The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pare-siripen, 2022-09-27 18:07:47

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

แผนการจดั การเรยี นรู้
ส16101 วชิ า สงั คมศกึ ษา

นางสาวศิรเิ พญ็ หวานวาจา
ผ้สู อน

โรงเรียนวัดโพธ(์ิ ผักไห่วิทยาคาร)
สำนักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา

พระนครศรอี ยธุ ยา เขต 2

ประวตั ขิ องสถานศกึ ษาโดยสังเขป

โรงเรียนวัดโพธิ์(ผักไห่วิทยาคาร) ชื่อเดิมคือ โรงเรียนเทพประสิทธิ์วัดโพธิ์ เปิดทำการ พ.ศ. 2460
ท่ีศาลาวดั ตง้ั แต่ชน้ั มลู ถงึ ชัน้ รมธั ยม 3 มนี างพวง ยุติศรี เป็นผ้อู ุปถัมภ์ และนายทุ้ย เจริญทองคำ เป็นครใู หญ่

ปี พ.ศ. 2514 สร้างอาคารเรียนแบบ 017 ดัดแปลง บริเวณหลังวัด เป็นการสร้างอาคารเรียนใหม่
และย้ายโรงเรียนทั้งหมดด้วยอาคารเดิมชำรุด ต้องรื้อถอน และเพ่ือความเหมาะสมตามสภาพภูมิศาสตร์
ด้วยวงเงิน 58,700 บาท เงินบริจาค 67,000 บาท และย้ายนักเรียนเข้าเรียนในอาคารหลังใหม่ในวันที่
1 ตลุ าคม 2515

ปี พ.ศ. ๒๕๓๒ จัดทำป้ายชอื่ เปน็ คอนกรีตโดยเอกชนชว่ ยเหลือเปน็ เงิน ๓0,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ.๒๕๓๓ สร้างสว้ ม สปช. ๖๐๒/๒๖ จำนวน ๑0 ทีน่ งั่ งบประมาณ ๒0๐,0๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๓๔ จากงบประมาณ ๒๕๓๓ กับเงินเหลื่อมปี ก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ แบบ สปช.
๒๐๕/๒๖ งบประมาณ ๑,๓๕0,0๐0 บาท และปีนี้โรงเรียนและชุมชนพัฒนาถมที่โรงเรียน ใช้งบประมาณ
๑๕๐,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ.๒๕๓๖ ถมดินเพ่ิมเติมจากเงินบรจิ าคอกี ๑๕0,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๓๗

- จัดตงั้ ศาลพระภูมิประจำสถานศกึ ษาใช้งบประมาณ ๑๖,๙๐๐ บาท
- จัดทำเสาธงโดยคุณส่งศักดิ์ คุณพรทิพย์ ตั้งกีรติ ขนาด ๔x๑๐x๐.๘๐ เมตร งบประมาณ
๑๐๐,๐๐๐ บาท
- จัดทำซุ้มแท่นพระประจำสถานศึกษา โดยคุณส่งศักดิ์ คุณพรทิพย์ ตั้งกีรติ งบประมาณ
๒๐,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ซ่อมหลังคาอาคารกรมสามัญ ๑๒ และ ทาสี ใช้งบประมาณ ๑๕,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ช่อมแซมอาคารเรยี น ·๑๗ และทาสี ๑0๑,๖๓๘ บาท เปน็ งบจากกรม ๑๓,๑๘๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๔๐
- จัดทำหอ้ งปฏบิ ัติการทางภาษา (Sound Lab) งบประมาณ ๖๔,๓๙๘ บาท
- จดั ทำหอ้ งปฏบิ ตั ิการวิทยาศาสตร์ งบประมาณ ๔0,๐๐๐ บาท
- จัดทำห้องปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์ งบประมาณ ๔๕,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๔๑ ทาสีอาคารเรียน 0๑๗ ชั้นล่าง โดยมีงบประมาณ ๒๙,0๐๐ บาท คณะครูและชุมชน
ร่วมกัน บริจาค ๗0,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๔๓ ทำรั้วรอบบริเวณโรงเรียน ด้านทิศเหนือ และทิศตะวันออก โดยงบบริจาคจาก
ประชาชนเป็นเงิน ๘๕,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ปูกระเบอื้ งพ้ืนห้องเรียนช้ันลา่ ง โดยงบประมาณจากประชาชน ๘๕,000 บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๔๗ เทศบาลตำบลผักไห่อนุมัติเงิน จัดทำถนนจากประตูทางเข้าและออกโรงเรียน ไปยัง
หนา้ อาคารอเนกประสงค์เป็นเงนิ ๕๖0,00๐ บาท และคณะครรู ่วมกนั บริจาคสมทบ เป็นเงนิ ๔๐,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ปูกระเบื้องพื้นและฝาอาคารอเนกประสงค์ เป็นเงนิ ๒๔๒,๖๐๐ บาท โดยเงินบรจิ าค
ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ สรา้ ง โรงอาหารแทนโรงอาหารหลังเก่า ซ่ึงชำรดุ ทรดุ โทรมมาก จากเงินบรจิ าคเปน็ เงิน
๓,๒๐๐,๐00 บาท นำโดยพระพจิ ารณ์ วิจารโณ และเปิดอาคาร เม่อื วนั ท่ี ๑๖ กันยายน ๒๕๕๓

ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ทาสีอาคารเรียนและรั้ว ปูกระเบื้องเสาธง ปูกระเบื้องห้องพักครู ทำทางเดินเท้า
จากงบประมาณโรงเรียนประสบอทุ กภัย ๑๙๔,๐๐๐ บาท

ปี พ.ศ. ๒๕๕๕
- เทพื้นปูนอาคารเรียน ชั้นล่างและปูกระเบื้อง ทาสีอาคารเรียน ปูกระเบื้อง หน้าโรงอาหาร

ทำทางเดินทางเข้า อาคารอเนกประสงค์ ซุ้มประตูส้วม ทางเท้าไปห้องส้วม จากงบประมาณโรงเรียน
ประสบอทุ กภัย ๘๒๔,๐๐๐ บาท

- ปรับปรุงป้ายชื่ออาคารเรียน เทปูนปูกระเบื้อง เป็นเงิน ๕0,0๐๐ บาท ได้รับการอุปการะ
จากพระครูปลดั พจิ ารณ์ วิจารโณ

- ปรับปรุงทางเดินเท้าหน้าโรงเรียน นอกรั้ว เป็นเงิน ๘๐,๐๐๐ บาท ได้รับการอุปการะจาก
พระครปู ลัดวจิ ารณ์ พจิ ารโณ
ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ปรับปรงุ ซ่อมแซม ทาสอี าคารอเนกประสงค์ และระบบไฟฟ้าใหม่ เปน็ เงนิ ๒๘๒,๙๒๔
บาท ได้รบั การอุปการะ จากพระครูปลดั พจิ ารณ์ วจิ ารโณ
ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ เริ่มดำเนินการตอกเสาเข็ม เพื่อก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ ด้วยงบประมาณเริ่มต้น
๒,0๐๐,000 บาท โดยการสนับสนุนหาทุนการก่อสร้างโดย พระครูปลัดพิจารณ์ วิจารโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
วดั โพธิ์ผักไห่
ปี พ.ศ. ๒๕๕๘

- ไดร้ บั งบประมาณกระตนุ้ เศรษฐกิจ ๑๕0,00๐ บาท เพ่ือทาสีอาคารเรยี น และขัดพ้นื
- ไดร้ ับงบประมาณกระตุน้ เศรษฐกจิ หมบู่ ้าน เพือ่ เปลีย่ นหลงั คา อาคารอเนกประสงค์ หลงั คา
โรงเรียน โรงอาหาร และปรบั ปรุงซอ่ มแซมห้องส้วมอนบุ าล จำนวน ๖๙๐,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ อาคารเรียนหลังใหม่สร้างเสร็จ และนำนักเรียน ขึ้นไปเรียนบนอาคาร ในภาคเรียน
ท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๙
- สร้างห้องน้ำใหม่ จำนวน ๑๔ ห้อง ด้วยงบประมาณ ๖00,0๐๐ บาท สร้างเสร็จในปี
เดียวกัน โดยการสนับสนุนจากพระพรมโมลี เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์และพระครูปลัดพิจารณ์
วจิ ารโณ
- ไดร้ บั งบประมาณปรบั ปรุงซ่อมแชมบา้ นพกั ครูจาก สพฐ. งบประมาณ ๑๗๕,๓๐๐ บาท
- ปรับปรุงระบบไฟฟ้าอาคารเรียน อาคารอเนกประสงค์ งบประมาณเหลือจ่ายจาก สพฐ.
จำนวน ๔๘๐,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๖๐
- ได้ขยายห้องสมุด เดิมจาก ๑ ห้อง เป็น ๒ ห้อง มีค่าใช้จ่าย ๓,๕๐๐ บาท โดยเงิน
นอกงบประมาณ
ปี พ.ศ. ๒๕๖๑
- ไดร้ บั งบประมาณ ๑๕๗,0๐๐ บาท สร้างลานกฬี าเอนกประสงค์ แบบกรมพลศกึ ษา
ปี พ.ศ. ๒๕๖๒
- รับมอบอาคารเรียน สปช ๒/๒๘ ปรับปรุง จากคณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียน
เมอื่ วนั ท่ี ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒
ผู้บริหารโรงเรียน ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งโรงเรียน จนถึงปัจจุบัน มีจำนวนทั้งสิ้น ๑๗ คน ผู้บริหารโรงเรียน
คนปัจจุบันคือ นายสมพงษ์ ลาสอน จำนวนนักเรียนทั้งสิ้น ๑๙๕ คน ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวนห้องเรียน
๘ ห้องเรียน จำนวนครู ๑๐ คน นักการภารโรง ๑ คน พนกั งานธุรการ ๑ คน

แผนผงั โครงสรา้ งการบริหารงานของสถานศึกษา

ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น คณะกรรมการสถานศึกษา

บริหารวิชาการ บริหารงบประมาณ บริหารบคุ คล บรหิ ารท่วั ไป

นางสาวจีรนนั ท์ วงษ์มาก นางกมลรส พรี ะพฒั นพงศ์ นางสาวทิพย์ภาวี โพธทิ์ อง นายประสทิ ธ์ิ กนั ตรง
นางสาวทพิ ยภ์ าวี โพธิท์ อง นางสาวทพิ ย์ภาวี โพธ์ทิ อง นางกมลรส พรี ะพัฒนพงศ์ นายกติ ตภิ พ ซารักกล่ิน
นายประสทิ ธิ์ กนั ตรง นางสาวอนสุ รา ก๋าสม นางสาวจีรนนั ท์ วงษม์ าก นางถิรธาร ทาเหลก็
นายกิตตภิ พ ซารักกลน่ิ นางถิรธาร ทาเหลก็ นางถริ ธาร ทาเหลก็ นางกมลรส พรี ะพัฒนพงศ์
นางถริ ธาร ทาเหลก็ นางสาวศิรเิ พ็ญ หวานวาจา นายกติ ตภิ พ ซารักกลน่ิ นางสาวทพิ ย์ภาวี โพธ์ทิ อง
นางกมลรส พีระพฒั นพงศ์ นางสาวจีรนันท์ วงษม์ าก
นางสาวศรญั ญา ศรลี ายศ นางสาวอนสุ รา ก๋าสม
นางสาวอนุสรา ก๋าสม นางสาวศรญั ญา ศรีลายศ
นางกรรณกิ าร์ จานุสงั ข์ นางกรรณกิ าร์ จานุสังข์
นางสาวศริ เิ พญ็ หวานวาจา นางสาวศิรเิ พญ็ หวานวาจา
นางสาวพจนารถ สกุ ใส นางสาวพจนารถ สกุ ใส

ตารางการปฏิบัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษา

เวลา 08.30-09.30 09.30- 10.30- 11.30
วัน 10.30 11.30
คณติ ศาสตร์ - 12.30-13.30 13.30-14.30 14.30-15.30
จันทร์ ป.2 ภาษาไทย
อังคาร ป.2 12.30
พุธ คณติ ศาสตร์
ป.2 ภาษาไทย ัพกกลาง ัวน สังคมศึกษา สงั คมศึกษา ลดเวลาเรยี น
ป.2 ป.6 ป.5 การงาน
คณติ ศาสตร์ ป.3
ป.2 ภาษาไทย สงั คมศึกษา ตามความสนใจ
ป.2 ป.5 ป.2 ลดเวลาเรยี น
พฤหสั บดี คณติ ศาสตร์
ภาษาไทย ป.2 สงั คมศึกษา ลกู เสือ ลดเวลาเรียน
ป.2 ป.6 ป.2 ภาษาไทย

แนะแนว ประวัตศิ าสตร์ ประวัตศิ าสตร์ ป.2
ป.2 ป.5 ป.6

ศุกร์ ลดเวลาเรยี น คณิตศาสตร์
ป.2

รายวิชาท่ปี ฏบิ ตั ิการสอน

1. วชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
2. วชิ าภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 5 ช่วั โมง/สปั ดาห์
3. วิชาการงานอาชีพ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 จำนวน 1 ชัว่ โมง/สัปดาห์
4. วิชาสังคมศึกษา ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์
5. วชิ าประวัตศิ าสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 จำนวน 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์
6. วชิ าสงั คมศกึ ษา ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 จำนวน 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์
7. วชิ าประวตั ิศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
8. ตามความสนใจ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
9. ลูกเสือ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
10. แนะแนว ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 1 ชัว่ โมง/สัปดาห์
11. ลดเวลาเรยี น ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 จำนวน 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์

รวมทั้งสิ้น 24 ช่ัวโมงต่อสัปดาห์

หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พ.ศ.2551

วิสยั ทศั น์
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน มงุ่ พฒั นาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มี

ความสมดลุ ท้งั ดา้ นรา่ งกาย ความรู้ คุณธรรม มีจติ สำนกึ ในความเปน็ พลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในการ
ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้ง
เจตคติที่จำเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
บนพนื้ ฐานความเชอื่ วา่ ทุกคนสามารถเรยี นรแู้ ละพฒั นาตนเองได้เตม็ ตามศักยภาพ

หลักการ
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน มีหลักการที่สำคัญ ดงั นี้
1. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้เป็น

เป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติและคุณธรรมบนพื้นฐานของความเป็นไทย
ควบคกู่ ับความเปน็ สากล

2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รบั การศกึ ษาอย่างเสมอภาคและ
มคี ณุ ภาพ

3. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอำนาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ให้สอดคลอ้ งกับสภาพและความต้องการของทอ้ งถิน่

4. เป็นหลักสตู รการศึกษาทีม่ ีโครงสรา้ งยดื หยนุ่ ทัง้ ดา้ นสาระการเรียนรู้ เวลาและการจัดการเรียนรู้
5. เปน็ หลกั สตู รการศึกษาทีเ่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ
6. เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบและตามอัธยาศัย ครอบคลุม
ทุกกลุม่ เป้าหมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้และประสบการณ์

จดุ หมาย
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนใหเ้ ป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพ

ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ จึงกำหนดเป็นจุดหมายเพื่อให้เกิดกับผู้เรียนเมื่อจบการศึกษา
ข้นั พื้นฐาน ดงั นี้

1. มีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตาม
หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนบั ถอื ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

2. มีความรู้ ความสามารถในการสอ่ื สาร การคดิ การแกป้ ัญหา การใชเ้ ทคโนโลยแี ละมีทักษะชีวิต
3. มีสุขภาพกายและสขุ ภาพจิตท่ดี ี มีสุขนสิ ยั และรักการออกกำลงั กาย
4. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครอง
ตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมขุ
5. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม
มจี ติ สาธารณะที่มงุ่ ทำประโยชนแ์ ละสร้างสิ่งทด่ี งี ามในสงั คมและอยูร่ ว่ มกนั ในสังคมอยา่ งมคี วามสขุ

สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียน ให้มีสมรรถนะ

สำคัญ 5 ประการ ดังนี้
1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรม ในการใช้ภาษา

ถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเอง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ
ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา ตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและ
ลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้องตลอดจน
การเลอื กใช้ วิธีการสอ่ื สาร ทม่ี ีประสิทธภิ าพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบทมี่ ีตอ่ ตนเองและสังคม

2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง
สร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และการคดิ เป็นระบบ เพื่อนำไปสู่ การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ
เพื่อการตัดสนิ ใจเก่ยี วกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ย่างเหมาะสม

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้
อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมบนพ้นื ฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและขอ้ มูล สารสนเทศ เข้าใจความสมั พันธ์และการ
เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข
ปญั หา และมกี ารตัดสนิ ใจท่มี ี ประสทิ ธิภาพ โดยคำนึงถึงผลกระทบ ท่เี กิดข้นึ ตอ่ ตนเอง สังคมและส่ิงแวดลอ้ ม

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการ ต่าง ๆ ไปใช้ในการ
ดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกันในสังคม
ด้วยการสรา้ งเสริมความสัมพนั ธ์อันดีระหว่าง บคุ คล การจัดการปัญหาและความขัดแยง้ ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม
การปรับตัวให้ทันกับ การเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรม
ไมพ่ งึ ประสงคท์ ี่สง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อนื่

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร
การทำงาน การแก้ปัญหา อยา่ งสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสมและมคี ุณธรรม

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้

สามารถอยู่ร่วมกับผอู้ ่ืนในสังคมได้อยา่ งมีความสุข ในฐานะเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ดงั นี้
1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
2. ซ่อื สัตยส์ ุจริต
3. มวี นิ ัย
4. ใฝเ่ รียนรู้
5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
6. มุ่งม่ันในการทำงาน
7. รักความเปน็ ไทย
8. มจี ติ สาธารณะ
นอกจากน้ี สถานศกึ ษาสามารถกำหนดคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์เพิ่มเตมิ ใหส้ อดคล้องตามบริบทและ

จดุ เนน้ ของตนเอง

หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ทำไมต้องเรียนสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
สังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและ

วัฒนธรรม ช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ว่ามนุษยด์ ำรงชวี ติ อย่างไร ทั้งในฐานะปจั เจกบุคคลและการอยู่
ร่วมกันในสังคม การปรับตัวตามสภาพแวดล้อม การจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด นอกจากนี้ ยังช่วยให้
ผู้เรียนเข้าใจถึงการพัฒนา เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย กาลเวลา ตามเหตุปัจจัยต่าง ๆ ทำให้เกิดความเข้าใจใน
ตนเองและผูอ้ ่นื มคี วามอดทน อดกลน้ั ยอมรับในความแตกตา่ งและมีคุณธรรม สามารถนำความร้ไู ปปรับใช้ใน
การดำเนินชวี ติ เปน็ พลเมืองดีของประเทศชาตแิ ละสงั คมโลก

เรยี นร้อู ะไรในสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมวา่ ดว้ ยการอยู่ร่วมกันในสังคม ที่มีความเช่ือม

สัมพันธ์กัน และมีความแตกต่างกันอย่างหลากหลาย เพื่อช่วยให้สามารถปรับตนเองกับบริบทสภาพแวดล้อม
เปน็ พลเมอื งดี มีความรบั ผิดชอบ มีความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม และค่านิยมท่เี หมาะสม โดยได้กำหนดสาระตา่ ง ๆ
ไวด้ ังนี้

ศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หลักธรรมของ
พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ การนำหลักธรรมคำสอนไปปฏิบัติในการพัฒนาตนเองและการอยู่
ร่วมกันอย่างสันติสุข เป็นผู้กระทำความดี มีค่านิยมที่ดีงาม พัฒนาตนเองอยูเ่ สมอ รวมทั้งบำเพ็ญประโยชน์ตอ่
สังคมและสว่ นรวม

หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิต ระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบันการ
ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลักษณะและความสำคัญ การเป็น
พลเมืองดี ความแตกต่างและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ปลูกฝังค่านิยม
ด้านประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สิทธิ หน้าที่ เสรีภาพการดำเนินชีวิตอย่างสันติสุขใน
สงั คมไทยและสงั คมโลก

เศรษฐศาสตร์ การผลิต การแจกจา่ ย และการบริโภคสนิ คา้ และบรกิ าร การบริหารจดั การทรพั ยากรที่
มีอยู่อย่างจำกดั อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ การดำรงชีวติ อย่างมีดุลยภาพ และการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ใน
ชีวติ ประจำวนั

ประวัติศาสตร์ เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ วิธีการทางประวัติศาสตร์ พัฒนาการของ
มนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์และเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ผลกระทบที่เกิดจาก
เหตุการณ์สำคัญในอดีต บุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในอดีต ความเป็นมาของชาติไทย
วัฒนธรรมและภูมิปญั ญาไทย แหล่งอารยธรรมท่สี ำคัญของโลก

ภูมิศาสตร์ ลักษณะของโลกทางกายภาพ ลักษณะทางกายภาพ แหล่งทรัพยากร และภูมิอากาศของ
ประเทศไทย และภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก การใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ความสัมพันธ์กันของ
สิ่งต่าง ๆ ในระบบธรรมชาติ ความสัมพันธ์ของมนุษย์กับสภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ และสิ่งที่มนุษย์สร้างขนึ้
การนำเสนอข้อมลู ภมู สิ ารสนเทศ การอนรุ กั ษ์สิง่ แวดลอ้ มเพอื่ การพัฒนาท่ยี ั่งยืน

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม

มาตรฐาน ส 1.1 รแู้ ละเขา้ ใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนา
ท่ตี นนับถอื และศาสนาอืน่ มศี รทั ธาท่ถี กู ต้อง ยึดมนั่ และปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรม เพ่อื อยรู่ ่วมกันอยา่ งสันติสขุ

มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดีและธำรงรักษาพระพุทธศาสนา
หรอื ศาสนาท่ตี นนบั ถือ

สาระที่ 2 หน้าท่พี ลเมอื ง วัฒนธรรมและการดำเนนิ ชวี ติ ในสังคม
มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธำรง

รกั ษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวติ อยู่รว่ มกนั ในสังคมไทย และ สงั คมโลกอย่างสนั ตสิ ขุ
มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปจั จุบนั ยดึ มนั่ ศรัทธาและธำรงรักษาไว้

ซ่งึ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมขุ

สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้

ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการ
ดำรงชวี ิตอยา่ งมดี ลุ ยภาพ

มาตรฐาน ส.3.2 เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจตา่ ง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและความ
จำเปน็ ของการร่วมมือกนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก

สาระท่ี 4 ประวัติศาสตร์
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้

วิธกี ารทางประวตั ศิ าสตร์มาวิเคราะหเ์ หตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ
มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์และ

การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสำคัญและสามารถ วิเคราะห์ผลกระทบที่
เกิดขนึ้

มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรักความภูมิใจและ
ธำรงความเป็นไทย

สาระท่ี 5 ภมู ศิ าสตร์
มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผลต่อกัน

ใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูล ตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์
ตลอดจนใช้ภมู สิ ารสนเทศอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิดการ
สร้างสรรค์วิถีการดำเนนิ ชีวิต มีจิตสำนกึ และมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนา
ทยี่ ่งั ยืน

ตวั ชวี้ ัดกล่มุ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ข้ันประถมศึกษาปที ี่ 6

สาระที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม
มาตรฐาน ส ๑.1 ร้แู ละเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนา

ท่ตี นนับถือและศาสนาอื่น มศี รทั ธาท่ีถูกต้อง ยดึ มน่ั และปฏิบัตติ ามหลกั ธรรมเพอื่ อยู่รว่ มกนั อย่างสนั ตสิ ขุ

ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรู้

๑. วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาในฐานะที่เป็นศาสนาประจำชาติ เช่น

ฐานะเปน็ ศาสนาประจำชาตหิ รือความสำคัญของ เป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย เป็นรากฐานและมรดกทาง

ศาสนาท่ตี นนบั ถือ วัฒนธรรม เป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นหลักในการ

พัฒนาชาตไิ ทย

๒. สรุปพุทธประวัติตั้งแต่ปลงสังขารจนถึง สรุปพุทธประวัติ (ทบทวน)

สังเวชนียสถานหรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือ - ปลงอายสุ งั ขาร

ตามที่กำหนด - ปจั ฉิมสาวก

- ปรินพิ พาน

- การถวายพระเพลิง

- แจกพระบรมสารีรกิ ธาติ

- สงั เวชนียสถาน ๔

๓. เหน็ คณุ คา่ และประพฤตติ นตามแบบอย่างการ 1) พทุ ธสาวก พุทธสาวิกา

ดำเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก - พระราธะ

เรอ่ื งเล่า และศาสนิกชนตวั อย่างตามทก่ี ำหนด 2) ชาดก

- ทีฆีตโิ กสลชาดก

- สพั พทาฐชิ าดก

3) ศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง

- พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

- สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานชุ ติ ชโิ นรส

๔. วิเคราะห์ความสำคัญและเคารพพระรัตนตรัย 1) พระรัตนตรยั

ปฏิบัติตามไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท ๓ : ศรทั ธา ๔

ในพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของศาสนา - พระพทุ ธ

ทต่ี นนบั ถือตามทก่ี ำหนด : พุทธกิจ 5

- พระธรรม

: อรยิ สจั ๔

: หลักกรรม

- พระสงฆ์

2) ไตรสิกขา

- ศลี สมาธิ ปญั ญา

ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้

3) โอวาท ๓
- ไม่ทำชัว่
: เบญจศีล
: อบายมขุ ๖
: อกศุ ลมูล ๓
: ทำความดี
: เบญจธรรม
: กุศลมูล ๓
: พละ ๔
: คารวะ ๖
: กตัญญูกตเวทตี ่อพระมหากษตั ริย์
: มงคล ๓๘
- มวี นิ ัย
- การงานไม่มโี ทษ
- ไม่ประมาทในธรรม

4) ทำจิตใจใหบ้ รสิ ทุ ธิ(์ บริหารจิตและเจริญปญั ญา)
5) พทุ ธศาสนสภุ าษิต

- สจเจน กติ ตึ ปปโปติ คนจะไดเ้ กยี รตดิ ว้ ยสัจจะ
- ยถาวาที ตถาการี พูดเช่นไร ทำเชน่ นน้ั

5. ชื่นชมการทำความดีของบุคคลในประเทศ ตัวอย่างการกระทำความดีของบุคคลในประเทศ
ตามหลักศาสนา พร้อมทั้งบอกแนวปฏิบัติในการ
ดำเนินชวี ิต

6. เห็นคุณค่าและสวดมนต์ แผ่เมตตาและ สวดมนต์ไหวพ้ ระ สรรเสรญิ คุณพระรตั นตรยั และแผ่
บริหารจิต เจริญปัญญา มีสติที่เป็นพื้นฐานของ เมตตา
สมาธิในพระพุทธศาสนาหรือการพัฒนาจิตตาม 1) รคู้ วามหมายของสติสมั ปชัญญะ สมาธิและปัญญา
แนวทางของศาสนาทต่ี นนับถอื ตามทกี่ ำหนด 2) รู้วิธีปฏิบัติและประโยชน์ของการบริหารจิตและ

เจรญิ ปญั ญา
3) ฝึกการยืน การเดนิ การนง่ั และการนอนอยา่ งมสี ติ
4) ฝึกการกำหนดรู้ ความรู้สึกเมื่อตาเห็นรูป หูฟังเสียง
จมูกดมกลิ่น ลิ้นลิ้มรส กายสัมผัส สิ่งที่มากระทบใจรับรู้
ธรรมารมณ์
5) ฝกึ ใหม้ สี มาธใิ นการฟงั การอา่ น การถาม การคิดและ
การเขียน

7. ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตน 1) หลกั ธรรม : อริยสัจ ๔ หลกั กรรม
นบั ถือ เพื่อแก้ปัญหาอบายมุขและสิ่งเสพตดิ 2) โอวาท ๓ : เบญจศีล-เบญจธรรม อบายมุข ๖

อกศุ ลมูล ๓ กุศลมลู ๓

ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้

8. อธิบายหลักธรรมสำคัญของศาสนาอื่น ๆ 1) หลกั ธรรมสำคญั ของศาสนาต่าง ๆ

โดยสังเขป - พระพทุ ธศาสนา : อรยิ สจั ๔ โอวาท ๓ ฯลฯ

- ศาสนาอสิ ลาม : หลักศรทั ธา หลักปฏบิ ตั ิ

หลักจริยธรรม

- คริสต์ศาสนา : บญั ญตั ิ ๑๐ ประการ

2) ศาสนพิธขี องศาสนาต่าง ๆ

9. อธิบายลักษณะสำคัญของศาสนพิธี พิธีกรรม 1) พระพทุ ธศาสนา

ของศาสนาอื่น ๆ และปฏิบัติตนได้อย่าง : ศาสนพิธที เ่ี ป็นพทุ ธบัญญตั ิ เชน่ บรรพชาอปุ สมบท

เหมาะสมเม่อื ต้องเขา้ รว่ มพิธี : ศาสนพิธที ี่เกี่ยวเนอื่ งกบั พระพทุ ธศาสนา เช่น

ทำบุญเน่ืองในวันสำคญั ทางศาสนา

2) ศาสนาอสิ ลาม เชน่ การละหมาด การถอื ศลี อด

การบำเพ็ญฮัจญ์ ฯลฯ

3) คริสตศ์ าสนา เชน่ ศีลล้างบาป ศีลอภัยบาป ศลี กำลงั

ศลี มหาสนิท ฯลฯ

4) ศาสนาฮนิ ดู เชน่ พิธีศราทธ์ พิธบี ชู าเทวดา

มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดีและธำรงรักษาพระพุทธศาสนา

หรือศาสนาที่ตนนับถือ

ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้

๑. อธิบายความรู้เกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ ใน 1) ความรูเ้ บ้ืองตน้ เกย่ี วกบั สถานทีต่ า่ ง ๆ ภายในวดั

ศาสนสถาน และปฏบิ ัตติ นได้อยา่ งเหมาะสม เช่น เขตพทุ ธาวาส สงั ฆาวาส

2) การปฏิบัตติ นที่เหมาะสมภายในวดั

๒. มีมรรยาทของความเป็นศาสนิกชนที่ดีตามที่ มรรยาทของศาสนิกชน

กำหนด - การถวายของแก่พระภิกษุ

- การปฏบิ ัติตนในขณะฟังธรรม

- การปฏิบัติตนตามแนวทางของพุทธศาสนิกชน

เพอ่ื ประโยชนต์ ่อศาสนา

๓. อธิบายประโยชน์ของการเข้าร่วมในศาสนพิธี 1) ทบทวนการอาราธนาศลี อาราธนาธรรม และ

พิธีกรรม และกิจกรรมในวันสำคัญทางศาสนา อาราธนาพระปริตร

ตามที่กำหนดและปฏิบตั ติ นไดถ้ ูกต้อง 2) พธิ ที อดผา้ ปา่

3) พิธที อดกฐิน

4) ระเบยี บพธิ ใี นการทำบุญงานอวมงคล

5) การปฏิบัติตนที่ถูกต้องในศาสนพิธี พิธีกรรม และ

วันสำคัญทางศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา

วนั อฐั มบี ชู า วนั อาสาฬหบชู า วนั ธรรมสวนะ

6) ประโยชนข์ องการเข้ารว่ มในศาสนพธิ ี พธิ ีกรรม และ

วนั สำคญั ทางศาสนา

ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรู้

4. แสดงตนเป็นพุทธมามกะ หรือแสดงตนเป็น การแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ

ศาสนกิ ชนของศาสนาทต่ี นนับถอื - ขัน้ เตรียมการ

- ขัน้ พธิ ีการ

สาระที่ ๒ หน้าท่พี ลเมอื ง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสงั คม
มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงามและธำรงรักษาประเพณีและ

วัฒนธรรมไทย ดำรงชีวติ อยู่ร่วมกันในสงั คมไทยและสังคมโลกอยา่ งสันตสิ ขุ

ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรู้

๑. ปฏิบตั ติ ามกฎหมายท่ีเกย่ี วขอ้ งกับ 1) กฎหมายทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับชีวิตประจำวันของครอบครัว

ชวี ติ ประจำวนั ของครอบครัวและชมุ ชน และชุมชน

- กฎหมายจราจร

- กฎหมายยาเสพตดิ ให้โทษ

- กฎหมายทะเบียนราษฎร

- เทศบญั ญตั ิ ข้อบัญญัติ อบต. อบจ.

2) ประโยชน์ของการปฏบิ ตั ติ นหรอื เคารพกฎหมาย

ดงั กลา่ ว

๒. วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมตาม 1) ความหมายและประเภทของวฒั นธรรม

กาลเวลาและธำรงรกั ษาวฒั นธรรมอนั ดงี าม 2) การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมตามกาลเวลาที่มีผลต่อ

ตนเองและสังคมไทย

3) แนวทางการธำรงรักษาวัฒนธรรมไทย

๓. แสดงออกถึงมารยาทไทยได้เหมาะสมถูก 1) ความหมายและความสำคัญของกิริยามารยาทไทย

กาลเทศะ เช่น การแสดงความเคารพ การยืน การเดิน การน่ัง

การนอน การรับของส่งของ การรับประทานอาหาร

การแสดงกิริยาอาการ การทักทาย การสนทนา การใช้

คำพูด

2) มารยาทไทยและมารยาทสังคม เชน่ การแสดงความ

เคารพ กรยืน การเดิน การนั่ง การนอน การรับของส่ง

ของ การรับประทานอาหาร การแสดงกิริยาอาการ

การทกั ทาย การสนทนา การใชค้ ำพูด

๔. อธิบายคุณค่าทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน 1) ประโยชน์และคณุ ค่าทางวัฒนธรรม

ระหว่างกลมุ่ คนในสังคมไทย 2) ความแตกต่างทางวัฒนธรรมระหว่างกลุ่มคนภาค

ตา่ ง ๆ ในสังคมไทย

3) แนวทางการรักษาวฒั นธรรม

๕. ติดตามข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ต่าง ๆ ใน 1) แหล่งข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น จากวิทยุ

ชีวิตประจำวัน เลือกรับและใช้ข้อมูล ข่าวสารใน โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ แหล่งข่าวต่าง ๆ จากหอ

การเรียนรไู้ ดเ้ หมาะสม จดหมายเหตุ สถานการณ์จรงิ หรือจดหมายเหตุ

ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรู้

2) ประโยชน์จากการติดตามข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณ์
ตา่ ง ๆ
3) หลักการเลือกรับและใชข้ ้อมูลข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ
รวมท้ังส่ือท่ีไร้พรมแดน

มาตรฐาน ส ๒.๒ เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยดึ มั่น ศรทั ธาและธำรงรักษาไว้
ซ่งึ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข

ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้

๑. เปรยี บเทียบบทบาทหนา้ ที่ขององค์กร บทบาท หนา้ ที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ และ
ปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นและรฐั บาล รัฐบาล

๒. มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริม กจิ กรรมต่าง ๆ เพ่ือสง่ เสริมประชาธปิ ไตยในท้องถน่ิ
ประชาธิปไตยในท้องถิน่ และประเทศ และประเทศ

๓. อภิปรายบทบาท ความสำคญั ในการใชส้ ิทธ์ิ 1) การมสี ว่ นร่วมในการออกกฎหมายระเบยี บ กตกิ า
ออกเสียงเลอื กตั้งตามรบอบประชาธปิ ไตย การเลือกตั้ง
2) สอดส่องดูแลผูม้ พี ฤตกิ รรมการกระทำผดิ การ
เลือกตั้งและแจง้ ต่อเจา้ หน้าท่ีผ้รู ับผดิ ชอบ
ตรวจสอบคณุ สมบตั ิ
3) การใชส้ ทิ ธอิ อกเสียงเลือกตั้งตามระบอบ
ประชาธปิ ไตย

สาระท่ี ๓ เศรษฐศาสตร์

มาตรฐาน ส ๓.๑ เข้าใจและสามารถบริหารจัดการในการผลิตและการบริโภค การใช้ทรัพยากรที่มี
อยูจ่ ำกัดได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและคุม้ ค่า รวมทง้ั เข้าใจหลักการของเศรษฐกจิ พอเพียงเพ่ือการดำรงชีวิตอย่าง
มคี ณุ ค่า

ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้

๑. อธิบายบทบาทของผูผ้ ลติ ทมี่ คี วามรบั ผิดชอบ 1) บทบาทของผู้ผลิตที่มีคุณภาพ เช่น คำนึงถึง
๒. อธิบายบทบาทของผู้บริโภคทีร่ เู้ ท่าทัน สิ่งแวดล้อม มีจรรยาบรรณความรับผิดชอบต่อสังคม
วางแผนก่อนเริ่มลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อลดความ
ผดิ พลาดและการสญู เสยี ฯลฯ
2) ทัศนคติในการใชท้ รัพยากรอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและ
ประสิทธิผล
3) ประโยชนข์ องการผลติ สนิ ค้าทม่ี ีคณุ ภาพ

1) คุณสมบัติของผบู้ รโิ ภคท่ีดี
2) พฤติกรรมของผบู้ ริโภคที่บกพร่อง
3) คุณค่าและประโยชน์ของผู้บริโภคที่รู้เท่าทันที่มีต่อ
ตนเอง ครอบครวั และสงั คม

ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้

3. บอกวิธีและประโยชน์ของการใช้ทรัพยากร 1) ความหมายและความจำเป็นของทรัพยากร

อยา่ งยงั่ ยืน 2) หลักการและวิธีใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

(ลดการสญู เสยี ทุกประเภท)

3) วิธีการสร้างจิตสำนึกให้คนในชาติรู้คุณค่าของ

ทรัพยากรทีม่ ีอยจู่ ำกัด

4) วางแผนการใช้ทรัพยากร โดยประยุกต์เทคนิคและ

วิธีการใหม่ ๆ ให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมและ

ประเทศชาติและทนั กับสภาพเศรษฐกจิ และสงั คม

มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบและสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสมั พนั ธ์ทางเศรษฐกิจและความ
จำเปน็ ของการร่วมมือกนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก

ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้

๑. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภค 1) ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภค ธนาคาร และ

ธนาคารและรัฐบาล รัฐบาล ที่มีต่อระบบเศรษฐกิจอย่างสังเขป เช่น

การแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ รายได้และรายจ่าย

การออมกับธนาคาร การลงทุน

2) แผนผงั แสดงความสัมพนั ธ์ของหนว่ ยเศรษฐกิจ

3) ภาษแี ละหน่วยงานท่ีจดั เก็บภาษี

4) สิทธิของผู้บริโภคและสิทธิของผู้ใช้แรงงานใน

ประเทศไทย

5) การหารายได้ รายจ่าย การออมการลงทุน ซึ่งแสดง

ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งผผู้ ลติ ผูบ้ รโิ ภค และรัฐบาล

๒. ยกตัวอย่างการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจภายใน การรวมกลุ่มเชิงเศรษฐกิจ เพื่อประสานประโยชน์ใน

ท้องถ่นิ ท้องถิ่น เช่น กลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มแม่บ้าน กองทุน

หมู่บ้าน

สาระที่ ๔ ประวตั ิศาสตร์

มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้

วิธีการทางประวตั ิศาสตร์มาวิเคราะหเ์ หตุการณต์ ่าง ๆ อย่างเปน็ ระบบ

ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้

๑. อธบิ ายความสำคญั ของวิธกี ารทาง 1) ความหมายและความสำคัญของวิธีการทาง

ประวตั ศิ าสตร์ในการศึกษาเรื่องราวทาง ประวัติศาสตร์อยา่ งง่ายๆ ทเี่ หมาะสมกบั นกั เรยี น

ประวตั ศิ าสตรอ์ ย่างง่ายๆ 2) การนำวิธีกรทางประวัติศาสตร์ ไปใช้ศึกษา

เรื่องราวในท้องถิ่น เช่น ความเป็นมาของภูมินาม

ของสถานท่ีในท้องถ่ิน

ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรู้

๒. นำเสนอข้อมูลจากหลักฐานที่หลากหลาย ใน 1) ตัวอย่างหลักฐานที่เหมาะสมกับนักเรียนที่จะ

การทำความเขา้ ใจเรอื่ งราวสำคญั ในอดตี นำมาใช้ในการศกึ ษาเหตกุ ารณส์ ำคัญในประวัตศิ าสตร์

ไทย สมัยรัตนโกสินทร์ เช่น พระราชหัตถเลขาของ

รชั กาลท่ี ๔ หรือรชั กาลที่ ๕ กฎหมายสำคัญ

2) สรปุ ขอ้ มลู ท่ีได้จากหลักฐานทั้งความจรงิ และ

ข้อเท็จจรงิ

3) การนำเสนอข้อมูลที่ได้จากหลั กฐานทาง

ประวตั ิศาสตร์ดว้ ยวิธีการต่าง ๆ เช่น การเลา่ เรื่อง การ

จัดนทิ รรศการ การเขยี นรายงาน

มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพัฒนาการของมนุษย์จากอดีตจนถึงปัจจุบันในด้านความสัมพันธ์และ
การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสำคัญและสามารถวิเคราะห์ผลกระทบท่ี

เกดิ ขนึ้

ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้

๑. อธิบายสภาพสังคม เศรษฐกิจและการเมือง 1) ใช้แผนที่แสดงที่ตั้งและอาณาเขตของประเทศ

ของประเทศเพือ่ นบ้านในปัจจุบัน เพือ่ นบ้าน

2) พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของประเทศเพื่อนบ้าน

โดยสังเขป เพื่อให้เข้าใจสภาพปัจจุบันของประเทศ
เหล่านั้น
3) สภาพสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศ

เพือ่ นบ้านของไทยในปจั จุบัน โดยสงั เขป
4) ตัวอยา่ งความเหมือนและความแตกตา่ ง ระหว่างไทย
กับประเทศเพอ่ื นบา้ น เช่น ภาษา ศาสนา การปกครอง

๒. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตที่มีผลกระทบต่อ 1) ความเป็นมาของกลมุ่ อาเซียน โดยสังเขป

ตนเองในปัจจุบนั 2) สมาชิกของอาเซยี นในปัจจบุ นั

3) ความสัมพันธ์ของกลุ่มอาเซียน ทางเศรษฐกิจและ
สงั คมในปัจจบุ ัน โดยสังเขป

มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ
และธำรงความเปน็ ไทย

ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้

๑. อธบิ ายพฒั นาการของไทยสมยั รัตนโกสินทร์ การสถาปนากรุงรตั นโกสินทร์ โดยสงั เขป
โดยสงั เขป

๒. อธบิ ายปัจจัยทส่ี ง่ เสริมความเจรญิ รงุ่ เรืองทาง 1) ปัจจยั ท่สี ง่ เสริมความเจรญิ รงุ่ เรืองทางเศรษฐกจิ และ

เศรษฐกิจและการปกครองของไทยสมัย การปกครองของไทยในสมัยรัตนโกสินทร์

รตั นโกสนิ ทร์

ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรู้

2) พัฒนาการด้านต่าง ๆ ของไทยสมัยรัตนโกสินทร์

โดยสังเขป ตามช่วงเวลาต่าง ๆ เช่น สมัยรัตนโกสินทร์

ตอนต้น สมัยปฏริ ูปประเทศ และสมัยประชาธิปไตย

๓. ยกตัวอย่างผลงานของบุคคลสำคัญดา้ นตา่ ง ๆ ผลงานของบุคคลสำคญั ทางด้านต่าง ๆ ในสมยั

สมยั รตั นโกสินทร์ รัตนโกสินทร์ เชน่

- พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก

มหาราช

- สมเดจ็ พระบวรราชเจา้ มหาสุรสงิ หนาท

- พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยหู่ วั

๔. อธบิ ายภูมิปญั ญาไทยทสี่ ำคัญสมยั ภมู ปิ ัญญาไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์ เชน่ ศิลปกรรม

รตั นโกสนิ ทรท์ นี่ า่ ภาคภมู ิใจและควรคา่ แก่การ วรรณกรรม

อนุรักษ์ไว้

สาระที่ 5 ภมู ศิ าสตร์

มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผลต่อกัน

ใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูล ตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์

ตลอดจนใชภ้ ูมสิ ารสนเทศอย่างมปี ระสิทธิภาพ

ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้

๑. สืบค้นและอธิบายข้อมูลลักษณะทางกายภาพ เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ (แผนท่ี รูปถ่ายทางอากาศ

ของประเทศไทย ด้วยแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ และ ภาพจากดาวเทียม) ที่แสดงลักษณะทางกายภาพ

ภาพจากดาวเทยี ม ของประเทศไทย

๒. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทาง 1) ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางกายภาพกับ

กายภาพกบั ภัยพบิ ัติในประเทศไทยเพ่ือเตรียมพร้อม ภัยพิบัติของประเทศไทย เช่น อุทกภัย แผ่นดินไหว

รับมอื ภยั พิบัติ วาตภัย สนึ ามิ ภยั แล้ง ดนิ ถลม่ และโคลนถลม่

2) การเตรยี มพรอ้ มรบั มือภัยพิบัต

มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิดการ
สร้างสรรค์วิถีการดำเนินชีวติ มีจิตสำนกึ และมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนา
ที่ยง่ั ยืน

ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้

๑. วิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมทาง 1) สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพกบั ลักษณะกจิ กรรมทาง

กายภาพกับลักษณะกิจกรรมทางเศรษฐกิจและ เศรษฐกิจและสังคม (ประชากร เศรษฐกิจ สังคม

สงั คมในประเทศไทย และวฒั นธรรม) ในประเทศไทย

2) ปฏสิ มั พันธร์ ะหว่างมนุษย์กบั สิง่ แวดลอ้ ม

๒. วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของ 1) การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพของประเทศไทย

ประเทศไทยในอดตี กบั ปจั จุบนั และผลท่ีเกิด ขนึ้ จาก 2) ผลจากการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ที่มีต่อ

การเปล่ยี นแปลง กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม (ประชากร

ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้

เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม) ของประเทศไทย
ในอดตี กบั ปัจจุบนั

๓. นำเสนอตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นผลจากการ 1) ผลจากการรักษาและทำลายทรัพยากรและ
รักษาและทำลายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และ ส่งิ แวดล้อมในประเทศไทย
เสนอแนวทางในการจัดการที่ยง่ั ยืนในประเทศไทย 2) แนวทางในการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดลอ้ ม

ท่ียงั่ ยนื โดยมีจิตสำนึกรูค้ ุณคา่

คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน

ส๑๖๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม กลุม่ สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง

ศึกษาความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ สรุปพุทธประวัติ หรือประวัติศาสดาท่ี
ตนนับถือ การดำเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก/เรื่องเล่าและศาสนิกชนตัวอย่าง พระรัตนตรัย
ไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท ๓ ใพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ การทำความดีของ
บุคคลในประเทศตามหลักศาสนา สวดมนต์แผ่เมตตาและบริหารจิตเจริญปัญญา มีสติที่เป็นพื้นฐานของสมาธิ
ในพระพุทธศาสนา หรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือ เพื่อแก้ปัญหาอบายมุขและ
สิ่งเสพติด ลักษณะสำคัญของศาสนพธิ ีพิธีกรรมของศาสนาอ่ืน ๆ ความรู้เกี่ยวกบั สถานที่ต่าง ๆ ในศาสนสถาน
มมี รรยาทของความเปน็ ศาสนิกชนท่ดี ี ประโยชน์ของการเข้าร่วมในศาสนพธิ ี พิธีกรรมและกจิ กรรมในวันสำคัญ
ทางศาสนา กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของครอบครัวและชุมชน การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมตาม
กาลเวลาและธำรงรักษาวัฒนธรรมอันดีมารยาทไทย วัฒนธรรมที่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มคนในสังคมไทย
ข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน บทบาทหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและรัฐบาล
กิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริม ประชาธิปไตยในท้องถิ่นและประเทศ บทบาท ความสำคัญในการใช้สิทธิออกเสียง
เลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย บทบาทของผู้ผลิตที่มีความรับผิดชอบ บทบาทของผู้บริโภคที่รู้เท่าทัน
การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภค ธนาคารและรัฐบาล การรวมกลุ่มทาง
เศรษฐกิจภายในท้องถิ่น ข้อมูลลักษณะทางกายภาพของประเทศไทย เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ (แผนท่ี
ภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายดาวเทียม) ลักษณะสำคัญทางกายภาพและสังคมของประเทศ ลักษณะทาง
กายภาพกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของประเทศไทย ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติกับ
สิ่งแวดล้อมทางสังคม การเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบันและผลที่เกิดจากการ
เปลีย่ นแปลงนนั้ การจดั ทำแผนใชท้ รพั ยากรในชุมชน

โดยใช้การศึกษาความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ เรียนรู้ ค้นคว้า แผนที่ชนิด
ต่าง ๆ การกระทำที่ส่งผลดีและผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมทางสังคม วัฒนธรรม รวมทั้งผลกระทบจากการที่มนุษย์
เปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมในด้านบวกและด้านลบ อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภค ธนาคารและ
รัฐบาล การกระทำที่มีส่วนช่วยแก้ปัญหาและเสริมสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นโดยใช้กระบวนการปฏิบัติ
กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการทางภูมิศาสตร์ กระบวนการเผชิญสถานการณ์และ
แกป้ ญั หา

เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติ ในการดำเนินชีวิต ทักษะในศตวรรษที่ 21
มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้
รกั ความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ สามารถดำเนนิ ชีวิตอยา่ งเปน็ ปกตสิ ขุ ในสงั คมไทยและสังคมโลก

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั
ส 1.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8, ป.6/9
ส 1.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4
ส 2.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5

ส 2.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3
ส 3.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3
ส 3.2 ป.6/1, ป.6/2
ส 5.1 ป.6/1, ป.6/2
ส 5.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3
รวมท้งั หมด 8 มาตรฐาน ๓1 ตวั ชี้วัด

หนว่ ยการเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรียนร/ู้ วิชา สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6

ปกี ารศกึ ษา 2565 จำนวน 80 ชัว่ โมง

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ จำนวน
ชว่ั โมง

1 ศาสนาตา่ งๆ 3

2 หลักธรรมนำความสุข 9

3 เรยี นรู้สิง่ ทด่ี ี 3

4 ศาสนกิ ชนทดี่ แี ละศาสนพิธีนา่ รู้ 5

5 กจิ กรรมประชาธิปไตย 7

6 กฎหมายนา่ รู้ 5

7 วฒั นธรรมและการเปลย่ี นแปลง 6

8 ข้อมูลขา่ วสารและเหตุการณ์ 2

9 ผู้ผลติ ที่มคี วามรบั ผิดชอบและผู้บรโิ ภคท่รี ู้เท่าทนั 10

10 ความสัมพนั ธ์ทางเศรษฐกิจ 5

11 เครอื่ งมือทางภมู ศิ าสตร์ 4

12 ลกั ษณะทางกายภาพของประเทศไทย 7

13 ลักษณะทางกายภาพกับปรากฏการณท์ างธรรมชาติ 5

14 มนุษยก์ ับสิง่ แวดลอ้ ม 8

15 สอบปลายปี 1

รวม 80

รหสั วชิ า ส๑6๑๐๑ โครงสรา้ งรายวิชา
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 รายวชิ า สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
เวลา ๘๐ ชวั่ โมง

หน่วย ชอื่ หน่วย มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั
ที่ การเรียนรู้ / ตัวชี้วัด (ชัว่ โมง) คะแนน

๑ ศาสนาตา่ งๆ ส ๑.๑ ศาสนาทุกศาสนามีความสำคัญต่อผู้นับถือ ๓ ๔

ป.๖/๑ การศึกษาประวัติของศาสดา และหลักธรรม

ป.๖/๒ คำสอนของศาสนาจะทำให้เกิดความศรัทธา

และสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจริงได้

๒ หลักธรรมนำ ส ๑.๑ พระรัตนตรัยมีความสำคัญซึ่งทุกคนพึงแสดง ๙ ๔

ความสุข ป.๖/๔ ความเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติตาม

ป.๖/๗ หลักไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท 3

ป.๖/๘ ในพระพุทธศาสนา ซึ่งจะส่งผลต่อผู้ปฏิบัติ

ส 1.2 ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง และสามารถ

ป.๖/1 แกป้ ญั หาต่างๆ ได้อยา่ งถกู ต้อง

๓ เรยี นรสู้ ิ่งทด่ี ี ส ๑.๑ พุทธศาสนิกชนทุกคนควรนำคุณธรรมอันเป็น ๓ ๔

ป.๖/๓ แบบอย่างของพุทธสาวก ชาดก ศาสนิกชน

ป.๖/๕ ตวั อยา่ งไปประยุกต์ปฏบิ ัติ และพัฒนาจิตตาม

ป.๖/๖ แนวทางของพระพทุ ธศาสนา

๔ ศาสนิกชนทดี่ ี ส ๑.๑ ศาสนพิธี พิธีกรรมของศาสนาต่างก็มีลักษณะ ๕ ๔

และ ป.๖/๙ สำคญั ศาสนิกชนพงึ ปฏบิ ัติตนอย่างเหมาะสม

ศาสนพิธีนา่ รู้ ส ๑.๒ เมื่อต้องเข้าร่วมพิธีอย่างมีมรรยาท ชาวพุทธ

ป.๖/๑ ทุกคนต้องแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เข้าร่วม

ป.๖/๒ ในศาสนพิธี พิธีกรรมและกจิ กรรมในวันสำคัญ

ป.๖/๓ ทางศาสนาตามที่กำหนด และปฏิบัติตนได้

ป.๖/๔ ถูกตอ้ ง

๕ กิจกรรม ส ๒.๒ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและรัฐบาล ๗ ๕

ประชาธปิ ไตย ป.๖/๑ ต่างก็มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการบริหาร

ป.๖/๒ ราชการแผ่นดินและการบริหารส่วนท้องถ่ิน

ป.๖/๓ ประชาชนทุกคนควรมีส่วนร่วมในกิจกรรม

ต่างๆ ที่ส่งเสริมประชาชนไทยในท้องถิ่นและ

ประเทศ ใช้สิทธิเลือกตั้งตามระบอบ

ประชาธิปไตย ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคง

การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย

หน่วย ชือ่ หน่วย มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั
ท่ี การเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน

๖ กฎหมายน่ารู้ ส ๒.๑ กฎหมายเป็นขอ้ บังคับให้สมาชกิ ในสังคมปฏิบัติ ๕ ๔

ป.๖/๑ หรือละเว้นการปฏิบัติ การปฏิบัติตนตาม

บทบัญญัติของกฎหมาย ย่อมทำให้สามารถอยู่

รว่ มกนั ได้

๗ วัฒนธรรม ส ๒.๑ วัฒนธรรมเป็นแบบแผนในการดำเนินชีวิตของ ๖ ๕

และการ ป.๖/๒ คนในสังคม วัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่นมีความ

เปลย่ี นแปลง ป.๖/๓ แตกต่างกันและมีการเปลี่ยนแปลงไปตาม

ป.๖/๔ กาลเวลา จึงควรธำรงรักษาวัฒนธรรมอันดีงาม

และแสดงออกถึงมรรยาทไทยไดอ้ ย่างเหมาะสม

๘ ข้อมลู ขา่ วสาร ส ๒.๑ การรับรู้ข่าวสารและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดข้ึน ๒ ๕

และเหตกุ ารณ์ ป.๖/๕ อย่างถูกต้องเหมาะสมนั้น จะต้องมีหลักในการ

เลอื กรับจงึ จะเกดิ ประโยชน์

๙ ผู้ผลิตท่มี ี ส ๓.๑ ผผู้ ลติ ยอ่ มตอ้ งมีบทบาทหน้าท่ีความรับผิดชอบ ๑๐ ๖

ความ ป.๖/๑ ในการผลิต ผู้บริโภคต้องรู้บทบาทหน้าที่ของ

รบั ผดิ ชอบ ป.๖/๒ ตนเอง และบรโิ ภคอย่างรเู้ ทา่ ทนั ทั้งนี้ท้ังผู้ผลิต

และผบู้ รโิ ภคท่ี ป.๖/๓ และผู้บริโภคจะต้องใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

รเู้ ทา่ ทนั และยงั่ ยนื

๑๐ ความสมั พนั ธ์ ส ๓.๒ หน่วยเศรษฐกิจมีความสัมพันธ์กันทั้งในระดับ ๕ ๕

ทางเศรษฐกจิ ป.๖/๑ หน่วยครัวเรือน หน่วยธุรกิจ หน่วยรัฐบาล

ป.๖/๒ นอกจากนั้นผู้ผลิต ผู้บริโภค ธนาคาร และ

รัฐบาลยังมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งการรวมกลุ่ม

ทางเศรษฐกิจภายในท้องถิ่นมีผลต่อการพัฒนา

ทอ้ งถ่ิน

๑๑ เครอ่ื งมอื ทาง ส ๕.๑ เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ประกอบด้วย แผนท่ี ๔ ๖
ภูมิศาสตร์ ป.๖/๑ ภาพถ่ายชนิดต่างๆ มีความสำคัญต่อการศึกษา

และค้นคว้าลักษณะสำคัญและสังคมของ
ประเทศ

๑๒ ลกั ษณะทาง ส ๕.๑ ลักษณะทางกายภาพมีความสัมพันธ์กับ ๗ ๖
กายภาพของ ป.๖/๑ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ การศึกษาลักษณะ
ประเทศไทย ป.๖/๒ ทางกายภาพและภูมิลักษณ์ที่มีอิทธิพลต่อภูมิ

สงั คมของประเทศไทย สามารถหาข้อมูลได้จาก
เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์

หน่วย ชื่อหน่วย มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก
ท่ี การเรยี นรู้ / ตวั ชี้วัด (ช่วั โมง) คะแนน

๑๓ ลักษณะทาง ส ๕.๑ การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทาง ๕ ๖
ป.๖/๒ กายภาพกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ทำให้
กายภาพกับ ๘ ๖
เขา้ ใจการเกดิ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีผล
ปรากฏการณ์ ต่อการดำรงชีวิต และสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ๗๙ ๗๐
อยา่ งปลอดภัย ๑ ๓๐
ทางธรรมชาติ ๘๐ ๑๐๐
ส ๕.๒ สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติมีความสัมพันธ์กับ
๑๔ มนุษยก์ ับ ป.๖/๑ สิ่งแวดล้อมทางสังคม การเปลี่ยนแปลงสภาพ
ส่ิงแวดลอ้ ม ป.๖/๒ ธรรมชาติในประเทศไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน
ป.๖/๓ ย่อมทำให้เกิดผลต่อประชากร เศรษฐกิจ สังคม

อาชีพและวัฒนธรรม จึงควรมีแผนใช้ทรัพยากร
อย่างเหมาะสม

รวมระหว่างปี

ปลายปี

รวม

กำหนดการจัดการเรียนรู้รายสัปดาห์

กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รหัสวิชา ส61101 สงั คมศึกษา

ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6

ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 จำนวน 20 สปั ดาห์

สปั ดาหท์ ี่ สาระการเรยี นรู้ (เนื้อหา) จำนวน หมายเหตุ
ชั่วโมง

สัปดาหท์ ี่ 1. ศาสนาตา่ งๆ 3

1-2

2. หลกั ธรรมนำความสขุ 9

3. เรยี นร้สู ่ิงท่ีดี 3

4. ศาสนกิ ชนทีด่ ีและศาสนพิธนี า่ รู้ 5

5. กิจกรรมประชาธิปไตย 7

6. กฎหมายนา่ รู้ 5

7. วฒั นธรรมและการเปลีย่ นแปลง 6

8. ข้อมลู ข่าวสารและเหตุการณ์ 2

รวม 40

แผนการจดั การเรียนรู้

แผนการจัดการเรยี นรู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ปีการศกึ ษา 2565
ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 3 ช่วั โมง
หน่วยการเรียนรู้ ท่ี 1 เรือ่ ง ศาสนาต่าง ๆ เวลา 1 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 ประวตั แิ ละความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ัด
มาตรฐาน ส 1.1 รแู้ ละเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนา

ทีต่ นนับถอื และศาสนาอืน่ มศี รทั ธาทถ่ี ูกตอ้ ง ยดึ มั่น และปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรม เพ่ืออยรู่ ว่ มกนั อย่างสนั ตสิ ขุ
ตัวชี้วัด ป.6/1 วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติหรือ

ความสำคัญของศาสนาทต่ี นนับถอื

2. สาระสำคญั
พระพุทธศาสนามีความสำคัญในฐานะที่เป็นศาสนาประจำชาติของไทย แสดงถึงเอกลักษณ์ของ

ชาตไิ ทย เป็นรากฐานและมรดกของวฒั นธรรมไทย เปน็ ศูนย์รวมจิตใจและเปน็ หลักในการพฒั นาชาตไิ ทย

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 วิเคราะห์ความสำคัญของศาสนาต่าง ๆ หรือศาสนาที่ตนนับถือ ในฐานะที่เป็นมรดกทาง

วฒั นธรรมด้านรปู ธรรมและดา้ นจติ ใจได้ (K)
3.2 ใช้กระบวนการกลุ่มเพื่อช่วยกันวิเคราะห์ภาพเกี่ยวกับศาสนสถาน ศาสนวัตถุและกิจกรรมท่ี

เก่ยี วขอ้ งกบั ศาสนาต่าง ๆ (P)
3.3 มีความสนใจใฝ่รใู้ นการเรียน (A)

4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
พระพุทธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติ เช่น เป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย เป็นรากฐานและ

มรดกทางวฒั นธรรมไทย เป็นศูนย์รวมจิตใจและเปน็ หลกั ในการพัฒนาชาติไทย

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
5.1 ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการวิเคราะห์
2) ทักษะการนำความรู้ไปใช้
5.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
6.1 ซอ่ื สตั ย์สจุ รติ
6.2 มีวนิ ัย
6.3 ใฝเ่ รียนรู้

7. กิจกรรมการเรียนรู้
วิธีสอนโดยการจดั การเรยี นรูแ้ บบรว่ มมือ : เทคนิคการเรยี นร่วมกนั

นกั เรยี นสวดมนต์บชู าพระรัตนตรัยและทำสมาธิกอ่ นเรียน
นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ประวัติและความสำคัญของ
พระพทุ ธศาสนา
7.1 ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรียน
7.1.1 ครูให้นักเรียนร้องเพลง พุทธศาสนา แล้วให้นักเรียนวเิ คราะห์ เนื้อเพลงว่ามีข้อความ
สำคญั อย่างไรบา้ ง
7.1.2 ครอู ธิบายเชอ่ื มโยงให้นกั เรยี นเห็นถึงความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา
7.1.3 นกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ
➢ คำถามกระตนุ้ ความคิด
นักเรียนคิดว่า พระพุทธศาสนามีความสำคัญในการหล่อหลอมสังคมไทยให้มีเอกลักษณ์
โดดเด่นในเรื่องใด (พิธีกรรมต่าง ๆ ทั้งพระราชพิธี รัฐพิธี กิจกรรมทางสังคมจะต้องมีพิธีกรรมทาง
พระพุทธศาสนาแทรกอย่เู สมอ)
7.2 ขั้นสอน
7.2.1 ครแู บง่ นกั เรียนเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เก่ง ปานกลาง
ค่อนข้างเก่ง ปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน ครูอธิบายให้นักเรียนเห็นความสำคัญของการทำงาน
รว่ มกนั ปฏิบตั ติ ามกติกาของการเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื เช่น

1) มีการชว่ ยเหลอื กนั
2) ทกุ คนต้องมีความรับผิดชอบในภาระหน้าท่ีของตน
3) สมาชกิ ทกุ คนมบี ทบาทเท่าเทยี มกัน
4) สมาชิกทกุ คนต้องมปี ฏิสัมพนั ธ์ทด่ี ตี อ่ กันอย่างต่อเนอ่ื ง
ครูสอนให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มมีความกระตือรือร้นและตั้งใจทำงานร่วมกันให้ประสบ
ความสำเร็จอย่างมีคุณภาพ
7.2.2 ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมมอื กันศกึ ษาความรเู้ รื่อง ความสำคญั ของพระพุทธศาสนา
จากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม และจากใบความรู้เรื่อง ความสำคัญของพระพุทธศาสนา
แล้วอภปิ รายรว่ มกนั ในประเด็นตอ่ ไปน้ี
1) พระพทุ ธศาสนาเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย
2) พระพทุ ธศาสนาเปน็ รากฐานและมรดกทางวัฒนธรรมไทย
3) พระพทุ ธศาสนาเป็นศนู ยร์ วมจติ ใจ
4) พระพทุ ธศาสนาเปน็ หลักในการพฒั นาชาติไทย
แลว้ บันทึกความรูท้ ี่ได้จากการศึกษาลงในสมุด
7.2.3 ครูแจกใบงานเรื่อง ความสำคัญของพระพุทธศาสนา ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ
1 ชดุ แล้วใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ แบง่ หน้าที่ให้สมาชิกแต่ละคน ดงั น้ี
- สมาชกิ คนที่ 1 อา่ นคำส่ัง แยกแยะให้ชดั เจน
- สมาชิกคนที่ 2 ฟงั ข้นั ตอน รวบรวมขอ้ มูล หาแนวทางเสนอแนะการตอบคำถาม
- สมาชกิ คนท่ี 3 ตอบคำถาม
- สมาชิกคนที่ 4 ตรวจสอบความถกู ต้อง

7.2.4 สมาชิกแตล่ ะคนในกล่มุ หมนุ เวียนเปล่ยี นหนา้ ท่ีกนั ในการตอบ คำถามในข้อต่อไป
จนเสรจ็ ครบทุกข้อ เสรจ็ แลว้ รวบรวมใบงานส่งครู

7.2.5 ครูตรวจคำตอบด้วยตนเอง หรือให้แต่ละกลุ่มผลัดกันตรวจคำตอบ โดยมีแนวเฉลย
คำตอบให้

7.2.6 ครูประกาศผลกลุ่มที่ไดค้ ะแนนสงู สดุ
7.2.7 นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
คำถามกระต้นุ ความคิด
➢ ทำไมจึงกล่าวว่า พระพุทธศาสนาเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธ (วัดเป็นสถานที่ประกอบ
พิธีกรรม หรือศาสนกิจในวันเทศกาลหรือประเพณีต่าง ๆ ของท้องถิ่น พระสงฆ์เป็นผู้มี
บทบาทในการเป็นผ้นู ำทางจติ ใจของประชาชน)
7.3 ขัน้ สรปุ
7.3.1 ครูและนกั เรยี นชว่ ยกันสรปุ ความสำคัญของพระพุทธศาสนา
7.3.2 นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด
คำถามกระตนุ้ ความคดิ
➢ นักเรียนคิดว่า ถ้าคนไทยทุกคนยดึ มน่ั ในพระพุทธศาสนาจะส่งผลดตี ่อประเทศชาติอย่างไร
(สามารถนำคุณธรรมของศาสนาไปปฏิบัตเิ พื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตมผี ลตอ่ การอยูร่ ว่ มกันอย่างสงบสุข
และการพัฒนาประเทศอยา่ งราบรื่น)

8. สื่อการเรียนรู้
8.1 หนังสอื เรยี น พระพุทธศาสนา ป.6
8.2 หนงั สือคน้ ควา้ เพ่มิ เตมิ
(1) เอกรินทร์ ส่มี หาศาล และคณะ. 2551. แม่บทมาตรฐาน หลกั สตู รแกนกลางฯ
พระพทุ ธศาสนา ป.6. นนทบรุ ี : ไทยร่มเกลา้ .
(2) บุญมี แท่นแก้ว. 2546. ประวตั ิศาสนาตา่ งๆ และปรัชญาธรรม. กรงุ เทพมหานคร :
โอเดียนสโตร.์
8.3 เพลง พทุ ธศาสนา
8.4 ใบความรู้ เรือ่ ง ความสำคัญของพระพุทธศาสนา
8.5 ใบงานเรื่อง ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา

9. การวดั และประเมนิ ผล

วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์

ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบกอ่ นเรียน (ประเมินตามสภาพจริง)
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจสมดุ บันทกึ ใบงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรม แบบบันทกึ การอ่าน
การทำงานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรม
การทำงานรายบุคคล

วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
การทำงานกล่มุ
สังเกตความซ่ือสตั ย์สุจริต
มีวนิ ยั และใฝเ่ รียนรู้ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ
อันพงึ ประสงค์

เพลง พทุ ธศาสนา

เน้ือร้อง : จรญู พร ภาเรือง
ทำนอง : เพลงถิน่ แหลมทอง
พทุ ธศาสนา นำพาวิถีไทย
พทุ ธศาสนา ศนู ยร์ วมจิตใจ
เป็นเอกลักษณ์ หม่ชู นคนไทย
ชน่ื จติ อนุ่ ใจ ..... (ตีกลอง) ..... ร้องรำ (ทำนองเสียงกลอง ..... ตุม่ -ตุ้ม-ตุม่ -ตมุ่ -ตุ้ม-ตุ่ม ...)
พุทธศาสนา นำพาวิถีไทย
พทุ ธศาสนา ศูนย์รวมจิตใจ
เป็นเอกลกั ษณ์ หมชู่ นคนไทย
ชื่นจิตอุ่นใจ ..... (ตฉี ่ิง) ..... รอ้ งรำ (ทำนองเสียงฉ่งิ ..... ฉิง่ -ฉบั -ฉง่ิ -ฉับ-ฉิ่ง-ฉบั -ฉ่ิง ...)
พทุ ธศาสนา นำพาวถิ ไี ทย
พุทธศาสนา ศูนยร์ วมจติ ใจ
เปน็ เอกลักษณ์ หมชู่ นคนไทย
ชืน่ จติ อ่นุ ใจ ..... (เป่าป่)ี ..... ร้องรำ (ทำนองเสียงปี่ ..... อี่-อี-อ-ี อี ...)
พทุ ธศาสนา นำพาวถิ ีไทย
พทุ ธศาสนา ศูนยร์ วมจิตใจ
เปน็ เอกลักษณ์ หมู่ชนคนไทย
ช่ืนจติ อนุ่ ใจ ..... (สซี อ) ..... ร้องรำ (ทำนองเสยี งซอ ..... อู-อ่-ี อู-อ่ี-อู-อ่ี-อู ...)

ใบความรเู้ ร่อื ง ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา

พระพุทธศาสนาในฐานะเปน็ ศาสนาประจำชาติ
พระพุทธศาสนาได้เจริญควบคู่มากับชาติไทยตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน กล่าวได้ว่า
พระพุทธศาสนาเปน็ ศาสนาประจำชาตไิ ทย ดว้ ยเหตผุ ล ดังนี้
1. ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์และศิลาจารึกพบว่า เมื่อเริ่มก่อตั้งอาณาจักรสุโขทัยทั้ง
พระมหากษัตริย์และประชาชนก็นบั ถือมาตั้งแต่เมื่อใดไมม่ ีหลักฐานปรากฏชดั เจน
2. พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นต้นมาทรงนับถือพระพุทธศาสนา
แมพ้ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวรัชกาลปัจจบุ นั ก็ทรงนบั ถือพระพุทธศาสนาและได้ทรงผนวชด้วย
3. วัฒนธรรมความเป็นอยู่ วิถีการดำเนินชีวิต ขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี ศิลปกรรม และ
วรรณกรรมไทย ลว้ นองิ พระพุทธศาสนาหรอื เกีย่ วข้องกับพระพทุ ธศาสนา
พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย มีความสำคัญตอ่ สงั คมไทยหลายประการ ดงั น้ี
1. พระพทุ ธศาสนาสอนใหม้ ีจุดมุ่งหมายสงู สดุ ของชวี ิต คือ ความหลดุ พ้นจากกเิ ลสและค ว า ม ท ุ ก ข์
ท้งั ปวง จดุ ม่งุ หมายสูงสุดน้ีจะบรรลุไดด้ ว้ ยการปฏบิ ัติทางจติ ใจอยา่ งยิ่งยวด แมจ้ ะไมบ่ รรลุจดุ มุ่งหมายสูงสุด
ในทนั ที แตก่ ารปฏบิ ัติเพอื่ ใหใ้ กลจ้ ุดหมายเทา่ ใดกเ็ ป็นความดีเท่านน้ั
2. พระพุทธศาสนาสอนให้เป็นคนมีเหตุผล คือ ไม่เชื่ออย่างงมงาย เช่น ไม่ให้เชื่อฟังตามๆ กันมา
ไม่ให้เชื่อ โดยนึกเดาเอาเอง ไม่ให้เช่ือโดยอ้างตำรา แต่ให้ไตร่ตรองดว้ ยตนเองตามหลักเหตุผลแล้วจงึ เชอ่ื
ความเชอื่ นี้ สอดคลอ้ งกับหลักวิทยาศาสตร์
3. พระพุทธศาสนาส่งเสริมการศึกษา ก่อนมีพระราชบัญญัติประถมศึกษาแห่งชาติการศึกษาของ
ไทยจะจดั อยู่ในวงั และในวัด การศกึ ษาในวดั จะมีพระเป็นผสู้ อน ส่วนการศกึ ษาในวงั ก็มีพระและราชบัณฑิต
(รับการศึกษามาจากวัด) เป็นผู้สอน ต่อมาแม้จะโอนให้รัฐเป็นผู้จัดการแต่ก็ยังจะมีบทบาทในการส่งเสริม
การศกึ ษาอยู่
4. พระพุทธศาสนามีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของคนไทย การดำเนินชีวิตของคนไทยในช่วงของชีวิตจะ
เก่ยี วข้องกบั พระพุทธศาสนาโดยตลอด ทำให้เกิดพิธีกรรมตา่ ง ๆ หลายอย่าง เช่น พิธีทำบุญวนั เกดิ พธิ ที ำบุญ
ข้นึ บา้ นใหม่ พิธีแต่งงาน พธิ ีทำบุญงานศพ เป็นตน้
5. พระพุทธศาสนาสร้างความสงบสุขในสังคม โดยสอนหลักปฏิบัติต่อกันระหว่างบิดามารดากับ
บุตร สามกี ับภรรยา ครูกับศษิ ย์ เพ่ือนกบั เพ่ือน ผ้บู งั คบั บัญชากบั ผใู้ ตบ้ งั คบั บัญชา นกั บวชกบั ประชาชน ถ้าคน
ในสังคมปฏบิ ัตติ ามหลักปฏิบัตดิ งั กลา่ ว สังคมจะมแี ต่ความสงบสขุ และความเจรญิ

ใบความรู้เร่อื ง ความสำคัญของพระพุทธศาสนา (ต่อ)

1. พระพุทธศาสนาสร้างเสริมเอกลักษณ์ความเป็นไทย ลักษณะเฉพาะของ
คนไทย เช่น ความยิ้มแย้มแจ่มใส ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความมีเมตตากรุณา
การแสดงความเคารพ มารยาททางสังคม การพูดจาสุภาพ ถูกกาลเทศะ
เป็นตน้ สว่ นใหญ่ได้รบั อทิ ธิพลมาจากคำสอนในพระพทุ ธศาสนา
2. พระพุทธศาสนาส่งเสริมงานด้านศิลปกรรม ศิลปกรรมของไทย ได้แก่
จติ รกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม ล้วนเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา
ท้งั สิ้น
3. พระพุทธศาสนาเป็นที่มาของวัฒนธรรมและวรรณคดีไทย และวรรณคดี
ไ ท ย ส ่ ว น ใ ห ญ ่ ม ี ก ำ เ น ิ ด ม า จ า ก พ ร ะ พ ุ ท ธ ศ า ส น า ห ร ื อ ม ี ค ว า ม เ ก ี ่ ย ว ข ้ อ ง กั บ
พระพุทธศาสนา เช่น ไตรภูมิพระร่วง มหาชาติคำหลวง พระมาลัย
คำหลวง เป็นต้น

เมื่อพระพุทธศาสนามีความสำคัญต่อประเทศไทยและวิถีชีวิตของ
คนไทยเช่นนี้ จึงสมควรที่จะศึกษา และทำความเข้าใจกับหลักคำสอนใน
พระพุทธศาสนาให้ถ่องแท้ ตลอดจนช่วยกันเชิดชู ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
ในฐานะทเี่ ปน็ ศาสนาประจำชาติ

ชอ่ื -สกลุ ........................................................................................ชั้น..............เลขที.่ ............

ใบงานเรอื่ ง ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา

ตอนท่ี 1
คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนวิเคราะหภ์ าพ แลว้ เขยี นอธบิ ายเชอ่ื มโยงถงึ ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา

1.

2.

3.

ตอนที่ 2
คำชแ้ี จง ให้นักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี

1. เพราะเหตใุ ด พระพุทธศาสนาจึงเป็นศาสนาประจำชาติไทย

2. เอกลกั ษณข์ องคนไทย ทเ่ี กิดจากพระพทุ ธศาสนามอี ะไรบา้ ง

3. ประเพณีใดบา้ ง ท่ีได้รบั อทิ ธพิ ลมาจากพระพทุ ธศาสนา

4. เพราะเหตใุ ด จงึ กลา่ ววา่ “พระพุทธศาสนาเปน็ ศนู ย์รวมจติ ใจของ
ชาวไทย”

5. หลกั ธรรมคำสอนทางพระพทุ ธศาสนา มคี วามเกย่ี วขอ้ งอย่างไรกับ
การพฒั นาชาตไิ ทย

บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

สรปุ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้
นักเรียนจำนวน......................คน
ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ ........................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ......................
ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู.้ ....................คน คิดเปน็ ร้อยละ......................

แนวทางการแกไ้ ขนักเรยี นทไ่ี มผ่ า่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ (K)
.......................................................................................................................... ....................................................
............................................................................................................................. .................................................
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
................................................................................................................................... ...........................................
..............................................................................................................................................................................
ดา้ นคุณลกั ษณะ (A)
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
ปญั หาและแนวทางการแกไ้ ข
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................................. .
ขอ้ เสนอแนะ
...................................................................................................................... ........................................................
............................................................................................................................. .................................................
....................................................................................................................................................... .......................

ลงช่อื ครผู ้สู อน
(นางสาวศริ เิ พ็ญ หวานวาจา)

ความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของผูบ้ ริหารสถานศึกษา
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................................... ...

ลงชอื่
(นายสมพงษ์ ลาสอน)

ผู้อำนวยการโรงเรยี นวัดโพธิ์(ผกั ไหว่ ทิ ยาคาร)

แผนการจัดการเรยี นรู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ปีการศกึ ษา 2565
ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 3 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ ท่ี 1 เร่อื ง ศาสนาต่าง ๆ เวลา 2 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 พทุ ธประวัติ

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้วี ดั
มาตรฐาน ส 1.1 รแู้ ละเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนา

ที่ตนนับถือและศาสนาอน่ื มีศรัทธาทถี่ กู ต้อง ยึดม่นั และปฏิบัตติ ามหลกั ธรรม เพือ่ อย่รู ว่ มกนั อยา่ งสันติสขุ
ตัวชี้วัด ป.6/2 สรุปพุทธประวัติตั้งแต่ปลงอายุสังขารจนถึงสังเวชนียสถาน หรือประวัติศาสดาท่ี

ตนนบั ถอื ตามทก่ี ำหนด

2. สาระสำคัญ
การศึกษาพุทธประวัติตั้งแต่ปลงอายุสังขารจนถึงสังเวชนียสถาน ย่อมทำให้ได้ข้อคิดและคุณธรรม

อนั เปน็ แบบอย่างไปประยุกตป์ ฏบิ ตั ิในการดำเนนิ ชวี ิต

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1 วเิ คราะห์ข้อคดิ และคุณธรรมที่ไดจ้ ากการศึกษาพทุ ธประวัติได้ (K)
3.2 เขยี นสรปุ พุทธประวัติ ตัง้ แต่ปลงอายสุ งั ขารจนถงึ สงั เวชนียสถานได้ (P)
3.3 มีความสนใจใฝ่รใู้ นการเรียน (A)

4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
สรุปพุทธประวตั ิ (ทบทวน)
- ปลงอายุสงั ขาร
- ปัจฉมิ สาวก
- ปรนิ ิพพาน
- การถวายพระเพลงิ
- แจกพระบรมสารรี ิกธาตุ
- สงั เวชนยี สถาน 4

5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
5.1 ความสามารถในการคดิ
1) ทกั ษะการวเิ คราะห์
2) การสรา้ งทกั ษะความรู้
5.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 6.2 มีวินยั 6.3 ใฝ่เรียนรู้
6.1 ซ่อื สตั ย์สุจริต

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
วิธสี อนแบบโมเดลซปิ ปา (CIPPA Model)

นักเรยี นสวดมนต์บชู าพระรตั นตรยั และทำสมาธิก่อนเรยี น
7.1 ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน

7.1.1 ครูให้นักเรียนกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 1)
ส่งตัวแทนออกไปเล่าเรื่องพุทธประวัติ ที่หน้าชั้นเรียนเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิม
โดยสรปุ ประเด็นคนละ 1 หวั ขอ้ ตอ่ กัน แบบเล่าเร่อื งรอบวง ดังนี้

1) กำเนิดเจ้าชายสทิ ธัตถะ
2) เหตกุ ารณห์ ลงั วันประสตู ิ
3) ชวี ติ ในวัยเยาว์และการศกึ ษา
4) อภิเษกสมรส
5) เสด็จชมพระนคร
6) การออกผนวช
7) การศึกษาหลังจากออกผนวช
8) บำเพ็ญทุกรกริ ิยา
9) ทรงรบั ข้าวมธุปายาสของนางสุชาดา
10) ตรัสรู้และประกาศธรรม
7.1.2 นักเรียนซง่ึ เป็นผฟู้ งั ชว่ ยกันเสรมิ เพิม่ เตมิ โดยมีครตู รวจสอบความถกู ต้อง
7.1.3 นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
➢ คำถามกระตุ้นความคิด
นักเรียนมีความประทับใจในพทุ ธประวตั ิตอนใด อธบิ ายเหตผุ ล
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)
7.2 ขน้ั สอน
7.2.1 การแสวงหาความรู้ใหม่
1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมมือกันศึกษาความรู้เกี่ยวกับพุทธประวัติ จากหนังสือเรียน และ
หนังสือ คน้ ควา้ เพ่ิมเตมิ ในตอนตอ่ ไปนี้
1) ทรงปลงพระชนมายุสังขาร
2) ปัจฉมิ สาวก
3) การถวายพระเพลิง
4) การแบ่งพระบรมสารีรกิ ธาตุ
5) สังเวชนยี สถาน
7.2.2 ศึกษาทำความเข้าใจขอ้ มลู /ความรูใ้ หม่ และเชือ่ มโยงความรใู้ หมก่ ับความรู้เดมิ
1. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม แล้วจับคู่กันทำ
ใบงานเรือ่ ง พุทธประวัติ
2. นกั เรียนตอบคำถามกระต้นุ ความคิด
➢ คำถามกระตนุ้ ความคดิ
การทพี่ ระพทุ ธเจา้ ทรงปลงพระชนมายสุ งั ขารทำใหไ้ ดข้ ้อคดิ สำคัญอยา่ งไร

(ทุกส่งิ ทุกอยา่ งเม่ือเกิดแล้วยอ่ มดับไปพระองค์ทรงกระทำทกุ สิ่งสมบูรณ์แลว้ สังขารทงั้ หลายมคี วาม
เสอ่ื มเปน็ ธรรมดา ฯลฯ หรอื พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อยูใ่ นดุลยพินจิ ของครูผสู้ อน)

ชัว่ โมงที่ 2

7.2.3 แลกเปล่ยี นความรคู้ วามเข้าใจกบั กล่มุ
1. สมาชิกแตล่ ะค่ผู ลัดกันอธบิ ายผลงานในใบงานใหส้ มาชกิ อีกคู่หนึง่ ภายใน

กลมุ่ ฟงั
2. ครแู ละนักเรยี นช่วยกนั เฉลยคำตอบในใบงาน

7.3 ข้ันสรปุ
7.3.1 สมาชิกแต่ละกลุ่มนำความรู้ท่ีได้จากการศึกษาพุทธประวัติตัง้ แต่ทรงปลงพระชนมายุ

สังขารจนถึงสงั เวชนียสถานมาเรียบเรียง เป็นเรียงความ เรอ่ื ง พุทธประวตั ิ
7.3.2 นักเรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคิด

➢ คำถามกระตุ้นความคดิ
นกั เรยี นได้ขอ้ คดิ สำคัญจากการศกึ ษาพุทธประวัตอิ ยา่ งไรบ้าง
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยให้อยใู่ นดุลยพินจิ ของครูผ้สู อน)
7.3.3 ครูคดั เลือกผลงานทอ่ี ยใู่ นเกณฑ์ดแี ล้วใหเ้ จ้าของผลงานออกมานำเสนอผลงานที่หนา้

ชั้นเรียน
7.3.4 สมาชกิ กลุ่มอ่ืนนำผลงานของตนไปติดป้ายนิเทศหน้าช้ันเรียน
ทำแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1

8. สื่อการเรียนรู้
8.1 หนงั สอื เรยี น พระพุทธศาสนา ป.6
8.2 หนังสอื ค้นคว้าเพ่ิมเตมิ
(1) เอกรนิ ทร์ สี่มหาศาล และคณะ. 2551. แมบ่ ทมาตรฐาน หลกั สูตรแกนกลางฯ
พระพทุ ธศาสนา ป.6. นนทบุรี : ไทยรม่ เกล้า.
(2) บญุ มี แท่นแกว้ . 2546. ประวตั ิศาสนาต่างๆ และปรชั ญาธรรม. กรงุ เทพมหานคร :
โอเดยี นสโตร์.
8.3 ใบงานเรือ่ ง พทุ ธประวัติ

9. การวดั และประเมนิ ผล

วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงาน ใบงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
การทำงานกลมุ่
สังเกตความซื่อสัตยส์ ุจรติ มวี ินัย ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
และใฝเ่ รยี นรู้ แบบประเมินคณุ ลักษณะ
อันพึงประสงค์
ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 แบบทดสอบหลังเรียน
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1

วิธีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจรายงาน เรือ่ ง ประวตั แิ ละ แบบประเมินรายงาน เร่อื ง
ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา ประวัตแิ ละความสำคัญของ

พระพุทธศาสนา

ใบงานเรอ่ื ง พทุ ธประวตั ิ

ตอนท่ี 1
คำชแ้ี จง ให้นักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี

1. เพราะเหตใุ ด พระพทุ ธเจา้ ทรงปลงพระชนมายุสงั ขาร

2. สุภทั ทะมคี วามสำคญั อย่างไร ในพทุ ธประวตั ิ

3. นักเรียนมวี ธิ กี ารปฏบิ ตั ติ ามปัจฉมิ โอวาทอยา่ งไร

4. สงั เวชนยี สถานอยู่ที่ใดบา้ ง และแตล่ ะทม่ี คี วามสำคญั อยา่ งไร

5. นกั เรยี นคดิ ว่า การศกึ ษาพทุ ธประวตั มิ คี วามสำคญั ตอ่ ชาวพุทธอย่างไร

ช่ือ-สกลุ ........................................................................................ช้ัน..............เลขท.ี่ ............

ตอนท่ี 2
คำชแ้ี จง ให้นักเรียนอธิบายภาพตามประเดน็ ทีก่ ำหนด

1 คำบรรยายภาพ
.

ข้อคิดจากภาพ

2 คำบรรยายภาพ
.

ขอ้ คดิ จากภาพ

3 คำบรรยายภาพ
.

ข้อคิดจากภาพ

4 คำบรรยายภาพ
.

ข้อคดิ จากภาพ

5 คำบรรยายภาพ
.

ขอ้ คดิ จากภาพ

6 คำบรรยายภาพ
.

ข้อคิดจากภาพ

คำช้แี จง : แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

ให้ผู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกบั
ระดับคะแนน

ชอ่ื – สกุล ความรว่ มมือกัน การแสดง การรับฟงั ความ ความต้งั ใจ การแกไ้ ขปญั หา/ รวม 15 คะแนนน
ของผู้รับการประเมิน ทำงาน หรอื ปรบั ปรุง
ท่ี ทำกิจกรรม ความคดิ เหน็ คดิ เหน็ ผลงานกลุ่ม

321321321321321

1 ด.ช.เมธาสทิ ธ์ิ อมั พวานนท์

2 ด.ช.เมธานนท์ อมั พวานนท์

3 ด.ช.วชิ ชาฤทธิ์ ศิรพิ ฤกษ์

4 ด.ช.ภัทรกร มอี นันต์

5 ด.ช.ณัฎฐชยั งามเลศิ

6 ด.ช.ตรัยรัตย์ พ่ึงประยรู

7 ด.ช.วุฒิชาติ นุชสมบตั ิ

8 ด.ช.ณัฐพล จนี ไทย

9 ด.ช.ปาพจน์ เช้ือจารย์ชิน

10 ด.ช.เพชรยุทธ์ กลีบยีโ่ ถ

11 ด.ช.ชยั วัฒน์ เลี้ยงสุขสันต์

12 ด.ช.ธรรมนาถ พูลสอน

13 ด.ช.ณัฐพล สะใบบาง

14 ด.ช.ภูวดล คำผล

15 ด.ช.ธนพล แจ่มแจ้ง

16 ด.ช.วายุ มงคลพร

17 ด.ช.ธนทรพั ย์ ชทู อง

18 ด.ช.ธนากรณ์ พวงอุบล

19 ด.ญ.นันทภทั ร สงิ หเ์ ดช

20 ด.ญ.ปญุ ญสิ า นำ้ ใจดี

21 ด.ญ.ฑิมธิชา บุญร้าย

22 ด.ญ.พรชนก เพง็ เคลอื บ

23 ด.ญ.ผอ่ งนภา สมาคม

24 ด.ญ.วราวลั ย์ เวียงวัง

25 ด.ญ.ณัฐริดา แกว้ ไสว

ลงช่อื ผปู้ ระเมิน

(นางสาวศิรเิ พ็ญ หวานวาจา)

………./………./……….

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน

ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

12 - 15 ดี

8 - 11 พอใช้

ต่ำกวา่ 8 ปรบั ปรุง

บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้

สรปุ ผลหลังการจดั การเรียนรู้
นักเรียนจำนวน......................คน
ผ่านจุดประสงค์การเรยี นร้.ู ........................คน คดิ เป็นร้อยละ......................
ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู้.....................คน คิดเป็นร้อยละ......................

แนวทางการแกไ้ ขนกั เรียนที่ไม่ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ (K)
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
ด้านคุณลกั ษณะ (A)
.......................................................................................................................................................... ....................
............................................................................................................... ...............................................................
ปัญหาและแนวทางการแก้ไข
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
ขอ้ เสนอแนะ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชือ่ ครูผู้สอน
(นางสาวศิริเพ็ญ หวานวาจา)

ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงช่ือ
(นายสมพงษ์ ลาสอน)

ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวดั โพธิ์(ผกั ไหว่ ทิ ยาคาร)

แผนการจดั การเรียนรู้ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ปกี ารศกึ ษา 2565
ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 9 ช่วั โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ ท่ี 2 เรือ่ ง หลกั ธรรมนำความสุข เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 1 ละเวน้ ความช่ัว

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด
มาตรฐาน ส 1.1 รแู้ ละเขา้ ใจประวัติ ความสำคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนา

ที่ตนนับถอื และศาสนาอ่นื มศี รทั ธาท่ีถกู ตอ้ ง ยึดม่ัน และปฏิบตั ิตามหลักธรรม เพื่ออย่รู ่วมกนั อยา่ งสันติสุข
ตัวชี้วัด ป.6/4 วิเคราะห์ความสำคัญและเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติตามไตรสิกขาและหลักธรรม

โอวาท 3 ในพระพทุ ธศาสนา หรอื หลกั ธรรมของศาสนาท่ีตนนับถอื ตามที่กำหนด
ตัวชีว้ ดั ป.6/7 ปฏบิ ัตติ นตามหลักธรรมของศาสนาทีต่ นนับถอื เพ่ือแก้ปัญหาอบายมขุ และสงิ่ เสพติด

2. สาระสำคญั
การปฏบิ ัติตนตามหลกั ธรรมเบญจศลี อบายมขุ 6 อกุศลมูล 3 ยอ่ มทำให้การดำเนนิ ชวี ิตเป็นไปในทาง

ทถี่ ูกตอ้ ง สามารถอยรู่ ว่ มกับผูอ้ ืน่ ได้อยา่ งปกติสขุ

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 วิเคราะหค์ วามสำคญั ของเบญจศลี อบายมขุ 6 และอกุศลมูล 3 ได้ (K)
3.2 อธิบายผลที่ได้รับจากการปฏิบัติตามหลักธรรมเบญจศีล อบายมุข 6 และอกุศลมูล 3 พร้อมกับ

นำไปปฏิบตั ิได้ (P)
3.3 มคี วามสนใจใฝร่ ู้ในการเรียน (A)

4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
โอวาท 3
(1) ไม่ทำช่วั
- เบญจศลี
- อบายมขุ 6
- อกุศลมลู 3

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
5.1 ความสามารถในการคดิ
1) ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู
2) ทกั ษะการวเิ คราะห์
3) ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้
5.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

6.1 มีวนิ ัย 6.2 ใฝเ่ รียนรู้ 6.3 มจี ิตสาธารณะ

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)

นักเรยี นสวดมนต์บูชาพระรัตนตรยั และทำสมาธิก่อนเรียน
นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรือ่ งหลกั ธรรมนำความสุข
7.1 ข้นั นำเข้าสูบ่ ทเรยี น
7.1.1 ครูใหน้ กั เรียนอา่ นบทกลอนเกีย่ วกับเบญจศลี
7.1.2 ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหบ์ ทกลอนและตอบคำถาม เชน่

- บทกลอนน้มี สี าระสำคัญเกีย่ วกับเรอ่ื งอะไร
- นกั เรยี นคิดว่า บทกลอนให้ข้อคิดเตอื นใจอย่างไร
7.1.3 ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจว่า บทกลอนดังกล่าวมีข้อคิดเตือนใจบุคคลให้
ละเวน้ ความชว่ั
7.1.4 นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
➢ คำถามกระตุน้ ความคิด
นักเรียนเคยได้ยินบทกลอน คำขวัญ หรือข้อความที่แสดงถึงการเตือนคนให้ทำความดีใน
เร่ืองใดบา้ ง จงยกตัวอยา่ ง
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครผู ู้สอน)
7.2 ขั้นสอน
สำรวจคน้ หา
7.2.1 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ตามความสมัครใจ แล้วให้แต่ละกลุ่มเลือก
หัวหน้า รองหัวหน้า เลขานุการกลุ่ม แล้วแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ โดยจับคู่กันเป็น 3 คู่ ร่วมกัน
ศึกษาความรูจ้ ากหนงั สือเรียน หนงั สือคน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ และหอ้ งสมดุ ตามประเดน็ ทก่ี ำหนดให้ ดงั น้ี
- คู่ท่ี 1 ศึกษาความรูเ้ ร่ือง เบญจศีล
- คทู่ ี่ 2 ศึกษาความรเู้ รื่อง อบายมุข 6
- คู่ที่ 3 ศกึ ษาความรเู้ รือ่ ง อกุศลมูล 3
จากนัน้ บันทกึ ความรทู้ ไ่ี ด้จากการศึกษาลงในสมดุ

ชั่วโมงท่ี 2
อธบิ ายความรู้

7.1.2 สมาชิกแต่ละคู่ผลดั กันอธิบายความรู้ในเร่ืองท่ีตนศึกษาเก่ยี วกบั ความหมาย ตัวอย่าง
การกระทำและผลของการปฏิบัติให้สมาชิกคู่อื่น ๆ ภายในกลุ่มฟัง แล้วผลัดกันซักถามจนมีความ
เข้าใจชัดเจน ในกรณีทม่ี ีขอ้ สงสยั ให้ถามครูผูส้ อน
ขยายความเขา้ ใจ

7.1.3 สมาชิกแต่ละคู่ในกลุ่มนำความรู้ที่ได้จากการศึกษามาเป็นพื้นฐานในการทำใบงาน
ดงั นี้

- คทู่ ี่ 1 ทำใบงานเร่อื ง เบญจศีล
- ค่ทู ี่ 2 ทำใบงานเร่ือง อบายมขุ 6
- คู่ท่ี 3 ทำใบงานเรือ่ ง อกศุ ลมูล 3

7.1.4 สมาชิกแตล่ ะคูผ่ ลัดกนั อธิบายผลงานที่คู่ตนเองทำให้เพือ่ นค่อู ื่น ๆ ภายในกลมุ่ ฟัง และ
ชว่ ยกนั เพ่ิมเตมิ ใหม้ คี วามถกู ต้องสมบูรณ์

7.1.5 นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
➢ คำถามกระตนุ้ ความคิด

ถา้ นักเรยี นมีเพื่อนมาชวนใหไ้ ปขโมยของผู้อ่นื นกั เรยี นจะมีวธิ กี ารหลกี เลีย่ งอยา่ งไร
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพินจิ ของครูผ้สู อน)

นักเรยี นเคยหลีกเลีย่ งการกระทำทไ่ี มด่ ใี นเร่อื งใดบ้าง สอดคลอ้ งกบั หลกั ธรรมใด
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยใู่ นดุลยพินจิ ของครผู สู้ อน)

7.3 ขน้ั สรุป
7.3.1 ตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงานกลุ่มละ 1 ใบงาน และให้กลุ่มอื่นที่มีผลงานแตกต่างได้

นำเสนอเพิ่มเติม ครูตรวจสอบความถูกต้องและเสนอแนะใน ส่วนที่บกพร่อง แล้วให้นักเรียนแต่ละ
กลุ่มตรวจผลงานของตนตามเฉลย

8. สอื่ การเรยี นรู้
8.1 หนังสอื เรียน พระพุทธศาสนา ป.6
8.2 บทกลอนเบญจศลี
8.3 ใบงาน เร่ือง เบญจศีล
8.4 ใบงาน เรอ่ื ง อบายมุข 6
8.5 ใบงาน เร่อื ง อกุศลมูล 3

9. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื เกณฑ์
วิธกี าร แบบทดสอบก่อนเรียน
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 (ประเมนิ ตามสภาพจริง)
ตรวจแบบทดสอบ ใบงานเรื่อง เบญจศลี
ก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ใบงานเรอ่ื ง อบายมุข 6 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ใบงานเรอื่ ง อกุศลมลู 3 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานเร่ือง เบญจศีล ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานเร่อื ง อบายมุข 6 สมุดบนั ทกึ
ตรวจใบงานเร่อื ง อกศุ ลมูล 3 ระดับคุณภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
ตรวจสมุด
ระดับคุณภาพ 2
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน ประเมินการนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤติกรรม
สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2
การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ ระดบั คุณภาพ 2
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้
และมจี ิตสาธารณะ ระดับคุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์

บทกลอนเบญจศลี

ผูป้ ระพันธ์ : หม่อมหลวงปอง มาลากุล

ชีวิตเราเรากร็ ักประจกั ษแ์ น่ จึงควรแผเ่ มตตาจิตคดิ สงสาร
เบยี ดเบยี นขม่ เหงเขาไม่เขา้ การ สงเคราะหท์ า่ นไมตรีนนั้ สิควร
การโลภมากมายทรพั ยผ์ ้อู ื่นเลา่ เกยี รติของเราเราไซรใ้ ฝส่ งวน
ฉกลกั ฉ้อเบยี ดบังไว้หลายกระบวน สมั มาอาชีวล้วนควรประคอง
ผ้ใู ดที่มีเจ้าของอยา่ ปองล่วง ควรเราปวงอบรมใจไมใ่ ฝ่ตอ้ ง
ทกุ คนยอ่ มหวงสทิ ธแ์ิ หง่ คูค่ รอง ไมน่ ่าลองโลมเล่นเป็นเวรกรรม
หา้ มกล่าวเทจ็ พดู พล่อยและเหลวไหล ความจรงิ ไซร้ควรรกั ษาอยา่ ถลำ
ไม่รู้คา่ บรสิ ทุ ธยิ์ ุตธิ รรม ต้องถอื สัตยม์ น่ั ประจำจติ ในจติ ใจ
อนั สรุ าเมรัยทำให้ช่ัว เราควรกลวั ช่วั นดี้ ีไฉน
พาละเมิดศลี ท้ังหา้ นก้ี ระไร ควรจะคมุ สตไิ วไ้ มล่ มื ตน...


Click to View FlipBook Version