The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2555 - 2559)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2555 - 2559)

แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2555 - 2559)

แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๕
(พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ค�ำ นำ�

เน่ืองในโอกาสปีมหามงคลพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ถือเป็นวาระสำ�คัญย่ิงสำ�หรับปวงชนชาวไทยท่ีต่างสำ�นึกในพระมหากรณุ าธคิ ณุ ลน้ เกลา้ ฯ ทท่ี รงบ�ำ เพญ็ พระราชกรณยี กจิ
นานัปการ เพ่อื ประโยชน์สุขแก่พสกนิกรในทุกๆ ด้าน รวมทั้งด้านการกีฬา ที่ทรงมีพระอัจฉริยภาพและพระปรีชา
สามารถอันสูงยิ่ง ทรงส่งเสริมให้ประชาชนเห็นคุณค่าของกีฬา ในการเป็นเคร่ืองมือสำ�หรับพัฒนาคนทั้งร่างกาย
และจิตใจ ดังท่ีพระราชทานพระบรมราโชวาทในวนั เปิดการแข่งขนั กรีฑานักเรียน ประจ�ำ ปี เมอ่ื วนั ท่ี ๒๘ พฤศจกิ ายน
พ.ศ. ๒๕๐๔ วา่ “…การกีฬานั้นนบั เปน็ อุปกรณ์การศึกษาทส่ี ำ�คัญย่งิ เพราะเป็นการกลอ่ มเกลาให้เดก็ มจี ิตใจอดทน
กล้าหาญ รู้แพ้รู้ชนะ ปลูกฝังพลานามัยให้แข็งแรง เป็นปัจจัยส่งเสริมให้เด็กเป็นผู้มีสมรรถภาพ ท้ังในทางจิตใจ
และร่างกายเป็นผลสืบเนื่องไปถึงการเป็นพลเมืองของชาติอันเป็นยอดแห่งความปรารถนา…” เพื่อเป็นการสนอง
พระราชดำ�รัสดังกล่าว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้จัดทำ�แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-
๒๕๕๙) ข้ึน เพ่ือร่วมเฉลิมพระเกียรติเน่ืองในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔
การด�ำ เนนิ การดงั กลา่ วไดย้ ึดหลักการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และนำ�กรอบแนวคิดหลักการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ท่ีมุ่งพัฒนาภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ
ขับเคล่ือนให้บังเกิดผลในทางปฏิบัติที่ชัดเจนย่ิงขึ้นในทุกระดับ ยึดคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาให้ความสำ�คัญกับ
การสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม พัฒนาประเทศสู่ความสมดุลในทุกมิติอย่างบูรณาการและ
เป็นองค์รวม รวมทั้งกรอบนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการ (ร่าง)
แผนพัฒนาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) แล้ว เมื่อวนั อังคารที่ ๒๖ มถิ ุนายน ๒๕๕๕

แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติฉบับนี้ ได้มุ่งหวังให้คนไทยได้รับการส่งเสริมการออกก�ำลังกายและเล่นกีฬา
อยา่ งถกู ตอ้ งจนเปน็ วถิ ชี วี ติ มสี ขุ ภาพและสมรรถภาพทด่ี ี มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม มนี ำ้� ใจนกั กฬี าเพอ่ื หลอมรวมเปน็ หนงึ่ เดยี ว
สู่ความสามัคคีและสมานฉันท์ มีการบริหารจัดการกีฬาทุกมิติอย่างเป็นระบบ โดยใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาพัฒนา
ศักยภาพนักกีฬาสู่ความเป็นเลิศอย่างมีมาตรฐานระดับสากล รวมท้ังให้การกีฬาเป็นแหล่งสร้างรายได้ สร้างอาชีพ
และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศควบคู่กันไป จึงหวังเป็นอย่างย่ิงว่าทุกภาคส่วนในสังคมจะได้ใช้แผนฯ
ฉบบั น้ี เป็นกรอบและแนวทางในการพัฒนาการกฬี าอย่างมปี ระสทิ ธิภาพตอ่ ไป

แผนพัฒนาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

สารบญั

บทสรปุ ส�ำ หรบั ผูบ้ รหิ าร หน้า
ก-ฑ
บทท่ี ๑ สถานการณแ์ ละแนวโนม้ การพัฒนาการกฬี า วสิ ัยทศั นแ์ ละทศิ ทางการพฒั นาประเทศ
๑ สถานการณแ์ ละแนวโนม้ การพัฒนาการกีฬาในอนาคต ๑
๒ วสิ ยั ทศั นแ์ ละทศิ ทางของแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ๑
๓ การเตรยี มความพรอ้ มของไทยเขา้ สู่ประชาคมอาเซยี น พ.ศ. ๒๕๕๘ ๒
๔ กรอบแนวคดิ การพัฒนาการกฬี า ๓
๕ สถานการณแ์ นวโน้มเก่ยี วกบั การออกก�ำ ลงั กายและการกีฬา ๗
๖ นโยบายรัฐบาลในการพฒั นากีฬาของชาติ ๑๓
๗ สรุปผลการพัฒนาด้านการกีฬาตามแผนพฒั นาการกฬี าแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๔ ๒๐
(พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔) ๒๑

บทที่ ๒ ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙ ๒๗
๑ วิสยั ทศั น์และทิศทางการพัฒนาการกฬี าของประเทศไทย ๒๗
๒ ประเด็นยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาการกฬี าแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙ ๓๐
๒.๑ ยุทธศาสตร์ท่ี ๑ การพฒั นาการออกกำ�ลงั กายและการกีฬาข้ันพ้นื ฐาน ๓๐
๒.๒ ยุทธศาสตร์ที่ ๒ การพัฒนาการออกก�ำ ลงั กายและการเล่นกีฬาเพอื่ มวลชน ๓๓
๒.๓ ยทุ ธศาสตร์ท่ี ๓ การพัฒนาการการกฬี าเพอื่ ความเปน็ เลศิ ๓๕
๒.๔ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี ๔ การพัฒนาการกฬี าเพอื่ การอาชพี ๔๐
๒.๕ ยุทธศาสตรท์ ี่ ๕ การพฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา ๔๓
๒.๖ ยทุ ธศาสตร์ท่ี ๖ การพฒั นาการบริหารการกฬี าและการออกก�ำ ลังกาย ๔๖

บทที่ ๓ ปัจจัยแห่งความส�ำ เรจ็ ในการขับเคลอื่ นแผนพฒั นาการกีฬาแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๕ ๗๓
(พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) สู่การปฏิบตั ิและการตดิ ตามประเมนิ ผล ๗๔
๑ ปัจจัยแหง่ ความสำ�เรจ็ ในการเช่อื มโยงบรู ณาการแผนพัฒนาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๕ ๗๕
(พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) สกู่ ารปฏบิ ตั ิ ๗๖
๒ การขับเคลอื่ นแผนพฒั นาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) สกู่ ารปฏบิ ตั ิ ๗๗
๓ กลไกการแปลงแผนสกู่ ารปฏิบัติ
๔ การติดตามและประเมนิ ผล

แผนพฒั นาการกฬี าแห่งชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

สารบัญ

หน้า
๘๐
ภาคผนวก ก บญั ชอี กั ษรยอ่ ช่ือหน่วยงาน ๘๑
ภาคผนวก ข นิยามศพั ท์ ๘๓
ภาคผนวก ค กระบวนการจดั ท�ำ แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๕ ๘๗
ภาคผนวก ๘๙
ภาคผนวก (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)
ง ค�ำ ส่งั กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า ที่ ๑๕๖/๒๕๕๔ ๙๔
ภาคผนวก
เรื่อง แต่งต้ังคณะกรรมการและคณะทำ�งานจัดทำ� (ร่าง)
แผนพัฒนาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)
จ ค�ำ สงั่ สถาบนั การพลศกึ ษา ท่ี ๒๔๑/๒๕๕๔ เรอ่ื ง แตง่ ตง้ั คณะกรรมการและคณะทำ�งาน
เพ่ือประสานการขับเคล่ือนการจัดทำ� (ร่าง) แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับท่ี ๕
(พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

สารบญั ภาพ

แผนภาพท่ี ๑ ความเชอ่ื มโยงระหว่างวิสัยทศั น์ พนั ธกิจ และยุทธศาสตร์ ๗๘
แผนภาพท่ี ๒ กลไกการขบั เคล่อื นแผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ๗๙

ตารางที่ ๑ สารบญั ตาราง ๔๙-๗๒

ความเช่อื มโยงระหว่างยุทธศาสตร์ วัตถุประสงค์ มาตรการ
และหนว่ ยงานรบั ผิดชอบ

แผนพัฒนาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการท่องเทยี่ วและกฬี า ก

บทสรุปส�ำ หรบั ผ้บู ริหาร

๑. ความเป็นมา

รัฐบาลไทยได้เล็งเห็นความส�ำคัญของการกีฬาท่ีมีต่อการพัฒนาคุณภาพของทรัพยากรบุคคลของประเทศ
ทั้งในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพท่ีดี ปลูกฝังความมีน้�ำใจนักกีฬาให้เป็นค่านิยม
เกิดความสมานฉันท์ของคนในชาติ การสร้างความภาคภูมิใจ สร้างแรงบันดาลใจ สร้างรายได้ อาชีพ และการพัฒนา
เศรษฐกิจของประเทศ กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬาในฐานะท่ีเป็นหน่วยงานรับผิดชอบด้านการกีฬาของประเทศ
ไดเ้ ล็งเห็นความส�ำคญั ดังกล่าว จึงไดด้ �ำเนินการจดั ท�ำแผนพัฒนาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ขน้ึ
เพื่อใช้เป็นกรอบและทิศทางในการพัฒนาการกีฬาของประเทศ โดยด�ำเนินการให้สอดคล้องตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ท่ีมุ่งพัฒนาภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ
ขับเคล่ือนให้บังเกิดผลในทางปฏิบัติที่ชัดเจนย่ิงข้ึนในทุกระดับ ยึดคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาให้ความส�ำคัญ
กับการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม พัฒนาประเทศสู่ความสมดุลในทุกมิติอย่างบูรณาการ
และเป็นองค์รวม รวมทั้งกรอบความร่วมมือในการรวมตัวทางเศรษฐกิจเพ่ือเตรียมก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจ
อาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ในปี ค.ศ. ๒๐๑๕ (พ.ศ. ๒๕๕๘)
แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติฉบับนี้ ได้มุ่งหวังให้คนไทยได้รับการส่งเสริมการออกก�ำลังกายและเล่นกีฬา
อย่างถูกต้องจนเป็นวิถีชีวิต มีสุขภาพและสมรรถภาพที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีน้�ำใจนักกีฬา เพ่ือหลอมรวม
เป็นหนึ่งเดียวสู่ความสามัคคีและสมานฉันท์ มีการบริหารจัดการกีฬาทุกมิติอย่างเป็นระบบ โดยใช้วิทยาศาสตร์
การกีฬาพัฒนาศักยภาพนักกีฬาสู่ความเป็นเลิศอย่างมีมาตรฐานระดับสากล รวมทั้งการสร้างรายได้ สร้างอาชีพ และ
การพฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศ ซง่ึ ทกุ ภาคสว่ นในสงั คมจะไดใ้ ชแ้ ผนฯ ฉบบั น้ี เปน็ กรอบแนวทางการสง่ เสรมิ สนบั สนนุ
การออกก�ำลงั กายและเลน่ กฬี าในแผนปฏบิ ตั กิ ารของกระทรวง ทบวง กรม และหนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งเพอื่ พฒั นาประเทศ
ในชว่ งปี พ.ศ. ๒๕๕๕–๒๕๕๙ ให้บรรลุเป้าหมายอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพตอ่ ไป

๒. สถานการณ์และแนวโน้มการพัฒนาการกีฬาและการออกกำ�ลังกาย

๒.๑ การพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)
มุ่งพัฒนาภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และขับเคล่ือนให้บังเกิดผลในทางปฏิบัติที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ในทุกระดับ ยึดคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา ให้ความส�ำคัญกับการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
ในสงั คมพัฒนาประเทศสู่ความสมดุลในทุกมิตอิ ย่างบูรณาการและเป็นองคร์ วม
๒.๒ การพฒั นาการกฬี าทผี่ า่ นมา ยงั ไมป่ ระสบผลส�ำเรจ็ เทา่ ทคี่ วร โดยเฉพาะในดา้ นการพฒั นากฬี าขน้ั พน้ื ฐาน
การดูกฬี า และเลน่ กีฬาของประชาชนยงั มีน้อย การน�ำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกฬี ามาใชใ้ นการพัฒนาการกฬี า
ทุกระดับอยา่ งจริงจงั และการบริหารจัดการกีฬาแบบบรู ณาการ

แผนพัฒนาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

ข กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า

๒.๓ ส�ำหรับแนวโน้มทางด้านกีฬา กระแสการให้ความสนใจต่อสุขภาพ การก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ การต่ืนตัว
ในเรอ่ื งของการออกก�ำลงั กายเพอ่ื สขุ ภาพของคนทวั่ โลก ท�ำใหป้ ระชาชนใหค้ วามสนใจดแู ลสขุ ภาพ เลน่ กฬี า และออกก�ำลงั กาย
มากขน้ึ การกีฬายงั มสี ่วนส�ำคัญในการสรา้ งความภาคภมู ใิ จ สร้างแรงบนั ดาลใจ กอ่ ให้เกิดความสมานฉันท์และสามคั คี
ของคนในชาติ การกีฬายังสามารถเป็นอาชีพท่ีสามารถสร้างรายได้ และมีส่วนส�ำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของ
ประเทศได้
๒.๔ การออกก�ำลังกายและเล่นกีฬาของประชาชน มีอัตราเพิ่มข้ึนเล็กน้อย จากการส�ำรวจของส�ำนักงาน
สถิติแห่งชาติเก่ียวกับการส�ำรวจพฤติกรรมการออกก�ำลังกายของประชากรปี ๒๕๔๖, ๒๕๔๗ และ ๒๕๕๐ พบว่า
ประชาชนมีแนวโน้มของการออกก�ำลังกายเพิ่มข้ึนเล็กน้อย คือ จากร้อยละ ๒๙.๐ ร้อยละ ๒๙.๑ และร้อยละ ๒๙.๖
ในปี ๒๕๔๖, ๒๕๔๗ และ ๒๕๕๐ ตามล�ำดับ (ส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ, ๒๕๕๑ อ้างถึงในยุทธศาสตร์กระทรวงการ
ท่องเท่ยี วและกฬี า พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

๓. ผลการด�ำ เนนิ งานตามแผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๒ (พ.ศ. ๒๕๔๐-๒๕๔๔) และ
ฉบับท่ี ๓ (พ.ศ. ๒๕๔๕-๒๕๔๙)

การด�ำเนนิ งานตามแผนพัฒนาการกฬี าแห่งชาติ ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๔๐-๒๕๔๔) และแผนพัฒนาการกฬี าแห่งชาติ
ฉบบั ท่ี ๓ (พ.ศ. ๒๕๔๕-๒๕๔๙) ในภาพรวมประสบความส�ำเรจ็ ในระดบั หนงึ่ โดยพบวา่ ประชาชนมคี วามตน่ื ตวั ในการออกก�ำลงั กาย
และเล่นกีฬามากข้ึน ภาครัฐและเอกชนให้การส่งเสริม สนับสนุนการกีฬา และมีการน�ำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา
มาใชใ้ นการพัฒนาการกฬี ามากข้นึ อยา่ งไรกต็ ามยังมผี ลการด�ำเนินงานหลายสว่ นทยี่ งั ไม่บรรลุตามเปา้ หมายทีว่ างไว้ ดังน้ี
๑. ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาขั้นพ้ืนฐาน ครูพลศึกษาระดับประถมศึกษายังมีไม่ครบทุกโรงเรียน
ในระดบั มหาวทิ ยาลยั มหี ลักสูตรบงั คบั พลศกึ ษาเพียงบางมหาวิทยาลัย และมีผฝู้ กึ สอนกีฬาพืน้ ฐานไม่ครบทุกหมู่บา้ น
๒. ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาเพ่ือมวลชน ยังไม่มีตัวแทนรับผิดชอบกีฬามวลชนในคณะกรรมการกีฬา
จังหวัด มีสวนสุขภาพส�ำหรับประชาชนยังไม่ครบทุกต�ำบล และหน่วยงานส่วนใหญ่ยังไม่มีสถานที่ออกก�ำลังกายให้
บุคลากร
๓. ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ ยังไม่มีการจัดตั้งสถาบันพัฒนาบุคลากรด้านการกีฬา
ศนู ยฝ์ กึ กฬี าแหง่ ชาติ และศนู ยฝ์ กึ ระดบั ภมู ภิ าค มสี นามกฬี าทไี่ ดม้ าตรฐาน ๓๖ แหง่ (ยงั ไมค่ รบทกุ จงั หวดั ) และมกี ารน�ำ
วทิ ยาศาสตร์การกฬี ามาใชป้ ระโยชน์ระดบั ต�่ำ
๔. ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาเพื่อการอาชีพ ยังไม่ได้พัฒนากีฬาอาชีพอย่างแท้จริง บุคลากรด้านกีฬา
อาชีพยังมีจ�ำนวนน้อย และคุณภาพยังไม่ได้มาตรฐานสากล กฎหมายและระเบียบท่ีเก่ียวข้องกับกีฬาอาชีพยังไม่ได้
ประกาศใช้ การจัดการแขง่ ขนั กฬี าอาชีพยงั ไม่ไดม้ าตรฐาน การสนบั สนุนกฬี าอาชพี จากภาคเอกชน และผลตอบแทน
ด้านสทิ ธิประโยชนด์ ้านตา่ ง ๆ ยงั อยใู่ นระดับท่ตี ำ่�
๕. ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารกฬี า การเผยแพรค่ วามรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี า
และเทคโนโลยีทางการกีฬายังมีอยู่ในระดับท่ีต่�ำ ยังไม่มีศูนย์สารสนเทศทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาและเทคโนโลยี
ทางการกฬี า และมกี ารใชค้ วามรู้ด้านโภชนาการในการพฒั นาโครงสรา้ งทางรา่ งกายของนักกีฬาอยู่ในระดบั ทีต่ �่ำ
๖. ยุทธศาสตร์การพัฒนาการบริหารการกีฬา ยังไม่มีศูนย์สารสนเทศทางการกีฬาเพื่อใช้บริหารงานและ
การติดตามประเมินผลการด�ำเนินงานด้านการกีฬา สมาคมกีฬาท่ีมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสมาคมยังมีอยู่

แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ค

ในจ�ำนวนท่ตี ่�ำ สถานกีฬาและส่งิ อ�ำนวยความสะดวกยงั มีจ�ำนวนไม่เพยี งพอ กฎระเบยี บ ขอ้ บงั คบั กฎหมายท่ีเก่ยี วขอ้ ง
กับการกีฬายังไม่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย การบริหารงานด้านการกีฬาขององค์กรต่างๆ ยังขาดหลักธรรมาภิบาล
และการบรหิ ารงานขาดการติดตามและประเมินผล

๔. ผลการดำ�เนินงานตามแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔)

ผลการวิจัยในสาระของแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔) ประกอบด้วย
๖ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาข้ันพื้นฐาน ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาเพื่อมวลชน
ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาเพ่ือความเป็นเลิศ ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาเพ่ือการอาชีพ ยุทธศาสตร์
การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา และยุทธศาสตร์การพัฒนาการบริหารการกีฬา ซ่ึงในการประเมินผล
การด�ำเนินงานของยุทธศาสตร์ต่างๆ ได้ใช้หลักการพิจารณาจากการสัมภาษณ์ การด�ำเนินการตามวัตถุประสงค์
ตัวชี้วัดและมาตรการต่างๆ นั้น “เป็นไปตามเป้าหมาย” หรือ “ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย” โดยแยกรายตัวช้ีวัด
ซึ่งมีข้อค้นพบจากการทบทวนและประเมินแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔)
สรปุ ได้ดงั นี้
๑. ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาขั้นพื้นฐาน มีวัตถุประสงค์ ๓ ข้อ ๗ ตัวช้ีวัด พบว่าไม่มีวัตถุประสงค์ใด
ทด่ี ำ�เนนิ งานเปน็ ไปตามเป้าหมาย
๒. ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาการกีฬาเพ่อื มวลชน มวี ัตถุประสงค์ ๑ ขอ้ ๓ ตวั ชี้วดั พบวา่ ไมม่ วี ัตถุประสงค์ใด
ที่ดำ�เนนิ งานเปน็ ไปตามเปา้ หมาย
๓. ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ มีวัตถุประสงค์ ๕ ข้อ ๑๐ ตัวชี้วัด พบว่า
มีวัตถุประสงค์ที่เป็นไปตามเป้าหมาย คือ วัตถุประสงค์ข้อที่ ๑ ตัวชี้วัดที่ ๑, ๒ และ ๔, วัตถุประสงค์ ข้อที่ ๒
ตัวชี้วัดที่ ๓, วัตถุประสงค์ข้อที่ ๓ ตัวชี้วัดที่ ๑ และวัตถุประสงค์ข้อที่ ๕ ตัวชี้วัดที่ ๑ สำ�หรับวัตถุประสงค์
ที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย คือวัตถุประสงค์ข้อที่ ๑ ตัวชี้วัดที่ ๓ และ ๕, วัตถุประสงค์ข้อที่ ๒ ตัวชี้วัดที่ ๑ และ
วัตถุประสงค์ข้อที่ ๔ ตัวชี้วัดที่ ๑
๔. ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาเพื่อการอาชีพ มีวัตถุประสงค์ ๕ ข้อ ๑๔ ตัวช้ีวัด พบว่ามีวัตถุประสงค์
ท่ีด�ำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายคือ วัตถุประสงค์ข้อที่ ๑ ตัวช้ีวัดที่ ๑, ๒ และ ๓, วัตถุประสงค์ข้อท่ี ๒ ตัวช้ีวัดท่ี ๒
และ ๓, วัตถุประสงคข์ อ้ ที่ ๓ ตัวชีว้ ดั ที่ ๑ และ ๒, วัตถปุ ระสงคข์ ้อท่ี ๕ ตวั ช้ีวดั ที่ ๑ ส�ำหรับวัตถุประสงคท์ ดี่ �ำเนนิ งาน
ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย พบในวัตถุประสงค์ข้อที่ ๒ ตัวช้ีวัดท่ี ๑, ๔, และ ๕, วัตถุประสงค์ข้อท่ี ๔ ตัวชี้วัดที่ ๑ และ
วตั ถปุ ระสงค์ข้อที่ ๕ ตัวชี้วดั ท่ี ๒ และ ๓
๕. ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มีวัตถุประสงค์ ๓ ข้อ ๑๐ ตัวช้ีวัด
พบว่ามีวัตถุประสงค์ที่ด�ำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย คือ วัตถุประสงค์ข้อท่ี ๑ ตัวชี้วัดที่ ๑ และ ๒, วัตถุประสงค์
ข้อที่ ๒ ตัวชี้วัดที่ ๑, วัตถุประสงค์ข้อที่ ๓ ตัวช้ีวัดที่ ๑, ๒ และ ๓ ส�ำหรับ วัตถุประสงค์ที่ด�ำเนินการไม่เป็น
ไปตามเป้าหมาย พบในวัตถุประสงค์ข้อที่ ๑ ตัวช้ีวัดท่ี ๓, วัตถุประสงค์ข้อที่ ๒ ตัวช้ีวัดท่ี ๒ และ ๓, วัตถุประสงค์
ขอ้ ท่ี ๓ ตวั ชวี้ ัดท่ี ๔
๖. ยุทธศาสตร์การพัฒนาการบริหารการกีฬา มีวัตถุประสงค์ ๒ ข้อ ๑๐ ตัวช้ีวัด พบว่ามีวัตถุประสงค์
ที่ด�ำเนินงานเป็นไปตามเปา้ หมาย คือวัตถปุ ระสงคข์ ้อที่ ๑ ตัวช้วี ัดที่ ๑, ๔ และ ๘ ส�ำหรับวตั ถปุ ระสงค์ทไี่ ม่เป็นไปตาม
เป้าหมาย พบในวตั ถุประสงคข์ อ้ ท่ี ๑ ตัวช้วี ดั ท่ี ๒, ๓, ๕, ๖, และ ๗ และ วัตถุประสงค์ข้อที่ ๒ ตัวชว้ี ัดท่ี ๑ และ ๒

แผนพัฒนาการกฬี าแห่งชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

ง กระทรวงการท่องเทยี่ วและกีฬา

ขอ้ เสนอแนะจากการวิจยั
๑. การก�ำหนดยุทธศาสตร์หลักของแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ควรน�ำ
ข้อค้นพบจากการประเมินมาเป็นข้อมูลพ้ืนฐานในการจัดท�ำแผนฯ และในการร่างแผนพัฒนาฯ ควรจะคงยุทธศาสตร์
การพัฒนาการกีฬาท้ัง ๖ ยุทธศาสตร์เอาไว้ เพราะได้ครอบคลุมประเด็นส�ำคัญต่างๆ ของการพัฒนากีฬาชาติไว้
ค่อนข้างครบถ้วนแล้ว แต่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบและถ่ีถ้วนเพ่ือให้มีความรัดกุมในตัวช้ีวัดซ่ึงต้องมีความเป็นไปได้
อยา่ งเปน็ รูปธรรม
๒. เพอื่ ใหแ้ ผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาตไิ ดล้ งไปสภู่ าคปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ยา่ งจรงิ จงั ถกู ตอ้ ง และเปน็ ไปตามเจตนารมณ์
ของผวู้ างนโยบาย และก�ำหนดยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ในการวางกรอบแผนงานจะตอ้ งมคี ณะกรรมการ
นิเทศติดตาม และประเมินผลการใช้แผนฯ โดยควรจะมีการนิเทศ เม่ือแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติได้มีการประกาศ
ใช้อย่างเป็นทางการแล้ว มีการติดตามและประเมินผลทุกปีหรือในระยะครึ่งแผน เพื่อความเข้าใจท่ีถูกต้องตรงกัน
ของผู้ปฏิบตั ิ และเกบ็ รวบรวมข้อมูลอยา่ งเป็นระบบ
๓. สมรรถภาพทางกายของเด็ก เยาวชน และประชาชนท่ัวไป เป็นดัชนีส�ำคัญตัวหนึ่งที่จะชี้วัดถึงความเจริญมั่นคง
ของประเทศชาติ เพ่ือให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสมรรถภาพทางกายของเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป ปรากฏอย่างเป็น
รูปธรรม ใช้เป็นหลักฐานในการจัดท�ำแผนพัฒนาก�ำลังคนในชาติได้อย่างถูกต้อง จึงสมควรจะได้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบ
ในเร่ืองน้ีอย่างจริงจัง มีการท�ำงานอย่างต่อเนื่อง สม่�ำเสมอ มีตัวเลขที่จะใช้เป็นดัชนีชี้วัดความแข็งแรง สมบูรณ์ของร่างกาย
เพ่อื จะไดน้ �ำผลไปใชใ้ นการประเมนิ องคป์ ระกอบอน่ื ๆ ทีม่ ีสว่ นชว่ ยพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมของประเทศชาตไิ ด้
๔. การประสานสมั พนั ธง์ านระดบั กระทรวงทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั โรงเรยี นกฬี า เปน็ ทท่ี ราบกนั ดอี ยแู่ ลว้ วา่ โรงเรยี นกฬี า
ได้จัดต้ังขึ้นมาเพ่ือเป็นเป้าหมายให้เป็นแหล่งในการผลิตบุคลากรทางการกีฬา ไปสู่ความเป็นเลิศและก้าวต่อไปสู่
ความเป็นกีฬาเพื่อการอาชีพ แต่สภาพความเป็นจริง ณ ปัจจุบัน น้ัน พบว่าการผลิตก�ำลังคนทางการกีฬาของโรงเรียน
ยังไม่ประสบผลส�ำเร็จเท่าที่ควร ท้ังนี้ เป็นเพราะมีปัจจัยต่างๆที่เข้ามามีส่วนเก่ียวข้องมากมาย ปัจจัยท่ีส�ำคัญ
ประการหน่ึงคือ การขาดการประสานสัมพันธ์งานในระดับกระทรวงต่างๆ ท่ีเก่ียวข้อง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย เพ่ือไม่ให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณ
และก�ำลังคนท่ีเป็นเป้าหมายหลักเพ่ือการพัฒนาองค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ควรจะได้ร่วมกันท�ำงานแบบบูรณาการ
เพ่ือใหโ้ รงเรยี นกฬี าเปน็ แหลง่ ในการเพาะพันธ์ุนกั กีฬาอย่างแทจ้ ริง
๕. การจัดท�ำพระราชบัญญัติกฎหมายกีฬาอาชีพ ในแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ต้ังแต่ฉบับท่ี ๒
(พ.ศ. ๒๕๔๐-๒๕๔๔) ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๔๕-๒๕๔๙) และฉบับท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔) ได้ระบุยุทธศาสตร์
การพัฒนาการกีฬาเพ่ือการอาชีพไว้อย่างชัดเจน แต่ในการด�ำเนินงานเพ่ือเตรียมกีฬาทั้ง ๑๒ ชนิดกีฬาท่ีการกีฬา
แห่งประเทศไทยวาดหวังจะให้เป็นกีฬาเพ่ือการอาชีพนั้น ปรากฏว่า ประเทศไทยยังไม่มีพระราชบัญญัติกฎหมาย
กีฬาอาชีพไว้บังคับใช้ ดังน้ัน ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องจะต้องผลักดันให้ประเทศไทยได้มีพระราชบัญญัติกฎหมายกีฬาอาชีพ
มาบังคบั ใช้อย่างรบี ดว่ น
๖. การกระจายงานดา้ นการกฬี าลงสอู่ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ เพอื่ ใหก้ ารสง่ เสรมิ และพฒั นากฬี าของประเทศ
เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รฐั บาลจะตอ้ งเปดิ โอกาสใหป้ ระชาชนทกุ ภาคสว่ นไดม้ สี ว่ นรว่ มในการคดิ การท�ำ การรบั ผดิ ชอบ
งานกีฬาของประเทศตามระดับความรับผิดชอบของแต่ละภาคส่วน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินควรเป็นผู้ท่ีมีบทบาท
ในเรอ่ื งนี้อยา่ งชัดเจน เพราะเปน็ กล่มุ บคุ คลทีท่ ำ�งานกับประชาชนในระดบั รากหญ้า การเปิดโอกาสใหภ้ าคีต่างๆ เขา้ มา

แผนพัฒนาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จ

มีส่วนร่วมในการทำ�กิจกรรมจะทำ�ให้ช่วยลดหรือขจัดปัญหาการผูกขาดในการดำ�เนินงานของสโมสร และสมาคมกีฬา
ตา่ งๆ ได้
๗. การจัดตัง้ ศนู ยส์ ารสนเทศดา้ นการกฬี าการออกก�ำลงั กาย ศนู ยข์ ้อมูลทางการกฬี า นบั เปน็ หวั ใจส�ำคญั ของ
การด�ำเนนิ งานตามแผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ทกุ คร้ังท่มี ีการประเมินโครงการต่างๆ จะพบวา่ ระบบการสบื คน้ ขอ้ มูล
ของประเทศไทยคน้ หาขอ้ มลู ไดย้ ากมาก ทง้ั นเี้ พราะไมม่ กี ารเกบ็ ขอ้ มลู ตา่ งๆ อยา่ งเปน็ ระบบ ขอ้ มลู ยงั กระจดั กระจายกนั อยู่
และอาจจะไม่มีการเก็บข้อมูลเอาไว้เลย ท�ำให้เสียโอกาสในการเช่ือมโยงกับข้อมูลท่ีส�ำคัญๆ ท้ังในระดับชาติและระดับ
นานาชาติ คณะนักวจิ ยั เห็นว่า ผ้มู หี น้าที่เก่ียวข้องควรจะได้มีการจดั ตัง้ ศูนย์สารสนเทศทางการกฬี า การออกก�ำลังกาย
หรือมีช่ือเรียกเป็นอย่างอื่นเพื่อเป็นแหล่งรวมขององค์ความรู้ต่างๆ ท่ีทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์และสามารถเช่ือมโยง
กบั ฐานข้อมูลอื่นๆทม่ี ีความเกี่ยวข้องกัน ทัง้ นเ้ี พื่อเปน็ การประหยดั งบประมาณในการสบื ค้นขอ้ มลู ได้อกี ทางหนึ่ง
๘. การผลิตบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ณ ห้วงเวลานี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สหวิทยาการ
ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ไม่ว่าจะเป็นสรีรวิทยาการออกก�ำลังกาย ชีวกลศาสตร์ทางการกีฬา จิตวิทยาการกีฬาและ
การออกก�ำลังกาย โภชนศาสตร์ทางการกีฬา เวชศาสตร์ทางการกีฬา ศาสตร์ของการเป็นผู้ฝึก และองค์ความรู้
ทางด้านการบริหารจัดการการกีฬา ต่างก็เป็นองค์ความรู้ท่ีจะช่วยพัฒนาคนให้เป็นคนท่ีมีคุณภาพ พัฒนานักกีฬา
ให้เป็นผู้มีศักยภาพไปสู่ความเป็นเลิศ และก้าวข้ึนไปเป็นนักกีฬาอาชีพได้อย่างเต็มตัว ดังน้ัน การผลิตก�ำลังคน
ทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาให้เป็นผู้ช�ำนาญการ และเป็นผู้เช่ียวชาญในองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา
ท่ีแท้จริง และเข้มข้นในวิชาชีพน้ัน จึงมีความจ�ำเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องรีบด�ำเนินการอย่างเร่งด่วน จริงจัง และจริงใจ
เพราะมิฉะน้ัน ประเทศไทยอาจจะมีนักวิทยาศาสตร์การกีฬาท่ีตกรุ่นอยู่มากมาย โดยที่ไม่สามารถน�ำองค์ความรู้
ท่ีได้รับจากสถาบันผู้ผลิตมาใช้ในสถานการณ์จริง ดังนั้น สถาบันผู้ผลิต สถาบัน หน่วยงานหรือองค์กรผู้ใช้บริการ
รวมท้ังสมาคมวิชาชีพ จะต้องร่วมมือกันในลักษณะ ไตรภาคี หรือ พหุภาคี เพ่ือยกระดับมาตรฐานของความเป็น
นกั วทิ ยาศาสตร์การกฬี า เพือ่ ความเจริญก้าวหนา้ ของศาสตร์น้ีอยา่ งแท้จริง
๙. การอนุรักษ์และส่งเสริมกีฬาและการละเล่นพ้ืนบ้านของชาติ ประเทศไทยเป็นประเทศท่ีมีประวัติศาสตร์
ความเป็นมาอย่างยาวนาน กิจกรรมการละเล่นพ้ืนบ้านที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมอันดีงามของชาวไทยท่ีมีอยู่มากมาย
เพอื่ อนรุ กั ษส์ งิ่ ทเ่ี ปน็ สมบตั ขิ องชาตแิ ละเกบ็ รกั ษาไวเ้ พอ่ื การศกึ ษาของเยาวชนรนุ่ หลงั ในแผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕
(พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) สมควรจะไดม้ กี ารวางมาตรการและมตี วั ชวี้ ดั ของการอนรุ กั ษก์ ฬี าและการละเลน่ พน้ื บา้ นของไทย
ไว้ดว้ ย เพอ่ื ไม่ใหค้ วามส�ำคัญและความจ�ำเปน็ ทจ่ี ะต้องรกั ษาไวห้ ลดุ หายไป
๑๐. การสร้างสนามกีฬา ศูนย์กีฬาที่เป็นมาตรฐาน สถานกีฬาของรัฐซึ่งกระจายกันอยู่ในจังหวัดต่างๆ
หลายแหง่ ยงั ขาดมาตรฐาน ขาดอปุ กรณป์ ระจ�ำสนามทท่ี นั สมยั โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ระบบแสงสวา่ ง ระบบเสยี ง บรเิ วณรอบๆ
สนาม ซงึ่ ท�ำใหเ้ กดิ ความไม่ปลอดภัยส�ำหรับนกั กฬี า ผูต้ ดั สิน ระบบการแสดงขอ้ มูลและผลการแขง่ ขนั (score board)
ก็ไมเ่ ป็นมาตรฐาน องค์ประกอบพน้ื ฐานส�ำคัญเหล่านี้ ท�ำให้ประเทศไทยขาดโอกาสในการได้รับคัดเลอื กใหเ้ ป็นเจา้ ภาพ
ในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ท�ำให้สูญเสียรายได้ที่จะเข้าสู่ประเทศจากการเดินทางของนักท่องเท่ียว
เมอื่ ประเทศไทยไดร้ บั เปน็ เจา้ ภาพในมหกรรมกฬี าตา่ งๆ และเปน็ การสวนกระแสทรี่ ฐั บาลชดุ ปจั จบุ นั ไดแ้ สดงเจตนารมณ์
ในการเปิดโอกาสให้เสนอตัวให้เป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรมทางด้านกีฬา พลศึกษา และวิทยาศาสตร์การกีฬา
เพื่อเชื่อมต่อการท่องเที่ยว ในกรณีน้ีถึงแม้จะเป็นการลงทุนท่ีต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูงแต่หากรัฐบาล
จะได้มกี ารก�ำหนดนโยบายใหม้ ีการสนับสนุนจากส�ำนกั งบประมาณและให้องค์ปกครองส่วนทอ้ งถ่ินไดม้ ีส่วนรว่ มดว้ ย

แผนพฒั นาการกีฬาแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

ฉ กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า
๕. กระบวนการจัดทำ�แผนพัฒนาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

การจัดท�ำแผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ฉบับน้ี กระทรวงการทอ่ งเท่ียวและกีฬา
ไดเ้ นน้ กระบวนการมสี ่วนรว่ มจากทุกภาคส่วนท้งั ในหนว่ ยงานทม่ี หี น้าทีร่ บั ผิดชอบด้านการกีฬาโดยตรง และหน่วยงาน
ท่ีเก่ียวข้อง ซ่ึงประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการอ�ำนวยการและคณะท�ำงานจัดท�ำแผนพัฒนาการกีฬา
แหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) โดยมผี แู้ ทนจากหนว่ ยงานภาครฐั รฐั วสิ าหกจิ องคก์ รเอกชน สถาบนั การศกึ ษา
สมาคมกีฬากีฬา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และนักวิชาการ กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬาได้มอบหมาย
ให้ด�ำเนินการแต่งตั้งคณะท�ำงานเพื่อขับเคล่ือนและประสานการยก (ร่าง) แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติข้ึน
ประกอบด้วยคณะท�ำงาน ผู้ทรงคุณวุฒิประจ�ำยุทธศาสตร์ท้ัง ๖ ยุทธศาสตร์ โดยมี นายสมพงษ์ ชาตะวิถี อธิการบดี
สถาบนั การพลศึกษาเป็นประธานคณะท�ำงาน
การด�ำเนินการในส่วนภูมิภาคสถาบันการพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ด�ำเนินการจัดประชุม
เชิงปฏิบัติการเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติฯ ใน ๔ ภาค ได้แก่ ภาคเหนือด�ำเนินการ
ที่จังหวัดล�ำปาง โดยมีสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตล�ำปางเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทจี่ งั หวดั อดุ รธานี โดยมสี ถาบนั การพลศกึ ษา วทิ ยาเขตอดุ รธานี เปน็ หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบ ภาคใตท้ จ่ี งั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี
โดยมีสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชุมพรเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ และภาคกลางด�ำเนินการท่ีกรุงเทพมหานคร
โดยมสี �ำนักงานอธิการบดี สถาบนั การพลศึกษา เปน็ หน่วยงานรับผิดชอบ พรอ้ มทั้งไดแ้ จ้งเวียนให้หน่วยงานทเ่ี ก่ียวข้อง
มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นข้อเสนอแนะและพิจารณา (ร่าง) แผนฯ รวมท้ังจัดประชุมคณะกรรมการและ
คณะท�ำงานจัดท�ำ (ร่าง) แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) เพื่อการปรับปรุงแก้ไข (ร่าง)
แผนพฒั นาการกีฬาแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)
โดยมีกรอบแนวคิดในการจัดท�ำแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๙) บนพื้นฐาน
ของหลักการทฤษฎีท่ีเกี่ยวข้องด้านการออกก�ำลังกายและการกีฬา ข้อมูลแนวโน้ม สถานการณ์ และทิศทาง
การพฒั นาการกฬี า กรอบความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศ มาเปน็ ขอ้ มลู ประกอบการวเิ คราะห์ รวมทงั้ นโยบายของรฐั บาล
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ยุทธศาสตร์กระทรวงการท่องเท่ียว
และกีฬา พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙ และระเบียบท่ีเกี่ยวข้อง เพ่ือให้สามารถบูรณาการภารกิจด้านกีฬาได้อย่างเป็นระบบ
เหมาะสม และได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายที่เก่ียวข้อง เพื่อใช้เป็นกรอบในการก�ำหนดแนวทางการพัฒนาและบริหาร
จดั การกีฬาของประเทศใหเ้ กิดความยงั่ ยนื

๖. สาระส�ำคญั ของแผนพัฒนาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

๖.๑ วิสัยทศั น์
คนไทยไดร้ บั การสง่ เสรมิ การออกก�ำลงั กายและเลน่ กฬี าอยา่ งถกู ตอ้ งจนเปน็ วถิ ชี วี ติ มสี ขุ ภาพ สมรรถภาพ
ที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม และมีน้�ำใจนักกีฬา หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวเพ่ือความสามัคคีสมานฉันท์ พัฒนากีฬาสู่
ความเปน็ เลศิ โดยใชว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารกฬี าเพอื่ พฒั นานกั กฬี าทมี่ ศี กั ยภาพใหไ้ ดม้ าตรฐานสากล มกี ารบรหิ าร
จัดการกีฬาทุกมติ อิ ยา่ งเปน็ ระบบ เพ่ือสร้างรายได้สรา้ งอาชีพและพฒั นาเศรษฐกิจของประเทศ

แผนพฒั นาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการท่องเท่ยี วและกีฬา ช

๖.๒ พนั ธกจิ
๑) เพิม่ โอกาสใหค้ นไทยได้รบั การสง่ เสรมิ การออกก�ำลงั กายและการเล่นกฬี าอยา่ งท่วั ถงึ และมคี ณุ ภาพ
๒) สง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ มของสงั คมทกุ ภาคสว่ นในการใชก้ จิ กรรมการออกก�ำลงั กายและการกฬี าและเปน็
สอื่ ในการสร้างสังคมสามคั คสี มานฉันท์
๓) พัฒนาศักยภาพของนักกีฬาโดยใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาให้ได้มาตรฐานระดับสากล น�ำไปสู่กีฬา
เพ่ือความเปน็ เลศิ และกีฬาอาชีพ
๔) พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการบริหารจัดการกฬี าและการออกก�ำลังกายทุกมติ ิ อย่างเป็นระบบ
๖.๓ วตั ถปุ ระสงค์
๑) เพ่ือส่งเสริมให้คนไทยได้รับโอกาสในการออกก�ำลังกายและเล่นกีฬาอย่างท่ัวถึงและมีคุณภาพ
เพอ่ื สร้างคา่ นิยมวิถชี ีวิตรกั การเล่นกีฬาและออกก�ำลงั กาย สู่การมีสุขภาพและสมรรถภาพทด่ี ี
๒) เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสังคมทุกภาคส่วน ในการใช้กิจกรรมการออกก�ำลังกายและการกีฬา
เปน็ ส่อื เพอื่ สร้างสังคมทีม่ ีน้�ำใจนักกฬี า มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และสามคั คีสมานฉนั ท์
๓) เพื่อจัดหาและพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานด้านการกีฬาให้เพียงพอ โดยเฉพาะส่ิงอ�ำนวยความสะดวก
เชน่ สนามกฬี า วัสดุ อุปกรณท์ ท่ี ันสมัย รวมทงั้ การจดั ให้มผี ูฝ้ กึ สอนและอาสาสมคั รดา้ นการออกก�ำลงั กายและการกีฬา
ประจ�ำศนู ย์และสนามกฬี า
๔) เพอ่ื ปรบั บทบาทของกองทนุ พฒั นากฬี าแหง่ ชาติ ใหส้ นบั สนนุ ภารกจิ ในการพฒั นานกั กฬี าตง้ั แตร่ ะดบั
เดก็ และเยาวชน โดยจดั ใหม้ ที นุ การศกึ ษาและทนุ สนบั สนนุ แกเ่ ดก็ และเยาวชนทมี่ คี วามสามารถและมแี นวโนม้ วา่ จะเปน็
ผมู้ ีความสามารถสูงดา้ นกีฬาในระดบั นานาชาติ ใหส้ ามารถพฒั นาเปน็ นกั กฬี าทีมชาติทส่ี รา้ งชอื่ เสยี งและเป็นแบบอยา่ ง
ที่ดีแก่เยาวชนของประเทศ
๕) เพ่ือส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุนและการบริจาค เพ่ือพัฒนาการออกก�ำลังกายและ
การกีฬาด้วยมาตรการจูงใจที่เหมาะสม เช่น มาตรการภาษี มาตรการส่งเสริมการลงทุน และมาตรการการเงิน ภายใต้
ความโปร่งใสและมีธรรมาภบิ าล
๖) เพ่ือพัฒนากีฬาเพ่ือความเป็นเลิศ ด้วยการน�ำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬามาประยุกต์ใช้
อย่างจริงจงั เพ่อื พฒั นากีฬาทีม่ ศี ักยภาพไปสู่กฬี าอาชีพ รวมทัง้ พฒั นาผฝู้ กึ สอนและผตู้ ดั สนิ ใหไ้ ด้มาตรฐานสากล
๗) เพื่อปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการองค์กรกีฬา
เพือ่ พฒั นาคุณภาพและมาตรฐานการบริหารจัดการกีฬาและการออกก�ำลงั กายในทกุ มิตอิ ยา่ งเปน็ ระบบ
๘) เพอื่ สนบั สนนุ ใหผ้ พู้ กิ ารเขา้ ถงึ การกฬี าและการแขง่ ขนั กฬี าในทกุ ระดบั เพอ่ื พฒั นาไปสกู่ ารเปน็ นกั กฬี า
ที่มคี วามสามารถในนามทีมชาตไิ ทยในการแข่งขนั กีฬาและมหกรรมกีฬาต่างๆ
๙) เพ่ือส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกีฬาของภูมิภาคและของโลก จัดให้มีการแข่งขันกีฬาและ
กีฬาคนพิการระดับโลกที่ส�ำคัญๆ ตลอดจนการประชุมเก่ียวกับกีฬาระดับภูมิภาค และระดับโลก เพ่ือเชื่อมโยงกับ
การท่องเท่ยี ว โดยความรว่ มมอื และการมีส่วนร่วมจากทุกฝา่ ยเป็น “ทีมไทยแลนด”์

แผนพัฒนาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

ซ กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า

๖.๔ เปา้ หมายหลัก
๑) เดก็ และเยาวชนทกุ กลมุ่ ทงั้ ในสถานศกึ ษาและนอกสถานศกึ ษา อยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ ๘๐ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ
มเี จตคติ และทกั ษะในการออกก�ำลงั กายและเลน่ กฬี าขน้ั พนื้ ฐาน มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม มรี ะเบยี บวนิ ยั และนำ้� ใจนกั กฬี าตาม
คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ รวมท้งั สามารถออกก�ำลงั กายและเลน่ กฬี า ชม และเชยี รก์ ฬี าตามระเบียบและกฎกติกา
๒) เดก็ และเยาวชนทกุ กลมุ่ ท้ังในสถานศกึ ษาและนอกสถานศกึ ษา อายุ ๓-๑๑ ปี อย่างนอ้ ยร้อยละ ๘๐
มีทักษะพืน้ ฐานการเคลอ่ื นไหวพืน้ ฐาน เชน่ การเดิน ว่งิ กระโดด ปนี ป่าย ยืดหยุ่นและการเล่นผาดโผน ตามเกณฑค์ วาม
สามารถของแต่ละระดบั อายุ
๓) เดก็ และเยาวชนทกุ กลมุ่ ทง้ั ในสถานศกึ ษาและนอกสถานศกึ ษา อายุ ๑๒-๑๘ ปี อยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ ๘๐
มที กั ษะพื้นฐานการเลน่ กีฬาอยา่ งน้อย ๑ ชนดิ กฬี า ตามความสามารถของเพศและอายุ
๔) เดก็ และเยาวชนทกุ กลมุ่ ทมี่ คี วามสามารถพเิ ศษทางการกฬี า ไดร้ บั การสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ เพอื่ พฒั นา
ความสามารถทางการกีฬาส่คู วามเปน็ เลิศอยา่ งต่อเนื่องและเป็นระบบ
๕) ประชาชนทุกกลุ่ม ร้อยละ ๖๐ ออกก�ำลังกายและเล่นกีฬาอย่างเหมาะสมและสม่�ำเสมออย่างน้อย
สัปดาห์ละ ๓ วนั ๆ ละไมน่ ้อยกว่า ๓๐ นาที และรอ้ ยละ ๕๐ มสี ุขภาพดีและสมรรถภาพอยู่ในเกณฑด์ ี
๖) ชมุ ชนระดบั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ รอ้ ยละ ๒๕ มสี ถานท่ี บรกิ ารดา้ นการออกก�ำลงั กายและการ
กีฬา ตามเกณฑม์ าตรฐาน
๗) ประเทศไทยเป็นเจ้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในชนิดกีฬาสากลที่มีการแข่งขันในกีฬา
เอเชียนเกมส์ อาเซยี นพาราเกมสแ์ ละโอลิมปิกเกมส์
๘) ประเทศไทยอยใู่ นอันดบั ๑-๕ จากการแขง่ ขนั กีฬาเอเชยี นเกมส์ และเอเชยี นพาราเกมส์ และอนั ดับ
๑-๕ ของเอเชยี จากการแข่งขนั กีฬาพาราลมิ ปกิ เกมส์ และโอลมิ ปกิ เกมส์
๙) มสี ถาบนั ผลิตและพฒั นาผู้ฝึกสอนในระดับชาตแิ ละนานาชาติ
๑๐) มสี ถานกีฬาเพอื่ การฝึกซ้อมและแขง่ ขันที่ไดม้ าตรฐานในแตล่ ะระดบั ในทกุ จงั หวดั
๑๑) จ�ำนวนบุคลากรกีฬาอาชีพและนักกีฬาอาชีพเพ่ิมข้ึนร้อยละ ๓ ต่อปี ซ่ึงนักกีฬาอาชีพมีผลงานหรือ
ระดับความสามารถท่ไี ดม้ าตรฐานนานาชาติ (International ranking) โดยเฉลยี่ ดขี นึ้
๑๒) ระบบการจดั การแข่งขนั กฬี าอาชีพไดม้ าตรฐานเป็นที่ยอมรบั ในระดับสากล
๑๓) มีระบบการวางแผนการประชาสัมพนั ธ์ สวัสดิการและการตดิ ตามผลดา้ นกฬี าอาชพี มากขึน้
๑๔) จ�ำนวนรายได้จากผู้สนับสนุนการด�ำเนินงานด้านการพัฒนากีฬาเพ่ือการอาชีพจากภาครัฐและ
ภาคเอกชนเพ่มิ มากขึ้น
๑๕) จ�ำนวนบคุ ลากรทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์การกีฬาในองคก์ รวิทยาศาสตรก์ ารกฬี า ระดับชาติ ระดบั ภาค
ระดบั จังหวดั และในสมาคมกีฬาต่างๆ เพิม่ ขึ้น
๑๖) มอี งค์กรวิทยาศาสตร์การกีฬา ระดับชาติ ระดับภาค ระดบั จังหวัด ระดับอ�ำเภอ
๑๗) มกี ารศึกษาวิจยั และเผยแพร่องค์ความรูด้ ้านวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารกีฬา
๑๘) มีเคร่ืองมือและอุปกรณ์ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬาระดับชาติ ระดับภาค
ระดับจังหวัด อย่างน้อย ๓ หมวดเคร่ืองมือ คือ เครื่องมือทางชีวกลศาสตร์การกีฬา เครื่องมือทางสรีรวิทยาการ
ออกก�ำลงั กายและกฬี า และเครอื่ งมือทางเวชศาสตร์การกีฬา

แผนพัฒนาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการทอ่ งเทีย่ วและกฬี า ฌ

๑๙) หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธรุ กจิ องคก์ ร สมาคม ชมรมที่เกยี่ วขอ้ งด้านการกฬี า และองคก์ ร
ปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ มกี ารปรบั ปรงุ และพฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การกฬี าเพอื่ เตรยี มการรองรบั การเขา้ รว่ มประชาคม
อาเซียน พ.ศ. ๒๕๕๘ ใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ อย่างน้อยร้อยละ ๖๐
๒๐) มีคณะกรรมการการกีฬาที่มีบทบาทในการบริหารงานการกีฬา อย่างน้อยจ�ำนวน ๑ คณะกรรมการ
ครบทุกระดบั ไดแ้ ก่ ระดับ ต�ำบล อ�ำเภอ จงั หวดั และระดบั ชาติ
๒๑) มีฐานข้อมูลและระบบสารสนเทศด้านการกีฬาในทุกระดับ ต้ังแต่ระดับ ต�ำบล อ�ำเภอ จังหวัด และ
ระดบั ชาติ
๒๒) มกี ารปรบั ปรงุ กฎหมายและระเบยี บตา่ งๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การกฬี าในทกุ ๆ ดา้ น ใหท้ นั สมยั และสามารถ
รองรบั การเปดิ ประชาคมอาเซียน พ.ศ. ๒๕๕๘
๒๓) มกี องทนุ ในการพฒั นาการกฬี าและสวสั ดกิ ารของนกั กฬี าทกุ ระดบั ตง้ั แตร่ ะดบั ต�ำบล อ�ำเภอ จงั หวดั
และระดบั ชาติ
๒๔) มรี ะบบ กลไก การตดิ ตามประเมนิ ผลการด�ำเนนิ งานดา้ นการออกก�ำลงั กายและการเลน่ กฬี าทกุ ระดบั
ตั้งแต่ต�ำบล อ�ำเภอ จังหวัด และระดับชาติ
๖.๕ ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์
แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ประกอบด้วย ๖ ประเด็นยุทธศาสตร์
โดยในแต่ละประเดน็ ยุทธศาสตรม์ ีวตั ถุประสงค์ดังนี้
๑. ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาการออกก�ำลังกายและการกีฬาข้ันพนื้ ฐาน มีวัตถปุ ระสงคเ์ พอ่ื

๑.๑) เพ่ือให้เด็กและเยาวชนทุกกลุ่มมีความรู้ ความเข้าใจ มีเจตคติและทักษะในการออกก�ำลังกาย
และการเลน่ กีฬา
๑.๒) เพื่อให้เด็กและเยาวชนทุกกลุ่มได้รับการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัยและน้�ำใจ
นกั กฬี า และการด�ำเนนิ ชีวติ ในสังคมอยา่ งมคี วามสขุ
๑.๓) เพอ่ื ใหเ้ ดก็ และเยาวชนทกุ กลมุ่ มที กั ษะและความสามารถทางการกฬี าขน้ั พนื้ ฐานไดร้ บั การพฒั นา
สู่ความเปน็ เลศิ ทางด้านกีฬา ตามความถนดั และศักยภาพอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
๒. ยทุ ธศาสตร์การพฒั นาการออกก�ำลงั กายและการเลน่ กฬี าเพ่ือมวลชน มวี ตั ถปุ ระสงค์เพ่อื
๒.๑) เพอ่ื สง่ เสรมิ ให้ประชาชนทุกกล่มุ ไดอ้ อกก�ำลงั กาย และเลน่ กีฬา เป็นวถิ ชี วี ิต

๒.๒) เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มได้มีโอกาสเข้าถึงการบริการด้านการออกก�ำลังกายและการเล่นกีฬา
อย่างท่ัวถงึ และมีคณุ ภาพ

๒.๓) เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพ สมรรถภาพทางกาย คุณธรรม จริยธรรม
ความมนี �้ำใจนกั กฬี า ความสามคั คี และความมีวินัยของคนในชาติ
๓. ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นากฬี าเพ่ือความเปน็ เลศิ มวี ตั ถุประสงคเ์ พ่อื
๓.๑) ให้นักกีฬาทุกกลุ่ม ทุกระดับ มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันและพัฒนาความสามารถโดยมุ่งเน้น
ความเปน็ เลิศในการแข่งขนั กีฬาทงั้ ระดบั ชาตแิ ละนานาชาติ

แผนพฒั นาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

ญ กระทรวงการท่องเทีย่ วและกีฬา

๓.๒) มีระบบและกลไกให้บุคลากรทางการกีฬาได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเพียงพอต่อ
ความต้องการในการพฒั นาการกฬี าทุกระดับ ต้ังแต่ระดบั อ�ำเภอ จงั หวัด ชาติ และนานาชาติ

๓.๓) เพ่ือสร้างและพัฒนาสถานกีฬา อุปกรณ์กีฬา และส่ิงอ�ำนวยความสะดวกเพ่ือรองรับการฝึกซ้อม
และการแข่งขนั กีฬาทกุ ระดับ ตั้งแตร่ ะดบั อ�ำเภอ จงั หวดั ชาติ และนานาชาติ
๓.๔) เพอ่ื สรา้ งระบบและกลไกในการพฒั นาเครอื ขา่ ยองคก์ รกฬี าในแตล่ ะระดบั ใหเ้ ชอ่ื มโยงบรู ณาการ
และมีการบริหารงานอยา่ งมีประสิทธภิ าพ

๓.๕) เพื่อพัฒนาระบบการจดั การแขง่ ขนั กีฬาเพอ่ื ความเปน็ เลศิ ท้งั ระดบั ชาติและนานาชาติ
๔. ยทุ ธศาสตร์การพฒั นากฬี าเพ่อื การอาชีพ มีวัตถุประสงคเ์ พ่ือ
๔.๑) เพ่ือส่งเสริมและพัฒนากีฬาสากลที่มีศักยภาพ และการกีฬาไทยบางชนิดให้เป็นกีฬาอาชีพ
อย่างย่งั ยนื
๔.๒) เพ่ือพัฒนานักกีฬาทุกกลุ่มและบุคลากรกีฬาอย่างครบวงจร โดยพัฒนาท้ังคุณภาพและ
จรรยาบรรณ ตลอดท้ังสนับสนุนให้มีการจัดตั้งสถาบันผลิตบุคลากรกีฬาอาชีพ และส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่มสมาชิก
(แฟนคลบั ) ขององค์กร สโมสร กฬี าอาชีพ ท้ังในส่วนกลางและส่วนภูมภิ าค
๔.๓) เพอื่ พฒั นาระบบและกลไกการจดั การแขง่ ขนั กฬี าอาชพี ใหม้ มี าตรฐานสากล โดยมกี ฎ ระเบยี บ
ข้อบังคบั ท่เี กีย่ วขอ้ งกบั การประกอบอาชีพทางการกีฬาทีเ่ หมาะสมและทนั สมยั
๔.๔) เพ่ือพัฒนาระบบบริหารแบบมืออาชีพโดยสนับสนุนให้มีการจัดสรรทุนส่งเสริมและสวัสดิการ
กฬี าอาชพี เพอื่ การคมุ้ ครองและรกั ษาสทิ ธห์ิ รอื ผลประโยชนร์ วมทง้ั สรา้ งแรงจงู ใจใหอ้ งคก์ รเอกชนรว่ มสง่ เสรมิ กฬี าอาชพี
๕. ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีการกีฬา มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อ
๕.๑) เพ่ือให้มีการจัดตั้งองค์กรด้านวิทยาศาสตร์และเครือข่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาครอบคลุม
ท่ัวประเทศ
๕.๒) เพื่อให้มีการจัดสรรอัตราก�ำลังบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาที่มีความรู้ ความสามารถ
ด้านชีวกลศาสตร์การกีฬา สรีรวิทยาการออกก�ำลังกายและกีฬา เวชศาสตร์การกีฬา จิตวิทยาการกีฬา โภชนาการ
การกีฬาและเทคโนโลยกี ารกีฬา
๕.๓) เพื่อให้มีการสร้างงานวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การกฬี า รวมทั้งให้มีการน�ำไปใชใ้ นการพฒั นาศกั ยภาพนกั กฬี าและประชาชนทุกกลมุ่
๕.๔) เพ่ือให้มีเครื่องมือและอุปกรณ์ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬาในองค์กร
ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาในทกุ ระดับทมี่ ีมาตรฐานส�ำหรบั ให้บรกิ ารนกั กฬี าและประชาชนทกุ กลุ่ม
๖. ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาการบรหิ ารการกฬี าและการออกก�ำลงั กาย มวี ัตถปุ ระสงคเ์ พอ่ื
๖.๑) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบการบริหารองค์กร บุคลากรและสถานกีฬาทุกระดับของภาครัฐ
ภาคเอกชน และภาคธุรกิจ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่เก่ียวข้องกับการกีฬา และ
การออกก�ำลังกายให้ทนั สมยั
๖. ๒) เพื่อเชื่อมโยงบูรณาการและประสานความร่วมมือขององค์กรกีฬา และหน่วยงานที่เก่ียวข้อง
ในการสง่ เสริมสนับสนุนการบรหิ ารจัดการการกีฬาและการออกก�ำลงั กาย

แผนพัฒนาการกฬี าแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการทอ่ งเทีย่ วและกฬี า ฎ

๖.๖ ปัจจยั แห่งความสำ�เร็จในการเช่ือมโยงบูรณาการแผนพฒั นาการกฬี าแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-
๒๕๕๙) ส่กู ารปฏบิ ตั ิ

เพ่ือให้การเชื่อมโยงบูรณาการแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) สู่การปฏิบัติให้
สามารถด�ำเนินการบรรลุตามเป้าหมายที่ก�ำหนดไว้จะตอ้ งอาศยั ปัจจยั หลกั แห่งความส�ำเรจ็ ดังน้ ี

๑) รฐั บาลหรอื หนว่ ยงานระดบั นโยบาย ควรผลกั ดนั “การสง่ เสรมิ ใหค้ นไทยรกั การออกก�ำลงั กาย
และการเล่นกีฬาจนเป็นวิถีชีวิต” ให้เป็น “วาระแห่งชาติ” ที่ทุกหน่วยงานจะได้ใช้แผนฯ ฉบับน้ี
เปน็ กรอบแนวทางการสง่ เสรมิ สนบั สนนุ ในแผนปฏบิ ตั กิ ารของกระทรวง ทบวง กรม และหนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งเพอื่ พฒั นา
ประเทศในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙ โดยมีแผนงาน โครงการ และการจดั สรรงบประมาณ เพื่อใหด้ �ำเนนิ การเปน็ ไปใน
ทิศทางเดียวกัน และมีองค์กรก�ำหนดนโยบาย มาตรการ ก�ำกับ ดูแล และสนับสนุนการบูรณาการปฏิบัติงานให้บรรลุ
เปา้ หมายอย่างมีประสทิ ธภิ าพและยั่งยืน
๒) พฒั นาองคค์ วามรดู้ า้ นการบรหิ ารจดั การการออกก�ำลงั กายและการกฬี า และเพม่ิ ขดี ความสามารถของ
องคก์ รทท่ี �ำหนา้ ทหี่ ลกั ดา้ นการกฬี าทง้ั ภาครฐั เอกชน องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ภาคี เครอื ขา่ ยทง้ั ในประเทศและตา่ ง
ประเทศ โดยพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการการออกก�ำลงั กายและการกีฬาแบบบรู ณาการในทกุ มิติอย่างเป็นระบบ
๓) การพฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐานและอปุ กรณก์ ฬี า เพอื่ สนบั สนนุ การเลน่ กฬี า การออกก�ำลงั กาย โดยการ
ก�ำหนดมาตรฐาน พัฒนา ปรับปรุง บ�ำรุงรักษา เพ่มิ มลู คา่ โครงสร้างพนื้ ฐานท่ีมีอยู่ และสนบั สนุนใหม้ ีโครงสรา้ งพื้นฐาน
และอุปกรณ์การออกก�ำลังกายและการกฬี าให้มมี าตรฐาน
๔) จดั ใหม้ แี ละเพมิ่ ศกั ยภาพของสถาบนั การพฒั นาบคุ ลากรทางการออกก�ำลงั กาย การกฬี า ระบบการฝกึ
ซอ้ ม และการผลติ นกั กฬี า โดยพฒั นาองคค์ วามรู้ การวจิ ยั และการใชป้ ระโยชนจ์ ากวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที างการ
กีฬา เพอื่ สนบั สนนุ และเพ่ิมขีดความสามารถ ในการแข่งขันของนกั กีฬา
๕) ส่งเสริม สนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนด้านออกก�ำลังกายและการกีฬาโดยสนับสนุนสิทธิ
ประโยชน์ส�ำหรบั ภาคเอกชน เพือ่ การลงทนุ ในธรุ กิจกีฬาให้เพ่ิมมากขน้ึ
๖) ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการบริหารจัดการด้านการออกก�ำลังกายและการกีฬาขององค์กร
ปกครองส่วนท้องถ่ิน โดยการใหอ้ งคค์ วามรดู้ า้ นการกฬี าและสง่ เสริมใหม้ อี าสาสมคั รการกีฬาระดับต�ำบล
๗) ส่งเสริม สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน องค์กร ชุมชน และภาคีเครือข่ายองค์กรกีฬา
ใหอ้ งคค์ วามรู้ ดา้ นการออกก�ำลงั กายและการเลน่ กฬี า การชมและเชยี รก์ ฬี า และการสรา้ งวฒั นธรรมการออกก�ำลงั กาย
และเลน่ กีฬาท่สี อดคลอ้ งจนเปน็ วถิ ชี วี ิต

แผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

ฏ กระทรวงการทอ่ งเที่ยวและกฬี า

๖.๗ การขบั เคล่อื นแผนไปสูก่ ารปฏิบัติ
เพอ่ื ใหแ้ ผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) มคี วามสอดคลอ้ งกนั ในระดบั นโยบาย
จนถึงระดบั ปฏิบตั กิ าร ตลอดจนมีแนวทางการด�ำเนินงานท่สี นบั สนนุ ซง่ึ กนั และกัน ควรด�ำเนินการ ดังนี้
๑) การบรหิ ารด�ำเนินการและการประสานแผน แบ่งเปน็ ๓ ระดับ ดงั น้ี
๑.๑) ระดับนโยบาย มคี ณะกรรมการนโยบายการกีฬาแหง่ ชาติ ก�ำกบั ดแู ลนโยบายทเี่ ก่ียวข้องกบั
การออกก�ำลงั กายและการกฬี า พจิ ารณาก�ำหนดนโยบายเสนอความเหน็ กอ่ นน�ำเสนอคณะรฐั มนตรเี พอื่ ใหค้ วามเหน็ ชอบ
และสั่งการ
๑.๒) ระดับการผลักดันแผน มีส�ำนักงานเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ
ท�ำหนา้ ทใี่ นการน�ำนโยบายและขอ้ สงั่ การในระดบั นโยบาย แจง้ ประสานไปยงั หนว่ ยงานตา่ งๆทเี่ กย่ี วขอ้ ง รวมทงั้ ตดิ ตาม
ความก้าวหน้า การด�ำเนินการวิจัยเชิงนโยบาย น�ำเสนอข้อแนะน�ำและปัญหาอุปสรรคเสนอต่อคณะกรรมการนโยบาย
การกฬี าแหง่ ชาติ
๑.๓) ระดบั ปฏบิ ตั กิ าร ประกอบดว้ ยหนว่ ยงานตา่ งๆ ทงั้ ภาครฐั และภาคเอกชนทม่ี ภี ารกจิ เกย่ี วขอ้ ง
กับการออกก�ำลังกายและการกีฬา สมาคมกีฬา ชมรมกีฬา สโมสรกีฬา มหาวิทยาลัย สถานศึกษา ส�ำนักงานเขตพ้ืนที่
การศึกษา รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ เป็นผู้รับนโยบายจากคณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ
และคณะรัฐมนตรไี ปปฏิบัติ
๒) การผลกั ดนั แผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ไปสกู่ ารปฏบิ ตั ใิ นระดบั
ตา่ ง ๆ ดงั น้ี
การผลกั ดนั แผนพฒั นาการกฬี าแห่งชาติ เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถขับเคลอื่ นแผนพัฒนาการกฬี าได้
อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ มงุ่ เสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ ใหภ้ าคตี า่ งๆ สามารถผลกั ดนั และด�ำเนนิ การตามแนวทางการพฒั นาของ
แผนฯ ได้อยา่ งเหมาะสม โดย
๒.๑) ระดบั สว่ นกลาง เพอื่ ใหม้ กี ารบรู ณาการแผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-
๒๕๕๙) และแผนในระดับชาติที่เกี่ยวข้อง น�ำไปก�ำหนดเป็นกรอบของหน่วยงานและจัดท�ำแผนปฏิบัติราชการของ
หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง โดยมีกระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬาเป็นหน่วยงานหลักในการประสานการขับเคล่ือนแผน
ไปส่กู ารปฏบิ ตั ิ
๒.๒) ระดับจังหวัด เพ่ือให้มีการแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติในระดับจังหวัด และกลุ่มจังหวัด
โดยผลักดันให้การพัฒนาการออกก�ำลังกายและการกีฬาไว้เป็นส่วนหน่ึงของแผนยุทธศาสตร์จังหวัด และกลุ่มจังหวัด
และมีแผนยุทธศาสตร์พัฒนาการกีฬาของจังหวัด และกลุ่มจังหวัด โดยมีส�ำนักงานการท่องเท่ียวและกีฬาจังหวัด
เป็นหน่วยงานหลักในการประสานการขับเคลื่อนแผนไปสู่การปฏิบัติ รวมทั้งผลักดันให้เขตพื้นท่ีการศึกษา สถาบัน
การศึกษา โดยเฉพาะมหาวทิ ยาลัยในระดบั ภาค/จงั หวัดในพ้ืนที่เขา้ มามีส่วนร่วมใหม้ ากข้นึ
๒.๓) ระดับท้องถ่ิน เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด
กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา เทศบาล และองค์การบรหิ ารส่วนต�ำบล รวมท้งั ผู้น�ำชมุ ชน ได้น�ำเปา้ หมาย มาตรการและ
แนวทางไปบรรจไุ วใ้ นแผนปฏบิ ตั กิ ารของหนว่ ยงาน และมดี �ำเนนิ การจดั ท�ำโครงการ/กจิ กรรมเพอื่ ใหเ้ กดิ ผลเปน็ รปู ธรรม
โดยมีองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั กรุงเทพมหานคร และเมอื งพัทยา เป็นหน่วยงานหลกั ในการประสานงาน

แผนพฒั นาการกฬี าแห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการท่องเท่ยี วและกีฬา ฐ

๓) การสนับสนนุ และส่งเสริมศักยภาพของหนว่ ยปฏิบตั ิ
๓.๑) การส่งเสริมและสนับสนนุ ดา้ นวิชาการ
๓.๒) การสนับสนุนด้านงบประมาณ เพ่ือด�ำเนินงานในกิจกรรม โครงการต่างๆ ที่บรรจุในแผน
พัฒนาการกีฬาแห่งชาติในทุกประเด็นยุทธศาสตร ์
๓.๓) การสนบั สนนุ และพัฒนากลไกการประสานงาน โดยการสร้างเครือขา่ ยด้านการกฬี า

๖.๘ กลไกการแปลงแผนสกู่ ารปฏบิ ัติ
กลไกในการแปลงแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ไปสู่การปฏิบัติ
มุ่งด�ำเนนิ การอย่างเปน็ ระบบในทกุ ระดับ ดังน้ี

๑) ให้มคี ณะกรรมการนโยบายการกฬี าแหง่ ชาติท�ำหนา้ ทเี่ ช่อื มโยงระหวา่ งองค์กรระดับชาติ
๒) มหี นว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบในแตล่ ะแผนงาน ท�ำหนา้ ทเ่ี ชอ่ื มโยงระหวา่ งองคก์ รระดบั ภมู ภิ าคระดบั จงั หวดั
และระดบั ท้องถิ่น
๓) การให้สมาคมกีฬาชนิดต่างๆ เข้ามามีส่วนในการเสนอแนวนโยบายและผลักดันการพัฒนาการกีฬา
ตามแผนพฒั นาการกีฬาของชาติ
๔) ใช้บันทึกความเข้าใจด้านการกีฬา (MOU) เป็นกลไกสนับสนุนการบูรณาการงานด้านการกีฬาร่วม
ระหว่างหนว่ ยงาน
๕) น�ำแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นกรอบและแนวทางในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ และ
การบรู ณาการงบประมาณในระดบั ต่างๆ
๖) สร้างความรู้ ความเข้าใจให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความส�ำคัญและพร้อมเข้าร่วมในการผลักดัน
แผนพฒั นาการกีฬาแหง่ ชาติไปสู่การปฏบิ ัตผิ ่านกระบวนการและเคร่ืองมือต่างๆ
๗) จดั ท�ำสอ่ื สารประชาสมั พนั ธ์ โดยใชห้ ลกั การตลาดสรา้ งความตระหนกั และยอมรบั แผนพฒั นาการกฬี า
แหง่ ชาตเิ ปน็ เครือ่ งมือในการพฒั นาแบบบูรณาการทที่ ุกภาคสี ามารถน�ำไปปรบั ใช้ให้บังเกดิ ผลได้จรงิ
๘) พัฒนาการบริหารจัดการแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล
โดยน�ำแนวคดิ วงจรคณุ ภาพ PDCA มาปรบั ใชไ้ ด้ เริ่มตัง้ แต่จัดท�ำยุทธศาสตร์ วตั ถปุ ระสงค์ เป้าหมาย ตัวช้วี ัด มาตรการ
รวมทั้งกระบวนการวิธีการและเครื่องมือต่างๆ ในการก�ำกับ การบริหารจัดการแผนไปสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ
โดยทุกภาคส่วนมีการปฏิบัติงานภายใต้ระบบท่ีออกแบบไว้อย่างจริงจัง รวมถึงตรวจสอบ ติดตามความก้าวหน้า
การประเมนิ ผลทส่ี ะทอ้ นถงึ ความพงึ พอใจของประชาชนทม่ี ตี อ่ ผลการพฒั นาทเ่ี กดิ ขนึ้ น�ำไปสกู่ ารปรบั เปลยี่ นกระบวนการ
และวิธีการด�ำเนนิ งานใหก้ ารขับเคลือ่ นแผนบรรลุตามวัตถุประสงคท์ ่ีก�ำหนด
๙) สร้างความเข้าใจให้ภาคการเมืองในเป้าหมายและแนวทางของแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และ
ผลกั ดันให้น�ำประเด็นยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาทส่ี �ำคญั ไปผสมผสานในการจดั ท�ำนโยบายของพรรคและนโยบายของรฐั บาล

แผนพัฒนาการกฬี าแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

ฑ กระทรวงการทอ่ งเท่ยี วและกฬี า

๖.๙ การติดตามและประเมินผล
การแปลงแผนไปสู่การปฏิบัตเิ กยี่ วขอ้ งกับหลายฝ่าย ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาจะมผี ลกระทบ ถึงประชาชน
ทุกกลุ่ม การวัดความสำ�เร็จหรือความล้มเหลวของแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จำ�เป็นต้องพัฒนาระบบการติดตาม
ประเมนิ ผล ซง่ึ จะตอ้ งเปน็ ระบบทไ่ี ดร้ บั การยอมรบั และเปน็ ระบบทส่ี ามารถจะวดั ผลของการพฒั นาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ดังน้ัน ระบบการติดตามประเมินผลท่ีมีประสิทธิผลจะต้องอาศัยดัชนีชี้วัดความสำ�เร็จในหลายมิติและหลายระดับ เพ่ือ
ให้สอดคล้องกบั กระบวนการบรหิ ารจัดการและกระบวนการมสี ว่ นรว่ มของประชาชน การตดิ ตาม และประเมนิ ผลแผน
พัฒนาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) จงึ ควรด�ำ เนนิ การ ดงั น้ี
๑) ให้มีกลไกองค์กรหรือคณะกรรมการทำ�หน้าที่ติดตามและประเมินผลแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) โดยร่วมมือกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องอย่างใกล้ชิด โดยมีการประเมินผลตามเป้าหมาย
รวม เปา้ หมายรายยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาฯ และประเมนิ ผลในระดบั แผนงาน โครงการและกิจกรรม
๒) พฒั นาระบบฐานข้อมลู ทุกระดับตั้งแต่ระดบั ทอ้ งถ่ิน จงั หวดั และระดับชาติ ให้ได้มาตรฐาน ทนั สมัย
ต่อเน่ือง และสามารถสร้างความเข้าใจในระหว่างผู้เกี่ยวข้อง เพื่อนำ�มาใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ โดยเชื่อมโยงฐานข้อมูล
และน�ำ ข้อมูลมาใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงแผนงาน โครงการประจ�ำ ปอี ยา่ งต่อเนื่อง
๓) จัดประชุมสัมมนาเพ่ือระดมความคิดการวางแผน การปฏิบัติตามแผนพัฒนาการติดตามประเมินผล
ในระดับท้องถ่ิน ภูมิภาคและระดับชาติ พร้อมทั้งให้มีการจัดประชุมติดตามประเมินผลประจำ�ปี โดยเปิดโอกาสให้
ประชาชนและผูเ้ กี่ยวขอ้ ง ได้มีส่วนร่วมอยา่ งกวา้ งขวาง
๔) สร้างตัวชี้วัดเพ่ือเป็นเคร่ืองมือบ่งบอกถึงความสำ�เร็จและผลกระทบของการดำ�เนินงานตามแผนพัฒนาฯ
ใหค้ รอบคลมุ ทง้ั ดา้ นปจั จยั กระบวนการ ผลส�ำ เรจ็ และผลกระทบของการพฒั นา ทง้ั นหี้ นว่ ยงานรบั ผดิ ชอบดา้ นการออก
กำ�ลังกายและการกีฬา ผู้มสี ่วนได้สว่ นเสีย และผ้มู ีส่วนรว่ มในการพฒั นาควรมบี ทบาทส�ำ คญั ในการก�ำ หนด โดยควรวาง
กรอบตวั ชว้ี ัดเบือ้ งต้นไว้ ๕ ระดับ ดังนี้
ระดับท่ี ๑ การวัดและประเมินผลกระทบข้ันสุดท้ายของการพัฒนา เป็นเคร่ืองมือที่สำ�คัญในการ
ติดตามประเมินผลความก้าวหนา้ ทแี่ ท้จรงิ ของแผนพฒั นาการกฬี าแห่งชาติ โดยภาพรวมในทุกๆ ด้าน
ระดับที่ ๒ การวดั และประเมนิ ประสทิ ธผิ ลของการพฒั นา เพอื่ ตดิ ตามประเมนิ ผลการพฒั นาในแตล่ ะ
ดา้ นทกี่ �ำ หนดไวใ้ นยทุ ธศาสตร์ เพอื่ จะน�ำ ไปใชใ้ นการปรบั ปรงุ และก�ำ หนดแนวทางพฒั นาและแผนงานโครงการในแตล่ ะดา้ น
ให้เกิดประสทิ ธิภาพมากยงิ่ ขึ้น
ระดบั ท่ี ๓ การวดั และประเมนิ ประสทิ ธผิ ลของยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นา เพอ่ื เปน็ เครอ่ื งมอื ในการตดิ ตาม
ประเมินผลความส�ำ เรจ็ หรอื ความล้มเหลวของยทุ ธศาสตร์การพัฒนาตามแผนพัฒนาการกฬี าแห่งชาติท่กี ำ�หนดไว้
ระดับท่ี ๔ การวัดและประเมินประสิทธิผลขององค์กร เพื่อเป็นเคร่ืองช้ีวัดขีดความสามารถ ของ
องคก์ รทร่ี บั ผดิ ชอบ ในการด�ำ เนนิ งานแปลงแผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาตไิ ปสกู่ ารปฏบิ ตั ทิ กุ ระดบั ตามแนวทางการประสาน
แผนตง้ั แตร่ ะดับชาติ สูภ่ ูมภิ าค และทอ้ งถิน่
ระดบั ท่ี ๕ การวัดและประเมินสถานการณ์ที่เป็นจริงในด้านต่างๆ ทุกมิติ คือ การรวบรวมข้อมูล
เชิงสถิติหรือข้อมูลพื้นฐานของการพัฒนา เพื่อนำ�มาใช้ในการสร้างตัวช้ีวัดความสำ�เร็จหรือประสิทธิผลของการพัฒนา
ตามแผนพฒั นาการกีฬาแหง่ ชาตใิ นระดับต่างๆ

แผนพัฒนาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา 1

บทที่ ๑

สถานการณ์และแนวโนม้ การพัฒนาการกฬี า

๑วสิ ัยทัศนแ์ ละทศิ ทางการพฒั นาประเทศ
๑. สถานการณ์และแนวโนม้ การพัฒนาการกีฬาในอนาคต

๑.๑ กฎบตั รออตตาวา ว่าด้วยการสง่ เสริมสุขภาพ ค.ศ. ๑๙๘๖
แนวโน้มในอนาคตท่ัวโลกก�ำลังรณรงค์ให้คนมีสุขภาพดี โดยการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง
ในด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงด้านการออกก�ำลังกายและเล่นกีฬาเพ่ือให้มีสุขภาพแข็งแรง องค์การอนามัยโลกได้เล็งเห็นถึง
ความส�ำคญั ของการสง่ เสรมิ นโยบายการเสรมิ สรา้ งสขุ ภาพแนวใหม่ จงึ ไดจ้ ดั ท�ำ กฎบตั รออตตาวา (Ottawa Charter)
วา่ ดว้ ยการสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ค.ศ. ๑๙๘๖ ซึง่ เน้นประเดน็ นโยบายสาธารณสขุ เพื่อสขุ ภาพแนวใหม่ ดังน้ี
๑) การสร้างนโยบายสาธารณะที่ให้ความสนใจกับมิติด้านสุขภาพ
๒) การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและประชาสังคมเพ่ือการพัฒนาอย่างยั่งยืน
๓) การสร้างส่ิงแวดล้อมที่สร้างเสริมสุขภาพ
๔) การส่งเสริมสุขภาพโดยร่วมมือกันหลายสาขา
๕) การปรับกรอบแนวคิดเดิมๆ เกี่ยวกับการบริการสุขภาพ
๖) การสร้างศักยภาพของปัจเจกบุคคลในการดูแลสุขภาพตนเอง
๑.๒ แผนปฏบิ ัติการกรงุ เทพฯ ว่าดว้ ยการกีฬาและการพลศึกษาในโรงเรยี น
ในการประชมุ ระหวา่ งประเทศดา้ นการกฬี าและการศกึ ษา เพอ่ื ฉลองปแี หง่ กฬี าและการศกึ ษาขององคก์ าร
สหประชาชาติ ปี ค.ศ. ๒๐๐๕ ซง่ึ จัดข้นึ โดยรัฐบาลไทยไดม้ ีข้อตกลงรว่ มกนั ในแผนปฏิบัตกิ ารกรงุ เทพฯ วา่ ดว้ ยการกฬี า
และการพลศึกษาในโรงเรียน (The Bangkok Agenda for Action On Physical Education and Sport in School)
ให้มีการน�ำแผนปฏิบัติการกรุงเทพฯ ว่าด้วยการกีฬาและการพลศึกษาในโรงเรียนบรรจุเป็นประเด็นส�ำคัญ
ลงในยุทธศาสตร์ชาติ และใหม้ ีการน�ำแผนไปสกู่ ารปฏิบัติ
แผนปฏิบัติการกรุงเทพฯ ว่าด้วยการกีฬาและการพลศึกษาในโรงเรียน เป็นการทบทวนเป้าหมายของ
การน�ำการกีฬาและการพลศึกษาท่ีมีต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มาเป็นปัจจัยส�ำคัญต่อการพัฒนาประเทศ
โดยการก�ำหนดวชิ าพลศกึ ษาลงในหลกั สตู รการเรยี นการสอนในโรงเรยี นทงั้ ระดบั อนบุ าล ประถม มธั ยมศกึ ษา และระบบ
การศึกษานอกโรงเรียน บนพื้นฐานแนวความคิดหลักการพัฒนาคนให้มีคุณภาพ เพ่ือเป็นก�ำลังส�ำคัญในการพัฒนา
ประเทศชาตใิ หเ้ จรญิ กา้ วหนา้ พรอ้ มทงั้ สง่ เสรมิ โปรแกรมความเชย่ี วชาญดา้ นการกฬี าและการพลศกึ ษา เพอ่ื เปน็ พน้ื ฐาน
ดา้ นการกฬี าส�ำหรบั เยาวชนในการพฒั นาการกฬี าเพอื่ ความเปน็ เลศิ และการพฒั นาการกฬี าเพอ่ื การอาชพี ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั
นโยบายรัฐบาลตามแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับท่ี ๓ (พ.ศ. ๒๕๔๕-๒๕๔๙) ที่ต้องการส่งเสริมการกีฬา
ขน้ั พน้ื ฐานและการกฬี าเพอื่ มวลชน เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนทกุ ระดบั มโี อกาสไดเ้ ลน่ กฬี า และออกก�ำลงั กายอยา่ งถกู ตอ้ ง
และตอ่ เนอ่ื งเปน็ ประจ�ำ เพอื่ สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพและสมรรถภาพทดี่ ี มงุ่ เนน้ การปลกู ฝงั ความมนี ำ�้ ใจนกั กฬี าใหเ้ ปน็ คา่ นยิ ม
เกิดความสมานฉันท์ของคนในชาติ สนบั สนนุ กีฬาเพือ่ ความเปน็ เลิศและอาชีพไปส่มู าตรฐานในระดับสากล

แผนพัฒนาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

2 กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกีฬา

รายละเอยี ดข้อตกลงร่วมกนั ในแผนปฏิบัตกิ ารกรุงเทพฯ วา่ ด้วยการกฬี าและการพลศึกษาในโรงเรียน มดี งั น้ี
๑) ตระหนักถึงผลสัมฤทธ์ิของการกีฬาและการพลศึกษาในมิติของการออกก�ำลังกาย การพักผ่อน และเป็น
ปจั จัยส�ำคัญตอ่ การพัฒนาประเทศชาติ โดยการพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์ ผ่านหลกั สูตรกฬี าและโรงเรียนกฬี าทม่ี ีคุณภาพ
๒) การกีฬาและการพลศึกษา ควรได้รับการยอมรับให้เป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาที่มีคุณภาพ และควรให้
ยึดถือเปน็ ประเด็นส�ำคัญส�ำหรบั ประเทศชาติ
๓) ทุกโรงเรียนควรจัดหลักสูตรด้านการกีฬาและการพลศึกษาให้นักเรียนอย่างน้อย ๑๒๐ นาที ต่อสัปดาห์
(๒ ช่ัวโมง/สปั ดาห์) และอย่างมากไม่ต�ำ่ กว่า ๑๘๐ นาที (๓ ช่วั โมง/สปั ดาห)์
๔) หนว่ ยงานภาครฐั เอกชน และอาสาสมคั ร ควรจดั หาอปุ กรณก์ ฬี าและบคุ ลากรดา้ นการกฬี าส�ำหรบั ประชาชนทว่ั ไป
๕) ใหท้ กุ ประเทศจดั ท�ำนโยบายเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพดา้ นการกฬี าและการพลศกึ ษา ประกอบดว้ ยแผน ๒ ระยะๆ ละ ๕ ปี
๖) ควรมกี ารรวบรวมผลการวจิ ยั องคค์ วามรู้ ผลของการวางแผนยทุ ธศาสตรท์ เ่ี ปน็ รปู ธรรมชดั เจน ระบบการ
จดั การ การวดั และการประเมนิ ผลไวใ้ นกระบวนการจดั ท�ำยุทธศาสตร์ชาติ และการพฒั นาแผนฯ
๗) ควรน�ำยทุ ธศาสตรช์ าตไิ ปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ โดยอาศยั ทนุ และผเู้ ชย่ี วชาญในวชิ าชพี เชน่ เดยี วกบั ผรู้ บั ผดิ ชอบดา้ นการ
กฬี าและการพลศึกษาในกระทรวง เครือขา่ ยสถาบนั และสมาคมวิชาชีพในระดับทอ้ งถ่นิ ระดบั ชาติ และระดับสากล
๘) ขอบเขตของยุทธศาสตร์ชาติ ควรครอบคลุมถึงหลักสูตรการศึกษาด้านการกีฬาและการพลศึกษาส�ำหรับ
โรงเรียนระดับอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา รวมไปถึงในโปรแกรมการศึกษาท้ังในและนอกโรงเรียน และ
โปรแกรมความเชี่ยวชาญด้านการกฬี าและการพลศกึ ษา เพือ่ เป็นพืน้ ฐานอาชีพดา้ นการกฬี าส�ำหรบั เยาวชน
๙) ประเด็นส�ำคัญในยุทธศาสตร์ชาติ ควรให้มีเรื่องของการขยายผลของการกีฬา และการพลศึกษา
ไปสู่เป้าหมายของการพัฒนาในสหัสวรรษนี้โดยเฉพาะเป้าหมาย เพ่ือขจัดความยากจน การรณรงค์ด้านการศึกษา
ส�ำหรบั เยาวชน ความเสมอภาคทางเพศ และการดแู ลสุขภาพ
๑๐) การจัดเตรียมผู้ฝึกสอนท่ีมีความเชี่ยวชาญด้านการกีฬาและการพลศึกษา ควรจัดเป็นประเด็นท่ีมี
ความส�ำคัญในยุทธศาสตร์ชาติ โดยเน้นที่ความรู้ในหลักสูตรและข้อมูลเกี่ยวกับความเชี่ยวชาญส่วนบุคคลในระดับ
โรงเรียน รวมถงึ ข้อมูลส่วนบุคคลอนื่ ๆ เช่น เพศ ความบกพรอ่ งทางร่างกาย จรยิ ธรรม เป็นตน้
๑๑) องคก์ ารสหประชาชาติ ควรให้การสนบั สนุนการน�ำผลของยุทธศาสตร์ชาติไปสู่การปฏบิ ัติในระดบั ชาติ
๑๒) องคก์ ารสหประชาชาติ ซง่ึ เปน็ หนว่ ยงานผรู้ บั ผดิ ชอบในการจดั ปแี หง่ การกฬี า และการพลศกึ ษาระหวา่ งประเทศ
ควรน�ำเสนอแผนปฏบิ ตั กิ ารกรงุ เทพฯ วา่ ดว้ ยการกฬี าและการพลศกึ ษาในโรงเรยี นตอ่ ทปี่ ระชมุ สมชั ชาใหญอ่ งคก์ ารสหประชาชาติ

๒. วสิ ยั ทศั นแ์ ละทศิ ทางของแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

การทบทวนผลการพฒั นาประเทศทผ่ี า่ นมาบง่ ชว้ี า่ เศรษฐกจิ สงั คม และการเมอื งของประเทศมคี วามเจรญิ กา้ วหนา้
ในหลายด้านแต่ขณะเดียวกันได้สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจ สังคมส่ิงแวดล้อม และการบริหารจัดการ
ประเทศท่ีมีความบิดเบือนไม่เอ้ือต่อการพัฒนาท่ีย่ังยืนในระยะยาว ทั้งยังเป็นความเส่ียงที่อาจท�ำให้ปัญหาต่างๆ รุนแรง
มากข้ึน และเป็นอุปสรรคส�ำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ประกอบกับประเทศไทยยังต้องเผชิญกระแสการเปล่ียนแปลงท้ัง
ภายนอกและภายในประเทศทร่ี วดเรว็ และจะมผี ลกระทบอยา่ งกวา้ งขวางตอ่ การพฒั นาประเทศในอนาคต จงึ จ�ำเปน็ ตอ้ งน�ำ
ภูมคิ มุ้ กนั ทม่ี ีอยู่ พรอ้ มทงั้ สรา้ งภูมิคุม้ กนั ใหเ้ ขม้ แขง็ ภายใตห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือเตรยี มพรอ้ มให้ประเทศ
สามารถปรับตัวด�ำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและย่ังยืนการพัฒนาประเทศในระยะแผนพฒั นาฯ ฉบบั ที่ ๑๑ จงึ มแี นวคดิ ทม่ี คี วาม
ต่อเนือ่ งจากแนวคิดของแผนพฒั นาฯ ฉบับท่ี ๘-๑๐ โดยยังคงยึดหลัก “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และ “คนเป็น
ศนู ยก์ ลางของการพฒั นา” และ “สรา้ งสมดลุ การพฒั นา” ในทกุ มติ ิ แตก่ ารประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคดิ ดงั กลา่ ว และสรา้ งความมนั่ ใจวา่

แผนพัฒนาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการท่องเทีย่ วและกีฬา 3

การพฒั นาจะเปน็ ในแนวทางทย่ี ง่ั ยนื และสรา้ งความสขุ ใหก้ บั คนไทย จ�ำเปน็ ตอ้ งพจิ ารณาการเปลยี่ นแปลงทง้ั ภายในและภายนอก
ประเทศอยา่ งรอบดา้ นและวางจดุ ยนื การพฒั นาในระยะยาว ภายใตว้ สิ ยั ทศั นป์ ระเทศไทยปี พ.ศ. ๒๕๗๐ ซง่ึ พจิ ารณาถงึ บรบิ ท
การเปลย่ี นแปลงในอนาคต และก�ำหนดวิสัยทัศน์ ปี พ.ศ. ๒๕๗๐ ไว้ดงั น้ี
“คนไทยภาคภูมิใจในความเป็นไทยมีมิตรไมตรีบนวิถีชีวิตแห่งความพอเพียง ยึดม่ันในวัฒนธรรม
ประชาธิปไตย และหลักธรรมาภิบาล การบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานที่ทั่วถึงมีคุณภาพ สังคมมีความปลอดภัย
และมั่นคง อยู่ในสภาวะแวดล้อมท่ีดี เก้ือกูลและเอ้ืออาทรซึ่งกันและกัน ระบบการผลิตเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม
มคี วามมน่ั คงด้านอาหารและพลงั งาน อยู่บนฐานทางเศรษฐกจิ ท่ีพ่ึงตนเองและแขง่ ขันได้ในเวทโี ลก สามารถอยู่ใน
ประชาคมภมู ิภาคและโลกไดอ้ ย่างมศี กั ด์ศิ รี”
๒.๑ กรอบแนวคดิ หลกั
กรอบแนวคิดของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๑ จึงเป็นการด�ำเนินการเพื่อบรรลุถึงวิสัยทัศน์ระยะยาว โดยมี
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาน�ำทาง และค�ำนึงถึงบริบทการเปลี่ยนแปลงท่ีจะเป็นทั้งโอกาส และข้อจ�ำกัด
ของการพฒั นาในแนวทางดังกล่าว แนวคดิ ส�ำคญั ของแผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี ๑๑ จึงมีดงั นี้
๑)0พฒั นาตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และขบั เคลอื่ นใหบ้ งั เกดิ ผลในทางปฏบิ ตั ทิ ช่ี ดั เจน
ย่ิงขึ้นในทุกระดับ เพ่ือให้การพัฒนาและบริหารประเทศเป็นไปในทางสายกลางมีการเช่ือมโยงทุกมิติของการพัฒนา
อยา่ งบรู ณาการทงั้ มติ ติ วั คน สงั คม เศรษฐกจิ สง่ิ แวดลอ้ มและการเมอื ง โดยมกี ารวเิ คราะหอ์ ยา่ ง “มเี หตผุ ล” และใชห้ ลกั
“ความพอประมาณ” ให้เกิดความสมดลุ ระหว่างมิติทางวตั ถุกบั จิตใจของคนในชาติ ความสมดุลระหวา่ งความสามารถ
ในการพ่ึงตนเองกับความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก ความสมดุลระหว่างสังคมชนบทกับสังคมเมือง มีการเตรียม
“ระบบภมู คิ มุ้ กนั ”ดว้ ยการบรหิ ารจดั การความเสย่ี งใหเ้ พยี งพอพรอ้ มรบั ผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงทง้ั จากภายนอก
และภายในประเทศ ทงั้ นี้ การขบั เคลอื่ นกระบวนการพฒั นาทกุ ขน้ั ตอน ตอ้ งใช้ “ความรอบร”ู้ ในการพัฒนาด้านต่างๆ
ดว้ ยความรอบคอบ เปน็ ไปตามล�ำดบั ขนั้ ตอน และสอดคลอ้ งกบั วถิ ชี วี ติ ของสงั คมไทย รวมทง้ั การเสรมิ สรา้ งศลี ธรรมและ
ส�ำนึกใน “คุณธรรม” จริยธรรมในการปฏิบัติหน้าท่ีและด�ำเนินชีวิตด้วย “ความเพียร” อันจะเป็นภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี
ใหพ้ ร้อมเผชิญการเปล่ยี นแปลงทเ่ี กดิ ขึ้นทงั้ ในระดบั ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม และประเทศชาติ
๒)0ยึดคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา ให้ความส�ำคัญกับการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของ
ทกุ ภาคสว่ นในสงั คม และการมีส่วนรว่ มในการตัดสินใจของประชาชน
๓)0พฒั นาประเทศส่คู วามสมดลุ และเช่ือมโยงทกุ มติ กิ ารพฒั นาอย่างบูรณาการและเปน็ องคร์ วม
ทัง้ มิติตวั คน สงั คม เศรษฐกจิ สงิ่ แวดล้อม และการเมือง
๔)0ยึดวิสัยทัศน์ ปี พ.ศ. ๒๕๗๐ เป็นเป้าหมาย ซึ่งจะส่งผลให้บรรลุการพัฒนาที่อยู่บนรากฐานของ
สังคมไทย อยู่บนกรอบแนวคิดของการพัฒนาบนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประเทศมีสถาบันพระมหากษัตริย์
เปน็ เสาหลกั ของความเปน็ ปกึ แผน่ ของคนในชาติ ครอบครวั มคี วามสขุ เป็นพน้ื ฐานทีส่ ร้างคนเปน็ คนดี ชุมชนมีความเข้มแขง็
และมีบทบาทในการพัฒนา ระบบเศรษฐกิจมีเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขัน มีการบริการสาธารณะ
ทมี่ คี ณุ ภาพ มกี ฎระเบยี บและกฎหมายทบี่ งั คบั ใชอ้ ยา่ งเปน็ ธรรมและประเทศไทยมคี วามเชอ่ื มโยงกบั ประเทศในภมู ภิ าค
และอยูร่ ่วมกนั อยา่ งสมานฉันทบ์ นพ้ืนฐานของการพงึ่ พาและผลประโยชนร์ ว่ มกัน

๓. การเตรียมความพร้อมของไทยเข้าสปู่ ระชาคมอาเซียน พ.ศ. ๒๕๕๘

การสรา้ งความตระหนกั ในความส�ำคญั ของประชาคมอาเซยี น และผลกระทบทจ่ี ะเกดิ ขนึ้ พฒั นาขดี ความสามารถของ
ผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันได้และใช้ประโยชน์จากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พัฒนาทักษะแรงงานให้มีความสามารถ
เปน็ ทยี่ อมรบั ของตลาดแรงงานอาเซยี น รวมทงั้ การปรบั กฎ ระเบยี บ และการจดั การเชงิ สถาบนั ใหส้ อดรบั กบั กตกิ าของอาเซยี น

แผนพัฒนาการกฬี าแห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

4 กระทรวงการท่องเท่ยี วและกฬี า

๓.๑ สถานการณใ์ นกรอบอาเซยี น
การเป็นประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) จะส่งผลให้เกดิ ความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ
สังคม วัฒนธรรมและความมั่นคงในภูมิภาคอาเซียนท่ีแน่นแฟ้นย่ิงข้ึน โดยที่การจัดต้ังประชาคมอาเซียนภายในปี
๒๕๕๘ มีองค์ประกอบส�ำคัญ ๓ ส่วน กล่าวคือ ประชาคมความมั่นคงอาเซียน ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
และประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น ซง่ึ ถอื เปน็ ๓ เสาหลกั ทจี่ ะสง่ ผลใหเ้ กดิ ความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรมและ
ความมั่นคง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่จะมีการพัฒนาห่วงโซ่มูลค่าเพิ่มในภูมิภาค (Regional Value Chain) การเพ่ิม
ความสามารถในการแขง่ ขัน การเพมิ่ อ�ำนาจในการต่อรอง และการขยายตลาดอาเซียนท่มี ีประชากรกว่า ๖๐๐ ลา้ นคน
เพอื่ เขา้ สปู่ ระชาคมอาเซยี นทม่ี คี วามสามารถในการแขง่ ขนั ทย่ี งั่ ยนื ทางเศรษฐกจิ โดยมสี งั คมแหง่ สนั ตภิ าพและภราดรภาพ
การรวมตวั กนั อย่างใกล้ชดิ ทั้งทางดา้ นเศรษฐกิจและสงั คมในประชาคมอาเซยี นก่อใหเ้ กิดโอกาส
ทางการค้าและการลงทุนที่เพิ่มข้ึนให้กับไทย อีกทั้งส่งผลให้ไทยมีศักยภาพที่จะเป็นจุดเชื่อมโยงที่ส�ำคัญในการ
เชอ่ื มโยงทางการคมนาคมและขนสง่ ของอาเซยี น ทมี่ กี ารเคลอ่ื นยา้ ยสนิ คา้ บรกิ าร และบคุ คล ระหวา่ งประเทศสมาชกิ
ท่ีสะดวกยิ่งขึ้น โดยไทยจะต้องเร่งพัฒนาด้านความพร้อมของประเทศในการเข้าสู่ภาวะการแข่งขันเสรีในประชาคม
อาเซยี น ทั้งในด้านการเสริมสรา้ ง ประชาสมั พันธ์และซักซ้อมความรูค้ วามเข้าใจต่อทกุ ภาคส่วนของประเทศในภาพรวม
ของประโยชน์ของการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ตลอดจนผลกระทบในด้านอื่นๆ การปรับโครงสร้างการผลิตที่เหมาะสม
และมีสมรรถนะในการแข่งขัน การเสริมสร้างความพร้อมของผู้ประกอบการและความรอบรู้เกี่ยวกับระบบการตลาด
ภาษา สงั คมและวฒั นธรรมของประเทศอาเซยี น รวมทงั้ เรง่ รดั พฒั นาพน้ื ทเี่ ศรษฐกจิ ชายแดนและผปู้ ระกอบการโดยเฉพาะ
ระดบั กลาง ระดบั ยอ่ มใหม้ ีความพร้อมเขา้ สปู่ ระชาคมอาเซียน
๓.๒ การพลศกึ ษา กฬี า วทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี าและสขุ ภาพและนนั ทนาการ กลไกขบั เคลอื่ นประชาคมอาเซยี น
จากหลกั การของประชาคมอาเซยี นและวตั ถปุ ระสงคข์ องเสาหลกั แตล่ ะดา้ น สามารถใชเ้ ปน็ แนวทาง
ในการขับเคล่ือนองค์กร เพ่ือรองรับการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนทางด้านการศึกษา การพลศึกษา การกีฬา
วิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ นันทนาการ และสาขาวิชาอื่นที่เกี่ยวข้องที่มีการเชื่อมโยงโดยให้ประชาชนสามารถ
เขา้ ถงึ โอกาสในการพฒั นาดา้ นตา่ ง ๆ อาทิ การพลศกึ ษา กฬี า การเรยี นรดู้ า้ นสขุ ภาพตลอดชวี ติ การสง่ เสรมิ การปอ้ งกนั
คณุ ภาพรา่ งกายเพอ่ื การท�ำงานและการประกอบอาชีพ รวมถึงการเข้าถึงเทคโนโลยสี ารสนเทศการสอื่ สารดา้ นการกฬี า
และสขุ ภาพ ภายใตป้ ระเดน็ ส�ำคญั ไดแ้ ก่ ความรว่ มมอื ทางดา้ นวชิ าการ และการพฒั นาซง่ึ จะชว่ ยสนบั สนนุ กระบวนการ
รวมตวั ของอาเซียน การเสริมสร้างขดี ความสามารถและการพัฒนาทรพั ยากรมนุษยเ์ พือ่ ลดชอ่ งว่างการพัฒนา
ดังน้ัน ความส�ำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอาเซียน จึงได้ทวีบทบาทมากขึ้นต่อการ
พัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในอาเซียนให้มีความเจริญก้าวหน้า และแข่งขันได้ในระดับสากล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเคล่ือนไหวและเปล่ียนแปลงซ่ึงเกิดข้ึนอย่างรวดเร็วและต่อเน่ืองในหลากหลายด้านที่ส่งผลให้
โลกเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์อันเป็นยุคของสังคมฐานความรู้กลไกความร่วมมือด้านสาขาพลศึกษา การกีฬา วิทยาศาสตร์
การกฬี า วทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ นนั ทนาการ จงึ เปน็ สง่ิ จ�ำเปน็ พน้ื ฐานในการสรา้ งอาเซยี นสกู่ ารเปน็ ประชาคมทมี่ คี วามมนั่ คง
ทั้งทางด้านเศรษฐกจิ การเมืองและสังคม โดยเฉพาะการพัฒนาศกั ยภาพมนุษย์เพ่ือสรา้ งอนาคตทร่ี ุ่งเรอื งของอาเซยี น
๓.๓ ความรว่ มมอื อาเซยี นด้านการพลศกึ ษาและกีฬา
ความร่วมมอื อาเซยี นดา้ นการพลศกึ ษา กีฬา เปน็ สว่ นหนง่ึ ของความรว่ มมือเฉพาะดา้ นของอาเซยี น
โดยเร่ิมสามารถด�ำเนินการเมื่อมีการจัดการประชุมด้านการศึกษาใน ASEAN โดยความร่วมมือพัฒนาทั้งในเชิงกลไก
การบริหารจัดการและในเชิงสาระความร่วมมือ โดยในเชิงกลไกการบริหารจัดการน้ัน มีความพยายามในการผลักดัน
ให้ความร่วมมือด้านการพลศึกษาและกีฬาของอาเซียนมีลักษณะทางการ และมีผลในเชิงนโยบายและในเชิงปฏิบัติ

แผนพฒั นาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการทอ่ งเทีย่ วและกีฬา 5

มากข้ึน เมื่ออาเซียนมีการปรับตัวในเชิงโครงสร้างเพ่ือให้ความร่วมมือในด้านต่างๆ ของอาเซียนเข้มแข็งขึ้น ควรมีการ
จัดตั้ง ASEAN Committee on Physical Education and Sport (ASCOPES) เป็นกลไกการบริหารความร่วมมือ
อาเซียนด้านการพลศึกษาและกีฬา โดยควรมีการจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องกับ
การจดั การกฬี าของเยาวชนในระบบการศกึ ษา เช่น ในขณะน้ปี ระเทศไทยและสงิ คโปรไ์ ดจ้ ดั ใหม้ ีการประชมุ กนั ทกุ ๒ ปี
ที่เรียกว่า “Collaboratory Cevil Exchange Programme” หรือ CSEP ในแบบทวิภาคี ในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว
และควรขยายเครือขา่ ยให้ครอบคลมุ อาเซยี นและการจดั อยา่ งต่อเนอื่ งทุกปี
การจัดการศึกษาด้านพลศึกษาและกีฬาในอาเซียนเป็นรากฐานส�ำคัญในการสร้างความเข้มแข็ง
ของประชาชนของอาเซียนและโลก นอกจากนี้ การพลศึกษาและกีฬาในอาเซียนได้กลายเป็นภาคธุรกิจท่ีไร้พรมแดน
เพื่อตอบสนองการเปิดเสรีการศึกษาทั้งในกรอบอาเซียนและโลก เป็นผลให้เกิดกระแสการแข่งขันในการให้บริการ
ดา้ นการพลศกึ ษาและกฬี า การเสรมิ สรา้ งความรว่ มมอื กบั ประเทศเพอื่ นบา้ นในการพฒั นามาตรฐานการศกึ ษาของสถาบนั
การศึกษาไปสู่ความเป็นนานาชาติ และ World Class University ตามระบบและรูปแบบการจัดการศึกษาของยุโรป
และอเมริกา ท้ังในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักภาษาหนึ่งในการเรียนการสอน เช่น ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์
มาเลเซยี และแมแ้ ตใ่ นประเทศไทยบางสว่ น เพอ่ื ผลติ นกั พลศกึ ษาและนกั กฬี าระดบั สากล และตอบสนองการเปลยี่ นแปลง
และความตอ้ งการของตลาดแรงงานในระดบั ภมู ภิ าค การปรบั ตวั ตอ่ กระแสการเปดิ เสรที างการศกึ ษา กฎบตั รอาเซยี น ฯลฯ
แนวทางดงั กลา่ วกอ่ ใหเ้ กดิ ความรว่ มมอื ทางวชิ าการพลศกึ ษาและกฬี าระหวา่ งสถาบนั อดุ มศกึ ษาในอาเซยี นและทวปี อนื่
ในลักษณะข้อตกลงที่ท�ำร่วมกันในระดับสถาบันต่อสถาบัน ทั้งในส่วนของสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยของรัฐและ
มหาวทิ ยาลยั ของภาคเอกชนในดา้ นการพฒั นาหลกั สตู ร การพฒั นาสถาบนั และสถาบนั การศกึ ษารว่ มกนั ในขณะเดยี วกนั
การจัดต้ังเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียนได้ช่วยส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาคณาจารย์ นักพลศึกษา นักวิชาการ
และนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา รวมทั้งการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารท้ังระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกันเอง
และความรว่ มมอื กบั ประเทศคเู่ จราจาในอาเซยี นและประเทศอน่ื ๆ อกี ดว้ ย
๓.๔ แผนงานจัดตงั้ ประชาคมสงั คมและวฒั นธรรมอาเซียน
โดยสามารถต้ังเป้าหมายที่จะพัฒนาแนวคิดกิจกรรม และการจัดการศึกษาร่วมกันในภูมิภาค
บนรากฐานภมู ปิ ญั ญาระดบั ชาตแิ ละภมู ภิ าค เพอ่ื ทะนบุ �ำรงุ ศลิ ปวฒั นธรรมทางการกฬี า และการละเลน่ พนื้ บา้ น ไมใ่ หไ้ หลบา่
ไปเพียงด้านเดียวตามกระแสโลกาภิวัตน์จากตะวันตก เช่น การขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการพลศึกษา กีฬาท่ีเป็น
ศิลปวัฒนธรรมในกรอบอาเซียน ซ่ึงปรากฏในแผนงานการจัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (A Blueprint
for ASEAN Socio-Cultural Community) โดยควรก�ำหนดเป้าหมายในการด�ำเนินการ เพื่อก้าวสู่ประชาคมสังคม
และวัฒนธรรมอาเซียนด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และสร้างความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับประเทศในภูมิภาค
ในขอบขา่ ยดา้ นการพลศกึ ษา กฬี าทเ่ี ปน็ ศลิ ปวฒั นธรรม โดยเฉพาะความรว่ มมอื ดา้ นการกฬี า ศลิ ปวฒั นธรรมลมุ่ นำ�้ โขงหรอื
ประเทศทม่ี ชี ายแดนตดิ กนั หรอื ในกลมุ่ อาเซยี นอยา่ งเปน็ ระบบ การจดั การพลศกึ ษา กฬี า ทเ่ี ปน็ ศลิ ปวฒั นธรรมในแผนงาน
การจัดตัง้ ประชาคมสังคมและวฒั นธรรมอาเซยี น อาจประกอบด้วย
๓.๕ การจดั พลศกึ ษาและกฬี าอย่างทัว่ ถงึ และมคี ุณภาพ
เพ่ือให้ประชากรอาเซียนได้รับการศึกษาด้านพลศึกษาและกีฬาอย่างท่ัวถึงภายในปี พ.ศ ๒๕๕๘
อันจะน�ำไปสู่การขจัดปัญหาด้านสุขภาพ พลานามัย สร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีด้วยการเล่นกีฬา เพื่อสุขภาพและนันทนาการ ขจัดความขัดแย้ง ให้แก่ประชาชน ทุกเพศ
มีความเทา่ เทียมโดยปราศจากความเหลื่อมล้ำ� ทางสงั คมเชื้อชาติ ภมู ิประเทศและความบกพรอ่ งทางรา่ งกาย

แผนพฒั นาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

6 กระทรวงการท่องเที่ยวและกฬี า

การปรบั ปรงุ คณุ ภาพทางการศกึ ษาดา้ นพลศกึ ษาและกฬี า เชน่ การใหก้ ารศกึ ษาอบรมเพอ่ื พฒั นาทกั ษะ
และเทคนคิ การเล่นกีฬาในอาเซยี น การพฒั นาโครงการความช่วยเหลอื ด้านการกฬี า เชน่ การจดั การฝกึ อบรมครพู ลศึกษา
ผู้ฝึกสอนกีฬา เจ้าหน้าที่ด้านการจัดการกีฬา และโครงการแลกเปลี่ยนบุคลากรทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาท่ีเก่ียวข้อง
การส่งเสริมการเข้าถึงการพลศึกษาส�ำหรับสตรีและเด็กอย่างเท่าเทียม รวมท้ังการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติท่ีดี
เก่ียวกับหลักสูตรด้านความเสมอภาคทางเพศในโรงเรียน การส่งเสริมความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศด้าน
การพลศึกษาและกีฬา รวมทั้งความร่วมมือข้ามภูมิภาคเพื่อส่งเสริมคุณภาพการศึกษาด้านพลศึกษาและกีฬาในภูมิภาค
การแลกเปล่ียนการเรียนการสอนระหว่างสถาบันการศึกษา และระดับนักเรียนนักศึกษาในกลุ่มประเทศอาเซียน เป็นเวลา
๑ ภาคเรยี น หรอื ๑ ปี การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื สง่ เสรมิ การพลศกึ ษา การกฬี า วทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี าและสขุ ภาพ และ
การเรยี นรดู้ า้ นพลศกึ ษาและสขุ ภาพตลอดชวี ติ โดยเฉพาะในชมุ ชนหา่ งไกลโดยผา่ นการศกึ ษาทางไกลการเรยี นดว้ ยระบบ IT
๓.๖ การประชุมสมั มนาสง่ เสรมิ ทุนอาเซียนและเครือข่ายด้านพลศกึ ษาและกฬี า
การด�ำเนนิ การศกึ ษาเพอ่ื ทบทวนแนวปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั โครงการทนุ ดา้ นพลศกึ ษาและกฬี าของโรงเรยี น
กีฬาในอาเซียน เพื่อสร้างเสริมประโยชน์และความคุ้มค่าของการด�ำเนินงาน การส่งเสริมเครือข่ายการศึกษาในสถาบัน
การศึกษาทุกระดับ รวมทั้งเครือข่ายโรงเรียนกีฬา และสถาบันอุดมศึกษาอย่างต่อเนื่อง ขยายเครือข่ายและให้การ
ช่วยเหลือนักเรียน และนักศึกษาด้านพลศึกษาและกีฬา การแลกเปล่ียนบุคลากรและปฏิสัมพันธ์ระหว่างคณาจารย์
เช่น การส่งเสริมการวิจัยระหว่างสถาบันการศึกษาในอาเซียน โดยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น ซีมีโอ และเครือข่ายมหาวทิ ยาลัยอาเซยี น เปน็ ต้น
๓.๗ การสง่ เสรมิ ความเขา้ ใจอันดรี ะหวา่ งกนั
การแลกเปลี่ยนทางศิลปวัฒนธรรม การกีฬา และการละเล่นพ้ืนบ้านระหว่างสมาชิกอาเซียน
โดยผ่านการพลศึกษา กีฬา และนันทนาการ เพื่อสร้างเสริมความส�ำเร็จและความเข้าใจอันดีในประเทศสมาชิกที่มี
วัฒนธรรมแตกต่างกัน การสอนค่านิยมร่วมและมรดกทางวัฒนธรรมอาเซียนในหลักสูตรโรงเรียนกีฬา และสถาบัน
การศึกษา รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพและอุปกรณ์การเรียนการสอนการส่งเสริมการเรียนภาษาอาเซียน และส่งเสริม
การแลกเปลีย่ นทางภาษาระหวา่ งกัน การจดั ท�ำหลักสูตรอาเซียนศกึ ษาทั้งในโรงเรยี นกีฬาและสถาบนั การศึกษา
๓.๘ การพฒั นาเยาวชนอาเซยี น
การด�ำเนินโครงการพัฒนาผู้น�ำเยาวชนอาเซียนโดยอาศัยโรงเรียนกีฬา และสถาบันการศึกษา โดย
ท�ำโครงการแลกเปล่ียนอย่างต่อเนื่องและจัดให้มีโครงการท่ีมีวัตถุประสงค์คล้ายคลึงกันและส่งเสริมการสร้างเครือข่าย
ความเขา้ ใจอนั ดรี ะหวา่ งกนั การจดั การแขง่ ขนั กฬี าโรงเรยี นกฬี าอาเซยี น มหาวทิ ยาลยั อาเซยี น กฬี าระหวา่ งสถาบนั ระหวา่ ง
ประเทศ อาสาสมัครเยาวชนอาเซียนท่ีเก่ียวกับพลศึกษา กีฬา และนันทนาการ เพ่ือส่งเสริมปฏิสัมพันธ์และการเสริมสร้าง
ความเข้าใจอันดีระหว่างเยาวชนในภูมิภาค การด�ำเนินโครงการแข่งขันกีฬา นันทนาการ ระดับเยาวชนอย่างต่อเน่ือง เช่น
ASEAN Youth Tournament เพื่อยกย่องเยาวชนและบุคคลท่ีประสบความส�ำเร็จในด้านต่างๆ เพ่ือส่งเสริมความคิดและ
คา่ นยิ มอาเซยี นระหวา่ งเยาวชนในภมู ภิ าค ด�ำเนนิ การในการจดั ตงั้ กองทนุ เยาวชนอาเซยี นเพอื่ สง่ เสรมิ โครงการและกจิ กรรม
ต่าง ๆ ของเยาวชนในอาเซียน จดั เวทีเพอ่ื แลกเปลีย่ นเครือข่ายและแนวปฏิบตั ิท่ดี ีเกยี่ วกับวธิ กี ารและกลยุทธใ์ นการพัฒนา
เดก็ และเยาวชน ศกึ ษาและจดั ท�ำ ASEAN Youth Physical Fitness Development Index เพอื่ ประเมนิ ประสทิ ธภิ าพและ
ประสิทธิผลด้านสมรรถภาพด้านร่างกาย โดยร่วมมือใน “โครงการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายเยาวชนภายในอาเซียน”
และช่วยเหลือประเทศสมาชิกในการวางแผนการสร้างสรรค์สมรรถภาพทางกายเยาวชนในภูมิภาค เพื่อให้ความส�ำคัญ
ต่อการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการพลศึกษาและกีฬาต่อภูมิภาคในประเด็นด้านการเสริมสร้างโอกาสด้านพลศึกษา
สขุ ภาพ และการกฬี าใหแ้ กป่ ระชาชนอยา่ งเทา่ เทยี ม ทง้ั ยงั เปน็ การเสรมิ สรา้ งเครอื ขา่ ยความรว่ มมอื ดา้ นการพลศกึ ษาและกฬี า

แผนพฒั นาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการทอ่ งเท่ยี วและกีฬา 7

ในภูมิภาคในระดับเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติและอาเซียน ตลอดจนการส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างกันโดย
กระบวนการเชือ่ มโยงและเสริมสรา้ งความรว่ มมือด้านการพลศกึ ษาและกีฬาในอาเซียนอกี ด้วย
นอกจากนี้ ยงั ไดส้ รา้ งความสมั พนั ธแ์ ละการขยายความรว่ มมอื กบั ประเทศเพอื่ นบา้ น และในภมู ภิ าค
เอเชียภายใต้กรอบความร่วมมือด้านต่างๆ โดยเฉพาะกรอบความร่วมมือด้านการพลศึกษาและกีฬา ในกรอบความ
ร่วมมือด้านการพลศึกษาและกีฬาอาเซียน เป็นความร่วมมือที่สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปการศึกษาของประเทศ
และส่งเสริมการท่องเท่ียว ซ่ึงประกอบด้วยการปรับปรุง เพ่ือเพ่ิมปริมาณนักท่องเที่ยวจากการขยายโอกาสในการเป็น
เจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ การสร้างสิ่งอ�ำนวยความสะดวกพื้นฐานด้านการกีฬาและเทคโนโลยี
การส่ือสารรองรับการขยายโอกาสในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน และการยกระดับคุณภาพการพลศึกษาและกีฬา
ตลอดจนการบริหารจัดการทางการพลศึกษาและกีฬาในเชิงคุณภาพ และการจัดท�ำแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

๔. กรอบแนวคิดการพัฒนาการกฬี า

การพฒั นาประเทศชาตใิ หม้ คี วามเจรญิ กา้ วหนา้ ขนึ้ อยกู่ บั ผลสมั ฤทธข์ิ องการพฒั นาคนและสงั คมใหม้ คี ณุ ภาพ
การพัฒนาให้ประชาชนมีสุขภาพ พลานามัย ที่สมบูรณ์แข็งแรงท้ังร่างกายและจิตใจ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ สามารถเป็น
ก�ำ ลงั ส�ำ คญั ในการพฒั นาประเทศชาตไิ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพจงึ เปน็ สงิ่ ทจี่ �ำ เปน็ การพฒั นาคนและสงั คมทม่ี คี ณุ ภาพ โดยการ
เสริมสร้างสุขภาวะของประชาชนอย่างครบวงจรและมีคุณภาพมาตรฐาน และมีกลยุทธ์ที่ส่งเสริมการกีฬาเพ่ือสร้างโอกาส
ให้เด็กและเยาวชนพัฒนาทักษะด้านกีฬาสู่ความเป็นเลิศ สร้างนิสัยรักกีฬา และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มุ่งเน้นการใช้
กีฬาเป็นเคร่ืองมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคม ดังนั้น แนวคิดการพัฒนาการกีฬาให้มีความเจริญก้าวหน้า
เป็นสิ่งท่ีสำ�คัญและจำ�เป็นอย่างย่ิง เพราะนอกจากจะทำ�ให้ประชาชนได้ออกกำ�ลังกายและเล่นกีฬาเพื่อส่งเสริมสุขภาพ
ทั้งรา่ งกายและจติ ใจแล้ว ความเจริญด้านการกฬี ายังเปน็ สงิ่ ทแี่ สดงถึงความเจริญกา้ วหนา้ ของประเทศดว้ ย ทั้งด้านคณุ ภาพ
ของคนในสังคม และความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ การพัฒนาด้านการกีฬาเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบในด้านบุคลากร
ด้านการกีฬา รวมท้ังเก่ียวข้องกับประชาชนทั่วไปในการเข้ามาชมกีฬาหรือใช้บริการเพื่อการออกกำ�ลังกายและเล่นกีฬา
โครงสร้างพ้นื ฐานรองรับการแข่งขันและอุปกรณ์ ด้านการกฬี า รวมทงั้ องค์ความร้ดู ้านวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารกฬี า
จงึ จ�ำ เปน็ ตอ้ งมกี ารบรหิ ารจดั การองคก์ รแบบบรู ณาการใหท้ กุ ภาคสว่ นทเ่ี กย่ี วขอ้ ง มสี ว่ นรว่ มและมคี วามเขา้ ใจในทกุ มติ ิ ดงั นี้
๔.๑ มติ ิดา้ นการกีฬา
กีฬา (sport) สามารถน�ำมาใช้เป็นเครื่องมือ หรือ สื่อ (media) ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ได้
ในหลายๆ มติ ิ ดังนี้

๑) มิติกีฬาเพือ่ สขุ ภาพ

เป็นมิติของการส่งเสริมกีฬา เพ่ือการออกก�ำลังกายและก่อให้เกิดสุขภาวะท่ีดีของประชาชน
เปน็ มติ ทิ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สขุ ภาพ และคณุ ภาพของประชาชนทง้ั ประเทศ จงึ เปน็ มติ ิ ทค่ี วรไดร้ บั การพฒั นาและการสนบั สนนุ
จากภาครัฐ และหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และทุกระดับ เพื่อส่งเสริมและผลักดันให้ประชาชนเล่นกีฬา
เพ่อื การออกก�ำลังกายจนเปน็ วิถีชีวติ
๒) มิติกฬี าเพ่อื ความเปน็ เลิศ
เปน็ มติ กิ ฬี าทมี่ พี น้ื ฐาน เพอ่ื สรา้ งความมนี ำ�้ ใจเปน็ นกั กฬี าความสามคั คี รแู้ พ้ รชู้ นะรอู้ ภยั ใหแ้ ก่
เดก็ และเยาวชน เพอ่ื เปน็ บคุ คลทม่ี คี ณุ ภาพทง้ั กายและจติ ใจ และเปน็ มติ ทิ ม่ี วี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ สรา้ งความภมู ใิ จ ในความส�ำเรจ็
ในการแข่งขันกีฬาท้ังของตนเอง และของคนท้ังชาติในทุกระดับ ความส�ำเร็จของนักกีฬา จะน�ำไปสู่ความมีช่ือเสียงและ

แผนพัฒนาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

8 กระทรวงการทอ่ งเทีย่ วและกีฬา

ความเจริญในด้านต่างๆ ของประเทศ รัฐบาลมีนโยบายท่ีจะพัฒนากีฬาอาชีพของประเทศไทยให้มีศักยภาพเทียบเท่า
ระดับสากล โดยมุ่งเน้นให้มีการบริหารจัดการด้านการกีฬา ส่งเสริมให้มีการลงทุนและการพัฒนาด้านกีฬา โดยสร้าง
แรงจูงใจ เพ่ือกระตุ้นให้ภาคเอกชนเห็นประโยชน์ในการพัฒนาและการลงทุนในการกีฬา เช่น นโยบายด้านภาษี
เพื่อการพัฒนากีฬา เป็นต้น รวมทั้งการสนับสนุนคุณภาพชีวิตของบุคลากร และองค์กรที่เกี่ยวข้องด้านการกีฬาของ
ประเทศ นอกจากนี้ ส่ิงที่ส�ำคัญต่อการพัฒนากีฬาอาชีพอีกเร่ืองหนึ่ง คือ นักกีฬาอาชีพจะต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถ
และมีคุณภาพในระดับมาตรฐานสากล จึงจะได้รับความนิยมจากผู้ชมและได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้การสนับสนุน
(Sponsor) หน่วยงานและสถาบันกีฬาอาชีพจะต้องน�ำหลักการตลาด (Marketing Mixed) เข้ามาบริหารจัดการ
ด้านต่างๆ ดว้ ย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์หรอื ผลผลิต สนามแขง่ ขนั ราคาคา่ ชมและการสง่ เสริมการประชาสัมพันธ์ เปน็ ตน้
๓) มติ ิกีฬาเพอื่ การอาชีพ
เป็นมิติกีฬาท่ีมุ่งเน้นการแพ้ชนะจากการแข่งขัน เป็นมิติที่มุ่งพัฒนาให้คนมีความอดทน มุ่งม่ัน
และรบั ผิดชอบ เพ่ือให้บรรลเุ ป้าหมายทั้งจากการแขง่ ขนั ความมชี ่อื เสียงและผลตอบแทนท่ีได้จากการแข่งขันกฬี า
มิติด้านการกีฬาท้ัง ๓ มิติน้ี เก่ียวข้องกับประชาชนโดยตรง แตกต่างกันที่จำ�นวนประชากรที่
เข้ามาเก่ียวข้องในการพัฒนาการกีฬาของชาติ จะต้องพิจารณาให้ความสำ�คัญของกีฬาแต่ละมิติอย่างเหมาะสม
มิติกีฬาเพ่ือสุขภาพจะเกี่ยวข้องกับประชาชนทุกกลุ่มท้ังประเทศ มิติกีฬาเพ่ือความเป็นเลิศเก่ียวข้องกับเยาวชนและ
ประชาชนส่วนหน่ึง ส่วนมิติกีฬาเพื่อการอาชีพจะเกี่ยวข้องกับประชาชนเพียงส่วนน้อย แต่ท้ังสามมิติมีความสำ�คัญ
ซ่ึงกันและกนั ตอ่ การพฒั นาการกฬี าของประเทศ
๔) มิตกิ ีฬาเพื่อความม่นั คง
เปน็ มติ กิ ฬี าทมี่ เี ปา้ หมายน�ำ การกฬี ามาใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื แกไ้ ขปญั หาความมน่ั คงของประเทศ แกไ้ ข
ปัญหาความขดั แย้ง กอ่ ให้เกิดความรักสามคั คี และความเขา้ ใจระหวา่ งประชาชนทุกกลมุ่ ตวั อยา่ งท่ีผ่านมาได้เคยมีการใช้
กฬี าเพอื่ ลดปญั หาสง่ิ เสพตดิ ใหแ้ กเ่ ยาวชน ดงั นน้ั ประเดน็ มติ กิ ฬี าเพอื่ ความมน่ั คง สามารถนำ�มาใชเ้ ปน็ แนวทางในการแกไ้ ข
ปัญหาความไม่สงบในเขตพื้นท่ชี ายแดน ๓ จังหวัดภาคใต้ หรือเขตพน้ื ที่อืน่ ๆ ทเ่ี กิดปัญหาในลกั ษณะเดยี วกนั ได้
๕) มิตกิ ฬี าด้านเศรษฐกจิ
ความส�ำ เรจ็ ดา้ นการกฬี าของประเทศ เปน็ ดชั นบี ง่ ชถ้ี งึ ความส�ำ เรจ็ และความเจรญิ ทางเศรษฐกจิ
ของประเทศในภาพรวม ซึง่ สามารถพจิ ารณาได้จากมีการจดั การแข่งขัน มีผูช้ มกีฬาเปน็ วถิ ีชวี ติ มรี ายไดจ้ ากการแขง่ ขัน
มีการลงทนุ ด้านส่อื และประชาสัมพันธด์ า้ นการกีฬา มีการทอ่ งเทีย่ วและมอี ุตสาหกรรมเครอ่ื งมือและอุปกรณก์ ฬี า และ
ประการสุดท้าย ประชาชนมีทัศนคติ การเล่นกีฬาเป็น ดูกีฬาเป็น และใช้กีฬาเพ่ือการออกกำ�ลังกาย ประชาชน
มคี วามสขุ มสี ขุ ภาพแขง็ แรง ปลอดภยั จากโรคทร่ี กั ษาได้ และคา่ ใชจ้ า่ ยในการรกั ษาพยาบาลลดลง สามารถน�ำ งบประมาณ
ไปพัฒนาและสรา้ งความเจริญในด้านอ่ืนของประเทศไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ
ดังนั้นในการพัฒนาด้านการกีฬา จึงควรให้ความสำ�คัญต่อการพัฒนาทั้งมิติด้านสังคมและมิติ
ดา้ นเศรษฐกจิ โดยมติ ิดา้ นสังคมใหค้ วามสำ�คญั ในการรณรงคใ์ ห้เดก็ เยาวชน และประชาชนเหน็ ความส�ำ คญั และตื่นตวั
ในการเลน่ กฬี า ออกก�ำ ลงั กาย และประกอบกจิ กรรมนนั ทนาการ และสนบั สนนุ ใหม้ กี จิ กรรมการกฬี า การออกก�ำ ลงั กาย
และกิจกรรมนันทนาการ การจัดสร้างสถานกีฬาส่งเสริมการใช้และบริหารจัดการสถานกีฬา สนับสนุนการมีส่วนร่วม
ของภาคประชาชน นอกจากน้ีแนวโน้มของการใช้ความสำ�เร็จด้านการกีฬามาสร้างความโดดเด่นของชาติ จึงควร
ให้ความสำ�คัญต่อการพัฒนาและสนับสนุนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา เพ่ือให้เป็นกลไกสำ�คัญในความสำ�เร็จ
ของกฬี าเพอื่ ความเปน็ เลศิ การพฒั นาบคุ ลากรดา้ นการกฬี า การเตรยี มความพรอ้ มของโครงสรา้ งพน้ื ฐานสนามกฬี าและ
นกั กฬี าใหม้ ศี กั ยภาพในการแขง่ ขนั กบั นานาประเทศ ส�ำ หรบั มติ ดิ า้ นเศรษฐกจิ มงุ่ เนน้ พฒั นากฬี าเพอ่ื การอาชพี สง่ เสรมิ
และพัฒนาระบบการบริหารจัดการธุรกิจกีฬา ส่งเสริมและพัฒนากีฬาให้เป็นกีฬาอาชีพท่ีได้มาตรฐาน สร้างมูลค่าเพิ่ม
ทางเศรษฐกิจ (ยุทธศาสตร์กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการทอ่ งเท่ียวและกีฬา 9

๔.๒ แนวคิดการพฒั นาการกฬี าข้นั พน้ื ฐาน
การกีฬาข้ันพื้นฐาน หมายถึง กีฬาข้ันพื้นฐานท่ีมีวัตถุประสงค์ เพ่ือปลูกฝังและเตรียมความพร้อม
ดา้ นร่างกาย และจติ ใจ โดยการเลน่ กฬี าและออกก�ำลงั กาย เพื่อเสรมิ สร้างทศั นคตทิ ด่ี ี มีความสามคั คี และเป็นผู้มีนำ�้ ใจ
เป็นนักกีฬาให้แก่เด็ก และเยาวชนในโรงเรียน และรวมถึงนอกระบบโรงเรียน การพัฒนาคุณภาพประชากรด้วยการ
พฒั นาสขุ ภาพ และพลานามยั มคี วามส�ำคญั ตอ่ การพฒั นาสงั คมและเศรษฐกจิ ของประเทศ ประชากรทม่ี สี ขุ ภาพแขง็ แรง
ย่อมก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการท�ำงาน ผลผลิตรายได้ประชากรสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลดลง
ทั้งส่วนบุคคลและประเทศ ปัจจุบันการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษามุ่งพัฒนาความเจริญงอกงามทางสติปัญญาและ
ความคดิ เพอื่ ความกา้ วหนา้ ทางวชิ าการ เพอ่ื พฒั นาประเทศจงึ ขาดกระบวนการจดั การเรยี นการสอน เพอื่ พฒั นารา่ งกาย
จิตใจ อารมณ์ และสังคมของผู้เรียนด้วย เยาวชนนักศึกษาส่วนใหญ่จึงขาดการออกก�ำลังกายและเล่นกีฬาขั้นพ้ืนฐาน
ขาดเจตคติที่ดีตอ่ การออกก�ำลงั กาย เลน่ กีฬาเพื่อสุขภาพและเพื่อการแข่งขัน
องค์กรการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ กล่าวไว้ว่า รัฐควรให้ความสนใจ
ในการส่งเสริมความส�ำคัญของการพลศึกษาและการกีฬาเพ่ือปวงชน โดยจัดให้เป็นการศึกษาตลอดชีวิตมนุษย์ทุกคน
และได้ประกาศกฎบตั รระหว่างประเทศเกยี่ วกับการพลศึกษาไว้ ๑๐ ประการ คอื
๑) การพลศึกษาและการกฬี า เปน็ สิทธขิ ้ันพ้นื ฐานทพ่ี ึงมีหรือไดร้ บั ของมนษุ ยท์ กุ คน
๒) การพลศกึ ษาและการกฬี า เปน็ สว่ นหนงึ่ ของการศกึ ษาตลอดชวี ติ ทมี่ คี วามส�ำคญั ในกระบวนการศกึ ษา
๓) การจัดโครงการการพลศกึ ษาและการกีฬา ควรค�ำนงึ ถึงความเหมาะสมกับบคุ คลและสังคมของ
ประเทศนน้ั
๔) การสอน การฝึก และการบริหารงานการพลศึกษาและการกีฬา ควรกระท�ำโดยบุคลากรหรือ
ผ้เู ชี่ยวชาญในวชิ าชพี
๕) การพลศกึ ษาและการกฬี าจะสมั ฤทธิ์ผลได้ตอ้ งมอี ปุ กรณ์อยา่ งเพยี งพอ
๖) การวิจัยและการประเมนิ ผลต้องเป็นส่ิงจ�ำเป็นยง่ิ ในการพฒั นาการพลศกึ ษาและการกฬี า
๗) การเผยแพร่และเก็บข้อมูลขา่ วสารตา่ ง ๆ ย่อมชว่ ยสง่ เสรมิ การพลศกึ ษาและการกีฬา
๘) การพลศกึ ษาและการกฬี าจะก้าวหนา้ ไปได้ดว้ ยดี เมอ่ื มีการรว่ มมอื กบั สื่อมวลชน
๙) สถาบันต่างๆ ของรฐั เปน็ ก�ำลงั ส�ำคญั ในการท�ำใหก้ ารพลศกึ ษาและการกีฬาเจรญิ กา้ วหนา้
๑๐) ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเทศ เพอื่ แลกเปลยี่ นประสบการณซ์ งึ่ กนั และกนั ถอื วา่ เปน็ การสง่ เสรมิ
การพลศึกษาและการกฬี าเช่นกนั
๔.๓ แนวคิดการพฒั นาการออกก�ำ ลังกายและการกฬี าเพอื่ สุขภาพ
ในช่วงแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติในหลายฉบับท่ีผ่านมา คนไทยมีแนวโน้มการออกกำ�ลังกายและ
การเล่นกีฬามากขึ้นมีสถิติเพ่ิมสูงขึ้น ดังน้ันแนวทางการพัฒนาการออกกำ�ลังกายและการเล่นกีฬาของคนไทย จึงต้อง
อาศัยขอ้ มูลส�ำ คญั จ�ำ เป็นเพ่อื เปน็ ฐานการพฒั นาใหส้ อดคล้อง ดงั น้ี
๑) โครงสร้างสังคมไทยกำ�ลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น โดยประชากรกลุ่มผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่ม
ข้ึนเป็นร้อยละ ๑๐ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ และจะเพ่ิมขึ้นอีกเป็นร้อยละ ๒๑ ในปี พ.ศ. ๒๕๘๘ การกำ�หนดทิศทางและ
ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาการกฬี าและการออกกำ�ลังกายในอนาคตจงึ จำ�เปน็ ต้องคำ�นึงถึงการส่งเสริมการเลน่ กฬี าและการ
ออกก�ำ ลังกาย รวมทั้งการนันทนาการใหแ้ กป่ ระชาชนทั่วไปใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการและความเหมาะสมในแต่ละ
ช่วงวัยของประชากรกลุ่มเป้าหมายท่ีเปล่ียนแปลงไป เพื่อให้การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในวัยเด็กเข้าสู่
วัยผ้ใู หญ่ และวัยสงู อายมุ ีความสมบูรณท์ ัง้ ทางรา่ งกายและจิตใจ

แผนพฒั นาการกฬี าแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

10 กระทรวงการท่องเทยี่ วและกฬี า

๒) แนวโน้มการพัฒนาด้านสุขภาพของประชาชน เน้นการน�ำประเด็นด้านการพัฒนาการกีฬา
และการออกก�ำลังกายเพ่ือสุขภาพให้เป็นแนวทางการพัฒนาสุขภาพของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้
ความเขา้ ใจ ตระหนกั ถงึ ความส�ำคญั ของการเลน่ กฬี าและการออกก�ำลงั กายมากขนึ้ ดงั นนั้ ในการพฒั นาการกฬี าขนั้ พนื้ ฐาน
และการกฬี าเพือ่ มวลชนจึงมคี วามส�ำคัญเพิม่ สงู ขึน้
๔.๔ มติ ิการออกก�ำลงั กายและการเล่นกฬี าเพ่ือสขุ ภาพ
การออกก�ำลงั กายเพอ่ื สขุ ภาพ หมายถงึ การออกก�ำลงั กายหรอื การฝกึ ซอ้ มใหส้ ว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกาย
ท�ำงานมากกว่าภาวะปกติอย่างมีระบบ ระเบียบ โดยค�ำนึงถึงความเหมาะสมกับเพศ วัย และสภาพร่างกายของแต่ละ
บุคคลเป็นส�ำคัญ จนเป็นผลให้ส่วนของร่างกายน้ันมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางท่ีดีขึ้น จนสามารถด�ำรงชีวิตได้อย่าง
เป็นสุขและมีคุณภาพ กิจกรรมที่ใช้ในการออกก�ำลังกายเพื่อสุขภาพ จะจ�ำกัดเฉพาะกิจกรรมท่ีท�ำให้เกิดความอดทน
มผี ลตอ่ หัวใจและหลอดเลอื ด
สมาคมกีฬาเวชศาสตร์แห่งอเมริกา กล่าวว่า การออกก�ำลังกายเพ่ือสุขภาพเป็นการพัฒนาความ
สามารถในการกระท�ำ (Performance) เพอื่ สมรรถภาพทางกาย (physical Fitness) ภายหลงั การฝกึ ฝน ท�ำให้รา่ งกาย
มีความสามารถในการใช้ออกซิเจนสูงสุด หรือมีสมรรถภาพ หัวใจดี การออกก�ำลังกายเพ่ือสุขภาพท่ีก่อให้เกิดผลดีจะ
ประกอบด้วยความต่อเนื่อง คือ การออกก�ำลังกายให้ติดต่อกันอย่างน้อย ๒๐-๖๐ นาที ความแรง คือ การออกก�ำลัง
กายดว้ ยความแรงระดบั ปานกลางถึงหนกั หรอื ออกแรงมากกว่าปกติ เพ่อื ใหอ้ ตั ราการเตน้ ของหัวใจสงู ถึงร้อยละ ๖๐-๙๐
เพอ่ื ความสามารถในการใชอ้ อกซิเจน รอ้ ยละ ๕๐-๘๕ ความถี่ คอื การออกก�ำลงั กายอย่างนอ้ ยสัปดาหล์ ะ ๓ วัน การใช้
การเลน่ กีฬาและการออกก�ำลงั กาย เพ่ือป้องกนั การเจบ็ ป่วยเปน็ สิ่งท่ีจ�ำเป็นทีจ่ ะต้องเร่งด�ำเนินการ การออกก�ำลงั กายอยา่ ง
ตอ่ เนอ่ื ง สมำ่� เสมอ เปน็ สง่ิ จ�ำเปน็ ส�ำหรบั บคุ คลทกุ เพศทกุ วยั เนอื่ งจากการออกก�ำลงั กายมผี ลทงั้ ดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ และสงั คม
๔.๕ ความส�ำคญั ของการออกก�ำลังกายและการเลน่ กีฬาต่อสุขภาพ
สภาพรา่ งกายทสี่ มบรู ณแ์ ขง็ แรง จะชว่ ยใหบ้ คุ คลสามารถปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
และสามารถด�ำรงชีวิตอยู่ในสงั คมได้อยา่ งราบร่นื มีความสุข ด้วยการปราศจากโรคท่เี กิดจากการขาดการออกก�ำลังกาย
ตลอดจนการมีสขุ ภาพท่ีดี และการออกก�ำลงั กายเปน็ การช่วยบริหารกล้ามเนือ้ ชว่ ยใหก้ ล้ามเนื้อเจริญเติบโต ร่างกาย
แข็งแรง รปู ทรงสมส่วน นอกจากน้นั ยงั มปี ระโยชน์ เชน่ ช่วยขบั เหง่อื ช่วยเจริญอาหาร ชว่ ยขยายหลอดเลือดและหัวใจ
ช่วยขยายปอดช่วยลดความอ้วน ช่วยคลายความเครียด จึงช่วยให้อารมณ์แจ่มใส เบิกบาน การออกก�ำลังกายจึงเป็น
ส่งิ จ�ำเป็นทีช่ ว่ ยใหส้ ุขภาพดี เพราะถา้ กล้ามเนอ้ื ไมไ่ ดใ้ ช้งานนานๆ จะลีบเล็กลงไมม่ กี �ำลัง
๔.๖ ผลการออกก�ำลงั กายต่อโครงสร้างระบบของรา่ งกาย
๑) ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ การออกก�ำลังกายอย่างสม่�ำเสมอท�ำให้เส้นใยกล้ามเน้ือมี
ขนาดใหญ่ กล้ามเนื้อแข็งแรงและมีพลังงานดีข้ึน มีการสะสมสารต่างๆ เพิ่มข้ึน หลอดเลือดฝอย มีการกระจายใน
กล้ามเน้ือมาก ท�ำให้กล้ามเนื้อสามารถรับออกซิเจนได้มากขึ้น ซึ่งท�ำให้เป็นการเพ่ิมความแข็งแรง ทนทานและ
ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ การออกก�ำลังกายท�ำให้กล้ามเนื้อมีความทนทานในการท�ำงานได้นาน โดยไม่เหน่ือยง่าย
และข้อต่อต่างๆ มีการเคล่ือนไหวคล่องตัวจากการที่มีความยืดหยุ่นของกล้ามเน้ือ เอ็น และเน้ือเยื่ออ่ืนๆ นอกจากน้ี
การออกก�ำลังกายอย่างสม�่ำเสมอจะสามารถช่วยป้องกันภาวะโรคกระดูกพรนุ
๒) ระบบหายใจ การออกก�ำลังกายจะช่วยท�ำให้ค่าความจุชีพ (vital capacity) เพ่ิมขึ้น
เพมิ่ ความยดื หยนุ่ ของปอด รวมทง้ั ท�ำใหก้ ลา้ มเนอื้ เกย่ี วกบั การหายใจมคี วามแขง็ แรงขนึ้ สง่ ผลใหอ้ อกซเิ จนไปเลย้ี งสว่ นตา่ งๆ
ของร่างกายและสมองได้ดขี น้ึ การหายใจมปี ระสิทธิภาพ มีความรสู้ ึกหายใจสะดวกและเต็มปอดมากขึน้ นอกจากน้ียงั ท�ำให้
มกี ารแลกเปลี่ยนก๊าซในถุงลมปอดเพมิ่ ขึน้ หลอดเลอื ดฝอยเพ่มิ ขนึ้ และกลา้ มเนือ้ เกี่ยวกับการหายใจมีขนาดใหญข่ น้ึ

แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 11

๓) ระบบหัวใจและหลอดเลือด การออกก�ำลังกายท�ำให้กล้ามเน้ือหัวใจท�ำงานมาก จึงมีผลท�ำให้
กล้ามเนื้อหัวใจมีขนาดใหญ่ และมีความแข็งแรงมากขึ้น สามารถบีบเลือดออกไปเลี้ยงร่างกายทีละมากๆ ดังนั้น
ผู้ท่อี อกก�ำลงั กายเป็นประจ�ำสมำ�่ เสมอหากแมว้ า่ จะอยูเ่ ฉยๆ หัวใจจะไมเ่ ต้นเรว็ เหมือนคนทัว่ ไป แตส่ ามารถสบู ฉีดเลอื ด
ไดเ้ พยี งพอกบั ความตอ้ งการของรา่ งกาย นอกจากนกี้ ารออกก�ำลงั กายยงั เพมิ่ สมรรถภาพในการท�ำงานของหวั ใจ ชว่ ยลด
ปัจจัยเส่ียงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ลดระดับไขมันในเลือด ลดระดับน�้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิตและ
ช่วยปอ้ งกนั การเกิดล่มิ เลอื ด โดยเฉพาะการเกิดล่มิ เลอื ดที่หวั ใจ
๔) ระบบทางเดนิ อาหาร การออกก�ำลงั กายชว่ ยลดอาการทอ้ งผกู เพราะขณะทมี่ กี ารออกก�ำลงั กายอาหาร
จะผา่ นทางเดนิ ล�ำไสค้ อ่ นขา้ งเรว็ และท�ำใหร้ า่ งกายมกี ารปลอ่ ยสารแมกนเี ซยี มออกมาในล�ำไส้ ซง่ึ แมกนเี ซยี มมฤี ทธชิ์ ว่ ยเปน็ ยาระบาย
๕) ระบบประสาท การออกก�ำลังกายท�ำให้มีการท�ำงานของสมองเพ่ิมขึ้น มีการส่ังงานให้
กลา้ มเนอื้ ตา่ งๆ ท�ำงานประสานกนั ไดด้ แี ละมปี ระสทิ ธภิ าพ นอกจากนย้ี งั ท�ำใหอ้ วยั วะตา่ งๆ ทคี่ วบคมุ ดว้ ยประสาทอตั โนมตั ิ
ท�ำงานได้ดี เพราะการออกก�ำลังกายจะไปกระตุ้นให้ต่อมแอดดรีนัลหลั่งสารนอร์แอดดรีนาลีนและแอดดรีนาลีน
ออกมา สารนี้จะไปกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติอีกต่อหน่ึงส่งผลให้เหงื่อออกมากท�ำให้อุณหภูมิของร่างกายลดลง
เพ่ิมปริมาณเลือดท่ีออกจากหัวใจ สง่ ผลใหเ้ พิ่มปรมิ าณออกซเิ จนในส่วนตา่ งๆ ของรา่ งกาย เพิ่มการถ่ายเทคาร์บอนไดออกไซด์
เพ่ิมการถา่ ยเทของเสยี จากการเผาผลาญและเพมิ่ อาหารให้แก่กลา้ มเน้ือ
๖) ระบบฮอร์โมน การออกก�ำลังกายจะช่วยกระตุ้นต่อมหมวกไตให้มีการหลั่งฮอร์โมนอิพิเนฟฟิน
และนอรอ์ พิ เิ นฟฟิน ผลของการหล่งั ของฮอรโ์ มนท�ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสรีระหลายอย่าง เชน่ หัวใจมกี ารเต้นถี่
และแรงข้ึน เลือดไปเล้ียงหัวใจเพ่ิมข้ึน มีการสลายตัวของไกลโคเจนท่ีตับและกล้ามเนื้อมากขึ้น ท�ำให้ร่างกายสร้าง
พลังงานข้ึนได้สมดุลกับพลังงานท่ีใช้ไปในการออกก�ำลังกาย และผลของการออกก�ำลังกายท�ำให้ต่อมไร้ท่อต่างๆ เช่น
ตอ่ มหมวกไต ตอ่ มใต้สมอง และตอ่ มไทรอยด์ มีการหล่ังของฮอรโ์ มนเพม่ิ ขึน้ ท�ำใหร้ า่ งกายมีพลงั
๔.๗ ผลการออกก�ำลงั กายตอ่ จติ ใจและสังคม
การออกก�ำลังกายมีประโยชน์ต่อทางด้านจิตใจ โดยการออกก�ำลังกายอย่างสม�่ำเสมอ จะมีผล
ให้ร่างกายเกิดการหล่ังสารจากต่อมใต้สมองที่เรียกว่า เอ็นดอร์ฟิน ซ่ึงสารตัวน้ีจะมีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีนมีผลท�ำให้ลด
อาการซมึ เศร้า ลดความวิตกกังวล และการออกก�ำลงั กายท�ำให้สนุกสนาน เพลิดเพลนิ จติ ใจแจ่มใส การออกก�ำลงั กาย
ยงั ชว่ ยเพม่ิ ความเชอ่ื ม่ันในตนเอง มีอัตมโนทศั น์ต่อตัวเอง และมคี วามโน้มเอียงท่ีจะมพี ฤตกิ รรมอนื่ ๆ ในทางท่ีดีขึน้ ด้วย
โดยเฉพาะการละเว้นหรือลดการใช้สารเสพติด เช่น การสูบบุหร่ี การดื่มสุรา เป็นต้น นอกจากน้ียังช่วยให้แบบแผน
การนอนหลับดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่นอนไม่หลับจากความเครียด รวมท้ังการออกก�ำลังกายหรือเล่นกีฬาร่วมกัน
เป็นหมมู่ ากๆ จะท�ำใหเ้ กดิ ความสมั พันธท์ ี่ดี และสามารถอยู่ในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสขุ
๔.๘ ความส�ำคัญของการออกก�ำลังกายและการเล่นกีฬาต่อการรักษาสุขภาพของผู้สูงอายุ
จากสถานการณแ์ ละแนวโน้มการเปล่ียนแปลงท่ีมผี ลตอ่ การพัฒนากีฬาของชาติ เชน่
๑) การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของระบบเศรษฐกิจและสังคมโลกน�ำไปสู่ความสลับซับซ้อนและ
เกิดความเชื่อมโยงส่งผลซ่ึงกันและกันระหว่างประเทศต่างๆ อย่างรวดเร็วและมากข้ึน แนวโน้มการพัฒนายุคใหม่เน้น
การพัฒนาด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีสมัยใหม่ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นพื้นฐานในการเพิ่มขีดความสามารถ
ในการแข่งขนั และสร้างความไดเ้ ปรียบในการพัฒนากฬี าของประเทศ
๒) การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ภายในประเทศด้านเศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง
เง่ือนไขขีดจ�ำกัดด้านงบประมาณ การเปล่ียนแปลงโครงสร้างของประชากรและกระแสความนิยมในกีฬาชนิดต่างๆ
ลว้ นมีผลกระทบตอ่ การพัฒนากฬี าของประเทศ กล่าวคือ

แผนพัฒนาการกฬี าแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

12 กระทรวงการทอ่ งเท่ียวและกีฬา

๒.๑) โครงสร้างของสังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น ท�ำให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ
ในอีก ๓๐ ปีข้างหน้า จึงต้องมีการเตรียมการส่งเสริมการออกก�ำลังกายและการกีฬาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และ
ความพรอ้ มของวยั กลมุ่ เปา้ หมายทม่ี กี ารเปลยี่ นแปลง จากการคาดการณแ์ นวโนม้ ในอนาคต พบวา่ โครงสรา้ งสงั คมไทยก�ำลงั
เขา้ สสู่ งั คมผสู้ งู อายมุ ากขนึ้ โดยประชากรกลมุ่ ผสู้ งู อายจุ ะมแี นวโนม้ เพมิ่ ขนึ้ เปน็ รอ้ ยละ ๑๐ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ และจะเพมิ่ ขนึ้
อีกเปน็ ร้อยละ ๒๑ ในปี พ.ศ. ๒๕๘๘ ดังนั้น การสง่ เสริมให้ผสู้ งู อายุได้มกี ารออกก�ำลงั กาย และเล่นกีฬาจงึ มคี วามจ�ำเปน็
ต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก เพราะการออกก�ำลังกายท�ำให้มีสุขภาพดี ทั้งร่างกายและจิตใจ
ท�ำให้มีสมรรถภาพทางกายด้านต่างๆ สูง ท�ำงานต่างๆ ได้มากข้ึน ความเหน่ือยมีน้อยลงแรงกล้ามมากข้ึน และ
มีความอดทนมากข้ึน ช่วยควบคุมน�้ำหนักและทรวดทรง ป้องกันโรคท่ีเกิดจากความเส่ือม เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
โรคความดนั เลอื ดสงู โรคขอ้ เสอื่ มตา่ งๆ ชว่ ยฟน้ื ฟสู ภาพในผทู้ มี่ โี รคจากความเสอ่ื มดงั กลา่ ว ประโยชนข์ องการออกก�ำลงั กาย
ต่อสภาพร่างกายของผู้สูงอายุดังกล่าวอาจถือได้ว่าเป็นการชะลอ “ความชรา” เนื่องจากความชราไม่ได้ตัดสินด้วยอายุ
ตามนาฬิกาอย่างเดียว แต่ต้องมีองค์ประกอบอีก ๓ อย่าง คือ รูปกายท่ีปรากฏ จิตใจ สมรรถภาพทางกาย ซ่ึงผลของ
การออกก�ำลงั กายทีถ่ ูกตอ้ งจะท�ำให้องคป์ ระกอบท้ัง ๓ ดขี ึ้นได้ การออกก�ำลังกายสามารถท�ำให้ผสู้ ูงอายุมสี มรรถภาพทาง
รา่ งกายดีขน้ึ ชะลอการเสื่อมของอวัยวะตา่ งๆ และสามารถฟน้ื ฟูอวยั วะทเี่ สือ่ มไปแลว้ ให้ดีขน้ึ ได้ ถงึ แม้ว่าจะยงั ไมม่ ีหลกั ฐาน
ยนื ยนั ทางการทดลองทแ่ี นน่ อนวา่ การออกก�ำลงั กายจะสามารถยดื อายใุ หย้ นื ยาวออกไป แตจ่ ากผลของการออกก�ำลงั กายตา่ งๆ
ที่พิสูจน์ได้และประโยชน์จากการออกก�ำลังกายดังสรุปข้างต้น รวมทั้งจากการปฏิบัติในการฟื้นฟูสภาพผู้ป่วย
โรคหลอดเลอื ดหวั ใจตบี โดยการออกก�ำลงั กายสามารถยดื อายใุ หย้ นื ยาวออกไปไดอ้ กี จากผลการศกึ ษาปญั หาความตอ้ งการ
ของผ้สู งู อายุ พบว่าผ้สู งู อายตุ ้องการความรู้ขา่ วสารเก่ียวกับการออกก�ำลังกายเพือ่ สามารถน�ำมาใช้ในชีวติ ประจ�ำวนั ได้
๒.๒) สังคมไทยตกอยู่ในกระแสนิยมและบริโภคนิยมมากข้ึนโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
ประกอบกบั มปี ญั หาสงั คมทส่ี �ำคัญ คือ การระบาดของยาเสพตดิ ทลี่ กุ ลามเขา้ ส่สู ังคมในกลุม่ ต่างๆ อยา่ งรวดเรว็ รวมทงั้
มีปัญหาความเครียดและสุขภาพจิตจากภาวะบีบคั้นทางเศรษฐกิจและสังคมที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ท�ำให้ทุกฝ่ายในสังคม
รวมทงั้ กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี าตระหนกั ถงึ ความส�ำคญั ของการกฬี ามากขน้ึ และใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื ในการลดปญั หา
ดังกล่าว และยังมีปัญหาความยากจนและด้อยโอกาส ต้องใช้เวลาในการหาเลี้ยงชีพท�ำให้ขาดโอกาสในการออกก�ำลัง
กายและเลน่ กฬี า จงึ ตอ้ งมรี ปู แบบและวธิ กี ารทหี่ ลากหลายมากขนึ้ ในการด�ำเนนิ กจิ กรรมการออกก�ำลงั กายและเลน่ กฬี า
เพอื่ ตอบสนองแก่กลุ่มเป้าหมาย
๔.๙ แนวโนม้ ทศิ ทางการพัฒนาดา้ นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกฬี า
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารกฬี าเปน็ ปจั จยั หนง่ึ ทท่ี �ำใหน้ กั กฬี าประสบความส�ำเรจ็ ในการแขง่ ขัน
กีฬาในทุกๆ ระดับ ดังนั้น การพัฒนาความรู้และการน�ำความรู้ตลอดจนเทคนิคทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้
ในการฝึกฝนและพัฒนาโครงสร้างของร่างกายตลอดจนอุปกรณ์หรือเครื่องมือท่ีใช้ในการเล่นกีฬาจึงควรได้รับ
การสนบั สนนุ จากผูท้ ี่เก่ยี วข้อง เพื่อให้นักกีฬาประสบความส�ำเรจ็ ท้งั ชือ่ เสียงและรายได้ต่อนักกีฬาเองและประเทศ
ความส�ำเรจ็ ของการใชว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารกฬี าพฒั นาศกั ยภาพของนกั กฬี า ไดแ้ ก่ สถาบนั
กีฬาแห่งออสเตรเลีย (Australian Institute of Sport, AIS) ซ่ึงมีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนานักกีฬา โดยจัดหา
ส่ิงอ�ำนวยความสะดวกและการบริการต่างๆ ด้านการกีฬาให้ได้ตามมาตรฐานสูงสุด และจัดท�ำโครงการใช้วิทยาศาสตร์
การกฬี า ไดแ้ ก่ ไบโอแมคานกิ ส์ สรรี วทิ ยา และจติ วทิ ยานกั กฬี าในการฝกึ นกั กฬี าจ�ำนวน ๒๖ ประเภท เพอ่ื สง่ เขา้ แขง่ ขนั
กีฬาโอลิมปิก คร้ังท่ี ๒๘ พ.ศ. ๒๕๔๗ พบว่านักกีฬาจากประเทศออสเตรเลียที่ส่งเข้าแข่งขันเป็นนักกีฬาในโครงการ
ของ AIS ร้อยละ ๖๐ และประสบความส�ำเร็จในการแข่งขัน ได้เหรียญรางวัลรวม ๓๒ เหรียญ จากจ�ำนวนทั้งหมด
๔๙ เหรียญ เปน็ อนั ดับท่ี ๔ รองจากสหรัฐอเมรกิ า จีน และรสั เซีย

แผนพฒั นาการกฬี าแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการท่องเทยี่ วและกฬี า 13

ประเทศญี่ปุ่นได้ก่อตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬา (Japan Institute of Sport Science, JISS)
ในปี ค.ศ. ๑๙๘๘ โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาพัฒนานักกีฬาของประเทศ และเพื่อเผยแพร่ความรู้ให้
ชาวญ่ีปุ่นได้ใช้ประโยชน์ในการออกก�ำลังกายท่ีถูกต้อง ผลการด�ำเนินงานของ JISS พบว่า นักกีฬาของประเทศญ่ีปุ่น
มีการพัฒนาศักยภาพสูงข้ึน โดยประสบความส�ำเร็จในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกคร้ังที่ ๒๘ ท่ีกรุงเอเธนส์ ได้รับ
เหรียญรางวลั รวม ๓๓ เหรียญ เป็นเหรียญทอง ๑๔ เหรยี ญ เหรียญเงนิ ๙ เหรยี ญ และเหรยี ญทองแดง ๑๐ เหรยี ญ
๔.๑๐ แนวคดิ ด้านการบริหารจัดการด้านการกฬี า สถานกฬี า และวสั ดอุ ุปกรณด์ า้ นการกีฬา
การบริหารจัดการด้านการกีฬา สถานกีฬา และอุปกรณ์กีฬาเป็นเร่ืองที่หน่วยงานหลักผู้รับผิดชอบ
ด้านการพัฒนาการกีฬาต้องให้ความส�ำคัญเป็นอย่างมาก เพ่ือให้บุคลากรด้านการกีฬาและประชาชนท่ัวไปได้มีสถานที่
และวสั ดอุ ุปกรณส์ �ำหรบั การออกก�ำลงั กายและการเลน่ กฬี า อย่างเพยี งพอแกค่ วามต้องการ
ปจั จัยหลกั ในการพฒั นาการกฬี า
การพฒั นาการกฬี าของชาตจิ ะประสบความส�ำเร็จได้ ตอ้ งประกอบด้วยปจั จยั หลัก ๓ ประการ ดงั น้ี
๑) องค์ประกอบดา้ นบุคลากร
บุคลากร หมายถึง จ�ำนวนประชากรหรือบุคคลท่ีจะเข้ามาเก่ียวข้องกับการกีฬา ข้ันพ้ืนฐาน
และมวลชนเก่ียวข้องกับจ�ำนวนประชากรที่มากกว่า ดังนั้น ควรให้ความส�ำคัญกับการพัฒนาการกีฬาข้ันพื้นฐาน
เปน็ อนั ดบั แรก เพ่อื พัฒนาทกั ษะและทัศนคตกิ ารเลน่ กฬี าและการออกก�ำลงั กาย แล้วส่งเสรมิ ให้เยาวชนและประชาชน
เล่นกีฬาและออกก�ำลังกายจนเป็นวิถีชีวิต ตามยุทธศาสตร์การพัฒนากีฬาเพ่ือมวลชน เพ่ือเปิดโอกาสให้ประชาชน
ทุกหมู่เหล่าออกก�ำลังกาย และเล่นกีฬา และพัฒนาทักษะและศักยภาพด้านการกีฬา เพื่อพัฒนาสู่ความเป็นเลิศและ
การกฬี าเพ่ือการอาชีพในระดบั ตอ่ ไป
๒) องค์ประกอบดา้ นโครงสรา้ งพื้นฐาน
ประกอบด้วยโครงสร้างสถานกีฬา อุปกรณ์กีฬา และโครงสร้างอ่ืนๆ ที่สนับสนุนและ
สร้างโอกาสการเล่นกีฬา การออกก�ำลังกาย และการแข่งขันกีฬาของเยาวชน นักกีฬา และประชาชน รวมท้ัง
องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬาละการบริหารจัดการกีฬาเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการกีฬา
ได้อย่างเต็มท่ี
๓) องคป์ ระกอบด้านงบประมาณ
เป็นปัจจัยที่มีความส�ำคัญและมีความจ�ำเป็นท่ีจะท�ำให้กิจกรรมด้านกีฬาและออกก�ำลังกายที่
ส่งเสริมให้ด�ำเนินการนั้นประสบความส�ำเร็จ ดังน้ันการพิจารณาจัดสรรงบประมาณจากแหล่งต่างๆ ทั้งจากภาครัฐ
และภาคเอกชน หรอื องคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ จงึ ต้องพิจารณาใหม้ คี วามเหมาะสม

๕. สถานการณแ์ นวโน้มเกีย่ วกับการออกก�ำลังกายและการกีฬา

ยทุ ธศาสตรก์ ระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙ ไดม้ กี ารศกึ ษาถงึ กระแสการใหค้ วามสนใจ
ตอ่ สขุ ภาพ การกา้ วสสู่ งั คมผสู้ งู อายุ การตน่ื ตวั ในเรอ่ื งการออกก�ำลงั กายเพอ่ื สขุ ภาพของคนทว่ั โลก รฐั บาลประเทศตา่ งๆ
ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความส�ำคัญของการกีฬา ซ่ึงรวมถึงการออกก�ำลังกายและเล่นกีฬาเพ่ือให้มีสุขภาพแข็งแรง
ท�ำให้ประชาชนให้ความสนใจดูแลสุขภาพ เล่นกีฬา และออกก�ำลังกายมากข้ึน และด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี
สารสนเทศและการส่ือสาร ท�ำให้ข่าวสารด้านการกีฬาท่ัวโลกเข้าถึงประชาชนได้อย่างทั่วถึง ท�ำให้ได้ดูการแข่งขันและ
น�ำมาสแู่ รงบนั ดาลใจ การสรา้ งกระแสคา่ นยิ ม และวฒั นธรรมในการเลน่ กฬี าและออกก�ำลงั กาย รวมถงึ เปน็ ตน้ แบบใหแ้ ก่
เดก็ และเยาวชน การแขง่ ขนั กนั เปน็ ผนู้ �ำดา้ นการกฬี า และการพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารกฬี าประเทศตา่ งๆ
ได้ให้ความส�ำคัญกับการเป็นผู้น�ำด้านการกีฬา โดยได้น�ำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬามาใช้ในการฝึกฝน และ

แผนพัฒนาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

14 กระทรวงการท่องเทยี่ วและกฬี า

พัฒนาโครงสร้างของร่างกาย พร้อมทั้งอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นกีฬา เพ่ือให้นักกีฬาประสบความส�ำเร็จทั้ง
ช่อื เสียงและรายไดต้ อ่ นกั กีฬาและประเทศ ดังนั้นประเทศต่างๆ ทวั่ โลกจึงมกี ารสง่ เสริมการลงทุน เพ่ือพัฒนาศักยภาพ
ของนกั กฬี า สง่ ผลใหเ้ กดิ ความตอ้ งการอปุ กรณ์ สถานทเ่ี พอื่ การฝกึ ซอ้ ม รวมถงึ ผฝู้ กึ สอนกฬี าประเภทตา่ งๆ ตวั อยา่ งของ
ประเทศทป่ี ระสบความส�ำเรจ็ ดา้ นการกฬี า เชน่ จนี สหรฐั อเมรกิ า รสั เซยี และออสเตรเลยี เปน็ ประเทศทนี่ �ำวทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยกี ารกฬี ามาใชใ้ นการบรหิ ารจดั การจนประสบความส�ำเรจ็ ในการแขง่ ขนั การน�ำการกฬี ามาใชใ้ นการพฒั นา
เศรษฐกิจ และใช้ความส�ำเร็จดา้ นการกฬี าสร้างความโดดเด่นของชาติ สร้างความรกั ความเปน็ หน่ึงเดียวผ่านกลไกดา้ น
การกีฬา เห็นได้จากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬา กิจกรรมนันทนาการ และการจัดมหกรรมกีฬาเพ่ือ
สรา้ งภาพลกั ษณท์ ดี่ ขี องประเทศ ทงั้ ระดบั โลก ระดบั ภมู ภิ าค และระดบั ภายในประเทศ การแขง่ ขนั กฬี าระดบั โลก ไดแ้ ก่
การแขง่ ขนั โอลมิ ปกิ เกมส์ การแขง่ ขนั ฟตุ บอลโลก หรอื การแขง่ ขนั ระดบั ภมู ภิ าค ไดแ้ ก่ เอเชยี นเกมส์ หรอื ซเี กมส์ เปน็ ตน้
เปน็ องคป์ ระกอบหนงึ่ ทด่ี งึ ดดู นกั ทอ่ งเทยี่ วจากทว่ั โลกใหเ้ ขา้ มาใชจ้ า่ ยเงนิ ในประเทศ (ยทุ ธศาสตรก์ ระทรวงการทอ่ งเทยี่ ว
และกฬี า พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)
การเติบโตของธุรกิจการกีฬาและธุรกจิ ต่อเนอื่ ง นับต้งั แตต่ น้ ทศวรรษ ๒๕๒๐ เป็นตน้ มา การกฬี าระหวา่ ง
ประเทศเติบโตและรุ่งเรืองจนก่อให้เกิดธุรกิจนานาประเภท นับตั้งแต่ธุรกิจอุปกรณ์กีฬา ธุรกิจเครื่องแต่งกายและ
รองเทา้ กฬี า ธรุ กจิ สนามกฬี า ธรุ กจิ โทรทศั น์ ธรุ กจิ กอ่ สรา้ ง เปน็ ตน้ การแขง่ ขนั กฬี าจงึ ไมใ่ ชเ่ รอื่ งของการออกก�ำลงั กายเพอื่
พลานามัยเพยี งอย่างเดียวอีกตอ่ ไป หากแต่การกฬี าแปรเปลี่ยนเป็นสินคา้ และเกยี่ วพันกบั ผลประโยชน์จ�ำนวนมหาศาล
ส่งผลให้มีการจ้างงาน สร้างแรงกระตุ้นให้แก่อุตสาหกรรมก่อสร้าง ผ่านการขยายและการสร้างสถานที่แข่งขันและ
ปรบั ปรงุ โครงสรา้ งพ้นื ฐาน การกฬี าจงึ สามารถกระตนุ้ ใหเ้ กิดการเตบิ โตของเศรษฐกจิ ได้
ส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ส�ำรวจข้อมูลด้านการออกก�ำลังกายและเล่นกีฬาของประชาชนเกี่ยวกับ
การส�ำรวจพฤติกรรมการออกก�ำลังกายของประชากรปี ๒๕๔๖ ๒๕๔๗ และ ๒๕๕๐ พบว่าประชาชนมีแนวโน้มของ
การออกก�ำลังกายเพ่ิมข้ึนเล็กน้อย คือ จากร้อยละ ๒๙.๐ ร้อยละ ๒๙.๑ และร้อยละ ๒๙.๖ ในปี ๒๕๔๖ ๒๕๔๗
และ ๒๕๕๐ ตามล�ำดับ โดยผู้ชายมีอัตราการออกก�ำลังกายสูงกว่าผู้หญิง และผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลมีอัตรา
การออกก�ำลังกายสูงกว่านอกเขตเทศบาล และพบว่าผู้หญิงและผู้ที่อาศัยอยู่นอกเขตเทศบาลมีแนวโน้มของ
การออกก�ำลังกายเพ่ิมข้ึนอย่างช้าๆ คือ ผู้หญิงเพิ่มขึ้นจากร้อยละ ๒๕.๓ เป็นร้อยละ ๒๖.๗ และผู้ท่ีอาศัยอยู่นอกเขต
เทศบาลเพิ่มข้ึนจากร้อยละ ๒๕.๘ เป็นร้อยละ ๒๗.๙ ในปี ๒๕๔๖ และ ๒๕๕๐ ตามล�ำดับ ในขณะท่ีผู้ชายและผู้ที่
อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลมีอัตราการออกก�ำลังกายค่อนข้างคงที่และมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย (ส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ,
๒๕๕๑ อา้ งถงึ ในยุทธศาสตร์กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)
การขาดกิจกรรมออกก�ำลังกายท่ีเพียงพอเป็นสาเหตุของการเป็นโรคของคนไทย องค์การอนามัยโลกได้
ประมาณว่า การไม่มีกิจกรรมทางกายเพียงพอเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือด ร้อยละ ๒๒-๒๓ โรคมะเร็ง
ล�ำไสใ้ หญ่ รอ้ ยละ ๑๖-๑๗ เบาหวาน รอ้ ยละ ๑๕ หลอดเลอื ด ๒๐ สมอง รอ้ ยละ ๑๒-๑๓ ในประเทศไทยการขาดกจิ กรรม
การออกก�ำลงั กายทเี่ พยี งพอเปน็ สาเหตขุ องภาระโรคล�ำดบั ที่ ๙ (ส�ำนกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คม
แห่งชาติ, ๒๕๕๓ อ้างถึงใน ยุทธศาสตร์กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) สอดคล้องกับข้อมูล
ของส�ำนักงานสถิติแห่งชาติเกี่ยวกับการส�ำรวจพฤติกรรมการออกก�ำลังกายของประชากร ปี ๒๕๔๖, ๒๕๔๗ และ
๒๕๕๐ พบว่า ในปี ๒๕๕๐ คนไทย อายุ ๑๑ ปีข้ึนไปที่มีอาการป่วยในรอบ ๑ เดือนที่ผ่านมาร้อยละ ๑๖.๗
ในจ�ำนวนนี้เป็นผู้ที่ไม่ออกก�ำลังกายร้อยละ ๖๘.๕ และผู้ที่เข้าพักรักษาในสถานพยาบาลระหว่าง ๑๒ เดือนที่ผ่านมา
คิดเป็นร้อยละ ๖.๑ ในจ�ำนวนนี้เป็นผู้ที่ไม่ออกก�ำลังกายถึงร้อยละ ๗๔.๒ อย่างไรก็ตาม จากการส�ำรวจสุขภาพของ
คนไทยอายุ ๑๕ ปขี น้ึ ไป มกี ิจกรรมทางกายเพยี งพอเพม่ิ ขึน้ จากร้อยละ ๗๗.๕ ในปี ๒๕๔๖-๒๕๔๗ เป็นรอ้ ยละ ๘๑.๕

แผนพัฒนาการกฬี าแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการท่องเท่ยี วและกฬี า 15

ในปี ๒๕๕๑-๒๕๕๒ ซึ่งสอดคล้องกับการส�ำรวจพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อและการบาดเจ็บของส�ำนักโรคไม่ติดต่อ
กรมควบคุมโรค พบวา่ คนไทยอายุ ๑๕-๗๔ ปอี อกก�ำลังกาย ในระดับปานกลางและระดบั หนักครัง้ ละนานกว่า ๓๐ นาที
อย่างนอ้ ย ๓ ครัง้ ตอ่ สปั ดาห์ เพิ่มขึน้ จาก รอ้ ยละ ๓๐.๙ ในปี ๒๕๔๘ เป็นรอ้ ยละ ๓๗.๕ ในปี ๒๕๕๐
ประชากรกลุ่มวัยเด็กมีอัตราการออกก�ำลังกายมากกว่ากลุ่มอื่น กลุ่มประชากรวัยเด็กมีแนวโน้ม
ออกก�ำลังกายมากกว่ากลุ่มอ่ืน เป็นเพราะกลุ่มนี้อยู่ในวัยเรียน การเล่นกีฬาหรือการออกก�ำลังกายเป็นส่วนหนึ่งของ
หลักสูตรการเรียน จากการส�ำรวจพฤติกรรมการออกก�ำลังกายของประชากร ปี ๒๕๕๐ ของส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ
พบว่ากลุ่มวัยเด็กอัตราการออกก�ำลังกายสูงถึงร้อยละ ๗๓.๑ รองลงมาเป็นกลุ่มเยาวชนและประชากรสูงอายุ คือ
ร้อยละ ๔๕.๔ และ ๒๘.๐ ตามล�ำดับ ส่วนประชากรวัยท�ำงานมีอัตราการออกก�ำลังกายน้อยท่ีสุด คือ ร้อยละ ๑๙.๗
ทั้งนี้ อัตราการออกก�ำลังกายของชายสูงกว่าหญิงในทุกกลุ่มช่วงวัย ในจ�ำนวนผู้ที่ออกก�ำลังกาย ๑๖.๓ ล้านคน
เกอื บครึง่ หน่งึ นยิ มออกก�ำลงั กายโดยการเลน่ กีฬา (รอ้ ยละ ๔๗.๙) รองลงมาคอื เดิน วิง่ เตน้ แอโรบคิ และออกก�ำลงั กาย
ประเภทอนื่ ๆ เชน่ ฟติ เนส ร�ำไมพ้ ลอง โยคะ ไทเกก๊ จกี้ ง เปน็ ตน้ (ส�ำนกั งานสถติ แิ หง่ ชาต,ิ ๒๕๕๑ อา้ งถงึ ในยทุ ธศาสตร์
กระทรวงการทอ่ งเท่ยี วและกฬี า พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)
ส�ำหรับประเทศไทยมีแนวโน้มประสบความส�ำเร็จในการแข่งขันกีฬาระดับภูมิภาค ระดับทวีป และ
ระดบั โลกมากขนึ้ เมอื่ พจิ ารณาผลงานของนกั กฬี าไทยจากการแขง่ ขนั กฬี าโอลมิ ปกิ เกมส์ ๕ ครงั้ หลงั สดุ พบวา่ ประเทศไทย
สามารถท�ำอนั ดบั ไดด้ ขี น้ึ โดยสามารถท�ำเหรยี ญทอง เงนิ และทองแดง ไดเ้ พมิ่ มากขน้ึ ในแตล่ ะครงั้ และครง้ั ทป่ี ระเทศไทย
มีผลงานดีท่ีสุด คือ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ ๒๘ ณ ประเทศกรีซ ซึ่งประเทศไทยได้รับเหรียญรางวัลรวม
๘ เหรียญ คือ เหรียญทอง ๓ เหรียญ เหรยี ญเงิน ๑ เหรยี ญ และเหรยี ญทองแดง ๔ เหรียญ และในกฬี าโอลมิ ปิกเกมส์
คร้งั ที่ ๒๙ ณ ประเทศจนี นกั กีฬาไทยอาจท�ำผลงานได้ไม่ดีเทา่ ครัง้ ท่ี ๒๘ แตก่ ็ยงั ถือวา่ ท�ำผลงานได้ดี โดยไดร้ ับเหรียญ
รางวัลรวม ๔ เหรียญ คือ เหรียญทอง ๒ เหรียญ และเหรียญเงิน ๒ เหรียญ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาผลงานเทียบ
กบั ประเทศต่างๆ ในภมู ภิ าคเอเชยี ดว้ ยกนั แลว้ พบวา่ ผลการแขง่ ขนั ๒ คร้ังหลังสดุ ประเทศไทยสามารถท�ำผลงานไดด้ ี
คอื ไมเ่ กนิ อนั ดบั ท่ี ๕ ของประเทศเอเชยี ทเี่ ขา้ รว่ มการแขง่ ขนั โดยเปน็ รองจากประเทศจนี เกาหลใี ต้ ญป่ี นุ่ และคาซคั สถาน
เท่านนั้ (การกฬี าแหง่ ประเทศไทย, ๒๕๕๓ อา้ งถึงใน ยทุ ธศาสตร์กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกีฬา พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙
ซ่ึงประเทศดังกล่าว ถือว่าเป็นผู้น�ำทางการกีฬาท้ังในระดับเอเชียและระดับโลก นอกจากนี้ยังพบว่าสถิติด้านการกีฬา
แต่ละชนิดกีฬามแี นวโน้มเพิ่มข้นึ (กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา, ๒๕๕๔)
ดา้ นการพฒั นากีฬาอาชีพมีความก้าวหน้ามากขึน้ โดยรัฐบาลไดร้ ่วมมือกบั สมาคม ในการใหก้ ารสนบั สนนุ
งบประมาณให้แก่สมาคมในการจัดการแข่งขันกีฬาอาชีพ จ�ำนวน ๑๒ ชนิดกีฬา ได้แก่ ฟุตบอลอาชีพ วอลเลย์บอล
อาชีพ ตะกร้ออาชีพ กอล์ฟอาชีพ เทนนิสอาชีพ สนุกเกอร์อาชีพ แบดมินตันอาชีพ เทเบิลเทนนิสอาชีพ โบว์ล่ิงอาชีพ
มวยไทยอาชพี รถจกั รยานยนตอ์ าชพี และรถยนตอ์ าชพี ซงึ่ กฬี าอาชพี ดงั กลา่ วเรมิ่ ไดร้ บั ความสนใจจากประชาชนมากขนึ้
ดังจะเห็นได้จากความส�ำเร็จ ของการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ที่ได้รับความนิยมจาก
ประชาชน และสร้างกระแสรักชมุ ชนท้องถิ่นข้อมลู ในปี ๒๕๕๒ มีผชู้ มในสนามท้งั ฤดกู าลกวา่ ๑ ลา้ นคน ผชู้ มในสนาม
เฉล่ียต่อนัด ๔,๑๐๐ คน รายได้เฉล่ียต่อนัด ๒๐๕,๐๐๐ บาท (บริษัทไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก จ�ำกัด, ๒๕๕๒ อ้างถึงใน
ยทุ ธศาสตร์กระทรวงการท่องเทยี่ วและกฬี า พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๙) ในปี ๒๕๕๓ จ�ำนวนผู้ชมเพมิ่ เปน็ ๑,๑๓๒,๐๕๗ คน
เฉล่ียนัดละ ๔,๗๑๗ คน นอกจากน้ียังมีจ�ำนวนนักกีฬาอาชีพเพิ่มข้ึนและหลากหลายชนิดกีฬา กีฬาอาชีพหลายชนิด
นกั กฬี าไทยได้พฒั นาไปสรู่ ะดับโลก เช่น วอลเลยบ์ อล มอเตอร์สปอรต์ กอลฟ์ และเทนนิส เป็นตน้
ด้านพฤติกรรมการดูกีฬา และเชียร์กีฬาของไทยยังต้องปรับปรุงแก้ไข ความสนใจในการดูกีฬาของคนไทย
ยังมีน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน จากข้อมูลยุทธศาสตร์กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๙ พบว่า

แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

16 กระทรวงการทอ่ งเที่ยวและกีฬา

สนามกีฬาในประเทศไทย มีขนาดเล็กกว่าสนามกีฬาในประเทศเพื่อนบ้าน โดยขนาดสนามกีฬาที่มีความจุเกิน ๓๐,๐๐๐ คน
ในประเทศมาเลเซีย มีจ�ำนวน ๑๕ สนาม ในประเทศอินโดนีเซีย มีจ�ำนวน ๑๓ สนาม ส�ำหรับประเทศไทยมีเพียง ๓ สนาม
เท่านั้น ซึ่งเป็นปัจจัยสะท้อนให้เห็นถึงจ�ำนวนผู้เข้าชมกีฬา และแม้ผู้ชมกีฬามีแนวโน้มเพิ่มข้ึนก็ตาม แต่ส�ำหรับการเชียร์กีฬา
ผชู้ มกฬี าบางสว่ นยงั ไมม่ คี วามเขา้ ใจในกฎ กตกิ า และการตดั สนิ เหน็ ไดจ้ ากปญั หาความรนุ แรงทเี่ กดิ ขน้ึ บอ่ ยครงั้ ในการแขง่ ขนั
ฟุตบอลอาชีพไทยแลนดพ์ รีเมียร์ลกี ปี ๒๕๕๒-๒๕๕๓ แสดงให้เหน็ ว่าวัฒนธรรมการดกู ฬี าของคนไทยยังต้องปรบั ปรุง
ด้านโครงสร้างพ้ืนฐานด้านการกีฬาของไทยยังต้องปรับปรุง โครงสร้างพ้ืนฐานรองรับการแข่งขัน และ
อปุ กรณด์ า้ นการกฬี า รวมทงั้ องคค์ วามรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารกฬี า สถานทอ่ี อกก�ำลงั กายยงั มอี ยจู่ �ำกดั และ
ไม่เออ้ื ตอ่ การออกก�ำลงั กาย ขาดแคลนพื้นทสี่ าธารณะท่เี หมาะสมตอ่ การออกก�ำลงั กาย นอกจากนส้ี ถานออกก�ำลังกาย
สว่ นใหญ่ยงั เป็นของหน่วยงานราชการ มีขอ้ จ�ำกัดในการใชบ้ ริการ หรอื ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปใชบ้ ริการ ท�ำให้
ผู้ท่ีออกก�ำลังกายส่วนใหญ่นิยมออกก�ำลังกายท่ีบริเวณบ้าน (ร้อยละ ๓๒.๙) รองลงมา คือ สนามกีฬาของสถานศึกษา
(ร้อยละ ๒๕.๗) และบริเวณสถานศึกษา (ร้อยละ ๙.๖) โดยผู้ชายนิยมออกก�ำลังกายท่ีสนามกีฬาของสถานศึกษาและ
บรเิ วณบ้านในสัดสว่ นทใี่ กลเ้ คยี งกนั (รอ้ ยละ ๒๘.๘ และรอ้ ยละ ๒๖.๑ ตามล�ำดับ) ในขณะทผี่ หู้ ญงิ นยิ มใชบ้ รเิ วณบ้าน
เป็นสถานท่ีออกก�ำลังกายสูงถึง ร้อยละ ๔๐.๙ และสนามกีฬาของสถานศึกษาเพียง ร้อยละ ๒๒.๑ (ส�ำนักงานสถิติ
แห่งชาติ, ๒๕๕๑ อ้างถงึ ในยุทธศาสตรก์ ระทรวงการทอ่ งเที่ยวและกฬี า พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)
ดา้ นศกั ยภาพในการจดั การแขง่ ขนั กฬี าของไทยยงั อยใู่ นระดบั คงที่ ในขณะทป่ี ระเทศคแู่ ขง่ มกี ารพฒั นาแบบ
กา้ วกระโดด ประเทศไทยเปน็ หนง่ึ ในประเทศทม่ี ปี ระสบการณใ์ นการจดั การแขง่ ขนั กฬี าในระดบั นานาชาติ แตใ่ นปจั จบุ นั
ประเทศตา่ งๆ ทวั่ โลกต่างกใ็ ห้ความส�ำคญั ตอ่ การจดั กจิ กรรมด้านการกฬี าเพอ่ื เสรมิ สรา้ งภาพลกั ษณข์ องประเทศ ท�ำให้
ในการเสนอตวั เปน็ เจา้ ภาพจดั การแขง่ ขนั กฬี าระดบั โลก เชน่ โอลมิ ปกิ เกมส์ ยธู โอลมิ ปกิ เกมส์ ฟตุ บอลโลก เอเชยี นเกมส์
หรอื กฬี าในระดบั ชงิ แชมปโ์ ลกในประเภทตา่ งๆ ประเทศไทยตอ้ งเจอคแู่ ขง่ ขนั ทมี่ คี วามพรอ้ มในการเสนอตวั เปน็ เจา้ ภาพ
มากขึ้น ท้ังน้ีในปัจจุบันโครงสร้างพ้ืนฐานในด้านต่างๆ ของประเทศไทยก�ำลังเป็นปัญหาในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ
การแขง่ ขนั กฬี าตา่ งๆ เชน่ ความพรอ้ มของสนามกฬี า ระบบสาธารณปู โภค การคมนาคม และสง่ิ แวดลอ้ ม ซง่ึ ประเทศไทย
ตอ้ งเตรยี มความพร้อมและให้ความส�ำคญั ตอ่ ประเด็นดังกล่าวมากขนึ้
จากสถานการณ์และทิศทางดังกล่าว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบหลัก
ในการบริหารด�ำเนินงานด้านการกีฬาของชาติ ได้จัดท�ำแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔)
และได้ด�ำเนินงานในยุทธศาสตร์หลักทั้ง ๖ ยุทธศาสตร์ ซึ่งจะสิ้นสุดแผนในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ทั้งนี้ ผู้บริหารสูงสุดของ
กระทรวง คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จึงได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
จัดท�ำแผนยุทธศาสตร์สร้างกีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศ (พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๙) ข้ึน เพ่ือเตรียมความพร้อม
ของนกั กีฬาไทย ท้งั คนปกติและคนพิการไดป้ ระสบชยั ชนะในการแขง่ ขนั ระดับต่างๆ จนถึงกีฬาโอลมิ ปิกเกมส์ และกฬี า
พาราปิกเกมส์ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ณ กรุงริโอ เดอ จาเนโร
ประเทศบราซลิ โดยก�ำหนดสาระส�ำคญั ของแผนไว้ ๓ ยทุ ธศาสตร์ ดงั นี้ (กระทรวงการท่องเที่ยวและกฬี า, ๒๕๕๓)
๑. ยุทธศาสตรส์ รา้ งและพฒั นานกั กีฬาอย่างเป็นระบบและครบวงจร
๒. ยทุ ธศาสตร์ยกระดบั บคุ ลากรกฬี าสู่ระดบั นานาชาติ
๓. ยุทธศาสตร์ผลกั ดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางกีฬาของเอเชีย (Sport Hup of Asia)
เพอ่ื ใหบ้ รรลวุ สิ ยั ทศั น์ (Vision) พนั ธกจิ (Mission) และเปา้ ประสงค์ (Goal) ของแผนยทุ ธศาสตรส์ รา้ ง
กฬี าไทยสคู่ วามเปน็ เลศิ (พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๙) จงึ ไดก้ �ำหนดยทุ ธศาสตรอ์ อกเปน็ ๓ ดา้ น ในแตล่ ะยทุ ธศาสตรไ์ ดก้ �ำหนด
กลยุทธ์และแนวทางการด�ำเนินการไว้ ดงั นี้

แผนพฒั นาการกฬี าแห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการทอ่ งเท่ยี วและกฬี า 17

ยทุ ธศาสตรท์ ่ี ๑ สรา้ งและพัฒนานกั กีฬาอย่างเปน็ ระบบและครบวงจร
กลยุทธท์ ี่ ๑.๑ เพ่ิมขดี สมรรถนะของนกั กฬี าอยา่ งครบวงจร
แนวทางการดำ�เนนิ การ
๑) สนบั สนนุ ใหจ้ ดั ตงั้ คณะกรรมการพฒั นานกั กฬี าทงั้ ในระดบั ชาตแิ ละทอ้ งถน่ิ และสถาบนั เฉพาะทาง
เพื่อการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา เพื่อเป็นศูนย์กลางในด้านการบริหารจัดการ เพื่อเพ่ิมขีดสมรรถนะของ
นกั กีฬาใหเ้ ปน็ ไปอย่างเปน็ ระบบในทกุ ขน้ั ตอน
๒) จัดทำ�แผนการพัฒนานักกีฬาอย่างเป็นระบบในทุกข้ันตอน จากทุกฝ่ายท่ีเกี่ยวข้อง ต้ังแต่
กระบวนการเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกายและจติ จากผเู้ ชย่ี วชาญทางการแพทย์ นกั วทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี า นกั กายภาพบ�ำ บดั
นักโภชนาการ และนักจิตวิทยา รวมทั้งฝ่ายวิศวกรรมเทคโนโลยีการกีฬา รวมไปถึงการเรียนรู้เทคนิควิชาการและ
การวางกลยุทธ์ในการแข่งขันท้ังในเชิงทฤษฎี และฝึกปฏิบัติจากผู้ฝึกสอนกีฬามืออาชีพในแต่ละชนิดกีฬาอย่างละเอียด
ทกุ ขน้ั ตอน เพอื่ ให้เกิดทักษะในการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างเป็นระบบ
๓) จัดให้มีการทดสอบสมรรถภาพและรับรองมาตรฐานทางการกีฬาสำ�หรับนักกีฬาและบุคลากร
ด้านการกฬี าท่ีเกยี่ วข้อง
๔) การวิจัยและพัฒนานักกีฬาในรายชนิดกีฬาโดยการนำ�เทคโนโลยีท่ีทันสมัยเข้ามาสนับสนุน
การพฒั นานกั กฬี า รวมไปถงึ การประยกุ ตใ์ ชว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารกฬี ามาใชใ้ นการฝกึ สอนกฬี า การเกบ็ รวบรวม
สถติ ขิ อ้ มลู การแขง่ ขนั กฬี า ทงั้ ของตวั เองและนกั กฬี าของประเทศ คแู่ ขง่ ขนั ในแตล่ ะชนดิ กฬี า เพอ่ื น�ำ มาใชใ้ นการวเิ คราะห์
พยากรณ์โอกาสแพ้ชนะในการแข่งขนั กฬี าชนดิ นั้นๆ
๕) ฝึกซ้อมและประลองเพือ่ เพ่ิมทกั ษะและประสบการณ์
๖) สรรหาผเู้ ชยี่ วชาญในการฝึกสอนนกั กฬี า
๗) ออกแบบและพัฒนาหลักสูตรฝึกสอนนักกีฬาท่ีเหมาะสมสำ�หรับเพศ อายุ และสมรรถภาพทาง
กายของนกั กฬี าคนน้ันๆ
๘) ส่งเสริมสนับสนุนให้ชมรมหรือสโมสรหรือสมาคมจัดทำ�เส้นทางสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ (Road
Map) สำ�หรบั นักกีฬาไทยที่มขี ีดสมรรถนะในระดับสูง
๙) จดั ใหม้ กี ารประชมุ สมั มนาเพอ่ื การปรบั ปรงุ และพฒั นานกั กฬี าใหม้ คี วามพรอ้ มสงู สดุ ส�ำ หรบั การแขง่ ขนั
๑๐) ตดิ ตามประเมนิ ผลศกั ยภาพและความสามารถของนกั กฬี า โดยการทดสอบ ประเมนิ ผล ตดิ ตาม
พฒั นาการของนกั กฬี าอยา่ งใกลช้ ดิ และเปน็ ระบบ เพอื่ หาขอ้ บกพรอ่ งมาปรบั ปรงุ แกไ้ ขไดอ้ ยา่ งทนั ทว่ งที ในลกั ษณะแบบ
บูรณาการรว่ มกัน ๔ ดา้ น คือ ทกั ษะของนักกีฬา สมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางจิตใจ และสภาวะแวดล้อม
๑๑) ส่งเสริมสนับสนุนการมีส่วนร่วมในระดับชุมชน โรงเรียน องค์กรกีฬาในการสร้างและพัฒนานักกีฬา
ท่ีมีศักยภาพและขีดสมรรถนะสูงในแต่ละชนิดกีฬาต่างๆ โดยให้มีการถ่ายทอดความรู้และเทคนิคทางการกีฬา วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยกี ารกีฬาในรปู แบบต่างๆ แก่เดก็ เยาวชน บคุ ลากรทางการกีฬา และประชาชนทว่ั ไปอยา่ งทวั่ ถึงและเพยี งพอ
๑๒) เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่เก่ียวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนส่งเสริมการสร้างและพัฒนา
นักกีฬาสู่ความเป็นเลิศ โดยไม่ควรผูกขาดหรือตั้งกฎเกณฑ์ปิดก้ันโอกาสนักกีฬาที่มีศักยภาพและขีดสมรรถนะสูง
ซึง่ จะทำ�ใหม้ โี อกาสในการสรรหาและเลือกสรรนกั กฬี าไดอ้ ย่างกวา้ งขวางมากข้นึ
๑๓) จัดให้การศึกษาวิจัยเก่ียวกับการผลิตและพัฒนานักกีฬาไทยเชิงลึกเฉพาะด้านในรายสาขาชนิด
กีฬาน้ันๆ ทั้งกีฬาประเภทชายและกีฬาประเภทหญิง และกีฬาประเภทเดี่ยวและกีฬาประเภททีม โดยการศึกษาวิจัย
ทั้งทางสงั คมและทางวิทยาศาสตรจ์ ะเปน็ ฐานข้อมลู (Database) ทีด่ ีส�ำ หรบั การฝึกสอนนักกฬี า

แผนพัฒนาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

18 กระทรวงการทอ่ งเทีย่ วและกีฬา

กลยทุ ธ์ท่ี ๑.๒ สนับสนนุ การสง่ นักกฬี าเข้ารว่ มการแข่งขนั ระดบั นานาชาติ
แนวทางการด�ำเนินการ
๑) สนบั สนนุ การสง่ นกั กฬี าเขา้ รว่ มการแขง่ ขนั กฬี าเพอื่ ความเปน็ เลศิ ทงั้ ในระดบั ชาติ ระดบั นานาชาติ
และระดบั อาชพี เพ่อื เพ่มิ พูนประสบการณ์ เทคนคิ ทกั ษะ และความส�ำเรจ็ จากการแขง่ ขันกีฬา
๒) ส่งเสริมสนับสนุนให้ภาครัฐและเอกชนมีส่วนร่วมในการส่งนักกีฬาในสังกัดเข้าร่วมการแข่งขัน
กฬี าท้ังในระดับชาตแิ ละนานาชาติ
๓) จัดให้มีเงินรางวัลหรือผลประโยชน์ตอบแทนอื่น เพื่อเป็นแรงจูงใจในการแข่งขันและเป็นรางวัล
แกน่ ักกฬี าท้งั ในระดับชาตแิ ละนานาชาติ
๔) จดั ใหม้ กี ฎระเบยี บ และหลกั เกณฑใ์ นการสง่ เสรมิ ใหน้ กั กฬี าและบคุ ลากรมคี วามกา้ วหนา้ ในการท�ำงาน
๕) สร้างหลักประกันและความมั่นคงในชีวิต ท้ังระหว่างการเป็นนักกีฬาหรือเมื่อเลิกเล่นแล้ว เช่น
การประกนั ชีวติ การรกั ษาพยาบาล ทุนการศึกษา ฯลฯ
๖) ยกย่องเชิดชูเกียรติ เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณให้นักกีฬาและบุคลากรกีฬา ที่ท�ำชื่อเสียง
ให้กบั ประเทศชาติ
๗) ส่งเสรมิ ใหห้ นว่ ยงานภาครัฐและเอกชน จดั สวัสดกิ ารให้นักกีฬาและบคุ ลากรกีฬาในสงั กัด
ยุทธศาสตร์ที่ ๒ ยกระดบั บคุ ลากรกีฬาสรู่ ะดับนานาชาติ
กลยุทธ์ที่ ๒.๑ พัฒนาบุคลากรกีฬาสู่มาตรฐานระดับนานาชาติ
แนวทางการด�ำเนนิ การ
๑) พฒั นาบคุ ลากรกีฬาใหม้ ีคุณภาพและได้มาตรฐานในระดับสากล
๒) ประสานความรว่ มมอื กับสถาบนั กีฬาและองคก์ รกีฬาท้งั ในและตา่ งประเทศ
๓) จัดอบรมเพือ่ พฒั นาขีดสมรรถนะหลกั ตามเกณฑแ์ ละมาตรฐานทกี่ �ำหนด
๔) ศกึ ษาดงู านหรือปฏบิ ตั งิ านในตา่ งประเทศเพอื่ สร้างเสรมิ ประสบการณ์
๕) สง่ เสรมิ สนบั สนนุ บคุ ลากรกฬี าทงั้ ผฝู้ กึ สอนกฬี า ผตู้ ดั สนิ กฬี า ผบู้ รหิ ารกฬี า ใหไ้ ดร้ บั การพฒั นา
ศกั ยภาพและขีดสมรรถนะความสามารถตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานท่ีองคก์ รกีฬาระดบั นานาชาติก�ำหนด
๖) ส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนยก์ ลางการจัดอบรมพฒั นาบุคลากรกีฬาในระดับนานาชาต ิ
กลยทุ ธ์ที่ ๒.๒ สง่ เสรมิ ใหไ้ ทยเปน็ ศนู ยก์ ลางการจดั อบรมพฒั นาบคุ ลากรกฬี าในระดบั นานาชาติ
แนวทางการด�ำเนินการ
๑) ส่งเสริมให้คณะกรรมการบริหารองค์กรกีฬาในทุกระดับมีการพัฒนาความรู้ความเข้าใจ
ในการบริหารจัดการองค์กรกีฬาอย่างมืออาชีพ รวมทั้งผลักดันให้องค์กรกีฬาน�ำรูปแบบการบริหารจัดการองค์กรกีฬา
ทไ่ี ด้มาตรฐานสากลไปใช้ใหเ้ กิดประโยชนส์ งู สดุ ในการพฒั นาองค์กร
๒) ส่งเสรมิ ใหม้ ีการจัดประชมุ สหพนั ธก์ ีฬาระดับนานาชาติในประเทศไทย
๓) สง่ เสริมใหไ้ ทยเปน็ ศนู ย์กลางการบรหิ ารของสหพันธก์ ีฬานานาชาติ
๔) จัดให้มีกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับคณะกรรมการสหพันธ์กีฬาไม่ว่าจะเป็นการจัด
การแขง่ ขนั การสง่ แขง่ ขนั การเขา้ รว่ มประชมุ กบั สหพนั ธ์ ฯลฯ เพอื่ ใหเ้ หน็ ถงึ ศกั ยภาพของบคุ ลากรทางการกฬี าของไทย

แผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการทอ่ งเที่ยวและกีฬา 19

ยุทธศาสตรท์ ี่ ๓ ผลักดันประเทศไทยให้เปน็ ศนู ยก์ ลางกีฬาของเอเชีย
กลยุทธท์ ่ี ๓.๑ สนับสนุนการเป็นเจา้ ภาพจัดการแข่งขันกฬี าระดับนานาชาติ
แนวทางการด�ำเนินการ
๑) ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการค้าการลงทุนธุรกิจด้านการกีฬา การบริหารจัดการแข่งขันกีฬา
การบริหารงานสิทธิประโยชน์ของนักกีฬา และธุรกิจที่เก่ียวข้องกับการกีฬา เพื่อให้อุตสาหกรรมการกีฬาไทยเกิด
การขยายตัวทัง้ ระบบ
๒) สนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ เพื่อเป็นการพัฒนากีฬาของชาติ
โดยการให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติในระดับต่างๆ เช่น ระดับอาเซียน ระดับเอเชีย
ระดบั โลก ตลอดจนมหกรรมกีฬานานาชาติ
๓) ส่งเสริมสนับสนุนให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาอาชีพเพื่อส่ังสมประสบการณ์และเป็น
การเก็บคะแนนและสร้างโอกาสของนักกีฬาไทยในการพัฒนาอันดับเพ่ือเข้าร่วมมหกรรมกีฬาระดับโลก การแข่งขัน
ชิงชนะเลศิ ระดับโลกหรือการแขง่ ขนั กฬี าอาชีพ รวมท้ังการสรา้ งมูลคา่ เพิ่มในการเลน่ กฬี าเพื่อเปน็ อาชีพอยา่ งย่ังยืน
๔) สร้างสรรค์กิจกรรมการแข่งขันกีฬาให้มีความหลากหลายอย่างต่อเนื่อง สม่�ำเสมอ เพื่อสร้าง
ความสนใจให้กบั ประชาชนในการเลน่ กฬี าและเชยี รน์ กั กีฬาไทย
๕) รณรงค์ประชาสัมพันธ์กิจกรรมกีฬาของไทยผ่านส่ือประชาสัมพันธ์ (โทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์
สื่อโฆษณากลางแจ้ง และอินเตอร์เน็ต) เพ่ือให้คนในชาติต่ืนตัวสนใจกีฬาและเข้ามามีส่วนร่วมในเกมการแข่งขันกีฬา
มากขน้ึ ใหป้ ระชาชนไดร้ บั รู้และเขา้ ถึงกจิ กรรมกีฬาครอบคลมุ ทัว่ ประเทศ
๖) ผลักดันให้ภาครัฐและเอกชนมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์กิจกรรมกีฬาของไทย
ในเวทนี านาชาติ
๗) พัฒนาและปรับปรุงรูปแบบการจัดการธุรกิจและสิทธิประโยชน์ทางการกีฬาให้เป็นไปตาม
มาตรฐานสากล
๘) ปฏริ ปู ระบบธรุ กิจและสทิ ธิประโยชน์เพอ่ื การพฒั นากีฬาใหค้ รอบคลุมทว่ั ประเทศ
๙) ปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบ และข้อบังคับที่เก่ียวข้องในการจัดการธุรกิจและสิทธิประโยชน์ทาง
การกีฬาไปใชใ้ นการหารายได้
๑๐) พฒั นาบคุ ลากรให้มอี งคค์ วามรใู้ นดา้ นธุรกิจและสิทธิประโยชนท์ างการกีฬา
๑๑) สรา้ งลูกคา้ สัมพันธ์ (CRM) กบั ผู้สนบั สนนุ ทางการกีฬา
กลยุทธท์ ี่ ๓.๒ จัดหาและพัฒนาทรัพยากรกฬี าให้เป็นศูนยก์ ลางกฬี าของเอเชยี
แนวทางการด�ำเนนิ การ
๑) ส่งเสริมให้มีการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อสร้างเครือข่ายการด�ำเนินงาน
ทางด้านกีฬากับต่างประเทศ
๒) ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการในองค์กรกีฬาระดับภูมิภาค ระดับทวีป และ
ระดับโลกให้มากขึน้
๓) กอ่ สร้าง ปรบั ปรงุ ต่อเติม ซ่อมแซม ศูนยฝ์ กึ กฬี าแห่งชาติท่ีได้มาตรฐานสากล พรอ้ มทั้งอุปกรณ์
ทคี่ รบครันทั้งในส่วนกลางและสว่ นภูมิภาคท่ีครอบคลุมพ้ืนท่ี ๕ ภาคทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นศูนยฝ์ ึกกีฬาแบบครบวงจร
ทั้งในด้านมาตรฐานและความทันสมัยของสนามกีฬา อุปกรณ์กีฬา และสิ่งอ�ำนวยความสะดวก รวมทั้งเป็น
ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาท่ีมีหน้าที่ดูแล ส่งเสริม สนับสนุนองค์ความรู้ต่างๆ ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การกฬี าในการเกบ็ ตวั ฝกึ ซ้อมของนกั กีฬา และการสง่ เสรมิ ดา้ นสมรรถภาพทางกายและจิตของนักกีฬาอย่างตอ่ เนอื่ ง

แผนพัฒนาการกฬี าแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

20 กระทรวงการท่องเท่ียวและกฬี า

๔) จัดให้มีศูนย์กีฬาเพ่ือการแข่งขันท่ีได้มาตรฐาน ท้ังส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ในการรองรับ
การจัดการแขง่ ขันกฬี าในระดับนานาชาติ
๕) สง่ เสริมใหห้ น่วยงานภาครฐั และเอกชนจดั ใหม้ ีสถานกีฬารองรับในการฝกึ ซ้อมและแข่งขัน
๖) พฒั นาพนื้ ที่ อาคาร และสงิ่ อ�ำนวยความสะดวกทางการกฬี าในรปู แบบธรุ กจิ สทิ ธปิ ระโยชนท์ างการกฬี า
๗) จัดให้มีศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาท้ังในส่วนกลางและภูมิภาค เพ่ือรองรับการพัฒนาศักยภาพ
ของนักกฬี าทกุ ระดับตัง้ แตร่ ะดบั ท้องถน่ิ ระดบั ชาติ และระดับนานาชาติ
๘) จดั รปู แบบการด�ำเนนิ งานดา้ นวทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี า ทง้ั ในดา้ นการแสวงหาและการสรรหานกั กฬี า
การจัดสภาพแวดล้อมด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาที่เหมาะสม การพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ ให้เกิด
การพัฒนาทั้งนกั กฬี า ผฝู้ กึ สอน และผู้เชยี่ วชาญทเ่ี กยี่ วขอ้ งควบคูก่ นั ไปตามเปา้ หมายท่ีตอ้ งการ
๙) สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหม้ กี ารพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพนกั กฬี าดว้ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารกฬี า
๑๐) สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหเ้ ดก็ นกั เรยี น เยาวชน และประชาชนทกุ กลมุ่ มสี มรรถภาพทางกายและสขุ ภาพทด่ี ี
โดยเฉพาะการพฒั นาโครงสรา้ งทางรา่ งกายใหส้ งู ขน้ึ ตามมาตรฐานสากลในแตล่ ะชนดิ กฬี า เพอ่ื มใิ หเ้ สยี เปรยี บนกั กฬี าตา่ งชาติ
๑๑) จัดท�ำและพัฒนาระบบฐานข้อมูลและสารสนเทศทางด้านการกฬี า วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การกีฬา ซึ่งจะมีส่วนส�ำคัญในการสร้างโอกาสและขีดความสามารถของนักกีฬาไทยให้มีโอกาสได้รับเหรียญรางวัลหรือ
ชยั ชนะจากการแข่งขันในระดบั นานาชาติมากย่งิ ข้ึน
๑๒) วจิ ยั และพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารกฬี าสมยั ใหม่ เพอ่ื สรา้ งนวตั กรรม (Innovation)
และมลู ค่าเพมิ่ (Value Added) ใหแ้ กก่ ฬี าไทย
๑๓) ส่งเสริม สนับสนนุ ให้มกี ารจดั การองค์ความรดู้ ้านวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกฬี า

๖. นโยบายรฐั บาลในการพฒั นากฬี าของชาติ

รัฐบาลปัจจุบันได้เล็งเห็นความส�ำคัญของการพัฒนาด้านการกีฬาของประเทศ จากค�ำแถลงนโยบายของ
คณะรัฐมนตรี โดยนางสาวย่ิงลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ท่ีแถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันอังคารท่ี ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๔
โดยก�ำหนดนโยบายการพฒั นากีฬา ดงั นี้
๑) ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกีฬาของภูมิภาคและของโลก จัดให้มีการแข่งขันกีฬาและ
กีฬาคนพิการระดับโลกที่ส�ำคัญๆ ตลอดจนการประชุมเกี่ยวกับกีฬาระดับภูมิภาคและระดับโลก เพื่อเช่ือมโยงกับ
การทอ่ งเที่ยวโดยความรว่ มมอื และการมสี ว่ นร่วมจากทกุ ฝ่ายเปน็ “ทมี ไทยแลนด์”
๒) จัดหาและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการกีฬาให้เพียงพอ โดยเฉพาะส่ิงอ�ำนวยความสะดวก เช่น
สนามกีฬา วัสดุ อุปกรณ์ที่ทันสมัย และจัดให้มีผู้ฝึกสอนและอาสาสมัครการกีฬาประจ�ำศูนย์และสนามกีฬา รวมทั้ง
ส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุนและการบริจาคเพ่ือพัฒนาการกีฬาด้วยมาตรการจูงใจท่ีเหมาะสม เช่น
มาตรการภาษี มาตรการส่งเสริมการลงทุน และมาตรการการเงนิ ภายใต้ความโปร่งใสและมธี รรมาภบิ าล
๓) จัดให้มีทุนการศึกษาและทุนสนับสนุนแก่เด็กและเยาวชนที่มีความสามารถและมีแนวโน้มว่าจะเป็น
ผมู้ ีความสามารถสูงด้านกฬี าในระดบั นานาชาติ ให้สามารถพัฒนาเปน็ นกั กฬี าทีมชาติท่สี รา้ งชอื่ เสียงและเปน็ แบบอย่าง
ทดี่ แี กเ่ ยาวชนของประเทศ รวมทงั้ ปรบั บทบาทของกองทนุ พฒั นากฬี าแหง่ ชาตใิ หส้ นบั สนนุ ภารกจิ ในการพฒั นานกั กฬี า
ต้ังแตร่ ะดบั เด็กและเยาวชน

แผนพฒั นาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการท่องเทีย่ วและกฬี า 21

๔) พฒั นากฬี าเพอ่ื ความเปน็ เลศิ ดว้ ยการน�ำวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารกฬี ามาประยกุ ตใ์ ชอ้ ยา่ งจรงิ จงั
เพื่อพัฒนากีฬาท่ีมีศักยภาพไปสู่กีฬาอาชีพ พร้อมไปกับการพัฒนาผู้ฝึกสอนและผู้ตัดสินให้ได้มาตรฐานสากลปรับปรุง
แก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการองค์กรกีฬาอย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนให้
ผพู้ กิ ารเขา้ ถงึ การกฬี าและการแขง่ ขนั กฬี าในทกุ ระดบั เพอ่ื พฒั นาไปสกู่ ารเปน็ นกั กฬี าทม่ี คี วามสามารถในนามทมี ชาตไิ ทย
ในการแขง่ ขนั กฬี าและมหกรรมกฬี าตา่ งๆ

๗. สรปุ ผลการพฒั นาด้านการกีฬาตามแผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔)

สาระส�ำคัญของแผนพัฒนาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๔ (พ.ศ.๒๕๕๐-๒๕๕๔) ประกอบดว้ ย
๑) ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาข้ันพื้นฐาน ให้ความส�ำคัญกับการพัฒนา และส่งเสริมศักยภาพและ
ทักษะการเล่นกีฬาและออกก�ำลังกายขั้นพ้ืนฐานให้แก่เด็กและเยาวชน ทั้งในระบบโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียน
เพื่อเป็นการเตรียมบุคลากรด้านการกีฬาให้มีความพร้อมทางโครงสร้างพ้ืนฐานของร่างกาย ให้สามารถพัฒนาและ
สนบั สนนุ การเลน่ กฬี าในระดบั สงู ตอ่ ไป
๒) ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาการกฬี าเพอ่ื มวลชน ใหค้ วามส�ำคญั กบั เดก็ และเยาวชน และประชาชนทกุ กลมุ่
ได้มีโอกาสเล่นกีฬาและออกก�ำลังกายอย่างสม�่ำเสมอเป็นประจ�ำ เพ่ือส่งเสริมคุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้นและพัฒนาทักษะ
ดา้ นการเล่นกีฬา เพื่อพฒั นาส่คู วามเปน็ เลศิ และอาชีพในระดบั สูงตอ่ ไป
๓) ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ ให้ความส�ำคัญกับเด็ก เยาวชน และประชาชน
ทุกกลุ่มทุกระดับ ได้มีโอกาสแสดงความสามารถในการแข่งขันกีฬาเพื่อพัฒนาสู่ความเป็นเลิศในทุกระดับ ท้ังภายใน
ประเทศและระดับนานาชาติ เพ่ือสร้างช่อื เสียงใหแ้ ก่ประเทศ
๔) ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาเพื่อการอาชีพ ให้ความส�ำคัญต่อการพัฒนาชนิดกีฬาท่ีมีศักยภาพ
สู่การเป็นกีฬาอาชีพอย่างแท้จริง โดยมีองค์ประกอบจ�ำนวนนักกีฬาอาชีพที่มีคุณภาพเพียงพอและมีรายได้จาก
การประกอบอาชีพนักกีฬา เพื่อพัฒนาสู่การกีฬาอาชีพที่ได้มาตรฐานสากลท่ีมีการสนับสนุนจากภาคเอกชน ตลอดจน
มีการจดั การแข่งขนั ทม่ี ผี ูช้ มอยา่ งต่อเน่ือง
๕) ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา ให้ความส�ำคัญกับการวิจัยและพัฒนา
องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาในทุกสาขา และการน�ำความรู้ไปพัฒนาศักยภาพนักกีฬา การแข่งขันกีฬา
ตลอดจนสง่ เสรมิ ให้ประชาชนได้เลน่ กีฬาและออกก�ำลงั กายท่ถี ูกตอ้ งตามหลกั วิชาการ
๖) ยุทธศาสตร์การบริหารการกีฬา ให้ความส�ำคัญกับการบริหารงานแบบบูรณาการ โดยทุกภาคส่วน
มีส่วนร่วม สรา้ งและสนับสนุนปจั จยั ทเ่ี อือ้ ต่อการพฒั นาการกฬี าในทุกระดับ และมีการตดิ ตามประเมนิ ผลเพ่อื ปรบั ปรุง
และพฒั นาแผนตอ่ ไป
ผลการวิจัยแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔) ประกอบด้วย ๖ ยุทธศาสตร์
ได้ใช้หลักการพิจารณาจากการสัมภาษณ์ การด�ำเนินการตามวัตถุประสงค์ ตัวช้ีวัดและมาตรการต่างๆ น้ัน “เป็นไป
ตามเป้าหมาย” หรือ “ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย” โดยแยกรายตัวชี้วัด ซึ่งมีข้อค้นพบจากการทบทวนและประเมิน
แผนพฒั นาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔) สรุปได้ดงั น้ี
๑) ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาการกฬี าขนั้ พน้ื ฐาน มวี ตั ถปุ ระสงค์ ๓ ขอ้ ๗ ตวั ชว้ี ดั พบวา่ ไมม่ วี ตั ถปุ ระสงคใ์ ด
ท่ดี �ำเนินงานเปน็ ไปตามเปา้ หมาย

แผนพฒั นาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

22 กระทรวงการท่องเที่ยวและกฬี า

๒) ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาเพื่อมวลชน มีวัตถุประสงค์ ๑ ข้อ ๓ ตัวชี้วัด พบว่าไม่มี
วตั ถุประสงค์ใดทด่ี �ำเนนิ งานเปน็ ไปตามเปา้ หมาย
๓) ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาเพ่ือความเป็นเลิศ มีวัตถุประสงค์ ๕ ข้อ ๑๐ ตัวช้ีวัด พบว่า
มวี ัตถุประสงค์ท่ีเปน็ ไปตามเป้าหมาย คอื วัตถปุ ระสงค์ขอ้ ที่ ๑ ตวั ชวี้ ัดที่ ๑, ๒ และ ๔, วัตถปุ ระสงค์ ข้อท่ี ๒ ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๓,
วัตถุประสงค์ข้อที่ ๓ ตัวช้ีวัดท่ี ๑ และวัตถุประสงค์ข้อท่ี ๕ ตัวชี้วัดที่ ๑ ส�ำหรับวัตถุประสงค์ท่ีไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
คอื วตั ถปุ ระสงค์ข้อท่ี ๑ ตัวชวี้ ัดท่ี ๓ และ ๕, วตั ถปุ ระสงค์ขอ้ ที่ ๒ ตวั ชีว้ ัดที่ ๑ และวตั ถุประสงค์ขอ้ ที่ ๔ ตัวชี้วดั ท่ี ๑
๔) ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาการกฬี าเพอื่ การอาชพี มวี ตั ถปุ ระสงค์ ๕ ขอ้ ๑๔ ตวั ชว้ี ดั พบวา่ มวี ตั ถปุ ระสงค์
ที่ด�ำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย คือ วัตถุประสงค์ข้อท่ี ๑ ตัวช้ีวัดที่ ๑, ๒ และ ๓, วัตถุประสงค์ข้อท่ี ๒ ตัวช้ีวัดท่ี ๒
และ ๓, วตั ถุประสงคข์ ้อที่ ๓ ตวั ชี้วดั ท่ี ๑ และ ๒, วตั ถปุ ระสงคข์ อ้ ท่ี ๕ ตัวชว้ี ดั ที่ ๑ ส�ำหรบั วตั ถปุ ระสงคท์ ่ีด�ำเนนิ งาน
ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย พบในวัตถุประสงค์ข้อที่ ๒ ตัวช้ีวัดที่ ๑, ๔, และ ๕, วัตถุประสงค์ข้อท่ี ๔ ตัวชี้วัดท่ี ๑ และ
วัตถปุ ระสงคข์ อ้ ท่ี ๕ ตวั ชีว้ ัดท่ี ๒ และ ๓
๕) ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มวี ตั ถปุ ระสงค์ ๓ ข้อ ๑๐ ตัวชี้วัด
พบวา่ มีวัตถุประสงค์ที่ด�ำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย คือ วัตถุประสงค์ข้อท่ี ๑ ตัวชี้วัดที่ ๑ และ ๒, วัตถุประสงค์
ขอ้ ท่ี ๒ ตัวชว้ี ดั ท่ี ๑, วตั ถปุ ระสงค์ขอ้ ที่ ๓ ตัวช้วี ัดท่ี ๑, ๒ และ ๓ ส�ำหรบั วตั ถปุ ระสงคท์ ี่ด�ำเนินการไมเ่ ปน็ ไปตามเปา้ หมาย
พบในวตั ถปุ ระสงค์ขอ้ ท่ี ๑ ตวั ชีว้ ดั ที่ ๓, วตั ถปุ ระสงคข์ ้อท่ี ๒ ตวั ชว้ี ดั ที่ ๒ และ ๓, วตั ถปุ ระสงคข์ อ้ ท่ี ๓ ตัวชี้วัดที่ ๔
๖) ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาการบรหิ ารการกฬี า มวี ตั ถปุ ระสงค์ ๒ ขอ้ ๑๐ ตวั ชว้ี ดั พบวา่ มวี ตั ถปุ ระสงค์
ทดี่ �ำเนนิ งานเป็นไปตามเปา้ หมาย คือ วตั ถปุ ระสงคข์ ้อท่ี ๑ ตวั ชีว้ ัดที่ ๑, ๔ และ ๘ ส�ำหรบั วัตถุประสงคท์ ไี่ ม่เปน็ ไปตาม
เปา้ หมาย พบในวตั ถปุ ระสงค์ขอ้ ที่ ๑ ตัวช้ีวัดที่ ๒, ๓, ๕, ๖, และ ๗ และ วตั ถุประสงค์ขอ้ ที่ ๒ ตวั ช้วี ดั ท่ี ๑ และ ๒
ผลส�ำรวจการน�ำแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติไปปฏิบัติคิดเป็นร้อยละ ๗๐.๒ เป็นผู้ท่ีมาจาก
หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนในการใช้แผนฯ คิดเป็นร้อยละ ๕๔.๘ โดยท่ีผู้ตอบแบบส�ำรวจจะมีส่วนรับผิดชอบ
และเกี่ยวข้องกับการจัดท�ำแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔) คิดเป็นร้อยละ ๖๔.๘
และมีความเข้าใจในยุทธศาสตร์บางยุทธศาสตร์ในแผนดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ ๗๒.๓ และเม่ือถามถึงความม่ันใจ
ในความส�ำเร็จตามเป้าหมายของแผนฯ ว่ามีมากน้อยเพียงใด ผู้ตอบแบบส�ำรวจร้อยละ ๖๔.๓ มีความเห็นว่าไม่ม่ันใจ
ว่าแผนฯ น้ีจะบรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่ ส�ำหรับการให้ความส�ำคัญต่อการน�ำแผนฯ ไปใช้เพ่ือการก�ำหนดนโยบาย
ในหนว่ ยงาน ผ้ตู อบแบบส�ำรวจได้ใหค้ วามส�ำคญั ถึงรอ้ ยละ ๗๘.๖
ผลการประเมินการน�ำแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔) ลงสู่ภาคปฏิบัติ
ลักษณะของแบบส�ำรวจได้สอบถามความคิดเห็นของการน�ำไปใช้ โดยใช้เป็นตัวเลือก ๓ ระดับ คือ ท�ำได้ครบถ้วน
ใหเ้ ปน็ คา่ ไวร้ อ้ ยละ ๘๐-๑๐๐ ท�ำไดไ้ มค่ รบถว้ น ใหไ้ วเ้ ปน็ คา่ รอ้ ยละ ๑-๗๙ และท�ำไมไ่ ดห้ รอื ไมไ่ ดท้ �ำ ใหไ้ วเ้ ปน็ คา่ ๐ (ศนู ย)์
โดยมผี ตู้ อบแบบส�ำรวจใหข้ ้อมลู ดังนี้ คอื การน�ำไปใช้ในการสร้างคา่ นิยมการออกก�ำลงั กายและเลน่ กฬี า การดกู ีฬาและ
นนั ทนาการจนเปน็ วถิ ีชวี ติ ผ้ตู อบแบบส�ำรวจรอ้ ยละ ๗๘.๖ ใหข้ ้อมลู ว่าท�ำไดบ้ ้าง เนือ่ งจากการรณรงค์ยังท�ำไดไ้ ม่ท่ัวถึง
ขาดเจ้าหนา้ ท่ใี นการดแู ล ประสานงาน และบางคร้ังมีหลายหนว่ ยงานลงปฏบิ ตั งิ านพรอ้ มๆ กนั โดยขาดความเชื่อมโยง
และประสานงาน ในการน�ำเอาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ารกฬี ามาใชเ้ พือ่ การพฒั นาการกีฬาและการออกก�ำลงั กาย
ตลอดจนการพฒั นาศกั ยภาพของนกั กฬี าให้สงู ขึน้ นั้น รอ้ ยละ ๖๔.๖ ระบวุ ่า ยงั ท�ำได้ไมค่ รบถ้วน ท้ังนี้ เพราะยังมีความรู้

แผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการท่องเทยี่ วและกีฬา 23

ความเขา้ ใจในองค์ความรทู้ างวิทยาศาสตรก์ ารกีฬาไม่เพยี งพอ ภาระงานประจ�ำวันมีมาก จึงไม่มีเวลาท่จี ะพัฒนาตนเอง
จนสามารถไปแนะน�ำคนอื่นๆ ได้ งานวิจัยและการน�ำองค์ความรู้ไปใช้ ร้อยละ ๗๑.๔ เห็นว่ายังท�ำได้น้อยเพราะขาด
แรงจูงใจ และผลผลิตของงานยังมีน้อย การบริหารจัดการกีฬาที่มีระบบบูรณาการทรัพยากรจากทุกภาคส่วน โดยเน้น
การมีส่วนร่วมของประชาชน ร้อยละ ๗๓.๔ เห็นว่า ท�ำได้บ้างแต่ก็ยังไม่สมบูรณ์ ซ่ึงจะต้องหาหนทางเร่งด�ำเนินการ
เรอื่ งนก้ี อ่ น เพราะเปน็ ขอ้ ก�ำหนดทไี่ ดร้ ะบไุ วอ้ ยา่ งชดั เจนวา่ การปฏบิ ตั งิ านนนั้ จะตอ้ งเปดิ โอกาสใหป้ ระชาชนไดม้ สี ว่ นรว่ ม
ส�ำหรับการผลิตบุคลากรทางด้านการกีฬานั้น ผู้ตอบแบบส�ำรวจไม่ได้มาจากหน่วยงานผู้ผลิตจึงไม่มีหน้าท่ีรับผิดชอบ
ในการผลติ บคุ ลากร แตใ่ นประเดน็ ของการพฒั นาบคุ ลากรนน้ั รอ้ ยละ ๗๗.๐ ไดร้ ะบวุ า่ ไดม้ กี ารจดั ท�ำแผนงานไวบ้ า้ ง แตก่ ็
ยงั ท�ำไดไ้ มเ่ ตม็ ท่ี เพราะบคุ ลากรมคี อ่ นขา้ งจ�ำกดั การจะสง่ บคุ ลากรไปพฒั นาศกั ยภาพของตนเองซงึ่ ตอ้ งใชเ้ วลานน้ั จะท�ำให้
การปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ประจ�ำขาดความสมบรู ณไ์ ปได้ ในการน�ำแผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔)
ไปใช้นั้น ผู้ตอบแบบส�ำรวจได้ให้ข้อมูลว่า ร้อยละ ๖๒.๖ พวกเขาได้รับการประชุมชี้แจงและได้รับการนิเทศ และ
ร้อยละ ๖๑.๙ ได้มกี ารตดิ ตามและประเมินผลการด�ำเนินงานของแผนดงั กล่าว
นอกจากการตอบแบบส�ำรวจทเ่ี ปน็ ไปตามรายการทคี่ ณะนกั วจิ ยั ไดเ้ ตรยี มไวใ้ หต้ อบแลว้ ผตู้ อบแบบส�ำรวจ
ยงั ไดใ้ ห้ขอ้ สังเกต ข้อคดิ เห็นเพิ่มเตมิ ซงึ่ ประเด็นหลักท่ีส�ำคัญๆ และผูต้ อบแบบส�ำรวจส่วนใหญ่ไดใ้ หข้ อ้ คิดเหน็ ไว้ ไดแ้ ก่
๑) ในการด�ำเนนิ งานตามแผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔) นน้ั การจดั สรร
งบประมาณเพอื่ การด�ำเนนิ งานยงั มีจ�ำนวนน้อยมาก
๒) ยทุ ธศาสตรแ์ ตล่ ะยทุ ธศาสตรค์ วรมเี ปา้ หมายหลกั ของการปฏบิ ตั อิ ยา่ งชดั เจน และควรเปน็ เปา้ หมาย
เชิงพฤตกิ รรมท่สี ามารถท�ำได้จรงิ ประเมินผลได้จรงิ
๓) แผนงานหลกั แตล่ ะแผน ความเขม้ ขน้ ในการผลกั ดนั ใหเ้ กดิ ขนึ้ ไดจ้ รงิ มนี อ้ ย มาตรการบางมาตรการ
ค่อนข้างเล่อื นลอย และประเมินผลตามตวั ชี้วดั ไม่ได้
๔) ขาดการสื่อสารประชาสัมพันธก์ ารใช้แผน ท�ำให้ในภาคปฏิบตั ิท�ำได้ไมท่ ั่วถึงในทุกระดับ
๕) แผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ควรเปน็ แผนพฒั นากฬี าในระดบั ชาตไิ ดจ้ รงิ ๆ รฐั บาลและผบู้ รหิ ารระดบั สงู
ท่ีเก่ยี วข้องควรใหค้ วามสนใจ เอาใจใสแ่ ละจริงจังมากกวา่ น้ี จึงจะท�ำให้เกดิ ผลสมั ฤทธติ์ ามวัตถุประสงคท์ ่ไี ด้วางไว้
ส�ำหรับผลส�ำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับกลไกการแปลงแผนสู่การปฏิบัติ ผู้ตอบแบบส�ำรวจได้ให้
ข้อมูลว่าบุคลากรในหน่วยงาน ร้อยละ ๘๙.๕ ไม่ได้มีส่วนในการร่วมเป็นกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ คงมีเพียง
ร้อยละ ๑๐.๕ เท่าน้ันที่มีส่วนร่วมในการวางนโยบายการกีฬาของชาติ และในการรับผิดชอบแผนยุทธศาสตร์หลัก
ร้อยละ ๗๖.๒ ได้ให้ข้อมูลว่าได้ท�ำหน้าที่เชื่อมโยงองค์กรระดับภูมิภาค ระดับจังหวัด และระดับท้องถ่ินในการด�ำเนินการ
ตามแผน และร้อยละ ๘๕.๗ ได้เปิดโอกาสให้บุคลากรในสมาคมกีฬาเข้ามามีส่วนร่วมในการเสนอแนวนโยบายและ
ผลักดันการพัฒนาการกีฬาตามแผนฯ แต่ไม่ได้มีการจัดท�ำบันทึกช่วยจ�ำ (MOU) โดยคิดเป็นร้อยละ ๖๔.๓ ในการ
พจิ ารณาการจดั สรรงบประมาณ ผตู้ อบแบบสอบถาม รอ้ ยละ ๘๓.๓ ไดใ้ ชแ้ ผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาตเิ ปน็ กรอบในการคดิ
ส�ำหรบั การตดิ ตามและประเมนิ ผล รอ้ ยละ ๘๒.๐ ยงั ไมไ่ ดม้ กี ารแตง่ ตง้ั คณะอนกุ รรมการประเมนิ ผลแผนพฒั นาการกฬี า
แห่งชาติ ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔) ในส่วนของหน่วยงานแต่อย่างใด และในส่วนของการมีการแต่งตั้ง
เพ่ือท�ำการประเมินผลน้ัน ร้อยละ ๔๕.๓ ได้มีการประเมินผลบางรายยุทธศาสตร์ในการพัฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูล
และระบบการรายงานความก้าวหน้าของการด�ำเนินงาน ร้อยละ ๘๓.๓ ได้มีการจัดท�ำและมีการสร้างระบบฐานข้อมูล

แผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

24 กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกีฬา

ส�ำหรับติดตามและประเมินผลบ้างคิดเป็นร้อยละ ๖๒.๐ ทั้งน้ีโดยผู้ตอบแบบสอบถามให้ข้อมูลว่าบุคลากรไม่มีความรู้
ความช�ำนาญในการติดตามประเมินผล อีกทั้งขาดความเช่ียวชาญในการสร้างระบบฐานข้อมูลส�ำหรับการทบทวน
แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔) ผู้ตอบแบบส�ำรวจร้อยละ ๕๐.๐ ให้ข้อมูลว่า ได้มีการ
ทบทวนบ้างเปน็ บางปี
ข้อเสนอแนะจากการวจิ ัย

๑) การก�ำหนดยุทธศาสตร์หลักของแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)
ควรน�ำข้อค้นพบจากการประเมินเป็นมาเป็นข้อมูลพื้นฐานในการจัดท�ำแผนฯ และในการ (ร่าง) แผนฯ ควรจะคง
ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาท้ัง ๖ ยุทธศาสตร์เอาไว้ เพราะได้ครอบคลุมประเด็นส�ำคัญต่างๆ ของการพัฒนากีฬา
ชาติไว้ค่อนข้างครบถ้วนแล้ว แตค่ วรพจิ ารณาอย่างรอบคอบและถีถ่ ้วนเพอ่ื ให้มคี วามรดั กุมในตวั ชว้ี ดั ซง่ึ ตอ้ งมคี วามเป็น
ไปไดอ้ ย่างเป็นรปู ธรรม
๒) เพ่ือให้แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติได้ลงไปสู่ภาคปฏิบัติได้อย่างจริงจัง ถูกต้อง และเป็นไปตาม
เจตนารมณ์ของผู้วางนโยบาย และก�ำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาอย่างชาติ ในการวางกรอบแผนงานจะต้องมี
คณะกรรมการนิเทศติดตาม และประเมินผลการใช้แผนฯ โดยควรจะมีการนิเทศ เม่ือแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติได้มี
การประกาศใชอ้ ย่างเปน็ ทางการแล้ว มีการติดตามและประเมินผลทุกปหี รอื ในระยะครง่ึ แผน เพอื่ ความเข้าใจท่ีถกู ต้อง
ตรงกนั ของผ้ปู ฏิบัติ และเก็บรวบรวมขอ้ มูลอยา่ งเปน็ ระบบ
๓) สมรรถภาพทางกายของเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป เป็นดัชนีส�ำคัญตัวหนึ่งท่ีจะช้ีวัดถึง
ความเจรญิ มน่ั คงของประเทศชาติ เพอื่ ใหข้ อ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สมรรถภาพทางกายของเดก็ เยาวชน และประชาชนทว่ั ไป ปรากฏ
อยา่ งเปน็ รปู ธรรม ใชเ้ ปน็ หลกั ฐานในการจดั ท�ำแผนพฒั นาก�ำลงั คนในชาตไิ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง จงึ สมควรจะไดม้ หี นว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบ
ในเรื่องนี้อย่างจริงจัง มีการท�ำงานอย่างต่อเน่ือง สม่�ำเสมอ มีตัวเลขท่ีจะใช้เป็นดัชนีช้ีวัดความแข็งแรง สมบูรณ์ของร่างกาย
เพอื่ จะได้น�ำผลไปใชใ้ นการประเมนิ องค์ประกอบอ่ืนๆ ทม่ี ีสว่ นช่วยพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศชาติได้
๔) การประสานสัมพันธ์งานระดับกระทรวงท่ีเกี่ยวข้องกับโรงเรียนกีฬา เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว
ว่าโรงเรียนกีฬาได้จัดตั้งขึ้นมาเพ่ือเป็นเป้าหมายให้เป็นแหล่งในการผลิตบุคลากรทางการกีฬา ไปสู่ความเป็นเลิศและ
ก้าวต่อไปสู่ความเป็นกีฬาเพ่ือการอาชีพ แต่สภาพความเป็นจริง ณ ปัจจุบัน นั้น พบว่าการผลิตก�ำลังคนทางการกีฬา
ของโรงเรียนยังไม่ประสบผลส�ำเร็จเท่าที่ควร ท้ังน้ี เป็นเพราะมีปัจจัยต่างๆ ท่ีเข้ามามีส่วนเก่ียวข้องมากมาย ปัจจัยท่ี
ส�ำคัญประการหนง่ึ คอื การขาดการประสานสัมพันธง์ านในระดับกระทรวงตา่ งๆ ท่เี กีย่ วข้อง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย เพื่อไม่ให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณ
และก�ำลังคนท่ีเป็นเป้าหมายหลักเพ่ือการพัฒนาองค์กรท่ีมีส่วนเกี่ยวข้อง ควรจะได้ร่วมกันท�ำงานแบบบูรณาการ
เพื่อให้โรงเรยี นกีฬาเป็นแหลง่ ในการเพาะพนั ธุน์ ักกีฬาอย่างแท้จรงิ
๕) การจัดท�ำพระราชบัญญัติกฎหมายกีฬาอาชีพ ในแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ตั้งแต่ฉบับท่ี ๒
(พ.ศ. ๒๕๔๐-๒๕๔๔) ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๔๕-๒๕๔๙) และฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔) ได้ระบุยุทธศาสตร์
การพฒั นาการกฬี าเพอื่ การอาชพี ไวอ้ ยา่ งชดั เจน แตใ่ นการด�ำเนนิ งานเพอ่ื เตรยี มกฬี าทง้ั ๑๒ ชนดิ กฬี าทกี่ ารกฬี าแหง่ ประเทศไทย

แผนพฒั นาการกฬี าแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการท่องเทยี่ วและกีฬา 25

วาดหวังจะให้เป็นกีฬาเพ่ือการอาชีพนั้น ปรากฏว่า ประเทศไทยยังไม่มีพระราชบัญญัติกฎหมายกีฬาอาชีพไว้บังคับใช้ ดังนั้น
ผู้มหี น้าทเ่ี ก่ยี วข้องจะตอ้ งผลักดันใหป้ ระเทศไทยไดม้ พี ระราชบญั ญัติกฎหมายกีฬาอาชพี มาบงั คับใช้อย่างรีบด่วน
๖) การกระจายงานด้านการกีฬาลงสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้การส่งเสริมและพัฒนากีฬา
ของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลจะต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการคิด การท�ำ
การรับผิดชอบงานกีฬาของประเทศตามระดับความรับผิดชอบของแต่ละภาคส่วน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินควรเป็นผู้ท่ีมี
บทบาทในเรอ่ื งนอี้ ยา่ งชดั เจน เพราะเปน็ กลมุ่ บคุ คลทท่ี �ำงานกบั ประชาชนในระดบั รากหญา้ การเปดิ โอกาสใหภ้ าคตี า่ งๆ เขา้ มามี
สว่ นรว่ มในการท�ำกิจกรรมจะท�ำให้ชว่ ยลดหรือขจัดปญั หาการผูกขาดในการด�ำเนนิ งานของสโมสร และสมาคมกีฬาต่างๆ ได้
๗) การจดั ตง้ั ศนู ยส์ ารสนเทศดา้ นการกฬี าการออกก�ำลงั กาย ศนู ยข์ อ้ มลู ทางการกฬี า นบั เปน็ หวั ใจส�ำคญั
ของการด�ำเนนิ งานตามแผนพฒั นาการกีฬาแหง่ ชาติ ทุกคร้ังท่มี ีการประเมินโครงการตา่ งๆ จะพบว่าระบบการสบื ค้นขอ้ มลู
ของประเทศไทยคน้ หาขอ้ มลู ไดย้ ากมาก ทงั้ นเี้ พราะไมม่ กี ารเกบ็ ขอ้ มลู ตา่ งๆ อยา่ งเปน็ ระบบ ขอ้ มลู ยงั กระจดั กระจายกนั อยู่
และอาจจะไม่มีการเก็บข้อมูลเอาไว้เลย ท�ำให้เสียโอกาสในการเชื่อมโยงกับข้อมูลท่ีส�ำคัญๆ ท้ังในระดับชาติและระดับ
นานาชาติ คณะนกั วจิ ยั เหน็ วา่ ผมู้ หี นา้ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งควรจะไดม้ กี ารจดั ตงั้ ศนู ยส์ ารสนเทศทางการกฬี า การออกก�ำลงั กาย หรอื
มีชื่อเรียกเป็นอย่างอื่นเพ่ือเป็นแหล่งรวมขององค์ความรู้ต่างๆ ท่ีทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์และสามารถเช่ือมโยงกับ
ฐานข้อมลู อ่นื ๆ ทม่ี คี วามเก่ียวขอ้ งกนั ทง้ั น้เี พ่ือเป็นการประหยัดงบประมาณในการสบื คน้ ขอ้ มูลได้อกี ทางหนงึ่
๘) การผลิตบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ณ ห้วงเวลานี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สหวิทยาการด้าน
วทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี า ไมว่ า่ จะเปน็ สรรี วทิ ยาการออกก�ำลงั กาย ชวี กลศาสตรท์ างการกฬี า จติ วทิ ยาการกฬี าและการออกก�ำลงั กาย
โภชนศาสตร์ทางการกีฬา เวชศาสตร์ทางการกีฬา ศาสตร์ของการเป็นผู้ฝึก และองค์ความรู้ทางด้านการบริหารจัดการ
การกฬี า ตา่ งกเ็ ปน็ องคค์ วามรทู้ จี่ ะชว่ ยพฒั นาคนใหเ้ ปน็ คนทม่ี คี ณุ ภาพ พฒั นานกั กฬี าใหเ้ ปน็ ผมู้ ศี กั ยภาพไปสคู่ วามเปน็ เลศิ
และก้าวขึ้นไปเป็นนักกีฬาอาชีพได้อย่างเต็มตัว ดังนั้น การผลิตก�ำลังคนทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาให้เป็นผู้ช�ำนาญการ
และเปน็ ผเู้ ชยี่ วชาญในองคค์ วามรทู้ างดา้ นวทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี าทแี่ ทจ้ รงิ และเขม้ ขน้ ในวชิ าชพี นนั้ จงึ มคี วามจ�ำเปน็ อยา่ งยงิ่
ท่ีจะต้องรีบด�ำเนินการอย่างเร่งด่วน จริงจัง และจริงใจ เพราะมิฉะน้ัน ประเทศไทยอาจจะมีนักวิทยาศาสตร์การกีฬา
ท่ีตกรุ่นอยู่มากมาย โดยที่ไม่สามารถน�ำองค์ความรู้ที่ได้รับจากสถาบันผู้ผลิตมาใช้ในสถานการณ์จริง ดังน้ัน สถาบัน
ผูผ้ ลติ สถาบัน หน่วยงานหรอื องคก์ รผใู้ ชบ้ รกิ าร รวมทงั้ สมาคมวชิ าชีพ จะต้องรว่ มมอื กันในลักษณะ ไตรภาคี หรือ พหภุ าคี
เพอื่ ยกระดบั มาตรฐานของความเป็นนักวทิ ยาศาสตร์การกีฬา เพื่อความเจรญิ กา้ วหนา้ ของศาสตร์น้ีอยา่ งแทจ้ ริง
๙) การอนุรักษ์และส่งเสริมกีฬาและการละเล่นพื้นบ้านของชาติ ประเทศไทยเป็นประเทศท่ีมี
ประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างยาวนาน กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้านที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมอันดีงามของชาวไทย
ทมี่ อี ยมู่ ากมาย เพอ่ื อนรุ กั ษส์ งิ่ ทเ่ี ปน็ สมบตั ขิ องชาตแิ ละเกบ็ รกั ษาไวเ้ พอื่ การศกึ ษาของเยาวชนรนุ่ หลงั ในแผนพฒั นาการ
กีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) สมควรจะได้มีการวางมาตรการและมีตัวชี้วัดของการอนุรักษ์กีฬาและ
การละเลน่ พืน้ บ้านของไทยไว้ด้วย เพ่อื ไมใ่ ห้ความส�ำคญั และความจ�ำเปน็ ทจ่ี ะตอ้ งรักษาไว้หลดุ หายไป
๑๐) การสร้างสนามกีฬา ศูนย์กีฬาท่ีเป็นมาตรฐาน สถานกีฬาของรัฐซึ่งกระจายกันอยู่ในจังหวัดต่างๆ
หลายแห่งยังขาดมาตรฐาน ขาดอุปกรณ์ประจ�ำสนามท่ีทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบแสงสว่าง ระบบเสียง บริเวณ
รอบๆสนาม ซ่ึงท�ำให้เกิดความไม่ปลอดภัยส�ำหรับนักกีฬา ผู้ตัดสิน ระบบการแสดงข้อมูลและผลการแข่งขัน (score
board) ก็ไมเ่ ปน็ มาตรฐาน องค์ประกอบพนื้ ฐานส�ำคญั เหลา่ นี้ ท�ำใหป้ ระเทศไทยขาดโอกาสในการไดร้ ับคัดเลือกใหเ้ ปน็

แผนพฒั นาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

26 กระทรวงการทอ่ งเทีย่ วและกฬี า

เจา้ ภาพในการจดั การแขง่ ขนั กฬี าระดบั นานาชาติ ท�ำใหส้ ญู เสยี รายไดท้ จี่ ะเขา้ สปู่ ระเทศจากการเดนิ ทางของนกั ทอ่ งเทยี่ ว
เมอ่ื ประเทศไทยไดร้ บั เปน็ เจา้ ภาพในมหกรรมกฬี าตา่ งๆ และเปน็ การสวนกระแสทร่ี ฐั บาลชดุ ปจั จบุ นั ไดแ้ สดงเจตนารมณ์
ในการเปิดโอกาสให้เสนอตัวให้เป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรมทางด้านกีฬา พลศึกษา และวิทยาศาสตร์การกีฬา เพ่ือ
เชอื่ มตอ่ การทอ่ งเทยี่ ว ในกรณนี ถ้ี งึ แมจ้ ะเปน็ การลงทนุ ทต่ี อ้ งใชง้ บประมาณคอ่ นขา้ งสงู แตห่ ากรฐั บาลจะไดม้ กี ารก�ำหนด
นโยบายใหม้ ีการสนบั สนนุ จากส�ำนักงบประมาณและใหอ้ งคป์ กครองสว่ นทอ้ งถิน่ ไดม้ ีส่วนรว่ มดว้ ย
จากสถานการณแ์ นวโนม้ ดา้ นการออกก�ำลังกายและการกีฬา การตื่นตัวในเรอื่ งของการออกก�ำลังกาย
เพื่อสุขภาพของคนไทยและทั่วโลก ท�ำให้ประชาชนให้ความสนใจดูแลสุขภาพเล่นกีฬาและออกก�ำลังกายมากขึ้น
การกีฬายังมีส่วนส�ำคัญในการสร้างความภาคภูมิใจ สร้างแรงบันดาลใจ ก่อให้เกิดความสมานฉันท์ และสามัคคีของ
คนในชาติ การกีฬาสามารถเป็นอาชีพที่สร้างรายได้และมีส่วนส�ำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้ ดังนั้น
การออกก�ำลังกายและการกีฬา จึงมีส่วนส�ำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของคนในชาติให้มีคุณภาพ และเน่ืองจาก
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ การด�ำเนินงานตามแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔)
เป็นระยะเวลาสิน้ สุดของแผน กระทรวงการท่องเท่ยี วและกฬี า จงึ ได้มอบหมายให้สถาบนั การพลศึกษา เปน็ หนว่ ยงาน
หลักในการด�ำเนินการจัดท�ำ (ร่าง) แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ข้ึน ซึ่งจะได้น�ำเอา
ผลการวิจัย ความส�ำเร็จ ความล้มเหลว ปัญหา อุปสรรค และข้อจ�ำกัด จากการทบทวนและประเมินผลแผนพัฒนา
การกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔) ดังกล่าวไปใช้เป็นข้อมูลพ้ืนฐานในการจัดท�ำแผนพัฒนา
การกีฬาแห่งชาติ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ให้มีความสมบูรณ์และเป็นรูปธรรมมากย่ิงข้ึน จนสามารถน�ำ
ไปใชเ้ ป็นแม่บทของประเทศในการขับเคล่อื นการกีฬาของชาติ ให้มปี ระสทิ ธภิ าพทดั เทยี มนานาอารยประเทศตอ่ ไป

แผนพัฒนาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการท่องเทย่ี วและกฬี าบทท่ี ๒ 27

๒ยทุ ธศาสตร์การพฒั นาการกีฬาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙
๑. วสิ ัยทศั น์และทิศทางการพฒั นาการกีฬาของประเทศไทย

๑.๑ วิสยั ทัศน์
คนไทยได้รับการส่งเสริมการออกก�ำลังกายและการเล่นกีฬาอย่างถูกต้องจนเป็นวิถีชีวิต มีสุขภาพ
สมรรถภาพที่ดี มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมนี ำ�้ ใจนกั กีฬา หลอมรวมเปน็ หนงึ่ เดียวเพอื่ ความสามัคคีสมานฉนั ท์ พฒั นา
กีฬาสู่ความเป็นเลิศโดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬาเพ่ือพัฒนานักกีฬาที่มีศักยภาพให้ได้มาตรฐานสากล
มกี ารบริหารจัดการกีฬาทกุ มติ อิ ยา่ งเปน็ ระบบ เพอื่ สรา้ งรายไดส้ รา้ งอาชีพและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
๑.๒ พันธกจิ
๑) เพม่ิ โอกาสให้คนไทยไดร้ บั การส่งเสรมิ การออกก�ำลังกายและการเลน่ กฬี าอย่างทั่วถึงและมคี ุณภาพ
๒) สง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ มของสงั คมทกุ ภาคสว่ นในการใชก้ จิ กรรมการออกก�ำลงั กายและการเลน่ กฬี าเปน็
ส่อื ในการสรา้ งสังคมสามคั คีสมานฉนั ท์
๓) พัฒนาศักยภาพของนักกีฬาโดยใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาให้ได้มาตรฐานระดับสากล น�ำไปสู่การกีฬา
เพื่อความเปน็ เลิศและกีฬาเพ่ือการอาชีพ
๔) พฒั นาคุณภาพและมาตรฐานการบริหารจดั การกีฬาและการออกก�ำลงั กายทกุ มิติ อยา่ งเปน็ ระบบ
๑.๓ วัตถปุ ระสงค์
๑) เพื่อส่งเสริมให้คนไทยได้รับโอกาสในการออกก�ำลังกายและการเล่นกีฬาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ
สรา้ งคา่ นิยมวิถีชีวิตรักการออกก�ำลงั กายและการเลน่ กีฬาสู่การมสี ุขภาพและสมรรถภาพทีด่ ี
๒) เพอ่ื สง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ มของสงั คมทกุ ภาคสว่ นในการใชก้ จิ กรรมการออกก�ำลงั กายและการเลน่ กฬี า
เปน็ ส่อื สร้างสงั คมที่มีนำ�้ ใจนักกฬี า มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และสามคั คสี มานฉนั ท์
๓) เพ่ือจัดหาและพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานด้านการกีฬาให้เพียงพอ โดยเฉพาะส่ิงอ�ำนวยความสะดวก
เช่น สนามกีฬา วสั ดุ อุปกรณ์ทท่ี ันสมัย รวมทั้งการจดั ใหม้ ผี ฝู้ กึ สอนและอาสาสมคั รการกีฬาประจ�ำศนู ยแ์ ละสนามกีฬา
๔) เพื่อปรับบทบาทของกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ให้สนับสนุนภารกิจในการพัฒนานักกีฬาต้ังแต่
ระดับเด็กและเยาวชน โดยจัดให้มีทุนการศึกษาและทุนสนับสนุนแก่เด็กและเยาวชนที่มีความสามารถและมีแนวโน้ม
ว่าจะเป็นผู้มีความสามารถสูงด้านกีฬาในระดับนานาชาติ ให้สามารถพัฒนาเป็นนักกีฬาทีมชาติที่สร้างช่ือเสียงและ
เปน็ แบบอย่างท่ดี ีแกเ่ ยาวชนของประเทศ
๕) เพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุนและการบริจาค เพื่อพัฒนาการกีฬาด้วยมาตรการจูงใจ
ทเ่ี หมาะสม เช่น มาตรการภาษี มาตรการสง่ เสรมิ การลงทนุ และมาตรการการเงิน ภายใตค้ วามโปรง่ ใสและมธี รรมาภิบาล
๖) เพ่ือพัฒนากีฬาเพ่ือความเป็นเลิศ ด้วยการน�ำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬามาประยุกต์ใช้
อยา่ งจริงจัง เพื่อพัฒนากีฬาทม่ี ศี กั ยภาพไปส่กู ีฬาอาชีพ รวมท้ังพฒั นาผฝู้ ึกสอนและผตู้ ดั สนิ ให้ไดม้ าตรฐานสากล
๗) เพ่ือปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบ เพ่ือใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการองค์กรกีฬา
เพื่อพฒั นาคุณภาพและมาตรฐานการบริหารจดั การกฬี าในทุกมติ อิ ยา่ งเป็นระบบ

แผนพัฒนาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

28 กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกีฬา

๘) เพอื่ สนบั สนนุ ใหผ้ พู้ กิ ารเขา้ ถงึ การกฬี าและการแขง่ ขนั กฬี าในทกุ ระดบั เพอ่ื พฒั นาไปสกู่ ารเปน็ นกั กฬี า
ทมี่ คี วามสามารถในนามทีมชาติไทยในการแข่งขนั กีฬาและมหกรรมกีฬาต่างๆ
๙) เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกีฬาของภูมิภาคและของโลก จัดให้มีการแข่งขันกีฬาและ
กีฬาคนพิการระดับโลกที่ส�ำคัญๆ ตลอดจนการประชุมเก่ียวกับกีฬาระดับภูมิภาค และระดับโลก เพื่อเชื่อมโยงกับ
การทอ่ งเที่ยว โดยความร่วมมือและการมสี ว่ นรว่ มจากทกุ ฝ่ายเปน็ “ทมี ไทยแลนด์”
๑.๔ เป้าหมายหลัก
๑) เด็กและเยาวชนทุกกลุ่มท้ังในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษา อย่างน้อยร้อยละ ๘๐ มีความรู้
ความเขา้ ใจ มเี จตคติ และทกั ษะในการออกก�ำลงั กายและเลน่ กฬี าขน้ั พน้ื ฐาน มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม มรี ะเบยี บวนิ ยั และนำ�้ ใจ
นกั กฬี าตามคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ รวมทงั้ สามารถออกก�ำลงั กายและเลน่ กฬี า ชม และเชยี รก์ ฬี าตามระเบยี บและกฎกตกิ า
๒) เด็กและเยาวชนทกุ กลุ่มทัง้ ในสถานศกึ ษาและนอกสถานศกึ ษา อายุ ๓-๑๑ ปี อยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ ๘๐
มีทักษะพื้นฐานการเคล่ือนไหวพ้ืนฐาน เช่น การเดิน วิ่ง กระโดด ปีนป่าย ยืดหยุ่นและการเล่นผาดโผน ตามเกณฑ์
ความสามารถของแตล่ ะระดับอายุ
๓) เดก็ และเยาวชนทกุ กลมุ่ ทงั้ ในสถานศกึ ษาและนอกสถานศกึ ษา อายุ ๑๒-๑๘ ปี อยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ ๘๐
มีทักษะพ้นื ฐานการเล่นกฬี าอยา่ งนอ้ ย ๑ ชนดิ กีฬา ตามความสามารถของเพศและอายุ
๔) เดก็ และเยาวชนทกุ กลมุ่ ทมี่ คี วามสามารถพเิ ศษทางการกฬี า ไดร้ บั การสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ เพอื่ พฒั นา
ความสามารถทางการกีฬาส่คู วามเป็นเลิศอย่างตอ่ เน่อื งและเป็นระบบ

๕) ประชาชนทุกกลุ่ม ร้อยละ ๖๐ ออกก�ำลังกายและเล่นกีฬาอย่างเหมาะสมและสม่�ำเสมออย่างน้อย
สปั ดาหล์ ะ ๓ วนั ๆ ละไม่นอ้ ยกว่า ๓๐ นาที และร้อยละ ๕๐ มีสุขภาพดีและสมรรถภาพอย่ใู นเกณฑ์ดี

๖) ชุมชนระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร้อยละ ๒๕ มีสถานที่บริการด้านการออกก�ำลังกายและ
การกฬี า ตามเกณฑ์มาตรฐาน
๗) ประเทศไทยเป็นเจ้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในชนิดกีฬาสากลท่ีมีการแข่งขันในกีฬา
เอเชยี นเกมส์ อาเซยี นพาราเกมส์และโอลิมปิกเกมส์
๘) ประเทศไทยอยู่ในอันดับ ๑-๕ จากการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ และเอเชียนพาราเกมส์ และ
อันดับ ๑-๕ ของเอเชยี จากการแขง่ ขันกฬี าพาราลมิ ปกิ เกมส์ และโอลมิ ปกิ เกมส์
๙) มสี ถาบนั ผลิตและพฒั นาผฝู้ กึ สอนในระดับชาติและนานาชาติ
๑๐) มสี ถานกฬี าเพ่อื การฝึกซอ้ มและแข่งขนั ทไี่ ดม้ าตรฐานในแต่ละระดับในทกุ จงั หวดั
๑๑) จ�ำนวนบุคลากรกีฬาอาชีพและนักกีฬาอาชีพเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓ ต่อปี ซ่ึงนักกีฬาอาชีพมีผลงานหรือ
ระดบั ความสามารถที่ไดม้ าตรฐานนานาชาติ (International ranking) โดยเฉลีย่ ดขี ึ้น
๑๒) ระบบการจดั การแข่งขันกฬี าอาชีพได้มาตรฐานเปน็ ที่ยอมรบั ในระดบั สากล
๑๓) มีระบบการวางแผนการประชาสัมพนั ธ์ สวสั ดกิ ารและการตดิ ตามผลด้านกฬี าอาชีพมากขึน้
๑๔) จ�ำนวนรายได้จากผู้สนับสนุนการด�ำเนินงานด้านการพัฒนากีฬาเพื่อการอาชีพ จากภาครัฐและภาค
เอกชนเพม่ิ มากข้ึน
๑๕) จ�ำนวนบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตรก์ ารกีฬาในองค์กรวิทยาศาสตรก์ ารกีฬา ระดับชาติ ระดับภาค
ระดับจังหวัด และในสมาคมกฬี าต่างๆ เพิ่มขน้ึ

แผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

กระทรวงการทอ่ งเท่ยี วและกฬี า 29

๑๖) มีองคก์ รวทิ ยาศาสตร์การกีฬา ระดบั ชาติ ระดับภาค ระดับจงั หวัด ระดับอ�ำเภอ
๑๗) มีการศึกษาวิจยั และเผยแพรอ่ งคค์ วามรดู้ า้ นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ารกฬี า
๑๘) มีเครื่องมือและอุปกรณ์ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬาระดับชาติ ระดับภาค ระดับ
จงั หวัด อย่างนอ้ ย ๓ หมวดเครือ่ งมือ คอื เคร่อื งมอื ทางชีวกลศาสตร์การกีฬา เคร่อื งมือทางสรรี วิทยาการออกก�ำลงั กาย
และกฬี า และเครอ่ื งมือทางเวชศาสตร์การกีฬา
๑๙) หนว่ ยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธรุ กิจ องคก์ ร สมาคม ชมรมท่เี ก่ยี วข้องดา้ นการกฬี า และองคก์ ร
ปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ มกี ารปรบั ปรงุ และพฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การกฬี า เพอ่ื เตรยี มการรองรบั การเขา้ รว่ มประชาคม
อาเซียน พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้มีประสิทธภิ าพ อย่างนอ้ ยร้อยละ ๖๐
๒๐) มีคณะกรรมการการกีฬาที่มีบทบาทในการบริหารงานการกีฬา อย่างน้อยจ�ำนวน ๑ คณะกรรมการ
ครบทุกระดับ ได้แก่ ระดบั ต�ำบล อ�ำเภอ จังหวดั และระดับชาติ
๒๑) มีฐานข้อมูลและระบบสารสนเทศด้านการกีฬาในทุกระดับ ต้ังแต่ระดับ ต�ำบล อ�ำเภอ จังหวัด และ
ระดับชาติ
๒๒) มกี ารปรบั ปรงุ กฎหมายและระเบยี บตา่ งๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การกฬี าในทกุ ๆ ดา้ นใหท้ นั สมยั และสามารถ
รองรบั การเปิดประชาคมอาเซยี น พ.ศ. ๒๕๕๘
๒๓) มกี องทนุ ในการพฒั นาการกฬี าและสวสั ดกิ ารของนกั กฬี าทกุ ระดบั ตง้ั แตร่ ะดบั ต�ำบล อ�ำเภอ จงั หวดั
และระดบั ชาติ
๒๔) มรี ะบบ กลไก การตดิ ตามประเมนิ ผลการด�ำเนนิ งานดา้ นการออกก�ำลงั กายและการเลน่ กฬี าทกุ ระดบั
ตั้งแต่ต�ำบล อ�ำเภอ จังหวดั และระดับชาติ
๑.๕ ประเด็นส�ำคญั ของยุทธศาสตร์
แผนพฒั นาการกฬี าแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ไดก้ �ำหนดประเดน็ ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาการ
กีฬาไว้ ๖ ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ ดังน้ี
๑) ยุทธศาสตร์การพัฒนาการออกก�ำลงั กายและการกีฬาขัน้ พืน้ ฐาน
ให้ความส�ำคัญกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนทุกกลุ่มให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีเจตคติและทักษะ
ในการออกก�ำลังกายและการกีฬาข้ันพ้ืนฐาน ให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยการออกก�ำลังกายและการเล่นกีฬา
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ส�ำหรบั สรา้ งเสรมิ สขุ ภาวะและสมรรถภาพทางกายอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง รวมทงั้ การพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
มีระเบียบวินัยและน้�ำใจนักกีฬา ด้วยกิจกรรมการออกก�ำลังกายและการกีฬาขั้นพ้ืนฐาน เพื่อการด�ำเนินชีวิตในสังคม
อยา่ งมคี วามสขุ ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตลอดจนการสง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ และเยาวชนทม่ี ที กั ษะและความสามารถ
ทางการกีฬาข้ันพ้นื ฐาน ให้ได้รบั พฒั นาส่คู วามเป็นเลิศทางด้านกีฬา ตามความถนัดและศักยภาพอยา่ งตอ่ เนอื่ ง
๒) ยุทธศาสตร์การพฒั นาการออกก�ำลงั กายและการเลน่ กฬี าเพื่อมวลชน
ให้ความส�ำคัญกับการส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มได้ออกก�ำลังกายและเล่นกีฬาให้สอดคล้อง
กับวิถชี วี ิตอย่างเหมาะสมและสมำ�่ เสมอ รวมถึงการสง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหป้ ระชาชนทกุ กลมุ่ ไดม้ ีโอกาสเข้าถึงการบรกิ าร
ด้านการออกก�ำลงั กายและกฬี าอย่างทวั่ ถงึ เพ่ือส่งเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ จริยธรรม ความสามัคคีและความมีวินัย
ของคนในชาติ

แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)

30 กระทรวงการท่องเทยี่ วและกฬี า

๓) ยุทธศาสตร์การพฒั นาการกีฬาเพ่อื ความเปน็ เลิศ
ให้ความส�ำคัญกับส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนานักกีฬาทุกกลุ่ม ทุกระดับ ให้มีโอกาสเข้าร่วมการ
แข่งขันและพัฒนาความสามารถ โดยมุ่งเน้นความเป็นเลิศในการแข่งขันกีฬาทั้งระดับชาติและนานาชาติ โดยพัฒนา
ระบบและกลไกใหบ้ ุคลากรทางการกฬี าได้รบั การพฒั นาอยา่ งตอ่ เน่ือง และเพยี งพอตอ่ ความต้องการในการพัฒนากีฬา
ทุกระดับ รวมถึงการสร้างและพัฒนาสถานกีฬา อุปกรณ์กีฬา และสิ่งอ�ำนวยความสะดวก เพ่ือรองรับการฝึกซ้อมและ
การแข่งขันกฬี าทุกระดบั ตลอดจนการสร้างระบบและกลไกการพัฒนาเครอื ข่ายองค์กรกฬี าในแต่ละระดบั ให้เช่ือมโยง
และมกี ารบรหิ ารงานอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เพอื่ พฒั นาระบบการจดั และสง่ นกั กฬี าแขง่ ขนั กฬี าเพอื่ ความเปน็ เลศิ ทงั้ ระดบั
ชาติและนานาชาติ
๔) ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาการกฬี าเพอ่ื การอาชีพ
ให้ความส�ำคัญต่อการส่งเสริมและพัฒนานักกีฬาและบุคลากรกีฬาอย่างครบวงจร พัฒนาระบบและ
กลไกการจัดการแข่งขันให้มีมาตรฐานสากล มีกฎ ระเบียบ ข้อบังคับที่เก่ียวข้องกับการประกอบอาชีพทางการกีฬาท่ี
เหมาะสมและทนั สมยั รวมถงึ การสนบั สนนุ การจดั ตง้ั สถาบนั ผลติ บคุ ลากรกฬี าอาชพี สง่ เสรมิ การรวมกลมุ่ สมาชกิ องคก์ ร
สโมสรกีฬาอาชีพ พัฒนาระบบบริหาร สนับสนุนการจัดสรรทุนและสวัสดิการกีฬาอาชีพ คุ้มครองและรักษาสิทธ์ิหรือ
ผลประโยชน์ รวมทั้งสร้างแรงจูงใจให้องค์กรเอกชนร่วมส่งเสริมกีฬาอาชีพ ตลอดจนส่งเสริมและพัฒนากีฬาสากลที่มี
ศกั ยภาพและกฬี าไทยบางชนิดใหเ้ ปน็ กีฬาอาชพี อย่างยง่ั ยนื
๕) ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารกีฬา
ให้ความส�ำคัญกับการสร้างงานวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การกีฬาให้มีการน�ำไปใช้ในการพัฒนาศักยภาพนักกีฬา รวมถึงการจัดต้ังองค์กรด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาระดับชาติ
ระดับภาค ระดับจังหวัดและเครือข่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาระดับอ�ำเภอ และจัดหาอัตราก�ำลังบุคลากร และเคร่ืองมือ
และอุปกรณท์ ม่ี มี าตรฐานส�ำหรับใหบ้ รกิ ารนักกฬี าและประชาชนทุกกล่มุ
๖) ยุทธศาสตร์การพัฒนาการบรหิ ารการกีฬาและการออกก�ำลงั กาย
ให้ความส�ำคัญกับการบริหารงานแบบบูรณาการ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการกีฬาและ
การออกก�ำลังกายทุกระดับ ปรับปรงุ กฎหมายและระเบยี บตา่ งๆ ท่เี ก่ยี วขอ้ งกับการกฬี าใหท้ นั สมัย เพอ่ื บูรณาการและ
ประสานความรว่ มมือระหว่างหนว่ ยงานสู่การปฏิบตั อิ ย่างมปี ระสทิ ธผิ ล

๒. ประเดน็ ยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙

๒.๑ ยทุ ธศาสตร์ที่ ๑ การพฒั นาการออกก�ำลงั กายและการกีฬาขั้นพื้นฐาน
วัตถปุ ระสงค์
๑) เพ่ือให้เด็กและเยาวชนทุกกลุ่มมีความรู้ ความเข้าใจ มีเจตคติและทักษะในการออกก�ำลังกายและ
การเล่นกีฬา
๒) เพื่อให้เด็กและเยาวชนทุกกลุ่มได้รับการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัยและน้�ำใจนักกีฬา
และการด�ำเนินชวี ติ ในสังคมอยา่ งมคี วามสุข

แผนพัฒนาการกีฬาแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙)


Click to View FlipBook Version