The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mthawat, 2016-01-31 22:21:27

SchoolStory_EDF

ความสำ�เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB 1

ความสำ�เรจ็ เลก็ ๆ...
เคล็ดลับเกษตร แบบ BBB

เรอ่ื งเล่าความสำ�เรจ็ ของนักเรยี น และคณุ ครู 16 โรงเรยี นเครอื ขา่ ย จัดทำ�โดย
ภายใต้โครงการเกษตรแลกเปลี่ยนเพอ่ื อาหารกลางวัน
Barter Between Brothers (BBB) มลู นธิ ิกองทุนการศกึ ษาเพื่อการพฒั นา (EDF)
สนับสนุนโดย

บรษิ ทั หลกั ทรัพย์ ยบู ีเอส (ประเทศไทย) จ�ำ กดั

2 ความสำ�เรจ็ เล็กๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB

ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB

ถอดบทเรียนจากโครงการเกษตรแลกเปล่ยี นเพ่อื อาหารกลางวัน (Barter Between Brothers: BBB)

ผอู้ ำ�นวยการโครงการ
จารุวตั น์ บุษมาลี

ออกแบบปก
ชยั ทวี โชควศิน

รูปเล่มและภาพประกอบ
ชัยทวี โชควศิน

รวบรวมและเรียบเรยี ง
สลลิ ทพิ ย์ จนั ทะยานี

จดั พมิ พแ์ ละเผยแพร่โดย
มลู นธิ กิ องทุนการศกึ ษาเพ่อื การพฒั นา (EDF)
ช้ัน 3 อาคารสมาคมศษิ ยเ์ ก่ามหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ (ส.มก.)
เลขที่ 50 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตจุ ักร กรงุ เทพฯ 10900
โทรศัพท์ 0-2579-9209-11
โทรสาร 0-2940-5266
Website: http://www.edfthai.org
E-mail: [email protected]

สารบัญ (1) เรยี งตามหมวดหมู่ ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB 3

จากใจ...ผสู้ นบั สนนุ (คณุ Jamie Woodward-UBS) สารบญั (1) (ต่อ)
จากใจ...EDF (คณุ กร้อ)
จากใจ...ผู้รู้ (อ.ธวชั ) ตอน จปิ าถะ...สารพันความร้รู อบตวั
จากใจ...ผู้เขยี น (ค�ำ ขอบคุณ) * เกบ็ (ผัก)งา่ ย...เหี่ยวยาก
ความเปน็ มา...เปน็ ไป * ผมเงาน่มุ สวยด้วยน้ำ�แชข่ า้ วเหนยี ว
กว่าจะถงึ วันน้.ี ..เราทำ�อะไรกันมาบ้าง? * ใบตองกลว้ ยช่วยใหร้ ดี ลน่ื
ครอบครวั BBB * สยี อ้ มจากเปลือกเงาะ
เร่อื งเลา่ ...หลงั โรงเรยี น * ปูนขาวยาวเิ ศษแก้ปญั หาหมาขเี้ ร้ือน
ตอน สงิ สาราสตั ว์ * แกเ้ ชือกเยบ็ กระสอบ
* ปลวกน้อยเสริมโปรตนี * หลอดเจาะถ้วยน้ำ�พลาสตกิ
* ปลาดกุ ตวั โต...โอ้โฮ! ใหญจ่ ัง * ผักเมอื งนอกฟอกอากาศ
* อุปกรณด์ กั กุ้งแบบพอเพียง * เคาน์เตอรส์ วยจากโต๊ะเรยี นเหลอื ใช้
* กล่องปรับสภาพน้ำ�
* หอยรา้ ยใหป้ ระโยชน์ บทสง่ ท้าย
* “เญาะ” เศษไมป้ อ้ งกนั ภัย
* เลยี้ งหมูแบบหมู หมู
* หมปู า่ พารวย
* อ๊บๆ กบผสมพันธนุ์ อกฤดู
ตอน พชื ...ผกั ...ผลไม้ในร้ัวโรงเรียน
* แกว้ มงั กรว้าน...หวาน
* กลว้ ยสวยดว้ ยมอื เรา
* ตอนกิง่ เพมิ่ ค่า รกั ษาพันธ์ุเดมิ
* สงู ราคา ล�ำ ไยนอกฤดู
* นอนกลางคนื ...ฟื้นตอนเช้า
* ชะอมยอดเยอะ
* ดีปลีสวยด้วยข้คี วาย
* นางฟ้าปลอดเชื้อรา
* สารพันเรอ่ื งเหด็ ...กับครวู ันชยั
* น�้ำ สม้ ควันไม้ช่วยผกั สวนครัว
* คอนแคนแดนอีสานแหง่ บ้านหลุบเลา
* การทำ�สาวต้นไม้
ตอน บ�ำ รงุ และกำ�จดั ศตั รูพืชทนั ใจ...ปลอดภัยไรส้ าร(เคม)ี
* ดนิ ดสี ีดำ�
* ปุ๋ยหมกั 24 ชวั่ โมง
* ใบไมร้ ่วงแลว้ ไปไหน?
* ปยุ๋ หมักจากใบหญา้
* ตอ่ ไปจะไมใ่ ช้...ปุ๋ยเคมี
* เห็ดหมดเชอ้ื ...แต่ยงั ไม่หมดค่า
* ปยุ๋ หมักรักษ์โลก
* มหัศจรรยส์ มุนไพรฆา่ แมลง
* เพลี้ย...เพลยี แรง
* มดคันไฟ VS มดแดงส้ม
* ฅนเอาถา่ น
ตอน กนิ ...กนิ ...กิน...และกิน
* ปลาดกุ แปลงรา่ ง...เพม่ิ มูลค่า
* ปูดอง
* ผ้าอ้อมสมุนไพร
* เหด็ 3 รส
* ขา้ วหอมมะลิ 5 สี
* ยำ�หวั ปลเี ลศิ รส
* กลว้ ยฉาบ สามรส
* เมีย่ งคำ� 3 รส
* ทอดปลาให้นา่ รับประทาน
* กะปสิ ีสวย
* ขนมจีนเส้นตรง

4 ความสำ�เรจ็ เลก็ ๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB สารบัญ (2) (ต่อ)
สารบัญ (2) เรยี งตามโรงเรยี น โรงเรยี นบา้ นค�ำ นาแซง
จากใจ...ผู้สนบั สนุน (คณุ Jamie Woodward-UBS) * เห็ดหมดเชือ้ ...แต่ยงั ไม่หมดคา่
จากใจ...EDF (คณุ กรอ้ ) * ผา้ อ้อมสมุนไพร
จากใจ...ผรู้ ู้ (อ.ธวชั ) * ย�ำ หวั ปลีเลศิ รส
จากใจ...ผเู้ ขียน (คำ�ขอบคุณ) * กลว้ ยฉาบ สามรส
ความเปน็ มา...เปน็ ไป * เมีย่ งค�ำ 3 รส
กว่าจะถงึ วนั น้.ี ..เราทำ�อะไรกนั มาบา้ ง? โรงเรียนบ้านหนองแสง
ครอบครัวBBB * ปลาดกุ ตัวโต...โอ้โฮ! ใหญ่จงั
เรอ่ื งเล่า...หลังโรงเรยี น * กลว้ ยสวยดว้ ยมอื เรา
โรงเรียนบ้านฮ่องสิมประชาสรร * ปยุ๋ หมกั รกั ษ์โลก
* ตอนก่งิ เพม่ิ คา่ รักษาพันธ์ุเดมิ * มหศั จรรยส์ มนุ ไพรฆา่ แมลง
* สูงราคา ล�ำ ไยนอกฤดู โรงเรียนบ้านห้วยแคนโนนสูง
โรงเรยี นบ้านหลบุ เลา * เคาน์เตอรส์ วยจากโต๊ะเรียนเหลอื ใช้
* หมปู า่ พารวย โรงเรียนบา้ นโสกแดง
* คอนแคนแดนอีสานแห่งบา้ นหลุบเลา * การทำ�สาวต้นไม้
โรงเรียนบา้ นห้วยยาง * ปดู อง
* หอยรา้ ยใหป้ ระโยชน์ * ปูนขาวยาวเิ ศษแก้ปัญหาหมาข้ีเรอ้ื น
* นอนกลางคืน...ฟนื้ ตอนเช้า * แก้เชอื กเยบ็ กระสอบ
* ตอ่ ไปจะไมใ่ ช้...ปุ๋ยเคมี * หลอดเจาะถว้ ยน้�ำ พลาสตกิ
โรงเรยี นบา้ นเหลา่ โพนคอ้ เหลา่ ราษฎร์ โรงเรียนชมุ ชนมิตรภาพ
* ชะอมยอดเยอะ * น�ำ้ สม้ ควันไมช้ ว่ ยผกั สวนครัว
* ดีปลสี วยดว้ ยขค้ี วาย * ฅนเอาถา่ น
* นางฟา้ ปลอดเชอื้ รา บทส่งทา้ ย
* ผักเมอื งนอกฟอกอากาศ
โรงเรยี นบา้ นโคกขามโนนสมบรู ณ์
* อบ๊ ๆ กบผสมพนั ธน์ุ อกฤดู
โรงเรยี นบา้ นสำ�โรงโคกเพชร
* ดินดสี ีด�ำ
* ใบไม้ร่วงแลว้ ไปไหน?
* ปลาดกุ แปลงร่าง...เพ่มิ มูลค่า
โรงเรียนบา้ นตลาดควาย
* กลอ่ งปรบั สภาพน�ำ้
* สารพันเร่อื งเห็ด...กับครวู ันชัย
โรงเรียนบ้านหลกั เขต
* ข้าวหอมมะลิ 5 สี
* ทอดปลาใหน้ ่ารบั ประทาน
* สียอ้ มจากเปลือกเงาะ
โรงเรียนบ้านตากแดด
* แกว้ มงั กรวา้ น...หวาน
* ปยุ๋ หมกั 24 ชวั่ โมง
* เพล้ีย...เพลียแรง
* มดคันไฟ VS มดแดงส้ม
* กะปิสสี วย
* ขนมจีนเสน้ ตรง
* เก็บ(ผัก)ง่าย...เห่ียวยาก
* ผมเงานุ่มสวยด้วยน�ำ้ แช่ขา้ วเหนยี ว
* ใบตองกล้วยช่วยให้รีดลนื่
โรงเรียนบ้านถ�้ำ แข้
* ปลวกน้อยเสรมิ โปรตนี
* อปุ กรณด์ ักกงุ้ แบบพอเพียง
* “เญาะ” เศษไมป้ ้องกนั ภยั
* เลย้ี งหมูแบบหมู หมู
โรงเรียนบ้านนาจาน
* ปยุ๋ หมกั จากใบหญ้า
* เห็ด 3 รส

ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB 5

6 ความส�ำ เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB จากใจ...EDF

จากใจ...ผสู้ นับสนนุ (คุณJamie Woodward- ผมได้เหน็ พัฒนาการอยา่ งตอ่ เนื่องของโครงการเกษตรแลก
UBS) เปล่ียนเพ่ืออาหารกลางวนั (BBB) มาตลอดเวลา 5 ปี
ทกุ คร้ังท่ไี ดม้ ีโอกาสพบกบั โรงเรยี น นอกเหนือจากท่ีผม
ได้เหน็ โครงการท่ีโรงเรยี นท�ำ ประสบความสำ�เร็จแล้ว มากไป
กว่านั้นผมรสู้ กึ ไดถ้ ึงความรักใคร่ และความผูกพัน ระหวา่ ง
โรงเรยี นเครือข่ายทั้ง 16 โรงเรยี นทม่ี ใี หแ้ กก่ นั อย่าง
แนน่ แฟน้ โดยโรงเรยี นได้ท�ำ โครงการร่วมกันคอยช่วยเหลอื
สนบั สนนุ กันแบบ “โรงเรียนพโ่ี รงเรยี นน้อง” ทำ�ใหผ้ มรสู้ กึ
ประทับใจกับมติ รภาพทเี่ กดิ ขึ้นระหว่างโรงเรียน

มีอยู่คร้ังหนึง่ ผมไดม้ โี อกาสไปรว่ มกจิ กรรมอาสาสมัคร
บ�ำ เพ็ญ (UBS Volunteering Trip) ทีโ่ รงเรียนบา้ นตลาด
ควาย จงั หวัดบุรรี ัมย์ ก่อนทจี่ ะเข้าโรงเรียนผมเหน็ ทัง้
คณุ ครู เด็กนกั เรียน และแมก้ ระทั่งชาวบ้าน ยนื เฝ้ารอกัน
เตม็ สองขา้ งถนนเขา้ โรงเรยี น ใบหน้าของทกุ คนเต็มไปดว้ ย
ความตืน่ เต้นดใี จท่จี ะไดร้ ว่ มทำ�กิจกรรมกบั อาสาสมคั ร รอย
ยม้ิ ดว้ ยความชนื่ ชมทมี่ อบใหก้ บั อาสาสมัคร ท�ำ ใหอ้ าสา
สมคั รท�ำ งานอยา่ งเตม็ ทเ่ี ต็มไปด้วยความสขุ ที่ไดเ้ ปน็ ผู้ให้ แม้
เหนด็ เหน่อื ยจากการทำ�งานถอื จอบเสยี มขุดพรวนดินกลาง
แดดรอ้ นๆ จนเหงอื่ ชุ่ม กย็ งั ยิ้มหัวเราะด้วยความสนุกสนาน
เวลาน้ัน ผมได้สัมผัสถึงความอิม่ ใจ ที่เกดิ จากการทเ่ี ราได้
แบง่ ปัน

ถา้ มีโอกาสผมอยากใหท้ กุ ๆ คนไดล้ องทำ�เพอื่ คนอื่น ไม่
จำ�เปน็ ตอ้ งมเี งนิ ทองมากมาย หรอื ให้สง่ิ ของราคาแพงๆ แค่
คณุ ได้แบง่ ปนั ความรูส้ กึ ดๆี ให้แกก่ ันบ้าง แล้วคณุ จะได้รู้
วา่ ความอิ่มใจ ที่ผมพูดถึงนั้นท�ำ ใหเ้ รามคี วามสุขจากการท่ี
เราไดแ้ บ่งปัน

สรรเพชร นลิ รัตน์
กรรมการผู้อ�ำ นวยการ
มลู นิธิกองทุนการศึกษาเพือ่ การพฒั นา (EDF)

จากใจ...ผูร้ ู้ (อ.ธวัช) ความส�ำ เรจ็ เล็กๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB 7

จากใจ...ผู้เขยี น

จากการที่ EDF และ UBS ได้รว่ มกนั สนับสนนุ ใหโ้ รง
เรียนในภาคอสี าน ดำ�เนินโครงการเกษตรแลกเปลี่ยนเพ่ือา
หารกลางวัน ตั้งแต่ปพี .ศ. 2548 จนถงึ ปจั จบุ นั ตลอด
ระยะเวลา 5 ปนี ัน้ โรงเรยี นตา่ งๆ ไดค้ ้นพบความร้ปู ฏิบัติ
ระหวา่ งการดำ�เนนิ โครงการอยมู่ ากมายอันเปน็ ประโยชนต์ อ่
การเรียนรู้และเผยแพร่ เราจึงไดร้ วบรวมเอาเทคนิคและเคล็ด
ลบั ต่างๆ นน้ั มาไวใ้ นหนงั สือเลม่ นี้ เพ่ือแบง่ ปนั ให้กบั ผสู้ นใจ
หรอื ทา่ นที่กำ�ลงั คิดจะทำ�โครงการพฒั นาต่างๆ ในหน่วยงาน
หรอื ชุมชนของทา่ น

ขอขอบคณุ บริษัทหลกั ทรัพย์ ยบู ีเอส (ประเทศไทย)
จ�ำ กัด ทีส่ นบั สนนุ งบประมาณในการดำ�เนินโครงการเกษตร
แลกเปลี่ยนเพือ่ อาหารกลางวันและหยบิ ยืน่ โอกาสใหแ้ ก่เด็ก
ด้อยโอกาสในพ้นื ท่ีชนบทห่างไกล ดว้ ยความหวงั ทอ่ี ยาก
ใหเ้ ดก็ เหล่านน้ั มโี อกาสไดเ้ รยี นรปู้ ระสบการณ์จากการทำ�
โครงการ เปน็ แนวทางการประกอบอาชีพในอนาคต โดยไม่
ละท้งิ ถน่ิ ฐานบา้ นเกดิ ของตน จากความจรงิ ใจของพวกเขา
ที่มอบให้เดก็ ๆ ช่างเปน็ เหมอื นน้ำ�หยดเลก็ ๆ ท่ีชโลมหวั ใจที่
เหนื่อยล้าของคนหลายๆ คน ใหม้ กี �ำ ลงั ใจลุกข้นึ สูอ้ ย่างไม่
ย่อท้อต่อความยากล�ำ บาก จึงทำ�ให้เกิดเป็นเรื่องเล่าดๆี ท่ีจะ
แบ่งปนั และเผยแพรห่ ลายไปในวงกวา้ ง

เรอ่ื งเล่าดีๆ ท่ีเกิดขึน้ เปน็ เร่ืองเล่าทเ่ี กดิ จากโรงเรยี นเครอื ข่าย
16 โรงเรยี น ท้ังผ้อู �ำ นวยการโรงเรยี น คณะครูและนกั เรียน
ตลอดจนชุมชนท่ีอย่รู อบๆ โรงเรยี น ท่มี คี วามตง้ั ใจจริง
มุ่งมน่ั เสยี สละ ท่มุ เทแรงกายแรงใจในการด�ำ เนินโครงการ
ตลอดมา รวมถงึ ส�ำ นักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาในแตล่ ะจังหวดั
ที่ชว่ ยดูแลโรงเรียน และเป็นท่ีปรกึ ษาให้กบั พวกเรา ท�ำ ให้
โครงการเกษตรแลกเปลย่ี นเพ่ืออาหารกลางวัน (BBB)
ของเราประสบความสำ�เร็จเป็นอย่างดี

หวังวา่ เราคงมีโอกาสไดท้ �ำ สิ่งดีๆ เช่นนรี้ ่วมกันต่อไป

คณะผจู้ ัดท�ำ

8 ความส�ำ เรจ็ เล็กๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB

ความเป็นมา...เป็นไป ความส�ำ เร็จเล็กๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB 9

โครงการเกษตรแลกเปล่ยี นเพอื่ อาหารกลางวนั (Barter Between Brothers) หรอื BBB ได้เริ่ม
ตน้ ขึ้นในปี พ.ศ. 2549 โดยการสนับสนุนจากบริษัทหลักทรพั ย์ ยูบีเอส (ประเทศไทย) จ�ำ กัด รว่ ม
กบั มูลนธิ กิ องทนุ การศกึ ษาเพือ่ การพฒั นา (EDF) โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือสนบั สนุนให้นักเรยี นได้รับ
ประทานอาหารกลางวันทีม่ ีคณุ ภาพ ใหก้ ารสนับสนุนงบประมาณให้โรงเรียนด�ำ เนินโครงการเกษตรครบ
วงจร แทนการสนบั สนนุ งบประมาณทโ่ี ครงการอาหารกลางวนั โดยตรง จากการด�ำ เนนิ โครงการเกษตร
ครบวงจร ท�ำ ใหโ้ รงเรยี นสามารถผลติ วตั ถุดิบในการประกอบอาหารกลางวันทมี่ ีคณุ ภาพไดด้ ้วยตนเอง
มีตน้ ทุนตำ�่ และหมุนเวียนใชไ้ ด้อย่างยง่ั ยืน นอกจากนั้น นักเรยี นยังไดค้ วามรนู้ อกห้องเรียนผา่ นการ
มสี ่วนร่วมในโครงการ ท้ังในด้านของทกั ษะการท�ำ การเกษตร และทกั ษะการบรหิ ารจดั การ เช่น การท�ำ
บญั ชี การวางแผนการปลูกพืชผัก เป็นต้น

BBB ใชห้ ลักการด�ำ เนนิ โครงการแบบ “โรงเรยี นพี่โรงเรียนนอ้ ง” สรา้ งกลุ่มเครือข่ายโรงเรียนใน
โครงการ สนบั สนนุ ให้มีการสรา้ งความรูจ้ ัก แลกเปล่ยี นเรียนรู้ซ่ึงกนั และกนั ทัง้ ในดา้ นของผลผลติ
การเกษตร รวมไปถงึ ด้านความรู้ เทคนคิ เคลด็ ลบั ในการเกษตร และระบบการบรหิ ารจัดการโครงการ
ภายในโรงเรียน

จากเวลาร่วม 5 ปีที่โครงการได้ดำ�เนินการมาน้ัน BBB นบั เป็นโครงการดา้ นการพฒั นาการศึกษาอกี
โครงการหนง่ึ ทถ่ี อื ได้ว่าเปน็ ตวั อยา่ งของโครงการทป่ี ระสบความสำ�เรจ็ และมีความย่ังยืน ไมเ่ พยี งเป็น
แหลง่ เรยี นรู้ใหก้ บั นกั เรียน แต่สรา้ งให้เกิดทักษะ ความรู้ และเทคนคิ ในการดำ�เนินโครงการทั้งทางตรง และ
ทางอ้อมตา่ งๆ มากมาย ล้วนเป็นประสบการณ์ท่ีเกิดขึน้ จากการลงมือปฏิบัติ ซง่ึ เปน็ ทีน่ ่าเสยี ดาย หาก
จะปลอ่ ยใหร้ ูปแบบการดำ�เนนิ โครงการและความรเู้ หล่านต้ี ้องจ�ำ กดั อยู่เพยี งโรงเรยี นใดโรงเรียนหนึ่ง หรอื
สูญหายไปตามกาลเวลา ไม่ไดร้ ับการเผยแพร่ออกไปสูว่ งกวา้ งให้เปน็ โยชนม์ ากข้ึน

หนังสือเลม่ นี้ จงึ เป็นเสมอื นตัวแทนทจี่ ะรวบรวมเร่อื งราวต่างๆ ของ BBB ไม่ว่าจะเป็นเทคนคิ เคลด็
ลับ เกร็ดความร้ตู า่ งๆ ทค่ี ้นพบ และใชฝ้ า่ ฝนั อุปสรรคปญั หา ปรบั ปรงุ และพัฒนาโครงการจนประสบ
ความสำ�เร็จอย่างเช่นทุกวันนี้ โดยร้อยเรียงผ่านเรื่องเล่าความส�ำ เรจ็ เลก็ ๆ ของนกั เรยี นและคุณครู จาก
16 โรงเรยี นเครือขา่ ย ผูจ้ ดั ท�ำ หวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ หนงั สือเลม่ นจี้ ะเปน็ แรงบนั ดาลใจให้กับโรงเรยี น และ
ผ้สู นใจทีจ่ ะร่วมพฒั นาการศึกษาของประเทศไทยของเราต่อไปในอนาคต

10 ความสำ�เรจ็ เล็กๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB

กว่าจะถงึ วนั นี.้ ..เราทำ�อะไรกันมาบา้ ง?

ชอื่ โครงการ
โครงการเกษตรแลกเปล่ียนเพื่ออาหารกลางวัน (Barter Between Brothers: BBB)

สนับสนนุ โดย
บรษิ ทั หลกั ทรัพย์ ยบู เี อส (ประเทศไทย) จ�ำ กัด
UBS Securities (Thailand) Limited

ประสานงานโดย
มูลนิธกิ องทนุ การศกึ ษาเพ่อื การพฒั นา
The Education for Development Foundation (EDF)

ระยะเวลาในการดำ�เนินโครงการ
พฤศจกิ ายน 2549 – ปจั จุบัน

กจิ กรรมของโครงการ
1. โครงการเกษตรเพอ่ื อาหารกลางวัน
สนบั สนุนใหโ้ รงเรียนดำ�เนินโครงการเกษตรครบ
วงจร เพอ่ื น�ำ ผลผลติ มาสนับสนนุ โครงการ
อาหารกลางวัน โดยเน้นใหโ้ รงเรียนบรหิ ารจัดการ
โครงการแบบองคร์ วม มกี ารหมุนเวียนผลผลติ
และรายได้ สามารถด�ำ เนนิ โครงการไดอ้ ย่างตอ่ เนอื่ ง
ยั่งยืนในอนาคตได้ด้วยตนเอง และแม้ไม่ไดร้ ับการ
สนับสนนุ ทุนด�ำ เนนิ การจากองค์กรภายนอก
2. สัมมนา BBB
สร้างโอกาสให้โรงเรยี นในโครงการได้พบปะ แลก
เปลยี่ นความรู้ ทักษะตา่ งๆ จากการด�ำ เนิน
โครงการ รวมถึงการสรา้ งเครือขา่ ย และความ
สัมพันธร์ ะหว่างโรงเรยี นให้แนน่ แฟน้ ยิง่ ข้ึน

3. BBB Online Community ความสำ�เร็จเลก็ ๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB 11
สรา้ งเวบ็ ไซต์ของโครงการ www.BBBthai.
org ขึ้น เพื่อเพิม่ ช่องทางในการแลกเปลย่ี น เผย 7. อบรมการถอดบทเรยี น (Best Practice
แพร่ ขอ้ มลู ต่างๆ ของโครงการระหว่างโรงเรยี น Training)
ในโครงการ และเปดิ โอกาสให้บคุ คลอ่ืนๆ ทีส่ นใจ ฝึกทกั ษะการถอดองคค์ วามรทู้ ่เี กิดจากการปฏิบตั ิ
สามารถเข้ามีส่วนรว่ มในการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ และประสบการณ์ ในรปู แบบของการเขียนเลา่ เร่อื ง
4. ห้องสมดุ ราว เพือ่ จดั พิมพ์เป็นหนังสอื ทร่ี วบรวมความรู้
พัฒนาแหลง่ เรียนรขู้ องโรงเรียนให้มคี ุณภาพยง่ิ ขนึ้ ปฏิบตั ิจากโรงเรยี นต่างๆ เอาไว้ เหมาะส�ำ หรับการ
ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1) ปรับปรุงสภาพ ศกึ ษาคน้ ควา้ ไดใ้ นอนาคต
ห้องสมดุ ซอ่ มแซมและปรับปรุงหอ้ งสมดุ ใหน้ ่าใช้ 8. งานแสดงผลติ ภัณฑ์ (Product Exhibition)
บรกิ าร 2) ซ้ือหนังสอื ที่มปี ระโยชน์ เหมาะสมกับ เปดิ โอกาสให้โรงเรยี นในโครงการได้แสดงผลงาน
ช่วงวยั เขา้ ห้องสมุดเพมิ่ เตมิ และ 3) กิจกรรมรกั ของโรงเรียน เช่น ผลผลติ จากโครงการเกษตร
การอา่ น กระตุน้ ใหน้ ักเรียนใช้ห้องสมดุ และปลูกฝัง ผลติ ภณั ฑ์ของโรงเรียน เป็นต้น สง่ เสรมิ ให้เห็น
นสิ ัยรกั การอ่านให้เกดิ ขนึ้ ผา่ นการจัดกิจกรรมใน ความสำ�คญั และสร้างแรงบันดาลใจใหก้ ับนักเรียน
รปู แบบต่างๆ เป็นประจ�ำ ทุกเดือน คณะครู โรงเรยี น รวมถึงผู้ที่สนใจ
5. อบรมคอมพวิ เตอร์ 9. กิจกรรมโรงเรียนธนาคาร (School Bank)
เพิม่ ศักยภาพด้านคอมพิวเตอรท์ ี่มปี ระโยชนต์ อ่ จัดตง้ั โรงเรียนธนาคาร และปลูกฝังนิสัยรักการ
การเรยี นการสอนให้แกค่ รู เพื่อใหส้ ามารถนำ�ไป ออม โดยกิจกรรมนไ้ี ด้รับการสนับสนุนความ
พฒั นาการเรียนการสอนให้กับนักเรียนตอ่ ไป ร้ดู ้านการเงนิ และการธนาคารจากธนาคารเพอ่ื
6. อบรมการจดั การความรู้ (Knowledge การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ใน
Management Training) การจดั ต้งั โรงเรยี นธนาคาร การวางระบบการจัด
เรยี นรูท้ ักษะ และกระบวนการของการจัดการความรู้ กิจกรรม การอบรมคณะครูและนกั เรยี นในการ
(Knowledge Management: KM) ซ่ึงเป็นทักษะ ดำ�เนินกิจกรรมโรงเรียนธนาคาร รวมถึงอบรม
ท่จี ะเอ้ือให้เกิดการพัฒนาคน พฒั นาองคก์ รให้เป็น การท�ำ บญั ชคี รัวเรอื นอีกด้วย
องคก์ รแห่งการเรียนรโู้ ดยสมบรู ณ์แบบ

12 ความสำ�เร็จเลก็ ๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB

รปู แบบการพฒั นาอยา่ ง BBB (2549-2553)

ความส�ำ เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB 13

ครอบครัว BBB (2549-2553)

1. โรงเรียนบา้ นฮอ่ งสิมประชาสรร
ตำ�บลหลุบเลา อำ�เภอภูพาน จังหวัดสกลนคร โทร. 042-703373
2. โรงเรียนบา้ นหลบุ เลา
ตำ�บลหลบุ เลา อ�ำ เภอภพู าน จงั หวดั สกลนคร โทร. 042-720070
3. โรงเรียนบา้ นห้วยยาง
ต�ำ บลเหล่าโพนคอ้ อ�ำ เภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร โทร. 042-720072
4. โรงเรียนบ้านเหล่าโพนคอ้ เหล่าราษฎรว์ ทิ ยา
ต�ำ บลเหลา่ โพนค้อ อ�ำ เภอโคกศรีสุพรรณ จงั หวัดสกลนคร โทร. 042-701557
5. โรงเรียนบ้านโคกขามโนนสมบรู ณ์
ตำ�บลเมอื งยาง อ�ำ เภอชำ�นิ จังหวดั บรุ รี มั ย์ โทร. 044-630017
6. โรงเรียนบา้ นสำ�โรงโคกเพชร
ตำ�บลช่อผกา อ�ำ เภอช�ำ นิ จังหวัดบรุ ีรมั ย์ โทร. 044-630212
7. โรงเรียนบ้านตลาดควาย
ต�ำ บลสะแกซำ� อำ�เภอเมือง จังหวัดบุรรี ัมย์ โทร. 044-618635
8. โรงเรียนบ้านหลกั เขต
ตำ�บลหลกั เขต อ�ำ เภอเมือง จงั หวดั บุรีรมั ย์ โทร. 044-781918
9. โรงเรียนบ้านตากแดด
ตำ�บลตากแดด อ�ำ เภอตระการพืชผล จงั หวดั อบุ ลราชธานี โทร. 045-862612
10. โรงเรียนบา้ นถำ้�แข้
ต�ำ บลถ�้ำ แข้ อ�ำ เภอตระการพชื ผล จังหวัดอุบลราชธานี โทร. 045-862206
11. โรงเรียนบา้ นนาจาน
ต�ำ บลนาเยยี อ�ำ เภอนาเยยี จังหวัดอบุ ลราชธานี โทร. 045-405895
12. โรงเรยี นบ้านค�ำ นาแซง
ต�ำ บลกดุ ประทาย อ�ำ เภอเดชอุดม จงั หวดั อุบลราชธานี โทร. 045-370123
13. โรงเรียนบ้านหนองแสง (หนองแสงราษฎรว์ ิทยา)
ตำ�บลห้วยเตย อำ�เภอกดุ รัง จงั หวัดมหาสารคาม โทร. 043-737449
14. โรงเรยี นบา้ นห้วยแคนโนนสงู
ต�ำ บลแวง อำ�เภอกดุ รัง จงั หวดั มหาสารคาม โทร. 043-724185
15. โรงเรยี นบา้ นโสกแดง
ต�ำ บลโนนภิบาล อำ�เภอแกดำ� จงั หวดั มหาสารคาม โทร.043-768755
16. โรงเรียนชมุ ชนมิตรภาพ
ต�ำ บลมติ รภาพ อำ�เภอแกดำ� จังหวัดมหาสารคาม โทร. -

14 ความส�ำ เรจ็ เล็กๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB

ความส�ำ เร็จเลก็ ๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB 15

ปลวกน้อยเสริมโปรตนี

หนึ่งในโครงการของโรงเรยี นผมคอื การเลยี้ งปลา ในการเล้ยี งปลาโรงเรยี นพบปญั หา คอื ตอ้ งใช้เงนิ ใน
การซอ้ื อาหารปลา ซึง่ มรี าคาสงู มาก ส่วนอีกปัญหาเปน็ ปัญหาด้ังเดมิ ของโรงเรียนเรา คอื มปี ลวกเข้ามา
อาศัยอยู่ในโรงเรยี นเป็นจำ�นวนมาก โดยเฉพาะบริเวณรอบๆ หอ้ งสมุด สรา้ งความเสียหายให้กับโรงเรยี น
คณุ ครแู ละพวกผมพยายามคดิ หาทางออกของปญั หาท้ังสองทาง จนในที่สุดเรากไ็ ดพ้ บทางออกของทั้ง
สองปัญหา แบบ “ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว” ดว้ ยการน�ำ เอาปลวกมาให้ปลากนิ แทนอาหารปลา ซงึ่
ช่วยใหโ้ รงเรยี นประหยดั เงนิ ซอื้ อาหารปลาไม่น้อย ซำ�้ ยังไดก้ �ำ จดั ปลวกในโรงเรียนได้ในทเี ดยี วกนั ส่วนวิธี
การเกบ็ เอาปลวกมาให้ปลา มขี ั้นตอนดงั นค้ี รับ

1. หาจอมปลวก โดยสังเกตจอมปลวกที่มีลกั ษณะ
เป็นสีดำ�หรอื สีน้ำ�ตาลแดง ซง่ึ จะมปี ลวกอาศยั อยู่
ด้านในเปน็ จำ�นวนมาก
2. จากนน้ั ใช้จอบขดุ รอบจอมปลวก แล้วงดั
จอมปลวกขึ้นมา เกบ็ จอมปลวกใส่ถัง
3. ทบุ ดนิ จอมปลวกใหแ้ ตก จะเหน็ ตวั ปลวก
4. แล้วเก็บตวั ปลวกไปเพื่อเปน็ อาหารให้ปลากิน

เนอ่ื งจากปลวกเป็นสัตว์ทีม่ ีโปรตนี สงู อย่างหน่ึง เมอ่ื ปลากินแลว้ จะท�ำ ให้ปลาเจริญเตบิ โตไดด้ กี ว่าอาหาร
ปลาที่มรี าคาสงู ซะอีกครบั และนก่ี ็เป็นวิธกี ารประหยดั และพิชติ ปลวกของโรงเรยี นผมครับ

เล่าเรื่องโดย ด.ช.พิริยะ จนั ทรมานิต นกั เรียนโรงเรียนบ้านถ้ำ�แข้

16 ความสำ�เร็จเลก็ ๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB

ปลาดกุ ตัวโต...โอโ้ ฮ! ใหญจ่ งั

หนง่ึ ในโครงการของเราก็คอื โครงการเลย้ี งปลาดุกในบอ่ ซีเมนต์ การเล้ยี งปลาดกุ ของพวกเราประสบ
ผลสำ�เรจ็ เปน็ อยา่ งมาก สามารถน�ำ ไปประกอบอาหารใหแ้ กน่ ้องๆ ในโรงเรียนของเราได้ นำ�ไปขายในหม่บู า้ น
หรือตามทอ้ งตลาดไดอ้ กี ด้วย พวกเราขอเอาเคลด็ ลบั การเลยี้ งปลาดกุ ของโรงเรียนเรามาเล่าสู่กันฟงั
ปัญหาทีเ่ ราพบตอนแรกในการเลยี้ งปลาดุก คอื ปลาดุกตายเนอื่ งจากเรายังไม่เข้าใจและได้เรียนรอู้ ยา่ ง
แท้จรงิ ในการเลย้ี งปลาดุก เราจึงคน้ ควา้ และหาวิธแี กไ้ ขปญั หา จนไดร้ ู้วา่ การให้อาหารสำ�คัญทส่ี ุด ที่
โรงเรยี นเรามอี าหารปลาดกุ อยหู่ ลายสตู ร วันนจี้ ะเลา่ ถึงสตู รมงั สวิรัติ สว่ นประกอบมีดังนี้

สตู รอาหารปลาดุก มังสวริ ตั ิ
1. น้�ำ ตาลทรายแดง 3 กิโลกรมั
2. ฟกั ทองแก่ 3 กโิ ลกรมั
3. มะละกอสกุ 3 กิโลกรมั

4. กลว้ ยน้ำ�วา้ สกุ 3 กโิ ลกรมั

วิธที �ำ
นำ�ส่วนผสมทุกอย่างสบั ให้ละเอยี ด คลกุ เคลา้ ให้เข้ากนั และนำ�ไปให้ปลาไดเ้ ลย ส�ำ หรับปรมิ าณการใหอ้ าหาร
นน้ั ช่วงลกู ปลา ใหอ้ าหารนอ้ ยแตบ่ ่อย ประมาณ 1 แกว้ ช่วงปลาดุกรุ่น เพ่ิมปรมิ าณเป็น 2 แก้ว
ชว่ งปลาโตเตม็ วยั ใหอ้ าหารปลาดกุ วนั ละ 1 ครง้ั ๆ ละ 2–3 แก้ว หลังจากเราลองใชส้ ตู รนี้ ปรากฏ
วา่ ปลาดุกของเราตายนอ้ ยลงและตัวโตมากขึน้ อกี อยา่ งการนำ�เอาฝักตบชวาใสไ่ วใ้ นบ่อกช็ ่วยไดน้ ะคะ
สามารถให้รม่ เงาแกป่ ลาดุกไดอ้ กี ด้วย ท�ำ ให้การเลีย้ งปลาดุกของเราประสบผลสำ�เรจ็ เปน็ อยา่ งมาก เรา
สังเกตว่า ปลาจะไดก้ ินอาหารทุกตวั ทอ้ งไมอ่ ดื ไมป่ ่วย แลว้ ก็เจริญเตบิ โตใกล้เคยี งกนั เวลาเอาปลา
ไปทำ�อาหารปลาก็ไมม่ ีกลน่ิ สาบ ไมม่ มี นั ในท้อง เนอ้ื หวานรสชาติอร่อย ตน้ ทุนอาหารก็ตำ�่ ก.ก.ละ
19– 20 บาท นอกจากสูตรน้ี จะใช้เปน็ อาหารปลาดกุ แลว้ ยังสามารถไปใช้เป็นฮอร์โมนพืช เร่งดอก
เรง่ ผล รสชาตหิ วานอรอ่ ยได้อีกด้วย สว่ นน้ำ�ทถ่ี ่ายท้ิงจากบ่อปลาสามารถน�ำ มารดนำ้�ตน้ ไม้พืชผกั สวน
ครัวเป็นปุ๋ยอย่างดี โรงเรยี นเราจึงท�ำ เชน่ น้มี าโดยตลอดแล้วก็พบวา่ ประสบผลสำ�เร็จจริงๆ ถ้าผู้ใดสนใจก็
สามารถน�ำ ไปใชไ้ ดน้ ะค่ะ

“ก่อนจบ มเี คล็ดลบั การเตรยี มปลาดกุ ให้เปน็ ท่ีต้องการของตลาดก่อนจบั จ�ำ หนา่ ยแถมให้อีกนดิ หนึ่งคอื
กอ่ นจ�ำ หน่าย 2 วนั ให้น�ำ ดินลูกรังสีแดงหรือซังขา้ วมาแช่ไวใ้ นบอ่ จะท�ำ ใหป้ ลาดกุ มสี เี หลืองสวย
ขายไดร้ าคาดี ปลาดกุ จะมนี �้ำ หนกั ประมาณ 4–5 ตวั /ก.ก. จำ�หนา่ ยไดก้ .ก.ละ 60–70 บาท”

เล่าเรอ่ื งโดย ด.ญ.จนั จริ า แสนสรุ นิ ทร์ และด.ช.นนทกร ชคู ันหอม
นักเรยี นโรงเรียนบ้านหนองแสง

ความสำ�เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB 17

อปุ กรณ์ดักกุ้งแบบพอเพียง

ผมร่วมโครงการ BBB รบั ผิดชอบกิจกรรมเลย้ี งปลาในบ่อแบบธรรมชาติและกระชงั ซงึ่ ในบอ่ นั้นมปี ลา
มากมายหลายชนิด ในกระชงั ของเราเล้ยี งปลาเลก็ ปลานอ้ ย ถา้ ปลาตัวใหญเ่ ราจะปลอ่ ยลงในบ่อธรรมชาติ
ในบอ่ ของเราจะมสี ัตว์น�ำ้ อ่ืนๆ เชน่ กงุ้ หอย ปู ปลา โดยเฉพาะกุ้งซง่ึ มีอยูต่ ามบอ่ แบบธรรมชาติ วิธกี าร
ดักกุ้งเป็นโจทยท์ ีผ่ มคิดอยูต่ ลอดเวลา

ตอนแรก ผมใช้ “สวิง” แตไ่ มส่ �ำ เรจ็ คร้ังทีส่ องยง่ิ หนกั กวา่ สวงิ อกี ผมใช้ “อวน” แต่ละครั้งท่ีลากขน้ึ
มา จะมีปลาเลก็ ปลาน้อยตดิ ข้นึ มาดว้ ยทกุ ครัง้ จึงเป็นปญั หาเพราะรบกวนปลา เย็นวนั หนึ่งผมก�ำ ลังจะไป
ให้อาหารปลาแต่เผอิญอาหารปลาหมด จงึ เดนิ ไปทค่ี อกหมูเหน็ ร�ำ เหลอื ในกระสอบ ผมก็ตัดสินใจเอาร�ำ ท่ี
พอมอี ย่นู �ำ มาให้ปลากนิ แทน ตอนที่ให้รำ�ปลาอย่นู ้ันเองผมเห็นกุง้ มากินร�ำ ด้วยกับปลา จึงรู้วา่ กงุ้ ชอบกนิ
ร�ำ แต่กย็ งั ตดิ ท่ีว่า เราจะจบั กุ้งได้ดว้ ยวธิ ไี หน? เช้าวนั หนง่ึ ผมได้รับผิดชอบท�ำ เวรเกบ็ ขยะแถวขอบสระ
พบขวดใบหน่งึ ที่มรี ูน�้ำ ออก พอก้มดเู ห็นมันมกี ุ้งติดอยขู่ ้างในขวดด้วย ผมคดิ วา่ ก้งุ ท่ีเขา้ มาอยใู่ นขวด
เพราะคิดวา่ เปน็ ทอี่ ยู่อาศัยของพวกมนั ผมกเ็ ลยมีความคดิ ในการท�ำ “อุปกรณ์ดักกุ้ง” เกิดขึน้
ผมเบกิ ขวดนำ้�อัดลมทเ่ี ราสะสมไวใ้ นธนาคารขยะมาจำ�นวนหน่ึง และได้น�ำ รำ�ท่พี อเหลือมาจากคอกหมูมาใส่ใน
ขวดทกุ ขวด แตก่ อ่ นอนื่ ต้องทำ�อุปกรณ์ดักกุ้งกอ่ น ดังน้ี

1. น�ำ ขวดมาตดั ดา้ นบนแบบคร่ึงท่อน
2. พอตัดแลว้ กลบั ด้านปากขวดควำ่�ใส่ส่วนกน้
ขวด
3. เจาะรรู อบขวดใหน้ ้ำ�พอไหลเขา้ ออกได้
4. แล้วเจาะรสู ำ�หรับที่เสียบไม้ แต่ไม่ตอ้ งเจาะรู
กน้ ขวดเพราะจะท�ำ ใหร้ �ำ ไหลออก
5. จากนั้นกป็ กั ลงรอบสระ โดยเสยี บเอาด้านท่ี
กลบั ลงหันหนา้ ไปทางนำ้�

รอใหถ้ ึงเช้ากอ่ นค่อยมาดูผลการทดลองกนั เม่ือถงึ ยามเชา้ ทุกคนคดิ ว่า
เปน็ อยา่ งไร ปรากฏว่า มีกงุ้ ตดิ อย่จู �ำ นวนมากในขวดทุกขวด การทดลองคร้งั นี้
ของผมเปน็ ผลส�ำ เร็จครบั ส่วนกงุ้ ท่ไี ด้มาก็จะน�ำ ไปจำ�หนา่ ยในชุมชน ได้เงนิ ไม่นอ้ ยเลย
เงนิ ทไ่ี ด้มาก็น�ำ ไปซื้อรำ�ไว้ให้พวกหมูและเก็บไวใ้ ห้ทางโรงเรยี น ส่วนความรู้จะนำ�ไป
ปรับปรงุ ในส่วนท่ียงั บกพร่องอยู่ หรอื คดิ ค้นหาวิธกี ารใหม่ๆ ต่อไป

“...เพียงแคเ่ รารูจ้ กั สงั เกตและศึกษาในเรือ่ งท่ีเหน็ กจ็ ะเป็นประโยชน์ส�ำ หรบั เราต่อไปครับ”
เล่าเรอ่ื งโดย ด.ช.นพพล ทุนมาก นกั เรยี นโรงเรียนบา้ นถ�้ำ แข้

18 ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB

กล่องปรับสภาพน้�ำ

บ่อปลาของโรงเรยี นเราเปน็ บอ่ ธรรมชาติ ขนาด 10 X 20 เมตร จ�ำ นวน 4 บ่อ เมือ่ กอ่ นน้ีบ่อน�ำ้
ทง้ั 4 บ่อสภาพน้ำ�มีความเป็นกรดเป็นด่างสูง น้ำ�ข่นุ แดง ไมส่ ามารถเล้ยี งปลาได้เลย เพราะไมม่ ีพืชนำ้�หรือ
อาหารปลาตามธรรมชาติ ครชู �ำ นาญการพิเศษ นายก�ำ ธร ลกั ษร เป็นผู้บกุ เบกิ ปรับสภาพน�ำ้ บ่อปลาของ
โรงเรียนด้วยภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น ใช้วัสดอุ ปุ กรณ์ทมี่ ใี นท้องถน่ิ ได้แก่ มลู วัวมลู ควาย และฟาง และไม้ไผ่
มาประยกุ ตท์ ำ�กล่องปรบั สภาพน�ำ้ ซึ่งจากการทดลองท�ำ ในครง้ั แรก 1 บอ่ กไ็ ด้ผลเปน็ อย่างดี ดฉิ นั จงึ
ไดน้ �ำ มาสานต่อการปรับสภาพน�ำ้ ในอีก 3 บ่อทเ่ี หลือ

ก่อนอ่นื ต้องเตรียมอุปกรณ์ท�ำ กล่องก่อนค่ะ เป็นไม้ไผ่แห้ง ขนาดยาว 1.50 เมตร จำ�นวน 6 ทอ่ น
และ เชอื กฟาง หรอื ลวดสำ�หรบั มัดยึด วธิ ที ำ�กลอ่ งปรบั สภาพนำ้�
1. ผา่ ซีกไม้ไผ่ ใหไ้ ด้ทอ่ นละ 8 อัน
2. ขึ้นโครงโดยท�ำ เปน็ เสา 8 อัน
3. นำ�ไม้ไผ่มามดั ด้านข้างเปน็ คอกดา้ นละ 6 อนั
4. ส่วนดา้ นบน-ล่าง ใช้ไม้ท่เี หลือฝง่ั ละ 8 อัน
(ดูภาพตวั อย่างประกอบนะคะ)

เมื่อได้กลอ่ งปรับสภาพน�้ำ แลว้ ให้นำ�ฟางแห้งมารองพน้ื หนาประมาณ 20–30 เซนติเมตร (อยา่ ลมื ตอ้ ง
อดั ให้แนน่ ดว้ ย) จากนั้น นำ�มลู ววั มูลควายมาใสต่ อ่ จากฟาง หนาประมาณ 5–10 เซนตเิ มตร เสรจ็ แลว้
นำ�ฟางมาใสส่ ลับกับมลู ววั มลู ควายเช่นน้ีไปเรือ่ ยๆ จนเตม็ คอก ปดิ ดว้ ยฝาไมไ้ ผ่ที่เตรยี มไว้มดั ให้แนน่ น�ำ
กล่องปรบั สภาพน�ำ้ ไปแชใ่ นมุมของบอ่ เลี้ยงปลาท้งั 4 มุม ถ้าจะให้ดเี พิม่ อกี 2 กล่อง ตรงชว่ ง
กลางของบ่อ (ข้นึ อย่กู ับขนาดของบ่อ และสภาพน้ำ�ดว้ ยคะ่ ) เมอ่ื หยอ่ นกล่องลงไปเรยี บร้อย ให้เราใช้
ปนู ขาวโรยให้ทัว่ บอ่ ประมาณ 40–60 ถงุ เพอ่ื เป็นตัวเร่งให้กลอ่ งปรับสภาพนำ้�ทำ�งานได้มปี ระสทิ ธภิ าพ
ดียิ่งขึ้น จากน้นั ท้ิงไวป้ ระมาณ 7–8 เดอื น จะสังเกตว่า น�้ำ ในบอ่ จะเรม่ิ ใส แกมเขียว ซงึ่ เกดิ จากการ
มีพืชนำ้� และสัตว์น้�ำ ขนาดเลก็ เกดิ ข้นึ เชน่ ไรแดง แพลงตอน สาหรา่ ย เป็นต้น หลังจากปรบั สภาพน้�ำ
เราก็สามารถเลีย้ งปลาทกุ ชนดิ ไดต้ ามปกติ การดูแลรกั ษากต็ ามแต่ชนดิ

“...ส�ำ หรับการดูแลปลา ปลาไมโ่ ต ปลาเป็นโรค
เราสามารถหาสาเหตุ และท�ำ การรักษาไดส้ บายมาก
จะตดิ มีอยู่ปัญหาเดียวท่ยี งั แก้ไม่ตก ก็คอื ...
ปญั หาปลาหาย น่ีซคิ ะ ท�ำ เรามึนตบ๊ึ เลยคะ่ ...”

เลา่ เรอื่ งโดย นางวันเพญ็ ยุทธเกง่
ครโู รงเรยี นบา้ นตลาดควาย

ความส�ำ เร็จเล็กๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB 19

หอยรา้ ยให้ประโยชน์

มีอยูว่ นั หน่ึงข้าพเจา้ เดินไปแปลงเกษตรเพ่ือที่จะมาดแู ลแปลง ตอนนั้นขา้ พเจา้ ก�ำ ลังเรยี นอยู่ช้นั ประถม
ศกึ ษาปีที่ 6 ระหวา่ งทางขา้ พเจ้าไดก้ ลนิ่ เหมน็ จึงตามหาท่มี าของกลน่ิ เดินตามกลิ่นไปจนถึงแปลงเกษตร
พบชน้ิ สว่ นบางอยา่ ง สขี าวๆ ดำ�ๆ ตากอย่บู นตะแกรงไม้ ส่งกลิ่นเหมน็ อบอวล ดว้ ยความอยากร้วู ่า
ช้ินสว่ นน้ันคืออะไร? จึงไปถามพ่ๆี ซงึ่ ยนื อยแู่ ถวนนั้ พี่ๆ ตอบว่า มันคอื “หอยเชอรี”่ รแู้ ล้ว แทนท่ี
ความสงสยั จะหายไป แต่มันยิง่ ท�ำ ให้สงสัยมากข้ึนวา่ ท�ำ ไมมันถงึ ได้เหม็นอยา่ งน้ี? เวลามนั อยู่ในทอ้ งนา
ไม่เห็นว่ามันจะมกี ลิ่นเหมน็ อย่างน้เี ลย ระหว่างสงสยั ก็เดนิ ตามพๆ่ี เข้าไปดูใกล้ๆ ยง่ิ เข้าใกลย้ ิง่ เหมน็ เกนิ คำ�
บรรยาย แตด่ ้วยความอยากรู้ ขา้ พเจ้าจงึ เดินตามพ่ีๆ ต่อไปจนถงึ จุดหมายที่ตากหอยเชอรี่ เม่อื ไปถงึ ก็
เห็นว่ามันต่างกนั จรงิ ๆ หอยเชอรี่ในท้องนาท่มี นั ไม่เหมน็ เพราะเรายงั ไม่แกะเปลือกออก แต่หอยเชอ
รี่ของพวกพีๆ่ แกะเปลอื กหอยออกทกุ ตวั แล้วคอ่ ยเอาออกมาตากแดด เปน็ อันหายสงสยั เรื่องกลน่ิ
ระหวา่ งหอยเชอรีใ่ นทอ้ งนากับหอยเชอรท่ี พี่ วกพีๆ่ เคา้ เอามาตากแดดแลว้ แต่ก็ยังสงสัยว่า พี่ๆ เขาน�ำ
หอยเชอรี่มาตากแดดไว้ท�ำ ไม? หอยเชอรที่ ่อี ยู่ในทอ้ งนามนั กัดกินต้นขา้ วของชาวนาทำ�ใหไ้ ร่นาของชาวนา
เสยี หายจะมีประโยชน์อะไร?

ขณะท่ีกำ�ลงั ยืนสงสยั อย่นู ้นั คณุ ครูประชุม เรียมแสน ก็เดนิ มา ขา้ พเจา้ จงึ ตัดสนิ ใจไปถามคณุ ครูประชุม
ว่า “หอยเชอร่ที ีน่ ำ�มาตากแดดไวน้ ี่ จะนำ�มาท�ำ อะไรคะ่ ?” คณุ ครูย้มิ ตอบข้าพเจา้ ว่า “จะท�ำ อาหารปลา
ส�ำ เรจ็ รปู จากหอยเชอร”่ี เมื่อข้าพเจา้ ได้ยนิ อยา่ งน้ันแลว้ ขา้ พเจ้ากค็ ดิ วา่ เปน็ ความคดิ ท่ีดีมากๆ เพราะ
หอยเชอรม่ี ันไมม่ ีประโยชนอ์ ะไรและมีอย่มู ากมายสามารถหาไดง้ ่าย ในเมอื่ โรงเรยี นของเราก็เลี้ยง
ปลาไว้หลายชนิด ถา้ ท�ำ อาหารปลาไดเ้ องกจ็ ะช่วยลดรา่ ยจา่ ยในโรงเรยี น ซ�ำ้ ยงั เปน็ การก�ำ จดั หอย
เชอร่ีแบบไม่ตอ้ งเสียแรงเปลา่ ๆ แถมยังได้เงนิ อกี ด้วย

20 ความสำ�เร็จเลก็ ๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB

จากความร้จู ากการทดลองโครงการวิทยาศาสตรเ์ ร่อื ง การทำ�อาหารปลาสำ�เร็จรปู จากหอยเชอร่ี ของรุน่
พ่ี ขา้ พเจ้าขอแบ่งปันสูตรการท�ำ อาหารปลาส�ำ เรจ็ รูปจากหอยเชอรกี่ ับเพอื่ นๆ ส่วนประกอบโดยประมาณ
มีดงั น้คี ่ะ

สว่ นผสม อาหารปลาส�ำ เร็จรูปจากหอยเชอร่ี
1. หอยเชอร่ีแห้งบดละเอียด 3 กิโลกรมั
2. ร�ำ ละเอียด 8 กโิ ลกรัม
3. ปลายขา้ ว 8 กโิ ลกรัม
4. มนั สำ�ปะหลงั บดละเอยี ด 8 กโิ ลกรมั
5. ใบกระถินแห้งบดละเอยี ด 1 กโิ ลกรัม
6. ไขมันสตั ว์ (วัวหรอื ควาย) 2 กิโลกรัม

วธิ ที �ำ กง็ า่ ยๆ น�ำ สว่ นผสมท้งั หมดมาคลกุ เคลา้ ให้เข้ากนั ค่อยๆ เติมน้ำ�ทีละนดิ ใหส้ ว่ นผสมมีความชน้ื
ประมาณ 60% (ทดสอบโดยการเอามอื ก�ำ สว่ นผสมแลว้ ส่วนผสมจบั ตวั กนั ไปก้อนไมแ่ ตก) ใส่ถังแลว้
เอาปดิ ฝาไม่ใหส้ นทิ หมักไวป้ ระมาณ 1 สัปดาห์ นำ�ไปเขา้ เครอ่ื งอดั เมด็ (ถ้าไม่มีสามารถปน้ั ด้วยมือได)้
จากนน้ั กส็ ามารถน�ำ ไปเป็นอาหารใหป้ ลากินได้แลว้ คะ่

เล่าเร่อื งโดย ด.ญ.อมรรัตน์ เทือกขนั ตี นักเรยี นโรงเรยี นบา้ นห้วยยาง
ข้อมลู โดย นายประชมุ เรยี มแสน คณุ ครโู รงเรยี นบ้านหว้ ยยาง

ความส�ำ เรจ็ เลก็ ๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB 21

“เญาะ” เศษไม้ป้องกันภยั

วันหน่งึ เราไดเ้ จอปัญหาในการเลยี้ งปลาในบ่อธรรมชาติ เราสังเกตเหน็ วา่ ปลาใหญก่ ินปลาเล็ก พอถงึ ฤดูท่ี
ปลาวางไขป่ ลาตัวใหญก่ ม็ ากินไข่ เพราะไมม่ ีท่ีหลบหรอื ท่ีวางไข่ไมเ่ หมาะสม โรงเรียนของเราสภาพแวดลอ้ ม
บรเิ วณโรงเรียนมตี ้นไม้มากมาย เมอื่ ต้นไม้โตข้ึนกิ่งก้านสาขาได้แผป่ กคลุมถนนหนทาง และอาคารเรยี น
นกั การภารโรงจึงตอ้ งคอยตัดแต่งกิ่งไมเ้ ป็นประจำ� เศษไม้ไมร่ ู้จะเอาไปท�ำ อะไร จะเผาทง้ิ กไ็ ม่เกดิ ประโยชน์
และยังทำ�ให้เกิดภาวะโลกร้อนอีกดว้ ย เราจึงคดิ หาทางออกด้วยการนำ�เอาก่งิ ไม้เหลอื ใชม้ า
แกป้ ญั หาน้ี โดยการน�ำ กิง่ ไมท้ น่ี ักการภารโรงตดั นนั้ มาใส่ลงในสระเพือ่ ปลาตวั เลก็ ๆไดใ้ ช้เปน็ ท่ีวางไขแ่ ละหลบ
ภยั มีขั้นตอนการท�ำ ดงั นี้

1. คัดเลอื กกิ่งไมข้ นาดยาวพอประมาณ เนน้ ให้มี
กง่ิ ก้านสาขามาก
2. สำ�รวจหาบรเิ วณที่จะใสก่ ิง่ ไม้ในบ่อเลี้ยง
แบบธรรมชาติ ควรลึกประมาณ 1 เมตร
3. ใสก่ ิ่งไมล้ งไปในบริเวณนั้นๆ ระยะห่างระหว่าง
กองไม้ กองละ 15 เมตร แต่ละกองควรมเี ศษไม้
เยอะพอสมควร

เท่านกี้ ็จะได้ “เศษไม้ปอ้ งกันภยั ” หรอื ภาษาชาวบ้านของผมเรียกวา่ “เญาะ” เวลาเราจะจับปลา ก็เกบ็ ไม้
ข้ึน เวลาจับปลาเสรจ็ กน็ �ำ เอาไปกองไวท้ ีเ่ ดมิ ครับ เพยี งเทา่ นีก้ ็จะได้ที่หลบภัยของปลาตวั เล็กๆ และท่วี างไข่
ของปลาตัวเมยี ใหไ้ ดป้ ลอดภัยจากปลาใหญ่ และไดใ้ ชป้ ระโยชน์จากกงิ่ ไมเ้ หลอื ใชด้ ว้ ยครับ

เล่าเร่อื งโดย ด.ช.จักกฤษ มูลเอก นักเรยี นโรงเรยี นบ้านถ้�ำ แข้

22 ความสำ�เรจ็ เลก็ ๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB

เล้ียงหมูแบบหมู หมู

โรงเรยี นของผมเลยี้ งหมหู ลมุ พันธ์พุ ื้นเมอื ง จากการเล้ยี งหมหู ลมุ ผมและเพ่อื นๆ พบวา่ การเลย้ี งหมู
นนั้ กวา่ จะเลี้ยงจนโตได้ ตอ้ งเสยี ค่าอาหารจำ�นวนมาก ท�ำ ใหม้ ตี ้นทุนสูง พวกผม จึงคดิ กนั วา่ จะหาวิธี
เลีย้ งหมหู ลมุ แบบพอเพียง ได้ก�ำ ไรสูงและเนื้อหมทู ่ไี ดไ้ ม่มสี ารพิษเจือปน

หลงั จากท่ีนัง่ คิด นอนคดิ เดินคิดกันอยู่นาน พวกผมก็ยังคิดกนั ไมอ่ อก วนั หนงึ่ ขณะทน่ี ง่ั รบั ประทาน
อาหารกลางวันอยู่ พวกผมสังเกตวา่ มีเศษอาหารกลางวันเหลือจ�ำ นวนมาก จงึ คิดกนั ว่า เศษอาหาร
พวกนน้ี ่าจะมปี ระโยชน์ โดยนำ�ไปเป็นอาหารหมไู ด้ จงึ ไปปรกึ ษากบั คณุ ครู และเอาเศษอาหารกลางวนั ไปให้
หมูแทนอาหาร ซ่ึงก็ได้ผลดี จากน้นั พวกผมคดิ จะนำ�ไปใช้กบั การเล้ยี งหมหู ลมุ ในหมบู่ า้ นดว้ ย แต่ก็พบ
ปัญหาอยู่วา่ หมู่บ้านของผมไม่มีเศษอาหารมากพอทจ่ี ะให้หมูทกุ ตวั กนิ อิม่ ได้ มีชาวบ้านเขาบอกว่า หมู
ไม่ไดก้ ินแต่ร�ำ ขา้ วเทา่ นัน้ แตห่ มูกินผักด้วย พวกผมจงึ เกิดความคิด หมู่บา้ นของผมปลูกผักสวนครวั
ผกั ทปี่ ลูกไดน้ ้นั เม่ือเราเกบ็ ไปรบั ประทาน เศษผักท่เี หลอื เราก็เอาไปให้หมไู ด้ บางทีอาจใช้รำ�ขา้ วผสมดว้ ย
เปน็ การให้อาหารเสรมิ หรือปรับเปล่ยี นผักผสมดว้ ย วธิ กี ารนเ้ี ป็นการใหอ้ าหารหมทู ชี่ ่วยประหยัดตน้ ทุน
ทำ�ให้หมมู ีมนั น้อย และได้ก�ำ ไรมากด้วยครบั

นอกจากเรอื่ งอาหารแล้ว การเลี้ยงหมูยงั มีอุปสรรคอีกอย่างครับ นัน่ คือ “กลนิ่ ” พวกผมมีเคล็ด
ลบั ดบั กล่ินหมมู าฝากด้วย ใช้แกลบโรยใหท้ ว่ั คอก จากนน้ั รดให้ทวั่ ดว้ ย EM ผสม กากน้�ำ ตาล และน�้ำ
(อัตราส่วน EM 2 ฝา : กากนำ้�ตาล 2 ฝา : น�ำ้ 1 ลติ ร) ทำ�อยา่ งน้ปี ระมาณเดือนละ 2 ครงั้ อาจ
มากหรอื นอ้ ยกวา่ นี้ สงั เกตที่กลิ่นครบั ไมใ่ ชแ่ ตจ่ ะดบั กลิน่ ไดอ้ ยา่ งเดียว ยังเอาไปเป็นปุ๋ยใส่ต้นไมต้ ่อไดอ้ กี
ดว้ ยครบั

“...เปน็ อยา่ งไรบา้ งครบั เลีย้ งหมูแบบหมู หมู ของโรงเรยี นบ้านถำ้�แข้”

เลา่ เร่อื งโดย ด.ช.เอกชยั ทองเตมิ
นักเรยี นโรงเรยี นบ้านถ�้ำ แข้

ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB 23

หมูป่าพารวย

โครงการหนึง่ ที่ท�ำ พวกเราได้ชว่ ยกนั ท�ำ อยา่ งตอ่ เน่อื ง คือโครงการเลี้ยงหมปู ่า โรงเรยี นของเราไดเ้ ลีย้ ง
หมูป่าไว้เป็นพอ่ แม่พันธ์ทุ ั้งหมด 4 ตัว เป็นตวั เมีย 3 ตัวและตวั ผู้ 1 ตวั พวกเราไดแ้ บ่งหนา้ ทก่ี ันรับ
ผดิ ชอบโดยจัดเวรใหอ้ าหารทกุ วัน พวกเราสนกุ สนานมากโดยเฉพาะการให้อาหาร เราให้อาหารหมู 2 เวลา
คอื เช้าและเยน็ อาหารที่ใหเ้ ป็นหลกั คอื รำ�และหญ้า หมูป่าเมือ่ ได้รบั การผสมจะตง้ั ทอ้ งประมาณ 4–5
เดือน แม่หมตู วั หนึง่ จะออกลกู ครงั้ ละประมาณ 9–10 ตัว (หมูปา่ มีนม 10 เตา้ ) ในชว่ งเดือนแรกลูก
หมปู ่าจะยงั กนิ อาหารไม่ไดต้ ้องอาศยั นมแม่ พวกเราจงึ ต้องช่วยกันหาอาหารมาบำ�รงุ แมห่ มปู า่ เพือ่ ใหแ้ ม่
หมปู า่ ผลิตน�ำ้ นมมาเลยี้ งลกู ได้มากๆ

หมูป่าที่เปน็ ทีต่ ้องการของตลาด เนื้อจะต้องแนน่ เป็นสแี ดงนา่ รบั ประทาน เราตอ้ งให้หมปู ่าได้กนิ ผกั หญ้า
เยอะๆ สว่ นมากหมูปา่ ชื่นชอบมากที่สดุ คอื ตน้ กลว้ ยและหญา้ อกี อยา่ งเราตอ้ งท�ำ คอกกวา้ งๆ เพ่อื ให้
หมูป่ามพี นื้ ท่ีไดว้ ่ิงออกก�ำ ลังกายด้วย

เม่อื ลูกหมูอายุครบ 3 เดอื น เรากส็ ามารถจำ�หน่ายลกู หมูไดแ้ ล้ว ราคาท่เี ราจำ�หนา่ ยก็แสนจะพเิ ศษสามารถ
ตกลงกนั ได้ ดังน้ันเวลาหมปู า่ ตง้ั ทอ้ ง จะมีชาวบ้านมาจองเอาไว้ เรียกได้ว่า ขายไดต้ ัง้ แต่ในทอ้ งกนั เลย ที่
เราไมเ่ ลยี้ งหมปู ่าจนโต เพราะขายลูกหมูใชเ้ วลานอ้ ย และไดก้ ำ�ไรมากกวา่ การเลย้ี งหมูปา่ จนโตตอ้ งใชเ้ วลา
และมีตน้ ทนุ ค่าอาหาร เงินทไ่ี ดจ้ ากการจ�ำ หน่ายลกู หมปู ่าเรากน็ ำ�ไปฝากกบั โรงเรยี นธนาคารบ้านหลุบเลาคะ่


เลา่ เรอื่ งโดย ด.ญ.สุชาดา ดอนแกว้ และด.ญ.ชนภิ รณ์ สมวงศ์
นกั เรยี นโรงเรยี นบา้ นหลบุ เลาเลา

24 ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB

อบ๊ ๆ กบผสมพันธุ์นอกฤดู

โรงเรยี นบา้ นโคกขามโนนสมบรู ณข์ องเรา ข้นึ ช่อื เรอื่ งการเลย้ี งกบ ไม่ว่าจะเร่อื งอะไรเก่ียวกบั กบ พวกเรา
ร้หู มด จนโรงเรียนเพ่ือนๆ ถึงกบั ขนานนามวา่ เป็น “โรงเรียนกบ” เลยนะคะ พวกเราภมู ิใจมากๆ เลยคะ่
วนั นีเ้ ลยอยากเอาเคล็ดลบั เรอ่ื งกบมาแบง่ ปนั กบั เพอื่ นๆ ค่ะ

เคลด็ ลับนี้ คณุ ครูรวงรัตน์ เปน็ คนสอนพวกเราค่ะ คณุ ครูสอนวา่ วรจรชวี ติ ของกบน้นั จะผสม
พนั ธ์ุในช่วงฤดฝู น คือชว่ งเดอื นพฤษภาคม ถงึ ตุลาคมเท่านน้ั หลงั จากนั้น กบก็จะจำ�ศีลในฤดูหนาว
จะผสมพนั ธแุ์ ละวางไข่อีกทกี ็ชว่ งฤดูฝนปตี อ่ ไปเลย คุณครสู อนเราเกย่ี วกบั การกระตนุ้ ใหก้ บผสมพนั ธ์ุ
นอกฤดู ซึ่งเปน็ วธิ ีท่คี ุณครไู ดค้ ิดค้นและทดลองจนประสบความสำ�เร็จแล้ว มีวธิ ีเตรยี มพ่อพันธ์ุแมพ่ ันธุ์
ดงั น้คี ะ่

1. ถ่ายพยาธิ ท�ำ การถา่ ยพยาธิกบ คุณครูวา่ ใช้ยาถา่ ยพยาธคิ นได้เลยคะ่

2. แยกบ่อ แยกพ่อพนั ธุแ์ ม่พนั ธุ์กบไว้คนละบ่อ ภายในบ่อ ควรใส่วัสดุ
เพือ่ ให้กบหลบซ่อนตัวไดด้ ้วย ใสน่ ำ้�ในบ่อ ให้ระดบั น้�ำ ในบอ่ สงู ประมาณ
คร่ึงตัวกบ ประมาณ 7 วนั ก็ถา่ ยนำ้�ท้งิ แล้วใส่น�ำ้ ใหม่ และใชพ้ ลาสตกิ ใส
คลุมบอ่ ใหม้ ิดชิด เพ่ือควบคุมอุณหภูมใิ นบอ่ ให้อบอนุ่ ตลอดเวลา

3. บำ�รงุ ใหอ้ าหาสารบำ�รงุ ก�ำ ลงั และกระต้นุ ให้กบฟอรม์ ไข่ อาหารเสรมิ มา
เช่น วิตามินรวม ไขด่ ิบ หรือจะน�ำ ลูกปลาตวั เล็กๆ มาปล่อยไว้ในบ่อ
เพอื่ ใหก้ บไดก้ นิ กไ็ ด้

4. ทดสอบความพร้อม กบพ่อพันธุ์แม่พนั ธุ์ที่พร้อมในการผสมพนั ธุ์
เราทดสอบโดย กบตัวผูใ้ ห้จับกบด้วยมือข้างทถี่ นดั จากดา้ นหลงั
จากนน้ั ใชม้ ืออีกขา้ งหนึง่ สอดไประหวา่ งขาหนา้ กบตวั ผูท้ ่ีพรอ้ มแลว้ จะ
รัดนิ้วมือ (เวลาผสมพันธุ์ กบตัวผจู้ ะตอ้ งรดั กบตวั เมยี ทั้งคืนเพอื่ รดี
เอาไข่ออกค่ะ) สำ�หรบั กบตวั เมยี ใหใ้ ชม้ อื สัมผัสบริเวณสขี ้างของกบคะ่
จะรู้สกึ สากๆ แสดงว่าพรอ้ มแลว้ )

ความสำ�เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB 25

5. เข้าหอ นำ�กบตัวผู้และตัวเมียมาไว้บ่อเดียวกนั (ส�ำ หรับการน�ำ กบมา
ผสมพนั ธุ์กันนอกฤดนู ้ัน บางคนอาจจะเข้าใจว่าต้องเลยี นแบบฝนตก ทั้งใช้
สปรงิ เกอร์ หรือบางทกี่ ็ใชน้ ำ�้ ฉดี หลังคา บางทมี่ ตี ีกะละมังเลียนเสียงฟา้ ผา่
กนั เลยก็มี จรงิ ๆ แลว้ ไมต่ ้องล�ำ บากขนาดนน้ั ก็ไดค้ ะ่ แคใ่ ช้น�ำ้ แขง็ ใส่ในนำ้�
ก็พอแล้วคะ่ น�้ำ จะเยน็ มีสภาพเหมือนหลังฝนตก เราก็เอากบตวั ผู้ตัวเมยี
ไปปลอ่ ยไวด้ ว้ ยกนั แลว้ ก็ปลอ่ ยให้พวกมันไดม้ ีเวลาจู๋จ๋กี ันเงยี บๆ ถ้าไปแอบดู
มันจะอายพาลไมผ่ สมพันธุเ์ อานะคะ)

6. การดูแลไข่ หลังกบออกไขเ่ รยี บร้อย เราจะแยกกบพอ่ พันธ์ุแม่พันธกุ์ ับไข่ออกจากกัน กบพ่อพนั ธ์ุ
แม่พนั ธ์ุกไ็ ดก้ ลับไปพัก บำ�รงุ ก่อนจะผสมพนั ธุอ์ ีกคร้ัง ใน 1 ปเี ราผสมพนั ธ์กุ บประมาณ 8 รอบค่ะ
ส่วนไข่กบเรากด็ แู ลโดยเกลย่ี ไข่ แล้วควบคมุ อณุ ภูมใิ หเ้ หมาะสม ไมใ่ หร้ ้อนหรอื เยน็ เกนิ ไปค่ะ ถ้ารอ้ นเราก็
ตอ้ งใส่นำ้�แขง็ ถา้ เย็นเราก็ตอ้ งเปดิ ไฟให้ความอบอนุ่ คะ่

สว่ นการเลี้ยงกบ คณุ ครวู า่ ไม่ยาก มหี ลักไวใ้ ห้จำ�ไวง้ า่ ยๆ ว่า “ไขว้สายพันธุ์ หมน่ั คัดขนาด น�้ำ ต้อง
สะอาดตลอดเวลา” ค่ะ

เลา่ เรอ่ื งโดย ด.ญ.ภัทรวดี วารินต๊ะ และด.ญ.ทักษพร เสาเคหา
นักเรยี นโรงเรยี นบ้านโคกขามโนนสมบูรณ์
ขอ้ มลู โดย นางรวงรตั น์ ภิรมรมั ย์
ครูโรงเรียนบ้านโคกขามโนนสมบรู ณ์

26 ความส�ำ เรจ็ เล็กๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB

ความสำ�เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB 27

แกว้ มังกร...ว้าน หวาน

หนึ่งในโครงการท่ีโรงเรยี นเราภาคภูมิใจ กค็ อื โครงการปลูกแกว้ มังกร ซง่ึ ส่วนหน่งึ ไดเ้ ปน็ แกว้ มงั กรท่ี
รว่ มกนั ปลกู ระหวา่ งนกั เรียน คณุ ครู และอาสาสมคั รจากยูบีเอส ผู้สนบั สนนุ ทนุ ด�ำ เนนิ โครงการ จาก
วันท่ีเร่ิมปลกู พวกเราช่วยกันดแู ลรดน้�ำ แกว้ มังกร จนเตบิ โตออกดอกและให้ผลผลติ จนได้ล้ิมชิมรสชาติ
ของมนั แตว่ า่ แก้วมงั กรท่ีปลกู กลบั มีรสออกเปรย้ี วไม่หวานฉำ�่ เหมอื นท่ีขายอยู่ตามตลาด เราจึงไดพ้ า
กันไปหา “ลุงศกั ด์ิ” หรอื นายฐิตวิ ัฒน์ อ่อนภา นายกองคก์ ารบริหารองค์การสว่ นตำ�บลตากแดด ที่
ปลูกแกว้ มังกรไวจ้ ำ�นวนมาก

จากการพดู คยุ ลงุ ศกั ดิ์เล่าวา่ “สมยั ลุงปลูกใหม่ๆ ใช้ปุย๋ เคมสี ารพัด ผลออกมาก็ยังเปรย้ี ว เลยเปลี่ยน
มาใช้ป๋ยุ คอกบ้านเราเนี่ยแหละ่ ลองมันหลายสตู ร ท้งั ข้วี ัว ขี้ควาย ใบไม้ สรปุ วา่ ขว้ี วั เน่ียดีท่สี ดุ
แกว้ มังกรออกมา หวาน ถูกใจผ้ซู อ้ื มาก ตอนน้ีปลูกไม่ทนั เลย” หลังจากที่ฟังเคล็ดลบั จากลงุ ศกั ดิ์
พวกเราก็เอาสตู รของลงุ ศกั ด์ิมาลองใช้กับแก้วมังกรของโรงเรียน

1. พรวนดนิ และกำ�จัดวัชพชื บรเิ วณรอบโคนต้น
2. นำ�มลู ววั มาโรยบรเิ วณรอบโคนต้น
ประมาณเสาละ 3 กโิ ลกรมั หรือจะใสม่ ากกวา่ นี้ก็ได้
3. ใช้ฟางหรือใบไมแ้ หง้ กลบโคนต้น
รดน�ำ้ ให้ช้นื 2 วันตอ่ 1 ครั้ง
ส�ำ หรับการใส่ป๋ยุ คอกน้ี ใสเ่ พียงปีละ 3 ครัง้ เท่าน้ัน
ก็เพยี งพอ โดยใสท่ ุกๆ มี.ค. ม.ิ ย. และต.ค.

เลา่ เรอื่ งโดย ด.ญ.ปานกมล จรลี นกั เรยี นโรงเรยี นบา้ นตากแดด
ข้อมูลโดย นายฐติ วิ ัฒน์ ออ่ นภา นายกองคก์ ารบรหิ ารองคก์ ารสว่ นต�ำ บลตากแดด

28 ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB

กลว้ ยสวยด้วยมอื เรา

กล้วยน�้ำ ว้า เป็นพชื ใกลต้ ัว และมคี วามสำ�คัญกับวถิ ชี วี ิตคนตำ�บลห้วยเตย กล้วยใช้ประโยชนไ์ ดท้ กุ สว่ น
โรงเรียนเรากป็ ลูกไว้จ�ำ นวนหนงึ่ จะขอเลา่ วิธีการปลูกกล้วยค่ะ

วิธกี ารปลกู
1. ขุดหลุม กว้างยาวลึก 50 x 50 x 50 เซนตเิ มตร
โดยเว้นระยะห่างระหว่างตน้ อยู่ท่ี 2.5 เมตร
2. ผสมดินกับปยุ๋ คอกหรือปยุ๋ หมักชีวภาพ เพ่อื เพ่ิมความ
อุดมสมบูรณข์ องดนิ
3. วางหนอ่ กล้วยลงในหลมุ ถา้ มกี ารปลกู กลว้ ยเป็นแถว
ควรหันแผลท่ตี ดั หน่อกล้วยไปทางเดียวกัน เวลาโตกลว้ ย
จะได้แทงปลีไปทางเดียวกนั
4. ต้งั หน่อกลว้ ยให้ตรง แล้วกลบดินผสมปุ๋ยลงหลุมกดใหแ้ น่น
5. ควรหาวสั ดคุ ลมุ ดินที่โคนหนอ่ กลว้ ย เชน่ ฟาง เพ่อื ลดการระเหยของน�้ำ
6. รดน้ำ�ให้ชุ่ม

การให้ป๋ยุ
1. กล้วยอายุ 1 สปั ดาห์ ใหป้ ุ๋ยคอกหรือปยุ๋ หมกั ชีวภาพอัตราส่วน ปยุ๋ 1 กก. ตอ่ กล้วย 1 ตน้
2. ทุก 1 เดือน ให้ปุ๋ยคอกหรอื ปยุ๋ หมักชวี ภาพ 3 กก. ตอ่ กลว้ ย 1 ตน้ จนกล้วยอายุ 10 เดอื น
หมายเหตุ ถ้าให้ปยุ๋ คอกควรเพิม่ การรดน้�ำ หมักชวี ภาพ ทุกๆ 2 สัปดาห์ เพ่อื ใหจ้ ุลนิ ทรีย์ชว่ ยยอ่ ยสลาย
ป๋ยุ คอกเพม่ิ ธาตอุ าหารใหต้ น้ กล้วย

เทคนิคการดูแลต้นกล้วย
1. ควรมีการตัดแต่งหนอ่ กล้วย เพือ่ ให้กลว้ ยสมบูรณ์ การเจริญเตบิ โตไมห่ ยดุ ชะงัก โดยในระยะ 3-4
เดอื นแรกไม่ควรใหก้ ล้วยมีหน่อแทงข้นึ มา ถ้ามีใหต้ ดั ท้ิง หลังจากทก่ี ล้วยอายุ 5 เดือน ให้ละหนอ่ กลว้ ย
ไว้ 1 หน่อ เพ่อื ใชท้ �ำ พนั ธ์ุ และหลังจากทีก่ ลว้ ยอายุ 9 เดอื น ให้ละหนอ่ กล้วย หน่อท่ี 2 ได้
2. ควรมกี ารตดั แตง่ ใบกล้วยบ้าง ควรตัดใบแก่และใบท่ีเปน็ โรค
ออกโดยเหลือติดต้นไวป้ ระมาณ 7–12 ใบ เพอ่ื ให้กลว้ ย
เจรญิ เตบิ โตเต็มท่แี ละป้องกันโรค

เล่าเรอ่ื งโดย ด.ญ.ผสุ ดี มชั ฌมิ า และด.ช.พันฤทธ์ิ ภวู งศรี
นกั เรยี นโรงเรียนบา้ นหนองแสง

ความส�ำ เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB 29

ตอนกิ่งเพ่มิ คา่ รักษาพนั ธุเ์ ดิม

โรงเรียนบา้ นฮอ่ งสมิ ประชาสรรของเราเดน่ เรอื่ ง ล�ำ ไย จากปี พ.ศ.2534 ทเี่ รารว่ มกับกรมพัฒนาทดี่ ิน
บกุ เบิกนำ�ลำ�ไยเข้ามาปลูกในพ้ืนทีภ่ พู าน เพราะจากการสำ�รวจและวิเคราะหด์ ิน พบว่า เป็นดินทเ่ี หมาะสม
จะปลูกล�ำ ไย จากวนั นน้ั มาถึงวันนี้ โรงเรยี นของเราเตม็ ไปด้วยต้นลำ�ไย วธิ ีการทน่ี ิยมใช้ในการขยาย
พันธลุ์ �ำ ไย ท่จี ะชว่ ยรกั ษาล�ำ ไยพันธุไ์ ว้ ลดความเส่ยี งท่ีจะกลายพันธุ์ ที่สำ�คัญท�ำ ได้ทลี ะมากๆ และสะดวก
รวดเรว็ กค็ อื การตอนกิ่ง อุปกรณ์และวิธีท�ำ กไ็ มย่ ุ่งยาก ดงั นี้

อปุ กรณ์ทใี่ ช้ คือ มดี ถุงพลาสติก ขุยมะพร้าวแชน่ ำ�้ แล้ว เทปใส

วิธีทำ�
1. เตรียมขุยมะพรา้ วแช่นำ้� ให้ความชื้นประมาณ 60%
(สังเกตว่าเม่อื ก�ำ ขยุ มะพร้าวแลว้ เป็นกอ้ น
แต่เม่ือเอานวิ้ จิม้ เบาๆ จะแตกออก)
นำ�ขยุ มะพร้าวใสถ่ ุงพลาสตกิ ใหเ้ ต็มมดั ปากถงุ ให้แนน่
2. เลอื กกงิ่ ล�ำ ไยที่ตอ้ งการตอน (ไม่แก่หรืออ่อนไป)
ใช้มีดคว่นั รอบกิ่งล�ำ ไยท่ีต้องการตอน ยาว 1 ซ.ม.
ขดู เย่อื เล้ียงออกใหแ้ หง้
3. ใชม้ ดี กรดี ผา่ ครงึ่ ถุงขุยมะพรา้ วตามยาว นำ�ไปห่อ
รอยท่ีควัน่ เอาไว้ ใช้เทปใสพนั ไลจ่ ากบนลงมาล่าง
ทง้ิ ไว้ประมาณ 25 – 35 วัน จะสงั เกตให้วา่ มีราก
งอกอย่ภู ายในถงุ ขยุ มะพร้าว ก็สามารถน�ำ ไปเพาะชำ�ตอ่ ไป

ส�ำ หรบั เคลด็ ลับในการตอนก่ิงลำ�ไยนั้น ถา้ ตอ้ งการใหก้ ่งิ ตอนออกราก
มากๆ และเรว็ ให้ขดู เย่อื เลย้ี งออกจนแหง้ และการห่อรอยคว่ันของถงุ ขยุ มะพร้าว ควรดสู ภาพอากาศ
หากเปน็ หน้าฝนใหค้ วำ่�รอยผา่ ลงด้านล่าง เพ่อื ปอ้ งกันน้ำ�ฝนเขา้ เพราะจะทำ�ใหร้ ากของกง่ิ ตอนเน่า แต่ถ้า
เป็นฤดูร้อนใหห้ งายขึน้ เพอื่ จะรดน้ำ�ได้สะดวก

เลา่ เร่ืองโดย นายนิลพงษ์ ย่ีวาศรี
ผ้อู ำ�นวยการโรงเรยี นบ้านฮ่องสิมประชาสรร

30 ความส�ำ เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB

สงู ราคา ลำ�ไยนอกฤดู

โรงเรียนของเราปลกู ลำ�ไยมานาน ทำ�ใหเ้ ราเขา้ ใจธรรมชาติของลำ�ไย และไดค้ ดิ ค้นการดแู ลล�ำ ไยดว้ ยตนเอง
หลายวิธดี ้วยกนั หนง่ึ เคล็ดลับทเี่ ราคิดได้ กค็ อื การทำ�ล�ำ ไยนอกฤดู ซึง่ ถือเปน็ ความคดิ ทดี่ มี าก
สามารถเพม่ิ ราคาให้ล�ำ ไยได้มาก ขั้นตอนการทำ�ล�ำ ไยนอกฤดูก็งา่ ย อุปกรณ์ไม่เยอะ ดงั น้ี
อปุ กรณท์ ีใ่ ช้ เล่อื ยมือ กรรไกรตัดก่งิ ไม้

วิธที �ำ
1. ใชเ้ ลือ่ ยตัดกง่ิ ล�ำ ไยทม่ี ดี ว้ งหรือแมลงเจาะกดั กิน
ออกเหลอื ไวเ้ พียงต้นละ 4 – 5 กิง่ กพ็ อ
2. ใช้กรรไกรตดั ก่ิงใบออกให้พอเหมาะ แต่ละกงิ่ ให้มี
กิ่งใบ 7 – 9 กิง่ ใบก็พอ แตง่ ใบอย่าให้เยอะหรือ
น้อยเกนิ ไป ตดั ยอดท่เี ปน็ โรค เช้อื รากนิ ยอดกูด
(ยอดท่ไี มส่ มบูรณ์ จะหงิกๆ) มหี นอนกนิ ใบ
เพื่อให้ต้นเจริญเตบิ โตไดด้ ี
3. รดน้�ำ 2–3 วันต่อคร้งั ครง้ั ละ 7–8 ช.ม.
(แบบนำ�้ หยด) ลำ�ไยกจ็ ะเติบโตออกผลผลิต หากอยาก
ใหต้ น้ ลำ�ไยเจริญโตเร็วและผลผลิตออกมาดี ให้ขดุ
หลมุ รอบทรงพุ่มไมล้ ึกประมาณ 10 ซ.ม. โดย
วดั ใหต้ รงทรงพุ่มใบของต้นหรอื วัดออกจากโคนตน้
35 ซ.ม. นำ�ป๋ยุ คอกใส่ในหลุมที่ขุดไวร้ ดดว้ ยน้�ำ หมกั
ชวี ภาพ (EM ผสมกากน้ำ�ตาล) กลบหลุมดว้ ยดิน
รดน้�ำ ตามปกติ

“...ในการปลูกล�ำ ไย แม้ว่าเราจะมวี ธิ กี ารทำ�ลำ�ไยนอกฤดู เรากค็ วรเวน้ ชว่ งให้ตน้ ล�ำ ไยได้พักบา้ ง ล�ำ ไยจะได้
ออกผลผลติ ดี และตน้ ล�ำ ไยไมท่ รดุ โทรมกว่าทีค่ วรจะเป็น อยู่ใหเ้ ราได้เก็บผลผลติ ไดน้ านๆ”

เล่าเร่ืองโดย นายนลิ พงษ์ ยวี่ าศรี
ผอู้ �ำ นวยการโรงเรียนบ้านฮอ่ งสมิ ประชาสรร

ความส�ำ เร็จเล็กๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB 31

นอนกลางคืน...ฟนื้ ตอนเช้า

เพ่อื นๆ รู้ไหมว่า พืชอะไรทเ่ี ปน็ เจา้ ของฉายา “นอนกลางคืน ฟน้ื ตอนเช้า” ใบ้ให้ว่า...เป็นพืชทม่ี ตี ้นสี
เขยี ว มหี นามแหลมคม ใบสามารถเอามาทอดกบั ไข่ ทานกับน้ำ�พรกิ กะปิ...พอเดาออกกนั แลว้ ใชไ่ หมคะ
พืชชนดิ นนั้ ก็คอื “ชะอม” น่นั เองค่ะ เพราะลักษณะของชะอม เปน็ พชื ที่ตอนกลางคนื ใบจะหบุ และผลิ
ออกมาในตอนเช้าจงึ ไดฉ้ ายานค้ี ่ะ ทโ่ี รงเรยี นบา้ นหว้ ยยางของเรากม็ ีการปลกู ชะอมไว้ดว้ ยคะ่

คณุ ครพู นมพร พลราชม ไดเ้ ลา่ ให้ฟังว่าการปลกู ชะอมจะใหด้ ี ตอ้ งมเี ทคนิคนดิ หนอ่ ย คือ
1. เลอื กพันธุ์ ต้องเลอื กทีส่ มบรณู ์ แขง็ แรง ให้ผลผลิตตลอดปี
2. หาพนื้ ทป่ี ลูก ควรปลกู ในดนิ รว่ นจงึ จะได้ผลผลติ ที่ดี
3. เตรียมหลุม ให้ขุดดนิ ลกึ ประมาณ 40 เซนตเิ มตร ท้ิงไว้ 1 วนั แกะถงุ ชะอมทิง้ ไว้ น�ำ ป๋ยุ คอกใส่
หลมุ นำ�ดนิ กลบ ใส่ปุ๋ยคอกพรวนดิน
4. ท�ำ คนั ดนิ รอบต้น นำ�จอบขดุ ดินขึ้น เพือ่ กันไวไ้ มใ่ ห้น้ำ�ไหลออกเวลารดน�ำ้
5. ดูแลชะอม ให้รดนำ�้ เป็นประจำ�ทกุ วัน รดแค่พอชุ่มอยา่ ใหแ้ ฉะ ถา้ ตอ้ งการให้ชุ่มตลอดให้น�ำ ฟางหรือ
หญ้าแหง้ มาบงั ดนิ ไว้ เสริมดว้ ยการให้ปุย๋ คอกสปั ดาหล์ ะครงั้
6. เก็บยอดอ่อน เกบ็ ไดเ้ รอื่ ยๆ ถา้ โตแล้วใหต้ ัดกิง่ แกอ่ อกไมต่ อ้ งเสียดาย รออีก 2 สปั ดาห์ กร็ อ
เกบ็ ยอดออ่ นได้เลย

ในกรณีทชี่ ะอมเปน็ โรคกต็ ัดกิง่ ก้านนน้ั ออก แลว้ นำ�ไปทง้ิ ไกลๆ แตส่ ่วนมากชะอมไม่ค่อยเป็นโรคจึงไม่
ต้องใชย้ าเคมอี ะไร ใช้ปุ๋ยหมกั ปุ๋ยคอกจะดกี วา่ เพราะดตี ่อผปู้ ลกู และผ้บู รโิ ภคค่ะ

เล่าเร่อื งโดย ด.ญ.เจนจริ า โน้ตสุภา นกั เรยี นโรงเรียนบ้านหว้ ยยาง
ข้อมูลโดย นายพนมพร พลราชม ครโู รงเรยี นบา้ นห้วยยาง

32 ความส�ำ เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB

ชะอมยอดเยอะ

โรงเรียนของเราไดป้ ลกู ชะอม ซงึ่ เปน็ ไม้พุ่มขนาดยอ่ มปลกู งา่ ย จะปักชำ� เพาะเมลด็ ตอนกงิ่ โน้มกิง่ ก็ได้
ท้ังนน้ั ชะอมเป็นผกั ที่หางา่ ย นยิ มรบั ประทานทุกภาคของเมอื งไทย ปลกู เพยี งครั้งเดยี ว ก็เก็บยอด
อ่อนได้ไปนานหลายปี ยอดอ่อน ก็สามารถน�ำ มาประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น ลวกหรอื นงึ่ กินกับ
น้ำ�พริก ใสแ่ กงหนอ่ ไม้ นอกจากนัน้ รากของชะอมยงั มีสรรพคุณทางยาอีกดว้ ย รักษาโรค เชน่ แก้
ปวดท้อง ทอ้ งอืด ขบั ลมในล�ำ ไส้ แกล้ น้ิ อกั เสบ ผน่ื แดง

ชะอมทเ่ี ราปลกู จะนำ�ไปประกอบอาหารกลางวันทีโ่ รงเรยี นและขายให้กบั ชมุ ชน เพ่ือให้สามารถเกบ็ ยอด
ชะอมงา่ ยๆ โรงเรยี นเราจะหมนั่ ตดั แตง่ กง่ิ ชะอมใหส้ งู ไมเ่ กนิ ระดบั ศีรษะของผ้เู ก็บ แลว้ เราจะตดั ใบชะอมจาก
ยอดทิง้ ประมาณ 4–5 ใบ โดยตัดก้านใบใหเ้ หลือไมเ่ กนิ 1 เซนติเมตร เพื่อใหจ้ ะชมแตกยอดเยอะ (หลงั
จากตัดประมาณ 17–21 วัน กเ็ กบ็ ยอดไดแ้ ล้วค่ะ) ส�ำ หรบั การดแู ลชะอมก็ง่ายๆ หนา้ แลง้ ใหร้ ดน้�ำ วันละ
1 ครงั้ สว่ นหน้าฝน ไม่ตอ้ งรดน้ำ�เลย ส่วนมากชะอมไม่คอ่ ยมีโรค แตห่ ากพบกใ็ ห้น�ำ ปูนขาวมาโรยรอบๆ
โคนตน้ จะทำ�ใหช้ ะอมไมเ่ กดิ เช้ือรา

เลา่ เร่อื งโดย ด.ญ.ศรญิ ญา ไกยะฝา่ ย
นกั เรยี นโรงเรยี นบา้ นเหลา่ โพนค้อเหล่าราษฎรว์ ทิ ยา

ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB 33

ดปี ลสี วยด้วยข้ีควาย

โครงการหนึ่งของโรงเรียนบ้านเหล่าโพนค้อเหล่าราษฎรว์ ทิ ยาคอื โครงการปลูกพริกไทย-ดีปลี หลายคน
อาจไม่ร้จู กั “พริกไทย-ดปี ลี” เป็นพืชลม้ ลุกตระกูลเดยี วกับพริกไทยและพลู เปน็ ไม้เล้ือยท่ใี ช้รากตามข้อ
ล�ำ ต้นชว่ ยในการยึดเกาะ ใบเป็นใบเด่ยี วออกเรยี งสลับกัน มีลกั ษณะยาวรเี ป็นมนั ขอบใบไมต่ รง ปลาย
ใบแหลม ผลของดีปลีออกเปน็ เม็ดเล็กๆ อดั กนั เป็นแท่งยาวรูปสามเหล่ียมคล้ายผลพรกิ ไทย แตผ่ ล
ของดปี ลมี ีสีเขียวสด เม่ือแกจ่ ะมสี แี ดงและกล่ินหอมฉุน รสชาติเผ็ดร้อนกวา่ แถบบ้านหนูใชใ้ ส่ในสม้ ต�ำ
รสชาดแซ่บหลาย

วิธีปลกู ทงี่ า่ ย คอื การนำ�เถาหรอื ยอดของพืชทงั้ 2 ชนิดไปช�ำ ในถงุ ดำ� แลว้ รดนำ�้ ทุกวัน ประมาณ
15–21 วัน ก็แตกยอด พออายุประมาณ 3 เดอื น ก็นำ�ไปปลูกได้ แตป่ ัญหาของการปลกู พรกิ ไทย-
ดปี ลี คอื เชอ้ื รา ช่วงท่ปี ลกู แรกๆ เราเจอกบั ปัญหาเชอื้ รา และต้นพริกไทย-ดปี ลเี หยี่ วเฉา แตเ่ มื่อเรา
ลองเปล่ียนจากใสม่ ูลวัวมาใส่มลู ควายแทน ปรากฏวา่ ตน้ พรกิ ไทย-ดปี ลีเจริญเติบโตดี เชอื้ ราไม่มี
ผลผลติ ทไ่ี ด้ก็สมบูรณ์ ขายไดร้ าคาดี การใส่มลู ควายใหใ้ ส่หา่ งจากโคนตน้ ประมาณ 1 ฟุต โดยใส่ปีละ
2 คร้ัง คือ กอ่ นเข้าฤดูฝน เพือ่ ให้ปยุ๋ ละลายเมือ่ ฝนตก และใสต่ อนปลายฤดูฝน ในหนา้ ฝนเราไมจ่ �ำ เปน็
ตอ้ งรดน�ำ้ ส่วนในหนา้ แล้งควรรดนำ�้ 2–3 วันต่อครั้ง ส�ำ หรับการใสม่ ลู ควายสามารถใสไ่ ด้คร้ังละมากๆ
โดยไม่เปน็ อันตรายคะ่

เลา่ เรื่องโดย ด.ญ.พมิ พน์ ิภา พลราชม
นกั เรียนโรงเรียนบ้านเหล่าโพนค้อเหล่าราษฎรว์ ิทยา

34 ความส�ำ เร็จเล็กๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB

นางฟ้าปลอดเชื้อรา

โครงการเห็ดนางฟา้ ของเราได้รบั การตอบรบั เป็นอยา่ งดี เวลาได้ผลผลติ นอกจากนำ�ไปประกอบอาหาร
กลางวัน แล้วยังนำ�ไปขายในชุมชนด้วย หลงั จากเราเรม่ิ เพาะเหด็ นางฟา้ ไดป้ ระมาณ 1เดอื น ปรากฏว่าเหด็
เกิดเช้อื รา ซึ่งเราพบว่าปญั หาเกิดจากแบคทีเรียที่สะสมอยใู่ นกอ้ นเชื้อเห็ดเป็นเวลานาน ทำ�ใหเ้ กิดเชื้อราสง่
ผลให้เหด็ ไมเ่ จริญเติบโต ออกดอกน้อย ทางโรงเรยี นของเราจงึ ตอ้ งรีบคดิ คน้ หาวิธกี ำ�จดั เชอ้ื รา โดยนำ�
สำ�ลไี ปชุบแอลกอฮอล์ น�ำ มาทาทด่ี ้ามชอ้ น จากน้นั น�ำ ด้ามช้อนทที่ าแอลกอฮอลไ์ ปควกั ท่ีปากถุงเห็ด
เพือ่ น�ำ เชอ้ื ราออก ทำ�ประมาณสปั ดาห์ละ 1 ครั้ง หลงั จากท่ีเราได้น�ำ วธิ นี ม้ี าใช้ เหด็ ของเราออกดอก
ได้ดี และมีผลผลติ มากขนึ้ ไม่มีปญั หาเชื้อราอกี เลยค่ะ

“...โรงเรยี นของเราจึงแนะน�ำ เคลด็ ลับนใี้ ห้ชมุ ชนและบคุ คลอนื่ ท่ีมาเยีย่ มชมเสมอ หวังว่าคงมปี ระโยชนก์ ับ
เพ่ือนๆ นะคะ”

เล่าเรอื่ งโดย ด.ญ.พมิ พน์ ภิ า พลราชม
นกั เรยี นโรงเรียนบา้ นเหลา่ โพนค้อเหลา่ ราษฎร์วิทยา

ความส�ำ เร็จเลก็ ๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB 35

สารพนั เรอ่ื งเห็ด...กบั ครวู นั ชัย

ถา้ พูดถงึ เรือ่ งเห็ด เพอื่ นๆ คงตอ้ งนกึ ถงึ โรงเรียนบ้านตลาดควายของเราแน่นอน ต้งั แตค่ ณุ ครูวัน
ชยั แสวงชยั ยา้ ยมาอยทู่ ี่โรงเรียนของเรา ก็ช่วยใหเ้ ราไดเ้ รยี นร้เู ร่อื งเหด็ มากมาย เพราะคุณครูมีความ
เช่ยี วชาญเรอื่ งเหด็ ดว้ ยความชอบสว่ นตัวในเร่ืองการเกษตร ความขยันแสวงหาเรยี นรู้ คุณครูสอน
ให้เราร้จู ักคิด และตัง้ คำ�ถาม เวลาอยากรู้อะไร คุณครูจะกระต้นุ ใหเ้ ราได้ลงมอื ปฏิบัตดิ ว้ ยตนเอง โดยยึด
หลักการทดลองแบบวทิ ยาศาสตร์

แม้ว่าเราจะเด่นในด้านการเพาะเห็ดขอนขาว แต่คณุ ครสู อนให้เราได้ทดลองเพาะเหด็ นางฟา้ นางรม เห็ดบด
เห็ดหูหนู เห็ดหอม เหด็ โคนญี่ปุ่น ซ่งึ เห็ดเหล่านใ้ี นธรรมชาติเหด็ ตามท่อนไม้ผๆุ เหมอื นเหด็ ขอนขาวอยู่
แลว้ ด้วยค่ะ เพ่ือให้เรารจู้ กั เรียนรู้ และคิดเปน็ คณุ ครสู อนให้พวกเราเรยี นร้เู รอ่ื งการเพาะเหด็ บนขอนไม้ มี
หลกั การดงั นค้ี ่ะ
1. หาท่อนไมส้ ดเหลือใช้ (จะชนิดใดกไ็ ด้ จะเลก็ หรอื
ใหญก่ ใ็ ชไ้ ดค้ ่ะ) ตัดเปน็ ทอ่ นๆ ทอ่ นละประมาณ 1 เมตร
จะให้ดคี วรเปน็ ไมท้ ่ไี ม่อ่อนหรือแก่เกนิ ไป ควรเปน็ ไม้เนอ้ื ออ่ น
เพราะไมเ้ นื้อแขง็ เห็ดจะออกไมไ่ ดค้ ะ่
2. เจาะรู น�ำ สว่านหรอื ตุ๊ดตู่ ขนาด 5–6 หุน
เจาะรบู นท่อนไม้ โดยเจาะเป็นแถว แต่ละรหู า่ งกันประมาณ
10 เซนติเมตร (จ�ำ นวนแถวข้ึนอยกู่ ับขนาดไมค้ ่ะ)
3. หยอดเชือ้ เหด็ จากนัน้ น�ำ ปลายช้อนสังกะสี ตักเช้อื เหด็
นำ�มาหยอดเชื้อใส่ตามรทู เ่ี จาะไว้ให้เต็ม
4. ตอกปิดรู โดยตอกด้วยเศษกิ่งไม้ หรือเศษกระดาษ
เหลือใช้ก็ได้ (เราเคยทดลองใชแ้ ล้ว ไม่ตา่ งกันค่ะ)
5. เพาะเลี้ยงเส้นใยเหด็ จากน้นั นำ�ทอ่ นไมไ้ ปเรียงเก็บไวใ้ นท่ีรม่ เพ่อื บม่ เพาะเล้ียงเสน้ ใยเหด็ ให้เชือ้ เหด็ เดิน
ทั่วท่อนไม้ ซ่งึ ใชเ้ วลาประมาณ 60 วัน
6. ให้ความชื้นแก่ท่อนไม้ โดยน�ำ ท่อนไม้แช่ในบอ่ หรือใช้สายยางรดให้ทอ่ นไม้ชุ่ม (ความชนื้ ประมาณ
60–70%) ตรงนค้ี ล้ายการเลยี นแบบความชนื้ ในหนา้ ฝนคะ่
7. น�ำ ท่อนไมม้ าควบคุมอณุ หภูมิ (ขึน้ อยกู่ ับเหด็ ทีเ่ พาะ เด๋ียวจะบอกตอนท้ายนะคะ) เพอ่ื ให้ออกดอก
จะใชผ้ า้ ห่มเกา่ ชุบนำ้� แล้วคลุมดว้ ยพลาสติกอีกชนั้ ไวน้ อกหรือในโรงเรอื นก็ได้ แล้วแต่สถานทจี่ ะอำ�นวย
8. เก็บผลผลิต ผา่ นไปประมาณ 3–4 วนั เห็ดก็จะเริ่มออกดอก การเกบ็ เหด็ ขน้ึ อยู่กบั ความต้องการ
ของเรา ถา้ เกบ็ เร็ว จะไดเ้ หด็ ดอกตมู เน้อื ออ่ นนุ่ม ถ้าช้า จะไดเ้ ห็ดดอกบานเนอื้ เหนียว
9. เริม่ วงจรใหม่ เม่ือสงั เกตวา่ เห็ดเริม่ ออกนอ้ ย ให้พักท่อนไม้ และเริ่มขัน้ ตอนท่ี 5–8 ใหม่

36 ความสำ�เร็จเลก็ ๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB

การเพาะเหด็ บนขอนไม้น้ี จะสามารถเก็บผลผลิตไดจ้ นกว่าไมจ้ ะผุพงั ไปเลยคะ่ ทำ�ใหด้ ีกวา่ การเพาะเห็ดแบบถุง
เพราะให้ผลผลติ มากกว่า แถมต้นทุนก็ถกู กว่าด้วยค่ะ

“เรามเี มนเู ห็ดเด็ดๆ หลายอย่าง ไมว่ า่ จะเป็น เหด็ ชุบแปง้ ทอด ขนมจนี น้ำ�ยาเห็ด น�้ำ พริกเหด็ เปน็ ตน้ ถ้า
ว่างๆ แวะมาดูการท�ำ เหด็ ทโ่ี รงเรียนของเราไดน้ ะคะ”

เล่าเรือ่ งโดย ด.ญ.กนั ยารตั น์ กระสมรมั ย์
นักเรยี นโรงเรียนบ้านตลาดควาย
ขอ้ มูลโดย นายวนั ชยั แสวงชยั
ครูโรงเรยี นบ้านตลาดควาย

เห็ด กับ อณุ หภมู ิ
1. เห็ดบด ประมาณ 38 องศา
2. เห็ดขอนขาว ประมาณ 32 องศา
3. เห็ดนางฟ้า ประมาณ 24 องศา
4. เห็ดนางรม ประมาณ 24 องศา
5. เห็ดหูหน ู ประมาณ 22 องศา
6. เห็ดหอม ประมาณ 18 องศา
7. เหด็ โคนญีป่ นุ่ ประมาณ 18 องศา

ความส�ำ เร็จเลก็ ๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB 37

น้ำ�สมั ควันไมช้ ว่ ยผักสวนครวั

จากทน่ี ้�ำ ส้มควันไมม้ สี ารประกอบต่างๆ มากมาย จงึ สามารถนำ�ไปใชป้ ระโยชน์ทางการเกษตรได้หลายอย่าง
เชน่ ปรับปรุงดิน ปอ้ งกันกำ�จดั ศตั รูพืช เรง่ การเตบิ โตของพชื ซึ่งโรงเรียนชมุ ชนมิตรภาพได้ผลติ
นำ�้ ส้มควันไมเ้ พอ่ื การศกึ ษาและใช้ประโยชน์ พวกเราจงึ ได้นำ�น�้ำ ส้มควนั ไม้มาใช้ในการปลกู พชื ผักสวนครวั ใน
โรงเรยี น วันน้จี ะเล่าถงึ วิธกี ารใช้น้ำ�สม้ ควนั ไม้ในการปลูกผกั คะน้าคะ่

ขนั้ เพาะกล้า
1. เตรียมแปลงเพาะ แปลงเพาะกล้าควรมขี นาดกวา้ ง 1 เมตร ความยาวปรบั ตามความเหมาะสม
2. เตรียมดินบนแปลงเพาะกล้า ควรขดุ ไถพรวนดนิ อย่างดี ตากดนิ ไวป้ ระมาณ 5–7 วัน ยอ่ ยหน้าดิน
ให้ละเอยี ด นำ�นำ้�สม้ ควนั ไม้ผสมนำ้�ในอตั ราส่วน 1: 20 พน่ ลงดนิ เพอื่ ฆา่ เชือ้ จุลินทรยี ท์ ่ไี มเ่ ปน็ ประโยชน์
และแมลงในดิน ซึง่ ควรทำ�กอ่ นการเพาะปลูก 10 วนั แลว้ ใส่ปุย๋ คอกหรือปุ๋ยหมกั ท่ีสลายตวั ดีแลว้ ให้มาก
คลกุ เคล้าให้เขา้ กบั ดนิ ให้ท่วั
3. เพาะ หว่านเมลด็ ใหก้ ระจายสมำ�่ เสมอทัว่ แปลง กลบเมล็ดดว้ ยดนิ หรือป๋ยุ คอกทส่ี ลายตวั ดีแล้วใหห้ นา
ประมาณ 0.6–1 เซนติเมตร คลุมดว้ ยฟางหรอื หญ้าแห้งบางๆ รดนำ�้ ใหช้ ุ่มด้วยบัวรดนำ�้ เมอ่ื ต้นกล้า
มีอายปุ ระมาณ 25–30 วัน จงึ ยา้ ยไปปลูกในแปลงปลกู ตอ่ ไป

ขน้ั ปลูกและเตรยี มแปลงปลูก
1. ขุดดนิ ให้ลกึ ประมาณ 15 – 20 เซนตเิ มตร
2. ตากดินท้งิ ไว้ประมาณ 7 – 10 วนั
3. นำ�ปุย๋ คอกหรอื ปยุ๋ หมักที่สลายตวั ดีแล้วมาใส่ คลกุ เคลา้ ให้เขา้ กบั ดนิ เปน็ การปรับปรงุ สภาพทาง
กายภาพและเพมิ่ ความอุดมสมบูรณ์ของดนิ
4. พรวนยอ่ ยหนา้ ดินให้มขี นาดเล็ก ควรใหม้ ีระยะปลูกระหวา่ งต้นและระหว่างแถวประมาณ 20 X 20
เซนตเิ มตร
5. ใชน้ �ำ้ ส้มควนั ไม้ผสมน�้ำ ในอัตราสว่ น 1: 200 พ่นใบและพ้นื ดินรอบๆ ตน้ คะนา้ ทกุ ๆ 7 – 15 วนั
เพือ่ ขับไล่แมลงและป้องกนั เช้อื รา

38 ความส�ำ เร็จเล็กๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB

ขนั้ เก็บเกีย่ วผลผลิต
อายกุ ารเกบ็ เกย่ี วของคะน้าอยู่ที่ 45–55 วันหลงั ปลกู คะน้าท่ีตลาดตอ้ งการมากที่สดุ คอื คะน้าทม่ี ีอายุ
45 วัน การเกบ็ เกีย่ วคะน้าให้ไดค้ ุณภาพดี รสชาตดิ ี และสะอาด มีเคล็ดลับนดิ หนอ่ ยค่ะ
1. เก็บในเวลาเชา้ ดกี วา่ เวลาบ่าย
2. ใชม้ ีดเลก็ ๆ ตัด อย่าเกบ็ หรอื เด็ดดว้ ยมอื
3. อย่าปล่อยใหผ้ กั แก่เกินไป
4. เก็บแลว้ ควรน�ำ ผกั เขา้ ที่ร่ม วางในท่โี ปรง่ และอากาศเย็น
5. ภาชนะทบี่ รรจผุ กั ควรสะอาด

แตย่ ังไม่จบแค่น้นี ะคะ ขอแถมวิธีการใชป้ ระโยชน์อนื่ ๆ จากน้�ำ ส้มควนั ไมอ้ ีกนดิ ค่ะ
ใช้ในครวั เรอื น (อตั ราส่วน น�้ำ สม้ ควันไม้ : น�้ำ )
100% ใช้รกั ษาแผลสด น�้ำ ร้อน ไฟลวก น�ำ้ กดั เทา้ เชือ้ ราที่ผิวหนงั
1:20 ราดฆ่าปลวกและมด
1:50 ปอ้ งกนั ปลวก มด และสตั ว์ตา่ งๆ เช่น ตะขาบ แมงป่อง
1:100 ดับกลนิ่ ในหอ้ งน�้ำ ครวั และบรเิ วณช้ืนแฉะ

ใช้ในการเกษตร (อัตราส่วน นำ�้ สม้ ควันไม้ : น�ำ้ )
1:20 พ่นลงดินก่อนการเพาะปลกู 10 วัน ฆา่ เช้ือราป้องกนั โรคโคนเนา่
1:50 พ่นลงดนิ ป้องกนั เชอื้ จลุ ินทรีย์ทเี่ ข้าท�ำ ลายพืช
1:200 ฉีดพ่นที่ใบ ชว่ ยขับไลแ่ มลง ก�ำ จดั เชอ้ื รา กระต้นุ ความต้านทานโรคของพืช
1:500 ฉดี พน่ 15 วนั หลังติดผล ชว่ ยใหผ้ ลโตข้ึน (ควรทิ้งระยะก่อนเก็บผล 20 วัน)
1:1,000 ใช้ผสมสารจบั ใบ ใชป้ อ้ งกันหนอนแมลง ใช้ในปศุสัตว์
1:100 ใช้ราดพ้นื คอก ชว่ ยลดกลิ่นและแมลงในคอกสตั ว์

นอกจากนนั้ ยงั สามารถใช้ผสมอาหารสตั ว์ ยบั ยัง้ การเกดิ แก๊สในกระเพาะ ปอ้ งกนั และรกั ษาอาการทอ้ งเสีย
เพม่ิ ปริมาณน้�ำ นม ลดกลิ่นมูลสัตว์ ปรบั ปรงุ คุณภาพเน้อื สตั ว์ใหร้ สดี

เลา่ เรอ่ื งโดย ด.ญ.อินธอุ ร เงาปดั ชา
นักเรียนโรงเรยี นชมุ ชนมติ รภาพ
ข้อมลู จาก นายบุญคง โสฬส
ครูชำ�นาญการ โรงเรียนชุมชนมิตรภาพ

ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB 39

คอนแคนแดนอสี านแห่งบา้ นหลบุ เลา

“คอนแคน” ฟงั ชื่อแลว้ ไม่คอ่ ยคุน้ หูของคนต่างถิ่นหรือแมแ้ ตเ่ ด็กยคุ ใหมก่ นั เท่าไร แตถ่ ้าถามกบั คนวยั
กลางคนข้นึ ไปที่อาศัยอย่บู นเทือเขาภพู าน ตำ�บลหลบุ เลา อ�ำ เภอภพู าน จงั หวดั สกลนคร ตา่ งทราบกันดี
วา่ หมายถงึ อะไร

คอนแคน เป็นชื่อพชื ชนดิ หน่งึ ท่ขี ึ้นแถบเทอื กเขาภพู าน มีชือ่ ทางวิทยาศาสตร์ว่าDracaena angustifo-
lia Roxb. จดั อย่ใู นวงศ์ AGAVACEAE มีลกั ษณะเป็นไมพ้ ่มุ สงู 2–3 เมตร ลำ�ตน้ ตั้งตรง หนารปู
ทรงกระบอก เปน็ ลำ�ต้นเดยี วหรอื แตกยอดไดเ้ ลก็ นอ้ ยสเี ขยี วเขม้ มใี บเปน็ ใบเดย่ี วสลบั กนั รูปดาบกวา้ ง
2 – 3 เซนติเมตร ยาว 20–50 เซนตเิ มตร เนื้อใบเปน็ เสน้ ใยผิวใบดา้ นบนสเี ขยี วเขม้ เป็นมัน มกี าบ
ใบหอ่ หมุ้ ล�ำ ตน้ ดอกออกเปน็ ชอ่ ตามซอกใบและปลายกงิ่ ผลสดรปู เกอื บทรงกลมสเี หลอื งเขม้ สามารถ
น�ำ ไปประกอบอาหารไดห้ ลายชนดิ โดยจะใช้สว่ นทเ่ี ป็นดอกและยอดออ่ น โดยเฉพาะนำ�ช่อดอกมาผัดน้ำ�มัน
หอย อร่อยสดุ ยอดเลย เพราะรสชาติจะหวานหอมคลา้ ยกับหนอ่ ไม้ฝรั่ง และนอกจากจะนำ�มาประกอบ
อาหารแล้ว คอนแคนยงั มีสรรพคุณทางยาคอื รากตม้ น�ำ้ ด่มื แก้ไอ ทัง้ ตน้ ต้มแก้โรคเบาหวาน ในการ
ขยายพันธุ์คอนแคน สามารถขยายพันธุโ์ ดยการปกั ชำ� การใชเ้ มลด็ และการใชห้ นอ่

ประโยชน์มากมายขนาดน้ี แต่การนำ�มาปลูกยังไมแ่ พรห่ ลาย โรงเรยี นหลบุ เลาของเราจึงตดั สินใจเรม่ิ ปลูก
คอนแคน โดยน�ำ คอนแคนมาปลกู ไว้ทบ่ี รเิ วณหลังโรงเรียน การปลกู กเ็ หมอื นกบั การปลูกพืชชนิดอื่นๆ
แต่จะเนน้ ปลูกในที่รม่ ชมุ่ นำ้� จะเจริญเตบิ โตไดด้ ีกว่าครบั

เลา่ เรอ่ื งโดย นายประชามิตร เนาวะเศษ พนักงานราชการโรงเรยี นบา้ นหลบุ เลา

40 ความสำ�เรจ็ เล็กๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB

การท�ำ สาวตน้ ไม้

หลายคนคิดว่าตน้ ไม้ท่ีปลูกมานานมันแก่ใหด้ อกใหล้ ูกกไ็ ม่สวยไมโ่ ตตัดทง้ิ ดกี ว่า อย่านะครบั เสียดาย มี
ตน้ ไม้หลายชนดิ ทีเ่ ราสามารถก�ำ หนดใหเ้ ขากลบั กลายจากตน้ แก่มาเป็นตน้ อ่อนได้ด่ังใจ เช่น แค มะมว่ ง
ฝรง่ั พทุ รา เป็นต้น

กท็ ่านผอ.ประสิทธ์ คนเดิมนั่นแหละ่ ครบั พาพวกผมทำ�ทีส่ วนเกษตรโรงเรียน ทา่ นพาพวกเราตัดตน้ แค
บอกว่า ตดั ให้มันถอดยอดขนึ้ มาใหม่จะสวยกวา่ เดมิ ตอนแรกพวกเราไมเ่ ช่ือหรอก บ่นกันว่า ตดั ซะกุด
อยา่ งนี้ รบั รองตายแน่ๆ

ผา่ นไป 3 เดอื น ต้นแคออกยอดใหม่หลายยอดรอบตน้ เลย ยอดสวยด้วย พวกเรากลับไปถามทา่ น
ผอ.ว่า “ท�ำ แบบนี้ เขาเรียกวา่ ‘ตอน’ ใช่ไหมครับ?” ทา่ นบอกว่า “ไมช่ า่ ยๆ เรียก ‘การทำ�สาว’ ครบั ”

การทำ�สาวต้นไม้ คือ การตดั กิ่งแก่หรือตน้ แก่ให้เหลอื สงู จากพ้ืนประมาณ 50–100 เซนตเิ มตร
แล้วแต่ชนดิ ของตน้ ไม้หรอื สะดวกตอ่ คนตัด อย่างตน้ พุทรา ตดั ทิง้ ใหเ้ หลือต้นตอยาวประมาณ 1
ศอกก็พอแลว้ หลังจากน้ันกพ็ รวนดนิ รอบๆ ใส่ปยุ๋ คอก ให้น�้ำ บ้าง ต้นไมก้ จ็ ะแตกกิง่ และยอดใหม่ ง่าย
ต่อการเก็บมารบั ประทาน

เลา่ เรอ่ื งโดย ด.ช.มนรักษ์ หาบุญมา นักเรยี นโรงเรียนบา้ นโสกแดง

ความสำ�เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB 41

42 ความส�ำ เรจ็ เลก็ ๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB

ดนิ ดสี ดี �ำ

ทำ�ไมเราตอ้ งปรับปรุงดิน? ทุกคนคงรู้ดีว่า ดนิ มีความสำ�คัญมากสำ�หรับการเพาะปลกู ดินในภาคอีสาน
สว่ นใหญ่มสี ภาพแหง้ แลง้ ดินทโ่ี รงเรียนเรากเ็ หมือนกนั โรงเรียนเรามีพ้ืนทขี่ ้างหลงั โรงเรียนว่างอยู่ แต่มี
สภาพดินไม่ดี ไม่เหมาะทจี่ ะปลกู ผักหรือท�ำ อะไรต่างๆ ครแู ละนักเรยี นเลยคดิ วา่ จะท�ำ อยา่ งไรให้ดนิ ดี
จากการคิดหาวธิ ีการโรงเรยี นเราเลยทดลองท�ำ แปลงสาธิต เพ่อื ปรบั ปรงุ ดินข้นึ มา วธิ ีการทำ�แปลงสาธติ
ปรบั ปรงุ ดินของเรามีข้นั ตอนดงั น้ี

1. ขุดดนิ ลึกประมาณ 30–40 ซ.ม. ความยาวเทา่ ไรก็ได้
2. นำ�ใบไม้ พชื สด เศษอาหาร หรือเปลอื กผลไม้
ไส้เดอื นและปุ๋ยคอก เอามาใส่ใหเ้ ต็มหลมุ แล้วรดน�ำ้ พอ
ใหช้ ุ่ม (ถ้าจะใหด้ ีตอ้ งใส่พชื สดเพราะยอ่ ยสลายได้เร็ว)
3. เอาดินที่ขุดขึน้ มากลบลงไป ทง้ิ ไว้ 3–4 เดอื น
4. ขดุ ดนิ ที่ไดฝ้ ังกลบขนึ้ มา สงั เกตวา่ ดินจะมสี ีด�ำ
แสดงว่าดนิ น้เี ปน็ ดินทส่ี มบรู ณ์
5. พอขุดออกมาแล้ว ทำ�ซ้ำ�ตามวิธีเดมิ อีกจนกว่า
ดินท้งั หมดจะสมบูรณ์พร้อมปลกู พืชผักได้

“...การท�ำ แปลงสาธิตปรับปรุงดินใหม้ ีดนิ รว่ น เราต้องเอาสารอาหารตา่ งๆ มาบำ�รงุ เช่น เศษอาหาร
ใบไม้ เศษพชื ผักท่ีเหลือจากการประกอบอาหาร วิธีการงา่ ยๆ แค่เรม่ิ คดิ และลงมือปฏบิ ัติ แค่น้เี รากม็ ดี นิ
ที่ดแี ลว้ ค่ะ”

เลา่ เรื่องโดย ด.ญ.พรี ะพร พระโสภณ
นักเรยี นโรงเรยี นบ้านส�ำ โรงโคกเพชร

ความส�ำ เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB 43

ปยุ๋ หมัก 24 ช่ัวโมง

โรงเรยี นของเราทำ�โครงการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกผักสวนครัว แกว้ มงั กร และไมย้ ืนตน้ ตา่ งๆ ท�ำ ให้
ต้องใช้ปุ๋ยหมักอย่ตู ลอดเวลา การท�ำ ปุ๋ยโรงเรียนของเราก็มี แต่มักจะติดปญั หาวา่ ตอ้ งใชเ้ วลานานกว่าจะ
ครบกำ�หนด สามารถน�ำ มาใชไ้ ด้

วันหน่ึงดฉิ ันได้ไปดูการท�ำ เกษตรที่บา้ นของ นางทินกร ขนทรพั ย์ หรือ แม่กร เกษตรกรชาวบา้ นตาก
แดด ได้ฟังแมก่ รเลา่ ว่า เคยทำ�ปุ๋ยหมกั แล้วกวา่ จะไดใ้ ชม้ ันนานไมท่ นั ใจ ครน้ั จะไปซ้ือปุ๋ยเคมใี ชม้ ันกแ็ พง และ
ไมป่ ลอดภยั ก็เลยคดิ ๆ ดูวา่ จะท�ำ ยงั ไงป๋ยุ หมกั ทีท่ ำ�จึงจะเรว็ ทนั ใจ ไม่ตอ้ งรอหลายวนั จนได้สตู ร “ป๋ยุ
หมัก 24 ชัว่ โมง” อยากรกู้ ันไหมคะว่า แมก่ รทำ�ยงั ไง

1. น�ำ ฟางหรือใบไมแ้ ห้งมาสบั ใหล้ ะเอยี ด
แลว้ น�ำ มาคลกุ กับมูลววั /ควาย หรอื จะใช้แกลบกไ็ ด้
2. คลกุ เคลา้ จนท่วั กันแลว้ ทำ�เป็นชน้ั ๆ
โดยระหวา่ งช้นั แตล่ ะช้ันให้โรยด้วยร�ำ อ่อน และรดดว้ ย
นำ�้ จุลนิ ทรยี ์ ซ้อนกันสงู ประมาณ 50 ซ.ม.
3. คลมุ ด้วยกระสอบป่าน ทงิ้ ไว้ 8 ช่ัวโมง
4. เปดิ กระสอบป่าน พลกิ กลบั ดา้ น แล้วคลมุ ไว้
เหมือนเดิม ท้ิงไวอ้ ีก 16 ช่ัวโมง ก็น�ำ มาใชไ้ ด้

แค่ 24 ช่วั โมงเทา่ น้นั ก็ไดป้ ุย๋ หมกั พร้อมใช้ จะเอามาใส่โคนต้นไม้ รองก้นหลุม หรือ ใชค้ ลกุ เคลา้ กับดนิ
ปลูกผกั หรอื ตน้ ไม้ ก็ได้ เพือ่ นๆ ลองเอาไปท�ำ กนั ดนู ะคะ

เล่าเรือ่ งโดย ด.ญ.จารวุ รรณ ข่าขนั มะลี นักเรยี นโรงเรยี นบา้ นตากแดด
ขอ้ มูลโดย นางทนิ กร ขนทรพั ย์ เกษตรกรชาวบา้ นตากแดด

44 ความสำ�เรจ็ เล็กๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB

ใบไม้รว่ งแลว้ ไปไหน?


สงิ่ ท่ีหนมู คี วามประทบั ใจมากเก่ียวกบั การมีส่วนร่วมในโครงการ ก็คือ การไดน้ ำ�ของทเี่ หลอื ใช้มาทำ�
ประโยชน์อีกคะ ของบางอยา่ งทเ่ี ราเคยสงสัยว่า จะเอาไปไวท้ ี่ไหน? จะเอาไปทง้ิ ท่ีไหน?

โรงเรยี นของหนูมีใบไม้มากมาย เม่ือก่อนน้ี ทุกๆ วนั เวลาทำ�เวร ตอ้ งกวาดบรเิ วณโรงเรยี น หนมู ักจะ
ตงั้ คำ�ถามบอ่ ยๆ ว่าจะเอาเศษใบไม้ไปทงิ้ ทไ่ี หน? แตต่ อนนไ้ี ม่แลว้ คะ่ เพราะเศษใบไมเ้ ปน็ วตั ถดุ บิ ในการท�ำ ปุ๋ย
หมักที่ดมี ากเลย ไม่ต้องเสียตังค์ซ้อื ด้วย ทโี่ รงเรียนหนจู ะขดุ หลมุ ไวห้ ลายหลุม ทกุ ๆ วันหลงั จากกวาด
ใบไม้ หนูและพวกเพอ่ื นๆ กจ็ ะพากันขนมาเทใส่หลมุ ไวจ้ นเต็มไปทลี ะหลมุ ทิง้ เอาไว้ จาก “หลุมใบไม”้ ก็
คอ่ ยๆ ย่อยสลายกลายเปน็ “หลมุ ปยุ๋ หมัก” ทเ่ี ราจะขดุ เอาไปใชใ้ ส่ตน้ ไมต้ อ่ ไปค่ะ

นอกจาก เศษใบไม้แล้ว เศษอาหารกเ็ อามาทำ�ไดน้ ะคะ แตต่ อ้ งกลบหลุมให้เรยี บร้อย ไม่อยา่ งน้นั สัตว์
เลย้ี งต่างๆ เช่น สุนัข ไก่ จะมาค้ยุ เข่ีย ท�ำ ใหก้ ระจดั กระจายไม่สะอาดตาได้ และจะสง่ กลน่ิ รบกวนดว้ ยค่ะ

“...สง่ิ ทหี่ นเู ล่ามานีท้ ำ�ใหห้ นไู ด้เรยี นรใู้ นเรื่องต่างๆ ทำ�ให้หนูไดร้ ับประสบการณแ์ ละไดเ้ รียนรวู้ ่าสิง่ ท่ใี ช้แล้ว
สามารถน�ำ มาใชใ้ หมไ่ ด้คะ่ ”

เล่าเร่อื งโดย ด.ญ.พรี ะพร พระโสภณ
นักเรยี นโรงเรยี นบ้านสำ�โรงโคกเพชร

ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB 45

ปุย๋ หมกั จากใบหญา้

เมื่อกอ่ นโรงเรยี นเราจะซ้อื ปุ๋ยสำ�เรจ็ รปู จากร้านคา้ หา้ งรา้ นตา่ งๆ มาใส่ตน้ ไม้ โดยหารไู้ มว่ า่ ป๋ยุ ท่ซี อื้ มานั้น
พอใชบ้ อ่ ยๆ เข้าหน้าดินเสีย ดนิ เปน็ กรด ปลกู พืชผกั ผลไมไ้ ดไ้ มเ่ จรญิ งอกงาม โรงเรยี นของเราจึงคดิ
วธิ กี ารแกป้ ญั หาดนิ ทก่ี ำ�ลงั เส่อื มคุณภาพ เมื่อมองไปรอบๆ โรงเรยี น เราก็นึกถงึ ใบหญ้าที่รกรงุ รงั ตาม
โคนต้นไม้ ตามแปลงผกั ไมไ่ ด้ใชป้ ระโยชน์ ตัดถอนมาแลว้ กน็ ำ�ไปเผา ทำ�ใหเ้ กิดภาวะเรือนกระจก หรือภาวะ
โลกรอ้ น โรงเรียนของเราจงึ คิดสูตรการทำ�ปยุ๋ ด้วยใบหญา้ ขึ้น

1. ดายหญา้ ตัดหญ้า ทร่ี กรุงรังตามเขต
รบั ผิดชอบของแตล่ ะห้อง รวมกองเป็นห้องๆ
2. รดน้�ำ ใหช้ มุ่ แฉะทัว่ ทงั้ กอง
(ใช้น�้ำ ผสมน้ำ�จุลนิ ทรีย์ หรอื นำ�้ เปล่า ก็ได้)
3. คลมุ ด้วยผ้า หรือ พลาสติก หมน่ั เปดิ รดนำ้�
ทุกวนั ประมาณ 1 เดอื นหญ้าจะเหย่ี วเฉาแห้งจน
กลายเป็นสนี ้�ำ ตาล และรว่ นซุย สามารถน�ำ ไปใส่ใน
แปลงผัก เหมอื นปยุ๋ คอก

“...การท�ำ ป๋ยุ แบบนี้ไมจ่ ำ�เป็นต้องใชใ้ บหญา้ ตน้ หญ้าอยา่ งเดยี วกนั กไ็ ด้อาจจะใช้ใบไม้แหง้ หรือจะใชเ้ ศษ
อาหารก็ได้ ปุย๋ หมกั จากใบหญ้าน้ี นอกจากจะใช้แทนปุ๋ยตามทอ้ งตลาดทว่ั ไปแล้วยังท�ำ ใหเ้ ปน็ การเพ่ิมฮวิ มัส
ให้กับหน้าดินไม่ทำ�ใหห้ นา้ ดนิ เสีย ประหยัดค่าใชจ้ า่ ยในการซือ้ ปุ๋ย ช่วยลดภาวะโลกรอ้ นไดอ้ กี ทางหนึง่ ”

เลา่ เร่อื งโดย ด.ญ.อรศิ รา ประเสริฐ นกั เรยี นโรงเรยี นบ้านนาจาน
ทปี่ รึกษา นางวาทศลิ ป์ พรหมลกั ษณ์ ครู ค.ศ. 2 โรงเรยี นบ้านนาจาน
นายประสิทธ์ิ พลโสภา ครูโรงเรยี นบ้านนาจาน

46 ความสำ�เรจ็ เลก็ ๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB

ต่อไปจะไมใ่ ช…้ ปยุ๋ เคมี

แมว้ ่า โรงเรยี นของเราจะมีการท�ำ ปุ๋ยหมักชีวภาพจากใบไม้ท่มี มี ากมาย แตว่ ธิ ีนี้ต้องใช้เวลานานในการหมกั
กว่าจะน�ำ มาใช้ได้ เราจงึ คดิ หาวธิ ที �ำ ปยุ๋ ชีวภาพท่ีใช้เวลารวดเร็วกวา่ การหมัก จึงน�ำ เรื่องไปปรกึ ษา คุณครู
ประชุม เรยี มแสน คณุ ครูนักคดิ ภมู ิปัญญา บอกวา่ พวกเรามองขา้ มประโยชนข์ องนำ�้ แชข่ ้าวเหนียวที่
เหลอื ทิง้ แตล่ ะวัน นำ้�แชข่ ้าวเหนยี วน้ันสามารถนำ�มาเปน็ ปยุ๋ ชีวภาพไดเ้ ปน็ อย่างดีและรวดเรว็ อุปกรณแ์ ละ
วัตถุดิบนัน้ ก็หาได้ง่ายในบา้ นเรา จากนั้นกส็ อนการทำ� ปุย๋ ชวี ภาพสตู รใหม่จากน�้ำ แช่ขา้ วเหนยี วและ EM

คณุ ครู บอกวา่ ให้น�ำ นำ้�แชข่ ้าวเหนยี วมาผสมกบั สาร EM (อตั ราส่วน น�้ำ แชข่ ้าวเหนียว 5 ลิตร ตอ่
EM 1 ฝา) ใส่ไว้ในขวดพลาสตกิ หรือขวดน�้ำ อัดลมปดิ ฝาไวใ้ หแ้ นน่ เกบ็ ไวใ้ นท่ีรม่ ประมาณ 2–3 วัน
กส็ ามารถนำ�ไปใชไ้ ด้แล้ว อันทจ่ี ริงเราจะใชน้ ำ้�แช่ข้าวเหนยี วอยา่ งเดียวเลยกไ็ ด้ แตก่ ารทเี่ ราเตมิ สาร EM
เขา้ ไป จะทำ�ให้น�ำ้ แชข่ ้าวเหนียวไมบ่ ูด สามารถเก็บไว้ใชไ้ ด้เมอ่ื ตอ้ งการ

ส่วนประโยชนข์ องปยุ๋ ชวี ภาพ สตู รน�ำ้ แชข่ ้าวเหนียวน้ี น�ำ ไปรดไมผ้ ลจะท�ำ ใหล้ ูกดกและโต ถ้าเป็นพชื ทก่ี นิ ใบ
จะท�ำ ใหต้ น้ ใหญ่ เพราะในน้ำ�แช่ขา้ วเหนยี วจะมสี ารอาหารประเภทคารโ์ บไฮเดรต เปน็ ประโยชน์มากสำ�หรับพืช
ผักในโรงเรยี นของเรา ทั้งประหยัด ท�ำ ง่าย ใช้เวลานอ้ ย และมีประโยชน์อย่างนี้ ต่อไปน้โี รงเรียนของเราจะ
ปลอดสารเคมแี ล้วนะคะ

เลา่ เรื่องโดย ด.ญ.อชิ รา ยางธสิ าร นักเรยี นโรงเรยี นบา้ นหว้ ยยาง
ข้อมูลโดย นายประชมุ เรยี มแสน ครูโรงเรยี นบา้ นหว้ ยยาง

ความส�ำ เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB 47

เหด็ หมดเชือ้ ...แต่ยงั ไม่หมดค่า

หน่งึ ในโครงการหลายอยา่ งของโรงเรยี น คือ โครงการเพาะเห็ดนางฟ้า แตโ่ รงเรียนของพวกเราไมใ่ ชจ่ ะเพาะ
เหด็ นางฟา้ ชนิดเดียว แตไ่ ดเ้ ลอื กเหด็ ตามฤดกู าลมาเพาะดว้ ย ซึ่งจะไดผ้ ลผลิตดีกว่า สำ�หรับผม นอกจาก
ทักษะเกษตรแล้ว โครงการน้ยี งั สรา้ งความสามคั คใี นหมู่คณะอีกดว้ ย ผมยังสังเกตเห็นวา่ เพือ่ นๆ พ่ๆี
นอ้ งๆ รู้จกั อดออมและแบง่ เวลาวา่ งหลังจากไม่มีช่ัวโมงเรียน มาทำ�หน้าทีท่ ่ีได้รับมอบหมายจากครู
มาเข้าเรอ่ื งกนั เลยดกี วา่ ครบั การเพาะเห็ด พวกเราจะใชว้ ิธีซอ้ื กอ้ นเหด็ สำ�เร็จมาเปดิ ดอก และเก็บผลผลิต
ครับ เมอ่ื ก้อนเหด็ ใหผ้ ลผลิตจนหมดเชือ้ แลว้ กจ็ ะเปลย่ี นกอ้ นใหม่ ดงั น้นั จะมกี อ้ นเหด็ หมดเชอื้ เหลือ
อยู่จำ�นวนมาก ตอนแรกก็คิดว่าจะทงิ้ แตม่ ีเพื่อนๆ เสนอวา่ นา่ จะน�ำ มาท�ำ เป็นปยุ๋ ได้ พวกเราจึงไดท้ ดลอง
น�ำ กอ้ นเหด็ หมดเช้อื มาทำ�เป็นปยุ๋ ผลปรากฏว่า ปยุ๋ ทที่ ดลองท�ำ ประสบความสำ�เรจ็ ดว้ ยดี โรงเรยี นของ
พวกเราจึงท�ำ ปุ๋ยชีวภาพจากก้อนเหด็ หมดเช้ือมาโดยตลอดครบั วสั ดแุ ละอปุ กรณ์หลกั ๆ ก็เปน็ ของทีม่ ี
อยู่ในโรงเรียนแล้ว กค็ ือ กอ้ นเห็ดหมดเชือ้ จอบเสียม อเี อม็ น้�ำ เปลา่ และกระสอบ มีวิธีทำ�ดงั นีค้ รับ

1. นำ�กอ้ นเหด็ หมดเช้ือออกจากถงุ พลาสติก
2. เอาจอบเสียมตกี ้อนเห็ดใหแ้ ตก แลว้ ผสมกบั อเี อม็
และน้�ำ เปลา่ ท่ีเตรียมไว้ (อัตราสว่ น กอ้ นเหด็ หมดเชอื้
1 กะละมัง ต่ออีเอม็ 2 ช้อนโตะ๊ ต่อน�้ำ เปล่า 10 ขัน)
3. ใช้จอบและเสยี มคลกุ เคล้าให้เขา้ กนั ก้อนเหด็ จะ
มคี วามชุม่ ช้ืนพอประมาณ
4. ทิ้งไว้ประมาณ 2 ชัว่ โมง จงึ ตักใส่กระสอบ
มดั ปากใหแ้ นน่ ทงิ้ ไว้ 3 วนั ก็น�ำ มาใชป้ ระโยชนไ์ ด้

“...การท�ำ แบบนี้ ท�ำ ให้โรงเรยี นของพวกผมมปี ๋ยุ ชีวภาพไวใ้ ส่พชื ผกั สวนครวั ของโรงเรียนตลอดโดยไม่
ตอ้ งเสยี เงนิ ซอ้ื และยงั ไมต่ อ้ งหาทท่ี ง้ิ ก้อนเหด็ หมดเชอ้ื อกี ด้วยครับ”

เล่าเรื่องโดย ด.ช.สรุ ิยันต์ เขยี วขำ� ด.ช.พงษศ์ กั ด์ิ ชินโชติ และด.ช.ณรงคก์ าร ประเสริฐ
นักเรยี นโรงเรียนบ้านคำ�นาแซง

48 ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB

ปยุ๋ หมักรกั ษ์โลก

เนื่องจากโรงเรยี นบา้ นหนองแสง ปลูกพชื ผกั เชน่ กลว้ ย ผกั เราไดน้ �ำ ปุย๋ คอกธรรมดามาใส่ดูแลว้ ท�ำ ให้
พืชไม่เจริญเท่าทค่ี วร จึงเกิดความคดิ ทจี่ ะทำ�ปยุ๋ หมกั ข้ึนใช้เอง จึงได้ปรกึ ษาครูทปี่ รึกษาโครงการทนุ การ
ศกึ ษา คอื ครูสถติ ไชยนคิ ม ทา่ นไดใ้ หส้ ตู รท�ำ สว่ นผสม ดังน้ี

สว่ นประกอบ

1. มลู ค้างคาว หรือ มลู วัว 1 ส่วน

2. ใบฉำ�ฉา (จามจรุ ี) 1 ส่วน

3. แกลบด�ำ 3 ส่วน

4. ร�ำ ละเอยี ด 1 สว่ น

5. หวั เชอื้ EM หรือ พด.1 30 มิลลิกรัม (ต่อ ปุ๋ย 30 กรมั ) เลา่ เร่ืองโดย ด.ญ.กสุ มุ าศ ชนะภัย
6. กากน้ำ�ตาล 30 มิลลกิ รัม (ตอ่ ปยุ๋ 30 กรัม) ด.ญ.เสก็ดดาว สาริมาตย์ และ
7. น�้ำ สะอาด 10 ลติ ร (ตอ่ ปยุ๋ 30 กรมั ) ด.ญ.ปรียานุช เจนการ

วิธีท�ำ นกั เรยี นโรงเรียนบา้ นหนองแสง

1. นำ�แกลบดำ� มูลค้างคาว มลู วัว ใบฉ�ำ ฉา ผสมคลุกเคลา้ ให้เข้ากนั

2. นำ�กากนำ�้ ตาล EM หรือ พด. 1 และน้�ำ ผสมให้เข้ากัน แล้วนำ�มารดสว่ นผสมขอ้ 1 คลุกเคล้าใหเ้ ขา้

กนั โดยใหม้ คี วามชื้นประมาณ 50% สอบความชื้นโดยทดลองเอามอื ก�ำ สว่ นผสมให้แน่น ถ้าก�ำ แน่นแลว้

พอแบมอื ออกส่วนผสมแตกไม่เป็นกอ้ น แสดงว่าความชนื้ น้อยไป ใหผ้ สมกากนำ้�ตาล EM และน�ำ้ รด

หรือราดเพม่ิ เติม แต่ถ้ากำ�สว่ นผสมแล้ว แบมือออกแล้ว ส่วนผสมเปน็ ก้อนจนใช้นวิ้ สมั ผัสก็ไมแ่ ตก

กระจาย แสดงวา่ ชื้นเกินไป ใหใ้ ช้แกลบด�ำ ผสมเพ่มิ ข้ึนอีกจนกว่าจะได้ความชื้น 50%

3. เม่ือได้ความช้นื ตามความตอ้ งการแล้ว นำ�ไปกองกับพ้นื ปูนหรอื บนพลาสตกิ ใหม้ คี วามสงู ไม่เกิน 15

เซนตเิ มตร แล้วใชก้ ระสอบป่านคลมุ ใหม้ ิดชดิ หมักไว้ 3 วนั กส็ ามารถน�ำ ไปใชไ้ ด้ การตรวจสอบว่าปยุ๋

หมักใชไ้ ด้หรอื ไม่ มีวิธกี ารดงั น้ี

- ตรวจสอบอณุ หภูมใิ นกองปยุ๋ หมกั โดยใชม้ ือแหยล่ งไปในกอง ถ้าอุณหภูมิยงั ร้อนกวา่ อุณหภูมิปกติ

รอบตัวเรา แสดงว่ายงั ใชไ้ ม่ได้ แต่ถ้าอุณหภูมิในกองป๋ยุ หมักเทา่ กับอณุ หภูมปิ กตริ อบตวั เราแสดงวา่ ใช้ได้

- ดมกลิ่นปุ๋ยที่เราหมักไว้ จะมีกล่ินหอมอมเปร้ยี ว แสดงวา่ ใชไ้ ด้ แต่ถา้ มีกลน่ิ เหมน็ ให้ใช้ EM กากนำ้�ตาล

น�้ำ ผสมกนั แล้วราดตามขนั้ ตอนแรก และหมกั ไวอ้ ีกจนกว่าจะใชไ้ ด้

วิธีการใช้
1. บำ�รุงต้นไม้ ใช้ป๋ยุ หมักรกั ษโ์ ลกโรยรอบทรงพุ่มตน้ ไม้
2. รองก้นหลุมในการปลกู ใหม่ ใช้ปุ๋ยหมักรักษ์โลกผสมกบั ดินในอตั ราส่วน 1:4 น�ำ ไปใส่ลงไปในหลุม
3. หมกั ฟางข้าวในนา ใชป้ ยุ๋ หมกั รักษ์โลกโรยบนฟางข้าว ไร่ละ 100 กิโลกรมั และใช้ EM ฉีดพน่ ให้
เปยี กชุม่ แล้วหมักไว้ 15 นาที

ความสำ�เรจ็ เลก็ ๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB 49

มหัศจรรยส์ มนุ ไพรฆ่าแมลง

โรงเรยี นบา้ นหนองแสงของเรา ได้มกี ารศกึ ษาสารฆ่าแมลงจากธรรมชาติ และวธิ ีการเตรยี มสารฆ่าแมลง
เหลา่ นั้น ใหม้ ฤี ทธิ์ฆา่ แมลงมากพอสมควร มพี ษิ น้อยต่อคน สตั วอ์ ื่นๆ และสงิ่ แวดล้อม ในปจั จุบนั พชื
ที่ได้รบั ความสนใจ เพอื่ น�ำ มาใชเ้ ตรยี มยาฆา่ แมลงมักเปน็ พืชทส่ี ามารถปลกู ได้ในทอ้ งถิน่ และให้ผลผลติ สูง
พวกเราขอน�ำ เสนอกรรมวธิ กี ารผลติ ยาฆา่ แมลงจากสมนุ ไพร สูตรโรงเรยี นบา้ นหนองแสง ที่ท�ำ ไดง้ า่ ย
ราคาถกู สามารถนำ�ไปพฒั นาใชก้ บั เรอื กสวน ไร่นา หรอื ใช้เองภายในครัวเรือน

ตอน สะเดา
สะเดาเป็นพืชทม่ี ขี นึ้ อยูม่ ากมายในท้องถ่ิน ตำ�บลห้วยเตย ซง่ึ นอกจากจะใชร้ บั ประทาน เป็นอาหารแล้ว
ล�ำ ต้นยังใชท้ ำ�ฟนื หรือใช้เป็นไมส้ �ำ หรบั กอ่ สร้างที่ทนตอ่ ปลวก น�ำ้ มันท่ไี ดจ้ ากการหบี เมลด็ น�ำ มาใช้เป็นเชื้อ
เพลงิ ส�ำ หรับเคร่ืองยนต์ หรอื ใชท้ �ำ สบู่ กากของเมลด็ ใช้ทำ�ปยุ๋ หรอื อาหารสัตว์ เป็นต้น
สว่ นของสะเดาทนี่ ำ�มาใช้ในการเตรยี มสารฆ่าแมลง ใช้ได้ทงั้ สว่ นเมล็ดและใบ โดยสารฆ่าแมลงทีส่ กัดจากสะเดา
ใชไ้ ดท้ ้งั เปน็ สารฆา่ แมลง และสารไล่แมลง สำ�หรบั หนอนและแมลงทัง้ ระยะทีเ่ ป็นตัวอ่อนและตัวเต็มวัย จาก
ทดลองของเราพบวา่ สารสกัดจาก “เมลด็ ” มีประสทิ ธิภาพดกี วา่ “ใบ” แต่เมล็ดเก็บใชไ้ ด้เพียง
ปีละ 1 ครงั้ เท่านัน้

ยาฆ่าแมลงจากเมล็ดสะเดา

1. น�ำ ผลสะเดาสกุ ตามต้องการ ลา้ งน�้ำ ขัดส่วนท่เี ปน็ เนื้อออกเหลือแตเ่ มล็ด

2. นำ�ไปผึง่ แดดประมาณ 3–4 วัน เพื่อให้เมล็ดแหง้ สนิท เมล็ดสะเดา

3. เก็บเมลด็ สะเดาแหง้ ใส่ภาชนะท่ปี ิดสนิท เก็บไวใ้ นหอ้ งท่ีมีอุณหภูมิปกติ แสงแดดสอ่ งถึง (สามารถเกบ็ ไว้

ไดจ้ นกว่าต้องการใช)้

4. เมอ่ื จะใช้ นำ�เมลด็ สะเดามาต�ำ หรอื บดให้ละเอยี ด ผสมกับนำ�้ ในอตั ราส่วน เมลด็ สะเดาบด 50 กรัม ต่อ

นำ�้ 1 ลิตร (ถา้ เก็บไว้นาน ต้องระวงั เมล็ดสะเดามฝี ุ่นผงหรอื เชือ้ รา)

5. ผสมแลว้ คนให้เขา้ กนั ปิดฝาทง้ิ คา้ งคืนไว้ 1 คนื ปลอ่ ยใหเ้ มล็ดสะเดานอนก้นแลว้ จึงกรองดว้ ยผา้ ขาว

บาง ใชน้ �้ำ สะเดาท่ีสกดั ไดฉ้ ดี พน่ ให้โดนตัวหนอนหรือแมลงโดยตรง หนอนจะตายภายใน 24 ชั่วโมง

ยาฆา่ แมลงจากใบสะเดา ใบสะเดา
1. เก็บใบสะเดาสด 1 กโิ ลกรมั ล้างใหส้ ะอาด
2. โขลกใหล้ ะเอียด ผสมกบั นำ้� 5 ลิตร
ทิ้งคา้ งคนื ไว้ 1 คนื
3. กรองใบสะเดาออก กอ่ นน�ำ ไปใชง้ าน

50 ความสำ�เรจ็ เล็กๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB

ตอน กระเทยี ม
การปลกู กระเทียมเพ่ือใช้เป็นสารฆา่ แมลงไมค่ วรใสป่ ุ๋ย นยิ มปลูกตน้ กระเทียมรอบๆ สวนผลไมเ้ พ่อื ขับ
ไล่แมลง และหนูทจี่ ะเขา้ ท�ำ ลายพืช กระเทียมมีสารก�ำ จดั ศัตรูพืชหลายชนิด เช่น เพลยี้ อ่อน แมลงกินใบ
แมลงผีเสื้อ หนอนเจาะ รวมไปถึงรานำ้�คา้ ง ราแป้งขาว ราสนิมถ่ัว เป็นตน้

ยาฆา่ แมลงจากกระเทียม
1. โขลกกระเทียม 0.5 กิโลกรมั ใหล้ ะเอียด แช่ในน้�ำ มนั กา๊ ด
หรือ นำ�้ มันเบนซิน ประมาณ 2 ถ้วยตวง ทิง้ ไว้ 24 ช.ม.
2. นำ�สบู่ปรมิ าณเลก็ น้อยละลายนำ�้ แล้วเติมลงในสารละลาย
ในขอ้ 1 ผสมใหเ้ ขา้ กนั แล้วกรองเอาแตส่ ว่ นท่ีใสมาใช้
3. กอ่ นนำ�สารฆ่าแมลงที่เตรียมไดใ้ นข้อ 2 ไปฉดี พน่ ฆา่ แมลง ใหผ้ สมน�้ำ เพมิ่ อีก 20 เท่า (หรือประมาณ
2.5 ป๊ีป) การฉดี พน่ น้ำ�กระเทยี มควรท�ำ ในเวลาเชา้ ตรู่ เพราะหากฉดี พน่ ในเวลาสาย แสงแดดจะท�ำ ให้
น�้ำ ยาระเหยเร็ว หากพ่นยาแล้วแมลงศัตรูพชื ยังมีชวี ติ อยู่ให้ฉีดพ่นซำ�้ อีกครั้ง น้ำ�ยาทผ่ี สมแล้วมีฤทธิอ์ ยู่
ไดน้ านประมาณ 1 สัปดาห์ และเพื่อให้นำ�้ ยาออกฤทธม์ิ ากขน้ึ อาจเติมพริกไทยปน่ หรือหัวหอมลงในส่วน
ผสม

ตอน พรกิ
พรกิ เป็นพืชทข่ี ึน้ ไดด้ ีในเขตอ�ำ เภอกุดรัง สว่ นของพรกิ ที่มีคุณสมบัตใิ นการฆา่ แมลง คอื ผลสุก แต่ละ
สว่ นของพรกิ มสี ารท่ใี ห้แตกต่างกนั คือ ส่วนของผิว และเมลด็ มสี ารฆา่ เช้อื รามาก สำ�หรบั ใบและดอก มี
สารยับยง้ั การขยายตัวของเชือ้ ไวรัส ศตั รพู ืชท่พี รกิ มผี ลในการป้องกันและกำ�จดั ได้แก่ ด้วงงวงขา้ ว
เพลี้ยอ่อน หนอนหลายๆ ชนดิ

ยาฆา่ แมลงจากพริก
1. โขลกพรกิ 100 กรัม ให้ละเอียด
2. ละลายนำ�้ ให้คนแรงๆ ประมาณ 10 นาที แล้วกรองเอาแต่นำ�้ ใส
3. เติมนำ�้ สบเู่ ลก็ นอ้ ย น�ำ ไปใชฉ้ ีดพน่ ฆา่ แมลง
(ขอ้ ควรระวัง หากเข้มข้นเกนิ จะท�ำ ใหใ้ บไหม้ ขอแนะนำ�ใหท้ ดลองฉดี พน่ ในกระถางก่อนค่ะ)

การใชย้ าฆา่ แมลงจากสมนุ ไพรธรรมชาตเิ หลา่ นี้ หากไมม่ ีเคร่ืองมือ ส�ำ หรบั ฉดี พน่ อาจใช้บวั รดนำ�้ แทน
ได้ แตค่ วรใหย้ าท้งั ดา้ นบน และลา่ งของใบใหท้ ั่ว และละเวน้ การพ่น ยาฆ่าแมลงระหว่างเวลา 10.00 น. ถึง
15.00 น. เนือ่ งจากเปน็ ชว่ งเวลาท่แี ดดจดั อาจท�ำ ให้ใบไหม้ ได้ ผทู้ ำ�การ
พ่นยาควรอยู่เหนอื ลม ใส่ถุงมือ และมผี า้ ปิดจมูก ล้างมือให้สะอาด

เล่าเรือ่ งโดย ด.ญ.วณชิ ยา ศรีสาน และด.ช.ภานวุ ัฒน์ แก้วพรม
นกั เรยี นโรงเรยี นบา้ นหนองแสง


Click to View FlipBook Version