The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเข้าถึงผู้ชม โดยการใช้อารมณ์ของการแสดงให้เข้ากับบทบาทที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็น บทนางเอก พระเอก ทหาร และบทบาทตัวโกง ทำให้ผู้ชมสามารถที่จะเข้าถึงบทบาทของตัวละครได้จริงๆ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by พรเทพ พินพาทย์, 2020-09-03 06:21:29

การเข้าถึงอารมณ์บทบาทตัวโกง

การเข้าถึงผู้ชม โดยการใช้อารมณ์ของการแสดงให้เข้ากับบทบาทที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็น บทนางเอก พระเอก ทหาร และบทบาทตัวโกง ทำให้ผู้ชมสามารถที่จะเข้าถึงบทบาทของตัวละครได้จริงๆ

ก า ร เ ข้ า ถึ ง บ ท บ า ท
ก า ร แ ส ด ง ลิ เ ก

ใ น บ ท บ า ท ตั ว โ ก ง ( ผู้ ช า ย )
ข อ ง ค รู กิ ต ติ เ จื อ เ พ็ ช ร์

วทิ ยาลัยนาฏศิลปอ่างทอง สถาบนั บณั ฑิตพฒั นศิลป

คําว่าลิเก

รากศัพท์ของคําว่า “ลิเก” นัน้ แรกเรมิ สุดมาจากคาํ วา่ “ซากูร (Zakhur)” ในภาษาฮีบรู
หมายถึง พิธสี วดสรรเสรญิ พระผู้เปนเจา้ เมอื หลายพันปมาแลว้ ต่อมามคี ําวา่ “ซิกรุ
(Zikur)” หรือ “ซกิ ิร (Zikir)” ในภาษาอาหรับ ซงึ ใช้เรียกพิธสี วดสรรเสริญพระอัลเลาะห์
ของชาวมสุ ลมิ คํานีภายหลงั เสียงเพียนเปน “ดฮิกริ (Dhikir)” ซงึ่ ชาว อหิ ร่านไดน้ ําเขา้ ไป
ยังประเทศอนิ เดียในสมยั ราชวงศ์ โมกลุ และเผยแพรอ่ อกมายังเกาะสุมาตรา เกาะชวา
และ แหลมมลายู จนเขา้ มาสู่จงั หวดั ปตตานี ยะลา นราธวิ าส

และสตลู ในภาคใตข้ องประเทศไทยซึงเสียงเพียน
ไปเปน “ดจิกิร (Dkir)” และ “ดจเิ ก (Dikay)”
ตามสําเนียงมาเลย์ คําว่า “ดจิเก” นีเองเมอื เดนิ
ทางตามชวาไทยมสุ ลิมเข้ามาสู่กรงุ เทพฯ จึงออก
เสียงตามสําเนยี งไทยง่าย ๆ วา่ “ยีเก” และ
กลายมาเปน “ลเิ ก

ประเภทของลิเก

no. 1 ลิเกบนั ตน

บนั ตน เพยี นมาจาก บนั ตนุ เปนฉันทลักษณช์ นดิ หนงึ ของภาษามลายู ทีลิเกสวดแขกใชเ้ ปนหลักในการรอ้ ง มลี ักษณะเปนละคร
ชุดสนั ๆทีไมม่ แี ก่นสารเปนเรอื งราวการ เจรจาใชส้ าํ เนยี งแบบชาวมุสลิม เมอื ผแู้ สดงรอ้ งจบจะมลี กู ค่ซู งึ นงั ล้มวงหนา้ เวทีรอ้ งรบั
และตีราํ มะนา พวกตีราํ มะนาจะรอ้ งเพลงบนั ตนสลับ รอรายการแสดงชุดต่อไป

no. 2 ลิเกลกู บท

ประยุกต์มาจากลิเกบนั ตน

โดยการใชป้ พาทยท์ ําเพลงรบั แทนการใชล้ กู คู่ ที ตีราํ มะนา เหตทุ ีเรยี กวา่ “ลกู บท”เนอื งจากเมอื ดนตรบี รรเลงเพลง 3 ชนั ทีเปน

แมบ่ ทจบแล้วก็จะบรรเลงต่อท้ายดว้ ยเพลงสนั ๆ หรอื เพลงภาษาต่าง ๆ การบรรเลงเพลงลกู บทนไี ดม้ ผี คู้ ิด ปล่อยตัว
แสดงออกมาโดยรอ้ งและราํ ไปตามเพลงใชป้ พาทยร์ บั แทนลกู ค่ทู ีตีกลองราํ มะนา เรยี กวา่ ลกู บท

no. 3 ลิเกทรงเครอื ง

เปนลิเกทีประยุกต์ลิเกบนั ตนกับลิเกลกู บทเขา้ ดว้ ยกัน
และจดั รปู แบบการแสดงแบบละครราํ มากยงิ ขนึ โดยแสดงกันทังชายและหญงิ ทังนเี นอื งมาจากพระยาเพชรปราณี

(ตร)ี ไดน้ าํ เครอื งแบบการแต่งกายของขา้ ราชการในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อยูห่ วั มาดดั แปลงใส่
เชน่ ปนจุเหรจ็ ยอด (ชฎาทีไมม่ ยี อด) สวมเสอื เยยี รบบั นงุ่ ผา้ ยก สวมถงุ เท้าขาว
ประดบั นพรตั นร์ าชวราภรณก์ ํามะลอ จงึ เรยี กวา่ “ลิเกทรงเครอื ง”

พฒั นาการของลิเก

ลิเกเรมิ ต้น ลิเกเฟองฟู ศิลปนดาราลิเก ลิเกออนไลน์

พ.ศ.2433-2434 พ.ศ. 2500-2530 ราว พ.ศ. 2521 ลิเกถกู เพลงลกู ราว พ.ศ. 2540 ในยุคนเี กิดศิลปนลิเกทีส. ชมมาก ป พ.ศ. 2547-ปจจุบนั เกิดกระแสการบนั ทึก
มามอี ิทธพิ ลต่อการแสดง
เกิดละครรอ้ งราํ เองและเจรจา  ทีสดุ ในยุคหนงึ สอื ทีวี ซดี ลี ิเก ซงึ เดมิ บนั ทึกแถบภาพหรอื วดี โี อ
เปลียนวงราํ มะนา (เล่น อยา่ งลําตัด) และผชู้ มลิเกไดล้ ดความนยิ มลิเกหนั ไปชมเพลงลกู ท่งุ และสอื สงิ พมิ พ์ ใหก้ ารสนบั สนนุ ไดแ้ ก่ ศิลปน นกั เมอื เทคโนโลยเี ขา้ มาพฒั นา เรอื งการบนั ทึก
มาใชว้ งป พาทย2์ พฒั นาการแสดง แทน ทา ภาพและ เสยี ง จดั การแสดงลิเก
ใหศ้ ิลปนลิเกต้องปรบั ตัวเองใหเ้ ขา้ กับสถานการณ์ รอ้ ง ไชยา มติ รชยั ก็เรมิ เขา้ มา บนั ทึกลิเกลงแผน่ ซดี ี ออกจาํ
เปนวกิ ลิเก ปรบั รปู แบบการแสดง เวทเห ซงึ ไดอ้ อกอัลบมั เพลงชุดไมธ่ รรมดา กระทงหลงทาง หนา่ ยตามระบบธุรกิจ และชว่ งนเี อง
เลียนแบบโรงละคร เจา้ พระยามหนิ ท ทันสมยั ทีเรยี กวา่ เวทีลอยฟา เนอื งจากต้องปรบั ตัว สะ ประทับใจใหค้ นดู ระบบสงั คมออนไลนห์ รอื ยุคโซเชยี ลเนต็ เวริ ค์
รศักดธิ าํ รง ใชช้ อื วา่ วกิ ลิเกพระยา แขง่ ขนั กับเพลงลกู ท่งุ เวที และมชี อื เสยี งมาจนกระทังปจจุบนั ในปถัดมา
เพชรปาณี แสงเสยี ง ต้องทันสมยั ทีเรยี กวา่ เวทีคอนเสริ ต์ พระเอก โดง่ ดงั ตามมาคือ ก้งุ
สทุ ธริ าช วงศ์เทวญั

๑.การอภิปรายใหค้ วามรูจ้ าก นายคมคาย แสงศักดิ
นกั แสดงลิเกบทตัวโกงจากคณะลูกกบ เสียงหวาน จบปรญิ ญาโท จากสถาบนั บณั ฑิตพัฒนศิลป
     
ครอบครวั ของนายคมคาย มีความเกยี วข้องกบั อาชีพลิเกมาตงั แต่บรรพบรุ ษุ โดยปูเปนลเิ กอยู่จงั หวดั สุโขทยั (ลิเกเหนือ)
ในอดีตโดยคุณพ่อของนายคมคาย กไ็ ด้เปนตวั โกงประจาํ ขณะนี นายคมคายจึงมคี วามรู้และพืนฐาน ด้านการแสดงลเิ กใน
บทบาทตัวโกงเปนอยา่ งมาก

โดยนายคมคาย ได้ความรวู้ ่า การแสดงลิเก
ในบทบาทตวั โกงสามารถแบ่งออกไดเ้ ปน 4 ประเภท
1.โกงแบบกษัตรยิ ์ ต้องมีลักษณะนงิ ๆร้ายลึกๆใช้คําพูดทเี ดด็ ขาด มอี าํ นาจ ไม่มีคําหยาบคาย
2.โกงแบบทหาร มลี กั ษณะ นอบน้อมต่อกษัตริย์ แต่มีอาํ นาจได้กบั คนทีมียศตาํ กวา่
3.โกงแบบ ชาวบ้าน ใชค้ ําพูดแบบบา้ นๆธรรมดา เสียงดงั โวยวายได้
4.โกงแบบโจร อาจมีคําหยาบ โหดร้าย ถึงเนือถึงตัวผหู้ ญิงได้
 
 การแสดงตวั โกงในแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกันดงั นี
1.การใชน้ าํ เสียง
2.บุคคลกิ การวางตัว
3.การใชส้ ายตา
4.การรอ้ งกลอนทีดดุ ัน

    

การเข้าถึงบทบาทการแสดงลิเกตวั โกง
ของครู กิตติ เจือเพ็ชร์

การเขา้ ถึงบทบาทของการแสดงลเิ ก
การอา่ นบทใหล้ ะเอยี ดและทาํ ความเขา้ ใจกับบท     
เนือเรืองทีจะแสดงเปนสิงทีสําคญั ทีสุด
ในการแสดงลิเกในปจจบุ ันมักจะเล่าเรืองใหช้ มการแสดงได้ทราบกอ่ น
ซงึ แท้จริงไมจ่ ําเปนตอ้ งเลา่ เรือง ควรพูดไวใ้ ห้เปนปมปญหาเล็กน้อย เรียกวา่ “หบุ ปม”
เพือใหช้ มมีความสนใจตดิ ตามเรืองทีจะแสดงวา่ จะทําอะไรตอ่ ไป
บทบาทของตัวโกงลเิ ก
ตวั โกงลเิ กสามารถจาํ แนกบทบาทของตัวโกงลิเกออกเปน   ๓ ประเภท คือ
          -โกงทีเปนกษัตรยิ ์
          -โกงทีเปนทหาร
          -โกงทเี ปนชาวบ้าน

การใชท้ า่ ทางของตัวโกงลิเกสามารถอธบิ ายการใชท้ ่าทางตามบทบาททีแสดงในเนือเรอื ง กลา่ วคอื

          -โกงกษัตริย์ การใช้ทา่ ทางจะต้องนิง เคลอื นไหวร่างกายนอ้ ย แต่ตอ้ งให้ดูทะมดั ทะแมง อกผายไหลผ่ งึ หนา้ ตรง สีหนา้ นงิ ดดุ นั ใชน้ ําเสียงทมุ่ กวา้ ง
พูดช้าชดั ถอ้ ยชดั คาํ หรอื ใชน้ ําเสียง เน้นหนกั เบา ส่วนมากจะเคลือนไหวเฉพาะใบหน้า หรือมองก็จะมองดว้ ยหางตา
          -โกงทหาร พระยา อํามาตย์ มีการใช้ท่าทาง อกตงึ หลงั ตรง สีหนา้ แสดงถงึ ความเจา้ เล่ห์ การเคลอื นไหวร่างกายจะต้องทะมัดทะแมง กริ ิยาจะ
นอบน้อมตอ่ หนา้ กษัตริยแ์ ตจ่ ะโผงผางโวยวายตอ่ ผทู้ ีมอี าํ นาจน้อยกว่า
          -โกงชาวบา้ น หนา้ ตาหลุกหลกิ การเคลือนไหวร่างกายจะตอ้ งมีลลี ายียวนกวนประสาทจะไม่อย่นู ิง พูดไปกย็ กั ไหลย่ กั คอไป สายตาจะไมน่ งิ หน้าตา
เลิกลัก กริ ยิ าหลุกหลิก

         

ทําอยา่ งไรใหเ้ วลาแสดงแลว้ คนทเี ปนเพือนกนั
หรือคนรจู้ กั กนั ไม่เขนิ อาย หรือไมเ่ ข้าถึงบทบาทในการแสดง ?

  

ส่วนหนงึ อยทู่ บี ทในการแสดง
ผ้ทู แี สดงเปนตัวทหารต้องเกรงกลวั หรือให้ความเคารพในกษัตริย์ หรอื ตัวแสดงอนื ๆ
ตอ้ งกลวั ตวั โกง เปนต้น ซึงการแสดงส่วนใหญอ่ าศัยความเคยชิน
จึงทาํ ใหผ้ ้แู สดงอาจจะละเลยในเรอื งของการสือสารกันระหว่างคู่แสดง

สิงสําคัญในการแสดง คอื จิตวิญญาณของนักแสดง ทกุ วินาทีทีอยู่หน้าฉากจะ “ทงิ บท” ไมไ่ ดเ้ ลย
การทิงบท หมายถงึ การทไี ม่สนใจวา่ ตนเองจะตอ้ งแสดงออกมาอยา่ งไรในขณะนัน เชน่
อาจคุยเลน่ กบั นกั แสดงคนอืนๆในฉาก สิงสําคัญอยูท่ จี ุดมอง หรอื จดุ โฟกสั (eyes
contact) ต้องสืออารมณ์ระหว่างคูแ่ สดง รบั -ส่งบทบาทกนั จะทําใหผ้ ู้ชมชืนชอบและเขา้ ถึงในสิงทผี ู้
แสดงสือสารออกมา
          ตัวโกงบทไหนทเี ล่น/เข้าถึงอารมณไ์ ด้ยากทสี ุด?
          ตวั โกงทีมกี ารแสดงหลายอารมณใ์ นตัวเอง
เช่น ตวั แสดงต้องทาํ ใหเ้ มยี หวั เราะ ทําใหล้ กู รอ้ งไห้แลว้ ตนเองมาร้องไห้ เปนตน้
ตอ้ งร้องไห้จรงิ แสดงออกทางสีหนา้ แววตาจรงิ ซงึ ต้องทาํ ใหผ้ ชู้ มไดเ้ ห็น


Click to View FlipBook Version