แผนการจัดการเรียนรู้
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551
วชิ า ประวัตศิ าสตร์ไทย
รหสั ส 31103
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
จัดทาโดย นางพนิชย์ สิมลี
ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ
==================================================================
==================================================================
โรงเรียนมธั ยมเทศบาล 6 นครอดุ รธานี
สังกัดสานกั การศึกษา เทศบาลนครอุดรธานี
กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถน่ิ กระทรวงมหาดไทย
คานา
แผนการสอน รายวิชา ประวัติศาสตร์ไทย 1 เล่มนี้ จัดทาขึ้นตามหลักสูตรสถานศึกษาและ
สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มี
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์และมีสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ซึ่งได้นาเสนอแผนการจดั การเรียนรู้เป็นรายช่ัวโมง
ตามหน่วยการเรียนรู้ เพื่อให้ครนู าไปใช้ในการจัดการเรยี นรู้ได้สะดวกย่ิงข้ึน นอกจากนี้แต่ละหน่วยการเรียนรู้
ยังมีการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ท้ัง 3 ด้าน ได้แก่ ดา้ นความรู้ ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยม และ
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ทาให้ทราบผลการเรยี นรแู้ ต่ละหน่วยการเรียนรู้ของนกั เรยี นได้ทนั ที
ผจู้ ัดทาหวังเปน็ อย่างยิง่ วา่ แผนการจดั การเรยี นรสู้ าหรับนกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 เล่มนี้
จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และสามารถช่วยครูผู้สอน ในการดาเนินการจัดกิจกรรมการ
เรยี นรแู้ ก่นกั เรยี น ใหส้ อดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงคข์ องหลกั สูตรได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
นางพนชิ ย์ สิมลี
ครู วทิ ยฐานะครูชานาญการ
สารบัญ
เรื่อง หนา้
บันทึกข้อความ ขออนุญาตใช้แผน
คาอธบิ ายรายวิชา 9
10
โครงสร้างรายวชิ า 13
15
ตารางโครงสรา้ งแผนการจัดการเรยี นรู้
43
ภาคเรียนท่ี 1
68
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เวลา และยคุ สมัยทางประวตั ิศาสตรไ์ ทย
แผนการเรยี นรูท้ ่ี 1 เวลาและศักราช
แผนการเรยี นร้ทู ี่ 2 ประวตั ศิ าสตรใ์ กลต้ ัว
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 การสรา้ งองค์ความร้ใู หม่ทางประวัตศิ าสตร์ไทย
แผนการเรียนรู้ท่ี 1 วธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์
แผนการเรียนรู้ที่ 2 การสรา้ งองคค์ วามรูใ้ หมท่ างประวตั ิศาสตรไ์ ทย
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3 วเิ คราะหป์ ระเดน็ สาคญั ทางประวัติศาสตร์ไทย
แผนการเรยี นรู้ที่ 1 ประวัติศาสตรไ์ ทยก่อนการปฏิรูปการปกครอง
ในสมยั รชั กาลที่ 5
แผนการเรยี นรูท้ ่ี 2 ปฏริ ูปการปกครองในสมัยรัชกาลที่ 5
แผนการเรยี นรู้ที่ 3 การเปล่ียนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475
แผนการเรยี นรู้ที่ 4 สงั คมไทยหลังการเปลย่ี นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475
แผนจดั การเรียนรู้วิชาสังคมศึกษา
1
ตอนที่ 1
การจดั การเรยี นรู้
รายวิชา ประวัติศาสตรไ์ ทย 1
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรียนรู้วิชาสังคมศกึ ษา
2
1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ 1 ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม
มาตรฐาน ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา
หรือศาสนา ที่ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และ
ปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรม เพื่ออยูร่ ่วมกันอย่างสนั ตสิ ขุ
มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธ ารงรักษา
พระพุทธศาสนาหรือศาสนาทีต่ นนบั ถอื
สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวิตในสังคม
มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม
และธารงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันใน
สงั คมไทย และสงั คมโลกอย่างสนั ตสิ ุข
มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดมั่น ศรัทธา และ
ธารงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นประมขุ
สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส.3.1 เขา้ ใจและสามารถบรหิ ารจัดการทรพั ยากรในการผลิตและการบริโภคการ
ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจ
หลกั การของเศรษฐกจิ พอเพียง เพอื่ การดารงชีวิตอย่างมดี ลุ ยภาพ
มาตรฐาน ส.3.2 เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่างๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
และความจาเป็นของการรว่ มมอื กนั ทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก
สาระที่ 4 ประวตั ิศาสตร์
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสาคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
สามารถใช้วธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์มาวิเคราะหเ์ หตกุ ารณต์ ่างๆ อย่างเป็น
ระบบ
มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้าน
ความสัมพันธ์และ การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง
ตระหนักถึงความสาคัญและสามารถ วเิ คราะห์ผลกระทบท่ีเกิดข้นึ
มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเปน็ มาของชาติไทย วัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาไทย มีความรกั ความ
ภูมใิ จและธารงความเปน็ ไทย
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรียนรูว้ ิชาสังคมศึกษา
3
สาระที่ 5 ภมู ิศาสตร์ เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพนั ธ์ของสรรพส่ิงซึ่งมีผล
มาตรฐาน ส 5.1 ต่อกันใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และ
สรุปข้อมูล ตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภูมิสารสนเทศ
มาตรฐาน ส 5.2 อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิด
การสร้างสรรค์วิถีการดาเนินชีวติ มีจิตสานึกและมีส่วนร่วมในการจัดการ
ทรัพยากร และสิ่งแวดลอ้ มเพอ่ื การพัฒนาท่ยี งั่ ยนื
2. สมรรถนะและคุณสมบตั ทิ ีพ่ งึ ประสงค์ของผเู้ รียน
ให้ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับความเป็นไปของโลกอย่างกว้างขวางและลึกซึ้งยิ่งขึ้น เป็นพลเมืองที่ดี มี
คุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตามหลักธรรมของศาสนาทีต่ นนบั ถือ มีค่านิยมอันพึงประสงค์ สามารถอยู่ร่วมกบั
ผู้อื่นและอยู่ในสงั คมได้อย่างมีความสขุ รวมทั้งมีศักยภาพ เพื่อการศึกษาต่อในชั้นสูงตามความประสงค์ได้ มี
ความร้เู รื่องภมู ิปญั ญาไทย ความภูมิใจในความเปน็ ไทย ประวตั ศิ าสตร์ของชาติไทย ยดึ ม่ันในวิถีชีวิต และการ
ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีนิสัยที่ดีในการบริโภค เลือกและ
ตัดสินใจบริโภคได้อย่างเหมาะสม มีจิตสานึกและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมไทย และสิ่ง
แวดล้อม มีความรักท้องถิ่นและประเทศชาติ มุ่งทาประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงามให้กับสังคม มีความรู้
ความสามารถในการจัดการเรียนรูข้ องตนเอง ชี้นาตนเองได้ และสามารถแสวงหาความรูจ้ ากแหล่งการเรียนรู้
ตา่ ง ๆ ในสังคมได้ตลอดชวี ิต
3. เง่อื นไขการใชห้ ลกั สูตร
แผนการสอน รายวิชา สังคมศึกษา เล่มนี้จัดทาขึ้นเพื่อเป็นแนวทางให้ครูใช้ประกอบการสอนตาม
หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 โดยแบ่งหน่วยการเรยี นรู้จัดทาแผนการสอนราย
ชวั่ โมง
แผนการสอนเล่มน้ีได้ออกแบบการเรียนรู้เพื่อใหน้ ักเรียนได้พัฒนาองค์ความรู้เน้นการพัฒนาสมรรถนะ
สาคัญ และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์อย่างครบถ้วนตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช
2551 นอกจากนี้ยังไดอ้ อกแบบการเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรียนรวู้ ชิ าสงั คมศึกษา
4
ในแต่ละหน่วยการเรยี นรู้จะแบ่งแผนการสอนออกเป็นรายชั่วโมง ซึ่งมีจานวนมากน้อยไม่เท่ากันข้นึ อยู่
กบั เน้ือหาสาระ และในแตล่ ะแผนการสอนมอี งค์ประกอบดังน้ี
1) มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ดั
2) สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
3) สาระการเรยี นรู้
3.1) สาระการเรียนรู้ (K)
3.2) ทกั ษะกระบวนการ (P)
3.3) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
3.4) สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น (C)
4) ภาระงาน (สะท้องการจัดกจิ กรรม)
5) การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
6) กิจกรรมการเรียนรู้
7) สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
8) บนั ทึกหลังการสอน
การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ รายวชิ า สังคมศกึ ษา นอกจากจะจดั การเรยี นรู้ตามผลการเรียนรู้และสาระ
การเรียนรู้แล้ว จะตอ้ งจัดกิจกรรมเพอ่ื พัฒนาสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี นท้ัง 5 ประการ คอื
1) ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา
ถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเอง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ
ประสบการณ์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลด
ปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจน
การเลอื กใช้วธิ ีการสื่อสารทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ โดยคานึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม
2) ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง
สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ
สารสนเทศเพ่ือการตดั สนิ ใจเกยี่ วกับตนเองและสงั คมได้อยา่ งเหมาะสม
3) ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้
อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรม และข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และ
การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกนั และแก้ไข
ปญั หา และมีการตัดสนิ ใจท่ีมีประสิทธภิ าพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเอง สงั คม และสิ่งแวดล้อม
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรยี นรวู้ ชิ าสังคมศกึ ษา
5
4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ใน
การดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทางาน และการอยู่ร่วมกันใน
สังคม ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่าง
เหมาะสม การปรบั ตวั ให้ทนั กบั การเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จกั หลกี เลยี่ งพฤติกรรม
ท่ีไม่พึงประสงคซ์ ง่ึ จะส่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อน่ื
5) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลอื กและใชเ้ ทคโนโลยดี า้ นตา่ ง ๆ มี
ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทางาน
การแก้ปัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม
การวางแผนการสอนที่มีการกาหนดวิธีการสอน การลาดับบทเรียน รวมทั้งสื่อและแหล่งการเรียนรู้ที่
เฉพาะเจาะจงนั้นจะประสบผลสาเร็จได้ก็ต่อเมื่อครูได้มีการกาหนดผลลัพธ์ปลายทาง หลักฐาน และวิธีการวดั
และประเมินผลที่แสดงว่านักเรียนมีผลการเรียนรู้ตามที่กาหนดไว้อยา่ งแทจ้ รงิ แล้ว การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
เป็นเพยี งสือ่ ท่ีจะนาไปสู่เป้าหมายความสาเร็จที่ต้องการเท่านน้ั ดว้ ยเหตุน้ีถ้าครูมีเป้าหมายที่ชัดเจนก็จะช่วยทาให้
การวางแผนการสอนและการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้สามารถทาให้นักเรยี นเกดิ ผลสัมฤทธต์ิ ามที่กาหนดไว้ได้
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้จะประสบผลสาเร็จได้ครูจะต้องค้นหาสื่อการเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ และ
กิจกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องเหมาะสมกับนักเรียน กิจกรรมที่กาหนดขึ้นควรเป็นกิจกรรมที่จะส่งเสริมให้
นักเรียนสามารถสร้างและสรุปเป็นความคิดรวบยอดและหลักการที่สาคัญของสาระที่เรียนรู้ ก่อให้เกิดความ
เข้าใจท่คี งทน รวมทง้ั ความรสู้ กึ และค่านิยมที่ดีไปพรอ้ ม ๆ กับทกั ษะความชานาญ
4. เทคนิคและวธิ กี ารจดั การเรียนรู้ รายวชิ า
การสอนใหบ้ รรลุเปา้ หมายนน้ั ผสู้ อนต้องใช้กระบวนการคิดที่หลากหลายในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
โดยจะต้องใช้กระบวนการ เทคนิค วิธีสอนที่มีขั้นตอนเน้นสู่การปฏิบัติจริงในการจัดการเรียนการสอนในแต่ละ
ระดับชัน้
การสอนรายวิชา สังคมศึกษา เพื่อให้ประสบผลสาเร็จตามประสงค์จะต้องจัดการเรียนรู้ โดยเน้น
การฝึกทักษะกระบวนการคิด การฝึกทักษะการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเองจากแหล่งการเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย
การฝึกปฏิบัติจริง และการประยุกต์ใช้ความรู้เพื่อการป้องกันและแก้ปัญหา ดังนั้น การจัดทาแผนการสอนใน
แผนการสอน รายวชิ า สังคมศกึ ษา เลม่ นจ้ี ึงยดึ แนวทางการสอนท่ีเน้นผู้เรยี นเป็นศูนยก์ ลาง (Child-centered)
เนน้ การเรียนรจู้ ากการปฏิบัติจรงิ และเนน้ การเรยี นรู้แบบบรู ณาการที่ผสมผสานเชอ่ื มโยงสาระ การเรียนรู้ต่าง
ๆ กับหัวข้อเรื่องหรือประเด็นทีส่ อดคล้องกับชีวิตจริง เพื่อให้นกั เรียนเกิดการพฒั นาในองค์รวม เป็นธรรมชาติ
สอดคล้องกับสภาพและปัญหาทเ่ี กดิ ในวถิ ชี ีวติ ของนกั เรยี น
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรียนรู้วิชาสงั คมศึกษา
6
แนวทางการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญได้เปลี่ยนแปลงบทบาทของครูจากการเป็นผู้ชี้นาหรือ
ถ่ายทอดความรู้ไปเป็นผู้ช่วยเหลือ อานวยความสะดวก และส่งเสริมสนับสนุนนักเรียนโดยใช้วิธีการต่าง ๆ
อยา่ งหลากหลายรปู แบบ เพ่ือให้นักเรยี นเกิดการสรา้ งสรรค์ความรแู้ ละนาความรูไ้ ปใช้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน เพอื่ พัฒนาผเู้ รยี นเป็นพลเมืองทม่ี คี วามรู้ ความสามารถ มที ักษะ
กระบวนการคิด ค่านิยมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีคุณธรรม และอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมไทยและ
สังคมโลกได้อยา่ งมคี วามสขุ การออกแบบการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า สงั คมศึกษา เลม่ นี้จงึ ไดน้ ารปู แบบการ
สอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) มาใชใ้ นการออกแบบการสอน
5. แนวทางการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรรู้ ายวิชา.......
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้รายวชิ า สงั คมศกึ ษา เป็นการตรวจสอบว่า นักเรยี นมคี วามก้าวหน้าใน
การเรยี นรู้ มคี วามรู้ มที กั ษะ มีความสามารถ และมเี จตคติ ตามคุณลกั ษณะท่ีกาหนดไว้มากนอ้ ยเพียงใด การ
จัดการเรียนรู้ที่เน้นให้นักเรียนเรียนรู้จากสภาพจริง รวมถึงการสอนที่เน้นกระบวนการ ทาให้การวัดและ
ประเมินผลต้องเน้นการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง ซึ่งหมายถึง กระบวนการสังเกต การบันทึก และการ
รวบรวมข้อมูลจากงานและวิธีการที่นักเรียนทา เพื่อเป็นพื้นฐานของการตัดสินในการศึกษาถึงผลกระทบต่อ
นักเรียน เน้นการประเมินทักษะการคิดที่ซับซอ้ นในการทางานของนักเรียน ความสามารถใน การแก้ปัญหา
และการแสดงออกที่เกิดจากการปฏิบัติในสภาพจริงจึงมีความต่อเนื่องในก ารให้ข้อมูลเชิงคุณภาพที่เป็น
ประโยชน์ตอ่ ครผู สู้ อน
วิธกี ารวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้รายวิชา สังคมศึกษา มีวิธีการวัดและประเมินผล โดยยึดเนื้อหาสาระ
จากผลการเรียนรู้ ซึ่งกาหนดไวค้ รอบคลุมทัง้ ด้านความรู้ ด้านทักษะ/กระบวนการ และด้านเจตคติ ครูจะต้อง
นามากาหนดเป็นจุดประสงค์การเรียนรู้ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ ซึ่งต้องครอบคลุมทั้ง ๓ ด้านดังกล่าวให้มี
ความหลากหลายในรูปแบบของการวัดและประเมนิ ผล ครคู วรพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับ
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของตน และกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียน เพื่อให้ได้รับการพัฒนาที่เต็ม
ตามศกั ยภาพ ดังน้ี
1. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ด้านความรู้ ความรู้ที่นักเรียนพึงมี มีทั้งด้านความรู้เชิงเนื้อหา
เชงิ กระบวนการ และเจตคติ
2. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ด้านทักษะ/กระบวนการ เป็นการวัดและประเมินผลที่เน้นให้
นักเรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง วิธีการวัดและประเมินผล จึงควรวัดความสามารถในการทางานและ
การแสดงออกท่ีมคี วามคล่องแคล่ว ภายใต้สถานการณแ์ ละเง่อื นไขทีส่ อดคล้องกับสภาพความเปน็ จริงมากท่ีสุด
โดยวัดท้งั วิธกี าร (Process) และผลงาน (Product) ท่ีนกั เรยี นกระทาและแสดงออก มีวิธีการวดั และประเมินผล
ทคี่ รูสามารถเลือกใชไ้ ดห้ ลากหลายวิธี ดังนี้
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษา
7
1) การสังเกตพฤติกรรม มีทั้งระบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ นิยมใช้แบบมาตราส่วน
ประมาณคา่
2) การทดสอบภาคปฏิบัติ เมื่อต้องการวัดทักษะการปฏิบัติหรือขั้นตอนการปฏิบัติงาน โดยให้
นกั เรียนเขยี นตอบ หรือเป็นขอ้ ความเลอื กตอบ
3) การสร้างสถานการณ์จาลอง ใช้เมื่อครูไม่สามารถนานักเรียนไปทดสอบภาคปฏิบัติใน
สถานการณจ์ รงิ ได้ จึงกาหนดสถานการณข์ ้ึน
4) แฟ้มสะสมผลงาน เหมาะสาหรับการประเมินภาพรวม เพื่อตรวจสอบว่านักเรียนสามารถนา
ทกั ษะตา่ ง ๆ ไปบรู ณาการใชไ้ ด้อย่างกลมกลนื เป็นธรรมชาติสอดคล้องกบั ชวี ิตจรงิ
5) การบันทึกพฤติกรรม การวัดและประเมินผลวิธีนี้ใช้เม่ือต้องการให้นักเรียนบรรยายพฤติกรรม
ของตนเองและเพื่อนขณะเข้าร่วมกิจกรรมเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือทาการบันทึกเมื่อออกภาคสนาม โดยให้
นกั เรียนจดบันทึก รายงานความสามารถ ความคิดเหน็ และความประทับใจของตนเอง ของเพื่อน และของกลุม่
3. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ด้านเจตคติ การวดั เจตคตติ อ้ งใชเ้ ทคนิคแตกตา่ งจากการวัดความรู้
และการวัดทักษะ/กระบวนการ เทคนิคการวัดเจตคติ ความรู้สึก ความซาบซึ้ง ควรใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น
การตอบคาถามสั้น ๆ การให้แสดงถึงอุดมคติ การสารวจโดยครู การสังเกต การสอบถาม การสัมภาษณ์
การประเมินตนเอง การวัดเจตคติเป็นการใช้เทคนิคเพือ่ ค้นหาว่านักเรียนชอบอะไร มากกว่าอะไร ผลที่ได้จาก
การวัดเจตคติจะไม่ได้สรุปตามความคิดเห็นของนักเรียนเพียงคนเดียว หรือนักเรียนจานวนน้อย แต่สรุปจาก
ความคดิ เหน็ ของนักเรียนทง้ั หมด หรือโดยสว่ นรวมของชั้นเรียน เครื่องมือวดั เจตคติจึงควรสรา้ งข้นึ มาเองโดยครู
การวัดเจตคติควรมีคาช้ีแจงในการทาเครื่องมือที่ชัดเจน ง่ายต่อการทาความเข้าใจและสั้น ๆ ใช้เวลาไม่
มากเชน่ กนั การวัดเจตคตมิ เี ทคนิคในการวัด ซึ่งทาได้หลายวธิ ี ดงั นี้
3.1 การวัดและประเมินผลด้วยครู โดยวิธีการสังเกต การสัมภาษณ์ การบันทึกผลการสังเกต
การสอบถาม การประเมินตนเอง การสารวจพฤตกิ รรม การวัดความคดิ เห็น การวดั เจตคติ การวดั สถานการณ์
3.2 การเขียนตอบรายบุคคล
3.3 การใชม้ าตราสว่ นประมาณค่า
3.4 การตรวจสอบรายการ
3.5 การประเมินโดยครู เพอ่ื น พอ่ แม่ และผปู้ กครอง
การประเมนิ ด้านเจตคติเนน้ การประเมินทีห่ ลากหลาย สอดคลอ้ งกับคุณลกั ษณะ/ตัวชว้ี ัด และตามสภาพ
จรงิ สะทอ้ นเจตคติหรอื ความคิดเหน็ และความรู้สึกท่แี ทจ้ รงิ
เกณฑ์การตดั สินผลการเรยี นรู้
การประเมนิ ผลการเรียนรรู้ ายวิชาเพ่ิมเติม หน้าทพี่ ลเมอื ง คิดเปน็ สัดสว่ นคะแนนระหวา่ งเรยี นกับคะแนน
ปลายภาค โดยให้ความสาคัญของคะแนนระหว่างเรยี นมากกวา่ คะแนนปลายภาค 70:30
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรียนรู้วิชาสังคมศกึ ษา
8
ตาราง การคิดสัดส่วนคะแนนเป็น 70:30 หมายถึง คะแนนระหว่างเรียน 70 คะแนน และคะแนน
ปลายปี/ปลายภาค 30 คะแนน ดงั น้ี
สดั ส่วนคะแนน 70:30
คะแนนระหว่างเรยี น 70 คะแนน
1. คะแนนตามผลการเรียนร้ทู ุกขอ้ 30 คะแนน
2. คะแนนวัดผลกลางภาค ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น 30 คะแนน
3. คะแนนคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 10 คะแนน
คะแนน ปลายภาค 30 คะแนน
การตัดสินผลการเรียน ใช้ระบบผ่านและไม่ผา่ น โดยกาหนดเกณฑ์การตัดสินผ่านท่ีร้อยละ 50 จากนนั้
จึงให้ระดับผลการเรียนท่ีผ่านเป็นระบบต่าง ๆ ตามที่สถานศึกษากาหนด ได้แก่ ระบบตัวเลข ระบบตัวอักษร
ระบบรอ้ ยละ และระบบทีใ่ ช้คาสาคัญสะท้อนมาตรฐาน
ระบบตวั เลข ระบบตวั อักษร ระบบรอ้ ยละ ระบบที่ใช้คาสาคญั สะท้อนมาตรฐาน
5 ระดับ 4 ระดบั 2 ระดบั
4 A 80-100 ดเี ยีย่ ม ดเี ยย่ี ม
3.5 B+ 75-79
3 B 70-74 ดี ดี ผา่ น
2.5 C+ 65-69 พอใช้
2 C 60-64
1.5 D+ 55-59 ผ่าน ผ่าน
1 D 50-54
0 F 0-49 ไม่ผ่าน ไมผ่ ่าน ไมผ่ า่ น
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรียนรู้วิชาสงั คมศกึ ษา
9
6. คาอธบิ ายรายวชิ า ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4
รายวิชา ประวตั ิศาสตรไ์ ทย
คาอธิบายรายวิชาประวัติศาสตรไ์ ทย จานวน 1 หน่วยกิต
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม
รหสั วชิ า ส 31103-ส31104
จานวน 1 คาบ/สัปดาห์ เวลา 20 ช่ัวโมง/ภาคเรียน
ศึกษา วิเคราะห์ ความสาคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของ
มนุษยชาติ ขั้นตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์ คุณค่าและประโยชน์ของวิธีการทางประวัติศาสตร์ที่มีต่อ
การศึกษาทางประวัติศาสตร์ ประเด็นสาคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ความเป็นมาของชาติไทยสมัยก่อน
อาณาจักรสุโขทัยจนถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ความสาคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อชาติไทย
ปจั จยั ทีส่ ง่ เสรมิ การสรา้ งสรรค์ภมู ปิ ญั ญาไทยและวฒั นธรรมไทยซึ่งมีผลตอ่ สงั คมไทยในยุคปัจจุบัน บทบาทของ
สถาบันพระมหากษัตริยใ์ นการพัฒนาชาติไทยในด้านต่างๆ อิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกทีม่ ี
ต่อสังคมไทย ผลงานของบุคคลสาคัญทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่มีส่วนสร้างสรรค์วัฒนธรรมไทยและ
ประวตั ิศาสตรไ์ ทย ปจั จัยและบคุ คลท่ีสง่ เสรมิ สร้างสรรคภ์ ูมิปัญญาไทย และวฒั นธรรมไทยท่ีมีผลต่อสังคมไทย
ในปจั จบุ ัน สภาพแวดล้อมท่มี ีผลต่อการสร้างสรรค์ภมู ิปญั ญาและวฒั นธรรมไทย การกาหนดแนวทางและการมี
สว่ นร่วมอนุรกั ษภ์ มู ิปญั ญาไทยและวฒั นธรรมไทย
โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ
กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ กระบวนการแกป้ ญั หา กระบวนการกลมุ่
เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจตระหนักในความสาคัญของการศึกษาประวัติศาสตร์ชาตไิ ทย เกิดความ
รักความภาคภูมิใจและธารงความเป็นไทย มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์
สจุ รติ มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ รกั ความเป็นไทย มุง่ มั่นในการทางาน
ตวั ช้วี ดั
ส 4.1 ม. 4-6/1 ม. 4-6/2
ส. 4.3 ม. 4-6/1 ม. 4-6/2 ม. 4-6/3 ม. 4-6/4 ม. 4-6/5
รวม 7 ตวั ช้วี ัด
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรยี นร้วู ิชาสงั คมศกึ ษา
10
7. โครงสร้างรายวิชา
โครงสร้างรายวิชา ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย
รหัสวิชา ส31103 - ส31104 รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ไทย ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4
จานวน 1 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ เวลา 20 ชัว่ โมง/ภาคเรยี น จานวน 1 หนว่ ยกติ
ลาดั ช่อื หนว่ ยการเรยี น มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา น้าหนกั
บท่ี เรยี นรู้ / (ช่วั โมง) คะแนน
ตัวช้วี ัด
1 เวลา และยุคสมยั ทาง ส 4.1 ม. 4- การกาหนดเวลา ยคุ สมัย การนบั และเทียบ 6
ประวตั ิศาสตร์ไทย 6/1 ศักราชในประวตั ศิ าสตรไ์ ทย ทาให้สามารถ
ศกึ ษาและเรยี งลาดบั เหตกุ ารณต์ า่ งๆ ใน
ประวตั ิศาสตรไ์ ด้ รวมท้งั มีความสัมพันธ์
เชอ่ื มโยงจากอดตี สู่ปัจจุบัน และคาดการณ์ใน
อนาคตเข้าด้วยกันได้
2 การสรา้ งองคค์ วามรู้ใหม่ ส 4.1 ม. 4- การสรา้ งองคค์ วามรใู้ หมท่ างประวตั ิศาสตร์ 6
ทาง 6/2 ไทย โดยใช้วิธีการทางประวัตศิ าสตร์อย่าง
ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย เป็นระบบ ย่อมทาใหผ้ ลการศกึ ษานนั้ มคี ณุ คา่
และเปน็ ท่ยี อมรับในวงวชิ าการ
3 วเิ คราะห์ประเด็นสาคัญ ส 4.3 ม. 4- การศกึ ษาประเด็นทางประวัติศาสตร์ไทย 12
ทางประวัตศิ าสตรไ์ ทย 6/1 นอกจากฝึกกระบวนการวิเคราะหแ์ ลว้ ยงั ทา
ม. 4-6/2 ใหเ้ กิดองคค์ วามรู้ใหม่ทางประวัตศิ าสตร์ และ
ตระหนักถงึ ความสาคัญของสถาบนั
พระมหากษัตริยต์ ่อชาตไิ ทย
4 ผลงานของบคุ คลสาคัญ ส 4.3 ม. 4-6 บุคคลสาคัญท่ีมสี ว่ นสร้างสรรค์วัฒนธรรมไทย 8
ในการสร้างสรรค์ /4 และประวตั ิศาสตร์ไทย มีท้งั ชาวไทยและชาว
ชาตไิ ทย ตา่ งประเทศ ชาวไทยทกุ คนควรศึกษาผลงาน
และยกยอ่ งทา่ น และนาไปเปน็ แบบอยา่ งใน
การปฏิบตั ิตน
5 การสรา้ งสรรค์ ส 4.3 ม. 4-6 วถิ กี ารดารงชีวิตและภมู ปิ ัญญาของคนไทยใน 8
วฒั นธรรมและ /3 แตล่ ะยคุ สมยั มกี ารปรบั ปรงุ เปลย่ี นแปลงให้
ภูมิปญั ญาไทย ม. 4-6 /5 เขา้ กับสภาพแวดลอ้ ม ซ่งึ มีผลต่อการ
สร้างสรรคภ์ ูมิปญั ญาไทยและวัฒนธรรมไทย
จงึ มีความจาเปน็ ทีช่ าวไทย จะต้องรว่ มมอื กนั
อนรุ ักษ์ภูมิปญั ญาและวัฒนธรรมไทย
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรยี นรู้วิชาสงั คมศึกษา
11
ตารางโครงสร้างแผนการจดั การเรียนรู้
หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั วิธสี อน / กระบวนการจดั ทักษะการคดิ เวลา
การเรียนรู้ การเรยี นรู้ (ชั่วโมง
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 1. เวลาและศักราช 1. ทกั ษะการคิด
เวลา และยคุ สมยั ทาง วิธีสอนโดยใช้กระบวนการทาง สร้างสรรค์ 3
ประวัตศิ าสตรไ์ ทย ประวตั ศิ าสตร์ 3
2. ทกั ษะการคดิ
2. ประวตั ิศาสตร์ วิธสี อนโดยเนน้ กระบวนการ : วิเคราะห์ 3
ใกล้ตัว กระบวนการสบื ค้น 3
1. ทกั ษะการคดิ 3
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 1. วิธกี ารทาง วธิ สี อนโดยใช้กระบวนการทาง สรา้ งสรรค์
การสรา้ งองคค์ วามรู้ใหม่ ประวัตศิ าสตร์ ประวัตศิ าสตร์ 3
ทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทย 2. ทักษะการคิด 3
วิเคราะห์
2. การสรา้ งองค์ วิธีสอนโดยใช้กระบวนการทาง
ความรู้ใหมท่ าง ประวตั ิศาสตร์ 3. ทกั ษะการคดิ อย่างมี
ประวัตศิ าสตรไ์ ทย วิจารณญาณ
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 1. ประวัตศิ าสตรไ์ ทย วิธีสอนโดยใช้กระบวนการทาง 1. ทกั ษะการคดิ
วเิ คราะห์ประเด็นสาคัญ ก่อนการปฏริ ูป ประวตั ศิ าสตร์ วเิ คราะห์
ทางประวตั ิศาสตรไ์ ทย การปกครองใน
สมยั รชั กาลที่ 5 2. ทักษะการคิดอยา่ งมี
วิจารณญาณ
2. ปฏริ ปู การปกครอง วิธีสอนโดยใช้กระบวนการทาง
ในสมยั รัชกาลท่ี 5 ประวตั ศิ าสตร์ 1. ทักษะการคิด
สรา้ งสรรค์
3. การเปลี่ยนแปลง วิธีสอนโดยใช้กระบวนการทาง
การปกครอง ประวัตศิ าสตร์ 2. ทักษะการคิด
พ.ศ. 2475 วเิ คราะห์
1. ทักษะการคิด
สร้างสรรค์
2. ทักษะการคดิ
วเิ คราะห์
1. ทกั ษะการคิด
สรา้ งสรรค์
2. ทักษะการคดิ
วิเคราะห์
1. ทกั ษะการคดิ
สรา้ งสรรค์
2. ทักษะการคิด
วเิ คราะห์
3. ทกั ษะการคิดอยา่ ง
มีวจิ ารณญาณ
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรยี นรู้วิชาสงั คมศึกษา
หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัด วิธีสอน / กระบวนการจดั ทักษะการคิด 12
การเรียนรู้ การเรยี นรู้
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 4. สงั คมไทยหลงั การ 1. ทกั ษะการคดิ เวลา
ผลงานของบคุ คลสาคญั เปล่ยี นแปลงการ วธิ ีสอนโดยใช้กระบวนการทาง สร้างสรรค์ (ช่ัวโมง
ในการสร้างสรรค์ ปกครอง ประวัติศาสตร์
ชาติไทย พ.ศ. 2475 2. ทกั ษะการคิด 3
1. ผลงานของบคุ คล วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : วเิ คราะห์
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 สาคัญในการ กระบวนการกลมุ่ 3
สรา้ งสรรค์ 1. ทักษะการคดิ
การสร้างสรรค์ ชาติไทย (1) วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : สรา้ งสรรค์ 5
วฒั นธรรมและ กระบวนการกลมุ่ , กระบวนการ
ภมู ิปญั ญาไทย 2. ผลงานของบคุ คล คดิ วเิ คราะห์ 2. ทกั ษะการคดิ 4
สาคัญในการ วิเคราะห์
สรา้ งสรรค์ วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ 4
ชาตไิ ทย (2) แบบรว่ มมอื : เทคนิครว่ มกนั คิด 1. ทักษะการคดิ
สร้างสรรค์
1. การสร้างสรรค์ วิธีการสอนโดยเนน้ กระบวนการ:
วฒั นธรรมและ กระบวนการสร้างความตระหนัก , 2. ทกั ษะการคิด
ภูมปิ ัญญาไทย (1) กระบวนการกลุม่ วเิ คราะห์
2. การสร้างสรรค์ 1. ทักษะการคิด
วฒั นธรรมและ สรา้ งสรรค์
ภูมปิ ัญญาไทย (2)
2. ทักษะการคดิ
วเิ คราะห์
1. ทักษะการคิด
สร้างสรรค์
2. ทกั ษะการคดิ
วเิ คราะห์
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรยี นรวู้ ิชาสงั คมศึกษา
13
8. กาหนดการวดั และประเมนิ ผลวชิ า สงั คมศึกษา ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6
ชัน้ ความสามารถ วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล
และทักษะ
วธิ ีการ เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมิน
ม.4-6 ทักษะการคดิ ประเมินทกั ษะการคิด - แบบทดสอบ ผ่าน :
แก้ปัญหาอยา่ ง แก้ปญั หาอย่าง สถานการณ์ท่ี ผูเ้ รยี นแก้ปญั หาจาก
สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ โดยการ เนน้ การคิด สถานการณ์ ท่กี าหนดให้ได้
กาหนดสถานการณ์ให้ แก้ปญั หาอย่าง เหมาะสมอย่างสร้างสรรค์
ผู้เรียนแก้ปัญหา โดย สร้างสรรค์ และมีความเป็นไปได้ ใน
เนน้ การแกป้ ัญหาเชงิ การแก้ปญั หาในชีวิตจริง
บวกท่ีเป็นวธิ ีการที่
สรา้ งสรรค์ และมคี วาม
เป็นไปได้ในการนาไปใช้
แก้ปญั หาในชีวติ จรงิ
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรียนรูว้ ิชาสังคมศกึ ษา
14
ตอนท่ี 2
แผนการจดั การเรียนรู้
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรยี นรู้วชิ าสังคมศกึ ษา
15
1
ประวัตศิ าสตร์ไทย
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 เวลาเรยี น 6 ช่ัวโมง
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชว้ี ัด
ส 4.1 ม.4-6/1 ตระหนักถงึ ความสาคัญของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ทแ่ี สดงถงึ
การเปลยี่ นแปลงของมนุษยชาติ
สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การกาหนดเวลา ยุคสมัย การนับและเทียบศกั ราชในประวตั ิศาสตร์ไทย ทาใหส้ ามารถศึกษา
และเรียงลาดับเหตุการณ์ต่างๆ ในประวัตศิ าสตรไ์ ด้ รวมทง้ั มีความสมั พนั ธ์เชื่อมโยงจากอดตี สู่ปจั จุบัน
และคาดการณใ์ นอนาคตเข้าดว้ ยกนั ได้
สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
1. เวลาและยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตร์ท่ีปรากฏในหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ไทย
2. ตวั อย่างเวลา และยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตรข์ องสงั คมมนุษย์ทม่ี ปี รากฏในหลักฐาน
ทางประวตั ศิ าสตร์
3. ความสาคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวตั ศิ าสตร์
3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถนิ่
-
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการคิด
- ทักษะการคิดสรา้ งสรรค์
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรียนรวู้ ิชาสังคมศึกษา
16
- ทักษะการคิดวิเคราะห์
- ทักษะการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ
4.2 ความสามารถในการแก้ปัญหา
- กระบวนการสบื ค้นข้อมูล
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
- กระบวนการทางานกลุม่
- กระบวนการปฏิบตั ิ
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งม่ันในการทางาน
4. รกั ความเปน็ ไทย
ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
ป้ายนิเทศเรื่อง เวลาและยุคสมยั ทางประวัติศาสตรไ์ ทย
การวดั และการประเมนิ ผล
7.1การประเมนิ ก่อนเรียน
- นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1
7.2การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ใบงานที่ 1.1 เร่อื ง เวลาในชีวิตประจาวัน
2. ใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง การเทยี บศกั ราชในประวัติศาสตร์ไทย
3. ใบงานที่ 2.1 เร่อื ง บนั ทึกประวตั ิศาสตร์
4. ใบงานที่ 2.2 เรื่อง ผงั มโนทศั นเ์ วลาและยุคสมัยของประวัตศิ าสตร์ไทย
5. สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ
7.3การประเมินหลงั เรยี น
- นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1
7.4 การประเมนิ ชน้ิ งาน / ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินปา้ ยนิเทศเรื่อง เวลาและยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตร์ไทย
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรียนรวู้ ิชาสังคมศกึ ษา
17
การประเมนิ ชิ้นงาน / ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมนิ ป้ายนเิ ทศเรื่อง เวลาและยคุ สมัยทางประวตั ิศาสตร์ไทย
รายการประเมิน คาอธบิ ายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน
1. ความสาคัญของ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)
เวลาและยคุ สมัย อธิบายความสาคญั ของ อธบิ ายความสาคัญ
ทาง เวลาและยคุ สมัยทาง อธิบายความสาคัญของ อธิบายความสาคัญ ของเวลาและยุคสมัย
ประวัตศิ าสตร์ ประวัตศิ าสตร์ทแี่ สดงถงึ ทางประวัติศาสตร์ที่
ไทย การเปล่ียนแปลงของ เวลาและยคุ สมยั ทาง ของเวลาและยุคสมัย แสดงถงึ การ
มนษุ ยชาติได้ถกู ต้อง เปล่ยี นแปลงของ
2. หลกั ฐานสาคัญ ชดั เจน และครบถ้วน ประวตั ิศาสตร์ทแ่ี สดง ทางประวตั ศิ าสตร์ที่ มนษุ ยชาติไดบ้ าง
ในยคุ สมัยทาง ทุกประเดน็ ประเดน็ และมีความ
ประวัติศาสตร์ ถงึ การเปล่ียนแปลงของ แสดงถึงการ บกพร่องมาก
ยกตัวอย่างหลักฐาน ยกตวั อย่างหลักฐาน
3. การนาเสนอ สาคญั ในแตล่ ะสมยั มนุษยชาติได้ถกู ตอ้ ง เปลย่ี นแปลงของ สาคัญในแตล่ ะสมัย
ขอ้ มูล ได้ถูกต้อง ชดั เจนดี ไดถ้ ูกต้องบางส่วน
และมีภาพประกอบที่ ชัดเจน เปน็ สว่ นใหญ่ มนุษยชาติไดถ้ ูกตอ้ ง และมภี าพประกอบ
4. รูปแบบการ สมั พันธก์ นั นอ้ ย
จัดปา้ ยนิเทศ แตม่ คี วามบกพรอ่ ง
การนาเสนอขอ้ มูลมี การนาเสนอข้อมูล
5. การมสี ่วนร่วม ขอ้ คิดเปน็ ประโยชนแ์ ละ บางประเด็น ไมม่ ีข้อคิดทีเ่ ปน็
ในการจดั สามารถนาไป ประโยชน์
ป้ายนเิ ทศ ประยุกต์ใช้ได้ ยกตวั อย่างหลกั ฐาน ยกตัวอย่างหลักฐาน
รูปแบบไม่สวยงาม
รปู แบบมคี วามสวยงาม สาคัญในแตล่ ะสมยั สาคญั ในแต่ละสมยั ไมแ่ ปลกใหม่
ดงึ ดดู ความสนใจไดด้ ี
มคี วามคิดสร้างสรรค์ ได้ถกู ต้อง ชดั เจนดี ได้ถูกต้องมี สมาชิกมีสว่ นร่วมใน
แปลกใหม่ การจัดกิจกรรมตาม
และมภี าพประกอบท่ี ภาพประกอบเปน็ หน้าท่ที ีไ่ ด้รบั
สมาชกิ มีส่วนร่วมในการ มอบหมายเปน็
จัดกจิ กรรมตามหนา้ ทีท่ ี่ สมั พันธก์ นั เป็น บางส่วน สว่ นนอ้ ย
ไดร้ ับมอบหมายอย่าง
เปน็ ข้นั ตอน ส่วนใหญ่
การนาเสนอขอ้ มูลมี การนาเสนอขอ้ มูลมี
ขอ้ คิดเปน็ ประโยชนแ์ ละ ขอ้ คิดเป็นประโยชน์
สามารถนาไป แตเ่ ป็นการนามาจาก
ประยุกตใ์ ชไ้ ดเ้ ป็น ข้อมลู เดิมท่มี ีอยู่แลว้
สว่ นใหญ่
รปู แบบมคี วามสวยงาม รปู แบบมีความ
ดงึ ดดู ความสนใจ สวยงาม แตไ่ มม่ ี
มคี วามคิดสร้างสรรค์ ความแปลกใหม่
แปลกใหม่เปน็
สว่ นใหญ่
สมาชกิ มสี ่วนร่วมในการ สมาชกิ มสี ว่ นรว่ มใน
จัดกิจกรรมตามหน้าทีท่ ่ี การจัดกจิ กรรมตาม
ไดร้ บั มอบหมายเปน็ หน้าที่ที่ได้รับ
สว่ นมาก มอบหมายเป็น
บางสว่ น
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรียนรวู้ ิชาสงั คมศึกษา
18
เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
17-20 ดีมาก
13-16 ดี
9-12 พอใช้
5-8 ปรบั ปรุง
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรยี นรู้วชิ าสังคมศกึ ษา
19
กิจกรรมการเรียนรู้
• นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1
กจิ กรรมท่ี 1 เวลาและศกั ราช เวลา 3 ช่ัวโมง
วธิ สี อนโดยใชก้ ระบวนการทางประวตั ิศาสตร์
1. ครูเสนอภาพเกย่ี วกบั เวลาด้วย Power point เช่น ดอกทานตะวัน นาฬกิ า พระจันทรข์ ้างขน้ึ
ขา้ งแรม พระอาทิตย์ ฆอ้ ง-กลอง เป็นตน้ ครตู ง้ั คาถามใหน้ ักเรียนคิด
2. ครูซักถามนกั เรียนเกีย่ วกับคาบอกเวลาในภาษาไทย โดยสุ่มเรียกใหน้ กั เรยี นบอกคนละ 1 คา
3. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันอภปิ รายและสรปุ ถึงความสาคญั ของเวลา
4. นักเรียนทาใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง เวลาในชวี ติ ประจาวนั
5. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม 4 กล่มุ เลอื กบัตรคาศกั ราช กลุ่มละ 1 บัตรคา แลว้ สุ่มเรยี กนักเรียนในแต่ละกลุ่ม
อธิบายความเป็นมาของศกั ราช คนละ 1 ประโยค และเขยี นบนกระดาน
6. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ศกึ ษาเพิ่มเตมิ เร่ือง การนับและการเทียบศกั ราชในประวัตศิ าสตรไ์ ทย
จากหนังสือเรยี น โดยครูตัง้ คาถามให้นกั เรยี นคิดในประเด็นท่ีกาหนด
7. ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ และยกตัวอยา่ งการบนั ทกึ ศกั ราชในประวัติศาสตรไ์ ทย และวธิ เี ทียบกับศกั ราช
ท่ีเกย่ี วข้อง อธิบายและซกั ถามจนนักเรียนเขา้ ใจ แลว้ ให้นักเรียนทาใบงานท่ี 1.2 เร่อื ง การเทียบ
ศกั ราชในประวตั ศิ าสตร์ไทย
8. ตัวแทนแต่ละกลุ่มรบั บัตรคาเก่ียวกับยุคสมัยทางประวตั ิศาสตรจ์ ากครู สมาชกิ ในแต่ละกลุ่ม
ปรกึ ษาหารอื และแสดงความคิดร่วมกันจนเป็นข้อสรุปของกล่มุ
9. นักเรยี นค้นคว้าหาความรเู้ พม่ิ เตมิ เรือ่ ง ยุคสมยั ในประวัติศาสตร์ไทย จากหนังสอื เรียน
หรอื แหลง่ การเรยี นรู้อ่นื ๆ โดยครตู ้ังประเด็นคาถามใหน้ ักเรยี นคิดหาคาตอบ
10. นกั เรียนและครูรว่ มกนั สรุปความรู้เรือ่ ง การแบง่ ยคุ ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรียนรู้วชิ าสงั คมศึกษา
20
กิจกรรมท่ี 2 ประวตั ศิ าสตรใ์ กล้ตวั เวลา 3 ชั่วโมง
วธิ ีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการสบื คน้
1. ครนู านักเรียนไปศกึ ษานอกห้องเรียน ใช้หอ้ งสมุดโรงเรียน (บูรณาการกับงานห้องสมดุ โรงเรียน
เชิญบรรณารกั ษ์หอ้ งสมดุ เปน็ วทิ ยากรแนะนาการสบื คน้ และการเขียนอ้างอิงท่ถี ูกต้อง
2. ครแู จกใบงานท่ี 2.1 บนั ทกึ ประวตั ศิ าสตร์ ให้นกั เรยี นสบื คน้ เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์
ทีน่ กั เรยี นสนใจหรืออยากรจู้ ากหนังสือประวัติศาสตร์ในหอ้ งสมุด โดยใชห้ ลกั 6 W1H ในการ
ค้นคว้า แลว้ สรุปย่อลงในกระดาษทแี่ จกให้ (กระดาษขนาด 5 x 8) โดยมีขอ้ ความครบถ้วน
บอกแหล่งที่มาของข้อมูลถูกต้องตามหลกั การอา้ งอิง
3. ครูสุ่มเรียกนักเรียนออกมาเล่าเรื่องที่สืบค้นและอธิบายให้เพื่อนฟัง ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียน
เข้าใจ
4. นกั เรียนสรุปความรู้ในใบงานท่ี 2.2 เรอื่ ง ผังมโนทศั น์เวลาและยุคสมัยของประวตั ศิ าสตรไ์ ทย
ด้วยผงั กราฟิกแบบ Branching diagrams โดยสรุปใหเ้ ห็นองค์ประกอบของเวลาและยคุ สมยั ของ
ประวัตศิ าสตรใ์ นภาพรวม จาแนกขอ้ มูลและเปรียบเทียบขอ้ มูล
5. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กล่มุ ละ 10 คน เพื่อรว่ มกันวางแผนการสบื คน้ เวลาและยคุ สมัยในหลกั ฐาน
ประวัติศาสตร์ไทย และนาเสนอแผนการดาเนนิ กิจกรรมในรปู แบบของการจดั ป้ายนเิ ทศ
6. สมาชิกในกลุ่มชว่ ยกันสบื คน้ ตามทีก่ าหนดภายในเวลา 1 เดือน
• นกั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1
ส่อื / แหล่งการเรยี นรู้
9.1ส่อื การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี น ประวัติศาสตร์ไทย ม.4-ม.6
2. Power point
3. บัตรคาศกั ราช
3. ใบงาน
9.2 แหล่งการเรียนรู้
1. หอ้ งสมดุ
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรียนรู้วชิ าสังคมศกึ ษา
21
2. ห้องเทคโนโลยีสารสนเทศ
แบบทดสอบกอ่ นและหลังเรียน ประจาหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1
คาช้แี จง ให้นักเรยี นเลอื กคาตอบท่ีถกู ต้องที่สุดเพยี งคาตอบเดียว
1. การนบั เวลาในประวตั ศิ าสตร์ไทยมีความสาคัญอย่างไร
ก. ทาให้จดั ลาดับความคิดไดถ้ กู ตอ้ ง
ข. มองเหน็ ความสัมพนั ธ์ของอดีต ปจั จบุ ัน และอนาคต
ค. สามารถบอกเหตกุ ารณ์ได้วา่ เหตุการณใ์ ดเกดิ ข้ึนก่อน-หลงั
ง. ถูกทุกข้อ
2. ขอ้ ใด ไมถ่ กู ตอ้ ง เกย่ี วกับเวลา
ก. คิมหันต์ วสนั ต์
ข. ดอกโสนบานเช้า ดอกสะเดาบานเยน็
ค. เทย่ี งตรง เทยี่ งธรรม
ง. ผึ้งบนิ หานา้ หวาน นกบนิ กลบั รงั
3. ขอ้ ใดกล่าวถงึ ศักราช ไมถ่ กู ต้อง
ข. พ.ศ.ของไทยเรว็ กว่าศรลี ังกา 1 ปี
ค. ร.ศ. เป็นศกั ราชในรชั กาลที่ 5
ง. ค.ศ. ใชก้ ับการเกิดของพระเยซู
จ. จ.ศ. เป็นศักราชของไทยในพงศาวดาร
4. เรียงลาดับการใช้ศักราชในการบนั ทกึ ประวัตศิ าสตรไ์ ทยให้ถูกต้อง
ก. ร.ศ. พ.ศ. ค.ศ. จ.ศ. ม.ศ.
ข. จ.ศ. ม.ศ. พ.ศ. ร.ศ. ค.ศ.
ค. ม.ศ. จ.ศ. พ.ศ. ร.ศ. ค.ศ.
ง. ม.ศ. จ.ศ. ค.ศ. พ.ศ. ร.ศ.
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรียนร้วู ิชาสงั คมศกึ ษา
22
5. การเกิดศักราชเก่ียวเน่ืองขอ้ ใด ข. การเมือง
ก. เศรษฐกิจ ง. เหตุการณ์สาคัญ
ค. ศาสนา
6. ขอ้ ใดถือวา่ เป็นศักราชสากล ข. ครสิ ตศ์ กั ราช
ก. ฮิจเราะหศ์ ักราช ง. รตั นโกสนิ ทร์ศักราช
ค. พุทธศักราช
7. ข้อใดไมถ่ ูกต้อง
ก. พ.ศ. – การปรินิพพานของพระพทุ ธเจา้
ข. ค.ศ. – การตรึงไมก้ างเขนของพระเยซู
ค. ฮ.ศ. – การอพยพของนบีและสาวก
ง. ร.ศ. – การสถาปนากรงุ รัตนโกสนิ ทร์
8. การนับศักราชในข้อใดถกู ตอ้ ง
ก. พทุ ธศักราช –จันทรคติ
ข. คริสตศ์ กั ราช- จันทรคติ
ค. ฮจิ เราะหศ์ กั ราช – จันทรคติ
ง. รัตนโกสินทรศ์ ก-จันทรคติ
9. การเทยี บศักราชในข้อใดไม่ถกู ต้อง
ก. ฮจิ เราะหศ์ กั ราชช้ากว่าครสิ ต์ศกั ราช
ข. ครสิ ตศ์ ักราชเรว็ กวา่ รัตนโกสินทร์ศก
ค. พุทธศกั ราชเร็วกว่าคริสต์ศักราช
ง. มหาศกั ราชช้ากว่าจุลศกั ราช
10. ขอ้ มูลใดไม่ถูกตอ้ ง
ก. กรุงเทพฯ สถาปนาเมื่อ พ.ศ. 2325 ตรงกบั รตั นโกสนิ ทรศ์ ก 1
ข. ปจั จุบันกรงุ เทพฯ เปน็ เมืองหลวงมา 229 ปี
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรียนรวู้ ชิ าสงั คมศกึ ษา
23
ค. ศาสนาพุทธเกิดมา 2552 ปี ขณะที่ศาสนาครสิ ต์เกดิ มานาน 2009 ปี
ง. ไทยเสยี กรงุ ครง้ั ที่ 1 พ.ศ.2112 ตรงกบั ค.ศ.1969
11. ขอ้ ใดเปน็ หลกั เกณฑ์ในการแบง่ ยคุ ประวัติศาสตรเ์ ป็น 2 ยคุ ใหญ่
ก. วัสดทุ าเครื่องมอื เครือ่ งใช้
ข. การตัง้ ชมุ ชน
ค. คาบอกเลาสืบตอ่ กันมา
ง. การบันทึกเรอื่ งราว
12. หลกั ฐานประวตั ศิ าสตร์ขอ้ ใดไม่เข้าพวก ข. จารึกอกั ษรสยาม
ก. ตานานอุสา-บารส ง. ขวานหินขดั
ค. พงศาวดารเหนอื
13. ยุคสมัยในข้อใดท่ีมนษุ ย์ ยงั ใช้ชวี ิตเร่ร่อนด้วยการเก็บของปา่ ล่าสตั ว์
ก. ยคุ หินกลาง ข. ยุคหินใหม่
ค. ยคุ สาริด ง. ยุคเหลก็
14. ในการศกึ ษาเรอ่ื งราวก่อนประวตั ิศาสตร์ในประเทศไทยจะไมพ่ บหลกั ฐานในข้อใด
ก. กาไลสารดิ ข. เคร่อื งป้ันดนิ เผา
ค. โครงกระดกู มนุษย์ ง. แผ่นจารึกอกั ษรโบราณ
15. เพราะเหตุใด วสั ดทุ ่ีทาเครอ่ื งมือเครือ่ งใชน้ ิยมใชเ้ หล็กมากกว่าสารดิ
ก. หาได้ง่าย ข. ผลิตได้งา่ ย
ค. มคี วามทนทานกว่า ง. นามาใช้ไดง้ ่ายกว่า
เฉลย 2. ค 3. ก 4. ง 5. ค
7. ข 8. ค 9. ง 10. ข
1. ง 12. ข 13. ก 14. ง 15. ค
6. ข
11. ก The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรยี นรู้วิชาสงั คมศึกษา
24
วิชา ประวตั ิศาสตรไ์ ทย รหัสวิชา ส 31103 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
โรงเรยี นมธั ยมเทศบาล ๖ นครอดุ รธานี ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย เวลา 6 ชวั่ โมง
แผนการสอน เรอื่ ง เวลาและศักราช เวลา 3 ชวั่ โมง
ครูผ้สู อน นางพนิชย์ สิมลี วันท่สี อน : วันท่.ี .................................เดือน........................พ.ศ. .............
สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด
เวลาและศกั ราช มคี วามสาคัญในการศกึ ษาเรอื่ งราวทางประวตั ศิ าสตร์ในหลกั ฐานประวตั ศิ าสตร์
เพราะทาให้สามารถเรียงลาดับเหตกุ ารณใ์ นประวัติศาสตรไ์ ด้ถกู ต้อง
ตวั ชีว้ ดั /จดุ ประสงค์การเรียนรู้
2.1 ตัวช้ีวัด
ส 4.1 ม.4-6/1 ตระหนักถงึ ความสาคญั ของเวลาและยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตรท์ ีแ่ สดง
ถงึ การเปลี่ยนแปลงของมนษุ ยชาติ
2.2จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกความสาคัญของเวลา
2. จาแนกยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ไทย
สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
1. เวลาและยคุ สมยั ทางประวัติศาสตรท์ ี่ปรากฏในหลักฐานทางประวัตศิ าสตร์ไทย
2. ตวั อย่างเวลา และยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตรข์ องสังคมมนุษยท์ ี่มปี รากฏในหลักฐาน
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรยี นรู้วชิ าสงั คมศกึ ษา
25
ทางประวตั ศิ าสตร์
3. ความสาคัญของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์
3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น
-
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดสรา้ งสรรค์
- ทักษะการคิดวเิ คราะห์
4.2 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
- กระบวนการสืบคน้ ขอ้ มูล
4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
- กระบวนการทางานกลุ่ม
- กระบวนการปฏิบตั ิ
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน
กิจกรรมการเรยี นรู้ (วิธีสอนโดยใชก้ ระบวนการทางประวัติศาสตร์)
• นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1
ชวั่ โมงท่ี 1
1. ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ใหน้ ักเรยี นทราบ
2. ครูเสนอภาพเกี่ยวกบั เวลาด้วย Power point เช่น ดอกทานตะวัน นาฬกิ า พระจนั ทร์ข้างข้นึ
ขา้ งแรม พระอาทิตย์ ฆอ้ ง-กลอง เป็นต้น ครูตง้ั คาถามให้นกั เรียนคิดวา่
- รปู ภาพเกีย่ วขอ้ งกับเร่ืองใด (เวลา )
- รไู้ ด้อยา่ งไรวา่ เป็นภาพท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั เวลา ( ดอกทานตะวนั หันตามแสงอาทิตย์ )
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรียนรู้วิชาสังคมศึกษา
26
- หากไมม่ ีตวั บอกเวลาจะเกดิ อะไรข้นึ หรือเกดิ ผลอยา่ งไร ( ลาดับกอ่ น-หลงั ไม่ได้ )
3. ครูซกั ถามนักเรียนเก่ียวกบั คาบอกเวลาในภาษาไทย โดยสุ่มเรียกนกั เรียนให้บอกคนละ 1 คา เชน่
สายณั ห์ คิมหันต์ วสนั ต์ฤดูฝน เปน็ ตน้ และให้นักเรียนอธบิ ายเพ่ิมเติมวา่ เกย่ี วข้องกับเวลาอย่างไร
4. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายและสรปุ ถึงความสาคญั ของเวลา
5. นกั เรยี นทาใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง เวลาในชวี ิตประจาวนั (บูรณาการกบั วิชาภาษาไทย ) และนา
เรียงความท่กี ล่มุ สาระภาษาไทยช่วยตรวจแลว้ มาติดปา้ ยนิเทศในชน้ั เรียนใหน้ ักเรยี นผอู้ น่ื ได้อา่ นและ
ช่นื ชม
ชว่ั โมงที่ 2
1. ครูทบทวนความรู้เกยี่ วกบั ศกั ราชต่างๆ โดยให้นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ 4 กลมุ่ เลอื กบัตรคาศกั ราช
กลมุ่ ละ 1 บัตรคา แล้วสมุ่ เรยี กนกั เรียนในแต่ละกลุ่มอธิบายความเป็นมาของศักราชคนละ 1
ประโยค และเขียนบนกระดาน
2. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ศกึ ษาเพ่ิมเตมิ เรอ่ื ง การนบั และเทยี บศักราชในประวัติศาสตร์ไทย จากหนังสือ-
เรยี น โดยครตู ัง้ คาถามให้นกั เรยี นคิดในประเดน็ ต่อไปนี้
- ศกั ราชในประวตั ิศาสตรไ์ ทยมีท่ีมาแตกตา่ งกันอยา่ งไร
- ศกั ราชในประวตั ศิ าสตรไ์ ทยท่ีเป็นของคนไทยโดยเฉพาะคือศักราชใด เกิดขนึ้ ในสมัยใด
- การเทยี บศกั ราชมีประโยชนอ์ ยา่ งไร
3. ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ และยกตวั อยา่ งการบนั ทึกศกั ราชในประวัตศิ าสตรไ์ ทย และวธิ เี ทียบกับศักราช
ทเ่ี กยี่ วข้อง อธิบายและซักถามจนนกั เรียนเขา้ ใจ แลว้ ใหน้ กั เรยี นทาใบงานที่ 1.2 เร่ือง การเทียบ
ศกั ราชในประวตั ศิ าสตรไ์ ทย
4. ตวั แทนแต่ละกลุ่มรับบัตรคาเก่ียวกับยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตรจ์ ากครู สมาชกิ ในแต่ละกลุ่ม
ปรึกษาหารอื และแสดงความคดิ ร่วมกันจนเปน็ ขอ้ สรปุ ของกลมุ่
5. ครูส่มุ เรยี กตัวแทนของกล่มุ นาบัตรคาเหลา่ นัน้ มาเรียงลาดบั และอธิบายเหตุผลทเ่ี รยี งลาดับเช่นน้ัน
ให้เพือ่ นกลมุ่ อ่นื ฟงั ครูยังไมเ่ ฉลยคาตอบ
ชัว่ โมงที่ 3
1. นกั เรียนคน้ คว้าหาความรู้เพม่ิ เติมเร่อื ง ยคุ สมัยในประวัติศาสตร์ไทย จากหนงั สอื เรยี น
หรือแหลง่ การเรียนรู้อนื่ ๆ โดยครตู ้ังประเด็นคาถามให้นกั เรยี นคิดหาคาตอบวา่
- หลกั เกณฑใ์ นการแบง่ ยคุ ประวตั ศิ าสตร์ไทย คืออะไร
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรียนรู้วชิ าสังคมศึกษา
27
- การแบ่งยคุ สมัยในประวัตศิ าสตรไ์ ทยมีกย่ี ุค อะไรบ้าง
- ทาไมจงึ ตอ้ งมีการแบง่ ยคุ สมยั ประวัติศาสตร์ยอ่ ยลงไปอีกท้งั ทม่ี ียคุ สมัยหลักอยู่แลว้
- ยุคสมัยของประวตั ศิ าสตรไ์ ทยแตกตา่ งกับยคุ สมัยในประวัติศาสตร์สากลหรือไม่ อย่างไร
2. ครสู ุ่มเรียกตัวแทนกลมุ่ ออกมาสรุปการแบ่งยคุ ประวตั ิศาสตร์ไทย ครูอธบิ ายเพิ่มเติมและเปิด
โอกาสใหน้ กั เรียนซักถามข้อสงสยั เพอ่ื ให้เกิดความเข้าใจย่ิงข้ึน
3. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ ความรู้เร่ือง การแบง่ ยคุ ประวตั ิศาสตรไ์ ทย
การวัดและประเมินผล เครอื่ งมอื เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
วธิ ีการ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น ใบงานที่ 1.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
นักเรียนทาใบงานท่ี 1.1 ใบงานที่ 1.2 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
นักเรียนทาใบงานที่ 1.2 แบบสังเกตพฤติกรรม
สงั เกตการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ การทางานกลุม่
สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 สอ่ื การเรียนรู้
1. หนังสอื เรียน ประวัติศาสตรไ์ ทย ม.4-ม.6
2. Power point
3. บตั รคาศักราช
4. ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง เวลาในชวี ติ ประจาวัน
5. ใบงานที่ 1.2 เรื่อง การเทียบศักราชในประวัติศาสตรไ์ ทย
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1. ห้องสมุด
2. ห้องเทคโนโลยสี ารสนเทศ
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรยี นรู้วิชาสังคมศึกษา
28
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ
ลาดับ ช่ือ – สกุล ความร่วมมือ การแสดง การรบั ฟัง การต้งั ใจ การร่วม รวม
ที่ ความคิดเห็น ความคดิ เหน็ ทางาน ปรับปรุง 20
ผลงานกลมุ่ คะแนน
43214321432143214321
เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ = ดมี าก ให้ 4 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั = ดี ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั = พอใช้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้ = ปรับปรุงให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
17 - 20 ดมี าก
13 - 16 ดี
9 - 12
5-8 พอใช้
ปรบั ปรงุ
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรยี นร้วู ิชาสงั คมศึกษา
29
ใบงานที่ 1.1
เร่อื ง เวลาในชีวติ ประจาวนั
คาช้แี จง : ใหน้ กั เรียนเขียนเรยี งความเกยี่ วกับเวลาในชวี ิตประจาวัน
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรียนรวู้ ิชาสังคมศึกษา
30
เรอ่ื ง การเทยี บศกั ราชในประวตั ศิ าสตร์ไทย
คาช้แี จง : ให้นกั เรยี นเทยี บศกั ราชตามทก่ี าหนดให้ถกู ตอ้ ง
เวลาทป่ี รากฏในศลิ าจารึกวา่ “ 1205 ศก ปี มะแม พ่อขุนรามคาแหง หาใคร่ใจในใจ
แลใส่ลายสือไทยน้ี”
เป็นศกั ราชใด เทียบเป็นพทุ ธศกั ราชใด
ศกั ราช 712 ขาลศก วนั 6 ฯ 5 คา่ เวลารุ่งแลว้ 3 นาฬกิ า 9 บาท แรกสถาปนา
พระนครศรีอยธุ ยา” เป็นศกั ราชใด เทยี บเป็นพทุ ธศกั ราชใด
“ขา้ พระพทุ ธเจา้ กบั นายริดรักใคร่เปนชูก้ นั บดิ ามารดาขา้ พระพุทธเจา้ หารู้ไม่ คร้นั ตอ่ มา
ประมาณเดือน 4 ปี ชวดฉศก....” เป็นศกั ราชใด
เทียบไดก้ บั พทุ ธศกั ราชใด
พ.ศ....(2407)......................
. “สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ ทรงวางระเบยี บราชการในพระไอยการตาแหน่งนาพลเรือน
ออกใน............1239 ” ช่องวา่ งควรเตมิ ศกั ราชใด เทยี บไดก้ บั พุทธศกั ราช
ใด
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรยี นรู้วชิ าสังคมศกึ ษา
31
8. บันทกึ หลังสอน
8.1 ด้านความรู้ (K)
8.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P)
จานวน คน คิดเปน็ ร้อยละ
8.3 ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
จานวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ
1) คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (ประจาแผนการจัดการเรียนร้ทู .่ี ......)
จานวน คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
2) คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (ประจากลมุ่ สาระการเรียนรู้..................)
จานวน คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
8.4 ด้านสมรรถนะส าคญั ผู้เรยี น (C)
จานวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ
8.5 สรุปผลจากการประเมินช้นิ งาน (รวบยอด)
1) ระดับคณุ ภาพดีมาก จานวน........................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ
2) ระดับคณุ ภาพดี จานวน........................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
3) ระดับคณุ ภาพพอใช้ จานวน........................คน คิดเป็นรอ้ ยละ
4) ระดบั คุณภาพปรับปรงุ จานวน........................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
8.5 ปัญหาอุปสรรค/ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ
ลงช่อื ................................................................
(นางพนิชย์ สิมล)ี
ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครูชานาญการ
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรียนรวู้ ชิ าสังคมศึกษา
32
ความคดิ เห็นของรองผอู้ านวยการสถานศึกษา /ฝ่ายวชิ าการ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ……….......................................
(นายจกั รพงษ์ วรรณขนั ธ)์
รองผู้อานวยการสถานศึกษา ฝา่ ยวิชาการ
โรงเรียนมัธยมเทศบาล 6 นครอุดรธานี
ความคิดเห็นของผอู้ านวยการสถานศึกษา
......................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
ลงช่อื .............................................
(นายกฤษดา โสภา)
ผอู้ านวยการสถานศึกษา
โรงเรียนมธั ยมเทศบาล 6 นครอดุ รธานี
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรยี นรู้วิชาสงั คมศกึ ษา
33
วิชา ประวัติศาสตร์ไทย รหสั วชิ า ส 31103 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
โรงเรียนมธั ยมเทศบาล ๖ นครอดุ รธานี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เร่อื ง เวลาและยคุ สมัยทางประวตั ิศาสตรไ์ ทย เวลา 6 ช่วั โมง
แผนการสอน เรอ่ื ง ประวตั ิศาสตร์ใกลต้ ัว เวลา 3 ชั่วโมง
ครผู ้สู อน นางพนชิ ย์ สิมลี วันท่ีสอน : วันท่.ี .................................เดอื น........................พ.ศ. .............
สาระสาคัญ / ความคดิ รวบยอด
หลกั ฐานในประวตั ศิ าสตรไ์ ทยมีท่มี าจากหลายแหลง่ ทาใหก้ ารบนั ทกึ เวลาในแต่ละยคุ สมัย
มคี วามแตกต่างกนั
ตัวชวี้ ดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
2.1ตวั ชวี้ ัด
ส 4.1 ม.4-6/1 ตระหนักถึงความสาคัญของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ท่ีแสดงถงึ
การเปลย่ี นแปลงของมนุษยชาติ
2.2จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. ยกตวั อย่างเวลาและยุคสมัยทีป่ รากฏในหลักฐานประวตั ศิ าสตร์ไทย
2. วเิ คราะห์ความสาคญั ของเวลาและยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตรไ์ ทยที่แสดงถึงการเปล่ียนแปลง
ของมนุษยชาตไิ ด้
สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรียนรู้วิชาสังคมศึกษา
34
1. ตัวอย่างเวลา และยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตรข์ องสงั คมมนุษยท์ ่ีมปี รากฏในหลักฐาน
ทางประวตั ศิ าสตร์
2. ความสาคญั ของเวลาและยคุ สมัยทางประวัตศิ าสตร์
3.2 สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น
-
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ สรา้ งสรรค์
- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์
- ทกั ษะการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ
4.2 ความสามารถในการแก้ปญั หา
- กระบวนการสืบคน้ ข้อมูล
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
- กระบวนการทางานกลุม่
- กระบวนการปฏบิ ตั ิ
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มุง่ มั่นในการทางาน
3. รักความเปน็ ไทย
กจิ กรรมการเรียนรู้ (วิธสี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสบื ค้น)
ชั่วโมงที่ 1
1. ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรใู้ หน้ กั เรียนทราบ
2. ครูนานักเรยี นไปศกึ ษานอกห้องเรียน ใช้ห้องสมุดโรงเรยี น (บรู ณาการกับงานหอ้ งสมดุ โรงเรียน
เชิญบรรณารกั ษ์หอ้ งสมุดเปน็ วิทยากรแนะนาการสบื ค้นและการเขยี นอ้างอิงท่ีถกู ต้อง)
3. ครูแจกใบงานท่ี 2.1 เร่อื ง บนั ทกึ ประวัติศาสตร์ ใหน้ กั เรียนสบื ค้นเหตุการณใ์ นประวัตศิ าสตร์
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษา
35
ทน่ี ักเรียนสนใจหรืออยากร้จู ากหนงั สือประวัตศิ าสตร์ในหอ้ งสมดุ โดยใชห้ ลัก 6 W1H ในการ
คน้ ควา้ แลว้ สรุปย่อลงในกระดาษท่ีแจกให้ (กระดาษขนาด 5 x 8) โดยมขี อ้ ความครบถ้วน บอก
แหลง่ ท่มี าของขอ้ มลู ถูกต้องตามหลักการอา้ งอิง
4. ครูสุ่มเรียกนักเรียนออกมาเล่าเรื่องที่สืบค้นและอธิบายให้เพื่อนฟัง ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียน
เขา้ ใจ
ชัว่ โมงที่ 2-3
1. นกั เรียนสรุปความรู้ลงในใบงานท่ี 2.2 เรื่อง ผงั มโนทศั น์เวลาและยุคสมัยของประวตั ศิ าสตรไ์ ทย
ด้วยผังกราฟิกแบบ Branching diagrams โดยสรุปใหเ้ หน็ องค์ประกอบของเวลาและยคุ สมยั ของ
ประวัตศิ าสตร์ในภาพรวม จาแนกขอ้ มลู และเปรยี บเทยี บข้อมูล
2. นักเรียนแบง่ กล่มุ กล่มุ ละ 10 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนการสืบคน้ เวลาและยคุ สมัย
ในหลกั ฐานประวัติศาสตรไ์ ทย และนาเสนอแผนการดาเนนิ กจิ กรรมในรปู แบบของการจัดป้าย
นิเทศ
3. สมาชกิ ในกลมุ่ ชว่ ยกนั สืบค้นตามทกี่ าหนดภายในเวลา 1 เดอื น
4. นักเรียนนาเสนอผลงานโดยครชู ่วยชี้แนะเพมิ่ เติม
• นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1
การวดั และประเมินผล
วิธกี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
นักเรียนทาใบงานท่ี 2.1 ใบงานท่ี 2.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
นักเรยี นทาใบงานที่ 2.2 ใบงานท่ี 2.2
ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
นกั เรยี นรว่ มกนั จัดป้ายนเิ ทศเรอื่ ง เวลา แบบประเมินปา้ ยนิเทศเรื่อง เวลา
และยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตรไ์ ทย และยุคสมยั ทางประวัติศาสตร์ไทย
สังเกตการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรม
การทางานกลุ่ม
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรยี นรู้วชิ าสังคมศึกษา
36
ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 ส่อื การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี น ประวตั ิศาสตรไ์ ทย ม.4-ม.6
2. ใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง บันทึกประวัตศิ าสตร์
3. ใบงานท่ี 2.2 เร่อื ง ผังมโนทศั นเ์ วลาและยุคสมัยของประวัติศาสตรไ์ ทย
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1. ห้องสมุด
2. หอ้ งเทคโนโลยสี ารสนเทศ
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรียนรู้วิชาสังคมศกึ ษา
37
แบบประเมินป้ายนเิ ทศเรื่อง เวลาและยุคสมยั ทางประวัติศาสตร์ไทย
ลาดับท่ี รายการประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 ความสาคัญของเวลาและยุคสมยั
ทางประวัติศาสตร์ไทย
2 หลกั ฐานสาคัญในยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
3 การนาเสนอขอ้ มูล
4 รปู แบบการจัดป้ายนเิ ทศ
5 การมสี ่วนรว่ มในการจดั ปา้ ยนเิ ทศ
รวม
ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน
( )
//
เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ
4 หมายถงึ ดีมาก
ช่วงคะแนน 3 หมายถึง ดี
17-20 2 หมายถึง พอใช้
13-16 1 หมายถึง ปรับปรุง
9-12
5-8
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรยี นรวู้ ชิ าสังคมศกึ ษา
38
แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่
ลาดบั ช่อื – สกุล ความรว่ มมือ การแสดง การรับฟงั การต้งั ใจ การรว่ ม รวม
ที่ ความคดิ เหน็ ความคดิ เห็น ทางาน ปรบั ปรงุ 20
ผลงานกลมุ่ คะแนน
43214321432143214321
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ = ดมี าก ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง = ดี ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ = พอใช้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครง้ั = ปรบั ปรงุ ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
17 - 20 ดีมาก
13 - 16 ดี
9 - 12
5-8 พอใช้
ปรบั ปรงุ
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรียนรู้วิชาสงั คมศกึ ษา
39
ใบงานที่ 2.1
เรือ่ ง บันทึกประวัติศาสตร์
คาชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นสบื ค้นเหตุการณใ์ นประวตั ิศาสตร์ด้วย 6 W1H
เร่ือง
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรยี นรวู้ ชิ าสงั คมศกึ ษา
40
เรือ่ ง ผังมโนทัศนเ์ วลาและยคุ สมยั ของประวตั ศิ าสตรไ์ ทย
คาชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นสรปุ ความร้เู รือ่ ง เวลาและยุคสมัยในประวตั ศิ าสตร์ ลงในผงั กราฟิกแบบ Branching
diagrams
ประวตั ศิ าสตร์ไทย
เวลาในประวตั ศิ าสตร์ ยุคสมยั ประวตั ศิ าสตร์
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรยี นรู้วชิ าสังคมศกึ ษา
41
8. บันทกึ หลังสอน
8.1 ด้านความรู้ (K)
8.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P)
จานวน คน คิดเปน็ ร้อยละ
8.3 ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
จานวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ
1) คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (ประจาแผนการจัดการเรียนร้ทู .่ี ......)
จานวน คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
2) คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (ประจากลมุ่ สาระการเรียนรู้..................)
จานวน คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
8.4 ด้านสมรรถนะส าคญั ผู้เรยี น (C)
จานวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ
8.5 สรุปผลจากการประเมินช้นิ งาน (รวบยอด)
1) ระดับคณุ ภาพดีมาก จานวน........................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ
2) ระดับคณุ ภาพดี จานวน........................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
3) ระดับคณุ ภาพพอใช้ จานวน........................คน คิดเป็นรอ้ ยละ
4) ระดบั คุณภาพปรับปรงุ จานวน........................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
8.5 ปัญหาอุปสรรค/ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ
ลงช่อื ................................................................
(นางพนิชย์ สิมล)ี
ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครูชานาญการ
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรียนรวู้ ชิ าสังคมศึกษา
42
ความคดิ เห็นของรองผอู้ านวยการสถานศึกษา /ฝ่ายวชิ าการ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ……….......................................
(นายจกั รพงษ์ วรรณขนั ธ)์
รองผู้อานวยการสถานศึกษา ฝา่ ยวิชาการ
โรงเรียนมัธยมเทศบาล 6 นครอุดรธานี
ความคิดเห็นของผอู้ านวยการสถานศึกษา
......................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
ลงช่อื .............................................
(นายกฤษดา โสภา)
ผอู้ านวยการสถานศึกษา
โรงเรียนมธั ยมเทศบาล 6 นครอดุ รธานี
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรยี นรวู้ ชิ าสังคมศึกษา
43
2
ประวัติศาสตร์ไทย
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 เวลาเรียน 6 ช่ัวโมง
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ัด
ส 4.1 ม.4-6/2 สร้างองค์ความรใู้ หมท่ างประวัตศิ าสตรโ์ ดยใชว้ ิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์
อย่างเป็นระบบ
สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตรไ์ ทย โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์อย่างเปน็ ระบบ
ย่อมทาให้ผลการศึกษาน้นั มีคุณคา่ และเป็นที่ยอมรบั ในวงวิชาการ
สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
1. ข้ันตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์ โดยนาเสนอตัวอย่างทีละข้นั ตอนอย่างชดั เจน
2. คณุ ค่าและประโยชน์ของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ทมี่ ตี อ่ การศึกษาทางประวัติศาสตร์ 3 .
ผลการศึกษา หรอื โครงงานทางประวตั ิศาสตร์
3.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถนิ่
-
สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น
4.1 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ สร้างสรรค์
- ทักษะการคิดวิเคราะห์
- ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรียนรู้วชิ าสังคมศึกษา
44
4.2 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
- กระบวนการสบื ค้นขอ้ มลู
4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
- กระบวนการทางานกลมุ่
- กระบวนการปฏิบัติ
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. รักความเป็นไทย
3. มจี ิตสาธารณะ
ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
โครงงานการสบื ค้นประวัติศาสตรท์ อ้ งถนิ่ โดยใช้วธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์
การวัดและการประเมนิ ผล
7.1การประเมนิ กอ่ นเรยี น
- นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2
7.2การประเมินระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง เจาะประวัติศาสตร์
2. ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์
3. ใบงานที่ 1.3 เรื่อง กรณีศกึ ษาประวตั ศิ าสตรไ์ ทย
4. ใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง การใช้ ICT เพ่ือเพิม่ ประสิทธิภาพการเรยี นรปู้ ระวตั ิศาสตร์
5. ประเมนิ จากการนาเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน
6. สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่
7.3 การประเมินหลังเรียน
- นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2
7.4 การประเมนิ ช้ินงาน / ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ โครงงานการสบื คน้ ประวัติศาสตร์ท้องถนิ่ โดยใชว้ ิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์
การประเมนิ ชิน้ งาน / ภาระงาน (รวบยอด)
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจัดการเรียนรวู้ ชิ าสงั คมศึกษา
45
แบบประเมนิ โครงงานการสืบค้นประวตั ิศาสตร์ท้องถิน่ โดยใช้วิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์
รายการประเมนิ ดีมาก (4) คาอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ / ระดับคะแนน ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)
1. การกาหนด เขยี นจดุ เริม่ ตน้ ของ เขียนจุดเรม่ิ ตน้ ของ เขียนจุดเริม่ ตน้ ของ เขยี นจุดเริ่มต้นของ
ประเดน็ ปัญหา การศกึ ษาขอ้ มลู พร้อม การศกึ ษาขอ้ มลู พร้อม การศกึ ษาข้อมลู การศึกษาข้อมลู
หรอื ขอ้ อธบิ ายเหตผุ ลได้ถูกตอ้ ง อธบิ ายเหตผุ ลตรงตาม พร้อมอธิบายเหตผุ ล ไมเ่ ปน็ ระบบ
สมมุติฐาน กาหนดสมมุติฐานได้ ประเดน็ เปน็ สว่ นใหญ่ มี ตรงตามประเดน็ เปน็ ไมแ่ สดงเหตุผล
อย่างเหมาะสมหรือ การกาหนดสมมุตฐิ าน บางส่วน มกี าร ประกอบ ไมม่ กี าร
เปน็ เหตุเป็นผล อยา่ งเปน็ เหตเุ ป็นผล กาหนดสมมุติฐาน กาหนดสมมุตฐิ าน
ชัดเจน
2. การรวบรวม แสดงหลักฐานขอ้ มลู ทาง แสดงหลักฐานขอ้ มูล แสดงหลักฐานขอ้ มลู แสดงหลักฐานขอ้ มูล
หลกั ฐาน ประวัตศิ าสตรใ์ นการ ทางประวตั ศิ าสตร์ใน ทางประวัตศิ าสตร์ใน ทางประวตั ศิ าสตรใ์ น
สบื คน้ อย่างหลากหลาย การสบื ค้นอยา่ ง การสบื คน้ อย่าง การสบื คน้ อย่าง
ถูกต้อง สัมพนั ธ์กบั เรอ่ื ง หลากหลาย ถูกตอ้ ง หลากหลาย ถูกต้อง หลากหลาย ถกู ต้อง
ทสี่ ืบค้น สัมพันธก์ ับเรอ่ื งทสี่ ืบค้น สัมพนั ธก์ บั เรอ่ื งที่ ไมส่ ัมพนั ธ์กบั เรอ่ื ง
เป็นสว่ นใหญ่ สืบคน้ เปน็ บางส่วน ทสี่ ืบคน้
3 การวเิ คราะห์ แสดงการวเิ คราะห์ แสดงการวเิ คราะห์ แสดงการวเิ คราะห์ แสดงการวเิ คราะห์
และประเมินค่า หลักฐานท่ปี รากฏวา่ หลกั ฐานที่ปรากฏว่า หลักฐานทปี่ รากฏวา่ หลกั ฐานไม่เป็นเหตุผล
ขอ้ มลู ถกู ตอ้ งตามยุคสมยั ถูกต้องตามยุคสมยั ถกู ต้องตามยุคสมยั ไม่นา่ เชือ่ ถือ
อยา่ งมเี หตผุ ล อยา่ งมีเหตุผลเปน็ อยา่ งมีเหตผุ ลเปน็
สว่ นใหญ่ บางสว่ น
4. การตคี วามและ เขียนสรุปความสาคัญ เขียนสรปุ ความสาคญั เขยี นสรุปความสาคัญ เขียนสรุปความสาคญั
สงั เคราะห์ และความน่าเชือ่ ถอื ของ และความน่าเชื่อถอื ของ และความน่าเชอ่ื ถอื และความนา่ เช่อื ถือ
หลกั ฐานอยา่ งมเี หตุผล หลักฐานอยา่ งมีเหตุผล ของหลักฐานอย่างมี ของหลักฐาน แตไ่ ม่มี
เหมาะสม เหมาะสมเปน็ สว่ นใหญ่ เหตผุ ลเหมาะสมเป็น เหตุผล
บางส่วน
5. การนาเสนอ เรยี บเรยี งข้อมูลจากการ เรียบเรียงขอ้ มลู จากการ เรยี บเรียงข้อมลู จาก เรียบเรยี งขอ้ มลู จาก
ข้อมลู สืบค้นได้ใจความถกู ตอ้ ง สบื คน้ ได้ใจความถกู ตอ้ ง การสบื ค้นได้ใจความ การสืบคน้ ไม่ได้
สมบูรณ์ และตรงตาม ค่อนข้างสมบรู ณ์ และ ถูกตอ้ งเป็นบางส่วน ใจความ และไมต่ รง
วัตถุประสงคห์ รอื ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ และตรงตาม ตามวัตถุประสงค์
สมมุติฐานทีก่ าหนด หรือสมมุติฐานท่ีกาหนด วตั ถุประสงค์
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรยี นรูว้ ชิ าสังคมศึกษา
46
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
17-20 ดีมาก
13-16 ดี
9-12 พอใช้
5-8 ปรบั ปรงุ
กิจกรรมการเรียนรู้
• นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2
กจิ กรรมท่ี 1 วธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์ เวลา 3 ชว่ั โมง
วิธีสอนโดยใชก้ ระบวนการทางประวตั ิศาสตร์
1. ครูนาเสนอขา่ วเก่ียวกับความเชื่อเร่ืองรอ่ งรอยพญานาคบนหลงั คารถ ครูตงั้ คาถามใหน้ กั เรยี น
วเิ คราะห์
2. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม คละความสามารถ แล้วให้แต่ละกลุ่มแบ่งหน้าที่กันภายในกลุ่ม โดยจะมี
ประธานกลมุ่ เลขากลุม่ ผบู้ นั ทึก และผู้ร่วมกิจกรรม
3. ตวั แทนกลมุ่ รับแถบขอ้ ความ กลมุ่ ละ 1 ข้อความ จากครูผู้สอน แล้วนากลบั มาอภปิ รายและ
ปรกึ ษาหารอื กันในกลมุ่ จนเข้าใจตรงกันแลว้ ทาใบงานที่ 1.1 เร่อื ง เจาะประวัตศิ าสตร์
4. นกั เรยี นสลายกลุม่ เดมิ สร้างกลมุ่ ใหม่โดยรวมสมาชกิ ที่ไมซ่ า้ กบั กลุม่ เดมิ จากน้ันให้สมาชกิ ใน
แตล่ ะกล่มุ เล่าเร่ืองที่ตนเองรบั ผิดชอบให้เพอ่ื นในกลมุ่ ใหมฟ่ งั ซักถามข้อสงสัยจนได้ขอ้ สรปุ
ร่วมกัน
5. ครเู สนอภาพเก่ยี วกบั หลกั ฐานประวตั ศิ าสตร์ผ่าน Powerpoint เช่น ศลิ าจารึก ซากเรอื โบราณ
แผนที่ โครงกระดกู มนษุ ย์ ขวานหิน เปน็ ต้น ใหน้ กั เรยี นสังเกตและจาแนกกลุ่มหลกั ฐานประวัติ
ศาสตร์ลงในใบงานที่ 1.2 เรือ่ ง หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์
6. นกั เรียนศึกษาเรอ่ื ง หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ไทย จากหนงั สือเรยี น
7. นกั เรยี นกลุม่ เดมิ รับใบงานท่ี 1.3 เร่ือง กรณีศกึ ษาประวตั ศิ าสตรไ์ ทย แล้วนาไปปรึกษาหารอื
อภิปรายรว่ มกนั ในกลมุ่ โดยใช้วธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์ท้งั 5 ข้นั ตอน
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut
แผนจดั การเรยี นรู้วชิ าสงั คมศกึ ษา
47
การสรา้ งองคค์ วามรู้ใหม่ทางประวตั ิศาสตร์ไทย
กจิ กรรมท่ี 2 วธิ สี อนโดยใชก้ ระบวนการทางประวัติศาสตร์ เวลา 3 ชว่ั โมง
1. ครนู านักเรียนเขา้ ศึกษาการสบื ค้นขอ้ มูลโดยใชส้ ือ่ มลั ตมิ ีเดียผา่ นคอมพวิ เตอร์ (ครตู ิดต่อเจา้ หนา้ ท่ี
ล่วงหนา้ )
2. เจ้าหนา้ ทคี่ อมพวิ เตอร์แนะนาการใช้อนิ เทอร์เนต็ ในการสืบคน้ ขอ้ มลู ท้งั ทเ่ี ปน็ ตัวอักษร และภาพ
3. ครูแนะนาการสืบค้นขอ้ มูลทางอนิ เทอร์เน็ต และให้นกั เรยี นบนั ทกึ ขอ้ มลู ท่ีสบื ค้นได้ลงในใบงาน
ท่ี 2.1 เร่ือง การใช้ ICT เพื่อเพิ่มประสทิ ธิภาพการเรยี นรู้ประวตั ศิ าสตร์ จานวน 10 แหลง่ ขอ้ มูล
4. นักเรียนสรุปความรู้ท่ีได้เปน็ ผังมโนทัศน์แสดงองคค์ วามรู้กับวธิ กี ารทางประวัติศาสตร์ ลงใน
กระดาษ A4 แล้วนาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียน
5. นักเรยี นร่วมกนั สรุปความรู้ และครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นซักถามข้อสงสยั
6. ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั จัดทาโครงงานสบื ค้นประวัติศาสตรท์ ้องถิ่น โดยนาองคค์ วามรกู้ ับวิธีการ
ทางประวัติศาสตร์มาประยกุ ต์ใช้ให้เกดิ ประโยชน์
• นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2
สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้
9.1สือ่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน ประวัติศาสตรไ์ ทย ม.4-ม.6
2. ภาพขา่ ว
3. แถบข้อความ
4. กระดาษ A4
5. ใบงาน
9.2แหลง่ การเรยี นรู้
1. ห้องสมดุ
2. ห้องเทคโนโลยสี ารสนเทศ
3. ศูนย์วิชาสงั คมศกึ ษา
The School Of Lifelong Learning Happily Towards The Fut