The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ccharoenkrung, 2022-01-09 22:47:12

วารสารโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์

ปีที่ 17 ฉบับที่ 2

 ปีท่ี 17 ฉบบั ท่ี 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2564  93

วิธีดาเนินการวจิ ัย ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเช่ียวชาญด้านโรคหัวใจ
จานวน 5 ท่าน หลังการปรับแก้เคร่ื องมือให้มี
ประชากร ได้แก่ ผู้ป่ วยโรคหลอดเลือด ความเหมาะสมมากข้ึน ทดสอบหาความเชื่อม่ัน
หัวใจที่เขา้ รับการตรวจสวนหัวใจแบบนดั ล่วงหน้า ของเคร่ืองมือ โดยใช้สูตรสัมประสิทธ์ิอลั ฟาของ
ในหอผู้ป่ วยอายุรกรรมหญิง 1 และหอผู้ป่ วย ครอนบาค (Cronbach’s alpha coefficient)
อายุรกรรมชาย 1 ระหว่างเดือนสิงหาคม 2562 ถึง
มกราคม 2563 1. เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการเกบ็ รวมรวมขอ้ มูล
1.1 แบบบนั ทึกขอ้ มูลส่วนบุคคล เป็ น
กล่มุ ตวั อย่าง ไดแ้ ก่ ประชากรท่ีมีคณุ สมบตั ิ
ตามเกณฑ์ท่ีกาหนด คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบ แบบสอบถามขอ้ มูลส่วนบุคคลทวั่ ไปประกอบดว้ ย
สะดวก คานวณขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั เพศ อายุ น้าหนกั ส่วนสูง สถานภาพ
โปรแกรม G*Power14 การประมาณค่าของขนาด สมรส ศาสนา ระดบั การศึกษา อาชีพ สิทธิการรักษา
อิทธิพลจากงานวิจัยท่ีคล้ายคลึงกันมากที่สุ ด ประวัติโรคประจาตัว ประวัติแพ้ยาแพ้อาหาร
การศึกษาคร้ังน้ีใช้ค่าขนาดอิทธิพลเท่ากับ 0.80 ประวตั ิการสูบบุหรี่และการด่ืมสุรา ประวตั ิการเขา้
โดยกาหนดระดับนัยสาคัญทางสถิติที่ 0.05 รับการรักษาในโรงพยาบาล
ค่าอานาจการทดสอบท่ี 0.80 ได้จานวนตัวอย่าง
26 รายต่อกลุ่ม ผูว้ ิจยั ปรับขนาดกลุ่มตวั อย่างเพิ่ม 1.2 แบบประเมินความวิตกกังวล
ในกรณีมีผู้สูญหายหรื อขอยุติการเข้าร่ วมวิจัย ใชแ้ บบมาตรวดั ความวิตกกงั วล โดยการประเมินค่า
โดยคาดวา่ จะมีผสู้ ูญหายจากการติดตามร้อยละ 2015 ดว้ ยสายตา (visual analogue scale for anxiety) ของ
จึงไดจ้ านวนตวั อยา่ งกลุม่ ละ 33 ราย Hornblow AR, Kidson MA16 มีลกั ษณะเป็นเส้นยาว
10 เซนติเมตร มีช่วงคะแนนจาก 0 ถึง 10 โดย
คุณสมบตั ิของกลุ่มตัวอย่างตามเกณฑ์ ดังนี้ ตาแหน่ง 0 หมายถึง ไม่มีความรู้สึกวิตกกงั วล และ
1. เกณฑใ์ นการคดั เลือกกลมุ่ ตวั อยา่ งเขา้ ศึกษา ตาแหน่ง 10 หมายถึง มีความรู้สึกวิตกกังวลมาก
(inclusion criteria) เป็ นผูป้ ่ วยโรคหลอดเลือดหัวใจ ที่สุด ค่าสัมประสิทธ์ิอัลฟาของครอนบาคเท่ากับ
ที่เขา้ รับการตรวจสวนหัวใจแบบนัดล่วงหนา้ โดย 0.72
การเขา้ พกั รักษาตวั ในโรงพยาบาลก่อนวนั นดั 1 วนั
สามารถพูดคุยสื่อสารได้ เขา้ ใจภาษาไทย ไม่เป็ น 1.3 แบบประเมินความร่วมมือ เป็ น
ผพู้ กิ ารทางสายตา แบบประเมินที่ผู้วิจัยสร้างข้ึนจากการทบทวน
2. เกณฑ์คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างออกจาก วรรณกรรมประกอบด้วย ความร่ วมมือก่อน
การศึกษา (exclusion criteria) เป็ นผูท้ ี่แพทยพ์ ิจารณา การตรวจสวนหัวใจ ขณะรอตรวจสวนหัวใจ และ
ง ด ท า ก า ร ต ร ว จ ส ว น หั ว ใ จ จ า ก ก า ร มี ข้ อ ห้ า ม หลงั การตรวจสวนหัวใจ ค่าความตรงตามเน้ือหา
(contraindications) เช่น มีเลือดออกผิดปกติ หัวใจ ของเคร่ืองมือเท่ากบั 0.96 และคา่ สัมประสิทธ์ิอลั ฟา
ล้มเหลวแบบนอนราบไม่ได้ มีอาการแสดงของ ของครอนบาคเทา่ กบั 0.76
การติดเช้ือ เป็นตน้
2. เคร่ื องมือท่ีใช้ในการทดลอง ได้แก่
เครื่องมือท่ีใช้ในการวจิ ัย โปรแกรมการดูแลแบบเอ้ืออาทรผปู้ ่ วยในการตรวจ
ประกอบด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บ สวนหวั ใจประกอบดว้ ย 1)แผนการสอนโรคหลอดเลือด
รวบรวมข้อมูล และเคร่ืองมือที่ใช้ในการทดลอง หวั ใจและการตรวจสวนหวั ใจ 2) คู่มือสาหรับผปู้ ่ วย
ซ่ึงผ่านการตรวจสอบความถูกตอ้ งของเน้ือหาจาก เรื่องโรคหลอดเลือดหัวใจและการตรวจสวนหัวใจ
และ 3) วีดีทศั น์ประกอบการสอนเร่ือง โรคหลอดเลือด

94  วารสารโรงพยาบาลเจรญิ กรุงประชารกั ษ์ 

หัวใจและการตรวจสวนหัวใจ การให้ความรู้เก่ียวกบั ตวั อย่างแสดงความสมคั รใจในการเขา้ ร่วมการวิจยั
ข้นั ตอนการตรวจสวนหัวใจ การปฏิบตั ิตวั ท้งั ก่อน
ตรวจ ขณะตรวจ และหลงั การตรวจสวนหวั ใจ ให้กลุ่มตัวอย่างลงนามในใบยินยอมเข้าร่ วม

การเกบ็ รวบรวมข้อมูล การศึกษาวิจัย และขอความร่วมมือในการเก็บ
ผวู้ ิจยั ดาเนินการเก็บขอ้ มูลในผปู้ ่ วยท่ีเขา้ รับ
รวบรวมข้อมูล ท้ังน้ีเพื่อป้องกันการแลกเปล่ียน
การตรวจสวนหัวใจ โดยเร่ิมจากการคดั เลือกผูป้ ่ วย ขอ้ มูลระหว่างสองกลุ่ม ผูว้ ิจยั จึงเก็บขอ้ มูลในกลุ่ม
ท่ีมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กาหนด จากน้ันสร้าง
สัมพันธภาพ แนะนาตนเอง ช้ีแจงวตั ถุประสงค์ ควบคุมก่อนจนครบ 33 รายใหแ้ ลว้ เสร็จ จากน้นั จึง
ข้ันตอนการวิจัยและการพิทักษ์สิทธ์ิ หากกลุ่ม เก็บข้อมูลในกลุ่มทดลองท้ัง 33 ราย ผู้วิจัยเก็บ
รวบรวมขอ้ มูลดว้ ยตนเองท้งั หมด

กลมุ่ ทดลอง 33 ราย ผปู้ ่ วยที่เขา้ รับการตรวจสวนหวั ใจจานวน 66 ราย กลมุ่ ควบคุม 33 ราย
คดั เลือกลุ่มตวั อยา่ งแบบสะดวก

ก่อนเขา้ รับการรักษาในโรงพยาบาล (1-2 เดือน) ก่อนเขา้ รับการรักษาในโรงพยาบาล (1 - 2 เดือน)
1. สร้างสมั พนั ธภาพ 1. สร้างสมั พนั ธภาพ
2. บนั ทึกขอ้ มูลส่วนบคุ คลและประเมินความวิตกกงั วล 2. บนั ทึกขอ้ มลู ส่วนบคุ คลและประเมิน
3. มอบคู่มือโรคหลอดเลือดหวั ใจ การตรวจสวนหวั ใจและอธิบาย
ความวิตกกงั วล
รายละเอยี ด 3. อธิบายข้นั ตอนการปฏิบตั ิตวั ในการตรวจ
4. อธิบายข้นั ตอนการปฏิบตั ิตวั ในการตรวจสวนหวั ใจตาม
รายละเอยี ดในใบนดั สวนหวั ใจตามรายละเอียดในใบนดั
5.นดั หมายการโทรศพั ทเ์ ยี่ยมและโทรศพั ทซ์ กั ถาม สปั ดาห์ละ 1 คร้งั
1 วนั ก่อนการตรวจสวนหวั ใจ (วนั ท่ีเขา้ รับการรักษาใน 1 วนั ก่อนการตรวจสวนหวั ใจ (วนั ท่ีเขา้ รับการ
โรงพยาบาล) รักษาในโรงพยาบาล)
1. ตรวจเยีย่ มผปู้ ่ วยและเก็บขอ้ มูลทเ่ี ก่ียวกบั การรักษา 1. ตรวจเยย่ี มผปู้ ่ วยและเก็บขอ้ มูลท่ีเก่ียวขอ้ ง
2. เปิ ดโอกาสใหผ้ ปู้ ่ วยซกั ถามและระบายความวติ กกงั วล
3. ทบทวนความรู้ตามคู่มือ และใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั สถานการณ์ท่ี กบั การรักษา
2. ประเมนิ ความวติ กกงั วลและความร่วมมือ
ผปู้ ่ วยตอ้ งเผชิญในหอ้ งตรวจสวนหวั ใจโดยใชว้ ดี ีทศั น์
4.ประเมินความวิตกกงั วลและความร่วมมือ ขณะรอตรวจสวนหวั ใจทห่ี อ้ งรอตรวจสวนหวั ใจ
ขณะรอตรวจสวนหวั ใจท่ีหอ้ งรอตรวจสวนหวั ใจ 1. ประเมินสัญญาณชีพ
1. ประเมินสญั ญาณชีพ 2. ประเมินความวิตกกงั วลและความร่วมมือ
2. อยเู่ ป็นเพือ่ นและให้กาลงั ใจเพื่อให้ผปู้ ่ วยไม่รู้สึกโดดเดี่ยว หลงั การตรวจสวนหวั ใจ (1 - 2 วนั )
3. ประเมินความวติ กกงั วลและความร่วมมือ 1. ประเมินสญั ญาณชีพ และเฝ้าระวงั
หลงั การตรวจสวนหวั ใจ (1 - 2 วนั )
1. ประเมนิ สัญญาณชีพ และเฝ้าระวงั ภาวะแทรกซอ้ น ภาวะแทรกซอ้ น
2. ตรวจเยย่ี มผปู้ ่ วยแนะนาการปฏิบตั ิตวั ของผปู้ ่ วยท่ีเหมาะสม 2. ประเมินความวิตกกงั วลและความร่วมมือ

เมื่อกลบั ไปอยบู่ า้ นการมาตรวจตามนดั การรับประทานยา
และการสงั เกตอาการผดิ ปกติทคี่ วรมาพบแพทย์ โดยใชค้ ูม่ ือ

\ ประกอบ

3. ประเมินความวติ กกงั วลและความร่วมมือ

แผนภาพท่ี 2 แสดงข้นั ตอนการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ในการวิจยั

 ปีท่ี 17 ฉบบั ท่ี 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2564  95

การพทิ ักษ์สิทธ์ิกล่มุ ตัวอย่าง 3. เปรียบเทียบคะแนนเฉล่ียความร่วมมือ
การวิจัยคร้ังน้ี ผ่านการพิจารณาและ ระหว่างกลุ่มควบคุมกับกลุ่มทดลอง โดยใช้สถิติ
เห็นชอบจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจยั ใน independent t- test
มนุษยข์ องมหาวิทยาลยั คริสเตียนเลขที่ น.22/2561
ผูว้ ิจยั นาหนังสือรับรองจริยธรรมจากมหาวิทยาลยั ผลการวจิ ัย
เสนอต่อคณะกรรมการจริ ยธรรมของโรงพยา บาล
นครปฐม ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ 1. ลักษณะข้อมูลส่ วนบุคคลของกลุ่ม
จริ ยธรรมการวิจัยในมนุษย์จากโรงพยาบาล ตวั อย่าง พบว่า กลุ่มควบคุมส่วนใหญ่เป็ นเพศชาย
นครปฐมเลขที่ 021/2019 ผูว้ ิจยั ช้ีแจงวตั ถุประสงค์ คิดเป็ นร้อยละ 69.70 มีอายุเฉล่ีย 59 ปี (SD = 9.79)
ของการวิจัย การดาเนินการวิจัย สิทธิของกลุ่ม สถานภาพสมรส คิดเป็ นร้อยละ 66.70 ท้ังหมด
ตวั อย่างในการตอบรับหรือปฏิเสธในการเข้าร่วม นบั ถือศาสนาพุทธ จบการศึกษาระดบั ประถมศึกษา
การวิจยั หรือไม่เขา้ ร่วมการวิจยั และสามารถยกเลิก คิดเป็ นร้อยละ 42.40 ประกอบอาชีพรับจา้ ง คิดเป็ น
การเข้าร่ วมวิจัยได้ตลอดเวลาโดยไม่มีผลต่อ ร้อยละ 45.50 ดัชนีมวลกายเฉล่ีย (BMI) 26.48
การรักษาพยาบาล แบบสอบถามจะไม่มีการระบุช่ือ กิโลกรัมต่อตารางเมตร (SD = 5.02) ใช้สิทธิการ
กลุ่มตัวอย่าง โดยในการเผยแพร่ข้อมูลจะทาใน รักษาบตั รประกนั สุขภาพถว้ นหน้า คิดเป็ นร้อยละ
ภาพรวมเท่าน้ัน ไม่มีการระบุชื่อในการรายงาน 81.80 มีประวตั ิโรคประจาตวั คิดเป็ นร้อยละ 72.70
ผลการวิจยั ท้ังหมดไม่มีประวตั ิแพ้ยาแพ้อาหาร ไม่สูบบุหรี่
คดิ เป็นร้อยละ 45.50 ไมด่ ื่มสุรา คดิ เป็นร้อยละ 63.60
การวิเคราะห์ข้อมูล และมีประวตั ิเคยนอนโรงพยาบาล คิดเป็ นร้อยละ
1. ขอ้ มูลทวั่ ไปใชส้ ถิติเชิงพรรณนา ไดแ้ ก่ 78.80 สาหรับกลุ่มทดลองส่วนใหญ่เป็ นเพศชาย
การแจกแจงความถี่ (frequency) ร้อยละ (percentage) คดิ เป็นร้อยละ 63.60 มีอายเุ ฉล่ีย 56.88 ปี (SD = 8.55)
ค่าเฉล่ีย (mean) และส่ วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน สถานภาพสมรส คิดเป็ นร้อยละ 69.70 ท้ังหมด
(standard Deviation) และเปรียบเทียบความแตกต่าง นบั ถือศาสนาพุทธ จบการศึกษาระดบั ประถมศึกษา
ของขอ้ มูลทวั่ ไป ขอ้ มูลที่เป็ นนามบญั ญตั ิ (nominal คิดเป็ นร้อยละ 42.40 ประกอบอาชีพรับจา้ ง คิดเป็ น
scale) มาตราจัดลาดับ (ordinal scale) โดยใช้สถิติ ร้อยละ 39.40 ดัชนีมวลกายเฉลี่ย (BMI) 25.86
ไคสแควร์ (chi-square) กิโลกรัมต่อตารางเมตร (SD = 3.21) ใช้สิทธิการ
2. เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความวิตกกงั วล รักษาบตั รประกนั สุขภาพถว้ นหน้า คิดเป็ นร้อยละ
ก่อนเขา้ รับการรักษาในโรงพยาบาล ก่อนตรวจสวน 63.60 มีประวตั ิโรคประจาตวั คิดเป็ นร้อยละ 54.50
หัวใจ ขณะรอการตรวจสวนหัวใจ และหลงั การตรวจ ไม่มีประวตั ิแพ้ยาแพ้อาหาร คิดเป็ นร้อยละ 97 มี
สวนหัวใจ กลุ่มควบคุมกบั กลุ่มทดลองโดยใช้สถิติ ประวตั ิสูบบุหรี่และไม่สูบบหุ ร่ีเทา่ กนั คดิ เป็นร้อยละ
repeated measures ANOVA 36.40 มีประวตั ิดื่มสุราและไม่ดื่มสุราเท่ากนั คิดเป็น
ร้อยละ 39.40 และมีประวตั ิเคยนอนโรงพยาบาล
คิดเป็ นร้อยละ 60.60 เมื่อเปรี ยบเทียบข้อมูล

96  วารสารโรงพยาบาลเจรญิ กรุงประชารกั ษ์ 

ส่วนบุคคลระหว่างกลุ่มควบคุมกบั กลุ่มทดลองดว้ ย หลงั การตรวจสวนหัวใจกลุ่มควบคุมเท่ากับ 2.59
สถิติ chi-square และสถิติ Fisher‘s exact test พบว่า (SD = 0.77) กลุ่มทดลอง 2.37 (SD = 0.61) เปรียบเทียบ
ไม่มีความแตกต่างกนั (p >0.05) คะแนนเฉลี่ยความวิตกกงั วลระหวา่ งกลุ่มควบคุมกบั
กลุ่มทดลองพบวา่ กลมุ่ และช่วงเวลาใน การประเมิน
2. ความวิตกกังวล ผลการศึกษาพบว่า ความวิตกกงั วลมีปฏิสัมพนั ธ์ร่วมกันต่อความวิตก
คะแนนเฉล่ียความวิตกกังวลของผู้ป่ วยที่เข้า กงั วลอยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติ (F1,64 =3.97, p <0.01)
รับการตรวจ สวนหัวใจ ก่อนเข้ารับการรักษาใน และมีความแตกต่างระหว่างคะแนนเฉล่ียความวิตก
โรงพยาบาลกลุ่มควบคุม เท่ากับ 7.29 (SD = 0.70) กั ง ว ล ใ น แ ต่ ล ะ ช่ ว ง เ ว ล า ใ น ก า ร ป ร ะ เ มิ น อ ย่ า ง มี
กลุ่มทดลองเท่ากบั 7.20 (SD = 0.58) ก่อนการตรวจ นัยสาคัญทางสถิติ (F1,64 = 918.85, p <0.00) และ
สวนหัวใจกลุ่มควบคุมเท่ากับ 6.54 (SD = 0.76) ระหว่างกลุ่มอย่างมีนัยสาคญั ทางสถิติ (F1,64 = 8.42,
กลุ่มทดลองเท่ากับ 6.08 (SD = 0.62) ขณะรอ p = 0.00) โดยใช้สถิติ repeated measures ANOVA
การตรวจสวนหัวใจกลุ่มควบคุมเท่ากับ 6.46 ดงั ตารางที่ 1
(SD = 0.89) กลุ่มทดลองเท่ากับ 5.75 (SD = 0.70)

ตารางที่ 1 เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความวิตกกงั วลของผปู้ ่ วยที่เขา้ รับการตรวจสวนหัวใจก่อนและหลงั ไดร้ ับ

โปรแกรมระหวา่ งกลมุ่ ควบคมุ กบั กลุม่ ทดลอง (n=66 )

แหล่งความแปรปรวน SS df MS F p-value

ระหว่างกล่มุ

กลมุ่ 9.07 1 9.07 8.42 0.00

ความคลาดเคล่ือน 68.94 64 1.08

ภายในกลุ่ม

ช่วงเวลาในการประเมิน 870.01 2.73 318.32 918.85 0 .00

กลุ่ม x ช่วงเวลาในการประเมิน 3.76 2.73 1.38 3.97 0.01

ความคลาดเคลื่อน 60.60 174.92 0.35

เม่ือเปรี ยบเทียบความแตกต่างของแ ต่ล ะ กังวลไม่แตกต่างกัน (p >0.05) ก่อนการตรวจสวน
ช่วงเวลาและแต่ละกลุ่มเป็ นรายคู่โดยใช้วิธี หัวใจและขณะรอการตรวจสวนหัวใจกลุ่มทดลองมี
Bonferroni พ บ ว่ า ก่ อ น เ ข้า รั บ ก า ร รั ก ษ า ใ น คะแนนเฉลี่ยความวิตกกังวลน้อยกว่ากลุ่มควบคุม
โรงพยาบาลและหลังการตรวจสวนหัวใจกลุ่ม อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติ (p <0.05) ดงั ตารางท่ี 2
ควบคุมกับกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉล่ียความวิตก

 ปีท่ี 17 ฉบบั ท่ี 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2564  97

ตารางที่ 2 เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความวติ กกงั วลของผูป้ ่ วยที่เขา้ รับการตรวจสวนหวั ใจ ก่อนเขา้ รับการรักษา

ในโรงพยาบาล ก่อนการตรวจสวนหัวใจ ขณะรอการตรวจสวนหัวใจและหลงั การตรวจสวนหัวใจระหว่าง

กล่มุ ควบคุมกบั กลุ่มทดลอง

ช่วงเวลาประเมนิ คะแนนเฉลย่ี ความวติ กกงั วล
กลุ่มควบคุม กลุ่มทดลอง

(n=33) (n=33)

ก่อนเขา้ รับการรักษาในโรงพยาบาล 7.29 7.20 0.09

ก่อนการตรวจสวนหวั ใจ 6.54 6.08 0.46*

ขณะรอการตรวจสวนหวั ใจ 6.46 5.75 0.71*

หลงั การตรวจสวนหัวใจ 2.59 2.37 0.22

*p <0.05

3. ความร่วมมือ ผลการศึกษาพบวา่ คะแนน คะแนนเฉล่ียความร่วมมือระหว่างกลุ่มควบคุมกับ
เฉล่ียความร่วมมือของผูป้ ่ วยท่ีเขา้ รับการตรวจสวน กลุ่มทดลองพบว่า ในกลุ่มทดลองให้ความร่วมมือ
หัวใจของกลุ่มควบคุมเท่ากับ 4.03 (SD = 1.65) มากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ
กลมุ่ ทดลองเทา่ กบั 7.12 (SD = 1.24) เมื่อเปรียบเทียบ (p <0.05) ดงั ตารางท่ี 3

ตารางที่ 3 เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความร่วมมือของผปู้ ่ วยท่ีเขา้ รับการตรวจสวนหวั ใจระหวา่ งกล่มุ ควบคุมกบั
กลุม่ ทดลอง

กลุ่ม คะแนนความร่วมมือ SD df t p - value
1.65 64 -8.60 0.00
กลุม่ ควบคุม (n=33) minimum maximum 1.24
กล่มุ ทดลอง (n =33) 2 8 4.03
4 8 7.12

เมื่อเปรี ยบเทียบร้อยละความร่ วมมือข อง บางชนิดตามแผนการรักษา เช่น ยาละลายลิ่มเลือด
ก ลุ่ ม ตัว อ ย่ า ง โ ด ย จ า แ น ก เ ป็ น ร า ย ข้อ พ บ ว่า (warfarin) การจดั เตรียมเอกสาร เช่น บตั รประชาชน
กลุ่ม ทดลองให้ความร่ วมมื อมากกว่ากลุ่มควบคุม ใบส่งตัว หรื อผลการตรวจอ่ืนมา และการงดน้า
อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติ (p <0.05) ทุกขอ้ ดงั ตาราง งดอาหาร 6 - 8 ชว่ั โมงก่อนตรวจ รองลงมา คือ การนา
ท่ี 4 โดยกลุ่มทดลองให้ความร่ วมมือมากที่สุด ย า โ ร ค ป ร ะ จ า ตัว ม า ใ น วัน เ ข้า รั บ ก า ร รั ก ษ า ใ น
คิดเป็ นร้อยละ 100 จานวน 3 ข้อ คือ การหยุดยา โรงพยาบาล คิดเป็นร้อยละ 90.90

98  วารสารโรงพยาบาลเจรญิ กรุงประชารกั ษ์ 

ตารางท่ี 4 เปรียบเทียบร้อยละความร่วมมือของผปู้ ่ วยท่ีเขา้ รับการตรวจสวนหวั ใจโดยจาแนกเป็นรายขอ้

กลุ่มควบคมุ กล่มุ ทดลอง

ความร่วมมือ (n =33) (n =33) ꭓ2 p - value

จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ

1. มารับการตรวจตรงตามเวลานดั 15 45.5 25 75.8 5.21 0.02
2. นายารักษาโรคประจาตวั มา 21 63.6 30 90.9 6.99 0.01
3. หยดุ ยาบางชนิดตามแผนการรักษา เช่น 18 54.5 33 100 19.41 0.00

ยาละลายล่ิมเลือด (warfarin ) 11 33.3 33 100 33.00 0.00
4. จดั เตรียมเอกสาร เช่น บตั รประชาชน
23 69.7 33 100 11.79 0.00
ใบส่งตวั หรือผลการตรวจอื่นมา 18 54.5 26 78.8 4.36 0.04
5. งดน้าและอาหาร 6 - 8 ชวั่ โมงก่อนตรวจ
6. ปัสสาวะและใส่ผา้ ออ้ มผใู้ หญ่ก่อนไปตรวจ

7. สามารถอยใู่ นทา่ นอนหงายเหยยี ดแขน 12 36.4 26 78.8 12.16 0.00
และขาตรงบนเตียงตรวจได้ 16 48.5 29 87.9 11.80 0.00

8. นอนพกั บนเตียงเหยยี ดขาขา้ งท่ีแทง
เขม็ ใส่สายสวนไมล่ กุ นง่ั อยา่ งนอ้ ย
6 - 8 ชว่ั โมง หรือในกรณีทาท่ีขอ้ มือ
ผปู้ ่ วยงดใชข้ อ้ มือขา้ งท่ีทา

วิจารณ์ ติดตามเป็ นระยะ และอธิบายทวนซ้าข้ันตอนการ
เตรียมตัวในการเขา้ รับการตรวจเมื่อใกลถ้ ึงวนั นัด
การศึกษาคร้ังน้ีเป็ นไปตามสมมติฐานขอ้ ที่ 1 ในช่วงก่อนการตรวจสวนหัวใจ ผูว้ ิจยั มีการตรวจ
กล่าวคือ คะแนนเฉลี่ยความวิตกกงั วลของผูป้ ่ วยใน เยี่ยมเพ่ือเก็บข้อมูลประวัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ
การตรวจสวนหัวใจกลุ่มทดลองน้อยกว่ากลุ่มควบคุม การรักษา เปิ ดโอกาสให้ผูป้ ่ วยซักถามและระบาย
อย่างมีนัยสาคญั ทางสถิติ (p <0.05) ซ่ึงเป็ นไปตาม ความวิตกกังวล ทบทวนความรู้ตามคู่มือ และให้
แนวคิดการดูแลแบบเอ้ืออาทรของ Swanson KM10 ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ผู้ป่ วยต้องเผชิญใน
อธิบายไดว้ ่า กิจกรรมที่ผวู้ ิจยั ให้แก่ผูป้ ่ วยต้งั แต่เขา้ สู่ ห้องตรวจสวนหัวใจโดยใช้วีดีทศั น์ ขณะรอการตรวจ
ระบบนดั เพื่อเขา้ รับการตรวจสวนหัวใจ มีการสร้าง สวนหัวใจผูว้ ิจยั อยู่เป็ นเพื่อนและให้กาลงั ใจเพ่ือให้
สัมพนั ธภาพเพื่อใหผ้ ปู้ ่ วยไวใ้ จและมน่ั ใจวา่ จะสามารถ ผปู้ ่ วยไม่รู้สึกโดดเด่ียวช่วยเหลือกิจกรรมต่าง ๆ และ
ช่วยเหลือให้ผูป้ ่ วยเผชิญกบั การตรวจสวนหัวใจน้ี หลงั การตรวจสวนหัวใจมีการประเมินสัญญาณชีพ
ไปได้ มีการให้ความรู้เกี่ยวกบั โรคหลอดเลือดหัวใจ เฝ้าระวงั ภาวะแทรกซ้อน แนะนาเก่ียวกบั การปฏิบตั ิ
และการตรวจสวนหวั ใจโดยการมอบคู่มือ โทรศพั ท์

 ปีท่ี 17 ฉบบั ท่ี 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2564  99

ตวั ของผูป้ ่ วยที่เหมาะสมเมื่อกลบั ไปอยู่บา้ น การมา จาเนียร พฒั นจกั ร, วาสนา รวยสูงเนิน9 ท่ีศึกษาผล
ตรวจตามนัดการรับประทานยาและการสังเกต ของการให้ขอ้ มูลเตรียมความพร้อมก่อนการตรวจ
อาการผิดปกติที่ควรมาพบแพทย์ โดยใช้คู่มือ สวนหวั ใจต่อความวิตกกงั วลในการตรวจ
ประกอบ ซ่ึงกิจกรรมดังกล่าวข้างต้นสามารถลด
ความวิตกกังวลของกลุ่มทดลองได้ สอดคล้องกบั การศึกษาคร้ังน้ี เป็ นไปตามสมมติฐาน
การศึกษาของสุภาภรณ์ กวดั แกว่งและคณะ12 ท่ี ขอ้ ท่ี 2 กล่าวคือ ความร่วมมือของผปู้ ่ วยในการตรวจ
ศึกษาการพยาบาลตามทฤษฎีการดูแลแบบเอ้ืออาทร สวนหัวใจของกลุ่มทดลองมากกว่ากลุ่มควบคุม
ของ SwansonKM10ในผูป้ ่ วยที่ไดร้ ับการยุติการต้งั ครรภ์ อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติ (t=-8.60, p <0.05) และเม่ือ
และภัทราวดี บุตรคุณ13 ที่ศึกษาในผูป้ ่ วย ท่ีเขา้ รับ เปรี ยบเทียบร้อยละความร่ วมมือของกลุ่มตัวอย่าง
การผ่าตัดกระดูกสันหลังระดับเอว นอกจากน้ียงั โดยจาแนกเป็ นรายข้อพบว่า กลุ่มทดลองให้
พบวา่ กิจกรรมการใหข้ อ้ มูลความรู้ดงั กล่าวแก่ผูป้ ่ วย ความร่วมมือมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสาคัญ
เป็ นการสนับสนุ นให้ผู้ป่ วยมี ความส ามา รถ ทางสถิติ (p <0.05) ทุกขอ้ (ดงั ตารางท่ี 4) เนื่องจาก
(enabling) ซ่ึงเป็ นหน่ึงในกิจกรรมการดูแลแบบ กลุ่มทดลองไดร้ ับการเตรียมความพร้อมจากผูว้ ิจัย
เอ้ืออาทรของ Swanson KM10 ท่ีสามารถลดความ โดยใชก้ ิจกรรมการดูแลแบบเอ้ืออาทรของ Swanson
วิตกกงั วลได้สอดคลอ้ งกบั การศึกษาของ สุมณฑล KM10 ต้งั แต่ก่อนเขา้ รับการรักษาในโรงพยาบาลให้
หมูจุน17 ที่ทบทวนวรรณกรรมพบว่า การสนบั สนุน ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตวั ที่ถูกต้องโดยใช้คู่มือ
ดา้ นขอ้ มูล เป็ นหน่ึงวิธีที่สามารถช่วยลดความวิตก ประกอบ ซ่ึงเป็ นคู่มือท่ีอ่านและสามารถเข้าใจ
กงั วลในผปู้ ่ วยท่ีเขา้ รับการตรวจสวนหวั ใจได้ นิพนธ์ ไดง้ ่าย มีรูปภาพประกอบ มีการทวนซ้าการปฏิบตั ิตวั
วาตวาดา7 ที่ศึกษาการให้ข้อมูลอย่างมีแบบแผน โดยผวู้ ิจยั มีโทรศพั ทเ์ ยี่ยมกลุ่มทดลอง เมื่อถึงวนั นดั
ในผปู้ ่ วยหลงั การตรวจสวนหวั ใจ จาเนียร พฒั นจกั ร, เขา้ รับการรักษาในโรงพยาบาล ผูว้ ิจยั ได้ให้ความรู้
วาสนา รวยสูงเนิน9 ที่ศึกษาการให้ข้อมูลเตรียม ร่วมกบั การใช้วีดีทศั น์ทาให้กลุ่มทดลองเห็นภาพท่ี
ความพร้อมก่อนการตรวจสวนหัวใจ และ Basar C, ชัดเจน และสามารถปฏิบตั ิตัวให้ความร่วมมือได้
et al.18 ที่ศึกษาประสิทธิผลของโสตทัศนูปกรณ์ ถูกต้องผ่านพน้ การทาหัตถการได้อย่างปลอดภัย
(วดิ ีโอ) ที่ใหแ้ ก่ผปู้ ่ วยที่เขา้ รับการตรวจสวนหวั ใจ สอดคล้องกับการศึกษาของเจษฎา ศรีบุญเลิศ19 ที่
ศึ กษาผลของการให้ข้อมูลเตรี ยมความพร้ อมต่อ
แต่จากการศึกษาในคร้ังน้ีพบวา่ หลงั การตรวจ ความร่วมมือในผปู้ ่ วยมะเร็งตบั ขณะตรวจรักษาโดย
สวนหัวใจกลุ่มทดลองและควบคุมมีคะแนนเฉล่ีย ให้ยาเคมีบาบดั บุญธิดา ลิมาพงษ์ภาส และคณะ20
ความวิตกไม่แตกต่างกนั (p >0.05) อาจอธิบายไดว้ ่า ท่ีศึกษาผลของการสอน โดยใช้ส่ื อวีดิทัศน์ต่อ
ผูป้ ่ วยท้งั สองกลุ่มพน้ จากภาวะคุกคามจากการตรวจ การปฏิบตั ิตวั ในผปู้ ่ วยที่ไดร้ ับยาระงบั ความรู้สึกดว้ ย
สวนหัวใจ เปรียบเสมือนสิ่งกระตุ้นต่อความวิตก การฉีดยาชาเข้าช่องไขสันหลัง จาเนียร พฒั นจักร,
กงั วลไดย้ ุติลงแลว้ ทาให้ความวิตกกงั วลลดลงและ วาสนา รวยสูงเนิน9 ท่ีศึกษาความร่วมมือของผูป้ ่ วย
ไม่มีความแตกต่างกนั สอดคลอ้ งกบั การศึกษาของ จากการให้ขอ้ มูลเตรียมความพร้อมก่อนการตรวจ

100  วารสารโรงพยาบาลเจรญิ กรุงประชารกั ษ์ 

สวนหัวใจ และศศิธร สุทธิสนธ์ิ21ท่ีศึกษาความร่วมมือ เอกสารอ้างองิ
ของผปู้ ่ วยผ่าตดั ตอ้ เน้ือตาจากการเตรียมความพร้อม
โดยใชแ้ นวคดิ การบรรลจุ ุดมงุ่ หมาย 1. World Health Organization. Top 10 causes
of death in 2019 [Internet]. 2020 [cited 2020
ข้อเสนอแนะจากการวิจัย May 23] Available from: https://www.who.int/
data/gho/data/themes/topics/causes-of-death/
พยาบาลควรนาโปรแกรมการดูแลแบบ GHO/ causes-of-death.
เอ้ืออาทรไปปรับใชด้ ูแลผปู้ ่ วยโรคหลอดเลือดหัวใจ
ที่เข้ารับการตรวจสวนหัวใจและผูป้ ่ วยที่เขา้ รับทา 2. สานกั โรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. ประเด็น
หัตถการอื่น ๆ ต้ังแต่ก่อนเข้ารับการรักษาใน ส ารรณรงค์วันหัวใ จ โล ก ปี พ.ศ. 2561
โรงพยาบาลก่อนการทาหัตถการ ขณะทาหัตถการ [อินเทอร์เน็ต]. 2561 [เขา้ ถึงเม่ือ 15 ก.พ. 2562].
และหลงั การทาหัตถการจนถึงวนั จาหน่ายเร่ิมจาก เข้าถึงได้จาก: http://thaincd.com/ document/file/
การสร้างสัมพนั ธภาพ และการส่ือสารท่ีเหมาะสม download/ knowledge/.
เพอื่ ใหผ้ ปู้ ่ วยเกิดความไวว้ างใจ มีการเฝ้าติดตามดูแล
อยเู่ สมอ ให้ขอ้ มูลความรู้ที่เก่ียวกบั การรักษา อย่เู ป็น 3. สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยใน
เพ่ือนและให้กาลงั ใจช่วยเหลือกิจกรรมต่าง ๆตาม พระบรมราชูปถัมภ์. แนวทางเวชปฏิบัติใน
ความต้องการของผูป้ ่ วย เพ่ือให้ผูป้ ่ วยมีความวิตก การดูแลผปู้ ่ วยโรคหัวใจขาดเลือดในประเทศไทย.
กังวลลดลง และให้ความร่วมมือในการปฏิบตั ิตาม พิมพ์คร้ังท่ี 2. กรุ งเทพฯ: บริ ษัท ศรี เมือง
คาแนะนา การพมิ พ์ จากดั ; 2557.

กติ ตกิ รรมประกาศ 4. Jamshidi N, Abbaszadeh A, Kalyani MN,
Sharif F. Effectiveness of video information
วิ ท ย า นิ พ น ธ์ ฉ บับ น้ี ส า เ ร็ จ ลุ ล่ ว ง ไ ด้ด้ว ย oncoronary angiography patients’ outcomes.
การไดร้ ับความกรุณาและความช่วยเหลืออย่างดีย่ิง Collegian 2013; 20: 153-9.
จากอาจารยท์ ุกท่านท่ีไดใ้ หค้ าปรึกษา เสนอแนะ และ
แก้ไขขอ้ บกพร่องต่าง ๆ ด้วยดีตลอดมา ขอกราบ 5. Moradi T, Adib-Hajbaghery M. The effect of a
ขอบพระคุณผู้ทรงคุณวุฒิท่ีกรุ ณาตรวจสอบ multi-modal preparation package on anxiety in
เครื่ องมือวิจัย ขอกราบขอบคุณผู้อานวยการ patients undergoing coronary angiography. Int
โรงพยาบาลนครปฐมท่ีให้ความช่วยเหลืออานวย Cardio vasc Res J 2015; 9: 10-6.
ความสะดวกในทุกทางเพ่ือการศึกษา และที่สาคญั
ขอกราบขอบคุณผเู้ ขา้ ร่วมวิจยั ทุกท่านเป็นอย่างย่ิงท่ี 6. Merriweather N, Sulzbach-Hoke LM. Managing
เป็ นผูใ้ ห้ขอ้ มูลซ่ึงเปรียบเสมือนครูของผูว้ ิจยั ทาให้ risk of complications at femoral vascular access
ไดเ้ รียนรู้ในการทาวทิ ยานิพนธ์คร้ังน้ี sites in percutaneous coronary intervention.
Crit Care Nurse 2012; 32: 16-29.

 ปีท่ี 17 ฉบบั ท่ี 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2564  101

7. นิพนธ์ วาตาดา. ผลของโปรแกรมการใหข้ อ้ มลู 13. ภทั ราวดี บุตรคุณ. ผลของโปรแกรมสแวนสัน
อย่างมีแบบแผนร่ วมกับการฟังดนตรี ต่อ ต่อความวิตกกังวลและการรับรู้พฤติกรรม
ความวิตกกงั วลหลงั การสวนหลอดเลือดหวั ใจ การดูแลเอ้ืออาทรจากพยาบาลในผู้ป่ วยที่
ของผู้ป่ วยโรคกล้ามเน้ื อหัวใจขาดเลือด ไ ด้ รั บ ก า ร ผ่ า ตั ด ก ร ะ ดู ก สั น ห ลั ง ร ะ ดั บ เ อ ว
เฉียบพลนั [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตร [วิ ท ย า นิ พ น ธ์ ป ริ ญ ญ า พ ย า บ า ล ศ า ส ต ร
มหาบัณฑิ ต ]. ก รุ ง เ ท พ ฯ : จุ ฬ า ล ง ก ร ณ์ มหาบณั ฑิต]. นครปฐม: มหาวิทยาลยั คริสเตียน;
มหาวทิ ยาลยั ; 2560. 2561.

8. พิราวรรณ โต่งจันทร์,อาภาพร นามวงศ์พรหม, 14. Faul F, Erdfelder E, Lang AG, Buchner A.
น้าออ้ ย ภกั ดีวงค.์ ความวิตกกงั วลความพึงพอใจ G*Power 3: a flexible statistical power analysis
แ ล ะ ภ า ว ะ แ ท ร ก ซ้ อ น ใ น ผู้ป่ ว ย ที่ ไ ด้รั บ program for the social, behavioral and
การพยาบาลตามแนวปฏิบัติการสวนหัวใจ biomedical sciences. Behav Res Methods
[วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบณั ฑิต]. 2007; 39: 175-91.
กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลยั รังสิต; 2557.
15. อรุณ จิรวฒั น์กุล. การออกแบบแบบสอบถาม
9. จาเนียร พฒั นจกั ร, วาสนา รวยสูงเนิน. ผลของ สาหรับงานวจิ ยั . กรุงเทพฯ: วทิ ยพฒั น์; 2556.
การให้ขอ้ มูลเตรียมความพร้อมก่อนการตรวจ
สวนหลอดเลือดหัวใจต่อคามวิตกกังวลและ 16. Hornblow AR, Kidson MA. The visual
ความร่ วมมือในการตรวจ. วารสารพยาบาลศาสตร์ analogue scale for anxiety: a validation study.
และสุขภาพ 2561; 41: 10-9. Aust N Z J Psychiatry 1976; 10: 339-41.

10. Swanson KM. Empirical development of a 17. สุมณฑล หมูจุน.การทบทวนหลักฐานเชิง
middle range of a middle range theory of ประจักษ์เกี่ยวกับการปฏิบัติท่ีเป็ นเลิศของ
caring. Nursing research 1990; 40: 161-6. วิธี การดู แล ด้านจิ ตใจสาหรั บผู้ที่เข้ารับ
ก า ร ต ร ว จ ส ว น หั ว ใ จ แ ล ะ ห ล อ ด เ ลื อ ด
11. อัญชุลี ไชยวงศ์น้อย. ผลของการดูแลแบบ [วิ ท ย า นิ พ น ธ์ ป ริ ญ ญ า พ ย า บ า ล ศ า ส ต ร
เอ้ืออาทรของสแวนสนั ต่อการทากิจวตั รประจาวนั มหาบณั ฑิต]. เชียงใหม่: มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่;
และ ความผาสุกของผูส้ ูงอายุโรคหลอดเลือด 2555.
สมอง [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตร์
มหาบณั ฑิต].ชลบรุ ี: มหาวทิ ยาลยั บรู พา; 2557. 18. Basar C, Besli F, Keçebas M, Kayapınar O,
Turker Y. The effect of audio-visualeducation
12. สุภาภรณ์ กวดั แกว่ง, เยาวลกั ษณ์ เสรีเสถียร, prior to coronary angiography on the state
วรรณา พาหุวฒั นกร,ดิฐกานต์ บริบูรณ์หิรัญสาร. anxiety. Clini Case Rep Rev 2015; 1: 176-8.
ผลของโปรแกรมการพยาบาลโดยใช้ทฤษฎี
การดูแลต่อความวิตกกังวลของสตรี ที่ได้รับ
การยุติการต้งั ครรภ์เพ่ือการรักษา. วารสารสภา
การพยาบาล 2557; 29: 55-66.

102  วารสารโรงพยาบาลเจรญิ กรุงประชารกั ษ์ 

19. เจษฎา ศรีบุญเลิศ. ผลของการให้ขอ้ มูลเตรียม 21. ศศิธรสุทธิสนธ์ิ. ผลของโปรแกรมการเตรียม
ความพร้อมต่อความวิตกกงั วลและความร่วมมือ ความพร้อมก่อนการผา่ ตดั เพื่อบรรลจุ ุดมุง่ หมาย
ในผูป้ ่ วยมะเร็งตบั ขณะตรวจรักษา โดยให้ยา ต่อความวิตกกังวลและความร่ วมมือใน
เคมีบาบัดทางหลอดเลือดแดง [วิทยานิพนธ์ การผ่าตดั ตอ้ เน้ือตาท่ีโรงพยาบาลระดบั ทุติยภมู ิ
ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบณั ฑิต]. ขอนแก่น: แห่งหน่ึง [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตร
มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น; 2554. มหาบณั ฑิต]. นครปฐม: มหาวิทยาลยั คริสเตียน;
2561.
20. บญุ ธิดา ลิมาพงษภ์ าส, กาญจนา โกกิละนนั ทน์,
นงเยาว์ ธิติไพศาล, มนสั นนั ท์ ศิริสกุลเวโรจน์,
วรารัตน์ แยม้ โสภี, ณภทั ร ไวปุรินทะ, และคณะ.
ผลของการสอนโดยใช้สื่อวีดิทศั น์ต่อความรู้
และการปฏิบัติตนในผู้ป่ วยท่ีได้รับยาระงับ
ความรู้สึกดว้ ยการฉีดยาชาเขา้ ช่องไขสันหลงั .
วารสารวิจยั ทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ 2558; 9:
1-7.


Click to View FlipBook Version