2
กระทรวงศึกษาธกิ าร
3
4
กระทรวงศึกษาธิการ
5
“...งานของครูน้ัน ถือได้วา่ เป็ นงานสร้างสรรคอ์ ย่างแทจ้ ริง
เพราะเป็นการวางรากฐานความดี และความสามารถทกุ ๆ ดา้ นแกศ่ ษิ ย์
เพอ่ื ชว่ ยใหส้ ามารถดำ�รงตนเป็ นคนดี มอี าชพี เป็ นหลกั ฐาน
และเป็ นประโยชน์ต่อสงั คม.
เพราะเหตทุ ง่ี านของครเู ป็นงานทห่ี นกั และเป็นงานสรา้ งสรรคท์ บ่ี รสิ ทุ ธ์ิ
ผ้เู ป็ นครูจึงต้องปฏบิ ัตหิ น้าทด่ี ้วยความพากเพยี รอดทน
และดว้ ยความเมตตากรุณาอยา่ งสงู
ทง้ั ตอ้ งส�ำ รวมระวงั ตนในเรอ่ื งความประพฤตปิ ฏบิ ตั อิ ยา่ งเครง่ ครดั
ไมป่ ลอ่ ยตวั ปลอ่ ยใจตามความตอ้ งการทไ่ี มส่ มควรแกฐ่ านะ
”และเกยี รตภิ มู ขิ องครู...
พระราชดำ�รัส พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร
มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ในโอกาสท่ีคณะครูอาวุโสเข้าเฝ้ า ฯ รับพระราชทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติและเงินช่วยเหลือ
ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต
วันอังคารท่ี ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๑
6
...การเป็ นครูน้ันไมง่ า่ ย การเป็ นครูดเี ดน่ ยง่ิ ไมง่ า่ ย
“ ”เพราะการเป็ นครูทีย่ อดเย่ยี มตอ้ งใชค้ วามทุม่ เท เสยี สละ...
ความตอนหน่ึง ในพระราชดำ�รัส
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ในการเสด็จเป็ นประธานเปิ ดการประชุมวิชาการรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ ามหาจักรี คร้ังท่ี ๓
ณ โรงแรมสยามเคมปิ นสกี้ กรุงเทพมหานคร
วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๓
7
พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธบิ ดศี รสี นิ ทร
มหาวชริ าลงกรณ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั
และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ี
เสดจ็ ฯ พรอ้ มดว้ ย เจา้ คณุ พระสนิ นี าฏ พลิ าสกลั ยาณี
ไปทอดพระเนตรงานโครงการอนรุ กั ษ์
และพฒั นาวดั นเิ วศธรรมประวตั ริ าชวรวหิ าร
พรอ้ มทรงเปดิ วทิ ยาลยั เสรมิ ทกั ษะพระภกิ ษสุ ามเณร
ณ วดั นเิ วศธรรมประวตั ริ าชวรวหิ าร ต.บา้ นเลน
อ.บางปะอนิ จ.พระนครศรอี ยธุ ยา
เมอ่ื วนั ท่ี 20 มนี าคม 2564
8
โครงการอนรุ กั ษแ์ ละพฒั นาวดั นเิ วศธรรมประวตั ริ าชวรวหิ าร
วทิ ยาลยั เสรมิ ทกั ษะพระภกิ ษสุ ามเณร ณ วดั นเิ วศธรรมประวตั ิ จดั ตง้ั ขน้ึ
เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำ�รงพระราชอิสริยยศ
สมเด็จพระบรมโอรสาธริ าชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา
ครบ 60 พรรษา ในปพี ทุ ธศกั ราช 2555 คณะสงฆ์ พรอ้ มดว้ ยอบุ าสก อบุ าสกิ า
วดั นเิ วศธรรมประวตั ริ าชวรวหิ าร ส�ำ นกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ ทท่ี รงพระกรณุ า
โปรดเกลา้ ฯ เปน็ องคอ์ ปุ ถมั ภโ์ ครงการอนรุ กั ษ์ และพฒั นาวดั นเิ วศธรรมประวตั ิ
ราชวรวหิ ารส�ำ นกั งานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ กระทรวงวฒั นธรรม ส�ำ นกั งาน
คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร และกรมศลิ ปากรจงึ จดั ตง้ั
วทิ ยาลยั เสรมิ ทกั ษะส�ำ หรบั พระภกิ ษุ สามเณร เฉลมิ พระเกยี รติ 60 พรรษา
สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกฎุ ราชกมุ าร เมือ่ วนั ที่ 28 กนั ยายน
พุทธศักราช 2559 และเปดการเรียนการสอนครั้งแรกในภาคเรียนที่ 1 ปี
การศึกษา 2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา
ที่เป็นพระภิกษุ สามเณร มีโอกาสได้ศึกษาต่อและเป็นการขยายโอกาสทาง
การศกึ ษา ดา้ นอาชวี ศกึ ษาใหก้ บั พระภกิ ษุ สามเณร ใหม้ สี มรรถนะและทกั ษะ
วชิ าชพี ในการปฏสิ งั ขรณว์ ดั วาอาราม
ปจั จบุ นั วทิ ยาลยั เสรมิ ทกั ษะพระภกิ ษุ สามเณร เปดิ การเรยี นการสอน
หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชน้ั สงู
(ปวส.) และหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นใน 6 สาขาวิชาประกอบด้วย สาขาวิชา
ชา่ งเชอ่ื มโลหะ สาขาวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศ สาขาวชิ าชา่ งยนต์ สาขาวชิ าเทคนคิ
อตุ สาหกรรม และสาขาวชิ าคอมพวิ เตอรเ์ กมสแ์ ละแอนเิ มชนั และสาขาเครอ่ื งกล
มพี ระภกิ ษุ และสามเณร นกั เรยี น จ�ำ นวน 120 รปู
9
โดยวทิ ยาลยั ไดท้ �ำ ความรว่ มมอื ทางวชิ าการกบั สถานศกึ ษาและสถาน
ประกอบการทห่ี ลากหลาย ครอบคลมุ ในทกุ สาขาวชิ าเพอ่ื เปน็ การแลกเปลย่ี น
บุคลากรและองค์ความรู้มาใช้ในการพัฒนาพระภิกษุ สามเณร นักเรียน
ให้มีความเช่ยี วชาญและก้าวทันกับเทคโนโลยีท่มี ีการเปล่ยี นแปลงตลอดเวลา
ควบคกู่ ับการเป็นศาสนทายาททีด่ ี มศี ลี มีธรรม ดังอัตลกั ษณ์ของวิทยาลยั
"ความรดู้ ี ทกั ษะเดน่ เนน้ คณุ ธรรม ด�ำ รงพระพทุ ธศาสนา"
เมอ่ื วนั ที่ 20 มนี าคม 2564 พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว และสมเด็จ
พระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จ ฯ พร้อมด้วย เจ้าคุณพระสินีนาฏ
พิลาสกัลยาณี ไปทอดพระเนตรงานโครงการอนุรักษ์ และพัฒนาวัดนิเวศ
ธรรมประวัติราชวรวิหาร พร้อมทรงเปิดวิทยาลัยเสริมทักษะพระภิกษุ
สามเณร ณ วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน
จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัด
พระนครศรีอยุธยา คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงศึกษาธิการ รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
นายเด่นชัย ศรีจุลฮาต ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ แมท่ พั ภาคท่ี 1 พล.ต.ท.อ�ำ พล บวั รบั พร ผบช.ภ.1
ม.ร.ว.พรรณนภา ดศิ กลุ ที่ปรึกษาโครงการอนุรักษ์ และพัฒนาวัดนิเวศ
ธรรมประวัติราชวรวิหาร พรอ้ มข้าราชการ และประชาชนเฝ้า ฯ รบั เสด็จ
การนี้ ได้เสด็จฯ ไปยังพิพิธภัณฑ์วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร
เสด็จฯเข้าภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ จปร. เพื่อทอดพระเนตรนิทรรศการ
แล้วเสด็จฯไปยังอาคารพิพิธภัณฑ์ตาลปัตร (หอกลอง) ทอดพระเนตร
การจัดแสดงตาลปตั ร พัดรองทร่ี ะลกึ จากนนั้ ประทับรถยนต์ไฟฟา้ พระทน่ี งั่
เสดจ็ ฯ ไปยงั พลบั พลาพธิ หี นา้ อาคารวทิ ยาลยั เสรมิ ทกั ษะพระภกิ ษุ สามเณร
ทรงกดปมุ่ ไฟฟา้ เปดิ แพรคลมุ ปา้ ย “อาคารวทิ ยาลยั เสรมิ ทกั ษะพระภกิ ษุ สามเณร”
10
จากนน้ั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ี
ทรงปลูกตน้ จนั เจ้าคุณพระสนิ ีนาฏ พิลาสกัลยาณี ปลกู ตน้ จัน แล้วเสด็จ ฯ
ไปยังอาคารวิทยาลัยเสริมทักษะพระภิกษุ สามเณร เพื่อทอดพระเนตร
นทิ รรศการเฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ประวตั คิ วามเปน็ มา
วิทยาลัยเสริมทักษะพระภิกษุ สามเณรพระบรมราโชบายด้านการศึกษา
ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั อาทิ การจดั การเรยี นการสอนของวทิ ยาลยั ฯ
ตามพระบรมราโชบาย ฯ รูปแบบการจัดการเรียนการสอนของวิทยาลัยฯ
ประกอบดว้ ยประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชน้ั สงู (ปวส.)
หลักสูตรระยะสั้น ผลงานเด่นนักเรียนนักศึกษา เป้าหมายการต่อยอดการ
จดั การศกึ ษาในอนาคต ศูนยฝ์ กึ อบรมเทคโนโลยสี มยั ใหม่ ฯ ส�ำ หรบั พระภกิ ษุ
สามเณร และกจิ กรรมของจิตอาสา
ตอ่ มา พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงฉายพระบรมฉายาลกั ษณร์ ว่ มกบั
สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ี พรอ้ มดว้ ยเจา้ คณุ พระสนิ นี าฏ พลิ าสกลั ยาณี
และขา้ ราชการชน้ั ผ้ใู หญจ่ งั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยาและคณะกรรมการด�ำ เนนิ งาน
แลว้ ประทบั รถไฟฟา้ พระทน่ี ง่ั เสดจ็ ฯ ไปยงั ทา่ เทยี บเรอื หนา้ วดั นเิ วศธรรมประวตั ิ
ราชวรวหิ าร ไปยงั ทา่ เทยี บเรอื ต�ำ หนกั แพ เสดจ็ ขน้ึ จากทา่ เทยี บเรอื ต�ำ หนกั แพ
ไปยงั พระทน่ี ง่ั วโรภาษพมิ านประทบั พกั พระราชอริ ยิ าบถตามพระราชอธั ยาศยั
สมควรแก่เวลา เสดจ็ ลงจากพระทน่ี ัง่ วโรภาษพมิ าน ประทับรถยนตพ์ ระทีน่ ง่ั
เสด็จ ฯ กลบั พระทนี่ ง่ั อัมพรสถานพระราชวังดุสิต
11
กระทรวงศกึ ษาธิการตอ้ งเปน็ เข็มทศิ การศกึ ษา
ระดมสรรพกำ�ลงั รว่ มจัดการศึกษาเพอ่ื เตรยี มคนรองรบั การเปลี่ยนแปลง
เสริมทักษะให้ผ้เู รียนสามารถคดิ วเิ คราะห์อยา่ งมเี หตุผล
บนฐานของวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยไมล่ มื รากเหง้าความเปน็ ไทย
เพื่อใหค้ นไทยทกุ เพศทกุ วัยดำ�รงชวี ติ อยา่ งมีความสขุ
ประชาชนไทยมีคุณภาพชวี ติ ทด่ี ี
สร้างพลเมอื งรว่ มเปน็ กำ�ลังขบั เคลอ่ื นประเทศใหม้ น่ั คงอยา่ งยง่ั ยืน
#ครูกัลยา
คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
12
13
สารบญั
วิสยั ทศั น์ ผู้บริหารระดับสูง 16
32
Coding For All ใชต้ รรกะ คดิ วิเคราะห์ แกป้ ญั หา 38
การสง่ เสรมิ การบรหิ าร จัดการน้ำ�โดยชมุ ชน 46
ตามแนวพระราชดำ�ริ
จดั การเรียนรปู้ ระวัตศิ าสตร์ แนวสร้างสรรค์
ผ่านสอ่ื ร่วมสมัย
14
เปล่ยี น STEM เปน็ STEAM สร้างมติ ใิ หมก่ ารศึกษา 56
ด้านวิทยาศาสตรผ์ สานศาสตร์และศลิ ป์ 66
78
การศกึ ษาท่ีเท่าเทยี ม สรา้ งโอกาส 84
ให้เดก็ ดอ้ ยโอกาสและพกิ าร 94
อาชวี ะฐานวิทย์ สรา้ งวิชาชีพคนรนุ่ ใหม่
ยกระดบั การศึกษารอบด้าน
เปลีย่ นรปู แบบการเรียนการสอน และการประเมนิ ผล
คณะท�ำ งานและคณะผจู้ ดั ท�ำ
15
วิสยั ทัศนผ์ ูบ้ ริหารระดบั สูง
16
“เราไมเ่ คยคาดหวงั
เกนิ ความสามารถ
จึงไมม่ ีความผดิ หวัง
”คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
17
“หน้าทกี่ ารงานนนั้
ไมใ่ ช่ภาระ แตม่ นั คือ
ภารกจิ ทจี่ ะตอ้ งทำ�ใหส้ ำ�เร็จ
” นายณรงค์ ดูดิง
ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
(คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช)
18
“
จะเป็ นฟั นเฟื อง
ขับเคลอื่ นการศึกษาไทย
”ร่วมพั ฒนาประเทศ
นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ
ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
[รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ] (คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช)
19
“น้อมนำ�ศาสตรพ์ ระราชา
วางรากฐานการศึกษา
ยดึ โยงประวตั ิศาสตร์
บนฐานวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี
”และนวัตกรรมน�ำ พาสู่โลกสมยั ใหม่
นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
ที่ปรึกษารัฐมนตรีและประธานคณะทำ�งานยุทธศาสตร์ และนโยบาย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
(คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช)
20
“คดิ อยา่ งรอบคอบ
ทำ�ดว้ ยความมุ่งมนั่ ตงั้ ใจ
”พูดในสิง่ ทเี่ ป็ นประโยชน์
ดร.ศุภชัย ศรีหล้า
ประธานคณะทำ�งานติดตามแผนงานและงบประมาณ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช)
21
“ตรงไป ตรงมา
พัฒนาคณุ ภาพงาน
หลากหลายวธิ ีการ
”ผสานความรว่ มมือ
ดร.สุภัทร จำ�ปาทอง
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
22
“
ความสำ�เร็จเกดิ จาก
แรงบนั ดาลใจ
ศรทั ธาและความมุ่งมนั่
”
ดร.อรรถพล สังขวาสี
เลขาธิการสภาการศึกษา
23
“ชวี ติ ทยี่ งิ่ ใหญ่
ไมใ่ ชก่ ารอยู่เหนอื คนอนื่
แตค่ อื การโน้มตวั ลงมา
”ใกล้ชิดและรับฟั งคนอืน่
ดร.อัมพร พินะสา
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
24
“บริหารงานใหไ้ ดค้ น
บรหิ ารคนใหไ้ ดง้ าน
”จะได้ทงั้ คนทงั้ งาน
ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
25
“
มงุ่ มนั่ ท�ำ ดี บนหลกั การทถี่ กู ตอ้ ง
เพื ่อพั ฒนาการศึกษาไทย
”
ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำ�นงค์
ผู้อำ�นวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
26
“คนดีสำ�คญั กว่าคนเกง่
คดิ แลว้ ลงมอื ปฏิบตั ิ
สำ�คัญกวา่ หลักการเรียนรู้
และพัฒนางานแบบมีส่วนรว่ ม
”มงุ่ ประโยชนภ์ าพรวมของสังคม
ดร.นันทา หงวนตัด
รักษาการผู้อำ�นวยการสำ�นักงานรับรองมาตรฐาน
และประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน)
27
“ทำ�ทกุ วนั ใหด้ ีทสี่ ุดดว้ ย
”ศรทั ธา วิริยะ สติ สมาธิ ปั ญญา
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริดา บุรชาติ
ผู้อำ�นวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
28
“Those that say it can’t be done
shouldn’t get in the way of those
that are doing it.
” Dave Trott.
รองศาสตราจารย์ ดร.วิวัฒน์ เรืองเลิศปัญญากุล
รักษาการในตำ�แหน่งผู้อำ�นวยการโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ (องค์การมหาชน)
29
30
“กา้ วส่ปู ที ี่ 3 เตมิ ตอ่ ยอด ยัง่ ยนื ”
ผลสำ�เร็จ Quick Win
1. Coding For All ใชต้ รรกะ คดิ วเิ คราะห์ แก้ปัญหา
2. การส่งเสรมิ การบรหิ ารจดั การน้ำ� โดยชมุ ชนตามแนวพระราชด�ำ ริ
3. จดั การเรียนร้ปู ระวัติศาสตร์ แนวสรา้ งสรรค์ ผ่านสอื่ ร่วมสมัย
4. เปล่ยี น STEM เป็น STEAM สร้างมิติใหมก่ ารศึกษา
ด้านวทิ ยาศาสตร์ ผสานศาสตรแ์ ละศิลป์
5. การศกึ ษาทเ่ี ทา่ เทยี มสรา้ งโอกาส ให้เดก็ ดอ้ ยโอกาสและพกิ าร
6. อาชีวะฐานวิทย์ สร้างวิชาชีพคนรุน่ ใหม่
7. ยกระดับการศึกษารอบดา้ น เปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอน
และการประเมนิ ผล
31
Coding For All
ใชต้ รรกะ คิดวเิ คราะห์ แก้ปญั หา
32
“ขับเคล่อื น Coding
ตอ่ ยอดจากหลักสูตรวทิ ยาการคำ�นวณ
สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจสู่สังคม
เร่งพัฒนาครเู พ่ือสรา้ งเดก็ ไทย
ใหม้ ีทักษะจ�ำ เป็ นในยุคดจิ ิทัล
ใชต้ รรกะ คดิ วิเคราะห์
”แกป้ ั ญหาสู่การพัฒนาชาติ
33
Coding For All : ใชต้ รรกะ คดิ วเิ คราะห์ แก้ปัญหา
พฒั นาหลกั สตู ร Coding ส�ำ หรับนกั เรียน - นักเรียนพเิ ศษ - บุคคลทั่วไปในทุกกลมุ่ อาชีพ
กระจายการเรยี นรสู้ ปู่ ระชาชนทุกกล่มุ
โค้ดดิ้งเป็นนโยบายแห่งชาติ ที่รัฐมนตรีช่วยว่าการ ภาษาใหม่ทจี่ ะใชส้ ่อื สารกับคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยี
กระทรวงศึกษาธิการ (คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) ในอนาคต สอดคล้องกับการเตรียมกำ�ลังคนของ
มุ่งมั่นดำ�เนินการภารกิจหลักตามแผนแม่บทภายใต้
ยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี รวมทัง้ แผนการปฏริ ูปประเทศ ประเทศให้มีทักษะทันโลกดิจิทัล เพิ่มความสามารถ
ดา้ นการศกึ ษาและนโยบายรฐั บาล ทง้ั ในสว่ นนโยบายหลกั การแข่งขันทางเศรษฐกิจและความมั่นคงทางสังคมของ
ดา้ นการปฏริ ปู กระบวนการเรยี นรู้ การพฒั นาศกั ยภาพ ประเทศ โดยมีหน่วยงานหลักของกระทรวงศึกษาธิการ
คนตลอดชว่ งชวี ิต และนโยบายเร่งด่วน ร่วมขับเคลื่อนนโยบายในการพัฒนาด้าน Coding
ไดแ้ ก่ ส�ำ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน (สพฐ.)
ดังนั้นการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 จึงจำ�เป็น สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ตอ้ งมีการจัดการองค์ความรู้และยกระดับทักษะที่จำ�เป็น (สสวท.) ร่วมด�ำ เนนิ การดังนี้
โดยเฉพาะด้าน Coding หรือภาษาคอมพิวเตอร์เพื่อ
ส่งเสริมและสนับสนุนการสื่อสารการเรียนรู้ทักษะ
34
1 จัดให้มีหลักสูตรการเรียนการสอน Coding 2 แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์
และนโยบายส่งเสริมการเรียนภาษา
โดยใช้รูปแบบการเรียน Unplugged Coding คอมพิวเตอร์ (Coding) แห่งชาติ
ในระดับประถมศึกษาตอนต้น สำ�หรับโรงเรียนใน
พื้นที่ทุรกันดารห่างไกล เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ� ประกอบด้วยหน่วยงานจากกระทรวงศึกษาธิการ
ทางการศึกษา ทำ�ให้ผู้เรียนเกิดทักษะทจ่ี ำ�เป็น กระทรวงดิจทิ ัลเพื่อเศรษฐกจิ และสังคม กระทรวง
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดร้ ว่ มก�ำ หนดนโยบาย
ในการพัฒนาคนไทยทุกช่วงวัยตามภารกิจ
และอำ�นาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้เกิด
เอกภาพดา้ นนโยบาย
Unplugged Coding
ส�ำ หรบั โรงเรยี นพื้นท่หี ่างไกล
Coding OBEC
(Youtube Channel)
โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ดำ�เนินการพัฒนา
หลักสูตรอบรมและจัดอบรมด้วยรูปแบบ face to
face และ online ตามสถานการณ์และมจี ำ�นวน
ผผู้ ่านการอบรมดังน้ี
35
สำ�นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน วีดิทัศน์ เวบ็ ไซต์ระบบ
Coding Policy อบรมครู
1. หลักสตู รและอบรมผู้บริหารการศึกษา
Coding for District Administrator (C4D)
จำ�นวน 225 คน
2. หลกั สูตรและอบรมผบู้ ริหารสถานศึกษา
Coding for School Director (C4S)
จำ�นวน 29,817 คน
3. หลกั สูตร Unplugged Coding ส�ำ หรับโรงเรียน
ขนาดเล็กในพืน้ ท่ีห่างไกล
จ�ำ นวน 13 จังหวัด 43 โรงเรียน
2 หนว่ ยงาน ดำ�เนนิ การร่วมกัน เฟซบุ๊ค สาขาคอมพวิ เตอร์ วดี ิทศั น์
สสวท. หลกั สตู ร C4T
1. หลักสตู รและอบรมวิทยากรแกนนำ�
Coding Core Trainer (CCT) จ�ำ นวน 928 คน
2. หลักสตู รและอบรมครู
Coding for Teacher (C4T) จำ�นวน 188,060 คน
3. หลกั สตู รและอบรมศึกษานเิ ทศก์
Coding Mentor (CM) จ�ำ นวน 827 คน
สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
1. หลกั สตู รอบรมโคด้ ด้ิงเพอ่ื การเกษตร (Coding for Farm)
2. หลกั สตู รอบรม Coding สำ�หรบั บคุ คลท่วั ไป (Coding for All)
3. หลักสูตรการอบรมการจัดการเรยี นรวู้ ทิ ยาการ คำ�นวณส�ำ หรบั ครูขั้นสงู
(Coding Online for Teacher Plus: C4T Plus) และอบรมครู 4,030 คน
4. หลกั สตู ร Scratch ขน้ั พ้ืนฐาน สำ�หรบั การจัดการ เรยี นร้วู ิทยาการค�ำ นวณและอบรมครู 1,122 คน
5. หลกั สูตรปัญญาประดิษฐ์ออนไลน์ (AI for Schools) และอบรมครู 26,182 คน
6. หลักสตู รการพัฒนาครดู ้านการเรียนรู้ปญั ญาประดษิ ฐ์ด้วย IPST - AI และอบรมครู 45 คน
7. หลกั สตู รอบรม Coding ที่จดั โดยศูนยภ์ ูมภิ าค ระดับประถมศึกษา และอบรมครู 6,744 คน
8. หลักสูตรอบรม Coding ท่ีจัดโดยศนู ยภ์ มู ภิ าค ระดับมธั ยมศกึ ษา และอบรมครู 1,799 คน
9. หลกั สตู ร Python พื้นฐาน ส�ำ หรบั การจัดการเรยี นรู้วทิ ยาการค�ำ นวณ
ระดับมัธยมศึกษา และอบรมครู 265 คน
36
นอกจากน้ี ส�ำ นกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา (สกศ.)
ในฐานะหน่วยนโยบายและแผนการศึกษาของชาติ
ตอบสนองนโยบายกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ไดด้ �ำ เนนิ การวจิ ยั
และสรุปผลวิจัยแนวทางการส่งเสริมการจัดการเรียน
การสอนวทิ ยาการคำ�นวณ Coding เพอ่ื พัฒนาทกั ษะ
ผเู้ รียน ในศตวรรษท่ี 21 เพอื่ สร้างประโยชน์ ตอ่ การเพิ่ม
ทักษะและการพัฒนากระบวนการคิดของนักเรียนระดับ
ประถมศึกษา จำ�นวน 4,695,729 คน ตอ่ เนอ่ื งไปจนถงึ
ระดับมัธยมศึกษา จำ�นวน 4,209,113 คน รวมถึงครู
จำ�นวน657,834คนท้งั ในสถานศึกษาของรฐั และเอกชน
เรง่ ขยายผลการขบั เคล่ือนนโยบาย Coding For All :
All for Coding ภายใต้เป้าหมายต้องการเร่งกระจาย
การเรยี นรู้ Coding ไมเ่ ฉพาะแตค่ รูและนกั เรียนเท่าน้นั
แต่ต้องกระจายไปสู่ทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ทุกช่วงวัยให้ได้
มากทีส่ ดุ
37
การส่งเสรมิ การบริหารจดั การน�้ำ
โดยชุมชนตามแนวพระราชดำ�ริ
38
“สรา้ งผปู้ ระกอบการดา้ นการเกษตรและประมง
ใหส้ อดคลอ้ งกบั สงั คมโลกในศตวรรษท่ี 21
พัฒนาสถานศกึ ษาอาชวี ศกึ ษา
เกษตรกรรม และประมง
ใหเ้ ป็ นแหลง่ เรยี นรแู้ ละถา่ ยทอดเทคโนโลยี
นวตั กรรมการเกษตร (Digital Agri College)
น�ำ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี
และนวตั กรรมมาใชใ้ นกระบวนการเรยี นการสอน
(Science/Technology/Innovation : STI)
บรู ณาการไปกบั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
”สรา้ งชลกร และการถา่ ยทอดองคค์ วามรสู้ ชู่ มุ ชน
39
การส่งเสรมิ การบริหารจัดการน้ำ�
โดยชุมชนตามแนวพระราชดำ�ริ
ขยายผลสูช่ ุมชน สรา้ งความมัน่ คงทางการเกษตร
ตามนโยบายรฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร นวตั กรรมการเกษตร ( Digital Agri College ) โดยนำ�
คณุ หญงิ กลั ยา โสภณพนชิ ทจ่ี ะยกระดับ สถานศึกษา วทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยแี ละนวตั กรรมมาใช้ในกระบวนการ
อาชีวศึกษาเกษตรกรรมและประมง ในสังกัดสำ�นักงาน เรยี น การสอน (Science/Technology/Innovation : STI)
คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา เพอื่ สรา้ งผปู้ ระกอบการ พร้อมท้ังบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ด้านการเกษตรและประมงให้สอดคล้องกับสังคมโลกใน ในการจัดการเรียนการสอนและการถ่ายทอดองค์
ศตวรรษท่ี 21 ความร้สู ูช่ ุมชนซงึ่ ผลการด�ำ เนินงานทผี่ ่านมาในรอบ 2 ป
ของสถานศึกษา อาชีวศึกษาเกษตรกรรมและประมง
โดยการพฒั นาสถานศึกษา อาชีวศกึ ษาเกษตรกรรม มรี ายละเอียดดังน้ี
และประมงให้เป็นแหล่งเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยี
40
การสง่ เสริมการบรหิ ารจัดการนำ้�
การบริหารจัดการน้ำ� ส่งเสริมสนับสนุนเรื่องการ โดยชุมชน ตามแนวพระราชดำ�ริเพื่อบริหารจัดการนำ�้
กักเก็บน้ำ�ไว้ใช้ในสถานศึกษาอาชีวศึกษาเกษตรกรรม อยา่ งเปน็ ระบบ และไดม้ นี โยบายใหส้ ถานศกึ ษาอาชวี ศกึ ษา
และประมง โดยการขุดบ่อ การเก็บน้ำ�ไว้ใต้ดิน เพื่อให้ เกษตรกรรมและประมง จัดการเรียนการสอนหลักสูตร
มนี �ำ้ เพยี งพอใช้ในการปลกู พชื และ การเลย้ี งสตั ว์ตลอดปี ประกาศนียบตั รวชิ าชีพชั้นสงู ประเภทวชิ าเกษตรกรรม
และให้สถานศึกษาขยายผลไปสู่ชุมชนซึ่งการดำ�เนิน สาขาวิชาช่างกลเกษตร สาขางานบริหารจัดการน้ำ�
งานของสถานศึกษาอาชีวศึกษาเกษตรกรรมและ เพ่ือการเกษตร มเี ป้าหมายเพอื่ ให้ผเู้ รยี นเป็นนกั บริหาร
ประมงได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และได้มีแนวคิดในการสร้าง จดั การนำ�้ เปดิ รับสมคั รภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564
ชลกร จำ�นวน 100 คน ในสถานศึกษาอาชีวศึกษา ในสถานศกึ ษาอาชีวศึกษาเกษตรกรรมและประมง 5 แหง่
เกษตรกรรมและประมงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คอื วิทยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคามวิทยาลยั
จำ�นวน 10 แห่ง โดยได้พานักศึกษาไปดูงานการบริหาร เกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี วิทยาลัยเกษตรและ
จัดการน้ำ�โดยชุมชนตามแนวพระราชดำ�ริ ในหลวง เทคโนโลยยี โสธร วทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยศี รสี ะเกษ
รัชกาลที่ 9 เพื่อที่จะให้ครูและนักศึกษานำ�ความรู้ที่ได้ และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด มีผู้เรียน
รับมาช่วยเหลือเกษตรกรเรื่องการบริหารจัดการน้ำ� จำ�นวน 124 คน เปน็ การสานต่อศาสตรพ์ ระราชาดา้ น
ให้มีน้ำ�ใช้ตลอดปีน้ำ�ไม่ท่วม ไม่แล้งและเตรียมวางแผน การบรหิ ารจดั การน�ำ้ อยา่ งเปน็ ระบบ เพอ่ื ทจ่ี ะชว่ ยแกป้ ญั หา
ที่จะขยายไปยังสถานศึกษาอาชีวศึกษาเกษตรกรรม ความยากจนและให้เกษตรกรมีน้ำ�กินน้ำ�ใช้ ภายใต้
และประมง ทั้ง 47 แห่ง และสานต่อศาสตร์พระราชา วถิ ชี ีวติ พอเพียงไดอ้ ย่างย่งั ยืน
ด้านน้ำ�ด้วยการจัดทำ�โครงการบริหารจัดการน้ำ�
41
ขยายผลสชู่ ุมชน
การจัดทำ�ฟาร์มตัวอย่าง1ไร่1แสน1เดือนเน้นการ ด�ำ เนนิ การอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง โดยใหน้ �ำ กลา้ ไม้ไปปลกู ในพน้ื ท่ี
นำ�หลักการเรื่อง Coding มาปรับใช้ในการทำ�การ สถานศกึ ษาอาชวี ศกึ ษาเกษตรกรรมและประมงทว่ั ประเทศ
เกษตรเป็นการปลูกความคิดให้กับเกษตรกรอย่างเป็น สถานศกึ ษาละ 1,000 กลา้ เปน็ การเพม่ิ พน้ื ทส่ี เี ขยี วใหก้ บั
ระบบ สรา้ งเกษตรกรใหม้ คี วามรแู้ ละทกั ษะ โดยการวางแผน แผ่นดนิ ไทย ซ่งึ เดิมมีพน้ื ที่ป่าในสถานศึกษาอาชีวศึกษา
การท�ำ งานเปน็ Smart Farm สามารถสรา้ งมูลค่าเพมิ่ เกษตรกรรมและประมง 181 ไร่ และในปี 2563 – 2564
ให้กับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรได้หลายเท่าตัว โดยให้ สถานศึกษาอาชีวศึกษาเกษตรกรรมและประมงมีพื้นท่ี
สถานศึกษาอาชีวศึกษาเกษตรกรรมและประมงจัดทำ� ป่าเพิ่มขึ้นในสถานศึกษา 1,308 ไร่ และในพื้นที่ป่าและ
ฟารม์ ตวั อยา่ งในสถานศกึ ษา Coding For Farm และ ชุมชน 481 ไร่ เป็นการเพ่ิมพื้นที่สเี ขียวให้กบั ประเทศ
เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ให้ประชาชนเข้ามาศึกษาเพ่ือนำ�ไป
ปรบั ใช้ การสง่ มอบอาหารทเ่ี ปน็ ผลติ ผลการเกษตรใหบ้ คุ ลากร
ทางการแพทย์ เนอ่ื งจากในสถานการณโ์ ควดิ - 19 ระบาด
นอกจากน้ียังมีการแนะนำ�การจัดพ้ืนท่ีตามเกษตร ทั่วประเทศ ทำ�ใหบ้ ุคลากรทางการแพทยซ์ ่งึ เปน็ ด่านหน้า
ทฤษฎีใหม่วางแผนปลูกพชื ผกั เลี้ยงสตั ว์เพอ่ื ให้มีรายได้ ตอ้ งท�ำ งานหนกั เพราะมผี ปู้ ว่ ยจ�ำ นวนมาก รฐั มนตรชี ว่ ย
ทกุ วัน ตลอดปี ชว่ ยแก้ปัญหาความยากจนและการว่าง ว่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ ารคุณหญงิ กัลยาโสภณพนิช
งาน ท้ังน้ีไดด้ ำ�เนนิ การที่วิทยาลัยตน้ แบบ คอื วิทยาลัย จึงมีนโยบายให้สถานศึกษาอาชีวศึกษาเกษตรกรรมและ
เกษตรและเทคโนโลยีล�ำ พูน ผลผลิตคือการปลกู พืชผัก ประมง จ�ำ นวน 47 แห่ง จดั ทำ�อาหารใหบ้ คุ ลากรทางการ
ไม้ผล เชน่ คะนา้ ผักสลดั พชื ผักสมนุ ไพร มะนาว และมี แพทย์ เป็นเวลา 17 วนั ผลการด�ำ เนนิ งาน สถานศึกษา
การเพาะพันธ์ปุ ลาดกุ และกบ จำ�หนา่ ยอกี ดว้ ย อาชีวศึกษาเกษตรกรรมและประมง ได้จัดทำ�อาหารไป
มอบให้บุคลากรทางการแพทย์ ณ โรงพยาบาลหลัก
การปลูกป่าในสถานศึกษาอาชีวศึกษาเกษตรกรรม โรงพยาบาลสนาม ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินโควิด - 19
และประมง จำ�นวน 47 แห่ง เน้นการเพิ่มพื้นที่ ป่าใน จุดบริการวัคซีน จุดคัดกรอง และสถานที่กักตัว รวม
สถานศึกษาและป่าชุมชน โดยปลูกต้นไม้ใหญ่ ไม้ยืนต้น 120,728 กลอ่ ง
ที่มีค่าและเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ให้ได้มากที่สุดเพื่อเป็น
ตัวอย่างให้กับประชาชนและเกษตรกรในชุมชน และได้
42
การปลูกพืชสมุนไพรและมอบพันธุ์ปลานิลการ เกษตรกรรมและประมงได้เพาะพันธุ์ปลานิล จำ�นวน
ให้ความรว่ มมอื ในการแกป้ ัญหาสถานการณ์โควดิ - 19 1,934,499 ตัว แจกจ่ายให้แก่เกษตรกรและชุมชน
กระทรวงศึกษาธิการได้ขอความร่วมมือสถานศึกษา จำ�นวน 1,387,899 ตัว โดยในสว่ นของเกษตรกรได้แจก
อาชีวศึกษาเกษตรกรรมและประมง จำ�นวน 47 แห่ง จ่ายไปแลว้ จำ�นวน 5,128 คน ในสว่ นของชุมชนได้แจก
ในการใหค้ วามช่วยเหลือด้านสถานทีแ่ ละอาหารแล้ว จ่ายไปแล้ว จำ�นวน 15 ชมุ ชน นอกจากน้ียงั ปล่อยลงสู่
สระน�้ำ ในวิทยาลยั แหล่งน้�ำ ในศนู ย์ อศ.กช. และแหลง่ น้�ำ
รั ฐ ม น ต รี ช่ ว ย ว่ า ก า ร ก ร ะ ท ร ว ง ศึ ก ษ า ธิ ก า ร ธรรมชาติ เชน่ อา่ งเกบ็ นำ้� แมน่ ำ�้ คลอง เปน็ ต้น จ�ำ นวน
คณุ หญงิ กลั ยา โสภณพนชิ ยงั มนี โยบายให้สถานศึกษา 326,747 ตัว เน่อื งจากปลานลิ เปน็ ปลาที่ ขยายพนั ธ์ุ
อาชีวศึกษาเกษตรกรรมและประมง เร่งเพาะกล้าพืช งา่ ย รสชาติดี และดีต่อสุขภาพ
สมุนไพรซึ่ ง มี ส ร ร พ คุ ณ ท า ง ก า ร แ พ ท ย์ ใ น ก า ร เ ส ริ ม
ภูมิคุ้มกันและรักษาโรคโควิด - 19 ซึ่งได้รับความร่วม การเกดิ โรคระบาดลมั ปสี กนิ ในโค กระบอื สถานศกึ ษา
มือเป็นอย่างดี ผลการดำ�เนินงานของวิทยาลัย มีการ อาชวี ศกึ ษาเกษตรกรรมและประมง จ�ำ นวน 32 แหง่ ไดบ้ รู ณ
ปลูกฟ้าทะลายโจร จำ�นวน 175,644 ต้น แจกจ่ายให้ าการการเรียนการสอนสาขาวิชาสัตวศาสตร์กับหน่วย
ประชาชน จำ�นวน 15,621 คน กระชายขาว จำ�นวน งานในจงั หวดั เพอ่ื รกั ษาโรคระบาดลมั ปสี กนิ ในโค กระบอื
43,400 ต้น แจกจ่ายให้ประชาชน จำ�นวน 3,465 คน ตง้ั แตเ่ ดอื นกรกฎาคม 2564 โดยรว่ มมอื กบั ปศสุ ตั วจ์ งั หวดั
ขิง จำ�นวน 14,323 ต้น แจกจ่ายให้ ประชาชน จ�ำ นวน ปศสุ ัตว์อ�ำ เภอ เทศบาล องคก์ ารบริหารส่วนตำ�บล และ
2,045 คน ขมิ้นชัน จำ�นวน 8,250 ต้น แจกจ่ายให้ ผนู้ �ำ ชมุ ชน ในการใหค้ วามรู้ ฉดี วคั ซนี ปอ้ งกนั ฉดี ยารกั ษา
ประชาชน จำ�นวน 160 คน และสมนุ ไพร อ่ืนๆ เชน่ พรกิ โรค พน่ ยาฆา่ เชอ้ื พน่ ยาก�ำ จดั แมลงในคอกสตั ว์ ฉดี ยาถา่ ย
ตะไคร้ ข่า ไพร ไฟเดอื นหา้ จำ�นวน 4,960 ต้น รวมถงึ พยาธิ ฉดี ยาบ�ำ รงุ และฉดี วติ ามนิ เพอ่ื บรรเทา ความเดอื ด
ฟ้าทะลายโจรที่สกัดเป็นแคปซูล แจกจ่ายให้ประชาชน รอ้ นใหก้ บั เกษตรกรผเู้ ลย้ี งโค กระบอื จ�ำ นวน 4,325 ตวั
จำ�นวน 1,400 คน นอกจากนี้ยังมีนโยบายช่วยเหลือ นอกจากนย้ี งั มแี พะอกี จ�ำ นวน 250 ตวั
ประชาชนในด้านอาหารโดยสถานศึกษาอาชีวศึกษา
43
สร้างความม่นั คงทางการเกษตร
การบริหารจัดการฟารม์ โดยน�ำ Internet of Thing ขอ้ มลู ผลผลติ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู สถานทแ่ี ละต�ำ แหนง่
(IOT)ซง่ึ เปน็ เทคโนโลยที เ่ี ชอ่ื มตอ่ กบั อปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ของฝูงปศุสัตว์ ตรวจสุขภาพสัตว์ ตรวจสอบสภาพ
ตา่ ง ๆ ท�ำ ใหส้ ามารถเชื่อมโยง รับส่งข้อมูล ส่งั การเพื่อ ความเป็นอยู่ภายในโรงเรือน เป็นการลดค่าใช้จ่าย
ควบคุมอุปกรณ์ผ่านเครอื ข่าย Internet ได้ สามารถเกบ็ ในการจ้างแรงงานและป้องกันการแพร่กระจายของโรค
และรวบรวมขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ หลกั การท�ำ งานของ สถานศกึ ษาทน่ี �ำ ระบบ IOT มาใช้ ตัวอยา่ งเช่น
IOT คอื การนำ�เทคโนโลยี RFID Sensors เช่ือมต่อกบั
อปุ กรณ์ทางการเกษตรตา่ ง ๆ เพ่ือใหอ้ ุปกรณส์ ามารถ การส่งผู้เรียนไปฝึกงานต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศ
เช่อื มโยงและสอ่ื สารกบั อุปกรณค์ วบคุมหลักได้ โดยผา่ น อิสราเอล และเดนมาร์ก เป็นการจัดการศึกษา ระบบ
ระบบ Internet แบบ Real Time เชน่ เซ็นเซอร์วัดค่า ทวิภาคี ทำ�ให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาในเรื่องภาษา
ความชนื้ และปรมิ าณน�้ำ ในดิน ตรวจวดั อุณหภมู ิ เพื่อใช้ การใช้เคร่อื งมอื ด้านการเกษตรที่หลากหลาย
ควบคุมและเฝ้าระวังโรคและแมลงศัตรูพืช การใช้โดรน
ส�ำ รวจพ้นื ทีแ่ ปลงเกษตร ฉีดพ่นปยุ๋ และยาฆา่ แมลง เก็บ
สถานศึกษา โครงการ
วิทยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีก�ำ แพงเพชร โครงการศนู ยถ์ า่ ยทอดเทคโนโลยมี นั สำ�ปะหลัง
ระบบน�ำ้ หยด
วิทยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีเชียงใหม่ โครงการความร่วมมอื กับภาคเอกชนเพ่ือพัฒนาความ
เป็นเลศิ ด้านพืชสวนประดับ (กลว้ ยไมแ้ ละเบญจมาศ)
วิทยาลยั เกษตรและเทคโนโลยพี ะเยา ภายใต้โครงการขบั เคลอ่ื นเกษตรสมยั ใหม่
วทิ ยาลัยเกษตรและเทคโนโลยรี อ้ ยเอด็ ด้วยอาชีวะยกกำ�ลังสอง
วทิ ยาลัยเกษตรและเทคโนโลยลี พบุรี โครงการพัฒนาฟาร์มโคเน้ือ
โครงการฟาร์มพืชผกั ปลอดภยั
วทิ ยาลัยเกษตรและเทคโนโลยสี ุโขทยั โครงการพัฒนางานฟารม์ โคนมอจั ริยะ
วิทยาลยั ประมงตณิ สูลานนท์ แบบครบวงจรส่ฟู ารม์ ดิจิทลั
โครงการเลีย้ งสกุ รขนุ
โครงการเลี้ยงกงุ้ ขาวปลอดภัย 1 ไร่ 1 ล้าน
ในรปู แบบ SMART FARM
44
Safety College Safety College Digital College
การพัฒนาการเรียนการสอน Online และ Onsite 45
จากปญั หาสถานการณ์โควดิ -19ท�ำ ใหก้ ารจดั การเรยี น
การสอนในสถานศึกษาอาชีวศึกษาเกษตรกรรมและ
ประมงต้องประสบกับปัญหาเนื่องจากการจัดการเรียน
การสอนส่วนใหญ่เป็นภาคปฏิบัติและต้องทำ�อย่าง
ต่อเน่อื ง เพราะผลผลิตของวทิ ยาลัยเปน็ ส่ิงมีชวี ติ คือพืช
และสัตว์ผู้เรียนต้องเข้ามาในสถานศึกษา เพื่อดูแลให้น้ำ�
ให้อาหาร แต่สถานศึกษาก็ดำ�เนินการตามแนวทางของ
สาธารณสุข คือ การเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากาก
และล้างมือ สำ�หรับผลผลิตมีการดำ�เนินการโดยยึด
ความสะอาดและปลอดภยั ของผ้บู ริโภคอย่างเคร่งครัด
จดั การเรียนร้ปู ระวตั ิศาสตร์
แนวสรา้ งสรรค์ ผ่านสื่อร่วมสมยั
46
“เรยี นรอู้ ดตี เขา้ ใจปั จจบุ ัน สร้างระบบคิด
ตอ่ ยอดพัฒนาอนาคต ด้วยนวตั กรรม อ่าน เขยี น
เรยี นประวตั ศิ าสตรช์ าติไทยผ่านการส่ือสารรว่ มสมยั
”และล�ำ้ สมยั ดว้ ยสอ่ื เทคโนโลยภี าพเสมอื นจรงิ จากธนบตั ร
47
จัดการเรียนรูป้ ระวัตศิ าสตร์แนวสร้างสรรค์ผา่ นส่ือรว่ มสมัย
เพ่มิ ปฏิสัมพันธค์ รแู ละนกั เรียนยคุ ดิจิทัล
ส�ำ นกั พฒั นานวตั กรรมการจดั การศกึ ษา ส�ำ นกั งาน สอนใหน้ กั เรยี นสนกุ มคี วามสขุ และมคี วามรว่ มสมยั
คณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน ได้ดำ�เนนิ การ เน้นให้นักเรียนเห็นคุณค่า ความสำ�คัญและเกิด
พฒั นานวตั กรรมโครงการพฒั นานวตั กรรม สง่ เสรมิ ความรกั ในสถาบนั ชาติ ศาสนาและพระมหากษตั รยิ ์
การเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทย ปรบั เปลย่ี นวธิ กี าร จ�ำ นวน2 โครงการ ดังนี้
1 การพฒั นาสร้างระบบคิด
การเรยี นรู้ประวัติศาสตรช์ าติไทยด้วยเทคโนโลยี
รูปแบบของสื่อเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง (AR) ทัง้ นี้ รวมทง้ั เรือ่ งราวเกีย่ วกับพระราชกรณยี กิจ
เปน็ ลกั ษณะการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตรผ์ า่ น Application ของรัชการที่ 1 – 10 ดว้ ยธนบัตร 20 บาท 50 บาท
ในโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทแ่ี ละเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ โดยจดั 100 บาท 500 บาทและ 1,000 บาท ซึ่งมีเนื้อหา
ให้เรียนรู้ผา่ นธนบัตรรชั กาลที่ 10 (รูปแบบท่ี 17) ประกอบดว้ ย 2 สว่ น คอื
48
สว่ นท่ี 1 : โครงการพฒั นาสอ่ื เทคโนโลยภี าพเสมอื นจรงิ Augmented Really ( AR )
เพ่ือการเรยี นร้ปู ระวตั ิศาสตร์ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ส�ำ หรบั ใช้ประเมนิ พฒั นาการ
การเรยี นรสู้ �ำ หรบั นักเรยี น
จดุ เนน้ คอื ต้องการใหค้ รนู �ำ เทคโนโลยมี าเป็นสือ่ ในการจัดการเรยี นการสอนประวัติศาสตร์ตามเนอื้ หา
ทส่ี อดคลอ้ งกบั สาระการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทย โดยครผู สู้ อนสามารถเลอื กใชส้ อ่ื ตามเรอ่ื งราวทก่ี �ำ หนด
ให้สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานและตวั ชว้ี ัดที่นำ�มาใช้ในแผนการจดั การเรียนรู้
ธนบตั รฉบับละ 20 บาท เปน็ เร่อื งราว 3D Animation 2 เรอ่ื ง คือ
ดา้ นหน้าเปน็ เกมสรา้ งพระราชวัง 1. รปู แบบของการสรา้ งพระบรมมหาราชวัง
2. วรรณคดีไทย เรื่อง อิเหนา ตอนพระฤๅษี
รดนำ�้ มนต์ใหอ้ ิเหนาและนางบษุ บา
ธนบัตรฉบับละ 50 บาท เป็นเร่ืองราว 3D Animation 2 เรื่อง คือ
ด้านหนา้ เปน็ เกม ทายสนิ คา้ น�ำ เข้าจากจนี 1. ข้อมลู ธงชาตแิ ละธงการคา้ สนิ คา้ ส่งออกนำ�เขา้
สมยั รชั กาลท่ี 3
2. พระราชวงั ฤดูร้อนและธงประจำ�พระองค์
ธนบัตรฉบับละ 100 บาท เปน็ เรอ่ื งราว 3D Animation 2 เร่อื ง คอื
ด้านหน้าเปน็ เกมตอบค�ำ ถามการเสด็จ 1. การเสด็จประพาสตา่ งประเทศของรชั กาลท่ี 5
ประพาสของรัชกาลที่ 5 2. การฝึกซอ้ มลกู เสือปา่ และพระราชพิธีน�ำ้
พิพฒั น์สตั ยา
ธนบตั รฉบบั ละ 500 บาท เปน็ เรอ่ื งราว 3D Animation 2 เรอ่ื ง คอื
ด้านหนา้ เป็นเกมตอบค�ำ ถาม 1. การปกครองต้งั แต่สมยั สโุ ขทยั จนถึง
ใจความส�ำ คญั ในรัฐธรรมนูญ
รัตนโกสนิ ทร์
2. การเสดจ็ เยีย่ มประชาชนของรัชกาลท่ี 8 และ 9
49
ธนบัตรฉบบั ละ 1000 บาท เปน็ เร่อื งราว 3D Animation 2 เรื่อง คอื
ด้านหน้าเป็นเกมจับคู่พระปรมาภไิ ธย 1. โครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำ ริของรัชกาลที่ 9
2. โครงการอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำ รขิ องรชั กาลท่ี 10
และสีประจ�ำ พระองค์
ภาพแสดง
รายละเอียดของเกมและเนอ้ื หาในแตล่ ะธนบตั ร
สำ�นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
พฒั นาส่อื เทคโนโลยีภาพเสมอื นจรงิ (AR) โดยด�ำ เนินการ 5 สว่ น คือ
1) พัฒนาสื่อเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง (AR) 2) จัดอบรมครูสร้างสื่อเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง (AR) 3) จัดทำ�
คู่มือการใช้สื่อเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง (AR) 4) ขับเคลื่อนและเผยแพร่สื่อเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง (AR) โดยการ
พัฒนาสื่อควบคู่กับ 5) การวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง (AR) ในกลุ่มเป้าหมายที่ใช้สื่อเทคโนโลยี
ภาพเสมือนจริง (AR) 2 กลุ่ม คือ กลุ่มครูผู้สอนสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เน้นครูประวัติศาสตร์เป็นกลุ่ม
ผู้ใช้งาน และกลุ่มนักเรียนระดับประถมศึกษาตอนปลายรวมทั้งระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในฐานะผู้เรียน
ส่วนที่ 2 การพัฒนานวัตกรรมสื่อเสริมสร้างการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตร์ชาติไทย
การอ่านการเขียน เรยี นประวัตศิ าสตรผ์ า่ นการส่ือสารรว่ มสมัย
จุดเนน้ คอื พัฒนาครใู หส้ ามารถนำ�เทคโนโลยี รูปแบบสื่อวีดิทัศน์การเรียนรู้ประวัติศาสตร์
มาใชเ้ ปน็ สอื่ จดั การเรียนการสอน โดยเนือ้ หาในส่ือ มลี กั ษณะเปน็ คลปิ สน้ั ๆ 5 – 7 นาที มจี �ำ นวน 10 เรอ่ื ง
จะสอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ พระราชจริยวัตรของพระมหากษัตริย์และบุคคล
ชาตไิ ทย ซง่ึ ครูผู้สอนสามารถเลอื กใชส้ อื่ การสอน สำ�คัญท่ีมีคุณาปการในการพัฒนาประเทศให้
เรื่องพระราชจริยวัตรของพระมหากษัตริย์และ เจรญิ ก้าวหน้ามาจวบจนปจั จุบันน้ี โดยมีคนร่นุ ใหม่
บุคคลสำ�คัญที่มีคุณาปการในการพัฒนาประเทศ หรือนักแสดงรุ่นใหม่เป็นผู้ถ่ายทอดและสื่อสาร
ให้เจริญก้าวหน้ามาจวบจนปัจจุบันซึ่งมีเนื้อหา ทั้งนี้ครูสามารถนำ�มาใช้ประกอบการสอนนำ�เข้า
สอดคล้องกับมาตรฐานและตัวช้ีวัดที่นำ�มาใช้ใน สู่บทเรียนหรือสรุปบทเรียนร่วมกับการจัดการ
แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มเปา้ หมายครผู ้สู อน คือ เรียนการสอนตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของวิชา
ครปู ระวัติศาสตร์ผู้ใชส้ อื่ และนกั เรยี น คอื นักเรียน ประวตั ิศาสตร์ เนื้อหามีรายละเอียด ดังนี้
ช้นั ระดับประถมศกึ ษาตอนปลายเป็นผเู้ รียนรู้
50