The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการจากการใช้ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sudarat faii, 2024-04-05 10:40:53

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการจากการใช้ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการจากการใช้ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

11 ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการจากการใช้ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี Factors Affecting Customer Satisfaction of Using the electric Beam scooter service with in Rajamangala University Thanyaburi นางสาวสุดารัตน์ แป้นแก้ว นางสาววรรณกานต์ คู้ลำพันธ์ นางสาวลัดธณวรรณ พรมมาลี รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตรการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน คณะบริหารธุรกิจ ปีการศึกษา 2566 ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี


12 ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการจากการใช้ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี Factors Affecting Customer Satisfaction of Using the electric Beam scooter service with in Rajamangala University Thanyaburi นางสาวสุดารัตน์ แป้นแก้ว นางสาววรรณกานต์ คู้ลำพันธ์ นางสาวลัดธณวรรณ พรมมาลี รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตรการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน คณะบริหารธุรกิจ ปีการศึกษา 2566 ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี


13 ชื่องานวิจัย ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการจากการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ชื่อนักศึกษา นางสาวสุดารัตน์ แป้นแก้ว นางสาววรรณกานต์ คู้ลำพันธ์ นางสาวลัดธณวรรณ พรมมาลี รหัสนักศึกษา 116310509461-4 116310509479-6 116310509480-4 ปริญญา บริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตร การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ปีการศึกษา 2566 อาจารย์ที่ปรึกษา ผศ.ดร พุทธิวัต สิงห์ดง รายงานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต โดยผ่านการพิจารณาจาก คณะกรรมการสอบวิจัย ดังมีรายชื่อต่อไปนี้ อาจารย์ที่ปรึกษา ………………………….……………………........... ( ผศ.ดร พุทธิวัต สิงห์ดง) ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี


ก ชื่องานวิจัย ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการจากการใช้Beamสกู๊ตเตอร์ ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ชื่อนักศึกษา นางสาวสุดารัตน์ แป้นแก้ว นางสาววรรณกานต์ คู้ลำพันธ์ นางสาวลัดธณวรรณ พรมมาลี รหัสนักศึกษา 116310509461-4 116310509479-6 116310509480-4 ปริญญา บริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตร การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ปีการศึกษา 2566 อาจารย์ที่ปรึกษา ผศ.ดร พุทธิวัต สิงห์ดง บทคัดย่อ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยด้านคุณภาพการให้บริการที่มีผลต่อความพึงพอใจของ ผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีและเพื่อศึกษาเพื่อ สำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทำการศึกษา คือ บุคลากรทั่วไปที่ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีจำนวน 250 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยด้านคุณภาพการให้บริการที่มีผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ คือ ด้านความรูปประธรรมของการให้บริการ ในเรื่องคุณภาพและความแข็งแรงของBeamสกู๊ตเตอร์ ไฟฟ้าและความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามีระดับความพึงพอใจในการใช้บริการ ที่ระดับ สูงมาก ให้ความสำคัญในเรื่องของมีความพึงพอใจต่อจุดการให้บริการBeamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า คำสำคัญ : ความพึงพอใจ/คุณภาพการให้บริการ/Beam Mobility


ข Keywords : Satisfaction/Service quality/Beam Mobility ชื่องานวิจัย Factors Affecting Customer Satisfaction of Using the electric Beam scooter service with in Rajamangala UniversityThanyaburi ชื่อนักศึกษา Miss Sudarat Pankaew Miss Wannakan Khulamphan Miss Ludthanawan Prommalee รหัสนักศึกษา 116310509461-4 116310509479-6 116310509480-4 ปริญญา Bachelor of Business Administration ( Logistics Management ) หลักสูตร Logistics and Supply Chain Management ปีการศึกษา 2023 อาจารย์ที่ปรึกษา Mr.Putthiwat Singhdong. Abtract The purpose of this research is to study service quality factors that affect the satisfaction of users of Beam electric scooter services within Rajamangala University of Technology Thanyaburi and to study to survey the satisfaction of users of Beam electric scooter services. The sample group used in the study was 250 general personnel who used the Beam electric scooter service at Rajamangala University of Technology Thanyaburi. Statistics used in the analysis included frequency, percentage, mean and standard deviation. The results of the study found that Service quality factors that affect service user satisfaction are Aspects of the concreteness of the service Regarding the quality and strength of Beam electric scooters and the satisfaction of users, Beam electric scooters have a very high level of satisfaction in using the service, giving importance to the matter of being satisfied with the point of providing Beam services. electric scooter


ค กิตติมากรรมประกาศ รายงานวิจัยนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีโดยได้รับความกรุณาและความช่วยเหลือเป็นอย่างดี จากอาจารย์ ผศ.ดร พุทธิวัต สิงห์ดง อาจารย์ที่ปรึกษาที่ได้กรุณาเสียสละเวลาให้คำปรึกษาในระหว่าง ศึกษาค้นคว้า โดยได้ช่วยตรวจสอบแก้ไขข้อผิดพลาดในระหว่างการจัดทำ และถ่ายทอดความรู้ ให้ คำแนะนำต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์เป็นอย่างดี เพื่อให้รายงานวิจัยนี้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้ง การแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ อันเป็นประโยชน์ยิ่งต่อการจัดทำรายงานวิจัยในครั้งนี้คณะ ผู้จัดทำจึงขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงไว้ณโอกาสนี้ คณะผู้จัดทำ มีนาคม พ.ศ.2567


ง สารบัญ หน้า บทคัดย่อ ก Abstract ข กิตติกรรมประกาศ ค สารบัญ ง สารบัญรูปภาพ ฉ สารบัญตาราง ช บทที่ 1 บทนำ 1 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญ 4 1.2 วัตถุประสงค์ของการศึกษา 4 1.3 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 4 1.4 ขอบเขตการศึกษา 4 1.5 นิยามศัพท์เฉพาะ 5 บทที่ 2 ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 6 2.1 ทฤษฎี Taro Yamane 6 2.2 การหาค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม (IOC) 7 2.3 Analysis of Variance (ANOVA) 8 2.4 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 9 บทที่ 3 วิธีการดำเนินงานวิจัย 15 3.1 ระเบียบวิธีวิจัย 15 3.2 ประชากร 15 3.3 กลุ่มตัวอย่าง 16 3.4 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล 16 3.5 วิธีการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล 17 3.6 การดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลต้องระบุสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 17 3.7 การวิเคราะห์ข้อมูล 18


จ สารบัญ (ต่อ) หน้า บทที่ 4 ผลการศึกษา 20 4.1 ส่วนที่ 1 วิเคราะห์รายละเอียดของผู้ตอบแบบสอบถาม 25 4.2 ส่วนที่ 2 การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกของผู้ใช้บริการ 27 4.3 ส่วนที่ 3 การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยคุณภาพการให้บริการด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 32 4.4 ส่วนที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจในการ 36 ใช้บริการ บทที่ 5 สรุปผลการดำเนินงานและข้อเสนอแนะ 40 5.1 สรุปผลการดำเนินงาน 40 5.2 ผลการทดสอบวัตถุประสงค์ 42 5.3 ข้อเสนอแนะหรับการนำผลไปใช้ทางธุรกิจ 43 บรรณานุกรม 45 ภาคผนวก 46 ภาคผนวก ก แบบสอบถามเพื่องานวิจัย 47 ประวัติผู้ศึกษา 54


ฉ สารบัญรูปภาพ รูปที่ หน้า 3.1 ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยคุณภาพการให้บริการส่งผลต่อความพึงพอใจ 19 4.1 แสดงค่า Crobach’s Alpha ของแบบสอบถามจำนวน 30 ชุด 23


ช สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 4.1 แสดงผลคะแนน ผลค่าเฉลี่ยค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม (IOC) 21 4.2 แสดงผลคะแนน ผลค่าเฉลี่ยค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม (IOC) 24 4.3 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามเพศ 25 4.4 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามอายุ 25 4.5 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามระดับ 26 การศึกษา 4.6 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามระดับอาชีพ 26 4.7 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามรายได้ 27 เฉลี่ยต่อเดือน 4.8 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม 27 วัตถุประสงค์การเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 4.9 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม 28 ความถี่ในการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 4.10 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม 28 จุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 4.11 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม 30 จุดสิ้นสุดการเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 4.12 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม 32 จำนวนกลุ่มผู้เดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 4.13 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม 32 ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งในการใช้บริการ


ซ สารบัญตาราง (ต่อ) ตารางที่ หน้า 4.14 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจ ที่ส่งผลต่อ 33 การตัดสินใจเลือกใช้บริการสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 4.15 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจ ปัจจัยคุณภาพการ 34 ให้บริการ ด้านความรูปประธรรมของการให้บริการ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 4.16 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจ ปัจจัยคุณภาพการ 34 ให้บริการ ด้านความน่าเชื่อถือในการให้บริการ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 4.17 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจ ปัจจัยคุณภาพการ 35 ให้บริการ ด้านการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 4.18 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจ ปัจจัยคุณภาพการ 36 ให้บริการ ด้านความความมั่นใจของผู้ใช้บริการ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 4.19 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจ ปัจจัยคุณภาพการ 37 ให้บริการ ด้านการเข้าถึงจิตใจผู้ใช้บริการ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 4.20 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจความคิดเห็นเกี่ยว 38 กับความพึงพอใจในการใช้บริการในการเลือกใช้ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า


1 บทที่ 1 บทนำ 1.1 ที่มาและความสำคัญของปัญหา Beam ผู้ให้บริการสกูตเตอร์ไฟฟ้า เราอาจจะเห็นสกูตเตอร์ไฟฟ้าสีม่วง จอดเรียงรายอยู่หลาย จุดด้วยกันโดยเจ้าของสกูตเตอร์เหล่านี้ ก็คือ “Beam” ผู้ให้บริการเช่าสกูตเตอร์ไฟฟ้าจากสิงคโปร์ซึ่ง นอกจากจะให้ความสนุกในการขับขี่แล้ว ความพิเศษอยู่ที่เราไม่จำเป็นต้องนำสกูตเตอร์กลับมาคืนที่ เดิมแต่สามารถนำไปจอดยังจุดจอดที่ใดก็ได้ ในพื้นที่ให้บริการBeam หรือชื่อเต็มว่า Beam Mobility คือสตาร์ตอัปผู้ให้บริการสกูตเตอร์ไฟฟ้า หรือ E-Scooter ผ่านระบบการเช่าขับเป็นรายนาที จาก ประเทศสิงคโปร์ ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2018 โดยคุณ Alan Jiang และคุณ Deb Gangopadhyay ทั้งคู่ เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนสมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเยล ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคุณ Jiang ดำรง ตำแหน่ง CEOและเคยมีประสบการณ์ทำงานให้กับ Uber แพลตฟอร์มเรียกรถยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ในการขยายบริการไปยังประเทศจีน, มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนามซึ่ง Beam ได้พัฒนาทั้งตัวส กูตเตอร์และแอปพลิเคชันให้ใช้งานได้ง่ายและปลอดภัยกว่าสกูตเตอร์ทั่วไปโดยนอกจากโครงสร้าง ของสกูตเตอร์ที่ทำจากอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในการผลิตเครื่องบินรวมถึงระบบเบรกคู่และยาง แบบพิเศษแล้วซอฟต์แวร์ที่ควบคุมการทำงาน ก็ถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของทั้งผู้ ขับขี่และชุมชนโดยรอบเช่นกัน อย่างเช่น การกำหนดเขตปลอดภัยที่จะกำหนดความเร็วสูงสุดของสกูต เตอร์ หรือแม้กระทั่งการสั่งให้หยุดการทำงาน หากเข้าในเขตห้ามขับขี่หรือออกนอกพื้นที่ที่กำหนด และสกูตเตอร์ของ Beam จะถูกล็อกความเร็วไว้สูงสุดที่ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสำหรับการใช้งานนั้น คนทั่วไปสามารถเริ่มต้นการใช้งานได้ ผ่านแอปพลิเคชันของ Beam โดยจะปรากฏตำแหน่งของสกูต เตอร์ พร้อมทั้งปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ในแต่ละคันเมื่อเจอสกูตเตอร์ที่ต้องการแล้ว ผู้ใช้เพียงสแกน บาร์โคด ที่ติดอยู่กับตัวรถแต่ละคัน จากนั้นก็เริ่มขับขี่ได้ทันทีโดยคิดค่าบริการเป็นรายนาที และตัดเงิน ผ่านบัตรเครดิตที่ผูกไว้ในแอปพลิเคชันที่น่าสนใจคือ โมเดลการคืนสกูตเตอร์เมื่อใช้งานเสร็จแล้ว ซึ่งไม่ จำเป็นต้องนำกลับมาจอดที่เดิมที่นำสกูตเตอร์ออกมาแต่สามารถค้นหาจุดจอดที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งจะ ปรากฏในแอปพลิเคชัน และนำสกูตเตอร์ไปจอดในจุดดังกล่าวได้เลย โมเดลนี้ช่วยให้เกิดการ หมุนเวียนสกูตเตอร์ระหว่างจุดจอดแต่ละจุด ซึ่งลดการกระจุกตัวของสกูตเตอร์ในจุดเดียว ทำให้ ผู้ใช้งานรายอื่นสามารถค้นหาสกูตเตอร์ได้ง่ายขึ้นแต่หากไม่สามารถนำไปคืนในจุดจอดที่กำหนดได้ ก็ สามารถจอดในที่ปลอดภัยอื่น ๆ ได้เช่นกัน แต่จะเสียค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับการจอดนอกพื้นที่ที่ กำหนดอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือ สกูตเตอร์ของ Beam มีแบตเตอรี่ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้นั่นทำให้


2 เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด เจ้าหน้าที่ก็แค่นำแบตเตอรี่ก้อนใหม่มาถอดเปลี่ยนกับก้อนเดิมด้วยวิธีการนี้ทำ ให้ช่วยประหยัดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ ให้กับการเพิ่มจำนวนจุดจอดสกูตเตอร์แต่ละจุดได้ง่าย มากขึ้น เพราะไม่จำเป็นต้องสร้างแท่นสำหรับชาร์จพลังงานให้สกูตเตอร์ ทำให้ข้อจำกัดและต้นทุนใน การขยายพื้นที่ให้บริการลดลง นอกจากความพร้อมของสกูตเตอร์และระบบแล้ว จุดเด่นอีกข้อคือ ทุกคนที่ใช้สกูตเตอร์ของ Beam จะได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยอุบัติเหตุในขณะที่ขับขี่ซึ่ง Beam ก็ได้รับความสนใจ และ กลายเป็นทางเลือกสำหรับการพัฒนารูปแบบการเดินทางในตัวเมือง อย่างเช่น เมืองบริสเบน ประเทศ ออสเตรเลีย ซึ่งได้เซ็นสัญญากับ Beam ในการให้บริการสกูตเตอร์ไฟฟ้ากว่า 1,000 คันภายในเมือง เป็นระยะเวลานาน 3 ปีนอกจากโมเดลการเช่าแบบรายครั้งแล้ว ในบางพื้นที่อย่างเช่น ประเทศ มาเลเซีย ก็มีให้บริการเช่าสกูตเตอร์ของ Beam แบบรายเดือน โดยมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 1,200 บาท ต่อเดือน ซึ่งบริการนี้ก็เหมาะกับการใช้งานเป็นประจำในพื้นที่ตัวเมือง เช่น พนักงานออฟฟิศ ในขณะที่ ราคาจำหน่ายของสกูตเตอร์ทั้งคัน มีราคาประมาณ 13,000 บาทปัจจุบัน Beam มีสกูตเตอร์ที่คอย ให้บริการใน 6 ประเทศหลัก ได้แก่ มาเลเซีย, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และ ไต้หวันสำหรับประเทศไทยนั้น ก็มีให้บริการเช่นกัน แต่ยังอยู่ในระหว่างการทดลองระบบ โดยเปิด ให้บริการในพื้นที่ตัวเมืองจังหวัดภูเก็ต และบริเวณหาดป่าตองซึ่ง Beam ก็สามารถระดมทุนจากนัก ลงทุน ในรอบซีรีส์ A ได้ถึง 873 ล้านบาท ในปี 2020 ที่ผ่านมาอย่างไรก็ตาม หนึ่งประเด็นที่ยังต้อง ติดตามคือ เรื่องของความปลอดภัยในการใช้งานจริง ซึ่งถึงแม้ตัวสกูตเตอร์จะถูกออกแบบให้มีความ ปลอดภัยมากเพียงใด แต่ในการขับขี่นั้น สภาพแวดล้อมของการจราจรก็ส่งผลอย่างมากต่อความ ปลอดภัยอย่างเช่น บางพื้นที่เราใช้สกูตเตอร์ในเลนจักรยานได้ แต่พื้นที่ที่ไม่มีเลนจักรยานการขับขี่สกูต เตอร์ก็จะต้องใช้ถนนร่วมกับยานยนต์อื่น ๆ ทั่วไป ซึ่งเสี่ยงอันตรายกว่า และอาจจะทำให้สกูตเตอร์ที่ใช้ งานจำเป็นต้องมีอุปกรณ์อื่น ๆ เพิ่มเติม ตามมาตรฐานความปลอดภัยบนท้องถนน อย่างเช่น ไฟเลี้ยว นั่นหมายความว่า ถึงแม้ตัวสกูตเตอร์จะมีประสิทธิภาพเพียงใด แต่ในการที่จะทำให้การใช้สกูตเตอร์ ไฟฟ้าประสบความสำเร็จได้ ก็ต้องอาศัยการสนับสนุนจากชุมชน, หน่วยงานท้องถิ่น รวมถึงบริบทของ แต่ละพื้นที่นั่นเอง ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(Climate Change) ถือเป็น เรื่องที่หลายภาคส่วนให้ความสำคัญ ไม่เว้นแม้แต่การเดินทางในชีวิตประจำวัน จนเกิดเป็นเทรนด์การ เดินทางรักษ์โลกทำให้มีการปรับใช้วิธีการใหม่ ๆ ด้วยวิธีการที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในขณะที่ประเทศไทยก็มีการปรับตัวตอบรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในประเทศ และมีความคล่องตัวทางเศษฐกิจที่มากขึ้น พร้อมทั้งยังมีรูปแบบการพัฒนาเมืองภายใต้แนวคิด เมือง อัจฉริยะ(Smart City) จึงมีการนำรูปแบบการขนส่งที่ หลากหลายมาใช้ในประเทศโดยเฉพาะระบบ


3 การขนส่งในเขตเมือง ทำให้ผู้โดยสารมีทางเลือกรูปแบบการเดินทางมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อมุ่งเน้นการเพิ่ม ความสะดวกในการเข้าถึงระบบขนส่งมวลชน แก้ปัญหาการจราจรและพัฒนาประสิทธิภาพระบบ ขนส่งจึงได้มีการนำ Micromobility มาใช้งาน และหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วใน เมืองใหญ่ทั่วโลกทั้งในประเทศไทยเองคือ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า (e -scooter) ซึ่งมักอยู่ในรูปแบบของธุรกิจ สตาร์ทอัพเป็นการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าร่วมกัน หรือ Escooter - Sharing นอกจากนี้การที่ยานพาหนะ ไฟฟ้าหรือ Electric Vehicles (EV) กำลังได้รับความนิยมและกลายเป็นรถในกระแสมากขึ้น ทำให้ ยานพาหนะที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนทุกประเภทได้รับความนิยมตามไปด้วย ด้วยเหตุผล ต่างๆเหล่านี้ทำให้การใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าร่วมกันได้รับความสนใจจากบรรดาคนรุ่นใหม่เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีรชมงคลธัญบุรี เองก็ได้นำสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามาใช้เป็นตัวเลือกการเดินทาง ให้กับนิสิต นักศึกษา โดยสำนักงานจัดการทรัพย์สิน ร่วมกับบริษัท Beam Mobility ประเทศไทย เปิดให้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการเดินทางที่ยั่งยืน ไร้มลพิษสะดวกสบาย ภายใต้ โครงการ Samyan Smart City และเพื่อตอบโจทย์การเดินทางแบบ Smart Mobility ของเมือง อัจฉริยะดังที่กล่าวไปในข้างต้นในบริเวณพื้นที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีจากความ เป็นมาและความสำคัญของปัญหา ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะศึกษาถึง บทบาทของ การใช้งานสกู๊ต เตอร์ไฟฟ้าร่วมกันต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเดินทางโดยรวมในการเดินทางโดยใช้หลักการ ทางสถิติมาช่วยในการวิเคราะห์เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาใช้เป็นแนวทางในการเสนอนโยบายที่เป็น ประโยชน์ รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพได้ในภายภาคหน้าต่อไปทดสอบมีการเปลี่ยนแปลง ไปจากเดิมทั้งในด้านการใช้งานและข้อจำกัดของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งโดยสรุปพบว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเป็น ยานพาหนะที่ง่ายต่อการใช้งาน และการหาจุดจอดถือเป็นข้อได้เปรียบหลัก เนื่องจากแทบไม่มี ข้อจำกัดในการจอดสำหรับยานพาหนะประเภทนี้ แต่ข้อเสียเปรียบของการใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า คือ เรื่องความจุของสัมภาระ ความปลอดภัยตามอัตวิสัย และอิทธิพลของสภาพอากาศBai et al. ทำการศึกษาการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในเมืองออสดิน รัฐเทกซัส เพื่อต้องการทราบถึงวัตถุประสงในการ เดินทางจากการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าร่วมกัน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธี Difference in Differences (DiD)โดยเลือกพื้นที่ 2.5 ไมล์รอบๆ ใจกลางเมืองออสตินซึ่งครอบคลุมทั้งตัวเมืองและมหาวิทยาลัย เทกซัสบริเวณวิทยาเขตออสติน (UT-Austin) เป็นพื้นที่ศึกษาในการศึกษานี้ ผลการศึกษาพบว่ามีการ เดินทางทั้งหมด 351.921 ครั้งการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามีความสัมพันธ์อย่างมากกับการรับประทาน อาหารการช้อปปิ้ง และกิจกรรมสันทนาการในแต่ละวัน ตามลำดับ กล่าวโดยสรุปคือพื้นที่ใจกลาง เมืองและมหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ที่มีความสัมพันธ์ซึ่งส่งเสริมกันระหว่างกิจกรรมสันทนาการและการใช้ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า อย่างไรก็ตามการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเดินทางที่ สำคัญจากการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ายังไม่เกิดขึ้น ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า มีส่วนเพียง


4 เล็กน้อยในการเพิ่มจำนวนการใช้งานสถานที่ต่างๆ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ มีความเป็นไปได้สูงที่สกู๊ตเตอร์ ไฟฟ้าจะมีบทบาทจำกัดในการเข้าถึงสถานที่ปลายทางเท่านั้น ดังนั้นคณะผู้จัดทำจึงมีความสนใจศึกษาเรื่องปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการ จากการBeamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีโดยจัดทำแบบสอบถาม และขอความร่วมมือจากนิสิตทุกชั้นปีที่มาใช้บริการให้มีการทำแบบสอบถาม เพื่อให้ผู้วิจัยได้นำผลจาก การศึกษาในการทำวิจัยไปใช้ให้เกิดประโยชน์และเพื่อให้ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้านำไปใช้เพื่อแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาให้ผู้ใช้บริการเกิดความพึงพอใจมากขึ้น 1.2วัตถุประสงค์ของการศึกษา 1.2.1 เพื่อสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 1.2.2 เพื่อศึกษาปัจจัยด้านคุณภาพการให้บริการที่มีผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 1.3 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.3.1 เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีในการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการที่จะสามารถนำไปสู่ความพึงพอใจ 1.3.2 ทำให้ทราบถึงระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 1.4 ขอบเขตการศึกษา 1.4.1 ขอบเขตด้านเนื้อหา เลือกกลุ่มตัวอย่างคือผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลธัญบุรีคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างจำนวน 250 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง 1.4.2 ขอบเขตด้านเวลา ระยะเวลาในการทำการศึกษานี้ มีระยะเวลาในการทำการศึกษาตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ถึง เดือนมีนาคม พ.ศ.2567 1.4.3 ขอบเขตด้านสถานที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี


5 1.5 นิยามศัพท์เฉพาะ ความพึงพอใจ (Satisfaction) คือ ความรู้สึกจากสิ่งต่างๆโดยหากรู้สึกพึงพอใจจะให้ ความรู้สึกไปในทางบวก หากรู้สึกไม่พึงพอใจจะให้ความรู้สึกไปในทางลบกับสิ่งนั้นๆ คุณภาพการให้บริการ (Service Quality) คือ การทำหน้าที่ในการให้บริการได้อย่าง เหมาะสมตอบสนองตามความต้องการของผู้ใช้บริการ ซึ่งอาจมีปัจจัยอื่นๆที่อาจส่งผลให้คุณภาพการ ให้บริการลดลงเช่นความเหนื่อยล้าของผู้ให้บริการส่งผลต่อคุณภาพการให้บริการ Beam Mobility คือสตาร์ตอัปผู้ให้บริการสกูตเตอร์ไฟฟ้า หรือ E-Scooter ผ่านระบบการ เช่าขับเป็นรายนาที จากประเทศสิงคโปร์ ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2018 โดยคุณ Alan Jiang และคุณ Deb Gangopadhyay ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนสมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเยล ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคุณ Jiang ดำรงตำแหน่ง CEOและเคยมีประสบการณ์ทำงานให้กับ Uber แพลตฟอร์มเรียกรถ ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ในการขยายบริการไปยังประเทศจีน, มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนามซึ่ง Beam ได้พัฒนาทั้งตัวสกูตเตอร์และแอปพลิเคชันให้ใช้งานได้ง่ายและปลอดภัยกว่าสกูตเตอร์


6 บทที่ 2 ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 ทฤษฎีTaro Yamane เหมาะกับการวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องที่มีประชากรมากและรู้ตัวเลขจำนวนประชากร ทั้งหมดที่ศึกษาอย่างเช่น งานวิจัยที่มีประชากรเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ที่รู้จำนวนนักศึกษา ทั้งหมด เนื่องจากเมื่อมีจำนวนประชากรอยู่มาก การกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง ด้วยวิธีการใช้ สูตร Taro Yamane ในการคำนวณหา ขนาดกลุ่มตัวอย่างประชากรที่เหมาะสม แทนที่จะสุ่มจำนวนขึ้นมา เองตามใจผู้วิจัยจะช่วยให้ไม่ทำให้ขนาดของกลุ่มตัวอย่างเล็กเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้มีความคลาด เคลื่อนที่สูงและ ไม่ทำขนาดของกลุ่มตัวอย่างใหญ่เกินไป ซึ่งจะทำใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการเก็บ ตัวอย่างที่มากเกินไป สำหรับชื่อของสูตร Taro Yamane มาจากชื่อของนักเศรษฐศาสตร์และสถิติชาว ญี่ปุ่นที่คิดวิธีการคำนวณหาขนาดกลุ่มตัวอย่างวิธีนี้ขึ้นมาชื่อว่า Taro Yamane ซึ่งเผยแพร่ครั้งแรกใน หนังสือ Statistics: An Introductory Analysis เมื่อปี ค.ศ. 1973 สรุปสูตร Taro Yamane คือ วิธี คำนวณหา ขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่เหมาะสม สำหรับงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องที่มีประชากรมาก และรู้จำนวนประชากรทั้งหมดที่ศึกษา ในการคำนวณหาขนาดตัวอย่างนั้นมีความสำคัญมากใน งานวิจัยเพราะถ้าได้ขนาดตัวอย่างที่มีความเหมาะสมข้อมูลที่ได้จากกลุ่มตัวอย่างมีมากพอส่งผลให้ได้ งานวิจัยที่มีคุณค่าและน่าเชื่อถือการหาขนาดตัวอย่างสามารถคำนวณได้ กรณีที่ทราบจำนวนประชากรชัดเจน (Yamane, 1973) ได้คิดสูตรในการคำนวรหาขนาดตัวอย่าง คือ = + = ขนาดของกลุ่มตวัอยา่งที่ตอ้งการ = ขนาดของประชากร = ความคลาดเคลื่อนของกลุ่มตัวอย่างที่ยอมรับได้


7 2.2 การหาค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม (IOC) การหาค่า IOC ของผู้เชี่ยวชาญจากการให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบแบบสอบถามการวิจัย IOC คือ ค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม หรือค่าสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับวัตถุประสงค์ หรือ เนื้อหา (IOC : Index of item objective congruence) ปกติแล้วจะให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปในการตรวจสอบโดยให้เกณฑ์ในการตรวจพิจารณาข้อคำถาม ดังนี้ ให้คะแนน +1 ถ้าแน่ใจว่าข้อคำถามวัดได้ตรงตามวัตถุประสงค์ ให้คะแนน 0 ถ้าไม่แน่ใจว่าข้อคำถามวัดได้ตรงตามวัตถุประสงค์ ให้คะแนน -1 ถ้าแน่ใจว่าข้อคำถามวัดได้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ แล้วนำผลคะแนนที่ได้จากผู้เชี่ยวชาญมาคำนวณหาค่า IOC ตามสูตร เกณฑ์ 1. ข้อคำถามที่มีค่า IOC ตั้งแต่ 0.50-1.00 มีค่าความเที่ยงตรง ใช้ได้ 2. ข้อคำถามที่มีค่า IOC ต่ำกว่า 0.50 ต้องปรับปรุง ยังใช้ไม่ได้ วิธีการหาค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม (IOC) ตัวอย่างเช่น ข้อคำถาม ข้อ 1 ผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน แต่ละท่าน ให้คะแนนมา คือ +1 ทั้ง 5 ท่าน การหาค่าIOC คือ หาผลรวมของคะแนนในข้อ 1 โดยการบวก1+1+1+1+1 เท่ากับ 5 คะแนน แล้วนำมาหารด้วยจำนวนผู้เชี่ยวชาญ คือ ผลรวมคะแนน/จำนวนผู้เชี่ยวชาญ เท่ากับ 5/5 = 1.00 จากนั้นนำผลไปเทียบกับเกณฑ์ที่ตั้งไว้ จากผลการหาค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม IOC แสดง ว่า ข้อคำถามมีความเที่ยงตรงสูงนำไปใช้ได้ส่วนข้ออื่น ๆ ก็ทำหลักการเดียวกันทั้งหมดทุกข้อคำถาม กรณีผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน ตัวอย่างเช่น ผลคะแนน ทั้ง 5 ท่าน ได้ 5 คะแนน = 1.0 มีค่าความเที่ยงตรง ใช้ได้ ผลคะแนน ทั้ง 5 ท่าน ได้ 4 คะแนน = 0.8 มีค่าความเที่ยงตรง ใช้ได้ ผลคะแนน ทั้ง 5 ท่าน ได้ 3 คะแนน = 0.6 มีค่าความเที่ยงตรง ใช้ได้ ผลคะแนน ทั้ง 5 ท่าน ได้ 2 คะแนน = 0.4 ค่าความเที่ยงตรงต่ำกว่า0.50 ยังใช้ไม่ได้ต้อง ปรับปรุง ผลคะแนน ทั้ง 5 ท่าน ได้ 1 คะแนน = 0.2 ค่าความเที่ยงตรงต่ำกว่า0.50 ยังใช้ไม่ได้ต้อง ปรับปรุง


8 การหาค่า IOC สามารถหาได้ทั้งแบบทดสอบ แบบวัด สำหรับนิสิต นักศึกษา และผู้ที่กำลังทำ วิทยานิพนธ์หรือผู้สนใจ ศึกษาแล้วสามารถนำไปใช้ในการหาค่าความเที่ยงตรงของเครื่องมือได้เลย 2.3 Analysis of Variance (ANOVA) การวิเคราะห์ความแปรปรวน เป็นการทดสอบทางสถิติที่พัฒนาโดยโรนัลด์ ฟิชเชอร์ (Ronald Fisher) ในปี ค.ศ. 1918 และได้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การทดสอบ t-test ANOVA จะช่วย ให้คุณค้นพบความ แตกต่างระหว่างกลุ่มข้อมูลว่ามีนัยสำคัญทางสถิติหรือไม่ เป็นลักษณะของการ วิเคราะห์ระดับความแปรปรวนภายในกลุ่มโดยใช้ตัวอย่างที่ได้มาจากแต่ละกลุ่มหากในกลุ่มข้อมูลมี ความแตกต่างกันมาก มีข้อมูลที่กระจาย ออกจากค่าเฉลี่ย ก็จะมีโอกาสที่ค่าเฉลี่ยของกลุ่มข้อมูลของ กลุ่มตัวอย่างที่เลือกจากข้อมูลจะมีความแตกต่างกันมากขึ้น เช่นเดียวกับวิธีการดูความแปรปรวน ภายในกลุ่มข้อมูล ANOVA คำนึงถึงขนาดตัวอย่างด้วยเช่นกัน ยิ่ง กลุ่มตัวอย่างมากขึ้น โอกาสที่จะมี การเลือกค่าผิดปกติสำหรับกลุ่มตัวอย่างโดยบังเอิญนั้นจะมีน้อยลง และความแตกต่างกันระหว่าง ค่าเฉลี่ยของตัวอย่าง ถ้าค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างห่างกัน แนวโน้มว่าค่าเฉลี่ยทั้งกลุ่มจะเหมือนกัน ANOVA แบบตัวแปรเดียวที่จะถูกนำมาเปรียบเทียบระหว่างผลกระทบของตัวแปรอิสระ (ปัจจัยที่มี อิทธิพลต่อสิ่งอื่น ๆ ) กับตัวแปรตามหลายตัว ส่วน ANOVA แบบ 2 ตัวแปรนั้นจะทำแบบทดสอบ เหมือน ๆ กัน แต่แบบทดสอบรูปแบบนี้จะมีตัวแปรอิสระมากกว่า 1 ตัว ในขณะที่ ANOVA แบบแฟก ทอเรียลจะมีการเพิ่มจำนวนตัวแปรอิสระให้มากยิ่งขึ้นไปอีก วิธีการทดสอบ ANOVA เช่นเดียวกับการ ทดสอบทางสถิติที่เก่ากว่าหลาย ๆ การทดสอบที่คุณสามารถทำการทดสอบ ANOVA โดยใช้การ คำนวณด้วยตนเองตามสูตร คุณยังสามารถทำ ANOVA โดยใช้แพ็คเกจซอฟต์แวร์และระบบสถิติยอด นิยมจำนวนเท่าใดก็ได้ เช่น R, SPSS หรือ Minitab ตัวอย่างการใช้ ANOVA อายุ เพศ หรือรายได้มีผลต่อการใช้จ่ายของลูกค้าในร้านของคุณต่อเดือนหรือไม่ : ในการตอบคำถามนี้ คุณสามารถใช้ ANOVA แบบแฟกทอเรียลได้ เนื่องจากคุณมีตัวแปรอิสระแบบ 3 ตัวและตัวแปรตาม แบบ 1 ตัวแปร คุณจะต้องรวบรวมข้อมูลสำหรับกลุ่มอายุต่าง ๆ (เช่น 0-20, 21-40, 41-70, 71+) กลุ่มรายได้ที่แตกต่างกันและเพศที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบ 2 ตัวแปร สามารถประเมินผลกระทบของตัวแปรเหล่านี้ต่อตัวแปรตาม (การใช้จ่าย) ของคุณได้พร้อม ๆ กัน และ พิจารณาว่าสิ่งเหล่านี้มีความแตกต่างหรือไม่


9 2.4 วิจัยที่เกี่ยวข้อง จิณาภา ใคร้มา และประภัย สุขอิน (2557) ได้ศึกษาความพึงพอใจต่อคุณภาพบริการของ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อ คุณภาพ บริการของสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 377 คน เครื่องมือที่ใช้บริการ คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานผลการวิจัย พบว่า ผู้ใช้บริการใช้บริการยืม-คืนมากที่สุด ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาปริญญาตรีมีความ พึงพอใจต่อ คุณภาพการให้บริการ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ด้านความพึงพอใจต่อคุณภาพการให้บริการมากเป็น ลำดับแรก ได้แก่ด้านบุคลากรห้องสมุด พบว่า บุคลากรแต่งกายและมีบุคลิกภาพที่เหมาะสมรองลงมา ได้แก่ ด้านกระบวนการและขั้นตอนการให้บริการ พบว่า การบริการมีความถูกต้อง และรวดเร็ว ด้าน การสื่อสารกับผู้ใช้ พบว่า ช่องทางการประชาสัมพันธ์หลากหลาย เช่น เว็บไซต์ อีเมล์หนังสือเวียน อิเล็กทรอนิกส์ เฟสบุ๊ค ทวิสเตอร์ เป็นต้น ด้านทรัพยากรสารสนเทศและการบริการ พบว่าทรัพยากรมี จำนวนเพียงพอกับความต้องการ และด้านสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก พบว่า ห้องสมุดมีความ สะอาด สำหรับข้อเสนอแนะ ด้านทรัพยากรสารสนเทศและการบริการ พบว่า หนังสือหายาก หนังสือ เก่าไม่มีการอัพเดท ชั้นหนังสือแน่น ด้านกระบวนการและขั้นตอนการให้บริการ พบว่าการวางบัตรใช้ บริการห้องอินเตอร์เน็ตทำให้เสียเวลา ชั้น 1 ควรเปิดประตูทางออกห้องประชุม ด้านบุคลากร พบว่า บุคลากรไม่ใส่ใจผู้ใช้บริการ ไม่เต็มใจให้บริการ ด้านสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก พบว่า อินเตอร์เน็ตช้า ห้องสมุดเสียงดัง ควรมีการแบ่งพื้นที่การอ่าน หูฟังไม่มีประสิทธิภาพปลั๊กไฟไม่ เพียงพอ ร้านถ่ายเอกสารไม่เพียงพอ และด้านการสื่อสารกับผู้ใช้ พบว่า วิธีการสืบค้นข้อมูล ซับซ้อน การประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึง มีป้ายมากเกินไป Munoz ct al. (2559) ได้ศึกษาปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเดินทางโดยรถจักรยาน โดย เสนอแนวทางในการรวบรวมตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับการใช้จักรยานผ่านทางทฤษฎีการวางแผน พฤติกรรม (TPB) และใช้การ วิเคราะห์ปัจจัยสำรวจ (Exploratory Factor Analysis - EFA) เพื่อ ประเมินโครงสร้าง ปัจจัยแฝงที่เกี่ยวข้อง กับการใช้จักรยานในการเดินทางผ่านตัวชี้วัดที่สามารถ ประเมินได้และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัย เป้าหมาย เช่น ปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม ของผู้ตอบแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางด้วย รถจักรยาน ผลจากการวิเคราะห์สามารถระบุ ปัจจัยแฝงได้ 6 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเดินทางโดยรถจักรยาน ได้แก่ วิถีการดำเนินชีวิต ความ ปลอดภัยและความสะดวกสบายความตระหนัก ข้อเสียโดยตรง ความเชื่อ เกี่ยวกับกลุ่มอ้างอิงและ ความสามารถส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังได้ศึกษาปัจจัยแฝงอีกตัวคือพฤติกรรมส่วนตัว จากผลการ วิเคราะห์ยืนยันได้ว่าปัจจัยแฝงทุกตัวที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางโดยจักรยานมีผลกับการเดินทางโดย จักรยานมากกว่าการเดินทางโดยรูปแบบอื่น ซึ่งปัจจัยแฝงที่สำคัญต่อการไม่เลือกใช้จักรยานมากที่สุด


10 คือ พฤติกรรมส่วนตัวและความสามารถ ส่วนบุคคล ขณะที่ปัจจัยแฝงด้านวิถีทางการดำเนินชีวิตและ ความ ตระหนักมีความสำคัญต่ำสุด ในส่วนของผลจากการวิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมของ พบว่าลักษณะ ทางเศรษฐกิจสังคมและครัวเรือน (เพศ อายุ สถานภาพครอบครัวและสถานภาพทาง วิชาชีพ) ความพร้อมใช้งานของรูปแบบการเดินทาง (ใบขับขี่ รถจักรยานยนต์และจักรยานจอดรถที่ บ้าน) และลักษณะการเดินทาง (เวลาเดินทางและระยะทางการเดินทาง) มีส่วนเกี่ยวข้องกับการ เดินทางด้วยจักรยานแม้ว่าจะมีผลไม่มาก ทะเนศ วงศ์นามและ ทิพรัตน์ สิทธิวงศ์(2560) วิจัยเรื่อง ประเมินความพึงพอใจของนิสิตที่มี ต่อหลักสูตรเทคโนโลยีการศึกษาและคอมพิวเตอร์ศึกษา (5 ปี) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย นเรศวร จุดประสงค์คือ เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนิสิตที่มีต่อหลักสูตรเทคโนโลยีการศึกษาและ คอมพิวเตอร์ศึกษา (5 ปี) โดยสรุปผลของการวิจัยได้ว่า ผลความพึงพอใจของนิสิตที่มีต่อการนำความรู้ ในรายวิชาไปประยุกต์ใช้ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู แบ่งออกเป็นหมวดวิชาและกลุ่มวิชาดังนี้ ในหมวดวิชาศึกษาทั่วไป, หมวดวิชาเฉพาะด้าน : วิชาชีพครูบังคับ, หมวดวิชาเฉพาะด้าน : วิชาชีพครู เลือก, กลุ่มวิชาเอก : วิชาเอกบังคับ, กลุ่มวิชาเอก : กลุ่มวิชาเลือกเทคโนโลยีการศึกษา จากการศึกษา พบว่านิสิตมีความพึงพอใจต่อการนำความรู้ในรายวิชาไปประยุกต์ใช้ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ส่วนรายวิชาในกลุ่มวิชาเอก : กลุ่มวิชาเลือกคอมพิวเตอร์ นิสิตมีความ พึงพอใจต่อการนำความรู้ในรายวิชาไปประยุกต์ใช้ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูโดยภาพรวมอยู่ใน ระดับปานกลาง ดังนั้น ในส่วนของรายวิชาในกลุ่มวิชาเอก : กลุ่มวิชาเลือกคอมพิวเตอร์ ควรปรับปรุง รายวิชาให้สอดคล้องกับความต้องการในการนำไปใช้ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูโดยวิเคราะห์ เนื้อหาจากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551กลุ่มสาระการเรียนรู้การงาน อาชีพและเทคโนโลยี (Ministry of Education,2009) ซึ่งผลดังกล่าวสอดคล้องกับข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตรรายวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษาที่มีวัตถุประสงค์ในการจัดการเรียนการสอนที่ เน้นการลงมือปฏิบัติและการเรียนเชิงลึกทางด้านการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ Yanyong Guo. (2560) ได้ทำการศึกษาเพื่อระบุปัจจัยที่มีผลต่อการใช้งานจักรยาน สาธารณะ ร่วมและระดับความพึงพอใจของผู้ใช้ในเมืองหนิงโปประเทศจีน ข้อมูลถูกเก็บรวบรวมโดย การสำรวจแบบสอบถามในเมืองหนิงโป ซึ่งกำหนดสถานการณ์ให้ผู้ตอบแบบสอบถามนั้นเลือกตอบ จากการ พิจารณาข้อมูลของปัจจัยที่เกี่ยวข้องโดยแบ่งออกเป็น 10 สถานการณ์และยังได้สำรวจความ คิดเห็นเพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้จักรยานสาธารณะร่วม นอกจากนี้ยังมีการอธิบายตัวแปรที่มี คุณลักษณะที่เกี่ยวกับบุคคล ลักษณะของครัวเรือน รูปแบบการเดินทาง สภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นและ การรับรู้เกี่ยวกับจักรยานสาธารณะร่วม ในขั้นตอนการประมวลผลได้ใช้เทคนิคการสร้างแบบจำลอง bivariate probit (BOP) เพื่อระบุปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการใช้งานจักรยานสาธารณะร่วมและระดับ


11 ความพึงพอใจผลการวิเคราะห์ BOP แสดงให้เห็นว่าปัจจัยที่มีผลต่อการใช้งานจักรยานสาธารณะร่วม ได้แก่ (เพศการครอบครองยานพาหนะส่วนบุคคล รูปแบบการเดินทาง ระยะเวลาการเดินทาง ที่ตั้ง ของสถานีและการรับรู้ต่อจักรยานสาธารณะ) และในส่วนของปัจจัยที่มีผลต่อระดับความพึ่งพอใจของ ผู้ใช้ได้แก่ (รายได้, ที่ตั้งของสถานีและการรับรู้ต่อจักรยานสาธารณะ) นอกจากนี้ยังพบว่าการใช้งาน จักรยานสาธารณะร่วมและระดับความพึงพอใจมีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกัน ผลจากการ ศึกษาวิจัยนี้จะทำให้เราสามารถเข้าใจถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้งานจักรยานสาธารณะร่วมและระดับ ความพึงพอใจเพื่อใช้ในการวางแผนและปรับปรุงเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการใช้งานจักรยานสา ธารณร่วมให้ดียิ่งขึ้น พิชญา หอมหวนและ ธีระวัฒน์ จันทึก (2561) วิจัยเรื่อง ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของ บุคลากรภาครัฐต่อการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ จุดประสงค์คือศึกษาความพึงพอใจในการ ปฏิบัติงานของบุคลากรภาครัฐต่อการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐและ ศึกษาการจูงใจในการ ปฏิบัติงานที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรภาครัฐต่อการเป็นมหาวิทยาลัยใน กำกับของรัฐ ผลกาวิจัยพบว่าความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรภาครัฐต่อการเป็น มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อวิเคราะห์รายละเอียดเป็นรายด้าน พบว่า ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรต่อการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ อยู่ใน ระดับพึงพอใจมาก 3 ข้อ คือ ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา ด้านสภาพ การทำงาน และด้านเงินเดือนและผลประโยชน์เกื้อกูล อยู่ในระดับพึงพอใจ 2 ข้อ คือ ด้าน นโยบาย/แผนและการบริหารงานและด้านความมั่นคงในงาน ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะบุคลากรมีความ พึงพอใจต่อการปฏิบัติงานในเรื่องเกี่ยวกับผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานยอมรับในความรู้ ความสามารถ บุคลากรมีส่วนร่วมในการกำหนดแผนปฏิบัติงาน สามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ดี เงินเดือนและผลประโยชน์ที่บุคลากรได้รับเหมาะสมกับวุฒิการศึกษาและประสบการณ์การทำงาน มี ความรู้สึกมั่นคงในงานที่ปฏิบัติ จึงส่งผลให้ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรในภาพรวมอยู่ ในระดับมาก บุคลากรที่มีเพศแตกต่างกันมีความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรภาครัฐต่อการ เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐไม่แตกต่างกัน ส่วนอายุ สถานภาพ ประเภทสายงาน ระดับการศึกษา รายได้ และอายุการทำงานที่แตกต่างกันส่งผลต่อความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรภาครัฐ ต่อการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐแตกต่างกัน การจูงใจในการปฏิบัติงานในด้านการได้รับการ ยอมรับนับถือ ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งงาน และด้านความสำเร็จในการทำงาน ส่งผลต่อความ พึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรภาครัฐต่อการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ทั้งนี้อาจเป็น เพราะการจูงใจทำให้บุคลากรรู้สึกภาคภูมิใจในตำแหน่งหน้าที่การงาน การได้รับการยกย่องชมเชย/ ได้รับการยอมรับนับถือจากผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน และการมีโอกาสก้าวหน้าในการ


12 ปฏิบัติงาน จะส่งผลให้บุคลากรมีความพึงพอใจในการงานที่ได้รับมอบหมาย ทำให้องค์การเกิด ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติงานมากขึ้น ธนพล แก้วคำแจ้ง และคณะ (2563) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การศึกษาความพึงพอใจไม้เท้าของผู้ สูงวัยแจ้งเตือนผ่านทางไลน์แอพพลิเคชั่น วัตถุประสงค์คือ ศึกษาความพึงพอใจไม้เท้าแจ้งเตือน สถานะตั้งล้มผ่านสมาร์ทโฟน และ เพื่อสร้างต้นแบบไม้เท้าแจ้งสถานะตั้งล้มผ่านสมาร์ทโฟน ผลการวิจัยพบว่า การทดลองครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองโดยใช้แบบแผนการทดลองแบบกลุ่ม ตัวอย่างเดียวแล้วทำการทดสอบครั้งเดียว (One-Short Case Study) สาเหตุที่ใช้วิธีนี้เพราะเป็น นวัตกรรมใหม่ เพื่อการศึกษาหาประสิทธิภาพและความพึงพอใจไม้เท้าของผู้สูงวัยแจ้งเตือนผ่านทาง ไลน์แอพพลิเคชั่น และผู้วิจัยได้นำไม้เท้าของผู้สูงวัยแจ้งเตือนผ่านทางไลนแอพพลเคชั่นมาทดลอง ศึกษาหาประสิทธิภาพและความพึงพอใจโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างไม้เท้าของผู้สูงวัยแจ้งเตือนผ่าน ทางไลน์แอพพลิเคชั่น เพื่อดูความคุ้มค่าและความเป็นไปได้ในการลงทุนเชิงพาณิชย์ต่อไป ผลการ ประเมินความพึงพอใจของไม้เท้าแจ้งสถานะตั้งล้มผ่านสมาร์ทโฟน ด้านการออกแบบ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.45มีความพึงพอใจในระดับพึงพอใจ ผลการประเมินความพึงพอใจของไม้เท้าแจ้งสถานะตั้งล้มผ่าน สมาร์ทโฟน ด้านการเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตประจำวันมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.31 มีความพึงพอใจ ในระดับพึงพอใจ การวิจัยไม้เท้าของผู้สูงวัยแจ้งเตือนผ่านทางไลน์แอพพลิเคชั่นที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นนี้ สามารถนำไปใช้กับผู้สูงวัยที่สามารถใช้ไม้เท้าในการเดินด้วยตนเองได้ในระดับที่ดีมากเหมาะสำหรับ การใช้ในผู้สูงวัยกลุ่มที่สามารถใช้ไม้เท้าในการเดินไปในสถานที่ต่างๆ ด้วยตนเองได้ ปรัตถกร กษิรวัฒน์และคณะ (2564) ได้ทำการศึกษาวิจัยเรื่อง การพัฒนาดัชนีความ เหมาะสมทางกายภาพของการใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบนถนนในเมือง โดยมีจุดประสงค์คือ เพื่อ ประเมินคะแนนความรับรู้ความพึงพอใจในด้านความสะดวกสบาย ความเร็วความปลอดภัย และ ระดับโดยรวมของการใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ผลการทำวิจัยพบว่า พบว่าการใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบน ถนน ลักษณะทางกายภาพที่ส่งผลให้ความรู้สึกรับรู้ความสะดวกสบายดีขึ้น ได้แก่ พื้นผิวไม่มีความ เสียหาย ไม่มีหรือมีสิ่งกีดขวางบนพื้นผิวน้อยกว่า 3 เมตร และมีช่องทางจักรยาน ส่วนลักษณะทาง กายภาพที่ส่งผลให้ความรู้สึกรับรู้ความสะดวกสบายแย่ลง ได้แก่ ทางตรงหรือทางโค้งที่มีรัศมีอย่าง น้อย 24 เมตร และความเร็วกระแสจราจรถนนสายย่อยและสายรอง ลักษณะทางกายภาพที่ส่งผลให้ ความรู้สึกรับรู้ความเร็วดีขึ้นได้แก่ พื้นผิวไม่มีความเสียหาย มีช่องทางจักรยาน และพื้นผิวลาดยาง ลักษณะทางกายภาพที่ส่งผลให้ความรู้สึกรับรู้ความปลอดภัยดีขึ้น ได้แก่ มีช่องทางจักรยาน เส้นแบ่งมี ความชัดเจน ปริมาณกระแสจราจรไม่เกิน 5,000 คันต่อวันต่อปีและความต่อเนื่อง สุดท้ายลักษณะ ทางกายภาพที่ส่งผลให้ความรู้สึกรับรู้ระดับโดยรวมดีขึ้นได้แก่ มีช่องทางจักรยาน และปริมาณกระแส จราจรไม่เกิน 5,000คันต่อวันต่อปีส่วนการใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบนทางเท้า ลักษณะทางกายภาพที่


13 ส่งผลให้ความรู้สึกรับรู้ความสะดวกสบายดีขึ้น ได้แก่ พื้นผิวไม่มีความเสียหาย และพื้นผิวลาดยาง ส่วนปัจจัยความรู้สึกรับรู้ความเร็วความปลอดภัย และระดับโดยรวม มีเพียงลักษณะทางกายภาพ ปัจจัยวัสดุพื้นผิวเท่านั้นที่ส่งผลต่อปัจจัยเหล่านี้ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากข้อจำกัดของทางเท้า ที่ ออกแบบมาเพื่อคนเดินเท้าเท่านั้นไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานพาหนะอย่างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ การรับรู้ของอาสาสมัครมีความคลาดเคลื่อนสูง นอกจากนี้ความรู้สึกรับรู้ความปลอดภัยส่งผลต่อระดับ โดยรวมของการใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบนถนนมากที่สุด ส่วนการใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบนทางเท้านั้น มีความรู้สึกรับรู้ความสะดวกสบายที่ส่งผลต่อระดับโดยรวมมากที่สุด ฐิติ อุณยเกียรติและคณะ (2564) วิจัยความพึงพอใจของผู้เข้ารับการอบรมฝ่ายปากเรือ ณ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร วัตถุประสงค์เพื่อ 1.ศึกษาระดับความพึงพอใจของประชาชน 2. เปรียบเทียบความพึงพอใจของประชาชน และ 3.ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ความเข้าใจ เนื้อหาการอบรมสานักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพรกับความพึงพอใจของประชาชนต่อการใช้บริการ อบรมฝ่ายปากเรือสานักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ทำการศึกษา ส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการเดินเรือในระดับมากผลการทดสอบสมมติฐานพบว่ากลุ่ม ตัวอย่างที่มีเพศอายุสถานภาพสมรสระดับการศึกษาสูงสุดระดับประกาศนียบัตรแตกต่างกันมีระดับ ความพึงพอใจต่อการใช้บริการอบรมฝ่ายปากเรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพรแตกต่างกันอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ในส่วนของความรู้ความเข้าใจในการ เดินเรือไม่มีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการอบรมของฝ่ายปากเรือ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพรในภาพรวมและรายด้าน จึงไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ สรวิชญ์ อกณิษฐาวงศ์และคณะ (2565) วิจัยเรื่อง ความพึงพอใจของลูกค้าผู้ใช้บริการที่มีต่อ ร้านยามหาวิทยาลัยเวสเทิร์น จุดประสงค์คือ 1.เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้บริการที่มีต่อร้านยา มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น 2.เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต้นด้านคุณลักษณะของกลุ่มตัวอย่างกับ ความพึงพอใจในมิติด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านการจัดจำหน่าย ด้านบุคลากร ด้านลักษณะทาง กายภาพของร้าน ด้านกระบวนการ และด้านผลลัพธ์ภาพรวม พบว่าปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับ กระบวนการตัดสินใจเลือกใช้บริการร้านยา คือ ความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการการให้ความมั่นใจกับ ผู้ใช้บริการรูปแบบการบริการที่จับต้องได้เป็นรูปธรรมความใส่ใจในผู้ใช้บริการ และการตอบสนอง ความต้องการของผู้ใช้บริการ ดังนั้นในการจะดำเนินธุรกิจร้านยา ผู้ดำเนินการจำเป็นต้องเข้าใจในถึง ปัจจัยเหล่านี้ และจัดบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการ ซึ่งการจะจัดให้ปัจจัยต่าง ๆ สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการวิธีหนึ่งก็คือการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการที่มีต่อ ปัจจัยเหล่านี้ แล้ววิเคราะห์ดูว่ามีปัจจัยด้านใดที่ผู้ใช้บริการยังให้ความพึงพอใจน้อย แล้วนำไปปรับปรุง แก้ไข ในการศึกษาชิ้นนี้เป็นการศึกษาถึงความพึงพอใจของผู้ใช้บริการร้านยามหาวิทยาลัยเวสเทิร์น


14 โดยศึกษาถึงความพึงพอใจของผู้ใช้บริการต่อปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านการจัดจำหน่าย ด้านบุคลากร ด้านลักษณะทางกายภาพของร้าน ด้านกระบวนการในการให้บริการ และด้านผลลัพธ์ ภาพรวมซึ่งผลลัพธ์จากการศึกษาบ่งชี้ออกมาในทางพึงพอใจสูง กล่าวคือ พึงพอใจต่อตัวชี้วัดด้าน ผลิตภัณฑ์ในระดับมากที่สุดและมาก เกินร้อยละ 80 พึงพอใจต่อตัวชี้วัดด้านราคา และด้านลักษณะ ทางกายภาพของร้าน ในระดับมากที่สุดและมาก เกินร้อยละ 90 และ พึงพอใจต่อตัวชี้วัดด้านบุคลากร ด้านกระบวนการ และด้านผลิตภาพในระดับมากที่สุดและมาก เกินร้อยละ 95 และเมื่อใช้คำถามที่ เป็นการตรวจสอบสรุปยืนยันที่ถามว่า “ท่านจะมาใช้บริการในคราวต่อไปหรือไม่” ก็ได้รับ คำตอบ กลับมาร้อยละร้อยว่าจะกลับมารับบริการอีก การได้รับผลลัพธ์การสำรวจความพึงพอใจในทางบวก เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมยินดี แต่ผู้ดำเนินการและผู้บริหารร้านยาจะต้องมีหน้าที่ที่จะบริหารจัดการให้คง คุณภาพที่ดีต่อไป อีกทั้งยังต้องพัฒนาปัจจัยต่าง ๆ เพื่อยกระดับของคุณภาพให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่อไป ตามแนวคิดในเรื่องการจัดการคุณภาพแบบองค์รวม ธรรญรธ พะกะยะและ อัจฉราพร สีหวัฒนะ (2566) ศึกษาเรื่อง มาตรการทางกฎหมายใน การกำกับดูแลยานพาหนะไฟฟ้าขนาดเล็กในประเทศไทยกรณีศึกษาเฉพาะสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า โดยมี จุดประสงค์ของงานวิจัยคือ เพื่อศึกษาหลักการ แนวคิดทางกฎหมายในการกำกับดูแลการใช้ ยานพาหนะไฟฟ้าขนาดเล็กประเภทสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เพื่อศึกษามาตรการทางกฎหมายของต่างประเทศ ในการกำกับดูแลการใช้ยานพาหนะไฟฟ้าขนาดเล็กประเภทสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและ เพื่อเสนอแนะแนว ทางการแก้ไขปัญหาหรืออุปสรรคทางกฎหมายในการกำกับดูแลการใช้ยานพาหนะไฟฟ้าขนาดเล็ก ประเภทสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของประเทศไทย ได้ผลการวิจัยดังนี้ การศึกษามาตรการกำกับดูแลการใช้ ประเภทสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในประเทศไทยทำให้ทราบ ถึงหลักการ แนวคิดทางกฎหมายในการกำกับดูแล การใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและทำให้ทราบถึงมาตรการทางกฎหมายของต่างประเทศในการกำกับดูแลการ ใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารวมทั้งทำให้ทราบถึงปัญหาในการกำกับดูแลการใช้มาตรการทางกฎหมายในการ กำกับดูแลการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของประเทศไทยเพื่อเสนอแนะแนวทางในการกำกับดูแลการใช้สกู๊ต เตอร์ไฟฟ้าและความสำคัญในการกำหนดคำนิยามเพื่อสถานะทางกฎหมายของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอย่าง เหมาะสม


15 บทที่ 3 วิธีการดำเนินการศึกษา การศึกษาวิจัยเรื่องปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มีระเบียบวิธีวิจัยที่ใช้ในการเก็บรวบรวม วิเคราะห์ สังเคราะห์ ข้อมูล เพื่อหาคำตอบสำหรับคำถามงานวิจัยโดยการสร้างแผนการวิจัยจะคำนึงถึงรูปแบบ วัตถุประสงค์ กรอบเวลา และสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย โดยผู้วิจัยได้กำหนดระเบียบวิธี วิจัยออกเป็น 7 ส่วนดังนี้ 3.1 ระเบียบวิธีวิจัย 3.2 ประชากร 3.3 กลุ่มตัวอย่าง 3.4 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล 3.5 วิธีการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล 3.6 การดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลต้องระบุสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 3.7 การวิเคราะห์ข้อมูล 3.1 ระเบียบวิธีวิจัย การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบเชิงปริมาณโดยศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของ ผู้ใช้บริการBeam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และเก็บข้อมูลโดย ใช้แบบสอบถามด้วยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบไม่ใช้ความน่าจะเป็น โดยเลือกใช้ตัวอย่างตามความ สะดวก 3.2 ประชากร งานวิจัยฉบับนี้เก็บข้อมูลจากแบบสอบถาม โดยกำหนดให้ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้ที่ใช้บริการBeam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จำนวน 250 คน ผู้วิจัยได้กำหนดตัวอย่างจำนวนดังกล่าว ใช้ตารางของ Taro Yamane (1967) ที่ระดับความ เชื่อมั่น ร้อยละ 95 และค่าความคลาดเคลื่อนที่ระดับร้อยละ+5 ซึ่งตัวอย่างที่ได้ ผู้วิจัยเลือกใช้วิธีการ สุม ตัวอย่างแบบไม่ใช้ความน่าจะเป็น โดยเลือกใช้ตัวอย่างตามความสะดวก


16 3.3 กลุ่มตัวอย่าง ผู้วิจัยจึงได้กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรวิธีของ Taro Yamane สูตร = + = ขนาดของกลุ่มตวัอยา่งที่ตอ้งการ = ขนาดของประชากร = ความคลาดเคลื่อนของกลุ่มตัวอย่างที่ยอมรับได้ 3.4 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม โดยแบ่งแบบสอบถามออกเป็น 2 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ประกอบด้วย เพศ อายุ ระดับ การศึกษา อาชีพ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งในการใช้บริการ ความถี่ในการ ใช้บริการ ท่านต้องรอคิวเป็นระยะเวลานานประมาณเท่าใดก่อนที่จะได้รับบริการ เป็นข้อ คำถามแบบเลือกตอบ (Multiple Choices) ตอนที่ 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับความคิดเห็นต่อปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของ ผู้ใช้บริการBeam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี แบ่ง ออกเป็น 5ด้าน ประกอบด้วย 1.ปัจจัยด้านความรูปประธรรมของการให้บริการ 2.ปัจจัยด้านความน่าเชื่อถือในการให้บริการ 3.ปัจจัยการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ให้บริการ 4.ปัจจัยด้านความมั่นใจ 5.ปัจจัยด้านการเข้าถึงจิตใจผู้ใช้บริการ โดยเป็นคำถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating scale) ตามรูปแบบของ Likert Scale ซึ่งจะมีให้เลือกตอบได้เพียงคำตอบเดียว โดยมีการกำหนดเกณฑ์การให้คะแนน ดังนี้ 5 หมายถึง ระดับความพึงพอใจมากที่สุด 4 หมายถึง ระดับความพึงพอใจมาก 3 หมายถึง ระดับความพึงพอใจปานกลาง


17 2 หมายถึง ระดับความพึงพอใจน้อย 1 หมายถึง ระดับความพึงพอใจน้อยที่สุด 3.5 วิธีการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยนำแบบสอบถามไปเก็บข้อมูลกับกลุ่มตัวอย่างและขอความร่วมมือในการตอบ แบบสอบถาม 3.6 การดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูล ต้องระบุสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล นำข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป และใช้สถิติ ใน การวิเคราะห์ดังนี้ 1) ค่าร้อยละ (Percentage) โดยใช้วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความพึงพอใจของ ผู้ใช้บริการBeam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่ได้มาจาก การเก็บแบบสอบถาม 2) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ที่ได้จาก การเก็บแบบสอบถามโดยใช้มาตรวัดของลิเคอร์ท สเกล (Likert Scale) ซึ่งมีลักษณะเป็น คำถามให้เลือกตอบ 5 ระดับ คือ ระดับความพึงพอใจมากที่สุด ระดับความพึงพอใจมาก ระดับความพึงพอใจปานกลาง ระดับความพึงพอใจน้อย และระดับความพึงพอใจน้อยที่สุด ระดับความสำคัญของปัจจัย ระดับคะแนน ระดับความพึงพอใจมากที่สุด 5 ระดับความพึงพอใจมาก 4 ระดับความพึงพอใจปานกลาง 3 ระดับความพึงพอใจน้อย 2 ระดับความพึงพอใจน้อยที่สุด 1 การกำหนดช่วงของค่าเฉลี่ยเพื่อวิเคราะห์ผลการแปลความหมายของระดับคะแนน แบ่งเป็น 5 ระดับ โดยใช้เกณฑ์บุญชม ศรีสะอาด (บุญชม ศรีสะอาด และ บุญส่ง นิลแก้ว, 2535) ดังนี้


18 ค่าเฉลี่ย ระดับความสำคัญ 4.51 - 5.00 หมายถึง มีระดับความพึงพอใจมากที่สุด 3.51 - 4.50 หมายถึง มีระดับความพึงพอใจมาก 2.51 - 3.50 หมายถึงมี ระดับความพึงพอใจปานกลาง 1.51 - 2.50 หมายถึง มีระดับความพึงพอใจน้อย 1.00- 1.50 หมายถึง มีระดับความพึงพอใจน้อยที่สุด 3) การทดสอบสมมติฐานเพื่อใช้การเปรียบเทียบความพึงพอใจของกลุ่มของสถาน ประกอบการ โดยใช้ One-Way ANOVA และ Scheffe' test 3.7 การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยสร้างแบบสอบถามเพื่อการวิจัยครั้งนี้ โดยดำเนินตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1) ศึกษารายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับ คุณภาพการให้บริการ บริการความพึงพอใจ จากตำราเอกสารวารสารสิ่งตีพิมพ์ และงานวิจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และศึกษาวิธีการสร้าง แบบสอบถาม ภายใต้ขอบข่ายของการวิจัย จากห้องสมุดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี และสืบค้นข้อมูลผ่านทางฐานข้อมูลออนไลน์ของมหาวิทยาลัย 2) กำหนดขอบเขตของข้อคำถามจากตัวแปรที่ศึกษา 3) สร้างแบบสอบถามจากขอบเขตของข้อคำถามที่กำหนดไว้ 4) นำแบบสอบถามที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วเสนอต่อที่ปรึกษาเพื่อตรวจสอบและ ปรับปรุงข้อคำถามนำแบบสอบถามที่ปรับปรุงเรียบร้อยแล้วไปให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณา ตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) ด้วยวิธีการหาค่าดัชนีความ สอดคล้อง (IOC: Index of Item- Objective Congruence) โดยแบบสอบถาม มีค่า IOC อยู่ที่ 0.60-1.00 ทุกข้อ ซึ่งแต่ละข้อได้ค่าดัชนี IOC มากกว่าหรือเท่ากับ 0.5 จึงถือว่า เหมาะสมที่จะนำไปใช้ในงานวิจัยได้ 5) นำแบบสอบถามมาปรับปรุงตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญและนำเสนอที่ ปรึกษาอีกครั้งหนึ่ง 6) นำแบบสอบถามที่แก้ไขตามคำแนะนำแล้วมาดำเนินการทดสอบกับ กลุ่มเป้าหมาย (Try out) เพื่อทำการทดสอบการทดสอบความเชื่อถือได้ (Reliability) ของ


19 แบบสอบถามโดยวิธีการหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา ตามวิธีของครอนบัค (Cronbach) โดย แบบสอบถามที่มีค่าแอลฟา () ตั้งแต่ 0.70 ขึ้นไปจึงจะถือว่าแบบสอบถามนี้ใช้ได้ โดย แบบสอบถามที่ผู้วิจัยจัดทำขึ้นมีค่าแอลฟา () = 0.92 7) นำแบบสอบถามฉบับสมบูรณ์ไปสอบถามกลุ่มตัวอย่าง 8) นำข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป สรุปผลและเขียนรายงาน 3.7.1 กรอบแนวคิด กรอบแนวคิดในการวิจัย (Conceptual Framework) ตัวแปลอิสระ คือ คุณภาพการใช้บริการ ตัวแปลตาม คือ ความพึงพอใจของผู้ใช้งาน รูปที่ 3.1 : ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยคุณภาพการให้บริการส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้ บริการจากการ ใช้Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี


20 บทที่ 4 ผลการวิจัย การศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการจากการใช้ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยทางด้าน ประชากรศาสตร์ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจใช้Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลธัญบุรี เพื่อศึกษาปัจจัยด้านคุณภาพการให้บริการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการ และเพื่อ ศึกษาปัจจัยด้านโลจิสติกส์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จำนวน 250 คน โดยได้มีการกำหนดสัญลักษณ์ และอักษรย่อที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้ สัญลักษณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันชัดเจนในการแปลความหมายของผลการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัย ได้กำหนดสัญลักษณ์ที่ใช้ในการแปรผล ดังนี้ ̅แทน คะแนนเฉลี่ย S.D แทน ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน N แทน จำนวนประชากรในกลุ่มตัวอย่าง Df แทน องศาความเป็นอิสระ (Degree of Freedom) ในการวิเคราะห์ข้อมูลครั้งนี้ ผู้วิจัยได้แบ่งแบบสอบถามออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 วิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามผู้วิจัยนำข้อมูลที่ได้จากการเก็บ รวบรวมซึ่งอยู่ในตอนที่ 1 ของแบบสอบถามเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับสถานภาพส่วนบุคคล ประกอบด้วย เพศ อายุ ระดับตำแหน่งงาน ระดับการศึกษาระยะเวลาการทำงาน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ประเภท ธุรกิจ โดยนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นค่าความถี่ และค่าร้อยละเพื่อทราบข้อมูลสถานภาพส่วน บุคคลของกลุ่มตัวอย่าง ส่วนที่ 2 การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้ของผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีการวิเคราะห์ผลเป็นค่าเฉลี่ย


21 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสรุปผลการวิเคราะห์ จากค่าคะแนนเฉลี่ยของปัจจัยที่ส่งผลต่อการ เลือกใช้บริการตัวแทนผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี ในด้านลักษณะทางกายภาพ ด้านบุคลากร ด้านราคา ด้านช่องทางการติดต่อ ด้านกระบวนการ ใช้งาน ส่วนที่ 3 การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยคุณภาพการให้บริการด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ส่วนที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจในการใช้ บริการในการเลือกใช้ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี การวิเคราะห์หาค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม (IOC) เกณฑ์ 1. ข้อคำถามที่มีค่า IOC ตั้งแต่ 0.50-1.00 มีค่าความเที่ยงตรง ใช้ได้ 2. ข้อคำถามที่มีค่า IOC ต่ำกว่า 0.50 ต้องปรับปรุง ยังใช้ไม่ได้ ตารางที่ 4.1 แสดงผลคะแนน ผลค่าเฉลี่ยค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม (IOC) ของปัจจัยด้าน คุณภาพการให้บริการที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่ได้นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่านได้ตรวจสอบและให้คะแนน ส่วนข้อคำถาม คะแนนรวม ค่า IOC 1.ปัจจัยด้านความรูปประธรรมของการให้บริการ คุณภาพและความแข็งแรงของ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 3 1 แบตเตอร์รี่ของ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เพียงพอต่อการใช้งาน 3 1 Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามีความทันสมัยในการใช้งาน 3 1 2.ปัจจัยด้านความน่าเชื่อถือในการให้บริการ


22 ตารางที่ 4.1 แสดงผลคะแนน ผลค่าเฉลี่ยค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม (IOC) ของปัจจัยด้าน คุณภาพการให้บริการที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่ได้นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่านได้ตรวจสอบและให้คะแนน (ต่อ) ส่วนข้อคำถาม คะแนนรวม ค่า IOC ความน่าเชื่อถือวิธีการใช้งาน Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในApplication Beam 3 1 ความปลอดภัยในวิธีการชำระค่าบริการ 3 1 Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า มีการคุ้มครองจากประกันภัยอุบัติเหตุใน ขณะที่ขับขี่ 3 1 3.ปัจจัยด้านการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการมีความเข้าใจของข้อมูลในการใช้งาน Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 2 0.6 จุดที่ให้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เหมาะสมและครอบคลุมทุกพื้นที่ ภายในมหาวิทยาลัย 3 1 ผู้ใช้งาน Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า สามารถประหยัดเวลาในการเดินทาง ได้มากขึ้น 3 1 4.ปัจจัยด้านความความมั่นใจ ความปลอดภัยระหว่างใช้งาน Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 3 1 พนักงานพร้อมแก้ไขปัญหาเมื่อแจ้งปัญหาทันที 3 1 มีช่องทางการให้บริการช่วยเหลือผู้ใช้บริการที่เหมาะสม 3 1 5.ปัจจัยด้านการเข้าถึงจิตใจผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าใช้งานขับขี่ง่าย 3 1


23 ตารางที่ 4.1 แสดงผลคะแนน ผลค่าเฉลี่ยค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม (IOC) ของปัจจัยด้าน คุณภาพการให้บริการที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่ได้นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่านได้ตรวจสอบและให้คะแนน (ต่อ) ส่วนข้อคำถาม คะแนนรวม ค่า IOC ความคุ้มค่าของราคาเมื่อเทียบกับบริการที่ได้รับของ Beam สกู๊ต เตอร์ไฟฟ้า 3 1 Promotion สำหรับการให้ใช้งาน 3 1 จากตารางที่ 4.1 แสดงผลคะแนน ผลค่าเฉลี่ยค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม (IOC) ของ ปัจจัยด้านคุณภาพการให้บริการที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 ได้ให้คะแนนทั้ง 15 ข้อคำถาม แล้วนั้น มีการหาค่าคะแนน IOC ของแต่ละข้อของแต่ละปัจจัยแล้วพบว่า โดยรวมคะแนนของ IOC จะอยู่ที่ 1 รวม 14 ข้อ และมี 1 ข้อได้คะแนนค่า IOC อยู่ที่ 0.6 คือข้อ ผู้ใช้บริการมีความเข้าใจของ ข้อมูลในการใช้งาน Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ในปัจจัยที่ 3.ปัจจัยด้านการตอบสนองต่อความต้องการ ของผู้ใช้บริการ แต่ทั้งหมด 15 ข้อมีคะแนนเกินตั้งแต่ 0.50-1.00 ดังนั้นมีค่าความเที่ยงตรง ใช้ได้ จากนั้นคัดเลือกข้อคำถามที่มีค่าดัชนีIOCตั้งแต่0.67เพื่อนำไปทดลองใช้(Try- out)กับนักศึกษาจำนวน 30 คน ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับกลุ่มตัวอย่างแต่ไม่ได้เป็นกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเพื่อหาค่าความ เชื่อมั่น(Reliability)ทั้งรายข้อ(Item Analysis)และในภาพรวมด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งต้องมีค่า สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ตั้งแต่0.71ขึ้นไปแบบสอบถามฉบับนี้มีค่าความเชื่อมั่น โดยทั้งฉบับเท่ากับ 0.971 สามารถนำไปเก็บแบบสอบถามได้ รูปที่ 4.1 แสดงค่า Crobach’s Alpha ของแบบสอบถามจำนวน 30 ชุด


24 ตารางที่ 4.2 แสดงผลคะแนน ผลค่าเฉลี่ยค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม (IOC) ระดับความพึง พอใจความคิดเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจในการใช้บริการในการเลือกใช้ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่ได้นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่านได้ตรวจสอบและให้ คะแนน รายการความคิดเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจของผู้ใช้งาน ค่าเฉลี่ย SD ท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้งาน Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 3 1 ท่านมีความพึงพอใจวิธีการใช้ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 3 1 ท่านมีความพึงพอใจในการเดินทาง Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ที่รวดเร็วและ ประหยัดเวลาขึ้น 3 1 ท่านมีความพึงพอใจของจำนวน Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ในแต่ละจุดที่จอดเพื่อ รอใช้งาน 3 1 ท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ในการเดินทางไปยัง สถานที่ในมหาวิทยาลัยแทนรถไฟฟ้ามหาวิทยาลัย 3 1 ท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแทนการเดินไปยังสถานที่ ต่างๆภายในมหาวิทยาลัย 3 1 ท่านมีความพึงพอใจต่อจุดการให้บริการ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 3 1 ท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้งาน Application Beam 3 1 จากตารางที่ 4.2 แสดงผลคะแนน ผลค่าเฉลี่ยค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม (IOC) ของ ระดับความพึงพอใจความคิดเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจในการใช้บริการในการเลือกใช้ Beam สกู๊ต เตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 ได้ให้คะแนนทั้ง 8 ข้อ คำถามแล้วนั้น มีการหาค่าคะแนน IOC ของแต่ละข้อโดยรวมคะแนนของ IOC จะอยู่ที่ 1 รวมทั้ง 8 ข้อดังนี้ท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้งาน Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า,ท่านมีความพึงพอใจวิธีการใช้ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า,ท่านมีความพึงพอใจในการเดินทาง Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ที่รวดเร็วและ


25 ประหยัดเวลาขึ้น,ท่านมีความพึงพอใจของจำนวน Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ในแต่ละจุดที่จอดเพื่อรอใช้ งาน,ท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ในการเดินทางไปยังสถานที่ในมหาวิทยาลัย แทนรถไฟฟ้ามหาวิทยาลัย,ท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแทนการเดินไปยัง สถานที่ต่างๆภายในมหาวิทยาลัย,ท่านมีความพึงพอใจต่อจุดการให้บริการ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้งาน Application Beam ส่วนที่ 1 วิเคราะห์รายละเอียดของผู้ตอบแบบสอบถาม ตารางที่ 4.3 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามเพศ เพศ จำนวน ร้อยละ ชาย 137 54.8 หญิง 113 45.2 รวม 250 100 จากตารางที่ 4.3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีจำนวน 137 คน คิดเป็น ร้อยละ 54.8 รองลงมาเป็นเพศหญิง มีจำนวน 113 คน คิดเป็นร้อยละ 45.2 ตารางที่ 4.4 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามอายุ อายุ จำนวน ร้อยละ ต่ำกว่า 20 ปี 68 27.2 20-29 ปี 178 71.2 30 ปีขึ้นไป 4 1.6 รวม 250 100 จากตารางที่ 4.4 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีช่วงอายุ 20-29 ปีมีจำนวน 178 คน คิดเป็นร้อยละ 71.2 รองลงมาคือช่วงอายุ ต่ำกว่า 20 ปีมีจำนวน 68 คน คิดเป็นร้อยละ 27.2 ช่วง อายุ 30 ปีขึ้นไป มีจำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 1.6 ตามลำดับ


26 ตารางที่ 4.5 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามระดับ การศึกษา ระดับการศึกษา จำนวน ร้อยละ ต่ำกว่าปริญญาตรี 121 48.4 ปริญญาตรี 126 50.4 สูงกว่าปริญญาตรี 3 1.2 รวม 250 100 จากตารางที่ 4.5 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีระดับการศึกษาเป็นระดับปริญญาตรี มีจำนวน 126 คน คิดเป็นร้อยละ 50.4 รองลงมาคือระดับต่ำกว่าปริญญาตรี จำนวน 121 คน คิดเป็น ร้อยละ 48.4 ระดับสูงกว่าปริญญาตรีมีจำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 1.2 ตามลำดับ ตารางที่ 4.6 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามระดับ อาชีพ อาชีพ จำนวน ร้อยละ นักเรียน/นักศึกษา 235 94 อาจารย์ 1 0.4 เจ้าหน้าที่ 10 4 พนักงาน 1 0.4 พนักงานโรงงาน 1 0.4 บุคคลนอก 1 0.4 ทำงาน 1 0.4 รวม 250 100 จากตารางที่ 4.6 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีระดับอาชีพเป็นนักเรียน/นักศึกษา มี จำนวน 235คน คิดเป็นร้อยละ 94 รองลงมาคือระดับอาจารย์ จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 0.4 ระดับเจ้าหน้าที่ มีจำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 4 ระดับพนักงาน มีจำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 0.4 ระดับพนักงานโรงงาน มีจำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 0.4 ระดับบุคคลนอก มีจำนวน 1 คน คิดเป็น ร้อยละ 0.4 ระดับทำงาน มีจำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 0.4 ตามลำดับ


27 ตารางที่ 4.7 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามรายได้ เฉลี่ยต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน จำนวน ร้อยละ ต่ำกว่า 10,000 บาท 141 56.4 10,000 – 15,000 บาท 87 34.8 15,001 – 20,000 บาท 18 7.2 20,001 บาทขึ้นไป 4 1.6 รวม 250 100 จากตารางที่ 4.7 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ ต่ำกว่า 10,000 บาท มีจำนวน 141 คน คิดเป็นร้อยละ 56.4 รองลงมาคือ 10,000 – 15,000 บาท มีจำนวน 87 คน คิดเป็นร้อยละ 34.8 15,001 – 20,000 บาท มีจำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 7.2 20,001 บาทขึ้นไป มีจำนวน 4 คน คิดเป็นร้อย 1.6 ตามลำดับ ส่วนที่ 2 การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกของผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ตารางที่ 4.8 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม วัตถุประสงค์การเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า วัตถุประสงค์การเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จำนวน ร้อยละ ไปเรียน 88 35.2 ไปทำงาน 30 12 ไปรับประทานอาหาร 25 10 ไปทำกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัย 107 42.8 รวม 250 100 จากตารางที่ 4.8 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์การเดินทางด้วยสกู๊ต เตอร์ไฟฟ้าด้วยการไปทำกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัย มีจำนวน 107 คน คิดเป็นร้อยละ 42.8 รองลงมาคือ ไปเรียน มีจำนวน 88 คน คิดเป็นร้อยละ 35.2 ไปทำงาน มีจำนวน 30 คน คิดเป็นร้อย ละ 12 ไปรับประทานอาหาร มีจำนวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 10 ตามลำดับ


28 ตารางที่ 4.9 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามความถี่ ในการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ความถี่ในการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จำนวน ร้อยละ 1-3 ครั้ง/เดือน 178 71.2 4-6 ครั้ง/เดือน 54 21.6 มากกว่า 6 ครั้ง/เดือน 18 7.2 รวม 250 100 จากตารางที่ 4.9 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามความถี่ในการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ 1-3 ครั้ง/เดือน มีจำนวน 178 คน คิดเป็นร้อยละ 71.2 รองลงมาคือ 4-6 ครั้ง/เดือน มีจำนวน 54 คน คิด เป็นร้อยละ 21.6 มากกว่า 6 ครั้ง/เดือน มีจำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 7.2 ตามลำดับ ตารางที่ 4.10 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม จุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จำนวน ร้อยละ ประตู 3 RMUTT 175 70 หอพักนักศึกษานานาชาติ 9 3.6 หอพักนักศึกษา 12 4.8 หอพักอาจารย์ 1 0 0 RMUTT Gymnasium 0 0 สนามกีฬากลาง 6 2.4 โรงอาหารกลาง/ยิมเนเซียม 8 3.2 โรงอาหารหลัง 6 2.4 I-work@rt 1 0.4 สำนักงานอธิการบดี 0 0


29 ตารางที่ 4.10 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม จุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า (ต่อ) จุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จำนวน ร้อยละ อาคารวิทยบริการ 1 0.4 กองพัฒนานักศึกษา 0 0 อาคารสวัสดิการ 1 0.4 อาคารเรียนรวม 6 2.4 วิศวกรรมศาสตร์ 5 2 วิศวกรรมสิ่งทอ 0 0 วิศวกรรมเคมี 2 0.8 วิศวกรรมวัสดุ 4 1.6 วิศวกรรมอุตสาหการ 1 0.4 ศิลปกรรมศาสตร์ 0 0 วิทยาศาสตร์ 4 1.6 ศิลปศาสตร์ 2 0.8 เทคโนโลยีสื่อสารมวลชล 2 0.8 ครุศาสตร์ 4 1.6 อาคาร 4 บริหารธุรกิจ 4 1.6 อาคาร 3 บริหารธุรกิจ 1 0.4 รวม 250 100 จากตารางที่ 4.10 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่คือจุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ ไฟฟ้าที่ประตู 3 RMUTT มีจำนวน 175 คน คิดเป็นร้อยละ 70 รองลงมาคือ หอพักนักศึกษา มี จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 4.8 หอพักนักศึกษานานาชาติมีจำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 3.6 โรง อาหารกลาง/ยิมเนเซียม มีจำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 3.2 สนามกีฬากลาง,โรงอาหารหลัง,อาคาร เรียนรวม มีจำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 2.4 วิศวกรรมศาสตร์ มีจำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 2 หอพักนักศึกษา มีจำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 4.8 หอพักนักศึกษา มีจำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 4.8 วิศวกรรมวัสดุ,วิทยาศาสตร์,ครุศาสตร์,อาคาร 4 บริหารธุรกิจ มีจำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 1.6


30 วิศวกรรมเคมี,ศิลปศาสตร์,เทคโนโลยีสื่อสารมวลชล มีจำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 0.8 I-work@rt, อาคารวิทยบริการ,อาคารสวัสดิการ,วิศวกรรมอุตสาหการ,อาคาร 3 บริหารธุรกิจ มีจำนวน 1 คน คิด เป็นร้อยละ 0.4 หอพักอาจารย์ 1,RMUTT Gymnasium,สำนักงานอธิการบดี,กองพัฒนานักศึกษา, วิศวกรรมสิ่งทอ,ศิลปกรรมศาสตร์, มีจำนวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 ตามลำดับ ตารางที่ 4.11 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม จุดสิ้นสุดการเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จุดสิ้นสุดการเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จำนวน ร้อยละ ประตู 3 RMUTT 53 21.2 หอพักนักศึกษานานาชาติ 1 0.4 หอพักนักศึกษา 12 4.8 หอพักอาจารย์ 1 0 0 RMUTT Gymnasium 9 3.6 สนามกีฬากลาง 15 6 โรงอาหารกลาง/ยิมเนเซียม 38 15.2 โรงอาหารหลัง 12 4.8 I-work@rt 3 1.2 สำนักงานอธิการบดี 1 0.4 อาคารวิทยบริการ 21 8.4 กองพัฒนานักศึกษา 5 2 อาคารสวัสดิการ 4 1.6 อาคารเรียนรวม 17 6.8 วิศวกรรมศาสตร์ 14 5.6 วิศวกรรมสิ่งทอ 0 0 วิศวกรรมเคมี 2 0.8 วิศวกรรมวัสดุ 1 0.4 วิศวกรรมอุตสาหการ 5 2


31 ตารางที่ 4.11 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม จุดสิ้นสุดการเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า (ต่อ) จุดสิ้นสุดการเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จำนวน ร้อยละ ศิลปกรรมศาสตร์ 1 0.4 วิทยาศาสตร์ 2 0.8 ศิลปศาสตร์ 2 0.8 เทคโนโลยีสื่อสารมวลชล 7 2.8 ครุศาสตร์ 0 0 อาคาร 4 บริหารธุรกิจ 19 7.6 อาคาร 3 บริหารธุรกิจ 5 2 รวม 250 100 จากตารางที่ 4.11 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่คือจุดสิ้นสุดการเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ ไฟฟ้าที่ประตู 3 RMUTT มีจำนวน 53 คน คิดเป็นร้อยละ 21.2 รองลงมาคือ โรงอาหารกลาง/ ยิมเนเซียม มีจำนวน 38 คน คิดเป็นร้อยละ 15.2 อาคารวิทยบริการ มีจำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 8.4 อาคาร 4 บริหารธุรกิจ มีจำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 7.6 อาคารเรียนรวม มีจำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 6.8 สนามกีฬากลาง มีจำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 2.4 วิศวกรรมศาสตร์มีจำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 5.6 โรงอาหารหลัง มีจำนวน 12คน คิดเป็นร้อยละ 4.8 RMUTT Gymnasium มีจำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 3.6 เทคโนโลยีสื่อสารมวลชล มีจำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 2.8 กอง พัฒนานักศึกษา,วิศวกรรมอุตสาหการ มีจำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 2 อาคารสวัสดิการ มีจำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 1.6 I-work@rt มีจำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 1.2 วิศวกรรมเคมี, วิทยาศาสตร์,ศิลปศาสตร์มีจำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 0.8 หอพักนักศึกษานานาชาติ,สำนักงาน อธิการบดี,วิศวกรรมวัสดุ,ศิลปกรรมศาสตร์มีจำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 0.4 หอพักอาจารย์ 1, วิศวกรรมสิ่งทอ,ครุศาสตร์มีจำนวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 ตามลำดับ


32 ตารางที่ 4.12 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม จำนวนกลุ่มผู้เดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จำนวนกลุ่มผู้เดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จำนวน ร้อยละ เดินทางไปคนเดียว 175 70 เดินทาง 2 คนขึ้นไป 75 30 รวม 250 100 จากตารางที่ 4.12 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีจำนวนกลุ่มผู้เดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ ไฟฟ้า เดินทางไปคนเดียว จำนวน 175 คน คิดเป็นร้อยละ 70 รองลงมาคือ เดินทาง 2 คนขึ้นไป มี จำนวน 75 คน คิดเป็นร้อยละ 30 ตามลำดับ ตารางที่ 4.13 จำนวน ความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปจากผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งในการใช้บริการ ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งในการใช้บริการ จำนวน ร้อยละ 10–50 บาท 181 72.4 51–70 บาท 57 22.8 71-100 บาท 8 3.2 101 บาทขึ้นไป 4 1.6 รวม 250 100 จากตารางที่ 4.13 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งในการใช้ บริการที่ 10–50 บาท จำนวน 181 คน คิดเป็นร้อยละ 72.4 รองลงมาคือ 51–70 บาท มีจำนวน 57 คน คิดเป็นร้อยละ 22.8 71-100 บาท จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 3.2 101 บาทขึ้นไป จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 1.6 ตามลำดับ


33 ส่วนที่ 3 การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยคุณภาพการให้บริการด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี สมมุติฐานที่ 1 : ปัจจัยด้านคุณภาพการให้บริการที่มีผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ตารางที่ 4.14 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจ ที่ส่งผลต่อการ ตัดสินใจเลือกใช้บริการสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ปัจจัยคุณภาพการให้บริการ ค่าเฉลี่ย SD ระดับความคิดเห็น ลำดับที่ 1.ปัจจัยด้านความรูปประธรรมของการ ให้บริการ 4.50 0.70 มาก 1 2.ปัจจัยด้านความน่าเชื่อถือในการให้บริการ 4.06 0.83 มาก 4 3.ปัจจัยด้านการตอบสนองต่อความต้องการ ของผู้ใช้บริการ 4.23 0.82 มาก 3 4.ปัจจัยด้านความความมั่นใจ 3.42 1.15 ปานกลาง 5 5.ปัจจัยด้านการเข้าถึงจิตใจผู้ใช้บริการ 4.29 0.80 มาก 2 รวม 4.10 0.86 มาก จากตาราง 4.14 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม ระดับความสำคัญเกี่ยวกับปัจจัยคุณภาพการ ให้บริการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลธัญบุรีโดยรวมในระดับ มาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.10 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าปัจจัยที่ ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี อยู่ในระดับ มาก 4 ปัจจัย เรียงตามลำดับด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดไปจนถึงน้อยที่สุดได้ดังนี้ ปัจจัย ด้านความรูปประธรรมของการให้บริการ ปัจจัยด้านการเข้าถึงจิตใจผู้ใช้บริการ ปัจจัยด้านการ ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ ปัจจัยด้านความน่าเชื่อถือในการให้บริการ และอยู่ใน ระดับปานกลาง 1 ปัจจัย คือ ปัจจัยด้านความความมั่นใจ


34 ตารางที่ 4.15 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจ ปัจจัยคุณภาพการ ให้บริการ ด้านความรูปประธรรมของการให้บริการ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลธัญบุรี ปัจจัยคุณภาพการให้บริการ ค่าเฉลี่ย SD ระดับความคิดเห็น ลำดับที่ 1.ปัจจัยด้านความรูปประธรรมของการให้บริการ คุณภาพและความแข็งแรงของBeamสกู๊ต เตอร์ไฟฟ้า 4.56 0.70 มากที่สุด 1 แบตเตอร์รี่ของ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เพียงพอต่อการใช้งาน 4.43 0.69 มาก 3 Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามีความทันสมัยในการ ใช้งาน 4.52 0.72 มากที่สุด 2 รวม 4.50 0.70 มาก จากตารางที่ 4.15 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามปัจจัยด้านความรูปประธรรมของการให้บริการ ได้ให้คะแนนค่าเฉลี่ยรวม 4.50 ซึ่งอยู่ในระดับที่ มาก เรียงตามลำดับด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดไป จนถึงน้อยที่สุดได้ดังนี้ 1. คุณภาพและความแข็งแรงของBeamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 2.Beam สกู๊ตเตอร์ ไฟฟ้ามีความทันสมัยในการใช้งานและ 3.แบตเตอร์รี่ของ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เพียงพอต่อการใช้ งาน ตารางที่ 4.16 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจ ปัจจัยคุณภาพการ ให้บริการ ด้านความน่าเชื่อถือในการให้บริการ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลธัญบุรี ปัจจัยคุณภาพการให้บริการ ค่าเฉลี่ย SD ระดับความคิดเห็น ลำดับที่ 2.ปัจจัยด้านความน่าเชื่อถือในการให้บริการ ความน่าเชื่อถือวิธีการใช้งาน Beam สกู๊ต เตอร์ไฟฟ้าในApplication Beam 4.09 0.78 มาก 1


35 ตารางที่ 4.16 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจ ปัจจัยคุณภาพการ ให้บริการ ด้านความน่าเชื่อถือในการให้บริการ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลธัญบุรี(ต่อ) ปัจจัยคุณภาพการให้บริการ ค่าเฉลี่ย SD ระดับความคิดเห็น ลำดับที่ ความปลอดภัยในวิธีการชำระค่าบริการ 4.06 0.88 มาก 2 Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า มีการคุ้มครองจาก ประกันภัยอุบัติเหตุในขณะที่ขับขี่ 4.04 0.85 มาก 3 รวม 4.06 0.83 มาก จากตารางที่ 4.16 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามปัจจัยด้านความน่าเชื่อถือในการให้บริการ ได้ ให้คะแนนค่าเฉลี่ยรวม 4.06 ซึ่งอยู่ในระดับที่ มาก เรียงตามลำดับด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดไปจนถึง น้อยที่สุดได้ดังนี้ 1.ความน่าเชื่อถือวิธีการใช้งาน Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าใน Application Beam 2. ความปลอดภัยในวิธีการชำระค่าบริการ และ 3.Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า มีการคุ้มครองจากประกันภัย อุบัติเหตุในขณะที่ขับขี่ ตารางที่ 4.17 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจ ปัจจัยคุณภาพการ ให้บริการ ด้านการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ปัจจัยคุณภาพการให้บริการ ค่าเฉลี่ย SD ระดับความคิดเห็น ลำดับที่ 3.ปัจจัยด้านการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการมีความเข้าใจของข้อมูลในการใช้งาน Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 4.01 0.87 มาก 3 จุดที่ให้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เหมาะสม และครอบคลุมทุกพื้นที่ภายในมหาวิทยาลัย 4.43 0.78 มาก 1


36 ตารางที่ 4.17 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจ ปัจจัยคุณภาพการ ให้บริการ ด้านการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี(ต่อ) จากตารางที่ 4.17 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามปัจจัยด้านการตอบสนองต่อความต้องการของ ผู้ใช้บริการ ได้ให้คะแนนค่าเฉลี่ยรวม 4.23 ซึ่งอยู่ในระดับที่ มาก เรียงตามลำดับด้านที่มีค่าเฉลี่ยมาก ที่สุดไปจนถึงน้อยที่สุดได้ดังนี้ 1.จุดที่ให้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เหมาะสมและครอบคลุมทุก พื้นที่ภายในมหาวิทยาลัย 2.ผู้ใช้งาน Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า สามารถประหยัดเวลาในการเดินทาง ได้มากขึ้น และ 3.ผู้ใช้บริการมีความเข้าใจของข้อมูลในการใช้งาน Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ตารางที่ 4.18 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจ ปัจจัยคุณภาพการ ให้บริการ ด้านความความมั่นใจของผู้ใช้บริการ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลธัญบุรี ปัจจัยคุณภาพการให้บริการ ค่าเฉลี่ย SD ระดับความคิดเห็น ลำดับที่ 4.ปัจจัยด้านความความมั่นใจ ความปลอดภัยระหว่างใช้งาน Beam สกู๊ตเตอร์ ไฟฟ้า 3.49 1.10 ปานกลาง 1 พนักงานพร้อมแก้ไขปัญหาเมื่อแจ้งปัญหาทันที 3.40 1.19 ปานกลาง 2 มีช่องทางการให้บริการช่วยเหลือผู้ใช้บริการที่ เหมาะสม 3.38 1.18 ปานกลาง 3 รวม 3.42 1.15 ปานกลาง ปัจจัยคุณภาพการให้บริการ ค่าเฉลี่ย SD ระดับความคิดเห็น ลำดับที่ ผู้ใช้งาน Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า สามารถ ประหยัดเวลาในการเดินทางได้มากขึ้น 4.25 0.83 มาก 2 รวม 4.23 0.82 มาก


37 จากตารางที่ 18 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามปัจจัย ด้านความความมั่นใจของผู้ใช้บริการ ได้ให้ คะแนนค่าเฉลี่ยรวม 3.42 ซึ่งอยู่ในระดับที่ ปานกลาง เรียงตามลำดับด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดไป จนถึงน้อยที่สุดได้ดังนี้ 1.ความปลอดภัยระหว่างใช้งาน Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 2.พนักงานพร้อมแก้ไข ปัญหาเมื่อแจ้งปัญหาทันที และ 3.มีช่องทางการให้บริการช่วยเหลือผู้ใช้บริการที่เหมาะสม ตารางที่ 4.19 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจ ปัจจัยคุณภาพการ ให้บริการ ด้านการเข้าถึงจิตใจผู้ใช้บริการ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี ปัจจัยคุณภาพการให้บริการ ค่าเฉลี่ย SD ระดับความคิดเห็น ลำดับที่ 5.ปัจจัยด้านการเข้าถึงจิตใจผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าใช้งานขับขี่ง่าย 4.39 0.73 มาก 1 ความคุ้มค่าของราคาเมื่อเทียบกับบริการที่ ได้รับของ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 4.32 0.81 มาก 2 Promotion สำหรับการให้ใช้งาน 4.17 0.88 มาก 3 รวม 4.29 0.80 มาก จากตารางที่ 4.19 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามปัจจัย ด้านการเข้าถึงจิตใจผู้ใช้บริการ ได้ให้ คะแนนค่าเฉลี่ยรวม 4.29 ซึ่งอยู่ในระดับที่ มาก เรียงตามลำดับด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดไปจนถึงน้อย ที่สุดได้ดังนี้ 1.Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าใช้งานขับขี่ง่าย 2.ความคุ้มค่าของราคาเมื่อเทียบกับบริการที่ ได้รับของ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และ3.Promotion สำหรับการให้ใช้งาน


38 ส่วนที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจในการใช้บริการใน การเลือกใช้ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี สมมุติฐานที่ 2 : เพื่อสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ตารางที่4.20 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจความคิดเห็นเกี่ยวกับ ความพึงพอใจในการใช้บริการในการเลือกใช้ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลธัญบุรี รายการความคิดเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจ ของผู้ใช้งาน ค่าเฉลี่ย SD ระดับความคิดเห็น ลำดับที่ ท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้งาน Beamสกู๊ต เตอร์ไฟฟ้า 4.23 0.84 มาก 2 ท่านมีความพึงพอใจวิธีการใช้ Beamสกู๊ต เตอร์ไฟฟ้า 4.15 0.85 มาก 6 ท่านมีความพึงพอใจในการเดินทาง Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ที่รวดเร็วและประหยัดเวลา ขึ้น 4.22 0.79 มาก 3 ท่านมีความพึงพอใจของจำนวน Beamสกู๊ต เตอร์ไฟฟ้า ในแต่ละจุดที่จอดเพื่อรอใช้งาน 4.21 0.86 มาก 4 ท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้ Beamสกู๊ต เตอร์ไฟฟ้า ในการเดินทางไปยังสถานที่ใน มหาวิทยาลัยแทนรถไฟฟ้ามหาวิทยาลัย 4.10 0.87 มาก 7 ท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้ Beamสกู๊ต เตอร์ไฟฟ้าแทนการเดินไปยังสถานที่ต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัย 4.16 0.85 มาก 5


39 ตารางที่4.20 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความพึงพอใจความคิดเห็นเกี่ยวกับ ความพึงพอใจในการใช้บริการในการเลือกใช้ Beam สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลธัญบุรี(ต่อ) รายการความคิดเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจ ของผู้ใช้งาน ค่าเฉลี่ย SD ระดับความคิดเห็น ลำดับที่ ท่านมีความพึงพอใจต่อจุดการให้บริการ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 4.26 0.89 มาก 1 ท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้งาน Application Beam 3.89 0.94 มาก 8 รวม 4.15 0.86 มาก จากตารางที่ 4.20 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม ระดับความพึงพอใจเกี่ยวกับการบริการที่ ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยรวมในระดับ มาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.15 ทั้ง 8 ข้อโดยหากเรียงลำดับความพึงพอใจจากมากไป น้อยจะได้ดังนี้ 1) ท่านมีความพึงพอใจต่อจุดการให้บริการBeamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 2) ท่านมีความพึง พอใจต่อการใช้งาน Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 3) ท่านมีความพึงพอใจในการเดินทาง Beamสกู๊ตเตอร์ ไฟฟ้าที่รวดเร็วและประหยัดเวลาขึ้น 4) ท่านมีความพึงพอใจของจำนวน Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ในแต่ ละจุดที่จอดเพื่อรอใช้งาน 5) ท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแทนการเดินไปยัง สถานที่ต่างๆภายในมหาวิทยาลัย 6) ท่านมีความพึงพอใจวิธีการใช้ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 7) ท่านมี ความพึงพอใจต่อการใช้ Beamสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ในการเดินทางไปยังสถานที่ในมหาวิทยาลัยแทน รถไฟฟ้ามหาวิทยาลัย และ 8) ท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้งาน Application Beam


Click to View FlipBook Version