สูตรอาหารถน่ิ จงั หวัดสมุทรสาคร
1 2
34 5 6
7
ขน้ั ตอนการทํา
1. นาํ กุง ปลาหมึกและหมสู บั ไปลวกใหส กุ พกั ไว
2. นาํ มะพราวขดู ไปค่ัวในกระทะ โดยใชไฟออ น จนมสี ีเหลอื งทอง
3. นาํ ถ่วั ลสิ งไปคั่วในกระทะ โดยใชไฟออน จนมีสีเหลืองทอง
4. เทน้ํามะนาว นํ้าปลา น้าํ ตาล นมสดและน้าํ พริกเผา ลงในชามใบใหญ คนใหเ ขา กนั
5. ใสก ุง ปลาหมึกและหมสู บั ท่เี ตรียมไว คนใหเ ขา กัน
6. ใสใบชะคราม หอมซอยและพรกิ ขีห้ นู ลงไปคนใหเ ขากนั
7. ใสถ่วั ลสิ งและมะพราวควั่ คลุกเคลาใหเขากัน ตักใสจาน พรอ มเสริ ฟ
คูมอื มาตรฐานการปฏิบัตงิ านสาํ หรบั เชฟชุมชน 101
สตู รอาหารถิ่นจงั หวดั สมทุ รสาคร
สว นผสม แกงกงุ ลกู ตําลึง
ลูกตําลงึ บุบ
กระชาย 200 กรมั
น้ําพรกิ แกงค่ัว 30 กรมั
กุงสด 60 กรมั
หัวกะทิ 300 กรัม
น้าํ ปลา 500 กรมั
นํ้าตาลปบ 2 ชอ นโตะ
ใบมะกรูดฉกี 2 ชอ นโตะ
พริกชี้ฟาแดง 2 ใบ
1 เมด็
102 คมู อื มาตรฐานการปฏบิ ัติงานสาํ หรบั เชฟชมุ ชน
สูตรอาหารถิ่นจงั หวดั สมทุ รสาคร
1
2 34
55
ขั้นตอนการทาํ
1. ตํากระชายผสมกับนํ้าพรกิ แกงคว่ั ใหละเอยี ด พักไว
2. น้าํ พรกิ แกงทไ่ี ดจากขอ 1 ละลายในกะทสิ ด ใสหมอแลว นําไปตั้งไฟ คนใหเขา กนั
3. พอกะทิเดอื ดใสกงุ สดลงไปรอใหก ุงสกุ แลว จงึ คนใหเขากนั
4. ใสล ูกตาํ ลงึ บบุ ลงไป รอใหล กู ตําลึงสกุ แลวคนใหเขา กนั
5. ใสนํ้าปลา น้ําตาล ลงไป รอใหเ ดือด ตักใสถว ย พรอ มเสิรฟ
คูม ือมาตรฐานการปฏบิ ัติงานสําหรับเชฟชุมชน 103
สตู รอาหารถิน่ จงั หวัดสมทุ รสาคร
หมึกกระดองตม เปรยี้ ว
สว นผสม 500 กรมั
หมกึ กระดองขนาดกลาง 5 เม็ด
พรกิ แหง 120 มล.
นา้ํ ปลา 30 กรัม
น้าํ ตาลทราย 90 กรัม
นํา้ มะขามเปยก 1 ลิตร
นาํ้ เปลา 4-6 หัว
หอมแดงบุบ 15 กรัม
เกลอื แกง เล็กนอ ย เล็กนอย
ผักชี
104 คมู อื มาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านสําหรับเชฟชมุ ชน
สตู รอาหารถิ่นจังหวัดสมุทรสาคร
1
23
4
ขั้นตอนการทาํ
1. เทนํ้าเปลา และนา้ํ มะขามเปยกลงในหมอ คนใหเ ขากัน ตัง้ ไฟ รอจนเดอื ด
2. ใสหอมบุบ ตม จนหอมนม่ิ ตามดวยพริกแหง รอจนนํ้าเดือด
3. ใสห มกึ กระดองลงไป ตมตอ ไปจนสกุ หามคน
4. ปรงุ รสดวยน้าํ ปลา นํา้ ตาลทราย รอจนน้ําเดอื ดอกี ครัง้ ตกั ใสถ วยโรยดวยผกั ชี จดั เสริ ฟ
คมู อื มาตรฐานการปฏิบัตงิ านสาํ หรบั เชฟชุมชน 105
สตู รอาหารถิ่นจงั หวัดสมุทรสาคร
ผักโขมตมกะท+ิ นา้ํ พริกกะป
สวนผสม 300 กรมั
ผักโขมหิน 200 กรัม
กะทิสด ¼ ชอนชา
เกลือปน 10 กรมั
1 ลูก
สวนนา้ํ พรกิ กะป 5 กรมั
พริกข้หี นูสวน 25 กรมั
มะอกึ 15 กรมั
กระเทียมปอกเปลือก 10 ลกู
กะป ยาง 1-2 ชอ นโตะ
นํ้าตาลปบ 2 ชอนโตะ
มะเขอื พวง 2 ชอ นโตะ
น้ําปลา
นํา้ มะนาว
น้ําอุน
106 คมู อื มาตรฐานการปฏบิ ัติงานสําหรบั เชฟชมุ ชน
สตู รอาหารถ่นิ จังหวัดสมุทรสาคร
12
312
34
ขั้นตอนการทาํ
ผักโขมหินตม กะทิ
1. เทกะทิใสห มอนาํ ไปตง้ั ไฟ โรยเกลอื ปนลงไปคนใหเ ขากนั
2. รอจนกะทิเดอื ด ใสผ ักโขมหนิ ลงไป รอจนสุก ตักใสจาน
3. ราดหนา ดวยน้าํ กะทิ
สว นน้ําพรกิ กะป
1. โขลกพริกขห้ี นูสวนและกระเทยี ม พอหยาบ
2. ใสก ะป นา้ํ ตาลปบ มะอึกและมะเขือพวง ลงโขลกใหเขา กัน
3. ปรงุ รสดว ยนาํ้ ปลาและน้ํามะนาว เติมนา้ํ ตมสุกคนผสมใหเขา กัน ชมิ รส
4. ตักใสถวย รับประทานคูก ับผักโขมหินตม กะทิ และปลาทูทอด
คูมอื มาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านสาํ หรับเชฟชมุ ชน 107
สตู รอาหารถิน่ จังหวัดสมุทรสาคร
ขา วเหนียวมูนหนา ปลาแหง
สวนผสม 500 กรมั
ขา วเหนียวเขยี้ วงู 350 กรมั
หวั กะทิ 180 กรัม
นา้ํ ตาลทราย 10 กรมั
เกลอื ปนหยาบ 1 ตวั
30 กรมั
สว นหนาปลาแหง 1 ชอนชา
ปลาชอ นแดดเดยี ว 2 ชอ นโตะ
หอมแดงเจียว
นํา้ มนั พืช
นํ้าตาลทราย
108 คมู อื มาตรฐานการปฏิบัตงิ านสาํ หรบั เชฟชุมชน
สตู รอาหารถิน่ จังหวดั สมุทรสาคร
12
341
23
ขั้นตอนการทํา
1. นําขาวเหนยี วสารใสนาํ้ จนทวม นําสารสม ลงไปแกวง ไปมาเล็กนอ ย รอสกั ครจู ากน้นั ซาวนาํ้ ท้งิ
ประมาณ 2-3 รอบ เตมิ น้ําแชขา วเหนียวทง้ิ ไวประมาณ 3 ชั่วโมงเปน อยางนอย
2. นาํ ขา วเหนียวขน้ึ ใสก ระชอนพกั ใหสะเดด็ นาํ้ ใสภาชนะนึง่ ใหส ุกประมาณ 30-35 นาที
3. ระหวางรอขาวเหนยี วสุก ทํานา้ํ มนู ผสมหัวกะทิ นา้ํ ตาลทราย เกลอื คนใหละลายเขา กัน พักไว
(หรือนําไปต้ังไฟออนใหน้ําตาลละลาย ยกลงพักไวใหเ ย็น)
4. พอขาวเหนียวสุกเปลีย่ นใสภาชนะมีฝาปด เตมิ นา้ํ มูน (ขอ 3) คนผสมใหเ ขากนั ขาวเหนยี วไม
เปน กอน ปดฝาใหสนทิ พักไวประมาณ 30–45 นาที จัดเสริ ฟ คกู ับหนาปลาแหง
สว นหนาปลาแหง
1. ยางปลาใหสุกและคอนขา งแหง พักใหเยน็ แลวแกะเอากา งออก
2. นําเน้ือปลาไปโขลกใหมลี ักษณะฟู
3. นําเนอื้ ปลาทไ่ี ดไ ปคั่วจนแหง กรอบ แลว ใสนํ้าตาลทรายและหอมเจียวคลกุ ใหเขา กนั
คูมือมาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านสาํ หรับเชฟชุมชน 109
สตู รอาหารถ่ินจงั หวัดสมุทรสาคร
สว นผสม แปง จี่
แปงขาวเหนียวดํา
แปงขาวเหนยี ว 50 กรัม
นํา้ ตาลปบ 200 กรัม
หัวกะทิ 160 กรมั
มะพรา วทนึ ทึกขดู 200 กรมั
เกลือ 150 กรมั
1 ชอ นชา
110 คมู ือมาตรฐานการปฏบิ ัติงานสาํ หรับเชฟชุมชน
สูตรอาหารถน่ิ จังหวัดสมุทรสาคร
1
23
4
ขั้นตอนการทํา
1. นาํ นํา้ ตาลปบ และหวั กะทิ มาผสมกัน คนใหเขา กันจนเปนเน้อื เดยี วกันจนไมเ ปน เม็ด
2. นาํ แปง ขา วเหนยี วดํา แปง ขาวเหนียว เกลอื และมะพราวขูดเทใสใ นสวนของนาํ้ กะทิ คนให
เปนเนอื้ เดยี วกนั
3. ต้งั กระทะใหร อน นําน้ํามนั พชื ทาบนกระทะบางๆ ใชชอนตกั สว นผสมลงในกระทะขนาด
พอดีคํา ทอดใหส กุ ทง้ั สองดาน
4. จดั เสริ ฟ
คูมือมาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านสําหรับเชฟชุมชน 111
สตู รอาหารถ่ินจังหวดั สมทุ รสาคร
ขนมกลวย 250 กรัม
40 กรมั
สวนผสม 26 กรมั
กลวยน้ําวาสุก 40 กรมั
แปงขาวเจา 110 กรัม
แปง ขา วเหนยี ว 80 กรมั
แปงมัน ¼ ชอ นชา
หัวกะทิ 30 กรัม
นํ้าตาลทราย 30 กรัม
เกลอื ปน
มะพรา วทึนทึกขดู (ผสมในเนอ้ื ขนม)
มะพรา วทนึ ทกึ ขดู (โรยหนาขนม)
112 คมู อื มาตรฐานการปฏบิ ัติงานสําหรบั เชฟชมุ ชน
สูตรอาหารถ่ินจงั หวัดสมทุ รสาคร
23 1
4
5
ขน้ั ตอนการทํา
1. นาํ กลวยไปบดใหล ะเอียด
2. ผสมแปง และนํา้ ตาล เกลือ ลงในกลวย คนใหเ ขากันนวดจนเนยี น
3. ทยอยใสกะทนิ วดใหเขา กนั ประมาณ 20 นาที ใสม ะพราวผสมใหเ ขา กัน
4. ตกั หยอดใสถ ว ยตะไลโรยหนา ดวยมะพราว
5. นาํ ไปนง่ึ ประมาณ 30 นาที พักใหเ ยน็ จงึ ตกั ออกจากพิมพ
คูม อื มาตรฐานการปฏิบัติงานสาํ หรับเชฟชมุ ชน 113
สตู รอาหารถิ่นจงั หวัดสมุทรสาคร ขนมตม
สวนผสม 200 กรัม
แปง ขาวเหนยี ว 80 กรมั
นํา้ ใบเตย 200 กรัม
แปงขาวเหนยี ว 80 กรัม
นาํ้ อญั ชนั 300 กรมั
สวนไสก ระฉกี 300 กรัม
มะพราวขดู เสน 1 ชอนชา
นํ้าตาลปบ 300 กรัม
เกลือปน เลก็ นอ ย
มะพรา วขดู เสน
เกลอื ปน
114 คมู อื มาตรฐานการปฏิบัตงิ านสาํ หรบั เชฟชมุ ชน
สตู รอาหารถิน่ จงั หวดั สมุทรสาคร
1
233
12
ขัน้ ตอนการทาํ
1. นวดแปงและน้าํ ใบเตยใหเขากนั เปน กอ น
2. นาํ ไปใสไ ส แลวนําลงตม จนสุก
3. พอขนมสุก ตักขนึ้ แลวนาํ ไปคลุกกับมะพราวขดู เสน ทค่ี ลกุ เกลือ
สว นไสก ระฉกี
1. นํามะพราวขดู เสน แลวนํา้ ตาลปบกวนรวมกันจนงวด พักใหเ ย็น
2 .ปนเปนกอนตามขนาดทเ่ี หมาะสม
คมู ือมาตรฐานการปฏิบัติงานสาํ หรบั เชฟชมุ ชน 115
สตู รอาหารถิ่นจังหวดั สมทุ รสาคร
เปยกปูนโบราณ
สวนผสม 100 กรมั
แปง ขา วเจา 50 กรมั
แปงเทา ยายมอ ม 25 กรัม
แปงมันสาํ ปะหลงั 25 กรมั
แปงสล่ิม 150 กรัม
น้ําตาลทราย 200 กรัม
น้ําตาลปบ 1,000 กรัม
นา้ํ ปูนใส 100 กรัม
กาบมะพราวเผา 100 กรมั
มะพราวขูดเสน เล็กนอย
เกลือ
116 คมู อื มาตรฐานการปฏิบัตงิ านสําหรับเชฟชมุ ชน
สูตรอาหารถิ่นจงั หวัดสมุทรสาคร
1
23
4
ขนั้ ตอนการทาํ
1. ผสมกาบมะพราวเผากับนา้ํ ปนู ใสใหเ ขากนั แลวกรองดวยผา ขาวบางพักไว
2. ผสมแปง ทั้งหมดและน้าํ ตาลท้ัง 2 ชนิดใหเขากนั คอยๆเตมิ สว นของนาํ้ ปนู ใสกาบมะพรา ว
ลงไป คนใหละลายเขา กัน
3. นําไปกวนดว ยไฟปานกลางจนสุกและขนเหนียว ปดไฟยกลงเทใสถ าด
4. พกั ไวใ หเ ย็น แลว ตัดเปนช้ินตามตองการ จัดเสริ ฟโดยโรยดวยมะพราว
คมู อื มาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านสาํ หรับเชฟชมุ ชน 117
สตู รอาหารถนิ่ จังหวัดสมุทรสาคร นํา้ มะพราวปนนมสด
สว นผสม 100 กรมั
มะพรา วออ น 250 กรัม
นมสด 30 กรัม
นมขนหวาน 20 กรัม
นา้ํ เช่ือม 200 กรัม
นํ้าแขง็ บด
2 1
ข้นั ตอนการทํา 1
1.นาํ สวนผสมท้ังหมดปนใหเ ขากนั 2
2.เทใสแกว พรอมเสริ ฟ
น้ํากรนี ดที อ็ กซ
สว นผสม 100 กรัม 1
ฝร่ัง 40 กรัม
คะนา 40 กรมั
กวางตุง 4 กรมั
ใบโหระพา 5 กรมั
ใบสะระแหน 30 กรมั
นา้ํ มะนาว 300 กรมั
นาํ้ เชื่อม ¼ ชอ นชา
เกลือ 500 กรัม
นา้ํ แขง็ บด
ขนั้ ตอนการทาํ
1. ลางผักใหสะอาดดว ยเบคกงิ้ โซดาหรืออ่ืนๆ แลว หั่นเปน ชิ้นเลก็ ๆ
2. นําสวนผสมทง้ั หมดปนใหเ ขา กนั แลว จัดเสิรฟ
118 คมู อื มาตรฐานการปฏิบัตงิ านสาํ หรบั เชฟชุมชน
สวนผสม น้ําเกกฮวยพทุ ราจนี สูตรอาหารถิ่นจังหวัดสมุทรสาคร
ดอกเกก ฮวยแหง
เม็ดเกก ฮวย 30 กรัม 1
พุทราจนี อบแหง 2 เม็ด 23
นา้ํ ตาลทราย 40 กรมั
น้ําเปลา 100 กรมั
2,000 กรัม
ขัน้ ตอนการทํา
1. ลา งดอกเกก ฮวยและแชนา้ํ ไวป ระมาณ 5 นาที
2. ตม น้ําใหเ ดอื ดใสด อกเกก ฮวย เมด็ พดุ ทบ่ี บุ พอแตกและใสเ มด็ พทุ ราจนี แหง ลงตม
3. ตม พอเดอื ดประมาณ 5 นาที กรองออก เตมิ นํ้าตาล ปด ไฟ พกั ใหเ ยน็ แลว จดั เสริ ฟ
นํา้ ใบบวั บก
สว นผสม 100 กรัม 1
ใบบวั บก 1,500 กรัม 2 33
นํา้ เปลา 4 ใบ
ใบเตย 100 กรัม
นํ้าเช่ือม
ขัน้ ตอนการทาํ
1. ตม นํา้ กับใบเตยพอเดอื ด พักไว
2. ลางใบบัวบกใหสะอาด แลว นําไปปน ใหละเอียดแลวกรอง
3. นาํ นํ้าใบบวั บกท่ีไดผสมกับนา้ํ ตมใบเตย เติมนาํ้ เชอื่ ม แชเ ย็นแลวจดั เสริ ฟ
คูมือมาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านสําหรบั เชฟชุมชน 119
สูตรอาหารถน่ิ จงั หวดั สมุทรสาคร นาํ้ มะตูม 1
สว นผสม 5 แผน
มะตมู แหง 100 กรมั
น้าํ ตาลทรายแดง 2,000 กรมั
นํ้าเปลา
23
ขัน้ ตอนการทํา
1. นํามะตมู แหง ไปยางใหหอมท่ังท้ังสองดา น
2. ต้ังน้ําและใสมะตูมลงตม จนมะตูมมีลกั ษณะสีซดี นิ่มลงและสง กลิ่นหอม
3. กรองออกแลว เตมิ น้ําตาล พักใหเ ย็น จัดเสริ ฟ
สวนผสม น้ําตะไครน้าํ ผ้งึ 1
ตะไคร
นํ้า 10 ตน
นํา้ มะนาว 2,000 กรัม
นํ้าเช่ือม 50 กรัม
นาํ้ ผึ้ง 100 กรัม
50 กรมั
23
ข้นั ตอนการทํา
1. ลา งตะไครใ หสะอาด แลวซอยบางๆตามขวาง
2. ตั้งน้าํ ใหเดือด ใสตะไครลงตมประมาณ 10 นาที แลวเตมิ น้ํามะนาว แลว กรอง
ตะไครออก
3. เติมน้ําเชอื่ มและนํา้ ผึ้ง พกั ใหเ ยน็ จดั เสริ ฟ
120 คูม ือมาตรฐานการปฏิบัตงิ านสาํ หรับเชฟชุมชน
สูตรอาหารถิน่ จังหวัดสมุทรสาคร
สวนผสม น้ํามะนาวนํา้ ผง้ึ
นา้ํ มะนาว
นา้ํ ตม สกุ 40 กรมั
นา้ํ ผง้ึ 400 กรมั
นา้ํ เชื่อม 30 กรมั
โซดา 20 กรัม
100 กรัม
ขัน้ ตอนการทํา 12
1.นาํ สวนผสมทั้งหมดคนใหเขา กนั จดั เสิรฟพรอมนาํ้ แข็ง หรอื นาํ ไปปน กบั นาํ้ แข็ง
2.เทใสแ กว จัดเสริ ฟ
นาํ้ มะพรา วสมเขียวหวาน
สวนผสม 100 กรัม 1
น้าํ มะพรา วออน 2 ชอนโตะ 2
นํ้าเชื่อม 50 กรัม
เนอ้ื มะพราวออน 100 กรัม
นํ้าแขง็ บด 70 กรมั
นา้ํ สม เขียวหวาน 1 ชอ นชา
นา้ํ เช่ือม เล็กนอ ย
เกลือปน 70 กรมั
น้ําแข็งบด
ขนั้ ตอนการทํา
1. ผสมนาํ้ มะพราว เนื้อมะพรา ว นาํ้ เชื่อม และนาํ้ แขง็ ปน ใหเขา กนั แลว เทไวส ว นลา ง
ของแกว
2. ผสมนํา้ สม นํา้ เชื่อม เกลือปน และน้ําแข็ง ปน ใหเ ขากนั แลวเทไวสว นบนของแกว
คมู ือมาตรฐานการปฏิบัตงิ านสาํ หรับเชฟชุมชน 121
สตู รอาหารถน่ิ จงั หวัดสมุทรสาคร นํ้าแกวมังกรแดงปน 1 2
สว นผสม 1 ลูก
แกวมังกรแดง 100 กรัม
นา้ํ เชื่อม 200 กรัม
นา้ํ แขง็ บด 1 ชอนโตะ
นา้ํ มะนาว ¼ ชอ นชา
เกลือ
ขน้ั ตอนการทาํ
1. นําสวนผสมทงั้ หมดปน ใหเขากนั
2. เทใสแ กว จดั เสริ ฟ
สว นผสม น้ํากระชายนาํ้ ผึ้ง 1
กระชาย
นา้ํ ผง้ึ 400 กรัม 2
น้ํามะนาว 120 กรมั
นํ้าเชื่อม 50-70 กรัม
นา้ํ ตมสุก 200 กรัม
1,200 กรมั
ขน้ั ตอนการทํา 3
1. ลางกระชายใหส ะอาด ขูดเปลอื กออก ลางดว ยนาํ้ ผสมเกลอื เลก็ นอ ย
2. นาํ กระชายไปปน กับนา้ํ ตม สุกอุน กรองดว ยผาขาวบาง
3. ปรงุ รสดวยน้ํามะนาว หรือผงมะนาว น้ําผง้ึ และน้าํ เช่ือมจดั เสิรฟ พรอมนา้ํ แข็ง
หรือนาํ ไปปน กับน้ําแขง็
122 คูม ือมาตรฐานการปฏิบัตงิ านสําหรับเชฟชุมชน
สูตรอาหารถ่นิ จงั หวดั สมุทรสาคร
การใหบริการแบบ New Normal
“กนิ รอ น ชอ นสว นตวั ลา งมอื และสวมหนา กากอนามยั ” เปน ประโยคทเี่ ราไดย นิ กนั อยา งคนุ หู รวมไปถงึ การปรบั
พฤตกิ รรมการใชช วี ติ มาอยทู บี่ า นเพอื่ ปอ งกนั การแพรร ะบาดของโควดิ 19 หลายธรุ กจิ ไดร บั ผลกระทบอยา งหนกั อยา งเชน
ธุรกิจรานอาหารที่ตองเผชิญกับความทาทายคร้ังใหม หลายรานตองปรับตัวเพ่ือสนองตอบความตองการของลูกคา
และฝาวิกฤติธุรกจิ ครั้งน้ไี ปใหไ ด นี่คอื รูปแบบการปรับตัวของรานอาหารใหพ รอมกับ new normal ในยุคโควิด 19
Delivery
รูปแบบแรกคือ การใหบริการสงถึงบานหรือดิลิเวอรีผานแอปพลิเคชันผูใหบริการอยาง Grab, LINE MAN,
food panda, GET เปน ตน ซงึ่ ถอื วา เปน แนวทางแรกทเี่ กอื บทกุ รา นเลอื กใช เพราะเปน วธิ ที ตี่ อบโจทยพ ฤตกิ รรมการ
ใชช วี ติ ของคนในยคุ โควดิ 19 ไดต รงจดุ ทส่ี ดุ ซง่ึ ในบางแอปพลเิ คชนั มกี ารจดั โปรโมชนั รว มกบั รา นอาหาร ไมว า จะเปน
สวนลดคาอาหาร สวนลดคาจัดสงสาํ หรับผูที่อยูอาศัยในละแวกใกลเคียงกับรานอาหาร หรือการจัดชุดเมนูในราคา
พเิ ศษอกี ดว ย
ไมเวนแมแตรานอาหารแนว fine-dining อยางรานโบ.ลาน ท่ีไดปรับรูปแบบธุรกิจมาใหบริการดิลิเวอรีเชนกัน
โดยทางรา นทําการจดั สง เองและกาํ หนดเวลาเปน รอบ ๆ เพอ่ื รกั ษาคณุ ภาพของอาหารและมาตรฐานของรา น รวมไปถงึ
รา นอาหารญป่ี ุนแนวโอมากาเสะ (omakase) อยางราน Sushi Ichizu และราน Sushi Masato ทมี่ ีบรกิ ารจัดสงซูชิ
เปนคํา ๆ โดยยงั คงเอกลักษณใ นแบบฉบับโอมากาเสะไวเ หมือนเวลาที่ลูกคา ไปรับประทานทีร่ าน
คมู อื มาตรฐานการปฏิบัติงานสําหรับเชฟชุมชน 123
สตู รอาหารถิ่นจงั หวดั สมทุ รสาคร
Physical Distancing
เม่ือประเทศไทยมมี าตรการคลายล็อกท่ีอนุญาตใหรา นอาหารสามารถเปดใหล ูกคา มาน่ังรบั ประทานใน
รานได หลายรานจงึ ไดพรอ มใจกันปรบั รูปแบบการใหบรกิ ารตามแนวทางการเวน ระยะหา งทางกายภาพ (physical
distancing) เชน การจํากดั จาํ นวนลกู คา ทม่ี าใชบ รกิ ารในแตล ะรอบ การตรวจคดั กรองวดั อณุ หภมู ลิ กู คา กอ นใชบ รกิ าร
และการทาํ ความสะอาดฆาเช้ือหลังลูกคาเขาใชบริการ โดยรานปงยางชื่อดังอยาง บารบีคิว พลาซา ก็ไดเพ่ิมความ
นาเอ็นดูดว ยการนําหุนบาบกี อ น (มาสคอตของราน) มานัง่ รบั ประทานอาหารเปนเพื่อนลกู คาเพอ่ื ชวยเวนระยะหา ง
ของลกู คา นน่ั เอง นอกจากนี้ จะเหน็ ไดว า รา นอาหารหลายรา นไดป ระดษิ ฐค ดิ คน ฉากกน้ั ระหวา งลกู คา ทน่ี งั่ รบั ประทาน
อาหารเพ่ือชวยปองกันการแพรเช้ือและสรางความม่ันใจใหกับลูกคาอยางเชน รานบุฟเฟตนานาชาติชื่อดังอยาง
Copper และรา นบุฟเฟตชาบูยอดนยิ มอยาง Penguin Eat Shabu ก็ไดปรับตวั ตามแนวทางดังกลา วเชน กนั
Home Cooking ในชวงท่ีผานมา เม่ือไมสามารถทํางานประจาํ ไดเหมือนเคยหรือตอง
วา งงานจากผลกระทบของการระบาด หลายคนไดห นั มาทาํ อาหารทบี่ า น
(home cooking) กนั มากขน้ึ และหาอาชพี เสรมิ ดว ยการนาํ มาขายผา นทาง
โซเชยี ลมเี ดยี ทําใหเ กดิ ธรุ กจิ การขายรปู แบบใหมแ ละเปน อกี ชอ งทางหนง่ึ
ใหผูบ รโิ ภคมตี วั เลือกที่หลากหลายมากขน้ึ
ตัวอยางท่ีกลาวมาขางตนถือเปนรูปแบบใหมในยุค new normal
กับการปรับตัวของรานอาหารไทยใหอยูรอดในสถานการณที่โลกยังคง
เผชิญกับวิกฤติโควิด 19 ในมุมของลูกคาเองก็ตองปรับพฤติกรรมการใชชีวิตเชนกัน โดยเฉพาะเมื่อตองออกมา
พบปะผูคน มารบั ประทานอาหารทร่ี านหรอื ทํากิจกรรมนอกบาน การปฏบิ ัติตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสขุ
ยังคงเปนส่ิงที่ตองทาํ อยางเครงครัด เพ่ือปองกันการแพรกระจายของโรค รวมถึงลดความเส่ียงในการติดเช้ือใหกับ
ตนเองและผูอ่ืน
CREDIT : https://www.bot.or.th/Thai/BOTMagazine/Pages/256303_EatGuide.aspx
124 คูมือมาตรฐานการปฏิบัตงิ านสาํ หรบั เชฟชุมชน
สูตรอาหารถิ่นจงั หวดั สมุทรสาคร
การแตง กายของเชฟ
“ชดุ ยนู ฟิ อรม ” เปน สง่ิ ทแ่ี ทบทกุ องคก รจะตอ งมี โดยเฉพาะองคก รใหญๆ เพราะเนอื่ งจากจะมปี ระโยชนใ นการสรา ง
แบรนดใหเปนท่ีจดจาํ แลว ยังสรางความเปนเอกภาพในองคกร และสามารถชวยทําใหพนักงานปฏิบัติหนาที่ไดอยาง
คลองแคลว ปลอดภัย และดเู ปน มืออาชพี มากขึ้นอกี ดวย
โดยปกตแิ ลว ถา คณุ นกึ ถงึ เชฟละ ก็ ภาพของคนทสี่ วมเสอ้ื ตวั ยาวสขี าว กางเกงขายาวสขี าว ผา กนั เปอ น และมหี มวก
สขี าวทรงสงู ๆ สวมอยบู นศรษี ะกค็ งปรากฏขนึ้ มาในความคดิ ทนั ที ซงึ่ ทเ่ี ชฟตอ งแตง ตวั แบบนน้ั กไ็ มใ ชเ พราะวา อยากใหด ู
เดนหรือตลกแตอยางใด แตเปนเพราะวามันจําเปนตางหาก
อกี ทงั้ ยงั มปี ระวตั ศิ าสตรเ กย่ี วกบั “ชดุ เชฟ เสอื้ เชฟ” ทสี่ บื ทอด
กันมาอยางยาวนานตา งหาก
ยอนกลับไปในศตวรรษที่ ๑๕ ในยุคน้ัน อาชีพเชฟ
เปนอาชีพท่ีทํารายไดสูงมาก อีกทั้งยังเปนท่ียกยองนับถือ
โดยทั่วไปของชาวกรีกในกรุงไบแซนเทียม แตตอมาเมื่อพวก
เติรกไดเขาบุกรุกและลมลางกรุงไบแซนเทียม บรรดาเชฟ
จึงจาํ เปนตองหนีไปหลบซอนตัวตามสํานักสงฆ และเพ่ือให
กลมกลนื ไปกบั นกั บวช เหลา เชฟจงึ ตอ งสวมหมวกทรงสงู แบบ
เดยี วกบั นักบวชน่ันเอง
อยา งไรกต็ าม สาํ หรบั หมวกของชดุ เชฟ เสอื้ เชฟ ในปจ จบุ นั ไดม กี ารดดั แปลงจากในอดตี เลก็ นอ ย คอื ไมพ องตรงปลาย
หมวกอกี แลว แตถ กู ออกแบบใหเ ปน ทรงตรงและสงู กเ็ พอ่ื ระบายอากาศ เนอ่ื งจากเชฟตอ งคลกุ คลอี ยกู บั เตาไฟทรี่ อ นจดั
ตลอดทง้ั วนั นนั่ เอง
อีกทงั้ การทาํ งานในครัวไมใชทุกคนที่จะไดเรม่ิ ตนในฐานะเชฟ แตอ าจตองไตเ ตา ข้นึ มาจากผูชวยเชฟ หรอื กระท่ังคน
เกบ็ กวาดกอน ดังน้ัน “ชดุ เชฟ เสื้อเชฟ” จึงเปน สิง่ ที่มเี กียรติไมแพช ุดยนู ิฟอรมไหนๆ
นอกจากนี้ “ชุดเชฟ เสื้อเชฟ” ยังถูกออกแบบมาสําหรับอํานวยความสะดวกในการทาํ งานอกี ดวย
การท่ี “ชุดเชฟ เสื้อเชฟ” มีสีขาว สวนหนึ่งก็เพราะเวลาที่เกิดรอยเปอนอะไร จะไดสังเกตเห็นไดทันที สําหรับ
อาชีพเชฟนั้น ความปลอดภัยของผูบริโภคเปนสิ่งสําคัญ ดังน้ัน จะตองดูแลเรื่องความสะอาดอยางเครงครัดเปนพิเศษ
เพือ่ เปน การรับผดิ ชอบตอ คนรบั ประทานนั่นเอง
สาํ หรับ “ชุดเชฟ เสื้อเชฟ” น้ันถูกออกแบบเปนใหเปนปกปายแบบกระดุมสองแถว ทําใหหากวาฝงหนึ่งเปอน
ก็สามารถเอาฝงที่ไมสกปรกขึ้นมาทับไวแทนได นอกจากน้ี ยังตัดมาจากผาฝายสองช้ัน ทําใหสามารถปกปองตัวเชฟ
จากความรอ นเมอ่ื ตองทํางานหนา เตาตลอดท้งั วนั ได นอกจากน้ี “ชุดเชฟ เส้อื เชฟ” บางท่ีอาจมผี าพันคอ สําหรับไวใช
ซับเหง่ืออกี ดวย
จากทกี่ ลา วมาทง้ั หมด เราจงึ จะเหน็ ไดว า เชฟตามรา นอาหารดงั ๆ หรอื ตามโรงแรมนน้ั มกั จะสวมใส “ชดุ เชฟ เสอื้ เชฟ”
เสมอ เพ่ือท่ีจะแสดงถึงความเปนมืออาชีพ สรางความแตกตางระหวางเชฟกับพอครัว และอาจจะมีการปกตราของ
รานอาหารลงบนเสื้อดวย เน่ืองจาก “ชุดเชฟ เส้ือเชฟ” น้ันสามารถหาซื้อชุดเชฟไดทั่วไป การปกลายชื่อของแบรนด
หรือโลโกร าน จะทาํ ใหเปน เอกลกั ษณมากยิง่ ขนึ้ นั่นเอง
เพราะฉะน้ันแลว ชดุ ยูนิฟอรม ชุดเชฟ เสอื้ เชฟเปนสิ่งทส่ี ําคัญมาก โดยเฉพาะกับอาชพี ทีต่ อ งการความนาเชอ่ื ถอื สงู
และเชฟกเ็ ปน หนึ่งในนั้น “ชดุ เชฟ เสื้อเชฟ” ที่ดี สามารถสะทอ นคุณภาพของรา นอาหาร อกี ทัง้ ยังทาํ ใหผ ูบ ริโภคเชือ่ ใจ
วา พวกเขากาํ ลงั ไดท านอาหารที่ปรุงมาอยางดี สะอาด และปลอดภยั ดว ยฝม อื ของเชฟมืออาชีพน่นั เอง
ชุดยูนฟิ อรม ชดุ เชฟ เสอื้ เชฟไมไ ดสาํ คญั ตอ แคอ าชีพเชฟเทานนั้ แตย ังสําคญั ตอ อาชพี อื่นๆ อกี ดว ย โดยชุดยนู ฟิ อรม
ทดี่ ีนั้น สามารถสรา งความเปน มอื อาชีพและทําใหแ บรนดของคุณเปนทรี่ ูจักมากข้นึ
Credit : https://www.working-uniforms.com/ คูมือมาตรฐานการปฏิบัติงานสําหรับเชฟชุมชน 125
สตู รอาหารถ่ินจงั หวัดสมุทรสาคร
อาหารฮาลาล
“อาหารฮาลาล (Halal Food) หมายถึง อาหารหรือผลิตภณั ฑอ าหารซ่งึ อนมุ ัตติ ามบัญญตั ศิ าสนาอสิ ลาม
ใหมสุ ลมิ บรโิ ภคหรือใชประโยชนได”
“ฮาลาล” เปนคํามาจากภาษาอารบิก หมายความวา การผลิต การใหบริการ หรือการจําหนายใด ๆ
ท่ีไมขัดตอบัญญัติของศาสนา ดังน้ัน เราจึงอาจกลาวไดวา “อาหารฮาลาล” คือ อาหารที่ไดผานกรรมวิธี
ในการทํา ผสม ปรุง ประกอบ หรือแปรสภาพ ตามศาสนบัญญัตินั่นเอง เปนการรับประกันวา ชาวมุสลิม
โดยทว่ั ไปสามารถบรโิ ภคอาหาร หรอื อปุ โภคสนิ คา หรอื บรกิ ารตา ง ๆ ไดโ ดยสนทิ ใจ เราสามารถสงั เกตผลติ ภณั ฑ
วา เปน “ฮาลาล” หรือไมน น้ั ไดจากการประทับตรา “ฮาลาล” ท่ขี างบรรจุภณั ฑน ั้นเปนสาํ คญั
“เครื่องหมายฮาลาล” คือเครื่องหมายท่ีคณะกรรมการฝายกิจการฮาลาลของคณะกรรมการกลางอิสลาม
แหง ประเทศไทย หรอื คณะกรรมการอิสลามประจาํ จังหวัดตา ง ๆ ไดอ นุญาตใหผ ูป ระกอบการทําการประทบั
หรือแสดงลงบนสลาก หรอื ผลติ ภัณฑ หรือกจิ การใด ๆ โดยใชสญั ญลักษณทเี่ รียกวา “ฮาลาล” ซ่ึงเขยี นเปน
ภาษาอาหรับภายในกรอบส่ีเหล่ียมขนมเปยกปูน หลังกรอบเปนลายเสนแนวตั้ง ใตกรอบภายในเสนขนาน
มคี ําวา “สนง.คณะกรรมการกลางอสิ ลามแหง ประเทศไทย” โดยเครอื่ งหมายดงั กลา วนี้ จะออกใหก บั ผลติ ภณั ฑ
อาหาร และเคร่ืองดื่ม ผลิตภณั ฑฮ าลาล และหรือเน้ือสตั วฮาลาลท่นี ําเขา จากตางประเทศ เปนตน
มาตรฐานอาหารฮาลาล
ปจจบุ นั ในตลาดโลกมีผูบ ริโภคท่ีเปนมุสลิมอยปู ระมาณ 2,000 ลา นคนการคาขายจาํ เปน ตอ งทาํ ทกุ วถิ ีทาง
ทจี่ ะเขาไปมีสวนแบง ในตลาดอาหารจากประเทศทม่ี ีชาวมุสลมิ ใหมากขึ้น ประเทศไทยในฐานะทีเ่ ปน ประเทศ
ทผี ลติ อาหารทส่ี าํ คญั ของโลก ผผู ลติ จงึ จําเปน ตอ งใหค วามสนใจในเครอื่ งหมายนอี้ ยา งจรงิ จงั ผทู เี่ กยี วขอ งตอ ง
เรยี นรู และอยบู นพน้ื ฐานของความเขา ใจอยา งถกู ตอ งเพอื่ เตรยี มความพรอ มของการผลติ สรา งฐานทแ่ี ขง็ แกรง
ใหกับประเทศตอไป
Codex ไดจ ัดทาํ เอกสาร General Guideline for use of the Term “ Halal “ ตง้ั แตป 2540 และ
สาํ นกั งานมาตรฐานผลติ ภณั ฑ อตุ สาหกรรม(สมอ.) ไดน าํ มาเรยี บเรยี งและจดั พมิ พเ ปน ภาษาไทยโดยไดย ดึ หลกั
และอางอิงเอกสารภาษาอังกฤษดังกลาว มอก.1701-2541 ZCAC GL- 24/1997) ขอแนะนําน้ีจัดทําข้ึน
เพ่ือใหประเทศตา ง ๆ มีความเขา ใจท่ตี รงกนั และมกี ารปฏบิ ัติอยา งถูกตองตามกฎของศาสนาอสิ ลาม ทัง้ ทาง
ดา นแหลง ทมี่ าของอาหาร วธิ กี ารฆา สตั ว การเตรยี มอาหาร การแปรรปู อาหาร การบรรจหุ บี หอ การขนสง และ
การเกบ็ รกั ษาอาหารอกี ทง้ั ยงั เปน การสง เสรมิ การคา กบั ประเทศมลุ ลมิ ทก่ี ําหนดมาตรการนาํ เขา อาหารฮาลาล
126 คมู ือมาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านสําหรบั เชฟชมุ ชน
สตู รอาหารถ่นิ จังหวัดสมทุ รสาคร
ความสาํ คัญและความหมายของอาหารฮาลาล
มุสลิมมีความศรัทธาวา “ไมมีพระเจาอ่ืนใดนอกจากอัลลอฮฺ นบีมุฮัมมัดเปนผูสื่อ (รอซูล) ของอัลลอฮฺ”
และมุสลิมมีความเช่ืออยางมั่นใจวา อัลลอฮฺ คือผูสรางมนุษยและสรรพสิ่งในจักรวาล ดังนั้น คาํ บัญชา
ของอัลลอฮฺ (อัล-กรุ อาน) คาํ สอนและแบบอยางของนบีมุฮัมมัด (ซุนนะห) จงึ เปน เรอ่ื งทม่ี สุ ลมิ จะตองปฏิบตั ิ
ตามดวยความจริงใจและจริงจัง กลาวคือ ปฏิบัติในส่ิงที่อนุมัติ (ฮาลาล) และไมปฏิบัติในส่ิงท่ีเปนขอหาม
(ฮารอม) ดวยความเตม็ ใจและยนิ ดี
ฮาลาล-ฮารอมในอิสลามจึงมิไดหมายความเพียงการบริโภคอาหารเทานั้น แตครอบคลุมถึงวิถีการดําเนิน
ชีวิตในทกุ ดาน เพราะอิสลามคือระบอบแหงการดาํ เนนิ ชวี ิตของมนุษย
อาหารฮาลาล (Halal Food) จงึ เปนสง่ิ จําเปน สาํ หรับมุสลิมในการบรโิ ภค สวนผูทีม่ ใิ ชมสุ ลมิ หากบริโภค
อาหารฮาลาลกจ็ ะไดป ระโยชนต อ สขุ ภาพเชน เดยี วกนั เพราะอาหารฮาลาลจะตอ งมกี ระบวนการผลติ ทถ่ี กู ตอ ง
ตามขอ บัญญตั แิ หงศาสนาอสิ ลาม ปราศจากสิ่งตองหา ม (ฮารอม) และมคี ณุ คา ทางอาหาร (ตอยยบิ )
หนา ทขี่ องผเู ชอื ดสตั วตามศาสนบัญญัติเพอื่ ใหไดเนือ้ สัตวทฮ่ี าลาล มดี ังนี้
ตอ งนบั ถือศาสนาอสิ ลาม
สัตวท ี่จะเชอื ดนนั้ ตองเปน สตั วท ร่ี บั ประทานไดต ามหลักศาสนาอิสลาม
ตอ งไมปะปนสตั วทจ่ี ะเชือดกับสัตวต อ งหา มในระหวา งขนสง
ตองไมท ารุณสตั วกอ นการเชอื ด ตลอดจนอปุ กรณทีใ่ ชในการเชอื ดตอ งมีความคม
ใหผ ูเชือดกลา วพระนามของพระผเู ปนเจา ขณะเรม่ิ ทําการเชือด โดยตองเชือดในคราวเดียวกันใหแลวเสร็จ
โดยไมท รมานสตั ว
ตอ งเชอื ดใหห ลอดลม หลอดอาหารและเสน เลอื ดขา งลําคอของสตั วท ถ่ี กู เชอื ด ขาดออกจากกนั อยา งสนิ้ เชงิ
โดยสตั วจ ะตอ งตายเพราะการเชอื ดเทา นน้ั สตั วน น้ั ตอ งตายสนทิ เองกอ น จงึ จะนําไปดําเนนิ การอยา งอนื่ ตอ ได
ผปู ระกอบการ หรอื ผผู ลติ ผลิตภัณฑฮาลาล มหี นา ที่ ดังตอไปน้ี
รักษาอุปกรณในการผลิตผลิตภัณฑฮาลาลใหสะอาดถูกตองตามศาสนบัญญัติ ตลอดจนไมใชอุปกรณ
ดังกลาวรวมกับของตอ งหามตามศาสนบัญญตั ิ
วัตถดุ บิ หลกั ในการผลิต ตลอดจนเครื่องปรงุ อื่น ๆ ตอ งระบุแหลง ท่ีมาอนั นา เชื่อถือไดวา “ฮาลาล” โดยไม
แปดเปอนกับสง่ิ ตองหาม
วตั ถดุ บิ ท่ีไดจากสัตวตา ง ๆ นนั้ ตองเปน สตั วทีศ่ าสนาอสิ ลามอนมุ ตั ิ และหรือไดเชือดตามศาสนบัญญตั ิ
เจา หนาท่ที ี่ควบคมุ การผลติ หรือปรุงผลิตภณั ฑนน้ั ๆ ตองเปนมสุ ลิม
ในระหวา งการขนยาย ขนสง หรอื จาํ หนายผลิตภณั ฑฮ าลาลนั้น ตองไมปะปนผลิตภณั ฑฮาลาลนน้ั ตองไม
ปะปนผลิตภณั ฑฮาลาลกับสิ่งตอ งหา มตามศาสนบญั ญัติ
Credit : https://www.acfs.go.th/halal/general.php
คูม อื มาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านสําหรบั เชฟชุมชน 127
สูตรอาหารถนิ่ จังหวดั สมุทรสาคร
การถนอมอาหาร
การถนอมอาหารเปน การเกบ็ รกั ษาอาหารไวเ ปน เวลานานโดยไมใ หอ าหารนน้ั เกดิ การเสอ่ื มเสยี และยงั คงอยใู นสภาพทเ่ี ปน ทยี่ อมรบั
ของผบู รโิ ภค ประวตั ขิ องการถนอมอาหารนนั้ เกดิ ขนึ้ เมอื่ ประมาณ 1,500 ปม าแลว และไดม กี ารพฒั นามาเรอื่ ย ๆ จนถงึ ยคุ ปจ จบุ นั
ในประเทศไทยนนั้ ไดแ บง ออกเปน 5 ยคุ คอื
ยคุ แรก( กอ นป พ.ศ. 2503 ) ยคุ ทสี่ อง ( พ.ศ. 2503-2513 ) ยคุ ทสี่ าม ( พ.ศ. 2513-2523 )
ยคุ ทสี่ ี่ ( พ.ศ. 2523-2533 ) และยคุ ทห่ี า ( พ.ศ. 2533-2543 )
ความสาํ คญั ของการถนอมอาหารมหี ลายประการ ไดแ ก ชว ยบรรเทาความขาดแคลนอาหาร ชว ยใหเ กดิ การกระจายอาหาร ชว ยให
มอี าหารบรโิ ภคนอกฤดกู าล ใชอ าหารเหลอื ใหเ กดิ ประโยชน ชว ยใหเ กดิ ความสะดวก ชว ยยดื อายกุ ารเกบ็ รกั ษาอาหารไวใ หไ ดน าน
เกิดผลิตภัณฑอาหารชนิดใหม ชวยสงเสริมใหเกิดอาชีพ และชวยเพ่ิมมูลคาของผลผลิตทางการเกษตรและลดปญหาผลผลิต
ลน ตลาด ในการถนอมอาหารนนั้ วตั ถดุ บิ มคี วามสาํ คญั มาก ผผู ลติ ตอ งสามารถเลอื กซอื้ วตั ถดุ บิ ทดี่ ไี ดไ มว า จะเปน วตั ถดุ บิ ทางดา นผลติ ผล
จากสตั วห รอื พชื เนอ่ื งจากผลผลติ จะมคี ณุ ภาพดนี น้ั ยอ มตอ งมาจากวตั ถดุ บิ ทด่ี ี
ขณะเดยี วกนั อาหารสาํ เรจ็ รปู และกง่ึ สาํ เรจ็ รปู ทผ่ี ลติ ออกมาจาํ หนา ยนนั้ จะตอ งมกี ารจดั วางสนิ คา ทด่ี ี สว นผบู รโิ ภคจะไดส นิ คา
ที่ดีไปบริโภคก็ตองรจู ักพิจารณาเลือกสินคาท่ีมีคุณภาพและหลังจากซื้อไปแลวก็ตองรจู ักวิธีการจัดเก็บและการนาํ ไปใชที่ถูกตอง
ทางดา นหลกั การในการถนอมอาหารนนั้ มหี ลกั สาํ คญั อยู 2 ประการ คอื การรกั ษาความสะอาดเพอ่ื ใหม กี ารปนเปอ นของเชอื้ จลุ นิ ทรยี
นอ ยทสี่ ดุ และการยบั ยง้ั การเจรญิ ของจลุ นิ ทรยี ท ปี่ นเปอ นในอาหารแลว โดยอาจทาํ ลายจลุ นิ ทรยี ท มี่ อี ยใู นอาหาร หรอื สง เสรมิ กจิ กรรม
ของเชอ้ื จลุ นิ ทรยี แ ละเอนไซมเ พอ่ื ยบั ยงั้ การเจรญิ ของจลุ นิ ทรยี ท ไ่ี มต อ งการ อยา งไรกต็ ามในการถนอมอาหารเพอื่ เกบ็ อาหารไวไ ดน าน
นน้ั ควรกระทาํ ดว ยความระมดั ระวงั ทางดา นการสขุ าภบิ าลอาหารทดี่ เี พอื่ ใหอ าหารมจี าํ นวนจลุ นิ ทรยี เ รมิ่ ตน นอ ยทส่ี ดุ จะดกี วา การ
ไมร ะมดั ระวงั ทางดา นความสะอาด
การถนอมอาหารมจี ดุ ประสงคท สี่ าํ คญั คอื ตอ งการทจ่ี ะเกบ็ รกั ษาอาหารไวใ หน านทส่ี ดุ ซงึ่ อาหารจะเกบ็ ไวไ ดน านโดยไมเ นา เสยี ก็
ตอ งหลกี เลยี่ งจลุ นิ ทรยี ไ มใ หเ จรญิ ในอาหาร ดงั นนั้ การทจี่ ะทาํ ใหจ ลุ นิ ทรยี ไ มส ามารถกอ ใหเ กดิ การเนา เสยี แกอ าหารทผ่ี า นการถนอม
อาหารไปแลว นน้ั มหี ลกั การดงั ตอ ไปนี้
การแยกจาํ นวนจลุ นิ ทรยี ท ท่ี าํ ใหเ กดิ โรคและทาํ ใหอ าหารเนา เสยี
โดยหลกั การนเ้ี ปน การแยกจลุ นิ ทรยี ท ที่ าํ ใหเ กดิ โรคและทาํ ใหอ าหารเนา เสยี ออกจากอาหารดว ยเครอื่ งกรองจลุ นิ ทรยี ห รอื อาศยั
แรงเหวยี่ งวธิ นี จี้ ะสามารถรกั ษากลน่ิ รสชาตแิ ละลกั ษณะทตี่ อ งการไดด กี วา การใชค วามรอ น
การลดกจิ กรรมของเอนไซมแ ละจลุ นิ ทรยี ท ที่ าํ ใหอ าหารเนา เสยี
หลกั การนเ้ี ปน การทาํ ใหก จิ กรรมของเอนไซมเ กดิ ไดช า ลง หรอื เปน กรลดการเจรญิ ของจลุ นิ ทรยี ใ นอาหารซง่ึ อาจทาํ ไดโ ดยการลด
อณุ หภมู ใิ หต าํ่ ลง การเปลยี่ นแปลง pH การลดคา aw ของอาหาร การกาํ จดั ออกซเิ จน และการใชส ารเคมที ม่ี ฤี ทธติ์ อ ตา นจลุ นิ ทรยี
การทาํ ลายจลุ นิ ทรยี ท ที่ าํ ใหเ กดิ โรค จลุ นิ ทรยี ท ที่ าํ ใหอ าหารเนา เสยี
และยบั ยง้ั การทาํ งานของเอนไซม การถนอมอาหารโดยหลกั การนม้ี งุ ทจี่ ะทาํ ลายจลุ นิ ทรยี ซ ง่ึ อาจเปน จลุ นิ ทรยี ท ท่ี าํ ใหอ าหารเนา
เสยี ไดซ ง่ึ ทาํ ไดโ ดยการใชค วามรอ นและการฉายรงั สี
การสง เสรมิ กจิ กรรมของจลุ นิ ทรยี แ ละเอนไซม
บางชนดิ ทไี่ มท าํ ใหเ กดิ โรคและไมท าํ ใหอ าหารเนา เสยี เจรญิ ขน้ึ ในอาหาร และสรา งสารตา งๆ เชน กรด แอลกอฮอล กา ซ ทท่ี าํ ให
สภาพแวดลอ มไมเ หมาะสมในการเจรญิ ของจลุ นิ ทรยี ท ท่ี าํ ใหเ กดิ โรคและจลุ นิ ทรยี ท ที่ าํ ใหอ าหารเนา เสยี จงึ ทาํ ใหอ าหารปลอดภยั ใน
การบรโิ ภคและถนอมอาหารไวไ ด ซง่ึ ทาํ ไดโ ดยการหมกั ดอง
ในการถนอมอาหารนน้ั สามารถกระทาํ ไดโ ดยหลกั การและวธิ กี ารทส่ี าํ คญั ดงั น้ี
การรกั ษาความสะอาด เปน วธิ กี ารทส่ี าํ คญั ทจ่ี ะปอ งกนั ไมใ หจ ลุ นิ ทรยี ป นเปอ นไปในอาหารเพราะในการแปรรปู อาหารแตล ะ
วธิ นี นั้ ปรมิ าณของจลุ นิ ทรยี เ รม่ิ ตน ทมี่ อี ยใู นอาหารจะมผี ลตอ การแปรรปู และเกบ็ รกั ษาอาหารทผี่ า นการแปรรปู แลว อยา งมาก วตั ถทุ ี่
ปนเปอ นสงิ่ สกปรกมากๆหรอื เกดิ การเนา เสยี ตงั้ แตเ รม่ิ ตน ไมค วรนาํ มาใชแ ปรรปู เพราะจะทาํ ใหผ ลติ ภณั ฑท ไ่ี ดม คี ณุ ภาพตา่ํ และไม
เปน ทย่ี อมรบั ของผบู รโิ ภครวมทงั้ กอ ใหเ กดิ อนั ตรายตอ ผบู รโิ ภคอกี ดว ย การรกั ษาความสะอาดเปน หวั ใจสาํ คญั ในการถนอมอาหารและ
ควรตระหนักอยตู ลอดเวลาในการทาํ งาน โดยจะตองเอาใจใสในการรักษาความสะอาดต้ังแตการเตรียมวัตถุดิบไปจนถึงการเก็บ
ผลติ ภณั ฑท แ่ี ปรรปู แลว รวมทงั้ ภาชนะทใ่ี ชบ รรจแุ ละผสู มั ผสั อาหารทง้ั หมด
128 คูม ือมาตรฐานการปฏิบัติงานสําหรบั เชฟชุมชน
สตู รอาหารถ่ินจงั หวดั สมุทรสาคร
การยบั ยงั้ การเจรญิ ของจลุ นิ ทรยี ตามทไ่ี ดก ลา วมาแลว ในเรอื่ งของความสะอาดแลว นนั้ แมว า ในการถนอมอาหารจะมกี ารรกั ษา
ความสะอาดสกั เพยี งใดกต็ าม แตก ไ็ มส ามารถทจี่ ะปอ งกนั จลุ นิ ทรยี ไ มใ หป นเปอ นลงไปในอาหารขณะทาํ การเตรยี มได เพราะจลุ นิ ทรยี
เปน สงิ่ ทมี่ องไมเ หน็ ไดด ว ยตาเปลา ดงั นนั้ เมอ่ื ไมส ามารถหลกี เลยี่ งการปนเปอ นของจลุ นิ ทรยี ล งในอาหารได วธิ กี ารทดี่ ที สี่ ดุ ทจ่ี ะถนอม
อาหารไวใ หไ ดน านกค็ อื จะตอ งยบั ยงั้ หรอื ทาํ ลายจลุ นิ ทรยี ท ป่ี นเปอ นในอาหารเหลา นนั้ ซง่ึ วธิ กี ารทนี่ าํ มาใชก นั อยา งแพรห ลายในปจ จุ
ปน มอี ยดู ว ยกนั 6 วธิ ี คอื
การถนอมอาหารโดยใชค วามรอ น
โดยความรอ นจะสามารถทาํ ลายจลุ นิ ทรยี แ ละเอนไซมท ม่ี อี ยใู นธรรมชาตไิ ด ซงึ่ เปน สาเหตใุ หอ าหารเสอื่ มเสยี การใชค วามรอ นใน
การยดื อายกุ ารเกบ็ รกั ษาอาหารและลดจลุ นิ ทรยี ท ที่ าํ ใหเ กดิ โรค อาจทาํ ไดโ ดยวธิ กี ารดงั น้ี
1. การความรอ นระดบั พาสเจอรไ รส (Pasteurization) เปน การฆา เชอ้ื จลุ นิ ทรยี โ ดยใชค วามรอ นตาํ่ กวา จดุ เดอื ด คอื ใชอ ณุ หภมู ิ
ประมาณ 60-85 องศาเซลเซยี ส โดยมงุ ทาํ ลายจลุ นิ ทรยี ท ที่ าํ ใหเ กดิ โรค ความรอ นระดบั นี้ จะทาํ ใหอ าหารปลอดภยั จากเชอื้ จลุ นิ ทรยี
ทที่ าํ ใหเ กดิ โรคตอ มนษุ ย จลุ นิ ทรยี ท ไี่ มท นความรอ น รวมทง้ั จลุ นิ ทรยี ส ว นใหญท อี่ ยใู นรปู ของเซลล แตไ มส ามารถยบั ยง้ั การทาํ งาน
ของเอนไซมท กุ ชนดิ
2. การใชค วามรอ นระดบั สเตอรไิ ลส( Sterilization)เปน การทาํ ลายจลุ นิ ทรยี ท งั้ หมดทม่ี อี ยใู นอาหาร รวมทงั้ สปอร และยบั ยง้ั การ
ทาํ งานของเอนไซมท กุ ชนดิ โดยใชค วามรอ นระดบั สงู กวา จดุ เดอื ด ประมาณ 100-130 องศาเซลเซยี ส จงึ เปน วธิ ที ม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพมาก
ในการถนอมอาหาร อาหารทผ่ี า นการใหค วามรอ นแลว จะตอ งบรรจใุ นระบบสญุ ญากาศและในภาชนะบรรจทุ ป่ี ด สนทิ เพอ่ื ปอ งกนั ไม
ใหม กี ารปนเปอ นของจลุ นิ ทรยี เ ขา ไปในอาหารอกี
การถนอมอาหารโดยใชค วามเยน็
เปน การลดอณุ หภมู ขิ องอาหารลงใหต า่ํ กวา 10๐C เพอ่ื ทาํ ใหก ระบวนการเมทาบอลซิ มึ ( Metabolism ) และการเจรญิ ของ
จลุ นิ ทรยี รวมทง้ั กจิ กรรมของเอนไซมเ กดิ ไดช า ลง จงึ เปน การยบั ยง้ั การเจรญิ ของจลุ นิ ทรยี เ ทา นน้ั แตไ มส ามารถทาํ ลายเชอื้ จลุ นิ ทรยี
ได การลดอณุ หภมู ใิ หต าํ่ ลงอาจทาํ ไดโ ดยวธิ กี าร ดงั นี้
1. การแชเ ยน็ ( Chilling ) เปน วธิ กี ารใชอ ณุ หภมู ติ าํ่ ในระดบั ตเู ยน็ เพอ่ื เกบ็ รกั ษาอาหารสดหรอื อาหารทผี่ า นกระบวนการแปรรปู
ใหส ามารถเกบ็ ไวไ ดน านกวา ทอ่ี ณุ หภมู หิ อ ง เพราะอณุ หภมู ติ า่ํ ทาํ ให จลุ นิ ทรยี เ จรญิ ไดช า ลง จงึ ไมส ามารถแบง ตวั เพมิ่ จาํ นวนและทาํ ให
อาหารเนา เสยี ได อณุ หภมู ริ ะดบั นยี้ งั ชว ยปอ งกนั การเสอ่ื มเสยี เชน การเหยี่ วของกะหลา่ํ ปลี การหนื ของไขมนั และการเปรย้ี วของ
นาํ้ นมได
2. การแชเ ยอื กแขง็ ( Freezing ) เปน การใชอ ณุ หภมู ทิ รี่ ะดบั ตา่ํ กวา จดุ เยอื กแขง็ ของนาํ้ (0 ๐C) เพอื่ ปอ งกนั และยบั ยง้ั การเจรญิ
ของจลุ นิ ทรยี โดยการแชเ ยอื กแขง็ เปน การทาํ ใหน า้ํ อสิ ระในอาหารกลายเปน นาํ้ แขง็ จลุ นิ ทรยี จ งึ ไมส ามารถนาํ นาํ้ อสิ ระนนั้ มาใชใ นการ
เจรญิ ได อณุ หภมู ทิ ต่ี า่ํ มากจนถงึ –10 ๐C ยงั ทาํ ใหจ ลุ นิ ทรยี ไ มส ามารถเจรญิ ไดช า แตห ากจะปอ งกนั การเปลยี่ นแปลงสี หรอื กลน่ิ รส
ของอาหารจากปฎกิ ริ ยิ าของเอนไซมจ ะตอ งลดอณุ หภมู ใิ หต าํ่ กวา –18๐C สาํ หรบั ผกั ผลไม จะตอ งทาํ ลายเอนไซมด ว ยการลวกกอ น
ทจี่ ะนาํ ไปแชเ ยอื กแขง็
การถนอมอาหารโดยการทาํ ใหแ หง
เปน การลดปรมิ าณนา้ํ ในอาหาร ซงึ่ จะมผี ลทาํ ใหก ระบวนการเมทาบอลซิ มึ และการเจรญิ ของจลุ นิ ทรยี เ กดิ ไดช า ลง ทงั้ ยงั เปน การ
ลดอตั ราเรว็ ของปฏกิ ริ ยิ าการหนื ของไขมนั เนอื่ งจากปฏกิ ริ ยิ าไฮโดรไลซสิ ( Hydrolysis ) รวมทงั้ ลดกจิ กรรมเอนไซมด ว ย การทาํ ให
อาหารแหง อาจทาํ ได 2 วธิ ี คอื
1. การทาํ ใหอ าหารแหง โดยอาศยั ธรรมชาติ หรอื อาศยั การผงึ่ ลมเชน ปลา เนอ้ื สตั ว เมลด็ ธญั พชื ผลไม เชน กลว ย องนุ มะมว ง ผกั
เชน หนอ ไม และเครอื่ งเทศบางชนดิ เปน วธิ ที นี่ ยิ มใชก นั แพรห ลายในประเทศทก่ี าํ ลงั พฒั นาและมแี สงแดดเพยี งพอ เชน ประเทศในแถบ
รอ นศนู ยส ตู ร เพราะตน ทนุ ตา่ํ ทาํ ไดง า ยโดยไมม เี ทคนคิ และหลกั วชิ าการเขา ไปเกยี่ วขอ ง แตผ ลติ ภณั ฑท ไ่ี ดจ ะมคี ณุ ภาพตา่ํ เนอ่ื งจาก
ไมส ามารถควบคมุ อตั ราเรว็ ในการทาํ แหง ได คอื จะทาํ ไดก ต็ อ เมอื่ มแี สงแดดเทา นนั้ ดงั นนั้ อาจทาํ ใหอ าหารแหง ไมต อ เนอื่ ง เปน ผลทาํ ให
อาหารเนา เสยี ระหวา งรอการตากแดดครงั้ ตอ ไป การตากแดดยงั ทาํ ใหอ าหารแหง ไมต อ เนอ่ื ง เปน ผลใหอ าหารเนา เสยี ระหวา งรอการ
ตากแดดครงั้ ตอ ไป การตากแดดยงั ทาํ ใหส ญุ เสยี คณุ คา ทางอาหารมาก และไดผ ลติ ภณั ฑไ มค อ ยสะอาดดว ย
2. การทาํ ใหอาหารแหงโดยอาศัยวิธีกลเขาชวย วิธีนี้เปนการนาํ หลักการทางวิทยาศาสตรและเครื่องมือ เคร่ืองใช ตลอดจน
เทคโนโลยเี ขา ชว ย โดยอาศยั การสง ความรอ นเขา ไปในชน้ิ อาหารเพอื่ ทาํ ใหน า้ํ หรอื ความชนื้ กลายเปน ไอระเหยออกไปจากผวิ หนา ของ
คูมือมาตรฐานการปฏิบัติงานสําหรับเชฟชมุ ชน 129
สูตรอาหารถิน่ จังหวดั สมุทรสาคร
อาหาร ความรอ นทส่ี ง เขา ไปในอาหารนนั้ อาจโดยการนาํ ความรอ น การพาความรอ นหรอื การแผร งั สกี ไ็ ด แตเ ครอ่ื งทาํ แหง สว นใหญจ ะ
ใชห ลกั การสง ผา นความรอ นดว ยการนาํ หรอื การพาความรอ น การทาํ ใหอ าหารแหง โดยวธิ นี ี้ สามารถควบคมุ สภาวะแวดลอ มในการทาํ
แหง ได เชน อณุ หภมู ิ ความชนื้ การหมนุ เวยี นของอากาศ ใชพ นื้ ทแี่ ละใชเ วลาในการทาํ แหง ไดน อ ยกวา การทาํ แหง โดยวธิ ธี รรมชาติ ทง้ั
ยงั ไดผ ลติ ภณั ฑท มี่ คี ณุ ภาพสมาํ่ เสมอ
การถนอมอาหารโดยการหมกั ดอง
เปน กระบวนการทเี่ ชอ้ื จลุ นิ ทรยี ย อ ยสลายคารโ บไฮเดรต ภายใตส ภาพทม่ี หี รอื ไมม อี ากาศเปน การสง เสรมิ ใหจ ลุ นิ ทรยี ไ ดอ ยา ง
รวดเรว็ พรอ มกบั ผลติ สารบางชนดิ ทเี่ ปน สารกนั เสยี ขน้ึ ซงึ่ ตา งจากการถนอมอาหารอนื่ ๆ ทม่ี วี ตั ถปุ ระสงคใ นการทาํ ลายจลุ นิ ทรยี
และเอนไซมธ รรมชาตใิ นอาหารทที่ าํ ใหอ าหารเกดิ การเสอื่ มเสยี การหมกั ดองจะทาํ ให pH ของอาหารลดตาํ่ ลงจากกรดทจี่ ลุ นิ ทรยี
ปลอ ยออกมาในระหวา งการหมกั
การหมกั ดองนอกจากจะเปน การชว ยถนอมอาหารใหเ กบ็ รกั ษาไดน านขนึ้ แลว ยงั ทาํ ใหอ าหารทไ่ี ดจ ากการหมกั มคี วามปลอดภยั
ในการบรโิ ภค อนั เนอ่ื งมาจากสารพษิ โบทลู ซิ มึ ( Botulism ) ซงึ่ ผลติ จากเชอื้ Clostridium botulinum ทที่ าํ ใหเ กดิ อาหารเปน
พษิ ดว ย เพราะในอาหารทผี่ า นการหมกั pH จะลดลงตา่ํ กวา 4.5 ซง่ึ ในสภาพทมี่ คี วามเปน กรดตา่ํ ระดบั นี้ จะทาํ ใหเ ชอื้ Clostridium
botulinum ไมส ามารถเจรญิ และสรา งสารพษิ ดงั กลา วไดต วั อยา งของอาหารทถ่ี นอมโดยการหมกั ดอง เชน กะหลาํ่ ปลดี อง นา้ํ สม
สายชู โยเกริ ต และไวน
การถนอมอาหารโดยการใชส ารเคมี
สารเคมที มี่ ฤี ทธต์ิ อ ตา นฤทธจ์ิ ลุ นิ ทรยี ไดแ ก
1. ควนั ทไ่ี ดจ ากการรมควนั อาหาร ประกอบดว ยสารพวกฟน อล ( Phenol ) ครซี อล (Cresol ) กรดฟอรม กิ กรดแอซตี กิ และ
เมทลิ แอลกอลฮอล ซง่ึ จะทาํ ใหเ มแทบอลซิ มึ และการเจรญิ ของจลุ นิ ทรยี เ กดิ ชา ลง
2. แอลกอฮอล จะดงึ นาํ้ ออกจากอาหารจากอาหารแและจลุ นิ ทรยี จงึ ทาํ ใหเ มแทบอลซิ มึ และการเจรญิ ของจลุ นิ ทรยี เ กดิ ชา ลง
3. สารกนั เสยี ไดแ ก สารเคมที ส่ี ามารถปอ งกนั การเนา เสยี ของอาหาร เชน กรดเบนโซอกิ กรดซอรบ กิ เกลอื ซลั ไฟต สารเหลา น้ี
จะทาํ ใหจ ลุ นิ ทรยี เ จรญิ ชา ลงสว นสารเคมที ใ่ี ชก นั ในครวั เรอื นของไทยมาตง้ั แตโ บราณนนั้ ไดแ ก นา้ํ ตาล เกลอื และนาํ้ สม สายชู ซงึ่ มผี ล
ในการถนอมอาหาร ดงั นี้
4. นาํ้ ตาล นาํ้ ตาลจะรวมกบั นา้ํ อสิ ระในอาหารทาํ ใหไ มม นี า้ํ หรอื ความชน้ื ทจี่ ลุ นิ ทรยี จ ะใชใ นการเจรญิ ได นอกจากนนี้ า้ํ ตาลยงั
สามารถดงึ นาํ้ ออกจากเซลลข องจลุ นิ ทรยี ด ว ย การถนอมอาหารดว ยวธิ กี ารเตมิ นา้ํ ตาลมกั ใชใ นผลไมแ ละนา้ํ ผลไม เชน แยม นาํ้ ผลไม
เขม ขน ผลไมเ ชอื่ ม ปรมิ าณนาํ้ ตาลทใี่ ชเ พอื่ การถนอมจะตอ งมคี วามเขม ขน รอ ยละ 60-70
5. เกลอื เกลอื จะรวมกบั นา้ํ อสิ ระในอาหาร ทาํ ใหไ มม นี า้ํ หรอื ความชนื้ ทจี่ ลุ นิ ทรยี ใ ชใ นการเจรญิ ได และยงั สามารถดงึ นาํ้ ออกจาก
เซลลข องจลุ นิ ทรยี ไ ดเ ชน เดยี วกบั การเตมิ นา้ํ ตาล จลุ นิ ทรยี จ งึ ไมส ามารถเจรญิ และทาํ ใหอ าหารเนา เสยี ได การถนอมอาหารดว ยการ
เตมิ เกลอื นม้ี กั ใชก บั ผกั ผลไม เนอื้ ปลา
6. นา้ํ สม สายชู จะทาํ ใหก จิ กรรมของจลุ นิ ทรยี ซง่ึ ทาํ ใหอ าหารเนา เสยี เกดิ ไดช า ลง โดยการทาํ ใหอ าหารมี pH ตาํ่ ลง หรอื มคี วาม
เปน กรดมากขนึ้ ซง่ึ มผี ลทาํ ใหส ภาวะแวดลอ มไมเ หมาะสมตอ การเจรญิ ของจลุ นิ ทรยี อาหารจงึ ไมเ นา เสยี
การถนอมอาหารโดยใชร งั สี
รงั สชี นดิ ทแี่ ตกตวั ได ( Ionizing Radiation ) ทม่ี ชี ว งคลนื่ สน้ั สามารถทยี่ บั ยงั้ การเจรญิ การเจรญิ ของจลุ นิ ทรยี การทาํ งานของ
เอนไซม และการเจรญิ เตบิ โตของไขแ ละตวั ออ นของแมลงไดด ี ทง้ั ยงั สามารถปอ งกนั การงอกของผกั และผลไม โดยยงั คงคณุ คา ทาง
โภชนาการเนอื้ สมั ผสั และรสชาตขิ องอาหารไดด ี หากใชใ นปรมิ าณตาํ่ เมอ่ื รงั สที ะลผุ า นเนอื้ อาหารจะทาํ ลายหรอื ยบั ยงั้ การเจรญิ ของ
จลุ นิ ทรยี กลายเปน อนมุ ลู อสิ ระทมี่ คี วามวอ งไวในการทาํ ปฏกิ ริ ยิ ามาก แตร งั สอี าจทาํ ใหส ารอน่ื ๆ ทมี่ อี ยใุ นอาหารเกดิ การเปลยี่ นแปลง
และมผี ลตอ คณุ ภาพของอาหารเชน วติ ามนิ ตา ง ๆ ถกู ทาํ ลาย เกดิ การเปลย่ี นแปลงสี กลนิ่ รส ถา ฉายรงั สใี นปรมิ าณทมี่ ากเกนิ ไปกอ็ าจ
มผี ลเสยี ตอ อาหาร เชน เกดิ สารกอ มะเรง็ ขนึ้ การฉายรงั สอี าหารจงึ ตอ งใชใ นปรมิ าณทเี่ หมาะสม กบั อาหารนนั้ รงั สชี นดิ ทแ่ี ตกตวั ได
และมชี ว งคลนื่ สนั้ ทมี่ ปี ระโยชนใ นการถนอมอาหารมี 3 ชนดิ คอื รงั ส-ี แกมมา ( Gamma Radiation ) รงั สเี อกซ ( X - Radiation )
และอเิ ลก็ ตรอนกาํ ลงั สงู ( High Speed Electron )
CREDIT : http://www.human.cmu.ac.th/home/hc/ebook/006103/lesson6/03.htm
130 คมู ือมาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านสาํ หรบั เชฟชุมชน