ส่งเสรมิ และพัฒนาศกั ยภาพเพ่ือยกระดับผปู้ ระกอบการเพ่ือเข้าส่มู าตรฐาน
กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า โดยกรมการทอ่ งเทย่ี ว ดำ� เนนิ การโครงการสง่ เสรมิ และพฒั นาศกั ยภาพเพอ่ื ยกระดบั
ผู้ประกอบการเพื่อเข้าสู่มาตรฐาน เพ่ือให้ผู้ประกอบการท่ียังไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเท่ียวไทยเข้าสู่
การรบั รองมาตรฐาน พฒั นาศกั ยภาพใหผ้ ปู้ ระกอบการในการใหบ้ รกิ ารดา้ นการทอ่ งเทยี่ วและพฒั นาศกั ยภาพใหผ้ ปู้ ระกอบการ
ในการยกระดับการใหบ้ รกิ ารดา้ นความปลอดภัยและอาชีวอนามยั
โดยไดด้ ำ� เนนิ การอบรมใหค้ วามรดู้ า้ นมาตรฐานการทอ่ งเทย่ี วไทยกบั ผปู้ ระกอบการดา้ นทพ่ี กั เรอื รบั จา้ ง รถตปู้ รบั อากาศ
ห้องน�้ำสาธารณะ และโฮมสเตย์ ตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานการท่องเท่ียวไทยให้กับผู้ประกอบการด้านที่พัก
เรือรบั จา้ ง รถต้ปู รับอากาศ ห้องนำ�้ สาธารณะ และโฮมสเตย์ อบรมออนไลน์ผูป้ ระกอบการและบคุ คลทวั่ ไปทสี่ นใจประกอบ
ธรุ กิจด้านคา่ ยพักแรม (Camping) ตลอดจนชุมชนทอ่ งเทย่ี วและโฮมสเตยท์ วั่ ประเทศไทย จับคธู่ ุรกิจแบบออนไลน์ (Online
Business Matching) ผู้ประกอบการกิจกรรมค่ายพักแรมกับกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวบรวมข้อมูลสถานประกอบการ
หรอื พน้ื ทที่ มี่ กี ารจดั กจิ กรรมคา่ ยพกั แรม (Camping) เพอื่ จดั ทำ� หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ พฒั นาพนื้ ทตี่ น้ แบบสู่ “Camping ชมุ ชน”
และสรุปแนวทางการด�ำเนนิ การ “การพฒั นาศกั ยภาพผูป้ ระกอบการคา่ ยพกั แรมเชือ่ มโยงการทอ่ งเท่ียวชมุ ชน”
การตรวจประเมนิ มาตรฐานทีพ่ กั
เพื่อการทอ่ งเทีย่ ว
ประเภทโรงแรม
การตรวจประเมนิ มาตรฐานห้องน�้ำสาธารณะเพือ่
การท่องเทีย่ วระดบั สากลการอบรมออนไลน์
การตรวจประเมินมาตรฐานโฮมสเตยไ์ ทย
กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกีฬา 101
102 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔ การพัฒนาพนื้ ทีต่ ้นแบบ
สู่ “Camping ชุมชน”
หลกั สตู รฝา่ วิกฤตโควิดดว้ ยธุรกิจลานกางเตน็ ท์
การอบรมออนไลนห์ ลักสตู รการพฒั นาศกั ยภาพผ้ปู ระกอบการ
ค่ายพักแรมเชื่อมโยงการทอ่ งเทย่ี วชุมชน “Camping ชุมชน”
สง่ เสรมิ และพัฒนาสนิ ค้าและบรกิ าร
เพอ่ื สร้างความหลากหลายดา้ นการ
ทอ่ งเท่ียว
กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า โดยกรมการทอ่ งเทย่ี ว
ด�ำเนินการโครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าและบริการ
เพ่ือสร้างความหลากหลายด้านการท่องเท่ียว เพื่อศึกษา
แนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
รองรับการท่องเท่ียววิถีใหม่ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ
ท่องเท่ียวเชิงสุขภาพมีศักยภาพและสามารถยกระดับ
ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเท่ียว
เชิงสุขภาพได้อย่างมีทิศทาง และเกิดผลเป็นรูปธรรม
พัฒนาองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว
เชงิ สขุ ภาพเพอ่ื ยกระดบั ผปู้ ระกอบการ รองรบั การทอ่ งเทย่ี ว
ทีม่ ีมลู คา่ สงู สง่ เสรมิ ระบบนิเวศอตุ สาหกรรมการทอ่ งเทยี่ ว
เชงิ การแพทยแ์ ละสขุ ภาพ (Health and Wellness Tourism)
และพัฒนาเครือข่ายความเช่ือมโยงในการให้บริการ
ดา้ นการทอ่ งเที่ยวเชงิ สขุ ภาพอยา่ งเปน็ รปู ธรรม มีผู้เข้าร่วม
จำ� นวน 672 คน
โดยได้ด�ำเนินการศึกษาและจัดท�ำแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พร้อมท้ังออกแบบรูปแบบ
กจิ กรรมการทอ่ งเทยี่ วเชงิ สขุ ภาพทเี่ หมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมายตา่ งๆ และจดั ทำ� เปน็ แผนการขบั เคลอื่ นการพฒั นาการทอ่ งเทยี่ ว
สมั มนาออนไลน์ “การทอ่ งเทยี่ วเชงิ การแพทยแ์ ละสขุ ภาพ ทศิ ทางธรุ กจิ ยคุ New Normal โอกาสการทอ่ งเทยี่ วใหมข่ องไทย”
จดั ทำ� หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (E-book) เรอื่ ง “การทอ่ งเทยี่ วเชงิ การแพทยแ์ ละสขุ ภาพ (Medical and Wellness Tourism)”
ส�ำหรับใชใ้ นการเผยแพรผ่ า่ นช่องทางประชาสมั พันธ์ และจับคู่ธุรกจิ (Online Business Matching) ระหวา่ งผู้ประกอบการ
ด้านการท่องเที่ยวกับสถานพยาบาล รวมถึงผู้ประกอบการท่ีเก่ียวเน่ืองในระบบนิเวศอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์
และสุขภาพ เพ่อื สร้างเครือข่ายความเชอ่ื มโยง ในการให้บรกิ ารด้านการทอ่ งเท่ยี วเชิงสุขภาพ
สง่ เสริมและยกระดบั ทพี่ ักนักเดินทาง (Home Lodge)
กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า โดยกรมการทอ่ งเทย่ี ว ดำ� เนนิ การโครงการ
สง่ เสรมิ และยกระดบั ทพี่ กั นกั เดนิ ทาง (Home Lodge) กจิ กรรมสง่ เสรมิ และพฒั นา
ศกั ยภาพทพี่ กั นกั เดนิ ทาง (Home Lodge) ระหวา่ งวนั ท่ี 2 เมษายน - 14 ธนั วาคม
2564เพอื่ เปดิ โอกาสใหช้ มุ ชนผปู้ ระกอบการขนาดเลก็ และขนาดกลางมรี ายไดเ้ สรมิ
จากการท่องเที่ยว กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวและกระจาย
รายได้สู่ชุมชนอย่างทั่วถึง และพัฒนายกระดับศักยภาพธุรกิจการให้บริการท่ีพัก
ให้มคี ุณภาพมากข้นึ มผี ้เู ข้าร่วมจำ� นวนกวา่ 1,000 คน
จากการดำ� เนนิ การโครงการสง่ เสรมิ และยกระดบั ทพี่ กั นกั เดนิ ทาง (Home Lodge) กจิ กรรมสง่ เสรมิ และพฒั นาศกั ยภาพ
ท่ีพักนักเดินทาง (Home Lodge) ท�ำให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง รวมถึงชุมชน ได้มีความรู้ความเข้าใจ
ในหลักเกณฑ์คุณภาพของท่ีพักนักเดินทาง (Home Lodge) ผ่านการเข้าร่วมการอบรมส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพที่พัก
นกั เดินทาง (Home Lodge) มีจ�ำนวนผูท้ เี่ ขา้ รบั การอบรมกว่า 1,000 คน ในพน้ื ทจี่ งั หวัดเลย จงั หวัดอบุ ลราชธานี จังหวดั
อ�ำนาจเจริญ จังหวัดนครพนม จังหวดั บงึ กาฬ จังหวดั เชียงราย จังหวัดพะเยา จังหวดั แพร่ จงั หวดั อตุ รดติ ถ์ จงั หวัดภูเกต็
จงั หวดั ระนอง จงั หวดั ชยั นาท จงั หวดั อทุ ยั ธานี จงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน จงั หวดั สมทุ รสงคราม จงั หวดั ชมุ พร และกรงุ เทพมหานคร
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา 103
104 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
ส่งเสรมิ การทอ่ งเท่ียวเชงิ สรา้ งสรรคแ์ ละวฒั นธรรม
กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า โดยองคก์ ารบรหิ ารการพฒั นาพน้ื ทพี่ เิ ศษเพอ่ื การทอ่ งเทย่ี วอยา่ งยงั่ ยนื (องคก์ ารมหาชน)
ดำ� เนนิ กจิ กรรมขบั เคลอ่ื นเมอื งสรา้ งสรรคเ์ พอื่ การทอ่ งเทย่ี วอยา่ งยงั่ ยนื จงั หวดั เพชรบรุ ี และจงั หวดั เชยี งราย ภายใตโ้ ครงการ
ส่งเสริมการท่องเท่ียวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม กิจกรรมพัฒนาเมืองและย่านสร้างสรรค์สู่ระดับสากล ระหว่างเดือน
ตลุ าคม 2563 - กนั ยายน 2564 โดยไดด้ �ำเนนิ การจดั ท�ำแผนท่ีนำ� ทาง (Roadmap) ของเมอื งเพชรบุรแี ละเชยี งรายสู่การ
เปน็ สมาชกิ เครอื ขา่ ยเมอื งสรา้ งสรรคข์ องยเู นสโกใหเ้ กดิ เปน็ รปู ธรรม และสอดคลอ้ งกบั การสนบั สนนุ การพฒั นาเมอื งในพน้ื ท่ี
พิเศษเพื่อการท่องเท่ียวอย่างย่ังยืนของ อพท. สู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก เพ่ือร่วมกันก�ำหนด
ทิศทางการขับเคลื่อนที่ชัดเจนของเมืองสู่การเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกและผลักดันให้เกิดจากความร่วมมือ
ของทกุ ภาคสว่ น รวมทงั้ สนบั สนนุ การยกระดบั ของเมอื งใหส้ อดคลอ้ งกบั หลกั เกณฑข์ องการเปน็ สมาชกิ เครอื ขา่ ยเมอื งสรา้ งสรรค์
ของยูเนสโก เพื่อน�ำไปสู่การส่งเสริมการท่องเท่ียวอย่างย่ังยืน โดยมีภาคีเครือข่ายในการร่วมขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์
ของจังหวัดเพชรบุรีและเชียงราย ผ่านคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนเมืองเพชรบุรีและเชียงรายสู่การเป็นเครือข่าย
เมอื งสร้างสรรคข์ องยเู นสโก หนว่ ยงานภาครฐั องคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ ผู้ประกอบการเอกชน ผ้ทู รงคณุ วุฒิ และผู้ที่มี
สว่ นเกย่ี วขอ้ งตอ่ การขบั เคลอ่ื นเมอื งสกู่ ารเปน็ เครอื ขา่ ยเมอื งสรา้ งสรรคข์ องยเู นสโก สง่ ผลใหท้ ง้ั 2 จงั หวดั ไดร้ บั การพจิ ารณา
คัดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะส�ำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์
และวฒั นธรรมแหง่ สหประชาชาติ (UNESCO) ใหเ้ ปน็ ตัวแทนประเทศไทยในการสง่ ใบสมคั รของจงั หวัดเพชรบุรเี ขา้ ร่วมเปน็
สมาชิกเครอื ข่ายเมอื งสร้างสรรคข์ องยเู นสโกด้านอาหาร และจังหวัดเชยี งรายดา้ นการออกแบบ ประจำ� ปี 2564 นอกจากนี้
ยังมีการศึกษาศักยภาพของเมือง ท่ีสามารถผลักดันไปสู่การเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกอีก 3 เมือง ได้แก่
เมืองอบุ ลราชธานี เมอื งสงขลา และเมืองพทั ยา
จากการดำ� เนนิ งานกจิ กรรมขบั เคลอ่ื นเมอื งสรา้ งสรรค์
เพ่ือการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืน จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัด
เชยี งราย ภายใตโ้ ครงการสง่ เสรมิ การทอ่ งเทยี่ วเชงิ สรา้ งสรรค์
และวัฒนธรรม กิจกรรมพัฒนาเมือง และย่านสร้างสรรค์
สรู่ ะดบั สากล ทำ� ใหจ้ งั หวดั เพชรบรุ ไี ดร้ บั เลอื กเปน็ เครอื ขา่ ย
เมอื งสรา้ งสรรคด์ า้ นอาหาร (City of Gastronomy) ประจำ�
ปี 2564 โดยยเู นสโกไดม้ หี นงั สอื แจง้ เมอื งเพชรบรุ อี ยา่ งเปน็
ทางการ เม่ือวนั ท่ี 16 พฤศจกิ ายน 2564
เกิดการพัฒนาสภาพแวดล้อมและโครงสร้างทางสังคมและเศรษฐกิจ มีบรรยากาศเอ้ือต่อการสร้างธุรกิจ
หรอื อตุ สาหกรรมดา้ นความคดิ สรา้ งสรรค์ และสรา้ งความยงั่ ยนื ใหก้ บั สนิ ทรพั ยท์ างวฒั นธรรม ประวตั ศิ าสตร์ ขนบธรรมเนยี ม
ประเพณีของท้องถิ่น อีกท้ังส่งเสริมให้คนในเมืองเกิดความร่วมมือในการพัฒนาเมืองให้น่าอยู่ย่ิงขึ้น ท�ำให้มีนักท่องเที่ยว
จากทวั่ โลกตอ้ งการเดนิ ทางมาเยยี่ มชมและลม้ิ รสอาหารในจงั หวดั เพชรบรุ ี กอ่ ใหเ้ กดิ การจา้ งงาน และกระจายรายไดส้ ชู่ มุ ชน
ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจในจงั หวดั เพชรบรุ ีรวมทงั้ ประเทศไทยมีความยงั่ ยืนมากย่งิ ขึน้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 อพท. จะด�ำเนินกิจกรรมขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์เพ่ือการท่องเที่ยวอย่างย่ังยืน
ในจงั หวดั เพชรบรุ แี ละเชยี งรายตอ่ เนอื่ ง โดยจะรว่ มผลกั ดนั ใหม้ กี ารจดั กจิ กรรมระดบั ทอ้ งถน่ิ และระดบั นานาชาติ ทเี่ ปน็ ประโยชน์
ต่อการพัฒนาเมือง รวมถึงสนับสนุนให้มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์จากต่างประเทศ เพื่อให้
จงั หวดั เพชรบรุ มี คี วามพรอ้ มตอ่ การจดั ทำ� รายงานผลการตดิ ตาม (Monitoring Report) ในระยะ 4 ปี และเพอื่ รว่ มขบั เคลอ่ื น
จังหวัดเชียงรายสู่การสมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ในปี 2566 ต่อไป รวมทั้งศึกษาศักยภาพ
ของเมอื งทีม่ ีความเหมาะสมในการขับเคลื่อนไปสกู่ ารเปน็ เครือขา่ ยเมอื งสรา้ งสรรค์ของยูเนสโกดว้ ย
ยกระดับพิพิธภัณฑ์ชมุ ชนเพอื่ เปน็ แหล่ง
เรยี นร้แู ละจดั แสดงงานหตั ถกรรม
และศลิ ปะพน้ื บา้ นเมอื งนา่ นและการพฒั นา
ผลติ ภณั ฑช์ ุมชนสูอ่ ตุ สาหกรรม
เชงิ สรา้ งสรรค์
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยองค์การบริหาร
การพฒั นาพนื้ ทพ่ี เิ ศษเพอื่ การทอ่ งเทยี่ วอยา่ งยง่ั ยนื (องคก์ าร
มหาชน) ด�ำเนินการกิจกรรมยกระดับพิพิธภัณฑ์ชุมชน
เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และจัดแสดงงานหัตถกรรมและศิลปะ
พ้ื น บ ้ า น เ มื อ ง น ่ า น แ ล ะ ก า ร พั ฒ น า ผ ลิ ต ภั ณ ฑ ์ ชุ ม ช น
สู่อุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ เม่ือเดือนสิงหาคม 2564
เพ่ือปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ชุมชนในพ้ืนที่พิเศษเมืองเก่าน่าน
เปน็ พนื้ ทจ่ี ดั แสดงผลติ ภณั ฑด์ า้ นหตั ถกรรมและศลิ ปะพน้ื บา้ น
ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
ส่งผลให้ชุมชนได้รับความรู้ในการแยกหมวดหมู่
และการจดั เรยี งสง่ิ ของในพพิ ธิ ภณั ฑช์ มุ ชนใหม้ คี วามนา่ สนใจ
มากยิ่งขึ้น และยังได้รับความรู้เกี่ยวกับการน�ำเทคโนโลยี
ใหมๆ่ มาใชก้ บั ผลติ ภณั ฑช์ มุ ชนเพอื่ เพม่ิ มลู คา่ ของผลติ ภณั ฑ์
นอกจากน้ี อพท. จะด�ำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์
ภายใตแ้ บรนด์ “น่าน เนอ้ เจ้า” เพ่มิ อีกจ�ำนวน 5 ผลติ ภณั ฑ์
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
กระทรวงการท่องเทย่ี วและกฬี า 105
106 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
ด้านการสร้างสมดลุ ในแหล่ง
ท่องเทีย่ ว สนิ คา้ และบริการ
ท้ังในเชงิ พน้ื ที่ เชงิ เวลา ฤดกู าล
สง่ เสรมิ การให้บรกิ ารดา้ นองคค์ วามรู้เพื่อการพฒั นาแหล่งทอ่ งเที่ยวอย่างยัง่ ยนื
กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า โดยองคก์ ารบรหิ ารการพฒั นาพน้ื ทพี่ เิ ศษเพอื่ การทอ่ งเทย่ี วอยา่ งยงั่ ยนื (องคก์ ารมหาชน)
ด�ำเนินโครงการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม และทนุ ทางภูมปิ ัญญา และวฒั นธรรมเพอื่ การท่องเท่ยี ว
ที่ยัง่ ยนื กิจกรรมบรหิ ารจดั การแหล่งท่องเท่ียวบนพ้นื ฐานอัตลักษณข์ องแหลง่ ทอ่ งเท่ยี ว ตามขดี ความสามารถในการรองรบั
นักท่องเท่ียว (Carrying Capacity) ระหว่างเดือนตุลาคม 2563 - กันยายน 2564 เพ่ือศึกษาขีดความสามารถในการ
รองรับนกั ท่องเที่ยว (Carrying Capacity) ของแหล่งท่องเทีย่ วทม่ี ีศักยภาพในพน้ื ทพ่ี เิ ศษ เพือ่ ก�ำหนดและดำ� เนินมาตรการ
ในการบรหิ ารจดั การแหลง่ ท่องเท่ียวท่สี อดคลอ้ งกับขีดความสามารถในการรองรับไดข้ องแตล่ ะแหล่ง ซึ่งจะช่วยปอ้ งกันและ
แก้ไขปญั หานักทอ่ งเท่ยี วหนาแนน่ ควบคู่ไปกบั การรักษาส่งิ แวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในพ้นื ที่ใหเ้ กิดความยงั่ ยนื
โดยในปงี บประมาณ 2564 อพท. ดำ� เนินการศึกษาในแหลง่ ท่องเท่ียวศักยภาพ จำ� นวน 2 แหล่ง คอื พื้นทีต่ �ำบลนาเกลือ
อำ� เภอบางละมงุ จงั หวดั ชลบรุ ี และพน้ื ทต่ี ำ� บลเมอื งเกา่ จงั หวดั สโุ ขทยั และยงั ไดจ้ ดั กจิ กรรมประชมุ สมั มนาระดบั ชาตใิ นหวั ขอ้
“Post COVID-19 : ก้าวข้ามสู่..การพัฒนาท่องเที่ยวไทย พอดี มีสุข” ณ โรงแรมเทรเชอร์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย
และผา่ นระบบถา่ ยทอดสด มีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 600 คน
พ้ืนท่ีต�ำบลนาเกลือ อ�ำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และพื้นท่ีต�ำบลเมืองเก่า จังหวัดสุโขทัย ได้รับการประเมิน
ขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว และน�ำผลการประเมินขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว มาก�ำหนด
มาตรการด้านต่างๆ เพ่ือน�ำไปสู่การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นถึงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
เพ่ือให้เกิดการท่องเที่ยวท่ียั่งยืน สอดคล้องกับขีดความสามารถท่ีรองรับได้ของพ้ืนที่ ลดผลกระทบทางลบต่อส่ิงแวดล้อม
และความเป็นอยขู่ องคนในพ้ืนท่ี นำ� ไปสกู่ ารพัฒนาการท่องเที่ยวอยา่ งย่งั ยืนต่อไป
พื้นท่ีแหล่งท่องเท่ียวได้รับการประเมินขีดความสามารถในการรองรับ และน�ำผลการศึกษามาสู่การปฏิบัติ โดยพื้นท่ี
ต�ำบลนาเกลือ อำ� เภอบางละมงุ จงั หวัดชลบรุ ี ได้ด�ำเนนิ มาตรการการจัดท�ำส่อื ค่มู อื e-Book เพ่ือสร้างความร้คู วามเขา้ ใจ
ในการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเท่ียว พร้อมทั้งฝึกอบรมการใช้คู่มือให้กับผู้น�ำชุมชนและหน่วยงาน
ทเี่ กยี่ วขอ้ ง สอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน GSTC และการพฒั นาและจดั ทำ� ธรรมนญู ชมุ ชน โดยการมสี ว่ นรว่ มกบั ทกุ ภาคสว่ น และพน้ื ท่ี
ตำ� บลเมอื งเกา่ จงั หวดั สโุ ขทยั ไดด้ ำ� เนนิ มาตรการฝกึ อบรมเตรยี มความพรอ้ มชมุ ชนสกู่ ารเปน็ เมอื ง Workation@เมอื งเกา่ สโุ ขทยั
โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 อพท. จะด�ำเนินการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว (Carrying
Capacity) และพัฒนาระบบบริหารจัดการสู่การเป็นต้นแบบระบบนิเวศการท่องเท่ียวอย่างย่ังยืน ในพื้นที่เกาะหมาก
อ�ำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด และพ้ืนท่ีคุ้งบางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ เพ่ือน�ำร่องและส่งเสริม การเป็นพ้ืนท่ีต้นแบบ
ดา้ นการบรหิ ารจดั การขดี ความสามารถในการรองรบั นกั ทอ่ งเทยี่ ว (Carrying Capacity) ตามมาตรฐานการทอ่ งเทย่ี วอยา่ งยงั่ ยนื
เพอื่ ก้าวส่สู ดุ ยอด 100 แหล่งทอ่ งเที่ยวยั่งยนื โลก (Global Sustainable Destinations Top 100) ตอ่ ไปในอนาคต
ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 2
การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน
และสง่ิ อำ�นวยความสะดวก เพื่อรองรับ
การขยายตวั ของการท่องเทีย่ ว
ดา้ นการพฒั นาระบบโลจสิ ตกิ ส์
ด้านการท่องเทยี่ ว
ส่งเสริมการเดนิ ทางและการพฒั นา ก่อให้เกิดพาหนะเพื่อการท่องเที่ยวในรูปแบบพลังงาน
และสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ พาหนะเพอื่ การทอ่ งเทยี่ ว ทางเลือกท่ีส่งผลกระทบต�่ำต่อสิ่งแวดล้อม สามารถบริการ
ท่เี ปน็ มติ รกับสิ่งแวดล้อม นักท่องเที่ยวท่ีต้องการเดินทางไปยังแหล่งท่องเท่ียว
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยองค์การบริหาร ตามจุดต่างๆ ทกี่ �ำหนดไว้อย่างชดั เจน มีการบรหิ ารจัดการ
การพฒั นาพนื้ ทพี่ เิ ศษเพอ่ื การทอ่ งเทยี่ วอยา่ งยง่ั ยนื (องคก์ าร ที่เป็นระบบ เกิดการเช่ือมโยงกิจกรรมการท่องเที่ยว
มหาชน) จัดกิจกรรมส่งเสริมการเดินทางและการพัฒนา เชงิ สรา้ งสรรค์ (Creative Tourism) ภายในแหลง่ ทอ่ งเทีย่ ว
และส่งเสริมให้เกิดพาหนะเพ่ือการท่องเท่ียวท่ีเป็นมิตร เมืองโบราณอู่ทอง ท้ังในแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน
กับสิ่งแวดล้อม ในพ้ืนที่อ�ำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี แหล่งท่องเท่ียวประเภทแหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเท่ียว
เพ่ือสนับสนุนให้เกิดพาหนะเพื่อการท่องเท่ียวท่ีเป็นมิตร ทางธรรมชาติ แหล่งท่องเท่ียวเมืองโบราณอู่ทองเป็น
กับสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเท่ียวของพ้ืนที่ และเกิดการ แหล่งท่องเที่ยวทางเลือกส�ำหรับนักท่องเที่ยวที่ตระหนัก
บริหารจัดการการใช้พาหนะเพ่ือการท่องเที่ยวท่ีเป็นมิตร ด้านส่ิงแวดล้อมส่งผลให้เป็นที่รู้จักของประชาชน
กับสิ่งแวดล้อมร่วมกับระหว่างหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง และมจี �ำนวนนกั ทอ่ งเทย่ี วเพม่ิ มากขน้ึ
อยา่ งบรู ณาการ โดยเพมิ่ ชอ่ งทางในการเขา้ ถงึ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว
อย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยวพื้นท่ีพิเศษ
เมืองโบราณอู่ทอง เกิดการบูรณาการร่วมกันระหว่าง
เทศบาลต�ำบลท้าวอู่ทอง และเทศบาลต�ำบลอู่ทอง
ในการพัฒนาเส้นทางการท่องเท่ียว และเกิดรายได้ให้กับ
ประชาชนในเมอื งโบราณอทู่ องและใกลเ้ คยี งมรี ายไดเ้ พม่ิ ขนึ้
จากการด�ำเนินกิจกรรมส่งเสริมการเดินทางและ
การพฒั นาและสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ พาหนะเพอื่ การทอ่ งเทยี่ วทเ่ี ปน็
มติ รกบั สงิ่ แวดลอ้ ม ในพนื้ ทอ่ี ำ� เภออทู่ อง จังหวดั สุพรรณบรุ ี
กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า 107
108 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
ดา้ นการพัฒนาสงิ่ อ�ำ นวยความสะดวกดา้ นการท่องเที่ยว
การพัฒนาแพลตฟอร์ม Entry Thailand กับการเปิดรับนักเดนิ ทางสปู่ ระเทศไทย
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก
อยา่ งไรกต็ ามภายหลงั จากจำ� นวนผตู้ ดิ เชอ้ื ลดลง รฐั บาลเรมิ่ มแี นวนโยบายการเปดิ ประเทศรบั นกั ทอ่ งเทย่ี วตา่ งชาติ และการเปดิ
ให้ผู้เดินทางท้ังชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ โดยนักท่องเที่ยวต้องด�ำเนินการตามเง่ือนไขต่างๆ ซ่ึงมี
ข้ันตอนท่ีหลากหลายผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ที่เก่ียวข้อง เช่น การขอรับหนังสือรับรองการเดินทาง
เข้าประเทศไทย (Certificate of Entry: COE) การซ้ือประกันสุขภาพ การจองตั๋วเครื่องบิน การจองท่ีพักสถานกักกัน
โรคทางเลือก ฯลฯ ซ่ึงอาจสร้างความสับสนให้กับผู้ท่ีต้องการเดินทางเข้าประเทศได้ จากปัญหาดังกล่าวศูนย์ปฏิบัติการ
ศนู ยบ์ รหิ ารสถานการณโ์ ควดิ -19 จงึ มอบหมายใหก้ ระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี าพจิ ารณาจดั ทำ� ระบบเวบ็ ทา่ (Web Portal)
เพื่อบริหารจัดการการเดินทางเข้าออกประเทศของกลุ่มนักท่องเท่ียวในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เพื่อน�ำมาใช้ร่วมกันกับมาตรการผ่อนคลายการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในส่วนของการเปิดรับ
นักท่องเท่ียวเดินทางเข้าออกประเทศในระยะต่อไป ดังนั้น กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยส�ำนักงานปลัดกระทรวง
การทอ่ งเทย่ี วและกฬี า ไดด้ ำ� เนนิ กจิ กรรม “การพฒั นาแพลตฟอรม์ Entry Thailand กบั การเปดิ รบั นกั เดนิ ทางสปู่ ระเทศไทย”
เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรว่ มมอื และมคี วามเชอื่ มโยงขอ้ มลู กนั ในระดบั หนว่ ยงาน และอำ� นวยความสะดวกใหก้ บั นกั ทอ่ งเทยี่ วตา่ งชาติ
และผู้เดินทางในการเดินทางเข้าประเทศ รวมท้ังเพื่อสร้างระบบการจองสถานกักกันตัวทางเลือกของรัฐอันจะเป็นการ
ลดภาระคา่ ใชจ้ ่ายของผู้ประกอบการ
โดยประเทศไทยมรี ะบบเวบ็ ทา่ เพอ่ื อำ� นวยความสะดวกในการเดนิ ทางเขา้ ประเทศ
ภายใต้ชื่อ www.entrythailand.go.th ซง่ึ รวมทกุ ข้ันตอนในการเดนิ ทางเข้าประเทศ
ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ท้ังข้อมูลในการเข้าประเทศ การขอรับหนังสือรับรอง
การเดินทางเข้าประเทศไทย (Certificate of Entry: COE) การซ้ือประกันสุขภาพ
การจองตว๋ั เครอ่ื งบนิ การจองทพี่ กั สถานกกั กนั โรคทางเลอื ก โดยมกี ารเชอื่ ม Application
Programming Interface (API) ระหว่างกันซ่ึงอ�ำนวยความสะดวกท้ังผู้เดินทาง
และเจา้ ของขอ้ มูล
ระบบEntryThailandเปดิ ใชง้ าน(อยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ) ตง้ั แตว่ นั ที่7เมษายน2564
จนถงึ วนั ที่ 7 กันยายน 2564 มีจำ� นวนผ้เู ข้าชมเวบ็ ไซต์ 965,092 ครง้ั มีจำ� นวนการจอง
57,904 รายการ คดิ เป็นมลู ค่ากว่า 9,580,736 บาท
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬาวางแผนการพัฒนาแพลตฟอร์ม Entry Thailand ให้เป็นเว็บไซต์กลางข้อมูลส�ำหรับ
การเดินทางเข้าประเทศและข้อมูลที่จ�ำเป็นส�ำหรับนักท่องเท่ียว อาทิ ระบบสืบค้นข้อมูลการท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยว
ระบบอาสาสมคั รการท่องเท่ียวไทย ระบบการขอวีซา่ ออนไลน์ ระบบการขอคนื ภาษีสำ� หรับนกั ท่องเที่ยว ทง้ั น้ี ในระยะแรก
จะดำ� เนนิ การรวบรวมขอ้ มลู ของเวบ็ ไซตท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งเพอ่ื อำ� นวยความสะดวกในการเดนิ ทางเขา้ ประเทศ เชน่ ระบบ Thailand
Pass ระบบหมอชนะ ระบบการซ้ือประกันโควดิ เปน็ ตน้
กระทรวงการทอ่ งเทีย่ วและกฬี า 109
110 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
ดา้ นการพัฒนาระบบความปลอดภัยและสขุ ภาพในแหล่งทอ่ งเทย่ี ว
ระบบการรบั แจ้งเหตุ Call Center 1155
กระทรวงการทอ่ งเท่ยี วและกีฬา โดยกองบญั ชาการตำ� รวจท่องเทีย่ วดำ� เนินโครงการการบริหารจัดการและการพฒั นา
ระบบการรบั แจง้ เหตุ Call Center 1155 ในปี พ.ศ. 2564 ณ อาคารธัญญาพาร์ค ถนนศรีนครนิ ทร์ แขวง/เขตสวนหลวง
กรุงเทพมหานคร เพอ่ื บรหิ ารจัดการและพัฒนาระบบรบั แจ้งเหตทุ างโทรศพั ท์ Call Center 1155 แบบรวมศนู ย์ให้เป็นไป
อย่างต่อเนื่อง เพ่ิมประสิทธิภาพในการบริการ อ�ำนวยความสะดวก และช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ตลอดจนประสานงาน
ระหวา่ งเจา้ หนา้ ทตี่ �ำรวจทอ่ งเทย่ี ว และหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งได้อยา่ งรวดเร็ว และสามารถเขา้ ช่วยเหลอื นกั ทอ่ งเที่ยวไดอ้ ยา่ ง
ทนั ทว่ งที โดยเชอื่ มโยงระบบขอ้ มลู กบั หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งทงั้ ภาครฐั และภาคเอกชนใหค้ รอบคลมุ และบรหิ ารขอ้ มลู รว่ มกนั
อย่างมีประสิทธภิ าพ
สถิติการใหบ้ รกิ ารและอ�ำนวยความสะดวกแก่นักท่องเทยี่ ว ผา่ นสายด่วน 1155
ระหวา่ ง 1 มกราคม - 30 พฤศจกิ ายน 2564
รวมสถติ ิรับแจง้ เหตุ ท้งั สิ้น 30,469 ครงั้
1. เหตุหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบนกั ท่องเท่ยี ว จำ� นวน 7 คร้งั
2. เอกสารสูญหาย จ�ำนวน 5 คร้ัง
3. Tourist Police i lert U จำ� นวน 2 คร้ัง
4. กอ่ กวน จำ� นวน 9,580 คร้งั
5. ขอความช่วยเหลือ จำ� นวน 518 คร้งั
6. ความผิดตามกฎหมายอาญาหรือตาม พ.ร.บ.มีโทษทางอาญา ในฐานความผิดอน่ื ๆ จ�ำนวน 0 คร้ัง
7. ทรัพยส์ นิ สูญหาย (ไมไ่ ด้เกดิ จากการถกู ประทษุ รา้ ย) จ�ำนวน 74 ครัง้
8. ทะเลาะววิ าท จ�ำนวน 7 ครั้ง
9. นักท่องเที่ยวไดร้ บั บาดเจ็บ (ไม่ไดเ้ กดิ จากการประทุษร้าย) จำ� นวน 3 คร้งั
10. บคุ คลสูญหาย จำ� นวน 16 ครง้ั
11. แปลภาษา จ�ำนวน 437 คร้งั
12. โครงการภูเก็ตแซนดบ์ ๊อกซ์ 131 คร้งั
13. ร้องเรียน จำ� นวน 91 ครัง้
14. ศปอส.ตร. จ�ำนวน 155 คร้งั
15. สอบถามขอ้ มูล จ�ำนวน 3,759 ครง้ั
16. เหตุความผิดตาม พ.ร.บ.ธรุ กจิ นำ� เท่ียวฯ จ�ำนวน 0 ครงั้
17. เหตปุ ระทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย จ�ำนวน 17 คร้ัง
18. เหตปุ ระทษุ ร้ายตอ่ ทรพั ย์ จำ� นวน 3 ครง้ั
19. อ่ืนๆ จำ� นวน 15,645 ครั้ง
20. อบุ ตั ิเหตุ จ�ำนวน 19 ครัง้
ยกระดบั มาตรฐานดา้ นความปลอดภยั ในแหล่งทอ่ งเทย่ี ว
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกองบัญชาการต�ำรวจท่องเท่ียว ด�ำเนินโครงการยกระดับมาตรฐาน
ด้านความปลอดภัยในแหล่งท่องเท่ียว เพ่ือดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเท่ียว ทั้งในด้านชีวิตและทรัพย์สิน
สรา้ งความเชอ่ื มน่ั ในดา้ นการใหบ้ รกิ ารอำ� นวยความสะดวก และรกั ษาความปลอดภยั แกน่ กั ทอ่ งเทยี่ ว เปน็ การพฒั นามาตรฐาน
สรา้ งความม่นั ใจและคุณคา่ ใหก้ บั นักท่องเทยี่ ว และเกิดภาพลักษณ์ท่ดี กี บั ตำ� รวจท่องเทีย่ ว กระทรวงการท่องเทยี่ วและกฬี า
และส�ำนกั งานตำ� รวจแห่งชาติ ซ่งึ มกี ล่มุ เปา้ หมายเป็นนักท่องเทย่ี วทง้ั ชาวไทยและชาวต่างชาติ
ทั้งนี้ เพ่ือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของต�ำรวจท่องเท่ียว นักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยในชีวิต
และทรพั ยส์ นิ มากยงิ่ ขนึ้ ยกระดบั มาตรฐานดา้ นการบรกิ าร และการรกั ษาความปลอดภยั ใหแ้ กน่ กั ทอ่ งเทยี่ ว และปรบั ปรงุ แกไ้ ข
ภาพลักษณด์ า้ นลบ ในเรอ่ื งความปลอดภัยให้แกน่ ักท่องเทย่ี ว
กระทรวงการทอ่ งเท่ยี วและกฬี า 111
112 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 3
การพัฒนาบุคลากรดา้ นการท่องเทย่ี ว
และสนับสนุนการมสี ่วนร่วมของประชาชน
ในการพฒั นาการท่องเท่ยี ว
ดา้ นการพัฒนาศกั ยภาพบคุ ลากรดา้ นการท่องเทย่ี วทง้ั ระบบใหม้ ี
ขดี ความสามารถในการแขง่ ขัน สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
และเพียงพอตอ่ ความตอ้ งการของตลาด
“ทอ่ งเท่ยี วและกีฬาสีขาว”
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยส�ำนักงาน
รัฐมนตรีด�ำเนินโครงการสัมมนาเพ่ือขับเคล่ือนนโยบาย
การท่องเที่ยวและกีฬาสีขาวของกระทรวงการท่องเที่ยว
และกีฬา พ.ศ. 2564 ระหว่างวนั ที่ 11 - 13 มนี าคม 2564
ณ จังหวัดราชบุรี เพื่อให้ผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงาน
รัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าท่ีของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ
และองคก์ ารมหาชน ในสงั กดั กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า
มีความรู้ความเข้าใจเพ่ือขับเคลื่อนนโยบายการท่องเท่ียว
และกีฬาสีขาว เกิดการบูรณาการการด�ำเนินงานร่วมกัน
ในการสร้างตัวแบบ (Model) การขับเคล่ือนนโยบาย
การท่องเท่ียวและกีฬาสีขาวไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็น
รูปธรรม และได้มีโอกาสพบปะพูดคุยแลกเปล่ียนความรู้
ความคิดเห็นตลอดจนแลกเปล่ียนประสบการณ์ท่ีเป็น
ประโยชน์เพื่อเรียนรู้จากกันและกัน อันจะน�ำไปสู่
การสร้างและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือในการท�ำงาน
เชิงบูรณาการร่วมกันในระดับหน่วยงาน ซ่ึงจะส่งผลให้
การปฏบิ ตั งิ านของกระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี าเปน็ ไปดว้ ย
ความเรยี บรอ้ ย มปี ระสทิ ธภิ าพและเกดิ ประสทิ ธผิ ลมากยงิ่ ขน้ึ
มผี เู้ ข้ารว่ มจ�ำนวน 120 คน
“นักบรหิ ารยุทธศาสตรก์ ารท่องเทีย่ วและกีฬาระดบั สงู (นยส.)”
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยส�ำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำ� เนินการจัดโครงการฝึกอบรม
หลักสูตร “นักบริหารยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวและกีฬาระดับสูง (นยส.)” รุ่นท่ี 6 ภายใต้โครงการหลักสูตรการพัฒนา
นักบริหารการท่องเที่ยวและกีฬา ระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูงเพ่ือเสริมสร้างขีดความสามารถในการบริหารจัดการ
การทอ่ งเทย่ี วและกฬี า เพอ่ื ขบั เคลอื่ นองคก์ รสปู่ ระเทศไทย 4.0 เพอื่ สรา้ งนกั บรหิ ารยทุ ธศาสตรก์ ารทอ่ งเทย่ี วและกฬี าระดบั สงู
ท่ีมีวิสัยทัศน์ มีสมรรถนะที่ทันสมัยและมีขีดความสามารถสูง มีกรอบความคิด ทักษะ และศักยภาพที่เพียงพอเหมาะสม
ในการปฏบิ ตั งิ านตามบทบาทหนา้ ทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย มคี วามสามารถในการปรบั เปลย่ี นวธิ คี ดิ และปรบั ปรงุ วธิ กี ารปฏบิ ตั งิ าน
ให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ท่ีเปลี่ยนแปลงไป มีความเป็นมืออาชีพและมีคุณธรรมจริยธรรม ให้เป็นผู้น�ำท่ีมีความพร้อม
เชิงกลยุทธ์ และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงบริบทการจัดการภาครัฐและการเปล่ียนแปลงต่างๆ ท่ีอาจจะเกิดขึ้น ตลอดจน
พร้อมรองรับการปรับภารกิจบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบเม่ือเข้าสู่ต�ำแหน่งท่ีสูงข้ึนในอนาคต เพื่อเป็นกลไกส�ำคัญ
ในการขบั เคลอ่ื นและบรหิ ารยทุ ธศาสตรด์ า้ นการทอ่ งเทยี่ วและกฬี าของกระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี าใหไ้ ปสเู่ ปา้ หมายทกี่ ำ� หนด
ไว้ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ เกดิ ประสทิ ธผิ ลอยา่ งเป็นรปู ธรรม และเป็นไปตามหลกั ธรรมมาภิบาล ทง้ั น้ี มีผู้เข้ารบั การฝึกอบรม
จ�ำนวน 45 คน โดยได้ดำ� เนนิ การจดั การฝกึ อบรมในรปู แบบออนไลน์ โดยใชโ้ ปรแกรม Zoom Meeting ถ่ายทอดสัญญาณ
ณ ห้องสตดู โิ อ กรมการท่องเทยี่ ว อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ชั้น 3 ทิศตะวันตก ศนู ย์ราชการเฉลิมพระเกยี รติ 80 พรรษา
5 ธนั วาคม 2550 ถนนแจง้ วฒั นะ แขวงทงุ่ สองหอ้ ง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพมหานคร โดยแบง่ โครงสรา้ งหลกั สตู รออกเปน็ 3 ชว่ ง ดงั นี้
ชว่ งที่ 1 : การปฐมนเิ ทศ (ระยะเวลา 2 วนั ) ตงั้ แตว่ นั ที่ 7 - 8 กนั ยายน 2564
ชว่ งที่ 2 : การฝกึ อบรม (ระยะเวลา 8 วนั ) ตง้ั แตว่ นั ท่ี 9 - 11 และ 13 - 17 กนั ยายน 2564
ชว่ งที่ 3 : การปจั ฉมิ นเิ ทศ (ระยะเวลา 2 วนั ) ตง้ั แตว่ นั ที่ 22 - 23 กนั ยายน 2564
ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 กระทรวงการทอ่ งเทยี่ ว
และกีฬา โดยส�ำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเท่ียว
และกฬี า มกี ำ� หนดดำ� เนนิ “โครงการหลกั สตู รการพฒั นา
นกั บริหารการท่องเทยี่ วและกีฬาระดบั ต้น ระดบั กลาง
และระดับสูงเพ่ือเสริมสร้างขีดความสามารถในการ
บริหารจัดการการท่องเท่ียวและกีฬา เพ่ือขับเคลื่อน
องค์กรสู่ประเทศไทย 4.0” โดยการด�ำเนินโครงการ
ประกอบด้วย การพัฒนาหลักสูตรและจัดฝึกอบรม
เพอื่ พฒั นานกั บรหิ ารยทุ ธศาสตรก์ ารทอ่ งเทยี่ วและกฬี า
ระดับต้น จำ� นวน 1 หลักสตู ร คือหลักสูตร “นกั บรหิ าร
ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวและกีฬาระดับต้น (นยต.)”
ร่นุ ที่ 3
กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า 113
114 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
พัฒนาศักยภาพบุคลากร
กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า โดยส�ำนกั งานปลดั กระทรวงการทอ่ งเที่ยวและกฬี า ดำ� เนนิ การจัด “โครงการพัฒนา
ศักยภาพบุคลากรเพื่อขับเคล่ือนนโยบายการพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประจ�ำปี
งบประมาณ พ.ศ. 2564” เพื่อให้ผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าท่ีของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ
และองคก์ ารมหาชนในสงั กดั กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า ไดร้ ว่ มกนั กำ� หนดวสิ ยั ทศั นแ์ ละแนวทางการดำ� เนนิ งานเพอ่ื ขบั เคลอื่ น
นโยบายการพฒั นาการทอ่ งเทยี่ วและกฬี าใหไ้ ปสเู่ ปา้ หมายทก่ี ำ� หนด ตลอดจนได้เสริมสร้างความรู้ความสามารถ สมรรถนะ
และศกั ยภาพ เพอื่ ใหเ้ ปน็ ผทู้ ม่ี วี สิ ยั ทศั น์ สามารถปรบั กระบวนทศั นใ์ นการบรหิ ารจดั การใหท้ นั ตอ่ สภาวการณท์ เ่ี ปลยี่ นแปลงไป
พร้อมท่ีจะเป็นกลไกส�ำคัญในการขับเคล่ือนนโยบายด้านการท่องเที่ยวและกีฬา
ของกระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬาให้ไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และเกิดผลสมั ฤทธิต์ ามเป้าหมายท่กี �ำหนดไว้ ท้ังน้ี ไดด้ �ำเนินโครงการต้งั แตว่ ันที่
17 - 19 ธนั วาคม 2563 ณ โรงแรมโนโวเทล หัวหนิ ชะอำ� บชี รสี อร์ท แอนด์ สปา
อำ� เภอชะอำ� จังหวัดเพชรบุรี มีผ้เู ขา้ ร่วม จ�ำนวน 500 คน
ทั้งนี้ ผู้บรหิ าร ข้าราชการ พนักงานรัฐวสิ าหกิจ และเจ้าหน้าท่ี
ของส่วนราชการ รฐั วสิ าหกจิ และองคก์ ารมหาชนในสังกดั กระทรวง
การท่องเที่ยวและกีฬา ได้ร่วมกันก�ำหนดวิสัยทัศน์และแนวทาง
การด�ำเนินงานเพ่ือขับเคล่ือนนโยบายการพัฒนาการท่องเที่ยว
และกีฬาให้ไปสู่เป้าหมายที่ก�ำหนด ตลอดจนได้เสริมสร้าง
ความรู้ความสามารถ สมรรถนะ และศักยภาพ เพื่อให้เป็นผู้ที่
มีวิสัยทัศน์ สามารถปรับกระบวนทัศน์ในการบริหารจัดการ
ให้ทันต่อสภาวการณ์ท่ีเปล่ียนแปลงไป พร้อมท่ีจะเป็นกลไกส�ำคัญ
ในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการท่องเที่ยวและกีฬาของกระทรวง
การท่องเท่ียวและกีฬา ให้ไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และเกิดผลสัมฤทธ์ิตามเป้าหมายท่ีก�ำหนดไว้
“อาบป่าพนาบ�ำบดั ”
กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า โดยกรมการทอ่ งเทยี่ วดำ� เนนิ การกจิ กรรมพฒั นาสนิ คา้ และบรกิ ารวถิ ใี หมก่ ารทอ่ งเทยี่ ว
“อาบปา่ พนาบำ� บดั ”ภายใตโ้ ครงการสง่ เสรมิ และพฒั นาสนิ คา้ และบรกิ ารเพอื่ สรา้ งความหลากหลายดา้ นการทอ่ งเทยี่ ว เมอ่ื วนั ที่
16 กนั ยายน 2564 ณ ห้องประชุม 5 ชน้ั 2 กรมการท่องเทีย่ ว ในรูปแบบการอบรมผ่านสอื่ อิเล็กทรอนกิ ส์โดยมีวตั ถปุ ระสงค์
เพ่ือยกระดับส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความรู้ ความเข้าใจ ท้ังในด้านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว
ในการให้บรกิ ารแก่นกั ทอ่ งเที่ยว กลมุ่ ตา่ งๆ ทมี่ คี วามหลากหลาย โดยเนน้ การท่องเท่ยี วเชงิ สุขภาพ ท่ีพักลองสเตย์ และสปา
มีผเู้ ขา้ รว่ ม จ�ำนวน 30 คน
จากการด�ำเนินการกจิ กรรมพัฒนาสนิ ค้าและบรกิ ารวถิ ีใหมก่ ารท่องเท่ยี ว “อาบปา่ พนาบำ� บดั ” ส่งผลให้การท่องเทย่ี ว
ของประเทศไทยมกี ารยกระดบั และพฒั นาสนิ คา้ รวมถงึ บรกิ ารดา้ นการทอ่ งเทย่ี ว ตอบสนองนกั ทอ่ งเทย่ี วทม่ี คี วามหลากหลาย
เพิ่มมากขึ้น ชุมชนและผู้ประกอบธุรกิจน�ำเท่ียวสามารถน�ำความรู้ไปใช้ในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เป็นการเพ่ิม
ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ใหก้ บั ผปู้ ระกอบธรุ กจิ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ บคุ ลากรทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การทอ่ งเทย่ี วมคี วามตระหนกั
และใหค้ วามสำ� คญั กบั นกั ทอ่ งเทยี่ ว และการทอ่ งเทยี่ วทห่ี ลากหลาย การเชอื่ มโยงแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วของประเทศไทย ดำ� เนนิ การ
ทอ่ งเทย่ี วโดยค�ำนึงถึงสถานการณโ์ ลก เชน่ สภาวะโลกร้อน และเตรียมความพรอ้ มในเรอื่ งของวกิ ฤตการณ์โรคระบาดตา่ งๆ
การใชช้ วี ติ และทำ� กจิ กรรมในรปู แบบใหม่ โดยคำ� นงึ ถงึ ความปลอดภยั ตามมาตรการและนโยบายของรฐั บาล (New Normal)
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา 115
116 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
หลกั เกณฑ์และคูม่ ือของหน่วยงานฝึกอบรมและหน่วยงานประเมินในการรบั รอง
บคุ ลากรด้านการท่องเที่ยวตามข้อตกลงร่วมวา่ ด้วยการยอมรับคุณสมบัติบคุ ลากร
ด้านการท่องเทยี่ วอาเซียน
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกรมการท่องเที่ยว ด�ำเนินการโครงการศึกษาจัดท�ำหลักเกณฑ์และคู่มือ
ของหน่วยงานฝึกอบรมและหน่วยงานประเมินในการรับรองบุคลากรด้านการท่องเที่ยวตามข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับ
คุณสมบัติบุคลากรด้านการท่องเท่ียวอาเซียน เม่ือวันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน 2564 ณ วิทยาลัยดุสิตธานี ในรูปแบบ
การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์และแนวทางส�ำหรับการตรวจประเมินและรับรองหน่วยงาน
เป็นหน่วยฝึกอบรมและหน่วยประเมินบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียนส�ำหรับ 32 ต�ำแหน่งงานอย่างมีคุณภาพ
และสอดคลอ้ งกบั หลกั สตู รการทอ่ งเทย่ี วแหง่ อาเซยี น และมาตรฐานสมรรถนะขนั้ พน้ื ฐานของบคุ ลากรดา้ นการทอ่ งเทย่ี วอาเซยี น
มผี เู้ ข้ารว่ ม จ�ำนวน 162 คน
จากการด�ำเนินด�ำเนินการโครงการศึกษาจัดท�ำ
หลักเกณฑ์และคู่มือของหน่วยงานฝึกอบรมและหน่วยงาน
ป ร ะ เ มิ น ใ น ก า ร รั บ ร อ ง บุ ค ล า ก ร ด ้ า น ก า ร ท ่ อ ง เ ที่ ย ว
ตามข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากร
ดา้ นการทอ่ งเทยี่ วอาเซยี น สง่ ผลใหม้ หี ลกั เกณฑแ์ ละแนวทาง
ส�ำหรับการตรวจประเมินและรับรองหน่วยงานเป็น
หนว่ ยฝกึ อบรม และหนว่ ยประเมนิ บคุ ลากรดา้ นการทอ่ งเทย่ี ว
อาเซียนส�ำหรับ 32 ต�ำแหน่งงาน สอดคล้องกับหลักสูตร
การทอ่ งเทย่ี วแหง่ อาเซยี น และมาตรฐานสมรรถนะขนั้ พน้ื ฐาน
ของบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียน รวมทั้งมีเครือข่าย
การท�ำงานด้านการฝึกอบรมและการประเมินบุคลากร
ด้านการท่องเท่ียวอาเซียนของประเทศไทย และมีกลไก
ในการขับเคล่ือนการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว
อาเซยี นของประเทศไทยในฐานะหนว่ ยงานดา้ นการฝกึ อบรม
และประเมนิ บคุ ลากรดา้ นการทอ่ งเทย่ี วอาเซยี นเปน็ ทยี่ อมรบั
และมาตรฐานเดยี วกนั
พฒั นาเครอื ข่าย อพท.นอ้ ย ส�ำหรับปีงบประมาณ 2564 มาตรฐานการจัดการ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยองค์การบริหาร การท่องเท่ียวอย่างยั่งยืน (STMS) ได้รับการรับรอง
การพัฒนาพื้นท่ีพิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จาก GSTC ปรับขึ้นอยู่ในสถานะ GSTC Recognized
(องค์การมหาชน) ด�ำเนินโครงการส่งเสริมการให้บริการ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 เป็นผลจากการที่ อพท.
ดา้ นองคค์ วามร้เู พื่อการพัฒนาแหล่งท่องเทีย่ วอยา่ งยงั่ ยนื : ได้ปรับปรุงมาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างย่ังยืน
กิจกรรมพัฒนาเครือข่าย อพท.น้อย ระหว่างเดือนตุลาคม (STMS) ใหส้ อดคลอ้ งกบั หลกั เกณฑก์ ารทอ่ งเทยี่ วอยา่ งยงั่ ยนื
2563 - กันยายน 2564 เพ่ือส่งเสริมให้องค์กรจัดการ โลกส�ำหรบั แหลง่ ท่องเท่ยี ว (GSTC Destination Criteria)
ดา้ นการทอ่ งเทย่ี ว (DestinationManagementOrganization: เวอร์ชน่ั 2.0 เป็นผลส�ำเรจ็
DMO) มีการบริหารจัดการการท่องเท่ียวเป็นไปตาม ทง้ั นี้ องคก์ รจัดการดา้ นการทอ่ งเที่ยว สามารถบรหิ าร
มาตรฐานการจดั การการทอ่ งเทยี่ วอยา่ งยง่ั ยนื (Sustainable จัดการการท่องเที่ยวเป็นไปตามมาตรฐานการจัดการ
Tourism Management Standard: STMS) และมีการ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและแหล่งท่องเที่ยวมีการพัฒนา
พัฒนาอยา่ งยั่งยืนและตอ่ เนอื่ ง ตลอดจนสง่ เสริมใหเ้ กดิ การ อย่างยั่งยืน ภาคีที่เก่ียวข้องเกิดการรับรู้ และน�ำแนวทาง
แลกเปลี่ยนเรียนรู้และเสริมสร้างประสบการณ์การบริหาร ตามมาตรฐานการจดั การการทอ่ งเทย่ี วอยา่ งยงั่ ยนื ไปปฏบิ ตั ิ
จัดการท่องเท่ียวแบบมีมาตรฐานเพ่ือมุ่งสู่การท่องเท่ียว ในปงี บประมาณพ.ศ.2565 อพท.จะดำ� เนนิ การสง่ เสรมิ
อยา่ งย่ังยืนใหแ้ กอ่ งค์กรจดั การดา้ นการทอ่ งเทีย่ ว ให้องค์กรจัดการด้านการท่องเที่ยว (DMO) ในพื้นที่พิเศษ
โดยมีองค์กรเข้าร่วมด�ำเนินการตามมาตรฐาน STMS เพ่ือการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของ อพท. รวมถึงพื้นที่
จำ� นวน 8 องคก์ ร ในพน้ื ทเี่ ขตพฒั นาการทอ่ งเทย่ี วอารยธรรม เตรียมความพร้อมยกระดับเพ่ือประกาศเป็นพื้นที่พิเศษ
อสี านใต้ และพื้นท่ลี ่มุ น�้ำทะเลสาบสงขลา อพท. ได้ส่งเสริม เพอื่ การทอ่ งเทยี่ วอยา่ งยง่ั ยนื มกี ารบรหิ ารจดั การการทอ่ งเทยี่ ว
และฝึกอบรมแนวทางการปฏิบัติตามมาตรฐาน STMS ใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานการจดั การการทอ่ งเทยี่ วอยา่ งยงั่ ยนื
และประเมนิ ผลการดำ� เนนิ งานเมอื่ เทยี บกบั มาตรฐาน STMS (STMS) จ�ำนวนไมน่ อ้ ยกวา่ 7 องคก์ ร
ใหก้ บั องคก์ รทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการ นอกจากนี้ ไดม้ กี ารประเมนิ
ความต่อเน่ืองของการด�ำเนินงานตามมาตรฐาน STMS
ขององคก์ รทเ่ี คยผา่ นเกณฑม์ าตรฐานแลว้ เมอื่ ปี 2562 - 2563
อีกจำ� นวน 24 องค์กร
กระทรวงการท่องเที่ยวและกฬี า 117
118 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
ด้านการส่งเสรมิ ให้ประชาชนมสี ่วนร่วมในการบรหิ ารจดั การ
ด้านการท่องเทีย่ ว และไดร้ บั ประโยชนจ์ ากการทอ่ งเท่ียว
“เพราะท�ำท่องเทีย่ ว เก่งคนเดียวไมไ่ ด้”
ตอกย�้ำการเป็นองค์กรแห่งองค์ความรู้ด้านการจัดการการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืน และการบูรณาการความร่วมมือ
จากภาคเี ครอื ขา่ ย และภาคประชาชนในปี 2564 กระทรวงการท่องเท่ียวและกฬี า โดยองค์การบรหิ ารการพัฒนาพืน้ ทีพ่ เิ ศษ
เพ่ือการท่องเที่ยวอย่างย่ังยืน (องค์การมหาชน) ได้น�ำเสนอหลักสูตรการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนเพ่ือชุมชน
เชงิ บรู ณาการ (Certificate in CBT Integrated) ตอ่ สมาคมสง่ เสรมิ การทอ่ งเทยี่ วภมู ภิ าคเอเชยี และแปซฟิ กิ (Pacific Asia Travel
Association - PATA) และไดร้ บั “รางวลั PATA Gold Awards 2021” ในสาขา Human Capital Development Initiative
ซงึ่ นบั เปน็ ความสำ� เรจ็ ในการพฒั นาองคค์ วามรดู้ า้ นการพฒั นาการทอ่ งเทยี่ วโดยชมุ ชนของ อพท. เพอื่ กา้ วไปสใู่ นระดบั นานาชาติ
ส�ำหรับหลักสูตรการจัดการการท่องเท่ียวโดยชุมชนเพ่ือชุมชนเชิงบูรณาการ (Certificate in CBT Integrated)
เร่มิ ดำ� เนินการมาตั้งแตป่ ี 2559 จนถงึ ปจั จบุ ัน มผี ู้ผา่ นการอบรมหลักสตู รการจัดการการทอ่ งเท่ียวโดยชุมชนท้งั ส้ินจ�ำนวน
857 คน ครอบคลุม 7 กลมุ่ ไดแ้ ก่ ชมุ ชนทอ่ งเที่ยว หนว่ ยงานพเ่ี ลย้ี งพฒั นาชุมชนทั้งสว่ นกลางและทอ้ งถน่ิ สถาบนั การศึกษา
องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ผปู้ ระกอบการภาคเอกชน สอื่ มวลชน นกั ทอ่ งเทยี่ วและประชาชนทว่ั ไป โดยหลกั สตู ร Certificate
in CBT Integrated เกิดข้ึนจากการน�ำประสบการณ์การท�ำงานด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนทั้งในพื้นท่ีพิเศษ
มาถอดบทเรยี นภายใตแ้ นวคดิ “เพราะทำ� ทอ่ งเทยี่ ว เกง่ คนเดยี วไมไ่ ด”้ เพอื่ เปน็ เครอ่ื งมอื หลกั ในการพฒั นาศกั ยภาพบคุ ลากร
โดยใหอ้ งคค์ วามรดู้ า้ นการทอ่ งเทยี่ วโดยชมุ ชน และเสรมิ สรา้ งใหเ้ กดิ การบรู ณาการการทำ� งานรว่ มกนั ระหวา่ งชมุ ชน หนว่ ยงาน
ภาครัฐ และหน่วยงานภาคเอกชนด้านการท่องเท่ียว อย่างเป็นรูปธรรมและเกิดผลประโยชน์ที่แท้จริง สามารถน�ำไปขยาย
ผลการพัฒนาต่อได้ท่ัวประเทศ และยังก่อให้เกิดชุมชนท่องเท่ียวใหม่ที่เข้มแข็งด้วยการบริหารจัดการโดยคนในชุมชน
เกดิ แผนการพฒั นาการทอ่ งเทย่ี วชมุ ชนทม่ี หี นว่ ยงานตา่ งๆ ชว่ ยหนนุ เสรมิ ชมุ ชนทอ่ งเทย่ี วใหม้ ศี กั ยภาพดา้ นการตลาดทอ่ งเทย่ี ว
ลดปัญหาความเหลอื่ มลำ�้ และความขัดแย้งตามมาตรฐานและหลักการพฒั นาการท่องเทยี่ วอย่างยั่งยืน
ยทุ ธศาสตร์ที่ 4
การสรา้ งความสมดลุ ใหก้ บั นกั ทอ่ งเทย่ี วไทย
ผา่ นการตลาดเฉพาะกลมุ่ การสง่ เสรมิ วถิ ไี ทย
และการสรา้ งความเชอื่ ม่ัน
ของนักท่องเที่ยว
ดา้ นการเสรมิ สรา้ งภาพลกั ษณค์ ุณภาพและความปลอดภัย
ใหก้ บั ประเทศไทย
พัฒนาศกั ยภาพเครือข่ายความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว
กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า โดยสำ� นกั งานปลดั กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า ดำ� เนนิ การโครงการพฒั นาศกั ยภาพ
เครือข่ายความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว ช่วงเดือนกันยายน 2564 ณ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อส่งเสริม
ให้บุคลากรทางการท่องเท่ียวหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนตระหนักถึงความส�ำคัญของการให้ความปลอดภัย
และการชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั เบอื้ งตน้ ทถ่ี กู ตอ้ งและมมี าตรฐาน สง่ เสรมิ ความรู้ และแนวทางปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั วธิ กี ารชว่ ยเหลอื
นักท่องเที่ยวเบื้องต้นเมื่อประสบเหตุ บูรณาการสร้างเครือข่ายหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ในการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยว
ในการปฏบิ ัตงิ านร่วมกัน สรา้ งมาตรฐานความปลอดภยั ดา้ นการทอ่ งเท่ียว และเป็นการสรา้ งภาพลักษณ์ดา้ นความปลอดภยั
และเพ่มิ ความเช่อื มนั่ ใหก้ บั นักท่องเท่ยี วท้ังชาวไทยและชาวตา่ งชาต ิ
อาสาสมัครท่ีได้เข้ารับการฝึกอบรม มีความรู้เกี่ยวกับ
วิธีการในการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในด้านต่างๆ
เช่น การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวผู้ประสบอุบัติเหตุทางน้�ำ
ทางบก และภัยธรรมชาติ การท�ำงานภายใต้เครือข่าย
ร่วมกันระหว่างหน่วยงานท้ังภาครัฐและภาคเอกชน ท�ำให้
การประสานงานมีความรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์
และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีเครือข่ายอาสาสมัคร
มีความรู้ ทักษะ และเกิดความตระหนักรู้ในการสร้าง
ความปลอดภัยและการช่วยเหลือนักท่องเท่ียว การท�ำงาน
ท่ีประสานสอดคล้องกันท�ำให้การด�ำเนินงานเป็นไปอย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ แกไ้ ขปัญหาไดท้ นั ต่อเหตกุ ารณ์
กระทรวงการท่องเทยี่ วและกีฬา 119
120 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
สรา้ งความเชอ่ื ม่ันในชว่ งเทศกาล Thailand, I miss you
ส�ำคัญ กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยการท่องเที่ยว
ก ร ะ ท ร ว ง ก า ร ท ่ อ ง เ ท่ี ย ว แ ล ะ กี ฬ า แหง่ ประเทศไทย ด�ำเนินการโครงการการส่งเสริมการท่องเท่ียว
โดยกองบัญชาการตำ� รวจท่องเทีย่ ว ด�ำเนนิ กิจกรรม Experience Thainess ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระหว่างเดือน
ปล่อยแถวสร้างความเช่ือมั่นในช่วงเทศกาลส�ำคัญ ธนั วาคม 2563 - กันยายน 2564 โดยดำ� เนินกิจกรรม Thailand,
เชน่ เทศกาลปใี หม่ เทศกาลตรษุ จนี เทศกาลลอยกระทง I miss you ประชาสมั พนั ธภ์ าพลกั ษณแ์ ละจดั ทำ� เนอ้ื หา Content
ในปี พ.ศ. 2564 ณ บรเิ วณสถานทจ่ี ดั งานเทศกาล เส้นทางการท่องเท่ียวเผยแพร่บนช่องทางออนไลน์ Facebook
ทวั่ ประเทศ เพอื่ สรา้ งความเชอ่ื มน่ั ใหก้ บั นกั ทอ่ งเทย่ี ว Page เปน็ ภาษาตา่ งๆ จำ� นวน 5 ภาษา ได้แก่ องั กฤษ รสั เซีย
ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เดินทางท่องเท่ียว เยอรมนี ฝร่ังเศส ฮิบรู ส�ำหรับ Content ท่ีน�ำเสนอ
ในเทศกาลงานประเพณีต่างๆ ท�ำให้นักท่องเที่ยว เป็นการประชาสัมพันธ์การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว
มีความเช่ือม่ันด้านความปลอดภัยในการเดินทาง และมาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยต่างๆ ในจังหวัด
ท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ น�ำร่อง เช่น 5 Check-in Phuket Landmark, 3 Check-in
ด้านการป้องกันอาชญากรรม ท่ีส่งผลกระทบต่อ Samui Plus, Phuket Sandbox hotels, Samui Extra Plus
นกั ทอ่ งเทย่ี วและอตุ สาหกรรมการ ทอ่ งเทยี่ วโดยตรง Hotel เปน็ ต้น สามารถสร้างการรับร้จู ากการท�ำประชาสัมพันธ์
และเสรมิ สรา้ งภาพลกั ษณแ์ ละ สง่ เสรมิ ความเชอ่ื มนั่ และมยี อด Like/Share/Comment 9,227,421 ครง้ั (ขอ้ มลู ณ สนิ้ สดุ
ในการดแู ลและรกั ษาความปลอดภยั ใหก้ บั นกั ทอ่ งเทย่ี ว ไตรมาส 4 ปี 2564)
ทเ่ี ดินทางเข้ามาท่องเที่ยว การด�ำเนินงานโฆษณาประชาสัมพันธ์ รูปแบบ Digital
Advertising Target โดยใช้สอื่ Social Media สามารถใชว้ ธิ ีการ
Targeting - Audience เพ่ือคัดกรองกลุ่มเป้าหมายท่ีสนใจ
ใน content ตา่ งๆ ท่ี ททท. นำ� เสนอ โดยสามารถเขา้ ถงึ กลมุ่ เปา้ หมาย
ที่สนใจในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี เน่ืองจากมีการเร่ิมต้น
สร้างการรับรู้ในวงกว้างผ่านการใช้ Core Audience จากนั้น
ท�ำการคัดกรองผู้มีความสนใจ Content เพ่ือสร้างปฏิสัมพันธ์
ผ่านทางหน้า Web page ของโครงการและสามารถสร้าง
ความสัมพันธ์กบั ผทู้ สี่ นใจได้อย่างตอ่ เน่ือง
ประเทศไทย…สู่การท่องเทย่ี วทีม่ ีการปล่อย
คาร์บอนสทุ ธิเปน็ ศูนย์
ในปีงบประมาณ 2564 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
โดยองคก์ ารบรหิ ารการพฒั นาพน้ื ทพี่ เิ ศษเพอื่ การทอ่ งเทย่ี วอยา่ งยง่ั ยนื
(องค์การมหาชน) ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการคาร์บอน
บาลานซ์ (Carbon Balance Scheme) กับอีก 7 องค์กรพนั ธมติ ร
ประกอบดว้ ย การทอ่ งเทย่ี วแหง่ ประเทศไทย (ททท.) สำ� นกั งานสง่ เสรมิ การจดั ประชมุ และนทิ รรศการ (สสปน.) คณะกรรมการ
ส่งเสรมิ วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (สกสว.) หอการคา้ ไทยและสภาหอการค้าแหง่ ประเทศไทย สมาคมไทยท่องเท่ยี ว
เชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.)
และองคก์ ารบรหิ ารจดั การกา๊ ซเรอื นกระจก (องคก์ ารมหาชน) (อบก.) ขบั เคลอ่ื นประเทศไทยมงุ่ สกู่ ารทอ่ งเทย่ี วทม่ี กี ารปลอ่ ย
คารบ์ อนสทุ ธเิ ปน็ ศนู ยห์ รอื การทอ่ งเทย่ี วแบบคารบ์ อนนวิ ทรลั (Carbon Neutral Tourism) โดยมนี ายพพิ ฒั น์ รชั กจิ ประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
และส่งิ แวดลอ้ ม และศาสตราจารยพ์ เิ ศษ ดร.เอนก เหลา่ ธรรมทศั น์ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์
วิจัย และนวัตกรรม ร่วมลงนามบันทึกความตกลงความร่วมมือดังกล่าว เพ่ือเสริมสร้างศักยภาพด้านการจัดงานกิจกรรม
และจดั การทอ่ งเทยี่ วทม่ี กี ารปลอ่ ยคารบ์ อนสทุ ธเิ ปน็ ศนู ย์ ใหก้ บั หนว่ ยงานทงั้ ภาครฐั ภาคเอกชน ผปู้ ระกอบการ ชมุ ชนทอ่ งเทยี่ ว
นักเดินทาง นักท่องเที่ยว และแหล่งท่องเท่ียว น�ำไปสู่การบรรเทาผลกระทบทางลบต่อโลก จากการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมิอากาศและช่วยลดโลกร้อน โดยทุกฝ่ายตกลงที่จะร่วมกันผลักดันให้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมไมซ์
ในประเทศไทย ด�ำเนินธุรกิจท่ีสอดรับกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก ซึ่งให้ความส�ำคัญกับการลดผลกระทบ
ด้านการเปล่ียนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ อันจะช่วยสร้างโอกาสในการแข่งขันของอุตสาหกรรมการท่องเท่ียว
และอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยในตลาดสากล นำ� ไปสกู่ ารเติบโตอยา่ งยง่ั ยืน และขบั เคล่ือนประเทศไทยมุ่งสู่การท่องเท่ยี วที่มี
การปล่อยคารบ์ อนสทุ ธเิ ปน็ ศูนยห์ รือการทอ่ งเทีย่ วแบบคาร์บอนนวิ ทรัล (Carbon Neutral Tourism) ตอ่ ไป
กระทรวงการทอ่ งเที่ยวและกีฬา 121
122 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
ดา้ นการส่งเสริมการตลาดเฉพาะกล่มุ เพื่อดึงดดู การเดนิ ทาง
ทอ่ งเทย่ี ว และกระตนุ้ การใช้จ่ายของนกั ทอ่ งเท่ยี ว
เทศกาลภาพยนตรใ์ นต่างประเทศ
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยกรมการท่องเท่ียว ด�ำเนินโครงการจัด Road Show และจัดนิทรรศการร่วม
ในเทศกาลภาพยนตรใ์ นตา่ งประเทศ ระหวา่ งเดอื นตลุ าคม 2563 - เดอื นกนั ยายน 2564 ณ ตา่ งประเทศ และกรงุ เทพมหานคร
เพื่อประชาสัมพันธ์ความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นสถานที่ถ่ายท�ำภาพยนตร์ต่างประเทศท่ีมีคุณภาพในระดับสากล
และเน้นย�้ำถึงศักยภาพด้านอื่นๆ ของประเทศไทยในการรองรับคณะถ่ายท�ำจากต่างประเทศ อีกท้ังน�ำเสนอความสวยงาม
ความหลากหลายของสถานที่ถ่ายท�ำภาพยนตร์ในประเทศไทย รวมถึงประชาสัมพันธ์และสร้างความเช่ือม่ันในมาตรการ
สง่ เสริมการถ่ายท�ำภาพยนตรต์ า่ งประเทศในประเทศไทย (Incentive Measures) ในรปู แบบการคืนเงินรอ้ ยละ 15 - 20
(Cash Rebate) เข้ารว่ มจ�ำนวน 7 งาน ได้แก่ (1) งาน TIFFCOM Online 2020 (2) งาน American Film Market Online
2020 (3) งาน Focus Digital 2020 (4) งาน European Film Market 2021 (แบบ Online) (5) Hong Kong
International Film & TV Market (แบบ Online) (6) Cannes Film Festival 2021 (แบบ Online) และ (7) Shanghai
International Film Festival 2021 (แบบ Onsite และ Online)
จากการจัดกิจกรรมดังกล่าว สามารถท�ำให้ผู้สร้างภาพยนตร์ชาวต่างประเทศมีความรู้ความเข้าใจ ในกระบวนการ
และข้ันตอนการขออนุญาตการถ่ายท�ำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย รู้จักสถานท่ีถ่ายท�ำภาพยนตร์ในประเทศไทย
และบริการท่ีเกี่ยวข้องเพ่ิมมากขึ้น ตลอดจนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยท้ังด้านการรองรับ
คณะถ่ายท�ำภาพยนตร์จากต่างประเทศ และด้านการจัดการทางสาธารณสุข ท�ำให้มีผู้แสดงความสนใจจะเข้ามาถ่ายท�ำ
ภาพยนตรใ์ นประเทศไทย จ�ำนวน 53 ราย คาดวา่ จะนำ� รายไดเ้ ข้าประเทศประมาณ 300 - 960 ลา้ นบาท และยังทำ� ให้
ประเทศไทยเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากนานาประเทศว่าสามารถเป็นหนึ่งในแหล่งถ่ายท�ำภาพยนตร์ต่างประเทศ
ทม่ี ีคณุ ภาพเทียบเท่าในระดบั สากล และสง่ ผลใหเ้ กิดการสรา้ งงาน และกระจายรายไดใ้ หแ้ กป่ ระชาชนในทอ้ งถิ่นตา่ งๆ
ในปี 2565 (เดือนตุลาคม 2564 - เดือนกันยายน 2565) กรมการท่องเท่ียวมีแผนจะเข้าร่วมออกคูหา
นิทรรศการในงานเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศ ในรูปแบบออนไลน์ จ�ำนวน 7 งาน ตามที่ได้เข้าร่วม
ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 เพอ่ื ความตอ่ เนอื่ งในการรกั ษาตลาดกลมุ่ ลกู คา้ รายเดมิ และขยายกลมุ่ ลกู คา้ รายใหม่
เพื่อสร้างโอกาสในการเป็นจุดหมายปลายทางของคณะถ่ายท�ำภาพยนตร์ต่างประเทศ และสร้างความเชื่อม่ัน
ในศกั ยภาพและความพรอ้ มของประเทศไทยในการรองรบั คณะถา่ ยทำ� ตา่ งประเทศภายใตส้ ถานการณก์ ารแพรร่ ะบาด
ของโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
ส่งเสริมการสร้างภาพยนตร์ตา่ งประเทศ
ในราชอาณาจักร
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยกรมการท่องเที่ยว ด�ำเนินโครงการ
สง่ เสรมิ การสรา้ งภาพยนตรต์ า่ งประเทศในราชอาณาจกั ร (Incentive Measures)
ระหว่างเดือนตุลาคม 2563 - เดือนกันยายน 2564 ณ กรุงเทพมหานคร
เพอื่ สรา้ งแรงจงู ใจใหผ้ สู้ รา้ ง ผผู้ ลติ ภาพยนตรจ์ ากตา่ งประเทศรายใหญเ่ ขา้ มาถา่ ยทำ�
ภาพยนตร์ในประเทศไทยเพ่ิมข้ึน และกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์
การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) มผี เู้ ขา้ รว่ ม จำ� นวน
7 ราย ซึง่ กรมการท่องเทีย่ วได้ด�ำเนนิ การคืนเงนิ ใหผ้ สู้ ร้างภาพยนตร์ตา่ งประเทศ
จ�ำนวน 7 เร่ือง รวม 165.63 ล้านบาท ได้แก่ ภาพยนตร์จากสหรัฐอเมริกา
จ�ำนวน 2 เรื่อง สหราชอาณาจักรจ�ำนวน 1 เร่ือง สาธารณรัฐเกาหลี จ�ำนวน
1 เร่อื ง สาธารณรัฐอินเดยี จ�ำนวน 1 เรอื่ ง สาธารณรฐั ฝรัง่ เศส จ�ำนวน 1 เรือ่ ง
และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง จ�ำนวน 1 เร่ือง ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียน
ในระบบเศรษฐกจิ กวา่ 1,317.02 ลา้ นบาท เกดิ การจา้ งงานและกระจายรายได้
สผู่ ปู้ ระกอบการและบคุ ลากรในอตุ สาหกรรมภาพยนตร์ รวมถงึ ภาคการทอ่ งเทย่ี ว
และธุรกิจเกี่ยวเนื่องอ่ืนๆ เช่น โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และรถเช่า เป็นต้น
สง่ ผลใหค้ ณะถา่ ยทำ� ภาพยนตรต์ า่ งประเทศรายใหญเ่ กดิ ความเชอื่ มน่ั และตดั สนิ ใจ
เข้ามาถ่ายท�ำภาพยนตร์ในประเทศไทยมากข้ึน เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ
เศรษฐกจิ มกี ารใชจ้ า่ ยเงนิ และกระจายรายไดใ้ นพน้ื ทที่ เ่ี ปน็ สถานทถ่ี า่ ยทำ� เพมิ่ ขน้ึ
เช่น การเช่าสถานที่ถ่ายท�ำภาพยนตร์ การเช่าที่พักส�ำหรับทีมงาน เป็นต้น
ท�ำให้เกิดการจ้างงานบุคลากรในกลุ่มอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในรูปแบบต่างๆ
รวมถงึ มกี ารถา่ ยทอดความรใู้ หก้ บั บคุ ลากรรนุ่ ใหมใ่ นกลมุ่ อตุ สาหกรรมภาพยนตร์
ในปี พ.ศ. 2565 (เดอื นตุลาคม 2564 - เดอื นกันยายน 2565) กรมการทอ่ งเท่ียว
จะดำ� เนนิ การคนื เงนิ ให้ผูส้ ร้างภาพยนตร์ตา่ งประเทศ รวม 5 ราย คาดว่าจะสรา้ ง
รายไดเ้ ขา้ ประเทศ 1,110 ล้านบาท จากวงเงินจา่ ยคืนรวม 160.03 ลา้ นบาท
กระทรวงการทอ่ งเท่ยี วและกีฬา 123
124 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
Amazing ไทยแลนด์พรเี มียม
กระทรวงการท่องเทยี่ วและกีฬา โดยการทอ่ งเท่ียวแห่งประเทศไทย ด�ำเนนิ การโครงการ Amazing ไทยแลนดพ์ รเี มยี ม
ระหว่างวันท่ี 1 ตุลาคม 2563 - 31 ธันวาคม 2564 เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มศักยภาพเดินทางท่องเท่ียว
ในประเทศไทยและใช้จ่ายเพ่ิมมากขึ้น รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเท่ียวท่ีได้รับผลกระทบ
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ มีจ�ำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ 23,847 คน โดยร่วมกับ
สมาคมไทยบริการท่องเท่ียวจัด Agent Fam Trip และ Table Top Sales เพ่ือกระต้นุ การทอ่ งเที่ยวและสร้างความเชอ่ื
มั่นด้านการท่องเท่ียวในพื้นท่ีต่างๆ โดยมุ่งน�ำเสนอสินค้ามูลค่าสูง สินค้าสะท้อนวิถีไทยสร้างสรรค์มูลค่าเพิ่มสินค้า TTA
และแหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว Creative Tourism อาทิ Air Diamond Cafe โรงแรม Four Points by Sheraton ลอ่ งเรอื ชมแหลมพรหมเทพ
ชมุ ชนยา่ นเมอื งเกา่ ภเู กต็ และชมุ ชนทา่ มะโอ ประชาสมั พนั ธส์ นิ คา้ พรเี มยี มจงั หวดั พงั งา ภเู กต็ กระบ่ี และเกาะสมยุ ในรปู แบบ
คลปิ ประชาสัมพนั ธ์ โดยเผยแพรผ่ ่านส่ือโทรทัศน์รายการพอ่ ลูกสดุ ฤทธ์ิทางช่อง GMM 25 และส่ือออนไลนท์ าง YouTube
ชอ่ งพอ่ ลกู สดุ ฤทธ์ิ รว่ มกบั พนั ธมติ รจดั โปรโมชน่ั พเิ ศษ อาทิ โปรโมชน่ั โรงแรมสำ� หรบั ผถู้ อื บตั รเครดติ ธนาคารกรงุ เทพ รว่ มกบั
KLOOK น�ำเสนอโปรโมชั่นและสทิ ธพิ เิ ศษสำ� หรบั โรงแรม แหลง่ ท่องเท่ียว รายการน�ำเท่ยี ว และอาหาร อาทิ ทวั ร์ชมภูเก็ต
ดว้ ยเฮลคิ อปเตอร์ ทวั รเ์ กาะพพี ดี ว้ ยเรอื คาตามารนั และโปรโมชนั่ รา้ นอาหารทไ่ี ดร้ บั รางวลั Michelin และจดั กจิ กรรมทอ่ งเทย่ี ว
อาทิ จัดกิจกรรมลองเล่น Songkhla Beach Jam น�ำเสนอกิจกรรม Surfboard/ SUP/ Surf Skate/ Skim board/
Kiteboard จดั กจิ กรรม Khao Lak Surf Town นำ� เสนอกิจกรรมกีฬาเข้ากับแหลง่ ท่องเท่ยี วในชุมชนและอาหาร โดยเน้น
สินค้าที่ไดร้ บั รางวลั Michelin Guide SHA และ SHA+ และจัดกจิ กรรม Phuket Save The Sea Project น�ำเสนอกจิ กรรม
Workshop Trash and Art กิจกรรมเกบ็ ขยะแลกไอศกรีม และกิจกรรมด�ำนำ�้ กลางคืน
ส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มผู้มีรายได้สูงออกเดินทางท่องเท่ียวและใช้จ่ายในพ้ืนท่ี ทั้งนี้ สามารถสร้างการรับรู้จากส่ือ
ที่ ททท. น�ำเสนอได้ 123,712,104 ครั้ง มีผูซ้ ื้อสินค้า/บริการท่องเท่ยี ว 19,771 PAX มีจ�ำนวนผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรมในโครงการ
(คนนอกพน้ื ที)่ 4,076 คน และมีมลู ค่าการใช้จา่ ยเพ่ือซื้อสินค้ามูลคา่ สูง และสินค้าวิถีไทยมูลคา่ เพม่ิ จากกิจกรรมการตลาด
ตามทศิ ทางภูมิภาค 74,884,865 บาท
“คดิ ถึงชมุ ชน”
กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า โดยองคก์ ารบรหิ ารการพฒั นาพนื้ ทพี่ เิ ศษเพอ่ื การทอ่ งเทยี่ วอยา่ งยงั่ ยนื (องคก์ ารมหาชน)
จดั ท�ำ “โครงการคดิ ถึงชุมชน” เริ่มดำ� เนนิ โครงการต้ังแตเ่ ดอื นกมุ ภาพันธ์ - สงิ หาคม 2564 เพื่อตอ่ ยอดจากโครงการพัฒนา
ต้นแบบแหล่งท่องเท่ียวโดยชุมชนเชิงสร้างสรรค์ รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านสุขอนามัยโดยเฉพาะการป้องกันความเสี่ยง
จากการระบาดของโรค COVID-19 การด�ำเนินงานมุ่งเน้นต่อยอดให้ผู้ประกอบการและชุมชนที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพ
และมีความพรอ้ มรองรับนกั ทอ่ งเทีย่ วแล้วไดม้ โี อกาสในการทดลองรองรับกลุ่มนักท่องเท่ียวจรงิ ผา่ นกลไกการขายโปรแกรม
นำ� เทย่ี วทผี่ นวกสนิ คา้ และกจิ กรรมการทอ่ งเทยี่ วโดยชมุ ชนผา่ นบรษิ ทั นำ� เทยี่ ว เพอ่ื ใหเ้ กดิ การเชอ่ื มโยงชมุ ชนกบั ธรุ กจิ นำ� เทย่ี ว
อย่างเป็นระบบท่ีแท้จริง มีผู้ประกอบการน�ำเท่ียวท่ีสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ
จ�ำนวน 64 บริษัท โดยผ่านเง่ือนไขและได้รับสิทธ์ิ 44 บริษัท ก่อให้เกิดรายได้
ต่ออุตสาหกรรมท่องเท่ียวไทยไม่น้อยกว่า 1,400,000 บาท โดยค�ำนวณจาก
“ราคาขายโปรแกรมท่องเท่ียวจริงของผู้ประกอบการธุรกิจน�ำเที่ยว x จ�ำนวน
นกั ทอ่ งเทยี่ วทซ่ี อื้ โปรแกรมทอ่ งเทย่ี ว” ทงั้ นี้ ตวั เลขดงั กลา่ วยงั ไมร่ วมการใชจ้ า่ ยอน่ื ๆ
ตลอดเสน้ ทางทอ่ งเทีย่ วนอกชมุ ชน เกดิ การกระจายรายได้ลงสชู่ ุมชนดว้ ย
ดา้ นการส่งเสรมิ เอกลักษณ์ของประเทศไทย
และของแตล่ ะท้องถ่ิน
เมอื งไทย Amazing ย่ิงกวา่ เดิม
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยการท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย ด�ำเนินการโครงการเท่ียวเมืองไทย Amazing
ยง่ิ กวา่ เดมิ ระหวา่ งวนั ที่ 1 ตลุ าคม 2563 - 30 กนั ยายน 2564 เพอ่ื กระตนุ้ ความถใี่ นการเดนิ ทางภายในประเทศของนกั ทอ่ งเทย่ี ว
ชาวไทยเพิ่มมากขึ้น สร้างรายได้ทางการท่องเท่ียวภายในประเทศให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจหลังจากการชะลอตัว
การเดินทางจากสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 และเพ่ือให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่
และสามารถขยายฐานกลุ่มเปา้ หมายด้วยการเดินทางท่องเท่ียวเชื่อมโยงภายในภมู ภิ าคหรือระหวา่ งภูมภิ าคในรูปแบบตา่ งๆ
เพ่มิ มากขน้ึ โดยมีการจัดกจิ กรรม ดงั น้ี (1) กจิ กรรม/ร่วมด�ำเนินการกับพนั ธมติ ร/การสนบั สนุนกจิ กรรมเพอ่ื ส่งเสรมิ ตลาด
ท่องเที่ยวในรูปแบบ Road Trip เชื่อมโยงระหว่างกลุ่มจังหวัด (Cluster) ภายในหรือภายนอกภูมิภาคโดยได้ด�ำเนินการ
จัดกิจกรรมเสนอขายเส้นทางท่องเที่ยว ภายใต้ชื่อ Caravan Rally River Legacy @ Kanchanaburi ระหว่าง
กระทรวงการทอ่ งเที่ยวและกีฬา 125
126 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
วนั ท่ี 25 - 27 ธนั วาคม 2563 โดยมผี ซู้ อื้ สนิ คา้ และบรกิ าร จำ� นวนทง้ั สนิ้ 100 Pax โดย Pax ละ 5,050 บาท กอ่ ใหเ้ กดิ ความพงึ พอใจ
ในประสบการณท์ อ่ งเทยี่ วรอ้ ยละ 80 (2) กจิ กรรมสง่ สรมิ การขายผา่ นชอ่ งทางตลาดออนไลนแ์ ละชอ่ งทางการขายของพนั ธมติ ร
(เพม่ิ เตมิ ชว่ งวันท่ี 15 - 29 มิถุนายน 2564) ภายใต้กจิ กรรมหาโปรเที่ยวไทยอะเมสซงิ่ ยิ่งกวา่ เดิม ประจำ� ปี 2564 มีจ�ำนวน
ผู้ประกอบการทีเ่ สนอขายในชว่ งระยะเวลาดงั กลา่ ว จำ� นวน 35 ราย จาก 5 ภูมิภาค และมจี ำ� นวนผซู้ ้ือสินคา้ และบริการ
ท่เี ข้ารว่ มโครงการจาก 5 ภูมภิ าค โดยแบ่งเปน็ 2 ชอ่ งทางคอื ชอ่ งทางหลกั ของเวบ็ ไซต์ www.มหาโปรเท่ยี วไทยอะเมสซิง่
ย่ิงกว่าเดิม.com จ�ำนวน 6,394 Pax และช่องทางการซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการและพันธมิตรที่ร่วมรายการ จ�ำนวน
6,169 Pax รวมเปน็ จ�ำนวนท้งั ส้นิ 12,563 Pax และ (3) กจิ กรรมกระตุ้นตลาดทอ่ งเท่ยี วของ ททท. ส�ำนักงานในประเทศ
ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชือ้ ไวรัสโควดิ -19 ททท. สำ� นักงานในประเทศรว่ มดำ� เนินการจดั กจิ กรรมดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่
สำ� นักงานนครนายก ส�ำนกั งานลพบรุ ี สำ� นกั งานสรุ ินทร์ และสำ� นกั งานสุราษฎรธ์ านี โดยรว่ มกบั พันธมติ รท่องเท่ียวในพนื้ ท่ี
จัดกิจกรรมกระตนุ้ และสร้างกระแสการเดินทางในรปู แบบ Online หรอื รูปแบบ Onsite ให้แกก่ ล่มุ เปา้ หมาย (นกั ทอ่ งเที่ยว
ในพ้ืนท่ี) ระหว่างเดือนสิงหาคม - กันยายน 2564 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางท่องเท่ียวในประเทศและได้สัมผัส
เอกลกั ษณเ์ ฉพาะในทอ้ งถน่ิ เหน็ ความเปน็ ไทยในภาพลกั ษณ์ เดนิ ทางทอ่ งเทย่ี วในรปู แบบใหม่ ทง้ั น้ี สามารถสรา้ งการรบั รไู้ ด้
40,252,633 คร้งั มีผซู้ อ้ื สินคา้ /บรกิ าร 106,872 PAX และนกั ทอ่ งเทยี่ วต้องการท่องเทีย่ วด้วยความถเ่ี พ่มิ ข้นึ 2 ครงั้
คดิ ถึง...ชมุ ชนท่องเที่ยว Local & Culture
กระทรวงการทอ่ งเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย ดำ� เนนิ การโครงการคิดถงึ ...
ชุมชนท่องเทย่ี ว Local & Culture ระหวา่ งวนั ท่ี 1 ตุลาคม 2563 - 31 ธันวาคม 2564 เพ่อื เพิ่มรายได้
ให้กับชุมชน โดยการสร้างมูลค่าเพ่ิมจากการท่องเที่ยวชุมชนแบบสร้างสรรค์ รวมถึงสร้างการรับรู้
การท่องเท่ียวชุมชนในรูปแบบการท่องเที่ยวสร้างสรรค์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์
การท่องเทย่ี วชมุ ชนสร้างสรรค์ โดยมกี ารจดั กิจกรรม ดงั นี้
(1) จดั Agent Media FAM Trip หรอื กจิ กรรม Influencer Marketing อาทิ Blogger Celeb Youtuber
เพจท่องเที่ยวน�ำเสนอชุมชน แหล่งท่องเที่ยวสร้างสรรค์ในมุมมองท่ีใช้การท่องเที่ยว
บวกความคิดสร้างสรรค์แก้ปัญหาของพ้ืนที่ โดยน�ำพันธมิตรผู้ประกอบการน�ำเท่ียวส�ำรวจ
และทดสอบสนิ คา้ ทางการทอ่ งเทยี่ วชมุ ชน และดำ� เนนิ การถา่ ยทำ� คลปิ วดิ โี อแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วชมุ ชน
เพอ่ื นำ� ไปประชาสมั พนั ธส์ รา้ งการรบั รู้ มผี ปู้ ระกอบการเขา้ รว่ มทงั้ หมด 12 ราย และสามารถสรา้ ง
การรบั รู้สอื่ 40,500,279 คน-คร้งั
(2) จัดกิจกรรม “เย่ียมชมชุมชนและแลกเปลี่ยน ดา้ นการส่งเสริมการทอ่ งเที่ยว
วฒั นธรรม” โดยนำ� คณะนกั ทอ่ งเทยี่ ว จำ� นวน 20 คน ภายในประเทศและการทอ่ งเทยี่ ว
รว่ มเดนิ ทางตามเสน้ ทางทอ่ งเทยี่ ว อดุ รธาน-ี หนองคาย- ท่ีสมดลุ เชงิ พ้นื ท่ี และเวลา
เลย-ขอนแก่น อีกท้ังร่วมจัดกิจกรรมโครงการคิดถึง...
ชมุ ชนทอ่ งเทยี่ ว Local & Culture กบั บรษิ ทั เมอื งไทย “เมอื งรองตอ้ งลอง”
ครเี อทฟี แอนด์ ทวั ร์ จำ� กดั มจี ำ� นวนผซู้ อ้ื สนิ คา้ /บรกิ าร กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยการท่องเท่ียว
ทอ่ งเทยี่ ว 270 PAX แหง่ ประเทศไทย ไดด้ ำ� เนนิ การโครงการ “เมอื งรองตอ้ งลอง
ปี 2564” เน่ืองจากรัฐบาลมีนโยบายให้การท่องเที่ยว
(3) ผลติ สอ่ื โดยจา้ งออกแบบและจดั ทำ� ระบบแบบสอบถาม เป็นหนึ่งในเครื่องมือเสริมสร้างและยกระดับฐานราก
ออนไลน์วัดความพึงพอใจนักท่องเที่ยวเพ่ือจัดเก็บ ของประเทศไทยใหม้ คี วามเขม้ แขง็ ทงั้ ในมติ เิ ศรษฐกจิ สงั คม
ฐานขอ้ มลู นกั ทอ่ งเทย่ี วในการเดนิ ทางไปแหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว และสงิ่ แวดลอ้ ม โดยการกระจายรายไดส้ ชู่ มุ ชนและเมอื งรอง
ชุมชน 25 ชุมชน ภายใต้โครงการคิดถึง...ชุมชน 55 จังหวัดท่ัวประเทศ จึงได้ดําเนินการโครงการส่งเสริม
ท่องเทยี่ ว (Local & Culture) การท่องเท่ียวเมืองรอง เพ่ือประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้
ภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวตามอัตลักษณ์ของเมืองรอง
ส่งผลให้เกิดรายได้ทางการท่องเที่ยวจากการสร้าง แต่ละพ้ืนที่ รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเท่ียว
มูลค่าเพิ่มให้กับแหล่งท่องเท่ียวชุมชนด้วยรูปแบบ โดยกระจายตวั การเดนิ ทางทอ่ งเทย่ี วจากเมอื งหลกั สเู่ มอื งรอง
การทอ่ งเทยี่ วสรา้ งสรรค์ โดยชมุ ชนมรี ายไดเ้ พมิ่ มากขน้ึ โดยใช้เคร่ืองมือทางการตลาดในการสร้างความน่าสนใจ
และนักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยว และดึงดูดให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว โดยเน้นเร่ือง
ชุมชนท่ีแตกต่างในแต่ละพ้นื ที่ ทัง้ นีม้ มี ูลค่าการใช้จ่าย การดาํ เนนิ การในสว่ นการประชาสมั พนั ธข์ องแหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว
เพอื่ การทอ่ งเทยี่ วอยา่ งสรา้ งสรรคท์ ตี่ ามท่ี ททท. นำ� เสนอ ในพน้ื ทเ่ี มอื งรอง การดาํ เนนิ งานดา้ นการสง่ เสรมิ ตลาดกระตนุ้
4,703,740 บาท นกั ทอ่ งเทยี่ วพงึ พอใจในประสบการณ์ ใหค้ นเดนิ ทางทอ่ งเทยี่ ว เนน้ ปรบั รปู แบบไปสอู่ อนไลนม์ ากขนึ้
ทอ่ งเทย่ี ว ร้อยละ 60 รวมถงึ การนาํ เสนอโปรโมชนั่ ตา่ งๆและในสว่ นกจิ กรรมการเสนอ
ขายแพ็คเกจทัวร์ท่องเที่ยวร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร
อกี ทง้ั ไดม้ กี ารสง่ เสรมิ และใหค้ วามรตู้ อ่ หนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ ง
กับภาคธุรกิจท่องเที่ยวในการปรับตัวต่อรูปแบบและวิธี
กระทรวงการท่องเทีย่ วและกฬี า 127
128 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
การส่งเสริมการท่องเท่ยี วในวถิ ใี หม่ New Normal นอกจากนี้ ไดม้ กี ารเชิญชวน
ให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมสมัครโครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
เพอื่ นักท่องเท่ยี ว โดยได้ดำ� เนินการจดั กิจกรรมตา่ งๆ ไดแ้ ก่
(1) จัดท�ำและเผยแพร่สื่อโฆษณา/Content ท่ีสะท้อนถึงอัตลักษณ์
เมืองรอง เพอ่ื สร้างกระแสการเดินทางท่องเทยี่ วผ่านชอ่ งต่างๆ อาทิ สือ่ สงิ่ พิมพ์
วิทยุ โทรทัศน์ บิลบอร์ด ส่ือออนไลน์ เป็นต้น ท้ังน้ีจะมีการสอดแทรกแนวคิด
ตามมาตรฐาน SHA ด้วย โดยมีจ�ำนวนการรบั รู้สอ่ื 35,312,437 ครัง้
(2) ร่วมจัดกับพันธมิตรทั้งในและนอกอุตสาหกรรมท่องเท่ียวมอบสิทธิพิเศษ หรือโปรโมชั่นสิทธิพิเศษโดยเจาะกลุ่ม
ลกู คา้ ของพนั ธมติ ร เช่น บรษิ ทั พีทีจี เอน็ เนอย่ี จำ� กัด (มหาชน) หรอื ผใู้ ห้บรกิ ารน้�ำมนั PT จดั กิจกรรมสง่ เสรมิ การเดินทาง
ท่องเที่ยวเมืองรองโดยมอบสิทธิพิเศษส่วนลดการใช้บริการท่ีพัก หรือร้านอาหารในเมืองรองผ่านบัตรสมาชิก Max Card
โดยมีจ�ำนวนผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรมในโครงการ 101,242 คน
(3) รว่ มกบั พนั ธมติ รเวบ็ ไซต์ www.chillpainai.com นำ� เสนอ content ทอ่ งเทยี่ วเมอื งรอง จงั หวดั อา่ งทอง และจงั หวดั
พะเยา ในรูปแบบ VDO Clip และบทความผา่ นชอ่ งทางเฟซบกุ๊ เพจ chillpainai และน�ำเสนอส่วนลดทพ่ี กั ร้านอาหาร
และสินค้าของท่ีระลึกจากพ้ืนที่เมืองรองผ่านช่องทาง www.chillpainai.com/golocalthailand และร่วมกับเว็บไซต์
agoda.com จัดท�ำโปรโมชน่ั สว่ นลด 8% เมอื่ ทำ� การจองท่ีพักในเมืองรอง ตง้ั แต่เมษายน - กันยายน 2564 พรอ้ มทง้ั จดั งาน
ส่งเสริมการขายการตลาดรูปแบบเจรจาธุรกิจ (Table Top Sale) ตอนล้านนา@ภาคเหนือ กับล้านช้าง@ภาคอีสาน
และเสนอขายผา่ นชอ่ งทางออนไลน์ โดยจำ� นวนผูซ้ ้อื สนิ ค้า/บรกิ ารทอ่ งเทยี่ ว 10,640 Pax
Thailand Amazing Green Season
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย ด�ำเนินการโครงการ
Thailand Amazing Green Season ระหว่างเดือนพฤษภาคม - กันยายน 2564 เพ่ือส่งเสริม
และสนับสนนุ ใหน้ กั ท่องเที่ยวเดินทางมาทอ่ งเท่ยี วประเทศไทยในไตรมาสท่ี 3 - 4 ปีงบประมาณ 2564
ภายหลังจากท่ีรัฐบาลไทยอนุญาตให้เร่ิมมีการเดินทางเข้าประเทศจากการ Reopening Thailand
และ Phuket Sandbox ซ่ึงตรงกับช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยการด�ำเนินงาน
สง่ เสรมิ การทอ่ งเทย่ี วไทยในภมู ภิ าคยโุ รปสำ� หรบั Green Season เปน็ การทำ� งานเชงิ รกุ รว่ มกบั สำ� นกั งาน
ในตา่ งประเทศ เนน้ การนำ� เสนอการทอ่ งเทย่ี วในรปู แบบใหม่ New Normal ใหแ้ กน่ กั ทอ่ งเทยี่ วตา่ งชาติ
ท่ีคิดถึงประเทศไทย ซึ่งเน้นการน�ำเสนอภูเก็ตภาพลักษณ์ใหม่ท่ีสอดคล้องกับนโยบาย BCG
และ New Phuket Initiative ผ่านกิจกรรมท่คี ดั เลือกมาน�ำเสนอ ได้แก่ กิจกรรมลอ่ งเรอื ภายในจังหวดั
ภเู ก็ต กิจกรรมท่องเท่ยี วเชงิ สขุ ภาพ กจิ กรรมท่องเท่ียวเชิงอาหาร วฒั นธรรม และเมอื งเก่า
การด�ำเนินการดังกล่าว สามารถเพิ่มจ�ำนวนนักท่องเท่ียวจากตลาดเป้าหมายท่ีมีศักยภาพ
ใหต้ ดั สนิ ใจเดนิ ทางมายงั ประเทศไทยผา่ นชอ่ งทาง Phuket Sandbox เปน็ การกระตนุ้ การขายประเทศไทย
ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (Low Season) ร่วมกับพันธมิตรในตลาดเป้าหมาย และช่วยเหลือ
ผปู้ ระกอบการท้องถิ่นทีไ่ ดร้ บั ผลกระทบจากวกิ ฤตโควิด-19
ด้านการส่งเสรมิ ความรว่ มมือกับผูเ้ กีย่ วขอ้ งและการใชเ้ ทคโนโลยี
ในการส่งเสรมิ การตลาด
พัฒนาและปรบั ปรงุ เว็บไซต์
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยส�ำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา ด�ำเนินการโครงการพัฒนา
และปรบั ปรงุ เวบ็ ไซต์รวมถึงเน้ือหาขอ้ มูลของกระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 เพือ่ พฒั นา
และปรบั ปรงุ เวบ็ ไซตข์ องสำ� นกั งานปลดั กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า และเวบ็ ไซตข์ องสำ� นกั งานรฐั มนตรี และจดั ทำ� เนอื้ หา
ขอ้ มลู ของกระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี าใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานเวบ็ ไซตภ์ าครฐั รวมทง้ั การบรหิ ารสอื่ สงั คมออนไลน์ (Social
Media) และการวิเคราะห์กระแสสังคมออนไลน์ (Social Listening) ทีเ่ กย่ี วข้องกบั กระทรวงการท่องเทีย่ วและกฬี า เพอ่ื ใช้
เป็นขอ้ มลู สนบั สนนุ การกำ� หนดนโยบายด้านการทอ่ งเท่ียวและกฬี าของหน่วยงานตอ่ ไป
ส�ำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และส�ำนักงานรัฐมนตรีได้ใช้ช่องทางเว็บไซต์และส่ือสังคมออนไลน์
ในการประชาสมั พันธ์ นโยบายและข้อมูลขา่ วสารส�ำคัญตา่ งๆ ไปสู่ประชาชนในรปู แบบทห่ี ลากหลายและตรงกลุ่มเปา้ หมาย
ไดม้ ากยง่ิ ขนึ้ รวมทง้ั การใชง้ านเครอ่ื งมอื วเิ คราะหก์ ระแสสงั คมออนไลน์ (Social Listening Tools) สำ� หรบั ดคู วามเคลอ่ื นไหว
ตา่ งๆ บนโลกออนไลนท์ ีม่ ผี ลกระทบทงั้ ทเ่ี ป็นเชงิ บวกและเชิงลบกับกระทรวงการท่องเทยี่ วและกฬี า เพื่อการน�ำเสนอขอ้ มูล
ข่าวสารที่สรา้ งการรบั ร้แู ละสรา้ งภาพลักษณ์ที่ดีให้กับกระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า
กระทรวงการทอ่ งเท่ียวและกฬี า 129
130 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
สือ่ สารภาพลกั ษณ์ Thailand Trusted Destination
กระทรวงการทอ่ งเท่ยี วและกฬี า โดยการทอ่ งเที่ยวแหง่ ประเทศไทย ดำ� เนินการโครงการสอื่ สารภาพลกั ษณ์ Thailand
Trusted Destination ระหวา่ งเดอื นมกราคม - กนั ยายน 2564 โดยสร้างการรับรูภ้ าพลกั ษณ์ทดี่ ีของประเทศไทยในการ
เป็นแหล่งท่องเที่ยวท่ีมีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง และมีความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Trusted
Destination) ผา่ นการจดั ทำ� สอ่ื ประชาสมั พนั ธเ์ พอ่ื สรา้ งความเชอื่ มน่ั ในการเดนิ ทางทอ่ งเทย่ี วประเทศไทย (Raise Awareness)
Brand Amazing Thailand เผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ ให้ประเทศไทยเป็น Trusted Destination ในการเดินทาง
ของนักทอ่ งเทยี่ วท้ังชาวไทยและชาวต่างชาติให้เดนิ ทางมายังประเทศไทย
จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยว
และรายได้จากการทอ่ งเที่ยวของไทยในปี 2563 มจี ำ� นวนลดลงและยังส่งผลกระทบอย่างตอ่ เน่ืองในปี 2564 ต่อภาพลักษณ์
การท่องเท่ียวของประเทศไทย เนื่องจากการด�ำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการขาด
ความเช่ือม่ันด้านความปลอดภัยในการเดินทางระหว่างประเทศ การท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย จึงมีความจ�ำเป็นที่ต้อง
ยกระดับภาพลักษณ์มาตรฐานสินค้าและการบริการทางการท่องเที่ยว เพ่ิมแรงส่งให้คุณค่าของแหล่งท่องเท่ียวของไทย
เป็นที่ประจักษ์ยิ่งขึ้นต่อสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก สร้างความมั่นใจในการเดินทางและสร้างกระแสให้ประเทศไทยยังคง
เปน็ Top of mind ของนกั ทอ่ งเทย่ี วใหพ้ รอ้ มเดนิ ทางกลบั มาอกี ครง้ั โดยใชแ้ นวทางการประชาสมั พนั ธเ์ พอื่ สรา้ งภาพลกั ษณ์
เชงิ บวกและความเชอื่ มนั่ ตอ่ แบรนดป์ ระเทศไทย โดยมงุ่ เนน้ การสรา้ งการรบั รคู้ ณุ คา่ แบรนดป์ ระเทศไทยผา่ นการสรา้ งจดุ ยนื
ท่ีแตกต่างจากแบรนด์ประเทศอ่ืนและสร้างความเชื่อม่ัน รวมท้ังตอกย้�ำภาพลักษณ์ท่ีดีของประเทศไทย ผ่านการน�ำเสนอ
จุดแข็งของประเทศไทย 3 เร่ือง ได้แก่ (1) ความปลอดภัยทางระบบสาธารณสุขท่ีเข้มแข็ง (2) ความคุ้นเคยท่ีช่วยดึงดูด
นกั ทอ่ งเทย่ี วใหเ้ ดนิ ทางมาทอ่ งเทย่ี วซำ้� เชน่ อาหาร วฒั นธรรม เปน็ ตน้ และ (3) ความสวยงามของธรรมชาติ นำ� เสนอผา่ นชอ่ งทาง
ออนไลน์ อาทิ ช่องทาง E-newsletter, www.tatnews.org, Facebook Fan page Amazing Thailand เป็นต้น
เพอื่ สรา้ งความเชอื่ มนั่ ในการเดนิ ทางทอ่ งเทยี่ วไทยเผยแพรผ่ า่ นชอ่ งทางออนไลน์ (Thailand Trusted Destination) ซงึ่ จะสง่ ผล
ให้เกดิ ความม่ันใจในการเดนิ ทางทอ่ งเทีย่ วมายังประเทศไทยของนักท่องเท่ยี ว และส่งเสรมิ ภาพลกั ษณ์ทด่ี ใี ห้แก่ประเทศไทย
ในฐานะแหล่งท่องเทยี่ วยอดนิยม (Preferred Destination) ทน่ี กั ท่องเท่ียวนึกถึงและเลอื กเดินทางทอ่ งเทยี่ วอยา่ งยงั่ ยนื
สขุ โขใจ ออนไลน์ ออนใจ ออนทัวร์
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยองค์การบริหาร
การพฒั นาพนื้ ทพ่ี เิ ศษเพอื่ การทอ่ งเทย่ี วอยา่ งยง่ั ยนื (องคก์ าร
มหาชน) จัดกิจกรรมสุขโขใจ ออนไลน์ ออนใจ ออนทัวร์
(Sukhojai Local Virtual Tour) เพ่ือพัฒนาศักยภาพดา้ น
การทอ่ งเทยี่ วดา้ นการทอ่ งเทยี่ วเชงิ สรา้ งสรรคแ์ ละแหลง่ เรยี นรู้
ภมู ปิ ญั ญาและศลิ ปะพน้ื บา้ น สร้างความตระหนกั รกู้ ารเป็น
สมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ (UCCN) ด้วยการน�ำเอา
วัฒนธรรมและความสร้างสรรค์มาเป็นกลไกส�ำคัญในการพัฒนาเมืองอยางยั่งยืน ก่อให้เกิดการสร้างงาน สรางรายได
และความยงั่ ยนื ของชมุ ชน สอดคลอ งกบั เปา หมายการพฒั นาเมอื งอยา งยงั่ ยนื (Sustainable Development Goals: SDGs)
เปน็ ตน้ แบบการสง เสรมิ การทอ งเทยี่ ววถิ ใี หม (New Normal) และการทอ งเทยี่ วเชงิ สรา งสรรค ผลติ ภณั ฑช มุ ชนและของฝาก
ของทรี่ ะลกึ ทจ่ี ะชว่ ยกระตนุ เศรษฐกจิ ภายในจงั หวดั สโุ ขทยั ในชว่ งสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019
(COVID-19) มีผปู้ ระกอบการดา้ นการทอ่ งเท่ยี วเข้ารว่ มกจิ กรรมคร้ังนี้ 48 แหง่ รวมทั้งส้นิ 132 กิจกรรม รปู แบบน�ำเสนอ
กจิ กรรมการทอ่ งเทย่ี ว ผา่ นชอ่ งทาง Facebook live สามารถกอ่ ใหเ้ กดิ การกระจายรายได้ จำ� นวน 532,788 บาท มกี ารรบั ชมผา่ น
Facebook Live จำ� นวน 58,418 คร้งั และมกี ารกดแชร์ จ�ำนวน 2,229 คร้ัง
ส่งผลให้ผู้ประกอบการและชมุ ชนเกิดการเรียนรู้ เขา้ ใจ และได้รับประสบการณใ์ นการน�ำเทคโนโลยีสมยั ใหมไ่ ปปรบั ใช้
เพ่ือให้เกิดการรับรู้ด้วยการน�ำเสนอของดีในพื้นท่ีกิจกรรมการท่องเท่ียว การบริการของชุมชนและพ้ืนท่ีแหล่งท่องเที่ยว
เพ่ิมโอกาสให้ชุมชน ผู้ประกอบการได้น�ำเสนอของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์ชุมชน เกิดการสั่งซื้อในโอกาสต่อไป นักท่องเท่ียว
ทไ่ี ดร้ บั ชมเกดิ ความสนใจสถานท/่ี กจิ กรรมทอ่ งเทย่ี ว และหตั ถกรรมพนื้ บา้ นมากขน้ึ ทง้ั ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมและภายหลงั
การจดั กจิ กรรม
กระทรวงการท่องเทีย่ วและกีฬา 131
132 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
ยุทธศาสตรท์ ี่ 5
การบรู ณาการการบรหิ ารจัดการ
การท่องเทย่ี วและการส่งเสรมิ
ความรว่ มมือระหวา่ งประเทศ
ดา้ นการสง่ เสรมิ การกำ�กับดูแลการพฒั นาและบริหารจัดการ
การท่องเที่ยวอย่างมีประสทิ ธภิ าพ
คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลประจ�ำกระทรวงการท่องเทีย่ วและกีฬา
(ค.ต.ป.กก)
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยส�ำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ด�ำเนินกิจกรรมการสนับสนุน
การด�ำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลประจ�ำกระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา (ค.ต.ป.กก) ประจ�ำปี
งบประมาณ พ.ศ. 2564 ซงึ่ คณะกรรมการตรวจสอบและประเมนิ ผลภาคราชการ (ค.ต.ป.) ไดก้ ำ� หนดแนวทางการตรวจสอบ
และประเมินผลภาคราชการส�ำหรับ ค.ต.ป. ประจ�ำกระทรวง โดยมุ่งเน้นการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลในประเด็น
ที่สอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 - 2580) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2565) รวมถงึ ประเด็นทส่ี �ำคัญตามนโยบายของรัฐบาล เพ่อื เป็นการสนับสนุน
การด�ำเนินงานของรัฐบาล อันจะเป็นการขับเคลื่อนประเทศไทยให้บรรลุวิสัยทัศน์ “ประเทศมีความม่ันคง มั่งค่ัง ย่ังยืน
เปน็ ประเทศพฒั นาแลว้ ดว้ ยการพัฒนาตามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง”
คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลประจ�ำกระทรวงการทอ่ งเทีย่ วและกีฬา (ค.ต.ป.กก.) ไดก้ ำ� หนดการตรวจสอบ
และประเมินผล ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 ดงั น้ี
ประเด็นหลัก : การพฒั นาการทอ่ งเทยี่ วอย่างยง่ั ยืน
ซง่ึ ประกอบด้วยประเดน็ ย่อยท่ใี ช้ในการตรวจสอบและประเมนิ ผลฯ จ�ำนวน 3 ประเด็น ดงั นี้
ประเดน็ ย่อยท่ี 1 “ความปลอดภยั และการอำ� นวยความสะดวก”
ประเด็นย่อยที่ 2 “คณุ ภาพแหลง่ ทอ่ งเที่ยว”
ประเดน็ ย่อยที่ 3 “ระบบฐานขอ้ มูลเพอ่ื สง่ เสริมการท่องเท่ียวในปะเทศไทย”
ซ่ึงทั้ง 3 ประเด็น ค.ต.ป.กก. ได้มีวิธีการตรวจสอบและประเมินผลจากการเรียกเอกสาร หลักฐาน การด�ำเนินงาน
จากหน่วยงานท่เี ก่ยี วข้องเพ่ือวเิ คราะห์จุดแข็ง จุดออ่ น ปญั หาและอปุ สรรคในการด�ำเนนิ งาน และเชญิ หน่วยงานทเี่ กย่ี วข้อง
เข้าให้ข้อมูล เพ่ือสอบทานข้อเท็จจริงในการด�ำเนินงานตลอดจนลงพ้ืนท่ีตรวจสอบและประเมินผลในภูมิภาค/จังหวัด
สามารถจัดท�ำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อประกอบการพิจารณา
ในการบริหารราชการ ซงึ่ สง่ ผลตอ่ ยทุ ธศาสตรช์ าตแิ ละการบรรลคุ ่าเปา้ หมายในแผนแมบ่ ทภายใตย้ ทุ ธศาสตร์ชาติ ประเดน็
การทอ่ งเทยี่ วและศกั ยภาพการกีฬาตอ่ ไปได้
พฒั นาศกั ยภาพแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วในพนื้ ทพี่ เิ ศษเพอ่ื ยกระดบั แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วสรู่ ะดบั สากล
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพ่ือการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืน (องค์การ
มหาชน) จัดท�ำโครงการพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษเพื่อยกระดับแหล่งท่องเท่ียวสู่ระดับสากลช่วงเดือน
กันยายน 2564 เพื่อส่งเสริมให้ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนตระหนักรู้ในความส�ำคัญของการท่องเท่ียว ท่ีทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึง
โดยจงั หวดั บรุ รี มั ยไ์ ดด้ ำ� เนนิ การจดั ทำ� บนั ทกึ ขอ้ ตกลงความรว่ มมอื สง่ เสรมิ การทอ่ งเทยี่ ว และพฒั นาการทอ่ งเทยี่ วอยา่ งยงั่ ยนื
เพื่อคนทง้ั มวล (Tourism for All) พ้นื ที่เมอื งโบราณอู่ทองและพนื้ ทเ่ี ชอ่ื มโยงกบั พืน้ ที่ใกลเ้ คียง ซงึ่ จะร่วมบรู ณาการรว่ มกัน
ในเขตจงั หวดั สพุ รรณบรุ ี ไดส้ ำ� รวจและจดั ทำ� แผนปฏบิ ตั งิ านทสี่ ามารถบรู ณาการความรว่ มมอื กบั หนว่ ยงานตา่ งๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง
ในการส่งเสริมการท่องเท่ียวและพัฒนาการท่องเท่ียวเพื่อคนทั้งมวล ฝึกอบรมบุคลากรมาตรฐานตามแนวทางการส่งเสริม
การท่องเที่ยวและพัฒนาการท่องเที่ยวเพ่ือคนท้ังมวล เพ่ือรองรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และทุกสภาพร่างกาย โดยภาคี
จะร่วมกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และสร้างเครือข่ายการด�ำเนินงานในเขตพื้นที่ศึกษาความเหมาะสม เพ่ือเตรียมประกาศ
พื้นท่ีพิเศษเพื่อการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืนให้รับรู้รับทราบถึงแนวทางการเตรียมความพร้อมในการส่งเสริมการท่องเที่ยว
อย่างยัง่ ยนื ร่วมกับ อพท.
กระทรวงการทอ่ งเท่ียวและกฬี า 133
134 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
ดา้ นการปรบั ปรงุ กฎหมายขอ้ บงั คบั และมาตรฐานตา่ งๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
กับการท่องเทยี่ วและการบังคบั ใช้กฎหมายอยา่ งแท้จรงิ
การจัดเก็บและบรหิ ารจดั การคา่ ธรรมเนยี ม
กระทรวงการท่องเทย่ี วและกฬี า โดยส�ำนักงานปลดั กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า ดำ� เนินโครงการพัฒนาและจดั ท�ำ
ระบบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเท่ียวภายในประเทศของนักท่องเท่ียวชาวต่างชาติ เพื่อให้บรรลุตามเจตนารมณ์
ของกฎหมายและวตั ถปุ ระสงคข์ องกองทนุ เพอ่ื สง่ เสรมิ การทอ่ งเทยี่ วไทย จงึ ไดน้ ำ� ผลการศกึ ษาดา้ นความเหมาะสมของแนวทาง
การจดั เกบ็ และบรหิ ารจดั การคา่ ธรรมเนยี มทเ่ี รยี กเกบ็ จากนกั ทอ่ งเทยี่ วชาวตา่ งชาติ ทง้ั อตั ราคา่ ธรรมเนยี มทเ่ี หมาะสม ระบบ/
รูปแบบในการจัดเก็บค่าธรรมเนียม แนวทางการจัดหาประกันภัยให้กับนักท่องเท่ียว และการบริหารจัดการค่าธรรมเนียม
ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยการน�ำผลการศึกษาดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์
และความเป็นไปได้ในปัจจุบัน นอกจากน้ี ยังมุ่งหวังใช้ประโยชน์จากข้อมูลท่ีได้รับจากการช�ำระค่าธรรมเนียมมาวิเคราะห์
เพื่อน�ำไปใช้ประกอบการตัดสินใจในการวางแผนหรือก�ำหนดนโยบายการพัฒนาการท่องเท่ียวของประเทศไทยต่อไป
โดยดำ� เนนิ โครงการระหวา่ งวนั ที่ 27 กนั ยายน 2564 - 24 กรกฎาคม 2565 เมอ่ื สน้ิ สดุ ระยะเวลาดำ� เนนิ โครงการดงั กลา่ วแลว้
กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า จะมรี ะบบการจดั เกบ็ คา่ ธรรมเนยี มการทอ่ งเทย่ี วภายในประเทศของนกั ทอ่ งเทย่ี วชาวตา่ งชาติ
และท�ำให้การท่องเท่ียวภายในประเทศไทยได้รับความเช่ือม่ันจากชาวต่างชาติเพ่ิมมากขึ้น ท้ังน้ียังสามารถน�ำงบประมาณ
จากคา่ ธรรมเนยี มดงั กลา่ วไปใชใ้ นการพฒั นาดา้ นการทอ่ งเทยี่ ว ซง่ึ เปน็ การลดภาระดา้ นงบประมาณของประเทศไทยอกี ดว้ ย
คนื หลักประกันการประกอบการธรุ กิจ
น�ำเที่ยว
กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า โดยกรมการทอ่ งเทยี่ ว
ด�ำเนินการคืนหลักประกันการประกอบการธุรกิจน�ำเที่ยว
ที่วางไว้เกินกว่าจ�ำนวนท่ีก�ำหนดในกฎกระทรวงก�ำหนด
จำ� นวนเงนิ หลกั ประกนั การประกอบธรุ กจิ นำ� เทยี่ ว พ.ศ. 2563
ตั้งแต่วันท่ี 7 พฤษภาคม 2563 เพ่ือเป็นการช่วยเหลือ
ผู้ประกอบธุรกิจน�ำเที่ยวในระยะเร่งด่วน ให้มีสภาพคล่อง
ลดภาระของผปู้ ระกอบการใหส้ ามารถมเี งนิ สดมาหมนุ เวยี น
หล่อเล้ียงธุรกิจ และพนักงานในความดูแล ในภาวะวิกฤต
อั น เ นื่ อ ง ม า จ า ก ส ถ า น ก า ร ณ ์ ก า ร แ พ ร ่ ร ะ บ า ด ข อ ง
โรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งมีผ้ขู อรับคนื
หลักประกันการประกอบการธุรกิจน�ำเท่ียวแล้วจ�ำนวน
6,652 คน เป็นเงินจ�ำนวน 498,617,000 บาท (ข้อมลู ณ
วนั ท่ี 30 พฤศจกิ ายน 2564)
ด้านการสง่ เสรมิ ความรว่ มมือระหว่างประเทศ
เพอื่ การพฒั นาการทอ่ งเทย่ี ว
IMT-GT การประเมนิ แลว้ จะได้รับตรา “IMT-GT Safety Stamp”
กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า โดยกรมการทอ่ งเทยี่ ว เพ่อื เปน็ การรับรอง โดยจะด�ำเนินการหลังจากทแ่ี นวปฏบิ ตั ิ
ด�ำเนินการจัดท�ำแนวปฏิบัติร่วมกันส�ำหรับแหล่งท่องเท่ียว ดงั กล่าวเสร็จสมบรู ณแ์ ลว้
และธรุ กิจการท่องเท่ียวของ IMT-GT (IMT-GT Common ออกแบบเส้นทางท่องเทีย่ ว
Guidelines for Tourist Attractions and Tourism กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า โดยกรมการทอ่ งเทยี่ ว
Businesses) เพ่ือส่งเสรมิ ให้ IMT-GT เป็นแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว ดำ� เนนิ การโครงการกจิ กรรมการออกแบบเสน้ ทางทอ่ งเทย่ี ว
ทมี่ คี วามปลอดภยั ชว่ ยสรา้ งความเชอ่ื มนั่ ใหแ้ กน่ กั ทอ่ งเทยี่ ว ของประเทศไทยและประเทศเพอ่ื นบา้ นภายใตโ้ ครงการสง่ เสรมิ
และสนับสนุนการฟื้นตัวของการท่องเท่ียวหลังจาก และพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อสร้างความหลากหลาย
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ด้านการท่องเที่ยว ระหว่างวันท่ี 22 มิถุนายน 2564 -
2019 (COVID-19) ซ่ึงประกอบด้วย (1) โรงแรม ที่พัก 17 มกราคม 2565 ณ พนื้ ทภี่ าคใตข้ องประเทศไทย ประเทศ
สถานที่จัดประชุม (2) ร้านอาหาร (3) แหล่งท่องเที่ยว มาเลเซีย สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และสาธารณรัฐสิงคโปร์
และ (4) ตวั แทนน�ำเท่ียว โดยแบ่งเปน็ คมู่ อื สำ� หรบั เจา้ ของ เพ่ือส�ำรวจเส้นทางการท่องเที่ยวของจังหวัด ทางภาคใต้
สถานประกอบการและผใู้ หบ้ รกิ าร โดยอา้ งองิ จากมาตรฐาน ของประเทศไทย เพอ่ื เชอ่ื มโยงประเทศมาเลเซยี สาธารณรฐั
ความปลอดภยั ดา้ นสขุ อนามยั (Amazing Thailand Safety อินโดนีเซีย และสาธารณรัฐสงิ คโปร์ สง่ เสริมการทอ่ งเทย่ี ว
& Health Administration: SHA) ของการท่องเที่ยว บริเวณภาคใต้ของประเทศไทย วัฒนธรรมทางตอนใต้
แห่งประเทศไทย รวมทั้งมาตรฐานจากคู่มือการปฏิบัติ ท่ีเชื่อมโยงกับประเทศมาเลเซีย สาธารณรัฐอินโดนีเซีย
ตามมาตรการผอ่ นปรนกจิ การและกจิ กรรมดา้ นการทอ่ งเทย่ี ว และสาธารณรฐั สงิ คโปร์เชน่ วฒั นธรรมมลายูและวฒั นธรรมอน่ื ๆ
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ท่ีเกี่ยวข้อง และกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดรายได้ในบริเวณ
2019 (COVID-19) แนวปฏิบตั ใิ นการเริ่มต้นการท่องเทย่ี ว เส้นทางการท่องเท่ียวเช่ือมโยง และขยายวันพักค้างคืน
ใหม่ระดับโลก ขององค์การการท่องเท่ียวโลก (United ของนกั ท่องเที่ยว
Nation World Tourism Organization: UNWTO) จากการด�ำเนินโครงการดังกล่าว ท�ำให้กระทรวง
และมาตรฐานจากสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก การท่องเท่ียวและกีฬามีคู่มือเส้นทางท่องเท่ียวเชื่อมโยง
(World Travel & Tourism Council: WTTC) โดยธนาคาร ซึ่งประกอบด้วยเส้นทางท่องเที่ยวแนะน�ำ วิธีการเดินทาง
พฒั นาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) จะชว่ ย โดยการขบั รถเทยี่ วเอง กฎระเบยี บการผา่ นแดน กฎจราจร
สนับสนุนต่อยอดการด�ำเนินโครงการ โดยจะจัดท�ำ ของแต่ละประเทศ ร้านอาหาร ทีพ่ ักแนะนำ� และสงิ่ อ�ำนวย
เป็นรูปแบบเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ในรูปแบบเดียวกับ ความสะดวกสำ� หรับนักทอ่ งเที่ยวตลอดเสน้ ทาง ฉบับภาษา
มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing อังกฤษ นโยบายและแนวปฏิบัติส�ำหรับการขับรถเท่ียวเอง
Thailand Safety and Health Administration: SHA) ในประเทศสมาชิกอาเซียน (ประเทศไทย ประเทศมาเลเซีย
ของการท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย ซึ่งธุรกิจการท่องเที่ยว สาธารณรฐั อินโดนีเซยี สาธารณรฐั สงิ คโปร)์
และแหล่งท่องเท่ียวสามารถน�ำไปประเมินตนเอง เมื่อผ่าน
กระทรวงการทอ่ งเทีย่ วและกีฬา 135
136 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
ภาพลกั ษณด์ า้ นการทอ่ งเทยี่ วอยา่ งยง่ั ยนื อาเซียน (ASEAN) อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้�ำโขง (GMS)
กับภาคีเครอื ข่ายระดับชาติและนานาชาติ การประชุมว่าด้วยการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์และมาตรการ
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยองค์การบริหาร สร้างความไว้เน้ือเช่ือใจระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย
การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างย่ังยืน (CICA) สมาคมการท่องเท่ียวอาเซียน (ASEANTA)
(องค์การมหาชน) ด�ำเนินโครงการเผยแพร่ภาพลักษณ์ และสมาคมส่งเสริมการท่องเท่ียวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ด้านการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืนกับภาคีเครือข่ายระดับชาติ (PATA) และ (2) การจดั อบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร เรอื่ งการประเมนิ
และนานาชาติ เพ่ือสร้างการรับรู้เร่ืองการท�ำงานด้าน การจดั การนกั ทอ่ งเทย่ี วสำ� หรบั แหลง่ มรดกโลกและพนื้ ทพ่ี เิ ศษ
การท่องเท่ียวอย่างย่ังยืนของประเทศไทยให้เกิดการรับรู้ เพื่อการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืนของประเทศไทยผ่านระบบ
ในเวทสี ากล ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) การเขา้ รว่ มประชมุ ตามพนั ธกรณี ออนไลน์ เพื่อส่งเสริมให้ผู้มีส่วนเก่ียวข้องในการบริหาร
ระหว่างประเทศ และตามที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวง จัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน แหล่งท่องเที่ยวทั่วไป
การท่องเท่ียวและกีฬา ตลอดจนภาคีเครือข่ายท่ีเกี่ยวข้อง อทุ ยานแหง่ ชาตแิ ละแหลง่ มรดกโลก ไดม้ โี อกาสแลกเปลย่ี น
ภายใตก้ รอบความรว่ มมอื ระดบั ทวภิ าคี พหภุ าคแี ละองคก์ าร เรียนรู้ และประยุกต์ใช้เคร่ืองมือการประเมินการจัดการ
ระหว่างประเทศ เพื่อน�ำเสนอบทบาทภารกิจตลอดจน นักท่องเที่ยวส�ำหรับแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งมรดกโลก
ยกระดับภาพลักษณ์การเป็นองค์กรด้านการท่องเท่ียว การอบรมดงั กลา่ วจดั ขนึ้ ในเดอื นมกราคม 2564 มผี เู้ ขา้ รว่ ม
อย่างยั่งยืนของประเทศไทยในเวทีนานาชาติ โดยตลอด จ�ำนวน 60 คน นอกจากน้ี อพท. และองคการยูเนสโก
ปีงบประมาณ 2564 อพท. ได้เข้าร่วมการประชุมในเวที สํานักงานกรุงเทพมหานคร ยังได้รับเกียรติเปนเจาภาพ
นานาชาตริ วม 11 ครงั้ ในกรอบความรว่ มมอื เอเปค (APEC) จัดอบรมเชิงปฏิบัติการระดับอาเซียน “การประเมินผล
การบรหิ ารจดั การนกั ทอ งเทย่ี วในแหลง มรดกโลกเพอ่ื สง เสรมิ
การทองเท่ียวอยางยั่งยืน”(Promoting Sustainable
Tourism in ASEAN World Heritage Sites with Visitor
Management Assessment) การอบรมน้ีจะมีขึ้นในช่วง
ต้นปี 2565 โดยได้รับงบประมาณจากกองทุนอาเซียน
(ASEAN NTOs Fund)
สว่ นท่ี 7
ผลการด�ำ เนนิ งาน
ตามแผนพัฒนาการกฬี า
แห่งชาตทิ ี่ส�ำ คญั
138 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 1
การส่งเสรมิ ให้เกดิ ความรู้
และความตระหนกั
ดา้ นการออกกำ�ลังกาย
และการกีฬาขนั้ พนื้ ฐาน
ยุทธศาสตร์ที่ 2 ยุทธศาสตร์ท่ี 3
การส่งเสรมิ ให้มวลชนมกี ารออกกำ�ลังกาย การพัฒนากีฬาเพ่ือความเปน็ เลิศ
และมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการกฬี า และต่อยอดเพอื่ ความสำ�เร็จในระดบั อาชพี
ยุทธศาสตรท์ ่ี 4
การพฒั นาอตุ สาหกรรมการกฬี า
เพอ่ื เปน็ สว่ นสำ�คญั
ในการสร้างมลู คา่ เพิม่
ทางเศรษฐกจิ
ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 5
การพฒั นาองค์ความรแู้ ละนวตั กรรมทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับการกฬี า
ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 1
การส่งเสริมใหเ้ กิดความรู้
และความตระหนกั ดา้ นการออกก�ำ ลงั กาย
และการกีฬาขัน้ พ้นื ฐาน
ดา้ นการเร่งสรา้ งและพัฒนาพลศึกษา
และสขุ ศกึ ษาในสถานศกึ ษาท่วั ประเทศ
รอ้ นน้ีมกี ฬี าสรา้ งแรงบันดาลใจ ในส่วนภูมิภาคได้ใน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยกรมพลศึกษา จงั หวดั ตราด จงั หวัดสระแก้ว จงั หวัดนครราชสีมา จงั หวดั
ด�ำเนินการจัดการแข่งขันทักษะกีฬาข้ันพื้นฐานข้ึนเป็น ชุมพร จังหวัดนครพนม จังหวัดหนองบัวล�ำภู และจังหวัด
ประจ�ำทุกปี ในช่วงวันหยุดเรียนและวันปิดภาคเรียน ยโสธร โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมในส่วนภูมิภาค รวมท้ังส้ิน
เพอ่ื ปลกู ฝงั ใหเ้ ดก็ และเยาวชนไดใ้ ชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ 960 คน จากการดำ� เนินการดงั กลา่ วท�ำให้เดก็ และเยาวชน
ในช่วงวันหยุดเรียน และปิดภาคเรียนด้วยการฝึกอบรม เกิดการพัฒนาทักษะความสามารถและประสบการณ์
ทกั ษะกฬี า เสรมิ สรา้ งประสบการณแ์ ละความสามารถในเชงิ ในการเลน่ กฬี า เกดิ การพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ
กีฬาตามที่ตนเองถนัดและมีความสนใจ เด็กและเยาวชน สังคม และสติปัญญา อีกทั้งยังสามารถพัฒนาต่อยอด
ไดพ้ ฒั นาทกั ษะความสามารถและประสบการณ์ ในการเลน่ กฬี า เพอ่ื ความเปน็ เลศิ ในกฬี าทถ่ี นดั ซง่ึ จะนำ� ไปสกู่ ารแขง่ ขนั กฬี า
มรี ะเบยี บวนิ ยั มนี ำ้� ใจนกั กฬี า รแู้ พ้ รชู้ นะ รจู้ กั การใหอ้ ภยั ในระดับสูงต่อไป และนอกจากน้ียังสามารถลดภาระ
เคารพในกฎกติกา และสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ ค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในการน�ำบุตรหลานไปสมัครเรียน
อันเป็นพ้ืนฐานที่ส�ำคัญ มีการพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ ในส่วนของภาคเอกชน ลดปัญหาการม่ัวสุมส่ิงเสพติด
จิตใจ สังคม และสติปัญญาที่เหมาะสมกับวัย เพ่ือให้เกิด อบายมุข และปัญหาติดเกม รวมท้ังส่งเสริมให้มีการใช้
ประโยชน์สูงสุดกับเด็กและเยาวชนท่ีเข้าร่วมฝึกทักษะกีฬา อาคารกฬี า สนามกฬี าไดอ้ ยา่ งเตม็ ทแ่ี ละเกดิ ประโยชนส์ งู สดุ
ข้ันพ้ืนฐาน โดยด�ำเนินกิจกรรมภายใต้ชื่อ “ร้อนนี้มีกีฬา
สร้างแรงบันดาลใจ” ระหว่างเดือนสิงหาคม - กันยายน
2564 แบ่งการด�ำเนินงานเป็นส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
โดยในส่วนกลาง มีเด็ก เยาวชน สมัครเข้าร่วมกิจกรรม
จ�ำนวน 1,316 คน แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงประกาศยกเลิก
กิจกรรมในสว่ นกลาง แต่ยงั สามารถด�ำเนนิ การจดั กิจกรรม
กระทรวงการท่องเทยี่ วและกฬี า 139
140 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
เด็กไทยวา่ ยน�ำ้ ได้ ฟุตบอลเยาวชนและประชาชน
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยกรมพลศึกษา
ให้ความส�ำคัญเล็งเห็นเหตุผลความจ�ำเป็นของการเล่นกีฬา ได้ตระหนักถึงคุณประโยชน์ของการออกก�ำลังกาย
วา่ ยนำ้� ไดม้ นี โยบายใหก้ ารสนบั สนนุ และบรรจไุ วเ้ ปน็ สว่ นหนง่ึ และการพัฒนาบุคลากรด้านการกีฬาฟุตบอล และเป็น
ของการศกึ ษาในโรงเรยี น นบั วา่ เปน็ กฬี าทไ่ี ด้รับความสนใจ การเตรยี มความพรอ้ มของโครงสรา้ งพนื้ ฐานนกั กฬี าใหม้ ศี กั ยภาพ
จากโรงเรยี นทง้ั ภาครฐั บาลและเอกชน ในอนั ทจี่ ะใหน้ กั เรยี น ในการแขง่ ขนั ระดบั นานาชาติ เพอื่ เปน็ การสง่ เสรมิ การเลน่ กฬี า
ในสังกัดได้มีโอกาสเรียนกีฬาว่ายน�้ำ สามารถเอาชีวิตรอด ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย กรมพลศึกษาจึงได้
จากอุบัติเหตุทางน้�ำได้อย่างปลอดภัย รู้จักประโยชน์ จัดโครงการจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนและประชาชน
ของการเล่นกีฬาว่ายน�้ำ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาสมรรถภาพ ประจ�ำปี 2564 เพ่ือให้เด็ก เยาวชน และประชาชน
ทางรา่ งกาย และจิตใจ ทั้งยงั เป็นการปลูกฝังให้เด็กนกั เรยี น ของประเทศ ได้มีโอกาสในการพัฒนาทักษะกีฬาฟุตบอล
รักการเล่นกีฬาต้ังแต่เด็ก ตลอดจนได้ใช้เวลาว่าง มีประสบการณ์ในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลอย่างทั่วถึง
ใหเ้ ปน็ ประโยชน์ ทำ� ใหเ้ ดก็ ไมย่ งุ่ เกย่ี วกบั อบายมขุ สง่ิ เสพตดิ และมากย่ิงขึ้น เป็นผู้มีน้�ำใจนักกีฬา ยอมรับกฎ กติกา
ท้งั หลาย โดยกิจกรรมดงั กล่าว สามารถดำ� เนนิ การระหวา่ ง ห่างไกลยาเสพติด โดยด�ำเนินการแข่งขันระหว่าง
1 ตุลาคม 2563 - 30 กนั ยายน 2564 โดยมีรายละเอยี ด ช่วงเดือนตลุ าคม 2563 - กนั ยายน 2564 และมกี ารจดั การ
กิจกรรมดังน้ี สว่ นกลาง กิจกรรมดังกลา่ วมีเดก็ และเยาวชน แข่งขัน 2 ประเภท ได้แก่ (1) การจัดการแข่งขันฟุตบอล
เข้าร่วมกิจกรรมท้ังส้ินจ�ำนวน 266 คน โดยเฉลี่ยช่วงอายุ อ�ำเภอ...คัพ สามารถด�ำเนินการได้ จ�ำนวน 459 อ�ำเภอ
7- 8 ปี จ�ำนวน 98 คน ช่วงอายุ 9 - 10 ปี จำ� นวน 71 คน รวมจ�ำนวนทีมท่ีเข้าร่วมการแข่งขัน จ�ำนวน 2,291 ทีม
และชว่ งอายุ 11 - 12 ปี จำ� นวน 97 คน สว่ นภมู ภิ าค จงั หวดั
ทดี่ ำ� เนนิ การเรยี บรอ้ ย 10 จงั หวดั ประกอบดว้ ย จงั หวดั นา่ น
จังหวัดมหาสารคาม จังหวดั พังงา จังหวดั อุดรธานี จังหวดั
ตรัง จังหวัดชุมพร จังหวัดอ่างทอง จังหวัดนครราชสีมา
จังหวัดยโสธร และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเด็ก
และเยาวชนเขา้ ร่วมกจิ กรรม จำ� นวนทั้งสน้ิ 1,928 คน
กฬี านกั เรียนโรงเรียนต�ำรวจ
ตระเวนชายแดน
การแขง่ ขนั กฬี าโรงเรยี นตำ� รวจตระเวนชายแดน เรมิ่ ตน้
ครงั้ แรกเม่อื พ.ศ. 2554 และหลงั จากนั้นมกี ารจัดตอ่ เนือ่ ง
มาทกุ ปี โดยกองบัญชาการต�ำรวจตระเวนชายแดน รว่ มกับ
กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา จัดข้ึนเพ่ือ
ส่งเสริมให้นักเรียนโรงเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดน
ท่ัวประเทศภายใต้การก�ำกับดูแลของกองบังคับการ
ตำ� รวจตระเวนชายแดนภาค 1 - 4 ที่สำ� คญั เหนอื สงิ่ อื่นใด
กองบญั ชาการตำ� รวจตระเวนชายแดนไดร้ บั พระมหากรณุ าธคิ ณุ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
พระราชทานถ้วยรางวัล เพ่ือเป็นม่ิงขวัญและเป็นเกียรติ
แก่กองบัญชาการที่ชนะเลิศคะแนนรวมการแข่งขัน โดยมี
กลมุ่ เปา้ หมายคอื นักเรยี นโรงเรยี นตำ� รวจตระเวนชายแดน
217 โรงเรียนท่วั ประเทศ
และ (2) การจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนและประชาชน จากการด�ำเนินการดังกล่าว ท�ำให้นักเรียนโรงเรียน
สามารถจัดการแขง่ ขันได้ จำ� นวน 11 จังหวดั ประกอบด้วย ต�ำรวจตระเวนชายแดน ได้เรียนรู้วิธีการเล่นกีฬาท่ีถูกต้อง
จงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน นครราชสมี า รอ้ ยเอด็ นครนายก อดุ รธานี ตามความถนดั ทตี่ นสนใจ สรา้ งแรงบนั ดาลใจในการเลน่ กฬี า
เชยี งใหม่ นราธิวาส บงึ กาฬ สระแก้ว นครพนม และยโสธร มีพัฒนาการท้ังทางด้านร่างกายและจิตใจ มีระเบียบ
รวมจำ� นวนทมี 701 ทีม วินัย รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เล่นกีฬาและออกก�ำลังกาย
จากการด�ำเนินการดังกล่าวท�ำให้เด็ก เยาวชน อย่างต่อเน่ืองสม�่ำเสมอ โดยจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬา
ประชาชน ทุกกลุ่มและทุกพ้ืนที่มีมาตรฐานการเล่นกีฬา ในระดับกองก�ำกับการ มีการเข้าร่วมกิจกรรมของนักเรียน
ฟตุ บอลทสี่ งู ขนึ้ มโี อกาสเขา้ รว่ มการแขง่ ขนั ในระดบั ประเทศ โรงเรยี นตำ� รวจตระเวนชายแดนจาก 217 โรงเรยี นทว่ั ประเทศ
และนานาชาติ พัฒนาสู่กีฬาฟุตบอลอาชีพและสร้างรายได้ มจี ำ� นวนผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรม จำ� นวน 8,498 คน โดยมรี ะยะเวลา
ประชาชาติในอัตราท่สี งู ขนึ้ ในการดำ� เนนิ การระหวา่ งเดือนสงิ หาคม - กันยายน 2564
กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า 141
142 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 2
การส่งเสรมิ ให้มวลชนมกี ารออกกำ�ลังกาย
และมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการกีฬา
ดา้ นการจัดหา และพฒั นาสถานที่และอปุ กรณ์กฬี าที่เพียงพอ
และเหมาะสม เพอื่ การออกกำ�ลงั กายและการเล่นกฬี าของมวลชน
ปรับสภาพสนามกฬี าอ�ำเภอ
กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า โดยกรมพลศกึ ษา ดำ� เนนิ การจดั ทำ� โครงการปรบั สภาพสนามกฬี าอำ� เภอ เพอื่ ใหม้ สี ถานท่ี
และสง่ิ อำ� นวยความสะดวกในการออกกำ� ลงั กาย เลน่ กฬี า หรอื ประกอบกจิ กรรมนนั ทนาการอยา่ งสมำ่� เสมอ เพยี งพอ ปลอดภยั
สามารถรองรับการฝึกซ้อม และจัดการแข่งขันกีฬาระดับสากล เสริมสร้างความม่ันคงทางสุขภาพ พัฒนามาตรการจูงใจ
ทเี่ ออื้ ใหค้ นไทยออกกำ� ลงั กาย เลน่ กฬี า และนนั ทนาการอยา่ งสมำ่� เสมอเพมิ่ ขน้ึ เพอื่ การดแู ลสขุ ภาพเชงิ ปอ้ งกนั ใหป้ ระชาชน
มสี ขุ ภาวะทด่ี ี ลดปจั จยั เสย่ี งทางสขุ ภาพโดยเฉพาะอตั ราการเปน็ โรค NCDs (Non-Communicable diseases) และเปน็ การ
สร้างโอกาสทางการกีฬา การพัฒนานักกีฬาอาชีพ อีกท้ัง เป็นการสนับสนุนการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์จากยางพารา
ของหนว่ ยงานรฐั เพม่ิ ขน้ึ กระตนุ้ การลงทนุ การจา้ งแรงงานในทอ้ งถนิ่ อนั เปน็ ผลจากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอ้ื
ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) โดยปรบั ปรงุ พนื้ ผวิ ลลู่ านกรฑี าจากเดมิ เปน็ ลดู่ นิ เปน็ ลลู่ านกรฑี าทใ่ี ชย้ างสงั เคราะหต์ ามบญั ชี
นวตั กรรมไทย จากการดำ� เนนิ การดงั กลา่ วทำ� ใหเ้ ดก็ เยาวชน ประชาชน มโี อกาสเขา้ ถงึ สถานทแ่ี ละอปุ กรณใ์ นการออกกำ� ลงั กาย
และเล่นกีฬา ส่งผลให้ห่างไกลจากยาเสพติด อบายมุขท้ังหลายท้ังปวง โดยกรมพลศึกษาด�ำเนินการปรับสภาพสนามกีฬา
ใหเ้ ปน็ ลลู่ านกรฑี ายางพาราสงั เคราะห์ จำ� นวน 14 แหง่ มกี ารใชย้ างพารา รวมจำ� นวนทงั้ สน้ิ 161 ตนั ในการกอ่ สรา้ งสนามกฬี า
ท้งั หมด สนามกีฬา 1 แห่ง มขี นาดพนื้ ท่ี 6,540 ตารางเมตร และใช้ยางแผ่นรมควัน ชัน้ 1 โดยนวตั กรรมการนำ� เมด็ ยางพารา
มาทดแทนเมด็ ยางสงั เคราะห์ ชือ่ ทางการคา้ : พน้ื ยางสังเคราะห์ ประเภท B ผสมเม็ดยางธรรมชาติ รนุ่ Sandwich (NR)
(พนื้ ลู่ว่งิ ระบบแซนวชิ ผสมยางธรรมชาติ)
พลศกึ ษาพฒั นาและบริการเพอื่ เยาวชนและประชาชน
กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า โดยมหาวทิ ยาลยั การกฬี าแหง่ ชาติ ดำ�เนนิ การจดั โครงการพลศกึ ษาพฒั นาและบรกิ าร
เพอ่ื เยาวชนและประชาชน เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ เยาวชน และประชาชน มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทางดา้ นพลศกึ ษาและวทิ ยาศาสตร์
การกีฬา ตระหนักถึงประโยชน์ของการออกกำ�ลังกาย การเล่นกีฬาและนันทนาการ มีความสนใจ ใส่ใจและรักในสุขภาพ
พลานามัยของตนเอง เพ่มิ โอกาสใหป้ ระชาชนทุกคนได้ออกกำ�ลงั กาย เล่นกฬี า และกจิ กรรมนนั ทนาการอย่างทว่ั ถึง นำ�ไปสู่
การมสี ขุ ภาวะทดี่ ี ซงึ่ มหาวทิ ยาลยั การกฬี าแหง่ ชาตมิ กี ารใหบ้ รกิ าร ทางวชิ าการทงั้ ภายในและภายนอกหนว่ ยงาน 2 รปู แบบ
ไดแ้ ก่
1. การบริการวิชาการภายในมหาวิทยาลัย มุ่งเน้นการให้บริการอาคารสถานท่ี และวัสดุอุปกรณ์ทางการกีฬา รวมทั้ง
ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี า สำ�หรบั กจิ กรรมทางการกฬี าตา่ งๆ เชน่ การออกกำ�ลงั กาย การเลน่ กฬี า การจดั การแขง่ ขนั กฬี า
การฝึกอบรมทางการกฬี า เปน็ ตน้
2. การบรกิ ารวชิ าการภายนอกมหาวทิ ยาลยั มงุ่ เนน้ การใหบ้ รกิ ารวชิ าการตามเอกลกั ษณข์ องมหาวทิ ยาลยั โดยมอบหมาย
ให้ทุกคณะดำ�เนินงานภายใต้ศาสตร์การกีฬาตามความเช่ียวชาญของคณะ รวมทั้งกิจกรรมจิตอาสาและพัฒนาชุมชน
ประกอบดว้ ย คณะศกึ ษาศาสตรใ์ หบ้ รกิ ารดา้ นการฝกึ สอนทกั ษะกฬี า การตดั สนิ กฬี า และการเปน็ ผนู้ ำ�การออกกำ�ลงั กาย
คณะศิลปศาสตร์ให้บริการด้านการส่งเสริมสุขภาพ การจัดการแข่งขันกีฬา การสื่อสารการกีฬา และการท่องเที่ยว
และนันทนาการ และคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพให้บริการด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา การเสริมสร้าง
และทดสอบสมรรถภาพทางกาย การใหค้ ำ�แนะนำ�การออกกำ�ลงั กายและการดแู ลสขุ ภาพ โดยในปงี บประมาณ พ.ศ. 2564
มีผู้รบั บรกิ ารฯ ดงั นี้
จ�ำนวนผู้รับบรกิ ารวชิ าการ จ�ำนวนผ้รู บั บรกิ ารวิชาการ รวมทงั้ สนิ้ (คน)
ภายในมหาวิทยาลัย (คน) ภายนอกมหาวิทยาลยั (คน)
2,579,202
2,554,055 25,147
กระทรวงการทอ่ งเที่ยวและกีฬา 143
144 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
ด้านการสรา้ งความเสมอภาคในการเขา้ ถงึ การออกกำ�ลังกาย
และการเลน่ กีฬาส�ำ หรับประชากรทกุ กลุม่
ออกก�ำลังกายและกีฬาเพอ่ื มวลชน
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกรมพลศึกษา จัดโครงการส่งเสริมการออกก�ำลังกายและเล่นกีฬาเพ่ือมวลชน
ประจ�ำปี 2564 เพ่ือพัฒนาสุขภาวะและการมีสมรรถภาพทางกายที่ดี มีความสมบูรณ์แข็งแรง อันมีผลท�ำให้จิตใจสบาย
เพราะรา่ งกายและจติ ใจมคี วามสมั พนั ธก์ นั สรา้ งความผกู พนั อนั ดใี นครอบครวั การมสี มรรถภาพทางกายทด่ี ไี ดน้ นั้ ขน้ึ อยกู่ บั
การดแู ลตนเองอยา่ งถกู ตอ้ ง มคี วามเอาใจใสใ่ นสขุ ภาพ สำ� หรบั การเลน่ กฬี าและการออกกำ� ลงั กายเปน็ ประจำ� จะทำ� ใหร้ า่ งกาย
มคี วามสมบรู ณแ์ ขง็ แรง และอยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ประชาชนทกุ กลมุ่ มคี วามตน่ื ตวั ในการเลน่ กฬี าและออกกำ� ลงั กาย
เกดิ ความรกั ความสามคั คี ความมนี ้�ำใจเปน็ นกั กฬี า รู้แพ้ รู้ชนะ ร้อู ภัย ในชมุ ชนและระหวา่ งชมุ ชน โดยโครงการดังกลา่ ว
ด�ำเนนิ การระหว่างเดือนตลุ าคม 2563 - 30 กนั ยายน 2564 ดงั มรี ายละเอียดกจิ กรรมดังน้ี
1. กิจกรรมเทิดพระเกียรติ เดิน-ว่ิง สามัคคี ท�ำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ณ ลานอเนกประสงค์หน้าอาคารกีฬา
นมิ บิ ตุ ร สนามกีฬาแหง่ ชาติ มจี ำ� นวนผู้เข้าร่วมท้ังสน้ิ 1,121 คน
2. กิจกรรมเทิดพระเกียรติ “น้อมใจภักดิ์ 10” เม่ือวันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2564 โดยส�ำนักงานการท่องเท่ียวและกีฬา
ในแตล่ ะจงั หวดั เจ้าหน้าที่พลศกึ ษาเปน็ อาสาสมคั ร ดำ� เนินการจดั กิจกรรมผ่านเครอื ข่าย Park Run Thailand มสี นาม
Park Run THAILAND ทวั่ ประเทศ มีจ�ำนวนผเู้ ขา้ รว่ มทัง้ ส้ิน 2,693 คน
3. กจิ กรรมกรมพลศกึ ษาชวนขยบั นบั กา้ ว DPE_nub9 ซซี นั่ 2 ผา่ นระบบออนไลน์ ระหวา่ งวนั ท่ี 1 สงิ หาคม - 14 กนั ยายน 2564
มจี ำ� นวนผ้เู ข้ารว่ มทงั้ สิ้น 12,000 คน
จากการดำ� เนนิ การโครงการดงั กลา่ วสง่ ผลให้
ประชาชนในทุกพื้นที่ ตระหนักถึงความส�ำคัญ
ของการออกกำ� ลงั กายตลอดจนมรี า่ งกายสมบรู ณ์
แข็งแรง จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญาดี
รวมท้ังลดปัจจัยเส่ียงทางสุขภาพ โดยเฉพาะ
อตั ราการเปน็ โรค NCDs (Non-Communicable
diseases) ส่งผลให้ภาระค่าใช้จ่ายในการรักษา
พยาบาลของประชาชนในประเทศลดลง
และนอกจากน้ียังเป็นการสร้างความผูกพันอันดี
ในครอบครัว มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา
และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักที่สร้าง
ความมัน่ คงความเปน็ ปึกแผน่
แขง่ ขันกีฬาผู้สูงอายุ
กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า โดยกรมพลศกึ ษา ดำ� เนนิ การ
จดั การแขง่ ขนั กฬี าผสู้ งู อายแุ หง่ ประเทศไทยครงั้ ที่1จนถงึ ครง้ั ท่ี14
ในปี 2564 โดยมุ่งส่งเสริมและจัดกิจกรรมทางการกีฬา
และการออกก�ำลังกายให้กับผู้สูงอายุทั่วประเทศ เพ่ือพัฒนา
สุขภาวะและการมีสมรรถภาพทางกายที่ดี มีความสมบูรณ์
แข็งแรง อันจะมีผลท�ำให้จิตใจสบายเพราะร่างกายและจิตใจ
มคี วามสมั พนั ธก์ นั การทผ่ี สู้ งู อายจุ ะมสี มรรถภาพทางกายทดี่ ไี ดน้ น้ั
ขึ้นอยูก่ ับการดูแลตนเองอย่างถูกตอ้ ง มคี วามเอาใจใสใ่ นสขุ ภาพ
ด้วยการเล่นกีฬาและการออกก�ำลังกายเป็นประจ�ำจึงจะท�ำให้
ร่างกายมีความสมบูรณ์แข็งแรง มีอายุยืนยาว และอยู่ในสังคม
ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
จากการด�ำเนินโครงการดังกล่าว ท�ำให้ผู้สูงอายุมีโอกาส
ในการออกก�ำลังกายและเล่นกีฬาเพ่ือสุขภาพอย่างสม�่ำเสมอ
และต่อเน่ือง ได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์
และการมปี ฏสิ มั พนั ธท์ ่ดี ีในกลุม่ ผสู้ งู อายุ โดยสามารถดำ� เนินการ
จดั แขง่ ขนั ใน 11 จงั หวดั ประกอบดว้ ย จงั หวดั กาญจนบรุ ี จงั หวดั
ตรัง จังหวัดนครนายก จังหวัดนครพนม จังหวัดนครราชสีมา
จงั หวดั นราธวิ าส จงั หวดั ยโสธร จังหวัดสกลนคร จงั หวัดสระแก้ว
จังหวัดหนองบัวล�ำภู และจังหวัดอุบลราชธานี และชนิดกีฬา
ทจี่ ดั การแขง่ ขนั ไดป้ ระกอบดว้ ย กอลฟ์ เปตอง วดู้ บอล แบดมนิ ตนั
ตะกร้อวงเตะทน/เซปักตะกร้อ กรีฑา ร้องเพลงคาราโอเกะ
ฟตุ บอล เทนนสิ และหางเคร่อื ง
กระทรวงการท่องเท่ยี วและกฬี า 145
146 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
ด้านการส่งเสริมการพฒั นาอาสาสมัครและบุคลากรการกฬี า
เพือ่ มวลชนอยา่ งเปน็ ระบบ
อาสาสมัครกีฬาและผู้นำ�การออกก�ำ ลังกาย
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยกรมพลศึกษา มีบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาวะท่ีดีตลอดชีวิต
มีแนวทางการพัฒนาเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพท่ีดีข้ึนจากการออกกำ�ลังกายและเล่นกีฬา และมีโอกาสเข้าถึงโครงสร้าง
พ้ืนฐานด้วยการกีฬาของชุมชนท้องถ่ินอย่างเสมอภาค การมีอาสาสมัครท่ีเป็นผู้นำ�ในการออกกำ�ลังกายและเล่นกีฬา
อย่างท่ัวถึงทุกพ้ืนท่ีจะเป็นกลไกสำ�คัญในการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมการออกกำ�ลังกายและเล่นกีฬา ให้ความ
ชว่ ยเหลอื ดแู ลการออกกำ�ลงั กายและเลน่ กฬี าของชมุ ชนทอ้ งถน่ิ ซง่ึ มอี าสาสมคั รกฬี าและผนู้ ำ�การออกกำ�ลงั กายระดบั หมบู่ า้ น
ทสี่ ามารถถา่ ยทอดความรใู้ หป้ ระชาชนไดอ้ อกกำ�ลงั กายและเลน่ กฬี าไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และมบี คุ ลากรทางการกฬี าทม่ี มี าตรฐาน
ตอ่ ไป และมเี ครอื ขา่ ยในการสนบั สนนุ ภารกจิ ของกรมพลศกึ ษา และสง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ มในการดำ�เนนิ งานสง่ เสรมิ
การออกกำ�ลังกายและเลน่ กีฬาในระดบั หมู่บา้ นและทอ้ งถิน่ โดยดำ�เนินกจิ กรรมดังนี้
1. กจิ กรรมประชมุ สมั มนาพฒั นาหลกั สตู รการอบรมอาสาสมคั ร
กีฬาและผู้นำ�การออกกำ�ลังกาย ณ สนามกีฬา
เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม
ราชินีนาถ 60 พรรษา อำ�เภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
โดยมีวิทยากรและผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมประชุมสัมมนา
พัฒนาหลักสูตรการอบรมอาสาสมัครกีฬาและผู้นำ�
การออกกำ�ลงั กาย จำ�นวน 25 คน
2. กิจกรรมจัดพิธีมอบและจัดทำ�รางวัลเชิดชูเกียรติ
ผู้ทำ�คุณประโยชน์ด้านการพลศึกษา กีฬา นันทนาการ
และวิทยาศาสตร์การกีฬา รางวลั “เพชรพลศกึ ษา”
3. กจิ กรรมอบรมอาสาสมคั รกฬี าและผนู้ ำ�การออกกำ�ลงั กาย
3.1 จดั อบรมรปู แบบออนไซต์ (Onsite) ในระหวา่ งวนั ท่ี
18 กมุ ภาพนั ธ์ - 21 กนั ยายน 2564 จำ�นวน 5 รนุ่
ไดแ้ ก่ รนุ่ ท่ี 1 รนุ่ ท่ี 2 รนุ่ ท่ี 3 รนุ่ ท่ี 9 และรนุ่ ท่ี 10
(ตามลำ�ดับ) ณ จงั หวัดเชยี งราย จังหวัดนครสวรรค์
จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดเลย และจังหวัด
พิษณุโลก โดยมีผ้เู ข้าร่วมอบรมรวมท้งั ส้นิ จำ�นวน
842 คน และตัวแทนจากหมู่บ้าน จำ�นวน 686
หมบู่ า้ น
3.2 จัดอบรมรูปแบบออนไลน์ (Online) เน่ืองจาก
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
(COVID-19) สง่ ผลใหไ้ มส่ ามารถดำ�เนนิ การจดั อบรม
ไดต้ ามแผนงานทก่ี ำ�หนด จงึ มกี ารปรบั เปลย่ี นรปู แบบ
เป็นการจัดอบรมผ่านระบบออนไลน์ (Zoom)
ในระหวา่ งวนั ท่ี 30 สิงหาคม - 3 กันยายน 2564
จำ�นวน 5 รุ่น ไดแ้ ก่ รุน่ ที่ 4 รุน่ ท่ี 5 รนุ่ ท่ี 6 รุน่ ที่ 7
และรุ่นท่ี 8 (ตามลำ�ดับ) ณ จังหวัดอุบลราชธานี
จงั หวดั ขอนแกน่ จงั หวดั กาญจนบรุ ี จงั หวดั เชยี งใหม่
จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดภูเก็ต
โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมรวมทั้งส้ิน จำ�นวน 900 คน
และตัวแทนจากหมู่บา้ น จำ�นวน 721 หมบู่ ้าน
จากการดำ�เนนิ โครงการดงั กลา่ วสง่ ผลใหล้ ดภาระคา่ ใชจ้ า่ ยภาครฐั ในการรกั ษาพยาบาล และการสง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ ม
ของประชาชนในการสง่ เสรมิ การออกกำ�ลงั กายและเลน่ กฬี า และนอกจากนปี้ ระชาชนในระดบั หมบู่ า้ นหรอื ทอ้ งถน่ิ ไดร้ บั
การพฒั นาความรดู้ ้านการเป็นอาสาสมคั รกฬี าและผู้นำ�การออกกำ�ลังกาย มีศกั ยภาพและขดี ความสามารถเพิ่มมากข้ึน
จนสามารถมีบทบาทสำ�คญั ตอ่ การพัฒนาคุณภาพชีวติ ใหก้ ับสังคมในท้องถ่ินและประเทศชาติได้
กระทรวงการท่องเทยี่ วและกีฬา 147
148 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
ยุทธศาสตรท์ ่ี 3
การพฒั นากฬี าเพอ่ื ความเปน็ เลศิ
และต่อยอดเพื่อความส�ำ เรจ็
ในระดับอาชีพ
ด้านการเลอื กสรรและพัฒนานกั กีฬาท่ีมคี วามสามารถ
ทางการกฬี าเพ่อื ความเปน็ เลศิ
การจัดการแขง่ ขันกีฬาระหวา่ งโรงเรยี นส่วนกลางและสว่ นภูมภิ าค
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยกรมพลศึกษา ด�ำเนินโครงการจัดการแข่งขันกีฬาระหว่างโรงเรียนส่วนกลาง
และสว่ นภมู ภิ าค เพอ่ื สนบั สนนุ นกั เรยี น นกั ศกึ ษา และเยาวชน ทเี่ ขา้ รว่ มการแขง่ ขนั กฬี าระหวา่ งโรงเรยี นไดเ้ ลน่ กฬี าอยา่ งทวั่ ถงึ
ให้ความสนใจ ตื่นตัวด้านการกีฬา มีความรู้ด้านการกีฬา มีทักษะด้านการกีฬา มีน�้ำใจ เป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
และมที ศั นคตทิ ด่ี ตี อ่ การกฬี ามากขน้ึ โดยโครงการจดั การแขง่ ขนั กฬี าระหวา่ งโรงเรยี นสว่ นกลางและสว่ นภมู ภิ าค กำ� หนดการ
จดั แข่งขันกฬี าทั้งหมด 23 ชนดิ กฬี า ระยะเวลาในการด�ำเนนิ การระหวา่ ง 1 ตลุ าคม 2563 - 30 กนั ยายน 2564
จากเป้าหมายการด�ำเนินงานโครงการที่ตั้งไว้จ�ำนวน
23 ชนิดกีฬา แต่สามารถด�ำเนินการได้จริง 7 ชนิดกีฬา
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัส
โคโรนา 2019 ชนิดกีฬาที่สามารถด�ำเนินการจัดแข่งขันได้
คอื เทเบลิ เทนนสิ วา่ ยนำ�้ ดำ� นำ�้ ฟนิ สวิมมง่ิ กรฑี า ฟุตซอล
ฟุตบอล และสแต็ค มีจ�ำนวนนักกีฬาท่ีร่วมการแข่งขัน
ท้ังส้ิน 19,702 คน ท�ำให้นักเรียน นกั ศกึ ษา และเยาวชน
ทั่วประเทศ มีความรู้ และทักษะในการออกก�ำลังกาย
และเลน่ กฬี าทถี่ นดั พรอ้ มทง้ั ไดน้ ำ� ความรแู้ ละประสบการณ์
ไปพฒั นาตนเองใหก้ ้าวไปสกู่ ารเป็นนักกฬี าในระดบั ทีส่ งู ข้นึ
และเป็นเยาวชนในระดบั ทีมชาตติ ่อไป
การจดั การแขง่ ขนั กฬี านกั เรียน นกั ศึกษาแหง่ ชาติ
กระทรวงทอ่ งเทยี่ วและกฬี า โดยกรมพลศกึ ษา ตระหนกั เปน็ อยา่ งดที จี่ ะไดด้ ำ� เนนิ การ
ส่งเสริมและพัฒนาการกีฬาในระดับนักเรียน นักศึกษา อันเป็นรากฐานส�ำคัญยิ่ง
ให้เป็นรูปธรรมตามแบบแผนการพัฒนาการกีฬาของชาติที่รัฐบาลได้มุ่งหวังไว้
โดยมีการจัดให้แข่งขันกีฬาในระดับนักเรียน นักศึกษาทั่วประเทศข้ึนเป็นประจ�ำทุกปี
ระยะเวลาในการด�ำเนินการระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2563 - 30 กันยายน 2564
เพ่ือให้นักเรียน นักศึกษาได้ทักษะและประสบการณ์จากการแข่งขันกีฬาเพ่ือเข้าร่วม
การแข่งขันในระดับประเทศ สามารถพัฒนาขีดความสามารถ และได้รับโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ
โดยการจัดการแขง่ ขันกีฬานักเรยี น นกั ศึกษาแห่งชาติ ในครั้งนี้มพี น้ื ทีด่ �ำเนนิ โครงการ ดงั น้ี
1. ระดับจังหวัด สำ�นกั งานการทอ่ งเทยี่ วและกีฬาจงั หวัด ท้งั 76 จงั หวัด
2. ระดบั เขต การดำ�เนนิ การโครงการจดั การแข่งขันกีฬานักเรยี น นกั ศึกษาแหง่ ชาติ (รอบคดั เลอื กตวั แทนเขตท้งั 10 เขต)
ประกอบด้วย เขต 1 จังหวัดอ่างทอง เขต 2 จังหวัดจนั ทบุรี เขต 3 จังหวดั อุบลราชธานี เขต 4 จงั หวัดขอนแก่น เขต 5
จังหวัดพะเยา เขต 6 จงั หวดั เพชรบูรณ์ เขต 7 จงั หวัดเพชรบุรี เขต 8 จังหวดั พงั งา เขต 9 จงั หวัดสตลู และเขต 10
จงั หวดั กรงุ เทพฯ รวมนกั กฬี าและเจา้ หนา้ ที่ 33,024 คน
3. การแข่งขนั กีฬานกั เรียน นักศึกษาแห่งชาติ (รอบประเทศ) ณ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดกาญจนบรุ ี จงั หวัดอบุ ลราชธานี
และจงั หวดั ปทุมธานี มีนักกฬี าและเจา้ หน้าทีเ่ ขา้ รว่ มการแข่งขัน จำ�นวน 8,626 คน แตเ่ น่ืองจากสถานการณก์ ารแพร่
ระบาดของเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 ทำ�ใหก้ รมพลศกึ ษาประกาศยกเลกิ การจดั การแขง่ ขนั กฬี านกั เรยี น นกั ศกึ ษาแหง่ ชาติ
ประจำ�ปี 2564
การพฒั นากีฬาของมหาวทิ ยาลัยการกฬี าแห่งชาติ
ส�ำหรับโรงเรียนกีฬา
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ส่งเสริม
และพฒั นานกั เรยี นและนกั ศกึ ษาใหม้ ศี กั ยภาพดา้ นกฬี าสงู สดุ ของแตล่ ะบคุ คล สง่ เสรมิ
นักกีฬาให้สามารถฝึกซ้อมกีฬาได้อย่างเต็มท่ี โดยการจัดสถานที่ฝึกซ้อม สนับสนุน
อุปกรณ์และสิ่งอ�ำนวยความสะดวกที่ใช้ในการฝึกซ้อมและแข่งขัน จัดหาผู้ฝึกสอน
ที่มีความเชี่ยวชาญ จัดแผนการฝึกท่ีมีประสิทธิภาพ การใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา
มาสนบั สนนุ การฝกึ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และการจดั สวสั ดกิ ารสำ� หรบั นกั กฬี า เชน่ ทพี่ กั
อาหาร สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬารายการต่างๆ ให้นักกีฬา
กระทรวงการทอ่ งเที่ยวและกฬี า 149
150 รายงานประจำ�ปี ๒๕๖๔
มีประสบการณ์ตรงจากการเข้าร่วมการแข่งขัน และน�ำประสบการณ์ที่ได้รับจากการแข่งขันมาพัฒนาศักยภาพตนเอง
ให้สามารถเข้าร่วมการแข่งขันกฬี าในระดบั นานาชาตติ อ่ ไป ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มผี ลการดำ� เนนิ งาน ดังนี้
การเข้าร่วมการแข่งขนั ระดับชาติ
จ�ำนวนนกั เรยี น นกั เรยี นท่ีเข้ารว่ มการแข่งขนั นักเรยี นทีไ่ ด้รับรางวัลจากการเขา้ ร่วมการแข่งขัน
(คน)
จ�ำนวน (คน) รอ้ ยละ จำ� นวน (คน) ร้อยละ
4,603 1,359 29.52 637 46.87
การเข้าร่วมการแขง่ ขนั ระดบั นานาชาติ
จ�ำนวนนกั เรยี น นักเรยี นท่เี ข้าร่วมการแข่งขนั นักเรยี นท่ีไดร้ บั รางวัลจากการเขา้ รว่ มการแข่งขัน
(คน)
จ�ำนวน (คน) ร้อยละ จ�ำนวน (คน) รอ้ ยละ
2,882 3 0.10 1 33.33
หมายเหตุ : จ�ำนวนนกั เรียนนบั จากนกั เรียนทีก่ ำ� ลงั ศกึ ษาในระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 - 6
การพัฒนากีฬาของมหาวิทยาลยั การกีฬาแห่งชาติ ส�ำหรับวทิ ยาเขต
กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา โดยมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ส่งเสริมและพัฒนานักเรียนและนักศึกษา
ให้มีศักยภาพด้านกีฬาสูงสุดของแต่ละบุคคล โดยการจัดต้ังศูนย์กีฬาเพ่ือความเป็นเลิศภายในวิทยาเขต 17 แห่ง ซ่ึงเป็น
หน่วยงานท่ีท�ำหน้าท่ีส่งเสริมนักกีฬาท่ีมีพ้ืนฐานและความสามารถ ให้สามารถฝึกซ้อมกีฬาได้อย่างเต็มที่ เช่น จัดสถานที่
ฝกึ ซอ้ ม สนบั สนุนอปุ กรณแ์ ละส่งิ อำ� นวยความสะดวกในการฝึกซอ้ มและแข่งขนั จัดหาผฝู้ กึ สอนทีม่ คี วามเชย่ี วชาญ จัดแผน
การฝึกท่มี ีประสิทธิภาพ การใชว้ ทิ ยาศาสตรก์ ารกีฬามาสนับสนุนการฝกึ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และการจัดสวัสดกิ ารสำ� หรบั
นักกีฬา เช่น ท่ีพัก อาหาร ทุนการศึกษา สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬารายการต่างๆ ให้แก่นักกีฬา
ในศูนยก์ ฬี าเพื่อความเปน็ เลิศของวทิ ยาเขต 17 แหง่ ๆ ละ 30 คน รวมท้งั ส้นิ 510 คนเพอื่ นำ� ประสบการณ์ทไ่ี ดร้ ับจากการ
แขง่ ขนั มาพฒั นาศกั ยภาพตนเอง ใหส้ ามารถเขา้ รว่ มการแขง่ ขนั กฬี าในระดบั นานาชาตติ อ่ ไป ซง่ึ ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2564
มีผลการดำ� เนินงาน ดงั น้ี