บทคัดย่อสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการสัญจร ครั้งที่ 3/2566 เรื่อง การเตรียมผลงานวิจัยและผลงานทางวิชาการ ทางการพยาบาลเพื่อก้าวสู่ตำ แหน่งที่สูงขึ้น วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลเลย จังหวัดเลย ABSTRACTS สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำ นักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ที่ สพฉ 222/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40002 22 สิงหาคม 2566 เรื่อง ขอเชิญเข้าร่วมประชุมวิชาการสัญจรประจำปี 2566 ครั้งที่ 3/2566 เรียน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด/ อธิการบดี/ผู้อำนวยการโรงพยาบาล/ ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาล/ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล/ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์/ สาธารณสุขอำเภอ/ กองสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนจังหวัด/กองสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนตำบล สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. รายละเอียดโครงการฯ จำนวน 1 ชุด 2. ใบแจ้งความจำนงเข้าร่วมประชุมวิชาการฯ จำนวน 1 ชุด ด้วยสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้กำหนดให้มีการจัดประชุม วิชาการสัญจร ประจำปี 2566 เรื่อง การจัดเตรียมผลงานวิจัยและนวัตกรรมทางการพยาบาล เพื่อประกอบ การขอตำแหน่งที่สูงขึ้น ครั้งที่ 3/2566 ในวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2566 เวลา 08.30-16.30 น. ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลเลย จังหวัดเลย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พยาบาลและสมาชิกสมาคมพยาบาล แห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ขยายทิศทางและโอกาสความก้าวหน้าในวิชาชีพการ พยาบาล และสมาชิกมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมผลงานทางวิชาการและตีพิมพ์เผยแพร่เพื่อก้าวสู่ตำแหน่ง ที่สูงขึ้น รายละเอียดตามที่แนบมาพร้อมนี้ ในการนี้สมาคมพยาบาลฯ ขอเชิญพยาบาลวิชาชีพ อาจารย์พยาบาล บุคลากรด้านสุขภาพและผู้สนใจ เข้าร่วมโครงการประชุมวิชาการดังกล่าวฯ โดยสมัครและชำระค่าลงทะเบียนได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สามารถ ดาวน์โหลดเอกสารการสมัครได้ที่ http://www.natne.or.th หรือ สมัครผ่าน QR Code ด้านล่าง อนึ่ง ผู้เข้าร่วม ประชุมที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจมีสิทธิ์เบิกค่าลงทะเบียนและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ตามระเบียบของทาง ราชการจากต้นสังกัด และสามารถเข้าร่วมประชุมได้โดยไม่ถือเป็นวันลา ทั้งนี้ เมื่อได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาแล้ว สำหรับหน่วยคะแนนการศึกษาต่อเนื่องสาขาพยาบาลศาสตร์ได้6 หน่วยคะแนน จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้บุคลากรในสังกัดเข้าร่วมประชุม จักเป็นพระคุณยิ่ง ขอแสดงความนับถือ (ผศ.ดร.เสาวมาศ คุณล้าน เถื่อนนาดี) นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โทรศัพท์ 080-8952065 E-mail: [email protected] สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลิ้งการสมัครประชุม ลิ้งสมัครนำเสนอผลงาน
โครงการ การประชุมวิชาการสัญจร ประจําป 2566 สมาคมพยาบาลแหงประเทศไทย ฯ สํานักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1. ขอมูลทั่วไปของโครงการ 1.1 ชื่อโครงการ การจัดเตรียมผลงานวิจัยและนวัตกรรมทางการพยาบาล เพื่อประกอบการขอตําแหนงที่สูงขึ้น 1.2 ผูรับผิดชอบโครงการ สมาคมพยาบาลแหงประเทศไทย ฯ สํานักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1.3 สถานภาพโครงการ โครงการเดิม/ตอเนื่อง โครงการใหม 1.4 ประเภทโครงการและความสอดคลองกับประเด็นยุทธศาสตร สอดคลองกับประเด็นยุทธศาสตรที่ 5 สงเสริมและพัฒนาสมรรถนะ เพื่อสรางโอกาสในการพัฒนา ความกาวหนาในการประกอบวิชาชีพทุกระดับ กลยุทธที่ 5.1 การเตรียมความพรอมพยาบาลเพื่อความกาวหนาวิชาชีพ กลยุทธที่ 5.2 สนับสนุนการพัฒนาบุคลากรทางการพยาบาล ตามคุณสมบัติและสมรรถนะที่สูงขึ้น กลยุทธที่ 5.3 พัฒนาสมรรถนะการจัดทําผลงาน เพื่อความกาวหนาในการประกอบวิชาชีพ 1.5 หลักการและเหตุผล ปจจุบันบริบท และระบบสุขภาพของประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงอยางรวดเร็ว อันเปนผลมาจาก การเปลี่ยนแปลงทั้งดานสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดลอม กฎหมาย และนโยบาย ทําใหมีผลกระทบตอความตองการ และความคาดหวังดานสุขภาพของประชาชน ที่ตองการบริการพยาบาลที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความ ปลอดภัย โดยที่วิชาชีพการพยาบาล เปนวิชาชีพที่ใกลชิดกับผูปวย ผูใชบริการตลอดเวลา พยาบาลวิชาชีพจึงตอง มีความรูดานกฎหมายวิชาชีพการพยาบาล เพื่อพิทักษสิทธิ์ผูปวย ผูใชบริการ ประกอบกับการกาวสูตําแหนงที่ สูงขึ้นของพยาบาลวิชาชีพนั้น ตองใชความรู ความสามารถดานการเขาใจสภาวะสุขภาพ และความตองการที่ เปลี่ยนแปลงไป เพื่อพัฒนาคุณภาพงานบริการพยาบาลใหมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้น การกาวสูตําแหนงที่สูงขึ้น พยาบาล จึงตองมีการพัฒนาสมรรถนะดานวิชาชีพ ใหเปนผูนําทางวิชาการพยาบาล โดยใชหลักฐานและความรูที่ ทันสมัยในการปฏิบัติกิจกรรมการพยาบาล เพื่อตอบสนองความตองการดานสุขภาพที่ซับซอนของประชาชน ปญหาที่พบ คือ พยาบาลและสมาชิกสมาคมพยาบาลแหงประทศไทยฯสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังขาด ความรู ขาดขอมูลที่ถูกตองชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมายวิชาชีพ และการจัดทําเอกสารประเมินผลงานวิชาการที่ถูกตอง ตามมาตรฐาน ในการเตรียมความพรอมเพื่อกาวสูตําแหนงที่สูงขึ้น สมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เห็นความสําคัญของการใหความรู ขอมูล ความเขาใจที่ถูกตองเกี่ยวกับกฎหมายวิชาชีพ และแนวทางการจัดทําเอกสารประเมินเพื่อเลื่อนระดับ รวมทั้งการเตรียมความพรอมของพยาบาลในการกาวสูตําแหนงที่สูงขึ้น จึงจัดทําโครงการการประชุมวิชาการสัญจร เพื่อกระจายไปตามจังหวัดตางๆ ใหครอบคลุมทุกเขต นี้ขึ้นเพื่อสรางความรู ความเขาใจที่ถูกตองเกี่ยวกับกฎหมาย วิชาชีพ และแนวทางการจัดทําเอกสารประเมินเพื่อเลื่อนระดับ รวมทั้งการเตรียมความพรอมของพยาบาลในการ กาวสูตําแหนงที่สูงขึ้น อันจะเกิดประโยชนสูงสุดตอผูปวย ผูใชบริการ ตลอดจนพยาบาลและสมาชิกสมาคม พยาบาลแหงประเทศไทยฯสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
2 1.6 วัตถุประสงค ของโครงการ 1.6.1 เพื่อใหพยาบาลและสมาชิกสมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯ สาขาสํานักงานภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ มีความรู ความเขาใจเกี่ยวกับกฎหมายวิชาชีพการพยาบาล 1.6.2 เพื่อใหพยาบาลและสมาชิกสมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯ สาขาสํานักงานภาค ตะวันออกเฉียงเหนือมีความรู ความเขาใจเกี่ยวกับการเตรียมความพรอมดานการวิจัยเพื่อกาวสูตําแหนงที่สูงขึ้น 1.6.3 เพื่อใหพยาบาลเตรียมความพรอมในการกาวสูตําแหนงที่สูงขึ้นในทุกระดับ 1.7 ประโยชนที่คาดวาจะไดรับ 1.7.1 พยาบาลและสมาชิกสมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถนําความรูไปประยุกตใชในบทบาทวิชาชีพอยางมีประสิทธิภาพ 1.7.2 พยาบาลวิชาชีพสามารถผานการยื่นขอผลงานวิชาการดานการวิจัยไดเพิ่มขึ้น 1.7.3 พยาบาลและสมาชิกสมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือนํา หลักกฎหมายวิชาชีพการพยาบาลไปประยุกตใชในการปฏิบัติงานไดอยางเหมาะสมในสถานการณที่เปลี่ยนแปลง 1.8 ระยะเวลา และสถานที่ดําเนินการ จัดประชุมวิชาการสัญจรไปจังหวัดตางๆ จํานวน 3 ครั้ง ครั้งที่1 วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ณ หองประชุมโรงพยาบาลบุรีรัมยจังหวัดบุรีรัมย ครั้งที่ 2 วันที่ 16 มิถุนายน 2566 ณ หองประชุมโรงพยาบาลอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญ ครั้งที่ 3 วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ณ หองประชุมโรงพยาบาลเลย จังหวัดเลย 2. กลุมเปาหมาย พยาบาลวิชาชีพ อาจารยพยาบาล บุคลากรดานสุขภาพและผูสนใจ ครั้งละจํานวน 600 คน (onsite 400 คน online 200 คน) คาลงทะเบียน on site 600 บาท on line 300 บาท 3. เปาหมาย ผลผลิตและแผนปฏิบัติการ 3.1 วิธีการดําเนินการ: การประชุมวิชาการประกอบดวย การบรรยายและอภิปราย ซักถาม 3.2 งบประมาณรายจาย (ครั้งละ) แหลงงบประมาณ จากสมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ จากคาลงทะเบียนการประชุม 3.3 ตัวชี้วัดความสําเร็จของโครงการ หลังการประชุม 3.3.1 พยาบาลที่เขาประชุม มีความรู และเขาใจเกี่ยวกับกฎหมายวิชาชีพ และแนวทางการ จัดทําเอกสารผลงานวิชาการเพื่อเลื่อนระดับที่สูงขึ้น รอยละ 80 3.3.2 พยาบาลที่เขาประชุมมีความพึงพอใจในการประชุมรอยละ 80
3 4. การประเมินผลโครงการ ประเมินผลตามตัวชี้วัด ………………………………………………ผูเสนอโครงการ (ดร.ทัศนีย ทิพยสูงเนิน) ประธานฝายวิชาการ สมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯ สํานักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ …………………………………..………ผูเห็นชอบโครงการ (ดร. สุเพียร โภคทิพย) อุปนายกสมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯ สํานักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขตอุบลราชธานี ….………………………………….…..…ผูเห็นชอบโครงการ (นางไพรวัลย พรมที) อุปนายกสมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯ สํานักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขตขอนแกน ……………………………..………ผูเห็นชอบโครงการ (นางสาวสิริลักษณ คุณกมลกาญจน) อุปนายกสมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯ สํานักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขตนครราชสีมา ……………………………………….. ผูอนุมัติโครงการ (ผศ.ดร.เสาวมาศ คุณลาน เถื่อนนาดี) นายกสมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯ สํานักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
4 กําหนดการประชุมวิชาการสัญจร ครั้งที่ 3 ประจําป 2566 เรื่อง การจัดเตรียมผลงานวิจัยและนวัตกรรมทางการพยาบาล เพื่อประกอบการขอตําแหนงที่สูงขึ้น วันศุกรที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ณ หองประชุมโรงพยาบาลเลย จังหวัดเลย เวลา หัวขอ วิทยากร 08.00-08.45 น. ลงทะเบียน 08.45-09.00 น. พิธีเปด ประธาน : นายกสมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯ สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลาวตอนรับ : ผูอํานวยการโรงพยาบาลเลย กลาวรายงาน : ประธานฝายวิชาการสมาคมพยาบาล แหงประเทศไทยฯ สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 09.00-09.30 น. บทบาทของสมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯ ในการสงเสริมความกาวหนาในการประกอบ วิชาชีพ ผศ.ดร. เสาวมาศ คุณลาน เถื่อนนาดี นายกสมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯ สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 09.30-12.00 น. เกณฑการพิจารณาผลงานประกอบการเลื่อน ตําแหนงที่สูงขึ้นในสายพยาบาลวิชาชีพ ดร.ธีรพร สถิรอังกูร ผูเชี่ยวชาญเฉพาะดานกําลังคน ทางการพยาบาล กองการพยาบาล 12.00-13.00 น. พัก รับประทานอาหารกลางวัน 13.00-14.30 น. การเตรียมผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่มี คุณภาพเพื่อการตีพิมพเผยแพรในระดับชาติ รศ.ดร. จันทรทิรา เจียรณัย ประธานฝายวารวารและ บรรณาธิการวารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ 14.30-16.30 น. ประชุมเชิงปฏิบัติการแลกเปลี่ยนเรียนรูจาก Best practice ในการเตรียมผลงานวิจัยและ นวัตกรรมที่มีคุณภาพเพื่อประกอบการขอ ตําแหนงที่สูงขึ้น นางอุบล จวงพานิช R2R นางไพรวัลย พรมที ผลงานระดับเชี่ยวชาญ ดร.ชินกร สุจิมงคล ดานวิจัย นางอภิญญา รองเมือง ดานนวัตกรรม ศาสตราภิชาน ดร.จงกลณี เรืองอัมพร ประธานฝายวิจัยสมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯ สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผูดําเนินการอภิปราย 16.30 น ปดการประชุม ผศ.ดร. เสาวมาศ คุณลาน เถื่อนนาดี นายกสมาคมพยาบาลแหงประเทศไทยฯ สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
กำหนดการประชุมวิชาการสัญจร ครั้งที่ 3/2566 เรื่อง การเตรียมผลงานวิจัยและผลงานทางวิชาการทางการพยาบาลเพื่อก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น วันที่24 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลเลย จังหวัดเลย เวลา หัวข้อ วิทยากร 08.00-08.45 น. ลงทะเบียน 08.45-09.00 น. -กล่าวต้อนรับ ท่านรองแพทย์นพ.อุดมศักดิ์ ส่งทรัพย์ และถ่ายภาพหมู่ สมาคมฯ มอบของที่ระลึกและขอบคุณ -พิธีเปิด ประธาน : นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวต้อนรับ : ท่านรองแพทย์ นพ.อุดมศักดิ์ ส่งทรัพย์ กล่าวรายงาน : อุปนายกฯ เขตขอนแก่น คุณไพรวัลย์ พรมที 09.00-09.45น. บทบาทของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ ใน การส่งเสริมความก้าวหน้าในการประกอบวิชาชีพ ผศ.ดร. เสาวมาศ คุณล้าน เถื่อนนาดี นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 09.45-10.00 น. พักรับประทานอาหารว่าง 10.00-11.45 น. เกณฑ์การพิจารณาผลงานประกอบการเลื่อนตำแหน่ง ที่สูงขึ้นในสายพยาบาลวิชาชีพ ดร.ธีรพร สถิรอังกูร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกำลังคนทางการ พยาบาล กองการพยาบาล 12.00-13.00 น. พัก รับประทานอาหารกลางวัน 12.00-13.30 นำเสนอผลงานวิชาการ (onsite) -คณะกรรมการดำเนินการนำเสนอผลงานประจำห้องนำเสนอ ผลงาน 13.30-14.00น. การเตรียมผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีคุณภาพเพื่อ การตีพิมพ์เผยแพร่ในระดับชาติ รศ.ดร. จันทร์ทิรา เจียรณัย ประธานฝ่ายวารวารและ บรรณาธิการวารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ 14.00-14.15 น. พักรับประทานอาหารว่าง 14.15-16.30 น. ประชุมเชิงปฏิบัติการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จาก Best practice ในการเตรียมผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่มี คุณภาพเพื่อประกอบการขอตำแหน่งที่สูงขึ้น พว.อุบล จ๋วงพานิช พว.ไพรวัลย์ พรมที พว.อภิญญา รองเมือง ดร.ชินกร สุจิมงคล ศาสตราภิชาน ดร.จงกลณี เรืองอัมพร ประธานฝ่ายวิจัยสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16.30-17.00 น ปิดการประชุม ผศ.ดร. เสาวมาศ คุณล้าน เถื่อนนาดี นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12.00-13.30 ห้องย่อยการนำเสนอเพื่อเผยแพร่ผลงานเพื่อความก้าวหน้าวิชาชีพพยาบาลระดับชำนาญการพิเศษ (เฉพาะออนไซต์)
ค ำกล่ำวรำยงำน โครงกำรกำรประชุมวชิำกำรสัญจร ครั้งที่ 3 ประจ ำปี 2566 สมำคมพยำบำลแห่งประเทศไทย ฯ ส ำนักงำนสำขำภำคตะวันออกเฉียงเหนือ เรื่อง กำรจัดเตรียมผลงำนวิจัยและผลงำนทำงวิชำกำรทำงกำรพยำบำล เพื่อก้ำวสู่ต ำแหน่งที่สูงขึน้ วันที่ 24 พฤศจิกำยน 2566 ณ ห้องประชุมภูหลวง โรงพยำบำลเลย เรียน ท่ำนนำยกสมำคมพยำบำลแห่งประเทศไทยฯ ส ำนักงำนสำขำภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ผศ.ดร.เสำวมำศ คุณล้ำน เถ ื่อนนำดี ดิฉัน นำงไพรวัลย์ พรมที อุปนำยกสมำคมพยำบำลแห่งประเทศไทยฯ ส ำนักงำนสำขำภำค ตะวันออกเฉียงเหนือ เขตขอนแก่น ในนำมของผู้จัดประชุม และท่ำนวทิยำกรทุกท่ำน ขอขอบพระคุณท่ำน ประธำนเป็นอย่ำงสูง ที่กรุณำให้เกยีรติมำเป็นประธำน ในกำรเปิ ดกำรประชุมวชิำกำรสัญจร ครั้งที่ 3 ประจ ำปี 2566 เรื่อง กำรจัดเตรียมผลงำนวิจัยและผลงำนทำงวิชำกำรทำงกำรพยำบำล เพื่อก้ำวสู่ต ำแหน่งที่ สูงขึน้จัดโดย สมำคมพยำบำลแห่งประเทศไทย ฯ ส ำนักงำนสำขำภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันนี้ ดิฉัน ขอเรียนควำมเป็นมำในกำรจัดประชุม เพ ื่อทรำบดงันี้ ปัจจุบันบริบท และระบบสุขภำพของประเทศไทย มีกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงรวดเร็ว อันเป็นผลมำ จำกกำรเปลี่ยนแปลงทั้งด้ำนสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสถำนกำรณ์ระบำดของโรค ท ำให้มี ผลกระทบต่อควำมต้องกำร และควำมคำดหวังด้ำนสุขภำพของประชำชน ที่ต้องกำรบริกำรพยำบำลที่มี คุณภำพ ประสิทธิภำพ และควำมปลอดภัย พยำบำลวิชำชีพจึงจ ำเป็ นต้ องมีกำรพัฒนำควำมร ู้ ควำมสำมำรถ และสมรรถนะด้ำนวิชำชีพ ให ้ เป็นผ ู้น ำทำงวิชำกำรพยำบำล โดยใช ้ หลักฐำนเชิงประจักษ์ และควำมรู้ที่ทันสมัยในกำรปฏิบัติกิจกรรมกำรพยำบำล เพ ื่อตอบสนองควำมต้องกำรด้ำนสุขภำพที่ ซับซ้อนของประชำชน ประกอบกับกำรก้ำวสู่ต ำแหน่งที่สูงขึน้ของพยำบำลวิชำชีพน้ัน เป็ นตัวสะท้อนถึง สมรรถนะด้ำนวิชำชีพกำรพยำบำลที่มีคุณภำพ และประสิทธิภำพ เพ ื่อตอบสนองควำมต้องกำรด้ำน สุขภำพที่ซับซ้อนของผู้ป่วยรวมท้ังเป็นขวญักำ ลงัใจให้แก่พยำบำลที่มีควำมก้ำวหน้ำในวิชำชีพ
สมำคมพยำบำลแห่งประเทศไทยฯสำขำภำคตะวันออกเฉียงเหนือ เห็นควำมส ำคัญดังกล่ำวจึงได้ จัดประชุมวชิำกำรสัญจรในคร้ังนีข้ึน้โดยมีวตัถุประสงค ์ ดงันี้ 1. เพื่อให้พยำบำลวิชำชีพ สมำชิกสมำคมพยำบำลแห่งประเทศไทย มีควำมรู้ควำมเข้ำใจเกยี่วกบั เกณฑ์กำรพิจำรณำผลงำนวิชำกำร และแนวทำงในกำรจัดท ำผลงำนวิชำกำรพยำบำล เพื่อ ประกอบกำรเลื่อนต ำแหน่งที่สูงขึน้ 2. เพื่อให้พยำบำลวิชำชีพ สมำชิกสมำคมพยำบำลแห่งประเทศไทย มีกำรเตรียมควำมพร้อมใน กำรพฒันำผลงำนวชิำกำรพยำบำลเพ ื่อกำรก้ำวสู่ต ำแหน่งที่สูงขึน้ ผู้เข้ำประชุม ประกอบด้วย พยำบำลวชิำชีพ อำจำรย ์ พยำบำล บุคลำกรด้ำนสุขภำพและผู้สนใจ จ ำนวน 336 คน (onsite 136 คน online 133 คน น ำเสนอผลงำน 67 คน) กำรประชุมประกอบด้วย กำร บรรยำยและอภิปรำย ซักถำม โดยทีมวทิยำกรผู้เชี่ยวชำญ และกำรน ำเสนอเพื่อเผยแพร่ผลงำนเพื่อ ควำมก้ำวหน้ำวิชำชีพพยำบำล (ระดับช ำนำญกำรพิเศษ) บัดนี้ได้เวลำอันสมควรแล้ว ดิฉันใคร่ขอเรียนเชิญท่ำนนำยกสมำคมพยำบำลแห่งประเทศไทยฯ ส ำนักงำนสำขำภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ผศ.ดร.เสำวมำศ คุณล้ำน เถ ื่อนนำดีประธำนในพิธี กล่ำวเปิ ด กำรประชุมในครั้งนี้ ขอเรียนเชิญค่ะ
ค ำกล่ำวเปิ ด โครงกำรกำรประชุมวชิำกำรสัญจร ครั้งที่ 3 ประจ ำปี 2566 สมำคมพยำบำลแห่งประเทศไทย ฯ ส ำนักงำนสำขำภำคตะวันออกเฉียงเหนือ เรื่อง กำรจัดเตรียมผลงำนวิจัยและผลงำนทำงวิชำกำรทำงกำรพยำบำล เพื่อก้ำวสู่ต ำแหน่งที่สูงขึน้ วันที่ 24 พฤศจิกำยน 2566 ณ ห้องประชุมภูหลวง โรงพยำบำลเลย เรียน ท่ำน นพ. บัญชำ ผลำนุวงษ ์ ผู้อำ นวยกำรโรงพยำบำลเลย ท่ำนนำยกกิตติมศักดิ์ ท่ำน กรรมกำรกิตติมศักดิ์ สมำคมพยำบำลแห่งประเทศไทย ท่ำนอุปนำยกเขตขอนแก่น ท่ำนวิทยำกร ท่ำน คณะกรรมกำรจัดกำรประชุม และผู้เข้ำประชุมทุกท่ำน ดิฉันมีควำมยินดี ที่ได้รับเกียรติให้มำเป็ นประธำนในพิธีเปิ ดกำรประชุมวชิำกำรสัญจร ครั้งที่ 3 ประจ ำปี 2566 จัดโดยสมำคมพยำบำลแห่งประเทศไทย ฯ ส ำนักงำนสำขำภำคตะวันออกเฉียงเหนือ เรื่อง กำรจัดเตรียมผลงำนวิจัยและผลงำนทำงวิชำกำรทำงกำรพยำบำล เพื่อก้ำวสู่ต ำแหน่งที่สูงขึน้ ในวันนี้ กำรประชุมวิชำกำรสัญจร เป็นภำรกิจหนึ่งของ สมำคมพยำบำลแห่งประเทศไทย ฯ ส ำนักงำน สำขำภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ได้เล็งเห็นควำมส ำคัญของควำมก้ำวหน้ำในวิชำชีพของพยำบำล และ กำรเตรียมควำมพร้อมในกำรก้ำวสู่ต ำแหน่งที่สูงขึน้เพ ื่อให้พยำบำล สมำชิกสมำคมพยำบำลแห่งประเทศ ไทย ได้เข้ำถึงกำรประชุมวิชำกำร ให้มำกที่สุด จึงได้จัดให้มีกำรประชุมสัญจรขึน้ท้ังในรูปแบบ On site และ On line อีกทั้งกำรประชุมคร้ังนี้ได้จัดให้มีเวทีน ำเสนอเพื่อเผยแพร่ผลงำนเพื่อควำมก้ำวหน้ำวิชำชีพ พยำบำล (ระดับช ำนำญกำรพิเศษ) อีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดกำรเรียนร ู้ร่วมกันและสำมำรถพัฒนำผลงำน วิชำกำรทำงกำรพยำบำลได ้ อย่ำงมีคุณภำพและมำตรฐำน ขอให้ท่ำนที่เข้ำประชุมในครั้งนี้ต้ังใจรับควำมรู้เกี่ยวกับเกณฑ์กำรพิจำรณำผลงำนวิชำกำร และ แนวทำงในกำรจัดท ำผลงำนวิชำกำรพยำบำล เพื่อประกอบกำรเลื่อนต ำแหน่งที่สูงขึ้น และเตรียมควำม
พร้อมในกำรก้ำวสู่ต ำแหน่งที่สูงขึ้น อันจะเป็นกำรสะท้อนถึงกำรพัฒนำคุณภำพบริกำรพยำบำลให้ ตอบสนองต่อควำมต้องกำรด้ำนสุขภำพของผู้ป่วย ผู้ใช้บริกำร ให้มีคุณภำพและได้รับควำมปลอดภัย ซึ่ง จะก่อให้เกดิประโยชน ์ สูงสุดแก่ผู้ใช้บริกำรต่อไป ขอขอบคุณท่ำนผู้อ ำนวยกำรโรงพยำบำลเลย นพ. บัญชำ ผลำนุวงษ ์และคณะกรรมกำรจัดกำร ประชุม จำกโรงพยำบำลเลยทุกท่ำน ที่ได้เอื้อเฟื้ อสถำนที่ และเตรียมควำมพร้อมในกำรจัดกำรประชุมคร้ัง นี้ขอขอบคุณท่ำนวิทยำกรทุกท่ำน และขอให้กำรอบรมครั้งนี้ประสบควำมส ำเร็จ บรรลุวัตถุประสงค ์ ตำมที่กำ หนดไว้ทุกประกำร บัดนี้ได้เวลำอันสมควรแล้ว ดิฉันขอเปิ ดกำรประชุมวิชำกำรสัญจร ครั้งที่ 3 ประจ ำปี 2566 เรื่อง กำรจัดเตรียมผลงำนวิจัยและผลงำนทำงวิชำกำรทำงกำรพยำบำล เพื่อก้ำวสู่ต ำแหน่งที่สูงขึ้น จัดโดย สมำคมพยำบำลแห่งประเทศไทย ฯ ส ำนักงำนสำขำภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ บัดนี้
ประกาศสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฉบับที่ 6/2566 เรื่อง ตารางการนำเสนอผลงานประชุมวิชาการสัญจรประจำปี 2566 ครั้งที่ 3/2566 ตามที่ สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้กำหนดให้มีการจัด สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้กำหนดให้มีการจัดประชุมวิชาการ สัญจร ประจำปี 2566 เรื่อง การจัดเตรียมผลงานวิจัยและนวัตกรรมทางการพยาบาล เพื่อประกอบ การขอตำแหน่งที่สูงขึ้น ครั้งที่ 3/2566 ในวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2566 เวลา 08.30-16.30 น. ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลเลย จังหวัดเลย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พยาบาลและสมาชิกสมาคมพยาบาล แห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ขยายทิศทางและโอกาสความก้าวหน้าในวิชาชีพ การพยาบาล และสมาชิกมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมผลงานทางวิชาการและตีพิมพ์เผยแพร่เพื่อก้าวสู่ ตำแหน่งที่สูงขึ้น นั้น บัดนี้ คณะกรรมการได้ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกผลงาน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สมาคมพยาบาล แห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงขอประกาศตารางการนำเสนอผลงาน ดังตารางแนบท้ายประกาศนี้ ทั้งนี้ประกาศ ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 (ผศ.ดร.เสาวมาศ คุณล้าน เถื่อนนาดี) นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
Oral Nursing ตารางนำเสนอผลงานวิชาการพยาบาลวิชาชีพ Oral presentation ในวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2566 เวลา 08.30-16.30 น. ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลเลย จังหวัดเลย ลำดับ เวลานำเสนอ ชื่อผลงาน/ผู้นำเสนอ (ห้องที่ 1) ผู้นำเสนอเบอร์ โทรศัพท์ 1 11.50-12.00 ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบบริการสุขภาพเพื่อชะลอไตเสื่อมต่อพฤติกรรมการจัดการ ตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีภาวะแทรกซ้อนทางไต 0985840263 ผู้นำเสนอ นางสำอางค์ เวียงนนท์ โรงพยาบาลสามชัย กาฬสินธุ์ 2 12.00-12.10 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีการบาดเจ็บช่องท้อง : เปรียบเทียบกรณีศึกษา 2 ราย ผู้นำเสนอ นางสุปราณี ชูรัตน์ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี 0833667314 3 12.10-12.20 ชื่อเรื่อง การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคปอดอักเสบโดยใช้หลักฐานเชิง ประจักษ์ โรงพยาบาลน้ำพอง 0895698603 ผู้นำเสนอ นางอุษณี ศรีพุทธา โรงพยาบาลน้ำพอง ขอนแก่น 4 12.20-12.30 ชื่อเรื่อง การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ ที่มีภาวะอ้วนร่วมกับเบาหวานและความดันโลหิตสูง ขณะตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอด 0898490651 ผู้นำเสนอ นางนภาพร นพพัฒนกุล โรงพยาบาลโนนสูง นครราชสีมา 5 12.30-12.40 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตกระยะเฉียบพลัน : กรณีศึกษา ผู้นำเสนอ นางสาวกมลวรรณ แซ่เฮง โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา 0899497559 6 12.40-12.50 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ชนิด NSTEMI ที่มีภาวะหัวใจ ล้มเหลว : กรณีศึกษา 0810002039 ผู้นำเสนอ นางพรทิพย์ สมานมิตร โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา 7 12.50-13.00 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือดร่วมกับภาวะหัวใจ ขาดเลือด : กรณีศึกษา 0819799209 ผู้นำเสนอ นางสาววีระวรรณ์ คุ้มกลาง โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา 8 13.00-13.10 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยผู้ป่วยสูงอายุที่ได้รับผ่าตัดกระดูกต้นขาขวาหักแบบทั่วไป : กรณีศึกษา 0644632458 ผู้นำเสนอ นางสาวนวินดา ยุทธยงค์ โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา 9 13.10-13.20 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้คลอดที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดร่วมกับมีภาวะครรภ์ เป็นพิษรุนแรง เบาหวานขณะตั้งครรภ์และภาวะน้ำหนักเกิน : กรณีศึกษา 0819666571 ผู้นำเสนอ นางสาวอุบลรัตน์ ระวังโพธิ์ โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา 10 ยกเลิกผลงาน ชื่อเรื่อง การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลการจัดการความปวดในผู้ป่วยบาดเจ็บจาก อุบัติเหตุห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลสกลนคร ยกเลิกผลงาน ผู้นำเสนอ นางสาวอาทิยา วงศาพาน โรงพยาบาลสกลนคร สกลนคร 11 13.30-13.40 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดีที่ได้รับการผ่าตัดเปิดหน้าท้องจากการ ล้มเหลวในการส่องกล้องและมีโรคร่วม: กรณีศึกษา 0868703597 ผู้นำเสนอ นางสาวจันทร์ทิรา พงศ์ชาญวิทย์ โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา
12 13.40-13.50 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้สูงอายุกระดูกสะโพกหักที่ได้รับการผ่าตัดและมีโรคลมชักร่วม : กรณีศึกษา 0883651016 ผู้นำเสนอ นางสาวสุนิษา นิยมไร่ โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา 13 13.50-14.00 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันร่วมกับภาวะสัญญาณไฟฟ้า หัวใจถูกขัดขวางที่ห้องฉุกเฉิน : กรณีศึกษา 0817608375 ผู้นำเสนอ นางธมณ ผินกลาง โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา ลำดับ เวลานำเสนอ ชื่อผลงาน/ผู้นำเสนอ (ห้องที่ 2) ผู้นำเสนอเบอร์ โทรศัพท์ 1 12.00-12.10 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยผ่าตัดมดลูกทางหน้าท้องร่วมกับภาวะช็อค : กรณีศึกษา ผู้นำเสนอ นางวิไลรัตน์ คลาพิมาย โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา 0801612928 2 12.10-12.20 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคอ้วนที่ได้รับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีโดยวิธีการส่องกล้อง ภายใต้การให้ยาระงับความรู้สึกแบบทั่วไป : กรณีศึกษา 0634961889 ผู้นำเสนอ นางสาวศริณย์ทิพย์ ฟุ้งพิมาย โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา 3 12.20-12.30 ชื่อเรื่อง การพยาบาลมารดาหลังคลอดที่มีภาวะความดันโลหิตสูงรุนแรง : กรณีศึกษา ผู้นำเสนอ นางสาวรชุดา หมอสัมฤทธิ์ โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา 0951744653 4 12.30-12.40 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้คลอดที่มีภาวะความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรงร่วมกับมีภาวะรกค้าง และมีภาวะตกเลือดหลังคลอด : กรณีศึกษา 0819766375 ผู้นำเสนอ นางเสาวนิตย์ ภูประพันธ์ โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา 5 12.40-12.50 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว : กรณีศึกษา ผู้นำเสนอ นางสาวปัณรัตน์ สุขกำเนิด โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา 0966598264 6 12.50-13.00 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจ Pulmonary stenosis (PS) ที่ได้รับการผ่าตัด Modified Blalock-Taussig shunt (MBT shunt) : กรณีศึกษาเปรียบเทียบ 2 ราย 0637673336 ผู้นำเสนอ นางพัชรี ซิงค์ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี 7 13.00-13.10 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบร่วมกับมีภาวะช็อกจากการเสียเลือด : กรณีศึกษาเปรียบเทียบ 2 ราย 0814700009 ผู้นำเสนอ นางสาวนุสรา วิชย์โกวิทเทน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี 8 13.10-13.20 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดที่มีภาวะแทรกซ้อน : กรณีศึกษา ผู้นำเสนอ นางสาวอรทัย จิตรพิมาย โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า100ปี 0884760536 นครราชสีมา 9 13.20-13.30 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคลมชักที่มีภาวะหายใจล้มเหลว: กรณีศึกษา เปรียบเทียบ 2 ราย 0804776499 ผู้นำเสนอ นางเกศรา ศรีสำอาง โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี 10 13.30-13.40 ชื่อเรื่อง การพัฒนาแนวปฏิบัติการป้องกันการเกิดโรคปอดเรื้อรังในทารกเกิดก่อนกำหนด ที่มีน้ำหนักตัวน้อย โรงพยาบาลมุกดาหาร 0918291468 ผู้นำเสนอ นางเพชรสมร มีธรรม โรงพยาบาลมุกดาหาร มุกดาหาร 11 ยกเลิกผลงาน ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดที่มีภาวะช็อกในหน่วยงานผู้ป่วยฉุกเฉิน : กรณีศึกษา 2 ราย ยกเลิกผลงาน ผู้นำเสนอ นางสาวณัฏฐณิชา กอมณี โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี
12 ยกเลิกผลงาน ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยภาวะติดเชื้อที่กระดูกจากแผลที่เท้าในผู้ป่วยเบาหวาน : กรณีศึกษาเปรียบเทียบ 2 ราย ยกเลิกผลงาน ผู้นำเสนอ นางจันทร์เพ็ญ สุขศิริ โรงพยาบาลบึงบูรพ์ ศรีสะเกษ ลำดับ เวลานำเสนอ ชื่อผลงาน/ผู้นำเสนอ (ห้องที่ 3) ผู้นำเสนอเบอร์ โทรศัพท์ 1 12.00-12.10 ชื่อเรื่อง การพยาบาลระยะฉุกเฉินผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดที่มีภาวะช็อกร่วมกับการ หายใจล้มเหลวเฉียบพลัน : กรณีศึกษา 2 ราย 0832198373 ผู้นำเสนอ นางฉวีวรรณ ครุฑใจกล้า โรงพยาบาลภูผาม่าน ขอนแก่น 2 ยกเลิกผลงาน ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มีอาการหอบกำเริบเฉียบพลัน : กรณีศึกษา ยกเลิกผลงาน ผู้นำเสนอ นางคุณัญญา พละศักดิ์ โรงพยาบาลประทาย นครราชสีมา 3 12.20-12.30 ชื่อเรื่อง การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรงขณะตั้งครรภ์ กรณีศึกษา 1 ราย 0898491955 ผู้นำเสนอ นางเพชรรัตน์ ประสมศรีโรงพยาบาลบัวใหญ่ นครราชสีมา 4 12.30-12.40 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อรุนแรงบริเวณช่องเยื่อหุ้มคอชั้นลึกในโพรงใต้คาง ที่มารับการให้ยาระงับความรู้สึกเพื่อระบายหนอง Nursing Anesthesia for Ludwig’s Angina c tongue abscess: กรณีศึกษา 0621965199 ผู้นำเสนอ นางปุณยาภรณ์ วิสุทธิญาณภิรมย์ โรงพยาบาลบัวใหญ่ นครราชสีมา 5 12.40-12.50 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองร่วมกับมีภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ที่บ้าน : กรณีศึกษา 0813607940 ผู้นำเสนอ นางนงลักษณ์ ลังโคกสูง โรงพยาบาลขามสะแกแสง นครราชสีมา 6 12.50-13.00 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันชนิดSTยก ที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด(SK) : กรณีศึกษา 0898441786 ผู้นำเสนอ นางฐานิตา ซึ่งพรหม โรงพยาบาลขามสะแกแสง นครราชสีมา 7 13.00-13.10 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดร่วมกับมีภาวะหัวใจห้องบนสั่น พริ้ว 0923236596 ผู้นำเสนอ นางเอื้อการย์ สุขวัฒน์ โรงพยาบาลขามสะแกแสง นครราชสีมา 8 13.10-13.20 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคมะเร็งกล่องเสียงระยะลุกลามและโรคหลอดเลือดสมอง ขาดเลือดที่ได้รับการใส่สายให้อาหารทางกระเพาะอาหารด้วยการดูแลประคับประคอง แบบผสมผสาน : กรณีศึกษา 0866489296 ผู้นำเสนอ นางพรประภา เฉลิมพรไพศาล โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมานครราชสีมา 9 13.20-13.30 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยเลือดออกในระบบทางเดินอาหารส่วนต้นที่มีภาวะช็อกจาก การเสียเลือด : กรณีศึกษา 0897174111 ผู้นำเสนอ นางสาวบุญญาพร โกจินอก โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา 10 ยกเลิกผลงาน ชื่อเรื่อง รูปแบบการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง วิถีพุทธ ยกเลิกผลงาน ผู้นำเสนอ นางชูชีพ โพชะจา โรงพยาบาลลี้ ลำพูน
11 13.40-13.50 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคปอดอักเสบที่มีภาวะช็อคจากการติดเชื้อ : กรณีศึกษา 0941966545 ผู้นำเสนอ นางยุพิน เพชรน้อย โรงพยาบาลภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ ชัยภูมิ 12 13.50-14.00 ชื่อเรื่อง ผลของโปรแกรมการบำบัดแบบจิตสังคมบำบัด (Matrix Program) ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ติดยาเสพติดแบบผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลมุกดาหาร 0812614847 ผู้นำเสนอ นางวรนุช เกราะชูกุล โรงพยาบาลมุกดาหาร มุกดาหาร ลำดับ เวลานำเสนอ ชื่อผลงาน/ผู้นำเสนอ (ห้องที่ 4) ผู้นำเสนอเบอร์ โทรศัพท์ 1 12.00-12.10 ชื่อเรื่อง การประยุกต์ใช้แนวคิด Recovery Oriented Services (ROS)ในการพยาบาล ผู้ป่วยจิตเภทที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง(SMI-V) ชุมชนไม่ยอมรับ : กรณีศึกษา 0800125579 ผู้นำเสนอ นางดาวเรือง ฦาชา โรงพยาบาลภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ ชัยภูมิ 2 12.10-12.20 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะปอดอักเสบจากการใช้เครื่องช่วยหายใจ : กรณีศึกษา 0652598288 ผู้นำเสนอ นางจรัญญา หงษ์คำ โรงพยาบาลบัวใหญ่ นครราชสีมา 3 ยกเลิกผลงาน ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคจิตเภทที่ใช้สารเสพติดร่วม : กรณีศึกษา ผู้นำเสนอ นางสาวศศิธร ภูขยัน โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กาฬสินธุ์ ยกเลิกผลงาน 4 12.30-12.40 ชื่อเรื่อง การพัฒนาระบบบริการการพยาบาลผู้ป่วยวัณโรค ในหอผู้ป่วยทางเดินหายใจ โรงพยาบาลยางตลาด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ 0819757521 ผู้นำเสนอ นางมธุรส ศีลพันธ์ โรงพยาบาลยางตลาด กาฬสินธุ์ 5 12.40-12.50 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองระยะฟื้นฟูสภาพ : กรณีศึกษา ผู้นำเสนอ นางแก้วไพฑูรย์ แสนเพียร โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า 100 ปี 0849604426 นครราชสีมา 6 12.50-13.00 ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการดูแลแบบประคับประคองโดยการมีส่วนร่วมเครือข่าย บริการสุขภาพอำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี 0926285461 ผู้นำเสนอ นางสาวกัลยาณี คำศรี โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคำหว้าอุบลราชธานี 7 13.00-13.10 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้คลอดที่มีความเสี่ยงตกเลือดและมีภาวะตกเลือดหลังคลอด : กรณีศึกษา 0897469524 ผู้นำเสนอ นางบุษรินทร์ ด้วงสีแก้ว โรงพยาบาลขามสะแกแสง นครราชสีมา 8 13.10-13.20 ชื่อเรื่อง การพัฒนานวัตกรรมการพยาบาล "มาเบิ่งเด้อ" สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี ที่ได้รับยาต้านไวรัสโรงพยาบาลน้ำโสม 0994620339 ผู้นำเสนอ นางสาวหงษ์ทอง บุตรพรม โรงพยาบาลน้ำโสม อุดรธานี 9 13.20-13.30 ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ของเครือข่ายบริการ สุขภาพอำเภอน้ำพอง จังหวัด ขอนแก่น กรณีศึกษาพื้นที่ หน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลน้ำพอง 0850144134 ผู้นำเสนอ นางนิสา จันทร์ลี โรงพยาบาลน้ำพอง ขอนแก่น 10 13.30-13.40 ชื่อเรื่อง ผลของแนวปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อส่งเสริมการจัดการตนเองในการออก กำลังกายในผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน 0973087878 ผู้นำเสนอ นางคณรัตน์ เดโฟเซซ์สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองอุดรธานี
11 13.40-13.50 ชื่อเรื่อง การพัฒนาแนวปฏิบัติการบริการทางการพยาบาลเพื่อเฝ้าระวังผู้ป่วยอาการทรุด ระหว่างรอตรวจ แผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี 0918678077 ผู้นำเสนอ นางอิ๋น วงษ์เคน โรงพยาบาลน้ำโสม อุดรธานี 12 13.50-14.00 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือด : กรณีศึกษา 0910200305 ผู้นำเสนอ นางสาวอัจฉรา ภูวทิตย์ โรงพยาบาลโนนสูง นครราชสีมา ลำดับ เวลานำเสนอ ชื่อผลงาน/ผู้นำเสนอ (ห้องที่ 5) ผู้นำเสนอเบอร์ โทรศัพท์ 1 12.00-12.10 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ดีมีภาวะแทรกซ้อนไตวายเฉียบพลัน : กรณีศึกษา 0892788143 ผู้นำเสนอ นางวรรณทอง ศรีทองสุข โรงพยาบาลโนนสูง นครราชสีมา 2 12.10-12.20 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยหลอดเลือดสมองที่ส่งกลับมาดูแลต่อที่ โรงพยาบาลชุมชน : กรณีศึกษา 0818785422 ผู้นำเสนอ นางสาวจิตติมา ชะลอกลาง โรงพยาบาลโนนสูง นครราชสีมา 3 12.20-12.30 ชื่อเรื่อง การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลในการป้องกันภาวะสับสนเฉียบพลันของ ผู้ป่วยวิกฤต 0824424194 ผู้นำเสนอ นางอรัญญา ศรีหาวงษ์ โรงพยาบาลเพ็ญ อุดรธานี 4 12.30-12.40 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วยการล้างไตทาง ช่องท้อง(CAPD)มีภาวะติดเชื้อในช่องท้อง : กรณีศึกษา 0866514999 ผู้นำเสนอ นางสาวปุญญิศา วัจฉละอนันท์ โรงพยาบาลโนนสูง นครราชสีมา 5 12.40-12.50 ชื่อเรื่อง กรณีศึกษา : การพยาบาลผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง มีภาวะซึมเศร้า 0812655394 ผู้นำเสนอ นางสาวเกษร กิ่งโพธิ์ โรงพยาบาลโนนสูง นครราชสีมา 6 12.50-13.00 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคปอดอักเสบในผู้สูงอายุ : กรณีศึกษา 0897181948 ผู้นำเสนอ นางวิรัน ดำริห์ โรงพยาบาลโนนสูง นครราชสีมา 7 13.00-13.10 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยปอดอักเสบที่ติดเชื้อดื้อยา : กรณีศึกษา 0922596998 ผู้นำเสนอ นางอำไพ ต้นโพธิ์ทอง โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา 8 13.10-13.20 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลว : กรณีศึกษา 0956622453 ผู้นำเสนอ นางพอตา รักษานา โรงพยาบาลโนนแดง นครราชสีมา 9 13.20-13.30 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันร่วมกับภาวะสัญญาณไฟฟ้า หัวใจถูกขัดขวางแบบสมบูรณ์ที่ได้ยาละลายลิ่มเลือด : กรณีศึกษา 0956023302 ผู้นำเสนอ นางสาวสุกาญดา สังสนา โรงพยาบาลโนนแดง นครราชสีมา 10 13.30-13.40 ชื่อเรื่อง การพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงที่บ้านโดยการมีส่วนร่วมของ ภาคีเครือข่าย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดงแสนสุข อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 0645354265 ผู้นำเสนอ นางณัฐนวียา จิตต์จันทร์รพ.สต.ดงแสนสุข อุบลราชธานี 11 13.40-13.50 ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตำบลสร้างแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี 0652539923 ผู้นำเสนอ นางสาวกัญญารัตน์ กันยะกาญจน์สสอ.เมืองอุบลราชธานี
12 13.50-14.00 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้คลอดที่มีภาวะตกเลือดหลังคลอดจากรกค้าง : กรณีศึกษา 0813609734 ผู้นำเสนอ นางสาวธีราภรณ์ บุณยประภาพันธ์ โรงพยาบาลโนนแดง นครราชสีมา ลำดับ เวลานำเสนอ ชื่อผลงาน/ผู้นำเสนอ (ห้องที่ 6) ผู้นำเสนอเบอร์ โทรศัพท์ 1 12.00-12.10 ชื่อเรื่อง ประสิทธิผลการใช้รูปแบบการพยาบาลในการส่งต่อผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาด เลือดเฉียบพลันชนิดคลื่นไฟฟ้าหัวใจเอสทียก (ST Elevation Acute Myocardial Infarction) โรงพยาบาลเลย 0885722660 ผู้นำเสนอ นางจริญญา เนติศานนท์ โรงพยาบาลเลย เลย 2 12.10-12.20 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีภาวะเลือดเป็นกรดจากน้ำตาลในเลือดสูง : กรณีศึกษา 0898484696 ผู้นำเสนอ นางบุปผา ชายกลาง โรงพยาบาลโนนแดง นครราชสีมา 3 12.20-12.30 ชื่อเรื่อง การประยุกต์ใช้ทฤษฎีการปรับตัวของรอยกับญาติผู้ดูแลผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ ระยะสุดท้ายแบบประคับประคองด้วยบทบาทพยาบาลขั้นสูงร่วมกับ ทีมสหวิชาชีพ : กรณีศึกษา 0881030104 ผู้นำเสนอ นายเสน่ห์ พุฒธิ โรงพยาบาลภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ ชัยภูมิ 4 12.30-12.40 ชื่อเรื่อง กรณีศึกษา : การพยาบาลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะสุดท้ายที่มีภาวะลำไส้ อุดตัน 0896268716 ผู้นำเสนอ นางสมพร พัฒนากุล โรงพยาบาลพระทองคำเฉลิมพระเกียรติ๘๐ พรรษา นครราชสีมา 5 12.40-12.50 ชื่อเรื่อง กรณีศึกษา : การพยาบาลผู้ป่วยหลอดเลือดสมองร่วมกับมีภาวะปอดอักเสบจาก การสำลัก 0636515351 ผู้นำเสนอ นางนวลพร นวลกำแหง โรงพยาบาลพระทองคำเฉลิมพระเกียรติ๘๐ พรรษา นครราชสีมา 6 12.50-13.00 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้ายที่ปฏิเสธการบำบัดทดแทนไต : กรณีศึกษา 0868780010 ผู้นำเสนอ นางสุกัญญา จุลละสุวรรณ โรงพยาบาลพิมาย นครราชสีมา 7 13.00-13.10 ชื่อเรื่อง การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยทารกแรกเกิดที่ได้รับการบําบัดด้วย ออกซิเจนอัตราการไหลสูงทางจมูกโรงพยาบาลมุกดาหาร 0892763235 ผู้นำเสนอ นางเอื้องอ้อย วรรณมาศ หอผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรม มุกดาหาร 8 13.10-13.20 ชื่อเรื่อง การพัฒนาแนวปฏิบัติการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เพื่อ ป้องกันภาวะปอดอักเสบจากการสำลัก โรงพยาบาลมุกดาหาร 0885633048 ผู้นำเสนอ นางอารมย์ พรหมดี โรงพยาบาลมุกดาหาร มุกดาหาร 9 13.20-13.30 ชื่อเรื่อง ผลการใช้สื่อสุขภาพร่วมกับให้คำปรึกษาโดยใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ต่อความรู้อัตรา การกลับมารักษาซ้ำและความพึงพอใจของมารดาหลังผ่าตัดคลอดครรภ์แรก 0655379965 ผู้นำเสนอ นางอรุณศรี โภคสวัสดิ์ โรงพยาบาลมุกดาหาร มุกดาหาร 10 13.30-13.40 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ได้รับการล้างไตทางช่องท้อง แบบต่อเนื่อง ที่มีการติดเชื้อของเยื่อบุช่องท้อง : กรณีศึกษา 0909097034 ผู้นำเสนอ นางสุดารัตน์ บุตรศรีภูมิโรงพยาบาลบัวใหญ่ นครราชสีมา
11 13.40-13.50 ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานเพื่อการควบคุมระดับน้ำตาลใน เลือด อำเภอพระทองคำ จังหวัดนครราชสีมา 0885815033 ผู้นำเสนอ นางสุมาลี ใจชอบงาม โรงพยาบาลพระทองคำเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา นครราชสีมา 12 13.50-14.00 ชื่อเรื่อง ผลลัพธ์การจัดบริการการพยาบาลผู้ป่วยหนัก โรงพยาบาลยางตลาด อำเภอยาง ตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ 0862336420 ผู้นำเสนอ นายเอกชัย ภูผาใจ โรงพยาบาลยางตลาด กาฬสินธุ์ ไฟล์ 20 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.30 น.
กา รนำ เสนอผลงานวิชากา ร การประชุมวิชวิาการสัญสัจร ครั้งรั้ที่ 3 ประจําจํ ปี 2566 สมาคมพยาบาลแห่งห่ ประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จด็พระศรีนรีครินริทราบรมราชชนนี สําสํนักนังานสาขาภาคตะวันวัออกเฉียงเหนือนื ห้ อ ง นำ เ ส น อ ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ดำ เ นิน ก า ร นำ เ ส น อ ผ ล ง า น ป ร ะ จำ ห้ อ ง นำ เ ส น อ ผ ล ง า น ห้องนำ เสนอที่ 1 ห้องประชุมภูกระดึง ห้องนำ เสนอที่ 2 ห้องประชุมภูเรือ ห้องนำ เสนอที่ 3 ห้องประชุมศูนย์คุณภาพ ห้องนำ เสนอที่ 4 ห้องประชุมภูบ่อบิด ห้องนำ เสนอที่ 5 ห้องประชุมห้องน้ำ เลย ห้องนำ เสนอที่ 6 ห้องประชุมดอกปีบ ขั้ น ต อ น ก า ร นำ เ ส น อ สมาคมพยาบาลแห่งห่ ประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จด็พระศรีนรีครินริทราบรมราชชนนี สําสํนักนังานสาขาภาคตะวันวัออกเฉียงเหนือนื 1.ผู้นำ เสนอผลงานนำ เสนอ 7 นาที 2.คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้ข้อเสนอแนะ 3 นาที 3. มอบเกียรติบัตรและถ่ายภาพรวมเมื่อสิ้นสุดการนำ เสนอทั้งหมด ห้องนำเสนอที่ 4 ห้องประชุมภูบ่อบิด 1. ดร.เอมอร บุตรอุดม คณะกรรมการอำนวยการสมาคมฯ ประธานกรรมการ 2. นางลำพูน บรรพลา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 3. นางรุจิรา ผิวผ่อง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 4. นายศรายุทธ โควินทะสุด นักวิชาการสาธารณสุข กรรมการและเลขานุการ ห้องนำเสนอที่ 5 ห้องประชุมห้องน้ำเลย 1. ดร.เขมิกา ณภัทรเดชานนท์คณะกรรมการอำนวยการสมาคมฯ ประธานกรรมการ 2. นางบงกช ม่วงศรีจันทร์พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 3. นางดวงใจ ดอกไม้พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 4. นางพรวีนัส โสกัณฑัต พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการและเลขานุการ ห้องนำเสนอที่ 6 ห้องประชุมดอกปีบ 1. ผศ.ดร.รุ้งลาวัลย์เอี่ยมกุศลกิจ คณะกรรมการอำนวยการสมาคมฯ ประธานกรรมการ 2. นางศิรินาถ นามจันทรา คณะกรรมการอำนวยการสมาคมฯ กรรมการ 3. นางปิยนันท์แสนสมบัติพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 4. นางพรพิมล ธนะบุตร พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 5. นายอภิสิทธิ์สุขแจ่ม พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการและเลขานุการ ห้องนำเสนอที่ 3 ห้องประชุมศูนย์คุณภาพ 1. นางสาวสิริลักษณ์คุณกมลกาญจน์คณะกรรมการอำนวยการสมาคมฯ ประธานกรรมการ 2. นางสาววีระนุช มยุเรศ คณะกรรมการอำนวยการสมาคมฯ กรรมการ 3. นางสาวกุสุมาลย์รามศิริพยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ กรรมการ 4. นางรัตนิศา คณะแพง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 5. นางสาวสุดารัตน์พรมกาวัน นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ กรรมการและเลขานุการ ห้องนำเสนอที่ 2 ห้องประชุมภูเรือ 1. ดร.สุเพียร โภคทิพย์คณะกรรมการอำนวยการสมาคมฯ ประธานกรรมการ 2. นางศิริทิพย์สงวนวงศ์วาน คณะกรรมการอำนวยการสมาคมฯ กรรมการ 3. นายพิชัย บุญมาศรีพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 4. นางสาวชุลีกร ทาทอง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 5. นายอภิชาติสุนทร พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ กรรมการและเลขานุการ ห้องนำเสนอที่ 1 ห้องประชุมภูกระดึง 1. ดร.นรีลักษณ์สุวรรณโนบล คณะกรรมการอำนวยการสมาคมฯ ประธานกรรมการ 2. นางอุไรรัตน์ภู่สูงเนิน พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ กรรมการ 3. นางอัมพรรัตน์บุตรมาตย์พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 4. นางสาวปรางฉาย พากระจ่าง พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ กรรมการและเลขานุการ เ ว ล า 1 2 . 0 0 - 1 3 . 3 0 น . ดร.เขมิกา ณภัทรเดชานนท์ ผศ.ดร.รุ้งลาวัลย์เอี่ยมกุศลกิจ ดร.เอมอร บุตรอุดม พว. สิริลักษณ์คุณกมลกาญจน์ ดร.สุเพียร โภคทิพย์ ดร.นรีลักษณ์สุวรรณโนบล พว.ศิริทิพย์สงวนวงศ์วานพว. วีระนุช มยุเรศ พว. ศิรินาถ นามจันทรา
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 1 001 การพัฒนารูปแบบบริการสุขภาพเพื่อชะลอไตเสื่อมต่อพฤติกรรมการจัดการตนเอง ของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่2 ที่มีภาวะแทรกซ้อนทางไต สำอางค์ เวียงนนท์ * พยม. (การพยาบาลผู้ใหญ่) สาธิดา ทองตัน** พยบ. *พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์; ผู้เขียนหลัก **พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์; ผู้ช่วยวิจัย บทคัดย่อ ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่2 ที่มีภาวะแทรกซ้อนทางไต โดยเฉพาะตั้งแต่ระดับ3 ขึ้นไปซึ่งแบ่งตามเกณฑ์ พยากรณ์โรคไตเรื้อรังด้วยค่าอัตราการกรองของไตกับค่าโปรตีนอัลบูมินในปัสสาวะ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น การมี รูปแบบบริการสุขภาพที่เหมาะสมจะช่วยชะลอไตเสื่อมได้ ผู้วิจัยจึงพัฒนาเน้นกระบวนการดูแลผู้ป่วยขึ้นโดยมี วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบบริการสุขภาพเพื่อชะลอไตเสื่อมและศึกษาผลของการพัฒนารูปแบบบริการ สุขภาพเพื่อชะลอไตเสื่อมต่อพฤติกรรมการจัดการตนเองในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่2 ที่มีภาวะแทรกซ้อนทางไต ระดับ3 การวิจัยและพัฒนานี้ มีกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่2ที่มีภาวะแทรกซ้อนทางไตระดับ3 จำนวน 110 คน ดำเนินงานตั้งแต่ตุลาคม 2565 - ตุลาคม 2566 มี3ขั้นตอนดังนี้ (1) การวิเคราะห์ สถานการณ์บริการสุขภาพ (2) การพัฒนารูปแบบบริการสุขภาพเพื่อชะลอไตเสื่อม และ (3) การประเมิน ผลลัพธ์ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหา และข้อมูลเชิงปริมาณโดยสถิติเชิงพรรณนาและ สถิติการทดสอบ ผลลัพธ์ 1) รูปแบบเดิมให้บริการสุขภาพเพื่อชะลอไตเสื่อมร่วมกับคลินิกเบาหวานและยังไม่มี รูปแบบการดูแลผู้ป่วยที่ชัดเจน กลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมการจัดการตนเองได้น้อย และผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2ที่มีภาวะแทรกซ้อนทางไตเพิ่มขึ้น 2) การพัฒนารูปแบบบริการ ใช้รูปแบบการดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง(Chronic Care Model) โดยใชันวัตกรรมใบบอกทางห่างฟอกไต 3) คะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการจัดการตนเองเพื่อ ชะลอไตเสื่อมโดยรวมสูงกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมฯ ค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลในเลือดสะสม (HbA1C) หลังเข้า ร่วมโปรแกรมฯ ต่ำกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมฯ และอัตราการกรองของไตหลังเข้าร่วมโปรแกรมฯ มีค่าเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ข้อเสนอแนะ รูปแบบบริการสุขภาพฯ ที่พัฒนาขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการดูแล ผู้ป่วยและเกิดผลลัพธ์ที่ดี คำสำคัญ: ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่2 ภาวะแทรกซ้อนทางไต เพื่อชะลอไตเสื่อม การจัดการตนเอง รูปแบบ บริการสุขภาพ
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 2 002 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บช่องท้อง: เปรียบเทียบกรณีศึกษา 2 ราย Nursing care for patients with abdominal injuries: A comparison of two case studies สุปราณี ชูรัตน์ Supranee Choorat บทคัดย่อ อุบัติเหตุเป็นหนึ่งสาเหตุของการบาดเจ็บและเสียชีวิตโดยเฉพาะการบาดเจ็บในช่องท้อง ที่ทำให้ สูญเสียเลือดภายใน นำสู่ภาวะช็อก ซึ่งเป็นภาวะวิกฤตที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน และพยาบาลผู้ ประสานงานส่งต่อ และพยาบาล ER เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการจัดการให้ผู้ป่วยเข้าสู่ Definite care อย่าง รวดเร็ว เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการแก้ไขภาวะวิกฤติทางร่างกาย พร้อมกับดูแลด้านจิตใจของผู้ป่วยและครอบครัว เพื่อให้ผู้ป่วยผ่านพ้นภาวะวิกฤต เข้าสู่ระยะฟื้นสภาพอย่างปลอดภัย วัตถุประสงค์ : เพื่อเปรียบเทียบการพยาบาลผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บช่องท้อง กรณีศึกษา 2 ราย วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาเฉพาะเจาะจงในผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บช่องท้องกรณีศึกษา 2 รายระหว่าง 1 ก.ย.–31 ต.ค. 2566 เครื่องมือที่ใช้ คือ การซักประวัติ เวชระเบียน และการประเมินสุขภาพตามแนวคิด ATLS วินิจฉัยการพยาบาลตามรูปแบบของNANDA ได้รับความยินยอมทางวาจาในการนำข้อมูลมาศึกษาจาก ผู้ปกครอง ผลการศึกษา: กรณีศึกษาทั้ 2 รายถูกส่งต่อจาก รพ.ชุมชน ผู้ป่วยรายที่ 1 อายุ 13 ปีมารพ.ด้วยปวด ท้อง หลังอุบัติเหตุจักรยานยนต์ล้ม แรกรับ รู้สึกตัวดี แต่รายที่ 1 มี Cardiac arrest ระหว่างรักษาใน ER ต้อง CPR 8 นาที มี ROSC ผล FAST positive at hepatorenal รายที่ 2 อายุ 10 ปีรู้สึกตัวดีตลอดชีพจรเร็ว 150 ครั้งต่อนาทีBP 109/41 mm.Hg. ผล FAST positive at cul de sac ทั้ง 2 รายส่งต่อผ่านระบบ Fast track ER to OR มีข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล ดังนี้มีภาวะเนื้อเยื่อได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอเนื่องจากการเสียเลือด ในช่องท้องมีภาวะช็อกจากการเสียเลือดในช่องท้อง ไม่สุขสบายจากปวดท้องรุนแรงผู้ป่วยและญาติวิตกกังวล เกี่ยวกับความเจ็บป่วยเฉียบพลันและภาวะโรคที่คุกคามชีวิตทีมได้ให้การพยาบาลบรรลุตามวัตถุประสงค์ ผู้ป่วยได้รับการแก้ไขการบาดเจ็บในช่องท้อง และรอดชีวิต ข้อเสนอแนะ: จากการศึกษาสามารถนำไปพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลและการพัฒนาสมรรถนะ พยาบาลในการดูแลผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บช่องท้องเพื่อปรับปรุงคุณภาพและผลลัพธ์การพยาบาลที่ดียิ่งขึ้น คำสำคัญ: ผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บช่องท้อง, การพยาบาล, กรณีศึกษา
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 3 003 การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคปอดอักเสบโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ โรงพยาบาลน้ำพอง Development Of Pneumonia in Children Nursing Practice Guideline By Using Evidence Based Practice, Namphong Hospital นางอุษณี ศรีพุทธา หอผู้ป่วยเด็ก โรงพยาบาลน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา: ปอดอักเสบ (Pneumonia) เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดิน หายใจที่พบบ่อยในเด็ก การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคปอดอักเสบโดยใช้หลักฐานเชิง ประจักษ์ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อผู้ป่วย การวิจัยและพัฒนามีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคปอดอักเสบโดย ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ กลุ่มตัวอย่างคือพยาบาลวิชาชีพ 9 คน ผู้ป่วยเด็กโรคปอดอักเสบอายุ 1 เดือน - 5 ปี 10 คน และผู้ดูแล 10 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบประเมินความเป็นไปได้และความคิดเห็นต่อการใช้แนวปฏิบัติฯ แบบสอบถามความพึงพอใจ แบบประเมินการมีส่วนร่วม และ แบบประเมินความรู้ของผู้ปกครอง วิเคราะห์ ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา และสถิติ Paired- sample t Test ผลการศึกษา: แนวปฏิบัติฯประกอบ 1) การประเมินภาวะหายใจลำบาก 2) การ พยาบาลเพื่อจัดการอาการ 3) การพยาบาลก่อนเข้าสู่ภาวะวิกฤต 4) การมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง 5) การ วางแผนจำหน่าย ผลการใช้แนวปฏิบัติฯ พบว่ามีความเป็นไปได้ และมีความคิดเห็นต่อการใช้แนวปฏิบัติฯอยู่ใน ระดับมาก ส่งผลให้ระดับความรุนแรงของภาวะหายใจลำบากลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ(P<.01) ผู้ดูแลมี ความพึงพอใจและมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยอยู่ในระดับมาก หลังการวางแผนจำหน่ายผู้ดูแลมีระดับความรู้ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ(P<.01) สรุปและข้อเสนอแนะ: แนวปฏิบัติฯ ที่พัฒนาขึ้น มีความเหมาะสมกับบริบท สามารถ นำไปใช้ได้จริง ควรมีการขยายผลนำไปใช้อย่างต่อเนื่อง ติดตามประเมินผลและปรับปรุงให้เหมาะสม และ นำไปใช้กับหน่วยงานที่มีบริบทคล้ายคลึงกัน คำสำคัญ: แนวปฏิบัติการพยาบาล หลักฐานเชิงประจักษ์ ผู้ป่วยเด็กโรคปอดอักเสบ
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 4 004 การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ ที่มีภาวะอ้วนร่วมกับเบาหวานและความดันโลหิตสูง ขณะตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอด : กรณีศึกษา นภาพร นพพัฒนกุล พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญ: ภาวะอ้วนร่วมกับเบาหวานและความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ เป็น ปัญหาสุขภาพที่พบมากขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่อมารดาและทารก ซึ่งประเทศไทยพบหญิง ตั้งครรภ์ที่มีภาวะอ้วนเกินเกณฑ์ 66.7% เบาหวาน 1-7% และความดันโลหิตสูง 5-10% ของหญิงตั้งครรภ์ ทั้งหมด ผู้ศึกษาเป็นพยาบาลในคลินิกฝากครรภ์ โรงพยาบาลโนนสูง จากข้อมูลปี 2563 ถึง 2566 พบหญิง ตั้งครรภ์ที่มีภาวะอ้วนร่วมกับเบาหวานและความดันโลหิตสูง เพิ่มขึ้นเป็น 2.17%, 2.47%, 3.14% และ 3.93% ตามลำดับ และกลุ่มนี้มีภาวะครรภ์เป็นพิษส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์ฯปีละ 2-3 คน ทางคลินิกเห็น ความสำคัญและอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะดังกล่าว วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาสาเหตุและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นำมาเป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อลดโอกาสเกิด ภาวะแทรกซ้อนกับมารดาและทารก และไม่กลับเป็นซ้ำในครรภ์ต่อไป วิธีดำเนินการ: ศึกษาเฉพาะราย หญิงตั้งครรภ์ 1 ราย ฝากครรภ์และคลอดที่โรงพยาบาลโนนสูง อายุ 33 ปี G3P1A1L1 อายุครรภ์ 8 สัปดาห์ ผู้ศึกษาได้ซักประวัติ ตรวจร่างกาย BMI = 34.77 kg/m2 ตรวจ 100 gm OGTT ผลผิดปกติ 2 ค่า และ BP 140/80-150/90 mmHg แพทย์วินิจฉัยมีภาวะ GDMA1 with Obesity with Gastational Hypertension เมื่อหญิงตั้งครรภ์สมัครใจเป็นกรณีศึกษา จึงเริ่มศึกษาตั้งแต่ 30 มกราคม 2566 - 28 กันยายน 2566 ผลการศึกษา: พบว่า กรณีศึกษามีระดับน้ำตาลในเลือดร่วมกับความดันโลหิตสูง เนื่องจากมีพฤติกรรม การบริโภคไม่ถูกหลักโภชนาการ พักผ่อนไม่เพียงพอ และขาดการออกกำลังกาย จากปัญหาดังกล่าว ทีม สุขภาพได้หาแนวทางร่วมกัน โดยใช้กระบวนการพยาบาล 5 ขั้นตอนเป็นหลัก และนำมาวิเคราะห์ข้อวินิจฉัย พยาบาลตามแนวคิดของเพนเดอร์ ร่วมกับการใช้สื่อเทคโนโลยีด้านโภชนาการ และติดตามเยี่ยมหลังคลอด 3 ครั้ง มาใช้กับกรณีศึกษานี้ ซึ่งผลพบว่าสามารถควบคุมน้ำหนัก ระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต ตลอด การตั้งครรภ์และหลังคลอดในระดับปกติ ข้อเสนอแนะในการนำผลการศึกษาไปใช้: ผลการศึกษานี้ ได้แนวทางปฏิบัติเพื่อปรับเปลี่ยน พฤติกรรมสุขภาพ และสามารถนำไปเป็นต้นแบบให้กับหญิงตั้งครรภ์รายอื่นให้เหมาะสมยิ่งขึ้น คำสำคัญ: การพยาบาล, ภาวะอ้วนร่วมกับเบาหวานและความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์, หลังคลอด
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 5 005 การพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตกระยะเฉียบพลัน: กรณีศึกษา กมลวรรณ แซ่เฮง โรงพยาบาลพิมาย,จังหวัดนครราชสีมา บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญ: ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตกเป็นภาวะที่เนื้อสมองถูกทำลาย โดยเฉียบพลันเนื่องจากมีการแตกของหลอดเลือดจนและมีเลือดออกในสมองเกิดอันตรายต่อระบบประสาท แบบทันทีอาจทำให้เสียชีวิตหรือพิการ เกิดผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตผู้ป่วยด้านร่างกาย จิตใจ สังคม พยาบาลมีบทบาทที่สำคัญในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในช่วง 72 ชั่วโมงแรกเพื่อให้ รักษาพยาบาลและการป้องกันภาวะแทรกซ้อนมีประสิทธิภาพสูงขึ้น วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาการพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตกระยะเฉียบพลัน วิธีการดำเนินการ: ศึกษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตกระยะเฉียบพลัน หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย จำนวน 1 รายระหว่างเดือน พฤษภาคม - มิถุนายน พ.ศ.2566 เครื่องมือที่ใช้ศึกษา เวชระเบียนผู้ป่วย การ สัมภาษณ์ หนังสือ งานวิจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบ ผลการศึกษา: ผู้ป่วยชาย อายุ 58 ปี โรคประจำตัวเบาหวานและความดันโลหิตสูง อาการสำคัญ แขน ขาด้านขวาอ่อนแรงก่อนมา 30 นาที การวินิจฉัยโรค Basal ganglia haemorrhage รพ.แม่ข่ายให้การรักษา ที่โรงพยาบาลพิมาย มีเป้าหมายหลักการในการควบคุมความดันโลหิตป้องกันภาวะความดันในกะโหลกศีรษะ สูง และให้การพยาบาลตามมาตรฐานโรคหลอดเลือดสมองแตกระยะเฉียบพลัน จนถึงระยะฟื้นฟูสภาพที่หอ ผู้ป่วยจำนวน 5 วัน แรกรับผู้ป่วยมีปัญหาระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่และความดันโลหิตสูงได้รับการรักษา ด้วยยา Nicardipine (1:5) มีปัญหาการกลืน ปัสสาวะไม่ออก และแขนขาขวาอ่อนแรง ให้การพยาบาลตามข้อ วินิจฉัยการพยาบาล 7 ข้อและวางแผนการดูแลระยะกลางโดยทีมสหสาขาวิชาชีพ ผู้ป่วยปลอดภัยและสามารถ ป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ ข้อเสนอแนะ 1. เพื่อศึกษาความรู้และใช้เป็นแนวทางการพยาบาลโรคหลอดเลือดสมองแตกระยะเฉียบพลัน 2. สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นแนวปฏิบัติทางการพยาบาล คำสำคัญ การพยาบาล โรคหลอดเลือดสมองแตก ระยะเฉียบพลัน
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 6 006 การพยาบาลผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน NSTEMT ที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว: กรณีศึกษา พรทิพย์ สมานมิตร โรงพยาบาลพิมาย, จังหวัดนครราชสีมา บทคัดย่อ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันชนิด NSTEMI เป็นภาวะวิกฤตที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต และเกิด ภาวะแทรกซ้อนสูง ถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งพยาบาลเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการ ดูแลช่วยเหลือให้ผู้ป่วยปลอดภัยและไม่มีภาวะแทรกซ้อน และลดการเสียชีวิตได้ วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการพยาบาลผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดชนิด NSTEMI ที่มีภาวะ หัวใจล้มเหลว วิธีการดำเนินการ การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาข้อมูลย้อนหลังโดยดำเนินการดังนี้ 1.เลือกกรณีศึกษาผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา ในหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย 1 ราย โรงพยาบาลพิมาย โดย กำหนดเกณฑ์ คือ เป็นผู้ป่วย โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันชนิด...ที่มีโรคร่วม เนื่องจากเป็นปัจจัยต่อ ความรุนแรงของโรคและรักษาในโรงพยาบาลอย่างน้อย 5 วัน 2.ศึกษาค้นคว้าเอกสาร ตำรา งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 3.รวบรวมข้อมูลเวชระเบียน เปรียบเทียบ กรณีศึกษา การเจ็บป่วย การประเมินภาวะสุขภาพ ข้อ วินิจฉัยทางการพยาบาล ผลการศึกษา : จากการศึกษาผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันชนิด NSTEMI ที่มีภาวะหัวใจ ล้มเหลว1 ราย ผู้ป่วยชายอายุ 43 ปี มาด้วยแน่นหน้าอก หายใจลำบาก นอนราบไม่ได้ ก่อนมาโรงพยาบาล 1 วัน ไม่มีโรคประจำตัว น้ำหนักตัว 100 กิโลกรัม สูบบุหรี่ ได้รับการรักษาโดยให้ยา Enoxaparin 0.6 ml sc OD 5 วัน Lasix (40) 1*2 o pc ASA (81) 1*1 O pc Plavix (75) 1*1 o pc ผู้ป่วยได้รับการดูแลตาม แผนการพยาบาล 5ขั้นตอน ในภาวะวิกฤต ระยะการดูแลต่อเนื่องและระยะวางแผนจำหน่าย ผู้ป่วยมรอาการ ดีขึ้นตามลำดับและได้รับการส่งตัวเพื่อรักษายังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูง
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 7 ข้อเสนอแนะในการนำผลการศึกษาไปใช้ 1.จัดทำรูปแบบการวางแผนการจำหน่ายผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน โดยใช้แผนการจำหน่าย แบบ D-METHOD 2.นำรูปแบบและการวางแผนจำหน่ายไปใช้ในหน่วยงาน คำสำคัญ: การพยาบาล, โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 8 007 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือดร่วมกับภาวะหัวใจขาดเลือด : กรณีศึกษา Nursing Care for Patients with Septic Shock with Secondary Myocardial Infarction in Critical Care Patients: Case Study วีระวรรณ์ คุ้มกลาง., พย.ม. โรงพยาบาลพิมาย จังหวัดนครราชสีมา บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญ: ภาวะช็อกจากการติดเชื้อเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ ส่งผลให้เกิด การล้มเหลวของอวัยวะต่างๆ และมีอัตราการเสียชีวิตสูง วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาการพยาบาลภาวะช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือดร่วมกับภาวะหัวใจขาด เลือด วิธีดำเนินการ: โดยเก็บรวบรวมข้อมูลประวัติการรักษา ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ จากการ สัมภาษณ์และเวชระเบียน นำมาวิเคราะห์ปัญหา วางแผนให้การพยาบาลและสรุปการศึกษา ผลการศึกษา: ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาด้วยอาการไข้ ปวดศีรษะ จุกไต้ลิ้มปี่ 2 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล มีประวัติเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง หัวใจขาดเลือด (Ischemic Heart Disease) และข้ออักเสบรูมาตอยด์ การวินิจฉัย Septic Shock รักษาด้วยยากระตุ้นความดันโลหิต พบภาวะแทรกซ้อน ของหัวใจขาดเลือด (Secondary Myocardial Infarction) ด้านการพยาบาลผู้ป่วยได้รับการประเมินภาวะ สุขภาพของกอร์ดอนสรุปข้อวินิจฉัยการพยาบาล ได้แก่ 1) ปริมาณเลือดออกจากหัวใจในหนึ่งนาทีลดลงจาก ภาวะช็อกจากการติดเชื้อ 2) มีภาวะพร่องออกซิเจนจากการแลกเปลี่ยนก๊าซที่ปอดไม่มีประสิทธิภาพ 3) มี ภาวะน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงจากการติดเชื้อ 4) มีภาวะขาดสมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย 5) พร่องกิจวัตร ประจำวันจากไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ 6) ผู้ป่วยและญาติมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการดำเนินของโรค 7) ผู้ป่วยและญาติต้องการความรู้ในการปฏิบัติตัวเมื่อกลับบ้านตามหลัก D-METHOD ปัญหาความต้องการ ของผู้ป่วยและครอบครัวได้รับการแก้ไขจนพ้นระยะวิกฤตอาการดีขึ้นไม่มีภาวะแทรกซ้อน แพทย์ให้กลับบ้าน และนัดติดตามอีก 4 สัปดาห์ ข้อเสนอแนะ: 1) การวินิจฉัยSeptic Shock และการรักษาพยาบาลที่รวดเร็วส่งผลให้ลดอัตราการ เสียชีวิต 2) พยาบาลควรมีความรู้เกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ ภาวะสมดุลเกลือแร่ ภาวะน้ำตาลในเลือด เปลี่ยนแปลงและภาวะหัวใจขาดเลือด รวมถึงการจัดการปัญหาได้เหมาะสมทันเหตุการณ์ คำสำคัญ: การพยาบาลภาวะช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือด
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 9 008 การพยาบาลผู้ป่วยสูงอายุที่ได้รับผ่าตัดกระดูกต้นขาขวาหักแบบทั่วไป :กรณีศึกษา นวินดา ยุทธยงค์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลพิมาย จังหวัดนครราชสีมา บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญ: ปัจจุบันสังคมไทยเริ่มที่จะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย จากผลสำรวจของสำนัก สถิติแห่งชาติ ได้สำรวจจำนวนประชากรในช่วงวัยสูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ในปี พ.ศ.2566 ประเทศไทยมี จำนวนประชากร 60 ปีขึ้นไป จำนวน 12,698,362 ราย เพศชาย5,622,074 ราย เพศหญิง 7,076,288 ราย ในเขตสุขภาพที่ 9 จำนวนประชากร 60 ปีขึ้นไป จำนวน 1,271,928 ราย เพศชาย 574,343 ราย เพศหญิง 697,585 ราย ในจังหวัด นครราชสีมา มีจำนวนประชากร 60 ปีขึ้นไป จำนวน 511,969 ราย เพศชาย 229,239ราย เพศหญิง 282,730 ราย ปัญหาที่สำคัญของสังคมผู้สูงวัย คือการพลัดตกหกล้มเกิดภาวะ กระดูกหักจากภาวะกระดูกพรุน โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสนใจเรื่องกระดูกหักในผู้สูงวัยจากโรค กระดูกพรุนค่อนข้างมาก จากสถานการณ์ผู้สูงวัยในประเทศไทย เพราะหากไม่ได้รับการรักษาในแนวทางที่ ถูกต้อง อาจนำไปสู่การเสียชีวิต ประมาณ 20-25 % ในปีแรก และคนไข้บางรายไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ ตามปกติได้ กระดูกสะโพกหักที่บริเวณ trochanter หรือ Intertrochanter เป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้สูงวัย เนื่องจากเป็นบริเวณที่รองรับน้ำหนักส่วนบนของร่างกาย ประกอบกับผู้สูงวัยมีภาวะกระดูกพรุน และเมื่อเกิด อุบัติเหตุทำให้เกิดการหักได้ง่ายยิ่งขึ้นทำให้เกิดการหักได้ง่ายขึ้น การผ่าตัดยึดตรึงกระดูกข้อสะโพกหัก บริเวณ Intertrochanter โดยวิธีClose Reduction Internal Fixation with Proximal Femoral Nail Antirotation with Fluoroscopy เป็นการผ่าตัดที่มีแผลขนาดเล็ก เมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดในเหล็กดามกระดูกแบบ Open reduction internal fixation with Dynamic Hip Screw ที่ต้องเปิดแผลเท่ากับขนาดความยาวของ Plate จึงทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัด สามารถฟื้นตัวได้เร็ว (Early Ambulation) และกลับไปใช้ ชีวิตประจำวัน ได้เร็วกว่า ในโรงพยาบาลพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 พบว่ามีการผ่าตัดยึดตรึง การดูกข้อสะโพกหัก บริเวณ Intertrochanter โดยวิธีClose Reduction Internal Fixation with Proximal Femoral Nail Antirotation with Fluoroscopy) ที่บริเวณ Intertrochanter ทั้งหมด 35 ราย จากผู้ป่วยที่ ได้รับการผ่าตัดกระดูกหักบริเวณ Intertrochanter ทั้งหมด 19 ราย
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 10 วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาการพยาบาลผู้ป่วยผ่าตัดกระดูกต้นขาขวาหักที่หอผู้ป่วยในศัลยกรรมกระดูกและข้อ โรงพยาบาลพิมาย จังหวัดนครราชสีมา วิธีดำเนินการ: เลือกกรณีศึกษา หอผู้ป่วยในศัลยกรรมกระดูกและข้อ โรงพยาบาลพิมาย การวินิจฉัย กระดูกต้นขาขวาหักในผู้สูงอายุ รวบรวมข้อมูลจากประวัติเวชระเบียน สัมภาษณ์ญาติผู้ป่วย ตรวจร่างกาย ให้การพยาบาลโดยใช้กระบวนการพยาบาล 5 ขั้นตอน ใช้กรอบแนวคิดตามแบบแผนสุขภาพ 11 แบบแผน ของกอร์ดอน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ แผนการรักษาของแพทย์ นำข้อมูลที่ได้มารวบรวมวิเคราะห์ ปัญหาวางแผนการให้การพยาบาลปฏิบัติการพยาบาลตามมาตรฐานประเมินผลและสรุปผล ผลการศึกษา: กรณีศึกษาผู้ป่วยเพศชายอายุ 65 ปี มา รพ ด้วยอาการ ลื่นล้ม กระดูกต้นขาขวาหัก อาการเดิม ไม่พูดไม่ทำตามสั่ง สื่อสารได้ไม่ชัดเจน (Mental Retard )เดิม ได้ให้การพยาบาลเพื่อเตรียม ความพร้อมก่อนผ่าตัด ขณะผ่าตัด หลังผ่าตัด และวางแผนการจำหน่าย นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 5 วัน พบปัญหาผู้ป่วยระหว่างนอน รพเพื่อการรักษา มีภาวะซีด มีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ มีภาวะ โพแทสเซียมต่ำ ก่อนจำหน่ายกลับโรงพยาบาลต้นสังกัด อาการทั่วไปปกติดี แผลผ่าตัดแห้งดี การฟื้นฟู สมรรถาพสามารถTransfer to Whell Chair ได้ มีนัด ติดตามอาการ วันที่ 6 มิ.ย.2566 เพื่อดูแผลและตัด ไหม ผู้ดูแลผู้ป่วยเข้าใจการปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัด ไม่พบภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ข้อเสนอแนะในการนำผลการศึกษาไปใช้: ผลงานการพัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ป่วย ผ่าตัดกระดูกต้น ขาขวาหัก (closed fracture intertrochater right femer with ORIF with PENA ) ที่แสดงให้เห็นถึง ผลลัพธิ์การให้การพยาบาลที่มีประสิทธิผล มีประสิทธิภาพ มีการนำหลักเกณฑ์คุณภาพและแนวคิดทางการ พยาบาล ที่เป็น มาตรฐาน มาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสมกับสังคมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย สะท้อนวงล้อการ พัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดพัฒนาและ ปรับปรุงตามความเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สามารถรองรับความ เปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดคุณค่าสูงสุดแก่ผู้ป่วยและกระบวนการดูแลผู้ป่วยที่ทันสมัยได้ มาตรฐาน ปลอดภัย ไม่มีเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ป้องกันไม่ได้ ข้อเสนอแนะ: การเตรียมผู้ป่วยให้มีความพร้อม จะส่งผลไปยังการดูแลผู้ป่วยทุกระยะให้มีความ รวดเร็วปลอดภัยจากภาวะคุกคาม และไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่สามารถป้องกันได้ พยาบาลที่ดูแลต้องมี สมรรถนะสูงในการเตรียมผู้ป่วยทุกขึ้นตอน และความพร้อมของระบบการดูแลครบองค์รวม จะช่วยลด ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ คำสำคัญ : ผู้สูงอายุ ,การรักษาโดยการผ่าตัด,การพยาบาลการดูแลต่อเนื่อง
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 11 009 การพยาบาลผู้คลอดที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดร่วมกับมีภาวะครรภ์เป็นพิษรุนแรง เบาหวาน ขณะตั้งครรภ์และภาวะน้ำหนักเกิน: กรณีศึกษา อุบลรัตน์ ระวังโพธิ์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลพิมาย จ. นครราชสีมา บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญ: ภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่เพิ่มอัตราตาย ปริกำเนิดในทารกแรกเกิด ปัจจัยส่งเสริม เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และภาวะน้ำหนักเกิน โรงพยาบาลพิมายพบอัตราการคลอดก่อนกำหนด พ.ศ. 2564 – 2566 ร้อยละ 6.59, 7.36, 7.47 ตามลำดับ วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาแนวทางการให้การพยาบาลผู้คลอดที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ร่วมกับมีภาวะครรภ์เป็นพิษรุนแรง เบาหวานขณะตั้งครรภ์ และภาวะน้ำหนักเกิน วิธีดำเนินการ: เลือกกรณีศึกษาที่มาคลอดโรงพยาบาลพิมาย ปี 2566 ศึกษาข้อมูล วิเคราะห์ปัญหา วางแผนการพยาบาล ปฏิบัติการพยาบาล ประเมินผลและสรุปกรณีศึกษา ผลการศึกษา: หญิงไทย 29 ปี G3P1A1L1 GA 324/7 weeks. GDMA1 น้ำหนัก 102 กิโลกรัม ดัชนี มวลกาย 46.56 kg/m2 เจ็บครรภ์คลอดก่อนมา 4 ชั่วโมง แรกรับ Cx dilate 10 เซนติเมตร Breech presentation BP180/110 mmHg DTX 179 mg/dl รายงานแพทย์ สั่งให้ยาMgSo4 และช่วยคลอดTotal Breech Extraction ทารก Apgar Score 3- 7- 8 BW1,960กรัม พบปัญหาระยะก่อนคลอด เจ็บครรภ์คลอด ก่อนกำหนด มีโอกาสเกิดภาวะชักจากความดันโลหิตสูง มีโอกาสคลอดติดขัด มีโอกาสเกิด hypohyperglycemia ระยะคลอด มีคลอดติดขัด ทารก Birth Asphyxia ระยะ 2 ชั่วโมงหลังคลอด มีโอกาสตก เลือด มารดาวิตกกังวล ทารกพร่องออกซิเจน ON ET Tube และส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์ ผู้ศึกษาได้ให้การ พยาบาลจนมารดามีสัญญาณชีพปกติ ไม่พบภาวะแทรกซ้อน ข้อเสนอแนะ: ควรสร้างมาตรฐานการดูแลผู้คลอดที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดของ โรงพยาบาลพิมายร่วมกับโรงพยาบาลลูกข่าย และพัฒนาสมรรถนะของพยาบาลวิชาชีพให้เป็นแนวทาง เดียวกัน คำสำคัญ : ภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด, ภาวะครรภ์เป็นพิษรุนแรง ,เบาหวานขณะตั้งครรภ์ และภาวะ น้ำหนักเกิน
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 12 011 การพยาบาลผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดีที่ได้รับการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง จากการล้มเหลวในการส่องกล้องและมีโรคร่วม: กรณีศึกษา จันทร์ทิรา พงศ์ชาญวิทย์ โรงพยาบาลพิมาย บทคัดย่อ โรคนิ่วในถุงน้ำดีเป็นโรคที่พบบ่อยประมาณ 5-10% ของประชากร โดยพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายและมี แนวโน้มพบได้มากขึ้นตามอายุ ซึ่งหากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงทีอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจนถึงแก่ ชีวิตได้ การรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีที่ดีที่สุดในปัจจุบันคือ การผ่าตัดโดยการส่องกล้องผ่านเข้าทางหน้าท้อง ซึ่งมีโอกาสสำเร็จถึง ร้อยละ 90 แต่อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เกิดความล้มเหลวในการผ่าตัดส่องกล้อง ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง ต่อเพื่อนำถุงน้ำดีออก ทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดได้ การศึกษานี้เป็นการศึกษาผู้ป่วยโรคนิ่วในถุง น้ำดีที่ได้รับการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกด้วยการส่องกล้องแต่ล้มเหลวจึงได้ทำผ่าตัดเปิดหน้าท้องในคราวเดียวกัน เนื่องจากผู้ป่วย มีโรคร่วมที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ โรคอ้วนที่ผนังหน้าท้องหนามาก โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน โรคความดันโลหิตสูง และไขมัน ในหลอดเลือดสูง บทบาทที่สำคัญของพยาบาลวิชาชีพในการดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัดทั้ง 2 วิธี คือ การประยุกต์ใช้ความรู้จาก ทฤษฎีและทักษะในการให้การพยาบาลผู้ป่วยที่มีความซับซ้อนได้อย่างปลอดภัย โดยใช้กระบวนการพยาบาล ซึ่งประกอบด้วย 1) การประเมินสภาพผู้ป่วยโดยใช้ 11 แบบแผนสุขภาพของการ์ดอน 2) การตั้งข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลทั้ง 3 ระยะ ได้แก่ ระยะก่อนผ่าตัด ระยะผ่าตัดและหลังผ่าตัด รวมถึงการวางแผนการจำหน่าย 3) การวางแผนการพยาบาล 4) การปฏิบัติตาม แผนการพยาบาล และ 5) การประเมินผลและสรุปปัญหาความต้องการทางการพยาบาลของผู้ป่วย จากการศึกษาแสดงให้เห็นกระบวนการดูแลผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีตั้งแต่แรกรับจนถึงจําหน่ายอย่าง ครอบคลุม โดยพยาบาลจําเป็นต้องมีทักษะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญในการพยาบาลผู้ป่วยที่มีความยุ่งยากซับซ้อน โดยมี เป้าหมายเพื่อความปลอดภัยและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน คำสำคัญ: การพยาบาล, โรคนิ่วในถุงน้ำดี, การผ่าตัดเปิดหน้าท้อง, การล้มเหลวในการส่องกล้อง
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 13 012 การพยาบาลผู้สูงอายุกระดูกสะโพกหักที่ได้รับการผ่าตัดและมีโรคลมชักร่วม : กรณีศึกษา สุนิษา นิยมไร่ โรงพยาบาลพิมาย จังหวัดนครราชสีมา บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญ : กระดูกข้อสะโพกหักพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ สาเหตุหลักเกิดจากการ หกล้ม ถึงแม้กลไกการบาดเจ็บไม่รุนแรง อาจส่งผลให้เป็นการเจ็บป่วยเรื้อรัง ทำให้เกิดพยาธิสภาพแบบถาวร เกิดความพิการได้ วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาการพยาบาลผู้สูงอายุกระดูกสะโพกหักที่ได้รับการผ่าตัดและมีโรคลมชักร่วม วิธีดำเนินการ : เลือกกรณีศึกษาจากการทำหัตถการผ่าตัด รวบรวมข้อมูลต่างๆ จากแฟ้มประวัติของ ผู้ป่วยและการสอบถามจากญาติ ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ แผนการรักษาของแพทย์ นำข้อมูลที่ได้มา วิเคราะห์ปัญหา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการให้การพยาบาลอย่างมีประสิทธิภาพ ผลการศึกษา : ผู้ป่วยเพศชาย อายุ 74 ปี มีประวัติล้มกระแทกพื้น แพทย์วินิจฉัย Close fracture neck of right of femur วางแผนการรักษาด้วยการผ่าตัด bipolar arthropathy cementless มีโรค ประจำตัว Epilepsy ไม่มีประวัติชักในรอบ 3 ปี ได้ให้การพยาบาลผู้ป่วยก่อนการผ่าตัด ระหว่างผ่าตัด หลัง ผ่าตัด และวางแผนการดูแลต่อเนื่อง พบปัญหาที่สำคัญทางการพยาบาล ได้แก่ ผู้ป่วยสูงอายุมีความวิตกกังวล เรื่องการผ่าตัด มีอาการปวด เสี่ยงต่อการชักระหว่างผ่าตัด เสี่ยงต่อการเกิดภาวะช็อคจากการเสียเลือด เสี่ยง ต่อการเกิดแผลติดเชื้อ และขาดความรู้ในการปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัด จากการปฏิบัติตามแผนการรักษาของ แพทย์ และให้การพยาบาล ไม่พบภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ผู้ป่วยปลอดภัย ข้อเสนอแนะ : การประเมินร่างกาย จิตใจ ประวัติที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนการรักษาที่ครอบคลุม ร่วมกับการเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์อวัยวะเทียมให้ครบพร้อมใช้ พยาบาลเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ จึงต้องมี สมรรถนะในด้านการพยาบาลห้องผ่าตัด ควรมีการส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการ ผ่าตัดที่ปลอดภัย ลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ คำสำคัญ : กระดูกสะโพกหัก, ผู้สูงอายุ, มีโรคลมชักร่วม, การพยาบาลในการผ่าตัด
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 14 013 ชื่อเรื่อง การพยาบาลผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันร่วมกับภาวะสัญญาณไฟฟ้าหัวใจถูก ขัดขวางที่ห้องฉุกเฉิน : กรณีศึกษา ธมณ ผินกลาง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลพิมาย จังหวัดนครราชสีมา บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญ โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ที่เป็น สาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นของประชากร ในประเทศไทย เนื่องจากเป็นภาวะวิกฤตที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต อย่างกะทันหัน การรักษาที่เพิ่มศักยภาพโดยการให้ยาละลายลิ่มเลือดได้ สามารถลดการสูญเสียชีวิตของผู้ป่วย ได้ วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาการพยาบาลผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันร่วมกับภาวะ สัญญาณไฟฟ้าหัวใจถูกขัดขวาง วิธีการศึกษา : เลือกกรณีศึกษาจากนั้นเก็บรวบรวมข้อมูลประวัติต่างๆของผู้ป่วยผลการตรวจทาง ห้องปฏิบัติการ แผนการรักษาของแพทย์ นำข้อมูลที่ได้มารวบรวมวิเคราะห์ปัญหาและวางแผนการให้การ พยาบาลปฏิบัติการพยาบาลตามมาตรฐานประเมินผลและสรุปผลการศึกษา ผลการศึกษา กรณีศึกษาผู้ป่วยหญิงอายุ 64 ปี มาตรวจรักษาด้วยอาการแน่นหน้าอก หน้ามืด 1 ชั่วโมง 30 นาที ก่อนมาโรงพยาบาล โรคประจำตัวคือเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง แพทย์ วินิจฉัย โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ร่วมกับภาวะญาณไฟฟ้าหัวใจถูกขัดขวาง ได้รับการคัดกรอง เข้าถึง บริการทันเวลา ประเมินปัญหา วางแผนการพยาบาล ให้การพยาบาลและปฏิบัติตามแผนการรักษาของ แพทย์ ประเมินผลการรักษาพยาบาล ปัญหาสำคัญได้รับการแก้ไขจากแผนการรักษาของแพทย์และการ ปฏิบัติการพยาบาล ปัญหาหมดไป แต่ตามแนวทางการรักษา ผู้ป่วย Fast track STEMI ต้องส่งต่อรักษาไปยัง โรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า ได้ประสานส่งต่อ ได้ทันเวลา และผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการผ่าตัดเปิดหลอด เลือดหัวใจ พบว่ามีความสำเร็จในการผ่าตัดเปิดหลอดเลือดหัวใจ ผู้ป่วยปลอดภัย
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 15 ข้อเสนอแนะ : การให้การพยาบาล ผู้ป่วยในภาวะ วิกฤต ฉุกเฉิน Fast track STEMI ต้องใช้ ความรู้ ความสามารถทั้งด้านการปฏิบัติการพยาบาล และการประสานงานร่วมกับ สหวิชาชีพ ถือเป็นสมรรถนะที่ สำคัญสำหรับพยาบาล จึงควรมีการพัฒนาทักษะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะสามารถปฏิบัติในบทบาทของ พยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้ป่วยปลอดภัยจากภาวะคุกคามของโรคไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากการ รักษาพยาบาล คำสำคัญ : การพยาบาล, โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย, ภาวะสัญญาณไฟฟ้าหัวใจถูกขัดขวาง
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 16 014 การพยาบาลผู้ป่วยผ่าตัดมดลูกทางหน้าท้องร่วมกับภาวะช็อค วิไลรัตน์ คลาพิมาย พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลพิมาย จังหวัดนครราชสีมา บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญ การผ่าตัดมดลูกทางหน้าท้อง Abdominal hysterectomy เป็นการผ่าตัดใหญ่เพื่อรักษาโรคทางนรีเวชที่พบได้บ่อย จากสถิติโรงพยาบาลพิมาย พ.ศ.2563-2565 พบผู้ป่วย Abdominal hysterectomy จำนวน 65 ราย มีภาวะช็อคหลังผ่าตัดจำนวน 1 ราย แม้พบ จำนวนไม่มาก แต่มีภาวะแทรกซ้อนอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ การพยาบาลผู้ป่วยหลังผ่าตัดอย่างถูกต้องและ ได้มาตรฐานการพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยปลอดภัยจากภาวะช็อคหลังการผ่าตัด Abdominal hysterectomy วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการพยาบาลผู้ป่วยผ่าตัดมดลูกทางหน้าท้อง วิธีดำเนินการ เลือกกรณีศึกษา ศึกษาข้อมูลประวัติต่างๆ การผ่าตัด เพื่อรวบรวมวิเคราะห์ ปัญหา นำมาวางแผนการพยาบาลตามมาตราฐาน ประเมินผล และสรุปผลการศึกษา ผลการศึกษา ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 43 ปี คลำพบก้อนที่ท้องน้อย แพทย์วินิจฉัย Myoma uterine เข้ารับการโดยผ่าตัด TAH with Lt Salphingo - Oophorectomy TBL 300 ml.หลังรับย้าย จากห้องผ่าตัด 1 hr. มีอาการปวดท้องมาก ท้องตึง เหงื่อออกตัวเย็น Hct 20 % V/S : PR 92 bpm. RR 22 bpm. BP 74/45 mmHg. Set OR for Re-explore with stop bleed. TBL 3,000 ml. ได้ สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ส่วนประกอบของเลือด และยาปฏิชีวนะ ย้ายผู้ป่วยรักษาที่ตึก ICU on ventilator 1 วัน อาการดีขึ้น ย้ายรักษาต่อที่ตึกสูติ-นรีเวชกรรม ทั้งหมด 6วัน ระหว่างรักษาพยาบาล พบปัญหาทางการพยาบาลที่สำคัญได้แก่ ภาวะช็อค มีภาวะติดเชื้อในร่างกาย ปวดแผลผ่าตัด วิตก กังวลเกี่ยวกับการดูแลตนเองหลังผ่าตัดเมื่อกลับบ้าน ผู้ป่วยได้รับการรักษาพยาบาลอาการโดยรวมดีขึ้น แพทย์จำหน่ายกลับบ้าน ติดตามอาการ 1 สัปดาห์ ข้อเสนอแนะ พยาบาลควรมีแนวทางการพยาบาลผู้ป่วยหลังผ่าตัดมดลูกทางหน้าท้อง ที่ ครอบคุมและได้มาตรฐานในการพยาบาล คำสำคัญ การพยาบาล, ภาวะช็อค, การผ่าตัดมดลูก
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 17 015 การพยาบาลผู้ป่วยโรคอ้วนที่ได้รับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีโดยวิธีการส่องกล้อง ภายใต้การให้ยาระงับ ความรู้สึกแบบทั่วไป : กรณีศึกษา ศริณย์ทิพย์ ฟุ้งพิมาย พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลพิมาย จังหวัดนครราชสีมา บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญ : ปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยโรคอ้วนเข้ารับการผ่าตัดและได้รับการให้ยาระงับ ความรู้สึกแบบทั่วไปมากขึ้น ผู้ป่วยเหล่านี้มีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลง ทางกายวิภาค สรีรวิทยา และเภสัชวิทยา ร่วมกับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีโดยวิธีการส่องกล้อง ซึ่งเป็นปัจจัยเสริมที่ทำผู้ป่วยโรค อ้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาและเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เพิ่มขึ้นได้ วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาการพยาบาลผู้ป่วยโรคอ้วนที่ได้รับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีโดยวิธีการส่องกล้องที่ ได้รับยาระงับความรู้สึกแบบทั่วไป วิธีดำเนินการ : เลือกกรณีศึกษา ซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจทางห้องปฏิบัติการ แผนการรักษาของ แพทย์ นำข้อมูลที่ได้วิเคราะห์ปัญหาวางแผนให้การพยาบาล ปฏิบัติการพยาบาล ประเมินผลและสรุปผล การศึกษา ผลการศึกษา : ผู้ป่วยเพศหญิงอายุ 62 ปี มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง BMI 37 กก.ต่อตร.ม. แพทย์นัดผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีโดยวิธีการส่องกล้อง ได้รับการระงับความรู้สึกแบบทั่วไป ได้ให้การ พยาบาลเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัด ขณะผ่าตัด หลังผ่าตัด และวางแผนการจำหน่าย ผู้ป่วยได้รับการ พยาบาลตามกระบวนการพยาบาลผู้ป่วยปลอดภัย ไม่พบภาวะแทรกซ้อน ข้อเสนอแนะ : การเตรียมผู้ป่วยก่อนให้ยาระงับความรู้สึกให้มีความพร้อมจะส่งผลไปยังการดูแลผู้ป่วยทั้ง ในระหว่างการให้ยาระงับความรู้สึกและระยะหลังการให้ยาระงับความรู้สึก ในขณะเดียวกันการดูแลผู้ป่วยหลังการ ให้ยาระงับความรู้สึกที่ดีจะช่วยป้องกันปัญหาและลดภาวะแทรกซ้อนของการรักษาได้ คำสำคัญ : การพยาบาล, ผู้ป่วยโรคอ้วน, ผ่าตัดนิ่วถุงน้ำดี โดยวิธีการส่องกล้อง, การให้ยาระงับความรู้สึกแบบ ทั่วไป
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 18 016 การพยาบาลมารดาหลังคลอดที่มีภาวะความดันโลหิตสูงรุนแรง : กรณีศึกษา รชุดา หมอสัมฤทธิ์ โรงพยาบาลพิมาย จังหวัดนครราชสีมา บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญมารดาหลังคลอดที่มีภาวะความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรงเป็น ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายและส่งผลกระทบต่อภาวะสุขภาพมารดามากที่สุดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญ ของการเสียชีวิตในมารดา การดูแลโดยใช้กระบวนการพยาบาลแบบองค์รวม เพื่อเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนที่ เกิดจากพยาธิสภาพของโรค และยาที่ใช้ในการรักษาสามารถจะสามารถช่วยให้ผู้ป่วยปลอดภัยหลังคลอดจาก ภาวะความดันโลหิตสูงได้ วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาข้อมูลทั่วไป ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล การพยาบาลและผลลัพธ์ทางการ พยาบาลของมารดาหลังคลอดที่มีภาวะความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรง โดยผ่านกรณีศึกษา ที่เข้ารับการรักษาใน หอผู้ป่วยสูตินรีเวชกรรม วิธีการดำเนินการ เลือกกรณีศึกษาจากนั้นเก็บรวบรวมข้อมูลประวัติต่างๆของผู้ป่วยผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ แผนการรักษาของแพทย์ นำข้อมูลที่ได้มารวบรวมวิเคราะห์ปัญหาวางแผนการให้การพยาบาลปฏิบัติการ พยาบาลตามมาตรฐานประเมินผลและสรุปผลการศึกษา ผลการศึกษา กรณีศึกษาเป็นมารดาหลังคลอดมีภาวะความดันโลหิตสูงตั้งแต่ระยะก่อนคลอดจนถึงระยะหลังคลอด ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดจากภาวะความดันโลหิตสูง ชนิดรุนแรงผลลัพธ์การรักษาพยาบาลพบว่าความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่พบภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย ข้อเสนอแนะในการนำผลการศึกษาไปใช้การพยาบาลในการดูแลมารดาหลังคลอดที่มีภาวะความดัน โลหิตสูงชนิดรุนแรงด้วยการวางแผนการพยาบาลก่อนรับย้าย ให้การดูแลรักษาพยาบาลหลังคลอดอย่างมี ประสิทธิภาพ พยาบาลจึงควรมีสมรรถนะสูงในการดูแลผู้ป่วย ต้องเข้าใจในการดำเนินของโรค การให้ยาและ ภาวะแทรกซ้อนจากยา และการให้การพยาบาลแบบองค์รวม ลดภาวะแทรกช้อนที่รุนแรงได้ คำสำคัญ การพยาบาล มารดาหลังคลอดที่มีภาวะความดันโลหิตสูง แมกนีเซียมซัลเฟต
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 19 017 กรณีศึกษา การพยาบาลผู้คลอดที่มีภาวะความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรงร่วมกับมีภาวะรกค้าง และมีภาวะตกเลือดหลังคลอด เสาวนิตย์ ภูประพันธ์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลพิมาย จังหวัดนครราชสีมา บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญ : ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์เป็นภาวะแทรกซ้อนทางสูติกรรมที่รุนแรง เป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตของมารดาและทารก เสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น รกลอกตัว ก่อนกำหนด การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ตกเลือด จากสถิติของโรงพยาบาลพิมาย พ.ศ. 2564-2566 พบหญิง ตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงร้อยละ1.7,1.6,2.1 ตามลำดับ วัตถุประสงค์: ศึกษาแนวทางการพยาบาลผู้คลอด ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรง ร่วมกับรกค้างและ ภาวะตกเลือดหลังคลอด วิธีดำเนินการ: เลือกกรณีศึกษา เก็บรวบรวมข้อมูลผู้คลอด ประวัติต่างๆจากเวชระเบียน ผลตรวจทาง ห้องปฏิบัติการ แผนการรักษา นำข้อมูลมารวบรวม วิเคราะห์ปัญหา วางแผนให้การพยาบาลตามมาตรฐาน ประเมินผลและสรุปผลการศึกษา ผลการศึกษา: หญิงไทยวัย 29 ปี G3P2A0L2 No ANC GA. 40 wks. by size มีอาการเจ็บครรภ์คลอด 2 ชั่วโมงก่อนมารพ. แรกรับ Fully dilate พบความดันโลหิตสูง ได้รับยากันชัก คลอดทางช่องคลอด มีภาวะรก ติด แพทย์ทำการล้วงรก ระยะที่ 3 ใช้เวลา 1 ชั่วโมง มดลูกหดรัดตัวไม่ดี เสี่ยงต่อการเกิดภาวะชักจากภาวะ ครรภ์เป็นพิษชนิดรุนแรงและตกเลือดหลังคลอด ดูแลให้การพยาบาลตลอดระยะการคลอด ไม่พบ ภาวะแทรกซ้อน ข้อเสนอแนะ: แนวทางการพยาบาลผู้คลอดที่มีภาวะความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรงร่วมกับภาวะรกค้าง และ ภาวะตกเลือดหลังคลอด เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พยาบาลวิชาชีพแสดงออกถึงการมีสมรรถนะสูงในการดูแล ให้ความช่วยเหลือมารดาและทารกให้มีความปลอดภัยและพ้นภาวะวิกฤตในระยะคลอด คำสำคัญ : ความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรง ภาวะรกค้าง ภาวะตกเลือด
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 20 018 การพยาบาลผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว : กรณีศึกษา ปัณรัตน์ สุขกำเนิด โรงพยาบาลพิมาย จังหวัดนครราชสีมา บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญ: ภาวะหัวใจล้มเหลวเป็นอาการทางคลินิกที่ซับซ้อน หอผู้ป่วยหนัก (ICU) โรงพยาบาลพิมาย มีผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวร้อยละ 11.27 และเป็นผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวที่ ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ซึ่งหมายถึงมีระบบหายใจล้มเหลวร่วมด้วยร้อยละ 66.67 รวมถึงมีโรคหัวใจเดิมร่วมด้วย วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาการพยาบาลและพัฒนาแนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีภาวะหัวใจ ล้มเหลว วิธีดำเนินการ: โดยเก็บรวบรวมข้อมูลประวัติการรักษา ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ จากการ สัมภาษณ์และเวชระเบียน นำมาวิเคราะห์ปัญหา วางแผนให้การพยาบาล และสรุปการศึกษา ผลการศึกษา: ผู้ป่วยเพศชาย อายุ 42 ปี มาด้วยอาการไอมีเสมหะ หายใจหอบ นอนราบไม่ได้ แรกรับ ผู้ป่วยหายใจหอบเหนื่อยมาก มีภาวะน้ำท่วมปอดและภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว จึงได้ใส่ท่อช่วยหายใจ ผู้ป่วย มีโรคประจำตัวโรคลิ้นหัวใจไมทรัลตีบ รักษาโดยยา Warfarin ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่า มีภาวะ Warfarin Overdose ส่งผลให้มีปัสสาวะปนเลือดและมี Subconjunctival Hemorrhage รวมถึงมีภาวะติด เชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ผู้ได้รับการรักษาโดยใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้ยาขับปัสสาวะ ยากลุ่ม BetaBlocker และ Antibiotic ด้านการพยาบาลผู้ป่วยได้รับการประเมินภาวะสุขภาพ ผู้ป่วยได้รับการพยาบาล ตามแนวทางการพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวรวมถึงโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ครอบคลุมทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ อาการผู้ป่วยดีขึ้น ผู้ป่วยสามารถถอดท่อช่วยหายใจได้ และย้ายไปตึกสามัญ แพทย์ให้กลับบ้าน และนัดติดตามอาการอีก 1 เดือน ได้รับการแนะนำการดูแลตนเองเมื่อกลับไปอยู่บ้าน รวมระยะเวลารักษาในโรงพยาบาล 5 วัน ข้อเสนอแนะ: สร้างมาตรฐานการพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวที่ใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน คำสำคัญ: ภาวะหัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure), Warfarin Overdose
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 21 019 การพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจ Pulmonary stenosis (PS) ที่ได้รับการผ่าตัด Modified Blalock-Taussig shunt (MBT shunt): กรณีศึกษาเปรียบเทียบ 2 ราย พัชรี ซิงค์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ห้องผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรมโรคหัวใจ กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ บทคัดย่อ ความเป็นมา: โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดแบบ PS เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียว เป็นภาวะ คุกคามต่อชีวิต ต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดแบบ MBT shunt เพื่อให้เลือดไปปอดได้มากขึ้น พยาบาล จะต้องสามารถดูแลเด็กทั้งระยะก่อนและหลังผ่าตัดได้อย่างถูกต้องมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน จากการผ่าตัด วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลของการพยาบาลเด็กโรค PS ที่ได้รับการผ่าตัดแบบ MBT shunt ตาม ทฤษฎี The theory of self-care deficit โดยยึดหลักครอบครัวเป็นศูนย์กลาง วิธีดำเนินการ: 1) กำหนดโรคที่ต้องการศึกษา 2) คัดเลือกผู้ป่วยที่จะศึกษา 3) ทบทวนองค์ความรู้ 4) วิเคราะห์ข้อมูลกรณีศึกษา 5) กำหนดปัญหา วางแผน ให้การพยาบาลและประเมินผล ทั้งระยะก่อน หลังผ่าตัด และวางแผนการจำหน่าย 6) สรุปและจัดทำเอกสารวิชาการ 7) เผยแพร่ผลงาน ผลการศึกษา: ผู้ป่วยเด็กชายไทย รายที่ 1 เข้ารับการรักษาเมื่ออายุ 2 ปี 4 เดือน ตามนัดเพื่อรับการ ผ่าตัด MBT shunt เป็น TOF with Severe PS หลังผ่าตัด On ET-Tube 3 วัน พบภาวะ Thrombocytopenia และPolycythemia ได้รับการดูแลรักษา อาการดีขึ้นตามลำดับ แพทย์จำหน่ายกลับบ้าน นอนโรงพยาบาล 8 วัน รายที่ 2 เข้ารับการรักษาเมื่ออายุ 19 วัน มาด้วยอาการเขียวคล้ำ หายใจหอบ เป็น Severe PS with Ebstein's anomaly ดูแลให้ On ET-Tube 3 วัน และให้ PGE1 เป็นเวลา 7 วัน มีภาวะ CHF จึงทำผ่าตัด MBT shunt ห ล ั งผ ่ าตั ด On HHFNC เกิ ดภาวะแ ท ร กซ ้ อน ได้ แ ก่ Anemia, Pneumonia แ ละ Thrombocytopenia เด็กได้รับการดูแลรักษา อาการดีขึ้นตามลำดับ แพทย์จำหน่ายกลับบ้าน นอน โรงพยาบาล 20 วัน
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 22 ข้อเสนอแนะและการนำไปใช้: เป็นตัวอย่างหรือแนวทางในการพยาบาลเด็กโรคหัวใจ PS ที่ได้รับการ ผ่าตัด MBT shunt ได้รับการดูแลในระยะก่อนผ่าตัด และระยะหลังผ่าตัดอย่างถูกต้องอย่างมีคุณภาพ โดยใช้ ทฤษฎีOrem’s theory ในส่วน The theory of self-care deficit เพื่อทำให้เด็กปลอดภัย ร่วมกับใช้ Family center care ให้บิดามารดามีส่วนร่วมในการดูแลเด็ก เพื่อเตรียมพร้อมในการกลับไปดูแลเด็กต่อเนื่องที่บ้าน คำสำคัญ การพยาบาลเด็ก, โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด, Pulmonary stenosis, MBT shunt
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 23 020 การพยาบาลผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบร่วมกับมีภาวะช็อกจากการเสียเลือด: กรณีศึกษาเปรียบเทียบ 2 ราย นุสรา วิชย์โกวิทเทน หน่วยงานผู้ป่วยอุบัติเหตุ (ER Trauma) กลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญ: การบาดเจ็บหลายระบบ เป็นการเกิดอุบัติเหตุที่มีผลกระทบต่อร่าง การหลายแห่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆหลายระบบในเวลาเดียวกัน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วย เสียชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็วเกิดจากการเสียเลือดอย่างรุนแรง ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่าง ถูกต้องและเร่งด่วนเพื่อให้การรักษาพยาบาลมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนต่างๆ วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาการพยาบาลผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบที่มีภาวะช็อกได้รับการพยาบาลที่ หน่วยงานผู้ป่วยอุบัติเหตุ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์มีความปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อน ผลการศึกษา: รูปแบบของการพยาบาลตามแนวปฏิบัติขั้นสูง (ATLS) แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ผู้ป่วย รอดพ้นจากภาวะ " Emergency life threatening condition” พยาบาลให้การพยาบาลที่เหมาะสม สอดคล้องกับปัญหาของผู้ป่วย ประเมินปัญหาของผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและสามารถให้การช่วยเหลือ แก้ไขใน ปัญหาที่เร่งด่วนตามลำดับก่อนหลังได้อย่างถูกต้อง มีความละเอียดอ่อนในการสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงอย่าง เฉียบพลันของผู้ป่วยขณะอยู่ในความดูแลอย่างรวดเร็ว และให้การช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพและผู้ป่วย รอดชีวิตจากภาวะวิกฤตได้โดยกรณีศึกษาทั้ง 2 ราย เปรียบเทียบกันมีปัญหาเกี่ยวกับอาการรุนแรงการ บาดเจ็บ รวมทั้งความแตกต่างในเรื่องวิธีการรักษาที่ขึ้นกับอวัยวะภายในที่บาดเจ็บ ผู้ป่วยทั้งสองรายได้รับการ พยาบาลฉุกเฉินที่สอดคล้องกับแนวทางการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บขั้นสูง (ATLS) จากการติดตามผู้ป่วยทั้ง 2 ราย ไม่พบอุบัติการณ์เสียชีวิต ข้อเสนอแนะ: พยาบาลมีบทบาทสำคัญในการดูแลรักษาพยาบาล และการแก้ไขภาวะวิกฤตที่คุกคาม ต่อชีวิตผู้ป่วยให้พ้นภาวะวิกฤตได้ควรศึกษาเปรียบเทียบการพยาบาลฉุกเฉินผู้ป่วยบาดเจ็บระบบอื่นๆร่วมด้วย กรณีศึกษานี้มีการนำไปใช้พัฒนาต่อยอดเป็นแนวทางการพยาบาลฉุกเฉินผู้ป่วยในลักษณะอื่น ตามบริบทของ ห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉินต่อไป คำสำคัญ: การพยาบาล ผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ ภาวะช็อก
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 24 021 การพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดที่มีภาวะหายใจล้มเหลว:กรณีศึกษา อรทัย จิตรพิมาย โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า 100 ปี จังหวัดนครราชสีมา บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญ ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดเป็นภาวะเร่งด่วนในการรักษาพยาบาล หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะมีอัตราตายสูง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยที่ห้องฉุกเฉิน การได้รับการ วินิจฉัยที่ล่าช้า ได้รับยาและสารน้ำช้า อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตจากภาวะช็อค รวมถึงการทำงานของอวัยวะที่ สำคัญล้มเหลวด้วย ดังนั้นการคัดกรองที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยติด เชื้อในกระแสเลือด รวมถึงการสูญเสียหน้าที่ของอวัยวะสำคัญได้ด้วยเช่นกัน วัตถุประสงค์: เพื่อนำความรู้เรื่องโรค แนวคิดและทฤษฎีการพยาบาลมาประยุกต์ใช้ในการพยาบาล ผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด วิธีการดำเนินการ เลือกกรณีศึกษาจากผู้ป่วยโรคติดเชื้อในกระแสเลือดที่เข้ารับการรักษาที่ห้อง ฉุกเฉิน ศึกษาข้อมูลจากผู้ป่วยและญาติ เวชระเบียนและวิเคราะห์ปัญหาความต้องการในการดูแลรักษา โดย ใช้กระบวนการพยาบาล แนวคิดทฤษฎีทางการพยาบาลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการ รักษาพยาบาลและสหาสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง สรุปผลกรณีศึกษา ผลการศึกษา ผู้ป่วยเพศชายไทย อายุ 51ปี เข้ารับการรักษาด้วยภาวะไข้สูง หนาวสั่น ก่อนมา 2 วัน ไม่มีโรคประจำตัว เข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉิน แพทย์วินิจฉัยเป็น Sepsis with Pneumonia with Acute respiratory failure with AKI with Anemia ได้รับการดูแลยาและสารน้ำ และเจาะเลือดตาม แผนการรักษา ผู้ป่วยมีภาวะการหายใจล้มเหลวและไตวายเฉียบพลัน ได้รับการใส่ท่อช่วยหายใจ ส่งต่อไป โรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า ติดตามอาการหลังเข้ารับการรักษา ผู้ป่วยกลับบ้านและต้องเข้ารับการฟอก เลือดด้วยเครื่องไตเทียม(Hemodialysis) ข้อเสนอแนะ : การพัฒนาระบบการประเมินคัดกรองผู้ป่วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด คำสำคัญ : การพยาบาล ติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะหายใจล้มเหลว
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 25 022 การพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคลมชักที่มีภาวะหายใจล้มเหลว: กรณีศึกษาเปรียบเทียบ 2 ราย เกศรา ศรีสำอางค์ โรงพยาบาลเด็กสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญ สถิติผู้ป่วยเด็กโรคลมชักที่เข้ารับการรักษาแผนกผู้ป่วยใน จำนวน 111, 127 และ 81 ราย คิดเป็นอัตราการเข้ารับการรักษาในห้องผู้ป่วยหนัก ร้อยละ 33.3, 23.6 และ37.0 ในปี 2563, 2564 และ 2565 ตามลำดับ จากสถิติพบว่าอัตราการเข้ารับการรักษาในห้องผู้ป่วยหนักสูงขึ้น สาเหตุ เกิดจากผู้ป่วยมีแทรกซ้อนจากการภาวะชักนาน พยาบาลต้องให้การพยาบาลที่ถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อลด ภาวะแทรกซ้อนจากการชัก วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของการให้การพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคลมชักที่มีภาวะหายใจล้มเหลว วิธีดำเนินการ: รูปแบบ : กรณีศึกษา สถานที่ดำเนินการ SCH-ICU2 ขั้นตอนการศึกษา 1) กำหนด โรคและคัดเลือกกรณีศึกษา 2) ศึกษาค้นคว้าทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง 3) วิเคราะห์ข้อมูลกรณีศึกษา 4) นำความรู้ที่ ได้มาประยุกต์ใช้ ตามหลักกระบวนการพยาบาลตั้งแต่ระยะแรกรับ ระยะต่อเนื่องและระยะจำหน่าย 5) สรุปผล 6)จัดทำเอกสารวิชาการ 7) เผยแพร่ผลงาน ผลการศึกษา: กรณีศึกษารายที่ 1 เด็กชายไทย อายุ 3ปี มาด้วยชักเกร็งทั้งตัว 5 ชั่วโมงก่อนมา โรงพยาบาล ปัญหาที่สำคัญคือ ภาวะชักซ้ำ หายใจหอบ และมีภาวะSeptic shock ได้ให้การพยาบาลในการ บริหารยากันชัก การพยาบาลผู้ป่วย Septic shock ระยะเวลานอนโรงพยาบาล 13 วัน รายที่ 2 เด็กชายไทย อายุ 4ปี มาด้วยชักเกร็ง ตาค้าง 1 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล ปัญหาที่สำคัญคือ ภาวะชักซ้ำ หายใจหอบ และ มีภาวะปอดอักเสบ ได้ให้การพยาบาลในการบริหารยากันชัก การดูแลผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจ ระยะเวลา นอนโรงพยาบาล 10 วัน ข้อเสนอแนะในการนำผลการศึกษาไปใช้ ควรมีการปรับใช้ในการพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคลมชักที่มี ภาวะหายใจล้มเหลวโดยให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายและบริบทหน่วยงาน คำสำคัญ : โรคลมชัก,ภาวะหายใจล้มเหลว , ผู้ป่วยเด็ก
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 26 023 การพัฒนาแนวปฏิบัติการป้องกันการเกิดโรคปอดเรื้อรังในทารกเกิดก่อนกำหนดที่มีน้ำหนักตัวน้อย โรงพยาบาลมุกดาหาร Development of the Prevention of Bronchopulmonary Dysplasia Guideline Among Preterm Infants with Low Birth Weight, Mukdahan Hospital เพชรสมร มีธรรม พย.ม.* ณัฐชานันท์ ผิวเรืองนนท์ พย.บ.** พัชราภรณ์ ไชยดา พย.บ.** บทคัดย่อ บทนำ: การพัฒนาแนวปฏิบัติการป้องกันการเกิดโรคปอดเรื้อรังในทารกเกิดก่อนกำหนดที่มีน้ำหนัก ตัวน้อยสามารถลดอุบัติการณ์ และอาการรุนแรง อันจะนำไปสู่การดูแลทารกแรกเกิดก่อนกำหนดอย่างมี ประสิทธิภาพมากที่สุด วัตถุประสงค์ : 1) เพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติการป้องกันการเกิดโรคปอดเรื้อรังในทารกเกิดก่อนกำหนดที่ มีน้ำหนักตัวน้อย หอผู้ป่วยทารกแรกเกิดป่วย โรงพยาบาลมุกดาหาร และ2) เพื่อประเมินผลการใช้แนว ปฏิบัติการป้องกันการเกิดโรคปอดเรื้อรังในทารกเกิดก่อนกำหนดที่มีน้ำหนักตัวน้อย วิธีดำเนินการวิจัย : การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพัฒนา โดยใช้กรอบแนวคิดการใช้หลักฐานเชิง ประจักษ์ในการพยาบาลของซูคัพ (Soukup,2000) ประกอบด้วย 4 ระยะ คือ ระยะที่1) การค้นหาปัญหาทาง คลินิกและการค้นหาหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่สามารถนำมาใช้ในแนว ปฏิบัติ จำนวน 7 เรื่องระยะที่ 2) การพัฒนาแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันการเกิดโรคปอดเรื้อรังในทารกเกิดก่อน กำหนดที่มีน้ำหนักตัวน้อย โรงพยาบาลมุกดาหาร ประกอบด้วยการดูแลทารก 4 ระยะ คือ ระยะคลอด ระยะแรกรับและดูแลต่อเนื่องที่หอผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรม และระยะดูแลต่อเนื่องที่หอผู้ป่วยทารกแรกเกิด ป่วย โดยกลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยพยาบาลวิชาชีพการพยาบาลเฉพาะทางการผดุงครรภ์ การพยาบาลผู้ป่วย ทารกและเด็กวิกฤต และการพยาบาลเฉพาะทางทารกแรกเกิด จำนวน 9 คน ระยะที่3) การประเมินคุณภาพ เครื่องมือ ประกอบด้วย แนวปฏิบัติเพื่อป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังในทารกเกิดก่อนกำหนด แบบบันทึกการ สังเกตการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติแบบประเมินความสามารถของพยาบาลวิชาชีพในการนำแนวปฏิบัติไปใช้ แบบบันทึกข้อมูลทารกและผลลัพธ์การดูแลทารกเกิดก่อนกำหนด และแบบประเมินความพึงพอใจของ พยาบาลวิชาชีพ ตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน ได้ค่า CVI เท่ากับ 0.94, 0.98, 0.94, 0.98 , 0.99 ตามลำดับ ค่าความเชื่อมั่นได้นำเครื่องมือไปทดลองใช้ได้ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาช เท่ากับ 0.86 แบบบันทึกการสังเกตการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติ ได้ค่าความเที่ยงเฉลี่ยที่เห็นพ้องกัน ร้อยละ 100 และแบบ
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 27 ประเมินความพึงพอใจของพยาบาลวิชาชีพในการนำแนวปฏิบัติไปใช้ เท่ากับ 0.99 ระยะที่ 4) การนำแนว ปฏิบัติไปใช้กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยพยาบาลวิชาชีพจำนวน 30 คน และทารกเกิดก่อนกำหนดที่มีน้ำหนักตัว น้อย จำนวน 27 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ผลการวิจัย : พบว่า ความสามารถของพยาบาลวิชาชีพในการนำแนวปฏิบัติไปใช้เพื่อป้องกันการเกิด โรคปอดเรื้อรังในทารกเกิดก่อนกำหนดที่มีน้ำหนักตัวน้อย ส่วนใหญ่อยู่ในระดับง่าย ทั้งในระยะคลอด ระยะแรกรับและระยะต่อเนื่องที่หอผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรม และระยะดูแลต่อเนื่องที่หอผู้ป่วยทารกแรกเกิด ป่วย ส่วนความพึงพอใจของพยาบาลวิชาชีพทั้ง 3 หน่วยงานในการนำแนวปฏิบัติไปใช้พบว่าอยู่ระดับมากทั้ง โดยรวมและรายด้าน ส่วนผลลัพธ์ด้านทารก ได้แก่ จำนวนวันการใช้ออกซิเจนเฉลี่ย 4.48 วัน จำนวนวันนอน โรงพยาบาลเฉลี่ย 7.00 วัน และอุบัติการณ์การเกิดโรคปอดเรื้อรัง ร้อยละ 3.70 ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับก่อน ใช้แนวปฏิบัติในข้อมูลปี 2565 จำนวนวันการใช้ออกซิเจน เฉลี่ย 9.18 วัน จำนวนวันนอนโรงพยาบาล เฉลี่ย 13.54 วัน และอุบัติการณ์การเกิดโรคปอดเรื้อรัง ร้อยละ 6.25 ข้อเสนอแนะ : พยาบาลสามารถนำแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันการเกิดโรคปอดเรื้อรังในทารกเกิดก่อน กำหนดที่มีน้ำหนักตัวน้อยไปใช้ ตั้งแต่อยู่ห้องคลอด ต่อเนื่องมาหอผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรม และหอผู้ป่วย ทารกแรกเกิดป่วย และการศึกษาครั้งต่อไปควรเพิ่มแนวปฏิบัติตั้งแต่ระยะฝากครรภ์และระยะก่อนคลอด คำสำคัญ : ทารกแรกเกิดก่อนกำหนด, ทารกน้ำหนักตัวน้อย, การป้องกันการเกิดโรคปอดเรื้อรัง
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 28 026 การพยาบาลระยะฉุกเฉินผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดที่มีภาวะช็อกร่วมกับการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน : กรณีศึกษา 2 ราย ฉวีวรรณ ครุฑใจกล้า, พย.บ. งานการพยาบาลผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉินและนิติเวช โรงพยาบาลภูผาม่าน บทคัดย่อ บทนำ ผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดและมีภาวะช็อก เป็นผู้ป่วยวิกฤตที่มีโอกาสเสียชีวิตได้ การวินิจฉัย ที่รวดเร็ว การรักษาพยาบาลที่เหมาะสม จะทำให้ผู้ป่วยปลอดภัยและลดอัตราการเสียชีวิต วัตถุประสงค์ เปรียบเทียบการพยาบาลระยะฉุกเฉินผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดที่มีภาวะช็อกร่วมกับ การหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน วิธีดำเนินงาน ศึกษาผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อในกระแสเลือดและมีภาวะช็อก ร่วมกับการหายใจล้มเหลว เฉียบพลันในโรงพยาบาลภูผาม่าน เดือนกันยายน 2566 จำนวน 2 ราย ผลการศึกษา ผู้ป่วยทั้ง 2 รายมีภาวะช็อกและระบบหายใจล้มเหลว ใส่ท่อช่วยหายใจ ได้ประเมิน ภาวะสุขภาพของกอร์ดอน มีข้อวินิจฉัยการพยาบาลเหมือนกันคือ ปริมาณเลือดออกจากหัวใจลดลง ประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนก๊าซลดลง ไม่สุขสบายขณะใช้เครื่องช่วยหายใจ ผู้ป่วยและญาติมีความวิตกกังวล ส่วนข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่แตกต่างกัน คือผู้ป่วยรายที่ 1 มีภาวะของเสียคั่งในร่างกาย มีภาวะไม่สมดุลของ เกลือแร่ในร่างกาย เสี่ยงต่อภาวะเลือดเป็นกรด และเสี่ยงต่อภาวะการเปลี่ยนแปลงของน้ำตาลในเลือด ผู้ป่วยรายที่ 2 คือไม่สุขสบายเนื่องจากมีไข้สูง และเสี่ยงจากการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ผู้ศึกษาได้นำ กระบวนการพยาบาลมาใช้ร่วมกับการรักษาผู้ป่วยทั้ง 2 รายได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ qSOFA score เฝ้า ระวังอาการเปลี่ยนแปลงและให้การพยาบาล โดยใช้ NEWS score ผู้ป่วยรายที่ 1 ได้รับการส่งต่อเพื่อการ แก้ไขภาวะวิกฤตแล้วถูกส่งกลับมาเพื่อให้ยาปฏิชีวนะต่อเนื่องและปรับยารักษาเบาหวาน ผู้ป่วยทั้ง 2 ราย ปลอดภัย และรอดชีวิตกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ข้อเสนอแนะ พยาบาลควรตระหนักการปฏิบัติตาม Sepsis guideline การประเมินภาวะฉุกเฉิน การ ช่วยเหลืออย่างทันที การใช้ Early Warning Signs การ Monitor อย่างต่อเนื่อง รายงานแพทย์ในเวลาที่ เหมาะสม เร่งให้การพยาบาลในภาวะวิกฤต และการบริหารจัดการเครื่องมือให้พร้อมใช้ การส่งต่อที่รวดเร็วจะ ช่วยให้ผู้ป่วยรอดพ้นจากภาวะวิกฤต คำสำคัญ ; ภาวะช็อก ติดเชื้อในกระแสเลือด หายใจล้มเหลวเฉียบพลัน
บทคัดย่อการนำเสนอผลงานวิขาการในการประชุมวิชาการสัญจรครั้งที่ 3/2566 สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงพยาบาลเลย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 29 028 ชื่อเรือง การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรงขณะตั้งครรภ์ กรณีศึกษา 1 ราย เพชรรัตน์ ประสมศรี งานการพยาบาลห้องคลอด โรงพยาบาลบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา บทคัดย่อ ความเป็นมาและความสำคัญ มารดาตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรงเป็น ภาวะแทรกซ้อนส่งผลกระทบรุนแรงต่อทั้งมารดาและทารกเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต และอาจนำไปสู่ ภาวะชัก พิการของมารดาและทารก จากข้อมูลของโรงพยาบาลบัวใหญ่พบว่า หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดัน โลหิตสูง (Severe Pre-eclampsia) จากการดูแลหญิงตั้งครรภ์พบหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มนี้ 17 ราย ปี2564 พบ 14 ราย ในปี 2565 พบหญิงตั้งครรภ์ที่มี ภาวะ ความดันโลหิตสูงและรับไว้ในห้องคลอด จำนวน 34 รายใน จำนวนมารดาคลอดทั้งหมด984 รายมีภาวะ SPE 15รายที่เป็นภาวะวิกฤตฉุกเฉินที่ต้องได้รับการช่วยเหลือ ทันที วัตถุประสงค์: ศึกษาการพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงเปรียบเทียบกับทฤษีเพื่อ ปรับปรุงแนวทางการปฏิบัตการพยาบาลมารดาคลอดจากภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์สำหรับพยาบาล ห้องคลอด วิธีดำเนินการศึกษา : ศึกษามารดาตั้งครรภ์ 1 รายที่มีภาวะความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรงขณะตั้งครรภ์ ที่ห้องคลอดโรงพยาบาลบัวใหญ่ในปี2566 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 1) แบบบันทึกข้อมูลจากเวชระเบียนผู้ป่วยใน 2) ซักประวัติจากผู้คลอดการวิเคราะห์ข้อมูล พยาธิสภาพ อาการและอาการแสดง การรักษา วิเคราะห์ข้อมูลตามแบบแผนสุขภาพ 11 แบบแผน (Gordon, 1994)ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลโดยใช้ กระบวนการพยาบาล ผลการศึกษา : กรณีศึกษามารดาตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงรับจากคลินิคฝากครรภ์ด้วยความ ดันโลหิตสูง ประวัติปวดศรีษะมา 1 วัน ที่ห้องคลอดมีภาวะความดันโลหิตสูง สิ้นสุดการตั้งครรภ์โดยการผ่าตัด คลอดรักษาในโรงพยาบาล 5 วัน