31 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม บทที่ 2 งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นปัจจัยที่ส�ำคัญในการส่งเสริม และสนับสนุน การขับเคลื่อนระบบวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมของประเทศและเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่สังคมไทย ในการรับมือกับภาวะการเปลี่ยนแปลงอย ่างฉับพลันและภาวะวิกฤต รวมทั้งการพัฒนาประเทศให้ประสบ ผลส�ำเร็จและเกิดผลอย ่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ตลอดจนเป็นข้อมูลส�ำคัญในการติดตามและประเมินผล การด�ำเนินงานด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ โดยในบทนี้จะน�ำเสนองบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ได้รับการจัดสรรโดย คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (กสว.)ซึ่งส�ำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ท�ำหน้าที่เป็นผู้บริหารจัดการผ่านกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (กองทุนส่งเสริม ววน.) 2.1 งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (กองทุนส่งเสริม ววน.) จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และขับเคลื่อนระบบการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์มนุษยศาสตร์และสหวิทยาการ เพื่อสร้างองค์ความรู้พัฒนานโยบายสาธารณะ และสนับสนุน การน�ำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้เชิงเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและ ยั่งยืน โดยมีคณะกรรมการส ่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ กสว. ซึ่งมีอ�ำนาจหน้าที่ส�ำคัญ อย่างหนึ่งคือ บริหารกองทุนส่งเสริม ววน. รวมถึงก�ำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดท�ำค�ำของบประมาณและ การจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรม และมีส�ำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดสรรงบประมาณด้านการวิจัย ให้กับหน่วยงานในระบบวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ผ่านกองทุนส่งเสริม ววน. 2.1.1 ระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 สกสว. ได้จัดท�ำ ระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์1 รายละเอียดดังนี้ 1.แนวทางการจัดสรรงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม แบ่งออกเป็น 2ลักษณะ ได้แก่ • ทุนสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Fund) มีสัดส่วนการจัดสรร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 โดยก�ำหนดกรอบและจัดสรรงบประมาณตามแผนงานโปรแกรม และแผนงานส�ำคัญ ซึ่งบริหารจัดการ โดยหน ่วยบริหารและจัดการทุนเพื่อน�ำไปสนับสนุนทุนแก ่หน ่วยงานระดับปฏิบัติโดยต้องเป็นการท�ำวิจัย ที่เน้นตอบยุทธศาสตร์และแผนด้าน ววน. ของประเทศ • ทุนสนับสนุนงานมูลฐาน (Fundamental Fund) สัดส่วนการจัดสรร ไม่เกินร้อยละ 40 โดยก�ำหนดกรอบและจัดสรรงบประมาณไปยังสถาบันความรู้และสถาบันวิจัยในหน ่วยงานเพื่อสนับสนุน งานวิจัยพื้นฐานที่เป็นการพัฒนานักวิจัยและสร้างความเข้มแข็งของงานวิจัยและการบริหารงานวิจัยและจัดสรร งบประมาณไปยังหน ่วยงานตามภารกิจ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของหน ่วยงานให้สอดคล้องกับการพัฒนา ประเทศ 2. การจัดสรรงบประมาณแบบวงเงินรวม (Block Grant) โดยมีการกระจายอ�ำนาจให้หน่วยงาน ในระบบ ววน. และหน่วยบริหารและจัดการทุน 1 รายงานประจ�ำปี ปีงบประมาณ 2564 (1ตุลาคม 2563-30 กันยายน 2564), ส�ำนักงานคณะกรรมการส ่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.)
32 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 3. หลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณด้าน ววน. ประจ�ำปีจะสอดคล้องกับแนวทางการจัดสรร งบประมาณด้าน ววน.โดยการจัดสรรงบประมาณในแต่ละแพลตฟอร์ม จะพิจารณาตามฉากทัศน์เพื่อตอบโจทย์ ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ มุ่งเน้นสนับสนุนทุนสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์และพิจารณาผลของการด�ำเนินงาน ในการบริหารจัดการของแต่ละโปรแกรมและแพลตฟอร์มในปีที่ผ่านมา เป็นข้อมูลประกอบในการพิจารณา จัดสรรงบประมาณด้วย 4. ระบบการบริหารงบประมาณแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์พิจารณาความเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ระดับชาติ สอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและแผนแม่บทที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติโดยมีการจัดล�ำดับความส�ำคัญ และให้ความส�ำคัญกับผลผลิตมากกว่าทรัพยากรที่ใช้เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีคุณภาพตลอดจนช่วยให้งบประมาณ ด้าน ววน. ที่มีอยู่อย่างจ�ำกัดสามารถสร้างผลงานหรือแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศได้ในเวลาที่เหมาะสม โดยกระจายอ�ำนาจให้หน่วยบริหารและจัดการทุน 5.กลไกของระบบบริหารงบประมาณแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์พิจารณาตามฉากทัศน์ตามความจ�ำเป็น เร่งด่วนของประเทศ ตามนโยบายของประเทศและนโยบายยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและ นวัตกรรม (อววน.) รวมถึงแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2563-2565 ซึ่งแบ ่งออกเป็น 4แพลตฟอร์ม และประกอบด้วย17โปรแกรม โดยใช้กลไก1)การทบทวนและพิจารณาการจัดสรรงบประมาณ ในปีที่ผ่านมา 2) การเพิ่มเติมหรือปรับลดงบประมาณในแผนงานหรือโปรแกรม และ 3) การเปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงงบประมาณไปยังแผนงานใหม่ 6.ส่งเสริมระบบการบริหารจัดการงานวิจัยผ่านระบบข้อมูลสารสนเทศวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (NRIIS) โดยมีระบบติดตามประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีกลไกการท�ำงานที่สามารถประเมินผลลัพธ์และ ผลกระทบได้โดยก�ำหนดเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ส�ำคัญ (Objective and Key Results (OKRs)) โดยมี หน่วยนับที่ชัดเจน และมีระบบการตรวจสอบภายใน และความรับผิดชอบของผู้บริหารหน่วยงานโดยการสร้าง ระบบการรายงานผลการด�ำเนินงานและติดตามการใช้งบประมาณแบบ Real-time รูปที่ 2-1ระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 36 รูปที่ 2-1 ระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ8งผลสัมฤทธิ์ประจำป>งบประมาณ พ.ศ. 2565 ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการส2งเสริมวิทยาศาสตร9 วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) 1 แนวทางการจัดสรร Strategic Fund (SF) 60% Fundamental Fund (FF) 40% Block Grant & Multi-year budgeting พิจารณา ตาม Scenario & ผลการทํางาน แต่ละ Platform ของปีก่อน เชื่อมโยงยุทธศาสตร์ ระดับชาติ& มีการจัด Priority setting กลไก ของระบบ บริหารงบประมาณ ส่งเสริมระบบ การบริหารจัดการ และติดตาม ประเมินผล OKRs ผ่าน NRIIS 1 2 3 4 5 6 Revised Reallocate Replace เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ ได้ในเวลาเหมาะสม กระจายอํานาจให้PMU และหน่วยงานวิจัยในระบบ ววน. มุ่งเน้นที่ SF เพื่อแก้ไขปัญหา ประเทศ และสนับสนุน FF เพื่อสร้างความ เข้มแข็งและต้นทุน ให้หน่วยงานวิจัยจาก ฐานรากระบบ ววน. Revised: ทบทวนการจัดสรรในปีที่ผ่านมา Reallocate: เพิ่ม-ลดงบประมาณในแผนงาน/โปรแกรม Replace: เปลี่ยนแปลง-ปรับปรุงงบประมาณไปยังแผนงานใหม่ ที่มา: ส�ำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
33 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รูปที่ 2-2 ประเภทงบประมาณด้าน ววน. ที่มา: ส�ำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) 2.1.2 หน่วยบริหารและจัดการทุน (Program Management Unit: PMU) เป็นกลไกส�ำคัญ ในการบริหารงบประมาณวิจัยด้าน ววน. ท�ำหน้าที่ให้ทุนสนับสนุนการพัฒนาวิทยาศาสตร์งานวิจัยและนวัตกรรม ที่สอดคล้องกับแผนด้าน ววน. และบริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวมของประเทศซึ่งในปัจจุบันประกอบด้วย ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ส�ำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(สนช.) ส�ำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร องค์การมหาชน (สวก.) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนา ก�ำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาการวิจัยและสร้างนวัตกรรม (บพค.) หน่วยบริหารจัดการทุน ด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ(บพข.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับ พื้นที่ (บพท.) สถาบันวัคซีนแห่งชาติ(สวช.) และศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์(ศลช.) ทั้งนี้การจัดสรรงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ให้กับหน่วยบริหารจัดการทุน ตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2563 เป็นต้นมา โดยแผนงานหลักและแผนงานย ่อยที่ได้รับการสนับสนุนต้องสอดคล้องกับแผน วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม พร้อมทั้งก�ำหนดผลผลิตผลลัพธ์และผลกระทบ ที่สามารถตอบเป้าหมายและ ผลสัมฤทธิ์ที่ส�ำคัญภายใต้4แพลตฟอร์ม ได้แก่แพลตฟอร์มที่1ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาก�ำลังคน ยกระดับ สถาบันความรู้และระบบนิเวศด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม แพลตฟอร์มที่2ยุทธศาสตร์ด้านการวิจัย และสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ท้าทายของสังคม แพลตฟอร์มที่3ยุทธศาสตร์ด้านวิจัยและสร้างนวัตกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมทั้งยกระดับการพึ่งพาตนเองในระดับประเทศ แพลตฟอร์มที่ 4 ยุทธศาสตร์ด้านการวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่และลดความเหลื่อมล�้ำ โปรแกรมที่ 16 การปฏิรูประบบการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม และโปรแกรมที่ 17 การแก้ไขปัญหาวิกฤต เร่งด่วนของประเทศ 2.2 การจัดสรรงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในภาพรวม ผ ่านกองทุนส ่งเสริม ววน. ในปีงบประมาณ 2565 ได้รับการจัดสรรงบประมาณจ�ำนวน 14,176.05 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 คิดเป็นร้อยละ 28.82 โดยจ�ำแนกเป็นงบประมาณส�ำหรับทุนสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Fund) จ�ำนวน 8,577.56 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 61 และงบประมาณส�ำหรับทุนสนับสนุน งานมูลฐาน (Fundamental Fund) จ�ำนวน 5,598.49 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 39 (ดังรูปที่ 2-3) ทั้งนี้งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมในปีงบประมาณ 2565 คิดเป็นสัดส่วนเพียง ร้อยละ 0.46 ของงบประมาณรวมภาครัฐ (ดังรูปที่ 2-4) รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 36 รูปที่ 2-2 1) ทุนสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ2 Strategic Fund 2) ทุนสนับสนุนงานมูลฐาน Fundamental Fund กำหนดรอบและจัดสรรงบประมาณตามแผนงาน โปรแกรม และแผนงานสำคัญ ซึ่งบริหารจัดการ โดยหนNวยบริหารและจัดการทุน (PMU) เพื่อนำไป สนับสนุนทุน (Granting) แกNหนNวยงานระดับปฏิบัติ โดยต`องเปaนการทำวิจัยที่เน`นตอบยุทธศาสตร0และ แผนด`าน ววน. ของประเทศ 2.1 Basic Research Fund กำหนดกรอบและจัดสรร งบประมาณเพื่อสนับสนุนงานวิจัยพื้นฐานที่เปaนการ พัฒนานักวิจัย และสร`างความเข`มแข็งของงานวิจัย และการบริหารงานวิจัยของสถาบันอุดมศึกษา เพื่อ ตอบโจทย0ประเทศ 2.2 Function-based Research Fund กำหนด กรอบและจัดสรรงบประมาณตรงไปที่หนNวยงานที่มี ภารกิจเฉพาะ (ที่ไมNใชNสถาบันอุดมศึกษา) เพื่อสร`าง ความเข`มแข็งของหนNวยงาน และสอดคล`องกับการ พัฒนาประเทศ
34 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รูปที่ 2-3งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม จ�ำแนกตามประเภทงบ ปีงบประมาณ 2563-2565 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 36 รูปที่ 2-3 งบประมาณด*านวิทยาศาสตร3 วิจัยและนวัตกรรม จำแนกตามประเภทงบ ป=งบประมาณ 2563-2565 หมายเหตุ : ปFจจุบัน Fundamental Fund เปลี่ยนชื่อจาก “งานพื้นฐาน” เปZน “งานมูลฐาน” หน\วย : ล*านบาท ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการส\งเสริมวิทยาศาสตร3 วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) 8,383.79 11,258.00 5,598.49 4,170.78 8,658.63 8,577.56 12,554.57 19,916.63 14,176.05 0.00 5,000.00 10,000.00 15,000.00 20,000.00 25,000.00 2563 2564 2565 ทุนสนับสนุนงานมูลฐาน (Fundamental Fund : FF) ทุนสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ0 (Strategic Fund : SF) รวม หมายเหตุ: ปัจจุบัน Fundamental Fund เปลี่ยนชื่อจาก “งานพื้นฐาน” เป็น “งานมูลฐาน” หน่วย: ล้านบาท ที่มา: ส�ำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 36 รูปที่ 2-4 เปรียบเทียบการจัดสรรงบประมาณด2านวิทยาศาสตร8 วิจัยและนวัตกรรม และงบประมาณภาครัฐ ป? 2563-2564 หน#วย : ล)านบาท ที่มา : 1.สำนักงานคณะกรรมการส#งเสริมวิทยาศาสตร? วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) 2. สำนักงบประมาณ 3,200,000.00 3,285,962.48 3,100,000.00 12,554.57 19,916.63 14,176.05 0.00 500,000.00 1,000,000.00 1,500,000.00 2,000,000.00 2,500,000.00 3,000,000.00 3,500,000.00 2563 2564 2565 งบประมาณแผ#นดิน งบประมาณ ววน. หน่วย : ล้านบาท ที่มา : 1.ส�ำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) 2. ส�ำนักงบประมาณ รูปที่ 2-4 เปรียบเทียบการจัดสรรงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม และงบประมาณภาครัฐ ปี2563-2565
35 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เมื่อพิจารณาการจัดสรรงบประมาณด้าน ววน.ตามแพลตฟอร์ม 2565 พบว่าแพลตฟอร์ม 3การวิจัย และสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมทั้งยกระดับการพึ่งพาตนเองในระดับประเทศ ได้รับการจัดสรรมากที่สุด 4,452.5998 ล้านบาท (ร้อยละ 31) รองลงมาแพลตฟอร์ม 1 การพัฒนาก�ำลังคน ยกระดับสถาบันความรู้และระบบนิเวศด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 3,581.5713 ล้านบาท (ร้อยละ 25) แพลตฟอร์ม 2 การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ท้าทายของสังคม 3,050.5477 (ร้อยละ 22) แพลตฟอร์ม 4 การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ และลดความเหลื่อมล�้ำ (ร้อยละ 10) (ดังรูปที่ 2-5 และ ตารางที่ 2-1) รูปที่ 2-5 งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จ�ำแนกตามแพลตฟอร์มและโปรแกรม ปีงบประมาณ 2565 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 36 รูปที่ 2-5 งบประมาณด+านวิทยาศาสตร4 วิจัยและนวัตกรรม จำแนกตามแพลตฟอร4มและโปรแกรม ป?งบประมาณ 2565 ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการส2งเสริมวิทยาศาสตร9 วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) แพลตฟอร(มที่ 1 การพัฒนากำลังคน ยกระดับสถาบันความรู?และระบบนิเวศ ด?านวิทยาศาสตร( วิจัยและนวัตกรรม 25% แพลตฟอร(มที่ 2 การวิจัยและ สร?างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย( ท?าทายของสังคม 22% แพลตฟอร(มที่ 3 การวิจัยและสร?าง นวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถใน การแขLงขัน พร?อมทั้งยกระดับการพึ่งพา ตนเองในระดับประเทศ 31% แพลตฟอร(มที่ 4 การวิจัย และสร?างนวัตกรรมเพื่อ การพัฒนาเชิงพื้นที่และ ลดความเหลื่อมล้ำ 10% โปรแกรมที่ 16 การปฏิรูประบบการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร( วิจัยและนวัตกรรม 8% โปรแกรมที่ 17 การแก?ปZญหา วิกฤติเรLงดLวนของประเทศ 4% ที่มา: ส�ำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
36 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตารางที่ 2-1 งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม จ�ำแนกตามแพลตฟอร์ม ปีงบประมาณ 2563-2565 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 36 ตารางที่ 2-1 งบประมาณด+านวิทยาศาสตร4 วิจัยและนวัตกรรม จำแนกตามแพลตฟอร4ม ป>งบประมาณ 2563-2564 หมายเหตุ : **สำหรับแผนด4าน ววน. พ.ศ. 2563-2565 ฉบับปรับปรุงปAงบประมาณ พ.ศ. 2565 ได4เพิ่มเติมชื่อแพลตฟอรLมที่ 1 แพลตฟอรLมที่ 3 และโปรแกรม 17 หนSวย : ล4านบาท ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการสSงเสริมวิทยาศาสตรL วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) แพลตฟอร(ม 2563 2564 2565 แพลตฟอร(มที่ 1 การพัฒนากำลังคน ยกระดับ สถาบันความรู6และระบบนิเวศด6านวิทยาศาสตร= วิจัยและนวัตกรรม** 2,969.95 5,620.53 3,581.57 23.66% 28.22% 25.26% แพลตฟอร(มที่ 2 การวิจัยและสร6างนวัตกรรมเพื่อ ตอบโจทย=ท6าทายของสังคม 2,237.70 3,171.47 3,050.55 17.82% 15.92% 21.52% แพลตฟอร(มที่ 3 การวิจัยและสร6างนวัตกรรมเพื่อเพิ่ม ขีดความสามารถในการแขTงขัน พร6อมทั้งยกระดับการ พึ่งพาตนเองในระดับประเทศ** 5,911.16 5,678.52 4,452.60 47.08% 28.51% 31.41% แพลตฟอร(มที่ 4 การวิจัยและสร6างนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่และลดความเหลื่อมล้ำ 1,083.89 1,756.48 1,371.28 8.63% 8.82% 9.67% โปรแกรมที่ 16 การปฏิรูประบบการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร=วิจัยและนวัตกรรม 351.864 2,225.92 1,082.63 2.80% 11.18% 7.64% โปรแกรมที่ 17 การแก6ป]ญหาวิกฤติเรTงดTวน ของประเทศ** - 1,463.70 637.42 0.00% 7.35% 4.50% รวมทั้งสิ้น 12,554.57 19,916.63 14,176.05 100% 100% 100% หมายเหตุ : **ส�ำหรับแผนด้าน ววน. พ.ศ. 2563-2565 ฉบับปรับปรุงปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ได้เพิ่มเติมชื่อแพลตฟอร์มที่ 1 แพลตฟอร์มที่ 3 และโปรแกรม 17 หน่วย : ล้านบาท ที่มา : ส�ำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) 2.3 สรุป คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (กสว.)ซึ่งมอบหมายให้ส�ำนักงานคณะกรรมการ ส ่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ท�ำหน้าที่เป็นผู้บริหารจัดการงบประมาณเพื่อใช้เป็น เครื่องมือในการขับเคลื่อนระบบ ววน. ของประเทศผ ่านกองทุนส ่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุนส่งเสริม ววน.) ได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี2565 ได้รับการจัดสรรงบประมาณจ�ำนวน 14,176.05 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 28.82 โดยจ�ำแนกเป็นงบประมาณส�ำหรับทุนสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Fund) จ�ำนวน 8,577.56 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 61 และงบประมาณส�ำหรับทุนสนับสนุนงาน มูลฐาน (Fundamental Fund) จ�ำนวน 5,598.49 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 39 ซึ่งสามารถจ�ำแนกเป็น แพลตฟอร์ม 1การพัฒนาก�ำลังคน ยกระดับสถาบันความรู้และระบบนิเวศด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (ร้อยละ 25) แพลตฟอร์ม 2 การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ท้าทายของสังคม (ร้อยละ 22) แพลตฟอร์ม 3การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมทั้งยกระดับการพึ่งพา ตนเองในระดับประเทศ (ร้อยละ 31) แพลตฟอร์ม 4 การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่และ ลดความเหลื่อมล�้ำ (ร้อยละ10) โปรแกรม 16การปฏิรูประบบการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (ร้อยละ 8) และโปรแกรม 17 การแก้ปัญหาวิกฤติเร่งด่วนของประเทศ (ร้อยละ 4)
37 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา
38 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา บทที่ 3 ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศเป็นตัวชี้วัดที่สะท้อนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา ของประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยส�ำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรม น�ำไปสู ่การพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมอย ่างยั่งยืน เป็นข้อมูลที่สะท้อนความสามารถในการแข ่งขันด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทางวิทยาศาสตร์ของประเทศ ทั้งยังสามารถเพิ่มอัตราการขยายตัวของ GDP ของประเทศได้อย่างมีนัยส�ำคัญ ดังนั้นจึงเป็นข้อมูลส�ำคัญที่ถูกใช้เป็นตัวชี้วัดในการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การวิเคราะห์ข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้ 1) ภาพรวมการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของโลก โดยแสดงข้อมูลค ่าใช้จ ่ายด้านการวิจัย และพัฒนาของประเทศต ่าง ๆ รวมทั้งเปรียบเทียบค ่าใช้จ ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทยและ นานาประเทศและกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอาเชียน โดยใช้ข้อมูลจากInternational Institute for Management Development (IMD) ปี2565 (2022) ซึ่งปี2563 (2020) เป็นปีล่าสุดที่มีข้อมูล 2) ภาพรวมค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทย แสดงข้อมูลผลการส�ำรวจค่าใช้จ่าย ด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทยในปี2563 ซึ่งเป็นผลการส�ำรวจข้อมูลปีล่าสุด 3) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนไทย แสดงข้อมูลผลการส�ำรวจค่าใช้จ่าย ด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนของไทยในปี2563 ซึ่งเป็นผลการส�ำรวจข้อมูลปีล่าสุด 3.1 ภาพรวมการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของโลก การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาในภาพรวมของโลก ซึ่งพิจารณาจากค ่าใช้จ ่ายด้านการวิจัย และพัฒนาของประเทศต่าง ๆ จากรายงานการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของ IMD (IMD World CompetitivenessYearbook2022) พบว่า ในปี2563(2020) ประเทศที่มีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา มากที่สุด 10 อันดับแรกของโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 720,872 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 9.65) จีน 353,484 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 10.28) ญี่ปุ่น 165,043 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 0.20) เยอรมนี120,941 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงจากปีก่อนร้อยละ1.38) เกาหลีใต้78,857ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ3.20) ฝรั่งเศส 61,942 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 4.09) สหราชอาณาจักร 49,168 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 1.08) อิตาลี28,971 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ลดลง จากปีก่อนร้อยละ 0.12) แคนาดา 27,913 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 4.20) และ ออสเตรเลีย 24,749 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 2.33) ส�ำหรับประเทศไทยมีค่าใช้จ่าย ด้านการวิจัยและพัฒนาจ�ำนวน 6,647 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 6.88 (ดังรูปที่ 3-1)
39 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา รูปที่ 3-1 ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต่าง ๆ ปี2563 Page | 1 รูปที่ 3-1 ค#าใช'จ#ายด'านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต#างๆ ป? 2563 หน#วย : ล#านเหรียญดอลลาร.สหรัฐ (US$ millions) ที่มา (Source) : IMD World Competitiveness Yearbook 2022 - - 13 202 216 238 255 277 287 537 549 596 653 714 782 828 953 958 974 1,118 1,151 1,170 2,070 2,359 2,505 2,825 2,906 2,997 3,232 3,423 3,583 3,657 3,696 4,885 5,201 5,248 6,647 7,079 7,841 7,918 8,251 8,305 10,546 13,870 18,010 18,109 18,146 19,090 20,966 21,879 22,128 23,029 24,297 24,749 27,913 28,971 49,168 61,942 78,857 120,941 165,043 353,484 720,872 - 100,000 200,000 300,000 400,000 500,000 600,000 700,000 800,000 บอตสวานา (Botswana) บาห์เรน (Bahrain) มองโกเลีย (Mongolia) ไซปรัส (Cyprus) คาซัคสถาน (Kazakhstan) ลัตเวีย (Latvia) เปรู (Peru) จอร์แดน (Jordan) เวเนซุเอลา (Venezuela) ไอซ์แลนด์ (Iceland) เอสโตเนีย (Estonia) บัลแกเรีย (Bulgaria) ลิทัวเนีย (Lithuania) โครเอเชีย (Croatia) โคลอมเบีย (Colombia) ลักเซมเบิร์ก (Luxembourg) ชิลี (Chile) สาธารณรัฐสโลวัก (Slovak Republic) กาตาร์ (Qatar) ฟิ ลิปปินส์ (Philippines) สโลวีเนีย (Slovenia) โรมาเนีย (Romania) อาร์เจนตินา (Argentina) อินโดนีเซีย (Indonesia) ฮังการี (Hungary) กรีซ (Greece) แอฟริกาใต้ (South Africa) นิวซีแลนด์ (New Zealand) เม็กซิโก (Mexico) ฮ่องกง (Hong Kong SAR) มาเลเซีย (Malaysia) ซาอุดิอาราเบีย (Saudi Arabia) โปรตุเกส (Portugal) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ไอร์แลนด์ (lreland) ไทย (Thailand) สิงคโปร์ (Singapore) ตุรเคีย (Türkiye) ฟิ นแลนด์ (Finland) นอร์เวย์ (Norway) โปแลนด์ (Poland) เดนมาร์ก (Denmark) ออสเตรีย (Austria) สเปน (Spain) อินเดีย (India) เบลเยีLยม (Belgium) สวีเดน (Sweden) เนเธอร์แลนด์ (Netherlands) บราซิล (Brazil) อิสราเอล (Israel) สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) ไต้หวัน (Taiwan, China) ออสเตรเลีย (Australia) แคนาดา (Canada) อิตาลี (Italy) อังกฤษ (United Kingdom) ฝรัLงเศส (France) เกาหลีใต้ (Korea Rep.) เยอรมนี (Germany) ญีLปุ่ น (Japan) จีน (China) สหรัฐอเมริกา (USA) หน่วย: ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (US$ millions) ที่มา (Source): IMD World Competitiveness Yearbook 2022
40 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา เมื่อพิจารณาแนวโน้มการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดย พิจารณาจากค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต่างๆในปี2559-2563 พบว่า ประเทศที่มีค่าใช้จ่าย ด้านการวิจัยและพัฒนามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ไทย ฮ่องกง นิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ และเมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี2562-2563 พบว่า ประเทศที่มีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้น ได้แก่ จีน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.28) ญี่ปุ่น (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.20) เกาหลีใต้(เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.20) ไต้หวัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.72) สิงคโปร์(เพิ่มขึ้นร้อยละ2.88) ฮ่องกง (เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.84) นิวซีแลนด์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.31) ฟิลิปปินส์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 117.08) และไทย (เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.88) ส่วนประเทศทีมีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาลดลง ได้แก่ ออสเตรเลีย (ลดลงร้อยละ 4.12) และมาเลเซีย (ลดลงร้อยละ 1.46) (ดังรูปที่ 3-2 และดังตารางที่ 3-1) รูปที่ 3-2 แนวโน้มการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี2559-2563 รูปที่ 3-2 แนวโน&มการลงทุนด&านการวิจัยและพัฒนาของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟDก ปE 2559-2563 หมายเหตุ : * ประเทศอาเซียน หน#วย : ล3านเหรียญดอลลาร6สหรัฐ (US$ millions) ที่มา (Source) : IMD World Competitiveness Yearbook 2018-2022 0 50,000 100,000 150,000 200,000 250,000 300,000 350,000 400,000 2559 2560 2561 2562 2563 จีน (China) ญี่ปุ0น (Japan) เกาหลีใต: (Korea Rep.) ออสเตรเลีย (Australia) ไต:หวัน (Taiwan) อินเดีย (India) สิงคโปรV (Singapore)* ไทย (Thailand)* มาเลเซีย (Malaysia)* ฮ`องกง (Hong Kong) นิวซีแลนดV (New Zealand) อินโดนีเซีย (Indonesia)* ฟfลิปปfนสV (Philippines)* มองโกเลีย (Mongolia) หมายเหตุ: * ประเทศอาเซียน หน่วย: ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (US$ millions) ที่มา (Source): IMD World Competitiveness Yearbook 2018-2022
41 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา ตารางที่ 3-1 ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี2559-2563 Page | 1 ตารางที่ 3-1 ค#าใช'จ#ายด'านการวิจัยและพัฒนาของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟCก ปD 2559 - 2563 ประเทศ 2559 2560 2561 2562 2563 จีน (China) 235,936 260,494 297,431 320,532 353,484 ญี่ปุ;น (Japan) 155,447 156,128 162,276 164,709 165,043 เกาหลีใตE (Korea Rep.) 59,810 69,699 77,900 76,412 78,857 ออสเตรเลีย (Australia) 23,424 23,424 25,340 25,340 24,297 ไตEหวัน (Taiwan) 16,751 18,944 20,422 21,366 24,297 อินเดีย (India) 13,306 13,301 13,301 18,109 18,109 สิงคโปรa (Singapore)* 7,012 6,580 6,881 6,881 7,079 ไทย (Thailand)* 3,217 4,571 5,644 6,219 6,647 มาเลเซีย (Malaysia)* 3,856 4,263 4,263 3,636 3,583 ฮkองกง (Hong Kong) 2,540 2,731 3,125 3,361 3,423 นิวซีแลนดa (New Zealand) 2,243 2,243 2,767 2,767 2,997 อินโดนีเซีย (Indonesia)* 1,864 1,864 1,864 2,359 2,359 ฟqลิปปqนสa (Philippines)* 375 515 515 515 1,118 มองโกเลีย (Mongolia) 5 15 15 13 13 หมายเหตุ : * ประเทศอาเซียน หน1วย : ลEานเหรียญดอลลารaสหรัฐ (US$ millions) ที่มา (Source) : IMD World Competitiveness Yearbook 2018-2022 หมายเหตุ: * ประเทศอาเซียน หน่วย: ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (US$ millions) ที่มา (Source): IMD World Competitiveness Yearbook 2018-2022 เมื่อพิจารณาสัดส ่วนค ่าใช้จ ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต ่อ GDP ของประเทศต่าง ๆ พบว่า ประเทศที่มีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต่อ GDP (GERD/GDP) สูงสุด 10 อันดับแรก ของโลก ได้แก่ อิสราเอล (ร้อยละ 5.44) เกาหลีใต้(ร้อยละ 4.81) ไต้หวัน (ร้อยละ 3.63) สวีเดน (ร้อยละ 3.53) เบลเยียม (ร้อยละ 3.48) สหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 3.45) ญี่ปุ่น (ร้อยละ 3.27) ออสเตรีย (ร้อยละ 3.20) สวิตเซอร์แลนด์(3.15) เยอรมนี(ร้อยละ3.14)ตามล�ำดับ ส�ำหรับประเทศไทยมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านการวิจัย และพัฒนาของประเทศต่อ GDP อยู่ที่ร้อยละ 1.33 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 16.66 (ดังรูปที่3-3)
42 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา รูปที่ 3-3 ร้อยละของค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต่อ GDP ของประเทศต่าง ๆ ปี2563 Page | 1 รูปที่ 3-3 ร#อยละของค+าใช#จ+ายด#านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต+อ GDP ของประเทศต+าง ๆ ปB 2563 หน#วย : ร"อยละของ GDP (Percentage of GDP) ที่มา (Source) : IMD World Competitiveness Yearbook 2022 - - 0.10 0.10 0.12 0.13 0.23 0.29 0.30 0.32 0.34 0.46 0.47 0.52 0.53 0.65 0.65 0.72 0.82 0.83 0.85 0.91 0.99 1.06 1.09 1.13 1.14 1.16 1.23 1.25 1.33 1.39 1.41 1.42 1.46 1.50 1.53 1.62 1.62 1.62 1.71 1.79 1.79 1.89 1.99 2.15 2.28 2.30 2.35 2.41 2.48 2.91 2.96 3.14 3.15 3.20 3.27 3.45 3.48 3.53 3.63 4.81 5.44 - 1.00 2.00 3.00 4.00 5.00 6.00 บอตสวานา (Botswana) บาห์เรน (Bahrain) เวเนซุเอลา (Venezuela) มองโกเลีย (Mongolia) เปรู (Peru) คาซัคสถาน (Kazakhstan) อินโดนีเซีย (Indonesia) โคลอมเบีย (Colombia) เม็กซิโก (Mexico) ฟิ ลิปปินส์ (Philippines) ชิลี (Chile) อาร์เจนตินา (Argentina) โรมาเนีย (Romania) ซาอุดิอาราเบีย (Saudi Arabia) กาตาร์ (Qatar) อินเดีย (India) ลัตเวีย (Latvia) จอร์แดน (Jordan) ไซปรัส (Cyprus) แอฟริกาใต้ (South Africa) บัลแกเรีย (Bulgaria) สาธารณรัฐสโลวัก (Slovak Republic) ฮ่องกง (Hong Kong SAR) มาเลเซีย (Malaysia) ตุรเคีย (Türkiye) ลักเซมเบิร์ก (Luxembourg) บราซิล (Brazil) ลิทัวเนีย (Lithuania) ไอร์แลนด์ (lreland) โครเอเชีย (Croatia) ไทย (Thailand) โปแลนด์ (Poland) สเปน (Spain) นิวซีแลนด์ (New Zealand) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กรีซ (Greece) อิตาลี (Italy) ฮังการี (Hungary) โปรตุเกส (Portugal) แคนาดา (Canada) อังกฤษ (United Kingdom) ออสเตรเลีย (Australia) เอสโตเนีย (Estonia) สิงคโปร์ (Singapore) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) สโลวีเนีย (Slovenia) นอร์เวย์ (Norway) เนเธอร์แลนด์ (Netherlands) ฝรัOงเศส (France) จีน (China) ไอซ์แลนด์ (Iceland) ฟิ นแลนด์ (Finland) เดนมาร์ก (Denmark) เยอรมนี (Germany) สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) ออสเตรีย (Austria) ญีOปุ่ น (Japan) สหรัฐอเมริกา (USA) เบลเยีOยม (Belgium) สวีเดน (Sweden) ไต้หวัน (Taiwan, China) เกาหลีใต้ (Korea Rep.) อิสราเอล (Israel) หน่วย: ร้อยละของ GDP (Percentage of GDP) ที่มา (Source): IMD World Competitiveness Yearbook 2022
43 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา เมื่อพิจารณาแนวโน้มค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาต่อ GDPของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี2559-2563 พบว่า ประเทศที่มีแนวโน้มสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาต่อ GDPเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ไต้หวัน จีน ไทย และฮ่องกง (ดังรูปที่ 3-4) และเมื่อพิจารณาสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาต่อ GDP จากข้อมูลในปี2562-2563 พบว่า ส่วนใหญ่มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาต่อ GDP เพิ่มขึ้น ได้แก่ เกาหลีใต้(เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.66) ไต้หวัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.01) ญี่ปุ่น (เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.19) จีน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.59) สิงคโปร์(เพิ่มขึ้นร้อย ละ 89) มาเลเซีย (เพิ่มขึ้นร้อยละ 8) ฮ่องกง (เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.61) รวมทั้งประเทศไทย เพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 16.66 (ดังตารางที่ 3-2) รูปที่ 3-4 แนวโน้มค ่าใช้จ ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาต ่อ GDP ของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี2559-2563 Page | 1 รูปภาพที่ 3-4 แนวโน&มค)าใช&จ)ายด&านการวิจัยและพัฒนาต)อ GDP ของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟHก ปI 2559-2563 หมายเหตุ : * ประเทศอาเซียน หน#วย : ร"อยละของ GDP (Percentage of GDP) ที่มา (Source) : IMD World Competitiveness Yearbook 2018-2022 0 0.5 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4 4.5 5 2559 2560 2561 2562 2563 เกาหลีใต) (Korea Rep.) ไต)หวัน (Taiwan) ญี่ปุAน (Japan) จีน (China) สิงคโปรL (Singapore)* ออสเตรเลีย (Australia) นิวซีแลนดL (New Zealand) ไทย (Thailand)* มาเลเซีย (Malaysia)* ฮbองกง (Hong Kong) อินเดีย (India) ฟfลิปปfนสL (Philippines)* อินโดนีเซีย (Indonesia)* มองโกเลีย (Mongolia) หมายเหตุ: * ประเทศอาเซียน หน่วย: ร้อยละของ GDP (Percentage of GDP) ที่มา (Source): IMD World Competitiveness Yearbook 2018-2022
44 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา ตารางที่ 3-2 ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาต่อ GDPของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี2559-2563 Page | 1 ตารางที่ 3-2 ค#าใช'จ#ายด'านการวิจัยและพัฒนาต#อ GDP ของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟGก ปH 2559-2563 ประเทศ 2559 2560 2561 2562 2563 เกาหลีใต* (Korea Rep.) 4.23 4.55 4.53 4.64 4.81 ไต*หวัน (Taiwan) 3.16 3.30 3.36 3.49 3.63 ญี่ปุJน (Japan) 3.14 3.21 3.28 3.20 3.27 จีน (China) 2.11 2.13 2.14 2.24 2.41 สิงคโปรV (Singapore)* 2.26 1.95 1.84 1.83 1.89 ออสเตรเลีย (Australia) 1.90 1.91 1.83 1.83 1.79 นิวซีแลนดV (New Zealand) 1.28 1.28 1.37 1.36 1.42 ไทย (Thailand)* 0.78 1.00 1.11 1.14 1.33 มาเลเซีย (Malaysia)* 1.30 1.44 1.42 1.00 1.06 ฮlองกง (Hong Kong) 0.79 0.80 0.86 0.92 0.99 อินเดีย (India) 0.62 0.62 0.62 0.65 0.65 ฟpลิปปpนสV (Philippines)* 0.14 0.16 0.16 0.16 0.32 อินโดนีเซีย (Indonesia)* 0.20 0.20 0.20 0.23 0.23 มองโกเลีย (Mongolia) 0.04 0.14 0.13 0.10 0.10 หมายเหตุ : * ประเทศอาเซียน หน#วย : ร"อยละของ GDP (Percentage of GDP) ที่มา (Source) : IMD World Competitiveness Yearbook 2018-2022 หมายเหตุ: * ประเทศอาเซียน หน่วย: ร้อยละของ GDP (Percentage of GDP) ที่มา (Source): IMD World Competitiveness Yearbook 2018-2022 เมื่อพิจารณาสัดส่วนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนต่อภาคอื่น ๆของประเทศที่มีค่า ใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาต่อ GDP สูงสุด 10 อันดับแรกของโลก พบว่า สัดส่วนการลงทุนด้านการวิจัย และพัฒนาส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 60 มาจากภาคเอกชน (ดังรูปที่ 3-5) และเมื่อพิจารณาสัดส่วนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พบว่า การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาส่วนใหญ่มาจากภาคเอกชนเช่นเดียวกันกับประเทศที่มีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัย และพัฒนาต่อ GDP สูงสุด 10 อันดับแรก รวมถึงประเทศไทยที่มีสัดส่วนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเอกชนเช่นกัน โดยในปี2563 ประเทศไทยมีสัดส่วนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา ในภาคเอกชนต่อภาคอื่น ๆ รวมทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 67 : 33 (ดังรูปที่ 3-6)
45 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา รูปที่ 3-5 สัดส่วนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนต่อภาคอื่น ๆ ของประเทศที่มีค่าใช้จ่าย ด้านการวิจัย และพัฒนาต่อ GDP สูงสุด 10 อันดับแรกของโลกในปี2563 Page | 1 รูปที่ 3-5 สัดส%วนการลงทุนด/านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนต%อภาคอื่นๆ ของประเทศที่มีค%าใช/จ%ายด/านการ วิจัย และพัฒนาต%อ GDP สูงสุด 10 อันดับแรกของโลกในปN 2563 หน$วย : ร"อยละ (%) ที่มา (Source) : IMD World Competitiveness Yearbook 2022 ประมวลผลโดย : สำนักงานการวิจัยแห8งชาติ (วช.) 90 79 83 72 73 75 79 69 68 67 10 21 17 28 27 25 21 31 32 33 5.44 4.81 3.63 3.53 3.48 3.45 3.27 3.20 3.15 3.14 0.00 1.00 2.00 3.00 4.00 5.00 6.00 0% 20% 40% 60% 80% 100% อิสราเอล (Israel) เกาหลีใต6 (Korea Rep.) ไต6หวัน (Taiwan, China) สวีเดน (Sweden) เบลเยียม (Belgium) สหรัฐอเมริกา (USA) ญี่ปุXน (Japan) ออสเตรีย (Austria) สวิตเซอร\แลนด\ (Switzerland) เยอรมนี (Germany) ค"าใช&จ"ายด&าน R&D ของภาคเอกชน (%) ค"าใช&จ"ายด&าน R&D ของภาคอื่นๆ (%) ค"าใช"จ"ายด&าน R&D ของประเทศต"อ GDP (%) หน่วย: ร้อยละ (%) ที่มา (Source): IMD World Competitiveness Yearbook 2022 ประมวลผลโดย: ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) รูปที่ 3-6 สัดส่วนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนต่อภาคอื่น ๆ ของประเทศในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ปี2563 Page | 1 รูปที่ 3-6 สัดส%วนการลงทุนด/านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนต%อภาคอื่นๆ ของประเทศในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟIก ปJ 2563 หมายเหตุ : * ประเทศอาเซียน หน$วย : ร"อยละ (%) ที่มา (Source) : IMD World Competitiveness Yearbook 2022 ประมวลผลโดย : สำนักงานการวิจัยแห8งชาติ (วช.) 79 83 79 77 61 51 60 68 44 42 37 55 7 21 17 21 23 39 49 40 32 56 58 63 45 93 4.81 3.63 3.27 2.41 1.89 1.79 1.42 1.33 1.06 0.99 0.65 0.32 0.23 - 1.00 2.00 3.00 4.00 5.00 0% 20% 40% 60% 80% 100% เกาหลีใต) (Korea Rep.) ไต)หวัน (Taiwan, China) ญี่ปุDน (Japan) จีน (China) สิงคโปรM (Singapore)* ออสเตรเลีย (Australia) นิวซีแลนดM (New Zealand) ไทย (Thailand)* มาเลเซีย (Malaysia)* ฮcองกง (Hong Kong) อินเดีย (India) ฟgลิปปgนสM (Philippines)* อินโดนีเซีย (Indonesia)* ค"าใช&จ"ายด&าน R&D ของภาคเอกชน (%) ค"าใช&จ"ายด&าน R&D ของภาคอื่นๆ (%) ค"าใช"จ"ายด&าน R&D ของประเทศต"อ GDP (%) หน่วย: ร้อยละ (%) ที่มา (Source): IMD World Competitiveness Yearbook 2022 ประมวลผลโดย: ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) เมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต่อประชากร พบว่า ประเทศ 10 อันดับแรก ส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาต่อประชากรมากกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ (2,695.1 ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร) อิสราเอล (2,380.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร) สหรัฐอเมริกา (2,176.3ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร)สวีเดน (1,839.3ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร) เดนมาร์ก (1,811.0 ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร) เบลเยียม (1,578.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร) ออสเตรีย (1,555.4 ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร) นอร์เวย์ (1,532.2 ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร) เกาหลีใต้(1,522.9 ดอลลาร์ สหรัฐต่อประชากร) และไอซ์แลนด์ (1,474.2 ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร) ส�ำหรับประเทศไทยมีค่าใช้จ่าย ด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต่อประชากรอยู่ที่ 100.4 ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร (ดังรูปที่ 3-7)
46 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา รูปที่ 3-7 ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต่อประชากรของประเทศต่าง ๆ ปี2563 Page | 1 รูปที่ 3-7 ค#าใช'จ#ายด'านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต#อประชากรของประเทศต#าง ๆ ป? 2563 หน#วย : ดอลลาร-สหรัฐต#อประชากร (US$ per capita) ที่มา (Source) : IMD World Competitiveness Yearbook 2022 4.1 8.0 8.9 9.3 10.6 11.5 14.0 15.7 25.3 28.7 46.1 49.9 51.4 60.5 86.0 93.8 100.4 104.4 104.9 109.9 124.7 175.6 176.4 217.0 226.9 233.6 250.3 256.4 263.8 253.9 352.9 380.3 413.1 456.5 457.6 485.8 547.9 560.3 601.1 736.1 739.6 918.3 975.7 1,031.2 1,054.5 1,204.4 1,241.1 1,311.6 1,322.2 1,433.2 1,454.3 1,474.2 1,522.9 1,532.2 1,555.4 1,578.9 1,811.0 1,839.3 2,176.3 2,380.9 2,695.1 0 500 1000 1500 2000 2500 3000 บาห์เรน (Bahrain) มองโกเลีย (Mongolia) เปรู (Peru) อินโดนีเซีย (Indonesia) เวเนซุเอลา (Venezuela) ฟิ ลิปปินส์ (Philippines) คาซัคสถาน (Kazakhstan) อินเดีย (India) โคลอมเบีย (Colombia) เม็กซิโก (Mexico) จอร์แดน (Jordan) อาร์เจนตินา (Argentina) ชิลี (Chile) แอฟริกาใต้ (South Africa) โรมาเนีย (Romania) บัลแกเรีย (Bulgaria) ตุรเคีย (Türkiye) ไทย (Thailand) ซาอุดิอาราเบีย (Saudi Arabia) บราซิล (Brazil) มาเลเซีย (Malaysia) ลัตเวีย (Latvia) สาธารณรัฐสโลวัก (Slovak Republic) โครเอเชีย (Croatia) โปแลนด์ (Poland) ไซปรัส (Cyprus) ลิทัวเนีย (Lithuania) จีน (China) ฮังการี (Hungary) กรีซ (Greece) กาตาร์ (Qatar) โปรตุเกส (Portugal) สเปน (Spain) เอสโตเนีย (Estonia) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) ฮ่องกง (Hong Kong SAR) อิตาลี (Italy) สโลวีเนีย (Slovenia) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) นิวซีแลนด์ (New Zealand) อังกฤษ (United Kingdom) แคนาดา (Canada) ฝรัOงเศส (France) ออสเตรเลีย (Australia) ไต้หวัน (Taiwan, China) ไอร์แลนด์ (lreland) เนเธอร์แลนด์ (Netherlands) สิงคโปร์ (Singapore) ญีOปุ่ น (Japan) ลักเซมเบิร์ก (Luxembourg) ฟิ นแลนด์ (Finland) เยอรมนี (Germany) ไอซ์แลนด์ (Iceland) เกาหลีใต้ (Korea Rep.) นอร์เวย์ (Norway) ออสเตรีย (Austria) เบลเยีOยม (Belgium) เดนมาร์ก (Denmark) สวีเดน (Sweden) สหรัฐอเมริกา (USA) อิสราเอล (Israel) สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) หน่วย: ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร (US$ per capita) ที่มา (Source): IMD World Competitiveness Yearbook 2022
47 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา เมื่อพิจารณาแนวโน้มค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต่อประชากรของประเทศในภูมิภาค เอเชียแปซิฟิก ปี2559-2563 พบว่า ประเทศที่มีแนวโน้มค ่าใช้จ ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศ ต่อประชากรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ญี่ปุ่น ไต้หวัน นิวซีแลนด์ฮ่องกง และไทย (ดังรูปที่ 3-8) ในปี2563 ประเทศที่มีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต่อประชากรมากกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร ได้แก่ เกาหลีใต้(1,522.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร) ญี่ปุ่น (1,311.6 ดอลลาร์ สหรัฐต่อประชากร) สิงคโปร์(1,241.1 ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร) และไต้หวัน (1,031.2 ดอลลาร์สหรัฐต่อ ประชากร) (ดังตารางที่ 3-3) รูปที่ 3-8 แนวโน้มค ่าใช้จ ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาต ่อประชากรของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี2559-2563 Page | 1 รูปที่ 3-8 แนวโน&มค)าใช&จ)ายด&านการวิจัยและพัฒนาต)อประชากรของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟEก ปF 2559-2563 หมายเหตุ : * ประเทศอาเซียน หน#วย : ดอลลาร6สหรัฐต:อหัว (US$ per capita) ที่มา (Source) : IMD World Competitiveness Yearbook 2018-2022 0.00 200.00 400.00 600.00 800.00 1,000.00 1,200.00 1,400.00 1,600.00 2559 2560 2561 2562 2563 เกาหลีใต) (Korea Rep.) ญี่ปุ9น (Japan) สิงคโปรC (Singapore)* ไต)หวัน (Taiwan) ออสเตรเลีย (Australia) นิวซีแลนดC (New Zealand) ฮ[องกง (Hong Kong) จีน (China) มาเลเซีย (Malaysia)* ไทย (Thailand)* อินเดีย (India) ฟfลิปปfนสC (Philippines)* อินโดนีเซีย (Indonesia)* มองโกเลีย (Mongolia) หมายเหตุ: * ประเทศอาเซียน หน่วย: ดอลลาร์สหรัฐต่อหัว (US$ per capita) ที่มา (Source): IMD World Competitiveness Yearbook 2018-2022
48 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา ตารางที่ 3-3ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาต่อประชากรของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี2559-2563 Page | 1 ตารางที่ 3-3 ค#าใช'จ#ายด'านการวิจัยและพัฒนาต#อประชากรของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟDก ปE 2559-2563 ประเทศ 2559 2560 2561 2562 2563 เกาหลีใต* (Korea Rep.) 1,167.1 1,354.8 1,509.5 1,477.7 1,522.9 ญี่ปุDน (Japan) 1,224.8 1,231.4 1,282.5 1,305.7 1,311.6 สิงคโปรN (Singapore)* 1,250.6 1,172.4 1,220.4 1,220.4 1,241.1 ไต*หวัน (Taiwan) 711.6 803.7 865.7 905.2 1,031.2 ออสเตรเลีย (Australia) 980.1 980.1 1,030.0 1,030.0 975.7 นิวซีแลนดN (New Zealand) 491.7 482.6 571.2 580.4 601.1 ฮfองกง (Hong Kong) 346.1 369.4 419.4 447.7 457.6 จีน (China) 170.6 187.4 213.2 228.9 250.3 มาเลเซีย (Malaysia)* 123.6 134.5 134.9 111.9 109.9 ไทย (Thailand)* 48.8 69.1 85.1 93.4 100.4 อินเดีย (India) 10.3 10.3 10.3 14.0 14.0 ฟqลิปปqนสN (Philippines)* 3.8 4.9 4.9 4.9 10.6 อินโดนีเซีย (Indonesia)* 7.2 7.2 7.2 8.9 8.9 มองโกเลีย (Mongolia) 1.5 4.8 4.8 4.1 4.1 หมายเหตุ : * ประเทศอาเซียน หน*วย : ดอลลารNสหรัฐตfอหัว (US$ per capita) ที่มา (Source) : IMD World Competitiveness Yearbook 2018-2022 หมายเหตุ: * ประเทศอาเซียน หน่วย: ดอลลาร์สหรัฐต่อหัว (US$ per capita) ที่มา (Source): IMD World Competitiveness Yearbook 2018-2022 3.2 ภาพรวมค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทย ในปี2563 ประเทศไทยมีค ่าใช้จ ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งสิ้น 208,010 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.74) และมีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต่อ GDP (GERD/GDP) อยู่ที่1.33 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.67) โดยในช่วงปี2559-2563 พบว่าค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทย มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 16.34 ส่วน GERD/GDP มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปี อยู่ที่ร้อยละ 14.27 (ดังรูปที่ 3-9)
49 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา รูปที่ 3-9 ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทย ปี2559-2563 Page | 1 รูปที่ 3-9 ค"าใช&จ"ายด&านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทย ป> 2559-2563 หน#วย : ล"านบาท ที่มา (Source) : สำนักงานการวิจัยแห4งชาติ (วช.) 113,556 155,143 182,357 193,072 208,010 0.78 1.00 1.11 1.14 1.33 0.00 0.50 1.00 1.50 0 50,000 100,000 150,000 200,000 250,000 2559 2560 2561 2562 2563 ค4าใช"จ4ายด"านการวิจัยและพัฒนาของประเทศ (ล"านบาท) ค4าใช"จ4ายด"านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต4อ GDP (%) หน่วย: ล้านบาท ที่มา (Source): ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) เมื่อพิจารณาสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของภาคเอกชนต่อภาคอื่น ๆ พบว่า ในช่วงปี 2559-2562 ภาคเอกชนมีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีสัดส่วนการลงทุนด้าน R&D อยู่ที่ร้อยละ70-80ซึ่งในปี2563 พบว่าการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย ท�ำให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของภาคเอกชนต่อภาคอื่น ๆ อยู่ที่ร้อยละ 68:32 เนื่องจาก ประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 (ดังรูปที่ 3-10 และ ตารางที่ 3-4) รูปที่ 3-10สัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของภาคเอกชนและภาคอื่น ๆของประเทศไทย ปี2559-2563 หน่วย: ร้อยละ (%) ที่มา (Source): ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) Page | 1 รูปที่ 3-10 สัดส$วนค$าใช+จ$ายด+านการวิจัยและพัฒนาของภาคเอกชนและภาคอื่นๆ ของประเทศไทย ปC 2559-2563 หน#วย : ร"อยละ (%) ที่มา (Source) : สำนักงานการวิจัยแห7งชาติ (วช.) 73 80 78 77 68 27 20 22 23 32 0% 20% 40% 60% 80% 100% 2559 2560 2561 2562 2563 ภาคเอกชน (Business Enterprise) (%) ภาคอื่นๆ (Other sectors) (%)
50 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา เมื่อพิจารณาค ่าใช้จ ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา จ�ำแนกตามหน ่วยด�ำเนินการวิจัย ปี2563 พบว่า เป็นค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนมากที่สุด (ร้อยละ 68.12) รองลงมาคือ หน่วยงานภาค อุดมศึกษา (ร้อยละ 17.85) หน่วยงานภาครัฐบาล (ร้อยละ 8.83) หน่วยงานภาครัฐวิสาหกิจ (ร้อยละ 0.88) และหน่วยงานภาคเอกชนไม่ค้าก�ำไร (ร้อยละ 0.35) ตามล�ำดับ (ดังรูปที่ 3-11 และ ตารางที่ 3-5) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา จ�ำแนกตามแหล่งทุน พบว่าเป็นค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา มาจากภาคเอกชนมากที่สุด (ร้อยละ 68.12) ส่วนที่เหลือมาจากแหล่งทุนเงินงบประมาณแผ่นดิน (ร้อยละ 25.49) มาจากเงินรายได้ของหน่วยงานภาครัฐบาล เช่น ค่าธรรมเนียมและเงินกองทุนต่าง ๆ(ร้อยละ1.56) จากเงินรายได้หน่วยงานภาคอุดมศึกษา (ร้อยละ2.10)จากเงินรายได้หน่วยงานภาครัฐวิสาหกิจ(ร้อยละ0.61) จากภาคเอกชนไม ่ค้าก�ำไร (มูลนิธิสมาคมต่าง ๆ ) (ร้อยละ 0.16) จากองค์กรต่างประเทศ (ร้อยละ0.64) และจากทุนส่วนตัวนักวิจัย (ร้อยละ 1.32) (ดังรูปที่ 3-12 และ ตารางที่ 3-5) รูปที่ 3-11 ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทยในปี2563 จ�ำแนกตามหน่วยด�ำเนินการ Page | 1 รูปที่ 3-11 ค"าใช&จ"ายด&านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทยในป= 2563 จำแนกตามหน"วยดำเนินการ หมายเหตุ : ไม$ระบุหน$วยดำเนินการ 8,250 ล9านบาท (3.97%) ที่มา (Source) : สำนักงานการวิจัยแห$งชาติ (วช.) ภาครัฐบาล 18,364 ล0านบาท (8.83%) ภาคอุดมศึกษา 37,127 ล0านบาท (17.85%) ภาครัฐวิสาหกิจ 1,833 ล0านบาท ( 0.88%) ภาคเอกชน 141,706 ล0านบาท (68.12%) ภาคเอกชนไมKค0ากำไร 730 ล0านบาท (0.35%) หมายเหตุ: ไม่ระบุหน่วยด�ำเนินการ 8,250 ล้านบาท (3.97%) ที่มา (Source): ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) รูปที่ 3-12 ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทยในปี2563 จ�ำแนกตามแหล่งทุน Page | 1 รูปที่ 3-12 ค"าใช&จ"ายด&านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทยในป= 2563 จำแนกตามแหล"งทุน หมายเหตุ : เงินกองทุน ววน. จัดอยู1ในแหล1งทุนเงินงบประมาณแผ1นดิน ที่มา (Source) : สำนักงานการวิจัยแห1งชาติ (วช.) เงินงบประมาณแผ.นดิน 53,025 ล7านบาท 25.49% เงินรายได7ภาครัฐบาล 3,240 ล7านบาท 1.56% เงินรายได7ภาคอุดมศึกษา 4,368 ล7านบาท 2.10% เงินรายได7ภาครัฐวิสาหกิจ 1,264 ล7านบาท 0.61% ภาคเอกชน 141,706 ล7านบาท 68.12% ภาคเอกชนไม.ค7ากำไร 329 ล7านบาท 0.16% องคSกรต.างประเทศ 1,334 ล7าานบาท 0.64% ทุนส.วนตัว 2,744 ล7านบาท 1.32% หมายเหตุ: เงินกองทุน ววน. จัดอยู่ในแหล่งทุนเงินงบประมาณแผ่นดิน ที่มา (Source): ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
51 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส� ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา Page | 1 ตารางที่ 3-4การลงทุนด+านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทย ป; 2558 – 2563 ค"าใช&จ"ายด&านการทำวิจัยและพัฒนา (Gross expenditures on R&D : GERD) 2559 2560 2561 2562 2563 ค"าใช&จ"าย R&D ภาคเอกชน (Business enterprise sector) 82,701 123,942 141,906 149,244 141,706 ร&อยละของค"าใช&จ"าย R&D ภาคเอกชนต"อค"าใช&จ"าย R&D ทั้งหมด (% shares of total GERD) 73% 80% 78% 77% 68% ค"าใช&จ"าย R&D ภาคอื่น ๆ (ประกอบด)วยค.าใช)จ.าย R&Dมาจากเงินงบประมาณแผ.นดิน เงินรายได)ของหน.วยงานภาครัฐ (รวมเงินกองทุนต.างๆ), เงินรายได)หน.วยงานภาคอุดมศึกษา, เงินรายได)หน.วยงานรัฐวิสาหกิจ, ภาคเอกชนไม.ค)ากำไร(มูลนิธิสมาคมต.างๆ และองคRกรต.างประเทศ)) (Other sectors ; government sector, Higher education sector, Private non-profit Sector and state enterprise) 30,826 31,201 40,451 43,828 66,304 ร&อยละต"อค"าใช&จ"าย R&Dภาคอื่นๆ (% shares of total GERD) 27% 20% 22% 23% 32% ค"าใช&จ"าย R&D ของประเทศ รวมทั้งหมด(ล&านบาท) (Total GERD) 113,527 155,143 182,357 193,072 208,010 ผลิตภัณฑKมวลรวมภายในประเทศ(ล&านบาท) (Gross domestic product : GDP) 14,533,465 15,451,959 16,365,574 16,898,086 15,636,891 ร&อยละของค"าใช&จ"าย R&D ต"อผลิตภัณฑKมวลรวมภายในประเทศ (GERD/GDP) (%) 0.78% 1.00% 1.11% 1.14% 1.33% หน$วย: ล)านบาท ที่มา(Source) : สำนักงานการวิจัยแห.งชาติ(วช.) ตารางที่ 3-4การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทยปี2559 – 2563 หน่วย:ล้านบาท ที่มา (Source):ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
52 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส� ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา Page | 1 ตารางที่3-5 ค#าใช'จ#ายทางการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทยป= 2563 จำแนกตามหน#วยดำเนินการและแหล#งทุน แหล$งทุน Sources of Funds หน$วยดำเนินการ (Sector of performance) รวม Totalภาครัฐบาล Government ภาคอุดมศึกษา Higher Education ภาครัฐวิสาหกิจ Public enterprise ภาคเอกชน Business enterprise ภาคเอกชนไมQคRากำไร Private non-profit ไมQระบุ Not specified งบประมาณแผ+นดิน 15,113,454,717 7.27% 28,053,940,899 13.49% 1,258,458,709 0.61% 0 0.00% 364,785,059 0.18% 8,234,298,812 3.96% 53,024,938,196 25.49% (1) รัฐบาล 15,099,378.422 7.26% 15,490,814,497 7.45% 316,085,385 0.15% 0 0.00% 354,329,359 0.17% 8,217,658,432 3.95% 39,478,266,095 18.98% (2) อุดมศึกษา 12,097,950 0.01% 12,537,868,072 6.03% 399,000 0.00% 0 0.00% 10,155,700 0.00% 407,400 0.00% 12,560,928,122 6.04% (3) รัฐวิสาหกิจ 1,978,345 0.00% 25,258,330 0.01% 941,974,324 0.45% 0 0.00% 300,000 0.00% 16,232,980 0.01% 985,743,979 0.47% ไม+ใช+งบประมาณแผ+นดิน 3,250,879,865 1.56% 9,072,606,160 4.36% 574,464,260 0.28% 141,705,514,055 68.12% 365,483,776 0.18% 15,795,734 0.01% 154,984,743,850 74.51% (4) รัฐบาล 2,266,199,793 1.09% 895,204,722 0.43% 0 0.00% 0 0.00% 64,568,479 0.03% 13,892,000 0.01% 3,239,864,993 1.56% (5) อุดมศึกษา 4,135,739 0.00% 4,364,261,619 2.10% 0 0.00% 0 0.00% 200,000 0.00% 0 0.00% 4,368,597,359 2.10% (6) รัฐวิสาหกิจ 123,456,070 0.06% 561,856,736 0.27% 574,464,260 0.28% 0 0.00% 1,894,000 0.00% 1,903,734 0.00% 1,263,574,799 0.61% (7) ภาคเอกชน 0 0.00% 0 0.00% 0 0.00% 141,705,514,055 68.12% 0 0.00% 0 0.00% 141,705,514,055 68.12% (8) เอกชนไม+คMากำไร 130,989 0.00% 82,734,517 0.04% 0 0.00% 0 0.00% 246,688,986 0.12% 0 0.00% 329,554,491 0.16% (9) ต+างประเทศ 855,903,517 0.41% 440,045,137 0.21% 0 0.00% 0 0.00% 37,983,046 0.02% 0 0.00% 1,333,931,701 0.64% (10) ทุนส+วนตัว 1,053,757 0.00% 2,722,773,480 1.31% 0 0.00 % 0 0.00% 14,149,265 0.01% 0 0.00% 2,737,976,502 1.32% (11) ไม+ระบุแหล+งทุน 0 0.00% 5,729,950 0.00% 0 0.00 % 0 0.00% 0 0.00% 0 0.00% 5,729,950 0.00% รวม Total 18,364,334,582 8.83% 37,126,547,059 17.85% 1,832,922,969 0.88% 141,705,514,055 68.12% 730,268,835 0.35% 8,250,094,546 3.97% 208,009,682,046 100.00% ตารางที่ 3-5 ค่าใช้จ่ายทางการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทยปี2563จ�ำแนกตามหน่วยด�ำเนินการและแหล่งทุน หน่วย:ล้านบาท ที่มา (Source):ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
53 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา 3.3 ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนไทย ค ่าใช้จ ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของภาคเอกชนเป็นตัวชี้วัดส�ำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพ ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศ โดยเฉพาะการวิจัยและพัฒนาในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหน ่วยเศรษฐกิจหลักของประเทศ จะเห็นได้จากสัดส ่วนของการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา ของประเทศที่พัฒนาแล้ว สัดส่วนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 70 มาจากของภาคเอกชน ในปี2563 ภาคเอกชนไทยมีค ่าใช้จ ่ายด้านการวิจัยและพัฒนารวมทั้งสิ้น 141,706 ล้านบาท (ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 5.1) โดยพบว่าในช่วงปี2559-2563ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชน มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 14.41 ส�ำหรับค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาที่ลดลงในปี2563 สืบเนื่องจากสถานการณ์Covid19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบให้กับผู้ประกอบการหลายๆธุรกิจมีการลงทุนด้าน งานวิจัยและพัฒนาลดลง เพื่อบริหารงบประมาณค่าใช้จ่ายในการด�ำเนินการของกิจการให้สามารถด�ำเนินการ ต่อไปได้ซึ่งในปี2563การด�ำเนินการลงทุนวิจัยและพัฒนาเป็นการมุ่งเน้นในส่วนของการปรับปรุงและพัฒนา ผลิตภัณฑ์เพื่อรับมือและปรับตัวกับสถานการณ์Covid19ให้สามารถด�ำเนินการและแข่งขันเชิงธุรกิจต่อไปได้ (ดังรูปที่ 3-13) รูปที่ 3-13 ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชน ปี2559-2563 Page | 1 รูปที่ 3-13 ค"าใช&จ"ายด&านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชน ป: 2559-2563 ที่มา (Source) : สำนักงานการวิจัยแห1งชาติ (วช.) 82,701 123,942 142,972 149,244 141,706 0.58 0.8 0.87 0.88 0.91 0 0.1 0.2 0.3 0.4 0.5 0.6 0.7 0.8 0.9 1 0 20,000 40,000 60,000 80,000 100,000 120,000 140,000 160,000 2559 2560 2561 2562 2563 ค"าใช&จ"ายด&านด&านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชน (ล&านบาท) ค"าใช&จ"ายด&านด&านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนต"อ GDP (%) ที่มา (Source): ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาใน 3 ประเภทอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 1) ภาคอุตสาหกรรมการผลิต 86,410.7 ล้านบาท (ลดลงร้อยละ 3.1) โดยอุตสาหกรรมที่มีค่าใช้จ่าย ด้านการวิจัยและพัฒนาสูงสุด ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมอุปกรณ์ไฟฟ้า และ อุตสาหกรรมปิโตรเลียม ตามล�ำดับ อุตสาหกรรมที่มีค ่าใช้จ ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาลดลงได้แก ่ภาค อุตสาหกรรมเครื่องเรือน ของเล่น เครื่องประดับ เครื่องนุ่งห่ม โลหะขั้นมูลฐาน วิทยุ โทรทัศน์สิ่งทอ และ อุปกรณ์การขนส่งเป็นหลัก
54 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา 2) ภาคอุตสาหกรรมการบริการ 43,059.2 ล้านบาท (ลดลงร้อยละ 1.5) โดยอุตสาหกรรมที่มีค่าใช้ จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาสูงสุด ได้แก่ อุตสาหกรรมการก่อสร้าง อุตสาหกรรมการเงินและประกันภัย และ อุตสาหกรรมบริการด้านธุรกิจอื่น ๆ ตามล�ำดับ อุตสาหกรรมที่มีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาลดลงได้แก่ อุตสาหกรรมการขนส่งทางบก การศึกษา ขนส่งและท่องเที่ยว สุขภาพและอนามัย และ อสังหาริมทรัพย์ที่มี การลงทุนในการวิจัยพัฒนาที่ลดลง เป็นผลมาจากผลกระทบโควิด-19 ท�ำให้รายได้ของบริษัทลดลง เมื่อเทียบ กับในปี2562 3) ภาคอุตสาหกรรมการค้าส่ง/ค้าปลีก 12,235.6 ล้านบาท (ลดลงร้อยละ 25.4) ซึ่งประกอบด้วย อุตสาหกรรมธุรกิจค้าส่ง/ตัวแทนจ�ำหน่ายและอุตสาหกรรมร้านสะดวกซื้อ/ร้านขายของช�ำ สาเหตุส�ำคัญของ การลดลงของงบประมาณในด้านการวิจัยและพัฒนา มาจากมาตรการการรับมือโควิด-19 ของรัฐบาล ให้ปิด ร้านเร็วขึ้น หรือปิดบริการพื้นที่บางส่วน ท�ำให้ธุรกิจค้าส่ง/ค้าปลีกได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ขายของได้ น้อยลง ท�ำให้ต้องลดงบประมาณในด้านการวิจัยและพัฒนาลง เพื่อน�ำเงินไปหมุนเวียนส่วนอื่นเพื่อให้ธุรกิจยัง คงเดินต่อไปได้ (ดังตารางที่ 3-6) และเมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนรายอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมที่มี ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาสูงสุด 4 อันดับแรก ได้แก่ • อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (32,545 ล้านบาท) มีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาสูงสูด ซึ่ง ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มอุตสาหกรรม Manufactureof beveragesและ Manufactureof prepared animal feeds เป็นหลัก โดยเหตุผลของการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา คือ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อให้เป็นที่ ต้องการของตลาด เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพโดยเน้นการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Super Food และ เนื้อสัตว์ทดแทน Alternative Meats เช่น ไส้กรอกเห็ด พัฒนา ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ลดต้นทุนการผลิต พัฒนาอาหารสัตว์เพื่อให้ได้ตาม ความต้องการของผู้บริโภค/ลูกค้า วิจัยและพัฒนาอาหารเพื่อสุขภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้านโภชนาการและสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้า • อุตสาหกรรมก่อสร้าง (11,862 ล้านบาท) พบว ่าส ่วนใหญ ่เป็นการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา ผลิตภัณฑ์ใหม่และปรับปรุงผลิตภัณฑ์และพัฒนากระบวนการผลิตเดิมเพื่อให้ลดต้นทุนได้มากขึ้น การพัฒนา เพื่อแก้ปัญหาการบริหารงานของผู้รับเหมาและช่าง ให้สามารถประหยัดและลดต้นทุนได้มากขึ้น • อุตสาหกรรมอุปกรณ์ไฟฟ้า (11,675 ล้านบาท) ค ่าใช้จ ่ายด้านการวิจัยและพัฒนามาจากกลุ ่ม อุตสาหกรรม Manufactureofelectricalequipment โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาเกี่ยว กับอุปกรณ์ทางด้านวิศวกรรมการป้องกันภัย อุปกรณ์ตรวจสอบและระงับอัคคีภัยที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับ สมาร์ทโฟนได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจหลัก รักษาและขยายส่วนแบ่ง ของผลิตภัณฑ์ทางการตลาด และส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อต่อยอดธุรกิจข้างเคียง เช่น วัสดุ ก่อสร้างประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ปรับปรุงสินค้าเดิมและทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้ได้ตาม ความต้องการของลูกค้า และพัฒนาประสิทธิภาพ การผลิตเพื่อที่จะท�ำให้ต้นทุนสินค้าถูกลง • อุตสาหกรรมการเงินและประกันภัย(11,279ล้านบาท) เป็นการลงทุนเพื่อคิดค้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ใหม่ ๆ ให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค/ลูกค้า ปรับปรุงการให้สินเชื่อและค�ำปรึกษา ให้ทันสมัยมากยิ่ง ขึ้น และการจัดสรรงบการเงินและกองทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น (ดังรูปที่ 3-14)
55 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส� ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา ตารางที่ 3-6 ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนจ�ำแนกตามรายอุตสาหกรรมปี2559-2563ตารางที่ 3-6ค"าใช&จ"ายด&านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนจำแนกตามรายอุตสาหกรรม ป@ 2559-2563 ประเภทอุตสาหกรรม(Industrial sector) 2559 2560 2561 2562 2563 ภาคอุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing) 60,589.5 80,041.3 89,227.8 89,142.9 86,410.7 อาหารและเครื่องดื่ม (Food products and beverages) 15,050.9 16,202.9 15,019.5 32,321.8 32,544.7 อุปกรณQไฟฟTา (Electrical machinery and apparatus) 897.7 3,243.0 4,113.1 9,087.5 11,675.2 ผลิตภัณฑQปaโตเลียม (Refined petroleum products) 9,250.7 11,721.4 10,671.7 11,958.8 8,958.2 ยานยนตQ (Motor vehicles) 11,879.4 18,854.9 14,934.3 9,940.3 8,608.5 อุปกรณQสำนักงานเครื่องทำบัญชี เครื่องคำนวณ (Office, accounting and computing machinery) 4,259.6 4,745.3 5,072.0 4,703.9 4,730.1 เคมีและเคมีภัณฑQ (Chemicals and chemical products) 6,748.7 9,113.4 6,792.4 4,298.8 4,518.6 เครื่องจักรและอุปกรณQ (Machinery and equipment) 1,749.1 2,736.2 2,464.5 2,159.3 3,842.7 อุตสาหกรรมการรีไซเคิล ไฟฟTา กuาซ และน้ำประปา (Recycling, electricity, gas and water supply) 248.6 1,867.6 942.4 4,625.2 3,503.3 ยางและพลาสติก (Rubber and plastic products) 1,172.3 2,133.7 993.5 1,768.2 1,564.8 แกyวและเซรามิค และแรzอโลหะ (Other non-metallic mineral products) 2,567.1 3,977.4 4,253.2 1,499.2 1,373.8 เกษตรกรรม (Agriculture) 499.0 1,440.5 801.1 691.2 1,262.2 โลหะพื้นฐาน และผลิตภัณฑQโลหะประดิษฐQ (Basic metals and fabricated metal products) 492.1 624.1 9,986.5 1,367.1 1,126.4 วิทยุ โทรทัศนQ และอุปกรณQสื่อสาร (Radio, television and communication equipment and apparatus) 1,038.44 441.1 482.9 1,830.7 885.3 เฟอรQนิเจอรQ เครื่องเรือน ของเลzน เครื่องประดับ (Furniture) 850.8 583.7 10,294.7 842.1 412.9 เครื่องมือแพทยQ (Medical, precision and optical instruments, watches and clocks) 82.3 47.4 48.5 142.1 242.4 สื่อและสิ่งพิมพQ (Printing and publishing) 1,669.2 99.8 59.8 47.2 209.3 ผลิตภัณฑQเครื่องหนังและรองเทyา (Leather products and footwear) 168.8 156.8 210.6 147.7 192.5 สิ่งทอ (Textiles) 186.5 748.8 861.8 733.2 188.6
56 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส� ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาประเภทอุตสาหกรรม(Industrial sector) 2559 2560 2561 2562 2563กระดาษ และผลิตภัณฑQกระดาษ (Paper and paper products) 1,064.0 520.4 573.8 233.9 178.6 เครื่องนุzงหzม (Wearing apparel) 253.7 378.0 286.3 275.3 175.4 อุปกรณQการขนสzง (Other transport equipment) 244.8 168.8 231.6 346.0 111.7 เหมืองแรzและถzานหิน (Mining and quarrying) 101.1 147.1 47.1 64.7 65.2 ไมy และผลิตภัณฑQจากไมy (Wood and wood products) 99.4 74.3 76.3 48.3 36.8 ผลิตภัณฑQยาสูบ (Tobacco products) 14.3 14.5 8.9 9.3 3.3 ภาคอุตสาหกรรมการบริการ (Service) 15,496.4 25,155.0 31,271.1 43,692.9 43,059.2 การกzอสรyาง (Construction services) 108.3 2,380.2 117 9,266.5 11,862.1 การเงินและประกันภัย (Financial and insurance services) 4,891.4 6,006.7 10,719.1 11,579.1 11,279.2 บริการใหyเชzาสินทรัพยQและบริการทางธุรกิจอื่น ๆ (Rent asset services and other business services) 1,063.4 4,724.5 5,704.8 4,761.6 8,321.7 บริการวิจัยและพัฒนา (Research and development services) 4,749.7 3,707.3 2,216.8 2,505.7 3,010.7 ไปรษณียQและโทรคมนาคม (Post and telecommunication services) 1,986.1 3,285.9 3,440.6 2,496.6 2,326.1 อสังหาริมทรัพยQ (Real estate services) 290 526.6 1,123.0 3,611.5 1,908.2 สุขภาพและอนามัย (Health and sanitation services) 1,193.4 2,400.4 1,965.2 2,930.1 1,797.8 บริการคอมพิวเตอรQและซอฟตQแวรQ (Computer and related activities) 585.6 1,360.1 3,664.1 1,026.0 918.3 การขนสzงทางอากาศ (Air transport services) 5 - - 1,000.0 523.7 บริการขนสzงและทzองเที่ยว (Transportation and tourism services) 49.1 261.0 290.9 850.0 358.2 บริการดyานบันเทิงและกีฬา (Entertainment and sport services) 112.9 77.73 710.7 197.6 205.6 ตารางที่ 3-6 ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนจ�ำแนกตามรายอุตสาหกรรมปี2559-2563 (ต่อ)
57 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส� ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา ประเภทอุตสาหกรรม(Industrial sector) 2559 2560 2561 2562 2563 การศึกษา (Education services) 256.3 210.4 539.4 364.1 176.5 การขนสzงทางบก (Land transport services) 12.3 11.7 29.7 2,973.8 151.8 โรงแรมและภัตตาคาร (Hotel and restaurant services) 179.5 192.8 652.5 125.5 113.6 การขนสzงทางน้ำ (Water transport services) 4.5 0.5 0.5 0.5 60.4 สุขภาพ สปา และบริการสังคม (Health spa and social services) 8.4 8.4 96.6 3.8 45.3 ภาคอุตสาหกรรมการคUาสVง/คUาปลีก (Wholesale/Retail) 6,615.3 18,746.7 22,473.3 16,407.6 12,235.6 รyานสะดวกซื้อ/รyานขายของชำ (Convenience store, grocery store) 5,069.8 10,192.1 13,105.5 10,557.7 9,090.7 ธุรกิจคyาสzง/ตัวแทนจำหนzาย (Wholesale/distributor) 1,126.8 7,994.9 8,874.2 5,110.8 1,725.5 คyาสzง/คyาปลีก, ยานยนตQและอุปกรณQ (Wholesale/retail , automotive and equipment) 418.6 559.7 493.6 739.1 1,419.4 รวม (Total) 82,701.2 123,942.0 142,972 149,244 141,706 หน#วย: ล$านบาท ที่มา (Source) : สำนักงานการวิจัยแห5งชาติ (วช.) ตารางที่ 3-6 ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนจ�ำแนกตามรายอุตสาหกรรมปี2559-2563 (ต่อ) หน่วย: ล้านบาท ที่มา (Source): ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
58 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา Page | 2 3 37 45 60 65 112 114 152 175 177 179 189 193 206 209 242 358 413 524 885 918 1,126 1,262 1,374 1,419 1,565 1,726 1,798 1,908 2,326 3,011 3,503 3,843 4,519 4,730 8,322 8,609 8,958 9,091 11,279 11,675 11,862 32,545 0 10,000 20,000 30,000 40,000 ผลิตภัณฑ)ยาสูบ ไม2 และผลิตภัณฑ)จากไม2 สุขภาพ สปาและบริการสังคม การขนส?งทางน้ำ เหมืองแร?และถ?านหิน อุปกรณ)การขนส?ง โรงแรมและภัตตาคาร การขนส?งทางบก เครื่องนุ?งห?ม การศึกษา กระดาษและผลิตภัณฑ)กระดาษ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ)เครื่องหนังและรองเท2า บริการบันเทิงและกีฬา สื่อและสิ่งพิมพ) เครื่องมือแพทย) บริการขนส?งและท?องเที่ยว เฟอร)นิเจอร) เครื่องเรือน ของเล?น เครื่องประดับ การขนส?งทางอากาศ วิทยุ โทรทัศน)และอุปกรณ)สื่อสาร บริการคอมพิวเตอร)และซอฟต)แวร) โลหะพื้นฐานและผลิตภัณฑ)โลหะประดิษฐ) เกษตรกรรม แก2ว เซรามิค และแร?อโลหะ ค2าส?ง/ค2าปลีก ยานยนต)และอุปกรณ) ยางและพลาสติก ธุรกิจค2าส?ง/ตัวแทนจำหน?าย สุขภาพและอนามัย อสังหาริมทรัพย) ไปรษณีย)และโทรคมนาคม บริการวิจัยและพัฒนา อุตสาหกรรมรีไซเคิล ไฟฟWา กXาซ น้ำประปา เครื่องจักรและอุปกรณ) เคมีและเคมีภัณฑ) อุปกรณ)สำนักงาน (เครื่องทำบัญชี เครื่องคิดเลข เครื่องถ?ายเอกสาร) บริการทางธุรกิจอื่น ๆ ยานยนต) ผลิตภัณฑ)ป^โตเลียม ร2านสะดวกซื้อ & ร2านขายของชำ การเงินและประกันภัย อุปกรณ)ไฟฟWา การก?อสร2าง อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ)ป^โตรเลียม รูปที่ 3-14 ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชน ปี2563 จ�ำแนกตามประเภทอุตสาหกรรม หน่วย: ล้านบาท ที่มา (Source): ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
59 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา 3.4 สรุป การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต ่าง ๆ ทั่วโลก ในปี2563 ส ่วนใหญ ่มีการลงทุน ด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งจะเห็นได้จากค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น โดยพบว ่าการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศในอันดับต้นๆ ของโลก ส ่วนใหญ ่ยังคง เป็นการลงทุนของภาคเอกชนมากกว่าร้อยละ70ส�ำหรับประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่าย ด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเช่นกัน และการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาส่วนใหญ่ยังคงเป็น ของภาคเอกชน ซึ่งเมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาต่อ GDP พบว่าประเทศอิสราเอลยังคงเป็น ประเทศที่มีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาต่อ GDP สูงที่สุดในโลก อยู่ที่ร้อยละ 5.44 ส่วนในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ยังคงเป็นประเทศเกาหลีใต้มีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาต่อ GDP สูงที่สุด อยู่ที่ร้อยละ 4.81 ส�ำหรับประเทศไทย แม้จะมีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้น โดยมีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา ต่อ GDP อยู่ที่ร้อยละ 1.33 ซึ่งอยู่ในล�ำดับที่ 8 ของเอเชียแปซิฟิก และอยู่ในล�ำดับที่ 2 ของอาเซียน แต่ก็ยังคง ห่างจากประเทศอันดับต้น ๆ มากถึงประมาณ 3-4 เท่า ในช่วงปี2559-2563 ประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีโดย มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ16.34และเมื่อเทียบสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา ของประเทศต่อ GDP (GERD/GDP) จะพบว่า GERD/GDP อยู่ที่ระหว่างร้อยละ 0.78-1.33 เมื่อคิดอัตราการ เติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปีของ GERD/GDP อยู่ที่ร้อยละ 14.27 โดยเฉพาะการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา ในภาคเอกชนมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของภาคเอกชน ในปี2559 อยู่ที่82,701 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 141,706 ล้านบาทในปี2563 คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ14.41และหากพิจารณาอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา ของประเทศในช่วงปี2562-2563จะพบว่าเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ7.74ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในปี2563การลงทุน ด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศ มีอัตราการเติบโตลดลงไปเล็กน้อยแต่เมื่อพิจารณาสัดส่วนของค่าใช้จ่าย ด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศต่อ GDP กลับพบว่า GERD/GDP ยังคงมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอยู่ที่ ร้อยละ 16.66
60 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
61 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม บทที่ 4 บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ถือเป็นปัจจัยที่ส�ำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศซึ่งจะน�ำพาประเทศหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางยกระดับขีดความสามารถในการ แข่งขันของประเทศ ด้วยการสร้างฐานองค์ความรู้วิจัยและนวัตกรรม สามารถพัฒนาต ่อยอดเทคโนโลยีได้ ด้วยตนเอง โดยรัฐบาลได้เล็งเห็นความส�ำคัญในการพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรมเป็นอย่างมาก โดยก�ำหนดให้เป็นประเด็นยุทธศาสตร์หลักในแผนนโยบายและยุทธศาสตร์ชาติรวมทั้งแผนด้านวิทยาศาสตร์วิจัย และนวัตกรรม ที่มุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมด้านการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรมที่มี ทักษะสูงตรงตามความต้องการของประเทศ รวมทั้งเชื่อมโยงกับแผนการศึกษาและแผนการพัฒนาแรงงาน ของประเทศ ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมเพื่อรองรับสถานการณ์โลกและบริบทการพัฒนา ประเทศที่อาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต พัฒนาแรงงานให้ตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย สร้างระบบการผลิตนักเรียนนักศึกษาที่มีคุณภาพอย ่างทั่วถึง สามารถเป็นตัวป้อนเข้าสู ่อาชีพบุคลากร วิจัยและนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศเกิดการเติบโตอย ่างยั่งยืน รองรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การวิจัย และนวัตกรรม 20 ปีตามนโยบายประเทศไทย 4.0 การวิเคราะห์ข้อมูลบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1) บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา แสดงข้อมูลจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาในปี2563 รวมทั้งเปรียบเทียบระหว่างประเทศไทยกับนานาชาติโดยใช้ข้อมูลจาก 2 แหล่ง ได้แก่ • International Institute for Management Development (IMD) ปี2565 (2022) ซึ่งปี2563 (2020) เป็นปีล่าสุดที่มีข้อมูล • ข้อมูลจากการส�ำรวจของส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)ซึ่งปี2563เป็นผลการส�ำรวจข้อมูลปีล่าสุด 2) การผลิตบัณฑิต แสดงถึงข้อมูลจ�ำนวนผู้เข้าและจ�ำนวนผู้ส�ำเร็จการศึกษา ระหว่างปีการศึกษา 2554–2564 จ�ำแนกข้อมูลตามระดับการศึกษา ประเภทสถาบันการศึกษาสาขาวิชา และวุฒิการศึกษา 3) ก�ำลังแรงงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แสดงถึงข้อมูลจ�ำนวนก�ำลังแรงงาน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปี2564 4.1 บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D Personal) บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D Personal) หมายถึง บุคลากรทุกคนที่ร่วมปฏิบัติงานใน โครงการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งผู้ให้บริการโดยตรงต่อการวิจัยและพัฒนานั้น ๆ ได้แก่ • นักวิจัย (Researchers) หมายถึง ผู้เชี่ยวชาญหรือบุคลากรที่มีวุฒิทางการศึกษาระดับปริญญา หรือเทียบเท ่าปริญญา ที่มีส ่วนในการปฏิบัติงานวิจัยเกี่ยวกับแนวคิดหรือการสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม ่ ผลิตภัณฑ์กระบวนการและระบบใหม่ๆ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการบริหารและจัดการโครงการวิจัย • ผู้ช่วยนักวิจัย (Technicians and equivalent staff) หมายถึง บุคลากรผู้ซึ่งปฏิบัติงานในโครงการ วิจัยโดยใช้ความรู้และประสบการณ์ด้านเทคนิคในสาขาวิชาการสาขาใดสาขาหนึ่งหรือหลายสาขาที่เกี่ยวข้อง ในการด�ำเนินงานและท�ำงานภายใต้การควบคุมดูแลของนักวิจัยเพื่ออ�ำนวยความสะดวกให้งานของนักวิจัยด�ำเนิน ไปได้ด้วยดีเช ่น พนักงานสัมภาษณ์ โปรแกรมเมอร์ พนักงานเตรียมวัสดุและอุปกรณ์ส�ำหรับการทดลอง การทดสอบและการวิเคราะห์การบันทึกการวัดผลการค�ำนวณ และการด�ำเนินการในเรื่องอุปกรณ์และเครื่องมือ เฉพาะอย่าง
62 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม • ผู้ท�ำงานสนับสนุน (Other supporting staff) หมายถึง บุคลากรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในงานวิจัย เช่น เลขานุการ เจ้าหน้าที่ธุรการ พนักงานพิมพ์ช่างฝีมือ ช่างไร้ฝีมือ คนงานเกษตรและเจ้าหน้าที่การเงิน โครงการวิจัย เป็นต้น การนับจ�ำนวนบุคลากรทางการวิจัยและพัฒนา จ�ำแนกออกเป็น 2 แบบ คือ • บุคลากรทางการวิจัยและพัฒนาแบบรายหัว (Headcount: HC) หมายถึงการนับจ�ำนวนบุคลากร ทั้งหมดที่มีส่วนร่วมในการท�ำกิจกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา โดยบุคลากรที่มีการท�ำกิจกรรมด้านการวิจัย และพัฒนาในปีนั้น ๆ ตั้งแต่ 10% ขึ้นไป ของเวลาการท�ำงานทั้งหมดจะถูกนับเป็น 1 คน • บุคลากรทางการวิจัยและพัฒนาที่ท�ำการวิจัยเทียบเท่าเต็มเวลา (Full-time equivalence: FTE) หมายถึง จ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาที่ได้จากการค�ำนวณสัดส่วนของเวลาที่ใช้ในการท�ำกิจกรรม ด้านการวิจัยและพัฒนาของบุคลากรแต่ละคนตลอดระยะเวลา 1 ปีโดยบุคคลที่ท�ำงานวิจัยเต็มเวลาตลอด ระยะเวลา 1 ปี(ท�ำงานวิจัย 100% จะนับเป็นบุคคลที่ท�ำงานวิจัยเทียบเท่าเต็มเวลาเท่ากับ 1 คน-ปี 4.1.1 ภาพรวมบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาของโลก บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ของโลกในภาพรวม จากข้อมูลปี2563 พบว่า ประเทศ ที่มีจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) มากที่สุด ได้แก่ ประเทศจีน (เพิ่มขึ้นจากปี2562 คิดเป็นร้อยละ 9) ถัดมาเป็นประเทศญี่ปุ่น (เพิ่มขึ้นจากปี2562 คิดเป็นร้อยละ 1) รองลงมาประเทศเยอรมนี (เพิ่มขึ้นจากปี2562 คิดเป็นร้อยละ 0.14) ส�ำหรับประเทศไทยมีจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) เพิ่มขึ้นจากปี2562 คิดเป็นร้อยละ 1 (ดังรูปที่ 4-1)
63 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 4-1 จำนวนบุคลากรด.านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ของประเทศตCาง ๆ ในโลก ปG 2563 2.2 3.2 3.3 5.7 6.5 6.6 6.9 14.4 15.5 15.8 16.1 16.4 22.4 26.1 32.6 33.2 36.1 39.0 39.1 41.9 45.3 48.5 48.9 53.5 54.1 57.1 59.6 62.0 66.0 70.0 74.9 81.0 81.8 83.3 85.0 85.9 95.5 103.0 161.6 168.4 173.2 199.4 231.8 238.1 279.6 349.8 470.6 475.1 545.4 553.0 735.2 911.6 5234.5 0.0 1000.0 2000.0 3000.0 4000.0 5000.0 6000.0 ไซปรัส (Cyprus) ไอซ์แลนด์ (Iceland) กาตาร์ (Qatar) ลักเซมเบิร์ก (Luxembourg) เอสโตเนีย (Estonia) ลัตเวีย (Latvia) มองโกเลีย (Mongolia) ลิทัวเนีย (Lithuania) โครเอเชีย (Croatia) สโลวีเนีย (Slovenia) คาซัคสถาน (Kazakhstan) ชิลี (Chile) สาธารณรัฐสโลวัก (Slovak Republic) บัลแกเรีย (Bulgaria) ไอร์แลนด์ (lreland) โรมาเนีย (Romania) ฮ่องกง (Hong Kong SAR) นิวซีแลนด์ (New Zealand) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) แอฟริกาใต้ (South Africa) ฟิ ลิปปินส์ (Philippines) สิงคโปร์ (Singapore) นอร์เวย์ (Norway) ฟิ นแลนด์ (Finland) โคลอมเบีย (Colombia) กรีซ (Greece) ฮังการี (Hungary) เดนมาร์ก (Denmark) โปรตุเกส (Portugal) เม็กซิโก (Mexico) อินโดนีเซีย (Indonesia) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) ออสเตรีย (Austria) มาเลเซีย (Malaysia) อาร์เจนตินา (Argentina) สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) สวีเดน (Sweden) เบลเยีKยม (Belgium) เนเธอร์แลนด์ (Netherlands) ไทย (Thailand) โปแลนด์ (Poland) ตุรเคีย (Türkiye) สเปน (Spain) แคนาดา (Canada) ไต้หวัน (Taiwan, China) อิตาลี (Italy) ฝรัKงเศส (France) อังกฤษ (United Kingdom) เกาหลีใต้ (Korea Rep.) อินเดีย (India) เยอรมนี (Germany) ญีKปุ่ น (Japan) จีน (China) รูปที่ 4-1 จ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ของประเทศต่าง ๆ ในโลก ปี2563 หน่วย : 1,000 คน ที่มา : International Institute for Management Development (IMD) (2022)
64 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เมื่อพิจารณาสัดส่วนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ของประเทศ 10 อันดับแรก ในปี 2563 พบว่าส่วนใหญ่อยู่ในภาคเอกชนสูงกว่าภาคอื่น ๆ มากกว่าร้อยละ60ซึ่งจะได้เห็นได้ว่าในกลุ่มประเทศ 10 อันดับแรกส่วนใหญ่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว อาทิจีน ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลีเกาหลีใต้ เป็นต้น แสดงให้เห็นว่าบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ในภาคเอกชน มีบทบาทส�ำคัญเป็นอย่าง มากต่อการขับเคลื่อนประเทศ (ดังรูปที่ 4-2) และเมื่อพิจารณาสัดส่วนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ในภาคเอกชนต่อภาคอื่น ๆ ของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พบว่า ประเทศที่มีสัดส่วนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ในภาคเอกชนมากกว่าร้อยละ 70 ได้แก่ ไต้หวัน เกาหลีใต้จีน และไทย และเมื่อพิจารณาในกลุ่มประเทศ อาเซียนมีเพียงประเทศไทยและสิงคโปร์ที่มีสัดส่วนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ในภาคเอกชน มากกว่าภาคอื่น ๆ โดยประเทศไทยมีสัดส่วนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ในภาคเอกชน ต่อภาคอื่น ๆ ประมาณร้อยละ 71:29 (ดังรูปที่ 4-3) รูปที่ 4-2 สัดส่วนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ในภาคเอกชนต่อภาคอื่น ๆ ของประเทศ 10 อันดับแรก ปี2563 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 รูปที่ 4-2 สัดส%วนบุคลากรด/านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ในภาคเอกชนต%อภาคอื่น ๆ ของประเทศ 10 อันดับแรก ปL 2563 หนDวย : รFอยละ ที่มา: International Institute for Management Development (IMD) (2022) ประมวลผลโดย : สำนักงานการวิจัยแหDงชาติ (วช.) 78 69 64 30 76 55 62 63 78 61 22 31 36 70 24 45 38 37 22 39 0 20 40 60 80 100 120 จีน (China) ญี่ปุ6น (Japan) เยอรมนี (Germany) อินเดีย (India) เกาหลีใตM (Korea Rep.) อังกฤษ (United Kingdom) ฝรั่งเศส (France) อิตาลี (Italy) ไตMหวัน (Taiwan, China) แคนาดา (Canada) บุคลากรดFานการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ในภาคอื่นๆ บุคลากรดFานการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ในภาคเอกชน หน่วย: ร้อยละ ที่มา: International Institute for Management Development (IMD) (2022) ประมวลผลโดย: ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
65 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 รูปที่ 4-3 สัดส%วนบุคลากรด/านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ในภาคเอกชนต%อภาคอื่น ๆ ของประเทศใน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟOก ปP 2563 หนDวย : รFอยละ หมายเหตุ : *ประเทศอาเซียน ที่มา: International Institute for Management Development (IMD) (2022) ประมวลผลโดย : สำนักงานการวิจัยแหDงชาติ (วช.) 78 76 78 71 69 52 46 37 30 19 13 22 24 22 29 31 48 54 63 70 81 87 ไต#หวัน (Taiwan, China) เกาหลีใต# (Korea Rep.) จีน (China) ไทย (Thailand)* ญี่ปุJน (Japan) สิงคโปรR (Singapore)* ฟVลิปปVนสR (Philippines)* ฮZองกง (Hong Kong SAR) อินเดีย (India) มาเลเซีย (Malaysia)* อินโดนีเซีย (Indonesia)* บุคลากรดFานการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ในภาคเอกชน บุคลากรดFานการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ในภาคอื่นๆ รูปที่ 4-3 สัดส่วนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ในภาคเอกชนต่อภาคอื่น ๆ ของประเทศ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี2563 หน่วย: ร้อยละ หมายเหตุ: *ประเทศอาเซียน ที่มา: International Institute for Management Development (IMD) (2022) ประมวลผลโดย: ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) เมื่อพิจารณาจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE)ต่อประชากร1,000คน ของประเทศ 10 อันดับแรก ได้แก่ ไต้หวัน (11.87 คน-ปี) เดนมาร์ค (10.66 คน-ปี) เกาหลีใต้ (10.53 คน-ปี) สวิตเซอร์แลนด์(10.05 คน-ปี) ฟินแลนด์(9.69 คน-ปี) ไอซ์แลนด์(9.37 คน-ปี) เนเธอร์แลนด์(9.28 คน-ปี) สวีเดน (9.20คน-ปี) ออสเตรีย (9.17 คน-ปี) และนอร์เวย์(9.09 คน-ปี) ตามล�ำดับ (ดังรูปที่ 4-4) และเมื่อพิจารณาจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ต่อประชากร 1,000 คน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พบว่า ประเทศที่มีจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE)ต่อประชากร 1,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ได้แก่ ไต้หวัน เกาหลีใต้สิงคโปร์นิวซีแลนด์ญี่ปุ่น ฮ่องกง จีน ไทย มองโกเลีย และฟิลิปปินส์ส่วนประเทศอินเดีย และอินโดนีเซีย มีจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ต่อประชากร 1,000 คน คงที่และมีเพียงมาเลเซียที่มีจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ต่อประชากร 1,000คน ลดลง ส�ำหรับประเทศไทยถึงแม้จ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี2563 มีจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE)ต่อประชากร1,000คน อยู ่ที่ 2.54 คน-ปีแต ่ก็ยังห ่างจากประเทศอันดับต้น ๆ เช ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ มากถึงประมาณ 5 เท่า ซึ่งควรต้องเร่งสร้างบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศให้มากขึ้น (ดังตารางที่ 4-1)
66 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 0.28 0.43 0.43 0.55 0.70 0.86 0.88 1.10 1.21 1.72 1.89 2.06 2.38 2.47 2.54 2.57 3.44 3.71 3.76 3.83 4.11 4.21 4.53 4.83 4.88 4.89 5.15 5.33 5.87 6.10 6.42 6.44 6.54 6.98 7.11 7.24 7.52 7.57 7.82 8.51 8.84 8.96 9.08 9.09 9.17 9.20 9.28 9.37 9.69 10.05 10.53 10.66 11.87 0.00 2.00 4.00 6.00 8.00 10.00 12.00 14.00 อินโดนีเซีย (Indonesia) อินเดีย (India) ฟAลิปปAนสE (Philippines) เม็กซิโก (Mexico) แอฟริกาใตU (South Africa) ชิลี (Chile) คาซัคสถาน (Kazakhstan) โคลอมเบีย (Colombia) กาตารE (Qatar) โรมาเนีย (Romania) อารEเจนตินา (Argentina) มองโกเลีย (Mongolia) ตุรเคีย (Türkiye) ไซปรัส (Cyprus) ไทย (Thailand) มาเลเซีย (Malaysia) ลัตเวีย (Latvia) จีน (China) บัลแกเรีย (Bulgaria) โครเอเชีย (Croatia) สาธารณรัฐสโลวัก (Slovak Republic) สหรัฐอาหรับเอมิเรตสE (UAE) โปแลนดE (Poland) ฮ}องกง (Hong Kong SAR) เอสโตเนีย (Estonia) สเปน (Spain) ลิทัวเนีย (Lithuania) กรีซ (Greece) อิตาลี (Italy) ฮังการี (Hungary) โปรตุเกส (Portugal) แคนาดา (Canada) ไอรEแลนดE (lreland) ฝรั่งเศส (France) อังกฤษ (United Kingdom) ญี่ปุáน (Japan) สโลวีเนีย (Slovenia) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) นิวซีแลนดE (New Zealand) สิงคโปรE (Singapore) เยอรมนี (Germany) เบลเยี่ยม (Belgium) ลักเซมเบิรEก (Luxembourg) นอรEเวยE (Norway) ออสเตรีย (Austria) สวีเดน (Sweden) เนเธอรEแลนดE (Netherlands) ไอซEแลนดE (Iceland) ฟAนแลนดE (Finland) สวิตเซอรEแลนดE (Switzerland) เกาหลีใตU (Korea Rep.) เดนมารEก (Denmark) ไตUหวัน (Taiwan, China) รูปที่ 4-4 จ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ต่อประชากร 1,000 คน ของประเทศต่าง ๆ ในโลก ปี2563 หน่วย : คน ที่มา : International Institute for Management Development (IMD) (2022)
67 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตารางที่ 4-1 จ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ต่อประชากร 1,000 คน ของประเทศ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี2559-2563 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 ตารางที่ 4-1 จำนวนบุคลากรด-านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ต<อประชากร 1,000 คน ของประเทศใน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟOก ปP 2559-2563แก-ไขรูปแบบชื่อประเทศ/ข-อมูลตาราง ประเทศ 2559 2560 2561 2562 2563 ไต$หวัน (Taiwan) 10.66 10.86 11.12 11.51 11.87 เกาหลีใต$ (South Korea) 8.73 9.16 9.71 10.17 10.53 สิงคโปรO (Singapore)* 8.05 7.93 7.95 7.95 8.51 นิวซีแลนดO (New Zealand) 5.79 5.58 7.43 7.55 7.82 ญี่ปุ^น (Japan) 6.87 7.03 7.09 7.16 7.24 ฮaองกง (Hong Kong) 3.96 4.04 4.51 4.72 4.83 จีน (China) 2.8 2.9 3.14 3.43 3.71 มาเลเซีย (Malaysia) * 2.64 2.81 2.82 2.58 2.57 ไทย (Thailand) * 1.7 2.09 2.4 2.51 2.54 มองโกเลีย (Mongolia) 1.12 1.43 1.32 1.29 2.06 ฟmลิปปmนสO (Philippines) * 0.37 0.26 0.26 0.27 0.43 อินเดีย (India) 0.41 0.41 0.41 0.43 0.43 อินโดนีเซีย (Indonesia) * 0.98 0.98 0.98 0.28 0.28 หนaวย : คน หมายเหตุ : *ประเทศอาเซียน ที่มา: International Institute for Management Development (IMD) (2022) หน่วย: คน หมายเหตุ: *ประเทศอาเซียน ที่มา: International Institute for Management Development (IMD) (2022) 4.1.2 บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทย เมื่อพิจารณาบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) เทียบต ่อจ�ำนวนประชากรและ ก�ำลังแรงงานของประเทศ ปี2559-2563 พบว่า จ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) ต่อประชากร 10,000 คน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 7.93 และจ�ำนวนบุคลากรด้าน การวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) ต่อก�ำลังแรงงาน 10,000 คน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อย ละ7.32และเมื่อพิจารณาในช่วงปี2562-2563 พบว่าจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) ต่อประชากร 10,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.70 และจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) ต่อก�ำลังแรงงาน 10,000 คน ยังคงที่เท่าเดิม ส�ำหรับจ�ำนวนนักวิจัย (แบบรายหัว) ต่อประชากร 10,000 คน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปี อยู่ที่ร้อยละ 10.23 และจ�ำนวนนักวิจัย (แบบรายหัว) ต่อก�ำลังแรงงาน 10,000 คน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 10.15 และเมื่อพิจารณาในช่วงปี2562-2563 พบว่า จ�ำนวนนักวิจัย (แบบรายหัว) ต่อประชากร 10,000 คนเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.81 และจ�ำนวนนักวิจัย (แบบรายหัว) ต่อก�ำลังแรงงาน 10,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.77 (ดังรูปที่ 4-5)
68 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รูปที่ 4-5 จ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) ต่อประชากร และต ่อแรงงาน 10,000 คน ปี2559-2563 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 รูปที่ 4-5 จำนวนบุคลากรด.านการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) ต:อประชากร และต:อแรงงาน 10,000 คน ปB 2559-2563 หนDวย : คน ที่มา : 1. สำนักงานการวิจัยแหDงชาติ (วช.) 2. กรมการปกครอง 3. สำนักงานสถิติแหDงชาติ 28 33 36 37 38 21 23 27 27 31 49 57 62 65 65 36 39 47 47 53 0 10 20 30 40 50 60 70 2559 2560 2561 2562) 2563 บุคลากรด4านการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) ตCอประชากร 10,000 คน นักวิจัย (แบบรายหัว) ตCอ ประชากร 10,000 คน บุคลากรด4านการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) ตCอแรงงาน 10,000 คน นักวิจัย (แบบรายหัว) ตCอแรงงาน 10,000 คน หน่วย: คน ที่มา: 1. ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) 2. กรมการปกครอง 3. ส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ และเมื่อพิจารณาบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) เทียบต ่อจ�ำนวนประชากรและ ก�ำลังแรงงานของประเทศ ปี2559-2563 พบว่า จ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ต่อประชากร 10,000 คน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 10.12 และบุคลากรด้านการวิจัย และพัฒนา (แบบ FTE) ต่อก�ำลังแรงงาน 10,000 คน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 10.98 และเมื่อพิจารณาในช่วงปี2562-2563 พบว่าจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE)ต่อประชากร 10,000 คน และบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ต่อก�ำลังแรงงาน 10,000 คน ยังคงที่เท่าเดิม ส�ำหรับจ�ำนวนนักวิจัย (แบบ FTE) ต่อประชากร 10,000 คน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปี อยู่ที่ร้อยละ 14.06 และจ�ำนวนนักวิจัย (แบบ FTE) ต่อก�ำลังแรงงาน 10,000 คน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 13.88 และเมื่อพิจารณาในช่วงปี2562-2563 พบว่า จ�ำนวนนักวิจัย (แบบ FTE) ต่อประชากร 10,000คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.79และจ�ำนวนนักวิจัย(แบบ FTE)ต่อก�ำลังแรงงาน 10,000คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.12 (ดังรูปที่ 4-6)
69 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 รูปที่ 4-6 บุคลากรทางการวิจัยและพัฒนา(แบบ FTE) ต;อประชากร และต;อแรงงาน 10,000 คน ปB 2559- 2563 หนDวย : คน-ป< ที่มา : 1. สำนักงานการวิจัยแหDงชาติ (วช.) 2. กรมการปกครอง 3. สำนักงานสถิติแหDงชาติ 17 21 24 25 25 13 14 18 19 22 29 36 42 44 44 22 25 32 33 37 0 10 20 30 40 50 2559 2560 2561 2562 2563 บุคลากรทางการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ตEอประชากร 10,000 คน นักวิจัย (แบบ FTE) ตEอประชากร 10,000 คน บุคลากรทางการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ตEอแรงงาน 10,000 คน นักวิจัย (แบบ FTE) ตEอแรงงาน 10,000 คน รูปที่ 4-6 บุคลากรทางการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE)ต่อประชากรและต่อแรงงาน 10,000คน ปี2559-2563 หน่วย: คน-ปี ที่มา: 1. ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) 2. กรมการปกครอง 3. ส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) ของประเทศไทย ในปี2559-2563 พบว่า มีอัตรา การเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 7.64 และนักวิจัย (แบบรายหัว) มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปี อยู่ที่ร้อยละ 10.31 เมื่อพิจารณาในช่วงปี2562-2563 พบว่า บุคลากรทางการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 และนักวิจัยเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.6 (ดังรูปที่ 4-7) บุคลากรทางการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ของประเทศไทย ในปี2559-2563 พบว่า มีอัตรา การเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 10.64 และนักวิจัย (แบบ FTE) มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปี อยู่ที่ร้อยละ14.74และเมื่อพิจารณาในช่วงปี2562-2563 พบว่า บุคลากรทางการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 ส่วนนักวิจัย (แบบ FTE) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 (ดังรูปที่ 4-8)
70 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รูปที่ 4-7 บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) ของประเทศไทย ปี2559-2563 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 รูปที่ 4-7 บุคลากรด*านการวิจัยและพัฒนา(แบบรายหัว) ของประเทศไทย ป@ 2559-2563 หนDวย : คน ที่มา : สำนักงานการวิจัยแหDงชาติ (วช.) 137,284 150,175 178,908 180,524 203,252 35,665 35,049 41,421 49,396 32,564 12,179 16,565 19,105 17,215 13,454 185,668 216,737 239,434 247,135 249,270 - 50,000 100,000 150,000 200,000 250,000 300,000 2559 2560 2561 2562 2563 นักวิจัย ผู้ช่วยนักวิจัย ผู้ทํางานสนับสนุน บุคลากร R&D ทั 8งหมด หน่วย: คน ที่มา: ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 รูปที่ 4-8 บุคลากรด*านการวิจัยและพัฒนา(แบบ FTE) ของประเทศไทย ปB 2559-2563 หนDวย : คน-ป< หมายเหตุ : ป< 2560 ไมDระบุอาชีพ จำนวน 15,090 คน ที่มา : สำนักงานการวิจัยแหDงชาติ (วช.) 83,349 93,457 122,061 124,640 144,480 22,055 20,551 26,100 33,206 17,656 6,982 9,546 11,346 8,942 6,283 112,386 138,644 159,507 166,788 168,419 - 20,000 40,000 60,000 80,000 100,000 120,000 140,000 160,000 180,000 2559 2560 2561 2562 2563 นักวิจัย ผู้ช่วยนักวิจัย ผู้ทํางานสนับสนุน บุคลากร R&D ทั 8งหมด รูปที่ 4-8 บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ของประเทศไทย ปี2559-2563 หน่วย: คน-ปี หมายเหตุ: ปี2560 ไม่ระบุอาชีพ จ�ำนวน 15,090 คน ที่มา: ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา จ�ำแนกตามหน่วยด�ำเนินการ (Sector of performance) ดังนี้ • ภาครัฐบาล (Government sector) หมายถึง หน่วยงานราชการ ระดับกรมหรือเทียบเท่ากรม ที่ มีชื่อเป็นอย่างอื่น ตามพระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม • ภาคอุดมศึกษา (Higher education sector) หมายถึง สถาบันการศึกษาที่มีการสอนในระดับสูง กว ่าระดับอนุปริญญาขึ้นไป ได้แก่ มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาลัยเกษตรกรรม วิทยาลัยเทคนิค วิทยาลัยอาชีวศึกษา วิทยาลัยการอาชีพ วิทยาลัยพยาบาล วิทยาลัย การสาธารณสุข วิทยาลัยพลศึกษา วิทยาลัยสารพัดช่าง สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์วิทยาลัยนาฏศิลป์รวมถึง สถาบันการศึกษาของเอกชนในระดับอุดมศึกษา • ภาครัฐวิสาหกิจ (Public enterprise sector) หมายถึง องค์กรที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ พระราชกฤษฎีกาและกฎหมายอื่นๆ ให้เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ
71 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เมื่อพิจารณาบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว)จ�ำแนกตามหน่วยด�ำเนินการ ปี2559-2563 พบว่า บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) ในภาคเอกชนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ เมื่อพิจารณาในช่วงปี2562-2563 พบว่า ภาคเอกชนมีจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 3.2 ภาครัฐบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ภาคอุดมศึกษาลดลงร้อยละ 2.3 ภาครัฐวิสาหกิจ เพิ่มร้อย 4.4 และภาคเอกชนไม่ค้าก�ำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.59 (ดังรูปที่ 4-9) รูปที่ 4-9 บุคลากรทางการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) จ�ำแนกตามหน่วยด�ำเนินการปี2559-2563 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 รูปที่ 4-9 บุคลากรทางการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว) จำแนกตามหน;วยดำเนินการป?2559-2563 หน#วย : คน ที่มา : สำนักงานการวิจัยแห#งชาติ (วช.) 27,456 29,460 29,967 28,454 28,620 2,717 3,071 2,586 1,700 1,774 83,703 90,204 94,979 93,241 91,057 69,476 92,131 110,191 122,997 126,871 2,316 1,871 1,711 743 - 948 20,000 40,000 60,000 80,000 100,000 120,000 140,000 2559 2560 2561 2562 2563 รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ อุดมศึกษา ภาคเอกชน เอกชนไมGคHากำไร หน่วย: คน ที่มา: ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทย ปี2563 พบว่า บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบรายหัว)อยู่ในภาคเอกชนมากที่สุด126,871คน (คิดเป็นร้อยละ50.90)ถัดมาภาคอุดมศึกษา91,057คน (คิดเป็นร้อยละ 36.53) ภาครัฐบาล 28,620 คน (คิดเป็นร้อยละ 11.48) ภาครัฐวิสาหกิจ 1,774 คน (คิดเป็นร้อยละ 0.71) และภาคเอกชนไม่ค้าก�ำไร 948 คน (คิดเป็นร้อยละ 0.38) ส่วนบุคลากรด้านการวิจัย และพัฒนา (แบบ FTE) พบว่าอยู่ในภาคเอกชนมากที่สุดจ�ำนวน 119,264 คน-ปี(คิดเป็นร้อยละ 70.81) ถัดมาภาคอุดมศึกษา 32,675คน-ปี(คิดเป็นร้อยละ 19.40) ภาครัฐบาล14,434คน-ปี(คิดเป็นร้อยละ 8.57) ภาครัฐวิสาหกิจ1,398คน-ปี(คิดเป็นร้อยละ0.83)และภาคเอกชนไม่ค้าก�ำไร648คน-ปี(คิดเป็นร้อยละ0.38) ส�ำหรับนักวิจัยของประเทศไทย ปี2563 พบว่า นักวิจัย (แบบรายหัว) อยู่ในภาคเอกชนมากที่สุด จ�ำนวน 114,751 คน (คิดเป็นร้อยละ 56.46) ถัดมาภาคอุดมศึกษา 71,531 คน (คิดเป็นร้อยละ 35.19) ภาครัฐบาล15,157คน (คิดเป็นร้อยละ7.46) ภาครัฐวิสาหกิจ1,070คน (คิดเป็นร้อยละ0.53)และภาคเอกชน ไม ่ค้าก�ำไร 743 คน (คิดเป็นร้อยละ 0.37) ส ่วนนักวิจัย (แบบ FTE) พบว่า อยู ่ในภาคเอกชนมากที่สุด จ�ำนวน 107,855 คน-ปี(คิดเป็นร้อยละ 74.65) ถัดมาภาคอุดมศึกษา 26,902 คน-ปี(คิดเป็นร้อยละ 18.62) ภาครัฐบาล 8,417 คน-ปี(คิดเป็นร้อยละ 5.83) ภาครัฐวิสาหกิจ 798 คน-ปี(คิดเป็นร้อยละ 0.55) และภาคเอกชนไม่ค้าก�ำไร 508 คน-ปี(คิดเป็นร้อยละ 0.35) (ดังตารางที่ 4.2) • ภาคเอกชน (Businessenterprisesector) หมายถึง หน่วยงานภาคเอกชน ประกอบด้วยผู้ประกอบ การในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและภาคอุตสาหกรรมการบริการ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมการค้าส่ง/ค้าปลีก • ภาคเอกชนไม่ค้าก�ำไร (Private non-profit sector) หมายถึง องค์กรเอกชนที่ไม่ค้าก�ำไร และได้ รับการสนับสนุนส่วนใหญ่จากเงินค่าบ�ำรุง ค่าสมาชิกและจากการบริจาคจากสาธารณชนทั่วไป ได้แก่ มูลนิธิ สมาคม สถาบันองค์กรเอกชน หรือองค์กรกึ่งราชการ ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยมิได้มุ่งแสวงหาผลก�ำไร
72 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตารางที่ 4-2 บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทยจ�ำแนกตามหน่วยด�ำเนินการและอาชีพ ปี2563 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 ตารางที่4-2 บุคลากรด)านการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทย จำแนกตามหนAวยดำเนินการ และอาชีพ ปD 2563 หน#วยดำเนินการ แบบรายหัว แบบ FTE นักวิจัย ผู7ช#วย นักวิจัย ผู7ทำงาน สนับสนุนรวม นักวิจัย ผู7ช#วย นักวิจัย ผู7ทำงาน สนับสนุนรวม รัฐบาล 15,157 8,360 5,103 28,620 8,417 3,942 2,075 14,434 อุดมศึกษา 71,531 13,875 5,651 91,057 26,902 4,069 1,704 32,675 รัฐวิสาหกิจ 1,070 450 254 1,774 798 384 216 1,398 เอกชน 114,751 9,771 2,349 126,871 107,855 9,189 2,220 119,264 เอกชนไมDคFากำไร 743 108 97 948 508 72 68 648 รวม 203,252 32,564 13,454 249,270 144,480 17,656 6,283 168,419 ที่มา : สำนักงานการวิจัยแหDงชาติ (วช.) ที่มา: ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) เมื่อพิจารณาจ�ำนวนนักวิจัย (แบบรายหัว) จ�ำแนกตามหน่วยด�ำเนินการ และวุฒิการศึกษา ปี2563 พบว่า มีนักวิจัย (แบบรายหัว) มีจ�ำนวนทั้งสิ้น 203,252 คน แบ่งเป็นระดับปริญญาเอก จ�ำนวน 28,099 คน คิดเป็น ร้อยละ 13.82 ระดับปริญญาโท จ�ำนวน 92,286 คน คิดเป็นร้อยละ 45.40 ระดับปริญญาตรีจ�ำนวน 76,489 คน คิดเป็นร้อยละ 37.63 และระดับต�่ำกว่าปริญญาตรีจ�ำนวน 4,080 คน คิดเป็นร้อยละ 2.01 (ตารางที่ 4-3) ตารางที่ 4-3 นักวิจัย (แบบรายหัว) จ�ำแนกตามหน่วยด�ำเนินการ และวุฒิการศึกษา ปี2563 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 ตารางที่ 4-3 นักวิจัย (แบบรายหัว) จำแนกตามหน:วยดำเนินการ และวุฒิการศึกษา ปE 2563 หน#วย ดำเนินการ ปริญญาเอก ปริญญาโท ปริญญาตรี ต่ำกว#า ป.ตรี ไม#ระบุ รวม จำนวน % จำนวน % จำนวน % จำนวน % จำนวน % จำนวน % ภาครัฐบาล 1,875 0.92% 3,827 1.88% 4,949 2.43% 2,319 1.14% 2,187 1.08% 15,157 7.46% ภาคอุดมศึกษา 24,417 12.01% 37,307 18.36% 7,958 3.92% 1,746 0.86% 103 0.05% 71,531 35.19% - โครงการวิจัย (Research) 20,877 10.27% 19,554 9.62% 7,958 3.92% 1,746 0.86% 103 0.05% 50,238 24.72% - วิทยานิพนธ0 (Thesis) 3,540 1.74% 17,753 8.73% - - - - - - 21,293 10.48% ภาครัฐวิสาหกิจ 300 0.15% 422 0.21% 328 0.16% 12 0.01% 8 0.00% 1,070 0.53% ภาคเอกชน 1,200 0.59% 50,412 24.80% 63,139 31.06% - - - - 114,751 56.46% ภาคเอกชน ไมHคIากำไร 307 0.15% 318 0.16% 115 0.06% 3 0 - - 743 0.37% รวม 28,099 13.82% 92,286 45.40% 76,489 37.63% 4,080 2.01% 2,298 1.13% 203,252 100.00% หน\วย : คน ที่มา : สำนักงานการวิจัยแห\งชาติ (วช.) หน่วย: คน ที่มา: ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) นักวิจัย (แบบรายหัว) จ�ำแนกตามหน่วยด�ำเนินการ และสาขาการวิจัย ปี2563 พบว่าภาคเอกชน ไม่ระบุสาขาการวิจัย จ�ำนวน 114,751 คน ส่วนภาคอื่น ๆ (ภาครัฐบาล, ภาคอุดมศึกษา, ภาครัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนไม่ค้าก�ำไร) สาขาสังคมศาสตร์มีจ�ำนวนนักวิจัย (แบบรายหัว) มากที่สุด จ�ำนวน 27,593 คน คิดเป็นร้อยละ 13.58 รองลงมาคือ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ มีจ�ำนวนนักวิจัย (แบบรายหัว) 18,771 คน คิดเป็นร้อยละ 9.24 สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์และสุขภาพ มีจ�ำนวนนักวิจัย (แบบรายหัว) 16,446 คน คิดเป็นร้อยละ 8.09 สาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติมีจ�ำนวนนักวิจัย (แบบรายหัว) จ�ำ 12,927 คน คิดเป็น ร้อยละ 6.36 สาขาเกษตรศาสตร์ มีจ�ำนวนนักวิจัย (แบบรายหัว) 8,427 คน คิดเป็นร้อยละ 4.15 และสาขามนุษยศาสตร์มีจ�ำนวนนักวิจัย (แบบรายหัว) 4,337 คน คิดเป็นร้อยละ 2.13 (ตารางที่ 4-4)
73 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส� ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 ตารางที่ 4-4นักวิจัย(แบบรายหัว) จำแนกตามหน3วยดำเนินการ และสาขาการวิจัย ป; 2563 หน#วยดำเนินการ วิทยาศาสตร2 ธรรมชาติ วิศวกรรมศาสตร2 และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร2 การแพทย2และ สุขภาพ เกษตรศาสตร2สังคมศาสตร2 มนุษยศาสตร2 ไม#ระบุรวม จำนวน%จำนวน%จำนวน%จำนวน%จำนวน%จำนวน%จำนวน%จำนวน% ภาครัฐบาล1,983 0.98% 1,251 0.62% 4,905 2.41% 2,963 1.46% 3,821 1.88% 234 0.12% - - 15,157 7.46% ภาคอุดมศึกษา10,513 5.17% 17,036 8.38% 11,223 5.52% 5,266 2.59% 23,411 11.52% 4,082 2.01% - - 71,531 35.19% -โครงการวิจัย (Research) 8,074 3.97% 13,663 6.72% 8,278 4.07% 4,411 2.17% 13,285 6.54% 2,527 1.24% - - 50,238 24.72% -วิทยานิพนธN (Thesis) 2,439 1.20% 3,373 1.66% 2,945 1.45% 855 0.42% 10,126 4.98% 1,555 0.77% - - 21,293 10.48% ภาครัฐวิสาหกิจ 268 0.13% 412 0.20% 132 0.06% 121 0.06% 133 0.07% 4 0.00% - - 1,070 0.53% ภาคเอกชน - - - - - - - - - - - - 114,751 56.46% 114,751 56.46% ภาคเอกชนไม#คJากำไร163 0.08% 72 0.04% 186 0.09% 77 0.04% 228 0.11% 17 0.01% - - 743 0.37% รวม 12,927 6.36% 18,771 9.24% 16,446 8.09% 8,427 4.15% 27,593 13.58% 4,337 2.13% 114,751 56.46% 203,252 100.00% หนMวย : คน ที่มา : สำนักงานการวิจัยแหMงชาติ (วช.) ตารางที่ 4-4นักวิจัย(แบบรายหัว)จ�ำแนกตามหน่วยด�ำเนินการและสาขาการวิจัยปี2563 หน่วย:คน ที่มา:ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
74 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เมื่อพิจารณาบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ในภาคเอกชน ในช่วงปี2559-2563 พบว่า บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ในภาคเอกชนของประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่าง ต ่อเนื่อง โดยส ่วนใหญ ่ยังคงอยู ่ในอุตสาหกรรมการผลิต และเมื่อพิจารณา ในช่วงปี2562-2563 พบว่า อุตสาหกรรมการให้บริการ มีจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) เพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 51 อุตสาหกรรมภาคการผลิต มีจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ในขณะที่ ภาคการค้าส่ง/ค้าปลีก มีจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) ลดลงมากถึงร้อยละ 27 โดยใน อุตสาหกรรมการให้บริการ มีจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) มากที่สุดอยู่ในธุรกิจการ ก่อสร้าง จ�ำนวน 11,489 คน-ปีส่วนภาคการผลิตมีจ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) อยู่ในอุตสาหกรรมอาหารมากที่สุด จ�ำนวน 15,317 คน-ปีและภาคการค้าส่ง/ค้าปลีก มีจ�ำนวนบุคลากร ด้านการวิจัยและพัฒนา (แบบ FTE) อยู่ในอุตสาหกรรมห้าง สะดวกซื้อ ของช�ำมากที่สุด จ�ำนวน 25,879 คน-ปี (ดังรูปที่ 4-10 และ รูปที่ 4-11) รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 รูปที่ 4-10 บุคลากรด)านการวิจัยและพัฒนา(FTE) ในภาคเอกชน จำแนกตามอุตสาหกรรม ปE 2559 – 2563 หนDวย : คน-ป< ที่มา : 1. สำนักงานการวิจัยแหDงชาติ (วช.) 2. สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมแหDงชาติ 43,534 52,506 55,365 47,518 51,231 13,282 18,464 26,305 23,284 35,225 5,140 15,373 25,196 44,741 32,808 61,956 86,343 106,866 115,543 119,264 - 20,000 40,000 60,000 80,000 100,000 120,000 140,000 2559 2560 2561 2562 2563 ภาคการผลิต (Manufacturing) ภาคการใหeบริการ (Service) ภาคการคeาสDง/คeาปลีก (Wholesale/Retail) รวม รูปที่ 4-10 บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา (FTE) ในภาคเอกชน จ�ำแนกตามอุตสาหกรรม ปี2559 – 2563 หน่วย: คน-ปี ที่มา: 1. ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) 2. ส�ำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ
75 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รูปที่ 4-11 จ�ำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชน จ�ำแนกตามรายอุตสาหกรรม ปี2563 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 รูป ที่ 4-11 จำนวนบุคลากรด-านการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชน จำแนกตามรายอุตสาหกรรม ป@ 2563 หนDวย : คน-ป< ที่มา : สำนักงานการวิจัยแหDงชาติ (วช.) 7 18 83 86 96 158 159 196 213 216 256 261 277 389 419 555 576 606 798 972 982 1,171 1,188 1,318 1,430 1,615 1,648 1,791 1,963 2,052 2,178 2,293 2,401 3,099 3,591 3,830 4,394 4,587 4,945 5,690 8,072 11,489 15,317 25,879 - 5,000 10,000 15,000 20,000 25,000 30,000 ยาสูบ การขนส่งทางอากาศ ไม้ สุขภาพ สปาและสังคม เหมืองแร่และหิน โรงแรมและภัตตาคาร การศึกษา โลหะขั Dนมูลฐาน การขนส่งทางนํ Dา กระดาษ สิHงทอ เครืHองมือแพทย์ อุปกรณ์การขนส่ง การพิมพ์ ฟอกย้อม เครืHองนุ่งห่ม อสังหาริมทรัพย์ โลหะประดิษฐ์ สืHอสิHงพิมพ์ บันเทิงและกีฬา ขนส่งและท่องเทีHยว การขนส่งทางบก วิทยุ โทรทัศน์ แร่โลหะ แก้ว เครืHองเรือน ของเล่น และเครืHองประดับ วิจัยและพัฒนา เกษตรกรรม สุขภาพและอนามัย รีไซเคิล ไฟฟ้า แก๊ส ไอนํ Dา และอากาศ เครืHองจักสํานักงาน ไปรษณีย์และโทรคมนาคม คอมพิวเตอร์และซอฟแวร์ ปิโตรเลียม ยางและพลาสติก ธรุกิจค้าส่ง/ตัวแทนจําหน่าย เครืHองจักร ธุรกิจค้าส่ง/ปลีกยานยนต์และอุปกรณ์ การเงินและประกันภัย เคมี ยานยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้า บริการด้านธุรกิจอืHนๆ การก่อสร้าง อาหาร ห้าง สะดวกซื Dอ ของชํา ธุรกิจค้าส่ง/ตัวแทนจําหน่าย เครืHองจักรสํานักงาน หน่วย: คน-ปี ที่มา: ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
76 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 4.2 การผลิตบัณฑิตของประเทศไทย การวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการผลิตบัณฑิตของไทยจะพิจารณาทั้งจ�ำนวนผู้เข้าศึกษาใหม่และจ�ำนวน ผู้ส�ำเร็จการศึกษา จ�ำแนกตามสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสาขาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ โดยอาศัยข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อให้ครอบคลุมสถานศึกษาทั่วประเทศ ได้แก่ • ส�ำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ครอบคลุมข้อมูล มหาวิทยาลัยของรัฐ มหาวิทยาลัยในก�ำกับรัฐ มหาวิทยาลัยรัฐไม่จ�ำกัดรับ และสถาบันอุดมศึกษาเอกชน • ส�ำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ครอบคลุมข้อมูลวิทยาลัยของรัฐและเอกชน ที่อยู่ในสังกัด โดยเริ่มน�ำข้อมูลผู้ส�ำเร็จการศึกษาจริงตามระเบียนมาวิเคราะห์ตั้งแต่ปี2558 เป็นต้นมา 4.2.1 ผู้เข้าศึกษาใหม่ ผู้เข้าศึกษาใหม ่ในภาพรวมของประเทศไทย พบว่า ในปี2564 มีจ�ำนวนผู้เข้าศึกษาใหม ่ จ�ำนวน 822,929 คน (ลดลงจากปีก ่อนคิดเป็นร้อยละ 19.56) โดยพบว ่าอยู ่ในระดับต�่ำกว ่าปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 49.56 ระดับปริญญาตรีคิดเป็นร้อยละ 45.98 และระดับสูงกว่าปริญญาตรีคิดเป็นร้อยละ 4.46 ซึ่งสัดส ่วนผู้เข้าศึกษาใหม ่ยังคงอยู ่ในสายสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์มากกว ่าสายวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีอยู่ที่ร้อยละ 53:47 โดยพบว่า มีเพียงระดับต�่ำกว่าปริญญาตรีที่มีสัดส่วนสาขาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีสูงกว่าสาขาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์อยู่ที่ร้อยละ 57:43 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เข้าศึกษา ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) โดยอยู่ในสาขาวิชา ประเภทวิชาวิศวกรรมศาสตร์มากที่สุด (ดังรูปที่ 4-12, 4-13, 4-14 และ ตารางที่ 4-5, 4-6) รูปที่ 4-12 จ�ำนวนผู้เข้าศึกษาใหม่ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ปี2560-2564 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 รูปที่ 4-12 จำนวนผู'เข'าศึกษาใหม2ด'านวิทยาศาสตร:และเทคโนโลยีและด'านสังคมศาสตร:และมนุษยศาสตร: ปF 2560-2564 หนDวย : คน หมายเหตุ : ป< 2561 เปHนป<แรกที่มีการเก็บขLอมูลนักศึกษาใหมDของอาชีวศึกษาเอกชน ที่มา (Sources) : 1. สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร0 วิจัย และนวัตกรรม 2. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประมวลผลโดย : สำนักงานการวิจัยแหDงชาติ (วช.) 308,406 358,159 352,757 373,586 384,368 416,742 499,104 661,105 649,511 438,561 725,148 857,263 1,013,862 1,023,097 822,929 - 200,000 400,000 600,000 800,000 1,000,000 1,200,000 2560 2561 2562 2563 2564 วิทยาศาสตร0และเทคโนโลยี สังคมศาสตร0และมนุษยศาสตร0 รวม หน่วย: คน หมายเหตุ: ปี2561 เป็นปีแรกที่มีการเก็บข้อมูลนักศึกษาใหม่ของอาชีวศึกษาเอกชน ที่มา (Sources): 1. ส�ำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม 2. ส�ำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประมวลผลโดย: ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
77 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รูปที่ 4-13 สัดส่วนผู้เข้าศึกษาใหม่ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ปี2560-2564 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 รูปที่ 4-13 สัดส$วนผู)เข)าศึกษาใหม$ด)านวิทยาศาสตร9และเทคโนโลยีและด)านสังคมศาสตร9และมนุษยศาสตร9ปD 2560-2564 หนDวย : รFอยละ ที่มา (Sources) : 1. สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร0 วิจัย และนวัตกรรม 2. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประมวลผลโดย : สำนักงานการวิจัยแหDงชาติ (วช.) 43 42 35 37 47 57 58 65 63 53 0 20 40 60 80 100 120 2560 2561 2562 2563 2564 หน่วย: ร้อยละ ที่มา (Sources): 1. ส�ำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม 2. ส�ำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประมวลผลโดย: ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) รูปที่ 4-14 สัดส่วนผู้เข้าศึกษาใหม่ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ จ�ำแนกตามระดับการศึกษา ปี2564 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 รูปที่ 4-14 สัดส$วนผู)เข)าศึกษาใหม$ด)านวิทยาศาสตร9และเทคโนโลยีและด)านสังคมศาสตร9และมนุษยศาสตร9 จำแนกตามระดับการศึกษา ปG 2564 หนDวย : รFอยละ ที่มา (Sources) : 1. สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร0 วิจัย และนวัตกรรม 2. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประมวลผลโดย : สำนักงานการวิจัยแหDงชาติ (วช.) 57 37 27 30 43 63 73 70 0 20 40 60 80 100 120 ตํ#ากว่าปริญญาตรี ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 รูปที่ 4-14 สัดส$วนผู)เข)าศึกษาใหม$ด)านวิทยาศาสตร9และเทคโนโลยีและด)านสังคมศาสตร9และมนุษยศาสตร9 จำแนกตามระดับการศึกษา ปG 2564 หนDวย : รFอยละ ที่มา (Sources) : 1. สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร0 วิจัย และนวัตกรรม 2. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประมวลผลโดย : สำนักงานการวิจัยแหDงชาติ (วช.) 57 37 27 30 43 63 73 70 0 20 40 60 80 100 120 ตํ#ากว่าปริญญาตรี ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ หน่วย: ร้อยละ ที่มา (Sources): 1. ส�ำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม 2. ส�ำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประมวลผลโดย: ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
78 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส� ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 ตารางที่4-5จำนวนผู(เข(าศึกษาใหม3ป5การศึกษา 2564จำแนกตามระดับการศึกษาและสายวิชา ระดับการศึกษา (Level of education) สายวิทย@(S&T) %เทียบสายวิทย@ ทั้งหมด (% of Total S&T) สายสังคม (SSH) %เทียบสายสังคมทั้งหมด (% of Total SSH) รวม (Total) %เทียบระดับ การศึกษาทั้งหมด ต่ำกวPาปริญญาตรี(Lower than bachelor’s degree level) 232,316 60.44% 175,535 40.03% 407,851 49.56% ประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) (Vocational certificate) 139,154 36.20% 93,067 21.22% 232,221 28.22% ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) (Higher vocational certificate) 92,051 23.95% 78,351 17.87% 170,402 20.71% อื่นๆ(Others) 1,111 0.29% 4,117 0.94% 5,228 0.64% ปริญญาตรี(Bachelor’s degree level) 141,427 36.79% 236,974 54.03% 378,401 45.98% ปริญญาตรี(Bachelor’s degree level) 141,014 36.69% 232,116 52.93% 373,130 45.34% อื่นๆ(Others) 413 0.11% 4,858 1.11% 5,271 0.64% สูงกวPาปริญญาตรี(Higher than bachelor’s degree level) 10,625 2.76% 26,052 5.94% 36,677 4.46% ปริญญาโท(Master’s degree level) 8,364 2.18% 22,126 5.05% 30,490 3.71% ปริญญาเอก(Doctoral degree level) 1,719 0.45% 3,922 0.89% 5,641 0.69% อื่นๆ(Others) 542 0.14% 4 0.00% 546 0.07% รวม(Total) 384,368 100.00% 438,561 100.00% 822,929 100.00% หนmวย : คน ที่มา (Sources) : 1. สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร0 วิจัย และนวัตกรรม 2. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประมวลผลโดย : สำนักงานการวิจัยแหmงชาติ (วช.) ตารางที่ 4-5จ�ำนวนผู้เข้าศึกษาใหม่ปีการศึกษา2564จ�ำแนกตามระดับการศึกษาและสายวิชา หน่วย:คน ที่มา (Sources): 1.ส�ำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม 2.ส�ำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประมวลผลโดย:ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
79 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส� ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตารางที่ 4-6จ�ำนวนร้อยละและอัตราการเพิ่มผู้เข้าศึกษาใหม่ปีการศึกษา2560 - 2564จ�ำแนกตามระดับการศึกษาและสายวิชา รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 1 ตารางที่ 4-6จำนวน ร'อยละ และอัตราการเพิ่มผู'เข'าศึกษาใหม>ป@การศึกษา 2560 - 2564จำแนกตามระดับการศึกษาและสายวิชา ระดับการศึกษา (Level of education) จำนวน(คน) Number (Persons)รFอยละ(%)อัตราการเพิ่มGrowth (%) สายวิทยV (S&T) สายสังคม (SSH) รวม (Total) สายวิทยV (S&T) สายสังคม (SSH) รวม (Total) สายวิทยV (S&T) สายสังคม (SSH) รวม (Total) 1. ต่ำกว^าปริญญาตรี(Lower than bachelor’s degree level) 2560 174,616 112,409 287,025 60.84% 39.16% 100.00% 0.32% -1.62% -0.45% 2561 225,500 197,262 422,762 53.34% 46.66% 100.00% 29.14% 75.49% 47.29% 2562 222,668 372,874 595,542 37.39% 62.61% 100.00% -1.26% 89.02% 40.87% 2563 234,667 378,986 613,653 38.24% 61.76% 100.00% 5.39% 1.64% 3.04% 2564 232,316 175,535 407,851 56.96% 43.04% 100.00% -1.00% -53.68% -33.54% 2. ปริญญาตรี(Bachelor’s degree level) 2560 123,975 284,103 408,078 30.38% 69.62% 100.00% -1.19% -8.49% -6.39% 2561 122,284 278,975 401,259 30.48% 69.52% 100.00% -1.36% -1.80% -1.67% 2562 120,691 266,166 386,857 31.20% 68.80% 100.00% -1.30% -4.59% -3.59% 2563 128,029 246,945 374,974 34.14% 65.86% 100.00% 6.08% -7.22% -3.07% 2564 141,427 236,974 378,401 37.37% 62.63% 100.00% 10.46% -4.04% 0.91%
80 รายงานดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2565 ส� ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตารางที่ 4-6จ�ำนวนร้อยละและอัตราการเพิ่มผู้เข้าศึกษาใหม่ปีการศึกษา2560 - 2564จ�ำแนกตามระดับการศึกษาและสายวิชา(ต่อ) รายงานดัชนีวิทยาศาสตร0 วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ป< 2564 | 2 ระดับการศึกษา (Level of education) จำนวน(คน) Number (Persons)รFอยละ(%)อัตราการเพิ่มGrowth (%) สายวิทยV (S&T) สายสังคม (SSH) รวม (Total) สายวิทยV (S&T) สายสังคม (SSH) รวม (Total) สายวิทยV (S&T) สายสังคม (SSH) รวม (Total) 3. สูงกว^าปริญญาตรี(Higher than Bachelor’s degree level 2560 9,815 20,230 30,045 32.67% 67.33% 100.00% -14.40% -34.67% -29.20% 2561 10,375 22,867 33,242 31.21% 68.79% 100.00% 5.71% 13.04% 10.64% 2562 9,398 22,065 31,463 29.87% 70.13% 100.00% -9.42% -3.51% -5.35% 2563 10,890 23,580 34,470 31.59% 68.41% 100.00% 15.88% 6.87% 9.56% 2564 10,625 26,052 36,677 28.97% 71.03% 100.00% -2.43% 10.48% 6.40% 3.1 ปริญญาโท (Master’s degree level) 2560 7,767 18,496 26,263 29.57% 70.43% 100.00% -18.58% -35.99% -31.67% 2561 7,868 20,358 28,226 27.88% 72.12% 100.00% 1.30% 10.07% 7.47% 2562 7,110 19,115 26,225 27.11% 72.89% 100.00% -9.63% -6.11% -7.09% 2563 8,485 19,941 28,426 29.85% 70.15% 100.00% 19.34% 4.32% 8.39% 2564 8,364 22,126 30,490 27.43% 72.57% 100.00% -1.43% 10.96% 7.26%