The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วย 6 - สถิติ (3)
.
นายยศปกรณ์ จันทะลุน
รหัสนักศึกษา 61100140108
นักศึกษาฝึกประสบการณ์สอนวิชาชีพครู
สาขาวิชาคณิตศาสาตร์
มหาวิทยาลียราชภัฏอุดรธานี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by yodpagorn.kmyc19, 2022-10-12 01:44:42

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วย 6 - สถิติ (3)

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วย 6 - สถิติ (3)
.
นายยศปกรณ์ จันทะลุน
รหัสนักศึกษา 61100140108
นักศึกษาฝึกประสบการณ์สอนวิชาชีพครู
สาขาวิชาคณิตศาสาตร์
มหาวิทยาลียราชภัฏอุดรธานี

45

8.3 ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของครพู ่เี ลีย้ ง

1) ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้แล้ว เปน็ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่

 ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ

2) การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้

 เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

 ยังไมเ่ นน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป

3) เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี

 นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ

 ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้

4) ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................. ................................................................ ............................

ลงชอ่ื .....................................................
( นางละไม ตะไก่แก้ว )
ตำแหนง่ ครพู ่ีเลีย้ ง

46

47

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 52

รายวิชา คณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐาน รหสั วชิ า ค 23101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 6 สถติ ิ เวลา 8 ช่ัวโมง

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 52 เรอ่ื ง แผนภาพกลอ่ ง 1 เวลา 1 ชั่วโมง

ผสู้ อน นายยศปกรณ์ จันทะลนุ สอนวนั ท่ี ........ เดือน .................... พ.ศ. ..............

1. มาตรฐานและผลการเรียนรู้
สาระท่ี 3 สถติ ิและความน่าจะเปน็
มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรูท้ างสถิติในการแกป้ ัญหา
ค 3.1 ม.3/1 เข้าใจและใช้ความรู้ทางสถิติในการนำเสนอ และวเิ คราะห์ข้อมูลจากแผนภาพ

กล่องและแปรความหมายผลลพั ธ์ รวมทัง้ นำสถิตไิ ปใชใ้ นชวี ติ จรงิ โดยใช้เทคโนโลยีทเ่ี หมาะสม
2. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม

เม่ือนกั เรยี นเรียนจบบทเรียนน้แี ล้ว นกั เรียนสามารถ
2.1 ดา้ นความรู้ (K)

อธบิ ายเกยี่ วกับลักษณะของควอรไ์ ทลข์ องแผนภาพกล่องของข้อมลู ได้ถูกต้อง
2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P)

ใชค้ วามรทู้ างคณติ ศาสตร์เพ่ือทำความเข้าใจของควอร์ไทล์ของแผนภาพกล่อง
2.3 ด้านคณุ ลักษณะ (A)

แสดงความมุมานะในการทำความเขา้ ใจเนื้อหา และสร้างเหตุผลเพ่ือสนับสนุนแนวคดิ ของตนเอง

3. สาระสำคัญ
แผนภาพกล่องเป็นเครื่องมือหนึ่งทางสถิติที่ใช้นำเสนอข้อมูล โดยใช้ควอร์ไทล์แบ่งข้อมูลออกเป็น 4

ส่วน แต่ละส่วนมีจำนวนข้อมูลเท่าๆ กัน แผนภาพกล่องช่วยให้เห็นภาพการกระจายของข้อมูลทั้งชุดในแต่ละ
ช่วง
ได้ชัดเจนกว่าการพิจารณาจากควอร์ไทล์โดยตรง แผนภาพกล่องยังสามารถใช้ในการเปรยี บเทียบการกระจาย
ของขอ้ มลู ท่ีมีลกั ษณะและหนว่ ยวัดเดยี วกนั ตงั้ แต่สองชดุ ขึน้ ไป ทง้ั นแ้ี ผนภาพกลอ่ งช่วยให้เห็นภาพการกระจาย
ของข้อมูลได้ เช่นเดียวกับแผนภาพจุด และแผนภาพต้น – ใบ แผนภาพกล่องแตกต่าง จากแผนภาพจุด และ
แผนภาพต้น – ใบ คือ ไม่ได้แสดงให้เห็นข้อมูล แต่ละตัวเหมือนเช่นแผนภาพจุดและแผนภาพต้น – ใบ แต่
แสดงภาพของแต่ละช่วงทีม่ จี ำนวนขอ้ มูลเท่า ๆ กนั ซ่งึ แต่ละช่วงนัน้ อาจยาวไม่เท่ากนั การสรา้ งแผนภาพกล่อง
ต้องใช้ค่าที่สำคัญ 5 ค่า คือ ค่าต่ำสุดของข้อมูล ค่าสูงสุดของข้อมูล ควอร์ไทล์ที่ 1 (Q1) ควอร์ไทล์ที่ 2 (Q2)
และควอร์ไทล์ที่ 3 (Q3) ควอรไ์ ทลท์ ้ังสาม เปน็ คา่ ณ ตำแหนง่ ทแ่ี บ่งข้อมลู ออกเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กัน เมื่อเรียง

48

ข้อมูลจากน้อยไปมากค่า ณ ตำแหน่งที่แบ่งข้อมูลดังกล่าว เรียกว่า ควอร์ไทล์ที่ 1(Q1) ควอร์ไทล์ที่ 2 (Q2)
และควอรไ์ ทล์ที่ 3 (Q3) ตามลำดับ

4. สาระการเรยี นรู้
แผนภาพกล่อง และควอรไ์ ทล์

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้รูปแบบ Active Learning
5.1 ขั้นนำ
5.1.1 ครูและนกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายถึงความรู้พื้นฐานทางสถติ ขิ องคาบทแ่ี ล้ว
5.1.2 ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นได้ซกั ถามข้อสงสยั
5.1.3 ครแู จ้งจุดประสงคข์ องการเรยี นร้ใู นกับนักเรยี นทราบ
5.1.4 ครูทบทวนความรขู้ องเรยี นผ่านกจิ กรรม kahoot พร้อมเสรมิ ความร้ปู ระกอบเก่ียวกบั ควอร์ไทล์

พร้อมให้ครูอธบิ ายเสิรมประกอบ การหาควอร์ไทล์ทง้ั สามสามารถทําไดห้ ลายวิธี แตใ่ นท่ีนีจ้ ะใช้ความรู้ ในเรื่อง
มธั ยฐานของข้อมูลเพื่อหาควอรไ์ ทลเ์ หล่าน้ี ซึง่ ทําได้โดย

1. เรียงขอ้ มูลจากน้อยไปมาก
. หามธั ยฐานของข้อมลู จะได้ควอรไ์ ทล์ท่ี 2
3. หามัธยฐานของข้อมลู เฉพาะข้อมูลท่ีอยู่ในลําดบั ที่ต่าํ กวา่
ควอร์ไทล์ท่ี 2 จะได้มธั ยฐานดังกลา่ วเปน็ ควอร์ไทล์ที่ 1
4. หามัธยฐานของข้อมูลเฉพาะข้อมลู ท่ีอยใู่ นลาํ ดับท่สี งู กว่า
ควอรไ์ ทล์ท่ี 2 จะไดม้ ัธยฐานดังกล่าวเปน็ ควอร์ไทลท์ ี่ 3

5.2 ขัน้ สอน
5.2.1 ครูให้นักเรยี นแบ่งเป็นกลมุ่ ละ 4-5 คน โดยใหน้ กั เรียนศึกษาจากหนังสือ หรอื อินเทอร์เน็ตเสริม

แล้วครใู หค้ วามรนู้ ักเรียนผา่ นตวั อยา่ งที่ 1 , 2 และวิธีการสร้างแผนภาพกล่อง
ตัวอยา่ งท่ี 1 ข้อมูลเกี่ยวกบั คะแนนสอบระหวา่ งภาคเรยี นวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนห้องหนง่ึ จาํ นวน 25
คน เปน็ ดงั น้ี
20 27 15 30 20 22 18 19 26 24 12 25 18 11 19 28 19 28 14 15 24 12 16 18 22

49

จงหาควอร์ไทล์ทง้ั สามของข้อมลู ชดุ นี้

วิธที ํา
เมอ่ื เรียงคะแนนเหลา่ นจี้ ากน้อยไปมาก แล้วหามธั ยฐานของขอ้ มลู จะได้
11, 12, 12, 14, 15, 15, 16, 18, 18, 18, 19, 19, 19, 20, 20, 22, 22, 24, 24, 25, 26, 27, 28, 28, 30
จะได้ว่า มัธยฐานของข้อมูลทั้งหมดเท่ากับ 19 ดังนนั้ Q2= 19
หามัธยฐานของข้อมลู เฉพาะข้อมลู ท่ีอยู่ในลําดับที่ต่ํากว่า Q2 คอื ข้อมลู ทป่ี ระกอบด้วย
11, 12, 12, 14, 15, 15, 16, 18, 18, 18, 19, 19
จะได้วา่ มธั ยฐาน = (15 + 16)/2 = 15.5 ดังนัน้ Q2 = 15.5
หามธั ยฐานของข้อมลู เฉพาะข้อมลู ท่ีอยู่ในลําดับที่สงู กวา่ Q2 คอื ข้อมูลทป่ี ระกอบด้วย
20, 20, 22, 22, 24, 24, 25, 26, 27, 28, 28, 30
จะได้ว่า มัธยฐาน = 24 + 25 = 24.5 ดังนัน้ Q3 = 24.5
น่นั คือ ควอร์ไทลท์ ี่ 1 ควอรไ์ ทล์ที่ 2 และควอร์ไทลท์ ่ี 3 เท่ากับ 15.5, 19 และ 24.5 ตามลาํ ดับ 1

การสรา้ งแผนภาพกล่อง
แผนภาพกล่อง

ควอร์ไทล์ท่ี 1 ควอร์ไทลท์ ่ี 2 ควอรไ์ ทล์ท่ี 3 ค่าตา่ํ สดุ ของข้อมูล และคา่ สูงสุดของข้อมลู เป็นค่า 5 ค่า
ทน่ี ยิ มใช้บอก ตาํ แหน่งของข้อมูล เพ่ือชว่ ยให้เหน็ ลักษณะการกระจายของข้อมูล ค่าท้ังหา้ นเ้ี ปน็ องคป์ ระกอบ
พนื้ ฐานในการนําเสนอข้อมูล ในรูปแผนภาพกล่อง ดังรปู

ตวั กลอ่ งจะแสดงการกระจายของขอ้ มลู ท่ีอย่ตู รงกลางตั้งแต่ตําแหนง่ ทเี่ ป็นควอร์ไทลท์ ่ี 1 ถึงควอร์ไทล์
ที่ 3 ซ่ึงมขี ้อมูล คิดเปน็ ประมาณ 50% ของข้อมูลท้ังหมด โดยเส้นท่อี ยูภ่ ายในกล่องจะแสดงตาํ แหนง่ ทเ่ี ป็นมัธย
ฐานของข้อมลู เส้นทลี่ ากจาก Q, ไปยงั ค่าต่าํ สดุ และเสน้ ที่ลากจาก 9, ไปยงั คา่ สงู สดุ แต่ละเสน้ เรียกว่า
วิสเกอร์ (whisker) วิสเกอรแ์ ตล่ ะเส้นจะแสดง การกระจายของขอ้ มลู ซงึ่ มีอยู่ประมาณ 25% ของข้อมลู
ทั้งหมด

50

วิธกี ารสร้างแผนภาพกล่อง ดังนี้

แผนภาพกล่องท่สี ร้างได้จะประกอบด้วยสว่ นต่าง ๆ ดังนี้

โดย การสรา้ งแผนภาพกล่องสามารถสร้างในแนวนอนหรอื แนวต้ังก็ได้
5.2.2 ครูให้นักเรียนทำ “กิจกรรม : สรา้ งแผนภาพกลอ่ งมิตรควอร์ไทล์ ” เป็นกลุ่มละ 4-5 คน แลว้
สรปุ พรอ้ มอภิปราย แนวคิด เพ่ือใหน้ กั เรยี นเข้าใจและเห็นภาพตำแหน่งของควอรไ์ ทล์ท้ังสาม และสรา้ ง
แผนภาพกลอ่ งได้
ตัวอยา่ งที่ 2 จงสรา้ งแผนภาพกล่องจากข้อมูลต่อไปนี้
99 56 17 13 89 51 47 74 20 76 86 22 98 75 37 53 38 68 62 17
วธิ ีทาํ เรียงขอ้ มลู จากน้อยไปมาก ได้ดังนี้
13, 17, 17, 20, 22, 37, 38, 47, 51, 53, 56, 62, 68, 74, 75, 76, 86, 89, 98, 99
หาค่าตํ่าสุด ค่าสูงสดุ Q1 , Q2 และ Q3

51

จะได้ ค่าตํ่าสุด = 13 คา่ สูงสุด = 99

Q2 = 53 + 56 = 54.5
Q1 = 22 +37 = 29.5
Q3 = 75 + 76 = 75.5

เขียนแผนภาพกลอ่ งไดด้ งั น้ี

5.3 ขั้นสรุป
5.3.1 ครู และนกั เรียนร่วมกนั อภิปราย พรอ้ มทั้งนำเสนอแนวคิดของตนเองในการทำกิจกรรมในคร้ังน้ี

แล้วให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด 6.1 หน้า 225 ข้อ 1 ใหญ่ และ 2ใหญ่ เป็นการบ้าน เพื่อทบทวนความรู้ของ
นักเรยี น

ควอร์ไทล์ที่ 1 ควอร์ไทลท์ ่ี 2 ควอร์ไทล์ที่ 3 คา่ ตาํ่ สดุ ของข้อมลู และคา่ สูงสุดของข้อมลู เปน็ ค่า 5 ค่า
ที่นยิ มใชบ้ อก ตําแหน่งของข้อมลู เพื่อชว่ ยให้เห็นลกั ษณะการกระจายของข้อมูล คา่ ทง้ั ห้าน้ีเปน็ องค์ประกอบ
พ้นื ฐานในการนาํ เสนอข้อมูล ในรปู แผนภาพกล่อง ดังรูป

ตวั กล่องจะแสดงการกระจายของขอ้ มลู ท่ีอยู่ตรงกลางต้ังแต่ตําแหนง่ ทเี่ ป็นควอร์ไทลท์ ี่ 1 ถงึ ควอร์ไทล์
ท่ี 3 ซ่งึ มีข้อมลู คดิ เปน็ ประมาณ 50% ของข้อมลู ท้ังหมด โดยเสน้ ที่อยู่ภายในกล่องจะแสดงตาํ แหน่งที่เป็นมัธย
ฐานของข้อมูล เส้นท่ีลากจาก Q, ไปยงั คา่ ตํา่ สุด และเส้นท่ีลากจาก 9, ไปยงั ค่าสงู สุด แต่ละเสน้ เรียกว่า
วสิ เกอร์ (whisker) วิสเกอรแ์ ต่ละเส้นจะแสดง การกระจายของขอ้ มูลซ่ึงมีอยูป่ ระมาณ 25% ของข้อมลู
ทั้งหมด

6. สือ่ และแหลง่ การเรยี นรู้
6.1 สื่อการเรยี นรู้
6.1.1 หนังสอื เรียนรายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 เลม่ 1 สถาบันสง่ เสริมการสอน

วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
6.1.2 แอพพลิเคชั่น Kahoot!

52

6.1.4 ใหน้ ักเรียนชมวดี ที ศั น์ เรอ่ื ง สถิติ ตอนที่ 1
จากลงิ ก์ https://proj14.ipst.ac.th/m3/m3-math-book1/math-m3b1-001/

6.2 แหล่งการเรยี นรู้
6.2.1 ห้องสมดุ โรงเรยี นสตรีราชินูทศิ
6.2.2 ห้องสมดุ กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์
6.2.3 2 www.google.co.th โดยค้นหาดว้ ยคำว่า “สถติ ิ”

7.การวดั และประเมินผล

รายการประเมิน วธิ กี ารวดั และ เครื่องมือและ เกณฑ์การวัด
ประเมนิ ผล ประเมินผล และประเมินผล
ดา้ นความรู้ อธิบายเกยี่ วกับลักษณะ กจิ กรรมสร้าง
(K) ของควอร์ไทลข์ อง ตรวจกิจกรรม แผนภาพกลอ่ ง ผ่านเกณฑ์ อย่าง
แผนภาพกล่องของ สร้างแผนภาพ มติ รควอร์ไทล์ น้อยร้อยละ 70
ข้อมลู ได้ถูกต้อง กล่องมิตรควอร์ ผ่านแอพพลเิ คชนั่
PowerPoint ผ่านเกณฑ์ อยา่ ง
ไทล์ นอ้ ยร้อยละ 70
กิจกรรมสร้าง
ด้านทักษะ ใช้ความรูท้ าง ตรวจกิจกรรม แผนภาพกลอ่ ง ระดบั คุณภาพ
มิตรควอร์ไทล์ ดขี ึ้นไป
กระบวนการ คณติ ศาสตร์เพ่ือทำ สร้างแผนภาพ ผา่ นเกณฑ์
แบบบนั ทึกการ
(P) ความเขา้ ใจของควอร์ กล่องมิตรควอร์ สังเกตพฤตกิ รรม

ไทล์ของแผนภาพกล่อง ไทล์

ดา้ น แสดงความมุมานะในการ

คุณลกั ษณะ ทำความเขา้ ใจเนื้อหา - ตรวจรอ่ ยรอย

(A) และสรา้ งเหตผุ ลเพื่อ แนวคิด

สนับสนุนแนวคิดของ - สงั เกตพฤติกรรม

ตนเอง การแสดงแนวคิด

53

แบบบันทกึ การสังเกตพฤตกิ รรม

พฤตกิ รรมความ

ท่ี ชื่อ พฤตกิ รรมการ พฤติกรรมการ มมุ านะในการ พฤตกิ รรมมี พฤติกรรมมี
สือ่ สาร ให้เหตุผล ใหเ้ หตผุ ลยืนยนั ระเบียบวนิ ัย ความซอ่ื สตั ย์
และใฝ่เรยี นรู้
แนวคดิ ของ สจุ ริต
ตนเองในการ

ตัดสินใจ

4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 14321
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26

54

แบบบนั ทกึ การสังเกตพฤตกิ รรม (ต่อ)

พฤติกรรมความ

ท่ี ชือ่ พฤติกรรมการ พฤติกรรมการ มมุ านะในการให้ พฤตกิ รรมมี พฤตกิ รรมมี
สอื่ สาร ใหเ้ หตุผล เหตผุ ลยืนยนั ระเบยี บวินัย ความซือ่ สัตย์
แนวคิดของ และใฝเ่ รยี นรู้
ตนเองในการ สุจรติ

ตดั สนิ ใจ

4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 14321
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45

ลงชอื่ ........................................................ ผสู้ ังเกต
( นายยศปกรณ์ จันทะลุน )

วนั ท่ี ......... เดอื น ................................. พ.ศ. 2565

55

เกณฑ์การประเมินพฤตกิ รรมการเรยี น

ประเด็นการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมนิ
กิจกรรม 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ต้องปรับปรงุ )
สรา้ ง เขียนข้อความไม่
แผนภาพ เขยี นขอ้ ความไดถ้ ูกตอ้ ง เขียนขอ้ ความได้ เขียนขอ้ ความได้ สมเหตุสมผล
กลอ่ งมติ รค
วอร์ไทล์ สมเหตุสมผล และใช้ ถกู ต้อง ถูกต้อง ไมม่ ีความ
พยายามในการท่ี
เกณฑก์ าร สัญลักษณท์ าง สมเหตสุ มผล และ สมเหตุสมผล จะนำเสนอ
ประเมิน กระบวนการ
พฤตกิ รรม คณิตศาสตร์อยา่ งถูกต้อง ใช้สัญลกั ษณ์ทาง แก้ปัญหา
การส่อื สาร
คณติ ศาสตร์ได้บาง ไมม่ แี นวคดิ
เกณฑก์ าร ประกอบการ
ประเมิน คำ ตดั สนิ ใจ
พฤติกรรม
การให้ มีการนำเสนอ มีการนำเสนอเปน็ มคี วามพยายาม
เหตุผล
กระบวนการแก้ปญั หาที่ ลำดบั ขั้นตอน ความ ในการนำเสนอ

น่าสนใจ มกี ารเป็นลำดบั ถูกต้องบางสว่ น กระบวนการ

ขนั้ ตอนที่ชัดเจน มี สามารถส่ือสารกบั แกป้ ญั หา

ความถกู ตอ้ ง ตรงประเด็น ผอู้ นื่ ได้

สามารถสื่อสารใหผ้ ู้อ่ืน

เข้าใจตรงกนั

มีการอ้างอิงประกอบการ มกี ารอ้างอิงที่ มคี วามพยายาม

ใหเ้ หตผุ ล เสนอแนวคิด ถูกต้องบางส่วน เสนอแนวคิด

ประกอบการตัดสนิ ใจ และเสนอแนวคิดไม่ ประกอบการ

อยา่ งสมเหตุสมผล การ สมเหตุสมผลในการ ตดั สินใจ

อ้างเหตุผลท่ีถูกต้อง ประกอบการ

เหมาะสม มีการอ้าง ตดั สินใจ มกี ารอ้าง

เหตุผลทีน่ า่ เชอื่ ถือ เหตุผลที่นา่ เช่ือถือ

56

เกณฑ์การประเมนิ พฤติกรรมการเรยี น

ประเดน็ การ ระดบั คุณภาพ

ประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ตอ้ งปรบั ปรุง)

เกณฑ์การ ให้เหตุผลประกอบการ ให้เหตผุ ล ให้เหตผุ ล ไมใ่ ห้เหตผุ ล

ประเมิน ยนื ยนั แนวคิดของตนเอง ประกอบการยนื ยนั ประกอบการ ประกอบการ

พฤติกรรม อย่างถูกต้อง โดยอา้ ง แนวคิดของตนเอง ยืนยันแนวคิด ยืนยันแนวคดิ ของ

สรา้ งเหตุผล ทฤษฎที ี่เกยี่ วขอ้ งหรือ อย่างถูกต้อง โดย ของตนเอง แต่ไม่ ตนเอง

เพ่ือสนับสนนุ ขอ้ มลู ท่ีสมเหตสุ มผล อา้ งทฤษฎีท่ี มที ฤษฎีหรือ

แนวคดิ ของ อยา่ งถูกต้อง เกย่ี วข้องหรือข้อมลู ข้อมูลท่ีเกยี่ วข้อง

ตนเองหรือ ท่สี มเหตสุ มผล แต่ ประกอบยืนยัน

โต้แย้งแนวคิด ยังไม่ถูกต้อง มีการ แนวคิด

ของผู้อนื่ อย่าง ปรบั ปรงุ และพฒั นา

สมเหตุสมผล งานให้ดขี ึน้

เกณฑก์ าร ปฏิบตั ิตนตามข้อตกลง ปฏบิ ัตติ นตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม

ประเมนิ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง ขอ้ ตกลง

พฤติกรรม ขอ้ บังคบั ของโรงเรียน ระเบยี บ ข้อบงั คับ กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์

ความมี และ ไมล่ ะเมิดสทิ ธิของ ของ ตรงต่อเวลาใน ระเบียบ ระเบยี บ ข้อบงั คับ

ระเบยี บวนิ ยั ผ้อู ่ืน ตรงต่อเวลาในการ การปฏิบัตกิ จิ กรรม ข้อบงั คบั ของ ของโรงเรียน

และมีความใฝ่ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมและ และรับผิดชอบใน โรงเรียน ตรงตอ่ บางคร้ัง

เรยี นรู้ รบั ผดิ ชอบในการทำงาน การทำงาน เวลาในการ

ปฏิบตั ิกิจกรรม

เกณฑก์ าร ให้ข้อมลู ทถี่ ูกต้องและ ใหข้ ้อมลู ทถี่ ูกตอ้ ง ใหข้ ้อมลู ท่ี ไมใ่ ห้ข้อมูลท่ี

ประเมิน เป็นจรงิ ไม่นำสงิ่ ของ และเปน็ จริง ไม่นำ ถกู ต้องและเป็น ถูกต้องและเป็น

พฤติกรรมมี และผลงานของผ้อู น่ื มา สง่ิ ของและผลงาน จริง ไมน่ ำส่ิงของ จริง มีพฤติกรรม

ความซื่อสัตย์ เป็นของตนเอง ปฏบิ ัติ ของผู้อ่ืนมาเปน็ ของ และผลงานของ นำส่งิ ของและ

สุจรติ ตนตอ่ ผอู้ ืน่ ด้วยความ ตนเอง ปฏบิ ัติตนต่อ ผู้อื่นมาเปน็ ของ ผลงานของผู้อนื่

ซอ่ื ตรง เป็นแบบอยา่ งที่ ผู้อ่ืนดว้ ยความ ตนเอง มาเป็นของตนเอง

ดดี ้านความซ่ือสัตย์ ซือ่ ตรง

57

8. ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมายจากหวั หน้าสถานศึกษา
8.1 ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
1) ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้แล้ว เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
2) การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
 ยงั ไมเ่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาตอ่ ไป
3) เป็นแผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่
 นำไปใช้ได้จริง
 ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4) ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ................................................................ ............................

ลงชอื่ .........................................................
( นายสเุ ทพ ตะไกแ่ กว้ )

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์

8.2 ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย

1) ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้แลว้ เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง

2) การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้

 เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม

 ยังไม่เน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป

3) เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่

 นำไปใช้ไดจ้ ริง

 ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้

4) ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................. ................................................................ ............................

ลงชอ่ื .......................................................
( นายสุรเชษฐ์ ภาคำ )

ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ

58

8.3 ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของครพู ่เี ลีย้ ง

1) ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้แล้ว เปน็ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่

 ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ

2) การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้

 เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

 ยังไมเ่ นน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป

3) เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี

 นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ

 ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้

4) ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................. ................................................................ ............................

ลงชอ่ื .....................................................
( นางละไม ตะไก่แก้ว )
ตำแหนง่ ครพู ่ีเลีย้ ง

59

60

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 53

รายวชิ า คณิตศาสตร์พน้ื ฐาน รหัสวชิ า ค 23101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 สถิติ เวลา 8 ช่ัวโมง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 53 เรอื่ ง แผนภาพกล่อง 2 เวลา 1 ช่ัวโมง

ผสู้ อน นายยศปกรณ์ จันทะลุน สอนวันที่ ........ เดอื น .................... พ.ศ. ..............

1. มาตรฐานและผลการเรียนรู้
สาระท่ี 3 สถติ ิและความน่าจะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรู้ทางสถติ ิในการแกป้ ญั หา
ค 3.1 ม.3/1 เข้าใจและใช้ความรทู้ างสถิติในการนำเสนอ และวิเคราะห์ข้อมลู จากแผนภาพ

กลอ่ งและแปรความหมายผลลัพธ์ รวมท้งั นำสถิตไิ ปใชใ้ นชีวิตจรงิ โดยใช้เทคโนโลยที เ่ี หมาะสม
2. จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม

เม่ือนกั เรียนเรยี นจบบทเรียนน้ีแล้ว นกั เรยี นสามารถ
2.1 ด้านความรู้ (K)

อธิบายเกยี่ วกบั การหาของควอร์ไทล์ และสรา้ งแผนภาพกล่องของข้อมูลได้ถูกต้อง
2.2 ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)

ทำความเข้าใจปัญหา คิดวิเคราะห์ วางแผนแก้ปัญหา โดยคำนงึ ถึงความสมเหตสุ มผลของคำตอบ
2.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A)

ทำความเขา้ ใจหรือสร้างกรณที ั่วไปโดยใชค้ วามรู้ที่ได้จากการศกึ ษากรณี ตัวอย่างหลาย ๆ กรณี

3. สาระสำคญั
ควอรไ์ ทล์ที่ 1 ควอร์ไทล์ที่ 2 ควอร์ไทล์ท่ี 3 ค่าตาํ่ สุดของข้อมูล และคา่ สงู สดุ ของข้อมลู เป็น

ค่า 5 ค่า ท่นี ยิ มใชบ้ อก ตาํ แหนง่ ของข้อมูล เพื่อชว่ ยให้เห็นลกั ษณะการกระจายของข้อมูล ค่าท้งั ห้าน้เี ป็น
องค์ประกอบพื้นฐานในการนําเสนอข้อมูล ในรูปแผนภาพกลอ่ ง ดังรปู

ตวั กล่องจะแสดงการกระจายของข้อมลู ทอ่ี ยตู่ รงกลางต้ังแต่ตาํ แหนง่ ท่ีเป็นควอรไ์ ทลท์ ี่ 1 ถึงควอร์ไทล์
ที่ 3 ซง่ึ มีข้อมลู คดิ เปน็ ประมาณ 50% ของข้อมูลทั้งหมด โดยเสน้ ทีอ่ ยูภ่ ายในกลอ่ งจะแสดงตาํ แหนง่ ท่ีเป็นมธั ย
ฐานของข้อมูล เสน้ ท่ลี ากจาก Q, ไปยังค่าต่ําสดุ และเสน้ ท่ีลากจาก 9, ไปยงั ค่าสูงสดุ แต่ละเส้นเรยี กว่า

61

วิสเกอร์ (whisker) วสิ เกอรแ์ ตล่ ะเสน้ จะแสดง การกระจายของขอ้ มูลซ่งึ มีอยปู่ ระมาณ 25% ของขอ้ มลู
ทง้ั หมด
4. สาระการเรยี นรู้
ขอ้ มลู และการวเิ คราะหข์ ้อมูลของแผนภาพกล่อง
5. กิจกรรมการเรียนรรู้ ูปแบบ Active Learning

5.1 ขน้ั นำ
5.1.1 ครูและนกั เรียนร่วมกันอภปิ รายถึงความรู้พ้นื ฐานทางสถติ ขิ องคาบทแ่ี ล้ว
5.1.2 ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนไดซ้ ักถามข้อสงสัย
5.1.3 ครแู จ้งจุดประสงค์ของการเรยี นรู้ในกบั นักเรยี นทราบ
5.1.4 ครทู บทวนความร้ขู องเรียนผา่ นกิจกรรม kahoot พรอ้ มเสรมิ ความรูป้ ระกอบเกยี่ วกบั ควอร์ไทล์

พร้อมให้ครูอธบิ ายเสริ มประกอบ การหาควอรไ์ ทล์ท้ังสามสามารถทาํ ได้หลายวิธี แตใ่ นที่น้ีจะใชค้ วามรู้ ในเร่ือง
มธั ยฐานของข้อมลู เพ่ือหาควอร์ไทลเ์ หล่าน้ี ซง่ึ ทาํ ได้โดย

1. เรียงข้อมูลจากน้อยไปมาก
. หามัธยฐานของข้อมลู จะได้ควอรไ์ ทล์ที่ 2
3. หามธั ยฐานของข้อมูลเฉพาะข้อมูลท่ีอยใู่ นลาํ ดบั ท่ีต่ํากว่า
ควอรไ์ ทล์ที่ 2 จะได้มธั ยฐานดังกล่าวเป็นควอร์ไทล์ท่ี 1
4. หามัธยฐานของข้อมลู เฉพาะข้อมลู ท่ีอยใู่ นลําดับที่สูงกวา่
ควอรไ์ ทล์ที่ 2 จะไดม้ ัธยฐานดังกลา่ วเปน็ ควอร์ไทลท์ ี่ 3

5.2 ข้ันสอน
5.2.1 ครูให้นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม ละ 4-5 คน โดยให้นักเรียนทำกจิ กรรมเสรมิ มุมเทคโนโลยี : ขา้ วเจ้า

ขา้ วเหนยี ว ตามหนงั สอื สสวท. คณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน ม.3 เลม่ 1 หนา้ 223 แล้วสรุป พร้อมอภปิ ราย แนวคดิ
เพอ่ื ใหน้ กั เรียนเข้าใจและเห็นภาพตำแหน่งของควอร์ไทล์ท้ังสาม และสร้างแผนภาพกล่องได้

62

63

64

5.2.2 ครู และนกั เรียนร่วมกนั อภปิ ราย พร้อมทั้งนำเสนอแนวคิดของตนเองในการทำกจิ กรรมในคร้งั นี้
โดยการสุ่มกลุ่มนักเรียนออกมานำเสนอแนวคดิ ของตนเองในการกิจกรรมมมุ เทคโนโลยี

5.2.3 ครเู ฉลย กิจกรรม มมุ เทคโนโลยี : ขา้ วเจ้าข้าวเหนียว

5.3 ขน้ั สรุป
5.3.1 ครู และนักเรียนรว่ มกันอภปิ ราย พรอ้ มทัง้ นำเสนอแนวคดิ ของตนเองในการทำกจิ กรรมในครั้งนี้

แล้วให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด 6.1 หน้า 227-228 ข้อ 4 ใหญ่ และ 6 ใหญ่ เป็นการบ้าน เพื่อทบทวนความรู้
ของนกั เรียน

ควอร์ไทล์ท่ี 1 ควอร์ไทลท์ ี่ 2 ควอรไ์ ทล์ท่ี 3 คา่ ตา่ํ สุดของข้อมูล และคา่ สูงสุดของข้อมูล เป็นค่า 5 คา่
ท่นี ิยมใชบ้ อก ตาํ แหน่งของข้อมูล เพื่อช่วยใหเ้ ห็นลักษณะการกระจายของข้อมูล คา่ ทั้งหา้ น้เี ปน็ องคป์ ระกอบ
พนื้ ฐานในการนําเสนอข้อมลู ในรูปแผนภาพกล่อง ดังรปู

65

ตัวกล่องจะแสดงการกระจายของขอ้ มูลที่อยู่ตรงกลางตั้งแต่ตําแหนง่ ทีเ่ ป็นควอรไ์ ทลท์ ่ี 1 ถึงควอร์ไทล์
ที่ 3 ซึ่งมีข้อมูล คดิ เปน็ ประมาณ 50% ของข้อมูลท้ังหมด โดยเสน้ ทอ่ี ยู่ภายในกลอ่ งจะแสดงตําแหน่งที่เป็นมัธย
ฐานของข้อมลู เส้นท่ลี ากจาก Q, ไปยังค่าต่าํ สุด และเสน้ ท่ีลากจาก 9, ไปยังคา่ สูงสุด แต่ละเสน้ เรยี กว่า
วิสเกอร์ (whisker) วิสเกอรแ์ ตล่ ะเสน้ จะแสดง การกระจายของข้อมลู ซง่ึ มีอยู่ประมาณ 25% ของข้อมลู
ท้ังหมด

6. ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้
6.1 ส่อื การเรยี นรู้
6.1.1 หนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 สถาบันส่งเสริมการสอน

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
6.1.2 แอพพลเิ คชนั่ Kahoot!
6.1.4 ใหน้ กั เรียนชมวีดที ศั น์ เรอ่ื ง สถิติ ตอนที่ 1
จากลงิ ก์ https://proj14.ipst.ac.th/m3/m3-math-book1/math-m3b1-001/

6.2 แหล่งการเรยี นรู้
6.2.1 ห้องสมดุ โรงเรียนสตรีราชินทู ศิ
6.2.2 หอ้ งสมดุ กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์
6.2.3 2 www.google.co.th โดยค้นหาด้วยคำว่า “สถติ ิ”

66

7.การวดั และประเมินผล

รายการประเมนิ วธิ กี ารวดั และ เคร่อื งมือและ เกณฑก์ ารวัด
ประเมินผล ประเมนิ ผล และประเมินผล
ด้านความรู้ อธิบายเกี่ยวกับการหา กจิ กรรมมุม
(K) ของควอร์ไทล์ และสร้าง ตรวจกจิ กรรม มมุ เทคโนโลยี : ขา้ ว ผ่านเกณฑ์ อย่าง
แผนภาพกล่องของ เทคโนโลยี : ขา้ ว เจ้าข้าวเหนียว นอ้ ยร้อยละ 70
ขอ้ มลู ได้ถกู ต้อง เจา้ ข้าวเหนียว ผา่ นแอพพลิเคช่ัน
PowerPoint ผ่านเกณฑ์ อยา่ ง
ดา้ นทักษะ ทำความเข้าใจปัญหา ตรวจกจิ กรรมมมุ น้อยรอ้ ยละ 70
กระบวนการ คิดวเิ คราะห์ วางแผน เทคโนโลยี : ข้าว กิจกรรมมุม
(P) แกป้ ญั หา โดยคำนึงถึง เจ้าขา้ วเหนยี ว เทคโนโลยี : ระดบั คุณภาพ
ขา้ วเจ้าขา้ ว ดขี นึ้ ไป
ความสมเหตุสมผลของ - ตรวจร่อยรอย เหนยี ว ผ่านเกณฑ์
คำตอบ แนวคดิ
ดา้ น ทำความเข้าใจหรือสร้าง - สงั เกตพฤติกรรม แบบบันทึกการ
คณุ ลกั ษณะ กรณีทัว่ ไปโดยใช้ความรู้ การแสดงแนวคิด สังเกตพฤติกรรม
(A) ทไ่ี ด้จากการศึกษากรณี
ตวั อย่างหลาย ๆ กรณี

67

แบบบันทกึ การสังเกตพฤตกิ รรม

พฤตกิ รรมความ

ท่ี ชื่อ พฤตกิ รรมการ พฤติกรรมการ มมุ านะในการ พฤตกิ รรมมี พฤติกรรมมี
สือ่ สาร ให้เหตุผล ใหเ้ หตผุ ลยืนยนั ระเบียบวนิ ัย ความซอ่ื สตั ย์
และใฝ่เรยี นรู้
แนวคดิ ของ สจุ ริต
ตนเองในการ

ตัดสินใจ

4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 14321
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26

68

แบบบนั ทกึ การสังเกตพฤตกิ รรม (ต่อ)

พฤติกรรมความ

ท่ี ชือ่ พฤติกรรมการ พฤติกรรมการ มมุ านะในการให้ พฤตกิ รรมมี พฤตกิ รรมมี
สอื่ สาร ใหเ้ หตุผล เหตผุ ลยืนยนั ระเบยี บวินัย ความซือ่ สัตย์
แนวคิดของ และใฝเ่ รยี นรู้
ตนเองในการ สุจรติ

ตดั สนิ ใจ

4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 14321
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45

ลงชอื่ ........................................................ ผสู้ ังเกต
( นายยศปกรณ์ จันทะลุน )

วนั ท่ี ......... เดอื น ................................. พ.ศ. 2565

69

เกณฑก์ ารประเมนิ พฤตกิ รรมการเรยี น

ประเดน็ การ ระดับคุณภาพ
ประเมิน
กิจกรรมมุม 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ต้องปรับปรงุ )
เขียนขอ้ ความไม่
เทคโนโลยี : เขยี นข้อความได้ถูกต้อง เขยี นขอ้ ความได้ เขียนข้อความได้ สมเหตุสมผล
ข้าวเจา้ ขา้ ว
สมเหตุสมผล และใช้ ถูกต้อง ถกู ต้อง ไม่มีความ
เหนยี ว พยายามในการท่ี
สญั ลกั ษณท์ าง สมเหตุสมผล และ สมเหตสุ มผล จะนำเสนอ
เกณฑก์ าร กระบวนการ
ประเมนิ คณติ ศาสตร์อยา่ งถูกต้อง ใชส้ ญั ลักษณ์ทาง แก้ปัญหา
พฤตกิ รรม
การสือ่ สาร คณติ ศาสตร์ไดบ้ าง ไมม่ ีแนวคดิ
ประกอบการ
เกณฑ์การ คำ ตดั สินใจ
ประเมิน
พฤตกิ รรม มกี ารนำเสนอ มีการนำเสนอเปน็ มีความพยายาม
การให้
เหตุผล กระบวนการแก้ปัญหาที่ ลำดับขนั้ ตอน ความ ในการนำเสนอ

นา่ สนใจ มกี ารเปน็ ลำดับ ถูกต้องบางส่วน กระบวนการ

ขนั้ ตอนท่ีชดั เจน มี สามารถสอื่ สารกับ แกป้ ัญหา

ความถกู ตอ้ ง ตรงประเด็น ผู้อ่นื ได้

สามารถสอ่ื สารให้ผู้อ่นื

เข้าใจตรงกัน

มีการอ้างอิงประกอบการ มีการอ้างอิงที่ มคี วามพยายาม

ให้เหตผุ ล เสนอแนวคดิ ถูกต้องบางสว่ น เสนอแนวคดิ

ประกอบการตัดสินใจ และเสนอแนวคิดไม่ ประกอบการ

อยา่ งสมเหตสุ มผล การ สมเหตุสมผลในการ ตัดสินใจ

อ้างเหตุผลทีถ่ ูกต้อง ประกอบการ

เหมาะสม มีการอ้าง ตัดสนิ ใจ มกี ารอา้ ง

เหตผุ ลท่ีนา่ เชื่อถือ เหตผุ ลทน่ี า่ เชือ่ ถือ

70

เกณฑ์การประเมนิ พฤติกรรมการเรยี น

ประเดน็ การ ระดบั คุณภาพ

ประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ตอ้ งปรบั ปรุง)

เกณฑ์การ ให้เหตุผลประกอบการ ให้เหตผุ ล ให้เหตผุ ล ไมใ่ ห้เหตผุ ล

ประเมิน ยนื ยนั แนวคิดของตนเอง ประกอบการยนื ยนั ประกอบการ ประกอบการ

พฤติกรรม อย่างถูกต้อง โดยอา้ ง แนวคิดของตนเอง ยืนยันแนวคิด ยืนยันแนวคดิ ของ

สรา้ งเหตุผล ทฤษฎที ี่เกีย่ วขอ้ งหรือ อย่างถูกต้อง โดย ของตนเอง แต่ไม่ ตนเอง

เพ่ือสนับสนนุ ขอ้ มลู ท่ีสมเหตสุ มผล อา้ งทฤษฎีท่ี มที ฤษฎีหรือ

แนวคดิ ของ อยา่ งถูกต้อง เกย่ี วข้องหรือข้อมลู ข้อมูลท่ีเกยี่ วข้อง

ตนเองหรือ ท่สี มเหตสุ มผล แต่ ประกอบยืนยัน

โต้แย้งแนวคิด ยังไม่ถูกต้อง มีการ แนวคิด

ของผู้อนื่ อย่าง ปรบั ปรงุ และพฒั นา

สมเหตุสมผล งานให้ดขี ึน้

เกณฑก์ าร ปฏิบตั ิตนตามข้อตกลง ปฏบิ ัตติ นตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม

ประเมนิ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง ขอ้ ตกลง

พฤติกรรม ขอ้ บังคบั ของโรงเรียน ระเบยี บ ข้อบงั คับ กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์

ความมี และ ไมล่ ะเมิดสทิ ธิของ ของ ตรงต่อเวลาใน ระเบียบ ระเบยี บ ข้อบงั คับ

ระเบยี บวนิ ยั ผ้อู ่ืน ตรงต่อเวลาในการ การปฏิบัตกิ จิ กรรม ข้อบงั คบั ของ ของโรงเรียน

และมีความใฝ่ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมและ และรับผิดชอบใน โรงเรียน ตรงตอ่ บางคร้ัง

เรยี นรู้ รบั ผดิ ชอบในการทำงาน การทำงาน เวลาในการ

ปฏิบตั ิกิจกรรม

เกณฑก์ าร ให้ข้อมลู ทีถ่ ูกต้องและ ใหข้ ้อมลู ทถี่ ูกตอ้ ง ใหข้ ้อมลู ท่ี ไมใ่ ห้ข้อมูลท่ี

ประเมิน เป็นจรงิ ไม่นำสงิ่ ของ และเปน็ จริง ไม่นำ ถกู ต้องและเป็น ถูกต้องและเป็น

พฤติกรรมมี และผลงานของผ้อู น่ื มา สง่ิ ของและผลงาน จริง ไมน่ ำส่ิงของ จริง มีพฤติกรรม

ความซื่อสัตย์ เป็นของตนเอง ปฏบิ ัติ ของผู้อ่ืนมาเปน็ ของ และผลงานของ นำส่งิ ของและ

สุจรติ ตนตอ่ ผอู้ ืน่ ด้วยความ ตนเอง ปฏบิ ัติตนต่อ ผู้อื่นมาเปน็ ของ ผลงานของผู้อนื่

ซอ่ื ตรง เป็นแบบอยา่ งที่ ผู้อ่ืนดว้ ยความ ตนเอง มาเป็นของตนเอง

ดดี ้านความซ่ือสัตย์ ซือ่ ตรง

71

8. ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมายจากหวั หน้าสถานศึกษา
8.1 ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
1) ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้แล้ว เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
2) การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
 ยงั ไมเ่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาตอ่ ไป
3) เป็นแผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่
 นำไปใช้ได้จริง
 ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4) ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ................................................................ ............................

ลงชอื่ .........................................................
( นายสเุ ทพ ตะไกแ่ กว้ )

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์

8.2 ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย

1) ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้แลว้ เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง

2) การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้

 เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม

 ยังไม่เน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป

3) เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่

 นำไปใช้ไดจ้ ริง

 ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้

4) ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................. ................................................................ ............................

ลงชอ่ื .......................................................
( นายสุรเชษฐ์ ภาคำ )

ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ

72

8.3 ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของครพู ่เี ลีย้ ง

1) ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้แล้ว เปน็ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่

 ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ

2) การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้

 เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

 ยังไมเ่ นน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป

3) เป็นแผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี

 นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ

 ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้

4) ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................. ................................................................ ............................

ลงชอ่ื .....................................................
( นางละไม ตะไก่แก้ว )
ตำแหนง่ ครพู ่ีเลีย้ ง

73

74

แบบฝกึ หดั

75
เฉลย

76

77
เฉลย

78

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 54

รายวิชา คณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน รหสั วิชา ค 23101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 สถติ ิ เวลา 8 ชั่วโมง

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 54 เรอ่ื ง การอา่ นและแปลความหมายจากแผนภาพกลอ่ ง เวลา 1 ช่ัวโมง

ผู้สอน นายยศปกรณ์ จันทะลนุ สอนวนั ที่ ........ เดือน .................... พ.ศ. ..............

1. มาตรฐานและผลการเรยี นรู้
สาระท่ี 3 สถติ ิและความน่าจะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแกป้ ญั หา
ค 3.1 ม.3/1 เข้าใจและใช้ความรทู้ างสถติ ใิ นการนำเสนอ และวิเคราะห์ขอ้ มูลจากแผนภาพ

กล่องและแปรความหมายผลลัพธ์ รวมทั้งนำสถิติไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ โดยใชเ้ ทคโนโลยีที่เหมาะสม
2. จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม

เม่อื นกั เรยี นเรียนจบบทเรียนน้ีแลว้ นักเรียนสามารถ
2.1 ด้านความรู้ (K)

อา่ นแปลความหมายของควอรไ์ ทล์ และแผนภาพกล่องของข้อมูลได้ถกู ต้อง
2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P)

ทำความเข้าใจปัญหา คิดวเิ คราะห์ ในการแปลความหมายเพอ่ื ส่ือความหมาย สรปุ ผล ไดอ้ ย่างถูกต้อง
2.3 ดา้ นคณุ ลักษณะ (A)

สร้างเหตุผลเพ่ือสนับสนนุ แนวคดิ ของตนเองหรือโต้แยง้ แนวคิดของผู้อืน่ อย่างสมเหตุสมผล

3. สาระสำคัญ
ควอรไ์ ทล์ท่ี 1 ควอร์ไทลท์ ี่ 2 ควอร์ไทล์ท่ี 3 คา่ ตา่ํ สดุ ของข้อมลู และคา่ สูงสดุ ของข้อมลู เปน็

ค่า 5 คา่ ทน่ี ิยมใชบ้ อก ตาํ แหนง่ ของข้อมูล เพ่ือชว่ ยให้เหน็ ลกั ษณะการกระจายของข้อมูล ค่าท้ังหา้ นีเ้ ป็น
องค์ประกอบพื้นฐานในการนําเสนอข้อมลู ในรปู แผนภาพกล่อง ดังรปู

ตวั กล่องจะแสดงการกระจายของขอ้ มลู ทอ่ี ยูต่ รงกลางตั้งแต่ตาํ แหนง่ ที่เปน็ ควอร์ไทลท์ ี่ 1 ถึงควอร์ไทล์
ท่ี 3 ซงึ่ มขี ้อมูล คิดเป็นประมาณ 50% ของข้อมูลท้ังหมด โดยเส้นท่ีอย่ภู ายในกล่องจะแสดงตาํ แหนง่ ทีเ่ ป็นมธั ย
ฐานของข้อมูล เสน้ ทล่ี ากจาก Q, ไปยังคา่ ตํ่าสุด และเส้นที่ลากจาก 9, ไปยงั ค่าสูงสุด แต่ละเสน้ เรยี กว่า

79

วิสเกอร์ (whisker) วสิ เกอร์แตล่ ะเสน้ จะแสดง การกระจายของข้อมูลซึ่งมีอยู่ประมาณ 25% ของข้อมลู
ทั้งหมด
4. สาระการเรียนรู้

การแปลความหมายผลลัพธ์ของแผนภาพกลอ่ ง และการนำสถติ ิไปใชใ้ นชีวติ จริง

5. กิจกรรมการเรยี นรู้รปู แบบ Active Learning
5.2 ขัน้ นำ
5.2.1 ครูและนักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายถึงความรู้พ้นื ฐานทางสถิตขิ องคาบทแ่ี ล้ว
5.2.2 ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนได้ซกั ถามข้อสงสัย
5.2.3 ครูแจง้ จุดประสงค์ของการเรียนรูใ้ นกับนักเรียนทราบ
5.2.4 ครูทบทวนความรู้ของเรียนผ่านกิจกรรม kahoot พร้อมเสริมความรปู้ ระกอบเก่ียวกบั ควอรไ์ ทล์
พรอ้ มให้ครูอธิบายเสิรมประกอบ

80

จากแผนภาพกล่องขา้ งต้นสรุปไดว้ า่ จากอาหารกระปอ๋ ง 20 ยห่ี อ้ สามารถแบ่งออกเป็น 4
สว่ น ส่วนละประมาณ 25% ของจํานวนย่ีหอ้ ของอาหารกระป๋อง ทั้งหมด โดยแตล่ ะสว่ นมีปริมาณโซเดียม
ในอาหารกระป๋องดงั นี้
สว่ นท่ี 1 อาหารกระปอ๋ ง 100 กรัม มปี ริมาณโซเดียมอยูใ่ นชว่ ง 50 ถึง 135 มลิ ลิกรมั
ส่วนท่ี 2 อาหารกระป๋อง 100 กรมั มีปริมาณโซเดยี มอยู่ในชว่ ง 135 ถึง 180 มลิ ลกิ รัม
ส่วนท่ี 3 อาหารกระปอ๋ ง 100 กรัม มปี ริมาณโซเดยี มอยใู่ นช่วง 180 ถึง 205 มลิ ลกิ รัม
สว่ นท่ี 4 อาหารกระป๋อง 100 กรมั มปี รมิ าณโซเดยี มอยู่ในชว่ ง 205 ถงึ 290 มลิ ลิกรัม

เมื่อพิจารณาแผนภาพกล่องและแผนภาพจุดประกอบกนั จะเห็นวา่ ขอ้ มูลปริมาณโซเดียมในอาหาร
กระป๋อง มีการกระจายดังน้ี

4 ในชว่ ง 180 ถึง 205 มลิ ลิกรมั ขอ้ มลู กระจายตวั น้อยกว่าช่วงอ่นื ๆ * ในช่วง 135 ถึง 180 มิลลิกรัม
ขอ้ มลู กระจายตัวมากกว่าช่วง 180 ถงึ 205 มลิ ลกิ รมั * ในช่วง 50 ถึง 135 มิลลกิ รมั และช่วง 205 ถงึ 290
มิลลิกรมั ข้อมูลกระจายตัวเท่ากันและกระจายตวั มากกวา่ ช่วงอ่นื ๆ

81

5.2 ขัน้ สอน
5.2.1 ครสู อนการอ่านและแปลความหมายจากแผนภาพกล่อง โดยแผนภาพกลอ่ งกับการกระจายของ

ขอ้ มูล

82
5.2.2 ครูให้นกั เรยี นแบ่งเปน็ กลุ่ม ละ 4-5 คน โดยใหน้ กั เรยี นทำกจิ กรรมเสรมิ กิจกรรม: นับเดอื น
เพอื่ ใหน้ กั เรยี นฝกึ สร้าง อ่านและแปลความหมายแผนภาพกลอ่ งของข้อมลู ชดุ เดยี ว ตามหนังสือ สสวท.
คณติ ศาสตร์พื้นฐาน ม.3 เลม่ 1 หน้า 232

5.2.3 ครอู าจตง้ั คำถามเพื่อนำไปสู่การสรปุ พร้อมอภปิ ราย แนวคดิ เพิม่ เติม เพ่ือให้นกั เรยี นเขา้ ใจและ
เหน็ ภาพตำแหนง่ ของควอร์ไทลท์ งั้ สาม และสรา้ งแผนภาพกล่องได้

83

5.2.2 ครู และนกั เรียนรว่ มกนั อภปิ ราย พร้อมทั้งนำเสนอแนวคดิ ของตนเองในการทำกิจกรรมในครั้งนี้
โดยการสุม่ กล่มุ นักเรียนออกมานำเสนอแนวคิดของตนเอง

5.3 ขนั้ สรุป
5.3.1 ครู และนกั เรียนร่วมกนั อภปิ ราย พรอ้ มทั้งนำเสนอแนวคิดของตนเองในการทำกิจกรรมในคร้ังน้ี
ควอรไ์ ทล์ที่ 1 ควอร์ไทล์ท่ี 2 ควอรไ์ ทล์ท่ี 3 ค่าตํา่ สดุ ของข้อมูล และค่าสูงสดุ ของข้อมูล เปน็ คา่ 5 ค่า

ทน่ี ยิ มใชบ้ อก ตําแหน่งของข้อมลู เพื่อชว่ ยให้เห็นลักษณะการกระจายของข้อมลู คา่ ท้งั ห้านเี้ ป็นองคป์ ระกอบ
พนื้ ฐานในการนาํ เสนอข้อมูล ในรปู แผนภาพกล่อง ดังรปู

ตวั กลอ่ งจะแสดงการกระจายของข้อมลู ท่ีอยตู่ รงกลางตั้งแต่ตําแหน่งทเ่ี ป็นควอร์ไทล์ที่ 1 ถงึ ควอร์ไทล์
ที่ 3 ซึ่งมขี ้อมลู คดิ เป็นประมาณ 50% ของข้อมลู ทั้งหมด โดยเส้นท่อี ยูภ่ ายในกลอ่ งจะแสดงตําแหนง่ ทีเ่ ป็นมัธย
ฐานของข้อมูล เส้นที่ลากจาก Q, ไปยงั คา่ ต่ําสุด และเสน้ ที่ลากจาก 9, ไปยังคา่ สูงสดุ แต่ละเสน้ เรียกวา่
วสิ เกอร์ (whisker) วสิ เกอร์แตล่ ะเส้นจะแสดง การกระจายของข้อมูลซึ่งมีอยู่ประมาณ 25% ของข้อมลู
ทั้งหมด
6. ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้

6.1 สือ่ การเรียนรู้
6.1.1 หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 เลม่ 1 สถาบันส่งเสรมิ การสอน

วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
6.1.2 แอพพลิเคชัน่ Kahoot!
6.1.4 ใหน้ ักเรียนชมวดี ีทัศน์ เร่อื ง สถิติ ตอนที่ 1
จากลิงก์ https://proj14.ipst.ac.th/m3/m3-math-book1/math-m3b1-001/

6.2 แหล่งการเรยี นรู้
6.2.1 ห้องสมดุ โรงเรียนสตรีราชินูทศิ
6.2.2 ห้องสมดุ กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์

84

6.2.3 2 www.google.co.th โดยคน้ หาด้วยคำวา่ “สถติ ิ”

7.การวัดและประเมินผล วธิ กี ารวดั และ เครือ่ งมือและ เกณฑก์ ารวดั
ประเมินผล ประเมนิ ผล และประเมนิ ผล
รายการประเมนิ กจิ กรรม : นบั
ตรวจกจิ กรรม : เดือน ผา่ น ผา่ นเกณฑ์ อย่าง
ดา้ นความรู้ อธบิ ายเกย่ี วกับการหา นับเดอื น แอพพลิเคช่นั น้อยรอ้ ยละ 70
(K) ของควอร์ไทล์ และสร้าง PowerPoint
ผา่ นเกณฑ์ อยา่ ง
แผนภาพกล่องของ ตรวจกจิ กรรม : กจิ กรรม : นับ น้อยร้อยละ 70
ขอ้ มูลได้ถูกต้อง นับเดอื น เดอื น
ดา้ นทักษะ ทำความเข้าใจปญั หา ระดบั คุณภาพ
กระบวนการ คิดวเิ คราะห์ วางแผน - ตรวจรอ่ ยรอย แบบบนั ทึกการ ดีข้ึนไป
(P) แกป้ ญั หา โดยคำนงึ ถงึ แนวคดิ สงั เกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์
ความสมเหตสุ มผลของ - สังเกตพฤติกรรม
คำตอบ การแสดงแนวคดิ
ดา้ น ทำความเขา้ ใจหรือสร้าง
คณุ ลกั ษณะ กรณีทว่ั ไปโดยใช้ความรู้
(A) ท่ีได้จากการศึกษากรณี
ตัวอย่างหลาย ๆ กรณี

85

แบบบันทกึ การสังเกตพฤตกิ รรม

พฤตกิ รรมความ

ท่ี ชื่อ พฤตกิ รรมการ พฤติกรรมการ มมุ านะในการ พฤตกิ รรมมี พฤติกรรมมี
สือ่ สาร ให้เหตุผล ใหเ้ หตผุ ลยืนยนั ระเบียบวนิ ัย ความซอ่ื สตั ย์
และใฝ่เรยี นรู้
แนวคดิ ของ สจุ ริต
ตนเองในการ

ตัดสินใจ

4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 14321
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26

86

แบบบนั ทกึ การสังเกตพฤตกิ รรม (ต่อ)

พฤติกรรมความ

ท่ี ชือ่ พฤติกรรมการ พฤติกรรมการ มมุ านะในการให้ พฤตกิ รรมมี พฤตกิ รรมมี
สอื่ สาร ใหเ้ หตุผล เหตผุ ลยืนยนั ระเบยี บวินัย ความซือ่ สัตย์
แนวคิดของ และใฝเ่ รยี นรู้
ตนเองในการ สุจรติ

ตดั สนิ ใจ

4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 14321
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45

ลงชอื่ ........................................................ ผสู้ ังเกต
( นายยศปกรณ์ จันทะลุน )

วนั ท่ี ......... เดอื น ................................. พ.ศ. 2565

87

เกณฑก์ ารประเมนิ พฤตกิ รรมการเรียน

ประเด็นการ ระดับคุณภาพ
ประเมิน
กิจกรรม : 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ต้องปรับปรงุ )
นับเดือน เขยี นขอ้ ความไม่
เขยี นขอ้ ความไดถ้ ูกต้อง เขียนขอ้ ความได้ เขยี นขอ้ ความได้ สมเหตุสมผล
เกณฑ์การ
ประเมนิ สมเหตุสมผล และใช้ ถกู ต้อง ถกู ต้อง ไมม่ ีความ
พฤตกิ รรม พยายามในการท่ี
การส่อื สาร สญั ลกั ษณท์ าง สมเหตสุ มผล และ สมเหตุสมผล จะนำเสนอ
กระบวนการ
เกณฑ์การ คณติ ศาสตร์อย่างถูกต้อง ใชส้ ญั ลกั ษณ์ทาง แกป้ ญั หา
ประเมิน
พฤตกิ รรม คณิตศาสตร์ได้บาง ไมม่ แี นวคดิ
การให้ ประกอบการ
เหตุผล คำ ตัดสนิ ใจ

มีการนำเสนอ มกี ารนำเสนอเปน็ มีความพยายาม

กระบวนการแกป้ ัญหาท่ี ลำดับขนั้ ตอน ความ ในการนำเสนอ

นา่ สนใจ มกี ารเป็นลำดับ ถูกต้องบางส่วน กระบวนการ

ข้ันตอนที่ชดั เจน มี สามารถส่ือสารกับ แก้ปญั หา

ความถูกต้อง ตรงประเดน็ ผอู้ นื่ ได้

สามารถสอื่ สารให้ผู้อ่ืน

เขา้ ใจตรงกนั

มีการอ้างอิงประกอบการ มกี ารอ้างอิงท่ี มคี วามพยายาม

ใหเ้ หตผุ ล เสนอแนวคดิ ถูกต้องบางส่วน เสนอแนวคดิ

ประกอบการตัดสินใจ และเสนอแนวคิดไม่ ประกอบการ

อยา่ งสมเหตุสมผล การ สมเหตุสมผลในการ ตดั สนิ ใจ

อ้างเหตุผลที่ถูกต้อง ประกอบการ

เหมาะสม มีการอ้าง ตัดสนิ ใจ มกี ารอ้าง

เหตผุ ลทน่ี า่ เชื่อถือ เหตผุ ลทนี่ า่ เช่ือถือ

88

เกณฑ์การประเมนิ พฤติกรรมการเรยี น

ประเดน็ การ ระดบั คณุ ภาพ

ประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ตอ้ งปรบั ปรุง)

เกณฑ์การ ให้เหตุผลประกอบการ ใหเ้ หตผุ ล ให้เหตผุ ล ไมใ่ ห้เหตผุ ล

ประเมิน ยนื ยนั แนวคิดของตนเอง ประกอบการยนื ยนั ประกอบการ ประกอบการ

พฤติกรรม อย่างถูกต้อง โดยอา้ ง แนวคิดของตนเอง ยืนยันแนวคิด ยืนยันแนวคดิ ของ

สรา้ งเหตุผล ทฤษฎที ี่เกีย่ วขอ้ งหรือ อย่างถูกต้อง โดย ของตนเอง แต่ไม่ ตนเอง

เพ่ือสนับสนนุ ขอ้ มลู ท่ีสมเหตสุ มผล อา้ งทฤษฎีท่ี มที ฤษฎีหรือ

แนวคดิ ของ อยา่ งถูกต้อง เกยี่ วข้องหรือข้อมลู ข้อมูลท่ีเกยี่ วข้อง

ตนเองหรือ ทส่ี มเหตสุ มผล แต่ ประกอบยืนยัน

โต้แย้งแนวคิด ยังไม่ถูกต้อง มีการ แนวคิด

ของผู้อนื่ อย่าง ปรับปรงุ และพฒั นา

สมเหตุสมผล งานให้ดขี ึน้

เกณฑก์ าร ปฏิบตั ิตนตามข้อตกลง ปฏิบัตติ นตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม

ประเมนิ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง ขอ้ ตกลง

พฤติกรรม ขอ้ บังคบั ของโรงเรียน ระเบยี บ ข้อบงั คบั กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์

ความมี และ ไมล่ ะเมิดสทิ ธิของ ของ ตรงต่อเวลาใน ระเบียบ ระเบยี บ ข้อบงั คับ

ระเบยี บวนิ ยั ผ้อู ่ืน ตรงต่อเวลาในการ การปฏิบัตกิ จิ กรรม ข้อบงั คบั ของ ของโรงเรียน

และมีความใฝ่ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมและ และรับผิดชอบใน โรงเรียน ตรงตอ่ บางคร้ัง

เรยี นรู้ รบั ผดิ ชอบในการทำงาน การทำงาน เวลาในการ

ปฏิบตั ิกิจกรรม

เกณฑก์ าร ให้ข้อมลู ทีถ่ ูกต้องและ ใหข้ ้อมลู ท่ถี ูกตอ้ ง ใหข้ ้อมลู ท่ี ไมใ่ ห้ข้อมูลท่ี

ประเมนิ เป็นจรงิ ไม่นำสงิ่ ของ และเปน็ จรงิ ไม่นำ ถกู ต้องและเป็น ถูกต้องและเป็น

พฤติกรรมมี และผลงานของผ้อู น่ื มา สง่ิ ของและผลงาน จริง ไมน่ ำส่ิงของ จริง มีพฤติกรรม

ความซื่อสัตย์ เป็นของตนเอง ปฏบิ ัติ ของผู้อ่ืนมาเปน็ ของ และผลงานของ นำส่งิ ของและ

สุจรติ ตนตอ่ ผอู้ ืน่ ด้วยความ ตนเอง ปฏิบัติตนต่อ ผู้อื่นมาเปน็ ของ ผลงานของผู้อนื่

ซอ่ื ตรง เป็นแบบอยา่ งที่ ผู้อน่ื ดว้ ยความ ตนเอง มาเป็นของตนเอง

ดดี ้านความซ่ือสัตย์ ซ่อื ตรง

89

8. ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมายจากหวั หน้าสถานศึกษา
8.1 ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
1) ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้แล้ว เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
2) การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
 ยงั ไมเ่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาตอ่ ไป
3) เป็นแผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่
 นำไปใช้ได้จริง
 ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4) ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ................................................................ ............................

ลงชอื่ .........................................................
( นายสเุ ทพ ตะไกแ่ กว้ )

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์

8.2 ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย

1) ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้แลว้ เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง

2) การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้

 เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม

 ยังไม่เน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป

3) เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่

 นำไปใช้ไดจ้ ริง

 ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้

4) ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................. ................................................................ ............................

ลงชอ่ื .......................................................
( นายสุรเชษฐ์ ภาคำ )

ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ

90

8.3 ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของครพู ่เี ลีย้ ง

1) ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้แล้ว เปน็ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่

 ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ

2) การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้

 เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

 ยังไมเ่ นน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป

3) เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี

 นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ

 ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้

4) ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................. ................................................................ ............................

ลงชอ่ื .....................................................
( นางละไม ตะไก่แก้ว )
ตำแหนง่ ครพู ่ีเลีย้ ง

91

92

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 55

รายวิชา คณิตศาสตร์พน้ื ฐาน รหัสวิชา ค 23101 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 สถติ ิ เวลา 8 ชั่วโมง

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 55 เรือ่ ง การเปรยี บเทียบแผนภาพกล่อง เวลา 1 ชั่วโมง

ผสู้ อน นายยศปกรณ์ จนั ทะลนุ สอนวันที่ ........ เดือน .................... พ.ศ. ..............

1. มาตรฐานและผลการเรยี นรู้
สาระท่ี 3 สถิตแิ ละความน่าจะเปน็
มาตรฐาน ค 3.2 เขา้ ใจหลักการนบั เบ้ืองต้น ความนา่ จะเปน็ และนำไปใช้

2. จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม
เม่ือนกั เรยี นเรยี นจบบทเรียนนี้แลว้ นกั เรยี นสามารถ
2.1 ด้านความรู้ (K)
เปรยี บเทียบแผนภาพกล่องของขอ้ มลู ได้ถกู ตอ้ ง
2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P)
ทำความเข้าใจปญั หา คิดวเิ คราะห์ ในการแปลความหมายเพื่อสื่อความหมาย สรปุ ผล ได้อย่างถูกต้อง
2.4 ด้านคณุ ลกั ษณะ (A)
สร้างเหตผุ ลเพอ่ื สนับสนุนแนวคิดของตนเองหรือโต้แย้งแนวคิดของผ้อู ื่นอย่างสมเหตุสมผล

3. สาระสำคัญ
ควอร์ไทล์ท่ี 1 ควอร์ไทลท์ ี่ 2 ควอรไ์ ทล์ที่ 3 ค่าต่ําสุดของข้อมูล และคา่ สูงสุดของข้อมูล เป็น

คา่ 5 คา่ ท่ีนิยมใชบ้ อก ตาํ แหน่งของขอ้ มูล เพ่ือชว่ ยใหเ้ หน็ ลักษณะการกระจายของข้อมูล ค่าท้ังหา้ นีเ้ ปน็
องคป์ ระกอบพน้ื ฐานในการนําเสนอข้อมลู ในรูปแผนภาพกล่อง ดังรูป

ตัวกล่องจะแสดงการกระจายของข้อมลู ท่ีอยตู่ รงกลางตั้งแต่ตําแหนง่ ท่เี ปน็ ควอรไ์ ทลท์ ี่ 1 ถึงควอร์ไทล์
ท่ี 3 ซ่ึงมีข้อมูล คดิ เปน็ ประมาณ 50% ของข้อมลู ทั้งหมด โดยเสน้ ทอี่ ย่ภู ายในกลอ่ งจะแสดงตาํ แหน่งทเ่ี ป็นมัธย
ฐานของข้อมลู เสน้ ทล่ี ากจาก Q, ไปยังคา่ ตํ่าสดุ และเสน้ ที่ลากจาก 9, ไปยังค่าสงู สุด แต่ละเส้นเรียกวา่
วิสเกอร์ (whisker) วสิ เกอร์แตล่ ะเส้นจะแสดง การกระจายของข้อมูลซ่งึ มีอยู่ประมาณ 25% ของขอ้ มูล
ท้งั หมด

93

4. สาระการเรียนรู้
การเปรียบเทยี บผลลัพธ์ของแผนภาพกลอ่ ง และการนำสถติ ิไปใช้ในชวี ติ จริง

5. กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ Active Learning
5.3 ขนั้ นำ
5.3.1 ครูและนักเรียนร่วมกันอภปิ รายถึงความรู้พ้ืนฐานทางสถิตขิ องคาบทแ่ี ลว้
5.3.2 ครูเปดิ โอกาสให้นักเรยี นได้ซกั ถามข้อสงสยั
5.3.3 ครแู จง้ จุดประสงค์ของการเรียนรูใ้ นกับนกั เรียนทราบ
5.3.4 ครูทบทวนความรู้ของเรียนผา่ นกิจกรรม kahoot พร้อมเสริมความรูป้ ระกอบเกย่ี วกับควอร์ไทล์
พร้อมใหค้ รูอธบิ ายเสิรมประกอบ

5.2 ขน้ั สอน
5.2.1 ครสู อนการอา่ นและแปลความหมายจากแผนภาพกล่องแล้วนำมาเปรียบเทียบ โดยแผนภาพ

กลอ่ งกบั การกระจายของข้อมูล ตามหนงั สือ สสวท. คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน ม.3 เลม่ 1 หนา้ 232
การเปรยี บเทียบแผนภาพกล่อง

เราทราบมาแลว้ วา่ พิสัยของข้อมลู สามารถใชพ้ จิ ารณาความแตกตา่ งของข้อมลู ซึ่งหาไดโ้ ดยการนาํ
คา่ สูงสุดของข้อมลู ลบด้วยคา่ ต่าํ สดุ ของข้อมลู พิสัยจงึ บอกการกระจายของข้อมลู อย่างคร่าว ๆ ได้ นนั่ คือ ถ้า
พิสยั มคี า่ มาก แสดงว่าขอ้ มูลต่างกันมาก หรอื อาจกลา่ วไดว้ า่ ขอ้ มูลมีการกระจายมาก

นอกจากพิสัยแลว้ เราอาจใชแ้ ผนภาพกลอ่ งช่วยใหเ้ หน็ ภาพการกระจายของขอ้ มลู และเปรยี บเทียบ
การกระจายของข้อมูล อย่างครา่ ว ๆ ได้ และอาจใช้ในการเปรยี บเทยี บข้อมลู ตั้งแต่ 2 ชุดขึ้นไป ท่ีมีลักษณะ
และหนว่ ยวัดเดียวกันได้อีกด้วย

ใหน้ ักเรยี นพิจารณาตวั อยา่ งการเปรียบเทยี บการกระจายของข้อมูล 2 ชดุ ท่แี สดงดว้ ยแผนภาพกลอ่ ง
ต่อไปนี้

คะแนนสอบวชิ าวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตรข์ องนักเรยี นหอ้ งหนงึ่ ซึ่งมีคะแนนเตม็ 20 คะแนน เป็น
ดงั น้ี

คะแนนสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 13, 15, 17, 18, 18, 20, 9, 20, 19, 17, 16, 16, 15, 20, 14, 13, 18, 20, 19,
17

94

คะแนนสอบวิชาคณติ ศาสตร์ 16, 18, 14, 15, 11, 10, 12, 9, 17, 19, 20, 18, 16, 20, 13, 12, 15, 11, 19,

13
จากแผนภาพกล่องจะเหน็ วา่
- คะแนนสอบวชิ าวิทยาศาสตร์ในชว่ งคะแนน 19-20 คะแนน มกี ารกระจุกตวั มากกวา่ ชว่ งอื่น ๆ เนือ่ งจาก
ความยาวในชว่ งนี้น้อยทส่ี ดุ
- คะแนนสอบวชิ าวทิ ยาศาสตรใ์ นชว่ งคะแนน 9-15 คะแนน มีการกระจายตัวมากทส่ี ดุ เน่ืองจากความยาว
ในช่วงนมี้ ากทีส่ ุด
- คะแนนสอบวิชาวทิ ยาศาสตรใ์ นช่วงคะแนน 15-17 คะแนน และในช่วงคะแนน 17-19 คะแนน มีการ
กระจายตัว
ใกลเ้ คยี งกนั
- นักเรียนประมาณ 75% ของนักเรยี นท้ังห้อง สอบวิชาวทิ ยาศาสตร์ได้ 15 คะแนนขนึ้ ไป
- คะแนนสอบวิชาคณติ ศาสตร์ทงั้ ส่ีชว่ งมีการกระจายตวั ใกลเ้ คียงกนั แตใ่ นช่วงคะแนน 18-20 คะแนน มกี าร
กระจายตวั นอ้ ยทส่ี ุด เนือ่ งจากความยาวในชว่ งนีน้ ้อยทส่ี ุด
- นกั เรยี นประมาณ 25% ของนักเรียนท้ังห้อง สอบวิชาคณิตศาสตร์ได้คะแนนไมเ่ กิน 12 คะแนน
- คะแนนต่ำสดุ และคะแนนสูงสุดของทง้ั สองวิชาเท่ากัน
- แม้ว่าคะแนนต่ำสุด และคะแนนสูงสดุ ของทั้งสองวิชาจะเทา่ กนั แต่จะเห็นวา่ Q1, Q2, และ Q3 ของคะแนน
สอบ วชิ าวิทยาศาสตร์ ต่างก็มากกวา่ Q1, Q2, และ Q3 ของคะแนนสอบวชิ าคณติ ศาสตร์ ตามลำดบั ดังน้นั
จึงอาจ
กล่าวได้ว่า นกั เรยี นห้องน้ีสอบได้คะแนนในวิชาวิทยาศาสตรด์ กี ว่าวชิ าคณติ ศาสตร์
- ในช่วง 9, ถงึ Q, ซงึ่ มีนักเรียนอยปู่ ระมาณ 50% ของนักเรียนทั้งห้องนั้น คะแนนสอบวชิ าวิทยาศาสตร์
กระจายตวั น้อยกวา่ คะแนนสอบวิชาคณติ ศาสตร์ เนอ่ื งจากความยาวของกล่องของคะแนนสอบวิชา
วทิ ยาศาสตร์ น้อยกวา่ ความยาวของกล่องของคะแนนสอบวชิ าคณิตศาสตร์

5.2.2 ครยู กตวั อย่างประกอบเสรมิ ใหน้ ักเรียน โดยผา่ นหนงั สอื สสวท. คณติ ศาสตรพ์ นื้ ฐาน ม.3 เล่ม 1
หน้า 234-236


Click to View FlipBook Version