The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานครูเทศบาล วฐ.2/1 เพื่อให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ฉบับนี้เป็นเอกสารประกอบการรายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ของข้าพเจ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขอรับการประเมินเพื่อให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ ข้าพเจ้าได้สรุปผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ตลอดช่วงระยะเวลาปีการศึกษา ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ (ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ – ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๔) รวมระยะเวลา ๒ ปี เพื่อนำเสนอผลการปฏิบัติงาน สำหรับใช้ประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Janchai Pokmoonphon, 2021-11-21 09:39:19

รายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานครูเทศบาล เพื่อให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ครูสุริยา วงษ์ที

รายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานครูเทศบาล วฐ.2/1 เพื่อให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ฉบับนี้เป็นเอกสารประกอบการรายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ของข้าพเจ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขอรับการประเมินเพื่อให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ ข้าพเจ้าได้สรุปผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ตลอดช่วงระยะเวลาปีการศึกษา ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ (ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ – ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๔) รวมระยะเวลา ๒ ปี เพื่อนำเสนอผลการปฏิบัติงาน สำหรับใช้ประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ

Keywords: สุริยา,เชี่ยวชาญ

แบบรายงานทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ัตหิ น้าที่
ของพนกั งานครูเทศบาล เพ่อื ให้มหี รอื เล่ือนวทิ ยฐานะ

ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูเชย่ี วชาญ

นางสุริยา วงษ์ที
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ

โรงเรยี นเทศบาล 4 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบรุ ี
สังกดั กองการศกึ ษา เทศบาลเมอื งลพบุรี
อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี



คำนำ

รายงานผลงานทีเ่ กิดจากการปฏิบตั หิ น้าทขี่ องพนกั งานครูเทศบาล วฐ.2/1 เพ่อื ให้มีหรือเลื่อนวิทย
ฐานะครูเชี่ยวชาญ ฉบับนี้เป็นเอกสารประกอบการรายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ของข้าพเจ้า
ซง่ึ เป็นส่วนหน่ึงของการขอรบั การประเมนิ เพ่ือให้มีหรือเลือ่ นวิทยฐานะ ครเู ช่ียวชาญ ขา้ พเจ้าไดส้ รุปผลงาน
ที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ตลอดช่วงระยะเวลาปีการศึกษา ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ (ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา
๒๕๖๒ – ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๔) รวมระยะเวลา ๒ ปี เพ่ือนำเสนอผลการปฏิบตั งิ าน สำหรบั ใช้
ประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ เอกสารเลม่ นปี้ ระกอบด้วย

๑. ขอ้ มลู ผขู้ อรบั การประเมนิ
๒. การปฏิบตั งิ านในปที ข่ี อรับการประเมนิ
๓. รายงานผลงานทีเ่ กิดจากการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี

๓.๑ ผลการปฏบิ ตั งิ าน
๓.๑.๑ ผลงานตามหน้าท่ีและความรบั ผดิ ชอบตามมาตรฐานตำแหน่งและ
มาตรฐานวิทยฐานะ
๓.๑.๒ ผลงานตามลักษณะงานทป่ี ฏบิ ตั ิตามมาตรฐานและคุณภาพ
การปฏิบตั งิ านตามมาตรฐานวิทยฐานะ
๓.๑.๓ ผลทีเ่ กดิ กับผเู้ รียน
๓.๑.๔ ผลที่เกิดกบั สถานศึกษาและชมุ ชน

๓.๒ ผลงานทางวชิ าการที่ขอรบั การประเมนิ
๔. ผลงานด้านวิจัยหรือวิทยานิพนธ์ที่เคยเสนอเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา เพื่อขอรับปริญญาหรือ
ประกาศนียบัตร หรอื เปน็ ส่วนหนงึ่ ของการฝึกอบรม
๕. ผลงานทางวชิ าการท่ีเคยไดร้ ับอนุมัติ เพ่ือกำหนดตำแหน่งและแตง่ ต้ังให้ได้รบั เงนิ เดือนใน

ระดบั ทส่ี งู ขึ้น หรือใหม้ ีวิทยฐานะหรือเลอื่ นเป็นวิทยฐานะทสี่ งู ขึน้
๖. การเผยแพรผ่ ลงานทางวชิ าการ

ภาคผนวก

ข้าพเจ้าขอขอบคุณ ผู้บังคับบัญชาที่ให้การช่วยเหลือในการให้คำปรึกษา แนะนำในการปฏิบัติงาน
ด้วยดีตลอดมา อีกทั้งคณะครู นักเรียน หน่วยงาน ผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุน ให้กำลังใจ ให้
ความรว่ มมอื ในการพัฒนาคุณภาพการปฏิบตั งิ านจนสำเร็จลลุ ว่ งไปดว้ ยดแี ละขอขอบพระคุณคณะกรรมการ
ผู้ประเมินผลการปฏิบัติงานทุกท่าน ที่ได้เสียสละเวลาอันมีค่าในการตรวจและประเมินรายงานผลงานที่เกดิ
จากการปฏิบตั ิหนา้ ทใ่ี นการใหม้ ีหรือเลอ่ื นวิทยฐานะครงั้ นี้

ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้

สุริยา วงษท์ ี



สารบัญ

หน้า
แบบรายงานผลงานท่ีเกดิ จากการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี (วฐ 2/1)…………………………………………………….. 1
1. ข้อมูลผู้ขอรับการประเมิน……………………………………………………………………………………………. 1
2. การปฏิบตั ิงานในปีที่ขอรับการประเมิน………………………………………………………………………….. 1
3. รายงานผลงานท่เี กดิ จากการปฏบิ ตั หิ น้าท.่ี ............................................................................... ๖

3.1 ผลการปฏิบัติงาน…………………………………………………….…………………………………………. ๖
3.1.1 ผลงานตามหนา้ ทแี่ ละความรับผิดชอบตามมาตรฐานตำแหน่งและ
มาตรฐานวทิ ยฐานะ………………………………………………………………………………. ๖
3.1.2 ผลงานตามลกั ษณะงานทปี่ ฏิบัติตามมาตรฐานและคณุ ภาพการปฏบิ ตั งิ าน
ตามมาตรฐานวทิ ยฐานะ………………………………………………………………………… 2๒
3.1.3 ผลท่เี กดิ กบั ผเู้ รียน………………………………………………………………………………. ๔๐
3.1.4 ผลทีเ่ กดิ กับสถานศกึ ษาและชุมชน………………………………………………………… 4๔

3.2 ผลงานทางวิชาการท่ขี อรับการประเมิน………………………………………………………………… 4๙
4. ผลงานด้านวจิ ัยหรอื วิทยานพิ นธ์ที่เคยเสนอเปน็ สว่ นหนง่ึ ของการศกึ ษา เพอ่ื ขอรบั ปรญิ ญาหรอื
ประกาศนียบัตร หรือเป็นสว่ นหน่ึงของการฝึกอบรม……………………………………………………………. ๔๙
5. ผลงานทางวิชาการทเ่ี คยได้รบั อนุมัติ เพ่ือกำหนดตำแหนง่ และแตง่ ต้ังให้ได้รับเงนิ เดือนใน
ระดับที่สูงขึน้ หรือใหม้ ีวิทยฐานะหรอื เล่ือนเป็นวิทยฐานะท่สี ูงข้ึน………………………………………….. ๔๙
6. การเผยแพรผ่ ลงานทางวชิ าการ……………………………………………………………………………………. ๕๐
ภาคผนวก…………………………………………………………………………………………………………………….... 5๒

วฐ.๒/๑

แบบรายงานผลงานทเี่ กิดจากการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ 2/1

ของพนกั งานครูเทศบาลเพอื่ ให้มหี รือเล่ือนวทิ ยฐานะเชย่ี วชาญ

วทิ ยฐานะที่ขอเล่อื น ครเู ช่ยี วชาญ

........................................................................................................................................................................

1. ข้อมูลผู้ขอรับการประเมนิ

ช่อื -สกุล นางสรุ ยิ า วงษท์ ี อายุ ๔๗ ปี อายรุ าชการ ๑๖ ปี

คณุ วุฒิสงู สดุ ปรญิ ญาโท ครศุ าสตรมหาบณั ฑติ สาขา การบริหารการศกึ ษา

จากสถาบันการศกึ ษา มหาวิทยาลัยราชภฏั เทพสตรี จังหวดั ลพบรุ ี

ปรญิ ญาตรี ครุ ศุ าสตรบณั ฑิต สาขาวชิ า วทิ ยาศาสตรท์ ั่วไป

มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี จงั หวัด ลพบรุ ี

ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการพิเศษ ตำแหนง่ เลขที่ 51-2-08-๖-๕-0๐๓๖๔ สถานศึกษา

โรงเรียนเทศบาล 4 ระบบสาธติ เทศบาลเมืองลพบุรี เทศบาลเมอื งลพบรุ ี จังหวัดลพบรุ ี

รับเงนิ เดือน อันดับ คศ.๓ อตั รา ๓๓,๗๘๐ บาท

๒. การปฏิบัตงิ านในปที ่ีขอรบั การประเมนิ

สายงานการสอน

๒.๑ ปฏิบัติการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาตอนต้น

จำนวน ๒๔ ชัว่ โมงตอ่ สัปดาห์ ในปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ ตามรายละเอียดดังน้ี

ปีการศึกษา ภาคเรยี น รายวิชาทสี่ อน ระดบั ชั้น ช่วั โมง

๒๕๖๒ ปฏบิ ตั กิ ารทางวิทยาศาสตรช์ ีวภาพ ม.๑ ๒
ม.๒ ๖
๒๕๖๓ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ม.๒ ๑๒
ม.๒ ๑
วทิ ยาศาสตร์ ๔ ม.๒ ๑
ม.๒ ๑
ภาคเรยี นท่ี ๒ กจิ กรรมลกู เสือ/เนตรนารี ม.๒ ๑
๒๔
กจิ กรรมชมุ นมุ ของเล่นเชิงวิทย์ ม.๑ ๒
ม.๒ ๖
กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลารู้ ม.๒ ๑๒
ม.๒ ๑
กิจกรรมโฮมรมู ม.๒ ๑
ม.๒ ๑
รวมช่ัวโมงสอน ม.๒ ๑
2๑
ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ม.๑ ๒
ม.๒ ๖
เรมิ่ ตน้ โครงงานวิทยาศาสตร์ ม.๒ ๑๒
ม.๒ ๑
วิทยาศาสตร์ ๓

ภาคเรียนท่ี ๑ กจิ กรรมลูกเสือ/เนตรนารี

กิจกรรมชุมนมุ ของเลน่ เชิงวิทย์

กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิม่ เวลารู้

กิจกรรมโฮมรมู

รวมช่ัวโมงสอน

ปฏบิ ตั กิ ารทางวทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ

ภาคเรยี นท่ี ๒ โครงงานวทิ ยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์ ๔

กิจกรรมลกู เสือ/เนตรนารี

ปกี ารศกึ ษา ภาคเรียน รายวิชาท่สี อน ระดับชั้น 2

๒๕๖๔ กิจกรรมชุมนมุ ของเลน่ เชิงวทิ ย์ ม.๒ ช่วั โมง
ม.๒
กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ม.๒ ๑

กิจกรรมโฮมรมู ม.๑ ๑
ม.๒ ๒๔
รวมช่วั โมงสอน ม.๒ ๔
ม.๒ ๔
ทักษะกระบวนการทางทยาศาสตร์ ม.๒ ๑๒
ม.๒ ๑
เรมิ่ ตน้ โครงงานวิทยาศาสตร์ ม.๒ ๑

ภาคเรยี นท่ี ๑ วทิ ยาศาสตร์ ๓ ๑
๒๔
กิจกรรมลกู เสอื /เนตรนารี

กิจกรรมชมุ นมุ ของเล่นเชิงวทิ ย์

กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพิม่ เวลารู้

กิจกรรมโฮมรมู

รวมช่วั โมงสอน

๒.๒ จำนวนช่ัวโมงที่สอน
ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ (ภาคเรยี นท่ี ๒) จำนวน ๒๔ ชวั่ โมง/ สัปดาห์
ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ (ภาคเรียนท่ี ๑) จำนวน ๒๔ ชว่ั โมง/ สปั ดาห์
ปีการศึกษา ๒๕๖๓ (ภาคเรียนที่ ๒) จำนวน ๒๔ ชั่วโมง/ สปั ดาห์
ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔ (ภาคเรียนที่ ๑) จำนวน ๒๔ ช่วั โมง/ สัปดาห์

๒.๓ ปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ครูที่ปรกึ ษา
ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒/๑ จำนวนนักเรยี น ๓๔ คน
ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๒/๑ จำนวนนกั เรยี น ๓๓ คน
ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๒/๓ จำนวนนกั เรยี น ๓๔ คน

ในฐานะของครูที่ปรึกษาข้าพเจ้ามีหน้าท่ีดูแลผู้เรียนให้มีความปลอดภัยในการดำรงชีวิตอยู่ในโรงเรียน
สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพของโรงเรียนให้กับผู้เรียนและผู้ปกครอง ติดต่อประสานกับผู้ปกครองโดยการ
ประชุมผู้ปกครองนักเรียนและนัดหมายเยี่ยมบ้านเพ่ือพูดคุยเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้เรียน แจ้งข้อมูล
ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนและผู้ปกครอง ศึกษาข้อมูลพื้นฐานครอบครัวของผู้เรียน เพื่อเป็นการ
ช่วยเหลือผู้เรียนได้อย่างถูกต้อง ถูกวิธี และพัฒนาผู้เรียนได้เต็มตามศักยภาพของแต่ละคน และดูแล ใน
เร่อื งทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับการพัฒนาผเู้ รยี นใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐานพุทธศกั ราช
๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ซึ่งเริ่มใช้ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ สนองวิสัยทัศน์ของโรงเรียน ตลอดจน
พัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้ที่มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานและ
หลกั สตู รสถานศึกษา ภาระงานท่รี ับผดิ ชอบในฐานะครทู ีป่ รกึ ษาคือ

2.3.1 งานธุรการประจำช้นั
- งานธุรการประจำชั้น จัดทำเอกสารประจำชั้น บันทึกกิจกรรมโฮมรูม บันทึกสถิติการมา

เรียนของนกั เรียน สมุด ปถ.05 และ ปถ.06
- แบบบนั ทกึ เข้าสอนของครรู ายชั่วโมง

3

2.3.2 งานอบรมผเู้ รยี น ได้ปฏิบตั หิ น้าทใี่ นการอบรม ดงั น้ี
- จัดระเบียบในการเข้าแถว การร่วมกิจกรรมหน้าเสาธง การเคารพธงชาติ และสวดมนต์

ไหวพ้ ระทกุ วัน
- สำรวจนักเรียนที่มาสาย ไม่ทันเข้าแถวเคารพธงชาติ อบรมนักเรียนที่มาสายให้รู้จัก

การวางแผนเวลาในการเดินทางมาโรงเรยี น การปรับกจิ วัตรประจำวนั ให้มาโรงเรยี นตรงตอ่ เวลา
- ตรวจความเรียบรอ้ ยของเครอ่ื งแต่งกายใหถ้ ูกระเบียบ ตรวจความสะอาดของร่างกาย
- พบปะพูดคุยกับนักเรียนในตอนเช้าคาบโฮมรูมก่อนเรียนชั่วโมงแรกทุกวัน เพื่อชี้แจง

อบรมความประพฤติ แจ้งข่าวสารของโรงเรยี น เน้นย้ำการใช้สื่อเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ การใช้โทรศัพท์
ภายในโรงเรียนต้องทำให้ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียน ดูแลความสะอาดภายในห้องเรียนให้พร้อม ต่อ
การเรียน สอบถามการวางแผนในการเตรียมตัวเพื่อศึกษาต่อในระดับต่อไป สอบถามดูแลนักเรียนที่มี
พฤติกรรมเสี่ยงหรือมีปัญหาในการเรียนเกี่ยวกับการสอบซ่อม เรียนซ้ำ การส่งงานที่ได้รับมอบหมาย
และการเตรียมความพรอ้ มในการเรยี นแต่ละวัน

- สรา้ งข้อตกลงร่วมกัน เพ่ือกอ่ ใหเ้ กิดวินัย ความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อยของหอ้ งเรยี น
- แบ่งกลุ่มรับผิดชอบการจัดทำป้ายนิเทศ กระดานข่าว จัดตารางเวรทำความสะอาด
หอ้ งเรยี น ใหน้ ่าอยู่และเปน็ แหลง่ เรยี นรู้ตามเหตุการณป์ ัจจบุ ัน
- การดูแลรักษาความสะอาดบริเวณโรงเรียนและทรัพย์สมบัติของโรงเรียน การเปิด-ปิด
เครือ่ งปรับอากาศให้ตรงตามตารางการใชเ้ คร่ืองปรบั อากาศ
- การปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น การเลือกคบเพื่อน การรู้จักบทบาทหน้าที่ของ
ตนเอง
2.3.3 งานควบคมุ ดแู ล และสังเกตพฤตกิ รรม
ได้ควบคุม ดูแล และสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนในขณะจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งในและ
นอกห้องเรยี น ดงั นี้
- ดูแลความพรอ้ มและความสนใจของผูเ้ รยี นในการเรียน
- การตรงตอ่ เวลา ดแู ลการเข้าเรียนของผู้เรยี นอยา่ งสม่ำเสมอ
- การขาดเรยี นของผ้เู รยี น จะตอ้ งมเี หตุผล และติดตามผเู้ รยี นท่ีขาดเรียน ถา้ มีพฤติกรรม
เสย่ี งหรอื ผดิ สงั เกตไปจากเดมิ จะตดิ ตามเฝ้าระวังพรอ้ มท้ังประสานไปยงั ครทู ี่ปรกึ ษาและผูป้ กครองทนั ที
- การประพฤติตนต่อครู ผู้ปกครอง บุคคลในชุมชน และผู้มาเยี่ยมโรงเรียนต้องมีความ
อ่อนน้อมถ่อมตน การแสดงความเคารพ การพูดจาให้ไพเราะอ่อนหวาน การสอนทุกครั้งจะสอดแทรก
คณุ ธรรมและยกตัวอย่างสถานการณป์ ัจจุบนั ที่ผู้เรียนสามารถนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้
2.3.4 ให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษาทั้งด้านการศึกษา ปัญหาส่วนตัว ปัญหาสุขภาพ และความประพฤติ
ของผ้เู รียน อยา่ งทว่ั ถึงและสม่ำเสมอ ในฐานะครทู ีป่ รกึ ษา ออกเยยี่ มบา้ นผ้เู รยี นทกุ คน ควบคมุ ดูแล สงั เกต
พฤติกรรม และใชจ้ ิตวทิ ยาเพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นเกิดความไวว้ างใจ ทำใหท้ ราบข้อมูลของผู้เรียน
- ทำการตรวจสุขภาพ ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ทดสอบสายตา เพื่อทราบพัฒนาการ
ที่เหมาะสมกับเพศและวัยของผู้เรียน และทำให้สามารถจัดตำแหน่งที่นั่งเรียนของผู้เรียนได้อย่างเหมาะสม
ตามความพรอ้ มและความสนใจ
- ประสานงานกับผู้ปกครอง โดยสร้างระบบเครือข่ายระหว่างครู ผู้ปกครอง และผู้เรียน
เพื่อให้เกิดสัมพันธภาพที่ดี อันจะนำไปสู่ความร่วมมือในการหาทางป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิด
กบั ผ้เู รียนได้

4

- ติดตามดูแลความปลอดภัยในการดำรงชีวิตอยู่ภายในโรงเรียนของผู้เรียนตั้งแต่เดินทาง
จากบา้ นเพื่อมาโรงเรยี นจนกระทั่งเดนิ ทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย

2.3.5 ติดต่อประสานงานกับผู้ปกครองของผู้เรียน ที่เกี่ยวข้องกับความประพฤติของผู้เรียน
เพื่อให้ผู้ปกครองได้ทราบถึงความเป็นอยู่ของบุตรหลานในโรงเรียน และสร้างความคุ้นเคยกับครูที่ปรึกษา
และคณะครู โดยการเชิญผู้ปกครองมาร่วมกิจกรรมกับโรงเรียน เช่น ประชุมผู้ปกครอง และกิจกรรมต่างๆ
ทที่ างโรงเรยี นขอความรว่ มมอื

2.4 กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนท่รี บั ผดิ ชอบ
2.4.1 กจิ กรรมชุมนมุ ของเลน่ เชงิ วิทย์ ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ จำนวน ๑ ชัว่ โมง/ สัปดาห์ ทำ

หน้าท่ีจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมศักยภาพและความสนใจของผู้เรียน จัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็น
ผูส้ รา้ งองค์ความรู้

๒.๔.๒ กิจกรรมลูกเสือ - เนตรนารี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๑ ชั่วโมง/ สัปดาห์ ทำ
หนา้ ทเ่ี ป็นรองผูก้ ำกับลกู เสือกองที่ 4 กลุม่ ที่ 4 สอนวิชาลกู เสือ เนตรนารี สามญั รนุ่ ใหญ่ และวชิ าพเิ ศษของ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทำให้ลูกเสือ–เนตรนารี มีระเบียบวินัย พัฒนาคุณภาพของตนเองให้
เหมาะสมได้อยา่ งชดั เจน

๒.๔.๓ กิจกรรมลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลารู้ ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ จำนวน ๑ ชัว่ โมง/ สัปดาห์
ทำหน้าทเ่ี ปน็ ทีป่ รึกษาและคอยอำนวยความสะดวก ให้ผู้เรยี นไดแ้ สวงหาความรู้ดว้ ยตวั เอง ทัง้ ในห้องเรยี น
และนอกหอ้ งเรยี นตามความถนดั ความสนใจ อย่างมคี วามสขุ และสนกุ กับการเรียนรู้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ

2.5 หน้าทท่ี ีไ่ ด้รบั มอบหมายเป็นพิเศษ
ได้ปฏิบตั หิ นา้ ที่ท่ไี ด้รบั มอบหมายเป็นพิเศษภายในโรงเรยี นดังนี้
๒.๕.๑ รับผิดชอบโครงการวันเยาวชนแห่งชาติประจำปี ประชุมวางแผน จัดเตรียมกิจกรรมต่างๆ

ดำเนนิ การประสานงานในการสรรหาเยาวชนดีเดน่ และบันทกึ รวบรวมขอ้ มลู การส่งสรปุ โครงการ
๒.๕.๒ เป็นคณะกรรมการกจิ การนักเรียน รบั ผดิ ชอบประสานการจัดกิจกรรมกับหัวหน้าสายชั้น

การดแู ลนักเรยี นในการเข้าอบรมนกั เรียนประจำสปั ดาห์และ ร่วมมอื กบั หวั หน้าโครงการกจิ การนกั เรียนใน
การดแู ลนักเรียนทำกิจกรรมของนกั เรียน

๒.๕.๓ เปน็ คณะกรรมการงานแผนงานโรงเรยี น รบั ผดิ ชอบตรวจสอบความถูกตอ้ งของข้อมลู การ
นำเสนอโครงการ รวบรวมสรปุ โครงการและบนั ทึกขอ้ มลู การส่งสรปุ โครงการ

๒.๕.๔ รับผิดชอบโครงการจัดซื้อวัสดุฝึกและสื่ออุปกรณ์สาระการเรียนรู้ชีววิทยา กำกับ ติดตาม
ประเมินผลการดำเนินโครงการ และบันทึกข้อมูลการส่งสรปุ รายงานผลการดำเนินโครงการ

๒.๕.๕ เป็นคณะกรรมการกลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รบั ผดิ ชอบงานบคุ ลากร
ประจำกล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

2.5.๖ เป็นคณะกรรมการงานแผนงาน/โครงการ รับผิดชอบ ติดตาม ตรวจสอบความถูกต้องของ
ข้อมูล การเสนอโครงการ เอกสารประเมินและสรุปโครงการต่างๆของกลุ่มสาระการเรียนรู้พลศึกษาตาม
แผนปฏบิ ตั ิงานของโรงเรียนให้สง่ ครบตามกำหนด

๒.๕.๗ เลขานกุ ารคณะกรรมการตวั บ่งชที้ ี่ ๕ งานประกันคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานกรม
ส่งเสรมิ การปกครองทอ้ งถิ่น กระทรวงมหาดไทย

2.5.๘ คณะกรรมการจดั ทำเอกสารตัวบ่งชที้ ี่ ๕ งานประกนั คณุ ภาพ
2.5.๙ คณะกรรมการงานพฒั นาหลักสูตรสถานศึกษา

5

2.5.๑๐ คณะกรรมการจัดทำหลกั สตู รสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
2.5.๑๑ เป็นคณะกรรมการการเงินและบัญชี รับผิดชอบการตรวจสอบความถูกต้องของใบเสร็จ
ค่าชุดนักเรียนและค่าอุปกรณ์การเรียน พร้อมทั้งเป็นผู้เบิกจ่ายเงินค่าชุดนักเรียนและค่าอุปกรณ์การเรียน
ให้กับนักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒
2.5.๑๒ รับผิดชอบดำเนินการฝึกสอนนักเรียนเข้าร่วมโครงการเด็กเก่งท้องถิ่น กลุ่มสาระการ
เรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ และระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕
2.5.๑๓ รับผดิ ชอบโครงการ และมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมต่างๆ ของโรงเรยี น คือ

2.5.๑๓.1 โครงการพฒั นาทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
2.5.๑๓.2 โครงการพัฒนาการเรยี นการสอนสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ระดบั ชน้ั
มธั ยมศึกษาปีที่ ๑-๓
2.5.๑๓.3 โครงการคา่ ยเยาวชนวทิ ยาศาสตร์สัมพันธ์
2.5.๑๓.4 โครงการจดั ซอื้ หนงั สอื เรยี นปีการศกึ ษา 256๓
2.5.๑๓.5 โครงการแจกเงินคา่ เครอื่ งแบบนักเรยี น
2.5.๑๓.6 โครงการแจกเงินค่าอปุ กรณก์ ารเรียน
2.5.๑๓.๗ โครงการกีฬาสภี ายในโรงเรยี น
2.5.๑๓.๘ โครงการส่งเสริมความเปน็ เลิศทางวิชาการ/กจิ กรรมแข่งขนั คนเก่งในโรงเรียน
ท้องถิ่นระดับประเทศ/แข่งขันทักษะวิชาการงานมหกรรมการจัดการศึกษาท้องถิ่นระดับภาคกลางและ
ระดบั ประเทศ
2.5.๑๓.๙ โครงการยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
2.5.๑๓.1๐ โครงการจัดทำแบบทดสอบประจำปี 256๓
2.5.๑๓.1๑ โครงการวิจยั เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
2.5.๑๓.1๒ โครงการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารการพฒั นาหลกั สตู รสถานศึกษา
2.5.๑๓.1๓ โครงการนิเทศการสอนภายในโรงเรียน
2.5.๑๓.1๔ โครงการวนั สำคญั ทางพระพทุ ธศาสนา
2.5.๑๓.1๕ โครงการรับน้องส่อู อ้ มอก ท.4
2.5.๑๓.1๖ โครงการค่ายคุณธรรม ม.1-ม.6
2.5.๑๓.1๗ โครงการสบื สานภมู ิปญั ญา รกั ษาวัฒนธรรม รว่ มกันอนรุ ักษ์ประเพณี
ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1-6
2.5.๑๓.1๘ โครงการเรียนรู้ เชิดชู ศิลปินถ่นิ ละโว้ธานี ม.1-ม.6
2.5.๑๓.๑๙ โครงการพิธีไหวค้ รูและมอบทุนการศกึ ษา
2.5.๑๓.2๐ โครงการวันเฉลมิ พระชนมพรรษารัชกาลท่ี 10
2.5.๑๓.2๑ โครงการจดั ทำแผนปฏบิ ตั ิการประจำปีงบประมาณ 256๓
2.5.๑๓.2๒ โครงการแสดงผลงานทางวชิ าการเปดิ บ้าน ท.4
2.5.๑๓.2๓ โครงการระบบดแู ลช่วยเหลือนกั เรียน
2.5.๑๓.2๔ โครงการทำบญุ ตกั บาตรวนั ขน้ึ ปใี หม่ 256๓
2.5.๑๓.2๕ โครงการวนั เด็กแห่งชาติ
2.5.๑๓.2๖ โครงการอำลาสถาบนั และปจั ฉิมนิเทศ
2.5.๑๓.2๗ โครงการปฐมนิเทศนกั เรียนใหม่และผูป้ กครอง
2.5.๑๓.๒๘ โครงการวันเยาวชนแหง่ ชาติ

6

2.5.๑๓.๒๙ โครงการผปู้ กครองเย่ียมโรงเรยี น
2.5.๑๓.3๐ โครงการส่งเสริมประเพณลี อยกระทง
2.5.๑๓.3๑ โครงการพัฒนาสายช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒
2.5.๑๓.3๒ โครงการสืบสานงานแผน่ ดินสมเดจ็ พระนารายณ์
2.5.๑๓.3๓ โครงการพัฒนาการเรยี นรสู้ ู่ประชาคมอาเซยี น
2.5.๑๓.3๔ โครงการส่งเสริมงานประเพณีท้องถิ่น/กิจกรรมส่งเสริมงานฤดูหนาว/
กจิ กรรมสง่ เสริมงานประเพณีสงกรานต์
2.5.๑๔ ปฏิบัติหน้าที่ครูเวรปกครองประจำวันศุกร์ ทำหน้าท่ีดูแลระเบียบวินัย ความปลอดภัย
ของนักเรียนและการเดินแถวเข้าโรงเรียนของนักเรียนในช่วงเช้าบริเวณหน้าอาคารบ้านเรือนไทยและดูแล
ความปลอดภัยของนักเรียนบริเวณอาคาร ๖ ในช่วงพักกลางวัน ดูแลความปลอดภัยในการข้ามถนน
การเดินทางกลบั บ้านของนักเรียนบริเวณหลงั อำเภอเมอื งลพบุรใี นช่วงเยน็ หลงั เลิกเรียน
๒.๕.๑๕ ปฏิบัติหน้าที่ครูเวรสตรีในวันหยุดและวันนักขัตฤกษ์ ดูแลความเรียบร้อย ความปลอดภัย
ในบริเวณโรงเรียน ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้กบั ผู้มาใช้สถานทข่ี องโรงเรยี นในชว่ งวันหยดุ
๒.๕.๑๖ ปฏิบัตหิ น้าทเ่ี ป็นครูพเี่ ล้ียงนักศึกษาครุศาสตรบ์ ณั ฑิต (ชนั้ การฝกึ ปฏิบัติวิชาชีพครูระหว่าง
เรียน ๑) มหี น้าท่ดี แู ล แนะนำใหค้ ำปรกึ ษา สร้างประสบการณเ์ กีย่ วกบั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรใู้ นรายวชิ า
วิทยาศาสตร์
2.5.๑๗ ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้เก็บรวมรวม สรุปผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรมของกลุ่ม
สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อส่งมอบให้กับฝ่ายแผนงาน/โครงการ สำหรับการประเมิน
คุณภาพภายในของโรงเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้รับมอบหมายให้ดำเนนิ การ
เก็บรวบรวมข้อมูลและนำเสนอข้อมูลประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาในมาตรฐาน ๓ กระบวนการ
จัดการเรยี นการสอนทเี่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ จำนวน 3 ตวั ช้วี ดั คอื
ตวั ชว้ี ัดที่ ๓.๓ มกี ารบรหิ ารจดั การช้นั เรยี นเชงิ บวก
ตัวช้วี ัดท่ี ๓.๔ ตรวจสอบและประเมนิ ผลผูเ้ รยี นอยา่ งเป็นระบบและนำผลมาพฒั นาผ้เู รียน
ตัวชี้วัดท่ี ๓.๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลป้อนกลับเพื่อปรับปรุงและพัฒนาการจัดการ

เรยี นรู้

ข้าพเจ้าได้เก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานในมาตรฐานที่ ๓.๕ เพื่อส่งให้งานบริหารวิชาการจัดทำ
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา(Self-Assessment Report :SAR ) ปีการศึกษา 256๒ และ
256๓

3. รายงานผลงานทเ่ี กิดจากการปฏบิ ัติหนา้ ท่ี
ข้าพเจ้าปฏิบัติหน้าที่ความรับผิดชอบตามมาตรฐานตำแหน่ง ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาผู้เรียน

ตรงตามวิชาเอกและความถนัด มีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพและเน้น
ผู้เรียนเป็นสำคัญตามมาตรฐานการศึกษา โดยพยายามหาเทคนิค กระบวนการและวิธีการสอนอย่าง
หลากหลายและเหมาะสมกับสาระนั้นๆ เช่น การศึกษานอกสถานที่จากสถานท่ีจริง และเน้นการเรียนการ
สอนแบบบูรณาการ โครงงาน เพื่อฝึกให้ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการกลุ่มในการร่วมกันแก้ไขปัญหา ตั้งแต่การ
เรม่ิ คิดวางแผนการทำงานเอง ลงมอื ปฏบิ ตั ิดว้ ยตนเอง และแก้ไขปัญหาร่วมกนั ซ่งึ เป็นกระบวนการที่ผู้เรียน
จะสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ ซงึ่ มีผลการปฏิบตั งิ านดงั ตอ่ ไปนี้

3.1 ผลการปฏบิ ัตงิ าน ดังน้ี
3.1.1 ผลงานตามหนา้ ทีแ่ ละความรับผดิ ชอบตามมาตรฐานตำแหนง่ และมาตรฐานวทิ ยฐานะ

7

ขา้ พเจ้าได้ปฏิบัติหนา้ ท่แี ละความรบั ผิดชอบตามมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวทิ ยฐานะ ดงั นี้
3.1.1.1 ปฏิบตั ิหน้าทีห่ ลักเก่ียวกับการจดั การเรยี นรู้
ในปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ ได้ปฏิบัตหิ นา้ ท่หี ลักในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และ

รับหน้าที่เป็นครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในภาคเรียนที่ ๑ ปฏิบัติการสอน
รายวิชาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชา เริ่มต้นโครงงาน
วิทยาศาสตร์ ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๒ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ๓ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ และภาค
เรยี นท่ี ๒ รายวิชาปฏิบัตกิ ารทางวทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ วิชาโครงงานวิทยาศาสตร์
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ๔ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ จากประสบการณ์ในการ
สอนระดับมัธยมศึกษา ตลอดระยะเวลา ๑๗ ปี ข้าพเจ้าจะมีการพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
โดยเข้ารับการอบรมในหลักสูตรที่จัดโดยสถาบันการศึกษา องค์กร หน่วยงานต่างๆ ตลอดจนการพัฒนา
บุคลากรของโรงเรียนเทศบาล ๔ ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี และนำความรู้ที่ได้รับมาพัฒนา
กระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษา พ.ศ. 2542 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ศึกษา
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) และแผนยุทธศาสตร์การ
ยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษามธั ยมศกึ ษา ตลอดจนนโยบายการพัฒนาการศึกษาของกรมสง่ เสรมิ การปกครอง
ทอ้ งถน่ิ และเทศบาลเมืองลพบรุ ี โดยดำเนนิ การดังน้ี

1) วิเคราะห์หลักสูตร โดยวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด ผลการเรียนรู้ ศึกษา
คำอธิบายรายวิชาในรายวิชาที่ทำหน้าที่ครูผู้สอนเพื่อเป็นแนวทางการสร้างคำอธิบายรายวิชาและกำหนด
โครงสรา้ งรายวชิ า

2) ดำเนินการวิเคราะห์ผู้เรียนในส่วนพื้นฐานการเรียนของผู้เรียนเพื่อนำมาเป็นข้อมูล
ในการจัดกจิ กรรมการเรียนรใู้ นรายวชิ าที่สอน ศกึ ษาความสนใจและความถนดั ของผู้เรียน

3) ข้าพเจ้าได้จัดทำแผนการเรียนรู้ซึ่งได้มาจากการศึกษาหลักสูตร วิเคราะห์หลักสูตร
วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ วิเคราะห์ผู้เรียน เพื่อจัดหน่วยการเรียนรู้ย่อย นำไปใช้ในการวางแผน
การจดั การเรียนรู้ โดยจดั ทำแผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ครบตามองค์ประกอบที่สำคญั คือ มาตรฐานการเรียนรู้
ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ สาระการเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ จุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรม
การเรียนรู้ สื่อและแหล่งการเรียนรู้ การเตรียมล่วงหน้าสำหรับครู การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
โดยพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ และเนื้อหาสาระ พัฒนาหรือสร้างส่ือ
การเรียนรูท้ ี่สอดคล้องกับกจิ กรรมการเรียนรู้ทีจ่ ดั และทำการสรา้ งเคร่ืองมือวัดและประเมินผลให้สอดคล้อง
กับจุดประสงค์การเรยี นรู้ ในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรูข้ ้าพเจ้าใช้กระบวนการจัดการเรียนรูแ้ ละ การ
จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวน GPAS 5 Steps ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 การเรียนรู้ตั้งคำถาม
(learning to Question) ขั้นที่ 2 การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search) ขั้นที่ 3 การ
เรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct) ขั้นที่ 4 การเรียนรู้เพื่อการสื่อสาร (Learning to
Communicate) และขั้นที่ 5 การเรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม (Learning to Service) ซึ่งเป็นกระบวนการ
ในการวางแผน การจัดการเรยี นรู้ที่เน้นให้นักเรยี นมสี ่วนร่วม หลังจากจัดทำแผนการจัด การเรียนรู้แล้วได้
นำเสนอผู้บริหารสถานศึกษาตรวจทาน ให้ความคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะก่อนนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้
ตอ่ ไป

ข้าพเจ้าได้ใช้รูปแบบการสอนและเทคนิคการสอนในรูปแบบที่หลากหลายเพื่อพัฒนา
ผเู้ รยี นให้ครอบคลมุ ทุกดา้ น ได้แก่ ดา้ นพุทธพิ สิ ัย ดา้ นทักษะพิสยั และด้านจิตพิสยั การจัดการเรียนรรู้ ปู แบบ

8

หนึ่งซึ่งข้าพเจ้าได้นำมาพัฒนาผู้เรียนโดยผ่านกระบวนการวิจัย ได้แก่ การพัฒนากระบวนการจัด
การเรียนรู้ SURIYA Model เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต่อการสร้างองค์ความรู้
ด้วยตนเอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียน
เทศบาล 4 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี ที่จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้
ของผู้เรียน ซึ่งใช้แนวคิดจากทฤษฎีการจัดการเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองและได้นำไปทดลองใช้ใน
การจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนมาแล้ว สามารถพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต่อ
การสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาวิทยาศาสตร์ให้สูงขึ้น
และสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาวิทยาศาตร์ของนักเรียน อีกทั้งยังมีสื่อที่มีประสิทธิภาพสามารถพัฒนา
ผเู้ รียนได้ตรงตามศกั ยภาพของผ้เู รยี นที่มีความแตกต่างกันไดใ้ นการจัดกระบวนการเรียนรู้ของข้าพเจ้าจะยึด
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) และหลักสูตร
สถานศึกษา โดยให้มีความสอดคล้องตามเจตนารมณ์แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช
2542 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒) ที่มุ่งเน้นการกระจายอำนาจทางการศึกษาให้ท้องถิ่นให้สถานศึกษา
มีบทบาทและมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องกา รของท้องถ่ิน
อีกทั้งยังจัดกระบวนการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า ทุกคนสามารถ
เรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ จัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงและได้
แสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเองอยา่ งต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยจัดโครงการให้นักเรียนเขา้ ร่วมตามความถนดั
และความสนใจ เช่นโครงการค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สัมพันธ์, โครงการพัฒนาทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์, กิจกรรมเรียนรู้วิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน, และกิจกรรมชุมนุม เป็นต้น มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มี
สมรรถนะที่สำคัญ 5 ด้าน ซึ่งได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถใน การ
แก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มีการใช้สื่อและนวัตกรรม
เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ทั้งที่ครูเป็นผู้ผลิตและให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการผลิตเอง กำหนดแหล่ง
เรียนรู้ กำหนดแบบวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รู้จุดอ่อน จุดแข็ง
ของตนเอง เพื่อการพัฒนาและนำไปสู่การสอนซอ่ มเสริม มีการจัดทำวิจัยในชัน้ เรียนเพื่อพัฒนาการจัดการ
เรียนรู้ และมีการรายงานผลการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ มีการอบรม พูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ บอกเล่า
เรื่องราวให้แง่คิดและคติธรรมกับผู้เรียน ให้ผู้เรียนสามารถปรับตัวอยู่ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ได้อย่างมั่นคงและมีความสุข ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์เพื่อให้ผูเ้ รียนได้เป็น
มนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ สอดคล้อง
ตามจุดหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐานปีพุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐)
สำหรับการวัดและการประเมินผล ข้าพเจ้ามีการวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริงตาม
ระเบียบของโรงเรียนเทศบาล 4 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี ว่าด้วยการประเมินการเรียนรู้ ตาม
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2560) ซึ่งเป็นกระบวนการตรวจสอบการ
เรียนรู้และพัฒนาการต่างๆ ของผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตร เพื่อนำไปใช้ปรับปรุง การ
เรียนการสอนให้ผู้เรียนบรรลุตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ และใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินผลการเรียน ข้าพเจ้า
มแี นวทางดำเนินการประเมนิ ผลการเรียนโดยแบง่ เป็น 3 ระยะคือ

1) วัดและประเมินผลก่อนการเรียนเรื่องใหม่ทุกครั้ง เพื่อประเมินความพร้อม วัดความรู้
พื้นฐานเดิม และประเมินความรอบรู้ในเรื่องที่จะเรียนก่อนเรียน โดยเน้นการประเมินในเรื่องที่จะทำ
การสอน เพื่อตรวจสอบความรู้ ทักษะของผู้เรียนในเรื่องที่จะเรียน แล้วนำข้อมูลที่ได้เป็นข้อมูลเบื้องต้น
ไปเปรียบเทียบผลการเรียนภายหลังการเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อดูพัฒนาการเรียนรู้เพ่ิม
ของผเู้ รียน

9

2) วัดและประเมินผลระหว่างเรียน เพื่อตรวจสอบพัฒนาการของผู้เรียนว่าบรรลุตาม
จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ตามแผนการเรียนรู้หรือไม่ แล้วนำผลการประเมินไปปรับปรุงแก้ไข และ
ส่งเสริมให้ผู้เรยี นไดพ้ ฒั นาการเรยี นร้ขู องตนเองไดส้ งู สดุ ตามศกั ยภาพ

3) วัดและประเมินผลปลายภาค เพื่อตรวจสอบความสำเร็จของผู้เรียนและประเมินผล
หลังเรียน นำไปเปรียบเทียบกับการประเมินก่อนเรียน เพื่อตรวจสอบผลการเรียนรู้ของผู้เรียน ตรงตาม
ตัวชี้วัดหรือไม่ ผู้เรียนมีพัฒนาการมากน้อยเพียงไร เมื่อวัดผลปลายภาคเรียน และนำคะแนนการประเมิน
ทั้งหมดรวมกัน เพื่อสรุปผลการเรียนตลอดภาคเป็นผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในรายวิชาที่สอน
เป็นผลให้กระบวนวัดและประเมินผลมีความเที่ยงตรง ผู้เรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัด
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ การอา่ น การเขียน และคดิ วเิ คราะห์ และผ่านการประเมนิ ทุกคน

ในการบนั ทกึ ผลการเรียนรู้ ขา้ พเจ้าทำการบันทกึ ผลหลังสอนทกุ คร้งั ซ่ึงใชว้ ิธกี ารบนั ทึกให้
ครอบคลุมทั้งด้านความรู้ (K) ทักษะกระบวนการ (P) และพฤติกรรมการเรียนของผู้เรียน (A) ได้เน้นให้เห็น
สภาพของบรรยากาศในชั้นเรียน และนำผลการประเมินพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับสมรรถนะสำคัญของ
ผู้เรียนมาประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีการบันทึกผลการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ การ
เรียนรู้ทุกข้อในเชิงปริมาณและคุณภาพ หากพบว่าผู้เรียนไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ ก็จะค้นหาสาเหตุหรือ
อุปสรรค พร้อมเสนอแนวทางแก้ไข เพื่อนำไปแก้ไข โดยใช้กระบวนการวิจัยในชั้นเรียนมาดำเนินการ
แก้ปัญหา ข้าพเจ้าจะคอยสอดส่อง ดูแลผู้เรียนอยู่เสมอ หากเจอปัญหาก็จะแก้ไขด้วยวิธีการที่หลากหลาย
บางครั้งกต็ อ้ งแกไ้ ขโดยการทำวจิ ยั ในชน้ั เรียนอยา่ งเปน็ ระบบ ดงั น้ี

ใช้กระบวนการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อแก้ปัญหาการเรียนรู้ ได้แก่ การพัฒนาชุดกิจกรรม
การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้กระบวนการการ
จัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps วิชาวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ และการพัฒนากระบวนการ
จัดการเรียนรู้ SURIYA Model เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต่อการสร้างองค์ความรู้
ด้วยตนเอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียน
เทศบาล 4 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาวิชา มีทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
สรา้ งความพึงพอใจต่อการเรียนวชิ าวทิ ยาศาสตร์ของผู้เรยี นใหม้ ากขน้ึ

สำหรับกรณีที่เนื้อหามีความเป็นนามธรรมสูง ทำให้ผู้เรียนเกิดความสับสนและไม่เห็น

การนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน เช่น เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ ข้าพเจ้าได้พัฒนารูปแบบการสอนเพ่ือ

แก้ปัญหาโดยสร้างชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้เพือ่ พัฒนาทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียน โดยใช้กระบวนการการจดั การเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps โดยจัดกิจกรรมท่ีพัฒนาความสามารถในการ

พัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบเป็นระบบ ๕

ขั้นตอนเพื่อให้นักเรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

ประกอบด้วย ข้นั ที่ 1 การเรยี นร้ตู ง้ั คำถาม (learning to Question) ขน้ั ท่ี 2 การเรียนรแู้ สวงหาสารสนเทศ
(Learning to Search) ขั้นที่ 3 การเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct) ขั้นที่ 4 การ
เรียนรู้เพื่อการสื่อสาร (Learning to Communicate) และขั้นที่ 5 การเรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม
(Learning to Service) พัฒนาผู้เรียนให้มีส่วนร่วมในการสร้างนวัตกรรมโดยใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์

เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่บูรณาการเนื้อหาวิชาได้อย่าง

หลากหลาย พัฒนากระบวนการคิดแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นทักษะหนึ่งที่สำคัญในการดำเนินชีวิตและ
การประกอบอาชีพในอนาคต ผลการวิจัยพบว่า ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์

10

ทางการเรียนที่สูงขึ้น มีสมรรถะที่จำเป็นตามหลักสูตร ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อวิชาวิทยาศาสตร์อยู่ใน

ระดับมาก ผู้เรยี นเกดิ ความสนใจในการเรียนรู้และตัง้ ใจเรียนมากย่ิงขนึ้ เนือ่ งจากเป็นกจิ กรรมทผี่ ู้เรียนได้วาง

แผนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบเพื่อแก้ปัญหาในสิ่งที่สงสัย ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจในผลงานของกลุ่ม ได้

เรียนร้กู ระบวนการทำงานเปน็ ทมี อยา่ งเปน็ ระบบและมีประสิทธภิ าพ

คุณภาพของงานสอน
ผลจากการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามศักยภาพ
มีนิสัยใฝ่รู้ ใฝ่เรียน รักการทำงาน มีคุณธรรม จริยธรรมที่ดีงาม มีความสุขในการเรียน ผ่านการประเมิน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน รวมทั้งมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีขึ้น ทำให้ผ่านการวัดผลประเมินผลตามเกณฑ์ท่ี
โรงเรียนกำหนด การปฏบิ ตั งิ านในหน้าทอ่ี ย่างเตม็ ตามศกั ยภาพส่งผลให้เกดิ การพฒั นาตอ่ ตนเองและผู้เรียน
ดังน้ี
ผลงานดีเดน่ ของข้าพเจ้า

- ข้าพเจ้าได้รับรางวัลครูปฏิบัติการสอนดีเด่นแห่งปี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จาก
เทศบาลเมืองลพบรุ ี ปี พ.ศ. 255๖

- ขา้ พเจา้ ไดร้ บั รางวลั หน่ึงแสนครดู ี จากคุรสุ ภา ปี พ.ศ. 255๖
- ข้าพเจ้าได้เป็นผู้ฝึกสอนนักเรียนโครงการแข่งขันคนเก่งในโรงเรียนท้องถิ่น กลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ตามโครงการแข่งขันคนเก่งในโรงเรียนท้องถิ่นระดับประเทศ
ประจำปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
- ข้าพเจ้าได้เป็นผู้ฝึกสอนนักเรียนโครงการแข่งขันคนเก่งในโรงเรียนท้องถิ่น กลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ตามโครงการแข่งขันคนเก่งในโรงเรียนท้องถิ่นระดับประเทศ
ประจำปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๑

ผลงานดเี ด่นท่ีเกดิ กับผู้เรยี น

ครูผู้ดูแลนักเรียนโครงการแข่งขันคนเก่งในโรงเรียนท้องถิ่นระดับประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้

วิทยาศาสตร์ ดงั นี้

ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕

ปกี ารศกึ ษา 25๖๑ นายราเมศวร์ จนั รสั มี ได้รับเกียรตบิ ัตรเข้ารว่ ม

ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ นางสาวณัฐวิภาภรณ์ แกมทอง ได้รับเกยี รตบิ ัตรเขา้ ร่วม

ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๒

ปีการศกึ ษา 25๖๑ เด็กหญิงณฐั ชานันท์ ชวดภี ิญโญพงศ์ ได้รับเกียรตบิ ัตรเข้ารว่ ม

ปกี ารศกึ ษา 256๒ เดก็ หญิงอารยา ปรชี า ไดร้ บั เกยี รติบัตรเข้าร่วม

งานแขง่ ขนั ทกั ษะวิชาการ (ภาคกลาง)คร้งั ท่ี 14 ประจำปี 2561” เมอื งกาญจนว์ ชิ าการ 61”

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนต้น

ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ เดก็ หญงิ ชิดชนก ร่งุ พึง่ ไดร้ ับรางวลั เหรียญเงนิ

เด็กหญิงมกุ ลดา คำแสน ไดร้ บั รางวัลเหรียญเงนิ

เด็กหญงิ ฮาซานะฮ์ ทว้ มไทย ได้รับรางวัลเหรียญเงนิ

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

ปีการศึกษา ๒๕๖๑ นายฉตั รชัย พจนเลขา ไดร้ ับรางวลั เหรียญทอง

นางสาวสาธดิ า สัตตวัชรวงศ์ ไดร้ บั รางวลั เหรยี ญทอง

11

นางสาวสภุ าวดี น้อยหา ได้รับรางวลั เหรยี ญทอง

งานแข่งขันทักษะทางวิชาการ (ภาคกลาง) คร้ังที่ 15 ประจำปี 2562 สุพรรณบุรวี ชิ าการ’62

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาตอนต้น

ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ เดก็ หญงิ ญาณิศา กลิ่นจำปา ได้รบั รางวลั เหรยี ญเงิน

เด็กหญงิ ณฐั กานธ์ กล่ินระคนธ์ ไดร้ ับรางวลั เหรียญเงิน

เด็กหญงิ วิภาวี พบิ ลู ฤทธ์ิ ได้รับรางวัลเหรยี ญเงิน

โครงงานวิทยาศาสตร์ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ นางสาวทิตยิ า สมบรู ณ์ ไดร้ ับรางวลั เหรียญทอง

นางสาวพิชชานันท์ แย้มสคุ นธ์ ไดร้ ับรางวลั เหรียญทอง

นางสาวภทั รภร ตอนสุข ได้รบั รางวัลเหรียญทอง

งานแขง่ ขนั ทักษะวชิ าการระดบั ประเทศ ประจำปี ๒๕๖๒ ณ จังหวัดร้อยเอ็ด
โครงงานวิทยาศาสตรร์ ะดบั ช้ันมธั ยมศึกษาตอนปลาย

ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ นางสาวทิตยิ า สมบรู ณ์ ไดร้ ับรางวลั เหรียญทองรองชนะเลิศอันดับ ๒
นางสาวพชิ ชานันท์ แยม้ สคุ นธ์ ได้รับรางวลั เหรยี ญทองรองชนะเลิศอันดบั ๒
นางสาวภทั รภร ตอนสขุ ไดร้ บั รางวัลเหรียญทองรองชนะเลศิ อนั ดับ ๒

การแขง่ ขนั เน่อื งในงานสปั ดาหว์ ิทยาศาสตร์แหง่ ชาติ ณ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั เทพสตรี
การพูดทางวิทยาศาสตร์
ปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๘ นางสาวกานต์ธิดา ป้นั เอยี่ ม ไดร้ ับรางวลั รองชนะเลิศอันดับ 1
การแขง่ ขันตอบปัญหาทางวิทยาศาสตร์
ปกี ารศึกษา ๒๕๕๙ นางสาวภิญญดา วฒุ ชิ าญชยั กลุ ได้รับเกียรติบัตรเขา้ รว่ ม
นายสทิ ธโิ ชค แยม้ สวุ รรณ ได้รับเกยี รติบตั รเข้าร่วม

3.1.1.2 การสง่ เสรมิ การเรยี นรู้ การพัฒนาผูเ้ รยี น
เพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนการสอนในหลักสูตรให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ข้าพเจ้าได้จัดกิจกรรม

ส่งเสริมการเรียนรู้โดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ ส่งเสริมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ เน้นให้
ผู้เรยี นไดเ้ รียนรู้ตามความสนใจและความถนัดของผู้เรียน เนน้ กิจกรรมทผ่ี เู้ รียนได้ลงมือฝึกปฏบิ ัตจิ ริงโดยการ
คิดและหาคำตอบจากความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ จนเกิดการเรียนรู้ได้ด้วย
ตนเอง ส่งผลให้ผู้เรียนมีความรู้กว้างขวาง มีประสบการณ์ตรงในการทำงาน และช่วยพัฒนาค่านิยมให้ผู้เรียน
ได้รู้จักการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ข้าพเจ้าได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนา
ผู้เรียนดังตอ่ ไปนด้ี งั ตอ่ ไปน้ี

- พัฒนางานการเรียนการสอนของข้าพเจ้า โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่สามารถพัฒนา
ผู้เรียนได้จริงผู้เรียนมีการทำงานที่เป็นระบบสามารถประยุกต์ใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ขน้ั บูรณาการได้ดี เชน่ ทักษะการตัง้ สมมตฐิ าน ทกั ษะการกำหนดนิยามเชิงปฏบิ ัตกิ าร ทักษะการกำหนดและ
ควบคุมตัวแปร ทักษะการทดลอง ทักษะการตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป โดยข้าพเจ้านำความรู้
จากการศึกษาวิธีการสอนต่างๆที่ได้รับมาปรับรูปแบบการสอน มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริงและสอดแทรก
สถานการณ์ปัจจุบันหรือสิ่งที่ผู้เรียนให้ความสนใจเพื่อเร้าความสนใจ นำเทคนิคการสอนรูปแบบต่างๆ มาใช้
ในการเรียนรู้ เช่น กระบวนการจัดการเรียนรู้ SURIYA Model เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ ที่จำเป็นต่อการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระ
การเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนเทศบาล 4 ระบบสาธติ เทศบาลเมืองลพบุรี กระบวนการการ

12

จัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps การเรียนรู้แบบสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้แบบร่วมมือ
การเรียนรู้ที่ใช้กระบวนการแก้ปัญหาโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ การระดมสมองการเขียน Mind map
การกระตุ้นความคิดด้วยการใช้คำถาม การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน การใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์
การจัดการเรียนรู้ตามสภาพจริง การจัดกิจกรรมออกแบบและแก้ปัญหาโดยใช้ STEM ฯลฯ เพื่อให้เกิด
การพัฒนากับผู้เรียนโดยตรง ข้าพเจ้าได้สร้างสื่อและนวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อนำมาใช้ประกอบการเรียน
การสอน ซึ่งทำให้ผู้เรียนไม่เบื่อหน่ายและสนใจเรียนมากขึ้น รวมทั้งผู้เรียนสามารถตรวจสอบความรู้ของ
ตนเองได้ทันทีตามความสนใจ ไม่ต้องรอเฉพาะให้ครูสอนเท่านั้น เมื่อพบข้อบกพร่องผู้เรียนจะสังเกตตนเอง
และแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้นได้ตรงประเด็น รวมถึงผู้เรียนสามารถที่จะเรียนรู้ล่วงหน้าด้วยตนเองได้เช่นกัน
เพื่อเติมเต็มความรูไ้ ด้อยา่ งเตม็ ความสามารถ

- จัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ข้าพเจ้าได้วิเคราะห์ตัวชี้วดั
และพฤติกรรมบง่ ชี้ของคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทั้ง 8 ประการ รวมทั้งศึกษาข้อมลู พื้นฐานของผู้เรียน และ
กำหนดแนวทางการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ซึ่งได้ดำเนินการอบรมสั่งสอนผู้เรียนอย่าง
สม่ำเสมอทั้งในชั้นเรียนและนอกชั้นเรียนโดยการบูรณาการสอดแทรกในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ใน
ห้องเรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การจัดโครงการหรือกิจกรรมที่ส่งเสริมการพัฒนาคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) และ
สอดแทรกในกจิ วตั รประจำวันของโรงเรยี นเพื่อปลูกฝงั คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคใ์ หก้ ับนกั เรียนดังนี้

๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรวันปีใหม่ กิจกรรมวันสำคัญทางชาติ
ศาสนาและพระมหากษัตริย์ เช่น วันพ่อแห่งชาติ วันแม่แห่งชาติ วันเฉลิมพระชนมพรรษารัชกาลที่ ๑๐ วนั
วชิราวุธ วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา กิจกรรมหน้าเสาธง การเคารพธงชาติ การสวดมนต์
การถวายความเคารพและการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ส่งผลให้ผู้เรียนเป็นเยาวชนที่ดีของชาติ
มีความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย สามารถร้องเพลงชาติได้อย่างถูกต้อง และเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับ
สถาบนั ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์

๒. ซื่อสัตย์ สุจริต การจัดกิจกรรมโครงการคนดศี รีสงั คม ให้ผเู้ รียนทำความดแี ละลงบนั ทกึ
ความดี เพื่อเป็นสถิติและได้ลงชื่อในทะเบียนสำหรับผู้เรียนที่ทำความดี เช่น เก็บเงิน หรือของใช้อื่นๆ
พร้อมกับชมเชยผู้เรียนทันทีและชมเชยการทำความดีหน้าเสาธงส่งผลให้นักเรียนเห็นคุณค่าของการทำ
ความดี มคี วามซอ่ื สัตย์ สจุ ริต ไม่ถือเอาสิ่งของของผอู้ ่ืนมาเปน็ ของตนเอง

๓. มีวินัย จัดกิจกรรมสภานักเรียน กิจกรรมลูกเสือ กิจกรรมการเข้าแถวเคารพธงชาติ
การเดนิ แถวข้นึ ห้องเรียน การเดินแถวกลับบา้ น การเข้าแถวซอื้ อาหาร การสรา้ งข้อตกลงร่วมกันในห้องเรียน
ส่งผลให้นักเรียนเป็นคนมีระเบียบวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฏระเบียบของโรงเรียนและห้องเรียน สามารถ
ทำงานร่วมกบั ผูอ้ ่นื ได้อย่างมคี วามสุข

๔. ใฝ่เรียนรู้ จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน โดยช่วงเช้าทุกวันเวลา 7.30 น. จะมีกิจกรรม
อ่านข่าวให้ความรู้จากทีมงานสภานักเรียนผ่านเสียงตามสาย ในทุกๆเช้าก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติ
จัดกิจกรรมบันทึกรักการอ่าน ดำเนินการโดยให้ผู้เรียนทุกคนมีสมุดบันทึกการอ่าน สรุปความรู้ที่ได้จากการ
อ่านอย่างน้อยวันละ 1 เรื่อง ส่งผลให้ผู้เรียนตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมีความเพยี รพยายามในการเรยี นรู้ และ
สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ รู้จักแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก
โรงเรยี น สามารถนำความรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้

๕. อยู่อย่างพอเพียง จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะด้านอาชีพ เช่น ปลูกพืชผักสวนครัว การทำ
นำ้ ยาล้างจานชวี ภาพ การซอ่ มเครือ่ งใช้ไฟฟ้าอย่างงา่ ย การทำเจลนำ้ หอมปรับอากาศ การทำปุ๋ยมูลไส้เดือน
การทำส้มผัก หมักแหนม และไวน์ ส่งผลให้ผู้เรียนมีความรู้ในการประกอบอาชีพสามารถนำความรู้ที่ได้รับ

13

ไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ จริงได้ และรู้จกั ใช้ทรพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ เงนิ สิ่งของเคร่ืองใช้ อย่างประหยัดคุม้ ค่า ไม่เอา
เปรยี บผ้อู ่นื และไม่ทำใหผ้ ู้อ่ืนเดือดร้อน

๖. มุ่งมั่นในการทำงาน จัดกิจกรรมพัฒนาโรงเรียน โดยการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบดูแล
ความสะอาด ให้ผู้เรียนในแต่ละสายชั้นรับผิดชอบ จัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ในวันสำคัญโดยให้ผู้เรียน
เก็บขยะ ทำความสะอาดบริเวณโรงเรียนและชุมชนใกล้เคียง ส่งผลให้ผู้เรียนเอาใจใส่ต่อการปฏิบัติหน้าที่
ที่ได้รับมอบหมาย มีความรับผิดชอบ และตั้งใจในการทำงานให้สำเร็จ สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมี
ความสุข

๗. รักความเป็นไทย จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนและครูแต่งกายด้วยชุดไทยในงานแผ่นดินสมเด็จ
พระนารายณม์ หาราช ครูแต่งกายชดุ ผ้าไทยทกุ วนั องั คารเพ่ือเป็นแบบอย่างที่ดีในการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมไทย
กิจกรรมส่งเสริมความเป็นชาติไทย การร้องเพลงชาติ กิจกรรมการประกวดมารยาทไทย กิจกรรมวันพ่อ
แห่งชาติ กิจกรรมวันแม่แห่งชาติ กิจกรรมพิธีไหว้ครู ส่งผลให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าและแต่งกายด้วยชุดผ้าไทย
มีมารยาทแบบไทย เป็นผู้ที่ยิ้มแย้ม แจ่มใส ไหว้ได้ถูกต้องสวยงาม มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้มี
พระคณุ เข้าร่วมกิจกรรมท่เี กีย่ วขอ้ งกบั ประเพณี ศิลปะและวฒั นธรรมไทย

๘. มีจิตสาธารณะ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมลูกเสือ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
กจิ กรรมบำเพ็ญประโยชนใ์ นวันสำคญั ต่าง ๆ ส่งผลใหผ้ ู้เรียนรูจ้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง เพื่อน และครูทำงาน
ด้วยความเต็มใจ มีจิตอาสาทำงานให้ผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน และรู้จักแบ่งปันสิ่งของ ทรัพย์สินและอืน่ ๆ
สรา้ งความสขุ ให้กบั ผอู้ ่นื ดว้ ยความเตม็ ใจ

- ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ศึกษา สำรวจ สืบค้นข้อมูล และจัดกระทำกับข้อมูลเพื่อให้ผู้เรียน
ได้นำเสนอผลงานและชิ้นงานที่ได้จากการศึกษาข้อมูลอย่างสร้างสรรค์ ตามความถนัดและความสามารถ
เช่น การทำหนังสือเล่มเล็ก การแสดงมายากลทางวิทยาศาสตร์ การจัดทำโปรสเตอร์กราฟฟิค อินโฟกราฟ
ฟิค การจัดทำคลิปวีดีโอ การจัดทำโครงงาน ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสภาพแวดล้อม
ภายในโรงเรียนและภายในชุมชนของนักเรียน รดน้ำต้นไม้บริเวณรอบๆอาคารเรียนและเก็บขวดน้ำ
พลาสติกไปขาย จัดตั้งชุมนุมของเล่นเชิงวิทย์ ประดิษฐ์ของเล่นที่ใช้เครื่องกลอย่างง่ายหรือหลักการทาง
ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนกิ สอ์ ย่างงา่ ย ดว้ ยหลักการทางวทิ ยาศาสตร์ สามารถใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้
ทางวิทยาศาสตร์ การแก้ปัญหา นำความรไู้ ปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและ
คา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม

- ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองโดยสอนซ่อมเสริมให้กับผู้เรียนในชั่วโมงว่าง และใน
ทุกวันพุธช่วงเช้าในระหว่างเวลา 7.๑๕-๘.๑๕ น. ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ที่สนใจเรียนเสริม
ด้านวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมนอกเวลาเรียนปกติ จัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้พัฒนาศักยภาพของตนเองโดย
การนำผู้เรียนเข้าร่วมการแข่งขันต่างๆกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ส่งเสริมผู้เรียนให้ร่วมกิจกรรมเพ่ือ
เพิ่มพูนทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น จัดโครงการค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สัมพันธ์ โครงการ
พัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยการสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ
นำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ในทางสร้างสรรค์ ใช้อย่างมีความรับผิดชอบ ไม่สร้าง
ปญั หาใหก้ บั สังคมและส่ิงแวดลอ้ ม

- ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง โดยนำผู้เรียนศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับ
เทคโนโลยีทางการเกษตร เช่น การผลิตนม การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ การทำน้ำหมักชีวภาพ การเพาะ
ต้นอ่อนทานตะวัน การเพาะเห็ด ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี ลพบุรี ซึ่งเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ
ในการประกอบอาชีพทางการเกษตร และได้จัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์
ทั้ง 4 สาขาได้แก่ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา โลกและดาราศาสตร์ โดยได้รับการฝึกจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจาก

14

สถาบันวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ทำให้นักเรียนเกิดทัศนคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์ ปลูกฝัง
ความรักในวิทยาศาสตร์และการเป็นผู้มีความใฝ่รู้ใฝ่เรียน แสวงหาความรู้แบบนักวิทยาศาสตร์ และเป็น
พน้ื ฐานในการศึกษาต่อ

- ส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ จากผลการติดตามประเมินผล
การปฏิรูปการเรยี นรู้ตามพระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๒) และ
คุณสมบัติของผู้เรียนในทศวรรษที่ 21 ซึ่งมุ่งให้ผู้เรียนมีทักษะ ต้องปลูกฝังและส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะ
กระบวนการคิด ทักษะการค้นคว้า พัฒนาความสามารถในการใช้เหตุผลใช้ตรรกะในการคิด
การเชื่อมโยงทฤษฎีกับปัญหาใหม่ๆ ข้าพเจ้าได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และบูรณาการ
การเรียนรู้โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ SURIYA Model เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ ที่จำเป็นต่อการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนเทศบาล 4 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี กระบวนการ
การจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ ทักษะชีวิต ความคิดสร้างสรรค์และเตรียม
ความพร้อมให้กับผู้เรียนในการปฏิบัติงานที่ต้องใช้องค์ความรู้และทักษะกระบวนการด้านวิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี การจัดการเรียนรู้ทางวทิ ยาศาสตร์จึงเน้นการมุง่ มัน่ ให้ผู้เรียนมที ักษะในการสบื เสาะ
ค้นคว้าหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์
นอกจากน้ี ในกระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้าพเจา้ ยงั ได้สอดแทรกกจิ กรรมเพอ่ื สง่ เสรมิ พฒั นาผูเ้ รียนให้เปน็ ผู้มี
คุณธรรม จริยธรรมในการเรยี นรู้ สอดแทรกวธิ คี ดิ ทถ่ี ูกตอ้ งอยา่ งหลากหลาย

- ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ มีการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม
ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ อย่างสม่ำเสมอ โดยสอดแทรกในทกุ แผนการจัดการเรียนรู้ นำข่าว
เหตุการณ์ปัจจุบันที่เป็นแบบอย่างในด้านบวกและเป็นบทเรียนสอนใจในด้านลบม าบูรณาการเข้ากับ
บทเรียนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และเข้าใจการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข
ความเป็นประชาธิปไตย เคารพและร้จู กั ยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผู้อน่ื
ผลที่ไดร้ ับ

1. ผู้เรียนได้รับรางวัลในการแข่งขันทักษะทางวิชาการทั้งงานมหกรรมแสดงผลงานทางวิชาการ
ท้ังในระดับภาคและระดบั ประเทศ อาทิเช่น การแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์

๒. กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี นกิจกรรมลกู เสอื -เนตรนารี และ กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์
ทำให้นักเรียนเป็นผู้ที่มีจิตสาธารณะ มีน้ำใจโอบอ้อมอารี มีความเสียสละ มีระเบียบวินัย มีน้ำใจ เป็นผู้มี
ระเบียบวนิ ัย และชว่ ยเหลือผ้ทู ี่ออ่ นแอกวา่ ตนเอง

๓. กิจกรรมชุมนุมของเล่นเชิงวิทย์ ประดิษฐ์ของเล่นที่ใช้เครื่องกลอย่างง่ายหรือหลักการทางไฟฟา้
และอิเล็กทรอนิกส์อย่างง่าย ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ สามารถใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทาง
วิทยาศาสตร์ การแก้ปัญหา นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและ
ค่านิยมที่เหมาะสม แก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ มีความรับผิดชอบต่อตนเองต่อส่วนรวม และรู้จักบำเพ็ญ
ตนให้เกดิ ประโยชน์ ตอ่ ส่วนรวม และสามารถนำความรู้ทไี่ ด้รบั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวันได้

๔. กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ผู้เรียนได้แสวงหาความรู้ด้วยตัวเอง ทั้งในห้องเรียนและนอก
ห้องเรียนตามความถนดั ความสนใจ อย่างมีความสขุ และสนกุ กับการเรียนรู้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

๕. กิจกรรมชุมนุมส่งเสริมวิชาการ พบว่าผู้เรียนมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมในการสอบ
โอเน็ต มีความมงุ่ มัน่ ตง้ั ใจและมสี ว่ นรว่ มในการพัฒนากิจกรรมการเรยี นรู้อยูเ่ สมอ

15

3.1.1.3 ปฏิบัติงานทางวชิ าการของสถานศึกษา
นอกจากการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ การจัดทำเอกสารธุรการชั้นเรียนต่างๆ แล้ว

ข้าพเจ้าได้มีส่วนร่วมในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา ร่วมกันวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งของกลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อจัดทำแผนพัฒนาสถานศึกษา วิสัยทัศน์ แผนยุทธศาสตร์ กลยุทธ์
แผนปฏิบัติงานประจำปี ร่วมพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อเป็นแนวทางในการ
พัฒนาสถานศกึ ษาและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศกึ ษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้มีส่วนร่วมในการปฏิบตั ิงานตาม
ขอบข่ายงานวชิ าการดังตอ่ ไปนี้

1. จัดทำและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี โดยได้ศึกษาวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. 2560) เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของสังคม ชุมชน ท้องถิ่น และสอดคล้อง
กับวิสัยทัศน์ เป้าหมาย และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยบูรณาการเนื้อหาสาระทั้งในกลุ่มสาระเดียวกัน
และระหว่างกลุ่มสาระตามความเหมาะสม นำหลักสูตรไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ มีการนิเทศ ติดตาม และ
ประเมินผลหลักสูตร ดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ ซึ่งได้ ดำเนินการปรับปรุงและพัฒนา
หลักสูตรสถานศึกษาปีการศึกษาละ 1 ครั้ง โดยนำหลักสูตรสถานศึกษามาวิเคราะห์ มาตรฐานการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้ ตัวชี้วัด คำอธิบายรายวิชา กำหนดหน่วยการเรียนรู้ โครงสร้างเวลาเรียน ในแต่ละหน่วย
และปรบั ปรงุ ให้เหมาะสมสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของนักเรียนและชมุ ชน

2. พัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคญั
โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ SURIYA Model เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ที่จำเป็นต่อการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กระบวนการการจัดการ
เรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps จัดกิจกรรมเนื้อหาสาระให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน
ฝึกทักษะกระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ การประยุกต์ใช้ความรู้เพื่อป้องกันและแก้ไข
ปญั หา เรียนรจู้ ากประสบการณจ์ ริง และจากการลงมือปฏบิ ตั ิ สง่ เสริมให้เปน็ นักการอา่ นและใฝ่เรียนรู้อย่าง
ต่อเนื่อง ผสมผสานความรู้ต่างๆให้สมดุลกัน รวมถึงปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ โดยสอดแทรกในเนื้อหา กิจกรรม จัดบรรยากาศสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ และนำไปสู่ภูมิ
ปัญญาท้องถิ่น ผู้ปกครอง และชุมชน เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมตามความเหมาะสม ส่งเสริมให้มี
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์ เช่น เพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อนคู่คิด ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมต่อ
ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา และนำผลสัมฤทธิ์ในแต่ละปีมาวิเคราะห์ เพื่อหากลยุทธ์ ในการเพิ่มผลสัมฤทธิ์
เพอื่ พฒั นาและส่งเสรมิ ให้การจัดการศึกษามคี ณุ ภาพดยี ่ิงข้นึ

3. ดำเนินการจัดสร้างและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ นวัตกรรม เพื่อใช้ในการจัดการเรียนรู้โดย
วิเคราะห์ความจำเป็นในการใช้สื่อเทคโนโลยี ความเหมาะสมในการจัดการเรียนรู้ มีการใช้อินเทอร์เน็ต
ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน และส่งเสริมให้การจัด
การศึกษามีประสิทธภิ าพ

๔. ดำเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้อย่างเป็นระบบโดยยึดตามระเบียบการวัดและ
ประเมนิ ผลตามหลกั สูตรสถานศึกษา มีการบนั ทึกผลการวดั และประเมินผลทุกครงั้ และสรุปผลลงในเอกสาร
ปถ.๐5 และ ปถ.๐6 เป็นปัจจุบันในทุกภาคเรียน เมื่อเสร็จสิ้นการวัดและประเมินผลประจำภาคเรียนแล้ว
ผู้รายงานจะสรปุ รายงานผลการประเมินตอ่ ผู้เรียน ผ้ปู กครอง และผูบ้ ริหารทุกครั้ง

4. จัดทำโครงการและกิจกรรมพัฒนาวิชาการ โดยสำรวจข้อมูล สภาพปัญหา ประชุมชี้แจง
วางแผนร่วมกับผู้บริหาร คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ผู้เรียน และจัดทำโครงการ

16

ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โครงการวิจัยในชั้นเรียน โครงการสอนซ่อมเสริม โครงการจัดซื้ออุปกรณ์
และสื่อการสอน โครงการนิเทศภายใน โครงการค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สัมพันธ์ โครงการพัฒนาทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กิจกรรมชุมนุมส่งเสริมวิชาการ ดำเนินงานร่วมกับคณะครูและผู้เกี่ยวข้อง
ติดตามประเมินผล สรุปรายงานโครงการต่อผู้บริหาร นำผลการมาประเมินวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาปรับปรุง
สง่ ผลใหก้ ารพฒั นาวชิ าการประสบผลสำเร็จ

5. จัดทำวิจัยในชั้นเรียน ในเรื่องที่เป็นปัญหาสำหรับผู้เรียน เพื่อพัฒนาผู้เรียนในเรื่องนั้นๆ
ซึ่งเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งในการเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน และที่สำคัญการวิจัยในชั้นเรียนได้
กำหนดไวใ้ นพระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๒) ท่ผี ู้สอนจะตอ้ งทำ
วิจัยในชัน้ เรียนเพื่อพัฒนาหรอื แก้ไขปญั หาของผู้เรยี น

๖. ร่วมกับคณะครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจัดทำแฟ้มประกัน
คุณภาพการศึกษา ซึ่งรับผิดชอบมาตรฐานที่ ๕ ตัวชี้วัดที่ ๕.๓ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูล
ป้อนกลับเพื่อปรับปรุงและพัฒนาการจดั การเรยี นรู้ โดยมีการวางแผนการดำเนินการประกันคุณภาพซึ่งได้
กำหนดมาตรฐานคุณภาพการศึกษาสร้างเครื่องมือ จัดทำข้อมูลพื้นฐาน ประเมินสภาพปัจจุบัน รวบรวม
ข้อมูลหาหลักฐานที่สอดคล้องกับตัวชี้วัด และมีการดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาตามแผน มีการ
นเิ ทศ กำกบั และติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรฐานคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรียน

๗. เข้าร่วมประชุมครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อรับฟังนโยบายจาก
ผู้บริหารสถานศึกษาและพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันภายในกลุ่มสาระ เข้ารับการนิเทศจากผู้บริหารเกี่ยวกับ
การจัดการเรียนรู้ภาคเรียนละ 1 ครั้ง และร่วมกับคณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและ
กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ จัดงานวิชาการโดยนำเสนอผลงานของผู้เรียน จัดการแสดงผลงานโครงงาน
วิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่ประกวดแข่งขันได้รางวัล และจัดประกวดแข่งขันทักษะทางวิทยาศาสตร์ด้านต่างๆ
เช่น การประกวด Science Show การแข่งขันการจัดสวนถาด การแข่งขันจรวดขวดน้ำ การประกวดคำขวัญ
วันวิทยาศาสตร์และวาดรูปตามจินตนาการเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การแข่งขันการตอบปัญหา
วิทยาศาสตร์ การแข่งขันทักษะการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ การประกวดวาดรูปนักวิทยาศาสตร์ในดวงใจ
ฯลฯ ในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี และเป็นผู้รับผิดชอบโครงการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ตลอดจนมีการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน นำผลการวิจัยใน
ช้นั เรียนเผยแพรใ่ ห้เพ่อื นครทู ้งั ในและนอกโรงเรียน

ผลที่เกิดจากการปฏิบตั ิงานวชิ าการของข้าพเจ้า ทำให้สถานศึกษามหี ลักสูตรสถานศึกษาของตนเอง
ทีส่ มบรู ณค์ รบถว้ นสอดคล้องกับความต้องการของผูเ้ รียน เป็นไปตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน
มแี นวทางในการปฏิบัตงิ านวิชาการของบคุ ลากรในสถานศึกษา ซง่ึ ส่งผลโดยตรงกบั ผู้เรียน ทำให้ผู้เรียนได้รับ
การจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ เรียนรู้ได้เต็มตามศักยภาพของผู้เรียน ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ที่บรรลุตามเป้าหมายของหลักสูตร ทำให้สถานศึกษามีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพของ
ผู้เรียน และนอกจากนี้ยังมีกระบวนการกำกับติดตามผลที่ดี ส่งผลให้ได้รบั ความไว้วางใจจากประชาชนทั่วไป
ทั้งในจังหวัดลพบุรีและจังหวัดใกล้เคียงส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษาต่อ ได้รับคำชื่นชมจากผู้บริหารและคณะ
ศกึ ษาดูงานจากหน่วยงานต่าง ๆ อยา่ งสมำ่ เสมอ

3.1.1.4 ประสานความร่วมมือกับผปู้ กครองบคุ คลในชุมชนหรอื สถานประกอบการเพอ่ื
รว่ มกนั ในการพฒั นาผ้เู รยี น

มีส่วนร่วม และสนับสนุนกิจกรรมต่างๆของชุมชนจัดขึ้น และให้ความช่วยเหลือร่วมมือใน
การพัฒนาชุมชนเป็นอย่างดีทุกครั้ง โดยเข้าร่วมกับนักเรียน โรงเรียนและเทศบาลเมืองลพบุรี เช่น เข้าร่วม
โครงการโรงเรียนยุติธรรมอุปถัมภ์ของหน่วยงานเรือนจำกลางลพบุรี กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม การ

17

รนณรงค์ใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองลพบุรี นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี วันที่ 24 มิถุนายน
พ.ศ. 2564 โดยการให้คำปรึกษา และให้คำแนะนำแก่ชุมชนที่ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ เพื่อประโยชน์ของชุมชน
ส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามวิถีทางประชาธิปไตยแก่ชุมชน โดยประพฤติเป็นแบบอย่างและชักชวนให้ผู้อ่ืน
ปฏิบัติตามในโอกาสที่เหมาะสม โดยข้าพเจ้ามีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสานความสัมพันธ์อันดีระหว่าง
โรงเรยี นและชมุ ชน ดังนี้

๑. นำผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของชุมชน โดยการเข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิม
พระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวโรกาส
เฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ในวันอังคารที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๔๖๓ จัดขึ้นโดยสำนักงาน
วัฒนธรรมจังหวัดลพบรุ ีรว่ มกับวดั เมอื งใหม่ ซงึ่ การปฏบิ ัตธิ รรมในครั้งน้ถี อื เป็นการขัดเกลาจิตใจให้ผู้เรียนได้
ประพฤติปฏิบัติตนไปในทางที่ดีงาม มีธรรมะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ผู้เรียนได้มีโอกาสทำบุญสร้างกุศล
ใหก้ บั ตนเองและผอู้ ่นื

๒. นำนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมศุกร์ถึงธรรม สุขถึงใจ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ร่วมมือกันจัดขึ้น
ระหว่างโรงเรียนกับวัดเมืองใหม่ โดยให้นักเรียนในแต่ละสายชั้นได้มีโอกาสเข้าวัดเพื่อฟังธรรมจาก
พระอาจารย์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ และปฏิบัติธรรมทุกวันศุกร์ในคาบที่ 7 ของทุกสัปดาห์โดยหมุนเวียนกัน
เปน็ สายชัน้ ทำใหน้ กั เรยี นมจี ติ ใจทส่ี งบ มสี ติ รหู้ นา้ ทข่ี องตนและดำรงชวี ติ โดยไมป่ ระมาท

๓. การจดั กิจกรรมเสริมให้ผู้เรียนไดม้ ีโอกาสเรียนร้จู ากปราชญ์ท้องถิน่ เปิดโอกาสให้ตัวแทน
ชมุ ชน ตวั แทนผปู้ กครองได้มีโอกาสในการจดั กิจกรรมเผยแพร่ใหค้ วามรู้แก่ผเู้ รียน ได้ร่วมมอื กบั ชุมชนในการ
จัดกิจกรรมต่างๆ ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น เช่น กิจกรรมวันแม่ กิจกรรมวันพ่อ กิจกรรมกีฬาสี วันสำคัญทางศาสนา
และกจิ กรรมตา่ งๆ ท่ชี ุมชนและเทศบาลได้จัดขึ้น ซึง่ ได้รบั ความร่วมมือจากผู้ปกครองเปน็ อย่างดี นอกจากนี้
ยังมีการปลูกจิตสาธารณะ ปลูกฝังค่านิยมที่ดี ความมีน้ำใจ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การเสียสละให้แก่ผู้เรียน
สง่ ผลให้สรา้ งเยาวชนที่ดีคืนส่สู งั คมได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

๔. มีการประสานงานกับบุคคลในชมุ ชนที่อาศยั อย่รู อบๆบริเวณโรงเรยี นใหช้ ่วยสอดส่องดแู ล
พฤติกรรมของผเู้ รยี นขณะที่อยู่บริเวณด้านนอกโรงเรียน ส่งผลให้ทางโรงเรียนไดร้ บั ขอ้ มลู ขา่ วสารขอผู้เรียน
อย่างทันท่วงที เช่น กรณีนักเรียนประสบอุบัติเหตุบริเวณด้านนอกโรงเรียน หรือมีเหตุทะเลาะวิวาท
ทางโรงเรียนจะไดร้ ับแจ้งจากคนในชมุ ชน ทำใหโ้ รงเรยี นไดเ้ ข้าช่วยเหลือผู้เรยี นและติดต่อประสานงานกับ
ผปู้ กครองได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับการประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองข้าพเจ้ามีการประสานความร่วมมือกับ
ผปู้ กครองในฐานะครทู ี่ปรกึ ษา โดยได้มีการดำเนินการผ่านโครงการเยีย่ มบา้ น ซงึ่ จะออกเย่ียมบา้ นผู้เรียนใน
ความปกครองทุกคน เพื่อหาข้อมูลรายบุคคลของนักเรียน หาโอกาสทำความรู้จักกับผู้ปกครองนักเรียน
ศึกษาข้อมูลเรื่องเศรษฐกิจ รายได้/รายจ่าย ตลอดจนความเป็นอยู่ครอบครัวนักเรียน และสิ่งที่ครอบครัว
และตัวนักเรียนต้องการหลังจากจบการศึกษา เพื่อวิเคราะห์หาทิศทางพัฒนานักเรียนในอนาคตที่จะมาถึง
ได้อย่างถูกต้อง โดยทางโรงเรียนมีนโยบายให้ครูออกไปพบปะผู้ปกครองของนักเรียนในช่วงเวลาว่าง
โดยจัดเป็นโปรแกรมการเยี่ยมของแต่ละคนเอาไว้ แต่ถ้ามีนักเรียนที่มีปัญหาเป็นรายบุคคล เช่น ขาดเรียน
บ่อย ไม่ทำงานหรือมีภาระงานส่งครูประจำวิชา มีพฤติกรรมก้าวร้าว รังแกเพื่อนบ่อยๆ ข้าพเจ้าก็จะ
พยายามศึกษาหาสาเหตุ โดยสอบถามนกั เรียนใกลเ้ คยี ง ถามตัวนกั เรยี นเอง เชิญผ้ปู กครองมาพบดว้ ยตนเอง
ที่โรงเรียน และทำการเยี่ยมบ้านเป็นอันดับแรกๆ เพื่อทราบปัญหาที่แท้จริง เสนอแนะชี้แจงให้ผู้ปกครอง
เห็นความสำคัญ โดยให้ผู้ปกครองช่วยดูแลซักถามเกี่ยวกับเรื่องการเรียนทุกวันหลังจากเด็ก กลับบ้าน
หรือตอนเย็นช่วยกวดขันให้เด็กทำการบ้าน หรือทบทวนบทเรียนทุกวัน ผลจากการติดต่อกับผู้ปกครองทำ
ให้นักเรียนที่ไม่ค่อยทำงานหรอื มภี าระงานในบางรายวิชา หนั มารับผิดชอบงานมากขึ้น ซงึ่ ไดร้ ับความร่วมมอื

18

จากผู้ปกครองเปน็ อยา่ งดี ขา้ พเจา้ จะมีบนั ทกึ เบอร์โทรศัพทข์ องผ้ปู กครองนกั เรียน ทุกคนเพือ่ ความสะดวก
ในการติดต่อสื่อสารในยุคเทคโนโลยี ผลที่ได้รับคือนักเรียนที่ค่อนข้างมีปัญหาจะมี ความกระตือรือร้นใน
การเรียนมากขึ้น เลิกพฤติกรรมก้าวร้าวครูและเพื่อน ไม่รังแกเพื่อน ข้าพเจ้าร่วมมือ กับครูแนะแนวในการ
คัดกรองผู้เรียนที่มีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือเป็นรายบุคคล ได้ติดต่อประสานงานกับผู้ปกครอง ใน
กรณีทผ่ี ู้เรียนมปี ัญหาทางดา้ นการเรยี น ปญั หาดา้ นพฤติกรรมเบีย่ งเบน ทีไ่ มพ่ ึงประสงค์ โดยไดม้ กี าร
เชิญผู้ปกครองมาพบเพื่อปรึกษาหารือร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับผู้เรียนจนได้รับความไว้วางใจ
จากผูป้ กครอง

นอกจากการเยี่ยมบ้านนักเรียนในประจำชั้นที่รับผิดชอบดูแลทุกคนแล้ว ข้าพเจ้ายังมีการ
ประชุมผู้ปกครองโดยเชิญผู้ปกครองเข้าร่วมประชุมที่โรงเรียนภายใต้โครงการผู้ปกครองเยี่ยมโรงเรียน
(Classroom Meeting) ภาคเรียนละ 1 ครั้ง เพื่อให้คำปรึกษา แนะนำ รายงานผลการเรียนให้ผู้ปกครอง
รับทราบ และร่วมแก้ไขปัญหาผู้เรียน เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองนักเรียนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาส่งเสริม
ศักยภาพของนักเรียน รวมทั้งเป็นการร่วมมือกันในการดูแล ป้องกันแก้ไขปัญหาของนักเรียน และพิจารณา
ให้ความช่วยเหลือนักเรียนแต่ละคนในชั้นเรียนให้ได้เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ และมีความสุขในการเรียนรู้
เพราะการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ปกครองกับครูที่ปรึกษา และระหว่างผู้ปกครองกับผู้ปกครอง
ดว้ ยกัน จะชว่ ยให้การดูแลช่วยเหลอื นักเรยี นเป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ เพอื่ ใหผ้ ้ปู กครองได้ข้อมูล ขา่ วสาร
สารสนเทศของสถานศึกษา เพื่อช่วยกันพัฒนาผู้เรียน โดยส่งเสริมจุดเด่น และพัฒนาจุดด้อย คอยสอดส่อง
และช้แี นะแนวทางในการเรยี นรู้

จากการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้ โรงเรียนและชุมชนมีความสัมพันธ์อันดีในการสนับสนุน
กิจกรรมต่างๆ ซึ่งกันและกัน ได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ
สถานประกอบการในการช่วยเหลือและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของโรงเรียน ทำให้นักเรียนได้รับการพัฒนา
และเรียนรู้อย่างเต็มตามศักยภาพ ผู้เรียนมีความประพฤติที่ดีขึ้น รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายมากขึ้น
และเกดิ การเรยี นรอู้ ยา่ งมีความสขุ

3.1.1.5 การบรกิ ารสงั คมดา้ นวิชาการ
1. ใหบ้ ริการด้านความรู้ความเขา้ ใจด้านวชิ าการให้แกผ่ มู้ าตดิ ตอ่ ผูเ้ รียนในเขตพน้ื ท่บี รกิ าร

เพื่อประชาสมั พนั ธ์ให้มาศึกษาตอ่ ในระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนต้นและตอนปลาย
๒. ให้ความรตู้ า่ งๆกับผูเ้ รียนในเรอ่ื งความเปล่ียนแปลงของสงั คมขา่ วสารในชวี ิตประจำวนั

การปอ้ งกนั ตนเองจากสารเสพติดและพษิ ภยั ต่างๆโดยให้ผเู้ รยี นนำไปขยายผลถงึ ผ้ปู กครอง
๓. ให้คำปรกึ ษาแกผ่ ปู้ กครองในด้านการศึกษา การย้ายสถานศกึ ษา การจดั ทำเอกสาร

สำคญั ในการยา้ ยเข้า-ยา้ ยออกของผู้เรียน เอกสารประกอบการขอรับทุนการศกึ ษา และเอกสารคำรอ้ งอนื่ ๆ
ทีร่ ้องขอ

๔. ให้ความรู้ จัดประสบการณ์ในการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ให้กับ
ผู้เรียนในรูปแบบของกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ กิจกรรมการสร้างอาชีพ เช่น การทำดินญี่ปุ่น
การทำสบู่ การทำเจลน้ำหอมปรับอากาศ การทำน้ำยาล้างจานชีวภาพ การทำปุ๋ยมูลไส้เดือน ผู้เรียนได้นำ
ความรแู้ ละประสบการณ์ท่ีไดร้ ับไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ตลอดจนได้ขยายผลไปส่คู รอบครวั และชมุ ชนต่อไป

๕. ให้บริการแลกเปลี่ยนสื่อการเรียนรู้ต่างๆ และผลงานทางวิชาการกับสมาชิกครู โดยมี
การเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ ผ่านเครือข่าย ThaiLIS เว็บไซต์ kroobannok.com ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ท่ี
พัฒนาศักยภาพครู ทำให้สมาชิกครูได้รับข้อมูลข่าวสารและทิศทางในการพัฒนาการศึกษาได้อย่างรวดเร็ว
มรี ูปแบบและแนวทางในการพฒั นาผ้เู รยี นอยา่ งหลากหลาย

19

ผลจากการดำเนินการดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้เกิดการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่าง
โรงเรียนและชุมชน ผู้ปกครอง ผู้เรียนและครู มีทัศนคติที่ดีต่อกัน เกิดความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง
จนเป็นผลดีตอ่ การพัฒนาการศกึ ษา ดังทปี่ รากฏในปจั จบุ ัน

3.1.1.6 หน้าทอ่ี ่นื ตามท่ีได้รับมอบหมาย
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ข้าพเจ้ายังได้ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆที่ได้รับมอบหมาย ทั้งที่เป็น

ลายลักษณ์อักษร และสั่งชอบด้วยวาจา ทั้งในเวลาและนอกเวลาราชการด้วยความเสียสละ ทั้งในโรงเรียน
และต้นสังกัด เพอื่ ให้งานที่เร่งดว่ นเสร็จทันกำหนดเวลา และบังเกดิ ผลดตี อ่ ส่วนรวม นอกจากนข้ี า้ พเจ้ายังได้
ให้ความร่วมมือช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานเต็มกำลังความสามารถจนทำให้งานนั้นประสบผลสำเร็จทุกครั้ง
โดยทำหนา้ ทต่ี า่ งๆดงั นี้

- เป็นคณะกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ข้าพเจ้าปฏิบัติ
หน้าที่รับผิดชอบงานตามขอบข่ายและภาระงาน งานพัฒนาหลักสูตรและกระบวนการจัดการเรียนรู้ของ
กลุม่ สาระฯ ดังนี้

1. จัดทำหลักสูตรในรายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๒ รายวิชาเพิ่มเติม
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาความต้องการของ
ผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และสังคม ตามกรอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
(ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

2. จัดเกบ็ รวมรวมขอ้ มูลบุคลากรภายในกล่มุ สาระการเรยี นรู้
3. รับผิดชอบสอนแทนครูในกลุ่มสาระในกรณีครูประจำวิชาลาหรือติดธุระทำให้มา
ปฏบิ ตั ิการสอนไม่ได้
๔. จัดทำเอกสารการวดั และประเมนิ ผลผเู้ รยี นในรายวิชาทร่ี ับผดิ ชอบใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บ
๕. สอนเสริมนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/๙ ในช่วงเช้าวันพุธเวลา ๗.๑๕- ๘.๑๕ น.และ
จัดโครงการของกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมความรู้ในหลักสูตรให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เช่น โครงการ
พัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โครงการค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สัมพันธ์ การจัดนิทรรศการ
เปิดบ้านท.4 การคัดเลือกและสอนเสริมนักเรียนเข้าแข่งขันตามโครงการแข่งขันคนเก่งในโรงเรียนท้องถ่ิน
รวมทั้งการจัดแหล่งเรยี นรูต้ า่ งๆ
๖. ติดตามดูแลตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารงานแผนงานโรงเรียน การเสนอ
โครงการ เอกสารประเมินและสรุปโครงการต่างๆของกลุ่มสาระการเรียนรู้พลศึกษาตามแผนปฏิบตั งิ านของ
โรงเรียนให้ส่งครบตามกำหนด
งานที่ถือว่าเป็นความสำเร็จสูงสุดของกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คือ
การแขง่ ขนั โครงงานวิทยาศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ ได้รับรางวัลเหรยี ญ
ทองในการแข่งขันมหกรรมวิชาการระดับภาค ได้รับเหรียญทองรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ในระดับประเทศ
และการคัดเลือกนักเรียนเพื่อเป็นตัวแทนแข่งขันโครงการแข่งขันคนเก่งในโรงเรียนท้องถ่ินระดับประเทศมี
การจดั สอนเสรมิ ให้ความรูเ้ พมิ่ เตมิ จนประสบความสำเร็จอยา่ งต่อเนื่อง
- ปฏิบัติหน้าที่ครูที่ปรึกษา จัดทำงานธุรการประจำชั้นให้เรียบร้อยเป็นปัจจุบันและเป็น
ระบบ ได้แก่ การจดั ทำแบบบนั ทึกสถติ ิการมาเรียนรายเดือนของผเู้ รียนช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๒/๑ แบบบันทกึ
กิจกรรมโฮมรูม แบบบันทึกการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (ปถ.๐5) แบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
รายบุคคล (ปถ.๐6) และแบบบันทึกต่างๆ ของทางโรงเรียน ท่ีเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของผู้เรียน อบรม
ผู้เรียนเกี่ยวกับระเบียบวินัย การประพฤติปฏิบัติตน การอยู่ร่วมกันในสังคม ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมและ
ค่านิยมที่ดีงามถูกต้องเหมาะสม การยอมรับกฎระเบียบ การรักษาความสะอาดของร่างกาย กิริยามารยาท

20

และการมีจิตสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลผู้เรียนอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษตามโครงการระบบดูแล
ช่วยเหลือนักเรียน โดยการออกเยี่ยมบ้านพบปะผู้ปกครองนักเรียนที่บ้านทุกคน ซึ่งเป็นการประสานงาน
ความร่วมมือระหว่างครูและผู้ปกครองอย่างสม่ำเสมอ ในการติดตามและดูแลพฤติกรรมต่างๆ ของผู้เรียน
ทำให้ผ้เู รยี นทกุ คนสามารถปรบั เปล่ียนพฤตกิ รรมไปในทางที่ดขี น้ึ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม มคี วามประพฤตทิ ี่ดี
มีความรับผิดชอบและมีผลการเรียนดีขึ้น ข้าพเจ้าสร้างความเป็นมิตร เป็นที่พึ่ง และไว้วางใจของผู้เรียน
แต่ละคน ข้าพเจ้าจะให้ความเป็นกันเองแก่ผู้เรียน สนใจไต่ถามทุกข์สุขของผู้เรียน ยินดีรับฟังปัญหาต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการเรียน ปัญหาส่วนตัว ข้าพเจ้ามีความเป็นห่วงนักเรียนในการเดินทางไปกลับ
ระหว่างบ้านและโรงเรียนพบปัญหานักเรียนประสบอุบัติเหตุระหว่างทางกลับบ้านข้าพเจ้าไม่นิ่งนอนใจ
คอยสอบถามด้วยความเป็นห่วงจนกระทั่งแน่ใจว่านักเรียนปลอดภัยอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองแล้ว
ข้าพเจ้าจะช่วยเหลือแก้ปัญหาแก่นักเรียนทุกคนอย่างเต็มความสามารถ โดยไม่ขัดต่อระเบียบและนโยบาย
ของโรงเรียนแต่อย่างใด ทำให้ผู้เรียนมีความสุขและความสบายใจ พอใจที่จะได้ร่วมกิจกรรมด้วยความ
เต็มใจเสมอ

- เปน็ ผู้รับผิดชอบจดั ทำโครงการวนั เยาวชนแหง่ ชาติ ข้าพเจา้ ได้รับผดิ ชอบโครงการวนั
เยาวชนแห่งชาติ ประชุม และวางแผนในการดำเนินกิจกรรมต่างๆระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่ 6 เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความรู้ความสามารถพิเศษได้แสดงออกในความสามารถ
นั้นๆ ในทางที่ถูกที่ควร และเป็นที่ยอมรับในกลุ่มเพื่อนเป็นอย่างยิ่ง ส่งผลต่อการส่งเสริมด้านคุณธรรม
จรยิ ธรรมตามท่ีสังคมมุง่ หวัง มีสว่ นร่วมในการปลกู สร้างพฤติกรรมและคณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ท่ีดี ซ่ึงจะ
เป็นพ้นื ฐานในการทำคุณประโยชน์ใหก้ บั สงั คมและประเทศชาตสิ ืบไป

- ปฏิบัติหน้าที่ครูเวรประจำวัน ข้าพเจ้าได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ ครูเวรประจำวันศุกร์
วันหยุดราชการ และในช่วงวันปิดภาคเรียนเป็นประจำ การปฏิบัติหน้าที่ครูเวร ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติ อย่าง
เคร่งครัดบังเกิดผลดีต่อทางราชการ โดยได้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลการเดินแถวเข้าโรงเรียนของนักเรียน ให้เป็น
ระเบียบในช่วงเช้าในบริเวณทางโค้งหน้าบ้านเรือนไทย ดูแลนักเรียนในช่วงพักกลางวันบริเวณอาคาร ๖ และ
ดูแลการเดินทางกลับบ้านของนักเรียนให้มีความปลอดภัย บริเวณหลังอำเภอเมืองลพบุรี นอกจากนั้นได้
ดูแลความเป็นอยู่ของนักเรียนในขณะที่อยู่ในโรงเรียน ดูแลเกี่ยวกับความสะอาดของร่างกาย เสื้อผ้า การ
แต่งกายของนักเรียน ปรากฏว่านักเรียนปฏิบัติตนอยู่ในกฎระเบียบของโรงเรียน ได้อย่างถูกต้อง เสื้อผ้า
สะอาดเรียบร้อยทุกคน

ผลทไ่ี ดร้ ับจากการปฏบิ ัติหน้าทคี่ รเู วรประจำวนั ของขา้ พเจา้ คือ
1. นกั เรยี นมคี วามเคารพครู ไดร้ บั ความอบอุน่ เหมือนอยใู่ กล้ชิดบดิ า-มารดาท่บี า้ น
2. นกั เรยี นไดร้ บั ความปลอดภยั
3. นกั เรยี นมอี นามยั ท่ีดี สุขภาพแขง็ แรง เสอ้ื ผา้ สะอาด แตง่ กายสุภาพเรียบร้อย
4. นกั เรยี นมคี วามประพฤติ และมารยาทดี
5. บริเวณโรงอาหารสะอาด นกั เรยี นไมน่ ำอาหารออกมารบั ประทานนอกบรเิ วณ
6. ได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครอง ในเรื่องการดูแลเอาใจใส่บุตรหลานของตนเป็นอย่างดี
ทำใหผ้ ูป้ กครองส่งบตุ รหลานเข้ามาศึกษาต่อทโ่ี รงเรยี นเทศบาล 4 ระบบสาธติ เทศบาล เมอื งลพบุรเี พิม่ ข้ึน ในแต่
ละปีการศกึ ษา
- ปฏบิ ัตหิ น้าทีเ่ ปน็ คณะกรรมการงานนโยบายและแผนงาน ทำหนา้ ทต่ี รวจสอบความถูกต้อง
ของเอกสารนำเสนอโครงการและรวบรวมบันทึกการสรุปโครงการประจำปีของกลุ่มสาระการเรียนรู้
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รวบรวมและจดั ทำเล่มแผนงานนโยบายประจำปี แผนยุทธศาสตร์ แผนปฏบิ ัติ
งานประจำปี ทำใหส้ ถานศึกษามีมาตรฐานในการปฏบิ ตั งิ านในแตล่ ะปกี ารศกึ ษาและในแต่ละปีงบประมาณไดด้ ี

21

ขึ้น ได้แผนงานโครงการต่างๆ ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และมาตรฐานการจัดการศึกษาของกรมส่งเสริม
การปกครองท้องถิ่นและเทศบาลเมืองลพบุรี ได้กำหนดจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการต่างๆ ได้อย่าง
เหมาะสมรวมถงึ การกำหนดระยะเวลาในการดำเนนิ โครงการได้ครอบคลุมทกุ งานทกุ โครงการ

- ปฏิบัติหน้าทเ่ี ปน็ คณะกรรมการงานสง่ เสรมิ ประชาธปิ ไตยในโรงเรยี น รว่ มประชุม และ
วางแผนในการดำเนนิ งานตา่ งๆที่เกย่ี วขอ้ ง ควบคุม กำกับดูแล การทำงานของคณะกรรมการสภานกั เรยี น
จดั ทำเอกสารท่เี กีย่ วขอ้ งกับงานคณะกรรมการสภานักเรยี น ร่วมเดนิ ขบวนรณรงค์กับคณะกรรมการสภา
นกั เรยี นในการประชาสมั พนั ธข์ า่ วสารสู่ชมุ ชน เชน่ เดนิ รณรงคเ์ ชญิ ชวนให้ประชาชนไปลงมติรับรา่ ง
รฐั ธรรมนูญ เชิญชวนให้ผูป้ กครองและประชาชนในชุมชนไปใชส้ ิทธ์ิเลือกตั้งสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร
ส่งผลให้นักเรียนเข้าใจหลักการปกครองในรูปแบบประชาธิปไตย วิธีการเลือกตั้ง และบทบาทของผู้แทน
ตนเองเพ่ือมาพฒั นาสงั คมทีน่ กั เรียนอยู่ ในทนี่ ี้หมายถงึ โรงเรยี นนัน่ เอง

- ปฏบิ ัติหน้าท่ีเป็นครปู ระจำคณะสี ทำหนา้ ทีด่ ูแลและควบคมุ การฝึกซอ้ มนักกีฬา โดยเริ่มจาก
สรรหานักกีฬาและดูแลการฝึกซ้อมจนถึงการลงแข่งขัน ให้ผู้เรียนได้มีโอกาสแสดงความสามารถออกมา
อย่างเต็มท่ี มนี ้ำใจเปน็ นกั กฬี า ร้แู พ้ รชู้ นะ รอู้ ภยั

- ปฏิบัติหน้าที่เป็นคณะกรรมการฝ่ายการเงิน ทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของ
ใบเสร็จรับเงินค่าชุดนักเรียนและค่าอุปกรณ์การเรียน และเอกสารการเบิก-จ่ายเงินของนักเรียนสายช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่ ๒ และทำการจ่ายเงินค่าชุดนักเรียนและค่าอุปกรณ์การเรียนให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ ๒ ทัง้ หมด

- ปฏิบัติหน้าที่เป็นครูพี่เลี้ยงนักศึกษาครุศาสตร์บัณฑิต (ชั้นการฝึกปฏิบัติวิชาชีพครูระหว่าง
เรยี น ๑) มหี นา้ ที่ดแู ล แนะนำใหค้ ำปรึกษา สร้างประสบการณเ์ ก่ียวกับการจัดกจิ กรรมการเรียนรใู้ นรายวิชา
วิทยาศาสตร์เป็นต้นแบบท่ีดีให้กับนักศึกษา ส่งผลให้นกั ศึกษามีแนวทางการปฏิบัตงิ านที่ถกู ตอ้ ง มีคุณธรรม
และจรรยาบรรณในการประกอบวชิ าชีพ

- ปฏิบัติหน้าที่เป็นคณะกรรมการดำเนินงานโครงการต่างๆ เป็นผู้ประสานงาน ควบคุมดูแล
ผ้เู รยี นใหเ้ ข้ารว่ มกจิ กรรมโครงการอย่างเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย เป็นผู้อำนวยความสะดวกใหโ้ ครงการดำเนิน
กิจกรรมสำเร็จลุล่วงบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ดำเนินงานตามโครงการกิจกรรมในหน้าที่ที่ได้รับ
มอบหมาย ซ่งึ มโี ครงการทรี่ ่วมดำเนินงานดังตอ่ ไปนี้

- โครงการค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สัมพันธ์ ผลคือ นักเรียนสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์
ตรงโดยการนำความรู้ด้านวทิ ยาศาสตรม์ าใช้ในการเขา้ ร่วมกิจกรรมที่จดั แข่งขนั ข้ึน เช่นกจิ กรรมการประกวด
วาดรูปนักวิทยาศาสตร์ในดวงใจ กิจกรรมการประกวดเขียนเรียงความวิทยาศาสตร์กับนวัตกรรม กิจกรรม
การออกแบบโปสเตอร์ในหัวขอ้ วิถีชีวติ new normal การประกวดภาพถ่ายสิ่งแวดล้อมในโรงเรยี น สตั วโ์ ลก
น่ารัก พชื สเี ขียว และการแข่งขนั ตอบปญั หาวิทยาศาสตร์ ซึง่ เป็นการบรู ณาการเนอื้ หาสาระอย่างหลากหลาย
ทำใหน้ กั เรยี นไดร้ บั ความรู้ เกิดความภาคภมู ิใจในตนเองเมอ่ื ได้รบั รางวลั จากการแขง่ ขนั

- โครงการระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรียนผลคอื ทำให้ครไู ดท้ ราบข้อมูลพืน้ ฐานของครอบครวั
ของนกั เรยี นเพ่ือจะได้ชว่ ยเหลอื นกั เรียนได้ตรงปญั หาเม่อื นักเรียนต้องการความช่วยเหลอื ทงั้ ดา้ นร่างกาย
และจิตใจของนักเรยี น และเพ่อื ทราบถึงความสนใจและความถนัดของนักเรียนเพื่อจะไดส้ นบั สนุนและให้
ข้อมลู ในการพฒั นาเพ่อื ให้บรรลเุ ปา้ หมายได้ เมอื่ ทราบขอ้ มลู นกั เรยี นคนใดมีปัญหาทางดา้ นการเงินจะหา
ทนุ สนบั สนนุ การศึกษาให้ ผู้ปกครองเกดิ ความเชือ่ มน่ั ในตัวครแู ละสถานศึกษา

- โครงการพัฒนาการเรียนรู้สู่ประชาคมอาเซียน ผลคือ นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกับการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ ภาษา วัฒนธรรมและประเพณีของประเทศสมาชิกอาเซียน

22

ตระหนักถึงความสำคัญในการใช้ภาษาอังกฤษเป็นตัวแทนภาษาสากลเพื่อติดต่อสื่อสารเชื่อมโยงกัน
ไดเ้ รียนรแู้ หลง่ พลังงานของประเทศอาเซียน

- โครงการกีฬาสีภายในโรงเรียน ผลคือ นักเรียนได้รับการส่งเสริมให้ใช้เวลาว่างให้เกิด
ประโยชน์ และเปน็ การคน้ หาความสามารถ ความถนัดตามความสนใจของนักเรยี นดว้ ย นักเรียนมีสุขภาพ
แขง็ แรงสมบูรณ์ นักเรียนมีความสามัคคีในหมู่คณะในการร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ของกีฬาสี ตั้งแต่การ
คัดเลือก ฝึกซ้อมนักกีฬา ทีมงานกองเชียร์ ทีมลีดเดอร์ ทีมสปอร์ตแดนซ์ และทีมงานสตาร์ฟ ทุกส่วนต้อง
ทำงานร่วมกันเพื่อให้กิจกรรมของคณะสีของตนเองออกมาดีที่สุดมีการฝึกเป็นผู้นำและผู้ตามที่ถูกต้อง
นักเรียนมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะและรู้อภัย และได้คัดเลือกตัวแทนนักเรียนที่มีความสมารถทางด้าน
กีฬา ไปแข่งขนั กฬี าในระดบั สงู ตอ่ ไป

- กิจกรรมวันพ่อ วันแม่ แห่งชาติ ผลคือ ทำให้นักเรียนเกิดความตระหนักถึงบุญคุณของ
พ่อแมท่ ี่เลย้ี งดูนกั เรยี นท้ังกายและใจจนเติบโตมาถึงปัจจุบัน ทำให้นักเรยี นรกั และเคารพพ่อแม่ ผ้ปู กครอง
ของตนเองอย่างซาบซงึ้

- กิจกรรมวันไหว้ครู ทำให้นักเรียนระลึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ และแสดงออกซ่ึง
การตอบแทนพระคุณอยา่ งเหมาะสม

- กิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา ทำใหน้ กั เรยี นเป็นผู้ทม่ี จี ิตใจสงบ มีคุณธรรมจริยธรรม
- กิจกรรมวันเฉลิมพระชนมพรรษารัชกาลที่ ๑๐ ผลคือนักเรียนมีจิตสำนึกในการรัก
สถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ นักเรียนไดเ้ รียนรพู้ ระราชกรณียกจิ ของพระมหากษัตรยิ ท์ ี่มีต่อปวงชน
ชาวไทย
- ร่วมเดินขบวนแห่เทศกาลลอยกระทงย้อนยุคจอมพลป.พิบูลสงครามเพื่อเป็นการ
ประชาสมั พันธ์การจัดงานของเทศบาลเมอื งลพบรุ ใี หก้ บั ประชาชนไดร้ บั ทราบและเชญิ ชวนให้ประชาชน
เขา้ รว่ มงานท่หี น่วยงานต้นสังกัดไดจ้ ดั ขนึ้ เปน็ ประจำทุกปี
- รว่ มเป็นนกั แสดงงานแผน่ ดินสมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช เพือ่ สรา้ งความบนั เทงิ ใหก้ ับ
ผู้ร่วมชมงานและประชาสัมพันธ์งาน ณ บริเวณสวนราชานุสรณ์ซึ่งเป็นเขตพื้นที่การจัดงานในส่วนที่
หน่วยงานต้นสงั กดั รับผดิ ชอบในแต่ละปี
- ทำหน้าที่ดูแลนักแสดงซึ่งเป็นนักเรียนในโรงเรียนที่แสดงในงานเทศกาลลอยกระทงและ
แสดงในงานฤดูหนาวซึ่งเป็นงานประจำปีของจังหวัดลพบุรี เพื่อประชาสัมพันธ์งานและแสดงถึงศักยภาพ
ของนักเรียนในโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองลพบุรี ซึ่งดูแลความปลอดภัยในการกลับบ้านของนักแสดงให้มี
ความปลอดภัย ส่งให้ถึงมือผู้ปกครองจนทำให้ผู้ปกครองมีความไว้วางใจและให้การสนับสนุนโรงเรียนเป็น
อยา่ งดี
- ร่วมกิจกรรมต่างๆที่หน่วยงานต้นสังกัดจัดขึ้น เช่น กิจกรรมทำบุญตักบาตรในวันขึน้ ปใี หม่
กิจกรรมเทศบาลเคลื่อนที่ กิจกรรมวิถีพุทธวิถีธรรม กิจกรรมจิตอาสา กิจกรรมทำบุญตักบาตรวันสงกรานต์
กิจกรรมวันเทศบาล กิจกรรมโครงการอบรมให้ความรู้ในการป้องกันตนเองจากไวรัสโคโรน่า 2019
(COVID-19) และจัดทำหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตนเอง กิจกรรมวันลอยกระทง กิจกรรมงานแผ่นดิน
สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช กจิ กรรมงานวนั เดก็ กิจกรรมงานวนั คริสมาสต์
3.1.2 ผลงานตามลักษณะงานที่ปฏิบัติตามมาตรฐานและคุณภาพการปฏิบัติงานตามมาตรฐาน
วทิ ยฐานะ
3.1.2.1 ผลงานตามลกั ษณะงานทีป่ ฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่ง ดงั น้ี
๓.๑.๒.๑.๑ การจัดการเรียนรู้ พิจารณาจาก

23

(๑) การจดั การเรยี นรู้ ข้าพเจ้า นางสรุ ิยา วงษ์ที ในฐานะท่เี ปน็ ผูจ้ ดั การเรยี นรใู้ ห้ผเู้ รียน
เกิดการเรียนรู้ตามจุดมุ่งหมายของการศึกษา ข้าพเจ้าเห็นความสำคัญของวิชาชีพครู เข้าใจบทบาทหน้าที่
และภาระงานของครู มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ให้มีคุณภาพ ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ ที่จะทำให้
ผู้เรียนเกิดการพัฒนาตามเป้าหมายของการจัดการศึกษา โดยต้องอบรมส่ังสอนให้ผู้เรียนมีความรู้
มีความสามารถทางวิชาการ มีคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนเป็น
มนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นคนเกง่ ดีและสามารถใชช้ ีวติ ในสังคมได้อย่างมีความสขุ การพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุตาม
เป้าหมายที่มุ่งหวังไว้นั้น ข้าพเจ้าจึงต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาร่วมกับคณะครู และ
คณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พนื้ ฐานของโรงเรียนเทศบาล ๔ ระบบสาธติ เทศบาลเมืองลพบรุ ี ในฐานะที่เป็น
คณะกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยร่วมกันศึกษาพระราชบัญญัติการศึกษา
แห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๔๒ ( ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๒) และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) และเอกสาร หนังสือ ตำราต่างๆ ที่เกี่ยวกับการพัฒนา
หลักสูตรในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ร่วมกันกำหนดปรัชญา คำขวัญ อุดมการณ์ และวิสัยทศั นใ์ นการพัฒนาโรงเรียน กำหนดแผน
ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์เพื่อการพัฒนา เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา มีการตรวจสอบ
ความถูกต้องและสอดคล้องของเนื้อหาในหลักสูตรสถานศึกษา ซึ่งสามารถใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรยี น
การสอนได้เป็นอย่างดี โดยก่อนที่การนำไปใช้สอนได้มีการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ระดับชั้น สาระการ
เรียนรู้ ตัวชี้วัด กำหนดหน่วยการเรียนรู้ แล้วนำมาจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ออกแบบการเรียนรู้ และใช้
วิธีการสอนและสื่อที่หลากหลาย สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ เพื่อให้มีสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยฝึกปฏิบัติกิจกรรมด้วย
ตนเอง ใช้เทคโนโลยรี วมท้ังภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ นอกจากน้ี ยังมีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้แบบบูรณาการทั้งใน
กลุ่มสาระการเรียนรู้และต่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ มีการผลิตสื่อและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาและแก้ปัญหา
การเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างเป็นระบบ มีการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง ด้วยวิธีการที่หลากหลาย
ที่สอดคลอ้ งกบั ตัวช้ีวัด ครอบคลุมการประเมินการอ่าน การคิด วเิ คราะห์ การเขียนสื่อความ สมรรถนะสำคญั
ของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษา ผู้เรียนได้เรียนรู้เต็มตามศักยภาพ มีนิสัยรักการ
ทำงาน ใฝ่รูใ้ ฝเ่ รียน มคี ุณธรรม จริยธรรมทดี่ ีงาม มีความสุขในการเรียน และมผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนเป็นไป
ตามมาตรฐาน ข้าพเจ้าทำการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ที่เนน้ การเชื่อมโยงความรู้
กับกระบวนการ มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้โดยใช้กระบวนการในการสืบเสาะหา
ความรู้และแก้ปัญหาที่หลากหลาย โดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทุกขั้นตอน มีการทำกิจกรรมด้วย
การลงมือปฏิบัตจิ ริงอย่างหลากหลายเหมาะสมกับระดับชั้นและพัฒนาคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ตามความ
ต้องการของชุมชนและท้องถิ่น พัฒนากิจกรรมด้านความรู้ เจตคติ คุณธรรมจริยธรรม และทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ข้าพเจ้าศึกษาสาระวิทยาศาสตร์ ที่จำเป็นสำหรับผูเ้ รยี นทกุ คนตอ้ งเรียนรู้ ดังนี้

➢ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ชีวิตในสิ่งแวดล้อม องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิตการ ดำรงชีวิต
ของมนุษย์และสัตว์ การดำรงชีวิตของพืช พันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ และวิวัฒนาการของ
สิ่งมีชวี ิต

➢ วิทยาศาสตร์กายภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ธรรมชาติของสาร การเปลี่ยนแปลงของสาร การเคลื่อนที่
พลังงาน และคลน่ื

➢ วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ เรียนรเู้ กยี่ วกับ องคป์ ระกอบของเอกภพ ปฏสิ มั พันธ์ภายในระบบ

24

สุริยะ เทคโนโลยีอวกาศ ระบบโลก การเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ
และผลต่อส่งิ มีชีวติ และส่ิงแวดลอ้ ม

➢ เทคโนโลยี
● การออกแบบและเทคโนโลยี เรียนรู้เกย่ี วกบั เทคโนโลยเี พอ่ื การดำรงชวี ิตในสงั คมทีม่ กี ารเปลย่ี น

แปลงอย่างรวดเร็ว ใชค้ วามรูแ้ ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อืน่ ๆ เพอ่ื แกป้ ญั หา
หรอื พัฒนางานอยา่ งมคี วามคดิ สร้างสรรคด์ ้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยีอยา่ ง
เหมาะสมโดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสิง่ แวดลอ้ ม

● วทิ ยาการคำนวณ เรียนรเู้ กี่ยวกบั การคิดเชงิ คำนวณ การคดิ วเิ คราะห์ แกป้ ญั หาเปน็ ข้ันตอนและ
เปน็ ระบบ ประยุกตใ์ ช้ความรูด้ า้ นวิทยาการคอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร ในการ
แกป้ ญั หา

ข้าพเจา้ ศกึ ษาสาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ ดังนี้
สาระท่ี ๑ วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต

และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอด
พลังงาน การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายทรัพยากรธรรมชาติและ
การแกไ้ ขปญั หาสง่ิ แวดลอ้ ม รวมท้ังนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัตขิ องสิ่งมีชีวิต หนว่ ยพน้ื ฐานของสงิ่ มีชีวิต การลำเลยี งสารเข้าและออกจาก
เซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่
ทำงานสัมพันธก์ ัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ี
ทำงานสัมพนั ธก์ นั รวมท้ังนำความร้ไู ปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสำคญั ของการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม
สารพนั ธุกรรม การเปลย่ี นแปลงทางพันธกุ รรมท่มี ผี ลต่อสงิ่ มีชวี ติ ความหลากหลาย
ทางชวี ภาพและวิวฒั นาการของสิง่ มีชวี ิต รวมทง้ั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
สาระที่ ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว ๒.๑ เขา้ ใจสมบัติของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสมบตั ิของสสาร
กับโครงสรา้ งและแรงยึดเหนยี่ วระหว่างอนภุ าค หลกั และธรรมชาติ
ของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี
มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวติ ประจำวนั ผลของแรงทกี่ ระทำต่อวตั ถุ
ลกั ษณะการเคลื่อนทแ่ี บบตา่ ง ๆ ของวัตถุ รวมท้งั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลงั งาน ปฏิสมั พนั ธ์
ระหว่างสสารและพลงั งาน พลงั งานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลน่ื ปรากฏการณ์
ทเี่ ก่ยี วข้องกบั เสียง แสง และคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี
ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต
และการประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๒ เขา้ ใจองคป์ ระกอบและความสัมพันธข์ องระบบโลก กระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลก
และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ
โลก รวมท้ังผลตอ่ สิ่งมชี ีวติ และสงิ่ แวดลอ้ ม

25

สาระที่ ๔ เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๔.๑ เขา้ ใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยเี พือ่ การดำรงชวี ิตในสงั คมทมี่ ีการเปล่ียนแปลง

อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และศาสตร์อ่นื ๆ
เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมคี วามคดิ สร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิง
วศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชวี ิต สังคม และ
สิ่งแวดล้อม
มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาทพ่ี บในชวี ิตจริงอย่างเป็นข้นั ตอนและ
เปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และ
การแกป้ ัญหาได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม
ข้าพเจ้านำความรู้จากการศึกษาหลักสูตรมาดำเนินการจัดการเรียนรู้ โดยวิเคราะห์มาตรฐาน
การเรียนรู้และสาระการเรียนรู้ได้อย่างถูกต้อง นำไปใช้ในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ได้ครบ
องค์ประกอบตามที่สถานศึกษากำหนดและจัดการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้โดยศึกษาและวิเคราะห์
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำเนินการจัดทำหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เขียนคำอธิบาย รายวิชา กำหนดมาตรฐาน/ตัวชี้วัด ในรายวิชาพื้นฐาน และผลการเรียนรู้ในรายวิชาเพิ่มเติม
กำหนดรปู แบบการเรยี นรู้ ตามแนวทางการปฏิรปู การศึกษา โดยใหส้ อดคลอ้ งกบั ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น บริบท
ของโรงเรียน จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งมีองค์ประกอบครบตามที่สถานศึกษา
กำหนดสามารถนำไปใช้จดั การเรยี นรู้ ตามแผนการจดั การเรียนรไู้ ด้จริง มีการบันทกึ ผลหลังการสอนและนำผล
ทไ่ี ด้จากการเรยี นการสอนไปปรบั ปรุงรปู แบบและวิธีการสอนในคร้ังตอ่ ไปให้ดียง่ิ ข้ึน และพบวา่ กิจกรรมตาม
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ำใหน้ ักเรียนบรรลจุ ดุ ประสงค์ท่กี ำหนดไวไ้ ด้จรงิ และเมื่อได้พูดคยุ กบั นักเรียนผู้ปกครอง
และไดร้ บั การนเิ ทศการสอน พบว่า ทุกฝา่ ยมีความพงึ พอใจในการจัดกจิ กรรมการเรียนรแู้ ละอยูใ่ นระดับท่ีดี
นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังได้ศึกษาถึงความสำคัญของวิชาวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติวิชา ลักษณะเฉพาะ
วิสัยทัศน์ สาระการเรียนรู้ คุณภาพของผู้เรียนเมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ และ ๖ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อนำมาจัดแผนการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ และนำแผนการจัดการเรียนรู้
ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนแ์ ก่ผูเ้ รยี น ซึง่ มขี ั้นตอนดงั น้ี
๑) ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยเจาะลึกสาระ
และมาตรฐานการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
คมู่ ือการประเมนิ ผลการเรียนการสอนและเอกสารอนื่ ๆ ทีเ่ ก่ียวข้องกบั หลักสูตร ศึกษาแนวดำเนินการวัดผล
การประเมินผล และการตดิ ตามผล
๒) วิเคราะห์หลักสูตร คุณภาพผู้เรียนเมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ และ ๖ สาระ
การเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชีว้ ัดในรายวิชาพ้ืนฐาน ผลการเรยี นร้ใู นรายวชิ าเพม่ิ เติม แนวการจัดการ
เรยี นรู้ การจดั เวลาเรียน อภิธานศพั ท์ วธิ ีการวดั และประเมินผล แนวการพฒั นาส่ือการเรยี น ของกลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยยึดมาตรฐานหลักสูตรเป็นสำคัญ
ดังนั้น ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้นมากำหนดมาตรฐานการเรียนรู้รายปี
รายภาคเรียน ตลอดจนกำหนดถึงจุดประสงค์การเรียนรู้รายคาบ จัดกิจกรรมการเรียนการสอน รวมทั้ง
กำหนดวิธีการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง (Authentic Learning and Assessment) ตลอดจน
สนับสนนุ และส่งเสริมผเู้ รียนให้เรียนรอู้ ย่างมีความสุข
๓) กำหนดการสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ข้าพเจ้า
ปฏิบัติการสอนปีการศึกษา ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ ภาคเรียนละ ๓ วิชา คือ ภาคเรียนที่ ๑ วิชาทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ คิดเป็น ๑ หน่วยกิต ทำการสอน ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ ,

26

วิชาเริ่มต้นโครงงานวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ คิดเป็น ๑ หน่วยกิต ทำการสอน ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์
และวิชาวิทยาศาสตร์ ๓ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ คิดเป็น ๑.๕ หน่วยกิต ทำการสอน ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ ภาค
เรยี นท่ี ๒ วิชาปฏิบัตกิ ารทางวทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ คิดเปน็ ๑ หน่วยกติ ทำการสอน ๒
ชั่วโมง/สัปดาห์ , วิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ คิดเป็น ๑ หน่วยกิต ทำการสอน ๒
ชั่วโมง/สัปดาห์ และวิชาวิทยาศาสตร์ ๔ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ คิดเป็น ๑.๕ หน่วยกิต ทำการสอน ๓
ชั่วโมง/สัปดาห์ โดยสอนแต่ละวิชาให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด และผลการเรียนรู้ของ
สาระการเรียนรู้ของหลักสตู ร และความต้องการของผู้เรยี นเพ่อื ให้นักเรยี นได้เรียนรไู้ ดอ้ ยา่ งมีส่วนร่วมและมี
ความสขุ ในการเรียน

๔) ศึกษาคู่มือการวัดและประเมินผลการศึกษา ตลอดจนแบบฟอร์มต่างๆ และทำการ
วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด โดยหาความสัมพันธ์ของสาระการเรียนรู้ในหลักสูตร และเนื้อหา
สาระย่อยในแต่ละเรื่อง จากนั้นจึงสร้างแบบฟอร์มต่างๆ ขึ้น เพื่อบันทึกการผ่านตัวชี้วัด และจุดประสงค์
ย่อยของนกั เรียนแต่ละคน จดั ให้มีการประเมินผลเพอ่ื ตดั สนิ ผลการเรียน ภาคเรยี นละ 1 ครั้ง

๕) สร้างเครื่องมือวัดผลตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ย่อยเพื่อใช้ทดสอบการเรียนรู้ของ
ผู้เรยี น โดยยดึ มาตรฐานหลกั สตู รเป็นสำคัญ

๖) จดั ทำแผนการจัดการเรียนร้กู ลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เพ่ือเป็น
การเตรียมการสอนล่วงหน้าก่อนดำเนินการสอนเพื่อใช้เป็นคู่มือ เป็นกรอบในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ให้กับผู้เรียน หรือเป็นประโยชน์ให้ผู้เข้าสอนแทนได้ใช้เป็นแนวในการสอน ซึ่งผู้บริหารสามารถควบคุม
กำกับและตรวจสอบไดเ้ ป็นอยา่ งดี แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ขี า้ พเจ้าจัดทำ มีรูปแบบดังน้ี

แผนการจัดการเรียนรทู้ .่ี ................

กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิชา............. รหสั วิชา ...........

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี .......... ภาคเรียนที.่ .............. ปีการศึกษา ...........

หนว่ ยการเรยี นรู้ท.ี่ ........... เรอื่ ง...................................................... เวลา...........ชวั่ โมง

ใชส้ อนวนั ท.ี่ .........เดือน............... พ.ศ. ................. สอนโดย นางสรุ ิยา วงษ์ที

องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้ ประกอบดว้ ย
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
๒. ผลการเรียนรู้
๓. สาระสำคญั
๔. สาระการเรยี นรู้
๕. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๖. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๗. กิจกรรมการเรยี นรู้ GPAS ๕ Steps ดงั น้ี

ข้ันท่ี 1 การเรียนรู้ตงั้ คำถาม (learning to Question)
ขั้นที่ 2 การเรยี นร้แู สวงหาสารสนเทศ (Learning to Search)
ขนั้ ที่ 3 การเรียนรู้เพ่อื สรา้ งองคค์ วามรู้ (Learning to Construct)
ขัน้ ท่ี 4 การเรยี นรเู้ พอ่ื การสอื่ สาร (Learning to Communicate)
ขน้ั ที่ 5 การเรยี นรูเ้ พ่ือตอบแทนสังคม (Learning to Service)
๘. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้

27

๙. การเตรียมล่วงหน้าสำหรับครู
๑๐. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้
๑๑. บนั ทึกผลการสอน

- ผลการสอน
- ปัญหา/อปุ สรรค
- ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
๗) เสนอแผนการจัดการเรียนรู้ต่อหัวหน้างานวิชาการและรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร
วิชาการโรงเรียนทุกสัปดาห์ เมื่อได้รับคำแนะนำหรือความคิดเห็นให้แก้ไขปรับปรุง ข้าพเจ้าได้ดำเนินการ
แกไ้ ขทันทตี ามคำแนะนำด้วยความเต็มใจทกุ คร้ัง
๘) การเตรียมการสอนในแต่ละวัน แต่ละชั่วโมง จะมีการเตรียมความพร้อมในการสอน
โดยก่อนถึงวันสอนมีการตรวจดูตารางสอนว่ามีการสอนวิชาอะไรบ้างในวันต่อไป แล้วทำการศึกษา
กำหนดการสอน สาระการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แล้วเตรียมสื่อการเรียนการสอนให้พร้อม
มีการทดลองใช้สื่อเพื่อดูข้อบกพร่อง เตรียมเครื่องมือในการวัดและประเมินผล ถ้าสาระการเรียนรู้ใดที่ยาก
จะไปค้นคว้าศึกษาเพมิ่ เติม และลงมอื ทำการสอนตามแผนทวี่ างไว้
ผลทีไ่ ดร้ ับจากการเตรียมและดำเนนิ การสอน มีดงั นี้
๑) ไดแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ทถ่ี กู ตอ้ งสมบูรณ์ ซง่ึ เป็นการเตรยี มครูและนกั เรยี นใหพ้ ร้อม
ในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน
๒) ทำให้ทราบข้อบกพรอ่ งของวธิ กี ารสอน และกิจกรรมการสอนเพ่ือจะได้หาทางชว่ ย
ผเู้ รยี นเป็นพเิ ศษโดยการสอนซ่อมเสริม
๓) ทำใหค้ รมู ีความมั่นใจในการสอนมากย่งิ ข้นึ
๔) ทำใหท้ ราบและเขา้ ใจหลักสตู ร สาระ มาตรฐานการเรียนรู้ ผลท่เี กดิ กบั ผเู้ รยี นเม่ือจบ
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ และช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๖ ตวั ชวี้ ัดของหลกั สูตร สามารถแบง่ สาระการเรียนรใู้ ห้
นกั เรยี นไดเ้ รยี นเปน็ สปั ดาห์ ตลอดภาคเรยี นท่ี ๑ และภาคเรยี นท่ี ๒
๕) การเรยี นการสอนเปน็ ไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ยราบรื่น นักเรียนเรียนรดู้ ว้ ยความสนใจ
มคี วามสขุ ในการเรียน บรรลุตามวัตถุประสงค์ของหลักสตู ร
๖) ได้ห้องเรียนท่ีมีบรรยากาศน่าเรียน มีมุมหนังสือและจัดทำป้ายนิเทศซึ่งเป็นสิ่งที่เรา้ ใจ
ใหก้ ับเด็ก
๗) ได้เป็นตัวอย่างอันดีต่อครูในโรงเรียน ที่ได้นำหลักการเตรียมการสอนของข้าพเจ้าไป
ปรบั ใช้ในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนของตนเองให้เกดิ ผลดี
ผลจากการปฏบิ ัติหนา้ ที่สายงานครูผู้สอนข้าพเจ้าได้ศึกษาสภาพปญั หาท่ีเกดิ ขึ้นในการจัดการเรียน
การสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๒ ในหลายปีที่ผ่านมา พบว่า เมื่อพิจารณาคะแนนผลสัมฤทธิ์ทาง
การเรยี นของนกั เรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ โรงเรยี นเทศบาล ๔ ระบบสาธติ เทศบาลเมืองลพบุรี ในรายวชิ า
วิทยาศาสตร์ ๔ จากคะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน พบว่านักเรียนมีคะแนนเฉลี่ย ๖๐.๒๓ คะแนน ซึ่งอยู่ใน
เกณฑ์ใกล้เคียงกับค่าเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สถานศึกษากำหนดไว้ที่ ๒ คิดเป็น ๖0 คะแนน
ซึ่งควรจะพัฒนาคะแนนให้สูงมากขึ้นกว่านี้ได้ เมื่อมาวิเคราะห์สภาพปัญหาจึงพบว่าครูขาดสื่อและรูปแบบ
กระบวนการจัดการเรียนรทู้ ่เี หมาะสมในการเรียนการสอน ทำใหก้ ารสอนไม่เป็นขั้นตอน นกั เรยี นปฏิบัตกิ าร
ทดลองน้อยเกินไป กระบวนการเรียนรู้ไม่ทำให้ผู้เรียนค้นพบความรู้ด้วยตนเอง อีกทั้งเนื้อหาสาระเป็น
ความรู้เชิงนามธรรมที่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ ที่เกิดจากการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง ขาดการ
วิเคราะห์ สังเคราะห์ และขาดการเชื่อมโยงความรู้ไปสู่การนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน จึงส่งผลให้

28

นักเรียนขาดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ไม่สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง ขาดการนำ
ความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและเมื่อสอบวัดความรู้นักเรียนส่วนใหญ่สอบไม่ผ่านเกณฑ์จึงส่งผลให้มี
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ ข้าพเจ้าจึงดำเนินการแก้ปัญหา โดยทำการวิจัยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อ
พัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้
แบบ GPAS 5 Steps ปรากฏวา่ ภายหลังการเรียนรู้โดยใชช้ ุดกจิ กรรมการเรียนรู้ที่ขา้ พเจา้ สร้างขึ้น นักเรยี น
มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นกว่าก่อนเรียน และมีความพึง
พอใจต่อ การเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งหลักการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้แบบ
GPAS 5 Steps เป็นหลักการซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นหลักในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ให้แก่ผู้เรียนได้
อย่างหลากหลาย รูปแบบหนึ่งที่ได้นำเสนอไว้และได้มีการนำไปทดลองใช้แล้วได้ผลดีประกอบด้วยขั้นตอน
ดำเนินการ ๕ ข้นั ตอนดังน้ี

ขั้นตอนที่ 1 การเรียนรู้ตั้งคำถามหรือขั้นตั้งคำถาม (learning to Question) เป็นที่ให้ผู้เรียน
ฝึกสังเกตสถานการณ์ ปรากฏการณ์ต่างๆ จนเกิดความสงสัย จากนั้นฝึกให้ผู้เรียนตั้งคำถามสำคัญ รวมทั้ง
การคาดคะเนคำตอบด้วยการสบื ค้นความรู้จากแหลง่ ตา่ งๆ และสรุปคำตอบชวั่ คราว

ขั้นตอนที่ 2 การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search) เป็นขั้นตอนการออกแบบ/
วางแผนเพื่อรวบรวมข้อมูล สารสนเทศ จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ รวมทั้งการทดลองเป็นขั้นท่ี ผู้เรียนใช้
หลักการนิรภยั (Deduction reasoning) เพื่อการออกแบบข้อมลู

ขั้นตอนที่ 3 การเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct) เป็นขั้นตอนท่ีผู้เรียน
มีการคิดวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ การสื่อความหมายข้อมูลด้วยแบบต่างๆ หรือด้วย
ผังกราฟิก การแปรผล จนถึงการสรุปผล หรือการสร้างคำอธิบาย เป็นการสร้างองค์ความรู้ ซึ่งเป็นแก่น
ความรปู้ ระเภท ขอ้ เทจ็ จรงิ คำนยิ าม มโนทัศน์ หลกั การ กฎ ทฤษฏี

ขั้นตอนที่ 4 การเรียนรู้เพื่อการสื่อสาร (Learning to Communicate) คือ ขั้นนำเสนอความรู้
ด้วยการมใช้ภาษาที่ถกู ตอ้ ง ชดั เจนและเปน็ ทเ่ี ข้าใจ อาจเปน็ การนำเสนอภาษาและนำเสนอด้วยวาจา

ขั้นตอนที่ 5 การเรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม (Learning to Service) เป็นขั้นตอนการฝึกเด็กให้นำ
ความรู้ที่เข้าใจ นำการเรียนรู้ไปใช้ประโยชน์เพื่อส่วนรวม หรือเห็นต่อประโยชน์ส่วนรวมด้วยการทำงาน
เป็นกลุ่ม ร่วมสร้างผลงานที่ได้จากการแก้ปัญหาสังคมอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งอาจเป็นความรู้ แนวทาง
สิ่งประดิษฐ์ ซึ่งอาจเป็นนวัตกรรม ด้วยตวามรับผิดชอบต่อสังคม อันเป็นการแสดงออกของการเกื้อกูล
และแบ่งปนั ใหส้ ังคมมสี ันติอย่างย่งั ยนื

กระบวนการจัดการเรียนรู้ GPAS ๕ step เป็นขั้นตอนและจุดเน้นในการจัดกระบวนการเรียนรู้
เพื่อให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง จากนั้นนำไปใช้ในการปฏิบัติจริง ใช้ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์
ต่างๆ สิ่งที่ได้จากกระบวนการเหล่านี้ จะตกผลึกภายในตัวของผู้เรียน จะกลายเป็นตัวตนเป็นบุคลิกภาพ
ของผู้เรียน และสะท้อนออกมาในภาระงานหรือการปฏิบัติที่ครูมอบหมาย เป็นกระบวนการของการสร้าง
องค์ความรู้ (construction of knowledge) ซึ่งครูสามารถจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนมีโอกาสปฏิสัมพันธ์
แลกเปลี่ยนความรู้กัน (interaction) และฝึกฝนกระบวนการ (process learning) อย่างต่อเนื่อง ข้าพเจ้า
เห็นว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ GPAS ๕ step จะสามารถพัฒนาผู้เรียน
ได้เป็นอย่างดี จึงนำมาเป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาผู้เรียนทั้งด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ
และเจตคติของผู้เรียนซึ่งขอบข่ายการวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ ๑) สร้างและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรม
การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้กระบวนการ
การจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps ให้มีประสิทธิภาพ ๘๐/๘๐ ๒) เปรียบเทียบทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ของนักเรียนก่อนและหลังการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ

29

ทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps
๓) เปรียบเทียบผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม
การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้กระบวนการ
การจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps ๓) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนภายหลังการเรียนโดยใช้
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้
กระบวนการการจัดการเรียนรูแ้ บบ GPAS 5 Steps เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้กระบวนการการจัดการ
เรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้แบบ
GPAS 5 Steps แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ และ
แบบสอบถามความพึงพอใจผลการศึกษาพบว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps
มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5
Steps มีคะแนนการประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑ และนักเรียนกลุ่มตัวเป้าหมายมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุด
กิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้
กระบวนการการจดั การเรียนรูแ้ บบ GPAS 5 Steps ในภาพรวมนักเรยี นมีความพึงพอใจระดบั มากทสี่ ุด

(๒) การดำเนินการแก้ปัญหาในชั้นเรียน ในฐานะครูประจำชั้นได้ปฏิบัติงานธุรการชั้นเรียน
โดย กรอกแบบบันทึกต่างๆ ของทางโรงเรียนที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้เรียนให้เป็นปัจจุบัน เมื่อพบว่า
นักเรียนคนใดมีปัญหาจะประสานกับผู้ปกครองทันที อบรมเรื่องกิริยามารยาท ระเบียบวินัย การประพฤติ
ปฏิบัติตนในอยู่ร่วมกับผู้อื่นโดยใช้หลักจิตวิทยา เรื่องการดูแลรักษาสุขภาพอนามัยของนักเรียน ชี้แนะ
แนวทางในการมุ่งพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแก่นักเรียนให้ดีขึ้น เรียนรู้ด้วยความสุขโดยไม่คิดว่า
การเรียนเป็นหน้าที่เป็นภาระที่ต้องฝ่าฟันด้วยความอดทน แต่ชี้แนะให้นักเรียนเห็นว่าการเรียนเป็นเพียง
การพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ของนักเรยี นให้ดขี น้ึ ตามลำดับเพอื่ วนั หน่ึงนกั เรียนจะไดม้ ีอนาคตที่มนั่ คงตอ่ ไป

(๓) การให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการกำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้าพเจ้าจะแนะนำรายวิชาและ
พานักเรียนวิเคราะห์เนื้อหาก่อนเรียนในชั่วโมงแรกที่พบกัน ให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดคะแนน
ระหว่างเรียนและจำนวนครั้งที่จะทำการวัดและประเมินผลย่อยระหว่างเรียน พบว่า นักเรียนแสดงออกถึง
ความพึงพอใจที่ตนเองได้มีส่วนร่วมในการจัดกระบวนการเรียนรู้ ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการกำหนดคะแนน
การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตลอดจนเปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีการเลือกใช้สื่อการเรียนการสอน
และแหล่งเรียนรู้ และภูมิปัญญาอยู่เสมอ ซึ่งดำเนินการโดยพูดคุยและสอบถามความคิดเห็นก่อนดำเนินการ
ส่งผลให้นักเรียนมีความพึงพอใจกับกิจกรรมการเรียนการสอน มีความสุขกับการเรียนเพราะกิจกรรมสามารถ
ตอบสนองความตอ้ งการของผเู้ รยี นเป็นอย่างดี สง่ ผลให้ผเู้ รียนมีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนท่สี ูงข้นึ

(๔) การใช้หรือสร้างเครือข่ายทางการศึกษาและประเมินผลอย่างเป็นระบบทำให้เกิด
ประโยชนต์ อ่ การพัฒนาการเรยี นรู้

- สร้างเครือข่ายการเรียนรู้ให้แก่ตนเองและผู้เรียนโดยเครือข่ายการเรียนรู้ที่สำคัญ ได้แก่
บ้าน ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกของเด็ก และมีความใกล้ชิดกับผู้เรียนมากที่สุดถ้าครอบครัวอบอุ่น
สง่ ผลให้นกั เรียน มีพัฒนาการท่ดี ที ัง้ ดา้ นสติปัญญา, อารมณ์ และสังคม

30

- เป็นสมาชิกเครือข่ายทางวิชาการต่างๆ ได้แก่ สมาชิก ThaiLIS สมาชิกคุรุสภา สมาชิก
ISPT LEARNING SPACE ของสสวท. ทำให้ได้รับข้อมูลข่าวสารและทิศทางในการพัฒนาการศึกษาได้อย่าง
รวดเร็ว และข้าพเจา้ ไดน้ ำความรูท้ ่ไี ด้มาเป็นแนวทางในการพฒั นาผ้เู รยี น

- ได้สร้างเครือข่ายลักษณะครูช่วยครู ร่วมปรึกษางานวิชาการในการผลิตสื่อ/นวัตกรรม
นำผลการนิเทศการสอนมาร่วมอภิปรายเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่พบและทิศทางที่จะสนับสนุนผู้เรียน
ให้พัฒนาตามความสนใจและความถนัดโดยคำนึงถงึ ความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล

- เป็นผ้เู ช่ยี วชาญในการตรวจเครอ่ื งมือท่ีใชใ้ นการดำเนินการวิจยั ให้เพอื่ นครู
(๕) ดำเนินการแก้ปัญหาหรือวิจัยในชั้นเรียนได้อย่างเป็นระบบ ข้าพเจ้าจะคอยสอดส่อง
ดูแล นักเรียนอยู่เสมอ หากเจอปัญหาก็จะแก้ไข หลากหลายวิธี บางครั้งก็ต้องแก้ไขโดยการทำวิจัย
ในชนั้ เรียนอยา่ งเปน็ ระบบ ดงั น้ี

- ใช้กระบวนการการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อแก้ปัญหาการเรียนรู้ ได้แก่ การใช้ชุดกิจกรรม
การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้กระบวนการการ
จดั การเรียนรูแ้ บบ GPAS 5 Steps วิชาวิทยาศาสตร์ ๔ ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒

- ในกรณีที่เนื้อหามีความเป็นนามธรรมสูงทำให้ผู้เรียนเกิดความสับสนและไม่เห็น
การนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน เช่น เรื่องแรงและการเคลื่อนท่ี ข้าพเจ้าได้พัฒนารูปแบบการสอนเพ่ือ
แก้ปัญหาโดยการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนกระบวนการจัดการเรียนรู้ SURIYA Model เพ่ือ
ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ที่จำเป็นต่อการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งในขั้นตอนที่ ขั้นที่ 4 สร้างแนวคิด (Idea) เป็นขั้นที่ให้ผู้เรียนได้นำความรู้หรือ
ข้อมูลจากขั้นก่อนหน้านี้มาอภิปรายหรือทำกิจกรรมภายในกลุ่มเพื่อลงข้อสรุปเกิดเป็นความรู้หลักข้ึน
นกั เรยี นสามารถประยกุ ตใ์ ชค้ วามรใู้ นสถานการณใ์ หมไ่ ดห้ รอื ไม่ โดยการใหน้ กั เรียนตอบคำถาม แสดงความ
คิดเห็นหรือใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น การทดลอง โครงงาน เพื่อแสดงความคิดของตนเองใน
สถานการณ์ใหม่ และขั้นที่ 6 สร้างสรรค์เพื่อนำไปใช้ (Adapt) ในขั้นนี้ผู้เรียนนำความรู้ใหม่ที่เกิดจาก
การสรา้ งองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเองไปประยุกต์ใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ในสถานการณ์ต่างๆ จนเกิด
การเรียนรู้อย่างมีความหมาย เป็นกิจกรรมที่ต้องการให้นักเรียนได้ประมวลองค์งความรู้เพื่อนำไปใช้
ประโยชน์ซึ่งเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ร่วมกับทีมในการสร้างผลงานชิ้นนี้สร้างความภาคภูมิใจให้กับนักเรียน
เป็นอย่างมาก นักเรียน มีความสุขในการสร้างสรรค์ผลงานของตน ได้ทำในสิ่งที่ชอบและสนใจตาม
ความถนัด รจู้ ักการวางแผนทำงานเปน็ ทีม ได้บรู ณาการความรู้ในสาขาวิชาต่างๆอย่างหลากหลาย

ผลการวิจัยพบว่า ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต่อการสร้างองค์
ความรู้ด้วยตนเอง ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น ทำให้นักเรียนเกิดความพึงพอใจ ความสนใจ
ในการเรียนรู้และตั้งใ จเรียนมา กยิ่งขึ้นเนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ผู้เรี ยนมีส่วนร่วมในการคิดหา วิ ธี
ในการแกป้ ญั หาในการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง ผู้เรียนไดม้ สี ว่ นร่วมอย่างแท้จริง

(๖) วดั และประเมนิ ผลการเรยี นรไู้ ด้อย่างหลากหลายและนำผลไปใช้ในการพฒั นาผเู้ รียน
- ข้าพเจ้าใช้รูปแบบวัดและประเมินผลการเรียนรู้ได้อย่างหลากหลายและประเมินผล

ผลงานของนักเรียนตามสภาพจริง และให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดเกณฑ์การวัดและประเมินผล
เช่น สังเกตการทำงาน ขั้นตอนการทำงาน กระบวนการกลุ่ม ตรวจผลงานและการทดสอบความรู้ การวัด
ทักษะกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง การวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การวัดคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ของนักเรียนตามหลักสูตร การวัดสมรรถนะที่จำเป็นของนักเรียตามหลักสูตรด้วยเครื่องมือที่สร้างเพ่อื
สนองกับการวัดและประเมินผลโดยกำหนดประเด็นในการวัดและประเมิน กำหนดเกณฑ์การตัดสินให้ชัดเจน
และแจ้งผลการประเมนิ ใหน้ กั เรยี นทราบ ผลปรากฏว่า สามารถนำไปประเมินการเรียนรขู้ องผู้เรียนไดด้ ีและ

31

ครอบคลุม นำมาใช้ประเมินได้อย่างเป็นระบบและรวดเร็ว สังเกตและประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ไดอ้ ย่าง
เป็นธรรมชาติและเต็มศักยภาพ สามารถนำไปลดปัญหาด้านความแตกต่างระหว่างบุคคล นักเรียนมีความ
กระตือรือร้นที่จะพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทักษะกระบวนการ และเจตคติต่อการเรียนเนื่องจากการวัดและ
ประเมินผลเป็นระบบ เมื่อพบนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมินจะมีการซ่อมเสริมให้แก่นักเรียนทันทีเมื่อ
สอบถามทกุ ฝา่ ยทเ่ี กีย่ วข้องพบว่ามีความพึงพอใจในระดับมากท่ีสุด

ในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนนั้น ข้าพเจ้าได้ดำเนินการตามระเบียบ
กระทรวงศึกษาธกิ ารวา่ ดว้ ยการประเมนิ ผลการเรียนตามหลกั สูตรการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ดงั นี้

๑) การประเมินผลก่อนเรียน เมื่อจะเริ่มสอนบทเรียนใหม่ทุกครั้ง ข้าพเจ้าจะวัดผลก่อน
เรียนเพื่อให้ทราบความรู้พื้นฐานเดิมของนักเรียนว่ามีมากน้อยเพียงใด พร้อมที่จะเรียนในเรื่องต่อไปได้
หรือไม่ ถ้าพื้นฐานยังไม่เพียงพอก็จะทำการแก้ไขข้อบกพร่องนั้นๆ ก่อนในการตรวจสอบความรู้เดิม
ข้าพเจ้าได้ใช้หลายวิธี เช่น การสังเกต สนทนา ซักถาม สัมภาษณ์และทดสอบ สำหรับนักเรียนที่มีพื้นฐานดี
อยู่แล้ว ก็จัดกิจกรรมอื่นเสริมให้มีความรู้เพิ่มขึ้น หรือให้ช่วยเพื่อนที่ยังขาดทักษะหรือยังไม่เข้าใจบทเรียน
ซึง่ จะทำใหน้ ักเรียนทเี่ รียนดไี มเ่ บอ่ื หนา่ ยและเสียเวลาฟังในสง่ิ ท่รี แู้ ล้ว

๒) การประเมนิ ผลระหว่างเรียน ขา้ พเจา้ ได้จัดทำเปน็ ๒ ลักษณะ คอื
➢ ประเมินผลเมื่อสอนจบในแต่ละหน่วย เพื่อดูผลว่านักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ

ในเนื้อหาที่เรียนไปแล้วหรือไม่ ถ้ายังไม่เป็นที่พอใจข้าพเจ้าจะจัดกิจกรรมสอนซ่อมเสรมิ นอกเวลาเรียนแล้ว
ทำการประเมินผลใหม่

➢ ประเมินผลการเรียนรู้ตาม มาตรฐาน ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ในสมุด
ปถ.๕ โดยปฏิบัติดังน้ี

- เริ่มต้นจากการกำหนดตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ที่ต้องการวัดให้ตรงตามสาระ
และมาตรฐานการเรยี นรกู้ ่อนสอบกลางภาคเรยี น และสอบปลายภาคเรยี น

- วิเคราะหต์ ัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ เพื่อหาความสมั พันธ์ระหว่างสาระกับมาตรฐาน
การเรยี นรู้

- สร้างเครื่องมือวัดผลในรูปแบบต่างๆ ซึ่งได้แก่ข้อทดสอบ แบบสำรวจ
แบบรายงาน แบบสอบถาม แบบสังเกตพฤติกรรม ให้สอดคล้องกับตัวชี้วัดโดยวัดให้ครอบคลุมพฤติกรรม
ดา้ นพุทธพิ สิ ัย จิตพสิ ัย ทกั ษะพสิ ัย และเน้นกระบวนการ

- เมื่อสอนจบแต่ละเรื่องแล้ว ทำการวัดผลแต่ละตัวชี้วัด และจุดประสงค์ย่อย
ดว้ ยเครื่องมอื วดั ผลที่สร้างไว้

- นำผลการประเมินแต่ละครั้งไปกรอกลงในแบบ ปถ.๐๕ (สมุดบันทึกคะแนน
รายวชิ า)

๓) การประเมินผลปลายภาคเรียน ข้าพเจ้ามีการประเมินผลปลายภาคเรียนทุกภาคเรียน
หลังจากจบกระบวนการเรียนการสอนที่กำหนดไว้ในกำหนดการสอนแต่ละภาคเรียน ข้าพเจ้าจะวัดผลโดย
การทดสอบความรู้โดยใช้แบบทดสอบแบบปรนัย ๔ ตัวเลือกและอัตนัย เพื่อตรวจสอบดูว่านักเรียนสอบ
ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้หรือไม่ ต้องการรู้ว่านักเรียนมีความสามารถเด่นด้อยในเรื่องใดเพื่อนำ มาปรับปรุง
การเรยี นการสอนในภาพรวมต่อไป

๔) การนำเครื่องมือไปวัดผลและรวบรวมผลการวัด เมื่อสร้างเครื่องมือวัดผลแล้วได้นำ
เคร่อื งมือไปวัดผลกบั นักเรียน เพอ่ื ตรวจสอบดวู ่านกั เรียนผ่านเกณฑท์ ก่ี ำหนดไว้หรอื ไม่

ข้าพเจ้าดำเนนิ การวัดผลประเมินผลตามเกณฑ์การวัดผลประเมนิ ผลของโรงเรียน ดงั นี้

32

สดั ส่วนคะแนน ระหวา่ งภาค : ปลายภาค คอื ๗๐ : ๓๐
การวดั ผลระหว่างภาค ๗๐ คะแนน ประกอบดว้ ย

- ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ๖๐ คะแนน ได้แก่ กิจกรรมระหว่างเรียนและภาระงาน
๔๐ คะแนน และการทดสอบย่อย ๒๐ คะแนน

- คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 10 คะแนน ได้แก่ ซื่อสัตย์สุจริต 2 คะแนน มีวินัย
2 คะแนน ใฝ่เรยี นรู้ 3 คะแนน และมุ่งมั่นในการทำงาน 3 คะแนน

การวัดผลปลายภาคเรียน 30 คะแนน ประกอบด้วย
- แบบทดสอบปรนัย จำนวน 60 ข้อ 20 คะแนน ซึ่งเป็นแบบทดสอบที่วัด

ผู้เรียนดา้ นความรคู้ วามจำ ความเขา้ ใจ การนำไปใช้ และทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
- แบบทดสอบอตั นยั จำนวน 2 ขอ้ 10 คะแนน
รวมคะแนนทัง้ หมด 100 คะแนน

การตัดสินผลการเรยี น กำหนดเกณฑก์ ารตัดสิน 8 ระดบั ดังนี้

ช่วงคะแนน ระดับผลการเรยี น ความหมายของผลการเรียน
0 – 49 0 ต่ำกวา่ เกณฑ์ขนั้ ต่ำ
50 – 54 1 ผ่านเกณฑข์ นั้ ต่ำ
55 – 59 1.5 พอใช้
60 – 64 2 น่าพอใช้
65 – 69 2.5 ค่อนข้างดี
70 – 74 3 ดี
75 – 79 3.5 ดมี าก
80 ขึน้ ไป 4 ดีเยยี่ ม

การผ่านเกณฑ์การประเมนิ นกั เรียนตอ้ งได้ผลการเรยี น เกรด 1 ขน้ึ ไป
การเก็บรวบรวมและบันทกึ คะแนน ข้าพเจ้าไดใ้ ชเ้ ครอ่ื งมอื ต่างๆ ทส่ี อดคล้องกับการวัดผล
และประเมินผล ซึ่งประกอบด้วยสมุดบันทึกการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (ปถ.5) แบบบันทึกคะแนน
ผลการเรียนรู้ แบบประเมินคุณลักษะอันพึงประสงค์ แบบสังเกตพฤติกรรมต่างๆ แบบประเมิน การอ่าน
การคิดวิเคราะห์ การเขยี นสอ่ื ความ
ผลที่ได้จากการวัดและประเมินผล นักเรียนที่ข้าพเจ้าปฏิบัตหิ น้าที่ครูผู้สอนผ่านเกณฑ์การประเมิน
ทุกคนและทำใหเ้ กดิ ผลดี คือ
1. ช่วยให้ข้าพเจ้าทราบพฤติกรรม และความรู้ของนักเรียนแต่ละคนว่าเป็นอย่างไรและ
นำมาปรบั ปรงุ แกไ้ ขเพือ่ หาวิธีจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนใหเ้ หมาะสมกับสภาพของนักเรียนตอ่ ไป
2. ชว่ ยให้ทราบผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนเป็นระยะๆ งา่ ยตอ่ การสอนและปรับปรงุ
กระบวนการสอน
3. ช่วยกระตุ้นนักเรียน เพราะการตรวจสอบบ่อยๆ ทำให้นักเรียนทราบจุดเด่นจุดด้อย
ของตนเอง นกั เรยี นจึงพยายามปรับปรงุ แกไ้ ขและตงั้ ใจเรยี นยงิ่ ขึ้น
4. ถือเปน็ แบบอยา่ งของครูในโรงเรยี น กลุ่มโรงเรียนเทศบาลเมอื งลพบรุ แี ละกลุ่มอนื่
ข้าพเจ้ามีเทคนิควิธีการวัดผลที่ดีและใช้ผลนั้นปรับปรุงสภาพการเรียนการสอนโดย
ดำเนินการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริงของผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น ตรวจผลงาน ชิ้นงาน

33

สังเกต สนทนา ซักถาม สัมภาษณ์ ทดสอบภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยมีแบบบันทึกและร่องรอย ที่
สามารถตรวจสอบได้ ทำให้รู้พัฒนาการเรียนของผู้เรียน แต่ละคนสามารถนำข้อมูลมาสอนซ่อมเสริมให้กับ
ผู้เรียนเป็นรายบุคคลได้ มีการจัดทำสมุดพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน (ปถ.๐5) และแบบรายงานการพัฒนา
คุณภาพผู้เรียนเป็นรายบุคคล (ปถ.๐6) อย่างเป็นปัจจุบัน ข้าพเจ้าใช้กระบวนการวัดผลโดยใช้วิธีการต่างๆ
อย่างหลากหลาย เช่น ทดสอบก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเรียน แบบประเมินพฤติกรรมด้านต่างๆ
แบบประเมินผลการทำงานกลุ่มทั้งนี้เพื่อใช้เปน็ หลักฐานแสดงความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของผูเ้ รียนได้เปน็
อย่างดี จะมีการประเมินผลการทำงาน ชิ้นงานของ ผู้เรียนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นการประเมินตาม
สภาพที่แท้จริงของผเู้ รยี น ผลของความสามารถในการวดั และประเมนิ ผล

- ผู้เรยี นมสี ว่ นร่วมในการเรียนรแู้ ละแสวงหาความรไู้ ดด้ ้วยตนเอง
- ผู้เรียนสามารถสร้างองคค์ วามรไู้ ดด้ ว้ ยตนเอง
- ผู้เรยี นสามารถทราบความกา้ วหนา้ ในการเรยี นดว้ ยตนเอง
- ผเู้ รียนมคี วามกระตอื รือรน้ ในการเรยี นมากยง่ิ ข้นึ
- ผ้เู รียนรูข้ อ้ บกพร่องของตนเองไดง้ า่ ยขนึ้
- ผู้เรียนมีเจตคติทีด่ ตี อ่ วิชาวทิ ยาศาสตร์
- ครูผูส้ อนทราบความกา้ วหน้าในการเรยี นรู้ของเด็กได้เปน็ อยา่ งดี
- ครูผสู้ อนมีความมั่นใจในการพัฒนารปู แบบการเรียนการสอนท่ีหลากหลายมากขึ้น
- ครผู ้สู อนสามารถนำผลการประเมินมาซอ่ มและเสรมิ ผู้เรียนไดท้ นั ที
- ครูผู้สอนสามารถใช้การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ เป็นสื่อในการถ่าย
โยงความรใู้ หม่กับประสบการณเ์ ดิม ทำใหเ้ กดิ องค์ความรใู้ หมท่ ีม่ คี วามคงทน ยิง่ ขึน้
(7) รายงานผลต่อผเู้ รียน ผปู้ กครอง และผบู้ รหิ ารอยา่ งถูกต้อง สมำ่ เสมอ

ข้าพเจ้าจัดทำเอกสาร กำกับติดตามและร่องรอยพัฒนาการการเรียนรู้ของผู้เรียน
สามารถให้ผู้เรียนตรวจสอบเพื่อดูพัฒนาการและประเมินแนวโน้มผลการเรียนของตนเองได้ ข้าพเจ้า
รายงานผลการทดสอบทุกหน่วยให้นักเรียนทราบความก้าวหน้าในการเรียนของตนเองทุกครั้งหลังจากที่ได้
มีการวัดและประเมินผล และเมื่อพบนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินหรือนักเรียนที่ไม่พึงพอใจผลที่ได้
จะจัดให้ผู้เรียนเข้าสู่การเรียนซ่อมเสริมและการประเมินผลใหม่อีกครั้ง และสามารถรายงานผลการเรียน
ตามระเบียบการวัดและประเมินผลอย่างถูกต้อง รัดกุม สามารถรายงานความก้าวหน้าทางการเรียนและ
ความประพฤตขิ องผ้เู รียนตอ่ ผู้บริหารสถานศกึ ษา ผูป้ กครอง และผทู้ เ่ี ก่ยี วขอ้ งไดอ้ ย่างเป็นปจั จุบัน สามารถ
อ้างอิงและตรวจสอบได้ โดยจัดทำบันทึกผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เอกสารรายงานผลการเรียนผู้เรียน
เป็นรายบุคคล และระเบียนสะสม รวมทั้งใหค้ ำปรกึ ษาเร่ืองการเรียนของบุตรหลานต่อผู้ปกครองได้ทุกเวลา
เมื่อพบนักเรียนที่มปี ัญหาซึ่งจะสง่ ผลให้เกดิ ความเสียหายตอ่ การเรยี นของนักเรียนข้าพเจ้าจะทำรายงานผล
การเรียนและความประพฤติของผู้เรียนที่มีปัญหา เช่น ขาดเรียนไม่มีสาเหตุ หรือมีพฤติกรรมที่ไม่ใส่ใจ
ต่อการเรยี นให้ผู้ปกครองได้ทราบทันทีเพื่อรว่ มกันแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที เพื่อร่วมกันแกป้ ญั หา
แก่ผู้เรียนต่อไปในอนาคต

3.1.2.1.2 การพัฒนาวชิ าการ พจิ ารณาจาก
ข้าพเจ้าพยายามที่จะพัฒนาตนเองในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทั้งเป็น
ทางการและไม่เป็นทางการในด้านการฝึกอบรม เพื่อความก้าวหน้าต่อตนเองและหน้าที่การงานซึ่งมีผลต่อ
การพัฒนาผู้เรียนที่ถือว่าเป็นเป้าหมายสูงสุดในการจัดการศึกษาเพราะถ้าครูเป็นผู้ที่มีความรู้และ
ประสบการณ์ที่ดีและปฏิบัติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพครูก็จะส่งผลต่อการจัดกิจกรรม
การจัดการเรียนรู้ ข้าพเจ้าตระหนักดีในเรื่องดังกล่าว จึงแสวงหาความรู้ เทคนิควิธีการและนวัตกรรมใหมๆ่

34

อยู่เสมอเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของ
ผูเ้ รียน ดงั น้ี

ลำดบั ที่ วัน เดือน ปี เรื่อง สถานที่

๑ 9 สงิ หาคม 2560 อบรมโครงการอบรมพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๔

ด้วยเทคโนโลยีทางไกล ระบบสาธติ เทศบาลเมอื ง

ผา่ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ ลพบรุ ี

๒ ๒๘-๒๙ มนี าคม ๒๕๖๑ โครงการอบรมสัมนาพนักงานครูและบุคลากร ศาลาประชาคม
ทางการศกึ ษาประจำปี ๒๕๖๑ เทศบาลเมืองลพบรุ ี

๓ 3 - 4 เมษายน 256๑ อบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการเพ่ือจัดทำและพัฒนา โรงเรยี นเทศบาล ๔
หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ ระบบสาธิตเทศบาล

เมอื งลพบรุ ี

๔ 7 กนั ยายน 2562 โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการพฒั นา โรงเรียนเทศบาล 4
หลกั สตู รสถานศกึ ษา ระบบสาธติ เทศบาล

ประจำปีการศกึ ษา 2562 เมืองลพบุรี

๕ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๒ อบรมเครือขา่ ยสุจริตไทยหลกั สูตรสำหรับ www.thaihonesty.org
ข้าราชการผ่านระบบ E-Learning

๖ 18 มนี าคม 2563 โครงการอบรมให้ความรใู้ นการป้องกันตนเอง ศาลาประชาคม
จากไวรัสโคโรนา่ 2019(COVID-19) และ เทศบาลเมืองลพบุรี

จัดทำหนา้ กากอนามยั เพ่ือป้องกันตนเอง

๗ 19 มนี าคม 2563 โครงการวิจยั เพือ่ พัฒนาการเรยี นการสอน โรงเรยี นเทศบาล 4
ระบบสาธิตเทศบาล

เมืองลพบุรี

๘ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๓ อบรมความรเู้ บอื้ งตน้ เกย่ี วกับไวรัส www.covid19.myonie.co

Covid – 19 ด้วยระบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ m

๙ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๓ อบรมการจัดการเรียนการสอนทางไกลใน ระบบออนไลน์
สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรัสโค

โรนา ๒๐๑๙ ผ่านระบบการประชุมทางไกล

๑๐ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๓ อบรม “Active and Passive Voice” www.karusatpanya.org
online testing

1๑ ๑๓-๑๕ สงิ หาคม ๒๕๖๓ ศกึ ษาดงู านแหลง่ เรียนรูต้ ามแนวพระราชดำริ จงั หวดั จันทบรุ ี
อา่ วคงุ้ กระเบน

๑๒ ๒๗ กนั ยายน ๒๕๖๓ โครงการพฒั นาประสทิ ธิภาพการจดั การศกึ ษา โรงเรยี นเทศบาล 4
ทอ้ งถิ่นยคุ ดจิ ิทลั ระบบสาธติ เทศบาล

เมอื งลพบุรี

๑๓ ๓๐ มีนาคม - ๔ เมษายน การอบรมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศกึ ษา โรงแรมขอนแก่นโฮเตล็
2๕๖๔ ก่อนแตง่ ตัง้ ใหเ้ ลอ่ื นส่วู ทิ ยฐานะเช่ยี วชาญ

35

จากประสบการณท์ ไ่ี ด้จากการฝกึ อบรมดังกลา่ วข้างต้น ข้าพเจ้าได้นำมาใช้ในการพฒั นาทางวิชาการ ดังนี้
(1) พฒั นางานการเรยี นการสอน
(2) พัฒนางานการสร้างและพัฒนานวตั กรรมและสือ่ การเรียนการสอน
(3) พฒั นางานการจัดการชั้นเรียนและสรา้ งองค์ความรใู้ หผ้ เู้ รยี น
(4) พัฒนางานดา้ นการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
(5) พัฒนาการกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี นในดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
ข้าพเจ้าได้พัฒนาสื่อนวัตกรรมมาใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

เมื่อนำไปใช้พบว่าได้ผลดี ซึ่งสื่อนวัตกรรมการเรียนการสอนที่ผลิตขึ้นได้เน้นสื่อที่มีประโยชน์ ประหยัด
และมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างความสนใจเรียนได้ โดยเริ่มจากการวิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐาน
การเรียนรู้ และสาระการเรียนรู้ พบวา่ ในสาระท่ี 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัติของ
สง่ิ มีชวี ติ หน่วยพ้นื ฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเขา้ และออกจากเซลล์ ความสมั พันธ์ของโครงสร้างและ
หน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของ
อวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กันรวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ จากการเรียนรู้ในรายวิชา
วิทยาศาสตร์ที่ผ่านมาพบว่านักเรียนมีความสนใจในสาระดังกล่าวเนื่องจากเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับระบบใน
ร่างกายของมนษุ ย์ ซึ่งเป็นสิง่ ใกล้ตัวและสามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ จริงกบั ตนเอง เพื่อนและบุคคลใน
ครอบครัว แต่ผลจาการประเมินผลพบว่านักเรียนไม่สามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ ผลจาก
การศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการเรียนรู้ของนักเรียนของการวิจัยและพัฒนาในระยะที่ ๑ พบว่า
เนื่องจากขาดทักษะบวนการทางวิทยาศาสตร์ด้าน ทักษะการสังเกต (Observing) ทักษะการจำแนก
(Classifying) ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมลู (Organization data and communication)
และทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล (Inferring) ซึ่งเป็นทักษะที่มีผลการประเมินน้อยที่สุด และมีผล
การประเมินด้านการพัฒนามากที่สุด นอกจากนี้ผลการวิจัยระยะที่ ๑ ยังพบว่านักเรียนยังขาดทักษะการ
สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง และทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้จึงส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
วิชาวิทยาศาสตร์ต่ำ และอาจเป็นเพราะกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นบทบาทของครูเป็นศูนย์กลางมากเกินไป
การเรียนรู้ไม่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของผู้เรียน จึงส่งผลให้นักเรียนไม่เห็นประโยชน์ของการเรียน ดังนั้น
การเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้จึงอาจมีผลต่อการเรียนของนักเรียน เนื่องจากวิทยาศาสตร์เป็นกระบวนการของการ
หาความรู้ (Science as a process of enquiry) การจัดการเรียนรู้จึงให้ความสำคัญกับกระบวนการ
เป็นหัวใจสำคัญเพื่อให้ผู้เรียนสืบเสาะหาความรู้โดยตรง (Active role) บทบาทของผู้เรียนจึงอยู่ในฐานะ
ผู้แสวงหาความรู้ (Active learning) ด้วยเหตุน้ีข้าพเจ้าจึงได้พัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ SURIYA
Model เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต่อการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
ของนักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 มกี ารจัดแบง่ เนื้อหาแยกเป็นหนว่ ยย่อย ดังน้ี

เรื่องท่ี 1 ระบบหายใจ
เรอื่ งท่ี ๒ ระบบขับถา่ ย
เร่ืองที่ ๓ ระบบหมนุ เวียนเลอื ด
เรอ่ื งที่ ๔ ระบบประสาทและพฤติกรรมการตอบสนองตอ่ สิง่ เรา้
เรอ่ื งที่ ๕ ระบบสบื พันธ์ุ
เป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต่อ
การสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี โรงเรียนเทศบาล 4 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี ประยุกต์ใช้ทฤษฎีการสร้างองค์
ความรู้ด้วยตนเอง (Constructionism) เป็นหลักในการพัฒนารูปแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้

36

สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความพร้อม ความต้องการ วิธีการในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนเทศบาล 4 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี
โดยหลกั การในการประยุกตใ์ ชท้ ฤษฎีการสร้างองคค์ วามร้ดู ว้ ยตนเอง (Constructionism)

กระบวนการจัดการเรียนรู้ SURIYA Model เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต่อการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีขั้นตอน
การสร้างและพัฒนาโดยใช้หลกั ของการวจิ ัยและพฒั นานวัตกรรม ๔ ขน้ั ตอนดงั น้ี

ขั้นที่ ๑ ศึกษาปัญหา/ความต้องการการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนเทศบาล 4 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี
กองการศึกษา เทศบาลเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดยใช้แบบสอบถามปัญหาและความต้องการในการ
จัดการเรยี นการสอน การสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียนระหว่างเรยี น การตรวจสอบผลการประเมินดา้ นต่างๆ ที่
สอดคล้องกับการเรียนรู้ของนักเรียน รวมถึงการสังเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ
ปัญหา/ความต้องการและจัดลำดับความสำคัญของการแก้ปัญหาคุณภาพนักเรียน และเป็นการตัดสินใจ
เลือกพฒั นานวัตกรรมเพื่อใหส้ อดคลอ้ งกบั ปัญหาและความตอ้ งการของนักเรียน

ขั้นที่ ๒ การพัฒนาและประสิทธิภาพของกระบวนการจัดการเรียนรู้ SURIYA Model
เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต่อการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในขั้นนี้ผู้วิจัยจะนำข้อมูลที่ได้จากขั้นที่ ๑ พิจารณาเลือกนวัตกรรมและร่าง
กระบวนการจัดการเรียนรู้ SURIYA Model เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต่อ
การสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา
จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน ๕ ท่าน ปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเพื่อนำไปทดลองใช้เพื่อหา
ประสทิ ธภิ าพกบั กลุม่ ตวั อยา่ งที่มลี ักษณะใกลเ้ คียงกบั กลุ่มเป้าหมายทจี่ ะนำไปใชจ้ ริง

ขัน้ ท่ี ๓ ศึกษาผลการทดลองใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ SURIYA Model เพื่อส่งเสริม
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต่อการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในขั้นนี้ผู้วิจัยจะปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามผลการหาประสิทธิภาพตาม
ขั้นตอนที่ ๓ และนำไปใช้กับนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการพัฒนาใช้กระบวนการทดลองแบบมี
การทดสอบก่อนและหลังเรียนเพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะการสร้างองค์
ความรู้ด้วยตนเอง ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นของนกั เรียน

ขั้นตอนที่ ๔ ประเมินประสิทธิผลของกระบวนการจัดการเรียนรู้ SURIYA Model เพ่ือ
ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต่อการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยการประเมินความเหมาะสมความเป็นไปได้ในการกระบวนการเรียนรู้ไปใช้กับ
ผู้ทรงคุณวุฒิและครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และประเมินความพึงพอใจของ
นักเรียนต่อการเรียนโดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบกระบวนการจัดการเรียนรู้ SURIYA Model
เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต่อการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองของนักเรียน
ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2

ผลทีไ่ ดร้ บั จากวิจัยและกระบวนการจดั การเรียนรู้ SURIYA Model เพ่อื ส่งเสริมทกั ษะกระบวนการ
ทางวทิ ยาศาสตร์ทีจ่ ำเปน็ ตอ่ การสร้างองค์ความรู้ดว้ ยตนเองของนักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2

1. นักเรียนมีคะแนนการประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อน

เรยี นอยา่ งมนี ยั สำคัญทางสถติ ทิ ี่ระดบั .๐๑

2. นักเรียนมีคะแนนการประเมินพฤติกรรมการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองหลังเรียนสูงข้ึน

กว่ากอ่ นเรียนอย่างมีนยั สำคญั ทางสถติ ิท่รี ะดบั .๐๑

37

3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ที่ระดับ .๐๑

4. นักเรียนผ่านการประเมินและมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน

การทำงานและทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตร ด้าน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ปัญหา ตามทร่ี ะบไุ ว้ในแผนการจัดการเรยี นรู้

5. นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรง เข้าใจง่ายและรวดเร็ว ลดปัญหาความแตกต่างระหว่างบุคคล
ในการเรียน นักเรียนสนใจต่อกิจกรรมการเรียนการสอน เกิดความสนุกสนาน ตื่นเต้น ได้รับผลสำเร็จตาม
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่วางไว้

6. นกั เรยี นไดม้ ีสว่ นรว่ มในการการเรยี นรโู้ ดยใช้กระบวนการเรียนร้แู บบทีม มีความกลา้ แสดงออก
อภิปรายแสดงความคิดเห็น ยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผู้อ่ืน ร่วมมอื รว่ มใจในการเรียนรู้และเกิดการเรียนรู้

ทย่ี ั่งยนื
7. นักเรียนได้เรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติจริง มีการวางแผน การออกแบบผลงาน/ชิ้นงานที่เกิดจาก

การสร้างองคค์ วามรดู้ ้วยตนเองเพ่อื นำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้
8. มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนา การหาประสิทธิภาพ

และทดลองใช้เพื่อแลกเปล่ยี นเรียนรแู้ กเ่ พอ่ื นครใู นโรงเรียน กลมุ่ โรงเรียนเทศบาลเมืองลพบรุ แี ละหน่วยงาน

อ่ืนๆ
3.1.2.2 คณุ ภาพการปฏิบตั ิงานตามมาตรฐานวทิ ยฐานะ พจิ ารณาจาก

3.1.2.2.1 ผลงานที่เกิดจากความรู้ ความเข้าใจในสาระหรือกลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือการปฏิบัติงานส่งเสริมการเรียนรู้ที่รับผิดชอบ ส่งผลให้ข้าพเจ้าเป็นท่ี
ยอมรับของนักเรียนผู้ปกครองนักเรียน ผู้บริหาร และเพื่อนร่วมงาน ผลงานต่างๆ ที่เกิดจากการปฏิบัติงาน
ของข้าพเจ้าจนได้รับความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์แก่เพื่อนครู ผู้เรียนและคณะผู้บริหาร ในระยะเวลา 2 ปีท่ี
ผ่านมาได้แก่

(1) ข้าพเจ้าได้ออกแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเตม็ ตามศักยภาพ จัดกิจกรรม
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีกระบวนการคิดวิเคราะห์ มีการประเมินตามสภาพจริง

อย่างหลากหลาย ทำให้ผา่ นการนเิ ทศการสอนภายในทุกครั้ง
(2) จัดกิจกรรม/โครงการ ที่ส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง การเรียนรู้

ตลอดชีวิต การเรียนรู้แบบยั่งยืนจากการจัดทำโครงงาน เช่น โครงการค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สัมพันธ์ ,
โ ค ร ง ก า ร พ ั ฒ น า ท ั ก ษ ะ ก ร ะ บ ว น ก า ร ท า ง ว ิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ,ก ิ จ ก ร ร ม เ ร ี ย น ร ู ้ ว ิ ท ย า ศ า ส ต ร ์ น อ ก ห ้ อ ง เ ร ี ย น ,
กิจกรรมแสดงผลงานทางวิทยาศาสตร์,กจิ กรรมชุมนุม ฯลฯ

(๓) ขา้ พเจ้ามคี วามวิริยะ อุตสาหะ ได้พยามยามทุม่ เทแรงกาย แรงใจ และกำลงั สติปัญญา
ความสามารถ เอาใจใสน่ กั เรยี นอยา่ งสม่ำเสมอ ทำให้นกั เรยี นสามารถสอบผ่านเกณฑม์ าตรฐานทีโ่ รงเรียน

กำหนดไว้ไดร้ ้อยเปอร์เซน็ ต์ และนักเรยี นทข่ี ้าพเจ้าอบรมสั่งสอนได้รบั รางวลั ในการแขง่ ขันระดบั โรงเรยี น

ระดับจังหวดั ซึง่ นำชอื่ เสียงมาสโู่ รงเรยี นอย่เู สมอ ดังน้ี

- ครผู ดู้ แู ลนักเรียนโครงการแข่งขันคนเกง่ ในโรงเรียนท้องถ่นิ ระดบั ประเทศกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์

ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕

ปีการศกึ ษา 25๖๑ นายราเมศวร์ จันรสั มี ไดร้ บั เกยี รตบิ ัตรเขา้ รว่ ม

ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ นางสาวณัฐวิภาภรณ์ แกมทอง ไดร้ ับเกียรตบิ ัตรเขา้ ร่วม
ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒

ปีการศึกษา 25๖๑ เดก็ หญงิ ณฐั ชานนั ท์ ชวดีภญิ โญพงศ์ ไดร้ บั เกยี รตบิ ัตรเขา้ รว่ ม

38

ปีการศึกษา 256๒ เดก็ หญิงอารยา ปรีชา ได้รับเกยี รตบิ ัตรเข้าร่วม

- งานแข่งขันทักษะวิชาการ (ภาคกลาง) คร้ังท่ี 14 ประจำปี 2561 เมืองกาญจนว์ ชิ าการ ’61

โครงงานวิทยาศาสตรร์ ะดบั ชั้นมัธยมศึกษาตอนตน้

ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ เดก็ หญงิ ชิดชนก รุ่งพง่ึ ได้รับรางวลั เหรียญเงิน

เด็กหญิงมุกลดา คำแสน ได้รับรางวลั เหรยี ญเงิน

เดก็ หญงิ ฮาซานะฮ์ ทว้ มไทย ไดร้ บั รางวลั เหรยี ญเงิน

โครงงานวทิ ยาศาสตรร์ ะดับช้ันมธั ยมศึกษาตอนปลาย

ปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ นายฉัตรชยั พจนเลขา ได้รบั รางวลั เหรยี ญทอง

นางสาวสาธดิ า สัตตวัชรวงศ์ ได้รบั รางวัลเหรยี ญทอง

นางสาวสภุ าวดี นอ้ ยหา ได้รับรางวัลเหรียญทอง

- งานแข่งขนั ทกั ษะทางวชิ าการ (ภาคกลาง) ครั้งที่ 15 ประจำปี 2562 สุพรรณบุรวี ชิ าการ’62

โครงงานวิทยาศาสตรร์ ะดับชั้นมัธยมศกึ ษาตอนตน้

ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ เดก็ หญงิ ญาณิศา กล่นิ จำปา ได้รบั รางวลั เหรยี ญเงิน

เดก็ หญิงณฐั กานธ์ กลน่ิ ระคนธ์ ได้รับรางวัลเหรียญเงนิ

เด็กหญิงวิภาวี พบิ ลู ฤทธ์ิ ไดร้ บั รางวัลเหรยี ญเงิน

โครงงานวิทยาศาสตร์ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

ปีการศึกษา ๒๕๖๒ นางสาวทิติยา สมบรู ณ์ ได้รบั รางวลั เหรียญทอง

นางสาวพิชชานนั ท์ แย้มสคุ นธ์ ไดร้ บั รางวลั เหรยี ญทอง

นางสาวภทั รภร ตอนสุข ได้รับรางวัลเหรียญทอง

- งานแข่งขนั ทกั ษะวชิ าการระดบั ประเทศ ประจำปี ๒๕๖๒ ณ จงั หวัดร้อยเอด็

โครงงานวทิ ยาศาสตรร์ ะดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ นางสาวทิติยา สมบรู ณ์ ไดร้ ับรางวัลเหรยี ญทองรองชนะเลิศอนั ดับ ๒

นางสาวพชิ ชานันท์ แย้มสุคนธ์ ไดร้ ับรางวัลเหรยี ญทองรองชนะเลศิ อนั ดบั ๒

นางสาวภทั รภร ตอนสขุ ได้รบั รางวลั เหรยี ญทองรองชนะเลิศอันดับ ๒

- การแข่งขันเน่อื งในงานสปั ดาห์วทิ ยาศาสตรแ์ หง่ ชาติ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี

การพูดทางวิทยาศาสตร์

ปีการศึกษา ๒๕๕๘ นางสาวกานต์ธิดา ป้นั เอย่ี ม ได้รบั รางวัลรองชนะเลิศอนั ดับ 1

การแขง่ ขนั ตอบปัญหาทางวทิ ยาศาสตร์

ปีการศกึ ษา ๒๕๕๙ นางสาวภิญญดา วฒุ ชิ าญชัยกุล ไดร้ ับเกียรตบิ ตั รเขา้ รว่ ม

นายสทิ ธโิ ชค แย้มสุวรรณ ได้รบั เกียรตบิ ัตรเข้าร่วม

3.1.2.2.2 ผลงานที่เกิดจากความสามารถในการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาทางวิชาการ
โดยแสดงให้เห็นว่ามีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ มีการปรับประยุกต์หรือมีการวิเคราะห์สังเคราะห์ หรือสร้าง
องคค์ วามรใู้ หม่ ตามที่กำหนดในมาตรฐานวิทยฐานะ

การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียน โดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps พบว่าภายหลังการเรียนรู้โดยใช้
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ GPAS ๕ Steps ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและสร้าง
ผู้เรียนให้มีสมรรถนะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ที่ข้าพเจ้าสร้างขึ้นส่งผลให้นักเรียนมีทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นทักษะสำคัญและจำเป็นในการเป็นนักวิทยาศาสตร์หรือการนำทักษะไปประยุกต์ใช้
ในการเรียนและการดำรงชีวิตประจำวัน นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นกว่าก่อนเรียน สามารถ

39

มีความพึงพอใจต่อการเรียนนอยู่ในระดับมากที่สุด สร้างความสนใจในการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ให้
แกผ่ ู้เรียนได้ ซง่ึ หลกั การจัดกิจกรรมการเรยี นรูต้ ามกระบวนการเรยี นรแู้ บบ GPAS ๕ Steps

กระบวนการจัดการเรียนรู้ GPAS ๕ step เป็นขั้นตอนและจุดเน้นในการจัดกระบวนการเรียนรู้
เพื่อให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง จากนั้นนำไปใช้ในการปฏิบัติจริง ใช้ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์
ต่างๆ สิ่งที่ได้จากกระบวนการเหล่านี้ จะตกผลึกภายในตัวของผู้เรียน จะกลายเป็นตัวตนเป็นบุคลิกภาพ
ของผู้เรียน และสะท้อนออกมาในภาระงานหรือการปฏิบัติที่ครูมอบหมาย เป็นกระบวนการของสร้าง
องค์ความรู้ (construction of knowledge) ซึ่งครูสามารถจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนมีโอกาสปฏิสัมพันธ์
แลกเปลี่ยนความรู้กัน (interaction) และฝึกฝนกระบวนการ (process learning) อย่างต่อเนื่อง
จึงนำมาใช้เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ในหน่วยแรงและการเคลื่อนที่ ผลการศึกษาพบว่า ชุดกิจกรรม
การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้กระบวนการ
การจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุด
กิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้
กระบวนการการจัดการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps มีคะแนนการประเมินทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑ นักเรียน มีผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนวิทยาศาสตร์หลังเรียนสงู กว่าก่อนเรยี นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติท่ีระดับ .๐๑ และนักเรียนกลุม่
ตัวเป้าหมายมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตรแ์ ละผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน โดยใชก้ ระบวนการการจัดการเรยี นรแู้ บบ GPAS 5 Steps ในภาพรวม
นกั เรยี นมคี วามพงึ พอใจระดบั มากท่ีสดุ

ผลงานน้ีเป็นผลงานที่ข้าพเจ้าภาคภูมิใจ เนื่องจากเป็นผลงานที่ได้รับการพิจารณาให้ผ่านในรอบ
แรกจากคณะกรรมการผปู้ ระเมินในการเสนอเพื่อใหม้ หี รอื เลือ่ นวทิ ยฐานะเป็นครูชำนาญการพิเศษ ส่งผลให้
มีวิทยฐานะทส่ี ูงขึ้น

3.1.2.2.3 ผลงานทีแ่ สดงใหเ้ ห็นถงึ ทกั ษะในการจัดการเรยี นรู้ การพฒั นาทางวิชาการ
และประเมินผลที่เหมาะสมกับสาระหรือกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่รับผิดชอบมีคุณภาพตามที่กำหนดใน
มาตรฐานวทิ ยฐานะ

ขา้ พเจา้ จัดกจิ กรรมการเรียนรทู้ ่ีพัฒนาความสามารถของผู้เรยี นได้จริง สรา้ งนสิ ัยในการลงมือ
ปฏิบตั ิแกผ่ ูเ้ รียนและสรา้ งคณุ ธรรมท่ีมีผลใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั ิตาม จากการท่ขี า้ พเจ้าไดศ้ กึ ษาเทคนิควิธกี ารสอน
แบบต่างๆ โดยข้าพเจ้าได้นำพฒั นากระบวนการจดั การเรยี นรู้โดยใช้กระบวนการวิจัยและพฒั นานวัตกรรม
ทางการศึกษา (Research and Development) โดยใน ขั้นท่ี ๑ ศึกษาปัญหา/ความต้องการการจัดการ
เรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนเทศบาล 4
ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี กองการศึกษา เทศบาลเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดยใช้แบบสอบถาม
ปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนการสอน การสังเกตพฤติกรรมนักเรียนระหว่างเรียน การ
ตรวจสอบผลการประเมินด้านต่างๆ ที่สอดคล้องกับการเรียนรู้ของนักเรียน รวมถึงการสังเคราะห์เอกสาร
และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบปัญหา/ความต้องการและจัดลำดับความสำคัญของการแก้ปัญหา
คุณภาพนักเรียน และเป็นการตัดสินใจเลือกพัฒนานวัตกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการ
ของนกั เรียน ขั้นท่ี ๒ การพัฒนาและประสิทธภิ าพของกระบวนการจดั การเรียนรู้ SURIYA Model ในขัน้
นี้ผู้วิจัยจะนำข้อมูลที่ได้จากขั้นที่ ๑ พิจารณาเลือกนวัตกรรมและร่างกระบวนการจัดการเรียนรู้ SURIYA
Model ผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน ๕ ท่าน ปรับปรุงแก้ไขตาม
คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเพื่อนำไปทดลองใช้เพื่อหาประสิทธิภาพกับกลุ่มตัวอย่างที่มีลักษณะใกล้เคียงกับ
กลุ่มเป้าหมายที่จะนำไปใช้จริง ขั้นที่ ๓ ศึกษาผลการทดลองใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ SURIYA

40

Model ในขั้นนี้ผู้วิจัยจะปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามผลการหาประสิทธิภาพตามขั้นตอนที่ ๓
และนำไปใช้กับนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการพัฒนาใช้กระบวนการทดลองแบบมีการทดสอบก่อนและ
หลังเรียนเพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ขั้นตอนที่ ๔ ประเมินประสิทธิผลของกระบวนการจัดการเรียนรู้
SURIYA Model โดยการประเมินความเหมาะสมความเป็นไปได้ในการกระบวนการเรียนรู้ไปใช้กับ
ผู้ทรงคุณวุฒิและครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และประเมินความพึงพอใจของ
นักเรียนต่อการเรียนโดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบกระบวนการจัดการเรียนรู้ SURIYA Model
เพอ่ื สง่ เสริมทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทจ่ี ำเป็นต่อการสรา้ งองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเองของนักเรียน ชัน้
มัธยมศึกษาปีที่ 2 เมื่อข้าพเจ้าได้นำกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นไปใช้พัฒนาผู้เรียน พบว่า
สามารถพัฒนาผู้เรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต่อการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
ส่งผลให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สงู ข้ึน และมีความพึงพอใจต่อการเรียนอยู่ในระดับมากทีส่ ดุ

3.1.3 ผลทเี่ กิดกับผเู้ รยี น
3.1.3.1 ผู้เรยี นมผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรียนตามมาตรฐานการเรียนรทู้ ี่สถานศึกษากำหนด ดงั น้ี
3.1.3.1.1 ดา้ นสตปิ ญั ญาของผเู้ รยี น
ข้าพเจ้าได้ดำเนินการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

สูงขึ้น โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ GPAS ๕ Step และกระบวนการจัดการ
เรียนรู้ SURIYA Model ซึ่งเป็นวิธีการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้แสวงหาความรู้ใหม่โดยใช้ทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ เน้นการทดลอง และการฝึกปฏิบัติจริงเพื่อการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง บูรณาการกับ
การใช้เทคนิควิธีการสอนที่หลากหลาย การใช้สื่อและเทคโนโลยีและการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย
สอดคล้องกับธรรมชาติของวิชา และผู้เรียน โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญตามแนวทางของหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน และในการจัดการเรียนการสอนข้าพเจ้าจะยึดหลักที่ว่าผู้เรียนทุกคน มีความสามารถ
เรียนรแู้ ละพฒั นาตนเองได้ และถือวา่ ผู้เรยี นมคี วามสำคัญทส่ี ดุ จะส่งเสรมิ และสนบั สนนุ ให้ผู้เรยี นได้แสวงหา
ความรู้จากสื่อ กิจกรรม และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ตามศักยภาพของผู้เรียน ส่งเสริมการทำงานโดยใช้
กระบวนการกลุ่ม มีการช่วยเหลือผู้เรียนที่เรียนช้าและส่งเสริมผู้เรียนที่เรียนเก่งด้านวิทยาศาสตร์ด้วยการ
สอนเสริม และการเสริมแรงอยา่ งเหมาะสม ปลกู ฝังด้านปัญญาพัฒนาความคิดของผู้เรยี นให้มคี วามสามารถ
ในการคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ คิดแก้ปัญหา โดยจัดกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อกระตุ้นให้
นักเรียนรู้จักคิด ค้นคว้า และมีความสามารถในการนำเสนอข้อมูลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า ส่งเสริมให้
ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามความสนใจ และความสามารถของนักเรียนเน้นกิจกรรมให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริงตาม
ศักยภาพ เพ่ือกระตุ้นให้นักเรียน มีเจตคตทิ ่ีดีตอ่ การเรียนวทิ ยาศาสตร์ จากการดำเนินการดงั กล่าว ส่งผลให้
นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิทยาศาสตร์ ผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่สถานศึกษากำหนด คือ ร้อยละ ๖๐
ตามรายละเอียดในตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในรายวิชาที่ข้าพเจ้ารับผิดชอบ
ดงั ตอ่ ไปนี้

41
ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของผู้เรียนกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ปีการศึกษา 25๖๒

รายวิชา ระดับช้ัน รอ้ ยละ ผล/ความก้าวหน้า
คะแนนเฉล่ีย เป้าหมาย
ภาคเรยี นท่ี ๑
ปฏบิ ัตกิ ารทาง มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ 61.4๓ 60 1.0๕

วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ มัธยมศึกษาปีที่ ๒ 6๓.๓๕ 60 6.44
ภาคเรยี นที่ ๒ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒ 6๒.4๕ 60 6.44

โครงงานวิทยาศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ ๔

ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นของผู้เรยี นกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปกี ารศกึ ษา 25๖๓

รายวชิ า ระดับช้ัน ร้อยละ ผล/ความกา้ วหน้า
คะแนนเฉล่ยี เป้าหมาย
2.16
ภาคเรยี นที่ 1
4.5๘
ทกั ษะกระบวนการทาง มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ๖๒.16 60 1๑.๖๙

วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ 4.23

เริม่ ตน้ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ 64.5๘ ๖๐ ๑0.15
6.57
วิทยาศาสตร์ ๓ มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ ๖๑.๖๙ ๖๐

ภาคเรยี นที่ 2

ปฏิบตั ิการทาง มัธยมศึกษาปที ่ี ๒ 64.23 60

วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ มัธยมศึกษาปที ี่ ๒ 70.15 ๖๐

วทิ ยาศาสตร์ ๔ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒ 6๓.57 ๖๐

จากข้อมูลแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนซึ่งข้าพเจ้าทำหน้าที่เป็นผู้สอน
สรุปได้ว่าผู้เรียนสามารถสอบผ่านเกณฑ์ตามมาตรฐานที่ฝ่ายบริหารวิชาการตั้งเกณฑ์ไว้ท่ีร้อยละ 6๐
เป็นผลเนื่องมาจากการทุ่มเทต่อการสอน ความเอาใจใส่กับการเรียนรู้ของผู้เรียน ด้วยความเมตตา
อย่างเต็มเปี่ยม จึงทำให้ได้รับความศรัทธาและความเชื่อถือจากผู้เรียนและผู้ปกครองว่าผู้เรียนได้รับ
การพัฒนาการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ มีสติปัญญาตามระดับคุณภาพมาตรฐานที่กำหนดว่าเป็นคนดี
เก่ง และมีความสุข มีความรู้ ความสามารถ มีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เกิดความชำนาญในเนื้อหา/
สาระที่เรียน มีความสามารถในการแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อความหมายทาง
วิทยาศาสตร์และการนำเสนอข้อมูล การเชื่อมโยงความรู้ต่างๆทางวิทยาศาสตร์ และเชื่อมโยงวิทยาศาสตร์
กบั ศาสตรอ์ ่นื ๆ และมคี วามคิดรเิ ริม่ สร้างสรรค์

3.1.3.1.2 ดา้ นคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมของผู้เรยี น
ผู้เรียนได้รับการพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรม จากการเข้าร่วมโครงการค่ายคุณธรรม
ทำให้ผู้เรียนในทุกระดับชั้นได้มีโอกาสรับข้อคิดและหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา ได้มีโอกาส

42

ขัดเกลาจิตใจ ทำจิตให้ผ่องใส และนำข้อคิดที่ได้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม ผู้เรียน
ได้สวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม การจัดค่ายคุณธรรมเป็นโครงการที่ได้ขัดเกลาจิตใจผู้เรียนให้เป็นคนดี
นอกจากนี้ยังมีโครงการทำบุญตักบาตรปีใหม่ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรอาหารแห้งโดยมี
ครูเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้เรียน ทำให้ผู้เรียนได้ซึมซับสิ่งที่ดีงามจากต้นแบบที่ดี ซึ่งโดยปกติผู้เรียนจะต้อง
มาโรงเรียนจึงทำให้ไม่มีโอกาสบ่อยนักที่จะได้เข้าวัดทำบุญใส่บาตรและฟังธรรม นอกจากน้ียังมีโครงการ
คนดีศรีสังคมเพื่อยกย่องผู้เรียนที่ทำความดี ส่งเสริมการเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น ให้ได้นำไปยึดถือ
และปฏิบัติตาม ซึ่งสอดคล้องกับอัตลักษณ์ที่ว่า “ลูก ท.4 เป็นคนดี มีน้ำใจ” นอกจากนี้ผู้เรียนยังมี
คุณลักษณะของการเป็นผู้เรียนที่ดี ด้วยการทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ช่วยกันดูแลรักษา
ความสะอาดห้องเรียน ร่วมโครงการธนาคารขยะรีไซเคิล สร้างสรรค์ประดิษฐ์ของใช้จากเศษวัสดุเหลือใช้
ทำบญุ บริจาคให้กบั วัดตา่ งๆ อยู่เสมอ

3.1.3.1.3 ด้านการเรยี นร้อู ยา่ งสุขภาพจติ ทีด่ ี
ผู้เรียนมีสุขภาพจิตที่ดีแสดงให้เห็นได้ ต้องตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนา
ด้านร่างกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคม ผู้เรียนมีพัฒนาการด้านร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์
มีน้ำหนัก ส่วนสูง ตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยทำการชั่งน้ำหนัก วัด
สว่ นสงู เพอ่ื ตดิ ตามการเจริญเติบโตของนกั เรียนอย่างน้อย ภาคเรียนละ 1 ครัง้ นักเรยี นรกั การเล่นกีฬาและ
การออกกำลังกาย จัดโครงการส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายโดยการจัดทำโครงการเฝ้าระวังภาวการณ์
เจริญเติบโตของนักเรียน นอกจากน้ียังได้จัดทำโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อดูแลนักเรียนให้
ปลอดภยั จากสงั คมและส่ิงแวดล้อมรอบตัว สง่ เสรมิ ให้นกั เรยี นใช้เวลาว่างในการแสดงออก อยา่ งสร้างสรรค์
โดยการวาดภาพประกวดในงานสำคัญๆ เช่น งานวันสุนทรภู่ งานวันแม่ งานวันพ่อแห่งชาติ วันวิทยาศาสตร์
และนำนักเรียนที่มีความสามารถทางการวาดภาพไปสู่เวทีภายนอก เช่น วิทยาลัยนาฏศิลป์ สวนสัตว์
สระแก้ว และมหาวิทยาลัยราชภัฎเทพสตรี เป็นการส่งเสริมให้นักเรียนได้ค้นหาความถนัด และ
ความสามารถเพ่อื ทีจ่ ะนำไปพฒั นาต่อยอดสบื ไป ซง่ึ สงั เกตได้ดังนี้
(1) สนใจเรียน ร้จู กั แสวงหาความรู้จากแหลง่ เรยี นรู้ ดังนี้

ผู้เรียนมีความสนใจเรียน สามารถแสวงหาความรู้จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ เช่น
ห้องสมุด อินเทอร์เน็ต ผู้รู้ในท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน ชุมชน และจากองค์กรต่างๆ
มีการบันทึกความรู้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผู้เรียนมีวินัยสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีคุณธรรม จริยธรรม
มีวิสัยทัศน์กว้างไกล รักภูมิปัญญา และพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น โดยข้าพเจ้าได้จัดกิจกรรม
การเรียนรู้ที่หลากหลายเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข ตามความสนใจ เต็ม
ตามศักยภาพ รู้จักแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆรอบตัว และทันต่อเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า
ซง่ึ กิจกรรมที่จดั ให้ผเู้ รยี นมดี ังน้ี

- จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม
ในท้องถิ่น เช่นประเพณีลอยกระทงย้อนยุคละโว้ธานี ศึกษาวิถีชีวิตประวัติศาสตร์ในงานแผ่นดินสมเด็จ
พระนารายณ์ โดยนำนักเรียนศึกษาแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นและภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น พิพิธภัณฑ์นารายณ์
ราชนเิ วศ ศาลพระกาฬ พระปรางค์สามยอด ในทุกปีการศึกษา

- จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการไปทัศนศึกษา แหล่งเรียนรู้ทางด้านต่างๆ เช่น
ศูนย์การเรียนรู้กฟผ. สำนักงานกลางศูนย์การเรียนรู้ด้านพลังงานไฟฟ้า ศึกษาแหล่งเรียนรู้การปลูกป่าและ
ระบบนิเวศป่าไม้ ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์ และเข้าชมสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี จังหวัดระยอง ศึกษาเทคโนโลยีทางการเกษตรในด้านต่างๆ จากวิทยาลัยเกษตรและ

43

เทคโนโลยีลพบุรีฯลฯ เพื่อนักเรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงและหลากหลาย ซึ่งเป็นพื้นฐาน ในการ
นำไปใช้ในการศกึ ษาต่อ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันไดเ้ ปน็ อย่างดี

- ส่งเสริมการเรียนรู้โดยจัดโครงการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ได้เชิญวิทยากรจากหน่วยงานภายนอก เช่น วิทยากรจากสถาบนั วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี
วิทยากรจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี ลพบุรี มาให้ความรู้และจัดกิจกรรมการฝึกประสบการณ์ให้
ผู้เรียนได้เรียนรู้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ผ่านกระบวนการทดลอง เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง เพื่อให้ผู้เรียน
ได้เรียนรู้อย่างหลากหลาย ได้รับประสบการณ์ตรง ปลูกฝังลักษณะของความเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดี และ
เปน็ พื้นฐานในการนำความรูท้ ่ีได้รับไปใชใ้ นการศึกษาต่อ สามารถนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้เป็นอยา่ งดี

- ส่งเสริมการเรียนรู้แบบโครงงาน โดยให้ผู้เรียนได้ฝึกทำโครงงานวิทยาศาสตร์
โดยบูรณาการเน้อื หาภายในกล่มุ สาระและต่างกลมุ่ สาระ เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รยี นได้รับความรทู้ ่ีหลากหลาย ตามความ
ถนัดและความสนใจ ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติและเรียนรู้การทำโครงงานด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ จนสามารถ
ทำโครงงานได้ ได้พฒั นาทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรโ์ ดยบรู ณาการกับบรบิ ทชมุ ชนของผู้เรยี น

จากการจัดกิจกรรมดังกล่าว ผู้เรียนแสวงหาความรู้อย่างมีความสุข มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อ
เพื่อนร่วมห้องเรียนและเพื่อนต่างห้องเรียน ได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ มีทัศนคติที่ดีต่อการ
เรียนและมาเรียนอย่างสม่ำเสมอ มีความกระตือรือร้น สนใจ ใฝ่รู้และรู้จักแสวงหาความรู้จาก แหล่งเรียนรู้
ต่างๆร่วมมือในการทำกิจกรรม โดยผู้เรียนได้บันทึกความรู้จากการเรียนรู้ทุกครั้ง โดยมีครูคอยให้
คำแนะนำปรึกษา สามารถนำความรู้ที่ได้มาสรุปเป็นองค์ความรู้ได้ และนำเสนอผลงานได้ ส่งผลให้ผู้เรียน
ไดร้ บั เกียรตบิ ตั รยกย่องเป็นนกั เรียน เรียนดี ขยัน ใฝ่รู้ ใฝเ่ รียน

(2) ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์
ข้าพเจ้าได้เขยี นแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเปน็ สำคัญหลายรูปแบบท่เี นน้

การคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ เช่น การสอนใหน้ ักเรยี นไดท้ ำโครงงาน การใชโ้ จทยป์ ัญหาที่ตอ้ งหาคำตอบโดย
การวิเคราะห์เหตุและผลเชิงตรรกะให้นักเรียนได้ฝึกหาคำตอบ ให้ผู้เรียนได้เขียนแผนผังมโนทัศน์ในเรื่อง
ที่เรียนเพื่อสรุปบทเรียน จะเห็นได้ว่าผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ซึ่งพิจารณา
ได้จากการเข้าแข่งขันโครงงานทางวิทยาศาสตร์ จะได้รับรางวัลทุกปีและได้รับการคัดเลือกให้ไปแข่ง
ในระดับประเทศทกุ ปเี ชน่ เดียวกนั

(3) ผู้เรยี นมีทกั ษะและนสิ ัยรกั การทำงาน มีคุณธรรม จรยิ ธรรม ดงั น้ี
ผู้เรียนเข้าร่วมโครงการ/กิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะการทำงาน สามารถ

ทำงานร่วมกับผู้อ่ืนได้ เช่น กิจกรรมสภานกั เรียน กิจกรรมกีฬาสี กิจกรรมเขา้ ค่ายลูกเสือเนตรนารี กิจกรรม
การทำโครงงานวิทยาศาสตร์ และการนำเสนองานหน้าชั้นเรียน ส่งผลให้ผู้เรียนมีความสามารถในการ
ทำงานอยา่ งเป็นระบบ มกี ารดำเนนิ งานตามแผนอยา่ งรอบคอบ มีการปรบั ปรุงแกไ้ ขการทำงาน และพัฒนา
งานอย่างต่อเนื่อง ผู้เรียนมีความรับผิดชอบเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับมอบหมายและมีภาวะเป็นผู้นำ มีความ
กล้าแสดงออก รู้จักการแบ่งงานตามบทบาทหน้าที่ รู้จักบทบาทของการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี มีเจตคติที่ดี
ต่องานที่ทำ ความประณีตในการทำงาน สามารถทำกิจกรรมหรือทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
สามารถรับฟังความคิดของผู้อื่นและรูจ้ ักนำเสนอแนวคิดของตนต่องานที่ทำได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล เพื่อฝึก
ให้มีทักษะและมีนิสัยรักการทำงาน ในด้านคุณธรรมจริยธรรมได้สอดแทรกปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มี
ความรู้คู่คุณธรรม มุ่งมัน่ ในการทำงานให้เกิดผลสำเร็จ รักและเห็นแนวทาง ในการประกอบอาชพี สุจริต ได้
ปลกู ฝังให้ผู้เรียนมีความรบั ผดิ ชอบ มีวนิ ยั ในตนเอง ซือ่ สัตย์ ขยัน อดทน และประหยัดอดออม ผเู้ รียนมนี ิสัย
รักความสะอาดแต่งกายได้ถูกต้องตามกฎระเบียบท่ีทางโรงเรียนกำหนด ผู้เรียนมีมารยาท แสดงความ
เคารพตอ่ ครแู ละผู้ท่มี อี าวุโสกว่าตามกิจกรรมย้มิ ไหว้ ทกั ทายกนั

44

(4) ผู้เรยี นมสี ่วนรว่ มในการอนุรกั ษ์และพฒั นาส่ิงแวดล้อม ดงั นี้
ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม รักษาผลประโยชน์

ของส่วนรวม เช่น รณรงค์การทิ้งขยะให้ลงถัง ไม่ทิ้งขยะลงในแม่น้ำลำคลอง เข้าร่วมโครงการธนาคารขยะ
รไี ซเคิล ซึ่งเป็นโครงการท่ีให้ผู้เรยี นไดเ้ รียนรู้วธิ ีการแบ่งประเภทของขยะและคดั แยกขยะอยา่ งถกู วธิ ี สอนให้
ผู้เรียนได้พิจารณาคุณค่าของขยะสามารถนำมาสร้างรายได้ โดยการเกบ็ รวมรวมขยะ รีไซเคิลนำมาขายผ่าน
ธนาคารขยะเพื่อนำไปรีไซเคิลใหม่ สร้างมูลค่าได้อย่างมากมายมหาศาล นอกจากนี้ยังได้ปลูกฝังจิตสำนึก
ของผู้เรียนในการแสดงความรับผิดชอบในการดูแลทรัพย์สินของส่วนรวม เช่นการดูแลรักษาห้องเรียน
อาคารเรียนให้มีความสะอาด บรรยากาศน่าเรียนรู้ ไม่ขีดเขียนไม่ทำลายกำแพงหรือ ของสาธารณะ รักษา
สิ่งแวดล้อมโดยนำวัสดุเหลือใช้ มาตกแต่งห้องเรียนให้สวยงาม ไม่ทำลายธรรมชาติ และไม่สร้างมลพิษต่อ
สิ่งแวดล้อม สร้างจิตสำนึกของการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าเช่น การประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ เลือกใช้
อปุ กรณ์ไฟฟ้าทีม่ ีมาตรฐานและไมก่ ินไฟ ผู้เรยี นจะปิดไฟและปดิ พดั ลมทกุ ครั้ง กอ่ นออกจากหอ้ งเรียน จดั ตัง้
ชุมนุมสมุดเล่มเล็กโดยการนำสมุดเหลือใช้มาเย็บเล่มใหม่ใช้เป็นสมุดรีไซเคิล ใช้สำหรับเป็นสมุดจดบันทึก
และสมุดทดเลขได้

(5) ผู้เรยี นมกี ารแสดงออกดว้ ยความมั่นใจ รา่ เรงิ แจ่มใส และมีมนุษยสมั พนั ธ์ ดังน้ี
การใช้กระบวนกลุ่มในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม

โดยการใช้เพลง เกม ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่หลากหลาย นอกจากนี้ ครูปฏิบัติตนเป็นกัลยาณมิตรกับผู้เรียน
ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมให้มีการแสดงออก เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่โรงเรียนจัด เช่น นิทรรศการทาง
วิชาการ กิจกรรมวันอาเซียน กิจกรรมกฬี าสี กจิ กรรมคา่ ยเยาวชนวทิ ยาศาสตร์สมั พันธ์ เขา้ คา่ ยพักแรมของ
ลูกเสือเนตรนารี การเดินทางไปทัศนศึกษา กิจกรรมพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กิจกรรม
ชุมนุม กิจกรรมวันภาษาไทย และกิจกรรมวันสุนทรภู่ ส่งผลให้ผู้เรียนมีความมั่นใจในตนเองและภูมิใจใน
ตนเอง กลา้ แสดงออก รา่ เรงิ แจม่ ใส มมี นุษยสมั พนั ธ์ที่ดตี ่อครแู ละเพื่อน รว่ มกจิ กรรมต่างๆของทางโรงเรียน
อย่างมีความสุข มคี วามกระตือรือร้น มาเรียนอยา่ งสมำ่ เสมอและร่วมมอื ในการทำกิจกรรมอย่างสนุกสนาน

(6) ผู้เรียนรู้จักปรับตัวเข้ากับเพื่อนและสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี เป็นที่ยอมรับของเพื่อน
และครู ข้าพเจ้าได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเน้นผลถาวรที่เกิดแก่ผู้เรียนโดยเป็นผู้คอยให้ความ
ช่วยเหลือ แนะนำให้ผู้เรียนลงมือทำงานตามกระบวนการสร้างความคิดรวบยอด ค้นหาความรู้ และสรุป
ความคิดรวบยอดได้เองตามคำแนะนำของครู มีการให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ และทำงานโดยใช้กระบวนการ
กลุ่ม เป็นการสร้างนิสัยการปฏิบัตจิ นเป็นบุคลกิ ภาพถาวรติดตัวผู้เรียนตลอดไป เช่น การทำงานรว่ มกนั เปน็
หมู่คณะ การยอมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน การมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน การมีวินัยในการทำงาน ยอมรับ
ฟงั ความคิดเห็นของผู้อนื่ กลา้ คิด กลา้ แสดงออก ฯลฯ จนเปน็ ทีย่ อมรับของเพื่อนๆ และครู

3.1.4 ผลทเี่ กดิ กับสถานศกึ ษาและชุมชน
ข้าพเจ้ามีส่วนร่วมดำเนินกจิ กรรมที่ทำให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรยี นกับผู้ปกครอง โดย
ให้ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วม และให้ความร่วมมือในด้านการดำเนินงานของสถานศึกษา การติดตาม
และกวดขันการปฏิบัติงานและปรับแก้พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้เรียน ผลการประสานความร่วมมือกับ
ผู้ปกครอง นักเรียนได้รับการดูแลช่วยเหลือ ติดตาม กวดขันการมาโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ มีพฤติกรรมที่
พึงประสงค์ เหมาะสม ซึ่งส่งผลให้โรงเรียนเป็นที่ยอมรับของชุมชน ทำให้ผู้ปกครองไว้วางใจส่งบุตรหลาน
มาศึกษาต่ออย่างต่อเนื่อง เกิดความร่วมมือที่ดีระหว่างนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โดยผ่านโครงการต่างๆ
อยา่ งต่อเนื่อง โดยมีการประสานงานระหว่างโรงเรยี น ผู้ปกครอง ชมุ ชน และหนว่ ยงานอื่นๆ ดังน้ี

3.1.4.1 ผ้ปู กครองใหค้ วามรว่ มมือในการดำเนนิ งานของสถานศึกษา ดังนี้

45

๑) ผู้ปกครองให้ความร่วมมือในการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน เช่น การอบรมสั่งสอน
การเป็นแบบอย่างที่ดี การดูแลเอาใจใส่ความประพฤติ การติดตามผลการเรียน การมาเรียนและการทำ
การบ้าน การกระตนุ้ ให้ผู้เรียนมีความรบั ผิดชอบในภาระงานของตน

๒) ผู้ปกครองเข้าร่วมโครงการผู้ปกครองเยี่ยมโรงเรียน โดยเข้าร่วมประชุมรับฟังนโยบาย
ของโรงเรียน รับฟังพฤติกรรม และผลการเรียนของผู้เรียน แลกเปลี่ยนข้อมูลพื้นฐานของผู้เรียนระหว่างครู
ที่ปรึกษาและผู้ปกครอง เพื่อร่วมกันสร้างและพัฒนาผูเ้ รียนให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ ซึ่งจัดให้มีการประชุม
ผู้ปกครองเพื่อรับฟังความคิดเห็น ภาคเรียนละ 1 ครั้ง และกำหนดให้มีตัวแทนผู้ปกครองร่วมเป็น
คณะกรรมการสถานศกึ ษา ซึง่ มีสว่ นรว่ มในการพิจารณาเหน็ ชอบหลักสตู รสถานศกึ ษา

3) จัดทำโครงการเยี่ยมบ้านนักเรียนในชุมชน และนอกชุมชนที่ได้นำบุตรหลานมาเข้า
เรียนในสถานศึกษา สำรวจความต้องการของผู้ปกครองในแต่ละปีการศกึ ษา

4) แจ้งข่าวสารจากโรงเรียนถงึ ผปู้ กครองผ่านทางชอ่ งทางท่หี ลากหลาย
จากการดำเนินการจัดประชุมผู้ปกครอง และมีผู้แทนของผู้ปกครองร่วมเป็นคณะกรรมการ
สถานศึกษา ดังนั้นในการกำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายของโรงเรียนจึงเกิดจากการร่วม กันคิด
ร่วมเสนอแนะ ระหว่างสถานศึกษากับกลุ่มผู้ปกครอง รวมทั้งยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆทั้ง
หนว่ ยงานของรัฐ หนว่ ยงานเอกชน โดยโรงเรยี นได้เชญิ ผู้มคี วามรู้ความสามารถในดา้ นตา่ งๆมาเปน็ วทิ ยากร
เพื่อพัฒนาการจดั การศึกษาและใหค้ วามรแู้ ก่ผเู้ รยี น ครู และจัดมอบทนุ การศึกษาใหก้ บั ผู้เรยี น
นอกจากนี้ โรงเรียนได้ร่วมงาน ร่วมกิจกรรม และส่งเสริมความร่วมมือกับชุมชนอย่าง
ต่อเนื่องมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นงานประเพณีวัฒนธรรม วันสำคัญ การรณรงค์และเชิญชวนร่วมงาน
ในโอกาสสำคัญต่างๆ เป็นต้น โรงเรียนและชุมชนร่วมมือกันในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้สูงขึ้นตาม
สภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลง โครงการ ประเพณีต่างๆที่ได้รับความร่วมมือกับผู้ปกครอง เพื่อพัฒนาคุณภาพ
ทางด้านการจัดการศกึ ษา เชน่

1) โครงการส่งเสริมประเพณลี อยกระทง
2) โครงการเปดิ บ้าน ท.4
3) โครงการทำบุญตักบาตรปีใหม่
4) โครงการวันเด็กแหง่ ชาติ
5) โครงการวนั สำคัญทางพระพทุ ธศาสนา
6) โครงการวันแมแ่ ห่งชาติ
7) โครงการวันพอ่ แหง่ ชาติ
๘) โครงการสง่ เสรมิ งานประเพณที อ้ งถิน่
๙) โครงการสืบสานงานแผน่ ดนิ สมเดจ็ พระนารายณ์
โรงเรียนได้ให้การสนับสนุนในเรื่องการแสดงของผู้เรียน อันเป็นการแสดงถึงศักยภาพของ
ผู้เรียน โดยครูและผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวข้างต้น ซึ่งครูมีหน้าท่ีคอยอำนวยความสะดวก
ดแู ลความปลอดภัยในการทำกจิ กรรมของผู้เรยี น เช่นครูเปลี่ยนชดุ ให้นกั แสดงซึ่งเปน็ ผเู้ รียนดว้ ย ครูต้องทำ
หน้าที่รับส่งเด็กที่เป็นนักแสดงให้ถึงมือผู้ปกครองอย่างปลอดภัย และร่วมขบวนแห่ในงานพิธีต่างๆอย่าง
สม่ำเสมอ มกี ารให้ความช่วยเหลือแก่ชุมชนและหน่วยงานอ่ืนตามโอกาสอันควร นอกจากนยี้ ังส่งเสริมการ
เข้ารว่ มกิจกรรมตา่ งๆเพือ่ พฒั นาท้องถ่นิ ร่วมกนั เช่น
1) กีฬาสีภายใน
2) กฬี าเยาวชนต่อตา้ นยาเสพติด
3) กจิ กรรมเดนิ รณรงค์ประชาธปิ ไตยเพอ่ื ไปเลอื กต้ัง

46

๔) กจิ กรรมทศั นศกึ ษานอกสถานท่ี
๕) กจิ กรรมจิตอาสา
๖) กิจกรรมเทศบาลเคลอ่ื นท่ี
ข้าพเจ้าปฏิบัติงานทางการศึกษาเกี่ยวกับชุมชนที่ได้รับมอบหมายได้ครบถ้วนบรรลุ
วัตถุประสงค์ของงาน และใช้เวลาว่างในการเยี่ยมบ้านนักเรียน ออกพบปะชุมชนตามโครงการเทศบาล
เคลื่อนที่ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของชุมชน และปฏิบัติงานเพื่อพัฒนางานของสถานศึกษา ให้ชุมชนและ
สถานศึกษามีการยอมรับซึ่งกันและกัน เป็นผลทำให้ผู้ปกครองเห็นคุณค่าของการให้ความร่วมมือใน
การดำเนินงานของสถานศึกษา และให้ความรว่ มมือในการดำเนนิ งานของสถานศกึ ษาเปน็ อยา่ งดยี ิ่ง
3.1.4.2 ครูมคี วามรัก สามคั คี
ข้าพเจ้าตระหนัก และเห็นความสำคัญของความสามัคคี มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อน
ร่วมงาน องค์กร และชุมชน ข้าพเจ้าจึงปฏิบัติงานด้วยความเป็นกัลยาณมิตรกบั เพื่อนร่วมงานทุกคน ยึดม่ัน
ในการทำงานแบบมีส่วนร่วม เมื่อเพื่อนร่วมงานมีความเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือ ข้าพเจ้าจะอาสา
ช่วยเหลือ และเต็มใจโดยไม่หวังผลตอบแทนด้วยความรักสามัคคีและมีน้ำใจ นอกจากนั้นข้าพเจ้ายังให้
ความสำคัญกับกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัดเป็นหมู่คณะ ให้การยกย่องให้เกียรติต่อเพื่อนร่วมงาน ให้ความ
เคารพ อ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้บังคับบัญชาและผู้อาวุโส ให้ความเป็นกันเองกับเพื่อนครูและรุ่นน้อง ซึ่งเป็น
สิ่งสำคัญที่จะทำให้คนในสังคมอยู่อย่างมีความสุข โดยการช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างสร้างสรรค์ ยึดมั่นใน
ระบบคุณธรรม และมีความสามัคคีกันในหมู่คณะ รักษาความสามัคคแี ละช่วยเหลือซึ่งกันและกนั รวมทั้งให้
ความร่วมมือกับผู้อื่นในสถานศึกษาอย่างสร้างสรรค์โดยมีการเข้าร่วมปฏิบัติงานในสถานศึกษาตามความรู้
ความสามารถ และความถนัดให้บรรลุเป้าหมายของสถานศึกษา มีการรวมกลุ่มร่วมมือกันทำงานเป็นทีม
เพื่อให้ภาระงานเกิดความสำเรจ็ และเพื่อใหเ้ กิดความรกั ความสามคั คีในหมู่คณะ ระหวา่ งครกู ับครูซึ่งถือเป็น
สิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการพัฒนาวิชาชีพครูสิ่งที่ข้าพเจ้าปฏิบัติต่อเพื่อนครูในฐานะของสมาชิกองค์กรที่ดี มี
ดงั น้ี
- รว่ มอวยพรวันเกดิ เพอ่ื นครูในทกุ ๆเดือน
- ร่วมแสดงความยนิ ดกี บั เพือ่ นครูทไี่ ดร้ ับรางวลั เน่ืองในวนั ครู และวนั สำคญั ตา่ งๆ
- มีสวัสดิการเยี่ยมไข้ ให้ความช่วยเหลือเอื้ออาทรต่อกันเมื่อเพื่อนครูและครอบครัว
เจบ็ ป่วย หรือประสบอบุ ัติเหตุ ตลอดจนงานฌาปนกจิ ศพของญาติ พ่นี อ้ ง ที่เสียชวี ิต
- ร่วมแสดงความยนิ ดกี บั เพือ่ นครู ในการได้สมาชกิ เพิ่มในครอบครวั (เยี่ยมคลอด)
- คณะครูให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงานในโรงเรียนตามหน้าที่ และตามหน้าที่ที่ได้รับ
มอบหมาย งานเรง่ ดว่ น อย่างเต็มความสามารถ ช่วยเหลือเก้ือกูลกนั ทำงานดว้ ยความวริ ยิ ะอุตสาหะ
จนประสบผลสำเร็จและไดร้ บั รางวลั ตา่ งๆมากมาย
- แนะนำเทคนิคการสอนแก่เพื่อนครูในโรงเรียน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์
ทางด้านการสอน ทำใหอ้ งค์กรเป็นสงั คมแหง่ การเรยี นรู้
- สอนแทนและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเต็มใจ ในกรณีที่มีครูไปราชการ หรือมีกิจกรรม
สำคัญจำเปน็ เรง่ ด่วน
3.1.4.3 มีการสร้างหรอื ผลิตผลงานของผ้เู รยี น/ครู มากข้นึ
จากการที่ข้าพเจ้าได้ศึกษาความรู้จากเอกสารต่างๆ รวมทั้งข้าพเจ้าได้รับการพัฒนา
ด้วยการอบรมสัมมนาในหลักสูตรที่เกี่ยวกับการพัฒนาการเรียนการสอน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ในการปฏิบัติงาน ข้าพเจ้าได้นำความรู้ที่ได้รับมาออกแบบวิธีการพัฒนาการเรียนการสอนของตนเอง
เพื่อแก้ปัญหาในการจัดการเรียนรู้ โดยการสร้างสื่อประเภทชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ซึ่งเป็นสื่อที่พัฒนาขึ้น

47

ให้เหมาะสมกับผู้เรียนโรงเรียนเทศบาล 4 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี ในรูปแบบหนังสือที่มีสีสัน
สวยงาม ขา้ พเจา้ ได้ผลิตผลงานเพ่ือเปน็ ประโยชนต์ อ่ การเรยี นการสอนทกุ ปี ดงั น้ี

- ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้เพือ่ พัฒนาทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละผลสมั ฤทธิ์
ทางการเรียน โดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรูแ้ บบ GPAS 5 Steps

- กระบวนการจัดการเรยี นรู้ SURIYA Model เพอื่ สง่ เสรมิ ทักษะกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตรท์ จ่ี ำเป็นต่อการสร้างองค์ความรดู้ ้วยตนเองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2

วิธีการถ่ายทอดความรู้ในการผลิตผลงานของข้าพเจ้าทำให้ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจท่ไี ด้
มสี ว่ นร่วมในการสรา้ งองคค์ วามรู้ ผู้เรียนได้รับการพัฒนาความสามารถในการคิดแกป้ ัญหาทางวทิ ยาศาสตร์
มีการออกแบบและสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้โดยใช้การระดมความคิดด้วยกระบวนการกลุ่ม เช่น
การออกแบบแผนภาพความคิด โปสเตอร์กราฟฟิค การจัดทำคลิปวีดีโอประชาสัมพันธ์ โครงงาน ฯลฯ
ฝึกการทำงานเป็นทีม การยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของสมาชิกในกลมุ่ รบั ผดิ ชอบบทบาทหน้าท่ีของตนเองใน
กลุ่ม ยอมรับบทบาทหน้าที่ของผู้อื่น เป็นผู้นำผู้ตาม กลางแสดงออกทางความคิดอย่างมีเหตุผล ซึ่งเป็น
การฝกึ ประสบการณใ์ นการทำงานในชีวติ จริงทผ่ี ู้เรยี นต้องพบเจอในอนาคต

3.1.4.4 มีบรรยากาศทง้ั ในและนอกหอ้ งเรยี นทเี่ อ้อื ต่อการเรยี นรขู้ องครแู ละผูเ้ รียน
(องคก์ รแห่งการเรยี นร)ู้

การจัดบรรยากาศในชั้นเรียนเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมให้นักเรียนเกิดความสนใจในบทเรยี น
และเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น การสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น มีระเบียบ มีความสะอาด เหล่าน้ี
เป็นบรรยากาศที่นักเรียนต้องการ ข้าพเจ้าตระหนัก และจัดสภาพแวดล้อมในชั้นเรียนเพื่อส่งเสริมความ
สนใจใครร่ ู้ใคร่เรียนใหแ้ ก่ผู้เรียน โดยจัดชั้นเรยี นห้องเรยี นให้มบี รรยากาศแจ่มใส อากาศถ่ายเทสะดวก เน้น
ความสะอาดของห้องเรียน ความสว่าง กว้างขวางพอเหมาะ มีโต๊ะเก้าอี้ที่เป็นระเบียบเรียบร้อย มีมุม
วิชาการส่งเสริมความรู้ มีการตกแต่งห้องให้สดใส ส่งผลทำให้ผู้เรียนพอใจมาโรงเรียน เข้าห้องเรียนและ
พร้อมท่จี ะมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมการเรียนการสอน และมีความเปน็ ระเบยี บทุกวนั จนนกั เรียนไดร้ ับคำช่นื ชม
จากครู ทา่ นอนื่ ที่เขา้ มาสอน

3.1.4.5 สถานศึกษา ไดร้ ับการสนบั สนุนจากผ้ปู กครอง ชุมชน หน่วยงาน องคก์ รตา่ งๆ
ข้าพเจ้าได้มีส่วนร่วม และสนับสนุนการนำชุมชนเข้ามาสู่โรงเรียน โดยการเชิญผู้ปกครอง

ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ประสบความสำเร็จ และภูมิปัญญาในท้องถิ่นเข้ามาเป็นวิทยากรให้กับทางโรงเรียน ช่วยให้

โรงเรียนกับชุมชนมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันและช่วยให้โรงเรียนมีเครือข่ายที่เข้ามาช่วยประชาสัมพันธ์และ

สนับสนุนการดำเนินงานด้านต่างๆของโรงเรียน ในการจัดการศึกษาให้แก่บุตรหลาน ให้เป็นคนสมบูรณ์

แบบของสังคมในทุกด้าน รวมทั้งคิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น ผู้ปกครอง ชุมชน หน่วยงาน องค์กร
ต่างๆจึงให้ความร่วมมือ สนับสนุน ช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆของทางโรงเรียน ด้วยดีตลอดมา ผ่านโครงการ
ต่างๆของโรงเรียน ดังน้ี

1) โครงการมอบทุนการศึกษา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน ชุมชน และคณะครู
ร่วมสนบั สนนุ ทุนการศึกษาใหแ้ ก่ผเู้ รียน เป็นประจำทกุ ปกี ารศึกษา

2) โครงการประชุมผู้ปกครอง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง เข้าประชุมเพื่อหา
แนวทางในการพัฒนาสถานศึกษาร่วมกัน ตลอดจนสร้างระบบดูแลนักเรียนร่วมกันกับคณะครู เพื่อสร้าง
เกราะปอ้ งกนั ท่เี ขม้ แขง็ ใหก้ ับบุตรหลาน สอดส่องดแู ลนักเรียนให้มีพฤตกิ รรมท่พี งึ ประสงค์


Click to View FlipBook Version