โรคเอดส์ มีความสิ้นหวังในการรักษา ทำให้ท้อแท้ หดหู่ เป็นทุกข์ทรมานจนไม่อยากจะใช้ชีวิตต่อ
(3) ปัจจัยทางสุขภาพจิต เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการฆ่าตัวตายมากที่สุด การศึกษาทางการแพทย์เกี่ยวกับ
ผคู้ นทเ่ี สยี ชวี ติ ด้วยการฆ่าตัวตาย พบว่าประมาณ 9 ใน 10 ของผู้ป่วยทุกคนจะมโี รคทางจติ เวชในช่วงเวลา
ท่พี วกเขาเสยี ชีวติ (Henriksson et al., 1993; Cavanagh et al., 2003; Hawton et al., 2013) ผู้ป่วย
โรคทางจิตเวชส่วนใหญ่มีสาเหตุหลักมาจากการเกิดภาวะซึมเศร้า โดยผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าเมื่อถูก
สถานการณ์ทร่ี นุ แรงมากระตนุ้ เช่น การทะเลาะกับคนในครอบครวั อาจจะทำใหเ้ กดิ ความคดิ ฆา่ ตวั ตายได้
สูงจนเป็นเหตใุ ห้การฆา่ ตัวตายสำเรจ็ และจากข้อมูลการบริการผู้ป่วยจติ เวชพบว่า การเสยี ชวี ิตทุกครัง้ ของ
ผู้ที่ได้รับการรักษาภาวะซึมเศร้ารายที่ 6 จะเกิดจากการฆ่าตัวตาย (Wulsin et al., 1999; Hawton et
al., 2013) ทั้งนี้ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะซึมเศร้ามีอยู่หลายอย่าง อาทิ กรรมพันธุ์จากคนใน
ครอบครวั ความผิดปกตขิ องสารเคมใี นสมอง และลักษณะนสิ ัยทีม่ กั มองตนเองในแง่ลบ หรอื มองโลกในแง่
ร้าย และจากการสำรวจทางระบาดวิทยาโรคจิตเวชในคนไทย เดือนมีนาคม 2564 ประมาณการว่า คน
ไทยอายุ 15 ปขี นึ้ ไปจำนวน 1,330,947 คน ปว่ ยดว้ ยโรคซึมเศร้า และมีผปู้ ว่ ยสะสมโรคซึมเศร้าท้ังหมดที่
ได้รบั การวินิจฉัยและรกั ษาเป็นจำนวน 1,090,478 คน (ศนู ยค์ วามร้โู รคซมึ เศร้าไทย, 2563) แตอ่ ย่างไรก็ดี
คนไทยที่มีภาวะความเครียดวิตกวังกลสูงเนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจจากเหตุการณ์โรคระบาดโควิดท่ี
กำลังเกดิ ขนึ้ ขณะนี้ อาจทำใหเ้ กดิ ภาวะซึมเศรา้ แบบรุนแรง และถ้าหากไม่ไดร้ บั การชว่ ยเหลืออย่างถูกต้อง
อาจนำไปส่กู ารฆา่ ตวั ตายสำเรจ็ ได้
จากการสำรวจงานวิจัยพบว่าความเครียดมีความสัมพันธ์กับสุขภาพทางกายและจิตใจ (Calcia
et al. 2016; Murphy 1996) ถ้ามีความเครียดอยู่ในระดับพอดีก็จะสามารถทำให้เกิดแรงจูงใจในการทำ
สิ่งๆหนึ่ง แต่ถ้ามีความเครียดมากเกินไปจะก่อให้เกิดปัญหาในด้านลบมากมายทั้งในด้านทางสุขภาพการ
เช่น โรคหัวใจล้มเหลว สุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้า และนำมาซึ่งการฆ่าตัวตาย ดังนั้นการวินิจฉัย
ความเครียดเป็นการป้องกันอย่างแรกที่ควรทำและเป็นการป้องกันที่ดีสุด และที่ผ่านมามีการวิจัยและ
พัฒนาทางด้านการวิเคราะห์ความเครียดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านศาตร์ย่อยของปัญญาประดิษฐ์
Artificial Intelligent (AI)ในส่วนของการประมวลผลภาษาเชิงธรรมชาติ( Natural Language
Processing) NLP ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถวิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต (Mental Health
Problem) และความเครยี ดได้ค่อนข้างแมน่ ยำ ทง้ั น้ีการวิเคราะห์ความเครยี ดยังไม่มงี านวิจัยในภาษาไทย
โดยเฉพาะการนำการเรียนรู้เคร่ืองกล Machine-Learning (ML) และ การเรียนรู้เชิงลกึ Deep-Learning
(DL) และข้อมลู จำนวนมหาศาลจากส่ือสังคมออนไลน์มาประยุกต์ใชโ้ ดยทางทีมนักวิจยั ไดเ้ ล็งเห็นว่าระบบ
วิเคราะห์ความเครียดจากการประมวลผลภาษาเชิงธรรมชาติภาษาไทยสามารถนำมาใช้ในการวินิจฉัย
ความเครียดในเบื่องต้น ทั้งนี้ระบบนี้สามารถลดภาระงานชองทางทีมผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งผลการวิเคราะห์
สามารถบ่งบอกสถิติความเครียดของผู้ป่วยหรือผู้ต้องการความช่วยเหลือ เพื่อใช้ในผู้ป่วยนั้นสามารถการ
จัดการความเครียด และยังสามารถอ้างอิงไปยังแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ (referring) ได้อีกด้วย นอกจากนี้
ตัวระบบสามารถบง่ บอกภาพรวามความสุขขององกรคไ์ ด้อกี ด้วย
14
การพฒั นาระบบประเมินและสง่ ตอ่ ในการบรหิ ารจดั การความเครียด
ปัจจบุ ันนใี้ นประเทศไทยพบว่าประชาชนเกิดความเครียดกันมาก ซ่ึงความเครยี ดเป็นปัญหาด้าน
สุขภาพจิตชนิดหนึ่งและเกิดขึ้นได้ทุกคนและทุกคนย่อมต้องเคยผ่านความเครียดมาไม่มากก็น้อย ซ่ึง
ความเครียดเป็นภาวะของอารมณ์หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ และทำให้
รู้สึกถูกกดดัน ไม่สบายใจ วุ่นวายใจ กลัว วิตกกังวล ตลอดจนถูกบีบคั้น เมื่อบุคคลรับรู้หรือประเมินว่า
ปัญหาเหล่านั้นเป็นสิ่งที่คุกคามจิตใจ หรืออาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย จะส่งผลให้สภาวะสมดุล
ของร่างกายและจิตใจเสียไป หากความเครียดอยู่ในเกณฑ์ระดับน้อยถึงระดับปานกลางจะส่งผลดีให้กับ
บุคคลกระทำสิ่งต่างๆ อย่างกระตือรือร้นมีความมุ่งมั่น อวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้มีโอกาสรับมือ
ความเครียดที่เกิดขึ้นรู้สึกเชื่อมั่นและภาคภูมิใจในตนเองเมื่อทำงานที่ทำประสบผลสำเร็จ ในทางตรงกัน
ขา้ มถ้าหากความเครียดอยู่ในระดับมากจะส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ โดยอาจแสดงออกในรูปของการ
เปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย ด้านจิตใจและอารมณ์ รวมทั้งด้านพฤติกรรม แต่เม่ือ
เวลาผ่านไป และความเครียดเหลา่ นั้นคลายลง ร่างกายจะกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลอีกคร้ังหนึ่ง แต่บางครง้ั
ความเครียดอาจจะไม่สามารถทราบได้ว่ามีอาการอย่างไร และถ้าไม่สามารถกำจัดความเครียดได้โดยเร็ว
หรอื ไม่สามารถแกป้ ญั หาไดอ้ าจนำไปสกู่ ารเจ็บปว่ ยทางจติ ท่ีรนุ แรงตามมาได้
บุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงวัยทำงาน และมีบางส่วนกำลัง
เข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุ ซึ่งวัยน้ีจะเป็นวยั ท่ีมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระของร่างกายไปในทางที่เสื่อมสภาพทำ
ให้เสย่ี งตอ่ การเกิดโรคโดยเฉพาะโรคเรื้อรังเปน็ ปัญหาทางสขุ ภาพท่ีสำคญั ของผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุเข้า
สู่การสูงวัยอย่างมีคุณภาพ รัฐได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการส่งเสริมและการคุ้มครองทางสังคมสำหรั บ
ผู้สูงอายุ ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุอยู่ร่วมกับครอบครัวอย่างมีคุณภาพต่อเนื่องจนวาระสุดท้ายของชีวิต ทั้งน้ี
เพราะมีหลักฐานเชิงประจักษ์ระบุว่าการได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวมีความสัมพันธ์ในระดับสูงต่อ
คุณภาพชีวิตหรือความพึงพอใจของผู้สูงอายุ ดังนั้นผู้สูงอายุจึงเป็นกลุ่มที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ
เนื่องจากอยใู่ นภาวะเสอื่ มถอยจากสูงวัยไม่มสี มาชิกในครอบครวั ให้การชว่ ยเหลือและสนับสนนุ ในการดูแล
สุขภาพผู้สูงอายุที่อาศัยเพียงลำพังที่ต้องเผชิญกับปัญหาทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และเศรษฐกิจในด้าน
ร่างกาย ความสามารถในการทำหน้าที่ของร่างกายจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น ด้านจิตใจถึงแม้ไม่มีการ
เปลย่ี นแปลงท่ีเด่นชดั แตพ่ บวา่ บางรายมีปัญหาดา้ นจิตใจ ดงั นั้น การเข้าใจในปัญหา การค้นหาสาเหตุที่ทำ
ให้เกิดความเครียดและหาแนวทางในการจัดการกับภาวะความเครียดย่อมจะเป็น การส่งเสริมสุขภาพจติ
ผ้สู งู อายทุ ี่ดตี อ่ ไป
จากแผนพัฒนาผู้สูงอายุฉบับที่ 2 (2545 - 2564) และแผนบูรณาการพัฒนาสุขภาพกลุ่มวัย
ผู้สูงอายุ 2557 –2566 ล้วนให้ความสําคัญกับการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ การพัฒนาการมีส่วนร่วมของ
ชุมชน ในการส่งเสริมสุขภาพ สะท้อนให้เห็นว่าทิศทางการดูแลสุขภาพคนในวัยทำงานที่ควรให้
ความสําคญั กับการพัฒนาคนกลุม่ วยั ทำงานให้มีพฤติกรรมสง่ เสริมสุขภาพโดยใชก้ ารมีส่วนร่วมในการสร้าง
พลังขับเคลื่อน โดยเน้นกิจกรรมการดูแลที่สอดคล้องกับภาวะสุขภาพ ซึ่งการมีส่วนร่วมของบุคลากรจึง
เป็นเหมือนกุญแจสำคัญที่จะส่งผลให้เกิดความสําเร็จของการส่งเสริมสุขภาพในม หาวิทยาลัยเชียงใหม่
ดังนั้นการเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่บุคลากรได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและป้องกันปัญหา โดยการจัด
กิจกรรมเพื่อป้องกัน และแก้ไขหรือจัดการกับความเครียดในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะเป็นการทำให้
15
บุคคลในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีศักยภาพในการดูแลตนเองและสามารถปฏบิ ัติงานได้อย่างสมบรูณ์มีประ
สทิ ธฺ ิภาพ
จากในปีที่ผ่านมา ได้มีโครงการพัฒนาศักยภาพการส่งเสริมสุขภาพด้านการบริหารจัดการ
ความเครียดของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สำหรับการขับเคลื่อนสู่มหาวิทยาลัยสุขภาพขึ้น โดยมี
กิจกรรมตา่ งๆคอื การสำรวจความเครยี ด การใหค้ วามร้เู ร่อื งความเครียดและการผ่อนคลายความเครียด
และการฝึกการให้การปรึกษา (Training for the trainer) ให้แก่บุคลกรที่เป็นแกนำสุขภาพใจ และการ
จัดตั้งคลินิกการจัดการความเครียดขึ้นแบบ Online และรับบริการปรึกษาปัญหาทางด้านจิตใจทาง
โทรศพั ท์ ซ่งึ ทงั้ นีพ้ บว่ามีผูส้ นใจและต้องการมาใช้บริการจำนวนมากมากและมีผู้ติดต่อมาขอรับบริการอยู่
จำนวนหนึ่ง พบปัญหาว่าแบบวัดประเมินความเครียด ไม่เป็นที่น่าสนใจและเข้าถึงยาก และผู้ใช้บริการ
เพื่อต้องการติดต่อขอใช้บริการ พบว่ามีช่องทางที่ยังไม่ชัดเจนและติดต่อยาก อีกทั้งหลังจากให้บริ การ
ปรึกษาแล้วขาดระบบการส่งต่อไปให้ผู้เชีย่ วชาญทางสุขภาพจิตและจติ เวช เช่นจิตแพทย์ ดังนั้นในปีที่ 2
นี้ จึงได้เห็นความสำคัญในการขอจัดตั้งโครงการพัฒนาระบบส่งต่อในการบริหารจัดการความเครียด
เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สำหรับการขับเคลื่อนสู่มหาวิทยาลัยสขุ ภาพข้ึน
เพอ่ื ใหส้ อดคล้องกบั ปญั หาท่เี กิดขึน้ ต่อไป
พลังแห่งการสอื่ สารเพือ่ ขับเคลอื่ นสุขภาวะ
ในปี 2563 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ดำเนินโครงการการพัฒนาศักยภาพการสร้างเสริมสุขภาพ
ของบุคลากรมหาวิทยาลยั เชยี งใหม่สำหรับการขบั เคล่ือนสูม่ หาวิทยาลยั สุขภาพ (Healthy CMU) ขึ้น โดย
มีคณะพยาบาลศาสตร์ เป็นผู้รับผิดชอบหลัก และมี 11 หน่วยงานร่วมดำเนินงาน ซึ่งโครงการฯ ได้มีการ
สำรวจข้อมูลสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในระบบสารสนเทศโครงการฯ อาทิ ระบบ
ประเมินความเสี่ยงสุขภาพ (CMU i-Health) และแบบประเมินความเครียด (Stop Staff Stress) พบว่า
บุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีความเสี่ยงสุขภาพระดับสูง 3 อันดับแรก ได้แก่ ด้านการบริโภคอาหาร
ด้านดัชนีมวลกาย (BMI) และกิจกรรมทางกาย รวมถึงมีระดับความเครียดระดับสูงจากการทำงาน
โดยเฉพาะความกลัวจะทำได้ไม่ถึงเป้าหมาย นอกจากนี้ ด้านการประชาสัมพันธ์โครงการฯ กลุ่มบุคลากร
เป้าหมายเกิดการรับรู้และมีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับโครงการฯ แต่ยังไม่ได้รับความสนใจเข้ามามีส่วนร่วม
(Engagement) เท่าทค่ี วรในกิจกรรมตา่ ง ๆ อาทิ การทำแบบประเมินสุขภาพขา้ งตน้ เมือ่ เทยี บกบั จำนวน
บุคลากรมหาวิทยาลยั เชียงใหม่ท้ังหมดจำนวน 12,300
นอกจากนั้น กิจกรรมการส่ือสารในปที ี่ผ่านมา รูปแบบการสื่อสาร เรื่องราวต่าง ๆ ด้านสุขภาพท่ี
เผยแพร่ในช่องทาง Facebook Fan page, Line, YouTube, Website ยังนำเสนอในรูปแบบที่เป็น
ทางการ เน้นการใหค้ วามรเู้ ชงิ วชิ าการ ซึ่งอาจไมส่ ามารถตอบสนองลักษณะเฉพาะในการเปิดรับและใช้ส่ือ
รวมถึงรสนิยมและความต้องการข่าวสารสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ซึง่ เป็นกลุ่มเป้าหมาย
ใหญ่ของโครงการขับเคลอื่ นสู่มหาวทิ ยาลยั สขุ ภาพ (Healthy CMU)
หากพจิ ารณาในด้านลักษณะเฉพาะของกลมุ่ เป้าหมายอนั ไดแ้ ก่บคุ ลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ซึ่ง
มีจำนวนรวม 12,300 คนในปี พ.ศ. 2563 จะพบว่ามีความหลากหลายสูง ในด้านสถานภาพอัน
ประกอบด้วยบุคลากรขา้ ราชการ 868 คน พนกั งานมหาวิทยาลยั ประจำ 5,808 คน พนกั งานมหาวทิ ยาลัย
ชั่วคราว 5,308 คน และลูกจ้างประจำ 316 คน (ข้อมูลจากระบบ CMU MIS ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน
16
2563) ในด้านอายุแบ่งแยกได้ 3 ช่วงวัย บุคลากรมีสัดส่วนช่วงอายุอยู่ใน Gen Y (อายุ 23-39 ปี) มาก
ที่สุด รองลงมาคือ Gen X (อายุ 40-54 ปี) Baby Boomer (อายุ 55 ปีขึ้นไป) และ Gen Z (อายุ 10-22
ปี) ตามลำดับ ด้านการกระจายตัวของบุคลากรเมื่อจำแนกตามคณะและหน่วยงานที่สังกัดจะพบว่าคณะ
แพทยศาสตร์มีบุคลากรในสังกดั สงู ที่สุด (6,447 คน) รองลงมาคือหน่วยงานอื่น ๆ (4,099 คน) และคณะ
ขนาดใหญ่ภายในมหาวิทยาลัย ด้านตำแหน่งงานจะพบว่า บุคลากรสายวิชาการมีจำนวน 2,274 คน และ
สายสนับสนุนมีถึง 11,810 คน การสื่อสารเพื่อสร้างความตระหนักรู้รวมถึงการมีส่วนร่วมในโครงการ
Healthy CMU ปี 2 ต้องการรูปแบบการสื่อสายที่หลากหลายเช่นกันเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุก
กลุ่ม ศูนย์นวัตกรรมการสื่อสารฯ คณะการสื่อสารมวลชนจึงจะออกแบบกระบวนการสื่อสารที่คำนึงถึง
ความแตกต่าง รสนิยมเฉพาะของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งแต่ละช่วงวัยมีพฤติกรรมการเลอื กเปิดรับข้อมูล
ขา่ วสารและการใช้ส่ือท่ีแตกต่างกนั
นอกเหนือจากการส่งเสริมให้ดำเนินการสื่อสาร/ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาและการสื่อสารที่สม่ำเสมอแล้ว การรณรงค์ที่มีเป้าหมายสู่
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจำเป็นต้องศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับองค์ประกอบการสื่อสาร
โดยเฉาพะในส่วนของผู้รับสาร ทั้งด้านพฤติกรรมการเปิดรับสื่อ รูปแบบสื่อที่ต้องการ และข้อมูลด้าน
สุขภาพที่สนใจ เพื่อนำมาวางแผน/กลยุทธ์และพัฒนารูปแบบการนำเสนอข่าวสาร สาระความรู้ กิจกรรม
สื่อสารเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Health Promotion) ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะ
สง่ ผลให้เกิดความรว่ มมือ และเขา้ มามสี ่วนร่วมกับโครงการฯ เพมิ่ มากขึน้ ในกลุ่มเปา้ หมาย
การพฒั นาระบบสารสนเทศเพือ่ รกั ษาพยาบาลโรคเบือ้ งต้นสำหรับบคุ ลากรมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่
นโยบายสำคัญในการปฏิรูประบบสขุ ภาพคือการมุ่งพัฒนาบริการสาธารณสขุ ในระดับปฐมภูมิให้
เข้มแข็ง เพื่อให้ประชาชนสามารถได้รับบริการพื้นฐานให้ทั่วถึง และเท่าเทียม บริการพื้นฐานที่ต้องจัดให้
ได้แก่ การสร้างเสริมศักยภาพของบุคคล ครอบครัว และชุมชน ให้สามารถดูแลตนเองให้มีสุขภาพดี
ป้องกันตนเองจากความเจ็บป่วย และการเกิดโรค ดูแลตนเองเมื่อเจ็บป่วยได้ สามารถตัดสินใจแสวงหา
ความช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสภาพ เมื่อเกินความสามารถของตนเอง สภาการ
พยาบาล พ.ศ. 2540 ได้ปรับปรุงพระราชบัญญัติการพยาบาล และการผดุงครรภ์ โดยกำหนดให้การ
ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ครอบคลุมการรักษาโรคเบื้องต้น และการให้ภูมิคุ้มกันโรคตามที่ปรากฏใน
มาตรา 4(3) แหง่ พระราชบัญญตั วิ ชิ าชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. 2540 เกย่ี วกบั ขอบเขตการ
ประกอบวชิ าชพี การพยาบาล และการผดุงครรภ์ ไว้ดงั นี้ “การประกอบวชิ าชีพการพยาบาล” หมายความ
ว่าการปฏิบัติหน้าที่การพยาบาลต่อบุคคล ครอบครัว และชุมชน โดยกระทำดังต่อไปนี้ 1) การสอน การ
แนะนำ การให้คำปรึกษา และการแก้ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย 2) การกระทำต่อร่างกาย และจิตใจ
ของบคุ คล รวมท้ังการจดั สภาพแวดล้อม เพ่อื การแก้ปญั หาความเจบ็ ปว่ ย การบรรเทาอาการของโรค การ
ลกุ ลามของโรค และการฟน้ื ฟสู ภาพ 3) การกระทำตามวิธที ่ีกำหนดไวใ้ นการรักษาโรคเบื้องตน้ และการให้
ภมู ิค้มุ กันโรค 4) ชว่ ยเหลือแพทยก์ ระทำการรกั ษาโรค (วราภรณ์ บญุ เชยี ง, 2561)
การรักษาโรคเบื้องต้น และการดูแลผู้ป่วย พยาบาลจะได้พบผู้ป่วยที่มีอาการหลากหลาย การ
จำแนกผู้ป่วยเพื่อให้การดแู ลที่เหมาะสมเบื้องต้นจงึ เป็นเรื่องที่สำคญั อย่างยิง่ การพัฒนาระบบสารสนเทศ
เพื่อประเมินแนวทางการรักษาพยาบาลโรคเบื้องต้นตามนโยบายการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ที่ 2 เชิงรุก
17
ด้านนวัตกรรมด้านอาหารและสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อแนะนำหรือให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ
อาการป่วยวา่ ควรมแี นวทางในการดูแลตนเองเบ้ืองตน้ อย่างไร การเฝ้าระวัง อาการผดิ ปกตทิ ่ีสมควรไปพบ
แพทย์ ซึ่งในการ Pre-screening สามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วนหลัก ๆ นั่นคือ 1. ส่วนแบบสอบถาม ส่วนน้ี
อาจอยู่ในรูปแบบของ chat-bot ที่ทำหน้าที่ถามตอบข้อมูลโรคหรืออาการเบื้องต้นของผู้ใช้งาน (extract
จาก KM ของโรงพยาบาล) แต่หากว่าคำตอบของแชทบอท ยังไม่สามารถตอบผู้ป่วยได้ ผู้ใช้งานสามารถ
เลือกที่จะคุยกับอีกรูปแบบการใช้งานได้ 2. ส่วน online-chat โดยจะเป็นส่วนที่มีบุคลากรด้านการ
สุขภาพที่ได้รับการอบรมแล้ว เพื่อประเมินคัดกรอง และสามารถให้ข้อมูลตอบคำถามของผู้ใช้งานทั้งใน
ด้านการดูแลตนเองเบื้องตนที่บ้าน การสังเกตอาการ หรือการไปสถานบริการสุขภาพใกล้บ้านเบื้องต้น
ท้ังน้ี Users ทเ่ี กย่ี วข้องภายในระบบสามารถแบง่ ไดเ้ ป็น
1. Admin: ผ้ดู ูแลระบบทัว่ ไป รบั เรอ่ื งร้องทุกข์ แจง้ แบน เชค็ สถานะของแอพ ฯลฯ
2. Patient users: ผู้ใช้งาน (ถือเป็นลูกค้า) ที่ต้องการคำตอบเบื้องต้นเกี่ยวกับสุขภาพตนเอง โดย
จุดประสงค์หลกั คอื ไม่อยากเสียเวลาไปโรงพยาบาลซ่ึงใชเ้ วลานาน โดยผู้ใชส้ ่วนน้สี ามารถ
- เลือกเข้าไปตอบแบบสอบถาม (Pre-screening หวั ข้อท่ี 1) หรือ ปรึกษาผ่านออนไลน์แชท
- ให้เรทติง้ ผู้ทำการตอบแชท (รวี วิ )
3. Advisor users: ส่วนของผู้ให้บริการคำแนะนำ (Pre-screening หัวข้อที่ 2) ทำหน้าที่ถามตอบ
แกผ่ ู้ใชง้ านตามตารางเวลาท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
การสรา้ งเสรมิ ศักยภาพชมุ ชนเมอื่ งเชยี งใหม่ให้เป็นเมืองแห่งสขุ ภาวะอย่างอจั ฉรยิ ะและย่ังยืน
การเปลีย่ นแปลงทางประชากรท่ีเกิดขนึ้ อย่างรวดเร็วในชว่ งหลายทศวรรษทผ่ี ่านมาทำให้ประเทศ
ไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ผลจากการสำรวจสัดส่วนของประชากรอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
เพม่ิ สูงขึน้ มากกวา่ ร้อยละ 10 อายุ 65 ปีขึน้ ไป มากกว่ารอ้ ยละ 7 ของประชากรทง้ั ประเทศและคาดว่าจะ
มสี ดั ส่วนเพม่ิ ข้ึนในอีก 20 ปีข้างหน้า จากรอ้ ยละ 11.9 ในปี 2553 เปน็ ร้อยละ 25 ในปี พ.ศ. 2573 หรอื
มากกว่า 2 เท่าตัวซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอันจะนำไปสู่ความท้าทายในหลายๆด้าน
โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพอนามัยโรคไม่ติดต่อ (Non-communicable disease) เป็นปัญหาสำคัญที่พบ
มากขึ้นในประชากรไทย ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ในปี พ.ศ.
2557 โรคไม่ติดต่อเป็นสาเหตุ ของการเสียชีวิตของประชากรไทยสูงถึงร้อยละ 71 โดยสาเหตุหลัก ได้แก่
โรคทางระบบหัวใจและหลอดเลือด (ร้อยละ 29) โรคมะเร็ง (ร้อยละ 17) โรคเรื้อรังของระบบทางเดิน
หายใจ (ร้อยละ 9) โรคเบาหวาน (ร้อยละ 4) และโรคไม่ติดต่ออื่น ๆ (ร้อยละ 12) (WHO, 2014) จาก
ข้อมูลของกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในปี พ.ศ. 2559
ประชากรไทย 65 ล้านคน มีผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี จำนวน 9.9 ล้านคนหรือคิดเป็นร้อยละ 15.1
โดยเฉพาะในภาคเหนือมสี ัดสว่ นของประชากรผสู้ ูงอายมุ ากทส่ี ดุ คดิ เปน็ ร้อยละ 16.6 ซง่ึ โรคไม่ติดต่อเป็น
ปัญหาที่พบมากขึ้นตามลำดับ หลายประเทศทั่วโลกกำลังก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ ไม่เว้นแม้แต่
ประเทศไทย ดังนั้นการเตรียมความพร้อมประชากรในวัยทำงานเพื่อให้มีศักยภาพในการดูแลตนเองและ
ช่วยชมุ ชนในการรองรับสถานการณส์ ังคมสงู วัย และการทีค่ นในชมุ ชนจะสามารถเข้าสู่วยั สูงอายุได้อย่างมี
คุณภาพจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนากำลังคนของประเทศไทยภายใต้การพัฒนา
นวัตกรรมท่ีเกีย่ วข้องกับระบบสุขภาพในการประเมนิ ความเส่ียง และการเฝ้าระวังสุขภาพของคนในชุมชน
18
ท้องถิ่นนำไปสู่การมีความพร้อม มีศักยภาพ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และพัฒนาเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาวะที่ดี
ต่อไป ทั้งยังช่วยลดความเลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสุขภาพ ลดค่าใช้จ่ายของหน่วยงานรัฐบาล และ
ค่าใช้จ่ายของครอบครัวในการรักษาพยาบาล ตลอดจนเกิดการสร้างรายได้ และการสร้างเสริมศักยภาพ
สงั คมและชมุ ชนใหเ้ ข็มแขง็ เน่ืองจากคนในสังคมมสี ุขภาพท่ดี ี มสี ว่ นรว่ ม และมีศกั ยภาพในการดูแลสขุ ภาพ
ตนเอง มีระบบฐานข้อมูลความสุขภาพ มีการประเมินความเสี่ยและการเฝ้าระวังสุขภาพของชุมชนทั้งใน
ระดับบุคคล ครอบครัวและชุมชน อย่างเป็นระบบ ซึ่งนำไปสู่การมีประสิทธิภาพในการทำงานสำหรับ
ประชากรวัยทำงาน และ การดำรงชีวิตในสังคมที่ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน โดยการให้องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการดูแลคนในชุมชนโดยเชื่อมโยงกับระบบหุ้นส่วนการดูแล การสร้าง
ความตระหนักและความรอบรู้ทางสุขภาพแก่ชุมชน และมีแนวทางการดำเนนิ การจัดทำเปน็ แผนระยะส้ัน
และระยะยาว เพื่อนำไปสู่การผลักดันด้านนโยบายทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ ภายใต้
สถานการณ์การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทยและทั่วโลกคณะผู้วิจัยจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญและ
จำเป็นในการสรา้ งเสริมศักยภาพชุมชนเมื่องเชียงใหมใ่ หเ้ ป็นเมืองแหง่ สุขภาวะอย่างอจั ฉรยิ ะและยั่งยนื
การสร้างเสรมิ ศกั ยภาพชุมชนเม่ืองเชียงใหมใ่ ห้เป็นเมืองแหง่ สุขภาวะอย่างอจั ฉรยิ ะและยงั่ ยืน
การเปลี่ยนแปลงทางประชากรที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาทำให้
ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ผลจากการสำรวจสัดส่วนของประชากรอายุตั้งแต่ 60
ปีขึ้นไป เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าร้อยละ 10 อายุ 65 ปีขึ้นไป มากกว่าร้อยละ 7 ของประชากรทั้งประเทศและ
คาดว่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นในอีก 20 ปีข้างหน้า จากร้อยละ 11.9 ในปี 2553 เป็น ร้อยละ 25 ในปี พ.ศ.
2573 หรือมากกว่า 2 เท่าตัวซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอันจะนำไปสู่ความท้าทายในหลายๆ
ด้าน โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพอนามัยโรคไมต่ ิดต่อ (Non-communicable disease) เป็นปัญหาสำคัญที่
พบมากขึ้นในประชากรไทย ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ในปี
พ.ศ. 2557 โรคไม่ติดต่อเป็นสาเหตุ ของการเสียชีวิตของประชากรไทยสูงถึงร้อยละ 71 โดยสาเหตุหลัก
ได้แก่ โรคทางระบบหัวใจและหลอดเลือด (ร้อยละ 29) โรคมะเร็ง (ร้อยละ 17) โรคเรื้อรังของระบบ
ทางเดินหายใจ (ร้อยละ 9) โรคเบาหวาน (ร้อยละ 4) และโรคไม่ติดต่ออื่น ๆ (ร้อยละ 12) (WHO, 2014)
จากข้อมูลของกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนษุ ย์ ในปี พ.ศ. 2559
ประชากรไทย 65 ล้านคน มีผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี จำนวน 9.9 ล้านคนหรือคิดเป็นร้อยละ 15.1
โดยเฉพาะในภาคเหนอื มสี ัดส่วนของประชากรผสู้ ูงอายุมากที่สุด คดิ เปน็ ร้อยละ 16.6 ซง่ึ โรคไม่ติดต่อเป็น
ปัญหาที่พบมากขึ้นตามลำดับ หลายประเทศทั่วโลกกำลังก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ ไม่เว้นแม้แต่
ประเทศไทย ดังนั้นการเตรียมความพร้อมประชากรในวัยทำงานเพื่อให้มีศักยภาพในการดูแลตนเองและ
ชว่ ยชมุ ชนในการรองรับสถานการณส์ ังคมสูงวยั และการท่คี นในชมุ ชนจะสามารถเข้าสู่วยั สูงอายุได้อย่างมี
คุณภาพจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนากำลังคนของประเทศไทยภายใต้การพัฒนา
นวัตกรรมทเี่ กี่ยวข้องกบั ระบบสุขภาพในการประเมนิ ความเส่ียง และการเฝา้ ระวังสุขภาพของคนในชุมชน
ท้องถิ่นนำไปสู่การมีความพร้อม มีศักยภาพ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และพัฒนาเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาวะที่ดี
ต่อไป ทั้งยังช่วยลดความเลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสุขภาพ ลดค่าใช้จ่ายของหน่วยงานรัฐบาล และ
19
ค่าใช้จ่ายของครอบครัวในการรักษาพยาบาล ตลอดจนเกิดการสร้างรายได้ และการสร้างเสริมศักยภาพ
สังคมและชมุ ชนใหเ้ ขม็ แขง็ เนื่องจากคนในสังคมมีสขุ ภาพทีด่ ี มสี ่วนร่วม และมีศกั ยภาพในการดูแลสุขภาพ
ตนเอง มีระบบฐานข้อมูลความสุขภาพ มีการประเมินความเสี่ยและการเฝ้าระวังสุขภาพของชุมชนทั้งใน
ระดับบุคคล ครอบครัวและชุมชน อย่างเป็นระบบ ซึ่งนำไปสู่การมีประสิทธิภาพในการทำงานสำหรับ
ประชากรวัยทำงาน และ การดำรงชีวิตในสังคมที่ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน โดยการให้องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการดูแลคนในชุมชนโดยเชื่อมโยงกับระบบหุ้นส่วนการดูแล การสร้าง
ความตระหนักและความรอบรู้ทางสุขภาพแกช่ ุมชน และมแี นวทางการดำเนินการจัดทำเป็นแผนระยะส้ัน
และระยะยาว เพื่อนำไปสู่การผลักดันด้านนโยบายทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ ภายใต้
สถานการณ์การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทยและทั่วโลกคณะผู้วิจัยจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญและ
จำเป็นในการสรา้ งเสริมศกั ยภาพชุมชนเม่ืองเชยี งใหม่ใหเ้ ป็นเมอื งแห่งสุขภาวะอยา่ งอจั ฉริยะและยัง่ ยนื
การบูรณาการแนวคิดมหาวิทยาลัยสขุ ภาพเพ่อื การขับเคลื่อนส่มู หาวทิ ยาลัยดจิ ิตัล
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยด้วย
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อก้าวสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัล โดยได้มีการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลทาง
การศึกษาเพื่อรองรับการเรียนการสอน การวิจัย การบรหิ ารจดั การ และรวมถงึ การบริการวิชาการเพ่ือรับ
ใช้สังคมและชุมชน โดยอาศัยเทคโนโลยีเป็นกลไกสำคัญ ในการเพ่ิมประสทิ ธิภาพการทำงาน ให้เกิดความ
คล่องตัวและรวดเร็ว อำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้ไอทีของมหาวิทยาลัย โดยมีหน่วยงานสำนักบริการ
เทคโนโลยีสารสนเทศหรือ ITSC เป็นหน่วยงานขับเคลื่อนหลัก ภายใต้การดำเนินงานด้าน Digital
Transformation โดยอาศัยเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนามหาวิทยาลัย เพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพของการดำเนินงานของบุคลากร และการเพิ่มคุณค่า (Value) ของการดำเนินชีวิตของ
นักศึกษาและชุมชนชาว มช. มหาวิทยาลัยปัจจุบันมีการปรับปรุงระบบบริหารจั ดการด้วยการนำ
เทคโนโลยที ่ีชาญฉลาดเขา้ มาใช้อย่างต่อเนื่อง มกี ารพฒั นาระบบการบรหิ ารจัดการมหาวิทยาลัย (ERP for
Higher Education) ที่เชื่อมโยงระบบการบริหารจัดการทั้งระบบบุคลากร ทะเบียนนักศึกษา กิจการ
นักศึกษา แผนงาน งบประมาณ การเงินบัญชี (ด้วยระบบบัญชี 3 มิติ) การคลังและพัสดุ เพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพการทำงาน รวมทั้ง การส่งเสริมและสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการขับเคลื่อน
องค์กร เช่น การบูรณาการข้อมูลสำหรับจัดทำเป็นคลังข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ใหญ่ เพื่อใช้ในการ
วิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญของมหาวิทยาลัย (University Data Analytic) และข้อมูลพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ของนักศึกษา (Learner Analytic) เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหารมหาวิทยาลัย (Decision
Support System) เพื่อการวางแผนในอนาคตของมหาวิทยาลัย และเพื่อสร้างแผนที่ชีวิตนักศึกษา
(Student Life Journey) โดยอาศัยเครื่องมือความฉลาดทางธุรกิจ (Business Intelligence -BI) และ
ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence-AI) (สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,
2563)
20
สอดคล้องกับแนวทางที่สำคัญของกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579)
ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน มุ่งเน้นให้มีการสร้างเสริมให้คนในชาติมีสุขภาวะที่ดี สร้าง
โอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม กระทรวง สาธารณสุข ในฐานะที่เป็น องค์กร หลักใน
การพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศ จึงมุ่งหวังให้บรรลุยุทธศาสตร์นี้ด้วยการพัฒนา ระบบบริการและ
ระบบบริหารจัดการสุขภาพ ควบคู่ไปกับการ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ของกระทรวงสาธารณสุข โดยการ
เชอื่ มโยงระบบการดูแลสุขภาพแบบ ดิจิทัลเพอ่ื อนาคต (Digitally connected health care system of
the future) ซึ่งประกอบด้วยการให้บริการระบบสุขภาพ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสำเร็จในการลด
ค่าใช้จ่ายในการ บริหารจัดการด้านสาธารณสุข สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการ บริการในระบบสุขภาพ
สามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนกันได้ อย่างมีคุณภาพ ปลอดภัย ไร้รอยต่อและได้รับการ คุ้มครองจาก
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และสร้างโอกาสในการพัฒนานวัตกรรม และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการบริการ
เกิดการพัฒนาและ อภิบาลระบบสุขภาพอย่างมีส่วนร่วมและยั่งยืน เนื่องนวัตกรรมดิจิทัล สามารถสร้าง
คุณค่า (value creation) และเพิ่มความสามารถทางการในการแข่งขัน ในระดับประเทศ และสากล
ตลอดจนการ ยกระดับ “คุณภาพชีวิต” ของประชาชนในประเทศ ผู้กำหนด นโยบาย สามารถใช้
เทคโนโลยขี ั้นสูงในการรับมือต่อความทา้ ทายใหม่ๆ เช่น การสรา้ งและใชป้ ระโยชน์จากข้อมูลสุขภาพ จาก
แหล่งต่างๆ ข้อมลู social media และข้อมูลที่มีการจัดเก็บ โดยอปุ กรณ์ และไหลผา่ นเครือขา่ ย (internet
of things)มาวิเคราะห์ผ่านระบบประมวลผลขนาดใหญ่ เพื่อใช้ประโยชน์ใน การปรับปรุงประสิทธิภาพ
การดำเนินงาน การบริการและการพัฒนาการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน ผู้กำหนดนโยบายจะ
สามารถใช้เทคโนโลยีเฉพาะด้านบางอย่าง เข้ามาช่วยรับมือด้านความสามารถในการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่าง
ต่อเนื่อง เพื่อให้การส่งมอบบริการต่อสาธารณะเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
(ศูนยเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร สำนกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ , 2560) ประเทศไทย โดย
กระทรวงสาธารณสุขจึงได้พัฒนากรอบแนวคิด Digital Transformation Framework ขึ้นเพื่อการ
ขับเคลอ่ื นระบบสขุ ภาพดิจิทัลของประเทศไทยดังแสดงในรปู ท่ี 4 (กระทรวงสาธารณสขุ , 2562)
รปู ที่ 4 Digital Transformation Framework (กระทรวงสาธารณสขุ , 2562)
21
โครงการHealthCMU ในปีที่ 2 เลง็ เห็นความสำคัญของเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางสุขภาพที่
เป็นกญุ แจสำคญั ในการดแู ลสุขภาพบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จงึ ได้บูรณาการขับเคลอ่ื นมหาวิทยาลัย
สุขภาพ (Healthy University) ที่ดำเนินการภายใต้แนวคิดของการสร้างเสริมสุขภาพ (Health
Promotion) ร่วมกับการนำแนวคิดการดำเนินงานในส่วนของเทคโนโลยีและนวัตกรรมดานสุขภาพ
(Digital Health & Innovation) ในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สู่การเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัล
(Digital University) โดยได้ร่างรูปแบบการสร้างเสริมสุขภาพสำหรับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มหาวิทยาลยั
สุขภาพในปที ี่ 2 (Healthy CMU Health Promotion Model 2nd) ดังแสดงในรปู ที่ 5
การดำเนินงานในส่วนของเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมดานสุขภาพ (Digital Health &
Innovation) จะถูกผลักดันและสอดผสานในการดำเนินโครงการในปีที่ 2 ตามกรอบแนวคิด (Healthy
CMU: Digital Health Transformation Framework) แสดงในรูปที่ 6 โดยจะเพิ่มการประสานการ
ร่วมมือกบั สำนักบริการเทคโนโลยสี ารสนเทศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ กองบรหิ ารงานบุ
คล และหน่วยงานต่างๆเพื่อให้เกิดประสิทธิผลและนำไปสู่การนำกจิ กรรมและ นวัตกรรมของโครงการไป
ประยกุ ต์ใช้ในการดำเนินงานของหน่วยงานทีเ่ กย่ี วข้องในมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ตอ่ ไป
Digital Health & Health
Innovation Promotion
Healthy CMU: AI, Big Data Local, National,
Digital Health Innovation on Data International
Transformation collaboration
Framework Health System
Capacity
CMU smart self campaign/ Self-
monitoring &
Referring System management
Healthy CMU Health Promotion Model 2nd
รูปที่ 5 รูปแบบการสรา้ งเสริมสุขภาพสำหรบั มหาวิทยาลัยเชยี งใหมม่ หาวิทยาลัยสขุ ภาพในปที ่ี 2
(Healthy CMU Health Promotion Model 2nd)
22
Healthy CMU: Digital Health Transformation Framework
Data Analytic Team/Digital Transformation Committee
Digitize the Digitize Digitize Digitize Staff/ *Smart
organization Operations Health Student Staff
Services Digital
Digital Mindset Big data experiences
Digital Culture Blockchain - CMI i Health People:
Digital strategy Data Center - CMU Self -Healthy Staff, QOL, Happy Personal
Digital Business Data analytic Monitoring - Staff Increase Health/
Data Sharing - Mental H. Life/ Work
Model Application productivity/ Performance analytic
Public private Cross - Student life Journey
partnership (PPP) Collaboration - Queue Online, - Life time value *Smart
Telehealth - Engagement Students/
- Value/SROI Learner
analytic
ITSC/HR/MedCMU/HealthyCMU/ Faculties etc.
รปู ท่ี 6 Healthy CMU: Digital Health Transformation Framework
รูปแบบโครงการ : โครงการจะเป็นการดำเนินโครงการบริการวิชาการร่วมกับโครงการวิจัยแบบ
ผสมผสาน (Mixed-Methods Research: Multiphase designs)
กลยุทธแ์ ละกระบวนการวางแผนโครงการ Healthy CMU ในปี 2564
กลยทุ ธ์ที่นำมาใชเ้ พื่อความสำเรจ็ ของโครงการคือ "แนวคิดการขับเคลื่อนทั้งมหาวิทยาลยั " ซึ่ง
ครอบคลุม5 มิติ ได้แก่ 1) หลักการเสริมฐานราก 2) เป็นตน้ แบบมหาวทิ ยาลยั สุขภาพ 3) เปน็ ผูน้ ำดา้ นการ
สร้างเสรมิ สุขภาพ 4) แนวคดิ การพัฒนาท้ังมหาวิทยาลยั และ 5) การสรา้ งผลกระทบดา้ นสขุ ภาพแกส่ ังคม
มีกระบวนการวางแผนประกอบดว้ ย 8 ขัน้ ตอน ได้แก่ 1) จัดตง้ั คณะกรรมการและ ทำการวางแผน 2) การ
สรา้ งเครือข่ายคณะทำงาน 3) การทำแผนและประเมินความตอ้ งการของผู้ท่ีมสี ว่ นได้ส่วนเสีย 4) การ
ทำงานร่วมกนั 5) การวางแผนปฏบิ ตั ิการ 6) การสง่ มอบบริการ 7) การตดิ ตามและประเมินผล และ8) ให้
ขอ้ เสนอแนะและการเผยแพร่ผลงาน
กรอบแนวคดิ โครงการ Healthy CMU
โครงการเน้นการป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเร้ือรัง (NCDs) และโรคที่พบบ่อยในวัยทำงาน สร้าง
เสรมิ สุขภาพ และยกระดับคณุ ภาพชีวิต รวมถึงการเตรียมความพร้อมบุคลากรมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ เพื่อ
เขา้ สู่วัยสูงอายุอย่างมีคณุ ภาพ กรอบแนวคิดโครงการได้พัฒนามาจากกรอบแนวคิดการสร้างเสริมสุขภาพ
ของมหาวิทยาลัยสุขภาพเครือข่ายประเทศในกลุ่มอาเซียน ภายใต้ 12 หลักการของการขับเคลื่อน
มหาวิทยาลยั สขุ ภาพ และการดำเนนิ โครงและกิจกรรมที่สอดคล้องกบั ประเดน็ สุขภาพที่กำหนดตามกรอบ
แนวคดิ มหาวทิ ยาลัยสุขภาพของเครือข่ายมหาวิทยาลัยในกลุ่มประเทศอาเซียน ตลอดจนการนำกลไกท่ีใช้
23
ในการประเมิน และตรวจสอบ ประสิทธิผลของการดำเนินโครงการมหาวิทยาลัยสุขภาพมาประยุกต์ใช้
โดยกรอบแนวคิดของโครงการนี้มีการบูรณาการ แนวคิดหลักที่สำคัญ 3 แนวคิด ได้แก่ 1) กรอบแนวคิด
มหาวิทยาลัยสุขภาพที่เน้นการมีสุขภาพที่ดีของบุคลากรมหาวิทยาลัย การเสริมสร้างศักยภาพ และการ
พฒั นางานวิจยั การสรา้ งเสริมสุขภาพ 2) แนวคดิ ข้อมลู ขนาดใหญ่ (Big Data) โดยเนน้ ไปในเรื่องของระบบ
ขอ้ มลู สุขภาพ และนวตั กรรมดจิ ิตอลเพ่ือสุขภาพ และ 3) แนวคดิ การสง่ เสรมิ สุขภาพที่เนน้ การป้องกันโรค
ระดับปฐมภมู ิ มีหลักการในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสุขภาพ 10 ประการ ได้แก่ ความเสมอภาค ความ
หลากหลาย การมีส่วนรวม การส่งเสริมสุขภาพ พฤติพลัง การเสริมสร้างพลังอำนาจ ความร่วมมือ
หลักฐานเชิงประจกั ษ์ องคค์ วามรู้ และการแลกเปล่ยี นเรียนรู้
ผลลพั ธท์ คี่ าดหวังในการพัฒนา Healthy CMU: Conceptual Framework ในปที ่ี 2 คือการต่อ
ยอดในการสร้างนวัตกรรม และเกิดผลกระทบทางสังคม ผลิตนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ปรับปรุงคุณภาพ
ชีวิตและผลลัพธ์ดา้ นสุขภาพที่ดีขึ้น สง่ เสริมการใช้ทรพั ยากรได้อยา่ งเฉลียวฉลาดและค้มุ คา่ และเพ่ิมระดับ
ผลสัมฤทธิ์ ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงาน และการเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดขี ึ้นของบุคลากร มช. เน้น
การชว่ ยเหลอื และการทำงานร่วมกัน การทำวิจยั เพ่อื นำไปสู่การเสรมิ สรา้ งขีดความสามารถระหว่างคณะ
สถาบัน และองค์กรตา่ ง ๆ (ดังรปู ท่ี 3)
รูปที่ 7 กรอบแนวคดิ ของโครงการมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่มหาวทิ ยาลัยสุขภาพ (Healthy CMU:
Conceptual Framework)
24
นยิ ามศพั ท์
การสร้างเสริมสุขภาพบุคลากร หมายถึง การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต
การทำงาน สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของประชากร คนงานทั้งมวล โดยการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมทาง
กายภาพ สังคมจิตวิทยา องค์กร และเศรษฐกิจ การเสริมสร้างพลังอำนาจแก่ปัจเจกบุคคล และความ
เจรญิ เตบิ โตแกบ่ ุคคลเหลา่ นน้ั (WHO 1998)
มหาวิทยาลัยสุขภาพ หมายถึง การสร้างเสริมพัฒนาศักยภาพของบุคลากรใน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้มีส่วนร่วมในการพัฒนามหาวิทยาลัยให้เป็นมหาวิทยาลัยสุขภาพ ซึ่งเน้นการ
ผลักดันโดยการให้บุคลากรเข้ามามีส่วนร่วม ภายใต้หลักการในการขับเคลื่อนทั้งมหาวิทยาลัย (Whole
University Approach) (M. Dooris et al., 2016; Newton, Dooris, & Wills, 2016) ซึ่งครอบคลุม 5
มิติสำคัญได้แก่ 1) หลักการสำคัญ (Underpinning principles) 2) การขับเคลื่อนภาคมหาวิทยาลัย/
การศึกษาขั้นสูง (High University Drivers) 3) การขับเคลื่อนภาคสาธารณสุข (Public Health Divers)
4) การดำเนินการมหาวิทยาลัยโดยรวม (Whole University Approach) (Charter, 2015; Newton et
al., 2016) 5) การส่งผ่านและผลกระทบ (Deliverables and Impacts) โดยการผลักดันให้เกิดการ
สร้างสรรค์ สนับสนุนชว่ ยเหลือ แลกเปลี่ยน และประสานงานกันทุกฝ่ายเพื่อใหเ้ กิดสังคมสุขภาวะ (M. T.
Dooris, Cawood, Doherty, & Powell, 2010)
บคุ ลากรมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ หมายถงึ บุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไดแ้ กก่ ลมุ่ บคุ ลากร
สายวิชาการ (ขา้ ราชสาย ก. และพนกั งานมหาวิทยาลัย) และบคุ ลากรสายสนับสนนุ (ขา้ ราชการสาย ข.
ค. พนกั งานมหาวิทยาลยั สายสนบั สนุนและลกู จ้าง) ทีป่ ฏิบัตงิ านในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
2) วตั ถุประสงคโ์ ครงการ
วตั ถุประสงคห์ ลกั
1.เพื่อพัฒนาและต่อยอดนวัตกรรมระบบสารสนเทศเพ่ือประเมินความเสีย่ งด้านสุขภาพ
มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ส่รู ะดับความพรอ้ มของเทคโนโลยสี อู่ ตุ สาหกรรมระดับ 7-8
2. เพื่อนำเทคโนโลยีไปใช้งานและสนับสนุนสู่ภาคสังคมท้องถิ่นภาคเหนือ และต่อยอด
เชิงพาณิชย์
วตั ถปุ ระสงค์รอง
1. เพื่อพัฒนารูปแบบมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มหาวิทยาลัยสุขภาพภายใต้นวัตกรรมการ
ประเมินความเสี่ยงทางสุขภาพ การคัดกรองความเสี่ยง การเฝ้าระวัง และการสร้างความตระหนักด้าน
สขุ ภาพในมหาวิทยาลยั และเทศบาลเมืองเชยี งใหม่
2. เพื่อพฒั นารปู แบบเชียงใหม่เมอื งสขุ ภาวะภายใต้นวตั กรรมการประเมินความเสีย่ งทาง
สุขภาพ การคัดกรองความเสี่ยง การเฝ้าระวัง และการสร้างความตระหนักด้านสุขภาพเทศบาลเมือง
เชยี งใหม่
3. เพื่อพัฒนาสร้างความรู้ความเข้าใจ และความตระหนักในการสร้างเสริมสุขภาพกาย
และใจโดยเน้นการพัฒนาโปรแกรมการสร้างเสริมสุขภาพทัง้ รายบุคคล และรายกลมุ่ ในการการสร้างเสริม
สขุ ภาพและการป้องกนั ความเสยี่ งด้านสุขภาพในโรคเรอ้ื รัง ไดแ้ ก่ โรคอ้วน และการจดั การความเครยี ด
25
4. เพื่อพัฒนาต้นแบบการลดความเสี่ยงการสูบบุหรี่ การดื่มสุราสำหรับบุคลากร
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
5. เพื่อในการเฝ้าระวัง และส่งต่อสุขภาพสำหรับชุมชน เพื่อลดความรุนแรงและความ
เจบ็ ป่วยของคนในชุมชน
6. เพ่อื ยกระดบั มหาวทิ ยาลัยสขุ ภาวะสูเ่ มืองเชียงใหม่เมืองสุขภาวะ
3) เปา้ หมายของโครงการ
1. โครงการสามารถเปน็ สว่ นหนึง่ ในการขับเคล่ือนยทุ ธศาสตร์ที่ 2 เชิงรกุ ด้านนวัตกรรม
ดา้ นอาหารและสขุ ภาพและการดแู ลผสู้ งู อายขุ องมหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่
2. โครงการสนับสนุนให้มีการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable
Development Goals-SDGs) ม่งุ เน้นการวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทยป์ ระเทศและการบริการวิชาการ
ท่เี กิดประโยชน์แกส่ ังคม โดยสามารถตอบ SDGs 3, 9, 11, 17
3. โครงการเป็นปัจจยั พลวัตรท่ีเอ้ือต่อการสร้างเสริมสุขภาพ ชีวอนามยั ใหป้ ระชาคมชาว
เชียงใหมม่ ีความเป็นอยู่ท่ีดมี ากขึ้น และสง่ ผลต่อภาพรวมคุณภาพชวี ิตและดัชนชี ี้วัดด้านสุขภาพที่ส่งผลต่อ
การประเมินด้านเศรษฐกิจดขี ้นึ ในทางออ้ มของภาคประชาชนทอ้ งถิ่นภาคเหนอื
4. โครงการสามารถสร้างนวัตกรรมสู่ชุมชนและสังคมเชิงประจักษ์ ที่มีผลกระทบ และ
สามารถนำความรู้จากมหาวิทยาลัยสูก่ ารขับเคล่ือนล้านนาสร้างสรรค์และภาคีภาคสังคม หน่วยงาน ต่าง
ๆ ภายนอกมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ได้
5. โครงการสามารถตอบโจทย์การจัดลำดับของมหาวิทยาลัยด้าน SDG 3: GOOD
HEALTH AND WELL-BEING ของ Times Higher Education ตามเกณฑ์การพัฒนาความยั่งยืนของ
องค์กรเพื่อสงั คมของสหประชาชาติ และEdPEx
6. ภายใตต้ วั ช้วี ัดรว่ มการสร้างเสริมสุขภาพได้แก่
6.1 ความเสี่ยงดา้ นสุขภาพ (Health risk assessment
6.2. ความสุข (Happynometor)
6.3 ดชั นีช้ีวดั ภาวะสุขภาพและคณุ ภาพชีวิตคนไทย (WHOQOL-BREF-Thai)
6.4. พฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ (Health Promoting Lifestyle Profile II)
โดยภายหลังการดำเนินการส่งเสริมสุขภาพและศักยภาพ ดีขึ้นกว่าก่อนการดำเนิน
กิจกรรมการสรา้ งเสริมสขุ ภาพสำหรับบุคลากรในมหาวิทยาลยั เชียงใหม่ และในเขตเทศบาลเมืองเชียงใหม่
ดังแสดงในรปู ที่ 4
26
รปู ที่ 8 เป้าหมาย/ความสำเร็จของโครงการ (The Success of Healthy CMU Project)
4) พ้นื ทีด่ ำเนนิ การ
1. ทุกคณะในมหาวิทยาลยั เชียงใหม่ โดยรวมบคุ ลากรท้ัง 2 กลุม่ ได้แก่ กล่มุ บุคลากรสาย
วิชาการ (ขา้ ราชการสาย ก. และพนักงานมหาวทิ ยาลยั ) และบุคลากรสายสนับสนุน (ข้าราชการสาย ข.
ค. พนักงานมหาวิทยาลยั สายสนบั สนุนและลูกจ้าง)
2. เทศบาลเชียงใหม่
5) รายละเอียดวิธกี ารดำเนนิ โครงการ/กิจกรรม
ขอบเขตของโครงการ
โครงการจะเป็นการดำเนินโครงการบริการวิชาการร่วมกับโครงการวิจัยแบบผสมผสาน
(Mixed Methods Research: Multiphase designs) (Creswell &Plano Clark 2011, pp 114) โดย
การศกึ ษาจะแบง่ เป็น 2 ส่วนหลกั ไดแ้ ก่
1. การพัฒนาโครงการการสร้างเสริมสุขภาพต่อเนื่องจากปัญหาที่พบของบุคลากร
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ในปีที่ 1 ได้แก่ เพ่ือการความต่อเน่อื งในการดำเนนิ งานด้านการสง่ เสรมิ สุขภาพของ
บุคลากรทั้ง 2 กลุ่มได้แก่กลุ่มบุคลากรสายวิชาการและสายสนับสนุน และเพื่อมีฐานข้อมูล และโครงการ
นำร่องในการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพและศักยภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้
สามารถดูแลตนเองเพื่อป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่พบบ่อยในวัยทำงาน และเพื่อลดอุบัติการณ์
ของการเกิดปัญหาสุขภาพ ภาวะทุพพลพลภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ
นำไปสู่การเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการทำงาน และ
สามารถเตรยี มตวั รองรับเขา้ สู่วยั เกษียณไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
27
2. การดำเนินงานในส่วนของเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมดานสุขภาพ (Digital
Health & Innovation) จะถูกผลักดันและสอดผสานในการดำเนินโครงการในปีที่ 2 ตามกรอบแนวคิด
(Healthy CMU: Digital Health Transformation Framework) แสดงในรูปที่ 6 โดยจะเพิ่มการ
ประสานการรว่ มมือกับสำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ กอง
บริหารงานบคุ ล และหน่วยงานตา่ งๆเพอื่ ให้เกดิ ประสิทธิผลและนำไปสู่การนำกิจกรรมและ นวตั กรรมของ
โครงการไปประยุกตใ์ ช้ในการดำเนนิ งานของหน่วยงานทเี่ ก่ยี วขอ้ งในมหาวิทยาลยั เชยี งใหมต่ ่อไป
การดำเนินกิจกรรมการเสรมิ สรา้ งสุขภาพสำหรับบุคลากรมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่
การดำเนินกิจกรรมในภาพรวมให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ในระยะเวลา 2 ปี มีกการ
ขับเคลื่อนกระบวนการผ่านตัวแทนบคุ ลากรในแต่ละคณะ หรือหน่วยงานต่างๆ ในมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่
ให้มีส่วนร่วมในการดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพอย่าง เป็นรูปธรรม พัฒนาระบบฐานข้อมูลสุขภาพของ
บุคลากรเพื่อให้เกิดการนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์สูงสุดในการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพ และการ
วิเคราะห์แนวทางการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมทั้งในระดับมหาวิทยาลัย คณะ และบุคคล จัดกิจกรรมด้าน
การพัฒนาที่เน้นการสร้างเสริมสุขภาพของ บุคลากรอย่างต่อเนื่อง จัดกิจกรรมรณรงค์ในวงกว้าง (Mass
Communication) เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจการสร้างเสริมสุขภาพทั้งมหาวิทยาลัยโดยการจัด
กิจกรรม สร้างความตระหนัก (Public Awareness) เพื่อนำไปสู่ความตื่นตัวการรักสุขภาพกาย และใจ
ของบุคลากรในใมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยแนวทางการดำเนินกิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพใน
มหาวิทยาลัยเชียงใหมส่ ามารถแบง่ ระยะการดำเนนิ การ 2 ปดี ังน้ี
กจิ กรรม รายละเอยี ด
ปที ี่ 2: การดำเนินการปีท่ี 1 แบง่ 9 กิจกรรมย่อย
กจิ กรรมท่ี 1: การวเิ คราะห์ และ การจัดตั้งคณะทำงาน การวิเคราะห์ และระดมความคิดเห็นเพ่ือ
ระดมความคิดเหน็ เพอื่ จดั ทำแผน จัดทำแผน และการดำเนินโครงการเชียงใหม่เมืองแห่งสุขภาวะ
และการดำเนนิ โครงการพัฒนา อย่างอัจฉริยะและยั่งยืน (Smart and Sustainable Healthy
ศักยภาพการสร้างเสรมิ สุขภาพของ Chiang Mai City)
บุคลากรมหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่
ดำเนินการหลักโดยคณะพยาบาล
ศาสตร์
โครงการจัดการภาวะอ้วนด้วยตนเองเป็นการกระทำต่าง ๆ ของ
บุคคลที่มีภาวะอ้วน เพื่อควบคุมหรือลดความเสี่ยงที่จะเกิด
ผลกระทบจากภาวะอ้วน โดยบุคคลต้องรับผิดชอบจัดการด้าน
กิจกรรมท่ี 2 : การพฒั นาทักษะ อาหารและการออกกำลังกายด้วยตนเอง ประกอบด้วย การกำหนด
การจัดการภาวะอ้วนด้วยตนเองใน แผนการรับประทานอาหาร การประเมินสัดส่วนปริมาณอาหารที่
ผทู้ ่ีมีภาวะอ้วนดำเนนิ การหลกั โดย รับประทาน การทำกิจกรรมทางกาย และการลดระยะเวลาที่อยู่นิ่ง
ซึ่งการดำเนินโครงการจะดำเนินตามกรอบการจัดการตนเอง 5
คณะพยาบาลศาสตร์ ขั้นตอน โดยจะช่วยลดความเสี่ยงในการที่ทำให้โรคอ้วนเพิ่มระดับ
ความรุนแรงมากขึ้น และช่วยลดการเกิดโรคอื่นๆ โครงการนี้ขึ้น
เพื่อให้บุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่มีภาวะอ้วน มีทักษะในการ
28
กิจกรรม รายละเอียด
จัดการภาวะอ้วนด้วยตนเอง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้บุคลากร
มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่มสี ขุ ภาพและคณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ี
กจิ กรรมที่ 3 : การรจัดกจิ กรรมการ โดยการสร้างผู้แทนการดแู ลสขุ ภาพเพ่ือนำมาพดู คุยถึงวิธีการสรา้ ง
สรา้ งเสริมพลงั งานอำนาจ เสริมสุขภาพ และปอ้ งกนั ความเสีย่ งด้านสขุ ภาพในบุคลากร
(Empowerment) สำหรบั การสร้าง มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่โดยการพดู เพ่อื เปน็ กำลงั ใจและช่วยจดุ
เสริมสขุ ภาพของบคุ ลากร ประกาย(Inspiration) ความอยากในการสร้างเสริมสขุ ภาพทุก 1-3
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ ไดแ้ ก่ กิจกรรม เดือน
“Health Talk”
ดำเนนิ การหลกั โดยคณะพยาบาล
ศาสตร์
กจิ กรรมที่ 4 : การพัฒนาระบบส่ง เพื่อส่งเสริม ป้องกัน รักษา ด้านสุขภาพจิต ของบุคลากร
ต่อในการบรหิ ารจดั การ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ (STOP STAFF STRESS Year 2) ในการ
ความเครียดเพื่อใหเ้ กิดความย่ังยนื สร้างระบบ และกลไกท่ีย่งั ยืน ในการส่งเสริม ปอ้ งกัน รักษา ด้าน
ของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ สุขภาพจิต ของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, บูรณาการการ
สำหรบั การขบั เคล่ือนสู่ ทำงานของส่วนงานต่างๆที่เกี่ยวข้องโดยมีเป้าหมายตรงกันใน
มหาวิทยาลยั สุขภาพ ด้านการสร้างเสริมสุขภาพอย่างเป็นระบบ และลดปัญหาด้าน
ดำเนนิ การหลักโดยคณะพยาบาล สุขภาพจิตของบุคลากรที่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพใน
ศาสตร์ การทำงานเกิดความยั่งยืนบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทั้ง 2
กลุ่มได้แก่ กลุ่มบุคลากรสายวิชาการ (ข้าราชสาย ก. และ
พนักงานมหาวิทยาลัย) และบุคลากรสายสนับสนุน (ข้าราชสาย
ข. ค. พนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุนและลูกจ้าง) ให้
สามารถใช้บริการและไดใ้ ชร้ ะบบสง่ ต่อพบผูเ้ ชยี่ วชาญเพ่ือจัดการ
กบั ปัญหาทางสุขภาพจิตและความเครยี ดได้
กิจกรรมท่ี 5: การจัดกิจกรรมการ การจดั กจิ กรรมการสรา้ งเสริมสุขภาพปอด โดยการจัดกิจกรรม
สร้างเสรมิ สขุ ภาพปอด โดยการจดั รณรงค์ และการจดั ให้มพี น้ื ที่ปลอดบหุ ร่ี (Smoke Free Area )
กิจกรรมรณรงค์ และการจัดใหม้ ี และการจดั ต้ังคลินิกปลอดบหุ รีด่ ำเนินการใหบ้ ริการคำปรึกษา
พน้ื ทีป่ ลอดบหุ ร่ี (Smoke Free และอบรมในการเลิกบหุ รี่สำหรบั บุคลากร รวมถึงการตรวจสรรถ
Area ) นะปอดเปน็ ประจำทกุ ปีสำหรับบคุ ลากรกลมุ่ เส่ยี ง
- การจดั กจิ กรรมการสรา้ งเสริม
สขุ ภาพปอด และการจดั ใหม้ ีพืน้ ท่ี
ปลอดบุหรี่ (Smoke Free Area )
- การจัดตง้ั คลนิ กิ ปลอดบุหร่ี
ดำเนินการหลักโดยคณะพยาบาล
ศาสตร์
29
กจิ กรรม รายละเอียด
กิจกรรมที่ 6: การจัดกจิ กรรมการ การจดั กิจกรรมสุขภาพตับ โดยดำเนินการจัดกิจกรรมรณรงค์
สร้างเสรมิ สุขภาพตบั มหาวิทยาลัยปลอดเหล้า (Uni. Zero% Alcohol) การ
- กจิ กรรมรณรงค์มหาวิทยาลัย ดำเนนิ การให้บริการคำปรึกษาและอบรมในการเลิกเหล้า
ปลอดเหล้า (Uni. Zero% สำหรบั บุคลากรรวมถึงการตรวจการทำงานของตบั เปน็ ประจำ
Alcohol) ทกุ ปสี ำหรับบคุ ลากรกลุ่มเส่ยี ง
- การจัดตั้งคลินกิ การดำเนนิ การ
ใหบ้ ริการคำปรึกษาและอบรมใน
การเลกิ เหลา้
ดำเนินการหลกั โดยคณะพยาบาล
ศาสตร์
กิจกรรมที่ 7: สื่อสารสรา้ งเสริม การส่งเสรมิ ใหด้ ำเนินการสอ่ื สาร/ประชาสมั พันธ์อย่างต่อเนื่อง
สุขภาพกายและใจ Healthy CMU เพือ่ นำไปสู่การปรับเปล่ยี นพฤตกิ รรม การรณรงค์ที่มเี ปา้ หมายสู่
เพ่อื ขับเคลื่อนส่มู หาวิทยาลัย การเปล่ยี นแปลงพฤติกรรมและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกบั
สขุ ภาพ องค์ประกอบการสอ่ื สาร โดยเฉาพะในส่วนของผู้รบั สาร ท้งั ด้าน
ดำเนินการหลกั โดยคณะการ พฤติกรรมการเปิดรับสอ่ื รปู แบบสอ่ื ทตี่ ้องการ และข้อมูลด้าน
สือ่ สารมวลชน สขุ ภาพทสี่ นใจ เพื่อนำมาวางแผน/กลยทุ ธ์และพฒั นารปู แบบ
การนำเสนอขา่ วสาร สาระความรู้ กจิ กรรมส่ือสารเพื่อส่งเสรมิ
สขุ ภาพ (Health Promotion) ใหต้ รงใจกลมุ่ เป้าหมายอย่างมี
ประสิทธิภาพ ซง่ึ จะสง่ ผลให้เกิดความร่วมมือ และเขา้ มามีส่วน
รว่ มกับโครงการฯ เพมิ่ มากขึ้นในกลมุ่ เปา้ หมาย
กิจกรรมท่ี 8: การพัฒนาและต่อ การดูแลและรักษาระบบฐานข้อมูลสุขภาพ (Developing of
ยอดนวตั กรรมระบบสารสนเทศ the Data Health Risk Assessment System) แ ล ะ พ ั ฒ น า
เพือ่ ประเมินความเส่ียงด้านสุขภาพ นวัตกรรมสู่ชุมชนและสังคมเชิงประจักษ์ ภายใต้การขับเคลื่อน
มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่สูร่ ะดับความ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่สู่มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพปีที่ 2 น้ี
พร้อมของเทคโนโลยสี อู่ ตุ สาหกรรม โดยโครงการวจิ ัยนีจ้ ะมงุ่ นำระบบสารสนเทศท่ีมีอยเู่ ดิมซึ่งมีความ
ระดบั 7 พร้อมระดับ TRL 6 ไปพัฒนาต่อยอดสู่นวัตกรรมเทคโนโลยีด้าน
ดำเนินการหลักโดยวิทยาลยั ศลิ ปะ สุขภาพที่ผสมผสานความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ และ
สอ่ื และเทคโนโลยี เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้ได้ระบบนำไปสู่การใช้งานระดับ
พื้นที่และต่อยอดสู่นวัตกรรมสุขภาพทั้งมีมูลค่าและเชิงสังคม
ต่อไป โดยจะมีเป้าหมายปรับปรุงระบบเพื่อให้พร้อมต่อการ
แข่งขันโดยจะเพิ่มเติมฟังก์ชันและความสามารถในการประเมิน
สุขภาพผู้ใช้งาน และเน้นการแจ้งเตือนที่มีประสิทธิภาพมากย่ิง
ขั้นต่อไป ซึ่งจะสอดคล้องและบรรลุเป้าหมาย SDG ของ
มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมต่ อ่ ไป
30
กจิ กรรม รายละเอยี ด
กจิ กรรมท่ี 9: การสรา้ งความยั่งยืน การสนับสนุนการทำงานของกลุ่มแกนนำสุขภาพบุคลากร
ของแกนนำสขุ ภาพบคุ ลากร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และการขับเคลื่อนโครงการสร้างเสริม
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ สขุ ภาพบคุ ลกรในแต่ละคณะ/หน่วยงานตา่ งๆของมหาวิทยาลัยที่
ดำเนินการหลกั โดยคณะพยาบาล จัดโดยแกนนำสุขภาพ ที่จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพของบุคลากร
ศาสตร์ ในคณะ/ หน่วยงานของตนเองให้ดีขึ้นได้ เพื่อทำให้เกิดความ
ยั่งยืนด้านการสร้างเสริมสุขภาพของกลุ่มแกนนำสุขภาพ
กิจกรรมท่ี 10: การทดสอบระบบ บุคลากร ในการขบั เคล่ือนสู่มหาวิทยาลัยสขุ ภาพ
ดแู ลเฝ้าระวงั สุขภาพด้วยตนเอง การทดสอบระบบเฝ้าระวังการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง (CMU
ผา่ นอปุ กรณ์อิเล็กทรอนิกสท์ ี่ใช้ Smart Self-monitoring) เพื่อประเมินประสิทธิผลของระบบใน
ร่วมกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ การใช้งานจริงในกลุ่มบุคลากร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยการ
สมัยใหม่ ของบคุ ลากร เก็บข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผลของระบบผ่านอุปกรณ์
มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ อัจฉรยิ ะสำหรับความเปน็ ไปได้ในการใช้งานระบบ การสนับสนุน
ดำเนนิ การหลกั โดยคณะ กิจกรรมการดูแลสุขภาพ และการเฝ้าระวังดูแลสุขภาพด้วย
สาธารณสขุ ศาสตร์ ตนเอง
กิจกรรมที่ 11: การดำเนนิ กิจกรรม
แลกเปล่ียนเรียนรูก้ ารสร้างเสริม การดำเนินกิจกรรมแลกเปล่ียนเรียนรู้ การจัดเวทีเสวนาในการับ
สขุ ภาพระหว่างองค์กรใน ฟงั ขอ้ คิดเหน็ รวมถงึ การดำเนินกจิ กรรมการประเมินความสำเร็จ
มหาวิทยาลัยเพื่อการส่งต่อสู่คณะ ของโครงการสร้างเสริมสุขภาพสำหรับบุคลากร
และหน่วยงานต่างๆ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่จากทกุ ภาคสว่ นระยะเวลาดำเนนิ การ
ดำเนนิ การหลักโดยคณะพยาบาล
ศาสตร์ การดูแลและรักษาระบบฐาน ข้อมูลสุขภาพ การใช้งานระบบ และ
กิจกรรมท่ี 12: การดูแลและรกั ษา การถ่ายทอดเทคโนโลยีให้งานบริหารบุคคล มช. โดยรวม
ระบบฐานขอ้ มูลสุขภาพ การใชง้ าน กระบวนการเตรียมการ และการดำเนินงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน การ
ระบบ และการถา่ ยทอดเทคโนโลยใี ห้ สร้างความตอ่ เนื่อง และส่งมอบองค์ความรู้ ในการดำเนนิ โครงการทงั้
งานบรหิ ารบุคคล ปีที่ 1 และ ปี ที่ 2 ให้แก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และหน่วยงานที่
ดำเนนิ การหลักโดยคณะพยาบาล เ ก ี ่ ย ว ข ้ อ ง ไ ด ้ แ ก ่ ก อ ง บ ร ิ ห า ร ง า น บ ุ ค ค ล ส ำ นั ก
ศาสตร์รว่ มกบั กองบรหิ ารงาน มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่
บุคคล มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่
6) กล่มุ เป้าหมาย
1. กลุ่มเป้าหมายหลัก บุคลากรทั้ง 2 กลุ่มได้แก่ กลุ่มบุคลากรสายวิชาการ (ข้าราชการ
สาย ก. และพนักงานมหาวิทยาลัย) และบุคลากรสายสนับสนุน (ข้าราชการสาย ข. ค. พนักงาน
มหาวิทยาลยั สายสนบั สนุนและลกู จา้ ง) โดยรวมทกุ คณะในมหาวิทยาลยั เชียงใหม่
2. กลุ่มเปา้ หมายรองประชาชนทีอ่ าศัยในพิน้ ทเี่ ทศบาลเมอื งเชยี งใหม่
31
7) ตัวชว้ี ดั ผลผลิต (Output) ตัวช้ีวัดผลผลิต/ค่าเปา้ หมาย
ผลผลติ (Output)
12.1 มคี ณะกรรมการบรหิ ารและคณะกรรมการ ตัวชว้ี ัดเชิงปรมิ าณ
สหวชิ าชพี ดำเนนิ งานเชียงใหมเ่ มืองแห่งสุขภาวะ
อยา่ งอัจฉรยิ ะและยั่งยืน 1) .....12 กิจกรรม/โครงการย่อย..................
ตวั ชีว้ ดั เชิงคุณภาพ
12.2 มีระบบฐานขอ้ มูลสุขภาพ (Developing of
the Data Health Risk Assessment System) 1) 6 ผลลัพธ์
สำหรบั การประเมินความเสย่ี งทางสขุ ภาพ การ ตัวชี้วัดเชงิ เวลา
ประมวลผลและวิเคราะหข์ อ้ มูลอยา่ งเปน็ ระบบ
1) 1 ปี
12.3 มีระบบฐานข้อมลู CMU i-Health และ CM
i-Health สำหรบั การรวมรวม ข้อมูลสขุ ภาพ ซ่งึ
จะสามารถนำไปประมวลผลให้เห็น ภาพรวมของ
ภาวะด้านสุขภาพ และ เวบ็ ไซต์ FB ของโครงการ
ซ่ึงเปน็ เครื่องมือในการส่อื สารใหค้ วามรทู้ าง
สขุ ภาพ
12.4 มีนวตั กรรมการคดั กรอง และเฝ้าระวัง และ
ส่งตอ่ ภาวะสุขภาพเบื้องตน้ ด้วยตนเอง
12.5 มกี ารจัดกจิ กรรมรณรงค์ประชาสัมพนั ธ์ดา้ น
การสร้างเสริมสุขภาพกาย สำหรับบุคลากรอย่าง
ตอ่ เน่อื งจัดกิจกรรมรณรงคใ์ นวงกว้าง (Mass
Communication) และการสรา้ งความตระหนัก
(Public Awareness)
12.6 มี แกนนำสขุ ภาพ และคณะทำงาน
ดำเนินงานการสร้างเสริมสุขภาพใน
มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหมแ่ ละเทศบาลเชียงใหมเ่ พ่อื
ดำเนนิ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพสำหรบั บุคลากร
อยา่ งต่อเน่อื ง
12.7 มีการจัดกจิ กรรมการสร้างเสริมพลังงาน
อำนาจ (Empowerment) สำหรบั การสร้างเสริม
32
ผลผลิต (Output) ตัวชีว้ ัดผลผลิต/ค่าเป้าหมาย
สุขภาพของบุคลากรมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ได้แก่
กจิ กรรม “Health Talk”
12.8 มกี ารตงั้ คลินิกจัดการความเครียด (Stress
Management Clinic) เพอ่ื ให้บรกิ ารในดา้ น
คำแนะนำ และการประเมินความเสย่ี งรวมถงึ การ
ส่งต่อเมื่อพบความผดิ ปกตอิ ย่างต่อเนื่องจากปที ี่ 1
12.9 มกี ารพัฒนาโปรแกรมการสร้างเสริมสขุ ภาพ
โรคอ้วนทงั้ รายบุคคล และรายกลุ่ม
(Counselling and Providing Health
Promotion Services for NCD’s
Management Programs) (Individual or
Group)
12.10 มีการสื่อสารให้ความรู้ทางสุขภาพ Online
เผยแพร่ใน website Healthy University, FB
12.11 มีการจัดกิจกรรมการสรา้ งเสริมสุขภาพ
ปอดโดยการจัดกิจกรรมรณรงค์ และการจัดให้มี
พน้ื ทปี่ ลอดบุหร่ี (Smoke Free Area ) และการ
จัดตั้งคลินิกปลอดบหุ รดี่ ำเนินการให้บริการ
คำปรกึ ษาและอบรมในการเลิกบหุ ร่สี ำหรับ
บคุ ลากร รวมถงึ การตรวจสมรรถนะปอดเป็น
ประจำทกุ ปีสำหรบั บคุ ลากรกลุ่มเสี่ยง
12.12 มีการจดั กิจกรรมสุขภาพตับโดยดำเนินการ
จดั กิจกรรมรณรงคม์ หาวทิ ยาลัยปลอดเหล้า (Uni.
Zero% Alcohol) การดำเนินการใหบ้ รกิ าร
คำปรกึ ษาและอบรมในการเลิกเหลา้ สำหรับ
บุคลากรรวมถงึ การตรวจ
12.13 มกี ารดำเนินกิจกรรมการประเมิน
ความสำเร็จของโครงการสร้างเสริมสุขภาพสำหรบั
บุคลากรมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่จากทุกภาคสว่ น
33
ผลผลิต (Output) ตวั ช้ีวัดผลผลติ /คา่ เป้าหมาย
โดยการดำเนินกิจกรรมแลกเปลีย่ นเรียนรู้การ
สร้างเสรมิ สขุ ภาพระหวา่ งองค์กรในมหาวทิ ยาลยั
เพ่ือการสง่ ต่อสู่คณะและหนว่ ยงานตา่ งๆ
12.14 มกี ารขยายผลสู่ชุมชนเมืองเชียงใหมเ่ มือง
สขุ ภาพดภี ายใตต้ ้นแบบมหาวอทยาลยั เชยี งใหม่
มหาวทิ ยาลัยสุขภาพดี การดูแลและรกั ษาระบบ
ฐาน ขอ้ มลู สุขภาพ การใช้งานระบบ และการ
ถา่ ยทอดเทคโนโลยใี หง้ านบริหารบคุ คล มช.
โดยรวมกระบวนการเตรยี มการ และการ
ดำเนนิ งานในช่วงเปลยี่ นผ่าน การสร้างความ
ตอ่ เนอื่ ง และส่งมอบองค์ความรู้ ในการดำเนิน
โครงการทัง้ ปีท่ี 1 และ ปี ที่ 2 ใหแ้ ก่
มหาวิทยาลัยเชยี งใหมแ่ ละหน่วยงานทเ่ี ก่ียวข้อง
8) ผลลัพธ์ (Outcomes) มีข้อมูลสุขภาพในการประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ปัญหา คัด
กรองให้คำปรึกษา อบรม สร้างความเข้าใจ ความตระหนัก และการดำเนินกิจกรรมการ เสริมสุขภาพ
สำหรบั บุคลากรมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่และชุมชนเมืองเชียงใหม่อย่างเป็นระบบ
1. ภายหลังการสร้างเสริมสุขภาพและศักยภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้
สามารถดูแลตนเองเพื่อป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่พบบ่อยในวัยทำงานและภาวะเสี่ยงด้าน
สุขภาพได้แก่ โรคความดันโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง ความเครียดในการ
ทำงาน การสูบบหุ รี่ และการดื่มสรุ า ของบุคลากรท้ัง 2 กลุ่มได้แก่ กลุ่มบุคลากรสายวิชาการ (ข้าราชการ
สาย ก. และพนักงานมหาวิทยาลัย) และบุคลากรสายสนับสนุน (ข้าราชการสาย ข. ค. พนักงาน
มหาวิทยาลัยสายสนับสนุนและลูกจ้าง) ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายข้องข้อ 6.1-6.4 ดีขึ้นกว่าก่อนการ
พฒั นาการพฒั นารูปแบบการส่งเสริมสขุ ภาพและศกั ยภาพของบคุ ลากรในมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่
2. บุคลากรสายวิชาการ ซึ่งได้แก่คณาจารย์ และพนักงานมหาวิทยาลัย และบุคลากรสาย
สนบั สนุนซ่ึงได้แก่ ขา้ ราชการสาย ข ค และลกู จา้ ง มีความสามารถสามารถดูแลตนเองเพือ่ ป้องกันการเกิด
โรคไมต่ ดิ ต่อเรื้อรังท่ีพบบ่อยในวัยทำงานและภาวะเสย่ี งดา้ นสุขภาพได้แก่ โรคความดนั โรคความดันโลหิต
สงู โรคเบาหวาน โรคไขมนั ในเลือดสงู ความเครยี ดในการทำงาน การสูบบุหร่ี และการด่มื สรุ า
3. ส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้มีส่วนร่วมในการพัฒนา
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้เปน็ มหาวิทยาลัยสุขภาวะท่ีดีและยกระดับมหาวิทยาลัยสุขภาวะสู่เมืองเชียงใหม่
เมืองสุขภาวะ
4. ลดอุบัติการณ์และภาวะเสี่ยงของการเกิดปัญหาสุขภาพ ภาวะทุพพลพลภาพของบุคลากรใน
มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่เมือ่ เข้าสู่วัยสูงอายุ
34
5. การเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการทำงาน และ
สามารถเตรยี มตวั รองรับเข้าสูว่ ัยเกษยี ณไดอ้ ย่างเหมาะสม
6. การมีแกนนำสร้างเสริมสุขภาพ ที่มีศักยภาพและดำเนินการสร้างเสริมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
เพื่อความยั่งยืน ในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นมหาวิทยาลัยสุขภาพ เป็นต้นแบบ และ
สามารถขยายผลสูงพื้นท่ีใกลเ้ คยี งในเขตชุมชนเมืองเชียงใหม่
9) ผลทค่ี าดว่าจะไดร้ ับ
ปงี บประมาณ เปา้ หมาย งบประมาณ (หนว่ ย : บาท)
4,508,700
2564 1. เพ่ือพฒั นารปู แบบมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยสุขภาพภายใตน้ วัตกรรมการ
ประเมนิ ความเส่ยี งทางสุขภาพ การคดั กรอง
ความเสี่ยง การเฝ้าระวงั และการสรา้ งความ
ตระหนกั ด้านสุขภาพในมหาวิทยาลัย
2. เพ่อื พัฒนารปู แบบมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เป็นชมุ ชนแหง่ สุขภาวะภายใต้นวัตกรรมการ
ประเมนิ ความเสี่ยงทางสุขภาพ การคดั กรอง
ความเสยี่ ง การเฝา้ ระวงั และการสร้างความ
ตระหนักด้านสุขภาพ
3. เพอื่ พฒั นาการสร้างเสริมสุขภาพกายและ
ใจโดยเนน้ การพฒั นาโปรแกรมการสร้าง
เสรมิ สุขภาพทั้งรายบุคคล และรายกลุ่มใน
การการสรา้ งเสรมิ สุขภาพและการป้องกัน
ความเสย่ี งด้านสขุ ภาพในโรคเรื้อรัง ไดแ้ ก่
โรคอว้ น และการจัดการความเครียด
4. เพือ่ พัฒนาตน้ แบบการลดความเสี่ยงการ
สบู บหุ ร่ี การดม่ื สุราสำหรบั บุคลากร
มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่
5. เพอ่ื ในการเฝ้าระวงั และสง่ ตอ่ สุขภาพ
สำหรับชุมชน เพอื่ ลดความรุนแรงและความ
เจ็บป่วยของคนในชุมชน
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่
35
6. เพ่ือยกระดับมหาวิทยาลัยสขุ ภาพดีสู่
เมืองเชยี งใหม่เมืองสขุ ภาพดดี ้วยดา้ นการ
สรา้ งเสรมิ สุขภาพ (Health Promotion)
และ เทคโนโลยดี ิจติ ัลและ นวัตกรรมดา้ น
สุขภาพ (Digital Health & Innovation)
10) กิจกรรมและหมวดเงนิ ทใ่ี ช้ (กรณีที่เปน็ ครุภัณฑแ์ ละสิ่งก่อสร้าง กรณุ าระบุตาม
แบบฟอรม์ ทแ่ี นบ) ในปงี บประมาณ 2564
ดำเนนิ การ หมวดเงิน (บาท)
กิจกรรมทีจ่ ะดำเนนิ การ ในไตรมาส งบดำเนินงาน งบ งบ งบ
() ลงทนุ เงนิ รายจ่ายอน่ื
อดุ หนนุ
1 2 3 4 คา่ คา่ คา่ วัสดุ คา่ สาธาร-
ตอบแทน ใช้สอย ณปู โภค
กิจกรรมท่ี 1: การวเิ คราะห์ 0 216,000 18,000 0 0 0 0
และระดมความคดิ เหน็ เพ่อื
จัดทำแผน และการดำเนนิ
โครงการพัฒนาศกั ยภาพการ
สรา้ งเสรมิ สุขภาพของ
บุคลากร
มหาวิทยาลยั เชียงใหม่
ดำเนนิ การหลกั โดยคณะ
พยาบาลศาสตร์
กิจกรรมท่ี 2 : การพัฒนา 10,000 90,000 0 0 00 0
ทกั ษะการจดั การภาวะอ้วน
ด้วยตนเองในผู้ทีม่ ภี าวะอ้วน
ดำเนนิ การหลักโดยคณะ
พยาบาลศาสตร์
กจิ กรรมที่ 3 : กิจกรรมการ 1,000 240,000 3,000 900 0 0 0
สรา้ งเสริมพลงั งานอำนาจ
(Empowerment) “Health Talk”
ปีท่ี 2
36
ดำเนินการ หมวดเงิน (บาท)
กจิ กรรมทจ่ี ะดำเนนิ การ ในไตรมาส งบดำเนนิ งาน งบ งบ งบ
() ลงทุน เงิน รายจ่ายอนื่
อดุ หนนุ
1 2 3 4 ค่า คา่ ค่าวัสดุ คา่ สาธาร-
ตอบแทน ใชส้ อย ณูปโภค
ดำเนินการหลักโดยคณะ
พยาบาลศาสตร์
กิจกรรมที่ 4 : โครงการ 16,000 384,000 0 0 00 0
ส่งเสรมิ ป้องกนั รักษา ดา้ น
สุขภาพจติ ของบุคลากร
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ (Stop
Staff Stress Year 2)
ดำเนินการหลักโดย 211,000 179,000 170,000 15,000 112,94 0 0
งานพัฒนานกั ศกึ ษาสูส่ ากล 0
และแนะแนว กองพฒั นา
นกั ศกึ ษา 56,000 74,000 70,000 0 0 0 0
และกองบรหิ ารงานบุคคล
สำนักงาน 50,000 30,000 70,000 0 53,730 0 0
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กิจกรรมที่ 5: การจดั กิจกรรม
การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพปอด
โดยการจดั กิจกรรมรณรงค์
และการจดั ใหม้ ีพืน้ ท่ีปลอด
บุหร่ี (Smoke Free Area )
- การจัดต้งั คลินิกปลอดบหุ ร่ี
ดำเนนิ การหลักโดยคณะ
พยาบาลศาสตร์
กิจกรรมท่ี 6: การจดั กจิ กรรม
การสร้างเสรมิ สุขภาพตับ
- กิจกรรมรณรงค์
มหาวทิ ยาลยั ปลอดเหลา้ (Uni.
Zero% Alcohol)
- การจดั ต้ังคลนิ กิ การ
ดำเนินการให้บริการคำปรึกษา
และอบรมในการเลกิ เหล้า
ดำเนินการหลักโดยคณะ
พยาบาลศาสตร์
37
ดำเนนิ การ หมวดเงิน (บาท)
กิจกรรมที่จะดำเนนิ การ ในไตรมาส งบดำเนนิ งาน งบ งบ งบ
() ลงทุน เงนิ รายจา่ ยอื่น
อุดหนนุ
1 2 3 4 ค่า ค่า คา่ วัสดุ คา่ สาธาร-
ตอบแทน ใช้สอย ณปู โภค
กิจกรรมท่ี 7: สอื่ สารสรา้ ง 36,000 562,000 0 0 0 0 12,000
เสรมิ สขุ ภาพกายและใจ
Healthy CMU เพอื่ ขบั เคลื่อนสู่ 372,000 125,900 164,600 17,000 0 0 0
มหาวทิ ยาลยั สขุ ภาพ
ดำเนนิ การหลักโดยคณะการ 1,500 239,271 29,000.45 6,000 0 0 6,000
สอ่ื สารมวลชน
0 168,000 40,000 20,000 0 0 0
กจิ กรรมท่ี 8: การพัฒนาและ
ตอ่ ยอดนวัตกรรมระบบ
สารสนเทศเพือ่ ประเมินความ
เสี่ยงด้านสุขภาพ
มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่สรู่ ะดบั
ความพร้อมของเทคโนโลยสี ู่
อตุ สาหกรรมระดับ 7
ดำเนนิ การหลักโดยวิทยาลัย
ศลิ ปะ ส่อื และเทคโนโลยี
กจิ กรรมท่ี 9: การสร้างความ
ย่ังยนื ของแกนนำสุขภาพ
บคุ ลากร
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่
ดำเนินการหลกั โดยคณะ
พยาบาลศาสตร์
กิจกรรมที่ 10: การทดสอบ
ระบบดูแลเฝ้าระวังสขุ ภาพ
ดว้ ยตนเองผ่านอปุ กรณ์
อิเล็กทรอนกิ สท์ ีใ่ ชร้ ่วมกบั
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
ของบคุ ลากร
มหาวิทยาลยั เชียงใหม่
ดำเนนิ การหลกั โดยคณะ
สาธารณสุขศาสตร์
38
ดำเนินการ หมวดเงนิ (บาท)
กจิ กรรมท่ีจะดำเนินการ ในไตรมาส งบดำเนินงาน งบ งบ งบ
() ลงทนุ เงิน รายจา่ ยอืน่
อุดหนนุ
1 2 3 4 ค่า คา่ คา่ วัสดุ คา่ สาธาร-
ตอบแทน ใช้สอย ณปู โภค
กิจกรรมท่ี 11 :การดำเนิน 75,000 250,000 40,000 0 0 0 0
กิจกรรมแลกเปลยี่ นเรียนรกู้ าร
สรา้ งเสริมสขุ ภาพระหวา่ ง
องค์กร
ดำเนนิ การหลกั โดยคณะ
พยาบาลศาสตร์
กจิ กรรมที่ 12 : การดแู ล 180,000 100,058.6 0 0 00 0
และรักษาระบบฐานขอ้ มลู
สขุ ภาพ การใชง้ านระบบ
และการถา่ ยทอดเทคโนโลยี
ให้งานบรหิ ารบุคคล
ดำเนนิ การหลกั โดยคณะ
พยาบาลศาสตรร์ ่วมกับ
กองบริหารงานบคุ คล
มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่
รวม 874,300 2,700,780.05 713,200 35,750 166,670 0 18,000
รวมทั้งสน้ิ 4,508,700
39
สรุปโครงการ Healthy CMU ปี 2564 ภายใต้กรอบการขับเคลื่อนด้านการสร้างเสริมสุขภาพ
(Health Promotion) และ เทคโนโลยีดิจิตัลและ นวัตกรรมด้านสุขภาพ (Digital Health &
Innovation)
การสรา้ งเสริมสขุ ภาพ (Health งบประมาณ/ เทคโนโลยีดจิ ติ ัลและ นวตั กรรมด้าน งบประมาณ/
Promotion) บาท สขุ ภาพ (Digital Health & บาท
Innovation)
1. โครงการการพัฒนาทกั ษะการ 100,000 400,000
จัดการภาวะอว้ นด้วยตนเองในผู้ 1. โครงการส่งเสรมิ ปอ้ งกนั รักษา
ทีม่ ภี าวะอ้วน 687,940 ดา้ นสุขภาพจติ ของบุคลากร 679,500
(Developing of the Self- มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ (Stop Staff
Management Skills Training 403,730 Stress Year 2)
for Persons Living with ดำเนนิ การหลักโดย
Obesity) 598,000 งานพัฒนานักศึกษาสสู่ ากลและแนะ
แนว กองพัฒนานกั ศกึ ษา
2. โครงการสร้างเสริมสุขภาพ และกองบรหิ ารงานบุคคล
ปอด สำนกั งานมหาวิทยาลยั เชียงใหม่
(Capacity Building on
Health Promotion in 2. โครงการการพฒั นาและต่อยอด
Quitting Smoking of Chiang นวัตกรรมระบบสารสนเทศเพ่ือ
Mai University’s Staff for ประเมินความเสย่ี งด้านสขุ ภาพ
Moving to Healthy มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหมส่ รู่ ะดับความ
University) พร้อมของเทคโนโลยสี อู่ ตุ สาหกรรม
3. โครงการสรา้ งเสริมสุขภาพตับ ระดบั 7 (CMU i-Health Year 2)
(Capacity Building on
Health Promotion to Quit
Drinking Alcohol of Chiang
Mai University’s Staff for
Moving to Healthy
University)
4. โครงการสือ่ สารสร้างเสรมิ
สุขภาพกายและใจ Healthy
CMU เพือ่ ขบั เคลื่อนสู่
มหาวิทยาลัยสุขภาพ
40
การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (Health งบประมาณ/ เทคโนโลยดี จิ ติ ัลและ นวตั กรรมด้าน งบประมาณ/
Promotion) บาท สุขภาพ (Digital Health & บาท
Innovation)
5. โครงการสร้างความย่ังยืนของ 275,771.45 222,800
แกนนำสุขภาพบุคลากร 5. ประสิทธผิ ลของแพลตฟอร์ม
มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ 234,000 นวัตกรรมการเฝา้ ระวังสุขภาพดว้ ย 365,000
(Sustainable Development ตนเองอยา่ งอัจฉรยิ ะสำหรับบุคลากร
of the Chiang Mai University 261,900 มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ 280,058.60
Health Volunteers) 2,561,341.45 (The effectiveness of CMU 1,947,358.55
Smart Self-monitoring
6. การวเิ คราะห์ และระดมความ Innovation Platform Among
คิดเห็นเพ่ือจัดทำแผน และการ Staff of Chiang Mai University)
ดำเนินโครงการพฒั นาศักยภาพ 6. การดำเนินกิจกรรมแลกเปลยี่ น
การสรา้ งเสริมสขุ ภาพของ เรียนรู้การสรา้ งเสริมสุขภาพระหว่าง
บคุ ลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ องค์กรในมหาวทิ ยาลยั เพื่อการส่งตอ่
7. กจิ กรรมท่ี 3 : กิจกรรมการ ส่คู ณะและหน่วยงานต่างๆ
สรา้ งเสริมพลงั งานอำนาจ
(Empowerment) “Health 7. การดูแลและรักษาระบบฐานขอ้ มลู
Talk”ปที ่ี 2 สขุ ภาพ การใชง้ านระบบ และการ
รวม ถา่ ยทอดเทคโนโลยีให้งานบริหาร
บคุ คล มช.
11) Impact Pathways
1. บุคคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทุกคนจะมีสุขภาพที่ดี ปลอดภัยจากอันตรายและลด
ภาวะแทรกซ้อนของโรคไมต่ ิดตอ่ เรอ้ื รัง
2. ส่งเสริมบทบาทของมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมสุขภาพของบุคลากรรวมถึงชุมชน
ใกล้เคียงจากการดำเนินโครงการสร้างเสริมพัฒนาศักยภาพของบุคลากรใน
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่
3. ลดอุบัติการณ์ของการเกิดปัญหาสุขภาพ ภาวะทุพพลพลภาพของบุคลากรเมื่อเข้าสู่
วัยสูงอายุ
4. เพิม่ ศกั ยภาพและประสิทธภิ าพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการทำงาน และ
สามารถเตรียมตวั รองรับเขา้ สู่วยั เกษยี ณได้อยา่ งเหมาะสม
5. ทศิ ทางการกำหนดเชิงนโยบายมหาวิทยาลัยสุขภาพเพ่ือให้บุคลากรและนิสิตนักศึกษาใน
มหาวทิ ยาลัยมสี ุขภาพทส่ี มบรู ณ์แข็งแรง ส่งเสรมิ และสนับสนนุ การมคี ณุ ภาพชวี ติ ที่ดี
41
6. เป็นต้นแบบการสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากรในสถาบันการศึกษาและสามารถ
ถ่ายทอดให้สถาบันต่าง ๆ หรือพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งในระดับภูมิภาค และประเทศ ภายใต้
หลักฐานเชิงประจักษ์จากงานวิจัยและ นวัตกรรม ที่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และ
สามารถพฒั นาตอ่ ยอดได้
รปู ท่ี 9 รปู แบบการสรา้ งเสรมิ สุขภาพสำหรบั มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่มหาวิทยาลัยสุขภาพในปีท่ี 2
(Healthy CMU Health Promotion Model 2nd)
42
บทท่ี 2: ผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนนิ งานคิดเปน็ ร้อยละ ........70..........................
2.1 ผลการดำเนนิ งานตามวัตถปุ ระสงค์โครงการ (รายกจิ กรรม)
(เป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์ของโครงการหรอื ไม่ อย่างไร อธิบาย)
▪ ผลการดำเนนิ งานโครงการท่ี 1: การวิเคราะห์ และระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำแผน และการ
ดำเนนิ โครงการพฒั นาศักยภาพการสรา้ งเสรมิ สุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลยั เชียงใหม่
กิจกรรมท่ี 1:การวเิ คราะห์ และระดมความคิดเหน็ เพอ่ื จดั ทำแผน และการดำเนินโครงการ
เป็นกิจกรรมที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์โครงการ คือการดำเนินการเพื่อระดมความคิดเห็นจาก
คณะกรรมการและผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องเพื่อมาวางแผนในการดำเนินโครงการโดยมีการประชมุ
ประจำเดอื น ตัง้ แต่ สงิ หาคม 2564 - กุมภาพนั ธ์ 2565 เปน็ จำนวน 12 ครง้ั และมกี ารประชมุ กลุ่มย่อยใน
แต่ละโครงการ โครงการละ 1-3 ครั้ง ทางโครงการได้ดำเนินโครงการในรูปแบบของบริการวิชาการเป็น
หลัก โดยมีการดำเนินงานร่วมกับคณะกรรมการจากสหสาขาต่างๆ 15 หน่วยงาน ช่วยกันขับเคลื่อน
กิจกรรม ภายใต้การทำงานแบบมีส่วนร่วมของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเริ่มในส่วนของ
นักศึกษา ดำเนินโครงการดำเนินการบูรณาการระหว่างงานวิจัยและการบริการวิชาการ “สุขภาพ เป็น
เรือ่ งของทุกคน (Health is everyone business)” และโครงการสุขภาพดีต้องทนี่ ่ี มช. (Healthy CMU)
นอกจากนีย้ ังมีการพฒั นางานส่วนหนง่ึ ในรูปแบบของงานวจิ ัยทางดา้ นการสร้างเสรมิ สขุ ภาพเพ่ือทำให้เกิด
ประสิทธิผลของการดำเนินโครงการในด้านของการมีข้อมูลเชิงประประจักษ์ผ่านกระบวนการวิจัยโดย
ประกอบด้วยโครงร่างวิจัยจำนวน 4 โครงการ โดยกำลังอยู่ในการยื่นของจริยธรรมการทำวิจัยในมนุษย์
ไดแ้ ก่
1. โครงการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มหาวิทยาลัยสุขภาพอย่างอัจฉริยะและยั่งยืน (Smart and
Sustainable Healthy Chiang Mai University) การดำเนินงานจะเป็นการศึกษาวิจัยด้วยระเบียบวิธี
วิจัยในโครงการใหญ่จะเป็นการดำเนินการวิจัยบูรณาการการสร้างเสริมสุขภาพบุคลากรใน
มหาวิทยาลยั เชียงใหม่จงึ เป็นการวจิ ัยแบบชมุ ชนมีสว่ นร่วม (Participatory action research-PAR)
2. โครงการการศึกษากลุ่มผู้รับสารเป้าหมายของโครงการ "Healthy CMU" การรณรงค์สุขภาพ
เพื่อเข้าถึงสมาชิกประชาคมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในทุกช่วงอายุ (Target Audience Research Under
"Healthy CMU" Communication Campaign in Chiangmai University to Reach Cross
Generations)
3. โครงการการพัฒนาโปรแกรมการบำบัดทางความคดิ และพฤติกรรมในผู้ท่ีติดสุรา (Developing
CBT Program Among Patients with Alcohol Dependence)
4. โครงการความรู้ ทัศนคติ และพฤตกรรมการสูบบุหรี่ ของบุคลากรและนักศึกษา
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Knowledge, Attitude, and Smoking Behaviors Among Chiangmai
University Staff)
5. โครงการพัฒนาทักษะการจัดการภาวะอว้ นดว้ ยตนเองในผู้ที่มีภาวะอ้วน. The Development
of the Obesity Self-Management Skills in Obesity Person
43
▪ ผลการดำเนินงานโครงการท่ี 2: การพฒั นาทกั ษะการจัดการภาวะอ้วนด้วยตนเองในผูท้ ม่ี ีภาวะ
อว้ น
กจิ กรรมท่ี 1 การเตรียมโครงการ
- การจัดทำ E-book, คู่มือเป็นเล่ม และ Application ในการติดตามความก้าวหนา้ ของ
อาสาสมคั รในโครงการ
- การจัดทำโปรแกรมแสดงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารในมหาวิทยาลัย
(KinNaiMor) ในรูปแบบ mobile application เพื่อบนั ทกึ พฤติกรรมการรบั ประทานอาหาร
- เปดิ รับสมคั รผเู้ ข้าร่วมโครงการจำนวน 30 คน ปดิ รบั สมัครวนั ท่ี 25 มนี าคม 2565
- การจัดทำ Infographic เพอื่ ประชาสัมพันธโ์ ครงการ
- การจัดทำโปรแกรมการจัดการภาวะอ้วนด้วยตนเอง ภายใน 12 สัปดาห์ โดยมีการ
อบรมให้ความรู้ในด้านตา่ งๆ ดงั น้ี
1. ภาวะอ้วนลงพุง
2. การเผาผลาญพลงั งาน
3. กิจกรรมทางกาย
4. แนวทางการควบคมุ การรับประทานอาหาร
5. แนวทางการติดตามตนเอง
6. เทคนคิ การจดั การตนเองและการปรบั เปลี่ยนพฤติกรรม
- การติดตามผล ภายหลงั 4 สัปดาห์ จะมกี ารใหค้ ำปรกึ ษาและเปลีย่ นประสบการณ์ทาง
ไลน์แอปพลิเคชัน นัดพบกันเป็นกลุ่ม สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 8 สัปดาห์ การติดตามพฤติกรรมการ
ออกกำลังกายโดยใช้ CMU Smart Self-Monitoring และการติดตามพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
โดยใชแ้ อปพลิเคชันกินในมอ
- การประเมินผลลัพธ์ จะมกี ารประเมินผล 2 ครัง้ ก่อนและหลังการเข้ารว่ มโปรแกรม มี
การประเมินพฤติกรรมการออกกำลังกาย โดยใช้ CMU Smart Self-Monitoring การติดตามพฤติกรรม
การรับประทานอาหารโดยใช้แอปพลิเคชันกินในมอ และประเมินสัดส่วนร่างกายด้วยสายวัด และการ
วิเคราะห์องค์ประกอบรา่ งกายด้วยเคร่ือง ImBody
- การประเมิน Body Composition เพื่อตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดและไขมันใน
เลือดผู้เข้ารว่ มกิจกรรม ครั้งที่ 1 ช่วงวันที่ 23 – 31 พฤษภาคม 2565 และครั้งที่ 2 ในช่วงเดือนสิงหาคม
2565
- การอบรมความรู้และทักษะการจัดการน้ำหนักตัวด้วยตนเอง ในวันที่ 7 พฤษภาคม
2565 และวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 (ระยะเวลา 2 วัน ในรูปแบบออนไลน์)
ผลการดำเนนิ การตามวตั ถปุ ระสงค์
การดำเนนิ งานเป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์ของโครงการ
44
▪ ผลการดำเนินงานโครงการท่ี 3 : การจัดกิจกรรมการสร้างเสริมพลังงานอำนาจ
(Empowerment) สำหรับการสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แก่
กจิ กรรม “Health Talk”
- ทำการคัดเลือกบุคคลต้นแบบ โดยการประชุมกลุ่มคณะผู้จัดโครงการ โดยมีเกณฑ์คัดเลือก
บุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลับมาสู่ภาวะสุขภาพที่ดี เป็น
แบบอยา่ งตอ่ บุคคลให้ปฏิบัติตาม
- แผนดำเนินการผลิตสื่อบุคคลต้นแบบโดยใช้เกณฑ์มาตรฐานของสื่อวิดีทัศน์ออนไลน์ทั้งหมด 6
เรื่อง ดงั ต่อไปน้ี
1) ชีวิตใหม่หลังเสน้ ชยั โดย คุณกติ ต์ ชาญณรงค์ (เผยแพร่วิดีโอวันที่ 19 มีนาคม 2565)
โดยมียอดการดู Teaser ประมาณ 381,000 ครง้ั และยอดการดวู ิดโี อฉบบั เต็ม ประมาณ 37,300 คร้ัง
2) บุหรีค่ ือหนังมว้ นเดมิ โดยคณุ รตั นพันธ์ ขจรบรริ ักษ์ (เผยแพร่วิดโี อวนั ที่
9 พฤษภาคม 2565) โดยมียอดการดู Teaser ประมาณ 1,800 ครั้ง และยอดการดูวิดีโอฉบับเต็ม
ประมาณ 11,700 คร้งั
3) สุขภาพดีมีได้ทุกช่วงวัย โดยศาสตราจารย์คลินิก นิเวศน์ นันทจิต (อยู่ระหว่างการ
ดำเนินการจดั ทำ)
4) ปรับตัวอย่างไรไม่ให้เครียด
5) มาออกกำลังกายกันไมใ่ หฝ้ ืน
6) กนิ อยา่ งไรใหส้ ขุ ภาพดี
ผลการดำเนินการตามวตั ถปุ ระสงค์
การดำเนินงานล่าช้า โดยได้ดำเนินการจัดทำสื่อวิดีทัศน์บุคคลต้นแบบทั้งหมด 2 เรื่องและ
Teaser จำนวน 2 เรื่อง และกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการจัดทำ จำนวน 1 เรื่อง ล่าช้ากว่า
กำหนดเวลาท่ีได้วางแผนไว้ เนื่องจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ขั้นตอนการถ่ายทำ
45
ต้องล่าชา้ เพราะต้องมีการรวมกันของคณะทำงาน วทิ ยากร และ พธิ ี ขณะวางแผน มคี ณะทำงานติดโควิด
ทำให้การดำเนินงานต้องล่าช้าออกไป
▪ ผลการดำเนนิ งานโครงการที่ 4 :โครงการส่งเสรมิ ป้องกัน รักษา ด้านสุขภาพจิต ของบุคลากร
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ (Stop Staff Stress Year 2)
กิจกรรมที่ 1 ส่งเสริมการสร้างสุขภาพจิตที่ดีให้กับบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ “How To,
Who Support" โครงการส่งเสริมป้องกัน รักษา ด้านสุขภาพจิต ของบุคลากร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
(Stop Staff Stress Year 2)
จัดกิจกรรมขึ้นในวันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ณ สำนักบริการวิชาการ มีผู้เข้าร่วมโครงการ
แบง่ เปน็ 2 ร่นุ
• รนุ่ ท่ี 1 ช่วงเช้า 9.00-12.00 น. ผ้เู ข้าร่วมโครงการ 25 คน จาก 25 หนว่ ยงานสงั กัดคณะ
• รุ่นที่ 2 ช่วงบ่าย 13.30-16.30 น. ผู้เข้าร่วมโครงการ 27 คน จาก 23 หน่วยงานสังกัดสำนัก
ส่วนงาน
• ทมี งาน/วทิ ยากร จำนวน 9 คน จาก 5 หน่วยงาน
โดยได้ดำเนนิ การอภปิ รายกลุม่ ยอ่ ย (Focus Group) ใน 3 ประเด็นได้แก่
1. พฤติกรรมของบุคลากรในหน่วยงานท่านที่สะท้อนว่ามีปัญหาทางด้านอารมณ์และจิตใจที่
ส่งผลต่อการทำงาน และสมั พันธภาพกับเพือ่ นรว่ มงาน
2. การแก้ปัญหาในพฤติกรรมดังกล่าว (ในข้อ1) ทั้งแบบการแก้ปัญหากันเองและแบบองค์กร
แก้ไขอยา่ งเปน็ ระบบ
3. สิ่งที่ต้องการให้มหาวิทยาลัยหรือส่วนงานจัดบริการด้าน ส่งเสริม คัดกรอง ป้องกัน และ
รกั ษา ดา้ นสุขภาพจติ บุคลากร
กิจกรรมที่ 2 ดำเนินการจัดทำ Website CMU Mental Health Center ใน portal ของ
บคุ ลากร โดย website ไดเ้ ชอ่ื มกบั ระบบ CMU MIS โดยระบบดังกลา่ วได้ดำเนนิ การเปน็ ท่ีเรยี บร้อยแล้ว
รูปที่ 10 ดำเนินการจดั ทำ Website CMU Mental Health Center
46
รปู ที่ 11 ดำเนินการจัดทำ Website CMU Mental Health Center
กิจกรรมที่ 3 สร้างแบบประเมินทางสุขภาพจิตแบบ online พร้อมระบบแปลผลอัตโนมัติ ท่ี
สามารถเข้าถึงไดผ้ ่าน Website CMU Mental Health Center หรอื CMU MIS จำนวน 2 แบบประเมิน
ไดแ้ ก่
รูปที่ 12 การสรา้ งแบบประเมินทางสุขภาพจติ แบบ online พรอ้ มระบบแปลผลอัตโนมัติ
47
กจิ กรรมที่ 4 ไดพ้ ฒั นาระบบการใหค้ ำปรึกษาทางจิตวิทยาดว้ ยระบบ Chat-bot
รูปที่ 13 กระบวนการพฒั นาระบบการให้คำปรกึ ษาทางจติ วทิ ยาดว้ ยระบบ Chat-bot
กิจกรรมที่ 5 กิจกรรมทิศทางการดำเนินการส่งเสริม ป้องกัน คัดกรอง และรักษาสุขภาพจิต
ของบคุ ลากร จัดขึน้ ในวนั พธุ ท่ี 10 สงิ หาคม 2565 เวลา 13.00 – 16.30 น. ณ ห้องเอนกประสงค์ ช้ัน 3
ศนู ยส์ ุขภาพมหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ (CMU Health Center)
ทางโครงการมีการดำเนินการแก้ไขปรับปรุงชอ่ งทางขอรบั บริการจากโครงการบ้านหลงั ท่สี อง
และสรา้ งไลนก์ ลมุ่ เพื่อเปน็ ชอ่ งทางการส่อื สารในการจัดกจิ กรรมของโครงการ
48
งานสรา้ งเสริมสขุ ภาพจิตสำหรบั บุคลากรมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ มบี รกิ ารใหก้ ารปรกึ ษา พร้อม
รับฟังทุกปัญหาและรักษาเป็นความลับ ขอเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับบุคลากรทุกท่านที่เข้ามาพัก เรียบ
เรียงความคิดและสามารถกลับออกไปเดินต่อได้อย่างมีพลังอีกครั้ง และจากการดำเนินงานที่ผ่านมา มีผู้
เข้ารับการปรึกษา จำนวน 35 คน ส่วนมากเป็นเพศหญิง จำนวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 77.14 และเพศ
ชาย จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 22.86 โดยมีลักษณะปัญหาที่เกิดจากความเครียด/วิตกกังวล/ความ
คาดหวงั สูง และความสมั พันธส์ ว่ นตวั /ความรกั จำนวน 11 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 31.43
หลักสตู รอบรมเพ่อื เสริมสรา้ งทักษะ (Soft-Skill) มลี ักษณะการจดั กจิ กรรมในรูปแบบออนไลน์
และออนไซต์ จำนวนผู้เข้าร่วมได้ตั้งแต่ 15 -50 คน เน้นการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมในกลุ่มใหญ่ และการ
แบ่งกลุ่มย่อย ประมาณ 6 – 10 คน/กลุ่ม เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวทางการดูแลสุขภาพจิตของตนเอง
โดยกิจกรรมแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ การเตรียมความพร้อม การให้ความรู้สุขภาพจิตผ่านวิทยากร
กจิ กรรมภาพรวมเพ่อื การพูดคุยกลุม่ ย่อยและการสรปุ การเรยี นร้รู ว่ มกนั ตวั อยา่ งหลกั สตู รการอบรม เชน่
1) กจิ กรรมเพ่ิมความเข้าใจ เติมไฟในการทำงาน
2) กจิ กรรมรตู้ วั เขา้ ใจ สู้ไปดว้ ยกนั
3) กจิ กรรมฝึกมองสว่ นดี เสริมสร้างพลงั ใจ
4) กจิ กรรมเสรมิ ทักษะการเปน็ ผนู้ ำทไี่ ด้ใจทีมงาน
ผลการดำเนินการตามวตั ถปุ ระสงค์
วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 เพื่อสร้างระบบ และกลไกที่ยั่งยืน ในการส่งเสริม ป้องกัน รักษา ด้าน
สขุ ภาพจิต ของบคุ ลากรมหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่
ผลการดำเนินงาน : เป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์ รายละเอยี ดดังน้ี
1. ได้เริ่มสร้างระบบการส่งเสริมสุขภาพจิตผ่านเครือข่าย ฝ่ายบุคคลของแต่ละส่วนงานใน
การระดมความคดิ เห็น และประชาสมั พนั ธ์ เครอ่ื งมือ และการใหบ้ ริการในการรักษาดา้ นสขุ ภาพจิต
2. ได้พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการคัดกรองและประเมินสุขภาพจิต โดยได้
ดำเนินการจัดทำ Website CMU Mental Health Center และมีการประเมิน ภาวะซึมเศร้า และภาวะ
ความเครยี ด ในระบบดงั กลา่ ว
วัตถุประสงค์ข้อที่ 2 เพื่อบูรณาการการทำงานของส่วนงานต่างๆที่เกี่ยวข้องโดยมีเป้าหมาย
ตรงกันในดา้ นการสร้างเสริมสขุ ภาพอย่างเป็นระบบ
ผลการดำเนินงาน : เป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์ โดยได้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกนั ทั้งหมด 4
หนว่ ยงานดังนี้
1. งานพัฒนานักศึกษาสู่สากลและแนะแนว กองพัฒนานักศึกษา รับผิดชอบการทำงาน
ด้านระบบการสง่ เสริม ป้องกนั คดั กรองดา้ นสขุ ภาพจติ และการจดั ทำฐานข้อมลู ในระบบ CMU MIS
2. งานพัฒนาและฝึกอบรม กองบริหารงานบุคคล รับผิดชอบในการประสานงานเครือข่าย
ฝา่ ยบุคคลของแตล่ ะสว่ นงาน เพอื่ ขับเคลือ่ นการดูแลสขุ ภาพจติ ของบุคลากรอย่างต่อเนอื่ ง
3. โครงการบ้านหลังทส่ี อง ภาควิชาจติ วทิ ยา คณะมนุษยศาสตร์ รบั ผิดชอบภารกิจด้านการ
สง่ เสริมสขุ ภาพจิต และบรกิ ารให้คำปรกึ ษาดา้ นสขุ ภาพจิต
49
4. คลินิกโรคจากการทำงาน งานประกันสังคม โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะ
แพทยศาสตร์ รับผิดชอบด้านการประสานสิทธ์ในการดูแลรักษา
วัตถุประสงค์ข้อที่ 3 เพื่อลดปัญหาด้านสุขภาพจิตของบุคลากรที่อาจส่งผลกระทบต่อ
ประสิทธภิ าพในการทำงาน
ผลการดำเนินงาน : ยังไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เนื่องจากการดำเนินงานในขั้นตอนนี้อยู่ใน
แผนการทำงานระยะที่ 2 ของโครงการ
▪ ผลการดำเนินงานโครงการที่ 5 :การจัดกิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพปอด โดยการจัด
กิจกรรมรณรงค์ และการจัดให้มีพื้นที่ปลอดบุหรี่ (Smoke Free Area ) การจัดกิจกรรมการ
สร้างเสริมสุขภาพปอด การจัดให้มีพื้นที่ปลอดบุหรี่ (Smoke Free Area ) และการจัดตั้ง
คลินกิ ปลอดบุหร่ี
กิจกรรมที่ 1 การสำรวจการสูบบุหรี่โดยมีการจัดทำ Web application (https://cm-
healthcare.net/CMUSMBH/ เพื่อสำรวจการสูบบุหรี่ โดยใช้แบบสอบถามความรู้ ทัศนคติ และ
พฤติกรรมการสูบบุหรี่ในบุคลากรทั้ง 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มบุคลากรสายวิชาการ(ข้าราชการสาย ก.และ
พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการ) และบุคลากรสายสนับสนุน (ข้าราชการสาย ข. ค. พนักงาน
มหาวทิ ยาลยั สายสนบั สนุนและลกู จ้าง) และนักศึกษามหาวิทยาลยั เชียงใหม่
นอกจากนี้ได้มีการจัดทำ Infographic ประชาสัมพันธ์ให้ร่วมตอบแบบสอบถามความรู้ ทัศนคติ
และพฤตกิ รรมการสูบบุหรี่ ทาง Web application
กิจกรรมท่ี 2 การใหค้ วามร้เู ร่อื งบหุ ร่ี และการลด ละ เลกิ บุหรี่ โดยได้จดั ให้ความรเู้ รอื่ งบุหรี่ และ
การลด ละ เลิก บุหรี่ ให้แก่บุคลากรทั้ง 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มบุคลากรสายวิชาการ (ข้าราชการสาย ก.และ
พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการ) และบุคลากรสายสนับสนุน (ข้าราชการสาย ข. ค. พนักงาน
มหาวิทยาลัยสายสนับสนุนและลูกจ้าง) และนักศึกษมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ วันที่ 31 มกราคม
พ.ศ.2565 สำหรับบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 สำหรับนักศึกษา
มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ ผา่ นระบบออนไลน์ Zoom โดยกำหนดการและหวั ขอ้ การจัดอบรม
จากผลการดำเนนิ กจิ กรรม สรปุ วา่
1) วันท่ี 31 มกราคม 2565 มีบคุ ลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เขา้ รว่ มกจิ กรรม จำนวน 79 คน
2) วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 มีนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 78 คน
(ใช้งบประมาณจากกองพัฒนานกั ศึกษา)
การจัดกิจกรรมในทั้ง 2 วัน ได้มีการจัดทำ background Zoom สำหรับการอบรมและจัดทำการ
บันทกึ และตัดต่อวดิ ีโอการอบรมให้ความรูเ้ รอื่ งบหุ รี่ และการลด ละ เลกิ บุหรี่ (https://cmน.to/6V2wo)
การจัดกจิ กรรมเปดิ ตวั
กจิ กรรมท่ี 3 การฝึกอบรมการมให้การปรกึ ษาในการลด ละ เลกิ บหุ รี่ (Training for the Trainer
เพื่อฝึกการให้การปรึกษาในการละ ลด เลิกบุหรี่ สำหรับบุคลากรแกนนำ (Training for the
Trainer) ทั้งการให้การปรึกษาแบบรายบุคคลและรายกลุ่มโดยใช้เทคนิคที่เหมาะสม และได้มีการจัดทำ
Infographic เรือ่ ง บหุ รเี่ ลกิ เองได้ ไม่ยาก เพื่อแจกจา่ ยใหแ้ กบ่ คุ คลท่ีสนใจ
50
กิจกรรมที่ 4 การจัดกิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพปอด โดยการจัดกิจกรรมรณรงค์ และการจัด
ให้มีพื้นที่ปลอดบุหรี่ (Smoke Free Area ) โดยจัดกิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพปอด โดยการจัด
กิจกรรมรณรงค์ และการจัดให้มีพื้นที่ปลอดบุหรี่ (Smoke Free Area ) ให้แก่บุคลากรทั้ง 2 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มบุคลากรสายวิชาการ (ข้าราชการสาย ก. และพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการ) และบุคลากรสาย
สนับสนุน (ข้าราชการสาย ข. ค. พนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุนและลูกจ้าง) และนักศึกษา
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ซ่งึ กิจกรรมทไี่ ดด้ ำเนนิ การไปแลว้ มดี งั นี้
1) จัดทำ Infographic ประชาสัมพันธ์ให้เข้าร่วมประกวดตราสัญลักษณ์และคำขวัญ ประกวด
คลปิ วดี โิ อ การลด ละ เลิกบหุ ร่ี
2) จดั ประกวดและจดั ทำคลปิ วีดโิ อรณรงค์ การลด ละ เลกิ บหุ รี่ สำหรับบุคลากร และนกั ศกึ ษา
2.1) ในการประกวดครั้งนี้มีผู้ส่งโลโก้และคำขวัญ Motto จำนวน 13 ผลงาน เป็น
บุคคลภายนอก จำนวน 1 ผลงาน จึงมีผลงานที่ผ่านเข้ารับการพิจารณา จำนวน 12ผลงาน โดยมีผู้ชนะ
การประกวดจำนวน 1 รางวัล เงินรางวลั 2,000 บาท ได้แก่ นายจรี ะศักดิ์ หุ่นเก่า
2.2) ในการประกวดครั้งนี้มีผู้ส่งคลิปวิดีโอรณรงค์ "ลด ละ เลิก บุหรี่" จำนวน 6 ผลงาน
โดยมีผู้ชนะการประกวดระดับบุคลากร จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ 1. นายพิทักษ์ ทนาบุตรและผู้ชนะการ
ประกวดระดบั นกั ศกึ ษา จำนวน 5 รางวัล ไดแ้ ก่
1. ทมี Kwangya
2. ทมี ซอกตกึ
3. ชมรมนกั ศึกษาพยาบาลศาสตร์ มช. สร้างสงั คมไทบปลอดบหุ ร่ี
4.นายวรเมธ สมสร้อย
5. นางสาวชุตกิ าญจน์ พิงคะสัน
3) ประชาสัมพันธ์ รณรงค์ "ลด ละ เลิก บุหรี่ ผ่านช่องทางต่างๆเช่น สื่อออนไลน์ (Facebook
และ Line)
กิจกรรมท่ี 5 การจดั ต้ังคลนิ ิกใหค้ ำปรกึ ษาเลกิ บุหรี่
การจัดทำคลินิกเลิกบุหรี่ เพื่อให้บริการแก่ผู้ที่สนใจ ในช่องทางเว็บไซต์ของโครงการ
(https://healthycmu.com/)
51
กิจกรรมที่ 6 การสร้างเครือข่ายในการละ ลด เลิกบุหรี่ สำหรับบุคลากรแกนนำและนักศึกษา
(Networking)
1) การอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาปลอดบุหรี่ฯ เครือข่ายภาคเหนอื
เพ่อื แบ่งปันประสบการณแ์ ละแลกเปล่ียนเรียนรโู้ ครงการมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่รว่ มกับมหาวิทยาลยั ต่างๆ
2) CMU Smoke Brand Ambassador เพื่อดำเนินการเผยแพร่ความรู้ และรณรงค์การลด ละ
เลกิ บุหรส่ี ำหรับบุคลากรและนกั ศกึ ษามหาวิทยาลยั เชยี งใหม่
3) การสร้างเครือข่ายในการลด ละ เลิกบหุ ร่ีสำหรับบุคลากรและนกั ศึกษามหาวิทยาลยั เชียงใหม่
และมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเครือข่ายการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัย
ปลอดบุหรี่สำหรับบุคลากรและนักศึกษา โดยมีการร่วมมือกันระหว่างโครงการ Healthy CMU กอง
พฒั นานกั ศึกษา สมาคมศิษยเ์ กา่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กองบริหารงานบุคคล สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติ
เพอ่ื สงั คมไทยปลอดบหุ รี่ จงั หวดั เชียงใหม่ และสโมสรนกั ศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ผลการดำเนนิ การตามวัตถุประสงค์
การดำเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่กำหนดไว้ในระหว่างวันที่ 15 สิงหาคม
2564 - วนั ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565
52
▪ ผลการดำเนินงานโครงการที่ 6: การจัดกิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพตับ ( กิจกรรมรณรงค์
มหาวิทยาลัยปลอดเหล้า (Uni. Zero% Alcohol) และการจัดตั้งคลินิกการดำเนินการ
ให้บริการคำปรกึ ษาและอบรมในการเลกิ เหลา้ )
- จัดตงั้ คณะทำงานโครงการ และการพัฒนาโครงรา่ งวจิ ยั
• - ดำเนินการเตรยี มจดั กจิ กรรมรณรงค์กิจกรรมรณรงค์มหาวิทยาลยั ปลอดเหล้า (Uni. Zero%
Alcohol)
• การจัดตัง้ คลินิกการดำเนนิ การใหบ้ ริการคำปรึกษา Onlineชอ่ื คลีนคิ “อดเหล้า” ผา่ น
Website HealthyCMU”: https://healthycmu.com/clinic-alcohol/
• กำลงั ดำเนนิ การจดั ทำระบบการดแู ลทางไกลในการเลกิ เหล้าสำหรบั บุคลากร
มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ Telehealth for Uni. Zero% Alcohol
• Created campaign “คน มช.ไมเ่ มา” รณรงคท์ ุกวนั พระ “...มช. งดเหลา้ เข้าวัด”
• เตรียมดำเนินการจดั ทำรูปแบบการแชร์ประสบการณ์ ในตนทเี่ คยมีปญั หาติดสุรา หรอื มคั น
รจู้ กั ติดสุรา ถึง ผลเสยี “Blog &Vlog Experiences of Alcohol Addiction. มช คอ
(เลา่ )” เพ่ือใหบ้ ุคลากร และนักศกึ ษา มหาวิทยาลัยเชยี งใหมเ่ ห็นโทษของการดื่มสุรา และหลี
เล่ียง พฤติกรรมการดื่มสุรา เป็นเคร่ืองมอื ชว่ ยกระตุ้นให้คนเห็นพิษของสรุ า
• Created campaign “Arts heal the live(r”) ศลิ ปะเลิกเหลา้ โดยการใชศ้ ิลปะบำบัด ชว่ ย
ใหค้ นไมห่ ันไปหาสุราในการแก้ไขปัญหาเชน่ วาดรูปประกวดภายใต้
• พัฒนา Line สตกิ๊ เกอร์ “คน มช.ไม่เมา” และ “ศลิ ปะเลกิ เหล้า”
• จัดทำ Infographic แนะนำโครงการ และการให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภยั จากการดมื่ สรุ า ผ่าน
ช่องทางการส่ือสารของโครงการคอื FB, Line, Websites, You Tube HealthyCMU
• ดำเนนิ การเตรียมออกบูท๊ ให้ความรู้ และ ให้คำปรึกษาแกบ่ ุคลากร และนักศึกษา
มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่
• เตรียมจัดทำแผ่นปา้ ย 0% Alcohol ในทกุ คณะ/หนว่ ยงาน ของ มช
53
ผลการดำเนนิ การตามวตั ถุประสงค์
การดำเนินงานล่าช้า เนื่องจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ขั้นตอนการจัด
กิจกรรมโดยเฉพาะการรณรงค์ต้องล่าช้าเพราะต้องมกี ารรวมกันของคณะทำงาน วิทยากร และ พิธี ขณะ
วางแผน มีคณะทำงานติดโควิดทำให้การดำเนินงานต้องล่าช้าออกไป รวมถึงการต้องผลการยื่นขอ
จริยธรรมในมนุษย์สำหรับงานวิจัยทำให้การดำเนินการอบรมและกิจกรรมการให้คำป รึกาในการอดเหล้า
ล่าชา้ ออกไป
▪ ผลการดำเนินงานโครงการที่ 7 : สื่อสารสร้างเสริมสุขภาพกายและใจ Healthy CMU เพ่ือ
ขับเคลือ่ นส่มู หาวิทยาลยั สขุ ภาพ
กจิ กรรมท่ี 1 การศึกษากลุ่มผูร้ บั สาร (กลุ่มเปา้ หมายของโครงการฯ) ในด้านพฤตกิ รรมการเปิดรับ
สื่อ รูปแบบส่อื ท่ตี อ้ งการ และข้อมูลดา้ นสุขภาพ
- โครงการวิจัยได้รับการรบั รองจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน เมื่อวันที่ 19 มกราคม
2565 ปัจจบุ นั อยูร่ ะหว่างการสัมภาษณก์ ลมุ่ เป้าหมาย
- ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน ทั้งนี้ มีกำหนดส่งรายงา นผลการวิจัย เมื่อวันที่
6 พฤษภาคม 2565
กิจกรรมที่ 2 การผลิตส่ือและบริหารจัดการชอ่ งทางการสื่อสารโครงการฯ (Facebook, Line,
YouTube, Website)
2.1 ออกแบบภาพ Infographic ส่งเสริมการรับรู้ มที ัศนคตทิ ี่ดีของโครงการฯ จำนวน 22 ชนิ้
- ดำเนินการออกแบบและเผยแพรแ่ ลว้ จำนวน 16 ช้ิน และคงเหลือออกแบบ 6 ช้นิ
2.2 ผลติ วดิ ีโอส่งเสรมิ การรบั รู้ มีทศั นคติทด่ี ตี ่อโครงการฯ จำนวน 9 ชน้ิ ดงั น้ี
1. แนะนำโครงการปี 2 (ดำเนินการถา่ ยทำและเผยแพรแ่ ลว้ )
2. แนะนำโครงการบุหร่ี (ดำเนนิ การถา่ ยทำและเผยแพรแ่ ล้ว)
3. แนะนำโครงการ CMU Smart Self-Monitoring (ดำเนนิ การถ่ายทำเผยแพร่แลว้ )
4. CMU i-Health (ดำเนินการถา่ ยทำและเผยแพร่แล้ว)
5. CMU Smart Body (อยู่ระหว่างการจัดทำ)
6. CMU i-Health + CMU Smart Self-Monitoring
7. CMU 0% Alcohol
8. Health Communi-cation
9. Stop Staff Stress 2
2.3 โพสต์ข่าว/กจิ กรรม/วิดีโอโครงการฯ และวันสำคัญต่าง ๆ จำนวน 120 โพสต์
- ดำเนนิ การเผยแพร่แลว้ 137 โพสต์ และวางแผนเผยแพร่ต่อไป
2.4 แชรข์ า่ ว/บทความ/วิดีโอดา้ นสขุ ภาพกายและใจ จำนวน 60 โพสต์
- ดำเนินการแชรแ์ ลว้ 40 โพสต์
- วางแผน/หาขอ้ มลู สำหรบั การแชร์ 47 โพสต์ ในเดอื นมนี าคม-สงิ หาคม 2565
2.5 โฆษณาบน Facebook (Facebook Ads)
54
- ดำเนนิ การโฆษณาแล้วจำนวน 3 คร้งั ได้แก่
1. กิจกรรมรว่ มสนุกแชรว์ ิธผี ่อนคลายความเครยี ด
2. วิดีโอแนะนำโครงการปี 2
3. การประกวดออกแบบโลโก้และผลติ คลปิ วดิ โี อลด ละ เลิก บหุ ร)ี่
- พจิ ารณาลงโฆษณาโพสตท์ ี่มีความสำคญั ภายใตง้ บประมาณท่ีเหลือ
2.6 อัพเกรด Line Official เป็น Basic Package จำนวน 12 เดอื น
- ดำเนนิ การอัพเกรด Line Official เปน็ Basic Package แลว้ จำนวน 12 เดอื น
2.7 การปรบั ปรงุ เวบ็ ไซต์
ดำเนินการโดย
- เพ่มิ ข้อมูลโครงการปีท่ี 2
- โลโกห้ นว่ ยงานร่วม
- ออกแบบหน้าคลินกิ อดเหล้าและคลินกิ เลิกบุหร่ี
- ปรบั รูปแบบให้นา่ สนใจมากยิง่ ข้ึน
- เพมิ่ ข้อมูลใหค้ รบถว้ น
- จดั ทำเว็บไซต์ในรปู แบบภาษาอังกฤษ
กิจกรรมที่ 3 การจัดกจิ กรรม Show & Share ผลการดำเนนิ งานและความสำเร็จของโครงการ
- กำหนดจดั กิจกรรมชว่ งทา้ ยของการดำเนินงานโครงการ ประมาณเดือนสิงหาคม 2565
- หารือคณะทำงานโครงการฯ
1. กำหนดวันจัดงาน
2. ประชมุ วางแผน/เตรยี มความพร้อมจดั งาน
ผลการดำเนินการตามวัตถุประสงค์
การดำเนินงานเปน็ ไปตามวตั ถุประสงคข์ องโครงการ
▪ ผลการดำเนินงานโครงการท่ี 8 :การพฒั นาและตอ่ ยอดนวตั กรรมระบบสารสนเทศเพื่อประเมิน
ความเสี่ยงดา้ นสุขภาพมหาวิทยาลยั เชียงใหม่ส่รู ะดบั ความพร้อมของเทคโนโลยีสู่อุตสาหกรรม
ระดบั 7
แผนการดำเนินการพัฒนาและต่อยอดนวัตกรรมระบบสารสนเทศเพื่อประเมินความเสี่ยงด้าน
สุขภาพมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่สู่ระดบั ความพร้อมของเทคโนโลยีสู่อุตสาหกรรมระดับ 7 เพื่อให้ระบบการ
รองรับการประมวลผลและเชื่อมต่อข้อมูลจากระบบ CMU Smart Monitoring และรองรับการใช้งาน
ระบบผ่านแอปพลิเคชัน Line (สำหรับผู้ใช้งาน) เน้นปฏิสัมพันธ์มากขึ้น รับรู้ข้อมูลและเฝ้าระวังสุขภาพ
มากขึ้น รองรับการออกรายงาน ประวัติการประเมินความเสี่ยงสขุ ภาพ (Health Slip) ระบบจะนำข้อมูล
อื่น ๆ (Health Parameter) มาประมวลผลมาแสดงในรูปแบบของ Dashboard ที่เน้นการแสดงผลลัพธ์
ด้านมิติสุขภาพ ระบบมีความสามารถ Screen พฤติกรรมสุขภาพของผู้ใช้งานได้ จากการประมวลผล
สขุ ภาพ ปรบั ข้อคำถามแบบประเมินใหม้ ปี ระสิทธิภาพ มากขึน้
จากการดำเนินงานที่ผ่านมาในรอบระยะเวลาจนถึงการรายงานความก้าวหน้านี้ ทางคณะผู้วิจัย
ได้ดำเนินการออกแบบและพัฒนาและแก้ไขแบบแบง่ ความก้าวหนา้ ออกเป็น
55
1. การแก้ไขและพัฒนา แบบประเมินคุณภาพชีวิตขององค์กรการอนามัยโลกแบบย่อ และแบบ
ประเมินพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อให้รองรับการใช้งานผ่าน Application Line ซึ่งต้องเขียน
โปรแกรมขน้ั ใหม่และเช่ือมโยงการใช้งานกบั ระบบหลังบ้าน ซ่ึงเปน็ การเช่ือมโยงการใช้งานระหว่างผู้ใช้ใน
ขณะนี้สามารถใช้งานได้และผ่านการทดสอบการใช้งานจริง ขาดเพียงในแบบประเมินที่ 1 ความเสี่ยง
สุขภาพท่ีจะมีการปรบั ปรงุ แกไ้ ข พร้อมทัง้ พัฒนาเนอ้ื หาเผอ่ื เฝ้าระวงั และให้คำแนะนำ
รปู ที่ 14 การแกไ้ ขและพฒั นา แบบประเมินคุณภาพชวี ติ ขององค์กรการอนามัยโลกแบบย่อ และแบบ
ประเมนิ พฤติกรรมสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ
2. การออกแบบและแก้ไขพัฒนาเพิ่มเติม ระบบหลังบ้านสำหรับการเชื่อมโยงไปยัง
Application Line ของโครงการซ่งึ มีการเชื่อมโยงและการสรา้ งกราฟกิ ตา่ ง ๆ เพ่อื เผยแพรป่ ระชาสัมพันธ์
ไปยังผู้ใช้งานในบัญชีของ Healthy University Account ซึ่งสามารถแก้ไขเพิ่มกราฟฟิกสร้างภาพพร้อม
ข้อความต่าง ๆ รวมถึงการอัพโหลดแหลง่ ข้อมูลต่าง ๆ ที่จะเพิ่มเติมในอนาคตซึ่งช่วยให้การใช้งานรวมถงึ
การสร้างปฏสิ ัมพันธท์ ำได้มากขน้ึ
การออกแบบและพัฒนาฟังก์ชั่นนี้ช่วยเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างระบบและผู้ใช้งานเพื่อเฝ้า
ระวังปัญหาสุขภาพระบบสามารถส่งข้อมูลไปยังกลุ่มผู้ใช้งานที่มีความเสี่ยงระดับต่าง ๆ พร้อมทั้งนำ
ข้อมูลภาพหรอื แหลง่ ข้อมลู อน่ื ๆ ท่เี กย่ี วขอ้ งส่งไปพร้อมกนั ผ่านแอปพลเิ คชัน LINE ท่เี ชอื่ มตอ่ กับระบบได้
56
รูปท่ี 15 การออกแบบและแก้ไขพฒั นาเพม่ิ เติม ระบบหลงั บ้านสำหรับการเชอ่ื มโยงไปยัง
Application Line ของโครงการ
ผู้ดูแลระบบสามารถสร้างกราฟฟิกข้อความพร้อมทั้งกำหนดหัวข้อและข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องการส่งไปยัง
ผู้ใชง้ านผา่ นฟังกช์ นั ของระบบหลงั บ้านท่ีพัฒนาขน้ึ ใหม่น้ี
รปู ท่ี 16 กำหนดหวั ขอ้ และข้อมูลต่าง ๆ ท่ีต้องการสง่ ไปยังผู้ใชง้ านผา่ นฟังก์ชนั ของระบบหลังบา้ นที่
พัฒนาขนึ้ ใหม่
57
3.การพัฒนาและต่อยอดการสร้าง dashboard เพื่อแสดงข้อมูลให้กับผูใ้ ช้งานในการเพ่ิมมุมมอง
ให้เห็นความสมดุลของความเส่ียงดา้ นตา่ ง ๆ ซึ่งในการดำเนินการได้ส่งมอบการแสดงผลข้อมูลในรปู แบบ
แผนใยแมงมมุ เพ่ือชว่ ยใหผ้ ู้ใช้งานเหน็ มิติความสัมพันธ์ต่าง ๆ ของความเส่ียงสุขภาพซึ่งเป็นระบบหลังบ้าน
ที่พัฒนาขน้ึ เพ่มิ เตมิ ในสว่ นของผู้ใชง้ าน
โดยผู้ใชง้ านสามารถเปรยี บเทียบมิตสิ ัมพันธ์ของข้อมูลท่ีอยู่ในแผนภาพใยแมงมุมเพ่ือให้เห็นการ
ประเมนิ ผลในคร้ังก่อนหน้าและครั้งล่าสดุ ช่วยใหผ้ ูใ้ ชง้ านเหน็ แนวโน้มของการเปลีย่ นแปลงด้านความเส่ียง
สุขภาพได้ แบบแสดงผลขอ้ มลู การเปรียบเทียบดงั กล่าวแสดงในใบงาน health slip ของผใู้ ช้งาน
รูปท่ี 17 การพัฒนาและต่อยอดการสร้าง dashboard
4. การพัฒนาระบบเพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปใช้วิเคราะห์ในขั้นสูงได้ เป็นการต่อยอดและ
พัฒนาฟังก์ชั่นเพื่อให้ แก้ไขข้อมูลและส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบด้านการปรับปรุงโครงสร้างฐานข้อมูลให้
เอื้อต่อการ Export ข้อมูลออกมาในรูปแบบของ raw dataซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์กับงานวิจัยและ
การวิเคราะหข์ ้อมูลขนั้ สูงไดซ้ ่ึงผลการดำเนนิ งานในสว่ นน้ีแลว้ เสร็จผใู้ ชง้ านฐานขอ้ มลู สามารถดงึ ขอ้ มลู ส่วน
นี้เพื่อนำไปใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลและใช้งานร่วมกับโปรแกรม spss ได้ ซึ่งขณะนี้สามารถ
ดำเนินการได้แล้วจำนวน 2 แบบทดสอบคงเหลือแบบประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพซึ่งอยู่ระหว่างการ
ปรบั แก้ข้อคำถามสำหรบั การนำมาใช้เปน็ เกณฑใ์ นการประเมิน
58
รปู ท่ี 18 การพัฒนาระบบเพ่ือใหส้ ามารถนำข้อมูลไปใช้วเิ คราะหใ์ นขนั้ สูง
5.ในเวอร์ชั่นใหม่มีการปรับเพิ่มการลงทะเบียนผู้ใช้งานที่ไม่ได้เป็นผู้ใช้งานใน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อรองรับการนำระบบไปใช้งานภายนอกและเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มี
ความตอ้ งการใช้งานระบบเพอ่ื การประเมินความเสี่ยงด้านสขุ ภาพ
รปู ท่ี 19 เวอรช์ นั่ ใหม่มีการปรับเพ่มิ การลงทะเบยี นผใู้ ช้งานทีไ่ ม่ไดเ้ ป็นผู้ใชง้ านใน
มหาวิทยาลยั เชียงใหม่
6.การออกแบบระบบปรับปรุงระบบหลังบ้านในส่วนผู้ใช้งานสำหรับการออกรายงานผลการ
ประเมินความเสี่ยงสุขภาพสามารถดึงข้อมูลความเสี่ยงสุขภาพของผู้ใช้งานในแบบประเมินที่ 2 และ 3
เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปประเมินผลเบื้องต้นและพิจารณาแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลและ
ความเสี่ยงด้านสุขภาพ ทั้งนี้การออกรายงานผลการประเมินความเสี่ยงสุขภาพสามารถทำได้ยกเว้นแบบ
59
ประเมินที่ 1 การประเมินความเสี่ยงสุขภาพซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการสร้างเนื้อหาและคำแนะนำใน
กรณีความเสยี่ งด้านสขุ ภาพประเภทตา่ ง ๆ
รปู ที่ 20 การออกแบบระบบปรับปรงุ ระบบหลงั บ้านในสว่ นผ้ใู ช้งานสำหรบั การออกรายงานผลการ
ประเมินความเสยี่ งสขุ ภาพ
การพัฒนาระบบเพื่อปรับปรุงและต่อยอดประสิทธิภาพของฟังก์ชันต่างๆให้มีและรองรับการ
เชื่อมต่อข้อมูลเช่นการเชื่อมต่อกับ LINE Application เพื่อการเชื่อมโยงข้อมูลให้สามารถใช้งานง่ายและ
เขา้ ถงึ กลมุ่ ผใู้ ชง้ านไดม้ ากข้ึนช่วยใหผ้ ใู้ ชง้ านสามารถใชง้ านได้ทุกท่ที ุกเวลาและระบบยังส่งต่อไปยังการเก็บ
ข้อมูลในฐานข้อมูลสุขภาพของ CMU i-Health ซึ่งในฐานข้อมูลดังกล่าวมีระบบหลังบ้านที่สามารถ
ประมวลผลข้อมูลและรองรับการนำข้อมูลไปวิเคราะห์เชิงลึกด้านสุขภาพร่วมกับซอฟต์แวร์ประเภทอื่นๆ
ซ่งึ ชว่ ยให้สามารถวางแผนและกำหนดแผนการสรา้ งเสรมิ สุขภาพได้อย่างเหมาะสม
โดยในขณะนี้ระบบให้บริการแล้วใน CMU mobile ยังคงรอการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลสุขภาพ
อื่นๆทีอ่ ยูร่ ะหว่างการพฒั นา
การเชือ่ มต่อการทำงานของระบบ LINE Application และระบบเดิมผใู้ ช้งานสามารถเรียกใช้งาน
การประเมินผลความเสี่ยงสุขภาพจาก Application Line ของโครงการที่มีผู้ใช้งานร่วมกันกว่า 1,000
ราย รายระบบเชื่อมโยงการแสดงผลข้อมูลและการให้คำแนะนำด้านสุขภาพที่เหมาะสมกับผู้ใช้งาน ซ่ึง
ในขณะนี้ระบบเองสามารถเรียกใช้งานได้จาก CMU Mobile โดยไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลผู้ใช้งานและ
รหัสผ่านใดๆ ผู้ใช้งานสามารถใช้งานประเมินผลความเสี่ยงสุขภาพได้ทันทีเมื่อใช้งานผ่านระบบ CMU
Mobile ระบบทพ่ี ัฒนาไปแล้วในขณะนี้สามารถประมวลผลและออกข้อมลู สรปุ ผลการประเมนิ ในรูปแบบ
รายงานผลรายบุคคลได้ช่วยให้สามารถประเมนิ ความเสยี่ งสุขภาพและพิจารณาแนวโนม้ ของความเสีย่ งได้
60
การปรับปรุงแก้ไขระบบเพิม่ เติม
1. ปรบั ปรุงแกไ้ ขระบบหลงั บ้านให้มโี ครงสรา้ งท่ีสามารถดงึ ขอ้ มลู และประมวลผลร่วมกบั การ
เชื่อมโยงข้อมลู จากภายนอก
2.ไดม้ ีการปรบั ปรงุ แก้ไขระบบให้สามารถออกรายงานที่นำข้อมูลจาก smart self-monitoring
3. ระบบสามารถดึงข้อมลู ทีไ่ ดจ้ ากผู้ใช้งานที่เช่ือมต่อจับนาฬกิ าขอ้ มืออัจฉรยิ ะโดยสามารถดงึ
ข้อมลู ที่ได้จาก Application โดยมขี ้อมูลพื้นฐานท่ีไดจ้ ากการ consent ของผูใ้ ช้งาน
4. ให้มีการปรบั ปรุงแกไ้ ขในส่วนระบบเชิงเทคนิคเนื่องจากมกี ารปรบั ปรุงเวอรช์ ัน่ ของการใช้งาน
จงึ จำเปน็ ต้องมกี ารปรบั ปรุงแก้ไขใหส้ ามารถรองรบั การใชง้ านการประมวลผลใน Server ที่เกบ็ ข้อมูลได้
61
▪ ผลการดำเนินงานโครงการที่ 9 : การสร้างความยั่งยืนของแกนนำสุขภาพบุคลากร
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่
การดำเนินการการสร้างความยั่งยืนของแกนนำสุขภาพบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้
ดำเนินการจำนวน 3 คณะ ได้แก่ คณะเกษตรศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ และคณะ
วทิ ยาศาสตร์ โดยได้กำหนดรายละเอยี ดโครงการแกนนำในแต่ละคณะดงั น้ี
คณะเกษตรศาสตร์
ชื่อโครงการ "โครงการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ “สุขภาพดี ชีวีมีสุข” สำหรับบุคลากรคณะ
เกษตรศาสตร์"
การดำเนนิ งานภายใต้ "โครงการออกกำลังกายเพ่ือสุขภาพ “สุขภาพดี ชวี ีมสี ุข” สำหรับบุคลากร
คณะเกษตรศาสตร์" มีระยะขับเคลื่อนโครงการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 ถึงเดือนมีนาคม 2565
รูปแบบกิจกรรมแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การเดินและการวิ่งเพื่อเก็บระยะทาง ซึ่งมีบุคลากรคณะ
เกษตรศาสตร์ เข้าร่วมโครงการดังกล่าวจำนวน 81 คน โดยแบ่งประเภทผู้เข้าร่วมเป็น ประเภทการเดิน
จำนวน 51 คน และประเภทการวิง่ จำนวน 30 คน ระยะทางสงู สดุ ดงั นี้
ประเภท ระยะทางสูงสดุ (กิโลเมตร) แคลลอร่ี (Cal.)
การเดนิ 3,530.93 135,477
การวงิ่ 5,767.24 248,321
Top 5 อนั ดบั แรก ประเภทเดนิ ระยะทางสูงสดุ (กม.) แคลลอรี่ (Cal.)
402.84 2,486
รหัส ช่อื -สังกัด 360.28 12,428
HAL034 นางกหุ ลาบ อตุ สุข
329.60 21,585
ศนู ย์วจิ ัยระบบทรัพยากรเกษตร 252.27 9,809
HAL075 ผศ.ดร.บุศรา ลมิ้ นิรันดรก์ ลุ 160.47 3,297
ภาควิชาพฒั นาเศรษฐกิจ
การเกษตร
HAL024 ผศ.ดร.สรญั ยา วลั ยะเสวี
ภาควชิ ากีฏวิทยาและโรคพชื
HAL016 รศ.ดร.ณัฐา โพธาภรณ์
ภาควิชาพืชศาสตรแ์ ละปฐพีศาสตร์
HAL068 นางสมจิต ธารารกั ษ์
ศูนย์วจิ ยั ระบบทรัพยากรเกษตร
Top 5 อนั ดับแรก ประเภทวิง่ ระยะทางสูงสดุ (กม.) แคลลอรี่ (Cal.)
328.53 23,084
รหัส ชอ่ื -สังกดั
HAL035 นางจุฑามาศ อ่อนประไพ
ศนู ย์วจิ ยั ระบบทรัพยากรเกษตร
62
รหัส ช่อื -สังกดั ระยะทางสูงสดุ (กม.) แคลลอรี่ (Cal.)
HAL029 276.24 25,039
ผศ.ดร.ถาวร อ่อนประไพ
HAL017 ภาควิชาเกษตรท่สี ูงและ 269.39 -
HAL007 ทรัพยากรธรรมชาติ 175.35 10,081
HAL069 168.76 8,559
นายวรากรณ์ ใจยา
ภาควิชาสตั วศาสตร์และสตั วน์ ำ้
ผศ.ดร.ชชู าติ สนั ธทรัพย์
ภาควิชาพชื ศาสตร์และปฐพีศาสตร์
อ.ดร.ศิรพิ ร โทลา
ภาควชิ าสตั วศาสตรแ์ ละสตั วน์ ำ้
ประเมินความพึงพอใจการต่อเข้ารว่ มกิจกรรม
สำหรับผลการดำเนินงานของโครงการดังกล่าว ผู้จัดได้จัดทำแบบประเมินความพึงพอใจต่อ
การเข้าร่วมโครงการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ “สุขภาพดี ชีวีมีสุข” สำหรับบุคลากรคณะเกษตรศาสตร์
ระหว่างเดอื นธันวาคม – กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งสามารถสรุปผลการประเมนิ ความพึงพอใจดงั ตอ่ ไปน้ี
ประเด็นการประเมนิ คะแนนค่าเฉล่ีย ระดบั ความพึง
พอใจ
1. ก่อนเข้าร่วมโครงการ ท่านมีความพึงพอใจต่อ 3.77 พอใจมาก
รายละเอียดกจิ กรรมระดับไหน
2. หลังเข้าร่วมโครงการ ท่านมีความพึงพอใจต่อ 4.96 พอใจมากทสี่ ดุ
รายละเอียดกจิ กรรมระดบั ไหน
3. เมื่อท่านเข้าร่วมโครงการแล้ว ได้เห็นความสำคัญและ 4.92 พอใจมากทส่ี ดุ
ประโยชน์ของการออกกำลังกายมากข้นึ
4. เมื่อท่านเข้าร่วมโครงการแล้ว ส่งผลให้การทำงานมี 4.65 พอใจมากทส่ี ุด
ความสขุ มากขึ้นในระดับใด
5. ความเหมาะสมของระยะเวลาในการจดั โครงการดงั กลา่ ว 4.54 พอใจมากทส่ี ุด
6. ความพึงพอใจภาพรวม 4.57 พอใจมากทส่ี ดุ
หมายเหตุ : คะแนนเฉลี่ยระดับความพึงพอใจ ดังนี้ คะแนนเฉลี่ย 4.21 – 5.00 หมายถึง พอใจมากที่สุด ,
คะแนนเฉลี่ย 3.41 – 4.20 4 หมายถึง พอใจมาก , คะแนนเฉลี่ย 2.61 – 3.40 หมายถึง พอใจปานกลาง ,
คะแนนเฉลี่ย 1.81 – 2.60 หมายถงึ ไม่พอใจ , คะแนนเฉลี่ย 1.00 – 1.80 หมายถงึ เฉยๆ
และข้อเสนอแนะในการจัดกิจกรรมครั้งต่อไป อยากเสนอให้มีรูปแบบกิจกรรมอย่างไร และ
อยากใหค้ ณะเกษตรศาสตรส์ นับสนนุ อะไร ดังนี้
1) เดินและว่ิงเหมอื นเดมิ อยากให้มีบคุ คลากรทกุ หน่วยงานเขา้ รว่ มกิจกรรม
63