เอกสารประกอบหลักสตู รกลุ่มสาระการงานอาชีพ ระดับมัธยมศกึ ษา 62
- การทาโครงงาน การจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน กาหนดให้ผู้สอนต้อง
มอบหมายให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติโครงงานอย่างน้อย ๑ โครงงาน ในทุกช่วงชั้น ดังน้ันผู้สอนจึงต้องกาหนดภาระงานใน
ลกั ษณะของโครงงานให้ผูเ้ รียนปฏิบตั ิในรปู แบบใดรูปแบบหนง่ึ ใน๔ รปู แบบต่อไปน้ี
๑.โครงงานสารวจ
๒.โครงงานส่ิงประดิษฐ์
๓.โครงงานแกป้ ัญหาหรือการทดลองศึกษาคน้ ควา้
๔.โครงงานอาชพี
วธิ ีการประเมินผลโครงงาน ใชก้ ารประเมิน ๓ ระยะ คือ
๑. ระยะกอ่ นทาโครงงาน โดยประเมนิ ความพร้อมด้านการเตรยี มการ และความเป็นไปได้ในการ
ปฏบิ ตั งิ าน
๒. ระยะทาโครงงาน โดยประเมนิ การปฏิบัติจริงตามแผน วิธกี ารและขั้นตอนกาหนดไว้ และการ
ปรับปรงุ งานระหว่างปฏบิ ตั ิ
๓. ระยะสิ้นสุดการทาโครงงาน โดยประเมินผลงานและวิธีการนาเสนอผลการดาเนินโครงงาน
การกาหนดใหผ้ ูเ้ รียนทาโครงงาน สามารถทาได้ ๓ แบบ คือ
๓.๑. โครงงานรายบุคคล เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เลือกปฏิบัติงานตามความสามารถ ความ
ถนัด และความสนใจ
๓.๒โครงงานกลุ่ม เป็นการทาโครงงานขนาดใหญ่และซับซ้อนต้องให้ผู้เรียนที่มี
ความสามารถต่างกันหลายดา้ นช่วยกนั ทา การประเมนิ โครงงานควรเนน้ การประเมินกระบวนการกลุ่ม
๓.๓ โครงงานผสมระหว่างรายบุคคลกับกลมุ่ เป็นโครงงานท่ีผเู้ รียนทาร่วมกนั แต่เม่ือเสร็จ
งานแล้วให้แตล่ ะคนรายงานผลด้วยตนเอง โดยไม่ตอ้ งไดร้ ับการชว่ ยเหลือจากสมาชกิ ในกล่มุ ในการประเมินการปฏิบัติงาน
ดงั กล่าวมาข้างตน้ ผสู้ อนจาเป็นตอ้ งสร้างเคร่อื งมือเพอ่ื ใช้ประกอบการประเมนิ การปฏบิ ตั ิ เชน่
- แบบวดั ภาคปฏิบตั ิ
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบตรวจสอบรายการ
- เกณฑก์ ารให้คะแนน (Rubrics)
๑.๒.๓ การประเมินสภาพจริง (Authentic Assessment) การประเมินสภาพจริง เป็นการประเมินจาก
การปฏิบัติงานหรือกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยงานหรือกิจกรรมที่มอบหมายให้ผู้เรียนปฏิบัติจะเป็นงาน หรือ
สถานการณ์ท่ีเปน็ จรงิ (Real life) หรือใกล้เคียงกบั ชีวติ จริง จึงเปน็ งานท่มี ีสถานการณซ์ บั ซอ้ น (Complexity) และเป็น
องค์รวม (Holistic) มากกว่างานปฏิบัตใิ นกจิ กรรมการเรยี นทัว่ ไป
วิธีการประเมินสภาพจริงไม่มีความแตกต่างจากการปฏิบัติ(Performance Assessment) เพียงแต่อาจ
มีความยุ่งยากในการประเมินมากกว่า เนื่องจากเป็นสถานการณ์จริง หรือต้องจัดสถานการณ์ให้ใกล้จริง แต่จะเกิด
ประโยชน์กับผู้เรียนมากเพราะจะ ทาให้ทราบความสามารถท่ีแท้จริงของผู้เรียนว่า มีจุดเด่นและข้อบกพร่องในเรื่องใด
อนั จะนาไปสู่การแก้ไขที่ตรงประเดน็
๑.๒.๔ การประเมินด้วยแฟ้มสะสมงาน (Portfolio Assessment) การประเมินด้วยแฟ้มสะสมงาน
เปน็ วธิ ีการประเมินทชี่ ว่ ยส่งเสรมิ ให้การประเมินตามสภาพจริงมีความสมบูรณ์สะท้อนศักยภาพทแี่ ทจ้ รงิ ของผเู้ รียนมากขึ้น
โดยการให้ผ้เู รียนได้เก็บรวบรวม (Collect) ผลงานจากการปฏบิ ตั ิจรงิ ทั้งในชน้ั เรียนหรือในชีวิตจรงิ ที่เกี่ยวข้องกบั การเรยี นรู้
เอกสารประกอบหลักสตู รกล่มุ สาระการงานอาชพี ระดบั มัธยมศึกษา 63
ตามสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ มาจัดแสดงอย่างเป็นระบบ (Organized)โดยมีจุดประสงค์เพ่ือสะท้อนให้เหน็ (Reflect)ความ
พยายามเจตคติ แรงจูงใจ พัฒนาการ และความสัมฤทธิ์ผล (Achievement) ของการเรียนรู้ของผู้เรียน การวางแผน
ดาเนนิ งาน การประเมินดว้ ยแฟ้มผลงานทส่ี มบรู ณจ์ ะช่วยให้ผสู้ อนให้สามารถประเมินจากแฟม้ สะสมงานแทนการประเมิน
จากการปฏบิ ัตจิ รงิ
การประเมินด้วยแฟ้มสะสมงานมีแนวทางในการดาเนนิ งานดงั น้ี
๑) กาหนดโครงสรา้ งของแฟม้ สะสมงานจากวัตถุประสงค์ของแฟ้มสะสมงานวา่ ตอ้ งการสะท้อนสง่ิ
ใดเก่ียวกบั ความสามารถและพัฒนาการของผเู้ รยี น ท้งั นอ้ี าจพิจารณาจากผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวังตามสาระการเรียนรู้ที่
สะท้อนไดจ้ ากการให้ผู้เรยี นจัดทาแฟ้มสะสมงาน
๒) กาหนดวธิ ีการเกบ็ รวบรวมผลงานให้สอดคล้องกับวตั ถุประสงค์ของแฟ้มสะสมงาน เพื่อใหผ้ เู้ รียน
ได้ทาแฟม้ สะสมงาน
๓) กาหนดใหว้ ิธีการประเมินงานเพอ่ื พฒั นาชน้ิ งาน ซ่ึงส่งผลถึงการพฒั นาผู้เรยี นให้มคี วามสามารถ
สงู สุด ทงั้ น้คี รูควรจัดทาเกณฑ์การใหค้ ะแนน (Rubrics) สาหรบั ให้ผูเ้ รียนนาไปใช้เปน็ ข้อชน้ี าในการพัฒนางาน
๔) ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนางาน โดยมีส่วนร่วมในการประเมินจากทุกฝ่าย แล้วนา
ข้อมูลที่สอดคล้องกันไปเป็นสารสนเทศหลัก ในการให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) สาหรับให้ผู้เรียนใช้ในการปรับปรุง
แก้ไขข้อบกพร่องจัดให้มีการนาเสนอผลงานท่ีได้สะสมไว้ โดยใช้วิธีการที่เหมาะสม ซ่ึงผู้สอนและผู้เรียนควรวางแผน
รว่ มกันในการคัดเลอื กช้ินงานท่ดี ีท่สี ุด ท้ังน้ีการนาเสนอช้ินงานแตล่ ะช้ินควรมีหลักฐานการพัฒนางานและการประเมินผล
งานด้วยตนเอง เกณฑ์การประเมินผลงานประกอบไว้ด้วยในการใช้วิธีการประเมินโดยแฟ้มสะสมงาน ผู้สอนควรคานึง
ด้วยว่าแฟ้มสะสมงานมีหลายประเภท การเลือกใช้แฟ้มสะสมงานประเภทใด ควรคานึงถึงรูปแบบ และแนวทางในการ
พัฒนาแฟม้ สะสมงานให้เหมาะสม เพอื่ ใหแ้ ฟ้มสะสมงานชว่ ยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรยี นด้วยกาหนดสัดสว่ นการ
ประเมินระหว่างเรียนกับการประเมินผลปลายภาคเรียนหรือปลายปี การประเมินระหว่างเรียนมีวัตถุประสงค์สาคัญ เพื่อ
มงุ่ นาสารสนเทศ มาพฒั นาผเู้ รียนและปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนของผู้เรียน การประเมินระหวา่ งเรียนที่ดาเนินการ
อย่างถูกต้อง เข้มงวด และจริงจัง จะให้ผลการประเมินที่สะท้อนภาพความสาเร็จ และศักยภาพของ ผู้เรียนได้ถูกต้อง
สมบรู ณ์ และน่าเช่อื ถือ ดังนั้น ควรใหน้ ้าหนักความสาคัญของการประเมนิ ระหวา่ งเรียนในสัดส่วนท่มี ากกวา่ การประเมิน
ตอนปลายภาคเรียนหรือปลายปี ท้ังน้ีโดยคานึงถึงธรรมชาติของรายวิชาและผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวังเป็นสาคัญ แต่
อย่างไรก็ตามในการประเมินเพ่ือตัดสินผลการเรียนรายวิชาปลายภาคเรียนหรือปลายปี ต้องนาผลการประเมินระหว่าง
เรียนไปใชใ้ นการตดั สินผลการเรยี นดว้ ย ทงั้ นใ้ี หเ้ ปน็ ไปตามสดั สว่ นและแนวดาเนินการในระเบียบทีส่ ถานศกึ ษา ผกู้ าหนด
จดั ทาเอกสารบันทกึ ข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียน ผู้สอนตอ้ งจัดทาเอกสารบันทึกขอ้ มูลสารสนเทศเกี่ยวกับ
การประเมินผลระหว่างเรียนอย่างเป็นระบบชัดเจน เพื่อใช้เป็นแหล่งข้อมูลในการปรับปรุง แก้ไข ส่งเสริมผู้เรียน ใช้เป็น
หลักฐานสาหรับการสื่อสารกับผู้เกี่ยวข้อง และใช้เป็นหลักฐานสาหรับตรวจสอบการปฏิบัติงานของผ้สู อน ซ่ึงแสดงให้เห็น
ถึงความโปร่งใสและความยุติธรรมในการประเมิน ท้ังนี้ให้เป็นไปตามระเบียบที่สถานศึกษากาหนด ข้อมูลหลักฐานการ
ประเมินระหว่างท่ีพึงแสดง ได้แก่วิธีการและเคร่ืองมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลข้อมูลเก่ียวกับความสามารถของผู้เรียนตาม
วิธีการประเมิน เช่นบันทึกการสังเกตพฤติกรรม บันทึกคะแนนจากผลการประเมินชิ้นงาน บันทึกคะแนนการประเมิน
โครงงาน บนั ทึกเกีย่ วกบั การประเมินแฟ้มสะสมงาน เป็นต้น
เอกสารประกอบหลกั สตู รกลุ่มสาระการงานอาชีพ ระดับมัธยมศกึ ษา 64
๑.๓ การประเมนิ เพอ่ื สรปุ ผลการเรียน
การประเมินเพอ่ื สรปุ ผลการเรียนเป็นการประเมิน เพ่อื มุ่งตรวจสอบความสาเร็จ
ของผ้เู รยี นเม่ือผา่ นการเรียนรูใ้ นชว่ งเวลาหน่งึ หรอื สิ้นสุดการเรียนรายวชิ าปลายปี/ปลายภาค
ประกอบดว้ ย
การประเมินหลังเรียน เป็นการประเมินผู้เรียนในเรื่องท่ีได้เรียนจบแล้ว เพื่อตรวจสอบว่าผู้เรียนเกิดการ
เรียนรู้ตามผลการเรียนที่คาดหวังหรือไม่ เม่ือนาไปเปรยี บเทียบกับผลการประเมินกอ่ นเรยี นว่า ผู้เรียนเกิดพัฒนาการขึ้น
มากน้อยเพียงไร ทาให้สามารถประเมินได้ว่าผู้เรียนมีศักยภาพในการเรียนรู้เพียงไร และกิจกรรมการเรียนท่ีจัดข้ึน
มีประสิทธิภาพในการพัฒนาผู้เรียนอย่างไร ข้อมูลจากการประเมินภายหลังการเรียน สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้
มากมาย ได้แก่
๑. ปรับปรงุ แก้ไขซ่อมเสริมผู้เรยี นให้บรรลผุ ลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวงั หรอื จุดประสงค์ของการเรียน
๒. ปรบั ปรงุ แก้ไขวิธีเรยี นของผูเ้ รยี นใหม้ ีประสทิ ธภิ าพยงิ่ ข้ึน
๓. ปรับปรงุ แก้ไขและพฒั นาการจัดกิจกรรมการเรียน
การประเมนิ หลงั เรียนนี้ ถา้ จะใหส้ อดคลอ้ งกบั การประเมินกอ่ นเรยี น เพื่อการเปรียบเทียบพฒั นาการของผูเ้ รียนสาหรบั
การวจิ ัยในชั้นเรียน ควรใช้วธิ กี ารและเครอื่ งมือประเมนิ ชดุ เดยี วกันหรอื คู่ขนานกัน
๒. การกาหนดสดั ส่วนระหวา่ งเรียนกับการประเมินปลายภาค / ปลายปี ใหก้ ลมุ่ สาระ
การเรียนรู้แตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั กาหนดตามหลักการทคี่ ณะกรรมการการบรหิ ารหลักสูตรและวชิ าการดงั นี้
๒.๑ การประเมนิ ผลระหว่างเรียน ให้มกี ารประเมนิ ผลไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๖๐ของการประเมนิ ผลทัง้ หมด
๒.๒ การประเมินผลระหวา่ งเรียนและการประเมินผลปลายภาค / ปลายปี ให้มีการประเมนิ ทง้ั ด้านความรู้
ทกั ษะกระบวนการ และคณุ ลกั ษณะ
๒.๓ ในรายวิชาเดียวกันให้มีการกาหนดสัดส่วนระหว่างเรียนกับปลายภาค / ปลายปีและวางแผน
ประเมนิ ผลตลอดภาคเรียน / ตลอดปี รว่ มกัน
๒.๔ ในกรณีทมี่ ีการประเมินผลด้วยแบบทดสอบ ให้มีการประเมนิ โดยใชว้ ิธกี ารให้ผ้เู รียนตอบแบบทดสอบ
อตั นัย โดยมกี ารให้คะแนนคดิ เปน็ รอ้ ยละ ๖๐ ของการทดสอบครัง้ น้ัน
๓. การจัดทาเอกสารบันทึกข้อมูลสารสนเทศของผเู้ รยี น ประกอบดว้ ย
๓.๑ ผสู้ อนแต่ละรายวิชาจัดทาแผนการประเมนิ ผลในรายวชิ าของตนเอง ตลอดภาคเรียน โดยมีหัวขอ้ ดงั นี้
๓.๑.๑ การประเมนิ ผลก่อนเรียน
๓.๑.๒ การประเมนิ ระหว่างเรยี น
๓.๑.๓ การประเมินปลายภาค / ปลายปี
๓.๑.๔ อัตราส่วนน้าหนักคะแนนระหว่างความรู้ (K) ทักษะกระบวนการ (P) และคุณลักษณะ (A)
และรายละเอียดน้าหนักคะแนนของแต่ละผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง พร้อมท้ังระบุวิธีการวัด เครื่องมือวัด และประเมินผล
ในแตล่ ะผลการเรยี นรู้
๓.๑.๕ กาหนดคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ประกอบด้วย คุณลักษณะตาม
ธรรมชาติวิชา และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษา ทั้งนี้ให้ใช้แบบสรุปผลการประเมินตามแบบบันทึกท่ีแนบ
ทา้ ยคูม่ ือนี้
เอกสารประกอบหลักสตู รกลุ่มสาระการงานอาชีพ ระดบั มธั ยมศึกษา 65
๓.๒ จัดทาแบบบนั ทึกขอ้ มลู ผลการประเมินท่ีแสดงสารสนเทศของผู้เรียน ทั้งนี้เพ่ือใช้เป็นแหล่งข้อมูลใน
การปรบั ปรงุ แกไ้ ข สง่ เสรมิ ผู้เรียน และใชเ้ ปน็ หลักฐานสาหรบั ส่ือสารกับผู้เกย่ี วขอ้ ง และใชเ้ ปน็ หลักฐานสาหรบั ตรวจสอบ
การปฏิบัติงานของผู้สอน ดังน้ันข้อมูลควรแสดงถึงร่อยรอยการพัฒนา พร้อมระบุข้อสังเกตที่เน้นข้อค้นพบท่ีเป็นจุดเด่น
และจุดดอ้ ยของผูเ้ รียนเปน็ รายบคุ คล ท้งั ระหวา่ งเรยี นและปลายภาค / ปลายปี
๓.๓ จดั ทาแบบบนั ทึกการประเมินความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี น เพ่ือแสดงร่องรอย
หลักฐานการพัฒนาความสามารถในการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียน และสรุปผลการประเมินตามแบบสรุปผลการ
ประเมินแนบทา้ ยคูม่ อื น้ี
๓.๔ จัดทาแบบบันทึกการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือแสดงร่องรอยหลักฐานการพัฒนา
คุณลักษณะผู้เรยี น และสรปุ ผลการประเมนิ ตามแบบสรปุ ผลการประเมนิ
๓.๕ นาผลการประเมินจากขอ้ ๓.๒ , ๓.๓ และ ๓.๔ มาสรุปและบันทึกลงในแบบ ปพ.๕
๔. การใหร้ ะดับผลการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรรู้ ายปี จาแนกเปน็ ๘ ระดบั ดังนี้
ระดบั ผลการเรยี น ความหมาย ชว่ งคะแนนเปน็ ร้อยละ
๔ ผลการเรยี นดีเยีย่ ม ๘๐ – ๑๐๐
๓.๕ ผลการเรียนดีมาก ๗๕ – ๗๙
๓ ๗๐ – ๗๔
๒.๕ ผลการเรียนดี ๖๕ – ๖๙
๒ ผลการเรียนคอ่ นขา้ งดี ๖๐ – ๖๔
๑.๕ ผลการเรยี นนา่ พอใจ ๕๕ – ๕๙
๑ ๕๐ – ๕๔
๐ ผลการเรยี นพอใช้ ๐ - ๔๙
ผลการเรยี นผ่านเกณฑ์ขั้นต่า
ผลการเรยี นตา่ กว่าเกณฑ์
๒. การประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขยี น
การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน เป็นการประเมินศักยภาพของผู้เรียนในการอ่าน การฟัง การดู
และการรบั รู้ จากหนังสือเอกสารและส่ือตา่ งๆ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง แล้วนามาคดิ วเิ คราะห์เน้ือหาสาระทน่ี าไปสู่การแสดงความ
คิดเห็น การสังเคราะห์สร้างสรรค์ในเร่ืองต่างๆ และถ่ายทอดความคิดน้ัน ด้วยการเขียนซึ่งสะท้อนถึงสติปัญญา ความรู้
ความเข้าใจ ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ แกป้ ัญหาและสรา้ งสรรคจ์ ินตนาการอยา่ งเหมาะสมแลหะมคี ุณค่าแก่ตนเอง
สงั คมและประเทศชาติ พรอ้ มด้วยประสบการณ์และทักษะในการเขียนที่มีสานวนภาษาถกู ตอ้ ง มีเหตุผลและลาดับขน้ั ตอน
ในการนาเสนอ สามารถสรา้ งความเข้าใจแก่ผูอ้ ่านไดอ้ ย่างชัดเจนตามระดับความสามารถในแตล่ ะระดับชั้น การประเมิน
การอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขียน สรุปผลรายปี/รายภาค เพื่อวินิจฉัยและใช้เป็นข้อมูลเพ่ือประเมินการเล่ือนชั้นเรียนและ
การจบการศกึ ษาระดับตา่ งๆ
เอกสารประกอบหลกั สตู รกลุ่มสาระการงานอาชีพ ระดับมธั ยมศกึ ษา 66
๓. การประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
การประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ตามหลกั สตู รแกนกลางขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช - ๒๕๕๑ และตามท่ี
สถานศกึ ษากาหนดเพิม่ เตมิ เป็นการประเมนิ รายคุณลักษณะแล้วรวบรวมผลการประเมินจากผู้ประเมินทกุ ฝ่ายนามา
พิจารณาสรุปผลเปน็ รายปี/ รายภาค เพือ่ ใช้เปน็ ข้อมลู ประเมนิ การเล่อื นชัน้ เรียนและการจบการศกึ ษาระดับตา่ งๆ ดังนี้
๓. ๑ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๓. ๒ ซ่อื สัตย์ สุจรติ
๓. ๓ มีวินัย
๓. ๔ ใฝ่เรยี นรู้
๓.๕ อยู่อยา่ งพอเพยี ง
๓.๖ มงุ่ มัน่ ในการทางาน
๓.๗ รักความเป็นไทย
3.๘ มีจิตสาธารณะ
เอกสารประกอบหลักสตู รกลุ่มสาระการงานอาชีพ ระดบั มธั ยมศกึ ษา 67
ลงช่ือ ……………………………………………………..
( นางวนิดา กิมกลู )
หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
ความเหน็ ของผู้อานวยการสถานศกึ ษา
............................................................................................................................. ............................
............................................................................................................................. ............................
ลงชอ่ื ……………………………………
(นางสชุ ีรา หงษเ์ จรญิ )
ตาแหนง่ ผอู้ านวยการสถานศกึ ษาโรงเรยี นเทศบาล ๔ (อุดมวิทยส์ มใจ)
ความเห็นของประธานคณะกรรมการสถานศึกษา
............................................................................................................................. ............................
..................................................................................................... ....................................................
ลงชื่อ …………………………………………
(นายชัยพร ผอ่ งแผ้ว)
ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรยี นเทศบาล ๔ (อุดมวิทยส์ มใจ)