The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แก้ปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย2565รร.บ้านบางเลน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-05-31 07:54:49

แก้ปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย2565รร.บ้านบางเลน

แก้ปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย2565รร.บ้านบางเลน

~ ๕๑ ~

พฒั นาการ ด้านรา่ งกาย (ต่อ)

มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเน้ือใหญ่และกล้ามเนอื้ เล็กแขง็ แรงใชไ้ ดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่ และประสาน

สัมพันธ์กัน

ตวั บ่งชี้ท่ี ๒.๑ เคลอ่ื นไหวรา่ งกายอย่างคล่องแคลว่ ประสานสมั พันธแ์ ละทรงตัวได้(ตอ่ )

สาระการเรยี นรู้

สาระท่คี วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั

2.2 การเล่น

3)การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์

2.4 การแสดงออกทางอารมณ์

3)การเคลอื่ นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี

3.สง่ เสรมิ พฒั นาการดา้ นสงั คม

3.1การปฏบิ ัติกจิ วตั รประจาวัน

1)การช่วยเหลือตนเองในกิจวตั รประจาวัน

3.2การดูแลรักษาธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม

5)การเลี้ยงสตั ว์

3.3 การปฏบิ ตั ิตามวัฒนธรรมทอ้ งถิน่ ท่อี าศัยและความเป็นไทย

4)การศึกษานอกสถานท่ี

5)การละเล่นพน้ื บ้านของไทย

4.ส่งเสรมิ พฒั นาการด้านสติปญั ญา

4.1 การใชภ้ าษา

3)การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง บทร้อยกรองหรือเรอ่ื งราวต่างๆ

10)การอา่ นหนงั สอื ภาพ นทิ าน หลากหลายประเภท/รูปแบบ

13)การสงั เกตทศิ ทางการอา่ นตัวอักษร คา และข้อความ

4.2การคดิ รวบยอด การคิดเชงิ เหตุผล การตัดสนิ ใจและแกป้ ญั หา

4)การเลน่ กบั ส่ือตา่ งๆทเ่ี ป็นทรงกลม ทรงสเี่ หลยี่ มมุมฉาก ทรงกระบอก

กรวย

5)การคัดแยก การจัดกลมุ่ และการจาแนกสงิ่ ต่างๆตามลกั ษณะและรปู ร่าง

รปู ทรง

9)การเปรียบเทยี บและเรยี งลาดบั จานวนของส่งิ ตา่ งๆ

4.3จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

1)การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรสู้ ึกผา่ นสอ่ื วสั ดุ ของเล่นและชิ้นงาน

~ ๕๒ ~

พฒั นาการ ด้านรา่ งกาย (ตอ่ )
มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเน้อื ใหญแ่ ละกลา้ มเน้อื เลก็ แขง็ แรงใช้ได้อย่างคลอ่ งแคลว่ และประสาน

สัมพนั ธก์ ัน
ตัวบง่ ช้ที ี่ ๒.๒ ใชม้ อื -ตาประสานสมั พันธก์ ัน

สภาพทีพ่ ึงประสงค์

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

2.2.1 ใชก้ รรไกรตัดกระดาษตามแนวเสน้ ตรงได้ 2.2.1 ใช้กรรไกรตดั กระดาษตามแนวเส้นโคง้ ได้

2.2.2 เขยี นรูปสีเ่ หล่ียมตามแบบได้อย่างมมี ุมชดั เจน 2.2.2 เขยี นรูปสามเหล่ยี มตามแบบได้อยา่ งมีมุมชัดเจน

2.2.3 รอ้ ยวัสดุท่มี รี ขู นาดเส้นผา่ นศูนย์ ๐.๕ ซม.ได้ 2.2.3 รอ้ ยวสั ดุที่มรี ขู นาดเส้นผ่านศูนยก์ ลาง๐.๒๕ ซม.ได้

สาระท่ีควรเรียนรู้ สาระการเรียนรู้

สาระท่ี 1 เร่ืองราวเกย่ี วกับตัวเดก็ ประสบการณ์สาคัญ

หน่วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 1.สง่ เสริมพัฒนาการดา้ นร่างกาย
- การมอง (ตา) 1.1การใชก้ ล้ามเนอ้ื ใหญ่
- การฟงั (หู) 1)การเคล่อื นไหวอยู่กบั ท่ี
- การดมกลิน่ (จมกู ) 2)การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นท่ี
- การชิมรส (ล้ิน) 3)การเคลอ่ื นไหวพรอ้ มวสั ดอุ ปุ กรณ์
- การสมั ผสั (ผวิ หนัง/ผิวกาย) 4)การเคลอ่ื นไหวทีใ่ ชก้ ารประสานสมั พันธ์ของการใช้กลา้ มเนือ้ มดั ใหญ่ในการ
หน่วยปลอดภัยไว้ก่อน
- อนั ตรายจากการเลน่ ขว้าง การจบั การโยน การเตะ
- อันตรายจากของมคี ม 5)การเล่นเคร่ืองเล่นสนามอยา่ งอิสระ
- อนั ตรายจากอบุ ัตเิ หตุ
- อนั ตรายจากเคร่อื งใช้ไฟฟา้ 1.5การตระหนักรู้เกีย่ วกับรา่ งกายตนเอง
- อนั ตรายจากสตั ว์ 1)การเคลอ่ื นไหวเพือ่ ควบคุมตนเองไปในทศิ ทาง ระดบั และพนื้ ท่ี
2)การเคลอ่ื นไหวขา้ มส่งิ กีดขวาง
สาระที่ ๔ เรือ่ งราวเก่ยี วกับสิ่งตา่ งๆ
2.สง่ เสรมิ พฒั นาการดา้ นอารมณ์
รอบตัวเดก็ 2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี
3)การเล่นบทบาทสมมติ
หนว่ ยวทิ ยาศาสตรน์ ่ารู้ 2.2 การเล่น
- การใชแ้ วน่ ขยาย 3)การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์
- แม่เหล็ก 2.4 การแสดงออกทางอารมณ์
- การเกดิ เสียง 3)การเคลอื่ นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
- แสง 4)การร้องเพลง
- การจมการลอย
3.ส่งเสรมิ พัฒนาการด้านสังคม
3.1การปฏบิ ตั ิกิจวตั รประจาวนั
1)การช่วยเหลอื ตนเองในกจิ วตั รประจาวัน
3.3การปฏบิ ตั ิตามวัฒนธรรมท้องถิน่ ท่ีอาศัยและความเป็นไทย
5)การละเล่นพน้ื บา้ นของไทย

~ ๕๓ ~

พัฒนาการ ด้านรา่ งกาย (ตอ่ )

มาตรฐานท่ี ๒ กล้ามเนอ้ื ใหญ่และกลา้ มเน้ือเล็กแข็งแรงใชไ้ ดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคล่วและประสาน

สัมพนั ธ์กนั

สาระการเรยี นรู้

สาระท่ีควรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั

สาระที่ ๔ เรือ่ งราวเก่ียวกับสิ่งตา่ งๆ 4.ส่งเสรมิ พฒั นาการด้านสตปิ ัญญา
4.1 การใชภ้ าษา
รอบตวั เดก็ 10)การอา่ นหนงั สือภาพ นทิ าน หลากหลายประเภท/รูปแบบ
13)การสงั เกตทศิ ทางการอา่ นตัวอักษร คา และขอ้ ความ
หน่วยของเลน่ ของใช้ 4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล การตัดสนิ ใจและแก้ปญั หา
- ความหมายของของเล่นของใช้ 4)การเลน่ กบั สือ่ ตา่ งๆทเี่ ป็นทรงกลม ทรงส่ีเหลยี่ มมุมฉาก ทรงกระบอก
- ประเภทของเล่น ( เรียนรรู้ ูปทรง วสั ดุ )
- ประเภทของใช้ (ของมีคม พลาสติก แก้ว กรวย
เหล็ก)

- ประโยชนแ์ ละการดูแลรักษาของเลน่ ของใช้

- การประดิษฐ์ของเล่น (วสั ดุเหลอื ใช้)

หน่วยการคมนาคม

- ความหมายของการคมนาคม

- การคมนาคมทางบก

- การคมนาคมทางอากาศ

- การคมนาคมทางน้า

- ประโยชน์และโทษของการคมนาคม

หนว่ ยการตดิ ตอ่ สอื่ สาร

- ความหมายของการรบั รู้ขา่ วสาร การพดู การ

อา่ นและการเขยี น

- การรบั ร้ขู ่าวสารทางไปรษณยี ์

- การติดต่อสอื่ สารโดยการใชโ้ ทรศัพท์

- การรับรูข้ า่ วสารวิทยุ / โทรทศั น์

คอมพวิ เตอร์ อนิ เตอรเ์ น็ต อเี มลล์

- มารยาทในการพดู และฟัง

หน่วยคณิตศาสตร์แสนสนุก

- รปู ร่างรูปทรง (เขียน ) และ

สัญลักษณ์

- ตวั เลข - ตาแหน่ง

- การบอกเวลา - คา่ ของเงิน

หนว่ ยสีแสนสวย

- ช่ือและความหมายของสี

- ประเภทของสี (สไี ม้ สเี ทียน สชี อลค์ สีนา้

สีจากธรรมชาติ ฯลฯ)

- ประโยชนแ์ ละโทษของสี (ศลิ ปะและอาหาร)

- ศิลปะทที่ าจากสธี รรมชาติ (พบั สี เปา่ สี

ดีดสี พิมพ์ภาพ ฝนสี ฯลฯ) (())

- อาหารทีท่ าจากสีธรรมชาติ

~ ๕๔ ~

พัฒนาการ ดา้ นอารมณ์ – จติ ใจ
มาตรฐานที่ ๓ มสี ขุ ภาพจติ ดีและมคี วามสขุ
ตัวบง่ ช้ที ่ี ๓.๑ แสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสม

สาระการเรียนรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

3.1.1 แสดงอารมณ์ ความรู้สึกไดต้ ามสถานการณ์ 3.1.1 แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้สอดคลอ้ งกับ

สถานการณ์อย่างเหมาะสม

สาระการเรยี นรู้

สาระทค่ี วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั

สาระที่ ๒ เรือ่ งราวเกี่ยวกับบุคคลและ 1.ส่งเสรมิ พัฒนาการดา้ นรา่ งกาย
1.1 การใชก้ ลา้ มเน้อื ใหญ่
สถานที่แวดลอ้ มเด็ก 5)การเล่นเครอื่ งเลน่ สนามอยา่ งอิสระ
1.4 การรกั ษาความปลอดภยั
หนว่ ยโรงเรยี นของหนู 1)การปฏบิ ตั ติ นให้ปลอดภยั ในกจิ วัตรประจาวนั
- ชอื่ โรงเรยี นและสญั ลกั ษณป์ ระจาโรงเรียน
- บุคคลทสี่ าคัญภายในโรงเรยี น 2.สง่ เสรมิ พฒั นาการด้านอารมณ์
- สถานทแี่ ละสภาพแวดลอ้ มภายในโรงเรียน 2.1 สนุ ทรียภาพ ดนตรี
- การปฏบิ ตั ิตนตามระเบยี บของโรงเรยี น 2)การเคล่อื นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
- สาธารณสมบตั ิของโรงเรยี น 2.2 การเลน่
1)การเล่นอิสระ

3.ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม
3.2 การดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม
1)การมสี ว่ นร่วมรบั ผดิ ชอบดแู ลรกั ษาสิง่ แวดล้อมท้ังภายในและภายนอก

หอ้ งเรยี น
3.4 การมีปฏสิ มั พันธ์ มวี นิ ัย มสี ่วนร่วม และบทบาทสมาชกิ ของสังคม

2)การปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชิทดี่ ีของห้องเรียน
4.สง่ เสริมพัฒนาการดา้ นสติปญั ญา

4.1 การใช้ภาษา
4)การแสดงความคดิ ความรสู้ กึ และความตอ้ งการ

7)การพูดอยา่ งสร้างสรรค์ในการเลน่ และการกระทาต่างๆ

~ ๕๕ ~

พัฒนาการ ดา้ นอารมณ์ – จิตใจ (ตอ่ )

มาตรฐานที่ ๓ มีสขุ ภาพจิตดแี ละมคี วามสขุ

ตัวบง่ ชที้ ่ี ๓.๒ มคี วามรู้สกึ ทด่ี ตี ่อตนเองและผอู้ ื่น

สาระการเรียนรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

3.2.1 กลา้ พดู กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสมบาง 3.2.1 กลา้ พดู กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสมตาม

สถานการณ์ สถานการณ์

3.2.2 แสดงความพอใจในผลงานและความสามารถของ 3.2.2 แสดงความพอใจในผลงานและความสามารถของ

ตนเอง ตนเองและผู้อน่ื

สาระทคี่ วรเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้

สาระท่ี ๒ เรอ่ื งราวเกย่ี วกับบุคคลและ ประสบการณ์สาคัญ

สถานทแี่ วดลอ้ มเดก็ 1.ส่งเสรมิ พฒั นาการดา้ นร่างกาย
1.1การใชก้ ลา้ มเนื้อใหญ่
หนว่ ยโรงเรยี นของหนู 1)การเคลอ่ื นไหวอยกู่ บั ท่ี
- ช่ือโรงเรยี นและสัญลกั ษณ์ประจาโรงเรียน 4)การเคลอ่ื นไหวท่ใี ช้การประสานสมั พนั ธ์ของการใช้กล้ามเนอ้ื มดั ใหญใ่ นการ
- บคุ คลทสี่ าคัญภายในโรงเรียน
- สถานทีแ่ ละสภาพแวดลอ้ มภายในโรงเรยี น ขวา้ ง การจับ การโยน การเตะ
- การปฏิบตั ติ นตามระเบยี บของโรงเรยี น 5)การเลน่ เครื่องเล่นสนามอยา่ งอสิ ระ
- สาธารณสมบตั ขิ องโรงเรียน
1.2 การใช้กล้ามเน้อื เล็ก
หน่วยวันอาสาฬหบชู าและวนั เข้าพรรษา 1)การเล่นเคร่ืองเลน่ สมั ผสั และการสรา้ งจากแทง่ ไม้ บลอ็ ก
- ประวตั ิความเปน็ มาวันอาสาฬหบชู า
- กจิ กรรมท่ีทาในวันอาสาฬหบูชา 1.4 การรกั ษาความปลอดภยั
- ประวตั ิความเป็นมาและความสาคญั วัน 1)การปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภยั ในกิจวัตรประจาวนั
เขา้ พรรษา
- เทียนพรรษา และการถวายเทยี น 2.ส่งเสริมพฒั นาการดา้ นอารมณ์
- กจิ กรรมท่ีทาในวนั เขา้ พรรษา 2.1 สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี
หนว่ ยวันเฉลมิ ฯ ร.10 2)การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
- พระราชประวัติ 2.2 การเลน่
- ความสาคัญของวนั เฉลมิ ฯ ร.10 1)การเล่นอสิ ระ
- พระราชกรณยี กิจ 2.3 คุณธรรม จริยธรรม
- ดอกไมส้ ญั ลกั ษณ์ (ดอกรวงผึ้ง) 1)การปฏิบตั ติ นตามหลักศาสนาทน่ี บั ถือ
- การปฏบิ ัตติ นในวนั เฉลมิ ฯ ร.10 2)การฟังนทิ านเก่ียวกบั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
หนว่ ยวันแม่ 3)การร่วมสนทนาแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ เชิงจรยิ ธรรม
- พระราชประวตั ิ 2.5การมอี ัตลกั ษณเ์ ฉพาะตนและเชอื่ วา่ ตนเองมีความสามารถ
- พระราชกรณยี กจิ 1)การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆตามความสามารถของตนเอง
- บทบาทหน้าท่ขี องแม่
- ดอกไมส้ ัญลกั ษณ์ของวนั แม่ 3.ส่งเสริมพฒั นาการดา้ นสงั คม
- การปฏิบตั ิตนกจิ กรรมในวันแม่ 3.1การปฏบิ ัตกิ จิ วัตรประจาวนั
1)การช่วยเหลือตนเองในกิจวตั รประจาวนั
3.2การดแู ลรกั ษาธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม
1)การมีส่วนรว่ มรบั ผดิ ชอบดแู ลรักษาส่งิ แวดล้อมท้ังภายในและภายนอก

หอ้ งเรียน

~ ๕๖ ~

พฒั นาการ ด้านอารมณ์ – จติ ใจ (ตอ่ )

มาตรฐานท่ี ๓ มีสุขภาพจิตดีและมคี วามสุข

ตวั บ่งชที้ ี่ ๓.๒ มคี วามรูส้ กึ ทดี่ ตี ่อตนเองและผอู้ น่ื (ตอ่ )

สาระการเรียนรู้

สาระทคี่ วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั

สาระที่ ๒ เรอ่ื งราวเกยี่ วกับบุคคลและ 3.4การมปี ฏิสมั พันธ์ มีวินยั มสี วนรว่ ม และบทบาทสมาชิกของสังคม
2)การปฏิบตั ิตนเปน็ สมาชทิ ด่ี ขี องห้องเรียน
สถานทแี่ วดล้อมเด็ก (ต่อ)
4.ส่งเสรมิ พัฒนาการด้านสติปัญญา
หนว่ ยครอบครวั แสนสุข 4.1 การใชภ้ าษา
- ความหมายและความสาคญั ของครอบครวั 4)การแสดงความคดิ ความรสู้ ึก และความตอ้ งการ
- สมาชิกและหน้าท่ีของสมาชกิ ในครอบครัว 7)การพูดอยา่ งสรา้ งสรรค์ในการเลน่ และการกระทาตา่ งๆ
- การปฏิบตั ิตน 20)การเขียนร่วมกันตามโอกาส และการเขยี นอสิ ระ
- ห้องต่างๆภายในบ้าน 22)การคดิ สะกดคาและเขยี นเพอื่ ส่อื ความหมายดว้ ยตนเองอยา่ งอิสระ
- วนั สาคญั ตา่ ง ๆ ของครอบครวั 4.2การคดิ รวบยอด การคิดเชงิ เหตผุ ล การตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หา
หน่วยวันพ่อ 14)การบอกและเรยี งลาดับกจิ กรรมหรือเหตูการณต์ ามชว่ งเวลา
- พระราชประวัตริ ชั กาลท่ี 9 4.3จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
- ความสาคัญของวันพ่อ 2)การแสดงความคดิ สรา้ งสรรค์ผา่ นภาษา ท่าทาง การเคลือ่ นไหว และศลิ ปะ
- บทบาทหนา้ ทข่ี องพอ่

- ดอกไมส้ ญั ลกั ษณข์ องวันพ่อ

- การปฏิบตั ติ นต่อพอ่ และการทาการด์ วันพอ่

หน่วยวันลอยกระทง

- ประวตั ิความเป็นมาของวันลอยกระทง

- ความสาคัญของนา้ และแหลง่ นา้

- กิจกรรมทีท่ าในวันลอยกระทง

- การดแู ลตนเองในวนั ลอยกระทง / การปฏบิ ตั ิ

ตนในวนั ลอยกระทง

- การประดิษฐก์ ระทง

หนว่ ยสุขสนั ต์วนั ปีใหม่

- ความหมายของวันขึ้นปีใหม่

- กิจกรรมทางศาสนาในวันปีใหม่

- กิจกรรมงานร่ืนเริงในวันปีใหม่และการแลก

ของขวญั

- การปฏิบัติตนตอ่ ผใู้ หญ่

- ของขวญั วันปใี หม่และการทาการ์ดอวยพร

หนว่ ยวันเดก็ วันครู

- ทม่ี าและความสาคัญของวันเด็ก

- คาขวญั วนั เดก็

- กจิ กรรมทท่ี าในวนั เดก็

- ทีม่ าและความสาคัญของวันครู

- กจิ กรรมในวันครู

~ ๕๗ ~

พัฒนาการ ดา้ นอารมณ์ – จติ ใจ (ต่อ)

มาตรฐานที่ ๔ ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคลอื่ นไหว

ตัวบง่ ชท้ี ี่ ๔.๑ สนใจและมีความสขุ และแสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ ดนตรแี ละการเคลอ่ื นไหว

สาระการเรยี นรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

4.1.1 สนใจและมคี วามสุขและแสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ 4.1.1 สนใจและมคี วามสุขและแสดงออกผ่านงานศิลปะ

4.1.2 สนใจ มคี วามสขุ และแสดงออกผ่านเสียงเพลง 4.1.2 สนใจ มคี วามสขุ และแสดงออกผ่านเสียงเพลง

ดนตรี ดนตรี

4.1.3 สนใจ มีความสุขและแสดงทา่ ทาง/เคล่ือนไหว 4.1.3 สนใจ มคี วามสุขและแสดงท่าทาง/เคลือ่ นไหว

ประกอบเพลง จังหวะและ ดนตรี ประกอบเพลง จังหวะและ ดนตรี

สาระการเรยี นรู้

สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั

สาระที่ ๔ เรื่องราวเก่ียวกับส่ิงต่างๆ 1.ส่งเสรมิ พฒั นาการด้านรา่ งกาย
รอบตัวเด็ก 1.2 การใชก้ ล้ามเนอื้ เลก็
2)การเขยี นภาพและการเล่นกับสี
หนว่ ยสีแสนสวย 1.4การรกั ษาความปลอดภัย
- ชือ่ และความหมายของสี 1)การปฏบิ ตั ิตนให้ปลอดภยั ในกิจวัตรประจาวนั
- ประเภทของสี (สีไม้ สีเทยี น สชี อล์ค สนี า้
สีจากธรรมชาติ ฯลฯ) 2.ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์
- ประโยชน์และโทษของสี (ศลิ ปะและอาหาร) 2.2 การเล่น
- ศลิ ปะทีท่ าจากสีธรรมชาติ (พบั สี เปา่ สี ดดี 2)การเลน่ รายบคุ คล กลุ่มยอ่ ย กลุม่ ใหญ่
สี พมิ พภ์ าพ ฝนสี ฯลฯ) 3)การเล่นตามมมุ ประสบการณ์
- อาหารทีท่ าจากสีธรรมชาติ 2.4 การแสดงออกทางอารมณ์
5)การทางานศิลปะ

3.สง่ เสริมพฒั นาการด้านสงั คม

3.2การดูแลรกั ษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

2)การใช้วัสดแุ ละส่ิงของเครอื่ งใช้อย่างคมุ้ ค่า

6)การสนทนาข่าวและเหตุการณ์ทีเ่ กย่ี วกบั ธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มใน

ชีวติ ประจาวนั

3.3การปฏบิ ตั ติ ามวัฒนธรรมทอ้ งถน่ิ ทีอ่ าศยั และความเปน็ ไทย

3)การประกอบอาหารไทย

4)การศึกษานอกสถานท่ี

3.5การเลน่ แบบร่วมมอื รว่ มใจ

1)การร่วมสนทนาและแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็

3)การทาศลิ ปะแบบรว่ มมอื

3.7 การยอมรบั ในความเหมือนและความแตกต่างระหว่างบคุ คล

1)การเล่นหรอื ทากจิ กรรมรว่ มกบั กลุ่มเพือ่ น

~ ๕๘ ~

พฒั นาการ ดา้ นอารมณ์ – จติ ใจ (ต่อ)

มาตรฐานท่ี ๔ ชน่ื ชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว

ตัวบง่ ชี้ที่ ๔.๑ สนใจและมีความสขุ และแสดงออกผ่านงานศิลปะ ดนตรแี ละการเคลอ่ื นไหว(ตอ่ )

สาระการเรียนรู้

สาระที่ควรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั

4.สง่ เสริมพัฒนาการดา้ นสติปัญญา

4.1 การใชภ้ าษา

2)การฟังและปฏิบัตติ ามคาแนะนา

5)การพดู กับผู้อนื่ เกี่ยวกับประสบการณข์ องตนเอง หรือพดู เล่าเรื่องราว

เก่ยี วกบั ตนเอง

4.2การคิดรวบยอด การคิดเชงิ เหตผุ ล การตัดสนิ ใจและแกป้ ญั หา

3)การบอกและแสดงตาแหนง่ ทิศทาง และระยะทางของสิ่งตา่ งๆดว้ ยการ

กระทา ภาพวาด ภาพถา่ ย และรปู ภาพ

7)การทาซา้ การต่อเตมิ และการสรา้ งแบบรูป

~ ๕๙ ~

พัฒนาการ ดา้ นอารมณ์ – จติ ใจ (ตอ่ )

มาตรฐานท่ี ๕ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรมและมีจติ ใจที่ดงี าม

ตวั บ่งชี้ที่ ๕.๑ ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ

สาระการเรียนรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

5.1.1 ขออนุญาตหรอื รอคอยเมอื่ ต้องการส่ิงของของ 5.1.1 ขออนุญาตหรือรอคอยเม่อื ต้องการส่งิ ของของ

ผูอ้ ่นื เมื่อมผี ู้ชี้แนะ ผูอ้ ่นื ด้วยตนเอง

สาระทค่ี วรเรียนรู้ สาระการเรียนรู้

สาระท่ี ๔ เร่ืองราวเก่ียวกับสิ่งตา่ งๆ ประสบการณ์สาคัญ
รอบตวั เดก็
1.สง่ เสริมพฒั นาการดา้ นร่างกาย
หนว่ ยของเล่นของใช้ 1.2 การใช้กลา้ มเนอ้ื เล็ก
- ความหมายของของเลน่ ของใช้ 1)การเลน่ เคร่ืองเลน่ สมั ผสั และการสรา้ งจากแท่งไม้ บล็อก
- ประเภทของเลน่ ( เรยี นรรู้ ปู ทรง วสั ดุ ) 4)การประดษิ ฐส์ ิ่งตา่ งๆดว้ ย เศษวัสดุ
- ประเภทของใช้ (ของมีคม พลาสติก แก้ว 1.4 การรักษาความปลอดภยั
เหล็ก) 1)การปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภยั ในกิจวัตรประจาวนั
- ประโยชนแ์ ละการดแู ลรักษาของเลน่ ของใช้
- การประดษิ ฐ์ของเลน่ (วัสดเุ หลอื ใช)้ 2.ส่งเสริมพฒั นาการดา้ นอารมณ์
2.2 การเล่น
3)การเล่นตามมมุ ประสบการณ์

3.ส่งเสรมิ พัฒนาการด้านสังคม
3.2 การดูแลรักษาธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม
3)การทางานศลิ ปะท่ใี ช้วสั ดหุ รือส่ิงของที่ใช้แล้วมาใชซ้ ้าหรือแปรรปู แล้วนา

กลับมาใช้ใหม่
3.5การเล่นแบบร่วมมือร่วมใจ
3)การทาศิลปะแบบรว่ มมือ

4.สง่ เสริมพัฒนาการด้านสตปิ ัญญา
4.1 การใชภ้ าษา
7)การพูดอยา่ งสรา้ งสรรคใ์ นการเล่น และการกระทาต่างๆ
18)การเลน่ เกมทางภาษา
4.2 การคิดรวบยอด การคิดเชงิ เหตผุ ล การตัดสินใจและแกป้ ญั หา
6)การตอ่ ของชน้ิ เลก็ เตมิ ในชน้ิ ใหญใ่ หส้ มบรู ณ์ และการแยกช้ินส่วน
10)การรวมและการแยกสิง่ ต่างๆ

~ ๖๐ ~

พฒั นาการ ด้านอารมณ์ – จิตใจ (ตอ่ )

มาตรฐานท่ี ๕ มคี ณุ ธรรม จริยธรรมและมจี ติ ใจทด่ี งี าม

ตวั บง่ ช้ีท่ี ๕.๒ มคี วามเมตตา กรณุ า มีน้าใจและช่วยเหลือแบง่ ปนั

สาระการเรยี นรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

5.2.1 แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตาสตั วเ์ ล้ียง 5.2.1 แสดงความรักเพ่อื นและมเี มตตาสตั วเ์ ลี้ยง

5.2.2 ชว่ ยเหลือและแบง่ ปนั ผ้อู ืน่ ได้เมื่อมีผชู้ ้ีแนะ 5.2.2 ชว่ ยเหลือและแบง่ ปันผอู้ ื่นไดด้ ว้ ยตนเอง

สาระทค่ี วรเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

สาระท่ี 1 เร่ืองราวเกี่ยวกับตัวเดก็ ประสบการณ์สาคัญ

หน่วยหนูน้อยมารยาทงาม 1.ส่งเสริมพัฒนาการด้านรา่ งกาย
- มารยาทในการไหว้ 1.1การใชก้ ล้ามเนอ้ื ใหญ่
- มารยาทในการพูด 3)การเคลอ่ื นไหวพร้อมวสั ดอุ ุปกรณ์
- มารยาทในการนงั่ ,ยืน 1.4 การรกั ษาความปลอดภัย
- มารยาทในการเดนิ 2)การฟังนทิ าน เร่ืองราว เหตุการณ์ เกี่ยวกบั การป้องกนั และรกั ษาความ
- มารยาทในการรับของ
ปลอดภยั
สาระที่ ๔ เรื่องราวเกยี่ วกับสิ่งต่างๆ 2.ส่งเสริมพัฒนาการดา้ นอารมณ์

รอบตวั เด็ก 2.3 คุณธรรม จรยิ ธรรม
1)การปฏบิ ัติตนตามหลกั ศาสนาทนี่ ับถอื
หน่วยเครือ่ งใช้ไฟฟ้า 2)การฟังนิทานเก่ยี วกบั คณุ ธรรม จริยธรรม
- เคร่ืองใช้ไฟฟา้ ชนดิ ต่างๆ 3)การร่วมสนทนาแลกเปลยี่ นความคิดเหน็ เชงิ จรยิ ธรรม
- เครื่องใช้ไฟฟา้ ในบ้าน
- เครื่องใชไ้ ฟฟ้าในโรงเรยี น 3.ส่งเสรมิ พฒั นาการดา้ นสังคม3.ส่งเสรมิ พัฒนาการดา้ นสังคม
- ประโยชนแ์ ละโทษของเครื่องใช้ไฟฟ้า 3.1 การปฏบิ ตั กิ ิจวตั รประจาวนั
- การดูแลรกั ษาเครื่องใชไ้ ฟฟ้า 1)การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวัน
2)การปฏบิ ัติตนตามแนวทางหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
3.2 การดแู ลรกั ษาธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม
2)การใชว้ สั ดแุ ละส่งิ ของเครอ่ื งใช้อย่างคุ้มคา่
3.4 การมปี ฏิสมั พนั ธ์ มวี นิ ยั มสี ่วนร่วม และบทบาทสมาชกิ ของสงั คม
2)การปฏิบตั ิตนเปน็ สมาชกิ ทีด่ ขี องหอ้ งเรยี น
3)การให้ความร่วมมอื ในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ
4)การดูแลห้องเรยี นรว่ มกัน

~ ๖๑ ~

พฒั นาการ ดา้ นอารมณ์ – จติ ใจ (ตอ่ )

มาตรฐานที่ ๕ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรมและมีจิตใจที่ดงี าม

ตวั บง่ ชที้ ี่ ๕.๒ มคี วามเมตตา กรณุ า มนี ้าใจและช่วยเหลือแบง่ ปัน (ตอ่ )

สาระการเรียนรู้

สาระทีค่ วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ

4.สง่ เสรมิ พัฒนาการด้านสติปัญญา

4.1 การใชภ้ าษา

1)การฟังเสียงตา่ งๆ ในสง่ิ แวดลอ้ ม

2)การฟงั และปฏิบตั ติ ามคาแนะนา

3)การฟงั เพลง นทิ าน คาคลอ้ งจอง บทร้อยกรองหรอื เรือ่ งราวต่างๆ

4)การแสดงความคิด ความรสู้ ึก และความต้องการ

5)การพดู กับผู้อื่นเก่ียวกบั ประสบการณข์ องตนเอง หรอื พูดเลา่ เรื่องราว

เกี่ยวกบั ตนเอง

8)การรอจังหวะทเี่ หมาะสมในการพดู

9)การพูดเรยี งลาดับเพ่ือใชใ้ นการส่อื สาร

4.2 การคดิ รวบยอด การคิดเชิงเหตุผล การตดั สนิ ใจและแก้ปญั หา

1)การสงั เกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ การเปลีย่ นแปลง และความสัมพนั ธ์ของ

สงิ่ ต่างๆ โดยใช้ประสาทสัมผสั อย่างเหมาะสม

8)การนับและแสดงจานวนของสงิ่ ต่างๆในชวี ิตประจาวัน

4.4 เจตคตทิ ดี่ ีต่อการเรยี นร้แู ละการแสวงหาความรู้

1)การสารวจส่งิ ตา่ งๆ และแหล่งเรียนรูร้ อบตัว

~ ๖๒ ~

พฒั นาการ ดา้ นอารมณ์ – จิตใจ (ตอ่ ) อายุ ๕-6 ปี
มาตรฐานท่ี ๕ มคี ุณธรรม จริยธรรมและมีจิตใจทด่ี งี าม
ตวั บ่งช้ที ่ี ๕.๓ มคี วามเหน็ อกเหน็ ใจผอู้ ื่น

อายุ ๔-5 ปี

5.3.1 แสดงสีหนา้ หรือทา่ ทางรบั รูค้ วามรู้สึกผอู้ ื่น 5.3.1 แสดงสหี น้าหรอื ท่าทางรบั รู้ความรสู้ ึกผูอ้ ื่นอย่าง
สอดคลอ้ งกับสถานการณ์

สาระที่ควรเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้

สาระท่ี ๔ เร่ืองราวเกยี่ วกับส่ิงตา่ งๆ ประสบการณ์สาคญั

รอบตวั เดก็ 1.ส่งเสริมพฒั นาการด้านร่างกาย
1.2 การใชก้ ล้ามเนื้อเลก็
หน่วยของเลน่ ของใช้ 1)การเลน่ เคร่ืองเล่นสมั ผสั และการสรา้ งจากแทง่ ไม้ บล็อก
- ความหมายของของเล่นของใช้ 4)การประดิษฐส์ งิ่ ตา่ งๆดว้ ย เศษวัสดุ
- ประเภทของเล่น ( เรยี นรรู้ ูปทรง วัสดุ ) 1.4 การรกั ษาความปลอดภัย
- ประเภทของใช้ (ของมคี ม พลาสติก แกว้ 1)การปฏบิ ตั ติ นให้ปลอดภยั ในกจิ วัตรประจาวนั
เหล็ก)
- ประโยชนแ์ ละการดูแลรกั ษาของเล่นของใช้ 2.ส่งเสรมิ พฒั นาการด้านอารมณ์
- การประดษิ ฐข์ องเล่น (วสั ดุเหลอื ใช้) 2.2 การเลน่
3)การเล่นตามมมุ ประสบการณ์

3.สง่ เสริมพฒั นาการด้านสังคม3.ส่งเสรมิ พัฒนาการดา้ นสงั คม
3.2 การดูแลรกั ษาธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม
3)การทางานศลิ ปะทีใ่ ชว้ สั ดหุ รอื สง่ิ ของที่ใช้แลว้ มาใช้ซ้าหรอื แปรรปู แลว้ นา

กลบั มาใช้ใหม่
3.5การเล่นแบบร่วมมือร่วมใจ
3)การทาศิลปะแบบรว่ มมือ

4.ส่งเสรมิ พฒั นาการด้านสตปิ ญั ญา
4.1 การใชภ้ าษา
7)การพูดอย่างสร้างสรรคใ์ นการเล่น และการกระทาต่างๆ
18)การเลน่ เกมทางภาษา
4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล การตัดสินใจและแกป้ ญั หา
6)การต่อของชนิ้ เลก็ เติมในชนิ้ ใหญ่ใหส้ มบูรณ์ และการแยกชิ้นสว่ น
10)การรวมและการแยกสงิ่ ตา่ งๆ

~ ๖๓ ~

พัฒนาการ ดา้ นอารมณ์ – จิตใจ (ต่อ)

มาตรฐานท่ี ๕ มคี ุณธรรม จริยธรรมและมจี ติ ใจทีด่ งี าม

ตัวบง่ ชี้ท่ี ๕.๔ มคี วามรบั ผดิ ชอบ

สาระการเรียนรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

5.4.1 ทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายจนสาเรจ็ เมื่อมผี ู้ชแ้ี นะ 5.4.1 ทางานทไี่ ด้รบั มอบหมายจนสาเร็จดว้ ยตนเอง

สาระการเรยี นรู้

สาระทค่ี วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ

สาระท่ี 2 เรอ่ื งราวเก่ยี วกับบคุ คลและ 1.สง่ เสริมพฒั นาการดา้ นรา่ งกาย
1.1 การใช้กลา้ มเนื้อใหญ่
สถานท่แี วดล้อมเดก็
1)การเคลอ่ื นไหวอยู่กบั ที่
หน่วยวนั ลอยกระทง 2)การเคลอื่ นไหวเคล่ือนท่ี
3)การเคลอ่ื นไหวพร้อมวัสดอุ ุปกรณ์
- ประวตั คิ วามเป็นมาของวันลอยกระทง 1.2 การใช้กล้ามเน้อื เล็ก
- ความสาคัญของนา้ และแหลง่ นา้ 1)การเล่นเครื่องเล่นสมั ผสั และการสรา้ งจากแท่งไม้ บลอ็ ก
- กจิ กรรมทีท่ าในวนั ลอยกระทง 4)การประดษิ ฐ์ส่งิ ตา่ งๆด้วย เศษวัสดุ
- การดแู ลตนเองในวนั ลอยกระทง / การปฏบิ ตั ิ 5)การหยิบจับ การใช้กรรไกร การฉกี การตดั การปะ และการร้อยวสั ดุ
ตนในวนั ลอยกระทง 1.4 การรกั ษาความปลอดภัย
- การประดษิ ฐก์ ระทง 1)การปฏิบตั ิตนให้ปลอดภยั ในกิจวตั รประจาวนั
2)การฟังนิทาน เรอ่ื งราว เหตกุ ารณ์ เกย่ี วกบั การป้องกันและรกั ษาความ
สาระท่ี ๔ เรือ่ งราวเกยี่ วกับสิ่งต่างๆ ปลอดภัย

รอบตัวเด็ก

หนว่ ยของเล่นของใช้

- ความหมายของของเล่นของใช้ 4)การเลน่ บทบาทสมมตเิ หตกุ ารณต์ า่ งๆ
- ประเภทของเล่น ( เรยี นรรู้ ปู ทรง วสั ดุ ) 2.ส่งเสรมิ พัฒนาการดา้ นอารมณ์

- ประเภทของใช้ (ของมีคม พลาสตกิ แกว้ 2.2 การเล่น

เหลก็ ) 3)การเลน่ ตามมุมประสบการณ์
- ประโยชน์และการดแู ลรักษาของเลน่ ของใช้ 2.4 การแสดงออกทางอารมณ์
- การประดิษฐ์ของเลน่ (วสั ดุเหลอื ใช้)
3)การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี

2.5 การมีอัตลักษณเ์ ฉพาะตนและเชอ่ื ว่าตนเองมีความสามารถ

1)การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆตามความสามารถของตนเอง

3.ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม

3.2การดแู ลรกั ษาธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม

2)การใช้วัสดแุ ละสง่ิ ของเครอื่ งใช้อย่างคมุ้ ค่า

3)การทางานศลิ ปะทใี่ ช้วสั ดหุ รอื สงิ่ ของท่ีใช้แลว้ มาใช้ซา้ หรอื แปรรูปแล้วนา

กลับมาใชใ้ หม่

3.3 การปฏบิ ตั ิตามวัฒนธรรมท้องถ่ินทอ่ี าศยั และความเป็นไทย

2)การปฏบิ ัติตนตามวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ที่อาศัยและประเพณีไทย

3.4 การมีปฏิสัมพนั ธ์ มวี ินยั มสี ่วนรว่ ม และบทบาทสมาชกิ ของสงั คม

5)การร่วมกจิ กรรมวันสาคญั

3.5การเลน่ แบบร่วมมอื รว่ มใจ

3)การทาศลิ ปะแบบรว่ มมอื

~ ๖๔ ~

พัฒนาการ ด้านอารมณ์ – จติ ใจ (ต่อ)

มาตรฐานท่ี ๕ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรมและมจี ติ ใจทด่ี งี าม

ตวั บง่ ชที้ ่ี ๕.๔ มคี วามรับผดิ ชอบ(ตอ่ )

สาระการเรียนรู้

สาระท่คี วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ

3.7 การยอมรับในความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างบคุ คล

1)การเลน่ หรือ ทากิจกรรมรว่ มกับกลุ่มเพอ่ื น

4.สง่ เสริมพฒั นาการดา้ นสติปัญญา

4.1 การใช้ภาษา

7)การพูดอย่างสร้างสรรค์ในการเล่น และการกระทาต่างๆ

18)การเล่นเกมทางภาษา

4.2 การคดิ รวบยอด การคิดเชิงเหตผุ ล การตัดสนิ ใจและแก้ปญั หา

6)การตอ่ ของช้ินเลก็ เติมในชน้ิ ใหญใ่ ห้สมบูรณ์ และการแยกชิ้นส่วน

10)การรวมและการแยกสง่ิ ตา่ งๆ

4.3 จินตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์

1)การรบั รู้ และแสดงความคิดความรสู้ กึ ผ่านสอื่ วสั ดุ ของเลน่ และชน้ิ งาน

2)การแสดงความคิดสรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา ท่าทาง การเคลอ่ื นไหว และศิลปะ

3)การสร้างสรรค์ชนิ้ งานโดยใชร้ ูปร่างรูปทรงจากวสั ดทุ ่ีหลากหลาย

~ ๖๕ ~

พฒั นาการ ด้านสังคม

มาตรฐานท่ี ๖ มที กั ษะชีวติ และปฏบิ ตั ิตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

ตัวบง่ ช้ีที่ ๖.๑ ช่วยเหลือตนเองในการปฏิบตั ิกจิ วตั รประจาวนั

สาระการเรียนรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

6.1.1 แต่งตวั ดว้ ยตนเอง 6.1.1 แต่งตัวดว้ ยตนเองไดอ้ ย่างคล่องแคล่ว

6.1.2 รบั ประทานอาหารดว้ ยตนเอง 6.1.2 รบั ประทานอาหารด้วยตนเองอยา่ งถูกวิธี

6.1.3 ใชห้ ้องน้าหอ้ งสว้ มดว้ ยตนเอง 6.1.3 ใชแ้ ละทาความสะอาดหลังใช้ห้องนา้ ห้องส้วมดว้ ย
ตนเอง
สาระที่ควรเรียนรู้
สาระการเรียนรู้
สาระที่ 1 เร่ืองราวเก่ียวกับตัวเด็ก
ประสบการณ์สาคญั
หน่วยตวั เรา
- เพศของหนู 1.ส่งเสรมิ พฒั นาการด้านรา่ งกาย
- การทาความสะอาดรา่ งกาย 1.1การใชก้ ล้ามเนือ้ ใหญ่
- การแตง่ กาย 2)การเคลือ่ นไหวเคลอื่ นท่ี
- การรบั ประทานอาหาร 1.3 การรกั ษาสขุ ภาพอนามยั ส่วนตัว
- การใช้หอ้ งน้า, หอ้ งส้วม 1)การปฏบิ ตั ติ นตามสขุ อนามัย สุขนสิ ยั ทด่ี ใี นกิจวตั รประจาวัน
หนว่ ยหนูน้อยอนามัยดี 1.4 การรกั ษาความปลอดภัย
- การเลอื กรบั ประทานอาหาร 1)การปฏบิ ัตติ นให้ปลอดภยั ในกจิ วัตรประจาวนั
- ตวั หอม ฟันสวย
- การลา้ งมอื 7 ขัน้ ตอน 2.สง่ เสรมิ พัฒนาการดา้ นอารมณ์
- การออกกาลงั กาย 2.1 สนุ ทรียภาพ ดนตรี
- การพักผอ่ น 1)การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดงปฏิกริ ิยาโต้ตอบเสยี งดนตรี
หน่วยหนูนอ้ ยมารยาทงาม 2.3 คณุ ธรรม จริยธรรม
- มารยาทในการไหว้ 1)การปฏิบตั ติ นตามหลักศาสนาท่นี บั ถอื
- มารยาทในการพูด 2)การฟงั นทิ านเกยี่ วกบั คณุ ธรรม จริยธรรม
- มารยาทในการนง่ั ,ยนื 3)การร่วมสนทนาแลกเปลยี่ นความคิดเห็นเชงิ จรยิ ธรรม
- มารยาทในการเดิน
- มารยาทในการรับของ 3.สง่ เสรมิ พฒั นาการด้านสงั คม
หนว่ ยอาหารดมี ีประโยชน์ 3.1 การปฏบิ ตั กิ ิจวัตรประจาวัน
- อาหารหลัก 5 หมู่ (หมู่ที่ 1) 1)การชว่ ยเหลือตนเองในกิจวตั รประจาวนั
- อาหารหลัก 5 หมู่ (หม่ทู ่ี 2) 2)การปฏิบตั ติ นตามแนวทางหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
- อาหารหลัก 5 หมู่ (หมู่ที่ 3) 3.2 การดูแลรกั ษาธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม
- อาหารหลกั 5 หมู่ (หมทู่ ่ี 4) 1)การมสี ่วนร่วมรบั ผดิ ชอบดแู ลรักษาส่ิงแวดลอ้ มทั้งภายในและภายนอก
- อาหารหลกั 5 หมู่ (หมู่ที่ 5)
ห้องเรียน
3.5 การเลน่ แบบรว่ มมือรว่ มใจ
1)การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคดิ เหน็

4.สง่ เสริมพฒั นาการดา้ นสตปิ ัญญา
4.1 การใช้ภาษา
8)การรอจงั หวะทเ่ี หมาะสมในการพดู
9)การพูดเรียงลาดับเพื่อใชใ้ นการสือ่ สาร

~ ๖๖ ~

พัฒนาการ ด้านสังคม(ตอ่ )

มาตรฐานท่ี ๖ มีทักษะชีวติ และปฏบิ ตั ติ นตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

ตวั บ่งชี้ท่ี ๖.๒ มวี ินยั ในตนอง

สาระการเรยี นรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

6.2.1 เก็บของเลน่ ของใชเ้ ขา้ ท่ีด้วยตนเอง 6.2.1 เก็บของเล่นของใช้เขา้ ท่ีอยา่ งเรยี บร้อยด้วยตนเอง

6.2.2 เข้าแถวตามลาดบั กอ่ นหลังได้ด้วยตนเอง 6.2.2 เขา้ แถวตามลาดับก่อนหลงั ไดด้ ้วยตนเอง

สาระท่คี วรเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

สาระที่ 1 เรอื่ งราวเก่ียวกับตัวเด็ก ประสบการณ์สาคัญ

หนว่ ยการเล่นและ 1.สง่ เสริมพัฒนาการด้านรา่ งกาย
การเคล่ือนไหวร่างกาย 1.1 การใชก้ ล้ามเน้ือใหญ่
1)การเคลื่อนไหวอยูก่ บั ท่ี
- ความหมายของการเล่นและการเคลอ่ื นไหว 2)การเคลอ่ื นไหวเคลื่อนท่ี
- การเล่นภายในห้องเรียน 3)การเคลื่อนไหวพรอ้ มวัสดอุ ุปกรณ์
- การเลน่ เคร่อื งเล่นสนาม 4)การเคลอื่ นไหวทีใ่ ช้การประสานสมั พนั ธข์ องการใชก้ ลา้ มเนื้อมัดใหญ่ในการ
- การเลน่ กจิ กรรมกลางแจง้
- การเลน่ การละเลน่ พนื้ บา้ น ขวา้ ง การจับ การโยน การเตะ
5)การเล่นเครอ่ื งเล่นสนามอย่างอสิ ระ
สาระท่ี ๔ เรอ่ื งราวเกย่ี วกับส่ิงตา่ งๆ
1.2 การใช้กล้ามเน้อื เล็ก
รอบตวั เดก็ 1)การเลน่ เครือ่ งเลน่ สมั ผสั และการสรา้ งจากแทง่ ไม้ บล็อก
4)การประดษิ ฐ์สิง่ ตา่ งๆดว้ ย เศษวสั ดุ
หน่วยของเล่นของใช้
1.4การรักษาความปลอดภยั
- ความหมายของของเล่นของใช้ 1)การปฏิบัติตนให้ปลอดภยั ในกจิ วตั รประจาวัน
- ประเภทของเลน่ ( เรียนรรู้ ปู ทรง วสั ดุ )
- ประเภทของใช้ (ของมคี ม พลาสตกิ แกว้ 1.5 การตระหนกั รู้เกยี่ วกบั ร่างกายตนเอง
เหลก็ ) 1)การเคลื่อนไหวเพอื่ ควบคมุ ตนเองไปในทศิ ทาง ระดับ และพน้ื ที่
- ประโยชนแ์ ละการดแู ลรักษาของเล่นของใช้ 2)การเคลอ่ื นไหวขา้ มส่งิ กดี ขวาง
- การประดิษฐ์ของเล่น (วัสดเุ หลอื ใช)้
2.ส่งเสรมิ พัฒนาการด้านอารมณ์
2.1 สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี
3)การเล่นบทบาทสมมติ
2.2 การเล่น
3)การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์
2.4 การแสดงออกทางอารมณ์
3)การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
4)การรอ้ งเพลง

~ ๖๗ ~

พัฒนาการ ดา้ นสังคม(ต่อ)

มาตรฐานที่ ๖ มีทักษะชวี ติ และปฏิบตั ิตนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ตวั บ่งชีท้ ี่ ๖.๒ มีวินัยในตนอง(ต่อ)

สาระการเรียนรู้

สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั

3.สง่ เสรมิ พัฒนาการด้านสังคม

3.1 การปฏบิ ัตกิ จิ วตั รประจาวัน

1)การชว่ ยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวนั

3.2 การดูแลรกั ษาธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม

3)การทางานศิลปะท่ใี ชว้ ัสดหุ รอื ส่ิงของทใี่ ช้แลว้ มาใช้ซ้าหรอื แปรรปู แล้วนา

กลบั มาใชใ้ หม่

3.3 การปฏบิ ัตติ ามวัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ ท่อี าศยั และความเป็นไทย

5)การละเล่นพน้ื บ้านของไทย

3.5 การเลน่ แบบร่วมมอื รว่ มใจ

3)การทาศิลปะแบบรว่ มมือ

4.สง่ เสริมพัฒนาการดา้ นสตปิ ญั ญา

4.1 การใชภ้ าษา

10)การอ่านหนังสอื ภาพ นิทาน หลากหลายประเภท/รูปแบบ

13)การสังเกตทศิ ทางการอา่ นตวั อกั ษร คา และขอ้ ความ

4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตผุ ล การตัดสินใจและแก้ปญั หา

4)การเลน่ กับสื่อต่างๆทเ่ี ปน็ ทรงกลม ทรงสเี่ หลย่ี มมมุ ฉาก ทรงกระบอก กรวย

6)การตอ่ ของชน้ิ เล็กเตมิ ในชน้ิ ใหญ่ใหส้ มบรู ณ์ และการแยกชน้ิ ส่วน

10)การรวมและการแยกส่งิ ตา่ งๆ

~ ๖๘ ~

พฒั นาการ ด้านสงั คม(ต่อ)

มาตรฐานท่ี ๖ มีทักษะชีวติ และปฏิบตั ติ นตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ตัวบง่ ชท้ี ่ี ๖.๓ ประหยัดและพอเพียง

สาระการเรยี นรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

6.3.1 ใชส้ ่งิ ของเครื่องใช้อยา่ งประหยดั และพอเพียงเม่ือมี 6.3.1 ใชส้ ่งิ ของเคร่ืองใช้อยา่ งประหยัดและพอเพียง

ผู้ชี้แนะ ดว้ ยตนเอง

สาระทคี่ วรเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้

สาระท่ี 3 เรือ่ งราวเก่ียวกับธรรมชาติ ประสบการณ์สาคญั

รอบตัวเดก็ 1.ส่งเสรมิ พฒั นาการดา้ นรา่ งกาย
1.1 การใช้กล้ามเนือ้ ใหญ่
หนว่ ยน้า 4)การเคลอ่ื นไหวทีใ่ ช้การประสานสัมพนั ธข์ องการใชก้ ลา้ มเน้ือมดั ใหญ่ในการ
- คณุ สมบตั ิของนา้ (ของเหลว)
- ประโยชน์ของน้า ขวา้ ง การจับ การโยน การเตะ
- แหล่งน้าธรรมชาติ (นา้ ตก ห้วย หนอง 1.2 การใช้กล้ามเนอื้ เล็ก
คลอง บงึ ทะเล ) 1)การเล่นเคร่อื งเลน่ สมั ผสั และการสรา้ งจากแทง่ ไม้ บลอ็ ก
- การอนุรักษแ์ หล่งนา้ 4)การประดษิ ฐ์ส่ิงตา่ งๆดว้ ย เศษวัสดุ
- สาเหตุท่เี กดิ จากภยั ธรรมชาติ 1.3 การรกั ษาสขุ ภาพอนามยั สว่ นตวั
1)การปฏบิ ตั ิตนตามสุขอนามัย สขุ นิสยั ที่ดใี นกิจวตั รประจาวนั
สาระที่ ๔ เรอื่ งราวเกย่ี วกับสิ่งต่างๆ 1.4 การรักษาความปลอดภยั
1)การปฏิบตั ติ นให้ปลอดภยั ในกจิ วัตรประจาวัน
รอบตวั เดก็ 1.5 การตระหนักร้เู กย่ี วกบั ร่างกายตนเอง
2)การเคลื่อนไหวขา้ มส่งิ กีดขวาง
หนว่ ยของเล่นของใช้
- ความหมายของของเลน่ ของใช้ 2.ส่งเสรมิ พัฒนาการด้านอารมณ์
- ประเภทของเล่น ( เรียนรรู้ ปู ทรง วสั ดุ ) 2.2 การเล่น
- ประเภทของใช้ (ของมคี ม พลาสตกิ แกว้ 3)การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์
เหล็ก) 2.4 การแสดงออกทางอารมณ์
- ประโยชนแ์ ละการดูแลรกั ษาของเลน่ ของใช้ 1)การสะท้อนความรสู้ กึ ของตนเองและผอู้ ่ืน
- การประดษิ ฐข์ องเลน่ (วัสดเุ หลอื ใช้) 3)การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
4)การรอ้ งเพลง
หน่วยนักเกษตรตัวนอ้ ย 2.5 การมอี ัตลกั ษณเ์ ฉพาะตนและเชื่อว่าตนเองมคี วามสามารถ
1)การปฏิบัตกิ ิจกรรมตา่ งๆตามความสามารถของตนเอง
- ความหมายของการเกษตร
- การทานา 3.สง่ เสรมิ พฒั นาการด้านสังคม
- การทาไร่ 3.2 การดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- การทาสวน 1)การมสี ่วนรว่ มรบั ผดิ ชอบดแู ลรักษาสง่ิ แวดลอ้ มทง้ั ภายในและภายนอก
- การเลยี้ งสตั ว์
หอ้ งเรยี น
2)การใช้วสั ดุและสง่ิ ของเครอื่ งใช้อย่างคุ้มคา่
3)การทางานศิลปะที่ใชว้ ัสดหุ รอื สง่ิ ของที่ใช้แลว้ มาใชซ้ ้าหรือแปรรปู แล้วนา

กลับมาใชใ้ หม่

~ ๖๙ ~

พฒั นาการ ดา้ นสังคม(ต่อ)

มาตรฐานท่ี ๖ มที กั ษะชีวติ และปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

ตวั บ่งชท้ี ่ี ๖.๓ ประหยดั และพอเพยี ง(ตอ่ )

สาระการเรียนรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

6.3.1 ใช้ส่งิ ของเคร่ืองใช้อย่างประหยัดและ 6.3.1 ใชส้ ่งิ ของเคร่ืองใช้อยา่ งประหยัดและพอเพียงดว้ ยตนเอง

พอเพยี งเมื่อมีผชู้ ี้แนะ

สาระทีค่ วรเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

ประสบการณ์สาคัญ

3.สง่ เสริมพฒั นาการด้านสังคม (ต่อ)
3.2 การดูแลรกั ษาธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม
3)การทางานศลิ ปะท่ีใชว้ สั ดหุ รือสง่ิ ของทใ่ี ช้แลว้ มาใช้ซา้ หรอื แปรรูปแลว้ นา

กลับมาใช้ใหม่
4)การเพาะปลกู และดแู ลตน้ ไม้
5)การเล้ียงสตั ว์
6)การสนทนาข่าวและเหตุการณท์ ี่เกยี่ วกบั ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมใน

ชีวิตประจาวนั
3.3 การปฏบิ ัติตามวฒั นธรรมทอ้ งถิน่ ท่ีอาศัยและความเปน็ ไทย
1)การเล่นบทบาทสมมุติการปฏบิ ัตติ นในความเป็นคนไทย
4)การศกึ ษานอกสถานที่
3.4 การมปี ฏสิ ัมพันธ์ มีวนิ ยั มีส่วนรว่ ม และบทบาทสมาชิกของสังคม
3)การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบัติกจิ กรรมตา่ งๆ
3.5 การเล่นแบบร่วมมือรว่ มใจ
1)การรว่ มสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
3.6 การแกป้ ัญหาความขดั แยง้
1)การมีสว่ นร่วมในการเลือกวธิ ีการแก้ปญั หา
3.7 การยอมรบั ในความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล
1)การเลน่ หรอื ทากิจกรรมรว่ มกบั กลุ่มเพ่ือน

4.ส่งเสรมิ พัฒนาการดา้ นสตปิ ญั ญา
4.1 การใช้ภาษา
1)การฟงั เสยี งตา่ งๆ ในสงิ่ แวดล้อม
2)การฟงั และปฏบิ ัตติ ามคาแนะนา
5)การพูดกบั ผ้อู ื่นเก่ยี วกับประสบการณข์ องตนเอง หรือพูดเลา่ เรื่องราว

เกย่ี วกบั ตนเอง
7)การพูดอย่างสร้างสรรค์ในการเลน่ และการกระทาต่างๆ
18)การเล่นเกมทางภาษา

4.2 การคดิ รวบยอด การคิดเชิงเหตผุ ล การตัดสนิ ใจและแก้ปญั หา
6)การตอ่ ของชิน้ เล็กเตมิ ในช้ินใหญใ่ ห้สมบรู ณ์ และการแยกช้นิ ส่วน
10)การรวมและการแยกสงิ่ ต่างๆ

4.4 เจตคตทิ ี่ดีตอ่ การเรยี นรแู้ ละการแสวงหาความรู้
1)การสารวจสิ่งตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรรู้ อบตัว

~ ๗๐ ~

พฒั นาการ ดา้ นสังคม(ตอ่ )

มาตรฐานท่ี ๗ รักธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม และความเปน็ ไทย

ตวั บง่ ชที้ ี่ ๗.๑ ดูแลรกั ษาธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม

สาระการเรียนรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

7.1.1 มสี ว่ นร่วมในการดแู ลรกั ษาธรรมชาติและ 7.1.1 มสี ว่ นรว่ มในการดูแลรักษาธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม

สง่ิ แวดล้อมเม่ือมีผู้ช้แี นะ ดว้ ยตนเอง

7.1.2 ทิ้งขยะไดถ้ ูกที่ 7.1.2 ท้งิ ขยะได้ถูกที่

สาระทีค่ วรเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้

สาระที่ 2 เร่อื งราวเก่ียวกับบคุ คลและ ประสบการณ์สาคญั
สถานท่แี วดล้อมเด็ก
1.ส่งเสริมพฒั นาการดา้ นร่างกาย
หนว่ ยทอ้ งถนิ่ ของเรา 1.1การใชก้ ล้ามเนือ้ ใหญ่
- สภาพแวดลอ้ มในชมุ ชน 4)การเคล่ือนไหวท่ใี ช้การประสานสัมพันธ์ของการใชก้ ลา้ มเนอ้ื มดั ใหญใ่ นการ
- บคุ คลสาคญั ในชมุ ชน
- สถานท่ตี า่ ง ๆ ในชมุ ชน ขว้าง การจบั การโยน การเตะ
- อาชีพตา่ ง ๆ ในชมุ ชน 1.2 การใชก้ ลา้ มเน้อื เลก็
- การปฏิบัติตนเปน็ สมาชิกท่ดี ี 4)การประดษิ ฐส์ ิ่งตา่ งๆดว้ ย เศษวสั ดุ
1.3 การรกั ษาสขุ ภาพอนามัยส่วนตัว
สาระท่ี 3 เร่ืองราวเกีย่ วกับธรรมชาติ 1)การปฏิบตั ิตนตามสขุ อนามยั สขุ นิสยั ท่ดี ใี นกจิ วัตรประจาวนั
รอบตัวเดก็ 1.4 การรกั ษาความปลอดภยั
1)การปฏบิ ัตติ นให้ปลอดภยั ในกจิ วตั รประจาวนั
หน่วยน้า
- คณุ สมบตั ขิ องนา้ (ของเหลว) 2.สง่ เสริมพัฒนาการด้านอารมณ์
- ประโยชน์ของนา้ 2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี
- แหลง่ น้าธรรมชาติ (น้าตก ห้วย หนอง 1)การฟงั เพลง การรอ้ งเพลง และการแสดงปฏกิ ริ ยิ าโตต้ อบเสยี งดนตรี
คลอง บึง ทะเล ) 5)การสรา้ งสรรคส์ ง่ิ สวยงาม
- การอนรุ ักษแ์ หลง่ นา้ 2.2 การเล่น
- สาเหตทุ ี่เกดิ จากภยั ธรรมชาติ 3)การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์
หน่วยต้นไมท้ รี่ ัก
- รูปร่างลกั ษณะและความสาคญั ของต้นไม้ 3.สง่ เสริมพัฒนาการดา้ นสงั คม
- หน้าทแี่ ละส่วนประกอบของต้นไม้ 3.2 การดูแลรกั ษาธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม
- ประเภทของตน้ ไม้ 1)การมสี ว่ นร่วมรับผดิ ชอบดแู ลรกั ษาส่ิงแวดลอ้ มท้งั ภายในและภายนอก
- การดแู ลรกั ษาตน้ ไม้
- ประโยชนแ์ ละโทษของตน้ ไม้ ห้องเรยี น
2)การใช้วัสดุและสงิ่ ของเครอื่ งใช้อย่างค้มุ ค่า
3)การทางานศลิ ปะทใี่ ชว้ ัสดหุ รอื สงิ่ ของทใี่ ชแ้ ลว้ มาใช้ซา้ หรือแปรรปู แลว้ นา

กลับมาใช้ใหม่
4)การเพาะปลกู และดูแลต้นไม้
6)การสนทนาข่าวและเหตกุ ารณท์ ่ีเกยี่ วกบั ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มใน

ชีวติ ประจาวัน
3.5 การเลน่ แบบรว่ มมอื ร่วมใจ

2)การเล่นและทางานรว่ มกบั ผอู้ ่ืน

~ ๗๑ ~

พัฒนาการ ดา้ นสังคม(ตอ่ )

มาตรฐานท่ี ๗ รักธรรมชาติ สิ่งแวดลอ้ ม วฒั นธรรม และความเปน็ ไทย

ตวั บ่งชี้ท่ี ๗.๑ ดูแลรักษาธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม(ตอ่ )

สาระการเรียนรู้

สาระท่คี วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั

4.สง่ เสรมิ พัฒนาการดา้ นสติปัญญา

4.1 การใชภ้ าษา

14)การอ่านและชขี้ ้อความ โดยกวาดสายตาตามบรรทัดจากซ้ายไปขวา จาก

บนลงลา่ ง

4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล การตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หา

1)การสงั เกตลกั ษณะ สว่ นประกอบ การเปล่ยี นแปลง และความสมั พนั ธ์

ของสง่ิ ต่างๆ โดยใช้ประสาทสมั ผสั อยา่ งเหมาะสม

2)การสังเกตสิง่ ต่างๆ และสถานท่ีจากมุมมองทต่ี ่างกัน

14)การบอกและเรยี งลาดับกิจกรรมหรอื เหตุการณต์ ามช่วงเวลา

4.4 เจตคติท่ีดตี อ่ การเรยี นรู้และการแสวงหาความรู้

1)การสารวจสิง่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรรู้ อบตัว

~ ๗๒ ~

พัฒนาการ ด้านสังคม(ตอ่ )

มาตรฐานท่ี ๗ รักธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ ม วฒั นธรรม และความเปน็ ไทย

ตัวบง่ ชท้ี ี่ ๗.๒ มีมารยาทตามวฒั นธรรมไทยและรกั ความเป็นไทย

สาระการเรียนรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

7.2.1 ปฏบิ ตั ิตนตามมารยาทไทยได้ด้วยตนเอง 7.2.1 ปฏบิ ัตติ นตามมารยาทไทยได้ ตามกาลเทศะ

7.2.2 กล่าวคาขอบคุณและขอโทษดว้ ยตนเอง 7.2.2 กลา่ วคาขอบคุณและขอโทษดว้ ยตนเอง

7.2.3 ยืนตรงเม่อื ได้ยนิ เพลงชาตไิ ทยและเพลงสรรเสริญ 7.2.3 ยนื ตรงและร่วมร้องเพลงชาตไิ ทยและเพลง

พระบารมี สรรเสรญิ พระบารมี

สาระการเรียนรู้

สาระทีค่ วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ

สาระที่ 1เรอื่ งราวเกยี่ วกับตัวเดก็ 1.ส่งเสรมิ พฒั นาการด้านร่างกาย
1.1การใชก้ ลา้ มเน้ือใหญ่
หนว่ ยหนูน้อยมารยาทงาม 4)การเคลื่อนไหวที่ใช้การประสานสัมพนั ธ์ของการใชก้ ล้ามเนอื้ มดั ใหญ่ในการ
- มารยาทในการไหว้
- มารยาทในการพดู ขว้าง การจบั การโยน การเตะ
- มารยาทในการนง่ั ,ยนื 1.2 การใช้กล้ามเนือ้ เล็ก
- มารยาทในการเดนิ 4)การประดิษฐ์ส่ิงต่างๆดว้ ย เศษวัสดุ
- มารยาทในการรบั ของ
2.ส่งเสรมิ พฒั นาการดา้ นอารมณ์
สาระที่ 2 เรอ่ื งราวเกยี่ วกับบุคคลและ 2.1 สนุ ทรียภาพ ดนตรี
สถานท่แี วดล้อมเด็ก 5)การสรา้ งสรรคส์ ่งิ สวยงาม
2.2 การเลน่
หนว่ ยท้องถนิ่ ของเรา 3)การเล่นตามมมุ ประสบการณ์
- สภาพแวดล้อมในชุมชน 2.3 คุณธรรม จรยิ ธรรม
- บคุ คลสาคญั ในชุมชน 1)การปฏบิ ัตติ นตามหลักศาสนาทีน่ ับถอื
- สถานท่ตี า่ ง ๆ ในชุมชน 2)การฟงั นทิ านเกีย่ วกับคุณธรรม จริยธรรม
- อาชีพตา่ ง ๆ ในชุมชน 3)การรว่ มสนทนาแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ เชิงจรยิ ธรรม
- การปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชิกท่ีดี
3.ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม
3.1 การปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจาวัน
1)การชว่ ยเหลอื ตนเองในกจิ วตั รประจาวัน
2)การปฏบิ ตั ิตนตามแนวทางหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
3.2 การดแู ลรกั ษาธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม

2)การใช้วัสดุและสิง่ ของเครอื่ งใชอ้ ย่างคมุ้ คา่
6)การสนทนาขา่ วและเหตุการณ์ท่ีเกย่ี วกับธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมใน

ชวี ิตประจาวนั

~ ๗๓ ~

พฒั นาการ ด้านสังคม(ตอ่ )

มาตรฐานที่ ๗ รักธรรมชาติ สงิ่ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม และความเปน็ ไทย

ตัวบ่งชี้ท่ี ๗.๒ มมี ารยาทตามวัฒนธรรมไทยและรกั ความเป็นไทย(ต่อ)

สาระการเรียนรู้

สาระทค่ี วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ

4.สง่ เสริมพฒั นาการดา้ นสติปัญญา

4.1 การใชภ้ าษา

8)การรอจังหวะท่ีเหมาะสมในการพดู

9)การพดู เรียงลาดับเพอื่ ใชใ้ นการส่อื สาร

14)การอ่านและช้ีข้อความ โดยกวาดสายตาตามบรรทดั จากซา้ ยไปขวา

จากบนลงล่าง

4.2 การคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผล การตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หา

2)การสังเกตสิ่งต่างๆ และสถานที่จากมมุ มองทต่ี ่างกัน

~ ๗๔ ~

พัฒนาการ ดา้ นสังคม(ต่อ)

มาตรฐานที่ ๘ อยูร่ ่วมกับผอู้ น่ื ไดอ้ ย่างมีความสขุ และปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชิกทดี่ ีของสังคมในระบอบ

ประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ

ตวั บง่ ช้ีที่ ๘.๑ ยอมรับความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างบุคคล

สาระการเรียนรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

7.2.1 ปฏบิ ัตติ นตามมารยาทไทยไดด้ ้วยตนเอง 7.2.1 ปฏิบตั ติ นตามมารยาทไทยได้ ตามกาลเทศะ

7.2.2 กล่าวคาขอบคณุ และขอโทษดว้ ยตนเอง 7.2.2 กลา่ วคาขอบคุณและขอโทษดว้ ยตนเอง

7.2.3 ยนื ตรงเมือ่ ได้ยนิ เพลงชาตไิ ทยและเพลงสรรเสริญ 7.2.3 ยนื ตรงและร่วมร้องเพลงชาติไทยและเพลง

พระบารมี สรรเสริญพระบารมี

สาระการเรยี นรู้

สาระท่คี วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ

สาระที่ 1เรื่องราวเก่ยี วกับตัวเดก็ 1.ส่งเสริมพฒั นาการด้านร่างกาย
1.1 การใชก้ ลา้ มเนื้อใหญ่
หน่วยการเล่นและการเคล่ือนไหวรา่ งกาย 1)การเคลอ่ื นไหวอยกู่ บั ที่
2)การเคลื่อนไหวเคล่ือนท่ี
- ความหมายของการเลน่ และการ 3)การเคลอ่ื นไหวพร้อมวัสดอุ ุปกรณ์
เคลือ่ นไหว 4)การเคล่อื นไหวท่ีใชก้ ารประสานสัมพนั ธข์ องการใช้กล้ามเน้อื มดั ใหญใ่ นการ
- การเลน่ ภายในหอ้ งเรยี น
- การเล่นเคร่ืองเลน่ สนาม ขวา้ ง การจบั การโยน การเตะ
- การเล่นกจิ กรรมกลางแจ้ง 5)การเล่นเครอื่ งเลน่ สนามอย่างอิสระ
- การเล่นการละเลน่ พนื้ บ้าน
1.5 การตระหนกั ร้เู กีย่ วกบั รา่ งกายตนเอง
1)การเคลอ่ื นไหวเพ่อื ควบคุมตนเองไปในทศิ ทาง ระดับ และพนื้ ท่ี

2)การเคลอ่ื นไหวข้ามสิ่งกดี ขวาง
2.ส่งเสรมิ พฒั นาการดา้ นอารมณ์

2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี
3)การเล่นบทบาทสมมติ

2.2 การเล่น
3)การเล่นตามมุมประสบการณ์

2.4 การแสดงออกทางอารมณ์
3)การเคลอ่ื นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
4)การร้องเพลง

3.ส่งเสริมพฒั นาการด้านสงั คม
3.1 การปฏิบัตกิ ิจวัตรประจาวนั

1)การชว่ ยเหลอื ตนเองในกจิ วัตรประจาวัน
3.3 การปฏบิ ตั ติ ามวฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ ทอี่ าศัยและความเปน็ ไทย

5)การละเล่นพนื้ บา้ นของไทย

~ ๗๕ ~

พัฒนาการ ด้านสงั คม(ตอ่ )

มาตรฐานที่ ๘ อยู่รว่ มกับผอู้ ืน่ ไดอ้ ยา่ งมีความสุขและปฏิบตั ิตนเปน็ สมาชิกทดี่ ขี องสงั คมในระบอบ

ประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข

ตวั บ่งชที้ ่ี ๘.๑ ยอมรบั ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างบุคคล(ตอ่ )

สาระการเรียนรู้

สาระท่ีควรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ

4.ส่งเสริมพฒั นาการด้านสติปญั ญา

4.1 การใช้ภาษา

10)การอา่ นหนังสือภาพ นิทาน หลากหลายประเภท/รูปแบบ

13)การสังเกตทศิ ทางการอ่านตัวอกั ษร คา และข้อความ

4.2 การคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผล การตัดสนิ ใจและแกป้ ญั หา

4)การเล่นกับส่อื ตา่ งๆที่เปน็ ทรงกลม ทรงสเี่ หลย่ี มมุมฉาก ทรงกระบอก

กรวย

~ ๗๖ ~

พฒั นาการ ดา้ นสงั คม(ต่อ)

มาตรฐานที่ ๘ อยูร่ ่วมกับผูอ้ น่ื ได้อย่างมคี วามสขุ และปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชกิ ทด่ี ีของสังคมในระบอบ

ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมขุ

ตัวบ่งช้ที ี่ ๘.๒ มีปฏสิ มั พนั ธท์ ี่ดีกบั ผอู้ ืน่

สาระการเรยี นรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

8.2.1 เลน่ หรอื ทางานร่วมกบั เพือ่ นเปน็ กลุม่ 8.2.1 เลน่ หรอื ทางานรว่ มกับเพือ่ นอย่างมเี ปา้ หมาย

8.2.2 ยมิ้ ทกั ทาย หรือพดู คุยกับผใู้ หญ่และ 8.2.2 ย้ิม ทกั ทาย หรอื พูดคุยกบั ผใู้ หญ่และบุคคลที่ค้นุ เคยได้
บุคคลทค่ี นุ้ เคยได้ดว้ ยตนเอง เหมาะสมกับสถานการณ์

สาระทค่ี วรเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

สาระที่ 1เรอ่ื งราวเกย่ี วกับตัวเดก็ ประสบการณ์สาคัญ

หนว่ ยหนูนอ้ ยมารยาทงาม 1.ส่งเสริมพัฒนาการดา้ นร่างกาย
- มารยาทในการไหว้ 1.1 การใช้กลา้ มเน้อื ใหญ่
- มารยาทในการพดู 1)การเคล่อื นไหวอยกู่ ับท่ี
- มารยาทในการน่ัง ,ยนื 2)การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นท่ี
- มารยาทในการเดิน 3)การเคลอ่ื นไหวพรอ้ มวัสดอุ ุปกรณ์
- มารยาทในการรับของ 4)การเคลอื่ นไหวท่ใี ช้การประสานสัมพันธ์ของการใชก้ ล้ามเนอ้ื มดั ใหญ่ในการ
หน่วยการเล่นและการเคล่ือนไหวร่างกาย
- ความหมายของการเลน่ และการเคลือ่ นไหว ขวา้ ง การจบั การโยน การเตะ
- การเลน่ ภายในห้องเรียน 5)การเล่นเครอื่ งเล่นสนามอยา่ งอิสระ
- การเลน่ เครือ่ งเลน่ สนาม
- การเลน่ กจิ กรรมกลางแจ้ง 1.5 การตระหนักรูเ้ ก่ียวกับร่างกายตนเอง
- การเลน่ การละเล่นพ้นื บา้ น 1)การเคลื่อนไหวเพ่อื ควบคุมตนเองไปในทศิ ทาง ระดบั และพน้ื ที่
2)การเคลอ่ื นไหวข้ามส่ิงกีดขวาง

2.ส่งเสริมพัฒนาการดา้ นอารมณ์
2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี
3)การเล่นบทบาทสมมติ
2.2 การเล่น
3)การเล่นตามมมุ ประสบการณ์
2.3 คุณธรรม จรยิ ธรรม
1)การปฏบิ ัตติ นตามหลกั ศาสนาทีน่ ับถอื
2)การฟงั นทิ านเกี่ยวกบั คุณธรรม จรยิ ธรรม
3)การรว่ มสนทนาแลกเปลยี่ นความคดิ เห็นเชงิ จริยธรรม
2.4 การแสดงออกทางอารมณ์
3)การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
4)การรอ้ งเพลง

~ ๗๗ ~

พฒั นาการ ดา้ นสังคม(ตอ่ )

มาตรฐานท่ี ๘ อยูร่ ่วมกับผอู้ ่ืนไดอ้ ย่างมคี วามสขุ และปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชิกทดี่ ีของสังคมในระบอบ

ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุข

ตวั บง่ ชท้ี ่ี ๘.๒ มปี ฏิสัมพนั ธท์ ี่ดีกับผ้อู ืน่ (ตอ่ )

สาระการเรียนรู้

สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั

3.สง่ เสริมพฒั นาการดา้ นสังคม

3.1 การปฏิบัตกิ จิ วัตรประจาวัน

1)การช่วยเหลือตนเองในกจิ วัตรประจาวัน

2)การปฏบิ ตั ิตนตามแนวทางหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

3.3 การปฏบิ ัตติ ามวฒั นธรรมท้องถิ่นท่ีอาศยั และความเป็นไทย

5)การละเล่นพ้นื บา้ นของไทย

4.สง่ เสริมพัฒนาการดา้ นสตปิ ญั ญา

4.1 การใช้ภาษา

8)การรอจงั หวะที่เหมาะสมในการพูด

9)การพูดเรยี งลาดบั เพ่อื ใช้ในการส่ือสาร

10)การอา่ นหนงั สอื ภาพ นิทาน หลากหลายประเภท/รปู แบบ

13)การสงั เกตทศิ ทางการอา่ นตวั อักษร คา และขอ้ ความ

4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล การตัดสินใจและแกป้ ญั หา

4)การเลน่ กบั สอื่ ตา่ งๆท่เี ปน็ ทรงกลม ทรงสีเ่ หล่ยี มมมุ ฉาก ทรงกระบอก กรวย

~ ๗๘ ~

พัฒนาการ ด้านสังคม(ตอ่ )

มาตรฐานที่ ๘ อยู่รว่ มกับผูอ้ ืน่ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุขและปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชกิ ทดี่ ขี องสังคมในระบอบ

ประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข

ตวั บ่งชี้ที่ ๘.๓ ปฏิบตั ิตนเบือ้ งต้นในการเป็นสมาชกิ ท่ดี ีของสังคม

สาระการเรยี นรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

8.3.1 มีสว่ นรว่ มสรา้ งข้อตกลงและปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง 8.3.1 มสี ว่ นร่วมสรา้ งข้อตกลงและปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง

เม่ือมผี ชู้ ี้แนะ ดว้ ยตนเอง

8.3.2 ปฏิบัตติ นเป็นผนู้ าและผตู้ ามไดด้ ้วยตนเอง 8.3.2 ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้นาและผ้ตู ามไดเ้ หมาะสมกับ
สถานการณ์
8.3.3 ประนปี ระนอมแกไ้ ขปัญหาโดยปราศจากการใช้
ความรนุ แรงเมื่อมผี ู้ช้ีแนะ 8.3.3 ประนปี ระนอมแกไ้ ขปัญหาโดยปราศจากการใช้
ความรุนแรงด้วยตนเอง

สาระทค่ี วรเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

สาระที่ 1 เร่อื งราวเก่ยี วกับตัวเดก็ ประสบการณ์สาคญั

หนว่ ยปฐมนเิ ทศ 1.สง่ เสริมพฒั นาการด้านร่างกาย
- ชือ่ -นามสกลุ ตนเองและชื่อเพ่ือน 1.1 การใช้กล้ามเนอ้ื ใหญ่
- ช่อื ครูประจาช้นั 3)การเคลื่อนไหวพรอ้ มวสั ดอุ ปุ กรณ์
- สญั ลกั ษณ์ประจาตัวของตนเอง 4)การเคล่ือนไหวที่ใช้การประสานสัมพันธ์ของการใชก้ ล้ามเนือ้ มัดใหญ่ในการ
- การรู้จักชว่ ยเหลอื ตนเอง
- การปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงของโรงเรียน ขว้าง การจบั การโยน การเตะ
1.2 การใช้กล้ามเน้อื เล็ก
สาระที่ 2 เร่อื งราวเกี่ยวกับบุคคลและ 4)การประดษิ ฐส์ ิง่ ตา่ งๆดว้ ย เศษวสั ดุ
5)การหยบิ จบั การใชก้ รรไกร การฉกี การตดั การปะ และการรอ้ ยวัสดุ
สถานทีแ่ วดล้อมเด็ก 1. 4 การรกั ษาความปลอดภัย
1)การปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภัยในกิจวัตรประจาวัน
หนว่ ยทอ้ งถ่ินของเรา 1.5 การตระหนกั รเู้ กี่ยวกบั รา่ งกายตนเอง
- สภาพแวดล้อมในชุมชน 1)การเคลอ่ื นไหวเพ่ือควบคมุ ตนเองไปในทิศทาง ระดับ และพน้ื ท่ี
- บุคคลสาคญั ในชุมชน 2)การเคลอ่ื นไหวข้ามสงิ่ กดี ขวาง
- สถานทต่ี ่าง ๆ ในชมุ ชน
- อาชพี ต่าง ๆ ในชมุ ชน 2.สง่ เสรมิ พฒั นาการด้านอารมณ์
- การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกที่ดี 2.1 สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี
หน่วยวันเฉลิมฯ ร.10 1)การฟงั เพลง การรอ้ งเพลง และการแสดงปฏิกิรยิ าโต้ตอบเสยี งดนตรี
- พระราชประวตั ิ 5)การสรา้ งสรรค์สงิ่ สวยงาม
- ความสาคัญของวนั เฉลมิ ฯ ร.10 2.2 การเล่น
- พระราชกรณยี กิจ 3)การเล่นตามมุมประสบการณ์
- ดอกไมส้ ญั ลกั ษณ์ (ดอกรวงผึ้ง) 3.สง่ เสริมพัฒนาการด้านสงั คม
- การปฏบิ ตั ติ นในวันเฉลิม ฯ ร.10 3.1 การปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจาวัน
1)การชว่ ยเหลอื ตนเองในกิจวตั รประจาวนั

~ ๗๙ ~

พฒั นาการ ด้านสังคม(ตอ่ )

มาตรฐานท่ี ๘ อย่รู ว่ มกับผู้อื่นได้อยา่ งมคี วามสขุ และปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชิกทด่ี ขี องสงั คมในระบอบ

ประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ

ตวั บง่ ชท้ี ่ี ๘.๓ ปฏิบตั ติ นเบ้ืองต้นในการเป็นสมาชกิ ทด่ี ีของสงั คม(ต่อ)

สาระการเรียนรู้

สาระท่ีควรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ

สาระที่ 2 เร่อื งราวเกี่ยวกับบุคคลและ 3.2 การดูแลรักษาธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ ม
สถานทแี่ วดลอ้ มเดก็ (ต่อ) 1)การมสี ่วนร่วมรับผดิ ชอบดแู ลรกั ษาสิง่ แวดลอ้ มทงั้ ภายในและภายนอก

หน่วยวันแม่ ห้องเรยี น
- พระราชประวตั ิ 2)การใช้วัสดุและสง่ิ ของเครอื่ งใชอ้ ย่างคุม้ ค่า
- พระราชกรณยี กจิ 6)การสนทนาขา่ วและเหตกุ ารณ์ทีเ่ กย่ี วกับธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมใน
- บทบาทหน้าทีข่ องแม่
- ดอกไมส้ ัญลกั ษณข์ องวนั แม่ ชีวิตประจาวนั
- การปฏิบตั ติ นกจิ กรรมในวันแม่ 3.4 การมปี ฏสิ มั พันธ์ มวี นิ ัย มีสวนรว่ ม และบทบาทสมาชิกของสังคม
5)การร่วมกิจกรรมวนั สาคญั

4.ส่งเสริมพฒั นาการดา้ นสตปิ ญั ญา

4.1 การใช้ภาษา

5)การพดู กับผู้อื่นเกยี่ วกับประสบการณ์ของตนเอง หรอื พดู เล่าเร่ืองราว

เกี่ยวกับตนเอง

9)การพดู เรยี งลาดับเพอื่ ใช้ในการสอ่ื สาร

12)การเห็นแบบอยา่ งของการอ่านทถ่ี ูกตอ้ ง

14)การอ่านและชขี้ อ้ ความ โดยกวาดสายตาตามบรรทดั จากซา้ ยไปขวา จาก

บนลงลา่ ง

4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล การตดั สินใจและแกป้ ญั หา

2)การสังเกตสง่ิ ต่างๆ และสถานท่จี ากมุมมองท่ตี ่างกนั

~ ๘๐ ~

พฒั นาการ ดา้ นสติปัญญา

มาตรฐานท่ี ๙ ใชภ้ าษาส่ือสารได้เหมาะสมกับวัย

ตัวบง่ ชีท้ ี่ ๙.๑ สนทนาโตต้ อบและเล่าเรือ่ งให้ผอู้ ื่นเขา้ ใจ

สาระการเรียนรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

9.1.1 ฟังผู้อนื่ พูดจนจบและสนทนาโต้ตอบสอดคล้องกับ 9.1.1 ฟงั ผอู้ นื่ พูดจนจบและสนทนาโตต้ อบอย่างต่อเนอื่ ง

เรอื่ งท่ีฟัง เชอ่ื มโยงกับเร่ืองที่ฟัง

9.1.2 เล่าเรื่องเป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง 9.1.2 เล่าเปน็ เร่อื งราวตอ่ เนื่องได้

สาระทค่ี วรเรียนรู้ สาระการเรียนรู้

สาระท่ี 4 เรื่องราวเกยี่ วกับสง่ิ ต่างๆ ประสบการณ์สาคัญ

รอบตวั เดก็ 1.ส่งเสรมิ พฒั นาการดา้ นร่างกาย
1.1 การใชก้ ล้ามเนื้อใหญ่
หนว่ ยการติดต่อสือ่ สาร 2)การเคลื่อนไหวเคลือ่ นที่
- ความหมายของการรับร้ขู า่ วสาร การพูด การ 1.2 การใช้กล้ามเน้อื เล็ก
อา่ นและการเขยี น 2)การเขียนภาพและการเล่นกบั สี
- การรับรู้ขา่ วสารทางไปรษณีย์ 1. 4 การรักษาความปลอดภยั
- การตดิ ตอ่ สอื่ สารโดยการใชโ้ ทรศัพท์ 2)การฟงั นทิ าน เรื่องราว เหตกุ ารณ์ เก่ยี วกบั การป้องกนั และรกั ษาความ
- การรับร้ขู ่าวสารวทิ ยุ / โทรทัศน์
คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต อเี มลล์ ปลอดภัย
- มารยาทในการพดู และฟัง 4)การเล่นบทบาทสมมตเิ หตุการณ์ต่างๆ

2.ส่งเสริมพัฒนาการดา้ นอารมณ์
2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี
3)การเคลือ่ นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
2.3 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
2)การฟังนทิ านเกีย่ วกบั คุณธรรม จรยิ ธรรม
3.ส่งเสริมพัฒนาการดา้ นสงั คม
3.2การดแู ลรกั ษาธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม
6)การสนทนาขา่ วและเหตกุ ารณท์ ่ีเกย่ี วกับธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มใน

ชวี ิตประจาวนั
3.4การมปี ฏสิ ัมพันธ์ มวี นิ ัย มสี วนรว่ ม และบทบาทสมาชกิ ของสังคม
1)การร่วมกาหนดข้อตกลงของหอ้ งเรียน
2)การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชทิ ด่ี ขี องหอ้ งเรียน
3)การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ ง ๆ
3.5การเล่นแบบรว่ มมือรว่ มใจ
1)การร่วมสนทนาและแลกเปลยี่ นความคิดเห็น
3.7 การยอมรบั ในความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล
1)การเล่นหรอื ทากิจกรรมรว่ มกบั กลมุ่ เพอื่ น

~ ๘๑ ~

พัฒนาการ ด้านสติปัญญา (ต่อ)

มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาส่ือสารได้เหมาะสมกับวัย

ตัวบง่ ชที้ ่ี ๙.๑ สนทนาโตต้ อบและเล่าเร่อื งใหผ้ อู้ ืน่ เขา้ ใจ(ต่อ)

สาระการเรยี นรู้

สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ

สาระท่ี 4 เรอ่ื งราวเกี่ยวกับสง่ิ ต่างๆ 4.ส่งเสริมพฒั นาการด้านสตปิ ัญญา
4.1 การใช้ภาษา
รอบตัวเด็ก 1)การฟังเสยี งตา่ งๆ ในสงิ่ แวดลอ้ ม
2)การฟงั และปฏิบัตติ ามคาแนะนา
หน่วยการตดิ ตอ่ สอ่ื สาร 5)การพูดกบั ผอู้ ่ืนเก่ยี วกบั ประสบการณข์ องตนเอง หรอื พดู เล่าเรอ่ื งราว
- ความหมายของการรบั รู้ข่าวสาร การพูด การ
อา่ นและการเขยี น เก่ียวกบั ตนเอง
- การรบั รู้ขา่ วสารทางไปรษณยี ์ 9)การพูดเรียงลาดับเพือ่ ใชใ้ นการสอ่ื สาร
- การตดิ ตอ่ สื่อสารโดยการใช้โทรศพั ท์ 10)การอ่านหนงั สอื ภาพ นทิ าน หลากหลายประเภท/รปู แบบ
- การรับรขู้ า่ วสารวทิ ยุ / โทรทศั น์ 11)การอา่ นอิสระตามลาพงั การอา่ นรว่ มกนั การอา่ นโดยมีผูช้ แ้ี นะ
คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เนต็ อเี มลล์ 12)การเหน็ แบบอยา่ งของการอ่านท่ถี ูกตอ้ ง
- มารยาทในการพูดและฟัง 13)การสงั เกตทิศทางการอา่ นตัวอักษร คา และขอ้ ความ

15)การสงั เกตตัวอกั ษรในชื่อของตน หรือคาคุน้ เคย

16)การสงั เกตตวั อกั ษรที่ประกอบเปน็ คาผา่ นการอ่านหรือเขียนของผใู้ หญ่

19)การเห็นแบบอย่างของการเขยี นท่ถี กู ต้อง

20)การเขียนร่วมกันตามโอกาส และการเขียนอสิ ระ

21)การเขยี นคาทีม่ คี วามหมายกับตัวเด็ก/คาคนุ้ เคย

22)การคิดสะกดคาและเขยี นเพอื่ สอ่ื ความหมายด้วยตนเองอยา่ งอิสระ

4.3จนิ ตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์

2)การแสดงความคิดสรา้ งสรรค์ผา่ นภาษา ทา่ ทาง การเคลอื่ นไหว และศิลปะ

~ ๘๒ ~

พัฒนาการ ดา้ นสตปิ ัญญา (ตอ่ )

มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาส่ือสารไดเ้ หมาะสมกับวัย

ตวั บ่งช้ีท่ี ๙.๒ อ่าน เขียนภาพ และสัญลักษณ์ได้

สาระการเรียนรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

9.2.1 อ่านภาพ สญั ลกั ษณ์ คา พรอ้ มทั้งชี้ หรอื กวาดตา 9.2.1 อา่ นภาพ สัญลกั ษณ์ คา ดว้ ยการช้ี หรือกวาดตา

มองขอ้ ความตามบรรทัด มองจุดเริ่มตน้ และจดุ จบของขอ้ ความ

9.2.2 เขยี นคลา้ ยตัวอกั ษร 9.2.2 เขยี นชือ่ ของตนเองตามแบบ
เขยี นข้อความดว้ ยวิธีที่คิดขน้ึ เอง
สาระท่ีควรเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้
สาระท่ี 2 เรื่องราวเก่ียวกับบุคคลและ
สถานทแี่ วดลอ้ มเดก็ ประสบการณ์สาคัญ

หนว่ ยอาชีพทหี่ นชู อบ 1.สง่ เสรมิ พฒั นาการด้านรา่ งกาย
- อาชพี และหนา้ ท่ที ่ีหนรู จู้ กั 1.2 การใชก้ ลา้ มเนื้อเล็ก
- สถานทที่ างานของอาชพี ตา่ งๆ (โรงพยาบาล 2)การเขยี นภาพและการเลน่ กบั สี
สถานตี ารวจ โรงเรยี น ตลาด ไปรษณยี ์ 1.4 การรกั ษาความปลอดภัย
ห้างสรรพสนิ ค้า อาเภอ ดบั เพลิง นา สวน 1)การปฏบิ ตั ติ นให้ปลอดภยั ในกิจวัตรประจาวนั
ฯลฯ) 2)การฟังนทิ าน เรื่องราว เหตกุ ารณ์ เก่ยี วกบั การป้องกนั และรกั ษาความ
- การแต่งกาย
- เคร่ืองมือทีใ่ ช้ในการประกอบอาชพี ปลอดภัย
- ความฝนั ของหนู (อาชีพทห่ี นูอยากเปน็ ) 4)การเล่นบทบาทสมมตเิ หตุการณ์ต่างๆ

สาระท่ี 4 เร่อื งราวเกย่ี วกับส่งิ ต่างๆ 2.สง่ เสรมิ พฒั นาการดา้ นอารมณ์
รอบตวั เด็ก 2.1 สนุ ทรียภาพ ดนตรี
3)การเล่นบทบาทสมมติ
หน่วยสีแสนสวย 2.2 การเล่น
- ชือ่ และความหมายของสี 1)การเลน่ อสิ ระ
- ประเภทของสี (สีไม้ สเี ทียน สชี อลค์ สีนา้ 2)การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ย่อย กลมุ่ ใหญ่
สจี ากธรรมชาติ ฯลฯ) 3)การเลน่ ตามมุมประสบการณ์
- ประโยชนแ์ ละโทษของสี (ศลิ ปะและอาหาร) 2.4 การแสดงออกทางอารมณ์
- ศิลปะที่ทาจากสีธรรมชาติ (พับสี เป่าสี 1)การสะท้อนความรสู้ กึ ของตนเองและผอู้ นื่
ดีดสี พมิ พภ์ าพ ฝนสี ฯลฯ) 2)การเล่นบทบาทสมมติ
- อาหารท่ที าจากสีธรรมชาติ 5)การทางานศลิ ปะ
2.5 การมอี ัตลักษณเ์ ฉพาะตนและเชอื่ วา่ ตนเองมีความสามารถ
1)การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆตามความสามารถของตนเอง

3.สง่ เสริมพฒั นาการดา้ นสงั คม
3.2 การดูแลรักษาธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม
2)การใชว้ ัสดแุ ละสิ่งของเครอื่ งใชอ้ ยา่ งคมุ้ คา่
6)การสนทนาข่าวและเหตกุ ารณ์ท่ีเกย่ี วกับธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มใน

ชวี ิตประจาวนั

~ ๘๓ ~

พฒั นาการ ดา้ นสตปิ ัญญา (ต่อ)

มาตรฐานท่ี ๙ ใช้ภาษาสื่อสารไดเ้ หมาะสมกบั วยั

ตวั บง่ ชี้ที่ ๙.๒ อา่ น เขยี นภาพ และสญั ลักษณไ์ ด้

สาระการเรียนรู้

สาระทคี่ วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ

3.3 การปฏิบัตติ ามวฒั นธรรมทอ้ งถ่ินทอี่ าศยั และความเปน็ ไทย

3)การประกอบอาหารไทย

4)การศกึ ษานอกสถานท่ี

3.4 การมีปฏิสัมพันธ์ มีวินัย มสี ่วนรว่ ม และบทบาทสมาชกิ ของสงั คม

3)การใหค้ วามร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ ง ๆ

3.5 การเลน่ แบบร่วมมอื รว่ มใจ

1)การรว่ มสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

3)การทาศิลปะแบบร่วมมือ

3.7 การยอมรบั ในความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล

1)การเล่นหรือ ทากจิ กรรมรว่ มกบั กลุ่มเพ่ือน

4.ส่งเสริมพฒั นาการดา้ นสตปิ ญั ญา

4.1 การใช้ภาษา

4)การแสดงความคิด ความรสู้ ึก และความต้องการ

5)การพดู กับผู้อ่ืนเกี่ยวกบั ประสบการณข์ องตนเอง หรอื พูดเลา่ เรอื่ งราว

เกย่ี วกบั ตนเอง

7)การพูดอย่างสร้างสรรคใ์ นการเล่น และการกระทาต่างๆ

8)การรอจังหวะทีเ่ หมาะสมในการพูด

4.2 การคิดรวบยอด การคิดเชงิ เหตุผล การตดั สินใจและแกป้ ญั หา

2)การสงั เกตสงิ่ ต่างๆ และสถานทจ่ี ากมมุ มองท่ตี ่างกนั

3)การบอกและแสดงตาแหนง่ ทศิ ทาง และระยะทางของสิง่ ต่างๆด้วยการ

กระทา ภาพวาด ภาพถา่ ย และรปู ภาพ

7)การทาซา้ การตอ่ เตมิ และการสร้างแบบรปู

17)การคาดเดาหรือการคาดคะเนสง่ิ ทอี่ าจเกดิ ข้นึ อย่างมเี หตุผล

4.4 เจตคติทีด่ ตี ่อการเรียนรู้และการแสวงหาความรู้

1)การสารวจสิง่ ต่างๆ และแหลง่ เรียนรรู้ อบตัว

~ ๘๔ ~

พัฒนาการ ด้านสตปิ ัญญา (ต่อ)

มาตรฐานที่ ๑๐ มคี วามสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรยี นรู้

ตัวบ่งชีท้ ่ี ๑๐.๑ มคี วามสามารถในการคดิ รวบยอด

สาระการเรยี นรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

10.1.1 บอกลกั ษณะและส่วนประกอบของสิ่งของตา่ งๆ 10.1.1 บอกลักษณะ สว่ นประกอบ การเปลยี่ นแปลง

จากการสงั เกตโดยใชป้ ระสาทสัมผสั หรือความสัมพนั ธข์ องสิง่ ของตา่ งๆจากการสงั เกตโดย

ใชป้ ระสาทสัมผัส

10.1.2 จับคแู่ ละเปรยี บเทยี บความแตกต่างหรอื ความ 10.1.2 จบั คูแ่ ละเปรียบเทยี บความแตกต่างและ
เหมือนของสิ่งตา่ งๆโดยใช้ลักษณะท่ีสงั เกตพบเพยี งลกั ษณะ ความเหมือนของสงิ่ ต่างๆโดยใชล้ ักษณะท่ีสังเกตพบ 2
เดียว ลักษณะขน้ึ ไป

10.1.3 จาแนกและจัดกลุ่มส่งิ ตา่ งๆโดยใชอ้ ย่างนอ้ ยหนง่ึ 10.1.3 จาแนกและจดั กลมุ่ ส่งิ ตา่ งๆโดยใช้ต้งั แต่2

ลักษณะเป็นเกณฑ์ ลักษณะขน้ึ ไปเปน็ เกณฑ์

10.1.4 เรยี งลาดบั สิง่ ของหรือเหตุการณ์อยา่ งนอ้ ย ๔ 10.1.4 เรยี งลาดับสิง่ ของหรือเหตุการณ์อยา่ งนอ้ ย ๕

ลาดับ ลาดับ

สาระการเรียนรู้

สาระทีค่ วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั

สาระท่ี 1 เรอื่ งราวเกี่ยวกบั ตัวเด็ก 1.สง่ เสรมิ พฒั นาการดา้ นร่างกาย
1.2 การใช้กล้ามเน้อื เล็ก
หนว่ ยประสาทสมั ผสั ทง้ั 5 1)การเลน่ เครือ่ งเล่นสมั ผสั และการสรา้ งจากแทง่ ไม้ บล็อก
- การมอง (ตา) 3)การปัน้
- การฟงั (ห)ู 1.5 การตระหนกั รเู้ ก่ียวกบั ร่างกายตนเอง
- การดมกลิ่น (จมูก) 1)การเคลอื่ นไหวเพอ่ื ควบคมุ ตนเองไปในทศิ ทาง ระดบั และพนื้ ที่
- การชิมรส (ลิ้น)
- การสมั ผสั (ผวิ หนัง/ผิวกาย) 2.สง่ เสริมพัฒนาการดา้ นอารมณ์
2.1 สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี
สาระที่ 3 เรื่องราวเกย่ี วกับธรรมชาติ 5)การสรา้ งสรรคส์ ิ่งสวยงาม
2.2 การเลน่
รอบตวั เดก็ 3)การเลน่ ตามมุมประสบการณ์
2.3 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
หน่วยดิน หิน ทราย 2)การฟังนิทานเกีย่ วกบั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
- รูปรา่ งลกั ษณะของดิน หนิ ทราย 3)การร่วมสนทนาแลกเปลยี่ นความคดิ เห็นเชิงจริยธรรม
- ประเภทของดนิ หิน ทราย
- แหลง่ ที่มาของดิน หิน ทราย 3.ส่งเสริมพัฒนาการดา้ นสงั คม
- ประโยชน์ของดนิ หิน ทราย 3.2 การดแู ลรักษาธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม
- การอนรุ ักษ์ดนิ หนิ ทราย

1)การมสี ่วนรว่ มรบั ผดิ ชอบดแู ลรกั ษาสงิ่ แวดล้อมทัง้ ภายในและภายนอก

ห้องเรยี น

4)การเพาะปลูกและดแู ลต้นไม้

~ ๘๕ ~

พฒั นาการ ด้านสตปิ ัญญา (ต่อ)

มาตรฐานท่ี ๑๐ มีความสามารถในการคดิ ทเี่ ป็นพน้ื ฐานในการเรียนรู้

ตวั บ่งชท้ี ี่ ๑๐.๑ มคี วามสามารถในการคิดรวบยอด (ต่อ)

สาระการเรียนรู้

สาระท่ีควรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั

สาระท่ี 3 เรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติ 3.3การปฏิบตั ิตามวัฒนธรรมทอ้ งถ่ินท่อี าศัยและความเปน็ ไทย
3)การประกอบอาหารไทย
รอบตัวเด็ก (ตอ่ ) 4)การศกึ ษานอกสถานที่
5)การละเลน่ พ้ืนบา้ นของไทย
หนว่ ยต้นไม้ท่ีรัก
3.4 การมีปฏสิ มั พนั ธ์ มีวนิ ัย มีส่วนร่วม และบทบาทสมาชิกของสงั คม
- รปู รา่ งลักษณะและความสาคัญของตน้ ไม้ 3)การใหค้ วามร่วมมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่าง ๆ

- หนา้ ทแ่ี ละสว่ นประกอบของตน้ ไม้ 3.5 การเล่นแบบรว่ มมอื ร่วมใจ
2)การเลน่ และทางานร่วมกับผอู้ น่ื
- ประเภทของต้นไม้
3.7 การยอมรบั ในความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล
- การดูแลรกั ษาตน้ ไม้ 1)การเล่นหรอื ทากิจกรรมรว่ มกับกลุ่มเพอื่ น
4.ส่งเสริมพฒั นาการดา้ นสติปัญญา
- ประโยชนแ์ ละโทษของต้นไม้ 4.1 การใชภ้ าษา
1)การฟังเสียงตา่ งๆ ในสง่ิ แวดลอ้ ม
สาระที่ 4 เร่ืองราวเก่ยี วกับสง่ิ ต่างๆ 2)การฟงั และปฏิบตั ติ ามคาแนะนา
3)การฟงั เพลง นิทาน คาคลอ้ งจอง บทรอ้ ยกรองหรือเร่อื งราวต่างๆ
รอบตัวเด็ก 4.2 การคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตผุ ล การตัดสินใจและแกป้ ญั หา
1)การสงั เกตลักษณะ ส่วนประกอบ การเปล่ียนแปลง และความสัมพนั ธ์ของ
หน่วยคณิตศาสตรแ์ สนสนุก ส่ิงต่างๆ โดยใชป้ ระสาทสัมผสั อยา่ งเหมาะสม
5)การคดั แยก การจดั กลมุ่ และการจาแนกส่งิ ต่างๆตามลกั ษณะและรูปรา่ ง
- รปู รา่ งรูปทรง (เขียน )และ รูปทรง
6)การตอ่ ของช้ินเลก็ เตมิ ในชน้ิ ใหญใ่ หส้ มบรู ณ์ และการแยกชน้ิ ส่วน
สญั ลกั ษณ์ 7)การทาซา้ การต่อเติม และการสร้างแบบรปู
8)การนบั และแสดงจานวนของส่งิ ตา่ งๆในชวี ิตประจาวนั
- ตวั เลข 9)การเปรยี บเทยี บและเรยี งลาดับจานวนของสิง่ ตา่ งๆ

- ตาแหน่ง

- การบอกเวลา

- ค่าของเงิน

หน่วยเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้

- เคร่ืองใช้ไฟฟา้ ชนดิ ตา่ งๆ

- เครอื่ งใช้ไฟฟา้ ในบา้ น

- เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ในโรงเรียน

- ประโยชนแ์ ละโทษของเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้

- การดูแลรกั ษาเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้

10)การรวมและการแยกสิ่งตา่ งๆ

11)การบอกและแสดงอันดับที่ของสง่ิ ตา่ งๆ

12)การช่งั ตวง วัดสิ่งต่างๆโดยใช้เครอ่ื งมอื และหน่วยท่ไี ม่ใชห่ นว่ ยมาตรฐาน

13)การจับคู่ การเปรยี บเทยี บ และการเรยี งลาดับ สงิ่ ตา่ งๆ ตามลักษณะความ

ยาว/ความสงู น้าหนัก ปรมิ าตร

14)การบอกและเรยี งลาดบั กจิ กรรมหรอื เหตุการณ์ตามชว่ งเวลา

17)การคาดเดาหรือการคาดคะเนสง่ิ ท่อี าจเกดิ ขึ้นอย่างมีเหตุผล

4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

3)การสรา้ งสรรค์ชน้ิ งานโดยใช้รูปรา่ งรูปทรงจากวสั ดุที่หลากหลาย

4.4 เจตคตทิ ดี่ ีตอ่ การเรียนรแู้ ละการแสวงหาความรู้

1)การสารวจส่ิงต่างๆ และแหล่งเรยี นรรู้ อบตวั

~ ๘๖ ~

พัฒนาการ ดา้ นสตปิ ญั ญา (ต่อ)

มาตรฐานที่ ๑๐ มีความสามารถในการคดิ ท่เี ปน็ พื้นฐานในการเรยี นรู้

ตวั บง่ ชท้ี ่ี ๑๐.๒ มีความสามารถในการคิดเชงิ เหตผุ ล

สาระการเรียนรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

10.1.3 จาแนกและจดั กลุ่มส่งิ ต่างๆโดยใชอ้ ย่างน้อยหนึ่ง 10.1.3 จาแนกและจัดกลุ่มสง่ิ ตา่ งๆโดยใช้ต้งั แต่2

ลกั ษณะเป็นเกณฑ์ ลักษณะขน้ึ ไปเปน็ เกณฑ์

10.1.4 เรียงลาดับส่ิงของหรือเหตกุ ารณอ์ ย่างนอ้ ย ๔ 10.1.4 เรยี งลาดับส่งิ ของหรือเหตกุ ารณ์อยา่ งนอ้ ย ๕

ลาดบั ลาดบั

สาระการเรยี นรู้

สาระท่คี วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั

สาระที่ 3 เรอ่ื งราวเกีย่ วกบั ธรรมชาติ 1.สง่ เสรมิ พัฒนาการด้านรา่ งกาย
1.2 การใช้กลา้ มเนื้อเลก็
รอบตัวเดก็ 2)การเขยี นภาพและการเลน่ กับสี
3)การปั้น
หน่วยฤดูกาล 1.3 การรักษาสุขภาพอนามยั สว่ นตัว
(ฤดรู อ้ น ฤดูฝน ฤดูหนาว) 1)การปฏิบตั ิตนตามสขุ อนามยั สุขนิสยั ที่ดีในกจิ วตั รประจาวนั
- ฤดฝู น 1.4 การรกั ษาความปลอดภยั
- ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติในฤดูฝน 1)การปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภยั ในกจิ วัตรประจาวนั
- ฤดูหนาว 2)การฟังนทิ าน เรอื่ งราว เหตกุ ารณ์ เกย่ี วกับการป้องกนั และรกั ษาความ
- ฤดรู ้อน
- ประโยชนแ์ ละโทษของฤดูกาล ปลอดภยั
หนว่ ยรอบตวั เรามีอากาศ 4)การเลน่ บทบาทสมมตเิ หตุการณ์ตา่ งๆ
- สภาพท่วั ไปและคณุ ลักษณะของอากาศ
- ประโยชนแ์ ละโทษของอากาศ 2.ส่งเสรมิ พฒั นาการด้านอารมณ์
- การดูแลและปอ้ งกนั ตนเองเมือ่ อากาศ 2.2 การเล่น
เปลีย่ นแปลง 1)การเลน่ อิสระ
- การปอ้ งกนั มลพิษของอากาศ 4)การเล่นนอกห้องเรียน
- ทดลองการเกดิ พลังงานลม 2.4 การแสดงออกทางอารมณ์
2)การเลน่ บทบาทสมมติ
สาระที่ 4 เรอ่ื งราวเก่ียวกับสิง่ ต่างๆ 4)การรอ้ งเพลง
2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์เฉพาะตนและเช่อื วา่ ตนเองมคี วามสามารถ
รอบตัวเด็ก 1)การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆตามความสามารถของตนเอง

หน่วยวทิ ยาศาสตรน์ า่ รู้ 3.สง่ เสรมิ พฒั นาการดา้ นสงั คม
- การใช้แวน่ ขยาย 3.2การดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- แม่เหล็ก 6)การสนทนาขา่ วและเหตุการณท์ เ่ี กย่ี วกับธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อมใน
- การเกดิ เสียง
- แสง ชวี ติ ประจาวัน
- การจมการลอย 3.5 การเลน่ แบบรว่ มมอื ร่วมใจ
1)การร่วมสนทนาและแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็
2)การเล่นและทางานร่วมกับผูอ้ นื่
3.6 การแก้ปัญหาความขัดแยง้
1)การมสี ่วนรว่ มในการเลอื กวธิ ีการแก้ปัญหา

~ ๘๗ ~

พฒั นาการ ด้านสตปิ ญั ญา (ต่อ)

มาตรฐานท่ี ๑๐ มคี วามสามารถในการคดิ ทเี่ ป็นพื้นฐานในการเรียนรู้

ตัวบง่ ชี้ท่ี ๑๐.๒ มีความสามารถในการคิดเชงิ เหตผุ ล (ตอ่ )

สาระการเรียนรู้

สาระทคี่ วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั

4.สง่ เสรมิ พัฒนาการดา้ นสตปิ ญั ญา

4.1 การใชภ้ าษา

2)การฟงั และปฏิบัตติ ามคาแนะนา

5)การพูดกับผู้อ่นื เก่ียวกับประสบการณข์ องตนเอง หรอื พดู เล่าเร่ืองราว

เกี่ยวกับตนเอง

6)การพดู อธบิ ายเกี่ยวกบั สิ่งของ เหตกุ ารณ์ และความสมั พันธข์ องส่งิ ต่างๆ

4.2 การคดิ รวบยอด การคิดเชงิ เหตผุ ล การตัดสินใจและแก้ปญั หา

1)การสังเกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ การเปล่ยี นแปลง และความสัมพนั ธข์ อง

สงิ่ ตา่ งๆ โดยใช้ประสาทสมั ผสั อย่างเหมาะสม

13)การจับคู่ การเปรยี บเทยี บ และการเรยี งลาดับ ส่ิงต่างๆ ตามลกั ษณะ

ความยาว/ความสงู น้าหนัก ปริมาตร

15)การใช้ภาษาทางคณติ ศาสตร์กบั เหตุการณใ์ นชวี ติ ประจาวนั

16)การอธบิ ายเชอื่ มโยงสาเหตุและผลท่ีเกดิ ข้นึ ในเหตกุ ารณห์ รอื การกระทา

17)การคาดเดาหรอื การคาดคะเนสง่ิ ทีอ่ าจเกดิ ขนึ้ อย่างมีเหตผุ ล

18)การมสี ่วนรว่ มในการลงความเหน็ จากขอ้ มลู อยา่ งมีเหตุผล

19)การตัดสินใจและมีสว่ นรว่ มในกระบวนการแก้ปญั หา

4.4 เจตคติท่ีดีต่อการเรยี นรแู้ ละการแสวงหาความรู้

2)การตงั้ คาถามในเร่อื งท่ีสนใจ

3)การสืบเสาะหาความร้เู พ่อื ค้นหาคาตอบของขอ้ สงสัยต่างๆ

4)การมีสว่ นร่วมในการรวบรวมขอ้ มูลและนาเสนอขอ้ มลู จากการสบื เสาะ

หาความร้ใู นรปู แบบตา่ งๆและแผนภมู อิ ยา่ งง่าย

~ ๘๘ ~

พัฒนาการ ดา้ นสติปัญญา (ตอ่ )

มาตรฐานที่ ๑๐ มคี วามสามารถในการคดิ ที่เปน็ พื้นฐานในการเรียนรู้

ตัวบง่ ชที้ ี่ ๑๐.๓ มีความสามารถในการคดิ แก้ปญั หาและตัดสนิ ใจ

สาระการเรียนรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

10.3.1 ตัดสินใจในเร่ืองงา่ ยๆและเรม่ิ เรยี นรผู้ ลท่ี 10.3.1 ตัดสินใจในเร่ืองง่ายๆและยอมรับผลที่เกิดขึ้น

เกิดข้ึน

10.3.2 ระบุปญั หา และแกป้ ัญหาโดยลองผิดลอง 10.3.2 ระบุปญั หาสรา้ งทางเลอื กและเลอื กวธิ แี กป้ ญั หา

ถูก

สาระการเรยี นรู้

สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ

สาระท่ี 4 เรอ่ื งราวเกี่ยวกับสง่ิ ตา่ งๆ 1.สง่ เสริมพฒั นาการด้านรา่ งกาย
รอบตวั เด็ก 1.3 การรักษาสุขภาพอนามัยสว่ นตัว
1)การปฏิบตั ิตนตามสุขอนามยั สุขนสิ ยั ทด่ี ีในกจิ วัตรประจาวนั
หนว่ ยวทิ ยาศาสตร์น่ารู้ 1.4 การรกั ษาความปลอดภยั
- การใช้แวน่ ขยาย 1)การปฏบิ ัตติ นให้ปลอดภยั ในกิจวัตรประจาวนั
- แม่เหล็ก 4)การเล่นบทบาทสมมติเหตุการณ์ตา่ งๆ
- การเกดิ เสียง
- แสง 2.สง่ เสริมพัฒนาการดา้ นอารมณ์
- การจมการลอย 2.5 การมีอัตลกั ษณ์เฉพาะตนและเช่ือวา่ ตนเองมคี วามสามารถ
1)การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆตามความสามารถของตนเอง

3.สง่ เสริมพัฒนาการดา้ นสงั คม

3.5 การเล่นแบบรว่ มมือร่วมใจ

1)การร่วมสนทนาและแลกเปลย่ี นความคดิ เห็น

2)การเล่นและทางานร่วมกบั ผูอ้ ื่น

3.6 การแกป้ ัญหาความขัดแยง้

1)การมสี ่วนรว่ มในการเลอื กวธิ ีการแกป้ ัญหา

4.ส่งเสริมพัฒนาการดา้ นสตปิ ัญญา

4.1 การใชภ้ าษา

2)การฟงั และปฏิบตั ติ ามคาแนะนา

5)การพูดกับผู้อื่นเกีย่ วกับประสบการณข์ องตนเอง หรอื พดู เลา่ เรอ่ื งราว

เกยี่ วกับตนเอง

6)การพูดอธบิ ายเก่ียวกับส่งิ ของ เหตกุ ารณ์ และความสัมพนั ธข์ องส่ิงตา่ งๆ

~ ๘๙ ~

พฒั นาการ ด้านสตปิ ญั ญา (ตอ่ )

มาตรฐานที่ ๑๐ มคี วามสามารถในการคดิ ทีเ่ ป็นพืน้ ฐานในการเรียนรู้

ตัวบ่งชี้ท่ี ๑๐.๓ มคี วามสามารถในการคดิ แก้ปญั หาและตัดสินใจ (ตอ่ )

สาระการเรียนรู้

สาระทคี่ วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั

4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชงิ เหตผุ ล การตดั สินใจและแก้ปญั หา

1)การสงั เกตลักษณะ ส่วนประกอบ การเปล่ยี นแปลง และความสมั พันธ์ของ

สงิ่ ตา่ งๆ โดยใช้ประสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม

13)การจับคู่ การเปรียบเทยี บ และการเรยี งลาดบั สิ่งต่างๆ ตามลักษณะ

ความยาว/ความสงู น้าหนกั ปริมาตร

15)การใชภ้ าษาทางคณติ ศาสตรก์ ับเหตุการณ์ในชีวิตประจาวนั

16)การอธบิ ายเช่ือมโยงสาเหตแุ ละผลท่เี กดิ ขน้ึ ในเหตุการณห์ รือการกระทา

17)การคาดเดาหรือการคาดคะเนสิง่ ท่ีอาจเกดิ ขึ้นอย่างมีเหตุผล

18)การมสี ว่ นร่วมในการลงความเห็นจากข้อมลู อย่างมเี หตุผล

19)การตดั สนิ ใจและมสี ว่ นรว่ มในกระบวนการแกป้ ญั หา

4.4 เจตคติทด่ี ีตอ่ การเรียนรู้และการแสวงหาความรู้

2)การตง้ั คาถามในเรื่องทีส่ นใจ

3)การสืบเสาะหาความรเู้ พือ่ คน้ หาคาตอบของข้อสงสยั ตา่ งๆ

4)การมสี ่วนร่วมในการรวบรวมขอ้ มูลและนาเสนอขอ้ มูลจากการสบื เสาะหา

ความรใู้ นรปู แบบต่างๆและแผนภมู ิอย่างง่าย

~ ๙๐ ~

พฒั นาการ ด้านสติปัญญา (ตอ่ )

มาตรฐานท่ี ๑๑ มีจนิ ตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์

ตวั บ่งชี้ท่ี ๑๑.๑ เล่น/ทางานศิลปะตามจนิ ตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์

สาระการเรียนรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

11.1.1 สรา้ งผลงานศิลปะเพ่ือส่อื สารความคิด 11.1.1 สรา้ งผลงานศิลปะเพ่ือสอ่ื สารความคดิ ความรสู้ ึกของ

ความรสู้ ึกของตนเองโดยมีการดัดแปลงและแปลก ตนเองโดยมีการดดั แปลงและแปลกใหมจ่ ากเดมิ และ

ใหม่จากเดิมหรือมรี ายละเอยี ดเพมิ่ ข้นึ มีรายละเอียดเพิ่มขน้ึ

สาระที่ควรเรียนรู้ สาระการเรียนรู้

สาระที่ 2 เรอื่ งราวเกี่ยวกบั บุคคลและ ประสบการณ์สาคัญ

สถานทแี่ วดลอ้ มเด็ก 1.ส่งเสรมิ พัฒนาการดา้ นรา่ งกาย
1.1การใช้กลา้ มเน้ือใหญ่
หนว่ ยวันแม่ 1)การเคลอ่ื นไหวอย่กู ับท่ี
- พระราชประวตั ิ 2)การเคลอื่ นไหวเคลือ่ นท่ี
- พระราชกรณยี กจิ 3)การเคล่ือนไหวพรอ้ มวัสดอุ ุปกรณ์
- บทบาทหนา้ ที่ของแม่ 1.2 การใชก้ ล้ามเนื้อเลก็
- ดอกไมส้ ญั ลกั ษณข์ องวันแม่ 2)การเขียนภาพและการเลน่ กับสี
- การปฏิบตั ิตนกจิ กรรมในวันแม่ 4)การประดษิ ฐ์ส่ิงตา่ งๆด้วย เศษวสั ดุ
หน่วยวันพ่อ 5)การหยิบจับ การใช้กรรไกร การฉีก การตดั การปะ และการรอ้ ยวสั ดุ
- พระราชประวัตริ ชั กาลที่ 9 1.3 การรกั ษาสขุ ภาพอนามัยสว่ นตวั
- ความสาคัญของวนั พ่อ 1)การปฏบิ ตั ติ นตามสุขอนามัย สุขนสิ ยั ท่ดี ใี นกจิ วตั รประจาวัน
- บทบาทหนา้ ที่ของพอ่ 1.4 การรกั ษาความปลอดภัย
- ดอกไมส้ ญั ลักษณข์ องวันพ่อ 1)การปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภยั ในกจิ วัตรประจาวนั
- การปฏิบตั ติ นตอ่ พอ่ และการทาการ์ดวนั พ่อ 2)การฟังนิทาน เร่อื งราว เหตกุ ารณ์ เกยี่ วกับการป้องกันและรกั ษาความ
หน่วยวันลอยกระทง
- ประวัติความเป็นมาของวันลอยกระทง ปลอดภัย
- ความสาคัญของนา้ และแหล่งนา้ 4)การเล่นบทบาทสมมติเหตกุ ารณต์ ่างๆ
- กจิ กรรมทีท่ าในวนั ลอยกระทง
- การดูแลตนเองในวันลอยกระทง / การ 2.สง่ เสรมิ พัฒนาการด้านอารมณ์
ปฏิบตั ิตนในวันลอยกระทง 2.1 สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี
- การประดิษฐ์กระทง 1)การฟงั เพลง การร้องเพลง และการแสดงปฏิกริ ิยาโต้ตอบเสยี งดนตรี
2)การเคลือ่ นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
3)การเล่นบทบาทสมมติ
5)การสรา้ งสรรคส์ ง่ิ สวยงาม
2.2 การเลน่
1)การเลน่ อสิ ระ
2)การเล่นรายบุคคล กลมุ่ ยอ่ ย กล่มุ ใหญ่
3)การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์

~ ๙๑ ~

พัฒนาการ ดา้ นสตปิ ัญญา (ตอ่ )

มาตรฐานที่ ๑๑ มจี นิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

ตัวบ่งช้ที ่ี ๑๑.๑ เลน่ /ทางานศลิ ปะตามจนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์ (ตอ่ )

สาระการเรยี นรู้

สาระทค่ี วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั

สาระท่ี 2 เร่อื งราวเก่ียวกบั บคุ คลและ 2.4 การแสดงออกทางอารมณ์
1)การสะทอ้ นความรสู้ กึ ของตนเองและผอู้ ืน่
สถานทแี่ วดล้อมเด็ก (ต่อ) 2)การเล่นบทบาทสมมติ
3)การเคล่ือนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี
หนว่ ยสขุ สันต์วนั ปีใหม่ 5)การทางานศลิ ปะ

- ความหมายของวนั ข้ึนปใี หม่ 2.5 การมีอัตลกั ษณ์เฉพาะตนและเช่ือวา่ ตนเองมคี วามสามารถ
1)การปฏิบตั กิ จิ กรรมต่างๆตามความสามารถของตนเอง
- กิจกรรมทางศาสนาในวันปใี หม่
3.ส่งเสริมพัฒนาการดา้ นสงั คม
- กิจกรรมงานรื่นเริงในวนั ปใี หม่และการแลก 3.1 การปฏบิ ตั กิ ิจวตั รประจาวัน
1)การชว่ ยเหลือตนเองในกจิ วตั รประจาวัน
ของขวญั 2)การปฏิบัตติ นตามแนวทางหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
3.2 การดแู ลรกั ษาธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม
- การปฏบิ ัตติ นต่อผใู้ หญ่ 2)การใชว้ สั ดุและสงิ่ ของเครอ่ื งใชอ้ ย่างคุ้มคา่
3)การทางานศิลปะที่ใช้วสั ดหุ รอื ส่ิงของทีใ่ ช้แล้วมาใชซ้ า้ หรอื แปรรปู แล้วนา
- ของขวญั วนั ปใี หม่และการทาการด์ อวยพร
กลับมาใชใ้ หม่
หนว่ ยอาชพี ท่ีหนชู อบ 4)การเพาะปลูกและดแู ลตน้ ไม้

- อาชพี และหนา้ ทท่ี หี่ นูรจู้ ัก 3.3 การปฏบิ ตั ิตามวัฒนธรรมท้องถิ่นทีอ่ าศยั และความเปน็ ไทย
1)การเล่นบทบาทสมมตุ ิการปฏบิ ัติตนในความเปน็ คนไทย
- สถานทีท่ างานของอาชพี ตา่ งๆ (โรงพยาบาล 2)การปฏิบัตติ นตามวฒั นธรรมท้องถิน่ ที่อาศัยและประเพณีไทย

สถานีตารวจ โรงเรยี น ตลาด ไปรษณยี ์ 3.4การมีปฏสิ ัมพันธ์ มวี ินัย มสี ่วนร่วม และบทบาทสมาชกิ ของสงั คม
3)การให้ความร่วมมือในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมต่าง ๆ
หา้ งสรรพสนิ คา้ อาเภอ ดบั เพลิง นา สวน 5)การร่วมกจิ กรรมวันสาคญั

ฯลฯ) 3.7 การยอมรบั ในความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล
1)การเลน่ หรอื ทากิจกรรมร่วมกับกลมุ่ เพ่ือน
- การแตง่ กาย
4.ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา
- เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการประกอบอาชพี 4.1 การใช้ภาษา
3)การฟงั เพลง นิทาน คาคลอ้ งจอง บทรอ้ ยกรองหรอื เรือ่ งราวตา่ งๆ
- ความฝนั ของหนู (อาชีพท่หี นูอยากเปน็ ) 4)การแสดงความคิด ความรสู้ ึก และความต้องการ
5)การพูดกบั ผ้อู ืน่ เก่ียวกบั ประสบการณข์ องตนเอง หรอื พดู เลา่ เรื่องราว
สาระที่ 4 เร่อื งราวเก่ยี วกับสง่ิ ตา่ งๆ
เก่ียวกบั ตนเอง
รอบตัวเดก็ 7)การพดู อย่างสร้างสรรคใ์ นการเลน่ และการกระทาต่างๆ
8)การรอจงั หวะทีเ่ หมาะสมในการพดู
หนว่ ยการตดิ ต่อสื่อสาร 9)การพดู เรียงลาดับเพอื่ ใชใ้ นการสอื่ สาร
14)การอ่านและชข้ี อ้ ความ โดยกวาดสายตาตามบรรทัดจากซ้ายไปขวา
- ความหมายของการรบั ร้ขู ่าวสาร การพดู การ
จากบนลงล่าง
อ่านและการเขียน 20)การเขยี นรว่ มกนั ตามโอกาส และการเขยี นอสิ ระ

- การรบั รู้ข่าวสารทางไปรษณยี ์

- การตดิ ตอ่ สอื่ สารโดยการใช้โทรศัพท์

- การรบั รขู้ า่ วสารวิทยุ / โทรทัศน์

คอมพิวเตอร์ อินเตอรเ์ นต็ อีเมลล์

- มารยาทในการพูดและฟงั

หนว่ ยคณิตศาสตร์แสนสนกุ

- รปู ร่างรูปทรง (เขยี น )และ

สญั ลกั ษณ์

- ตวั เลข

- ตาแหนง่

- การบอกเวลา

- คา่ ของเงนิ

22)การคิดสะกดคาและเขยี นเพือ่ ส่ือความหมายดว้ ยตนเองอยา่ งอสิ ระ

~ ๙๒ ~

พฒั นาการ ดา้ นสติปญั ญา (ต่อ)

มาตรฐานที่ ๑๑ มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์

ตวั บง่ ชท้ี ่ี ๑๑.๑ เล่น/ทางานศิลปะตามจนิ ตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์ (ต่อ)

สาระการเรยี นรู้

สาระที่ควรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ

4.ส่งเสริมพฒั นาการด้านสตปิ ัญญา (ต่อ)

4.2 การคดิ รวบยอด การคิดเชิงเหตุผล การตดั สินใจและแก้ปญั หา

2)การสังเกตสิง่ ต่างๆ และสถานทจี่ ากมมุ มองทตี่ า่ งกนั

6)การต่อของช้ินเลก็ เตมิ ในชน้ิ ใหญใ่ ห้สมบูรณ์ และการแยกชนิ้ สว่ น

17)การคาดเดาหรอื การคาดคะเนส่งิ ที่อาจเกดิ ขน้ึ อย่างมเี หตผุ ล

4.3 จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์

1)การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรสู้ ึกผา่ นสอ่ื วัสดุ ของเล่น และชน้ิ งาน

2)การแสดงความคิดสรา้ งสรรค์ผา่ นภาษา ท่าทาง การเคลื่อนไหว และศิลปะ

3)การสรา้ งสรรค์ชน้ิ งานโดยใช้รูปร่างรูปทรงจากวสั ดทุ ห่ี ลากหลาย

4.4 เจตคติท่ีดีต่อการเรียนรูแ้ ละการแสวงหาความรู้

1)การสารวจส่งิ ต่างๆ และแหล่งเรียนรรู้ อบตัว

~ ๙๓ ~

พัฒนาการ ด้านสตปิ ัญญา (ต่อ)

มาตรฐานที่ ๑๑ มีจินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

ตวั บง่ ชี้ที่ ๑๑.๒ แสดงทา่ ทาง/เคลื่อนไหวตามจินตนาการอยา่ งสร้างสรรค์

สาระการเรยี นรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

11.2.1 เคลอ่ื นไหวทา่ ทางเพื่อส่อื สารความคดิ 11.2.1 เคลือ่ นไหวท่าทางเพ่ือสื่อสารความคิด

ความร้สู กึ ของตนเองอยา่ งหลากหลายหรอื แปลกใหม่ ความรู้สกึ ของตนเอง

อยา่ งหลากหลายและแปลกใหม่

สาระทีค่ วรเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้

สาระท่ี 1 เรอ่ื งราวเกยี่ วกบั ตัวเดก็ ประสบการณ์สาคัญ

หนว่ ยการเลน่ และการเคล่ือนไหวรา่ งกาย 1.สง่ เสรมิ พัฒนาการดา้ นร่างกาย
- ความหมายของการเล่นและการเคลื่อนไหว 1.1 การใช้กลา้ มเนือ้ ใหญ่
- การเล่นภายในหอ้ งเรยี น 1)การเคลื่อนไหวอยู่กบั ท่ี
- การเลน่ เครื่องเลน่ สนาม 2)การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นที่
- การเล่นกิจกรรมกลางแจ้ง 3)การเคลอื่ นไหวพร้อมวัสดอุ ปุ กรณ์
- การเล่นการละเล่นพน้ื บ้าน 4)การเคลอ่ื นไหวท่ีใช้การประสานสัมพนั ธ์ของการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญใ่ นการ

สาระที่ 2 เร่ืองราวเกีย่ วกับบุคคลและ ขว้าง การจับ การโยน การเตะ
5)การเล่นเครื่องเลน่ สนามอยา่ งอสิ ระ
สถานทีแ่ วดล้อมเด็ก
1.2 การใชก้ ลา้ มเนอ้ื เลก็
หนว่ ยวันเด็ก วันครู 1)การเลน่ เครอ่ื งเล่นสมั ผสั และการสรา้ งจากแทง่ ไม้ บล็อก
- ท่ีมาและความสาคญั ของวนั เดก็
- คาขวัญวนั เดก็ 1.3 การรกั ษาสขุ ภาพอนามัยสว่ นตวั
- กิจกรรมที่ทาในวันเดก็ 1)การปฏิบตั ิตนตามสขุ อนามัย สุขนสิ ยั ท่ีดใี นกิจวัตรประจาวัน
- ที่มาและความสาคัญของวนั ครู
- กิจกรรมในวนั ครู 1.4 การรักษาความปลอดภัย
หนว่ ยอาชีพทห่ี นชู อบ 4)การเล่นบทบาทสมมติเหตกุ ารณต์ ่างๆ
- อาชีพและหน้าที่ท่หี นรู จู้ กั
- สถานท่ีทางานของอาชีพตา่ งๆ (โรงพยาบาล 1.5 การตระหนกั รเู้ กี่ยวกับร่างกายตนเอง
สถานีตารวจ โรงเรยี น ตลาด ไปรษณีย์ 1)การเคลอ่ื นไหวเพื่อควบคุมตนเองไปในทิศทาง ระดับ และพนื้ ที่
ห้างสรรพสินค้า อาเภอ ดบั เพลิง นา สวน 2)การเคลื่อนไหวขา้ มส่งิ กีดขวาง
ฯลฯ)
- การแต่งกาย 2.สง่ เสริมพัฒนาการดา้ นอารมณ์
- เครอ่ื งมอื ทีใ่ ช้ในการประกอบอาชีพ 2.1 สุนทรยี ภาพ ดนตรี
- ความฝนั ของหนู (อาชีพท่หี นอู ยากเป็น) 3)การเล่นบทบาทสมมติ
5)การสร้างสรรคส์ ่ิงสวยงาม
2.2 การเล่น
1)การเล่นอิสระ
2)การเล่นรายบุคคล กลมุ่ ยอ่ ย กล่มุ ใหญ่
3)การเลน่ ตามมุมประสบการณ์
2.3 คุณธรรม จรยิ ธรรม
1)การปฏิบตั ติ นตามหลกั ศาสนาทน่ี บั ถอื
2)การฟงั นทิ านเกยี่ วกบั คณุ ธรรม จริยธรรม
3)การรว่ มสนทนาแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ เชิงจรยิ ธรรม

~ ๙๔ ~

พฒั นาการ ดา้ นสติปญั ญา (ตอ่ )

มาตรฐานที่ ๑๑ มีจนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

ตัวบง่ ชีท้ ่ี ๑๑.๒ แสดงทา่ ทาง/เคลือ่ นไหวตามจนิ ตนาการอย่างสร้างสรรค์ (ตอ่ )

สาระการเรียนรู้

สาระทคี่ วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั

2.4 การแสดงออกทางอารมณ์

1)การสะท้อนความรสู้ ึกของตนเองและผ้อู นื่

2)การเลน่ บทบาทสมมติ

3)การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี

4)การรอ้ งเพลง

2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์เฉพาะตนและเช่อื ว่าตนเองมคี วามสามารถ

1)การปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆตามความสามารถของตนเอง

3.ส่งเสรมิ พฒั นาการดา้ นสงั คม

3.1 การปฏบิ ตั ิกจิ วัตรประจาวนั

1)การช่วยเหลอื ตนเองในกิจวัตรประจาวนั

3.3 การปฏบิ ตั ิตามวัฒนธรรมทอ้ งถ่ินท่อี าศัยและความเปน็ ไทย

5)การละเล่นพนื้ บา้ นของไทย

3.4 การมีปฏสิ ัมพนั ธ์ มวี นิ ัย มสี ่วนรว่ ม และบทบาทสมาชิกของสังคม

3)การใหค้ วามร่วมมอื ในการปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ ง ๆ

3.5 การเล่นแบบร่วมมอื ร่วมใจ

2)การเลน่ และทางานร่วมกับผู้อน่ื

3.6 การแกป้ ัญหาความขัดแยง้

2)การมสี ่วนร่วมในการแก้ปญั หาความขดั แย้ง

3.7 การยอมรับในความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล

1)การเลน่ หรอื ทากิจกรรมรว่ มกบั กลมุ่ เพอ่ื น

4.สง่ เสริมพัฒนาการด้านสตปิ ญั ญา

4.1 การใช้ภาษา

4)การแสดงความคดิ ความรสู้ ึก และความต้องการ

5)การพูดกบั ผอู้ ื่นเกยี่ วกับประสบการณ์ของตนเอง หรอื พดู เลา่ เรอ่ื งราว

เกย่ี วกบั ตนเอง

7)การพดู อย่างสรา้ งสรรค์ในการเล่น และการกระทาตา่ งๆ

8)การรอจงั หวะทเ่ี หมาะสมในการพดู

10)การอ่านหนังสือภาพ นิทาน หลากหลายประเภท/รปู แบบ

13)การสังเกตทศิ ทางการอา่ นตวั อกั ษร คา และขอ้ ความ

4.2 การคดิ รวบยอด การคิดเชิงเหตผุ ล การตัดสินใจและแกป้ ญั หา

2)การสังเกตส่งิ ตา่ งๆ และสถานทจี่ ากมุมมองทต่ี า่ งกนั

4)การเล่นกบั ส่ือต่างๆที่เปน็ ทรงกลม ทรงสเ่ี หลยี่ มมมุ ฉาก ทรงกระบอก กรวย

17)การคาดเดาหรือการคาดคะเนสงิ่ ที่อาจเกดิ ขึ้นอยา่ งมีเหตุผล

4.4 เจตคติที่ดีต่อการเรียนรแู้ ละการแสวงหาความรู้

1)การสารวจสิ่งต่างๆ และแหล่งเรียนรู้รอบตวั

~ ๙๕ ~

พัฒนาการ ด้านสตปิ ัญญา (ตอ่ )

มาตรฐานท่ี ๑๒ มีเจตคตทิ ี่ดตี ่อการเรียนรู้ และมคี วามสามารถในการแสวงหาความรูไ้ ดเ้ หมาะสม

กบั วัย

ตวั บ่งช้ีที่ ๑๒.๑ มีเจตคตทิ ี่ดีต่อการเรยี นรู้

สาระการเรียนรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

12.1.1 สนใจซักถามเก่ยี วกับสัญลักษณห์ รือตัวหนังสอื ที่ 12.1.1 สนใจหยบิ หนังสือมาอา่ นและเขยี นสอื่ ความคดิ

พบเห็น ด้วยตนเองเป็นประจาอยา่ งต่อเนื่อง

12.1.2 กระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรม 12.1.2 กระตอื รือรน้ ในการรว่ มกิจกรรมต้งั แตต่ น้ จนจบ

สาระทค่ี วรเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

สาระท่ี 4 เร่ืองราวเกี่ยวกบั ส่งิ ตา่ งๆ ประสบการณ์สาคัญ

รอบตัวเด็ก 1.สง่ เสรมิ พฒั นาการดา้ นรา่ งกาย
1.1 การใชก้ ล้ามเนือ้ ใหญ่
หน่วยการติดต่อสื่อสาร 2)การเคล่ือนไหวเคลอื่ นที่
- ความหมายของการรบั รู้ขา่ วสาร การพูด การ 1.2 การใช้กล้ามเน้อื เลก็
อ่านและการเขียน 2)การเขียนภาพและการเล่นกับสี
- การรับรขู้ ่าวสารทางไปรษณีย์ 1. 4 การรักษาความปลอดภัย
- การติดต่อสอ่ื สารโดยการใชโ้ ทรศพั ท์ 2)การฟงั นทิ าน เร่อื งราว เหตกุ ารณ์ เก่ยี วกับการป้องกันและรกั ษาความ
- การรับรูข้ ่าวสารวิทยุ / โทรทศั น์
คอมพวิ เตอร์ อนิ เตอรเ์ น็ต ปลอดภัย
- มารยาทในการพดู และฟัง 4)การเลน่ บทบาทสมมติเหตุการณต์ ่างๆ

2.ส่งเสรมิ พัฒนาการดา้ นอารมณ์
2.1 สุนทรยี ภาพ ดนตรี
3)การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี
2.3 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
2)การฟงั นทิ านเก่ยี วกบั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
3.ส่งเสริมพัฒนาการดา้ นสังคม
3.2การดแู ลรกั ษาธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม
6)การสนทนาข่าวและเหตกุ ารณท์ ่ีเกย่ี วกับธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมใน

ชวี ติ ประจาวนั
3.4 การมปี ฏิสัมพนั ธ์ มวี นิ ัย มีส่วนรว่ ม และบทบาทสมาชิกของสังคม
1)การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลงของห้องเรยี น
2)การปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชทิ ด่ี ขี องห้องเรยี น
3)การให้ความรว่ มมอื ในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ
3.5 การเล่นแบบร่วมมือร่วมใจ
1)การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
3.7 การยอมรบั ในความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล
1)การเลน่ หรอื ทากิจกรรมรว่ มกับกลุม่ เพ่ือน

~ ๙๖ ~

พัฒนาการ ด้านสติปัญญา (ต่อ)

มาตรฐานท่ี ๑๒ มีเจตคตทิ ีด่ ีต่อการเรียนรู้ และมคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ไดเ้ หมาะสม

กบั วัย

ตัวบ่งช้ที ี่ ๑๒.๑ มีเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ การเรียนรู้ (ต่อ)

สาระการเรยี นรู้

สาระท่คี วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั

4.ส่งเสรมิ พัฒนาการด้านสตปิ ัญญา

4.1 การใชภ้ าษา

1)การฟงั เสยี งตา่ งๆ ในสงิ่ แวดล้อม

2)การฟังและปฏบิ ัตติ ามคาแนะนา

5)การพดู กบั ผู้อน่ื เก่ียวกบั ประสบการณ์ของตนเอง หรือพดู เล่าเรือ่ งราว

เก่ยี วกับตนเอง

9)การพดู เรยี งลาดบั เพือ่ ใช้ในการส่ือสาร

10)การอา่ นหนงั สอื ภาพ นทิ าน หลากหลายประเภท/รูปแบบ

11)การอ่านอิสระตามลาพงั การอ่านรว่ มกัน การอ่านโดยมีผชู้ แ้ี นะ

12)การเหน็ แบบอยา่ งของการอา่ นทถี่ ูกต้อง

13)การสงั เกตทศิ ทางการอ่านตัวอกั ษร คา และขอ้ ความ

15)การสังเกตตวั อกั ษรในชื่อของตน หรอื คาคุ้นเคย

16)การสงั เกตตวั อกั ษรทีป่ ระกอบเป็นคาผา่ นการอ่านหรอื เขยี นของผ้ใู หญ่

19)การเหน็ แบบอยา่ งของการเขียนทถี่ กู ต้อง

20)การเขยี นร่วมกันตามโอกาส และการเขยี นอสิ ระ

21)การเขยี นคาท่ีมคี วามหมายกับตวั เด็ก/คาคนุ้ เคย

22)การคิดสะกดคาและเขยี นเพอ่ื สอื่ ความหมายดว้ ยตนเองอยา่ งอิสระ

4.3จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

2)การแสดงความคิดสรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา ทา่ ทาง การเคล่ือนไหว และศิลปะ

~ ๙๗ ~

พัฒนาการ ด้านสตปิ ัญญา (ตอ่ )

มาตรฐานที่ ๑๒ มีเจตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรยี นรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้เหมาะสม

กบั วัย

ตวั บ่งช้ที ี่ ๑๒.๒ มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ (ตอ่ )

สาระการเรยี นรู้

อายุ ๔-5 ปี อายุ ๕-6 ปี

12.2.1 ค้นหาคาตอบของข้อสงสัยต่างๆ ตามวิธีการของ 12.2.1 ค้นหาคาตอบของข้อสงสัยต่างๆ โดยใช้วิธกี ารที่

ตนเอง หลากหลายด้วยตนเอง

12.2.2 ใชป้ ระโยคคาถามว่า “ทไี่ หน” “ทาไม” ในการ 12.2.2 ใช้ประโยคคาถามวา่ “เมื่อไร” “อยา่ งไร” ใน

คน้ หาคาตอบ การคน้ หาคาตอบ

สาระทีค่ วรเรียนรู้ สาระการเรียนรู้

สาระท่ี 4 เรื่องราวเกย่ี วกับส่งิ ตา่ งๆ ประสบการณ์สาคญั

รอบตัวเดก็ 1.สง่ เสริมพฒั นาการด้านรา่ งกาย
1.1 การใช้กล้ามเนอ้ื ใหญ่
หน่วยวิทยาศาสตร์น่ารู้ 2)การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นท่ี
- การใช้แวน่ ขยาย 1.2 การใช้กลา้ มเนอื้ เล็ก
- แมเ่ หล็ก 2)การเขยี นภาพและการเลน่ กบั สี
- การเกิดเสยี ง 1.3การรักษาสุขภาพอนามยั ส่วนตัว
- แสง 1)การปฏบิ ตั ิตนตามสุขอนามยั สขุ นิสยั ที่ดใี นกจิ วตั รประจาวัน
- การจมการลอย 1. 4 การรกั ษาความปลอดภยั
หน่วยการติดต่อสอื่ สาร 1)การปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภยั ในกจิ วัตรประจาวนั
- ความหมายของการรบั ร้ขู ่าวสาร การพูด การ 2)การฟังนิทาน เรอื่ งราว เหตุการณ์ เกี่ยวกบั การปอ้ งกนั และรกั ษาความ
อา่ นและการเขยี น
- การรับรูข้ า่ วสารทางไปรษณยี ์ ปลอดภยั
- การติดตอ่ สอื่ สารโดยการใชโ้ ทรศัพท์ 4)การเล่นบทบาทสมมติเหตุการณต์ า่ งๆ
- การรับร้ขู า่ วสารวิทยุ / โทรทศั น์
คอมพวิ เตอร์ อนิ เตอร์เน็ต 2.สง่ เสริมพัฒนาการด้านอารมณ์
- มารยาทในการพดู และฟัง 2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี
3)การเคล่อื นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
2.3 คณุ ธรรม จริยธรรม
2)การฟังนทิ านเกีย่ วกับคุณธรรม จรยิ ธรรม
2.5 การมีอตั ลักษณเ์ ฉพาะตนและเช่อื ว่าตนเองมคี วามสามารถ
1)การปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆตามความสามารถของตนเอง
3.ส่งเสริมพัฒนาการดา้ นสังคม
3.2 การดแู ลรกั ษาธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม
6)การสนทนาขา่ วและเหตุการณท์ ่ีเกย่ี วกบั ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมใน

ชีวติ ประจาวนั
3.4 การมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ มีวนิ ัย มสี ่วนรว่ ม และบทบาทสมาชิกของสงั คม
1)การร่วมกาหนดขอ้ ตกลงของห้องเรียน
2)การปฏิบตั ติ นเปน็ สมาชิทดี่ ีของหอ้ งเรียน
3)การใหค้ วามร่วมมือในการปฏบิ ัติกจิ กรรมต่าง ๆ

~ ๙๘ ~

พฒั นาการ ดา้ นสตปิ ญั ญา (ต่อ)

มาตรฐานท่ี ๑๒ มเี จตคตทิ ด่ี ีต่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรไู้ ด้เหมาะสม

กบั วยั

ตวั บง่ ชท้ี ่ี ๑๒.๒ มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ (ตอ่ )

สาระการเรยี นรู้

สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั

3.5 การเล่นแบบร่วมมอื ร่วมใจ

1)การร่วมสนทนาและแลกเปล่ยี นความคดิ เหน็

2)การเลน่ และทางานร่วมกับผอู้ น่ื

3.6 การแก้ปัญหาความขดั แยง้

1)การมสี ่วนรว่ มในการเลือกวิธกี ารแกป้ ญั หา

3.7 การยอมรบั ในความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งบุคคล

1)การเลน่ หรือ ทากจิ กรรมรว่ มกับกลุม่ เพ่อื น

4.สง่ เสริมพฒั นาการด้านสติปญั ญา

4.1 การใช้ภาษา

1)การฟงั เสียงตา่ งๆ ในส่งิ แวดล้อม

2)การฟังและปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนา

5)การพดู กบั ผู้อนื่ เกีย่ วกบั ประสบการณ์ของตนเอง หรอื พูดเล่าเรื่องราว

เกย่ี วกับตนเอง

6)การพูดอธบิ ายเกยี่ วกับสิ่งของ เหตุการณ์ และความสัมพนั ธข์ องสิง่ ตา่ งๆ

9)การพดู เรียงลาดับเพ่อื ใชใ้ นการสอ่ื สาร

10)การอ่านหนังสอื ภาพ นทิ าน หลากหลายประเภท/รปู แบบ

11)การอ่านอสิ ระตามลาพัง การอา่ นรว่ มกนั การอ่านโดยมีผู้ชแ้ี นะ

12)การเห็นแบบอยา่ งของการอ่านทถ่ี ูกต้อง

13)การสงั เกตทิศทางการอา่ นตวั อกั ษร คา และขอ้ ความ

15)การสงั เกตตวั อกั ษรในชือ่ ของตน หรือคาคุ้นเคย

16)การสงั เกตตัวอกั ษรท่ปี ระกอบเป็นคาผา่ นการอา่ นหรอื เขยี นของผใู้ หญ่

19)การเห็นแบบอย่างของการเขียนท่ถี ูกต้อง

20)การเขยี นรว่ มกันตามโอกาส และการเขียนอสิ ระ

21)การเขยี นคาท่มี ีความหมายกบั ตัวเด็ก/คาคนุ้ เคย

22)การคิดสะกดคาและเขียนเพ่ือสอื่ ความหมายด้วยตนเองอยา่ งอสิ ระ

~ ๙๙ ~

พัฒนาการ ดา้ นสติปัญญา (ตอ่ )

มาตรฐานท่ี ๑๒ มเี จตคตทิ ด่ี ีตอ่ การเรยี นรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ไดเ้ หมาะสม

กบั วยั

ตวั บง่ ช้ีที่ ๑๒.๒ มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ (ต่อ)

สาระการเรียนรู้

สาระทีค่ วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั

4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล การตัดสนิ ใจและแกป้ ญั หา

1)การสังเกตลักษณะ สว่ นประกอบ การเปลย่ี นแปลง และความสมั พันธ์ของ

สงิ่ ตา่ งๆ โดยใช้ประสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม

13)การจับคู่ การเปรยี บเทียบ และการเรียงลาดับ ส่งิ ตา่ งๆ ตามลักษณะ

ความยาว/ความสูงน้าหนกั ปรมิ าตร

15)การใชภ้ าษาทางคณิตศาสตร์กับเหตุการณ์ในชวี ติ ประจาวนั

16)การอธิบายเช่อื มโยงสาเหตุและผลทีเ่ กิดข้ึนในเหตกุ ารณ์หรือการกระทา

17)การคาดเดาหรอื การคาดคะเนสิ่งท่ีอาจเกดิ ขนึ้ อยา่ งมเี หตผุ ล

18)การมีส่วนร่วมในการลงความเห็นจากขอ้ มลู อยา่ งมีเหตผุ ล

19)การตัดสนิ ใจและมสี ่วนรว่ มในกระบวนการแกป้ ญั หา

4.3 จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

2)การแสดงความคิดสรา้ งสรรค์ผา่ นภาษา ท่าทาง การเคลอ่ื นไหว และศลิ ปะ

4.4 เจตคติทีด่ ีตอ่ การเรียนรแู้ ละการแสวงหาความรู้

2)การต้ังคาถามในเรอื่ งทสี่ นใจ

3)การสบื เสาะหาความรู้เพื่อคน้ หาคาตอบของขอ้ สงสัยต่างๆ

4)การมสี ่วนร่วมในการรวบรวมข้อมูลและนาเสนอข้อมูลจากการสืบเสาะหา

ความรูใ้ นรปู แบบตา่ งๆและแผนภมู ิอย่างงา่ ย

~ ๑๐๐ ~

การจัดประสบการณ์

การจดั ประสบการณส์ าหรับเดก็ ปฐมวยั อายุ ๔ – ๖ ปี เป็นการจดั กิจกรรมในลกั ษณะบูรณาการผ่านการ
เลน่ การลงมือกระทาจากประสบการณ์ตรงอยา่ งหลากหลาย เกิดความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม รวมท้งั เกดิ การ
พัฒนาท้งั ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปญั ญา ไมจ่ ดั เปน็ รายวชิ าโดยมหี ลักการ และแนวทางการจัด
ประสบการณ์ ดังน้ี

๑. หลักการจัดประสบการณ์
๑.๑ จดั ประสบการณก์ ารเลน่ และการเรียนรู้หลากหลาย เพื่อพัฒนาเด็กโดยองคร์ วมอย่างสมดุลและ

ตอ่ เน่ือง
๑.๒ เนน้ เด็กเป็นสาคัญ สนองความต้องการ ความสนใจ ความแตกต่างระหวา่ งบุคคลและบรบิ ทของ

สงั คมท่เี ด็กอาศยั อยู่
๑.๓ จดั ใหเ้ ด็กได้รับการพัฒนา โดยให้ความสาคัญกับกระบวนการเรยี นรูแ้ ละพฒั นาการของเด็ก
๑.๔ จดั การประเมนิ พฒั นาการให้เป็นกระบวนการอย่างต่อเนอ่ื ง และเป็นส่วนหน่ึงของการจดั

ประสบการณ์ พร้อมทง้ั นาผลการประเมินมาพัฒนาเด็กอยา่ งตอ่ เนื่อง
๑.๕ ใหพ้ ่อแม่ ครอบครัว ชมุ ชน และทุกฝ่ายที่เก่ียวขอ้ งมีส่วนร่วมในการพฒั นาเด็ก

๒. แนวทางการจัดประสบการณ์
๒.๑ จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับจิตวิทยาพฒั นาการและการทางานของสมองที่เหมาะสมกับ

อายุ วุฒิภาวะและระดบั พัฒนาการ เพื่อใหเ้ ด็กทกุ คนได้พัฒนาเตม็ ตามศกั ยภาพ
๒.๒ จดั ประสบการณใ์ หส้ อดคลอ้ งกับแบบการเรียนรู้ของเด็ก เด็กไดล้ งมือกระทาเรยี นรู้ผา่ นประสา

สัมผัสท้ังหา้ ได้เคลื่อนไหว สารวจ เล่น สังเกต สบื ค้น ทดลอง และคดิ แก้ปญั หาดว้ ยตนเอง
๒.๓ จัดประสบการณแ์ บบบรู ณาการ โดยบรู ณาการทัง้ กิจกรรม ทกั ษะ และสาระการเรยี นรู้
๒.๔ จดั ประสบการณ์ใหเ้ ด็กได้ริเร่มิ คดิ วางแผน ตดั สนิ ใจลงมือกระทาและนาเสนอความคิดโดยครู

หรอื ผจู้ ดั ประสบการณ์เป็นผูส้ นบั สนุนอานวยความสะดวก และเรยี นรรู้ ่วมกบั เด็ก
๒.๕ จดั ประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพนั ธก์ บั เดก็ อื่นกับผใู้ หญ่ ภายใต้สภาพแวดลอ้ มทเ่ี อ้ือต่อการ

เรียนรู้ ในบรรยากาศที่อบอนุ่ มีความสขุ และเรยี นร้กู ารทากจิ กรรมแบบร่วมมอื ในลกั ษณะตา่ งๆกัน
๒.๖ จดั ประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสมั พันธก์ บั สื่อและแหลง่ การเรยี นร่ีหลากหลายและอย่ใู นวิถีชวี ิต

ของเด็ก
๒.๗ จดั ประสบการณ์ทีส่ ่งเสริมลกั ษณะนิสยั ทดี่ ีและทักษะการใช้ชีวิตประจาวันตลอดจนสอดแทรก

คณุ ธรรมจริยธรรมให้เปน็ สว่ นหน่งึ ของการจัดประสบการณ์การเรยี นรูอ้ ย่างตอ่ เน่ือง
๒.๘ จัดประสบการณ์ท้งั ในลักษณะทดี่ กี ารวางแผนไวล้ ว่ งหนา้ และแผนท่เี กดิ ข้ึนในสภาพจรงิ โดย

ไม่ได้คาดการณ์ไว้
๒.๙ จัดทาสารนิทัศน์ด้วยการรวบรวมข้อมูลเกีย่ วกับพฒั นาการและการเรียนรู้ของเด็กเป็น

รายบุคคล นามาไตรต่ รองและใช้ให้เปน็ ประโยชน์ต่อการพัฒนาเดก็ และการวิจยั ในช้ันเรียน


Click to View FlipBook Version