The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

10.บทที่ 10 การวัดน้ำหนัก15 ชม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by miw_chaya, 2022-04-21 03:39:07

10.บทที่ 10 การวัดน้ำหนัก15 ชม

10.บทที่ 10 การวัดน้ำหนัก15 ชม

ใบงานท่ี 11 เร่อื งโจทย์ปญั หาเก่ยี วกับนา้ หนกั

แสดงวิธหี าคาตอบ

1. แม่ซอ้ื ฝรง่ั 2 กโิ ลกรัม 650 กรัม และองุ่น 1 กิโลกรมั 450 กรัม แม่ซื้อฝรั่งและองุน่ น้าหนักรวมกนั
เท่าไร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. รถบรรทกุ และทรายหนัก 9 ตัน เททรายท้งั หมดออก 3 ตัน 750 กิโลกรัมรถบรรทุกหนกั เท่าไร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 12

กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 10 เรื่อง นา้ หนกั

เรื่อง โจทย์ปญั หาเกีย่ วกบั นา้ หนัก (2) เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

สอนวันที่_________เดอื น________________พ.ศ.256_

มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั

มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพ้ืนฐานเกยี่ วกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสงิ่ ท่ตี ้องการวดั และนาไปใช้

ตวั ชวี้ ัด : ค 2.1 ป.3/10 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับนา้ หนักที่มีหน่วยเปน็ กิโลกรัมกับกรัมเมตริกตนั
กบั กิโลกรมั

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ส่ตู ัวช้ีวัด

1. บอกวธิ ีหาแสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั น้าหนกั (K)

2. แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาเกย่ี วกับน้าหนกั (P)

3. นักเรียนมคี วามมุ่งในการทางานและสามารถนาความร้ทู ่ีได้ไปต่อยอดในการเรียนเรื่องต่อไป (A)

สาระสาคัญ

การแก้โจทย์ปัญหาทาได้โดยอ่านทาความเข้าใจปญั หา วางแผนแก้ปญั หา หาคาตอบและ

ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบซึง่ ในการแก้โจทย์ปญั หาอาจใชค้ วามร้เู รอ่ื งการหาผลบวก ผลลบ ผล

คณู และผลหารเก่ยี วกับน้าหนัก

สาระการเรียนรู้

1.ความรู้

โจทย์ปัญหาเก่ียวกับนา้ หนัก

2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด

1. ความสามารถในการสื่อสารความหมายทางคณิตศาสตร์

2. การเช่ือมโยง

3. การแกป้ ัญหา

3.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

1. มวี นิ ัย

2. ใฝเ่ รียนรู้

3. ม่งุ ม่นั ในการทางาน

ชิ้นงานหรือภาระงาน

ใบงานท่ี 12 เร่ือง โจทย์ปัญหาเกย่ี วกับนา้ หนัก

กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้
1. ครูทบทวนเกี่ยวกับการแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับน้าหนักว่า ในการแก้โจทย์ปัญหาน้ันนักเรียนต้อง

อ่านทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคาตอบ และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบแล้ว
นาเขา้ สู่สถานการณโ์ จทยป์ ัญหาตามหนังสือเรียนหนา้ 139 เพ่อื ฝึกทักษะการแก้โจทยป์ ัญหาเกีย่ วกับนา้ หนัก
โดยครตู ดิ บัตรโจทย์

ช้างแอฟริกามีน้าหนัก 7 ตัน ช้างเอเชียมีน้าหนักน้อยกว่าช้างแอฟริกา 1 ตัน 500 กิโลกรัม ช้าง
เอเชยี มนี ้าหนกั เท่าไร

ครูให้นักเรียนอ่านโจทย์พร้อมกัน ครูใช้การถาม - ตอบเพื่อให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ว่า โจทย์ถาม
อะไร โจทย์บอกอะไร และหาคาตอบได้อยา่ งไร ซ่ึงโจทยข์ ้อนี้ครอู าจใชบ้ าร์โมเดลเพื่อให้นักเรียนวเิ คราะห์ว่าจะ
หาคาตอบโดยการบวก การลบ การคูณ หรือการหาร ดังนี้ จากโจทย์ต้องการหาน้าหนักของช้างเอเชียท่ีหนัก
น้อยกว่าช้างแอฟริกาโดยกาหนดน้าหนักของช้างแอฟริกา และน้าหนักที่ช้างเอเชียหนักน้อยกว่าช้างแอฟริกา
ครตู ิดแถบบารโ์ มเดลบนกระดาน ดงั นี้

จากแถบบาร์โมเดลครูให้นักเรียนวเิ คราะห์วา่ ถ้าต้องการทราบน้าหนักของชา้ งเอเชยี จะหาคาตอบได้
อยา่ งไร นักเรยี นควรตอบได้ว่า ต้องนานา้ หนักของชา้ งแอฟรกิ าลบด้วยนา้ หนกั ท่ีกาหนดว่าชา้ งเอเชียหนักน้อย

กว่าชา้ งแอฟริกา ครูและนักเรียนชว่ ยกันเขียนแสดงวิธหี าคาตอบ ดงั น้ี

ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ ดงั นี้5 ตนั 500 กิโลกรมั เป็นคาตอบท่ี
สมเหตุสมผลเพราะน้อยกว่า 7 ตัน หรอื อาจตรวจคาตอบโดยการนา 5 ตัน 500 กิโลกรัม บวก 1 ตนั 500
กโิ ลกรัม ได้ผลบวกเป็น 7 ตนั ดงั นน้ั 5 ตนั 500 กโิ ลกรัม เป็นคาตอบทถ่ี ูกต้อง

2.ครูยกตัวอยา่ งโจทย์ปญั หาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบเกีย่ วกบั นา้ หนกั ตามหนังสอื เรยี นหน้า 140
แล้วให้นกั เรียนชว่ ยกันวเิ คราะห์โจทย์ปญั หาวา่ โจทย์ถามอะไร โจทยบ์ อกอะไรและจะหาคาตอบได้อยา่ งไร ครู
อาจใหน้ ักเรยี นวาดรูปแสดงวิธคี ดิ ทีห่ ลากหลาย และควรใหน้ กั เรยี นตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบ

ดังนี้ จากโจทย์กาหนดน้าหนักเดอื นน้ีของแม่ และบอกวา่ น้าหนกั ของแม่เดือนนนี้ ้อยกว่าน้าหนักของแม่ใน
เดอื นท่ีแลว้ และให้หานา้ หนกั ของแม่เดือนที่แลว้ ครูตดิ แถบบาร์โมเดลแสดงนา้ หนกั ของแม่ ดงั นี้

จากแถบบาร์โมเดลครูให้นักเรยี นวิเคราะหว์ า่ จะหาน้าหนักของแม่เดือนที่แล้วได้อย่างไรนักเรยี นควรตอบ
ไดว้ า่ ต้องนาน้าหนักของแม่เดือนนบี้ วกกับน้าหนกั ท่โี จทย์บอกวา่ น้าหนกั ของแม่เดือนน้ีน้อยกว่าน้าหนกั ของ
แม่ในเดือนทีแ่ ล้ว ครแู ละนักเรยี นช่วยกันเขียนแสดงวธิ หี าคาตอบ ดังน้ี

ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบ ดังน้ี 56 กโิ ลกรมั 400 กรัม เป็นคาตอบที่
สมเหตุสมผลเพราะมากกวา่ 54 กโิ ลกรัม 900 กรมั

3. ครยู กตัวอย่างโจทย์ปญั หาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบเกีย่ วกบั น้าหนักตามหนังสอื เรียนหน้า 141
เช่น รถบรรทกุ หนกั 9 ตัน 600 กิโลกรัม รถบรรทุกหนกั มากกวา่ รถยนต์7 ตนั 850 กโิ ลกรัม รถยนตห์ นกั เท่าไร
ครูให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะหโ์ จทย์ปัญหาว่า โจทย์บอกอะไร โจทย์ถามอะไร และจะหาคาตอบได้อย่างไร ครู
ควรใหน้ กั เรียนวาดรปู หรือใช้บาร์โมเดลช่วยในการคิดหาคาตอบ ครแู ละนกั เรียนช่วยกันเขียนแสดงวธิ ีหา
คาตอบ ดงั นี้

จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนจับคู่กันแล้วให้แต่ละคู่ช่วยกันเขยี นแสดงวิธหี าคาตอบพรอ้ มตรวจสอบความ

สมเหตสุ มผลของคาตอบคู่ละ 1 ข้อ แล้วใหน้ าเสนอจนครบทุกข้อ ครูและนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความ

ถูกต้อง

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นเป็นรายบคุ คลโดยใหน้ ักเรียนเขียนแสดงวธิ ีหาคาตอบตามหนังสือ

เรียนหน้า 142 โดยครแู ละนักเรยี นอาจร่วมกันทบทวนข้อสรปุ เก่ยี วกบั การหาผลบวกและการหาผลลบเก่ยี วกับ

นา้ หนักดงั นก้ี ารหาผลบวกเกี่ยวกับน้าหนกั ใหเ้ ขยี นตวั เลขแสดงจานวนในหน่วยเดยี วกนั ใหต้ รงกันแล้วนา

จานวนมาบวกกันเขยี นผลบวกท่ีได้ให้ตรงกบั หนว่ ยน้าหนัก ถ้าผลบวกในหนว่ ยใดสามารถเปลยี่ นหน่วยไดใ้ ห้

เปลยี่ นหน่วยแลว้ นาไปรวมกับผลบวกในหน่วยถัดไปทางซ้ายการหาผลลบเกย่ี วกับน้าหนกั ใหเ้ ขียนตวั เลขแสดง

จานวนในหนว่ ยเดียวกนั ใหต้ รงกนั แล้วนาจานวนมาลบกนั เขียนผลลบท่ไี ดใ้ หต้ รงกับหนว่ ยนา้ หนัก ถา้ ตัวตงั้ ใน

หน่วยใดน้อยกวา่ ตวั ลบใหก้ ระจายจานวนจากหน่วยถัดไปทางซ้ายแลว้ เปล่ยี นหนว่ ยให้เปน็ หน่วยเดยี วกนั กบั ตวั

ตงั้ และนามารวมกบั ตัวต้ังเดิมก่อนแลว้ จงึ นามาลบกันครูและนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ งและ

สรปุ สิง่ ทีไ่ ด้เรียนรู้ถ้าพบว่ามีนักเรยี นคนใดทเ่ี ขียนแสดงวิธีหาคาตอบไม่ถูกต้อง ครูควรให้นกั เรียนฝกึ เพิ่มเตมิ

จากนัน้ ให้นักเรยี นทาแบบฝึกหดั 10.10 หนา้ 102 – 104 และทาใบงานเพม่ิ เติม

ส่อื การเรยี นรู้

1.หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.3

2. ใบงานท่ี 12 เรื่อง โจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั น้าหนกั

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

จุดประสงค์การ วิธวี ัด เครอื่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน

เรยี นรู้

1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

การประเมิน

2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั

กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทักษะ คุณภาพดีขน้ึ ไป

กระบวนการ

3. ดา้ นคุณลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดบั

ที่พึงประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ ดา้ นคุณลักษณะ คุณภาพดีขน้ึ ไป

ทพี่ ึงประสงค์

เกณฑ์การประเมินแบบฝกึ หัด/ใบงาน

ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คุณภาพ
1. 1.ความถกู ต้องของ
เนอ้ื หา 4 3 21
2. รูปแบบ
เนอื้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ
3. ความเป็นระเบียบ
ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกต้อง

ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เป็นสว่ นใหญ่

การนาเสนอ การนาเสนอถกู ต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่

น่าสนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์

เหมาะสมกบั

สถานการณ์

ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ

เปน็ ระเบยี บ ขอ้ บกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบียบ

เล็กนอ้ ย บางส่วน

เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ภาพ

10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2

7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ระดับ 1

เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นทกั ษะและกระบวนการทางาน
ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล

คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลท่ีปรากฏใหเ้ หน็
4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอย่างมเี หตุผล
3 : ดี มีการอ้างอิงท่ถี ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ
มีความพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ
1 : ควรปรับปรงุ แก้ไข

ทักษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา

คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาทีป่ รากฏใหเ้ ห็น

4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแก้ปัญหาได้สาเร็จ อย่างมีประสทิ ธิภาพ อธิบายถงึ เหตุผล
หลักการและขน้ั ตอนในการแก้ปัญหาได้เขา้ ใจชัดเจนนามาซ่ึงคาตอบทถี่ ูกต้อง

3 : ดี ใช้กระบวนการแก้ปญั หาได้สาเร็จ แตน่ ่าจะอธิบายถงึ เหตุผล
หลกั การและขน้ั ตอนในการแกป้ ัญหาได้ดีกว่านี้

2 : พอใช้ มีกระบวนการแก้ปัญหา สาเร็จเพยี งบางส่วน อธิบายถงึ เหตผุ ล
หลกั การและขั้นตอนในการแก้ปญั หาได้บางสว่ น

1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มีร่องรอยการแก้ปัญหาบางสว่ น เริ่มคดิ ใช้เหตุผล หลกั การและขั้นตอน
ในการแก้ปัญหา แล้วหยดุ อธิบายต่อไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ าเรจ็

ทักษะ และกระบวนการ: การเชอ่ื มโยง สรุปองค์ความรู้

คะแนน:ระดับ ความสามารถในการเชือ่ มโยงท่ีปรากฏให้เหน็

คณุ ภาพ

นาความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชือ่ มโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์

4 : ดมี าก หรือกิจกรรมทตี่ ้องใชอ้ งค์ความรู้ทเ่ี รียนได้ถูกต้องทุกกิจกรรมเพื่อช่วยในการแก้ปัญหา

หรอื ประยุกตใ์ ช้ได้อย่างสอดคลอ้ งและเหมาะสม

นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชือ่ มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์

3 : ดี หรอื กิจกรรมทตี่ ้องใชอ้ งค์ความรทู้ เ่ี รยี นไดเ้ ป็นสว่ นใหญ่

เพือ่ ชว่ ยในการแก้ปญั หาหรอื ประยุกตใ์ ช้ไดบ้ างสว่ น

2 : พอใช้ นาความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ไปเชือ่ มโยงกบั สาระคณติ ศาสตรห์ รอื
กิจกรรมท่ีต้องใชอ้ งค์ความรทู้ ี่เรยี นได้บางส่วน

1 : ควรปรับปรงุ นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชือ่ มโยงยงั ไม่เหมาะสม สรุป

แกไ้ ข องค์ความรทู้ ่ีได้

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝเ่ รยี นรู้

คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะทปี่ รากฏใหเ้ ห็น
คณุ ภาพ

3 : ดีมาก - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้

2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจเป็นบางครัง้

1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตงั้ ใจในระยะเวลาส้ันๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรียนมคี วามมงุ่ มัน่ ในการทางาน

คะแนน : ระดบั คณุ ลกั ษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็
คุณภาพ

3 : ดมี าก - สง่ งานกอ่ นหรือตรงกาหนดเวลานัดหมาย
- รบั ผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายและปฏิบัติตนเองจนเป็นนสิ ยั

2 : ดี - ส่งงานช้ากวา่ กาหนด แต่ได้มกี ารตดิ ต่อชีแ้ จงผสู้ อน มเี หตุผลทร่ี ับฟงั ได้
- รบั ผิดชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหมายและปฏบิ ตั ติ นเองจนเปน็ นสิ ัย

1 : พอใช้ - ส่งงานชา้ กวา่ กาหนด
- ปฏบิ ตั ิงานโดยตอ้ งอาศยั การชแี้ นะ แนะนา ตักเตือนหรือใหก้ าลังใจ

บนั ทกึ หลังการสอน

สรปุ ผลการเรยี นการสอน

1. นกั เรียนจำนวน ................................................... คน

ผำ่ นจดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ...............................

ไม่ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ............... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ………………………….

ได้แก่

1. ……………………………………………………………………………………………………………………….

2. ……………………………………………………………………………………………………………………….

3. ……………………………………………………………………………………………………………………….

นกั เรียนมีควำมสำมำรถพเิ ศษไดแ้ ก่

1. ………………………………………………………………………………………………………………………

2. ………………………………………………………………………………………………………………………

2. นักเรียนมีควำมร้คู วำมเข้ำใจ (K)

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. นกั เรียนมคี วำมรู้เกดิ ทักษะ (P)

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. นักเรียนมคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะ

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ......................................................
(นำงสำวชยำภรณ์ อุ่นเรือน)
ตำแหน่ง ครผู ้สู อน

ความคิดเห็นของฝา่ ยวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื .......................................................... หวั หนำ้ ฝ่ำยวชิ ำกำร
(นำงสำวเบญจรตั น์ สลี ำดี)

ความคดิ เห็นของผูอ้ านวยการ
 เหมำะสม เนื้อหำครบถ้วน
 ไม่เหมำะสม เพรำะ ....................................................................................................................

ลงชื่อ ..........................................................
(นำยพิรชั วิชช์ อุคต)

รักษำกำรในตำแหน่งตำแหนง่ ผอู้ ำนวนกำรโรงเรยี นบ้ำนศรีทองสำมัคคี

ใบงานท่ี 12 เร่ืองโจทยป์ ญั หาเกยี่ วกับน้าหนกั

แสดงวธิ หี าคาตอบ

1.เรอื บรรทกุ ไมห้ นัก 105 ตนั 840 กโิ ลกรมั เรอื บรรทุกทรายหนกั กวา่ เรือบรรทุกไม้ 56 ตนั 200 กิโลกรัม
เรือบรรทกุ ทรายหนกั เท่าไร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. รถบรรทุกและทรายหนกั 9 ตนั เททรายทงั้ หมดออก 3 ตัน 750 กโิ ลกรมั รถบรรทุกหนักเท่าไร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 13

กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 10 เรื่อง นา้ หนกั

เรื่อง โจทย์ปญั หาเกีย่ วกบั นา้ หนัก (3) เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

สอนวันที่_________เดอื น________________พ.ศ.256_

มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั

มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพ้ืนฐานเกยี่ วกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสงิ่ ท่ตี ้องการวดั และนาไปใช้

ตวั ชวี้ ัด : ค 2.1 ป.3/10 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับนา้ หนักที่มีหน่วยเปน็ กิโลกรัมกับกรัมเมตริกตนั
กบั กิโลกรมั

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ส่ตู ัวช้ีวัด

1. บอกวธิ ีหาแสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั น้าหนกั (K)

2. แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาเกย่ี วกับน้าหนกั (P)

3. นักเรียนมคี วามมุ่งในการทางานและสามารถนาความร้ทู ่ีได้ไปต่อยอดในการเรียนเรื่องต่อไป (A)

สาระสาคัญ

การแก้โจทย์ปัญหาทาได้โดยอ่านทาความเข้าใจปญั หา วางแผนแก้ปญั หา หาคาตอบและ

ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบซึง่ ในการแก้โจทย์ปญั หาอาจใชค้ วามร้เู รอ่ื งการหาผลบวก ผลลบ ผล

คณู และผลหารเก่ยี วกับน้าหนัก

สาระการเรียนรู้

1.ความรู้

โจทย์ปัญหาเก่ียวกับนา้ หนัก

2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด

1. ความสามารถในการสื่อสารความหมายทางคณิตศาสตร์

2. การเช่ือมโยง

3. การแกป้ ัญหา

3.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

1. มวี นิ ัย

2. ใฝเ่ รียนรู้

3. ม่งุ ม่นั ในการทางาน

ชิ้นงานหรือภาระงาน

ใบงานท่ี 13 เร่ือง โจทย์ปัญหาเกย่ี วกับนา้ หนัก

กิจกรรมการจดั การเรียนรู้
1. ครทู บทวนการหาผลคณู เกี่ยวกับน้าหนกั วา่ ให้คูณทลี ะหนว่ ยน้าหนักโดยเริ่มจากหน่วยทอ่ี ยทู่ างขวา

เมอ่ื ได้ผลคณู ที่สามารถเปลีย่ นหนว่ ยไดใ้ ห้เปลยี่ นหนว่ ยแล้วนาไปรวมกบั ผลคูณที่ไดใ้ นหน่วยถัดไปทางซ้าย เชน่
9 ตัน 500 กโิ ลกรัม คูณ 7 เท่ากบั เท่าไร ครูให้นักเรยี นช่วยกนั เขียนแสดงวิธหี าคาตอบ ดังน้ี

ครูให้นักเรียนอ่านโจทยพ์ ร้อมกนั ครูใชก้ ารถาม – ตอบเพื่อใหน้ ักเรยี นวเิ คราะหโ์ จทย์ดังนี้
− โจทยถ์ ามอะไร (พอ่ บรรจุปุ๋ยคอกทงั้ หมดหนักเทา่ ไร)
− โจทยบ์ อกอะไร (พ่อบรรจุปุ๋ยคอกใสก่ ระสอบ 9 กระสอบ หนกั กระสอบละ 50 กิโลกรัม500 กรัม)
− หาคาตอบไดอ้ ย่างไร (หาคาตอบไดโ้ ดยการนาจานวนกระสอบคูณกับน้าหนักของปุ๋ยคอก
แตล่ ะกระสอบ)

ครอู าจให้นักเรียนวาดรปู เพอ่ื ช่วยให้นักเรียนเข้าใจโจทยแ์ ละสามารถหาคาตอบไดง้ ่ายขึ้นจากโจทย์พ่อ
บรรจปุ ุย๋ คอกใสก่ ระสอบ กระสอบละ 50 กโิ ลกรมั 500 กรัม จานวน 9 กระสอบใหน้ ักเรียนวาดรปู ตามทโี่ จทย์
กาหนดจะได้วา่ ต้องใชก้ ารคูณในการหาคาตอบ ครูและนักเรียนชว่ ยกันเขียนแสดงวิธีหาคาตอบดังนี้

ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบ ดงั น้ี ถ้าปุ๋ยคอกหนกั กระสอบละ 50
กิโลกรมั 9 กระสอบ หนกั 9 × 50 = 450 กโิ ลกรมั เนือ่ งจากแตล่ ะกระสอบ หนกั มากกวา่ 50 กโิ ลกรมั 9
กระสอบ น้าหนักทง้ั หมดควรมากกว่า 450 กโิ ลกรมั ดงั นัน้ 454 กโิ ลกรัม 500 กรมั จงึ เป็นคาตอบท่ี
สมเหตุสมผล จากน้นั ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั เขยี นแสดงวธิ หี าคาตอบในกรอบท้ายหนังสือเรียนหน้า 143 และ
ช่วยกันวิเคราะห์โจทยป์ ัญหาว่า โจทย์ถามอะไรโจทย์บอกอะไร และจะหาคาตอบได้อย่างไร ครคู วรใหน้ ักเรียน
วาดรปู ประกอบการคดิ และใหน้ ักเรียนตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบทีห่ ลากหลาย เชน่ ในตวั อยา่ ง
ขา้ งต้น

นักเรียนอาจตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบดงั น้ี ถ้าปุ๋ยคอก 10 กระสอบ หนกั กระสอบละ 50
กิโลกรัม 500 กรัม ทัง้ หมดหนกั 10 × 50 = 500 กิโลกรมั 10 × 500 = 5,000 กรมั หรือ 5 กโิ ลกรัม รวมเป็น
505 กิโลกรัม แต่พ่อบรรจุ9 กระสอบ ทั้งหมดหนัก 454 กโิ ลกรัม 500 กรัม จึงเป็นคาตอบท่สี มเหตุสมผล
เพราะน้อยกว่า 505 กิโลกรมั

2. ครทู บทวนการหารเกย่ี วกบั นา้ หนักวา่ ใหห้ ารน้าหนกั โดยการหารส้นั และหารทีละหนว่ ยนา้ หนัก เรมิ่
หารจากหนว่ ยท่อี ยูท่ างซ้าย เมือ่ ไดผ้ ลหารและเศษให้นาเศษทีไ่ ดเ้ ปล่ียนหน่วยแล้วไปรวมกบั ตัวตั้งในหน่วย
ถัดไปทางขวาแลว้ จงึ นาไปหารกัน เชน่ 16 ตัน 500 กิโลกรมั หารด้วย3 เท่ากับเทา่ ไร ครูให้นักเรียนชว่ ยกนั
เขียนแสดงวิธหี าคาตอบ ดังนี้

จากนน้ั ครูให้นักเรยี นอา่ นโจทยป์ ัญหาตามหนังสือเรียนหนา้ 144 พรอ้ มกัน และให้ช่วยกันวิเคราะห์
โจทย์ปัญหาวา่ โจทยถ์ ามอะไร โจทยบ์ อกอะไร และจะหาคาตอบได้อย่างไร ครูควรให้นักเรียนวาดรปู ประกอบ
การคิดแกป้ ัญหาท่หี ลากหลาย และใหน้ กั เรียนตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบ เช่น จากโจทยแ์ ม่คา้
จดั มงั คดุ 1 ตนั 300 กโิ ลกรัม ใสเ่ ขง่ 5 เข่งแต่ละเข่งหนกั เท่า ๆ กัน ดังนน้ั ในการหาคาตอบต้องใช้การหาร ครู
อาจใหน้ กั เรยี นออกมาอธบิ ายวธิ ีหาคาตอบครูและนกั เรยี นช่วยกันเขยี นแสดงวิธหี าคาตอบ ดงั นี้

จากนน้ั ครใู หน้ กั เรียนจบั คูก่ นั แลว้ ใหแ้ ตล่ ะคู่ชว่ ยกนั เขียนแสดงวธิ หี าคาตอบพร้อมตรวจสอบความ
สมเหตสุ มผลของคาตอบคู่ละ 1 ขอ้ แลว้ ใหน้ าเสนอจนครบทกุ ข้อ ครแู ละนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความ
ถกู ต้อง

ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและ

สรปุ สิ่งที่ไดเ้ รียนรู้ถา้ พบวา่ มนี ักเรียนคนใดทเ่ี ขียนแสดงวิธหี าคาตอบไม่ถกู ต้อง ครูควรให้นักเรยี นฝึกเพิ่มเติม

จากนัน้ ใหน้ ักเรียนทาแบบฝึกหัด 10.10 หนา้ 102 – 104 และทาใบงานเพมิ่ เติม

ส่ือการเรียนรู้

1.หนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.3

2. ใบงานที่ 13 เรื่อง โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับนา้ หนกั

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

จุดประสงคก์ าร วิธีวัด เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ

เรยี นรู้

1. ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขนึ้ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์

การประเมนิ

2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดับ

กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ด้านทกั ษะ คุณภาพดีขน้ึ ไป

กระบวนการ

3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดบั

ทีพ่ ึงประสงค์ (A) คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ดา้ นคุณลักษณะ คณุ ภาพดีขน้ึ ไป

ที่พงึ ประสงค์

เกณฑ์การประเมนิ แบบฝกึ หัด/ใบงาน

ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คุณภาพ
1. 1.ความถูกต้องของ
เนอ้ื หา 4 3 21
2. รูปแบบ
เนือ้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ
3. ความเป็นระเบยี บ
ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไม่ถูกต้อง

ครบถ้วน ส่วนใหญ่ บางประเด็น เป็นสว่ นใหญ่

การนาเสนอ การนาเสนอถกู ต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่

นา่ สนใจและ เปน็ สว่ นใหญ่ ถูกต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์

เหมาะสมกบั

สถานการณ์

ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไมม่ ีความ

เป็นระเบียบ ขอ้ บกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เปน็ ระเบยี บ

เลก็ นอ้ ย บางสว่ น

เกณฑ์ประเมนิ คณุ ภาพ

10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2

7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดบั 1

เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นทักษะและกระบวนการทางาน
ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตผุ ล

คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตุผลที่ปรากฏใหเ้ หน็

4 : ดมี าก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจอย่างมเี หตุผล

3 : ดี มกี ารอ้างอิงที่ถูกต้องบางสว่ น และเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สนิ ใจ

2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสนิ ใจ

1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ

ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปัญหา

คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแก้ปญั หาที่ปรากฏใหเ้ หน็

4 : ดมี าก ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาไดส้ าเรจ็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ อธิบายถึงเหตุผล
หลักการและข้ันตอนในการแก้ปญั หาได้เขา้ ใจชดั เจนนามาซึ่งคาตอบท่ีถูกต้อง

3 : ดี ใช้กระบวนการแกป้ ัญหาไดส้ าเร็จ แตน่ า่ จะอธบิ ายถึงเหตุผล
หลักการและข้นั ตอนในการแก้ปญั หาได้ดีกว่าน้ี

2 : พอใช้ มกี ระบวนการแก้ปัญหา สาเร็จเพยี งบางสว่ น อธิบายถงึ เหตุผล
หลักการและขั้นตอนในการแก้ปัญหาได้บางสว่ น

1 : ควรปรบั ปรงุ แก้ไข มีร่องรอยการแก้ปัญหาบางสว่ น เรม่ิ คดิ ใชเ้ หตุผล หลกั การและขั้นตอน
ในการแก้ปญั หา แลว้ หยดุ อธิบายตอ่ ไม่ได้ แกป้ ญั หาไมส่ าเรจ็

ทกั ษะ และกระบวนการ: การเชื่อมโยง สรุปองค์ความรู้

คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเชื่อมโยงที่ปรากฏใหเ้ หน็

คุณภาพ

นาความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ในการเช่ือมโยงกบั สาระคณิตศาสตร์

4 : ดีมาก หรือกิจกรรมทีต่ ้องใชอ้ งค์ความรูท้ ีเ่ รียนได้ถูกต้องทุกกิจกรรมเพื่อช่วยในการแก้ปญั หา

หรอื ประยุกตใ์ ช้ได้อย่างสอดคล้องและเหมาะสม

นาความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชือ่ มโยงกับสาระคณติ ศาสตร์

3 : ดี หรือกิจกรรมท่ีต้องใชอ้ งคค์ วามรู้ท่ีเรยี นไดเ้ ปน็ ส่วนใหญ่

เพื่อช่วยในการแก้ปญั หาหรอื ประยุกตใ์ ช้ไดบ้ างสว่ น

2 : พอใช้ นาความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ไปเช่ือมโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์หรือ
กจิ กรรมท่ีตอ้ งใชอ้ งค์ความรูท้ ่ีเรียนไดบ้ างส่วน

1 : ควรปรับปรงุ นาความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงยังไมเ่ หมาะสม สรปุ

แกไ้ ข องค์ความรู้ที่ได้

เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : นกั เรยี นใฝ่เรียนรู้

คะแนน : ระดับ คณุ ลักษณะทีป่ รากฏให้เห็น

คุณภาพ

3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้

2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจเปน็ บางคร้งั

1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความต้ังใจในระยะเวลาสัน้ ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ : นักเรยี นมีความม่งุ ม่นั ในการทางาน

คะแนน : ระดับ คณุ ลักษณะท่ีปรากฏใหเ้ ห็น

คุณภาพ

3 : ดีมาก - ส่งงานก่อนหรอื ตรงกาหนดเวลานดั หมาย
- รับผดิ ชอบในงานที่ได้รบั มอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเป็นนิสัย

2 : ดี - สง่ งานช้ากวา่ กาหนด แตไ่ ด้มกี ารติดต่อชี้แจงผสู้ อน มเี หตุผลท่ีรับฟงั ได้
- รบั ผิดชอบในงานที่ไดร้ ับมอบหมายและปฏบิ ัติตนเองจนเป็นนสิ ัย

1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากวา่ กาหนด
- ปฏิบตั งิ านโดยต้องอาศัยการช้แี นะ แนะนา ตักเตือนหรอื ใหก้ าลงั ใจ

บนั ทกึ หลังการสอน

สรปุ ผลการเรียนการสอน

1. นักเรียนจำนวน ................................................... คน

ผ่ำนจดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ................... คน คิดเป็นร้อยละ ...............................

ไม่ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ ............... คน คิดเป็นร้อยละ ………………………….

ได้แก่

1. ……………………………………………………………………………………………………………………….

2. ……………………………………………………………………………………………………………………….

3. ……………………………………………………………………………………………………………………….

นักเรยี นมคี วำมสำมำรถพิเศษได้แก่

1. ………………………………………………………………………………………………………………………

2. ………………………………………………………………………………………………………………………

2. นักเรยี นมคี วำมร้คู วำมเขำ้ ใจ (K)

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. นกั เรียนมีควำมรเู้ กดิ ทักษะ (P)

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. นักเรยี นมคี ุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะ

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื ......................................................
(นำงสำวชยำภรณ์ อุ่นเรือน)
ตำแหนง่ ครผู ู้สอน

ความคิดเห็นของฝา่ ยวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ .......................................................... หวั หนำ้ ฝ่ำยวชิ ำกำร
(นำงสำวเบญจรตั น์ สลี ำดี)

ความคดิ เห็นของผูอ้ านวยการ
 เหมำะสม เนื้อหำครบถ้วน
 ไม่เหมำะสม เพรำะ ....................................................................................................................

ลงชื่อ ..........................................................
(นำยพิรชั วชิ ช์ อุคต)

รักษำกำรในตำแหน่งตำแหนง่ ผอู้ ำนวนกำรโรงเรยี นบ้ำนศรีทองสำมคั คี

ใบงานที่ 13 เร่ืองโจทย์ปญั หาเกี่ยวกับน้าหนัก

แสดงวธิ หี าคาตอบ
แสดงวิธหี าคาตอบ

1.ชาวสวนเก็บข้าวโพดได้ไร่ละ 2 ตัน 400 กโิ ลกรมั มขี ้าวโพด 6 ไร่ ชาวสวน เกบ็ ข้าวโพดได้ท้ังหมดเทา่ ไร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. รา้ นขายวัสดุกอ่ สรา้ งมปี ูนซีเมนต์ท้ังหมด 7 ตนั 350 กโิ ลกรมั ตอ้ งนาไปสง่ ร้านคา้ ปลีกจานวน 3 ร้าน รา้ น
ละเทา่ ๆ กัน ร้านขายวัสดุก่อสร้างสง่ ปูนซีเมนต์ รา้ นละเทา่ ไร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 14

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 10 เรื่อง นา้ หนกั

เรอ่ื ง กจิ กรรม เลอื กเสน้ ทาง เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

สอนวันท่ี_________เดือน________________พ.ศ.256_

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั

มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพืน้ ฐานเกีย่ วกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่งิ ทต่ี ้องการวัดและนาไปใช้

ตัวชวี้ ดั : ค 2.1 ป.3/10 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับน้าหนกั ท่มี หี น่วยเปน็ กโิ ลกรมั กบั กรมั เมตริกตนั
กับกโิ ลกรมั

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้สูต่ วั ชี้วัด

1. บอกวธิ ีหาแสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเกยี่ วกบั น้าหนกั (K)

2. แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาเก่ียวกับน้าหนัก (P)

3. นักเรยี นมคี วามมุ่งในการทางานและสามารถนาความรู้ที่ไดไ้ ปต่อยอดในการเรียนเร่ืองตอ่ ไป (A)

สาระสาคัญ

การแก้โจทย์ปัญหาทาได้โดยอ่านทาความเข้าใจปญั หา วางแผนแก้ปัญหา หาคาตอบและ

ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบซงึ่ ในการแกโ้ จทย์ปัญหาอาจใช้ความรเู้ รื่องการหาผลบวก ผลลบ ผล

คณู และผลหารเก่ยี วกบั นา้ หนัก

สาระการเรียนรู้

1.ความรู้

โจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั น้าหนัก

2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด

1. ความสามารถในการสื่อสารความหมายทางคณิตศาสตร์

2. การเชอ่ื มโยง

3. การแกป้ ญั หา

3.คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มีวินยั

2. ใฝ่เรียนรู้

3. มุง่ มัน่ ในการทางาน

วธิ จี ดั กจิ กรรม

1. ครูแบง่ นกั เรียนเปน็ กล่มุ แล้วแจกอุปกรณ์กลุ่มละ 1 ชุด แล้วใหน้ กั เรียนแต่ละคนเลอื กเสน้ ทางจากจดุ

A ไปยงั จดุ P ให้ดาเนินการกับน้าหนกั แตล่ ะจุดตามสญั ลกั ษณท์ ี่กาหนดไว้ท่ีคดิ วา่ เสน้ ทางที่เลอื กน้นั ตอ้ งได้

น้าหนกั มากทีส่ ดุ จากน้นั ครูให้นักเรยี นแต่ละคนนาเสนอเส้นทางการเดินทางของตนเองในกลุ่ม ให้นกั เรยี นใน

กลมุ่ รว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการคานวณน้าหนกั ของสมาชิกแต่ละคนในกลุม่ แล้วเลอื กเสน้ ทางของ

คนท่ีได้น้าหนักมากที่สดุ

2. ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอเสน้ ทางการเดินทางทไี่ ด้น้าหนักมากทสี่ ูงของกลุ่มเม่ือนักเรียนนาเสนอ

เส้นทางการเดินทางแล้ว ให้นักเรยี นร่วมกันตรวจสอบวธิ ีการเดนิ ทางของเพ่อื นกล่มุ อื่นว่าถกู ต้องหรือไม่ และ

ชว่ ยกันตรวจสอบว่าเป็นเส้นทางทีท่ าให้ได้น้าหนักมากท่ีสุดแลว้ หรอื ยงั

3. ถ้าไม่มนี กั เรียนกลุ่มใดเลยท่สี ามารถเลือกเส้นทางที่ทาใหไ้ ด้น้าหนกั มากท่สี ดุ ครูอาจช้ีแนะและร่วมกนั

เฉลยคาตอบจากนน้ั ใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกท้าทายหนา้ 108 – 109

ส่อื การเรียนรู้

1.หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.3

การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

จดุ ประสงคก์ าร วิธวี ดั เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน

เรยี นรู้

1. ดา้ นความรู้ (K) กจิ กรรม เลือกเส้นทาง กิจกรรม เลือกเส้นทาง 60% ขน้ึ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์

การประเมนิ

2. ด้านทักษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ

กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทักษะ คุณภาพดีข้นึ ไป

กระบวนการ

3. ดา้ นคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดบั

ท่ีพงึ ประสงค์ (A) คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะ คุณภาพดีขน้ึ ไป

ทพี่ ึงประสงค์

เกณฑ์การประเมินแบบฝกึ หัด/ใบงาน

ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คุณภาพ
1. 1.ความถกู ต้องของ
เนอ้ื หา 4 3 21
2. รูปแบบ
เนอื้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ
3. ความเป็นระเบียบ
ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกต้อง

ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เป็นสว่ นใหญ่

การนาเสนอ การนาเสนอถกู ต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่

น่าสนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์

เหมาะสมกบั

สถานการณ์

ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ

เปน็ ระเบยี บ ขอ้ บกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบียบ

เล็กนอ้ ย บางส่วน

เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ภาพ

10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2

7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ระดับ 1

เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นทกั ษะและกระบวนการทางาน
ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล

คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลท่ีปรากฏใหเ้ หน็
4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอย่างมเี หตุผล
3 : ดี มีการอ้างอิงท่ถี ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ
มีความพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ
1 : ควรปรับปรงุ แก้ไข

ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา

คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาทีป่ รากฏใหเ้ ห็น

4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแก้ปัญหาได้สาเร็จ อย่างมีประสทิ ธิภาพ อธิบายถงึ เหตุผล
หลักการและขน้ั ตอนในการแก้ปัญหาได้เขา้ ใจชัดเจนนามาซ่ึงคาตอบทถี่ ูกต้อง

3 : ดี ใช้กระบวนการแก้ปญั หาได้สาเร็จ แตน่ ่าจะอธิบายถงึ เหตุผล
หลกั การและขน้ั ตอนในการแกป้ ัญหาได้ดีกว่านี้

2 : พอใช้ มีกระบวนการแก้ปัญหา สาเร็จเพยี งบางส่วน อธิบายถงึ เหตผุ ล
หลกั การและขั้นตอนในการแก้ปญั หาได้บางสว่ น

1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มีร่องรอยการแก้ปัญหาบางสว่ น เริ่มคดิ ใช้เหตุผล หลกั การและขั้นตอน
ในการแก้ปัญหา แล้วหยดุ อธิบายต่อไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ าเรจ็

ทักษะ และกระบวนการ: การเชอ่ื มโยง สรุปองค์ความรู้

คะแนน:ระดับ ความสามารถในการเชือ่ มโยงท่ีปรากฏให้เหน็

คณุ ภาพ

นาความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชือ่ มโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์

4 : ดมี าก หรือกิจกรรมทตี่ ้องใชอ้ งค์ความรู้ทเ่ี รียนได้ถูกต้องทุกกิจกรรมเพื่อช่วยในการแก้ปัญหา

หรอื ประยุกตใ์ ช้ได้อย่างสอดคลอ้ งและเหมาะสม

นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชือ่ มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์

3 : ดี หรอื กิจกรรมทตี่ ้องใชอ้ งค์ความรทู้ เ่ี รยี นไดเ้ ป็นสว่ นใหญ่

เพือ่ ชว่ ยในการแก้ปญั หาหรอื ประยุกตใ์ ช้ไดบ้ างสว่ น

2 : พอใช้ นาความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ไปเชือ่ มโยงกบั สาระคณติ ศาสตรห์ รอื
กิจกรรมท่ีต้องใชอ้ งค์ความรทู้ ี่เรยี นได้บางส่วน

1 : ควรปรับปรงุ นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชือ่ มโยงยงั ไม่เหมาะสม สรุป

แกไ้ ข องค์ความรทู้ ่ีได้

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝเ่ รยี นรู้

คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะทปี่ รากฏใหเ้ ห็น
คณุ ภาพ

3 : ดีมาก - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้

2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจเป็นบางครัง้

1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตงั้ ใจในระยะเวลาส้ันๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรียนมคี วามมงุ่ มัน่ ในการทางาน

คะแนน : ระดบั คณุ ลกั ษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็
คุณภาพ

3 : ดมี าก - สง่ งานกอ่ นหรือตรงกาหนดเวลานัดหมาย
- รบั ผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายและปฏิบัติตนเองจนเป็นนสิ ยั

2 : ดี - ส่งงานช้ากวา่ กาหนด แต่ได้มกี ารตดิ ต่อชีแ้ จงผสู้ อน มเี หตุผลทร่ี ับฟงั ได้
- รบั ผิดชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหมายและปฏบิ ตั ติ นเองจนเปน็ นสิ ัย

1 : พอใช้ - ส่งงานชา้ กวา่ กาหนด
- ปฏบิ ตั ิงานโดยตอ้ งอาศยั การชแี้ นะ แนะนา ตักเตือนหรือใหก้ าลังใจ

บนั ทกึ หลังการสอน

สรปุ ผลการเรยี นการสอน

1. นกั เรียนจำนวน ................................................... คน

ผำ่ นจดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ................... คน คดิ เป็นร้อยละ ...............................

ไม่ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ............... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………………………….

ได้แก่

1. ……………………………………………………………………………………………………………………….

2. ……………………………………………………………………………………………………………………….

3. ……………………………………………………………………………………………………………………….

นกั เรียนมีควำมสำมำรถพเิ ศษไดแ้ ก่

1. ………………………………………………………………………………………………………………………

2. ………………………………………………………………………………………………………………………

2. นักเรียนมีควำมร้คู วำมเข้ำใจ (K)

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. นกั เรียนมคี วำมรู้เกดิ ทกั ษะ (P)

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. นักเรียนมคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะ

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ......................................................
(นำงสำวชยำภรณ์ อุ่นเรอื น)
ตำแหนง่ ครูผสู้ อน

ความคิดเหน็ ของฝา่ ยวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื .......................................................... หัวหนำ้ ฝ่ำยวชิ ำกำร
(นำงสำวเบญจรตั น์ สลี ำดี)

ความคดิ เห็นของผอู้ านวยการ
 เหมำะสม เนื้อหำครบถ้วน
 ไมเ่ หมำะสม เพรำะ ....................................................................................................................

ลงชื่อ ..........................................................
(นำยพิรชั วิชช์ อคุ ต)

รักษำกำรในตำแหน่งตำแหนง่ ผอู้ ำนวนกำรโรงเรียนบ้ำนศรที องสำมัคคี

กจิ กรรม เลอื กเสน้ ทาง

อุปกรณ์ แผนผังการเดินทาง
วิธจี ดั กจิ กรรม

1. ครแู บ่งนักเรยี นเปน็ กลมุ่ กลุม่ ละเท่า ๆ กัน แจกแผนผงั การเดนิ ทางกลุ่มละ 1 แผน่
2. ครูอธบิ ายเกีย่ วกบั สัญลกั ษณ์ท่ีอยใู่ นแผนผังและวิธีการเล่น โดยใหแ้ ต่ละกลมุ่ เลือกเส้นทางจากจดุ A
ไปยงั จุด P ใหด้ าเนนิ การกับน้าหนกั แตล่ ะจุดตามสัญลกั ษณ์ ท่ีกาหนดไว้ ดังนี้

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 15

กลุม่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 3
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 10 เรอื่ ง น้าหนัก เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง
เรอ่ื ง แบบทดสอบท้ายบท
สอนวันท่ี_________เดอื น________________พ.ศ.256_

มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้นื ฐานเกยี่ วกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของส่งิ ที่ตอ้ งการวดั และนาไปใช้
ตัวชี้วัด : ค 2.1 ป.3/7 เลอื กใช้เครือ่ งช่ังทเี่ หมาะสม วัดและบอกนา้ หนักเปน็ กโิ ลกรัมและขดี กโิ ลกรัมและกรัม

ค 2.1 ป.3/8 คาดคะเนนา้ หนักเปน็ กโิ ลกรัมและเปน็ ขีด
ค 2.1 ป.3/9 เปรียบเทยี บนา้ หนักระหวา่ งกโิ ลกรัมกบั กรัมเมตริกตันกบั กิโลกรัม จากสถานการณ์
ค 2.1 ป.3/10 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกีย่ วกับนา้ หนกั ทีม่ หี นว่ ยเป็นกโิ ลกรมั กับกรมั
เมตรกิ ตนั กับกิโลกรมั
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. วัดและบอกน้าหนกั เป็นกโิ ลกรัมและขดี กิโลกรัมและกรัม
2. เลอื กใชเ้ ครื่องชง่ั ทีเ่ หมาะสม
3. คาดคะเนน้าหนกั เปน็ กิโลกรมั และเป็นขดี
4. เปรยี บเทยี บนา้ หนักโดยใช้ความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งกิโลกรัมกับกรัม เมตริกตันกับกโิ ลกรมั
5. แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปญั หาเกย่ี วกับ น้าหนัก
กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้
แบบทดสอบท้ายบท
ส่ือการเรยี นรู้
1.หนังสือเรยี นคณติ ศาสตร์

การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

จดุ ประสงค์การ วิธวี ัด เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ

เรียนรู้

1. ด้านความรู้ (K) ตรวจแบบทดสอบท้ายบท แบบทดสอบท้ายบท 60% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
การประเมนิ
2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้านทักษะ แบบสังเกตพฤติกรรมดา้ น นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ (P) กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ คณุ ภาพดีขึ้นไป

3. ด้าน สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรมดา้ น นักเรยี นได้คะแนนระดับ
คณุ ลกั ษณะ ท่ีพึงประสงค์ คุณภาพดีขึน้ ไป
คุณลกั ษณะทีพ่ ึง คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์

ประสงค์ (A)

แบบทดสอบท้ายหนว่ ย เรอื่ ง นา้ หนกั

คะแนนเต็ม 30 คะแนน เวลา 60 นาที

............................................................................................................................. .............................

มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสงิ่ ทีต่ ้องการวดั และนาไปใช้ ตัวชี้วดั

: ค 2.1 ป.3/7 เลอื กใชเ้ ครื่องชัง่ ท่ีเหมาะสม วดั และบอกนา้ หนกั เป็นกิโลกรมั และขดี กโิ ลกรัมและกรมั

ค 2.1 ป.3/8 คาดคะเนนา้ หนักเปน็ กิโลกรัมและเปน็ ขีด

ค 2.1 ป.3/9 เปรียบเทียบน้าหนกั ระหว่างกิโลกรัมกบั กรัมเมตริกตันกับกิโลกรัม จากสถานการณ์

ค 2.1 ป.3/10 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั น้าหนกั ทีม่ หี น่วยเป็นกิโลกรมั กับกรัม

เมตริกตนั กบั กิโลกรมั

..........................................................................................................................................................

เลอื ก ก ข หรือ ค ท่เี ป็นคา ตอบท่ีถูกต้อง

1.จากรปู ข้อใดอ่านนา้ หนักได้ถกู ต้อง

ก. 4 กโิ ลกรมั 300 ขีด ข. 4 กิโลกรมั 300 กรัม ค. 4,300 กิโลกรัม
2. จากรปู ข้อใดเลือกใชเ้ ครอ่ื งชั่งได้เหมาะสม

3.จากรปู ขอ้ ใดเลือกใชห้ นว่ ยน้าหนักไดเ้ หมาะสม

4. จากรูป สิง่ ของที่คนถือนา่ จะหนกั เท่าไร

ก. 500 ขดี
ข. 7 กิโลกรัม
ค. 1,100 กรัม

5. แม่ซือ้ ผลไมต้ ามรายการต่อไปนี้

จากข้อมลู ข้อใดกล่าวถึงผลไมท้ ีแ่ มซ่ ้ือไม่ถูกต้อง
ก. มังคดุ หนักกวา่ แตงไทย ข. ฝรงั่ หนกั กวา่ มงั คดุ ค. แตงไทยหนักกวา่ ฝรั่ง
6. จากข้อมูล เลอื กคาตอบท่ีถูกตอ้ ง

ก.รถอเนกประสงค์7 ทนี่ ่ัง หนกั มากกว่ารถปิคอัพ 582 กิโลกรมั
ข.รถอเนกประสงค์7 ทีน่ ่ัง มนี ้าหนักมากทส่ี ุด
ค.รถยนตข์ นาดเล็กหนกั นอ้ ยกวา่ รถปิคอัพ 375 กโิ ลกรมั
7.จากรูป ถา้ แต่ละถงุ มนี า้ หนักเท่ากนั น้าหนักของแตล่ ะถุงเป็นเท่าไร

ก. 500 กรัม ข. 1 กิโลกรัม ค. 6 ขีด

8. เจ้าหน้าท่ชี ัง่ นา้ หนักลิงคงิ คองในสวนสตั วไ์ ด2้ 70 กิโลกรัม 65 กรัม ปรากฏวา่ นา้ หนักน้อยกว่า

เดอื นทแี่ ล้ว 3 กิโลกรัม 5 ขีด เดือนท่แี ลว้ ลิงคิงคองหนกั เท่าไร

ก. 273 กิโลกรมั 565 กรมั ข. 266 กิโลกรัม 60 กรัม ค. 273 กิโลกรัม 70 กรัม

9.ทอ่ นเหลก็ 1 ท่อน หนกั 20.4 กโิ ลกรัม ท่อนเหลก็ 25 ท่อนหนกั เท่าไร

ก.510 กโิ ลกรัม 1 ขดี ข. 510 กโิ ลกรัม 10 กรัม ค. 510 กิโลกรัม

10.รถบรรทุกท่ีใช้ขนรถยนต์คนั หนึ่งมีพิกัดน้าหนกั บรรทกุ ได1้ 5 ตนั ถา้ รถบรรทุกคนั น้ี

บรรทกุ รถยนต์ไปแลว้ 12,700 กโิ ลกรัม รถบรรทุกคนั น้ยี งั สามารถบรรทกุ นา้ หนักได้อีกเทา่ ไร

ก. 2 ตัน 300 กโิ ลกรมั ข. 3 ตนั 700 กิโลกรมั ค. 3,300 กิโลกรัม


Click to View FlipBook Version