีของศาสนาอิสลาม, ม.ป.ป.)

80

ของฝากย่านเขตธนบุรี

1.ขนมฝรง่ั กุฎีจนี
ขนมฝร่ังกุฎีจีน เป็นขนมที่ขึ้นช่ือคํูกับชุมชนกุฎีจีนมาตั้งแตํอดีตจนถึง

ป๓จจุบัน เป็นขนมที่ได๎รับการถํายทอดจากชาวโปรตุเกส ซ่ึงอพยพมาจาก
กรุงศรีอยุธยา และไดเ๎ ขา๎ มาตัง้ ถน่ิ ฐานอยูํในบริเวณกุฎีจีน แตํเดิมเป็นขนมท่ี
ทําเลี้ยงกันเฉพาะในงานฉลองเทศกาลตรุษสารท ซึ่งเป็นงานบุญของชาว
คริสต๑เทํานั้น เชํน งานเสกป่าช๎า งานฉลองวัด หรือชํวงคริสต๑มาสโดยทํากิน
กันในหมํูญาติพี่น๎องสํวนใหญํแตํละบ๎านจะมีเตาเล็กขนาดทําขนมได๎ 10 ช้ิน
กํอไว๎สําหรับทําขนมฝรั่งโดยเฉพาะเคล็ดลับ
ค ว า ม อ รํ อ ย ใ น ก า ร ทํ า ข น ม คื อ สู ต ร
ท่ปี ระกอบด๎วย ไขํเป็ด แป้ง และนํ้าตาล โดย
ใช๎กรรมวธิ ใี นการทําแบบดั้งเดิม คือ อบด๎วยเตา
ท่กี ํอขึ้นเองแบบโบราณ และใช๎ฟ้นื จากไมก๎ ารบูร
หรือไม๎โกงกางเพ่ือดับกล่ินคาว จากไขํ โดยใช๎
อุณหภูมิทสี่ มาํ่ เสมอ ซึ่งทาํ ใหข๎ นมมีกล่ินหอม สีเหลือง สวย เนื้อข๎างในหวาน
นํุม แตํข๎างนอกกรอบอรํอยสามารถเก็บไว๎ได๎นานโดยไมํต๎องใสํผงฟูหรือสาร
กันบูด ขนมฝร่ังรุํนโบราณจะไมํหน๎า แตํป๓จจุบันได๎ประยุกต๑แตํงด๎วยผลไม๎
แห๎ง เชํน ลูกเกด พลับแห๎ง และช้ินฟ๓กแล๎วโรยหน๎าด๎วยน้ําตาลทรายขาวให๎
ฉาบตดิ บนเครื่องแตงํ หนา๎ (สํานกั งานเขตธนบรุ ี, 2549, น.117)

2.ขนมบดนิ
ขนมบดิน เป็นขนมอบเหมือนขนมเค๎ก มีท้ังแบบกรอบรํวนและแบบนิ่ม

สํวนมากท่ีขายกันนั้นมักเป็นแบบนิ่ม มีกล่ินหอม สํวนผสมท่ีใช๎ทําขนม
ประกอบด๎วย แป้งหม่ี 1 กิโลกรัม ไขํ 10 ฟอง นมขั้นหวาน 3-4 กระป๋อง
นา้ํ ตาลทรายขาว 2 กิโลกรัม เนยและผงฟเู ลก็ นอ๎ ย สํวนวิธีทํา ให๎นําสํวนผสม
ท้ังหมดมานวดรวมกันเหมือนโรตี ถ๎าต๎องการ ให๎น่ิมก็ผสมน้ํา 2 ถ๎วย แตํถ๎า
จะทําแบบกรอบผสมนํ้าเพียงถ๎วยเดียว เม่ือนวดเข๎ากันดีแล๎วใสํนํ้ามันพืชถ๎วย
เล็ก ๆ นวดให๎เข๎ากันอีกคร้ัง นําไปหมักไว๎หน่ึงคืน ตอนเช๎าจึงนําไปอบแบบ

81

ขนมหม๎อแกง สมัยกํอนอบด๎วยเตาฟืนแบบโบราณ นําขนมใสํถาดวางลงบน
เตา ปิดด๎านบนด๎วยสังกะสี ใสํไฟท้ังสองด๎านทิ้งไว๎ประมาณ 5 นาทีก็สุกถ๎า
ชอบหนา๎ ลกู เกดจะใสํไปดว๎ ยกไ็ ด๎

สถานท่ีตั้ง เลขที่ 366 ริมทางรถไฟ แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี
กรงุ เทพมหานคร 10600 (สํานักงานเขตธนบุรี, 2549, น.117)

3.ปลาทนู ่งึ วัดขนุ จนั ทร์
ปลาทูน่ึงวัดขุนจันทร๑ เป็นกิจการ

ข น า ด เ ล็ ก ทํ า กั น ใ น ค ร อ บ ค รั ว ท่ี ดํ า เ นิ น
กิจการมากวํา 40 ปี ต้ังอยูํในวัดขุนจันทร๑
ริมคลองบางกอกใหญํ แตํเดิมยํานนี้มี 2
โรงงานติดกัน ป๓จจุบันเหลือเพียงแหํงเดียว
วัตถุดิบสํวนใหญํจะซื้อมาจากมหาชัย มีทั้ง
ปล า ซ า ร๑ ดี น ป ล า โ อ ป ลา จ ะ ล ะ เ ม็ ด
นอกเหนือไปจากปลาทูซึ่งทําเป็นประจํา
เพื่อสร๎างความหลากหลายให๎กับสินค๎า เม่ือได๎ปลามาแล๎วจะต๎องเอาไส๎ออก
ลา๎ งให๎สะอาด จากนั้นจึงนําไปดองในน้ําเกลือ โดยใช๎เกลือเม็ดผสมกับน้ําต๎ม
ปลาท้ิงค๎างคืนไว๎เพ่ือนํามาใช๎เป็นนํ้าดองปลา ระยะเวลาในการดอง

82

ใช๎เวลาสั้น ๆ ประมาณ 10 นาที หรือดูวําเน้ือปลาไมํกลิ่นแล๎ว จึงนํามาเรียง
ใสํเขํง เขงํ ละ 2-3 ตวั แล๎วแตขํ นาดของปลา นําเขํงท่ีเรียงปลาเสรจ็ แล๎วมาจัด
ใสเํ ตาจากนน้ั จึงนําไปต๎มนานประมาณ 3 นาที หรือกวํานั้น หากเป็นปลาตัว
ใหญํทําให๎เก็บได๎ เพ่ือที่จะให๎สุกถึงกระดูกจากน้ันจึงนําไปขายท่ีตลาด
(สํานกั งานเขตธนบรุ ี, 2549, น.118)

4.ขนมหวานตลาดพลู
ขนมหวานตลาดพลู (เจ๎าเกํา) ร๎านขนมไทยเจ๎าเกําเปิดให๎บริการมานาน

กวาํ 25 ปี มีขนมไทยหลากหลายชนดิ ใหไ๎ ด๎เลอื กทาน ทงั้ ขนมชนั้ ใบเตย ตะโก๎
เผือก ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน ขนมหม๎อแกงโบราณ และอีก
มากมาย ทางร๎านทําขนมด๎วยความใสํใจในทุกข้ันตอน ทําให๎ได๎ขนมไทยสูตร
ดงั้ เดิมที่สมบรู ณ๑ในทงั้ รสชาติและหน๎าตา ใครผํานไปผาํ นมาแถวบรเิ วณสถานี
รถไฟตลาดพลู แวะไปซ้ือรับประทานหรอื ไปเป็นของฝากกไ็ ด๎

สถานทีต่ ง้ั เลขที่ 1119 ถนนเทอดไท ตลาดพลู ธนบรุ ี กรุงเทพฯ 10600
(ขนมหวานตลาดพลู, 2553)

83

5.กุยชา่ ยตลาดพลู
นึกถึงขนมกุยชํายต๎องที่ตลาดพลูมีให๎เลือกหลายร๎านหลากหลายความ

อรํอย ได๎แกํ ร๎านกุยชํายผมยาว ตลาดพลู คนขายเป็นหนุํมผมยาวท่ีจะเข็น
รถเข็นมาตั้งร๎านตอนเวลา 12.00 น. ความพิเศษของร๎านน้ีคือ เเป้งกุยชําย
หนานุมํ ไสก๎ ยุ ชาํ ยแนนํ

สถานที่ต้ัง ติดกับสถานีรถไฟตลาดพลู แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี
กรงุ เทพมหานคร 10600

ร้าน Papa Tiamsim ไมํได๎เป็นเพียงร๎านขายกุยชํายเพียงอยํางเดียว
โดยร๎านจะตกแตํงสไตล๑จีนนํานั่ง ภายในร๎านก็มีท้ังอาหารและเครื่องดื่มให๎
ลูกค๎าได๎เลือกทานกัน และท่ีขาดไมํได๎เลยคือ "กุยชําย" โดยกุยชํายของทาง
ร๎านมคี วามโดดเดนํ ตรงแป้งบางไสแ๎ นนํ และทส่ี ําคัญ น้าํ จมิ้ กเ็ ดด็ ไมํแพก๎ ัน

สถานท่ตี ้ัง โครงการทีบิสโฮม ถนนเทอดไท แขวง ตลาดพลู เขตธนบุรี
กรุงเทพมหานคร 10600

ร้านกุยช่ายตลาดพลูลี้ป๋อเง็ก เป็นอีกร๎านหน่ึงท่ีมีการสํงตํอความอรํอย
มาแบบรุํนสํูรํุนนานถึง 100 ปี อีกท้ังวัตถุดิบและขั้นตอนการป๓้นมีความ
พิถีพิถัน ทําให๎ได๎กุยชํายแป้งบางนํุมไส๎แนํน โดยจะมีให๎เลือกท้ังหมด 5 ไส๎
ดว๎ ยกนั ไดแ๎ กํ ผกั หนํอไม๎ มนั แกว เผอื ก และกะหลํา่ ปลี

สถานทต่ี ัง้ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600
รา้ นกุ๋ยช่ายอาม่า ตง้ั อยรํู มิ ทางรถไฟตลาดพลซู ่ึงเป็นรา๎ นทเ่ี ปน็ ท่ีรจู๎ ักกันดี
ในยํานน้ี โดยจุดเดํนของทางร๎านคือจะป้๓นกุยชํายใหมํทุกๆ 1 ชั่วโมง และตัว
น้าํ จมิ้ ของทางร๎านมรี สชาติกลมกลํอมกําลงั ดี เวลาทานจะให๎ความรู๎สึกละมุน
ล้ินกําลงั พอดี
ส ถ า น ท่ี ตั้ ง เ ล ข ท่ี 92 7 ริ ม ท า ง ร ถ ไ ฟ ต ล า ด พ ลู เ ข ต ธ น บุ รี
กรุงเทพมหานคร 10600
ร้านเซี๊ยฮ้อ กุยชํายตลาดพลู จุดเดํนของกุยชํายทางร๎านจะให๎ไส๎เยอะ
และป๓้นมาลูกพอดีคํา ทําให๎ทานสะดวกและงํายขึ้น ซึ่งมีไส๎ให๎เลือกถึง 5 ไส๎
ด๎วยกนั ได๎แกํ ไสผ๎ ักกวางตุ๎ง ไส๎กะหล่าํ ปลี ไส๎เผือก ไสห๎ นํอไม๎ ไส๎มนั แกว

84
สถานทตี่ ้ัง ถนน รัชดาภเิ ษก แขวง ตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
10600 (อาหยอํ ยรีววิ ดอทคอม, 2561).
6. หม่ีกรอบจนี หลี
หมี่กรอบจีนหลี หรือร๎านเต็กเฮงหม่ีกรอบ ร.5 เมนูจานเดํนของร๎านนี้ท่ี
ใครเข๎ามาน้ันต๎องส่ังมากินก็คือ “หม่ีกรอบ” แบบจีนไหหลํา ท่ีผัดขายกันมา
ต้ังแตํสมัยรัชกาลที่ 5 วํากันวําหม่ีกรอบที่น่ีเป็นหมี่กรอบที่ทํานทรงโปรด
จนถงึ ข้ันพระราชทานชือ่ เรียกให๎วาํ “หมก่ี รอบเสวยสวรรค๑” เลยทเี ดียว

สถานท่ตี ั้ง เลขที่ 326-330 แขวงตลาดพลู เขตธนบรุ ี กรุงเทพมหานคร
10600 (MGR Online, 2557).

85

บรรณานกุ รม

กรมการศาสนา. (2551). พระอารามหลวง 1. กรุงเทพฯ : ผแู้ ต่ง.
ชฎากาญน์ เจรญิ รบ, อารยา เกยี รติก้อง และ กมลศกั ดิ์ วงศศ์ รแี กว้ .

(2559). การถ่ายทอดภมู ิปญั ญา- ชมุ ชุน สาขาศิลปกรรมในเขต
ธนบุรี ด้วยระบบสารสนเทศภมู ิปญั ญาชมุ ชน (รายงานวจิ ัยฉบับ
สมบรู ณ)์ [The inheritance of Local wisdom in fine and
applied arts, at the Thonburi district by local wisdom
information system]. กรงุ เทพฯ : มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบรุ .ี
นพรัตน์ ถาวรศริ ภิ ทั ร. (2551). การศึกษาการออกแบบสถาปัตยกรรมเขต
พทุ ธาวาส วัดกลั ยาณมติ รวรมหาวหิ าร (วทิ ยานพิ นธป์ ริญญา
มหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร.
บ้านศิลปะไทย. [แหล่งสารสนเทศชุมชนบางไส้ไก่]. (ม.ป.ป.). กรุงเทพฯ :
ม.ป.พ.
เรอื นจนั ทนภาพ. [ป้ายประชาสมั พนั ธ์]. (2560). กรุงเทพฯ : ม.ป.พ.
วงเวยี นใหญ่. (2563). วกิ ิพเี ดยี สารานกุ รมเสรี. สบื คน้ 15 เมษายน 2563,
จาก https://th.wikipedia.org/wiki/วงเวยี นใหญ่
วดั กลางดาวคนอง. (2559). WATTHAI วดั เขตธนบรุ ี. สบื คน้ 11 เมษายน
2563, จาก http://watthaiapp.6te.net/
watkrangdow.html
วดั กันตทาราม. (2560). TALAD PHLU. สืบค้น 11 เมษายน 2563,
จาก https://taladphlumarket.wordpress.
com/วัดกันตทาราราม-ใหมจ่ ีนก/
วัดกระจับพินจิ . (2559). สืบคน้ 11 เมษายน 2563, จาก
http://watthaiapp.6te.net/watkrajub.html
วัดบางน้าชน. (2563). สืบค้น 11 เมษายน 2563,
จากhttps://watbangnamchon.com/
ป ร ะ วั ติ วั ด บ า ง น้า ช น /

86

วัดบางสะแกนอก. (2559). สืบคน้ 11 เมษายน 2563, จาก
http://watthaiapp.6te.net/watbangsakaenork.html

วัดบุคคโล. (2559). สืบค้นเม่ือ 11 เมษายน 2563, จาก
www.http://watthaiapp.6te.net/watbukkalow.html

วัดบุปผาราม วรวิหาร. (2562). สบื ค้น 11 เมษายน 2563, จากเว็บไซต์
http://www.watbuppha.org/wat/history1.php

วดั ราชวรินทร_์ วัดสา้ เหร่. (2560). In Facebook [Page type].
Retrieved April 11, 2020, from http://facebook.com
1904200069831619/posts/1904210186497274

วัดสันตธิ รรมาราม. (2559). สืบค้น 11 เมษายน 2563, จาก
http://watthaiapp.6te.net/watsantitummaram.html

วัดใหญ่ศรสี พุ รรณ. (2559). วดั ไทย. สืบค้น 11 เมษายน 2563,
จาก www.วดั ไทย./วดั ใหญศ่ รสี พุ รรณ-ธนบุรี

ศาลเจา้ เกียนอันเกง. (2561). วกิ ิพเี ดีย สารานุกรมเสรี. สืบคน้ 10
เมษายน 2563, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/ศาลเจา้
เกยี นอันเกง

ส้านกั งานเขตธนบรุ .ี (ม.ป.ป.).รวมประวตั ิ 30 ศาสนสถาน ยา่ นเขตธนบุร.ี
กรงุ เทพฯ : ส้านักงาน.

---------- . (2549). วัดประดิษฐาราม. ใน ย้อนอดีต ธนบรุ ี : 90 ปี เขต
ธนบรุ ี (น.54). กรงุ เทพฯ : ม.ป.พ.
ผูแ้ ตง่ .

---------- . (2558). ขนมกสุ รัง หรือกดุ สลัง. สบื ค้น 13 เมษายน 2563, จาก
http://203.155.220.217/thonburi/myweb/ travel_kadeejeen/
buy_kadeejeen12.html

สารสนเทศทอ้ งถ่นิ ธนบรุ ี คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั
ราชภฏั บา้ นสมเดจ็ เจา้ พระยา. (ม.ป.ป.). ขนมฝร่ังกุฎจี นี .
(ม.ป.ป.). สบื คน้ 15 เมษายน 2563, จาก
http://human.bsru.ac.th/localinformation/?page_id=493

87

สารสนเทศท้องถน่ิ ธนบุรี คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัย
ราชภฏั บา้ นสมเด็จเจา้ พระยา. (ม.ป.ป.). ขนมหวานตลาดพล.ู
(ม.ป.ป.). สืบคน้ 15 เมษายน 2563, จาก
http://human.bsru.ac.th/localinformation/?page_id=493

---------- . (ม.ป.ป.). ขลุ่ยบา้ นลาว. สืบคน้ 15 เมษายน 2563,จาก
http://human.bsru.ac.th/localinformation/?page_id=493

---------- . (2558). จดุ สนใจในยา่ นกะดีจนี . สบื คน้ 12 เมษายน 2563,
จาก http://www.bangkok.go.th/
thonburi/page/sub/1080/ประวตั แิ ละขอ้ มลู ท่ัวไป
ของเขตธนบรุ ี

---------- . (ม.ป.ป.). งานลอยกระทงวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร. สืบค้น
15 เมษายน 2563, จาก http://human.bsru.ac.th/
localinformation/?page_id=493

---------- . (ม.ป.ป.). บา้ นป่พี าทยต์ ระกลู พาทยโกศล. สบื ค้น 15 เมษายน
2563, จาก http://human.bsru.ac.th/
localinformation/?page_id=493

---------- . (2558). บา้ นวินด์ิเซอร์ สถาปตั ยกรรมเรอื นไมแ้ บบขนมปงั ขงิ .
สืบคน้ 14 เมษายน 2563, จากhttp://203.155.220.217/
thonburi/myweb/travel_kadeejeen/see_kadeejeen5
1.html

---------- . (ม.ป.ป.). ประเพณสี งกรานตว์ ัดวดั ประยรุ วงศาวาสวรวหิ าร.
สืบค้น 15 เมษายน 2563, จากhttp://human.bsru.ac.th/
localinformation/?page_id=493

---------- . (ม.ป.ป.). ปลาสม้ บ้านลาว. สืบค้น 15 เมษายน 2563, จาก
http://human.bsru.ac.th/localinformation/?page_id=493

---------- . (ม.ป.ป.). พพิ ิธภัณฑ์บา้ นกุฎีจนี . สืบค้น 15 เมษายน 2563,
จาก http://human.bsru.ac.th/

88

สารสนเทศท้องถิน่ ธนบรุ ี คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัย
ราชภฏั บ้านสมเดจ็ เจา้ พระยา. (ม.ป.ป.).
ภมู ิปญั ญาประเพณีของศาสนาอิสลาม. สืบคน้ 15 เมษายน 2563,
จากhttp://human.bsru.ac.th/ localinformation/?
page_id=493

---------- . (2558). มัสยดิ นรู ลุ้ มบู่ นี . สืบคน้ 13 เมษายน 2563
จาก http://203.155.220.217/thonburi/myweb
/travel_hiranruchi/10_travel_hiranruchi.html

---------- . (ม.ป.ป.). วัดอนิ ทารามวรวหิ าร. สืบค้น 11 เมษายน 2563,
จาก http://human.bsru.ac.th/localinformation/?
page_id=575

---------- . (ม.ป.ป.). วนั คริสตมาสของชาวกฎุ จี ีน. สืบคน้ 15 เมษายน
2563, จากhttp://human.bsru.ac.th/
localinformation/?page_id=493

---------- . (ม.ป.ป.). สรงน้าพระหลวงพอ่ โต (ซาปอกง) ท้ิงกระจาดวัด
กัลยาณมิตร. สบื คน้ 15 เมษายน 2563, จาก
http://human.bsru.ac.th/localinformation/?page_id=493

---------- . (ม.ป.ป.). หมกู ระดาษออมสินบา้ นหมกู ระดาษ. สืบค้นเมือ่ 13
เมษายน 2563, จาก
http://human.bsru.ac.th/localinformation/?page_id=459

สา้ นักงานเขตธนบุร.ี (2558). ประวัติและขอ้ มลู ท่ัวไปของเขตธนบรุ ี.
สืบค้น 12 เมษายน 2563, จาก http://www.bangkok.go.th/
thonburi/page/sub/1080/ประวตั แิ ละขอ้ มลู ทว่ั ไป
ของเขตธนบรุ ี

-------- . (2558). สถานท่ีท่องเทีย่ วย่านหริ ัญรจู ี. สืบค้น 12 เมษายน
2563,จาก http://203.155.220.217/ thonburi/myweb/
travel_hiranruchi/

89

สา้ นักงานเขตธนบรุ .ี (2558). พิพิธภัณฑ์ทอ้ งถน่ิ กรุงเทพมหานครเขต
ธนบุรี. สืบคน้ 14 เมษายน 2563, จาก
http://203.155.220.217/ thonburi/myweb/
travel_kadeejeen/see_kadeejeen11.html

ไหว้พระขอพร 99 วัด. (2546). กรงุ เทพฯ : วันเวลิ ด์.
อาหย่อยรีววิ ดอทคอม. (2561). ร้านกยุ ช่ายตลาดพลู : 5 รา้ นกยุ ชา่ ยเจา้

เดด็ ย่านตลาดพลู คดิ ถงึ เมอ่ื ไหรต่ อ้ งแวะมา.สืบค้น 19 เมษายน
2563,จาก https://www.ryoiireview.com/article/gui-chai-
food-talat-phlu/
MGR Online. (2557). กยุ ช่ายตลาดพลูของกินระดบั ตา้ นานที่ต้องต่อคิว
ซื้อ นา้ ทัพหลากเมนคู วามอร่อยแหง่ "ตลาดพลู" .สบื ค้น 19 เมษายน
2563,จาก https://mgronline.com/travel/ detail/9570000104912


Click to View FlipBook Version