สภาพแวดล้อมของธุรกิจ
1. สภาพแวดล้อมทางธุรกิจคือ สิ่งแวดล้อมท่ีเป็นปัจจัยภายนอกและภายในท่ีมีผลกระทบต่อ
การดาเนินธุรกิจ โดย วัฒน์จิรชัย เวชชนินนาท (2556, 32) ได้แบ่งสภาพแวดล้อมทางธุรกจิ
แบง่ เป็น 2 ประเภทคอื
1.1 สภาพแวดลอ้ มภายนอก (External Environment) คือสภาพแวดล้อมทไ่ี ม่
สามารถคควบคมุ ประกอบด้วย สภาพแวดล้อมระดับจุลภาค และสภาพแวดล้อม
ระดบั มหภาค
1.2 สภาพแวดลอ้ มภายใน (Internal Environment) คอื สภาพแวดลอ้ มภายในธุรกิจที่
สามารถควบคุมได้ และจะทาให้ผู้ประกอบการทราบถึงจุดแข็งจุดอ่อนของการ
ประกอบธุรกิจประกอบด้วย ส่วนประสมทางการตลาด (Marketing Mix) และ
สภาพแวดล้อมภายในนอกเหนอื จากสว่ นประสมทางการตลาด
2. สภาพแวดล้อมทางธุรกิจโดย นภวรรณ คณานุรักษ์ (2556 , 3 ) ได้กล่าวถึง สภาพแวดล้อม
ทางการตลาด ว่าเกิดจากแนวคิดทางการตลาดซ่ึงประกอบด้วยแนวคิดหลายส่วนคือ ความ
ตอ้ งการ ซ่ึงประกอบด้วยความจาเปน็ (Needs) ความอยาก (Wants) และอุปสงค์ ผลิตภณั ฑ์
(Products) ผลประโยชน์ คุณค่า (Value) ความพอใจ (Satisfaction) และคุณภาพ รวมถึง
การแลกเปลี่ยน (Exchange) ความสมั พันธ์ของตลาด (Relationship marketing)
ดังนั้นสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่สาคัญ พิษณุ จงสถิตวัฒนา ( 2544 , 17-18) จึงกล่าวถึง
สภาพแวดล้อมทางการตลาดว่า สามารถแบง่ ไดด้ งั น้ี
1) สภาวะเศรษฐกจิ และแนวโนม้ ของการเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกจิ มีผลกระทบ
โดยตรงต่อกิจกรรมทางการตลาด ผู้บริหารการตลาดมีหน้าท่ีท่ีจะต้องวิเคราะห์และประเมินสภาวะธุรกิจ
และการเปลย่ี นแปลงท่จี ะมีผลโดยตรงหรือทางออ้ ม
2) ระบบการคา้ และการแขง่ ขัน ในตลาด กาหนดกติกาและหลกั ปฏบิ ตั ทิ างธรุ กิจและ
การตลาดการแข่งขันนอุตสาหกรรมและความรุนแรงเป็นปัจจัยแปรผันท่ีผู้บริหารการตลาดไม่สามารถ
ควบคมุ ได้ แต่เป็นปจั จยั ท่ีมีผลกระบทต่อการบรหิ ารงานการตลาดมากทส่ี ุด
3) เทคโนโลยี ววิ ฒั นาการเทคโนโลยี เปลยี่ นแปลงวิถชี ีวติ คนมากทีส่ ดุ
4) ประชากรศาสตร์ ไมว่ ่าจะเป็นการเพ่มิ ของประชากร การเปลี่ยนแปลงทาง
สรปุ การวิเคราะห์สภาพแวดลอ้ มทางธรุ กจิ ของผู้ประกอบการต้องวิเคราะห์ท้งั ปัจจัยภายใน และ
ปจั จัยภายนอกธุรกจิ ทีม่ ผี ลกระทบทั้งดี และไมด่ ีต่อธรุ กิจโดยใชก้ ารวเิ คราะห์เก่ยี วกับ สภาพ
แวดล้อมมหภาค และสภาพแวดล้อมจุลภาค
เครอ่ื งมอื ในการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางการตลาดของธรุ กิจ
การวิคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มทางธุรกจิ จะทาให้ธุรกจิ สามารถวางแผนกอ่ นการดาเนินงานเพื่อ
ได้กาไรสูงสุด ต้นทุนต่าสุด รวมถึงกิจการจะได้มีแนวทางด้านกลยุทธ์ธุรกิจตามเป้าหมายที่วางไว้โดยมี
เครอ่ื งมอื ดังต่อไปน้ี (ชานินทร์ นริ าภัย,2564 )
1. PEST Analysis คือกระบวนการหรือเคร่ืองมือท่ีช่วยวิเคราะห์ธุรกิจของคุณเพื่อให้เห็นปจั จยั
ภายนอกธุรกิจ (ส่ิงท่ีเหนือการควบคุมขององค์กร) และนาข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ในการวางแผน
และดาเนินธุรกิจต่อไปประกอบด้วย 1) Political (P) การเมือง - นโยบายของรัฐ มาตรการต่าง ๆ หรือ
กฎหมาย 2) Economic (E) เศรษฐกจิ - อัตราการเติบโต หรือขยายตวั ของเศรษฐกจิ 3) Social (S) สังคม
- ค่านิยม วิถีชีวิตของประชากร หรือวัฒนธรรม และ 4)Technology (T) เทคโนโลยี - การพัฒนา
เทคโนโลยสี าคัญ หรือนวัตกรรมต่างๆ
รปู ท่ี 13 PEST Analysis Model
ท่ีมา : ชานินทร์ นิราภัย . 2564 . PEST Analysis วิเคราะห์ปัจจัยระดับมหภาค(ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 10
พฤศจิกายน 2564 จาก https://www.thespidery.co/post/pest-analysis
2. PESTEL Analysis คอื การวิเคราะห์ปัจจยั ภายนอกทม่ี ผี ลกระทบต่อองค์กรและธุรกิจของเรา
ซึ่งสะท้อนให้เห็นทั้งอุปสรรคและโอกาสในการทาธุรกิจ ประกอบไปด้วย 6 ปัจจัย ในด้านต่างๆ ดังนี้
1) Political (P) ปัจจัยด้านการเมืองที่ส่งผลกระทบและโอกาสต่อธุรกิจ 2) Economic (E) ปัจจัยด้าน
การเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบและโอกาสต่อธุรกิจ 3) Social (S) ปัจจัยด้านสังคมที่ส่งผลกระทบและ
โอกาสต่อธุรกิจ 4) Technology (T) ปัจจัยด้านเทคโนโลยีท่ีส่งผลกระทบและโอกาสต่อธุรกิจ 5)
Environment (E) ปัจจัยด้านส่ิงแวดล้อมท่ีส่งผลกระทบและโอกาสต่อธุรกิจ และ 6) Legal (L) ปัจจัย
ดา้ นกฎหมายทีส่ ง่ ผลกระทบและโอกาสต่อธรุ กิจ (ปรีดี นุกลุ สมปรารถนา ,2563)
3. SWOT Analysis เป็นการวเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มทางการตลาดของธรุ กจิ เพ่ือประเมนิ
ความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งขันและเพื่อนาข้อมูลจากการวิเคราะห์ไปจัดทาเป็นแผนกลยุทธ์ทาง
การตลาดใหแ้ ก่ธุรกจิ ต่อไป โดยมีผูใ้ หค้ านิยามของ SWOT คือ
3.1 เรวัตร์ ชาตรีวศิ ษิ ฏ์ (2549,17) ไดก้ ล่าวว่า SWOT คอื การวเิ คราะห์ จุดแข็ง จดุ ออ่ น
โอกาส และอปุ สรรคทีเ่ กดิ ขึน้ กอ่ นการดาเนนิ ธุรกจิ
3.2 วัฒนจ์ ิรชัย เวชชนนิ นาท (2556, 32) ได้กล่าวว่า SWOT คอื การวิเคราะห์สภาพแวดลอ้ มทาง
การตลาดท่ีสามารถแบ่งการวิเคราะห์ได้ 4 ประเภท คือ 1) การวิเคราะห์จุดแข็ง 2) การวิเคราะห์จุดอ่อน
3) การวิเคราะห์โอกาส และ 4) การวเิ คราะห์อุปสรรค ประกอบด้วย
จุดแข็ง (Strengths) : จุดเด่นหรือจุดแข็ง (ข้อได้เปรียบ) เป็นผลมาจากปัจจัยภายใน เป็นข้อดีที่
เกดิ จากสภาพแวดลอ้ มภายในบรษิ ทั
จุดอ่อน (Weaknesses) : จุดด้อยหรือจุดอ่อน ข้อเสียเปรียบเป็นผลมาจากปัจจัยภายใน เป็น
ปญั หาหรือข้อบกพร่องที่เกิดจากสภาพแวดล้อมภายในตา่ ง ๆ ของบรษิ ัท
โอกาส (Opportunities) : เกดิ จากปัจจยั ภายนอก เป็นผลจากการท่ีสภาพแวดล้อมภายนอกของ
บรษิ ัทเอือ้ ประโยชน์ หรือส่งเสริมการดาเนนิ งานของบริษัท โอกาสแตกต่างจากจุดแข็งตรงที่โอกาสเป็นผล
มาจากสภาพแวดล้อมภายนอก
อุปสรรค (Threats) : เกิดจากปัจจัยภายนอก เป็นข้อจากัดท่ีเกิดจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่
ส่งผลเสยี ต่อธุรกิจ
สรุป เคร่ืองมือพื้นฐานในการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางการตลดของธุรกิจ ผู้ประกอบการ
สามารถใช้การวิเคราะห์ PEST Model ,PESTEL และ SWOT เพ่ือให้ได้มาซึ่งข้อมูลปัจจัยภายนอก และ
ภายในทจ่ี ะมผี ลกระทบกบั การดาเนินธุรกจิ นามาจดั ทาเปน็ กลยุทธก์ ารดาเนินธุรกิจตอ่ ไป
4.ส่วนประสมทางการตลาด
Kotler, Philip & Keller, L. Kevin (2555). กลา่ วว่า ส่วนประสมทางการตลาด
(Marketing Mix) หมายถึง เครื่องมือทางการตลาดที่สามารถควบคุมได้ ซึ่งกิจการผสมผสานเครื่องมือ
เหล่านี้ให้สามารถตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ส่วนประสม
การตลาดแบ่งออกเป็นกลุ่มได้ 4 กลุ่ม ดังที่รู้จักกันว่าคือ “4 Ps” อันได้แก่ ผลิตภัณฑ์ (Product) ราคา
(Price) การจดั จาหน่าย (Place) และการส่งเสรมิ การขาย (Promotion)
เสรี วงษ์มณฑา (2542 , 11) กล่าวว่า ส่วนประสมทางการตลาด (Marketing
Mix) หมายถึง การมีสินค้าท่ีตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ ขายในราคาที่ผู้บริโภค
ยอมรับได้ และผู้บริโภคยินดีจ่ายเพราะเห็นว่าคุ้ม รวมถึงมีการจัดจาหน่ายกระจายสินค้าให้สอดคล้องกับ
พฤตกิ รรมการซอ้ื หาเพอื่ ความสะดวกแกล่ ูกคา้
อดุลย์ จาตุรงคกลุ (2546, 26) กล่าวคือ ตัวแปรหรือองค์ประกอบท่ีเปน็ ตัวกระตนุ้ หรือ
สิ่งเร้าทางการตลาดท่กี ระทบต่อกระบวนการตัดสนิ ใจซอื้ โดยแบง่ ออกได้ดงั นี้
1) ผลติ ภณั ฑ์ (Product) ลักษณะบางประการของผลติ ภณั ฑข์ องบรษิ ัทท่ีอาจ
กระทบตอ่ พฤติกรรมการซอ้ื ของผบู้ ริโภค
2) ราคา (Price) ราคามอี ทิ ธิพลต่อพฤตกิ รรมการซ้ือก็ตอ่ เม่อื ผู้บรโิ ภคทาการประเมนิ
ทางเลือกและทาการตดั สนิ ใจ
3) ชอ่ งทางการจัดจาหน่าย (Placement-Channel of Distribution) ชอ่ งทางการ
กระจายของสนิ ค้าที่มีจาหนา่ ยมีความแพร่หลายและง่ายทจี่ ะซ้ือ
4) การส่งเสรมิ การตลาด (Promotion-Marketing Communication) การ
ส่งเสริมการตลาดสามารถก่ออิทธพิ ลต่อผ้บู รโิ ภคได้ทกุ ขน้ั ตอนของกระบวนการตดั สินใจซื้อ
ศริ ิวรรณ เสรรี ตั น์ และคณะ (2552, 80-81) ได้กล่าวไวว้ า่ สว่ นประสมการตลาด
หมายถึง ตวั แปรทางการตลาดที่ควบคุมได้ซึ่งบรษิ ัทใช้รว่ มกันเพื่อสนองความพงึ พอใจแกก่ ลมุ่ เป้าหมาย
สรุป ส่วนประสมทางการตลาด หมายถึง เคร่ืองมือทางการตลาดท่ีเป็นสิง่ กระตุ้นให้เกดิ
การตัดสินใจซ้ือ ผลิตสินค้าท่ีลูกค้าต้องการ ทาให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ ซึ่งประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์
ราคา ช่องทางการจัดจาหน่าย และ การส่งเสริมการตลาด
การกลน่ั กรองโอกาสทางธรุ กิจ
การกลั่นกรองโอกาสทางธุรกิจ ต้องทาก่อนเร่ิมต้นกิจการ หรือ ก่อนการพัฒนาสินค้าของ
ผู้ประกอบการ โดยใช้วิธีการวจิ ัยและพัฒนาสนิ ค้า (R&D) ซ่ึงเป็นการหาข้อมูลของผู้ประกอบการเพื่อเป็น
แนวทางสร้างไอเดียในการเตรียมความพร้อมเพื่อพัฒนาสินค้าให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าที่
เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังน้ันผู้ประกอบการจึงมีวิธีการปฏิบัติดังต่อไปน้ี (กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
,2559)
1. การกาหนดแนวความคดิ หรอื แบบแผนทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพท่ีจะตอบสนองความต้องการ
ของผู้บริโภค ผู้ประกอบการแต่ละคนจะมีความคิดท่ีแตกต่างกัน ทาให้ผู้ประกอบการต้องมีการร่าง
แนวความคดิ ใหมๆ่ ที่คดิ ได้ใหเ้ ร็วและมีประสิทธิภาพ เพ่อื การพัฒนาสินค้าภายใต้การใช้ทรัพยากรท่ีจากัด
อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
2. หาข้อมลู ผู้ประกอบการตอ้ งมีข้อมูลท่จี าเป็นในมอื และตอ้ งมีมากพอทีจ่ ะนามาใช้ประโยชน์
ได้ โดยเฉพาะข้อมูลของลูกค้า และหากมีการสร้างความรู้สึกท่ีดี หรือ สร้างความสัมมพันธ์โดยส่วนตัวกบั
ลกู ค้าได้มากก็ย่งิ ทาใหผ้ ู้ประกอบการได้รู้ขอ้ มูลลกึ มากขน้ึ เท่าน้นั
3. การเลือกรปู แบบสินค้าท่ีมปี ระสทิ ธิภาพอยา่ งเป็นระบบ ปจั จยั ความสาเรจ็ การพฒั นา
ผลิตภัณฑ์คือความคิดสร้างสรรคห์ ลักๆ ทไี่ ด้รบั การคดั สรรจากผูป้ ระกอบการแล้วว่าสามารถนามาต่อสู้กับ
คู่แข่งขันได้อย่างดี ความคิดสร้างสรรค์น้ีจะนาธุรกิจไปสู่การผลิตสินค้าและบริการในรูปแบบสินค้าที่ตรง
ความต้องการของลูกค้าและสามารถประเมินผลของธุรกิจได้อย่างเป็นระบบ โดยการพัฒนสินค้าใหม่ให้
โดนใจลูกคา้ ตอ้ งคานงึ ถงึ ปัจจยั ตอ่ ไปนี้
3.1 ประโยชน์ใช้สอย ธรุ กจิ ทีเ่ กิดข้ึนใหม่ สรา้ งสนิ ค้าใหม่จะต้องตอบสนองความต้องการ
ในด้านตา่ งๆ ที่ลกู คา้ ตอ้ งการอยา่ งครบถ้วนทั้งทางตรงและทางอ้อม
3.2 ความสวยงาม สินค้าต้องมีความสวยงามดึงดูดใจลูกค้า ทั้งรูปทรงเหมาะสมกับงาน
และสอดคล้องกับรูปแบบการดาเนินชวี ิตของลูกค้า สอดคล้องกับแนวคิดสินค้าใหม่
ของผู้ประกอบการ มีขนาดของสินค้าใหม่ก็ต้องเหมาะสมในการหยิบจบั การใช้งาน
ตอ้ งตรงกบั ความต้องการของลกู คา้
3.3 คุณภาพของผลิตภัณฑ์ มีระบบการควบคุมคุณภาพสินค้า ให้ความสาคัญกับระบบ
การผลติ ต้งั แต่ตันน้า ถงึ ปลายนา้ หรอื แมแ้ ตห่ ลังการขาย
3.4 ราคาขายและต้นทุนการผลิต การตั้งราคาขายต้องมีความเหมาะสมด้านต้นทุน
เหมาะสมกับความสามารถในการซ้ือของลูกค้า รวมไปถึงพยายามควบคุมต้นการ
ผลิตให้ตา่ ท่สี ดุ เพื่อให้สามารถแขง่ ขันดา้ นราคาได้ และทาให้มีกาไรมากขึน้
3.5 ความปลอดภยั ในการใช้งาน ผปู้ ระกอบการจะต้องใหค้ วามสาคัญกับความปลอดภัย
ในการใช้งานหรือการบริโภค มีการแจ้งเตือนในส่วนท่ีสาคัญ เช่น ด้านความ
ปลอดภัย
3.6 ความแข็งแรงทนทาน ผู้ประกอบการต้องผลิตสินค้าท่ีมีความแข็งแรง ทนทาน
สามารถใชไ้ ดห้ ลายครงั้ โดยผปู้ ระกอบการตอ้ งมีการทดสอบสินค้ากอ่ นออกสู่ตลาด
3.7 การบารุงรักษา หากสินค้าต้องมีการบารุงรักษาหลังการใช้งาน ผู้ประกอบการต้อง
ออกแบบให้ลกู คา้ สามารถบารงุ รกั ษาไดด้ ว้ ยตนเอง
3.8 การบริการ ผู้ประกอบการต้องให้ความสะดวกแก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง การ
จดั สง่ และการบริการหลงั การขาย
จะเหน็ ได้ว่า การกลัน่ กรองธรุ กิจของผูป้ ระกอบการตอ้ งให้ความสาคญั กับปัจจัยดา้ นแนวความคิด
การนาข้อมูลมาวางแผนเพื่อผลติ หรือจาหน่ายสนิ ค้าท่ีเหมาะกับความต้องการของลูกค้า ที่จะส่งผลให้การ
ประกอบการดาเนนิ ไปดว้ ยความย่ังยนื และสามารถขยายกิจการได้อย่างมีประสิทธภิ าพต่อไป
สรปุ ทา้ ยบทเรียน
การมองเห็นโอกาสในการประกอบอาชีพ ผูป้ ระกอบการนัน้ มีโอกาสในการสรา้ งผลกาไรไดโ้ ดย
อิสระ สามารถสร้างความแตกตา่ งของธุรกจิ ยังช่วยสง่ เสรมิ ใหม้ สี นิ คา้ และบริการที่มคี วามนา่ สนใจ ดังนั้น
ผ้ปู ระกอบการจึงต้องมกี ารเตรียมความพร้อมในการเรมิ่ ต้นธรุ กิจ ต้องมีความพร้อมทั้งในด้านรา่ งกายและ
จติ ใจ รวมถงึ ความพร้อมดา้ นทักษะ และคุณลกั ษณะการเป็นผู้ประกอบการและที่สาคัญต้องตระหนักถึง
ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คมด้วย รวมถงึ ตอ้ งมที กั ษะในการวเิ คราะห์ปจั จยั ภายนอกธุรกจิ ทม่ี ีผลกระทบทั้งดี
และไมด่ ตี อ่ ธรุ กิจโดยใช้การวเิ คราะหเ์ ก่ียวกบั สภาพแวดลอ้ มมหภาค และสภาพแวดลอ้ มจุลภาค โดยใช้
หลกั PEST Model ,PESTEL และ SWOT ซ่ึงเป็นเครือ่ งมือทางการตลาดท่ีเปน็ สงิ่ กระตุ้นให้เกดิ การ
ตดั สินใจซอื้ ผลติ สินคา้ ทลี่ ูกค้าต้องการ ทาใหล้ ูกค้าเกิดความพึงพอใจ ทง้ั นีค้ วรวเิ คราะห์ ส่วนประสม
ทางการตลาด อันประกอบดว้ ย ผลติ ภณั ฑ์ ราคา ชอ่ งทางการจัดจาหนา่ ย และ การส่งเสริมการตลาด
รวมถึงการกลัน่ กรองธรุ กจิ ของผู้ประกอบการต้องให้ความสาคัญกับปจั จัยด้านแนวความคิด การนาข้อมูล
มาวางแผนเพื่อผลิตหรอื จาหน่ายสินค้าที่เหมาะกบั ความต้องการของลกู คา้ จะส่งผลใหก้ ารประกอบการ
ดาเนินไปดว้ ยความยั่งยนื และสามารถขยายกิจการได้อย่างมีประสิทธภิ าพต่อไป
แบบฝกึ หัดท้ายบท
1. จงอธิบายว่ามอี ุปสรรคอะไรบ้างท่ีทาให้การเปน็ ผู้ประกอบการไมป่ ระสบความสาเร็จ
2. จงบอกเหตผุ ลท่ีอาชพี การเป็นผูป้ ระกอบการสามารถสร้างโอกาสใหต้ นเอง
3. จงบอกประเภทของผู้ประกอบการ
4. จงบอกขนั้ ตอนการเตรยี มความพรอ้ มในการประกอบการและยกตวั อย่างพอสงั เขป
5. จงอธิบายวา่ เหตุใดผปู้ ระกอบการต้องมีความรู้เกีย่ วกับการวเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มในการ
ดาเนนิ ธรุ กจิ
6. จงอธิบายถึงเครอ่ื งมอื ในการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางการตลาดของธรุ กจิ ว่ามีอะไรบ้าง
และแตล่ ะตัวมรี ายละเอยี ดอย่างไรบา้ ง
7. จงอธิบายตามความคดิ เห็นว่า กอ่ นเร่ิมตน้ ธุรกจิ ผปู้ ระกอบการตอ้ งเผชิญความเสี่ยงอะไรบ้าง
เอกสารอ้างองิ
กรมส่งเสรมิ อุตสาหกรรม . 2559 . การพัฒนาสินค้าใหม่อยา่ งไรใหโ้ ดนใจผู้บริโภค(ออนไลน)์ .สืบคน้ เมื่อ
12 พฤศจิกายน 2564 จากhttps://bsc.dip.go.th/th/category/production2/qs-
newproductcustomer.
กลั ยารัตน์ ธรี ะธนชยั กลุ . 2562 . การเป็นผู้ประกอบการและการสรา้ งสรรคธ์ รุ กจิ ใหม่.กรงุ เทพฯ.
สานกั พิมพบ์ รษิ ัทซีเอด็ ยเู คชน่ั จากัด (มหาชน).
ชานินทร์ นริ าภัย . 2564 . PEST Analysis วิเคราะหป์ จั จยั ระดับมหภาค(ออนไลน์).สบื ค้นเมือ่ 10
พฤศจิกายน 2564 จาก https://www.thespidery.co/post/pest-analysis.
ณัฐผไท สทุ ธิเสรมิ . มปป . การเป็นผ้ปู ระกอบการ.สบื คน้ เม่ือ 2 พฤศจิกายน 2564 จาก
https://sites.google.com/site/natpatai24456/hnwy-thi4-kar-pen-phu-prakxb-kar
ดลยา ไชยวงศ,์ 8 ขอ้ เช็คลิสต์ก่อน เตรียมตวั ทาธุรกจิ ส่วนตวั พร้อมกวา่ ไดเ้ ปรียบกวา่ (ออนไลน)์ .สืบค้นเมื่อ
20 พฤศจิกายน 2564 จากhttps://www.moneywecan.com/preparing-business-
owner/.
ตลาดหลกั ทรัพย์แหง่ ประเทศไทย . มปป . การคน้ หาไอเดยี ของสตาร์ทอัพ.(ออนไลน์).สืบค้นเมือ่ 2
พฤศจิกายน 2564 จาก
https://www.set.or.th/set/enterprise/html.do?name=prestartup.
ทิบดี ทฬั หกรณแ์ ละ ธีระวัฒน์ จนั ทกึ . 2560 .การสร้างผู้ประกอบการร่นุ ใหมใ่ นยคุ ไทยแลนด4์ .0.วารสาร
RMUTT Global Business and Economics.12(2) , 107-122.
นภวรรณ คณานรุ ักษ์ . 2556 . การจดั การผลิตภัณฑ์และราคา.กรงุ เทพฯ.คณะบรหิ ารธุรกิจมหาวทิ ยาลยั
หอการค้าไทย.
ปรดี ี นุกลุ สมปรารถนา . 2563 . วิเคราะห์ปัจจัยภายนอกด้วย PESTEL Analysis.(ออนไลน์).สบื ค้นเมื่อ
10 พฤศจิกายน 2564 จาก https://www.popticles.com/business/analyze-external-
factor-with-pestel-analysis/.
พิษณุ จงสถิตยว์ ฒั นา . 2544 . การบรหิ ารตลาด การวเิ คราะห์ กลยทุ ธ์ และการตดั สนิ ใจ.กรุงเทพฯ
สานักพิมพ์มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์.กทม.
เรวัตร์ ชาตรวี ศิ ษิ ฎ์ . 2549 . Marketing Management งา่ ยเหมือนจับวาง.อิมเมจ เอ็นเตอรไ์ พรส์ .
กทมฯ.
วัฒน์จิรชยั เวชชนินนาท . 2556 . หลกั การตลาด.(ออนไลน์).สืบคน้ เมื่อ 10 พฤศจกิ ายน
2564 จาก https://pubhtml5.com/nymuo/ezmf/basic.
ศริ ิวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ. (2546). หลักการตลาด.กรงุ เทพฯ: ธรี ะฟลิ ์ม และไซเท็กซ์.
เสรี วงษม์ ณฑา. (2542). การส่อื สารการตลาด.กรุงเทพฯ: วสิ ทิ ธิพ์ ฒั นา.
อานาจ ธีระวนิช . 2546 . การจดั การธรุ กิจขนาดย่อม.กรุงเทพฯ.สานกั พมิ พ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
อดุลย์ จาตรุ งคกลุ . (2546). การบรหิ ารการตลาด. กรงุ เทพฯ:วิรตั น์ เอดดเู คชั่น.
เอสเอ็มดดี อทคอม . 2563 . ขอ้ สาคัญทต่ี ้องรู้ ก่อนเรม่ิ สตารท์ ธรุ กจิ .(ออนไลน์).ค้นเมื่อ 2 พฤศจิกายน
2564 จาก https://www.smethailandclub.com/startups-5556-id.html.
Kotler, Philip & Keller, L. Kevin (2012). Marketing Management. Pearson Education
Limited.
Thpanorama . 2564 . 12 ประเภทหลกั ของการเป็นผู้ประกอบการและลกั ษณะของพวกเขา.(ออนไลน)์ .
สืบค้นเมือ่ 10พฤศจิกายน 2564 จากhttps://th.thpanorama.com/articles/cultura-
general/los-12-tipos-de-emprendimiento-principales-y-sus-caractersticas.html.
แผนบริหารการสอน
ประจาบทที่ 4 การสร้างธรุ กิจและการจดั ตงั้ ธรุ กจิ ใหม่
หวั ขอ้ เนอ้ื หา
1. ความรเู้ กี่ยวกบั องคก์ รและการบริหารจดั การองคก์ รธรุ กิจ
2. ประเภทขององคก์ รธรุ กจิ
3. การจดั โครงสรา้ งขององค์กร
4. วธิ ีการจดั ทาโครงสร้างขององค์กร (ธรุ กิจ) สาหรบั เจา้ ของธุรกจิ SME
5. สรปุ ท้ายบทเรียน
วัตถุประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
เมื่อนกั ศกึ ษาเรยี นบทเรยี นน้ีแลว้ สามารถ
1. บอกความหมายขององค์กร องค์กรธุรกิจและการบริหารจัดการองค์กรธุรกิจของ
ผปู้ ระกอบการ 4 M ได้
2. อธบิ ายประเภทของรูปแบบขององคก์ รธุรกจิ พรอ้ มยกตัวอย่างประกอบและบอกข้อดี
ข้อเสียของรูปแบบองค์กรธุรกิจแตล่ ะประเภทจากความคดิ ของนักศึกษาได้
3. จงบอกความหมายของการจัดโครงสร้างขององค์กร และประโยชน์ของการจัดโครงสร้างอค์
กรทม่ี ตี ่อเจา้ ของธรุ กิจได้
4. อธบิ ายข้นั ตอนในการจดั ทาโครงสร้างองคก์ ร และประเภทของแผนผังองคก์ รได้
5. มีคุณธรรมในการประพฤติตนในการเป็นผู้ประกอบการทด่ี ีได้
วธิ ีการสอนและกิจกรรมการเรยี นการสอน
กิจกรรมนา
1. ทักทายนักศกึ ษา ทบทวนความรู้เดิมจากบทเรยี นที่ผา่ นมา ให้นักศึกษาดู clip VDO “ปรบั
โครงสรา้ งองค์กร รับมือสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน”
https://www.youtube.com/watch?v=Diy0LBd_fzg ชี้ชวนให้มองเหน็ ควาสาคญั ของ โครงสรา้ ง
องค์กรว่าตอ้ งมกี ารปรับเปล่ียนเพราะเหตุใด เพื่อนาเข้าส่บู ทเรียน (5 นาที) และเตรยี มความพร้อมใน
การเรียนลาดบั ถดั ไป
กิจกรรมหลัก
1. ผู้สอนบรรยายเน้ือหาความรูเ้ กย่ี วกบั องคก์ รและการบรหิ ารจัดการองคก์ รธรุ กจิ ประเภท
ขององค์กรธุรกิจ การจัดโครงสร้างของ วิธีการจัดทาโครงสรา้ งขององค์กร (ธุรกิจ) สาหรับเจ้าของธุรกจิ
SME หลังจากนั้นใหน้ ักศกึ ษาสรปุ สรปุ ทา้ ยบทเรียนโดยใหน้ ักศึกษามีสว่ นรว่ มในการนาเสนอความคิดเห็น
ร่วมกัน องค์กร ให้นักศึกษาชมภาพตัวอย่าง และตอบคาถามว่าหากต้องการจัดทาโครงสร้างองค์กรของ
ธุรกิจตนเอง นักศึกษาจะออกแบบโครงสร้างอย่างไร ให้นักศึกษาเขียนภาพแสดง และนาเสนองานของ
ตนเอง แลกเปล่ยี นความคิดเหน็ และสรปุ เน้อื หาสาคัญร่วมกนั ทบทวนความรู้ด้วยการถามคาถาม
2. นักศกึ ษาศกึ ษาเน้ือหาจากเอกสารประกอบการสอน ความรเู้ ก่ยี วกบั องคก์ รและการบรหิ าร
จัดการองค์กรธุรกิจ ประเภทขององค์กรธุรกิจ การจัดโครงสร้างของ วิธีการจัดทาโครงสรา้ งขององค์กร
(ธุรกิจ) สาหรับเจ้าของธุรกิจ SME
3. มอบหมายงาน ใหน้ กั ศกึ ษาชมภาพตัวอย่าง และตอบคาถามวา่ หากตอ้ งการจัดทาโครงสร้าง
องคก์ รของธรุ กจิ ตนเอง นักศึกษาจะออกแบบโครงสร้างอยา่ งไร ใหน้ กั ศกึ ษาเขยี นภาพแสดง และนาเสนอ
งานของตนเอง และทาแบบฝกึ หัดทา้ ยบทที่ 4 จานวน 10 ข้อ
สรปุ บทเรยี น
1. ผู้สอนและนกั ศึกษาร่วมกนั สรุปเนอื้ หา
2. ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นและตอบคาถามเก่ียวกับการเรียนและการทากิจกรรม โดยใช้
เหตุผล และความคดิ รเิ ริม่ สรา้ งสรรค์
สอื่ การเรยี นการสอน
1. Power Point สรปุ เน้ือหาของบทเรียน
2. เอกสารประกอบการเรยี นวิชา การประกอบการและการสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ (ENT101)
3. สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกสโ์ ดยใหน้ กั ศกึ ษาเปดิ ศกึ ษาเองใน เวบ็ ไชต์ เพ่อื ศึกษาเนอื้ หาเพมิ่ เติม
การวดั และประเมนิ ผล
1. สงั เกตการมสี ว่ นร่วมของนักศึกษา
2. พจิ ารณาจากงานทมี่ อบหมายให้นกั ศกึ ษาเพิ่มเตมิ
3. พิจารณาจากแบบฝึกหัดท้ายบท
บทที่ 4
การสร้างธรุ กิจและการจัดตงั้ ธรุ กจิ ใหม่
การบรหิ ารจัดการองคก์ รในการดาเนนิ งานของผปู้ ระกอบการในยุคศตวรรษท่ี 21 ผปู้ ระกอบการ
ต้องให้ความสาคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของธุรกิจ และการบริหารจัดการทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับการ
ผลิตสินค้าและบริการมากข้ึน เพราะการบริหารจัดการองค์กรเป็นสิ่งสาคัญท่ีจะทาให้องค์กรประสบ
ความสาเรจ็ และก้าวไปข้างหน้าได้อยา่ งไร้ขดี จากัด
ความรู้เกี่ยวกับองคก์ รและการบรหิ ารจดั การองคก์ รธุรกิจ
ผู้ประกอบการต้องให้ความสาคัญต่อการบริหารจัดการองค์กร ซ่ึงเป็นสิ่งที่บ่งบอกความมี
ประสทิ ธิภาพขององคก์ รนน้ั ได้ โดยองคก์ รและองค์กรธรุ กจิ ความหมายดังน้ี
1. ความหมายขององค์กรและองค์กรธรุ กจิ
1.1 วรางคณา เวชายัน (2559) ได้กล่าวถึงความหมายของ องค์กร (organization) ว่า
หมายถึง บุคคลกลุ่มหนึ่งท่ีมารวมตัวกัน โดยมีวัตถุประสงค์หรือเปา้ หมายอย่างหนึ่งหรอื
หลายอย่างร่วมกัน และดาเนินกิจกรรมบางอย่างร่วมกันอย่างมีข้ันตอนเพื่อให้บรรลุ
วตั ถปุ ระสงคน์ ัน้ โดยมีทง้ั องค์กรทแ่ี สวงหาผลกาไร และ องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกาไร
1.2 ไชยยันต์ เล็กบารุง (2555) ได้ให้ความหมายขององค์กร คือ กลุ่มคนที่รวมตัวกันเพ่ือ
ดาเนินการในกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งให้สาเร็จตามวัตถุประสงค์ท่ีกาหนดไว้ ในการ
รวมตัวจะต้องมีการจัดระเบียบการติดต่อ การแบ่งงานกันทาและต้องมีการประสาน
ประโยชนข์ องแตล่ ะบคุ คลด้วย
1.3 ทิชากร สาราญชลารกั ษ์ (2555) ได้กลา่ วถึง ความหมายของ องค์กรธรุ กจิ ว่า หมายถงึ
องค์กรทที่ ากิจกรรมทางธรุ กจิ ซึ่งประกอบดว้ ยบคุ คลตัง้ แต่ 2 คนข้นึ ไป มีกิจกรรมการ
ผลิตสินค้าและบรกิ ารเพ่ือสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคและเพ่ือหวงั ผลกาไร
สรุป องคก์ ร หมายถึง บุคคล คณะบุคคล หรือสถาบันซง่ึ มีหนว่ ยงานที่ทาหนา้ ทสี่ มั พนั ธก์ นั
เพ่ือให้บรรลุตามเป้าหมายทว่ี างไวแ้ ละทาให้องค์กรเกิดความยง่ั ยืน
ในส่วนของการบรหิ ารจัดการองค์กรนน้ั ผ้ปู ระกอบการต้องศึกษาถึงการวางแผนบรหิ ารในองค์กร
เพื่อให้องค์กรสามารถจัดสรรทรัพยากรท่ีมีให้เกิดประสิทธิภาพต่อองค์กรมากท่ีสุดดังที่ กรมส่งเสริม
อตุ สาหกรรม (2559) ไดก้ ล่าวถงึ การวางแผนบรหิ ารจัดการองค์กร ว่าเปน็ การกาหนดเป้าหมายในอนาคต
สาหรบั องคก์ รและวางแผนกาหนดกิจกรรมเพื่อดาเนินการปฏบิ ัตงิ านได้โดยมีการจัดการใช้ทรัพยากรอย่าง
มีประสิทธิภาพเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ การวางแผนบริหารจัดการจาเป็นต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลท่ี
เก่ียวข้องกับการดาเนินงานท้ังในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพื่อนามากาหนดกิจกรรมและวิธีการ
ปฏิบัติงานได้ การจดั การทรัพยากรท่มี ีอยู่และที่ต้องการเพิ่มก็คือการจัดการทรัพยากรทงั้ 4M ประกอบไป
ดว้ ย คน(Man), เงิน(Money), วตั ถดุ ิบ(Material) โดยนา M ท่ี 4 คอื กระบวนการบริหาร (Management)
ซึ่งมี 5 ข้ันตอน ได้แก่ การวางแผน, การจัดองค์กร, การจัดหาบุคคลากร, การอานวยการ, การ
ประสานงาน มาใช้เพือ่ ใหก้ ารดาเนินงานของกิจการบรรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์และเป้าหมายท่ตี ั้งไว้
การบรหิ ารจดั การองค์กรธุรกจิ ของผู้ประกอบการ ตอ้ งคานึงถึงการบริหารจัดการทรัพยากร 4 M
มดี ังนี้
1. คน (Man) เร่ืองคนเป็นเร่ืองสาคัญท่ีสุดเพราะการบริหารคนได้ดี ก็จะทาให้งานและกิจกรรม
ต่างๆเดินหน้าไปได้ ผู้บริหารที่ดีจึงต้องเรียนรู้ประเภทของคนว่าพฤติกรรมของคนแต่ละคนจะใช้หลักการ
จติ วิทยาแบบใดเพอ่ื จงู ใจให้เขาทางานใหก้ ับกิจการอย่างเต็มท่แี ละมปี ระสิทธิภาพสูง
2. เงิน (Money) หากขาดเงินทุน กิจการก็ไม่สามารถดาเนินการได้ ดังน้ันเจ้าของธุรกิจหรือ
ผู้บริหารจาเป็นต้องเตรียมความพร้อมเร่ืองเงินทุนในการดาเนินธุรกิจก่อน เพราะการขาดเงินทุน
หมุนเวียนจะทาให้ธุรกิจขาดทุนและล้มได้ การจัดหาและจัดสรรเงินจึงเป็นเรื่องที่ต้องบริหารจัดการให้มี
ประสทิ ธิภาพ
3. วัตถุดิบ (Material) และเครื่องจักร (Machine) เจ้าของกิจการหรือผู้บริหารจาเป็นต้อง
บริหารการใช้วัตถุดิบและเครื่องจักร ให้มีการผลิตท่ีมีคุณภาพได้มาตรฐานและมีประสิทธิผลสูงเพ่ือให้
สินค้านน้ั มตี น้ ทุนท่ตี า่ สามารถแข่งขันได้
4. การบริหารจัดการ (Management) เป็นการใช้วิธีการจัดการฝ่ายต่างๆในองค์กรให้สามารถ
ดาเนินการได้ตามแผนงาน โดยท่ัวไปธุรกิจ SMEs จะมีฝ่ายงานด้านการตลาด การผลิต การเงินและบัญชี
การบริหารบุคคล และฝ่ายธุรการ ซึ่งเจ้าของกิจการต้องร่วมกันวางแผนงาน และกากับดูแลให้ผู้จัดการ
หรือคนท่ีรับผิดชอบงานแต่ละฝ่ายได้ทางานให้เป็นตามเป้าหมายที่ตั้งได้ ซึ่งการท่ีจะบริหารจัดการงาน
เหลา่ น้ไี ด้
ประเภทขององคก์ รธุรกิจ
กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วข้องกับการผลิต การจัดจาหนา่ ย การบริหารจดั การ การบรกิ ารทีเ่ กิดข้ึนภายใน
หน่วยงานหรือธรุ กิจ มกี ารใช้ทรัพยกรต่างๆอยา่ งมีระบบ เกิดเปน็ องค์กรธุรกิจในระบบเศรษฐกจิ สร้าง
สินคา้ และบรกิ ารทสี่ ามารถตอบสนองความตอ้ งการของผบู้ ริโภคได้ ซึ่งสามารถแบ่งเปน็ รูปแบบองคก์ ร
ธรุ กจิ ไดด้ ังนี้
1. ทิชากร สาราญชลารักษ์ (2555) ไดก้ ล่าวถึง รปู แบบขององคก์ รธรุ กิจแบง่ ออกเปน็ 8
ประเภท ได้แก่
1.1 กจิ การเจ้าของคนเดียว คอื กจิ การท่ีมบี ุคคลคนเดยี วเปน็ เจ้าของหรอื ลงทุนคนเดยี ว ควบคมุ
การดาเนินเองทั้งหมด เม่ือกิจการประสบผลสาเร็จมีผลกาไรก็จะได้รับผลประโยชน์เพียงคนเดียว ใน
ขณะเดียวกันก็ยอมรับการเส่ียงภัยจากการขาดทุนเพียงคนเดียวเช่นกัน มีข้อดีคือจัดต้ังง่ายใช้เงินทุนน้อย
มีอิสระในการตัดสินใจ ได้ผลกาไรคนเดียว รักษาความลัยของกิจการได้ดี มีข้อบังคับทางกฏหมายน้อย
และสามารถเลิกกิจการได้ง่าย ส่วนข้อเสียคือ การขยายกิจการทาไดยากเพราะเงินทุนมีจากัด การ
ตัดสินใจในการดาเนินงานอาจเกิดความผิดพลาดได้ง่าย ระยะเวลาดาเนินงานอาจจะไม่ยืนยาวข้ึนอยู่กับ
ความพึงพอใจของเจ้าของกิจการ ความสามารถในการบริหารมจี ากัด
1.2 ห้างหุ้นสว่ น เป็นกิจการที่มบี ุคคลตัง้ แต่ 2 คนขึ้นไปร่วมกนั ลงทุนและดาเนนิ กจิ การ โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อแบ่งผลกาไรที่ได้จากการดาเนินงาน ซ่ึงธุรกิจประเภทน้ีสืบต่อมาจากธุรกิจเจ้าของคน
เดียว เมือ่ กจิ การดาเนนิ งานกา้ วหน้าขนึ้ ต้องการเงินทุนและการจัดการเพ่ิมขึ้น จงึ ต้องหาบุคคลท่ีไว้วางใจ
ได้เข้ามาเป็นหุ้นส่วนร่วมดาเนินงาน ทาให้กิจการมีขนาดใหญ่ข้ึนการบริหารงานมีประสิทธิภาพมีสูง
กวา่ เดมิ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แบง่ ห้างห้นุ สว่ นออกเปน็ 2 ประเภท ดงั น้ี 1) หา้ งหนุ้ ส่วน
สามัญ เป็นห้างหุ้นส่วนท่ีผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดในหน้ีสินทั้งหมดของห้างหุ้นส่วนโดยไม่จากัด
จานวน 2) ห้างหุ้นส่วนจากัด คือ หุ้นส่วนประเภทจากัดความรับผิดชอบ เป็นหุ้นส่วนประเภทที่จากัด
ความรับผิดชอบในหน้ีสินของห้างหุ้นส่วนเพียงไม่เกินจานวนเงินที่ตนรับจะลงทุนในห้างหุ้นส่วน หุ้นส่วน
ประเภทนี้ไม่มีสิทธิเข้าจัดการงานของห้างหุ้นส่วน มีสิทธิเพียงออกความเห็น รับเป็นท่ีปรึกษาและทุนที่
นามาลงทนุ ต้องเป็นเงินหรอื ทรพั ย์สนิ เทา่ นั้น จะเป็นแรงงานไมไ่ ด้
1.3 บรษิ ทั จากัด คอื บริษัทประเภททจี่ ัดต้ังขึ้นดว้ ยการแบ่งทุนเปน็ ห้นุ มีมลู คา่ เท่า ๆ กนั ผูถ้ อื
หุ้นต่างรับผิดชอบจากัดไม่เกินจานวนเงินท่ีตนส่งใช้ให้ครบมูลค่าหุ้นท่ีตนถือ มีผู้ซ้ือหุ้นของบริษัทเรียกว่า
"ผู้ถือหุ้น" จะมีฐานะเป็นเจ้าของหุ้นไม่ใช่เจ้าของกิจการแต่มีสิทธิได้รับประโยชน์ตอบแทนจากบริษัทคือ
"เงินปนั ผล" ผูเ้ ป็นเจ้าของกจิ การกค็ อื นิติบุคคลที่เปน็ บริษัทจากดั น่นั เองการก่อตั้ง มีบุคคลอยา่ งนอ้ ย 7 คน
มารวมกันจัดต้ัง บุคคลกลุ่มนี้เรียกว่า "คณะผู้ก่อการ"ทาหนังสือบริคณห์สนธิ ซ่ึงมีรายละเอียดต่าง ๆ
เกี่ยวกับบริษัทที่จัดตั้งขึ้น ได้แก่ ช่ือบริษัท สถานที่ตั้งวัตถุประสงค์ ช่ือผู้ก่อการ อาชีพผู้ก่อการ ชนิดของ
หุ้นที่ออกจาหน่าย จานวนหุ้น มูลค่าหุ้นและนาหนังสือบรคิ ณห์สนธิไปจดทะเบียนที่กรมการค้า กระทรวง
พาณชิ ย์
1.4 บรษิ ัทมหาชนจากดั มกี ล่มุ ผู้กอ่ การเปน็ บุคคลธรรมดาตัง้ แต่ 15 คนขึน้ ไป และมีกรรมการ
ต้ังแต่ 5 คนขึ้นไป มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป โดยผู้ถือหุ้นคนหน่ึงถือหุ้นได้ไม่เกินร้อยละ 0.6 ของ
จานวนหุ้นที่จาหน่ายท้งั หมดรวมกัน และไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจานวนหุ้นทจี่ าหน่ายได้ท้ังหมด ส่วน
หุ้นจานวนที่เหลือบุคคลใดบุคคลหนึ่งจะถือไว้ได้รายละไม่เกินร้อยละ10 ต้องมีทุนที่ชาระด้วยตัวเงินไม่
น้อยกว่า 5 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหุ้นละเท่า ๆ กันและจะต้องมีมูลค่าไม่ต่ากวา่ หุ้นละ 20 บาท และไม่เกิน
หนุ้ ละ 100บาท
1.5 สหกรณ์ คือ ธุรกิจรูปแบบหนึ่งท่ีจัดตั้งและดาเนินการโดยกลุ่มบุคคลที่มีความประสงค์อย่าง
เดยี วกันรว่ มกันจัดตงั้ ลงทนุ ดาเนินการและเป็นเจ้าของร่วมกนั ดว้ ยความสมคั รใจ ทาหนา้ ที่
ในธุรกิจเพ่ือช่วยเหลือสมาชิก โดยมีจุดมุ่งหมายเพ่ือขจัดปัญหาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจและสังคมใน
หมู่สมาชิก รวมทั้งรักษาและส่งเสริมผลประโยชนข์ องสมาชิกให้ดขี ้ึน ลักษณะของกิจการสหกรณ์เป็นการ
รว่ มทนุ ของบคุ คลต้ังแต่ 10 คนขึ้นไป โดยไม่จากัดจานวน เป็นการร่วมมือกนั เพือ่ แก้ไขความเดือดร้อนของ
บุคคลท่ีมีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยไม่คานึงถึงสินทรัพย์ ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกต้องเป็นไป
ดว้ ยความสมัครใจ ไม่ใช่การบังคับ เพราะสหกรณ์ดาเนินงานในรูป "โดยสมาชกิ เพือ่ สมาชิก" สมาชิกทกุ คน
มีสิทธิเท่าเทียมกันในการดาเนินงานสหกรณ์ เพราะการดาเนนิ งานเป็นไปในรูปแบบประชาธิปไตยสมาชิก
แต่ละคนมีสิทธิออกเสียงได้ กิจการสหกรณ์มีหลายประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะการก่อตั้งและการ
ดาเนินงานแตกตา่ งกนั กาหนดประเภทสหกรณ์ที่รบั จดทะเบียนรวมมี 6 ประเภท ดังน้ี
1.5.1. สหกรณ์การเกษตร
1.5.2. สหกรณ์การประมง
1.5.3. สหกรณน์ คิ ม
1.4.4. สหกรณ์ร้านค้า
1.5.5. สหกรณ์บรกิ าร
1.5.6. สหกรณ์ออมทรพั ยห์ รือสหกรณธ์ นกจิ
1.6 รัฐวสิ าหกิจ หมายถงึ องคก์ ารของรัฐบาล หน่วยงานธุรกิจที่รฐั บาลเป็นเจ้าของหรอื บรษิ ัท
หา้ งห้นุ สว่ นนิตบิ ุคคล ท่ีส่วนราชการหรือหน่วยงานธรุ กิจของรฐั บาลมีทนุ รวมอยู่ดว้ ยเกินกว่าร้อยละ 50 มี
การบรหิ ารงานอยรู่ ะหว่างระบบราชการและระบบธุรกิจ สาเหตทุ ีร่ ฐั บาลเขา้ ดาเนินงานรฐั วสิ าหกจิ
1.7 บรษิ ัทข้ามชาติ หมายถงึ องคก์ รการผลิตอยา่ งหนงึ่ ทีม่ ีทนุ จากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่
ซึ่งอาจก่อให้เกิดท้ังผลดีคือทาให้ประเทศที่ได้รับการลงทุนมีเงินลงทุนเข้าประเทศมากขึ้น มีการจ้าง
แรงงานของประชาชนในประเทศเพิ่มข้ึนและได้รับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ท่ีทันสมัยนามาใช้พัฒนาประเทศ
เพม่ิ ข้ึนและผลเสียตอ่ ประเทศในด้านทรัพยากรของประเทศท่ีไดร้ ับการลงทนุ ลดลง เสียดลุ การชาระเงินใน
ระยะเวลายาว เน่ืองจากประเทศท่ีลงทุนจะนาเงินออกจากประเทศผู้รับลงทุน เมื่อการดาเนินงานมีผล
กาไร
1.8 กิจการแฟรนไชส์ (Franchise) หมายถึง สมั ปทาน ดงั นน้ั กิจการแฟรนไชส์ อาจเรียกอีก
อย่างว่า ธุรกิจสัมปทาน คือธุรกิจท่ีเกิดจากความสัมพันธ์ระหว่าบุคคล 2 กลุ่มขึ้นไปหรือมากกว่า ซึ่งมี
บทบาทและหน้าที่รับผิดชอบต่างกัน แต่จะส่งเสริมซ่ึงกันและกันในระบบธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์จะ
กระจายสินค้าหรือบริการไปสู่ผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจแฟรนไชส์หรือธุรกิจแบบสัมปทานมี 2
ประเภท คอื
1.8.1. ธรุ กิจแฟรนไชส์หรือแบบสัมปทานทใ่ี ชส้ นิ ค้าและช่ือการค้า
1.8.2. ธุรกจิ แฟรนไชสห์ รือแบบสัมปทานทใี่ ชร้ ปู แบบทางธรุ กิจ
2. สาหรับการจัดประเภทของธุรกิจท่ีแบ่งประเภทตามการใช้กลยุทธ์ในการดาเนินการได้ดังนี้
(กลั ยารตั น์ ธรี ะชนชยั กลุ 2563 , 110)
2.1 ธรุ กิจที่ก่อต้งั ขนึ้ มาใหม่ (Start Up) คอื การกอ่ ตง้ั ธุรกจิ ใหม่ โดยผปู้ ระกอบการทีก่ อ่ ต้ังต้อง
อาศัยความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างสินค้า มีความกล้าเส่ียง กล้าตัดสินใจ กล้าลงทุน การเริ่มต้นธุรกิจ
ใหมถ่ ือไดว้ ่ามยี าก เพราะทุกสง่ิ มคี วามทา้ ทายและมีความเสีย่ งสงู ธุรกิจประเภทน้ีเหมาะกับผ้ปู ระกอบการ
ท่ีมีความพร้อมท้ังกาลังกาย กาลังใจและกาลังทรัพย์ กล้าเส่ียงและทุ่มเทในการทางานอย่างเต็ม
ความสามารถ สามารถทาได้ 3 ลกั ษณะ คือ การเขา้ สกู่ ลมุ่ ลกู ค้าใหม่ การประดิษฐส์ ินคา้ ข้ึนใหม่ และ การ
ปรับปรงุ ดดั แปลงหรอื ใช้ประโยชนใ์ หม้ คี ุณภาพกว่าผู้ขายรายเดิมในตลาด
ผู้ประกอบการท่ีมีความคิดสร้างสรรค์ ในการทาธุรกิจหรือ มี Business Idea ในการสร้างธุรกิจ
จะสามารถพัฒนาให้เกิดความรู้ความชานาญที่นามาปรับให้ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการเอง
ทาให้เกิดพลังในการบริหารจัดการ สร้างสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าโดย Business Idea
สามารถเกิดจาก ประสบการณ์ในการทางาน หรอื การเรียนรู้งานจากที่ต่างๆ มาระยะหน่ึง งานอดเิ รกบาง
ประเภทสามารถกลายเป็นอาชีพสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการได้ การสังเกตความเป็นไป หรือวิถี
ชีวิตประจาวันทาให้เกิดโอกาสใหม่ในการทาธุรกิจ หรือ การค้นหาคาตอบของสิ่งที่เป็นข้อมูลข่าวสาร
เก่ียวกบั การทาธรุ กจิ ตา่ งๆ ทาให้เกดิ การสร้างกลยุทธก์ ารเอาชนะผู้แขง่ ขันได้
การจัดต้ังธุรกิจใหม่น้ันมีทขั้ ้อดีและข้อเสยี โดยข้อดีคือ ธรุ กจิ ท่เี รม่ิ ก่อตั้งใหม่จะมีการนานวัตกรรม
ท่ีทันสมัยมาใช้โดยไม่ต้องจ้างคนอื่นหรือซ้ือต่อจากคนอื่น ในการเลือกทาเลท่ีต้ังธุรกิจผู้ประกอบการ
สามารถเลือกทาเลท่ีต้ังเองตามความพอใจ สามารถหลีกเลียงข้อจากัดทางกฎหมายบางอย่างได้ และยัง
สามารถสร้างภาพพจน์ที่ดีจากธุรกิจที่ก่อต้ังขึ้นใหม่ ส่วนข้อเสีย เกิดความเสี่ยงสูงเนื่องจากยังไม่มี
ประสบการณ์ด้านการตลาด ต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งเพ่ือให้ลูกค้ารู้จัก ผู้ประกอบการบางคนอาจจะขาด
ประสบการณแ์ ละความสามารถในการแก่ไขปัญหาบางสถานการณอ์ าจทาให้ลกู คา้ เกิดความไม่พอใจได้
ดังนั้นหากต้องการก่อตั้งธุรกิจใหม่ ผู้ประกอบการต้องคานึงถึง ความเป็นไปได้หรือโอกาสทาง
การตลาดท่ีมีสูง สินค้าและบริการต้องตรงกับความต้องการของลูกค้าเป้าหมาจริง มีอัตรากาไรในการ
ดาเนินงานสมเหตุสมผล มีจุดเด่น มีเงินทุนเพียงพอต่อการทาธุรกิจ และมีการบริหารจัดการทางด้าน
เงินทนุ และการดาเนินงานภายในอยา่ งมอื อาชีพ
2.2 ธุรกจิ ท่ซี ือ้ ตอ่ มาจากผู้อน่ื เปน็ ธุรกจิ ท่ลี ดความเส่ยี งได้สว่ นหนึ่งเนื่องจากมผี ลการดาเนินการ
จากผู้ประกอบการรายเดิมอยู่ก่อนแล้วและการลงทุนต่ากว่าธุรกิจก่อตั้งใหม่ สามารถเรียนรู้จาก
ผู้ประกอบการเก่าได้ ทาเลที่ต้ังมีความเหมาะสมกับการทาธุรกิจ รับช่วงต่อคู่ค้า หรือตัวแทนการค้าได้
รวดเร็ว ลดปัญหาภาระงานในการก่อตั้งธรุ กิจใหม่ ข้อเสียของธุรกิจประเภทนี้ คือหากภาพพจน์ของธุรกิจ
เดิมเสียแล้วก็ยากที่จะแก่ไขภาพพจน์ของธุรกิจให้ดีขึ้นได้ หรือหากบังเอิญไปซื่อธุรกิจที่มีปัญหาแอบแฝง
อยู่อาจจะทาให้เกิดการฟ้องร้อง หรือปัญหาสิ่งแวดล้อมอยู่แล้วก็จะทาให้เกิดความไม่น่าเช่ือถือในชุมชน
หรือแม้แต่อุปกรณ์หรือสินค้าคงคลังอาจจะเกิดปัญหาความล้าสมัยได้ แต่ท้ังนี้ผู้ประกอบการต้องให้ความ
ระมัดระวังพิจารณาปัจจยั ตา่ งๆ ก่อนซื้อธรุ กจิ ตอ่ จากผูอ้ ืน่
2.3 ธุรกิจครอบครัว เป็นธุรกิจที่มีสมาชิกในครอบครัวต้ังแต่ 2 คน้ึนไปมาร่วมกันทาธุรกิจ
ดาเนินการจากเริ่มต้นเล็ก ๆ จนมาเป็นธุรกิจขนาดย่อม และพัฒนาเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ในเวลาต่อมา
ธรุ กิจครอบครัวเหมาะสมกับผู้ประกอบการทมี่ ีเงนิ ทุนไมม่ าก แตม่ ีญาติพีน่ ้องท่ีสามารถทางานจานวนมาก
ทาให้ช่วยลดปัญหาด้านแรงงานและค่าจ้างแรงงานท่ีสูง มีข้อดีคือ ชื่อเสียงของกิจการสร้างมาจากบรรพ
บุรุษและตกทอดแก่ลูกหลาน ทาให้บุคคลในครอบครัวจะทุ่มแรงกายแรงใจทางานอย่างเต็มท่ีร่วมกันโดย
ไม่คานึงถึงผลตอบแทนอย่างเดียว ทายาทของครอบครัวจะถูกปลูกฝังความคิดด้านธุรกิจต้ังแต่เด็ก ทาให้
สามารถสร้างความม่ังคั่ง และสบื ทอดไดห้ ลายชัว่ อายุคน แต่ในการทาธรุ กิจครอบครัวหากให้ความสัมพันธ์
ส่วนตัวมีอิทธิพลต่อธุรกิจมากเกินไปจะส่งผลให้การบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ หากเกิดความขัดแย้ง
อาจจะทาใหค้ วามสมั พันธ์ในครอบครวั แตกแยกได้
2.4 ธุรกิจสิทธิทางการค้า หรือธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นธุรกิจการรับสิทธิทางการค้า (Franchise)
เร่ิมต้นข้ึนในสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทเจนเนอรัลมอเตอร์ เร่ิมเผยแพร่ ระบบนี้ต่ังแต่ปี พ.ศ. 1898 ต่อมา
ธุรกิจประเภทน้ีเป็นทีน่ ิยมแพร่หลายได้รับความสาเรจ็ กันไปท่วั โลก ธรุ กิจการรบั สทิ ธิทางการค้า เปน็ ธรุ กิจ
ที่ผู้ให้สิทธิ (Franchiser) ในการดาเนินธุรกิจจาหน่ายสินค้าหรือบริการ โดยใช้เคร่ืองหมายการค้า และ
สัญลักษณ์ของตนโดยผู้ให้สิทธิได้รับค่าสิทธิทางการค้าตอบแทนในการช่วยเหลือผู้รับสิทธิทางการค้าใน
การดาเนินการ เลือกทาเลที่ตั้ง อบรมวิธีการปฏิบัติงาน สร้างระบบการเงิน ช่วยเหลือในการจัดตั้งธุรกิจ
ทุกอย่าง แนะแนวนโยบายการบริหารธุรกิจ โฆษณาประชาสัมพันธ์ตลอดจนช่วยแก้ไขปัญหาท่ีเกิดข้ึนใน
การดาเนินธรุ กจิ การร่วมงานกนั ในลกั ษณะแฟรนไชสจ์ ะเอ้ือประโยชนซ์ ึง่ กนั และกนั
2.5 ธุรกิจเสริมงานประจา การทาธุรกิจเสริมจากงานประจา เกิดจากผู้ประกอบการที่มีงาน
ประจาอย่แู ล้วแต่ตอ้ งการสรา้ งธรุ กิจของตนเองเพื่อหารายไดเพิม่ ในวันหยุดหรอื เวลาที่วา่ ง อาจทาเปน็ ช่วง
ฤดูกาล หรือทาประจาก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับอุปสงค์ทางการตลาดและความพร้อมของผู้ประกอบการ ธุรกิจ
ลักษณะนี้เหมาะกับผู้ประกอบการท่ีมีเงินทุนไม่มากและยังไม่อยากทิ้งความม่ันคงในงานประจา หาก
ผปู้ ระกอบการต้องการทาธรุ กจิ เสรมิ ให้มปี ระสทิ ธิผล สามารถดาเนนิ การตามแนวทางดังนี้
ธุรกิจต้องไม่กินเวลาก้าวก่ายงานประจา ต้องเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ มีความถนัด และเริ่มจากการ
ลงทุนไม่มากนัก ควรมีการจัดทาบัญชีรายรับ รายจ่ายแยกจากงานประจา ไม่ควรลงทุนซ้ือสินทรัพย์ถาวร
การควรทาการส่งเสริมการตลาดที่ใชค้ า่ ใช้จา่ ยต่า
สรุป ผู้ประกอบการสามารถเลือกรูปแบบขององค์กรธุรกิจแบ่งออกได้หลายประเภท ข้ึนอยู่กับ
องค์ประกอบและปัจจัยในการดาเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ การบริหารจัดการองค์กรธุรกิจต้องศึกษา
ข้อมูลของธุรกิจให้ถ่ีถ้วนและมุ่งเน้นสรา้ งความสาเร็จใหอ้ งค์กรหรือธรุ กิจของตนเอง ต้องพิจารณาทิศทาง
ความตอ้ งการขององคก์ รธรุ กจิ ให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจ
การจัดโครงสรา้ งขององคก์ ร
การจัดโครงสร้างองค์กร (ธุรกิจ) เป็นส่ิงท่ีแสดงถึงตาแหน่ง หน้าที่ของบุคลากรภายในองค์กร
เป็นการเขียนแผนภมู ิองคก์ ร (Organization chart) เป็นแผนผังที่แสดงถึงตาแหน่งงานของคนทางานใน
กิจการ แผนภูมิองค์กรที่ชัดเจนจะช่วยให้เกิดประโยชน์ในการประสานงาน การควบคุม การส่ังงานและ
การมอบหมายงานได้ รวมทัง้ คนทางานจะทราบถึงขอบขา่ ยความรบั ผิดชอบของตนเองอกี ดว้ ย โดยการจดั
โครงสรา้ งขององคก์ รมคี วามหมายคือ
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (2559) กล่วถึง ความหมายของการจัดโครงสร้างขององค์กร (ธุรกิจ)
คือการจดั รูปแบบการทางานของกิจการหรือธุรกจิ นั้นนั่นเอง เป็นการกาหนดงานที่แต่ละคนต้องทา งานที่
หน่วยงานแต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ กาหนดสายการบังคับบัญชาว่าใครจะขึ้นตรงกับหัวหน้าคนไหน
เพ่อื ใหเ้ กิดความชัดเจนในการทางานของธรุ กิจนน้ั ๆ กจิ การขนาดใหญ่ทุกแหง่ จะมีการจัดโครงสรา้ งองค์กร
ทชี่ ัดเจนโดยออกมาเป็นรูปแบบของแผนภมู ิองค์กร (Organization chart) โดยมีประโยชน์สาคญั ของการ
จัดโครงสร้างองค์กร มีดังน้ี
1. มีการกาหนดหน้าท่ีงานและความรับผิดชอบที่ชัดเจนโดยมีการกาหนดตาแหน่งงานของแต่
ละคน
2. มีการจัดสายการบังคับบัญชาทาให้คนทางานทราบว่าใครเป็นหวั หน้างานของตนและใครจะ
เป็นคนให้คุณใหโ้ ทษกบั ตนเองได้
3. ทาให้ผู้บริหารสามารถคัดเลือกคนท่ีเหมาะสมกับตาแหน่งงานและยังสามารถพัฒนาความรู้
ความสามารถของคนคนนนั้ ใหท้ างานไดม้ ีประสทิ ธิภาพยง่ิ ขนึ้
4. การจัดโครงสร้างที่ดีต้องมีการเขียนระเบียบการทางาน วิธีปฏิบัติเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย
เพอื่ ให้คนทางานทราบถึงวธิ ีการและการปฏบิ ตั งิ านตามระเบียบทก่ี าหนดไว้
5. ทาให้การทางานไมซ่ า้ ซอ้ นและไมก่ า้ วกา่ ยงานกนั ลดความขัดแยง้ ในองค์กรได้
6. ทาให้เจ้าของธุรกิจสามารถจัดสรรการใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดย
กาหนดการใช้งบประมาณหรือทรพั ยากรตา่ งๆในแตล่ ะฝ่ายงานได้อยา่ งเหมาะสม
วธิ ีการจัดทาโครงสร้างขององค์กร (ธุรกิจ) สาหรบั เจา้ ของธุรกิจ SME มขี น้ั ตอนง่ายๆดังนี้
1. ไตร่ตรองและแยกแยะว่าในกิจการของตัวเองควรมีงานหลักด้านใดบ้างและฝ่ายงานใดที่มี
ความสาคัญต่อกิจการ เช่น ต้องมีฝ่ายขาย ฝ่ายผลิต ฝ่ายบัญชีการเงิน และที่เหลือควรมีฝ่ายใดอีก หากมี
พนักงานจานวนไม่มากก็อาจจะต้องควบรวมฝ่ายงานท่ีคล้ายกันให้อยู่ท่ีเดียวกันเช่น จัดซื้อ บัญชี การเงิน
และธรุ การอาจอยใู่ นฝ่ายงานเดียวกนั และใชท้ รัพยากรบุคคลร่วมกันเปน็ ตน้
2. พิจารณางานแต่ละงานในกิจการว่ามีงานใดที่ใกล้เคียงกันหรือต้องมีการประสานงานกัน
เพือ่ ใหเ้ กิดผลสาเร็จเจ้าของอาจนาส่วนงานเหล่าน้ีมารวมกันได้เช่น งานท่ตี ดิ ต้งั ผลิตภณั ฑ์นอกสถานท่ีจะมี
ความเกี่ยวข้องกับสายงานการผลิตก็อาจนาส่วนงานติดต้ังมาอยู่ภายใต้ฝ่ายผลิต หากกิจการที่ต้องขนส่ง
สินคา้ ไปใหล้ กู ค้าซ่ึงจะมีความเกย่ี วข้องกับงานขายก็อาจนาไปสว่ นงานขนส่งไปอยู่ภายใต้การดูแลของฝ่าย
ขายเปน็ ตน้
3. พิจารณางานว่าฝ่ายงานใดท่ีมีปริมาณงานมากก็อาจต้องแบ่งให้เป็นทีมงานหลายๆทีมงาน
เพ่ือให้มีหัวหน้าของแต่ละทีมดูแลและเจ้าของจาเป็นต้องแบ่งพ้ืนท่ีรับผิดชอบหรือแบ่งตามกลุ่มหรือ
ประเภทของลูกคา้ เพ่ือป้องกนั การทางานซา้ ซ้อนภายหลงั
4. การพิจารณางานและคนทางานควรร่างเป็นแผนภูมิคร่าวๆเพ่ือพิจารณาว่าหัวหน้าของแต่ละ
ส่วนงานมีความสามารถเพียงพอหรือไม่ มีความอาวุโสและเป็นท่ียอมรับหรือไม่ หากสายงานที่มีงานที่
แตกตา่ งกันก็ควรแบ่งออกมาเปน็ อกี ฝา่ ยหนง่ึ ใหช้ ัดเจน
5. เจ้าของกิจการควรเขียนหน้าที่ความรับผิดชอบของคนทางานไว้ให้แต่ละคนด้วย รวมทั้ง
ทางเดินของงานหรือการไหลเวียนของงาน(Workflow)ว่าจากไหนไปไหนเพ่ือป้องกันการทางานซ้าซ้อน
และเกดิ ความลา่ ช้าในการทางาน
แผนภูมิองค์กรหรือผังองค์กร (Organization chart) เป็นเคร่ืองมือที่ช่วยให้บุคคลภายในและ
ภายนอกของกิจการเข้าใจถึงการจัดโครงสร้างองค์กรของกิจการที่ตนทางานหรือเข้ามาติดต่อ แผนภูมิ
องคก์ รสาหรบั ธุรกจิ SME ทน่ี ยิ มใชค้ อื แผนภมู ิแนวด่ิง (ปิรามดิ ) ตามแบบนี้
Manasa Reddigari (2561) ได้กล่าวถงึ การจดั ทาผงั องค์กรสาหรับธุรกจิ ขนาดเลก็ ซง่ึ ลักษณะ
การวางผงั องค์กรสาหรับธุรกิจขนาดเล็กขึ้นอยู่กับลักษณะโครงสร้างธุรกิจ แบง่ ประเภทของผังองค์กรได้ 3
ประเภทได้แก่
แบบราบ : โครงสร้างธุรกจิ แบบราบ พบได้ทั่วไปในบรรดาธุรกิจใหม่ที่มเี พียงหน่ึงหรือสองสาม
ฝา่ ย นับเป็นโครงสร้างแบบที่มลี าดบั ชัน้ น้อยทส่ี ุด ในโครงสรา้ งธรุ กจิ แบบราบ โดยทว่ั ไปแล้ว จะไมม่ กี าร
แบง่ ระดบั ระหวา่ งฝ่ายบริหารระดบั สงู สดุ กบั พนักงานระดบั ตา่ ทสี่ ุด
แบบลาดับช้ัน : เมอ่ื ธุรกจิ ของคณุ เติบโตไปจนถงึ ระดับท่ีมีฝ่ายบริหารหลายช้นั โครงสร้างแบบ
ลาดบั ช้ันอาจเป็นแบบทเ่ี หมาะสม ในโครงสร้างธรุ กิจแบบลาดบั ชั้น มหี ลายระดับอยู่ระหวา่ งฝ่ายบรหิ าร
กบั พนักงาน อย่างไรกด็ ี แตล่ ะบคุ คลยังคงมบี ทบาททีก่ าหนดและต้องรายงานต่อผจู้ ดั การเพยี งคนเดียว
แบบแมทริกซ์ : หากพนักงาน A ในธุรกิจของคุณทางานให้แกผ่ ู้จดั การ A และผ้จู ดั การ B คุณ
นา่ จะมโี ครงสรา้ งธรุ กจิ แบบแมทริกซ์ ในโครงสรา้ งธุรกจิ แบบน้ี บทบาทจะมลี ักษณะลื่นไหลไม่คงท่ี แทนท่ี
จะมีการกาหนดไวแ้ ลว้ เช่น นกั ออกแบบกราฟิกอาจทางานให้ทัง้ ผู้จัดการฝ่ายออกแบบและผู้จดั การฝา่ ย
ผลติ ภณั ฑ์ ทาให้ได้ผงั องค์กรซ่งึ โดยปกติแลว้ มักจะมีลกั ษณะคล้ายตาราง
กรรณิการ์ อุตตะทอง (2561,50) ได้ศึกษาถึงการบริหารจัดการองค์กรในยุคยุค 4.0 พบว่าธุรกิจ
ต้องมีความพร้อมในการวางแผน บริหารจัดการข้อมูลข่าวสารและความคิดเห็นของคนรุ่นเก่าและคนรุ่น
ใหม่ที่กาลังเข้าสู่ตลาดแรงงาน เจ้าของกิจการตต้องวางแผนการเรียนรู้และการอยู่ร่วมกันจะต้องมีความ
การคิดเชิงวิพากษ์ การคิดเชิงสร่างสรรค์การคิดรวบยอด การท่างานรวมกับผู้อื่นจะต้องมีความฉลาด
ในทางอารมณ์ จะต้องน่าระบบดิจิตอลเข้ามาปรับใช้ ในการท่างาน น่าเทคโนโลยีมาปรับเปรี่ยน การ
เปลยี่ นแปลงในโลกดจิ ิตอล ตอ้ งมีองคป์ ระกอบหลายเร่ือง สามารถเปิดเผยได้ โปร่งใส ตรวจสอบไดอ้ งค์กร
มีการแบ่งปันข้อมูลทางออนไลน์ ท่างานร่วมกันในโลก ไอที ใช้ข้อมูลร่วมกัน มีการป้อนข้อมูล เก็บข้อมูล
และน่าขอ้ มลู มาใชป้ ระกอบการตดั สนิ ใจ องค์กรจะตอ้ งพร้อมทีจ่ ะเปลยี่ นแปลง อยู่ตลอดเวลา
สรุป การจัดโครงสร้างขององค์กร ข้ึนอยู่กับลักษณะการดาเนินงานขององค์กร ผู้ประกอบการ
พิจารณาถึงโครงสรา้ ง และขนาดขององค์กรธุรกิจและบริหารจดั การ วางตาแหน่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ
ของผทู้ ่ีอยูใ่ นองคก์ รใหเ้ หมาะสม และคานึงถงึ ความแตกต่างของสมาชิกในองค์กร ใชเ้ ทคโนโลยี และข้อมูล
มาร่วมกันใช้ประกอบการตดั สนิ ใจและพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงอยตู่ ลอดเวลา
สรปุ ทา้ ยบทเรียน
องค์กร หมายถึง บุคคล คณะบุคคล หรอื สถาบันซึง่ มีหน่วยงานที่ทาหนา้ ทส่ี มั พันธ์กัน เพ่ือให้
บรรลุตามเปา้ หมายที่วางไว้และทาให้องค์กรเกิดความยั่งยืน ผปู้ ระกอบการสามารถเลอื กรูปแบบของ
องค์กรธุรกจิ แบ่งออกไดห้ ลายประเภท ขนึ้ อยู่กับองคป์ ระกอบและปจั จยั ในการดาเนินธรุ กิจของ
ผู้ประกอบการ ตอ้ งพจิ ารณาทิศทางความต้องการขององค์กรธุรกิจให้สอดคลอ้ งกับเศรษฐกิจรวมถงึ ให้
ความสาคัญกับการจดั โครงสร้างขององค์กร โดยคานึงถึงความเหมาะสมของขนาดองคก์ รและพร้อมทจ่ี ะ
ปรบั ตัวให้เขา้ กบั สถานการณ์สิง่ แวดลอ้ มต่างๆทอ่ี าจเปลย่ี นแปลงไดเ้ สมอโดยอาศัยเทคโนโลยี และขอ้ มลู
ประกอบการตัดสินใจ
แบบฝกึ หัดทา้ ยบท
1. จงบอกความหมายขององคก์ รและองค์กรธรุ กิจ
2. จงอธบิ าย การบรหิ ารจดั การองคก์ รธรุ กจิ ของผู้ประกอบการ 4 M
3. จงบอกรปู แบบขององคก์ รธุรกิจวา่ มีกป่ี ระเภท อะไรบ้าง
4. จงอธบิ ายวา่ หากนกั ศึกษาต้องการเลือกทาธุรกจิ คิดว่าจะทาในรปู แบบใด เพราะเหตุใด และ
มขี ้อดี ข้อเสียอย่างไร
5. จงบอกขอ้ ดี ขอ้ เสียของธุรกิจท่กี อ่ ต้ังขน้ึ มาใหม่ (Start Up)
6. จงอธิบายว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ ธุรกิจครอบครัว หรือ ธุรกิจเสริมงานประจา เป็นธุรกิจที่
เหมาะสมกบั เศรษฐกิจปัจจบุ นั มากทีส่ ดุ เพราะเหตุใด
7. จงบอกความหมายของ การจดั โครงสร้างขององคก์ ร
8. จงอธิบายว่า การจัดโครงสรา้ งองคก์ รมีประโยชน์ต่อเจา้ ของธุรกจิ อย่างไร
9. จงอธบิ ายข้ันตอนในการจดั ทาโครงสร้างองคก์ รในธุรกิจ SME ควรมีข้นั ตอนอะไรบา้ ง
10. แผนผงั องค์กรมีก่ปี ระเภท อะไรบ้าง อธบิ ายแตล่ ะประเภทพอสงั เขป
เอกสารอ้างองิ
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม . 2559 . การจัดโครงสรา้ งขององคก์ ร.(ออนไลน์).สืบคน้ เม่ือ 9 พฤศจิกายน
2564 จาก https://bsc.dip.go.th/th/category/hr2/fs-businessstructure.
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม . 2559 . การวางแผนบริหารจดั การองคก์ ร.(ออนไลน)์ .สืบคน้ เมอ่ื 7พฤศจิกายน
2564 จาก https://bsc.dip.go.th/th/category/hr2/fs-manageplanbusiness.
กรรณกิ าร์ อุตตะทอง . 2561 . การวางแผนการปฏิบัติงานในองค์กรยุค 4.0.วารสาร Journal of
Modern Learning Development. 3(2 ) ,40-51.
กลั ยารตั น์ ธรี ะธนชัยกุล . 2562 . การเป็นผูป้ ระกอบการและการสร้างสรรคธ์ ุรกิจใหม.่ กรงุ เทพฯ.
สานักพมิ พ์บริษัทซเี อ็ดยูเคชั่น จากดั (มหาชน).
ไชยยันต์ เลก็ บารุง . 2555 . ความหมายขององค์กร (ออนไลน์).สบื ค้นเม่อื 7 พฤศจิกายน 2564 จาก
https://www.gotoknow.org/posts/207238
ทิชากร สาราญชลารักษ์ . 2555 . องคก์ รธรุ กิจ(ออนไลน์).สบื คน้ เม่ือ 7 พฤศจกิ ายน 2564 จาก
https://sites.google.com/site/kruticha/bth-reiyn/ngan-thurkic/hnwy-thi-1-thurkic-ni-
chiwit-praca-wan/xngkhkr-thurkic
วรางคณา เวชายัน . 2559 . องค์กรคืออะไร บุคลากรในองค์กรควรมีสัมพันธภาพต่อกนั อย่างไร
(ออนไลน์).สืบค้นเม่อื 7 พฤศจิกายน 2564 จาก
https://porshceswii.wordpress.com/2016/03/30องค์กรคืออะไร-บุคลากรใน/
แฮปปน้ี วิ . 2560 . ความหมายขององค์กรและองค์การ(ออนไลน)์ . สบื ค้นเมอ่ื 7 พฤศจกิ ายน 2564 จาก
https://happyhew.com/2017/01/18/ความหมายขององค์กรและอง/
Manasa Reddigari . 2561 . วิธกี ารสรา้ งผงั องค์กรสาหรับธุรกิจขนาดเลก็ (ออนไลน)์ .สืบค้นเม่อื 11
พฤศจิกายน 2564 จาก https://www.microsoft.com/th-th/microsoft-365/business-
insights-ideas/resources/small-business-org-chart
แผนบรหิ ารการสอน
ประจาบทท่ี 5 การจัดการเงนิ ทุนและการจัดทางบการเงินสว่ นบุคคล
หวั ข้อเนื้อหา
1. เงนิ ทนุ และประเภทของเงินทนุ
2. แหลง่ เงนิ ทนุ
3. แหลง่ เงินกทู้ ชี่ ่วยเหลอื SMEs
4. งบการเงินสว่ นบคุ คล
5. สรปุ ทา้ ยบทเรียน
วตั ถปุ ระสงค์เชิงพฤติกรรม
เมอ่ื นักศึกษาเรียนบทเรียนนแ้ี ลว้ สามารถ
1. บอกความหมายของเงินทุนและประเภทของเงนิ ทุนได้
2. อธบิ ายประเภทของแหล่งเงินทุนพร้อมยกตัวอย่างได้
3. บอกแหล่งเงนิ กู้ท่ชี ่วยเหลือ SMEs พร้อมยกตัวอย่างได้
4. อธบิ ายงบการเงนิ สว่ นบคุ คลได้
5. มีคณุ ธรรมในการประพฤติตนในการเป็นผู้ประกอบการท่ดี ีได้
วิธกี ารสอนและกจิ กรรมการเรยี นการสอน
กิจกรรมนา
1. ทักทายนักศกึ ษา ทบทวนความรู้เดิมจากบทเรยี นทผ่ี า่ นมา ให้นกั ศึกษาดู คลิปวดี โี อ จาก
https://www.youtube.com/watch?v=44Ij--LNTfQ เรื่อง #คุยต้องรวย ความสาคัญของ “งบ
การเงิน” ซักถามความรู้จากคลิป และให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความสาคัญของการทางบการเงิน
เพอ่ื นาเขา้ สู่บทเรยี น (5 นาท)ี และเตรยี มความพรอ้ มในการเรยี นลาดบั ถัดไป
กจิ กรรมหลัก
1. ผสู้ อนบรรยายเน้ือหาความรู้เกี่ยวกับความหมายของเงนิ ทนุ และประเภทของเงินทุน ประเภท
ของแหล่งเงินทุน แหล่งเงินกู้ท่ีช่วยเหลือ SMEs และงบการเงินส่วนบุคคล หลังจากน้ันให้นักศึกษาสรุป
สรุปท้ายบทเรียนโดยให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการนาเสนอความคิดเห็นร่วมกัน ใบงาน 5 ให้นักศึกษา
วางแผนกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ โดยใช้ธุรกิจท่ีนักศึกษาได้จัดทาใน การนาเสนอ Business Lean
Canvas มาเป็นรายละเอียดในการขอกู้เงิน โดยให้เลือกสถาบันการเงินจานวน 2 สถาบัน และนาเสนอ
รายละเอียดต่อไปนี้ ช่ือกิจการ / สินค้าของกิจการ/งบประมาณที่ลงทุน(บาท) / จานวนร้อยละของทุนที่
ตอ้ งการกูย้ ืม/ สถาบันการเงิน/ รายละเอยี ดของสญั ญากู้ยมื จัดทาเปน็ การนาเสนอโดยใชส้ ่ือใดก็ได้ เชน่
คลิปวีดีโอ (ตัดต่อเอง)/ PPT./โปสเตอร์ หรือรูปแบบอื่นๆ อย่างสร้างสรรค์ และนาเสนองานของตนเอง
แลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ และสรปุ เน้ือหาสาคญั รว่ มกัน ทบทวนความรดู้ ้วยการถามคาถาม
2. นักศึกษาศกึ ษาเนอื้ หาจากเอกสารประกอบการสอน ความหมายของเงินทุนและประเภทของ
เงนิ ทุน ประเภทของแหล่งเงนิ ทุน แหลง่ เงินกู้ทชี่ ่วยเหลอื SMEs และงบการเงนิ สว่ นบุคคล
3. มอบหมายงาน ใหน้ ักศึกษาทาใบงานที่ 5 และนาเสนองานของตนเอง และทาแบบฝึกหดั
ท้ายบทท่ี 5 จานวน 8 ข้อ
สรุปบทเรียน
1. ผูส้ อนและนักศกึ ษาร่วมกนั สรุปเน้ือหา
2. ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นและตอบคาถามเก่ียวกับการเรียนและการทากิจกรรม โดยใช้
เหตุผล และความคดิ ริเรม่ิ สร้างสรรค์
สื่อการเรียนการสอน
1. Power Point/Mindmister สรปุ เนอ้ื หาของบทเรียน
2. เอกสารประกอบการเรียนวิชา การประกอบการและการสรา้ งสรรคธ์ ุรกิจใหม่ (ENT101)
3. สื่ออเิ ล็กทรอนกิ ส์โดยให้นักศึกษาเปดิ ศกึ ษาเองใน เวบ็ ไชต์ เพื่อศึกษาเน้ือหาเพม่ิ เติม
การวัดและประเมนิ ผล
1. สงั เกตการมสี ว่ นรว่ มของนกั ศกึ ษา
2. พิจารณาจากงานทมี่ อบหมายใหน้ ักศึกษาเพิ่มเตมิ
3. พจิ ารณาจากแบบฝึกหัดท้ายบท
บทที่ 5
การจดั การเงนิ ทนุ และการจดั ทางบการเงนิ สว่ นบุคคล
การให้ความสาคัญกับการจัดการด้านเงินทุนและกลยุทธ์ในการบรหิ ารการเงินของผู้ประกอบการ
เพื่อจุดประสงค์สาคัญคือ กาไรสูงสุด โดยเกิดจากการผลิต การจัดจาหน่ายสินค้าและบริการ การบริหาร
เงินทุนให้เกิดมูลค่าของกิจการได้สูงสุด และสามารถสร้างความมั่งค่ังให้แก่ผู้ที่ถือหุ้นในกิจการ หรือเป็น
เครื่องหมายบ่งบอกถงึ การบริหารธุรกิจทม่ี ปี ระสิทธิภาพของผปู้ ระกอบการ
เงนิ ทุนและประเภทของเงนิ ทุน
เงินทนุ หมายถึง เงินเปน็ ปจั จยั ทอี่ งคก์ รธรุ กจิ จัดมาเพอ่ื นาไปใชใ้ นการดาเนนิ กจิ การ เงนิ ทุนทาให้
เกิดการผลิต การซ้ือขาย การลงทุนทาให้ได้มาซ่ึงผลกาไรตามจุดประสงค์ท่ีองค์กรธุรกิจได้ตั้งไว้ เงินทุน
ต้องใช้ตง้ั แต่การเร่ิมต้นธุรกิจ ระหวา่ งดาเนนิ ธุรกจิ ทาใหเ้ กดิ การซื้อขายอย่างมีประสิทธภิ าพสูงสุด ในทาง
ธุรกิจสามารแบ่งทนุ ออกเปน็ 2 ประเภทดังนี้
1. เงินทนุ คงที่
เงินทุนคงท่ี หมายถึง เงินทุนที่องค์การธุรกิจจัดหาเพื่อนามาใช้ในการจัดหาทรัพย์สินถาวร
ทรัพย์สินถาวร หมายถึง สินทรัพย์ท่ีอายุการใช้งานนานเกินกว่า 1 ปี ดังน้ัน เงินทุนคงที่ องค์การธุรกิจจึง
นามาใช้ในการลงทนุ เก่ียวกับที่ดนิ สร้างโรงงาน หรืออาคาร ซอื้ เครอื่ งจกั ร รวมถึงการซอื้ อุปกรณ์เคร่ืองใช้
สานักงานเพอื่ ความพร้อมกอ่ นเรมิ่ ต้นธุรกจิ เปน็ ตน้
2. เงินทุนหมนุ เวยี น
เงินทุนหมุนเวียน หมายถึง เงินทุนท่ีองค์การธุรกิจจัดหา เพ่ือนามาใช้ในการจัดหาทรัพย์สิน
หมุนเวียนหรือใชใ่ นการดาเนินกิจการ ทรัพย์สินหมุนเวียนซึ่งมีอายุการใชเงานไม่เกิน 1 ปี เช่น ค่าวัตถุดบิ
คา่ แรงงาน ค่าใช้จ่ายดา้ นการตลาด เปน็ ต้น (หทัยรตั น์ เส็งนา,2559)
แหล่งเงินทนุ
เม่ือผู้ประกอบการได้ประเมินความต้องการใช้เงินลงทุนในระยะเร่ิมแรกแล้ว ผู้ประกอบการต้อง
จดั หาเงนิ ทนุ จากแหลง่ เงินทุน เพือ่ ใชใ้ นการซ้อื หรือจัดหาสนิ ทรัพย์ และปัจจยั จาเป็นตา่ งๆ เพื่อการดาเนิน
ธรุ กจิ ผ้ปู ระกอบการสามารถหาแหล่งเงนิ ทุนได้ 2 ประเภทดงั น้ี
1. แหลง่ เงินทุนระยะสั้น เป็นเงนิ ทนุ ทธี่ รุ กจิ สามารถจดั หามากจากแหล่งเงนิ ทุนเพ่ือเสริมสภาพ
คลอ่ งให้แก่กจิ การ อาจจะมหี รอื ไม่มหี ลักประกัน หรือ อาจจะไม่ต้องวางสินทรัพย์เพื่อค้าประกันขึ้นอยู่กับ
ผใู้ ห้เงนิ ทนุ ผู้ประกอบการจึงสามารถหาเงนิ ทนุ ระยะสน้ั จากแหลง่ เงนิ ต่างๆดังน้ี (กลั ยารัตน์ ธีระธนชัยกลุ
,2562 )
1.1 เงินกาไรสะสม เป็นเงินท่ีเก็บสะสมไว้หากมีจานวนมากพอก็สามารถนามาเป็น
เงนิ ทนุ ได้เลย เพราะไม่ต้องเสยี ดอกเบย้ี
1.2 ธนาคารพาณิชย์ เป็นแหล่งเงินทุนท่ีมีเงินทุนให้หลายประเภท เช่น เงินกู้ท่ีไม่ต้องมี
หลักทรัยพ์ค้าประกัน และ เงนิ กู้ที่ตอ้ งมีหลกั ทรพั ยค์ ้าประกนั
1.3 เครดิตทางการค้า เป็นการให้ข้อตกลงกันระหว่างผู้ผลิต และผู้จาหน่ายในการชาระ
ค่าสนิ ค้าภายหลัง ตามที่ระบุในสัญญาทไ่ี ด้ตกลงกันทั้งสองฝา่ ย
1.4 การใช้เอกสารเครดิต เป็นเอกสารเก่ียวกับการจ่ายต๋ัวสัญญาใช้เงินให้ไว้กับเจ้าหนี้
หรือการจ่ายเช็คลงวันท่ีล่วงหน้า ทาให้ลูกหนี้สามารถชะลอการชาระหนไี้ ปได้ระยะ
หนึง่
1.5 การกู้ยืมเงินโดยใช้สินค้าเป็นประกัน เป็นการนาสินค้าที่มีอยู่ในคลังสินค้ามาค้า
ประกันการกู้ยืมเงินจากธนาคาร โดยแยกเก็บไว้ในคลังสินค้าของธนาคา หรือ
คลงั สนิ คา้ สาธารณะ
1.6 การต้งั วงแชร์ ผู้ประกอบการบางคนไม่สามารถกู้ยืมเงนิ จากแหล่งทนุ สถาบนั การเงิน
เพราะไม่มีหลักทรัพย์ค้าประกัน หรือกู้จนครบเต็มอัตราแล้ว จึงนิยมตั้งวงแชร์ขึ้น
เพื่อเปน็ การระดมทนุ แตถ่ ือว่าการตง้ั วงแชร์ถือวา่ ผดิ กฏหมาย
1.7 แหล่งเงินทุนระยะส้ันอื่น ๆ ใช้วิธีการนาสินทรพั ย์ท่ีมีมูลค่าของกิจการมาแปลงเปน็
เงินทุนหมุนเวียนหรือเงินสด ในระยะเวลาสั้นๆ เช่น การหาเงินทุนระยะสั้นจาก
อย่างการนาเช็คลงวันท่ีล่วงหน้า การขายลดต๋ัวเงินให้ธนาคารหรือสถาบันการเงิน
ออกตัว๋ สญั ญาใช้เงินให้เจ้าหนี้
2. แหล่งเงินทุนระยะยาว เป็นเงินทุนท่ีผู้ประกอบการต้องการใช้ในการลงทุน เครื่องจักร ที่ดิน
อาคาร หรือการขยายกิจการ จึงต้องการเงินทุนน้ีจานวนมากและต้องการระยะเวลาการ
ชาระคืนที่นาน ประกอบดว้ ย
2.1 แหล่งเงินทุนภายใน ประกอบด้วย เงินทุนส่วนตัวของเจ้าของกิจการ อาจจะเป็น
เจ้าของคนเดียวหรือ ผู้ถือหุ้น กาไรสะสมของกิจการ และการจาหน่ายทรัพย์สินของ
กจิ การ
2.2 แหล่งเงินทุนภายนอก ประกอบด้วย เงินทุนท่ีกิจการจัดหามาจากบุคคล สถาบัน
การเงนิ หรือกิจการอื่นๆ ภายนอกกิจการ เป็นเงนิ ทนุ ที่กิจการไมส่ ามารถสร้างไดเ้ อง
แหล่งเงินกทู้ ่ีช่วยเหลอื SMEs
การจัดหาแหลง่ เงินทุน ถือเป็นกิจกรรมๆ หนึ่งท่ีในการดาเนนิ ธรุ กิจจะขาดกระบวนการน้ีไปไมไ่ ด้
สาหรับธุรกิจแหล่งเงินทุนระยะสั้นและแหล่งเงินทุนระยาว สามารถจัดหาได้จาก (กรมส่งเสริม
อุตสาหกรรม , 2559)
ธนาคารพฒั นาวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรอื SME Bank) เป็น
ธนาคารที่เน้นในการใหส้ ินเชือ่ กิจการขนาดย่อมและขนาดกลางท่ีเปน็ นติ ิบุคคล
ธนาคารออมสนิ เป็นธนาคารที่เนน้ การใหส้ นิ เชือ่ กบั กจิ การทีเ่ ปน็ บคุ คลธรรมดาและร้านค้าทจ่ี ด
ทะเบียนพาณิชย์
ธนาคารกรุงไทย เปน็ ธนาคารที่เนน้ การใหส้ ินเชอ่ื กับกิจการท่ีเป็นนติ ิบุคคลขนาดกลางและขนาด
ใหญร่ วมท้งั บริษัทมหาชนตา่ งๆท่ีจดทะเบยี นในตลาดหลกั ทรัพยแ์ หง่ ประเทศไทย
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส) เปน็ ธนาคารท่ีเน้นการให้สนิ เช่ือธุรกจิ การเกษตรหรือ
ธุรกจิ เกษตรแปรรปู และเกษตรกร
ธนาคารเพ่ือการส่งออกและนาเขา้ แหง่ ประเทศไทย เปน็ ธนาคารท่ีเน้นการใหส้ ินเช่ือกับธุรกจิ ที่
สง่ ออกและนาเขา้ จากตา่ งประเทศ รวมทั้งไปลงทนุ ในโครงการที่ต่างประเทศ
ธนาคารพาณชิ ยต์ า่ งๆซง่ึ ให้สินเช่อื ทั้งระยะสัน้ และระยะยาว โดยมฝี ่ายท่ีดูแลสนิ เช่ือสาหรับกจิ การ
ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (SMEs) โดยเฉพาะ เช่น ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสกิ รไทย,ธนาคาร
ไทยพาณชิ ย์, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารทหารไทย, ธนาคารธนชาต, ธนาคารไทยเครดติ เพื่อ
รายย่อย
นอกจากธนาคารแลว้ ยงั สถาบันการเงินท่ใี ห้สินเชื่อด้านอืน่ ๆประเภทเชา่ ซื้อ ลิสซง่ิ และแฟคตอริ่ง
รวมท้งั การให้กแู้ บบ Personal loan, credit card ซ่งึ บางแห่งกเ็ ปน็ บริษัทในเครอื ของธนาคาร
พาณชิ ย์ หรอื เครอื สถาบันการเงนิ จากตา่ งประเทศ
สรุป การจัดหารเงินทนุ เปน็ หนา้ ท่ีหลักของผปู้ ระกอบการ โดยสามารถแบ่งทุนออกเป็น 2
ประเภทคือ เงนิ ทนุ คงทแี่ ละเงินทุนหมนุ เวยี น ผูป้ ระกอบการสามารถเลือกการจัดหาเงนิ ได้จากแหล่ง
เงินทุนซงึ่ มีใหเ้ ลอื กไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงนิ ต่างๆ หรือเป็นการระดมทนุ ตามความสามารถของ
ผูป้ ระกอบการเพอ่ื นาเงนิ ทนุ มาเปน็ ตัวขบั เคลอื่ นธุรกจิ ใหไ้ ด้ผลกาไรตามจุดประสงค์ทต่ี ัง้ ไว้
เมื่อผู้ประกอบการมีการจดั สรรเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพแลว้ ผูป้ ระกอบการตอ้ งศกึ ษาการ
จัดทา “งบการเงนิ ส่วนบคุ คล” ซึ่งเป็นการจดบันทึกเกยี่ วกับงบการเงนิ สว่ นตวั หรอื งบการเงินของ
ครอบครัว สามารถทาให้ผปู้ ระกอบการมองเห็นถึง สนิ ทรัพย์ หนส้ี นิ รายรบั รายจา่ ยและกระแสเงินสดใน
แตล่ ะเดือน เพ่ือประเมนิ สถานะทางการเงนิ
งบการเงนิ สว่ นบคุ คล
งบการเงินส่วนบคุ คลจะประกอบด้วย 3 ประเภทหลักๆ คือ
1. งบดลุ ส่วนบคุ คล (Personal Balance Sheet) คอื รายงานทแ่ี สดง
สถานะความม่งั ค่ังทางการเงนิ ของบุคคล ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง งบดลุ ส่วนบคุ คลทาให้เราทราบว่าเรามี
สินทรัพย์ (Assets) อะไรบ้าง มมี ูลค่าเท่าใด มี หน้ีสิน (Liabilities) จานวนเทา่ ใด และสรุปแลว้ เรามี
ความม่งั ค่ังสุทธิ (Net Worth) มากนอ้ ยเพียงใดสามารถแสดงเป็นสมการคือ
งบดลุ ส่วนบุคคล : สินทรัพย์ – หนีส้ นิ = ความม่งั ค่ังสทุ ธิ”
1.1 สนิ ทรพั ย์ (Assets) หมายถึง สงิ่ ของ ทรพั ยส์ ิน ที่กิจการเป็นเจ้าของ ซึ่งกิจการคาด
ว่าจะได้รบั ผลประโยชนไ์ มว่ า่ ทางตรงหรอื ทางออ้ ม สินทรพั ย์สามารถแบง่ ได้ 2 ประเภท ไดแ้ ก่
1.1.1 สินทรัพย์หมุนเวียน หมายถึง สนิ ทรัพย์ หรือเงินสดที่อาจะขายหรือแปล
สภาพเปน็ เงินสดหรือใชใ้ ห้หมดภายใน 1 ปี เช่น เงินสด ลูกหนธ้ี นาคาร สินค้าคงเหลอื
วตั ถดุ ิบส้นิ เปลือง ฯลฯ
1.1.2 สินทรัพย์ไมห่ มนุ เวียน หมายถงึ สินทรัพย์ทมี่ ีอายุการใช้งานนานเกนิ กว่า
12 เดือน หรือใชป้ ระโยชน์เชงิ เศรษฐกจิ แกก่ ิจการมากกวา่ รอบระยะเวลาบญั ชี เชน่ เงนิ
ลงทุนระยะยาว ท่ดี นิ อาคาร อปุ กรณ์ ฯลฯ
1.2 หนสี้ นิ (Liabilities) หมายถึง ภาระผกู พันท่ีเปน็ ผลจากอดีต ซึ่งมีภาระผกู พนั ทาง
การเงนิ ที่กิจการจะตอ้ งชาระในอนาคต แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คอื
2.1.1 หนี้สนิ หมุนเวียน หมายถึง หนี้สินท่ีมรี ะยะเวลาการชาระคืนภายใน 1
ปี เช่น เจ้าหนกี้ ารคา้ เงนิ กรู้ ะยะสนั้ ฯลฯ
2.1.2 หนีส้ นิ ไมห่ มุนเวยี น หมายถงึ หนส้ี ินที่มีระยะเวลาการชาระคืนนานเกนิ
กว่า 1 ปี เช่น หุ้นกู้ เงินก้รู ะยะยาว ฯลฯ
1.3 ความมั่งคั่งสทุ ธิ (Net Worth) หมายถึง สินทรัพย์ส่วนทเี่ หลืออยู่ของเรา หลงั จาก
ไดห้ ักหน้สี ินทม่ี อี ยทู่ งั้ หมด ของเราออกไปแลว้ ซ่ึงส่วนทีเ่ หลือนีเ้ องจะเป็นทรัพยส์ นิ ทีเ่ รามีอย่าง
แทจ้ ริง และเป็นส่งิ แสดงถึงความมัง่ ค่ังของเราดว้ ยสามารถวดั ความมั่งคั่งได้จาก การทบี่ ุคคลมี
ทรัพย์สินสุทธมิ ีมูลค่ามากเท่าใด กม็ ีโอกาสจะสร้างความม่ังคั่งได้มากเทา่ น้ัน แต่ต้องวิเคราะห์
เพม่ิ เติมด้วยวา่ ทรพั ย์สินท่ีมอี ย่มู ีโอกาสสรา้ งรายได้ ได้มากนอ้ ยเพียงใด ปริมาณและคุณภาพของ
ทรัพย์สินของบุคคลจะเป็นเคร่อื งบ่งบอกโอกาสของการสร้างความมง่ั คัง่ และอิสรภาพทางการเงนิ
สามารถแสดงไดด้ ังน้ี (กฤษฎา เสกตระกูล ,2553)
ความม่ังคงั่ = มูลคา่ ทรพั ยส์ ินสุทธิ
= มลู คา่ ทรัพย์สินรวมของบุคคล – หนี้สินรวมของบคุ คล
2. งบรายไดแ้ ละคา่ ใช้จา่ ยส่วนบคุ คล (Personal Income and Expense
Statement) คือ รายงานสรุปรายไดแ้ ละค่าใชจ้ ่ายของบุคคล ท่เี กิดขนึ้ ในช่วงเวลาใดเวลาหน่งึ ที่ผ่านมา
เช่น 1 สปั ดาห์ 1 เดือน หรือ 1 ปี
3. งบประมาณเงนิ สด(Cash Budget) หมายถึง แผนประมาณการเงนิ สดรบั และเงินสด
จ่ายที่จดั ทาขนึ้ ล่วงหนา้ โดยแสดงรายการเงนิ สดทั้งหมดที่คาดวา่ จะเกิดข้ึน ซง่ึ อาจทาเป็นรายสัปดาห์
หรือรายเดอื น งบประมาณเงินสดเป็นเครอื่ งมอื ง่ายๆ ทช่ี ว่ ยให้เราสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้อยา่ ง
เหมาะสมลว่ งหนา้ หากมเี งินสดเหลอื จะไดว้ างแผนการออมและการลงทุนเพ่มิ เติม หากเงนิ สดไม่พอ จะ
ได้เตรียมตดั ลดค่าใชจ้ า่ ยหรอื หาทางแก้ไขปัญหา (รพรี ฐั ธัญวัฒน์พรกุล ,2563)
งบกระแสเงนิ สด แบง่ ออกเป็น 4 ส่วนหลกั ๆ คอื
3.1 กระแสเงนิ สดเขา้ (Cash Inflows) : รายรับทง้ั หมดที่ไดร้ ับ ในชว่ งเวลาทีจ่ ดั ทางบ
กระแสเงนิ สด เชน่ เงนิ เดือน โบนสั ฯลฯ
3.2 กระแสเงินสดออกคงท่ี (Fixed Cash Outflows) : รายจา่ ยที่เกดิ ขนึ้ แน่นอนและ
สม่าเสมอในทกุ ๆ เดือน เช่น ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ผอ่ นรถ ผอ่ นบ้าน ฯลฯ
3.3 กระแสเงินสดออกผันแปร (Variable Cash Outflows) : รายจ่ายทมี่ ีการ
เปลย่ี นแปลงขึ้นลง ไมเ่ ท่ากันในแตล่ ะเดือน เช่น ค่ารกั ษาพยาบาล คา่ ทอ่ งเทีย่ ว
คา่ ใช้จ่ายงานพิธีตา่ งๆ ฯลฯ
3.4 กระแสเงนิ สดออกเพอ่ื การออมและการลงทุน (Saving and Investing Cash
Outflows) : รายจ่ายเฉพาะการออม และการลงทนุ เชน่ เงินสะสมกองทุนสารอง
เล้ยี งชีพ เงินลงทนุ ในกองทนุ รวมเพ่ือการเลย้ี งชพี (Retirement Mutual Fund :
RMF) ฯลฯ
สรปุ ทา้ ยบทเรียน
ผู้ประกอบการต้องมีการวางแผนดา้ นการเงนิ ของธรุ กจิ และการวางแผนการเงนิ สว่ นบุคคลควบคู่
ไปดว้ ย โดยแหลง่ เงินทนุ สามารถแบ่งทุนออกเปน็ 2 ประเภทคอื แหลง่ เงนิ ทนุ คงทีแ่ ละแหล่งเงินทุน
หมุนเวยี น โดยสามารถกยู้ ืมได้ทัง้ เงินทนุ หมนุ เวยี น และเงินทนุ ไมห่ มุนเวยี น เพอื่ ให้เงินทุนน้นั เกิดความ
งอกเงย มีอย่างเพยี งพอบรรลเุ ป้าหมายท่ีต้องการ นอกจากน้ผี ู้ประกอบการต้องให้ความสาคญั กบั การ
วางแผนการเงินสว่ นบุคคล ท่ีจะชว่ ยให้มีความม่นั คงทางการเงิน สามารถสร้างความมัง่ ค่ัง และสามารถนา
ธุรกิจบรรลุเปา้ หมายได้
แบบฝกึ หัดทา้ ยบท
1. จงบอกความหมายของเงนิ ทุน
2. จงบอกประเภทของเงินทนุ วา่ แบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบา้ ง
3. จงยกตัวอยา่ งเงินทนุ แตล่ ะประเภท ประเภทละ 5 ตัวอยา่ ง
4. จงบอกแหลง่ เงนิ ทนุ ว่าแบง่ เปน็ กปี่ ระเภท อะไรบ้าง
5. จงยกตัวอย่างแหล่งเงินทนุ แต่ละประเภท ประเภทละ 5 ตวั อย่าง
6. จงอธบิ ายว่า การหาเงนิ ทุนจากแหล่งเงนิ ทุนภายนอก และมขี ้อดี ข้อเสียอยา่ งไร
7. จงอธบิ ายความหมายของงบการเงนิ สว่ นบคุ คล
8. จงอธิบายภาพ นี้มาให้เข้าใจว่ามีความสอดคล้องในด้านการจัดทางบดุลส่วนบุคคลอย่างไร
บา้ ง
งบดลุ สว่ นบคุ คล : สินทรพั ย์ – หนสี้ นิ = ความม่ังคง่ั สทุ ธิ”
เอกสารอา้ งองิ
กรมสง่ เสรมิ อุตสาหกรรม .2559 . การจดั หาแหล่งเงินทุนและเงินก(ู้ ออนไลน์).สืบคน้ เม่อื 7 ธนั วาคม
2564 จาก https://bsc.dip.go.th/th/category/2016-09-06-05-17-49/fs-loan-search.
กฤษฎา เสกตระกูล . 2553 . การวางแผนการเงนิ สว่ นบุคคล: เม่อื ประชาชนม่ังคงั่ ประเทศชาติกม็ น่ั คง
(ออนไลน)์ .สืบค้นเมอื่ 7 ธนั วาคม 2564 จาก
https://www.set.or.th/set/financialplanning/knowledgedetail.do?contentId=535&t
ype=article.
กัลยารตั น์ ธรี ะธนชัยกุล . 2562 . การเปน็ ผู้ประกอบการและการสร้างสรรค์ธุรกจิ ใหม่.กรุงเทพฯ.
สานักพิมพบ์ ริษัทซีเอด็ ยเู คชน่ั จากัด (มหาชน).
รพีรัฐ ธัญวฒั นพ์ รกุล . 2563 . งบการเงนิ ส่วนบุคคล (ออนไลน)์ .สบื ค้นเมื่อ 7 ธนั วาคม 2564 จาก
https://thepractical.co/งบการเงนิ สว่ นบคุ คล-บอกเ/.
หทัยรัตน์ เส็งนาเงินทนุ . 2559 . เงินทนุ (ออนไลน)์ .สบื ค้นเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2564 จาก
https://www.gotoknow.org/posts/600005.
แผนบริหารการสอน
ประจาบทที่ 6 การสร้างสรรคธ์ ุรกจิ ใหมแ่ ละการเขยี นแผนธรุ กจิ ที่มีประสิทธิภาพ
หวั ขอ้ เนื้อหา
1. ความรู้ท่ัวไปเกยี่ วกับความคดิ สร้างสรรค์
2. ความหมายเศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์
3. แนวคดิ ของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
4. ลกั ษณะของผู้ประกอบการในยุคเศรษฐกิจสร้างสรรค์
5. การส่งเสรมิ ผู้ประกอบการไทยในยุคเศรษฐกิจสรา้ งสรรค์ Thailand 4.0
6. การปรบั ตวั ของผ้ปู ระกอบการสรา้ งสรรค์
7. ความหมายของแผนธุรกิจ
8. ประโยชนข์ องแผนธุรกิจ
9. องค์ประกอบของแผนธุรกจิ
10. สรุปทา้ ยบทเรยี น
วตั ถปุ ระสงค์เชิงพฤติกรรม
เมอ่ื นกั ศกึ ษาเรียนบทเรียนนแ้ี ลว้ สามารถ
1. บอกความหมายของความคิดสรา้ งสรรค์ ได้
2. บอกความหมายเศรษฐกิจสรา้ งสรรคไ์ ด้
3. บอกแนวคิดของอุตสาหกรรมสรา้ งสรรค์
4. บอกลกั ษณะของผู้ประกอบการในยุคเศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์ได้
5. อธบิ ายการส่งเสริมผปู้ ระกอบการไทยในยคุ เศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์ Thailand 4.0
6. บอกการปรับตัวของผูป้ ระกอบการสรา้ งสรรค์
7. บอกความหมายของแผนธรุ กจิ
8. บอกประโยชน์ของแผนธุรกิจ
9. อธิบายองคป์ ระกอบของแผนธุรกิจ
10. มีคณุ ธรรมในการประพฤติตนในการเปน็ ผปู้ ระกอบการท่ีดีได้
วธิ กี ารสอนและกจิ กรรมการเรียนการสอน
กจิ กรรมนา
1. ทกั ทายนักศกึ ษา ทบทวนความรู้เดิมจากบทเรยี นทผ่ี ่านมา และใหศ้ กึ ษาภาพแสดงอัปเดต
ธุรกิจสร้างสรรค์ไทยปี 2564 สินค้าสร้างสรรค์ให้นักศึกษา (5 นาที) เพ่ือเตรียมความพร้อมในการเรียน
ลาดับถัดไป
กิจกรรมหลกั
1. เปิดคลิปวีดีโอใหน้ ักศกึ ษาศกึ ษาเน้อื หาเร่อื ง ทาไมตอ้ งเศรษฐกจิ สร้างสรรค์ - CREATIVE
ECONOMY จาก https://www.youtube.com/watch?v=EzALJsDGL7k เพ่ือสรุปความรู้เก่ียวกับ
เศรษฐกิจสร้างสรรค์ จากนั้นผู้สอนบรรยายเน้ือหาความรู้เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ ความหมายของ
เศรษฐกิจสร้างสรรค์ แนวคิดของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ลักษณะของผู้ประกอบการในยุคเศรษฐกิจ
สร้างสรรค์ การส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในยุคเศรษฐกิจสร้างสรรค์ Thailand 4.0 การปรับตัวของ
ผปู้ ระกอบการสรา้ งสรรค์ ความหมายของแผนธรุ กจิ ประโยชน์ของแผนธรุ กจิ องค์ประกอบของแผนธุรกิจ
หลังจากน้ันให้นักศึกษาทาใบงานท่ี 6 ให้นักศึกษานาธุรกิจจาก Business Lean Canvas มาจัดทาเป็น
แผนธรุ กิจทม่ี เี น้ือหาครบท้งั 10 ส่วน ซกั ถามความเข้าใจในช่วั โมงทป่ี ฏบิ ตั งิ าน เมื่อเสร็จนาเสนอแผนธรุ กิจ
อภิปราย และแสดงความคิดเห็นร่วมกัน สรุปการนาไปใช้ รวมถึงสรุปท้ายบทเรียนโดยให้นักศึกษามีส่วน
ร่วมในการนาเสนอความคิดเห็นร่วมกัน แลกเปล่ียนความคิดเห็นและสรุปเน้ือหาสาคัญร่วมกัน ทบทวน
ความรู้ด้วยการถามคาถาม
2. นกั ศกึ ษาศกึ ษาเนื้อหาจากเอกสารประกอบการสอน ความร้เู ก่ียวกบั ความคิดสรา้ งสรรค์
ความหมายของเศรษฐกิจสร้างสรรค์แนวคิดของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ลักษณะของผู้ประกอบการใน
ยุคเศรษฐกิจสร้างสรรค์การส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในยุคเศรษฐกิจสร้างสรรค์ Thailand 4.0การ
ปรบั ตวั ของผปู้ ระกอบการสรา้ งสรรค์ ความหมายของแผนธุรกิจประโยชน์ของแผนธุรกิจองคป์ ระกอบของ
แผนธุรกิจนวัตกรรมในการประกอบการและยกตัวอย่างนวัตกรรมที่ทันสมัยในปัจจุบัน กระบวนการ
สรา้ งสรรค์นวัตกรรมสาหรับ SMEs ไทย
3. มอบหมายงาน โดยให้นกั ศกึ ษาหาตวั อย่างสนิ คา้ อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และนาเสนอ
นวัตกรรมท่ีตอ้ งการนามาใชใ้ นการพฒั นาสนิ คา้ ทีไ่ ดเ้ ขียนไว้ใน Lean Canvas พรอ้ มนาเสนอ ใหน้ กั ศึกษา
ระดมสมองเพอ่ื หาธรุ กิจสร้างสรรค์ 1 ธรุ กิจทท่ี าอยูแ่ ล้วในปจั จบุ นั หรอื ธุรกิจท่ีต้องการทาในอนาคต และ
ใหเ้ ขียนแผนธุรกิจใหม้ ีสว่ นประกอบทง้ั 10 ส่วน เมอ่ื ทาเสร็จใหน้ าเสนอแผนธรุ กิจและ แลกเปลี่ยนแนวคิด
ธรุ กจิ อภปิ รายและสรปุ เน้ือหาร่วมกนั และทาแบบฝกึ หัดทา้ ยบทที่ 6 จานวน 10 ข้อ
สรปุ บทเรียน
1. ผู้สอนและนักศกึ ษารว่ มกนั สรุปเนือ้ หา
2. ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นและตอบคาถามเก่ียวกับการเรียนและการทากิจกรรม โดยใช้
เหตผุ ล และความคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์
สอ่ื การเรียนการสอน
1. Power Point สรปุ เนือ้ หาของบทเรยี น
2. เอกสารประกอบการเรียนวชิ า การประกอบการและการสร้างสรรค์ธรุ กจิ ใหม่ (ENT101)
3. สื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยใหน้ ักศกึ ษาเปดิ ศกึ ษาเองใน เวบ็ ไชต์ เพ่อื ศกึ ษาเน้อื หาเพิม่ เตมิ
การวัดและประเมินผล
1. สังเกตการมีส่วนรว่ มของนกั ศึกษา
2. พิจารณาจากงานทีม่ อบหมายให้นักศึกษาเพ่ิมเติม
3. พจิ ารณาจากแบบฝกึ หดั ท้ายบท
บทที่ 6
การสรา้ งสรรคธ์ ุรกจิ ใหม่และการเขียนแผนธรุ กจิ ท่มี ีประสิทธภิ าพ
ปัจจัยสาคัญที่สุดในทาธุรกิจหรือการประกอบการนอกจากจะเป็นประสบการณ์ที่มีแล้ว หัวใจ
สาคัญอีกประการหนึ่งคือ “ความคิดสร้างสรรค์” ท่ีจะต้องพัฒนาขึ้นให้มีความแตกต่างจากคนอื่น เพื่อข้อ
ได้เปรียบด้านการแข่งขัน ดังน้ันผู้ประกอบการต้องค้นหาศักยภาพตัวเองเพื่อสร้างธุรกิจท่ีแตกต่างและไม่
เหมือนคนอื่น ต้องทาธุรกิจต้องประสบความสาเร็จจากความเป็นตัวของตัวเองด้วย“การสร้างแนวคิด
ธุรกิจสร้างสรรค”์
ความรเู้ ก่ยี วกบั ความคดิ สรา้ งสรรค์
การประกอบการท่ีมุ่งสร้างความแตกต่าง โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ สังเคราะห์ จากการใช้
จินตนาการหรือความคิดด้ังเดิม นาผลมาใช้ประโยชน์สร้างความแปลกใหม่และแตกต่างกว่าการ
ประกอบการเดิม ทาใหเ้ กดิ สนิ ค้าหรือบรกิ ารใหม่ๆ สิ่งนั้นเราเรียกว่า ความคิดสรา้ งสรรค์หรือ Creativity
น่ันเอง
1. ความหมายของความคดิ สร้างสรรค์
1.1 สานักงาน กพ.(2560) ความคดิ สร้างสรรค์ หมายถึง ความสามารถทางสมองท่ี
คิดในลักษณะเนกนัยนาไปสู่การคิดค้นพบสิ่งแปลกใหม่ด้วยการคิดดัดแปลงปรุงแต่ง ผสมผสาน
กันให้เกิดสิ่งใหม่ รวมท้ังการประดิษฐ์คิดค้น ทฤษฏีหลักการได้สาเร็จ ความคิดสร้างสรรค์จะ
เกิดขึ้นได้นั้นมิใช่เพียงแต่คิดในสิ่งท่ีเป็นไปได้ หรือส่ิงที่เป็นหตุ เป็นผลเพียงอย่างเดียวเท่าน้ัน
หากแต่ความคิดจินตนาการก็เป็นสิ่งสาคัญที่จะก่อให้เกิดความแปลกใหม่ แต่ต้องควบคู่ไปกับ
ความพยายามที่จะสร้างความคิดหรือจินตนาการให้เป็นไปได้ จึงทาให้เกิดผลผลิตท่ียังประโยขน์
ตอ่ สงั คม
1.2 สทุ ธชิ ัย ไลเสมา (2557) กล่าวไวว้ ่า ความคิดสร้างสรรค์ คือ กระบวนการคดิ ของ
สมองซ่ึงมีความสามารถในการคิดได้หลากหลายและแปลกใหม่จากเดิม โดยสามารถนาไป
ประยุกต์ทฤษฎี หรือหลักการได้อย่างรอบคอบและมีความถูกต้อง จนนาไปสู่การคิดค้นและสรา้ ง
สิ่งประดิษฐ์ท่ีแปลกใหม่หรือรูปแบบความคิดใหม่ ซึ่งความคิดสร้างสรรค์ ควรจะประกอบไปด้วย
3 ประการ คือ 1) ส่ิงใหม่ (new, original) เป็นการคิดที่แหวกวงล้อมความคิดที่มีอยู่เดิม ที่ไม่
เคยมีใครคิดได้มาก่อน ไม่ได้ลอกเลียนแบบใคร 2) ใช้การได้ (workable) เป็นความคิดท่ีเกิดจาก
การสร้างสรรค์ท่ีลึกซ้ึง สามารถนามาพัฒนาให้เป็นจริง และใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม 3) มี
ความเหมาะสม เป็นความคิดที่สะท้อนความมีเหตุมีผล ท่ีเหมาะสม และมีคุณค่า ภายใต้
มาตรฐานที่ยอมรับกันโดยทว่ั ไป
1.3 รวี ฒั น์ เมอื งสุรยิ า (2563) ความคิดสร้างสรรค์ หมายถงึ ความสามารถของบคุ คลใน
การคิดหลายแง่หลายมุมท่ีเรียนกว่าความคิดอเนกนัย( Divergent Thinking) ซ่ึงเกิดจาการ
เชื่อมโยงสิ่งท่ีดี ความสัมพันธ์กันโดยมีสิ่งเร้าเป็นตัวกระตุ้นทาให้เกิดความคิดแปลกใหม่ที่
ตอ่ เน่อื งกนั ไป สามารถนาไปแก้ปัญหาและประยกุ ต์ใชส้ ถานการณ์ตา่ ง ๆได้
ดงั นน้ั จึงสรปุ ได้ว่า ความคิดสรา้ งสรรค์ หมายถึง ความสามารถของมนษุ ย์ทจี่ ะคดิ คน้ จนิ ตนาการ
สง่ิ ใหม่ๆ ทาใหเ้ กดิ ผลผลติ ่ใหม่ๆ รวมถึงความสามารถในการประดษิ ฐ์คิดคน้ สง่ิ แปลกใหม่
2. ลักษณะคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ รีวัฒน์ เมืองสุริยา (2563) ความคิดสร้างสรรค์เป็น
ลักษณะความคิดแบบอเนกนัย(Divergent Thinking) คือการคิดหลายๆแง่หลายๆ ได้ เป็น
การมองปัญหาในแนวกว้าง คนทม่ี คี วามคิดสร้างสรรค์น้ันจะเปน็ คนท่ี
2.1 มีความคิดริเร่ิม(Originality) คือมีความคิดท่ีแปลกใหม่ต่างจากความคิดธรรมดา
ของคนท่วั ๆไป
2.2 มีความคิดยืดหยุ่น(Flexibility) คือมีความสามารถในการคิดหาคาตอบได้หลาย
ทิศทางหลายแงห่ ลายมุม
2.3 มีความคิดคล่องแคล่ว(Fluency) คือสามารถคิดหาคาตอบได้อย่างคล่องแคล่ว
ว่องไว รวดเรว็ และไดค้ าตอบมากท่สี ดุ ในเวลาทจี่ ากดั
2.4 มีความคิดละเอียดลออ(Elaboration) คือการคิดได้ในรายละเอียดเพ่ือขยายหรือ
ตกแต่งความคดิ หลกั ใหไ้ ด้ความหมายท่ีสมบูรณย์ ง่ิ ขึน้
3. กระบวนการคิดสร้างสรรค์ (Creative process)
3.1 ศศมิ า สขุ สว่าง (ม.ป.ป)ได้กลา่ วถงึ กระบวนการในการคิดสร้างสรรคน์ ้ันมี 4 ขั้นตอน
คือ
3.1.1 การเตรียมตัว Preparation ขั้นตอนนี้เป็นข้ันตอนที่เก็บข้อมูล สะสม
ขา่ วสาร ค้นหาไอเดีย เช่น อา่ นหนังสือ,การคุยกบั คนเก่ง/ผ้เู ชยี่ วชาญ
เข้า Social media ต่างๆ,การระดมสมอง/การรวมกลุ่มกันคิด
แลกเปลี่ยนขอ้ มลู กนั เปน็ ต้น
3.1.2 การบม่ เพาะ Incubation เป็นชว่ งทีไ่ อเดียที่หลากหลายนนั้ จะตอ้ งมา
บ่มเพาะ เพ่อื ให้ไดไ้ อเดยี ทด่ี แี ละนาไปใชไ้ ด้ 2
3.1.3 Idea Insight ข้อมูลเชิงลึกหลังจากเตรียมการและบ่มเพาะมาระยะ
หน่ึง ข้ันตอนนี้เป็นข้ันตอนคิดสร้างสรรค์ท่ีเรียกว่า ข้ันตอนการเข้าใจ
และจะได้นาไอเดียไปใช้
3.1.4 การประเมินไอเดีย Evaluation เปน็ ส่วนทส่ี าคัญมาก เพราะวา่ จะเป็น
การเลือกไอเดียที่ผ่านการวิเคราะห์ สังเคราะห์ นามาใช้ให้เกิด
ประสิทธิภาพมากที่สุด ขั้นตอนนี้คือข้ันตอนการนาไอเดียมาลงมือทา
ให้เกดิ ขึ้นจรงิ สามารถเรยี กวา่ เป็นนวตั กรรม
3.2 ธารทพิ ย์ ขวั นาและขวญั ชัย ขัวนา (2561) ได้กลา่ วถึงกระบวนการคดิ สรา้ งสรรค์ ไว้
วา่ ประกอบดว้ ย 3 กระบวนการ ดังนี้
3.2.1 กระบวนการคดิ สร้างสรรคจ์ ะเกย่ี วขอ้ งกับการคิดวเิ คราะห์ มีความหมาย
มีจินตนาการ มีการสร้างความคิด และมีการประเมินเชิงวิพากษ์ โดยภาพรวม
ของกระบวนการคิดสร้างสรรค์ก็คือ ความสมดุลของจินตนาการและการคิด
วิเคราะห์
3.2.2 รูปแบบกระบวนการคิดสมัยเก่าจะให้ความสาคัญกับผลของความคิด
สร้างสรรค์ท่ีเกิดจากกระบวนการใต้จิตสานึก ที่อยู่เหนือการควบคุมของผู้คิด
ส่วนรูปแบบกระบวนการคิดสมัยใหมจะให้ความสาคัญกับการสร้างความคิด
ใหมท่ ่มี คี วามหมายภายใตก้ ารปฏบิ ัตกิ ารควบคุมโดยผ้คู ิดเอง
3.2.3 กระบวนการคิดสร้างสรรค์โดยรวมต้องการที่ขับเคลื่อนไปสู่การ
ปฏิบัติการคิดและการนาความคิดไปใช้ ดังน้ันจึงต้องมีการปฏบิ ัติการมากกวา่ ที่
จะจินตนาการสิง่ ใหมเ่ พยี งอยา่ งเดียว
สรุปได้ว่า ลักษณะผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ต้องเป็นผู้มีความคิดริเริ่ม มีความคิดยืดหยุ่น มี
ความคิดคล่องแคล่ว และมีความคิดละเอียดลออ สามารถสร้างกระบวนการคิดจาก การวางแผนเตรียม
ความพร้อม การคิดวิเคราะห์ค้นหาแนวคิดใหม่ การนาไอเดียต่างๆ มาประเมินความเป็นไปได้ และนา
ความคิดสร้างสรรคท์ ่ึดที สี่ ดุ มาปฏิบตั ิใหเ้ กดิ ผลผลิตของธรุ กิจ
เศรษฐกิจสร้างสรรค์
ความหมายของเศรษฐกิจสร้างสรรค์
อาภรณ์ ชวี ะเกรยี งไกร ( 2552 ) ได้กลา่ วว่า "เศรษฐกจิ สร้างสรรค"์ หมายถึง แนวคดิ การขับเคลื่อน
เศรษฐกิจบนพ้ืนฐานของการใช้องค์ความรู้ (Knowledge) การศึกษา การสร้างสรรค์งาน (Creativity)
และการใช้ทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual property) ท่ีเช่ือมโยงกับรากฐานทางวัฒนธรรม การ
สั่งสมความรขู้ องสังคม และเทคโนโลยี / นวตั กรรมสมัยใหม่ แนวทางพฒั นาเศรษฐกิจสร้างสรรค์จะต้อง
ครอบคลุมภาคเศรษฐกิจจริง และเชื่อมโยงกันทั้งเกษตร อุตสาหกรรม และบริการอยู่บนพ้ืนฐานของ
ความหลากหลายทางชีวภาพ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ผนวกเข้ากับการใช้องค์ความรู้ และ
นวัตกรรม ท้ังน้ีการพัฒนาจะต้องมุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อ
สิง่ แวดลอ้ ม (Creative and Green Economy)
เสาวรภย์ กุสุมา ณ อยุธยา (2553,23) กล่าวว่า เศรษฐกิจสร้างสรรค์ หมายถึง เศรษฐกิจที่มี
องค์ประกอบร่วมในการขับเคล่ือนเพ่ือพัฒนาเศรษฐกิจหลายประการ อาทิการใช้องค์ความรู้
(Knowledge) การศึกษา (Education) การสร้างสรรค์งาน(Creativity) การใช้ทรัพย์สินทางปัญญา
(Intellectual Property)ท่ีเช่ือมโยงกับพื้นฐานทางวัฒนธรรม การส่ังสมความรู้ของสังคมและเทคโนโลยี
นวัตกรรมใหม่ นอกจากนี้การพัฒนาทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศจะสามารถขับเคลื่อนได้อย่างมี
ประสิทธิภาพสูงสุดตามหลกั เศรษฐศาสตรภ์ ายใต้แนวคิดสรา้ งสรรค์ได้น้ันตอ้ งมุ่งเน้นการพัฒนาทรัพยากร
มนษุ ย์เป็นหัวใจหลักท่สี าคัญ
กนกวรา พวงประยงค์ (2561,231) เศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นชุดของกิจกรรมทางเศรษฐกิจท่ี
ขับเคล่ือนไปบนฐานของทุนทางปัญญาโดยมีสินทรัพย์ท่ีสร้างสรรค์(creativeassets) เป็นองค์ประกอบ
ร่วมในการขับเคล่ือนการพัฒนาไม่ว่าจะเป็นทักษะ ความรู้ความคิดสร้างสรรค์ ที่เชื่อมโยงกับทุนพื้นฐาน
ทางสังคม อันได้แก่ ศิลปวัฒนธรรม ทรัพยากรธรรมชาติเทคโนโลยีและนวัตกรรม ภายใต้การคุ้มครอง
ทรัพย์สินทางปัญญาแต่การจะสร้างให้ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์เกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์มิอาจมีแค่องค์
ความรู้หรือความคิดสร้างสรรค์เพียงเท า่ น้ัน หากแต ่จะต้องมีการนาความคิดที่สร้างสรรค์ไปประยุกต์ใช้
ให้เกิดคุณประโยชน์เพื่อการดาเนินธุรกิจและต่อยอดไปสู่การสร้างนวัตกรรมหรืออัตลักษณ์ที่แตกต่าง
ให้กับสินค้าและบริการในเชิงพาณิชย์ด้วย จึงจะสามารถสร้างมูลค่าและคุณค่าให้เกิดแก่ระบบเศรษฐกิจ
และสังคมได้อย่างแท้จรงิ
ทีเอที รีวิว (2560) เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) คือ การสร้างมูลค่าสินค้า หรือ
บริการที่เกิดจากความคิดของมนุษย์ สาหรับสาขาการผลิตท่ีพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์จะเรียกว่า
“อุตสาหกรรม สร้างสรรค์” (Creative Industry) ซึ่งหมายถึงกลุ่มกิจกรรมการผลิตท่ีต้องพ่ึงพาความคิด
สร้างสรรค์เปน็ สงิ่ สาคัญ “เศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์” คือแนวคดิ การขบั เคลื่อนเศรษฐกิจบนพ้ืนฐานของการใช้
องคค์ วามรู้(Knowledge) การศกึ ษา (Education) การสรา้ งสรรคง์ าน (Creativity)
สรุป เศรษฐกิจสร้างสรรค์ หมายถึง กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มุ่งใช้องค์ความรู้และความคิด
สร้างสรรค์เพ่ือผลิตสินค้าและบริการขับเคล่ือนการผลิตสินค้า และบริการโดยเช่ือมโยงศิลปวัฒนธรรม
ทรัพยากรธรรมชาติกบั เทคโนโลยแี ละนวตั กรรมเพื่อสร้างอตั ลักษณข์ องธุรกจิ และตอบสนองความต้องการ
ของตลาดในระบบเศรษฐกิจได้อย่างแทจ้ รงิ
แนวคดิ ของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
โกษม โกยทอง (2558, 142) อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ คอื กระบวนการหรอื กจิ กรรมทางเศรษฐกิจ
ที่ใช้พื้นฐานของสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม (Cultural Asset - Based) ร่วมกับความคิดสร้างสรรค์
(Creativity) นวัตกรรม (Innovation) หรือเทคโนโลยี ในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่สามารถสร้าง
มลู คา่ เพมิ่ ในเชิงพาณิชย์ (Commercialization) หรอื คุณคา่ เพ่ิมทางสงั คม
สาหรับประเทศไทยได้เลือกการใช้การจัดแบ่งประเภทของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของ การ
UNCTAD โดยจัดแบ่งออกเป็ น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1) กลุ่มอาชีพที่เกี่ยวข้องกับมรดกวัฒนธรรม
(Heritage) 2) กลุ่มอาชีพท่ีสร้างสรรค์งานจากศิลปะและวัฒนธรรม (Arts) 3) กลุ่มอาชีพทางด้าน
ส่ือมวลชน (Media) 4) กลุ่มอาชีพท่ีผลิตสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
(Function creations) ซง่ึ รวมถึงกลุม่ อาชีพการแพทยแ์ ผนไทยและอาหารไทย ซง่ึ เปน็ สินคา้ และบริการที่
เป็นจุดเด่นของประเทศ
ลักษณะของผปู้ ระกอบการในยุคเศรษฐกิจสรา้ งสรรค์
ผู้ประกอบการในยคุ เศรษฐกิจสรา้ งสรรค์เป็นผู้มบี ทบาทอยา่ งมากในการขับเคลอ่ื นเศรษฐกิจ
เติบโตอย่างมีศักยภาพ เปล่ียนความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นสินค้าและบริการ ต่อยอดไปสู่การจ้างงาน
สร้างรายได้ และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ดังนั้นผู้ประกอบการในยุคเศรษฐกิจสร้างสรรค์จึงมีลักษณะ
เด่นดงั นี้
มรกต กาแพงเพชร (2553,55) ได้ศึกษาเกยี่ วกบั ผ้ปู ระกอบการไทยในยุคเศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์
พบว่า ผู้ประกอบการในยุคเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จะดาเนินงานคล้ายผู้ประกอบการในรูปแบบเดิม ท่ียังให้
ความสาคัญกับการสร้างกาไร และรายได้จากการประกอบธุรกิจ แต่จะมีความแตกต่างตรงท่ี
ผู้ประกอบการนักสร้างสรรค์จะใช้ความคิดสร้างสรรค์ เป็นทรัพยากรล้าค่าในการสร้างความม่ังค่ังให้
เกิดขึ้น จะเป็นกลุ่มที่สร้างแปลกใหม่ให้กับบุคคลอ่ืนในสังคมท้ังด้านความคิดใหม่ๆ ด้านต่าง ๆ และด้าน
รปู แบบการทางาน
วรัทยา ธรรมกิตติภพ และ กรปภา เจริญชันษา (2561,109) ได้ศึกษาเกี่ยวกับ คุณลักษณะของ
ผู้ประกอบการสร้างสรรค์ และกิจกรรมเตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้ประกอบการ สร้างสรรค์ ภายใต้
แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พบว่า คุณลักษณะผู้ประกอบการสร้างสรรค์ประกอบด้วย 5 ประการ ได้แก่
1) การเรียนรู้อย่างไม่มีที่ส้ินสุด 2) การให้ความสาคัญกับความคิด 3)ความสนุกสนาน ร่าเริง 4)ความ
ทะเยอทะยานสูง และ 5) การไม่หยดุ นง่ิ
จ๊อบดีบีดอทคอม (2560) ได้กล่าวถึง นักคิดนักเขียนนาม John Howkins เจ้าของผลงาน The
Creative Economy: How People Make Money From Ideas ซ่ึงได้กล่าวถึงคุณสมบัติพ้ืนฐานของ
ผู้ประกอบการไว้ดังน้ี 1) สร้างเอกลักษณ์ แสดงตัวตน ค้นหา ดึงความสามารถพิเศษ และศักยภาพ
เฉพาะตัวออกมาให้โลกเห็น สร้าง brand ให้ตัวเอง 2) ให้ความสาคัญกับความคิดนอกเหนือจากข้อมูล
ขยายขอบเขตจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ไม่ยึดติดกับกรอบความคิดแบบเดิม ๆ เปิดใจและ
ความคิดให้กว้าง 3) ไม่หยุดน่ิง มีสองบุคลิกภาพในเวลาเดียวกันคือ “รักที่จะเข้าสังคม” กับ
“ความสามารถในการอยู่แบบสันโดษ” เพราะการสรา้ งสรรค์จาเปน็ ต้องมีความสามารถที่จะคดิ เพยี งลาพัง
แต่ขณะเดียวกันก็สามารถทางานร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี 4) กาหนดทิศทางบนความเป็นตัวของตัวเอง
หยุดตีกรอบให้กับตัวเองด้วยงานที่ถูกมอบหมายโดยคนอ่ืน พร้อมแลกเปล่ียนทางออกท่ีสร้างสรรค์ไปสู่
ผู้อน่ื ได้ 5) เรยี นรู้ตอ่ เนอื่ ง ไมม่ ีทีส่ ้นิ สดุ 6)ใช้ประโยชน์จากชื่อเสียง ความโด่งดัง 7) ปฏิบัติต่อสง่ิ เสมอื นจริง
ให้เป็นจริง และดึงประโยชน์จากเทคโนโลยีมาต่อยอดสร้างสรรค์ธุรกิจให้ก้าวสู่เป้าหมายของความสาเร็จ
ให้จงได้ 8) พื้นฐานจิตใจท่ีดี มีเมตตา มีความรับผิดชอบต่อสังคม 9) ช่ืนชมความสาเร็จอย่างของตนเอง
เปิดเผย ขณะเดียวกันก็ต้องรับมือจัดการกับความล้มเหลว 10) มีความทะเยอทะยานสูง มีพลังผลักดัน
ใหล้ ุกข้ึนมาดาเนนิ การหรอื สร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ จนบรรลเุ ปา้ หมาย และ 11) สนุกสนาน รา่ เริง ใช้ความสุข
เป็นตัวขับเคลอื่ นการทางาน
สรุป ผู้ประกอบการในยุคเศรษฐกิจสร้างสรรค์จะเป็นผู้ท่ีมีคุณลักษณะแตกต่างจากผู้ทาธุรกิจ
ท่ัวไปในแง่ของการคดิ เชงิ บวก การคดิ นอกกรอบ รวมถึงการมจี ิตใจที่ดี และมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม
การส่งเสริมผ้ปู ระกอบการไทยในยุคเศรษฐกิจสรา้ งสรรค์ Thailand 4.0
สหประชาชาติประกาศให้ปี ค.ศ. 2021 เป็นปีแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาท่ีย่ังยืน
(International Year of Creative Economy for Sustainable Development) ประเทศต่างๆ จึงได้
เตรียมความพร้อม และมีนโยบายต่าง ๆ เพื่อรองรับความความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก โดย
ประเทศไทยมหี น่วยงานที่เกย่ี วข้องกับการพัฒนาผปู้ ระกอบการเพือ่ เข้าสูเ่ ศรษฐกจิ สร้างสรรค์ ดงั น้ี
1. สานกั งานนโยบายและยุทธศาสตรก์ ารค้า (สบค.) กระทรวงพาณชิ ย์ (2560) ได้จัดทาโครงการ
SMART Enterprise ในยุค THAILAND 4.0 SMEs โดยให้ความสาคัญกับ SMEs และได้ออกมาตรการ
เพอ่ื สงเสริมการประกอบธุรกจิ SMEs มาโดยตลอด เพือ่ ให้ทนั ต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและการพัฒนา
เศรษฐกิจ ประเทศไทย จึงต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ “Value-Based Economy” หรือ
“เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม”หรือ “ไทยแลนด์ 4.0”โดยมุ่มเน้นการปรับเปลี่ยนใน 3 ประเด็น
หลัก ได้แก่
1. 1. เปลย่ี นจากการผลกั ดันสนิ คา้ โภคภัณฑ์ไปสสู่ ินคา้ เชิงนวตั กรรม
1. 2. เปลี่ยนจากการขับเคล่ือนประเทศด้วยภาคอุตสาหกรรมไปสู่การขับเคล่ือนด้วย
เทคโนโลยี และ
1. 3. เปล่ยี นจากการเน้นภาคการผลิตสินค้าไปสู่การเนน้ ภาคบริการมากขึ้น
“ไทยแลนด์ 4.0” จึงเปน็ การเปล่ียนผา่ นทัง้ ระบบใน 4 องค์ประกอบสาคัญ คอื
1.3.1. เปล่ียนจากการเกษตรแบบดั้งเดิม (Traditional Farming) ในปัจจุบัน
ไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ ท่ีเน้นการบริหารจัดการและเทคโนโลยี (Smart
Farming) โดยเกษตรกรต้องร่ ารวยขึ้น และเป็นเกษตรกรแบ บเป็น
ผูป้ ระกอบการ (Entrepreneur)
1.3.2. เปล่ียนจาก Traditional SMEs ไปสู่การเป็น Smart Enterprises และ
Startups ท่ีมีศกั ยภาพสงู
1.3.3. เปล่ยี นจาก Traditional Services ซ่งึ มกี ารสร้างมลู ค่าคอ่ นข้างต่ า ไปสู่
High Value Services
1.3.4. เปล่ียนจากแรงงานทักษะต่ า ไปสู่แรงงานท่ีมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ
และทักษะสูงและเพื่อที่จะผลักดันให้ประเทศไทยสามารถเข้าสู่ ไทยแลนด์ 4.0
โดยเร็ว
2. พิพัฒน์ ยอดพฤติการณ์ (2564) ได้กล่าวถึง สานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การ
มหาชน) หรือ Creative Economy Agency (CEA) เป็นองค์กรท่ีทาหน้าท่ีในการส่งเสริมผู้ประกอบการ
ในอุตสาหกรรมสรา้ งสรรค์ของไทย โดยมีภารกิจใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านการพัฒนาบุคลากรสร้างสรรค์
(creative people), ด้านการเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ธุรกิจสรา้ งสรรค์ (creative business) และด้าน
การพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์ (creative place) สานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(สศช.) กาหนดไว้ว่า อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ประกอบด้วย 12 สาขาหลัก ได้แก่ งานฝีมือและหัตถกรรม,
ศิลปะ การแสดง, ทัศนศิลป์, ดนตรี, ภาพยนตร์ และวิดีทัศน์, การพิมพ์, การกระจายเสียง, ซอฟต์แวร์,
โฆษณา, การออกแบบ, สถาปัตยกรรมและแฟชั่น โดยมีอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอีก 3 สาขา คือ อาหาร
ไทย, การแพทย์แผนไทย และการท่องเท่ียวเชิงสร้างสรรค์ฉะน้ัน เมื่อดูตัวเลขในปี 2561 อุตสาหกรรม
สร้างสรรค์ของประเทศไทย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอยู่ราว 1.46 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนมูลค่า
อตุ สาหกรรมสร้างสรรคต์ อ่ GDP ของประเทศ อยู่ที่รอ้ ยละ 8.93 ดังภาพ
รูปที่ 12 แสดงสัดสว่ นมลู ค่าอุตสาหกรรมสร้างสรรคต์ อ่ GDP ของประเทศ
ทีม่ า : สานักงานสภาพฒั นาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยสาขาอุตสาหกรรมท่ีมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อุตสาหกรรมการ
ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมมีมูลค่า 4.09 แสนล้านบาท (ร้อยละ 28.04), อุตสาหกรรมอาหารไทย 2.67 แสน
ล้านบาท (ร้อยละ 18.29), อุตสาหกรรมการโฆษณา 2.08 แสนล้านบาท (ร้อยละ 14.28), อุตสาหกรรม
แฟชั่น 1.89 แสนล้านบาท (ร้อยละ 12.99) และอุตสาหกรรมการออกแบบ 1.25 แสนล้านบาท (ร้อยละ
8.6) ตามลาดับ
การปรับตัวของผู้ประกอบการสรา้ งสรรค์
ปัจจุบันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในอุตสาหกรรม
สรา้ งสรรค์ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ หลายแขนงต้องหยดุ ตวั ลงชว่ั คราวดงั นน้ั
ชัยพร เซียนพานิช (2564) จึงได้สารวจสถานการณ์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในวิกฤต COVID-19
โดยพบวา่ กลมุ่ อตุ สาหกรรมสร้างสรรคไ์ ด้มกี ารปรับตวั การดาเนินการแบง่ ไดด้ งั น้ี
1. กลุ่มบรกิ ารสรา้ งสรรค์ (Creative Services )อุตสาหกรรมการออกแบบทั้งการออกแบบ
ดีไซน์ และการออกแบบเมือง ได้เข้ามามีบทบาทมากข้ึน โดยเฉพาะการออกแบบดีไซน์เข้ามาช่วยอานวย
ความสะดวกในชีวติ ท่ตี อ้ งใช้ระยะห่าง การบอกรายละเอียดให้งา่ ยสาหรบั คนทวั่ ไปท่ีจะเข้าใจในการปฏิบัติ
ตัวในชว่ งการระบาดของโรคโควิด-19 มากข้ึน รวมไปถึงการกระตุกความคดิ และพฤติกรรมเพื่อให้เกิดการ
เปลี่ยนพฤติกรรมไปในทิศทางที่เหมาะสมและลดการแพรร่ ะบาดของโรค งานด้านสถาปัตยกรรมก็มโี จทย์
ใหม่ด้านการออกแบบเพื่อลดการสัมผัสพื้นผิวและเน้นความเป็นส่วนบุคคลมากข้ึน แม้แต่การออกแบบ
พ้ืนท่ีเมืองหรือพื้นที่ที่คนมาปฏสิ ัมพันธ์กันก็มีความจาเป็นต้องมีแนวคิดใหม่การออกแบบใหม่ เพ่ือให้เมือง
สามารถรับการระบาดของโรคในอนาคตที่อาจเกิดข้ึนได้อีก การมองไปที่เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย
ประเมินและลดความเส่ียงเพื่อให้เกิดการเว้นระยะห่างทางสังคมและการฆ่าเช้ือในท่ีสาธารณะมี
ประสิทธิภาพจะกลายเป็นนวัตกรรมต้ังแต่การออกแบบจนถึงระบบหลังบ้านที่อาจเป็นโมเดลทางธุรกิจ
ใหม่ๆในขณะท่ีแวดวงโฆษณา ระยะแรกของการระบาดดูเหมือนว่าการออกกองถ่ายทาโฆษณานอก
สถานท่ีไม่สามารถทาได้เลยทาให้ต้องปรับลดคนในฝั่ง Production ลงไปบ้าง ที่สาคัญคือทุกแบรนด์ต่าง
ชะลอเพื่อรอดูสถานการณ์หลังโควิดไป ทาให้การใช้เม็ดเงินโฆษณาลดลง แต่ท้ังน้ีผู้ประกอบการในวงการ
โฆษณาเองมองว่าหลังจากโควิดผ่านไประยะหนึ่งแล้วเม็ดเงินในโฆษณาน่าจะลดลง แต่งานโฆษณาฝั่ง
ออนไลนน์ า่ จะมากขน้ึ เพราะพฤตกิ รรมผ้บู รโิ ภคหันมาจบั จา่ ยบนแพลตฟอรม์ ออนไลนม์ ากขน้ึ
2. กลมุ่ สนิ ค้าสร้างสรรค์ รายงานของ Mckinsey & Company ช้วี า่ รายไดข้ องอตุ สาหกรรม
แฟช่ันท่ัวโลกหดตัวลงถึง 27 – 30% ในภาวะเช่นน้ีแบรนด์เองต้องไวขึ้น ทาให้ได้รับการรู้จักจากลูกค้า
บทโลกออนไลน์เพ่ือให้เกิดการส่งต่อ และเกิดยอดขายหลายแบรนด์เริ่มมองการไลฟ์สด หรือการนาเอา
ไลฟ์สตรีมมิ่งมาเป็นเครื่องมือในการขายสินค้าเพื่อให้แบรนด์อยู่รอดมากข้ึน การทาให้วงการแฟช่ันมุ่งสู่
ดิจิทัลให้รวดเร็วมากขึ้น การถ่ายภาพแบบ 360 องศาแล้วเป็นตัวช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายข้ึนบท
แพลตฟอร์มออนไลน์ รวมไปถึงการให้ความสาคัญในการเล่าเรื่องมากข้ึน การส่ือสารที่ต้องเข้าใจใน
รายละเอียดเชิงลึก การคิดคอนเทนต์ การเจาะข้อมูลเชิงลึกทั้งตัวสินค้า ลูกค้าคือใครกันแน่ สินค้าเหมาะ
กบั ใคร ต้นทนุ จรงิ ๆเท่าไหร่ การร่วมมือจะร่วมมือกับใคร จะสอื่ สารผ่านชอ่ งทางออนไลน์ช่องทางไหนบ้าง
จะสอ่ื สารอยา่ งไรทจี่ ับใส่มือลูกค้าแล้วลูกค้าตัดสินใจซอ้ื ได้เลย และความคดิ สรา้ งสรรค์ใหม่ ๆ ในการสร้าง
ผลิตภัณฑ์จะช่วยเรื่องคุณภาพสินค้าได้อย่างไรกลายเป็นโจทย์ท่ีใหญ่มากของวงการแฟช่ันท่ีจะอยู่รอดใน
ยุค New Normal
3. กลมุ่ คอนเทนตแ์ ละสอ่ื สร้างสรรค์ผลกระทบทเี่ กดิ ขนึ้ ในวิกฤตโควิด-19 ที่กระทบตอ่
อุตสาหกรรมภาพยตร์โดยตรงก็คือการต้องหยุดให้บริการโรงภาพยนต์ท้ังหมด หยุดกองถ่ายทาภาพยนต์
ตลอดจนเทศกาลภาพยนต์ต้องหยุดช่ัวคราวและเลื่อนไปอย่างไม่มีกาหนด โดยในบางประเทศมีการ
เยียวยาให้แก่ภาคธุรกิจภาพยนต์ อาทิ ไต้หวัน ที่กระทรวงวัฒนธรรมของทางไต้หวันได้ตั้งกองทุนมูลค่า
5.2 พันล้านเหรียญไต้หวัน ให้แก่คนทางานด้านศิลปวัฒนธรรมรวมทั้งสายงานด้านภาพยนต์อีก
ด้วย ขณะทวี่ งการ Hollywood เองกเ็ กิดการเปลยี่ นแปลงในข้นั ตอนการถา่ ยทาภาพยนตด์ ้วยเช่นกนั นั่น
คือ สหภาพแรงงาน Hollywood ร่วมกับ Alliance of Motion Picture and Television Producers
(AMPTP) ได้ออกประกาศ white paper ซึ่งนาเสนอวิธีการถ่ายทาภาพยนตร์ และผลิตรายการโทรทัศน์
อย่างปลอดภยั ในยุคหลงั โควิด อย่างการทเ่ี ราจะไดเ้ หน็ ฉากท่ีนกั แสดงใกลช้ ดิ กันหรือการต่อสู้ประชดิ ตัวลด
น้อยลง เพ่อื เขา้ กบั นโยบาย Social Distancing มีการลดการใช้สคริปต์กระดาษและใช้ไฟล์ดจิ ิทลั แทน ใน
ขณะเดียวกนั แพลตฟอร์มความบันเทงิ อยา่ งการดูหนงั ออนไลน์ อาทิ Netflix กลับมีอตั ราการเขา้ ชม สมคั ร
ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างทันตาเห็นในไตรมาสแรกผลประกอบการโตมากถึง 27% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปี
ก่อน หรือแอพพลิเคช่ัน Live Stream อย่าง Tik Tok โด่งดังภายในข้ามคืนเพราะทุกคนอยากเสพความ
บันเทิง นับเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนพฤติกรรมการเสพความบันเทิงท่ีเปล่ียนไปจากวิกฤตน้ีส่วนในฝั่ง
ของการพิมพ์เพื่อบรรจุภัณฑ์กลับยังสามารถยืนหยัดต่อไปได้เพราะความต้องการบรรจุภัณฑ์เพ่ือใช้การ
ขนส่งสินคา้ ออนไลนท์ ่เี พ่ิมข้นึ
4. กลุม่ รากฐานทางวัฒนธรรมสร้างสรรค์บคุ ลากรในอตุ สาหกรรมดนตรปี รับตัวกับบรรยากาศ
ของการงดการจัดการแสดงสดเพ่ือลดการแพร่กระจายของโรคโดยอาศัยเทคโนโลยีสตรีมมิงในฐานะ
ช่องทางการถ่ายทอดการแสดงแก่ผู้ชมทางบ้าน เช่น Jackson Browne หรือ the Black Crow’s Chris
and Rich Robinson หรือการการสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ผ่านสื่ออื่นอย่างเกม เป็นสื่อกลางในการ
จัดการสตรีมม่ิงการแสดงสดออนไลน์ เช่น การแสดงของ Travis Scott แรปเปอร์ชาวอเมริกันในเกม
Fortnight ท่ีมีผู้เข้าขมถึง 12 ล้านคน โดย Travis ปรากฏตัวเป็นตัวละครแอนิเมชั่น ความนิยมท่ีเพิ่มขึ้น
ของการแสดงสดออนไลน์ผ่านสตรีมมิงอาจเปิดโอกาสให้ Startp ด้านการสื่อสารสร้างรายได้ไปพร้อม ๆ
กับศิลปินในขณะท่ีการปรับตัวของพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศ คือ การสร้างทัวร์ชมพิพิธภัณฑ์ แบบดิจิทัล
การเกิดข้ึนของช่องออนไลน์พาทัวร์ชมพิพิธภัณฑ์ ขณะท่ีฝ่ังพิพิธภัณฑ์ไทยได้ปรับตัวด้วยการใช้ระบบ
เสมือนจริง อีบุ๊ก อีเวิร์กช้อป รวมไปถึงการเพ่ิมคอร์สฝึกอบรมออนไลน์ เรียกได้ว่าท่มกลางวิกฤติน้ี
แพลตฟอร์มดิจิทัลเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่การเสพส่ือการแสดง ที่ต้องไปชมถึงโรงละคร โรง
โอเปร่า ก็มีการจัดให้ผู้ชมได้ชมแบบออนไลน์ด้วยขณะที่งานฝีมือและหัตถกรรมในยุคนี้จะต้องสร้างสมดุล
ระหว่างจุดยืนของแบรนด์กับความต้องการของลูกค้าให้มาเจอกัน แล้วยังต้องกระจายจากศูนย์กลาง
(Decentralization) ออกไปไปยังจุดย่อยๆ รวมทั้งเพิ่มเติมกระบวนการเล่าเรื่องตั้งแต่ขั้นตอนการได้มา
ของวตั ถุดบิ จนถงึ กระบวนการผลิตเพอ่ื ใหเ้ ห็นและเกดิ การสง่ มอบคุณค่าของงานชนิ้ นั้นได้อย่างครบถ้วน
5. กลุม่ อตุ สาหกรรมที่เกี่ยวข้องดา้ นอุตสาหกรรมอาหารโดยเฉพาะ ทง้ั Ready to Eat และ
Ready to Meal กลับได้รับความสนใจแพลตฟอร์มการส่งอาหารได้รับความนิยมมากข้ึน ทาให้แม้แต่
ธนาคารไทยพาณิชย์เองก็ร่วมมือกับคนในวงการขนส่งออนไลน์อย่าง Skootar มาร่วมมือกันส่งอาหาร
กลายเป็นปรากฎการณ์ท่ีสาคัญอย่างมากของธุรกิจอาหารและขนส่งอาหารด่วน การผ่อนคลายมาตรการ
ของรัฐจะช่วยให้การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมแพทย์แผนไทยโดยเฉพาะผู้ประกอบการ
นวดแผนไทยค่อย ๆ ฟ้ืนตวั ขน้ึ โดยศนู ยว์ ิจัยกสิกรไทยคาดการณว์ ่ากลุ่มนักท่องเที่ยวทมี่ ีกาลังซ้ือสูงจะฟื้น
ตัวไดเ้ รว็ สุดเนื่องจากเปน็ กลุ่มทไี่ ม่ไดร้ บั ผลกระทบจากเศรษฐกจิ ท่ีชะลอตัวมากนัก
สรปุ ในหลายประเทศทัว่ โลกเล็งเหน็ ความสาคัญของเศรษฐกิจสรา้ งสรรคท์ ่ีเข้ามามบี ทบาทอย่าง
มากในเศรษฐกิจโลกในชว่ งกว่าทศวรรษทีผ่ า่ นมา จึงจดั ตงั้ องค์กรเฉพาะดา้ นเพ่ือสง่ เสริมความคิด
สรา้ งสรรคใ์ หเ้ ป็นยุทธศาสตร์สาคญั ในการพฒั นาประเทศและให้ความชว่ ยเหลอื ผู้ประกอบการไมว่ า่ จะ
เป็นทางตรงหรือทางออ้ ม เพื่อใหผ้ ปู้ ระกอบการสามารถยืนหยดั อยใู่ นโลกเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และปรบั
ธุรกจิ ใหส้ อดคล้องกบั สถานการณท์ ่เี ป็นอปุ สรรคทั้งภายนอกและภายในกิจการให้ดีทส่ี ดุ
การเขยี นแผนธุรกิจที่มีประสทิ ธภิ าพ
การดาเนนิ ธรุ กิจในยุคเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มีการเปลย่ี นแปลงของความต้องการของกลุ่มลกู คา้
เปา้ หมายทสี่ ง่ ผลใหธ้ รุ กิจต้องมีการวางแผนเพ่ือรองรับความเส่ยี ง รวมถงึ ใชแ้ ผนธุรกิจเพ่ือเปน็ เคร่ืองมือที่
สาคญั ในการแสวงหาโอกาสในการพัฒนาองค์ประกอบและปัจจัยในการดาเนินธุรกจิ เพอื่ สนบั สนุนให้
ธรุ กิจมคี วามได้เปรยี บทางการแข่งขันอยเู่ สมอ
ความหมายของแผนธุรกจิ
สมคิด บางโม (2553) ได้อธบิ ายวา่ แผนธุรกจิ หมายถึง การวางแผนล่วงหน้าวา่ ผูป้ ระกอบการ
กาลงั จะทาอะไรกบั ธุรกจิ เป็นการวางแผนกรอบการทางาน และสามารถใชใ้ นการขอกู้เงินจากสถาบนั
การเงนิ ได้เมื่อมคี วามจาเปน็
ชตุ ิมันต์ สะลอง (2559) ได้อธิบายว่า แผนธุรกจิ หมายถงึ รปู แบบของแผนงานีแ่ สดงถงึ กิจกรรม
ตา่ งๆ ทีเ่ ป็นทัง้ ความฝนั และแรงบันดาลใจของผู้ประกอบการ โดยมกี ารกาหนดบทสรปุ ผู้บรหิ าร วสิ ยั ทศั น์
พันธกจิ เป้าหมาย มแี ผนบริหารจดั การธุรจิ โดยมีองค์ประกอบของแผนการตลาด แผนการผลิตแผนการ
เงินและแผนบรหิ ารทรัพยากรมนุษย์
ดุจเดือน บุญขวาง ( 2559) แผนธุรกิจ (Business Plan) หมายถึง เคร่ืองมือทีผ่ ู้ประกอบการใช้
กาหนดขน้ั ตอน และวางแผนการดาเนินธุรกิจอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพเพอื่ ให้บรรลุวัตถปุ ระสงค์
ตามท่ีกาหนดไว้โดยต้องมคี วามถูกต้อง ชดั เจน ครอบคลุมเนื้อหาสาคญั งา่ ยต่อการเข้า และมีความเปน็ ไป
ได้จรงิ ตอ่ การปฏิบตั ติ ามแผน
ดลยา ไชยวงค์ (2561) แผนธรุ กิจ (Business Plan) เปน็ เครอื่ งมือชน้ิ หนึ่งท่ีมีความสาคญั อยา่ ง
มากต่อผ้ปู ระกอบการ ไมว่ า่ จะใชใ้ นผู้ประกอบการธุรกิจท่เี พ่ิงเร่มิ ตน้ ใหม่ กระทงั่ ผ้ปู ระกอบการทม่ี ี
ประสบการณ์ทาธรุ กจิ มากอ่ นแล้วกต็ าม ก็เปรียบเสมือนการร่างแผนท่ี ท่ีจะช่วยใหผ้ ปู้ ระกอบมีแนวทาง
ในการตัดสนิ ใจในเรื่องต่างๆ เก่ียวกบั ธรุ กจิ ได้ดียง่ิ ขน้ึ
เกยี รติพงษ์ อุดมธนะธรี ะ (2561) แผนธรุ กิจ (Business Plan) คอื แผนการดาเนนิ งานของธุรกิจ
หรอื โครงการ ทจี่ ดั ทาขนึ้ เพ่ือเป็นแนวทางในการดาเนนิ ธุรกิจ อนั ประกอบไปดว้ ยการวเิ คราะห์ถึง
ผลกระทบต่อธรุ กิจทง้ั ทางดา้ นมหภาค (Macro Analysis) และจุลภาค (Micro Analysis) การวิเคราะห์
ธรุ กิจของโครงการในแง่มมุ ต่างๆ ทัง้ ทางด้านการตลาด ทางด้านการดาเนนิ งาน ทมี ผูบ้ รหิ าร และทางดา้ น
การเงนิ เพื่อเป็นการประเมินความเป็นไปไดข้ องโครงการ และเป็นกรอบในการดาเนินธุรกิจ แนวทางการ
พฒั นาธุรกิจในอนาคต เปน็ คู่มอื ในการดาเนนิ ธุรกิจ โดยนาเสนอการวิเคราะหร์ ายละเอียดธุรกจิ ในตัวแปร
ทสี่ าคญั เช่น สนิ คา้ หรือบริการท่ีขาย กลุ่มลูกคา้ เปา้ หมาย จุดออ่ น จดุ แข็ง โอกาสและอุปสรรคตา่ งๆ ของ
ธุรกิจ
สรปุ แผนธรุ กิจ หมายถึง เคร่ืองมือทีผ่ ู้ประกอบการใช้ในการกาหนดแนวทางการดาเนินธุรกิจ
การวเิ คราะห์ถงึ ความเปน็ ไปได้ของธุรกจิ ประกอบด้วยแผนการตลาด แผนการผลิต แผนการจดั องค์กร
และแผนการเงิน แผนธุรกจิ ยงั สามารถใช้เปน็ เอกสารประกอบการกู้เงนิ จากสถาบนั การเงินได้หากมคี วาม
จาเป็น
ประโยชนข์ องแผนธรุ กจิ
สาหรบั ผูป้ ระกอบการ แผนธุรกจิ มปี ระโยชนเ์ นอ่ื งจากแผนธุรกิจเป็นสงิ่ ทแ่ี สดงออกมาเป็น
เอกสาร ทชี่ ว่ ยให้ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบความถูกต้องในการดาเนนิ การให้เป็นไปตามแผนทวี่ าง
ไว้ เปน็ เครอื่ งช่วยจาสาหรับผูป้ ระกอบการในการดาเนินงานในแตล่ ะข้นั ตอน ทาให้มองเหน็ การ
เปล่ียนแปลงสามารถพฒั นาปรับปรุง เพอ่ื ลดปัญหา สร้างแนวคิดด้านกลยทุ ธใ์ ห้แก่ธรุ กจิ และยังสามารถ
ขอรับการสนับสนนุ จากแหล่งการเงนิ เพ่ือกู้มาลงทนุ ในธุรกิจได้
องค์ประกอบของแผนธรุ กิจ
การจัดทาแผนธรุ กิจทเ่ี ปน็ แบบมาตรฐานประกอบด้วย 10 ข้ันตอน ดงั นี้ (กลั ยารตั น์ ธรี ะธนชยั กลุ
. 2563 ,229)
สว่ นท่ี 1 บทสรุปผู้บริหาร กลา่ วถึงสว่ นสาคัญหลักของการทาธรุ กจิ แสดงภาพรวมท้ังหมดของ
ธรุ กจิ เป็นส่วนทีแ่ หล่งทุนจะอ่านเปน็ อนั ดับแรก แตผ่ ูป้ ระกอบการจะจัดทาเปน็ ส่วนสุดทา้ ย
ส่วนที่ 2 การบรรรยายเกี่ยวกับธุรกจิ แสดงเกี่ยวกบั ภาพรวมของกจิ การ เชน่ ประวัตคิ วาม
เป็นมาของกิจการ และลักษณะการดาเนนิ งาน แจ้งถึงภูมิปลังของธุรกจิ เปา้ หมายและศกั ยภาพ และ
ความเปน็ เอกลษั ณ์ของผลิตภัณฑห์ รอื บริการรวมถงึ ข้อไดเ้ ปรยี บทางการแข่งขันอ่ืนๆ
ส่วนท่ี 3 การตลาด เป็นส่วนทผี่ ้ปู ระกอบการต้องเขยี นให้จูงใจนักลงทุนเพอ่ื ใหเ้ กิดความมัน่ ใจวา่ มี
ตลาดทจ่ี ะซ้ือแน่นอน ประกอบด้วย แผนการตลาด ผ้ปู ระกอบการต้องให้รายละเอยี ดเกย่ี วกับผลิตภณั ฑ์
หรอื บรกิ ารทีเ่ กิดจากวเิ คราะห์การตลาดมาแล้ว รวมถึงจุดเด่นในการเอาชนะคู่แข่งขันในตลาดด้วย
สว่ นที่ 4 การดาเนินงาน เป็นสว่ นทเี่ ขียนรายละเอยี ดเกยี่ วกับทาเลทต่ี ั้ง หรอื โรงงานของธุรกจิ
การจัดหาแรงงาน ค่าจ้าง และแหลง่ วัตถุดบิ ของกจิ การ ต้องแสดงถึงเคร่ืองมือเครื่องจกั รในการผลติ และ
ค่าใชจ้ า่ ยต่างๆ ท่เี ก่ียวข้องกับการดาเนินงาน
สว่ นท่ี 5 การจดั การ เปน็ สว่ นทตี่ อ้ งอธบิ ายถึงระบบการจัดการบคุ ลากร ตาแหนง่ หนา้ ท่ีความ
รบั ผดิ ชอบ โครงสร้างคา่ ใช้จา่ ยของทมี ผบู้ ริหาร รายละเอียดทคี่ วรระบใุ หช้ ดั เจนมีดังนี้
โครงสรา้ งขององค์การ
ทีมงานบริหารและบุคลากรท่สี าคญั
ประสบการณแ์ ละความสามารถทางดานเทตนิคของบุคลากร
โครงสรา้ งความเป็นเจา้ ของและการจา่ ยคา่ ตอบแทน
คณะกรรมการบริหาร ท่ีปรึกษา หรอื ผู้ให้คาแนะนาจากภายนอก
ส่วนที่ 6 การเงิน เป็นส่วนที่บง่ ชี้คุณภาพการดาเนนิ งานและเป็นตวั แปรสาคญั ในการพจิ ารณา
สบนั สนุนจากสถาบันการเงิน ดงั นนั้ ควรเขยี นให้เห็นความสามารถดา้ นการเงนิ เท่าทจี่ ะเป็นไปได้ ควรจะ
ประกอบด้วย การประมาณการงบดลุ งบกาไร – ขาดทนุ งบกระแสเงินสด
ส่วนที่ 7 ความเส่ียง แผนธรุ กิจทมี่ ีประสทิ ธิภาพควรแสดงใหเ้ ห็นความเสย่ี งที่อาจเกิดข้ึนได้
ผปู้ ระกอบการควรจัดทาแผนสารองเมื่อเกิดเหตุการณ์ท่ีต่างๆ ทีม่ ีแนวโนม้ ว่าจะมีผลกระทบต่อธุรกจิ และ
เพือ่ ลดระดับความเส่ยี ง หรอื หลีกเลยี่ งความเสยี่ งผ้ปู ระกอบการตอ้ งตระหนักและมีความพร้อมทจ่ี ะเผชิญ
กบั เหตกุ ารณเ์ หล่าน้นั ตามแผนทร่ี องรับไว้
สว่ นท่ี 8 แผนเก็บเกีย่ วผลการดานนิ งาน ผ้ปู ระกอบการควรจัดทาแผนเพอ่ื เกบ็ เก่ียวผลการ
ดาเนนิ งานในอนาคตเอาไว้ แสดงถึงการมองการณ์ไกล และการเตรยี มพร้อมสาหรบั การเปลย่ี นแปลง
อย่างมรี ะบบ เม่ือธรุ กิจเตบิ โตขึ้นในอนาคต
สว่ นที่ 9 ตารางกาหนดการกิจกรรมสาคัญ ส่วนนจ้ี ดั ทาเพ่ือใหน้ ักลงทุนได้ทราบถึงตาราง
กาหนดการกิจกรรมต่างๆ ท่ีกาหนดไวว้ า่ จะสามารถบรรลคุ วามสาเร็จ ตามกรอบเวลาแสดงถึง
ความสามารถการดาเนินงานตามแผนอย่างเปน็ ระบบ
สว่ นที่ 10 ภาคผนวก หรอื บรรณานกุ รม เปน็ สว่ นที่จะแสดงข้อมูลเพ่มิ เตมิ เช่นรปู ภาพ แผนภูมิ
ซงึ่ ขึน้ อยู่กบั ผู้ประกอบการวา่ ตอ้ งการใส่ข้อมูลสว่ นใดไว้หรือไม่
สรปุ แผนธุรกจิ เปรียบเสมือนแผนการทางานที่สาคัญของผ้ปู ระกอบการ สามารถแสดงข้อมลู
รายละเอยี ดไมว่ ่าจะเป็นข้อมูลดา้ นการตลาด การผลติ การบริหารจัดการ การเงนิ ของธุรกจิ ทงั้ นก้ี ารเขียน
แผนธรุ กิจต้องเขียนให้ครอบคลมุ และรดั กุม ตามแบบแผนการเขียนแผนธรุ กจิ เพราะหากผูป้ ระกอบการ
ต้องการเงนิ ทุน แผนธุรกจิ จะสามารถสนบั สนนุ ใหก้ ้เู งินจากแหล่งเงินทุนไดส้ ะดวกขน้ึ
สรุปท้ายบทเรยี น
ผปู้ ระกอบการในยุคเศรษฐกิจสร้างสรรคต์ ้องเปน็ ผู้มีความคิดรเิ รม่ิ มีความคิดเชงิ บวก คดิ นอก
กรอบ มีความคิดสร้างสรรค์ เพือ่ ผลิตสินคา้ และบริการ ขบั เคลอื่ นภาคการผลติ สินค้าภาคบรกิ าร รวม
เอาอัตลกั ษณ์ ศิลปวฒั นธรรมกบั เทคนโนโลยเี ข้าไวด้ ้วยกันอยา่ งลงตวั ปรบั ตัวใหเ้ ขา้ กับสถานการณ์ต่างๆ
ทเี่ กิดขนึ้ แบบคาดคิดและไมไ่ ดค้ าดคดิ มาก่อน รวมถงึ ต้องเป็นผุ้ประกอบการยุคเศรษฐกิจสรา้ งสรรค์
(Creative Economy) มุ่งสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ Creative Industries และสรา้ งเศรษฐกจิ ท่ีเปน็ มติ ร
ต่อสิ่งแวดล้อม (Creative and Green Economy) ในยุคเศรษฐกจิ สร้างสรรค์ เป็นยุคของการทาธรุ กจิ ท่ี
มุ่งใช้ความรูแ้ ละความคดิ สร้างสรรค์เพื่อการผลิตสนิ ค้าหรือบริการท่เี ชื่อมโยงวฒั นธรรมกับทรัพยากรท่ีมี
อยู่ โดยอาศัยนวัตกรรมใหม่ๆ ดงั นั้น ผ้ปู ระกอบการยุคน้ีจึงตอ้ งเปน็ ทีมีคุณลักษณะโดดเด่นด้านการคิด
สร้างสรรคธ์ ุรกจิ รวมถงึ ต้องมีแผนธุรกิจสาหรบั ธรุ กิจแบบใหม่ เพือ่ เป็นเคร่ืองมือหรือแผนการทางานท่ี
ต้องมีองค์ประกอบต่างๆ 10 ส่วนประกอบคอื บทสรปุ ผู้บริหาร การบรรยายเกยี่ วกับธรุ กิจ การตลาด การ
ดาเนินงาน การจดั การ การเงิน ความเสีย่ ง แผนเกบ็ เกีย่ วผลการดาเนินงาน ตารางกาหนดกจิ กรรมสาคัญ
และ ภาคผนวก ท้งั นกี้ ารเขียนแผนธรุ กิจตอ้ งเขยี นใหค้ รอบคลุมและรดั กมุ ตามแบบแผนการเขียนแผน
ธรุ กจิ เพราะหากผู้ประกอบการต้องการเงนิ ทุน แผนธรุ กิจจะสามารถสนับสนนุ ให้กู้เงินจากแหลง่ เงนิ ทุนได้
สะดวกขึน้
แบบฝกึ หัดท้ายบท
1. จงบอกความหมายของความคิดสรา้ งสรรค์
2. จงบอกความหมายเศรษฐกิจสร้างสรรค์
3. นักศกึ ษาคิดวา่ แนวคิดของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ คืออะไร
4. ผปู้ ระกอบการในยุคเศรษฐกิจสรา้ งสรรคค์ วรมีลกั ษณะอยา่ งไร
5. จงอธบิ ายการส่งเสรมิ ผปู้ ระกอบการไทยในยุคเศรษฐกจิ สร้างสรรค์ Thailand 4.0
6. ผ้ปู ระกอบการสร้างสรรค์ต้องมกี ารปรบั ตัวอย่างให้สามารถทาธรุ กจิ ได้ในยุคปจั จุบัน
7. จงบอกความหมายของแผนธรุ กิจ
8. แผนธุรกิจสามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง
9. องคป์ ระกอบของแผนธุรกิจประกอบด้วยกี่องคป์ ระกอบ อะไรบ้าง อธิบายพอสงั เขป
10. คาทวี่ ่า “แผนธรุ กิจสามารถเป็นเคร่อื งมอื ในการขอกู้เงนิ ทุนจากแหล่งการเงินได้” นกั ศึกษา
คดิ วา่ แหลง่ การเงินใดบ้างท่จี ะให้เงินทุนแกผ่ ูป้ ระกอบการได้