The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การบริหารจัดการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suvimolis213, 2022-04-21 04:09:44

การบริหารจัดการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19

การบริหารจัดการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19

คู่มอื

การจดั การความรู้ : KM

การบรหิ ารจดั การศนู ยถ์ ่ายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณท์ ี 19

ศนู ยถ์ ่ายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณท์ ี 19 จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี
สาํ นกั พฒั นาและถ่ายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ์ กรมสง่ เสรมิ สหกรณ์



คาํ นํา

จากการที่ หน่วยงานภาครัฐทุกส่วนราชการได้ มีการปรับเปล่ียนบทบาทและแนวทาง
ปฏิบัติราชการเพื่อให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงของสถานการณ์รอบด้านและเป็ นกลไกหลักในการ
ขบั เคล่ือนภารกิจของประเทศ ให้เป็ นไปด้วยความเหมาะสมสอดคล้องกบั แนวทางการบริหารราชการ
แนวใหม่ โดยมุ่งท่ีจะเปล่ียนแปลงมุมมองต่อระบบบริหารข้าราชการจากเดิมท่ีเน้ นการพัฒนา
ข้าราชการให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ยึดกระบวนการทํางานและประสิทธิภาพเฉพาะส่วน
เปลี่ยนเป็ นเน้นให้ข้าราชการเป็ นผ้รู ู้รอบ รู้ลึก และเป็ นแรงผลกั ดนั ท่ีสําคญั ต่อความสําเร็จขององค์กร
ซึ่งการบังคับใช้พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนดังกล่าว ทําให้มีการปรับเปล่ียนระบบ
บริหารงานบคุ คลครัง้ ใหญ่ในภาคราชการ รวมทงั้ กฎ ระเบียบ และหลกั เกณฑ์ตา่ ง ๆ อาทิ ระบบจําแนก
ตําแหน่งและค่าตอบแทน ระบบวินัยและพิทักษ์คุณธรรม ระบบการประเมินผลการปฏิบัติราชการ
เป็ นต้น ซ่ึงข้าราชการจําเป็ นต้องมีความรู้ความเข้าใจเพื่อให้สามารถปฏิบตั ิงานได้อย่างถูกต้องตรง
ตามเจตนารมณ์ที่กฎหมายกําหนด

การที่ส่วนราชการมีรูปแบบที่ชัดเจนของการรวบรวมฐานความรู้ที่มีอยู่ในส่วนราชการ
ซ่ึงกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคลหรือเอกสารมาพัฒนาให้เป็ นองค์ความรู้และมีการถ่ายทอดและ
แบ่งปันความรู้อย่างเป็ นระบบเพื่อให้ทกุ คนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้ และมีการพฒั นาตนเองให้
เป็ นผ้รู ู้ สามารถนําความรู้มาใช้ในการปฏิบตั ิงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและพฒั นาส่วนราชการเข้าสู่
รูปแบบขององค์การแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) ท่ียงั่ ยืน ดงั นัน้ เพื่อให้ข้าราชการศนู ย์
ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ สงั กัดสํานกั พฒั นาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ กรมส่งเสริม
สหกรณ์ได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบั กระบวนงาน ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงานด้านการบริหารงานบคุ คล
การบริหารงบประมาณ แผนงาน/โครงการต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้การบริหารงานของศูนย์ถ่ายทอด
เทคโนโลยีการสหกรณ์สอดคล้องกับการปฏิบตั ิงานด้านการบริหารงานบุคคลกรมส่งเสริมสหกรณ์
รวมทัง้ ให้ ข้ าราชการได้ รับทราบขัน้ ตอนการปฏิบัติงานด้ านการบริหารงานบุคคล การบริหาร
งบประมาณ แผนงาน/โครงการต่างๆ เป็ นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ระบบการบริหารงานมีความเข้มแข็ง
สร้ างความพึงพอใจให้กับข้าราชการและบุคลากรในสงั กัดนําไปสู่การพัฒนาการบริหารทรัพยากร
บคุ คลอยา่ งมีประสทิ ธิภาพตอ่ ไป

ศนู ย์ถา่ ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 สรุ าษฎร์ธานี
สงิ หาคม 2559

[คูมอื การบริหารจัดการศูนยถ ายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

เร่ือง ข
คาํ นํา
สารบัญ สารบัญ
1. ความเป็ นมา
หน้า
ข้อมลู ทวั่ ไป ก
สถานที่ตงั ้ ข
พืน้ ที่ที่รับผดิ ชอบ 1
ภารกิจ 1
อํานาจหน้าที่ 1
กลมุ่ เป้ าหมายตามภารกิจ 1
บคุ ลากรศนู ย์ 2
โครงสร้างศนู ย์ 2
2. แนวคดิ และทฤษฎี 2
แนวคดิ และทฤษฎีการการองค์ความรู้ 3
แนวคดิ เก่ียวกบั การบริหารจดั การ 4
3.การบริหารจัดการศูนย์ 6
การบริหารหนว่ ยงานตามหลกั ธรรมาภบิ าล 6
การบริหารบคุ ลากร 8
การบริหารงบประมาณ 13
การบริหารงาน 14
4. บทสรุปและข้อเสนอแนะ 15
บทสรุป 17
ข้อเสนอแนะ 23
29
[คูม ือการบรหิ ารจัดการศูนยถายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ] 29
57

เร่ือง ค
ภาพที่ : 1 กระบวนงานธรุ การ
ภาพท่ี : 2 งานรับหนงั สือ หน้า
ภาพท่ี : 3 งานสง่ หนงั สอื 30
ภาพที่ : 4 งานร่างโต้ตอบหนงั สอื 31
ภาพท่ี : 5 การเวียนหนงั สือ 32
ภาพที่ : 6 การทําลายหนงั สอื 33
ภาพท่ี : 7 การเก็บหนงั สือ 34
ภาพท่ี : 8 การลา 35
ภาพท่ี : 9 การตรวจสอบการปฏิบตั ริ าชการ 36
ภาพท่ี : 10 กระบวนงานพสั ดุ 37
ภาพที่ : 11 การจดั ซอื ้ /จดั จ้าง 38
ภาพท่ี : 12 การเก็บรักษาพสั ดุ 39
ภาพที่ : 13 การเบกิ – จ่ายพสั ดุ ครุภณั ฑ์ 40
ภาพท่ี : 14 การตรวจสอบ 41
ภาพที่ : 15 การจําหนา่ ย 42
ภาพที่ : 16 งานการเงิน 43
ภาพที่ : 17 การรับเงินและนําเงินสง่ คลงั 44
ภาพที่ : 18 การเบกิ จ่ายเงิน 46
ภาพที่ : 19 จดั ทําคําขอตงั้ งบประมาณรายจา่ ยประจําปี 47
ภาพที่ : 20 การบริหารงบประมาณ 49
ภาพท่ี : 21 การบริหารงบประมาณเหลือจ่าย 52
ภาพที่ : 22 กระบวนงานฝึกอบรม 53
ภาพที่ : 23 กระบวนการจดั โครงการฝึกอบรม 54
55
[คมู ือการบริหารจดั การศูนยถายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ] 56

1. ความเป็ นมา

ขอมูลท่วั ไป

ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 จงั หวดั สุราษฎร์ธานี สงั กัดสํานกั พฒั นาและ
ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ก่อตงั้ เมื่อปี พ.ศ. 2525 ซึ่งได้แยกมาจากงาน
ฝึกอบรมสว่ นภมู ิภาค กรมสง่ เสริมสหกรณ์ ในอดตี และนิคมสหกรณ์กาญจนดษิ ฐ์ได้แบง่ ท่ีดินของนิคม
ฯ จํานวน 70 ไร่ เพ่ือดําเนินการก่อสร้างศนู ย์ฯ ซง่ึ เมื่อเร่ิมก่อตงั้ ใช้ช่ือว่า "ศนู ย์ฝึ กอบรมที่ 10 " ในปี
พ.ศ. 2537 ได้เปล่ียนช่ือมาเป็ น "ศนู ย์ฝึ กอบรมสหกรณ์ที่ 10" ในปี พ.ศ. 2546 ได้ปรับโครงสร้างระบบ
ราชการใหมแ่ ละเปลี่ยนช่ือเป็ น "ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 10" และในปี พ.ศ. 2547 ที่ผ่าน
มาได้ปรับโครงสร้างระบบราชการใหม่ อีกครัง้ และใช้ช่ือเป็ น "ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ท่ี 19"
จนถึงปัจจบุ นั กิจกรรมตา่ ง ๆ ท่ีเกิดขนึ ้ ภายในสํานกั งานสง่ ผลตอ่ การทํางานของบคุ ลากร ซง่ึ คณุ ภาพใน
การบริหารสํานกั งานจงึ เป็ นปัจจยั ที่ทําให้องค์กรประสบความสําเร็จ หรือความล้มเหลว ดงั นนั้ จึงควรที่
จะคํานึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ทัง้ ภายใน และภายนอกองค์กร เพื่อหาทางให้การบริหารสํานักงานมี
ประสทิ ธิภาพสงู สดุ

สถานทีต่ ้งั

เลขท่ี 120 หม่ทู ี่ 7 ตําบลกระแดะ อําเภอกาญจนดิษฐ์ จงั หวดั สรุ าษฏร์ธานี รหสั ไปรษณีย์
84160 โทรศัพท์ 0-7737-9012 โทรสาร 0-7725-5253 E-mail [email protected] เว็บไซด์
http://webhost.cpd.go.th/css10 มีอาคารสํานักงานพร้ อมห้ องประชุม บริเวณภายในศูนย์ฯ
ประกอบด้วย หอถงั นํา้ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2539 โรงอาหาร สร้างเมื่อปี พ.ศ.2541 เรือนแถวลกู จ้าง/โรงจอด
รถยนต์ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2537 พร้อมทงั้ มีบริเวณป่ าชายเลนที่มีความอดุ มสมบรู ณ์

พืน้ ที่ที่รบั ผิดชอบ

ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ท่ี 19 รับผดิ ชอบในพืน้ ท่ี 3 จงั หวดั ภาคใต้ตอนบนฝ่ังอ่าว
ไทย รวม 453 สหกรณ์ 424 กลุ่มเกษตรกร (ข้ อมูล ณ กันยายน 2555) ประกอบด้ วย

2

จงั หวดั ชมุ พร จํานวนสหกรณ์ 79 สหกรณ์ จํานวนกลมุ่ เกษตรกร 75 กลมุ่

จงั หวดั สรุ าษฏร์ธานี จํานวนสหกรณ์ 170 สหกรณ์ จํานวนกลมุ่ เกษตรกร 103 กลมุ่

จงั หวดั นครศรีธรรมราช จํานวนสหกรณ์ 204 สหกรณ์ จํานวนกลมุ่ เกษตรกร 246 กลมุ่

ภารกิจ

1. เผยแพร่อดุ มการณ์ หลกั การและวิธีการสหกรณ์ ไปสคู่ นไทยทกุ คน เพ่ือใช้วธิ ีการสหกรณ์
ดาํ รงชีวิต

2. พฒั นาบคุ ลากรในสหกรณ์และกลมุ่ เกษตรกรให้มีความรู้ มีศกั ยภาพ

อาํ นาจหนา ที่

ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ท่ี 19 จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี มีหน้าท่ี
1. ศกึ ษาวเิ คราะห์ เกี่ยวกบั การพฒั นาบคุ ลากรในกรมสง่ เสริมสหกรณ์ ขบวนการสหกรณ์

กลมุ่ เกษตรกร และบคุ คลทว่ั ไป ด้านการบริหารองค์กร ด้านธรุ กิจสหกรณ์ ในพืน้ ที่ความรับผดิ ชอบ
2. ศกึ ษาหาความจําเป็นในการสร้างหลกั สตู รให้เหมาะสมกบั สภาพพืน้ ที่
3. ประสานงานกบั สาํ นกั งานสหกรณ์จงั หวดั ในพนื ้ ที่ความรับผิดชอบ เพ่ือศกึ ษาความ

ต้องการในการฝึกอบรมของสมาชิกสหกรณ์/กลมุ่ เกษตรกร เพื่อนํามาจดั ทําแผนการฝึกอบรมให้
สอดคล้องตรงตามความต้องการ

4. ดําเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการบริหารองค์กร ด้านธุรกิจสหกรณ์ในเขตพนื ้ ที่
รับผดิ ชอบ

5. ประเมนิ ผลการฝึกอบรม อํานวยการและประสานงานโครงการฝึกอบรม เป็ นวทิ ยากรในการ
ฝึ กอบรม

6. ปฏิบตั งิ านอ่ืน ๆ ท่ีเก่ียวข้องและตามท่ีได้รับการมอบหมาย

กลุมเปา หมาย

สมาชิกสหกรณ์ คณะกรรมการดาํ เนนิ การสหกรณ์ พนกั งานสหกรณ์ จํานวน 453 สหกรณ์
และกลมุ่ เกษตรกร จํานวน 424 กลมุ่ ข้าราชการกรมสง่ เสริมสหกรณ์ พนกั งานราชการกรมสง่ เสริม
สหกรณ์ และประชาชนทวั่ ไป

[คมู อื การบริหารจัดการศูนยถายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

3

บุคลากรศนู ย

ข้าราชการ ลูกจ้างประจาํ และพนักงานราชการ 15 อตั รา ประกอบด้วย
- ผ้อู ํานวยการศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ท่ี 19
- นกั ทรัพยากรบคุ คล 3 อตั รา
- นายชา่ งเครื่องกล 1 อตั รา
- นายชา่ งโยธา 2 อตั รา
- เจ้าพนกั งานธุรการ 1 อตั รา
- ลกู จ้างประจํา 1 อตั รา
- พนกั งานราชการ 3 อตั รา

พนักงานจ้างเหมาบริการ 3 อตั รา

- พนกั งานขบั รถยนต์ 3 อตั รา
- พนกั งานทําความสะอาด 3 อตั รา

[คมู ือการบริหารจัดการศนู ยถา ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

4

โครงสร้างศูนย์ โครงสรา งบคุ ลากรศูนยถ ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณที่ 19 จงั หวัดสุราษฎรธานี (ณ วนั ที่ 27 ส.ค.56)

งานฝก อบรม นายทศั นยั แสนเสนา
ผูอาํ นวยการศนู ยถา ยทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณท่ี 19

งานอํานวยการ

นายเจษฎา ขวัญแกว -วา ง- นายสมจิตร เลาลาศ นายดสุ ิต ทองเรือง -วา ง-
นกั ทรัพยากรบุคคลชํานาญการ นายชา งเคร่ืองกลชํานาญงาน นายชางโยธาชํานาญงาน นายชางโยธาชํานาญงาน เจาพนกั งานธุรการปฏิบัตกิ าร

นางสาวสพุ า ปยะเขตร นางสาวจารุนีย สงอปุ การ นางสาวสธุ าภณิ ี หนยู ัง นางชตุ ิมา สงั ขแกว นางสาวจุรรี ตั น พราหมณคงแกว นายศิระวรรธ จนิ ทะโร
นกั ทรัพยากรบุคคลชาํ นาญการ นกั ทรัพยากรบุคคลปฏิบัติการ นกั ทรัพยากรบุคคล พนกั งานพิมพร ะดับ ส 3 เจา หนาทก่ี ารเงินและบัญชี เจา พนกั งานโสตทัศนศกึ ษา

งานจางเหมา

[คมู อื การบรหิ ารจดั การศูนยถ า ยทอนดาเยทวรครโธนนะโลเยรือีกงาเกริดสหกรณ]นายสันติพล วชิ ัยดษิ ฐ นายวสันต ทองชนะ นางประกายจนั ทร ทองจนี
พนักงานขับรถยนต พนักงานขับรถยนต พนกั งานขับรถยนต พนักงานทําความสะอาด

5

[คูมือการบริหารจดั การศนู ยถายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

2. แนวคดิ และทฤษฎี
แนวคิดและทฤษฎีการจัดการองคความรู

การจดั การความรู้ (Knowledge Management : KM) คือ เคร่ืองมือ เพ่ือใช้ในการบรรลุ
เป้ าหมายอยา่ งน้อย 3 ประการไปพร้อมๆ กนั ได้แก่ บรรลเุ ป้ าหมายของงาน บรรลเุ ป้ าหมายการพฒั นา
คน และบรรลเุ ป้ าหมายการพฒั นาองค์กรไปสู่การเป็ นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ปัจจุบนั โลกได้เข้าสู่ยุค
เศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge-based Economy – KBE) งานตา่ งๆ จําเป็ นต้องใช้ความรู้มาสร้าง
ผลผลิตให้เกิดมลู คา่ เพ่ิมมากย่ิงขึน้ การจดั การความรู้เป็ นคํากว้างๆ ท่ีมีความหมายครอบคลมุ เทคนิค
กลไกต่างๆ มากมาย เพื่อสนับสนุนให้ การทํางานของแรงงานความรู้ (Knowledge Worker) มี
ประสิทธิภาพยิ่งขึน้ กลไกดงั กล่าวได้แก่ การรวบรวมความรู้ที่กระจดั กระจายอยู่ท่ีต่างๆ มารวมไว้ที่
เดียวกัน การสร้ างบรรยากาศให้คนคิดค้น เรียนรู้ สร้ างความรู้ใหม่ๆ ขึน้ การจัดระเบียบความรู้ใน
เอกสาร และทําสมดุ หน้าเหลืองรวบรวมรายชื่อผ้มู ีความรู้ในด้านต่างๆ และที่สําคญั ที่สดุ คือการสร้าง
ช่องทาง และเง่ือนไขให้คนเกิดการแลกเปลย่ี นความรู้ระหวา่ งกนั

ความรู้ คือ ส่ิงท่ีสง่ั สมมาจากการศึกษาเล่าเรียนการค้นคว้าหรือประสบการณ์ รวมทัง้
ความสามารถเชิงปฏิบตั ิและทกั ษะ ความเข้าใจ หรือ สารสนเทศที่ได้รับมาจากประสบการการณ์ ส่ิงท่ี
ได้รับมาจากการได้ยิน ได้ฟัง การคิดหรือการปฏิบัติ องค์วิชาในแต่ละสาขา (พจนานุกรมฉบับ
ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ.2542)

การจดั การความรู้ คือ การรวบรวมองค์ความรู้ท่ีมีอยใู่ นส่วนราชการซงึ่ กระจดั กระจายอยู่
ในตวั บุคคลหรือเอกสาร มาพัฒนาให้เป็ นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้ และ
พฒั นาตนเองให้เป็ นผ้รู ู้ รวมทงั้ ปฏิบตั งิ านได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ อนั จะสง่ ผลให้องค์กรมีความสามารถ
ในเชิงแขง่ ขนั สงู สดุ โดยท่ีความรู้มี 2 ประเภท คือ
ความรู้แบบฝังลึก

ความรู้แบบฝังลึก (Tacit Knowledge) เป็ นความรู้ท่ีไม่สามารถอธิบายโดยใช้คําพดู ได้
มีรากฐานมาจากการกระทําและประสบการณ์ มีลักษณะเป็ นความเชื่อ ทักษะ และเป็ นอัตวิสัย
(Subjective) ต้องการการฝึกฝนเพ่ือให้เกิดความชํานาญ มีลกั ษณะเป็ นเรื่องสว่ นบคุ คล มีบริบทเฉพาะ
(Context-specific) ทําให้ เป็ นทางการและส่ือสารยาก เช่น วิจารณญาณ ความลับทางการค้ า
วฒั นธรรมองค์กร ทกั ษะ ความเช่ียวชาญในเรื่องตา่ งๆ การเรียนรู้ขององค์กร ความสามารถในการชิม
รสไวน์ หรือกระทั่งทักษะในการสังเกตเปลวควันจากปล่องโรงงานว่ามีปัญหาในกระบวนการผลิต
หรือไม่

[คูมือการบริหารจดั การศูนยถ า ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

7

ความรู้ชัดแจ้ง
ความรู้ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) เป็ นความรู้ท่ีรวบรวมได้ง่าย จัดระบบและถ่าย

โอนโดยใช้วิธีการดิจิทลั มีลกั ษณะเป็ นวตั ถดุ ิบ (Objective) เป็ นทฤษฏี สามารถแปลงเป็ นรหสั ในการ
ถ่ายทอดโดยวิธีการท่ีเป็ นทางการ ไม่จําเป็ นต้องอาศยั การปฏิสมั พนั ธ์กบั ผ้อู ื่นเพื่อถ่ายทอดความรู้ เช่น
นโยบายขององค์กรกระบวนการทํางาน ซอฟต์แวร์ เอกสาร และกลยทุ ธ์ เป้ าหมายและความสามารถ
ขององค์กร ความรู้ยิ่งมีลกั ษณะไม่ชดั แจ้งมากเท่าไร การถ่ายโอนความรู้ย่ิงกระทําได้ยากเท่านนั้ ดงั นนั้
บางคนจึงเรียกความรู้ประเภทนีว้ ่าเป็ นความรู้แบบเหนียว (Sticky Knowledge) หรือความรู้แบบฝังอยู่
ภายใน (Embedded Knowledge) สว่ นความรู้แบบชดั แจ้งมีการถ่ายโอนและแบง่ ปันง่าย จงึ มีชื่ออีกช่ือ
หนึ่งวา่ ความรู้แบบร่ัวไหลได้ง่าย (Leaky Knowledge) ความสมั พนั ธ์ของความรู้ทงั้ สองประเภทเป็ นสงิ่
ท่ีแยกจากกันไม่ได้ ต้องอาศัยซ่ึงกันและกัน (Mutually Constituted) (Tsoukas , 1996) เนื่องจาก
ความรู้แบบฝังลกึ เป็ นสว่ นประกอบของความรู้ทงั้ หมด (Grant, 1996) และสามารถแปลงให้เป็ นความรู้
แบบชัดแจ้ งโดยการส่ือสารด้ วยคําพูดตามรูปแบบของเซซี (SECI Model) (ของ Nonaka และ
Takeuchi) ความรู้ทงั้ แบบแฝงเร้นและแบบชดั แจ้งจะมีการแปรเปลี่ยนถ่ายทอดไปตามกลไกต่างๆ เช่น
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การถอดความรู้ การผสานความรู้ และการซมึ ซบั ความรู้

การจดั การความรู้นนั้ มีหลายรูปแบบ มีหลากหลายโมเดล แต่ท่ีน่าสนใจ คือ การจดั การ
ความรู้ ที่ทําให้คนเคารพศกั ด์ิศรีของคนอ่ืน เป็ นรูปแบบการจัดการความรู้ที่เช่ือว่า ทุกคนมีความรู้
ปฏิบตั ิในระดบั ความชํานาญที่ต่างกัน เคารพความรู้ที่อยู่ในคน เพราะหากถ้าเคารพความรู้ในตํารา
วชิ าการอยา่ งเดียวนนั้ ก็เท่ากบั วา่ เป็ นการมองวา่ คนท่ีไมไ่ ด้เรียนหนงั สือ เป็ นคนท่ีไมม่ ีความรู้
ระดบั ของความรู้

หากจําแนกระดบั ของความรู้ สามารถแบง่ ออกได้เป็ น 4 ระดบั คือ
ความรู้เชิงทฤษฏี (Know-What) เป็ นความรู้เชิงข้อเท็จจริง รู้อะไร เป็ นอะไร จะพบในผ้ทู ี่
สําเร็จการศึกษามาใหม่ๆ ที่มีความรู้โดยเฉพาะความรู้ท่ีจํามาได้จากความรู้ชดั แจ้งซ่ึงได้จากการได้
เรียนมาก แตเ่ วลาทํางาน ก็จะไมม่ น่ั ใจ มกั จะปรึกษารุ่นพี่ก่อน
ความรู้เชิงทฤษฏีและเชิงบริบท (Know-How) เป็ นความรู้เช่ือมโยงกบั โลกของความเป็ น
จริงภายใต้สภาพความเป็ นจริงท่ีซบั ซ้อนสามารถนําเอาความรู้ชดั แจ้งที่ได้มาประยกุ ต์ใช้ตามบริบทของ
ตนเองได้ มกั พบในคนท่ีทํางานไปหลายๆปี จนเกิดความรู้ฝังลกึ ท่ีเป็ นทกั ษะหรือประสบการณ์มากขนึ ้
ความรู้ในระดับท่ีอธิบายเหตุผล (Know-Why) เป็ นความรู้เชิงเหตผุ ลระหว่างเรื่องราว
หรือเหตุการณ์ต่างๆ ผลของประสบการณ์แก้ปัญหาท่ีซบั ซ้อน และนําประสบการณ์มาแลกเปลี่ยน

[คูม ือการบริหารจดั การศนู ยถายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

8
เรียนรู้กับผู้อ่ืน เป็ นผู้ทํางานมาระยะหนึ่งแล้วเกิดความรู้ฝังลึก สามารถอดความรู้ฝังลึกของตนเอง
มาแลกเปล่ียนกบั ผ้อู ่ืนหรือถ่ายทอดให้ผ้อู ่ืนได้พร้อมทงั้ รับเอาความรู้จากผู้อื่นไปปรับใช้ในบริบทของ
ตนเองได้

ความรู้ในระดับคุณค่า ความเช่ือ (Care-Why) เป็ นความรู้ในลักษณะของความคิด
ริเริ่มสร้างสรรค์ที่ขบั ดนั มาจากภายในตนเองจะเป็ นผ้ทู ่ีสามารถสกดั ประมวล วิเคราะห์ความรู้ท่ีตนเอง
มีอยู่ กับความรู้ท่ีตนเองได้รับมาสร้างเป็ นองค์ความรู้ใหม่ขึน้ มาได้ เช่น สร้างตวั แบบหรือทฤษฏีใหม่
หรือนวตั กรรม ขนึ ้ มาใช้ในการทํางานได้

เมื่อพจิ ารณาสดั สว่ นความรู้ทงั้ 2 ประเภท พบวา่ อตั ราความรู้ที่ฝังอยใู่ นคน (Tacit) มากกวา่
ความรู้แบบชดั แจ้ง (Explicit) ถงึ 80 : 20 เปรียบเสมือนปรากฏการธรรมชาติ เชน่ ภเู ขานํา้ แข็งท่ีเปรียบ
ความรู้ชดั แจ้งเป็ นนํา้ แขง็ สว่ นท่ีโผลพ่ ้นนํา้ ขนึ ้ มาเพียง 20% แตว่ า่ ความรู้ที่ฝังอยใู่ นคนเป็ นนํา้ แข็งสว่ นท่ี
จมอยใู่ ต้นํา้ ถึง 80%

แนวคิดเกีย่ วกับการบริหารจัดการ

คาํ จาํ กัดความของคาํ ว่า “สาํ นักงาน”
1) หมายถงึ อาคารสาํ นกั งาน รวมถงึ ตวั อาคารหรือสว่ นใดสว่ นหนงึ่ ของอาคาร การใช้งาน

สว่ นใหญ่หรือทงั้ หมดในฐานะท่ีเป็ นสาํ นกั งานหรือวตั ถปุ ระสงค์ในการทํางาน
2) หมายถงึ วตั ถปุ ระสงค์ของสาํ นกั งาน รวมถงึ วตั ถปุ ระสงค์ในการบริหารงาน งานบคุ ลากร

การจดั การด้านการเงิน การโทรศพั ท์ และโทรเลข
3) หมายถงึ งานเอกสารตา่ ง ๆ รวมถงึ งานขดี เขียน งานบญั ชี คดั แยกเอกสาร จดั เก็บ

เอกสาร งานพมิ พ์ดีด งานถ่ายเอกสาร การใช้เครื่องคาํ นวณ การวาดรูป และการจดั เตรียมงานด้าน
สารบรรณเพ่ืองานจดั พมิ พ์เอกสารหนงั สือตา่ ง ๆ

สํานักงาน คือ สถานที่ท่ีใช้สําหรับปฏิบัติงานในด้านเอกสาร หนังสือหรือข้อมูลข่าวสาร
จดั เป็ นศนู ย์รวมของการบริหารงานด้านต่างๆ เช่น งานสารบรรณ งานบญั ชี บทบาทหน้าท่ีหลกั ของ
สํานกั งานคือการให้บริการแก่หน่วยงานอ่ืน ทกุ องค์กรมีความจําเป็ นท่ีจะต้องมีสํานกั งานเพ่ืออํานวย
ความสะดวกในด้านตา่ งๆ แก่บคุ คลทงั้ ภายในและภายนอกองค์กร

[คูมอื การบริหารจดั การศนู ยถายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

9

สํานกั งาน คือ ท่ีสําหรับบริหารงาน เป็ นที่จดั การเก่ียวกบั เอกสาร ที่ซง่ึ พนกั งานทํางาน เป็ น
ท่ีซงึ่ มีกิจกรรมการโต้ตอบด้านเอกสารและการเก็บเอกสาร เป็ นสถานที่ท่ีทํางานซ่ึงมีรูปแบบท่ีแน่นอน
เป็ นท่ีทําเกี่ยวกับบัญชี การส่ังงาน การจ่ายค่าแรงคนงาน ตลอดจนการทําให้บริษัทดําเนินงานได้
นอกจากนีส้ ํานกั งานยงั ทําหน้าที่เฉพาะอย่าง เช่นถ้าเป็ นสํานกั งานในโรงงานก็จะทํากิจกรรมเกี่ยวกบั
การวางแผนด้านการผลิตและการควบคุมการผลิต ถ้าเป็ นสํานักงานซ่ึงทําเกี่ยวกับคลงั สินค้าก็จะมี
กิจกรรมในการเก็บและจดั หาสินค้าใหม่ๆ ถ้าเป็ นสํานกั งานเก่ียวกบั การควบคมุ ด้านการขบั รถก็จะทํา
หน้าที่เก่ียวกบั การลงบนั ทึกประจําวนั ด้านการนํารถเข้าออกจากสํานกั งาน งานบางประเภทอาจไม่มี
สถานท่ีแน่นอน ดงั นนั้ สํานกั งานเราควรมองไปถึงงานที่ทําในหน้าท่ีหรือมองไปที่กิจกรรมด้วย อย่ามอง
เพียงสถานที่เทา่ นนั้

การบริหาร มีจดุ มงุ่ หมายสงู สดุ คอื ต้องการให้งานบรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ตามท่ีกําหนดไว้ การ
ดําเนินการจะต้องเป็ นไปอยา่ งประหยดั มปี ระสทิ ธิภาพ และประสทิ ธิผล โดยอาศยั ปัจจยั 4 อยา่ ง คือ
บคุ ลากร งบประมาณ วสั ดสุ งิ่ ของ และการจดั การที่ดี

จากปั จจัยทัง้ 4 อย่าง สิ่งท่ีคิดว่าเป็ นปั จจัยสําคัญท่ีสุดในการพัฒนาองค์กรให้ ไปสู่
เป้ าหมาย ก็คือ “บุคลากร” ดังนัน้ บุคลากร คือ ทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร องค์กรประสบ
ความสําเร็จหรือล้มเหลว ขึน้ อยู่กับปัจจยั หลกั คือบุคคลในองค์กร ถึงแม้จะมีเคร่ืองมือเครื่องจกั รที่
ทนั สมยั อยา่ งไรก็ตาม ถ้าบคุ คลในองค์การขาดความรู้ความสามารถก็ไมอ่ าจใช้ประโยชน์จากเครื่องมือ
ที่ทนั สมยั นนั้ ได้อยา่ งเต็มประสทิ ธิภาพ ดงั นนั้ จงึ มีความจําเป็ นอยา่ งยง่ิ ที่จะต้องให้ความสําคญั ตอ่ การ
บริหารงานบคุ คล ซง่ึ เป็ นกระบวนการท่ีเร่ิมตงั้ แตก่ ารวางแผนกําลงั คน จนกระทงั่ ถึงการพ้นสภาพจาก
การเป็ นพนกั งานขององค์การในท่ีสดุ

เป็ นท่ีทราบกันดีอยู่แล้วว่า ปัจจัยพืน้ ฐานของการประกอบธุรกิจ 5M’sคือ คน วัตถุดิบ
เครื่องจกั ร เงินทุน และการบริหาร จะเห็นได้ว่าคนเป็ นองค์ประกอบประเภทหน่ึงท่ีทุกองค์การต้องให้
ความสําคญั องค์การใดมีคนที่ดีมีคณุ ภาพย่อมจะนําพาให้องค์การนนั้ ไปสคู่ วามสําเร็จตามวตั ถปุ ระสงค์
ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ มีผ้ใู ห้ความหมายของการบริหารงานบคุ คลไว้หลายแนวทางพอสรุปได้ดงั นี ้ การ
บริหารงานบคุ คล หมายถึง การจดั หาบคุ คลที่มีคณุ สมบตั เิ หมาะสมเข้าทํางานในตําแหน่งตา่ ง ๆเพื่อให้ได้
ประสทิ ธิผลสงู สดุ แตท่ งั้ นีต้ ้องคาํ นงึ ถงึ ความสขุ และความพงึ พอใจของบคุ ลากรในหนว่ ยงานด้วย

องค์กร แสดงให้ เห็นจากกลุ่มของบุคคลที่มาร่วมกันทํางานด้ วยโครงสร้ างและการ
ประสานงาน เป็ นหลักการชัดเจนแน่ชัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ บรรลุผลสําเร็จตามท่ีกําหนด

[คมู อื การบริหารจัดการศนู ยถา ยทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

10

เป้ าหมายไว้ (Ricky W. Griffin, 1999) ซงึ่ ต้องใช้ทรัพยากรจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ประกอบด้วย
คน (Man) เงิน (Money) วตั ถดุ ิบ (Material) เครื่องจกั ร (Machine) วิธีการ (Method) และการบริหาร
(Management) หรือที่นิยมเรียกกนั วา่ 6M’s

ความหมายของการบริหารจดั การนนั้ สามารถจํากดั ออกมาตามความเข้าใจได้ โดย คําว่า
“Management” อาจแปลว่า การจัดการหรือการบริหารหรือการบริหารจัดการก็ได้ ซ่ึงในหนังสือ
องค์การและการจัดการฉบับสมบูรณ์ โดย รศ.ศิริวรรณ เสรีรัตน์และคณะ (2545) ได้ รวบรวม
ความหมายของคาํ วา่ “การบริหารจดั การ” และ “การจดั การ” ได้ดงั นี ้

1. คําว่า “การบริหาร” จะใช้ในการบริหารระดบั สงู โดยเน้นท่ีการกําหนดนโยบายท่ีสําคญั
และการกําหนดแผนของผ้บู ริหารระดบั สงู เป็ นคํานิยมใช้ในการบริหารรัฐกิจ (Public Administration)
หรือใช้ในหน่วยงานราชการ และคําวา่ “ผ้บู ริหาร” (Administrator) จะหมายถึง ผ้บู ริหารท่ีทํางานอยใู่ น
องค์กรของรัฐ หรือองค์กรที่ไมม่ งุ่ หวงั กําไร (Schermerhorn, 1999)

การบริหาร คือกลุ่มของกิจกรรม ประกอบด้วย การวางแผน (Planning) การจัดองค์กร
(Organizing) การสงั่ การ (Leading/Directing) หรือการอํานวย และการควบคมุ (Controlling) ซงึ่ จะมี
ความสัมพันธ์โดยตรงกับทรัพยากรขององค์กร (6 M’s) เพ่ือนําไปใช้ ให้ เกิดประโยชน์และด้ วย
จุดมุ่งหมายสําคญั ในการบรรลคุ วามสําเร็จ ตามเป้ าหมายขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิด
ประสทิ ธิผลครบถ้วน

2. คําวา่ “การจดั การ” (Management) จะเน้นการปฏิบตั กิ ารให้เป็ นไปตามนโยบาย (แผนที่
วางไว้) ซึ่งนิยมใช้ในการจัดการธุรกิจ (Business management) ส่วนคําว่า “ผู้จัดการ” (Manager)
จะหมายถงึ บคุ คลในองค์กรซงึ่ ทําหน้าที่รับผิดชอบตอ่ กิจกรรมในการบริหาร ทรัพยากรและกิจการงาน
อื่นๆ เพื่อให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ที่กําหนดไว้ขององค์กร

การบริหารจัดการ (Management) หมายถึง ชุดของหน้าท่ีต่างๆ (A set of functions)
ท่ีกําหนดทิศทางในการใช้ทรัพยากรทัง้ หลายอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อให้บรรลุถึง
เป้ าหมายขององค์กร การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ (Efficient) หมายถึง การใช้ทรัพยากรได้
อย่างเฉลียวฉลาดและคุ้มค่า (Cost-effective) การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิผล (Effective) นัน้
หมายถึงการตดั สินใจได้อย่างถกู ต้อง (Right decision) และมีการปฏิบตั ิการสําเร็จตามแผนที่กําหนดไว้
ดังนัน้ ผลสําเร็จของการบริหารจัดการจึงจําเป็ นต้องมีทัง้ ประสิทธิภาพและ ประสิทธิผล ควบคู่กัน
(Griffin, 1997)

[คูมอื การบริหารจัดการศนู ยถา ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

11
ในอีกแนวหนึ่งอาจกล่าวได้ว่าการบริหารจัดการ หมายถึง กระบวนการของการมุ่งสู่
เป้ าหมายขององค์กรจากการทํางานร่วมกัน โดยใช้บุคคลและทรัพยากรอ่ืนๆ (Certo, 2000, p.555)
หรือเป็ นกระบวนการออกแบบและรักษาสภาพแวดล้อมที่บุคคลทํางานร่วมกันในกลุ่มให้ บรรลุ
เป้ าหมายท่ีกําหนดไว้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
คําว่า “การบริหาร” (Administration) และ “การจัดการ” (Management) มีความหมาย
แตกต่างกันเล็กน้อย โดยการบริหารจะสนใจและสัมพันธ์กับการกําหนดนโยบายไปลงมือปฏิบัติ
นกั วชิ าการบางท่านไห้ความเห็นวา่ การบริหารใช้ในภาครัฐ สว่ นการจดั การใช้ในภาคเอกชน อยา่ งไรก็ดี
ในตําราหรือหนงั สือส่วนใหญ่ทงั้ 2 คํานีม้ ีความหมายไม่แตกต่างกัน สามารถใช้แทนกันได้และเป็ นท่ี
ยอมรับโดยทว่ั ไป (สรุ ัสวดี ราชกลุ ชยั , 2543)

คาํ จํากัดความ

การงบประมาณ หมายถึง แผนการดําเนินงานหรือกิจกรรมต่างๆ ของหน่วยงานท่ีแสดง
ออกมาในรูปของคา่ ใช้จา่ ยในชว่ งเวลาใดช่วงเวลาหนง่ึ

การบัญชี หมายถึง ขนั้ ตอนของระบบการรวบรวม การวิเคราะห์และการรายงานข้อมลู ทาง
การเงิน

ต้นทุน หมายถึง ทรัพยากรท่ีใช้ในการดําเนินการก่อให้เกิดผลผลิตของหน่วยงาน โดยให้
รวมทรัพยากรที่เกิดจากทกุ แหลง่ เงิน ไมว่ า่ จะเป็ นเงินงบประมาณ เงินนอกงบประมาณ และงบกลาง

การพัสดุ หมายถึง การจดั ทําเอง การซือ้ การจ้าง การจ้างท่ีปรึกษา การจ้าง ออกแบบและ
ควบคมุ การแลกเปล่ียน การเช่า การจําหนา่ ย

พัสดุ หมายถึง วสั ดุ ครุภัณฑ์ ที่ดิน และส่ิงก่อสร้ าง ท่ีกําหนดไว้ใน หนังสือการจําแนก
ประเภทรายจ่ายตามงบประมาณของสํานกั งบประมาณ หรือการจําแนกประเภทรายจ่ายตามสญั ญา
เงินก้จู ากตา่ งประเทศ

ครุภณั ฑ์ หมายถึง สนิ ทรัพย์ท่ีหน่วยงานมีไว้เพื่อใช้ในการดําเนินการมีลกั ษณะคงทนและมี
อายกุ ารใช้งานเกินกวา่ 1 ปี โดยให้บนั ทกึ รับรู้ครุภณั ฑ์ที่มีมลู คา่ ตงั้ แต่ 5,000 บาทขนึ ้ ไป

[คมู ือการบริหารจัดการศนู ยถา ยทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

12
e-Budgeting หมายถึง กระบวนการจัดสรรงบประมาณ โดยใช้เคร่ืองมือ อิเล็กทรอนิกส์
เข้ามาทําให้กระบวนการงบประมาณทงั้ การอนุมตั ิ เบิกจ่าย รวมถึงกระบวนการจดั ซือ้ จดั จ้างภาครัฐ
และข้อมลู สว่ นราชการ มีความสะดวกรวดเร็ว คลอ่ งตวั ที่สาํ คญั มีความโปร่งใส
ระบบ GFMIS หมายถึง ระบบการบริหารการเงินการคลงั ภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
(Government Fiscal Management Information System) ซึ่งปฏิบัติโดยผ่านเคร่ืองคอมพิวเตอร์
โดยตรงหรือผา่ นชอ่ งทางอื่นที่กระทรวงการคลงั กําหนดก่อนนาข้อมลู เข้าเคร่ืองคอมพิวเตอร์
ใบสําคัญคู่จ่าย หมายถึง หลกั ฐานการจ่ายท่ีเป็ นใบเสร็จรับเงิน หลักฐานของธนาคาร
แสดงการจ่ายเงินแก่เจ้าหนี ้หรือหลกั ฐานการนําเงินเข้าบญั ชีเงินฝากของผ้รู ับท่ีธนาคาร และให้รวมถึง
ใบนาสง่ เงินตอ่ คลงั ด้วย
กรรมการเก็บรักษาเงิน หมายถึง ข้าราชการท่ีได้รับแต่งตัง้ ให้ปฏิบัติหน้าท่ีเก็บรักษา
กุญแจ ตู้นิรภัย ซึ่งประกอบด้วย กรรมการเก็บรักษาเงินโดยตําแหน่ง 2 นาย และกรรมการแต่งตัง้
1 นาย โดยแตง่ ตงั้ จาก ข้าราชการพลเรือน ประเภททว่ั ไป ระดบั ปฏิบตั งิ าน และชํานาญงาน ข้าราชการ
พลเรือน ประเภทวิชาการ ระดบั ปฏบิ ตั กิ าร

[คูมือการบริหารจัดการศูนยถ า ยทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

3. การบริหารจดั การศูนย์

ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ท่ี 19 จังหวดั สรุ าษฎร์ธานี เป็ นหน่วยงานหน่ึงท่ีได้
บริหารงานโดยการกําหนดกลไกอํานาจของภาครัฐในการบริหารจดั การทรัพยากร ทงั้ ด้านสงั คม ชมุ ชน
และกลมุ่ คนเพื่อให้เกิดการพฒั นาอยา่ งยงั่ ยืนในทกุ ๆ ด้าน ซงึ่ ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ท่ี 19
สรุ าษฎร์ธานี สงั กัดสํานกั พฒั นาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ ข้าราชการทุกคนในสงั กดั ได้ทําหน้าที่เป็ นแกนนําในการผลกั ดนั แนวคิดและสร้าง
การยอมรับร่วมกนั ในทกุ ระดบั ด้วยแนวคดิ ที่วา่ การบริหารงานท่ีดีของรัฐเป็ นรากฐานที่ดขี องการพฒั นา
คนให้ดํารงชีวิตอย่รู ่วมกนั อย่างสนั ติสขุ โดยสามารถพิสจู น์ได้จากการบริหารงานท่ีดีของศนู ย์ถ่ายทอด
เทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 สุราษฎร์ธานี สร้ างผลประโยชน์อย่างคุ้มค่าเป็ นพลงั ขับเคลื่อนท่ีดีแก่
สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร ประชาชนทั่วไป ชุมชน และสงั คม เป็ นเครื่องยืนยันว่าการบริหารงานท่ีดีมี
ประสิทธิภาพสงู สามารถพฒั นาคน ชมุ ชนและสงั คมในเขตพืน้ ที่รับผิดชอบของศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยี
การสหกรณ์ที่ 19 ได้อย่างต่อเนื่องตลอดมา ในการจดั ทําค่มู ือการบริหารศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการ
สหกรณ์ ในครัง้ นี ้ได้กําหนดขอบเขตเนือ้ หาในการบริหารจดั การศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์
ซึ่งในการดําเนินงาน เพื่อให้บรรลถุ ึงวตั ถปุ ระสงค์ขององค์กรท่ีกําหนดไว้ โดยอาศยั ปัจจยั ต่างๆ ได้แก่
คน อุปกรณ์ เคร่ืองมือ วัสดุ ทุน ระบบงาน ซึ่งปัจจัยเหล่านีส้ ามารถกําหนดขัน้ ตอนต่างๆ ในการ
บริหารงาน โดยศูนย์ได้กําหนดขอบเขตในการจัดทําคู่มือการบริหารศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการ
สหกรณ์ ดงั นี ้

1) การบริหารหนว่ ยงานตามหลกั ธรรมาภบิ าล
2) การบริหารบคุ ลากร
3) การบริหารงบประมาณ
4) การบริหารงาน

4.1 งานตามแผนปฏบิ ตั งิ านประจําปี
4.2 งานที่ได้รับมอบหมายหรืองานตามนโยบาย
4.3 งานตามความต้องการของพืน้ ท่ี
5) การบริหารงานอ่ืนๆ

[คมู ือการบรหิ ารจดั การศูนยถา ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

14

การบริหารหน่วยงานตามหลักธรรมาภบิ าล

ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ท่ี 19 ได้อาศยั การบริหารตามหลกั ธรรมาภบิ าล 6 หลกั
ในการบริหารจดั การเพ่ือให้เกิดประสทิ ธิภาพสงู สดุ ดงั นี ้
1. หลักนิตธิ รรม

ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ท่ี 19 เป็ นหน่วยงานราชการส่วนกลางที่มีสํานักงาน
ตงั้ อยใู่ นพืน้ ที่ภมู ภิ าค ในการดาํ เนินงานของศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 เป็ นการดาํ เนินงาน
โดยมี กฎหมาย ระเบียบ ถือปฏิบตั ิในการบริหารงานหรือดําเนินการต่าง ๆ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ของ
โครงการ การบริหารจดั การภายในของศนู ย์ฯ นนั้ ได้ปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บ กฎหมายท่ีเก่ียวข้อง
2. หลักคุณธรรม

ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 ได้ยึดมั่นในความถูกต้องดีงาม ส่งเสริม
สนบั สนนุ ให้บคุ ลากรสหกรณ์ กลมุ่ เกษตรกร และประชาชนพฒั นาตนเองโดยเห็นได้จากกิจกรรมตา่ ง ๆ
และแนวทางปฏิบตั ิของศนู ย์ฯ ใช้สติปัญญาในการครองตน ครองคน ครองงานและการแก้ไขปัญหา
ในการดําเนินชีวติ ให้สําเร็จลลุ ว่ งไปด้วยดีอนั เป็ นพืน้ ฐานนําไปสกู่ ารพฒั นางานในหน้าท่ีและเพื่อปลกู ฝัง
ศีลธรรม จริยธรรมฟื น้ ฟูจิตใจและสร้างจิตสํานึกที่ดีแก่สมาชิกสหกรณ์ กลมุ่ เกษตรกร ประชาชนทวั่ ไป
ชมุ ชน และสงั คม

3. หลักการมีส่วนร่วม
ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 มีภารกิจในการเผยแพร่อุดมการณ์ หลกั การ

และวิธีการสหกรณ์ ไปสคู่ นไทยทกุ คน เพื่อใช้วิธีการสหกรณ์ดํารงชีวิต พฒั นาบคุ ลากรในสหกรณ์และ
กลุ่มเกษตรกรให้มีความรู้ มีศกั ยภาพ ตามสถานการณ์ความเปล่ียนแปลงด้านการเมือง เศรษฐกิจ
สังคม และการบริหารงานของรัฐ ท่ีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตามความเจริญก้าวหน้าของส่ือ
เทคโนโลยี ซงึ่ ส่งผลให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมลู ข่าวสารอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การบริหารงานศนู ย์
ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 มีความตระหนกั ในภาระหน้าท่ีและการให้ประชาชนได้มีบทบาท
เข้ามามีส่วนร่วมทงั้ ในเรื่องของการกําหนดแผนการพฒั นาบุคคลกร การสํารวจความต้องการในการ
ฝึกอบรม การกําหนดหลกั สตู ร และการกําหนดกลมุ่ เป้ าหมายในการเข้าร่วมโครงการ ฯลฯ

[คูมือการบริหารจดั การศนู ยถ า ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

15
4. หลักความโปร่งใส

นโยบายที่ส่งเสริมให้ ประชาชนเข้ าร่วมการบริหาร เพ่ือความโปร่งใส ตรวจสอบได้
แนวทางการดําเนินงานของศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 ซึ่งรับนโยบายในการบริหาร
จากสํานกั พฒั นาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ กรมสง่ เสริมสหกรณ์ ได้กําหนดนโยบายที่ชดั เจน
ว่า จะต้องให้ประชาชนเข้ามามีบทบาทในทุกขัน้ ตอนของการดําเนินงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้
เพราะศูนย์ฯ ต้องการส่งเสริมสนับสนุนและสร้ างจิตสํานึกการร่วมเป็ นเจ้าของให้เกิดแก่ประชาชน
เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็ นธรรมและตรวจสอบได้
5. หลักความรับผดิ ชอบ

ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 มีความตระหนกั ในหน้าท่ีความรับผิดชอบต่อ
ชุมชน สังคม ในการบริหารงานของศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 ได้ปฏิบตั ิกิจกรรม
ทกุ ด้าน เพ่ือผลประโยชน์ของสมาชิกสหกรณ์ กลมุ่ เกษตรกร ประชาชนทว่ั ไป ชมุ ชน และสงั คม เป็ นหลกั
6. หลักความคุ้มค่า

ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 เป็ นหน่วยงานที่อยู่ใกล้ชิดกับสมาชิกสหกรณ์
กล่มุ เกษตรกร ประชาชนทว่ั ไป ชมุ ชน และสงั คม จึงทําให้ทราบถึงสภาพปัญหาและความต้องการของ
สมาชิกสหกรณ์ กลมุ่ เกษตรกร ประชาชนทว่ั ไป ชมุ ชน และสงั คมเป็ นอย่างดี การบริหารงานของศนู ย์ฯ
ในทกุ ๆ ด้านและการทํางานอยา่ งมีคณุ ธรรม โปร่งใส มีสว่ นร่วม สามารถตอบสนองความต้องการของ
ประชาชนได้มากท่ีสดุ และเกิดประโยชน์สงู สดุ ทําให้เกิดผลค้มุ คา่ มากท่ีสดุ แตผ่ ลประโยชน์หลายอยา่ ง
ท่ีได้รับจากโครงการต่าง ๆ ไม่อาจวดั ออกมาเป็ นตวั เลขเชิงปริมาณได้ เช่น สภาพของสงั คมที่ดีขึน้
น่ันคือ ความคุ้มค่า รายจ่ายของหน่วยงานราชการถือเป็ นรายได้ของประชาชนที่จําเป็ นต้องบริหาร
จดั การให้เกิดการกระจายไปทุกชุมชน จึงจะเข้าถึงหลกั ความคุ้มค่า ซึ่งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการ
สหกรณ์ที่ 19 สรุ าษฎร์ธานี ได้ดาํ เนินการในจดุ นีโ้ ดยทว่ั ถึงมาตลอด

การบริหารบุคลากร

การบริหารบุคลากร หมายถึง การหาทางใช้คนที่อยู่ร่วมกันในองค์กรนัน้ ๆ ให้ทํางาน
ได้ ผลดีที่สุด สิน้ เปลืองค่าใช้ จ่ายน้ อยที่สุด ปฏิบัติงานได้ เหมาะสมกับความรู้ความสามารถ
ในขณะเดียวกันก็สามารถทําให้ ผ้ ูร่ วมงานมีความสุขมีความพอใจท่ีจะให้ ความร่ วมมือและทํางาน
ร่วมกบั ผ้บู ริหาร เพื่อให้งานขององค์กรนนั้ ๆ สาํ เร็จลลุ ว่ งไปด้วยดี

[คูมือการบริหารจัดการศูนยถ ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

16
ศนู ย์ถ่ายทอเทคโนโลยีการสหกรณ์ท่ี 19 จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี มีผ้อู ํานวยการศนู ย์ถ่ายทอด
เทคโนโลยีการสหกรณ์เป็ นหวั หน้าหนว่ ยงานหรือผ้บู ริหารหนว่ ยงาน ศนู ย์ถ่ายทอเทคโนโลยีการสหกรณ์
เป็ นหน่วยงานขนาดเล็กมีบุคลากรน้อย และบุคลากรทุกคนขึน้ ตรงกับผู้อํานวยการศูนย์ถ่ายทอด
เทคโนโลยีการสหกรณ์เพียงคนเดยี ว ในการบริหารบคุ ลากรแตล่ ะคนจงึ มีความจําเป็ นจะต้องปฏบิ ตั งิ าน
ในหลายหน้าที่ เน่ืองจากศนู ย์มีอตั รากําลงั จํานวนน้อย ดงั นนั้ ผ้อู ํานวยการศนู ย์จึงต้องพิจารณาความ
เหมาะสมในการมอบหมายงานให้ กับบุคลากรของศูนย์ เพ่ือให้ การปฏิบัติงานของเจ้ าหน้ าที่มี
ประสิทธิภาพไม่มีการติดขดั ซึ่งในการมอบหมายงานในลกั ษณะที่จะต้องปฏิบตั ิประจํา จะต้องจดั ทํา
เป็ นคําสง่ั ท่ีเป็ นลายลกั ษณ์อกั ษร ส่วนในกรณีท่ีเป็ นงานที่ได้รับเพ่ิมเติมระหว่างปี จะต้องพิจารณาถึง
ความเหมาะสมกบั ความรู้ความสามารถ และภาระงานท่ีต้องรับผดิ ชอบอยเู่ ดมิ
การมอบหมายงาน
การท่ีจะมอบหมายงานให้เจ้าหน้าที่เพ่ือให้ทํางานตามท่ีเราสง่ั ให้ได้ผลมากที่สดุ ก็มี ดงั นี ้
1) บอกว่างานนีต้ ้องทําอะไรบ้าง ให้ชัดเจน คําว่าชัดเจนนีห้ มายความว่า เจ้าหน้าที่
จะต้องมองเห็นภาพผลงานในแบบเดียวกบั ผ้อู ํานวยการศนู ย์ หรือหวั หน้า
2) ให้แนวทางในการทํางานเพิ่มเตมิ วา่ ต้องทําอยา่ งไร (คร่าวๆ) แตไ่ มต่ ้องบอกทกุ ขนั้ ตอน
วา่ งานที่จะให้ทํานนั้ มีรายละเอียดในการทํางานอยา่ งไรบ้าง โดยให้ไปกําหนดรูป ประเดน็ และวิธีการ
3) กําหนดเวลาท่ีต้องเสร็จ สิ่งท่ีผ้อู ํานวยการศนู ย์ หรือหวั หน้าจะต้องบอกให้ชดั เจนก็คือ
งานที่มอบหมายนนั้ จะต้องเสร็จเม่ือไหร่
4) บอกถึงความสําคญั ของงานนีใ้ ห้ทราบด้วย เพราะการที่เราสงั่ งานโดยที่ไม่ได้บอก
เจ้าหน้าที่เราว่างานนีส้ ําคญั แคไ่ หนต่อหน่วยงาน หรือองค์กร จะทําให้เจ้าหน้าท่ีเราไม่มีความรู้สกึ ของ
การเป็ นเจ้าของงานนี ้ เขาก็จะไม่คอ่ ยอยากทํา เพราะไม่รู้ว่าทําไปทําไม ดงั นนั้ ผ้อู ํานวยการศนู ย์ หรือ
หวั หน้างานจะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าท่ีทราบด้วยวา่ งานที่กําลงั มอบหมายอย่นู ี ้ มนั มีความสําคญั อย่างไร
บ้าง
หากเรามอบหมายงานให้กบั เจ้าหน้าท่ีอย่างชดั เจน แน่นอน จะทําให้เจ้าหน้าท่ีมองเห็นภาพ
ผลลพั ธ์เดียวกบั เราได้ เขาจะทํางานให้เราด้วยความถกู ต้อง และไม่ผิดพลาด เราเองก็จะควบคมุ งานด้วย
ความสบายใจ เพราะเจ้าหน้าที่เข้าใจในสง่ิ ท่ีสงั่ ให้ทํา ไมต่ ้องมาเสียเวลาอธิบายใหมห่ ลายๆ รอบ

[คูม อื การบรหิ ารจดั การศนู ยถ า ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

17
แนวทางการบริหารงานบุคคล

การบริหารงานบุคคล การบริหารงานบุคคลที่ดีย่อมจะเกิดประโยชน์สะท้อนกลบั ให้เกิด
ความมนั่ คงและความสําเร็จ เพราะบคุ ลากรถือวา่ มีความสําคญั เป็ นอย่างย่ิง ในการที่จะปฏิบตั งิ านให้
ประสบผลสําเร็จตามเป้ าหมายที่วางไว้ ในฐานะผู้อํานวยการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์
จะต้องคํานึงถึงความเสมอภาค ประสิทธิภาพและประสิทธิผล และหลักความยุติธรรม ซึ่งในการ
บริหารงานบคุ คลของศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ท่ี 19 สรุ าษฎร์ธานี ได้ดาํ เนินการดงั นี ้

1. จดั ประชุมเพื่อพิจารณามอบหมายงานให้กบั เจ้าหน้าท่ีแตล่ ะคนแตล่ ะตําแหน่ง โดย
ให้ท่ีประชุมพิจารณาร่วมกัน โดยพิจารณาจาก ความรู้ความสามารถของแต่ละบุคคลว่ามีความรู้
ความสามารถในด้านใดบ้าง เพื่อให้ทกุ คนเกิดการยอมรับในงานที่ได้รับมอบหมาย

2. จดั ทําคําสงั่ มอบหมายการปฏิบตั ิหน้าที่ ให้กบั บุคลากรของศนู ย์ให้เป็ นไปตามมติ
ของที่ประชมุ และแจ้งเวียนให้ทกุ คนทราบและถือปฏบิ ตั ิ

3. มีการประชมุ เพ่ือติดตามการปฏิบตั ิงานตามที่รับหมอบหมายให้คําปรึกษา และหา
แนวทางในการปฏิบัติงานให้ กับบุคลากร เพื่อให้ การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ และก่อให้ เกิด
ประสทิ ธิผลมากที่สดุ

4. สร้างบรรยากาศในการทํางานที่ดี โดยการพฒั นางานในรูปแบบท่ีจะต้องทําเป็ นทีม
เช่นกิจกรรม 5 ส. ทํากิจกรรมร่วมกนั รับประทานอาหารร่วมกนั ทงั้ ในและนอกสถานที่ ทําให้บคุ ลากรมี
ความสขุ ในการทํางาน

5. ใช้หลกั ยตุ ิธรรมในการประเมินผลการปฏิบตั ิงานของข้าราชการ ลกู จ้างประจําและ
พนกั งานราชการ มาใช้ในการพิจารณาความดีความชอบ เพื่อให้บคุ ลากรมีขวญั กําลงั ใจในการทํางาน
ซง่ึ ในการพจิ ารณานนั้ จะต้องให้เห็นถึงความแตกตา่ งของผ้ทู ี่มีความตงั้ ใจในการทํางาน กบั ผ้ทู ี่ไมเ่ อาใจ
ใสใ่ นงานท่ีได้รับมอบหมาย

การบริหารงบประมาณ

ในการบริหารงานงบประมาณของศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ ซ่ึงเป็ นหน่วยงาน
ในสงั กดั ส่วนกลางที่มีสํานกั งานอย่ใู นส่วนภมู ิภาคนนั้ อาจจะแตกต่างกบั การบริหารงบประมาณของ
หน่วยงานอื่นๆ หากจะพดู ถึงการบริหารงบประมาณของส่วนราชการทวั่ ๆ ไป นนั้ เม่ือพระราชบญั ญัติ
งบประมาณรายจ่ายประจําปี มีผลใช้บังคับแล้วส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามท่ี
บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปี และเอกสารประกอบพระราชบัญญัติ

[คูมือการบริหารจดั การศนู ยถา ยทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

18
งบประมาณรายจ่ายประจําปี จะดําเนินการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจําปี ดงั กล่าวได้ โดยถือ
ปฏิบตั ติ ามระเบียบวา่ ด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 และระเบียบอ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยวข้องเพื่อให้การ
บริหารงบประมาณรายจ่ายประจําปี เป็ นไปอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ มีการใช้จ่ายงบประมาณท่ีได้รับจดั สรร
ตามช่วงเวลาอย่างเหมาะสม โดยไม่ต้องเร่งใช้จ่ายในช่วงปลายปี งบประมาณ ซ่ึงในการบริหาร
งบประมาณนนั้ ก่อนท่ีจะทราบถึงขนั้ ตอนในการบริหารงบประมาณ สงิ่ ที่จะต้องทําความเข้าใจก่อน คือ
หลกั จําแนกงบประมาณ ซง่ึ งบประมาณจําแนกได้ 2 ลกั ษณะ

1. รายจา่ ยของสว่ นราชการและรัฐวสิ าหกิจสามารถ จําแนกออกเป็น 5 รายจ่าย ได้แก่
(1) งบบคุ ลากร
(2) งบดําเนินงาน
(3) งบลงทนุ
(4) งบเงนิ อดุ หนนุ
(5) งบรายจา่ ยอ่ืน

งบบุคลากร หมายถึง รายจ่ายที่กําหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานบุคคลภาครัฐ ได้แก่
รายจ่ายท่ีจ่ายในลกั ษณะเงินเดือน ค่าจ้างประจํา ค่าจ้างชว่ั คราว และค่าตอบแทนพนกั งานราชการ
รวมถึงรายจ่ายท่ีกําหนดให้จ่ายจากงบรายจา่ ยอื่นใดในลกั ษณะรายจ่ายดงั กลา่ ว

งบดาํ เนินงาน หมายถึง รายจา่ ยที่กําหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานประจํา ได้แก่ รายจา่ ย
ที่จ่ายในลกั ษณะคา่ ตอบแทน คา่ ใช้สอย คา่ วสั ดุ และคา่ สาธารณปู โภค รวมถงึ รายจา่ ยท่ีกําหนดให้จ่าย
จากงบรายจา่ ยอ่ืนใดในลกั ษณะรายจา่ ยดงั กลา่ ว

งบลงทุน หมายถึง รายจา่ ยท่ีกําหนดให้จ่ายเพ่ือการลงทนุ ได้แก่ รายจ่ายที่จ่ายในลกั ษณะ
ค่าครุภณั ฑ์ ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง รวมถึงรายจ่ายท่ีกําหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอ่ืนใดในลกั ษณะ
รายจ่ายดงั กลา่ ว

งบเงนิ อุดหนุน หมายถึง รายจ่ายที่กําหนดให้จ่ายเป็ นคา่ บาํ รุงหรือเพื่อช่วยเหลือสนบั สนนุ
งานของหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญหรือหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมิใช่ส่วนกลางตาม พ.ร.บ.ระเบียบ
บริหารราชการแผ่นดิน หน่วยงานในกํากับของรัฐ องค์การมหาชน รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น รวมถึงเงินอดุ หนนุ งบพระมหากษัตริย์ เงินอดุ หนนุ ศาสนา

[คมู ือการบรหิ ารจัดการศนู ยถ า ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

19

งบรายจ่ายอ่ืน หมายถึง รายจ่ายท่ีไม่เข้าลกั ษณะประเภทงบรายจ่ายใดงบรายจ่ายหน่ึง
หรือรายจ่ายท่ีสํานกั งบประมาณกําหนดให้ใช้จ่ายในงบรายจ่ายนี ้เช่น เงินราชการลบั เงินคา่ ปรับที่จ่าย
คนื ให้แก่ผ้ขู ายหรือผ้รู ับจ้าง ฯลฯ

2. รายจ่ายงบกลาง หมายถึง รายจ่ายท่ีตงั้ ไว้เพื่อจัดสรรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ
โดยทว่ั ไปใช้จ่ายตามรายการดงั ตอ่ ไปนี ้

(1) “เงินเบีย้ หวดั บําเหน็จบํานาญ” หมายความวา่ รายจ่ายที่ตงั้ ไว้เพื่อจ่ายเป็ นเงินบําเหน็จ
บาํ นาญข้าราชการ เงินบําเหน็จลกู จ้างประจํา เงินทําขวญั ข้าราชการและลกู จ้าง เงินทดแทนข้าราชการ
วสิ ามญั เงินคา่ ทดแทนสาํ หรับผ้ไู ด้รับอนั ตรายในการรักษาความมนั่ คงของประเทศ

เงินชว่ ยพิเศษข้าราชการบํานาญเสียชีวิต เงินสงเคราะห์ผ้ปู ระสบภยั เน่ืองจากการช่วยเหลือ
ราชการ การปฏิบตั ิงานของชาตหิ รือการปฏิบตั ติ ามหน้าท่ีมนษุ ยธรรม และเงินช่วยคา่ ครองชีพผ้รู ับเบีย้
หวดั บํานาญ

(2) “เงินช่วยเหลือข้าราชการ ลกู จ้าง และพนกั งานของรัฐ” หมายความว่า รายจ่ายที่ตงั้ ไว้
เพื่อจ่ายเป็ นเงินสวสั ดิการช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ให้แก่ข้าราชการ ลกู จ้าง และพนกั งานของรัฐ ได้แก่
เงินช่วยเหลือการศกึ ษาของบตุ ร เงินชว่ ยเหลือบตุ ร และเงินพเิ ศษในกรณีตายในระหวา่ งรับราชการ

(3) “เงินเลื่อนขนั้ เล่ือนอนั ดบั เงินเดือนและเงินปรับวฒุ ิข้าราชการ” หมายความว่ารายจ่าย
ท่ีตัง้ ไว้เพื่อจ่ายเป็ นเงินเล่ือนขัน้ เล่ือนอันดับเงินเดือนข้าราชการประจําปี เงินเล่ือนขัน้ เลื่อนอันดับ
เงินเดือนข้าราชการท่ีได้รับเลื่อนระดับ และหรือแต่งตงั้ ให้ดํารงตําแหน่งระหว่างปี และเงินปรับวุฒิ
ข้าราชการ

(4) “เงินสํารอง เงินสมทบ และเงินชดเชยของข้าราชการ” หมายความว่า รายจ่ายที่ตงั้ ไว้
เพื่อจา่ ยเป็ นเงินสํารอง เงินสมทบ และเงินชดเชยที่รัฐบาลนําสง่ เข้ากองทนุ บาํ เหน็จบํานาญข้าราชการ

(5) “เงินสมทบของลกู จ้างประจํา” หมายความว่า รายจ่ายท่ีตงั้ ไว้เพื่อจ่ายเป็ นเงินสมทบที่
รัฐบาลนําสง่ เข้ากองทนุ สาํ รองเลีย้ งชีพลกู จ้างประจํา

(6) “คา่ ใช้จา่ ยเกี่ยวกบั การเสดจ็ พระราชดําเนินและต้อนรับประมขุ ตา่ งประเทศ”หมายความ
ว่า รายจ่ายที่ตัง้ ไว้ เพ่ือเป็ นค่าใช้ จ่ายสนับสนุนพระราชภารกิจในการเสด็จพระราชดําเนิน
ภายในประเทศ และหรือต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายในการต้อนรับประมุขต่างประเทศท่ีมาเยือน
ประเทศไทย

(7) “เงินสาํ รองจ่ายเพื่อกรณีฉกุ เฉินหรือจําเป็ น” หมายความวา่ รายจา่ ยท่ีตงั้ สาํ รองไว้เพ่ือ
จดั สรรเป็ นคา่ ใช้จ่ายในกรณีฉกุ เฉินหรือจําเป็ น

[คูมือการบริหารจดั การศูนยถ า ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

20

(8) “คา่ ใช้จ่ายในการดําเนินการรักษาความมนั่ คงของประเทศ” หมายความวา่ รายจ่าย
ที่ตงั้ ไว้เพื่อเป็นคา่ ใช้จ่ายในการดําเนินงานรักษาความมน่ั คงของประเทศ

(9) “เงินราชการลบั ในการรักษาความมน่ั คงของประเทศ” หมายความวา่ รายจา่ ยท่ีตงั้ ไว้
เพ่ือเบกิ จา่ ยเป็ นเงนิ ราชการลบั ในการดาํ เนินงานเพื่อรักษาความมน่ั คงของประเทศ

(10) “คา่ ใช้จ่ายตามโครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชดาํ ริ” หมายความวา่ รายจา่ ยท่ีตงั้ ไว้
เพื่อเป็ นคา่ ใช้จ่ายในการดาํ เนินงานตามโครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชดําริ

(11) “คา่ ใช้จา่ ยในการรักษาพยาบาลข้าราชการ ลกู จ้าง และพนกั งานของรัฐ”
หมายความวา่ รายจ่ายท่ีตงั้ ไว้เป็นคา่ ใช้จา่ ยในการชว่ ยเหลือคา่ รักษาพยาบาลข้าราชการ
ลกู จ้างประจํา และพนกั งานของรัฐ
เม่ือรู้หลกั จําแนกงบประมาณรายจ่ายแล้ว ตอ่ ไปก็จะเป็ นขนั้ ตอนในการบริหารงบประมาณ
ซงึ่ ในท่ีนีจ้ ะกลา่ วถงึ ขนั้ ตอนที่ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์จะต้องดาํ เนินการเทา่ นนั้ ซง่ึ จะมีอยู่
2 ขนั้ ตอน

การเตรียมงบประมาณ
จัดทาํ คาํ ขอตงั้ งบประมาณรายจ่ายประจาํ ปี
ในการจดั ทําขอตงั้ งบประมาณรายจา่ ยประจําปี เม่ือศนู ย์ได้รับแจ้งจากกรมสง่ เสริมสหกรณ์
ให้จดั ทํางบประมาณรายจา่ ยประจําปี สงิ่ ที่ศนู ย์จะต้องดําเนินการ มีดงั ตอ่ ไปนี ้
1.1 ศูนย์จัดประชุมเพ่ือกําหนดกรอบและแนวทางในการจัดทํางบประมาณจัดทํา
งบประมาณ
1.2 การจัดทําขอตัง้ งบประมาณสําหรับรายจ่ายประจํา เช่น ค่าเช่าบ้านข้าราชการ
ให้ใช้ฐานข้อมลู เดิมเป็ นหลกั และปรับให้เป็ นปัจจบุ นั สว่ นคา่ จ้างเหมาบริการพนกั งานทําความสะอาด
พนักงานขบั รถยนต์ และรักษาความปลอดภยั เป็ นต้น ทัง้ นี ้ในการจดั ทําประมาณจะต้องตรวจสอบ
ข้อมลู ให้ถกู ต้องและเป็ นปัจจบุ นั
1.3 ประมาณการสําหรับรายการท่ีดิน เตรียมใบเสนอราคาสําหรับรายการครุภัณฑ์
ที่นอกเหนือจากบัญชีมาตรฐานครุภัณฑ์ เตรียมประมาณการทางช่างสําหรับรายการที่ดินและ
สง่ิ ก่อสร้าง
1.4 เน่ืองจากในแต่ละหน่วยงานมีเหตุผลความจําเป็ นท่ีแตกต่างกัน เพ่ือให้เกิดความ
สะดวกของผู้พิจารณา จึงใคร่อธิบายถึงเหตผุ ลความจําเป็ นให้ชดั เจน หรือให้กรอกข้อมลู ให้ครบถ้วน
ตามแบบฟอร์มท่ีกรมจดั สง่ มาให้

[คูมือการบริหารจดั การศูนยถ ายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

21

1.5 ในการจัดทําคําขอตัง้ งบประมาณรายจ่ายประจําปี จะต้องให้ใกล้เคียงกับรายจ่าย
ที่น่าจะเป็ นจริงมากท่ีสดุ การจดั ทํางบประมาณรายจ่ายที่สงู เกินกวา่ ความเป็ นจริงจํานวนมากเป็ นสง่ิ ท่ี
ไมส่ มควร เน่ืองจากงบประมาณรายรับมีอยอู่ ยา่ งจํากดั

1.6 เม่ือจัดส่งคําขอตัง้ งบประมาณรายจ่ายประจําปี ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์แล้ว ศูนย์
จะต้องจัดเตรียมรายละเอียดทัง้ หมดไว้ให้ พร้ อม เพ่ือความสะดวกในการชีแ้ จงให้ กับเจ้าหน้ าที่
สว่ นกลางที่พิจารณางบประมาณ ซง่ึ สว่ นใหญ่จะต้องการข้อมลู ทนั ที หากไมส่ ามารถจดั ทําได้ทนั ตามที่
กําหนดก็อาจไมพ่ จิ ารณาจดั สรรงบประมาณให้

การบริหารงบประมาณ
การบริหารงบประมาณ ก็คือ การควบคุมการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็ นไปตามแผนงาน
และโครงการที่ได้รับอนุมัติงบประมาณ เพื่อป้ องกันการร่ัวไหล โดยการควบคุมการเบิกจ่ายเงิน
การตรวจสอบตามระเบียบท่ีหนว่ ยงานกําหนด ซงึ่ มีรายละเอียดตามขนั้ ตอนดงั นี ้
1) เมื่อศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 ได้รับอนมุ ตั งิ บประมาณรายจ่ายประจําปี
ศนู ย์ก็จะดําเนินการมอบหมายผ้รู ับผิดชอบตรวจสอบความถกู ต้องของงบประมาณท่ีได้รับอนมุ ตั ิ และ
หากมีข้อมลู คลาดเคล่ือนก็จะต้องประสานไปที่สํานกั พฒั นาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ และ
กองแผนงาน
2) เม่ือแผนงบประมาณที่ได้รับถกู ต้องแล้ว ศนู ย์ก็จะดําเนินการจดั ทําแผนปฏบิ ตั กิ ารในการ
บริหารงบประมาณให้สอดคล้องกับมติของคณะรัฐมนตรีที่กรมได้แจ้งมา ในแต่ละไตรมาสจะต้อง
เบิกจ่ายให้ได้กี่เปอร์เซ็นต์ ทงั้ นีจ้ ะต้องสอดคล้องกบั รายจ่ายท่ีจะต้องเกิดขึน้ จริงของศนู ย์ในช่วงเวลา
ตา่ งๆ ด้วย
3) ดําเนินการใช้งบประมาณตามแผนปฏิบตั กิ าร โดยการขออนมุ ตั เิ งินตามระเบยี บของ
หนว่ ยงาน
4) สาํ หรับรายการที่จะต้องจดั ซือ้ จดั จ้าง และงบลงุ ทนุ (คา่ ท่ีดนิ /สงิ่ ก่อสร้าง) นนั้

4.1 ผู้อํานวยการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์มอบหมาย เจ้าหน้าที่พัสดุ และ
หวั หน้างานพสั ดุ ดําเนินการเสนอแต่งตงั้ คณะกรรมการกําหนดเง่ือนไข คณะกรรมการพิจารณา และ
คณะกรรมการตรวจรับ

4.2 คณะกรรมการแต่ละคณะ ดําเนินการตามขัน้ ตอน และตามกรอบอํานาจหน้าท่ี
ตามระเบียบที่กําหนด และเสนอผู้อํานวยการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ ผ่านหัวหน้า
เจ้าหน้าท่ีพสั ดุ

[คูมอื การบรหิ ารจดั การศนู ยถา ยทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

22
5) การตรวจสอบ เมื่อมีการเบิกจ่ายเงินไปแล้ว ต้องมีการตรวจสอบว่าได้ใช้จ่ายเงินไปตาม
จริงที่เบกิ ไปหรือไม่ การตรวจสอบจงึ เป็ นวิธีการสําคญั ท่ีจะควบคมุ การบริหารด้านการเงินให้เป็ นไปตาม
แผนปฏิบตั กิ ารไมร่ ่ัวไหล และให้ปฏิบตั ใิ ห้ถกู ต้องตามระเบยี บทางการเงิน
6) การรายงาน ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ จะต้องรายงานผลการเบิกจ่าย
งบประมาณ ให้กบั สํานกั พฒั นาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ทราบทกุ เดอื น เน่ืองจากเป็ นวิธีการ
หนึ่งในการตรวจสอบและประเมินผล ให้มีการรายงานผลงานท่ีได้ปฏิบัติไปแล้ว เป็ นระยะ ๆ เพื่อ
สามารถทบทวนผลการปฏิบตั ิงานตามแผนปฏิบตั กิ ารที่กําหนดไว้ว่ามีความคืบหน้าไปประการใดและ
จะต้องใช้เป็ นผลในการตงั้ งบประมาณในปี ตอ่ ไปด้วย
7) ในช่วง 4 เดือนสดุ ท้ายของปี งบประมาณ กรมส่งเสริมสหกรณ์จะแจ้งให้ศนู ย์ถ่ายทอด
เทคโนโลยีการสหกรณ์ ดําเนินการบริหารงบประมาณรายจ่ายประจําปี สิ่งท่ีศนู ย์จะต้องดําเนินการมี
ดงั นี ้

7.1 สรุปยอดงบประมาณทกุ แผนงาน ทุกงบรายจ่าย และทุกรายการตามข้อเท็จจริง
และต้องสอดคล้องกบั ระบบ GFMIS

7.2 ตรวจสอบแผนงานท่ียงั ไมไ่ ด้ดาํ เนินการวา่ จะต้องใช้งบประมาณอีกเทา่ ไหร่ รวมถงึ
สํารวจว่ามีรายการหนีค้ ้ างชําระอยู่เท่าไหร่ เช่น ค่าสาธารณู ปโภค เป็ นต้ น และประมาณ
การงบประมาณท่ีจะต้องใช้ในการปฏิบตั ริ าชการทงั้ หมด และจดั ทําเป็ นประมาณการ

7.3 จดั ทําข้อมลู ตามแบบบริหารงบประมาณที่กําหนดท่ีกําหนด ตรวจสอบความถกู
ต้อง และเสนอพิจารณาตามขนั้ ตอน

7.4 การบริหารงบประมาณเหลือจ่าย คืองบประมาณที่ได้ดําเนินการจัดจ้างตาม
ระเบยี บสํานกั นายกรัฐมนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพม่ิ เตมิ ทกุ ฉบบั ได้ดําเนินการครบ
ตามวตั ถปุ ระสงค์และเป้ าหมายแล้ว และไมม่ ีหนีค้ า่ สาธารณปู โภคค้างชําระ ผ้อู ํานวยการศนู ย์สามารถ
เสนอขออนุมตั ิโอนเปล่ียนแปลงตอ่ ผ้วู ่าราชการจงั หวดั เน่ืองจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้มีหนงั สือมอบ
อํานาจในการโอนเปล่ียนแปลงผ้วู า่ ราชการจงั หวดั แล้ว

[คมู ือการบรหิ ารจัดการศูนยถา ยทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

การบริหารงาน 23

แผนปฏบิ ัตงิ าน คือ การกําหนดกรอบ แนวทางหรือทิศทางการดําเนินงาน เพ่ือให้สามารถ
ใช้บริหารงานและปฏิบตั ิงานเร่ืองใดๆให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์และเป้ าหมายที่กําหนดไว้ โดยมีหลกั การ
ที่ต้องกําหนดไว้ ในแผนปฏิบตั ิงาน ได้แก่ หน่วยงานรับผิดชอบ ผ้รู ับผิดชอบ/ผ้ปู ฏิบตั ิ ช่ืองาน/โครงการ
กิจกรรมดําเนินการภายใต้งาน/โครงการ กิจกรรมยอ่ ย/รายการ/ขนั้ ตอนสําคญั ที่ต้องดําเนินการภายใต้
กิจกรรมปริมาณงาน/เป้ าหมาย ระยะเวลาในการดําเนินงานที่ถกู ต้องหรือเหมาะสม และแผนปฏิบตั ิงาน
ที่ดีต้องมีความชัดเจนแต่สามารถปรับหรือมีความยืดหยุ่นได้เม่ือเกิดสภาภาวะวิกฤติหรือจําเป็ น
ผู้จัดทําแผนต้องมีความรู้และเข้าใจในงาน/โครงการ และท่ีสําคัญแผนต้องสามารถปฏิบัติได้ตาม
แผนปฏิบตั ิงาน หากมีการปรับเปล่ียนหรือเปลี่ยนแปลงแผนปฏิบตั ิงาน ต้องรายงานเสนอผู้มีอํานาจ
อนุมัติเพ่ือพิจารณาอนุมัติ ก่อนดําเนินการปฏิบัติงาน ซ่ึงในส่วนของศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการ
สหกรณ์ท่ี 19 สรุ าษฎร์ธานี จะได้รับหมอบหมายในการปฏบิ ตั งิ าน อยู่ 3 สว่ น คือ

1) งานตามแผนปฏบิ ตั งิ านประจําปี
2) งานท่ีได้รับมอบหมายหรืองานตามนโยบาย
3) งานอ่ืนๆ

งานตามแผนปฏบิ ัตงิ านประจาํ ปี

การบริหารงานตามแผนปฏิบัติงานประจําปี คือ การปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติงาน
ประจําปี ที่ได้รับการการอนมุ ตั ิจากกรมสง่ เสริมสหกรณ์ ในการดําเนินงานตามแผนปฏิบตั งิ านประจําปี
เนื่องจากศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์เป็ นหน่วยงานในสงั กดั ส่วนกลางที่มีสํานกั งานตงั้ อย่ใู น
ส่วนภมู ิภาค ซ่งึ ตงั้ กระจายอย่ใู นแต่ภาคภาคของประเทศ รวม 20 ศนู ย์ ซง่ึ ในแต่ละศนู ย์จะมีหน้าที่
และความรับผิดชอบเหมือนกนั จะแตกต่างกนั เฉพาะพืน้ ที่ท่ีรับผิดชอบ กระบวนการบริหารงานตาม
แผนปฏิบตั ิงานนัน้ เป็ นการดําเนินการตามกระบวนการ ขนั้ ตอน และระยะเวลาท่ีกําหนดในปฏิทิน
ประจําปี โดยมีขนั้ ตอนและกระบวนการบริหารงานตามแผนปฏิบตั งิ านอยา่ งเป็ นขนั้ ตอน ดงั นี ้

[คมู อื การบริหารจัดการศนู ยถา ยทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

24

1. ขัน้ ตอนการจัดทาํ แผนปฏบิ ตั งิ านประจาํ ปี
1.1 ช่วงกลางปี งบประมาณปัจจบุ นั กรมส่งเสริมสหกรณ์จะแจ้งเวียนให้หน่วยงาน ทงั้ ใน
ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ดําเนินการจดั ทําโครงการเพ่ือเสนอของบประมาณในปี ถัดไปจากสํานัก
งบประมาณ โดยศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ ก็จะรับผิดชอบในการจัดทําโครงการพัฒนา
บคุ ลากรสหกรณ์/กลมุ่ เกษตรกร ทงั้ นีใ้ นการจดั ทําโครงการจะต้องสอดคล้องกบั แผนแม่บทการพฒั นา
บคุ ลากรของสหกรณ์/กลมุ่ เกษตรกร และแผนยทุ ธศาสตร์ของกรมสง่ เสริมสหกรณ์
1.2 ช่วงปลายปี งบประมาณกรมส่งเสริมสหกรณ์จะกําหนดให้มีการทบทวนการจดั ทํา
โครงการฝึกอบรม และกําหนดให้มีการจดั ทํารายละเอียดในการชีแ้ จงตอ่ สาํ นกั งบประมาณและรัฐสภา
1.3 ช่วงปลายปี งบประมาณหรือต้นปี งบประมาณต่อมา สํานักพัฒนาและถ่ายทอด
เทคโนโลยีการสหกรณ์ จะกําหนดให้มีการประชมุ เชิงปฏิบตั ิการเพ่ือจดั ทําแผนปฏิบตั ิงานให้สอดคล้อง
กบั เอกสารงบประมาณในแตล่ ะปี
2. ขัน้ ตอนการอนุมัตแิ ผนปฏบิ ตั งิ านประจาํ ปี
2.1 ภายหลงั จากที่งบประมาณผ่านการประชมุ ของสภาในวาระที่ 3 แล้ว และกรมสง่ เสริม
สหกรณ์ได้รับข้อมูลจากหน่วยงานสังกัดครบถ้วนแล้ว กรมส่งเสริมสหกรณ์ก็จะจัดทําแผนปฏิบัติ
ประจําปี พร้อมกบั งบประมาณรายจา่ ยประจําปี เพื่อขออนมุ ตั งิ บประมาณตอ่ อธิบดีกรมสง่ เสริมสหกรณ์
2.2 เมื่อท่านอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ลงนามและอนุมตั ิแผนปฏิบตั ิงานประจําปี แล้ว
กรมก็จะส่งแผนปฏิบัติงานประจําปี ให้กับหน่วยงานในสังกัด เพ่ือถือปฏิบัติ ทัง้ นีใ้ นส่วนของศูนย์
ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ จะมีสํานักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ เป็ นผู้
ประสานงานและตรวจสอบความถกู ต้องกบั กรม ก่อนที่จะสง่ แผนปฏิบตั ิงานดงั กลา่ ว ให้ศนู ย์ถ่ายทอด
เทคโนโลยีการสหกรณ์

3. การนาํ แผนสู่การปฏบิ ัติ
3.1 เมื่อศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ได้รับแผนการปฏิบตั ิงาน ผ้อู ํานวยการศนู ย์
ถ่ายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ์ ก็จะนําแผนท่ีได้รับอนมุ ตั เิ ข้าท่ีประชมุ ของศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการ
สหกรณ์ เพ่ือตรวจสอบความถกู ต้องของแผนปฏิบตั งิ านประจําปี
3.2 เมื่อตรวจสอบแผนปฏิบตั ิงานแล้วพบว่า มีข้อมลู คลาดเคล่ือนศนู ย์จะประสานไปยงั
สํานกั พฒั นาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ และกองแผนงาน เพื่อขอแก้ไขให้ถกู ต้อง
3.3 หากตรวจสอบแล้วพบวา่ แผนปฏบิ ตั งิ านที่ได้รับนนั้ ถกู ต้อง ก็จะร่วมกนั กําหนดแผนใน
การปฏิบตั ิงานร่วมกับสํานกั งานสหกรณ์จงั หวดั และสหกรณ์ ในพืน้ ที่รับผิดชอบ เพื่อชีแ้ จงโครงการ

[คูมือการบริหารจดั การศนู ยถ ายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

25

ฝึ กอบรมแก่สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร และพิจารณาคัดเลือกกลุ่มเป้ าหมายเพื่อเข้าร่วม
โครงการ

3.4 ศนู ย์ประชมุ ชีแ้ จงทีมงานเพื่อมอบหมายผ้รู ับผิดชอบในการบริหารแตล่ ะโครงการ
3.5 กําหนดทีมงานผ้ชู ่วยบริหารโครงการ
4. ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน

เมื่อศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์คดั เลือกกล่มุ เป้ าหมายในการฝึ กอบรมได้แล้ว
และได้รับแจ้งผลการอนุมตั ิบุคคลภายนอกจากรมส่งเสริมสหกรณ์แล้ว ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการ
สหกรณ์ ก็จะดําเนินการตามขนั้ ตอน ดงั นี ้

4.1 ประสานงานกลมุ่ เป้ าหมาย วิทยากร ประธานในพธิ ี สถานท่ีจดั อบรม และ
หนว่ ยงานที่เกี่ยวข้อง

4.2 ขออนมุ ตั โิ ครงการฝึกอบรมอบรม โดยการเขียนโครงการ และเสนอผ้บู งั คบั บญั ชา
อนมุ ตั ิ

4.3 ยืมเงินทดรองราชการเพื่อเป็นคา่ ใช้จ่ายในการจดั อบรม
4.4 ผ้บู ริหารโครงการประชมุ ทีมงาน เพื่อมอบหมายหน้าท่ีความรับผิดชอบ และชีแ้ จง
รายละเอียดขนั้ ตอนในการดาํ เนนิ โครงการ
4.5 จดั ซือ้ วสั ดอุ ปุ กรณ์ จดั ทําสอื่ คมู่ ือ เอกสารที่ต้องใช้ประกอบในการฝึกอบรม
4.6 จดั ทําแบบประเมินโครงการ แบบวดั ความรู้ก่อน – หลงั อบรม
4.7 ดาํ เนนิ การจดั ฝึกอบรม
4.8 สรุปผลการจดั อบรมแตล่ ะโครงการสง่ หนว่ ยงานต้นสงั กดั

งานทไี่ ด้รับมอบหมายหรืองานตามนโยบาย

งานที่ได้รับมอบหมายหรืองานตามนโยบาย เป็ นงานท่ีกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้อนุมัติ
เพมิ่ เตมิ หรือมอบหมายให้ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ์ดาํ เนินการนอกเหนือจากการปฏบิ ตั งิ าน
ประจําปี ซงึ่ ส่วนใหญ่จะเป็ นโครงการฝึ กอบรม ประชมุ เชิงปฏิบตั กิ าร หรือการประชมุ ตา่ งๆ ซง่ึ ในการ
ปฏิบตั ิเก่ียวกบั งานท่ีได้รับมอบหมายหรืองานตามนโยบาย นนั้ ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์
จะต้องดําเนินการ ดงั นี ้

[คมู อื การบริหารจัดการศนู ยถ า ยทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

26
1) ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ มอบหมายผู้รับผิดชอบในการประสานงานกับ
หน่วยงานสว่ นกลางเจ้าของโครงการ เพื่อขอทราบรายละเอียดเพ่ิมเตมิ
2) กําหนดทีมงานเพ่ือทําหน้าท่ีเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่โครงการ และมอบหมายหน้าที่ความ
รับผิดชอบตามความเหมาะสมของแตล่ ะคน
3) ประสานงานกลมุ่ เป้ าหมาย วทิ ยากร ประธานในพธิ ีเปิ ด สถานที่จดั อบรม และ
หนว่ ยงานที่เก่ียวข้อง
4) ยืมเงนิ ทดรองราชการเพ่ือเป็ นคา่ ใช้จา่ ยในการจดั อบรม
5) จดั ซอื ้ วสั ดอุ ปุ กรณ์ จดั ทําสอื่ คมู่ ือ เอกสารประกอบการบรรยาย
6) จดั ทําเอกสารการลงทะเบยี น เอกสสารทางการเงิน และเอกสารประกอบการฝึกอบรม
ตา่ งๆ เชน่ แบบประเมนิ โครงการ แบบวดั ความรู้ก่อน – หลงั อบรม
7) ดาํ เนินการจดั ฝึกอบรม
8) สรุปผลการฝึกอบรมแตล่ ะโครงการสง่ หนว่ ยงานต้นสงั กดั

งานตามความต้องการของพื้นที่

งานตามความต้องการของพืน้ ท่ี เป็ นงานตามนโยบายของสํานักพัฒนาและถ่ายทอด
เทคโนโลยีการสหกรณ์ กรมสง่ เสริมสหกรณ์ ท่ีต้องการให้มีโครงการในลกั ษณะท่ีเกิดจากความต้องการ
ของสมาชิกสหกรณ์/กลมุ่ เกษตรกร เพื่อท่ีจะแก้ไขปัญหาของสหกรณ์ หรือพฒั นางานสหกรณ์ในพืน้ ท่ีที่
ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์รับผิดชอบ ซ่ึงศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์จะต้อง
ดําเนินการตามขนั้ ตอน ดงั นี ้

1) ออกแบบสํารวจความต้องการในการอบรม
2) สง่ แบบสํารวจให้กลมุ่ เป้ าหมาย และกําหนดเง่ือนไขในการสง่ กลบั ให้ชดั เจน
3) รวบรวมแบบสาํ รวจนํามาประมวลผล และสรุปผล
4) จดั ทํารายละเอียดโครงการเบอื ้ งต้น เพื่อเสนอของบประมาณจากการมสง่ เสริมสหกรณ์
ในช่วงของการจดั ทําคําขอตงั้ งบประมาณ
5) เม่ือศนู ย์ถา่ ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ ได้รับแผนปฏิบตั งิ านท่ีอนมุ ตั จิ ากรมสง่ เสริม
สหกรณ์แล้ว ศนู ย์ก็จะมอบหมายเจ้าหน้าท่ีรับผดิ ชอบ จดั ทํารายละเอียดเพิ่มเตมิ
6) กําหนดทีมงานเพ่ือทําหน้าท่ีเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่โครงการ และมอบหมายหน้าที่ความ
รับผดิ ชอบตามความเหมาะสมของแตล่ ะคน

[คมู อื การบรหิ ารจดั การศนู ยถ ายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

27
7) ประสานงานกลมุ่ เป้ าหมาย วิทยากร ประธานในพธิ ีเปิ ด สถานที่จดั อบรม และ
หนว่ ยงานที่เก่ียวข้อง
8) ขออนมุ ตั โิ ครงการอบรม โดยการเขียนโครงการ และเสนอผ้บู งั คบั บญั ชาอนมุ ตั ิ
9) ยืมเงินทดรองราชการเพื่อเป็ นคา่ ใช้จา่ ยในการจดั อบรม
10) จดั ซือ้ วสั ดอุ ปุ กรณ์ จดั ทําสอ่ื คมู่ ือ เอกสารประกอบการบรรยาย
11) จดั ทําเอกสารการลงทะเบยี น เอกสสารทางการเงิน และเอกสารประกอบการฝึกอบรม
ตา่ งๆ เชน่ แบบประเมินโครงการ แบบวดั ความรู้ก่อน – หลงั อบรม
12) ดาํ เนนิ การจดั ฝึกอบรม
13) สรุปผลการฝึกอบรมแตล่ ะโครงการสง่ หนว่ ยงานต้นสงั กดั
38ปัจจัยแห่งความสาํ เร็จในการบริหารงาน

1) มีการประชมุ ทีมงานกําหนดหน้าที่ ความรับผิดชอบการทํางานท่ีชดั เจน และเหมาะสม
กบั ความรู้ความสามารถของแตล่ ะหนว่ ยงานบคุ คลที่เข้ารับผดิ ชอบ

2) ผ้ปู ฏบิ ตั งิ านมีความรับผดิ ชอบตอ่ งานที่ได้รับมอบหมาย
3) มีการจดั ทําแผนงาน/โครงการท่ีชดั เจน เมื่อโครงการเกิดปัญหาให้มกี ารจดั ทํารายงานดว่ น
4) มีรายงานผลการปฏบิ ตั งิ าน/โครงการ เชน่ รายงานประจําเดอื น
5) มีการบนั ทกึ แผนงาน/โครงการท่ีเกิดขนึ ้ เป็นเอกสาร
6) ประเมินผลดําเนินการหลงั จากท่ีทําโครงการเสร็จสนิ ้
7) มีการประสานกบั สาํ นกั งานสหกรณ์จงั หวดั ให้ดําเนนิ การคดั เลอื กกลมุ่ เป้ าหมายที่มี
ความต้องการฝึกอบรมอยา่ งแท้จริง อีกทงั้ ให้สํานกั งานสหกรณ์จงั หวดั เข้ามามีสว่ นร่วมในการฝึกอบรม
เชน่ เป็ นวิทยากร และท่ีสาํ คญั การประสานงานท่ีชดั เจนและตอ่ เน่ือง ทงั้ สาํ นํางานสหกรณ์จงั หวดั
และสหกรณ์ท่ีเข้าร่วมโครงการ
8) มีการคดั เลือกวิทยากรท่ีมีความรู้ความสามารถ ในการถา่ ยทอดความรู้แก่ผ้ารับการ
อบรม

[คมู ือการบรหิ ารจัดการศูนยถา ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

28

การบริหารงานอื่นๆ

เน่ืองจากศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ท่ี 19 สุราษฎร์ธานี เป็ นศูนย์ท่ีไม่มีบริการ
ในเร่ืองของหอพกั โดยศนู ย์จะให้บริการเฉพาะในสว่ นของห้องประชมุ และอปุ กรณ์ ครุภณั ฑ์ เท่านนั้

1) ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ มี ห้องประชมุ ที่สามารถรองรับผ้เู ข้าร่วมประชมุ ได้
ประมาณ 150 คน ซง่ึ ห้องประชมุ ดงั กล่าวมีอปุ กรณ์ สําหรับประชมุ ครบครัน ทงั้ โต๊ะ เก้าอี ้เคร่ืองขยาย
เสียง ชดุ ไมค์ประชมุ เครื่อง LCD โปรเจคเตอร์ และเครื่องปรับอากาศ เป็ นต้น

2) ปัจจุบันห้องประชุมดังกล่าว นอกเหนือจากการประชุมโดยปกติของศูนย์ถ่ายทอด
เทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 สรุ าษฎร์ธานี แล้ว ยงั มีส่วนราชการจากทัง้ ภายในกรมส่งเสริมสหกรณ์
เช่น สํานกั งานสหกรณ์จงั หวดั และนิคมสหกรณ์ มาขอใช้ห้องประชมุ เป็ นประจํา ยงั มีส่วนราชการอ่ืน
ในพืน้ ท่ีรับผิดชอบ เช่น สํานักงานอําเภอกาญจนดิษฐ์ กศน.อําเภอกาญจนดิษฐ์ ชมรมคุณธรรม
สมาคมตอ่ ต้านยาเสพตดิ ฯลฯ และสหกรณ์ในพืน้ ท่ีรับผดิ ชอบ มาขอใช้บริการ

3) วิธีการขอใช้ห้องประชุมของศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 นัน้ จะต้อง
ดาํ เนินการ ดงั นี ้

3.1 หน่วยงานผู้ขอใช้จะต้องมีหนังสือจากหน่วยงาน ถึงผู้อํานวยการศูนย์ถ่ายทอด
เทคโนโลยีการสหกรณ์เพ่ือขอนุญาติใช้ห้ องประชุม โดยแนบรายละเอียดโครงการที่จะใช้ พร้ อม
กําหนดการ และวนั เวลาที่ชดั เจน

3.2 ผู้อํานวยการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์มอบหมายเจ้ าหน้ าท่ีพัสดุ
ตรวจสอบวา่ วนั เวลาดงั กลา่ ว มีหน่วยงานอื่นขอใช้ห้องประชมุ หรือไม่

3.3 เม่ือเจ้าหน้าท่ีพสั ดตุ รวจสอบเสร็จแล้ว ก็จะรายงานให้ผ้อู ํานวยการศนู ย์ถ่ายทอด
เทคโนโลยีการสหกรณ์ทราบ พร้อมทงั้ แจ้งให้ผ้ขู อใช้ทราบว่า วนั ดงั กล่าวห้องประชมุ ว่างหรือไม่ ถ้าห้อง
ประชุมว่างก็ให้ตอบกลับว่าอนุญาตให้ใช้ห้องประชุมได้ หากมีหน่วยงานอื่นขอใช้แล้ว ก็ให้แจ้งว่ามี
หน่วยงานอื่นจองห้องประชมุ ไว้แล้ว และเสนอแนะวา่ สามารถใช้ห้องประชมุ ในวนั ท่ีเทา่ ไหร่

3.4 ก่อนถึงวนั ประชมุ เจ้าหน้าท่ีพสั ดจุ ะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ศนู ย์ช่วยจดั เตรียมห้องประชมุ
ให้พร้อมสําหรับการจดั ประชมุ

3.5 เมื่อประชุมเสร็จแล้วเจ้าหน้าท่ีศนู ย์ก็จะดําเนินการเก็บวสั ดอุ ปุ กรณ์ และทําความ
สะอาดห้องประชมุ ให้เรียบร้อย

[คูมอื การบริหารจดั การศนู ยถ า ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

4. บทสรุปและข้อเสนอแนะ

บทสรุป

ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 จังหวดั สุราษฎร์ธานี สงั กัดสํานักพัฒนาและ
ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็ นหน่วยงานในสงั กดั ส่วนกลางที่มีสํานกั งาน
ตงั้ อยใู่ นสว่ นภมู ิภาค ซงึ่ ตงั้ กระจายอยใู่ นแตภ่ าคของประเทศ รวม 20 ศนู ย์ ซงึ่ ในแตล่ ะศนู ย์จะมีหน้าที่
และความรับผิดชอบเหมือนกนั จะแตกตา่ งเฉพาะพืน้ ที่ท่ีรับผดิ ชอบ ทงั้ นีใ้ นการบริหารจดั การศนู ย์ นนั้
ถึงแม้ว่าจะเป็ นหน่วยงานขนาดเล็ก มีบุคลากรเพียงไม่ก่ีอตั รา แต่ด้วยระบบการบริหารทงั้ ในส่วนของ
การบริหารบุคลากร บริหารงบประมาณ และบริหารงาน นัน้ ซึ่งทําให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จะต้อง
ศึกษาในรายละเอียดของการปฏิบัติงานมากพอสมควร โดยเฉพาะผู้อํานวยการศูนย์ถ่ายทอด
เทคโนโลยีการสหกรณ์ จําเป็ นจะต้ องเรียนรู้และทําความเข้ าใจกับกระบวนงานที่เกิดขึน้ ทุก
กระบวนงานที่มีในศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ ดงั นนั้ การที่จะมาสรุปเนือ้ หาทงั้ หมดอาจจะ
ทําให้เข้าใจกระบวนงานได้ยาก ในสว่ นนีจ้ ะขอสรุปเฉพาะกระบวนงานหลกั โดยขอสรุปเนือ้ หาเพียงสนั้ ๆ
และอธิบายกระบวนงานหลกั ๆ ของศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ ด้วยภาพ ดงั ตอ่ ไปนี ้

1. กระบวนงานธุรการ
2. กระบวนงานพสั ดุ
3. กระบวนงานการเงินและบญั ชี
4. กระบวนงานงบประมาณ
5. กระบวนงานฝึกอบรม

30

กระบวนงานธุรการ

ปฏิบตั ิงานเก่ียวกบั การจดั การด้านธุรการ บริหารจดั การงานหนงั สือ/เอกสาร เช่น การรับ-
สง่ จดั เก็บ ค้นหา ร่าง-โต้ตอบ เวียน หนงั สือ-เอกสาร เสนอผ้บู ริหารพิจารณาลงนาม อนมุ ตั ิ สงั่ การ
โดยจดั การงานสารบรรณและงานธรุ การ อยา่ งรวดเร็ว ถกู ต้อง เป็ นไปตามระเบยี บงานสารบรรณ

งานเอกสาร งานบคุ ลากร

การรับหนังสือ การลา
การสงหนงั สือ
การเวียนหนังสือ การตรวจสอบการปฏบิ ัติ
การรางโตตอบหนังสือ ราชการ
การเกบ็ รักษา
การทาํ ลายเอกสาร

ภาพท่ี : 1 กระบวนงานธรุ การ

[คมู อื การบรหิ ารจัดการศนู ยถ า ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

31

ขัน้ ตอนการดาํ เนินงาน เร่ือง งานธุรการ (งานรับหนังสือ)

เจาหนาท่ธี รุ การ 1 1 เอกสารตางๆจาก
สว นราชการภายนอก
 รบั เอกสาร

 ตรวจความถูกตอง

ผลการตรวจ ไมถกู ตอ งสง คืน หนวยงานเจา ของเร่อื ง

ถกู ตอ ง
เจาหนาทธี่ ุรการ

 วิเคราะหหนังสอื คัดแยกประเภทหนังสือ
 ลงรบั หนงั สอื เรยี งลาํ ดับความสําคญั ของหนงั สอื

เพื่อเสนอ

เจาหนาท่ีธรุ การ

 เสนอหนงั สอื ให ผอ.ศูนยฯ
 ผอ.ศูนยฯ เกษียนหนังสือ
 สง หนงั สือคนื ใหกับเจา หนา ที่ธุรการ

เจา หนาที่ธรุ การ
ดาํ เนินการกระจายหนงั สอื ใหก ับบคุ คลทเี่ กยี่ วขอ ง

ภาพท่ี : 2 งานรับหนงั สือ

[คูมอื การบรหิ ารจดั การศูนยถา ยทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

32

ขัน้ ตอนการดาํ เนินงาน เร่ือง งานธุรการ (งานส่งหนังสือ)

เจา หนาท่ีธุรการ 1 1 หนังสอื ตางๆจาก
เจาของเรอ่ื ง
ตรวจความถกู ตองของหนงั สือที่จะสง เพ่อื ออกเลขที่ เจา ของเรื่อง
หนงั สือ

ผลการตรวจ ไมถ ูกตอ งสง คืน

ถกู ตอง
เจา หนาที่ธรุ การ

 ประทบั ตราชือ่ ผูลงนาม
 ออกเลขที่หนังสือเพอ่ื นาํ สง

เจาหนาทีธ่ ุรการ
 เกบ็ สําเนาหนังสือ /สง คืนใหเ จา ของเรือ่ ง

ภาพท่ี : 3 งานสง่ หนงั สอื

[คมู ือการบรหิ ารจัดการศูนยถา ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

33

ขัน้ ตอนการดาํ เนินงาน เร่ือง งานธุรการ (งานร่างโต้ตอบ

เจาหนาที่ธรุ การ 1 1 เร่อื งท่จี ะราง

 รับคําสั่งจาก ผอ.ศูนยฯ /บคุ ลากรภายในศูนยฯ

เจา หนาท่ีธุรการ
สง หนงั สอื ใหพนักงานพมิ พ

พนักงานพิมพ
ดาํ เนนิ การจดั พิมพ

เจาของเรอ่ื ง แกไ ข
ตรวจความถกู ตอง

ถกู ตอ ง
แกไ ข เจาหนาทธี่ ุรการ

นําเสนอ ผอ.ศนู ยฯ เพอ่ื ลงนาม

พจิ ารณาลงนาม/
อนมุ ตั ิ

เจาหนาทีธ่ ุรการ
 เจาหนาทธี่ รุ การออกเลขหนังสือสง
 สาํ เนาสง เจา ของเร่ือง

ภาพท่ี : 4 งานร่างโต้ตอบหนงั สอื

[คมู ือการบรหิ ารจัดการศูนยถ ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

ขัน้ ตอนการดาํ เนินงาน เร่ือง งานธุรการ (การเวยี นหนังสือ) 34

เจา หนาท่ีธุรการ 1 1 หนังสือเวียนจาก
 รับหนังสอื จากสว นราชการภายนอก สวนราชการภายนอก

เจา หนาท่ธี ุรการ
นําเสนอ ผอ.ศนู ยฯ

ผอ.ศนู ยฯ
พจิ ารณา

สง คนื
เจาหนาที่ธุรการ
จดั ทําหนงั สอื เวียนแจง ใหบ ุคลากรในหนวยงานทราบ

ภาพที่ : 5 การเวียนหนงั สือ

[คมู อื การบรหิ ารจดั การศนู ยถ ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

35

ขัน้ ตอนการดาํ เนินงาน เร่ือง งานธุรการ (การทาํ ลายหนังสือ)

เจา หนาทธ่ี ุรการ 1 1 คําส่งั แตง ต้งั คณะกรรมการ
สาํ รวจหนังสือ
จัดทาํ คําส่ังแตงตง้ั คณะกรรมการสํารวจหนงั สือทคี่ รบกาํ หนด
อายกุ ารเกบ็ รกั ษาเสนอ ผอ.ศูนยฯ ๒ หนังสือบันทกึ ผลสํารวจ

แกไ ข 3 หนงั สอื ขอทําลายหนังสอื

ผอ.ศนู ยฯ พิจารณาแตงต้ัง 4 คาํ สงั่ แตงต้ังคณะกรรมการ
คณะกรรมการ ทาํ ลายหนังสือ

แตง ตัง้ 5 บนั ทึกขออนมุ ัติเพ่ือขอแตง ตงั้
คณะกรรมการทําลายหนงั สือ
 คณะกรรมการสํารวจหนังสอื และคัดแยกหนงั สอื ที่ใช/ไมใ ช ๒ 3
 บนั ทึกผลการสํารวจพรอมจดั ทาํ บัญชีหนังสอื ขอทาํ ลาย 5
6 หนงั สือบนั ทกึ ขอทําลายหนงั สือ

ผอ.ศนู ยฯ พจิ ารณาขัน้ ตน ไมอ นุมัติ หนังสือบันทึกการทําลาย
อนุมัติ หนงั สือ
7

 เจา หนา ที่ธุรการทําหนังสอื แตงตงั้ คณะกรรมการทําลาย 4
หนังสือ เสนอผอ.ศูนยฯ เพอื่ ขอความเหน็ ชอบ

 ผอ.ศนู ยฯ เห็นชอบเสนอรายชอื่ คณะกรรมการทําลาย

อธิบดฯี พจิ ารณา ไมอนุมัติ

อนมุ ัติ/สงคืนเอกสาร 6

เจา หนา ท่ีธรุ การทําบันทกึ เพอ่ื สงหนงั สือขอทําลายไปหอ
จดหมายเหตุฯ

หอจดหมายเหตุฯ พจิ ารณา ทาํ ลายไมไ ดใหเก็บไว
ทห่ี อจดหมายเหตุฯ
ทําลายได 7
คณะกรรมการฯ ทาํ ลายหนงั สอื และรายงานการทําลาย
หนังสอื ให ผอ.ศูนยฯ ทราบ

ภาพท่ี : 6 การทําลขาัน้ ยตหอนงันสกอื ารดาํ เนินงาน เร่ือง งานธุรการ (การเกบ็ หนังสือ)

[คูมอื การบริหารจัดการศูนยถ ายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

36

การเก็บระหวา งปฏบิ ัติ ในกรณีท่ีปฏิบตั งิ านยังไมเสรจ็ 1 หนังสอื สง เกบ็
เจาหนา ท่ธี รุ การใหเ จา ของเร่ืองเปน ตามแบบที่ 19
ผูรบั ผดิ ชอบในการจดั เก็บหนังสือ

การเก็บเมอื่ ปฏบิ ัติ เจาหนาที่ธรุ การจดั ทําบัญชี 1
เสรจ็ แลว หนงั สอื สง เกบ็ ตามแบบท่ี 19

การเก็บเพ่อื ใชในการ สงคืนสาํ เนาคูฉบบั
ตรวจสอบ ใหเ จาของเรื่อง

เจาหนา ที่ธรุ การจดั เก็บตน ฉบับ
เขา แฟม

เจาหนาทีธ่ รุ การจัดเก็บหนงั สอื
โดยแยกออกมาจากหนงั สือ
ท่วั ไปเพื่องา ยตอการตรวจสอบ
ครงั้ ตอ ไป

ภาพท่ี : 7 การเก็บหนงั สือ

ขัน้ ตอนการดาํ เนินงาน เร่ือง งานธุรการ (การลา)

[คูมือการบริหารจดั การศูนยถ ายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

เจา หนาท่ีธรุ การ 1 37
 รบั ใบลาปว ย พักผอน ลากิจ ของบคุ ลากรศูนยฯ
1 ใบลา
2 สมดุ คมุ วนั ลา

ตรวจวันลา ไมถ ูกตอ ง สงคืนเจา ของเร่ือง
ถกู ตอ ง
ไมอ นญุ าต เสนอ ผอ.ศนู ยฯ

พิจารณาอนุญาต 2

อนุญาต

เจาหนาท่ธี ุรการ
 บันทึกวันลา
 จัดเกบ็ เอกสาร

ภาพท่ี : 8 การลา

[คูมอื การบริหารจัดการศนู ยถ ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

38

ขัน้ ตอนการดาํ เนินงาน เร่ือง งานธุรการ (การตรวจสอบการปฏบิ ัตริ าชการ)

เจาหนาทธ่ี ุรการ 1 2 1 สมดุ เซน็ ชือ่ การ
มาทํางาน
นําสมดุ คมุ การลา/สมุดเซ็นชอ่ื การมาทํางาน
ของขา ราชการ/ลูกจา งประจาํ /พนกั งานราชการ 2 สมดุ คุมวนั ลา
มาตรวจสอบความถูกตอง 3 งบลงเวลาการปฏบิ ัติ

เจา หนาท่ธี ุรการ 3 ราชการประจาํ ป

จดั ทาํ งบลงเวลาการปฏบิ ตั ริ าชการประจําป 4 บันทกึ แจง สง งบลง
เสนอ ผอ.ศูนยฯ เวลาการปฏบิ ัติ

ผอ.ศูนยฯ รับทราบ 4

อนุมัติ
เจา หนาทธ่ี ุรการ
เจา หนา ทีธ่ ุรการทาํ บนั ทกึ แจง สงงบลงเวลาการ
ปฏบิ ตั ริ าชการประจําป ไปยัง สทส.

ธุรการเก็บสําเนาเพือ่ ประกอบการ
พิจารณาเลือ่ นขน้ั เงนิ เดือน

ภาพท่ี : 9 การตรวจสอบการปฏิบตั ริ าชการ

[คูมือการบริหารจัดการศนู ยถ ายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

39

กระบวนงานพสั ดุ

มีหน้าท่ีในการรวบรวมแผนปฏิบตั กิ ารจดั ซอื ้ -จดั จ้าง ของหนว่ ยงานในสถาบนั สง่ สํานกั งานตรวจเงินแผน่ ดนิ บริหารจดั การในการจดั หาพสั ดขุ อง
สถาบนั ให้เป็นไปตามแผนปฏิบตั กิ ารจดั ซอื ้ -จดั จ้าง และการบริการสญั ญาให้ถกู ต้องตามระเบยี บ จดั ทําบญั ชีวสั ดุ และทะเบยี นครุภณั ฑ์

จดั หาพสั ดุ การควบคมุ และการจาํ หนา ยพัสดุ

การจัดซื้อ/จัดจาง การเก็บรักษา การเบกิ – จา ย การตรวจสอบ การจําหนา ย

วิธีตกลงราคา วิธสี อบราคา วธิ ปี ระกวดราคา วธิ พี เิ ศษ วิธกี รณพี เิ ศษ วิธปี ระมลู ดวยระบบ
อิเลก็ ทรอนิกส

ภาพท่ี : 10 กระบวนงานพสั ดุ

[คูม ือการบริหารจดั การศนู ยถ า ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

ขัน้ ตอนการดาํ เนินงาน เร่ือง งานพสั ดุ (การจัดซือ้ /จดั จ้าง) 40

เจา หนา ที่พสั ดุ 1 23 เอกสาร/ใบสําคัญ

สํารวจความตอ งการจัดซอื้ /จัดจาง 45 1 แผน
 แผน 6
 บญั ชวี สั ดุ 2 บัญชีวสั ดุ
 บนั ทกึ แจง ความประสงค 78
9 10
เจา หนา ท่พี สั ดุ 3 บันทึกแจง ความประสงค
 รวบรวม ตรวจสอบ รายการจดั ซ้ือ/จัดจา ง 11
 จัดทาํ บันทกึ ขออนุมตั จิ ัดซ้ือ/จดั จาง เสนอผูอ าํ นวยการศนู ยฯ 12 4 ใบเสนอราคา
13
นาํ เสนอเพือ่ อนุมตั ิ ไมอ นุมัติ 14 5 บันทกึ ขอความเหน็ ชอบ/
15 อนุมัติ
อนุมัติ
เจา หนาทพี่ สั ดุ 6 ระเบียบสํานกั นายกรฐั มนตรี
วา ดว ยการพสั ดุ พ.ศ.2535
 ทาํ สญั ญา ขอ ตกลง ใบส่งั ซอื้ /จางกับผขู าย/ผูรับจา ง และที่แกไ ขเพมิ่ เตมิ
เพื่อจัดซอ้ื /จดั จา ง
7 ขอมูลหลักผูขาย
 จดั ทาํ PO ในระบบ GFMIS

เจาหนา ทพ่ี ัสดุ 8 สญั ญา ขอตกลง
รับสินคา / รับมอบงาน ใบสง่ั ซ้อื /จาง

คณะกรรมการตรวจรับฯ 9 ทะเบยี นคุมเลขท่ีสญั ญา
ผา น
ไมผา น 10 ใบ PO ในระบบ GFMIS
เจา หนา ที่พัสดุ
สง เบิกจา ยเงินใหก ับฝายการเงิน 11 ใบสงของ/ใบแจง หน/ี้
ใบกาํ กับภาษี

12 ใบตรวจรับ

เจาหนาทพี่ สั ดุ 13 ใบตรวจรบั ในระบบ GFMIS
ทาํ การตรวจรบั ในระบบ GFMIS 14 บันทึกสงเบิกจายเงนิ

เจาหนา ท่ีพสั ดุ 15 สมดุ คุม
ลงบญั ชวี ัสด/ุ ทะเบยี นครุภณั ฑ

ภาพท่ี : 11 การจดั ซอื ้ /จดั จ้าง

[คมู ือการบริหารจดั การศนู ยถา ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

41

ขัน้ ตอนการดาํ เนินงาน เร่ือง งานพสั ดุ (การเกบ็ รักษาพสั ดุ)

เจา หนาท่พี ัสดุ 1 สมุดทะเบียนคุมพสั ดุ
รบั มอบพัสดุ
1
เจา หนา ที่พสั ดุ
แยกประเภทพสั ดุ

เจา หนา ทีพ่ สั ดุ
ลงบญั ชีทะเบียนคุม

เจาหนาทพี่ ัสดุ
เกบ็ รักษาพสั ดใุ นท่ปี ลอดภยั

ภาพท่ี : 12 การเก็บรักษาพสั ดุ

[คมู อื การบริหารจัดการศูนยถายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

42

ขัน้ ตอนการดาํ เนินงาน เร่ือง งานพสั ดุ (การเบกิ – จ่ายพสั ดุ ครุภณั ฑ์)

1 เจาหนาท่พี ัสดุ
รบั ใบขอเบกิ จากบุคลากรในหนว ยงาน

เบกิ พัสดุ ตามจาํ นวนทข่ี อเบิก เบกิ ครภุ ัณฑ
นอ ยกวา จาํ นวนที่ขอเบิก
ไมอนญุ าต ไมอนญุ าต

หวั หนาเจา หนาทพ่ี ัสดุ หวั หนาเจา หนา ทีพ่ สั ดุ
พจิ ารณาการขอเบิก พิจารณาการขอเบกิ

อนุญาต อนุญาต
เจาหนาท่ีพัสดุ
เจาหนาทีพ่ สั ดุ จายสิ่งของใหผูขอเบิก
จา ยส่ิงของใหผูขอเบิก (ใสจ าํ นวนทร่ี ับของ)

ผขู อเบิกลงลายมือชอ่ื หลงั เสรจ็ ส้นิ การใชง าน
การรบั สง่ิ ของ ผูเบิกสงคนื สงิ่ ของใหแ ก

เจาหนา ท่ีพสั ดลุ งบัญชี 2 เจา หนาทพ่ี ัสดุ
จา ยส่งิ ของ
เจาหนาท่ีพัสดุตรวจสอบ
1 ใบเบิกพสั ดุและครภุ ัณฑ ความเรียบรอ ย และใส
2 สมุดบัญชกี ารเบกิ จายพสั ดุ วันท่รี บั คนื ส่งิ ของ ลง
ลายมือช่ือไวเปน หลักฐาน
ภาพท่ี : 13 การเบกิ – จ่ายพสั ดุ ครุภณั ฑ์
เจาหนา ทพี่ สั ดเุ ก็บ
[คมู อื การบรหิ ารจดั การศนู ยถา ยทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ] สงิ่ ของไวในท่ีปลอดภยั

43

ตอนการดาํ เนินงาน เร่ือง งานพสั ดุ (การตรวจสอบ)

แตง ตั้งคณะกรรมการตรวจนับพัสดคุ งเหลอื 1 1 คาํ ส่ังแตงตัง้ คณะกรรมการ
กอนสน้ิ เดือนกันยายนของทุกป ตรวจนบั พัสดุคงเหลอื

คณะกรรมการตรวจสอบการรบั จา ยพัสดุ ต้ังแต 2 บันทกึ รายงานผลการ
วนั ที่ 1 ตุลาคมปก อนจนถงึ วันที่ 30 กนั ยายน ตรวจสอบพัสดคุ งเหลอื
ปป จจบุ นั
3 รายงานผลการตรวจสอบ
คณะกรรมการตรวจนบั พัสดุประเภทที่ยงั พสั ดุคงเหลอื
คงเหลอื อยู ณ วันสิ้นงวด
4 คําสงั่ แตง ตง้ั คณะกรรมการ
สอบหาขอเทจ็ จริง

คณะกรรมการรายงานผลการตรวจสอบใหก ับ 2
ผอ.ศูนยฯ ทราบ

เจา หนา ทพ่ี ัสดุสงรายงานไปยงั สนง.ตรวจเงิน 3
แผน ดินภูมภิ าค 1 ชดุ และสงไปยงั สทส. 1 ชดุ
กรณีมีพสั ดเุ สื่อมชํารุด หรอื สูญไป
ผอ.ศูนยฯ แตง ต้ังคณะกรรมการ
สอบหาขอเท็จจริง 4

ผอ.ศูนยฯ พิจารณา กรณมี พี ัสดเุ สอื่ มชํารดุ จากการใชง านปกติ หรอื สูญไปตามธรรมชาติ
กรณีทจี่ ะตอ งหาผรู บั ผดิ ชอบ

ผอ.ศนู ยฯ ดาํ เนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกย่ี วของ

ดาํ เนินการจาํ หนายได

ภาพท่ี : 14 การตรวจสอบ

[คมู ือการบริหารจดั การศนู ยถายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

44

ขัน้ ตอนการดาํ เนินงาน เร่ือง งานพสั ดุ (การจาํ หน่าย)

ดําเนินการตรวจสอบพสั ดหุ มดความจาํ เปน 1 บนั ทกึ รายงานผลการ
หรือสิน้ เปลืองคาใชจ ายตอหนวยงาน ตรวจสอบพสั ดุ

เจา หนา ที่พัสดุเสนอรายงานตอผอ.ศนู ยฯ 1

ไมอนมุ ัติ

ผอ.ศูนยฯ พจิ ารณา

อนุมตั ิ

- ขาย
- แลกเปล่ยี น
- โอน
- แปรสภาพหรอื ทําลาย

นาํ เงินท่ไี ดจ ากการขายเขาเปน รายได
แผนดิน

ภาพท่ี : 15 การจําหนา่ ย

[คูมือการบรหิ ารจดั การศนู ยถ า ยทอดเทคโนโลยีการสหกรณ]

45

กระบวนงานการเงนิ และบญั ชี

กระบวนงานการเงิน มหี น้าท่ีความรับผิดชอบหลกั
1. ดําเนินการรับ-จา่ ยเงินทกุ ประเภทของหนว่ ยงาน
2. จดั เก็บรักษาเงินตามกฎ ระเบยี บ และข้อบงั คบั
3. รายงานยอกเงนิ คงเหลอื เสนอผ้บู ริหารเป็ นประจําทกุ วนั ท่ีมกี ารรับ-จ่ายเงนิ
4. ดาํ เนนิ การฝาก-ถอน และโอนเงินฝากธนาคารทกุ ประเภทของหนว่ ยงาน
5. บริหารจดั การการเงิน เพ่ือให้ได้รับประโยชน์สงู สดุ
6. ดาํ เนินการเตรียมจา่ ยเงินสดและเช็ค เสนอผ้มู ีอํานาจสงั่ จา่ ยลงนาม

กระบวนงานบญั ชี มีหน้าท่ีความรับผดิ ชอบหลกั
1. ตรวจสอบเอกสารหลกั ฐานการรับ-จา่ ยเงินในแตล่ ะวนั เพื่อบนั ทกึ รายการบญั ชี
2. จดั ทําบญั ชีทกุ ประเภทของหนว่ ยงาน
3. จดั ทํารายงานการเงนิ ประจําเดือน และประจําปี เสนอผ้อู ํานวยการศนู ย์ถ่ายทอด
เทคโนโลยีการสหกรณ์

[คมู ือการบรหิ ารจัดการศูนยถ ายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ]

46

ตรวจหลกั ฐาน การเบิกจา ยเงิน การรบั – สงเงนิ จดั ทําทะเบียนคุม จัดทํารายงานการเงิน จดั ทําเอกสาร
เอกสารทางการเงนิ ใน - นอกงบประมาณ คืนคลงั ทกุ ประเภท ตางๆ การเบกิ เงินบุคลากร

- ใบแจง หนี้ ตรวจสอบความถกู ตองของงบทดลอง - ทะเบยี นคมุ เงนิ ทเ่ี บกิ - รายงานงบทดลอง - การลาออก
- ใบสําคญั ในระบบ GFMIS เพ่อื ใหขอ มลู มคี วาม จากคลงั - รายงานสถานะการใช - เกษียณอายุราชการ
ถูกตอ งตามเกณฑคงคา ง - ทะเบียนคมุ หลักฐานขอเบิก จา ยเงนิ งบประมาณ - เสียชวี ติ
- ทะเบียนคุมเงนิ ประจาํ งวด - รายงานจดั เก็บและนาํ
ภาพท่ี : 16 งานการเงนิ - ทะเบียนคมุ เงินคา ใชจาย สง เงนิ รายไดแ ผนดนิ
งบกลาง - รายงานเงินสดคงเหลือ
[คมู อื การบรหิ ารจัดการศนู ยถายทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ] - ทะเบียนคุมการรบั และ ประจาํ วัน
นาํ สง เงนิ รายไดแผนดนิ - รายงานเคลอื่ นไหวเงนิ
- ทะเบยี นคมุ เงินทดรอง ฝากคลัง
ราชการ - รายงานสรปุ การขอ
- ทะเบียนคุมลูกหนีเ้ งนิ ยืม เบกิ เงิน
ราชการ - รายงานการประเมนิ ผล
- ทะเบียนคมุ การจายเช็ค ทางบญั ชี
- ทะเบยี นคุมการใชใบเสรจ็ - รายงานงบกระทบยอด


Click to View FlipBook Version