The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by welfarektb.div, 2022-01-06 00:41:05

แกนนำเยาวชน

คู่มือ








คู่มือ พัฒนาศักยภาพ


พัฒนาศักยภาพ

แกนน�าวัยรุ่น
แกนน�าวัยรุ่น








105
















105




























ส�ำนักอนำมัยกำรเจริญพันธ์ุ ส�ำนักอนำมัยกำรเจริญพันธ์ุ

กรมอนำมัย กระทรวงสำธำรณสุข กรมอนำมัย กระทรวงสำธำรณสุข
http://rh.anamai.moph.go.th http://rh.anamai.moph.go.th

คู่มือ








พัฒนาศักยภาพ






แกนน�าวัยรุ่น


























105

ชื่อหนังสือ คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น
ISBN 978-616-11-3427-3

จัดท�าโดย ส�านักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
พิมพ์ครั้งที่ 1 กรกฎาคม 2560

จ�านวนที่พิมพ์ 1,300 เล่ม
จัดพิมพ์และเผยแพร่โดย ส�านักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย
ถนนติวานนท์ อ�าเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี

โทรศัพท์ 0 2590 4238 โทรสาร 0 2590 4163
http://rh.anamai.moph.go.th

พิมพ์ที่ โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ�ากัด

ค�ำน�ำ









กรมอนามัย โดยสานักอนามัยการเจริญพันธุ์ จัดทาคู่มือการพัฒนาศักยภาพแกนนาวัยรุ่น โดยม ี

วัตถุประสงค์ เพ่อให้แกนนาวัยรุ่นมีเจตคติท่ด มีความรู้ท่ถูกต้อง และฝึกทักษะต่างๆ ท่จาเป็นต่อการป้องกัน











การต้งครรภ์ในวัยรุ่นและปัญหาพฤติกรรมสุขภาพอ่นๆ ท่เก่ยวข้องของวัยรุ่น รวมท้งสนับสนุนให้เกิดรูปแบบ






การทางานแบบเพ่อนช่วยเพ่อน ในการให้ความรู้ การให้คาปรึกษาเบ้องต้น และส่งต่อภาคีเครือข่าย เพ่อการดูแล

ช่วยเหลือวัยรุ่นได้ตามความเหมาะสม คู่มือการพัฒนาศักยภาพแกนนาวัยรุ่น ประกอบด้วย แผนการจัดกิจกรรม



การเรียนรู้ท่ครอบคลุมสาระการเรียนรู้จานวน 3 หมวด ประกอบด้วย หมวดท 1 เร่องการส่งเสริมคุณค่าแห่งตน



ประกอบด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จานวน 2 แผน คือ เร่องค่าของตนสร้างคนให้สมดุล และสวยหล่อ


ไม่ขอเส่ยง หมวดท 2 เร่องความรอบรู้เร่องเพศและการป้องกันการต้งครรภ์ในวัยรุ่น ประกอบด้วย แผนการจัด





กิจกรรมการเรียนรู้ จ�านวน 3 แผน คือ เรื่องรู้จักและเท่าทัน รักเป็น...ปลอดภัย และชีวิตออกแบบได้ (ผลกระทบ



จากการต้งครรภ์ไม่พึงประสงค์) หมวดท 3 เร่องการส่งเสริมและช่วยเหลือเพ่อนวัยรุ่น ประกอบด้วย แผนการ


จัดกิจกรรมการเรียนรู้ จ�านวน 2 แผน คือ เรื่อง พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559
สิ่งส�าคัญที่วัยรุ่นควรรู้ และการให้ค�าปรึกษาเพื่อนช่วยเพื่อน
ขอขอบคุณผู้บริหารกรมอนามัย อาจารย์จากคณะพยาบาลศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์ และคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ครูและนักเรียนสังกัดสานักงานคณะกรรมการ

การศึกษาข้นพ้นฐาน และสังกัดสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย บุคลากร



สาธารณสุขจากสังกัดส�านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค กรมสุขภาพจิต และกรมอนามัย ที่ได้ให้





















คาแนะนา ปรบปรงเนอหา ทาให้ค่มอนมความสมบรณ์ยงขน และเผยแพร่ให้ผ้สนใจนาไปประยกต์ใช้ให้เกด
การพัฒนาต่อยอดความรู้สู่คุณค่าที่ยั่งยืน
กรมอนามัย หวังเป็นอย่างย่งว่า คู่มือการพัฒนาศักยภาพแกนนาวัยรุ่น คงจะเป็นประโยชน์ต่อบุคลากร


สาธารณสุขหรือหน่วยงานท่เก่ยวข้องในการพัฒนาศักยภาพแกนนาวัยรุ่น ส่งเสริมให้วัยรุ่นเข้าถึงการรับบริการ



และสนับสนุนให้เกิดรูปแบบกิจกรรมเพ่อนช่วยเพ่อนในการให้ความรู้ การให้คาปรึกษาเบ้องต้น และการส่งต่อ




ภาคีเครือข่ายเพื่อการดูแลช่วยเหลือวัยรุ่นได้ตามความเหมาะสมต่อไป
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น ก

4 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

สำรบัญ


หน้า
ค�าน�า ก

สารบัญ ข
บทน�า ค

ค�าแนะน�าการใช้คู่มือ 1
โครงสร้างหลักสูตร 3
ตารางการอบรมพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 6



หมวดที่ 1 การส่งเสริมคุณค่าแห่งตน 7

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 ค่าของตน สร้างคนให้สมดุล 9
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 2 สวยหล่อ ไม่ขอเสี่ยง 12



หมวดที่ 2 ความรอบรู้เรื่องเพศและการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น 17
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 3 รู้จักและเท่าทัน 19

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 4 รักเป็น...ปลอดภัย 22
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 5 ชีวิตออกแบบได้ (ผลกระทบจากการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์) 31



หมวดที่ 3 การส่งเสริมและช่วยเหลือเพื่อนวัยรุ่น 35
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 6 พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 37

สิ่งส�าคัญที่วัยรุ่นควรรู้
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 7 การให้ค�าปรึกษาเพื่อนช่วยเพื่อน 41



ภาคผนวก 47
แบบทดสอบก่อน-หลังการอบรม 49

เฉลยแบบทดสอบก่อน-หลังการอบรม 51
ตัวอย่างรูปโครงร่างวัยรุ่น ชาย หญิง 53
ตัวอย่างรูปต้นไม้เป้าหมายชีวิต 54



รายชื่อภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง 57



บรรณานุกรม 60







คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น ข

6 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

บทน�ำ






กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคตามกลุ่มวัย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น


มีการกาหนดยุทธศาสตร์การจัดบริการท่มีคุณภาพมาตรฐานครอบคลุมและเข้าถึงวัยรุ่นทุกกลุ่ม ท้งในสถานบริการ


สาธารณสุข สถานศึกษาและชุมชน โดยมีมาตรการท่สาคัญคือ การจัดบริการสุขภาพที่เป็นมิตร สอดคล้อง


กับความต้องการและบริบทของวัยรุ่น เน้นการดูแลสุขภาพวัยรุ่นแบบองค์รวม ท้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต พัฒนาการ


ด้านการเรียนรู้ อารมณ์ และสังคม ท้งน กรมวิชาการของกระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย กรมควบคุมโรค

และกรมสุขภาพจิต ร่วมกันจัดทายุทธศาสตร์และขับเคล่อนการดาเนินงานแบบบูรณาการตามยุทธศาสตร์





การพัฒนากลุ่มวัยรุ่น ภายใต้กรอบการบูรณาการด้านยุทธศาสตร์กลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ท 2

การจัดบริการท่มีคุณภาพมาตรฐานครอบคลุมและเข้าถึงวัยรุ่นทุกกลุ่มในสถานบริการสาธารณสุข สถานศึกษา
และชุมชน โดยมาตรฐานบริการสุขภาพที่เป็นมิตรส�าหรับวัยรุ่นและเยาวชน (Youth Friendly Health Services :



YFHS) ได้กาหนดให้องค์ประกอบท 2 การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและการสร้างความต้องการในการใช้บรการ พบว่า


ปัจจัยสู่ความสาเร็จในการเข้าถึงบริการสุขภาพท่เป็นมิตรสาหรับวัยรุ่นและเยาวชน ส่วนใหญ่คือการจัดบริการ


เชิงรับเชิงรุกท่สอดคล้องกับความต้องการของวัยรุ่นและเยาวชน รวมท้งแกนนาวัยรุ่นเป็นจุดเช่อมต่อสาหรับ







การเข้าถึงบริการของวัยรุ่น นอกจากน้นยังมีเป้าหมายเพ่อให้วัยรุ่นเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและใช้บริการสุขภาพ
ตามความเหมาะสม เพื่อสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559




ในมาตรา 5 ว่าด้วย “วยร่นมสิทธิตัดสินใจด้วยตนเอง และมสิทธได้รับข้อมูลข่าวสารและความรู้ ได้รบการบริการ


อนามัยการเจริญพันธุ์ ได้รับการรักษาความลับและความเป็นส่วนตัว ได้รับการจัดสวัสดิการสังคมอย่างเสมอภาค



และไม่ถูกเลือกปฏิบัติและได้รับสิทธิอ่นใดท่เป็นไปเพ่อประโยชน์ตามพระราชบัญญัติน อย่างถูกต้อง ครบถ้วน


และเพียงพอ”
ดังนั้น กรมอนามัย โดยส�านักอนามัยการเจริญพันธุ์ ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่มีการด�าเนินงานของโรงพยาบาล
ท่ผ่านมาตรฐานบริการสุขภาพท่เป็นมิตรสาหรับวัยรุ่นและเยาวชนได้จัดคู่มือการพัฒนาศักยภาพแกนนาวัยรุ่น







เพ่อให้บุคลากรด้านสาธารณสุขและผู้เก่ยวข้องได้ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาศักยภาพแกนนาวัยรุ่น โดยมุ่งหวัง
ให้วัยรุ่นได้รับข้อมูลข่าวสาร ได้รับคาปรึกษาและเข้าถึงบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ เพ่อป้องกันและแก้ไขปัญหา


การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น




คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น ค



ค�ำแนะน�ำกำรใช้คู่มือ





1. วิทยำกร

ศึกษาวัตถุประสงค์และกิจกรรมของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ท�าความเข้าใจและเตรียมสื่อการสอน


และเอกสารประกอบการสอน ท้งน้วิทยากรสามารถปรับตัวอย่างหรือกิจกรรมให้สอดคล้องกับบริบทของพ้นท ี ่

และวัตถุประสงค์ของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้


2. กลุ่มเป้ำหมำย
วัยรุ่นชายและหญิงอายุประมาณ 12 - 20 ปี จ�านวนประมาณ 30 คน ต่อรุ่น (ปรับตามความเหมาะสม)



3. ระยะเวลำฝึกอบรม
ระยะเวลา 2 วัน



4. กระบวนกำรอบรม
ก่อนการอบรม

l ท�าแบบทดสอบก่อนการอบรม (ทดสอบความรู้และทัศนคติ)
l กิจกรรมความคาดหวังก่อนการอบรม (เขียนใส่กระดาษ)

l ท�าข้อตกลงร่วมกัน
l กิจกรรมละลายพฤติกรรมและการแบ่งกลุ่ม
l ผู้เข้ารับการอบรมประมาณ 30 คน ควรแบ่งเป็น 3 กลุ่ม


ระหว่างการอบรม
l สร้างการมีส่วนร่วมและการเรียนรู้ของผู้เข้ารับการอบรมในแต่ละกิจกรรมโดยใช้กระบวนการเรียนรู้

แบบมีส่วนร่วม (Participatory Learning)
l ควรใช้บัตรเสริมพลัง โดยวิทยากรใช้กระดาษขนาดประมาณธนบัตร พิมพ์คะแนน เช่น 50 - 500 คะแนน


(กาหนดคะแนนตามความเหมาะสม) เพ่อเป็นการเสริมพลังให้แต่ละกลุ่ม เม่อผู้เข้ารับการอบรม



มีส่วนร่วมในการทากิจกรรม เช่น ตอบคาถาม ความสามัคคีในกลุ่ม ตรงต่อเวลา กล้าแสดงออก



หรือสามารถทากิจกรรมต่างๆ ได้ตามเกณฑ์ท่วิทยากรกาหนด ก็จะได้รับคะแนนเป็นบัตรเสริมพลัง
(จ�านวนคะแนนแล้วแต่ดุลยพินิจของวิทยากร) ซึ่งวันสุดท้ายของการอบรม รวมคะแนนของแต่ละกลุ่ม
และมอบรางวัลเพื่อเป็นแรงจูงใจ
หลังการอบรม
l ท�าแบบทดสอบหลังการอบรม
l ท�าแบบประเมินความพึงพอใจ

l กิจกรรมสิ่งที่ได้รับหลังการอบรม (เขียนใส่กระดาษ)
l มอบเกียรติบัตรผู้เข้ารับการอบรม


คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 1

5. กำรประเมินผล
1. ความรู้ ทักษะและทัศนคติโดยการท�าแบบทดสอบ ก่อน – หลัง การอบรม

2. ประเมินผลการฝึกปฏิบัติ สังเกตพฤติกรรม การตอบค�าถาม และการมีส่วนร่วมของการท�ากิจกรรม
3. การประเมินความพึงพอใจ















































































2 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

โครงสร้ำงหลักสูตร





ประกอบด้วย 3 หมวด 7 แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้



หมวดที่ 1 การส่งเสริมคุณค่าแห่งตน ประกอบด้วย
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 ค่าของตน สร้างคนให้สมดุล

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 2 สวยหล่อ ไม่ขอเสี่ยง


หมวดที่ 2 ความรอบรู้เรื่องเพศและการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ประกอบด้วย

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 3 รู้จักและเท่าทัน
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 4 รักเป็น...ปลอดภัย

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 5 ชีวิตออกแบบได้ (ผลกระทบจากการตัั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์)


หมวดที่ 3 การส่งเสริมและช่วยเหลือเพื่อนวัยรุ่น ประกอบด้วย

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 6 พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์
ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 สิ่งส�าคัญที่วัยรุ่นควรรู้

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 7 การให้ค�าปรึกษาเพื่อนช่วยเพื่อน










































คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 3

ประเด็นส�ำคัญของแผนกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้

แผนการจัดกิจกรรม ชื่อเรื่อง ประเด็นส�าคัญ
การเรียนรู้

หมวดที่ 1 การส่งเสริมคุณค่าแห่งตน

1 ค่าของตน สร้างคนให้สมดุล การเรียนรู้และเข้าใจในคุณค่าและความส�าคัญ
ของตนเองและผู้อื่น

2 สวยหล่อ ไม่ขอเสี่ยง ค่านิยมหรือแฟชั่นของวัยรุ่น เรื่อง

l การบริโภคอาหาร การส่งเสริมให้วัยรุ่น
เลือกกินอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ


l การให้วัยรุ่นตระหนักถึงความเสี่ยงจากแฟชั่นนิยม
เช่น การจัดฟันแฟชั่น การสักร่างกาย การใส่บิ๊กอาย
เป็นต้น


l การรู้เท่าทันสื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ
สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างเหมาะสม

หมวดที่ 2 ความรอบรู้เรื่องเพศและการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
3 รู้จักและเท่าทัน การเรียนรู้ในการจัดการภาวะทางอารมณ์

ความรู้สึกทางเพศ

4 รักเป็น...ปลอดภัย การเรียนรู้และตระหนักถึงความส�าคัญ

l การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
และการตั้งครรภ์

l การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย
5 ชีวิตออกแบบได้ ผลกระทบจากการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ของวัยรุ่น

หมวดที่ 3 การส่งเสริมและช่วยเหลือเพื่อนวัยรุ่น

6 พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหา ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสิทธิของวัยรุ่น
การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น... สิ่งส�าคัญ ตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหา
ที่วัยรุ่นควรรู้ การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 และบทบาท

ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
7 การให้ค�าปรึกษาเพื่อนช่วยเพื่อน l การเสริมสร้างทัศนคติที่ดีในการสื่อสาร


l การให้ค�าปรึกษาเบื้องต้นและการส่งต่อเครือข่าย
เพื่อการดูแลกลุ่มเพื่อนวัยรุ่น














4 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

วัตถุประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมให้แกนน�าวัยรุ่นมีความรู้ เจตคติที่ดีต่อเรื่องเพศและการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น





2. สนับสนุนให้เกิดรูปแบบการทางานแบบเพ่อนช่วยเพ่อน การให้ความรู้ การให้คาปรึกษาเบ้องต้น

และการส่งต่อเครือข่ายเพื่อการดูแลช่วยเหลือวัยรุ่นได้ตามความเหมาะสม
เป้ำหมำยกำรน�ำคู่มือไปใช้




เพ่อให้บุคลากรสาธารณสุข หรือบุคลากรท่เก่ยวข้องด้านการให้ความช่วยเหลือวัยรุ่น นาหลักสูตรไปใช้
ในการพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่นทั้งในและนอกระบบสถานศึกษาตามความเหมาะสม

รูปแบบแนวทำงกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้



เพ่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีส่วนร่วมในการเรียนรู้มากท่สุด จึงได้นากระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม
(Participatory Learning) มาใช้ในการฝึกอบรม โดยมีหลักการ ดังนี้

กำรเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Participatory Learning)

การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม อาศัยหลักการเรียนรู้ท่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยมีพ้นฐานสาคัญ


คือประการแรก การเรียนรู้เชิงประสบการณ์ และประการที่สอง คือ การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
องค์ประกอบของการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ในการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม

1. ประสบการณ์ (experience) ผ้สอนช่วยให้ผ้เข้ารบการอบรมนาประสบการณ์เดมของตนมาพฒนา






เป็นองค์ความรู้
2. การสะท้อนความคิดและถกเถียง (Reflex and Discussion) ผู้สอนช่วยให้ผู้เรียนได้มีโอกาส
แสดงออก เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
3. เข้าใจและเกิดความคิดรวบยอด (Understanding and Conceptualization) ผู้เรียนเกิดความ
เข้าใจ และน�าไปสู่การเกิดความคิดรวบยอด อาจเกิดขึ้นโดยผู้เรียนเป็นฝ่ายริเริ่ม แล้วผู้สอนช่วยเติมแต่งให้สมบูรณ์
หรือในทางกลับกัน ผู้สอนเป็นผู้น�าทางและผู้เรียนเป็นผู้สานต่อ จนความคิดนั้นสมบูรณ์เป็นความคิดรวบยอด
4. การทดลองหรือประยุกต์แนวคิด (Experiment/Application) ผู้เรียนนาการเรียนรู้ท่เกิดข้นใหม่



ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ จนเกิดเป็นแนวทางการปฏิบัติของผู้เรียนเอง


ข้อเสนอแนะ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรจัดกิจกรรมตามล�าดับแผนการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ท 1 – 7 หรือสามารถเลือกปรับแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และเวลาได้ตามความเหมาะสม


ของกลุ่มเป้าหมายและบริบทของพื้นที่ ทั้งในและนอกระบบสถานศึกษา














คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 5

14.30-16.00 น. แผนที่ 4 รักเป็น... ปลอดภัย






13.30-14.30 น. แผนที่ 3 รู้จักและเท่าทัน 12.30-15.30 น. แผนที่ 7 - เทคนิคการให้ค�าปรึกษาเพื่อนช่วยเพื่อน - พิธีมอบเกียรติบัตรและปิดการอบรม






ตำรำงกำรอบรมพัฒนำศักยภำพแกนน�ำวัยรุ่น
12.00-13.30 น. แผนที่ 2 สวยหล่อ ไม่ขอเสี่ยง - ทดสอบหลังการอบรม







11.00-12.00 น. พักรับประทาน อาหารกลางวัน 12.00-12.30 น. กิจกรรม กลุ่มสัมพันธ์







10.00-11.00 น. แผนที่ 1 ค่าของตน สร้างคนให้สมดุล 11.00-12.00 น. พักรับประทาน อาหารกลางวัน









09.00-10.00 น. กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์/ ละลายพฤติกรรม 10.00-11.00 น. แผนที่ 6 พ.ร.บ.การป้องกัน และแก้ไขปัญหา การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 สิ่งส�าคัญที่วัยรุ่นควรรู้









08.45-09.00 น. พิธีเปิด การประชุม 09.00-10.00 น. แผนที่ 5 ชีวิตออกแบบได้








08.00-08.45 น. - ลงทะเบียน รับเอกสาร - ทดสอบก่อน การอบรม 08.30-09.00 น. กิจกรรม กลุ่มสัมพันธ์








วัน/เวลา 1 2







6 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

หมวดที่ 1






เรื่อง




กำรส่งเสริมคุณค่ำแห่งตน



แผนกำรจัดกิจกรรม ค่ำของตน
เรื่อง
กำรเรียนรู้ที่ 1
สร้ำงคนให้สมดุล








1. สำระส�ำคัญ


การเรียนรู้และเข้าใจในคุณค่าและความสาคัญของตนเองและผู้อ่น ย่อมส่งผลให้การอยู่ร่วมกันในสังคม

เต็มไปด้วยความสุข การเห็นคุณค่าในตนเอง (Self-esteem) เป็นปัจจัยพ้นฐานของการใช้ศักยภาพตนเองในการ




ดาเนินชีวิต คนท่มีความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองจะมีแรงจูงใจในการปรับตัว ปรับเปล่ยนพฤติกรรม เช่น การเรียนด ี
การคงไว้ซึ่งการกระท�าดี มีพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสม

2. วัตถุประสงค์กำรเรียนรู้

เพื่อให้วัยรุ่นตระหนักถึงคุณค่าและเห็นความส�าคัญของตนเองและบุคคลที่อยู่รอบๆ ตัว



3. รูปแบบกิจกรรม

1. การวิเคราะห์จากวีดิทัศน์ (เรื่อง เอกชัย วรรณแก้ว) (หลักสูตรเตรียมให้)
2. กิจกรรมกลุ่ม
3. การวิเคราะห์ตนเอง



4. สื่อ/อุปกรณ์

1. กระดาษรูปโครงร่างวัยรุ่นชาย-หญิง
2. กระดาษฟลิปชาร์ท

3. ปากกาเคมี

4. วีดิทัศน์เร่อง เอกชัย วรรณแก้ว ผู้เขียนชีวิตด้วยปลายเท้า ม 2 แบบ โดยเลือกตามความเหมาะสม

(เวลา 5 นาที)


5. แนวคิดที่ผู้เรียนควรได้


การรู้จักคุณค่าของตนเอง (ความดีของตนเอง) โดยเร่มจากการมองตัวของเราว่ามีศักยภาพและคุณค่า
อย่างไร คนอื่นมองเรา และคุณค่าตนเองต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชนและสังคม เมื่อเราเข้าใจตนเองได้ดี จะช่วยให้
เข้าใจและยอมรับตนเองและผู้อื่นได้มากขึ้น และส่งผลให้เข้าใจธรรมชาติของเพื่อนวัยรุ่นได้ดียิ่งขึ้น



6. เวลำ

1 ชั่วโมง

คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 9

7. ขั้นตอนกำรจัดกิจกรรม

7.1 กิจกรรมเชื่อมโยงน�าเข้าสู่บทเรียน
7.2 กิจกรรมกลุ่มฝึกการวิเคราะห์จากวีดิทัศน์
1. ชมวีดิทัศน์เรื่อง เอกชัย วรรณแก้ว ผู้เขียนชีวิตด้วยปลายเท้า (เวลา 5 นาที)

2. วิทยากรสุ่มถามผู้เข้ารับการอบรม ชมวีดิทัศน์แล้วรู้สึกอย่างไร
3. วิทยากรแจกกระดาษฟลิปชาร์ท ให้แต่ละกลุ่มระดมสมองประเด็นคุณค่า (ความดี)

ที่เอกชัย วรรณแก้ว มีต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม มีอะไรบ้าง
4. ให้ตัวแทนกลุ่มน�าเสนอผลการวิเคราะห์ของกลุ่ม
7.3 กิจกรรมการวิเคราะห์ตนเอง



1. แจกกระดาษรูปโครงร่างวัยรุ่นชาย-หญิง (ใบงานท 1) ตามเพศ ให้ผู้เข้ารับการอบรมทุกคน
จ�านวน 1 แผ่น
2. วิทยากรให้ผู้เข้ารับการอบรมทุกคน เขียนชื่อ-สกุล ไว้บริเวณกระดาษด้านบน (ใบงานที่ 1)
3. ให้ผู้เข้ารับการอบรม เขียนกิจกรรมการวิเคราะห์ตนเอง ดังนี้
ส่วนสมอง : เขียนข้อดีของตนเองมีอะไรบ้าง



ส่วนแขน : เขียนส่งท่เคยทาแล้วมีภาคภูมิใจหรือประทับใจมีอะไรบ้าง ท้งต่อตนเอง ครอบครัว


ชุมชนและสังคม
ส่วนหัวใจ : เขียนสิ่งที่เพื่อน/คนอื่น เคยบอกหรือชื่นชมตัวเรา
4. ขอตัวแทนแต่ละกลุ่มมาน�าเสนอ ผลการวิเคราะห์ตนเองกลุ่มละ 1-2 คน
7.4 วิทยากรบรรยายเชื่อมโยงว่า การที่ผู้เข้ารับการอบรมบางคนมองไม่เห็นข้อดีของตนเอง หรือมองเห็น




ข้อดีของตนเองบ้าง ซ่งเป็นธรรมชาติของคนท่มักมองข้ามข้อดีของตนเอง พร้อมท้งจูงใจ


และเสริมแรงให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับรู้ส่งท่เป็นจริงท่มองเห็นและสัมผัสได้ ให้เกิดความภาคภูมิใจ

มีความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง
7.5 วิทยากรถามค�าถามชวนคิดและสรุปเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนต่อไป
ค�าถามชวนคิด : เราจะมีวิธีการสร้างคุณค่าให้ตนเองได้อย่างไร
(โดยการถาม ตอบ ในห้องประชุมใหญ่ ประมาณ 4-5 คน)





แนวทางการตอบส�าหรับวิทยากร เรื่องวิธีการสร้างคุณค่าให้ตนเอง
1. หาจุดเด่นของตนเอง (เรื่องที่ชอบ เรื่องที่ถนัด เรื่องที่เพื่อนๆ ยอมรับให้เราท�าบ่อยๆ) อาจเขียน

ให้ได้ประมาณ 5 - 10 ข้อ ให้เลือกข้อที่เราท�าแล้ว มีความสุขและสนุก ไม่ท้อถอยแม้ยามมีอุปสรรค
2. เขียนเป้าหมาย เช่น ภายใน 6 เดือน จะท�าเรื่องอะไรบ้าง และวางแผนการท�าให้บรรลุเป้าหมาย

ฝึกฝนทุกวัน ด้วยการก�าหนดเป็นกติกาส�าหรับตนเอง ต้องเขียนให้ชัดเจน แล้วเล่าให้เพื่อน หรือบุคคลที่เรา
ไว้ใจที่สามารถเตือนเราได้ เพื่อจะได้ช่วยกระตุ้นให้เรามองเป้าหมาย โดยการพัฒนาศักยภาพตนเอง









10 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

8. สรุปแนวทำงส�ำหรับวิทยำกร

การเห็นคุณค่าในตนเอง (Self-esteem) เป็นความรู้สึกยอมรับตนเองมองตนเองในทางบวก หรือการให้







ภาพพจน์ต่อตนเองว่าเป็นบุคคลท่มีคุณค่า การรับรู้น นามาซ่งความรู้สึกเช่อม่นและเป็นสุขทางใจ การส่งเสริม
ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง จะสามารถทาให้วัยรุ่นประสบความสาเร็จในด้านการศึกษา การมีพฤติกรรมท่ถูกต้อง



เหมาะสม มีวิถีชีวิตท่สมดุล เอาตัวรอดจากความเส่ยงในชีวิตวัยรุ่นได้ ซ่งความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของแต่ละคน




อาจจะมีไม่เท่ากัน ข้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะยอมรับตนเอง พอใจตนเอง และม่นใจในความสามารถของตนเอง


มากน้อยเพียงใด ซ่งบางคนอาจจะมีฐานะทางครอบครัวไม่ด พ่อแม่แยกทางกัน แต่ถ้าเด็กวัยรุ่นเหล่านั้นไม่ตอกยา



ตนเองด้วยปมด้อยเหล่านั้น แล้วพยายามหาทางพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น สามารถที่จะอยู่ในสังคมได้อย่างภาคภูมิใจ
การเชื่อมโยงสู่แผนต่อไป


ปัจจุบันส่อออนไลน์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจาวัน อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ท้งร่างกาย

และจิตใจ ดังน้น วัยรุ่นทุกคนจาเป็นต้องรู้เท่าทันส่อกระแสแฟช่นนิยม เพ่อป้องกันตนเองให้ปลอดภัย





จากสื่อต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม
9. กำรประเมินผล
1. การน�าเสนอการวิเคราะห์ของกลุ่ม

2. จากกิจกรรมการวิเคราะห์ตนเอง
3. การมีส่วนร่วมและการแสดงความคิดเห็น






































คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 11

แผนกำรจัดกิจกรรม สวยหล่อ
เรื่อง
กำรเรียนรู้ที่ 2
ไม่ขอเสี่ยง








1. สำระส�ำคัญ







วยรุ่นเป็นวัยทเช่อมต่อระหว่างวัยเดกและวัยผู้ใหญ่ ต้องการการยอมรบจากกลุ่ม และอยากดด โดดเด่น


กว่าคนอื่นๆ จึงนิยมตามกระแสแฟชั่น หลงใหลและเลียนแบบในตัวบุคคลที่ตนเองชอบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้าผม




เทคโนโลย และวิถีชีวิต ซ่งปัจจุบันส่อสมัยใหม่ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อคนทุกเพศทุกวัย ทาให้เกิดการบริโภคนิยม



ตามกระแส ดังน้นวัยรุ่นมักจะแสวงหาข้อมูลจากเพ่อนหรือจากส่อออนไลน์ต่างๆ ทาให้มีโอกาสท่จะถูกหลอกลวง


ให้บริโภคสินค้าและบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจท�าให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพหรือถึงแก่ชีวิตได้
2. วัตถุประสงค์กำรเรียนรู้
1. เพื่อรู้เท่าทันสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระแสแฟชั่นนิยมวัยรุ่น
2. สามารถตัดสินใจเลือกบริโภคสินค้าและบริการที่เหมาะสม
3. เพื่อให้มีความรู้ด้านการบริโภคอาหารที่เหมาะสม

3. รูปแบบกิจกรรม

การคิดวิเคราะห์จากกิจกรรมกลุ่ม



4. สื่ออุปกรณ์


1. กระดาษฟลิปชาร์ท
2. สีเมจิก
3. สีชอล์ค

4. ปากกาเคมี
5. บัตรภาพอาหาร (สามารถใช้ภาพอาหารตามภูมิภาคได้ตามความเหมาะสม)

6. วีดิทัศน์เรื่องความเสี่ยงจากแฟชั่นวัยรุ่น (เวลา 5 นาที) (หลักสูตรเตรียมให้)
7. ตัวอย่างสื่อโฆษณา











12 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

5. แนวคิดที่ผู้เรียนควรได้




1. วัยรุ่นมีความรู้ความเข้าใจและรู้เท่าทันแฟช่นนิยม การเลือกบริโภคอาหารท่ถูกต้อง และความเส่ยง
จากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมทั้งแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้



2. วัยรุ่นสามารถตัดสินใจเลือกบริโภคสินค้าและบริการที่เหมาะสม ท้งในส่วนท่จาเป็น (Need)
ต่อการใช้ชีวิต และส่วนที่ตอบสนองต่อความต้องการ (Want) ของตนเอง

6. ขั้นตอนกำรจัดกิจกรรม

6.1 กิจกรรมเชื่อมโยงน�าเข้าสู่บทเรียน



1. ชมวีดิทัศน์เก่ยวกับผลกระทบของแฟช่นนิยม เช่น คลิปข่าว/ภาพข่าว เก่ยวกับผลิตภัณฑ์

เร่งผิวขาว การจัดฟันแฟชั่น ผลิตภัณฑ์ลดน�้าหนัก เป็นต้น (ปรับตามความเหมาะสมของพื้นที่)
2. วิทยากรสุ่มถามผู้เข้ารับการอบรม ชมวีดิทัศน์แล้วรู้สึกอย่างไร
6.2 การคิดวิเคราะห์จากกิจกรรมกลุ่ม
1. แจกกระดาษฟลิปชาร์ท สีเมจิก สีชอล์ค กลุ่มละ 1 ชุด
2. ให้แต่ละกลุ่มระดมสมองเขียนสิ่งที่อยากได้ (สินค้าหรือบริการ) ที่ก�าลังเป็นที่นิยมในวัยรุ่น


3. เลือกคนท่ตัวเล็กในกลุ่ม 1 คน นอนทาบบนกระดาษฟลิปชาร์ท ช่วยกันวาดรูปโครงร่างเพ่อน

บนกระดาษ

4. ให้แต่ละกลุ่มวาดรูปวัยรุ่น โดยเขียนส่งท่ทุกคนอยากได้ในภาพ แต่งสีสันให้สวยงาม พร้อมท้ง


ตั้งชื่อผลงาน
5. ส่งตัวแทนกลุ่มเพื่อน�าเสนอผลงาน






6. วิทยากรสรุปว่าส่งท่ต้องการหรือใช้จ่ายน้นแบ่งเป็นส่งท “จาเป็น” ต่อการดารงชีวิต หรือส่งท ี ่








“ต้องการ” ตามกระแสแฟชน เป็นความต้องการทเกนความจาเป็น และทางเลอกทเหมาะสม




คืออะไร
6.3 กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมละ 20 นาที (รวม 40 นาที)



















คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 13

กิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ 1



รู้เท่ำทันสื่อและแฟชั่น




1. วิทยากร ใช้คาถามชวนคิด เคยซ้อสินค้าและบริการเก่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ

ตามค�าชวนเชื่อในโฆษณาหรือไม่ โดยมาเรียนรู้จากกิจกรรมดังต่อไปนี้
2. ชมวีดิทัศน์ โฆษณาผลิตภัณฑ์ชวนเชื่อ
3. วิทยากรชวนพูดคุยในประเด็น

1. ชมวีดิทัศน์แล้วรู้สึกอย่างไร
2. ข้อดี ข้อเสีย ของโฆษณานี้คืออะไร
3. ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตามโฆษณาหรือไม่

4. วิทยากรอธิบายเพิ่มเติมหลักการพิจารณาสื่อโฆษณาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ
5. ให้แต่ละกลุ่มระดมสมองในประเด็น แฟชั่นที่เป็นที่นิยมของวัยรุ่นปัจจุบัน (เช่น การจัดฟัน
แฟชั่น การใส่บิ๊กอาย ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม หรือประเด็นอื่นๆ ตามบริบทของพื้นที่)

6. วิเคราะห์ ข้อดี ข้อเสีย จากแฟชั่นที่เป็นที่นิยมตามที่กลุ่มได้ระดมสมอง
7. อาสาสมัครน�าเสนอ
8. วิทยากร สรุปและอธิบายให้เห็นว่าแฟชั่นสมัยนิยมมีทั้งข้อดีข้อเสีย และหลักในการเลือกใช้

ผลิตภัณฑ์ หากวัยรุ่นเลือกท่จะใช้ ควรใช้บริการกับผู้เช่ยวชาญหรือสถานบริการ


ที่ได้มาตรฐาน





สรุปการเชื่อมโยงกับแผนต่อไป

วิทยากรควรช้ให้เห็นว่า ทุกคนมีความสวยงามตามธรรมชาติและสดใสตามวัยอยู่แล้ว ท้งน ี ้


การดูแลสุขภาพของตนเองให้สวยและหล่อตามวัย ต้องเลือกกินอาหารท่มีประโยชน์และออกกาลังกาย

อย่างสม�่าเสมอ

























14 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

กิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ 2



กินเป็น กินถูก



1. วิทยากรบรรยายการเลือกกินอาหารตามสัญญาณไฟจราจรและการกินอาหารถูกหลัก
โภชนาการ

2. วิทยากรอธิบายกระบวนการ การทากิจกรรมจ่ายตลาดเมนูอาหาร ให้แต่ละกลุ่มเลือก
เมนูอาหารจากบัตรภาพอาหาร โดยให้จ�าแนกหมวดหมู่ตามสัญญาณไฟจราจร โดย


n สีแดง : กลุ่มอาหารที่มีพลังงาน ไขมัน และน�้าตาลระดับสูง อย่ากินบ่อย นานๆ ครั้ง
อาหาร เช่น อาหารที่ทอด ปรุงด้วยกะทิเข้มข้น ไส้กรอก หมูยอ ลูกชิ้น ขนมอบ

เค้ก อาหารอุดมด้วยแป้ง เบเกอร์รี่ แฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า ข้าวขาหมู ผัด
ไทย หอยทอด หมูสามชั้น กุ้ง-ไก่-หมูชุบแป้งทอด
ผลไม้ เช่น ทุเรียน

เครื่องดื่ม เช่น น�้าอัดลม น�้าหวาน ชานมไข่มุกเป็นต้น














n สีเหลือง : กล่มอาหารทมพลงงาน ไขมน และนาตาลปานกลาง กนได้ แต่ไม่ทกวน
(1 - 2 ครั้งต่อสัปดาห์)









อาหาร เช่น อาหารทปรงด้วยกะทไม่เข้มข้น อาหารผัดทไม่มันจด ผดผก
ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า พะโล้ กระเพราหมู มัน-เผือกต้ม ถั่วต้ม











ผลไม้ เช่น ผลไม้ทมรสหวาน เงาะ ละมด อง่นแดง ลาไย ลนจ มะม่วงสก
น้อยหน่า กล้วยหอม กล้วยไข่ มะขามหวาน เชอร์รี่ เป็นต้น
เครื่องดื่ม เช่น กาแฟร้อน กาแฟเย็น
n สีเขียว : กลุ่มอาหารที่มีพลังงาน ไขมัน และน�้าตาลต�่า กินได้ทุกวัน
อาหาร เช่น อาหารประเภท ต้ม นึ่ง ย่าง ผัดน�้ามันน้อย เนื้อสัตว์ไขมันต�่า เนื้อปลา

เน้อไก่ ไข่ไก่ โยเกิร์ต อาหารประเภทยา สลัดผักนาใส ผักต่างๆ นมถ่ว




เหลืองหวานน้อย อาหารพวกข้าวแป้งไม่ขัดสี ข้าวซ้อมมือ ธัญพืช
ผลไม้ เช่น ผลไม้ประเภทผลไม้ไม่หวานจัด ฝรั่ง แตงโม ส้ม องุ่นเขียว มะละกอ
ดิบ แอปเปิ้ล
เครื่องดื่ม เช่น น�้าเปล่า นมรสจืด
คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 15

ขั้นตอนการด�าเนินกิจกรรม
1. ให้ผู้เข้ารับการอบรมเลือกบัตรภาพอาหารที่ตนเองชอบกิน จ�านวน 3 ภาพ

2. ให้ทุกคนน�าบัตรภาพอาหารที่เลือกไปติดตามหมวดสัญญาณไฟจราจร
3. ตัวแทนแต่ละหมวดสัญญาณไฟจราจรน�าเสนอเมนูอาหารที่ติดไว้
4. วิทยากรสรุปกิจกรรมและเชื่อมโยงกับการเลือกกินอาหาร


สรุป
การส่งเสริมให้วัยรุ่นมีโภชนาการดี เป็นการสร้างรากฐานส�าคัญของการมีสุขภาพและคุณภาพ


















ชวตทดต่อไปในวยทางานและวยสงอาย เนองจากช่วงวยร่น เป็นระยะทร่างกายมการเจรญเติบโต

อย่างเต็มที่ รวมถึง มีการเปลี่ยนแปลงขนาดโครงสร้าง จึงควรส่งเสริมให้ได้รับอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ

และเหมาะสมกับ ความต้องการ เน่องจากอาหารเป็นปัจจัยสาคัญต่อสติปัญญาและสุขภาพ

การกินอาหารครบ 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มข้าว-แป้ง กลุ่มผัก กลุ่มผลไม้ กลุ่มเนื้อสัตว์ และกลุ่มนม โดยมี
ความหลากหลายของอาหารในกลุ่มเดียวกันและปริมาณเหมาะสม กินอาหารไม่หวานจัด ไม่เค็มจัด
และไม่มีไขมันสูง ร่วมกับการออกก�าลังกาย ระดับปานกลางขึ้นไป วันละ 30 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน






และการนอนหลบอย่างเพยงพอ วนละ 8 ชวโมง จะทาให้รปร่างสมส่วน ประสทธภาพในการทางาน




ของสมองดี ท�ากิจกรรมต่างๆ ได้ดี มีภูมิต้านโรค และมีการเจริญเติบโตเต็มศักยภาพ เป็นการพัฒนาคน
ตามช่วงวัยให้มีสุขภาพดี และท�าให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
การส่งเสริมวัยรุ่นสุขภาพดีสูงสมส่วน โดยพฤติกรรมพึงประสงค์ของวัยรุ่นใน 1 วัน ต้องกินนม
วันละ 200 มิลลิลิตร ไข่วันละ 1 ฟอง
สรุปการเชื่อมโยงกับแผนต่อไป










แฟชนนยมการตกแต่ง เพอความงามให้ตนเองและดงดดความสนใจจากเพศตรงข้ามและผ้อน
ดังน้นวัยรุ่นจึงควรมีการเรียนรู้เร่องการจัดการอารมณ์ของตนเอง การรู้เท่าทันอารมณ์ ความรู้สึก


ความรักใคร่ เพื่อรู้จักการหาทางออกที่เหมาะสม
9. กำรประเมินผล
1. ประเมินความรู้ ทัศนคติ จากแบบทดสอบก่อน-หลัง การอบรม
2. การมีส่วนร่วมของการท�ากิจกรรมและการแสดงความคิดเห็น







16 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

หมวดที่ 2







เรื่อง ควำมรอบรู้เรื่องเพศ




และกำรป้องกันกำรตั้งครรภ์




ในวัยรุ่น































คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 17



แผนกำรจัดกิจกรรม
เรื่อง รู้จักและเท่ำทัน
กำรเรียนรู้ที่ 3









1. สำระส�ำคัญ



อารมณ์เพศหรือความรู้สึกทางเพศ เป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติอย่างหน่งของมนุษย์ท่เกิดจากฮอร์โมน

ในร่างกายของเรา เม่อถูกกระตุ้นหรือปลุกเร้าความรู้สึก จะทาให้เกิดความต่นตัวทางเพศ หรือการเปล่ยนแปลง



ทางร่างกาย หัวใจเต้นเร็วขึ้น กล้ามเนื้อตื่นตัว โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศ และที่หน้าอก บางคนอาจจะรู้สึกวาบหวิว

หรืออธิบายไม่ถูก เป็นอารมณ์และความรู้สึกเฉพาะบุคคล ปฏิกิริยาการตอบสนองจึงแตกต่างกันออกไป ดังน้น

การจัดการกับอารมณ์เพศจึงแตกต่างกันด้วย การรู้จักวิธีการจัดการกับอารมณ์เพศ จึงเป็นส่งสาคัญท่จะช่วยให้วัยรุ่น





สามารถเลือกตอบสนองต่อส่งเร้าหรือตัวกระตุ้นน้นได้อย่างถกต้องเหมาะสม ช่วยป้องกนการมีเพศสมพนธ์



ที่ไม่ปลอดภัยได้อีกทางหนึ่ง
2. วัตถุประสงค์กำรเรียนรู้


เพอให้ผ้เข้ารบการอบรมร้เท่าทนและสามารถจัดการกับอารมณ์ทางเพศของตนเองได้อย่างเหมาะสม




และปลอดภัย
3. รูปแบบกิจกรรม
1. การเรียนรู้จากวีดิทัศน์ (หลักสูตรเตรียมให้)
2. การเรียนรู้จากบัตรค�า
3. กิจกรรมกลุ่ม



4. สื่อ/อุปกรณ์

1. วีดิทัศน์ เรื่องฮอร์โมน (เวลา 3 นาที)
2. บัตรค�า 4 หมวด (แบ่งหมวดละ 1 สี) เท่ากับจ�านวนกลุ่มของผู้เข้ารับการอบรม
3. บัตรค�าเปล่า (ส�าหรับแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม)

4. กระดาษฟลิปชาร์ท
5. ปากกาเมจิก
6. กระดาษกาว



5. เวลำ

45 – 60 นาที


คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 19

6. ขั้นตอนกำรจัดกิจกรรม

6.1 กิจกรรมเชื่อมโยงน�าเข้าสู่บทเรียน
1. ชมวีดิทัศน์ เรื่องฮอร์โมน หรืออื่นๆ ตามความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย

2. วิทยากรถามผู้เข้ารับการอบรมว่า เมื่อชมวีดิทัศน์แล้วมีความรู้สึกอย่างไร
6.2 วิทยากรอธิบายความหมายของ
1. สิ่งเร้าหรือตัวกระตุ้น

2. ปฏิกิริยาหรือความรู้สึก
3. การจัดการกับอารมณ์

4. ผลที่ตามมา
6.3 วิทยากรอธิบายกระบวนการเรียนรู้ ดังนี้
1. วิทยากรเปิดบัตรค�า สิ่งเร้าหรือตัวกระตุ้น ครั้งละ 1 ค�า โดยอาจจะเลือกใช้ 2-3 ค�าขึ้นอยู่กับเวลา

(หรืออาจประยุกต์โดยแจกบัตรสิ่งเร้าหรือตัวกระตุ้นให้กับแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 2 ค�าไม่ซ�้ากัน เพื่อให้เกิดความหลากหลาย
ในการแสดงความคิดเห็น)


2. วิทยากรให้ผู้เข้ารับการอบรมแต่ละกลุ่ม เขียนความรู้สึกต่อส่งเร้าหรือตัวกระตุ้น ปฏิกิริยา
หรือความรู้สึก การจัดการกับอารมณ์และผลที่ตามมา ลงในบัตรค�าเปล่า โดยสามารถดูตัวอย่าง จากบัตรค�าที่เตรียม
















ไว้ เมอเขยนความร้สกในบตรคาเรยบร้อยแล้ว ให้นาบตรคาไปตดในตารางบนกระดาษฟลปชาร์ท ซงเตรยมไว้
3 คอลัมภ์ คือ ปฏิกิริยาหรือความรู้สึก การจัดการกับอารมณ์ ผลที่ตามมา
3. ด�าเนินการตามกระบวนการข้างต้นจนครบทุกสิ่งเร้าหรือตัวกระตุ้น หรือตามความเหมาะสม
4. แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนาเสนอ สรุปแนวโน้มและรูปแบบของปฏิกิริยาหรือความรู้สึก การจัดการ

กับอารมณ์ และผลที่ตามมา ของการจัดการกับอารมณ์ของเพื่อนในกลุ่ม

6.5 วิทยากรสรุปเร่องอารมณ์เพศ ส่งเร้า หรือส่งกระตุ้นให้เกิดอารมณ์เพศ ปฏิกิริยาหรือความรู้สึก




ท่เกิดข้นมีอะไรบ้าง มีวิธีจัดการกับอารมณ์อย่างไร ปรับทัศนคติเชิงบวกในเร่องเพศ เช่น การช่วยตนเอง


อย่างถูกต้อง ไม่ใช่เร่องน่าอาย ไม่ใช่เร่องของโรคจิต แต่ผลเสียต่อร่างกาย ก็จะทาให้อ่อนเพลียหากบ่อยเกินไป



และอธิบายถึงวิธีการจัดการอารมณ์อ่นๆ ควรหลีกเล่ยงกับสถานการณ์เส่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ ถ้าหากหลีกเล่ยง



ไม่ได้ควรมีเพศสัมพันธ์แบบปลอดภัย (safe sex) เช่น การใช้ถุงยางอนามัย มีเพศสัมพันธ์แบบไม่สอดใส่ เป็นต้น






นอกจากน้ยังมีส่งเร้าหรือตัวกระตุ้นอ่นๆ ท่ทาให้เกิดอารมณ์ทางเพศ เช่น สารเสพติดและเคร่องด่มแอลกอฮอล์

เป็นต้น
7. สรุป

อารมณ์ความรู้สึกต่อส่งเร้าหรือตัวกระตุ้นทางเพศเป็นเร่องธรรมชาต ซ่งปัจจุบันมีความหลากหลาย




ทางเพศ ชาย หญิง และเพศทางเลือก ประเด็นสาคัญ คือ วัยรุ่นต้องรู้เท่าทันความรู้สึกของตนเอง การจัดการ




กบอารมณ์มอย่หลายรปแบบ มทงเชงบวกและเชงลบ วยร่นจะต้องร้เท่าทนและตดสนใจด้วยตนเองได้อย่างเหมาะสม











และปลอดภัย และรับผิดชอบต่อผลที่ตามมา
20 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

8. กำรประเมินผล

1. ประเมินความรู้ ประเมินในแบบทดสอบก่อน-หลัง เข้ารับการอบรม
2. ประเมินการมีส่วนร่วมในการท�ากิจกรรม



ตัวอย่างบัตรค�า


ปฏิกิริยาหรือ การจัดการกับ
สิ่งเร้าหรือตัวกระตุ้น ผลที่ตามมา
ความรู้สึก อารมณ์


ดูหนังเอ็กซ์ อวัยวะเพศแข็งตัว ช่วยตนเอง รู้สึกดี, โล่ง



สิ่งเร้าหรือตัวกระตุ้น
ดูหนังเอ็กซ์/คลิปโป๊ เห็นคนสวยและเซ็กซี่มาก

เห็นสาวแต่งตัววับแวม เห็นหนุ่มหน้าตาดี หล่อล�่า

ปฏิกิริยาหรือความรู้สึก

หดหู่ รู้สึก ผิด อาย

ใจสั่น ชอบ
ขนลุก วูบวาบ อยากดู

อยากสัมผัสลูบคล�า อวัยวะเพศแข็งตัว

กลัวๆ กล้าๆ แต่อยาก

การจัดการกับอารมณ์

มีเพศสัมพันธ์แบบไม่สอดใส่ อาบน�้า

ช่วยตนเอง ท�าสมาธิ
มีเพศสัมพันธ์กับแฟนไม่มีการป้องกัน เตือนตนเองไม่ให้ลุ่มหลง

มีเพศสัมพันธ์กับแฟนใช้ถุงยางอนามัย ตั้งใจว่าครั้งเดียวแล้วไม่ท�าอีก

ผลที่ตามมา

รู้สึกดีๆ โล่ง กลัว กระสุนหมด

กลัวคนอื่นรู้ รู้สึกผิด
ติดใจ อยากท�าอีก สับสนทั้งชอบ และรู้สึกไม่ดี

ท้อง มีความสุข สนุก

ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์/ HIV มีปัญหากับคู่รัก


หมายเหตุ วิทยากรสามารถเลือก หรือปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม



คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 21

แผนกำรจัดกิจกรรม
เรื่อง รักเป็น...ปลอดภัย
กำรเรียนรู้ที่ 4









1. สำระส�ำคัญ

ปัจจุบันการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นส่วนใหญ่เกิดข้นกับแฟน คนรักและเพ่อน ซ่งการไว้ใจ เช่อใจคู่รัก






ทาให้มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน และอาจทาให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ รวมถึงการต้งครรภ์

ในวัยรุ่นได้ การป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น วิธีดีที่สุดคือการไม่มีเพศสัมพันธ์ ถ้าหากมีความรักต้องรู้จักยับยั้ง ชั่งใจ




และหลีกเล่ยงสถานการณ์เส่ยง เพ่อป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และควรจะศึกษาความรู้เก่ยวกับ
การป้องกันการตั้งครรภ์ที่ถูกต้องเหมาะสม
2. วัตถุประสงค์กำรเรียนรู้
1. เพื่อให้มีความตระหนักต่อความเสี่ยงเรื่องการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์
2. มีความรู้เกี่ยวกับการคุมก�าเนิด โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์
3. มีทักษะ คิด วิเคราะห์ ตัดสินใจ เลือกใช้วิธีการคุมก�าเนิดและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์



3. รูปแบบกิจกรรม

1. การเรียนรู้จากกิจกรรมไข่สวรรค์
2. การบรรยาย
3. กิจกรรมฐานการเรียนรู้ (walk rally)




ฐานเรียนรู้ : แบ่งเป็น 3 ฐานๆ ละ 20 นาที รวมสรุปกิจกรรม แล้วส่งสัญญาณสลับฐานการเรียนรู้

ฐานที่ 1 ฐานหมวกกันน็อค สาธิตการวัดขนาดอวัยวะเพศชาย การใช้ถุงยางอนามัยผู้ชาย
ฐานที่ 2 ฐานมุมปลอดภัย 1 ยาเม็ดคุมก�าเนิด และยาเม็ดคุมก�าเนิดฉุกเฉิน
ฐานที่ 3 ฐานมุมปลอดภัย 2 ยาฉีดคุมก�าเนิด ยาฝังคุมก�าเนิด ห่วงอนามัย
ยาแผ่นแปะผิวหนังคุมก�าเนิด วงแหวนคุมก�าเนิด






4. สื่อ/อุปกรณ์

1. กล่องบรรจุไข่พลาสติกจ�านวน 1 ใบ
2. ไข่พลาสติก 6 ส (สามารถใช้วัสดุอ่นแทนได้ตามความเหมาะสม) สีละ 5 ฟอง รวมเป็น 30 ฟอง


ภายในไข่แต่ละฟองโดยแต่ละใบจะมีฉลาก เขียนชื่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์


22 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

3. โมเดลอวัยวะเพศชาย
4. ถุงยางอนามัยผู้ชาย/ถุงอนามัยสตรี
5. สายวัดขนาดอวัยวะเพศชาย

6. สารหล่อลื่น
7. ยาเม็ดคุมก�าเนิดชนิด 21/28 เม็ด

8. ยาเม็ดคุมก�าเนิดฉุกเฉิน
9. ยาฉีดคุมก�าเนิด
10. ยาฝังคุมก�าเนิด

11. ห่วงอนามัย
12. วงแหวนคุมก�าเนิด / หรือรูปภาพประกอบ

13. แผ่นแปะผิวหนังคุมก�าเนิด/ หรือรูปภาพประกอบ
14. สารหล่อลื่นที่ไม่เหมาะสม เช่น วาสลีน โลชั่น เป็นต้น
15. กระดาษทิชชู่




5. เวลำ

1 ชั่วโมง 30 นาที



6. ขั้นตอนกำรจัดกิจกรรม

6.1 น�าเข้าสู่บทเรียนโดยกิจกรรมไข่สวรรค์ (เวลา 15 นาที)

6.2 อธิบายกระบวนการเรียนรู้ ดังนี้
1. ผู้เข้ารับการอบรมทั้งหมดนั่งเป็นรูปตัวยูหรือวงกลม
2. วิทยากรเปิดเพลงส�าหรับกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์



3. วิทยากรใช้การเวียนกล่องท่บรรจุไข่พลาสติก เม่อกล่องมาถึงผู้เข้ารับการอบรมคนไหน
ก็ให้หยิบไข่พลาสติก คนละ 1 ฟองโดยไม่ให้เลือก และห้ามเปิดจนกว่าจะได้รับค�าสั่งจากวิทยากร
4. วิทยากรกระตุ้นให้ผู้เข้ารับการอบรมทุกคนต้องแลกไข่กับเพื่อนและเปิดอ่านข้อความด้านใน
5. วิทยากรสุ่มถามความรู้สึกของผู้เข้ารับการอบรม
6. วิทยากรสรุปให้เห็นถึงความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์

ไข่พลาสติกสีที่ 1 หมายถึง คุณตั้งครรภ์หรือคุณก�าลังจะเป็นพ่อคน (ตามเพศ)
ไข่พลาสติกสีที่ 2 หมายถึง คุณติดเชื้อซิฟิลิส

ไข่พลาสติกสีที่ 3 หมายถึง คุณติดโรคหนองในแท้และหนองในเทียม
ไข่พลาสติกสีที่ 4 หมายถึง คุณติดโรคเริม
ไข่พลาสติกสีที่ 5 หมายถึง คุณติดเชื้อเอชไอวี

ไข่พลาสติกสีที่ 6 หมายถึง คุณเป็นมะเร็งปากมดลูก








คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 23

6.3 วิทยากรสรุปว่าการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย จะมีความเสี่ยงทั้งจากการตั้งครรภ์ การติดโรคติดต่อ
ทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ (3 ช่องทาง ได้แก่ ทางเพศสัมพันธ์ ทางเลือด และแม่สู่ลูก) ดังนั้น การแลกไข่พลาสติก









สสันสวยงามทมองเหนแต่ความสวยงามภายนอกเปรียบเสมอนกบการเลอกค่ ถงแม้ว่ามองแต่ร่างกายภายนอก
ทั่วไปจะดูดี น่าไว้ใจ ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าบุคคลนั้นไม่มีเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์
ที่ไม่มีการป้องกันอาจเสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้ แม้มีเพศสัมพันธ์




เพียงคร้งเดียว รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์เม่ออายุน้อย และการเปล่ยนคู่นอนบ่อยๆ อาจนาไปสู่การเป็นมะเร็งปาก
มดลูกได้ในอนาคต ป้องกันได้โดยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
6.4 วิทยากรแบ่งกลุ่มเป็น 3 กลุ่ม โดยใช้กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์
6.5 แบ่งกลุ่มผู้เข้ารับการอบรมเข้าฐาน โดยมีผู้จับเวลาและให้สัญญาณเมื่อครบก�าหนดเปลี่ยนฐาน
ฐานละ 20 นาที โดยแบ่งฐาน ดังนี้
ฐานที่ 1 ฐานหมวกกันน็อค สาธิตการวัดขนาดอวัยวะเพศชาย การใช้ถุงยางอนามัยผู้ชาย
ฐานที่ 2 ฐานมุมปลอดภัย 1 ยาเม็ดคุมก�าเนิด และยาเม็ดคุมก�าเนิดฉุกเฉิน
ฐานที่ 3 ฐานมุมปลอดภัย 2 ยาฉีดคุมก�าเนิด ยาฝังคุมก�าเนิด ห่วงอนามัย
ยาแผ่นแปะผิวหนังคุมก�าเนิด วงแหวนคุมก�าเนิด

6.6 สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากฐาน


7. สรุป


วัยรุ่นทุกคนมีความเส่ยงต่อการต้งครรภ์ ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ หากเป็นการมีเพศสัมพันธ์

โดยไม่ได้ป้องกัน
ปัญหาการตั้งครรภ์วัยรุ่นในประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การด�าเนินงานรณรงค์สร้างทัศนคติ



เชิงบวกเร่องการมีเพศสัมพันธ์ท่ปลอดภัย ซ่งเป็นการมีเพศสัมพันธ์โดยมีการป้องกันการต้งครรภ์และป้องกันโรค

ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จึงเป็นสิ่งส�าคัญและสมควรให้วัยรุ่นได้ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบ ที่อาจจะตามมาจาก
การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยโดยการเลือกใช้วิธีคุมก�าเนิดที่เหมาะสมกับวัยรุ่น
วิธีการป้องกันการตั้งครรภ์และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีหลากหลายวิธี ขึ้นกับบริบทและทักษะ
ของวัยรุ่นที่จะเลือกใช้ ได้แก่ ถุงยางอนามัย ซึ่งวัยรุ่นต้องทราบขนาดของอวัยวะเพศก่อน เพื่อเลือกซื้อขนาดที่เหมาะสม
และการมีเพศสัมพันธ์ควรเลือกสารหล่อลื่นชนิดน�้าเท่านั้น เพื่อลดการเสียดสี นอกจากนั้นยังมีวิธีการป้องกัน ได้แก่




ยาเม็ดคุมกาเนิด 21/28 เม็ด ยาเม็ดคุมกาเนิดฉุกเฉิน ยาฉีดคุมกาเนิด ยาฝังคุมกาเนิด ยาห่วงอนามัย
วงแหวนคุมก�าเนิด แผ่นแปะผิวหนังคุมก�าเนิด

ข้อเสนอแนะ วิทยากรควรกระตุ้นให้ผู้เข้ารับการอบรมตระหนักถึงประโยชน์จากการใช้
ถุงยางอนามัย อย่างถูกต้องทุกครั้ง เมื่อมีเพศสัมพันธ์ และพยายามเน้นการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ทุกช่องทาง โดยเฉพาะ 3 ทาง ได้แก่ ทางปาก ทางอวัยวะสืบพันธุ์ และทางทวารหนัก

ข้อเสนอแนะส�าหรับผู้ด�าเนินกิจกรรม

1 . สามารถจัดกิจกรรมนี้เป็นฐานร่วมกับกิจกรรมหัวข้ออื่นๆ ได้
2. การแบ่งกลุ่ม ควรแบ่งสมาชิกกลุ่มละประมาณ 9-10 คน จะเกิดการเรียนรู้อย่างทั่วถึง
3. ช่วงสรุปเป็นช่วงที่จะได้ทบทวน และประเมินความเข้าใจของผู้เข้ารับการอบรม







24 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

8. กำรประเมินผล

1. ประเมินความรู้จากการถาม-ตอบ
2. ประเมินทักษะจากการสาธิตการใส่ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้อง

3. ประเมินการมีส่วนร่วมในการท�ากิจกรรม





ฐำนกิจกรรมกำรเรียนรู้


ฐำน 1 : หมวกกันน็อค
สื่อ/อุปกรณ์

1. โมเดลอวัยวะเพศชาย
2. ถุงยางอนามัยผู้ชาย

3. สายวัดขนาดอวัยวะเพศชาย
4. สารหล่อลื่นที่เหมาะสม เช่น K-Y Jelly
5. สารหล่อลื่นที่ไม่เหมาะสม เช่น วาสลีน โลชั่น เป็นต้น
6. กระดาษทิชชู่
7. ถุงอนามัยสตรี


ขั้นตอนการจัดกิจกรรม

1. วิทยากรนาเข้าสู่กิจกรรม โดยชวนพูดคุยเร่องถุงยางอนามัย เช่น เคยเห็น เคยสัมผัส





เคยซ้อ เคยใช้ ทราบขนาดของถุงยาง ฯลฯ หาซ้อได้ท่ไหน เคยได้ยินเร่องราวของ
ถุงยางอนามัยหรือไม่ ได้ยินอย่างไร คิดอย่างไร เพ่อจะได้ทราบทัศนคติของผู้เข้ารับ

การอบรมเกี่ยวกับถุงยางอนามัย และปรับให้มีทัศนคติที่ดีต่อถุงยางอนามัย





2. เตรยมถงยางอนามยหลากหลายชนด จานวนเท่ากบผ้เข้ารบการอบรม และเตรยม




โมเดลอวัยวะเพศชาย
3. สาธิตวิธีการวัดขนาดอวัยวะเพศชาย โดยใช้โมเดลอวัยวะเพศชายและสายวัดขนาด
และให้ผู้เข้ารับการอบรมจับคู่ฝึกวัดขนาดอวัยวะเพศชาย
4. วิทยากรเชิญชวนผู้เข้ารับการอบรมทุกคน เลือกถุงยางอนามัยคนละ 1 ชิ้น และวิทยากร
ถามผู้เข้ารับการอบรมแต่ละคนว่า “มีเหตุผลอะไร จึงเลือกถุงยางอนามัยชนิดนั้น”
5. วิทยากรสรุปประเด็นเรื่อง ถุงอนามัยสตรีและถุงยางอนามัย การเลือกซื้อถุงยางอนามัยว่า
ควรเลือกซื้อโดยดูที่วันหมดอายุ ขนาด ตรวจการบรรจุ ซองไม่ฉีกขาด โดยเน้นเรื่อง

ขนาดท่ต้องเหมาะสมกับผู้ซ้อ เพราะถ้าขนาดไม่เหมาะสม จะทาให้ถุงยางอนามัยหลุด


หรือแตกได้
6. ขออาสาสมัคร จานวน 2 คน เพ่อสาธิตวิธีการใส่ถุงยางอนามัย ให้คนแรกถือโมเดล


คนท่สอง ฝึกปฏิบัติการใส่ถุงยางอนามัย วิทยากรถามความคิดเห็นของกลุ่มว่าถูกต้อง

หรือควรปรับปรุงอย่างไร





คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 25




7. วิทยากรสรุปข้นตอนการใส่ถงยางอนามัยท่ถูกต้องและสาธิต หลังจากนั้นให้ผู้เข้ารับ
การอบรมจับคู่ฝึกวิธีการใช้ถุงยางอนามัย
8. วิทยากรสาธิตและให้ผู้เข้ารับการอบรมทดลองใช้สารหล่อล่นท่เหมาะสมและไม่เหมาะสม


กับถุงยางอนามัย

9. วิทยากรชวนคุย เร่องประโยชน์ของถุงยางอนามัย ปัญหาและอุปสรรคในการใช้ถุงยาง
อนามัย โดยให้ผู้เข้ารับการอบรมอภิปรายและช่วยกันหาทางแก้ไขร่วมกัน
และบอกสถานที่จ�าหน่ายและแจกถุงยางอนามัย

10. วิทยากรสรุปสิ่งที่ควรจ�าในการใช้ถุงยางอนามัย


วัยรุ่นควรมีเพศสัมพันธ์ท่ปลอดภัยและรับผิดชอบ โดยการเลือกใช้วิธีคุมกาเนิด

ท่เหมาะสมกับวัยรุ่น และควรปรับทัศนคติในการพกถุงยางอนามัยให้เป็นเรื่องปกต ิ

ในชีวิตประจาวัน เน่องจากการพกถุงยางอนามัย เป็นการแสดงถึงการป้องกันตนเอง




และความรับผิดชอบท้งต่อตนเองและคนรักการใช้ถุงยางอนามัยเพ่อป้องกันการต้งครรภ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ได้
ควรเก็บถุงยางอนามัยไว้ใกล้มือ สะดวกในการหยิบใช้ทุกคร้งและไม่ควรเก็บ

ถุงยางอนามัยไว้ในกระเป๋าสตางค์ กระเป๋ากางเกง ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ เป็นต้น


เพราะจะเกิดการเสียดส เกิดความร้อนและแรงกดทับ ซ่งปัจจัยเหล่าน้ทาให้ถุงยางอนามัย


เสื่อมคุณภาพควรเก็บไว้ในที่เย็นและแห้ง กรณีถ้าจะให้ผลดีมากที่สุด ควรสวมถุงยางอนามัย
ก่อนท่อวัยวะเพศชายจะสัมผัสกับอวัยวะเพศของคู่ร่วมเพศและสวมถุงยางอนามัย

ขณะที่อวัยวะเพศชายแข็งตัวเต็มที่




ฐำน 2 : มุมปลอดภัย 1
สื่อ/อุปกรณ์
1. ยาเม็ดคุมก�าเนิด ชนิด 21 เม็ด

2. ยาเม็ดคุมก�าเนิด ชนิด 28 เม็ด
3. ยาเม็ดคุมก�าเนิดฉุกเฉิน

ขั้นตอนการจัดกิจกรรม

1. วิทยากรน�าเข้าสู่กิจกรรม โดยชวนพูดคุยเรื่อง เนื้อหา ความหมาย ชนิด และประโยชน์
ของการคุมก�าเนิด ได้แก่ ยาเม็ดคุมก�าเนิดชนิด 21 เม็ด ยาเม็ดคุมก�าเนิดชนิด 28 เม็ด


และยาเม็ดคุมกาเนิดฉุกเฉิน เคยเห็น เคยสัมผัส เคยซ้อ เคยใช้ ฯลฯ หาซ้อได้ท่ไหน








ร้จกการใช้ยาเมดคมกาเนด หรอไม่ อย่างไร คดอย่างไร เพอจะได้ทราบทศนคต ิ











ของผ้เข้ารบการอบรมเก่ยวกับ ยาเมดคมกาเนิดและปรบให้มีทัศนคตท่ดีต่อยาเม็ดคมกาเนิด





และยาเม็ดคุมก�าเนิดฉุกเฉิน
2. เตรียมตัวอย่างยาคุมก�าเนิด ชนิด 21/28 เม็ด ยาเม็ดคุมก�าเนิดฉุกเฉิน จ�านวนตามความ
เหมาะสม
26 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

3. วิทยากรน�ายาเม็ดคุมก�าเนิด และยาเม็ดคุมก�าเนิดฉุกเฉินมาวางรวมกัน แล้วให้ผู้เข้ารับการอบรม
ทุกคนในกลุ่มหยิบยาเม็ดคุมก�าเนิดชนิด 21 เม็ด จ�านวน 1 แผง ชนิด 28 เม็ดจ�านวน
1 แผง แล้วให้ทุกคนช่วยกันน�าเสนอในประเด็นต่อไปนี้
1. วิธีกินยาเม็ดคุมก�าเนิด ชนิด 21 เม็ด และ 28 เม็ด

2. วิธีกินยาเม็ดคุมก�าเนิดฉุกเฉิน
3. กรณีลืมกินยา 1 เม็ด จะท�าอย่างไร
4. กรณีลืมกินยา 2 เม็ด จะท�าอย่างไร
4. วิทยากรสรุปประเด็น วิธีการใช้ยาเม็ดคุมก�าเนิดทั้งยาเม็ดคุมก�าเนิด ชนิด 21 เม็ด และ
28 เม็ดและยาเม็ดคุมก�าเนิดฉุกเฉิน รวมถึงกรณีลืมกินยา



ยาเม็ดคุมก�าเนิด แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
ยาเม็ดคุมก�าเนิด ชนิด 21 เม็ด แผงแรก ใหเริ่มกินยาเม็ดแรก ภายในวันที่ 5 ของรอบเดือน

ในเดือนนั้น และวันต่อมาใหกินยาเรียงไปตามลูกศรวันละ 1 เม็ดจนหมดแผง เมื่อหมดแผงแรกใหหยุดกิน

ยา 7 วัน แลวจึงเริ่มกินแผงใหม่ ไม่ว่าประจ�าเดือนจะมาหรือไม่ก็ตาม

ยาเม็ดคุมกาเนิด ชนิด 28 เม็ด แผงแรก ให้เร่มกินยาเม็ดแรก ภายในวันท 5 ของรอบเดือน



ในเดือนนั้น และวันต่อมาให้กินยาเรียงไปตามลูกศรวันละ 1 เม็ด จนหมดแผงแล้วเริ่มแผงใหม่ต่อไปได้เลย
โดยไม่ต้องหยุดยาหรือค�านึงถึงประจ�าเดือน
กรณีลืมกินยา
1. ลืมกินยา 1 เม็ด ให้รีบกินยาเม็ดที่ลืมทันทีที่นึกได้ และกินยาเม็ดต่อไปตามเวลาปกติ

2. ลืมกินยา 2 เม็ด ให้กินยาเพ่มวันละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า 2 วัน และกินยาเม็ดต่อไป

จนหมดแผง หากมีการร่วมเพศต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
3. กรณีลืมกินยา 3 เม็ด ให้หยุดยา และรอประจ�าเดือนมา แล้วจึงเริ่มกินแผงใหม่ ในระหว่างนี้
หากมีการร่วมเพศต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง


ยาเม็ดคุมก�าเนิดฉุกเฉิน




เป็นยาเม็ดคุมกาเนิดท่ใช้ป้องกันการต้งครรภ์หลังจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน




การตั้งครรภ์เป็นยาท่ผลิตข้นเพ่อการคุมกาเนิดฉุกเฉินโดยเฉพาะ หาซ้อได้ง่ายตามร้านขายยาท่วไป


ในท้องตลาด ยา 1 แผง จะมีจ�านวนเม็ดยา 2 เม็ด เหมาะส�าหรับสตรีที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน
การตั้งครรภ์ สตรีถูกข่มขืน หรือใช้เสริมกับวิธีคุมก�าเนิดปกติแต่เกิดปัญหา เช่น ถุงยางอนามัยฉีกขาด
วิธีกิน
ให้กินยาเม็ดคุมก�าเนิดฉุกเฉิน 2 เม็ดทันทีที่สะดวกหรือเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ต้องไม่เกิน
3 วัน หรือภายใน 72 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์หรือกินครั้งแรก 1 เม็ดทันที





ที่สะดวกหรือเร็วท่สุดท่จะเป็นไปได้ และ 12 ชั่วโมงต่อมา กินคร้งท 2 อีก 1 เม็ด ควรกินให้เร็วท่สุด

เนื่องจากประสิทธิภาพการคุมก�าเนิดจะลดลงตามระยะเวลา
ข้อควรระวัง ส�าหรับสตรีที่มีอาการอาเจียนเกิดขึ้น ภายใน 2 ชั่วโมงหลังกินยา ควรกินยาซ�้า
อีก 1 ชุด จึงจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้
ไม่ควรใช้เป็นการคุมก�าเนิดปกติ ใน 1 เดือน กินยาได้ไม่เกิน 4 เม็ด




คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 27

ฐำน 3 : มุมปลอดภัย 2
สื่อ/อุปกรณ์

1. ยาฉีดคุมก�าเนิด
2. ยาแผ่นแปะผิวหนังคุมก�าเนิด

3. ยาฝังคุมก�าเนิด
4. วงแหวนคุมก�าเนิด / หรือรูปภาพประกอบ
5. ห่วงอนามัย / หรือรูปภาพประกอบ

6. วิธีการคุมก�าเนิดที่ไม่แนะน�าให้ใช้ ได้แก่ การนับหน้า 7 หลัง 7 และการหลั่งภายนอก

ขั้นตอนการจัดกิจกรรม


1. วิทยากรนาเข้าสู่กิจกรรม โดยชวนพูดคุยเร่อง เน้อหา ความหมาย ชนิด และประโยชน์ของ




การคุมกาเนิดชนิดต่างๆ เน้นการคุมกาเนิดสาหรับวัยรุ่น เช่น ยาฉีดคุมกาเนิด



ยาแผ่นแปะผิวหนังคุมกาเนิด ยาฝังคุมกาเนิด วงแหวนคุมกาเนิด ห่วงอนามัย เคยเห็น

เคยสัมผัส เคยซื้อ เคยใช้ ฯลฯ หาซื้อได้ที่ไหน รู้จักการใช้ยาฉีดคุมก�าเนิด ยาแผ่นแปะ
ผิวหนังคุมก�าเนิด ยาฝังคุมก�าเนิด วงแหวนคุมก�าเนิด ห่วงอนามัย
2. เตรียมตัวอย่าง ยาฉีดคุมก�าเนิด ยาแผ่นแปะผิวหนังคุมก�าเนิด ยาฝังคุมก�าเนิด วงแหวน
คุมก�าเนิด ห่วงอนามัย จ�านวนตามความเหมาะสม
3. วิทยากรนาตัวอย่างยาฉีดคุมกาเนิด ยาแผ่นแปะผิวหนังคุมกาเนิด ยาฝังคุมกาเนิด




วงแหวนคุมก�าเนิด หรือรูปภาพประกอบ ห่วงอนามัยหรือรูปภาพประกอบ
4. วิทยากรสรุปประโยชน์ของการคุมกาเนิดชนิดต่างๆ เน้นการคุมกาเนิดท่เหมาะสม



ส�าหรับวัยรุ่น และวิธีการคุมก�าเนิดที่ไม่แนะน�าให้ใช้
ยาฉีดคุมก�าเนิด




เป็นวิธีคุมกาเนิดแบบช่วคราวท่เหมาะสาหรับผู้หญิงท่มีลูกแล้วหรืออยู่ในระยะหลังคลอด




และเล้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือผู้ท่ไม่สามารถกินยาเม็ดคุมกาเนิดได้ ยาฉีดคุมกาเนิดแต่ละเข็ม สามารถป้องกน


การตั้งครรภ์ได้นาน 3 เดือน ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยคือ อาจมีประจ�าเดือนน้อยลง หรือออกกะปริดกะปรอย
หรือไม่มีประจ�าเดือนมาเลย
ยาแผ่นแปะคุมก�าเนิด แผ่นแปะคุมก�าเนิด เป็นแผ่นยาบางๆ ลักษณะคล้ายแผ่นยาปิดผิวหนัง
ทั่วไป มีรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ผิวเรียบ มีสีเบจหรือสีเนื้อ โดยใน 1 กล่อง มีแผ่นยา 3 แผ่น
วิธีใช้











l เรมแปะแผ่นยาคมกาเนดในวนแรกทประจาเดอนมาโดยแปะแผ่นยาต่อเนอง 1 สปดาห์


และใช้ต่อเนื่องกัน 3 แผ่น เท่ากับ 21 วัน
l ถ้าเริ่มแปะหลังจากมีประจ�าเดือนวันแรกไปแล้ว 7 วัน ควรใช้การคุมก�าเนิดอย่างอื่นร่วมด้วย
l เริ่มยาแผ่นใหม่ จะแปะตรงกับวันเดิมในแต่ละสัปดาห์ เรียกว่า “วันเปลี่ยนแผ่นยา”
28 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น



l สัปดาห์ท 4 เว้นการแปะ 7 วัน ไม่ว่ารอบเดือนจะมาหรือไม่มา ก็ให้แปะแผ่นแรกของ
รอบใหม่ทันที
ต�าแหน่งที่แปะแผ่นยา

ควรแปะแผ่นยาบนผิวหนังที่แห้งสนิท เช่น สะโพก แผ่นหลังช่วงบน หน้าท้อง
ข้อควรหลีกเลี่ยง
บริเวณเต้านม จุดที่มีแผล หรือเป็นโรคผิวหนัง

ข้อควรระวัง
l เพื่อป้องกันการรบกวนประสิทธิภาพกาวบนแผ่นแปะ หลังอาบน�้าเช็ดตัวให้แห้ง
l ไม่ควรใช้เครื่องส�าอาง ครีม โลชั่น แป้งฝุ่น หรือเครื่องประทินผิวใดๆ บนบริเวณผิวหนัง
ที่จะแปะแผ่นยา
l ไม่ควรให้ขอบยาอย่พอดีกบขอบชุดช้นใน เน่องจากขอบชุดช้นในอาจดึงรงแผ่นยา







ให้หลุดได้ระหว่างแปะไม่ควรแกะออกแล้วแปะใหม่ เพราะการแปะใหม่จะไม่แน่นพอ
อาจหลุดได้ง่าย
ยาฝังคุมก�าเนิด
เป็นวิธีคุมก�าเนิดแบบกึ่งถาวร สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้นาน ถึง 5 ปี (ชนิด 2 หลอด) 3 ปี

(1 หลอด) ควรรับการฝังยาคุมกาเนิดภายใน 5 วันแรกของการมีประจาเดือน หรือภายหลังแท้งไม่เกิน


1 สัปดาห์ หลังคลอด 4 - 6 สัปดาห์ หรือการฝังยาแล้วจะมีอาการข้างเคียงเกิดข้น คือมีเลือดออก
กะปริดกะปรอยหรือประจ�าเดือนไม่สม�่าเสมอ
วิธีการฝังยา ก่อนฝังยา แพทย์หรือพยาบาลที่ผ่านการอบรมจะท�าการตรวจร่างกาย
ถ้าไม่มีข้อห้ามใดๆ จะฝังยาหลอดขนาดเล็กบริเวณต้นแขนด้านในเหนือข้อศอก โดยฉีดยาชา
ก่อนฝังยา หลังจากการฝังยาสามารถท�างานได้ตามปกติ



ห่วงอนามัย
l เป็นวิธีการคุมก�าเนิดแบบกึ่งถาวร ซึ่งสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้นาน 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับ



ชนิดของห่วงอนามัยท่ใส่ ระยะเวลาท่เหมาะสมในการใส่ห่วงอนามัย ขณะท่มีประจาเดือน

หรือหลังประจาเดือนหยุดใหม่ๆ เป็นช่วงภายใน 12 วันแรกของรอบเดือน สามารถใส่ได้




ทันทีภายใน 48 ชวโมงหลงคลอด ถ้าไม่สามารถใส่ได้ภายใน 48 ชวโมง ให้รออย่างน้อย


4 สัปดาห์หลังคลอด การใส่ห่วงอนามัยหลังแท้ง ให้ใส่หลังแท้งทันทีหรือภายใน 2 สัปดาห์



หลังแท้ง โดยอาจจะมีอาการข้างเคียง เช่น เลือดประจาเดือนมากข้น จานวนวันของการ
มีประจ�าเดือนจะนานขึ้น มีเลือดออกกะปริดกะปรอย เป็นต้น
วงแหวนคุมก�าเนิด

วงแหวนคุมกาเนิดมีลักษณะเป็นห่วงพลาสติกขนาดเล็กอ่อนนุ่มและยืดหยุ่น ซ่งในห่วงจะม ี

ฮอร์โมนผสมอยู่คล้ายกับยาเม็ดคุมกาเนิด เม่อสอดเข้าไปในช่องคลอด ฮอร์โมนจะถูกดูดซึมเข้าไป


ในร่างกายเพื่อยับยั้งการตั้งครรภ์ ซึ่งสามารถท�าได้ด้วยตนเองที่บ้าน



คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 29

ข้อดีของวงแหวนคุมก�าเนิด
1. ช่วยลดอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และไม่มีผลต่อน�้าหนักตัว
2. ประจ�าเดือนมาสม�่าเสมอ
3. มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดี

4. สามารถใส่ได้ด้วยตนเอง โดยสอดเข้าไปในช่องคลอดคล้ายกับการเหน็บยาในช่องคลอด
วิธีใช้วงแหวนคุมก�าเนิด





1. เร่มสอดใส่ในวันท 1-5 หลังประจาเดือนมา โดยการล้างมือให้สะอาด ใช้น้วช้และ

นิ้วหัวแม่มือบีบวงแหวนเข้าหากันแล้วใช้นิ้วดันสอดเข้าไปในช่องคลอดให้สุดนิ้ว
2. ทิ้งวงแหวนไว้ในช่องคลอดเป็นเวลา 3 สัปดาห์



3. เม่อครบกาหนด 3 สัปดาห์ ให้ใช้น้วมือสอดเข้าไปในช่องคลอด เก่ยวรอบๆ วงแหวน




และดึงออกมาท้ง เว้นช่วงท่ไม่ต้องใส่วงแหวนไว้ 7 วัน ซ่งระหว่างน้ประจาเดือนจะมา


ตามปกติ
4. หลังจากถอดออกไป 7 วัน ให้สอดวงแหวนอันใหม่และทิ้งไว้ 3 สัปดาห์ เหมือนเดิม
วิธีที่ไม่แนะน�าให้ใช้ในการคุมก�าเนิด
1. การนับระยะปลอดภัย (หน้า 7 หลัง 7)
การนับระยะปลอดภัย เป็นวิธีการคุมก�าเนิดโดยวิธีธรรมชาติอย่างหนึ่ง คือ “หน้า 7 หลัง 7”
หรือ “ก่อน 7 หลัง 7” (เจ็ดวันก่อนมีประจ�าเดือน และเจ็ดวันหลังจากมีประจ�าเดือน คือช่วงที่ปลอดภัย
วิธีนี้จะใช้ได้ผลเฉพาะรายที่มีรอบเดือนมาสม�่าเสมอเท่านั้น กรณีรอบเดือนมาไม่สม�่าเสมอ วิธีนี้จะมีโอกาส
ผิดพลาดได้มากจึงไม่แนะน�าให้ใช้วิธีนี้
การนับหน้าเจ็ด จะนับล่วงหน้า 7 วันก่อนวันท่คาดว่าประจาเดือนจะมา และหลังเจ็ดวัน


นับตั้งแต่วันแรกที่ประจ�าเดือนมาไป 7 วัน ตัวอย่างเช่น มีประจ�าเดือนวันที่ 7-11 มกราคม ระยะปลอดภัย
ช่วงหน้าเจ็ด คือระหว่างวันที่ 1-7 มกราคม ส่วนช่วงหลังเจ็ด คือระหว่างวันที่ 7-13 มกราคม หากรอบเดือน
มาไม่ตรงเวลา หรือไม่สม�่าเสมอ วิธีนี้จะมีโอกาสพลาดสูง และวิธีนี้ไม่ป้องกันการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศ

สัมพันธ์และเอดส์ จึงไม่แนะน�าให้ใช้วิธีนี้
2. การหลั่งภายนอก





หล่งนาอสุจิภายนอกช่องคลอด หรือท่คนท่วไปมักเรียกว่า “หล่งข้างนอก” หรือ

“หล่งภายนอก” (Coitus interruptus, Rejected sexual intercourse, Withdrawal, Pull-out






method) เป็นวิธีท่ช่วยลดโอกาสการต้งครรภ์อย่างหน่งท่เม่อร่วมเพศไปในระยะแรกจะเป็นไปอย่างปกต ิ
(ฝ่ายชายจะไม่ได้สวมถุงยางอนามัย) จนกระทั่งฝ่ายชายรู้สึกใกล้จะหลั่งน�้าอสุจิ ฝ่ายชายจะถอนอวัยวะเพศ

ออกจากช่องคลอดก่อนท่จะถึงจุดสุดยอด และหล่งนาอสุจิออกมาภายนอกช่องคลอดของฝ่ายหญิงแทน



โดยไม่ให้น�้าอสุจิเปื้อนบริเวณ ปากช่องคลอด เพราะอาจจะท�าให้เชื้ออสุจิเข้าไปในช่องคลอดได้ โดยคิดไป



เองว่าจะไม่ทาให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ของฝ่ายหญิงได้และไม่เกิดการต้งครรภ์ ซ่งน่นเป็นความเข้าใจท่ผิด









เพราะในระหว่างท่กาลังมีเพศสัมพันธ์ อาจจะมีเช้ออสุจิออกมากับนาเมือกบ้างแล้วบางส่วน หรอเม่อใกล้ถึง



จุดสุดยอดแล้ว แต่ฝ่ายชายถอนอวัยวะเพศไม่ทันจนหล่งนาอสุจิเข้าไปภายในช่องคลอดหรือบริเวณ





ปากช่องคลอดเหล่าน เช้ออสุจิก็สามารถผ่านเข้าไปในช่องคลอดได้ จึงมีโอกาสเส่ยงต่อการต้งครรภ์สูง
เป็นวิธีที่ไม่แนะน�าให้ใช้
30 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

ชีวิตออกแบบได้
แผนกำรจัดกิจกรรม
เรื่อง (ผลกระทบจำก
กำรเรียนรู้ที่ 5

กำรตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์)







1. สำระส�ำคัญ


วัยรุ่นท่ก้าวเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ มีการเปล่ยนแปลงทางร่างกาย อารมณ์ สังคม ด้านร่างกาย มีระดับ

ฮอร์โมนเพศที่เพิ่มขึ้น วัยรุ่นหญิงเริ่มมีประจ�าเดือน วัยรุ่นชายเริ่มมีการฝันเปียก ซึ่งแสดงถึงความพร้อมทางร่างกาย


ในการสืบพันธุ์ ปัจจุบันการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นเกิดข้นกับแฟน คนรักและเพ่อนในวัยใกล้เคียงกัน ซ่งการไว้ใจ

เช่อใจคู่ ไม่มีทักษะในการเจรจาต่อรอง และทักษะปฏิเสธ ทาให้มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันและอาจทาให้





ติดเช้อเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมท้งอาจเกิดการต้งครรภ์ได้ โดยเฉพาะการต้งครรภ์ไม่พึงประสงค์


ส่งผลกระทบต่อตัววัยรุ่นเอง ครอบครัว และสังคมในอนาคต
2. จุดประสงค์กำรเรียนรู้
เพื่อให้วัยรุ่นตระหนักถึงผลกระทบจากการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์



3. รูปแบบกิจกรรม

1. เรียนรู้จากวีดิทัศน์

2. การสวมชุดจ�าลองการตั้งครรภ์
3. กิจกรรมกลุ่ม



4. สื่อ/อุปกรณ์

1. วีดิทัศน์วัยรุ่นตั้งครรภ์เรื่องปุยฝ้าย (เวลา 3 นาที) (หลักสูตรเตรียมให้)

หรือวีดิทัศน์อื่นๆ ตามความเหมาะสม
2. ชุดจ�าลองการตั้งครรภ์

3. กระดาษฟลิปชาร์ท
4. ปากกาเคมี
5. ภาพต้นไม้เป้าหมายชีวิต











คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 31

5. แนวคิดที่ผู้เรียนควรได้




การเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมจากการสวมชุดจาลองการต้งครรภ์ เพ่อสร้างการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม
ให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ตระหนักถึงการมีเพศสัมพันธ์เพ่อป้องกันการต้งครรภ์ในวัยรุ่น รวมท้งป้องกันโรคติดต่อ



ทางเพศสัมพันธ์ และค�านึงถึงผลกระทบจากสิ่งที่อาจเกิดขึ้นหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
6. เวลำ

45 - 60 นาที




7. ขั้นตอนกำรจัดกิจกรรม

7.1 ขออาสาสมัครตัวแทน ชาย 2 คน และ หญิง 2 คน แสดงบทบาทสมมุติว่าตนเอง ตั้งครรภ์ 8 เดือน
โดยสวมชุดจ�าลองการตั้งครรภ์ตลอดการท�ากิจกรรม
7.2 น�าเข้าสู่บทเรียนด้วยกิจกรรม ต้นไม้เป้าหมายชีวิต

1. วิทยากรแจกภาพต้นไม้เป้าหมายชีวิตให้ผู้เข้ารับการอบรม คนละ 1 แผ่น
2. ให้ผู้เข้ารับการอบรมทุกคนเขียนเป้าหมายของชีวิตประกอบด้วย

ส่วนของดอกและผล : สิ่งที่อยากเป็น สิ่งที่อยากท�า
ส่วนของราก : เป็นส่วนของสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลไปสู่เป้าหมาย
3. วิทยากรสรุปการมีเป้าหมายชีวิตและการไปสู่เป้าหมายชีวิต โดยเราสามารถออกแบบได้ด้วยตนเอง

7.3 กิจกรรมวิเคราะห์จากวีดิทัศน์
1. ชมวีดิทัศน์ เรื่องปุยฝ้าย (3 นาที) หรือวีดิทัศน์อื่นตามความเหมาะสม

2. ให้แต่ละกลุ่มระดมความคิดเห็นลงในกระดาษฟลิปชาร์ท ในประเด็น
- ถ้าตนเองหรือคู่รักตั้งครรภ์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นทั้งเชิงบวกและเชิงลบ
3. ส่งตัวแทนกลุ่มมาน�าเสนอและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อน




7.4 ให้อาสาสมัครท่สวมชุดจาลองการต้งครรภ์บอกเล่าความรู้สึกท่ตนเองหรือคู่ต้งครรภ์ 8 เดือน


เมื่อสวมชุดจ�าลองการตั้งครรภ์ในประเด็น เช่น
1. ความรู้สึกเมื่อสวมชุดจ�าลองการตั้งครรภ์ (ทั้งหญิงและชาย)
2. ความรู้สึกของผู้ชายต่อการรับผิดชอบผู้หญิงที่ตั้งครรภ์
3. ความรู้สึกของครอบครัวเป็นอย่างไร

7.5 วิทยากรสรุป เก่ยวกับชีวิตออกแบบได้ การไปสู่เป้าหมายชีวิตทาได้ด้วยตนเอง โดยจะต้อง



นาไปสู่เร่องการตัดสินใจ การปรึกษาทางเลือก การให้บริการช่วยเหลือ ซ่งจะเข้าสู่ในแผนการ




จัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่อไปท่เก่ยวกับเร่องการช่วยเหลือและไม่ว่าอะไรจะเกิดข้น วัยรุ่นต้องก้าว


ข้ามผ่านไปให้ได้ เพอไปถงเป้าหมายแม้จะช้าไปบ้าง หรอต้องเปลยนเป้าหมายและวธการไป








แต่ท้ายที่สุดจะสามารถจัดการกับปัญหาและยืนได้
32 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

8. สรุป







ทุกคนมีเป้าหมายชีวิตและมีวิธีการท่นาไปสู่เป้าหมาย ซ่งอุปสรรคอย่างหน่งท่ทาให้ไม่ไปสู่เป้าหมายชีวิต
คือ การตั้งครรภ์ไม่พร้อมและการมีคู่ที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อม
การตั้งครรภ์มีทั้งผลเชิงบวกและเชิงลบ แต่สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อวัยรุ่นมากคือด้านเชิงลบ เช่น การเสียชีวิต
ของมารดา การเสียชีวิตของทารก การตกเลือดหลังคลอด คลอดก่อนก�าหนด ทารกแรกคลอดน�้าหนักต�่ากว่าเกณฑ์
นอกจากนี้ การคลอดบุตรในช่วงวัยรุ่น ยังอาจส่งผลต่อโอกาสทางการศึกษา หน้าที่การงาน รวมทั้งรายได้ในอนาคต
ของมารดา ซึ่งเป็นปัจจัยส�าคัญที่ส่งผลอย่างมากต่อการเลี้ยงดูบุตร

ข้อเสนอแนะส�าหรับผู้ด�าเนินกิจกรรม
1. วิทยากรควรมีการกระตุ้นให้ผู้เข้ารับการอบรมทุกคนมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในบทเรียน

2. สื่อการสอน เช่น ภาพ หรือวีดิทัศน์ ควรเป็นสื่อที่ทันสมัย ดึงดูดความสนใจของผู้เข้ารับการอบรม



9. กำรประเมินผล

1. การประเมินความรู้และทัศนคติ
2. การมีส่วนร่วมในการท�ากิจกรรม





















































คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 33

34 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

หมวดที่ 3






เรื่อง กำรส่งเสริม




และช่วยเหลือเพื่อนวัยรุ่น




































คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 35

36 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

“พ.ร.บ.กำรป้องกันและแก้ไข

แผนกำรจัดกิจกรรม ปัญหำกำรตั้งครรภ์
เรื่อง
กำรเรียนรู้ที่ 6 ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559


สิ่งส�ำคัญที่วัยรุ่นควรรู้”






1. สำระส�ำคัญ


สิทธิของวัยรุ่นตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการต้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 ได้แก่
วัยรุ่นมีสิทธิตัดสินใจด้วยตนเอง ได้รับข้อมูลข่าวสารและความรู้ ได้รับบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ ได้รับการจัด

สวัสดิการสังคม ได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาค และได้รับการรักษาความลับและความเป็นส่วนตัว


2. วัตถุประสงค์




1. เพ่อให้ความรู้แก่วัยรุ่นเก่ยวกับสิทธิตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการต้งครรภ์

ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559
2. เพื่อให้วัยรุ่นรับรู้ช่องทางและบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ตามพระราชบัญญัติการป้องกัน และ
แก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559



3. รูปแบบกิจกรรม

1. การเรียนรู้จากการชมวีดิทัศน์

2. การบรรยาย
3. เกมบัตรค�า
4. กิจกรรมกลุ่ม




4. สื่อ/อุปกรณ์

1. กระดาษฟลิปชาร์ท
2. ปากกาเมจิก

3. บัตรค�า
4. วีดิทัศน์ เรื่อง พ.ร.บ. (เวลา 6.17 นาที) (หลักสูตรเตรียมให้)
5. กระดาษกาว











คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 37

5. แนวคิดที่ผู้เรียนควรได้

ได้รับรู้ถึงสิทธิตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 เกี่ยวกับ


สิทธิในการตัดสินใจด้วยตัวเอง การได้รับข้อมูลข่าวสารและความรู้และรับบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ท่สอดคล้อง
กับความต้องการของวัยรุ่น ได้รับการจัดสวัสดิการสังคม ได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาค โดยไม่เลือกปฏิบัต ิ


และได้รับการรักษาความลับและความเป็นส่วนตัว รวมท้งมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถช่วยเหลือและส่งต่อไป
ตามบทบาทของหน่วยงานในการให้การดูแลและช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม



6. เวลำ


45 - 60 นาที


7. ขั้นตอนกำรจัดกิจกรรม


7.1 กิจกรรมเชื่อมโยงน�าเข้าสู่บทเรียน
1. วิทยากรตั้งค�าถาม สิทธิ หมายถึงอะไร
2. สิทธิของวัยรุ่นในปัจจุบันมีอะไรบ้าง ยกตัวอย่าง เช่น สิทธิการรักษาพยาบาล/บัตรทอง หรือ

สิทธิอื่นๆ ตามความเหมาะสม
7.2 การเรียนรู้จากการชมวีดิทัศน์

1. ชมวีดิทัศน์ เรื่อง สาระส�าคัญของ พ.ร.บ. การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559
2. วิทยากรต้งคาถามว่าวัยรุ่นได้อะไรบ้างจาก พ.ร.บ. การป้องกันและแก้ไขปัญหาการต้งครรภ์



ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559


7.3 กิจกรรมการเรียนรู้เร่อง สิทธิวัยรุ่นตาม พ.ร.บ. การป้องกันและแก้ไขปัญหาการต้งครรภ์ในวัยรุ่น
พ.ศ. 2559
1. วิทยากรแจกบัตรค�า กลุ่มละ 1 ชุด (บัตรค�า 1 ชุด ประกอบด้วย 5 สิทธิวัยรุ่นตามมาตรา 5)
2. วิทยากรให้แต่ละกลุ่มวางหัวข้อสิทธิ ทั้ง 5 สิทธิ เพื่อใช้ในการตอบค�าถาม
3. วิทยากรยกตัวอย่างกิจกรรม โดยใช้บัตรคา หัวข้อสิทธ เช่น สิทธิการตัดสินใจด้วยตนเอง


เจาะตรวจหาเชื้อ HIV

4. ให้แต่ละกลุ่มระดมสมองเลือกบัตรคากิจกรรมหรือการบริการท่วัยรุ่นควรจะได้รับตามสิทธ ิ

ให้เหมาะสมที่สุด ตามหัวข้อที่วิทยากรก�าหนดให้ทั้ง 5 สิทธิวัยรุ่น ภายใต้ พรบ. มาตรา 5 (เวลา 15 นาที)
5. ให้ผู้เข้ารับการอบรม นาบัตรคาท่เลือกมาวางหรือติด ลงในกระดาษฟลิปชาร์ท ตามสิทธิวัยรุ่น



ภายใต้ พรบ. มาตรา 5 รวมทั้ง 5 สิทธิ

6. วิทยากรสอบถาม และเปิดโอกาสให้แต่ละกลุ่มทบทวนคาตอบและตรวจสอบความถูกต้อง
อีกครั้ง

7. ให้ตัวแทนกลุ่มน�าเสนอ







38 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น




8. วิทยากรเฉลยทีละสิทธิและอธิบายเพ่มเติมของการใช้สิทธิน้นๆ ว่าสามารถใช้ได้ ท่ไหน และม ี
ขอบเขตอย่างไรและสรุปบทเรียนร่วมกัน
9. วิทยากรสรุปกิจกรรม และให้ความรู้บทบาทของหน่วยงานราชการต่างๆ 5 กระทรวงหลัก
ตาม พ.ร.บ.นี้ (เพิ่มช่องทางการเข้าถึงตามบริบทของพื้นที่หรืออ�าเภออนามัยการเจริญพันธุ์ )

ประเด็นส�าคัญของกิจกรรมที่ต้องเรียนรู้

1. สิทธิของวัยรุ่น ตาม พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 มีอะไรบ้าง
2. วัยรุ่นสามารถรับบริการด้านอนามัยการเจริญพันธุ์อะไรได้บ้าง

3. เมื่อวัยรุ่นตั้งครรภ์จะได้รับการช่วยเหลือด้านสวัสดิการสังคมอะไรบ้าง
4. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559
5. บทบาทของสถานศึกษา ตาม พ.ร.บ. การป้องกันและแก้ไขปัญหาการต้งครรภ์ในวัยรุ่น

พ.ศ. 2559 มีอะไรบ้าง



8. สรุป

สิทธิของวัยรุ่นตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการต้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559

อายุมากกว่า 10 ปี แต่ไม่ถึง 20 ปี ตามมาตรา 5 วัยรุ่นมีสิทธิตัดสินใจด้วยตนเอง และมีสิทธิได้รับข้อมูลข่าวสาร
และความรู้ ได้รับบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ ได้รับการการรักษาความลับและความเป็นส่วนตัว ได้รับการจัด

สวัสดิการสังคมอย่างเสมอภาคและไม่ถูกเลือกปฏิบัต และได้รับสิทธิและช่องทางและสวัสดิการต่างๆ ท่เป็นไป

เพื่อประโยชน์ตามพระราชบัญญัตินี้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และเพียงพอ



9. กำรประเมินผล

1. ประเมินความรู้
2. สังเกตการมีส่วนร่วมของสมาชิก

3. ประเมินจากการถามตอบ และคะแนนกลุ่มมากกว่าร้อยละ 80 ในภาพรวม































คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 39

ตัวอย่างบัตรค�า


สิทธิของวัยรุ่น (ภายใต้ พ.ร.บ. มาตรา 5) ตัวอย่าง

1. สามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง - สามารถเจาะตรวจหาเชื้อ HIV

- สามารถขอรับบริการคุมก�าเนิด
- สามารถเรียนต่อเมื่อตั้งครรภ์
- สามารถย้ายสถานศึกษาเมื่อตั้งครรภ์

- สามารถวางแผนทางเลือกเมื่อตั้งครรภ์ไม่พร้อม


2. ได้รับข้อมูลข่าวสารและความรู้ - สามารถขอรับข้อมูลความรู้เรื่อง การวางแผน
ครอบครัวและการคุมก�าเนิด
- สามารถขอรับข้อมูลความรู้เรื่อง การป้องกันโรค

และการดูแลสุขภาพส�าหรับวัยรุ่น
- ขอรับข้อมูลของภาคีเครือข่ายในการให้ค�าปรึกษา
หรือหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือวัยรุ่น

- ได้รับข้อมูลความรู้เรื่องเพศวิถีศึกษา


3. ได้รับบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ - บริการถุงยางอนามัย
- บริการยาเม็ดคุมก�าเนิด
- บริการฝังยา ใส่ห่วง

- บริการการตรวจรักษา
- บริการการฟื้นฟูสุขภาพ
- บริการการฝากครรภ์

- บริการการขอรับการปรึกษา
- บริการวางแผนการมีบุตร


4. ได้รับการจัดสวัสดิการสังคม - จัดหาครอบครัวทดแทน

- ฝึกอาชีพแม่วัยรุ่นหรือพ่อวัยรุ่น
- หาที่พักส�าหรับวัยรุ่นตั้งครรภ์
- ให้ค�าปรึกษาด้านสวัสดิการสังคม

- เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็ก

5. ได้รับการรักษาความลับและความเป็นส่วนตัว - เมื่อวัยรุ่นไม่ต้องการให้เปิดเผยข้อมูลผู้ที่เกี่ยวข้อง

ต้องรักษาความลับและเป็นส่วนตัว










40 คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น

แผนกำรจัดกิจกรรม กำรให้ค�ำปรึกษำ
เรื่อง
กำรเรียนรู้ที่ 7
เพื่อนช่วยเพื่อน









1. สำระส�ำคัญ






การให้คาปรึกษาเพ่อนช่วยเพ่อนเป็นแนวทางในการให้ความช่วยเหลือรูปแบบหน่ง เพ่อให้ความ

ช่วยเหลือด้านอารมณ์ จิตใจ แก่ผู้ขอรับการช่วยเหลือ และช่วยให้เขาได้แสดงออกทางอารมณ์ได้เต็มท ช่วยให้

ผู้รับการปรึกษาสามารถตัดสินใจแก้ไขปัญหาด้วยตนเองได้ ผู้ให้ค�าปรึกษาที่ดี ควรมีบุคลิกภาพที่เป็นมิตร เป็นผู้ฟัง
ที่ดี มีความเข้าใจผู้อื่น มีความจริงใจ ท�าให้ผู้รับการช่วยเหลือรู้สึกปลอดภัย และรักษาความลับและความเป็นส่วนตัว
2. วัตถุประสงค์

1. มีความรู้ในการให้ค�าปรึกษาเบื้องต้นกับเพื่อนวัยรุ่นได้

2. สามารถให้ค�าปรึกษาเบื้องต้นกับเพื่อนวัยรุ่นได้
3. สามารถรับทราบแนวทางการช่วยเหลือ ดูแล และส่งต่อไปยังภาคีเครือข่ายอย่างเหมาะสม



3. รูปแบบกิจกรรม

1. กิจกรรมการเรียนรู้จากเกมปิดตา และการบรรยาย

2. การวิเคราะห์จากการชมภาพยนตร์สั้น เรื่อง Patcha is sexy (หลักสูตรเตรียมให้)
3. การฝึกทักษะการให้ค�าปรึกษาเบื้องต้น จากกรณีศึกษา



4. สื่อ/อุปกรณ์

1. ผ้าปิดตา

2. เครื่องเล่นซีดีหรืออุปกรณ์เครื่องเสียง
3. เชือกฟาง

4. กระดาษฟลิปชาร์ท
5. ปากกาเคมี
6. ใบงานกรณีศึกษา

7. ภาพยนตร์สั้น เรื่อง Patcha is sexy จ�านวน 3 ตอน (เวลา 8.55 นาที)








คู่มือพัฒนาศักยภาพแกนน�าวัยรุ่น 41


Click to View FlipBook Version