๘๓ ตอมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๓ พระเดชพระคุณพระราชวีรมุนี (ชํานิ) อาพาธ และชราภาพมาก จึงลาออกจากตําแหนงเจาคณะจังหวัดเลย ดวยเหตุนี้ทางคณะสงฆจึง แตงตั้งใหพระเดชพระคุณทานดํารงตําแหนงที่ปรึกษาเจาคณะจังหวัดเลย สวนกิจการ และการบริหารงานตาง ๆ ภายในวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว พระคุณทานยังคงเปนเจาอาวาส และประธานสงฆ แตกิจการและงานบริหารสวนใหญมีพระครูวิบูลคณานุศิษฏ (เสาร) เปนผูคอยดูแลและชวยเหลือแทน เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๔ ปถัดมา พระครูวิบูลคณานุศิษฏ (เสาร) ไดเล็งเห็นวาวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว มีผูคนทั้งภายในชุมชนบานติ้วและ สวนราชการตาง ๆ ตลอดจน พุทธศาสนิกชนที่เขามาทําบุญ ภายในวัด เพิ่มจําน วนมากขึ้น จึงควรกอสรางศาลาการเปรียญขึ้นใหม ที่มีความมั่นคงถาวรและสามารถรองรับจํานวนพุทธศาสนิกชนที่มารวมทําบุญหรือ ประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาไดเพียงพอ จึงไดออกแบบแปลนสรางอาคาร คอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด ๒ ชั้น พรอมหองน้ํา๑๗๘ และไดดําเนินการกอสรางโดยมี คณะกรรมการดําเนินการกอสราง ไดแก พระครูวิบูลคณานุศิษฏ (เสาร อภินนฺโท) รองเจาคณะจังหวัดเลยและรองเจาอาวาสวัดศรีบุญเรือง เปนประธานอํานวยการ นายประดิษฐ เสริฐศรี ประธานกรรมการวัดศรีบุญเรือง เปนประธานการดําเนินการ กอสราง นายอินปน ไมตรีสวัสดิ์ เปน รองประธานกรรมการ นายสมหมาย ตรีชาลี นายทรัพย ทองอรุณ นายชวง หองทองคาน นายชมพจน ปองศิริ นายบัญชา โกมาสถิต ๑๗๘ สัมภาษณ พระมหาธนวัฒน ปริยตฺติเมธี, อายุ ๒๗ ป, พรรษา ๗, เลขานุการเจาคณะอําเภอ เมืองเลย (มหานิกาย), เจาคณะตําบลกกทอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย, ผูชวยเจาอาวาสวัดศรีบุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมือง จังหวัดเลย, ๔ มกราคม ๒๕๖๖. ศาลารวมใจพัฒนา ศาลาการเปรียญวัดศรีบญุเรือง
๘๔ นายขุน ศรีพรมมา นายสุบิน ไชยพิเนตร นายสนิท คามคา เปนกรรมการ นายแวว โคตรโสภา เปนกรรมการและเลขานุการ และนายจง วิทยุพาเจริญ ผูชวยเลขานุการ ศาลาการเปรียญที่สรางขึ้นใหมหลังนี้ไดดําเนินการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ พ.ศ. ๒๕๓๔ และดําเนินงานกอสรางจนเสร็จสิ้นภายในชวง พ.ศ. ๒๕๓๖ ดวยงบประมาณ ๔,๑๙๐,๐๙๙ บาท ปจจัยเหลานี้ไดมาจากการสนับสนุน ของทุกฝาย โดยเฉพาะอยางยิ่งชาวคณะกรรมการวัดศรีบุญเรือง และพี่นองชาวบานติ้ว ทุกครอบครัวเปนศรัทธาเจาภาพหลัก๑๗๙ ดวยเหตุนี้ทางวัดจึงไดตั้งชื่อศาลาการเปรียญ หลังนี้วา “ศาลารวมใจพัฒนา” และใน พ.ศ. ๒๕๓๗ ปถัดมาทางวัดศรีบุญเรือง จึงได ดําเนินการกอสรางอาคารอีกหนึ่งหลัง เปนอาคารชั้นเดียว เพื่อใชเปนโรงครัวของวัด เรียกวา “ศาลาชุมชนพัฒนา” ๑๗๙ แผนปายจารึกศาลารวมใจพัฒนา วัดศรบีุญเรือง บานต้วิตําบลกุดปองอําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย
๘๕ ชวง พ.ศ. ๒๕๓๙ พระครูวิบูลคณานุศิษฏได เปนประธานอํานวยการสรางกุฏิใหมขึ้นอีกหลังหนึ่ง โดยเปนอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด ๒ ชั้น พ ร อ ม ห องน้ํ า สิ้ นงบประมาณในการก อสร าง ๒,๒๐๐,๐๐๐ บาท ๑๘๐ ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๙ พระครูสมุหสีหนาท จนฺทสโร และญาติโยม พรอมดวยพระครูศรีฐานคณานุยุต ไดจัดสรางรูปเหมือนพระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน) ที่ปรึกษาเจาคณะจังหวัดเลย และถวายแดวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว รูปเหมือนดังกลาว คงจัดสรางขึ้นเนื่องในวาระเจริญอายุวัฒนมงคล ๘๕ ป ของพระราชวีรมุนี เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๙ นอกจากนี้ในชวงปลายป พระครูวิบูลคณานุศิษฏ (เสาร) ไดรับ พระราชทานเลื่อนสัญญาบัตรสมณศักดิ์ เปนพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระรัตนกวี” ๑๘๑ ตอมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๒ วัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ไดขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียน พระปริยัติธรรม แผนกสามัญขึ้น โดยใชชื่อวา “โรงเรียนวัดศรีบุญเรืองปริยัติศึกษา” ทําการเรียนการสอนตั้งแต ๑๓.๐๐ น. ถึง ๑๙.๒๐ น. โดยเปดในระดับมัธยมศึกษา ตอนตน และเริ่มทําการเรียนการสอนตั้งแตวันที่ ๑๖ พฤษภาคม เปนตนมา๑๘๒ และได แตงตั้งใหพระรัตนกวี (เสาร อภินนฺโท) ดํารงตําแหนงเปนผูจัดการโรงเรียนแหงนี้ ตั้งแตวันที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๒๑๘๓ สืบเนื่องมาจนถึงปจจุบัน ๑๘๐ พระรัตนกวี, เรียบเรียงขอมูล, ประวัติของพระรัตนกวี รจจ. เลย จร. และประวัติวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ตําบลกดุปอง อําเภอเมือง จังหวัดเลย, ๓. ๑๘๑ “แจงความสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,” ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๑๓, ตอนที่ ๒๓ ข (๕ ธันวาคม ๒๕๓๙): ๒๐. ๑๘๒ “ใบอนุญาตใหจัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ของโรงเรียนวัดศรีบุญเรือง ปริยัติศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๒,” ใบอนุญาตเลขที่ ๒/๒๕๔๒, เอกสารสํานักงานวัดศรีบุญเรือง, วัดศรีบุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย. ๑๘๓ “ใบแตงตั้งให พระรัตนกวี เปนผูจัดการโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ของ โรงเรียนวัดศรีบุญเรืองปริยัติศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๒,” ใบอนุญาตเลขที่ ๐๑/๒๕๔๒, เอกสารสวนบุคคล พระราชวีราภรณ, วัดศรบีุญเรืองตําบลกุดปองอําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย.
๘๖ ภาพซาย ใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนวัดศรีบุญเรืองปริยัติศึกษา ภาพขวา ใบแตงตั้งพระรตันกวีเปนผูจัดการโรงเรียนวัดศรีบญุเรืองปริยัติศึกษา จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ วัดศรีบุญเรือง บานติ้ว เกิดการ เปลี่ยนแปลงครั้งสําคัญ เนื่องจากพระเดชพระคุณพระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน) ที่ปรึกษาเจาคณะจังหวัดเลยและเจาอาวาสวัดศรีบุญเรืองไดละสังขารอยางสงบ สิริอายุ ๘๘ ป ๕ เดือน กับอีก ๒๐ วัน พรรษาที่ ๖๘๑๘๔ การมรณภาพของพระเดช พระคุณพระราชวีรมุนีในครั้งนี้สงผลกระทบตอความเปนไปของวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว อยางมาก ดวยพระคุณทานเปนเสาหลักและเปนพระเถระชั้นผูใหญที่สถิตภายใน วัดศรีบุญเรือง มาตั้งแตชวง พ.ศ. ๒๔๙๔ เปนระยะเวลาถึง ๔๘ ป ซึ่งเปนครึ่งชีวิตของ พระคุณทานที่ไดทําคุณูปการตอจังหวัดเลยและวัดแหงนี้ตลอดมา ตลอดชวง พ.ศ. ๒๕๒๓-๒๕๔๒ เปนชวงเวลาที่วัดศรีบุญเรือง บานติ้ว มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงเสนาสนะและศาสนาคารตามกาลสมัย ดังเห็นไดจาก การบูรณปฏิสังขรณอุโบสถ การสรางอาคารการเปรียญหลังใหม การสรางกุฏิสงฆ ๑๘๔ พระมหาธนวัฒน ปริยตฺติเมธี, รวบรวมเรียบเรียง, วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย, ๒๖.
๘๗ เพิ่มเติม อีกทั้งยังเปนชวงที่วัดศรีบุญเรือง เกิดการขยายตัวของสภาพพื้นที่อีกดวย ตลอดจนดานการศึกษา วัดศรีบุญเรืองไดขยายผลมากยิ่งขึ้น โดยมีการจัดตั้งโรงเรียน พระปริยัติศึกษา แผนกสามัญ ภาพรวมของวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ในชวงเวลานี้จึงเปน ชวงแหงการพัฒนาและปรับตัวเขากับความทันสมัยและสงเสริมดานการศึกษาสําหรับ พระภิกษุสามเณร ๓.๔ สมัยพระราชวีราภรณ (เสาร อภินนฺโท) (พ.ศ. ๒๕๔๒ – ปจจุบัน) การมรณภาพของพระเดชพระคุณ พระราชวีรมุนี (ชํานิ) เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๒ ถือเปนจุดเปลี่ยนสําคัญตอวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ทั้งดานการบริหารและกิจการ ของวัด และดานการศึกษา จนถึงเมื่อ วันที่ ๒ ๖ มิถุน ายน พ. ศ. ๒๕ ๔ ๓ ทางคณะสงฆจึงไดแตงตั้งให พระรัตนกวี (เสาร) ดํารงตําแหนงเจาอาวาสวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย๑๘๕ สืบตอจากพระเดชพระคุณ พระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน) เมื่อพระเดชพระคุณพระรัตนกวี (เสาร) ดํารงตําแหนงเจาอาวาสวัดศรีบุญเรือง เรียบรอยแลว จึงไดมีการจัดเตรียมงานพระราชทานเพลิงศพพระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน) อดีตที่ปรึกษาเจาคณะจังหวัดเลย (มหานิกาย) และอดีตเจาอาวาสวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว จากคําบอกเลาของชาวบานติ้ว กลาววา มีการจัดเมรุลอยขึ้นบริเวณดานทิศตะวันออก เฉียงใตของอุโบสถ หรือบริเวณลานระหวางกุฏิสงฆ (กุฏิของพระครูสุตคุณาลงกรณ) และ ๑๘๕ “ใบตราตั้ง พระรัตนกวี ดํารงตําแหนงเจาอาวาสวัดศรีบุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย พ.ศ. ๒๕๔๓,” เอกสารสวนบุคคล พระราชวีราภรณ, วัดศรบีุญเรือง ตําบลกุดปองอําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย. ตราตั้ง พระรัตนกวี เปนเจาอาวาสวัดศรีบุญเรือง
๘๘ ศาลารวมใจพัฒนา (ศาลาการเปรียญ) มีการทําเมรุทิศลอมรอบเมรุหลัก ๔ มุม และ พระภิกษุสงฆขึ้นสวดหลายวัน๑๘๖ และจัดงานพระราชทานเพลิงศพ (จริง) เมื่อวันอาทิตย ที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ เวลา ๑๖.๐๐ น.๑๘๗ นอกจากในปเดียวกัน พระรัตนกวี (เสาร) ยังไดเปนประธานอํานวยการกอสรางหอระฆัง คอนกรีตเสริมเหล็ก ๓ ชั้น โดยใช งบประมาณทั้งสิ้น ๓๓๐,๐๐๐ บาท๑๘๘ ภาพซาย หมายรับสั่งงานพระราชทานเพลิงศพ พระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน) พ.ศ. ๒๕๔๔ ที่มาภาพ: วัดศรบีุญเรือง ภาพขวา พระสุวรรณสมุงคล (เขยีม เขมจาโร) พระนองชายของพระราชวีรมุนี หนาเมรุงานพระราชทานเพลิงศพ พระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน) เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๔ อนุเคราะหภาพโดย คุณจักรกฤช แซฮู ๑๘๖ สัมภาษณ จีรวัจน คําสิงห, อายุ ๗๘ ป, ๔ มกราคม ๒๕๖๖. ๑๘๗ “หมายรับสั่ง พระราชทานเพลิงศพ พระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน) อดีตเจาอาวาสวัดศรีบุญเรือง พ.ศ. ๒๕๔๔,” หมายรับสั่งที่ ๑๙๒๙ สํานักพระราชวัง นําหมายเรียน เจาภาพ พระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน) เพื่อ ทราบ ติดตอขอรับหีบเพลิงพระราชทาน ๒๕ มกราคม ๒๕๔๔, เอกสารสํานักงานวัดศรีบุญเรือง, วัดศรีบุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย. ๑๘๘ พระรัตนกวี, เรียบเรียงขอมูล, ประวัติของพระรัตนกวี รจจ. เลย จร. และประวัติวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ตําบลกดุปอง อําเภอเมือง จังหวัดเลย, ๓.
๘๙ ตอมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๕ วัดศรบีุญเรือง บานติ้ว ไดมีการดําเนินงานกอสรางกุฏิ สําหรับพระภิกษุสามเณรเพิ่มอีกหลังหนึ่ง โดยมีพระรัตนกวี (เสาร) เปนผูอํานวยการสราง และใชงบประมาณทั้งสิ้น ๒๕๐,๐๐๐ บาท๑๘๙ โดยใชชื่อวา “กุฏิพระรัตนกวี (หลวงพอมหาเสาร)” และระหวางชวง พ.ศ. ๒๕๔๘-๒๕๔๙ ยังมีการบูรณปฏิสังขรณวัด ทาสีกําแพงวัด อุโบสถ และกุฏิใหม ตลอดจนไดเทพื้นคอนกรีตบริเวณลานวัด เพื่อใหวัดศรีบุญเรือง มีความสวยงามและสะดวกสบายตอการบําเพ็ญกุศลและงานดานพระพุทธศาสนา๑๙๐ นอกจากการพัฒนาวัดใหมีความ สมบูรณและสวยงามแลวนั้น วัดยังได สงเสริมและเอาใจใสดานสาธารณสุข อีกดวย เห็นไดจาก เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ ทางวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ไดรับรางวัล “วัดสงเสริมสุขภาพ” จาก กระทรวงสาธารณสุข และเมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ปเดียวกัน ยังไดรับเกียรติบัตรผาน การประเมินรับรองมาตฐาน วัดสะอาด ฆราวาสสุขใจ ระดับดี จากกรมอนามัย กระทรวง สาธารณสุข อีกดวย เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ พระเดชพระคุณพระรัตนกวี (เสาร) ไดรับแตงตั้งใหดํารงตําแหนง เจาคณะจังหวัดเลย๑๙๑ หลังจากนั้น เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ไดเลื่อนสัญญาบัตรสมณศักดิ์เปนพระราชาคณะชั้นราชที่ “พระราชวีราภรณ ตรีปฎกวราลงกรณ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”๑๙๒ และไดมีการฉลอง ตราตั้งและสมณศักดิ์ใหพระเดชพระคุณพระราชวีราภรณ (เสาร อภินนฺโท) ในชวง เดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ๑๘๙ เรื่องเดียวกัน. ๑๙๐ เรื่องเดียวกัน. ๑๙๑ “ตราตั้ง พระรัตนกวี(เสาร) อภินนฺโท วัดศรีบุญเรอืง ดํารงตําแหนงเจาคณะจังหวัดเลย พ.ศ. ๒๕๔๙,” เอกสารสวนบุคคลพระราชวีราภรณ, วัดศรบีุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย. ๑๙๒ “ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรีเร่ือง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,” ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๒๕, ตอนที่ ๓ ข (๑๔ มกราคม ๒๕๕๑): ๓.
๙๐ นอกจากนี้ในชวงทศวรรษ ๒๕๕๐ เปนตนมา วัดศรีบุญเรือง บานติ้ว มีการ พัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศนของวัดใหมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น ตลอดจนยังไดมี การปฏิสังขรณและกอสรางกุฏิสงฆ ซุมประตูโขง กําแพงวัด และหอระฆังใหมีความ เรียบรอยและสามารถใชงานไดโดยสะดวกมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังเปนชวงเวลาที่ ผูมีจิตศรัทธาไดนําพระพุทธรูปและเครื่องใชตาง ๆ เขามาถวายอยูเสมอ เชน พระพุทธรูปหินทรายขนาดใหญ ๒ องค ที่ทางคุณศุภโชค และคุณอันลิน ลีบุญพงศ พรอมบุตรธิดา ไดนํามาถวายเมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ และวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ดานสังคมสงเคราะหและดูแลชุมชน วัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ยังคงดําเนินการ เรื่อยมาเชนเดียวกัน เชน เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๔ ทางวัดศรีบุญเรืองได ดําเนินการจัดซื้อผาหมเพื่อนํามอบใหกับชาวบานหวยสม ตําบลภูกระดึง เพื่อใชปองกัน ความหนาว จํานวน ๕๐ ผืน เปนจํานวนเงินทั้งสิ้น ๑๒,๒๕๐ บาท หรือรวมกับชุมชน บานติ้ว สรางสนามกีฬาประจําชุมชน เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ ๒๕๕๕ เปนตน๑๙๓ ตอมาเมื่อชวงปลาย พ.ศ. ๒๕๕๕ ถึงชวง พ.ศ. ๒๕๕๖ วัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ไดดําเนินการปรับปรุงและพัฒนาวัดในหลาย ๆ ดาน โดยเฉพาะอยางยิ่งการรื้อถอน อาคารโรงเรียนวัดศรีปริยัติศึกษาหลังเดิม และจัดสรางขึ้นใหมบริเวณดานทิศเหนือของวัด และมีการประกอบพิธีวางศิลาฤกษตัวอาคาร นอกจากนี้ยังบูรณปฏิสังขรณกุฏิของ พระราชวีราภรณและกอสรางกําแพงวัด รวมถึงซุมประตูโขงขึ้นใหมอีกดวย ๑๙๓ สํานักงานเจาอาวาสวัดศรีบุญเรือง, “วัดศรีบุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมือง จังหวัดเลย เพื่อเสนอขอยกวัดราษฎรขึ้นเปนพระอารามหลวง,” (รายงานขอยกวัดราษฎรขึ้นเปนพระอารามหลวง สํานักงาน วัดศรีบุญเรอืง ตําบลกุดปอง อําเภอเมือง จังหวัดเลย, ๒๕๕๘).
๙๑ ภาพบนซาย เปรียบเทยีบระหวาง อาคารโรงเรียนฯหลังเดิมและหลังใหม ภาพบนขวา พิธีวางศิลาฤกษ อาคารโรงเรียนฯหลังใหม
๙๒ ประมวลภาพ งานพระราชทานผาพระกฐินพระราชทาน เมื่อวันพุธ ที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ วัดศรีบุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย
๙๓ เมื่ออาคารโรงเรียนวัดศรีบุญเรืองปริยัติศึกษาหลังใหมเสร็จสมบูรณเรียบรอย ทุกประการแลวจึงไดมีการจัดงานฉลองอาคารเรียนขึ้น เมื่อวันที ๙-๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ พรอมกับฉลองสัญญาบัตรสมณศักดิ์พระครูปริยัติวรการ (สุวิมล อาจารคุตฺโต) และพระครูสุตคุณาลงกรณ(ชาญณรงคกตคุโณ) เชนกัน ชวงปลาย พ.ศ. ๒๕๕๗ ถือไดวาเปนชวงเวลาสําคัญอีกชวงเวลาหนึ่งสําหรับ วัดศรีบุญเรือง บานติ้ว เนื่องดวยพระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ขณะยังดํารงพระอิสริยยศเปนพระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงรับเชิญเสด็จมาถวายผาพระกฐินพระราชทาน ณ วัดศรีบุญเรือง ตามที่จังหวัดเลย มีหนังสือไปยังสํานักราชเลขาธิการ (หนังสือจังหวัดเลย ที่ ลย ๐๐๓๔/๑๐๖๗๑ ลงวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ๑๙๔ และเมื่อวันพุธ ที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เวลา ๑๖.๐๐ น. พระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ขณะยังดํารง พระอิสริยยศเปนพระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จมาเปนองคประธานในการทรงบําเพ็ญพระกุศลถวายผาพระกฐินพระราชทานแด พระภิกษุสงฆที่จําพรรษา ณ วัดศรีบุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย๑๙๕ จากนั้นเสด็จเขาอาคารโรงเรียนวัดศรีบุญเรืองปริยัติศึกษา ทรงวางผาไตร เหนือพานแวนฟา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระประธานอุโบสถ ทรงกลาว คําถวายผาพระกฐิน ทรงประเคนเทียนปาฏิโมกขแดพระสงฆ พระสงฆทําพิธีกฐินกรรม หลังจากนั้น ทรงประเคนเครื่องบริวารพระกฐิน และทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆถวาย อนุโมทนา โอกาสนี้พระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานของที่ระลึกแกผูมีจิตศรัทธาบริจาคเงินสมทบทุนบํารุงวัด จํานวน ๑๐๐ ราย พรอมทรงเยี่ยมราษฎรชาวบานติ้ว และชาวจังหวัดเลยที่มาเฝารับเสด็จจํานวนมาก ๑๙๔ “หนังสือ เรื่อง ทรงรับเชิญเสด็จไปถวายผาพระกฐินพระราชทาน ณ วัดศรีบุญเรือง พ.ศ. ๒๕๕๗,” หนังสือที่รล ๐๐๑๒.๔/๒๒๙๓๐ สํานักราชเลขาธิการ ถึงผูวาราชการจังหวัดเลย, ๑๕ กันยายน ๒๕๕๗, เอกสารสํานักงานวัดศรบีุญเรือง, วัดศรีบุญเรอืง ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ๑๙๕ พระมหาธนวัฒนปริยตฺติเมธี, รวบรวมเรียบเรียง, วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย, ๖๔-๖๕.
๙๔ เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ทางวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ไดประกอบพิธี วางศิลาฤกษ กุฏิพระพรหมเวที เนื่องใน วาระที่พระเดชพระคุณพระพรหมเวที (สนิท ชวนปฺโ)๑๙๖ วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร กรุงเทพมหานคร มีอายุวัฒนมงคลครบ ๖ รอบ ๗๒ ป (ปจจุบันเปลี่ยนชื่อเปนกุฏิสมเด็จพระพุฒาจารย (สนิท ชวนปฺมหาเถระ) ตอมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ วัดศรีบุญเรืองบานติ้วไดทําการบูรณะอุโบสถอีกครั้ง โดยมีการเปลี่ยนหลังคาและฉาบผนังอาคารใหม พรอมกับมีการทําทางขึ้นบริเวณ ดานหนาอุโบสถเพื่อใหสะดวกตอการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ขณะเดียวกันยังได มีการจัดสรางเหรียญหลวงปูเสาร รุน ๑ (ที่ระลึกบูรณปฏิสังขรณ อุโบสถ วัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย) โดยจัดสรางทั้งสิ้นจํานวน ๒,๐๐๐ เหรียญ โดยมี พระครูภาวนาวีรวัตร วิ. เจาคณะตําบลน้ําทูน และเจาอาวาสวัดโพนทอง อําเภอทาลี่ จังหวัดเลย เปนเจาภาพในการจัดสราง๑๙๗ ตลอดจนในชวงตนป ทางวัดศรีบุญเรือง ยังไดรับเกียรติบัตร ศาสนสถานที่สงเสริมและสนับสนุนการจัดสิ่งอํานวยความสะดวก สําหรับคนพิการจังหวัดเลย จากนายวิโรจน จิวะรังสรรค ผูวาราชการจังหวัดเลย เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ชวง พ.ศ. ๒๕๕๙ วัดศรีบุญเรืองยังคงดําเนินการบูรณะอุโบสถและบริเวณ โดยรอบอุโบสถ และเมื่อวันที่ ๔-๖ มิถุนายน ๒๕๕๙ ทางวัดศรีบุญเรือง ไดจัดงานและ ประกอบพิธียกชอฟาพระอุโบสถ พรอมกับฉลองเปรียญพระภิกษุสามเณร ๑๙๖ ไดรับการพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้น เปนสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ ในราชทินนามที่ สมเด็จพระพุฒาจารยฯ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมไดจาก “พระบรม ราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศกัดิ์,” ราชกจิจานุเบกษา เลม ๑๓๒, ตอนที่ ๓ ข (๑๕ มกราคม ๒๕๕๘): ๑-๓. ๑๙๗ วัดศรีบุญเรอืง อําเภอเมืองเลย, ประวัตเิหรียญรุน ๑ หลวงปูเสารสรางเมื่อป๒๕๕๘, เขาถึง เมื่อ ๒๐ กุมภาพันธ ๒๕๖๖, เขาถึงไดจาก https://watsriboonruang.watportal.com/th/content/category/ 2/detail/51/หลวงปูเสาร-รุน-๑
๙๕
๙๖ ชวงระหวาง พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๑/๒๕๕๗ ลงมติเห็นชอบยกวัดราษฎรยกขึ้นเปนพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจาฯ พระบรมราชินีนาถ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ ซ่ึงวัดศรีบุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ปรากฏชื่อในลําดับที่ ๘๑๙๘ แมวาหนังสือพิมพไทยรัฐ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ไดลงขาวเรื่อง ยก ๒๑ วัดราษฎรขึ้นเปนพระอารามหลวง๑๙๙ แตกระนั้น เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ไมไดมีการโปรดเกลาฯ ยกวัดราษฎรที่ปรากฏอยู ในมติมหาเถรสมาคม และในขาวหนังสือ ขึ้นเปนพระอารามหลวงเลย เหตุการณดังกลาวคงสาเหตุมาจากพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่เสด็จฯ ประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราชมาตั้งแตชวงปลาย พ.ศ. ๒๕๕๗ และมีแถลงการณจาก สํานักพระราชวังออกมาอยูเสมอ จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ สํานัก พระราชวังไดออกประกาศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต๒๐๐ พาดหัวขาวในหนังสือพิมพไทยรัฐ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ๑๙๘ “มติมหาเถรสมาคม เรื่อง การขอพระราชทานยกวัดราษฎรยกขึ้นเปนพระอารามหลวง จํานวน ๑๒ วัด เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจาฯ พระบรมราชินีนาถ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙,” มติที่ ๔๗๘/๒๕๕๗, มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๑/ ๒๕๕๗, สํานักเลขาธิการมหาเถรสมาคม. ๑๙๙ “ยก ๒๑ วัดราษฎรข ึ้นเปนพระอารามหลวง,“ไทยรัฐ (๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘): ไมทราบเลขหนา. (ภาพถายของวัดศรีบุญเรือง ตาํบลกุดปองอําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย). ๒๐๐ ไทยพีบีเอส (Thai PBS), ประกาศสํานักพระราชวัง พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต, https://www.thaipbs.or.th/news/content/256630
๙๗ มติมหาเถรสมาคม เรื่อง การขอพระราชทานยกวัดราษฎรยกขึ้นเปนพระอารามหลวง จํานวน ๑๒ วัด เฉลิมพระเกยีรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลมิพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจาฯ พระบรมราชนิีนาถ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ การบูรณะอุโบสถวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ตําบลกุดปอง อําเภอเมือง จังหวัดเลย คงแลวเสร็จในชวงปลาย พ.ศ. ๒๕๕๙ ถึง พ.ศ. ๒๕๖๐ เนื่องจากในชวงประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ มีพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธา ไดลงรักปดทองหลวงพอพุทธมงคลศรีบุญเรือง มิ่งเมืองเลย (พระพุทธรูปประธาน) พรอมกับ พระอัครสาวกเบื้องซายและเบื้องขวา ภายใน อุโบสถ แตไมไดมีการประดับกรอบซุม ดวย เหตุนี้ทางวัดจึงไดนํากรอบซุมไปบรรจุใน เจดียวัดแหงหนึ่ง ที่อําเภอทาลี่ จังหวัดเลย๒๐๑ นอกจากการลงรักปดทองหลวงพอพุทธ มงคลฯ พระประธานและพระอัครสาวกทั้ง ๒ แลว ยังไดมีการประดับฐานชุกชีดวยไม ๒๐๑ สัมภาษณพระมหาธนวัฒนปรยิตฺติเมธี, อายุ๒๗ ป, พรรษา ๗, ๔ มกราคม ๒๕๖๖. ภายในอุโบสถวดัศรีบญุเรือง บานติ้ว (ภาพเมื่อ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๕)
๙๘ และมีการวาดจิตรกรรมฝาผนังดานในอุโบสถ และบุฝาเพดานดวยไม อุโบสถหลังใหม ของวัดศรีบุญเรืองจึงมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันการบูรณปฏิสังขรณ อุโบสถวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว และมีการทําทาง ขึ้นใหมบริเวณดานหนาอุโบสถ สงผลใหตองทํา การยายพระพุทธรูปหินออนที่มีญาติโยมนํามา ถวายไวตั้งแตชวง พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๒ ออกจากพื้นที่ดังกลาว ดวยเหตุดังกลาวจึงมี ศรัทธาเจาภาพไดทําศาลารายหนึ่งหลังขึ้น บริเวณริมรั้ว ฝงตรงขามอุโบสถเพื่อเปนสถานที่ ประดิษฐานพระพุทธรูปหินออนที่ยายออกมา อยางไรก็ตามเมื่อมีการดําเนินการกอสรางแลวเสร็จ ภูมิทัศนของวัดศรีบุญเรือง เกิดความไมสมดุล บริเวณประตูทางเขาหลัก ศรัทธาเจาภาพจึงไดสรางศาลารายเพิ่มอีกหลังหนึ่งขึ้น พรอมนําเอาแบบพิมพบูรพมหากษัตริยและพระราชวงศมาประดิษฐานในศาลาราย หลังนี้ ดวยเหตุนี้ทัศนียภาพและภูมิทัศนบริเวณทางเขาของวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว จากฝงถนนเจริญรัฐจึงมีความสมมาตรกัน ตอมาเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ทางวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ไดจัดพิธี ทําบุญอายุวัฒนมงคล ๗ รอบ ๘๔ ป พระราชวีราภรณ (เสาร อภินนฺโท) ณ วัดศรีบุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย และเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ทางคณะสงฆวัดศรีบุญเรือง พรอมดวยคณะสงฆจังหวัดเลย และประชาชน ไดรวมกัน จัดพิธีสืบชะตาอายุวัฒนมงคล ๘๖ ป พรรษา ๖๕ ใหแดพระเดชพระคุณพระราชวีราภรณ (เสาร อภินนฺโท) ที่ปรึกษาเจาคณะจังหวัดเลย และเจาอาวาสวัดศรีบุญเรือง ณ อุโบสถ วัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย
๙๙ ภาพบน (๔ ภาพ) พิธีทําบุญอายุวัฒนมงคล ๗ รอบ ๘๔ ป พระราชวีราภรณ (เสาร อภินนฺโท) เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ภาพลาง พิธีสืบชะตาอายุวัฒนมงคล ๘๖ ป พรรษา ๖๕ พระราชวีราภรณ (เสาร อภินนฺโท) ณ อุโบสถวัดศรีบญุเรือง บานติ้วตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
๑๐๐ เมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๕ วัดศรีบุญเรือง ตําบล กุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ไดออกประกาศ เปลี่ยนแปลง ตราสัญลักษณวัดศรีบุญเรือง เพื่อใชในการบริหารจัดการ ภายในวัดศรีบุญเรือง และเปน การแสดงอัตลักษณในปจจุบัน จากเดิมที่มีลักษณะเปนตราทรง วงกลม ตรงกลางเปนพระพุทธรูป (คงเปนพระพุทธรูปประธาน ภายในอุโบสถ) รายลอมดวย ขอความ “วัดศรีบุญเรือง (บานติ้ว) อําเภอเมือง จังหวัดเลย”เปลี่ยนเปน ตราอักษรยอ ศ บ ร ภายในกรอบซุมลายกระหนก เหนืออักษร ๓ ตัว ประดับดวย อุณาโลมสีทอง เบื้องลางเปนแพรแถบเขียนขอความวา “วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย” และเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ทางวัดศรีบุญเรือง ไดดําเนินการตั้ง โรงเรียนผูสูงอายุแหงที่ ๓ ชุมชนบานติ้วขึ้น โดยใชชื่อวา “โรงเรียนสูงอายุพุทธมงคล ศรีบุญเรือง” กลาวไดวาตั้งแต พ.ศ. ๒๕๔๒ เปนตนมา วัดศรีบุญเรืองไดรับการพัฒนา ตอเนื่องอยางเปนลําดับ มีการบูรณปฏิสังขรณและสรางศาสนสถานตาง ๆ เพิ่มเติม วัดศรีบุญเรืองในสมัยของพระเดชพระคุณพระราชวีราภรณจึงเปนชวงเวลาที่วัดเปน ศูนยรวมทั้งดานการบริหารกิจการคณะสงฆจังหวัดเลย ดานการศึกษาสําหรับพระภิกษุ สามเณร และเปนศูนยรวมศรัทธาและศูนยรวมจิตใจของชาวบานติ้ว นอกจากนี้วัดแหงนี้ ยังมีบทบาทในการสงเคราะหสังคมและสงเสริมศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิต อยูเสมออีกดวย
๑๐๑ คณะสงฆวัดศรบีุญเรือง บานติ้ว ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ถายเมื่อ พ.ศ. ๒๕๖๑ พระภิกษุสามเณร วัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ถายเมื่อ พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๐๒ พระภิกษุสามเณร วัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ถายเมื่อ พ.ศ. ๒๕๖๓ พระภิกษุสามเณร วัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ถายเมื่อ พ.ศ. ๒๕๖๔
๑๐๓ ๓.๕ บูรพาจารยแหงวัดศรีบุญเรือง วัดศรีบุญเรือง บานติ้ว อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย เปนอารามที่สถิตของ พระเถรานุเถระ พระสังฆาธิการ และครูอาจารยสอนพระปริยัติธรรม ตั้งแตกอตั้งวัด สืบเนื่องมาจนถึงปจจุบัน ดวยบทบาทในดานตาง ๆ ทั้งดานการศาสนา ดานการศึกษา ดานสังคมสงเคราะห เปนตน ของเหลาพระเถรานุเถระแหงวัดศรีบุญเรืองบานติ้วนั้น ไดสรางคุณูปการตอทั้งการคณะสงฆเมืองเลย และชุมชนทองถิ่นบานติ้วจวบจนปจจุบัน ในสวนนี้ ผูเขียนจึงไดรวบรวมประวัติและผลงานของพระเถรานุเถระ อันควรยกยอง เปนบูรพาจารยแหงวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย เทาที่ปรากฏ หลักฐาน ดังตอ ไปนี้ ๑) พระครูภัทรธรรมประกาศ (รัตน ภทฺทโร, น.ธ. โท) พระครูภัทรธรรมประกาศ (รัตน ภทฺทโร) เปนอดีตเจาอาวาสวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว กอนพระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน) ตามประวัติใน ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เลม ๑๑ กลาววา ดํารงตําแหนงเปนเจาอาวาสของ วัดศรีบุญเรือง ลําดับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๔๘๑-๒๔๙๗) สืบตอ จากพระอธิการเคน ธมฺมปโชโต เจาอาวาสลําดับที่ ๑ และ พระอธิการสุม สุมธมฺโม เจาอาวาสลําดับที่ ๒๒๐๒ อยางไรก็ ตามปที่ครองวัดระบุในหนังสือเลมนี้ไมสอดคลองกับหลักฐานอื่น ๆ ไดแก ประวัติของ พระรัตนกวี รจจ. เลย จร. และประวัติวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ตําบลกุดปอง อําเภอ เมือง จังหวัดเลย เรียบเรียงโดย พระรัตนกวี เจาอาวาส เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๔๘ ระบุวา พระครูภัทรธรรมประกาศ เปนเจาอาวาส เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๐-๒๕๐๐ ๒๐๓ ขณะเดียวกันเอกสารชั้นตน อยาง เอกสารทะเบียน-ประวัติ พระสังฆาธิการ จังหวัดเลย ๒๐๒ กรมการศาสนา, ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร, เลม ๑๑, ๑๔๔. ๒๐๓ พระรัตนกวี, เรียบเรยีงขอมูล, ประวัติของพระรัตนกวี รจจ. เลย จร. และประวัติวัดศรีบุญ เรืองบานติ้ว ตําบลกุดปอง อําเภอเมือง จังหวัดเลย, ๗-๘.
๑๐๔ เอกสารสํานักงานเจาคณะจังหวัดเลย ของวัดศรีบุญเรืองที่รวบรวมไวตั้งแตสมัย พระราชวีรมุนี โดยเฉพาะ ที่ระบุวา พระราชวีรมุนี ดํารงตําแหนงเจาอาวาสวัดศรีบุญเรือง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓๒๐๔ ตลอดจนหนังสือ คูมือพระคณาธิการ : ศักราชใหม แหงจังหวัดเลย ๒๔๙๗ ที่เรียบเรียงโดย พระมหาชํานิ ฉนฺโน เจาคณะจังหวัดเลย (ในขณะนั้น) เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๗ ปรากฏรายนามและชื่อของพระครูภัทรธรรมประกาศ ในทําเนียบ พระคณาธิการของจังหวัดเลย ความวา “พระอธิการรัตน ภทฺทโร น.ธ. โท วัดศรีบุญเรือง เผยแผอําเภอเมืองเลย”๒๐๕ นอกจากนี้ยังปรากฏหลักฐานที่ชวยยืนยันวา พระอธิการรัตน ภทฺทโร และ พระครูภัทรธรรมประกาศ คือบุคคลเดียวกัน ใน ราชกิจจานุเบกษา เลม ๗๑, ตอนที่ ๘๔ (พ.ศ. ๒๔๙๗) เรื่อง แจงความสํานักคณะรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้ง สมณศักดิ์ ระบุวา “ให พระอธิการรัตน วัดศรีบุญเรือง จังหวัดเลย เปน พระครูภัทร ธรรมประกาศ”๒๐๖ จากหลักฐานขางตนเหลานี้ แสดงใหเห็นวา พระอธิการรัตน ภทฺทโร เคยดํารงตําแหนงเปนเจาอาวาสวัดศรีบุญเรือง และไดรับพระราชทานสมณศักดิ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๗ เปน “พระครูภัทรธรรมประกาศ”กอนที่พระราชวีรมุนี(ชํานิฉนฺโน)จะไดรับ การแตงตั้งใหดํารงตาํแหนงเปนเจาอาวาสวัดศรีบุญเรืองสืบตอแทน เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓ อยางไรก็ตามเราไมสามารถยืนยันชัดเจนไดวาประวัติของพระครูภัทรธรรม ประกาศ หลัง พ.ศ. ๒๕๐๓ เปนอยางไร แตจากหลักฐานเทาที่มีอยูในขณะนี้ ไดแก แบบสํารวจขอมูลเกี่ยวกับวัด วัดภัทราราม ตําบลนาอาน อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ๒๐๔ “ทะเบียน-ประวัติ พระสังฆาธิการ พระราชวีรมุนี เจาคณะจังหวัดเลย พ.ศ. ๒๕๒๑,” เอกสาร สํานักงานเจาคณะจังหวัดเลย, วัดศรีบุญเรอืง ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย. ๒๐๕ พระมหาชํานิ ฉนฺโน, คูมือพระคณาธิการ: ศักราชใหม แหงจังหวัดเลย ๒๔๙๗, ไมปรากฏ เลขหนา. ๒๐๖ “แจงความสํานักคณะรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,” ราชกิจจานุเบกษา เลม ๗๑, ตอนที่ ๘๔ (๑๖ ธันวาคม ๒๔๙๗): ๒๗๙๔.
๑๐๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๙ และ รายงานฐานะของวัดจอมแจง ตําบลนาอาน อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๙ ไดกลาวถึงพระครูภัทรธรรมประกาศ (รัตน) วาไดสราง วัดขึ้นใหม เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ รวมกับผูใหญบาน ประชาชน และครูใหญ โรงเรียนบาน ฟากนา สรางวัดใหมขึ้น๒๐๗ ปจจุบันคือ วัดภัทราราม บานฟากนา ตําบลนาอาน อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย และเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๙-๒๕๑๐ เคยดํารงตําแหนงเปน เจาอาวาสวัดจอมแจง ขณะอายุได ๕๑ ป พรรษา ๓๐๒๐๘ (วัดจอมแจง ตําบลนาอาน อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลยที่ปรากฏในหลักฐานนั้น ผูเขียนสันนิษฐานวา คือ ชื่อเดิม ของวัดภัทราราม บานฟากนา เนื่องจากปจจุบันไมปรากฏชื่อวัดจอมแจงในเขตตําบล นาอานแตอยางใด) ในชวงตนถึงกลางทศวรรษ ๒๕๑๐ พระครูภัทรธรรมประกาศคงมรณภาพ อยางสงบ ขณะที่จําพรรษาอยูที่วัดภัทราราม และไดมีการพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุชั่วคราววัดภัทราราม เมื่อวันที่ ๔-๖ เมษายน ประมาณชั่วครึ่งหลังทศวรรษ ๒๕๑๐ ๒๐๙ ซึ่งปรากฏหลักฐานหนังสืออนุสรณงานพระราชทานเพลิงศพ เรื่อง ปฏิวาทะ ที่พระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน) เรียบเรียงขึ้น กลาวไดวา พระครูภัทรธรรมประกาศ (รัตน ภทฺทโร, น.ธ. โท) ดํารงตําแหนง เปนเจาอาวาสวัดศรีบุญเรืองในชวงประมาณ พ.ศ. ๒๔๙๗๒๑๐ ถึง พ.ศ. ๒๕๐๓ เคย ดํารงตําแหนงเปนเผยแผอําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๐๗ “แบบสาํรวจขอมูลเกี่ยวกับวัด วัดภัทราราม ตําบลนาอาน อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย พ.ศ. ๒๕๑๙,” เอกสารสํารวจขอมูลเกี่ยวกับวัด, เอกสารสํานักงานเจาคณะจังหวัดเลย, วัดศรีบุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย. ๒๐๘ “รายงานฐานะของวัดจอมแจง ตําบลนาอาน อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย พ.ศ. ๒๕๐๙,” เอกสารรายงานฐานะของวัด ประจําป๒๕๐๙, เอกสารสาํนักงานเจาคณะจังหวัดเลย, วัดศรีบุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย. ๒๐๙ เนื่องจากผูเขียนยังไมเห็นตนฉบับของหนังสือ เพียงแคเห็นหนาปกที่มีการสําเนาและเผยแพร ตอมาเทานั้น ดวยเหตุนี้ในชวงปที่จัดงานพระราชทานเพลิงศพ จึงไมสามารถระบุชัดเจนได เนื่องจากตัวอักษรเลือนราง ซึ่งอาจเปน พ.ศ. ๒๕๑๔, ๑๕ หรือ ๑๘ ซึ่งจําเปนตองมีการศกึษาตอ ไปในอนาคต ๒๑๐ พ.ศ. ๒๔๙๗ เปนปที่ปรากฏตามหลักฐานที่เกาที่สุด ซึ่งในความเปนจริงพระคุณทานอาจดํารง ตําแหนงมาแลวกอนหนาปขางตนหลายปแลว
๑๐๖ ๒๔๙๗ ไดรับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เปนพระครูสัญญาบัตร ที่ “พระครูภัทรธรรม ประกาศ” และภายหลังไดสรางวัดภัทรารามขึ้นที่บานฟากนา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ และ เคยดํารงตําแหนงเปนเจาอาวาสวัดจอมแจง ตําบลนาอาน อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๙ จนกระทั่งวาระสุดทายของชีวิตคงมรณภาพภายใตรมผากาสาวพัสตร ๒) พระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน อักษรสม, น.ธ. เอก, ป.ธ. ๕, พธ.ด. กิตติ์) พระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน อักษรสม, น.ธ. เอก, ป.ธ. ๕, พธ.ด. กิตติ์) อดีตเจาคณะจังหวัดเลยรูปแรก และอดีตเจาอาวาสวัดศรบีุญเรือง บานติ้ว ผูซ่ึงพัฒนาวัด ใหมีความเพียบพรอม เปนวัดโดยสมบูรณท้ังในดานการ เผยแผศาสนา ดานปริยัติธรรม และดานปฏิบัติธรรม พระราชวีรมุนี มีนามเดิมวา ชํานิ อักษรสม เกิดเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๕๔ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๑๐ ค่ํา เดือนเจ็ด ปกุน ณ บานหูรัง ตําบลสมอทอง อําเภอทาชนะ จังหวัดสุราษฎรธานี เปนบุตรของนายเชื่อม อักษรสม และนางทา อักษรสม มีพี่นองรวมบิดามารดา เดียวกัน ๖ คน ไดแก ๑). พระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน) ๒). นางเลี้ยง อักษรสม ๓). เด็กหญิงซิ้ว อักษรสม ๔). เด็กชายผล อักษรสม ๕). พระสุวรรณสุมงคล (เขียม/ทวม เขมจาโร) และ ๖). พระครูสิริรัตนโสภณ (แดง รตนาโภ) บรรพชาเมื่อวันอาทิตย ที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๒ ตรงกับวันขึ้น ๑๐ ค่ํา เดือนเจ็ด ปมะเส็ง ณ วัดศรีสุวรรณ ตําบลสมอทอง อําเภอทาชนะ จังหวัดสุราษฎรธานี พระสุวรรณสุมงคล (เขียม เขมจาโร) พระครสูิรริัตนโสภณ (แดง รตนาโภ)
๑๐๗ มีพระใบฎีกาเทศน ธมฺมสํวโร๒๑๑ วัดวิชิตดิตถามราม ตําบลทาชนะ อําเภอทาชนะ จังหวัดสุราษฎรธานี เปนพระอุปชฌาย อุปสมบทเมื่อวันจันทร ที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ ตรงกับวันแรม ๑๔ ค่ํา เดือนแปด ปมะแม ณ วัดศรีสุวรรณ ตําบลสมอทอง อําเภอทาชนะ จังหวัดสุราษฎรธานี มีพระใบฎีกาเทศน ธมฺมสํวโร๖๔ วัดวิชิตดิตถามราม ตําบลทาชนะ อําเภอทาชนะ จังหวัด สุภาษฎรธานี เปนพระอุปชฌาย พระสมุหสุทธิ์ ติสฺโส วัดมัชฌิมาราม (วัดกลาง) ตําบล ประสงค อําเภอทาชนะ จังหวัดสุราษฎรธานี เปนพระกรรมวาจาจารย และพระครู ฮอด หิรฺโ วัดศรีสุวรรณ (วัดดอนมะพราว) ตําบลประสงค อําเภอทาชนะ จังหวัด สุราษฎรธานี เปนพระอนุสาวนาจารยไดรับนามฉายาทางธรรมวา “ฉนฺโน” พระครูประสงคสารการ (เทศน ธมฺมสํวโร) พระสมุหสุทธิ์ตสิฺโส เจาอธิการฮอด หิรโฺ การศึกษาและวิทยฐานะ พ.ศ. ๒๔๖๘ สําเร็จชั้นประถมศึกษาปที่ ๔ โรงเรียนวัดศรีสุวรรณ อําเภอทาชนะ จังหวัดสุราษฎรธานี พ.ศ. ๒๔๗๒ สอบไดนักธรรมชั้นตรี จากสํานักเรียนวัดศรีสุวรรณ อําเภอไชยา จังหวัดสุราษฎรธานี พ.ศ. ๒๔๗๓ สอบไดนักธรรมชั้นโท จากสํานักเรียนวัดโพธาราม อําเภอไชยา จังหวัดสุราษฎรธานี ๒๑๑ ตอมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๖ ไดรับพระราชทานสมณศกัดเปนพระครูสัญญาบัตรที่พระครูประสงค สารการ เคยดํารงตําแหนงเจาคณะหมวดทาชนะ (ตําบลทาชนะ) และเคยดํารงตําแหนงเจาคณะอําเภอทาชนะ
๑๐๘ พ.ศ. ๒๔๗๔ สอบไดนักธรรมชั้นเอก สํานักเรียนวัดโพธาราม อําเภอไชยา จังหวัดสุราษฎรธานี พ.ศ. ๒๔๗๔ เรียนบาลีไวยากรณ วัดภูมิเมือง อําเภอไชยา จังหวัดสุราษฎรธานี ครูสอน คือ พระครูไชยาภิวัฒน วัดภูมิเวียง อําเภอไชยา จังหวัดสุราษฎรธานี พ.ศ. ๒๔๗๕ สอบได เปรียญธรรม ๓ ประโยค จากสํานักเรียนวัดมหาธาตุ ยุวราชรังสฤษฏิ์ กรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๔๗๖ สอบได เปรียญธรรม ๔ ประโยค จากสํานักเรียนวัดมหาธาตุ ยุวราชรังสฤษฏิ์ กรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๔๗๗ สอบได เปรียญธรรม ๕ ประโยค จากสํานักเรียนวัดมหาธาตุ ยุวราชรังสฤษฏิ์ กรุงเทพมหานคร โดยมีพระมหาวิจิตร และพระพิมลธรรม (เฮง เขมจารีเถร) เปนครูสอน พ.ศ. ๒๕๑๕ ไดเขารับการศึกษาและสําเร็จการศึกษาจากโรงเรียนพระสังฆาธิการ สวนกลาง แผนกศึกษาอบรม เปนรุนที่ ๔ พ.ศ. ๒๕๓๒ ไดรับปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขามนุษยศาสตร) จากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตําแหนงที่ไดรับการแตงตั้ง ๑. ครูสอนพระปริยัติธรรม วัดศรีสุวรรณ ตําบลสมอทอง อําเภอทาชนะ จังหวัดสุราษฎรธานี ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓ ๒. ครูสอนพระปริยัติธรรม วัดโพธาราม ตําบลสมอทอง อําเภอทาชนะ จังหวัดสุราษฎรธานี ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๔ ๓. ครูสอนบาลี สํานักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ กรุงเทพมหานคร ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๖ ๔. ที่ปรึกษาเจาคณะจังหวัดอุดรธานี๖๘ ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๓ ๕. พระธรรมกถึก ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๖-๒๕๓๐ ๖. ครูสอนบาลีสํานักเรียนวัดมัชฌิมาวาส อําเภอเมอืงอุดรธานีจังหวัดอุดรธานี ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๗ ๗. พระธรรมธร จังหวัดอุดรธานี ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๐
๑๐๙ ๘. ผูรักษาการในตาํแหนงเจาคณะจังหวัดเลย ๒๑๒ ไดรับเมื่อ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๔ ถึงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ ๙. เจาคณะจังหวัดเลย ไดรับเมื่อ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ ถึง พ.ศ. ๒๕๓๓ ๑๐. พระอุปชฌาย ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๕ ๑๑. กรรมการตรวจธรรมสนามหลวง ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๕ ๑๒. เจาสํานักศาสนศึกษาวัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๕ ๑๓. กรรมการตรวจสอบบาลีสนามหลวง ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๖ ๑๔. เจาอาวาสวัดศรบีุญเรือง ไดรับเมื่อ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ ถึงวันที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ ๑๕. ที่ปรึกษาเจาคณะจังหวัดเลย ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๓ – ๒๕๔๒ ๑๖. กรรมการอํานวยการศูนยประสานงานพระพุทธศาสนา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ศปศ.) ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๕ ๑๗. ผูประสานงานและวางนโยบายในการเผยแพรพุทธธรรมทางวิทยุกระจาย เสียงและทางโทรทัศน ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๑๘. ประธานอํานวยการหนวยพัฒนาการทางจิต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๑๙. กรรมการอํานวยการศนูยวัฒนธรรม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๒๐. ผูริเริ่มกอตั้งพุทธสมาคม จังหวัดเลย ๒๑. ผูริเริ่มและประสานงานกอสรางตึกสงฆอาพาธ จังหวัดเลย ๒๒. ประธานอํานวยการศนูยสงเสริมศาสนศึกษา จังหวัดเลย (สศล.) ๒๓. ประธานและอุปถัมภศูนยศึกษาพุทธศาสนาวันอาทิตย จังหวัดเลย ๒๔. ประธานอํานวยการหนวยอบรมประชาชน ประจําจังหวัดเลย ๒๑๒ พระพิมลธรรม (อาจ อาสภมหาเถร) สังฆมนตรีวาการองคการปกครองในขณะนั้น เปนผูสงมา ชวยงานคณะสงฆทางภาคอีสาน (ภายหลังเปน “สมเด็จพระพุฒาจารย” ผูปฏิบัติหนาที่สมเด็จพระสังฆราช)
๑๑๐ ๒๕. กรรมการอนุรักษศิลปกรรม วัฒนธรรมไทย จังหวัดเลย ๒๖. องคประธานศูนยคณะเผยแพรชีวิตประเสริฐ (ผชป.) ภาคอีสาน ๒๗. ผูรักษาการคณบดี คณะศาสนศาสตรและครุศาสตร ๒๘. ประธานและอุปถัมภหนวยพระนวกะ จังหวัดเลย
๑๑๑ ภาพขวา พระราชวีรมุนีเจาคณะจังหวัดเลย (สีหนาทภิกขุ) แสดงปาฐกถาทามกลาง มหาสังฆสันนิบาต ณ ลานอโศก วัดมหาธาตุ เมื่อวันที่ ๑๓ ม.ค. ๒๕๑๘ ที่มาภาพ: มหาสังฆสันนิบาต ณ ลานอโศก ๑๐-๑๗ มกราคม ๒๕๑๘ (๒๕๑๘) ภาพซาย พระราชวีรมุนี(กลาง) พระศรอีรรถเมธี(ขวา) พระครูบริรักษสุนทรเขต (ซาย) และพระสังฆาธิการจังหวัดเลย
๑๑๒ สมณศักดิ์ ๑. พระวีรญาณมุนี ขันติวาทีคณาภิรักษ สังฆปาโมกข ไดรับเมื่อ วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๘๒๑๓ พระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน, ป.ธ. ๕) ขณะดํารงสมณศักดิ์เปน พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระวีรญาณมุนี ขันติวาที คณาภิรักษ สังฆปาโมกข ที่มาภาพ : พระราชวีรญาณมุนี เจา คณะจังหวัดเลย, อาจริยานสุรณ (มปท., ๒๕๐๐).๒๑๔ ๒๑๓ “แจงความสํานักคณะรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,” ราชกิจจานุเบกษา เลม ๗๒, ตอนที่ ๙๕ (๑๓ ธันวาคม ๒๔๙๘): ๓๐๐๗. ๒๑๔ พิมพแจกในงานฌาปนกิจศพ เจาอธิการฮอด หิรฺโ อดีตเจาคณะตําบลประสงค ณ เมรุวัด ศรสีวุรรณ อําเภอทาชนะ จังหวัดสุราษฎรธานี ๑๐-๑๔ เมษายน ๒๕๐๐. เผยแพรโดยคุณจักรกฤษณ แขกฮู
๑๑๓ ๒. พระราชวีรมุนี ศรีปาพจนวิจิตร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี ไดรับเมื่อ วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๖๒๑๕ พระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน, ป.ธ. ๕) ขณะดํารงสมณศักดิ์เปน พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชวีรมุนี ศรีปาพจนวิจิตร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี ที่มาภาพ : คุณจักรกฤช แซฮู ๒๑๕ “แจงความสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,” ราชกิจจานุเบกษา เลม ๙๐, ตอนที่ ๑๗๗ (๒๘ ธันวาคม ๒๕๑๖): ๔.
๑๑๔ งานเขียนที่มีการเผยแพรในนามปากกา “สีหนาทภิกขุ” และงานอื่น ๆ พระราชวีรมุนี (ชํานิ) เปนพระเถระที่มีบทบาทอยางยิ่งตอการเผยแพร พระพุทธศาสนาในสังคมไทย นอกจากความสามารถในการเทศนาแลว ยังไดเรียบเรียง เขียนหนังสือและความคิดเห็นของพระเดชพระคุณทานที่เกี่ยวของกับพระพุทธศาสนา เอาไวหลายเลม โดยใชนามปากกาวา “สีหนาทภิกขุ” เชน พุทธปรัชญา, พุทธศาสนา กับสังคม, พระธรรมยุตในทัศนะของขาพเจา, สงครามศาสนา.(ภาค ๑-๒), พระรัตนตรัยตัวจริง, กรรมฐานสําหรับชาวบาน, คําเตือนใหกลับใจลูก เปนตน นอกจากนี้ยังมีงานเขียนที่เรียบเรียงขึ้นในวาระตาง ๆ โดยไมไดใชนาม “สีหนาทภิกขุ” อีกหลายชิ้น เชน ศักราชใหมแหงจังหวัดเลย ๒๔๙๗: คูมือพระคณาธิการ, อาจาริยานุสรณ (อนุสรณงานพระราชทานเพลิงศพพระครูฮอด พระอนุสาวนาจารย), ปฏิวาทะ (อนุสรณงานพระราชทานเพลิงศพ พระครูภัทรธรรมประกาศ), ลายลักษณ (อนุสรณงานฌาปนกิจศพอุบาสิกาทา อักษรสม (โยมมารดา) พระราชวีรมุนี) เปนตน อีกทั้งยังเปนผูริเริ่มในการผลิตวารสาร ศ.ส.ล. (ศูนยสงเสริมศาสนศึกษาจังหวัดเลย) เพื่อเผยแพรพระพุทธศาสนา ตลอดประวัติศาสตรและวัฒนธรรมของจังหวัดเลย อีกดวย ตัวอยางผลงานของพระราชวีรมุนี(ชํานิฉนฺโน) นามปากกา “สีหนาทภิกข”ุ ที่มาภาพ พระมหาสุทธพิงษคุณเมือง,“แนวคิดของพระราชวีรมุนี(สีหนาทภิกข)ุ ในการเผยแพรพระพุทธศาสนาและการพัฒนาสังคม,” ภาคผนวก.
๑๑๕ อวสานกาลของเจาคุณใจสิงหแหงคณะสงฆไทย๒๑๖ พระเดชพระคุณพระราชวีรมุนี (ชํานิ ฉนฺโน) เริ่มอาพาธมาตั้งแต พ.ศ. ๒๕๓๐ ขณะที่ทานอายุได ๗๗ ป ดวยอาการกระดูกสันหลังทับเสนประสาท เดินไปมาไม สะดวก ตอมาไดรับการผาตัดกระดูกสันหลังที่โรงพยาบาลประสาทกระดูก และรักษา ตัวอยูที่โรงพยาบาลสงฆกรุงเทพมหานคร เมื่ออาการดีขึ้นตามลําดับ แพทยอนุญาตให กลับวัดได พระเดชพระคุณพระราชวีรมุนี จึงเดินทางกลับมารักษาตัวที่จังหวัดเลย และ เมื่ออาการกําเริบขึ้นอีกก็เขา ๆ ออก ๆ โรงพยาบาล ทั้งในจังหวัดเลยและ กรุงเทพมหานคร อยูหลายรอบ กระทั่งบางปกลับวัดไปอธิษฐานเขาพรรษาที่วัดแลวก็ ไปจําพรรษาที่ตึกสงฆ อาพาธโรงพยาบาลเลย จนกระทั่งวาระสุดทาย ขณะที่พระเดชพระคุณฯ จําพรรษาที่ตึกสงฆอาพาธที่ โรงพยาบาลเลย เมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ อาการก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเปนที่ พอใจของแพทย พยาบาล และคณะศิษยานุศิษย ญาติโยมชาวจังหวัดเลย และผูที่ เคารพศรัทธาในพระคุณทาน กระทั่งคืนวันที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ พระเดช พระคุณฯ ไดละสังขารจากไปดวยอาการสงบ สิริอายุ ๘๘ ป ๕ เดือน ๒๐ วัน พรรษาที่ ๖๘ ณ โรงพยาบาลเลย อําเภอเมือง จังหวัดเลย ทามกลางความชุมฉ่ําของสายฝน ที่โปรยปรายลงมาชโลมพื้นปฐพีตลอดคืนวันนั้นเอง พรอมเสียงความโศกเศราเสียใจ และอาลัยอยางสุดซึ้งของคณะสงฆจังหวัดเลย พระเถระในภาคตะวันอกเฉียงเหนือ ทุกจังหวัดและพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ ๒๑๖ พระมหาธนวัฒน ปริยตฺติเมธี, รวบรวมและเรียบเรียง, วัดศรีบุญเรืองอาํเภอเมืองเลย, ๒๕-๒๖.
๑๑๖ ๓) พระราชวีราภรณ (เสาร อภินนฺโท บุญพิมพ, น.ธ. เอก, ป.ธ. ๗, พธ.บ., ศศ.ม.) พระราชวีราภรณ (เสาร อภินนฺโท บุญพิมพ, น.ธ. เอก, ป.ธ. ๗, พธ.บ., ศศ.ม.) อดีตเจาคณะจังหวัดเลย รูปที่ ๔ ปจจุบันดํารงตําแหนงที่ปรึกษาเจาคณะจังหวัดเลย และเจาอาวาสวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว พระนักพัฒนาผู สานตอปณิธานและเจตนารมณของพระราชวีรมุนี พระราชวีราภรณ มีนามเดิมวา เสาร บุญพิมพ เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๔ ค่ํา เดือนหก ปจอ (อยางไรก็ตามในงานบุญที่วัดศรีบุญเรือง ครั้งหนึ่งพระเดชพระคุณเคยกลาวตอญาติโยมไววา แทจริงแลวทานเกิดเมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ไมใชวันที่ ๑๐ มีนาคม)๒๑๗ ณ บานหนองตาด หมู ๔ ตําบลสิงหโคก อําเภอ เกษตรวิสัย จังหวัดรอยเอ็ด เปนบุตรคนโตของนายเบา บุญพิมพ และนางสุด บุญพิมพ จากพี่นองรวมบิดามารดาเดียวกัน ๖ คน ไดแก ๑). พระราชวีราภรณ (เสาร อภินนฺโท) ๒). นายเภา บุญพิมพ ๓). นางเหลา ภูมิสองชั้น ๔). นางแจง บุญพิมพ ๕). นายเจก บุญพิมพ และ ๖). นางหนู วงษจําปา ในวัยเด็กพระเดชพระคุณฯ ไดเขาศึกษาใน ระดับประถม ณ โรงเรียนวัดบานดงมัน ตําบลสิงหโคก อําเภอเกษตรวิสัย จังหวัดรอยเอ็ด จนสําเร็จการศึกษาใน ระดับประถมปที่ ๔ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๘ และไมไดศึกษาตอ ในชวงนี้พระเดชพระคุณฯ ไดชวยเหลือกิจการงานบานของ ครอบครัวมาโดยตลอด ๒๑๗ แมวาขอมูลในเอกสารราชการและหลักฐานอื่น ๆ ระบุวันเกิดวา วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๔๗๗ และขัดแยงกับคําบอกเลาของพระเดชพระคุณฯ ซึ่งเปนวันที่ ๑๗ เมษายน ผูเขียนสันนิษฐานวา พระเดชพระคุณ อาจเกิดเมื่อวันที่ ๑๗ เมษายนจริง แตเมื่อไปขึ้นแจงเกิดตอหนวยงานราชการ อาจทําใหขอมูลมีความคลาดเคลื่อน ซึ่งทํานองในลักษณะนี้มักพบใหเห็นไดโดยทั่วไปในอดีต นายเบา บุญพิมพ โยมบิดาของพระราชวรีาภรณ
๑๑๗ จนกระทั่งอายุครบ ๒๐ ปบริบูรณ ไดเขาอุปสมบท เปนพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ ตรงกับ วันจันทร ขึ้น ๑๕ ค่ํา เดือนหก ปมะเมีย เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ พัทธสีมาวัดอรัญญวาสี บานดงมัน ตําบลสิงหโคก อําเภอ เกษตรวิสัย จังหวัดรอยเอ็ด มีพระครูเกษตรธรรมวิจิตร (พระสมุหสอน)๒๑๘ วัดหัวหนองแวง อําเภอเกษตรวิสัย จังหวัด รอยเอ็ด เปนพระอุปชฌาย พระครูรินทร วัดอรัญญวาสี อําเภอ เกษตรวิสัย จังหวัดรอยเอ็ด เปนพระกรรมวาจาจารย พระครูแกว โกวิโท๒๑๙ วัดเหลากลาง อําเภอเกษตรวิสัย จังหวัดรอยเอ็ด เปนพระอนุสาวนาจารย ไดรับฉายาทางธรรมวา “อภินนฺโท” การศึกษา๒๒๐ พ.ศ. ๒๔๙๘ สอบได นักธรรมชั้นตรี ที่สํานักเรียนคณะจังหวัดรอยเอ็ด วัดอรัญญวาสี บานดงมัน อําเภอเกษตรวิสัย จังหวัดรอยเอ็ด ๒๑๘ อดีตเจาอาวาสวัดหนองแวง หรือวัดหัวหนองแวง ตําบลหนองแวง อําเภอเกษตรวิสัย จังหวัด รอยเอ็ด และเคยดํารงตําแหนงเจาคณะตําบลหนองแวง ไดรับพระราชทานสมณศักดิ์เปนพระครูสัญญาบัตร ที่ “พระครูเกษตรธรรใวิจิตร” เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ ดูรายละเอียดไดจาก “แจงความสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,” ราชกิจจานุเบกษา เลม ๖๙, ตอนที่ ๗๒ (๙ ธันวาคม ๒๔๙๕): ๔๖๓๙. ๒๑๙ พระครูแกว หรือ เจาอธิการไพบูลย (หลวงพอแกว) ตอมาไดรับพระราชทานสมณศักดิ์เปน พระครูสัญญาบัตร ที่ “พระครูวรกิจวิบูลย” เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ ดูรายละเอียดไดจาก “แจงความ สํานักนายกรฐัมนตรีเรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,” ราชกิจจานุเบกษา เลม ๙๒, ตอนที่ ๒๖๓ (๒๖ ธันวาคม ๒๕๑๘): ๑๖. ๒๒๐ พระรัตนกวี, เรียบเรียงขอมูล, ประวัติของพระรัตนกวี รจจ. เลย จร. และประวัติวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ตําบลกุดปอง อําเภอเมือง จังหวัดเลย (เลย: วัดศรีบุญเรือง, ๒๕๔๘), ๑-๒; “ทะเบียน-ประวัติ พระ สังฆาธิการ พระครูวิบูลคณานุศิษฏ เจาคณะอําเภอเมือง พ.ศ. ๒๕๒๐,” เอกสารสํานักงานเจาคณะจังหวัดเลย, วัด ศรบีุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมือง จังหวัดเลย. และ พระมหานฤพนธนอยโนนง้ิว, “บทบาทของพระสงฆกับ การพัฒนาสังคมและวัฒนธรรม : กรณีศึกษาพระรัตนกวี รองเจาคณะจังหวัดเลยรูปที่ ๑ ฝายมหานิกาย,” (วิทยานิพนธศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาไทยศึกษาเพื่อการพัฒนา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, ๒๕๔๙), ๕๒-๕๔. พระครูวรกิจวิบูลย พระอนุสาวนาจารย
๑๑๘ พ.ศ. ๒๔๙๙ สอบได นักธรรมชั้นโท ที่สํานักเรียนคณะจังหวัดรอยเอ็ด วัดอรัญญวาสี บานดงมัน อําเภอเกษตรวิสัย จังหวัดรอยเอ็ด พ.ศ. ๒๕๐๒ สอบได นักธรรมชั้นเอก ที่สํานักเรียนคณะจังหวัดมหาสารคาม วัดชัยมงคล บานแพง อําเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๐๖ สอบได เปรียญธรรม ๓ ประโยค สํานักเรียนคณะจังหวัดขอนแกน วัดชัยศรี บานเสียว อําเภอน้ําพอง จังหวัดขอนแกน พ.ศ. ๒๕๐๘ สอบได เปรียญธรรม ๔ ประโยค สํานักเรียนวัดหรคุณ บานหนองหารจาง อําเภอน้ําพอง จังหวัดขอนแกน พ.ศ. ๒๕๑๐ สอบได เปรียญธรรม ๕ ประโยค สํานักเรียนวัดหรคุณ บานหนองหารจาง อําเภอน้ําพอง จังหวัดขอนแกน พ.ศ. ๒๕๒๒ สอบได เปรียญธรรม ๖ ประโยค สํานักเรียนวัดศรีบุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมือง จังหวัดเลย พ.ศ. ๒๕๓๔ สอบไดเปรียญธรรม ๗ ประโยค สํานักเรียนวัดศรีบุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมือง จังหวัดเลย พ.ศ. ๒๕๔๘ สําเร็จการศึกษาหลักสูตรปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ.) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆเลย พ.ศ. ๒๕๕๕ สําเร็จการศึกษาหลักสูตรปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ศศ.ม.) มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย และการศึกษาพิเศษ เทศนแหลทํานองอีสาน และเทศนาโวหารธรรมาสนเดียว
๑๑๙ ตําแหนงที่ไดรับแตงตั้ง๒๒๑ ๑. ครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรมและบาลี ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๖ ๒. ครูสอนปริยัติธรรม ประจําสํานักเรียนศาสนศึกษาวัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๓ ๓. รองเจาอาวาสวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ไดรับเมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๑๓ ถึง พ.ศ. ๒๕๔๓ ๔. เปนรองเจาคณะอําเภอเมืองเลย ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๔ ถึงวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ๕. เจาคณะอําเภอเมืองเลย ไดรับเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ถึงวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๐ ๖. หัวหนาพระธรรมทูตอําเภอเมืองเลย ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕ ๗. พระอุปชฌาย ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๖ ๘. รองเจาคณะจังหวัดเลย ไดรับเมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๐ ถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ๙. กรรมการตรวจสอบธรรมสนามหลวง ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๓ ๑๐. กรรมการมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตหนองคาย ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๙ ๑๑. พระปริยัตินิเทศ ประจําจังหวัดเลย ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๒ ๑๒. ผูอํานวยการโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๗ ๒๒๑ เรื่องเดียวกัน, ๒-๓; “ทะเบียน-ประวัติ พระสังฆาธิการ พระครูวิบูลคณานุศิษฏ เจาคณะ อําเภอเมืองเลย พ.ศ. ๒๕๒๐,” เอกสารสํานักงานเจาคณะจังหวัดเลย, วัดศรีบุญเรือง ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย. และ พระมหานฤพนธ นอยโนนงิ้ว, “บทบาทของพระสงฆกับการพัฒนาสังคมและวัฒนธรรม : กรณีศึกษาพระรัตนกวี รองเจาคณะจังหวัดเลยรูปที่ 1 ฝายมหานิกาย,” (วิทยานิพนธศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขา ไทยศึกษาเพื่อการพัฒนา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, ๒๕๔๙), ๕๖-๕๗.
๑๒๐ ๑๓. ผูอํานวยการโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม-บาลี ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๘ ๑๔. ครูสอนบาลีเปรียญธรรม ๓ ประโยค ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๘ ๑๕. รักษาการผูอํานวยการ วิทยาลัยสงฆเลย ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๙ ๑๖. ผูอํานวยการ วิทยาลัยสงฆเลย ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๑ – ๒๕๔๒ ๑๗. ผูจัดการโรงเรียนวัดศรบีุญเรืองปริยัติศึกษา ไดรับเมื่อ ๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ ถึงปจจุบัน ๑๘. เจาอาวาสวัดศรบีุญเรือง บานติ้ว ไดรับเมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๓ ถึงปจจุบัน ๑๙. รักษาการเจาคณะจังหวัดเลย ไดรับเมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘ ถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ๒๐. เจาคณะจังหวัดเลย ไดรับเมื่อ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ถึง พ.ศ. ๒๕๕๙ ๒๑. ที่ปรึกษาเจาคณะจังหวัดเลย ไดรับเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๙ – ปจจุบัน
๑๒๑ สมณศักดิ์ ๑. พระครูวิบูลคณานุศิษฏ (เจาคณะอําเภอ ชั้นเอก) ไดรับเมื่อ วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๘๒๒๒ พระราชวีราภรณ (เสาร อภินนฺโท) ขณะดํารงสมณศักดิ์เปน พระครูวิบูลคณานุศิษฏ เจาคณะอําเภอ ชั้นเอก ที่มาภาพ : วัดศรบีุญเรือง บานติ้ว ๒. พระรัตนกวี ไดรับเมื่อ วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๙๒๒๓ ๒๒๒ “แจงความสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,” ราชกิจจานุเบกษา เลม ๙๒, ตอนที่ ๒๖๓ (๒๖ ธันวาคม ๒๕๑๘): ๗. ๒๒๓ “แจงความสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,” ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๑๓, ตอนที่ ๒๓ ข (๕ ธันวาคม ๒๕๓๙): ๒๐.
๑๒๒ ๓. พระราชวีราภรณตรีปฎกวราลงกรณมหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาส ี ไดรับเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐๒๒๔ พระราชวีราภรณ (เสาร อภินนฺโท) ขณะดํารงสมณศักดิ์ เปนพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชวีราภรณ ตรีปฎกวราลงกรณ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี ที่มาภาพ : เพจพัดยศ สมณศักดิ์พระสงฆไทย ๒๒๔ “ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรีเร่ือง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,” ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๒๕, ตอนที่ ๓ ข (๑๔ มกราคม ๒๕๕๑): ๓.
๑๒๓ จริยวัตรแหงพระมหาเถระผูเปยมดวยความยินดียิ่ง
๑๒๔ ๔) พระครูสิริบุญญาภิวัฒน (พรสวรรค อุปจนฺโท อุปจันโท, น.ธ. เอก, ป.ธ. ๕) พระครูสิริบุญญาภิวัฒน (พรสวรรค อุปจนฺโท อุปจันโท, น.ธ. เอก, ป.ธ. ๕) เปนพระสังฆาธิการที่ มีบทบาทสําคัญตอคณะสงฆเมืองเลยในชวงประมาณ ทศวรรษ ๒๕๑๐-๒๕๓๐ แมวาระยะเวลาที่ทานพระครู มีชีวิตอยูนั้นสั้นมาก แตก็ทําใหการศึกษาปริยัติธรรมและ การคณะสงฆของเมืองเลยพัฒนาขึ้นอยางเปนลําดับ อีกทั้งยังมีสวนชวยใหวัดศรีบุญเรือง มีความเจริญรุงเรืองและพัฒนาสืบมาจนถึงปจจุบัน ประวัติของพระครูสิริบุญญาภิวัฒน (พรสวรรค) ไมปรากฏหลักฐานหลงเหลือ มากนัก จึงทําใหขอมูลของทานขาดหายและไมสมบูรณ กระนั้นก็พอสามารถเรียบเรียง ได ดังนี้ พระครูสิริบุญญาภิวัฒน มีนามเดิมวา พรสวรรค อุปจันโท เกิดเมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ ตรงกับวันแรม ๑๒ ค่ํา เดือนสี่ ปมะเส็ง ณ บานจอมศรี หมู ๕ ตําบลชมชื่น อําเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม๒๒๕ ตอมาไดอุปสมบทเปนพระภิกษุ และจําพรรษาอยูที่วัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ปรากฏหลักฐานเกาสุดในบัญชีรายชื่อศิษยเกาวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ตั้งแต พ.ศ. ๒๕๑๓ ๒๒๖ เปนตนมา และไดดํารงตําแหนงสําคัญในการปกครองคณะสงฆเรื่อยมา จวบจนกระทั่งมรณภาพประมาณในชวง พ.ศ. ๒๕๓๐ สิริอายุไดประมาณ ๔๕ ป พรรษา ๒๐ การศึกษา พระครูสิริบุญญาภิวัฒน สามารถสอบไดนักธรรมชั้นเอก และสําเร็จการศึกษา สูงสุดที่เปรียญธรรม ๕ ประโยค ๒๒๕ “บัญชีรายชื่อศิษยเกาวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ตั้งแต พ.ศ. ๒๕๑๓,” เอกสารศิษยเกาวัดศรีบุญเรือง, วัดศรีบุญเรอืง ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ๒๒๖ เรื่องเดียวกัน.
๑๒๕ ตําแหนงที่ไดรับแตงตั้ง ปรากฏหลักฐานวาพระครูสิริบุญญาภิวัฒน ขณะยังเปนพระมหาพรสวรรค ป.ธ. ๕ ไดดํารงตําแหนงเปนเลขานุการพระราชวีรมนี (ชํานิ ฉนฺโน) เจาคณะจังหวัดเลย เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๘๒๒๗ ตอมาปรากฏในปฏิทินศาสนา พ.ศ. ๒๕๒๓๒๒๘ และ พ.ศ. วาดํารงตําแหนงเปนเจาคณะอําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ซึ่งทานพระครูสิริบุญญาภิวัฒน ไดดํารงตาํแหนงดังกลาวเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๑-๒๕๓๐ นอกจากนี้ยังเปนพระอุปชฌาย บวชใหกับกุลบุตรในจังหวัดเลย ดังปรากฏ หลักฐานในบัญชีสัทธิวิหาริก ประจําป ๒๕๒๗ นําสงสํานักงานเจาคณะจังหวัดเลย เมื่อ วันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๒๗ ดังตอไปนี้๒๓๐ ๒๒๗ ปฏิทินศาสนา พุทธศกัราช ๒๕๑๘ (กรุงเทพฯ: โรงพิมพการศาสนา กรมการศาสนา, ๒๕๑๘), ๑๐๓. ๒๒๘ ปฏิทินศาสนา พุทธศกัราช ๒๕๒๓ (กรุงเทพฯ: โรงพิมพการศาสนา กรมการศาสนา, ๒๕๒๖), ๑๓๐. ๒๒๙ ปฏิทินศาสนา พุทธศกัราช ๒๕๒๖ (กรุงเทพฯ: โรงพิมพการศาสนา กรมการศาสนา, ๒๕๓๑), ๑๓๖. ๒๓๐ “บัญชีสัทธิวิหารกิพระครสิริบุญญาภิวัฒน อุปชฌาย วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัด ู เลยประจําป ๒๕๒๗,” เอกสารบัญชีสัทธิวิหาริก นําสงสํานักงานเจาคณะจังหวัดเลย, เอกสารสํานักงานเจาคณะ จังหวัดเลย. วัดศรีบุญเรอืง ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย.
๑๒๖ ๑. พระเสถียร นามสกุลบุดทา ฉายา ถิราโณ อายุ ๒๐ อุปสมบทวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดโพนบรรพต อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๒. พระนิยม นามสกุลโยทุม ฉายา อุตฺตมปฺโ อายุ ๒๐ อุปสมบทวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดโพนบรรพต อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๓. พระสุรศักดิ์ นามสกุลพุทธมาตร ฉายา สุรเตโช อายุ ๒๐ อุปสมบทวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดโนนสวรรค อําเภอ เมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๔. พระหมอน นามสกุลสีทาสังข ฉายา สิริธมฺโม อายุ ๒๑ อุปสมบทวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดโนนสวรรค อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดโพธิ์ศรี อําเภอทาลี่ จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๕. พระณรงค นามสกุลชัชวาลย ฉายา จนฺทวณฺโณ อายุ ๒๑ อุปสมบทวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดโนนสวรรค อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดโนนสวรรค อําเภอ เมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม รับราชการ ๖. พระมนตรี นามสกุลแสงชมภู ฉายา ชยธมฺโม อายุ ๒๘ อุปสมบทวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดโพธิ์ชุม อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดบานโปงพัฒนาราม อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม ราชการ ๗. พระถิน นามสกุลจันทรพาณิชย ฉายา จนฺทวาณิโช อายุ ๒๙ อุปสมบทวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดศรีสุมังคลาราม อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๘. พระประดิษฐ นามสกุลสีหนารถ ฉายา นารโท อายุ ๒๔ อุปสมบทวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดภัทราราม อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดภัทราราม อําเภอ เมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๙. พระเสนาะ นามสกุลพลดาหาญ ฉายา พลาโณ อายุ ๓๑ อุปสมบทวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดโนนสวรรค อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดโนนสวรรค อําเภอ เมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม ราชการ
๑๒๗ ๑๐. พระอานันท นามสกุลคันธรัตน ฉายา รตนธมฺโม อายุ ๒๕ อุปสมบทวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) (ณ) วัดโนนสวรรค อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดโนนสวรรค อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม ราชการ ๑๑. พระทองสุข นามสกุลภามี ฉายา สุขธมฺโม อายุ ๓๒ อุปสมบทวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีจันทรอําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดศรจีันทร อําเภอเมือง เลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๑. สามเณรกุศล นามสกุลเวียงคํา อายุ ๑๓ บรรพชาวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๒๖ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดปาสันติธรรม อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๒. สามเณสมควร นามสกุลสายจําปา อายุ ๑๓ บรรพชาวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๒๖ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดศรีสัตตนาค อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๓. สามเณรเทวา นามสกุลสึกกันยา อายุ ๑๓ บรรพชาวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๒๖ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดฉิมพาลี (ฉิมพลี) อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม
๑๒๘ ๔. สามเณรนิยม นามสกุลบุญมา อายุ ๑๓ บรรพชาวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดโพนบรรพต อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๕. สามเณรสมปอง นามสกุลคุณตง อายุ ๑๓ บรรพชาวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดฉิมพาลี (ฉิมพลี) อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๖. สามเณรสุรสิทธิ์ นามสกุลวงษลา อายุ ๑๖ บรรพชาวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดบานโปงพัฒนาราม อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดบานโปงพัฒนาราม อําเภอ เมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๗. สามเณรคงฤทธิ์ นามสกุลอําคาบัว อายุ ๑๔ บรรพชาวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดบานโปงพัฒนาราม อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดบานโปงพัฒนาราม อําเภอ เมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๘. สามเณรสุพิน นามสกุลแพงคําสี อายุ ๑๔ บรรพชาวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดบานโปงพัฒนาราม อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดบานโปงพัฒนาราม อําเภอเมือง เลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๙. สามเณรบัววัน นามสกุลจันทศรี อายุ ๑๔ บรรพชาวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดบานโปงพัฒนาราม อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดบานโปงพัฒนาราม อําเภอเมือง เลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๑๐. สามเณรสุริยันต นามสกุลแสนเมือง อายุ ๑๓ บรรพชาวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดบานโปงพัฒนาราม อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดบานโปงพัฒนาราม อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๑๑. สามสายยนต นามสกุลไชยวรรณ อายุ ๑๓ บรรพชาวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมือง จังหวัดเลย สังกัดวัดศรีโนนเมือง อําเภอเมือง จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๑๒. สามเณรบุญคบ นามสกุลวันทองสังข อายุ ๑๖ บรรพชาวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม
๑๒๙ ๑๓. สามเณรไฉน นามสกุลพนาจันทร อายุ ๑๓ บรรพชาวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดโพนสวางสุเทพอรุณ อําเภอเมือง เลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๑๔. สามเณรประสาท นามสกุลจําปานิล อายุ ๑๓ บรรพชาวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดโพนสวางสุเทพอรุณ อําเภอ เมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๑๕. สามเณรสมัย นามสกุลดาหอม อายุ ๑๓ บรรพชาวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมือง จังหวัดเลย สังกัดวัดโพนสวางสุเทพอรุณ อําเภอเมือง จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๑๖. สามเณรสุนทร นามสกุลขุนทํานาย อายุ ๑๕ บรรพชาวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดโพธิ์ชัยมงคล อําเภอเมือง เลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๑๗. สามเณรคําสิงห นามสกุลนิพวงลา อายุ ๑๕ บรรพชาวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดโพธิ์ชัยมงคล อําเภอเมือง เลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๑๘. สามเณรสมควร นามสกุลสะติตัน อายุ ๑๕ บรรพชาวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดโพธิ์ชัยมงคล อําเภอเมือง เลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๑๙. สามเณรสี นามสกุลทิพอาด อายุ ๑๕ บรรพชาวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีบุญเรือง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดโพธิ์ชัย อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๒๐. สามเณรสมบัติ นามสกุลดวงศรี อายุ ๑๕ บรรพชาวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีจันทร อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย สังกัดวัดศรีจันทร อําเภอเมือง จังหวัดเลย อาชีพเดิม กสิกรรม ๒๑. สามเณรเทศ นามสกุลศรีคํามี อายุ ๑๔ บรรพชาวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๒๗ (ณ) วัดศรีจันทร อําเภอเมือง จังหวัดเลย สังกัดวัดศรีจันทร อําเภอเมือง จังหวัดเลยเลย อาชีพเดิม กสิกรรม
๑๓๐ สมณศักดิ์ ๑. พระครูสิริบุญญาภิวัฒน ไดรับเมื่อ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๒๒๓๑ ภาพขวา งานพระราชทานเพลิงศพพระครวูิจารณส ังฆกิจ (ภา พฺรหฺมเสโน) อดีตเจาคณะอาํเภอเมอืงเลย วันที่ ๑-๔ กุมภาพันธ ๒๕๒๓ (จากซายไปขวา) พระครปูลัดทองเพชร จนฺทโชโต, พระครวูิบูลคณานุศิษฏ(เสาร), พระราชวีรมุนี(ชาํนิ), พระครูสิริบุญญาภิวัฒน(พรสวรรค), พระครูปลัด สมหมาย โกมุโล ที่มาภาพ: อนุเคราะหภาพโดยคุณยายจีรวัจน คําสิงห ภาพบน งานทําบุญขึ้นบานใหม รานทองทวี ๒๕ สิงหาคม ๒๕๒๔ พระราชวีรมุนี(ชาํนิ), พระครูมงคลญาณเมธี (เคน), พระครูวิบูลคณานุศษิฏ(เสาร), พระครูปลัดสมหมาย โกมุโล, พระครูสิริบุญญาภิวัฒน(พรสวรรค), ภาพลาง พิธีฝงลูกนิมิต (ไมทราบสถานที่) พระครูปลัดสมหมาย โกมุโล(กลาง), พระครูสริิบุญญาภิวัฒน(พรสวรรค) (ขวา) ที่มาภาพ: อนุเคราะหภาพโดยคุณยายจีรวัจน คําสิงห ๒๓๑ “แจงความสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,” ราชกิจจานุเบกษา เลม ๙๗, ตอนที่ ๖๓ (๑๘ เมษายน ๒๕๒๓): ๓.
๑๓๑ ๕) พระมหาธวัชชัย อนงฺคโณ ชูเทพทิพย, น.ธ. เอก, ป.ธ. ๓ พระมหาธวัชชัย อนงฺคโณ ชูเทพทิพย, น.ธ. เอก , ป.ธ. ๓ เปนพระอาจารยสอนพระปริยัติธรรม แผนก บาลีของสํานักเรียนศาสนศึกษาวัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ตําบลกุดปอง อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ประวัติของพระมหาธวัชชัย ไมปรากฏหลักฐาน หลงเหลือมากนัก จึงทําใหขอมูลของทานขาดหายและไมสมบูรณ จากหลักฐานที่เปน ภาพถายและเอกสารตาง ๆ เห็นไดวาปรากฏภาพของพระมหาธวัชชัยถายรวมกับ พระราชวีรมุนี (ชํานิ) และพระราชวีราภรณ (เสาร) ขณะยังดํารงสมณศักดิ์ที่พระครู วิบูลคณานุศิษฏ พระครูสิริบุญญาภิวัฒน (พรสวรรค) ประมาณชวงปลายทศวรรษ ๒๕๒๐ แตภาพถายในชวงประมาณ พ.ศ. ๒๕๒๒-๒๕๒๓ ไมปรากฏภาพของพระมหาธวัชชัย เลย นั่นจึงสามารถสันนิษฐานไดวา พระมหาธวัชชัยคงเขามาจําพรรษาอยูที่วัดศรีบุญเรือง บานติ้ว ประมาณชวงปลายทศวรรษ ๒๕๒๐ เปนอยางนอย กอนที่พระครูสิริบุญญาภิวัฒนมรณภาพ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๐ และไดดํารงตําแหนงสําคัญในการปกครอง คณะสงฆและการศกึษาของจังหวัดเลยเรื่อยมาจวบจนกระทั่งมรณภาพ ๑. พระครูสริบิุญญาภิวัฒน๒. พระราชวีรมุนี ๓. พระครูวิบูลคณานศุษิฏ๔. พระมหาธวัชชัย ๑ ๒ ๓ ๔
๑๓๒ การศึกษา พระมหาธวัชชัย อนงฺคโณ สามารถสอบไดนักธรรมชั้นเอก และสําเร็จการศึกษา สูงสุดที่เปรียญธรรม ๓ ประโยค ตําแหนงที่ไดรับแตงตั้ง ปรากฏหลักฐานวาพระมหาธวัชชัย อนงฺคโณ ดํารงตําแหนงเปนเลขานุการ พระราชวีรมนี (ชํานิ ฉนฺโน) เจาคณะจังหวัดเลย เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๒-๒๕๒๖ ๒๓๒ และ ดํารงตําแหนงเจาคณะตําบลกุดปอง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๑๒๓๓ นอกจากตําแหนงปกครอง คณะสงฆแลว พระมหาธวัชชัย ยังเปนพระอาจารยสอนบาลีในสํานักเรียนวัดศรีบุญเรือง อีกดวย พรอมกับเรียบเรียงหนังสือไวหนึ่งเลม ชื่อวา คูมือบาลีไวยกรณ ชุดอมตะ สําหรับผูแรกเรียน และเตรียมสอบประโยค ๑-๒ และ ป.ธ. ๓ ๒๓๒ ปฏิทินศาสนา พุทธศกัราช ๒๕๒๓ (กรุงเทพฯ: โรงพิมพการศาสนา กรมการศาสนา, ๒๕๒๓), ๑๑๓. และ ปฏิทินศาสนา พุทธศักราช ๒๕๒๖ (กรุงเทพฯ: โรงพิมพการศาสนา กรมการศาสนา, ๒๕๒๖), ๑๓๐. ๒๓๓ ปฏิทินศาสนา พุทธศกัราช ๒๕๓๑ (กรุงเทพฯ: โรงพิมพการศาสนา กรมการศาสนา, ๒๕๓๑), ๑๓๖.