The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 342ed000500, 2022-12-25 03:14:24

แบบฝึกทักษะทางวิชาการ ภาคเรียนที่2/2564 ระดับ ม.ต้น

ม.ต้น 2.64

เอกสารพัฒนาทกั ษะวิชาการ
ผ้เู รียนรายบุคคล

ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้

ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564

หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551

ส�ำนักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั เลย
ส�ำนักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ส�ำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร


ค�ำนำ�

เอกสารพัฒนาทักษะวิชาการผู้เรียนรายบุคคล ฉบับน้ี เป็นเอกสารที่จัดท�ำข้ึนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
ใหผ้ เู้ รยี น ไดศ้ กึ ษาเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง ใหเ้ กดิ การพฒั นาทกั ษะทางวชิ าการ และยกระดบั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นใน
การเรยี นรู้ ตามหลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 มรี ายละเอยี ดสรุป
เนอ้ื หาตามสาระการเรยี นรู้ แบบทดสอบหลงั เรยี นและแบบบนั ทกึ การพฒั นาทกั ษะวชิ าการผเู้ รยี นรายบคุ คล เพอ่ื
ให้ผู้เรียน ไดป้ ระเมินและพฒั นา ตนเองอยา่ งตอ่ เนื่องใหม้ ีพน้ื ฐานความรเู้ พียงพอกบั การศึกษาตามระดับ
คณะผจู้ ดั ทำ� หวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ เอกสารเลม่ นจี้ ะเปน็ ประโยชนต์ อ่ นกั ศกึ ษา ในการศกึ ษาเรยี นรตู้ ามหลกั สตู ร
การศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 และขอขอบคณุ ทกุ ทา่ นทม่ี สี ว่ นรว่ มในการทำ�
เอกสาร เลม่ นใ้ี ห้ส�ำเร็จลลุ ว่ งดว้ ยดี

ส�ำนักงาน กศน.จังหวดั เลย


สารบัญ 1
1
ค�ำน�ำ 3
สารบญั 8
คำ� ช้ีแจงการใชเ้ อกสารพัฒนาทักษะวชิ าการผเู้ รยี นรายบุคคลระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ 8
ปกี ารศึกษา 2564 11
รายวิชาคณิตศาสตร์ รหสั วิชา พค21001 14
สรปุ เนอ้ื หาสำ� คญั จากบทเรยี น 14
แบบทดสอบรายวิชาคณติ ศาสตร์ 17
รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ รหัสวิชา พว21001 20
สรปุ เนื้อหาส�ำคญั จากบทเรยี น 20
แบบทดสอบรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 23
รายวิชาภาษาไทย รหสั พท21001 26
สรปุ เนอ้ื หาสำ� คัญจากบทเรยี น 26
แบบทดสอบรายวชิ าวิชาภาษาไทย 27
รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวติ ประจ�ำวัน รหสั วิชา พต21001 30
สรปุ เน้ือหาสำ� คญั จากบทเรยี น 30
แบบทดสอบรายวชิ าภาษาองั กฤษในชีวติ ประจ�ำวัน 31
รายวชิ าพฒั นาอาชีพให้มีความเขม้ แขง็ รหสั วชิ า อช21003 34
สรุปเนอ้ื หาส�ำคัญจากบทเรยี น 34
แบบทดสอบรายวิชาพัฒนาอาชีพให้มีความเข้มแข็ง 38
รายวิชาทกั ษะการเรยี นรู้ รหัสวิชา ทร21001 42
สรปุ เนอ้ื หาส�ำคญั จากบทเรียน 42
แบบทดสอบรายวิชาทกั ษะการเรียนรู้ 44
รายวชิ าช่องทางการพัฒนาอาชพี รหสั วชิ า อช21001 47
สรปุ เน้ือหาสำ� คัญจากบทเรยี น 47
แบบทดสอบรายวชิ าช่องทางการพัฒนาอาชีพ 49
รายวชิ าศาสนาและหน้าท่พี ลเมอื ง รหัสวิชา สค21002 52
สรุปเนอ้ื หาสำ� คัญจากบทเรยี น 52
แบบทดสอบรายวชิ าศาสนาและหน้าทพี่ ลเมอื ง 54
รายวิชาสังคมศกึ ษา รหัสวชิ า สค21001
สรปุ เน้อื หาสำ� คัญจากบทเรียน
แบบทดสอบรายวชิ าสังคมศึกษา
รายวชิ าการพฒั นาตนเองชุมชนสงั คม รหัส สค21003
สรปุ เนื้อหาสำ� คัญจากบทเรียน
แบบทดสอบรายวิชาการพัฒนาตนเองชุมชนสังคม


สารบัญ 57
57
รายวิชาสุขศกึ ษา พลศกึ ษา รหสั วิชา ทช21002 59
สรปุ เนื้อหาส�ำคญั จากบทเรียน 62
แบบทดสอบรายวิชาสุขศกึ ษา พลศึกษา 62
รายวิชาศลิ ปศกึ ษา รหสั วิชา ทช21003 64
สรุปเนอื้ หาส�ำคัญจากบทเรียน 67
แบบทดสอบรายวิชาศลิ ปศกึ ษา 67
รายวิชาเศรษฐกิจพอเพยี ง รหัสวชิ า ทช21001 69
สรปุ เน้อื หาส�ำคัญจากบทเรยี น 73
แบบทดสอบรายวิชาศาสนาและหนา้ ที่พลเมอื ง 73
รายวชิ าทักษะการพฒั นาอาชพี รหัสวชิ า อช21002 75
สรุปเนื้อหาส�ำคญั จากบทเรยี น 78
แบบทดสอบรายวิชาทักษะการพัฒนาอาชีพ 81
เฉลยแบบทดสอบ 82
แบบบันทกึ การพฒั นาการเรยี นรู้ รายวิชาบังคับ ระดับมัธยมศกึ ษา 83
เกณฑก์ ารประเมนิ พัฒนาทกั ษะวิชาการของผูเ้ รียนจากการทำ� แบบทดสอบ 84
บรรณานกุ รม
คณะผ้จู ัดทำ�


คำ� ชีแ้ จงการใช้เอกสารพัฒนาทกั ษะวชิ าการผูเ้ รียนรายบคุ คล
ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้

ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564

เอกสารพัฒนาทกั ษะวิชาการผเู้ รียนรายบุคคล ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564
เล่มนี้ จัดท�ำข้ึนเพื่อพัฒนาผู้เรียน ให้มีความรู้ความสามารถทางด้านวิชาการในรายวิชาบังคับ ตามหลักสูตร
การศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551
ในการศึกษาเอกสารเล่มนผ้ี ู้เรียนควรปฏบิ ตั ิ ดังน้ี
1. ผเู้ รียนส�ำรวจวชิ าที่ตนเองลงทะเบยี นเรยี นในภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564
2. ผู้เรียนศึกษาเนอื้ หารายวิชาทต่ี นเองลงทะเบยี นเรยี น หรอื รายวิชาอน่ื ๆ ทตี่ อ้ งการเรยี นรู้
3. หลังจากศึกษาในรายวชิ านน้ั ๆ แล้วผู้เรียนต้องท�ำแบบทดสอบ แลว้ น�ำมาเฉลยแบบทดสอบ
4. ผู้เรียนบันทึกคะแนนผลการทดสอบรายวิชาในแบบบันทึกการพัฒนาทักษะวิชาการผู้เรียนรายบุคคล
(อยทู่ า้ ยเลม่ )เพ่อื เปน็ แนวทางในการพฒั นาตนเองต่อเนอ่ื ง
5. ให้ผู้เรียนศึกษาเพ่ิมเติมในรายวิชาต่างๆได้จากแบบเรียนตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการ
ศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น แหลง่ เรียนรู้ และสื่อออนไลนอ์ นื่ ๆ


สรุปเนอ้ื หา 6
6

เจบร�ำทอื่เจบนจบเรทงารท่ือาวททน่อืี งนน1ที่งวทท1วเที่นจตี่่ี1น่ี1จ1เ�ำ็ม1เตนำ�ตจจ็มจแนจว็มาาบาวานแนนแนนง่นแบววอบวเวลร่งนตอนรง่นอนะาเ็มอกาแเตกอแยตอเบยลากม็ปลก็มววรเบะวน็ ปเบะดกิชปกวิชน็ก�ำว3น็ากาจเากานร3ปำ� รจ3คดนนิจรคดปาะณวปาากรนณราเนนเารภะวเนิตะราวเนเตินทตภเนินศภนิสเคยศม็ทสเตกาทือตกลราคม็ารสคว็มบาุปสือจลรุปือลรตำ�บเชิตแจบเนนรจนลารแวาา์ื้อนแะ์น(้อืนลศ(วลหพเวะหพนนูตคะพนศาคเศม็ยาคตเูนสตูนบ2์คณสม็ย2าม็วย1าบ์21กบร์ 0รว0ะวิตก1ศะ0กค0นู0ค1ศศ1วศยวูน)0ูน์แ)ายาาลยรมแ์1รมะแ์ะลสระจลรดะู้พดำ�ะู้พจบัตนจบั้ืนาื้นวามนมฐนนรฐวธั เวาธันตา์ยนนยเ็มนตเมตมล็มศม็บศลลกึ บกึ บษษาาตตออนนตตน้ ้น
จานวนเตม็
จานวนเต็ม

จจาานนววนนเเตต็มม็ ลลบบ ศศูนนู ยย์ ์ จจหาานรนือววจนนาเเตนตม็วม็ บนบนววกบั ก
หรอื จานวนนับ
เ รอื่เเรงรือ่ ทือ่ งี่ก งท2ทา่ี ร่ี2ก2เาปกกรกราาเาียรปรรเบเรปเป---ียปเรทรบศจจรีย---ยียี---ำ�ำ�ียนูเบจศจบทบนนจศจบยาาเนูเียจววาาทนู์เทนนยไทนนนนบ�ำยยีดยีวว์นเเยีววจ์ไบนน้แบตตไนนดบว�ำเดเกจ็็มมจแ้ตตเเนนจแ่้าตตลบาก็ม็ม0วเานกนม็็มบวต่ลบน่0วลกบวไม็0บววเดนบหนวตโกไน้แดกเไรเด็มหตเตดกือยห้แตรม็แ้่ม็จกรก–็มือโกำ�ือา่1ดจ่น–รจ,–าย1ลวา–น1ก,นนง2,วาจ–นว,น–ร2ุดนับ–2ลน,บน3,งับ–ไนบั,–จด3…เ3ไดุ้แ,สได,บดก…น้้แ…่้แนกจ1กเ่�ำ,ส่1น21้น,,ว,จ23น2,า,,น3.3.,ว.,.น.....
ตัวตอัวยอา่ ยงเา่ สงก้นเสาจ้นร�ำจเนปาวรนนยี วบนเทียบจานวนเต็มโดยการลงจุดบนเสน้ จานวน

ตวั อยา่ งเส้นจานวน

การเปรียบเทยี บจานวนเตม็
การเปรียบเรเทาอยี าบจจจาะนใวชนเ้ สเตน้ ็มจานวนในการเปรยี บเทียบจานวนเตม็ สองจานวนท่ีไม่เท่ากนั โดยการลงจุดบนเสน้
จานวน แเรลาว้ อใาชจห้ จละกั ใชก้เาสรน้พจจิ าานรณวนาใทนวี่ ก่าารจเาปนรวยี นบเเตทม็ ียทบ่ีอจยาทู่ นาวงนขเวตา็มจสะอมงาจกากนวว่านจทานไ่ี มว่เนทเา่ตก็มนั ทอ่ีโดยยทู่ กาางรซลา้ งยจเสดุ มบอนเสน้
จตาวันอวยนา่ งแลจว้ าในชว้หนลเักตกม็ า9รพแจิ ลาะรณ-3าทว่ี ่า จานวนเตม็ ที่อยทู่ างขวาจะมากกว่าจานวนเต็มท่ีอยทู่ างซ้ายเสมอ
ตัวอยา่ ง จานวนเต็ม 9 และ -3

9 อยทู่ างขวาของ -3 หรือ -3 อยู่ทางซา้ ยของ 9
สรุป 99อมยา่ทู กากงวขา่ วา-3ของ -เ3ขยี หนรแอื ท-น3ดอว้ ยยทู่ 9าง>ซ้า-3ยขหอรงือ9-3 น้อยกว่า 9 เขียนแทนดว้ ย -3 > 9
จตจาาวั นอนวยวน่านตงตสรพรรงงุปจิขขา้าา้รมณม9าจมาานกวกนวเตา่ ม็ -3บนเสเน้ขจียานนแวทนนตด่อ้วไยปน9้ี > -3 หรอื -3 นอ้ ยกว่า 9 เขียนแทนด้วย -3 > 9
ตัวอย่าง พจิจาากรเสณ้นาจจาานนววนนเจตะ็มเบหนน็ เวส่าน้ จานวนต่อไปน้ี
จากเสน้ จานวน จะเหน็ วา่

แบบฝึกทกั ษะทางวชิ าการเพือ่ ยกผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กศน.จังหวดั เลย 1


7

4 และ -4 อยู่หา่ งจาก 0 เป็นระยะ 4 หน่วย เท่ากนั
9 และ -9 อยูห่ ่างจาก 0 เป็นระยะ 9 หน่วย เทา่ กัน
แสดงวา่ 4 เป็นจานวนตรงข้ามของ -4 และ -4 เปน็ จานวนตรงข้ามของ 4
9 เป็นจานวนตรงขา้ มของ -9 และ -9 เป็นจานวนตรงขา้ มของ 9
เรยี ก 4 และ -4 เป็นจานวนตรงข้ามของกันและกัน
9 และ -9 เปน็ จานวนตรงขา้ มของกันและกัน
คา่ สัมบรู ณ์ของจานวนเต็ม เปน็ ระยะห่างระหว่างจานวนเตม็ น้ันกบั ศูนยบ์ นเสน้ จานวน
ตวั อยา่ ง
จากเสน้ จานวน จะเหน็ ได้วา่
4 อยูห่ า่ งจาก 0 เป็นระยะ 4 หน่วย จะกลา่ วว่าคา่ สมั บรู ณ์ของ 4 เทา่ กับ 4
-4 อยู่ห่างจาก 0 เปน็ ระยะ 4 หนว่ ย จะกล่าววา่ ค่าสมั บรู ณข์ อง -4 เทา่ กับ 4
เม่ือ a เปน็ จานวนเตม็ ใด ๆ เขียนแทนค่าสมั บรู ณ์ของ a ดว้ ยสัญลกั ษณ์ |a|
เชน่ ค่าสัมบูรณ์ของ 1 เท่ากับ 1 เขียนได้เปน็ |1| = 1
ค่าสัมบรู ณข์ อง -1 เทา่ กบั 1 เขียนไดเ้ ปน็ |-3| = 1
คา่ สมั บรู ณข์ อง 0 เทา่ กับ 0 เขียนไดเ้ ปน็ |0| = 0
เรอื่ งท่ี 3 การบวก การลบ การคณู และการหารจานวนเตม็
การบวกจานวนเตม็
1. การบวกจานวนเต็มบวกด้วยจานวนเต็มบวก หรือเรยี กว่าการบวกจานวนนบั ด้วยจานวนนบั
พิจารณาการหาผลบวกของ 5 และ 3 โดยใช้เสน้ จานวนดังน้ี
วิธีทา เร่มิ ต้นที่ 0 แล้วนบั ไปทางขวาถงึ 5 และเมื่อบวกดว้ ย 3 ใหน้ ับต่อไปทางขวาอีก 3 หนว่ ย
ซง่ึ จะไปสิ้นสดุ ที่ 6

2 แบบฝึกทกั ษะทางวิชาการเพอ่ื ยกผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย


แบบทดสอบ รายวิชาค8ณิตศาสตร์ พค21001

จคงาเลชอืี้แจกงค�ำจตงเอลอืบกทคี่ถาูกตอตบอ้ ทงถี่เแพกู บตียบ้องทงขดเพ้อสียเอดงบขียร้อวาเดยียววชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า พค21001

1. ขอ้ ใดตอ่ ไปนี้ ไม่ ถูกตอ้ ง ข. 0 เปน็ จานวนเต็มบวก3
ก. 0.5 ไม่ใชจ่ านวนเต็ม 3
ค. (– 5) จานวนเตม็ ง. เป็นจานวนเต็มบวก

2. ข้อใดคาตอบ ไม่ ตรงกบั ขอ้ อน่ื ข. -1,078 -1,008
ก. (-21) × (51 + 48) ง. 120,582 ÷ 58
ค. 693 × (-3)

3. ข้อใดเรยี งลาดับจากมากไปน้อยได้ถูกตอ้ ง
ก. -7, -1, 0, 2, 4, 6, 10 ข. 22, 13, 9, 3, -1, -15
ค. 9, 7, 0, 3, -2, -5, -4 ง. –9, –5, 3, 0, 1, 2

4. ค่าของ [(-81) ÷ (-3)] – (-23) ตรงกับข้อใด
ก. 2.7 ข. 50 ค. -2.7 ง. -505

5. สมชายมีเงนิ 5,000 บาท ซ้ือหนงั สอื 4 เลม่ ราคาเล่มละ 250 บาท คณุ พอ่ ให้เงนิ อีก 500 บาท สมชายนา
เงินทัง้ หมดไปทาบุญ 9 วัด วดั ละเทา่ ๆ กนั สมชายทาบญุ วดั ละกีบ่ าท
ก. 250 บาท ข. 500 บาท ค. 4,500 บาท ง. 5,500 บาท

6. 0.353̇7̇ อา่ นวา่ อย่างไร
ก. ศนู ย์จดุ สามหา้ สามเจด็ สามเจ็ดซา้
ข. ศูนย์จดุ สามห้าสามเจ็ดซ้า สามเจด็ ซา้
ค. ศนู ยจ์ ุดสามห้าสามเจ็ด สามซ้าเจด็ ซา้
ง. ศนู ยจ์ ุดสามห้าซา้ สามเจด็ สามเจ็ดซา้

7. ทศนิยมในข้อใดเรยี งจากมากไปหานอ้ ยไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. 17.236 17.326 17.362
ข. 17.362 -17.236 17.362
ค. 17.362 17.326 -17.236
ง. -17.326 17.362 -17.236

แบบฝึกทกั ษะทางวิชาการเพอ่ื ยกผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 3


9

8. เปลี่ยน 0.749̇ ให้เปน็ เศษส่วนได้ตรงกบั ข้อใด
3 3
ก. 44 ข. 55
ค. 5 ง. 6

9. เดก็ แรกเกิดคนหนง่ึ หนัก 2.750 กโิ ลกรัม เมอ่ื ไปตรวจสขุ ภาพอกี สามเดอื นถดั มาหนกั 4.8กโิ ลกรมั อยาก
ทราบนา้ หนกั ของเดก็ คนน้ตี รงกับขอ้ ใด
ก. น้าหนักลดลง 1.05 กิโลกรม ข. น้าหนกั ลดลง 2.05 กโิ ลกรัม
ค. นา้ หนกั เพ่ิมขึ้น 1.05 กิโลกรมั ง. นา้ หนักเพ่มิ ข้ึน 2.05 กโิ ลกรัม

10. ขอ้ ใดเขยี นคาอ่านของ (-6)3 ไม่ ถกู ตอ้ ง ข. ลบหกทงั้ หมดกาลังสาม
ก. ลบหกท้งั หมดยกกาลงั สาม ง. กาลงั สามของลบหก
ค. ลบหกกาลงั สาม

11. ผลลัพธข์ อง 25 ÷ 212 คอื ข้อใด ข. 2-7
ก. 27 ง. 2-17
ค. 217

12. โลกมรี ปู รา่ งใกลเ้ คียงกับทรงกลมและมรี ศั มียาวประมาณ 6,380,000 เมตร เขียนรปู สัญกรณว์ ิทยาศาสตร์
ไดต้ รงกบั ขอ้ ใด
ก. 6.38 × 105 ข. 6.38 × 106
ค. 6.38 × 107 ง. 6.38 × 108

13. ซือ้ ปากกา 3 ดา้ ม ตอ่ ราคา 15 บาท เขยี นในรปู อตั ราส่วนต่อราคา ตรงกับข้อใด
ก. 1 : 2 ข. 2 : 1
ค. 3 : 15 ง. 15 : 3

14. เสือ้ กนั หนาวตวั หนึ่งตดิ ราคาไว้ 1,250 บาท ทางร้านขายลดราคา 20% ผ้ซู ื้อตอ้ งซ้ือเส้อื กันหนาวในราคาก่ี
บาท
ก. 250 บาท ข. 1,000 บาท
ค. 1,125 บาท ง. 1,250 บาท

15. มีลูกบอล 200 ลกู หยิบออกมา 50 ลูก จานวนทหี่ ยบิ ออกมาคิดเป็นร้อยละเท่าใด
ก. 25 ข. 50
ค. 75 ง. 100

4 แบบฝกึ ทกั ษะทางวชิ าการเพื่อยกผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จังหวดั เลย


10

16. จะเขียน 0.008003 ให้อยู่ในรปู ของการกระจายได้อย่างไร
ก.8 x 110 +  3 x 1102 ข.8 x 1102 +  3 x 1105

ค.8 x 1103 +  3 x 1106 ง.8 x 1104 +  3 x 1107

17. ขอ้ ใดเลอื กใช้หน่วยวัดไดอ้ ย่างเหมาะสม
ก. ขนาดของป้ายใชห้ น่วยเปน็ ตารางนว้ิ
ข. พืน้ ท่ขี องห้องนอนใชห้ นว่ ยเป็นตารางหลา
ค. พนื้ ทข่ี องสนามฟุตบอลใช้หนว่ ยเปน็ ตารางวา
ง. ปรมิ าตรของสระนา้ ใชห้ น่วยเป็นลกู บาศกเ์ มตร

18. จากภาพ เป็นรปู เรขาคณิตสามมิติใด

ก. กรวย
ข. พีระมิด
ค. ทรงกลม
ง. ทรงกระบอก

19. กระดาษรูปสี่เหล่ียมผืนผา้ กว้าง 85 เซนติเมตร ยาว 19 เซนตเิ มตรกระดาษแผน่ น้ีมีพ้นื ท่กี ่ตี าราง
เซนตเิ มตร
ก. 1,530 ตารางเซนตเิ มตร ข. 1,596 ตารางเซนตเิ มตร
ค. 1,615 ตารางเซนติเมตร ง. 1,634 ตารางเซนตเิ มตร

20. ที่ดินรูปสเี่ หลย่ี มมมุ ฉากมคี วามยาว 96 เมตร กว้าง 43 เมตร ถา้ จะทาสร้างรัว้ รอบลอ้ มทดี่ นิ โดยจะต้องใช้
รัว้ ยาวท้ังหมดเทา่ ไร
ก. 4,128 ข. 4,125
ค. 4,123 ง. 4,120

21. พ้นื หอ้ งรปู สี่เหลย่ี มผืนผา้ มขี นาดกวา้ ง 10 เมตร ยาว 12 เมตร ตอ้ งการปูกระเบ้ืองใหเ้ ต็มพ้ืนห้อง จะตอ้ ง
ซ้อื กระเบ้ืองเป็นเงินทง้ั หมดกี่บาท ถ้ากระเบ้อื งราคากลอ่ งละ 120 บาท ปพู ืน้ ทไ่ี ด้ 1.5 ตารางเมตร
ก. 1,400 บาท ข. 9,600 บาท
ค. 14,400 บาท ง. 21,600 บาท

แบบฝกึ ทักษะทางวิชาการเพือ่ ยกผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 5


11

22.ตะก่วั ยาวส่เี หลีย่ มมมุ จากยาว 11 เซนตเิ มตร กวา้ ง 8 เซนติเมตร หนา 2 เซนตเิ มตร นามาหลอมเป็นลกู ปืน
ทรงกลมมเี ส้นผา่ นศูนย์กลาง 0.5 เซนตเิ มตร ไดท้ ั้งหมดกลี่ ูก
ก. 2,640 ลกู ข. 2,688 ลูก
ค. 2,690 ลกู ง. 2,710 ลกู

23. ถ้า (a + 1, -2) = (3, b + 1) แล้วจะได้คา่ ของ (a, b) ตรงกับข้อใด
ก. (-3, 2) ข. (2, 3)
ค. (2, -3) ง. (2, -1)

24. จากกราฟที่กาหนดให้ ข้อใด ไม่ ถกู ตอ้ ง ข. เส้นตรง CD ไม่มจี ุดตัดแกน Y
ก. ABCD เป็นรปู ส่เี หลยี่ ม ง. จุด C อยู่หา่ งจากแกน X เปน็ ระยะ 2 หน่วย
ค. จดุ B มีพกิ ดั เปน็ (2, 1)

25. จากรปู เรขาคณิตท่กี าหนดให้ ภาพสองมติ ิท่ไี ดจ้ ากภาพด้านหนา้ ด้านขา้ ง และด้านบน ตรงกบั ข้อใด
ตามลาดับ

ก.
ข.

6 แบบฝึกทกั ษะทางวิชาการเพ่ือยกผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จังหวัดเลย


12

ค.

ง.

26. มลี ูกกวาดในโหลเปน็ สชี มพู 40 เม็ด สีแดง 26 เม็ด สีขาว 48 เมด็ และสเี หลืองกับสีเขียวมีสีละ 20 เม็ด
ถ้าหยิบลูกกวาดจากโหล 1 เมด็ โอกาสจะไดส้ ีใดมากท่ีสดุ
ก. สชี มพู ข. สแี ดง ค. สีขาว ง. สีเขยี ว

จากข้อมูลต่อไปนใ้ี ช้ตอบคาถามขอ้ 27 – 30

ขอ้ มูลชุดหนึ่งซึง่ เรียงจากนอ้ ยไปหามาก ดังนี้

a 5 5 9 10 12 12 12 15 b

ถ้าข้อมูลชดุ นีม้ พี ิสัยเท่ากบั 12 และค่าเฉล่ยี เลขคณติ เทา่ กบั 10

27. ผลรวมของขอ้ มลู เทา่ กับเท่าใดตอ่ ไปน้ี ง. 110
ก. 95 ข. 100 ค. 105 ง. 28

28. ค่าของ 2a + b ตรงกบั ข้อใดต่อไปนี้
ก. 8 ข. 16 ค. 24

29. ขอ้ ใด คือ ฐานนิยมของขอ้ มูลชดุ น้ี
ก. 9 ข. 10 ค. 11 ง. 12

30. ถ้าเพิ่มขอ้ มูลเข้าไปอกี 1 ตวั คอื 21 จะทาให้คา่ เฉล่ียเลขคณติ เท่ากบั ขอ้ ใด
ก. 11 ข. 12 ค. 13 ง. 14

แบบฝกึ ทักษะทางวิชาการเพอ่ื ยกผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 7


สรปุ เน้อื หา

รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์

พว21001

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิธีการทางวิทยาศาสตร ์ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
และเจตคตทิ างวิทยาศาสตรไ์ ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
2. อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ และการอนุรักษ์ทรัพยากรทาง
ธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมได้
3. อธบิ ายผลกระทบที่เกิดจากการใช้สารและผลติ ภัณฑท์ ่มี ตี อ่ ชีวติ และสง่ิ แวดลอ้ มได้
4. อธิบายเรื่องแรงและพลงั งานเพื่อชวี ติ ได้
5. อธิบายเกยี่ วกับดวงดาวและการใชป้ ระโยชนไ์ ด้
6. อธบิ ายเก่ียวกบั อาชีพช่างไฟฟา้ ได้
ขอบเขตเนอื้ หา
บทท่ี 1 กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
บทท่ี 2 สง่ิ มชี ีวติ และสิ่งแวดล้อม
บทท่ี 3 สารเพื่อชวี ติ
บทท่ี 4 แรงและพลงั งานเพือ่ ชีวิต
บทที่ 5 ดาราศาสตร์เพ่ือชวี ติ
บทที่ 6 อาชีพช่างไฟฟ้า
บทท่ี 1 กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คือ การด�ำเนินการเร่ืองใดเร่ืองหนึ่ง จะต้องมีการก�ำหนดข้ันตอน
อย่างเป็นล�ำดับตั้งแต่ต้นจนแล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ท่ีก�ำหนด กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จึงเป็นแนวทาง
การด�ำเนินการโดยใชท้ กั ษะทางวทิ ยาศาสตรใ์ ช้ในการจดั การ ซึง่ มีล�ำดับขั้นตอน ดังน้ี
1. การก�ำหนดปญั หา
2. การต้งั สมมตฐิ าน
3. การทดลองและรวบรวมขอ้ มูล
4. การวิเคราะหข์ ้อมูล
5. การสรปุ ผลการทดลอง
โครงงานวทิ ยาศาสตร์
โครงงานวิทยาศาสตร์เป็นกิจกรรมเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ซ่ึงเป็นกิจกรรมท่ีต้องใช้กระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์ ในการศกึ ษาคน้ ควา้ โดยผเู้ รยี นจะเปน็ ผดู้ ำ� เนนิ การดว้ ยตนเองทงั้ หมด ตง้ั แตเ่ รม่ิ วางแผนในการศกึ ษา
คน้ คว้า การเกบ็ รวบรวมข้อมลู จนถงึ การแปลผล สรุปผล และการเสนอผลการศึกษา โดยมผี ู้ช�ำนาญการเป็นผใู้ ห้
คำ� ปรกึ ษา

8 แบบฝกึ ทกั ษะทางวชิ าการเพ่อื ยกผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 กศน.จังหวัดเลย


เรื่องท่ี 1 ประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์
เรื่องท่ี 2 ขน้ั ตอนการทำ� โครงงานวทิ ยาศาสตร์
เรื่องที่ 3 การน�ำเสนอโครงงานวทิ ยาศาสตร์
บทที่ 2 ส่ิงมชี ีวิตและสง่ิ แวดลอ้ ม
เซลล์ ลักษณะรปู รา่ งของเซลลพ์ ืช และเซลล์สตั ว์ องค์ประกอบโครงสรา้ งและหน้าท่ีของเซลลพ์ ชื และเซลล์สตั ว์
กระบวนการทีส่ ารผ่านเซลล์
เรอ่ื งท่ี 1 ลักษณะรปู รา่ งของเซลล์พชื และเซลลส์ ตั ว์
เรื่องที่ 2 องค์ประกอบโครงสรา้ งและหน้าทข่ี องเซลล์พืชและเซลลส์ ตั ว์
เรอ่ื งท่ี 3 กระบวนการท่ีสารผ่านเซลล์
ระบบนิเวศ ความสัมพนั ธข์ องส่ิงมชี วี ติ ต่าง ๆ ในระบบนเิ วศ การถา่ ยทอดพลงั งาน สายใยอาหาร วัฎจกั รของ
น้ำ� และวฎั จักรคารบ์ อน
เรอ่ื งท่ี 1 ความสัมพนั ธข์ องส่ิงมีชีวติ ตา่ ง ๆ ในระบบนิเวศ
เรอ่ื งท่ี 2 การถา่ ยทอดพลังงาน
เรื่องท่ี 3 สายใยอาหาร
เรือ่ งที่ 4 วัฎจกั รของน้�ำ
เรอ่ื งที่ 5 วฎั จกั รคาร์บอน
โลก บรรยากาศ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ สิ่งแวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ
เรือ่ งท่ี 1 โลก
เรอ่ื งท่ี 2 บรรยากาศ
เรื่องท่ี 3 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
เร่ืองที่ 4 ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม
บทที่ 3 สารเพ่ือชีวิต
สารและผลติ ภัณฑใ์ นชวี ิต ความหมายของสาร ผลิตภณั ฑ์ คณุ สมบัติของสารประเภทต่าง ๆ ได้แก่
สารอาหาร สารปรงุ แตง่ สารปนเปอ้ื น สารเจอื ปน สารพษิ สารสงั เคราะห์ ประโยชนข์ องสารและผลติ ภณั ฑใ์ นชวี ติ
ประจ�ำวัน การเลือกใช้สารและผลิตภัณฑ์อย่างปลอดภัยผลกระทบและโทษที่เกิดจากการใช้สารและผลิตภัณฑ์
ตอ่ ชวี ติ และส่งิ แวดล้อม
สมบตั ทิ างกายภาพและสมบตั ทิ างเคมี ความแตกต่าง และจำ� แนกธาตุ สารประกอบ สารละลาย และ
สารผสม จ�ำแนกสารโดยใชเ้ นอื้ สารและสถานะเปน็ เกณฑ์ได้
สมบัติและองค์ประกอบของสารละลาย ปัจจัยท่ีมีผลต่อการละลายของสาร หาความเข้มข้นของ
สารละลาย เตรียมสารละลายบางชนิด จ�ำแนกกรด เบสและเกลือ ตรวจสอบความเป็นกรด เบส ของสารได้
การใชก้ รด เบส บางชนดิ ในชวี ิตได้
เรือ่ ง 1 สารและคุณสมบัตขิ องสาร
เร่ือง 2 สารสังเคราะห์
เรื่อง 3 สารและผลิตภัณฑ์ในชวี ติ
เรื่อง 4 การเลือกใชส้ ารและผลิตภณั ฑใ์ นชวี ติ
เรอ่ื ง 5 ผลกระทบที่เกดิ จากการใชส้ ารและผลติ ภณั ฑต์ อ่ ชีวิตและส่ิงแวดลอ้ ม

แบบฝกึ ทักษะทางวิชาการเพอื่ ยกผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย 9


บทที่ 4 แรงและพลังงานเพือ่ ชีวติ
แรงและการใชป้ ระโยชน์ แรงเปน็ ปรมิ าณทม่ี 1ขี 5นาดและทศิ ทาง มผี ลกระทบตอ่ วตั ถุ และสามารถนำ� มา
ประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจำ� วนั ได้
บทท่ี 4 แงารนงและพลังงานเ พ คอื่ วชามีวิตหมายของงานและพลงั งาน รูปของพลงั งานประเภทต่าง ๆ พลงั งานไฟฟ้า กฎ
ของโอหม์ แกรางรแตล่อะวกงาจรรใคชว้ปารมะตโ้ายนชทนา์ นแแรบงบเปต็น่าปงรๆิมกาณารทคมี่ ำ� ีขนนวณาดหแาลคะ่าทคศิ วทามางต้ามนผี ทลากนระกทาบรใตชอ่ ้ปวรัตะถโุยแชลนะ์จสาากมไาฟรฟถา้ ใน
ชนีวาิตมปารปะรจะำ� ยวุกันตใ์แชลใ้ ะนกชาวี รติ อปนรรุ ะักจษาพ์วันลไังดงา้ นไฟฟา้ แสงและคณุ สมบัตขิ องสาร เลนสช์ นดิ ตา่ ง ๆ ประโยชน์และโทษ
ของแรงตอ่งาชนวี ิตแลแะหพลล่งังกง�ำาเนินขคอวงาพมลหงัมงาายนขคอวงางมารนอ้ แนละกพาลรนังง�ำาคนวารมูปรขอ้ อนงไพปลใชังงป้ ารนะปโยระชเนภ์ ทพตล่างั งาๆนทพดลแงั งทานนไฟฟา้
บแกไทฟลฎทฟะขี่โา้อ5ทใงนษโดอชเเเเขเเเรรรรารรรหวี อื่อื่อือ่ือ่รอือ่ื่อ่ืิตม์งางงงงงงงปแททททศทททกรราี่่ี่ีี่ ี่ี่่ีาะง1243ส123รตจตตครไแอ่รคไาฟรปูฟสอ่วปูวชวเ์ฟาขงวนัฟาพวีขมงอา้มิตอา้่ือจแหงหงชรลแพมพมคีวะหลาลาวิตกยลงัยงัาางข่งงขมารกาออตนอนางง้านปเงปงนนาุรรารินนทักะนะขแเษาแเภภนอล์พลทงะทแะลพตพบตพงั ่าลล่างบลงางังังตงั งนงๆงา่ๆาาไางนนฟนคๆฟวา้กาามแรรสคอ้งาแนนลกวะณาครณุหนาสาคคมา่ วบคาัตวมิขารอมอ้ งตนสา้ ไานปรทใชเาลป้นนรกสะ์ชาโยรนใชดิชนต้ป์ า่ พรงะลโๆงัยงชปานนระจ์ทโาดยกแชทนน์
กลุ่มดาวจเักรรอื่ างศทีตี่ 4่างแสๆง การสังเกตต�ำแหน่งดาวฤกษ์ และหาดาวจากแผนท่ี ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากกลุ่ม
ดบาทวฤทก่ี 5ษ์ ดาราศาสตรเ์ พอื่ ชีวติ
กลุม่ ดาวเจรกัื่อรงาทศี่ 1ตี ่ากงลๆ่มุ ดกาวรจสักงเรกรตาศตีาแหน่งดาวฤกษ์ และหาดาวจากแผนที่ ตลอดจนการใชป้ ระโยชน์จากกลุม่
ดาวฤกษเ์รื่องท่ี 2 การสงั เกตต�ำแหนง่ ของดาวฤกษ์
ฟ บ บทา้ ทมททีห่ี ่ี6ล6าอยอเเเกกเเเเเารรรปรรรรราาาื่่ือ่ออืชือ่ื่อื่ออ่่ืือรรชรงงงพีงงงงงเะเพีทททลทททททลเชภอื่ี่ี่ีชืี่่ี่ี่ีี่อา่35454312กทา่กงงอกแวไอกแวกกไฟิธาผแาธิผาาาลฟกีชรนลกีฟรรชนุ่มฟใาีพใะสาทีพชา้ดทรชร้าหชงั่ีด้ปชาห่ีด้ปหเ่านวาก่ราาารงาวจา้ะงตวดไะดทไักโฟตาโฟายรี่ขยวาฟวชฟรอชเแเา้หนาห้านงหนศนจ์นชนจ์น้ันีาื่อา้ันือาง่กงหกขไกหกมฟอลมลางฟุ่มาดยมุ่ ้าดยาถดกาถวงึา็แวฤึงวกตฤกฤากกกษกราตษษ์ปร่า์ ปร์งะกรกะนั อกมบอาอบกาอชสาพีว่ชนทีพใีน่ทห่าี่นญส่าใ่นสนในจปใแัจจลจแะบุ ลมนัะีรนมาีท้ีรยา�ำไยดงาไ้ดดนอี ้ดใกี หีออก้ีกาบัอชผาีพชรู้ หับีพนเหห่ึงนมชึ่งา่างงชาไ่าฟนง
ดไา้ฟนฟไ้าฟมฟีหา้ ลหารยอื ปไรมะก่ เท็ภ�ำทในแโลระงงหานน้าอทุต่ีขสอางหชก่ารงรไมฟขฟน้าากด็แใตหกญต่ ่านงอกกันจมาากกน้นัส่มวนชี ใา่ หงไญฟ่ใฟน้าปอัจีกจจุบ�ำันนวนี้ทไามง่นานอ้ ยใหท้ก่ที ับำ� ผงาู้รนับอเหยม่างา
องสิ ารนะดเา้ปนน็ ไผฟูร้ ฟบั า้ เหหมราือเอไมง่กแ็ทลาะใมนชีโร่างงงไาฟนฟอ้าุตจสำ� านหวกนรหรนมงึ่ ขทนี่ทา�ำดงใาหนญให่ นก้ อับกอจงาคก์กนรั้นขมองีชร่าัฐงบไฟาฟลห้าอรือกี ทจานงธวุรนกไิจมน่ ซอ้ ึง่ ยเปท็น่ีทงาางนาทนี่
ใอหยบ้ ่ารงกิ อาิสรแระกเห่ ปน็นว่ ผยู้รงับานเหขมอางเตอนงแแมลว้ ะา่ มแีชห่าลงง่ ไงฟาฟนข้าอจงาชนา่วงนไฟหฟนา้่ึงจทะ่ีทมาอี งยานทู่ ใวั่ หป้กรัะบเอทงศคแ์กตรขแ่ หองลรง่ ัฐงาบนาสลว่หนรใือหทญาน่งธนั้ ุรจกะิจมอี ซย่ึงู่
ใเนปเข็นตงาอนตุ ทสา่ีใหห้บกรรริกมารหแรกอื ่หเขนต่วพย้ืนงาทนท่ี ข่ีกอ�ำงลตงั นพัฒแนมา้ว่าแหล่งงานของช่างไฟฟ้าจะมีอยู่ทั่วประเทศ แต่แหล่งงานส่วน
ใหญ่นน้ั จะมอี ยใู่ นเขตอุตสาหกรรม หรอื เขตพื้นที่ท่ีกาลังพฒั นา

หหมมาายยเหเหตตุ ุ::ใใหหน้ น้ กั ักเรเรยี ียนนไไดดศ้ ้ศึกกึ ษษาาเพเพิ่ม่มิ เตเตมิ มิ จจาากกหหนนงั ังสสอื ือแแบบบบเรเรยี ยี นนรราายยววชิ ิชาาววิททิ ยยาาศศาาสสตตรร์ ์ พพวว2211000011
QQRRCCOODDEEหหนนังังสสือือเรเรียียนน

10 แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพื่อยกผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย


แบบทดสอบ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ พว21001

จงเลอื กคำ� ตอบทีถ่ ูกต้องเพยี งข้อเดยี ว

1. ขอ้ ใดเรยี งลำ� ดบั ขนั้ ตอน ของวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์ 6. การแกไ้ ขปญั หาวธิ กี ารเพาะถว่ั งอก จดั เปน็ โครงงาน
ได้อยา่ งถูกต้อง ประเภทใด
ก. การตั้งสมมติฐาน การรวบรวมข้อมูล ปัญหา ก. โครงงานประเภทสำ� รวจ
การทดลอง และสรปุ ผล ข. โครงงานประเภททดลอง
ข. การตัง้ สมมติฐาน การสังเกตและปญั หาการ ค. โครงงานประเภททฤษฎี
ตรวจสอบสมมตฐิ านและการทดลองและสรปุ ผล ง. โครงงานประเภทสง่ิ ประดิษฐ์
ค. การสังเกตและปัญหาการทดลองและตั้ง 7. เซลล์สตั ว์ มีลักษณะอย่างไร
สมมตฐิ าน การตรวจสอบสมมตฐิ าน และสรปุ ผล ก. อ่อนนุม่
ง. การสงั เกตและปัญหาการตง้ั สมมตฐิ าน ข. ออ่ นนุ่ม ไม่แขง็ แรง
การตรวจสอบสมมตฐิ านและการทดลอง ค. ออ่ นนุม่ ไมแ่ ขง็ แรง รปู ร่างกลม
และสรปุ ผล ง. ออ่ นนุ่ม ไม่แข็งแรง รปู รา่ งแบน
2. วธิ ีการทางวิทยาศาสตรข์ ั้นตอนใด ที่ถือวา่ เป็น 8. โครงสร้างขับถ่ายของแมลง เรยี กวา่ อะไร
ความก้าวหน้าทางวทิ ยาศาสตรอ์ ยา่ งแท้จริง ก. เฟลมเซลล์ ข. พลานาเรยี
ก. การตง้ั ปญั หาและการตั้งสมมติฐาน ค. เนฟรเิ ดียม ง. ทอ่ มลั พเิ กยี น
ข. การตรวจสอบสมมตฐิ าน 9. การผสมกันระหว่างตัวอสุจิกับไข่จะเกิดท่ีภายนอก
ค. การตั้งสมมตฐิ าน ร่างกายของสตั วเ์ พศเมีย คือ การปฎสิ นธิ แบบใด
ง. การต้งั ปญั หา ก. การปฏิสนธภิ ายนอก
3. ค่าไฟฟ้าท่ีบ้านของสายป่าน เดือนปัจจุบันสูงกว่า ข. การปฏสิ นธภิ ายใน
ปกติ จากข้อความเกิดทกั ษะขอ้ ใด ค. การสบื พันธ์ของสัตว ์
ก. สงั เกต ง. การสืบพันธข์ องสตั วเ์ พศผูแ้ ละเพศเมยี
ข. ต้ังปัญหา 10. ขอ้ ใด คือความหมายของระบบนเิ วศ
ค. ต้ังสมมตฐิ าน ก. วงจรของส่งิ มชี ีวติ
ง. ออกแบบการทดลอง ข. ความสัมพันธท์ างชวี ภาพ
4. ข้อใด คือสิง่ ที่ส�ำคัญทส่ี ุดในการทำ� โครงงาน ค. ความเกี่ยวข้องสัมพนั ธ์ระหว่างส่งิ มีชวี ิต
ก. งบประมาณ ข. ความสวยงาม ง. หนว่ ยของความสมั พันธ์ของสิง่ มีชวี ิตใน
ค. ความปลอดภยั ง. การใชง้ านไดจ้ รงิ แหลง่ ทีอ่ ยแู่ หลง่ ใดแหล่งหนง่ึ
5. โครงงาน “เคร่ืองปลอกเปลือกมะพร้าว” จัดเป็น 11. ความสมั พนั ธข์ องสง่ิ มชี วี ติ ทม่ี กี ารกนิ กนั เปน็ ทอดๆ
โครงงานประเภทใด ในแนวเดียวกนั เรยี กวา่ อะไร
ก. โครงงานประเภทส�ำรวจ ก. หว่ งโซ่อาหาร
ข. โครงงานประเภททดลอง ข. สายใยอาหาร
ค. โครงงานประเภทค้นคว้า ค. ภาวะทีต่ ้องพ่ึงพากนั
ง. โครงงานประเภทสิ่งประดษิ ฐ์ ง. การถ่ายทอดพลงั งาน

แบบฝกึ ทกั ษะทางวชิ าการเพอ่ื ยกผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จังหวดั เลย 11


12. “วัฎจักรของอทุ กวิทยา” คอื ข้อใด 20. สารใดตอ่ ไปนี้ มีสภาพเปน็ เบส ทั้งหมด
ก. วฎั จกั รของดิน ก. น้ำ� มะนาว นำ�้ อดั ลม
ข. วฎั จักรของนำ�้ ข. น�้ำมะขาม น้�ำเกลอื
ค. วฎั จักรของแร่ธาต ุ ค. สารละลายผงซักฟอก น�้ำข้เี ถ้า
ง. วฎั จักรของอากาศ ง. สารละลายยาสีฟนั น้ำ� ยาล้างจาน
13. โครงสร้างของโลกแบง่ เป็นกีช่ ัน้ 21. พลังงานในข้อใด จดั เป็นพลงั งานสะอาด
ก. 2 ชั้น ข. 3 ชนั้ ก. พลังงานจากถา่ นหนิ
ค. 4 ชนั้ ง. 5 ชน้ั ข. พลังงานแสงอาทิตย์
14. สว่ นใดทอี่ ยชู่ ั้นนอกสดุ ของโลก ค. พลังงานชวี ภาพ
ก. เปลอื กโลก ข. แก่นโลก ง. พลงั งานจากน�้ำมนั เชอื้ เพลงิ
ค. แมนเทิล ง. ข้วั โลก 22. พลงั งานแสง สามารถเปลยี่ นเปน็ พลงั งานรปู ใดได้
15. สาเหตุสำ� คญั ทที่ ำ� ใหเ้ กดิ สภาพมลพษิ ทางอากาศ ก. พลังงานกล
ในกรงุ เทพมหานคร คอื อะไร ข. พลงั งานไฟฟ้า
ก. การจราจรทต่ี ดิ ขดั มาก ค. พลงั งานเสยี ง
ข. โรงงานอุตสาหกรรมตา่ ง ๆ ง. พลงั งานลม
ค. อาคารบ้านเรือน และตกึ สูง ๆ 23. เพระเหตุใดเราจึงเห็นดวงอาทิตย์เคล่ือนทีผ่าน
ง. การใชโ้ ฟมและถงุ พลาสติกใส่อาหาร กลุ่มดาวจักรราศี
16. เคร่ืองมือที่ใช้วัดความกดอากาศ คือ เครื่องมือ ก. กลุ่มดาวจักรราศโี คจรผา่ นดวงอาทิตย ์
อะไร ข. โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์
ก. เทอรม์ อมเิ ตอร์ ข. ไฮโกรมิเตอร์ ค. ดวงอาทิตยโ์ คจรรอบโลก
ค. บารอมเิ ตอร ์ ง. แอนนมิ อมเิ ตอร์ ง. โลกหมุนรอบตวั เอง
17. . ข้อใดหมายถึงกระบวนการรีไซเคลิ 24. เพราะเหตุใดเราจึงเหน็ ดาวขึน้ และตก
ก. วัสดใุ ช้แล้ว --> ขาย ก. ดวงอาทติ ยโ์ คจรรอบโลก
ข. วัสดใุ ชแ้ ล้ว --> เผาท�ำลาย ข. โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์
ค. วัสดใุ ช้แล้ว --> ท�ำความสะอาด --> ใช้ใหม่ ค. โลกหมุนรอบตวั เอง
ง. วัสดใุ ชแ้ ล้ว --> กระบวนการผลติ --> วัสดุใหม่ ง. ดาวโคจรรอบโลก
18. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ สถานะของสาร 25. กลุ่มดาวท่ีช่วยให้เราหาดาวเหนือได้ง่ายข้ึนคือ
ก. แก๊ส ข. ของแข็ง กลมุ่ ดาวใด
ค. ของเหลว ง. ของละลาย ก. กลมุ่ ดาวนายพราน
19. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ลกั ษณะธาตขุ อง เหลก็ (Fe) ไดถ้ กู ตอ้ ง ข. กลุม่ ดาวหมีใหญ่
ก. เป็นธาตุโลหะ น�ำไฟฟา้ และนำ� ความรอ้ น ค. กลมุ่ ดาวค้างคาว
ข. เปน็ ธาตทุ ี่มสี มบตั ิเปน็ ทั้งโลหะ และอโลหะ ง. ถกู ทั้ง ข้อ ข. และ ข้อ ค
ค. มคี วามเปราะและนำ� ไฟฟา้ ได้เล็กน้อย
ง. มจี ดุ เดือดและจุดหลอมเหลวต่ำ�

12 แบบฝึกทกั ษะทางวิชาการเพือ่ ยกผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย


26. ข้อใดกล่าวได้ถกู ตอ้ งในการหาดาวเหนือ
ก. กลุ่มดาวนายพรานจะหันหัวเข้าหาดาวเหนือ
เสมอ
ข. กลุ่มดาวนายพรานจะข้ึนและตก ในแนว
ทิศเหนือ–ทศิ ใต้เสมอ
ค. ดาว 3 ดวงแรกของกลมุ่ ดาวหมใี หญจ่ ะชขี้ นึ้ ไป
ยงั ดาวเหนอื
ง. ดาว 3 ดวงแรกของกลมุ่ ดาวหมีใหญ่จะอยู่หา่ ง
จากดาวเหนือ 4 เท่า
27. เราใชก้ ลุ่มดาวใดในการบอกเวลา
ก. กลุ่มดาวไถ
ข. กลุ่มดาวลูกไก่
ค. กลมุ่ ดาวจระเข ้
ง. กลุม่ ดาวคา้ งคาว
28. อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดใดท�ำหน้าที่เพ่ิมความต่างศักย์
ไฟฟา้
ก. ฟิวส ์ ข. บลั ลาสต ์
ค. สตารเ์ ตอร ์ ง. มิเตอรไ์ ฟฟา้
29. การเดินสายไฟฟ้าในอาคาร ควรเลือกใช้การเดิน
สายไฟฟ้าแบบใดเหมาะสมทส่ี ุด
ก. การเดินสายไฟฟ้าแบบบนผนัง
ข. การเดินสายไฟฟ้าแบบท่อสอด
ค. การเดินสายไฟฟ้าแบบฝงั ในผนงั
ง. การเดินสายไฟฟ้าแบบท่อฝังในผนัง
30. การออกแบบการเดนิ สายไฟฟ้าในบา้ น ควรค�ำนงึ
ถงึ ส่งิ ต่อไปนี้ ยกเวน้ ขอ้ ใด
ก. ความสะดวก
ข. ความประหยัด
ค. ความปลอดภัย
ง. ความเป็นระเบียบเรยี บรอ้ ย

แบบฝึกทักษะทางวิชาการเพือ่ ยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จังหวดั เลย 13


สรปุ เน้อื หา

รายวิชา ภาษาไทย

พท21001

การฟัง และการดู
มารยาทในการฟังและการดู
1. เมอื่ ฟังอยูเ่ ฉพาะหน้าผ้ใู หญ่ ควรฟังโดยสํารวมกริ ิยามารยาท
2. การฟังในทป่ี ระชุม ควรเขาไปนั่งก่อนผ้พู ดู เริ่มพูด โดยนงั่ ที่ด้านหนา้ ใหเ้ ต็มเสียก่อน
3. ฟังดว้ ยใบหน้าย้มิ แยม้ แจ่มใสเป็นกนั เองกบั ผู้พูด ปรบมอื เมอื่ มกี ารแนะนําตัวผ้พู ูดและเม่อื พูดจบ
4. เมอ่ื ฟงั ในที่ประชุม ตอ้ งตงั้ ใจฟงั และจดบนั ทึกขอ้ ความท่สี นใจ หรือข้อความท่สี ําคญั หากมีข้อสงสัย
เก็บไวถ้ ามเมอื่ มีโอกาสและถามดว้ ยกิริยาสภุ าพ
5. เมอื่ ไปดูละคร ภาพยนต์ หรอื ฟังดนตรี ไม่ควรสรา้ งความราํ คาญให้บคุ คลอืน่ ควรรกั ษา มารยาทและ
สาํ รวมกิรยิ า
การพดู
องคป์ ระกอบของการพดู ประกอบดว้ ย
1. ผพู้ ดู คอื ผูท้ มี่ ีจดุ มุง่ หมายสาํ คัญทจ่ี ะเสนอความร้คู วามคดิ เหน็ เพ่อื ใหผ้ ฟู้ งั ได้รบั ร้แู ละเขา้ ใจ โดยใช้
ศิลปะการพดู อยา่ งมีหลกั เกณฑ์ และฝึกปฏิบตั ิอยู่เปน็ ประจาํ
2. เน้ือเร่ือง คือ เร่อื งราวทีผ่ ้พู ดู นําเสนอเป็นความร้หู รือความคดิ เหน็ ให้ผฟู้ งั ไดร้ ับรู้ อยา่ งเหมาะสม
3. ผฟู้ ัง คือ ผูร้ บั ฟังเรื่องราวตา่ งๆ ท่ีผู้พดู นําเสนอ ซ่ึงผฟู้ ังตอ้ งมหี ลักเกณฑแ์ ละมารยาท ในการฟงั
การอา่ น
หลกั การอ่านในใจ
1. ต้งั จดุ มุ่งหมาย ว่าจะต้องอา่ นเพื่ออะไร อ่านเพ่ือความรู้ หรอื จะอา่ นเพื่อความเพลดิ เพลิน
2. ตง้ั สมาธใิ นการอ่าน ใหจ้ ดจอ่ อยู่กบั หนังสอื ท่ีอา่ น จะทาํ ใหอ้ า่ น ได้เร็ว และเขา้ ใจได้ดี
3. ต้ังเป้าการอา่ นโดยกาํ หนดปรมิ าณท่ีจะอ่านไว้ล่วงหนา้ แลว้ จบั เวลาในการอา่ นเพ่ือทจ่ี ะ พฒั นาการ
อา่ นครั้งต่อไปให้เร็วข้ึน
4. ไมอ่ ่านหนงั สอื ทีละคาํ การอา่ นกวาดสายตาใหก้ ว้างขึน้ อา่ นให้ครอบคลมุ ข้อความทีอ่ ยตู่ ่อหน้าอยา่ ง
เรว็ ไปเรอื่ ยๆ
5. ลองถามตนเองว่าเปน็ เรื่องเกี่ยวกบั อะไร เกดิ กบั ใคร ทไ่ี หน อย่างไร ถา้ ตอบได้แปลวา่ เข้าใจ แต่ถ้า
ตอบไม่ได้ก็ตอ้ งกลบั ไปอา่ นใหม่
6. จบั ใจความสาํ คญั ให้ได้ และบนั ทกึ เป็นความรคู้ วามเขา้ ใจ และความคิดไว้เพราะจะทาํ ให้ จดจําเรอ่ื ง
ทอี่ ่านไดอ้ ยา่ งแม่นยํา และสามารถนําไปใช้ประโยชน์ได้ทนั ที
หลกั การอ่านออกเสียง
1. อา่ นออกเสียงใหถ้ ูกตอ้ งและชัดเจน
2. อ่านให้ฟงั พอท่ผี ู้ฟังได้ยินท่วั ถึง

14 แบบฝึกทักษะทางวิชาการเพือ่ ยกผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จังหวัดเลย


3. อ่านใหเ้ ปน็ เสยี งพูดโดยธรรมชาติ
4. รู้จักทอดจังหวะและหยดุ หายใจเมอื่ จบข้อความตอนหนง่ึ ๆ
5. อา่ นให้เข้าลักษณะของเน้ือเร่ือง เชน่ บทสนทนา ตอ้ งอา่ นให้เหมือนการสนทนากัน อา่ นคาํ บรรยาย
พรรณนาความร้สู ึก หรือปาฐกถาก็อ่านใหเ้ ขา้ กบั ลักษณะของเร่ืองน้ันๆ
6. อา่ นออกเสียงและจังหวะใหเ้ ปน็ ตามเน้ือเรอื่ ง เช่น ดหุ รือโกรธ
7. ถ้าเปน็ เร่ืองรอ้ ยกรองต้องคาํ นึงถึงส่ิงตอ่ ไปนดี้ ว้ ย
7.1 สัมผัสครุ ลหุ ต้องอ่านใหถ้ ูกต้อง
7.2 เนน้ คํารบั สมั ผสั และอ่านเอื้อสมั ผัสใน เพือ่ เพมิ่ ความไพเราะ
7.3 อ่านใหถ้ ูกต้องตามจงั หวะและทํานองนิยม
หลักการอา่ นเร็ว
1. มสี มาธใิ นการอา่ น ในขณะที่อา่ น จะตอ้ งสนใจและเอาใจจดจ่อต่อส่งิ ทอี่ า่ น
2. จับตาที่ตวั หนงั สอื โดยใช้สายตาจับอย่ใู นช่วงเวลาเล็กน้อยแล้วเคลอื่ นสายตาต่อไปอยา่ ง รวดเรว็
3. ขยายชว่ งสายตาใหก้ ว้าง
4. ไม่อา่ นยอ้ นกลบั ไปกลับมา หมายถงึ การทวนสายตายอ้ นกลบั ไปกลับมายงั คาํ ทีไ่ มเ่ ข้าใจ
5. เปลี่ยนบรรทดั ให้แมนยํา
การอ่านเพื่อเข้าใจโวหารตา่ ง ๆ
1. บรรยายโวหาร คอื การเล่าเรอ่ื งไปตามเหตุการณ์ เชน่ การเขียนบทความ การเลา่ นทิ าน เล่าประวตั ิ
บคุ คล ตํานาน ต้องอธบิ ายให้เปน็ ไปตามลาํ ดบั
2. พรรณนาโวหาร คือ การเขียนเลน่ เรอื่ งอยา่ งประณตี มักแทรกความรูส้ ึกของผู้เขยี น ด้วยทําใหผ้ ้อู า่ น
เกิดความร้แู ละอารมณ์คลอ้ ยตาม
3. เทศนาโวหาร คือ กระบวนความอบรมสั่งสอน อธิบายในเหตุผล หรือช้ีแจงให้เห็น คุณและโทษ
เพือ่ ให้ผู้อา่ นเชื่อถอื ตาม
4. สาธกโวหาร คอื การเขียน โดยยกตวั อยา่ งประกอบเพือ่ ใหผ้ อู้ า่ นเขา้ ใจเรือ่ งได้ชดั เจน ย่ิงข้ึนนยิ มใช้ใน
การบรรยายโวหาร และเทศนาโวหาร
5. อปุ มาโวหาร คอื การเขยี น โดยยกข้อความเปรยี บเทยี บเพอ่ื ใหผ้ อู้ ่านเข้าใจเรอ่ื งราวตา่ งๆได้ดียิง่ ขน้ึ
หนังสือและสอื่ สารสนเทศ
1. ตาํ ราวชิ าการ เปน็ หนงั สอื ทใี่ หค้ วามรดู้ า้ นตา่ งๆ โดยเฉพาะอาจจะเสนอทฤษฎหี รอื เนอื้ หา สาระอยา่ ง
กว้าง หรอื เฉพาะดา้ นใดด้านหนึ่ง โดยผแู้ ตง่ มีจดุ มงุ่ หมายทางด้านวชิ าการโดยตรง
2. สารคดี เป็นหนังสือท่ีมีสาระในด้านให้ความรู้ ความคิด พร้อมท้ังให้ความเพลิดเพลินด้วย หนังสือ
ประเภทนีม้ ีหลายชนิด เช่น วทิ ยาศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ ประวัตบิ ุคคลสําคญั
3. บันเทงิ คดี เปน็ หนังสอื ทแี่ ตง่ เพ่อื ม่งุ ให้ผู้อ่านเกิดความสนุกสนานเพลดิ เพลิน
4. วารสารและหนงั สอื พมิ พ์ หนงั สอื ประเภทนคี้ นทวั่ ไปไดอ้ า่ นบอ่ ยกวา่ หนงั สอื ประเภทอนื่ ๆ ในการผลติ
หนังสือประเภทนี้ตอ้ งแขง่ กับเวลา
การเขียน
ข้นั ตอนการสร้างแผนภาพความคิด มีดงั นี้
1. กําหนดชอื่ เร่ือง หรือความคิดรวบยอดสาํ คัญ
2. ระดมสมองทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ช่อื เรือ่ ง หรือ ความคดิ รวบยอดสาํ คัญเป็นคาํ หรอื วลนี ้นั ๆ แลว้ จดบนั ทึก

แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพ่ือยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย 15


3. นาํ คาํ หรือวลที ี่จดบันทกึ ทีเ่ ก่ียวเนื่องสมั พนั ธ์กันมาจัดกลมุ่ ต้งั ช่ือ และเรยี งลาํ ดับกลมุ่ คํา
4. ออกแบบแผนภาพความคิด โดยเขียนช2ื่อ1เร่ืองไว้กลางหน้ากระดาษ แล้ววางช่ือกลุ่มคํา หัวข้อย่อย
รอบช่ือเร่ือง นาํ คาํ ท่ีสนับสนุนวางรอบช่ือกลุ่มคาํ แล้วใช้เส้นโยงกลุ่มคําให้เหน็ ความสมั พนั ธ์
ห1เงราล.ยีน กหอภักกาาลกกาวจรษกัาา่าใเภรรรกชากหยแีใทภ้าาชกาสษมร่ีเารปภ้วใดาษา1 ชใา่น็ายงแ.ชาภภ้สษถหทบทภ้ภาุนาึงาาบมาเี่าษษปทงษษภแาากา็นรยาผาแาาพทททษถนบรจา่เีึง่เีากบปปงนทไ็แกน็็นดภ์ใ่ีผกาชท้ทานรภาอ้าษาแรกางยงเาลไ็ษกกขา่ดทะาางายี ้ไี่ใภรเทรนมชปแาาตเ่้น็อษลงปํายกทะา็นราท่าไาาทมรงงาวาก่เเงิชมปปงกาากักน็ร็านกาใรททาชมรมาร้ใาลี งนกังักแกใกกษลชาาาใระ้ณรรนเะกกขมเาาียปรีรลนน็บเักขแันหษยี บทนนณบกึงั หะสพรนเือาิธปยงัรี สถ็นงาอาืูกชแนรตกบากอ้าชบรางกรพตกาปาิธารมรี รกะแถกชาบูกลรุมบต่ากวแ้เลอปรผา่งา็นวนตยรตขางา้นมอายนงแงภาบคนาบาํษคกแาาํลผกอ่านลวาขา่จเปวอเดิงปภดิ างษานา
การแส2ด.งภสานุ ษทารไพมจเ่ ปนน็ ์ กทาารงเกขาียรนตาํ ราวิชาการ และ การบันทึกรายงานการประชมุ เปน็ ตน้
หมา2ย. ถภงึ าษภาไษมา่เทป่ใี็นชทถ้ าองยกคาาํรง่ายๆ นาํ้ เสยี งเปน็ กันเองไมเ่ ครง่ เครยี ด แสดงความใกล้ชดิ สนทิ สนม
ระห ว่างผู้สง่ ส าหรแมลาะยผถู้รงึ บั ภสาาษราทอาใี่ ชจถ้ เรอียยกควาํ า่งภา่ ยาๆษานปำ้� าเสกยีกง็ไเดป้ น็ภกาษนั เาอไมงไ่เมปเ่ น็คทรง่าเงคกรายี รดจแะสตดอ้ งงคพวจิามารใกณลาช้ วดิ่าสในชทิ้เพสือ่นอมะรไะรหวา่ ง
สถผานสู้ ง่กสาารรณแ์ใลดะผเพรู้ บัื่อสผาูพ้ รูดอจาะจสเรายีมกาวรา่ถภนาํ ษไปาปใชาไ้กดก้อไ็ ยดา่้ ภงาเหษมาไามะเ่สปมน็ กทบั าวงกัตาถรปุ จระตสอ้งคงพ์แจิลาะรสณถาวนา่ กใาชรเ้ ณพอื่์ อะไร สถานการณใ์ ด
เพอื่ ผพู้ ดู จะสามารถนําไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกับวตั ถุประสงค์และสถานการณ์

สแกนเพอ่ื ศึกษาเพิ่มเตมิ

16 แบบฝึกทักษะทางวชิ าการเพื่อยกผลสัมฤทธิท์ างการเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จังหวัดเลย


แบบทดสอบ รายวิชาภาษาไทย พท21001

จงเลือกค�ำตอบท่ีถกู ตอ้ งเพยี งขอ้ เดียว

1. “ขบวนรถเทรลเลอรแ์ ละรถบรรทกุ จำ� นวน 100 คนั 5. บคุ คลในขอ้ ใดขาดมารยาทในการฟังมากท่สี ุด
ไดข้ บั เขา้ สกู่ รงุ เทพมหานครเพอื่ เรยี กรอ้ งในทาง รฐั บาล ก. ด�ำฟังไปและแอบอมลกู อมไปขณะที่ผพู้ ูด
ปรบั ลดคา่ น�ำ้ มันดีเซลลง โดยใช้ชอ่ื กจิ กรรมวา่ ทรคั ก�ำลังพูด
เพาเวอร์ ซงึ่ ถนนสายเอเชีย เร่มิ ต้นจากสถานตี รวจ ข. แดงคุยกบั เพอ่ื นและส่งเสยี งรบกวน ขณะที่ฟงั
สอบน�้ำหนักบางปะอินขาเข้า มุ่งไปยังกระทรวง ผอู้ ่นื พดู
พลังงาน โดยมีเจ้าหน้าท่ีต�ำรวจทางหลวงและเจ้า ค. เขยี วไปถงึ สถานทฟี่ งั ทนั เวลาทผี่ กู้ ำ� ลงั จะเรม่ิ พดู
หน้าท่ีต�ำรวจจราจรในพ้ืนท่ีคอยดูแลการจราจรเพ่ือ พอดี
ไม่มีผลกระทบกับประชาชนท่ใี ชร้ ถใชถ้ นนคนั อน่ื ” ง. แดงตง้ั ใจจดบันทึกขณะทฟี่ งั โดยไมม่ องผ้พู ดู
ข้อใดคอื ใจความส�ำคญั ของขา่ วน้ี 6. ขอ้ ใดเปน็ จดุ มงุ่ หมายในการพดู เพอื่ หาเสยี ง เลอื กตงั้
ก. การเรียกรอ้ งใหป้ รับลดคา่ น้ำ� มัน ก. สร้างจินตนาการ ข. ใหข้ อ้ มูลความรู้
ข. การรณรงคใ์ หเ้ ข้ารว่ มกจิ กรรมทรัคเพาเวอร์ ค. โนม้ นา้ วชักจูง ง. ให้ความเพลดิ เพลิน
ค. การปอ้ งกันความปลอดภยั ให้กบั ประชาชน 7. บุคคลในขอ้ ใดมีลักษณะการพูดที่ดี
ง. วธิ กี ารเดินทางไปยงั กระทรวงแรงงาน ก. แกว้ พูดเสยี งเบาเพราะขาดความเชอื่ มัน่ ใน
2. ขอ้ ใดไมใ่ ชห่ ลักการฟัง อย่างมวี จิ ารณญาณ ตนเอง
ก. ปรีชาวิเคราะห์เพือ่ แยกขอ้ เท็จจริงออกจาก ข. กบพูดนอกประเด็นเพราะขาดการซกั ซ้อมจงึ
ขอ้ คดิ เหน็ จำ� เนอ้ื หาไมไ่ ด้
ข. วภิ าะประเมินคุณค่าของ วรรณคดีจากในด้าน ค. ก้านใชภ้ าษาทเ่ี หมาะสมกับผูฟ้ ังและมี
คุณค่าวรรณศิลป ด้านสังคม และเน้ือหา ความ ไพเราะน่าฟัง
ค. มานพตคี วามความหมายทแ่ี ฝงในเรอ่ื งเพอ่ื ง. กฟ๊ิ ตนื่ เตน้ ลกุ ลล้ี กุ ลน รบี พดู จนทาํ ใหเ้ สยี บคุ ลกิ
วเิ คราะหแ์ ละทำ� ความเข้าใจเน้อื หา 8. ข้อใดเปน็ หลกั สำ� คญั ของการอ่านออกเสียง
ง. สมรักษใ์ ชป้ ระสบการณข์ องตนเองท่มี ีตดั สนิ ก. การอา่ นออกเสียงใหถ้ ูกตอ้ งและชัดเจน
และประเมินค่าขอ้ มลู แต่เพยี งอย่างเดยี ว ข. การอา่ นทตี่ ามใจผอู้ า่ นวา่ ตอ้ งการจะอา่ นอยา่ งไร
3. ข้อใดไมใช่องค์ประกอบสําคัญของการพูด ค. การอา่ นทม่ี คี วามสนกุ สนานเกดิ ความจรรโลงใจ
ก. ผพู้ ูด ง. การอา่ นทรี่ วดเร็ว เนน้ ใจความสำ� คัญของเรื่อง
ข. ผฟู้ ัง 9. อปุ มาโวหารหมายถึงขอ้ ใด
ค. สาระทีพ่ ดู ก. กระบวนความอบรมส่งั สอน อธบิ ายในเหตุผล
ง. อปุ กรณ์ประกอบการพูด หรอื ชแ้ี จงใหเ้ หน็ คณุ และโทษเพอ่ื ใหผ้ อู้ า่ นเชอ่ื
4. บคุ คลในข้อใดไมม่ ีมารยาทในการฟังมากท่ีสดุ ข. การเขียน โดยยกขอ้ ความเปรียบเทียบเพื่อให้
ก. มาลีปรบมือเมื่อผู้พดู พดู จบ ผูอ้ า่ นเข้าใจเร่ืองราว ต่างๆ ได้ดยี งิ่ ขน้ึ
ข. สนุ ารีสาํ รวมกริ ยิ ามารยาทขณะฟังผ้ใู หญ่พดู ค. การเขยี น โดยยกตวั อยา่ งประกอบเพอ่ื ใหผ้ อู้ า่ น
ค. ปนดั ดายกมือถามเมอ่ื ผู้พดู เปิดโอกาศใหถ้ าม เขา้ ใจเรอื่ งได้ชดั เจน
ง. ปรณี าคยุ โทรศัพทก์ ับเจา้ นายต่อหนา้ ผู้พดู ใน ง. การเขยี นเล่าเรอื่ งอย่างประณีต มกั แทรกความ
ขณะทผี่ พู้ ดู ก�ำลังพดู อยู่ ร้สู กึ ของผู้เขียน ดว้ ยทําใหผ้ อู้ ่านเกิดความรู้
และอารมณ์คลอ้ ยตาม

แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพอ่ื ยกผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 17


10. โคลงบทหน่ึงมี ๔ บท บาทหนึ่งมี ๒ วรรค คือ 16. ส่วนประกอบของรายงาน ข้อใดล�ำดับได้ถูกต้อง
วรรคหนาและ วรรคหลัง มีจํานวนคําเท่ากัน คือ ๕ ทสี่ ุด
คํา และ ๒ คาํ ยกเว้น วรรคหลังในบาทที่ ๔ จะมี ๔ ก. ส่วนนำ� สว่ นเนอื้ เรือ่ ง ส่วนสรปุ
คาํ เรยี กวา่ อะไร ข. ส่วนเน้อื เร่อื ง ส่วนสรปุ สว่ นนำ�
ก. กลอนแปด ข. กลอนสภุ าพ ค. สว่ นนำ� ส่วนเนือ้ เรอื่ ง สว่ นขยาย
ค. โคลงสีส่ ุภาพ ง. กาพยย์ านี ง. สว่ นขยาย สว่ นเน้อื เรอื่ ง ส่วนสรุป
11. หากตอ้ งการเลอื กอา่ นหนงั สอื ทแ่ี ตง่ เพอ่ื มงุ่ ใหผ้ อู้ า่ น 17. ข้อใดไมใ่ ชค่ ำ� ประสม
เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินควรเลือกอ่านหนังสือ ก. แมวน�้ำ ข. พอ่ ครัว
ประเภทใด ค. ขวดแกว้ ง. ยส่ี บิ
ก. สารคดี ข. นวนิยาย 18. ขอ้ ใด ใชเ้ ครอื่ งหมายวรรคตอนไดถ้ ูกต้อง
ค. ตาํ ราวิชาการ ง. หนงั สือพมิ พ์ ก. โอโ้ ฮ! จรงิ หรอื น่ี
12. หากต้องการเลือกอ่านหนังสือเก่ียวกับการด�ำรง ข. คนอย่างเธอ? มีแต่คนชน่ื ชม
ชวี ิตของชา้ งปา่ ควรเลอื กอ่านหนังสือประเภทใด ค. แทบไม่เชือ่ “สายตา”
ก. สารคดี ข. นวนิยาย ง. อะไรฯ ก็ช่างดไี ปหมด
ค. ตําราวชิ าการ ง. หนงั สือพมิ พ์ 19. ข้อใดเขียนยอ่ ไดไ้ มถ่ ูกต้อง
13. ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ระโยชนข์ องการเขยี นแผนผงั ความคดิ ก. โรงเรยี น ย่อเป็น รร.
ก. สามารถจัดกลุม่ ขอ้ มูลไดอ้ ยา่ งเป็นระบบ ข. ช่วั โมง ย่อเป็น ชม.
ข. สามารถจัดลำ� ดับความสัมพันธ์ของขอ้ มลู ได้ ค. จังหวัด ยอ่ เป็น จ.
ค. สามารถทำ� ใหเ้ นอื้ หาทซี่ บั ซอ้ น เขา้ ใจไดง้ า่ ยยงิ่ ขนึ้ ง. รองศาสตราจารย์ ยอ่ เปน็ ผศ.
ง. สามารถยกระดบั ความสามารถในการเขยี น 20. ขอ้ ใดเป็นประโยคความซอ้ น
14. ข้อใดควรเป็นหัวข้อแรกมากท่ีสุด ของการสร้าง ก. ปราณขี บั รถตามลำ� พัง
แผนผังความคิดจากตัวเลือกดังกล่าวท่ีมีความ ข. วนิดาไม่ไดก้ นิ ขา้ วเชา้ เพราะต่นื สาย
สอดคล้องกนั ค. โชคชอบอา่ นนิทาน
ก. สตั ว์ ง. แกว้ ก�ำลังซอ้ื ไกท่ อด
ข. ส่งิ มีชวี ิต 21. ประโยคใดเปน็ ประโยคทีเ่ นน้ ผถู้ กู กระท�ำ
ค. ส่ิงแวดลอ้ มรอบตัวเรา ก. แมวไมถ่ กู กบั สนุ ขั
ง. สง่ิ ทม่ี นุษยส์ รา้ งข้ึน ข. บ้านฉันสีขาวหลงั ใหญ่
15. ข้อใดไม่ใช่ ค�ำขวญั ค. นกั เรยี นถูกครหู ักคะแนนเพราะไมท่ �ำการบา้ น
ก. เด็กไทยวิถีใหม่ รวมไทยสรา้ งชาติ ด้วยภกั ดมี ี ง. วันทาไมช่ อบกนิ ผัก
คุณธรรม 22. “เราไมค่ วรใหป้ ลาแกเ่ ขา แตเ่ ราควรใหเ้ บด็ ตกปลา
ข. สุขสันต์วันขึ้นปีใหมไ่ ทย แกเ่ ขา” จากขอ้ ความดังกลา่ ว ไดข้ ้อคิดในเร่อื งใด
ค. มุ่งมั่น แกไ้ ข ขจดั ภัยยาเสพตดิ ก. การมนี ำ้� ใจใหแ้ ก่กนั
ง. ปดิ นำ�้ ปดิ ไฟ รวมพลงั คนไทยร่วมกนั ประหยัด ข. การพ่งึ พาตนเอง
พลงั งาน ค. การพ่ึงพาซง่ึ กันและกนั
ง. ความพยายามคอื หนทางแห่งความสำ� เรจ็

18 แบบฝึกทกั ษะทางวชิ าการเพอื่ ยกผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย


23.“ถ้าเธอใส่เส้ือสีขาวหรือด�ำ ไปงานศพจะดีกว่า” 29. ขอ้ ใดไมจ่ �ำเป็นต้องใชภ้ าษาท่เี ป็นทางการ
จากข้อความดังกลา่ ว ผู้พูดมีเจตนาใด ก. คยุ กับเพื่อนสนทิ
ก. ต�ำหน ิ ข. กล่าวสุนทรพจน์
ข. ถาม ค. การเขยี นต�ำราเรยี น
ค. แนะน�ำ ง. การเขียนรายงานการประชุม
ง. ชมเชย 30 อาชีพใดใช้งานเขยี นมากที่สุด
24.ขอ้ ใดเปน็ มารยาทสำ� คญั ของผเู้ ขยี นงานเชงิ วชิ าการ ก. นกั แสดงละครเวท ี
ก. ใชศ้ ัพท์เฉพาะทางทอ่ี ธบิ ายยาก ข. บรรณาธิการ
ข. อา้ งอิงแหล่งที่มาของขอ้ มลู ท่ีเขียน ค. นักจดั รายการวิทย ุ
ค. ใชภ้ าษาไม่เป็นทางการเพอื่ ใหร้ ู้สกึ เป็นกนั เอง ง. พธิ กี รงานเปดิ ตวั สินคา้
ง. ปรบั เปล่ยี นข้อมลู ให้เป็นไปตามทผ่ี เู้ ขยี นคดิ
25. การเขยี นในข้อใดมีลักษณะการเขียนอธิบาย
ก. การเขียนรายงาน
ข. การเขยี นวจิ ารยส์ นิ คา้
ค. การเขยี นชี้แจง
ง. การเขียนแสดงความคดิ เห็น
26. ข้อใดเป็นประโยคบอกเลา่
ก. ฉนั ชอบเดินทางท่องเทย่ี ว
ข. ฉันไม่ไดเ้ ดินทางไปต่างจังหวดั
ค. เธอถา่ ยภาพไมไ่ ด้นะ มีป้ายหา้ มตรงน้ี
ง. เธอชอบด่มื นมรสหวานแตฉ่ นั ชอบรสจืด
27. พรุ่งน้ฉี นั ตอ้ งส่งรายงาน ตอนเย็นคอ่ ยท�ำแล้วกนั
ตรงกบั ส�ำนวนใด
ก. หวังน้ำ� บอ่ หน้า
ข. น้ำ� พึง่ เรือเสือพึ่งป่า
ค. ตำ� ขา้ วสารกรอกหม้อ
ง. น�้ำรอ้ นปลาเปน็ นำ้� เย็นปลาตาย
28. อดทน ลาํ บากกอ่ น สบายภายหลงั ตรงกบั สำ� นวนใด
ก. สุกเอาเผากนิ
ข. ย้อมแมวขาย
ค. มืดแปดด้าน
ง. อดเปร้ยี วไวก้ ินหวาน

แบบฝึกทกั ษะทางวิชาการเพอ่ื ยกผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 19


สรปุ เนอ้ื หา

รายวชิ า ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจำ� วัน

พต21001

คณุ คดิ อย่างไร(What do you think?)
ฉนั คดิ ว่า/คุณควรจะ
I think. ฉันคดิ วา่ I suggest you wear a raincoat. ฉันแนะนำ� ใหค้ ณุ ใส่ชุดกันฝน
I recommend you to visit the museum. ฉันแนะนำ� ให้คณุ ไปชมพพิ ธิ ภณั ฑ์
เห็นดว้ ยและไม่เห็นด้วย
I completely agree. ผมเห็นด้วยมากๆ เลย You’re absolutely right. คุณพูดถกู แล้วจริงๆ
I agree with you. ฉันเหน็ ดว้ ยกับเธอ I totally agree with you.ชน้ั เห็นดว้ ยกับเธอ100%
Absolutely! / นัน่ แหละ I’m not sure. ฉันไมแ่ น่ใจ
I don’t agree! ฉันไมเ่ หน็ ด้วยค่ะ I don’t agree with you. เราไม่เหน็ ดว้ ยกบั คุณนะ
การขอรบกวน
Excuse me! ขอโทษนะคะ/ครับ
Excuse me! ใช้พดู เมอื่ 1. เวลาจะดึงความสนใจจากคนอนื่ อยา่ งสภุ าพ 2. ใช้เวลาเรามเี สยี งจากรา่ งกาย
ออกมา (เรอ ผายลมหรือจาม) 3. แสดงการขอโทษท่ีเราขดั จังหวะผ้อู ่นื 4. ขอใหค้ นอ่นื ขยับเพ่ือเราจะได้เดินผ่าน
ไปได ้ 5. บอกผ้อู ่นื อย่างสุภาพเวลาทเี่ ราจะตอ้ งไปจากท่ีตรงน้ัน 6. ใช้เวลาจะออกความเหน็ ที่ขดั แยง้ กับคนอืน่
7. ใชเ้ วลาจะขอใหพ้ ูดซำ�้ (สว่ นมากเปน็ อเมริกันใช้ pardon? มากกวา่ )
Do you mine if I want to borrow you pen.จะเป็นไรมนั้ ถา้ ฉนั จะขอยมื ปากกาคณุ หนอ่ ย
May I go out, please. ฉนั ขอออกไปขา้ งนอกได้ม้ยั คะ่
Sorry to bother you./Sorry to disturb you. ขอโทษทร่ี บกวนนะครับ
Would you mind helping me with this document? รังเกียจม้ยั ถ้าจะชว่ ยฉันเกีย่ วกับเอกสารน้ี
Can I talk to you for a minute/a second? ขอคุยดว้ ยสกั ครูน่ ะครับ
รปู แบบประโยคในภาษาองั กฤษ Types of English Sentences
ประโยคบอกเล่า(Affermative Statement/Dedication Sentence)
โครงสรา้ ง ประธาน(Sunject) + กรยิ า(Verb) + กรรม(Odject)
ตวั อย่าง I/You/We/They/He/She/it + sing(ร้อง) + songs(เพลง)
ประโยคคำ� ถาม (Question Sentense)
Yes/No Question
Are + you/we/they + Noun(ค�ำนาม)/Adjective(คณุ ศพั ท)์ + ?
Is +she/he/it + Noun(คำ� นาม)/Adjective(คุณศพั ท)์ + ?

20 แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพือ่ ยกผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย


Do/Did + you/we/they + Verb(กริยา) + ?
Does/Did + he/she/it + Verb(กริยา) + ?
ตัวอย่างเชน่
Are you happy? คณุ มคี วามสุขมย้ั ตอบ Yes, I am./No, I amn’t
Is she a student? เธอเปน็ นกั เรยี นม้ัย ตอบ Yes,she is./No, she isn’t.
Do you work here? คุณท�ำถามที่น่ีใชไ่ หม ตอบ Yes, I do./No, I don’t
Does he go to school?เขาไปโรงเรยี นม้ัย ตอบYes,he does./No, he doesn’t
Question Words
5Wh = What(อะไร) Where(ท่ีไหน) When(เมือ่ ไหร)่
Why(ท�ำไม) Who (ใคร) How(อยา่ งไร)
ตัวอย่างเชน่
What is it? น่ีคอื อะไร When will you arrive? คุณจะมาถึงเมอ่ื ไหร่
Who are you? คณุ เป็นใคร How can I call you? ใหฉ้ ันเรียกคุณวา่ อย่างไร
Where do you come from? คุณมาจากทไี่ หน
ประโยคปฏิเสธ(Nagative Statement)
ประโยคที่ปฏเิ สธโดยมคี �ำดังนี้ don’t, no, never, none, nothing, …
โครงสรา้ ง เติม do not หรือ does not หลงั ประธาน(Subject)หรอื หน้าคำ� กรยิ า(Verb) /
เตมิ not หลงั verb to be/เตมิ not หลัง can (not ลดรปู ได้ n’t)
ตวั อยา่ งเชน่
I do not sing songs. (I don’t sing songs. ฉันไม่รอ้ งเพลง
She is not a student. (She isn’t a student.) เธอไม่ใชน่ ักเรียน
He can not swim. (He can’t swim.) เขาไม่สามารถวา่ ยน�ำ้ ได้
ประโยคค�ำสง่ั (Imperative or Order sentense)
ตัวอยา่ งประโยค
Don’t take picture. หา้ มถา่ ยภาพ (ใช้ Don’t เพื่อส่งั หา้ ม)
NO food. ไมอ่ นญุ าติใหร้ บั ประทานอาหาร (ใช้ No เพ่อื สัง่ ห้าม)
No pet allowed. ไม่อนญุ าตให้สตั ว์เลี้ยงเขา้ (ใช้ No… allowed เพอื่ สัง่ ไม่อนุญาต)
ประโยคอุทาน (Exclamatory sentense)
โดยส่วนใหญม่ ักมเี ครื่องหมาย “ ! ” อยทู่ า้ ยประโยค
ตวั อย่างเช่น
I love it! ฉันรกั มนั ! How interesting this film is! หนงั เร่ืองนี้น่าสนใจอะไรอยา่ งน!้ี
What a pity! ช่างนา่ สงสารจัง What a mess! ช่างสับสนอะไรอย่างน้ี

แบบฝึกทกั ษะทางวิชาการเพอ่ื ยกผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จังหวดั เลย 21


ประโยคความรวม(Compound Sentences)
คอื ประโยคต้งั แตส่ องประโยคขึน้ ไป ที่ถูกเช่อื มตอ่ กัน แลว้ มคี วำมหมำยสมบูรณ์ โดยใช้กริยำ

วเิ ศษณ์เปน็ คำท่ีเช่ือมประโยคเข้ำด้วยกัน เช่น for and nor but or yet so(FANBOY)
ค �ำท่เี ตป ชวั่ือรอะมIคยโเตปlยขอืา่iัวรkคำปงอะeพเครชยโยะวยt่นำ่ eโำาคงยยaเมเIHIชคขำรalwน่eา้ตมiวnkดั้งaทมetdแ้วnrส่ี(iยตtteCดุseก่สhdtoแaันoอeลmhงa้วเblปiชpnsแiukร่นdoตebtะ่กuseโfsao็ยยnhscrคังtndeo,ไขeaมfylfSึ้นnwiส่eekedไำeteปcnเ.snhรatทฉจ็oreec,นัถ่ีorndbกูชfbcfiuเอdeeชutบnesื่อtI)ช’.มotาฉตdrแsนัอ่oyuลชกnecะอนั’tcเtบธesแอhชeoลกำad(้วFแ็ชv.มAลeอคีNะบeวBเกธnาOาอมoแYกหuฟ)็ชมgอhาบยmสกมำoแบnฟูรeณy.์ โดยใช้กริยาวิเศษณเ์ ปน็
He triedฉhนั isอยbำeกsซt,้อื yรeถtใหhมe่แdตiเ่dงnิน’ไtมsพ่ uอcceed. เขาพยายามท่ีสดุ แลว้ แต่ก็ยงั ไมส่ �ำเรจ็
I want to but a new car, but I don’t have enough money. ฉนั อยากซื้อรถใหมแ่ ต่เงินไม่พอ

สแกนเพ่ือศึกษาเพม่ิ เติม

22 แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพื่อยกผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย


แบบทดสอบ รายวชิ าภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจำ� วนั พต21001

จงเลอื กคำ� ตอบท่ถี ูกต้องเพียงขอ้ เดียว

1. Jame : Hi, how are you? 5.
Ann :I’m good. What about you? Manee : Hello May I speak to Wipha, please?
Jame :....................?.......................... Receptionist : Hello, Who is calling please?
Manee : It’s Manee
a. Thank you. Receptionist : .............?....................
b. It’s nice to see you.
c. I’m fine, thanks. a. Please hold on a minute.
d. Long time no see. b. I’m not Wipha.
2. c. Do you have the wrong number?
d. You can call back when I’m free.
Kwan : I would like to introduce you to 6. How about the weather?
my sister, this is Wandee. a. It’s amazing that I have never tried it.
and Wandee this is Suchat. b. It’s rainy, I don’t like it.
Suchat : Nice to meet you Wandee. c. I suggest going in winter.
Wandee: ……………?………………... d. It’s too loud
7. What are you interested in?
a. How do you do. a. I’m not ok with that.
b. It’s nice to meet you, too. b. I take a bus to school.
c. I’m so so, thank you. c. I sometimes go running.
d. I will see you again soon. d. I’m interested in singing.
3. A : Where do you come from? 8. What would you say when your friend gets
B :....................?.......................... sick?
a. I come from India. a. Relaxed
b. She’s Thai b. Well done
c. I’m Cannadian. c. Get well soon
d. I will live here for 2 months. d. Take it easy
4. What gesture do you use to call a waiter 9. What would you say when your friend has
in the restaurant? been promoted to be Manager?
a. say “Sorry” a. Congratuations
b. shake your’s head b. It’s not over
c. shout out loud c. How bad is it
d. wave yours hands d. I’m not agree with this

แบบฝึกทกั ษะทางวชิ าการเพ่อื ยกผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จังหวัดเลย 23


10. Which dress color should I wear to cele- 14. Which Question sentence is correct ?
brate on Christmas? a. She is a student.
a. I suggest you wear red and green. b. Is she a student?
b. I suggest you wear red and gold. c. A student is she.
c. I suggest you wear a ghost costume. d. She isn’t a student.
d. I suggest you wear a Thai costume. 15. Which sentence is the correct order?
11. a. I bought a new white car yesterday.
Saler : Good moring. ……………?……….………. b. I bought a car white new yesterday.
customer : Yes, I would like to have these c. Yesterday a car new white bough I.
shoes in black. d. Yesterday I bought white a new car.
16. Which one is correct?
a. Plaese wait. a. You isn’t my friend.
b. Can I help you? b. Are you have sister?
c. May you wait here? c. I friend with Lisa
d. Could you give me these shoes? d. She is a farmer.
12. 17. Which is an Imperative sentence?
waiter : What do you prefer? a. I like running.
customer :...................?..................... b. Don’t be noise!
c. How do you do?
a. I would like to have green tea, please. d. She doesn’t like him.
b. May I sit here? 18. Which is an Exclamation sentence?
c. I can’t have meet. a. How is it?
d. Do you prefer coffee? b. It is very good.
13. c. How Amazing!
father :...............?....................... for picking you d. I don’t believe it.
home too late today. 19. Which is a Compound sentence?
daughter : It’s ok daddy. Don’t worry about a. Linda likes
that. b. Linda likes singing.
c. Linda likes singing and Darin likes
a. Excuse me dancing
b. Are you sure? d. Linda likes singing on Saturday.
c. I’m sorry. 20. I like skateboarding, …………… I don’t like
d. I’m not good. surfing.
a. and b. but
b. or d. so

24 แบบฝกึ ทกั ษะทางวิชาการเพ่ือยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กศน.จังหวดั เลย


21. She doesn’t have a pen to write,........... she 27. John …………… in Loei province when he
asks me to borrow mine. was three years old.
a. and a. is b. are
b. but c. was d. were
c. or 28. I always………………. TV news in the morning.
d. so a. see
22. Suda went to the beach ……………………… . b. watch
a. today c. watches
b. last week d. look
c. right now 29.
d. Next week receptionist : Good morning This is Dee Dee
23. He usually…………………...breakfast at 6.30 Hotel, What can I help you sir?
a. has customer : I would like to have two single
b. have bedrooms, please.
c. eat receptionist : ……………?……………...
d. ate customer : No, I don’t.
24. My mom is……………..a movie and I am…… receptionist : Let me check, please wait.
………..a computer game right now.
a. watch / play a. Do you have a key?
b. watch / playing b. Where do you want to go?
c. watching / play c. How much is it for the room?
d. watching / playing d. Do you have a reservation?
25. You can have ……….. steck ……….. spaghetti 30.
if you want. driver : How can I help you?
a. either/ or Passenger : I’m in a hurry to go to the airport
b. neither / nor in ten minutes.
c. both / or driver : I surely can be in time, so ……………….
d. both/ and Passenger : Ok, good.
26. My ………………. daughter……………….son love
the present I gave to them. a. let’s go.
a. either/ or b. Any luggage?
b. neither / nor c. Where is the airport?
c. both / or d. I’ve never driven fast.
d. both/ and

แบบฝกึ ทกั ษะทางวิชาการเพื่อยกผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จังหวัดเลย 25


สรุปเนือ้ หา

รายวิชา พอชฒั 3261น0า0อ3าชพี ให้มีความเขม้ แขง็

จุดประสงค์การเรยี นรสู้ รปุ เนื้อหารายวชิ าพัฒนาอาชพี ให้มคี วามเขม้ แขง็ อช21003
จข ข ดุอ อ ปบ112 บ ...รเข121เะศอกข...ตสาธกัตศอกเหงบิยนเำ�ธคกันนาภอ้ืหิบยก์ยอ้ืดาหนาภาคพหทยารดาวธิศาคเพาทรุรทวมธกิศียาาหรุจิทนงมกมแารหิจางู้ลมยแะาลเคยปะวา้เคาปหวมา้ มาสหามามยสคาก�ำญัยาคกแรญั ตาลแรละตลาคละดวาคขาดวมอขาจงมอสาจงเนิ ปสำ� คน็เิน้าปขคหน็ อา้ รขหงอื อกรบงาอื รกรบกิ าพรารฒัิกรพไานัฒดรา้ไนอดาา้ อชาีพชเีพพเื่อพคอ่ื วคาวมาเขม้มเขแ้มขแ็งขได็งไ้ ด้
11.1.1คคววาามมหหมมาายยคคววาามมสสา�ำคคญั ัญแแลละะคคววาามมจจา�ำเปเป็นน็ ในในกกาารรพพฒั ฒั นนาาออาาชชพี พี เพเพือ่ ่อื คคววาามมเขเขม้ ม้ แแขข็ง็ง
11.2.2คคววาามมจจาำ�เปเป็น็นขขอองงกกาารรววิเคเิ ครราาะะหห์ศศ์ ักักยยภภาาพพธธรุ รุกกจิ จิ
2. 2ก.าก1122ร121....าจ3241...รัด134จกกกทททกกดั าาาศิาาาทิศรรรแทรรกววทำ�ผาววิิเเาแานคคงิเิเหผคคงแรรพแนนรรลาาัฒลาาดะะพะะะะนหหกเฒั ปหหเลา์ศ์ตปนา้ต์ศ์กยาัก้าหา�ำักาแทุยหกแมรยหภธมาตหาภ์แนาารยลนาลพง่ยตกาพ่งธะกธลดาธรุธวุราารุรกุรเิกรดตกคกิจติจลจิรจิลบาาบาะดนดนหเเพสเเ์สพสน้อ่ื เู่้นื่อปพททพา้าัฒาหฒังนงขมนขาอาาอกงยกงเาวเารวลรตลตาลาตลาตาาดามดมศศักกั ยยภภาาพพขขอองงแแตต่ล่ละะพพื้นนื้ ทที่ ่ี





22.3.2วกิเคารากะำ� หก์นลดยกทุ ลธย์ุทธแ์ ละวิเคราะหส์ ู่เปา้ หมาย
22.4.3กวาิเหคนราดะกหจิ ์กลรยรมทุ แธล์ ะแผนการพฒั นาการตลาด

2.4 ก�ำหนดกจิ กรรมและแผนการพัฒนาการตลาด
การพฒั นาอาชพี ใหม้ ีความเข้มแขง็
พตล ก้อฒั ูกางรนคกพาอ้ากอรัฒยาขาตู่รก1นชอพล.าาีพงอฒรัทอลเพดาพนาูกเัฒใช่อืาวคหอลีพนคอ้อ้ าาาวยใาชอหาู่ตชพโีมา้มลพีดชเอหีคยขทีพดวมมม้่ปี เาาีสแหรวมย่วขะมลถนเง็กาาขงึคอยมม้โกรบถดีคแอาึงกยวขรงามากป็งตรมีสารลเจรว่จะาปานกรดเิญรคอไปะดรบก็นก้ตออ้าแอางวาลตมบชหะลตอพีนสาอ้าท้าาดชงขคมี่ ไกีพ้ึนดญักี าท้ตารเม่ีรคาขขพีมกืออ้มาฒัตงแรผอ้ขนพผู้ง็งากัฒลสพาแิ นนิ รงึ่สาคตขดสา้นองนิหงเถอคผรงึ อืงู้ผา้คไหผลวดลริแา้ อืติมสผภมดลณัง่ันถติ คฑึงภงใ์คใณัหนวต้ฑาอรมใ์างหมชกต้่นัพี บั รคคงงกวกใาานบั รมอคพตาวัฒอ้ชางนมีพกาากอราาขรชอีพง
เพื่อควา2ม.เขท้มาแผขู้ป็งระมกีคอวบามกจา�ำรเพปฒั ็นนแาลตะนสเ�ำอคงัญไมค่ลือา้ สมยั
1. ท3.�ำใชหว่ ้อยาใหชีพ้สรทา้ ปี่ งรภะากพอลบกั กษาณรเท์ จ่ีดรญิีใหกก้ า้ บั วตหนนเ้าอขง้นึแลเขะ้มกิจแขก็งารพหงึ่ รตือนอเงอคง์กไดร้
2. ท4.ำ� ผท้ปูาใรหะอ้กงอคบ์กกราตรึงพบัฒคุ นลากตรนทเอีม่ งคี ไวมา่ลม้าสามมยั ารถสูงเข้ามาทางานไดม้ ากการรบั ประกนั บคุ คลมี
ค วามส3า. มชา่วรยถใทหาส้ งรา้านงภอยาพู่กับลักอษงคณก์ ท์ ร่ีดีใหก้ ับตนเองและกจิ การหรือองค์กร

4. ท�ำให้องค์กรดึงบุคลากรที่มีความสามารถสูงเข้ามาท�ำงานได้มากการรับประกันบุคคลมีความสามารถ

ท�ำงานอยู่กบั องคก์ ร

26 แบบฝกึ ทกั ษะทางวชิ าการเพอื่ ยกผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย


แบบทดสอบ รายวิชาพฒั นาอาชพี ให้เข้มแขง็ อช21003

จงเลอื กคำ� ตอบทีถ่ กู ตอ้ งเพียงขอ้ เดยี ว

1. ข้อใดคอื ความหมายของการพัฒนาอาชพี 5. ขอ้ ใดคอื การแทรกความนยิ มดา้ นการเกษตรสตู่ ลาด
ก. การประกอบอาชพี ทม่ี กี ารพฒั นาสนิ คา้ ใหต้ รง สุขภาพ
กบั ความตอ้ งการของลูกคา้ ก. ปลูกถว่ั โดยใชส้ ารเคมี
ข. การประกอบอาชพี ทมี่ กี ารพฒั นาสถานทผี่ ลติ ข. เลีย้ งสตั ว์โดยใชส้ ารเรง่
สินคา้ ใหท้ ันสมยั ค. ปลกู พชื โดยใชป้ ยุ๋ พืชสด
ค. การประกอบอาชีพทม่ี กี ารผลิตสินคา้ ง. ปลูกข้าวโดยฉดี ยาฆา่ หญ้า
หลากหลายชนดิ 6. ข้อใดเปน็ การกำ� หนดคุณภาพการทำ� ขนมไทยสู่การ
ง. การประกอบอาชีพท่ีมีรายได้สูงผลตอบแทน พัฒนาอาชพี ใหม้ คี วามเข้มแขง็
คุ้มค่า ก. ใชว้ ตั ถกุ นั เสียเพือ่ ยดื อายสุ นิ ค้า
2. ขอ้ ใดคอื ความส�ำคญั ในการพฒั นาอาชพี ข. ใช้วัตถดุ ิบราคาถูกเพอ่ื ลดตน้ ทนุ
ก. เพ่ือสรา้ งแรงงานเขา้ ส่ตู ลาด ค. ใช้กลิน่ สังเคราะหเ์ พอ่ื ความสะดวก
ข. ผปู้ ระกอบการมีการท�ำงานเปน็ เอกเทศ ง. ไมป่ ลอมปนผลผลติ รักษาคุณภาพสนิ คา้
ค. ผูป้ ระกอบการมกี ารวางแผนการด�ำเนินงาน 7. ข้อใดแสดงถงึ ความส�ำเร็จของโครงการ
ชดั เจน ก. โครงการไดก้ ำ� ไร
ง. เปน็ การสร้างภาพลกั ษณท์ ดี่ ีใหก้ ับสินค้าและ ข. โครงการได้รบั รางวัล
องค์กร ค. โครงการผา่ นการประเมินผล
3. ความจำ� เป็นในการพฒั นาอาชีพเพ่ือใหม้ ีความ ง. โครงการบรรลตุ ามเป้าหมาย
เข้มแข็งคอื ข้อใด 8. การปรบั ปรงุ โครงการมีประโยชน์อยา่ งไร
ก. เจน ใชเ้ ทคโนโลยใี นการผลติ เสน้ บะหมเี่ พอื่ ให้ ก. ชว่ ยลดต้นทุนในการท�ำโครงการ
ได้ปรมิ าณคร้ังละมากๆ ข. ช่วยให้โครงการมคี วามน่าเชือ่ ถือ
ข. นนุ่ สอนนกั ศกึ ษาใหม้ คี วามรเู้ รอื่ งการพฒั นา ค. ชว่ ยใหม้ ีคนรูจ้ ักโครงการเพมิ่ มากข้นึ
อาชพี ใหม้ คี วามเข้มแขง็ ได้ ง. ชว่ ยในการวางแผนและบรหิ ารโครงการ
ค. จอย นำ� เทคนคิ การประชาสมั พนั ธส์ มยั ใหมม่ า 9. ตวั ชว้ี ดั ผลสำ� เรจ็ ของโครงการควรเขยี นใหส้ อดคลอ้ ง
เพม่ิ รายได้ กบั ขอ้ ใด
ง. โบว์ ชอบเรียนรสู้ งิ่ ใหมๆ่ และไปศกึ ษาดงู าน ก. ช่อื โครงการ
ตา่ งประเทศ ข. วัตถุประสงค์
4. บคุ คลใดเลอื กซอ้ื สนิ คา้ ตามรปู ลกั ษณค์ ณุ ภาพสนิ คา้ ค. วิธดี ำ� เนนิ การ
ก. น้ำ� ฝนซอ้ื ต้เู ยน็ ขนาดใหญ่เพราะลดราคา ง. หลกั การและเหตผุ ล
ข. นำ้� หวานซอ้ื รถยนตใ์ หมเ่ พราะแถมประกนั ชนั้ 1
ค. น�้ำตาลซอื้ โทรทัศนเ์ พราะจอภาพขนาดใหญ่
ภาพคมชัดและมัน่ ใจในยี่หอ้
ง. นำ้� ออ้ ยซ้อื โทรศพั ท์มือถอื เพราะเป็นรุ่นลา่ สดุ
หน้าจอใหญน่ ำ�้ หนักเบา

แบบฝกึ ทกั ษะทางวิชาการเพื่อยกผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จังหวดั เลย 27


10. ข้อใดคือพฤติกรรมทีผ่ ปู้ ระกอบธุรกิจควรน�ำมาใช้ 16. บคุ คลใดสามารถใชท้ นุ ปจั จยั การผลติ ไดค้ มุ้ คา่ ทสี่ ดุ
ในการพัฒนาอาชพี ให้มีความเขม้ แข็ง ก. อมร กเู้ งนิ มาซอ้ื เครือ่ งจกั รในการเพมิ่ ผลผลิต
ก. โฆษณาสินค้าเกินความจรงิ ข. นกิ ร ใชว้ สั ดุทดแทนราคาถกู แตม่ คี ุณภาพใน
ข. ขายสนิ ค้าราคาถูกเพราะลดคณุ ภาพ การผลิต
ค. ลดราคาสนิ ค้าเพราะสนิ คา้ จะหมดอายุ ค. สมร จ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเพราะ
ง. ขายสนิ คา้ ทมี่ คี ณุ ภาพตรงตามฉลากผลติ ภณั ฑ์ ค่าแรงถกู
11. สุนิสา ผลิตผ้าไหมทอมือซ่ึงเป็นเอกลักษณ์ของ ง. สมพร ขยายชอ่ งทางการจัดจำ� หน่ายผ่านสอื่
ทอ้ งถน่ิ เปน็ การประกอบอาชพี ตามศกั ยภาพตรงขอ้ ใด ออนไลน์
ก. ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีและวถิ ชี ีวติ 17. ข้อใดก�ำหนดเป้าหมายการผลิตไดด้ ีทีส่ ดุ
ข. ทรพั ยากรธรรมชาติ ก. การมีทุนคงทเ่ี พยี งพอ
ค. ทรัพยากรมนุษย์ ข. คา่ จา้ งแรงงานราคาถกู
ง. ภูมิประเทศ ค. การมที ุนหมนุ เวยี นในการผลติ
12. นกั แสดงเปน็ การประกอบอาชพี ตามศกั ยภาพขอ้ ใด ง. ความตอ้ งการสินคา้ ของกลมุ่ เป้าหมาย
ก. ภมู ปิ ระเทศ 18. การสรา้ งรปู ลกั ษณส์ นิ คา้ ใหมจ่ ะตอ้ งไดข้ อ้ มลู สำ� คญั
ข. ทรัพยากรมนุษย์ จากแหล่งใด
ค. ทรัพยากรธรรมชาติ ก. ลกู คา้
ง. ศลิ ปะ วฒั นธรรม ประเพณีและวถิ ชี วี ติ ข. รา้ นคา้
13. บุคคลใดสามารถน�ำข้อมูลมาก�ำหนดทิศทางการ ค. พนักงานเดินตลาด
ตลาดได้อยา่ งเหมาะสม ง. สถานประกอบการ
ก. ติ๊กกี ้ ร้จู กั พฤติกรรมและความต้องการของ 19. ใครมกี ารวางแผนการพฒั นาการตลาดใหส้ อดคลอ้ ง
ผู้บรโิ ภค กับความต้องการของลกู ค้าไดด้ ีทีส่ ุด
ข. ปอเปลิ้ ร้จู กั ร้านค้าผจู้ ดั จำ� หนา่ ยมาก ก. ไบร์ ศึกษาราคาสนิ ค้าคแู่ ข่งและลงมอื ผลิต
ค. แพรวพราว รู้จักแหลง่ เงนิ ทุนส�ำรอง สนิ ค้า
ง. จอยน่ี รจู้ ักกลุม่ ลูกค้ามา ข. วิน สำ� รวจวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการของลกู คา้
14. สือ่ ใดทส่ี ามารถเขา้ ถงึ กลมุ่ เปา้ หมายไดม้ ากท่สี ดุ ก่อนผลิตสินคา้
ก. นิตยสาร ค. เจมส์จิ วางแผน วิเคราะห์ ศึกษาคแู่ ข่งทาง
ข. โทรทศั น์ การตลาดกอ่ นผลติ สินคา้
ค. โรงภาพยนตร์ ง. เต ส�ำรวจวเิ คราะหค์ วามต้องการของลูกค้า
ง. หนงั สอื พิมพ์ ราคา สถานที่ โฆษณาและผลิตสนิ ค้า
15. การก�ำหนดกลยุทธ์ในการพัฒนาสินค้าต้อง 20. เหตุผลใดสำ� คัญท่สี ดุ ในการพฒั นาระบบการผลิต
พิจารณาข้อใดเป็นอนั ดับแรก ก. สร้างแรงกดดันใหก้ ับคแู่ ขง่
ก. สินคา้ มีความแปลกใหมท่ ันสมยั ข. การเผยแพรข่ ้อมูลผลิตภัณฑ์
ข. รูปแบบของสินค้าเปน็ ท่ีแพรห่ ลายในตลาด ค. การเพม่ิ คุณภาพของผลติ ภณั ฑ์
ค. มกี ารประชาสมั พนั ธถ์ งึ ความพงึ พอใจของลกู คา้ ง. มกี รรมวิธีการผลติ ทเี่ ลียนแบบไดย้ าก
ง. สนิ คา้ สามารถตอบสนองความตอ้ งการของลกู คา้

28 แบบฝึกทกั ษะทางวชิ าการเพอื่ ยกผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จังหวดั เลย


21. คุณธรรมใดใช้เป็นเคร่ืองมือสร้างความส�ำเร็จให้ 27.ข้อใดความจ�ำเป็นในการพัฒนาอาชีพเพ่ือความ
ตนเอง เข้มแขง็
ก. ความขยนั ข.ความซอ่ื สัตย์ ก. การเปลี่ยนแปลงกระบวนการท่ีมจี ดุ มุง่ หมาย
ค. ความอดทน ง.ถกู ทกุ ข้อ ข. การมเี งนิ ทนุ หมุนเวยี น
22. ผู้ที่มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ควรประกอบ ค. ท�ำให้อาชพี ท่ีประกอบการเจรญิ ก้าวหนา้
อาชีพขอ้ ใดเหมาะสมทีส่ ุด ง. การไม่เอาเปรียบลกู คา้
ก. ธรุ กิจไฟแบนซ์ 28. การวิเคราะห์ศักยภาพเศรษฐกิจมีความจ�ำเปน็
ข. นายหนา้ ขายท่ีดิน เพราะเหตุใด
ค. ขายสินคา้ ออนไลน์ ก. เพราะชว่ ยให้ผูป้ ระกอบการทำ� ธุรกจิ ได้ดีข้นึ
ง. ตวั แทนขายประกนั ภัย ข. เพราะชว่ ยให้ผปู้ ระกอบการรู้
23.การแจกใหท้ ดลองใช้ การลดราคาในช่วงแรก การ ค. วเิ คราะหห์ รอื ไมว่ เิ คราะหก์ ส็ ามารถทำ� ธรุ กจิ ได้
แถมไปกบั สนิ คา้ อน่ื ๆ เปน็ การกลยทุ ธใ์ ดทาง การตลาด ง. ไมม่ คี วามจำ� เป็นในการวิเคราะหก์ ารประกอบ
ก. สนิ คา้ หรอื บริการ (Product) ธรุ กจิ
ข. ราคาสนิ ค้า (Price) 29. ตำ� แหน่งธุรกิจ หมายถงึ
ค. สถานทีข่ ายสินคา้ (Place) ก. การเริ่มต้นประกอบอาชพี
ง. การส่งเสรมิ การขาย (Promotion) ข. ช่วงเวลาในการประกอบอาชีพ
24. เลือกท�ำเลขายให้เหมาะสมกับลูกค้า เป็นการ ค. ระยะสดุ ทา้ ยของการประกอบอาชีพ
กลยทุ ธใ์ ดทางการตลาด ง. ช่วงใดชว่ งหนึง่ ของการประกอบอาชีพ
ก. สินค้าหรอื บรกิ าร (Product) 30. ขอ้ ใดเปน็ ประโยชนข์ องการปรับปรุงโครงการ
ข. ราคาสนิ คา้ (Price) ก. ช่วยใหต้ ดั สนิ ใจการใชท้ รัพยากรท่ีจำ� เปน็ และ
ค. สถานทข่ี ายสนิ ค้า (Place) ความเป็นไปไดข้ องกจิ กรรมตา่ งๆในโครงการ
ง. การสง่ เสรมิ การขาย (Promotion) ข. ชว่ ยใหก้ ารก�ำหนดวัตถุประสงคข์ องโครงการ
25. การให้ความส�ำคัญกับบริการหลังการขาย อยู่ใน มีความชดั เจน
ข้นั ตอนการควบคมุ คณุ ภาพการผลิตใด ค. ชว่ ยให้ได้ข้อมลู ความกา้ วหน้าปญั หา อปุ สรรค
ก. ขัน้ การก�ำหนดนโยบาย ของโครงการ
ข. ขนั้ การออกแบบผลิตภัณฑ์ ง. ถูกทกุ ขอ้
ค. ข้ันตอนการควบคุมคุณภาพของการผลติ
ง. ข้นั การจัดจ�ำหน่าย การควบคมุ คณุ ภาพใน
การจำ� หนา่ ย
26. การตรวจสอบคุณภาพของช้ินส่วน การควบคุม
กระบวนการการผลิตและการตรวจสอบคุณภาพของ
ผลิตภณั ฑ์ขัน้ ตอนการควบคมุ คณุ ภาพการผลิตใด
ก. ขนั้ การก�ำหนดนโยบาย
ข. ข้ันการออกแบบผลติ ภัณฑ์
ค. ขน้ั ตอนการควบคุมคณุ ภาพของการผลติ
ง. ขัน้ การจัดจ�ำหนา่ ย การควบคุมคุณภาพใน
การจ�ำหนา่ ย

แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพอื่ ยกผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 29


สรุปเนื้อหา

รายวชิ า ทักษะการเรียนรู้

42 ทร21001
สรุปเนื้อหารายวิชาทกั ษะการเรียนรู้ ทร21001

จุดประสงค์กจาดุ รปเรรียะนสรงู้คก์ ารเรยี นรู้
1. วเิ ครา ะห์คว1า.มวรเิ คู้จราากะกหาค์รอว่านมรกู้จารกฟกงัารกอา่ารนสงั กเการตฟแังลกะาสรรสปุ ังไเดกถ้ตูกแตล้อะงสรปุ ได้ถกู ต้อง
2. จดั ระบ บกา2ร.แจสดั วรงะหบาบคกวามรแรู้ใสหวก้งหบั าตคนวเาอมงรใู้ ห้กบั ตนเอง

ขเรออ่ื บ23134ง....ท.เขปกคทป่ี ตคาวฏจักั เวราจษบินกมาัยะัตอ้ื มาห ข ทพิตหหหมอ่ีทืน้าานมาบมาฐดยาใข24331เาหเขยน.....นั้ปแต้กกปทคปลทต้าแาเหาวะจัฏกัอานลรราคงจมษนิบเะื้อกมกรัยวาคใะตัหำ�ียหานายทพวิตหารนมมกี่ทา้ืนาศแนรสาามมำ�ฐึกลู้ดดยารใสขาษะคว้แหเนน้ัปาแกยญัสาก้ คลทต้าาตหวาขหญัะรอานงารอวคงหมนคเเรงากอวขาาวใกยีงานางยคาอแานรปมมกวงผรศแรสรารากเนกึลู้ดะมรำ�ร้ทูากษะว้สคียแรรักยกาบนญัูเ้สาเษกรรตาหวรคขะเย่ียีรนูด้งารวอกววนหคียเ้วางากอารยามวนกงรับงูด้คาตสรแแาปทมว้วน้ดูาผรกรารยกัเเ้วเนป้ะรรมอทู้ตษยจ็กสียญัรงักตนะานบู้เษหนกกเรรคอาะเายี่เูด้รวองแรกวยี้วางอลกายมน่าระบั ตสรนแเทนู้ดท�ำกเักทว้เคร้ปอยษักนจ็ ัญงตะษคิ หนกะในาเากอแรกางอลรา่าะฟรนเเงัทรยีทคแนกัลนรษะิคดู้ ทะใว้นกกั ยกาษตาระนรฟกเเงัราอยีรงแจนลดระ้ดูบทว้นั กั ยทษตึกะนกเอารงจดบันทกึ
ในปจั จุบนัเรโอ่ื ลงกทม่ี ีคววาามมกห้ามวาหยน้าแทลาะงคดว้าานมวสิทำ� ยคาญั ศาขสอตงรก์แาลระเเรทียคนโรนดู้ โว้ลยตี คนวเาอมงรู้ตา่ ง ๆ ไดเ้ พมิ่ ข้ึนเป็นอันมาก การเรียนรู้

จากสถาบนั ก ารศึกในษปาัจไมจ่อุบาันจโทลากใมหีคบ้ วุคาคมลกศ้ากึวษหานค้าวทาามงรดูใ้ ้าหน้ควริทบยทา้ังศหามสดตรก์แาลรไะขเทวค่ วโน้าหโลายคีวคามวราู้ดมว้รยู้ตต่างนเอๆงไจดึง้เเพปิ่ม็นขอ้ึนีกเวปิธ็นหี อนันึ่งมาก
ที่จะสนองควกาามรตเร้อยี งนกราจู้ราขกอสงถบาุคบคนั ลกไดาร้ เศพกึ รษาาะไเมอ่ื าใจดทก็ำ�ตใาหมบ้ ทคุ ี่บคคุ ลคศลกึ มษีใาจครวักาทม่ีจระใู้ ศหึกค้ ษรบาทคงั้ ้นหคมวดา้ กสา่ิงรทไข่ีตวนค่ ตวอ้ า้ งหกาาครวจาะมรรู้ ดู้บว้ คุ ยคตลนเอง
น้ันก็จะดาเนจินึงเกปา็นรอศีกึกวษิธาีหเรนียึ่งนทรี่จู้ไะดส้ตนลอองดคชวีวาิตมตแ้อสงวกงาหราขคอวงาบมุครคู้ดล้วไยดต้ นเพเอรงาะใเฝม่ห่ือาใคดวกา็ตมารมู้ ทรู้แ่ีบหุคลค่งลทมรีใัจพรยักาทก่ีจระกศารึกเษราียนคร้นู้ คว้า
รวค่วิธวมกี าแาใมหนรหหลกม่งาาเารครยปวียขาทครสกนมู้แอิ่งคว�ำรทหรงงารู้ ู้าหแ่ตีอมลมนหมนง่งหคี แปทาลตมวลยรร้อ่งาาะะพัถเงมยรกเงึกยทขสยี าาาบาอศนรรกมรดงรจราิเแำ�ู้ะกวรรหรณาถงู้ลรใชบเ่งนศรีวคุเกนูยีิตรคานยียลแรนร์ นครลวรวู้้นัดิะมู้ ธิมเกปีกบีสจ็ า็นอ่ว่ะรนเดหทกรำ� าดิาว่เคเนมปแวนิใ็นหานกม่งกาแรรหากู้ ศรมร้ปปึกือีคัญกษทวหคาาี่ ทมาเรรเอสมี่ ียปงาีสนน็ปมารรารมไู้ ะระดีนถเเ้ตทนสิใลนศอ้ืัยอกใหนดาาชกรเปคีวาติร็นดิ ทเขแปาอ้ ส็นงมาวลูนทงคหแำ� วาเลปาคะมน็วกราาแู้มรกรด้ป้ดู าญัว้รยงหชตาีวนเิตปเอน็ แงลมใะฝนี ม่หิสสี ายั ว่คในนวากมารรู้

แหลง่ เรียนรู้ หมายถงึ บรเิ วณ ศูนยร์ วม บอ่ เกดิ แห่ง หรอื ที่ ท่ีมสี าระเนือ้ หาเปน็ ข้อมลู ความรู้

ศึกษาข้อมลู เพ่ิมเตมิ ผ่าน QR Code

30 แบบฝกึ ทกั ษะทางวชิ าการเพื่อยกผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จังหวดั เลย


แบบทดสอบ รายวิชาทกั ษะการเรยี นรู้ ทร21001

จงเลือกค�ำตอบท่ีถกู ต้องเพียงข้อเดยี ว

1. ข้อใดท่ีท�ำให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความ 6. ขอ้ ใดคือโปรแกรมในการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ต
สำ� เร็จมากทส่ี ดุ ก. Chrome
ก. มีความคิดรเิ รม่ิ และเรียนรูด้ ้วยตนเอง ข. Instagram
ข. เปน็ คนตรงเวลา ค. Webboard
ค. มคี วามรับผิดชอบ ง. Search Engine
ง. เปน็ คนท่ีมคี วามเป็นผนู้ ำ� สูง 7.การสืบค้นหาข้อมูลการท�ำเจลล้างมือ ค้นหาโดยใช้
2. การเรียนรู้เร่ืองเกษตรธรรมชาติ ควรวางแผนการ เว็บไซต์ใด
เรียนรู้ดว้ ยตนเองอยา่ งไร ก. www.hotmail.com
ก. กำ� หนดแหล่งเรียนรู้ ข. www.google.com
ข. กำ� หนดวธิ ีการเรียนรู้ ค. www.lazada.com
ค. กำ� หนดหลกั สูตรการเรยี นร้ ู ง. www.shoppy.com
ง. กำ� หนดจดุ มุง่ หมายในการเรยี นรู้ 8. ข้อใดเป็นการปฏบิ ัติตนในการใช้บรกิ ารหอ้ งสมุดได้
3. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ การประเมนิ ผลการเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง ถกู ต้องทสี่ ดุ
ได้ถูกตอ้ ง ก. น�ำอาหารและเครอ่ื งด่ืมเขา้ ห้องสมุด
ก. ครูเป็นผู้ประเมนิ การเรียนของผเู้ รียนเป็น ข. อา่ นหนงั สอื เสร็จแลว้ เกบ็ ทีเ่ ดิม
สว่ นใหญ่ และเปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รยี นไดป้ ระเมนิ ค. อา่ นหนงั สือออกเสียงให้เพอื่ นได้ยนิ
การเรียนของตนเองดว้ ย ง. ใชป้ ากกาขดี ทับขอ้ ความในหนงั สือ
ข. มกี ารประเมนิ การเรยี นโดยครู ผเู้ รยี นและเพอื่ น 9.การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง คอื ขอ้ ใด
ร่วมหอ้ ง ก. การเรียนรู้โดยมีคนแนะน�ำ
ค. ผ้เู รียนเปน็ ผู้ประเมินการเรยี นรู้ของตนเอง ข. เรยี นรตู้ ามคำ� แนะนำ� ของเพือ่ น
ง. ครูเปน็ ผู้ประเมนิ ผลการเรียนรูข้ องผ้เู รยี น ค. เรยี นรดู้ ้วยตนเองดว้ ยความต้ังใจ
4. การโฆษณาสินค้าของชุมชนทางอินเทอร์เน็ตมี ง. เรยี นรตู้ ามรูปแบบการเรยี นรู้
ประโยชน์ดา้ นใดมากท่สี ดุ 10. การเรียนร้ดู ว้ ยตนเองมีกี่ลกั ษณะ
ก. ทำ� ให้มคี แู่ ข่งมากขนึ้ ก. 2 ข. 3
ข. ท�ำใหส้ นิ คา้ มรี าคาสูงข้ึน ค. 4 ง. 5
ค. ทำ� ให้มีคนรู้จักสินคา้ มากขึ้น 11. ขอ้ ใดคอื องค์ประกอบของการเรียนรดู้ ้วยตนเอง
ง. ทำ� ใหม้ ีผูค้ นรจู้ กั ชุมชนมากขน้ึ ก. การวิเคราะห์ความตอ้ งการของตนเอง
5. ข้อใดเปน็ แหล่งเรียนร้ทู ่ีจัดอยู่ในประเภทเดียวกนั ข. การกำ� หนดจดุ มงุ่ หมายในการเรียน
ก. สวนพฤกษศาสตร์ วนอุทยาน ค. การวางแผนการเรียน
ข. อทุ ยานการเรียนรู้ สวนสมนุ ไพร ง. ถกู ทุกข้อ
ค. พิพิธภณั ฑสถานแห่งชาติ ทอ้ งฟ้าจ�ำลอง
ง. หอ้ งสมุด ศูนยว์ ทิ ยาศาสตร์

แบบฝกึ ทกั ษะทางวชิ าการเพ่ือยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 31


12. ข้อใดคอื การประเมนิ โดยใชแ้ ฟ้มสะสมงาน 19.ข้อใด ไมใ่ ช่ วิธีการศึกษาเรยี นรจู้ ากภมู ปิ ัญญา
ก. ประเมินตามจดุ มุ่งหมาย ก. เรยี นรจู้ ากการปฏบิ ัติจริง
ข. ประเมนิ ตามจดุ ประสงค์ ข. เรยี นรูจ้ ากการทำ� ตาม เลยี นแบบ
ค. ประเมนิ ตามสภาพจริง ค. เรียนรู้จากประสบการณต์ รง
ง. ประเมนิ ตามขอ้ ก�ำหนด ง.เรยี นรู้จากการทดลอง ลองผิด ลองถูก
13. Management Knowledge หมายถงึ ข้อใด 20.หวั ใจนกั ปราชญ์ ของการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองคอื ขอ้ ใด
ก. การแสวงหาความรู ้ ก.พรหมวหิ าร 4 ข.อริยสจั 4
ข. การคน้ หาความรู้ ค.สุ จิ ปุ ลิ ง.ไม่มขี อ้ ถูก
ค. การจดั การความรู้ 21. ข้อใดไม่ควรกระทำ� ในการใช้อินเทอรเ์ นต็
ง. การสรุปยอดความรู้ ก. สืบคน้ ข้อมูลการเล่นเกม
14.ข้อใดคือปรชั ญาของ กศน. ข. ส่ง E-mail ถึงเพ่ือนต่างชาติ
ก. ปรชั ญาคดิ รอบร ู้ ค. พยายามเขา้ ถงึ ข้อมลู ของผู้อืน่
ข. ปรชั ญาคดิ รอบคอบ ง. ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ โหลดเพลงมาฟงั
ค. ปรชั ญาคิดแกป้ ญั หา 22. ข้อใดคือเวบ็ ค้นหารายการท�ำอาหารแบบวิดโี อ
ง. ปรชั ญาคดิ เปน็ ก. http://www.kapook.com
15. ข้อมลู ทุติยภูมิ หมายถงึ ขอ้ ใด ข. http://www.facebook.com
ก. ข้อมลู ท่เี ป็นปจั จุบนั ค.http://www.hotmail.com
ข. ขอ้ มลู ท่เี ปน็ อดตี ง. http://www.youtube.com
ค. ขอ้ มูลทเ่ี ปน็ อนาคต 23. ขอ้ ใดคอื ความหมายของการจดั การความรทู้ ชี่ ดั เจน
ง. ไมม่ ขี อ้ ถูก มากทสี่ ดุ
16. การวิจยั คอื ข้อใด ก. การเข้าถงึ ความรู้ทีค่ วบคู่ไปกับการปฏบิ ตั ิ
ก.กระบวนการหาความร้ ู ข. การจดั การกับความรแู้ ละประสบการณแ์ ละ
ข.กระบวนการทดสอบหาความรู้ แบง่ ปันความรู้
ค.กระบวนการแสวงหาความรู้อย่างมี ค. การจดั การความรใู้ หเ้ ปน็ ระบบและมแี บบแผน
ประสิทธิภาพ ง. การแบง่ ปนั แลกเปลย่ี นความรปู้ ระสบการณก์ บั
ง.กระบวนการทดลองหาความร้ใู หม่ บคุ คลอ่ืน
17. ขอ้ มลู แบ่งไดเ้ ปน็ กี่ประเภท
ก. 2 ข. 4 24. การออกแบบลวดลายรองเท้าให้ตรงกับต้องการ
ค. 6 ง. 8 ของลูกค้าเป็นการพัฒนาขอบข่ายความรู้ของกลุ่มใน
18. ขอ้ ใดคอื คณุ ธรรม จริยธรรมเพ่ือการคดิ แกป้ ญั หา เร่ืองใด
เป็น ก. การตลาด
ก.การรกั ษาความจรงิ ข. การพฒั นาผลิตภณั ฑ์
ข.ความอดทน อดกลน้ั ค. การบริหารจัดการกลมุ่
ค.การรูจ้ ักความจริง ง. การรกั ษามาตรฐานของสนิ ค้า
ง.การร้จู กั กาลเวลา

32 แบบฝึกทักษะทางวชิ าการเพ่อื ยกผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กศน.จังหวดั เลย


25. ข้อใดเป็นความเช่ือพืน้ ฐานของการศกึ ษาผใู้ หญ่ 30.เปา้ หมายของการจัดการความรู้คอื อะไร
ก. มนษุ ยท์ กุ คนตอ้ งการมคี วามสขุ ก. พฒั นาคน
ข. มนุษยท์ กุ คนต้องการความสบาย ข. พัฒนางาน
ค. มนษุ ย์ทุกคนตอ้ งการความร�ำ่ รวย ค. พัฒนาองค์กร
ง. มนษุ ยท์ ุกคนต้องการความสะดวก ง. ถกู ทกุ ข้อ
26. ขอ้ ใดคอื ความหมายของปรัชญา “คดิ เป็น”
ก. กระบวนการคดิ เพอ่ื การแกไ้ ขปัญหา
ข. ความพอประมาณ มเี หตผุ ล มภี มู ิค้มุ กนั
ค. การคิดโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ง. การศกึ ษาขอ้ มลู ทางวชิ าการ ขอ้ มลู ตนเองขอ้ มลู
สังคม รายวิชาทกั ษะการเรียนรู้
27. การแก้ไขปัญหาโดยยึดหลักคิดเป็นจะส่งผลต่อ
ตนเองอย่างไร
ก. เปน็ ผ้นู ำ� ชุมชน
ข. เป็นคนรำ�่ รวยมชี ่อื เสียง
ค. เป็นผมู้ ชี ีวิตอยา่ งเป็นสุข
ง. เป็นคนที่ได้รบั การยกย่องนบั ถือ
28. ข้อใดเป็นขั้นติดตามผลการแก้ไขปัญหาใน
กระบวนการ “คดิ เป็น”
ก. การคน้ หาและวิเคราะหว์ ่าปญั หาคอื อะไร
ข. การประเมนิ ผลส่ิงท่ไี ด้ไปปฏบิ ัตแิ ล้วว่าผลท่ไี ด้
รบั ผปู้ ฏิบัติมคี วามพึงพอใจและมคี วามสุข
หรือไม่
ค. การนำ� ข้อมลู มาวเิ คราะหว์ ่าปญั หาเกดิ ขน้ึ ได้
อยา่ งไร มอี ะไรเปน็ องคป์ ระกอบ
ง. การวเิ คราะหห์ าทางเลือกในการแก้ไขปัญหา
โดยใชข้ อ้ มลู ตนเอง สงั คมและสง่ิ แวดลอ้ มและ
ขอ้ มลู วชิ าการ
29. ข้อใดคือความหมายของ WWW.
ก. Work wide web
ข. World wide web
ค. World work web
ง. World walk web

แบบฝกึ ทกั ษะทางวิชาการเพือ่ ยกผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จังหวดั เลย 33


สรุปเน้อื หา

รายวิชา ชอ่ งทางการพฒั นาอาชีพ

อช21001

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายความหมาย ความส�ำคญั วิเคราะหล์ กั ษณะงาน ขอบขา่ ยอาชีพในชมุ ชน สงั คม ประเทศ และ
ภูมิภาค 5 ทวีป ได้แก ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป และทวีปแอฟริกา ที่จะนําไปสู่
การพฒั นาอาชพี ท่ีเหมาะสมกบั ศกั ยภาพของตนและสอดคลองกบั ชมุ ชน สังคม
2. อธิบายเหตผุ ล ปจั จยั ความจ�ำเปน็ ในการพฒั นาอาชพี ทีเ่ หมาะสมกบั ศักยภาพของตนเองได้
3. จัดระบบความสำ� คญั ในการตัดสินใจพัฒนาอาชพี ได้
4. ปฏบิ ัตกิ ารวิเคราะห์ เพ่อื การพัฒนาอาชีพได้
ขอบขา่ ยเนอื้ หา
เปน็ องคค์ วามรเู้ กยี่ วกบั การงานอาชพี และเทคโนโลย ี ซงึ ประกอบดว้ ยการสาํ รวจวเิ คราะห์ อาชพี ในชมุ ชน
ประเทศ และภมู ิภาค ทวปี ได้แก ่ ทวปี เอเชีย ทวีปออสเตรเลีย ทวปี อเมริกา ทวีปยโุ รป และทวปี แอฟรกิ า เพ่ือ
นําไปสู่การพฒั นา ระบุส่งิ ท่ตี ้องการพฒั นาอาชีพ เหตุผลความ จําเปน็ ท่ีตอ้ งการพฒั นาอาชีพด้านตา่ ง ๆ แสวงหา
ความรแู้ ละเทคนคิ การพฒั นาอาชพี วเิ คราะห์ ความร ู้ และเทคนคิ ทไ่ี ดม้ า เพอ่ื นาํ ไปสกู่ ารพฒั นาอาชพี การตดั สนิ
ใจเลือกวิธีการเพื่อพัฒนาอาชีพ และการตรวจสอบความเป็นไปได้ในการพัฒนาอาชีพ ให้ผู้เรียนสามารถเลือก
แนวทางการพฒั นาอาชพี ท่ีเหมาะสมต่อตนเองและชมุ ชนได้
บทท่ี 1 การงานอาชพี
ความสำ� คัญและความจำ� เป็นในการพฒั นาอาชพี
การพฒั นาอาชพี หมายถงึ การทำ� ใหอ าชพี ทม่ี อี ยนู่ นั้ เกดิ การเปลยี่ นแปลงในทศิ ทาง ทด่ี ขี น้ึ กวา เดมิ ใหเ หมาะสม
กบั ความตองการของตลาด การพฒั นาอาชพี ทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพจะตอ งพัฒนาความรู ความสามารถในการวางแผน
การก�ำหนดยทุ ธศาสตรต์ ่าง ๆ ท้งั ดว้ ยตนเองและกระบวนการกลุม โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชพี เดยี วกนั เพ่ือแลก
เปล่ียนเรียนรูซ่ึงกันและกัน แลวน�ำไปตัดสินใจเพ่ือนําไปสู่การปฏิบัติ นอกจากนี้ควรมีการบริหารจัดการแบบ
องคร วม บูรณาการปจั จยั ต่าง ๆ ใหเ ป็นหนงึ่ เดียว สามารถเกอ้ื หนุนกันได
การพฒั นาอาชพี จงึ เปน็ สง่ิ ทสี่ ำ� คญั ในวถิ ชี วี ติ และการดำ� รงชพี ในปจ จบุ นั เพราะอาชพี เปน็ การสรา้ งรายได้
เพอื่ เลีย้ งชีพตนเองและครอบครัว กอใหเ กดิ ผลผลติ และการบริการ ซ่ึงสนองตอบต่อความตอ งการของผ้บู รโิ ภค
และท่สี ำ� คญั คอื การพัฒนาอาชีพมีความสำ� คญั ตอ เศรษฐกจิ ของประเทศชาติ
กลุมอาชพี ใหม่ การประกอบอาชพี ในปจ จบุ นั มกี ารแบง ตามลกั ษณะของการประกอบอาชพี ออกเปน็
5 กลมุ ดงั นี ้ 1. กลุมอาชีพด้านการเกษตร 2. กลุมอาชพี ด้านพาณชิ ยกรรม 3. กลมุ อาชพี ดา้ นอตุ สาหกรรม
4. กลมุ อาชพี ดา นความคดิ สร้างสรรค์ 5. กลุมอาชพี ด้านอํานวยการและอาชพี เฉพาะทาง


34 แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพอื่ ยกผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย


การพฒั นากระบวนการจัดการงานอาชีพในชุมชน สังคม ประเทศ และภมู ภิ าค 5 ทวีป มกี ระบวนการ
จดั การงาน ดงั น้ี
1.การจดั การการผลติ กระบวนการของการจัดการการผลติ มีขน้ั ตอนการดาํ เนินงานทีก่ ำ� หนดไวกอนหลงั
อย่างชัดเจน เพ่ือใหผู้ดำ� เนนิ การสามารถปฏิบตั ติ ามได้อย่างถูกตอ ง ผปู้ ระกอบการจำ� เป็นตอ งมี ความเขา้ ใจและ
สามารถจดั ระบบการบรหิ ารจดั การไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เพราะเปน็ การกำ� หนดแนวทางการสอ่ื สาร การประกนั
คุณภาพ การประเมิน การควบคมุ การติดตาม ตรวจสอบ การดําเนนิ งาน การแกปญ หา และใชเป็นเครื่องมือใน
การสรา้ งนวตั กรรม รวมถงึ การพยากรณส ิ่งทจ่ี ะเกิดขึน้ ตอ ไปได้
2.การจัดการการตลาด เปน็ การศึกษาตลาดจากปจั จยั ภายนอกและภายใน ทำ� ใหผ ้ปู ระกอบการวางแผน
การตลาดไดอ้ ยา่ งมั่นใจและสามารถบอกรายละเอียดในการ ดําเนนิ งานไดอ้ ยา่ งชัดเจน
3.การขนสง หมายถงึ การเคลอ่ื นยา้ ยบคุ คล สงิ่ มชี วี ติ หรอื สงิ่ ของจากทห่ี นงึ่ ไปอกี ทหี่ นง่ึ โดยอาศยั อปุ กรณ์
ในการขนสง ตามความตอ งการและเกดิ อรรถประโยชน
4. การขาย มีความสำ� คญั ช่วยใหเ กดิ ธุรกิจอตุ สาหกรรมการผลติ ช่วยใหธรุ กจิ บรรลุผลส�ำเรจ็ ช่วยใหเกิด
การจา้ งงาน ช่วยลดปญหาของสังคม
5. การกำ� หนดราคาขาย คือ จ�ำนวนเงินทีใ่ ชใ้ นการแลกเปลีย่ นเพอ่ื ใหไ้ ด้มาซ่งึ ผลติ ภณั ฑ์ (สนิ คา้ และ/หรือ
บริการ) โดยผซู้ อ้ื และผขู้ ายตกลงกนั ราคาเป็นปจั จยั หนึ่งของส่วนประสมการตลาดทจ่ี ะก่อใหเ้ กดิ ความพึงพอใจ
ต่อ
6. การทำ� บญั ชรี ายรบั -รายจา่ ย คอื แบบบนั ทกึ รายการรบั หรอื จา่ ย ทเ่ี กดิ ขนึ้ จรงิ โดยบญั ชี รายรบั -รายจา่ ย
คณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการประกอบอาชพี
ประโยชนข องคุณธรรม จรยิ ธรรมในการพัฒนาอาชีพท่สี ามารถนาํ ไปใชได้ คือ
คณุ ธรรม หมายถงึ สภาพคณุ งามความดี และจรยิ ธรรม หมายถงึ ธรรมทเี่ ปน็ ขอ ประพฤตปิ ฏบิ ตั ศิ ลี ธรรม
คณุ ธรรม จรยิ ธรรม หมายถงึ การประพฤตปิ ฏบิ ตั ทิ ดี่ ที ชี่ อบทงั้ กาย วาจาและใจ เปน็ การประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ
เปน็ ไปดว้ ยความจริงใจ ไม่แสแสรง เป็นไปโดยธรรมชาตขิ องแตล่ ะบุคคล
ดงั นน้ั คณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการประกอบอาชพี นบั วา มผี ลตอ่ ความมนั่ คงของอาชพี ผขู้ ายกบั ผซู้ อ้ื จะตอ ง
มีคุณธรรม จรยิ ธรรมต่อกัน จงึ จะคาขายร่วมกนั ไดเป็นเวลานาน
บทที่ 2 ชองทางการพฒั นาอาชพี
การประกอบอาชพี หรอื ประกอบธรุ กจิ หรอื ดำ� เนนิ การสงิ่ ใด ตอ งมกี ารสาํ รวจ ขอ เทจ็ จรงิ มกี ารวางแผน
กำ� หนดเปา้ หมายทต่ี องการ เขียนโครงการท่จี ะทำ� และปฏบิ ัติตาม รวมท้ังการระบปุ ญหา อุปสรรคท่อี าจจะเกดิ
ขนึ้ ไดพ้ รอ มแนวทางการแกไ ข องคป ระกอบ ดงั กลา่ วเปน็ องคป ระกอบชองการวางแผนดำ� เนนิ ธรุ กจิ การวางแผน
เปน็ การคิดไวล วงหน้าวา จะทำ� อะไร มีจดุ มงุ่ หมายอะไร มีวิธกี ารอย่างไร มกี ระบวนการอยา่ งไร มเี ป้าหมาย และ
แผนการดาํ เนินงาน ตัง้ แตจ่ ดุ เริ่มตนจนกระท้งั ถึง จุดส้นิ สุดอยา่ งไร การดำ� เนินกจิ กรรมตา่ ง ๆ จะตอ งมคี วาม
สอดคลองกันกบั ทรัพยากร และ งบประมาณท่มี ีอยู ่ เพ่ือใหม ีความเปน็ ไดม้ ากที่สดุ
ความเป็นไปได้ในการเขาสอู่ าชีพ
การลงทนุ หมายถงึ การออมเพอื่ ใหไ ดร้ บั ผลตอบแทนทม่ี ากขน้ึ ซง่ึ ผปู้ ระกอบการตอ งยอมรบั ความเสย่ี งที่
เพม่ิ ขนึ้ เชน่ กนั การตดั สนิ ใจนาํ เงนิ ออมมาลงทนุ เราจงึ ตอ งพจิ ารณาอยา่ งรอบคอบ และศกึ ษาหาขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ ง

แบบฝึกทกั ษะทางวิชาการเพอ่ื ยกผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย 35


เปน็ อย่างด ี เพ่อื ใหได้รับ ผลตอบแทนท่คี าดหวังไว และเพือ่ ลดความเสี่ยงที่เกดิ ขนึ้ จากการลงทุน
การตลาด เปน็ กจิ กรรมทางธรุ กจิ ทมี่ คี วามจำ� เปน็ และมคี วามสำ� คญั ตอ การอยรู อด ขององคก รธรุ กจิ
ในระบบเศรษฐกจิ แบบเสรนี ิยม ธุรกจิ จำ� เปน็ จะตองอาศยั กลยุทธทาง การตลาด คือ การขาย การเรียนรเู พ่ือ
ใหเ ขา ใจถงึ ความแตกตา่ งของการขาย และการตลาด อยา่ งชดั เจนซงึ่ จะชว่ ยใหธ รุ กจิ พฒั นาตอ่ ไปไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
กระบวนการผลติ หมายถงึ กระบวนการผลติ สนิ คา การใหบ รกิ ารตามความตอ งการของผบู้ รโิ ภค ซงึ่
ประกอบไปด้วย ลกู คา ตลาดแรงงาน สังคม ประเทศชาติ และ ประชาคมโลก โดยมวี ิธกี ารในการควบคุม
ดูแลการผลิตอยา่ งมีคณุ ภาพท่ไี ด้มาตรฐาน และการสรา้ งคณุ ลักษณะที่โดดเดนของสินคา หรือบรกิ าร
การขนสง หมายถึง การเคลื่อนย้ายสินคาจากท่ีหนึ่งไปยังอีกที่หน่ึง ซึ่งเป็นหนาท่ี ของผู้ผลิตที่
จะใหป ระโยชนแ กผ บู้ รโิ ภค ในดา้ นเวลา และสถานท ่ี สง ผลใหส นิ คา มมี ลู คา เพมิ่ ขนึ้ เพราะหลกั ในการจดั การขนสง มี
อยู่วา “มูลคา สนิ คาทเี่ พม่ิ ข้นึ หลงั จากขนสง ไปแลว จะตอ งสูง กวา่ คา ขนสง ” ซง่ึ มสี ินคา บางชนดิ ทคี่ าขนสง่ สงุ กวา
ราคาตัวสนิ คา จรงิ มาก เชน การขนหนิ ทราย ยิปซมั ถ่านหนิ แต่กม็ ีสนิ คา บางชนิดท่คี า ขนสงถูกกวา ราคาสินคา
จรงิ เชน การขนทองคํา เพชรพลอย และยา เป็นตน
การบรรจหุ บี หอ นอกจากใชป อ งกนั ผลติ ภณั ฑแ์ ลว ยงั ใชใ นการสง เสรมิ การขาย ซง่ึ ถอื วา มคี วามสำ� คญั
มากทงั้ สำ� หรบั ผขู้ ายและผบู้ รโิ ภค การบรรจหุ บี หอ ทด่ี ที ำ� ใหส ามารถรกั ษางา่ ย ประหยดั เนอื้ ท ่ี และทำ� ใหผ บู้ รโิ ภค
มองเห็นความแตกต่างของผลิตภัณฑไ์ ดช้ ดั เจน
การแปรรูป หมายถึง การนําผลผลิตทางการเกษตรซึ่งมีอยู่ในรูปวัตถุดิบมาผ่าน กระบวนการด้าน
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยมี าใชใ นกรรมวิธกี ารผลติ การแปรสภาพเพื่อ สามารถบริโภค มีอายุยนื ยาวขน้ึ ตลอด
ทงั้ ความสะดวกสบายในรปู ผลิตภัณฑ์กึ่งสําเรจ็ รปู
บทที่ 3 การตดั สินใจเลอื กพฒั นาอาชพี
1. ความพรอ ม หมายถงึ สภาพของบคุ คลทม่ี วี ฒุ ภิ าวะแรงจงู ใจและประสบการณเ ดมิ สงู พอทจี่ ะกอ ใหเ กดิ
การตัดสินใจเลอื กพฒั นาอาชีพไดโ้ ดยสะดวก
2. ความตองการของตลาด คือ กลุ่มของบุคคลและองคการท่ีมีความตองการและมีอ�ำนาจในการซื้อ
สนิ คา้ และบริการ การพฒั นาอาชพี จะตอ งสอดคลอ งกับความตอ งการของตลาด ผบู้ ริโภคใหความสนใจในสนิ คา้
และบรกิ าร มอี �ำนาจซ้ือสนิ ค้าและบริการนั้น
3. ความรู ทกั ษะและเทคนคิ ต่าง ๆ การตดั สนิ ใจเลอื กพัฒนาอาชพี ใด ควรมคี วามรู ทักษะ และเทคนิค
ในการประกอบ อาชพี นนั้ ๆ เพ่ือใหส ามารถพัฒนาอาชีพได้อย่างมีคุณภาพและประสทิ ธิภาพ
4. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม การตัดสินใจเลือกพัฒนาอาชีพจ�ำเป็นตองอาศัยข้อมูลด้าน
ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ ม โดยพฒั นาอาชพี ใหส มั พนั ธส์ อดคลอ งกบั ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ ม
ทมี่ อี ยู่ ไมท่ ำ� ลายทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ ม มแี นวทางอนรุ กั ษท รพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สง่ิ แวดลอ มอยา่ ง
ยงั่ ยนื
5. การใชทด่ี นิ การตัดสนิ ใจเลือกพัฒนาอาชพี จ�ำเป็นตอ งอาศยั ขอ้ มลู ด้านการใชที่ดนิ เพราะที่ดนิ เป็น
ปัจจยั สำ� คัญในการผลิตทางดา้ นการเกษตร
6. การใชทนุ ทุน หมายถึง เงนิ ทุน เครอื่ งจักรกลการเกษตรต่างๆ โรงเรอื น ส่งิ กอ่ สร้างทีใ่ ชใน การผลติ
และเกบ็ รักษาผลผลติ รวมท้ังปจั จัยการผลติ ทเ่ี ปน็ พนั ธ์ุพชื พนั ธสุ ตั ว ปุย สารเคมี เป็นตน

36 แบบฝึกทักษะทางวชิ าการเพ่ือยกผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย


7. การใชแ รงงาน แรงงานเปน็ ปจั จยั สำ� คญั อยา่ งหนงึ่ ในการผลติ มคี วามหมายรวมถงึ ทง้ั กายภาพ
และ จติ ใจ ในด้านกายภาพเกยี่ วกับเร่อื งสขุ ภาพและอนามัย ความแข็งแรงสมบูรณใ นการทำ� งาน สว นดา้ นจติ ใจ
นนั้ รวมถึงทัศนคต ิ อุดมการณ ความขยนั หมั่นเพยี ร ความรสู ึกรบั ผิดชอบในการ ผลิต
8. การจัดการ หมายถงึ การจดั สรรหรือการด�ำเนนิ การทรพั ยากรในการผลติ (ท่ีดนิ ทุน และ
แรงงาน) เพอื่ ใหส ามารถผลิตไดต้ ามวัตถปุ ระสงคและเป้าหมายของผจู้ ัดการฟารม์ ซง่ึ แตกต่างกนั ในแตล่ ะพน้ื ท่ี

แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพอ่ื ยกผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กศน.จังหวดั เลย 37


แบบทดสอบ รายวิชาชอ่ งทางการพัฒนาอาชพี อช21001

จงเลอื กคำ� ตอบท่ถี ูกตอ้ งเพียงข้อเดยี ว

1. ขอ้ ใดตอ่ ไปนเี้ ปน็ การพฒั นาอาชพี ทมี่ คี วามสำ� คญั 6. การเขยี นโครงการขนั้ ตอนใดทบี่ ง่ บอกถงึ ความเปน็
ต่อการดำ� รงชีวิตในปจั จบุ นั มาของโครงการ
ก. เพ่ือเป้นการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ของคน ก. หลกั การและเหตุผล
ข. เพ่อื พฒั นาคณุ ภาพดา้ นเศรษฐกจิ และชมุ ชน ข. วตั ถุประสงค์
ค. เพอ่ื ความเจรญิ กา้ วหน้าของชมุ ชน สงั คม ค. ชือ่ โครงการ
ประเทศและโลก ง. เปา้ หมาย
ง. เพื่อพัฒนาคุณภาพชวี ติ เศรษฐกิจ ชมุ ชน 7. SWOT Snalysis จัดอยู่ในขั้นตอนกระบวนการ
ทีส่ ่งผลถึงความเจรญิ ก้าวหน้าของประเทศ ตลาดข้ันตอนใด
2. ข้อใดหมายถึงการจัดท�ำสินค้าหรือบริการตาม ก. การก�ำหนดเปา้ หมายทางการตลาด
ความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภคโดยมกี ารควบคมุ ดแู ลในการ ข. การวิเคราะห์สถานการณ์การตลาด
ดำ� เนนิ การ ค. การกำ� หนดกลมุ่ เป้าหมาย
ก. กระบวนการผลติ ง. การวางแผนการปฏบิ ตั ิ
ข. กระบวนการตลาด 8. ขอ้ ใดคอื ความสำ� คัญของคุณธรรม จริยธรรม ใน
ค. กระบวนการแปรรปู การพฒั นาอาชพี
ง. กระบวนการจดั การศกึ ษา ก. สรา้ งความสมดุล สงบสุข เจรญิ และพฒั นา
3. โรงงานใดใช้เทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมในการ อยา่ งไม่มสี นิ้ สุด
ผลิตสินค้าและบรกิ าร ข. ทำ� ให้สังคมและประเทศชาติมคี วามเป็น
ก. นำ� เครือ่ งทอผา้ มาใชใ้ นการผลิตผา้ ระเบียบเรยี บรอ้ ย
ข. มเี ครื่องฆา่ เชอ้ื โรคใชก้ ับตวั พนกั งาน ค. สร้างเสริมคณุ ลักษณะของความเปน็ ผู้น�ำที่ดี
ค. จัดท�ำหอ้ งออกก�ำลงั กายใหก้ ับพนกั งาน ง. ทำ� ใหเ้ กดิ ความสามคั คใี นชุมชน
ง. น�ำอปุ กรณใ์ นการตอกบัตรเข้า - ออกของ 9. บุคคลใดให้ความส�ำคัญต่อการอนุรักษ์พลังงาน
พนกั งานมาใช้ และสิง่ แวดลอ้ ม
4. ขอ้ ใดเป็นการทำ� ธรุ กจิ เชิงพาณชิ ยกรรม ก. สารนิ ชอบท่องเทยี่ วเชงิ อนรุ ักษ์
ก. ทนุ ต่ำ� - แรงงานมาก - ก�ำไรมาก ข. มะลิ ศึกษาธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม
ข. ทุนตำ�่ - แรงงานน้อย - ก�ำไรมาก ค. นารี คดั แยกขยะและรว่ มมอื ลดใชถ้ งุ พลาสตกิ
ค. ทุนสงู – แรงงานมาก - ก�ำไรมาก ง. นภา มีความรเู้ รื่องการอนรุ ักษพ์ ลงั งานและ
ง. ทนุ สงู - แรงงานนอ้ ย - ก�ำไรมาก ส่ิงแวดล้อม
5. ข้อใดต่อไปน้ีคือความส�ำคัญของการจัดการผลิต 10. ความหมายของค�ำวา่ คณุ ธรรม จริยธรรม ข้อใด
ในอาชีพ ถกู ตอ้ ง
ก. ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนอยา่ งคุ้มคา่ ก. การปฏบิ ตั โิ ดยชอบธรรม
ข. การดำ� เนนิ ธรุ กจิ ประสบผลสำ� เรจ็ ตามเปา้ หมาย ข. การปฏิบัติกาย วาจา ใจ ให้ดีทส่ี ุด
ค. เกดิ ประโยชนส์ งุ สดุ ของทรพั ยากรทม่ี อี ยอู่ ยา่ ง ค. การประพฤตปิ ฏิบตั ดิ ้วยความจรงิ ใจ
จำ� กัด ง. การประพฤตปิ ฏิบตั ทิ ่ดี ีทงั้ กาย วาจา ใจ
ง. การผลติ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารมปี ระสทิ ธภิ าพและ
ตอบสนองความต้องการของตลาด

38 แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพอ่ื ยกผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย


11. ข้อใดเป็นวิธีการอนุรักษ์พลังงานเพ่ือประกอบ 16. ข้อใดเป็นวิธีการพัฒนาอาชีพเพื่อให้เกิดความรู้
อาชพี ความชำ� นาญในการท�ำงานมากทสี่ ดุ
ก. ไมต่ อ้ งมแี หลง่ พลังงานทดแทน ก. ทำ� งานไปพรอ้ มกบั วางแผนควบคกู่ ันไป
ข. ส�ำรวจทรัพยากรธรรมชาติ ข. ลงมอื ปฏบิ ตั แิ ละศกึ ษาหาความรไู้ ปพรอ้ มๆกนั
ค. การวิจัยแหล่งพฒั นาพลังงาน ค. ศกึ ษาหาความรจู้ ากงานนนั้ ๆกอ่ นลงมอื ปฏบิ ตั ิ
ง. การใช้ทรัพยากรธรรมชาตอิ ยา่ งสน้ิ เปลอื ง ง. ท�ำตามขน้ั ตอน พร้อมตรวจสอบความ
12. อาชีพในข้อใดมีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในชุมชน เรยี บร้อย
ไดด้ ที ส่ี ุด 17. ข้อใดตอ่ ไปนถี้ ือว่ามเี ทคนคิ ผลติ สินคา้
ก. การทำ� เกษตรอินทรยี ์ ก. โอมได้มีการผลิตสนิ ค้าราคาถูก
ข. การทำ� ฟารม์ เล้ยี งสตั ว์กลางชุมชน ข. โดมผลติ สินค้าได้สินคา้ ปรมิ าณสงู
ค. การสร้างทีพ่ ักโฮมสเตยก์ ลางทะเล ค. สมสมรมีการผลติ สนิ คา้ มรี ปู ทรงสวยงาม
ง. การท�ำอาชีพประมงจับสตั ว์น้�ำทุกฤดกู าล ง. สมเกยี รตมิ กี ารผลติ สนิ คา้ เลยี นแบบทเี่ หมอื น
13. ความหมายของความจ�ำเป็นในการมองเห็นช่อง ของจรงิ
ทางการพัฒนาอาชพี ขอ้ ใดถูกตอ้ ง 18. ความจ�ำเปน็ และคณุ คา่ ของธรุ กิจเชิงรกุ ยกเว้น
ก. โอกาสและชอ่ งทางในการประกอบอาชีพ ข้อใดต่อไปนี้
ข. โอกาสและสถานการณท์ จี่ ะนำ� มาประกอบอาชพี ก. ผูบ้ ริโภคมีโอกาสเลอื กสคิ า้ อย่างจ�ำกดั
ค. โอกาสและขัน้ ตอนทจี่ ะน�ำมาประกอบอาชพี ข. สนิ คา้ ไดร้ บั การพฒั นาอยา่ งตอ่ เนอ่ื งตลอดเวลา
ไดก้ ่อนผู้อนื่ ค. เปน็ การพัฒนาสินค้าใหต้ รงกบั ความตอ้ งการ
ง. โอกาสและความสามารถทจี่ ะน�ำมาประกอบ ของผบู้ ริโภค
อาชพี ได้กอ่ นผ้อู น่ื ง. เป็นความพยายามทีจ่ ะหาวิธกี ารให้ได้เปรยี บ
14. ข้อใดคือความส�ำคัญของการรู้จักช่องทางในการ ทางการแข่งขันทางธุรกิจ
ประกอบอาชีพ 19. ขอ้ ใดไมใ่ ชล่ กั ษณะของการสรา้ งรปู ลกั ษณค์ ณุ ภาพ
ก. สร้างรายไดใ้ ห้กบั ตนเองในจ�ำนวนมาก สินค้าใหม่
ข. ผลิตสนิ ค้าได้ตามความตอ้ งการของตลาด ก. มตี น้ ทุนสงู
ค. ประสบความสำ� เรจ็ ในอาชพี เปน็ ทย่ี อมรบั ของ ข. ใช้งานสะดวก
สังคม ค. มคี วามทนทาน
ง. หาอาชีพทีเ่ หมาะสมกับตนเองรู้จกั วิธพี ัฒนา ง. มีความสวยงาม
อาชพี และประกอบอาชีพอยา่ งถูกต้อง
15. ความสามารถดา้ นการใชจ้ ติ วทิ ยา เปน็ คณุ ลกั ษณะ 20. หากต้องการพัฒนาอาชีพที่เกี่ยวข้องกับ
ท่ีส�ำคญั สำ� หรบั ผปู้ ระกอบอาชีพใด อุตสาหกรรมควรให้ความส�ำคัญกับการวิเคราะห์
ก. พนกั งานการเงนิ และบญั ชี ศักยภาพในด้านใดมากท่ีสุด
ข. พนังงานขับรถรับจา้ งท่วั ไป ก. ลกั ษณะภูมอิ ากาศ
ค. พนักงานขายสินคา้ และบรกิ าร ข. ทรัพยากรธรรมชาติ
ง. พนกั งานโรงงานอุตสาหกรรม ค. ภูมิประเทศและท�ำเลท่ตี งั้
ง. ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี

แบบฝึกทกั ษะทางวชิ าการเพื่อยกผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 39


21. บุคคลใดที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการประกอบ 25. ข้อใดเป็นการน�ำส่ิงเหลือใช้มาจากเกษตรมาผลิต
อาชีพ สิง่ ใหม่
ก. มณขี ายโทรศพั ท์มอื ถือหลายรนุ่ ก. นำ้� มนตน์ ำ� มะนาวมาดอง
ข. ขวญั ใจ น�ำเขา้ เส้ือผา้ จากต่างประเทศมาขาย ข. โซดาน�ำฟางขา้ วมาเพาะเห็ด
หลากหลายแบบ ค. มะนาวนำ� กลว้ ยมาทำ� กลว้ ยตาก
ค. นภา น�ำเก้าอเ้ี กา่ มาขายโดยตกแตง่ ใหม้ ี ง. เชอร่ีนำ� เปลือกสับปะรดมาเล้ียงสตั ว์
ความแปลกใหม่ 26. ธุรกจิ เชงิ รกุ หมายถึงขอ้ ใด
ง. การุณ ปรบั ปรุงรา้ นแต่ละส่วนให้ตรงตาม ก. การเปลย่ี นแปลงอยา่ งมีกระบวนการโดยมี
ความตอ้ งการ จุดมุ่งหมายกำ� หนดไว้
22. การส่งสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคควรให้ความ ข. การแยกแยะส่วนย่อยของความสามารถท่ี
สำ� คญั ข้อใดมากท่สี ดุ ชอ่ นเรน้ ใยตวั ตนน�ำมาใชป้ ระโยชนอ์ ย่าง
ก. ส่งมอบสินค้าตรงเวลา มีกระบวนการเพ่ือผลงานที่ดีทส่ี ดุ
ข. ต้นทุนขนส่งสนิ ค้าต่ำ� ค. การน�ำเอาความสามารถทช่ี ่อนเร้นภายในมา
ค. บรรจุภัณฑส์ ินค้าสวยงามดึงดูดใจ ใช้ประโยชน์อย่างมกี ระบวนการ เพอื่ ใหไ้ ด้
ง. เลอื กวิธกี ารในการขนสง่ ที่เหมาะสม ผลงานเกดิ ประสทิ ธิภาพทด่ี ที ส่ี ดุ
23. บคุ คลในขอ้ ใดมพี ฤตกิ รรมทส่ี ง่ ผลใหก้ ารประกอบ ง. การบรหิ ารจดั การธุรกจิ แบบมีแบบแผน เปน็
อาชพี ได้อยา่ งม่นั คงย่งั ยนื มากทส่ี ดุ ระบบการพฒั นางานที่ดี อ�ำนวยประโยชน์ให้
ก. ประพน พัฒนาคุณภาพสินคา้ ของตนใหม้ ี กบั ผู้ประกอบการ สามารถวางแผนตดิ ตาม
มาตราฐาน และควบคมุ ให้การดำ� เนนิ งานในทุกด้านได้
ข. สุพร ลดต้นทุนการผลติ สนิ คา้ ใหต้ ำ่� กว่าเพือ่ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ราคาขายทถี่ กู ลง 27. ครอบครัวเป็นสถาบันทีส่ �ำคัญเพราะเหตใุ ด
ค. มานะ จดั กิจกรรมสง่ เสรมิ การตลาดม่งสู่ ก. เพราะมบี ดิ า มารดา และบตุ รหลาน
ผลกำ� ไรในระยะยาว ข. เพราะเปน็ สถาบนั ท่ีสร้างความอบอนุ่ ให้กับ
ง. มานี เกบ็ รักษาผลไม้เพ่อื ขายนอกฤดกู าลใน บุตรหลาน
ราคามารตฐาน ค. เพราะเปน็ สถาบนั ทส่ี รา้ งความรกั ความเข้าใจ
24. จากสถานการณ์ต่อไปน้ี ดำ� เนินการอย่างไรถึงจะ ในครอบครวั
เหมาะทส่ี ดุ “วรี ะเปน็ ชา่ งซอ่ มแอรร์ ถยนตแ์ หง่ หนงึ่ ซง่ึ ง. เพราะเปน็ สถาบันที่ปลูกฝังคณุ ลกั ษณะอันพึง
ไดซ้ อ่ มแอร์รถยนต์ลกู คา้ ใกลจ้ ะเสร้จเรียบร้อยแลว้ แต่ ประสงค์ ให้เกดิ แกค่ รอบครวั
ใกล้เวลาท่วี ีระกำ� ลังจะเลกิ งาน” 28. แผนท่มี ีระยะเวลา 3 - 5 ปี คือแผนประเภทใด
ก. แจ้งลกู ค้าให้มารับรถในวันถัดไป ก. แผนระยะสัน้
ข. แจง้ เจา้ ของรา้ นเพอ่ื คิดค่าแรงลว่ งเวลา ข. แผนระยะยาว
ค. ซอ่ มรถลกู คา้ ให้เสร็จและตรวจสอบตามปกติ ค. แผนระยะปานกลาง
ง. เรง่ ซ่อมรถอย่างรวดเรว็ และรบี สง่ รถให้ลกู คา้ ง. แผนระยะเวลา 3 - 5 ปี
ตามเวลา

40 แบบฝึกทกั ษะทางวิชาการเพอ่ื ยกผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จังหวดั เลย


29. ขอ้ ใดเปน็ หนา้ ท่ีความรบั ผดิ ชอบของสมาชิกในครอบครัว
ก. การท�ำงานบ้านร่วมกนั
ข. การมอบหมายงานและความรบั ผิดชอบในบ้าน
ค. ความรบั ผดิ ชอบในหนา้ ทข่ี องสมาชกิ ในครอบครัว
ง. การวเิ คราะหแ์ ละวางแผนงานทีจ่ ะท�ำการมอบหมายงาน
30. การหาข้อมลู การตลาดที่ดีทสี ุดคือข้อใด
ก. การสังเกต
ข. การอา่ นรายงาน
ค. การถามผ้เู ช่ียวชาญ
ง. การใช้แบบสอบถาม

แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพ่อื ยกผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กศน.จังหวัดเลย 41


สรุปเน้ือหา

รายวิชา ศาสนาและหน้าทพ่ี ลเมอื ง

สค21002

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. มีความร้แู ละเขา้ ใจเกีย่ วกบั ความเปน็ มาและหลกั ธรรมของศาสนาในประเทศไทย
2. มคี วามรู้เก่ยี วกบั วฒั นธรรมประเพณแี ละการอนุรักษ์วฒั นธรรมประเพณีไทย
ขอบเขตเนื้อหา
ศึกษาและฝึกทกั ษะเกีย่ วกบั เรอ่ื งต่อไปนี้
1. ความเปน็ มาและหลักธรรมของศาสนา
2. วฒั นธรรม ประเพณแี ละการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมประเพณไี ทย
หน่วยท่ี 1 ศาสนาในประเทศไทยและในเอเชีย
ความเป็นมาของศาสนาในประเทศไทย ศาสนาในประเทศไทยท่ีรัฐบาลให้การอุปถัมภ์ดูแลมีท้ังสิ้น
5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพทุ ธ ศาสนาครสิ ต์ ศาสนาฮนิ ดู และศาสนาชกิ ข์ โดยประเทศไทยมศี าสนาพทุ ธ เปน็
ศาสนาประจ�ำชาตแิ ละมีผนู้ บั ถือมากที่สดุ โดยพระพทุ ธศาสนาเผยแผเ่ ขา้ มาในประเทศไทย ประมาณปี พ.ศ.270
หลงั จากพระพุทธเจา้ เสดจ็ ปรนิ ิพพาน ในสมยั ทวราวดี
ความเปน็ มาของศาสนาในทวปี เอเชยี พทุ ธศานานกิ ายใหญ่ 2 นกิ าย คอื นกิ ายเถรวาท กบั นกิ ายมหายาน
โดยเถรวาท แปลว่า “วาทะของพระเถระ” หมายถึงพระพุทธศาสนาแบบด้ังเดิม นิกายนี้ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของ
ประเทศอนิ เดียประเทศทนี่ ับถอื พุทธศาสนาแบบเถรวาท คอื ไทย พมา่ ลังกา ลาว และเขมร
มหายาน แปลว่า ยานใหญ่ เป็นนามต้ังขึ้นเพ่ือแสดงว่าพุทธศาสนาแบบน้ีสามารถช่วยให้สัตว์ข้ามพ้น
วัฏสงสารได้มาก โดยประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาแบบมหายาน คือ ทิเบต เวียดนาม จนี เกาหลี และญป่ี ุน่
หน่วยท่ี 2 วัฒนธรรม ประเพณีของประเทศไทยและเอเชีย
วัฒนะ หมายถึง ความเจริญงอกงามรุ่งเรือง ธรรม หมายถงึ การกระทำ� หรือขอ้ ปฏิบัติ วฒั นธรรม คอื ข้อ
ปฏิบัติเพื่อให้เกิดความเจริญงอกงาม วัฒนธรรม หมายถึง ทุกส่ิงทุกอย่างท่ีมนุษย์สร้างขึ้นไว้เพื่อน�ำเอาไปช่วย
พัฒนา ชีวติ ความเป็นอยูใ่ นสงั คม ซง่ึ จะรวมถงึ ช่วยแกป้ ญั หาและช่วยสนองความต้องการของสังคม
ประเพณีไทย เป็นวฒั นธรรมที่สืบทอดกนั มา เป็นส่ิงทแ่ี สดงถงึ วิธีชีวิตของคนไทย ทง้ั ในอดีตและปัจจุบนั
ประเพณแี สดงถงึ ความเจรญิ รงุ่ เรอื งของประเทศไทยทสี่ บื เนอื่ งกนั มาและเปน็ สง่ิ ทค่ี นไทยควรศกึ ษาทำ� ความเขา้ ใจ
และชว่ ยกันอนรุ ักษ์ ประเพณีไทยจ�ำแนกออกเปน็ 2 ประเภท คือ พระราชพธิ ี และ ประเพณีในทอ้ งถ่ินตา่ ง ๆ
วฒั นธรรมประเพณีของประเทศในทวีปเอเชีย มลี ักษณะส�ำคัญอยู่ 2 ลกั ษณะได้แก่ 1. ลักษณะส�ำคญั ทาง
ประซากร และ 2. สิง่ ที่มอี ทิ ธพิ ลสำ� คญั ตอ่ วฒั นธรรมของเอเชีย คือ ภาษาและอิทธพิ ลอารยธรรมภายนอก
หนว่ ยที่ 3 รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
รัฐธรรมนูญ (Constitution) หมายถึง กฎหมายสูงสุดในการจัดการปกครองรัฐ โดยประเทศไทยเริ่มใช้
รัฐธรรมนญู เปน็ กฎหมายสูงสดุ ในการปกครองประเทศ เมอ่ื เกดิ การปฏิวัตโิ ดยคณะราษฎร เพือ่ เปล่ยี นแปลงการ
ปกครองประเทศจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น

42 แบบฝกึ ทักษะทางวิชาการเพอื่ ยกผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย


Click to View FlipBook Version