ย อดครู
ผู้ มี อุ ด ม ก า ร ณ์
โครงการ
“ตามรอยเกียรติยศครูผู้มอี ุดมการณแ์ ละจติ วญิ ญาณคร”ู
พ.ศ. ๒๕๕๔
ยอดครูผู้มอี ดุ มการณ์
โครงการ
“ตามรอยเกียรติยศครผู ้มู ีอุดมการณแ์ ละจิตวิญญาณคร”ู
พ.ศ. ๒๕๕๔
ยอดครผู ู้มอี ดุ มการณ
์
โครงการ “ตามรอยเกียรตยิ ศครผู มู้ อี ดุ มการณ์และจิตวญิ ญาณครู”
พ.ศ. ๒๕๕๔
จัดทำโดย สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
ปีทีพ่ ิมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๔
จำนวนพิมพ์ ๑๒,๕๐๐ เล่ม
พิมพ์ที่ โรงพิมพช์ ุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกดั
๗๙ ถนนงามวงศว์ าน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ๑๐๙๐๐
โทร. ๐-๒๕๖๑-๔๕๖๗ โทรสาร ๐-๒๕๗๙-๕๑๐๑
นายโชคดี ออสุวรรณ ผู้พิมพผ์ ู้โฆษณา
ผ
ู้ที่เกี่ยวขง้อางนทกุกาครนศึกโดษ
ยา
เฉเปพ็นางะาอนยท่างี่ขตย้ออิ่งงงผอรู้ทาฐัี่เศปมัย็นนเว“ตลคารรแีวู”ลา่ งะกาคคานวำรขนากอมยิรงวมคะิรรทิ
ยูนะรั้นอวอยงา่าศจงึกกยลิ่งษข่าาอวธไงดิกผ้วาู้ด่ารำไ
เมน่มินีวงันาจนบแสลิ้นะ
เพราะครูมิได้เพียงแค่สอนหนังสือเท่านั้น แต่ครูยังต้องอบรมดูแลไปถึงคุณภาพชีวิตด้านต่าง ๆ
ของนักเรียนจนกว่าจะจบการศึกษาในแต่ละระดับ
จำนวนโรงเรียนกว่า ๓๐,๐๐๐ โรงเรียน ที่ตั้งอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย
มิใช่มีเพียงโรงเรียนที่อยู่ในที่เจริญและสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังมีโรงเรียนจำนวนมาก
ที่กระจัดกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ซึ่งมีบริบทต่างกันออกไป ทั้งเรื่องของสภาพภูมิศาสตร์ ชุมชน
และวฒั นธรรมการดำรงชีวิต ดังน้ัน ครูจึงต้องเรียนรู้เรือ่ งท้ังหลายเหลา่ นี้ไปพร้อม ๆ กับการสอน
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก แต่ครูก็สามารถทำได้ ครูเหล่านี้จึงนับว่าเป็นครูผู้มีอุดมการณ์และ
จิตวิญญาณครอู ยา่ งแท้จริง
ขอแสดงความชื่นชมและยินดีเป็นอย่างยิ่งกับคุณครูทั้ง ๔ คน ที่ได้รับรางวัล
“ยอดครูผู้มีอุดมการณ์” ในปีนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะเป็นกำลังสำคัญ เป็นแบบอย่าง
และเปน็ กำลงั ใจให้เพื่อนครูทุกคนในการทำหน้าทีต่ อ่ ไป
(นายชินวรณ์ บณุ ยเกียรติ)
รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ
คำนิยม
ของเลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน
ประเทศชาติจะพัฒนาไปได้อย่างม่ันคงและมีคุณภาพ ย่อมขึ้นอยู่กับคุณภาพ
ของประชากรของประเทศนั้น ๆ เป็นสำคัญ และประชากรจะมีคุณภาพตามที่คาดหวังเพียงใด
ก็ขึ้นอยู่กับการศึกษาอบรมของครอบครัวและสถานศึกษาน่ันเอง อาจกล่าวได้ว่าโรงเรียน คือ
บ้านที่สองของเด็ก และครูก็เปรียบเสมือนพ่อ-แม่คนที่สองของเด็ก ดังนั้น “ครู” จึงเป็นผู้ที่
มีความสำคัญยิ่งในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและคุณภาพชีวิตของเยาวชนที่ส่งผล
ตอ่ การพฒั นาประเทศชาติ และครจู ำนวนมากเป็นผู้อยเู่ บื้องหลงั ความสำเร็จเหล่านี้
โครงการคัดเลือก “ตามรอยเกียรติยศครูผู้มีอุดมการณ์และจิตวิญญาณครู” เป็น
โครงการที่มุ่งค้นหาและเชิดชูเกียรติของครูผู้สอนที่อยู่ห่างไกล เสียสละ และมีความวิริยะ
อุตสาหะ ทุ่มเทให้กับการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนอย่างเต็มที่ ท่ามกลางข้อจำกัด
นานปั การ แตค่ รูเหลา่ น้ันก็มิได้ยอ่ ท้อ
จึงขอชื่นชมและขอแสดงความยินดีแก่คุณครูทั้ง ๔ คน คือ คุณครูสุพิทยา เตมียกะลิน
คุณครูศรัทธา ห้องทอง คุณครูสิริยุพา ศกุนตะเสฐียร คุณครูศิริพร หม่ันงาน ที่ได้รับรางวัล
อันมีความหมายและทรงคณุ คา่ ในครั้งนี้
ขอคารวะด้วยใจในอุดมการณ์และจิตวิญญาณครูอันสูงส่งของท่านทั้ง ๔ คน และ
ขอให้ความดีที่ท่านได้กระทำให้บังเกิดแล้วนี้ ส่งผลให้ท่านประสบความเจริญรุ่งเรืองในสิ่งที่ดีงาม
เป็นทีร่ กั และศรัทธาของเพื่อนร่วมวิชาชีพ ตลอดจนบุคคลท้ังหลายตลอดไป
(นายชินภทั ร ภมู ิรตั น)
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
“คร”ู เปน็ บคุ คลสำคญั ยงิ่ ตอ่ ความสำเร็จ
นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบนั เป็นทีย่ อมรับกันว่า “ครู” เป็นบคุ คลสำคญั ยิ่งตอ่ ความสำเร็จ
ในการจัดการศึกษาของเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ แม้ในปัจจุบันจะมีสื่อและ
แหล่งเรียนรู้มากมาย ที่เด็กและเยาวชนจะสามารถค้นคว้าได้ด้วยตนเอง หากแต่ครูยังคงมี
ความสำคัญเป็นลำดับแรกในการอบรมสั่งสอนเด็กและเยาวชน อีกทั้งเป็นผู้ชี้แนะให้เกิด
กระบวนการคิดและมีวิจารณญาณที่สามารถเลือกรบั ข้อมลู สารสนเทศทีเ่ ปน็ ประโยชน์
แม้ว่าครูจะมีภาระมากเพียงใด หากแต่ครูต้องมีพันธกิจสำคัญ คือ การสอน
ที่ต้องทุ่มเท เสียสละ และอุทิศตน ในขณะเดียวกัน ครูต้องปรับตัวให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลง
ต่าง ๆ ในโลกยุคโลกาภิวัตน์ พร้อมกับการดำรงตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีด้วย “จิตวิญญาณครู”
จึงเป็นที่น่ายินดีที่ครยู งั คงความศรทั ธาและเป็นทีย่ อมรับของสงั คมไทยตลอดมา
เนื่องในวาระอันเป็นมงคลที่กระทรวงศึกษาธิการโดยสำนักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพื้นฐานได้ยกย่องเชิดชู “ยอดครูผู้มีอุดมการณ์” ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๔
ผมขอแสดงความยินดีกับครูที่ได้รับรางวัล และขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนครูทุกคนทั่วประเทศ
ที่ได้มงุ่ มั่น ทุ่มเท ในการจดั การศึกษาเพื่อประโยชน์ของเด็กและเยาวชนไทยอย่างแท้จริง
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายดลบันดาลให้เพื่อนครูประสบ
แตค่ วามสขุ มีพลงั กายและพลังใจทีเ่ ข้มแข็ง เพือ่ การพฒั นาการศึกษาของชาติต่อไป
(นายสมเกียรติ ชอบผล)
รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
“ครู...ภารกจิ ทส่ี ำคัญต่อการพฒั นาเดก็ และเยาวชน”
“ครู” เป็นผู้ที่มีความสำคัญและมีบทบาทอย่างยิ่งในสังคมไทย ทั้งในฐานะที่เป็น
ผู้อบรมสงั่ สอนเดก็ และเยาวชน ซึง่ เป็นอนาคตของชาติ และในฐานะทีเ่ ปน็ แบบอย่างทีด่ ีของสงั คม
ในปัจจุบัน รัฐให้ความสำคัญต่อครูเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการกำหนดให้ครูเป็นวิชาชีพควบคุม
ซึ่งมีมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวิชาชีพ ที่ครูจะต้องถือปฏิบัติเพื่อเกียรติและ
ศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพครู ดังนั้น ครูจึงต้องตระหนักในภารกิจที่สำคัญยิ่งต่อการพัฒนาเด็ก
และเยาวชนไทยให้มีความพร้อมทั้งด้านวิชาการ คุณธรรม จริยธรรม และการรองรับ
ความเปลี่ยนแปลงแห่งโลกในอนาคต
แม้ในบางพื้นที่จะมีความทุรกันดารและประสบกับปัญหาอุปสรรคนานัปการ หากแต่ครู
ที่อบรมสั่งสอนเด็กและเยาวชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศต่างปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง
อดทน และเสียสละ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ขอยกยอ่ งและเชิดชูครูผู้มีอุดมการณแ์ ละจิตวิญญาณครู เพือ่ สร้างความเชือ่ มนั่ ศรัทธาในวิชาชีพครู
และเปน็ แบบอยา่ งทีด่ ีของสงั คม
ผมขอชื่นชมในผลงานของเพื่อนครูที่ได้รับรางวัล “ตามรอยเกียรติยศครูผู้มีอดุ มการณ์
และจิตวิญญาณครู” ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ นี้ และหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนครู
ท่ัวประเทศ ในการพฒั นาการศึกษาของเด็กและเยาวชนไทย
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลคุ้มครองให้เพื่อนครูทุกคน
มีความสุข มีกำลังใจ กำลังกายที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะร่วมกันพัฒนาการศึกษาไทยให้มีคุณภาพ
ยิ่งขึ้นต่อไป
(นายเสนห่ ์ ขาวโต)
รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน
“ขอเปน็ กำลังใจใหค้ รทู ุกคน”
แม้ว่าการศึกษาของไทยในปัจจุบันประสบกับปัญหานานัปการ แต่บุคคลสำคัญ
ที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการจัดการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชน คือ “ครู” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ครูที่ต้องปฏิบัติงานในพื้นทีท่ ีล่ ำบาก ห่างไกล และทุรกันดาร
ครูจำนวนไม่น้อยต้องอดทน เสียสละ และอุทิศตนในการจัดการศึกษาให้แก่ศิษย
์
ด้วยจิตวิญญาณครูอย่างแท้จริง โดยไม่หวังผลประโยชน์ใด ๆ หากแต่เต็มเปี่ยมด้วยความรัก
ความเมตตา และความปรารถนาดีต่อศิษย์ทุกคน เปรียบเสมือนการสืบทอดเจตนารมณ์และ
อดุ มการณอ์ นั แนว่ แนข่ องเพอื่ นครผู เู้ สยี สละ ดงั เชน่ วรี กรรมของครจู หู ลงิ ปงกนั มลู ผเู้ ปน็ แบบอยา่ ง
ทดี่ ขี องสงั คม
ในปีพทุ ธศกั ราช ๒๕๕๔ กระทรวงศึกษาธิการโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขั้นพื้นฐานได้ยกย่องและเชิดชูครูผู้มีอุดมการณ์และจิตวิญญาณครูอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผมขอแสดง
ความยินดีกับเพื่อนครูที่ได้รับรางวัล “ตามรอยเกียรติยศครูผู้มีอุดมการณ์และจิตวิญญาณครู”
และขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนครูทุกคนทั่วประเทศที่จะได้สานต่อความรัก ความเมตตา และ
ความปรารถนาดีต่อศิษย์ด้วยความทุ่มเท เสียสละในการอบรมส่ังสอนและกล่อมเกลาให้ศิษย์
เป็นอนาคตทงี่ ดงามของประเทศตอ่ ไป
ในวาระแห่งความปีติยินดีนี้ ผมขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนครูทุกคนมีความเข้มแข็ง
ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทดี่ ว้ ยจติ วญิ ญาณครู เพอื่ ความเจรญิ กา้ วหนา้ ของการศกึ ษาไทยตอ่ ไป
(นายชยั พฤกษ์ เสรีรักษ)์
รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
คำนำ
“ครู” เป็นหัวใจแห่งความสำเร็จในการปฏิรูปการเรียนรู้ตามแนวปฏิรูปการศึกษา
การพัฒนาอนาคตของประเทศชาติ ในทางองค์กรภาคราชการหรือรัฐสนับสนุนและได้กำหนด
ให้ครูเป็นวิชาชีพควบคุม โดยกำหนดให้มีมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
ตามที่ได้บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ. สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ ในส่วนของครู
ที่อยู่ในภาคราชการ ได้กำหนดให้ครูเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ ครูจะต้องมีคุณสมบัติ
คุณลักษณะ ตามมาตรฐานตำแหนง่ และมาตรฐานวิทยฐานะ ตามที่ได้บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ. ระเบียบ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่ง พ.ร.บ. ทั้งสองฉบับ ได้กำหนด
สิ่งสำคัญกับความเป็นครูสอดคล้องกัน คือ การกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านจรรยาบรรณ
ของวิชาชีพ คุณธรรม ระเบียบวินัย เพื่อให้ครูมีชื่อเสียง มีเกียรติและศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพ
มีความเป็นครู มีจิตวิญญาณครู
ในส่วนของครูที่อยู่ในภาคเอกชนหรือหน่วยงานองค์กรต่าง ๆ ก็ไม่มีความแตกต่างกัน
ในทางสังคม ครูจึงเป็นผู้ที่สังคมคาดหวังในการสร้างคน สร้างประชากร ในการพัฒนาประเทศ
ทั้งสังคม เศรษฐกิจและการเมือง ในสภาพปัจจุบัน การดำรงตนของครูสังกัดสำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่มีพื้นที่ทั่วประเทศหรือครูที่มีภารกิจหรือพันธกิจระดับ
การศึกษาขั้นพื้นฐานส่วนใหญ่อยู่ในบริบทของชุมชน สังคม เขตพื้นที่ที่มีความยากลำบาก
มีปัญหา ทั้งด้านภัยทางสังคม ความแตกต่างทางวัฒนธรรม ภัยทางความม่ันคงของประเทศ
ภัยแหง่ เศรษฐกิจ ด้านความยากจน มีรายได้ตำ่
แต่ท่ามกลางปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ มีครูจำนวนมากที่มีความศรัทธาในวิชาชีพ
มีความอดทนและรับผิดชอบ มีความเสียสละ ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือ รัก เมตตา และ
ปรารถนาดีตอ่ ลกู ศิษย์ ดำรงชีวิตอยา่ งเหมาะสม แบ่งครึง่ ชีวิตให้กบั ตนเองและสังคม เป็นต้นแบบ
ที่ดีของสังคม รวมทั้งสร้างค่านิยมให้สังคมอันเป็นที่เรียกขานในสังคมว่าการเป็นครูด้วย
“จิตวิญญาณครู” ดังเช่น ครูจูหลิง ปงกันมูล ผู้เป็นต้นแบบเชิงประจักษ์ของผู้มีอุดมการณ
์
และจิตวิญญาณคร
ู
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความมุ่งม่ันที่จะส่งเสริม เสริมสร้าง
ให้ครมู ีเจตคติต่อวิชาชีพ มีคุณธรรม วินัย และจรรยาบรรณ มีจิตวิญญาณครตู ามที่ภาคราชการ
กำหนดและภาคสังคมคาดหวัง จึงได้ดำเนินการคัดเลือกครู ทั้งภาคราชการและภาคเอกชน
ใน ๔ ภูมิภาคของทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๐ เป็นต้นมา เพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติให้เป็น
“ยอดครูผู้มีอุดมการณ”์
สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน
สารบัญ
หนา้
คำนิยม
คำนำ
๑
แด.่ ..ครผู ู้มีอุดมการณ์วิญญาณครู ๓
โรงเรียนของฉนั ...บ้านสล่าเจียงตอง
ผอ.สพุ ิทยา เตมียกะลิน
๑๗
โรงเรียนบ้านสล่าเจียงตอง
ผอ.ทอปบูท
ผอ.ศรัทธา ห้องทอง
โรงเรียนบ้านคลองน้ำใส
หน้า
ดว้ ยความรู้ ความสจุ ริต และปญั ญา การศึกษาก้าวไกล ๔๙
ผอ.สิริยุพา ศกนุ ตะเสฐียร
โรงเรียนศึกษานารี
ครูนักพัฒนาวิถีชีวิตของชนเผ่า ๗๑
ครูศิริพร หมั่นงาน
โรงเรียนบ้านวังอ้ายคง
ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรือ่ ง การประกาศเกียรติคุณผู้รบั รางวลั
“ตามรอยเกียรติยศครผู ู้มีอดุ มการณ์และจิตวิญญาณคร”ู คร้ังที่ ๕ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ๘๖
คำส่งั กระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. ๔๒๑/๒๕๕๓ เรือ่ ง แต่งต้ังคณะกรรมการสรรหาและ
คัดเลือกผู้เข้ารบั รางวลั โครงการ “ตามรอยเกียรติยศครูผู้มีอดุ มการณ์และจิตวิญญาณคร”ู ๘๙
คณะผู้จัดทำ ๙๑
แ ด่ . . . ค รู ผู ้ มี อ ุ ด ม ก า ร ณ
์
วิ ญ ญ า ณ ค รู
กวา่ จะเติบโตงามตามทีห่ วัง
กวา่ จะหย่งั รากลึกผนึกแผ่น
กว่าจะชชู อ่ ชอ่มุ คุ้มถิน่ แคว้น
กว่าจะเป็นไม้แก่นท้ังแผน่ ดิน
เริม่ จากเพาะเมล็ดพันธ์ุการศึกษา
บม่ คุณค่าด้วยแรงแห่งศาสตรศ์ ิลป
์
และหยาดเหงือ่ บนเนื้องานทีห่ ว่านริน
ของคุณครผู ู้ไมส่ ิ้นซึ่งแรงใจ
อุดมการณส์ านศรทั ธาคา่ ความคิด
ยอมอทุ ิศรา่ งพลีชีวีให้
ทนลำบากตรากตรำทำเพื่อใคร
เพื่อเด็กไทยได้ดีมีวิชา
ยอดครูผู้มอี ุดมการณ์
๑
จากความขาดเป็นความครบพบความสุข
จากความทกุ ข์เปน็ ภูมิใจให้หรรษา
จากความท้อเป็นความหวังประดังมา
จากความล้าเปน็ ความล้ำให้ย้ำยิน
ขอเทิดทนู คุณครผู ู้เลิศล้ำ
อดุ มการณน์ ้อมนำมิรู้สิ้น
สวมมงกฎุ ดอกไม้รา่ ยคำริน
ทา่ นเป็นปิ่นเปีย่ มปัญญานา่ นิยม
กระทรวงศึกษาธิการจารจารึก
ปลุกสำนึกคณุ ครผู ู้เหมาะสม
สร้างคุณค่าสร้างพลงั เสริมสังคม
ด้วยชื่นชม...อดุ มการณ์วิญญาณคร
ู
ดร.จไุ รรัตน์ วรรณยิง่
นายกสมาคมกวีร่วมสมัย
โ ร ง เ รี ย น ข อ ง ฉั น . . .
บ้ า น ส ล่ า เ จี ย ง ต อ ง
ทนั ทที ่ฉี นั เหน็ คำสัง่ ยา้ ยให้ฉนั ไปดำรงตำแหนง่ ครูใหญ่
ที่โรงเรียนบ้านสล่าเจยี งตอง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแมฮ่ อ่ งสอน
ฉนั รสู้ กึ ตกใจระคนกับความดีใจท่จี ะได้ไปปฏิบัตหิ นา้ ทีค่ รใู หม่ (หลงั เขา)
นึกในใจว่า...เวลาที่ผ่านไปช่างรวดเร็ว “ครหู ลงั ม้า”
เหลือเกิน ทีเ่ ราอยโู่ รงเรียนบ้านสดุ ห้วยนา ๕ ปี ฉันจะใช้ความรู้ความสามารถ และ
แล้วหรือนี
่ ความมานะพยายามที่จะทำให้โรงนาแห่งนี้
สิ่งที่สมบูรณ์แบบฉันไม่เคยได้รับ สิ่งที่ เป็นโรงเรียนให้จงได้
ได้รบั คือความไม่มี ไมค่ รบ และขาดแคลน
๕ ปีเต็มที่ฉันเฝ้าเพียรพยายามหา
จากการที่ฉันเคยเป็นครูที่โรงเรียน
ผู้ใจบุญ และเห็นคุณค่าของการศึกษา
บ้านสุดห้วยนา โรงเรียนที่มีแต่โรงนา
มาเติมเตม็ ความฝันของฉนั ให้เปน็ ความจริง
ซึ่งฉันไม่แน่ใจว่าควรจะเรียกว่าโรงนา หรือ
และแล้วเหมือนพระมาโปรด ฉันได้
คอกควายดี เพราะเป็นโรงโล่งที่มีเพียง ผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยสร้างอาคารเรียน
หลังคามุงใบตองพอคุ้มแดด แต่ไม่กันฝน โรงอาหาร และอาคารประกอบ จนทำให้เดก็ ๆ
และที่สำคัญคือ...โรงเรียนที่นี่ไมม่ ีคร
ู บ้านสุดห้วยนา ลืมสภาพโรงนาเสียสิ้น
ในเมื่อไม่มีครูแล้วเรียกโรงเรียน
ขณะฉันกำลังฝันเฟื่อง และมีความสุข
ได้อยา่ งไร
กับสิ่งที่ฉันได้สร้างมากับมือ ด้วยหยาดเหงื่อ
เรียกได้...เพราะมีนักการภารโรง
แรงงาน และความตั้งใจจริง
นำสื่อการสอนที่สำนักงานประถมศึกษา แต่แล้วฉันก็ต้องสะดุ้งตื่นจากความฝัน
จังหวัดจัดให้ บรรทุกหลังม้าไปให้นักเรียน เมื่อเหน็ คำสง่ั ย้าย...อีกแล้วหรือนี่
ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง ซึ่งอยใู่ นโครงการ
๔ ยอดครูผมู้ อี ดุ มการณ์
บ้านสล่าเจียงตองอยู่ที่ไหน มีสภาพ สภาพสองข้างทางเป็นป่าทึบ ดูน่า
อย่างไร ฉนั ไมอ่ าจหย่งั รู้ได้
สะพรึงกลัว สภาพถนนกึ่งลำธาร มีก้อนหิน
รู้เพียงว่าอยู่ในป่าลึก กลางหุบเขา
ก้อนโต ๆ ขรุขระตลอดระยะทาง ทำเอาฉัน
ติดแนวชายแดนพม่า ต้องเดินลดั เลาะลำห้วย น่ังหัวสั่นหัวคลอนมาตลอดทาง ไม่กล้าแม้จะ
๖๐ กว่าลำห้วย เปน็ ระยะทาง ๙๕ กิโลเมตร หลับตาเพียงช่ัวอึดใจ เพราะไม่รู้ว่าจะเกิด
หน้าแล้งใช้เวลาเดินทางไป-กลับ ๘ ช่ัวโมง อะไรในเสี้ยววินาทีนั้น
หน้าฝนใช้เวลา ๒-๓ วัน
รถวิ่งโขยกเขยก หยุดบ้าง คลานบ้าง
หนูจะไปอยู่อย่างไรล่ะลกู เสียงแม่ร้องถาม
ม า ต า ม ท า ง ท ี่ เ ป็ น หุ บ ห ้ ว ย แ ล ะ หุ บ เ ห ว
ด้วยความหว่ งใย
อยู่ข้างทาง กว่าจะถึงบ้านสล่าเจียงตอง
หนูไม่กลัวหรือลูก เสียงพ่อถามซ้ำ
ตะวันกเ็ กือบจะลับเหลีย่ มเขา
ด้วยความกงั วล
พอรถแล่นเข้าเขตหมู่บ้าน แล้วเลี้ยว
ฉันส่ายหน้า คำตอบสะดุดอยู่ในลำคอ เข้าซอยเล็ก ๆ ไปสักพัก ฉันก็เห็นป้าย
เพราะฉันเองก็ยังไม่รู้ว่า ฉันจะต้องไปพบ โรงเรียนเก่าคร่ำคร่า ตัวอักษรเลอะเลือน
สภาพอย่างไร ทีโ่ รงเรียนบ้านสลา่ เจียงตอง
“โรงเรียนบา้ นสล่าเจียงตอง”
ฉันนึกในใจว่า คงไม่ต่างจากโรงนา
ทันทีที่ฉันละสายตาจากป้ายชื่อ
ที่โรงเรียนบ้านสดุ ห้วยนาเทา่ ใดนกั
โรงเรียน ภาพของกระต๊อบหลังคามุงใบตอง
ฉันจะต้องไปพบกับอะไร ชาวบ้านจะดี ก็ปรากฏแจ่มชัด สภาพที่เห็นทำให้ฉันเริ่ม
กับฉันไหม นักเรียนของฉันจะเป็นอย่างไร ท้อแท้
เพื่อนร่วมงานของฉนั จะเข้ากับฉนั ได้ไหม
โรงเรียนไกลถึงเพียงนี้ ใครที่ไหน
ทุกคำถามพรั่งพรูอยู่ในสมอง ซึ่งฉันก็ จะเข้ามาดู และบริจาคเงินช่วยเหลือ
ยังไมส่ ามารถตอบคำถามเหล่านั้นได้
ฉันเฝ้ารอ จนกระทั่งวันที่ฉันต้อง
เดินทางไปรับตำแหน่ง
ฉันออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ มีพ่อกับแม่
มายืนส่งที่หัวบันไดบ้าน และมองตามรถ
ทีม่ ารบั ฉันจนสุดสายตา
ฉันเหมารถกระบะของคนใกล้บ้าน
ในราคา ๔,๕๐๐ บาท เพราะฉันเองไม่กล้า
ที่จะให้คนทีไ่ ม่รู้จกั คุ้นเคยมาสง่
ยอดครูผมู้ ีอุดมการณ
์ ๕
๖ ยอดครผู มู้ ีอดุ มการณ์
ทนั ทีทีร่ ถจอด เดก็ ๆ หน้าตามอมแมม เจียงตอง ด้วยความรู้สึกอบอุ่นและ
ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ มายืนออกันอยู่หน้ากระต๊อบ คลายกังวล เพราะฉันพอจะเดาได้ว่าเป็น
และมองดูฉันด้วยแววตาตื่นตระหนกแกม อาหารมื้อพิเศษสำหรบั ที่นี่
ประหลาดใจ แล้วก็พร้อมใจกันวิ่งหายไปด้านหลัง หลังอาหารกลางวัน ฉันเดินดูบริเวณ
กระตอ๊ บอยา่ งรวดเร็ว
โดยรอบของโรงเรียน พลางนึกในใจว่า
มีหนูน้อยใจกล้า ๒-๓ คนที่แอบอยู่ ฉันจะยอมเหนื่อยอีกครั้ง เพื่อสร้างโรงเรียน
ข้างกระต๊อบ เฝ้าดูเหตุการณ์ต่าง ๆ ด้วย บ้านสล่าเจียงตอง ให้เป็นโรงเรียนในฝัน
ความอยากรู้อยากเห็น และฉนั แอบเหน็ แววตา ของฉัน เช่นเดียวกบั โรงเรียนบ้านสดุ ห้วยนา
แหง่ ความเปน็ มิตรซ่อนอยดู่ ้วย
เนื่องจากโรงเรียนไม่มีบ้านพักคร ู
หัวหน้าหมูบ่ ้านเปน็ ชาวเขาเผ่าไทยใหญ่ ฉันจึงขอให้หัวหน้าหมู่บ้านพาฉันไปอาศัย
ดทู า่ ทางใจดี ยืนยิ้มรอรับฉนั ด้วยไมตรี พร้อม นอนที่สถานีอนามัยประจำตำบล ซึ่งมี
คณะประมาณ ๑๐ กวา่ คน ที่ฉนั คาดวา่ น่าจะ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นชายร่างเล็กที่มีอายุ
เปน็ ผู้ปกครองนักเรียนกล่มุ ทีว่ ิ่งหนีไปเมื่อครู่
ไล่เลีย่ กบั ฉัน และดูจะเข้าใจความรู้สึกของฉัน
พวกเขาเชิญให้ฉันเข้าไปในกระต๊อบ
ได้ดี เพราะเขาเองก็เคยอยู่ในสภาพเช่นฉัน
ซึ่งมีแครไ่ ม้ตั้งอยู่ ๒-๓ ตวั บนแคร่มีอาหารจัด มาก่อน
เปน็ สำรบั เตรียมพร้อมไว้ต้อนรบั ฉัน
แต่เดิมโรงเรียนบ้านสล่าเจียงตอง
ฉันแอบมองดูอย่างลังเลว่าจะกิน
มีนกั เรียน ๗๘ คน เป็นนกั เรียนประจำ ๑๒ คน
หรือไม่กินดี มีเนื้อย่าง แกงเผ็ดหมู และ
เพราะบ้านอยู่ไกลไม่สามารถเดินทางไป-กลับ
ผดั ผักคะน้า ซึง่ ดนู ่ากินทีเดียว หัวหน้าหม่บู ้าน ได้ภายในวันเดียว ที่นอนของพวกเขาคือ
และคณะเชิญให้ฉันกินข้าวด้วยรอยยิ้ม
กระต๊อบที่ใช้เป็นห้องเรียนในเวลากลางวัน
ทีด่ จู ริงใจและเปน็ มิตร
นั่นเอง นักเรียนประจำกลุ่มนี้จะได้กลับบ้าน
ฉันน่ังลงกินข้าวมื้อแรกที่บ้านสล่า-
เดือนละคร้ัง
ยอดครูผูม้ อี ดุ มการณ์
๗
วันแรกของการทำหน้าที่ครูใหญ่ ฉันใช้ ระยะนั้นเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว
กลยุทธ์จากวิชาการศึกษาที่เรียนมา โดยยึด เดก็ ๆ พากนั เสนอให้ปลกู คะน้า ผกั กาดหอม
หลักการมีสว่ นร่วม ให้นกั เรียนออกความเหน็ และกระเทียม ฉันจึงกำหนดให้เด็กทั้ง
ว่าทำอย่างไร พวกเขาจึงจะมีข้าวกินครบ
๔ กลุ่ม ปลูกผกั แต่ละชนิดทีพ่ วกเขาเสนอกนั
๓ มื้อในแต่ละวัน
ขึ้นมา โดยขอเมล็ดพันธ์ุจากครอบครัวของ
เด็ก ๆ เสนอว่าเราควรปลูกผักทำสวนครวั เด็ก ๆ ที่ปลกู ผักชนิดนั้น ๆ มาจากบ้าน
ร้ัวกินได้กนั เอง ซึ่งแน่นอนฉันเห็นด้วย
เด็ก ๆ ตา่ งดีใจทีพ่ วกเขาจะได้มีอาหารกิน
ฉนั และเดก็ ๆ เดินไปด้านหลังโรงเรียน ครบ ๓ มื้อ เพราะบางคนยากจนขนาด
และแบง่ พื้นที่ในการทำสวนครัว พร้อมจดั เวร ต้องกินข้าวคลุกน้ำพริกเพียงวันละมื้อ ดังนั้น
ดูแลรับผิดชอบ โดยให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม เด็ก ๆ จึงพอใจที่จะอยู่โรงเรียนมากกว่า
กันเองตามความพอใจ เมื่อมีพื้นที่และผู้รับ อยูบ่ ้าน
ผิดชอบเราปรึกษากนั ว่าจะปลูกอะไรกอ่ นดี
๘ ยอดครผู ู้มอี ุดมการณ
์
เมื่อมีอาหารกินครบ ๓ มื้อ แต่ยังขาด จดหมายตอบรับที่จะให้ความช่วยเหลือ
อาคารเรียนและที่นอนที่ถูกสุขลักษณะ
ในการสร้างอาคารพักนอนจากท่านบรรหาร
ฉันเริ่มหาวิธีที่จะขอความช่วยเหลือจาก
และคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา เงินบริจาค
ผู้มีจิตกุศล และมีใจเมตตาที่จะทำบุญ และ ซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างบ้านพักครูและอาคารเรียน
ชว่ ยเหลือการศึกษาของชาติ
จากคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา
ฉันถ่ายภาพโรงเรียน แสดงให้เห็น ม.ร.ว.สุรธวัช ศรีธวัช ผู้ใจบุญทั้งภาครัฐ
ความทุกข์ยากและขาดแคลนของเด็ก ๆ
เอกชน และชาวตา่ งชาติ ทีศ่ รทั ธาในความมงุ่ มั่น
แ ล ะ เ ข ี ย น โ ค ร ง ก า ร ข อ รั บ ก า ร ส นั บ ส นุ น
ของฉัน และเคยให้ความช่วยเหลือตั้งแต่
ง บ ป ร ะ ม า ณ จ า ก บุ ค ค ล แ ล ะ ห น่ ว ย ง า น
โรงเรียนบ้านสดุ ห้วยนา ก็ยังตามมาชว่ ยเหลือ
ทั้งภาครฐั และภาคเอกชนนับสิบแหง่
ฉนั ทีน่ ี่
ฉันเฝ้ารอคำตอบ แต่ก็เงียบหาย การทำความดีเพื่อผู้อื่นโดยไม่หวัง
เหมือนคลืน่ กระทบฝ่ัง จนฉนั เริ่มสิ้นหวงั
สิ่งตอบแทน ทำให้ได้สิ่งตอบแทนที่ยิ่งใหญ่
และแล้ววันที่ฉันรู้สึกหมดหวัง ฉันได้ และเกินความคาดหมายยิง่ นกั
พบแสงแห่งความหวัง จุดประกายให้ฉัน
จากสภาพกระต๊อบ กลายมาเป็น
เริม่ คิดที่จะก้าวเดินตอ่ ไปอยา่ งไม่ท้อถอย
โรงเรียนที่มีอาคารเรียน หอพัก โรงอาหาร
และอาคารประกอบ ทำให้โรงเรียน
บ้านสล่าเจียงตอง มีสภาพเหมาะสมที่จะเป็น
โรงเรียนมากกวา่ เดิม
ยอดครูผู้มอี ุดมการณ
์ ๙
อาจกลา่ วได้วา่ ฉนั อทุ ิศเวลาทั้ง ๒๔ ชัว่ โมง ไม่เก่งก็จะให้เรียนซ้ำชั้น เด็กคนไหนหัวดีก็จะ
ให้เขาเหล่านั้นอย่างไม่รู้สึกเบื่อหรือท้อ ให้เลื่อนชั้น โดยเน้นคุณภาพของผู้เรียน
เพราะฉันไม่ได้คิดว่าเป็นเพียงหน้าที่ แต่มัน มากกว่าปริมาณที่จบ เน้นความเสมอภาค
เป็นจิตวิญญาณแห่งสำนึกของความรับผิดชอบ ทางการศึกษาไม่ว่าจะเป็นเด็กเชื้อชาติไหน
ที่ฉันจะต้องดูแลพวกเขาให้ดีที่สุดเท่าที่ฉัน
อายุเท่าใด ทุกคนมีโอกาสเรียนเหมือนกันหมด
จะทำได้ เพราะเขาเหล่าน้ันคือชีวิตของฉัน
เด็กที่นี่เมื่อจบชั้น ป.๖ ไปเรียนต่อใน
ตั้งแต่ ๖ โมงเช้า ฉันต้องปลุกเด็ก ๆ
ระดับมัธยม มักได้รับการมอบหมายให้เป็น
ให้ตื่นขึ้นมาล้างหน้า แปรงฟัน ไปเลี้ยงสัตว์
หัวหน้าหรือผู้นำ หรือเป็นแกนนำให้กับ
ดูแปลงผัก ทำอาหารเช้ากิน และเข้าเรียน
นักเรียนอื่น ๆ เพราะได้รับการปลูกฝังและ
ซึ่งแรก ๆ จะมีปัญหามาก เพราะอากาศ ฝึกฝนจากฉัน ให้เขารู้จักคิด กล้าพดู กล้าทำ
หนาวเย็น เด็ก ๆ ไม่คุ้นชินกับการตื่นเช้า
ในสิ่งที่ถูกต้อง และฉันจะกันเงินเดือนเอาไว้
ซึง่ ฉนั จะคอ่ ย ๆ ปรับเวลาจาก ๘ โมงมาเป็น ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้เด็กที่จบ
๗ โมง และ ๖ โมง ตามลำดบั ในที่สดุ เดก็ ๆ ป.๖ ทุกคน คนละ ๑,๕๐๐ บาท
ก็ทำได้จนกลายเปน็ ความเคยชิน
จากสายตาของนักเรียนที่มองฉันอย่าง
เด็กนักเรียนที่นี่มักมีปัญหาเรื่อง
ตื่นตระหนก ดูหวาดระแวงและไม่ไว้วางใจ
ขาดเรียนและการลาออก เพราะต้องติดตาม กลายเป็นสายตาที่มองฉันด้วยความรัก
พ่อแม่ไปทำไร่เลื่อนลอย ไปรับจ้างทำไร่
ความศรัทธา และพากันเรียกฉันว่า “แม่ครู”
บางครั้งหายไป ๒-๓ เดือน ฉันจึงต้อง
และพลอยพาให้บรรดาพ่อแม่ ผู้ปกครอง
แก้ปัญหาโดยการสอนซ่อมเสริมให้ในช่วง ที่เป็นชาวบ้านเรียกตามไปด้วย
หลังเลิกเรียน หรือให้เรียนในวนั หยุด เด็กคนไหน
๑๐ ยอดครผู มู้ อี ดุ มการณ์
นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งกระมัง ที่ทำให้พวกเขารักและผูกพัน
ยกยอ่ งให้ฉันเปน็ “แม่” ของเขาอีกคนหนึ่ง
ยอดครูผมู้ อี ุดมการณ
์ ๑๑
หลังจากมีอาคารเรียน หอนอน
โรงอาหาร และอาคารประกอบ ซึ่งนับเป็น
โครงสร้างหลักแห่งสถานศึกษาแล้ว ฉันก็
มาน่งั คิดว่าฉันจะทำอยา่ งไร จึงจะสอนให้เดก็
นักเรียนของฉันซึ่งเป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง
และไทยใหญ่ ส่วนใหญ่ใช้ภาษาถิ่นในการ
สื่อสาร จะสามารถเรียนรู้และเข้าใจ
ภาษาไทยภาคกลางซึ่งเป็นภาษามาตรฐาน
จนสามารถอ่านออก เขียนได้ และใช้สื่อสาร
ด้วยการพูดได้
ฉันทบทวนความรู้ที่เคยเรียนมา
ในระดับประกาศนียบัตรและปริญญาตรี
ในที่สุดฉันก็พบว่าฉันควรนำวิธีสอนภาษาไทย
แบบมุ่งประสบการณ์ (มปภ.) เป็นการสอน
ท ี่ เ ห ม า ะ ส ม กั บ วั ย ข อ ง นั ก เ ร ี ย น ท ี่ ไ ม่ เ ค ย
เรียนรู้ภาษาไทยมากอ่ น
๑๒ ยอดครผู มู้ ีอุดมการณ
์
การสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา
(Concentrated Language Encounters
หรือ CLE) ซึ่งเริ่มมีที่ประเทศออสเตรเลีย
ใช้ทดลองสอนกับนักเรียนพื้นเมือง ผลการ
ทดลองสอนภาษาอังกฤษประสบความสำเร็จ
ดียิ่ง นักเรียนชาวพื้นเมืองเกือบ ๑๐๐%
สามารถอา่ น เขียน ฟัง และพูดภาษาองั กฤษ
ได้เป็นอย่างดี ซึ่งมหาวิทยาลัยศรีนครินทร-
วิโรฒประสานมิตรนำมาทดลองและได้ผลดี
ส ำ นั ก ง า น ป ร ะ ถ ม ศ ึ ก ษ า จั ง ห วั ด
แม่ฮ่องสอน (สปจ.แม่ฮ่องสอน) ได้นำ
การสอนภาษาไทยแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา
(มปภ.) มาพัฒนาครู และนำการสอนแบบนี้
ไปสอนทุกโรงเรียนท้ังจงั หวัด
แม้ฉันจะถูกกำหนดให้มีบทบาทหน้าที่
ผู้อำนวยการโรงเรียน แตฉ่ นั ก็ถือว่าฉันเป็นครู
และเป็นคนไทย นอกจากจะมีบทบาท
ผู้บริหารแล้ว ฉันก็ควรมีส่วนชว่ ยในการสอนด้วย
ฉันจึงปรึกษากับเพื่อนครูเพื่อวางแผนในการ
ใช้การสอนภาษาไทยแบบมุ่งประสบการณ์
ภาษามาใช้ที่โรงเรียนบ้านสล่าเจียงตอง
โดยแบง่ การเรียนการสอนเปน็ ๕ ข้ันตอน คือ
ขั้นตอนที่ ๑ ครูอา่ นเรื่องให้นักเรียนฟงั
อย่างมีชีวิตชีวา โดยอาศัยเทคนิคการเล่า
เรื่องให้นักเรียนสนใจฟัง ครูแสดงท่าทาง
ป ร ะ ก อ บ ไ ป ด ้ ว ย ถ ้ า ยั ง ไ ม่ ส า ม า ร ถ ส ื่ อ
ความหมายได้เพียงพอ ครูควรใช้การสนทนา
กับนกั เรียนเข้าช่วยในการสือ่ ความหมาย โดย
ใช้คำถามง่าย ๆ และให้ดูภาพประกอบทกุ หน้า
ตั้งแต่ปกจนถึงท้ายเล่ม เพื่อกระตุ้นให้เด็กคิด
สามารถพัฒนาความคิดรวบยอดเกี่ยวกับ
คำในเรือ่ งได้
ยอดครผู ู้มอี ุดมการณ์
๑๓
ขั้นตอนที่ ๒ ครูนำเข้าสู่บทเรียนโดยใช้
คำถามง่าย ๆ ให้นักเรียนเล่าเรื่องที่ครูอ่าน
ให้ฟงั และลำดับเรือ่ งได้จนจบ แล้วครสู นทนา
และให้นักเรียนอ่านตามในหนังสือทุกหน้า
ครูให้นักเรียนแสดงบทบาทสมมติ โดย
อาสาสมัครเป็นผู้แสดงตัวละครในเรื่อง ครู
มีหน้าที่เปน็ ผู้กำกับ
ขั้นตอนที่ ๓ เขียนเรื่องร่วมกันระหว่าง
ครูและนักเรียน ครูนำเข้าสู่บทเรียนโดยให้
นักเรียนช่วยกันลำดับเรื่องที่อ่าน และ
เล่นบทบาทสมมติ ครูใช้กระดาษแผ่นใหญ
่
ติดบนกระดาน
ให้นักเรียนเริ่มเขียนเรื่องโดยครูใช้วิธี
ถาม-ตอบ และเขียนประโยคลงบนกระดาษ
แผ่นใหญ่ ครูควรแก้ไขให้ก่อน หรือครูเขียน
ให้ก็ได้ เขียนเรื่องได้สักตอนหนึ่งครูให้
นกั เรียนออกมาวาดภาพประกอบ ให้นกั เรียน
ที่เหลืออ่านออกเสียงในขณะที่ครูให้นักเรียน
อ่านเรื่องจากกระดาษแผ่นใหญ่ ครูควรใช้ไม้
ชี้ตัวอักษรตามด้วย เพื่อดูว่านักเรียนอ่านได้แน่
หรือใช้การจำต่อเนือ่ งในประโยค
ขั้นตอนที่ ๔ ให้นักเรียนทำหนังสือ
เล่มใหญ่ ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ขั้นต้นครู
ควรเขียนเรือ่ งจากขั้นตอนที่ ๓ ลงในกระดาษ
แผ่นใหญ่เพื่อทำหนังสือเล่มใหญ่นำมาให้
นักเรียนอ่าน ให้นักเรียนผลัดกันอ่านในกลุ่ม
เสียก่อน จากนั้นแบ่งงานให้นักเรียนทุกคน
วาดภาพประกอบเรื่อง ช่วยกันรวบรวม
ผลงานเรียงหน้ากระดาษเย็บเข้าเล่มใหญ่เป็น
ของตน เขียนชื่อกลุ่ม และให้นักเรียนช่วยกัน
อา่ นหน้าช้ันให้เพื่อนฟัง
๑๔ ยอดครูผู้มีอุดมการณ
์
ขั้นตอนที่ ๕ ให้นักเรียนเล่นเกมหรือ
กิจกรรมทางภาษา ครูให้นักเรียนใช้หนังสือ
เล่มใหญข่ องกล่มุ เป็นแหลง่ ในการเรียนรู้ เพื่อ
ให้นักเรียนได้ค้นคว้า การสะกดคำ การเขียน
และประโยค พร้อมทั้งความหมายของคำ
และประโยคจากหนังสือเกมที่เล่นได้ง่าย ๆ
ใช้วัสดุสิ้นเปลืองน้อย และมีประสิทธิภาพคือ
การใช้บตั รคำ
วิธีสอนแบบนี้ ทำให้ฉันสอนนักเรียน
ได้อย่างมั่นใจ เด็กเรียนรู้อย่างมีชีวิตชีวา
เพียงแค่ ๔-๕ เดือน เด็กก็สามารถพูด อ่าน
เขียนภาษาไทยได้ถึงร้อยละ ๘๐ ซึง่ ผู้ปกครอง
บอกว่าฉันสอนสนุก และขอมานั่งเรียนกับลูก
วันละหลายคน ฉันยิ่งรู้สึกภูมิใจในความเป็น
ครมู ากยิง่ ขึ้น ทีนี้คงทราบแล้วใช่ไหมว่า เหตุใด
ทั้งผู้ปกครองและนักเรียนที่นี่จึงเรียกฉันว่า
“แมค่ รู”
ยอดครผู ้มู อี ดุ มการณ์
๑๕
อาจมีบางครง้ั ท่ฉี นั เกิดความท้อแท้...
ฉนั เฝา้ มองดูพระบรมฉายาลักษณพ์ ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั
ทม่ี หี ยาดพระเสโทอยู่ปลายพระนาสิก พระองคท์ า่ นทรงเหนด็ เหนอ่ื ย
และตรากตรำมากกว่าฉันไมร่ ูก้ ่ีรอ้ ยพันเทา่
แตพ่ ระองค์ไม่เคยทรงบ่นว่าเหนอ่ื ยหรือทอ้
งานของฉนั เปน็ เพียงจุดเล็ก ๆ น้อยนิด ความสำเร็จเหล่านี้ไม่ใช่ฉันเพียงคนเดียว
แ ล ้ ว ฉั น จ ะ เ ห น ื่ อ ย ห ร ื อ ท ้ อ ไ ด ้ อ ย่ า ง ไ ร
เสาทุกต้น ไม้ทุกชิ้น กระเบื้องทุกแผ่น
ฉันตั้งปณิธานในใจว่า นับแต่นี้ฉันจะเข้มแข็ง
เพือ่ น ๆ ทุกคน หรือแม้แต่กระบวนการเรียน
และอุทิศทั้งชีวิตเพื่อการศึกษาที่บ้านสล่า- การสอน ล้วนเป็นความเมตตาของผู้ที่ม
ี
เจียงตอง
จิตเมตตาที่ฉันเอ่ยนามทั้งสิ้น ชาวบ้านที่น
ี่
ตั้งแต่น้ันมาฉันกไ็ มเ่ คยท้อแท้ต่อปญั หา ต่างร่วมกันสร้างฝันของฉันให้เป็นจริงขึ้นมา
และอปุ สรรคใด ๆ อีกเลย
คือ โรงเรียนบ้านสล่าเจียงตอง โรงเรียน
ฉันเหลือบดูบัตรอวยพรที่ติดที่โต๊ะ แห่งขุนดอย ที่จะคอยให้แสงสว่างแก่เด็ก
ทำงาน เขียนด้วยลายมือโย้เย้แล้วอดยิ้มไม่ได้
ในหมู่บ้าน และเป็นตำนานแห่งการศึกษา
ข อ อ ว ย พ ร ใ ห้ ค รู น ี้ ม ี ค ว า ม สุ ข
ของชาติตลอดไป...
หมดสิ้นทกุ ขใ์ ดใดใจสขุ า
นี่คือความในใจของครูสุพิทยา
ขอคณุ ครผู ้ใู จดีมีเมตตา ดจุ นางฟ้า... แหง่ โรงเรียนบา้ นสลา่ เจียงตอง
บ้านสลา่ เจียงตองเทอญ
ผ อ.
ท อ ป บู ท
นายศรทั ธา ห้องทอง
ผ้อู ำนวยการโรงเรียนบ้านคลองน้ำใส
สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษา
ยะลา เขต ๒
๑๘ ยอดครผู มู้ ีอดุ มการณ
์
ท่ามกลางสายฝนทีต่ กพรำ ๆ มาตั้งแต่
เดินทางมาถึงสนามบินหาดใหญ่จนถึงจังหวัด
ยะลา นานกว่าชัว่ โมงแล้ว ฝนกย็ ังไม่มีทีทา่ ว่า
จะหยุดตก
“สงสัยวนั นี้ฝนจะตกทั้งวัน” เสียงคนขับรถ
พูดพึมพำกับตัวเอง คะเนจากใบหน้าแล้ว
เขาคงมีอายุเกือบ ๕๐ ปีแล้วละ่
“ฝนตกอย่างนี้ทกุ วันหรือคะ” เราอดถาม
ไม่ได้ เมือ่ ได้ยินคนขบั รถพูดกับตนเองอย่างนั้น
“ครับ ช่วงมรสุมก็แบบนี้ล่ะ นี่ยังดี
นะครบั แคต่ กพรำ ๆ ไมห่ นัก” ฉนั นั่งคู่มากับ
คนขับรถ มีท่านรองฯ แน่งน้อยและคนอื่น ๆ
นั่งด้านหลัง เราเดินทางด้วยรถตู้ มีรถฮัมวี
่
นำหน้า จากสนามบินหาดใหญ่ วิ่งมาตาม
เส้นทางสายสงขลา-ปัตตานี ตอนนี้เข้าเขต
จังหวัดยะลาแล้ว อีกไม่นานก็จะถึงโรงเรียน
บ้านคลองน้ำใส อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา
จุดหมายปลายทางของพวกเรา
วันนี้ พวกเรา ในฐานะคณะประเมิน
โครงการ “ตามรอยเกียรติยศครูผู้มี
อุดมการณ์และจิตวิญญาณครู” ปี ๒๕๕๔
เดินทางมาจากกรุงเทพฯ นำโดยท่านรองฯ
แน่งน้อย พัวพัฒนกุล รองเลขาธิการ
คณะกรรมการการอดุ มศึกษา และพลตำรวจตรี
ณรงค์ มณีนพ รองผู้บัญชาการตำรวจ
ตระเวนชายแดน เพื่อมาดูสภาพการทำงาน
ในพื้นที่จริงของคุณครูศรัทธา ห้องทอง
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองน้ำใส หนึ่งใน
ครูผู้ผ่านการคัดเลือกจากสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๒
ให้เป็นผู้รับรางวัลยอดครูผู้มีอุดมการณ์
คร้ังที่ ๕ ปี ๒๕๕๔
ยอดครผู ู้มอี ุดมการณ์
๑๙
สองข้างทางเป็นสวนยางบ้าง บางช่วง อย่างนี้ ก็ยงั ไม่วายเกิดเหตุการณไ์ มห่ ยดุ หย่อน”
เป็นผืนนาที่ถูกทิ้งร้างไม่มีใครทำ มีบ้านเรือน พี่คนขับพูดไปขณะขับรถเลี้ยวเข้าเส้นทางไป
ตั้งห่าง ๆ เป็นระยะ ๆ มีรถวิ่งสวนไปมา โรงเรียนบ้านคลองน้ำใส ซึ่งเป็นถนนลาดยาง
เพราะเวลาที่เราเดินทางเป็นตอนเช้า รถที่ บางช่วงขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ บางช่วงถูกน้ำ
เห็นวิ่งผ่านไปมานั้นน่าจะเป็นรถสัญจรของ กัดเซาะเนื่องจากเป็นทางลาดชันจนถนนทรุด
ผู้คนที่ไปทำงานตามที่ต่าง ๆ ที่รู้สึกแปลกตา ถ้าหากฝนตกหนักมาก ๆ ถนนช่วงนั้นก็พัง
สำหรับพวกเราก็คือ มีรถทหารที่มีทหารถือปืน เสียหายจนไม่สามารถจะใช้ผ่านไปมาได ้
ยืนอยู่บนรถ วิ่งผ่านมาเป็นระยะ ๆ นี่หรือ ตลอดสองข้างทางเป็นป่าละเมาะ ไม่มีบ้านคน
สภาพความเป็นอยู่ของพี่น้อง ๓ จังหวัด ช่างสุ่มเสี่ยงตอ่ การถูกทำร้ายจริง ๆ
ชายแดนภาคใต้ เคยเห็นแต่ในโทรทัศน์เวลา
“เส้นทางนี้ดูน่ากลัวจังเลยนะคะ เป็น
มีภาพรายงานข่าว ขณะนั้นยังรู้สึกไม่ค่อยดี ป่าเปลี่ยวไมม่ ีบ้านคน” พูดขึ้น ขณะใช้สายตา
ประหนึ่งวา่ ประเทศไทยเราอยู่ในภาวะสงคราม กวาดไปรอบ ๆ
ชา่ งนา่ กลัวเสียนีก่ ระไร แล้วคนที่นีเ่ ขาจะรู้สึก “ครับ แต่ถ้าเป็นชาวบ้านหรือครูที่นี่
กลัวไหมหนอ
รวมทั้ง ผอ.ศรัทธา คงชินแล้วล่ะครับ
“พวกเราชินแล้วล่ะครับ ทุกวันนี้
โดยเฉพาะทา่ น ผอ.ศรัทธา ไปโรงเรียนทุกวนั
เราต้องเชื่อฝ่ายบ้านเมือง ถ้าจะไปไหนต้อง ไม่มีวันหยุด บางทีเราอาจได้ยินชาวบ้าน
ระมัดระวัง ประมาทไม่ได้” เสียงพี่คนขับรถ เรียก ผอ.ศรัทธา ว่า “ผอ.ทอปบูท” เพราะ
พูดขึ้น คงเห็นเราหันไปมองรถทหาร
ท่านชอบสวมรองเท้าทอปบูทขณะทำงาน”
จนเหลียวหลัง และเขาคงรู้ว่าคิดอะไรอยู่
เสียงเจ้าหน้าที่เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
“คงลำบากนะคะ ที่ต้องอยู่ในสภาพ ยะลา เขต ๒ กล่าวขึ้นทางด้านหลังรถ
แบบนี้ ไปไหนมาไหนตามใจไม่ได้”
ขณะเดียวกัน รถก็เลี้ยวเข้ามาในโรงเรียน
“ครับ ถ้าเราไม่ประมาททุกคนก็อยู่ได้ บ้านคลองน้ำใส
ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขนาดระวังกัน
๒๐ ยอดครผู ู้มีอุดมการณ์
โรงเรียนบ้านคลองน้ำใส ตั้งอยู่ที่ “ปจั จุบัน โรงเรียนเรามีนักเรียน ๔๔๖ คน
อำเภอกาบัง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที
่ มีครู ๒๕ คน แต่ก่อนที่จะนำเสนอเรื่องราว
การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๒ พื้นที่ ต่าง ๆ ที่เป็นผลงานในปัจจุบัน ผมอยาก
โรงเรียนจะอยู่บนไหล่เขา มีพื้นทีบ่ างส่วนเมื่อ จะย้อนเรื่องราวความเป็นมาในอดีตก่อน
ฝนตกหนักมากอาจถูกน้ำฝนกัดเซาะ ทำให้ ด้วยการเล่าประวัติส่วนตัวสั้น ๆ เพื่อให้ท่าน
ดินพงั ทลายลงมาได้ โรงเรียนจึงปลกู หญ้าแฝก รู้จักผมมากขึ้น” ท่าน ผอ.ศรัทธา กล่าวขึ้น
คลุมบนเนินดินบริเวณนั้นไว้ ทำให้พื้นที
่
และเริม่ ต้นเล่าเรื่องราวของท่าน
ตรงส่วนน้ันยงั คงสภาพได้เหมือนเดิม
“ท่านอาจไม่เชื่อ ถ้าผมบอกว่าผมเป็น
เมื่อรถมาจอดบริเวณหน้าอาคารเรียน คนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด ผมเกิดเมือ่ วนั ที่ ๒๒
มี ผอ.ศรัทธา พร้อมกับครู นักเรียน
กุมภาพันธ์ ๒๕๐๓ ที่โรงพยาบาลราชวิถี
และชาวบ้าน มายืนรอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว เมื่อก่อนเรียกว่า โรงพยาบาลหญิง พ่อผม
ทุกคนมีสีหน้าแช่มชื่น บ่งบอกถึงความยินด
ี
เป็นทหารผ่านศึก ชื่อนายสมหวัง ห้องทอง
ที่พวกเรามาวันนี้ ผอ.ศรัทธา เดินนำท่านรองฯ
สว่ นแม่ชือ่ นางเจริญศรี จนั ทวดี มีพี่น้องทั้งหมด
แ น่ ง น ้ อ ย แ ล ะ พ ว ก เ ร า ไ ป ยั ง ห ้ อ ง ส มุ ด
๗ คน ผมเป็นคนที่ ๒ มีบ้านอยู่แถวสีลม
ซึ่งปรับพื้นที่บางส่วนในบริเวณห้องสมุด
ต่อมาเมื่อปี ๒๕๐๕ พ่อพาครอบครัว
เปน็ โตะ๊ ประชมุ
ย้ายมาอยู่ที่อำเภอธารโต จังหวัดยะลา
หลังจากทุกคนน่ังพร้อมกันแล้ว
เพราะรัฐบาลจัดสรรที่ดินทำกินให้ ๒๕ ไร ่
ท่าน ผอ.ศรัทธา ก็กล่าวต้อนรับอย่างเป็น มีสมาชิกทหารผ่านศึก ประมาณ ๕๐ ครวั เรือน
พิธีการ พร้อมทั้งเริ่มต้นนำเสนอเรื่องราว
มาอยู่รวมกันจัดตั้งเป็นนิคมสร้างตนเอง
ต่าง ๆ ทีเ่ ตรียมไว้เป็นอย่างดี
ธารโต ความทรงจำของผมจึงเริ่มต้นขึ้น
ยอดครผู มู้ อี ุดมการณ
์ ๒๑
ที่จังหวัดยะลา จนหย่ังรากฝังลึก เข้าใจว่า พอระฆังพักเที่ยง ผมจะดื่มน้ำจนอิ่มแล้ว
ตนเองเป็นคนยะลาที่ไปอาศัยเกิดในกรุงเทพฯ
เข้าไปอ่านหนังสือในห้องสมุด ตลอดระยะ
ผมเริ่มต้นเรียนหนังสือที่โรงเรียน เวลา ๓ ปี ผมอ่านหนังสือทุกเล่ม และนี่เอง
นิคมสร้างตนเองธารโต ๑ (ปัจจุบันโรงเรียน จึงเป็นการพลิกวิกฤตและสร้างโอกาส
ถูกยุบไปแล้ว) จนจบชั้น ป.๔ ความหวัง
ให้จนผมมีวันนี้
ที่จะเรียนต่อชั้น ป.๕-๗ ดูเลือนรางเต็มที นอกจากความยากจนแล้ว สิ่งที่ทำให้
เพราะต้องขึ้นรถโดยสารประจำทางมาเรียน
ชีวิตผมเจียนอยู่เจียนตาย คือ ผมป่วยเป็น
ที่อำเภอบันนังสตา อีกทั้งครอบครัวยากจน
ไข้ป่า ไข้จับสั่น หรือไข้มาลาเรียหลายครั้ง
พี่น้องหลายคน พ่อกับแม่ก็แยกทางกัน
ขณะมาโรงเรียนต้องมาน่ังตากแดดส่ัน
แต่ด้วยความบังเอิญหรือเป็นความโชคดี สะท้านด้วยความหนาวเย็น เป็นที่น่าสมเพช
อย่างมหาศาล ขณะที่ผมกำลังจะจบชั้น ป.๔ เวทนาของครูและเพื่อนยิ่งนัก กอปรกับ
คุณครูบำรุง ดวงภักดี และคุณครูสนอง
ภาวะทุพโภชนาการจากการขาดแคลนอาหาร
พฤษวานิช ได้ดำเนินการให้โรงเรียนเปิดเรียน ทำให้ผมซบู ผอม ตัวเหลืองซีด เพื่อน ๆ จึงตั้ง
ชั้น ป.๕ และทำได้สำเรจ็ ผมจึงได้เรียนตอ่
สมญานามเรียกผมว่า “ไกต่ ้ม”
ผมเชื่อว่าการศึกษาเท่านั้นที่จะทำให้ บ่อยครั้งที่ผมไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะ
ชีวิตของผมดีขึ้น ผมจึงไม่ย่อท้อแม้จะต้อง นอกจากจะเป็นไข้ป่ามาลาเรียแล้ว กต็ ้องชว่ ย
เ ด ิ น เ ท ้ า เ ป ล่ า ไ ป - ก ลั บ โ ร ง เ ร ี ย น วั น ล ะ
แม่ทำงาน ตัดกล้วย หาพืชสวนมาจำหน่าย
๑๐ กิโลเมตร ได้รับบริจาคเสื้อผ้าและ
เพราะพี่ชายคนโตไปเป็นลูกเรือตังเก หาเงิน
หนังสือเรียนจากรุ่นพี่หรือเพือ่ นบ้าน แต่ละวัน
ส่งมาให้แม่และน้อง แต่เขาก็ต้องจบชีวิตลง
ผมแทบไม่เคยรับประทานอาหารกลางวัน กลางทะเลลึกอย่างน่าอนาถ ไม่ได้แม้แต่ศพ
๒๒ ยอดครูผู้มอี ดุ มการณ์
กลับมา วันใดที่ผมไม่ได้ไปโรงเรียน ในตอนเย็น เป็นหม้าย มีภาระที่ต้องรับผิดชอบลูก ๆ ถึง
หากผมเดินไหว ผมก็จะไปหาเพื่อนร่วมห้อง
๕ คน เมื่อท่านเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของผม
ที่กลับมาจากโรงเรียนแล้ว เพื่อถามไถ
่
ท่านก็เมตตารับไว้โดยตกลงจ่ายค่าอาหาร
เรื่องการเรียนและคำอธิบาย จากนั้นจะกลับ เดือนละ ๑๕๐ บาท
มาทำแบบฝึกหัดส่งคุณครูในวันที่ได้ไป ผมช่วยท่านทำงานทกุ อย่างในบ้าน ต้ังแต่
โรงเรียน ดังนั้น แม้ผมจะขาดเรียน ผมก็ยัง ตีห้าทกุ วัน จัดเตรียมของขาย วนั หยดุ ภาคเรียน
สอบได้ที่ ๑ มาโดยตลอด จนเป็นที่รักใคร่ ก็ช่วยหาฟืน ผ่าฟืน จนภายหลังท่าน
เมตตาของคุณครูทุกคน โดยเฉพาะคุณครู ไม่คิดค่าอาหาร มีความรักความผูกพัน
สนอง พฤกษวานิช ซึ่งบ่อยครั้งที่ท่านเจียด
เหมือนป้า-หลานจริง ๆ และอีกท่านหนึ่ง
คา่ อาหารกลางวันให้ผม ท้ัง ๆ ที่ทา่ นก็มีภาระ ที่แม่ได้ฝากฝังไว้คือ ครูวาสน์ บุญสุวรรณ
รับผิดชอบบุตร-ธิดาหลายคน ท่านเป็นผู้ที่ อาจารย์ใหญ่โรงเรียนบ้านบันนังสตาวิทยา
ทำให้ผมได้รับพระราชทานทุนเนาวฤกษ์จาก ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ ท่านดูแล
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เอาใจใส่ผมเป็นอย่างดี ผมตั้งใจเรียน ทำให้
ในระดับประถมศึกษา ปีละ ๑,๔๐๐ บาท ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีมาโดยตลอด และ
(ระดบั มธั ยมศึกษาปีละ ๒,๔๐๐ บาท) ผมจึง ผมก็ยังคงไม่ได้รับประทานอาหารมื้อเที่ยง
มีชุดนักเรียนใหม่และรองเท้าคู่ใหม่เป็นครั้งแรก เหมือนเดิม และห้องสมุดก็ยังคงเป็นแหล่ง
ในชีวิต ขณะที่เรียนอยู่ชั้น ป.๖ ทั้งยังเป็น
ค้นคว้าหาความรู้
จุดเปลี่ยนชีวิตผม
มีอยู่ครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั
ปี ๒๕๑๗ แม่เหน็ วา่ หากต้องเผชิญกบั เสดจ็ ฯ มาทรงวางศิลาฤกษ์สร้างเขือ่ นบางลาง
สภาวะความยากจนและไข้ป่ามาลาเรียอยู่ ครูวาสน์ บุญสุวรรณ พิจารณาเห็นว่า
อย่างนี้ สักวันหนึ่งอาจต้องสูญเสียชีวิตคนใน หากผมเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น อาจมีค่าใช้จ่าย
ครอบครัว ดังเช่นเพื่อนบ้านคนแล้วคนเล่า
เพิ่มสงู ขึ้นด้วย ท่านจึงสนับสนนุ ให้ผมถวายฎีกา
ที่ต้องจากไป ทหารที่ผ่านสมรภูมิรบมาอย่าง ขอพระราชทานทนุ การศึกษา ซึง่ ผมกท็ ำตาม
โชกโชน เมื่อมาเจอสมรภูมิชีวิตที่ธารโต
ต่างยอมแพ้อพยพกลับสู่ภูมิลำเนาเดิม
แทบหมดสิ้น ปัจจุบันเหลือเพียงครอบครัว
อภัยภูเบศร์เท่านั้น ซึ่งขณะนั้นผมจบชั้น ป.๗
พอดี แม่ก็พาน้องท้ัง ๕ คน กลับกรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากการที่ผมได้รับทุน
พระราชทานและมีความมุ่งมั่นที่จะเรียนต่อ
ก่อนที่แม่จะกลับไปอยู่กรุงเทพฯ แม่นำผมมา
ฝากไว้กับคนรู้จักที่เป็นเพียงขาประจำกล้วยทอด
คือ คุณป้าเป้า จอมพันธ์ุ ทั้งที่ท่าน
ยอดครผู มู้ อี ดุ มการณ์
๒๓
เมื่อผมเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ประกาศนียบตั รการศึกษา (ป.กศ.) แต่ขณะน้ัน
สอบได้คะแนนเกินกว่า ๘๐% นับว่าอยู่ใน แทบไม่มีที่ไหนเปิดสอบบรรจุ ผมจึงต้อง
เกณฑ์ดี ครูหลายท่านแนะนำให้ผมเรียนต่อ เรียนต่อในระดับประกาศนียบัตรการศึกษา
อย่างหลากหลาย แต่ด้วยความประทับใจ ชั้นสูง (ป.กศ.สูง) วิชาเอกคณิตศาสตร์
คุณครูหลายท่านที่มีคุณูปการกับผมยิ่งนัก วิชาโทภาษาอังกฤษ โดยใช้ทุนพระราชทาน
ผมจึงรักความเป็นครู กอปรกับความตั้งใจว่า ที่ยังเหลืออยู่ และก็เหมือนเช่นเดิมตลอด
หากอนาคตได้เป็นครู จะมุ่งมั่นสร้างโอกาส การเรียนที่วิทยาลัยครูยะลา มื้อเที่ยงก็ยังคง
ให้แก่เด็กในถิ่นทุรกันดารเฉกเช่นที่ตนเองได้รับ เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับผม และที่ผ่านมา
ในวันนี้ ผมจึงตัดสินใจสอบเข้าเรียนครู
ผมจะทำงานหารายได้ในช่วงปิดภาคฤดูร้อน
ณ วิทยาลัยครูยะลา เพียงแห่งเดียว และ
ทุกปี ตั้งแต่ช้ัน ป.๕-๗ ผมจะเกบ็ ดอกอ้อทีใ่ ช้
กส็ อบได้ด่งั ใจปรารถนา
ทำไม้กวาดดอกหญ้านำมาขาย ตอนเรียนชั้น
หลังจากเข้าเรียนครูได้ ก็มีปัญหาเรื่อง ม.ศ.๑-๓ รับจ้างถากสวนยาง และขณะเรียน
ที่พัก แต่จากการอ่านหนังสือในห้องสมุด
ที่วิทยาลัยครยู ะลา รับจ้างทำงานก่อสร้าง
มาโดยตลอดนีเ่ อง ทำให้หวนคิดได้วา่ มีบุคคล ผมเรียน ป.กศ.สูง ได้ปีเดียว จังหวัด
หลายท่านที่ประสบความสำเร็จมาจาก ยะลาเปิดสอบบรรจุ ความตั้งใจที่จะเป็นครู
“ศิษย์วัด” จึงเรียนให้ครูวาสน์ บุญสุวรรณ ของผมเป็นจริง เมื่อผมสอบบรรจุได้ และ
ทราบ และขอความอนุเคราะห์ท่านไปฝาก ได้รับแต่งตั้งเป็นครู ในตำแหน่งครูระดับ ๑
เป็นศิษย์วัด ท่านจึงนำผมไปฝากเป็นศิษย์วัด เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๒๓ ณ โรงเรียน
เมืองยะลา มีพระครูไพโรจน์ธรรมรัตน์
บ้านลีตอ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา มี
(สมณศักดิ์ขณะนั้น) ปัจจุบันท่านได้สมณศักดิ์ นายปิยะพร มณีรัตน์ เป็นครูใหญ่ มีนักเรียน
เป็นพระธรรมสิทธิมงคล ดำรงตำแหน่งเป็น
๔๐ กว่าคน มีครู รวมทั้งผมด้วย ๕ คน เปิดสอน
เจ้าคณะจงั หวัดยะลา ผมเคารพนับถือทา่ นเปน็ ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึงชั้น ป.๔ มีอาคารเรียน
พระอาจารย์ นับเป็นความโชคดีอีกครั้งหนึ่ง ๒ หลัง แต่ไม่ใหญ่นัก ซึ่งขณะนั้น นับว่า
ของผม ที่ได้มาอยู่กับพระอาจารย์ ท่านได้ เป็นดินแดนที่มีความขัดแย้งทางสังคมสูงมาก
อบรมบ่มนิสัยกล่อมเกลาให้ผมรู้ถูก รู้ผิด
ชุมชนแบ่งเป็นหลายฝ่าย มีการลอบสังหาร
รู้ดี รู้ชว่ั เปน็ ครูอยใู่ นศีลในธรรม ประพฤติตน ผู้ใหญบ่ ้าน ได้แก่ นายหะมะ สหุ ลง นายดอเลาะ
ถกู ต้องตามทำนองคลองธรรม
สหุ ลง และนายสะตอพา ยาลอ
ในสมัยที่เรียนวิทยาลัยครูยะลา
แม้ว่าสถานการณ์ความรุนแรงจะไม่
ผมมุมานะ เอาจริงเอาจัง เพราะมุ่งหวังจะ เทียบเท่าปัจจุบัน แต่ก็มิได้หมายความว่า
เปน็ ครูให้ได้ และผมกไ็ ด้รับพระมหากรุณาธิคณุ จะอยู่กันได้อย่างปกติสุขเหมือนพี่น้องชาวไทย
อย่างล้นพ้น ได้รับทุนพระราชทานจากการ ภาคอื่น ๆ ดังนั้น วิถีชีวิตความเป็นอยขู่ องผม
ถวายฎีกาปีละ ๖,๔๕๐ บาท เป็นเวลา ๒ ปี ตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน จึงอยู่ในสังคมที่ไม่
ซึ่งผมใช้เงินอย่างประหยัด จนเรียนจบ ธรรมดา
๒๔ ยอดครูผู้มอี ดุ มการณ์
การเรียนการสอนก็เหมือนโรงเรียน และในที่สุดเด็ก ๆ ก็ยอมมาโรงเรียน
ทั่วไป แต่เพราะห้องเรียนมีจำกัด ทำให้ต้อง นีจ่ ึงเปน็ จดุ เริ่มต้นที่ทำให้ผมรู้วา่
สร้างอาคารช่ัวคราว ดังนั้น สภาพห้องเรียน
ของผมเมื่อครั้งเริ่มเป็นครู จึงใช้อาคาร
ช่ัวคราว ฝาห้องเรียนทำด้วยไม้ไผ่ขัดแตะ การส่งเสริมและพัฒนาการจัดการศึกษาท่ี ได้ผล
หลังคามุงจาก วันไหนที่ฝนไม่ตกก็ดีไป เวลา
แดดจัด ๆ จะมีแสงแดดลอดตามช่องของฝา ต้องใหค้ วามสำคญั กับชุมชนทอ้ งถ่นิ ตอ้ งสรา้ ง
ขัดแตะเข้ามาในห้อง พื้นห้องเป็นดินอัดแน่น
ไม่ใช่พื้นไม้หรือพื้นคอนกรีต โต๊ะนักเรียนใช้ ความสัมพันธ์ท่ีดีกับชุมชนเพื่อให้เกิดการยอมรับ
เสาต้นใหญ่ ๒ ต้น ฝังลงในดิน เป็นขาโต๊ะ
มีไม้กระดานขัดผิวเรียบพาดด้านบนหัวเสา แลว้ การพฒั นาด้านอื่น ๆ จะตามมา
ส่วนเก้าอี้ก็ทำเหมือนกัน ชุดหนึ่งมีนักเรียน
น่ังได้ ๓-๔ คน ผมปฏิบตั ิหน้าที่ครผู ู้สอนอยู่ที่ หลังจากที่ผมใช้วิธีนี้ นักเรียนเริ่มเพิ่ม
โรงเรียนบ้านลีตอ นานถึง ๑๓ ปี มีส่วนร่วม
มากขึ้น จนเมื่อถึงปีที่ผมย้าย มีนักเรียนถึง
พฒั นาโรงเรียนในหลาย ๆ ด้าน
๑๘๐ คน เปิดสอนถึงชั้น ป.๖ ผมต้องขอ
สิ่งที่ยุ่งยากสำหรับทีน่ ี่ คือ เด็กไม่อยาก ขอบคุณครูใหญ่ เพื่อนครูทุกคนของโรงเรียน
ไปโรงเรียน ทั้ง ๆ ที่ผู้ปกครองอยากให้ไป บ้านลีตอ รวมทั้งชุมชนชาวบ้าน ในฐานะ
พวกเขาชอบเที่ยวป่าเที่ยวเขา ยิงนกตกปลา ที่ทำให้ผมเป็นได้อย่างทุกวันนี้ เพราะการ
ไม่สนใจมาโรงเรียน พวกเราต้องมาหาวิธีการ บ่มเพาะประสบการณ์และมีโอกาสทำงาน
จะทำอย่างไรที่จะดึงให้เด็กมาเรียนหนังสือ ได้ตามเจตนารมณ์ทีต่ ั้งใจไว้
วิธีที่ทำได้สำเร็จ คือ การเข้าถึงบ้านทุกหลัง ผมรู้ดีว่า ไม่ว่าเราจะเป็นครูผู้สอนหรือ
ด้วยคำขวญั ที่ว่า “เยี่ยมทกุ เรือน เยือนทุกบ้าน” ผู้บริหารโรงเรียน ย่อมมีบทบาทสำคัญต่อ
ผมเองขณะนั้นยังหนุ่มยังแน่นและเป็นโสด การจัดการศึกษาไม่แพ้กัน เพราะครูคือผู้ให้
ไม่มีภาระครอบครัว จึงใช้เวลาวันหยุดบ้าง ความรู้และสร้างความเข้าใจให้นักเรียน
หลังเลิกเรียนบ้าง ไปพบปะชาวบ้าน
เกิดการเรียนรู้และพัฒนาตนเองนำไปสู่การ
ทำความคุ้นเคยจนเป็นที่ไว้วางใจ ไม่ว่าจะไป พัฒนาชาติบ้านเมือง ส่วนผู้บริหารเป็นผู้นำ
บ้านใคร เขาต้อนรับเป็นอย่างดี ผมทำความ นโยบายการจัดการศึกษาให้ครูสู่การปฏิบัติ
สนิทสนมกับเด็ก ๆ ที่ไม่ยอมไปโรงเรียน โดย ให้ถึงผู้เรียน ผมคิดว่าบทบาทในฐานะคร
ู
เมื่อถึงวันหยุด ผมจะชวนเดก็ ๆ ไปเที่ยวตามปา่ ผู้สอนนั้น ผมมีประสบการณ์เพียงพอที่จะ
ทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เด็กชอบ พวกเขาสนุก ก้าวไปสู่ผู้บริหารโรงเรียนได้ ผมจึงตัดสินใจ
กันมาก ทีนี้เวลาผมชวนไปไหนก็ไม่ปฏิเสธแล้ว สอบคัดเลือกเป็นผู้ช่วยอาจารยใ์ หญ่และสอบได้
โดยได้มาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่
โรงเรียนวัดชมพูสถิต อำเภอเมือง จังหวัด
ยะลา เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๓๖ ซึ่ง
บทบาทของผมที่นี่ คือ ผู้ประสานความรว่ มมือ
ยอดครูผมู้ ีอดุ มการณ์
๒๕
ให้การบริหารจัดการโรงเรียนเป็นไปด้วย “ก่อนที่ผมจะมาอยู่ที่โรงเรียนบ้าน
ความเรียบร้อย เมื่อเริ่มทำงาน ครูทีน่ ี่มีความคิด คลองน้ำใสนี้ เมื่อมีการโยกย้ายผู้บริหารตาม
ไม่ค่อยลงรอยกัน ขาดความสมานสามัคคี วาระ กเ็ กิดปญั หาขึ้นเพราะไม่มีผู้บริหารทา่ นใด
ผมจึงถือว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำให้ครูทุกคน ต้องการไปปฏิบัติหน้าที่ ณ โรงเรียนบ้าน
ทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข และผมก็ใช้ คลองน้ำใส เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร
เวลาไม่นานนัก ครูทุกคนก็กลายเป็นน้ำหนึ่ง มากแห่งหนึ่งของยะลา การเดินทางยาก
ใจเดียวกัน อีก ๓ ปีต่อมา ผมสอบคัดเลือก ลำบาก ถนนหนทางบางช่วงเป็นถนนลูกรัง
อาจารย์ใหญ่ได้ลำดับที่ ๒ และได้ไปปฏิบัติ ลาดชัน และเปน็ หลุมเป็นบอ่ ถ้าฝนตกหนกั ๆ
หน้าที่อาจารย์ใหญ่โรงเรียนบ้านนิบง อำเภอ ถนนจะกลายเป็นบ่อโคลน โรงเรียนจะถูก
กาบัง จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ตัดขาดจากโลกภายนอกทันที ส่วนหน้าแล้ง
๒๕๓๙
เต็มไปด้วยฝุ่นตลบอบอวล มีครูที่กำลัง
โรงเรียนบ้านนิบง อยู่ห่างจากถนน ตั้งครรภถ์ ึง ๓ คน ตกเลือด ขณะเดินทางมา
อำเภอยะหา-อำเภอสะบ้าย้อย เพียง
โรงเรียน นอกจากนี้ ไม่มีรถประจำทางผ่าน
๒ กิโลเมตร ซึ่งเป็นถนนลาดยาง การเดินทาง ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ต้องใช้ระบบดาวเทียม
สะดวกมากขึ้น ที่นี่นับเป็นโรงเรียน
แต่ก็มักขัดข้องอยู่เสมอ ส่วนไฟฟ้าก็ดับ
แห่งแรกที่ผมเป็นผู้บริหารเต็มตัว มีนักเรียน เป็นประจำ รวมทั้งระบบประปาก็ไม่สะอาด
๔๐๐ กว่าคน ครู ๑๕ คน เปิดสอนตั้งแต
่ เป็นพื้นที่ที่มีไข้มาลาเรียแพร่ระบาดอย่างหนัก
ชั้นอนุบาล ถึงชั้น ป.๖ ผมได้ใช้ความรู้ความ เพราะโรงเรียนอยู่ติดกับป่าตะเข็บชายแดน
สามารถและประสบการณ์บริหารโรงเรียน มาเลเซีย อีกทั้งประชาชนส่วนใหญ่มีฐานะ
อย่างเต็มที่ โดยยึดหลักการมีส่วนร่วม
ยากจน เกิดโรคทางเดินอาหารบ่อยมาก
ของชุมชน ให้ความสำคัญกับคนในพื้นที่ เพราะขาดสาธารณูปโภคที่ถูกสุขลักษณะ
เพราะเขาเหล่านั้นจะมีส่วนสำคัญต่อการ เด็กตกอยู่ในภาวะทุพโภชนาการ ที่สำคัญ
พัฒนาการศึกษาของท้องถิ่น โครงการที่เริ่ม อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยจากผู้ก่อความไม่สงบ
ดำเนินการครั้งแรก คือ โครงการเกษตรเพื่อ จึงทำให้จำนวนนกั เรียนลดลงทกุ ปี
อาหารกลางวัน ส่งเสริมให้เด็กเลี้ยงไก่
เลี้ยงปลา ขณะเดียวกันก็มุ่งเน้นงานวิชาการ
กำหนดเป็นเป้าหมายชัดเจนว่า โรงเรียนนิบง
จ ะ มุ่ ง เ น ้ น ว ิ ช า ก า ร เ พ ื่ อ ค ว า ม เ ป็ น เ ล ิ ศ
การพัฒนาโรงเรียนด้านตา่ ง ๆ ไมย่ ุ่งยากมากนัก
ต่อมาโรงเรียนก็ได้รับยกย่องเป็นโรงเรียน
ดีเดน่ ของอำเภอกาบัง
๒๖ ยอดครผู ูม้ อี ดุ มการณ์
ผมตัดสินใจมาที่นี่โดยไม่คิดลังเล ระดับหัวหน้าปะทะกับเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต
เพราะผมสัมผัสความยากลำบากมาแล้ว
เช่น เปาะลายู รอฮิง เคราดำ
ตั้งแต่เกิดก็ว่าได้ จนถึงเมื่อเป็นครูใหม่ ๆ
ปัจจุบันเมื่อเกิดวิกฤตความรุนแรงจาก
อีกทั้งผมคิดว่าเรายังมีพลังมากพอที่จะทำ ผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดน
ประโยชน์ทางการศึกษาเพื่อชาติบ้านเมือง ภาคใต้ ที่นี่ก็ถูกใช้เป็นที่หลบซ่อน ฝึกอาวุธ
ผมนึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รักษาตัว และปลุกระดมอีกเช่นกัน เพราะอยู่ใน
ที่พระองค์ท่านทรงตรากตรำทำงานได้โดย พื้นที่ป่าเขา ยากต่อการที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามา
ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยพระวรกาย พระองค์ท่าน ตรวจค้นติดตาม จึงมีแนวร่วมมากมาย
ยงั ไม่เคยย่อท้อ เสด็จฯ ทุกพื้นที่ที่มีความยาก ในหมบู่ ้าน ครทู ีเ่ ข้ามาปฏิบัติหน้าทีก่ อ็ ย่ไู ด้ไม่นาน
ลำบาก ผมรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พากันขอย้ายออกนอกพื้นที่ เพราะหวาดกลวั
เป็นล้นพ้นที่ได้รับทุนพระราชทานมาโดย เกิดเหตุการณ์ลอบทำร้าย ฆ่าประชาชน
ตลอด ผมเคยตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำงานสนอง ผู้บริสุทธิ์เป็นประจำ แม้ว่าจะเป็นชาวมุสลิม
เบื้องพระยุคลบาทด้วยการใช้สติปัญญา ก็ไม่เว้น เมื่อผมเข้ามาอย่ใู หม่ ๆ จนถึงเดี๋ยวนี้
ความรู้ความสามารถที่ได้เล่าเรียนมาเป็นครู ก็ตาม ผมไปโรงเรียนทุกวันไม่มีวันหยุด
มุ่งส่งเสริมการศึกษาและให้การศึกษาเข้าถึง เพราะมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโรงเรียนบ้านคลองน้ำใส
เด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ผมคิดว่า
อย่างจริงจัง และตั้งใจวา่ จะทำให้ทีน่ ีเ่ จริญขึ้น
น่าจะสู้กับงานเช่นนี้ได้แน่นอน ผมจึงตัดสิน ให้ได้ ชาวบ้านเขาชอบเรียกผมวา่ “ผอ.ทอปบูท”
ใจมาที่นี่ ตั้งแตว่ นั ที่ ๑ มีนาคม ๒๕๔๔”
เพราะเห็นผมใส่รองเท้าทอปบูทเป็นประจำ
ขณะที่กล่าวถึงพระบาทสมเด็จ ต้ังแต่มาอย่ทู ีน่ ีแ่ ล้ว
พระเจ้าอยู่หัว ผอ.ศรัทธา เหลือบมองภาพ
พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว ที่ตั้งอยู่ฝาผนังห้องฝ่ังตรงข้าม
และบรรยายต่อ
“เมื่อผมเข้ามารับตำแหน่ง พบว่า
นักเรียนทั้งหมดเป็นมุสลิม ใช้ภาษายาวี
ในชีวิตประจำวนั แรก ๆ จึงมีปญั หาการสือ่ สาร
ซึ่งผมก็พยายามเรียนรู้ ทั้งเรื่องภาษาและ
วัฒนธรรมของคนในพื้นที่ ผมทราบในภายหลัง
วา่ คนทีน่ ีส่ ืบเชื้อสายมาจากชาวมลายู ในอดีต
เคยเป็นแหล่งหลบซ่อน พักพิง ฝึกอาวุธ
ของขบวนการก่อการร้าย (ขจก.) มีแกนนำ
ยอดครูผ้มู อี ุดมการณ
์ ๒๗
จากเหตุการณ์ความไมส่ งบ ส่งผลถงึ โรงเรียนโดยตรง
น่นั คือ เหตกุ ารณ์โรงเรียนถกู เผา
วันน้นั ผมจำได้ดี เปน็ วนั ที่ ๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๕๐
ประมาณทุ่มกว่า ๆ ขณะทช่ี ดุ คุม้ ครองหมู่บา้ นไปละหมาดที่มสั ยิด
เกดิ เหตไุ ฟไหม้อาคารเรียน ทำให้เสยี หายมากพอสมควร
โดยเฉพาะบรเิ วณสำนักอำนวยการบรหิ าร ซ่ึงเปน็ ทเี่ ก็บเอกสารสำคญั
๒๘ ยอดครูผู้มีอดุ มการณ
์
ผู้บังคับบัญชาทุกระดับต่างแสดงความ ผอ.ศรัทธา เริ่มนำพวกเรามาสู่ความ
ปรารถนาดี ให้กำลังใจ และต้องการปลอบขวญั เป็นปัจจุบัน ณ จุดที่ท่านยืนอยู่ในตำแหน่ง
โดยเสนอให้ย้ายออกจากที่นี่ ไปอยู่โรงเรียน ผู ้ อ ำ น ว ย ก า ร โ ร ง เ ร ี ย น บ ้ า น ค ล อ ง น ้ ำ ใ ส
ขนาดใหญ่ที่สะดวกสบาย ซึ่งมีความ ผอ.ทอปบทู ของชาวบ้าน
ปลอดภัยสูง ผมกราบเรียนทุกท่านว่า ผมจะ “ผมใช้หลักการมีส่วนร่วมของชุมชน
ขอสู้อยทู่ ีน่ ีต่ ่อไปไมค่ ิดหนี เพราะผมยังทำงาน ให้ความสำคัญกับชาวบ้าน ถือว่าเขาเหล่านั้น
ที่ตั้งใจไว้ไม่สำเร็จตามเป้าหมาย นั่นคือ เ ป็ น ส่ ว น ห น ึ่ ง ท ี่ จ ะ ท ำ ใ ห ้ โ ร ง เ ร ี ย น เ จ ร ิ ญ
ทำให้โรงเรียนบ้านคลองน้ำใสเจริญพัฒนา ก้าวหน้า และเราจะอยู่ในสังคมเดียวกันได้
และจัดการศึกษา เพื่อเด็กในชุมชนท้องถิ่นนี้ อย่างปกติสุข หากเรามีบทบาทร่วมกันโดย
ได้เรียนในโรงเรียนที่มีคณุ ภาพ และตอบสนอง ไม่ให้ความแตกต่างทางศาสนามาขวางกั้น
ความต้องการของชมุ ชนอยา่ งแท้จริง
ความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนในชาติได้ นี่จึง
“ปัจจุบันนักเรียนกลับเพิ่มขึ้นมาก เป็นงานแรก ๆ ที่ผมทำก่อน คือ การเข้าถึง
เพราะมีชาวบ้านย้ายเข้าอยู่ในพื้นที่มากขึ้น ชุมชนเพื่อสร้างการยอมรบั เพราะคนในพื้นที่นี้
เรื่อย ๆ และนักเรียนท้ังหมดเปน็ มสุ ลิม มีผม เกือบทั้งหมดเป็นชุมชนมุสลิม ผมจึงตั้งใจ
และครบู างคนที่นับถือศาสนาพทุ ธ”
แน่วแน่ที่จะไม่ย้ายไปจากพื้นที่ เพื่อพิสูจน
์
ให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของผม ที่ต้องการ
มาพัฒนาที่นี่ด้วยความจริงใจอย่างแท้จริง
แม้ว่าจะมีโอกาสให้เลือกบ่อยครั้ง ผมก็กล้า
ที่จะปฏิเสธและขออยทู่ ี่นี่จนถึงวันนี้”
“กิจกรรมต่าง ๆ ที่โรงเรียนจัดขึ้น
จะต้องมีชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้
นักเรียนและชุมชน เกิดความรักและผูกพัน
นำมาซึง่ การพฒั นา ปรบั ปรุง และแก้ไขรว่ มกนั
ผมใช้หลักการอยู่ร่วมกันด้วยความเป็น
ประชาธิปไตย ให้ทุกคนมีส่วนร่วมบริหาร
จัดการ ใช้วิธีการบริหารโรงเรียนเล็ก
ในโรงเรียนใหญ่ แบ่งเป็นฝ่ายต่าง ๆ และ
ให้แต่ละฝ่ายเปรียบเสมือนโรงเรียนที่มีการ
บริหารงานภายในโรงเรียนนั้น ๆ ทุกคน
มีโอกาสร่วมแสดงความคิดเห็นและตัดสินใจ
โดยจัดให้มีการประชุมตั้งแต่กลมุ่ เล็ก ๆ เชน่ ครู
ยอดครูผู้มีอุดมการณ์
๒๙
และนักเรียน จนถึงการประชมุ กลุ่มใหญ่ มีครู ผอ.ศรัทธา มีใบหน้าอิ่มเอิบ แสดงถึง
นักเรียน ชาวบ้าน และกรรมการสถานศึกษา ความสุขใจที่เล่าถึงโครงการนี้
เป็นต้น ในเรื่องทีส่ ำคญั และต้องการระดมสมอง “ผมตระหนักดีว่า การจัดการเรียนรู้
เพื่อให้งานนั้นสำเรจ็ ตามวตั ถปุ ระสงค์
เพื่อพัฒนาผู้เรียน เป็นหน้าที่หลักของ
หลักการทำงานดังกล่าว ทำให้ชุมชน โรงเรียน ต้องจัดเพื่อพัฒนาให้ครบทุกด้าน
ชาวบ้านเกิดความรักและศรัทธาในตัวครูและ จะต้องเป็นไปตามจุดหมายของหลักสูตร
โรงเรียน มีศิษย์เก่าจำนวนมากกลับมาช่วยกัน โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
พัฒนาดูแลโรงเรียน ให้ความร่วมมือ
จำเป็นต้องจดั การศึกษาให้เกิดความสมานฉันท์
ทุกเรื่องที่โรงเรียนดำเนินการ ไม่ว่าจะ
สันติสุข อย่างย่ังยืนควบคู่ไปด้วย โดยอาศัย
เรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ นี่จึงเป็นความสำเร็จ ความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจอย่างจริงใจ
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมพอใจมาก ทั้ง ๆ ที่ผมและ ของทุกฝ่ายที่เกีย่ วข้อง สำหรบั ผมแล้ว ชมุ ชน
คณะครบู างคนเป็นชาวพทุ ธแท้ ๆ แต่สามารถ
ในพื้นที่เป็นหลักสำคัญที่ทำให้โครงการประสบ
เป็นที่ยอมรับของชุมชนชาวบ้านท่ามกลาง ผลสำเร็จ การจัดการศึกษาที่จะตอบสนอง
ชาวมสุ ลิมท้ังหมดได้”
การพัฒนานักเรียนให้ครบทุกด้าน คงไม่ใชแ่ ค่
ผอ.ศรัทธา พูดด้วยรอยยิ้ม ในความ ห้องเรียนสี่เหลี่ยมเท่านั้น การจัดการศึกษา
ภาคภูมิใจกับความสำเร็จในเบื้องต้นนี้
ที่ผมมุ่งหวังจะต้องเปิดโอกาสให้นักเรียนได้
“แต่งานนี้เป็นเพียงองค์ประกอบ
แสดงศักยภาพอย่างแท้จริงของตนเองออกมา
ซึ่งถือวา่ เปน็ ปจั จยั สำคัญที่ทำให้งานต่อ ๆ มา สร้างคุณประโยชน์แก่ตนเอง ชุมชน สังคม
สำเร็จได้ เพราะถ้าไม่สามารถผูกใจรัก
ประเทศชาติ
สมานสามัคคีกับชาวบ้านได้แล้ว งานอีก การนำการศึกษาสู่โลกกว้างอย่างมี
หลายเรื่องที่คิดไว้จะสำเร็จได้อย่างไร” ส่วนร่วมโดยจัดการศึกษาจากแหล่งเรียนรู้
ผอ.ศรัทธา เริม่ บรรยายต่อ
จึงเป็นแนวทางที่ผมคิดว่าจะทำให้การจัดการ
“ในขณะที่ผมใช้กลยุทธ์สมานใจรักกับ เรียนรู้บรรลุจุดมุ่งหมายของหลักสูตรได้
ชาวบ้าน ผมกเ็ ดินหน้าโครงการอืน่ ๆ ไปพร้อม ๆ”
นี่เป็นจุดเริ่มของโครงการโซนนิ่งการเรียนรู้สู่
“โครงการโซนนิ่งการเรียนรู้สู่ชีวิตจริง ชีวิตจริงทีผ่ มนำมาใช้ในโรงเรียนบ้านคลองน้ำใส”
ทำให้ผมได้รบั รางวลั หนึ่งโรงเรียนหนึง่ นวัตกรรม
นี่ถ้าชาวบ้าน ครู และนักเรียนไม่ร่วมมือกัน
อย่างจริงจัง งานนี้ไม่สำเร็จแน่ และงานนี้
ก็สะท้อนให้เห็นถึงหลักคิดของผม นั่นคือ
การมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นจะทำให้การจัด
การศึกษาบรรลุตามเป้าหมายหลักสูตร
อยา่ งแนน่ อน”
๓๐ ยอดครูผู้มีอดุ มการณ์
กิจกรรมต่าง ๆ เริ่มปรากฏบนจอภาพ
“ผมอยากเห็นโรงเรียนบ้านคลองน้ำใส
“โรงเรียนบ้านคลองน้ำใส ตั้งอยู่ในถิ่น เป็นแหล่งเรียนรู้ที่แท้จริง และไม่ใช่แหล่ง
ทุรกันดาร และเสี่ยงภัยจากความรุนแรงของ เรียนรู้เดิม ๆ ในห้องเรียนสี่เหลี่ยม ต้องเป็น
ผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดน แหล่งเรียนรู้ใหม่ตามหลักการมีส่วนร่วม
ภาคใต้ ซึ่งมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวิธีการนี้เป็นจุดเริ่มจากความตระหนักและ
และการบิดเบือนคำสอนของศาสนาอิสลาม ความต้องการเห็นโรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้
การคมนาคมยากลำบาก มีการแพร่ระบาด ของชุมชนอย่างแท้จริง ผมเป็นเพียงกลไก
ของไข้มาลาเรีย ไข้เลือดออก โรคทางเดิน หนึ่งของความสำเร็จ แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก
อาหาร นักเรียนมีภาวะทุพโภชนาการ เพราะความสำเร็จของโครงการที่แท้จริง
ประชาชนมีฐานะยากจน มีอาชีพรบั จ้างกรีดยาง มาจากครทู ุกคน นกั เรียนทกุ คน และชาวบ้าน
มีการบุกรุกทำลายป่าไม้ต้นน้ำอย่างต่อเนื่อง ทุกคนที่มาร่วมด้วยช่วยกัน” ขณะที่พูด
วิถีชีวิตของคนในพื้นที่จะเชื่อผู้นำชุมชนมากกว่า ท่าน ผอ.ศรัทธา หันมามองที่คณะครู และ
การเรียนรู้วิถีทางประชาธิปไตย เทคโนโลยี
ชาวบ้านที่มาร่วมในที่ประชุมวันนี้
ไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างเต็มที่ หรือมักใช้ “และประการสำคัญที่ผมอยากจะ
เพื่อประโยชน์ทางบันเทิงด้านเดียว ทำให้การ กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการนี้ ก็คือ
จัดการศึกษาเป็นไปด้วยความยากลำบาก” มาจากความจงรักภักดี และสำนึกใน
ภาพทีเ่ ห็นเปน็ ภาพคร้ังที่ถนนทางเข้าโรงเรียน พระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จ
ยังเป็นถนนลูกรัง เป็นหลุมเป็นบ่อ มีรถติดหล่ม พระเจ้าอยู่หัว จากพระราชดำรัสเรื่อง
แ ล ะ ม ี ค น ก ำ ลั ง ช่ ว ย กั น เ ข็ น อ ยู่ ด ้ า น ห ลั ง
การพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
และภาพต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงบรรยากาศ ว่าเราต้องเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ผมว่า
ของโรงเรียนบ้านคลองน้ำใสในวันวาน
ตรงนี้ตรงประเด็นทีส่ ดุ
ยอดครูผูม้ อี ดุ มการณ์
๓๑
เข้าใจ หมายถึง ปัญญาที่เข้าใจความ นอกจากนี้ ผมได้นำหลักปรัชญา
เปน็ ทั้งหมดของความรุนแรง ทั้งประวัติศาสตร์ เ ศ ร ษ ฐ ก ิ จ พ อ เ พ ี ย ง ม า เ ป็ น ห ลั ก ค ิ ด ข อ ง
สาเหตุ อาการความสำเรจ็ และความล้มเหลว โครงการด้วย เพราะเป็นเสมือนรากฐานของ
ในการแก้ปัญหาในอดีตและความเป็นไป
ชีวิต รากฐานความมั่นคงของแผ่นดิน เปรียบ
ในอนาคต เรียกว่า เข้าใจอดีต ปัจจุบัน และ เสมือนเสาเข็มที่ถูกตอกรองรับบ้านเรือน
อนาคต ความไม่รู้ การรู้เป็นส่วน ๆ รู้อย่าง ตวั อาคารไว้น่นั เอง สิง่ กอ่ สร้างจะมน่ั คงได้อยทู่ ี่
ลวก ๆ รีบ ๆ แบบตาบอดคลำช้าง นอกจาก เสาเข็ม แต่คนส่วนมากมองไม่เห็นเสาเข็ม
แก้ปัญหาไม่ได้แล้วยังกลับทำให้ปัญหา และลืมเสาเข็มด้วยซ้ำไป”
ลกุ ลามบานปลายมากยิ่งขึ้น
เมือ่ กลา่ วถึงตรงนี้ ผอ.ศรัทธา หยดุ สกั ครู่
เข้าถึง หมายถึง เข้าถึงความจริงไม่ใช่ เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยนจากการฉาย
เพียงผิวเผิน เข้าถึงความรู้สึกนึกคิดในความ ภาพนิ่งมาเป็นระบบภาพเคลื่อนไหวแล้วก็
เป็นมนุษย์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง
บรรยายต่อ
ของตนเองด้วย ถ้าไม่มีสติเราจะไม่สามารถ “โครงการโซนนิ่งการเรียนรู้สู่ชีวิตจริง
เข้าถึงความจริงได้ ถ้าไม่เข้าถึงความจริง
หรือที่เราเรียกกันจนติดปากว่า นวัตกรรม
ก็แก้ปัญหาไม่ได้
รีสอรท์ การศึกษามีวตั ถปุ ระสงค์ คือ ประสาน
พัฒนา หมายถึง พฤติกรรม การปฏิบัติ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งการระดม
การแก้ปัญหา การพัฒนาที่ถูกต้องหรือ แนวความคิด ทรัพยากร ร่วมใจ ร่วมคิด รว่ มทำ
สัมมนาพัฒนาอยู่บนฐานของความเห็นชอบ รว่ มสร้างสรรค์ รว่ มใช้ประโยชน์ ร่วมภาคภมู ิใจ
และความดำริชอบหรือปัญญาอันได้แก่
รัก หวงแหน รู้สึกเป็นเจ้าของ ปรับวิธีเรียน
ความเข้าใจ-เข้าถึง ดังกล่าวข้างต้น ถ้าปราศจาก เปลี่ยนวิธีสอน ตามแนวทางปฏิรูปการศึกษา
ความเข้าใจ-เข้าถึง การพัฒนาก็จะผิดพลาด โดยเน้นให้นักเรียนได้รู้จักศึกษาค้นคว้า
กลายเปน็ มิจฉาชีพ แก้ปญั หาไมไ่ ด้ ความรุนแรง ด้วยตนเอง มีความคิดสร้างสรรค์ มีการ
เพิ่มขึ้น
ปฏิบัติจริง รู้จักการคิดวิเคราะห์สังเคราะห์
ก้าวทันรู้ทันความเปลี่ยนแปลงของวิทยาการ
และเหตุการณ์ต่าง ๆ โรงเรียนเป็นแหลง่ เรียนรู้
บริการทั้งนักเรียน ครู บุคลากรทางการ
ศึกษา และชุมชน สร้างความสัมพันธ์ชุมชน
ให้ชุมชนเป็นเกราะป้องกัน สร้างความ
ปลอดภัยให้ครูและนักเรียน โครงการนี้
ยังช่วยแก้ปัญหาขาดอตั รากำลงั และท้ายทีส่ ดุ
คือ นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข
ในโรงเรียนที่มีความร่มรื่นสะดวกสบาย
สวยงาม ปลอดภยั นา่ อยู่ และน่าเรียน
๓๒ ยอดครูผมู้ อี ดุ มการณ์
จากแนวคิดที่ผมกล่าวมาทั้งหมด
โซน “ส่งเสริมคุณภาพ” มีการจัด
นำไปส่กู ารพฒั นาแหลง่ เรียนรู้ เรามีคณะทำงาน การเรียนรู้เรือ่ งอาหาร เชน่ สอนให้รู้จกั เลือก
ซึ่งมีทั้งครู นักเรียน และชุมชน มาร่วมกัน วัตถุดิบที่สด สะอาด ปลอดภัย รู้จักวิธีปรุง
ระดมความคิด ประชุมปรึกษาหารือ เพื่อ อาหาร มีมารยาทในการรับประทานอาหาร
ให้การทำงานมีการประสานความร่วมมือ รู้จักเกบ็ และล้างภาชนะ รวมท้ังบริเวณสถานที่
อย่างแท้จริงให้ได้มาซึ่งนวัตกรรมการเรียนรู้ เป็นต้น การทำความสะอาดร่างกาย เช่น
ที่ตอบสนองตามความต้องการของทุกฝ่าย การล้างมือล้างเท้า การอาบน้ำ และการ
และนวัตกรรมที่เราร่วมกันคิดร่วมกันสร้างนั้น แปรงฟัน เป็นต้น การใช้ห้องน้ำห้องส้วม
ส า ม า ร ถ พั ฒ น า คุ ณ ภ า พ ก า ร ศ ึ ก ษ า ข อ ง การเรียนรู้เรื่องสมุนไพร ทั้งการปลูกและ
โรงเรียนได้ตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร การนำไปใช้ การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
และยั่งยืน ในที่สุดเราได้แหล่งเรียนรู้มา
และการพักผ่อน และการเรียนรู้เรื่องพลศึกษา
๖ ด้าน ได้แก่
ในปี ๒๕๕๓ มีการต่อยอดโครงการ ได้แก่
๑. แหล่งเรียนรู้ด้านสุขภาพ เพราะ
โครงการสุดยอดส้วมของจงั หวัดยะลา
การเรียนรู้จะเกิดได้ดีถ้าสุขภาพดี ดังนั้น
สขุ ภาพต้องมากอ่ น
๒. แหล่งเรียนรู้ด้านคุณธรรมจริยธรรม
เราใช้หลกั คุณธรรมนำความรู้
๓. แหล่งเร ียนรู้ด้านเกษตรและ
งานอาชีพ เราใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
เปน็ รากฐานชีวิต
๔. แหล่งเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมศึกษา
เน้นแก้ปญั หาโลกร้อน
๕. แหล่งเรียนรู้ด้านการดำเนินชีวิต
ตามหลักประชาธิปไตยในวิถีความเป็นไทย
และ ๖ แหล่งเรียนรู้ด้านเทคโนโลยี คือ
รู้คิด รู้ใช้ รู้ทันเทคโนโลยี
ต่อไปนี้ ผมจะเล่ารายละเอียดของ
แหลง่ เรียนรู้ทีละด้าน หรือทีละโซน
ยอดครูผมู้ ีอดุ มการณ์
๓๓
โซน “ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม”
โซน “เกษตรและงานอาชีพ” แบ่งเป็น
มีการจัดการเรียนรู้ เรื่อง อิสลามศึกษา
๓ ส่วน ได้แก่ สว่ นที่ ๑ คือ เกษตรทฤษฎีใหม่
การปฏิบัติศาสนกิจ หลักคำสอนศาสนา จัดการเรียนรู้ เช่น การปลูกพืชสวนครัว
อิสลามที่ถูกต้อง หลักคุณธรรมจริยธรรม
การเลี้ยงปลา การเพาะเห็ด การเลี้ยงไก ่
ในชีวิตประจำวัน และมารยาทในสงั คม
การทำสวนยางพารา และการทำปุ๋ยชีวภาพ
เป็นต้น ส่วนที่ ๒ งานอาชีพ จัดการเรียนรู้
เช่น การเย็บผ้า การตัดผม-เสริมสวย และ
การประดิษฐ์ไก่แจ้ซารามอ เปน็ ต้น ส่วนที่ ๓
เศรษฐกิจพอเพียง เช่น วิถีชีวิต เศรษฐกิจพอเพียง
และความรู้เรื่องสหกรณ์ เป็นต้น ในปี
การศึกษา ๒๕๕๓ มีการพัฒนาต่อยอด
โครงการ ได้แก่ โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่
เพื่ออาหารกลางวัน (เลี้ยงปลา เพาะเห็ด
ปลูกผัก) โครงการส่งเสริมงานอาชีพ (ตัดผม
เสริมสวย ปลูกยางพารา เย็บผ้า และซ่อม
จักรยานยนต์) และโครงการเกษตรต้นแบบ
ชมุ ชนของสำนกั งานเกษตรจงั หวดั ยะลา
๓๔ ยอดครผู ู้มีอุดมการณ์
โซน “สิ่งแวดล้อมศึกษา” แบ่งการ โซน “วิถีประชาธิปไตย วิถีความเป็นไทย”
จดั การเรียนรู้เป็น ๓ สว่ น ได้แก่ การอนรุ ักษ์ หรือศูนย์กิจกรรมนักเรียน เป็นแหล่ง
ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การอนุรักษ์ป่าไม้ การเรียนรู้ เรื่อง ลูกเสือ เนตรนารี ศิลปศึกษา
การอนุรักษ์น้ำ และการอนุรักษ์ดิน เป็นต้น ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น (ดีเกฮูลู-ตารีกีปัส)
การอนุรักษ์พลังงาน เช่น การลดการใช้ และการจดั การเรียนรู้ เรื่อง วิถีประชาธิปไตย
พลังงานและแสวงหาพลังงานทดแทน และ ในปี ๒๕๕๓ มีการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรม
การจัดการเรียนรู้ เรื่อง ป่ันด้วยใจไปด้วยรัก ได้แก่ โครงการต่อต้านยาเสพติด โครงการ
เป็นต้น และสิ่งแวดล้อมศึกษา แก้ปัญหา
ส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน โครงการ
โลกร้อน เช่น การจัดสวนหย่อมหรือภูมิทัศน์ จัดระบบดูแลช่วยเหลือและการแนะแนว
และการปลูกต้นไม้ ในปีการศึกษา ๒๕๕๓
โครงการลูกเสือเพื่อทักษะชีวิต และโครงการ
มีการต่อยอดนวัตกรรม ได้แก่ โครงการ อนุรักษ์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น
รณรงค์อนุรักษ์ป่าต้นน้ำ และโครงการสร้าง (ดีเกฮูลู-ตารีกีปัส)
ฝายกั้นน้ำเทิดพระเกียรติ
ยอดครูผมู้ ีอุดมการณ
์ ๓๕
โซน “เทคโนโลยีแห่งการเรียนรู้”
มีหลักการสำคัญของการจัดการเรียนรู้
คือ รู้คิด รู้ใช้ และรู้ทันเทคโนโลยี โดยมี
การจัดการเรียนรู้ เรื่อง คอมพิวเตอร์และ
อินเทอร์เน็ต ทักษะและกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ โทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียม
ไทยคม ห้องสมดุ มีชีวิต และสวนวิทยาศาสตร์
และประวัติศาสตร์ ปี ๒๕๕๓ มีนวัตกรรม
ต่อยอด ได้แก่ โครงการ ๒๕๕๓ ปีแห่งการปฏิรูป
การเรียนการสอน โครงการสอนภาษาไทย
ย้อนยุค-ร่วมสมัย โครงการความเป็นเลิศ
ทางวิชาการ โครงการลูกเสือเพื่อทักษะชีวิต
และโครงการผลิตนวัตกรรมเทคโนโลยี
ทางการศึกษา สื่อการเรียนการสอน
แหลง่ เรียนรู้
๓๖ ยอดครูผ้มู อี ดุ มการณ์
จากการพัฒนาแหล่งเรียนรู้สู่จุดหมาย ส่วนด้านประชาธิปไตย เราสอนด้วย
และสันติสุข ทำให้เกิดการพัฒนา เห็นการ การปฏิบัติจริง ไม่ใช่แค่จัดกิจกรรมให้
เปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ สิ่งที่ไม่คาดหวังว่า นักเรียนเลือกตั้งคณะกรรมการนักเรียน
เด็กจะทำได้ เด็กกลับทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ เทา่ น้ัน เราปลูกฝังความคิดแบบประชาธิปไตย
รักการอ่านเขียน นักเรียนอ่านออก เขียนได้ ให้นักเรียนรู้จักรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
เพิ่มมากขึ้น ชอบการทดลองทางวิทยาศาสตร์ รู้จักเปิดใจกว้าง รู้จักสิทธิและหน้าที่ของ
รู้จักดูแลสุขภาพของตนเอง ทำกับข้าวเป็น
ตนเอง รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ใช้เหตผุ ลมากกวา่
ใช้ห้องน้ำ-ห้องส้วมถกู วิธี รู้จกั รกั ษาความสะอาด ใช้อารมณ์ความรู้สึก ส่วนด้านเทคโนโลยีนั้น
ทำให้มีผลไปถึงการดำเนินชีวิตที่บ้านด้วย
นั ก เ ร ี ย น ใ ห ้ ค ว า ม ส น ใ จ กั บ ก า ร เ ร ี ย น รู ้
ด้านคุณธรรมจริยธรรม นักเรียน คอมพิวเตอร์มาก ที่สำคัญและเห็นผลชัดเจน
แสดงออกอยา่ งเป็นรูปธรรม เช่น นักเรียนหญิง คือ ชมุ ชนให้การสนบั สนนุ ชว่ ยเหลืออย่างเตม็ ที่
ท ำ ค ว า ม เ ค า ร พ ค รู ด ้ ว ย ก า ร ย ก ม ื อ ไ ห ว ้
มาช่วยสร้างช่วยทำและช่วยจัดอาคารสถานที่
ส่วนนักเรียนชายยืนตรง เมื่อเจอครูตอนเช้า รวมทั้งการดูแลรักษาแหล่งเรียนรู้ มีความรู้สึก
หรือเมื่อจะกลับบ้าน การปฏิบัติศาสนกิจ
เป็นเจ้าของ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริม
ตรงเวลาและต่อเนื่อง มีความรับผิดชอบต่องาน และพัฒนาอย่างตอ่ เนื่อง
ทีไ่ ด้รับมอบหมาย ไมว่ ่าจะปลูกผกั เลี้ยงปลา ที่กล่าวมาทั้งหมด นวัตกรรมนี้ประสบ
เลี้ยงไก่ เพาะเหด็ ปลกู ยาง สามารถประดิษฐ์ ผลสำเร็จเกินคาดหมาย มิใช่ดูจากรางวัล
ไก่แจ้ซารามอจนสามารถนำไปสาธิตสอน
ที่ได้รับ แต่เป็นความสำเร็จในการจัด
ผู้อื่น หรือแสดงในงานกิจกรรมใหญ่ของ การศึกษาเพือ่ เด็กและชมุ ชน ทีผ่ มภูมิใจมาก”
จังหวัด ด้านสิ่งแวดล้อมศึกษา นักเรียน
สามารถดูแลสภาพแวดล้อม รู้จักปลูกต้นไม้
รกั ษาธรรมชาติ