The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพการเรยนรู้แบบ Active Learning ตามแนวคิด GPAS 5 Steps เพื่อพัฒนาพหุปัญญาและสมรรถนะในศตวรรษที่ 21 ขับเคลื่อนสู่ไทยแลนด์ 4.0

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by naree, 2021-11-17 21:23:06

การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพการเรียนรู้

การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพการเรยนรู้แบบ Active Learning ตามแนวคิด GPAS 5 Steps เพื่อพัฒนาพหุปัญญาและสมรรถนะในศตวรรษที่ 21 ขับเคลื่อนสู่ไทยแลนด์ 4.0

การวจิ ัยเชิงปฏิบัตกิ ารแบบมีส่วนรว่ ม
ยกระดับคุณภาพการเรียนรู้
แบบ Active Learning
ตามแนวคิด GPAS 5 Steps
เพือ่ พัฒนาพหุปัญญาและสมรรถนะ
ในศตวรรษที่ ๒๑ ขับเคล่ือนสไู่ ทยแลนด์ ๔.๐

ภายใต้โครงการวจิ ยั รปู แบบการยกระดับคณุ ภาพการเรยี นรู้
การสอนตามแนวคดิ GPAS 5 Steps เพ่อื เสริมสร้างทักษะการเรียนรู้
ในยุคไทยแลนด์ ๔.๐ และการวจิ ยั เชงิ ปฏิบตั กิ ารในการพฒั นาครผู ู้สอน
ดว้ ยกลยทุ ธห์ ว่ งโซแ่ หง่ คุณคา่ โดยใช้หอ้ งเรียนเป็นฐาน
เพอ่ื สร้างห้องเรยี น ๓ ดี แบบ Active Learning
ด้วยกระบวนการคดิ ขัน้ สงู เชิงระบบ (GPAS 5 Steps) สูส่ งั คมนวัตกรรม

โครงการความร่วมมือระหวา่ ง
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
และสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)

การวิจยั เชงิ ปฏบิ ตั ิการแบบมีสว่ นร่วมยกระดับคุณภาพการเรยี นรู้
แบบ Active Learning ตามแนวคดิ GPAS 5 Steps
เพอ่ื พัฒนาพหปุ ัญญาและสมรรถนะในศตวรรษที่ ๒๑
ขบั เคลื่อนส่ไู ทยแลนด์ ๔.๐

The participatory action research to improve learning
quality using active learning under GPAS 5 Steps
approach for increasing multiple intelligences
and 21st century competences to Thailand 4.0

โครงการความร่วมมอื ระหว่าง
คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศิลปากร
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์
และสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

คำ�นำ�

การพัฒนาคนไทยจะต้องเน้นในเรื่องความสามารถของการเรียนรู้
โดยเฉพาะผเู้ รยี นใหม้ ที กั ษะชวี ติ ในการพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ ง
ทางด้านการศึกษาจะต้องจัดการศึกษาที่เน้นกระบวนการและเพ่ิมเร่ืองทักษะ
ชีวิต มีทักษะทางด้านภาษาในการส่ือสาร โดยเฉพาะเร่ืองการอ่าน การพูด
การฟงั และการเขยี น ซง่ึ จะเปน็ เครอ่ื งมอื ส�ำ คญั ในการแสวงหาความรตู้ ลอดชวี ติ
ของผู้เรียน บุคคลในวงการศึกษาจะต้องใช้หลักคิดที่ดีในการจัดการเรียนรู้
เน้นการคิดขั้นสูงที่เน้นกระบวนการสร้างความเข้าใจที่ลุ่มลึกเป็น “การดึง
ความสามารถและความดที ซี่ อ่ นอยใู่ นตวั เดก็ ออกมาพฒั นา นบั วา่ เปน็ การสรา้ ง
การกุศลอันย่ิงใหญ่ให้เกิดกับชีวิตของตนเองซ่ึงประโยชน์ย่อมเกิดกับผู้เรียน”
การศึกษาต้องพิจารณาไปท่ีความรู้เหล่านั้น มีการถ่ายโยงไปสู่เรื่องอื่นได้
มากน้อยแค่ไหน โรงเรียนควรพิจารณาสาระที่จะนำ�ไปสู่ความรู้เฉพาะ
ของศาสตร์และความรู้ข้ามศาสตร์ ระบุและจัดโครงสร้างรายวิชาและสาระ
ที่จะชว่ ยพัฒนาสมรรถนะดา้ นตา่ ง ๆ ของผู้เรียนให้สงู ข้นึ

คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยราชภัฏ-
วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ และสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)
ได้ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) เพ่ือที่จะร่วมพัฒนางานวิชาการ
งานวิจัยและนวัตกรรม เพ่ือยกระดับความสามารถด้านการจัดการเรียนรู้
ของครูผู้สอนนำ�ไปสู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน พัฒนาคุณภาพการศึกษา
ใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานการศกึ ษาของชาติ โดยไดท้ �ำ การวเิ คราะหย์ ทุ ธศาสตรช์ าติ
ระยะ ๒๐ ปี (๒๕๖๑-๒๕๘๐) การพัฒนาคนไทย เป้าหมายอยู่ท่ีการจัด
การเรียนรู้ท่ีเน้นการคิดข้ันสูงผ่านกระบวนการสร้างความเข้าใจที่ลุ่มลึก
และการยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ตรงเป้าหมายและถูกทิศทางที่เป็น
หลักสำ�คัญในการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้ เน้นพัฒนาคนทุกช่วงวัย
โดยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต คือ 3R8C ให้ความสำ�คัญในการปลูกฝัง

คุณธรรม จริยธรรม ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency
Economy) ปลูกฝังค่านิยมและจิตสำ�นึกท่ีดี เร่งเสริมสร้างสังคมวัฒนธรรม
มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ ภายใต้ยุคเศรษฐกิจและสังคม
สู่ประเทศไทย ๔.๐ ซ่ึงท้ัง ๓ หน่วยงานได้ตระหนักถึงความสำ�คัญดังกล่าว
จึงได้ร่วมกันดำ�เนินการพัฒนาการยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ในรูปแบบ
GPAS 5 Steps ผ่านกระบวนการ Active Learning และพัฒนาพหุปัญญา
เสริมสร้างทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ สู่ไทยแลนด์ ๔.๐
ซ่ึงมีโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
ทั้งระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ปฏิรูปการจัดการเรียนรู้
และเป็นหน่วยวิจัย โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ เอกสารการเรียน
คมู่ อื ครู หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ สอื่ และนวตั กรรม วสั ดอุ ปุ กรณ์
ต่าง ๆ จากสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) มีการพัฒนาสมรรถนะ
การสอนของครู มีการถอดบทเรียนจากการจัดการเรียนรู้ Active Learning
ตามแนวคิดการเรียนการสอนแบบ GPAS 5 Steps และการเสริมสร้าง
พหุปัญญาที่ครูได้พัฒนาตนเองในการสร้างนวัตกรรมการสอน มีการปรับปรุง
และพัฒนาการสอนอย่างต่อเนื่อง การใช้สื่อและการวัดประเมินผล
แบบชว่ ยเหลือพฒั นาผู้เรียน มกี ารแลกเปล่ยี นเรียนรู้สะท้อนคดิ ทางวชิ าชีพครู
ผู้เรียนได้สร้างความรู้ ฝึกทักษะกระบวนการ พัฒนาพหุปัญญา เพิ่มพูน
คา่ นิยมทดี่ ี
หวังเป็นอย่างย่ิงว่า เอกสารฉบับน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน
ท่ีเก่ียวข้องกับการจัดการศึกษาและการจัดการเรียนการสอน สำ�หรับ
การยกระดับคุณภาพการศึกษาจึงเป็นเครื่องมือสำ�คัญย่ิงในการขับเคล่ือน
คุณภาพการศึกษาท้ังในปัจจุบันและอนาคตตามนโยบายทางการศึกษา
ของชาตติ ่อไป
คณะผูว้ ิจัย

สารบญั

การวจิ ัยเชงิ ปฏบิ ัติการแบบมสี ่วนร่วม ๕
ยกระดับคุณภาพการเรยี นรู้แบบ Active Learning ๘
ตามแนวคิด GPAS 5 Steps เพอ่ื พฒั นาพหุปญั ญา ๑๐
และสมรรถนะในศตวรรษท่ี ๒๑ ขบั เคลื่อนสู่ไทยแลนด์ ๔.๐ ๑๑
• บทคดั ย่อ ๒๘
• บทน�ำ ๒๙
• กรอบแนวคดิ การวจิ ัย ๓๐
• แนวคิดส�ำ คัญทีเ่ กย่ี วข้อง ๔๘
• วธิ ีดำ�เนินการวจิ ยั ๕๑
• ขอบเขตการวิจัย
• สรปุ ผลการวจิ ัย ๕๒
• เอกสารอ้างองิ
• ภาคผนวก ๕๖
๐ เปิดเวทคี รูและนกั เรยี น น�ำ เสนอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ๖๐
นวตั กรรม ๑,๐๐๐ นวตั กรรม ๖๔
๐ นำ�เสนอผลงานนวตั กรรมของครู
โรงเรยี นสาธิตมหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์
ในพระบรมราชปู ถัมภ ์
๐ นวตั กรรมเครือข่ายจังหวัดปทมุ ธานีและจังหวดั สระแก้ว
๐ คณะผ้จู ดั ท�ำ โครงการวิจัย

การวิจยั เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารแบบมสี ว่ นร่วมยกระดบั คณุ ภาพการเรยี นรู้
แบบ Active Learning ตามแนวคดิ GPAS 5 Steps
เพอ่ื พฒั นาพหุปัญญาและสมรรถนะในศตวรรษที่ ๒๑
ขบั เคลอื่ นสไู่ ทยแลนด์ ๔.๐

The participatory action research to improve learning
quality using active learning under GPAS 5 Steps
approach for increasing multiple intelligences
and 21st century competences to Thailand 4.0

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพการเรียนรู้
แบบ Active Learning ตามแนวคิด GPAS 5 Steps เพื่อพัฒนาพหุปัญญา
และสมรรถนะในศตวรรษที่ ๒๑ ขับเคล่ือนสู่ไทยแลนด์ ๔.๐ ในคร้ังน้ี
มีวตั ถุประสงค์เพ่ือ
๑) เพ่ือศึกษาสภาพการณ์การเปลี่ยนแปลงในระดับชั้นเรียนท่ีเน้น
กระบวนการเรยี นรแู้ บบ Active Learning ดว้ ยกระบวนการคดิ ขน้ั สงู เชงิ ระบบ
(GPAS 5 Steps) ของนกั เรยี นและครู ๒) เพอื่ ศกึ ษาปจั จยั และกระบวนการทท่ี �ำ ให้
เกดิ การเปลย่ี นแปลงการเรยี นการสอนในชน้ั เรยี นจากการใชก้ ระบวนการเรยี นรู้
แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดข้นั สงู เชงิ ระบบ (GPAS 5 Steps)
๓) เพื่อจัดทำ�ข้อเสนอแนะในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาที่เน้น
การเปลี่ยนแปลงในชน้ั เรียนและการขยายผลอยา่ งก้าวกระโดด
ผู้วิจัยได้ศึกษาเอกสารและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องท้ังในประเทศ
และต่างประเทศ ได้แก่ ๑) ยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี (๒๕๖๑-๒๕๘๐)
และนโยบายการศึกษาที่สำ�คัญ ๒) แนวคิดเกี่ยวกับ Active Learning
การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการคิดด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ

5

(GPAS 5 Steps) ๓) การพัฒนาพหุปัญญาและสมรรถนะในศตวรรษ
ท่ี ๒๑ และแนวคิดเก่ียวกับคุณธรรม จริยธรรม ๔) แนวคิดเกี่ยวกับชุมชน
แห่งการเรียนรู้วิชาชีพ (PLC: Professional Learning Community)
และแนวคิดเกี่ยวกับ Coaching and Mentoring กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้
ในการวิจัยคร้ังนี้เป็นผู้บริหารโรงเรียน ๗ คน ครู ๙๗ คน และนักเรียน
๒,๑๓๕ คน ทำ�การศึกษาวิจัยระหว่างปีการศึกษา ๒๕๖๑ - ๒๕๖๒
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์
และแบบประเมนิ ผลงานของนักเรียน
ผลการวจิ ยั พบวา่
๑) สภาพการณ์การเปล่ียนแปลงในระดับช้ันเรียนหลังการใช้
กระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดข้ันสูง
เชิงระบบ (GPAS 5 Steps) ของนักเรียน พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่มีทักษะ
การคดิ ขน้ั สงู มที กั ษะของนวตั กร มกี ระบวนการในการสรา้ งผลงานและการปฏบิ ตั ิ
ในระดับดีและดีมาก สามารถทำ�งานร่วมกับผู้อื่น ส่ือสาร นำ�เสนอด้วยสื่อ
และวิธกี ารท่ีหลากหลายตามความถนดั มีความรับผดิ ชอบ ใฝ่ร้ใู ฝ่เรียน มงุ่ ม่นั
ในการเรยี น และมีจิตสาธารณะ
๒) สภาพการณ์การเปลี่ยนแปลงในระดับช้ันเรียนหลังการใช้
กระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดข้ันสูง
เชิงระบบ (GPAS 5 Steps) ของครู พบว่า ครูทุกคนมีความเข้าใจเกี่ยวกับ
วิธีสอนตามแนวคดิ กระบวนการคดิ ข้ันสงู เชิงระบบ (GPAS 5 Steps) สามารถ
ออกแบบการสอนและจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดกระบวนการคิด
ข้ันสูงเชิงระบบ (GPAS 5 Steps) สามารถสร้างนวัตกรรมการเรียนการสอน
ที่ยกระดับคุณภาพนักเรียน ครูสามารถพัฒนาวิชาชีพ แลกเปลี่ยนเรียนรู้
และช่วยเหลือเพือ่ นครใู นการพฒั นาการสอน
๓) ข้อเสนอแนะในการขับเคล่ือนการปฏิรูปการศึกษาท่ีเน้น
การเปลย่ี นแปลงในช้ันเรยี นและการขยายผลอยา่ งกา้ วกระโดด ได้แก่

6

๓.๑ กลยทุ ธห์ ว่ งโซค่ ณุ ภาพทเ่ี นน้ หอ้ งเรยี นเปน็ ฐาน ประกอบดว้ ย
การด�ำ เนนิ งาน ๓ ระยะ ระยะตน้ ทางเปน็ การเสรมิ สรา้ งปญั ญา ระยะกลางทาง
เปน็ การพฒั นาบทเรียน ระยะปลายทางเป็นการสะทอ้ นคิดแลกเปลี่ยนเรียนรู้
๓.๒ ห้องเรียน ๓ ดี แบบ Active Learning ประกอบด้วย
แผนการสอนดี ครสู อนดี และนกั เรยี นคุณภาพดี
๓.๓ กระบวนการของชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพสามารถสร้าง
ครูต้นแบบไปเป็นเครือข่ายเต็มพื้นท่ี สร้างกลไกที่ทำ�ให้การยกระดับคุณภาพ
การเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดข้ันสูงเชิงระบบ
(GPAS 5 Steps) สง่ ผลตอ่ นักเรียนอย่างเป็นรปู ธรรมและทว่ั ถึง

7

บทน�ำ

การเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ของโลกดจิ ทิ ลั ในศตวรรษท่ี ๒๑ ท�ำ ใหเ้ กดิ
การเปล่ียนแปลงของการผลิต การบริโภค การท�ำ งาน การใชช้ ีวติ และรูปแบบ
ธุรกิจที่แตกต่างออกไปจึงทำ�ให้การพัฒนาคนมุ่งท่ีพหุปัญญาและสมรรถนะ
ในศตวรรษท่ี ๒๑ (World Economic Forum, 2016; Partnership for the
21st Skills, 2557) รฐั บาลไดป้ ระกาศใชย้ ทุ ธศาสตรช์ าติ (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐)
ในราชกจิ จานเุ บกษา, ๒๕๖๑) เปน็ แผนแมบ่ ทหลกั ของการพฒั นาประเทศไทย
ให้มีความมั่นคง ม่ังค่ัง และยั่งยืน เป็นประเทศท่ีพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนา
ตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง การขบั เคลอื่ นการพฒั นาประเทศตามโมเดล
“ประเทศไทย ๔.๐” การจัดการศึกษาจึงเร่งเสริมสร้างผู้เรียนให้สามารถ
รงั สรรคน์ วตั กรรม (Generative Learning) เรยี นรจู้ ากการเรยี นแบบลงมอื ท�ำ
(Learning by Doing) ดังนั้น ครูในศตวรรษท่ี ๒๑ ต้องยึดหลัก
สอนนอ้ ย เรยี นมาก (Teach Less Learn More) เปน็ ผู้อำ�นวยความสะดวก
(Facilitate) เป็นผู้ชี้แนะ (Mentoring) “ปรับเปลี่ยนกระบวนการเรียนรู้”
เป็น “Active Learning” เชื่อมโยงนักเรียนกับบริบทท่ีท้าทายของสังคม
และคิดหาวิธีแก้ปัญหาหรือพัฒนา โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างความรู้
และใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม
การออกแบบกระบวนการเรียนรู้จำ�เป็นต้องให้ความสำ�คัญถึงคุณค่า
ศักยภาพของผู้เรียนในด้านความแตกต่างระหว่างบุคคลด้านพหุปัญญา
ทั้งกระบวนการจัดการเรียนรู้ของผู้สอนและกระบวนการเรียนรู้ (learning
process) ของผเู้ รยี นทม่ี ีความสมั พันธ์กัน ผูเ้ รยี นจะตอ้ งใช้กระบวนการเรียนรู้
เพอื่ พฒั นาตนเองในดา้ นความรู้ ทกั ษะ และคา่ นยิ มอยา่ งกลมกลนื กนั หลอ่ หลอม
เป็นสมรรถนะ รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ เป็นการให้ผู้เรียนสร้าง
องค์ความรู้ได้ด้วยตนเองจากการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นและสิ่งแวดล้อม
อย่างกระตือรือร้น แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในการสร้างความรู้ใหม่

8

โดยมีผู้สอนเป็นผู้อำ�นวยความสะดวก รวมท้ังกระตุ้นด้วยคำ�ถามที่ท้าทาย
เพ่ือให้ผู้เรียนฝึกคิดและสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง (Eisner, 2002;
Gardner, 1995; Jacob, 2010; Dewey, 1963) รวมถงึ ปรบั กระบวนการเรยี นรู้
ท่ีส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง สอดคล้องกับพัฒนาการสมอง
แต่ละช่วงวัย พัฒนากระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนให้เด็กทุกคนบรรลุ
ศักยภาพสูงสุดของตน (สำ�นักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, ๒๕๕๒ : ๕-๙)
และใช้การประเมินผลและการให้ข้อมูลป้อนกลับ ช่วยให้ผู้เรียนเห็น
ความก้าวหน้าของตนหลายมิติ ทั้งเก่ียวกับผลงาน กระบวนการ การควบคุม
ตนเอง ช่วยให้ผู้เรียนรับผิดชอบต่อการพัฒนาตนเองและใช้ข้อมูลป้อนกลับ
เพ่ือการเรียนรู้ต่อยอด (Hattie and Timperley, 2007: 86) ส่งเสริม
ให้เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีความเข้มแข็งของจิตใจ แม้ในความผิดพลาด
หรือล้มเหลวของกระบวนการทำ�งานหรือชิ้นงาน ผู้เรียนจะมองว่า เป็น
การเรยี นรูแ้ ละโอกาสในการพัฒนาตน
อย่างไรก็ตาม คุณภาพของนักเรียนเกี่ยวกับพหุปัญญาและสมรรถนะ
ในศตวรรษท่ี ๒๑ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การพฒั นาความเปน็ นวตั กรเพอื่ ขบั เคลอ่ื น
ประเทศไทย รวมท้ังกระบวนการสร้างความเปล่ียนแปลงระดับห้องเรียน
และการขยายผลใหส้ ง่ ผลในวงกว้างอย่างก้าวกระโดดยังคงเปน็ โจทย์ทที่ า้ ทาย
ของผเู้ กย่ี วขอ้ งกบั การจดั การศกึ ษาของประเทศไทยมาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง การวจิ ยั น้ี
จะช่วยให้ผู้เก่ียวข้องกับการจัดการศึกษาสามารถนำ�แนวคิดและวิธีการ
ในการยกระดับคุณภาพนักเรียนและกระบวนการสร้างการเปล่ียนแปลง
การเรยี นการสอนในวงกวา้ งไปจดั ท�ำ นโยบายและกลยทุ ธเ์ พอ่ื ยกระดบั คณุ ภาพ
การศกึ ษาตอ่ ไป

9

กรอบแนวคดิ การวจิ ยั

หลกั การ/แนวคดิ /ทฤษฎี ดา้ นครู

นโยบายการศกึ ษาท่เี ก่ยี วขอ้ ง ๑. ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั
๑. ยุทธศาสตร์ชาตริ ะยะ ๒๐ ปี การเรยี นการสอนแบบ Active
(๒๕๖๑- ๒๕๘๐) Learning ด้วยกระบวนการคดิ
แผนการศึกษา ขน้ั สงู เชิงระบบ (GPAS 5 Steps)
๒. แนวคดิ เกย่ี วกับพหปุ ัญญา ๒. ความสามารถในการออกแบบ
สมรรถนะในศตวรรษท่ี ๒๑ การเรยี นการสอนแบบ Active
และประเทศไทย ๔.๐ Learning ดว้ ยกระบวนการคิด
๓. แนวคดิ การจัดการเรยี นรู้ ขน้ั สูงเชงิ ระบบ (GPAS 5 Steps)
แบบ Active Learning ๓. ความสามารถในการจัดการเรียน
ดว้ ยกระบวนการคิดขนั้ สงู การสอนตามแนวคดิ แบบ
เชงิ ระบบ (GPAS 5 Steps) Active Learning ด้วย
๔. แนวคิดเกย่ี วกับการบริหาร กระบวนการคิดขัน้ สงู เชิงระบบ
โดยใชห้ อ้ งเรยี นเปน็ ฐาน (GPAS 5 Steps)
๕. แนวคิดเกยี่ วกับชมุ ชน ๔. นวัตกรรมการสอนของครู
แหง่ การเรยี นร้วู ิชาชพี (PLC: ๕. ความคดิ เหน็ ของครตู ่อรปู แบบ
Professional Learning การยกระดบั คุณภาพการเรยี น
Community) และแนวคดิ การสอนดว้ ยกระบวนการคิด
เก่ียวกับ Coaching and ขน้ั สงู เชิงระบบ (GPAS 5 Steps)
Mentoring
ด้านนักเรยี น
ภาพ กรอบแนวคิดรปู แบบการยกระดับ
คณุ ภาพการเรียนการสอนแบบ Active Learning ๑. ความสามารถในการคดิ ข้ันสูง
ด้วยกระบวนการคดิ ขั้นสูงเชงิ ระบบ (GPAS 5 Steps) ๒. ความเป็นนวัตกร
เพ่ือพฒั นาพหุปญั ญาและสมรรถนะ ๓. ความสามารถในการ
ในศตวรรษท่ี ๒๑ ขบั เคลอ่ื นสูไ่ ทยแลนด์ ๔.๐ สรา้ งสรรค์นวตั กรรม
๔. คณุ ธรรม จริยธรรม

10

แนวคดิ สำ�คัญทเ่ี กย่ี วข้อง

การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพการเรียนรู้
แบบ Active Learning ดว้ ยกระบวนการคดิ ขั้นสงู เชงิ ระบบ (GPAS 5 Steps)
เพื่อพัฒนาพหุปัญญาและสมรรถนะในศตวรรษท่ี ๒๑ ขับเคลื่อนสู่
ไทยแลนด์ ๔.๐ ในครั้งน้ี ผูว้ ิจัยได้ศึกษาเอกสารท่เี กย่ี วขอ้ ง ได้แก่ ๑) นโยบาย
การศึกษาท่ีเก่ียวข้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี (๒๕๖๑-๒๕๘๐)
๒) การพฒั นาคนไทย เปา้ หมายอยทู่ กี่ ารจดั การเรยี นรู้ ๓) การยกระดบั คณุ ภาพ
การศกึ ษาใหต้ รงเปา้ หมายและถกู ทศิ ทาง โดยมรี ายละเอยี ด ดังนี้

๑. ยุทธศาสตรช์ าติระยะ ๒๐ ปี (๒๕๖๑-๒๕๘๐)

นโยบายรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการดำ�เนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ
(พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) ด้านนโยบายรัฐบาลหลักด้านการศึกษา ได้แก่
นโยบายท่ี ๔ การศกึ ษาและเรยี นรู้ การท�ำ นบุ �ำ รงุ ศาสนา ศลิ ปะ และวฒั นธรรม
๑) จัดให้มีการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้ ๒) ในระยะเฉพาะหน้า
จะปรับเปลี่ยนการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการศึกษา ๓) ให้องค์กร
ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และประชาชน
ทว่ั ไป มีโอกาสรว่ มจดั การศึกษาทม่ี ีคุณภาพและทัว่ ถึง ๔) พัฒนาคนทุกชว่ งวยั
โดยสง่ เสรมิ การเรยี นรยู้ ทุ ธศาสตรช์ าตริ ะยะ ๒๐ ปี (๒๕๖๑-๒๕๘๐) ตลอดชวี ติ
๕) ส่งเสริมอาชีวศึกษาและการศึกษาระดับวิทยาลัยชุมชน ๖) พัฒนา
ระบบการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพและมีจิตวิญญาณของความเป็นคน
๗) ท�ำ นบุ �ำ รงุ และอปุ ถมั ภพ์ ระพทุ ธศาสนาและศาสนาอนื่ ๆ สนบั สนนุ ใหอ้ งคก์ ร
ทางศาสนามีบทบาทสำ�คัญในการปลูกฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม ตลอดจนพฒั นา
คุณภาพชีวิต สร้างสันติสุขและความปรองดอง สมานฉันท์ในสังคมไทย
อย่างยั่งยืน ๘) อนุรักษ์ ฟื้นฟู และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรม ภาษาไทย
และภาษาถน่ิ ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน รวมทัง้ ความหลากหลายของศิลปวฒั นธรรม
ไทย ๙) สนับสนุนการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วัฒนธรรมของประเทศ
เพอ่ื นบ้าน และวฒั นธรรมสากล และ ๑๐) ปลูกฝังค่านยิ มและจติ ส�ำ นกึ ที่ดี

11

๒. การพัฒนาคนไทย เปา้ หมายอย่ทู ก่ี ารจดั การเรยี นรู้
การพัฒนาคนไทยจะต้องเน้นในเรื่องความสามารถของการเรียนรู้
โดยเฉพาะผเู้ รยี นใหม้ ที กั ษะชวี ติ ในการพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ผทู้ เ่ี กยี่ วขอ้ ง
ทางด้านการศึกษาจะต้องจัดการศึกษาท่ีเน้นกระบวนการและเพิ่มเร่ือง
ทักษะชีวิต มีทักษะทางด้านภาษาไทยในการส่ือสาร โดยเฉพาะเร่ืองการอ่าน
การพูด การฟัง และการเขียน ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำ�คัญในการแสวงหา
ความรู้ตลอดชีวิตของตัวผู้เรียน บุคคลในวงการศึกษาจะต้องใช้หลักมีแนวคิด
ที่ดีในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการคิดข้ันสูงท่ีเน้นกระบวนการสร้างความเข้าใจ
ทล่ี มุ่ ลกึ อนั เปน็ “การดงึ ความสามารถและความดที ซ่ี อ่ นอยใู่ นตวั เดก็ ออกมาพฒั นา
นบั วา่ เปน็ การสรา้ งการกศุ ลอนั ยงิ่ ใหญใ่ หเ้ กดิ กบั ชวี ิตของตนเอง แตป่ ระโยชน์
ยอ่ มเกดิ กับผู้เรยี น”
การศกึ ษาตอ้ งพจิ ารณาไปถงึ ความรเู้ หลา่ นน้ั วา่ มกี ารถา่ ยโยงไปสเู่ รอ่ื งอน่ื
ไดม้ ากนอ้ ยแคไ่ หน โรงเรยี นควรพจิ ารณาสาระส�ำ คญั ทจ่ี ะน�ำ ไปสคู่ วามรเู้ ฉพาะ
ของศาสตร์และความรู้ข้ามศาสตร์ ระบุและจัดโครงสร้างรายวิชาและสาระ
ท่ีจะช่วยพัฒนาสมรรถนะด้านต่าง ๆ เป็นสิ่งที่คงที่ การจัดกระบวนการ
เรียนรู้ท่ีช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกคิดและลงมือทำ�จะช่วยเพิ่มสมรรถนะด้านต่าง ๆ
ท้ังการเรียนรู้ควบคู่ความดีของตนในการนำ�ความแตกต่างของตนจากผู้อ่ืน
มาใช้ให้เกิดประโยชน์ การสอนที่เน้นแก่นความรู้อันจะทำ�ให้ผู้เรียนเข้าใจ
บทเรยี นอยา่ งมคี ณุ ภาพแทจ้ รงิ ผเู้ รยี นอาจตอ้ งการบรรลจุ ดุ หมายหลายประการ
ในการเรยี นรู้ แตค่ รผู สู้ อนตอ้ งมเี ปา้ หมายการสอนทชี่ ดั เจน โรงเรยี นกค็ วรก�ำ กบั
ดูแล ตรวจสอบ ประเมินให้ผู้สอนเน้นกระบวนการเรียนรู้ ผู้เรียนจะเพ่ิมพูน
ความรู้ ความสามารถ ทักษะกระบวนการ มีความเข้าใจท่ีลุ่มลึกท่ีสะท้อน
ออกมาได้จากชิน้ งานหรือการปฏบิ ัติงานของผู้เรยี นเอง
ดังนั้น การสอนเพ่ือให้รู้จริง ทำ�ได้จริง และนำ�ไปใช้ได้จริง จึงเป็น
การเรียนรู้ท่ีมีพลัง เป็นการเรียนรู้ท่ีต้องใช้เทคนิควิธีการที่หลากหลาย
ซ่ึงมีแม่แบบท่ีสำ�คัญ คือ การไต่ระดับความสามารถซ่ึงสามารถจูงใจ
12 และเช่ือมโยงไปสู่บริบทต่าง ๆ ได้อย่างม่ันใจ การให้ความสำ�คัญกับ

การประเมินการเรียนรู้ การท่ีครูนำ�สถานการณ์ท่ีซับซ้อนมาใช้ร่วม
ในการเรียนการสอน จะเป็นเวทีหน่ึงที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เผชิญกับสถานการณ์
ปั ญ ห า ที่ ซั บ ซ้ อ น ต า ม ส ภ า พ ค ว า ม เ ป็ น จ ริ ง เ พื่ อ ผู้ เ รี ย น จ ะ ไ ด้ ฝึ ก คิ ด
ในระดับต่าง ๆ จากหลายมุมมอง มีโอกาสพัฒนาทักษะหลายด้าน
ใช้ความสามารถที่แตกต่างค้นหาวิธีใหม่ ๆ ในการสร้างความรู้ แก้ปัญหา
เฉพาะหน้า และเพ่ิมพูนทักษะชีวิต ถ้าโรงเรียนหรือสถานศึกษาทำ�ได้
ปฏิบัติได้ ย่อมจะได้ชื่อว่า โรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ เป็นสถานท่ี
ท่ีผู้บริหาร ครู และผู้เรียนมีพ้ืนท่ีให้ยืนอย่างสง่างาม เติบโตด้วยความรู้
ความสามารถ เรียนรู้อย่างผู้มีปัญญา บุคคลที่มีปัญญาทางโลกย่อมหาทาง
ประกอบอาชีพเลี้ยงตนได้ หากเขามีปัญญาและมีความเชี่ยวชาญในการงาน
อย่างใดอย่างหนึ่ง ดร.โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ นักจิตวิทยาพัฒนาการจาก
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้คิดทฤษฎีพหุปัญญา Multiple Intelligences
แยกแยะความฉลาดออกเปน็ ๙ ประเภท

»Þ˜ ÞÒ´ÒŒ ¹´¹µÃÕ ¡ÒÃऻŘÞÍè× ¹ÞäÒË´ÇŒÒùҋ §¡ÒÂ

»Þ˜ ÞÒ´ÒŒ ¹¡ÒÃà¢ÒŒ 㨵¹àͧ »Þ˜ ÞÒ´ÒŒ ¹¨ÔµÇÞÔ ÞÒ³ »Þ˜ ÞÒ´ÒŒ ¹¡ÒÃÊÑÁ¾¹Ñ ¸¡Ñº¼ŒÙ͹×è
»Þ˜ ¤Þ³ÒµÔ´áŒÒÈŹÒÐʵµÃÃϡР¤»¸ÇÞ˜ÃÒÃÁÞÁàÒ¢ª´ÒŒÒҌ㵹¨Ô
»˜ÞÞÒ´ŒÒ¹ÁÔµÊÔ ÑÁ¾Ñ¹¸ กขฃคฅฆงจฉชซฌญฎฏฐฑฒณดตถทธนบปผฝ
พฟภมยรลวศษสหฬอฮกขฃคฅฆงจฉชซฌญฎฏ

AฐกTฑขUBฃฒCVคณDWฅEดฆXFตงYถGจZทฉHชธAIนซJBKบฌCLปญDMผฎEฝNฏFพฐOGฟฑHPภฒQมIJณยKRรดLSลตMTวถUศNทษVธOสนWหPบฬQXปอYRผฮZฝS

พฟภมยรลวศษสหฬอฮกขฃคฅฆงจฉชซฌญฎฏ

AฐฑBฒCณDEดFตถG»ทH˜ÞธIนÞJKบÒL´ปMŒÒผ¹ฝNÀพÒOฟÉPภÒQมยRรSลTวUศษVสWหฬXอYฮz

13

ซ่ึงอนุมานได้ว่า ความฉลาดเหล่านี้เป็นความฉลาดหรือปัญญาทางโลก
ความฉลาดทางด้านภาษา ความฉลาดทางด้านตรรกะและคณิตศาสตร์
ความฉลาดทางด้านดนตรี ความฉลาดทางด้านมิติ ความฉลาดทางด้าน
การเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย ความสามารถในการใชร้ า่ งกายเคลอื่ นไหวอยา่ งสรา้ งสรรค์
เช่น นักเต้น นักกีฬา นักแสดง ความฉลาดในการเป็นผู้นำ� ความฉลาด
ภายใน ความสามารถในการเข้าอกเข้าใจความรู้สึกภายในของผู้คน ดังนั้น
การจัดกระบวนการเรียนรู้ทั้งในและนอกสถานศึกษาจะต้องมีการวางแผน
มีการกำ�หนดแนวทางการจัดกิจกรรมท่ีดีให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์
จริง มีการฝึกการปฏิบัติให้ทำ�ได้ คิดเป็น ทำ�เป็น รักการอ่านมาก สร้าง
บรรยากาศและแหล่งเรียนรู้ ให้เกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเน่ือง สามารถปรับตัวได้
เหมาะสมกับสถานการณ์โลกและสังคมทีเ่ ปลย่ี นแปลงไป
สถานศึกษาต้องเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ท่ีแท้จริง การพัฒนา
ระบบการคิดขั้นสูงและการจัดการเรียนการสอนที่เน้นความเข้าใจที่ลุ่มลึก
จะช่วยให้ครูเคารพความคิดท่ีหลากหลายของนักเรียน นักเรียนทุกคน
สามารถเรียนรู้จากกระบวนการคิดได้ดี ถ้าการเรียนรู้เหล่าน้ันนำ�ไปสู่
ความเขา้ ใจทล่ี มุ่ ลกึ ทแี่ สดงออกโดยการอธบิ าย ขยายความ ตคี วาม ประยกุ ตใ์ ช้
มีมุมมองที่หลากหลาย รู้จักและเข้าใจผู้อื่น รวมทั้งรู้ตัวตนที่แท้จริง
ของตนเองตามแนวคิดของ Tomlinson และ McTighe (2006; Wiggins
and McTighe, (2005) การออกแบบการเรยี นรู้ทก่ี ำ�หนดเป้าหมาย (Desired
results) เป็นความเข้าใจที่ลุ่มลึก คงทน (Enduring Understanding)
หรอื เปน็ ทกั ษะกระบวนการทถี่ า่ ยโยงไปสเู่ รอ่ื งอน่ื ๆ ได้ (Transformative Skills)
จำ�เป็นต้องเชื่อมโยงผู้เรียนให้ปะทะสัมพันธ์กับบริบท กระตุ้นการคิดสะท้อน
การเสวนาและการตั้งคำ�ถามท้าทายเพื่อให้ผู้เรียนสร้างความรู้ในสิ่งท่ีเรียน
อย่างแจ่มแจ้ง ครูยังต้องวางแผนการประเมินเพื่อการเรียนรู้ให้สะท้อน
ความก้าวหน้าของนักเรียน อีกทั้งวางกระบวนการเรียนรู้ให้นักเรียนเพิ่มพูน
ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการและค่านิยมตามเป้าหมายที่กำ�หนดไว้

14

ตามแนวคิด Backward Design สอดคล้องพหุปัญญาและความแตกต่าง
ระหว่างบุคคลของนักเรียน
๓. การยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ตรงเป้าหมายและถูกทิศทาง
ในอนาคต (Hightening the student’s quality to target and
on the right track)
“โลกในยคุ ศตวรรษที่ ๒๑ เปน็ ยคุ แหง่ การเปลย่ี นแปลงทางวทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยที ก่ี า้ วหนา้ อยา่ งรวดเรว็ ผเู้ รยี นจ�ำ เปน็ ตอ้ งปรบั เปลย่ี นการเรยี นรู้
เพื่อความกา้ วทันและพร้อมรบั การเปลยี่ นแปลง”
OECD ประกาศเขม็ ทศิ การศกึ ษาในปี ๒๐๓๐ เพอ่ื ความยงั่ ยนื ของสงั คม
และส่ิงแวดล้อม นักเรียนท่ีจะดำ�เนินชีวิตในอนาคตต้องเรียนรู้แบบองค์รวม
ทั้งด้านความรู้ ทักษะและกระบวนการ เจตคติและค่านิยมที่กว้างข้ึน
และนำ�ไปสู่การปฏิบัติผ่านกระบวนการคิดข้ันสูงเชิงระบบ (GPAS 5 Steps)
เพ่ือถักทอให้เป็นสมรรถนะด้านต่าง ๆ เม่ือผู้เรียนเชื่อมโยงตนเอง
กับบริบทของสังคม โดยใช้กระบวนการคิดข้ันสูงเชิงระบบ (GPAS 5 Steps)
จะเข้าใจองคค์ วามรขู้ องศาสตรเ์ ฉพาะวิชาและความเช่อื มโยงของศาสตร์อื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้อง รู้เข้าใจวิธีเรียนรู้ ขั้นตอนของการเรียนรู้ ในขณะเดียวกันมีทักษะ
ในการคิดและการรู้คิด ทักษะทางสังคม อารมณ์ และการแสดงออก
ที่เหมาะสม รวมท้ังยังช่วยพัฒนาเจตคติและค่านิยมต่อตนเองและสังคม
การถักทอความรู้ ทักษะกระบวนการ เจตคติและค่านิยมอย่างต่อเนื่อง
สร้างสมรรถนะเพื่อการเปล่ียนแปลง (Transformative Competencies)
ในบริบทสังคมโลกที่มุ่งให้บุคคลมีความสมดุลทางกายและจิตใจ พัฒนา
คณุ ภาพชีวิต ทำ�ประโยชน์แก่สาธารณะ และสรา้ งความยั่งยืนในสังคมโลก

15

เขา้ ใจในสาระองคค์ วามรวู้ ิชาต่าง ๆ แต่ละวชิ า (Disciplinary) Knowledge
เขา้ ใจในองคค์ วามรทู้ ่สี ัมพนั ธก์ นั ระหวา่ งวชิ าต่าง ๆ (Interdisciplinary)
เขา้ ใจในวธิ เี รยี นรู้ ความร้ใู นศาสตร์ต่าง ๆ แต่ละด้าน (Epistemic) คตวรารมกะรู้
ความรู้ ความเข้าใจในขนั้ ตอนของการเรียนรู้ (Procedural)
& PSkroilclsess
ทักษะการเรียนรู้และการรู้คิด (Cognitive & Metacognition Skill) กระทบักวษนะการ
ทกั ษะทางสังคมและจติ ใจ อารมณ์ (Social & Emotions) A&ttVitauludeess
ทกั ษะการแสดงออกทางกายและการประพฤติ การปฏบิ ัติ
(Physical & Practices) คเจ่าตนคิยตมิ

เจตคติคา่ นิยมสว่ นบุคคล (Personal)
เจตคตคิ า่ นิยมที่เกี่ยวกับทอ้ งถน่ิ (Local)
เจตคตคิ า่ นยิ มทเ่ี ก่ียวกบั สงั คม (Social)
เจตคติค่านยิ มที่เก่ยี วโลก (Global)

การสร้างสมรรถนะเพ่ือการเปลี่ยนแปลง (Transformative
Competencies) ต้องวางรากฐานในการจัดการศึกษาที่มุ่งเป้าหมายเดียวกัน
คือ คุณภาพชีวิตและคุณภาพของสังคมโลก การเรียนการสอนต้องมุ่ง
ที่การเรียนรู้ (Focus on Learning) ของนักเรียนท่ีเน้นกระบวนการเรียนรู้
ที่ช่วยให้ผู้เรียนสร้างความรู้ พัฒนาทักษะกระบวนการ และสร้างค่านิยม/
ทัศนคติไปพร้อมกัน แนวทางการเรียนรู้ท่ีนำ�ไปใช้ได้กับทุกศาสตร์
เป็นการเรียนรู้กำ�หนดเป้าหมายเชื่อมโยงกับทิศทางพัฒนาศักยภาพคน
และสังคมโลก นักเรียนได้ลงมือทำ�และมีการแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหา
ของชมุ ชน/สังคม ไดร้ บั การพฒั นาให้ควบคุม กำ�กบั ตนเอง (Self-regulating)
ผ่านการคิดสะท้อน ได้สร้างสรรค์สิ่งท่ีมีคุณค่าต่อสังคม โดยใช้ความสามารถ
ทางพหปุ ญั ญา (Multiple Intelligences) ของตนและผอู้ นื่ การสรา้ งสมรรถนะ
(Competencies) ที่สอดคล้องกับสังคมปัจจุบันและในอนาคตจึงต้องอาศัย
การเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดข้ันสูงเชิงระบบ

16

(GPAS 5 Steps) ท่ีสร้างแบบแผนการสร้างองค์ความรู้และแบบแผน
การปฏิบัติที่ควบคู่กับการคิดสะท้อน (Reflective thinking) มีการประเมิน
ผลงานและการปฏิบัติตามสภาพจริงท่ีสร้างสรรค์นวัตกรรมเพ่ือคุณภาพชีวิต
ของตนและสังคมแล้วคอ่ ย ๆ หลอ่ หลอมเปน็ คา่ นิยมทด่ี ี

Knowledge
คตวรารมกะรู้

& PSkroilclsess

กระทบักวษนะการ

A&ttVitauludeess
คเจา่ ตนคยิ ตมิ

สถาบันพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.)

กระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ (GPAS 5 Steps) เป็นกระบวนการ
เรยี นรู้ท่สี ามารถถักทอความรู้ ทกั ษะกระบวนการ และค่านยิ มอยา่ งกลมกลืน
ในกระบวนการขั้นต่าง ๆ โดยไม่ติดกับเนื้อหาวิชาจึงสามารถนำ�ไปใช้ได้กับ
ทุกวิชาและการเรียนรู้ที่ต้องใช้ศาสตร์ต่าง ๆ มาสัมพันธ์กัน เม่ือนักเรียน
มีความสนใจ ความถนัดด้านใด สามารถเริ่มจากคำ�ถาม ข้อสงสัยของตน
หรอื ของกลมุ่ แลว้ แสวงหาขอ้ มลู เพอื่ วเิ คราะห์ สงั เคราะหเ์ ปน็ ความรทู้ เี่ ปน็ หลกั การ
แล้วนำ�หลักการที่ได้ไปประยุกต์ใช้สร้างผลงาน นวัตกรรมท่ีนำ�ไปใช้ประโยชน์
กับชุมชน มีการประเมินกำ�กับตนเอง ประเมินผลที่เป็นคุณค่าต่อสังคม

17

รวมทง้ั สงิ่ ทต่ี อ้ งพฒั นาตอ่ ไป เกดิ เปน็ องคค์ วามรทู้ เ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั ใิ นสภาพจรงิ
ของชุมชน แล้วจึงเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่พัฒนาสมรรถนะของนักเรียน
ซง่ึ สามารถสรา้ งการเปลย่ี นแปลงตนเองและสงั คม ดงั นน้ั กระบวนการคดิ ขนั้ สงู
เชิงระบบ (GPAS 5 Steps) จึงเป็นกระบวนการเรียนรู้ท่ีสามารถพัฒนา
สมรรถนะเพ่ือการเปล่ียนแปลงตามทิศทางของการเรียนรู้ที่จะช่วยสร้าง
อนาคตท่ดี ี

สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.)

การออกแบบการเรียนรู้ท่ีสนองตอบเป้าหมายร่วมของผู้เรียนที่มี
ความแตกต่างของพหุปัญญาและความต้องการท่ีหลากหลายของผู้เรียน
ความคาดหวงั ของหลกั สตู รและความคาดหวงั ของสงั คมอนาคตตอ้ งออกแบบให้
เชอ่ื มโยงอยา่ งเปน็ ระบบใหส้ ง่ ผลตอ่ นกั เรยี นรอบดา้ นอยา่ งเปน็ รปู ธรรม ตอ้ งใช้
กระบวนการออกแบบย้อนกลบั (Backward Design) ทก่ี �ำ หนดผลท่ตี อ้ งการ
(Desired Result) เป็นเป้าหมายก่อนแล้วจึงกำ�หนดวิธีประเมินผลที่อาศัย
ร่องรอยหลักฐานจากการประเมินตามสภาพจริงท่ีเป็นการประเมิน

18

เพอ่ื พฒั นาการเรยี นรขู้ องนกั เรยี น (Assessment for Learning) แลว้ จงึ ออกแบบ
กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีช่วยให้นักเรียนสร้างความรู้ ลงมือปฏิบัติ ประเมิน
และกำ�กับตนเอง (Self-regulating) ด้วยการคิดสะท้อนซึ่งช่วยพัฒนา
ทักษะรู้คดิ (Metacognition Skills) ควบคู่กนั ไป
๔. กระบวนการคดิ ขน้ั สงู เชงิ ระบบ (GPAS 5 Steps) เปน็ เครอื่ งมอื พฒั นา
ศักยภาพของคนในศตวรรษท่ี ๒๑
การพัฒนาทักษะพื้นฐานสำ�หรับอนาคต เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์
ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ทักษะทางสังคม ทักษะการคิดสร้างสรรค์
และทักษะการแก้ปัญหา ทักษะท่ีจำ�เป็นดังกล่าวนำ�ไปสู่การพัฒนาคนให้มี
ความสามารถอยู่ในสังคมโลกอย่างสร้างสรรค์และมีความสุข ดังน้ัน ผู้เรียน
จงึ ต้องมคี วามสามารถในการคดิ เชิงระบบ การคิดแก้ปัญหา และการตัดสนิ ใจ
บนพื้นฐานของข้อมูลสารสนเทศได้อย่างมีคุณภาพเที่ยงตรง โดยใช้
กระบวนการคิดข้ันสูงเชิงระบบ (GPAS 5 Steps) เป็นเคร่ืองมือการเรียนรู้
แบบ Active Learning

Active Learning GPAS 5 Steps

สถาบันพัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) 19

จากแนวคิดการเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ผู้เรียนจะต้องมีเป้าหมาย
ในการเรียนรู้ ค้นหาแนวทางที่จะนำ�ไปสู่โครงสร้างความรู้ที่มีความหมาย
สอดคลอ้ งและลงตวั จากขอ้ มลู ทมี่ อี ยู่ อาศยั หลกั การสรา้ งความรู้ (Construction
of Knowledge) โดยผู้เรียนสร้างความรู้จากการถ่ายโยงข้อมูลใหม่
กบั ความรเู้ ดมิ อยา่ งมคี วามหมาย ทงั้ นจี้ ะเปน็ พนื้ ฐานในการพฒั นาความสามารถ
และทักษะการคดิ ขนั้ สูงได้อยา่ งสมบูรณ์และมากด้วยคุณค่าตอ่ ไป

การยกระดับคุณภาพทางการศึกษาให้ตรงเป้าหมายและถูกทิศทาง
มหี ลกั การส�ำ คญั ดังน้ี
๑. สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงระบบโครงสร้าง
ของหลักสูตรแกนกลางฯ กบั การออกแบบการสอน
• สถานศึกษาต้องวิเคราะห์หลักสูตรตั้งแต่เน้ือหา ยุทธศาสตร์
การเรียนรู้กลวิธีท่ีสำ�คัญ ยุทธศาสตร์การวัดและประเมินผล เพื่อให้เห็น
ความสมั พนั ธ์ระหว่างกนั
• สร้างความเข้าใจกับผู้สอนว่า ผู้เรียนต้องเรียนอะไร (เนื้อหา)
นำ�ไปสู่การเรียนรู้ คือ เรียนอย่างไร (วิธีเรียนรู้) และจะส่งผลให้เกิดความรู้
และคุณภาพใด (ผลการเรียนรู้) และมีคุณภาพระดับใด (มิติคุณภาพ)
และวิเคราะห์ให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเน้ือหากับมาตรฐานการเรียนรู้
ตัวชว้ี ัด และกระบวนการเรยี นรอู้ ย่างไร
• สร้างความเข้าใจให้ผู้สอนเข้าใจว่า ความรู้ ความสามารถทุกมิติ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะท่ีหลักสูตรกำ�หนดไว้ทั้งหมดน้ัน
ล้วนอาศยั กระบวนการเรียนรู้
• มติ กิ ารคดิ วเิ คราะห์ มติ คิ ณุ ธรรม คา่ นยิ ม มติ ทิ กั ษะกระบวนการ
มคี วามเชือ่ มโยงสมั พันธ์กนั อย่างเป็นล�ำ ดบั ขน้ั ตอน
• สร้างความเข้าใจให้ผู้สอนเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่าง
กระบวนการกบั การวดั และประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ ทใี่ ชม้ ติ คิ ณุ ภาพ (Rubrics)
กับการพัฒนาสมรรถนะของนักเรียนที่ต้องให้ผู้เรียนประเมินและกำ�กับตนเอง
(Self-regulation) ซึง่ เน้นการประเมนิ เพือ่ การเรียนรู้

20

• สร้างความเข้าใจให้ผู้สอน เกิดความเข้าใจในเรื่องการออกแบบ
การเรยี นรแู้ บบยอ้ นกลบั (Backward Design) โดยการน�ำ กระบวนการคดิ ขนั้ สงู
เชงิ ระบบทเ่ี รยี กวา่ GPAS (Gathering,Processing,Applying, Self - Regulating)
5 Steps มาใชใ้ นการออกแบบวธิ เี รยี นรซู้ งึ่ เปน็ การเรยี นรแู้ บบ Active Learning
เน้น Learning by Doing ส่งผลใหผ้ ู้เรยี นเป็นผูส้ ร้างความรู้ ความคดิ รวบยอด
และหลกั การไดด้ ว้ ยตวั ของผเู้ รยี นเองและสรา้ งความตระหนกั ใหผ้ สู้ อนเหน็ ผลเสยี
ที่เกิดจากการสอนแบบเน้นท่องจำ� โดยไม่รู้ความหมาย ไม่ส่งผลให้ผู้เรียน
เกิดความรู้ ไม่สัมพันธ์กับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดของหลักสูตร
แกนกลางฯ ซ่ึงเป็นหลักสูตรท่ีดีต่อการพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศ
หลักสูตรหนงึ่
• สร้างความเข้าใจให้ครูผู้สอนเข้าใจว่า จุดแข็งของหลักสูตร
อยทู่ กี่ ระบวนการหรอื วธิ เี รยี นรู้ ไมไ่ ดอ้ ยทู่ เ่ี นอ้ื หา ผสู้ อนจงึ ตอ้ งน�ำ เนอ้ื หาไปสรา้ ง
ให้เป็นความรู้ผ่านกระบวนการหรือวิธีเรียนรู้ท่ีเอ้ือให้ผู้เรียนสร้างความรู้
ด้วยตนเอง แล้วผู้เรียนก็สามารถขยายการสร้างความรู้ โดยการไปสืบค้น
ขอ้ มูล รวบรวมข้อมลู หรือเนอ้ื หาผา่ นส่อื ตา่ ง ๆ เพ่ิมขน้ึ เช่น เร่มิ ศกึ ษาขอ้ มูล
จากหนังสือเรียน จากนิตยสาร จากส่ืออินเทอร์เน็ต ขยายไปสู่ส่ิงแวดล้อม
ผ่านกระบวนการคิดหรือการปฏิบัติมาสร้างเป็นความรู้ใหม่ ๆ ได้เอง ดังนั้น
การแก้ปัญหาเกี่ยวกับปริมาณเน้ือหาจึงอยู่ท่ีการให้ผู้เรียน ผู้สอน ผู้บริหาร
ใหค้ วามสำ�คัญของกระบวนการ
๒. แกป้ ญั หาครนู �ำ เนอ้ื หามาเปน็ เพยี งขอ้ มลู แตไ่ มน่ �ำ เนอื้ หามาสรา้ งเปน็
ความรู้
• สร้างความเข้าใจให้ครูผู้สอนเกิดความเข้าใจว่า เนื้อหา
ในหนงั สอื เรยี นนน้ั ลว้ นเปน็ ความรขู้ องผเู้ รยี นเปน็ เพยี งการรบั รขู้ อ้ มลู การสอน
แบบเน้นการฟังครูพูด ผู้แสดงหรือผู้เขียนตำ�ราเมื่อถ่ายทอด เป็นการเรียน
แบบจำ�เนื้อหาจึงไม่มีความหมายต่อการเรียนรู้ของสมอง เพราะสมอง
ไมต่ อ้ งคดิ ไมต่ อ้ งวเิ คราะห์ ไมต่ อ้ งแกป้ ญั หา ท�ำ ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจไมล่ กึ ซงึ้ ผเู้ รยี น
เสียโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตนเอง ส่งผลกระทบต่อระบบ

21

การจดั การศกึ ษาของประเทศ เปน็ อปุ สรรคทย่ี งิ่ ใหญต่ อ่ การทปี่ ระเทศกา้ วหนา้
สู่ความเป็นสากลในอนาคต
๓. สรา้ งกระบวนการเรยี นรซู้ งึ่ เปน็ แกน่ แทส้ �ำ คญั ในการยกระดบั คณุ ภาพ
ของผู้เรียนท่ีสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรขู้ องหลกั สูตร
• กระบวนการเป็นเครื่องมือสำ�คัญในการนำ�เนื้อหามาสร้าง
ความรู้ในแต่ละมติ ทิ ุกระดับ
• ความรู้ ความสามารถทุกมิติเกิดขึ้นจากการใช้กระบวนการ
ความรู้หลังจากการคิดของผู้เรียน คือ ความรู้มิติคิดวิเคราะห์ (Knowledge)
ความรู้หลังการประเมินความคิดเพื่อเพ่ิมคุณภาพด้านคุณธรรม จริยธรรม
และคา่ นยิ มทส่ี ง่ ประโยชนถ์ งึ สงั คม คอื ความรมู้ ติ คิ ณุ ธรรม คา่ นยิ ม (Attitude)
และหลังจากนำ�ความรู้มิติคุณธรรม ค่านิยมไปสู่การลงมือทำ�จริง ตรวจสอบ
และแกป้ ญั หาจนเกดิ ผลส�ำ เรจ็ จงึ เปน็ ความรดู้ า้ นทกั ษะกระบวนการ (Process)
• กระบวนการเปน็ วธิ เี รยี นรสู้ �ำ คญั ทสี่ ดุ ตามแนวคดิ ของ Backward
Design
• กระบวนการเม่ือตกผลึกในตัวผู้เรียนก็จะกลายเป็นความรู้
ขน้ั สงู ผเู้ รยี นสามารถน�ำ ไปเรยี นรสู้ ง่ิ ตา่ ง ๆ ไดด้ ว้ ยตนเองหรอื น�ำ ไปเปน็ เครอื่ งมอื
สร้างเนอ้ื หาตา่ ง ๆ ใหเ้ ป็นความร้ไู ด้ด้วยตนเองตลอดชวี ติ
• การจัดการเรียนการสอนจึงต้องสอนวิธีเรียนรู้ ไม่ควรสอน
ใหจ้ �ำ ท�ำ ตามแบบ ตามท่ผี สู้ อนก�ำ หนด
๔. วัดและประเมินผลให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ตัวชี้วัด
และกระบวนการเรยี นรแู้ ละผลการเรยี นรอู้ นั เกดิ จากกระบวนการทเี่ ปน็ ผลงาน
ชิ้นงาน โครงงาน นวตั กรรม
• ใช้กระบวนการพัฒนาให้ผู้เรียนมีความสามารถในการวางแผน
นำ�ผลของการคิดมาวางแผนอย่างมีข้ันตอนก่อนลงมือทำ� เห็นขั้นตอน
การทำ�งานตลอดแนวเป็น Mind Map
• ให้ผู้เรียนลงมือทำ�งานตามแผนงานท่ีวางไว้ มีการตรวจสอบ

22

ผลของงานทุกขั้นตอนอย่างเป็นระบบ เพ่ือนำ�ไปสู่การแก้ปัญหา การพัฒนา
ใหด้ กี วา่ เดมิ เพมิ่ คณุ คา่ ใหม้ ากกวา่ เดมิ เกดิ เปน็ ผลงานในรปู แบบชนิ้ งาน โครงงาน
และสามารถตอ่ ยอดเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ สามารถสรปุ เชอื่ มโยงความสัมพันธ์
ของความคิดรวบยอดมาเป็นหลักการหรือองค์ความรู้ สามารถนำ�หลักการ
หรอื องคค์ วามรไู้ ปเปน็ เครอ่ื งมอื เรยี นรตู้ อ่ เนอื่ งในสงิ่ ทต่ี นเองสนใจในทกุ โอกาส
ทุกสถานทไ่ี ด้ด้วยตนเองตลอดชีวติ

๕. จัดทำ�หรือจัดหาแผนการสอนหรือแผนการจัดการเรียนรู้ท่ีมี
องค์ประกอบจากการวเิ คราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชว้ี ดั และหนงั สอื เรียน
แล้วนำ�ไปออกแบบเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ ออกแบบเกณฑ์การประเมินมิติ
คุณภาพ (Rubrics) ไว้ครบทุกหน่วยการเรียนรู้ ตามท่ีหลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ กำ�หนดไวเ้ พอ่ื เปน็ เครอ่ื งมอื นำ�ทาง
ใหค้ รคู อ่ ย ๆ เปลยี่ นวธิ สี อน โดยการสอนตามแผนการสอนทดี่ ี แลว้ คอ่ ย ๆ ปรบั
แผนการสอนเป็นของตนเอง

23

• การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนจึงไม่สามารถสอนเฉพาะ
หนังสือเรียนเพียงอย่างเดียวได้ จำ�เป็นต้องใช้แผนการสอนหรือแผนการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีมีแนวทางการเรียนรู้จากการปฏิบัติไปสู่ทฤษฎีหรือจาก
รูปธรรมไปสูน่ ามธรรม
• การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ต้องเน้น
การออกแบบการเรยี นรตู้ ามแนวทางของ Backward Design ใช้กระบวนการ
คิดข้ันสูงเชิงระบบ (GPAS 5 Steps) ตามท่ีหลักสูตรกำ�หนด เป็นการเน้น
ให้ผู้เรียนเรียนรู้จากการปฏิบัติด้วยการใช้คำ�ถามพาคิด พาทำ� เพื่อให้
ผู้เรยี นคิด วเิ คราะห์ ประเมนิ ลงมือทำ� สง่ ผลให้ผู้เรยี นเกดิ ความเขา้ ใจหลงั คดิ
หลังทำ� ผู้เรียนเป็นผู้สรุปความรู้ ความคิดรวบยอด และหลักการท่ีเกิดจาก
ความเขา้ ใจอย่างแท้จรงิ ดว้ ยตวั ของผ้เู รียนเอง

• การใช้กระบวนการคดิ ขัน้ สูงเชิงระบบ (GPAS 5 Steps) ซึง่ เป็น
กระบวนการสร้างความรู้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นกระบวนการท่ีใช้พัฒนา
การคิดสู่การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และการบริหารจัดการความรู้แท้

24

กระบวนการเ ีรยน(Knowledge Management) อีกท้ังการเรียนรู้ตามแนวทางท่ีสอดคล้องกับถนะดา้ นตา่ ง ๆ
การพัฒนาและการเรียนรู้ของสมอง (Brain-based Learning) ของผู้เรียน
แตล่ ะคน
• ความรู้ท่ีเกิดข้ึนจากกระบวนการคิดข้ันสูงเชิงระบบ (GPAS
5 Steps) ตรงตัวช้ีวัดทุกตัว ดังนั้น แผนการจัดการเรียนรู้หรือแผนการสอน
ที่ออกแบบตามแนวทางของ Backward Design จึงมีความจำ�เป็นมาก
ในการใช้ร่วมกับหนังสือเรียน ถ้าสอนโดยไม่ใช้แผนการสอนดังกล่าว ผู้เรียน
จะไม่เกิดความเข้าใจ ไม่เกิดความรู้ ไม่เกิดหลักการ ไม่สามารถวิเคราะห์
ข้อสอบ O-NET, PISA, TIMSS ได้

รแู้ บบองคร์ วม ถกั ทอเชอ่ื มโยงกบั ความสามารถผู้เรียนแต่ละด้านเกิดเป็นสมรร

Transformative Competencies to Well Being

• การประเมนิ คณุ ภาพของสถานศกึ ษาควรเนน้ วดั และประเมนิ ผล
เชงิ คณุ ภาพ เนน้ พฒั นาการและความกา้ วหนา้ ของผเู้ รยี นเชงิ บวก เนน้ รอ่ งรอย
หลักฐานการพัฒนาท่ีเป็นรูปธรรม เป็นช้ินงาน โครงงาน โครงงานประดิษฐ์
ซึ่งเป็นความรู้ที่แทจ้ รงิ ของผู้เรียน เป็นความรู้ทีเ่ กดิ จากกระบวนการ

25

Knowledge Attitudes & Process

การวดั และประเมินผลแบบเนน้ คุณภาพ
ถ้ามีการจัดการความรู้ให้ผู้เรียนเกิดความรู้เชิงระบบ การยกระดับ
คุณภาพผู้เรียนตามแนวทางดังกล่าวข้างต้นแล้วด้วยวิธีการประเมิน
เพอ่ื พฒั นาการเรยี นรู้ (Assessment for Learning) ซงึ่ เปน็ การรวบรวมหลกั ฐาน
ข้อมูลเชิงประจักษ์ตามสภาพจริงของกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
เพ่ือระบุและวินิจฉัยปัญหาการเรียนรู้และให้ข้อมูลย้อนกลับท่ีมีคุณภาพแก่
ผู้เรียนด้วยวิธีการประเมินท่ีหลากหลาย ช่วยให้ครูเข้าใจการเรียนรู้ของผู้เรียน
ในแงม่ มุ ตา่ ง ๆ อยา่ งรอบดา้ นอนั จะน�ำ ไปสกู่ ารปรบั การเรยี นและเปลย่ี นการสอน
ให้สอดคล้องกับความแตกต่างของผู้เรียนและทิศทางการจัดการเรียนรู้
ในอนาคตตามเข็มทิศการเรียนรู้สู่ปี ๒๐๓๐ ของ OECD ผู้เรียนก็จะมีความรู้
ความสามารถตรงตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดของหลักสูตร มีความรู้
ความสามารถตามมาตรฐานสากล สอดคล้องกับการจัดการศึกษาในศตวรรษ
ท่ี ๒๑ อย่างม่นั ใจ

26

การพัฒนาที่ย่ังยืนมีเป้าหมายที่คุณภาพชีวิตที่ดีของประชากร
และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมโลก ทิศทางการเรียนรู้ในทศวรรษ ๒๐๓๐
ชี้ให้เห็นถึงการพัฒนาสมรรถนะเพ่ือการเปลี่ยนแปลง (Transformative
Competencies) ซ่ึงมีองค์ประกอบของความรู้จากศาสตร์ต่าง ๆ ทักษะ
กระบวนการและเจตคติ ค่านิยมท่ีต้องถักทอไปพร้อมกัน การเรียนรู้แบบ
Active Learning ตามแนวคิดกระบวนการคิดข้ันสูงเชิงระบบ (GPAS
5 Steps) เปน็ การเช่อื มโยงผ้เู รียนกับสภาพปญั หาของโลก มีข้นั ตอนที่ช่วยให้
นักเรียนเริ่มต้นจากคำ�ถามที่สนใจ รวบรวมข้อมูลมาคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์
จนเกิดความรู้เป็นหลักการที่จะเลือกนำ�ไปวางแผน สร้างสรรค์นวัตกรรม
เพื่อสาธารณประโยชน์ของโลก ในขณะเดียวกัน การเรียนรู้ตามกระบวนการ
GPAS 5 Steps กช็ ว่ ยใหผ้ เู้ รยี นน�ำ พหปุ ญั ญามาใชไ้ ด้ พฒั นาทกั ษะกระบวนการ
มีการประเมินกำ�กับวิธีคิด อารมณ์ และการแสดงออกของตนเองตลอด
กระบวนการจึงเพ่ิมพูนค่านิยมท่ีดี สอดคล้องกับความคาดหวังของตนเอง
และสังคม
ครูเป็นบุคคลสำ�คัญในการพัฒนาศักยภาพคน โดยการออกแบบ
การเรียนรู้ท่ีมีเป้าหมายชัดเจน วัดประเมินผลร่องรอยและการกระทำ�
โดยใช้มิติคุณภาพในการให้ข้อมูลป้อนกลับเพ่ือการพัฒนาการเรียนรู้
ระดับสูงครบทุกมิติ ครูจึงต้องออกแบบการสอนท่ีมีหน่วยการเรียนรู้
และแผนการสอนที่ใช้เทคนิค Backward Design คู่มือครูที่ใช้แนวคิด
“GPAS 5 Steps” เปน็ เครอื่ งมือน�ำ ทางให้ครูค่อย ๆ ปรบั วธิ ีสอนจนสามารถ
ออกแบบการสอนตามกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบได้ด้วยตนเองแล้ว
แลกเปล่ียนเรียนรู้การพัฒนาวิชาชีพในชุมชนการเรียนรู้ PLC ร่วมวิจัย
ปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงการสอนในช้ันเรียน สร้างเครือข่ายโดยอาศัย
สงั คมออนไลน์ รว่ มพลกิ โฉมหอ้ งเรยี นเพอ่ื ขบั เคลอื่ นการปฏริ ปู การเรยี นรทู้ เ่ี ปน็
รูปธรรมในวงกว้างอย่างก้าวกระโดด

27

แนวคดิ วธิ ีด�ำ เนนิ การวจิ ยั การเปลย่ี นแปลง ครู Active Learning เปา้ หมาย
การเปลย่ี นแปลงการเรียนร้แู บบ Active Learning ดว้ ยการปรับการเรยี น ๑. แผนการสอน “OLE” + GPAS 5 Steps ๑. ครูตน้ แบบ - นักเรยี น
เปลย่ี นการสอน นวัตกรรมเดก็ ไทย หัวใจนวตั กร :28 ๒. พฤติกรรม – เปน็ โคชในห้องเรียนและนอกหอ้ งเรยี น สร้างนวตั กรรม
โลกเปลย่ี น ครูปรับ เดก็ สร้างผา่ นหอ้ งเรียน GPAS 5 Steps Active ๓. นวัตกรรม ๑๐๐% บทความ ๒. นวตั กรรมต้นแบบ
Learning ใฝเ่ รยี นรู้ รว่ มมือทำ� สรา้ งสรรค์การคดิ ขั้นสงู ด้วยพหุปญั ญา ๔. บคุ ลิกภาพ มีเพ่ือน New Mindset ๓. โรงเรยี นสาธิตตน้ แบบ
พัฒนานวัตกรรม นำ�สอู่ าชพี ทีใ่ ฝ่ฝันในอนาคต ๕. Small Success Story : เร่อื งเล่าจากหอ้ งเรยี น ๔. การศึกษาในพืน้ ที่มคี ุณภาพ
๖. ต้นแบบห้องเรยี น ๓ ดี น�ำ สคู่ วามยงั่ ยนื

รปู แบบ : ทน่ี �ำ มาใชพ้ ัฒนา GPAS 5 Steps/Active Learning การเปลยี่ นแปลงนักเรียน Active Learning
• สร้างเครอื ข่าย/การมีส่วนรว่ มของครู ๑. Gathering รวบรวม คัดเลือกขอ้ มูล ๑. มีเป้าหมาย Focus ในส่งิ ทช่ี อบ
นกั เรียน ผู้ปกครอง ๒. Processing จัดระบบข้อมูล ตดั สินใจน�ำ ไปใช้ ๒. รา่ เริง เช่ือม่นั กล้า ทมี งาน
• GPAS 5 Steps ๓. Apply 1 ลงมือปฏิบัติ สรุปหลกั การ ๓. จากท่องเพื่อรู้ สู่ ทำ�เพอ่ื รู้สึก
• PLC / พหปุ ัญญา / Active Learning ๔. Apply 2 นำ�เสนอผลงาน สื่อสาร ๔. สมรรถนะ/ทกั ษะ
• ศนู ย์นวตั กรรมพัฒนาโรงเรียนทอ้ งถน่ิ ๕. Self Regulating ประเมินสรา้ งคุณค่าสสู่ งั คม ๕. นสิ ยั ดีและใฝ่รู้
• แผนการจดั การเรยี นรู้น�ำ ทางคู่มอื สื่อ ๖. มีความร้ใู นหลักการ Concept เพื่อการน�ำ ไปใช้
วธิ ีการพฒั นา ระยะตน้ ทาง : เสรมิ สรา้ งสตปิ ัญญา Workshop
๑. สร้างครมู อื อาชีพ การพฒั นาครดู ว้ ยกลยุทธ์ ระยะกลางทาง : พฒั นาบทเรียน Focus in Class หอ้ งเรียน ๓ ดี (3DS) ภาพความส�ำ เรจ็
ห่วงโซค่ ุณภาพ โดยครไู ม่ทิ้งห้องเรยี น เพื่อสรา้ ง ระยะปลายทาง : เปลย่ี นแปลงสะทอ้ นคิด Wise reflect Check Share ๑. การพัฒนาครตู อ้ งต่อเนอื่ งถงึ ห้องเรยี น “ครูไม่ทง้ิ ห้องเรียน”
หอ้ งเรียน ๓ ดี ๒. การพัฒนาโดยเพื่อนส่เู พ่ือนจะเกิดความยั่งยนื
แบบ GPAS 5 Steps / Active Learning ๓. ครตู อ้ งการความมน่ั ใจจงึ ควรมโี คช ผูเ้ ชยี่ วชาญสู่ห้องเรยี น
๒. สรา้ งนวตั กรรมการจัดการเรียนรู้ ๔. เรมิ่ จากเรือ่ งเลก็ ๆ แผนเล็ก จากห้องเรียน
๓. สร้างชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ ๕. ยงิ่ ให้ยิง่ ได้
๔. ถา่ ยทอดนวตั กรรมสูเ่ ครอื ข่าย ๖. ส่งิ หนึ่งทไี่ มเ่ ปลีย่ นแปลง คือ จิตวิญญาณของความเปน็ ครู

ระยะต้นทาง : เสรมิ สร้างสตปิ ญั ญา Workshop คน้ หาศกึ ษาตวั ตน ก�ำ หนดเป้าหมายท่ผี ้เู รียน หอ้ งเรียน ๓ ดี (3DS)
ออกแบบหลักสูตรคูม่ ือ เปลีย่ นวิถีการสอนของครู แผนการสอนดี Design “OLE” แผนดี มีกระบวนการ Active Learning GPAS
ระยะกลางทาง : พฒั นาบทเรยี น Focus in Class หอ้ งเรียน ๓ ดี (3DS) ตง้ั วงเล็กๆ เร่ิมจากเล็กๆ สอนดี DO สอนด ี สอนตามข้นั ตอน บรรยากาศอบอุ่น สนุก เรา้ ทา้ ทาย
Design Do สอนดี มี Coach Declare แสดงผล “เด็กคุณภาพดี” นวตั กรรม เดก็ คณุ ภาพดี Declare เด็กคณุ ภาพดี เดก็ ท�ำ ได้ โดยใช้หลกั การจากองค์ความรู้
ระยะปลายทาง : เปลย่ี นแปลงสะทอ้ นคดิ Wise reflect Check Share น�ำ เสนอ แลกเปลยี่ นสะทอ้ นคิด เชอ่ื มโยงกับโลกความจรงิ : นวตั กรรม ทกั ษะ/สมรรถนะ นวัตกร คุณลักษณะนกั คดิ สร้างสรรค์ ผลการเรยี น
เขียนบทความ

การพัฒนาวธิ ีทำ�งานแบบมีสว่ นร่วม ๓ ประสาน

ขอบเขตการวจิ ยั 29

การวิจัยคร้ังนี้มุ่งศึกษาเพื่อศึกษาสภาพการณ์การเปลี่ยนแปลงในระดับ
ช้นั เรยี นท่เี น้นการเรียนรแู้ บบ Active Learning ตามแนวคิด GPAS 5 Steps
ซึ่งเป็นการพัฒนากระบวนการคิดข้ันสูงเชิงระบบของนักเรียนและครู ศึกษา
ปัจจัยและกระบวนการที่ทำ�ให้เกิดการเปล่ียนแปลงการเรียนการสอน
ในชั้นเรียนจากการใช้การเรียนรู้แบบ Active Learning ตามแนวคิด
กระบวนการคิดข้นั สูงเชิงระบบ (GPAS 5 Steps) และเพื่อจดั ท�ำ ขอ้ เสนอแนะ
ในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาท่ีเน้นการเปลี่ยนแปลงในชั้นเรียน
และการขยายผลอย่างก้าวกระโดด
ขอบเขตกลมุ่ เปา้ หมายการวจิ ยั แบง่ เปน็ ๒ กลมุ่ กลมุ่ เปา้ หมายหลกั ไดแ้ ก่
ครู และกลมุ่ เปา้ หมายรอง ไดแ้ ก่ นกั เรยี นทค่ี รนู �ำ มาเปน็ เปา้ หมายในการพฒั นา
งานวจิ ยั นใี้ ชก้ ารวจิ ยั เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารแบบมสี ว่ นรว่ ม แบง่ ออกเปน็ ๒ ระยะ ไดแ้ ก่
ระยะที ่ ๑) ครแู ละนกั เรยี นโรงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ ์
ในพระบรมราชปู ถัมภ์ เป็นฐานการวจิ ัย มคี รู ๘๕ คน นักเรยี น
๒,๑๘๕ คน
ระยะท ี่ ๒) โรงเรยี นในจงั หวดั ปทมุ ธานแี ละจงั หวดั สระแกว้ ซงึ่ ประกอบดว้ ย
โรงเรียนจาก ๔ สังกัด ได้แก่ โรงเรียนสังกัดมหาวิทยาลัย
(โรงเรียนสาธิต) โรงเรียนสังกัดสำ�นักงานคณะกรรมการ
การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน โรงเรยี นสังกัดองคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่
และโรงเรียนสังกัดสำ�นักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษา
เอกชน ทั้งในระดับช้ันปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา
รวม ๗๐ โรงเรยี น มคี รูจ�ำ นวน ๑,๐๐๐ คน
ขอบเขตเนอื้ หาของการวจิ ยั ไดแ้ ก่ การเรยี นรแู้ บบ Active Learning
ตามแนวคิดกระบวนการคิดข้ันสูงเชิงระบบ (GPAS 5 Steps) เพื่อพัฒนา
พหปุ ญั ญาและสมรรถนะในศตวรรษที่ ๒๑ การพฒั นาชมุ ชนการเรยี นรวู้ ชิ าชพี
การโคช การชี้แนะ และการแลกเปล่ียนเรียนรู้ โดยพิจารณาจากคุณลักษณะ
และพฤติกรรมของครูท่ีแสดงออกและจากคุณภาพนักเรียนซึ่งพิจารณาจาก
ผลงานและพฤติกรรมท่ีสะท้อนความรู้ ทักษะกระบวนการ คุณลักษณะ
และค่านยิ ม/เจตคติ

สรปุ ผลการวจิ ัย

การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพการเรียนรู้
แบบ Active Learning ตามแนวคิดกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ (GPAS
5 Steps) เพ่ือพัฒนาพหุปัญญาและสมรรถนะในศตวรรษที่ ๒๑ ขับเคลื่อน
สไู่ ทยแลนด์ ๔.๐ มีผลการพัฒนา สรุปผลได้ ดังน้ี
ด้านนกั เรยี น
นักเรียนระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา จำ�นวนท้ังหมด
๒,๑๘๕ คน มีทักษะทางนวัตกรรม ประกอบด้วย มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
เปน็ คนชา่ งสงั เกต ใฝร่ ู้ มคี วามสามารถในการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู และวเิ คราะหข์ อ้ มลู ได้
มคี วามสามารถเชอื่ มโยงความคดิ สามารถวางแผนการท�ำ งานได้ มคี วามมงุ่ มน่ั
ปฏิบัติงานจนสำ�เร็จตามแผน สามารถส่ือสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สว่ นใหญอ่ ยใู่ นระดบั ดี จ�ำ นวน ๙๙๘ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๔๕.๖๙ อยใู่ นระดบั ดมี าก
จ�ำ นวน ๗๒๘ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๓๓.๓๔ และอยใู่ นระดบั พอใช้ จ�ำ นวน ๔๕๙ คน
คิดเปน็ ร้อยละ ๒๐.๙๙ ดงั แผนภาพ

แผนภาพแสดงข้อมลู การมที ักษะทางนวตั กรรมของนักเรยี นทกุ ระดับชั้น

จ�ำ นระวด๒นบั ๑๔พ%๕อ๙ใชค้ น ระดับดี ระดบั ดี
ระดบั ดีมาก
๔๖% ระดบั พอใช้
ระดบั ดีมาก จำ�นวน ๙๙๘ คน
๓๓%
จ�ำ นวน ๗๒๘ คน

30

นักเรียนระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา จำ�นวนท้ังหมด
๒,๑๘๕ คน มที กั ษะการคดิ ขน้ั สงู ซงึ่ เปน็ การบอกระดบั ความสามารถของผเู้ รยี น
ในด้านการคิดวิเคราะห์ การประเมิน และการสร้างสรรค์ ส่วนใหญ่อยู่ใน
ระดับดี จำ�นวน ๙๗๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๔.๗๖ ระดับดีมาก จำ�นวน
๘๔๘ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๓๘.๘๐ และระดบั พอใช้ จ�ำ นวน ๓๕๙ คน คดิ เป็น
ร้อยละ ๑๖.๔๕ ดงั แผนภาพ

แผนภาพแสดงข้อมลู การมีทกั ษะการคิดขัน้ สงู ของนกั เรียนทกุ ระดับช้นั

ระดับพอใช้
๓จ๑๕ำ�๖๙น%วคนน
ร๔ะ๕ดับ%ดี ระดับดี
ระด๓ับ๙ด%มี าก จำ�นวน ๙๗๘ คน ระดับดีมาก
ระดบั พอใช้

จำ�นวน ๘๔๘ คน

31

นักเรียนระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา จำ�นวนท้ังหมด
๒,๑๘๕ คน มที กั ษะดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรมของนกั เรยี น สว่ นใหญอ่ ยใู่ นระดบั
ดีมาก จำ�นวน ๑,๖๑๗ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๗๓.๙๙ และอยใู่ นระดบั ดี จำ�นวน
๕๖๘ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๒๖.๐๑ ดงั แผนภาพ

แผนภาพแสดงข้อมลู การมที ักษะด้านคุณธรรม จริยธรรมของนกั เรยี น

ระดับดี ระดบั ดมี าก
จ�ำ นว๒น๖๕%๖๘ คน ระดับดี

ระด๗บั ๔ด%มี าก
จ�ำ นวน ๑,๖๑๗ คน

ดา้ นครู
ครทู งั้ ระดบั ปฐมวยั ประถมศกึ ษา และมธั ยมศกึ ษา มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ
เก่ียวกับการเรียนการสอนตามแนวคิดกระบวนการคิดข้ันสูงเชิงระบบ (GPAS
5 Steps) จำ�นวน ๘๕ คน ส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีมาก จำ�นวน ๓๘ คน
คดิ เป็นรอ้ ยละ ๔๔.๗๑ อยู่ในระดบั ดี จ�ำ นวน ๓๗ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๔๓.๕๓
และอย่ใู นระดับพอใช้ จำ�นวน ๑๐ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๑๑.๗๗ ดังแผนภาพ

32

แผนภาพแสดงข้อมลู ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ
การเรยี นการสอนตามแนวคดิ GPAS 5 Steps

ระ๑จด๑�ำ๐ับ๒นพ%ควอนนใช้ ระดบั ดีมาก ระดบั ดมี าก
ระดับดี
๔๕% ระดบั พอใช้
ระดบั ดี จ�ำ นวน ๓๘ คน
๔๓%
จำ�นวน ๓๗ คน

ครูท้ังระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา มีความสามารถ
ในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดกระบวนการคิดข้ันสูงเชิงระบบ
(GPAS 5 Steps) สว่ นใหญอ่ ยใู่ นระดบั ดี จ�ำ นวน ๔๔ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๖๓.๕๓
และอยใู่ นระดับดีมาก จำ�นวน ๓๑ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ๓๖.๔๗ ดังแผนภาพ

แผนภาพแสดงขอ้ มูลความสามารถในการออกแบบการจัดการเรียนรู้
ตามแนวคิด GPAS 5 Steps

ระดับดีมาก ระดับดี
๓๖% ระดับดมี าก
จำ�นวน ๓๑ คน ระดับดี
๖๔%
จ�ำ นวน ๔๔ คน

ครูทั้งระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา มีความสามารถ
ในการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ (GPAS
5 Steps) ส่วนใหญอ่ ยใู่ นระดบั ดมี าก จำ�นวน ๕๙ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๖๙.๔๒
และอยู่ในระดับดี จำ�นวน ๒๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๐.๕๙ ดังแผนภาพ

33

แผนภาพแสดงขอ้ มูลความสามารถในการจัดการเรียนรู้ตามแนวคดิ GPAS 5 Steps

ระดบั ดี
๓๑%
จำ�นวน ๒๖ คน ระดับดีมาก ระดับดีมาก
๖๙% ระดบั ดี
จำ�นวน ๕๙ คน

ครูทั้งระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา มีความสามารถ
ในการสร้างนวัตกรรมการสอนของครู ส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีมาก จำ�นวน
๕๐ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๕๘.๘๓ อย่ใู นระดบั ดี จำ�นวน ๓๔ คน คดิ เป็นร้อยละ
๓๙.๙๙ และอยใู่ นระดบั พอใช้ จ�ำ นวน ๑ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๑.๑๘ ดงั แผนภาพ

แผนภาพแสดงข้อมูลความสามารถในการสรา้ งนวัตกรรมการสอนของครู

ระดบั พอใช้ ๑%
จ�ำ นวน ๑ คน

ระดบั ดี ระดบั ดมี าก ระดบั ดมี าก
จำ�นว๔น๐๓%๔ คน ๕๙% ระดบั ดี
ระดบั พอใช้
จำ�นวน ๕๙ คน

ความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดกระบวนการคิด
ขั้นสูงเชิงระบบ (GPAS 5 Steps) ของครูทั้งระดับปฐมวัย ประถมศึกษา
และมธั ยมศกึ ษาโดยรวมมคี ะแนนอยูใ่ นระดับดีมาก

34

แผนภาพแสดงข้อมลู การพฒั นานวัตกรรมการสอนของครกู ลมุ่ ขยายผล

ระดบั ดเี ยี่ยม ๔.๓%
จ�ำ นวน ๔๓ คน

ระ๓ด๖บั .๔ด%เี ด่น ระดับดี ๘.๔%
จ�ำ นวน ๓๖๔ คน จำ�นวน ๘๔ คน

ระดับดีมาก
๕๐.๙%
จ�ำ นวน ๕๐๙ คน

ครูท้ังระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ในกลุ่มขยายผล
จำ�นวน ๑,๐๐๐ คน มีความเข้าใจ สามารถจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด
กระบวนการคิดข้ันสูงเชิงระบบ (GPAS 5 Steps) และสร้างนวัตกรรม
การสอนระดับชั้นเรียน ระดับดี ดีมาก ดีเด่น และดีเย่ียม ส่งผลถึงนักเรียน
การขยายผลให้เกิดการเปล่ียนแปลงของครูเครือข่ายใช้การแลกเปล่ียนเรียนรู้
และการสร้างความต่อเนื่อง โดยใช้การสื่อสารแบบผสมผสานทั้งวิธีปะทะ
สัมพันธ์บุคคลต่อบุคคล (face-to-face) และวิธีสื่อสารในสังคมออนไลน์
โดยการแสดงผลงาน การช้ีแนะ การเสริมกำ�ลังใจอย่างต่อเนื่อง ผลักดัน
ให้เกิดการนำ�แนวคิดการพัฒนาการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการคิดขั้นสูง
เชงิ ระบบ (GPAS 5 Steps) ยกระดบั คุณภาพการสอน การพัฒนาพหุปัญญา
และการพัฒนาสมรรถนะในศตวรรษท่ี ๒๑ ของนักเรียนตามเป้าหมาย
การพฒั นาคนเพ่ืออนาคตของประเทศไทยและสงั คมโลก

35

ปัจจัยและกระบวนการที่ทำ�ให้เกิดการเปล่ียนแปลงการเรียนการสอน
ในช้ันเรียน
การเปลี่ยนแปลงที่สำ�คัญของสภาพการณ์การจัดการเรียนการสอน
ก่อนและหลังการพัฒนาครูผู้สอนแบบ Active Learning ตามแนวคิด
กระบวนการคิดข้ันสูงเชิงระบบ (GPAS 5 Steps) ในกระบวนการ ๓ ระยะ
ได้แก่ ระยะต้นทาง ระยะกลางทาง ระยะปลายทาง ซ่ึงต่อเน่ืองกันท่ีเรียกว่า
“ห่วงโซค่ ุณภาพ” เป็นดงั แผนภาพ

ระยะตนทาง  คน หา ศกึ ษาตัวตน
 กาํ หนดเปา หมายที่ผเู รียน
 เสริมสรา งปญ ญา  ออกแบบหลักสูตร คมู อื
 Workshop  เปล่ยี นวิธีการสอนของครู

ระยะกลางทาง  ตง้ั วงเลก็ ๆ เริ่มจากเลก็ ๆ
 Design แผนดี GPAS
 พัฒนาบทเรยี น  Do สอนดี มี Coach
 Focus in Class  Declare แสดงผล “เด็กคณุ ภาพดี”
 หอ งเรยี น 3 D (3Ds)  นวตั กรรม

วิจยั เชิงปฏิบัติการ ระยะปลายทาง  นําเสนอ
ขยายผลสูโ รงเรียนในทอ งถ่ิน  แลกเปล่ียนสะทอ นคิด
แลกเปลย่ี นสะทอนคิด  เขียนบทความ
 Wise reflect
 Check
 Share

การพัฒนาท้ัง ๓ ระยะ เป็นการเสริมพลัง (Empower) แก่ครู โดยให้
เร่มิ จากคน้ หาความถนัด จุดเดน่ ของตนทีจ่ ะใชใ้ นการพัฒนานกั เรียน ครูศกึ ษา
หลักสูตร คู่มือครูใช้เป็นแนวทางการสอน ผนวกเทคนิคการสอนท่ีเป็นจุดเด่น
ของตน หลังจากนั้น ครูออกแบบแผนการสอนของตน โดยได้รับการชี้แนะ
จากโคช แลว้ น�ำ ผลมาสะทอ้ นคดิ พฒั นานวตั กรรมการสอน ใชน้ วตั กรรมการสอน
ท่ีพัฒนาขึ้นในบทเรียนอื่น ๆ จนเห็นผลชัดเจน แล้วนำ�เสนอสู่โรงเรียนอื่น ๆ
ในรปู เวทเี สวนา เปดิ บา้ น การเขยี นบทความ ฯลฯ

36

การยกระดับคุณภาพครอบคลุม ๓ ด้าน ได้แก่ ด้านการพัฒนา
แผนการสอน ด้านครูผู้สอน และด้านผู้เรียน เป็นห้องเรียน ๓ ดี (3Ds)
ซ่ึงเป็นปัจจัยที่สำ�คัญทำ�ให้เกิดการเปล่ียนแปลงการเรียนการสอนในชั้นเรียน
ของโรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์

หอ งเรยี น 3 D  มีกระบวนการ
(3Ds)  Active Learning
 GPAS 5 Steps

 สอนตามขั้นตอน
 บรรยากาศอบอนุ

สนกุ เรา ทาทาย

 เด็กทาํ ได โดยใชห ลกั การจากองคค วามรู
เชอ่ื มโยงกบั โลกความจริง : นวตั กรรม

 ทักษะ สมรรถนะ นวตั กร
 คุณลกั ษณะนกั คดิ สรา งสรรค
 ผลการเรียนดี

จากกระบวนการพฒั นาและการสรา้ งปจั จยั ทที่ �ำ ใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลง
สามารถเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของสภาพการณ์
การจัดการเรียนการสอนก่อนและหลังการพัฒนาตาม “ห่วงโซ่คุณภาพ”
ครอบคลุมการพัฒนาปัจจัยท้ัง ๓ ด้าน ทำ�ให้เห็นพฤติกรรมการจัดการเรียน
การสอน กระบวนการเรียนรู้ของนักเรียน บรรยากาศของช้ันเรียน และผล
ทเี่ กดิ ต่อนกั เรียน

37

ประเดน็ ศกึ ษา เปรียบเทียบความเหมือน ความต่างสภาพการณ์
การจัดการเรียนการสอนกอ่ นและหลงั การพฒั นา
ดา้ นแผนการสอน
ความต่าง ความเหมอื น ความตา่ ง
ก่อนการพัฒนา หลงั การพัฒนา

๑. เนน้ เนอ้ื หา ๑. รปู แบบ ๑. เนน้ กระบวนการ
๒. แบบเรียน GPAS 5 Steps
Active Learning
๒. มงุ่ ใหผ้ ู้เรยี นอา่ น ฟงั ๒. ให้ผูเ้ รยี นสงสยั
ท�ำ แบบฝกึ หดั เพ่ือศกึ ษาคน้ ควา้
รวบรวมขอ้ มูล
๓. ท่องเพ่อื จำ� วเิ คราะห์ สงั เคราะห์

๓. ท�ำ เพื่อจำ�

๔. ใช้หนังสือเรียน ๔. ใชห้ นังสอื เรียนร่วมกบั
เป็นหลกั สือ่ หลากหลาย ทง้ั ใน
หอ้ งเรียน แหล่งเรยี นรู้
๕. แบบฝึกหัด ใบงาน ICT.
เนน้ ความรู้ ความจ�ำ
จากหนังสอื เรยี น ๕. ฝกึ ทกั ษะการคดิ เช่น
เช่น คืออะไร เหตุการณท์ ่เี กิดข้นึ
๖. ภาระงานเหมอื นกนั มสี าเหตจุ ากอะไรบ้าง
ท้งั หอ้ ง และส่งผลกระทบตอ่
สง่ิ ใดบ้าง
๖. ภาระงานแตกต่าง
เฉพาะกลุ่ม/ตวั บุคคล

๗. งานเดี่ยว ๗. งานเดยี่ ว งานกลุ่ม

๘. กิจกรรมและเวลา ๘. กจิ กรรมและเวลา
ไมส่ ง่ ผลให้เกดิ การ เปน็ ข้นั ตอน ใชเ้ ทคนิค
เรียนรใู้ นเรอื่ งท่สี อน แต่ละข้นั ตอน สง่ ผล
ให้เกดิ การเรียนรู้
ในเร่อื งท่ีสอน

๙. วัดผล โดยทดสอบ ๙. วดั ผล ประเมนิ ผล
ทเ่ี น้นเน้ือหา โดยใช้เกณฑ์ มที ั้ง
ในหนงั สือเรียน ทดสอบจากสถานการณ์
สังเกตหลากหลาย
และมขี ้อมลู ยอ้ นกลบั

38

ประเดน็ เปรยี บเทยี บความเหมอื น ความตา่ งสภาพการณ์
ศกึ ษา การจัดการเรียนการสอนกอ่ นและหลังการพัฒนา

ความต่าง ความเหมือน ความต่าง
กอ่ นการพฒั นา หลงั การพฒั นา

ด้านครูผ้สู อน ๑. ห้องเรียนเงยี บ ๑. การเอาใจใส่ ๑. หอ้ งเรียนมชี ีวิต
ของครู
๒. เวลาสว่ นใหญ่ ๒. การพดู ท่ีดี ๒. ครูเดนิ ท่ัวถงึ ผเู้ รียน
อยู่หนา้ หอ้ งและโตะ๊ ครู

๓. โต๊ะเรยี งเดี่ยว ๓. จัดโตะ๊ เป็นกล่มุ
หน้ากระดาน ตอนลึก ลอ้ มวง ครง่ึ วงกลม
๔. บรรยากาศเนน้ จด ๔. เป็นผู้แนะนำ� ใช้คำ�ถามกระต้นุ
เขียน ขาดอสิ ระทาง สง่ เสรมิ การคดิ
การคดิ ผู้เรยี นนั่งประจ�ำ ท่ี ผูเ้ รยี นเคล่อื นไหว

๕. ครตู า่ งคนตา่ งท�ำ ๕. ครมู เี พ่ือนร่วมวชิ าชีพ
๖. ครขู าดความมั่นใจ ๖. ครูมีความม่นั ใจ
พัฒนาตามล�ำ พงั จากการมผี ู้เชยี่ วชาญ
โคชชแ้ี นะ เป็นทป่ี รกึ ษา

ดา้ นผู้เรยี น ๑. ต่างคนตา่ งท�ำ งาน ๑. ปลูกฝังให้ ๑. สนทนาพูดคยุ
ท่ีครูสง่ั เปน็ คนดี อิรยิ าบถเปน็ อิสระ

๒. สว่ นใหญฟ่ ัง อา่ น จด ๒. สนกุ สนาน ไดล้ งมือทำ�
แกส้ ถานการณป์ ัญหา
ตามความสนใจ

๓. ท่องเพือ่ สอบ ๓. ได้ฝึกทักษะชวี ติ
๔. ผลงานเป็นแบบฝึกหัด พฒั นาสมรรถนะ เชน่ การคดิ
การบ้าน รายงาน การสื่อสาร การแกป้ ัญหา
ใบงาน การใช้เทคโนโลยี ฯลฯ
๔. ผลงานเปน็ นวัตกรรม
นำ�เสนอการเหน็
คณุ คา่ ของงาน

๕. ขาดความม่นั ใจ ๕. กล้านำ�เสนอ มีแรงบนั ดาลใจ
สอู่ าชพี

39

ในด้านแผนการสอนจะเห็นว่า การใช้แผนการสอนท่ีแนะขั้นตอน
การจัดการสอนตามกระบวนการคิดข้ันสูงเชิงระบบ (GPAS 5 Steps) แก่ครู
เมื่อนำ�ไปจัดการสอนส่งผลให้เป้าหมายของการสอนเน้นกระบวนการเรียนรู้
กระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นอยากเรยี นรู้ ฝกึ ทกั ษะการคดิ ขน้ั สงู เขา้ ใจลมุ่ ลกึ ไดท้ �ำ ภาระงาน
ตามพหปุ ญั ญา เนน้ การประเมินเพ่ือการเรียนรู้ (Assessment for Learning)
โดยใช้มิติคุณภาพ
ในประเด็นด้านครู ครูมีการเปลี่ยนแปลงวิธีสอน วิธีพูดกับนักเรียน
เปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ช้ีแนะ กระตุ้นให้นักเรียนต้ังคำ�ถาม จัดการชั้นเรียน
ให้ยืดหยุ่น และเปิดรับการทำ�งานร่วมกับผู้อ่ืน ครูแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
การเปลย่ี นแปลงในชนั้ เรียน ดังเชน่
“เด๋ียวน้ี ครูยอมรับว่า นักเรียนไม่ต้องน่ังน่ิง ๆ ฟังและจำ�ส่ิงที่ครูบอก
แตน่ กั เรยี นเกิดความรู้จากการลงมือท�ำ ร่วมกบั เพ่อื น ๆ”
“เด๋ียวนี้ครูกล้าคุยกันเก่ียวกับการพัฒนาการสอนว่า มีปัญหาอะไร
หรอื แบง่ ปนั เพอื่ นว่า คน้ พบวธิ ีทดี่ ีในการสอน”
“สอนเป็นขัน้ ตอนมากขนึ้ เตรียมการสอนและสือ่ ล่วงหน้า”
“ครูวางแผนเป็นระบบ”
“ครูมีการเตรียมสื่อการสอนให้พรอ้ มกบั บทเรียนมากขึน้ ”
“ครูเกิดความท้าทายในการใช้กระบวนการสอนที่แปลกใหม่/ปรับใช้
ใหเ้ หมาะสม”
“แนวคิดในการจัดการเรียนการสอนเปลี่ยนไป ความรู้ที่ยั่งยืนท่ีเด็ก
ได้รับไม่ได้เกิดจากครูเป็นผู้บอก ผู้ให้ แต่ต้องเกิดจากความสนใจของนักเรียน
และการคน้ คว้าด้วยตวั เขาเอง”
ในดา้ นนกั เรยี น มกี ารเปลยี่ นแปลงทสี่ ง่ ผลถงึ คณุ ภาพการเรยี นรู้ นกั เรยี น
เรยี นรู้ โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรทู้ พ่ี ฒั นาการคดิ ขน้ั สงู เชงิ ระบบสรา้ งนวตั กรรม
ท่ีช่วยแก้ปัญหาหรือเพ่ิมมูลค่าแก่สังคม ควบคู่กับการพัฒนาสมรรถนะ

40

และสรา้ งแรงบันดาลใจม่งุ ส่อู นาคตทีด่ ี นกั เรยี นแสดงความคดิ เหน็ ถึงความสขุ
และความมัน่ ใจในการเรยี นรูข้ องตน ดังเช่น
“เดยี๋ วน้ผี มมีเวลาเล่น เวลาพักมากขึน้ เพราะไมต่ ้องไปติวเพ่อื สอบ”
“หนเู รยี นเขา้ ใจมากข้นึ เพราะได้ค้นและคิดกบั เพือ่ น”
“หนมู ีอสิ ระในการคิด ในการทำ�งาน ทำ�ช้นิ งานตามความถนัด”
“หนมู ั่นใจและกลา้ แสดงออกมากขนึ้ ”
“ผมมีความสขุ ไดท้ ำ�สิง่ ทผ่ี มชอบ และรวู้ า่ เก่งอะไร”
สภาพชน้ั เรยี นทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลงสะทอ้ นถงึ การเรยี นรทู้ ใ่ี ชก้ ระบวนการ
คิดข้ันสูงเชิงระบบช่วยให้นักเรียนและครูร่วมมือกันเรียนรู้อย่างมีความสุข
ครูและนักเรียนท้ังโรงเรียนต่างเสริมพลังซึ่งกันและกันในการพัฒนานวัตกรรม
เพื่อสร้างสังคมท่ียั่งยืน ในขณะเดียวกัน ทุกคนก็บรรลุเป้าหมายการพัฒนา
ศกั ยภาพตามความแตกตา่ งระหว่างบุคคล

41

การขยายผลยกระดับคุณภาพการเรียนรู้แบบ Active Learning
ตามแนวคดิ GPAS 5 Steps เพอื่ พฒั นาพหปุ ญั ญาและสมรรถนะในศตวรรษ
ที่ ๒๑ ขับเคลื่อนสู่ไทยแลนด์ ๔.๐
การขยายผลในวงกว้าง โดยการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ
(Professional Learning Community: PLC) แก่โรงเรียนในจังหวัด
ปทุมธานี ๒๑ โรงเรียน และจังหวัดสระแก้ว ๔๙ โรงเรียน ซ่ึงประกอบด้วย
โรงเรียนจาก ๔ สังกัด ได้แก่ โรงเรียนสังกัดมหาวิทยาลัย (โรงเรียนสาธิต)
โรงเรียนสังกัดสำ�นักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน โรงเรียน
สงั กัดองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ และโรงเรยี นสงั กัดส�ำ นักงานคณะกรรมการ
สง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน ทงั้ ในระดบั ชนั้ ปฐมวยั ประถมศกึ ษา และมธั ยมศกึ ษา
รวม ๗๐ โรงเรยี น มคี รจู �ำ นวน ๑,๐๐๐ คน รวมตวั รวมใจ รวมพลงั แลกเปลย่ี น
เรยี นรรู้ ะหว่างครู ผบู้ รหิ าร และนักการศกึ ษาท่รี ่วมกันพัฒนาการจัดการเรียน
การสอนของครเู พอ่ื พฒั นานักเรยี น เกดิ การขบั เคลื่อนใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลง
ทางวิชาชีพ นำ�สิ่งท่ีเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้อย่างสร้างสรรค์ร่วมกัน มีผลดี
ต่อครูผู้สอน คือ ลดความรู้สึกโดดเดี่ยวงานสอนของครู เพ่ิมความรู้สึกผูกพัน
ต่อพันธกิจและเป้าหมายของโรงเรียนมากขึ้น ส่งผลให้การปฏิบัติการสอน
ในชั้นเรียนมีประสิทธิภาพ คือ มุ่งเป้าที่การเรียนรู้ของนักเรียน (Ensuring
that student learn) ม่งุ สรา้ งวัฒนธรรมแหง่ ความรว่ มมือรว่ มใจ (A Culture
of Collaboration) มุ่งที่ผลท่เี กดิ ขึน้ (A focus on results) โดยครตู น้ แบบ
ของโรงเรียนสาธิตฯ ลงพื้นที่ในห้องเรียนของครูผู้สอนและโคชผ่านห้องเรียน
Google Classroom มีการนำ�เสนอแผนจัดการเรียนรู้และการสะท้อนคิด
การทดลองสอนโดย Micro-Teaching เพอ่ื น�ำ ไปปรบั ปรงุ แกไ้ ข ครู ๑ คน จะไดร้ บั
การโคชและประชุมกลุ่มสะท้อนคิดอย่างน้อย ๓ คร้ัง ต่อหน่วยการเรียนรู้
๑ หน่วย เพื่อให้ครูสร้างนวัตกรรมการสอนของตน นอกจากน้ี ครู ๑ คน
มกี ารเปดิ หอ้ งเรียนแกเ่ พื่อนครู ๑ คร้งั ตอ่ ๑ แผนการสอน และเปดิ หอ้ งเรียน
ภายนอกหรือห้องเรียน Google Classroom ๑ ครั้ง ครูมีการประชุมกลุ่ม
สะท้อนคิดเพ่ือการปรับปรุงแก้ไขหลังสังเกตการสอนทุกคร้ังและพัฒนา

42

การสอนอย่างต่อเน่ือง ครูมีการสร้างนวัตกรรมการสอน แลกเปลี่ยนเรียนรู้
กับเพื่อน ผลการประเมินนวัตกรรมการสอนที่เน้นการเปล่ียนแปลงระดับ
ชั้นเรียนของครูกลุ่มขยายผล จำ�นวน ๗๐ โรงเรียน ครู จำ�นวน ๑,๐๐๐ คน
ส่งผลตอ่ การขับเคลอื่ นนโยบายปฏริ ปู การเรียนรู้

ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบาย
โจทย์การปฏิรูปการจัดการเรียนรู้รับมืออนาคตคืออะไร เป็นปัจจัยสู่
ความส�ำ เรจ็ และมนี วตั กรรมอะไรทชี่ ว่ ยใหห้ นว่ ยงานทางการศกึ ษาท�ำ งานไดอ้ ยา่ งเตม็
ประสทิ ธภิ าพมากยงิ่ ขน้ึ รวมทงั้ การเปดิ มมุ มองใหผ้ มู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งไดต้ ระหนกั
ถึงความจำ�เป็นในการเตรียมความพร้อมของสถานศึกษาต่อความท้าทายใหม่
ในอนาคต การวิจัยคร้ังนี้มีข้อค้นพบในประเด็นความท้าทายและข้อเสนอ
เพอ่ื น�ำ ไปจดั ท�ำ นโยบายขบั เคลอื่ นการเปลยี่ นแปลงหลายประการ “๕ สง่ิ ทา้ ทาย
ทคี่ วรจัดการ” ได้แก่
ข้อทา้ ทายท่ี ๑ : กลยุทธ์การพฒั นาครโู ดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน
ขอ้ เสนอแนะ พลิกโฉมการพัฒนาครูให้บรรลุถึงจุดหมายปลายทางที่เน้น
คณุ ภาพผเู้ รยี น โดยใชห้ ่วงโซแ่ หง่ คณุ คา่ ประกอบดว้ ย
ระยะตน้ ทาง เสรมิ สรา้ งปญั ญา เนน้ การอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร (Workshop
Training) ทสี่ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของครผู สู้ อนในพนื้ ที่ เชน่ กระบวนการ
จัดการเรียนรู้แบบ Active Learning กระบวนการสร้างชุมชนแห่งวิชาชีพ
เทคนคิ การสอนแนวใหม่
ระยะกลางทาง พัฒนาบทเรียน เป็นการพัฒนาแผนการสอน วิธีสอน
ของครู การพฒั นาผ้เู รียน โดยเน้นหอ้ งเรยี นเป็นฐาน (Focus in Class) เปน็
ระยะท่ีครูผู้สอนใช้กระบวนการชุมชนแห่งวิชาชีพ (PLC) การพัฒนา
แผนการสอน การทำ� Micro-Teaching การโคช การเปิดห้องเรียน
การสะท้อนคิด การปรับปรุงจนเป็นต้นแบบการสอนแบบ Active Learning
เรียกว่า Small Success Story สามารถเป็นโคชให้กับครูในท้องถิ่น
เพื่อการพัฒนาทย่ี ่ังยนื

43

ระยะปลายทาง สะท้อนคิด แลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Wise Reflections,
Check and Share) เปน็ ระยะถา่ ยทอดสื่อสารเพ่ือการนำ�ไปปฏิบัติ โดยเปดิ
โลกทัศน์ครูในระดับโรงเรียนและสาธารณะในระดับท้องถ่ิน ระดับชาติ
การนำ�เสนอนวัตกรรมครู ผู้เรียน แลกเปล่ียนเรียนรู้ด้วยกัน รวบรวมข้อมูล
สะท้อนคิดด้านกระบวนการ การเปล่ียนแปลงท่ีเกิดขึ้น และผลที่ได้รับ
เกดิ คณุ คา่ ทนี่ �ำ ไปสกู่ ารปฏริ ปู การศกึ ษาและการเปน็ สว่ นหนง่ึ ในการขบั เคลอื่ น
ประเทศชาติ ประกอบดว้ ย

๑) เวทรี ะดับโรงเรียน

๒) เวทรี ะดับท้องถ่ิน

๓) เวทรี ะดับชาติ

ขอ้ ทา้ ทายท่ี ๒ การพฒั นาหอ้ งเรยี น ๓ ดี Active Learning : GPAS 5 Steps
ข้อเสนอแนะ พลิกโฉมการพัฒนาห้องเรียนให้เป็นห้องเรียน ๓ ดี Active
Learning : GPAS 5 Steps โดยใชห้ ลกั สูตรเป็นแนวทางการจดั กระบวนการ
เรียนรู้ท่ีเน้นมิติกระบวนการ การบูรณาการ แทนการเน้นเนื้อหา เพิ่มเติม
การสร้างทักษะ สมรรถนะ ผสมผสานการพัฒนาพหปุ ญั ญา การเปน็ นกั สรา้ ง
และพฒั นานวัตกรรม ประกอบด้วย

แผนการสอนดี โดยครูร่วมมือกันออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้
แบบ Active Learning อาจใชแ้ ผนการสอนจากคู่มอื ครูของส�ำ นกั พมิ พ์ตา่ ง ๆ
ที่สอดคล้องกับแนวคิดของสถานศึกษา เป็นเคร่ืองมือนำ�ทาง เป็นต้นทุน
การออกแบบการสอนแบบ Active Learning เช่น การสอนแบบ Active
Learning แนวคิด GPAS 5 Steps ซ่ึงเป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้
ท่เี สรมิ สรา้ งการคิดข้นั สูง ประกอบดว้ ย ๕ ขั้นตอน ดังนี้
ขัน้ ที่ ๑ Gathering รวบรวมข้อมลู
ขน้ั ที่ ๒ Processing จดั ระบบขอ้ มลู
ขั้นที่ ๓ Applying (1) ปฏิบัติและสรุปความรู้ (Applying and
Constructing the Knowledge)

44

ข้นั ท่ี ๔ Applying (2) สื่อสารและนำ�เสนอ (Applying and
Communication Skill)
ขน้ั ท่ี ๕ Self – regulating ประเมินเพ่มิ คณุ คา่
ทง้ั นี้ โคช ครตู น้ แบบในพน้ื ท่ี ผเู้ ชยี่ วชาญ เชน่ ทมี วทิ ยากรในระยะตน้ ทาง
ลงพนื้ ที่ในหอ้ งเรียนของครผู สู้ อนและโคชผ่านห้องเรียน Google Classroom
มีการนำ�เสนอแผนการจัดการเรียนรู้และการสะท้อนคิด การทดลองสอน
โดย Micro-Teaching เพื่อนำ�ไปปรับปรุงแก้ไข ครู ๑ คน จะได้รับการโคช
และประชมุ กลมุ่ สะทอ้ นคดิ อยา่ งนอ้ ย ๓ ครง้ั ตอ่ แผนการจดั การเรยี นรู้ ๑ แผน
เพอื่ น�ำ ไปส่นู วัตกรรมการสอนของครูต่อไป
ครสู อนดี โดยครผู สู้ อนปฏบิ ตั กิ ารสอนตามกระบวนการในแผนการสอน
ท่ีเน้นการปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับผู้เรียนและผู้เรียนกับผู้เรียนแบบ Family
Learning Lifestyle โดยจัดกิจกรรมเปิดห้องเรียนให้เพื่อนครู ผู้เชี่ยวชาญ
ผู้ปกครองสังเกตการสอน (Lesson Study & Open Approach) ซึ่งครู
๑ คน มกี ารเปดิ หอ้ งเรยี นภายใน ๑ ครงั้ ตอ่ ๑ แผน และเปดิ หอ้ งเรยี นภายนอก
หรือห้องเรียน Google Classroom ๑ คร้ัง ประชุมกลุ่มสะท้อนคิด
เพอื่ การปรบั ปรงุ แกไ้ ขหลงั สงั เกตการสอนทกุ ครง้ั เพอื่ น�ำ ไปสนู่ วตั กรรมการสอน
ของครตู อ่ ไป
ผู้เรียนคุณภาพดี โดยจัดกิจกรรมเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงออกถึง
ทักษะ สมรรถนะ และหัวใจของนักนวัตกร เช่น ประลองความสามารถ
เพอ่ื น�ำ เสนอผลงานนวัตกรรมผเู้ รียน รวบรวมข้อมูล การแสดงออกของผู้เรียน
ในระหว่างเรยี น ระหว่างการนำ�เสนอผลงานและผลการเรยี นร้เู ม่อื จบบทเรียน
จดั ประชมุ กลมุ่ สะทอ้ นผลการเรยี นรเู้ พอ่ื การปรบั ปรงุ เปน็ นวตั กรรมของผเู้ รยี น
หรือส่งต่อนวัตกรรมสู่ผู้ประกอบการต่อไปเพ่ือสร้างคุณค่าและแรงบันดาลใจ
สูอ่ าชพี

45

ขอ้ ทา้ ทายที่ ๓ การใชห้ ลกั สตู รเปน็ แนวทางการจดั กระบวนการเรยี นรทู้ เี่ นน้
กระบวนการ สร้างทักษะ สมรรถนะ ผสมผสานการพัฒนาพหุปัญญา
การเปน็ นักสร้างและพัฒนานวตั กรรม
ข้อท้าทายที่ ๓ การสร้างเครือข่ายขยายผล โดยครูต้นแบบสร้างครูต้นแบบ
เสมอื นใยแมงมุมเตม็ พื้นท่ีอยา่ งก้าวกระโดด
ข้อเสนอแนะ พลิกโฉมให้หน่วยงานการศึกษา เช่น สพฐ. เขตพ้ืนที่
สถานศึกษา สร้างเครือข่ายพันธมิตร ประสานความร่วมมือด้านเน้ือหา
กระบวนการ แนวคดิ ทรพั ยากร พฒั นาครตู น้ แบบในทอ้ งถน่ิ เพอ่ื ใหค้ รตู น้ แบบ
เป็นโคชและสร้างครูต้นแบบ ขยายเป็นเครือข่ายเต็มพื้นที่อย่างก้าวกระโดด
จากภายในสถานศกึ ษาส่สู ถานศกึ ษา (School as Learning Community :
SLC) ซึ่งเปน็ ความยงั่ ยืนของการพฒั นา

ขอ้ ทา้ ทายท่ี ๔ การเปดิ หอ้ งเรยี น (Open Class) เปน็ วฒั นธรรมการพฒั นา
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขอ้ เสนอแนะ พลกิ โฉมการสรา้ งวฒั นธรรมการสงั เกตการสอนเพอ่ื การสะทอ้ น
คดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ (Wise Reflect) โดยเปดิ หอ้ งเรยี นใหเ้ พอื่ นครใู นสถานศกึ ษา
ต่างสถานศึกษา ผู้ปกครอง เข้าเย่ียมชม สังเกตการสอนเพ่ือสะท้อนคิดถึง
การพัฒนาการแสดงออกของผเู้ รยี นเป็นส�ำ คัญ

ข้อท้าทายท่ี ๕ การสร้างศูนย์พัฒนาวิจัยและนวัตกรรมประจำ�กลุ่ม
สถานศกึ ษา
ข้อเสนอแนะ พลิกโฉมการพัฒนาการศึกษาด้วยกระบวนการวิจัย
และพัฒนานวตั กรรม โดยเชือ่ มประสานกับคณะครุศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์
ของมหาวิทยาลัยร่วมพัฒนา เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏ ภายใต้ยุทธศาสตร์
มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏพฒั นาท้องถน่ิ หรือภาคเอกชน

46

สรุป การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพการเรียนรู้
แบบ Active Learning ตามแนวคิด GPAS 5 Steps เพื่อพัฒนาพหุปัญญา
และสมรรถนะในศตวรรษท่ี ๒๑ ขับเคล่ือนสู่ไทยแลนด์ ๔.๐ ทำ�ให้
ครูมีความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการออกแบบการสอน
และจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ตามแนวคิดการพัฒนา
การคิดขั้นสูงเชิงระบบ (GPAS 5 Steps) ซ่ึงส่งผลต่อการพัฒนาพหุปัญญา
และสมรรถนะในศตวรรษที่ ๒๑ การเปลี่ยนแปลงนี้ตั้งเป้าหมายร่วมกัน
ท่ีคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียน โดยเริ่มการเปลี่ยนแปลงจากห้องเรียน
ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนมีความสามารถในการคิดขั้นสูง สร้างสรรค์นวัตกรรม
มีคุณธรรม จริยธรรม และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น การโคช
โดยผู้เช่ียวชาญของหน่วยงานท่ีมีความเชี่ยวชาญ (Expert Coach) การโคช
โดยเพื่อนครูร่วมพัฒนาวิชาชีพ (Peer Coach) และนักเรียนได้เรียนรู้
โดยการลงมือปฏิบัติ เรียนรู้ร่วมกับเพื่อน ได้พัฒนาความถนัดตามพหุปัญญา
พัฒนาทักษะกระบวนการเรียนรู้ คุณธรรม จริยธรรม ถักทอเป็นสมรรถนะ
ทีส่ อดคลอ้ งกับศตวรรษท่ี ๒๑ นักเรียนได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ ครไู ด้รับ
การพัฒนาเป็นระยะตามห่วงโซ่คุณภาพ ๓ ระยะ และพัฒนาปัจจัย
การเปลย่ี นแปลง ๓ ดา้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นแผนการสอน โดยครใู ชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้
ของสถาบนั หนว่ ยงาน ส�ำ นกั พมิ พ์ เปน็ เครอ่ื งมอื น�ำ ทางในการออกแบบการสอน
ด้านการจัดการสอนซ่ึงครอบคลุมการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง
โดยใช้มิติคุณภาพ และด้านนักเรียนที่ได้รับการเสริมพลังให้เป็นปัจจัยสำ�คัญ
ท่ีมีความใฝ่รู้ รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำ�งาน และมีจิตสาธารณะในการ
ขยายผลอย่างก้าวกระโดดเกิดจากการสร้างกลไกการแลกเปล่ียนเรียนรู้
และเปิดห้องเรียนอย่างต่อเน่ือง ควบคู่กับการสร้างเครือข่ายเต็มพื้นท่ี
อย่างรวดเร็วทำ�ให้การปฏิรูปการสอนเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมในวงกว้าง
องค์กรที่จัดทำ�นโยบายจึงควรเผชิญความท้าทายด้วยการสร้างกลไก
เครือข่ายการพัฒนาชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพที่เข้มแข็งและจัดปัจจัย
สนบั สนนุ โดยอาศยั การมสี ว่ นรว่ มของผเู้ กยี่ วขอ้ งเพอ่ื ใหบ้ รรลผุ ลตามเปา้ หมาย

47

เอกสารอา้ งองิ

กรมวชิ าการ. (๒๕๓๙). การประเมนิ ผลจากสภาพจรงิ (Authentic Assessment).
กรุงเทพฯ : กรมวชิ าการ กระทรวงศึกษาธิการ.

ชาริณี ตรีวรัญญู. (๒๕๕๗). การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพด้วย
การพัฒนาบทเรียนร่วมกัน: แนวคิดและแนวทางสู่ความสำ�เร็จ.
วารสารครุศาสตร์ ปที ่ี ๔๕ ฉบบั ที่ ๑ ประจ�ำ เดือน มกราคม-มีนาคม
๒๕๖๐.

นัตยา หล้าทูนธีรกุล. (๒๕๕๙). Professional Learning Community
กบั การพฒั นาครูเพือ่ ศิษยย์ ุค Thailand 4.0. ขอนแก่น : สำ�นกั งาน
เขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาขอนแกน่ เขต ๕. ๑๐-๑๓.

ประเวศ เวชชะ. (๒๕๕๗). การจัดการเรียนรู้กลุ่มวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะ
ในศตวรรษที่ ๒๑ ของคณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เชยี งราย.
วิชาการ ๘๗.
พมิ พันธ์ เดชะคปุ ต์ และพรทพิ ย์ แขง็ ขนั . (๒๕๕๕). สมรรถนะครูและแนวทาง
การพัฒนาครูในสังคมที่เปลี่ยนแปลง. กรุงเทพฯ : สำ�นักงาน
เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ.

มนตรี แย้มกสิกร. (๒๕๕๙). ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ : ความท้าทายต่อ
การเปล่ียนตนเองของครู. ในการประชุมทางวิชาการของคุรุสภา
ประจำ�ปี ๒๕๕๙ เร่ือง “การวิจัยนวัตกรรมการเรียนรู้และการจัด
การศึกษาเพ่อื การพฒั นาทย่ี ัง่ ยืน”. กรุงเทพฯ : ส�ำ นักงานเลขาธกิ าร
คุรุสภา.

วจิ ารณ์ พานชิ . (๒๕๖๐). ศาสตรแ์ ละศลิ ปข์ องการสอน. กรงุ เทพฯ : ภาพพมิ พ.์
สถาบันพฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) (๒๕๖๐)

สำ�นักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๖๐).
แผนการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๐–๒๕๗๙. บริษัท
พรกิ หวานกราฟฟิค จํากดั .

48

สำ�นักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (๒๕๖๐). 49
ยทุ ธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙).
Aylsworth. (2012). Professional learning communities: An analysis
of teacher participation in a PLC and the relationship with
student academic achievement. Graduate Theses and
Dissertations. Paper 12264.

Bagley. (2014). The 10 Traits of Great Innovators. Retrieved
from https://www.forbes.com/sites/rebeccabagley/
2014/01/15/the-10-traits-of-great-innovators

Bernie,. & Charles Fadel. (2009). 21st century skill learning for life
in our times. Hoboken, NJ: Jossey-Bass.

Davis. (1989). Effective School and Effective Teachers. Boston :
Allyn and Bacon.

Devos et. al. (1998). The concept and practice of a school-based
management contest: Integration of leadership
development and organizational learning. Educational
Administration Quarterly.

Dewey (1938). Experience and Education. New York Macmillan.

DuFour and Eaker. (1998). Professional Learning Communities
at Work: Best Practices for Enhancing Student Achievement.
Bloomington, IN: National Educational Service.
Gardner, H. (1993). Multiple Intelligences: New Horizons. New York:
Basic Book
Herman and Herman. (1993). School Based Management: Current
Thinking and Practice. Springfield, IL.: Charles C.Thomas.


Click to View FlipBook Version