แผนการจดั การเรียนรู้
แบบมุ่งเน้นสมรรถนะ
และบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ชื่อวชิ า ศิลปวฒั นธรรมไทย รหสั 20700-1002
หลกั สูตร ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พทุ ธศักราช 2562
ประเภทวชิ า ทักษะวชิ าชีพ
จดั ทาโดย
นายธนดล สาระบูรณ์
ตาแหน่งครูพเิ ศษสอน
แผนกวชิ าการโรงแรม วทิ ยาลยั การอาชีพขขุ นั ธ์
สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
คำนำ
แผนการเรียนรฉู้ บับนี้ ไดจ้ ดั ทาข้นึ เพ่อื ใช้ประกอบการสอนวิชา ศลิ ปวัฒนธรรมไทย รหสั วิชา
20700 – 1002 สาหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประเภทวิชาทักษะวิชาชีพ หลักสูตร
ประกาศนียบตั รวชิ าชพี พุทธศกั ราช 2562 สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ
การเรียนการสอนในวิชา อุตสาหกรรมท่องเท่ียว ตามหลักสตู รกาหนดเวลาเรยี น 3 ช่ัวโมงตอ่ สัปดาห์
(18 สัปดาห์/ภาคเรียน) เน้นการศึกษาหลักการและความรใู้ นเชิงทฤษฏีและปฏิบัติ ใบงานในเนื้อหาแต่ล่ะบท
เป็นเพียงกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดพฤติกรรมการศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากเนื้อหาใน
หนังสือ และการวดั ผลประเมินผลทางด้านทฤษฏีน่ัน เก็บคะแนนจากแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบ
หลังเรยี น ซ่งึ ได้จดั เตรยี มไวใ้ นหนังสือเล่มน้ีเช่นกัน
ผ้จู ดั ทา หวังเปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ แผนการจดั การเรยี นรู้ ฉบับนี้ คงจะมปี ระโยชน์ต่อการจัดการศกึ ษาในยุค
ปัจจบุ นั หากมขี ้อผดิ พลาดประการใด ผู้จดั ทายินดรี ับคาติชมจากท่าน
นายธนดล สาระบูรณ์
ผจู้ ัดทา
สำรบัญ หนา้
ก
เรือ่ ง ข
ลักษณะรายวชิ า ค
วิเคราะห์เน้ือหา ง
รายการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ จ
ตารางวเิ คราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ 1
ตารางวเิ คราะหห์ ลักสตู ร 8
หนว่ ยที่ 1 วิวฒั นาการของวฒั นธรรมไทย 15
หนว่ ยที่ 2 ขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย 22
หนว่ ยที่ 3 วิถชี ีวติ ความเป็นอยู่ของคนไทย 29
หน่วยที่ 4 ค่านิยมของไทย 36
หน่วยที่ 5 ศลิ ปกรรมไทย 42
หน่วยที่ 6 วิจิตรศลิ ป์ 48
หน่วยที่ 7 ประยุกต์ศลิ ป์
หนว่ ยที่ 8 การส่งเสรมิ และอนรุ ักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยในงานบรกิ ารท่องเท่ียว
เกณฑ์การประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์แตล่ ะดา้ น
เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคร์ วม
ก
ลักษณะรำยวชิ ำ
รำยวชิ ำ ศลิ ปวัฒนธรรมไทย
รหัสวชิ ำ 20700-1002
สภำพรำยวชิ ำ เพื่อใช้เป็นแนวทางในทักษะวชิ าชีพ ให้มีประสทิ ธภิ าพ
ระดับ ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ
เวลำกำรศึกษำ 18 สัปดาห์
กำรวเิ ครำะห์หลกั สูตร
1. ชื่อวิชำ ศิลปวัฒนธรรมไทย รหัส 20700-1002
2. จุดประสงค์รำยวิชำ
1. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั วฒั นธรรมไทย ศิลปกรรมไทย วถิ ีชวี ิตของคนไทย
2. ประยกุ ต์ใชศ้ ิลปและวฒั นธรรมไทยในการส่งเสรมิ การท่องเทยี่ ว
3. มจี ิตสานึกในการอนรุ ักษ์ศลิ ปวฒั นธรรมไทย
3. คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
ศึกษาและปฏบิ ตั ิเกย่ี วกบั ววิ ฒั นาการของวัฒนธรรมไทย ขนบธรรมเนยี มประเพณีวิถีชวี ิต ค่านิยม
และวิถชี ีวิตความเปน็ อยขู่ องคนไทย ความร้เู ก่ียวกบั ศลิ ปกรรมไทย การศกึ ษานอกสถานที่
4. มำตรฐำนรำยวชิ ำ
มาตรฐานท่ี 1 วิวฒั นาการของวัฒนธรรมไทย
มาตรฐานที่ 2 ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
มาตรฐานที่ 3 วถิ ชี ีวิตความเป็นอยขู่ องคนไทย
มาตรฐานที่ 4 คา่ นยิ มของไทย
มาตรฐานที่ 5 ศิลปกรรมไทย
มาตรฐานท่ี 6 วิจติ รศลิ ป์
มาตรฐานที่ 7 ประยุกต์ศิลป์
มาตรฐานท่ี 8 การส่งเสรมิ และอนรุ ักษ์ศิลปวฒั นธรรมไทยในงานบรกิ ารท่องเท่ียว
5. สมรรถนะวชิ ำชีพ
มาตรฐานท่ี 1 แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั ศลิ ปวฒั นธรรมไทย ศิลปกรรมไทย วิถีชวี ิตของคนไทย
มาตรฐานท่ี 2 ประยุกตใ์ ช้ความรเู้ กย่ี วกับศิลปวฒั นธรรมไทยในการปฏบิ ัติงานบริการท่องเทยี่ ว
มาตรฐานที่ 3 ปฏิบัตงิ านบริการท่องเท่ียวบนพ้นื ฐานการส่งเสรมิ และการอนุรกั ษศ์ ลิ ปวฒั นธรรมไทย
ฃ
6. เนือ้ หำ
รำยวิชำ ศลิ ปวัฒนธรรมไทย รหสั วิชำ 20700-1002
หนว่ ยกำรเรียนรู้
มาตรฐานที่ 1 วิวัฒนาการของวฒั นธรรมไทย
มาตรฐานที่ 2 ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
มาตรฐานท่ี 3 วถิ ีชีวิตความเปน็ อยขู่ องคนไทย
มาตรฐานท่ี 4 คา่ นยิ มของไทย
มาตรฐานท่ี 5 ศิลปกรรมไทย
มาตรฐานท่ี 6 วิจิตรศิลป์
มาตรฐานท่ี 7 ประยกุ ตศ์ ลิ ป์
มาตรฐานท่ี 8 การส่งเสริมและอนรุ ักษศ์ ลิ ปวฒั นธรรมไทยในงานบรกิ ารท่องเท่ยี ว
รำยกำรสอนภำคทฤษฎี
มาตรฐานที่ 1 วิวัฒนาการของวฒั นธรรมไทย
-ความหมายของวฒั นธรรม
-ความสาคญั ของวัฒนธรรม
-ลกั ษณะของวัฒนธรรม
-ประเภทของวัฒนธรรม
-วฒั นธรรมไทยที่สาคญั
-ววิ ฒั นาการของวฒั นธรรมไทย
-เอกลักษณข์ องวฒั นธรรมไทย
มาตรฐานท่ี 2 ขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย
-ความหมายของขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
-ความสาคัญของขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
-ลกั ษณะของขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย
-ประเภทของขนบธรรมเนียมประเพณไี ทย
-ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยทส่ี าคญั
มาตรฐานที่ 3 วถิ ีชีวติ ความเปน็ อยขู่ องคนไทย
-ความหมายและความสาคัญของวถิ ชี ีวติ
-วถิ ชี วี ติ ความเป็นอย่ขู องคนไทย
-ลกั ษณะของวถิ ีชีวติ ความเป็นอยขู่ องคนไทย
-ประเภทของวิถชี ีวติ ความเป็นอยู่ของคนไทย
-วถิ ีชีวติ ความเปน็ อยขู่ องคนไทยในสมัยต่าง ๆ
-วิถชี ีวติ ของคนไทยตงั้ แต่ พ.ศ. 2475 ถึงปจั จุบนั
-วิถีชีวิตความเปน็ อยู่ของคนไทยในภมู ิภาคตา่ ง ๆ
มาตรฐานท่ี 4 คา่ นยิ มของไทย
-ความหมายของค่านยิ ม
-ความสาคญั ของคา่ นยิ ม
-ค่านยิ ม 12 ประการ
-ค่านยิ มของสงั คมเมืองและสังคมชนบท
-คา่ นยิ มทคี่ วรปลูกฝังในสงั คมไทย
-การปลูกฝังคา่ นิยมในสงั คมไทย
มาตรฐานท่ี 5 ศลิ ปกรรมไทย
-ความหมายของศลิ ปกรรม
-ความสาคญั ของศิลปกรรมไทย
-ลกั ษณะของศลิ ปกรรมไทย
-ประเภทของศิลปกรรมไทย
-ววิ ฒั นาการของศลิ ปกรรมไทย
-การอนุรกั ษ์ศลิ ปกรรมไทย
-แนวทางการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทย
มาตรฐานท่ี 6 วิจติ รศลิ ป์
-ความหมายและความสาคัญของวิจิตรศลิ ป์
-ลักษณะของวจิ ติ รศลิ ป์
-ประเภทของวิจิตรศลิ ป์
-วจิ ติ รศิลป์ไทยทส่ี าคัญ
มาตรฐานท่ี 7 ประยุกตศ์ ิลป์
-ความหมายและความสาคัญของประยกุ ต์ศิลป์
-ลกั ษณะของประยุกตศ์ ลิ ป์
-ประเภทของประยุกต์ศิลป์
-ประยุกตศ์ ลิ ป์ไทยท่ีสาคัญ
มาตรฐานท่ี 8 การสง่ เสรมิ และอนรุ ักษศ์ ิลปวัฒนธรรมไทยในงานบริการท่องเที่ยว
-ความหมายของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
-ความสาคัญของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
-สาเหตทุ ่ีทาใหศ้ ลิ ปวฒั นธรรมไทยเส่ือมโทรม
-แนวทางการอนรุ ักษ์ศิลปวฒั นธรรมไทย
-การประยุกตใ์ ชศ้ ิลปวัฒนธรรมไทยในการส่งเสรมิ การท่องเทย่ี ว
-การศกึ ษานอกสถานที่
7. ตำรำงวเิ ครำะห์เน้ือหำ
รำยกำรสอนทฤษฎี
วิชำ อุตสำหกรรมท่องเท่ยี ว รหสั วิชำ 20700-1002
ควำมรู้ (Knowledge) ใบงำน
มาตรฐานท่ี 1 ววิ ฒั นาการของวฒั นธรรมไทย 1 ววิ ฒั นาการของวัฒนธรรมไทย
มาตรฐานท่ี 2 ขนบธรรมเนียมประเพณี 2 ขนบธรรมเนยี มประเพณี
มาตรฐานท่ี 3 วิถีชวี ิตความเป็นอยู่ของคนไทย 3 วถิ ชี ีวติ ความเปน็ อยู่ของคนไทย
มาตรฐานที่ 4 คา่ นิยมของไทย 4 ค่านิยมของไทย
มาตรฐานที่ 5 ศิลปกรรมไทย 5 ศลิ ปกรรมไทย
มาตรฐานที่ 6 วจิ ิตรศิลป์ 6 วจิ ติ รศิลป์
มาตรฐานท่ี 7 ประยกุ ตศ์ ลิ ป์ 7 ประยกุ ต์ศลิ ป์
มาตรฐานที่ 8 การสง่ เสริมและอนรุ ักษ์ศิลปวฒั นธรรมไทย 8 การส่งเสริมและอนุรกั ษ์ศิลปวฒั นธรรมไทย
ในงานบริการท่องเที่ยว ในงานบรกิ ารท่องเท่ยี ว
.
ค
รำยกำรประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ : นกั ศึกษำต้องมีพฤตกิ รรมอนั พึงประสงค์ดงั นี้
คณุ ลกั ษณะ ควำมหมำย ตวั อย่ำงพฤตกิ รรมที่แสดงออก
1. ความรับผดิ ชอบ
ลกั ษณะของการแสดงออกถึง 1.ไมห่ ลีกเลี่ยงงาน
2. ความมวี ินัยในตนเอง
ความเอาใจใส่ ต้งั ใจ มุง่ มัน่ ในการ 2. หาความรเู้ พิ่มเติม
ทางาน การศึกษาเล่าเรยี น มีความ 3. ปฏิบตั ิงานได้สาเรจ็
ละเอียดรอบคอบระมัดระวงั ใน 4. ปฏบิ ัตงิ านตามขั้นตอน
การทางาน ยอมรบั ผลจากการ 5. จัดเตรยี มอปุ กรณ์เคร่ืองมือให้
กระทา ทง้ั ผลดีและผลเสียท่ี พรอ้ มใช้งานและสามารถใช้ได้
เกิดข้ึนรวมทั้งการปฏบิ ัตใิ ห้ได้ดีขึน้ เหมาะสมกบั ลักษณะของงาน
6. บอกจุดเดน่ จุดด้อยของงาน
7. เสนอแนะวิธแี ก้ไข ปรับปรุงงาน
8. ปฏบิ ตั ิเสรจ็ ตามกาหนด
9. เข้าเรียนตรงเวลา
10.ส่งงานตามเวลา
ความสามารถควบคมุ อารมณ์ และ 1. ไมค่ ัดลอกงานผู้อ่ืน
พฤติกรรมของตนเองให้เป็นไป 2. ไม่ใชข้ องผอู้ ื่นโดยไม่ได้รับ
ตามจดุ มุง่ หมาย รจู้ ักกาลเทศะให้ อนุญาต
ความสนใจ และเอาใจใสต่ ่อสังคม 3. มคี วามซอื่ สตั ย์สุจริต
เป็นผมู้ ีระเบียบและปฏิบัตติ ามกฎ 4. ปฏิบัติตนในการเปน็ ผ้นู าและผู้
ของสงั คม ตามทด่ี ี
5. ต้งั ใจ มุง่ มัน่ ทางานให้สาเร็ว
6. แต่งกายถูกต้องตามกฎระเบยี บ
และข้อตกลง
คณุ ลกั ษณะ ควำมหมำย ตัวอยำ่ งพฤตกิ รรมท่ีแสดงออก
3. ความผกู พัน แสดงออกถึงความเอาใจใส่ พรอ้ ม 1. รว่ มคิด รว่ มทากจิ กรรมกลุ่ม
ท่จี ะสนับสนุนและช่วยเหลือการ 2.ให้คาแนะนาเพ่ือแก้ไขปัญหา
4. ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ ปฏิบตั งิ านให้ไดผ้ ลสาเรจ็ ตาม 3.แบ่งปนั ส่งิ ของให้ผ้อู ่ืน
เปา้ ประสงค์ท่ีวางไวโ้ ดยไม่หวัง 4. สละเวลาสว่ นตวั เพื่อชว่ ยเหลือ
ผลตอบแทน เพ่ือน สงั คม ชุมชนเมื่อมีความ
จาเปน็
แสดงออกถึงการสรา้ งความเข้าใจ 5. ปฏิบตั ติ อ่ เพ่ือนทดั เทียมกัน
อันดี เพ่ือให้เกิดความรูส้ กึ ที่ดี 6. ดแู ล ชว่ ยเหลอื การทางานใน
ความเขา้ ใจ ซ่ึงกนั และกนั ความ กลมุ่ ให้สาเรจ็
สามัคคี สรา้ งขวัญกาลังใจและ 8. เสนอแนวคดิ ใหม่ ๆ
ร่วมมอื ประสานงานกนั อย่างดี 9. นาวิธีการใหม่ ๆ มาใช้ในการ
ด้วยความเตม็ ใจและจรงิ ใจ ทางาน
1. ยอมรับฟงั การตักเตอื นของ
ผอู้ น่ื
2. ยอมรับฟงั ความคิดเห็นของ
ผู้อนื่
3. ให้เกียรติและยอมรบั บทบาท
หน้าท่ขี องผู้อนื่
4. ปฏิบตั ิตนเป็น”ผู้นา”และ”ผู้
ตาม”ทดี่ ี
5. สามารถปรับตัวใหเ้ ขา้ กับผู้อืน่
ได้
6. สามารถพูดให้กาลงั ใจเพอื่ น
และผู้อ่ืน
7. แนะนาและใหโ้ อกาสผู้อ่ืนได้
แก้ไขในส่ิงท่ีผดิ พลาด
คณุ ลกั ษณะ ควำมหมำย ตัวอยำ่ งพฤติกรรมท่ีแสดงออก
5. มคี วามรู้และทักษะวิชาชพี มคี วามรแู้ ละความสามารถในการ มคี วามรแู้ ละทกั ษะ
ปฏิบตั งิ านที่เก่ยี วกับวชิ าชพี ไม่วา่ 1. ความปลอดภัยในการทางาน
จะเป็นความร้ทู างดา้ นวชิ าการ 2. การบารุงรักษาอุปกรณ์
หรอื ความสามารถในการ เครื่องมอื เขยี นแบบเทคนคิ
ปฏิบตั งิ าน มีความรู้และทักษะ เบ้ืองตน้
เชน่ 3. การเลอื กใชเ้ คร่ืองมือและ
อปุ กรณ์ให้เหมาะสมกบั ลักษณะ
งาน
4. การพัฒนาเคร่ืองมือ และ
อุปกรณ์ในงานเขยี นแบบ
5. การเลือกใชเ้ ครื่องมือให้
เหมาะสมกับลักษณะงาน
6. การเลือกใช้วัสดุ
7. การจัดระบบงาน
8. การอ่านและปฏิบัติตามแบบ
งาน
8. ตำรำงวิเครำะหม์ ำตรฐำนกำรเรยี นรู้ ง
มำตรฐำนท่ี 1 แสดงความรู้เกย่ี วกับศลิ ปวัฒนธรรมไทย ศิลปกรรมไทย วถิ ีชีวิตของคนไทย
เวลำ
ลำดับที่ หน่วยกำรเรยี นรู้ หวั ข้อกำรเรยี นรู้ (ชม.)
1 หนว่ ยท่ี 1 สอนครง้ั ท่ี 1-3 9
-ววิ ฒั นาการของวฒั นธรรม -ความหมายของวฒั นธรรม
ไทย -ความสาคัญของวฒั นธรรม
-ลกั ษณะของวฒั นธรรม
-ประเภทของวฒั นธรรม
-วัฒนธรรมไทยทสี่ าคญั
-ววิ ัฒนาการของวัฒนธรรมไทย
-เอกลักษณข์ องวัฒนธรรมไทย
2 หน่วยที่ 2 สอนครัง้ ที่ 4-6 9
-ขนบธรรมเนียมประเพณี -ความหมายของขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
ไทย -ความสาคญั ของขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
-ลกั ษณะของขนบธรรมเนยี มประเพณไี ทย
-ประเภทของขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
-ขนบธรรมเนยี มประเพณีไทยทีส่ าคญั
มำตรฐำนที่ 2 ประยุกต์ใชค้ วามรเู้ กยี่ วกับศลิ ปวัฒนธรรมไทยในการปฏิบัตงิ านบริการท่องเทย่ี ว
ลำดบั ท่ี หน่วยกำรเรยี นรู้ หัวข้อกำรเรียนรู้ เวลำ
(ชม.)
3 หน่วยท่ี 3 สอนครงั้ ที่ 7,8
-วิถชี ีวติ ความเปน็ อยขู่ องคน -ความหมายและความสาคัญของวิถชี ีวติ 6
ไทย -วถิ ชี ีวิตความเป็นอยขู่ องคนไทย
-ลกั ษณะของวิถีชวี ิตความเป็นอยู่ของคนไทย
-ประเภทของวิถชี วี ติ ความเป็นอยขู่ องคนไทย
-วิถชี วี ิตความเปน็ อยูข่ องคนไทยในสมยั ต่าง ๆ
4 หนว่ ยที่ 4 -วถิ ชี ีวิตของคนไทยต้งั แต่ พ.ศ. 2475 ถึง 6
-ค่านิยมของไทย ปัจจบุ ัน
-วิถีชวี ติ ความเป็นอยขู่ องคนไทยในภมู ิภาค ตา่ งๆ
สอนครัง้ ที่ 9,10
-คา่ นยิ มในสังคมไทย
-ความหมายของค่านยิ ม
-ความสาคญั ของคา่ นิยม
-ค่านิยม 12 ประการ
-ค่านยิ มของสังคมเมืองและสงั คมชนบท
-ค่านิยมที่ควรปลูกฝังในสังคมไทย
-การปลกู ฝงั คา่ นยิ มในสังคมไทย
หนว่ ยท่ี 5 สอนครั้งที่ 11,12 6
-ความหมายของศลิ ปกรรม
5 -ศิลปกรรมไทย -ความสาคญั ของศลิ ปกรรมไทย
-ลักษณะของศลิ ปกรรมไทย
-ประเภทของศิลปกรรมไทย
-วิวฒั นาการของศิลปกรรมไทย
-การอนุรกั ษศ์ ิลปกรรมไทย
-แนวทางการอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมไทย
มำตรฐำนที่ 3 ปฏิบตั งิ านบริการท่องเที่ยวบนพน้ื ฐานการส่งเสริมและการอนุรักษศ์ ิลปวัฒนธรรมไทย
ลำดบั ที่ หน่วยกำรเรยี นรู้ หวั ข้อกำรเรียนรู้ เวลำ
(ชม.)
6 หน่วยท่ี 6 สอนคร้งั ที่ 13,14
-วิจิตรศิลป์ -ความหมายและความสาคัญของวิจติ รศลิ ป์ 6
-ลักษณะของวจิ ิตรศลิ ป์
-ประเภทของวิจิตรศิลป์
-วจิ ิตรศิลปไ์ ทยทสี่ าคัญ
7 หนว่ ยที่ 7 สอนคร้งั ที่ 15,16
-ประยกุ ตศ์ ิลป์ -ความหมายและความสาคัญของประยกุ ต์ศลิ ป์
-ลกั ษณะของประยุกต์ศิลป์
6
-ประเภทของประยุกต์ศลิ ป์
-ประยกุ ต์ศลิ ป์ไทยท่ีสาคัญ
8 หน่วยที 8 สอนครั้งท่ี 17,18
-การสง่ เสริมและ -ความหมายของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
อนรุ ักษ์ศลิ ปวฒั นธรรม -ความสาคญั ของการอนุรักษ์วฒั นธรรมไทย 6
ไทยในงานบรกิ าร -สาเหตุทีท่ าใหศ้ ิลปวัฒนธรรมไทยเส่ือมโทรม
ทอ่ งเทีย่ ว -แนวทางการอนรุ ักษศ์ ลิ ปวัฒนธรรมไทย
-การประยุกต์ใชศ้ ิลปวัฒนธรรมไทยในการส่งเสริมการ
ท่องเที่ยว
-การศึกษานอกสถานที่
สอบปลายภาค 3
จ
ตำรำงวิเครำะหห์ ลักสตู รรำยวิชำ
รหัสวิชำ 20700-1002 ช่ือวชิ ำ ศิลปวัฒนธรรมไทย จำนวน 2 หนว่ ยกิต 3 ชม. / สปั ดำห์)
หนว่ ย ระดบั พฤตกิ รรมทพี่ ึงประสงค์ เวลำ
ท่ี (ช.ม.)
ชือ่ หน่วยกำรเรยี นรู้ พทุ ธพิ ิสัย ทกั ษะ จิตพิสัย
1 2 3 4 5 6 พสิ ัย
1. วิวฒั นาการของวัฒนธรรม //
ไทย
2 ขนบธรรมเนยี มประเพณี ////
ไทย
3 วิถชี ีวิตความเปน็ อยู่ของคนไทย / / /
4 คา่ นยิ มของไทย // /
5 ศิลปกรรมไทย ///
6 วจิ ิตรศิลป์ ///
7 ประยุกต์ศิลป์ //
8 การส่งเสรมิ และอนุรักษ์ /// //
ศิลปวัฒนธรรมไทยในงานบริการ
ทอ่ งเทย่ี ว
รวม 9 18 15 12 10 12
ความสาคัญ / สัดสว่ นคะแนน 23 46 25 26 25 20
(รอ้ ยละ)
หมำยเหตุ ระดบั พทุ ธิพสิ ยั 1 = ความจา 2 = ความเขา้ ใจ 3 = การนาไปใช้
6 = ประเมินค่า
4 = วเิ คราะห์ 5 = สังเคราะห์
แผนกำรจดั กำรเรียนร้แู บบฐำนสมรรถนะและบรู ณำกำร 1
หลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง จำนวนคำบรวม
วิชำ ศลิ ปวัฒนธรรมไทย 20700-1002 54 ชว่ั โมง
มำตรฐำนที่ 1 สอนครัง้ ที่ 1-3
จำนวนคำบ 9 ชวั่ โมง
ววิ ัฒนำกำรของวฒั นธรรมไทย
หน่วยท่ี 1
-ความหมายของวัฒนธรรม
-ความสาคัญของวฒั นธรรม
-ลกั ษณะของวัฒนธรรม จำนวนคำบรวม
-ประเภทของวัฒนธรรม 9 ชัว่ โมง
-วฒั นธรรมไทยทสี่ าคัญ
-วิวัฒนาการของวฒั นธรรมไทย
-เอกลักษณ์ของวฒั นธรรมไทย
เรอื่ งที่ 1
-ความหมายของวัฒนธรรม
-ความสาคญั ของวฒั นธรรม
-ลกั ษณะของวฒั นธรรม
-ประเภทของวฒั นธรรม
-วฒั นธรรมไทยทส่ี าคญั
-ววิ ฒั นาการของวัฒนธรรมไทย
-เอกลกั ษณ์ของวฒั นธรรมไทย
2
กรอบกำรจดั กำรเรยี นรู้บรู ณำกำรหนว่ ยท่ี 1
เร่อื งที่ 1 วิวฒั นำกำรของวัฒนธรรมไทย
มเี หตผุ ล พอประมาณ
- แนวทำงกำรและวธิ กี ำรใช้เคร่ืองมือให้มีประสิทธิภำพ - ใช้อปุ กรณไ์ ด้อย่ำงเหมำะสมกบั งำน
- หลกั กำรบริหำร - ใช้วสั ดสุ ิ่งของท่เี ป็นสว่ นรวมอยำ่ งประหยดั
- จัดหำข้อมูล - มคี วำมพอเพยี ง พอประมำณ
ววิ ัฒนำกำรของวฒั นธรรมไทย ภมู ิค้มุ กนั
- ปฏิบตั งิ ำนตำมขัน้ ตอน
- กำหนดกฎระเบยี บ
ความรู้ + คณุ ธรรม
-ควำมทหกั มษำะยของวัฒนธรรม
-ควำมสำคญั ของวฒั นธรรม - สำมคั คชี ่วยเหลอื
-ลักษณะของวัฒนธรรม - ทำงำนรว่ มกนั
-ประเภทของวัฒนธรรม - รอบคอบ ใฝร่ ู้
-วัฒนธรรมไทยทสี่ ำคัญ - มีควำมคดิ สรำ้ งสรรค์
-วิวัฒนำกำรของวฒั นธรรมไทย
-เอกลักษณข์ องวัฒนธรรมไทย
สงั คม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม สิ่งแวดล้อม
2,4,5,7,8,9 4,5 8,9
3
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ 1
รหัสวชิ ำ 20700-1002 วชิ ำ ศลิ ปวัฒนธรรมไทย
หนว่ ยที่ 1 ช่ัวโมงที่ 1-9 ชื่อหนว่ ย ววิ ัฒนาการของวฒั นธรรมไทย
1.สำระสำคญั
สงั คมไทยเป็นสังคมเกษตรกรรมเปน็ สังคมพุทธศาสนามีลกั ษณะของครอบครวั เป็นครอบครวั ใหญ่ยึด
มัน่ ในขนบธรรมเนยี มประเพณมี คี วามแตกต่างกนั ระหว่างสงั คมชนบทกบั สังคมเมืองเป็นเอกลักษณ์ของ
วฒั นธรรมที่ได้มาจากการเรียนรู้จากสังคมวัฒนธรรมมีการเปลยี่ นแปลงวัฒนธรรมเป็นมรดกของสังคม
วัฒนธรรมเปน็ แนวทางในการดาเนินชีวติ สาหรับหนว่ ยนีจ้ ะเปน็ การศึกษาเกี่ยวกับววิ ัฒนาการของวฒั นธรรม
ไทย
2.สมรรถนะประจำหน่วยท่ี 1
1.ความหมายของวัฒนธรรม
2.ความสาคญั ของวัฒนธรรม
3.ลกั ษณะของวฒั นธรรม
4.ประเภทของวฒั นธรรม
5.วัฒนธรรมไทยท่ีสาคัญ
6.วิวฒั นาการของวัฒนธรรมไทย
7.เอกลกั ษณข์ องวัฒนธรรมไทย
3.จดุ ประสงค์กำรเรียน
1. บอกความหมายของวฒั นธรรมได้
2. ตระหนึกถึงความสาคญั ของวัฒนธรรม
3. ลบั อกกษณะของวัฒนธรรมได้
4. จาแนกประเภทของวัฒนธรรมได้
5. ตระหนักถงึ คณุ คา่ ของวัฒนธรรมไทยทสี่ าคัญ
6. รู้และเข้าใจววิ ัฒนาการของวัฒนธรรมไทย
7.รู้และเขา้ ใจเอกลกั ษณข์ องวฒั นธรรมไทย
8.มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ท่ีอาจารย์สามารถ
สังเกตเห็นได้ในด้านการมีมนุษยสัมพนั ธ์ ความมวี ินัย ความรับผิดชอบ ความเช่อื มั่นในตนเอง ความสนใจ
ใฝ่รู้ ความรักสามัคคี ความกตัญญกู ตเวที
4. กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน
ขน้ั นำเข้ำสูบ่ ทเรียน
1. ผู้สอนนาเข้าสู่หน่วยเรียน โดยต้องพยายามให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมให้มากที่สุดวิธีการท่ีดีวิธหี นึ่ง คือ
ผู้สอนใช้การถามแล้วให้ผู้เรียนตอบ คาถามควรจะเกี่ยวกับเร่ืองที่เรียน เป็นคาถามง่าย ๆ ควร
เป็นคาถามชนิดเปิด คือผู้เรียนตอบได้เสรี อย่าพยายามใช้การตาหนิหากแต่ใช้การชมเชย เพ่ือให้
กาลังใจแก่ผู้เรยี น
4
2. ผ้สู อนอาจจะใช้เลือกการสอนแบบเดิม คอื ผูส้ อนเป็นผู้อธิบายหรอื อภิปรายเองทั้งหมด หรอื จะใช้
การแบง่ กลุ่มแล้วใหม้ านาเสนอหนา้ ห้อง ผู้สอนถาม – สรปุ (อาจจะให้ผเู้ รียนเฉพาะเรื่องทง่ี ่ายต่อ
ความเข้าใจ ส่วนเรือ่ งที่ยากผู้สอนสอนหรืออภิปรายเองกไ็ ด)้
ขนั้ สอน
3. ผสู้ อนตอ้ งให้กาลังใจและแนะวธิ ีการเรยี นทไ่ี ดผ้ ล เชน่ การอ่านหนงั สือมาลว่ งหน้าเพ่ือใหผ้ ู้เรียนมี
พ้ืนฐานในเนื้อหาทจี่ ะเรยี นในช่ัวโมงหน้า โดยผ้สู อนจะบอกว่าชว่ั โมงหนา้ จะสอนเร่ืองใดบา้ ง
4. ท้ายชว่ั โมง ผสู้ อนควรสรปุ เนอื้ หาทสี่ อนไปในชวั่ โมงน้นั ๆ เชน่ กัน คือ อาจทาการสรุปเอง หรือให้
ผเู้ รยี นชว่ ยสรุปโดยตอบคาถามของผู้สอน
5.ครเู น้นการสร้างภมู คิ ุ้มกันกับคนทางานต้องสรา้ งสติ ร้เู ท่าทนั ความเปน็ จริงให้มีกาลังเพียงพอที่จะ
ไมล่ น่ื ไหลไปตามกระแสแหง่ กเิ ลส และปอ้ งกันปัญหาทีเ่ กิดใหมใ่ นสังคมปัจจุบนั ตลอดจนกระตนุ้ ให้เปิด
ความคดิ กลา้ ลงมือทา และใหเ้ กิดความสมดุลระหวา่ งชีวิตกับการทางาน" อาจหาญ ยา้ ถึงปรัชญาแหง่
ความคิด
5.ข้ันสรุปและกำรประยุกต์
1. อาจารย์ใหน้ ักศึกษาทาแบบประเมินผลก่อนเรียนและหลงั เรยี น
2. อาจารยใ์ ห้นักศึกษาลงมือทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้
3. อาจารยเ์ ปิดโอกาสใหน้ กั ศึกษาซักถามปัญหาข้อสงสยั
4. นกั ศกึ ษาร่วมกนั ตรวจแบบประเมนิ ผล ส่งใหอ้ าจารย์ตรวจสอบผลการประเมิน
5. อาจารย์ตรวจสอบความถูกต้องและเก็บคะแนนไว้เปรียบเทียบผลการประเมินหลังเรียนในปลาย
ภาค
6. สื่อกำรเรยี นกำรสอน
1. หนงั สอื เรียน วิชาศลิ ปวฒั นธรรมไทย
2. Power Point ประกอบการเรยี น
3. รปู ภาพอุตสาหกรรม
4. กิจกรรมการเรียนการสอน
5. เครอื่ งฉายโปรเจคเตอร์
7. กำรวดั และกำรประเมนิ ผล
วธิ วี ัดผล
1. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้หน่วยท่ี 1
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล
3. สังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นร้กู ่อนเรียน/หลังเรียน
5. การสงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
5
เครื่องมือวัดผล
1. แบบประเมินผลการเรยี นรู้หนว่ ยที่ 1
2. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบตั งิ านรายบคุ คล
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
4. แบบประเมินผลการเรียนรู้ก่อนเรียน/หลงั เรียน
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ โดยอาจารย์และ
นักศึกษาร่วมกันประเมนิ
เกณฑ์กำรประเมนิ ผล
1. เกณฑผ์ า่ นแบบประเมินผลการเรยี นรู้ ทาถูกต้อง 50% ขึ้นไป
2. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑ์ผา่ น ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรงุ
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม เกณฑผ์ า่ น 50% ข้ึนไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อนเรยี น ไมม่ เี กณฑผ์ ่านเกบ็ คะแนนไวเ้ ปรียบเทยี บกับการทดสอบ
หลังเรียน
5. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขนึ้ อย่กู บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
8. งำนที่มอบหมำยหรือกจิ กรรมท่ีมอบหมำย
ครมู อบหมายให้นกั ศกึ ษาทาแบบฝึกหดั มาก่อนลว่ งหนา้ แล้วนามาเฉลยพรอ้ มกนั
6
บนั ทกึ หลังกำรสอน
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. .......................
1 .ผลกำรใชแ้ ผนกำรสอน
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ......................
2. สอื่ กำรเรียนกำรสอน
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................
3. ผลกำรสอนของครผู สู้ อน
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ......................
4. ผลกำรเรยี นของนักศึกษำ
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
................................................................................................................................................
7
รหสั วิชำ 20700-1002 สรุปบันทึกหลงั กำรสอน
วชิ ำ ศิลปวฒั นธรรมไทย
ผลกำรใชแ้ ผนกำรสอนของครู (จุดประสงค์, เนื้อหา, กิจกรรมการเรยี นการสอน, สอ่ื การสอน, เวลา,
ห้องเรียน ฯลฯ เหมาะสมหรอื ไม่)
……………………………………………………………………………………………………….
ผลกำรเรยี นรตู้ ำมจดุ ประสงคข์ องกำรเรียนรู้ (การทดสอบก่อนเรียน)
- จานวนนกั เรยี นนักศึกษาระดับดี ……………….. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ………….
- จานวนนักเรยี นนักศึกษาระดบั ปานกลาง ……… คน คิดเป็นร้อยละ ………….
- จานวนนักเรียนนักศกึ ษาระดบั ตอ้ งปรับปรงุ …... คน คิดเป็นรอ้ ยละ ………….
ผลกำรเรยี นรตู้ ำมจุดประสงค์ของกำรเรยี นรู้ (การทดสอบหลังเรยี น)
- จานวนนักเรียนนกั ศกึ ษาระดับดี ……………….. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………….
- จานวนนกั เรยี นนักศกึ ษาระดบั ปานกลาง ……… คน คิดเป็นรอ้ ยละ ………….
- จานวนนกั เรียนนกั ศกึ ษาระดับต้องปรบั ปรุง …... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ………….
ผลกำรเรียนร้ตู ำมจุดประสงคข์ องกำรเรยี นรู้ (การทาใบงาน/งานมอบหมาย)
- จานวนนักเรยี นนักศึกษาระดบั ดี ……………….. คน คิดเป็นร้อยละ ………….
- จานวนนกั เรียนนักศกึ ษาระดบั ปานกลาง ……… คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………….
- จานวนนักเรยี นนักศึกษาระดับต้องปรบั ปรงุ …... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ………….
ผลกำรประเมินพฤติกรรมที่ต้องกำรเน้น (ความประพฤติ, ขยนั , ตรงตอ่ เวลา, รบั ผดิ ชอบ, ซือ่ สตั ย์, กตัญญู,
ความคิดริเร่มิ สรา้ งสรรค์, เชอ่ื ม่ัน, มีมนษุ ยส์ ัมพันธ์ ฯลฯ )
- จานวนนกั เรียนนักศกึ ษาระดบั ดี ……………….. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ………….
- จานวนนกั เรยี นนกั ศึกษาระดบั ปานกลาง ……… คน คิดเป็นรอ้ ยละ ………….
- จานวนนกั เรยี นนกั ศกึ ษาระดับต้องปรับปรงุ …... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ………….
ปญั หำท่ีเกดิ ขนึ้ ในระหว่ำงกำรเรียนกำรสอน
……………………………………………………………………………………………………….
แนวทำงกำรแก้ปญั หำของครูผูส้ อน และผลทไี่ ด้ (แนวทางการวจิ ยั แผน่ เดยี ว)
……………………………………………………………………………………………………….
ลงช่ือ ………………………………… ผู้สอน
(นายธนดล สาระบรู ณ์)
วนั ท่ี …. เดอื น …………………… พ.ศ. ……
แผนกำรจดั กำรเรียนรแู้ บบฐำนสมรรถนะและบูรณำกำร 8
หลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จำนวนคำบรวม
วิชำ ศิลปวฒั นธรรมไทย 20700-1002 54 ช่วั โมง
มำตรฐำนท่ี 2 สอนครัง้ ท่ี 4-6
จำนวนคำบ 9 ช่วั โมง
ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
หนว่ ยที่ 2
-ความหมายของขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
-ความสาคัญของขนบธรรมเนียมประเพณีไทย จำนวนคำบรวม
-ลกั ษณะของขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย 9 ชั่วโมง
-ประเภทของขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
-ขนบธรรมเนยี มประเพณีไทยทสี่ าคัญ
เรอ่ื งท่ี 2
-ความหมายของขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย
-ความสาคัญของขนบธรรมเนยี มประเพณไี ทย
-ลกั ษณะของขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย
-ประเภทของขนบธรรมเนียมประเพณไี ทย
-ขนบธรรมเนยี มประเพณีไทยท่สี าคัญ
9
กรอบกำรจัดกำรเรียนร้บู ูรณำกำรหน่วยที่ 2
เรื่องท่ี 2 ขนบธรรมเนียมประเพณไี ทย
มีเหตุผล พอประมาณ
- แนวทำงกำรใช้ทรพั ยำกรใหเ้ กิดประโยชน์ - ใชอ้ ปุ กรณ์ไดอ้ ย่ำงเหมำะสมกบั งำน
- หลักกำรบริหำร - ใชว้ ัสดสุ ิ่งของทเ่ี ปน็ ส่วนรวมอยำ่ งประหยดั
- จดั หำข้อมลู
ขนบธรรมเนยี มประเพณไี ทย ภมู ิค้มุ กนั
8
- ปฏบิ ัติงำนตำมขัน้ ตอน
- กำหนดกฎระเบียบ
ความรู้ + คณุ ธรรม
ทกั ษะ
-ควำมหมำยของขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย - สำมัคคชี ว่ ยเหลือ
-ควำมสำคัญของขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย - ทำงำนร่วมกัน
-ลกั ษณะของขนบธรรมเนียมประเพณไี ทย - รอบคอบ ใฝ่รู้ มีควำมคิดสรำ้ งสรรค์
-ประเภทของขนบธรรมเนียมประเพณไี ทย
-ขนบธรรมเนยี มประเพณีไทยท่สี ำคัญ
สงั คม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม ส่ิงแวดล้อม
2,4,5,7,8,9 4,5 8,9
10
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี 2
รหสั วิชำ 20700-1002 วิชำ ศลิ ปวฒั นธรรมไทย
หนว่ ยที่ 2 ช่ัวโมงที่ 10-18 ชอ่ื หนว่ ย ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
1. สำระสำคญั
ชาติไทยที่เจริญร่งุ เรืองมาชา้ นานจงึ มปี ระเพณีที่หลากหลายขนบธรรมเนยี มประเพณีในสังคมไทยเปน็
ส่งิ ทบี่ รรพบรุ ุษยดึ ถือเปน็ แนวทางปฏิบัตใิ นรปู ของความเชอ่ื ศลิ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ มแนวความคิดรว่ มทาง
พิธกี รรมทางศาสนาซ่ึงเป็นท่ยี อมรบั และมีอิทธิพลต่อการดาเนนิ ชีวติ ของคนในสังคมไทยจากอดตี จนถึง
ปัจจุบนั
2. สรรถนะประจำหน่วยท่ี 2
1.ความหมายของขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย
2.ความสาคัญของขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย
3.ลักษณะของขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย
4.ประเภทของขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
5.ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยท่สี าคัญ
3. จุดประสงค์กำรเรียน
1. บอกความหมายของขนบธรรมเนยี มประเพณีไทยได้
2. บอกความสาคญั ของขนบธรรมเนยี มประเพณีไทยได้
3. รู้และเข้าใจลกั ษณะของขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย
4. จาแนกประเภทของขนบธรรมเนียมประเพณไี ทยได้
5. ปฏบิ ัติตนถกู ตอ้ งตามขนบธรรมเนยี มประเพณไี ทยท่ีสาคัญ
6. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ท่ีอาจารย์สามารถ
สงั เกตเห็นได้ในด้านการมมี นษุ ยสมั พันธ์ ความมวี ินัย ความรับผิดชอบ ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง ความสนใจ
ใฝ่รู้ ความรักสามัคคี ความกตญั ญูกตเวที
4. กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน
ข้นั นำเข้ำส่บู ทเรียน
1. ผู้สอนนาเข้าสู่หน่วยเรียน โดยต้องพยายามให้ผู้เรียนมีส่วนรว่ มให้มากท่ีสุดวิธีการที่ดีวิธหี น่ึง คือ
ผู้สอนใช้การถามแล้วให้ผู้เรียนตอบ คาถามควรจะเก่ียวกับเร่ืองท่ีเรียน เป็นคาถามง่าย ๆ ควร
เป็นคาถามชนิดเปิด คือผู้เรียนตอบได้เสรี อย่าพยายามใช้การตาหนิหากแต่ใช้การชมเชย เพื่อให้
กาลังใจแกผ่ เู้ รยี น
2. ผ้สู อนอาจจะใช้เลือกการสอนแบบเดมิ คอื ผู้สอนเป็นผู้อธิบายหรอื อภิปรายเองทง้ั หมด หรอื จะใช้
การแบง่ กลุ่มแล้วให้มานาเสนอหนา้ ห้อง ผู้สอนถาม – สรุป (อาจจะให้ผ้เู รียนเฉพาะเร่ืองที่ง่ายต่อ
ความเขา้ ใจ ส่วนเรือ่ งทย่ี ากผู้สอนสอนหรอื อภปิ รายเองกไ็ ด้)
11
ขั้นสอน
3. ผูส้ อนตอ้ งให้กาลงั ใจและแนะวธิ กี ารเรียนท่ีไดผ้ ล เช่น การอา่ นหนงั สอื มาลว่ งหนา้ เพ่ือให้ผู้เรียนมี
พน้ื ฐานในเน้ือหาท่จี ะเรียนในชวั่ โมงหนา้ โดยผู้สอนจะบอกว่าชั่วโมงหน้าจะสอนเร่ืองใดบา้ ง
4. ท้ายชว่ั โมง ผู้สอนควรสรปุ เนอ้ื หาทสี่ อนไปในชั่วโมงนนั้ ๆ เช่นกนั คือ อาจทาการสรุปเอง หรอื ให้
ผู้เรยี นชว่ ยสรุปโดยตอบคาถามของผสู้ อน
5.ครูเนน้ การสร้างภมู ิคุ้มกนั กับคนทางานต้องสร้างสติ รเู้ ท่าทนั ความเปน็ จรงิ ให้มีกาลังเพียงพอท่จี ะ
ไมล่ ื่นไหลไปตามกระแสแหง่ กิเลส และปอ้ งกนั ปัญหาทเี่ กิดใหมใ่ นสงั คมปัจจบุ ัน ตลอดจนกระตุ้นให้เปิด
ความคดิ กล้าลงมอื ทา และใหเ้ กิดความสมดุลระหว่างชีวิตกบั การทางาน" อาจหาญ ย้าถึงปรชั ญาแห่ง
ความคดิ
5.ข้ันสรปุ และกำรประยกุ ต์
11. อาจารยเ์ ปดิ โอกาสใหน้ ักศกึ ษาซักถามปัญหาข้อสงสยั
12. นักศึกษาทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ เสร็จแล้วจับคู่สลับกันตรวจบันทึกผลการประเมินส่งให้
อาจารย์
13. อาจารย์ตรวจสอบความถูกต้องและเก็บคะแนนไว้เปรียบเทียบผลการประเมินหลังเรียนใน
ปลายภาค แจง้ ผลการประเมินให้นกั ศกึ ษาแต่ละคนทราบความก้าวหนา้ ในการเรยี นการสอน
6. สื่อกำรเรียนกำรสอน
1. หนังสอื เรยี น วิชาศลิ ปวฒั นธรรมไทย
2. Power Point ประกอบการเรียน
3. รูปภาพ
4. กิจกรรมการเรียนการสอน
5. เคร่อื งฉายโปรเจคเตอร์
7. กำรวัดและกำรประเมินผล
วธิ ีวดั ผล
1. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรียนรหู้ นว่ ยท่ี 2
2. สังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัติงานรายบุคคล
3. สังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
4. การสังเกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึง
ประสงค์
เคร่ืองมอื วดั ผล
1. แบบประเมินผลการเรยี นรูห้ นว่ ยท่ี 2
2. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม
4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยอาจารยแ์ ละนกั ศึกษา
รว่ มกันประเมิน
12
เกณฑก์ ำรประเมนิ ผล
1. เกณฑผ์ า่ นแบบประเมินผลการเรียนรู้ ทาถูกต้อง 50% ขนึ้ ไป
2. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรับปรุง
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม เกณฑ์ผ่าน 50% ขนึ้ ไป
4. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กับการ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
8. งำนที่มอบหมำยหรือกจิ กรรมที่มอบหมำย
ครมู อบหมายให้นักศึกษาทาแบบฝึกหดั มาก่อนลว่ งหนา้ แลว้ นามาเฉลยพร้อมกันจากนน้ั ให้
นกั ศกึ ษาออกมารายงานหน้าชั้นเรียนในกลมุ่ ที่ได้มอบหมายงาน
13
บนั ทกึ หลังกำรสอน
............................................................................................................................. ................................................
.................................................................................. ...........................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. .......................
1 ผลกำรใช้แผนกำรสอน
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
....................................................................................................................................................
2 สอ่ื กำรเรียนกำรสอน
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.......................................................................................................................................................
3 ผลกำรสอนของครผู ู้สอน
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. .......................
4 ผลกำรเรยี นของนักศกึ ษำ
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
................................................................................................................................................
14
รหสั วชิ ำ 20700-1002 สรปุ บนั ทึกหลงั กำรสอน
วิชำ ศิลปวัฒนธรรมไทย
ผลกำรใชแ้ ผนกำรสอนของครู (จุดประสงค์, เนือ้ หา, กิจกรรมการเรยี นการสอน, สื่อการสอน, เวลา,
ห้องเรียน ฯลฯ เหมาะสมหรือไม่)
……………………………………………………………………………………………………….
ผลกำรเรียนรู้ตำมจุดประสงค์ของกำรเรียนรู้ (การทดสอบก่อนเรียน)
- จานวนนกั เรียนนักศึกษาระดบั ดี ……………….. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ………….
- จานวนนักเรยี นนักศกึ ษาระดับปานกลาง ……… คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………….
- จานวนนกั เรยี นนกั ศกึ ษาระดบั ต้องปรบั ปรงุ …... คน คิดเป็นร้อยละ ………….
ผลกำรเรยี นรู้ตำมจดุ ประสงค์ของกำรเรยี นรู้ (การทดสอบหลงั เรียน)
- จานวนนกั เรียนนักศกึ ษาระดับดี ……………….. คน คิดเป็นร้อยละ ………….
- จานวนนักเรียนนักศึกษาระดับปานกลาง ……… คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ………….
- จานวนนกั เรยี นนักศกึ ษาระดบั ต้องปรับปรงุ …... คน คิดเป็นร้อยละ ………….
ผลกำรเรียนรูต้ ำมจดุ ประสงค์ของกำรเรยี นรู้ (การทาใบงาน/งานมอบหมาย)
- จานวนนกั เรียนนักศึกษาระดับดี ……………….. คน คดิ เป็นร้อยละ ………….
- จานวนนักเรียนนกั ศกึ ษาระดบั ปานกลาง ……… คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ………….
- จานวนนกั เรยี นนกั ศกึ ษาระดบั ต้องปรบั ปรุง …... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………….
ผลกำรประเมินพฤตกิ รรมทีต่ ้องกำรเน้น (ความประพฤติ, ขยัน, ตรงต่อเวลา, รับผดิ ชอบ, ซือ่ สัตย์, กตัญญู,
ความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์, เช่ือมน่ั , มีมนุษย์สัมพันธ์ ฯลฯ )
- จานวนนักเรียนนักศกึ ษาระดับดี ……………….. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………….
- จานวนนักเรยี นนักศกึ ษาระดับปานกลาง ……… คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ………….
- จานวนนกั เรยี นนักศกึ ษาระดับตอ้ งปรบั ปรุง …... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………….
ปัญหำที่เกิดขนึ้ ในระหวำ่ งกำรเรียนกำรสอน
……………………………………………………………………………………………………….
แนวทำงกำรแก้ปัญหำของครผู ูส้ อน และผลที่ได้ (แนวทางการวิจัยแผ่นเดยี ว)
……………………………………………………………………………………………………….
ลงชื่อ ………………………………… ผู้สอน
(นายธนดล สาระบรู ณ์)
วันที่ …. เดือน …………………… พ.ศ. ……
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้แบบฐำนสมรรถนะและบูรณำกำร 15
หลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง จำนวนคำบรวม
วชิ ำ ศลิ ปวัฒนธรรมไทย รหัสวิชำ 20700-1002 54 ชว่ั โมง
มำตรฐำนท่ี 3 สอนครง้ั ที่ 7,8
จำนวนคำบ 6 ชว่ั โมง
วิถีชีวิตควำมเป็นอยู่ของคนไทย
หน่วยที่ 3
-ความหมายและความสาคัญของวถิ ีชีวิต
-วถิ ชี วี ิตความเปน็ อยูข่ องคนไทย
-ลกั ษณะของวิถชี วี ติ ความเป็นอยู่ของคนไทย
-ประเภทของวถิ ชี ีวิตความเป็นอยูข่ องคนไทย
-วถิ ีชีวติ ความเปน็ อย่ขู องคนไทยในสมยั ตา่ ง ๆ จำนวนคำบรวม
-วถิ ชี วี ติ ของคนไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2475 ถึง 6 ชัว่ โมง
ปัจจุบัน
-วิถชี ีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในภูมภิ าคต่าง ๆ
เรื่องที่ 3
-ความหมายและความสาคญั ของวถิ ีชีวติ
-วิถชี วี ิตความเปน็ อยู่ของคนไทย
-ลักษณะของวิถชี วี ติ ความเป็นอย่ขู องคนไทย
-ประเภทของวถิ ชี ีวติ ความเปน็ อยู่ของคนไทย
-วถิ ีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในสมยั ต่าง ๆ
-วิถีชีวิตของคนไทยตงั้ แต่ พ.ศ. 2475 ถงึ ปัจจุบัน
-วถิ ีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในภูมภิ าคต่าง ๆ
16
กรอบกำรจดั กำรเรยี นรบู้ รู ณำกำรหน่วยที่ 3
เร่อื งที่ วิถีชีวติ ควำมเปน็ อยูข่ องคนไทย
มีเหตุผล พอประมาณ
- แนวทำงกำรใช้ทรัพยำกรใหเ้ กิดประโยชน์ - ใชอ้ ปุ กรณไ์ ดอ้ ยำ่ งเหมำะสมกับงำน
- หลกั กำรบริหำร - ใชว้ ัสดสุ ิ่งของทเี่ ปน็ ส่วนรวมอย่ำงประหยัด
- จดั หำขอ้ มลู
ภมู ิค้มุ กนั
วถิ ีชีวิตควำมเป็นอยขู่ องคนไทย - ปฏิบตั งิ ำนตำมขั้นตอน
- กำหนดกฎระเบียบ
ความรู้ + คณุ ธรรม
-ควำมทหกัมษำยะและควำมสำคัญของวิถีชวี ิต
-วถิ ีชีวิตควำมเปน็ อยู่ของคนไทย - สำมัคคชี ว่ ยเหลอื
-ลกั ษณะของวิถีชวี ิตควำมเปน็ อยขู่ องคนไทย - ทำงำนร่วมกนั
-ประเภทของวถิ ชี ีวิตควำมเป็นอยู่ของคนไทย - รอบคอบ ใฝร่ ู้ มีควำมคดิ สร้ำงสรรค์
-วถิ ชี ีวติ ควำมเป็นอยู่ของคนไทยในสมัยต่ำง ๆ
-วิถีชีวติ ของคนไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2475 ถึง ปจั จบุ ัน
-วิถชี ีวิตควำมเป็นอยู่ของคนไทยในภมู ภิ ำคตำ่ ง ๆ
สงั คม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม สิ่งแวดล้อม
2,4,5,7,8,9 4,5 8,9
17
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 3
รหัสวชิ ำ 20700-1002 วิชำ ศิลปวฒั นธรรมไทย
หน่วยที่ 3 ชวั่ โมงท่ี 19-24 ชอื่ หน่วย วิถีชวี ติ ความเป็นอยขู่ องคนไทย
1. สำระสำคัญ
วิถีชีวติ หมายถงึ รูปแบบการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวันของบคุ คลท่ีมีผลตอ่ คุณภาพชวี ติ ของบุคคลนน้ั ๆสาหรบั
วถิ ีชีวิตเกษตรกรแบบผสมผสานหมายถงึ รูปแบบและแนวทางการดาเนนิ ชวี ติ ของเกษตรกรทท่ี าการเกษตรแบบ
ผสมผสาน
2. สมรรถนะประจำหน่วยที่ 3
1. ความหมายและความสาคัญของวิถีชวี ิต
2. วิถชี วี ิตความเป็นอย่ขู องคนไทย
3. ลกั ษณะของวถิ ีชวี ติ ความเป็นอยขู่ องคนไทย
4. ประเภทของวถิ ีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย
5. วถิ ีชีวติ ความเปน็ อยขู่ องคนไทยในสมัยต่าง ๆ
6. วถิ ชี วี ติ ของคนไทยตง้ั แต่ พ.ศ. 2475 ถึง ปจั จบุ นั
7. วถิ ีชีวติ ความเป็นอยขู่ องคนไทยในภมู ิภาคต่าง ๆ
3. จุดประสงคก์ ำรเรียน
1. รแู้ ละเข้าใจความหมายและความสาคญั ของวิถชี ีวิต
2. รู้และเขา้ ใจวิถชี วี ิตความเป็นอยู่ของคนไทย
3. อธบิ ายลกั ษณะของวิถีชีวติ ความเปน็ อย่ขู องคนไทยได้
4. จาแนกประเภทของวิถชี วี ิตความเปน็ อยูข่ องคนไทยได้
5. รแู้ ละเขา้ ใจวิถีชวี ิตความเปน็ อย่ขู องคนไทยในสมยั ต่าง ๆ
6. รแู้ ละเขา้ ใจวิถีชวี ติ ของคนไทยตง้ั แต่ พ.ศ. 2475 ถงึ ปจั จบุ นั
7. รู้และเข้าใจวถิ ีชีวิตความเป็นอยูข่ องคนไทยในภูมิภาคตา่ ง ๆ
5. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ท่ีอาจารย์สามารถ
สงั เกตเห็นได้ในด้านการมีมนษุ ยสัมพันธ์ ความมีวินัย ความรับผิดชอบ ความเชอ่ื มัน่ ในตนเอง ความสนใจ
ใฝร่ ู้ ความรักสามัคคี ความกตัญญูกตเวที
4. กจิ กรรมกำรเรียนกำรสอน
ขน้ั นำเข้ำสบู่ ทเรียน
1. ผู้สอนนาเขา้ สู่หน่วยเรยี น โดยต้องพยายามให้ผู้เรียนมีส่วนรว่ มให้มากที่สุดวิธีการที่ดีวิธหี น่ึง คือ
ผู้สอนใช้การถามแล้วให้ผู้เรียนตอบ คาถามควรจะเก่ียวกับเรื่องท่ีเรียน เป็นคาถามง่าย ๆ ควร
เป็นคาถามชนิดเปิด คือผู้เรียนตอบได้เสรี อย่าพยายามใช้การตาหนิหากแต่ใช้การชมเชย เพื่อให้
กาลังใจแก่ผเู้ รียน
2. ผสู้ อนอาจจะใช้เลือกการสอนแบบเดมิ คือ ผู้สอนเป็นผอู้ ธิบายหรอื อภิปรายเองทงั้ หมด หรือจะใช้
การแบง่ กลุ่มแล้วให้มานาเสนอหนา้ ห้อง ผู้สอนถาม – สรุป (อาจจะให้ผเู้ รยี นเฉพาะเร่ืองทง่ี ่ายต่อ
ความเขา้ ใจ สว่ นเรือ่ งที่ยากผสู้ อนสอนหรอื อภปิ รายเองกไ็ ด้)
18
ขั้นสอน
3. ผู้สอนตอ้ งใหก้ าลงั ใจและแนะวิธีการเรยี นทไี่ ด้ผล เช่น การอ่านหนังสอื มาล่วงหนา้ เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมี
พื้นฐานในเน้อื หาที่จะเรยี นในชัว่ โมงหนา้ โดยผสู้ อนจะบอกวา่ ชั่วโมงหน้าจะสอนเร่ืองใดบ้าง
4. ทา้ ยชวั่ โมง ผู้สอนควรสรปุ เนอ้ื หาท่สี อนไปในชั่วโมงนนั้ ๆ เชน่ กัน คอื อาจทาการสรุปเอง หรอื ให้
ผเู้ รยี นชว่ ยสรุปโดยตอบคาถามของผู้สอน
5.ครเู นน้ การสร้างภมู ิคุ้มกนั กับคนทางานต้องสร้างสติ ร้เู ท่าทันความเปน็ จรงิ ให้มกี าลังเพียงพอทจี่ ะ
ไม่ลน่ื ไหลไปตามกระแสแห่ง กิเลส และปอ้ งกนั ปัญหาท่เี กิดใหมใ่ นสังคมปัจจบุ ัน ตลอดจนกระตนุ้ ใหเ้ ปิด
ความคิด กล้าลงมือทา และใหเ้ กดิ ความสมดุลระหว่างชวี ิตกับการทางาน" อาจหาญ ย้าถึงปรัชญาแหง่
ความคดิ
5.ขนั้ สรปุ และกำรประยุกต์
1. นักศึกษาทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ เสร็จแล้วจับคู่สลับกันตรวจบันทึกผลการประเมินส่งให้
อาจารย์
2. อาจารย์ตรวจสอบความถูกต้องและเก็บคะแนนไว้เปรียบเทียบผลการประเมินหลังเรียนใน
ปลายภาค แจง้ ผลการประเมนิ ใหน้ ักศึกษาแต่ละคนทราบความกา้ วหน้าในการเรยี นการสอน
6. สือ่ กำรเรยี นกำรสอน
1. หนงั สอื เรียน วิชาศลิ ปวัฒนธรรมไทย
2. Power Point ประกอบการเรยี น
3. รปู ภาพ
4. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
5. เครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร์
7. กำรวัดและกำรประเมนิ ผล
วิธวี ดั ผล
1. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรหู้ นว่ ยท่ี 3
2. สงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบคุ คล
3. สงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ
4. การสังเกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึง
ประสงค์
เคร่อื งมอื วดั ผล
1. แบบประเมินผลการเรียนรู้
2. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงานรายบุคคล
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
4. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ โดยอาจารย์และนักศึกษา
รว่ มกันประเมิน
19
เกณฑ์กำรประเมนิ ผล
1. เกณฑผ์ า่ นแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ทาถกู ต้อง 50% ข้ึนไป
2. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ า่ น ต้องไมม่ ีช่องปรบั ปรงุ
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม เกณฑ์ผา่ น 50% ขน้ึ ไป
4. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู ับการ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
8. งำนที่มอบหมำยหรือกจิ กรรมท่ีมอบหมำย
ครมู อบหมายใหน้ กั ศึกษาทาแบบฝึกหัดมาก่อนลว่ งหนา้ แล้วนามาเฉลยพรอ้ มกันจากน้นั ให้
นักศกึ ษาออกมารายงานหน้าชน้ั เรยี นในกลุม่ ท่ไี ด้มอบหมายงาน
20
บันทกึ หลังกำรสอน
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
..................................................................................................................................................................... ........
........................................................................................................................... .........................
1 ผลกำรใช้แผนกำรสอน
............................................................................................................................. ................................................
.................................................................................................................................................................. ...........
........................................................................................................................ .....................................................
............................................................................................................................. .......................
2 สื่อกำรเรียนกำรสอน
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................
3 ผลกำรสอนของครูผู้สอน
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. .......................
4 ผลกำรเรยี นของนักศกึ ษำ
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
................................................................................................................................................
21
รหสั วชิ ำ 20700-1002 สรุปบันทกึ หลงั กำรสอน
วิชำ ศิลปวัฒนธรรมไทย
ผลกำรใชแ้ ผนกำรสอนของครู (จุดประสงค์, เน้อื หา, กจิ กรรมการเรียนการสอน, สื่อการสอน, เวลา,
ห้องเรียน ฯลฯ เหมาะสมหรือไม่)
……………………………………………………………………………………………………….
ผลกำรเรียนรู้ตำมจุดประสงค์ของกำรเรยี นรู้ (การทดสอบก่อนเรียน)
- จานวนนกั เรียนนักศึกษาระดบั ดี ……………….. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ………….
- จานวนนักเรยี นนักศกึ ษาระดับปานกลาง ……… คน คิดเปน็ ร้อยละ ………….
- จานวนนกั เรยี นนกั ศกึ ษาระดับตอ้ งปรับปรงุ …... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………….
ผลกำรเรยี นรู้ตำมจดุ ประสงค์ของกำรเรียนรู้ (การทดสอบหลงั เรียน)
- จานวนนกั เรียนนักศกึ ษาระดบั ดี ……………….. คน คิดเปน็ ร้อยละ ………….
- จานวนนักเรียนนักศึกษาระดับปานกลาง ……… คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ………….
- จานวนนกั เรยี นนักศกึ ษาระดบั ต้องปรบั ปรุง …... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ………….
ผลกำรเรียนรูต้ ำมจดุ ประสงค์ของกำรเรยี นรู้ (การทาใบงาน/งานมอบหมาย)
- จานวนนกั เรียนนักศึกษาระดับดี ……………….. คน คิดเป็นร้อยละ ………….
- จานวนนักเรียนนกั ศกึ ษาระดบั ปานกลาง ……… คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ………….
- จานวนนกั เรยี นนกั ศกึ ษาระดบั ต้องปรบั ปรุง …... คน คดิ เป็นร้อยละ ………….
ผลกำรประเมินพฤตกิ รรมทีต่ ้องกำรเน้น (ความประพฤติ, ขยัน, ตรงตอ่ เวลา, รบั ผดิ ชอบ, ซือ่ สัตย์, กตัญญู,
ความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์, เช่ือมน่ั , มีมนุษยส์ มั พันธ์ ฯลฯ )
- จานวนนักเรียนนักศกึ ษาระดับดี ……………….. คน คดิ เป็นร้อยละ ………….
- จานวนนักเรยี นนักศกึ ษาระดับปานกลาง ……… คน คิดเป็นรอ้ ยละ ………….
- จานวนนกั เรยี นนักศกึ ษาระดบั ตอ้ งปรบั ปรุง …... คน คิดเป็นร้อยละ ………….
ปัญหำที่เกิดขนึ้ ในระหวำ่ งกำรเรียนกำรสอน
……………………………………………………………………………………………………….
แนวทำงกำรแก้ปัญหำของครผู ูส้ อน และผลทไี่ ด้ (แนวทางการวิจยั แผน่ เดยี ว)
……………………………………………………………………………………………………….
ลงช่ือ ………………………………… ผู้สอน
(นายธนดล สาระบูรณ์)
วนั ที่ …. เดือน …………………… พ.ศ. ……
22
แผนกำรจัดกำรเรยี นรูแ้ บบฐำนสมรรถนะและบรู ณำกำร จำนวนคำบรวม
หลักปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียง 54 ชว่ั โมง
วชิ ำ ศลิ ปวัฒนธรรมไทย รหัสวิชำ 20700-1002 สอนครง้ั ท่ี 9,10
จำนวนคำบ 6 ชั่วโมง
มำตรฐำนท่ี 4
คำ่ นิยมของไทย
หน่วยท่ี 4 จำนวนคำบรวม
-ความหมายของค่านิยม 6 ช่ัวโมง
-ความสาคัญของคา่ นิยม
-ค่านิยม 12 ประการ
-คา่ นิยมของสังคมเมืองและสังคมชนบท
-คา่ นิยมที่ควรปลูกฝังในสงั คมไทย
-การปลกู ฝังคา่ นิยมในสงั คมไทย
เร่อื งท่ี 4
-ความหมายของค่านิยม
-ความสาคัญของค่านยิ ม
-ค่านิยม 12 ประการ
-คา่ นยิ มของสงั คมเมืองและสังคมชนบท
-คา่ นิยมที่ควรปลกู ฝังในสงั คมไทย
-การปลกู ฝังคา่ นิยมในสังคมไทย
23
กรอบกำรจัดกำรเรียนรูบ้ รู ณำกำรหน่วยท่ี 4
เร่อื งท่ี 4 ค่ำนยิ มของไทย
มีเหตผุ ล พอประมาณ
- กำรบริโภคของประชำชน - ใชอ้ ปุ กรณไ์ ด้อย่ำงเหมำะสมกับงำน
- หลักกำรบริหำร - ใช้วสั ดุส่ิงของทีเ่ ปน็ ส่วนรวมอย่ำงประหยัด
- จัดหำขอ้ มลู
ภมู ิค้มุ กนั
ค่ำนิยมของไทย - ปฏิบตั งิ ำนตำมข้นั ตอน
- กำหนดกฎระเบียบ
ความรู้ + คณุ ธรรม
-ควำมทหกัมษำยะของคำ่ นิยม
-ควำมสำคญั ของคำ่ นิยม - สำมคั คีช่วยเหลอื
-คำ่ นยิ ม 12 ประกำร - ทำงำนร่วมกัน
-ค่ำนยิ มของสงั คมเมืองและสังคมชนบท - รอบคอบ ใฝ่รู้ มคี วำมคดิ สรำ้ งสรรค์
-ค่ำนยิ มทคี่ วรปลกู ฝังในสังคมไทย
-กำรปลกู ฝงั ค่ำนิยมในสงั คมไทย
สงั คม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม ส่ิงแวดล้อม
2,4,5,7,8,9 4,5 8,9
24
แผนกำรจดั กำรเรียนรูท้ ่ี 4
รหสั วิชำ 20700-1002 วชิ ำ ศิลปวัฒนธรรมไทย
หนว่ ยที่ 4 ชวั่ โมงท่ี 25-30 ชื่อหน่วย คา่ นิยมของไทย
1. สำระสำคัญ
คา่ นิยมเปน็ ส่ิงท่ีคนในสังคมยอมรับว่ามคี ุณค่าการปลูกฝังค่านยิ มในสังคมไทยเปน็ สว่ นหนึง่ ของ
วฒั นธรรมซึ่งเป็นตัวกาหนดพฤตกิ รรมของบุคคลในการดาเนินชวี ติ ระหวา่ งสมาชิกในสงั คมใหส้ อดคล้อง
สมั พนั ธก์ นั ชว่ ยเสรมิ สร้างความเปน็ ปกึ แผน่ ให้แก่สังคมเมื่อมีการรบั วฒั นธรรมตา่ งชาตเิ ข้ามาทาให้มีผลกระทบ
ต่อการดาเนนิ ชวี ติ จึงจาเปน็ ท่ีจะตอ้ งปลูกฝังค่านิยมไทยให้เยาวชนไดร้ บั รแู้ ละสืบทอดตอ่ ไป
2. สมรรถนะประจำหนว่ ยที่ 4
1. ความหมายของค่านิยม
2. ความสาคัญของค่านิยม
3. ค่านิยม 12 ประการ
4. ค่านยิ มของสงั คมเมืองและสงั คมชนบท
5. ค่านิยมทคี่ วรปลูกฝังในสังคมไทย
6. การปลกู ฝังคา่ นยิ มในสังคมไทย
3. จุดประสงคก์ ำรเรยี น
1. บอกความหมายของค่านิยมได้
2. บอกความสาคัญของคา่ นิยมได้
3. บอกคา่ นยิ ม 12 ประการได้
4. บอกคา่ นิยมของสงั คมเมืองและสังคมชนบทได้
5. บอกค่านยิ มทีค่ วรปลกู ฝงั ในสังคมไทยได้
6. บอกการปลูกฝังคา่ นิยมในสังคมไทยได้
7. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่อาจารย์สามารถ
สงั เกตเห็นได้ในดา้ นการมมี นุษยสัมพนั ธ์ ความมวี ินัย ความรบั ผิดชอบ ความเช่ือม่นั ในตนเอง ความสนใจ
ใฝ่รู้ ความรกั สามัคคี ความกตัญญกู ตเวที
4. กจิ กรรมกำรเรียนกำรสอน
ข้นั นำเขำ้ สู่บทเรียน
1. ผู้สอนนาเขา้ สู่หน่วยเรยี น โดยต้องพยายามให้ผู้เรียนมีส่วนรว่ มให้มากท่ีสุดวิธีการที่ดีวิธหี นึ่ง คือ
ผู้สอนใช้การถามแล้วให้ผู้เรียนตอบ คาถามควรจะเก่ียวกับเร่ืองท่ีเรียน เป็นคาถามง่าย ๆ ควร
เป็นคาถามชนิดเปิด คือผู้เรียนตอบได้เสรี อย่าพยายามใช้การตาหนิหากแต่ใช้การชมเชย เพื่อให้
กาลงั ใจแกผ่ ู้เรยี น
2. ผูส้ อนอาจจะใชเ้ ลือกการสอนแบบเดมิ คอื ผูส้ อนเป็นผู้อธิบายหรอื อภปิ รายเองทง้ั หมด หรือจะใช้
การแบ่งกลุ่มแล้วให้มานาเสนอหนา้ ห้อง ผู้สอนถาม – สรปุ (อาจจะให้ผูเ้ รยี นเฉพาะเรื่องทีง่ ่ายต่อ
ความเข้าใจ ส่วนเรือ่ งทยี่ ากผูส้ อนสอนหรืออภิปรายเองกไ็ ด)้
25
ขน้ั สอน
3. ผู้สอนต้องให้กาลังใจและแนะวิธีการเรียนที่ได้ผล เช่น การอ่านหนังสือมาล่วงหน้าเพื่อให้ผู้เรียนมี
พนื้ ฐานในเนอื้ หาทจี่ ะเรยี นในชั่วโมงหนา้ โดยผ้สู อนจะบอกว่าช่ัวโมงหนา้ จะสอนเรื่องใดบ้าง
4. ท้ายช่วั โมง ผู้สอนควรสรปุ เนอื้ หาท่ีสอนไปในชั่วโมงนัน้ ๆ เชน่ กัน คอื อาจทาการสรุปเอง หรือให้
ผ้เู รยี นช่วยสรุปโดยตอบคาถามของผสู้ อน
5.ครูเน้นการสร้างภูมิคุ้มกันกับคนทางานต้องสร้างสติ รู้เท่าทันความเป็นจริงให้มีกาลังเพียงพอที่จะ
ไม่ลื่นไหลไปตามกระแสแห่ง กิเลส และป้องกันปัญหาท่ีเกิดใหม่ในสังคมปัจจุบัน ตลอดจนกระตุ้นให้เปิด
ความคิด กล้าลงมือทา และให้เกิดความสมดุลระหว่างชีวิตกับการทางาน" อาจหาญ ย้าถึงปรัชญาแห่ง
ความคิด
5. ขนั้ สรปุ และกำรประยกุ ต์
1. อาจารยเ์ ปดิ โอกาสให้นกั ศกึ ษาซกั ถามปัญหาขอ้ สงสัย
2. นักศึกษาทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ เสร็จแล้วจับคู่สลับกันตรวจบันทึกผลการประเมินส่งให้
อาจารย์
3. อาจารย์ตรวจสอบความถูกต้องและเก็บคะแนนไว้เปรียบเทียบผลการประเมินหลังเรียนในปลาย
ภาค แจง้ ผลการประเมนิ ให้นักศกึ ษาแต่ละคนทราบความก้าวหนา้ ในการเรยี นการสอน
6. ส่ือกำรเรียนกำรสอน
1. หนังสือเรียน วิชาการอตุ สาหกรรมท่องเท่ยี ว
2. Power Point ประกอบการเรยี น
3. รปู ภาพ
4. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
5. เคร่อื งฉายโปรเจคเตอร์
7. กำรวดั และกำรประเมินผล
วธิ ีวดั ผล
1. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรียนรหู้ นว่ ยที่ 4
2. สังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
4. การสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึง
ประสงค์
เคร่อื งมอื วดั ผล
1. แบบประเมินผลการเรียนรู้หนว่ ยที่ 4
2. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
4. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โดยอาจารย์และนกั ศึกษา
รว่ มกันประเมิน
26
เกณฑ์กำรประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ ทาถกู ต้อง 50% ขึ้นไป
2. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั งิ านรายบุคคล เกณฑ์ผา่ น ต้องไม่มีช่องปรับปรุง
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม เกณฑผ์ ่าน 50% ข้ึนไป
4. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กบั การ
ประเมินตามสภาพจรงิ
8. งำนท่ีมอบหมำยหรือกจิ กรรมทีม่ อบหมำย
ครมู อบหมายให้นกั ศึกษาทาแบบฝกึ หดั มาก่อนล่วงหนา้ แลว้ นามาเฉลยพรอ้ มกันจากน้ันให้
นกั ศกึ ษาออกมารายงานหน้าชน้ั เรยี นในกลมุ่ ทีไ่ ด้มอบหมายงาน
27
บันทกึ หลังกำรสอน
............................................................................................................................. ................................................
................................................................................................................................................................... ..........
......................................................................................................................... ....................................................
............................................................................................................................. .......................
1 ผลกำรใช้แผนกำรสอน
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ......................
2 สอ่ื กำรเรยี นกำรสอน
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................
3 ผลกำรสอนของครผู ู้สอน
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. .......................
4 ผลกำรเรียนของนกั ศกึ ษำ
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
................................................................................................................................................
28
รหสั วิชำ 20700-1002 สรปุ บนั ทึกหลังกำรสอน
วชิ ำ ศิลปวัฒนธรรมไทย
ผลกำรใช้แผนกำรสอนของครู (จุดประสงค์, เนอื้ หา, กิจกรรมการเรียนการสอน, สอื่ การสอน, เวลา,
หอ้ งเรยี น ฯลฯ เหมาะสมหรอื ไม่)
……………………………………………………………………………………………………….
ผลกำรเรียนรตู้ ำมจดุ ประสงค์ของกำรเรียนรู้ (การทดสอบก่อนเรียน)
- จานวนนักเรียนนกั ศกึ ษาระดับดี ……………….. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………….
- จานวนนักเรียนนกั ศกึ ษาระดบั ปานกลาง ……… คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ………….
- จานวนนักเรยี นนักศกึ ษาระดบั ต้องปรับปรงุ …... คน คดิ เป็นร้อยละ ………….
ผลกำรเรยี นรตู้ ำมจดุ ประสงค์ของกำรเรยี นรู้ (การทดสอบหลังเรยี น)
- จานวนนักเรยี นนกั ศกึ ษาระดบั ดี ……………….. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………….
- จานวนนกั เรียนนกั ศึกษาระดับปานกลาง ……… คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………….
- จานวนนักเรยี นนักศึกษาระดบั ต้องปรับปรุง …... คน คดิ เป็นร้อยละ ………….
ผลกำรเรยี นรู้ตำมจดุ ประสงค์ของกำรเรียนรู้ (การทาใบงาน/งานมอบหมาย)
- จานวนนกั เรยี นนักศกึ ษาระดบั ดี ……………….. คน คิดเปน็ ร้อยละ ………….
- จานวนนักเรียนนักศึกษาระดบั ปานกลาง ……… คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ………….
- จานวนนกั เรียนนักศึกษาระดบั ตอ้ งปรบั ปรุง …... คน คดิ เป็นร้อยละ ………….
ผลกำรประเมนิ พฤติกรรมทต่ี ้องกำรเนน้ (ความประพฤติ, ขยัน, ตรงต่อเวลา, รบั ผดิ ชอบ, ซอ่ื สัตย์, กตญั ญู,
ความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์, เช่ือม่ัน, มีมนษุ ยส์ มั พันธ์ ฯลฯ )
- จานวนนกั เรียนนักศึกษาระดบั ดี ……………….. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………….
- จานวนนักเรยี นนกั ศกึ ษาระดับปานกลาง ……… คน คดิ เป็นร้อยละ ………….
- จานวนนักเรยี นนกั ศึกษาระดับตอ้ งปรับปรุง …... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………….
ปญั หำทเ่ี กดิ ขนึ้ ในระหวำ่ งกำรเรยี นกำรสอน
……………………………………………………………………………………………………….
แนวทำงกำรแกป้ ญั หำของครผู สู้ อน และผลทไ่ี ด้ (แนวทางการวิจัยแผน่ เดียว)
……………………………………………………………………………………………………….
ลงชือ่ ………………………………… ผู้สอน
(นายธนดล สาระบรู ณ์)
วันท่ี …. เดอื น …………………… พ.ศ. ……
29
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้แบบฐำนสมรรถนะและบูรณำกำร จำนวนคำบรวม
หลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง 54 ชว่ั โมง
วชิ ำ ศลิ ปวัฒนธรรมไทย รหัสวชิ ำ 20700-1002 สอนครั้งที่ 11,12
จำนวนคำบ 6 ชว่ั โมง
หน่วยท่ี 5 มำตรฐำนที่ 5
ศิลปกรรมไทย
-ความหมายของศลิ ปกรรม
-ความสาคัญของศิลปกรรมไทย จำนวนคำบรวม
-ลกั ษณะของศลิ ปกรรมไทย 6 ชั่วโมง
-ประเภทของศลิ ปกรรมไทย
-วิวฒั นาการของศลิ ปกรรมไทย
-การอนรุ กั ษ์ศลิ ปกรรมไทย
-แนวทางการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมไทย
เรือ่ งที่ 5
-ความหมายของศลิ ปกรรม
-ความสาคญั ของศลิ ปกรรมไทย
-ลักษณะของศิลปกรรมไทย
-ประเภทของศิลปกรรมไทย
-ววิ ฒั นาการของศลิ ปกรรมไทย
-การอนรุ ักษ์ศิลปกรรมไทย
-แนวทางการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมไทย
30
กรอบกำรจดั กำรเรยี นรู้บรู ณำกำรหนว่ ยที่ 5
เรอื่ งท่ี 5 ศิลปกรรมไทย
มเี หตผุ ล พอประมาณ
- ใชอ้ ปุ กรณ์ได้อย่ำงเหมำะสมกับงำน
- แนวทำงกำรวำงแผนกำรผลิตใหเ้ กดิ ประโยชน์ - ใชว้ ัสดสุ ่ิงของทเ่ี ปน็ ส่วนรวมอยำ่ งประหยดั
- หลักกำรบริหำร
- จัดหำข้อมูล ภมู ิค้มุ กนั
ศิลปกรรมไทย - ปฏบิ ัตงิ ำนตำมข้ันตอน
- กำหนดกฎระเบยี บ
ความรู้ + คณุ ธรรม
-ควำมหทมกัำษยขะองศลิ ปกรรม - สำมคั คชี ่วยเหลือ
-ควำมสำคัญของศิลปกรรมไทย - ทำงำนร่วมกัน
-ลกั ษณะของศิลปกรรมไทย - รอบคอบ ใฝร่ ู้ มีควำมคดิ สร้ำงสรรค์
-ประเภทของศิลปกรรมไทย
-ววิ ัฒนำกำรของศิลปกรรมไทย
-กำรอนุรกั ษ์ศิลปกรรมไทย
-แนวทำงกำรอนรุ ักษ์วฒั นธรรมไทย
สงั คม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม ส่ิงแวดล้อม
2,4,5,7,8,9 4,5 8,9
31
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี 5
รหัสวชิ ำ 20700-1002 วชิ ำ ศิลปวัฒนธรรมไทย
หนว่ ยท่ี 5 ช่วั โมงที่ 31-36 ช่อื หน่วย ศิลปกรรมไทย
1. สำระสำคัญ
อาณาจักรอยุธยาเป็นอาณาจักรไทยที่คนไทยทุกคนมีความภาคภูมิใจในความย่ิงใหญ่และความ
เจริญรงุ่ เรืองทสี่ ร้างสะสมมานานยาวนานถึง 417 ปวี ฒั นธรรมด้านต่างๆมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตนเอง
โดยเฉพาะทางศิลปวัฒนธรรมแขนงต่างๆอันเกิดจากการผสมผสานระหว่าง ศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมของอยธุ ยาเอง
กบั ศิลปวฒั นธรรมที่รับมาจากดนิ แดนอื่นๆท้งั จนี อินเดีย เขมร และชาติตะวันตกมาประยุกต์รว่ มกันเข้าจน
กลายเป็นแบบอยา่ งศิลปวัฒนธรรมสมัยอยุธยาทม่ี ีความงดงามเป็นแบบเฉพาะและได้เป็นมรดกส่วนหนึ่งที่ถ่ายทอด
สืบต่อมายังอาณาจักรรุ่นหลังๆ
2. สมรรถนะประจำหน่วยท่ี 5
1.ความหมายของศลิ ปกรรม
2. ความสาคัญของศิลปกรรมไทย
3. ลกั ษณะของศลิ ปกรรมไทย
4. ประเภทของศลิ ปกรรมไทย
5. วิวฒั นาการของศลิ ปกรรมไทย
6. การอนุรกั ษศ์ ลิ ปกรรมไทย
7.แนวทางการอนุรักษ์วฒั นธรรมไทย
3. จดุ ประสงค์กำรเรยี น
1.บอกความหมายของศลิ ปกรรมได้
2. บอกความสาคญั ของศิลปกรรมไทยได้
3. บอกลักษณะของศิลปกรรมไทยได้
4. จาแนกประเภทของศิลปกรรมไทยได้
5. รู้และเข้าใจวิวฒั นาการของศิลปกรรมไทย
6. รแู้ ละเขา้ ใจการอนรุ ักษ์ศลิ ปกรรมไทย
7. รแู้ ละเข้าใจแนวทางการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทย
8. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ท่ีอาจารย์สามารถ
สงั เกตเห็นได้ในด้านการมมี นษุ ย์สัมพันธ์ ความมวี ินัย ความรับผิดชอบ ความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง ความสนใจ
ใฝ่รู้ ความรักสามคั คี ความกตัญญูกตเวที
4. กจิ กรรมกำรเรียนกำรสอน
ขั้นนำเขำ้ สู่บทเรียน
1. ผู้สอนนาเขา้ สู่หน่วยเรียน โดยต้องพยายามให้ผู้เรียนมีส่วนรว่ มให้มากที่สุดวิธีการที่ดีวิธหี นึ่ง คือ
ผู้สอนใช้การถามแล้วให้ผู้เรียนตอบ คาถามควรจะเกี่ยวกับเร่ืองที่เรียน เป็นคาถามง่าย ๆ ควร
เป็นคาถามชนิดเปิด คือผู้เรียนตอบได้เสรี อย่าพยายามใช้การตาหนิหากแต่ใช้การชมเชย เพ่ือให้
กาลงั ใจแกผ่ เู้ รยี น
32
2. ผูส้ อนอาจจะใชเ้ ลือกการสอนแบบเดมิ คอื ผ้สู อนเป็นผอู้ ธิบายหรืออภปิ รายเองท้ังหมด หรอื จะใช้
การแบ่งกลุ่มแล้วใหม้ านาเสนอหนา้ ห้อง ผู้สอนถาม – สรปุ (อาจจะให้ผเู้ รียนเฉพาะเร่ืองทง่ี ่ายต่อ
ความเขา้ ใจ สว่ นเรือ่ งท่ยี ากผู้สอนสอนหรอื อภปิ รายเองกไ็ ด)้
ขน้ั สอน
3. ผสู้ อนต้องให้กาลังใจและแนะวิธีการเรียนที่ไดผ้ ล เชน่ การอา่ นหนงั สือมาลว่ งหน้าเพ่ือใหผ้ เู้ รยี นมี
พื้นฐานในเนอ้ื หาที่จะเรยี นในช่วั โมงหนา้ โดยผสู้ อนจะบอกวา่ ช่ัวโมงหนา้ จะสอนเร่ืองใดบ้าง
4. ทา้ ยชั่วโมง ผูส้ อนควรสรปุ เนือ้ หาทส่ี อนไปในชั่วโมงนนั้ ๆ เชน่ กัน คือ อาจทาการสรุปเอง หรือให้
ผู้เรยี นชว่ ยสรุปโดยตอบคาถามของผู้สอน
5.ครเู น้นการสรา้ งภูมิคุ้มกันกับคนทางานต้องสรา้ งสติ รูเ้ ท่าทันความเป็นจริงให้มกี าลังเพียงพอทจ่ี ะ
ไม่ลื่นไหลไปตามกระแสแห่ง กเิ ลส และปอ้ งกันปญั หาท่ีเกิดใหมใ่ นสงั คมปจั จุบัน ตลอดจนกระตุ้นใหเ้ ปิด
ความคดิ กลา้ ลงมอื ทา และใหเ้ กดิ ความสมดุลระหว่างชวี ติ กับการทางาน" อาจหาญ ยา้ ถึงปรัชญาแหง่
ความคิด
5. ขั้นสรุปและกำรประยกุ ต์
1. อาจารย์เปิดโอกาสให้นกั ศกึ ษาซักถามปัญหาข้อสงสัย
2. นักศึกษาทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ เสร็จแล้วจับคู่สลับกันตรวจบันทึกผลการประเมินส่งให้
อาจารย์
3. อาจารย์ตรวจสอบความถูกต้องและเก็บคะแนนไว้เปรียบเทียบผลการประเมินหลังเรียนใน
ปลายภาค แจง้ ผลการประเมินให้นกั ศึกษาแตล่ ะคนทราบความก้าวหนา้ ในการเรยี นการสอน
6. ส่อื กำรเรยี นกำรสอน
1. หนงั สอื เรียน วชิ าศลิ ปวัฒนธรรมไทย
2. Power Point ประกอบการเรยี น
3. รูปภาพ
4. กจิ กรรมการเรียนการสอน
5. เครื่องฉายโปรเจคเตอร์
7. กำรวดั และกำรประเมนิ ผล
วิธีวดั ผล
1. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรียนรูห้ น่วยที่ 5
2. สังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ านรายบคุ คล
3. สงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกล่มุ
4. การสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึง
ประสงค์
33
เครื่องมอื วัดผล
1. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้หนว่ ยท่ี 5
2. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงานรายบคุ คล
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
4. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยอาจารย์และนักศึกษา
รว่ มกันประเมนิ
เกณฑ์กำรประเมินผล
1. เกณฑ์ผา่ นแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ทาถกู ต้อง 50% ข้นึ ไป
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล เกณฑผ์ ่าน ต้องไม่มีชอ่ งปรับปรุง
2. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม เกณฑผ์ ่าน 50% ขน้ึ ไป
3. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขนึ้ อย่กู บั การ
ประเมินตามสภาพจรงิ
8. งำนทีม่ อบหมำยหรือกจิ กรรมทีม่ อบหมำย
ครมู อบหมายใหน้ กั ศึกษาทาแบบฝึกหัดมาก่อนล่วงหนา้ แล้วนามาเฉลยพรอ้ มกันจากนั้นให้
นักศกึ ษาออกมารายงานหน้าชั้นเรียนในกลมุ่ ท่ไี ด้มอบหมายงาน
34
บนั ทกึ หลังกำรสอน
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
................................................................................................................................................................. ............
....................................................................................................................... .............................
1 ผลกำรใชแ้ ผนกำรสอน
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................. ...............
.................................................................................................................... .........................................................
............................................................................................................................. .......................
2 สื่อกำรเรียนกำรสอน
........................................................................................................................................................ .....................
.............................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ..........................
3 ผลกำรสอนของครผู ้สู อน
............................................................................................................................................... ..............................
..................................................................................................... ........................................................................
............................................................................................................................. ................................................
........................................................................................................................................ ............
4 ผลกำรเรยี นของนักศกึ ษำ
.............................................................................................. ...............................................................................
............................................................................................................................. ................................................
................................................................................................................................. ............................................
....................................................................................... ......................................................................................
............................................................................................................................. ...................
35
รหสั วชิ ำ 20700-1002 สรปุ บนั ทึกหลังกำรสอน
วิชำ ศิลปวัฒนธรรมไทย
ผลกำรใชแ้ ผนกำรสอนของครู (จุดประสงค์, เน้อื หา, กิจกรรมการเรยี นการสอน, สื่อการสอน, เวลา,
ห้องเรียน ฯลฯ เหมาะสมหรอื ไม่)
……………………………………………………………………………………………………….
ผลกำรเรียนรู้ตำมจุดประสงค์ของกำรเรียนรู้ (การทดสอบกอ่ นเรยี น)
- จานวนนกั เรียนนักศึกษาระดบั ดี ……………….. คน คิดเปน็ ร้อยละ ………….
- จานวนนักเรียนนกั ศึกษาระดับปานกลาง ……… คน คิดเป็นรอ้ ยละ ………….
- จานวนนกั เรยี นนกั ศึกษาระดับตอ้ งปรับปรงุ …... คน คิดเป็นรอ้ ยละ ………….
ผลกำรเรยี นรู้ตำมจดุ ประสงค์ของกำรเรยี นรู้ (การทดสอบหลงั เรยี น)
- จานวนนกั เรยี นนกั ศกึ ษาระดบั ดี ……………….. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ………….
- จานวนนักเรียนนักศึกษาระดับปานกลาง ……… คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ………….
- จานวนนกั เรียนนกั ศกึ ษาระดบั ต้องปรับปรุง …... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………….
ผลกำรเรียนรูต้ ำมจดุ ประสงคข์ องกำรเรียนรู้ (การทาใบงาน/งานมอบหมาย)
- จานวนนกั เรยี นนักศึกษาระดับดี ……………….. คน คดิ เป็นร้อยละ ………….
- จานวนนักเรียนนักศกึ ษาระดบั ปานกลาง ……… คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ………….
- จานวนนกั เรียนนกั ศกึ ษาระดบั ต้องปรับปรงุ …... คน คิดเป็นรอ้ ยละ ………….
ผลกำรประเมินพฤติกรรมท่ตี ้องกำรเน้น (ความประพฤติ, ขยนั , ตรงตอ่ เวลา, รับผดิ ชอบ, ซือ่ สัตย์, กตัญญู,
ความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์, เชื่อม่นั , มีมนษุ ย์สัมพันธ์ ฯลฯ )
- จานวนนักเรียนนักศึกษาระดบั ดี ……………….. คน คดิ เป็นร้อยละ ………….
- จานวนนักเรียนนักศกึ ษาระดับปานกลาง ……… คน คิดเป็นร้อยละ ………….
- จานวนนกั เรียนนักศกึ ษาระดบั ตอ้ งปรับปรงุ …... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ………….
ปัญหำที่เกิดขนึ้ ในระหวำ่ งกำรเรียนกำรสอน
……………………………………………………………………………………………………….
แนวทำงกำรแก้ปัญหำของครูผู้สอน และผลท่ไี ด้ (แนวทางการวจิ ัยแผ่นเดยี ว)
……………………………………………………………………………………………………….
ลงชอื่ ………………………………… ผ้สู อน
(นายธนดล สาระบรู ณ์)
วนั ท่ี …. เดือน …………………… พ.ศ. ……
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้แบบฐำนสมรรถนะและบรู ณำกำร 36
หลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง จำนวนคำบรวม
วชิ ำ ศิลปวฒั นธรรมไทย รหัสวชิ ำ 20700-1002 54 ช่ัวโมง
มำตรฐำนท่ี 6 สอนครง้ั ท่ี 13,14
วจิ ิตรศลิ ป์ จำนวนคำบ 6 ชั่วโมง
หน่วยท่ี 6 จำนวนคำบรวม
6 ชั่วโมง
-ความหมายและความสาคัญของวิจิตรศลิ ป์
-ลกั ษณะของวิจิตรศลิ ป์
-ประเภทของวจิ ติ รศลิ ป์
-วจิ ติ รศิลป์ไทยท่สี าคัญ
เรอ่ื งท่ี 6
-ความหมายและความสาคัญของวจิ ติ รศิลป์
-ลกั ษณะของวจิ ิตรศลิ ป์
-ประเภทของวิจิตรศลิ ป์
-วิจิตรศิลป์ไทยท่ีสาคัญ