การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 1 บทความวิชาการ การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 13 – 15 มีนาคม 2567 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต การพัฒนานักศึกษา การให้บริการสวัสดิการนักศึกษาและการดูแลนักศึกษา
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 2 บทนำ บทความวิชาการการพัฒนานักศึกษาและการให้บริการสวัสดิการนักศึกษาและการดูแลนักศึกษาเป็นบทความวิชาการ การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 13 – 15 มีนาคม 2567 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอบทความ ทางวิชาการที่มีคุณภาพในการพัฒนานักศึกษาที่ประสบความสำเร็จเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพนักศึกษา รูปแบบโครงการ/กิจกรรม กีฬา นันทนาการ วิศวกรสังคม การให้บริการสวัสดิการนักศึกษาและการดูแลนักศึกษา กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ทุนการศึกษา ระบบอาจารย์ที่ปรึกษา งานพยาบาล/อนามัย แพลตฟอร์มการพัฒนานักศึกษาหรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา นักศึกษาที่เป็นผลงานโดดเด่นหรือวิจัยหรือข้อค้นพบใหม่ๆ ที่สามารถเป็นแบบอย่างหรือแนวปฏิบัติได้แสดงถึงประโยชน์ทั้งเชิงทฤษฎี (Theoretical Contributions) ที่ผู้เข้าร่วมประชุมหรือผู้ที่สนใจสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดหรือสร้างองค์ความรู้ใหม่และประโยชน์ใน เชิงปฏิบัติการ (Managerial Contributions) ที่ผู้เข้าร่วมประชุมหรือผู้สนใจนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์หรือต่อยอดในการ ปฏิบัติงานด้านกิจการนักศึกษาเพื่อพัฒนานักศึกษาให้มีผลลัพธ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 ประกอบด้วย 1) ความรู้(Knowledge) 2) ทักษะ (Skills) 3) จริยธรรม (Ethics) และ 4) ลักษณะบุคคล (Character) ตลอดจน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ การศึกษาค้นคว้าและการพัฒนาโครงการของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัยให้ตอบโจทย์ ในสถาการณ์ปัจจุบันมากขึ้น ขอขอบพระคุณผู้เข้าร่วมประชุมและผู้จัดทำบทความวิชาการการพัฒนานักศึกษาและการให้บริการสวัสดิการนักศึกษา และการดูแลนักศึกษาทุกมหาวิทยาลัยที่ร่วมเผยแพร่ผลการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน หน่วยงานและองค์กรที่สนับสนุน การบทความวิชาการสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์มา ณ โอกาสนี้ กองพัฒนานักศึกษา สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต มีนาคม 2567
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 3 สารบัญ เรื่อง หน้า 1. การสร้างโอกาสทางการศึกษากับการจัดสรรทุนการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ....................................... Creating educational opportunities and scholarship allocation, Phuket Rajabhat University. กัมปนาท ไทยมิตต์ชอบ, กรสุดา หนูอยู่ไพร, อุดมศักดิ์ ทองแป้น 5 2. การพัฒนา Soft Skills ในการทำงานสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต .................. The Development of Working Soft Skills for Undergraduate Students, Phuket Rajabhat University RA. ธนกรณ์ ชัยธวัช, สิรินธร สินจินดาวงศ์ 12 3. ผลสำเร็จของการดำเนินงานกิจกรรมพัฒนานักศึกษาของสโมสรนักศึกษา คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร .......................................................................................................................... Successful results of student development activities of the student union of Faculty of Industry and Technology RMUTI Sakonnakhon campus. เรืองชัย ตาแสง, ศิริรัก ลำดวน, หาญณรงค์ นาเตย และ จารุวัฒน์ ถาวรไพศาลชีวะ 22 4. บุปผาแห่งศรัทธา .............................................................................................................................................. Tampopo ปริตต์ สายสี, ชุติมา ฤาชัย และชมรม LPRU สืบสานปณิธานงานของพ่อ 29 5. การจัดทำกลยุทธ์การบริหารงานด้านกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อพัฒนานักศึกษาสู่การเป็นผู้ประกอบการ ของกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ................................................................... Creating management strategies for extra-curricular activities to develop students into intrepreneurs. of the Student Development Division Rajamangala University of Technology Lanna. พันจ่าเอกอำนาจ ใจคำฟู, นันทิดา รังสรรค์และศิขรินทร์ บุญจี๋ 35 6. การส่งเสริมสุขภาวะที่ดีแก่นักศึกษาราชมงคลตะวันออก ................................................................................... RMUTTO Happy Wellness. ทวิชากร ขุนภักดี, คณาธิป จิระสัญญาณสกุล และคณะทั้งหมดกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลตะวันออก 43 7. การศึกษาปัญหาในการเข้าร่วมกิจกรรมของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พระนคร ........................................................................................................................................................... A study of problems in participating in activities of undergraduate students Rajamangala University of Technology Phra Nakhon. ชนัตชญาน์นันท์ รัตน์บุญทอง 50
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 4 8. การสังเกตทักษะ Soft Skills ที่เกิดกับนักศึกษารายวิชาพัฒนาคุณสมบัติในตนด้วยโปรแกรมสติ และวิศวกรสังคม............................................................................................................................................... Observation of Soft Skills That Occur in Students in the Course on Developing their Own Qualities with the Mindfulness and Social Engineering Program. ไตรตรึง พลอยม่วง, ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช และณิภารัตน์ บุญกุล 52 9. ถอดบทเรียนการพัฒนา Soft Skill ด้วยวิศวกรสังคมในนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ............. Lessons-Learned on Developing Soft Skills with Social Engineering in Students at Muban Chom Bueng Rajabhat University. โชติ อินทวงศ์, วัชระ นิลเพชร และเพียงพร เบ็ญพาด 60 10. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยกระดับ Soft Skills ของนักศึกษาด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม .................................. Factors Affecting the Enhancement of Students' Soft Skills Through the Social Engineering process. นพดล ทุมเชื้อ, อนุรักษ์ ธัญญเจริญ และอภิเชษฐ์ ขำเลิศ 67 11. การพัฒนากิจกรรมนักศึกษาโดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมกับวิศวกรสังคม เรื่อง การจัดการขยะพลาสติก เป็นพลังงาน ................................................................................................................................................... Development of Students’Activities through Project Based Learning Incorporating Social Engineering on the topic of Plastic Waste Management for Energy Reform. ภัทรกฤต คัชมาตย์, ขณัฏฐาพรรณ ปานณรงค์, ญาณี เพลิงพิษ, ธวัชวงศ์ แสงสัมฤทธิ์, อาภร ส่องเจี้ยะ และเพียงพร เบ็ญพาด 75
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 5 การสร้างโอกาสทางการศึกษากับการจัดสรรทุนการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต Creating educational opportunities and scholarship allocation, Phuket Rajabhat University กัมปนาท ไทยมิตต์ชอบ1 , กรสุดา หนูอยู่ไพร2 , อุดมศักดิ์ ทองแป้น 3 Kampanart Thaimitchob, Kornsuda Nu-u-prai, Udomsak Thongpan บทคัดย่อ บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอกระบวนการดำเนินงานในการสร้างโอกาสทางการศึกษากับการจัดสรรทุนการศึกษา ให้แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โดยความรับผิดชอบของงานบริการและสวัสดิการ กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏ ภูเก็ต การดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปตามหลักการบริหารงานด้วยวงจรการควบคุมคุณภาพ PDCA ประกอบด้วย Plan (วางแผน) – Do (ปฏิบัติ) C – Check (ตรวจสอบ) A – Act (ปรับปรุง) เป็นกระบวนการที่ใช้ปรับปรุงงานการจัดสรรทุนการศึกษาอย่างเป็นระบบ เพื่อเป้าหมายสำคัญ คือ “การสร้างโอกาสทางการศึกษา” ให้นักศึกษาที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมได้รับการจัดสรรทุนการศึกษา เพื่อนำไปใช้ในการศึกษาเล่าเรียน หรือใช้จ่ายอื่น ๆ ตามความจำเป็น เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่นักศึกษา และเป็นพลังสำคัญ ในการศึกษาต่อจนสำเร็จการศึกษา สามารถนำความรู้ไปใช้พัฒนาตนเอง สังคม และประเทศชาติต่อไป คำสำคัญ : การสร้างโอกาสทางการศึกษา / ทุนการศึกษา / มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต 1 งานบริการและสวัสดิการ กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ประเทศไทย 2 งานบริการและสวัสดิการ กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ประเทศไทย 3 งานบริการและสวัสดิการ กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ประเทศไทย
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 6 บทนำ การศึกษา (Education) เป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพราะนอกจากทำให้มนุษย์เกิดความรู้และพัฒนา ตนเองแล้ว ยังช่วยพัฒนาสังคม และประเทศชาติ สอดคล้องกับที่ สำนักพัฒนาทรัพยากรบุคคล (2560) กล่าวถึงทรัพยากรบุคคลว่า เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า และมีความสำคัญที่จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในยุคของการเปลี่ยนแปลง ที่มีความสลับซับซ้อนและเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพย่อมทำให้สังคม และประเทศชาติ เกิดการพัฒนา ด้วยเหตุนี้หน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลการศึกษาจึงต้องจัดการศึกษาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลต่อทรัพยากร มนุษย์ที่มีคุณภาพ การจัดการศึกษาเกิดขึ้นได้ในทุกระดับ และทุกช่วงวัยหรือเป็นการศึกษาตลอดชีวิต ศักรินทร์ชนประชา (2562) กล่าวถึง การศึกษาตลอดชีวิตว่า เป็นกระบวนการศึกษาเพื่อให้บุคคลเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยมีลักษณะผสมผสานทั้งการศึกษาในระบบ นอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้ด้วยตนเอง การพัฒนาบุคคลให้ปรับตัวอย่างเท่าทันต่อความ เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสังคม นันทรัตน์ ปีสาร (2547) กล่าวถึงการจัดการศึกษาว่า หมายถึง การดำเนินงานด้านการศึกษาให้บรรลุ จุดมุ่งหมาย เพื่อให้บุคคลมีความรู้ สติปัญญา เฉลียวฉลาด และมีคุณธรรมในการประกอบอาชีพ ด้วยสุขภาพกาย และใจที่ดีพร้อม เพื่อประโยชน์ต่อตนเอง และสังคม การจัดการศึกษาให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้จำเป็นต้องมีปัจจัยหรือทรัพยากรที่สนับสนุนอย่างเหมาะสม อาทิ ผู้สอน ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครอง หลักสูตร สถานที่และสิ่งแวดล้อม วัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ ซึ่งพบว่าปัจจัยดังกล่าวยังเป็นปัญหาที่ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษา ดังเช่นปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ปกครองจาก THAIRATH Money (2565) กล่าวถึงข้อมูลการเงินของผู้ปกครองว่า “เปิดเทอม 65 ผู้ปกครองกังวลปัญหาการเงิน พบ 70.8% ต้องก่อหนี้นำมาใช้จ่าย” เป็นการ นำเสนอความรู้สึกของผู้ปกครองต่อภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของบุตรหลาน โดยเปิดเทอมปีกการศึกษา 2565 ผู้ปกครองกังวลเรื่องภาวะค่าครองชีพที่งสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการใช้จ่าย เพื่อการศึกษาของบุตรหลาน แต่ด้วยความจำเป็นของการศึกษา ผู้ปกครองบางคนจึงจำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่าย นอกจากนี้ สิทธิโชค เสนาะน้อย (2565) ยังกล่าวถึงปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำของการศึกษาจากปัญหาความยากจน โดยกล่าวถึงข้อมูล จากการสํารวจของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ว่า ครอบครัวของนักเรียนยากจนด้อยโอกาสมีรายได้เฉลี่ยต่ำสุด 462 บาทต่อคนต่อเดือน หรือ 15 บาทต่อวัน หมายความว่าครอบครัวของเด็กกลุ่มนี้มีรายได้เพียงห้าพันกว่าบาทต่อปีเท่านั้น ส่วนรายได้เฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 2,093 บาทต่อคนต่อเดือน หรือ 69 บาทต่อวัน ความเหลื่อมล้ำดังกล่าวทําให้คนยากจนต้องแบกรับ ค่าใช้จ่ายสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับครอบครัวที่มีฐานะดี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่พบว่าผู้เรียนซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี มีปัญหา ในการศึกษาเล่าเรียนด้วยปัจจัยที่หลากหลาย หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เป็นอุปสรรคสำหรับการศึกษา คือ การขาดทุนการศึกษา ด้วยปัญหาครอบครัว พ่อแม่หย่าร้าง เป็นบุตรกำพร้า เป็นต้น จึงไม่มีผู้สนับสนุนทุนการศึกษา และด้วยสภาพครอบครัวที่ยากจน นักศึกษาจึงต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว และบางคนยังต้องทำงานเพื่อดูแลสมาชิกในครอบครัวด้วย ปัญหาที่เกิดขึ้นหากไม่มีหน่วยงาน ใดเข้ามาดูแล สนับสนุนด้านงบประมาณ ย่อมส่งผลต่อการเพิ่มภาระให้นักศึกษาต้องทำงานนอกเวลามากขึ้น หรือส่งผลให้นักศึกษาต้อง หยุดเรียนเพื่อทำงานหารายได้เลี้ยงตนเอง และครอบครัว งานบริการและสวัสดิการ กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต มีพันธกิจในการทำงานเพื่อให้บริการ และดูแล สวัสดิการต่าง ๆ ของนักศึกษา โดยตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงมีการดำเนินการเพื่อจัดสรรทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทุกปี ทั้งนี้ การจัดสรรทุนการศึกษาต้องมีระบบการบริหารจัดการที่เหมาะสม มีการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง โปร่งใส และเป็นธรรม โดยคำนึงถึงโอกาสทางการศึกษาที่นักศึกษาพึงจะได้รับเป็นสำคัญ สิทธิโชค เสนาะน้อย (2565) กล่าวถึงการจัดสรรทุนการศึกษา ว่าเป็นแนวทางหนึ่งที่ภาครัฐใช้เป็นเครื่องมือเพื่อลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดจากความยากจน ซึ่งทุนการศึกษา หมายถึง เงินทุนที่ใช้จ่าย
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 7 ในการศึกษาตามที่หน่วยงาน องค์กร หรือบุคคลบริจาคช่วยเหลือ ผู้ที่มิได้อยู่ภายใต้การดูแลหรือปกครองของตนโดยตรงให้พวกเขา เหล่านั้นได้ศึกษาเล่าเรียนตามความจำเป็น บทความวิชาการ “การสร้างโอกาสทางการศึกษากับการจัดสรรทุนการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต” จึงนำเสนอการ ดำเนินงานในการจัดสรรทุนการศึกษาโดยมุ่งเน้นการนำเสนอข้อมูลที่ได้ดำเนินการในปีการศึกษา 2566 ของงานบริการและสวัสดิการ กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เพื่อให้เห็นกระบวนการทำงานในแต่ละขั้นตอน โดยใช้หลักการบริหารงานด้วยวงจร การควบคุมคุณภาพ PDCA วิฑูรย์สมะโชคดี(2550) กล่าวถึงวงจรคุณภาพเป็นวงจรการบริหารงานว่าประกอบด้วย Plan (วางแผน) – Do (ปฏิบัติ) C – Check (ตรวจสอบ) A – Act (ปรับปรุง) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้ปรับปรุงการทำงานในการจัดสรรทุนการศึกษา ของหน่วยงานอย่างเป็นระบบ เพื่อเป้าหมายสำคัญ คือ “การสร้างโอกาสทางการศึกษา” P – Plan กำหนดแผนงาน และวางแผนการทำงาน การดำเนินงานเพื่อจัดสรรทุนการศึกษาเริ่มต้นจากการกำหนดแผนงาน และวางแผนการทำงาน โดยนำข้อมูลผลการ ดำเนินงานที่ผ่านมามาวิเคราะห์ สังเคราะห์ และนำไปสู่การวางแผนการดำเนินงานของปีต่อไป จักรพันธ์ ลิ่มมังกูร (2561) กล่าวถึง การวางแผนว่า เป็นกระบวนการบริหารที่ช่วยสร้างแนวทางในการปฏิบัติโดยอาศัยทักษะความรู้ การคาดการณ์การตัดสินใจ การคิด วิเคราะห์เชื่อโยงอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ได้แนวทางการปฏิบัติงานที่ดีที่สุดตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ผู้ที่มีหน้าที่ในการวางแผนจึงต้องมี ความรอบรู้และมีความรอบคอบ เพื่อลดความเสี่ยง รวมถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในองค์กร การวางแผนจึงช่วยให้การดำเนินงาน บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ลดความซ้ำซ้อน รวมทั้งช่วยกำหนดทิศทางขององค์การให้นำไปสู่การพัฒนา การดำเนินงานเพื่อจัดสรร ทุนการศึกษาของงานบริการและสวัสดิการ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เห็นความสำคัญของการวางแผนงานจัดสรรทุนการศึกษา จึงเริ่มต้นจากการกำหนดแผนงาน และวางแผนการทำงาน โดยขั้นตอนนี้มีการกำหนดวัตถุประสงค์และขอบข่ายของงาน โครงสร้าง คณะทำงาน การกำหนดระบบและกลไกของการทำงาน กำหนดขั้นตอนของการทำงาน และทำเป็นแผนการดำเนินงาน (Action Plan) ในแต่ละปีการศึกษาที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์และความเหมาะสม รวมทั้งการกำหนดระบบ และกลไกของการ ดำเนินงานในส่วนของงานการจัดสรรทุนการศึกษา D – DO ดำเนินการตามแผน หลังจากกำหนดแผนงาน และวางแผนการทำงานแล้ว คณะทำงานดำเนินงานตามแผน ตามภาระงานที่กำหนดไว้ สรุปได้ ดังนี้ 1. จัดทำคำสั่งคณะทำงาน การดำเนินงานด้านการจัดสรรทุนการศึกษา มีการแต่งตั้งคณะทำงาน ประกอบด้วยคณะกรรมการอำนวยการ มีหน้าที่ให้ คำปรึกษา และอำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์ และคณะกรรมการพิจารณาทุนการศึกษา ทำหน้าที่สัมภาษณ์นักศึกษา ตามประเภทของทุน มีหน้าที่ในการสัมภาษณ์ตามวันเวลาที่กำหนด ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1.1 คณะกรรมการอำนวยการจัดสรรทุนการศึกษา ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ประกอบด้วยคณะกรรมการโดย โครงสร้างการบริหารงาน และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย ประธานกรรมการ ได้แก่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต รองประธานกรรมการ ได้แก่ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา กรรมการ ได้แก่ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานภายนอก กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานภายใน คณบดี และผู้อำนวยการกองพัฒนานักศึกษา เลขานุการ ได้แก่ หัวหน้างานบริการและ สวัสดิการนักศึกษา และผู้ช่วยเลขานุการ ได้แก่ เจ้าหน้าที่งานบริการและสวัสดิการนักศึกษา 1.2 คณะกรรมการพิจารณาทุนการศึกษาประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ประกอบด้วย ประธานกรรมการ ได้แก่ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา รองประธาน ได้แก่ ตัวแทนอาจารย์ที่มีที่มีประสบการณ์ในการสอนมาไม่น้อยกว่า 10 ปี มีประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งผู้บริหารด้านกิจการนักศึกษา การเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา และมีความรู้ด้านการให้คำปรึกษา เชิงจิตวิทยาแก่นักศึกษาเข้าใจนักศึกษา กรรมการ ได้แก่ ตัวแทนอาจารย์จากคณะต่าง ๆ ที่มีประสบการณ์การเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 8 และมีความรู้ด้านการให้คำปรึกษาเชิงจิตวิทยาแก่นักศึกษาเข้าใจนักศึกษา เลขานุการ ได้แก่ หัวหน้างานบริการและสวัสดิการนักศึกษา และผู้ช่วยเลขานุการ ได้แก่ เจ้าหน้าที่งานบริการและสวัสดิการนักศึกษา 2. รวบรวมทุนการศึกษา ขั้นตอนนี้เป็นการรวบรวมทุนการศึกษาจากผู้ประสงค์ที่จะมอบทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัย โดยทุนการศึกษาที่ได้รับมีหลายลักษณะ ซึ่งปีการศึกษา 2566 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตได้รับสนับสนุนทุนการศึกษา เป็นเงินจำนวน 6,835,950 บาท โดยจัดสรรให้นักศึกษา จำนวน 409 คน มีรายละเอียดของทุนการศึกษา ดังนี้ 2.1 ผู้สนับสนุนทุนการศึกษาจากหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย ผู้บริหาร คณาจารย์ และบุคลากร 2.2 ผู้สนับสนุนทุนการศึกษาจากหน่วยนงานภายนอกมหาวิทยาลัย เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม มูลนิธิและสมาคมต่าง ๆ บริษัท ห้างร้าน หน่วยงานเอกชน (มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย มูลนิธินายห้างโรงปูนผู้หนึ่ง ฯลฯ) 3. ประชาสัมพันธ์การจัดสรรทุนการศึกษา จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์รูปแบบต่าง ๆ ผ่านป้ายประกาศงานบริการและสวัสดิการนักศึกษา (หน้าห้องงานบริการ และสวัสดิการนักศึกษา) เว็บไซต์มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต (ข่าวนักศึกษา) https://www.pkru.ac.th เพจงานบริการและสวัสดิการ นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต บันทึกข้อความแจ้งคณะ และอาจารย์ที่ปรึกษา 4. รับสมัครนักศึกษาเพื่อเข้ารับพิจารณาทุนการศึกษา 4.1 จัดทำแบบฟอร์มใบสมัคร เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา ประกอบด้วย 4.1.1 ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด สาขาวิชา ชั้นปีการศึกษา เกรดเฉลี่ยสะสม 4.1.2 ข้อมูลผู้ปกครอง บิดา - มารดา สถานภาพ อาชีพ และรายได้ครอบครัว 4.1.3 ข้อมูลภาระหนี้สินของครอบครัว 4.1.4 ความคิดเห็นอาจารย์ที่ปรึกษา 4.1.5 ภาพประกอบบ้านที่อยู่อาศัย 4.1.6 เอกสารผลการศึกษา 4.2 การยื่นแบบฟอร์ม นักศึกษาผู้ที่มีความประสงค์ขอรับทุนการศึกษา ยื่นใบสมัครขอรับทุนการศึกษาตามระยะเวลา ในประกาศที่งานบริการและสวัสดิการนักศึกษา กองพัฒนานักศึกษา (อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ ชั้น 1) 5. สัมภาษณ์นักศึกษาเพื่อเข้ารับพิจารณาทุนการศึกษา 5.1 ประชุมทำความเข้าใจกับคณะกรรมการสัมภาษณ์ ร่วมกันกำหนดแนวทางการสัมภาษณ์ และพิจารณาเกณฑ์การ สัมภาษณ์ 5.2 จัดลำดับผู้รับการสัมภาษณ์ ตามลำดับของการสมัคร 5.3 กระบวนการสัมภาษณ์ 5.3.1 คณะกรรมการสัมภาษณ์นักศึกษาในประเด็นต่าง ๆ ทั้งสถานภาพของครอบครัว การเรียน รายรับ-รายจ่าย การทำงานเพื่อส่วนรวม และอื่น ๆ พร้อมทั้งให้แนวทางการใช้ชีวิต การเสริมกำลังใจแก่นักศึกษา 5.3.2 คณะกรรมการพิจารณาคะแนนทั้งรายบุคคล และในภาพรวม โดยกรรมการทุกท่านจะประชุมอีกครั้งเพื่อคัด กรองนักศึกษาเป็นรายบุคคลก่อนที่จะมีการสรุปคะแนน เพื่อให้การพิจารณาคัดเลือกได้นักศึกษามีคุณสมบัติเหมาะสม สอดคล้องกับ ความต้องการของผู้สนับสนุนทุนการศึกษา และในกรณีที่ผลการพิจารณายังไม่สามารถชี้ชัดได้ คณะกรรมการจะตรวจสอบด้วยวิธีการ ต่าง ๆ เช่น การสื่อสารในเฟซบุ๊กของนักศึกษา พูดคุยกับผู้ปกครอง เพื่อน อาจารย์ที่ปรึกษา การสัมภาษณ์นักศึกษาในแต่ละครั้งจะเห็นว่านักศึกษามีระดับความจำเป็นต่อการรับทุนการศึกษาที่แตกต่างกัน บางคนจึงได้รับการพิจารณาให้ได้รับทุนการศึกษา ในขณะที่บางคนไม่ได้รับการพิจารณา ดังกรณีตัวอย่างต่อไปนี้
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 9 1) นักศึกษาที่ไม่ได้รับการจัดสรรทุนการศึกษาเพราะเหตุผลในการขอรับทุนยังไม่มีน้ำหนักหรือยังไม่มีความจำเป็นมาก พอ เช่น นักศึกษามีครอบครัวที่มีรายได้สูงสามารถส่งเสียค่าเล่าเรียนได้ แต่นักศึกษาเลือกใช้สิทธิ์ของตัวเองในการขอรับทุนการศึกษา นักศึกษามีค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็นจากค่าหอพักที่มีราคาสูง นักศึกษามีศักยภาพในการทำงาน แต่ไม่ทำงานพิเศษเพื่อหารายได้เสริม นักศึกษาต้องการทุนสะสมไว้ศึกษาต่อระดับปริญญาโท นักศึกษามีทัศนคติในด้านลบต่อผู้คนที่อยู่รอบตัว 2) นักศึกษาได้รับการจัดสรรทุนการศึกษาเพราะมีเหตุผลหรือมีความจำเป็นที่มีน้ำหนักเพียงพอ เช่น นักศึกษาต้อง ทำงานส่งเสียตัวเองเรียน พร้อมทั้งส่งเสียค่าใช้จ่ายให้แก่ทางบ้าน เนื่องจากพ่อแม่พิการ พ่อแม่ติดคุก น้องกำลังศึกษา รวมทั้งบางคน ไม่มีข้อมูลผู้ปกครอง เนื่องจากขาดการติดต่อมานาน บางคนครอบครัวมีหนี้สินจำนวนมากจนทำให้ต้องตัดสินใจว่าจะลาออกจากการ เรียนเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย และทำงานปลดหนี้ให้ครอบครัว นักศึกษาบางคนมีความมุ่งมั่นในการทำงานนอกเวลาเรียนด้วยความขยัน ขันแข็ง มีทัศนคติที่ดีที่พร้อมจะสละทุนการศึกษาให้แก่คนที่ลำบากกว่าตนเอง ในกรณีที่จำนวนทุนการศึกษามีไม่เพียงพอต่อนักศึกษาที่มีความจำเป็นต้องได้รับทุน คณะกรรมการจะมีคำแนะนำ ให้นักศึกษาสมัครทุนการศึกษาอื่น ๆ ในโอกาสต่อไป นอกจากนี้คณะกรรมการยังได้เก็บข้อมูลของนักศึกษาเพื่อใช้ประกอบการให้ความ ช่วยเหลือในลักษณะอื่น ๆ เป็นต้นว่า ช่วยหาผู้จ้างงานสำหรับนักศึกษาที่มีความสามารถพิเศษ เช่น การออกแบบ การสื่อสาร ภาษาอังกฤษ ตัดผม แต่งหน้า รวมทั้งช่วยอุดหนุนอาชีพครอบครัวของนักศึกษา เช่น ช่างไม้ ช่างซ่อม ตัดเย็บ 5.4 ประกาศผลการสัมภาษณ์ทุนการศึกษา มีการประกาศผลการสัมภาษณ์ผ่านประกาศของงานบริการและสวัสดิการ นักศึกษา โดยมีผู้บริหารลงนาม ประกาศผ่านป้ายประกาศ (หน้าห้องงานบริการและสวัสดิการนักศึกษา) เว็บไซต์มหาวิทยาลัยราชภัฏ ภูเก็ต (ข่าวนักศึกษา)https://www.pkru.ac.th เพจงานบริการและสวัสดิการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต 5.5 ติดตามผลนักศึกษาทุน นักศึกษาที่ได้รับทุนการศึกษาจะมีการติดตามว่านักศึกษามีความเป็นอยู่อย่างไร โดยใช้วิธีการ การโทรศัพท์สัมภาษณ์ผู้ปกครอง การติดตามผ่านอาจารย์ที่ปรึกษา การลงพื้นที่เยี่ยมบ้านนักศึกษา เป็นต้น 5.6 ขอบคุณผู้สนับสนุนทุนการศึกษา คณะทำงานได้ดำเนินการในส่วนของการขอบคุณผู้สนับสนุนทุนการศึกษาด้วยการ ออกใบเสร็จรับเงินใช้ลดหย่อนภาษี จัดทำหนังสือขอบคุณ ประกาศเชิดชูเกียรติ ขอบคุณผ่านสื่อต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย และจัดงาน เลี้ยงเพื่อแสดงความขอบคุณ ซึ่งปี 2565 และปี 2566 คืองาน “สร้างเครือข่ายผู้สนับสนุนทุนการศึกษา” “Thanks for give a good chance” ซึ่งในงานดังกล่าวมีการมอบโล่ ประกาศเกียรติคุณ ของที่ระลึก เป็นต้น C – Check ประเมินผลการดำเนินงาน คณะทำงานติดตามผลการดำเนินงาน และสรุปผลการดำเนินงานหลากหลายรูปแบบ ทั้งการประชุมกลุ่มคณะทำงานในฝ่าย ต่าง ๆ เพื่อพูดคุยแบบเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ การตอบแบบประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาที่ขอรับทุนการศึกษา ในประเด็นของ 1) ระยะเวลาของการรับสมัคร 2) ช่องทางของการประชาสัมพันธ์ 3) ความเหมาะสมของเงินทุนการศึกษา 4) ความโปรงใสในการพิจารณาคัดเลือก 5) องค์ประกอบโดยรวมของการพิจารณาคัดเลือก ซึ่งผลการประเมินของนักศึกษา ในปีการศึกษา 2566 ผลคะแนน 4.08 อยู่ในระดับ ดีมาก A – Act ปรับปรุงเพื่อการพัฒนา คณะทำงานได้นำผลการประเมินไปสู่การพัฒนาในการดำเนินงานในโอกาสต่อไป ซึ่งข้อเสนอแนะจากผลการประเมิน ในปีการศึกษา 2566 จะนำไปสู่การดำเนินงานในปี 2567 เช่น 1. ควรระมัดระวังการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของนักศึกษาผู้ขอรับทุนการศึกษา ซึ่งคณะทำงานให้ความสำคัญกับประเด็น ดังกล่าวอยู่แล้ว จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น โดยเน้นย้ำให้ทำลายเอกสารข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดหลังการพิจารณาคัดเลือกแล้ว 30 วัน 2. ในกรณีที่ทุนการศึกษาไม่เพียงพอต่อการจัดสรรให้แก่นักศึกษา ควรมีการบันทึกข้อมูลของนักศึกษาคนดังกล่าวไว้พิจารณา สำหรับทุนการศึกษาอื่น ๆ ต่อไป 3. ควรจัดหาแหลงงานเพื่อมากขึ้นเพื่อให้นักศึกษาที่ได้รับทุนทำงานระหว่างเรียน
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 10 จากการดำเนินงานการจัดสรรทุนการศึกษาตามหลักวงจรคุณภาพ PDCA นั้น พบว่า การดำเนินงานทั้งหมดอยู่ภายใต้ นโยบายหรือการกำกับของมหาวิทยาลัย ซึ่งมีการปรับหรือยืดหยุ่นตามสภาวการณ์ ดังตัวอย่างจากสถานการณ์การแพร่ระบาด ของไวรัสโคโรนา นักศึกษาประสบปัญหาขาดแคลนทุนทรัพย์จำนวนมาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ มหาวิทยาลัยจึงมีนโนบายใน การจัดสรรทุนการศึกษาเพิ่มขึ้น แต่ขณะเดียวกันพบว่าจำนวนผู้สนับสนุนทุนการศึกษามีจำนวนน้อยลง เพราะประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่นเดียวกัน มหาวิทยาลัยจึงกำหนดนโยบายพิเศษเฉพาะกิจเพื่อช่วยเหลือนักศึกษา เช่น การหางานพิเศษในมหาวิทยาลัยให้นักศึกษา ได้ทำเพื่อหารายได้ระหว่างเรียน การจัดสรรเงินบางส่วนของมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นทุนการศึกษา เป็นต้น ทั้งนี้ ด้วยวัตถุประสงค์สำคัญ คือ เพื่อให้นักศึกษามีทุนการศึกษาสำหรับสร้างโอกาสด้านการศึกษาให้แก่ตนเอง การขับเคลื่อนการดำเนินงานจัดสรรทุนการศึกษา เหล่านี้จะต้องควบคู่กับการประเมินผล การสะท้อนจุดอ่อน จุดแข็ง (SWOT Analysis) เพื่อนำข้อมูลไปแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนา การดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งต้องอาศัยความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลนักศึกษาที่จะต้องทำงาน ไปด้วยกัน เพื่อให้การดูแลนักศึกษาเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง การดำเนินงานจัดสรรทุนการศึกษาตามหลักวงจรการควบคุมคุณภาพ PDCA ของงานบริการและสวัสดิการ สรุปได้ดังภาพต่อไปนี้ ภาพที่ 1 การดำเนินงานจัดสรรทุนการศึกษาตามหลักวงจรการควบคุมคุณภาพ PDCA 1. แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการคณะกรรมการสำภาษณ์ทุน 2. ประชุมคณะกรรมการ/พิจารณาเกณฑ์การพิจารณา ทุนการศึกษา 3. ประกาศรับสมัครนักศึกษาขอรับทุนการศึกษา 4. ตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติผุ้สมัครทุนการศึกษา 5. ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติ 6. ดำเนินการสัมภาษณ์นักศึกษา 7. ประกาศผลการพิจารณา 8. นักศึกษารายงานตัวเพื่อรับทุนการศึกษา 9. รับทุนการศึกษา 10. ติดตามนักศึกษาทุน 11. ประเมินผลการดำเนินงาน จัดหาทุน/ จัดทุนการศึกษา
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 11 สรุป ประสิทธิภาพของการทำงานให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ต้องอาศัยทักษะวิธีการทำงานที่เหมาะสม เป็นตัวชี้วัดผล ของการทํางานว่าสามารถปฏิบัติงานได้มีคุณภาพมากน้อยเพียงใด มีความคุ้มค่ากับทรัพยากรที่สูญเสียไปหรือไม่ (กฤตภาคิน มิ่งโสภา และณกลม จันทร์สม, 2564) เช่นเดียวกับการการดำเนินงานจัดสรรทุนการศึกษาของงานบริการและสวัสดิการที่วางแผนการทำงาน อย่างเป็นระบบ โดยยึดหลักการทำงานและการบริหารงานด้วยหลัก PDCA ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือนักศึกษาได้รับการจัดสรรทุนการศึกษา เพื่อนำไปใช้ในการศึกษาเล่าเรียน หรือใช้จ่ายอื่น ๆ ตามความจำเป็น ถือเป็นการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักศึกษาได้อย่าง เหมาะสม นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้นักศึกษาได้เห็นว่ายังมีผู้ให้ความสำคัญ และให้กำลังใจในการใช้ชีวิต และการเรียน เป็นพลังสำคัญในการศึกษาหาความรู้จนสำเร็จการศึกษา เป็นกำลังสำคัญในการนำความรู้ไปใช้พัฒนาตนเอง สังคม และประเทศชาติ ต่อไป เอกสารอ้างอิง กฤตภาคิน มิ่งโสภา และณกลม จันทร์สม. (2564). แรงจูงใจที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน. วารสารวิทยาการจัดการปริทัศน์. 23(2), 209-222 [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/msaru/article/ view/254445/171272. (2567, 9 มกราคม). จักรพันธ์ ลิ่มมังกูร. (2561). แนวทางการพัฒนากระบวนการวางแผนพัฒนาท้องถิ่นแบบมีส่วนร่วมของเทศบาลตำบลเจดีย์แม่ครัว อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่. ปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลับแม่โจ้. [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก http://ir.mju.ac.th/dspace/bitstream/123456789/116/1/6005304001.pdf (2567, 9 มกราคม). นันทรัตน์ปีสาร. (2547). สภาพและแนวทางในการจัดการศึกษา ขององค์การบริหารส่วนตำบล จังหวัดสมุทรสาคร. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร. [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก DOI: https://doi.nrct.go.th/ListDoi/listDetail?Resolve_ DOI=10.14457/SU.the.2004.322 (2567, 9 มกราคม). วิฑูรย์สมะโชคดี. (2550). การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพฯ: เนตรนิมิตการพิมพ์. ศักรินทร์ ชนประชา. (2562). การศึกษาตลอดชีวิต. วารสาร AL-NUR บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยฟาฏอนี. 14(26), 159-175. [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/NUR_YIU/article/view/137662/145886 (2567, 9 มกราคม). สำนักพัฒนาทรัพยากรบุคคล. (2560). ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรคุณภาพ หัวข้อ “การจัดสรรทุนการศึกษา”. ม.ป.ท. [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก https://www.senate.go.th/assets/portals/49/news/78/2_km13-60.pdf) (2567, 9 มกราคม). สิทธิโชค เสนาะน้อย. (2565). ทุนการศึกษา; โอกาส ความเหลื่อมล้ำ ความซ้ำซ้อน : บริหารทุนการศึกษาอย่าไรให้เกิดความเสมอ ภาค?. วารสารสมาคมพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษาแห่งประเทศไทย. [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JAPDEAT/article/view/252213. 4(2), 47-54 (2566, 9 มกราคม). THAIRATH Money. (2565). เปิดเทอม 65 ผู้ปกครองกังวลปัญหาการเงิน พบ 70.8% ต้องก่อหนี้นำมาใช้จ่าย. เข้าถึงได้จาก https://www.thairath.co.th/money/economics/analysis/2389446 (2566, 9 มกราคม).
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 12 การพัฒนา Soft Skills ในการทำงานสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต The Development of Working Soft Skills for Undergraduate Students, Phuket Rajabhat University. RA ธนกรณ์ ชัยธวัช1 , สิรินธร สินจินดาวงศ์2 Thanakorn Chaithawat1 , Sirinthorn Sinjindawong2 บทคัดย่อ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษา Soft Skills ในการทำงานสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีตามความ ต้องการของผู้ใช้บัณฑิต ของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต 2) เพื่อออกแบบและพัฒนา Soft Skills ในการทำงานสำหรับนักศึกษาระดับ ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และ 3) เพื่อวัด Soft Skills ในการทำงานสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัย ราชภัฏภูเก็ตก่อนและหลังการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาทักษะ กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย ผู้ให้ข้อมูลหลักเป็นผู้ใช้บัณฑิตในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 5 คน และ ตัวแทนนักศึกษา ชั้นปีที่ 4 จำนวน 156 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณสถิติพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติอ้างอิงสำหรับการทดสอบสมติฐานใช้ค่า Paired – Sample t-test ผลการศึกษา พบว่า (1) ผู้ใช้บัณ ฑิตมีความต้องการทักษะ Soft Skills ในการทำงาน ของนักศึกษา โดยจัดลำดับความสำคัญ 3 ลำดับแรก ดังนี้ ความสามารถในการปรับตัวในการทำงาน ทักษะการสื่อสาร และความคิดสร้างสรรค์ (2) การออกแบบและพัฒนา Soft Skills ในการทำงานสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นักศึกษาทั้ง 5 คณะ จัดรูปแบบของหลักสูตรแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การบรรยายเชิงปฏิบัติการ และการจัดกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ แผนการจัดกิจกรรมกำหนด 7 ขั้นตอนโดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) (3) การวัด Soft Skills ในการทำงานสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตก่อนและหลังการเข้า ร่วมกิจกรรมพัฒนาทักษะ การประเมินการวัด Soft Skills (ก่อนการพัฒนา-หลังการพัฒนา) ในภาพรวมจำแนกเป็นรายด้าน โดยรวมก่อนการพัฒนาอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ย 2.63 และโดยรวมหลังการพัฒนา อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.76 ผลการเปรียบเทียบSoft Skills ในการทำงานหลังการพัฒนาสูงกว่าก่อนการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คำสำคัญ: ซอฟท์สกิลล์การพัฒนา ระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต 1 กองพัฒนานักศึกษา สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต 2มหาวิทยาลัยศรีปทุม
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 13 บทนำ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน และกำกับดูแลการอุดมศึกษา ให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยมีความเป็นอิสระทางวิชาการและการบริหารจัดการ ให้มีการพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับ ความต้องการของประเทศ และให้ดำเนินการวิจัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพัฒนาชุมชน สังคม และประเทศ (Office of the Council of State, 2019) โดยมีนโยบายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 คือ การสร้างและพัฒนาคน ซึ่งภารกิจการสร้างและพัฒนาคน สร้างบัณฑิตควบคู่ไปกับ การสร้างกระบวนการการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-Long Learning) ทั้งในด้านขององค์ความรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skills) และหลักคิดที่ถูกต้อง (Mindset) พร้อมเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 โดยการสร้างบัณฑิตที่มุ่งเรียนรู้ จากการปฏิบัติจริงอย่างเป็น รูปธรรม การเสริมสร้างทักษะความรู้ใหม่ที่พร้อมรับเทคโนโลยีทันสมัย ควบคู่ไปกับการสร้างกำลังคนระดับสูง (Brain Power) ร่วมกับ เครือข่ายระดับโลก จุดเน้นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีจุดเน้นในการสร้างและพัฒนาคน คือ (Man Power) ซึ่งเป็นการสร้างและพัฒนาคนที่กลางน้ำ (Midstream) โดยการ Reskill (พัฒนาทักษะใหม่) และ (Upskill) (เพิ่มทักษะ) มีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน รวมทั้งกลุ่มคนที่ต้องการเรียนรู้แบบ (Non-Degree) ภายใต้กรอบแนวคิด “การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-long Learning)” เพื่อตอบโจทย์ประเทศในสภาวะการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว (Disruption) การสร้างกำลังคนที่จบวุฒิปริญญาไม่ทันต่อความต้องการเร่งด่วนด้านการลงทุนของภาคอุตสาหกรรม รวมถึงปัญหา เรื่องทักษะจากวุฒิการศึกษาที่ไม่ตอบสนองต่อความต้องการของสถานประกอบการ (Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation, 2020) ปัจจุบันสภาพการเรียนรู้ของนิสิต นักศึกษาในมหาวิทยาลัย พบว่า สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยและชุมชนยังไม่เอื้อ ต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต เนื่องจากไม่มีกิจกรรมและบรรยากาศที่จะส่งเสริมเพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่บรรยากาศ ในการเรียนรู้จะเกิดขึ้นเฉพาะที่ในมหาวิทยาลัยเท่านั้น ทั้งนี้ การจัดการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยยังไม่เอื้อต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต อย่างแท้จริง กล่าวคือ สิ่งที่นิสิต นักศึกษาได้เรียนรู้จากห้องเรียน ยังไม่สอดคล้องกับการนำไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างเต็มที่ ไม่มีอิสระ ในการเรียนรู้เท่าที่ควร ไม่สามารถเลือกในสิ่งที่ตนสนใจหรือต้องการที่จะเรียนรู้ ไม่สามารถ กำหนดเวลาเรียนและสถานที่เรียนได้ด้วย ตนเอง รวมทั้งการจัดการเรียนการสอนจะเน้นเรียนแบบท่องจำ เพื่อนำไปสอบให้ผ่านหรือเรียนต่อในขั้นสูงมากกว่าการนำความรู้ ไปใช้ได้จริง ตลอดจนการวัดและประเมินผลการเรียน เน้นการวัดความรู้ความจำในเนื้อหาที่ได้เรียนมากกว่าเน้นการประเมิน พัฒนาการของผู้เรียนหรือการนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน และยังไม่เป็นการประเมินผลตามสภาพจริงด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ การเรียนรู้ ไม่เกิดประโยชน์ต่อชีวิต ทำให้นิสิตนักศึกษาบางกลุ่มไม่สามารถศึกษาต่อในขั้นสูงได้ เพราะสอบแข่งขันไม่ได้จึงไม่มีแรงจูงใจ ที่จะศึกษาต่อ รวมทั้งนิสิต นักศึกษาจำนวนมากศึกษาจบแล้วหางานทำไม่ได้ และไม่มีความรู้ทักษะ (Skills) ที่เพียงพอที่จะประกอบ อาชีพเองได้ เนื่องจากการจัดการศึกษาในปัจจุบัน ไม่ได้ให้เครื่องมือแก่ผู้เรียนที่จะแสวงความรู้ด้วยตัวเองในภายหน้า แต่เน้นการป้อน เนื้อหาความรู้ให้แก่ผู้เรียน รวมทั้งยังไม่เน้นที่จะฝึกให้ผู้เรียนรู้ถึงวิธีการแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง หรือจะเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ ตลอดชีวิต ด้วยเหตุผลที่มหาวิทยาลัยบางแห่งยังขาดอุปกรณ์สนับสนุนการเรียนรู้ อาทิ ห้องสมุดมีหนังสือจำนวนน้อยและไม่ทันสมัย ระบบคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ประกอบกับอาจารย์ไม่ได้มอบหมายงานให้ผู้เรียน ศึกษาค้นคว้า หาความรู้ได้ด้วยตัวเองจากห้องสมุด นอกจากนั้น เมื่อนิสิต นักศึกษาเรียนจบออกไปทำงานแล้ว สถานที่ทำงาน ทั้งในภาครัฐและ เอกชน ก็ไม่ได้ส่งเสริมให้บุคลากรได้เรียนรู้หรือการพัฒนาทักษะ (Skills) รวมทั้งความรู้ โอกาสในการเรียนรู้ ระหว่างการทำงาน มีค่อนข้างน้อย แม้ว่านิสิตนักศึกษาจะกำลังเรียนรู้ชีวิต และสิ่งต่าง ๆ อยู่เป็นประจำทุกวัน ทั้งนี้ เพราะในระหว่างการเรียน ในสถานศึกษา นิสิตนักศึกษาไม่ได้รับการสอนให้รู้จักการเรียนรู้จาก สิ่งต่าง ๆ รอบตัว ดังนั้น จึงทำให้ความสามารถของคนทำงาน น้อยลงตามอายุงาน แทนที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วย (Chaiya et al., 2019) ในปัจจุบัน ทักษะ (Skills) มีความสำคัญและจำเป็นในการดำรงชีวิต เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะช่วยให้บุคคลมีการพัฒนาการเรียนรู้ พัฒนาบุคคลให้มีสมรรถนะ พัฒนาความสามารถของบุคคลในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นทักษะทางวิชาชีพ ทักษะการเป็นพลเมือง และพลโลก และทักษะ Soft Skills เป็นต้น (Jamjan, 2007) ซึ่ง Soft Skills เป็นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการทำงาน ประกอบ
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 14 ไปด้วยทักษะต่าง ๆ หลายทักษะ เช่น ทักษะในการสื่อสาร ทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา การทำงานเป็นทีม การเรียนรู้ตลอด ชีวิตและการจัดการข้อมูล ทักษะความสำคัญระหว่างบุคคล จริยธรรมและทักษะการเป็นมืออาชีพ และทักษะความเป็นผู้นำ ล้วนมี ความจำเป็น และมีความสำคัญกับการทำงานในยุคปัจจุบัน (Chotikeerativatch and Ariratana, 2017) อย่างไรก็ตาม สถาบันการศึกษาต้องย้อนกลับมาคิดทบทวนและวางแผนในเรื่องของกระบวนการผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพ ตามที่ตลาดแรงงานต้องการให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งนักศึกษาที่จะจบไปเป็นบัณฑิตนั้น จะต้องมีทักษะ Soft Skills เพื่อเป็นการส่งเสริมทักษะ ในการทำงานให้มีความเหมาะสมกับความต้องการของตลาดแรงงานหรือสถานประกอบการต่าง ๆ (Inta, 2019) จากความสำคัญและสภาพปัญหาอุปสรรคข้างต้น ส่งผลให้ทักษะ Soft Skills เป็นการพัฒนาทักษะที่จำเป็น ในการทำงาน และเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้นิสิต นักศึกษา เป็นผู้ที่มีความสามารถในการรู้จักวิธีการให้ได้มาซึ่งความรู้โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่อง ของระยะเวลา จนทำให้เกิดการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การที่จะเป็นผู้มี ทักษะ Soft Skills เรียนรู้ตลอดชีวิตได้นั้น ผู้เรียน จำเป็นต้องมีทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อสนองตอบต่อความต้องการของสถานประกอบการ และในฐานะผู้วิจัยได้ปฏิบัติหน้าที่ ในสถาบันอุดมศึกษา จึงมีความสนใจที่จะศึกษาเรื่อง “การพัฒนา Soft Skills ในการทำงานสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต” เพื่อเสนอหลักการและแนวคิดเกี่ยวกับการการพัฒนา Soft Skills ในการทำงาน ได้แก่ ความหมาย ความจำเป็น และความสำคัญ หลักการ ปัญหาและอุปสรรคทักษะการเรียนรู้ และแนวทางการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ สำหรับนิสิต นักศึกษามหาวิทยาลัย เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพบัณฑิตให้เป็นผู้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นในการทำงาน (Soft Skills) อันจะนำไปสู่การพัฒนาคนของประเทศ สู่สังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน และส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆ ต่อไป วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษา Soft Skills ในการทำงานสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีตามความต้องการของผู้ใช้บัณฑิตของมหาวิทยาลัย ราชภัฏภูเก็ต 2. เพื่อออกแบบและพัฒนา Soft Skills ในการทำงานสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต 3. เพื่อวัด Soft Skills ในการทำงานสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตก่อนและหลังการเข้าร่วม กิจกรรมพัฒนาทักษะ แนวคิดที่เกี่ยวข้อง ในช่วงเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา สถาบันการศึกษาของไทยเร่งผลิตบัณฑิต โดยเน้นทักษะความรู้ทางวิชาชีพหรือ (Hard Skills) อย่างมากโดยไม่มีการสอนในเรื่อง (Soft Skills) กันอย่างจริงจังการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรของบริษัทหลายแห่ง จึงใช้วิธีดู ว่าบัณฑิตจบใหม่ มีทักษะด้าน (Soft Skills) หรือไม่ จากกิจกรรมในระหว่างการเรียน โดยเชื่อกันว่า คนที่เคยทำกิจกรรมระหว่างการ เรียน มักจะมีทักษะด้านคนเก่ง หรือ (Soft Skills) มากกว่าคนที่เรียนเก่งได้คะแนนสูง แต่ไม่เคยร่วมกิจกรรมหรือทำงานร่วมกับคนอื่น เลย ทั่วโลกต่างยอมรับกันว่าคนที่มีไอคิวสูงอย่างเดียว ไม่อาจประสบความสำเร็จในการทำงานหรือการดำเนินธุรกิจ หากขาดการ พัฒนา (Soft Skills) อย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นคนเก่งยุคใหม่ต้องมีทักษะทั้ง 2 ด้าน คือ เก่งทั้งงานและเก่งทั้งคน ซึ่งเป็นสุดยอด ปรารถนาของทุกองค์การ นักวิชาการบางท่านเรียกทักษะด้านนี้ว่า (People Management Competency) ซึ่งคนที่มีทักษะด้านนี้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารหรือหัวหน้างานเสมอไป พนักงานระดับต่าง ๆ ก็ควรจะต้องมี ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วก็จะทำให้เกิด วัฒนธรรมองค์การที่ดีซึ่งชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการพัฒนา Soft Skills ในการทำงาน John (2 0 1 0 ) ได้ ศึ ก ษ า เรื่ อ ง Relevance of Employee Development Plans in Employee Performance Management ผลการศึกษา พบว่า แผนพัฒนาทักษะพนักงานเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยที่นำมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ของพนักงานและเพื่อให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพื้นที่ที่พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากศักยภาพและทักษะของพวกเขาได้ระบุ แนวทางการดำเนินการที่จะต้องดำเนินการเพื่อปรับปรุงการปฏิบัติงานของพนักงาน แผนการพัฒนาทักษะพนักงานมีความเกี่ยวข้องสูง
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 15 ในองค์การปัจจุบันที่จัดตั้งขึ้น เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการมุ่งเน้นระบบการประเมินผลงานทั่วโลก การมุ่งเน้น ได้เปลี่ยนจากรางวัลจูงใจและการลงโทษไปสู่ความจำเป็นในการกำหนดวางแผนและจัดการผลการปฏิบัติงานของพนักงานปัจจุบัน องค์การต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการจัดการผลงานของพนักงาน Bangkok Bank (2020) ได้ศึกษาเกี่ยวกับการทำงานให้ประสบ ความสำเร็จหรือการวัดคุณภาพของคนเพื่อรับเข้าทำงาน พบว่า การทำงานในปัจจุบันคนทำงานที่องค์กรต้องการและเป็นการปูทางให้ ชีวิตประสบความสำเร็จในสังคมการงาน (Soft Skills) จึงกลายมาเป็นทักษะสำคัญที่คนทำงานต้องมีเป็นอย่างมากในศตวรรษที่ 21 (Soft Skills) จึงตัวช่วยที่จำให้ได้ตำแหน่งงานที่ต้องการรวมไปถึงความก้าวหน้าในหน้าที่การงานที่คาดหวัง เมื่อบัณฑิตสำเร็จการศึกษาและได้เข้าทำงาน ทำให้ผู้ใช้บัณฑิตมีความคาดหวังต่อคุณลักษณะของบัณฑิตที่พึงประสงค์ ด้านทักษะทางปัญญา ซึ่งเป็นทักษะที่บัณฑิตต้องมีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ และกล้าคิด กล้าทำ เมื่อเกิดปัญหาสามารถคิดวิเคราะห์ ปัญหาได้อย่างเหมาะสม สามารถเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาได้ เป็นบุคคล ที่กล้าตัดสินใจบนพื้นฐานขององค์ความรู้ กล้าตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วเหมาะสมกับสถานการณ์ที่ต้องเผชิญ Kathry and Martin (1991) ได้กล่าวถึง ทฤษฎีความคาดหวัง ตามแนวคิดของ Vroom ว่าจะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐาน 3 องค์ประกอบ คือ ความคาดหวังในความพยายามต่อผลการ ปฏิบัติงาน ความคาดหวังในผลการปฏิบัติงานต่อผลลัพธ์ และความคาดหวังในคุณค่าของผลลัพธ์ ซึ่งบุคคลจะทุ่มเทความพยายาม ในการทำงานหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาองค์ประกอบทั้งสามภายใต้สถานการณ์ที่กำหนด แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) (Office of the Basic Education Commission, 2013; Keamanee, 2006) กล่าวว่า การเรียนการสอนแบบซิปปาเป็นรูปแบบของการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง รูปแบบหนึ่งที่ได้รับความสนใจและมีนักการศึกษาให้คำจำกัดความของการจัดการเรียนการสอนแบบซิปปา โดนประกอบด้วย 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การทบทวนความรู้เดิม 2) การแสวงหาความรู้ใหม่ 3) การศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยง ความรู้ใหม่กับความรู้เดิม 4) การแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม 5) การสรุปและจัดระเบียบความรู้ 6) การปฏิบัติ และ/หรือการ แสดงผลงาน 7) การประยุกต์ใช้ความรู้ วิธีดำเนินการ ประชากรของการศึกษาครั้งนี้ คือ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ระดับชั้นปีที่ 4 จำนวน 1,400 คน ประกอบด้วย 5 คณะ คือ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 141 คน คณะครุศาสตร์ จำนวน 340 คน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จำนวน 397 คน คณะวิทยาการจัดการ จำนวน 473 คน และคณะเทคโนโลยีการเกษตร จำนวน 49 คน กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยการ คำนวณด้วยโปรแกรม G*Power 3.1.2 (SrisathitNarakun, 2010) กำหนดขนาดอิทธิพล .20 ค่าความคลาดเคลื่อน .05 และอำนาจ ทดสอบ .80 จึงจะสามารถประมาณค่าร้อยละ โดยมีความผิดพลาด ไม่เกินร้อยละ 5 ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 156 คน แบบวัดผลสัมฤทธิ์การพัฒนา Soft Skills ในการทำงาน เป็นเครื่องมือของการศึกษา ครั้งนี้ ประกอบ ไปด้วย 3 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 สอบถามข้อมูลเบื้องต้น จำนวน 3 ข้อ ตอนที่ 2 สอบถามเกี่ยวกับ Soft Skills ในการทำงานมีจำนวน 7 ด้าน 1) ทักษะในการ สื่อสาร 2) ทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา 3) ทักษะการทำงานเป็นทีม 4) ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการจัดการข้อมูล 5) ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล 6) จริยธรรมและทักษะการเป็นมืออาชีพ 7) ทักษะความเป็นผู้นำ ใช้มาตรวัดแบบลิเคิร์ท (Likert scale) จำนวน 5 ระดับ ซึ่ง 5 หมายถึง มากที่สุด และ 1 หมายถึง น้อยที่สุด ตามลำดับ ทั้งนี้ผลการทดสอบค่าความเที่ยง (Reliability) ด้วยวิธีแอลฟ่าครอนบาร์ค มีค่าระหว่าง 0.97 ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลได้ใช้สถิติพื้นฐานเพื่ออธิบายลักษณะทั่วไปของกลุ่ม ตัวอย่าง ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน รวมทั้งการวิเคราะห์ด้วยสถิติภาคสรุปอ้างอิง เพื่อเปรียบเทียบผลก่อนการพัฒนาและหลังการพัฒนาใช้ค่า Paired – Sample t-test
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 16 ผลการศึกษาและอภิปรายผล ผลการสัมภาษณ์เชิงลึกเกี่ยวกับ Soft Skills ในการทำงาน ผู้ให้ข้อมูลหลัก ทั้ง 5 ท่านให้ความสำคัญในภาพรวมสามารถสรุป ในแต่ละประเด็นได้ ดังนี้ด้านการบริการเวลา ต้องมีความยืดหยุ่น (Flexible) การส่งเสริมการบริหารเวลา คือ จัดกิจกรรมปลูกฝัง ให้พนักงานเกิดการเรียนรู้ในการใช้เวลาให้เกิดความคุ้มค่า และเป็นประโยชน์ เพื่อส่วนรวมต่อสังคมและชุมชน, ด้านการเรียนรู้ตลอด ชีวิต เป็นสิ่งสำคัญมาก เป็นเรื่องของความรู้รอบตัว จะสามารถพูดคุยเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี การเรียนรู้ ตลอดชีวิตไม่ใช่เป็นการเรียนในเฉพาะสาขาที่ตัวเองทำงาน แต่จะต้องเรียนข้ามศาสตร์ รวมถึงเรื่องความรู้รอบตัวอื่นๆ หรือการเรียนรู้ ผ่านงานอดิเรกต่าง ๆ, ความฉลาดทางอารมณ์ ต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ตนเอง สามารถบริหารจัดการอารมณ์ตนเองได้อย่างถูกต้อง และเป็นทักษะจำเป็นที่ต้องจัดการให้เกิดประสิทธิภาพ, ความสามารถในการปรับตัวในการทำงาน สถานประกอบการ มีความหลากหลายมาก พนักงานต้องเตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์ในการทำงานทุกๆ รูปแบบ, การทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญ มาก ปัจจุบันความต้องการของลูกค้าต้องการการตอบสนองอย่างทันท่วงที การทำงานระบบทีมจึงถือเป็นการร่วมมือและหาทางออก ร่วมกันอย่างดีที่สุด, วิธีการสื่อสารทักษะการสื่อสาร เป็นทักษะที่คนภาคใต้ขาดทุนกว่าคนภาคอื่น ๆ เนื่องจากบุคลิกของคนภาตใต้ จะพูดจาห้วนและขาดความนุ่มนวล กิจกรรมในการส่งเสริม คือ ใช้การอบรมด้านทักษะการสื่อสารและการใช้ภาษา, การแก้ไขปัญหาที่ มีความซับซ้อน งานทุกงานพร้อมเกิดปัญหาขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้น พนักงานต้องมีปฏิภาณไหวพริบในการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขความซับซ้อนของงานได้, การคิดเชิงวิเคราะห์และเลือกตัดสินใจมี ความสำคัญต่อการทำงาน ต้องเป็นผู้ตัดสินใจที่ถูกต้อง รวดเร็ว รอบคอบ รอบรู้หลายด้านมากขึ้น เช่น ความรู้ด้านต้นทุน ความรู้ด้าน การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมนักท่องเที่ยว และ ความคิดสร้างสรรค์ จะมีความสำคัญต่อการทำงานในอนาคตหากพนักงานมีความคิด สร้างสรรค์และกล้านำเสนอจะสามารถช่วยให้เกิดการพัฒนาองค์กร ข้อมูลส่วนบุคคลของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีจำนวน 82 คน คิดเป็น ร้อยละ 52.60 รองลงมาเป็นเพศชาย จำนวน 74 คน คิดเป็นร้อยละ 47.40 ผู้เข้าร่วมการพัฒนาก่อนและหลัง มีอายุระหว่าง 17-20 ปี จำนวน 50 คน คิดเป็นร้อยละ 32.10 อายุระหว่าง 21-24 ปี จำนวน 60 คน คิดเป็นร้อยละ 38.50 และอายุ 25 ปีขึ้นไป จำนวน 46 คน คิดเป็นร้อยละ 29.50 คณะที่เข้ารับการพัฒนาส่วนใหญ่ คณะวิทยาการจัดการ จำนวน 52 คน คิดเป็นร้อยละ 33.30 รองลงมา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จำนวน 45 คน คิดเป็นร้อยละ 28.80 ตามลำดับ แสดงดังตารางที่ 1 ตารางที่1 ข้อมูลส่วนบุคคลของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ปัจจัยส่วนบุคคล จำนวน ร้อยละ เพศ ชาย 74 47.40 หญิง 82 52.60 อายุ 17-20 ปี 50 32.10 21-24 ปี 60 38.50 25 ปีขึ้นไป 46 29.50 คณะที่สังกัด คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 15 9.60
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 17 คณะครุศาสตร์ 38 24.40 คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ 45 28.80 คณะวิทยาการจัดการ 52 33.30 คณะเทคโนโลยีการเกษตร 6 3.80 การประเมินการวัด Soft Skills (ก่อนการพัฒนา-หลังการพัฒนา) ในภาพรวม จำแนกเป็นรายด้าน โดยรวมก่อนการพัฒนา อยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ย 2.63 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.60 และโดยรวมหลังการพัฒ นาอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.76 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.65 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน สามารถอธิบายได้ดังนี้ ทักษะในการสื่อสาร พบว่า ผลการ ประเมินการวัด Soft Skills ก่อนการพัฒนาอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ย 2.88 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.57 และหลังการพัฒนาอยู่ ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.75 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.61ทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา พบว่า ผลการประเมินการวัด Soft Skills ก่อนการพัฒนาอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ย 2.77 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.65 และหลังการพัฒนาอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.77 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.72 ทักษะการทำงานเป็นทีม พบว่า ผลการประเมินการวัด Soft Skills ก่อนการพัฒนาอยู่ ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ย 2.69 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.67 และหลังการพัฒนาอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.79 ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน 0.68 ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการจัดการข้อมูล พบว่า ผลการประเมินการวัด Soft Skills ก่อนการพัฒนาอยู่ในระดับ น้อย มีค่าเฉลี่ย 2.51 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.53 และหลังการพัฒนาอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.76 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.55 ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล พบว่า ผลการประเมินการวัด Soft Skills ก่อนการพัฒนาอยู่ในระดับน้อย มีค่าเฉลี่ย 2.58 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.57 และหลังการพัฒนาอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.77 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.75 จริยธรรมและทักษะ การเป็นมืออาชีพ พบว่า ผลการประเมินการวัด Soft Skills ก่อนการพัฒนาอยู่ในระดับน้อย มีค่าเฉลี่ย 2.46 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.59 และหลังการพัฒนา อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.74 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.70 ทักษะความเป็นผู้นำ พบว่า ผลการประเมิน การวัด Soft Skills ก่อนการพัฒนาอยู่ในระดับน้อย มีค่าเฉลี่ย 2.57 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.64 และหลังการพัฒนาอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.79 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.65 ดังตารางที่ 2 ตารางที่ 2 แสดงผลการประเมินการวัด Soft Skills (ก่อนการพัฒนา-หลังการพัฒนา) ในภาพรวม ข้อมูลเกี่ยวกับ Soft Skills ในการทำงาน ก่อน (n=156) หลัง (n=156) X S.D. ระดับ X S.D. ระดับ 1. ทักษะในการสื่อสาร 2.88 0.57 ปานกลาง 3.75 0.61 มาก 2. ทักษะการคิดวิเคราะห์และ แก้ปัญหา 2.77 0.65 ปานกลาง 3.77 0.72 มาก 3. ทักษะการทำงานเป็นทีม 2.69 0.67 ปานกลาง 3.79 0.68 มาก 4. ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต และการจัดการข้อมูล 2.51 0.53 น้อย 3.76 0.55 มาก
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 18 5. ทักษะความสัมพันธ์ระหว่าง บุคคล 2.58 0.57 น้อย 3.77 0.75 มาก 6. จริยธรรมและทักษะการ เป็นมืออาชีพ 2.46 0.59 น้อย 3.74 0.70 มาก 7. ทักษะความเป็นผู้นำ 2.57 0.64 น้อย 3.79 0.65 มาก รวม 2.63 0.60 ปานกลาง 3.76 0.65 มาก การทดสอบสมมติฐานการวิจัย นักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตเข้ารับการพัฒนาทักษะจะทำให้ นักศึกษามี Soft Skills สูงขึ้นกว่าก่อนการพัฒนา พบว่า นักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตเข้ารับการพัฒนาทักษะ ด้านทักษะในการสื่อสาร ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา ด้านทักษะการทำงานเป็นทีม ด้านทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต และการจัดการข้อมูล ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ด้านจริยธรรมและทักษะการเป็นมืออาชีพ และด้านทักษะความเป็นผู้นำ โดยการทดสอบ ปรากฏว่ามีค่า Sig น้อยกว่า .05 จึงปฏิเสธสมมติฐานหลัก H0 และยอมรับสมมติฐานรอง H1 หมายความว่า นักศึกษา ระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตเข้ารับการพัฒนาทักษะจะทำให้นักศึกษามี Soft Skills สูงขึ้นกว่าก่อนการพัฒนาการ เรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อพิจารณาการวิเคราะห์เปรียบเทียบค่าเฉลี่ย ของการวัดซ้ำของกลุ่มตัวอย่างจะเห็น ได้ว่าก่อนการพัฒนา และหลังการพัฒนา ผลการทดสอบมีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าก่อนการพัฒนาในทุกด้าน ดังตารางที่ 3 ตารางที่ 3 ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบ Soft Skills ในการทำงาน *ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 ข้อมูลเกี่ยวกับ Soft Skills ในการทำงาน ก่อน (n=156) หลัง (n=156) t Sig X S.D. X S.D. 1. ทักษะในการสื่อสาร 2.88 0.57 3.75 0.61 -12.298* .000 2. ทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา 2.77 0.65 3.77 0.72 -12.376* .000 3. ทักษะการทำงานเป็นทีม 2.69 0.67 3.79 0.68 -14.737* .000 4. ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการจัดการข้อมูล 2.51 0.53 3.76 0.55 -19.342* .000 5. ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล 2.58 0.57 3.77 0.75 -15.228* .000 6. จริยธรรมและทักษะการเป็นมืออาชีพ 2.46 0.59 3.74 0.70 -16.580* .000 7. ทักษะความเป็นผู้นำ 2.57 0.64 3.79 0.65 -15.998* .000 ภาพรวม 2.63 0.60 3.76 0.66 15.21* .00
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 19 การพัฒนา Soft Skills ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตที่มีผลต่อการทำงาน ผู้ศึกษา ได้ดำเนินการตามกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแบบซิปปา (CIPPA MODEL) นักศึกษาทั้ง 5 คณะ ได้รับองค์ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนา Soft Skills โดยผู้วิจัยมุ่งเน้นให้นักศึกษามีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ต้องการ ให้เกิดขึ้นกับนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตที่มีผลต่อการทำงานอันเป็นคุณลักษณะที่สังคมต้องการ คือ การที่ นักศึกษามีทักษะ Soft Skills ที่จำเป็นในด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม จิตสำนึก สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยเฉพาะสังคมการทำงานที่มีคุณภาพ ด้านความรู้ และทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง และแสวงหา ความรู้ เพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต รวมทั้งเจตคติ ที่จำเป็นต่อการศึกษาต่อการประกอบอาชีพ และการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นให้นักศึกษาที่จบการศึกษาออกไปเป็นสำคัญ บนพื้นฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้ และพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ ซึ่งในการพัฒนา Soft Skills นักศึกษาระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ต้องอาศัยองค์ประกอบ ด้วยกันหลายด้านจึงจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ความต้องการของผู้ใช้บัณฑิตของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตสอดคล้องกับ John (2010) ได้ศึกษาเรื่อง Relevance of Employee Development Plans in Employee Performance Management ผลการศึกษาพบว่า แผนพัฒนาทักษะพนักงานเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยที่นำมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของพนักงานและเพื่อให้ได้รับข้อมูลเชิงลึก เกี่ยวกับพื้นที่ที่พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากศักยภาพและทักษะของพวกเขาได้ระบุ แ นวทางการดำเนินการที่จะต้อง ดำเนินการเพื่อปรับปรุงการปฏิบัติงานของพนักงาน แผนการพัฒนาทักษะพนักงานมีความเกี่ยวข้องสูงในองค์การปัจจุบันที่จัดตั้งขึ้น เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการมุ่งเน้นระบบการประเมินผลงานทั่วโลก และ การพัฒนา Soft Skills ของนักศึกษา ระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตที่มีผลต่อการทำงานสอดคล้องกับ Nithikartpanich (2021) ได้ศึกษาเรื่อง การจัดการเรียนการสอนแบบ Active learner ที่มีคุณลักษณ์ (Soft Skills) พบว่า ในปัจจุบันการเรียนการสอนได้จัดกระบวนการ เรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เอง โดยผู้สอนเปลี่ยนบทบาทจากเป็นผู้ให้ความรู้แก่ผู้เรียนโดยตรงเป็นผู้จัดเตรียมและสนับสนุนกระบวนการ และกิจกรรมที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดการกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ซึ่งการสื่อสาร การช่วยเหลือ ระหว่างผู้เรียนและผู้สอน จะช่วยให้การ เรียนรู้นั้นบรรลุวัตถุประสงค์ และยังทำให้เกิดทักษะด้านต่างๆ ตามมา เช่น ทักษะการค้นคว้า ทักษะการสื่อสาร ทักษะด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ ทักษะด้านภาษา ทักษะการทำงานเป็นทีม ร่วมทั้งการรับผิดชอบต่อหน้าที่ เป็นต้น ซึ่งเรียกทักษะเหล่านี้ว่า Soft Skills ซึ่งผู้สอนจะเป็นผู้กำหนดว่าต้องการพัฒนา Soft Skill ของผู้เรียนด้านใด ทำให้การจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นหลัก สามารถพัฒนา Soft Skill ของผู้เรียนควบคู่ไปด้วยเช่นกัน สอดคล้องกับ Matteson et al. (2016) ได้ศึกษาเรื่อง Soft Skills”: A Phrase in Search of meaning ผลการวิจัย พบว่า ทักษะที่อ่อนนุ่มเป็นทักษะการจัดการคนที่มีความสำคัญต่ออาชีพและตำแหน่ง งานมากมายรวมถึงบรรณารักษ์วิชาการ แนวคิดของทักษะยังขาดการกำหนดขอบเขตการใช้เครื่องมือและการศึกษาและการฝึกอบรม อย่างเป็นระบบ การทบทวนวรรณกรรมนี้สำรวจความหมายของทักษะที่อ่อนนุ่ม ทักษะที่แตกต่างกับแนวคิดที่เกี่ยวข้องเช่นลักษณะ บุคลิกภาพทัศนคติความเชื่อและค่านิยม และเปรียบเทียบชุดของประเภททักษะที่อ่อนนุ่ม เราพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นทางความคิด ที่เกี่ยวข้องกับทักษะที่อ่อนนุ่มและแนะนำการวิจัยหลากหลายเพื่อช่วยชี้แจงและเสริมสร้างความเข้าใจและการพัฒนาทักษะที่อ่อนนุ่ม ของบรรณารักษ์และการวัดทักษะ Soft Skills ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จะเห็นได้ว่าก่อนการพัฒนา และหลังการพัฒนา ผลการทดสอบค่าเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าก่อนการพัฒนาในทุกด้าน สอดคล้องกับ Bangkok Bank (2020) ได้ศึกษา เกี่ยวกับการทำงานให้ประสบความสำเร็จ หรือการวัดคุณภาพของคนเพื่อรับเข้าทำงาน พบว่า การทำงานในปัจจุบันอาจจะมุ่งไปที่ (Hard Skills) ซึ่งเป็นความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่ทำนำมาก่อนเป็นสำคัญ เช่น ความสามารถในการสร้างตึก ความรู้ด้านสถาปนิก การออกแบบจัดสวน การทำบัญชี เป็น Skills ที่เกิดจากเรียนรู้ ฝึกฝนจากประสบการณ์และความชำนาญเฉพาะทาง หากความเก่ง ความรู้ความชำนาญด้าน (Hard Skills) เพียงอย่างเดียวนั้น ไม่เพียงพอต่อความต้องการของหน่วยงาน องค์การหรือจะทำให้ชีวิต การทำงานประสบความสำเร็จก้าวหน้าได้อีกต่อไปแล้วในยุคนี้ จำเป็นต้องมี (Soft Skills) ที่เป็นทักษะด้านอารมณ์ ความสามารถ ในการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นและการพัฒนาตัวเองควบคู่ไปด้วย จึงจะเป็นคนทำงานที่องค์กรต้องการและเป็นการปูทางให้ชีวิตประสบ ความสำเร็จ ในสังคมการงาน (Soft Skills) จึงเป็นทักษะสำคัญที่คนทำงานต้องมีเป็นอย่างมากในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นยุคที่โลก ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีทุกภาคส่วน และทำให้มนุษย์นั้นมีความแตกต่างจากการใช้หุ่นยนต์ หรือ AI ที่ถูกนำมาแทนที่แรงงานมนุษย์
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 20 มากขึ้นทุกวัน ดังนั้น ในโลกการทำงานปัจจุบันจึงไม่ได้แข่งขันกันที่ความรู้ ความสามารถระหว่างมนุษย์กับมนุษย์เพียงเท่านั้น แต่ยังต้องแข่งขัน กับหุ่นยนต์และเทคโนโลยีอีกด้วย และ (Soft Skills) คือตัวช่วยที่จำให้ได้ตำแหน่งงานที่ต้องการรวมไปถึง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานที่คาดหวัง บทสรุปและข้อเสนอแนะ การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพ บัณฑิตให้เป็นผู้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นในการทำงาน (Soft Skills) อันจะนำไปสู่การพัฒนาคนของประเทศสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน และส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในด้านอื่น ๆ ต่อไป ข้อเสนอแนะในการนำผลการศึกษาไปใช้ประโยชน์ในเชิงวิชาการ อาจารย์ผู้สอนในรายวิชาต่างๆ สามารถนำทักษะ Soft Skills ไปบูรณาการในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ เป็นการสร้างเสริมทักษะ Soft Skill ให้กับนักศึกษา เพื่อเป็นบัณฑิตที่มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์และตรงตามความคาดดวังของผู้ประกอบการในศตวรรษที่ 21 ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป ควรวิจัยโมเดลเชิงสาเหตุที่ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาทักษะ Soft Skills ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เพื่อให้ทราบปัจจัยทั้งผลทางตรงและผลทางอ้อม และควรวิจัยการพัฒนารูปแบบการจัดการ เรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะ Soft Skill ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตและมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในด้านอื่นๆ ต่อไป เอกสารอ้างอิง Bangkok Bank. (2020). Soft Skills needed to work.Retrieved from https://www.bangkokbanksme.com/en/softskills-work. [in Thai]. Chaiya, S., Siribanpitak, P. & Sumettikoon, P. (2015). Lifelong Learning Skills of University Students: Theoretical Framework. Journal of Social Science and Humanities Research in Asia, 21(3): 149-176. [in Thai]. Chotikeerativatch, C. & Ariratana, W. (2017). Needs Assessment for Soft Skills Development in Teachers’ Learning Management in Schools under The Secondary Educational Service Area Office 25. KKU Research Journal of Humanities and Social Sciences (Graduate study), 5(1), 44-52. [in Thai]. Inta, M. (2019). Soft Skills: The Essential Skills to Beprofessionalism of The Modern Teachers. Journal of Education, 20(1), 153-167. [in Thai]. Jamjan, L. (2007, February). The Learning Model for Development of Nursing Innovation. The 45th Kasetsart University Annual conference, Bangkok. [in Thai]. Jessy, J. (2010). Relevance of Employee Development Plans in Employee Performance Management. Pacific Business Review, 4(12), 19-27. Kathry Bartal. M. and David C.Martin. (1991). Management. New York: McGraw Hill. Keamanee, T. (Ed.) (2006). Teaching methods for professional teachers. Bangkok: Chulalongkorn University Printing House. [in Thai].
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 21 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. (2020). Fiscal Year Action Plan 2021 for Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. Retrieved from https://www.ops.go.th/main/images/2563/pusit/Docs/ActionPlanOPS2564.pdf. [in Thai]. Miriam, L., Matteson, L.A., & Cynthia, B. (2016). Soft Skills”: A Phrase in Search of Meaning. Libraries and the Academy, 71-88. Nithikartpanich, C. (2021). The Study Management using Active Learner with Soft Skill. Retrieved from https://erp.mju.ac.th/acticleDetail.aspx?qid=940. [in Thai]. Office of the Basic Education Commission. (2013). Information Technology for Education. Retrieved from https://data.bopp-obec.info/emis/news/news_view.php?ID_New=1936. [in Thai]. Office of the Council of State. (2019). Administrative Regulation Act of Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation 2019. Bangkok. [in Thai]. SrisathitNarakun, B. (Ed.). (2010). Research Methodology in Nursing Science. Bangkok: U & I INTER MEDIA. [in Thai]. Vroom, H.V. (1996). Work and Motivation. Now York: Wiley and Sons Inc.
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 22 ผลสำเร็จของการดำเนินงานกิจกรรมพัฒนานักศึกษาของสโมสรนักศึกษา คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีมทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร Successful results of student development activities of the student union of Faculty of Industry and Technology RMUTI Sakonnakhon campus เรืองชัย ตาแสง1,* , ศิริรัก ลำดวน1 , หาญณรงค์ นาเตย1 และ จารุวัฒน์ ถาวรไพศาลชีวะ3 Ruangchai Tarsang1,* Siriruk Lamdoun 1 , Hannarong Natoei 1 and Jaruwat Thawornpaisancheewa1 บทคัดย่อ ผลการดำเนินงานกิจกรรมพัฒนานักศึกษา คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร ภายใต้การดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารงานสโมสรนักศึกษา ได้จัดกิจกรรมโครงการที่ส่งเสริมสนับสนุน และพัฒนานักศึกษา เพื่อให้เป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ตามกรอบคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (TQF) 5 ด้าน ได้แก่ ด้านคุณธรรมจริยธรรม ด้านความรู้ด้านทักษะทางปัญญา ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ และ ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งการดำเนินงานของคณะกรรมการสโมสรนักศึกษาได้ ปฏิบัติงานตามหลักกระบวนการวงจร PDCA จนได้ผลการดำเนินงานกิจกรรมสโมสรนักศึกษาที่มีประสิทธิภาพ มีการสรุปผลการ ดำเนินงาน รายงานผลการดำเนินงาน และข้อเสนอแนะการจัดกิจกรรม แบ่งปันประสบการณ์การทำงานร่วมกันระหว่างทีม คณะกรรมการบริหารงานสโมสรนักศึกษา ตลอดจนได้มีการนำไปเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านประกันคุณภาพของกิจกรรมพัฒนา นักศึกษาในการแข่งขันราชมงคลวิชาการวิศวกรรมระดับชาติสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองได้ คำสำคัญ : กิจกรรมพัฒนานักศึกษา / สโมสรนักศึกษา / กระบวนการพัฒนาศักยภาพนักศึกษา แผนกงานพัฒนานักศึกษา งานบริการการศึกษา คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร ประเทศไทย
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 23 บทนำ นโยบายการพัฒนาคุณภาพนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กำหนดให้มีการดำเนินกิจกรรมพัฒนา นักศึกษาตลอดระยะเวลาที่ศึกษาในมหาวิทยาลัย ทั้งกิจกรรมภายในชั้นเรียนเพื่อพัฒนานักศึกษาสู่การเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพทั้งด้าน วิชาการและวิชาชีพ และกิจกรรมภายนอกชั้นเรียน โดยกำหนดให้นักศึกษาทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนานักศึกษาจำนวนไม่น้อย กว่า 21 กิจกรรม และมีจำนวนหน่วยในการเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 100 หน่วย เพื่อเป็นการเสริมเติมเต็มความเป็นบัณฑิต ที่สมบูรณ์ตามคุณลักษณะของบัณฑิตที่พึงประสงค์ของมหาวิทยาลัย ให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าของประเทศ มีความรู้ ความสามารถ มีหลักคิดและทักษะทางวิชาการและวิชาชีพ มีคุณลักษณะพร้อมด้านคุณธรรมและจริยธรรม มีความพร้อมที่จะพัฒนา ตนเองอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วย กิจกรรมพัฒนานักศึกษา (Student Development Activity) หมายถึง กิจกรรมนอกชั้นเรียน ซึ่งมหาวิทยาลัยได้จัดขึ้น เพื่อสร้างโอกาสการเรียนรู้ให้แก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัย โดยไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนตามหลักสูตรการศึกษา มุ่งเน้น ให้กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนสร้างเสริมประสบการณ์ ทักษะความรู้ ความสามารถ การพัฒนาทางบุคลิกภาพ สุขภาพ วัฒนธรรม ตลอดจนคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่นักศึกษา(1) รูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนานักศึกษาควรจัดกิจกรรมนักศึกษาให้ครบอย่างน้อย 5 ประเภท ดังต่อไปนี้; (1) กิจกรรมวิชาการ หรือกิจกรรมส่งเสริมคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ (2) กิจกรรมกีฬาและการส่งเสริม สุขภาพ (3) กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์และรักษาสิ่งแวดล้อม (4) กิจกรรมนันทนาการ หรือ กิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย และ (5) กิจกรรมส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม หรือกิจกรรมเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรม ทั้งนี้ นักศึกษาทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรม จึงจะได้รับใบรายงานผลการเข้าร่วมกิจกรรมนักศึกษา (Activity Transcript) แผนกงานพัฒนานักศึกษา งานบริการการศึกษา คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มีบทบาทหน้าที่ในการจัดกิจกรรม พัฒนานักศึกษาสำหรับนักศึกษาคณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ทุกชั้นปี ทุกหลักสูตร ตามนโยบายของมหาวิทยาลัย ตลอดจนดูแล นักศึกษา จึงมีความจำเป็นจะต้องสร้างกลุ่มผู้นำนักศึกษาคือ คณะกรรมการบริหารงานสโมสรนักศึกษาคณะอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีเพื่อมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนการจัดกิจกรรมพัฒนานักศึกษาในภาพรวมของคณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ดำเนินการ ขับเคลื่อนการจัดกิจกรรมพัฒนานักศึกษาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม พร้อมทั้งทำการประเมินผลความสำเร็จตามวัตถุประสงค์และนำผลการประเมินมาปรับปรุงในการดำเนินงานครั้งต่อไป คณะกรรมการบริหารงานสโมสรนักศึกษา เป็นกลุ่มผู้นำนักศึกษาที่จะดำเนินการขับเคลื่อนกิจกรรมนักศึกษาของ คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีเพื่อให้การทำงานร่วมกันของทีมงานคณะกรรมการบริหารสโมสรนักศึกษาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเกิดการขับเคลื่อนกิจกรรมนักศึกษาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แผนกงานพัฒนานักศึกษา งานบริการการศึกษา จึงได้มีการจัดอบรม ให้กับกลุ่มผู้นำนักศึกษาผ่านกิจกรรมสัมมนาผู้นำนักศึกษา เพื่อสร้างภาวะความเป็นผู้นำให้แก่นักศึกษาในการรู้จักความรับผิดชอบต่อ หน้าที่ และเพื่อสร้างความสัมพันธ์ ความรัก ความสมัครสมานสามัคคี เป็นผู้ที่สามารถเป็นไอดอลที่เป็นแบบอย่างให้กับรุ่นน้องนักศึกษา ได้เพื่อให้รุ่นน้องอยากจะมาเป็นผู้นำนักศึกษาสืบต่อจากพี่ด้วยใจรักในการทำกิจกรรม ไม่ใช่เพราะการบังคับ ผลที่ได้จากการสร้าง ภาวะความเป็นผู้นำนักศึกษา พบว่า นักศึกษาสามารถวางแผนการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมหลักสูตรและส่งเสริมทางวิชาการต่างๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เข้าใจแนวทางจัดกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์ทำให้เกิดผลสำเร็จของการดำเนินงานกิจกรรมพัฒนา นักศึกษาของสโมสรนักศึกษาคณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร ในรายงานชิ้นนี้ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อสร้างและพัฒนาภาวะความเป็นผู้นำนักศึกษา ผ่านการดำเนินกิจกรรมสโมสรนักศึกษา 2. เพื่อศึกษาองค์ความรู้ของกระบวนการพัฒนานักศึกษา และถอดบทเรียนความสำเร็จ 3. เพื่อนำเสนอผลงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านประกันคุณภาพของกิจกรรมพัฒนานักศึกษาที่ประสบผลสำเร็จ
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 24 เนื้อหา แผนกงานพัฒนานักศึกษา คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร ได้ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารงานสโมสรนักศึกษา ผ่านกิจกรรมเลือกตั้งผู้นำนักศึกษา เพื่อสร้างภาวะความเป็นผู้นำให้กับ นักศึกษา ส่งเสริมให้ผู้นำนักศึกษารับผิดชอบในการจัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์ทั้งทางวิชาการและวิชาชีพ ที่พร้อมด้วยคุณธรรมและ จริยธรรม โดยสนับสนุนให้นักศึกษาร่วมกันคิด ร่วมกันทำ รู้จักทำงานให้เป็นทีมและรู้จักการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม โดยคณะกรรมการสโมสรนักศึกษาคณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีมีทั้งสิ้น 25 คนประกอบด้วย ทีมสโมสรนักศึกษากลาง 17 คน และประธานกรรมการนักศึกษาประจำสาขา 8 คน จากนั้นจัดโครงการส่งมอบงานการดำเนินกิจกรรม เพื่อถ่ายทอดความรู้แนวทางการ บริหารจัดการกิจกรรมสโมสรนักศึกษาจากผู้นำนักศึกษารุ่นพี่สู่รุ่นน้อง สร้างแรงบัลดาลใจในการดำเนินงาน และสร้างความสามัคคี ในหมู่คณะ ต่อมาคณะกรรมการบริหารงานสโมสรนักศึกษาที่ได้ถูกจัดตั้งขึ้นใหม่ ได้จัดโครงการเขียนแผนดำเนินงานและเขียนโครงการ เพื่อเสนออนุมัติดำเนินกิจกรรมนักศึกษา เพื่อให้ผู้นำนักศึกษาได้ทำงานสอดคล้องกับนโยบายด้านการพัฒนานักศึกษา มีการเรียนรู้การ บริหารจัดการกระบวนการในการดำเนินกิจกรรม จำนวนทั้งสิ้น 22 โครงการ ดังแสดงในภาพที่ 1 งบประมาณ 502,600 บาท วิธีดำเนินการและแผนการปฏิบัติงานของกิจกรรมนักศึกษาทุกโครงการที่ได้ผ่านการอนุมัติได้ดำเนินกิจกรรมตามหลัก กระบวนการวงจร PDCA (Plan-Do-Check-Act) ของศาสตราจารย์เดมมิ่ง (Deming’s cycle) ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ การวางแผน การปฏิบัติตามแผน การตรวจสอบ และการปรับปรุงแก้ไข ขั้นตอนการวางแผน (Planning) ประกอบไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ ประชุมคณะกรรมการดำเนินงานเพื่อวางแผน มอบหมายภาระงานในการเตรียมดำเนินการ จัดทำโครงการนำเสนอเพื่อขอรับการพิจารณาขออนุมัติโครงการ ขั้นตอนการดำเนินการ (Doing) ประกอบไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ จัดประชุมเพื่อดำเนินการ แผนการประชาสัมพันธ์ โครงการ ติดต่อประสานงานความร่วมมือกับสาขา/หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย จัดเตรียมสถานที่ ดำเนินการตามแผนการปฏิบัติงาน ขั้นตอนการประเมินผล (Checking) โดยใช้เครื่องมือแบบสอบถามความคิดเห็น/ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ ระยะเวลาในการติดตามผล ตลอดจนรายงานผลการดำเนินงาน ขั้นตอนการปรับปรุง (Acting) เป็นการนำผลการประเมินไปปรับปรุงและพัฒนา รวมถึงการส่งเสริมให้จัดกิจกรรม ต่อเนื่องในปีต่อไป ในปีการศึกษา 2565 การจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรน่า 2019 มีการ ปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนจากเดิมที่เป็นแบบ Standard based learning เป็นแบบ Competency based learning มากขึ้น มีรูปแบบการเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผลที่หลากหลายนำเอาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สื่อออนไลน์ แอพพลิเคชั่นและโปรแกรม ทางคอมพิวเตอร์มาใช้จัดการเรียนรู้อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ในขณะที่การจัดกิจกรรมพัฒนานักศึกษาใน สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรน่า 2019 ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากประเทศไทยมีนโยบายการเว้น ระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทำให้ไม่สามารถรวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมแบบรวมกลุ่มได้(2) ในช่วงแรกคณะกรรมการ บริหารงานสโมสรนักศึกษาได้จัดประชุมออนไลน์เพื่อวางแผนดำเนินโครงการ นำไปสู่การปฏิบัติจริงจนสำเร็จลุล่วง จากการจัดประชุมเขียนแผนกิจกรรมจนได้ออกมาเป็น แผนดำเนินกิจกรรมและปฏิทินกิจกรรมทั้ง 22 โครงการเอาไว้เพื่อ เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน นำไปสู่การส่งเสริมการจัดกิจกรรมสำหรับนักศึกษาและกิจกรรมที่ดำเนินโดยคณะกรรมการบริหารงาน สโมสรนักศึกษา คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร การจัดกิจกรรมนักศึกษา ทุกโครงการที่ดำเนินการโดยคณะกรรมการบริหารงานสโมสรนักศึกษาเสร็จแล้ว มีการประเมินผลความสำเร็จการจัดกิจกรรม ตามแผนพัฒนาคุณภาพนักศึกษา โดยทุกกิจกรรมที่จัดให้กับนักศึกษาระดับปริญญาตรีมีการตระหนักถึงแนวทางการพัฒนานักศึกษา ให้เป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ในอนาคต โดยยกตัวอย่างผลความสำเร็จของการจัดกิจกรรมแบ่งได้ 5 หมวด มีดังนี้
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 25 ภาพที่1 ตัวอย่างโครงการ/กิจกรรม ในปฏิทินกิจกรรมนักศึกษา คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ประจำปีการศึกษา 2565 กิจกรรมนักศึกษาที่ส่งเสริมคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ ด้านคุณธรรมจริยธรรม (Ethics and Moral) สโมสร นักศึกษาคณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีได้จัดโครงการพิธีบายศรีสู่ขวัญให้กับนักศึกษาน้องใหม่ ซึ่งเป็นโครงการที่ได้จัดขึ้นทุกปี โดยกิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์จัดขึ้นเพื่อให้นักศึกษาใหม่ได้เข้าฟังธรรมะกล่อมเกลาจิตใจ ให้ห่างไกลสิ่งเสพติด ให้มีการพัฒนาทัศนคติ ค่านิยม ความเชื่อที่ถูกต้องเหมาะสม เป็นพลเมืองดี มีความซื่อสัตย์ อดทน มีวินัยในตนเอง และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วน ตน นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมแสงเทียนนำแสงสว่างสู่อนาคต เพื่อเป็นการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีและเพื่อให้เกิดสิริมงคล แก่นักศึกษาใหม่ กิจกรรมนักศึกษาที่ส่งเสริมคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ ด้านความรู้(Knowledge) คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี โดยทีมงานสโมสรนักศึกษา ได้ร่วมจัดโครงการกิจกรรมแห่เทียนเข้าพรรษาร่วมกับชุมชนภายรอบนอกมหาวิทยาลัย เพื่อสืบสาน ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น ซึ่งนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้รับความรู้เรื่องการแกะสลักต้นเทียนผ่านการแกะสลักเทียน พรรษา และได้นำเอาความรู้ที่ได้จากการถ่ายทอดไปลงมือปฏิบัติจริงจนได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดประดับตกแต่งขบวนแห่เทียน เข้าพรรษา กิจกรรมนักศึกษาที่ส่งเสริมคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ด้านทักษะทางปัญญา (Cognitive Skills) ยกตัวอย่าง โครงการกิจกรรมค่ายอาสาพัฒนาชุมชน เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถ และส่งเสริมการฝึกทักษะทางวิชาของนักศึกษาให้เกิด ประโยชน์ต่อการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม เช่น กิจกรรมการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ของนักศึกษาสาขา วิศวกรรมเครื่องกล กิจกรรมการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุดเบื้องต้นของนักศึกษาสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า เป็นต้น นอกจากนี้นักศึกษา ที่เข้าร่วมโครงการยังสามารถมีทักษะการพัฒนางานในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ หรือการวางกรอบ แนวคิด วางมาตรฐานการทำงาน ให้เป็นไประบบผ่านกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายตลอดระยะเวลาที่อยู่ค่ายอาสาพัฒนาชุมชน กิจกรรมนักศึกษาที่ส่งเสริมคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ (Interpersonal Skills and Responsibility) สโมสรนักศึกษาคณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีได้ร่วมพัฒนาชุมชนโดยรอบ มหาวิทยาลัย โดยได้มีส่วนร่วมวิเคราะห์แก้ไขปัญหาและแนวทางการดำเนินการจัดกิจกรรมเก็บขยะในชุมชน การซ่อมแซมสะพานไม้ ให้กับแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน เพื่อเป็นการบำเพ็ญประโยชน์และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างคณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 26 กับชุมชนใกล้เคียง นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมโครงการสืบสานอนุรักษ์ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาที่จัดขึ้นโดยหน่วยงานราชการ ของจังหวัดสกลนคร เป็นการสร้างเครือข่ายพัฒนาความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับหน่วยงานราชการของจังหวัดสกลนคร กิจกรรมนักศึกษาที่ส่งเสริมคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้ IT (Numerical Analysis, Communication and Information Technology Skills) ในปีการศึกษา 2565 ที่ผ่านมา มีการส่งเสริมการ นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน เช่น การพัฒนาช่องทางการติดต่อสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ข่าวสารผ่านทางช่องทางโซเชียล มีเดีย รวมถึงมีการประชุมทางออนไลน์ซึ่งเป็นการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้น เพื่อให้นักศึกษาสามารถนำทักษะ การสื่อสารและการใช้IT ไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งในระหว่างเรียนและหลังสำเร็จการศึกษา เพื่อตอบโจทย์ความคาดหวังของตลาดแรงงาน ของสังคมภายใต้ภาวะปกติใหม่ หรือเรียกว่า New Normal อภิปรายและสรุปผล สรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมนักศึกษาของสโมสรนักศึกษา คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร ในช่วงแรกมีปัญหาและอุปสรรคอยู่บ้าง เนื่องจากเป็นช่วงหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรน่า 19 (โควิด 19) ทำให้ไม่สามารถรวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมแบบรวมกลุ่มได้ในช่วงนี้คณะกรรมการบริหารงานสโมสรนักศึกษาได้ นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน มีการจัดประชุมออนไลน์เพื่อวางแผนและเขียนแผนดำเนินงานโครงการ เพื่อนำไปสู่การ ปฏิบัติจริงภายหลังจากที่มีมารตราการผ่อนคลายทางสังคมมากขึ้น แต่เนื่องจากมีปัญหาการเขียนรายละเอียดโครงการที่ไม่ถูกต้องตาม หมวดค่าใช้จ่าย แผนกงานพัฒนานักศึกษา คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี จึงได้มีการเชิญเจ้าหน้าที่มาอบรมให้ความรู้กับผู้นำ นักศึกษา เพื่อให้สามารเขียนข้อเสนอโครงการและขออนุมัติโครงการได้อย่างถูกต้อง หลังจากนั้นเมื่อเปิดเทอมใหม่ นักศึกษาใหม่ที่เข้า มาในรั้วมหาวิทยาลัยต้องมีการเตรียมตัวทั้งการเรียนและการเริ่มใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย แต่ยังมีปัญหาการประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึง นักศึกษา ดังนั้นสโมสรนักศึกษาจึงได้เพิ่มช่องทางในการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น โดยการสร้างลิงค์และคิวอาร์โค้ด ทำการแชร์ข้อมูล ต่างๆ ทั้งข้อมูลอาคารเรียน อาจารย์ที่ปรึกษา ฯลฯ ให้กับนักศึกษาใหม่เพื่อให้รับทราบข้อมูลต่างๆ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการใช้ชีวิตในรั้ว มหาวิทยาลัย และข้อมูลการจัดกิจกรรมอื่นๆ ที่จัดโดยสโมสรนักศึกษาอีกด้วย จากผลประเมินกิจกรรมที่จัดขึ้นในปีที่ผ่านมา มีการสรุปกิจกรรมโครงการเพื่อให้ผู้บริหาร และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบ และเป็นแนวทางในการพัฒนาบัณฑิตที่พึงประสงค์ต่อไป โดยผู้บริหารคณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีได้มีการสนับสนุนให้นักศึกษา มีโอกาสในการสร้างเครือข่ายระหว่างมหาวิทยาลัย ตลอดจนแบ่งปันประสบการการณ์ทำงานร่วมกันระหว่างทีมผู้นำนักศึกษา ผ่านการ เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขัน “กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านประกันคุณภาพของกิจกรรมพัฒนานักศึกษา” ในการแข่งขันราชมงคล วิชาการวิศวกรรมระดับชาติครั้งที่ 14 ในวันที่ 3-5 สิงหาคม 2566 ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ทีมสโมสรนักศึกษาได้คัดเลือกกิจกรรมโดยการประเมินของอาจารย์ที่ปรึกษาสโมสรนักศึกษา และทีมงานฝ่ายพัฒนานักศึกษา จัดทำ โปสเตอร์เข้าร่วมนำเสนอดังแสดงในภาพที่ 2 ซึ่งสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองได้ความรู้ที่ได้จากการชนะเลิศการแข่งขัน ได้มีการ แบ่งปันให้กับทีมผู้นำนักศึกษารุ่นน้องผ่านเวทีสัมมนา “พัฒนาศักยภาพผู้นำนักศึกษาคณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีประจำปี 2566” ซึ่งเป็นการประชุมที่เกี่ยวข้องกับผู้นำนักศึกษา ผู้บริหารและบุคลากรภายในองค์กรแผนกงานพัฒนานักศึกษา จัดขึ้นเพื่ออบรม เพิ่มทักษะการเป็นผู้นำให้กับนักศึกษา และเตรียมความพร้อมในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของคณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีต่อไป เอกสารอ้างอิง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน. (2565). คู่มือกิจกรรมนักศึกษา ประจำปีการศึกษา 2565 https://rmuti.ac.th/news/view/index.php?ni=012137&nci=7 อุทิศ ทาหอม และสุจิตรา ยางนอก. (2563). กระบวนการพัฒนานักศึกษาภายใต้ภาวะปกติใหม่ (New Normal) สาขาวิชาการพัฒนา สังคม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, 15(2), 41-55.
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 27 ภาพที่ 2 โปสเตอร์นำเสนอกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านประกันคุณภาพของกิจกรรมพัฒนานักศึกษา การแข่งขันราชมงคล วิชาการวิศวกรรมระดับชาติ ครั้งที่ 14
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 28 ภาพที่ 3 การประชาสัมพันธ์ยกย่องชื่นชมทีมงานสโมสรนักศึกษาที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและแบบอย่างให้กับ รุ่นน้องนักศึกษา
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 29 บุปผาแห่งศรัทธา TAMPOPO ปริตต์สายสี1 , ชุติมา ฤาชัย2 และชมรม LPRU สืบสานปณิธานงานของพ่อ Parit Saisee1 ,Chutima Ruechai2 and LPRU Preserving Father’s Legacy Club บทคัดย่อ ประเทศไทยได้รับคติการเวียนเทียนนี้มาจากอินเดีย พร้อมกับพระพุทธศาสนาที่เผยแผ่เข้ามา โดยปรากฏหลักฐานการแสดง ความเคารพโดยการเวียนเทียนในพระไตรปิฎก ซึ่งปรับประยุกต์ให้เข้ากับวัฒนธรรมของไทย เป็นการแสดงความบูชาต่อพระรัตนตรัย มาตั้งแต่โบราณ มีหลักฐานปรากฏเป็น ฐานประทักษิณ กระทำพิธีเวียนเทียนในวันสำคัญทางศาสนาสืบมาจนถึงปัจจุบันสิ่งที่อยู่คู่ พุทธศาสนิกชนชาวไทย มาโดยตลอดนั้นก็คือ การนำดอกไม้ มาไหว้พระ มาบูชาในวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ อาทิเช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา เป็นต้น จะเห็นได้ว่าในทุกๆวันสำคัญทางศาสนาจะมีการนำดอกไม้ มาสักการะไหว้ของพรจำนวนมาก และกลายเป็นขยะเน่าเสียจำนวนมาก ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่า ชมรม LPRU สืบสาน ปณิธานงานของพ่อ จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาต่อยอด ลดปัญหาการเกิดขยะ เน่าเสียในชุมชน จึงอยากสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า โดยการ นำผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของจังหวัดลำปาง นั้นก็คือ ถ้วยตราไก่ ที่เป็นเอกลักษณ์ของลำปาง คู่กับวิถีชีวิตชาวไทยมาเนิ่นนาน และนำดอกไม้ เหลือทิ้งจากสักการะบูชา ณ วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม วัดแห่งนี้เคยเป็นที่ประดิษฐาน พระแก้วดอนเต้า หรือ พระพุทธ มหามณีรัตนปฏิมากร ในปี พ.ศ. 1971 เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ มีอายุยาวนานกว่า 1,000 ปี ตั้งอยู่ใน ตำบลเวียง เหนือ อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง โดดเด่นด้วย พระเจดีย์องค์ใหญ่ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และ มณฑป ศิลปะพม่า อันวิจิตรงดงาม ก่อนจะมีการอัญเชิญไปประดิษฐานที่ วัดพระธาตุลำปางหลวง ดอกไม้ที่เหลือทิ้งจากการ สักการะบูชา จึงเป็นแนวคิดแปรสภาพตากแห้ง เพื่อนำมาตกแต่งอย่างบรรจงงดงามหน้าเทียนไขที่ได้หลอมละลายจากเศษเทียน เหลือทิ้ง เพิ่มมนต์เสน่ห์โดยใส่แผ่นเซียนซีคำทำนายของที่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามใส่ใต้ก้นถ้วยตราไก่ โดยผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ไป สามารถนำไปจุดใช้สักการะบูชา จุดอ่านคำทำนายจากแผ่นเซียมซี และยังสามารถนำถ้วยตราไก่ไปใช้งานหลังจุดเทียนได้อีกด้วย ภายใต้ชื่อ “บุปผาแห่งศรัทธา” คำสำคัญ : บุปผาแห่งศรัทธา / วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม / ถ้วยตราไก่ ______________________________________ 1 รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา/อาจารย์ที่ปรึกษาชมรม LPRU สืบสานปณิธานงานของพ่อ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง 2 นักแนะแนวการศึกษาและอาชีพ กองพัฒนานักศึกษา/อาจารย์ที่ปรึกษาชมรม LPRU สืบสานปณิธานงานของพ่อ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 30 บทนำ ประเทศไทยได้รับคติการเวียนเทียนนี้มาจากอินเดีย พร้อมกับพระพุทธศาสนาที่เผยแผ่เข้ามา โดยปรากฏหลักฐานการแสดง ความเคารพโดยการเวียนเทียนในพระไตรปิฎก ซึ่งปรับประยุกต์ให้เข้ากับวัฒนธรรมของไทย เป็นการแสดงความบูชาต่อพระรัตนตรัย มาตั้งแต่โบราณ มีหลักฐานปรากฏเป็น ฐานประทักษิณ กระทำพิธีเวียนเทียนในวันสำคัญทางศาสนาสืบมาจนถึงปัจจุบันสิ่งที่อยู่คู่ พุทธศาสนิกชนชาวไทย มาโดยตลอดนั้นก็คือ การนำดอกไม้ มาไหว้พระ มาบูชาในวันมงคลต่างๆ อาทิเช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา เป็นต้น จะเห็นได้ว่าในทุกๆวันมงคลทางศาสนาจะมีการนำดอกไม้มงคล มาสักการะ ไหว้ของพรจำนวนมาก และกลายเป็นขยะเน่าเสียจำนวนมาก ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่า ชมรม LPRU สืบสานปณิธาน งานของพ่อ จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาต่อยอด ลดปัญหาการเกิดขยะ เน่าเสียในชุมชน จึงอยากสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า โดยการนำ ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของจังหวัดลำปาง นั้นก็คือ ถ้วยตราไก่ ที่เป็นเอกลักษณ์ของลำปาง คู่กับวิถีชีวิตชาวไทยมาเนิ่นนาน ด้วยการใช้เป็น ภาชนะสำหรับใส่อาหาร อาทิ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้ม และอาหารประเภทต้ม และถือเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา มีความแข็งแรงทนทาน ผลิตโดยใช้ดินขาวลำปางผสมกับดินดำ รวมไปถึงเทคนิคการปั้น เผา และยังมีลวดลายวาดเฉพาะถิ่นที่โดดเด่น ซึ่งกว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ ยอดนิยมจนถึงปัจจุบันก็มีการพัฒนาหลายต่อหลายรุ่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ และสร้างรายได้ให้กับชาวลำปาง เป็นอย่างมาก โดยนำมาผสมผสานกับ พลังศรัทธา ความเชื่อของพุทธศาสนิกชนชาวไทย นำดอกไม้ที่ผ่านการไหว้บูชาจากวัดพระแก้ว ดอนเต้า หรือ วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ มีอายุยาวนานกว่า 1,000 ปี ตั้งอยู่ใน ตำบลเวียง เหนือ อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง โดดเด่นด้วย พระเจดีย์องค์ใหญ่ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และ มณฑป ศิลปะพม่า อันวิจิตรงดงาม วัดแห่งนี้เคยเป็นที่ประดิษฐาน พระแก้วดอนเต้า หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1971 ก่อนจะมีการอัญเชิญไปประดิษฐานที่ วัดพระธาตุลำปางหลวง ดอกไม้เหลือทิ้งมา แปรสภาพตากแห้ง รวมพลังใส่แผ่นเซียมซีคำทำนาย ของที่วัดใส่ใต้ก้นถ้วยตราไก่ โดยผู้ใช้สามารถนำถ้วยตราไก่ไปใช้งานหลังจุดเทียนได้อีกด้วย หลักการและเหตุผล จากแนวคิดนำสู่การพัฒนาแก้ไขปัญหาโดยการนำแนวคิดมาร่วมประกวดในโครงการกรุงศรีอุดมศึกษา อาสาพัฒนา มูลนิธิ กรุงศรี ประจำปี2566 โดยชมรม LPRU สืบสานปณิธานงานของพ่อ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ได้รับรับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ในโครงการกรุงศรีอุดมศึกษา อาสาพัฒนา ประจำปี2566 เป็นการนำดอกไม้ที่เหลือจากการไหว้บูชาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ณ วัดพระ แก้วดอนเต้าสุชาดารามมาสร้างมูลค่า จัดทำผลิตภัณฑ์เทียนเสี่ยงทายทำนายดวงในชื่อ “บุปผาแห่งศรัทธา TAMPOPO” พร้อมทั้งลด ปัญหาการเกิดขยะมูลฝอยจากดอกไม้ในเทศกาลต่าง ๆ ผ่านการนำกระบวนการทักษะวิศวกรสังคมมาใช้ในการดำเนินการครั้งนี้ เพื่อพัฒนาท้องถิ่นและสร้างอาชีพให้แก่คนในชุมชน โครงการนี้ได้รับการดูแลและให้คำปรึกษาจากท่านผู้ช่วยศาสตราจารย์ปริตต์ สายสีรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ที่ปรึกษาโครงการและที่ปรึกษาชมรม LPRU สืบสานปณิธานงานของพ่อ
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 31 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อส่งเสริมสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน 2. เพื่อให้เยาวชนและคนในชุมชน เข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของโบราณสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 3. เพื่อลดปัญหาการเกิดขยะมูลฝอย 4. เพื่อสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน 5. เพื่อให้คนในชุมชนเกิดความรักความสามัคคีกันในหมู่คณะ 6. เพื่อกระตุ้นให้วัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในจังหวัดลำปาง เป้าหมายโครงการ/กิจกรรม 1. เพื่อให้คนในชุมชน เยาวชน ตระหนักรู้รักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น 2. รู้จักการนำวัสดุเหลือใช้ เศษใบไม้ดอกไม้นำกลับมาสร้างมูลค่าเพิ่ม กลุ่มเป้าหมาย: 1. สามเณรวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม พร้อมสร้างอาชีพ และสร้างการเรียนรู้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การขยายองค์ความรู้และพร้อมเป็นวัดและพื้นที่ต้นแบบในการศึกษาดูงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 2. ชุมชน 3 ชุมชนในพื้นที่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามในการดำเนินกิจกรรมครั้งนี้ - ชุมชนวัดพระแก้ว – หัวข่วง ได้รับความร่วมมือจากประธานชุมชนคุณประนอม อินลังกา - ชุมชนประตูม้า ได้รับความร่วมมือจากประธานชุมชนคุณอัญชลี ไชยรุ่งเรือง - ชุมชนช่างแต้ม ได้รับความร่วมมือจากประธานชุมชนคุณพิมพาภรณ์ เจริญจาตุภัทร ระยะเวลาดำเนินงาน ระยะเวลาในการดำเนินโครงการ ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2566 – เดือนกุมภาพันธ์2567 รวมระยะเวลาในการ ดำเนินการ 5 เดือนในการวางแผนและพัฒนานวัตกรรม ข้อมูลที่ตั้ง / พื้นที่ดำเนินงาน (ข้อมูลรายละเอียดของพื้นที่/ชุมชนที่จะลงพื้นที่ดำเนินงาน เช่น ข้อมูลพื้นฐาน บริบทของพื้นที่ ลักษณะทางกายภาพ ลักษณะทางประชากร อาชีพ วัฒนธรรม ฯลฯ) - พื้นที่ในการดำเนินการครั้งนี้ เลือกพื้นที่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามพร้อมเป็นวัดต้นแบบในการนำร่อง ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมโครงการ ผลการดำเนินงาน : กิจกรรม : ลงพื้นที่สำรวจปัญหาร่วมกับชุมชนและทางวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม เชิงปริมาณ : กลุ่มเป้าหมายในการอบรมโครงการ 1. สามเณรวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม 2. ชุมชนรอบพื้นที่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม เชิงคุณภาพ : ทำการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้แนวคิดในการที่จะดำเนินกิจกรรมร่วมกัน
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 32 สิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม : กระประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในชุมชนและพื้นที่ทำให้สามารถ เพิ่มประสิทธิภาพในการเตรียมการทำงานในพื้นที่และโครงการได้ง่ายขึ้น กิจกรรม : อบรมให้ความรู้การทำบุปผาแห่งศรัทธาให้แก่สามเณรวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาราม และผู้นำชุมชน 3 ชุมชน ได้แก่ชุมชนวัดพระแก้ว – หัวข่วง ชุมชนประตูม้า ชุมชนช่างแต้ม เชิงปริมาณ : กลุ่มเป้าหมายในการอบรมโครงการ 1. สามเณรวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม 2. ชุมชนรอบพื้นที่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม เชิงคุณภาพ : ได้รับความรู้จากวิทยากรพิเศษในการนำเสนอองค์ความรู้พัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นให้แก่ชุมชน โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กังสดาล กนกหงษ์ คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยากรบรรยายพิเศษ สิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม : มีแนวคิดในการพัฒนาและขยายโมเดลผลิตภัณฑ์พร้อมเป็นโมเดลต้นแบบในการทำ โครงการอื่นๆต่อๆไป กิจกรรม : จำหน่ายผลิตภัณฑ์โครงการบุปผาแห่งศรัทธา ณ วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม เชิงปริมาณ : การจำหน่ายผลิตภัณฑ์โครงการบุปผาแห่งศรัทธาจำนวน 199 ชุด ราคาชุดละ 39 บาท ให้แก่ประชาชนทั่วไป เชิงคุณภาพ : การแนะนำอธิบายตัวผลิตภัณฑ์โครงการที่นำมาแก้ไขปัญหาจากดอกไม้ที่เหลือทิ้ง จากการสักการบูชาวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม และนำเซียมซีมาใส่ในถ้วยเทียน ในถ้วยตราไก่ ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของจังหวัดลำปาง สิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม : คำแนะนำจากประชาชนที่อุดหนุนผลิตภัณฑ์เป็นโครงการที่ดีและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าจังหวัด ลำปาง กิจกรรม : นำองค์ความรู้ที่ได้รับโครงการบุปผาแห่งศรัทธาแลกเปลี่ยนให้กับผู้นำนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เพื่อนำแนวทางไปปรับใช้ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เชิงปริมาณ : กลุ่มผู้นำองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จำนวน 50 คน
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 33 เชิงคุณภาพ : ขยายองค์ความรู้แลกเปลี่ยนนวัตกรรมโครงการที่ได้พัฒนา พร้อมเป็นต้นแบบด้านการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมให้กับหน่วยงานอื่นๆที่สนใจ สิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม : แลกเปลี่ยนแนวคิดร่วมกันโดยมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี มีความประทับใจตัวโครงการบุปผา แห่งศรัทธาต้องการขอนำไปเป็นแบบอย่างในการแก้ไขปัญหา ภายในชุมชนพื้นที่มหาวิทยาลัยต่อไป กิจกรรม : ถวายปัจจัยโครงการบุปผาแห่งศรัทธา ให้แก่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาราม จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ จำนวน 199 ชุด ทั้งหมด 8,541 บาท เพื่อใช้ประโยชน์ด้านการศึกษาแก่สามเณร วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม เชิงปริมาณ : โครงการบรรลุวัตถุประสงค์ เชิงคุณภาพ : จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์โครงการบุปผาแห่งศรัทธา ระยะเวลาดำเนินโครงการ ธันวาคม 2566 – กุมภาพันธ์2567 จำนวน 199 ชุด รวมทั้งหมด 8,541 บาท โดยรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ มอบให้ เพื่อใช้ประโยชน์ด้านการศึกษาแก่สามเณร วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม สิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม : จากการดำเนินโครงการบุปผาแห่งศรัทธา ทำให้ชมรมได้เรียนรู้กระบวนการทักษะ วิศวกรสังคม คือ นักคิด นักสื่อสาร นักประสาน และนักสร้างนวัตกรรมร่วมกับชุมชน แก้ไขปัญหา พร้อมทั้งพัฒนาต่อยอดให้ผลิตภัณฑ์มีรูปแบบและมีแนวคิดที่สร้างสรรค์ โดยการนำสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดลำปาง ถ้วยตราไก่ มาสร้างมูลค่าของสินค้า อภิปรายและสรุปผล โครงการบุปผาแห่งศรัทธาจะไม่ประสบความสำเร็จได้ ถ้าหาดไม่ได้รับความอนุเคราะห์จากมูลนิธิกรุงศรี ในการสนับสนุน งบประมาณในการดำเนินกิจกรรรมครั้งนี้ ทำให้เกิดการพัฒนาเรียนรู้ระหว่างชุมชนและชมรม LPRU สืบสานปณิธานงานของพ่อ ที่พร้อมจะขับเคลื่อนและพัฒนาชุมชน สิ่งแวดล้อมภายในจังหวัดลำปางให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนมากขึ้น หลังจากได้ดำเนินกิจกรรม โครงการบุปผาแห่งศรัทธา ทางชมรม LPRU สืบสานปณิธานงานของพ่อ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัย ราชภัฏลำปาง และผู้นำชุมชนชุมชนวัดพระแก้ว – หัวข่วง ชุมชนประตูม้า ชุมชนช่างแต้ม จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์โครงการบุปผา แห่งศรัทธา จำนวน 199 ชุด ทั้งหมด 8,541 บาท รายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ถวายปัจจัยพระคุณเจ้าคณะจังหวัดลำปาง (เจ้าอาวาสวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม) พร้อมสร้างโมเดลใหม่ให้แก่ชุมชนและเป็นแบบอย่างให้แก่วัดอื่นๆ สามารถนำแนวคิดไปใช้ ต่อยอดทางด้านธุรกิจได้ โดยกิจกรรมโครงการมีการออกแบบวางแผนทดลอง และนำแนวคิดผลิตภัณฑ์ถ้วยตราไก่ สินค้าที่เป็น เอกลักษณ์ของจังหวัดลำปางมาสร้างมูลค่าเพิ่ม และเพิ่มเสน่ห์ความเป็นวัฒนธรรม ความเชื่อ ศรัทธาควบคู่กันโดยนำเซียมซีของวัด
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 34 พระแก้วดอนเต้าสุชาดารามมาใส่ในถ้วยตราไก่ สำหรับจุด และยังสามารถนำถ้วยตราไก่กับมาใช้ประโยชน์ได้อีกด้วย พร้อมพัฒนา โมเดลกิจกรรมอื่นๆต่อไป
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 35 การจัดทำกลยุทธ์การบริหารงานด้านกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อพัฒนานักศึกษา สู่การเป็นผู้ประกอบการของกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา Creating management strategies for extra-curricular activities to develop students into entrepreneurs. Of the Student Development Division Rajamangala University of Technology Lanna อำนาจ ใจคำฟู1 นันทิดา รังสรรค์2 ศิขรินทร์ บุญจี๋3 Amnart Chaikhamfu1 Nuntida Rungsun2 Sikharin Boonjee3 บทคัดย่อ บทความนี้มีวัตถุประสงค์ในการนำเสนอรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อพัฒนานักศึกษา ให้มีความพร้อมสำหรับ การเป็นผู้ประกอบการที่สอดคล้องกับคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ซึ่งต้องเป็นบัณฑิต นักปฏิบัติมืออาชีพ ภารกิจสำคัญของกองพัฒนานักศึกษาที่ต้องพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาให้มีความพร้อมที่จะเป็นบัณฑิตนักปฏิบัติ และ เป็นผู้ประกอบการที่มีคุณภาพ ผ่านกิจกรรมเสริมหลักสูตรตามนโยบายของมหาวิทยาลัยทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ (1) ด้านภาษาอังกฤษ (2) ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (3) ด้านวิชาการหรือวิชาชีพ (4) ด้านกีฬาหรือส่งเสริมสุขภาพ และ(5) ด้านจิตอาสาหรือเสริมสร้างทักษะชีวิต โดยกองพัฒนานักศึกษาได้ขับเคลื่อนนโยบายโครงการออกแบบกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมให้นักศึกษาได้รับการพัฒนาที่ตรงกับนโยบาย ของมหาวิทยาลัยและตรงกับความต้องการของนักศึกษา โดยกำหนดกลยุทธ์ในการจัดกิจกรรม ดังนี้ 1. การส่งเสริมบุคลากรให้มีทักษะ ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการปฏิบัติงานตามพันธกิจหลักของหน่วยงาน 2. การส่งเสริมนักศึกษาให้มีทักษะทางวิชาชีพ และทักษะการดำรงชีวิตในยุคดิจิทัล 3. การยกระดับกิจกรรมพัฒนานักศึกษาให้มีสมรรถนะและทักษะตรงกับความต้องการของ ผู้ประกอบการ 4. การสนับสนุนโครงการกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่ตรงกับความต้องการของนักศึกษา 5. การปรับปรุงระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ให้เอื้อต่อการปฏิบัติงาน และเกิดประโยชน์ต่อนักศึกษา คำสำคัญ : บัณฑิตนักปฏิบัติ กิจกรรมเสริมหลักสูตร ____________________________ กองพัฒนานักศึกษา สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 36 บทนำ กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เป็นส่วนราชการภายในสำนักงานอธิการบดีตามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการแบ่งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พ.ศ.2550 โดยกองพัฒนานักศึกษา เป็นศูนย์กลางในการติดต่อประสานงานด้านกิจการนักศึกษา ทำหน้าที่ส่งเสริม บริการและพัฒนานักศึกษาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยยึด หลักความเสมอภาคในการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย จากการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงานของพัฒนานักศึกษาพบว่า มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนามีนโยบายในการพัฒนานักศึกษาให้เป็นบัณฑิตนักปฏิบัติที่โดดเด่นด้านวิชาชีพ และมีความพร้อมในด้านการ ปฏิบัติงานแต่ยังไม่มีการกำหนดกลยุทธ์สำหรับการปฏิบัติงานที่ชัดเจน โดยเฉพาะการพัฒนาต่อยอดผลสัมฤทธิ์ของกิจกรรมพัฒนา นักศึกษา ทำให้การกำหนดเป้าหมายไม่สะท้อนการพัฒนากิจกรรมนักศึกษา และรูปแบบการจัดกิจกรรมยังไม่สามารถสร้างแรงจูงใจ ให้นักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมได้ตลอดระยะเวลาที่จัดกิจกรรม จากปัญหาที่นำเสนอจึงเป็นที่น่าสนใจที่จะศึกษาการจัดกิจกรรม เสริมหลักสูตรเพื่อเสนอกลยุทธ์ให้กับผู้บริหารและบุคลากรนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนานักศึกษาสู่การเป็นผู้ประกอบการที่มี คุณภาพ โดยเชื่อมโยงแนวคิดและวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อพัฒนานักศึกษาสู่การเป็นผู้ประกอบการ ในประเด็น ดังนี้ 1. กิจกรรมนักศึกษา (Student Activities) เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติงานด้านกิจการนักศึกษาที่มีความสำคัญต่อการ พัฒนานักศึกษาให้มีความพร้อมด้านร่างกาย อารมณ์สังคม และสติปัญญาเพื่อนำไปสู่การประกอบอาชีพและการเป็นพลเมืองที่ดี ของสังคม เป็นปัจจัยหลักที่สำคัญในการบริหารอุดมศึกษาที่ช่วยในการสร้างเสริมการพัฒนานักศึกษาและเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา นักศึกษานอกเหนือจากสิ่งที่บังคับเรียนในชั้นเรียน (สมโชค เพ็งลี, 2563) 2. ประเภทและลักษณะของกิจกรรมนักศึกษา (ธิดารัตน์ บุญนุช, 2543 อ้างถึงในสมโชค เพ็งลี, 2563) ได้แบ่งประเภท และลักษณะของกิจกรรมนักศึกษาระดับอุดมศึกษาออกเป็น 6 ด้าน ได้แก่ (1) ด้านการปกครอง เช่น สโมสรนักศึกษา สภานักศึกษา (2) ด้านวิชาการ เช่น ชมรมคณิตศาสตร์ ชมรมถ่ายภาพ (3) ด้านกีฬา เช่น ฟุตบอล ว่ายน้ำ (4) ด้านจิตอาสาพัฒนา เป็นกิจกรรม บำเพ็ญประโยชน์ และให้นักศึกษาได้ใช้ความรู้เพื่อแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาสังคม (5) ด้านศิลปะและวัฒนธรรม และ (6) ด้านการเมือง เป็นกิจกรรมที่นักศึกษาจะถูกเพ่งเล็งว่าเป็นนักปฏิรูปสังคม 3. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของนักศึกษา (จตุวัฒน์ ผนึกรัมย์, 2557 อ้างถึงในสมโชค เพ็งลี, 2563) ได้ศึกษาการมีส่วนร่วม ในกิจกรรมของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พบว่าชมรมที่นักศึกษามีส่วนร่วมในกิจกรรมมากที่สุดคือ ชมรมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมและชมรมแบบมินตัน และพบว่าเวลาเรียนเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้นักศึกษาไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรม และนักศึกษาได้รับข้อมูลข่าวสารการจัดกิจกรรมจาก Facebook มากที่สุด 4. การส่งเสริมการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร (ไตรถิกา นุ่นเกลี้ยง, 2564) ได้ศึกษาการพัฒนาตัวชี้วัดและแนวทาง การส่งเสริมคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของนักศึกษาคณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบว่าบัณฑิตของคณะศิลปะศาสตร์ เป็นผู้มีคุณค่าทั้งต่อตนเองและสังคม แบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ คุณค่าเฉพาะบุคคล ประกอบด้วย 3 ตัวบ่งชี้ คือ การเป็นผู้มีจริยธรรม มีจิตสาธารณะ และเป็นผู้มีทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และคุณค่าทางด้านวิชาการและวิชาชีพ ประกอบด้วย 4 ตัวบ่งชี้ คือ มีทักษะด้านวิชาการและวิชาชีพ มีทักษะการคิดวิเคราะห์ มีความสามารถทางภาษาต่างประเทศ และมีความฉลาดทางด้านดิจิทัล โดยมีแนวทางในการส่งเสริมคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์โดยการจัดทำหลักสูตรที่บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยการ ส่งเสริม สนับสนุน ยกย่อง และใช้กิจกรรมนอกหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับตัวบ่งชี้เพื่อพัฒนาและผลิตบัณฑิต 5. กิจกรรมพัฒนานักศึกษา (พระธีรวัฒน์ อั้นเต้ง, 2566) ได้ศึกษาการบริหารกิจการนักศึกษาระดับอุดมศึกษา พบว่าปัจจุบัน มีการใช้กิจกรรมนักศึกษาเพื่อพัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของบัณฑิตไทยในการกำหนดเป้าหมายและแนวทางใน การพัฒนา คุณภาพการศึกษาของมหาวิทยาลัย ให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมเพื่อให้นักศึกษาได้พัฒนาร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เช่น กิจกรรมด้านวิชาการ ด้านความมีวินัย กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ กิจกรรมด้านดนตรีและกิจกรรมด้านความกตัญญู กตเวที
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 37 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดกิจกรรมพัฒนานักศึกษาของกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ล้านนา 2. เพื่อศึกษากลยุทธ์การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อพัฒนานักศึกษาสู่การเป็นผู้ประกอบการของกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ระเบียบวิธีการศึกษา การศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (qualitative research) มีขั้นตอนทั้งหมด 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดและทฤษฎีการบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ขั้นตอนที่ 2 การสัมภาษณ์แบบกลุ่ม (focus group interviews) กับกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักที่เป็นบุคลากรของกองพัฒนา นักศึกษา ผู้บริหารของมหาวิทยาลัย ผู้ปกครองนักศึกษา และตัวแทนนักศึกษา เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน ด้านกิจกรรมพัฒนานักศึกษาของกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เพื่อตอบวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 ขั้นตอนที่ 3 นำผลการสัมภาษณ์แบบกลุ่มมาวิเคราะห์ด้วยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (content analysis) เพื่อสรุปผลการวิจัย และพัฒนาร่างกลยุทธ์การจัดกิจกรรมพัฒนานักศึกษา ขั้นตอนที่ 4 นำผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากขั้นตอนที่ 3 มาดำเนินการจัดการประชุมกลุ่มย่อย (small group discussion) เพื่อยืนยันผลการวิเคราะห์ข้อมูล และรับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกลยุทธ์การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อพัฒนานักศึกษา สู่การเป็นผู้ประกอบการของกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา โดยเชิญตัวแทนผู้ให้ข้อมูลหลัก 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1) กลุ่มผู้บริหารของมหาวิทยาลัย 2) กลุ่มบุคลากรสายสนับสนุน 3) กลุ่มผู้นำนักศึกษา รวมจำนวนทั้งสิ้น 30 คน เพื่อตอบวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 ขั้นตอนที่ 5 สรุปผลกรวิจัย ประชากรในการศึกษา เป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักในการสัมภาษณ์แบบ กลุ่มเป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านกิจกรรมพัฒนานักศึกษาของกองพัฒนานักศึกษา ผู้บริหาร ผู้ปกครองนักศึกษา และกรรมการสโมสร นักศึกษา โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (purposive sampling) แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้บริหาร จำนวน 5 คน กลุ่มบุคลากร สายสนับสนุน จำนวน 15 คน ผู้ปกครองนักศึกษา 5 คน และกลุ่มผู้นำนักศึกษา (นายกองค์การนักศึกษา ประธานสภานักศึกษา ประธานสโมสรระดับคณะ และกรรมการสโมสร) จำนวน 35 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 60 คน เครื่องมือศึกษา แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1) แบบสัมภาษณ์กึ่งมีโครงสร้าง และ 2) วาระการประชุม วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยได้ทำบันทึกและแบบสัมภาษณ์แบบกลุ่มไปยังกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก จำนวน 60 คน และกำหนดวัน เวลา และสถานที่ เพื่อสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูล นำผลการสัมภาษณ์แบบกลุ่มมาวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (content analysis) แล้วสรุปประเด็นสำคัญ และยืนยันสรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยจัดให้มีการประชุมกลุ่มย่อย (small group discussion) โดยมีตัวแทนผู้ให้ข้อมูลหลัก 3 กลุ่ม จำนวน 30 คน ร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยตัวแทนผู้ให้ข้อมูลหลักทั้ง 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. กลุ่มผู้บริหาร ได้แก่ อธิการบดี รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและกิจกรรมนักศึกษา รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ผู้อำนวยการ สำนักงานอธิการบดี และผู้อำนวยการกองพัฒนานักศึกษา 2. บุคลากรสายสนับสนุน ได้แก่ บุคลากรกองพัฒนานักศึกษา นักวิชาการศึกษา 3. สโมสรนักศึกษา ได้แก่ นายกองค์การนักศึกษา ประธานสภานักศึกษา ประธานสโมสรระดับคณะ และกรรมการสโมสร
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 38 ผลการศึกษา ผลการวิเคราะห์กลยุทธ์การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อพัฒนานักศึกษาสู่การเป็นผู้ประกอบการ ของกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา สามารถสรุปได้ ดังนี้ 1. การวิเคราะห์SWOT Analysis ของกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 1.1 การวิเคราะห์SWOT Analysis ตามหลัก 7’S model มีผลการดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.1.1 จุดแข็ง (strengths) จากการศึกษา พบว่า กองพัฒนานักศึกษามีนโยบายด้านกิจกรรมพัฒนานักศึกษาให้เป็น บัณฑิตนักปฏิบัติที่โดดเด่นด้านวิชาชีพ มีการสนับสนุนการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่มีเป้าหมายอย่างชัดเจน มีระบบสารสนเทศ สนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรด้านการให้บริการนักศึกษา มีเครือข่ายในการทำงานทั้งหน่วยงานภายในและหน่วยงานภายนอก ด้านการพัฒนานักศึกษา มีการทำงานเป็นทีม และมีความพร้อมในการสนับสนุนกิจกรรมของหน่วยงาน 1.1.2 จุดอ่อน (weaknesses) จากการศึกษา พบว่า รูปแบบการจัดกิจกรรมของกองพัฒนานักศึกษายังไม่สามารถ สร้างแรงจูงใจให้นักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมได้ ทำให้ขาดความรับผิดชอบในการทำกิจกรรม ขาดการประเมินความคุ้มค่าของโครงการ ขาด กลยุทธ์ในการบริหารงานของหน่วยงานทำให้ไม่มีเป้าหมายร่วมกัน บุคลากรขาดความเข้าใจในขอบเขตการทำงานที่ต้อง ตอบสนองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง มีช่องว่างของการสื่อสารภายในหน่วยงานทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการปฏิบัติตามระเบียบ ประกาศ คำสั่งในการดำเนินงานอย่างละเอียด ขาดระบบการกำกับ ติดตาม และวิเคราะห์การดำเนินงานของหน่วยงาน และขาดทักษะ ในการคิดเชิงระบบ และการคิดเชิงวิเคราะห์ 1.1.3 โอกาส (opportunities) จากการศึกษา พบว่ามหาวิทยาลัยมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ที่ช่วยมีการ สร้างและขยายความร่วมมือเครือข่ายกับหน่วยงานภายนอกด้านการพัฒนานักศึกษา มีการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดกิจกรรม ที่สามารถสร้างเครือข่ายกับศิษย์เก่า หน่วยงาน และชุมชน มีนโยบายการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มุ่งเน้นนักปฏิบัติจริง ทำให้หน่วยงานผลิตบัณฑิตตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ มีการบูรณาการองค์ความรู้ ทำให้เกิดความร่วมมือในการใช้ เทคโนโลยีมาปฏิบัติงาน การเปิดเสรีทางการศึกษาสามารถขยายเครือข่ายความร่วมมือเพิ่มขึ้น มีการวางแผนการพัฒนานักศึกษาให้ มีอัตลักษณ์ ทักษะ และสมรรถนะแห่งอนาคตที่ชัดเจนและทันสมัย มีการสนับสนุนบุคลากรเพื่อพัฒนาศักยภาพและมี ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง อย่างชัดเจน มีการส่งเสริมให้มีพัฒนาการทางด้าน ทักษะชีวิต คุณธรรม จริยธรรม 1.1.4 อุปสรรค (threats) จากการศึกษา พบว่า การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ทำให้การพัฒนา ระบบฐานข้อมูล ไม่ทันต่อความต้องการในยุคปัจจุบัน และมีอุปสรรคต่อการรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยี ความต้องการและ ค่านิยมของผู้เรียนที่เปลี่ยนไป โดยมุ่งเน้นที่ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และลดความสำคัญของใบปริญญาบัตร การเปลี่ยนแปลง นโยบายของรัฐด้านการศึกษา มีการปรับรูปแบบเพื่อเป้าหมายในการพลิกโฉมเพื่อสร้างและพัฒนาคนในศตวรรษที่ 21 มีข้อจำกัดด้าน วิทยากรที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่การปฏิบัติที่ไม่มีความต่อเนื่อง 1.2 การวิเคราะห์SWOT Analysis ตามหลัก STEM ซึ่งเป็นหลักการสร้างนวัตกรรมทางปัญญาสร้างสังคมรู้ รัก สามัคคี มีสันติสุขอย่างยั่งยืนของคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีผลการดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.2.1 หลักสังคมและวัฒนธรรม (Social / Society) จากการศึกษาพบว่า มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ที่สนับสนุนการสร้างความร่วมมือการพัฒนานักศึกษากับเครือข่ายภายนอก แต่จำนวนประชากรวัยศึกษาลดลงส่งผลให้นักศึกษา มีจำนวนลดลง 1.2.2 หลักเทคโนโลยี (Technology) จากการศึกษาพบว่า มีนโยบายการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่มุ่งเน้นนักปฏิบัติจริงทำให้หน่วยงานผลิตบัณฑิตตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ แต่จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี อย่างรวดเร็ว ทำให้การพัฒนาระบบฐานข้อมูลไม่ทันต่อความต้องการในยุคปัจจุบัน และมีอุปสรรคต่อการรักษาความปลอดภัย ทางเทคโนโลยี
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 39 1.2.3 หลักเศรษฐกิจ (Economical) Economical จากการศึกษาพบว่า การเปิดเสรีทางการศึกษาสามารถขยาย เครือข่ายความร่วมมือเพิ่มขึ้น แต่การปรับเปลี่ยนค่านิยมของผู้เรียนภายหลังจากได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคโควิด 2019 ที่เน้นการพัฒนาความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และลดความสำคัญของการศึกษาระดับปริญญาส่งผลต่อจำนวนนักศึกษาของมหาวิทยาลัย 1.2.4 หลักนโยบายและกฎหมาย (Political) จากการศึกษาพบว่า มีการปรับปรุง ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงานมากขึ้น และมีการวางแผนการพัฒนานักศึกษาให้มีอัตลักษณ์ ทักษะ และสมรรถนะแห่งอนาคตที่ชัดเจน และทันสมัย แต่ระเบียบราชการมีข้อจำกัด ทำให้ขาดความคล่องตัวและความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการหน่วยงาน 1.2.5 หลักคุณธรรม จริยธรรม (Moral Mathematics) จากการศึกษาพบว่า มีนโยบายด้านการทำงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และมีการส่งเสริมให้มีพัฒนาการทางด้านทักษะชีวิต คุณธรรม และจริยธรรม แต่การเปลี่ยนแปลงทางด้านวัตถุนิยมทำให้การเข้าถึงหลักคุณธรรมจริยธรรมลดน้อยลง 2. การเก็บข้อมูลจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการปฏิบัติงานของกองพัฒนานักศึกษา 2.1 จากการศึกษาข้อคิดเห็นของผู้ปกครองนักศึกษาที่มีต่อการจัดกิจกรรมพัฒนานักศึกษาพบว่า ผู้ปกครองต้องการให้มี ฐานข้อมูลรายละเอียดประวัติด้านความสามารถของอาจารย์ผู้สอน คำอธิบายรายวิชาของแต่ละหลักสูตร เกณฑ์การให้คะแนน และการตรวจสอบผลการเรียนของนักศึกษา 2.2 จากการศึกษาข้อคิดเห็นของนักศึกษาที่มีต่อการจัดกิจกรรมพัฒนานักศึกษาพบว่า นักศึกษาต้องการเรียนรู้ทักษะการ ทำงาน การสื่อสารกับชาวต่างชาติ และการใช้เทคโนโลยีได้อย่างเชี่ยวชาญ ต้องการร่วมกิจกรรมที่มีรายได้ระหว่างศึกษา กิจกรรม เสริมสร้างทางวิชาการโดยมีห้องเรียนแบบ Smart Classroom และให้มีส่วนร่วมในชั้นเรียน กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ กิจกรรมด้าน จิตอาสา ซึ่งการเข้าร่วมกิจกรรมของนักศึกษาจะพบว่ามีปัญหาตามมาภายหลัง คือไม่สามารถกลับไปเรียนย้อนหลังได้ นอกจากนี้แล้ว นักศึกษาบางส่วนจะต้องใช้เวลาหลังเลิกเรียนไปทำงานเพื่อรายได้ระหว่างเรียน จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้นักศึกษาไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมของ มหาวิทยาลัย นอกจากนี้แล้วนักศึกษายังมีความต้องการได้รับการสนับสนุนด้านทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีผลการเรียนอยู่ในระดับปานกลาง ต้องการสถานที่ออกกำลังกาย การรักษาพยาบาล และได้บริการให้คำปรึกษาแบบออนไลน์ โดยนักจิตวิทยา และที่สำคัญคือการเปิดโอกาสให้นักศึกษาพิการได้รับสิทธิและโอกาสอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค 2.3 จากการศึกษาข้อคิดเห็นของผู้บริหารที่มีต่อการจัดกิจกรรมพัฒนานักศึกษาพบว่า ต้องการให้กองพัฒนานักศึกษา มีMindset จิตอาสา และส่งเสริมให้นักศึกษาของมหาวิทยาลัยต้องมีจุดเด่นที่มหาวิทยาลัยอื่นไม่สามารถทำได้ โดยเฉพาะการ จัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรตามรูปแบบกิจกรรมที่กองพัฒนานักศึกษาได้เสนอมหาวิทยาลัยทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ ด้านภาษาอังกฤษ ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ด้านวิชาการหรือวิชาชีพ ด้านส่งเสริมสุขภาพ และด้านจิตอาสา 3. การวิเคราะห์TOWS Matrix ของกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ผลการวิเคราะห์TOWS Matrix ของกลยุทธ์การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อพัฒนานักศึกษาสู่การเป็นผู้ประกอบการ ของกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา สามารถสรุปได้ ดังนี้ 3.1 การวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อน (strengths และ opportunities: SO) 3.1.1 การวิเคราะห์ข้อมูลชุดที่ 1 (S) มีนโยบายด้านกิจกรรมพัฒนานักศึกษาให้เป็นบัณฑิตนักปฏิบัติที่โดดเด่นด้านวิชาชีพ และมีความพร้อม ในด้านการปฏิบัติงาน (O) และ (Political) มีการวางแผนการพัฒนานักศึกษาให้มีอัตลักษณ์ ทักษะ และสมรรถนะแห่งอนาคต ที่ชัดเจนและทันสมัย 3.1.2 การวิเคราะห์ข้อมูลชุดที่ 2 (S) มีการสนับสนุนการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่มีเป้าหมายอย่างชัดเจน
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 40 (O) และ (Technology) มีนโยบายการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มุ่งเน้นนักปฏิบัติจริงทำให้ หน่วยงานผลิตบัณฑิตตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ 3.1.3 การวิเคราะห์ข้อมูลชุดที่ 3 (S) มีระบบสารสนเทศสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรด้านการให้บริการนักศึกษา (O) มีการบูรณาการองค์ความรู้ ทำให้เกิดความร่วมมือในการใช้เทคโนโลยีมาปฏิบัติงาน 3.1.4 การวิเคราะห์ข้อมูลชุดที่ 4 (S) เป้าหมายการพัฒนานักศึกษาระดับหน่วยงานที่ชัดเจน (O) และ (Political) มีการวางแผนการพัฒนานักศึกษาให้มีอัตลักษณ์ทักษะ และสมรรถนะแห่งอนาคต ที่ชัดเจนและทันสมัย 3.2 การวิเคราะห์จุดอ่อนและโอกาส (weaknesses and opportunities: WO) 3.2.1 การวิเคราะห์ข้อมูลชุดที่ 5 (W) บุคลากรขาดความเข้าใจในขอบเขตการทำงานที่ต้องตอบสนองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง (O) และ (Political) มีการสนับสนุนบุคลากรเพื่อพัฒนาศักยภาพและมี ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง อย่างชัดเจน 3.3 การวิเคราะห์จุดแข็งและโอกาส (strengths and opportunities: SO) 3.3.1 การวิเคราะห์ข้อมูลชุดที่ 6 (S) มีนโยบายด้านกิจกรรมพัฒนานักศึกษาให้เป็นบัณฑิตนักปฏิบัติที่โดดเด่นด้านวิชาชีพ และมีความพร้อม ในด้านการปฏิบัติงาน (O) และ (Political) มีการวางแผนการพัฒนานักศึกษาให้มีอัตลักษณ์ทักษะ และสมรรถนะแห่งอนาคตที่ ชัดเจนและทันสมัย 3.3.2 การวิเคราะห์ข้อมูลชุดที่ 7 (S) มีการกำหนดเป้าประสงค์ และตัวชี้วัดในการ จัดกิจกรรมพัฒนานักศึกษาที่ชัดเจน (O) และ (Political) มีนโยบายการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มุ่งเน้นนักปฏิบัติจริงทำให้ หน่วยงานผลิตบัณฑิตตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ 3.3.3 การวิเคราะห์ข้อมูลชุดที่ 8 (S) มีระบบสารสนเทศสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรด้านการให้บริการนักศึกษา (O) มีการบูรณาการองค์ความรู้ ทำให้เกิดความร่วมมือในการใช้เทคโนโลยีมาปฏิบัติงาน 3.4 การวิเคราะห์จุดอ่อนและอุปสรรค (weaknesses and threats: WT) 3.4.1 การวิเคราะห์ข้อมูลชุดที่ 9 (W) รูปแบบการจัดกิจกรรมยังไม่สามารถสร้างแรงจูงใจให้นักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมได้ ทำให้ขาดความ รับผิดชอบในการทำกิจกรรม (T) และ (Moral Mathematics) ความต้องการและค่านิยมของผู้เรียนที่เปลี่ยนไป โดยมุ่งเน้นที่ความ เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และลดความสำคัญของใบปริญญาบัตร 4. กลยุทธ์การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อพัฒนานักศึกษาสู่การเป็นผู้ประกอบการของกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จากการประชุมกลุ่มย่อย (small group discussion) กับตัวแทนกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก 3 กลุ่ม จำนวน 30 คน เพื่อยืนยันผลการวิเคราะห์ข้อมูล กำหนดให้มี5 กลยุทธ์หลัก ดังนี้
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 41 1. กลยุทธ์ที่ 1 (กลยุทธ์เชิงแก้ไข) การส่งเสริมบุคลากรให้มีทักษะในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการปฏิบัติงานตาม พันธกิจหลักของหน่วยงาน 2. กลยุทธ์ที่ 2 (กลยุทธ์เชิงรุก) การส่งเสริมนักศึกษาให้มีทักษะทางวิชาชีพ และทักษะการดำรงชีวิตในยุคดิจิทัล 3. กลยุทธ์ที่ 3 (กลยุทธ์เชิงรุก) การยกระดับกิจกรรมพัฒนานักศึกษาให้มีสมรรถนะและทักษะตรงกับความต้องการ ของผู้ประกอบการ 4. กลยุทธ์ที่ 4 (กลยุทธ์เชิงป้องกัน) การสนับสนุนโครงการกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่ตรงกับความต้องการของนักศึกษา 5. กลยุทธ์ที่ 5 (กลยุทธ์เชิงรับ) การปรับปรุงระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ให้เอื้อต่อการปฏิบัติงาน และเกิดประโยชน์ ต่อนักศึกษา สรุปผลการศึกษา การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อพัฒนานักศึกษาของกองพัฒนานักศึกษาในภาพรวมมีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยภายในกลุ่ม นโยบาย คือ นโยบายการพัฒนานักศึกษาให้เป็นบัณฑิตนักปฏิบัติที่โดดเด่นด้านวิชาชีพ นโยบายการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและ นวัตกรรมที่มุ่งเน้นให้นักศึกษาเป็นนักปฏิบัติที่มีความรู้ความสามารถตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ และการส่งเสริมให้มี พัฒนาการทางด้านทักษะชีวิต คุณธรรม จริยธรรม และกลุ่มปฏิบัติ คือ การทำงานเป็นทีม และมีความพร้อมในการสนับสนุนกิจกรรม ของหน่วยงาน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของหน่วยงาน การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่าง รวดเร็วทำให้การพัฒนาระบบไม่ทันต่อความต้องการ ผลการประชุมกลุ่มย่อยโดยตัวแทนผู้ให้ข้อมูลหลัก 3 กลุ่ม รวมจำนวน 30 คน สรุปได้ว่า การจัดทำกลยุทธ์การบริหารงานด้านกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อพัฒนานักศึกษาสู่การเป็นผู้ประกอบการของกองพัฒนา นักศึกษา มี 5 กลยุทธ์ ได้แก่ 1) การส่งเสริมบุคลากรให้มีทักษะในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการปฏิบัติงานตามพันธกิจหลักของ หน่วยงาน 2) การส่งเสริมนักศึกษาให้มีทักษะทางวิชาชีพ และทักษะการดำรงชีวิตในยุคดิจิทัล 3) การยกระดับกิจกรรมพัฒนานักศึกษา ให้มีสมรรถนะและทักษะตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ 4) การสนับสนุนโครงการกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่ตรงกับความ ต้องการของนักศึกษา 5) การปรับปรุงระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ให้เอื้อต่อการปฏิบัติงาน และเกิดประโยชน์ต่อนักศึกษา อภิปรายผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ กระบวนการพัฒนากลยุทธ์การบริหารงานด้านกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อพัฒนานักศึกษาสู่การเป็นผู้ประกอบการของกอง พัฒนานักศึกษา ได้เก็บรวบรวมข้อมูลและยืนยันสรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลกับผู้ให้ข้อมูลหลัก 3 ฝ่าย คือ ผู้บริหาร บุคลากรสาย สนับสนุน และตัวแทนนักศึกษา โดยกำหนด 5 กลยุทธ์หลัก คือ การส่งเสริมบุคลากรให้มีทักษะในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการ ปฏิบัติงานตามพันธกิจหลักของหน่วยงาน การส่งเสริมนักศึกษาให้มีทักษะทางวิชาชีพ และทักษะการดำรงชีวิตในยุคดิจิทัล การ ยกระดับกิจกรรมพัฒนานักศึกษาให้มีสมรรถนะและทักษะตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ การสนับสนุนโครงการกิจกรรม เสริมหลักสูตรที่ตรงกับความต้องการของนักศึกษา และการปรับปรุงระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ให้เอื้อต่อการปฏิบัติงาน และเกิด ประโยชน์ต่อนักศึกษา แนวทางในการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่ต้องพัฒนานักศึกษาให้เป็นบัณฑิตนักปฏิบัติเป็นภารกิจหลักของกองพัฒนา นักศึกษาที่จะต้องออกแบบกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักศึกษาสามารถเรียนรู้ทักษะด้านวิชาการและวิชาชีพ ทักษะด้านการสื่อสารกับ ชาวต่างชาติ และทักษะการใช้เทคโนโลยีได้อย่างเชี่ยวชาญ ดังนั้นรูปแบบกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่จะช่วยส่งเสริมให้นักศึกษาได้เรียนรู้ ทักษะดังกล่าวจึงครอบคลุมหลักสูตร 5 ด้าน ได้แก่ ด้านภาษาอังกฤษ ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ด้านวิชาการหรือวิชาชีพที่เสริมสร้าง ทักษะการเป็นผู้ประกอบการ ด้านส่งเสริมสุขภาพ และด้านจิตอาสา โดยกำหนดหลักเกณฑ์การให้มีรางวัลที่เหมาะสมในแต่ละด้าน เช่น การสนับสนุนค่าบำรุงการศึกษาหรือทุนสำหรับการพัฒนาสมรรถนะตามคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ และการสนับสนุนเงินรางวัล ให้กับนักศึกษาที่มีผลการเรียนและมีผลการเข้าร่วมกิจกรรมดีเด่นเพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการเข้าร่วมกิจกรรมให้มากขึ้นและจะช่วย เสริมสร้างให้นักศึกษามีความพร้อมในการทำงานตั้งแต่ก่อนสำเร็จการศึกษา สอดคล้องกับผลการศึกษาของนันทพงศ์ หมิแหละหมัน,
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 42 นรรถสรรพ เล็กสู่, เฉลิมชาติ เมฆแดง และวัฒนา จินดาวัฒน์ (2563). (อ้างถึงในพระธีรวัฒน์ อั้นเต้ง (2566)) ที่ได้ศึกษาการใช้ กิจกรรมนักศึกษาเพื่อพัฒนาคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ของบัณฑิตไทย กรณีศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีแห่ง สุวรรณภูมิ ที่พบว่ากิจกรรมพัฒนาคุณลักษณะบัณฑิตไทยที่พึงประสงค์มีทั้งด้านวิชาการ ความมีวินัยและความรับผิดชอบ การบำเพ็ญ ประโยชน์ และการส่งเสริมการมีสุขภาพกาย สุขนิสัยและสุขภาพจิตที่ดีมีสุนทรียภาพทั้งทางศิลปะ ดนตรี และกีฬา ตลอดจนความ กตัญญูกตเวที และสอดคล้องกับผลการศึกษาของไตรถิกา นุ่นเกลี้ยง (2564) ที่ได้ศึกษาการพัฒนาตัวชี้วัดและแนวทางการส่งเสริม คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของนักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยพบว่าบัณฑิตของคณะศิลปศาสตร์เป็นผู้มี คุณค่าทั้งต่อตนเองและสังคม แบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ คุณค่าเฉพาะบุคคล ประกอบด้วย 3 ตัวบ่งชี้ คือ การเป็นผู้มีจริยธรรม มีจิต สาธารณะ และเป็นผู้มีทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และคุณค่าทางด้านวิชาการและวิชาชีพ ประกอบด้วย 4 ตัวบ่งชี คือ มีทักษะ ด้านวิชาการและวิชาชีพ มีทักษะการคิดวิเคราะห์ มีความสามารถทางภาษาต่างประเทศ และมีความฉลาดทางด้านดิจิทัล และมี แนวทางในการส่งเสริมโดยการจัดทำหลักสูตรที่บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยการส่งเสริม สนับสนุน ยกย่อง และใช้กิจกรรม นอกหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับตัวบ่งชี้เพื่อพัฒนาและผลิตบัณฑิต จากผลการศึกษา ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะในการจัดทำกลยุทธ์ในการบริหารงานกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อพัฒนานักศึกษา ของกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ดังนี้ 1. กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ควรกำหนดแผนกลยุทธ์การดำเนินงานในแผนปฏิบัติ ราชการประจำปีและต้องพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะในการคิดวิเคราะห์เพื่ออกแบบกิจกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชชน์ตามความคาดหวัง ของนักศึกษาและมหาวิทยาลัย 2. กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ควรกำหนดกิจกรรมหรือโครงการที่ตอบตัวชี้วัดกลยุทธ์ เพื่อยกระดับการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรให้ตอบสนองความต้องการของนักศึกษา ผู้ปกครองของนักศึกษา ตลอดจนผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นผู้รับบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เอกสารอ้างอิง ไตรถิกา นุ่นเกลี้ยง. (2564). การพัฒนาตัวชี้วัดและแนวทางการส่งเสริมคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของนักศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ . สืบค้นเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2567, จาก https://kb.psu.ac.th/psukb/bitstream/2016/17447/1/451634.pdf นันทพงศ์ หมิแหละหมัน,นรรถสรรพ เล็กสู่,เฉลิมชาติ เมฆแดง และวัฒนา จินดาวัฒน์. (2563). อ้างถึงใน พระธีรวัฒน์ อั้นเต้ง. (2566). การบริหารกิจการนิสิตนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาด้านกิจกรรมการพัฒนานิสิตระดับอุดมศึกษาตามคุณลักษณะที่พึง ประสงค์. วารสารปรัชญาดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์ ปีที่ 2 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม–สิงหาคม 2566). สืบค้นเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2567, จาก https://so08.tci-thaijo.org/index.php/dpssj/issue/view/182/268 พระธีรวัฒน์ อั้นเต้ง. (2566). การบริหารกิจการนิสิตนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาด้านกิจกรรมการพัฒนานิสิตระดับอุดมศึกษาตาม คุณลักษณะที่พึงประสงค์. วารสารปรัชญาดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์ ปีที่ 2 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม–สิงหาคม 2566). สืบค้น เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2567, จาก https://so08.tci-thaijo.org/index.php/dpssj/issue/view/182/268 สมโชค เพ็งลี(2563), การศึกษาแนวทางการส่งเสริมการเข้าร่วมกิจกรรมของนักศึกษาระดับปริญญาตรีคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. สืบค้นเมื่อ 29 มกราคม 2567, จาก https://ags.kku.ac.th/th/wp-content/uploads/2021/03/การศึกษาแนวทางการส่งเสริมการเข้าร่วมกิจกรรมของ นักศึกษาระดับปริญญาตรี.pdf
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 43 การส่งเสริมสุขภาวะที่ดีแก่นักศึกษาราชมงคลตะวันออก RMUTTO Happy Wellness ทวิชากร ขุนภักดี1 , คณาธิป จิระสัญญาณสกุล2 และคณะทั้งหมด กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก Thawichakon Khunpakdee1 , Khanathip Jirasanyansagul2 et al Student Development Division Rajamangala University of Technology Tawan-ok บทคัดย่อ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก โดยกองพัฒนานักศึกษา มีหน้าที่ดูและด้านสุขภาวะแก่นักศึกษา โดยในทุกๆภาคการศึกษา จะมีการคัดกรองโดยการประเมิน RMUTTO Happy Wellness เพื่อทดสอบดัชนี้ชี้วัดสุขภาพจิตและการ ประเมินพลังใจ แก่ของนักศึกษา เพื่อนำผลจากการคัดกรองไปออกแบบโครงสร้างในการทำงาน ขั้นตอนแนวทางการปฏิบัติ เพื่อ แบ่งแยกกลุ่มปกติและกลุ่มเสี่ยง ในการดำเนินการช่วยเหลือส่งเสริมป้องกัน การจัดทำกิจกรรม นอกจากนี้มีการบริการให้คำปรึกษาแก่ นักศึกษา สำหรับนักศึกษาที่มีความเครียด คับข้องใจ ทั้งด้านจิตใจ สังคม การเรียน การปรับตัว การจัดกิจกรรมปรับทุกข์สร้างสุข พัฒนา EQ และอื่นๆ โดยมีนักจิตวิทยาให้คำปรึกษา และผู้มีประสบการณ์ให้บริการแก่นักศึกษา ผ่านระบบ Onsite และ Online อีกทั้งยังมีกลุ่มนักศึกษาเข้ามาช่วยเหลือและดูแลนักศึกษาแบบเพื่อนช่วยเพื่อน (Peer Assist) ชมรมTO BE NUMBER ONE ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ได้เข้าร่วมเครือข่ายการให้การปรึกษาเชิงจิตวิทยาและแนะแนวการศึกษาและอาชีพ สำหรับนิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษา (สกอ.) เครือข่ายกรมสุขภาพจิต ภายใต้การดูแลจากศูนย์สุขภาพจิตที่ 6 อีกทั้งมีการสร้าง เครือข่าย ในกลุ่ม 9 ราชมงคล และกลุ่มมหาวิทยาลัยในภาคตะวันออก นอกจากนี้ยังมีการให้บริการด้านสุขภาพจิตและการส่งต่อ เพื่อการรักษา การขับเคลื่อนการดำเนินงาน การพัฒนาความรู้และแนวทางการดำเนินงานช่วยเหลือนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ภาวะโรค ซึมเศร้าและสัญญาณเตือนการฆ่าตัวตาย เทคนิคการให้คำปรึกษานักศึกษาและแนวทางการซ้อมแผนเผชิญเหตุในมหาวิทยาลัย เพื่อประโยชน์สำหรับดูแลด้านสุขภาพจิตของนักศึกษา ให้สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีความสุขทั้งสุขภาวะที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ ผลจากการมีแนวทางในการในการดำเนินงานทำให้ผลทดสอบดัชนี้ชี้วัดสุขภาพจิตและการประเมินพลังใจของนักศึกษา ในปีการศึกษา 2566 อยู่ในภาวะสุขภาพจิตเท่ากับคนทั่วไปและสุขภาพจิตดีกว่าคนทั่วไป ถึงร้อยละ 84.2 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึงร้อยละ 30 เป็นตัวบ่งชี้ขั้นตอนในการสร้างความไว้วางใจและการเข้าถึงการรับบริการของนักศึกษา ลดผลกระทบปัญหาด้านสุขภาวะ และยังส่งผล ต่อการเรียนของนักศึกษาในระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาได้อย่างราบรื่นจนสำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ สามารถ ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข และประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ เป็น “บัณฑิตนักปฏิบัติ” ตามแนวทางการ พัฒนาบัณฑิตของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ซึ่งแนวทางการดำเนินงานดังกล่าว สามารถนำไปทดลองใช้ในการ ส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันการเจ็บป่วยทางสุขภาพจิตสำหรับนักศึกษาให้ได้รับการดูแลทางสุขภาพจิตอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสอดคล้องกับการบริบทของแต่ละสถาบันการศึกษาได้ คำสำคัญ : สุขภาวะ / การให้คำปรึกษา / ระบบการดูแลสุขภาพจิตสำหรับนักศึกษา ____________________________________ 1 กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ประเทศไทย
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 44 บทนำ แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ให้มีความพร้อมเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เป็นสถาบันอุดมศึกษามีหน้าที่สำคัญในการสร้าง คน ผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพทั้งทางด้านความรู้ คุณธรรม จริยธรรม และมีสุขภาวะที่ดีเพื่อเป็นฟันเพื่องสำคัญในการขับเคลื่อน การพัฒนาประเทศ ซึ่งการมีสุขภาวะที่ดีนั้นหมายถึงความสมบูรณ์พร้อมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณตนเอง ซึ่งจาก ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่ามีผู้ป่วยโรคซึมเศร้าประมาณร้อยละ 3.8 ของประชากรโลก นำไปสู่การเสียชีวิตมากกว่า 700,000 คนต่อปี โดยเยาวชนอายุระหว่าง 15-24 ปี เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายอันเนื่องมาจากปัญหาทางด้านสุขภาพจิตโดยเฉพาะ โรคซึมเศร้าสูงเป็นหนึ่งในสี่ลำดับแรกของสาเหตุการเสียชีวิต ทั้งหมดสำหรับประเทศไทยก็พบว่าคนไทยมีแนวโน้มที่ป่วยด้วย โรคซึมเศร้าเพิ่มขึ้น โดยปัญหาทางสุขภาพจิตที่พบบ่อยในช่วงวัยนี้ ได้แก่ ความเครียด ความวิตกกังวล ปัญหาทางด้านบุคลิกภาพ การจัดการ อารมณ์การปรับตัวภาวะซึมเศร้า หากไม่ได้รับการช่วยเหลือที่เหมาะสม ก็อาจพัฒนาเป็นโรคทางจิตเวชได้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลตะวันออก โดยกองพัฒนานักศึกษา ภายใต้งานสถานพยาบาล มีหน้าที่ดูแลด้านสุขภาวะทั้งทางร่างกายและจิตใจ ของนักศึกษา โดยมีกลุ่มย่อยในการให้บริการ 4 ด้าน ด้วยกัน คือ 1) Mental Health Service การบริการด้านสุขภาพจิต โดยมีการ ให้บริการ Psychological counseling (การให้คำปรึกษาทางจิตวิทยา) Occupational therapy (กิจกรรมบำบัด) Psychological test (การทดสอบทางจิตวิทยา) 2)Educational guidance การแนะแนวการศึกษา 3) Vocational guidance การแนะแนวอาชีพ 4) Social and Personal guidance การแนะแนวส่วนตัวและสังคม เป็นการจัดให้มีระบบในการดูแลบริการนักศึกษาด้านสุขสภาวะ ทางจิต ให้มีประสิทธิภาพเพื่อมุ่งเน้นผลลัพธ์ให้นักศึกษาสุขภาพจิตที่ดี ป้องกันการเจ็บป่วยทางจิตให้นักศึกษาที่มีภาวะเสี่ยง ฟื้นฟูสมัน สภาพและลดภาวะแทรกซ้อนให้นักศึกษาที่มีปัญหาทางจิตถือเป็นบทบาทที่สำคัญของกองพัฒนานักศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานการ ให้บริการแก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก จากการให้บริการและเก็บข้อมูลเชิงสถิติพบว่า เมื่อเกิดปัญหา นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่ขอรับการช่วยเหลือเนื่องจาก ยังคงมีทัศนคติและมีการรับรู้ในด้านลบ มองเป็นตราบาปของตนเอง (Stigma) ต่อการมีปัญหาสุขภาพจิตแต่เลือกขอความช่วยเหลือจากเพื่อนหรือคนใกล้ชิดแทน และอาจารย์ผู้สอนหรือบุคลากรทางการศึกษายังไม่ มีความรู้ในการช่วยเหลือหรือให้บริการแก่นักศึกษาได้อย่างถูกต้อง ซึ่งบางปัญหาสามารถผ่านพ้นไปได้แต่บางปัญหาที่ซับซ้อน เพื่อน หรือคนใกล้ชิดไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ อาจเนื่องจากการขาดทักษะและไม่ได้รับการฝึกฝนที่จะช่วยเหลือได้อย่างถูกต้อง ส่งผล ให้นักศึกษาที่มีปัญหาเหล่านี้มีผลกระทบต่อการเรียนจนอาจทำให้ไม่จบตามแผนการศึกษา หรือหลายรายต้องออกจากระบบการศึกษา ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมต่อเนื่องจนถึงวัยผู้ใหญ่ และหากไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ถูกต้องย่อมส่งผลให้เกิดการ ปัญหาด้านสุขภาพจิตที่รุนแรงมากขึ้น เช่น โรคซึมเศร้า โรคจิต หรือการฆ่าตัวตายตามมาได้ จากปัญหาดังกล่าวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก โดยกองพัฒนานักศึกษา จึงได้ดำเนินการคัดกรองนักศึกษา เป็นการสำรวจสุขภาวะทางจิตของนักศึกษาผ่านการประเมิน RMUTTO Happy Wellness เพื่อทดสอบดัชนีชี้วัดสุขภาพจิตและการ ประเมินพลังใจ คัดกรองและช่วยเหลือนักศึกษาที่มีภาวะเครียดและภาวะซึมเศร้าก่อนที่จะกลายเป็นโรคซึมเศร้าในที่สุด อีกทั้งยังเป็นฐานข้อมูลในการนำไปใช้สำหรับการออกแบบรูปแบบการดูแลนักศึกษาด้านสุขภ าพจิตและนำไปสู่การจัดกิจกรรม และแนวทางในการดำเนินการต่างๆ อาทิ การจัดทำกิจกรรม ปรับทุกข์ สร้างสุข พัฒนาEQ นอกจากนี้มีการบริการให้คำปรึกษาแก่ นักศึกษา สำหรับนักศึกษาที่มีความเครียด คับข้องใจ ทั้งด้านจิตใจ สังคม การเรียน การปรับตัว และอื่นๆ โดยมีนักจิตวิทยา ให้คำปรึกษา และผู้มีประสบการณ์ให้บริการแก่นักศึกษา ผ่านระบบ Onsite และ Online อีกทั้งยังมีกลุ่มนักศึกษาเข้ามาช่วยเหลือ และดูแลนักศึกษาแบบเพื่อนช่วยเพื่อน (Peer Assist) ชมรมTO BE NUMBER ONE ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ได้เข้าร่วมเครือข่ายการให้การปรึกษาเชิงจิตวิทยาและแนะแนวการศึกษาและอาชีพสำหรับนิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษา (สกอ.) เครือข่ายกรมสุขภาพจิต ภายใต้การดูแลจากศูนย์สุขภาพจิตที่ 6 อีกทั้งมีการสร้างเครือข่าย ในกลุ่ม 9 ราชมงคล และกลุ่มมหาวิทยาลัย ในภาคตะวันออก นอกจากนี้ยังมีการให้บริการด้านสุขภาพจิตและการส่งต่อเพื่อการรักษา การขับเคลื่อนการดำเนินงาน การพัฒนา
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 45 ความรู้และแนวทางการดำเนินงานช่วยเหลือนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ภาวะโรคซึมเศร้าและสัญญาณเตือนการฆ่าตัวตาย เทคนิคการให้ คำปรึกษานักศึกษาและแนวทางการซ้อมแผนเผชิญเหตุในมหาวิทยาลัย เพื่อประโยชน์สำหรับดูแลด้านสุขภาพจิตของนักศึกษา ให้สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีความสุขทั้งสุขภาวะที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ ดังคำที่ว่า “RMUTTO Happy Wellness”ความสุข สมบูรณ์หมายถึงสภาวะของความสุข ทั้งทางร่างกาย (Physical) อารมณ์ (Emotional) สติปัญญา (Intellectual) และสังคม (Social) วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลทางด้านสุขภาวะทางร่างกายและจิตใจ สำหรับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลตะวันออก 2. เพื่อสร้างระบบและกลไกในการดูแลนักศึกษา กระบวนการติดต่อสื่อสารระหว่างหน่วยงานและคณะ สำหรับการดูแล สุขภาพทางร่างกายและจิตใจของนักศึกษา 3.เพื่อการสร้างเครือข่ายสนับสนุนการดูแลสุขภาวะทางร่างกายและ จิตใจของนักศึกษา กับหน่วยงานภายนอกในการส่งต่อเพื่อทำการรักษา ตลอดจนการดำเนินงานเพื่อการป้องกันตามหลักการและแนวทางของ แผนเผชิญเหตุ การดำเนินงานดูแลสุขภาพทางกายและจิตใจแก่นักศึกษามหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก แบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงต้นน้ำ ช่วงกลางน้ำ และช่วงปลายน้ำ 1) ช่วงต้นน้ำ เป็นกระบวนการดำเนินงานช่วงต้น จากการรับทราบ นโยบาย ทิศทางในการดำเนินงานการให้บริการสุขภาวะทางร่างกาย และจิตใจ เพื่อนำไปออกแบบโครงสร้างในการทำงาน ขั้นตอนแนวทาง การปฏิบัติ เพื่อแบ่งแยกกลุ่มปกติและกลุ่มเสี่ยงในการดำเนินการช่วยเหลือส่งเสริมป้องกันต่อไป • Policy เป็นการบริหารจัดการ นโยบาย มาตรการ หรือแผนงานของสถาบันอุดมศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของระบบ การดูแลสุขภาวะทางร่างกายและจิตใจสำหรับนักศึกษา • Work Flow กรอบโครงสร้างในการทำงาน เป็นขั้นตอนที่แสดงถึงแนวทางการปฏิบัติ ซึ่งเป็นปัจจัยนำเข้าที่สำคัญของระบบ การดูแลสุขภาพทางร่างกายและจิตใจสำหรับนักศึกษา
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 46 ผลการคัดกรอง ภาวะดัชนีวัดชี้วัดสุขภาพจิตของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ปีการศึกษา 2566 จากนักศึกษาจำนวน 2,011 คน ผลสำรวจ พบว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ภาวะดัชนีวัดชี้วัดสุขภาพจิตต่ำ กว่าคนทั่วไป คิดเป็นร้อยละ 15.8 โดยแบ่งเป็นไม่มีอาการของภาวะซึมเศร้าคิดเป็นร้อยละ 77.25 มีอาการของภาวะซึมเศร้าในระดับ น้อยมาก คิดเป็นร้อยละ 20 มีอาการของภาวะซึมเศร้าในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 2มีอาการของภาวะซึมเศร้าระดับรุนแรง คิดเป็นร้อยละ 0.75 • Work shop หลังจากมีการศึกษาวิเคราะห์ สถานการณ์การจากการประเมินคัดกรอง นักศึกษากลุ่มปกติกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มรุนแรง ก็จะเข้าสู่การนำข้อมูลจากการศึกษาไปขอรับ การปรึกษา เพื่อกำหนดนโยบาย มาตรการหรือ แผน งานของสถาบันที่เกี่ยวข้องกับการ ดำเนินงานของระบบการดูแลสุขภาวะทางจิต โดยมหาวิทยาลัยได้กำหนดผู้รับผิดชอบในการ ดำเนินงานด้านให้คำปรึกษาและช่วยเหลือดูแล สุขภาวะทางจิตแก่นักศึกษา โดยมอบหมายให้ รองอธิการบดีที่กำกับดูแลฝ่ายกิจการนักศึกษาจัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการให้คำปรึกษาเบื้องต้นและทักษะในการให้ คำปรึกษาเพื่อสร้างทีมในการช่วยเหลือดูแลนักศึกษา 1) การจัดอบรมระบบอาจารย์ที่ปรึกษาระดับปริญญาตรี2) การจัด อบรมอาจารย์ให้คำปรึกษา “การให้คำปรึกษาและดูแลนักศึกษาในสังคมแห่งความพลิกผัน ในฐานะอาจารย์จะมีวิธีการดูแล ช่วยเหลือนักศึกษาอย่างไร” 3) การสร้างแกนนำนักศึกษาในการช่วยเหลือดูแลนักศึกษาแบบเพื่อนช่วยเพื่อน (Peer Assist) 4) ชมรม To Be Number One มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก 2. ช่วงกลางน้ำ – แนวทางการดำเนินการแบ่งออกเป็น 3 ด้าน • ด้านส่งเสริมป้องกัน o พัฒนาศักยภาพแกนนำนักศึกษา แกนนำศึกษาหากลุ่มเสี่ยงดูแลช่วยเหลือและส่งต่ออาจารย์ภายใต้โครงการเพื่อนช่วย เพื่อน o พัฒนาศักยภาพอาจารย์ บุคลากรทางด้านการศึกษา อาจารย์ที่ปรึกษา และผู้เกี่ยวข้องได้รับการอบรมการให้คำปรึกษา เบื้องต้นการดูแลช่วยเหลือนักศึกษากลุ่มเสี่ยง o การคัดกรองเชิงรุก ด้วย Mental Health Check In / Rmutto Happy wellness o บูรณาการความร่วมมือ การได้รับการส่งเสริมสุข ภาวะทางจิตจากหน่วยงานที่ดำเนินงานสนับสนุนองค์ ความรู้ด้านสุขภาพจิต ภาคีเครือข่ายศูนย์สุขภาพจิตที่ 6 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทั้ง 9 แห่ง เครือข่ายการให้คำปรึกษาเชิงจิตวิทยาและแนะ แนวทางการศึกษาและอาชีพสำหรับนิสิตนักศึกษา ระดับอุดมศึกษา(สกอ.) • การดูแลช่วยเหลือ จากการส่งต่อเข้ารับการรักษา o การประสานงานผู้ปกครอง อาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อนำนักศึกษาที่มีความเสี่ยง เข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์และเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 47 o การติดตามดูแลนักศึกษากลุ่มเสี่ยงรายบุคคล ทั้งในเขตมหาวิทยาลัยและหอพักนักศึกษาหรือบริเวณใกล้เคียง การ ให้บริการให้คำปรึกษาออนไลน์ • ด้านการพัฒนาสู่ความยั่งยืน o มีระบบในการช่วยเหลือดูแลนักศึกษาของมหาวิทยาลัยครอบคลุมทั้ง 4 เขตพื้นที่ o มีการจัดวางฐานระบบข้อมูลรายบุคคลเพื่อประสิทธิภาพในการให้บริการและการดำเนินการ o จัดทำแผนเผชิญเหตุ และซักซ้อมแผน เพื่อรองรับการเกิดเหตุวิกฤต o มีโรงพยาบาลคู่เครือข่ายในการส่งต่อนักศึกษากลุ่มเสี่ยงเพื่อการรักษา โดยไม่ต้องอาศัยสิทธิ์บัตรทอง 3. ช่วงปลายน้ำ การส่งนักศึกษาเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตเวช เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการ ในกรณีที่มี ความผิดปกติทางความคิด อารมณ์ หรือพฤติกรรมก้าวร้าว คลุ้มคลั่ง หรือมีภาวะซึมเศร้าขั้นรุนแรง มีพฤติกรรมคิดฆ่าตัวตาย การพยายามฆ่าตัวตาย หรือการทำร้ายตัวเอง อาการกลุ่มโรคแพนิค อาการไบโพลาร์ (Bipolar Disorder) โรคอารมณ์สองขั้ว เพื่อช่วยเหลือดูแลในการหาแนวทางในการเรียน กรณีที่แพทย์วินิจฉัยให้พักรักษาตัว และกรณีที่แพทย์วินิจฉัยให้สามารถกลับมาเรียน ได้ตามปกติ เพื่อวางแนวทางในการอยู่ร่วมกับผู้ป่วยการจัดทำรายงานเพื่อเสนอต่อผู้บังคับบัญชารับทราบ และการสรุปรายงาน ประจำปีเพื่อจัดทำแผนพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักศึกษาในปีถัดไป อภิปรายและสรุปผล 1. มีแนวทางในการปฏิบัติเมื่อพบนักศึกษาที่ประสบปัญหาต่างๆผ่าน การช่วยเหลือดูแลจาก ระบบอาจารย์ที่ปรึกษาและ ระบบ การดูแลนักศึกษาแบบเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งต่อนักศึกษาเข้าสู่ระบบในการดูแลช่วยเหลือของมหาวิทยาลัย 2. การทำงานเชิงรุกในรูปแบบของการคัดกรอง นักศึกษาเพื่อนำผลจากการคัดกรอง เข้าสู่กระบวนการ ในการ ส่งเสริม ป้องกันดูแลช่วยเหลือและพัฒนาในด้านต่างๆ รวมทั้งการส่งต่อเพื่อการรักษา 3. เมื่อสิ้นปีการศึกษามีการนำผลการดำเนินงานมารวบรวมและสรุปเป็นภาพรวมของมหาวิทยาลัยมีการถอดบทเรียน และนำผลที่ได้มาวิเคราะห์ปัญหาและแนวทางในการแก้ไขเพื่อดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักศึกษาในมหาวิทยาลัยในปีถัดไป ปัจจัยความสำเร็จ 1. มหาวิทยาลัยมีการกำหนดวิสัยทัศน์และนโยบายในการให้ความสำคัญถึงการดูแลสุขภาพจิตของนักศึกษาโดยให้ คณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา ร่วมกันคิดและพัฒนากระบวนการต่างๆในการสนับสนุนการดำเนินงานช่วยเหลือนักศึกษาใน มหาวิทยาลัย 2. การมีเครือข่าย ในการร่วมพัฒนาการดำเนินงานช่วยเหลือนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ที่เป็นหน่วยงาน ภายนอก อาทิ ศูนย์สุขภาพจิตที่ 6 กรมสุขภาพจิต โรงพยาบาล หน่วยงานสาธารณสุข มหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญในระบบการดูแลนักศึกษา ทางด้านสุขภาพจิต 3. การมีส่วนร่วม ของบุคลากร คณาจารย์ นักศึกษา ในการให้ความสำคัญกับการดูแลนักศึกษาทั้งด้านการ เรียนและด้านสุขภาพทางจิต ปัญหาอุปสรรคและแนวทางการแก้ไข 1. อาจารย์และบุคลากรบางส่วนยังไม่ทราบ กระบวนการขั้นตอนของระบบการดูแลช่วยเหลือ ส่งผลให้มา สามารถดูแลนักศึกษาที่มีปัญหาได้อย่างทั่วถึง 2. นักศึกษาที่เข้าสู่ระบบการดูแลช่วยเหลือเหลือ ยังคงมีน้อยเนื่องจากยังไม่กล้าเข้ามารับบริการแนวทางการ แก้ไข
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 48 3. จัด Work shop ทักษะการให้คำปรึกษา การใช้เครื่องมือทางจิตวิทยา ความรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาวัยรุ่นการส่งเสริม สุขภาพจิต และแนวทางการดำเนินงานช่วยเหลือนักศึกษาในมหาวิทยาลัย(Work Flow) 4. การคัดกรองนักศึกษาที่คลอบคลุม และการส่งเสริมกิจกรรมที่เป้นแนวทางในการป้องกัน ตลอดทั้งการสร้างกลุ่ม นักศึกษาเข้ามาช่วยเหลือและดูแลนักศึกษาแบบเพื่อนช่วยเพื่อน (Peer Assist) เพื่อส่งต่อเข้าสู่ระบบการดูแลช่วยเหลือ ความท้าทายต่อไป 1. การเผยแพร่องค์ความรู้และแนวทางการปฏิบัติที่ดีสู่หน่วยงานภายนอก 2. การมีนวัตกรรมทางสุขภาพจิตสำหรับการแก้ไขดูแลนักศึกษาในมหาวิทยาลัย
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 49 เอกสารอ้างอิง กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2563). คู่มือการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะของเยาวชน เรื่องการฝึกคิดแก้ปัญหา พัฒนา EQ สำหรับอาสาสมัคร/แกนนำศูนย์เพื่อนใจ To Be Number One ฉบับปรับปรุง ปี 2563. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์สื่อและ สิ่งพิมพ์แก้วเจ้าจอม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. กลุ่มพัฒนาระบบสวัสดิการและบริการนักศึกษา สำนักส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพนักศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา. (2561). แนวปฏิบัติที่ดีในการจัดระบบสวัสดิการและบริการนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษา. กรุงเทพมหานคร: บริษัท ซีโน พับลิชชิ่ง แอนด์ แพคเกจจิ้ง จำกัด. กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมสุขภาพจิต. (2563). แนวทางการดูแลสุขภาพด้านจิตใจ Mental Health Package. กรุงเทพมหานคร: บริษัท บียอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด. กองส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2565). แนวทางการดำเนินงานการดูแลช่วยเหลือและศึกษา ในมหาวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: บริษัท บียอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด. นพพร แสงทอง, พ. ศ. (2564). การเสริมสร้างสมรรถนะการให้คำปรึกษาของนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา โดยการฝึกอบรมเชิงจิตวิทยา. วารสารวิจัยทางการศึกษาปีที่ 16 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2564, 14 – 26. สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม. (2563). กรอบแนวทางการดำเนินการตามมาตรฐานกิจการ นักศึกษา. กรุงเทพมหานคร: บริษัท ซีโน พับลิสชิ่ง แอนด์ แพคเกจจิ้ง จำกัด. ปุณณาสา โพธิพฤกษ์, (2563). การพัฒนารูปแบบการให้การปรึกษากลุ่มแบบเพื่อนช่วยเพื่อนเพื่อส่งเสริมสมรรถนะในการให้คำปรึกษา แบบเพื่อนช่วยเพื่อน ของนักศึกษาสาขาวิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยในจังหวัดเชียงใหม่. วารสารเกษมบัณฑิต, 90 – 102. พิมพ์รัตน์ บุญญภักดิ์, (2564). การพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพจิตสำหรับนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา. วารสารการพยาบาลและ การศึกษา ปีที่ 14 ฉบับที่ 4 ตุลาคม-ธันวาคม 2564, 33-49. ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย สถาบันสุขภาพจิตและเด็กและวัยรุ่นราช นครินทร์ กรมสุขภาพจิต. (2561). คู่มือปฏิบัติการดูแลวัยรุ่นที่มีภาวะซึมเศร้า สำหรับบุคลากรสาธารณสุข และบุคลากร ทางการศึกษา ตามแนวทางการดูแลวัยรุ่นที่มีภาวะซึมเศร้า. กรุงเทพมหานคร: บริษัท บียอนด์ พับลิสชิ่ง จำกัด. สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ฝ่ายแนะแนวการศึกษาและอาชีพ กองบริการ สำนักงานอธิการบดี. (2550). คู่มือการปฏิบัติงานแนะแนว สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล. กรุงเพทมหานคร. สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2560). มาตรฐานการบริการการให้คำปรึกษา วัยรุ่นสำหรับบุคลากรสาธารณสุข. กรุงเทพมหานคร: บริษัท บียอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด. สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพนักศึกษา. (n.d.). การใช้ระบบการให้คำปรึกษาวิชาการระดับปริญญาตรีสถาบันอุดมศึกษาของ รัฐ. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา. สำนักส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพจิตกรมสุขภาพจิต. (2561). คู่มือการจัดพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับวัยรุ่นและเยาวชนในชุมชน. กรุงเทพมหานคร: บริษัท บียอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด.
การประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนานักศึกษาเครือข่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั่วประเทศ ครั้งที่ 13 50 การศึกษาปัญหาในการเข้าร่วมกิจกรรมของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร A study of problems in participating in activities of undergraduate students Rajamangala University of Technology Phra Nakhon ชนัตชญาน์นันท์ รัตน์บุญทอง1 Chanatchayanan Ratbunthong1 บทคัดย่อ การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัญหาในการเข้าร่วมกิจกรรมของนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พระนคร และ 2) ศึกษาทัศนคติในการเข้าร่วมกิจกรรมของนักศึกษา ระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักศึกษาจาก 9 คณะ และ 1 สถาบัน ระดับ ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จำนวน 400 คน ใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (̅ ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (t-Test) และการวิเคราะห์ ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One-way analysis of variance) ผลการวิจัย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาเพศ หญิง คิดเป็นร้อยละ 52.00 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 89.50 กำลังศึกษาระดับชั้นปีที่ 1 ร้อยละ 49.50 และมีสถานะในการเข้าร่วม กิจกรรม โดยเป็นนักศึกษาทั่วไป ร้อยละ 75.75 ทัศนคติและความคิดเห็นที่มีต่อการเข้าร่วมกิจกรรมของนักศึกษา ระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ด้านปัจจัยที่มีผลต่อการเข้าร่วมกิจกรรม ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (̅ = 4.05) ทัศนคติ และความคิดเห็นที่มีต่อการเข้าร่วมกิจกรรมของนักศึกษา ระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ด้านปัจจัยที่มี ผลต่อการไม่เข้าร่วมกิจกรรม ภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (̅ = 3.39) ความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (̅ = 3.81) และการทดสอบสมมติฐาน พบว่า เพศ และสถานะในการเข้าร่วม กิจกรรมของนักศึกษาต่างกันมีปัญหาในการเข้าร่วมกิจกรรมของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนศาสนา และระดับชั้นที่ศึกษาต่างกันมีปัญหาในการเข้าร่วมกิจกรรมของนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ไม่แตกต่างกัน คำสำคัญ : นักศึกษา, กิจกรรมนักศึกษา, ปัญหาในการเข้าร่วมกิจกรรม ________________________________________ 1 หลักสูตรคหกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร