แผนการจัดการเรียนรู้ พลศึกษา เรื่อง เกมเบ็ดเตล็ด ป.3 คุณครูพัชรา ผมน้อย

แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการประเมนิ
ภาค ค ความเหมาะสมกบั ตำแหนง่ วชิ าชีพ
และการปฏิบัตงิ านในสถานศกึ ษา ตำแหน่งครูผูช้ ่วย

จัดทำโดย
นางสาวพชั รา ผมนอ้ ย

กลุม่ วชิ าพลศึกษา

แผนการจดั การเรยี นรู้รายครั้ง
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3
รายวชิ า สุขศึกษาและพลศกึ ษา 3 รหัส พ13101

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 ม่ันใจในลลี า
แผนการจัดการเรยี นรู้รายครง้ั เรื่อง เกมเบด็ เตล็ด 1

จดั ทำโดย
นางสาวพัชรา ผมน้อย
ตำแหน่ง ..................

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
โรงเรยี น..........................................
สังกัด ..............................................
อำเภอ................. จังหวดั ...............

จดุ หมายรายวิชา

สถานศึกษา …………………………………..
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา
รหัสและชื่อรายวิชา พ13101 รายวชิ า สุขศกึ ษาและพลศึกษา 3
จำนวนหน่วยกติ 1 หน่วยกิต
หลักสตู ร  รายวิชาพน้ื ฐาน  รายวิชาเพม่ิ เตมิ
ครูผูส้ อน นางสาวพัชรา ผมนอ้ ย
ภาคเรยี นท่ี 1-2 ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3

จดุ หมายรายวชิ า(เพื่อใหน้ กั เรียน)
มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องลักษณะการเจริญเติบโตของร่างกายมนุษย์ และปัจจัยที่มีผลต่อการ

เจรญิ เตบิ โต พัฒนาการของรา่ งกายตามเกณฑ์มาตรฐาน
มีความร้คู วามเข้าใจในเรื่องความสำคญั และความแตกต่างของครอบครวั ทมี่ ีต่อตนเอง
มคี วามรูค้ วามเข้าใจในเรื่องวิธีสรา้ งความสัมพนั ธใ์ นครอบครวั และกลมุ่ เพ่ือน
มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการหลกี เล่ียงพฤตกิ รรมท่จี ะนำไปสูก่ ารลว่ งละเมิดทางเพศ
มีความรู้ความเขา้ ใจในเรอ่ื งความสำคญั ของการติดต่อและการป้องกนั การแพร่กระจายของโรค
มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในเรื่องเลือกรับประทานอาหารอาหารหลกั 5 หมทู่ ่ีเหมาะสม
มีความรู้และทักษะการแปรงฟันใหส้ ะอาดอยา่ งถูกวธิ ี
มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องเสร้างเสริมสุขภาพและปฏิบัติการทดสอบสมรรถภาพทางกายตาม

คำแนะนำ
มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องความปลอดภัยจากอุบัติเหตุในบ้าน โรงเรียนและการเดินทาง การขอ

ความช่วยเหลอื เม่ือเกิดเหตุรา้ ยจากแหลง่ ต่าง ๆ
มีทักษะในการควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกาย แบบอยู่กับที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบอย่างมี

ทศิ ทาง

ตาราง แผนการจัดการเรยี นรรู้ ะยะยาว

หนว่ ยการเรียนรู้ สปั ดาห์ ระยะเวลา หัวข้อเรอ่ื ง กจิ กรรม สอื่ /แหลง่ ชิ้นงานของ การประเมนิ
1. การ ที่ (ชวั่ โมง) การเรยี นรู้ การเรียนรู้ นกั เรียน การเรียนรู้
เจริญเติบโตและ ลักษณะและการ หนังสือ
พฒั นาการของ 1-3 3 เจริญเตบิ โตของ ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน แบบเรยี นสุข แบบฝึกหดั แบบประเมนิ
มนุษย์ ร่างกายมนษุ ย์ ขน้ั อธิบายและสาธติ ศกึ ษาและพล ใบงาน
4-6 3 ขน้ั ฝกึ ปฏิบตั ิ ศกึ ษา
2. ครอบครวั ดีมี เปรียบเทยี บการ ขั้นนำไปใช้ แบบฝกึ หัด แบบประเมนิ
สขุ 7-8 2 เจริญเตบิ โตของตนเอง ขั้นสรุป หนังสือ ใบงาน
กับเกณฑม์ าตรฐาน แบบเรยี นสุข
3. การลว่ งละเมิด 9 - 10 2 ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน ศึกษาและพล แบบฝึกหดั แบบประเมิน
ทางเพศในเดก็ ปัจจัยทีม่ ีผลต่อการ ขน้ั อธิบายและสาธติ ศึกษา ใบงาน
11-12 2 เจริญเติบโต ขน้ั ฝึกปฏิบตั ิ
4. สนกุ กบั การ ขน้ั นำไปใช้ หนังสือ แบบฝึกหดั แบบประเมิน
เคล่อื นไหว 13-14 2 ความสำคญั และความ ขน้ั สรปุ แบบเรยี นสขุ ใบงาน
แตกตา่ งของครอบครัว ศกึ ษาและพล
5. ม่ันใจในลลี า 1-4 4 ที่มตี อ่ ตนเอง ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น ศึกษา แบบฝึกหัด แบบประเมิน
ขน้ั อธบิ ายและสาธิต ใบงาน
5-6 2 วธิ สี รา้ งสมั พนั ธภาพใน ข้ันฝกึ ปฏบิ ัติ หนังสือ
ครอบครัวและกลมุ่ ขั้นนำไปใช้ แบบเรียนสขุ แบบฝึกหัด แบบประเมนิ
เพอื่ น ขั้นสรุป ศึกษาและพล ใบงาน
ศึกษา
วธิ ีหลกี เลย่ี งพฤตกิ รรม ขัน้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น - แบบประเมนิ
ทีน่ ำไปส่กู ารล่วง ขน้ั อธบิ ายและสาธิต หนงั สอื
ละเมิดทางเพศ ขน้ั ฝกึ ปฏบิ ตั ิ แบบเรยี นสุข - แบบประเมิน
ขน้ั นำไปใช้ ศกึ ษาและพล
เคลอ่ื นไหวร่างกาย ขน้ั สรปุ ศกึ ษา
ขณะอยูก่ บั ท่ี เคล่อื นที่
และใช้อุปกรณป์ ระกอบ ข้ันนำเข้าสู่บทเรยี น หนังสอื
ขั้นอธิบายและสาธิต แบบเรยี นสขุ
การเคล่ือนไหวรา่ งกาย ขั้นฝึกปฏบิ ัติ ศกึ ษาและพล
ในรูปแบบต่างๆ ขั้นนำไปใช้ ศึกษา
ประกอบการเล่นเกม ขั้นสรุป
- สนามกฬี า
ขั้นนำเข้าสู่บทเรยี น - อุปกรณก์ ฬี า
ขั้นอธิบายและสาธติ
ขั้นฝึกปฏิบัติ - สนามกีฬา
ขั้นนำไปใช้ - อุปกรณก์ ีฬา
ขั้นสรุป

ขั้นนำเข้าสู่บทเรยี น
ขั้นอธิบายและสาธติ
ขั้นฝึกปฏบิ ตั ิ
ขั้นนำไปใช้
ข้ันสรปุ

ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน
ขั้นอธบิ ายและสาธิต
ขั้นฝกึ ปฏบิ ัติ
ขั้นนำไปใช้

หนว่ ยการเรยี นรู้ สัปดาห์ ระยะเวลา หัวขอ้ เร่ือง กิจกรรม สื่อ/แหลง่ ช้ินงานของ การประเมิน
ที่ (ชั่วโมง) การเรียนรู้ การเรียนรู้ นกั เรยี น การเรยี นรู้
7-8 ขน้ั สรปุ
9 และการละเลน่ ขน้ั นำเขา้ ส่บู ทเรยี น - สนามกีฬา - แบบประเมนิ
พ้นื เมือง ขั้นอธบิ ายและสาธติ - อปุ กรณก์ ฬี า
10-15 2 ความหมายและ ขั้นฝกึ ปฏิบัติ 1. ครู 1. ประเมิน
16-20 ความสำคญั ของการ ขั้นนำไปใช้ - ภาพเกมเสือ มอบหมาย ความร้แู ละ
เคล่ือนไหวรา่ งกาย ขน้ั สรปุ กินววั ให้นักเรียน ความเข้าใจ
ประกอบการเล่นเกม ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น - หน้ากากเสือ นำเกมที่ได้ ดว้ ย
และการละเล่น ขน้ั อธิบายและสาธิต - หนา้ กากวัว ฝกึ ปฏิบตั ิใน แบบทดสอบ
พ้ืนเมือง ขน้ั ฝกึ ปฏิบัติ - หนา้ กากรั้ว ชวั่ โมง ไป (K)
1 เกมเบ็ดเตล็ด 1 ขน้ั นำไปใช้ - นกหวดี พาบุคคลใน 2. ประเมิน
ขัน้ สรุป - อุปกรณก์ ีฬา ครอบครวั การปฏิบัติ
6 เกมเบ็ดเตล็ด 2 - สนามกฬี าของ หรอื เพื่อนๆ กิจกรรมด้วย
ขน้ั นำเข้าส่บู ทเรียน โรงเรยี น เลน่ ในเวลา แบบประเมิน
4 กฎ กติกาและข้อตกลง ขน้ั อธบิ ายและสาธติ วา่ ง (P)
ของการออกกำลังกาย ขน้ั ฝกึ ปฏบิ ตั ิ - สนามกีฬา 2. ให้ 3. ประเมิน
ขน้ั นำไปใช้ - อุปกรณก์ ฬี า นักเรยี นคิด ความความใฝ่
ขน้ั สรุป เกม เรยี นรดู้ ว้ ย
ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรยี น - สนามกฬี า เบด็ เตล็ดมา แบบสังเกต
ข้นั อธบิ ายและสาธิต - อุปกรณ์กีฬา คนละ 1 (A)
เกม หรือจะ
สบื คน้ เกม แบบประเมนิ
เบด็ เตลด็
จาก You แบบประเมิน
Tube มาก็
ได้ เพื่อ
นำเสนอการ
เลน่ ให้
เพื่อนๆ ดใู น
ชั่วโมงตอ่ ไป

-

-

หนว่ ยการเรียนรู้ สปั ดาห์ ระยะเวลา หัวขอ้ เรอ่ื ง กจิ กรรม สื่อ/แหลง่ ชิ้นงานของ การประเมนิ
ท่ี (ชว่ั โมง) การเรยี นรู้ การเรียนรู้ นกั เรียน การเรยี นรู้
6 . ออกกำลงั กาย 1-2 การเล่นเกม
คลายเครียด 3-4 2 การละเล่นพ้ืนเมอื ง ขั้นฝกึ ปฏบิ ตั ิ - สนามกฬี า - แบบประเมิน
2 ขั้นนำไปใช้ - อปุ กรณก์ ีฬา
7. รู้เทา่ ทนั 5-16 12 แนวทางการเลือกออก ขั้นสรปุ - แบบประเมนิ
ปอ้ งกันโรค 15-20 6 กำลงั กาย - สนามกีฬา
8. อาหารเพ่ือ 1-4 4 ขั้นนำเขา้ สู่บทเรยี น - อปุ กรณ์กฬี า - แบบประเมนิ
สขุ ภาพ 5-8 4 เลอื กออกกำลงั กาย ขน้ั อธิบายและสาธติ
9-10 2 การละเลน่ พื้นเมอื ง ขั้นฝึกปฏิบตั ิ - สนามกีฬา แบบฝกึ หดั แบบประเมนิ
9. สุขภาพฟันดี 17-20 4 และเล่นเกมท่ี ขั้นนำไปใช้ - อุปกรณก์ ีฬา ใบงาน
เหมาะสมกบั จดุ เดน่ ขั้นสรปุ
10. เสรมิ สร้าง จดุ ดอ้ ย หนังสือ แบบฝกึ หัด แบบประเมิน
สมรรถภาพและ การออกกำลังกาย ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรยี น แบบเรียนสุข ใบงาน
ทดสอบ เกมและการละเล่น ขน้ั อธิบายและสาธติ ศกึ ษาและพล
พ้ืนเมือง ขน้ั ฝึกปฏบิ ตั ิ ศกึ ษา แบบฝึกหัด แบบประเมนิ
ขน้ั นำไปใช้ ใบงาน
การตดิ ต่อและ ขน้ั สรุป หนังสอื
วิธีการป้องกนั การ แบบเรยี นสุข แบบฝกึ หัด แบบประเมนิ
แพร่กระจายของ ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน ศกึ ษาและพล ใบงาน
โรค ขั้นอธิบายและสาธติ ศึกษา
อาหารหลกั 5 หมู่ ขั้นฝกึ ปฏิบัติ - แบบประเมิน
ขั้นนำไปใช้ หนงั สอื
การเลือกกินอาหาร ขั้นสรุป แบบเรียนสุข
ทเี่ หมาะสม ศกึ ษาและพล
ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น ศกึ ษา
การแปรงฟันให้ ขนั้ อธบิ ายและสาธิต
สะอาดอยา่ งถูกวิธี ขน้ั ฝึกปฏิบัติ หนงั สอื
ขน้ั นำไปใช้ แบบเรียนสุข
การเสริมสรา้ ง ขน้ั สรปุ ศึกษาและพล
สมรรถภาพทางกาย ศึกษา
เพอ่ื สขุ ภาพ ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน
ขั้นอธบิ ายและสาธิต - สนามกีฬา
ขั้นฝึกปฏิบัติ - อปุ กรณ์กีฬา
ขนั้ นำไปใช้
ขน้ั สรุป

ขั้นนำเขา้ ส่บู ทเรยี น
ขน้ั อธิบายและสาธิต
ขน้ั ฝกึ ปฏบิ ัติ
ขน้ั นำไปใช้
ขั้นสรุป

ขั้นนำเขา้ ส่บู ทเรียน
ขน้ั อธิบายและสาธิต
ขน้ั ฝกึ ปฏบิ ตั ิ
ขน้ั นำไปใช้
ขั้นสรุป

ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน
ขั้นอธิบายและสาธติ
ขั้นฝกึ ปฏบิ ัติ

หนว่ ยการเรยี นรู้ สปั ดาห์ ระยะเวลา หัวขอ้ เรื่อง กิจกรรม สอื่ /แหล่ง ชิน้ งานของ การประเมิน
สมรรถภาพทาง ที่ (ช่วั โมง) การเรียนรู้ การเรยี นรู้ นกั เรยี น การเรยี นรู้
กาย วธิ ปี ฏิบัตติ นเพือ่ ความ
11. ระวงั ดไี มม่ ี 11-13 3 ปลอดภยั จากอุบตั ิเหตุ ขน้ั นำไปใช้ หนงั สือ แบบฝกึ หดั แบบประเมิน
อุบตั ิเหตุ ในบ้าน โรงเรยี น ขัน้ สรุป แบบเรียนสุข ใบงาน
14-16 3 และการเดนิ ทาง ศกึ ษาและพล
12. ช่วยถกู ช่วยดี ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรียน ศกึ ษา แบบฝึกหัด แบบประเมนิ
ชีวมี ีสุข 17-20 4 การขอความชว่ ยเหลือ ขน้ั อธบิ ายและสาธิต ใบงาน
จากบคุ คลและแหลง่ ขั้นฝึกปฏบิ ัติ หนังสอื
ตา่ ง ๆ เมอื่ เกดิ ขัน้ นำไปใช้ แบบเรียนสขุ แบบฝกึ หัด แบบประเมิน
เหตรุ า้ ยหรอื อุบตั เิ หตุ ขั้นสรปุ ศึกษาและพล ใบงาน
ศกึ ษา
การบาดเจบ็ จากการ ขั้นนำเขา้ สูบ่ ทเรยี น
เล่น ขน้ั อธบิ ายและสาธติ หนังสอื
- ลกั ษณะของการ ขน้ั ฝกึ ปฏบิ ัติ แบบเรียนสุข
บาดเจบ็ ขน้ั นำไปใช้ ศกึ ษาและพล
- วธิ ีปฐมพยาบาล ขั้นสรปุ ศกึ ษา

ขั้นนำเขา้ สู่บทเรยี น
ขั้นอธิบายและสาธิต
ขั้นฝกึ ปฏบิ ัติ
ขน้ั นำไปใช้
ขน้ั สรุป

เกณฑ์การประเมิน

0-49 คะแนน ระดบั ผลการเรยี น 0 65-69 คะแนน ระดบั ผลการเรียน 2.5
50-54 คะแนน ระดับผลการเรียน 1 70-74 คะแนน ระดบั ผลการเรียน 3
55-59 คะแนน ระดับผลการเรยี น 1.5 75-79 คะแนน ระดบั ผลการเรียน 3.5
60-64 คะแนน ระดบั ผลการเรียน 2 80-100 คะแนน ระดบั ผลการเรยี น 4

เอกสารประกอบการศึกษา
- หนงั สอื แบบเรียนสขุ ศึกษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3

การวิเคราะหเ์ นอ้ื หาและกระบวนการ

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชี้วัด

สาระท่ี 3 การเคลือ่ นไหว การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ 3.1 : เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม

ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง มาตรฐานดา้ นเ
(Content Stan

พ 3.1 ป.3/2 เคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกายทใ่ี ช้ 1. ความหมายของกา

ร่างกายท่ีใช้ทักษะการ ทักษะการเคล่ือนไหวแบบ เคลื่อนไหว (Main Id
เคลอื่ นไหวแบบบังคบั
ทิศทางในการเล่นเกม บังคับทศิ ทางในการเล่น - ประเภทของกา

เกมเบ็ดเตลด็ เคลอื่ นไหว

เบ็ดเตล็ด 2. ความหมายของเก
(Main Idea)
3. วิธกี ารเล่นเกมเบด็

(Main Idea)
4. ประโยชน์ที่ไดร้ บั จ
เกมเบด็ เตล็ด (Main

กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3
โรงเรยี น....................................................................

รใหส้ อดคล้องกับตวั ชว้ี ดั ของหลกั สตู ร

ล

และกฬี า

เน้อื หา มาตรฐานด้านกระบวนการ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ndards) (Performance Standards)

าร 1. บอกความหมายของการ - ใฝเ่ รยี นรู้ (A)

dea) เคลอ่ื นไหว (K)

าร 2. บอกประเภทของการเคล่ือนไหว

(K)

กมเบ็ดเตล็ด 3. บอกความหมายของเกม

เบ็ดเตลด็ (K)

ดเตลด็ 4. ปฏบิ ัตติ ามวิธีการเลน่ เกม

เบด็ เตล็ด อยา่ งรว่ มมือรวมพลงั

จากการเลน่ ด้วยความใฝ่เรียนร้(ู P1)

n Idea) 5. นักเรยี นนำความรู้ที่ได้จากการ

เล่นเกมประยุกต์ใช้กบั การ

เคล่ือนไหวร่างกายเบ้ืองต้นโดยการ

สรา้ งเกมอยา่ งง่ายเลน่ กบั ครอบครัว

และเพ่ือนรว่ มชนั้ เรียน (P2)

แผนการจดั เรียนรู้รายคร้งั

แผนการจดั การเรยี นรู้ เรอื่ ง เกมเบ็ดเตลด็ 1

กลุ่มสาระการเรียนร้สู ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา รหัสวชิ า พ13101 รายวชิ า สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 3

ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 เวลาสอน 1 ช่ัวโมง ครูผสู้ อน นางสาวพัชรา ผมน้อย

**********************************************************************************

มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชว้ี ดั

สาระท่ี 3 : การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเลน่ เกม กีฬาไทยและกีฬาสากล

มาตรฐาน พ 3.1 : เข้าใจ มีทกั ษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา

ตัวชี้วดั พ 3.1 ป.3/2 เคล่ือนไหวร่างกายทใ่ี ชท้ ักษะการเคลื่อนไหวแบบบงั คบั ทิศทางในการเล่นเกม

เบ็ดเตลด็

1.วัตถุประสงค์การเรยี นรู้ (นักเรยี นสามารถ)
1. บอกความหมายของการเคลื่อนไหวได้ (K)
2. บอกประเภทของการเคลอ่ื นไหวได้ (K)
3. บอกความหมายของเกมเบ็ดเตล็ดได้ (K)
4. ปฏิบัติตามวธิ กี ารเล่นเกมเบด็ เตลด็ อย่างรว่ มมือรวมพลัง ด้วยความใฝ่เรียนรู้ได้ (P1)
5. นักเรียนนำความรูท้ ี่ไดจ้ ากการเล่นเกมประยุกต์ใช้กบั การเคลือ่ นไหวรา่ งกายเบื้องต้นโดยการสรา้ ง

เกมอย่างง่ายเล่นกบั ครอบครัวและเพื่อนรว่ มชั้นเรยี นได้ (P2)

2.สาระการเรียนรู้
2.1 ความรู้
1. การเคลือ่ นไหวของรา่ งกาย
การเคล่อื นไหว คอื การเปลี่ยนแปลงตำแหนง่ ท่ีตอ่ เน่ืองกนั โดยส่วนทเี่ กี่ยวข้องท่ีทำใหเ้ กิด

การเคลื่อนไหว ไดแ้ ก่ กลไก การทำงานของข้อต่อ กลา้ มเน้ือและระบบประสาท
การเคล่ือนไหวของรา่ งกาย มี 3 แบบ
1. การเคลือ่ นไหวร่างกายแบบอยกู่ บั ท่ี การเคล่ือนไหวร่างกายแบบอยู่กับท่ี เป็นการ

เคล่ือนไหวทีป่ ฎบิ ตั ิโดยไม่มีการเคล่อื นที่ของร่างกาย เชน่ การก้มหน้า การบิดตวั การยกเขา่ ไปด้านหลงั เป็น
ต้น

2. การเคลอ่ื นไหวร่างกายแบบเคลื่อนที่ การเคล่ือนไหวรา่ งกายแบบเคลอ่ื นท่ี เป็นการ
ปรบั เปลี่ยนลกั ษณะทา่ ทางของร่างกายเพ่อื ปฏบิ ตั ิกิจกรรมท่ีทำให้รา่ งกายเคล่อื นที่ไปยังทิศทางต่างๆ เชน่ การ
นอนกลิ้ง การคลาน การเดนิ การวิ่ง เปน็ ตน้

3. การเคลื่อนไหวรา่ งกายแบบใชอ้ ุปกรณ์ประกอบ เป็นกจิ กรรมทางกาย ทผี่ ู้ปฏิบตั ติ ้องมี
ทกั ษะในการเคลื่อนไหวแบบผสมผสานและยงั ต้องมที ักษะการใชอ้ ุปกรณค์ วบคู่กนั ไปดว้ ย เพอื่ ให้การ
เคลอ่ื นไหวเป็นไปอย่างมีประสิทธภิ าพ เชน่ การขว้างลกู บอล การเตะฟุตบอลการโยนลูกบอล เป็นตน้

2. ความหมายของเกมเบ็ดเตล็ด
เกมเบด็ เตลด็ เป็นเกมทีใ่ ช้ ทักษะง่ายๆ ในการเคล่ือนไหว และหาอุปกรณ์การเล่นได้ไม่ยาก อาจมีการ

ผสมผสานการรอ้ งเพลง การเตน้ รำเขา้ ไปด้วย เน้นความ สนุกสนาน และพัฒนาอารมณ์ ความคิด สติปญั ญา

มากกว่า สมรรถภาพทางกาย เช่น กจิ กรรม กลุ่มสมั พันธต์ ่างๆ เกมวงิ่ ไล่จบั เกมเปล่ียนคู่ เกมเก้าอ้ดี นตรี เป็น

ตน้

3. วิธกี ารเลน่ เกมเบ็ดเตลด็
1. การเลือกเล่นเกมทเี่ หมาะสมกับตนเอง
2. ผเู้ ลน่ ตามจำนวนของเกมนั้นๆ ทก่ี ำหนด บางเกมหากผูเ้ ลน่ ไม่ครบตามจำนวนก็ไมส่ ามารถ

เลน่ ได้
3. อปุ กรณ์การเลน่ เกมน้นั ๆ
4. ใช้การเคลื่อนไหวรา่ งกายขณะเล่นเกม
5. เป้าหมายของเกม ซ่ึงอาจมีเปา้ หมายเดียวหรือหลายเปา้ หมาย โดยผ้เู ล่นสามารถเลือก

วิธกี ารเล่นได้
6. การปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นเกม

4. ประโยชน์ท่ไี ด้รับจากการเลน่ เกมเบ็ดเตล็ด
เกมเบ็ดเตล็ดเปน็ การเล่นเลก็ ๆ นอ้ ยๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดความสนุกสนาน ร่าเริง แกผ่ เู้ ลน่

โดยเฉพาะเด็กเล็กในระดบั ชั้นประถม ถงึ มธั ยม ซง่ึ มีนสิ ัยไม่ชอบการอยูน่ ิ่ง การเลน่ เกมย่อมทำให้เกดิ ผล
ดังต่อไปนี้

1. ความสนกุ สนาน เพลดิ เพลนิ
2. ทำใหร้ า่ งกายแข็งแรง จิตใจผ่องใส อารมณส์ นุกสนานร่าเริง มีความรว่ มมือ สามัคคี
รกั พวก หมู่คณะ
3. เพอื่ เปน็ การปถูกฝงั ทศั นคติทางคา้ นกีฬาใหก้ บั เด็ก ในการนำเอาทักษะเบื้องต้นไปสู่
การเลน่ กีฬาใหญ่
4. เพ่อื เปน็ การฝกึ นสิ ัยในการร้จู ักรักษาเวลา เม่อื มีเวลาว่างสามารถนำไปใชใ้ ห้เปน็
ประโยชนท์ างด้าน นันทนาการ (สันทนาการ) ในชีวิตประจำวนั
5. เพอ่ื เป็นการสนองความต้องการของเดีกท่ซี ุกชนไม่อยนู่ ่งิ ให้มีงานทำตามหลักของ
จติ วิทยา

2.2 สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
2.2.1 ความสามารถในการส่ือสาร
- ฟงั พดู อา่ น
2.2.2 ความสามารถในการคิด
- คดิ อย่างสรา้ งสรรค์
2.2.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
- การแกป้ ัญหาทีพ่ บในการปฏิบตั ิกิจกรรมไดอ้ ย่างเหมาะสม
2.2.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
- ใช้กระบวนการต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน เรียนร้ดู ้วยตนเองต่อเนอ่ื ง
2.2.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- รู้จกั เลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ

2.3 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- ใฝ่เรยี นรู้

2.4 สมรรถนะผ้เู รียน 10 ประการ
- ทกั ษะชวี ติ และความเจริญแหง่ ตน

3. กจิ กรรมการเรยี นรู้
3.1 ข้ันตอนการเรยี นการสอน
ขัน้ ที่ 1 นำเข้าสู่บทเรยี น (เสนอสงิ่ เร้า และระบุคำถามสำคัญ)
1.1 นกั เรยี นอบอุ่นรา่ งกายก่อนการร่วมกิจกรรมการเรียนการสอน
1.2 ครูต้งั คำถามทัว่ ไป
- นกั เรยี นรจู้ ักเกมหรือไม่
- นักเรียนเคยเลน่ เกมเบ็ดเตล็ดมาบ้างหรอื ไม่
1.3 ครตู ้ังคำถามสำคัญ (ถามโดยให้นกั เรียนคาดคะเนคำตอบโดยท่ีครยู งั ไมเ่ ฉลย)
- นักเรียนคิดว่าเกมเบ็ดเตล็ดคอื เกมอะไร
- มวี ธิ ีการเลน่ อยา่ งไร
- นกั เรียนรู้หรอื ไมว่ า่ การเคลื่อนไหวรา่ งกายมีกี่แบบ
- นกั เรยี นคดิ วา่ ในการเลน่ เกม มกี ารใช้การเคล่อื นไหวร่างกายรูปแบบใดบา้ ง
- การเล่นเกมมปี ระโยชน์อย่างไรบา้ งกับนกั เรยี น

ขนั้ ที่ 2 อธบิ ายและสาธิต (แสวงหาสารสนเทศ และวเิ คราะห์)
2.1 ครนู ำเสนอเกมเสือกนิ ววั ใหน้ กั เรียนรู้จักวิธกี ารเล่น
2.2 ครอู ธิบายและสาธิตการเล่นเกมเสือกนิ ววั ให้นักเรยี นดู
2.3 นกั เรียนทดลองเลน่ เกมเสอื กนิ วัว

ขนั้ ท่ี 3 ฝึกปฏิบตั ิ (รวมพลงั อภปิ ราย และสรา้ งความรู้)
3.1 นักเรยี นปฏิบัติการเล่นเกมเสือกินววั โดยมคี รูให้คำแนะนำ

ขัน้ ท่ี 4 นำไปใช้ (สื่อสาร และคิดสะทอ้ น)
4.1 นกั เรียนนำเสนอวิธกี ารเล่นเกมเสอื กนิ วัว(บอกวิธกี ารเลน่ )
4.2 นักเรยี นบอกสง่ิ ทีไ่ ด้รบั จากการเลน่ เกมเสอื กินวัว
4.3 นกั เรยี นเลา่ ถึงการเล่นเกมข้อดีและขอ้ เสยี
- ส่งิ ท่ปี ระทับใจ
- ได้บทเรียนสำคัญอะไรบา้ ง

ขัน้ ท่ี 5 สรุป (ตอบแทนสงั คม)
5.1 ครูเชอื่ มโยงความรู้ทถ่ี กู ต้อง
- ความหมายของการเคลอ่ื นไหว
- ประเภทของการเคลอื่ นไหว
- ความหมายของเกมเบด็ เตล็ด
- วิธกี ารเล่นเกมเบ็ดเตล็ด

- ประโยชนท์ ่ไี ด้รบั จากการเลน่ เกมเบ็ดเตลด็
5.2 ครูมอบหมายให้นักเรียนนำเกมที่ได้ฝกึ ปฏบิ ัติในช่ัวโมง ไปพาบุคคลในครอบครัวหรือ
เพ่ือนๆเลน่ ในเวลาว่าง
5.3 ให้นกั เรยี นคดิ เกมเบด็ เตล็ดมาคนละ 1 เกม หรือจะสบื ค้นเกมเบ็ดเตลด็ จาก You Tube
,สื่อโซเชียลตา่ งๆ มาก็ได้ เพ่ือนำเสนอการเล่นใหเ้ พ่ือนๆ ดูในชั่วโมงตอ่ ไป

3.2 ส่ือการเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้
3.2.1 สื่อสิ่งพิมพ์
- ภาพเกมเสือกนิ วัว
- หนา้ กากเสอื
- หน้ากากววั
- หน้ากากรั้ว
3.2.2 ส่ือท่ไี มใ่ ชส่ งิ่ พมิ พ์
- นกหวดี
- อปุ กรณ์กีฬา
3.2.3 แหล่งการเรียนรู้
- สนามกีฬาของโรงเรยี น

4. การประเมนิ การเรยี นรู้
4.1 ประเมนิ ความรูแ้ ละความเขา้ ใจดว้ ยแบบทดสอบ(K)
4.2 ประเมินการปฏบิ ตั ิกิจกรรมดว้ ยแบบประเมนิ (P)
4.3 ประเมนิ ความความใฝ่เรียนรดู้ ้วยแบบสังเกต(A)

ภาคผนวก

แบบประเมนิ ความรดู้ ้วยแบบทดสอบ
แบบประเมนิ การปฏิบัตกิ ิจกรรม
ประเมินความใฝ่เรียนรดู้ ้วยแบบสงั เกต
บันทกึ หลงั สอน
เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศึกษาตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
และมาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชว้ี ดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

- รายวิชาพ้ืนฐานกลมุ่ สาระการเรียนสขุ ศึกษาและพลศึกษา ระดบั ประถมศึกษา
- โครงสรา้ งเวลาเรียน
- โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศึกษา
- คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน
- โครงสรา้ งรายวชิ า
- มาตรฐานสาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
- ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา
- หลกั สูตรสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3

แบบประเมนิ ความรู้ด้วยแบบทดสอบ
เร่ือง เกมเบด็ เตล็ด 1

วชิ าสขุ ศึกษาและพลศึกษา 3 รหสั พ13101 ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3

1. ข้อใดเปน็ วิธีการเล่นเกมเบ็ดเตล็ดทถ่ี กู ตอ้ ง
ก. การเลอื กเล่นเกมที่เหมาะสมกบั ตนเอง
ข. เลอื กเล่นเกมทีย่ าก
ค. เครยี ดกดดันตนเอง
ง. เลน่ เพื่อการเอาชนะ

2. การเดินต่อเทา้ เป็นการเคลื่อนไหวแบบใด
ก. ขณะเคลอ่ื นท่ี
ข. ขณะอยู่กับที่
ค. ขณะใช้อปุ กรณป์ ระกอบ
ง. ขณะเคลื่อนที่และใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบ

3. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลักษณะของเกมเบ็ดเตลด็
ก. เปน็ เกมที่มีกฎ กติกายงุ่ ยาก
ข. ใชอ้ ุปกรณใ์ นการเลน่ น้อย
ค. เลน่ แลว้ สนกุ สนาน
ง. เล่นกันเปน็ กลุม่

4. ข้อใดเป็นประโยชน์ของการเลน่ เกมเสือกนิ วัว
ก. ฝกึ ความคล่องแคล่ว วอ่ งไว
ข. ฝึกใช้กำลงั แขน
ค. ฝึกใช้สมาธิ
ง. เพอ่ื การแขง่ ขนั

5. ขอ้ ใดคือประโยชนข์ องการเลน่ เกม
ก. เรยี นหนงั สือเกง่ กว่าเพื่อน
ข. ความสนกุ สนาน
ค. พ่อแมร่ กั
ง. เพ่ือการแขง่ ขนั

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 2 คะแนน
ให้ 0 คะแนน
ถูก
ผิด

เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ระดบั คณุ ภาพ
ดมี าก
ชว่ งคะแนน ดี
9 - 10 พอใช้
7-8 ปรบั ปรุง
5-6
ตำ่ กว่า 5

แบบประเมินการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี น แลว้ ขดี ✓ลงในชอ่ งท่ีตรงกับระดับ
คะแนน

ลำดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน
321
1 ความรว่ มมือในการเรียนรู้
2 เขา้ ร่วมและเลือกเล่นเกมเบด็ เตล็ด
3 การเคล่ือนไหวรา่ งกายขณะเลน่ เกม
4 การปฏบิ ัตติ ามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเลน่ เกม
5 การสาธติ การเลน่ เกม

รวม

ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../................

เกณฑ์การให้ = 3 คะแนน
คะแนน = 2 คะแนน
= 1 คะแนน
ดี
พอใช้
ปรับปรุง

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

13 - 15 ดีมาก

10 - 12 ดี

6 - 9 พอใช้

ต่ำกว่า 6 ปรับปรงุ

ประเมนิ ความใฝเ่ รียนรูด้ ้วยแบบสงั เกต

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ลงในช่อง
ท่ตี รงกับระดับคะแนน

คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพึงประสงค์ด้าน 4321

1. ใฝ่เรียนรู้ 1. ต้งั ใจในการเรยี นการสอน

2. เข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนร้ตู ่างๆ

3. มกี ารแสดงความคดิ เหน็ ถึงเนื้อหาในการเรียนการสอน

4. ร่วมกจิ กรรมการอภิปรายถงึ เนอื้ หาในการเรียนการสอน

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน = 4 คะแนน
ดีมาก = 3 คะแนน
ดี = 2 คะแนน
พอใช้ = 1 คะแนน
ปรบั ปรุง

เกณฑ์การประเมนิ เกณฑก์ ารตดั สิน
ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 13-16 คะแนน
ระดบั คณุ ภาพ
ดีเย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน
ดี
ผา่ น ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5-8 คะแนน
ไม่ผา่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-4 คะแนน

บันทึกหลังสอน

1. ผลการจดั การเรยี นการสอน
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ช้ัน จำนวน ร้อยละของผ้เู รียน หมายเหตุ

(คน) ดีเยีย่ ม % ดี % ผ่าน % ไม่ผ่าน %

ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3/1

ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3/2

ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3/3

รวม

2. ปัญหา/อุปสรรค

............................................................................................................................. .................................................

..............................................................................................................................................................................

3. แนวทางพฒั นา ( กา / ในชอ่ งส่เี หลย่ี มที่ครูจะพัฒนาผู้เรียนในสาระการเรียนรู้นเ้ี ขยี นอธิบายแนวทางพัฒนา
ให้ชดั เจน )

ด้วยวธิ ี
............................................................................................................................................... ...............................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................

ทำวิจัยปฏบิ ัตกิ ารในช้ันเรยี น
ชอ่ื งานวจิ ัย
..................................................................................................... .........................................................................
............................................................................................................................. .................................................
วัตถปุ ระสงค์
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอ่ื ...................................................................
( นางสาวพัชรา ผมน้อย)
ครูผสู้ อน

วนั ท.่ี ....เดือน..........................พ.ศ. ........

เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา
โรงเรียน........................................... พทุ ธศักราช 2564
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551

และมาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวช้ีวัดฯ
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา
ระดับประถมศกึ ษาปีท่ี 3

โครงสร้างเวลาเรียน
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 กำหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรียน ดงั นี้

กลุ่มสาระ เวลาเรียน
การเรยี นรู้/
กิจกรรม ระดับประถมศกึ ษา ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอน
มป. 4ลา–ย6
ป. 1 ป. 2 ป. 3 ป. 4 ป. 5 ป. 6 ม. 1 ม. 2 ม. 3

กลมุ่ สาระการ 200 200 200 160 160 160 120 120 120 240
เภรายี ษนารไู้ทย (3 นก.) (3 นก.) (3 นก.) (6 นก.)

คณิตศาสตร์ 200 200 200 160 160 160 120 120 120 240
(3 นก.) (3 นก.) (3 นก.) (6 นก.)

วทิ ยาศาสตร์ 80 80 80 80 80 80 120 120 120 240
(3 นก.) (3 นก.) (3 นก.) (6 นก.)

สงั คมศึกษา ศาสนา 80 80 80 80 80 80 120 120 120 240
และวัฒนธรรม (3 นก.) (3 นก.) (3 นก.) (6 นก.)

ประวัติศาสตร์ 40 40 40 40 40 40 40 40 40 80
(สว่ นทีเ่ พ่มิ เติม) (1 นก.) (1 นก.) (1 นก.) (2 นก.)

สขุ ศึกษาและพล 80 80 80 80 80 80 80 80 80 120
ศกึ ษา (2นก.) (2 นก.) (2 นก.) (3นก.)

ศลิ ปะ 80 80 80 80 80 80 80 80 80 120
(2นก.) (2 นก.) (2 นก.) (3 นก.)

การงานอาชพี และ 40 40 40 80 80 80 80 80 80 120
เทคโนโลยี (2นก.) (2 นก.) (2 นก.) (3 นก.)
ภาษาตา่ งประเทศ 240
40 40 40 80 80 80 120 120 120 (6 นก.)
รวมเวลาเรยี น (3 นก.) (3 นก.) (3 นก.)
(พ้นื ฐาน) 1,640
840 840 840 840 840 840 880 880 880 (41 นก.)
(22 นก.) (22 นก.) (22นก.)

กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น 120 120 120 120 120 120 120 120 120 360

รายวชิ า / กจิ กรรม ปีละไมเ่ กนิ 40 ชวั่ โมง ปลี ะไมเ่ กิน 200 ช่ัวโมง ไม่นอ้ ยกวา่ 1,600
ชัว่ โมง
ท่ีสถานศกึ ษาจดั
เพมิ่ เติม ตาม
ความพร้อมและจดุ เน้น

รวมเวลาเรียน ไม่เกิน 1,000 ช่ัวโมง/ปี ไมเ่ กนิ 1,200 ชั่วโมง/ปี รวม 3 ปี
ทง้ั หมด ไม่น้อยกวา่
3,600 ช่ัวโมง

โครงสร้างหลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียน.......................................................
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551

เวลาเรียน

กลุม่ สาระการเรยี นรู้/กิจกรรม ระดบั ประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 ม.1 ม.2 ม.3

สาระการเรียนรู้พ้ืนฐาน

1.ภาษาไทย 200 200 200 160 160 160 120 120 120
2.คณติ ศาสตร์ 200 200 200 160 160 160 120 120 120
3.วทิ ยาศาสตร์ 80 80 80 80 80 80 120 120 120
4.สงั คมศกึ ษา ศาสนาและ 80 80 80 80 80 80 120 120 120
วฒั นธรรม
5.ประวัติศาสตร์ 40 40 40 40 40 40 40 40 40
6.สุขศึกษาและพลศึกษา 80 80 80 80 80 80 80 80 80
7.ศลิ ปะ 80 80 80 80 80 80 80 80 80
8.การงานอาชีพและ 40 40 40 80 80 80 80 80 80
เทคโนโลยี
9.ภาษาต่างประเทศ 40 40 40 80 80 80 120 120 120
840 840 840 840 840 840 880 880 880
รวม

สาระการเรยี นร้เู พมิ่ เติม 40 40 40 40 40 40 200 200 200

กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน 120 120 120 120 120 120 120 120 120

รวมเวลาเรยี นท้งั หมด 1,000 1,000 1,000 1,000 1,000 1,000 1,200 1,200 1,200

คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

พ 13101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา

ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลาเรียน 80 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยนำ้ หนกั

ศึกษาลักษณะการเจริญเติบโตของร่างกายมนุษย์ และปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโต พัฒนาการ
ของร่างกายตามเกณฑ์มาตรฐาน ความสำคัญและความแตกต่างของครอบครัวที่มีต่อตนเอง วิธีสร้าง
ความสมั พันธใ์ นครอบครัวและกลุ่มเพ่ือน หลีกเลย่ี งพฤติกรรมท่ีจะนำไปสู่การล่วงละเมดิ ทางเพศ ความสำคัญ
ของการติดต่อและการป้องกันการแพร่กระจายของโรค เลือกรับประทานอาหารอาหารหลัก 5 หมู่ที่เหมาะสม
การแปรงฟนั ใหส้ ะอาดอย่างถกู วิธี สรา้ งเสริมสขุ ภาพและปฏิบัตกิ ารทดสอบสมรรถภาพทางกายตามคำแนะนำ
ปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยจากอุบัติเหตุในบ้าน โรงเรียนและการเดินทาง การขอความช่วยเหลือเมื่อเกิด
เหตรุ า้ ยจากแหลง่ ต่าง ๆ ในเมอื งพทั ยาและวิธกี ารปฐมพยาบาลเม่ือได้รบั บาดเจบ็ จากการเลน่

โดยจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง 5 ขั้นตอน ประกอบกับกระบวนการปฏิบัติ
และมีทักษะในการควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกาย แบบอยู่กับที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบอย่างมีทิศทาง เข้า
ร่วมกิจกรรมทางกาย เกมเบ็ดเตล็ด โดยใช้การเคลื่อนไหวแบบบังคบั ทิศทางด้วยความสนุกสนาน ปลอดภัย
เลือกออกกำลังกาย เกมที่เหมาะสมกับจุดเด่น จุดด้อย ข้อจำกัดของตนเอง ปฏิบัติตามกฎ กติกา การละเล่น
พื้นบ้านของเมอื งพัทยา และบรู ณาการตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพียง

เพ่อื ใหน้ ักเรยี นมีความซอื่ สตั ยส์ ุจรติ มวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ และมจี ติ สาธารณะ ให้เป็นผูท้ ่ีมสี ุขนสิ ัย
สุขภาพกายและสขุ ภาพจิตท่ีดี มคี วามเพียรอันบรสิ ทุ ธ์ิ ความพอเพยี ง วถิ ีประชาธปิ ไตยและความเท่าเทยี ม

รหัสตัวชี้วดั
พ 1.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3
พ 2.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3
พ 3.1 ป.3/1, ป.3/2
พ 3.2 ป.3/1, ป.3/2
พ 4.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5
พ 5.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3

รวมท้งั หมด 18 ตัวชีว้ ดั

โครงสร้างรายวชิ า

วชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา 3 รหัสวิชา พ13101 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา

ชั้นประถมศึกษาปีท่ี3 เวลา 80 ชั่วโมง/ปี (2 ช่ัวโมง/สัปดาห)์ จำนวน 1.0 หน่วยน้ำหนกั

ครูผู้สอน นางสาวพัชรา ผมน้อย โรงเรยี น……………………………………………………

ลำดับท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ คะแนน เวลา น้ำหนกั นำ้ หนกั คุณลกั ษณะฯ
เรียนรู้ตัวชี้วดั ตามตัวชี้วัด (ชว่ั โมง) คะแนนดบิ คะแนน สมรรถนะ

1 การเจริญเตบิ โตและ พ 1.1 ป.3/1 40 8 100 10 - 4 ใฝ่เรียนรู้

พัฒนาการของมนษุ ย์ พ 1.1 ป.3/2 30 -ความสามารถในการ

พ 1.1 ป.3/3 30 คิด

-ความสามารถในการ

ใชท้ กั ษะชีวิต

2 ครอบครวั ดีมสี ุข พ 2.1 ป.3/1 20 4 40 4 -8มจี ิตสาธารณะ

พ 2.1 ป.3/2 20 -ความสามารถในการ

ใช้ทักษะชวี ิต

3 การล่วงละเมดิ ทาง พ 2.1 ป.3/3 20 2 20 2 -2ซ่อื สตั ย์สจุ รติ

เพศในเดก็ -ความสามารถในการ

แก้ปญั หา

-ความสามารถในการ

ใช้ทกั ษะชีวิต

4 สนกุ กับการ พ 3.1 ป.3/1 40 4 40 4 -8มจี ิตสาธารณะ

เคลือ่ นไหว -ความสามารถในการ

แก้ปญั หา

-ความสามารถในการ

ใชท้ กั ษะชวี ิต

5 มนั่ ใจในลลี า พ 3.1 ป.3/2 80 16 160 16 -4ใฝ่เรียนรู้

พ 3.2 ป.3/1 40 -ความสามารถในการ

พ 3.2 ป.3/2 40 แก้ปัญหา

-ความสามารถในการ

ใชท้ ักษะชีวติ

6 ออกกำลงั กายคลาย พ 3.2 ป.3/1 90 16 180 18 -2ซอ่ื สัตยส์ ุจรติ
เครียด พ 3.2 ป.3/2 90 -ความสามารถในการ

แก้ปญั หา

ลำดบั ท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ คะแนน เวลา น้ำหนกั นำ้ หนัก คุณลักษณะฯ
7 เรียนรู้ตวั ช้ีวัด ตามตัวช้ีวัด (ช่วั โมง) คะแนนดิบ คะแนน สมรรถนะ
8
9 รู้เท่าทนั ปอ้ งกันโรค พ 4.1 ป.3/1 40 6 40 -ความสามารถในการ
10 ใชท้ ักษะชีวติ
11 อาหารเพ่ือสุขภาพ พ 4.1 ป.3/2 40 8 80 4 -4 ใฝเ่ รยี นรู้
12 พ 4.1 ป.3/3 40 -ความสามารถในการ
2 20 แกป้ ัญหา
สุขภาพฟันดี พ 4.1 ป.3/4 20 4 20 -ความสามารถในการ
ใช้ทกั ษะชวี ติ
เสรมิ สรา้ ง พ 4.1 ป.3/5 20 6 80 8 - 4 ใฝเ่ รียนรู้
สมรรถภาพและ -ความสามารถในการ
ทดสอบสมรรถภาพ พ 5.1 ป.3/1 40 4 20 แกป้ ญั หา
พ 5.1 ป.3/2 40 -ความสามารถในการ
ทางกาย -- ใชท้ ักษะชวี ิต
ระวงั ดี ไมม่ ีอบุ ัตเิ หตุ -- 2 -3 มีวนิ ยั
80 - -ความสามารถในการ
ช่วยถูก ชว่ ยดี ชวี ี พ 5.1 ป.3/3 20 ใช้ทกั ษะชีวิต
ปลอดภยั 2 -4ใฝ่เรยี นรู้
-ความสามารถในการ
รวมคะแนนระหวา่ งเรียน ใชท้ ักษะชีวิต
รวมสอบ
8 -3มีวนิ ยั
รวมท้ังปี -ความสามารถในการ
แกป้ ญั หา
-ความสามารถในการ
ใช้ทักษะชวี ิต

2 -4ใฝเ่ รียนรู้
-ความสามารถในการ
แกป้ ญั หา
-ความสามารถในการ
ใช้ทกั ษะชีวติ

80
20
100

มาตรฐานสาระการเร

สาระที่ 1 : การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของมนษุ ย์
มาตรฐาน พ 1.1 : เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษ

สาระท่ี 2 : ชีวิตและครอบครัว
มาตรฐาน พ 2.1 : เข้าใจและเห็นคณุ คา่ ตนเอง ครอบครวั เพศศึกษา และมที

สาระท่ี 3 : การเคลื่อนไหว การออกกำลงั กาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกฬี
มาตรฐาน พ 3.1 : เข้าใจ มที ักษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เก
มาตรฐาน พ 3.2 : รักการออกกำลงั กาย การเล่นเกม และการเลน่ กีฬา ปฏบิ ัตเิ
ในการแข่งขนั และชื่นชมในสุนทรยี ภาพของการกีฬา

สาระท่ี 4 : การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพและการปอ้ งกันโรค
มาตรฐาน พ 4.1 : เห็นคุณค่าและมีทกั ษะในการสร้างเสรมิ สุขภาพ การดำรงส

สาระท่ี 5 : ความปลอดภัยในชีวิต
มาตรฐาน พ 5.1 : ป้องกนั และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสยี่ ง พฤตกิ รรมเสย่ี งต่อสขุ ภาพ

รยี นรู้สุขศึกษาและพลศึกษา

ษย์

ทักษะในการดำเนินชีวิต
ฬาสากล
กม และกีฬา
เป็นประจำอยา่ งสม่ำเสมอ มีวินยั เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีนำ้ ใจนกั กฬี า มีจติ วญิ ญาณ

สขุ ภาพ การป้องกันโรคและการสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพเพื่อสุขภาพ

อุบตั เิ หตุ การใชย้ า สารเสพตดิ และความรนุ แรง

สาระที่ มาตรฐาน ต
สาระการเรยี นรู้ส
1 พ 1.1
2 พ 2.1 ป.1 ป.2
3 พ 3.1 23
34
พ 3.2 22
4 พ 4.1 22
5 พ 5.1 35
รวม 35
15 21

ตวั ชี้วัด ป.5 ป.6
สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 2 2
3 2
ตัวชว้ี ัดชน้ั ปี ( จำนวนข้อ ) 6 5
ป.3 ป.4 4 6
33 5 4
33 5 3
24 25 22
22
54
33
18 19

หลกั สูตรสาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษา

สาระที่ 1 : การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์
มาตรฐาน พ 1.1 : เขา้ ใจธรรมชาติของการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของมนุษ

รหสั ตัวชีว้ ัด  ลกั ษณ
พ 1.1 ป.3/1 1. อธบิ ายลกั ษณะและการเจรญิ เติบโตของ ความแตก
- ลักษณะ
ร่างกายมนุษย์ - นำ้ หนกั
- สว่ นสงู
พ 1.1 ป.3/2 2. เปรียบเทียบการเจรญิ เตบิ โตของตนเองกับ  เกณฑ
เกณฑ์มาตรฐาน
 ปัจจัย
พ 1.1 ป.3/3 3. ระบปุ จั จัยทม่ี ผี ลต่อการเจริญเติบโต - อาหาร
- การออก
- การพกั ผ

าและพลศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถน่ิ

ษย์

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ณะการเจริญเติบโตของรา่ งกายมนษุ ย์ทีม่ ี
กต่างกนั ในแต่ละบคุ คล
ะรปู ร่าง
ก

ฑ์มาตรฐานการเจรญิ เตบิ โตของเด็กไทย

ยทีม่ ผี ลต่อการเจริญเติบโต

กกำลังกาย
ผอ่ น

หลักสตู รสาระการเรยี นร้สู ุขศึกษา

สาระที่ 2 : ชวี ิตและครอบครัว

มาตรฐาน พ 2.1 : เข้าใจและเหน็ คณุ คา่ ตนเอง ครอบครวั เพศศึกษา และมที

รหัส ตวั ชี้วดั

พ 2.1 ป.3/1 1. อธิบายความสำคัญ และความแตกตา่ งของ  ควา

ครอบครัวที่มตี ่อตนเอง  ควา

- เศรษ

- สังคม

- การศ

พ 2.1 ป.3/2 2. อธบิ ายวิธีสร้างสัมพนั ธภาพในครอบครวั และ  วิธีก

กลมุ่ เพื่อน

พ 2.1 ป.3/3 3. บอกวิธหี ลกี เลีย่ งพฤติกรรมทน่ี ำไปสู่การลว่ ง  พฤ

ละเมิดทางเพศ แต่งกาย

สารเสพ

 วธิ ีห

เพศ (

าและพลศกึ ษา ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น

ทักษะในการดำเนนิ ชีวิต
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

ามสำคัญของครอบครัว
ามแตกต่างของแตล่ ะครอบครัว
ษฐกจิ
ม
ศึกษา
การสรา้ งสมั พนั ธภาพในครอบครวั และกลมุ่ เพ่ือน

ฤติกรรมทีน่ ำไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศ (การ
ย การเท่ยี วกลางคืน การคบเพื่อน การเสพ
พตดิ ฯลฯ )
หลีกเล่ียงพฤติกรรมที่นำไปส่กู ารล่วงละเมิดทาง
(ทักษะปฏเิ สธและอน่ื ๆ)

หลกั สตู รสาระการเรยี นรูส้ ุขศึกษา

สาระท่ี 3 : การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกีฬาส

มาตรฐาน พ 3.1 : เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เก

รหัส ตัวชีว้ ัด

พ 3.1 ป.3/1 1. ควบคมุ การเคลื่อนไหวรา่ งกาย ขณะอยู่กบั  การเค

ที่ เคลื่อนท่ี และใชอ้ ปุ กรณป์ ระกอบ อย่างมี ยืด เขยง่

ทศิ ทาง แบบเคลือ่

กระโจน แ

บงั คบั ทิศท

 วธิ กี าร

ต่าง ๆ อ

พ 3.1 ป.3/2 2. เคลือ่ นไหวรา่ งกายท่ีใช้ทกั ษะการ  กจิ กร

เคล่อื นไหวแบบบังคับทศิ ทางในการเล่นเกม บงั คับทศิ ท

เบ็ดเตลด็

าและพลศกึ ษา ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 สาระการเรยี นรูท้ ้องถน่ิ
สากล
กม และกีฬา

สาระการเรียนร้แู กนกลาง

คลอ่ื นไหวร่างกายแบบอยู่กับท่ี เช่น ย่อ
พบั ตวั เคลอ่ื นไหวลำตัว การเคลอื่ นไหว

อนที่ เชน่ เดนิ ตอ่ เท้า เดินถอยหลัง
และแบบใชอ้ ปุ กรณ์ประกอบโดยมีการ
ทาง เช่น ดีด ขวา้ ง โยนและรบั
รควบคุมการเคล่ือนไหวร่างกายแบบ
อยา่ งมที ิศทาง

รรมทางกายท่ีใช้ทักษะการเคลอ่ื นไหวแบบ
ทางในการเล่นเกมเบด็ เตล็ด

หลักสูตรสาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษา

สาระที่ 3 : การเคล่ือนไหว การออกกำลังกาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาส

มาตรฐาน พ 3.2 : รกั การออกกำลงั กาย การเล่นเกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบัต

ในการแข่งขนั และชืน่ ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกฬี า

รหสั ตัวชวี้ ัด

พ 3.2 ป.3/1 1. เลือกออกกำลังกาย การละเล่นพ้นื เมือง และ  แนวท

เลน่ เกมทีเ่ หมาะสมกบั จุดเด่น จดุ ด้อยและ พนื้ เมืองแล

ขอ้ จำกัดของตนเอง และข้อจำ

พ 3.2 ป.3/2 2. ปฏบิ ตั ิตามกฎกติกาและข้อตกลงของการออก  การออ

กำลงั กาย การเล่นเกม การละเลน่ พ้ืนเมืองได้  กฎ ก

ด้วยตนเอง การเลน่ เก

าและพลศกึ ษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3
สากล
ตเิ ป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีนำ้ ใจนักกีฬา มจี ิตวิญญาณ

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถิน่

ทางการเลอื กออกกำลงั กาย การละเลน่ - กฬี าพื้นบ้าน เช่น งกู ินหาง วิ่ง 3
ละเล่นเกมทเี่ หมาะสมกับจุดเดน่ จุดด้อย ขา
ำกดั ของแต่ละบุคคล

อกกำลงั กาย เกมและการละเล่นพ้นื เมือง
กติกาและข้อตกลงในการการออกกำลงั กาย
กมและการละเลน่ พื้นเมอื ง

หลักสตู รสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษา

สาระที่ 4 : การสร้างเสริมสขุ ภาพ สมรรถภาพและการป้องกนั โรค

มาตรฐาน พ 4.1 : เห็นคุณคา่ และมีทักษะในการสรา้ งเสริมสุขภาพ การดำรงส

รหสั ตัวชวี้ ัด

พ 4.1 ป.3/1 1. อธิบายการตดิ ต่อและวธิ ีการป้องกันการ  การตดิ

แพร่กระจายของโรค ของโรค

พ 4.1 ป.3/2 2. จำแนกอาหารหลัก 5 หมู่  อาหา

พ 4.1 ป.3/3 3. เลอื กกินอาหารท่หี ลากหลาย ครบ5 หมู่ ใน  การเล

สดั ส่วนทเ่ี หมาะสม - ความหล

- สัดสว่ น

โภชนาการ

พ 4.1 ป.3/4 4. แสดงการแปรงฟนั ใหส้ ะอาดอยา่ งถูกวธิ ี  การแป

(ครอบคลมุ

พ 4.1 ป.3/5 5. สรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกายได้ตามคำแนะนำ  การเส

- วธิ กี ารท

- วธิ กี ารส

ออกกำลงั

นันทนากา

าและพลศึกษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3

สขุ ภาพ การปอ้ งกันโรคและการสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพ่อื สุขภาพ

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ

ดต่อและวธิ กี ารป้องกนั การแพร่กระจาย

ารหลัก 5 หมู่

ลอื กกนิ อาหารทเ่ี หมาะสม
ลากหลายของชนิดอาหารในแต่ละหมู่
นและปริมาณของอาหาร (ตามธง
ร)

ปรงฟนั ให้สะอาดอย่างถกู วิธี
มบริเวณขอบเหงือกและคอฟนั )

สรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ
ทดสอบสมรรถภาพทางกาย
สร้างเสรมิ สมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ โดยการ
งกาย การพกั ผ่อน และกจิ กรรม
าร

หลกั สตู รสาระการเรียนร้สู ขุ ศึกษา

สาระท่ี 5 : ความปลอดภัยในชวี ิต

มาตรฐาน พ 5.1 : ป้องกนั และหลกี เล่ียงปจั จยั เส่ียง พฤตกิ รรมเสี่ยงต่อสุขภาพ

รหสั ตัวชี้วดั

พ 5.1 ป.3/1 1. ปฏิบตั ิตนเพื่อความปลอดภยั จากอบุ ัติเหตุใน  วิธปี ฏ

บ้าน โรงเรียน และการเดินทาง บ้าน โรงเ

พ 5.1 ป.3/2 2. แสดงวิธีขอความชว่ ยเหลือจากบุคคลและ  การขอ

แหล่งต่าง ๆ เมือ่ เกดิ เหตุร้าย หรืออบุ ตั เิ หตุ ต่าง ๆ เม

พ 5.1 ป.3/3 3. แสดงวธิ ีปฐมพยาบาล เม่อื บาดเจบ็ จากการเลน่  การบ

- ลักษณะ

- วิธปี ฐมพ

าและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3

อุบตั ิเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรนุ แรง

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถน่ิ

ฏิบัติตนเพอื่ ความปลอดภยั จากอบุ ตั ิเหตใุ น

เรยี น และการเดนิ ทาง

อความช่วยเหลือจากบคุ คลและแหลง่ - บุคคลและแหล่งขอความชว่ ยเหลอื ใน

มื่อเกิดเหตรุ ้ายหรืออุบตั ิเหตุ เมอื งพัทยา

บาดเจบ็ จากการเล่น

ะของการบาดเจ็บ

พยาบาล (บาดเจ็บ หา้ มเลอื ด ฯลฯ)