91 ก
ย ั ง ม ี ค ว า ม ต ั ้ งใ จ แ ล ะ ต ้ อ ง ก า ร ท ี ่ จ ะ พ ั ฒ น า ก ล อ ง ย า วใ ห ้ เ ป ็ น ท ี ่ ร ู ้ จ ั ก เ ป ็ น ว ง ก ว ้ า ง ม า ก ย ิ ่งขึ้น
อีกทั้งภายในชุมชน เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่ยังคงมีการติดต่อสื่อสารกัน ทำให้มีความสัมพันธ์
ที่ดใี นชุมชนอยู่เสมอ ทำใหค้ นรนุ่ ใหม่ยงั คงมคี วามสมัครใจเข้ามาเปน็ ส่วนหน่ึงอยู่จำนวนไม่น้อย
รวมไปถึงสมาชิกที่อยู่ภายในวงยังคงต้องการอยากที่จะรับงานอยู่เสมอ ซึ่งทางผู้ให้ข้อมูลที่มี
หน้าที่เป็นหัวหน้าของคณะก็จะพยายามขับเคลื่อนวงกลองยาวอย่างต่อเนื่อง แล้วก็พยายาม
พัฒนาเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ เพื่อที่จะให้สืบทอดวัฒนธรรมกลองยาวของพื้นที่ตำบล
หนองกงุ ใหญต่ ่อไปในอนาคต
6.4 จุดเดน่ ของคณะกลองยาวทบู นี ัมเบอร์วันหนองกงุ ใหญ่
คณะกลองยาวทูบีนัมเบอร์วัน ตำบลหนองกุงใหญ่ มีผู้นำชุมชนที่มีความเข้มแข็ง
และมีศักยภาพ ซึ่งการที่ผู้นำชุมชนที่มีหน้าที่และภาระงานจำนวนมากจะเข้ามามีส่วนร่วม
และรวมกลุ่มชุมชนได้ ถือเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก แต่ท้ังนี้ ผู้นำชุมชนตำบลหนองกุงใหญ่
ต่างมีความมุ่งมั่นและตั้งใจ เพื่อที่จะพัฒนาเยาวชนในพื้นที่ให้มีศักยภาพภาพ รวมไปถึงทำให้
เยาวชนในพื้นที่มีรายได้ ส่งผลให้ชุมชนนั้นมีอัตลักษณ์ที่โดดเด่นมากขึ้น จากการเป็น
คณะกลองยาว ดงั ทผี่ ู้ใหข้ อ้ มลู กลา่ วไวว้ ่า
“..เรารวมคนได้เพราะบางที่ผู้นำบางคนบางที่ก็ไม่ถูกกัน หลายคนเห็นก็งงว่าทำไม
สามารถรวมกันได้ มนั เลยเป็นจดุ เดน่ ของคณะกลองยาวของเรามาก ๆ .."
(วฒุ ไิ กร วชิ ัยวงษ์, สัมภาษณเ์ มื่อวันท่ี 12 กมุ ภาพันธ์ 2565)
สามารถสรุปไดเ้ ปน็ ประเดน็ ได้ ดังตอ่ ไปนี้
1. ความสามัคคี คณะกลองยาวทูบีนัมเบอร์วันหนองกุงใหญ่ มีความสามัคคีที่เกิดจาก
ความร่วมมือของคนภายในชุมชนที่มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น จึงทำให้เกิดการรวมกลุ่ม
คณะกลองยาวน้ีขึน้ ได้
2. ผู้นำชุมชนเป็นเสาหลัก โดยได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เนื่องมาจาก
หัวหน้าคณะกลองยาวนั้นเป็นผู้นำชุมชน จึงทำให้เกิดความร่วมมือจากเครือข่ายหลากหลาย
หน่วยงาน รวมไปถึงผู้คนในชุมชน
3. โครงสร้างมคี วามชัดเจน คณะกลองยาวนี้มกี ารวางแผนและบริหารจัดการของกลุ่ม
รวมไปถงึ มีกฎกตกิ าท่ีชัดเจน จึงทำใหส้ ามารถอยู่ร่วมกันได้โดยท่ีมีปัญหานอ้ ยมาก
4. ความหลากหลายของช่วงวัย คณะกลองยาวทูบีนัมเบอร์วันหนองกุงใหญ่ มีเยาวชน
เป็นจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของคณะกลองยาว รวมถึงยังมีในส่วนของผู้สูงอายุและผู้นำชมุ ชน
และกลุม่ สตรีแม่บา้ นท่ีรับบทบาทหน้าท่เี ป็นนางรำประจำคณะกลองยาว ซงึ่ ทำให้รูปแบบการ
แสดงมคี วามน่าสนใจมากย่ิงข้ึน
92
5. มีเด็กและเยาวชนเป็นสมาชิกคณะกลองยาวจำนวนมาก โดยเป็นเด็กและเยาวชน
ในชุมชน แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของเด็ก และเยาวชนในการสืบส านอนุรักษ์
การแสดงกลองยาวอีสาน รวมท้ังสร้างรายไดเ้ สริมในช่วงเวลาท่ีวา่ งจากการเรยี น
6. การแต่งกายที่มีระเบียบแบบแผน การมีการแต่งกายที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน
ตามงานกิจกรรมและรูปแบบของงาน รวมไปถึงความต้องการของผู้ว่าจ้าง แสดงให้เห็นถึง
ความพรอ้ มเพยี งและความเป็นหมู่คณะ
คลปิ การแสดงกลองยาวคณะทบู นี ัมเบอรว์ ันหนองกุงใหญ่
การแสดงกลองยาวอีสานสร้างสรรค์ (กสส.) EP. 4/1 คณะกลองยาวทูบีนัมเบอร์วัน
หนองกงุ ใหญ่ จงั หวดั ขอนแก่น
https://www.youtube.com/watch?v=Y6LT7Pl9nHo&t=220s
การแสดงกลองยาวอีสานสร้างสรรค์ (กสส.) EP. 4/2 คณะกลองยาวทูบีนัมเบอร์วัน
หนองกงุ ใหญ่ จังหวัดขอนแกน่
https://www.youtube.com/watch?v=oebLGuI1Zao&t=696s
93 ก
ภาพกจิ กรรมการถ่ายทำคลิปนำเสนอคณะกลองยาวทูบนี ัมเบอร์วันหนองกงุ ใหญ่
ตดิ ตามคลปิ นำเสนอและการแสดงกลองยาวอีสานทาง Facebook Fan page และ YouTube
“กลองยาวอสี านสร้างสรรค-์ กสส.”
กลองยาวอีสานสรา้ งสรรค์: เรนี ร้อู ดีต สง่ เสริมปจั จุบัน สรา้ งสรรคอ์ นาคต
95 ก
7
บทสง่ ทา้ ย:
กลองยาวอสี านสรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรคอ์ นาคต
การรวบรวม และเรียบเรียงข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการแสดงกลองยาวอีสาน
ของคณะกลองยาวในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นทั้ง 5 คณะ ทำให้เข้าใจเกี่ยวกับพลวัต
และพัฒนาการความเปลี่ยนแปลงของคณะกลองยาวอีสานในอดีตและปัจจุบันในประเด็น
ต่าง ๆ ดังข้อมูลในบทที่ผ่านมา ในบทส่งท้ายผู้เขียนจะชี้ให้เห็นถึงกลองยาวอีสานในการ
สร้างสรรค์อนาคตโดยพิจารณาจากบทบาทของกลองยาวอีสานในปัจจุบนั แนวโนม้ การดำรง
อยู่ของการแสดงกลองยาวในอนาคต และสุดท้ายแนวทางการสืบสานและอนุรักษ์ของคณะ
กลองยาว ซึ่งเปน็ สว่ นสำคญั ที่ต้องพจิ ารณาเพื่อสรา้ งสรรคก์ ารแสดงกลองยาวอีสานในอนาคต
7.1 บทบาทของกลองยาวอีสาน
จากข้อมูลการทบทวนงานศึกษาเกีย่ วกับกลองยาวอีสานท้ังในประเด็นเร่ืองพลวัตการ
แสดงกลองยาว และรูปแบบการแสดงกลองยาวจากหนังสือ ตำรา บทความ งานวิจัยรวมท้ัง
ข้อมูลเกี่ยวกับบริบทของคณะกลองยาวในบทที่ผ่านมา สามารถแบ่งบทบาทของการแสดง
กลองยาวอีสานออกเปน็ 4 ดา้ น คือ 1) ดา้ นวฒั นธรรมประเพณี 2) ด้านสงั คม เครอื ข่าย และ
การมีสว่ นร่วม 3) ด้านเศรษฐกิจชมุ ชน และ 4) ด้านสุขภาพ สามารถสรุปได้ดังน้ี
1) ด้านวัฒนธรรมประเพณี การแสดงกลองยาวอีสานมีความสัมพันธ์กับวัฒนธรรม
ประเพณีของอีสานมาตั้งแต่อดีตจนถึงปจั จบุ ัน ชาวอีสานนยิ มนำกลองยาวมาแสดง/แห่ในงาน
บุญประเพณี เช่น งานแห่บุญกฐิน บุญผ้าป่า บุญสงกรานต์ บุญบั้งไฟ บุญผะเหวด บุญบวช
เป็นต้น นอกจากนี้ยังนิยมนำมาแสดง/แห่ในงานมงคลสมรส งานฉลองตำแหน่งต่าง ๆ โดยมี
การนำมาแสดง/แห่ทงั้ ในงานมงคลและงานอวมงคล ตามโอกาสและความต้องการของผู้ว่าจ้าง
โดยการแสดงกลองยาวเป็นการบรรเลงเครื่องดนตรีประกอบหลากหลายชนิด ใช้ทำนอง
ดนตรีจังหวะโบราณหรือดั้งเดิม และมีการปรับตัวประยุกต์ใหม่ ๆ จังหวะให้กับสถานการณ์
สังคม เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ว่าจ้าง เพื่อเพิ่มความสนุกสนานความบันเทิง
ในการแสดง นอกจากนี้ การกลองยาวของบางคณะมกี ารขบั รอ้ งหมอลำประกอบระหว่างแสดง
ท้ังยงั มีนางรำเปน็ องคป์ ระกอบของการแสดงและออกลีลาทา่ ทางให้มคี วามสนใจมากข้ึน
96
2) ด้านสงั คม เครือขา่ ย และการมีสว่ นรว่ ม คณะกลองยาวอสี าน ถอื วา่ มบี ทบาทสำคัญ
ในการรวมกลุ่มคนในชุมชนเพื่อมาทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งจากข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวม
สามารถสรุปได้ว่า การเป็นสมาชิกคณะกลองยาวเกิดจากความรัก ความสนใจ ความชื่นชอบ
ทั้งจากเด็ก เยาวชน วัยกลางคน และผู้สูงอายุในชุมชน ถือเป็นการมีส่วนร่วมของสมาชิกใน
ชุมชนเพื่อมาใช้เวลาร่วมกันในการทำกิจกรรมที่เป็นการอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้าน
อีสานการแสดงกลองยาว คณะกลองยาวยังมีบทบาทสำคัญ โดยเป็นกลุ่มที่ทำหน้าที่สร้าง
ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก ผ่านการทำกิจกรรมร่วมกันทั้งการซักซ้อม การเดินทางไป
ทำการแสดง การแสดงกลองยาว การได้แสดงความคิดเห็น พูดคุยหารือกันหลังกลับ
จากการแสดง ซึ่งบทบาทดังกล่าวเป็นการมีปฏิสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมระหว่างคนในกลุ่ม
กลองยาว นอกจากนี้ คณะกลองยาวแต่ละคณะยังมีเครือข่ายระหว่างกลุ่ม เป็นเครือข่ายที่ทำ
หน้าที่ส่งเสริมกันทั้งเรื่องการพัฒนาการแสดง การยืมตัวสมาชิกไปแสดง การยืมอุปกรณ์
เครื่องดนตรี การส่งต่อหรือประสานการรับงานในกรณที ี่คณะตนเองไม่ว่างหรือมีคิวงานแล้ว
โดยเครอื ข่ายดังกล่าวถือเป็นความร่วมมอื ภายนอกคณะ ซึง่ จะทำให้เกิดการสง่ เสริมและพัฒนา
รว่ มกนั ระหวา่ งคณะ ท้ังยังเปน็ การสรา้ งความสัมพนั ธอ์ นั ดีระหวา่ งกันอกี ดว้ ย
3) ด้านเศรษฐกิจชุมชน การแสดงกลองยาวอีสานไม่เพียงแต่เป็นการอนุรักษ์สืบสาน
ศิลปะการแสดงพื้นบ้านเท่านั้น การแสดงกลองยาวอีสานยังเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ให้กับสมาชิกคณะกลองยาวและชุมชน ในการรับงานแสดงกลองยาวแต่ละครั้ง ราคาค่าจ้างใน
การรับงานแสดงแต่ละคณะกลองยาวจะเริ่มต้นที่ 5,000-7,000 บาท เมื่อมีการติดต่อ
ว่าจ้างให้ไปแสดงกลองยาว คณะกลองยาวจะพิจารณาจากระยะทางการเดินทางไปแสดง
ระยะทาง และระยะเวลาในการแสดง/แห่ เพื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายในการทำการแสดง
และค่าจ้างหรือค่าตอบแทนสมาชิกที่ทำการแสดง ดังนั้น เมื่อมีการรับงานในแต่ละงานจะเป็น
การสรา้ งรายไดใ้ ห้กับสมาชิกในคณะกลองยาว และชุมชนอกี ดว้ ย
4) ด้านสุขภาพ บทบาทของการแสดงกลองยาวอีกหน่ึงประเด็นท่ีมีความสำคัญเช่นกัน
คือ มิติสุขภาพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ จากการสัมภาษณ์ข้อมูลการแสดงกลองยาว สามารถสรุป
ประเด็นสุขภาพได้ว่า การแสดงกลองยาว ทำให้สุขภาพร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของสมาชิก
คณะกลองยาวดีกว่าไม่ได้แสดงกลองยาว เนื่องจากการแสดงกลองยาวแต่ละครั้งมีการ
เคลื่อนไหวร่างกาย สร้างความสุขและความสนุกสนานให้ทั้งผู้แสดงและผู้รับชมการแสดง
นอกจากนี้ผู้สูงอายุที่เป็นสมาชิกคณะกลองยาวมองว่า การมาเป็นส่วนหนึง่ ของคณะกลองยาว
ทำให้มีความรู้สึกเห็นคุณค่าในตนเองมากขึ้น เนื่องจากได้ใช้ชีวิต และได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ
ร่วมกบั สมาชกิ กลองยาวทีเ่ ป็นเด็ก เยาวชน และสมาชิกกลองยาวทกุ ๆ คน
นอกจากทั้ง 4 ประเด็นดังกล่าวแล้วบทบาทสำคัญของการแสดงกลองยาวยังเป็นการ
เพิม่ คุณคา่ และมูลคา่ ทางวัฒนธรรมศลิ ปะการแสดงพื้นบ้านอีสานใหเ้ ป็นที่รจู้ ักมากขน้ึ อกี ด้วย
97 ก
7.2 แนวโนม้ การดำรงอยขู่ องการแสดงกลองยาว
แนวโน้มในการดำรงอยู่ของวัฒนธรรมกลองยาวในอนาคต อาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก
หากปราศจากกระบวนการหรือการดำเนินกิจกรรมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมกลองยาว
อย่างจริงจัง เนื่องจากการอนุรักษ์วัฒนธรรมกลองยาวให้ดำรงอยู่ได้ต่อไปนั้น จำเป็นจะต้อง
อาศัยเยาวชนคนรุ่นใหม่ เข้ามาเรียนรู้วัฒนธรรมกลองยาวและร่วมกันสืบสานวัฒนธรรม
อันดีงามนี้ต่อไป แต่การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก หากมองในบริบทปัจจุบัน
ที่กระแสโลกาภิวัตน์เข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนสังคม การพัฒนาเทคโนโลยี
ในการตดิ ตอ่ ส่ือสารอย่างก้าวกระโดดในสังคมไทย เกิดพนื้ ทใี่ นการติดต่อสื่อสารโดยปราศจาก
ข้อจำกัดซึ่งพรมแดนรัฐชาติเป็นการติอต่อสื่อสารผ่านโลกเสมือนจริง หรือที่ทุกคนในสังคม
เข้าใจตรงกันวา่ สอ่ื สังคมออนไลน์ (Social Media) ที่เขา้ มามีบทบาทในการดำเนินชวี ิตของผู้คน
ในสังคมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของวัยรุ่นที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลทั้ง
ทางบวกและทางลบต่อการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมกลองยาว
แม้ว่าสื่อสังคมออนไลน์จะเป็นจุดดึงความสนใจจากเด็กและเยาวชนให้ลดทอน
ความสำคัญของวัฒนธรรมกลองยาวไปลง แต่คณะกลองยาวยังเชื่อว่าหากมีการบูรณาการ
ร่วมกบั ของผู้คนท้ังในพนื้ ที่และนอกพนื้ ที่ ทุกเพศ ทุกวยั จะทำให้วัฒนธรรมกลองยาวสามารถ
ดำรงอยู่ได้อย่างต่อเนื่อง โดยการกระทำดังกล่าวนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้คนเกิดความรู้สึก
ร่วมในการดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมกลองยาว อีกทั้งการดำเนินกิจกรรมในการอนุรักษ์ใดจะต้อง
เปิดโอกาสให้ทุก ๆ คนสามารถแสดงความเห็นและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่าง ๆ ได้อย่างเท่า
เทียมกัน ปราศจากการกีดกันทางความคิดหรืออ้างอิงความคิดของบุคคลใดบุคคลหนึ่งเพียง
เทา่ นั้น การอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมกลองยาวจงึ จะเกดิ ประสิทธิภาพสงู สดุ
ปัจจุบันกลองยาวอีสานได้ถูกถ่ายทอดองค์ความรู้ในแบบฉบับต่าง ๆ ที่หลากหลาย
ตามอัตลักษณ์ของแต่ละคณะให้กับเด็ก เยาวชน ผู้ที่มีความสนใจในแต่ละพื้นท่ี โดยผ่านครู
กลองยาวแต่ละคณะ ผู้เชี่ยวชาญ ปราชญ์ชาวบ้าน และคณะกลองยาว ยกตัวอย่างเช่น
คณะกลองยาวสาวน้อยลูกพระธาตุขามแก่น ได้มีการมอบกลองยาวโบราณที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว
จำนวน 16 ใบ ให้กับโรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลัย อำเภอน้ำพอง เพื่อที่จะนำไป
ซ่อมแซมและนำมาฝึกฝนถ่ายทอดให้กับเด็กและเยาวชนที่อยู่ในโรงเรียนได้มีการเรียนรู้ใน
ศิลปะการแสดงกลองยาวอีสานในรูปแบบของกลองยาวบ้านขามหรือคณะกลองยาวสาวน้อย
ลูกพระธาตุขามแก่น การมอบกลองยาวจากทางคณะให้กับโรงเรียนในครั้งนี้นับว่าเป็นการ
ถ่ายทอดและสร้างคุณค่ากลองยาวโบราณให้แก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ เพื่อให้การดำรงอยู่ของ
กลองยาวอสี านและกลองยาวในแบบฉบบั ของคณะสาวน้อยลูกพระธาตุขามแก่นไวใ้ นอนาคต
98
7.3 แนวทางการสืบสานและอนุรักษข์ องคณะกลองยาวอีสาน
คณะกลองยาวอีสานมีการอนุรักษ์ภูมิปัญญาการทำอุปกรณ์กลองยาวอีสานโบราณ
คือ หนังสัตว์ที่ใช้ในการทำกลองยาว โดยอาจเป็นหนังโคหรือหนังกระบือ ซึ่งมีการอนุรักษ์ไว้
ไม่ให้สูญหาย นอกจากนี้ยังมีการคงอัตลักษณ์ในความเป็นกลองยาวโบราณแบบฉบบั ของแต่
ละคณะ ไมใ่ ห้สญู หายไปตามกาลเวลาด้วยการปรับประยุกตห์ ลายเพลงสมัยใหมเ่ ข้ามาร่วมด้วย
คงความเปน็ โบราณด้งั เดมิ ให้มีอยู่ในรูปแบบผสมผสานไม่ให้สูญหาย แนวทางการอนุรักษ์และ
การเผยแพร่กลองยาว ทางคณะกลองยาวได้มีการนำเข้าไปฝึกหัด ถ่ายทอด หรือปลูกฝังให้กับ
เด็กและเยาวชนภายในสถานศึกษา โรงเรียน มหาวิทยาลัย รวมทั้งหมู่บ้านในรูปแบบของการ
ให้เด็กและเยาวชนหรือผู้ที่สนใจกลองยาวได้เรียนรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ เครื่องดนตรี การแสดง
กลองยาวผ่านสื่อรูปแบบใหม่ ๆ และยังมีการนำการแสดงกลองยาวเข้ามามีบทบาทสำคัญใน
งานกิจกรรมของมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เช่น การร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน
ขบวนพาเหรดงาน ISAAN PRIDE 2022 “LGBTQ+Right in Education”
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นตน้
นอกจากแนวทางดังกล่าวแล้ว การอาศัยการดำเนินกิจกรรมทางวิชาการเปน็ ตวั กลาง
หรือสื่อในการอนุรักษ์และเผยแพร่วัฒนธรรมกลองยาวภายในพื้นที่ต่าง ๆ จากการที่มี
นักวิชาการ นักวิจัย หรือนักศึกษาเข้ามาดำเนินกิจกรรมทางวิชาการร่วมกับคณะกลองยาว
ทางสมาชิกภายในคณะกลองยาวต่างยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เนื่องจากทางคณะกลอง
ยาวมองว่าการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของนักวิชาการหรือนักศึกษาที่มีความสนใจเกี่ยวกับ
วัฒนธรรมกลองยาว จะทำให้วัฒนธรรมกลองยาวของคณะถูกเผยแพรแ่ ละถ่ายทอดออกไปใน
วงกว้าง ท้ังในแวดวงวิชาการ และพื้นที่สาธารณะอื่น ๆ นอกเหนือจากพื้นที่ภายในหมู่บ้าน
ซึ่งกิจกรรมที่กล่าวมาข้างต้นนั้นปรากฏในหลายลักษณะ อาทิ การที่นักวิชาการหรือนักศึกษา
เข้ามาสอบถามข้อมูลสำหรับการทำงานวิจัย เพื่อเป็นการรวบรวม และเรียบเรียงข้อมูลคณะ
กลองยาวอีสาน เป็นต้น นอกจากน้ี โครงการที่สนับสนุนคณะลองยาว และคณะกลองยาว
เครือข่ายได้เผยแพร่คลิปการแสดง การประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นการถ่ายทอด
สืบสาน อนุรักษ์ศิลปะการแสดงกลองยาวอีสาน โดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการดำรงอยู่
ของกลองยาวอีสานใหอ้ ยู่คู่กับสังคมในอนาคตภายภาคหนา้ ไดอ้ ย่างย่ังยืน
99 ก
Facebook Fanpage : https://www.facebook.com/isanlongdrums/
YouTobe: https://www.youtube.com/channel/UCRnOwsphqTf5jXCde0vaEwA/videos
100
เอกสารอา้ งองิ
คมกริช การินทร์. (2562). การพฒั นารปู แบบการแสดงวงกลองยาวในจังหวัดมหาสารคาม.
วารสารมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์. 10 (1) , 253 – 272.
ชยั นาทร์ มาเพ็ชร. (2545). ภมู ปิ ญั ญาทางคตี ศลิ ปข์ องหมอลำ ป.ฉลาดนอ้ ย. (รายงานผลการวิจยั ).
มหาสารคาม: มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม.
ชาญวิทย์ ชุมศรี. (2559). การศกึ ษาการละเลน่ พนื้ บา้ นกลองยาว อำเภอเกษตรวสิ ยั
จงั หวัดรอ้ ยเอด็ . วทิ ยานพิ นธศ์ ลิ ปศาสตรม์ หาบญั ฑิต มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั บรุ ีรัมย์.
ชานนท์ ไชยทองด.ี (2557). นทิ าน ตำนาน เร่ืองเลา่ : อตั ลกั ษณ์ และความหมายทางวฒั นธรรมใน
จังหวดั ศรสี ะเกษ. วารสารวถิ สี งั คมมนษุ ย์. 3 (1), 162 – 182.
ช่ืน ศรสี วัสดิ.์ (2550). รูปแบบและคณุ คา่ ของหนงั บกั ตอื้ ในทางเศรษฐกจิ สงั คมและวฒั นธรรมตอ่
ชมุ ชนอสี าน: กรณศี กึ ษาจงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละจงั หวดั ยโสธร. (รายงานผลการวจิ ยั ).
อุบลราชธานี: มหาวทิ ยาลัยราชฎฏั อบุ ลราชธานี.
ไชยยศ วนั อุทา. (2550). การสบื สาน การแสดงลเิ กกลองยาว บา้ นสองหอ้ ง อำเภอรอ่ งคำ
จงั หวดั กาฬสนิ ธ์.ุ (รายงานผลการวจิ ยั ). กรงุ เทพฯ : สำนกั งานคณะกรรมการ
วฒั นธรมแหง่ ชาติ กระทรวงวัฒนธรรม.
ณัฐพงศ์ รกั ษ์งาม. (2559). แนวคิดอัตลกั ษณ์ท้องถนิ่ ภายใตบ้ ริบทการเปลย่ี นแปลงในยคุ โลกาภิวตั น.์
วารสารวทิ ยาลยั สงฆน์ ครลำปาง.
ณัฐวุฒิ พฤกษะศรี. (2559). คตี ลกั ษณว์ เิ คราะหก์ ลองยาวอสี านในอําเภอพล จงั หวดั ขอนแกน่ .
ปรญิ ญาศิลปศาสตร์มหาบญั ฑติ มหาวทิ ยาลยั มหิดล.
ทนิ กร นอ้ ยตำแย. (2561). การพฒั นางานออนซอนกลองยาวชาววาปี ของดพี น้ื บ้านจงั หวัด
มหาสารคาม Development of Chawapee’s Ongson Tomtom Festival: Popular
Folk Musical Instrument of Mahasarakham. วารสารมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์
มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม. 37(3), 27-39.
ทรงคุณ จนั ทจร, สบิ ปยี ์ จนั ทร์ดอน และชมนาถ แปลงมาลย์. (2561). บญุ กมุ้ ข้าวใหญ่ :
ความสัมพันธ์ของความเชือ่ ประเพณี และพิธกี รรมต่อความม่ันคงทางสังคม
และเศรษฐกิจชมุ ชนอสี าน. วารชอ่ พะยอม. 29(1), 421 – 429.
ทรงเดช แสงนิล. (2549). การศกึ ษาดนตรวี ฒั นธรรมพน้ื บา้ น อสี านกรณศี กึ ษาวงกลองยาวคณะ
เทพนมิ ติ . ทนุ สนบั สนนุ ทุนวิจยั และพฒั นามหาวิทยาลยั ราชภัฏมหาสารคาม.
ธญั ญะ สายหม.ี (2563). ฟ้อนละครภูไทของชาวบา้ นหนองห้าง อำเภอกฉุ นิ ารายณ์ จงั หวัดกาฬสนิ ธ์.ุ
วารสารรตั นปญั ญา. 5 (1), 209 – 220.
ธัญลักษณ์ มลู สวุ รรณ. (2555). พฒั นาการของฟอ้ นกลองยาว อำเภอวาปปี ทมุ จงั หวดั มหาสารคาม.
(ปรญิ ญาศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑิต). มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม. มหาสารคาม
นพรัตน์ บวั พฒั น์. (2542). กลองยาวกบั ประเพณฮี ตี สบิ สองของชาวบา้ นยางกู อำเภอธวชั บรุ ี
จงั หวดั รอ้ ยเอด็ . ปรญิ ญานพิ นธศ์ ลิ ปศาสตร์มหาบณั ฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
นษิ ฐา บศุ บงค,์ คะนงึ นติ ย์ ไสยโสภณ และศิรเิ พญ็ อัตไพบูลย์. (2561). การพฒั นาศลิ ปะการแสดง
จากฟอ้ นกลองตุ้มกลุ่มชาติพนั ธ์ุไทยลาว ในจงั หวัดอุบลราชธานี.
วารสารมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชฎฏั สรุ นิ ทร์. 21 (1) 281 – 294.
นจุ รนิ ทร์ พลแสน, สภุ าวดี โพธเิ วชกลุ . (2562). การออกแบบเคร่ืองแตง่ กายประกอบการแสดงฟอ้ น
พื้นบา้ นอีสานของวทิ ยาลยั นาฏศิลปกาฬสนิ ธุ.์ วารสารศลิ ปกรรมศาสตร์
มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ . 11 (1), 161 – 186.
101 ก
ปิ่นวดี ศรสี ุพรรณ. (2555). การวเิ คราะห์การเปลยี่ นแปลงของประเพณบี ุญบงั้ ไฟผา่ นบทเพลง.
วารสารภาษาและวฒั นธรรม. 31 (1), 65 – 77.
พระธีระพงษ์ ธรี ปญฺโญ. (2561). การศึกษาความงามการเทศนใ์ นประเพณบี ญุ ผะเหวดของวดั พุทธ
ประดษิ ฐ์ ตำบลโพนทอง อำเภอเชยี งยนื จงั หวดั มหาสารคาม. วารสารแสงอสี าน
มหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั วทิ ยาเขตอสี าน. 15(2), 115 – 125.
พระมหาดรี ตั น์ อุทยฺปุตฺโต ,พระครูปรยิ ัติคณานรุ กั ษ์ และเจา้ อธิการสุรยิ นต์ ทสฺสนีโย. (2561).
ประเพณีบญุ ผะเหวดกับอัตลกั ษณ์ด้านศีลธรรมของชาวอีสาน. วารสาร มจร
พทุ ธศาสตรป์ รทิ รรศน์. 2(2).
พระอธกิ ารทพิ เนตร ปญฺญาทโี ป, พระครสู ริ ิสุตาภรณ์ และพระมหาณัฐกิตติ อนารโท. (2562).
วเิ คราะห์พธิ ีการบชู าและความเชื่อเก่ียวกบั ผีตาแฮกในชมุ ชน ตำบลเกษม อำเภอตระการพชื ผล
จงั หวัดอุบลราชธานี An Analytical Study on the Ritual of Worshiping and Beliefs about Ta
- Kheag Ghost in Community Kasem Sub- Districttrakanphuetphon District Ubon
Ratchathani Province. วารสารศลิ ปะการจดั การ. 3(1), 11-22.
พทิ ยวัฒน์ พนั ธะศร.ี (2557). มโหรอี สี าน: จากดนตรถี วายเทวสถานแหง่ ราชสำนักเขมรส่ดู นตรวี ถิ ี
ชีวติ ชาวอสี าน. วารสารชอ่ พะยอม. 25(1), 41 – 51.
พิมพ์ทอง ภโู สภา. (2533). ทา่ ฟอ้ นของหมอลำกลอนวาดอบุ ลราชธาน.ี (ปรญิ ญานพิ นธ์ปรญิ ญา
มหาบณั ฑิต) มหาวทิ ยาลยั ศรคี รินทรวิโรฒ: กรงุ เทพฯ.
พิษณุ เข็มพลิ า และณรงคฤ์ ทธิ์ โสภา. (2560). ความคิดสร้างสรรค์ในการคน้ หาพฒั นารปู แบบการ
แสดงพนื้ บา้ นจากภูมปิ ัญญาทอ้ งถิน่ อสี าน. วารสาร มรม. 11 (3), 235 – 245.
รญั จวน อิศรานุวฒั น.์ (2542). กลองยาวของอำเภอศรสี มเดจ็ จงั หวดั รอ้ ยเอด็ . (รายงานผลการวิจยั ).
มหาสารคาม : มหาวิทยาลยั มหาสารคาม.
ราชนั ย์ นลิ วรรณาภา. (2559). วรรณกรรมชาดกพน้ื บา้ นอีสาน : ภาพสะท้อนอัตลกั ษณ์ดา้ นความเชือ่
วิถชี วี ิต ประเพณีและพิธีกรรม. วารสารวจิ ยั เพอื่ พฒั นาสงั คมแลชมุ ชน มหาวทิ ยาลยั
ราชฎฏั มหาสารคาม. 3(1), 85-97.
สถติ ภาคมฤค. (2559). ประเพณบี ญุ ขา้ วสาก: ศรัทธาถงึ ผี สามคั คีถึงคน. วารสารศลิ ปศาสตร์
มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วทิ ยาเขตหาดใหญ่. 11(1), 31 – 48.
สิบปีย์ ชยานสุ าสนีจนั ทร์ดอน, ทรงคุณ จนั ทจร และระพพี นั ธ์ ศริ สิ มั พนั ธ์. (2561). ผปี ตู่ า : ความเชอื่
และพธิ กี รรม ของชาวมหาสารคาม. วารสารชอ่ พะยอม. 29(1), 415 – 419.
สทิ ธศ์ิ ักด์ิ จำปาแดง (2561). กลองยาวในวถิ ีวัฒนธรรมของชาวอำเภอวาปปี ทมุ จงั หวดั มหาสารคาม.
วารสารศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ . 10 (1).
สุรพล เนสุสนิ ธ.ุ์ (2550). พฒั นาการแสดงหมอลำเรอ่ื งตอ่ กลอนทำนองขอนแกน่ .
(รายงานผลการวจิ ยั ). มหาสารคาม: มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม.
ศิรเิ พ็ญ อัตไพบูลย,์ วนิ ัย จำปาอ่อน และจุฬามาส ชมผา. (2559). ศลิ ปินแหง่ ชาตปิ ราชญ์ดา้ นหมอลำ
ของชาวอบุ ลราชธาน.ี วารสารวชิ าการคณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์. 7(1), 97–110.
หิรญั จักรเสน. (2557). กลองยาวบา้ นหนองขามอำเภอยางตลาดจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ.
วทิ ยานพิ นธ์ปรญิ ญามหาบณั ฑิต คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น.
หิรญั จกั รเสน. (2553). พฒั นาการของหนงั ประโมทยั ในจงั หวัดขอนแกน่ .
(ปรญิ ญานิพนธป์ ริญญามหาบณั ฑติ ) มหาวิทยาลยั มหาสารคาม มหาสารคาม.
อวิรุทธ์ โททำ. (2556). วงกลองยาวอีสาน : กรณีศกึ ษาคณะเทพนมิ ติ อำเภอวาปปี ทมุ
จังหวัดมหาสารคาม The study is entitled Isan Klong Yaw: A Case Study of the Tepnimit of
Wapipatum District, Maha Sarakham. วารสารมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั
มหาสารคาม. 32(1), 146-154
102
ผใู้ หข้ อ้ มลู สำคญั
1. ประสิทธ์ิ บุญทัน (หัวหน้าคณะกลองยาวมรดกอสี านบ้านเฮา) และสมาชกิ คณะกลอง
ยาวมรดกอีสานบ้านเฮา อำเภอแวงใหญ่
2. สายทอง แสนคำพล (ผู้อาวโุ สคณะกลองยาวสาวน้อยลกู พระธาตขุ ามแก่น)
3. ทองม้วน ใยแกว้ (หัวหน้าคณะกลองยาวสาวนอ้ ยลูกพระธาตขุ ามแก่น) และสมาชิก
คณะกลองยาวสาวน้อยลูกพระธาตุขามแกน่ อำเภอนำ้ พอง
4. วุฒิไกร วิชัยวงศ์ (หัวหน้าคณะกลองยาวทูบีหนองกุงใหญ่) และสมาชิก
คณะกลองยาวทบู ีหนองกงุ ใหญ่ อำเภอกระนวน
5. วรวุฒิ คำจุรลา (หัวหน้าคณะลูกพระพิศาลกลองยาว) และสมาชิก
คณะลูกพระพศิ าลกลองยาว อำเภอเมืองขอนแก่น
6. สมชาย อ่อนเหลา (หัวหน้าคณะกลองยาวขวัญใจภูเวียงโฉมใหม่) และสมาชิก
คณะกลองยาวขวัญใจภเู วียงโฉมใหม่ อำเภอภเู วียง
103 ก
เกยี่ วกบั ผเู้ ขยี น/เรยี บเรยี ง
1. นายเกยี รตศิ ักด์ิ สรุ ยิ ะภมู ิ บรรณาธกิ าร
คณุ วุฒิ: ศศ.บ.สงั คมวิทยาและมานุษยวิทยา เกียรตินยิ มอันดับ 1
คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่
ตดิ ตอ่ : 092-465-9950
e-mail : [email protected]
2. นายจริ ายทุ ธ โฮห้ นู
คุณวฒุ ิ: กำลงั ศึกษา ศศ.บ.สงั คมวทิ ยาและมานษุ ยวิทยา
คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ติดต่อ: 086-856-1594
e-mail : [email protected]
3. นายชศิ พลว์ หารี
คณุ วฒุ ิ: ศศ.บ.สงั คมวิทยาและมานุษยวทิ ยา เกยี รตินยิ มอนั ดบั 1
คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่
ตดิ ตอ่ : 099-894-2762
e-mail : [email protected]
4. นางสาวสราลี โอธนิ ทรยุทธ
คณุ วุฒิ: ศศ.บ.สงั คมวิทยาและมานุษยวทิ ยา เกียรตินิยมอันดับ 2
คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่
ติดตอ่ : 098-473-9280
e-mail : [email protected]
5. นางสาวกมลชนก จนั ทะโชติ
คุณวฒุ ิ: ศศ.บ.สงั คมวิทยาและมานุษยวทิ ยา เกยี รตินยิ มอนั ดบั 1
คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่
ตดิ ต่อ: 097-342-9615
e-mail : [email protected]
6. นายขจรเกยี รติ มลู ชวี ะ
คุณวุฒิ: กำลงั ศกึ ษา ศศ.บ.สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่
ตดิ ต่อ: 098-142-2398
e-mail : [email protected]
104
ทป่ี รกึ ษาและผสู้ นบั สนุน
1. ผศ.ดร.วณชิ ชา ณรงคช์ ยั ทปี่ รกึ ษา
ตำแหน่ง: รองคณบดีฝา่ ยแผนยุทธศาสตร์และวิจยั
คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คุณวฒุ ิ: ปร.ด. (สังคมวิทยา) มหาวิทยาลยั ขอนแก่น
e-mail: [email protected]
2. นายจกั รพงศ์ เพช็ รแสน ทป่ี รกึ ษา
ตำแหน่ง: นายกเทศมนตรีตำบลบา้ นค้อ จงั หวดั ขอนแก่น
คุณวุฒิ: ดศ.ม. (ดรุ ยิ างคศิลป์) มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น
e-mail: [email protected]
3. ผศ.สมใจ ศรหี ลา้ ทีป่ รกึ ษาและผู้สนบั สนนุ
ตำแหน่ง: อาจารย์ประจำสาขาสังคมศาสตร์
คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คุณวุฒิ: มน.ม. (มานุษยวทิ ยา) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั
e-mail : [email protected]
4. ผศ.ดร.รกั ชนก ชำนาญมาก ท่ีปรกึ ษาและผู้สนบั สนนุ
ตำแหน่ง: อาจารย์ประจำสาขาสังคมศาสตร์
คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่
คุณวุฒิ: ปร.ด. (สงั คมวทิ ยา) มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น
e-mail : [email protected]
5. ผศ.ดร.จกั รพนั ธ์ ขดั ชมุ่ แสง ทป่ี รกึ ษาและผสู้ นบั สนนุ
ตำแหน่ง: อาจารยป์ ระจำสาขาสังคมศาสตร์
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่
คณุ วุฒิ: Ph.D. (Anthropology) University of Toronto,
Canada
e-mail : [email protected]
105 ก
เกยี่ วกบั โครงการ กสส.
โครงการ “เยาวชนคนรักศิลปะการแสดงกลองยาวอีสาน สื่อเพื่อการส่งเสริม
และพัฒนาองค์ความรู้ สร้างความสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมในชุมชน” (กสส.)
ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (พปส.)
ประจำปี 2564 ประเภทส่งเสรมิ และสนับสนุนเดก็ และเยาวชน
วัตถุประสงค์โครงการ “เยาวชนคนรักศิลปะการแสดงกลองยาวอีสาน สื่อเพื่อการ
ส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ สร้างความสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมในชุมชน”
(กสส.)
1. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้กลุ่มกลองยาวอีสานในพื้นที่จังหวัด
ขอนแก่น โดยการนำเสนอผ่านสื่อสร้างสรรค์ให้แก่เด็ก เยาวชน ครอบค รัว
และประชาชนทั่วไป
2. เพื่อสืบสาน อนุรักษ์ กลุ่มกลองยาวอีสานในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น
และเป็นการสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความสนใจในการพัฒนาสื่อสร้างสรรค์ เพื่อให้
เกดิ ความหลากหลายของนิเวศสอื่
3. เพอ่ื สร้างความสัมพันธแ์ ละการมีสว่ นรว่ มระหว่างเด็ก เยาวชน ครอบครวั
และกลมุ่ กลองยาวอสี านในพน้ื ที่จังหวัดขอนแก่น
4. เพื่อสร้างองค์ความรู้พื้นฐานให้แก่เยาวชนรุ่นใหม่ที่รักในศิลปะการแสดง
กลองยาวอีสาน และกลุ่มกลองยาวอีสานในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ด้านการผลิตส่ือ
และด้านพัฒนากลุ่มกลองยาว เพื่อเป็นการปลูกฝังให้เยาวชนสืบสาน อนุรักษ์
ศลิ ปะการแสดงของอสี าน และนำไปต่อยอดเพอื่ ผลติ สอื่ ในอนาคต
106
กองทนุ พฒั นาสอ่ื ปลอดภยั และสร้างสรรค์ (พปส.)
“สื่อสรา้ งสรรค์ เพอ่ื การเปลยี่ นแปลงสงั คม”
วัตถุประสงค์ของกองทุนพัฒนาสอ่ื ปลอดภัยและสรา้ งสรรค์ (พปส.)
1. รณรงค์ สง่ เสรมิ และสนับสนุนการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
2. สง่ เสริมให้มกี ารพัฒนาศกั ยภาพของผู้ผลิตสื่อปลอดภยั และสรา้ งสรรค์
3. ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนโดยเฉพาะเด็ก เยาวชนและครอบครัว
มีทักษะในการร้เู ท่าทันสอื่ เฝา้ ระวงั สอ่ื ทไี่ ม่ปลอดภยั และไม่สร้างสรรค์ และสามารถ
ใช้สอ่ื ในการพัฒนาตนเองชุมชนและสงั คม
4. ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวาง
เพอื่ ใหเ้ กดิ การพัฒนาสือ่ ปลอดภยั และสร้างสรรค์
5. ส่งเสริมให้มีการศึกษาวิจัย อบรม พัฒนาองค์ความรู้และการสร้าง
นวตั กรรมด้านส่ือปลอดภยั และสร้างสรรค์
6. ส่งเสริมบุคคล องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรสาธารณประโยชน์
ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่ดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับส่ือ
ใหม้ ีการผลิตและพฒั นาส่ือปลอดภยั และสรา้ งสรรค์
7. ดำเนินการและส่งเสริมให้มีสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่ทุกคนสามารถ
เขา้ ถงึ และใช้ประโยชนไ์ ด้อยา่ งทั่วถึง
การแสดงกลองยาวอีสาน ถือเป็นศิลปะการแสดงวัฒนธรรมภูมิปัญญา
ของท้องถิ่นอีสาน ที่มีคุณค่า และน่าภาคภูมิใจ ควรได้รับการอนุรักษ์
ถ่ายทอด เผยแพร่และนำเสนอสู่สาธารณะผ่านสื่อในรูปแบบต่าง ๆ
อันเป็นการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกปัจจุบัน
จัดทำโดย
โครงการเยาวชนคนรักศิลปะการแสดงกลองยาวอีสาน
สื่อเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้
สร้างความสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมในชุมชน (กสส.)
กลองยาวอีสานสร้างสรรค์-กสส.