The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mthawat, 2016-01-31 22:21:27

SchoolStory_EDF

ความสำ�เรจ็ เลก็ ๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB 51

เพล้ีย...เพลยี แรง

จากการปลกู ผกั สวนครัว มักพบวา่ มเี พลยี้ มาเกาะและกดั กนิ ใบผกั ทำ�ใหเ้ สยี หาย จะใชส้ ารเคมีฉีดพน่ ก็
กลัวสารพิษตกคา้ งเปน็ อนั ตราย ท้ังยังมีราคาแพงอีกด้วย พวกเราจึงไดแ้ ยกย้ายกันไปสังเกตเกษตรกร
ในหมูบ่ า้ น ทีป่ ลูกผักสวนครวั วา่ เขามวี ิธีการจดั การกับเพล้ียทมี่ าทำ�ลายผลผลิตได้อย่างไร จากท่ีได้
สอบถามและเรยี นรู้ก็ทราบวา่ แต่ละคนก็มวี ธิ กี �ำ จัดเพลย้ี ทต่ี ่างกนั ไป ขอเอามาเลา่ 2 วธิ ี

ตอน ใบน้อยหน่า
เคล็ดลบั นหี้ นไู ดจ้ าก นางทินกร ขนทรัพย์ เกษตรกรชาวบ้านตากแดด ซง่ึ ปลกู ผกั สวนครวั และเคยต้อง
เจอกบั ปัญหา “เพลย้ี ” และไดค้ ดิ น�ำ สมนุ ไพรทอ้ งถ่นิ มาท�ำ น�้ำ ยาไล่แมลง นน่ั กค็ อื “ใบน้อยหน่า” วิธีการทำ�
กไ็ มย่ ากค่ะ

1. น�ำ ใบน้อยหนา่ มาบดหรือโขลกให้ละเอียด
แลว้ นำ�ไปแชน่ ำ้� ท้งิ ไว้ 24 ชัว่ โมง
(ใบนอ้ ยหน่าท่ใี ช้ต้องสด โดยจะมีสเี ขยี วเข้ม)
2. จากน้ันน�ำ ไปผสมสารจบั ใบ
เชน่ ผงซักฟอก น้ำ�ยาลา้ งจาน หรือแชมพู อย่างใด
อย่างหนงึ่ อตั ราสว่ น 1 ช้อนโต๊ะ ตอ่ น�้ำ 10 ลิตร
3. น�ำ ไปใชฉ้ ดี พน่ ผกั สวนครวั ทุก 6 – 10 วัน
โดยให้ฉดี พน่ ในชว่ งเวลาเยน็

ไมเ่ พยี งแต่จะใช้ฉีดพ่นก�ำ จดั แมลงท่มี ารบกวนผัก
สวนครัวแล้ว สูตรน้ียังสามารถนำ�มาใช้เป็น นำ้�ยา
ฆา่ เหา ได้อกี ด้วย โดยนำ�ผสมกับแชมพู น�ำ มาสระ
และหมกั ไว้ ประมาณ 15 – 30 นาทเี ทา่ นนั้ เคลด็
ลบั ง่ายๆ แบบนี้ ใครจะเอาไปลองใชก้ ไ็ ม่วา่ กันนะคะ

เลา่ เร่อื งโดย
ด.ญ.เทยี มจนั ทร์ แจง้ จิตร
นักเรยี นโรงเรยี นบ้านตากแดด
นางทนิ กร ขนทรัพย์
เกษตรกรชาวบ้านตากแดด

52 ความสำ�เร็จเลก็ ๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB

ตอน มดแดงสม้
จากการค้นหาเคล็ดลับกำ�จดั เพล้ีย ผมได้ไปคน้ พบการกำ�จดั เพลยี้ แบบใชส้ ตั ว์ก�ำ จัดสตั ว์ จากนายประพาส
จรลี ผ้ใู หญ่บา้ นหมู่ 6 บา้ นบงุ่ เสยี ว ตำ�บลตากแดด ผใู้ หญ่ประพาสไดป้ ลกู ถวั่ จำ�นวนหนึ่ง ปีแรกทปี่ ลูก
กย็ งั ไดผ้ ลดี แต่พอปที ่ี 2 กลบั มีเพลยี้ มากดั กนิ ใบพืช จึงไดค้ ดิ หาวิธีการกำ�จดั เพลยี้ โดยการใช้มดแดงส้ม
ซึ่งมีวธิ กี ารง่าย ๆ คือ

1. หารงั มดแดงส้มท่มี ีมดแดงอาศยั อยมู่ ากๆ
2. นำ�รังมดแดงส้มมาเคาะตวั มดแดงลงบนต้นพืช
บริเวณท่มี ีเพล้ียเกาะอยู่
3. หมน่ั สังเกตดูปริมาณเพล้ยี ที่เกาะอยูต่ ามต้นพชื
หากยังมปี ริมาณมากกน็ �ำ มดแดงสม้ มาเคาะใส่
บริเวณนน้ั อีก ทำ�เชน่ น้จี นกวา่ เพล้ยี จะหมดไป

มดแดงสม้ ถอื เปน็ ศตั รชู นดิ หน่งึ ของเพลยี้ ดังน้นั เมอื่ เราเอามดแดงส้มกับเพล้ยี มาเจอกัน รบั รองวา่
เพล้ยี ไมม่ ีเหลือ จากนนั้ เรากด็ ูแลรักษาต้นถัว่ ตามปรกติแต่หม่ันสังเกตดวู า่ มเี พล้ยี มาเกาะใบพืชอีกหรอื ไม่
ถ้าหากมกี ็ใหใ้ ชว้ ธิ ีการเดมิ ท�ำ เช่นนี้เรอื่ ยไปกจ็ ะไมม่ ีตวั เพลีย้ มารบกวนพืชที่เราปลูกอีก

เลา่ เรือ่ งโดย
ด.ช.พทั นพล หาเคน
นกั เรียนโรงเรียนบา้ นตากแดด
ขอ้ มูลโดย
นายประพาส จรลี
ผู้ใหญบ่ ้านหมู่ 6 บ้านบ่งุ เสยี ว ต�ำ บลตากแดด

ความส�ำ เร็จเล็กๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB 53

มดคันไฟ VS มดแดงสม้

แกว้ มังกรหวาน หวาน โรงเรียนบ้านตากแดดมาแล้วค่ะ เหน็ แบบนี้กว่าเราจะประสบความส�ำ เร็จกไ็ มง่ ่ายนะ
คะ ช่วงแรกๆ ทโี่ รงเรียนเราปลูกแก้วมงั กรใหมๆ่ ตน้ แกว้ มงั กรของเราเหย่ี วเฉา แห้งตายอยูเ่ รื่อย เราก็
สงสัยวา่ ทำ�ไม ก็ใครบอกวา่ มนั ปลูกแสนจะง่าย ตายกแ็ สนจะยากไง รดน�้ำ ก็ไมต่ ้องเยอะ แต่ไหงมันตายง่าย
แท้ พอมาสงั เกตดตู ้นที่ตาย กเ็ ห็นวา่ มีรอยทต่ี น้ เหมอื นรอยแทะ แหง้ ขาว ตามรอยไปกพ็ บกบั “มด
คันไฟ” กำ�ลังยา้ ยต้นไปกดั เจาะ แทะ และดูดน�้ำ เล้ียงจากลำ�ตน้ ของแกว้ มงั กรตน้ ข้างๆ อย่างเอรด็ อร่อย
เท่าน้นั เอง ก็ถึงบางออ้ ว่า เจ้ามดคนั ไฟน่เี องทเ่ี ป็นตัวการ

วนั หนง่ึ ลงุ ศกั ดิ์ (นายฐติ วิ ัฒน์ อ่อนภา นายกองค์การบรหิ ารส่วนตำ�บลตากแดด) มาเยี่ยมโรงเรยี น
พวกเรากพ็ าไปดูสวนแก้วมังกรของโรงเรียน ลงุ ศกั ดิเ์ หน็ ก็บอกเราวา่ “ท�ำ ไมไมไ่ ปหามดแดงส้มมาใส่ ในไร่
ในนามีเพียบ” พวกเราได้ฟงั กท็ ำ�หน้างง ลุงศักด์ิ อธบิ ายวา่ ที่บา้ นลุงปลูกแกว้ มังกรไวเ้ ยอะ เจอเจ้าตวั
ร้ายเน่ียมาแลว้ ลงุ ศักด์ิใช้วิธีสตั วก์ ำ�จดั สตั ว์ โดยใช้มดแดงส้มกำ�จัดมดคนั ไฟ โดยนำ�มดแดงสม้ มาปล่อย
บรเิ วณท่มี ดคนั ไฟอาศยั อยู่ มดแดงส้มจะไล่กดั มดคันไฟ ลงุ ศักด์เิ น้นวา่ มดแดงส้มท่ีน�ำ มาปล่อยต้อง
มจี ำ�นวนมากกวา่ มดคันไฟ หลังจากวนั นั้น เวลาประสบปัญหาเชน่ น้ี เรากใ็ ชว้ ธิ ีของลงุ ศักด์ิ และไดผ้ ล
100% มดแดงสม้ สามารถหาได้ง่ายตามไรน่ า ป่า และตามหมู่บา้ น

เลา่ เรอ่ื งโดย ด.ญ.วิลัยกรณ์ ขนั เงิน นกั เรียนโรงเรียนบา้ นตากแดด
ข้อมลู โดย นายฐิติวฒั น์ ออ่ นภา นายกองค์การบริหารส่วนตำ�บลตากแดด

54 ความสำ�เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB

ฅนเอาถ่าน

หน่งึ ในกจิ กรรมที่โรงเรยี นเราด�ำ เนนิ การอย่แู ละทำ�ได้ดี คือการเผาถา่ นและทำ�นำ�้ สม้ ควนั ไม้ จึงอยากเอาวิธี
การตา่ งๆ มาแบ่งปนั กับเพอ่ื นๆ ค่ะ เพื่อนๆ จะไดร้ ูว้ า่ กวา่ จะไดถ้ ่านและนำ�้ ส้มควนั ไม้ มขี น้ั ตอนอะไรกนั บ้าง

กอ่ นอื่นตอ้ งเตรยี มอุปกรณด์ ังนีค้ ่ะ
1. ถังน�ำ้ มัน ขนาด 200 ลิตร
2. ท่อซเี มนตใ์ ยหิน ขนาดเสน้ ผ่าศูนยก์ ลาง 4 น้ิว
ประกอบด้วย ข้อต่องอ 1 ท่อ และ ทอ่ ตรง
ยาว 1 เมตร จำ�นวน 1 ท่อ
3. กระบอกไม้ไผ่ (ทะลปุ ล้อง) ยาว 3–5 เมตร
4. ไม้ทีจ่ ะใช้เผาถ่าน

กอ่ นจะเผาถา่ นได้ ก็ต้องมเี ตาเผาถา่ นก่อนค่ะ ข้นั แรก น�ำ ถังน�้ำ มัน 200 ลติ ร มาเจาะกน้ ขนาดเสน้ ผา่
ศนู ยก์ ลางใหญก่ ว่า 4 น้วิ เลก็ น้อย (สำ�หรับใสข่ อ้ งอ) สว่ นฝาถงั เจาะรูขนาด 20 x 20 เซนติเมตร
ข้ันทส่ี อง ต่อข้องอ เข้ากับตวั ถัง ตรงน้ี เราจะใส่ดนิ เหนียวผสมแกลบดิบประสานค่ะ พอผา่ นการเผา
ถา่ น ดนิ ส่วนนกี้ ก็ ลายสภาพเป็นอิฐ แขง็ แรงไปโดยอตั โนมตั คิ ่ะ ขน้ั ทีส่ าม ติดตง้ั เตาเผา วางถงั นอนสูง
จากพื้นเลก็ นอ้ ย เพื่อให้เวลาเผาอากาศจะเขา้ ได้สะดวก และไมด่ ดู ซับความช้นื จากพ้นื ดิน ท่ีจะสง่ ผลใหเ้ ตา
เผาพังเร็วดว้ ยคะ่ เม่อื ไดท้ ่แี ลว้ เอาดนิ เหนียวหรือดินทรายประสานรอบถงั ให้หมดเลยคะ่ (ดนิ ทรายจะดี
กวา่ เพราะเกบ็ ความรอ้ นดีกว่า) ข้ันนต้ี อ้ งละเอียดปิดให้สนทิ ไม่ใหอ้ ากาศเข้าออกได้เลยนะคะ ใหเ้ หลอื ไว้แต่
ชอ่ งดา้ นหน้าเทา่ น้ัน น�ำ อฐิ บล็อกมาทำ�เป็นชอ่ งหนา้ เตา

เพอื่ นๆ ลองดภู าพประกอบนะคะ ถงั น�าํ มนั 200 ลิตร
เจาะฝา 20x20 ซม.
ท่อซีเมนตใ์ ยหิน
ขอ้ ต่องอ และขอ้ ต่อ
ตรง ยาว 1 ม.

อิฐบลอ็ ก ทาํ เป็น
ช่องหนา้ เตา

เจาะรู 4 นิ�ว

ความสำ�เรจ็ เล็กๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB 55

หลังจากได้เตาเผาแล้ว ขนั้ ต่อไป ปกตโิ รงเรียนของเรา ปลูกตน้ ไมไ้ วเ้ ยอะ ก็ตอ้ งมีการตดั แตง่ กง่ิ อยู่เสมอ
เพือ่ ความเรยี บร้อย เรากใ็ ช้ไม้เหลา่ นลี้ ่ะค่ะ มาเป็นวตั ถุดบิ ไม้ทจี่ ะใชไ้ ด้ดกี ็คือ ไม้หมาด ตดั ท้ิงไว้ประมาณ
2 สปั ดาห์ ถา้ ไม้สดหรอื แหง้ เกนิ ไป เวลาเผาแลว้ จะแตกเปน็ ชิน้ เลก็ ไมเ่ ปน็ แท่งคะ่ ข้นั ตอนการเผาถา่ นมีดงั น้ี
1. ทำ�ไมห้ มอนหนุนดา้ นล่างตัวเตา เวลาใสไ่ มเ้ ข้าไปจะมีชอ่ งวา่ ง ท�ำ ใหล้ มรอ้ นภายในเตาไหลเวียนได้
2. การเรียงไม้ คดั เลือกไม้เข้าเตาเผา เราจะเรียงไม้ขนาดเลก็ ไวด้ า้ นล่างของเตา ทบั ไมห้ มอน จากนน้ั
ขนาดกลาง และขนาดใหญไ่ วด้ า้ นบนสดุ เน่ืองจากอุณหภูมใิ นเตาเผาจะไม่เทา่ กนั โดยด้านล่างจะต่ำ�สดุ การ
เรยี งแบบนี้ จะท�ำ ใหถ้ า่ นสุกเสมอกันทวั่ ถังคะ่
3. ปดิ เตาเผา ปดิ ฝาเตา แลว้ เอาอิฐบลอ็ กท่เี ตรยี มไวเ้ ปน็ ช่องหน้าเตา มาประสานเข้ากบั ฝาเตาดว้ ยโคลนให้
สนทิ ถ้าปิดไมส่ นิท อากาศจะเขา้ ไม้จะไหมห้ มด เราก็จะไดข้ ี้เถ้าแทนถ่านแนน่ อนคะ่
4. เผาถ่าน เร่ิมจดุ ไฟหนา้ เตา เพ่อื ใหค้ วามร้อนแกเ่ ตา การใส่ฟนื ควรเว้นให้เหลอื ที่ดา้ นบนไว้ประมาณหนง่ึ
ในสาม เพือ่ ใหอ้ ากาศเข้า ไฟลกุ ติดไดด้ ี การเผาถา่ นแบง่ เปน็ 3 ระยะ ระยะแรก ไล่ความชื้น ชว่ ง 2–4
ช.ม. แรก เตมิ ฟนื ทีละน้อย ความรอ้ นจะเขา้ ไปไลอ่ ากาศเยน็ และความช้นื ในเตา ระยะสอง ควันบา้ หรอื
ควันสีขาวขุน่ พ่งุ แรงกว่าปกติ จากปลอ่ งดา้ นหลัง แสดงว่า เตาเริ่มรกั ษาอุณหภูมไิ ด้เอง ไม่ตอ้ งใสเ่ ชื้อ
เพลิงเพม่ิ อีก หรี่ไฟ ดว้ ยการลดพนื้ ที่หนา้ เตา ให้เหลอื ประมาณ 1 ใน 4 เพ่ือควบคุมอุณหภูมิ
5. เกบ็ น�้ำ สม้ ควนั ไม้ หลังจากผ่านชว่ ง ควนั บา้ ไปแล้วประมาณ 1 ช่ัวโมง จะสังเกตเหน็ ว่าสคี วัน
เปลี่ยนไปเป็น สขี าวข่นุ อมเหลือง และมกี ล่นิ ฉนุ แสบจมกู ให้เราหร่ีไฟลงอกี และนำ�ทอ่ ไม้ไผ่ทเ่ี จาะทะลุปล้อง
นำ�ขวดน้ำ�ผกู ไว้ทปี่ ลายรองนำ้�สม้ ควันไมต้ รงจดุ ท่เี จาะไว้ จะเกบ็ น้ำ�ส้มควนั ไมไ้ ด้ประมาณ 3–4 ชั่วโมง
(สังเกตวา่ นำ้�ทห่ี ยดเปลีย่ นเป็นยางเหนียว สดี �ำ กใ็ หห้ ยดุ เก็บ ช่วงนค้ี วันไฟจะเปลย่ี นเป็นสเี ทาอมนำ�้ เงนิ ค่ะ)
6. ทำ�ถ่านบริสุทธ์ิ หลังจากควันเปล่ียนสี เราเปดิ หน้าเตาข้นึ กวา้ ง ประมาณ 1 ใน 2 เพือ่ เพ่มิ อณุ หภูมิ
ไลน่ �้ำ มนั ที่อย่ใู นถา่ นออกทางปลอ่ ง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที (ต้องระวงั นะคะ ถา้ ทำ�ไมด่ ี ถ่านอาจกลาย
เปน็ ข้เี ถา้ ได)้
7. ปดิ เตา ทิง้ ใหเ้ ยน็ ชว่ งทีท่ ำ�ให้ถ่านบรสิ ุทธจ์ิ ะสังเกตวา่ ควันจะเร่ิมใสขึ้นทีละน้อย พอได้ท่ี เรากเ็ อาเช้อื
เพลงิ ออกใหห้ มด แลว้ ปิดเตา เร่ิมปดิ จากหน้าเตา แล้วคอ่ ยปดิ ปล่อง ตอ้ งดปู ดิ ให้หมด ไม่ใหม้ ีรูร่ัว ไม่
งนั้ ถ่านกลายเปน็ ขเ้ี ถา้ หมด จากนั้นเกล่ียดนิ ออกจากบนเตา เพอ่ื ระบายความรอ้ น ทงิ้ ไว้ 1 คืน
8. เปิดเตา เปิดเตาเอาถ่านออก ใหเ้ ปิดจากทางปลอ่ งออกก่อน เพ่ือไลอ่ ากาศท่อี ย่ใู นเตาออกมา จากนัน้
เปิดหน้าเตา ล�ำ เลยี งถา่ นออกมาผงึ่ ในที่โลง่ ประมาณ 1 ช่ัวโมง แลว้ ค่อยเกบ็ นะคะ ไม่งน้ั อาจจะตดิ ไฟไดค้ ะ่
ถา้ จะให้ดีควรเผาตอนกลางวนั นะคะ เพราะชว่ งกลางวันตน้ ไม้ จะดูดคาร์บอนไดออกไซด์ท่ีเกิดจากการเผา
ถ่านไปใช้ในการสงั เคราะห์แสง ช่วยไมใ่ ห้คาร์บอนไดออกไซด์ขนึ้ ไปสู่ชั้นบรรยากาศคะ่

เล่าเร่ืองโดย ด.ญ.ภทั รภรณ์ ค�ำ เกตุ นักเรยี นโรงเรยี นชมุ ชนมิตรภาพ
ขอ้ มูลจาก นายบุญคง โสฬส ครูช�ำ นาญการโรงเรยี นชมุ ชนมติ รภาพ

56 ความส�ำ เรจ็ เล็กๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB

ความสำ�เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB 57

ปลาดุกแปลงร่าง...เพิม่ มูลคา่

โรงเรยี นของหนทู �ำ โครงการเลย้ี งปลาดุก เพอ่ื ใชเ้ ปน็ อาหารกลางวัน ส่วนปลาดกุ ท่เี หลอื จากการท�ำ อาหาร
กลางวัน จะน�ำ ไปขายเพอื่ เปน็ รายได้เข้าโครงการ แตก่ ารขายปลาดกุ สดนัน้ ใด้รายไดน้ ้อย คุณครแู ละพวก
หนจู ึงคิดจะแปรรปู ปลาดกุ เพื่อเพ่มิ มูลคา่ สร้างรายไดใ้ ห้กับโรงเรยี น จงึ คิดกนั วา่ การทำ�น้�ำ พริกปลาดุก
ฟนู น้ั ง่าย อร่อย และเป็นทนี่ ยิ ม พวกหนแู ละแมค่ รัวจึงชว่ ยกนั คดิ คน้ สูตร ลองผดิ ...ลองถูกอยู่หลาย
ทเี หมือนกันค่ะ กว่าจะไดน้ ้�ำ พริกปลาดุกฟสู มนุ ไพร สตู รอร่อยของโรงเรียนบ้านส�ำ โรงโคกเพชร ท่ีใช้รับ
ประทานกับผักสด ผักตม้ หรอื จะคลุกกบั ข้าวสวยรอ้ นๆ และไข่ตม้ ก็อรอ่ ยสดุ ยอด

สตู รอร่อย น้�ำ พรกิ ปลาดุกฟู

ของโรงเรยี นบ้านสำ�โรงโคกเพชร มดี ังนี้

เคร่อื งปรุง

1. ปลาดุกฟู 8 ถว้ ยตวง

2. กระเทยี มเจยี ว 1 ถว้ ยตวง

3. หอมแดงเจียว 1 ถว้ ยตวง

4. ใบมะกรูดทอดบดละเอียด 1 ถว้ ยตวง

5. ตะไครค้ วั่ บดละเอยี ด 1 ถ้วยตวง

6. ขงิ คว่ั บดละเอียด 1/2 ถ้วยตวง

7. กระชายค่ัวบดละเอยี ด 1/2 ถว้ ยตวง

8. พริกแห้งคั่วบดละเอียด 1 ถว้ ยตวง

9. น�้ำ ตาลทราย 5 ถว้ ยตวง

10. เกลือ 2 ถว้ ยตวง

11. นำ�้ มะขามเปยี ก 1 ถว้ ยตวง

12. น้�ำ มันพืช

13. ตะไคร้สด และใบมะกรูดสด

วัสด/ุ อุปกรณ์
1. หมอ้ นงึ่ ปลา (ลังถึง)
2. ชดุ เครอ่ื งตวง (ถ้วยตวง, ช้อนโต๊ะ, ชอ้ นชา)
3. ตาชั่ง
4. กระปกุ ใส่น�้ำ พริก (จปุ ระมาณ 50 กรมั )
5. กระทะ – ตะหลิว
6. เตาถ่าน หรอื เตาแกส๊
7. อุปกรณเ์ ครื่องครัวอ่นื ๆ ได้แก่ ถาด จาน ชาม ถ้วย

มดี เขียง ทัพพี ครก

58 ความส�ำ เรจ็ เล็กๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB

วธิ ีทำ�
ขนั้ เตรียมเครือ่ งปรุงต่างๆ
ปลาดกุ ฟู
1. นำ�ปลาดกุ มาล้างน้ำ�เกลอื โดยแชไ่ วใ้ นน้�ำ เกลอื ประมาณ 5 นาที
2. นำ�ปลาทลี่ ้างแลว้ มาน่งึ ในหม้อนึ่งปลา (ลงั ถึง) โดยรองด้วยตะไครแ้ ละใบมะกรูด เพื่อลดคาวปลา นึ่งจนปลาสกุ ทั่วทัง้
ตวั
3. แกะเอาแตเ่ นอ้ื มาบดให้ยยุ่
4. น�ำ เนอ้ื ปลาทบี่ ดแลว้ มาทอดให้เหลืองกรอบ
กระเทยี ม/หอมแดง เจยี ว
1. ปอกเปลือก กระเทยี ม/หอมแดง แลว้ ลา้ งให้สะอาด
2. น�ำ มาโขลกใหล้ ะเอียด
3. เจียวในนำ้�มันพชื ใหเ้ หลืองกรอบ ผ่ึงให้สะเด็ดน้ำ�มัน
ใบมะกรดู ทอดบดละเอยี ด
1. นำ�ใบมะกรูดมาล้างให้สะอาด และหน่ั เป็นฝอย
2. นำ�มาทอดในน้ำ�มันพชื ให้กรอบ
3. ผ่ึงใหส้ ะเด็ดน้�ำ มนั แล้วบดให้ละเอียด
ตะไคร้/ขิง/กระชาย/พริกแห้ง ค่วั บดละเอียด
1. นำ�ตะไคร/้ ขงิ /กระชาย มาล้างให้สะอาด และห่นั เป็นฝอย
2. น�ำ มาคัว่ ให้เหลอื งกรอบและบดใหล้ ะเอยี ด ตากให้แห้ง
ขัน้ ผสมนำ�้ พรกิ
1. นำ�เคร่อื งปรงุ ต่างๆ ตามอัตราส่วนที่เตรยี มไว้ (ข้อ 1–8) ผสมคลุกเคล้าใหเ้ ข้ากนั จากนั้นน�ำ ขึ้นผดั ด้วยไฟออ่ นๆ
สกั ครู่ เพ่ือให้ส่วนผสมเข้ากนั ได้ดี ชิมและปรุงรสตามชอบ
2. ปล่อยทิ้งไวใ้ ห้เย็น แล้วจงึ บรรจกุ ระปกุ ที่เตรยี มไวใ้ นปรมิ าณ 50 กรัม ปดิ ฝาและเก็บไว้ทเี่ ยน็ (ถ้าเก็บไว้ในตูเ้ ย็นจะเกบ็

ได้นานประมาณ 1 เดอื น)

“ทุกคนอาจสงสัยว่า ท�ำ ไมถงึ ตอ้ งใชว้ ตั ถดุ ิบสมุนไพร ท่ีพวกเราเลือกสมนุ ไพร กเ็ พราะสมุนไพรมี
ประโยชน์ต่อรา่ งกาย ช่วยเปน็ ยาใหก้ บั รา่ งกาย และท่สี �ำ คญั ไม่ต้องลงทนุ มาก เพราะวตั ถุดิบเหลา่ นีห้ าได้
ทัว่ ไปในหมู่บา้ นและโรงเรียนของเรา นอกจากวิธนี ้ีจะเป็นวิธที ีง่ ่ายและอรอ่ ย โรงเรยี นเรายงั ได้นำ�ผลงานเข้า
ประกวดท่ีงานศลิ ปหตั ถกรรมนกั เรียน ไดร้ ับรางวัลระดับเหรียญทอง เป็นความภาคภมู ิใจของโรงเรยี น
เป็นอย่างมาก หนูหวังว่าส่งิ ทหี่ นเู ขยี นเลา่ คงเปน็ ประโยชนก์ ับเพอื่ น ๆ ทกุ คนนะคะ”

เล่าเรอ่ื งโดย ด.ญ.พีระพร พระโสภณ นกั เรยี นโรงเรียนบา้ นสำ�โรงโคกเพชร
ท่ีปรกึ ษา นางสาวจรัสวลยั สนทนา ครชู �ำ นาญการโรงเรียนบ้านส�ำ โรงโคกเพชร
นางสาวจันทกานติ์ สันทาลุนยั ครผู ชู้ ว่ ยโรงเรียนบา้ นส�ำ โรงโคกเพชร

ความส�ำ เรจ็ เล็กๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB 59

ปดู อง

ปูนา เปน็ สัตว์ชนดิ หนึง่ ที่ชาวอีสานนิยมนำ�มาประกอบอาหาร เช่น ปอู อ่ ม ปปู ิง้ ปปู ลารา้ และอกี หลาย
เมนู ถา้ ใครไดร้ บั ประทานแลว้ จะตดิ ใจ แตเ่ มนยู อดนยิ มต้องเปน็ ปดู อง จะดองปลารา้ น้ำ�เกลือ หรือ
น้ำ�ปลา ตามแต่ชอบ สว่ นตัวผมชอบ ปูดองนำ้�ปลาแตเ่ ทา่ ทีเ่ ห็นและเคยชมิ มันไมอ่ ร่อย มีกลิ่นเหม็น มี
ฟองข้ึนคล้ายของเสยี และบางทถี า้ รบั ประทานดบิ ๆ อาจจะท�ำ ใหท้ ้องรว่ งได้ วิธที ำ�จะอรอ่ ยติดใจผ้รู บั
ประทานหรือไมน่ นั้ ตอ้ งขน้ึ อยูก่ ับฝมี อื มาลองท�ำ ตามวธิ ีการของผมดีไหม รบั รองทานแลว้ จะตดิ ใจไม่รู้
ลืม รบั ประกนั ความปลอดภยั รอ้ ยเปอรเ์ ซ็นต์
1. จบั ปูตัวขนาดพอเหมาะ (คัดเฉพาะปตู ัวเมียย่ิงดี ตวั ทมี่ รี ังไข่ทีห่ นา้ ทอ้ ง) ปใู นฤดเู กี่ยวข้าวจะเหมาะทส่ี ุด
ปูจะอว้ น เพราะสะสมไขมันไวใ้ นตวั มาก เพอ่ื เตรยี มเข้าฤดจู ำ�ศีลหลังฤดูเกย่ี วข้าว และจะออกจากรูอกี คร้ัง
หนงึ่ ในฤดฝู นปีตอ่ ไป
2. ล้างท�ำ ความสะอาด ขน้ั ตอนนีส้ ำ�คัญมากเพราะ ปจู ะเนา่ หรอื ไม่? จะมีกลน่ิ เหมน็ หรือไม่? นน้ั กอ็ ยู่
ท่ีข้นั ตอนนน้ี ี่แหละ ขอแนะน�ำ ว่าการลา้ งน้นั ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ให้ลา้ งทลี ะตวั (ใช้นำ�้ เปล่าธรรมดานี่แหละ)
แลว้ ใชแ้ ปรงสีฟัน (ที่ยงั ไมไ่ ด้ใช้นะ) ขดั ถูทกุ แง่ทกุ มมุ ของตัวปูจนคราบสกปรกหลุดออกจนหมด
3. ท�ำ ใหป้ คู ายน้�ำ สำ�คัญไมแ่ พ้กบั การล้างเชยี วนะ ถ้าเราขา้ มขนั้ ตอน
นี้จะท�ำ ใหป้ ูทแี่ ช่หรือดองน้ันเกดิ ฟองและมกี ล่ินเหมน็ เนือ่ งจากปจู ะคาย
น้ำ�เม่อื เขาโดนความเคม็ ดังนั้น ต้องบังคับให้เขาคายนำ้�ให้หมด
กอ่ นนำ�ไปแชน่ ้ำ�ปลา โดยการจบั ปขู ังในภาชนะที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
(ขังแหง้ นะ) เช่น ถงุ ทท่ี �ำ จากตาขา่ ย หรือภาชนะอืน่ ที่ลมผ่านได้
ให้ขงั ไวป้ ระมาณ 6 – 8 ช่ัวโมง ปกู ็จะคายน้�ำ ออกหมดโดยเราจะสงั เกตเหน็ ว่าปูจะเพลยี เดนิ ไม่สะดวก
4. จับปใู สใ่ นภาชนะทจี่ ะดอง เชน่ ขวดโหล ขนาดแลว้ แตค่ วามเหมาะสม (ควรเปน็ ขวดโหลแก้ว เพราะจะ
มองเหน็ สะดวก) และมีฝาปดิ มดิ ชิดดว้ ย
5. เทน้ำ�ปลาที่เตรียมไวใ้ สล่ งไปในภาชนะโดยต้องให้ทว่ มตวั ปูทุกตวั ปดิ ฝาให้สนิท (ตามประสบการณ์
ของผม ต้องน�ำ้ ปลาตราทิพรส เท่านน้ั ลองมาหลายย่หี ้อแลว้ ปูจะเน่าและรสชาติไม่อร่อย)
6. รอ เก็บไว้ในท่ีรม่ ประมาณ 5 วัน กส็ ามารถนำ�มารับประทานได้ จะทานดบิ ๆ หรือใสต่ �ำ มะละกอ ก็ตาม
ใจ และถ้าอยากรับประทานสกุ ให้นง่ึ เทา่ นน้ั เน้ือปูจึงจะไม่เสยี รสชาติ

“...ลองท�ำ ดูนะครับรบั รองจะติดใจ แต่ขอเตอื นวา่ ต้องเก็บไว้ให้พน้ สายตาผูใ้ หญ่
และหา้ มรบั ประทานเกนิ วันละ 3 ตัว เพราะจะท�ำ ใหห้ มดเร็ว...!”

เลา่ เร่ืองโดย นายประสทิ ธ์ิ บวั ละคณุ
ผอู้ ำ�นวยการโรงเรยี นบา้ นโสกแดง
คำ�ส�ำ คัญ อาหารการกนิ , ปูดอง, โรงเรยี นบา้ นโสกแดง

60 ความสำ�เรจ็ เล็กๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB

ผา้ อ้อมสมนุ ไพร

ข้าพเจ้ารับผิดชอบโครงการเลย้ี งกบ ปกตเิ วลาขายกบ กจ็ ะตอ้ งถลกหนังออก และเหลือหนงั กบไว้
จะทง้ิ ก็เสยี ดาย กลุ่มของข้าพเจ้าจงึ คิดทำ�ผลผลติ จากหนงั กบเพอื่ เพมิ่ รายได้ มาลงตวั ท่ี หนังกบตากแห้ง
สมนุ ไพร แตจ่ ะใชช้ อื่ นี้ มันกธ็ รรมดาเหมอื นกับคนอ่ืน ไม่น่าสนใจ คิดกันมาหลายช่อื กย็ งั ไมเ่ ข้าที มาน่งั
มองหนังกบกัน เอ...มีรูปร่างคลา้ ยผา้ ออ้ มเดก็ ทกุ คนเห็นตรงกนั เลยตั้งช่อื วา่ “ผา้ ออ้ มสมนุ ไพร”
แตห่ ากคนอน่ื ได้ยนิ ก็คงตอ้ งถามว่า เอ๊ะ! ผ้า...ผ้าอะไรนะ...?

สิง่ ท่ีต้องเตรยี มในการทำ� “ผา้ อ้อมสมนุ ไพร”

1. หนงั กบ 2. ใบมะกรดู 3. ตะไคร้ 4. กระเทยี ม

5. พรกิ ไทยสด 6. พรกิ ไทยปน่ 7. เกลอื

8. ใบเตย 9. ใบกระเพรา 10. น�ำ้ มนั พืช

เสรจ็ แล้ว มาทำ� “ผา้ ออ้ มสมุนไพร” กันได้เลยค่ะ
1. เตรยี มหนงั กบ จะมผี ้าอ้อมสวยๆ ต้องเลือกกบ
ขนาดพอเหมาะ การลอกหนงั ให้ใชม้ ีดกรดี ตรงกลางหลังกบ
ถลกหนงั กบโดยดึงหนงั ออกทางหัวกบไม่ให้หนงั ขาด
(สว่ นตวั กบหลงั ถลกหนังแล้วจะขายเน้ือ หรอื แปรรูป
ท�ำ เปน็ กบตากแหง้ หรือกบแดดเดียว เกบ็ ไวร้ บั ประทานไดค้ ะ่ )
2. น�ำ หนงั กบท่ีได้ท�ำ ความสะอาด จนหมดกล่นิ คาว แล้วนำ�หนังกบไปผึ่งบนตะแกรงไมต้ ากใหแ้ หง้ (แดด
จัด จะตากประมาณ 1–2 วัน) ต้องตากใหแ้ หง้ สนิทจะไดเ้ กบ็ ไวร้ ับประทานไดน้ านๆ ค่ะ
3. เตรยี มเคร่ืองปรงุ อืน่ ๆ ตะไคร้ กระเทยี ม ใบมะกรดู และใบเตยหน่ั ฝอย สว่ นใบกระเพราและใบมะกรูด
เด็ดเป็นใบ และพริกไทยสด นำ�เครอ่ื งปรุงทุกชนิดไปทอดกรอบ โดยแยกทอดทลี ะชนดิ เสรจ็ แล้วพกั ไว้
4. น�ำ กระทะใส่นำ้�มนั พชื ตั้งไฟ รอจนนำ�้ มันรอ้ น น�ำ หนังกบที่ตากแหง้ แล้วลงทอด พอเหลอื งกรอบ
แลว้ ตักขึ้น ใสก่ ระชอนพักไว้ใหส้ ะเดด็ น�้ำ มัน
5. คลุกเคลา้ เครือ่ งปรงุ ที่เตรียมไวก้ ับหนงั กบ ขณะทย่ี ังรอ้ นๆ ใหเ้ ขา้ กนั

“...เมนู “ผา้ อ้อมสมนุ ไพร” เสิรฟ์ พร้อมเครอ่ื งเคยี ง เช่นขิงสด พรกิ แหง้ ทอดกรอบ พริกไทยสดทอด
กรอบ ถ้าสนใจอยากลองทาน “ผา้ อ้อมสมนุ ไพร” แวะมาที่รร.บา้ นคำ�นาแซงนะคะ รับรองวา่ จะติดใจคะ่ ”

เลา่ เรอ่ื งโดย ด.ญ.วภิ าพร ขันแกว้ และ
ด.ญ.ภานวุ รรณ ตทู้ อง นกั เรยี นโรงเรียนบ้านคำ�นาแซง

ความส�ำ เร็จเล็กๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB 61

เหด็ 3 รส

จากการเรยี นการสอนในหอ้ งเรยี น คณุ ครไู ดส้ อนใหเ้ ราไดร้ จู้ กั ใชท้ กั ษะในการเรียนน้นั ไปประยกุ ตเ์ พอ่ื คิดถงึ
การประกอบวชิ าชพี ดิฉนั เด็กหญิงอริศรา ประเสริฐ นกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3/2 โรงเรียนบ้านนา
จาน และเพื่อนนักเรยี นร่วมห้อง จงึ ได้คิดถึงการน�ำ เหด็ มาแปรรูป ตอนแรกท่เี ริ่มท�ำ กใ็ จส่งั ๆ กลวั วา่ ทำ�
แล้วจะไมอ่ ร่อย ไม่ถูกใจคณุ ครู แตห่ ลงั จากไดฝ้ กึ ฝนลงมือปฏบิ ัติหลายคร้ัง พวกดฉิ ันก็ม่ันใจในฝีมอื
การท�ำ เหด็ 3 รส มากขนึ้ แตก่ ว่าจะมนั่ ใจ ท�ำ ไปชมิ ไปจนน�้ำ หนกั ข้นึ กนั หลายกโิ ล นอกจากนน้ั เรายัง
เห็ด 3 รสไปขายเปน็ รายไดเ้ ข้าโรงเรยี นดว้ ยคะ่
การแปรรูปเหด็ 3 รส มสี ว่ นประกอบและขั้นตอน
การท�ำ ดงั ต่อไปนี้

สว่ นประกอบ
1. เหด็ นางฟ้าสด 2. น้�ำ ตาลทราย
3. เกลอื ปน่ 4. ซีอวิ๊ ขาว

ข้นั ตอนการท�ำ
1. นำ�เห็ดนางฟ้าสดมาฉีกเป็นฝอยเลก็ ๆ ดว้ ยมือ เสรจ็ แลว้ นำ�ไปล้างแลว้ ผงึ่ แดดใหแ้ ห้ง
2. นำ�เหด็ มาผสมกบั เครือ่ งปรุงท้งั หมด (ชมิ รสตามชอบ) แล้วคลกุ เคล้าให้เขา้ เน้ือเห็ดใชเ้ วลา 3-5 นาที
3. น�ำ เหด็ ท่คี ลกุ แลว้ ไปทอด ในน้ำ�มนั ท่ีร้อน จากน้นั หร่ีไฟเล็กนอ้ ย ควรใช้น้�ำ มนั ถว่ั เหลือง
4. นำ�เห็ดนางฟา้ มาแต่งรสด้วยส่วนผสม และนำ�ไปทอดอีกคร้งั ประมาณ 2-3 นาที คร้งั นใ้ี หร้ อจน
กระทงั่ เหด็ มีสเี หลือง กรอบดี ตกั ขึน้ แล้วพักไวบ้ นตะแกรง
5. รอใหเ้ ห็ดสะเดด็ นำ�้ มนั แลว้ เทใส่ถาดรองดว้ ยกระดาษซบั นำ้�มนั ช้นั หนง่ึ
6. นำ�เขา้ ต้อู บ ทีอ่ ณุ หภูมิ 30 – 40 องศาเซลเซยี ส ใชเ้ วลาในการอบประมาณ 20 – 25 นาที
7. เพ่ือใหเ้ หด็ 3 รส สามารถเกบ็ ไว้ใหก้ รอบไปไดน้ านๆ ใหเ้ กบ็ ไว้ในตูเ้ ย็น

เล่าเร่อื งโดย ด.ญ.อริศรา ประเสริฐ
นักเรียนโรงเรียนบา้ นนาจาน

62 ความสำ�เรจ็ เลก็ ๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB

ข้าวหอมมะลิ 5 สี

โรงเรยี นบา้ นหลกั เขตของเรา มีหลายโครงการๆ ที่หนูชอบมากทีส่ ดุ ก็คือ โครงการท�ำ นาข้าวหอมมะลิ
เพราะทำ�ให้หนรู จู้ กั การท�ำ นาโดยการใช้ปยุ๋ ชีวภาพ การทำ�โครงการทำ�ใหเ้ ราสามัคคีกัน เชน่ ได้ลงแขกเกย่ี ว
ข้าว ตอนเดก็ หนเู คยได้ยินจากปู่ ยา่ ตา ยาย พ่อ แม่ เล่าวา่ เวลาลงแขกท�ำ นา เป็นโอกาสให้ทุกคนได้
รจู้ กั กัน ได้รอ้ งร�ำ ทำ�เพลง ช่วยเหลือกนั แต่ก็ไมเ่ คยเห็นของจรงิ ซักที เพราะเดี๋ยวนี้ก็จะจ้างแรงงานมาท�ำ
เสยี หมด ก็ไดม้ าสมั ผสั ประสบการณ์จรงิ ตอนลงแขกนาของโรงเรยี น เปน็ กิจกรรมท่สี นกุ มากๆ เลยคะ่
กวา่ จะไดข้ ้าวแตล่ ะเมลด็ มันเหนอ่ื ยยากแคไ่ หน ก็ได้รตู้ อนน้เี อง โรงเรียนของเรานอกจากจะท�ำ นาปลูกขา้ ว
แลว้ เรายังมีการแปรรปู ข้าวเพือ่ เพม่ิ มลู คา่ อกี ดว้ ยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขา้ วกลอ้ ง และขา้ วยอ้ มสี ซงึ่ เมือ่ เอา
ไปจ�ำ หนา่ ยจะได้ราคาสงู แต่จะเล่าวธิ กี ารย้อมสขี ้าว ก็ออกจะหลายข้นั ตอนเกนิ ไปค่ะ วนั น้ีจะบอกทางลัด
เผอ่ื เพอื่ นๆ อยากเปล่ยี นบรรยากาศทานขา้ วสอี ื่นท่ีไมใ่ ช่สีขาวให้รกู้ นั

วธิ ีการไม่ย่งุ ยาก ทำ�เหมอื นเราหุงขา้ วปกติ เพยี งแต่
แทนทเ่ี ราจะหงุ ด้วยน�ำ้ เปล่า เราจะใชเ้ ป็นนำ้�สมุนไพรแทนคะ่
เชน่ สเี ขียวจากใบเตย สมี ่วงจากดอกอัญชันผสมน้�ำ มะนาว
สีฟา้ จากดอกอัญชญั สชี มพูจากกหุ ลาบหรอื เฟื่องฟ้า
สแี ดงจากกระเจีย๊ บหรือหัวบที รทู และทเ่ี ราคุ้นเคยกนั คอื
สเี หลอื งจากขม้นิ ท่เี ราจะเคยเห็นในข้าวหมกไก่ไงคะ
วันไหนเบื่อจะทานข้าวสีขาวๆ แลว้ ก็ลองน�ำ ไปทำ�กันไดน้ ะคะ

เล่าเรอ่ื งโดย ด.ญ.วยิ ะดา สมุ รัมย์
นกั เรียนโรงเรียนบ้านหลักเขต

ความสำ�เร็จเลก็ ๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB 63

ย�ำ หวั ปลีเลิศรส

ระหวา่ งแปลงผักของโรงเรียนเรามีที่วา่ งพอทจี่ ะมพี ืน้ ท่ีปลูกพชื ชนิดอนื่ ได้ โรงเรยี นจึงตดั สินใจน�ำ ตน้
กล้วยมาปลูก ทเ่ี ราเลอื ก “กลว้ ย” เพราะเป็นพืชทีป่ ลกู งา่ ย โตเร็ว และมีประโยชนห์ ลายอยา่ ง นอกจาก
จะน�ำ ผล ไปทำ�กลว้ ยฉาบสามรส หนอ่ กลว้ ย สามารถตดั ไปเป็นอาหารใหห้ มแู ล้ว ยงั มีหัวปลที ีส่ ามารถน�ำ
มาท�ำ เป็นอาหารยามวา่ งไดอ้ ีก พวกเราขอนำ�เสนอ สตู รเดด็ อาหารพื้นบ้านชาวอสี าน “ย�ำ หัวปลเี ลศิ รส”

เครอ่ื งปรงุ “ยำ�หัวปลีเลศิ รส” มีดังน้ี
1. หัวปลี 2. มะนาว 3. น้ำ�ปลา 4. พริก
5. นำ้�ตาล 6. ปลารา้ 7.มะเขอื 8. กระถนิ
9. ใบมะยมออ่ น 10. ใบชะพลู

วธิ ีทำ�
1. ลา้ งหวั ปลีใหส้ ะอาด ห่นั เป็นชนิ้ ฝอยเล็กๆ นำ�ไป
แชน่ �้ำ ผสมน้ำ�มะนาวหรือนำ้�มะขามเปียกเลก็ นอ้ ย
(เพือ่ ไมใ่ หห้ ัวปลีด�ำ )
2. ต�ำ พรกิ ให้ละเอียด และน�ำ หวั ปลขี ึ้นมาจากน้�ำ ทีแ่ ช่ไว้
ใสใ่ นครก ใสน่ ้ำ�มะนาว น�้ำ ปลา นำ�้ ตาล หัน่ มะเขือชน้ิ เลก็ ๆ
ใส่ลงไป โขลกให้เข้ากัน ชิมรสชาติกลมกลอ่ ม
3. น�ำ ใบชะพลู ใบมะยม กระถนิ มะเขอื ทเ่ี ตรยี มไว้ตกแต่งจานใหส้ วยงาม แลว้ ตกั ยำ�หวั ปลใี ส่จานรับ
ประทาน

“...พวกเราขอตวั ไปชมิ ฝีมอื ตวั เองกนั กอ่ นนะ...!”

เล่าเรอ่ื งโดย ด.ช.วุฒชิ ัย บญุ ครอง และ ด.ญ.สุวนนั ท์ ทองแจม่
นักเรียนโรงเรียนบ้านคำ�นาแซง

64 ความสำ�เรจ็ เลก็ ๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB

กล้วยฉาบ สามรส

จากการเอาโครงการปลกู กลว้ ยของโรงเรียนมารวมกบั โครงงานอาชีพ เร่ืองการแปรรปู อาหาร เราจงึ
ได้ กล้วยฉาบสามรส ซึ่งเปน็ การนำ�กลว้ ยท่ไี ด้จากโครงการปลูกผกั สวนครัวของเรามาแปรรปู เพื่อ
จำ�หน่ายให้กบั สหกรณ์โรงเรียน เป็นการเพิ่มรายไดใ้ ห้กบั นกั เรยี นในโครงการของเราได้อกี ด้วย

วัตถุดบิ ส�ำ คัญทข่ี าดไม่ได้มี กลว้ ยน้ำ�วา้ หา่ ม น�ำ้ ตาล เกลือ และน�้ำ มันพชื วสั ดอุ ปุ กรณ์ที่ตอ้ งใช้กม็ ี
อยใู่ นครวั โรงเรียนอยูแ่ ล้วค่ะ ไมว่ ่าจะเปน็ เตาแก๊ส กระทะ ตะหลิว กระชอน ตะแกรงไม้ หม้อ มีด เขยี ง
วิธีท�ำ กลว้ ยฉาบสามรสของเรา มีดังนคี้ ่ะ

1. น�ำ กลว้ ยมาปอกเปลอื กแล้วลา้ งน�ำ้ ใหส้ ะอาด
ท้งิ ไว้พอหมาดๆ
2. หน่ั กล้วยใหเ้ ป็นชิน้ บางๆ แล้วน�ำ ไปผึง่ ลมไว้
3. น�ำ กระทะต้ังไฟ ใสน่ �ำ้ มนั พชื รอให้น้ำ�มันร้อน
จงึ น�ำ กล้วยลงทอดด้วยไฟปานกลาง
พอกลว้ ยเหลืองตกั ใส่กระชอน พกั ไว้ใหเ้ ย็น
คลกุ เคลา้ เกลอื เล็กน้อย
4. นำ�น้�ำ ใสน่ �ำ้ ตาลต้งั ไฟให้เดือด คนไมใ่ ห้น้ำ�ตาล
ติดก้นหมอ้ เค่ยี วจนเหนยี ว ขน้ ปดิ ไฟ
และนำ�กล้วยทท่ี อดไวม้ าคลกุ เคลา้ ใหท้ ว่ั
5. ทง้ิ ไวใ้ ห้เยน็ บรรจใุ ส่ถงุ ปิดถุงใหแ้ นน่ สนทิ กันลมเขา้
เพราะจะท�ำ ใหก้ ลว้ ยฉาบเหนยี ว รับประทานไมอ่ ร่อย

“...เมอ่ื ได้กล้วยฉาบสามรส เราจะน�ำ ไปจำ�หนา่ ยให้สหกรณ์โรงเรียนและรา้ นค้าในชุมชนคะ่ ”

เล่าเรอื่ งโดย ด.ญ.นาถยา คำ�หนา และด.ญ.วจิ ติ รา ถอดศรี
นกั เรยี นโรงเรียนบา้ นค�ำ นาแซง

ความส�ำ เรจ็ เล็กๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB 65

เมยี่ งคำ� 3 รส

เมยี่ งคำ� 3 รส อีกหนึง่ สตู รอาหารว่าง ท่ีมวี ตั ถดุ ิบจากผักที่เราปลกู ไวใ้ นโครงการเกษตรของโรงเรียน
บ้านค�ำ นาแซงของเราคะ่ ส่วน 3 รส ไดแ้ ก่ เผ็ด เปร้ียว และหวาน

เคร่อื งปรุง
1. ข่า 2. ตะไคร้ 3. น้ำ�ปลา 4. นำ�้ ตาล 5. ปลาร้า 6. พรกิ
7. มะขาม 8. ผักเคยี ง เชน่ ใบชะพลู ใบมะยมอ่อน ผกั กระถิน

วิธที ำ�
1. ล้างขา่ และตะไคร้ให้สะอาด ห่นั บางๆ ใหฝ้ อย
(เวลาโขลกจะได้ละเอียดได้งา่ ย)
2. ใส่พริกลงในครก โขลกใหล้ ะเอยี ด ใสข่ า่
ตะไครท้ ห่ี น่ั ฝอยเตรียมไวแ้ ล้ว โขลกให้เข้ากนั
3. ปรงุ รสด้วย นำ�้ ปลา น�ำ้ ตาล ปลาร้า น�้ำ มะขาม
ชมิ รสชาตติ ามชอบ ตกั ใส่จานทานกับผักเคียง เชน่ ใบชะพลู ใบมะยมออ่ น ใบผักกระถนิ ออ่ นกไ็ ด้อร่อย
อยา่ บอกใครเชียว

“...เมีย่ งคำ� 3 รส เปน็ อาหารพื้นบา้ นอสี านของเรา อรอ่ ย และมปี ระโยชนก์ บั สุขภาพ เพราะมสี ่วนผสม
ของสมนุ ไพรหลายชนิด สว่ นประกอบกห็ าได้ตามรว้ั โรงเรยี นเรานีเ่ อง สามารถท�ำ รบั ประทานได้บ่อยๆ ไม่
ตอ้ งเสยี เงินซอ้ื ขนมทไ่ี หน”

เล่าเรื่องโดย ด.ญ.วราวรรณ เรืองพล และด.ญ.สพุ ตั รา ตู้ทอง
นกั เรยี นโรงเรียนบา้ นค�ำ นาแซง

66 ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB

ทอดปลาใหน้ า่ รบั ประทาน

วันนนั้ หนูจ�ำ ได้เปน็ วันที่ฝนตกหนกั พ่อออกไปหาปลามาได้เยอะแยะมากมาย ปลาตวั ท่ีตายแมก่ น็ �ำ มาทำ�เป็น
ปลาตากแห้งเก็บไว้กนิ เม่อื เวลาไมม่ อี าหารรับประทาน วันน้นั แม่ใช้ใหห้ นไู ปทอดปลาใหน้ ้องกิน หนูนำ�กระทะ
ตัง้ ไฟใส่น�้ำ มนั พชื แลว้ พอกระทะร้อนได้ที่ หนกู ็นำ�ปลาลงทอด ปรากฏวา่ ปลาตดิ กระทะเหลือแต่ก้าง
แทบไม่เหลืออะไรใหร้ บั ประทาน หนูจงึ ถามแม่วา่ ท�ำ ไมเวลาแมท่ อดปลาจึงไมต่ ดิ กระทะและน่ารับประทาน แม่
บอกหนวู ่ามันตอ้ งมีเทคนิค เวลาน้ำ�มนั ก�ำ ลงั รอ้ นไดท้ ่ี ให้น�ำ เกลอื เหยาะลงไปในกระทะนดิ หนงึ่ แลว้ จงึ น�ำ
ปลาลงทอด ไม่ต้องกลบั บ่อย กะให้ปลาสุกด้านหนง่ึ กอ่ น แลว้ จึงค่อยพลกิ กลับอกี ดา้ น รอจนสุกตกั
ขน้ึ กจ็ ะไดป้ ลาทอดท่สี วยงามนา่ รบั ประทาน

เลา่ เร่อื งโดย ด.ญ.ธณฐั ดา สุระรมั ย์ นักเรียนโรงเรยี นบ้านหลักเขต

ความส�ำ เร็จเล็กๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB 67

กะปสิ สี วย

จากการทำ�อาหารกลางวันของโรงเรียน บางครัง้ ก็มกี ารทำ�น�ำ้ พริก ซงึ่ มกั มีส่วนประกอบคือ “กะป”ิ
เวลาซอื้ มาก็จะซือ้ มาเปน็ กระปกุ แต่ใช้ครง้ั ๆ นงึ ไม่เยอะ สว่ นใหญก่ ต็ อ้ งเกบ็ ไว้ใช้ในครง้ั ตอ่ ไป เวลาเก็บ
กะปไิ ว้นานๆ กพ็ บวา่ กะปนิ นั้ เปลี่ยนสี จากสกี ะปิ ที่มีสนี ำ�้ ตาลออกม่วงๆ เปลย่ี นเปน็ สดี �ำ เวลาเอาไป
ท�ำ น้�ำ พรกิ ก็พลอยทำ�ให้น้�ำ พรกิ มีสไี ม่นา่ กนิ ปา้ ไย หรือ นางลำ�ไย จนั ดากุล แม่ครัว เล่าให้หนูฟังว่า
“เกบ็ ยังไงมันก็ด�ำ ป้าลองมาหมดแล้ว ท้งั ใส่ขวด ใส่โหล มัดถงุ สารพดั มนั กด็ �๊ำ ..ด�ำ เลยว่าไมไ่ ด้ผล ก็
เปลย่ี นมาคดิ ว่า จะทำ�ไงให้มันเปลี่ยนจากสีดำ� มาสสี วยนา่ กินเหมือนเดมิ แทน”
วิธีการท�ำ ให้กะปทิ ่เี ปลี่ยนสีแลว้ กลบั มามีสสี นั นา่ กนิ เหมือนเดิมก็ง่ายแสนงา่ ยค่ะ แค่เวลาตำ�น้�ำ พริกให้ใสน่ ม
สดสกั 2-3 ช้อนโต๊ะลงไปในครกขณะตำ�กจ็ ะช่วยให้กะปมิ สี สี ันสวยข้ึนคะ่

เล่าเรอื่ งโดย ด.ญ.ศิรินาถ ยุตะกิจ นักเรยี นโรงเรยี นบา้ นตากแดด
ขอ้ มูลโดย นางล�ำ ไย จันดากลุ แมค่ รวั

68 ความส�ำ เร็จเล็กๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB

ขนมจนี เส้นตรง

วันหนง่ึ โรงเรียนของเราไดพ้ าไปดอู าชีพของชาวบา้ นในหมูบ่ ้าน เราไดไ้ ปดูวธิ ีการท�ำ ขนมจีนท่บี า้ น แมอ่ ุ่ง
หรอื นางวิเชียร วรรณลี เกษตรกรบ้านตากแดด ได้ทำ�กิจการรา้ นขายขนมจีนเป็นของตนเอง ไดเ้ ลา่ ให้
ฟังเกี่ยวกับขั้นตอนในการท�ำ ขนมจนี ตา่ งๆ พร้อมทั้งสาธิตใหเ้ ราได้ดดู ้วย

แม่อุ่งเลา่ ว่า ตอนที่เร่มิ ทำ�ขนมจีนใหมๆ่ พบปัญหาว่าเส้นของขนมจีนน้ันมันขาดไมเ่ ปน็ เสน้ แมอ่ ุ่งจงึ
ได้พยายามคดิ ค้นหาวิธที �ำ ให้ขนมจีนเป็นเส้นแลว้ ไดล้ องผิดลองถูกมาหลายครงั้ กพ็ บเทคนิคว่า จะให้
ขนมจีนที่ได้มเี สน้ ตรงสวยนา่ รับประทานนัน้ มี 3 ขนั้ ตอนหลกั ๆ ทีต่ ้องให้ความสำ�คญั คือ หนึ่ง ขนั้
ผสมแป้ง ตอ้ งมคี วามขน้ ก�ำ ลังพอเหมาะ เพราะหากข้นเกนิ ไป ก็จะบบี ไม่ออก แตถ่ ้าเหลวเกนิ ไปก็จะท�ำ ให้
เสน้ ขาด ชว่ งแรกๆ ใช้วธิ กี ารทดลองบีบดู พอนานๆ เขา้ กส็ ังเกตไดเ้ องว่า ขน้ ประมาณไหน สอง ข้ัน
โรยเสน้ แม่องุ่ วา่ เวลาโรยเส้นนนั้ สำ�คัญ ตอ้ งบบี ที่โรยเส้น หรือภาษาชาวบา้ นเรยี ก “อโี รย” ให้
สม่�ำ เสมอ ความเรว็ ปานกลาง (ถ้าชา้ เกนิ ไปเสน้ จะขาด-ถ้าเรว็ เกนิ ไปเสน้ กจ็ ะไม่สม�่ำ เสมอ) แลว้ ต้องบบี ตอน
น้ำ�เดือดจัด ใหอ้ ีโรยสูงจากน้�ำ ประมาณ 3-4 นว้ิ โรยวนไปเรอื่ ยๆ จนหมดอโี รย รอให้สุก (สังเกตวา่
เส้นจะลอย) กเ็ กย่ี วขนึ้ มาแช่น้�ำ เยน็ ประมาณ 2 นำ้� และ สาม ขั้นจับเสน้ เมอ่ื เสน้ ขนมจนี เย็น ตอ้ งจบั
เส้นและเพือ่ หยดุ การดดู น�ำ้ ของเสน้ ขนมจนี การจับเสน้ ขนมจีนให้เปน็ หวั หรือเป็นจับนนั้ ให้ใชน้ ิ้วชแ้ี ละน้ิว
หวั แมม่ อื ขา้ งท่ีถนัด จับเสน้ ขนมจนี ไปใส่ท่ีปลายน้วิ ช้อี กี มอื หนง่ึ แล้วโคง้ ลง โดยใช้นิ้วหัวแมม่ ือบบี ไว้ เมอื่
ได้ขนาดหวั ท่ตี ้องการแลว้ จงึ ตดั เส้นขนมจนี ออก นำ�ไปวางในกระจาดหรอื ภาชนะซ่ึงมีใบตองรองไว้แล้ว
การจับเส้นขนมจนี นนั้ ถา้ จะใหส้ วยต้องจบั ครง้ั ละนอ้ ยๆ จงึ จะท�ำ ให้นา่ รบั ประทาน การจับเส้นขนมจนี 1
จบั หรือ 1 หัวจะมีน�ำ้ หนักประมาณ 1 ขีด
“...ทัง้ ดู ทัง้ ลองท�ำ วันนน้ั พวกเราเลยโชคดไี ด้ลองชมิ ขนมจนี เสน้ ตรงยาวสวยฝีมือแม่อ่งุ กันด้วยคะ่ ”

เลา่ เรอื่ งโดย ด.ญ.ปภิญญา จนั ทร์เตมิ นักเรียนโรงเรียนบ้านตากแดด
ข้อมลู โดย นางวิเชยี ร วรรณลี เกษตรกรบ้านตากแดด

ความสำ�เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB 69

70 ความส�ำ เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB

เกบ็ (ผกั )งา่ ย เหย่ี วยาก

หนง่ึ ในผลผลิตจากโครงการเกษตรโรงเรยี นบา้ นตากแดดของเราก็คือ ผกั สวนครัว ซึ่งจะปลูกบนแปลง
ของโรงเรียนสลบั กับการทำ�นา เมื่อผกั สวนครัวเจริญเติบโตไดท้ ่ี เราก็จะเก็บเกยี่ วผลผลิตมาท�ำ อาหาร
กลางวนั แตก่ ต็ ดิ ทว่ี า่ ผักจะพร้อมเก็บในเวลาเดียวกัน ทำ�ให้มีปรมิ าณผักมากเกนิ กว่าทีจ่ ะใช้ประกอบอาหาร
ได้หมดกอ่ นท่ผี ักจะเน่า จะเกบ็ ใสต่ เู้ ย็นกม็ ีทไ่ี ม่เพยี งพอ

เราได้ลองน�ำ เรอ่ื งนไ้ี ปปรึกษากบั ผูป้ กครอง แลว้ กไ็ ด้เคล็ดลับจาก นางสมคิด ดวงมาลา คณุ แมข่ อง
นักเรยี นของเรา คณุ น้าสมคดิ ได้เลา่ ให้ฟังวา่ ตอนทีซ่ ้อื ผักมาไวป้ ระกอบอาหารเปน็ จำ�นวนมาก แต่
ประกอบอาหารไมห่ มด ท่บี ้านไมม่ ีตูเ้ ยน็ ผักกเ็ หย่ี วเนา่ จึงไดค้ ดิ หาวธิ ที ำ�ให้เกบ็ ผกั อยูไ่ ด้นานๆ โดยได้นำ�
กระดาษหนังสอื พมิ พ์มาหอ่ ผกั เหลือไวแ้ ต่รากของผกั น้ันๆ สว่ นรากน้ันให้แช่น�ำ้ ไว้ วธิ ีนจ้ี ะช่วยใหเ้ ก็บผกั ไว้
ใชไ้ ด้นานประมาณ 1 สปั ดาห์โดยไม่ตอ้ งพึง่ ตเู้ ยน็ เลย

เล่าเรื่องโดย ด.ญ.ปภิญญา จนั ทรเ์ ตมิ นักเรยี นโรงเรยี นบา้ นตากแดด
ข้อมูลโดย นางสมคดิ ดวงมาลา ผปู้ กครอง

ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB 71

ผมเงานมุ่ สวยด้วยน�ำ้ แชข่ า้ วเหนยี ว

ว่ากนั ถึงเคลด็ ลับการทำ�เกษตรมาเยอะแล้ว ขอเลา่ ถึงเคลด็ ลบั ความสวยความงามจากผลผลิตเกษตรกัน
บา้ ง วันนม้ี ีเคลด็ ลบั การท�ำ นำ้�หมกั ผมแบบงา่ ยๆ แสนประหยดั มาแบ่งปันกับเพือ่ นๆ
ผมไดไ้ ปพดู คุยกบั น้ายุ หรอื นางสาวยุวลี ทองเพ็ญ เจ้าของร้านเสรมิ สวยประจำ�หมู่บา้ นของผม นา้
ยุมผี มยาวเงางามนุ่มสลวย ผมจงึ ถามน้ายวุ ่า ใช้ครีมบ�ำ รุงผมยห่ี ้ออะไรผมถึงสวยแบบน้ี น้ายวุ ่า ครีม
บ�ำ รงุ ผมบางอนั มีราคาแพง จะใช้บ่อยๆ ก็เปลอื งเงนิ จงึ ไดค้ ดิ หาวธิ ีท่ีจะลดคา่ ใช้จ่ายในชวี ติ ประจ�ำ วัน
ดู ดว้ ยการน�ำ ส่ิงใกล้ตัวมาประยกุ ต์บำ�รงุ ผมแทนการซ้ือครมี บ�ำ รงุ ผมสำ�เร็จรูป ลองมาหลายสูตร กม็ า
ลงตวั ท่ี “น้�ำ แช่ข้าวเหนียว” นา้ ยุบอกเคลด็ ลบั ว่า

1. น�ำ ข้าวเหนียวมาแช่ไวป้ ระมาณ 12 ชว่ั โมง
2. สงข้าวขนึ้ เหลือไวแ้ ต่นำ�้ ทงิ้ ใหน้ ้�ำ ตกตะกอนแลว้
รินน้�ำ ใสๆ ขา้ งบนออก (วิธีเดียวกบั การท�ำ น้�ำ ปูนใส)
จะได้ น้�ำ แชข่ ้าวเหนียว
3. ท�ำ ผมให้เปยี ก จากนนั้ นำ�น�้ำ แชข่ ้าวเหนยี วท่ีได้
ใส่ผมให้เปียก
4. เอาผ้าคลุม ทงิ้ ไวน้ าน 20 นาที
5. ล้างด้วยน�ำ้ สะอาด และเชด็ ผมใหแ้ ห้ง

วิธีนใี้ ช้ไดบ้ อ่ ยเทา่ ทีต่ อ้ งการ เพราะวถิ ีชวี ิตชาวอีสานส่วนใหญ่นิยมรบั ประทานขา้ วเหนียว กอ่ นจะนำ�ขา้ ว
เหนยี วไปหุงได้ ต้องนำ�ขา้ วเหนยี วไปแช่ไวเ้ ป็นระยะเวลานานพอสมควร เวลาน�ำ มาหุงแล้วข้าวจงึ จะสุกงา่ ย
ดังนั้น กิจวัตรส่วนใหญ่ กอ่ นนอนทุกบ้านก็จะแช่ข้าวเหนียวไว้ เพือ่ เตรยี มหงุ ในตอนเชา้ ดงั นนั้ ตอน
เช้าทุกบ้านกจ็ ะมนี ้�ำ แช่ขา้ วเหนียว หรือ ภาษาอีสาน เรียกว่า “นำ�้ มวก” กนั ทุกบา้ น นอกจากจะใชห้ มักผม
ทำ�ใหผ้ มเงางามน่มุ สลวยแลว้ ยงั สามารถน�ำ ไปรดนำ�้ ต้นไม้ แชป่ ลา หรอื ดองผกั ได้อกี ดว้ ย ประโยชน์
หลายอยา่ งจริงๆ ครับ

เลา่ เร่ืองโดย ด.ช.ธีรพล จมู คลอง นกั เรียนโรงเรยี นบ้านตากแดด
ขอ้ มลู โดย นางสาวยวุ ลี ทองเพ็ญ เจ้าของรา้ นเสริมสวยประจ�ำ หมบู่ ้าน

72 ความสำ�เรจ็ เล็กๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB

ใบตองกล้วยชว่ ยให้รีดล่นื

เพอื่ นๆ เคยมปี ัญหาเวลาใชเ้ ตารีดไปนานๆ แล้วเตารีดฝืดไหมคะ? เอาไปรีดผ้ากพ็ าลตดิ เสือ้ ผา้ ท�ำ ใหเ้ สีย
หายหมด วนั นี้หนูมเี คล็ดลับดีๆ มาแบง่ ปันค่ะ เคลด็ ลับน้ีไดม้ าจาก คณุ ป้าบัว หรือ น.ส.บัวลี กิ่งก้าน
ค่ะ คุณป้าบอกวา่ เวลาเตารีดฝืด ให้เอาใบตองกลว้ ย สดๆ เลยค่ะ (กอ่ นเอามาใชใ้ หเ้ ชด็ ให้สะอาดกอ่ นนะ
คะ) จากน้นั เปดิ เตารีดไฟพอประมาณ แล้วเอามาใบตองกลว้ ยมาใช้เตารดี ๆ เหมอื นกบั รดี ผ้านะ่ คะ่ ถูไปถู
มาหลายๆ ครง้ั ด้วยคณุ สมบัติของใบตองกล้วยจะดูดสิง่ สกปรกที่ติดอยู่ท่ีหนา้ เตารดี ใหห้ ลดุ ออก แค่
นี้เตารดี ของเพอ่ื นๆ ก็กลับมาใช้ได้ “รดี ลื่น” เหมือนเดิมแล้วค่ะ

เลา่ เรอื่ งโดย ด.ญ.จารวุ รรณ ข่าขันมะลี โรงเรยี นบ้านตากแดด
ขอ้ มลู โดย น.ส.บวั ลี กิง่ กา้ น ชาวบา้ นบา้ นตากแดด

ความส�ำ เรจ็ เล็กๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB 73

สียอ้ มจากเปลอื กเงาะ

นายตวย ณรมั ย์ เปน็ คนหมู่ 9 ต�ำ บลหลักเขต อ�ำ เภอเมืองบุรรี มั ย์ จงั หวดั บรุ ีรมั ย์ วันหน่ึงดิฉนั
เด็กหญิงวยิ ดา สุมรัมย์ และเพ่ือนๆ ได้ไปเลน่ ท่ที งุ่ นาและไปกระทอ่ มของลุงตวย กระทอ่ มของลุงอยู่
ไกลจากชุมชนไปอย่างมาก พวกเราไปน่งั เลน่ ทีก่ ระท่อมได้คยุ กบั ลงุ ตวยหลายอย่าง ลุงตวยเล่าว่า แกมี
ลกู หลานหลายคน แตล่ กู ไดไ้ ปทำ�งานที่กรุงเทพ เหลือเพียงหลานชาย 1 คน เรยี นอยู่ ช้นั ประถมศกึ ษา
ปีที่ 2 นั่งเล่นสกั พักพวกเราก็เหลอื บไปเห็นลงุ กำ�ลงั ทำ�อะไรอยู่ไม่ทราบท่เี ตาไฟ พวกเราจึงลองเดนิ ไปดู
บริเวณเตาไฟ เห็นเปน็ เปลือกเงาะและน้ำ�สีดำ� พวกเราจงึ ถามลงุ ว่า มนั คอื อะไร? ลุงบอกวา่ น้�ำ ย้อมทำ�
จากเปลือกเงาะๆ ที่พวกเราคดิ ว่าหมดประโยชนแ์ ล้ว ลุงตวยน�ำ มาใส่ในหมอ้ เติมน้ำ�ให้พอดีกบั เปลือก
เงาะ แลว้ ตั้งไฟใหน้ ้�ำ เดือด แค่พักหน่งึ นำ้�ต้มจากสีขาวเปลย่ี นเปน็ สดี ำ�สนิท หลงั จากทิง้ ไว้ให้เย็น ลงุ กน็ �ำ
น�ำ้ สดี ำ�นนั้ ไปใช้ย้อมแหซง่ึ เป็นเครือ่ งมอื หาปลาชนดิ หน่ึง ซึ่งทำ�ให้สีของแหดูกลมกลืนกับธรรมชาติ เวลา
นำ�ไปหาปลาจะท�ำ ให้จับปลาได้งา่ ยขึน้

“...เรอ่ื งนี้สอนให้พวกเรารวู้ ่า ของท่ีเราคดิ วา่ ไม่มปี ระโยชนแ์ ลว้ บางคร้งั ก็ยงั มีประโยชนซ์ อ่ นอยู่นะคะ”

เล่าเร่ืองโดย ด.ญ.วยิ ดา สุมรัมย์ นักเรยี นโรงเรยี นบ้านหลักเขต

74 ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB

ปนู ขาวยาวเิ ศษแก้ปัญหาหมาขเ้ี รือ้ น

สุนัข หรือ ทพี่ วกเราชอบเรยี กกนั ตดิ ปากวา่ หมา เป็นสัตวเ์ ล้ยี งทน่ี ่ารกั
ไมแ่ พส้ ตั ว์ชนิดอื่นเลย ทัง้ ซือ่ สัตย์ จรงิ ใจ นา่ เลีย้ งมากๆ ทกุ วันนี้มพี นั ธุ์
ต่างๆ เยอะแยะมาก ชอบพนั ธุไ์ หนหาซือ้ งา่ ยนิดเดยี ว แต่เมือ่ เราเลี้ยงแล้ว
ตอ้ งดูแลเขาให้ดดี ว้ ยนะ เดย๋ี วจะเจอะปัญหาเหมือนทผ่ี มจะเลา่ ให้ฟงั ต่อไปน้ี
ผมเลี้ยงสนุ ขั อย่สู ี่ตัว มีเจ้าถงุ เงิน เจ้าถุงทอง เจ้าบ๊ัดด้ี และเจ้าโจนัส ทกุ ตวั สุขภาพดี มีแตเ่ จ้าบั๊ดด้นี ี่
สิเปน็ ขี้เรอื้ นตัง้ แต่เลก็ จนโต (เดยี๋ วนส้ี บิ สองปีแลว้ ) รกั ษาไมห่ ายขาด เวลาอาการก�ำ เริบ เขาจะใชฟ้ นั แทะ
ผวิ หนงั ตนเอง บางทกี ็ใช้ขาหลังเกา ไมไ่ ด้หลับได้นอน มรี อยผ่ืนแดงตามผวิ หนงั เลอื ดไหลซิบๆ

ผมไปซอ้ื แป้งฝุน่ ที่เปน็ ยามาโรยตามตวั ให้อยู่เรือ่ ย แต่ก็ไม่หายขาดสักที เพ่ือนหลายๆ คนบอกวา่ ที่มนั เกา
เพราะมเี หบ็ หมัดเยอะ แตผ่ มกด็ ูแลว้ ไม่เหน็ มเี ห็บซักกะตวั ผมก็เลยบอกมนั ว่าเป็นเพราะกรรมของเอง็ แหละ
บด๊ั ด้ีเอย้ ทนเอา แต่บงั เอิญเจ้าบั๊ดดม้ี นั ยงั พอโชคดอี ย่บู ้าง วนั หนง่ึ ผมซ้อื ปนู ขาวมาเพอื่ ฆา่ เช้ือโรครอบ
บ่อปลาพอโรยเสร็จมปี นู ขาวเหลอื อยู่ ผมจะทง้ิ น้�ำ กก็ ลัววา่ มันจะเป็นอันตราย
ต่อปลา (ทบี่ ้านผมเลีย้ งปลาบกึ ) มาคิดไดว้ า่ ปนู ขาวฆ่าเชอื้ โรคได้ มนั น่าจะ
ก�ำ จัดเร้อื นได้เหมอื นกัน ว่าแล้วกจ็ ับเจา้ บดั ดี้เป็น “หมาลองยา” โรยปูนขาว
ท่วั ตวั เลย (เวลาจะใหม้ ันนอนผมจะสง่ั มันวา่ ตาย! ตาย! ตาย! เปน็ อนั รกู้ ัน
เจา้ บ๊ัดดก้ี จ็ ะนอนหงายท้องในท่าตายทันท)ี จากน้ันกป็ ลอ่ ยมนั ไป เห็นมันวงิ่ วนไปวนมาแลว้ กก็ ลงิ้ บนพน้ื
หญา้ มันคงแสบคงคันน่นั แหละ

หลงั จากน้ันวนั รงุ่ ขึน้ ทา่ นผอู้ ่านร้ไู หม เจ้าบดั๊ ดีต้ าย...เฮ้ย! ไม่ใช่ แผลข้เี รื้อนของมันแห้งสนทิ นอนหลับ
สบายไม่เห็นรอยเกาแผลอีกเลย ตอ่ มาผมทำ�ซำ�้ เดอื นละสองครั้ง เดย๋ี วน้ีโรคเรือ้ นหายเปน็ ปลิดทิ้ง
ผมดีใจมากทช่ี ่วยใหม้ นั พ้นทกุ ขท์ รมานได้ จงึ อยากบอกผู้อา่ นทกุ ทา่ น
วา่ ไม่ตอ้ งไปซือ้ ยาอนื่ ใหเ้ ปลืองเงินอีกแล้ว ใช้ปนู ขาวเถอะ ของดีราคา
ถกู กิโลกรัมละสิบบาทเองใช้ไดต้ ั้งหลายครัง้ ว่างๆ จะลองไปถาม
สตั วแพทย์ดู เพราะเท่าท่ผี มทำ�มาผมยงั ไมเ่ คย ปรึกษาสตั วแพทย์สักที
ไม่ทราบว่าจะมอี นั ตรายหรอื ผลข้างเคยี งหรอื เปล่า

เลา่ เรอื่ งโดย นายประสทิ ธิ์ บวั ละคณุ ผ้อู �ำ นวยการโรงเรยี นบา้ นโสกแดง

ความส�ำ เรจ็ เลก็ ๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB 75

แกเ้ ชือกเย็บกระสอบ

ในการทำ�นาหรอื เลีย้ งสัตว์ของเกษตรกรสว่ นมากมักจะเก่ยี วขอ้ งกบั กระสอบปยุ๋ หรือถุงบรรจหุ ัวอาหาร
สตั ว์อยา่ งหลกี เลย่ี งไม่พน้ แต่มปี ัญหากวนใจอย่อู ย่างหนง่ึ ท่เี กษตรกรสว่ นมากยังแกไ้ ม่ตกคอื การแก้
เชอื กเยบ็ ปากกระสอบ ไมร่ ูว้ า่ จะแกท้ ่าไหนดี ดึงแล้วดงึ อกี บางคนต้องว่งิ กลบั ไปเอามีดมาตัดออกทล่ี ะ
เปลาะสองเปลาะ เสียเวลาตง้ั นาน แลว้ คุณล่ะ เคยเจอปญั หาเชน่ น้ีบ้างไหม การแกเ้ ชือกเยบ็ กระสอบไม่ยาก
เลยครบั สูตรของครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านโสกแดง ง่ายนิดเดยี ว ดึงครัง้ เดียว...หลดุ ปรืด้ เลย

ก่อนจะไดเ้ คล็ดลบั ก็มที ี่มาเหมือนกัน วนั หน่งึ พวกเราก�ำ ลังมุงกระสอบหัวอาหารปลาเพอื่ หาทางแก้เชอื ก
ปากกระสอบกันอยู่ ดงึ แล้วดงึ อีก ทำ�อยา่ งไรกไ็ ม่ออกสักที ต่างคนต่างงัดวิธกี ารตนเองมาใช้ แตไ่ ม่
ส�ำ เรจ็ ซกั คน พอดีทา่ นผ้อู �ำ นวยการเดนิ ผา่ นมาเห็น ท่านพูดวา่ “มานีจ่ ะสอนให้งา่ ยนิดเดยี ว…”

ขัน้ แรก ดูทก่ี ระสอบว่าตั้งถูกทางหรือยัง (สงั เกต
ทตี่ วั หนงั สือวา่ กลบั หัวหรอื ไม่)
ขั้นท่สี อง ดวู ่าเชอื กทีเ่ ย็บกระสอบทมี่ เี ส้นเดียว
อยู่ดา้ นใด ส่วนมากจะเยบ็ ไวด้ ้านตรงข้ามกบั ตัวหนัง
สอื ขา้ งกระสอบ
ขั้นทสี่ าม ให้เดนิ เข้าชิดกระสอบด้านตรงข้ามกับ
รอยเย็บทมี่ เี ชอื กเส้นเดยี ว โดยให้ยืนเอาด้านขวาของ
ตัวเองชดิ กระสอบ
ขั้นทสี่ ี่ ให้ยนื่ มอื ทงั้ สองไปจบั ปลายเชือกทอ่ี ยดู่ า้ นหนา้
แลว้ เกะปมปลายเชอื กแล้วดึง ปรื้ดเลย

พวกเราลองทำ�ตามดู โห...ง่ายจริงๆ ครบั หลังจากน้นั คร้ังตอ่ ๆ ไปเราก็จะไมต่ ้องเสียเวลาลองถูก
ลองผิดให้เสียเวลาอีก เดนิ ไปท่กี ระสอบ ดึงปร้ดื เดยี ว ก็เปิดถุงได้เลยครับ ขอบพระคณุ ผอู้ �ำ นวยการ
โรงเรยี นบา้ นโสกแดง ไว้ ณ ตรงนอ้ี กี ครง้ั หนงึ่ ครบั

เลา่ เร่อื งโดย ด.ช.มนต์รัก หาบุญมา และคณะ
นักเรยี นโรงเรยี นบา้ นโสกแดง

76 ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB

หลอดเจาะถว้ ยน�้ำ พลาสตกิ

ทกุ ครง้ั ทีพ่ วกเราไปรว่ มงานบุญ งานศพ เราจะพบวา่ เดีย๋ วนี้เขาจะเสิร์ฟน้�ำ ถว้ ยพลาสตกิ พร้อมหลอดดูด
อกี 1 อันเพ่ือความสะดวก แตเ่ พือ่ นเอย๋ กวา่ จะเสยี บหลอดเจาะถว้ ยน้�ำ ได้ หลอดหกั แล้วหักอกี บางคน
ไม่ใช้หลอดใชน้ ิว้ มอื เจาะเลย หรอื ใชป้ ากกัดแทนหลอดไปเลย (ใครจะมองก็ช่างเขา กห็ วิ น้ำ�นี)่

เจ้าของเทคนคิ น้ีก็ไม่ใชใ่ คร ท่านผอ.ประสิทธิ์ เจ้าเกา่ นั้นแหละครับ ท่านเห็นปญั หานก้ี ็เลยแนะเทคนิคง่ายๆ ใน
การเจาะถว้ ยน้�ำ พลาสติกให้ พวกผมลอง ก็ เฮย้ ! ทำ�ไมง่ายอยา่ งนี้

วธิ กี ารใช้หลอดเจาะทีถ่ ว้ ยนำ�้ นน้ั ให้ใช้นว้ิ มือน้ิวใดนิ้วหนง่ึ
ปิดท่ีปลายหลอดดา้ นตรงข้ามกบั ปลายแหลม
แล้วท่มิ ทางแหลมลงทีป่ ากถ้วยเบาๆ ก็ทะลเุ ลยโดย
ทีห่ ลอดไม่หกั ไม่งอ

ทำ�ไมเป็นอย่างนน้ั ท่านบอกวา่ การท่ีเราใชม้ ือปดิ หลอดดดู
ด้านหน่งึ นัน้ จะทำ�ใหภ้ ายในหลอดดดู น้ันอากาศไมส่ ามารถ
ผา่ นได้แลว้ มนั ก็จะอัดกันแนน่ เหมอื นกับเราเอาแทง่ ไม้ใสเ่ ขา้ ไปใน
หลอดดดู เลยทีเดยี วทำ�ใหห้ ลอดไมห่ กั ง่ายนั้นเอง

“...แตว่ ธิ กี ารนี้แนะน�ำ ให้เจาะถว้ ยใครถ้วยมนั นะครบั ไมง่ ัน้ ได้กนิ ข้ีนวิ้ กนั ก็คราวนีล้ ะ่ ”

เล่าเรือ่ งโดย ด.ช.มนรกั ษ์ หาบญุ มา และคณะ
นักเรยี นโรงเรียนบา้ นโสกแดง

ความสำ�เร็จเล็กๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB 77

ผักเมอื งนอกฟอกอากาศ

เรม่ิ จากโครงการเกษตรของโรงเรียนของเราท่ีใชผ้ ักตบชวามาใส่ในบ่อปลาดุก เพ่อื ชว่ ยฟอกอากาศ
บ�ำ บัดน�ำ้ ท่เี นา่ เสยี ไมใ่ ห้ปลาตาย แตด่ ว้ ยความท่เี ป็นผักท่ีขยายพันธร์ุ วดเร็ว จงึ ไดข้ ยายพันธุ์จนเตม็ บ่อ
ทำ�ใหย้ ากต่อการใหอ้ าหาร และดูแลปลาดุก นอกจากทเี่ ราจะควบคุมพื้นที่ในการขยายพันธุข์ องผกั ตบชวา
ดว้ ยการทำ�แนวกนั้ แลว้ เวลาผกั ตบชวาขยายพนั ธ์ุเยอะเกนิ ความจำ�เปน็ เราจะน�ำ ผักตบชวาออกไปกอง
รอบๆ โคนตน้ กล้วย จากผักเหลอื ใชไ้ ร้ประโยชน์ ผกั ตบชวาจะค่อยๆ เนา่ เปอ่ื ยกลายเป็นปยุ๋ อย่าง
ดใี ห้กับต้นกลว้ ย

นอกจากประโยชนท์ างการเกษตรแล้ว สว่ นยอดและใบอ่อนของผกั ตบชวายังสามารถน�ำ มารบั ประทานและ
ปรุงอาหารไดอ้ กี ด้วยนะคะ เชน่ น�ำ ยอดออ่ นของผักตบชวามาลวกจ้ิมนำ�้ พริก หรอื น่ึงกนิ เปน็ กับแกล้ม
สว่ นลำ�ต้นของผกั ตบชวายังนำ�มาแปรรปู เป็นผลิตภัณฑเ์ คร่ืองจักสาน เช่น น�ำ มาท�ำ กระเป๋า ตะกรา้
ภาชนะใส่ของหรือเครอ่ื งประดบั บ้านแลว้ ผกั ตบชวายังมปี ระโยชนห์ ลายอย่าง เช่น ใชแ้ กพ้ ษิ ขับลม ใน
ร่างกาย ใชท้ าหรือพอกแกแ้ ผลอกั เสบ ใช้เป็นอาหารสตั ว์ ใชท้ �ำ ปุย๋ หมกั ปยุ๋ ชีวภาพ ท�ำ เครอ่ื งจักสาน
เครอื่ งประดับบา้ น นำ�มาปรุงอาหาร แถมยงั นำ�ไปเป็นยารักษาโรคเพอื่ รกั ษาผูค้ นไดอ้ กี ด้วย

“...โอโ้ ห! เปน็ อยา่ งไรกันบ้างคะ ประโยชนข์ องผกั ตบชวา เยอะกว่าท่ีคดิ ไหมคะ”

เลา่ เร่ืองโดย ด.ญ.ศริญญา ไกยะฝา่ ย
นกั เรยี นโรงเรียนบ้านเหลา่ โพนคอ้ เหล่าราษฎร์วิทยา

78 ความส�ำ เร็จเลก็ ๆ...เคลด็ ลบั เกษตรแบบ BBB

เคานเ์ ตอร์สวยจากโตะ๊ เรยี นเหลอื ใช้

ในการปรบั ปรุงและพัฒนาโรงเรยี นบางคร้งั กม็ ีงบประมาณจ�ำ กัด วัสดุอุปกรณท์ ่ียงั ขาดก็มมี ากแท้ ถา้ เรา
มัวแตร่ อให้คนอื่นมาชว่ ยตลอดเวลากค็ งตอ้ งใชเ้ วลานาน กต็ ้องร้จู ักช่วยเหลือตวั เองกันบา้ ง ปนี เ้ี ราได้
เริ่มกิจกรรมโรงเรยี นธนาคาร ต้องเตรียมสถานท่ี และวัสดุอปุ กรณห์ ลายอยา่ ง หลงั จากวางแผนและ
แบง่ สรรปันสว่ นงบประมาณกันในทีมงานของโรงเรียน กเ็ หน็ ว่ามีอุปกรณ์บางอยา่ งท่ีเราคงจะต้องตัดใจ
หน่ึงในนั้นก็คือ เคานเ์ ตอรฝ์ าก-ถอน แตผ่ มกอ็ ยากใหโ้ รงเรียนธนาคารของโรงเรียนบ้านหว้ ยแคนโนนสูง
ของเราออกมาสวยน่าใช้ คล้ายกับธนาคารจริง จงึ ได้คดิ ประดษิ ฐ์เคานเ์ ตอร์จากโตะ๊ เรียนเหลอื ใชข้ ึ้นมา

ผมเจยี ดโตะ๊ เรียนจากแต่ละหอ้ งเรยี น ออกมาทัง้ หมด 12 ตวั ประกอบด้วย โตะ๊ เรียนนกั เรยี นประถม
6 ตวั และโตะ๊ เรยี นนกั เรยี นมธั ยม 6 ตวั น�ำ มาเรยี งเป็น 2 แถว โต๊ะประถมหนั ด้านลิ้นชักเขา้ สว่ นโตะ๊
มธั ยมหนั ด้านล้นิ ชกั ออก เพือ่ ใชป้ ระโยชน์ในการเกบ็ เอกสารตอ่ ไป จัดให้ขอบทั้งสองด้านเสมอกัน (โตะ๊
นกั เรียนประถมจะเล็กและเตย้ี กวา่ โต๊ะนกั เรยี นมัธยม) เว้นระยะโต๊ะนกั เรยี นประถมให้เท่าๆ กัน ดงั ภาพ

ความส�ำ เร็จเล็กๆ...เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB 79

ตดั แผ่นไวท์บอรท์ ง้ั หมด 5 ชนิ้ ตามภาพ
ชิ้นท่ี 1 = ความสูงโตะ๊ ประถม X ความยาวเคานเ์ ตอร์
ชนิ้ ท่ี 2 = ความกว้างโต๊ะประถม X ความยาวเคานเ์ ตอร์
ชิ้นท่ี 3 = สว่ นตา่ งความสงู โตะ๊ มัธยมและโต๊ะประถม X ความยาวเคานเ์ ตอร์
ช้ินที่ 4 = ความกว้างโต๊ะประถม X ความยาวเคานเ์ ตอร์
ชิ้นที่ 5 = ความสงู x ความกวา้ ง ของโตะ๊ ประถมและโตะ๊ มธั ยม (ดูภาพประกอบ) ใช้ปิดหวั เคานเ์ ตอร์
เมอ่ื ไดช้ นิ้ สว่ นท้ัง 5 แล้ว นำ�ไปตีปดิ ตามส่วนต่างๆ ให้ยึดตดิ กับโต๊ะเรยี น (ขอบโต๊ะ และขาโต๊ะ)
“เวลาตอกตะปปู ิดแผน่ ไว้ทบ์ อรด์ กบั โตะ๊ เรยี น ถา้ เรา
ท�ำ ได้เรียบรอ้ ย รบั รองวา่ ออกมาสวยไมแ่ พ้
เคาน์เตอรราคาแพง ดไู ม่ออกเลยครบั ว่า
เปน็ โตะ๊ เรียนเหลือใช้ หรือจะตกแต่งเพ่มิ ด้วยการทำ�
ลิน้ ชกั ฝ่งั ดา้ นโต๊ะมัธยม (ฝงั่ เจา้ หนา้ ท่ี) เพ่ิมความเปน็
ส่วนตวั กไ็ ด้ครบั ทา่ นใดจะแบบไปใชก็ได้เลย
ไม่สงวนลิขสทิ ธ์นิ ะครบั ”

เล่าเรื่องโดย นายอัศวนิ ภูครองตา
ผู้อำ�นวยการโรงเรยี นบ้านหว้ ยแคนโนนสูง

80 ความสำ�เรจ็ เล็กๆ...เคล็ดลบั เกษตรแบบ BBB

บทสง่ ทา้ ย

นาแล้งแห้งผาก ความช่มุ ตจี าก แผ่นดนิ อีสาน
ลมร้อนขบั ไล่ ผลกั ไหล่ดอกจาน ให้จ�ำ ลาก้าน...ร่วงหลน่ ลงดนิ

ดัง่ ลกู อีสาน พลดั ถ่ินฐานทเี่ คยทำ�กนิ
เขา้ มาปลดเปล้อื งหนี้สิน

หยาดเหง่ือหลง่ั …รนิ อยใู่ นเมอื งฟา้

เงนิ เบางานหนัก คอื สัญลกั ษณข์ องคนขายแรง
เหงื่อเม็ดถูกถูก สรา้ งสิง่ แพงแพง แลกกับข้าวแกง...กนิ ตามยถา

เหลือจา่ ยเก็บไว้ สง่ คืนไปให้คนอย่นู า
ในยามที่ฝนลมื ฟ้า เปลย่ี นโชคชะตา...ของคนอสี าน

*จากเดก็ เรียนดี แตว่ นั น้เี ปน็ กรรมกร จากหมอล�ำ ชื่อเสียงกะฉ่อน
ตอ้ งมาขบั กลอน ลำ�เดนิ ขอทาน

นกั มวยเงนิ หมืน่ วนั น้ีทง้ั คนื ตอ้ งยนื ล้างจาน
จากเป็นนางงามสงกรานต์ สดุ ทางฝนั เป็นสาวน่งั บาร์

**เหมือนถูกสาปส่ง ถูกฉอ้ โกงเอาความโชคดี
ลกู อสี านจนถงึ วนั น้ี ยงั ย�่ำ วถิ ขี องคนทง้ิ นา
ทางเดนิ ชาวดนิ ยังมีมลทินเป็นคราบน้ำ�ตา
คอยความเหน็ ใจจากฟา้ สง่ คนดีมาชว่ ยล้างอาถรรพ์

เน้ือเพลง ทางเดนิ ชาวดนิ ไมค์ ภิรมยพ์ ร ชดุ 13 กำ�ลงั ใจในแววตา

ความสำ�เรจ็ เล็กๆ...เคลด็ ลับเกษตรแบบ BBB 81

ลูกอสี าน ตดั สนิ ใจหนั หลังใหบ้ า้ นเกดิ เดินทางเข้าส่เู มืองหลวงเพอื่ หารายไดเ้ ลี้ยงชีพ ด้วยความหวงั
ที่จะน�ำ เงนิ นัน้ สง่ กลบั สู่บ้านเกดิ แต่ก็ต้องพบกับความจรงิ อนั โหดร้าย เน้อื หาของเพลง ทางเดินชาว
ดิน ของศิลปนิ ไมค์ ภิรมย์พร เพลงน้ี เป็นเพลงหนึ่งทีส่ ะทอ้ นความเปน็ จริงทีม่ ีอยู่ในสังคมของเรา
หลายๆ คนอาจสงสัยและตัง้ คำ�ถามว่า “แล้วทำ�ไมพวกเขาถึงไมห่ าอะไรทำ�ท่ีบา้ นเกดิ ?”
แมท้ กุ วนั นี้ การศกึ ษาภาคบงั คบั จะเปดิ โอกาสให้เดก็ ทุกคนได้เรยี นจบการศึกษาภาคบังคับ คือ
มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 นอกจากนน้ั รฐั บาลยงั ใหก้ ารสนบั สนนุ การศึกษาด้วยนโยบายเรียนฟรี จนถึง
มัธยมศึกษาปที ่ี 6 แล้วก็ตาม แตเ่ ราไม่อาจปฏิเสธไดว้ า่ สิง่ ท่เี ด็กนกั เรยี นไดเ้ รยี นรู้จากหอ้ งเรียน
ตลอดเวลา 9 ปีของการศกึ ษาภาคบงั คับนน้ั หาไดช้ ่วยให้เด็กๆ เรยี นรูว้ ธิ ที ่จี ะหารายได้เลย้ี งชีพ และ
สามารถมีชวี ิตความเป็นอยูท่ ่ดี ใี นบ้านเกิดของเขาเองได้ สำ�หรับเดก็ ทีไ่ ม่มโี อกาสไดศ้ ึกษาต่อหลงั จาก
เรียนจบมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 แลว้ ทางเลือกในการหาเลย้ี งชีวิตในสังคมไทยส�ำ หรับเขาน้ันช่างจ�ำ กัดนัก การ
เดนิ ทางเขา้ มารับจ้างในกรงุ เทพฯ จึงเปน็ เหมือน “โอกาส” ทพ่ี วกเขาเชือ่ ว่า จะทำ�ให้ชีวติ ดีข้ึน แม้จะรวู้ ่า
โอกาสนน้ั มีเพยี งน้อยนดิ

ส่งิ ที่พวกเราก�ำ ลงั ท�ำ อยู่ ไม่เพียงหวังใหเ้ ดก็ ๆ เหลา่ น้ีได้มีอาหารกลางวนั ทมี่ คี ณุ ภาพไว้รับประทาน ไม่
เพียงให้เขาไดม้ ีหนงั สือดีๆ ไวอ้ ่านเพ่มิ ความรู้ ไม่เพยี งให้เขาได้ออมเงนิ ผ่านโรงเรียนธนาคาร แต่ลึกๆ
แลว้ พวกเรายงั หวังอีกว่า BBB จะชว่ ยเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ เหลา่ นี้ ได้มองเห็นโอกาสในชีวติ
จากสงิ่ เลก็ ๆ รอบตวั ทเ่ี ขาเหล่านัน้ อาจมองไมเ่ หน็ หรอื มองข้ามไป นน่ั คอื คณุ ค่าและความสำ�คัญ
ของอาชพี ในภาคเกษตรกรรม อกี หนึ่ง “ทางเลือก” ของการหารายได้เลีย้ งชพี ภายหลงั จบการศึกษา
นอกจากทักษะการเกษตร ไมว่ ่าจะเปน็ ความรใู้ นการทำ�การเกษตร การวางแผนการเพาะปลกู การจัดท�ำ
บัญชรี ายรับรายจ่าย การตอ่ ยอดความรู้ เชน่ การแปรรูปผลผลิตเพือ่ เพิม่ มูลคา่ รวมถงึ ทักษะในการ
บริหารจัดการตา่ งๆ ที่สอดแทรกอยู่ในการดำ�เนินโครงการ และสิ่งสำ�คัญทส่ี ุดทพี่ วกเราพยายามปลูกฝงั
ให้เกดิ ขนึ้ ให้หวั ใจดวงน้อยๆ ของพวกเขา ก็คือ ความรักและความภมู ิใจในอาชพี เกษตรกรรม อาชพี ท่ี
ถือวา่ เปน็ เสน้ เลอื ดใหญ่ท่หี ลอ่ เล้ยี งเศรษฐกจิ ของประเทศ

พวกเราขอเปน็ ส่วนหนึ่ง ซงึ่ จะม่งุ มั่นพยายามช่วยเหลือเด็กๆ ท่ขี าดโอกาสเหล่านี้ใหไ้ ดม้ ีชวี ติ ทด่ี แี ละมี
คณุ ภาพ ให้พวกเขาไดพ้ บกับความสขุ ที่แทจ้ รงิ และหวังเป็นอยา่ งย่งิ ว่า หนังสอื “ความส�ำ เร็จเลก็ ๆ:
เคล็ดลับเกษตรแบบ BBB” กับ รอยย้มิ ของเดก็ ๆ จะช่วยหลอ่ เล้ียงใหห้ วั ใจของทกุ ๆ คนใหอ้ มิ่ เอม
และมกี �ำ ลังใจทจ่ี ะทำ�ส่ิงดๆี เหลา่ นต้ี อ่ ไป

สลิลทิพย์ จันทะยานี
เจา้ หนา้ ทบี่ รหิ ารโครงการ
มลู นิธิกองทนุ การศกึ ษาเพอ่ื การพัฒนา (EDF)


Click to View FlipBook Version