The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by startstop48, 2021-08-04 06:10:06

วิชา พันธุศาสตร์และวิวัฒนาการ ม.4

เอกสารพันธุศาสตร์ ม.4

Keywords: วิชาพันธุศาสตร์และวิวัฒ

• ยีนเด่นบนโครโมโซม X ( X- linked dominance)
ลกั ษณะมนษุ ย์หมาปา่ (ผู้หญิง › ผูช้ าย)

• 7.3 ยีนบนโครโมโซม Y (Y- linked gene)

ถา่ ยทอดระหว่างผชู้ ายในครอบครัวเทา่ นั้น เช่น ลกั ษณะ
มีขนทีใ่ บหูสว่ นล่างของชายอินเดีย คือ

• จากปู่ พอ่ ลกู ชาย >>>

• 7.2 ยีนเดน่ บนโครโมโซม X ( X- linked dominance)
มีน้อย เชน่ ลกั ษณะมนษุ ย์หมาป่า (ผู้หญงิ › ผชู้ าย) เพราะทั้ง
พนั ธ์ุแทแ้ ละพนั ธทุ์ างกแ็ สดงออกได้ ลักษณะจีโนไทป์ คือ

ผู้ชาย X AY มอี าการ
X aY ปกติ

ผู้หญงิ X AX A มอี าการ
X AX a มอี าการ
X aX a ปกติ

ลองทาํ ดู

1.หญงิ คนหนึ่งตาปกตมิ พี อ่ เปน็ โรคตาบอดสี แต่งงานกับชายตา
ปกติ แตม่ พี ่อเป็นโรคตาบอดสี จงหารอ้ ยละของลกู ทเ่ี ปน็ โรค
ตาบอดสี

2.โรคกล้ามเน้อื แขนขาลีบเป็นลกั ษณะด้อยบนโครโมโซม X ถา้
ชายเป็นโรคกล้ามเนื้อแขนขาลีบแต่งงานกบั หญิงท่ีเป็นพาหะ
ลูกจะมีจโี นไทป์และฟโี นไทปเ์ ป็นอย่างไร อัตราส่วนเท่าใด

3.โรคฮีโมฟีเลียควบคมุ ดว้ ยยนี ดอ้ ยบนโครโมโซม X หญงิ คน
หนงึ่ ปกติแตง่ งานกับชายท่ีเป็นโรคฮีโมฟีเลยี มลี กู สาวคนหน่ึง
เปน็ โรคฮโี มฟเี ลีย จงหา
3.1 จีโนไทปข์ องหญงิ ชายคู่นี้
3.2 จโี นไทป์ของลกู ชายและลูกสาวทกุ คน
3.3 รอ้ ยละของลกู สาวที่มฮี ีโมฟีเลีย

Pedigree

• Pedigree = พันธุประวัติ หรือพงศาวลี เป็นไดอะแกรม
แสดงการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของบุคคลต่างๆ
ในครอบครัวเดียวกันหลายรุ่น มีประโยชน์ในการวินิจฉัย หรือ
คัดกรองผ้ปู ว่ ยเปน็ โรคทางพันธุกรรม ใชส้ ัญลกั ษณ์ ดังน้ี
เพศชาย
เพศหญงิ
ไม่ระบุเพศ

187

4. หมู่เลือดระบบ ABO ในคนควบคุมด้วยยีนบนออโทโซม
โรคตาบอดสี ควบคุมด้วยยีนด้อยบนโครโมโซมเพศ พ่อและ
แม่มหี มู่เลอื ด A และตาปกติท้ังคู่ มีลูกชายคนหนึ่งมีหมู่เลือด o
และตาบอดสี จงหาอัตราสว่ นของฟีโนไทป์ ดงั ต่อไปน้ี

4.1 ถา้ ลูกสาวของพอ่ แมค่ ู่นม้ี ีหมู่เลือด o และตาปกติ

4.2 ถา้ ลูกชายของพอ่ แม่คูน่ ้มี ีหมเู่ ลอื ด A และตาบอดสี

เป็ นพาหะ
มอี าการ (ทบึ )

แต่งงาน

I II III IV ลาํ ดบั การมลี ูกเร่ิมจากซ้ายไปขวา
รุ่น

หลกั เกณฑ์การวเิ คราะห์พนั ธุประวตั ิ

• ลักษณะทต่ี ้องการศึกษา เกิดท้งั ช/ญ ในอัตราส่วนใกลเ้ คียง
กัน อาจสรุปไดว้ ่า ลักษณะน้ีควบคมุ ด้วยยีนบนออโทโซม

• ถา้ เกิดในเพศใดเพศหนงึ่ หรอื เกิดในเพศหนึ่งมากกว่าอีกเพศ
หนึ่ง สรุปวา่ ยนี ท่ีควบคุมลักษณะอยู่บนโครโมโซมเพศ

• ถ้าเกดิ รุ่นพอ่ แมฝ่ า่ ยใดฝ่ายหน่ึง หรอื 2 ฝ่าย และลักษณะน้เี กิด
ในลูกทกุ ชัว่ รุ่น สรปุ ว่า ยีนทค่ี วบคุมลกั ษณะดังกลา่ วเปน็ ยนี
เดน่

• ถ้าไมพ่ บลกั ษณะนใ้ี นรุ่นพ่อแม่แตเ่ กิดในรนุ่ ลูกบางชั่วรุ่น
สรปุ ว่า ยีนทีค่ วบคมุ ลักษณะน้เี ป็นยีนด้อย

• ลักษณะท่ีตอ้ งการศกึ ษาเกดิ ในเพศชาย มีการถ่ายทอดยีนจาก
พอ่ ไปยงั ลูกชายทกุ คน สรปุ วา่ ยีนทคี่ วบคุมลักษณะน้ีอยู่บน
โครโมโซม Y

• 2. ยนี ด้อยบนโครโมโซมรา่ งกาย (Autosomal recessive)
ลักษณะการถา่ ยทอดโรคจะปรากฏบางรนุ่ เพศชายจะเกดิ โรคเท่าๆกับ
เพศหญงิ ถ้าพอ่ แมป่ กติลกู มโี อกาสเป็นโรคได้

I

II

III

วธิ กี ารดูการถ่ายทอดลกั ษณะของ Pedigree

1.ยีนเด่นบนโครโมโซมร่างกาย (Autosomal dominance)
• ลกั ษณะนปี้ รากฏโรคทกุ รุ่นเลย เพศชายจะเกิดโรคเทา่ ๆกับเพศหญงิ

การถา่ ยทอดโรคจากพ่อไปลูกชาย หรอื จากแม่ไปลกู สาวกไ็ ด้

I

II

III

3. ยนี เดน่ บนโครโมโซมX ( X-linked dominance)
• ลกั ษณะนปี้ รากฏโรคทุกรนุ่ เลย (ผหู้ ญงิ › ผชู้ าย) ถา้ พ่อเป็นโรคลกู สาว

จะเป็นโรคแนน่ อน ไมม่ กี ารถ่ายทอดยนี ของโรคจากพ่อไปสูล่ กู ชาย

I
II

III

IV

• 4.ยนี ดอ้ ยบนโครโมโซม X (X-linked recessive)
ลักษณะน้ีปรากฏโรคไดบ้ างรุ่น (ผ้ชู าย › ผู้หญงิ ) ถ้าแม่เปน็ โรคลูกชาย
จะเป็นโรคแนน่ อน ไม่มีการถา่ ยทอดยีนของโรคจากพ่อไปสลู่ ูกชาย

I

II

III

2. จากพันธุประวตั ขิ องครอบครวั หน่งึ ทีม่ ปี ระวัติเกีย่ วกับโรคฮีโมฟีเลีย
ดังแผนภาพ

I. เหตุใดครอบครัวท่ี 1 ลกู ชายจงึ ไม่เปน็ ฮโี มฟเี ลีย

II. เหตใุ ดครอบครวั ที่ 2 จึงมลี กู ชายคนหนึง่ เปน็ ฮีโมฟีเลีย

III. ลูกสาวของครอบครวั ใดที่เป็นพาหะทกุ คน เพราะเหตใุ ด

ครอบครัวท่ี 1 ครอบครัวท่ี 2

ลองทาํ ดู

1.ครอบครัวต่อไปนีม้ บี ุคคลทเ่ี ป็ นโรคฮีโมฟี เลยี 2 คน (แรเงา)
บุคคล ใดบ้างทเ่ี ป็ นพาหะของยนี โรคฮีโมฟี เลยี อย่างแน่นอน

X A X a X AY
12

X AX A
3

X aY X A X a 5 6 X AY
X aY
7 4
X AX a X AX A
X AX a

3. จากการสาํ รวจ ลกั ษณะหนงั ตา และความสูงของนักเรยี นทง้ั
ช้นั ในโรงเรียนแห่งหน่ึง แลว้ นาํ ข้อมลู มาเขียนเป็นกราฟ ก.
และ ข. จากข้อมูลนบี้ อกอะไรได้บา้ ง

5ํจานวน ันกเรียนหนงั ตา 2 ชน้ั 1.2
4.5
จํานวนนักเ ีรยน 1
4
0.8
3.5
0.6
3 หนังตาช้ันเดียว
2.5 0.4

2 0.2 สงู น้อย

1.5 0

1 ข.ประเภท 1 ประเภท 2 สูงมาก

0.5

0 ก.
ประเภท 1 ประเภท 2

4.ชายคนหน่งึ มฟี นั สีนา้ํ ตาล แตง่ งานกบั หญิงที่มฟี ันสขี าว มลี ูกสาว 4
คน ทุกคนมีฟนั สีนา้ํ ตาลและมีลกู ชาย 3 คน ทกุ คนมีฟนั สขี าว ต่อมา
ลกู ชายทุกคนไปแต่งงานกับหญิงฟันสีขาว ลูกทุกคนมีฟนั สีขาว ส่วน
ลกู สาวคนหนึ่ง (ก) ในจํานวน 4 คน แต่งงานกบั ชาย (ข) ทมี่ ฟี นั สีขาว
มลี ูกทัง้ หมด 4 คน เปน็ ลูกสาว 2 คน คนหนงึ่ มีฟันสีนาํ้ ตาล อกี คน
หน่ึงมฟี ันสขี าว และลูกชาย 2 คน คนหนึ่งมีฟนั สนี าํ้ ตาล และอกี คนมี
ฟนั สีขาว

I. จงเขียนพันธปุ ระวตั ิของครอบครวั น้ี
II. การถา่ ยทอดลักษณะสีฟันของคนในครอบครวั ถกู ควบคมุ ด้วยยนี

เดน่ หรือยนี ดอ้ ย และยีนมตี าํ่ แหน่งอย่ทู ่โี ครโมโซมชนิดใด
III. ถ้าลูกชายมฟี นั สีน้ําตาลทเี่ กดิ จาก (ก)และ(ข) ไปแต่งงานกบั หญิงฟนั

สนี ้ําตาล ซึ่งพอ่ มีฟันสีขาว โอกาสทจ่ี ะมีลกู ชายเป็นฟนั สขี าวคิด
เปน็ อัตราสว่ นเท่าใด

III. ลูกชายฟันสีนํา้ ตาล หญงิ ฟันสีนํา้ ตาล

X AY x X AX a

X AX A X AX a X AY X aY

ญ:ฟันสีนํา้ ตาล ญ:ฟันสีนํา้ ตาล ช:ฟันสีนํา้ ตาล ช:ฟันสีขาว

โอกาสทจี่ ะมลี ูกชายฟันสีขาวในอตั ราส่วน 1/4

I.

II. ลกั ษณะฟันสนี า้ํ ตาลควบคุมโดยยีนเดน่ บนโครโมโซม X

( X-linked dominance gene)

5. นาย ก. กําลังวางแผนจะแต่งงานกับนางสาว ข. ทเี่ ปน็ ค่รู กั แตน่ าย
ก. ทราบภายหลงั ว่า ตัวเขาเป็นพาหะของทาลสั ซีเมยี และสามารถ
ถา่ ยทอดสู่ลกู ได้

นาย ก.จะมีทางเลอื กอยา่ งไรบ้างทจ่ี ะไมใ่ ห้ลกู ทีเ่ กิดมาเป็นธาลัสซเี มยี

ทางเลือกที่ ลําดับความสาํ คญั ของทางเลือก

1 ………
2………

การตดั สนิ ใจครง้ั สุดทา้ ย

ครอบครัวตอ่ ไปนี้มีบุคคลท่เี ปน็ โรคฮโี มฟเี ลีย 2 คน (แรเงา) บุคคล
ใดบา้ งทเ่ี ป็นพาหะของยีนโรคฮีโมฟีเลยี อยา่ งแนน่ อน

12

3

4 56
7

8. พนั ธกุ รรมจาํ กัดเพศ

• พนั ธกุ รรมจํากัดเพศ = Sex- limited traits

คอื ลกั ษณะบางอยา่ งจะแสดงออกเฉพาะในเพศหนงึ่ เทา่ นัน้ ตาํ แหนงยนี
อยบู่ น Autosome เช่น การมหี นวดเครา , เสียงห้าวในผชู้ าย
ตวั อย่าง

• สมมติ H = ไกข่ นสัน้ , h = ไก่ขนยาว (แสดงออกในเพศผ้)ู

ฟี โนไทป์ ตวั ผู้ ตวั เมยี
HH ส้ัน ส้ัน
Hh ส้ัน ส้ัน

hh ยาว ส้ัน

4.หนตู ัวหนึ่งสรา้ งเสปิรม์ ชนิด aBCDE ผสมกบั เซลล์ไขช่ นดิ
abcDe จงหาจโี นไทปข์ องลกู ที่เกิดจากการปฏสิ นธิ และลกู มี
โอกาสสรา้ งเซลล์สืบพันธไุ์ ด้ก่ีชนิด อะไรบ้าง

• รนุ่ P พ่อไก่ แม่ไก่
Hh x Hh

• รนุ่ F1 1/4HH : 2/4Hh :

1/4hh

ลกู ไก่ตัวผู้ 1/4ขนสั้น : 2/4ขนสนั้ : 1/4ขนยาว
ลกู ไกต่ ัวเมยี 1/4ขนสั้น : 2/4ขนส้นั : 1/4ขนสน้ั

9.พนั ธุกรรมขึน้ กบั อิทธิพลเพศ

พนั ธุกรรมขึ้นกับอิทธิพลเพศ = Sex – influenced traits

คือ อลั ลลี ตัวหนง่ึ อาจจะเดน่ ในชาย แต่ด้อยในหญงิ

(ขน้ึ อย่กู บั อิทธิพลเพศ) ตําแหน่งยนี อยู่บน Autosome เช่น หวั ล้าน

สมมตวิ ่า B = ลา้ น จะเด่นในชายและด้อยในหญิง

b = ไมล่ ้าน

จโี นไทป์ ชาย หญงิ

BB ล้าน ล้าน

Bb ล้าน ไม่ล้าน
bb ไม่ล้าน ไม่ล้าน

205

9. พนั ธุกรรมบนโครโมโซมเดียวกนั

9.1 สองโลกสั อยูห่ า่ งกนั
ในระยะ Prophase I ของการสรา้ งเซลล์สบื พันธจุ์ ะเกดิ

Crossing over ทําให้เกดิ การแลกเปลยี่ นชิน้ ส่วนทาง
พันธกุ รรม ดงั รปู

EX ถา้ พอ่ แม่ heterozygous สาํ หรับลักษณะหวั ล้านแต่งงานกนั
ลกู จะเปน็ อย่างไร

กําหนด H=ลา้ น , h=ไม่ลา้ น

• รุ่น P พ่อ แม่

Hh x Hh

1/4HH : 2/4Hh :

• รนุ่ F1 1/4hh

ลูกชาย 1/4ลา้ น : 2/4ล้าน : 1/4ไม่ลา้ น
ลูกสาว 1/4ลา้ น : 2/4ไมล่ ้าน : 1/4ไม่ลา้ น

ครูกลุ ธิดา ขนั สุข 208

Linked gene

Crossing Over Prophase I of Meiosis

non- sister Genetic Recombination
chromatids

Homologous Chromosomes Exchanging Parental type (PT) = ???
DNA by Crossing Over Recombinant type (RT) =???

-ถ้ายีน AaBb เกดิ Crossing over สามารถสร้างเซลล์
สบื พนั ธไุ์ ด้ 4 แบบ คือ AB , Ab , aB , ab
(เกดิ การรวมกลุ่มของยีนใหม่= genetic recombination
ทําใหเ้ กดิ การแปรผันลักษณะทางพนั ธกุ รรมไปสวู่ ิวฒั นาการตอ่ ไป )

- ถ้ายนี AaBb ไม่เกดิ Crossing over สามารถสรา้ ง
เซลล์สืบพันธ์ไุ ด้ 2 แบบ คอื AB และ ab
( 2 โลกัสอย่ชู ดิ กนั มาก)

9.1 สองโลกัสอยู่หา่ งกนั (ยีน 2 ยีนอยหู่ ่างกนั )

( ผู้หรอื เมีย) AaBb เกิด Crossing over
ในระยะ Prophase I

Gene recombination

Gene recombination

9.2 สองโลกสั อยชู่ ิดกนั มาก

• การทโ่ี ครโมโซมอยชู่ ิดกนั มาก จะไม่เกิด Crossing over ทํา
ใหย้ นี เหลา่ น้ันถา่ ยทอดไปด้วยกนั เสมอ เรียกวา่ Linkage gene
จํานวนของกลมุ่ Linkage gene จะเท่ากบั จาํ นวนคูข่ อง
โครโมโซม เชน่ ในคนโครโมโซม 23 ค่จู ะมี Linkage gene 23
กล่มุ

9.2 สองโลกสั อยชู่ ดิ กนั มาก

D

( ผ้หู รอื เมยี ) AaBb ระยะ Prophase I

ครูกลุ ธิดา ขนั สุข 215

ครูกลุ ธิดา ขนั สุข 214

ครูกลุ ธิดา ขนั สุข 216

จํานวนการเกดิ Crossing over

• จาํ นวนการเกิด Crossing over ในโครโมโซมแตล่ ะคมู่ คี า่ คงที่

• โครโมโซมยาวจะเกดิ Crossing over มากกว่าโครโมโซมที่สั้น

• ยนี 2 ตาํ แหน่งท่ีอยู่หา่ งกันเกดิ Crossing over มากกวา่ ยนี 2
ตําแหนงทีอ่ ยชู่ ิดกนั

โอกาสของการเกดิ Crossing over ใช้ประโยชน์เพ่ือหา
ความถ่ขี องเซลล์สบื พันธ์ุชนิด Parental type : PT และชนดิ
Recombinant type :RT เช่น เมอื่ เกดิ Crossing over
1 คร้ังในยนี 2 ตาํ แหน่ง

% Recombination = ½ % Crossing over

ครูกลุ ธิดา ขนั สุข 219

ครูกลุ ธิดา ขนั สุข 218

สูตรการหาโอกาสเกิดเซลล์สืบพนั ธ์ชุ นดิ RT ของการเกดิ Crossing over
• % Recombination = จาํ นวนเซลลส์ บื พันธุช์ นิดRT x100

จาํ นวนเซลลส์ ืบพันธท์ุ ้งั หมด

ตัวอย่าง ทุกเซลลใ์ นไมโครสปอโรไซตเ์ กิด Crossing over หมายความ
ว่า Crossing over เกิด 100 % แตถ่ ้ามเี พยี ง 60 เซลลข์ องไมโคร
สปอโรไซตเ์ กิด Crossing over หมายความว่า มี Crossing over เกดิ
60 % จงหาเปอรเ์ ซนต์รีคอมบเิ นชัน

10. พนั ธุกรรมนอกนวิ เคลยี ส

ใน Cytoplasm ยังมีสารพนั ธกุ รรมท่ีอย่ใู น
Mitochandria และ Chloroplast ดว้ ย ซง่ึ การถ่ายทอด
ลักษณะเหลา่ น้ี จะถา่ ยทอดผ่านแมเ่ ท่านั้น เพราะ อสุจิจะ
ใชน้ ิวเคลียสของตัวเองผสมเท่านั้น ลักษณะใน Cytoplasm
ฝ่ายพ่อจงึ หายไป

221



แผนการจัดการเรียนรู้และแผนการประเมนิ ผลการเรียนรู้ฉบบั ย่อ

รายวิชา ว30241 พนั ธุศาสตร์และววิ ฒั นาการ SCI30241 Genetics and Evolution

จานวนหน่วยกิต 1.5 หนว่ ยกิต เวลาเรียน 3 คาบ / สัปดาห์

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. คาอธบิ ายรายวิชา

ลักษณะทางพนั ธกุ รรม กระบวนการถา่ ยทอดทางพนั ธกุ รรม โครโมโซม การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

ตามกฎของเมนเดลและนอกกฎของเมนเดล ประวตั ิการค้นพบและโครงสร้างของสารพันธุกรรม การจาลองตัวของดีเอ็น

เอ การแสดงออกของยนี การกลายพันธ์ุ เทคโนโลยีดีเอ็นเอและพันธุวิศวกรรม ประวัติการศึกษาวิวัฒนาการ ทฤษฎี

และหลักฐานเชิงวิวัฒนาการ การคัดเลือกโดยธรรมชาติและการปรับตัวของสิ่งมีชีวิต รูปแบบการคัดเลือกโดย

ธรรมชาติ กฎสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงความถ่ีอัลลีล และความถี่จีโนไทป์

แนวคิดเกี่ยวกบั สปชี ีส์ กลไกการเกิดสปีชีส์ใหม่ แนวคิดเกี่ยวกับการกาเนิดของส่ิงมีชีวิต วิวัฒนาการของโพรคาริ

โอตและยคู ารโิ อต ลกั ษณะสณั ฐานวิทยาและการจาแนกหมวดหมู่ของไพรเมต วิวัฒนาการจากไพรเมตโบราณสู่โฮ

มินิด การกาเนิดมนุษยย์ คุ แรกและมนุษย์ยคุ ใหม่

เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและความสาคัญของพันธุศาสตร์ต่อการวิวัฒนาการและการ

ดารงอยู่ของสิง่ มชี วี ิต มีทกั ษะกระบวนการในการสืบเสาะหาความรู้ สอ่ื สารสิ่งท่ีเรียนรู้ การทากิจกรรมกลุ่ม กิจกรรมการ

สร้างองค์ความรู้ กิจกรรม STEM สามารถประยุกต์ความรู้ และนาไปใช้ในการดารงชีวิตของตนเองและดูแล

สิง่ มีชีวิตอ่นื ๆ

2. ผลการเรียนรู้
1. อธบิ ายชนดิ รูปรา่ ง ส่วนประกอบของโครโมโซมและแยกความแตกตา่ งของโครโมโซมได้
2. อธบิ ายลักษณะทางพนั ธุกรรมและกระบวนการถา่ ยทอดทางพนั ธุกรรมได้
3. อธิบายกฎการแยก และกฎการรวมกลมุ่ อย่างอิสระของเมนเดลและนาไปประยุกต์ใช้ในการคานวณ

และทานายอัตราส่วนของชนดิ เซลล์สืบพันธุ์ จโี นไทป์ และฟโี นไทป์ ในแตล่ ะรุ่น รวมถึงวิเคราะห์การถ่ายทอด
ลกั ษณะทางพันธกุ รรมนอกเหนอื กฎของเมนเดลได้

4. อธบิ ายประวตั ิการคน้ พบสารพันธกุ รรมและวิเคราะห์องคป์ ระกอบทางเคมขี องสารพนั ธุกรรมได้
5. อธบิ ายกลไกการจาลองดเี อน็ เอและกลไกการแสดงออกของยนี
6. อธบิ ายความหมาย สาเหตุ ชนดิ และผลของการกลายพนั ธุ์ได้

หลกั สตู รระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย สาขาชีววิทยา กลุม่ โรงเรยี นวทิ ยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลยั
พทุ ธศกั ราช 2561 (ปรบั ปรุง 22 กนั ยายน 2561) หนา้ 1

7. อธบิ ายกระบวนการเทคโนโลยีดีเอ็นเอและพันธุวิศวกรรม และอภิปรายผลของเทคโนโลยีดีเอ็นเอ
ที่มตี อ่ มนษุ ยแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ มได้

8. อธิบายแนวคิดเกีย่ วกบั การกาเนิดของส่ิงมชี วี ติ วิวัฒนาการของโพรแคริโอตและยูคารโิ อตได้
9. อธบิ ายประวตั กิ ารศึกษาววิ ัฒนาการ ทฤษฎวี ิวัฒนาการ และหลกั ฐานเชงิ ววิ ัฒนาการได้
10. อธิบายการคัดเลือกโดยธรรมชาติ การปรบั ตัวของสิ่งมีชีวิตและรปู แบบการคัดเลือกโดยธรรมชาติได้
11.อธบิ ายกฎสมดลุ ของฮารด์ ี-ไวนเ์ บิรก์ การเปลี่ยนแปลงความถี่อัลลีลและจีโนไทป์ในประชากรรวมถึงปัจจัย
ทมี่ ีผลต่อการเปล่ียนแปลงความถีอ่ ัลลีลและจโี นไทป์ได้
12. อธบิ ายแนวคดิ เกย่ี วกบั สปชี ีส์ใหม่ กลไกการป้องกัน การผสมข้ามสปชี สี ์ กลไกการเกิดสปีชีสใ์ หม่
13. อธิบายลักษณะสัณฐานวิทยาและการจาแนกหมวดหมู่ของไพรเมต วิวัฒนาการจากไพรเมตโบราณสู่โฮมินิด
การกาเนิดมนุษยย์ คุ แรกและมนษุ ยย์ คุ ใหมไ่ ด้

3. กาหนดการสอนและจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

สัปดาห์ คาบ หัวขอ้ /สาระการ วัตถปุ ระสงค์รายวชิ า วธิ กี ารสอน/กจิ กรรม สื่อการสอน

ท่ี ที่ เรยี นรู้

1 1 ปฐมนิเทศ - เพอื่ ให้นกั เรยี นมคี วามเข้าใจ - บรรยาย - แผนการจัดการ
เรียนรฉู้ บับย่อ
- ผลการเรียนรทู้ ี่ ในขอบข่ายโดยรวมของ
- PowerPoint
คาดหวัง เนอื้ หาวชิ า - เอกสาร

- ลกั ษณะ - เพอ่ื ให้นกั เรียนมีความเขา้ ใจ การสอน
- บทปฏบิ ัตกิ าร
เนอื้ หาวิชา ตรงกนั เกี่ยวกับกิจกรรมการ
คารโิ อไทป์
- วธิ ีการเรียน เรียนการสอน ผลการเรียนรู้ กระดาษของ
โครโมโซม
การสอน ทีค่ าดหวงั กฎเกณฑ์ ใน มนุษย์

- การวัดผลและ ชั้นเรยี น เกณฑ์การวดั และ

การประเมินผล ประเมินผล

บทท่ี 1 การ 1. อธบิ ายชนดิ รูปร่าง - สืบเสาะอธบิ าย

ถา่ ยทอดลักษณะ สว่ นประกอบของโครโมโซม อภปิ ราย

ทางพนั ธกุ รรม และแยกความแตกต่างของ - ปฏิบัตกิ าร

1-6 2-4 1.1 โครโมโซม โครโมโซมได้ คารโิ อไทป์

- ยีนและจี กระดาษ

โนม ของโครโมโซม

มนุษย์

หลกั สูตรระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย สาขาชีววทิ ยา กลมุ่ โรงเรยี นวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลยั
พุทธศักราช 2561 (ปรับปรงุ 22 กนั ยายน 2561) หน้า 2

สัปดาห์ คาบ หวั ข้อ/สาระการ วตั ถุประสงค์รายวชิ า วิธกี ารสอน/กิจกรรม สื่อการสอน

ท่ี ที่ เรยี นรู้

5-6 1.2 ความน่าจะ 2. อธบิ ายลักษณะทาง - สืบเสาะอธิบาย - PowerPoint
- เอกสาร
เปน็ ในการหา พันธกุ รรมและกระบวนการ อภปิ ราย
การสอน
อัตราส่วนของ ถ่ายทอดทางพนั ธุกรรมได้ - ปฏิบัติการความ - บทปฏิบตั ิการ

ชนดิ เซลล์ 3. อธิบายกฎการแยก และกฎ น่าจะเปน็ ความน่าจะเป็น

สืบพนั ธุ์ จโี นไทป์ การรวมกลุม่ อยา่ งอสิ ระของ

และ ฟโี นไทป์ เมนเดลและนาไปประยกุ ตใ์ ช้

7- 1.3 การถา่ ยทอด ในการคานวณและทานาย

10 ลักษณะทาง อัตราสว่ นของชนิดเซลล์

พนั ธุกรรมตาม สบื พนั ธ์ุ จีโนไทป์ และฟโี น

กฎของ ไทป์ ในแตล่ ะรุ่น

เมนเดล รวมถึงวเิ คราะห์ การ

11- 1.4 การถ่ายทอด ถ่ายทอดลักษณะทาง

17 ลกั ษณะทาง พนั ธุกรรมนอกเหนอื กฎของ

พันธุกรรมทไี่ ม่ เมนเดลได้

เป็นไปตามกฎ

ของเมนเดล

- ปฏกิ ริ ิยาร่วมกัน

ของยนี

- มัลติเปิลอัลลีล

และมัลตเิ ปิลยนี

- ลกั ษณะ
พนั ธกุ รรมท่ี
ควบคุมด้วยยนี
บน โครโมโซม
เพศ
- ลกั ษณะ
พนั ธกุ รรมทไ่ี ดร้ ับ
อทิ ธพิ ลโดยเพศ
และถูกจากดั โดย
เพศ

หลกั สูตรระดับชน้ั มัธยมศึกษาตอนปลาย สาขาชวี วิทยา กลมุ่ โรงเรียนวทิ ยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย
พทุ ธศักราช 2561 (ปรบั ปรุง 22 กันยายน 2561) หน้า 3

สัปดาห์ คาบ หวั ขอ้ /สาระการ วัตถุประสงคร์ ายวชิ า วิธกี ารสอน/กจิ กรรม สื่อการสอน

ที่ ท่ี เรียนรู้

18 - ลกั ษณะทาง

พนั ธกุ รรมที่

ควบคุมนอก

นวิ เคลียสและ

อิทธิพลทางแม่

- ยีนที่อยบู่ น
โครโมโซม
เดียวกนั (linked
gene)
1.5 พงศาวลี

บทที่ 2 สาร 4. อธบิ ายประวตั กิ ารค้นพบ - สืบเสาะ - PowerPoint

พนั ธกุ รรม สารพันธกุ รรมและวิเคราะห์ อธิบาย - เอกสาร

7-9 19- 2.1 ประวัตแิ ละ องคป์ ระกอบทางเคมขี องสาร อภปิ ราย การสอน

20 การคน้ พบสาร พันธกุ รรมได้ - สรา้ งแบบจาลอง - ใบกจิ กรรม

พันธกุ รรม DNA แบบจาลอง

21 2.2 โครงสร้าง ดีเอน็ เอ

ของ DNA และ

RNA

22- 2.3 การจาลอง 5. อธบิ ายกลไกการจาลอง - สืบเสาะ - PowerPoint
23 โมเลกุลของ DNA DNA และกลไกการแสดงออก อธบิ าย อภปิ ราย - เอกสาร

(DNA ของยนี การสอน
24- replication) - วดี โิ อ
25 2.4 การ

แสดงออกของยีน
(Gene
expression)

-
Transcription

- Translation

หลกั สตู รระดับชน้ั มัธยมศึกษาตอนปลาย สาขาชีววทิ ยา กล่มุ โรงเรียนวทิ ยาศาสตร์จฬุ าภรณราชวทิ ยาลัย
พทุ ธศกั ราช 2561 (ปรบั ปรงุ 22 กนั ยายน 2561) หนา้ 4

สปั ดาห์ คาบ หวั ข้อ/สาระการ วตั ถุประสงค์รายวชิ า วธิ กี ารสอน/กิจกรรม สอ่ื การสอน

ท่ี ที่ เรียนรู้

26- 2.5 การกลาย 6. อธิบายความหมาย สาเหตุ - สบื เสาะ อธิบาย - PowerPoint

27 พนั ธุ์ (Mutation) ชนิด และผลของการกลาย อภปิ ราย - เอกสาร

พันธุ์ได้ การสอน

10 28-30 สอบกลางภาค

บทที่ 3 7. อธิบายกระบวนการ - สบื เสาะ อธิบาย - PowerPoint

เทคโนโลยีดเี อน็ เทคโนโลยี ดีเอน็ เอ และ อภิปราย - เอกสาร

11-14 31- เอและพนั ธุ พนั ธวุ ศิ วกรรมและอภปิ ราย - ปฏบิ ตั กิ ารการ การสอน

35 วศิ วกรรม ผลของเทคโนโลยีดีเอ็นเอที่มี สกัด DNA จาก - บทปฏิบตั ิการ

3.1 พันธุ ต่อมนุษย์และส่งิ แวดล้อมได้ ตัวอยา่ งพืชและ การสกัด

วิศวกรรม ผลไม้ DNA จาก

- เอนไซม์ตดั - ปฏบิ ตั ิการการทา ตวั อยา่ งพชื

จาเพาะ Gel และผลไม้

- การสร้างดเี อ็น electrophoresis - บทปฏบิ ัตกิ าร

เอสายผสม การทา

(Recombinant Gel

36- DNA) electrophoresis

40 - การนาดีเอ็นเอ

สายผสมเขา้ สเู่ ซลล์

เจา้ บา้ น

- การโคลนดเี อ็นเอ

(DNA Cloning)

3.2 เทคโนโลยดี ี

เอ็นเอ

- ปฏกิ ิรยิ าลูกโซ่พอ

ลิเมอเรส

(Polymerase

chain reaction)

- การวิเคราะห์

ลาดับเบสของดี

เอ็นเอ (DNA

sequencing)

หลกั สตู รระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย สาขาชีววทิ ยา กลุ่มโรงเรียนวทิ ยาศาสตร์จฬุ าภรณราชวทิ ยาลัย
พทุ ธศกั ราช 2561 (ปรบั ปรงุ 22 กันยายน 2561) หนา้ 5

สปั ดาห์ คาบ หวั ข้อ/สาระการ วตั ถุประสงคร์ ายวิชา วิธกี ารสอน/กิจกรรม สอื่ การสอน

ท่ี ที่ เรียนรู้

บทท่ี 4 8. อธิบายแนวคิดเก่ียวกับ - สบื เสาะ - PowerPoint
วิวัฒนาการของ - เอกสาร
สง่ิ มชี วี ิต ก าร ก าเนิด ขอ ง สิ่ ง มีชีวิ ต อธบิ าย อภิปราย
14-19 41 4.1 กาเนิด การสอน
42- สง่ิ มีชวี ิต วิวฒั นาการของ - ปฏบิ ัติการ - บทปฏบิ ตั ิการ
44 4.2 แนวคดิ และ พันธุศาสตร์
หลกั ฐานของ โพรคารโิ อตและยคู าริโอตได้ พนั ธศุ าสตร์ ประชากร
ววิ ฒั นาการ - บทปฏิบตั ิการ
4.3 การคดั เลือก 9. อธบิ ายประวตั ิการศึกษา ประชากร ปจั จัยที่มี
45- ตามธรรมชาติ อทิ ธิพลต่อ
50 4.4 พนั ธุศาสตร์ วิวฒั นาการ ทฤษฎี - ปฏิบตั กิ าร สมดุลฮารด์ ี-
ประชากร ไวนเ์ บริ ก์
ววิ ฒั นาการ และหลักฐานเชงิ ปจั จยั ทม่ี ี (Hardy-
51- 4.5 การเกิดสปี Weinberg
53 ชสี ใ์ หม่ ววิ ฒั นาการได้ อทิ ธพิ ลต่อ Equilibrium)
54- 4.6 รูปแบบของ
55 วิวฒั นาการ 10. อธิบายการคดั เลือกโดย สมดุลฮารด์ ี- - PowerPoint
- เอกสาร
ธรรมชาติ การปรับตัวของ ไวนเ์ บริ ก์
การสอน
สิง่ มีชีวิตและรปู แบบการ (Hardy-

คัดเลอื กโดยธรรมชาติได้ Weinberg

11. อธิบายกฎสมดุลของฮาร์ Equilibrium)

ดี

-ไวน์เบริ ก์ การเปลยี่ นแปลง

ความถี่

อลั ลีลและจโี นไทปใ์ น

ประชากร รวมถึงปจั จยั ที่มี

ผลตอ่ การเปลี่ยนแปลง

ความถีอ่ ัลลีลและจโี นไทปไ์ ด้

12. อธิบายแนวคิดเกยี่ วกับส - สืบเสาะ อธบิ าย

ปชี สี ใ์ หม่ กลไกการปอ้ งกัน อภิปราย

การผสมขา้ มสปีชีส์ กลไกการ

เกดิ สปีชสี ใ์ หม่

56- 4.7 ววิ ัฒนาการ 13. อธบิ ายลกั ษณะสณั ฐานวิทยา - สืบเสาะ - PowerPoint
57 ของมนุษย์ และการจาแนกหมวดหมู่ของไพร - นาเสนอ - เอกสาร
การสอน
20 58-60 เมต วิวฒั นาการจากไพรเมต
โบราณสโู่ ฮมินดิ การกาเนิดมนษุ ย์
ยุคแรกและมนุษย์ยุคใหม่ได้

สอบปลายภาค

หลกั สูตรระดบั ช้นั มัธยมศึกษาตอนปลาย สาขาชวี วทิ ยา กลุ่มโรงเรียนวทิ ยาศาสตร์จุฬาภรณราชวทิ ยาลัย
พุทธศกั ราช 2561 (ปรับปรงุ 22 กันยายน 2561) หน้า 6

4. แผนการประเมนิ ผลการเรียนรู้และการมอบหมายงาน

แผนการประเมินผลการเรียนรู้ คะแนนระหว่างภาค : ปลายภาค = 75 : 25

คะแนนระหว่างภาค = สอบก่อนกลางภาค (10) + สอบกลางภาค (25) +

สอบหลังกลางภาค (10) + ปฏบิ ัตกิ ารและชน้ิ งาน (30)

มรี ายละเอยี ดดังน้ี

4.1 ประเมนิ ผลจาก ผลงาน/ชิ้นงาน/รายงาน 30 คะแนน

4.2 ประเมนิ ผลจากการสอบย่อยของนักเรยี น 20 คะแนน

4.3 ประเมนิ จากการสอบกลางภาค 25 คะแนน

4.4 ประเมนิ จากการสอบปลายภาคและการสอบภาคปฏิบัติ 25 คะแนน

รวม 100 คะแนน

รายละเอยี ดการประเมนิ ผลแตล่ ะหวั ข้อเป็นดังนี้

4.1 การประเมินผลงาน/ช้นิ งาน/รายงาน (30 คะแนน)

เวลาท่ี

รายการ รูปแบบ วันทีไ่ ดร้ บั กาหนดสง่ นักเรยี น คะแนน
ของงาน มอบหมาย ควรใช้

(นาที)

1 เขยี นรายงานปฏบิ ัตกิ าร เรือ่ ง คารโิ อไทป์กระดาษ งานเดยี่ ว สัปดาห์ที่ 1 สัปดาห์ที่ 2 60 3

ของโครโมโซมมนุษย์

2 เขียนรายงานปฏิบตั ิการ เร่อื ง ความนา่ จะเปน็ งานเดย่ี ว สัปดาหท์ ี่ 3 สปั ดาห์ที่ 4 60 3

3 สรา้ งแบบจาลองโครงสรา้ งของดีเอน็ เอ งานกลมุ่ สัปดาหท์ ี่ 3 สปั ดาห์ที่ 6 250 5

4 เขยี นรายงานปฏิบตั กิ าร เรอ่ื ง การสกดั DNA จาก งานเดย่ี ว สัปดาหท์ ่ี 11 สปั ดาห์ที่ 12 60 3

ตวั อย่างพชื และผลไม้

5 เขยี นรายงานปฏบิ ัตกิ าร เรอื่ ง การทา งานเดย่ี ว สปั ดาหท์ ี่ 12 สัปดาห์ที่ 13 60 3

Gel Electrophoresis

6 เขยี นรายงานปฏิบตั ิการ เร่อื ง พนั ธศุ าสตร์ งานเดี่ยว สัปดาห์ที่ 14 สัปดาหท์ ่ี 15 60 3

ประชากร

7 เขยี นรายงานปฏิบตั กิ าร เรอ่ื ง ปฏบิ ัตกิ ารปจั จัยทม่ี ี งานเดี่ยว สัปดาห์ที่ 15 สปั ดาห์ท่ี 16 60 3

อทิ ธิพลต่อสมดลุ ฮารด์ ี-ไวนเ์ บิรก์ (Hardy-

Weinberg Equilibrium)

8 ช้ินงาน

- แผนผงั มโนทศั น์เก่ียวกบั เน้ือหาที่เรยี น งานเดี่ยว สปั ดาหท์ ่ี 1 สัปดาหท์ ี่ 18 250 4

- รายงานบทความหรอื งานวจิ ัยท่นี า่ สนใจและ งานเดีย่ ว สัปดาหท์ ่ี 1 สัปดาห์ท่ี 18 200 3

ทันสมัยทเี่ กย่ี วกบั เนือ้ หาที่เรยี น

หมายเหตุ เวลาทน่ี ักเรยี นควรใช้ หมายถงึ เวลาท่ีครูได้พจิ ารณาวา่ ในการทางานหรือช้นิ งานนั้นๆ นกั เรียน

ควรใชเ้ วลาทาประมาณเท่าใด การประมาณดงั กล่าวครูไดพ้ ิจารณาจากความยาก ความซับซอ้ น และปริมาณ

งานหรอื ช้นิ งานนั้นๆ

หลักสูตรระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย สาขาชวี วทิ ยา กล่มุ โรงเรียนวทิ ยาศาสตร์จฬุ าภรณราชวทิ ยาลยั
พทุ ธศักราช 2561 (ปรับปรุง 22 กนั ยายน 2561) หนา้ 7

4.2 การประเมนิ ผลระหวา่ งภาคเรียน (20 คะแนน)
4.2.1. การประเมินจากการสอบย่อย (20 คะแนน)
4.2.1.1 กาหนดการสอบก่อนกลางภาค (10 คะแนน) รายละเอียดดงั น้ี

หัวขอ้ /เนอ้ื หาทใี่ ชใ้ นการสอบ ลกั ษณะขอ้ สอบ คะแนน
5
บทท่ี 1 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม ปรนยั แบบเลอื กตอบ / ปรนยั
1.1 โครโมโซม แบบเตมิ คาตอบ / อัตนยั / 5

- ยีนและจโี นม ปากเปล่า / สาธิต
1.2 การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม

บทที่ 2 สารพันธุกรรม
2.1 โครงสร้างของดีเอน็ เอ และอารเ์ อ็นเอ
2.2 การจาลองโมเลกุลของ DNA (DNA replication)
2.3 การแสดงออกของยีน (Gene expression)

- Transcription
- Translation

4.2.1.2 กาหนดการสอบหลังกลางภาค (10 คะแนน) รายละเอยี ดดงั นี้

หัวขอ้ /เน้อื หาทใ่ี ชใ้ นการสอบ ลักษณะข้อสอบ คะแนน

บทท่ี 3 เทคโนโลยีดเี อน็ เอ และพันธุวศิ วกรรม ปรนัยแบบเลอื กตอบ / ปรนยั 4
3.1 พันธวุ ศิ วกรรม แบบเติมคาตอบ / อัตนยั / ปาก

- เอนไซมต์ ดั จาเพาะ เปลา่ / สาธิต
- การสรา้ งดเี อน็ เอสายผสม
- การนาดเี อน็ เอสายผสมเขา้ สู่เซลล์เจา้ บ้าน 6
- การโคลนดีเอน็ เอ
3.2 เทคโนโลยีดเี อน็ เอ
บทที่ 4 ววิ ัฒนาการ

หลักสูตรระดบั ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย สาขาชีววทิ ยา กล่มุ โรงเรียนวทิ ยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลยั
พทุ ธศักราช 2561 (ปรบั ปรงุ 22 กันยายน 2561) หนา้ 8

4.3 การประเมินจากการสอบกลางภาค (25 คะแนน)
กาหนดการสอบกลางภาค เวลาท่ใี ช้สอบ 90 นาที หัวขอ้ เน้อื หาและลกั ษณะของข้อสอบมรี ายละเอยี ด

ดังตาราง

หวั ขอ้ /เน้ือหาทใ่ี ชใ้ นการสอบ ลักษณะข้อสอบ คะแนน
บทท่ี 1 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรม 15
1.1 โครโมโซม - ปรนัยแบบเตมิ คาตอบ
(ข้อละ1 คะแนน)
- ยนี และจโี นม - อัตนยั
1.2 ความนา่ จะเปน็ ในการหาอตั ราสว่ นของชนดิ เซลล์ (ข้อละ 1 หรอื 2 คะแนน)
สบื พันธ์ุ จโี นไทป์ และฟโี นไทป์
1.3 การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมตามกฎของ
เมนเดล
1.4 การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรมท่ีไมเ่ ป็นไปตาม
กฎของเมนเดล

- ปฏกิ ริ ยิ ารว่ มกนั ของยนี

- มัลตเิ ปิลอัลลลี และมลั ติเปลิ ยนี

- ลกั ษณะพันธกุ รรมท่คี วบคมุ ดว้ ยยนี บน โครโมโซม
- ลกั ษณะพนั ธกุ รรมท่ไี ด้รับอิทธิพลโดยเพศและถกู
จากดั โดยเพศ
- ลกั ษณะทางพันธกุ รรมที่ควบคุมนอกนิวเคลียสและ

อทิ ธพิ ลทางแม่

- ยีนทีอ่ ย่บู นโครโมโซมเดียวกัน (linked gene)
1.5 พงศาวลี

บทที่ 2 สารพันธุกรรม 10
2.1 ประวัติและการคน้ พบสารพนั ธุกรรม
2.2 โครงสร้างของ DNA และ RNA
2.3 การจาลองโมเลกุลของ DNA (DNA replication)
2.4 การแสดงออกของยีน (Gene expression)
2.5 การกลายพนั ธ์ุ (Mutation)

หลกั สูตรระดบั ช้นั มัธยมศึกษาตอนปลาย สาขาชีววิทยา กลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย
พุทธศักราช 2561 (ปรบั ปรุง 22 กนั ยายน 2561) หนา้ 9

4.4 การประเมนิ จากการสอบปลายภาค (25 คะแนน)
4.4.1. กาหนดการสอบปลายภาค เวลาท่ใี ช้สอบ 90 นาที หวั ขอ้ เนอื้ หาและลกั ษณะของขอ้ สอบ

รายละเอียดคะแนน ดงั ตาราง

หวั ขอ้ /เนอื้ หาท่ใี ชใ้ นการสอบปลายภาค ลักษณะ/จานวนขอ้ สอบ คะแนน

บทท่ี 3 เทคโนโลยดี ีเอน็ และพันธุวิศวกรรม - ปรนัยแบบเลอื กตอบ 8
3.1 พนั ธุวศิ วกรรม (ข้อละ 0.5 คะแนน) 17
- ปรนัยแบบเตมิ คาตอบ
- เอนไซม์ตัดจาเพาะ (ขอ้ ละ1 คะแนน)
- การสรา้ งดีเอ็นเอสายผสม (Recombinant DNA) - อัตนัย
- การนาดีเอน็ เอสายผสมเข้าส่เู ซลลเ์ จ้าบา้ น (ข้อละ 1 หรือ 2 คะแนน)
- การโคลนดีเอ็นเอ (DNA Cloning)
3.2 เทคโนโลยีดเี อ็นเอ - ปรนัยแบบเลอื กตอบ
- ปฏกิ ิรยิ าลูกโซ่พอลิเมอเรส (Polymerase chain (ขอ้ ละ 0.5 คะแนน)
reaction) - ปรนยั แบบเตมิ คาตอบ
- การวิเคราะห์ลาดับเบสของดีเอ็นเอ (DNA (ข้อละ1 คะแนน)
sequencing) - อัตนัย
บทท่ี 4 วิวัฒนาการของสง่ิ มีชวี ิต (ขอ้ ละ 1 หรือ 2 คะแนน)
4.1 กาเนิดสงิ่ มชี วี ิต
4.2 แนวคดิ และหลักฐานของววิ ัฒนาการ
4.3 การคดั เลือกตามธรรมชาติ
4.4 พนั ธุศาสตรป์ ระชากร
4.5 การเกดิ สปีชสี ์ใหม่
4.6 รปู แบบของววิ ฒั นาการ
4.7 ววิ ัฒนาการของมนุษย์

หลกั สตู รระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย สาขาชีววิทยา กลุม่ โรงเรียนวทิ ยาศาสตร์จุฬาภรณราชวทิ ยาลยั
พุทธศักราช 2561 (ปรบั ปรุง 22 กันยายน 2561) หน้า 10


Click to View FlipBook Version