The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิจัยในชั้นเรียน 2-2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2023-07-12 02:15:38

วิจัยในชั้นเรียน 2-2565

วิจัยในชั้นเรียน 2-2565

45 5.2 อภิปรายผลการวิจัย การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาชีววิทยา เรื่อง หลักฐานและแนวคิดเกี่ยวกับ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียน กลับด้าน (Flipped classroom) ร่วมกับสืบเสาะหาความรู้ (5E) อภิปรายผลการวิจัยตามลำดับดังนี้ 5.2.1 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับ ด้านร่วมกับสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง หลักฐานและแนวคิดที่เกี่ยวกับวิวัฒนาการ ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 กับเกณฑ์ร้อยละ 75 พบว่า มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 15.55 จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 77.75 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งผลเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ เนื่องจากขั้นตอนในการจัดการกิจกรรมในการจัดการเรียนรู้แบบ ห้องเรียนกลับด้านร่วมกับสืบเสาะหาความรู้ (5E) เป็นกิจกรรมที่เน้นให้นักเรียนมีโอกาสได้ศึกษาด้วย ตัวเอง โดยมีผู้สอนค่อยให้คำแนะนำ หรือหรือชี้แนะแนวทางให้นักเรียนเองได้ศึกษาจากแหล่งข้อมูลที่ น่าเชื่อได้ ทั้งนี้ยังเหมาะสมกับนักเรียนในด้านของการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้ นักเรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองและเข้าใจอย่างท่องแท้พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความคิดได้อย่าง หลากหลายกับเพื่อนของนักเรียนเอง ทั้งนี้การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับสืบเสาะหา ความรู้ (5E) ไม่ได้จำกัดเวลาในการเรียนรู้ ซึ่งทำให้นักเรียนมีเวลาเพียงพอต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทา ให้การเรียนของนักเรียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ ชนิสรา เมธภัทรหิรัญ (2560 : 20) ที่กล่าวว่า การเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน เป็นรูปแบบการเรียนการสอนที่ เปลี่ยนการสอนแบบเดิมจากผู้สอนเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักเรียนหน้าชั้นเรียนมาเป็นนักเรียน จะต้องศึกษาหาความรู้จากนอกห้องเรียนด้วยตนเองโดยผ่านสื่อเทคโนโลยีที่ผู้สอนเป็นผู้จัดทา ขึ้น จากนั้นผู้สอนจะนาสิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้มาใช้ทำกิจกรรมในชั้นเรียน โดยคอยให้คำแนะนำ และตั้ง คำถามให้นักเรียนได้ร่วมกันแก้ปัญหา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทาให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับ นักเรียน จึงสามารถช่วยให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะและผลสัมฤทธิ์ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากนักเรียนได้ สืบเสาะหาความรู้ด้วยตนเองได้เกิดการเรียนให้รู้จริง อย่างท่องแท้ ทั้งนี้ยังมีครูค่อยให้คา ปรึกษาอยู่ เสมอ ซึ่งผลการวิจัยที่พบนี้สอดคล้องกับงานวิจัยของวิไลวรรณ สาระมู และสิรินาถ จงกลกลาง (2561 : 107-115) ได้ระบุว่าห้องเรียนกลับด้านร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค Learning Together เรื่อง โปรแกรม MswLogo ช่วยให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 มีความก้าวหน้าเฉลี่ยเท่ากับ 16.10 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 53.86 โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนและสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ สอดคล้องกับงานวิจัยของกรวรรณ สืบสม และนพรัตน์ หมีพลัด (2560 : 118-127) ได้ระบุว่า


46 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) ด้วยการบูรณาการการ เรียนการสอนรายวิชาเทคโนโลยีมัลติมีเดียผ่าน Google Classroom ทา ให้ของนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนระหว่างเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านในระดับมาก เพราะ นักเรียนสามารถรังสรรค์ชิ้นงานผ่านวิธีการเรียนรู้แบบโครงการ รวมทั้งสามารถพูดคุยหรือสอบถาม ครูผู้สอนได้เมื่อมีปัญหาในการเรียน 5.2.2 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียน กลับด้านร่วมกับสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง หลักฐานและแนวคิดที่เกี่ยวกับวิวัฒนาการ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก (̅= 4.43 , S.D. = 0.63) เมื่อพิจารณาเป็นราย ด้านพบว่า ด้านบรรยากาศการเรียนรู้สูงสุด มีระดับความพึงพอใจระดับมาก (̅= 4.46 , S.D. = 0.62) รองลงมาด้านสื่อการเรียนรู้ มีระดับความพึงพอใจระดับมาก (̅= 4.45 , S.D. = 0.63) ด้าน ประโยชน์ที่ได้รับ มีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (̅= 4.41 , S.D. = 0.58) ด้านกระบวนการ จัดการเรียนรู้ มีระดับความพึงพอใจระดับมาก (̅= 4.38 , S.D. = 0.64) เนื่องจากกระบวนการเรียน เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ส่งผลทำให้นักเรียนเกิดความ เข้าใจเนื้อหาและเกิดความรู้ที่คงทนถาวร เป็นการเรียนการสอนที่ให้บรรยากาศที่ต่างออกไปจากการ เรียนที่มีครูสอนหน้าชั้นเรียน มีการเรียนโดยใช้เทคโนโลยี ซึ่งนักเรียนสมัยใหม่ชอบการเรียนรู้โดยใช้ สื่อทันสมัย ทำให้นักเรียนสะดวกสบายในการเข้าถึง และยังได้เรียนรู้นอกห้องเรียนก่อนการเข้าชั้น เรียน ซึ่งผลการวิจัยที่พบนี้สอดคล้องกับงานวิจัยของพิมพ์ปวีณ์สุวรรณโณ และปราณี หลำเบ็ญสะ (2562 : 1-10) เรื่องผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านด้วยการเรียนรู้ที่ใช้การ วิจัยเป็นฐาน ของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา พบว่า ผู้เรียนมีคะแนนความพึงพอใจ ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน ด้วยการเรียนรู้ที่ใช้การวิจัยเป็นฐานอยู่ ในระดับมาก


47 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1 ข้อเสนอแนะในการนำไปใช้ 5.3.1.1 ครูผู้สอนควรสำรวจการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตทั้งในสถานศึกษาและที่บ้านของ นักเรียนและหาแนวทางแก้ไขปัญหานักเรียนที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ เช่น ให้นักเรียนศึกษา จากไฟล์ที่สามารถเข้าถึงได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้อินเตอร์เน็ต 5.3.1.2 ครูผู้สอนควรให้ขอบเขตของการศึกษาด้วยตนเองของตัวนักเรียน แบบ เฉพาะเจาะจงเรื่องที่ต้องศึกษาหรือเรื่องที่เกี่ยวข้องที่ต้องการศึกษา เพื่อไม่ให้ตัวนักเรียนเกิดความ สับสน 5.3.2 ข้อเสนอแนะเพื่อทำการวิจัยครั้งต่อไป 5.3.2.1 ควรมีการจัดการเรียนแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้และ เทคนิคการสอนที่หลากหลาย ให้มีความเหมาะสมกับเนื้อหาที่เรียน เพื่อให้เกิดการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนให้สูงขึ้น 5.3.2.2 ควรมีสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลายประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ ห้องเรียนกลับด้าน อาทิ ห้องเรียนออนไลน์ แบบทดสอบความรู้ออนไลน์ เพื่อให้ผู้เรียนได้ตรวจสอบ ความรู้เบื้องต้นของตนเองหลังจากที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง


53 ภาคผนวก


54 ภาคผนวก ก รายชื่อผู้เชี่ยวชาญ


55 รายชื่อผู้เชี่ยวชาญ 1. คุณครูกัลยา ธีระเชีย ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ 2. คุณครูวิภาวรรณ คำมงคล ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ 3. คุณครูอังคณา ตามกูล ตำแหน่ง ครู ไม่มีวิทยฐานะ


56 ภาคผนวก ข เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย


57 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 รายวิชาชีววิทยา (ว30242) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 วิวัฒนาการ จำนวน 18 ชั่วโมง เรื่อง หลักฐานและแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต เวลา 7 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ สาระชีววิทยา เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติและหน้าที่ ของสารพันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูลและแนวคิดเกี่ยวกับ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์กการเกิดสปีชีส์ใหม่ ความหลากหลายทาง ชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และอนุกรมวิธาน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ 1. สืบค้นข้อมูลและอธิบายเกี่ยวกับหลักฐานที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้อธิบายการเกิด วิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต 2. อธิบายและเปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของฌอง ลามาร์ก และ ทฤษฎีเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของชาลส์ ดาร์วิน 2. สาระสำคัญ หลักฐานที่บ่งบอกว่าสิ่งมีชีวิตมีการศึกษาได้จากหลักฐานจากซากดึกดำบรรพ์ หลักฐานจาก กายวิภาคเปรียบเทียบหลักฐานจากวิทยาเอ็มบริโอเปรียบเทียบหลักฐานจากด้านชีววิทยาระดับ โมเลกุลและหลักฐานทางชีวภูมิศาสตร์เป็นต้น 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ด้านความรู้ (K) อธิบายหลักฐานต่าง ๆ ที่สนับสนุนการเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตได้ 2. ด้านความรู้ (K) เปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของลามาร์ก และดาร์วินได้ 3. ด้านกระบวนการ (P) นำเสนอผลงานและจัดนิทรรศการอย่างได้ถูกต้อง 4. ด้านเจตคติ (A) มีความใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน


58 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. สาระการเรียนรู้ - หลักฐานที่ทำให้เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตมีวิวัฒนาการ เช่น ซากดึกดำบรรพ์ กายวิภาคเปรียบเทียบ วิทยาเอ็มบริโอ การแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตทางภูมิศาสตร์ การศึกษาทางชีวภูมิศาสตร์ และด้าน ชีววิทยาระดับโมเลกุล - ฌอง ลามาร์ก ได้เสนอแนวคิดเพื่ออธิบายเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตว่า สิ่งมีชีวิตมี การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างให้เข้ากับสภาพแวดล้อม โดยอาศัยกฎการใช้และไม่ใช้ และกฎแห่งการ ถ่ายทอดลักษณะที่เกิดขึ้นมาใหม่ - ชาลส์ ดาร์วิน เสนอทฤษฎีเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตว่าเกิดจากการคัดเลือกโดย ธรรมชาติ โดยสิ่งมีชีวิตมีแนวโน้มที่จะให้กำเนิดลูกที่มีลักษณะแตกต่างกันจำนวนมาก แต่มีเพียง จำนวนหนึ่งที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม สามารถมีชีวิตรอด และถ่ายทอดลักษณะที่เหมาะสมไปยัง รุ่นต่อไปได้ 7. กิจกรรมการเรียนรู้ รูปแบบการสอนที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คือ การสอนแบบห้องเรียนกลับบ้านร่วมกับสืบ เสาะหาความรู้ 5E ขั้นนอกชั้นเรียน (Out Class Activities) ขั้นเตรียม 1. ครูสร้างกลุ่มออนไลน์สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้เว็บ Google Classroom 2. จากนั้นครูจะมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนกลับไปศึกษาเนื้อหาใน เรื่อง หลักฐานและ ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต จากวีดิทัศน์ที่ครูได้แชร์ไว้ในกลุ่ม Google


59 Classroom ประจำห้อง ซึ่งวีดิทัศน์ดังกล่าวมาจาก YouTube ซึ่งนักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูล เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้ด้วยตนเองจากหนังสือเรียนหรือจากแหล่งอื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือ โดยที่มี ครูให้คำแนะนำ 3. มอบหมายให้นักเรียนบันทึกเป็น Mind Map โดยที่นักเรียนสามารถจดหรือสร้าง Mind Map ในโปรแกรม Word หรือ PowerPoint หรือ วาดด้วยมือก็ได้ 7.1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1. ครูแจ้งผลการเรียนรู้ประจำหน่วยการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ 2. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน 3. ครูได้ตั้งคำถามใน Google Classroom เพื่อนำไปสู่การลงข้อสรุปและบันทึกเป็น Mind Map โดยมีคำถามดังต่อไปนี้ - หลักฐานใดบ่งบอกว่าในอดีตเคยมีสิ่งมีชีวิตที่ไม่พบในปัจจุบันเคยอาศัยอยู่ - หลักฐานแต่ละอย่าง มีลักษณะอย่างไร 7.2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม กลุ่มละ 8 คน โดยที่คละตามความสามารถคนเก่ง อ่อน และปานกลาง แล้วให้ทำกิจกรรมกลุ่ม โดยครูมอบหมายโจทย์ให้ นักเรียนเป็น “เจ้าหน้าที่ พิพิธภัณฑ์” จัดแสดงหลักฐานที่บ่งบอกถึงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ตามหัวข้อต่างๆ ดังนี้ - กลุ่มทฤษฎีซากฟอสซิล - กลุ่มทฤษฎีชีวภูมิศาสตร์ - กลุ่มทฤษฎีกายวิภาคเปรียบเทียบ - กลุ่มแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของลามาร์ก - กลุ่มแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของชาลส์ ดาร์วิน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาค้นคว้าจากวิดีทัศน์ที่ครูได้แชร์ไว้ จากหนังสือเรียน รายวิชาชีววิทยาเพิ่มเติม และการสรุปบทเรียนที่นักเรียนได้สรุปไปก่อนหน้านี้ หรือศึกษาข้อมูล จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ที่น่าเชื่อได้โดยครูก็จะทำหน้าที่ค่อยให้คำปรึกษา - ขั้นตอนการทำกิจกรรมมีดังนี้ 1. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นและศึกษาตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย 2. จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันวางแผนออกแบบสื่อ และอุปกรณ์ที่จะใช้ใน การจัดแสดงพิพิธภัณฑ์โดยนักเรียนสามารถออกแบบได้ตามจินตนาการ และใช้วัสดุที่หาได้ง่าย 3. เมื่อวางแผนออกแบบเสร็จ ให้นักเรียนนำอุปกรณ์มาจัดทำสื่อในคาบ เรียน


60 4. จากนั้นให้นักเรียนอภิปรายภายในกลุ่มก่อนมานำเสนอในห้องเรียน แต่ ละกลุ่มจะส่งตัวแทน นำเสนอผลงานตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมายให้กับเพื่อนกลุ่มอื่น ขั้นในชั้นเรียน (In Class Activities) 7.3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 1. จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน โดย อภิปรายหลักฐานและแนวคิดที่เกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต 2. หลังจากนำเสนอเสร็จ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ไปศึกษาตามหัวข้อ/กลุ่มต่างๆ ซึ่ง สามารถซักถามประเด็นที่ไม่เข้าใจกับกลุ่มเพื่อนที่นำเสนอ 3. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายและหาข้อสรุปจากการกิจกรรมอีกครั้ง 7.4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามเนื้อหาเรื่อง “หลักฐานและแนวคิดที่เกี่ยวกับ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต” เพื่อให้นักเรียนเข้าใจอย่างถ่องแท้ 2. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ หลักฐานและแนวคิดที่เกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต โดยใช้คำถามดังนี้ - ซากดึกดำบรรพ์ที่พบในหินตะกอนชั้นล่างกับหินตะกอนชั้นบน ซากดึกดำบรรพ์ที่พบ ในหินชั้นใดมีอายุมากกว่ากัน (แนวตอบ โดยทั่วไปโครงสร้างของซากดึกดำบรรพ์ที่พบในหินชั้นบนจะมีความมี อายุน้อยกว่าในหินชั้นล่าง เนื่องจากสิ่งมีชีวิตในระยะแรก ๆ จะตายและถูกทับถมอยู่ในหิน ชั้นล่าง จึงทำให้มีความซับซ้อนของโครงสร้างที่น้อยกว่าพบในหินชั้นบน ส่วนหินชั้นบนจะ พบโครงสร้างที่มีความสมบูรณ์และมีลักษณะใกล้เคียงกับสิ่งมีชีวิตในปัจจุบัน) - โครงสร้างรยางค์คู่หน้าของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีลักษณะเหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร (แนวตอบ โครงสร้างรยางค์คู่หน้า มีโครงสร้างกระดูกเหมือนกัน แต่มีหน้าที่ แตกต่างกัน เช่น แขนของมนุษย์ใช้สำหรับการหยิบจับสิ่งของ ขาแมวใช้สำหรับการเดิน ครีบหน้าของวาฬใช้สำหรับการว่ายน้ำ และปีกค้างคาวให้สำหรับการบิน) - เพราะเหตุใด นกฟินซ์บนหมู่เกาะกาลาปากอสจึงมีหลากหลายสายพันธุ์ (แนวตอบ เนื่องจากการอพยพและแพร่กระจายไปอยู่ตามเกาะต่าง ๆ ใน หมู่เกาะกาลาปากอส ซึ่งแต่ละเกาะจะมีปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิตที่แตกต่างกัน ทำให้ นกฟินซ์ต้องมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในรูปแบบที่ต่างกัน จึงทำให้ในปัจจุบันมีนกฟินซ์ หลายสายพันธุ์) ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า นกฟินซ์ที่มีลักษณะแตกต่างกันนี้เป็นผลมาจากการเกิด วิวัฒนาการ เนื่องจากแต่เดิมเคยเป็นสายพันธุ์เดียวกัน แต่เมื่อมีการแพร่กระจายจากทวีป


61 อเมริกาใต้มาอยู่บนเกาะต่าง ๆ ของหมู่เกาะกาลาปากอส ทำให้เกิดวิวัฒนาการของนิกฟินซ์ ตามแหล่งที่อยู่อาศัยที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ แตกต่างกัน - ลักษณะคอและขายาวของยีราฟจากทฤษฎีวิวัฒนาการของลามาร์ก และถาม นักเรียนว่า ลักษณะคอและขายาวของยีราฟเกิดขึ้นได้อย่างไร (แนวตอบ ลามาร์ก อธิบายว่า ในอดีตยีราฟมีคอและขาสั้น ซึ่งจะกินใบอ่อนบริเวณ ด้านล่างของต้นไม้ เป็นอาหาร แต่เมื่อใบอ่อนบริเวณด้านล่างหมด จึงต้องยืดคอและเขย่งขา เพื่อกินใบอ่อนที่อยู่ด้านบน จึงทำให้ยีราฟมีคอและขายาว และสามารถถ่ายทอดลักษณะ เหล่านี้ไปยังรุ่นลูกหลานได้) ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า ลามาร์ก อธิบายลักษณคอยาวของยีราฟว่า บรรพบุรุษ ของยีราฟมีคอสั้นกว่าซึ่งกินใบอ่อนบนยอดไม้เป็นอาหาร เมื่อใบอ่อนบริเวณด้านล่างถูกกิน หมดจึงต้องยืดคอเพื่อกินใบไม้จากต้นไม้ที่สูงขึ้น และเนื่องจากการยืดคออย่างเดียวนั้นยังไม่ เพียงพอจะต้องเขย่งขาด้วย เมื่อเวลาผ่านไปจึงทำให้ยีราฟมีคอและขายาวขึ้น และสามารถ สืบพันธุ์ให้กำเนิดยีราฟรุ่นลูกที่มีคอและขายาว - แนวคิดการคัดเลือกโดยธรรมชาติสามารถนำมาอธิบายลักษณะคอยาวของ ยีราฟได้อย่างไร (แนวตอบ บรรพบุรุษของยีราฟมีทั้งพวกคอสั้นและคอยาว พวกยีราฟที่คอยาว สามารถกินยอดไม้ได้ทั้งยอดไม้พุ่มเตี้ยและยอดไม้บนต้นไม้สูง ในขณะที่พวกที่มีคอสั้นจะ สามารถกินได้เฉพาะยอดไม้พุ่มเตี้ยเท่านั้น ดังนั้น ยีราฟที่มีคอยาวจะสามารถดำรงชีวิตและ มีลูกได้มากกว่าพวกคอสั้น ทำให้ยีราฟคอยาวเพิ่มจำนวนได้มากขึ้นในรุ่นต่อ ๆ มา จนใน ปัจจุบันมีเฉพาะยีราฟคอยาวเท่านั้น) 7.5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ครูประเมินผลจากการใบบันทึกแบบ Mind Map ของนักเรียน เพื่อวัดความรู้ความ เข้าใจ วัดทักษะวิเคราะห์และการลงข้อสรุป 2. ครูประเมินผลจากการนำเสนอผลงานและจัดนิทรรศการเพื่อวัดความรู้ความเข้าใจ วัดทักษะการคิดวิเคราะห์, ทักษะการทำงานเป็นกลุ่ม 3. ครูประเมินผลจากการแบบทดสอบหลังเรียน 4. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมของ นักเรียนในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ


62 8. สื่อการเรียนรู้/ แหล่งเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ - สื่อมัลติมีเดีย เรื่อง หลักฐานและข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต - ใบงาน เรื่อง - หนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4-6 ของ สสวท. แหล่งการเรียนรู้ - ห้องเรียนสีเขียว (Smart Green Learning Room) โรงเรียนสามเงาวิทยาคม - แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ 9. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีวัดผล เครื่องมือวัด เกณฑ์การผ่าน จุดประสงค์ ด้านความรู้(K) 1. อธิบายหลักฐานต่าง ๆ ที่สนับสนุน การเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตได้ 2. เปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกับ วิวัฒนาการของลามาร์ก และดาร์วินได้ ตรวจใบงาน เรื่อง วิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต ใบงาน เรื่อง วิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ ด้านทักษะกระบวนการ (P) นำเสนอผลงานและจัดนิทรรศการอย่าง ได้ถูกต้อง จัดนิทรรศการ แบบประเมินการ นำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์(A) ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม แบบสังเกต พฤติกรรมการ ทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


63 10. เกณฑ์การประเมิน 1. เกณฑ์การประเมินด้านความรู้ (K) 2. เกณฑ์การประเมินด้านทักษะกระบวนการ (P) ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน น้ำหนัก คะแนน ดีมาก (4) ดี(3) พอใช้(2) ต้องปรับปรุง (1) การตอบคำถาม ร่วมตอบคำถาม ในเรื่องที่ครูถาม และตอบคำถาม ถูกทุกข้อ ร่วมตอบคำถาม ในเรื่องที่ครูถาม และตอบคำถาม ส่วนมากถูก ร่วมตอบคำถาม ในเรื่องที่ครูถาม เป็นบางครั้ง ไม่ร่วมตอบ คำถาม 2 ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน น้ำหนัก คะแนน ดีมาก (4) ดี(3) พอใช้(2) ต้องปรับปรุง (1) 1. การสังเกต - มีการกำหนด จุดมุ่งหมายในการ สังเกตอย่าง แน่นอนชัดเจน - มีการวางแผน อย่างเป็นระบบ ขั้นตอน - มีการบันทึก รายละเอียดที่ สังเกตได้อย่าง ถูกต้อง - มีการกำหนด จุดมุ่งหมายใน การสังเกต ชัดเจน - มีการวางแผน อย่างเป็น ขั้นตอน - มีการบันทึก รายละเอียดที่ สังเกตได้ - มีการ กำหนด จุดมุ่งหมาย ในการ สังเกต - บันทึก รายละเอียด ที่สังเกตได้ - ไม่มีการ กำหนด จุดมุ่งหมายใน การสังเกต - ไม่บันทึก รายละเอียด 1 2. การอภิปราย และลงข้อสรุป -แสดงความรู้ ความเข้าใจใน เนื้อหาอย่างดีมาก -แสดงความรู้ ความเข้าใจใน เนื้อหาอย่างดี - แสดง ความรู้ ความเข้าใจ -แสดงความรู้ ความเข้าใจใน 1


64 3. เกณฑ์การประเมินด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) -มีขั้นตอน ครบถ้วน - มีการสรุปความ คิดเห็นโดยใช้เหตุ ผลได้อย่าง สมเหตุสมผล -มีขั้นตอน ครบถ้วน -มีการสรุป ความคิดเห็น โดยใช้เหตุผลได้ อย่าง สมเหตุสมผล ในเนื้อหา ปานกลาง -ขาด ขั้นตอนและ รายละเอียด -มีการสรุป ความคิดเห็น เนื้อหาปาน กลาง -ขาดขั้นตอน และ รายละเอียด -ไม่มีการสรุป ความคิดเห็น ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน น้ำหนัก ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) คะแนน ควร ปรับปรุง (1) 1. ใฝ่เรียนรู้ (A) - ตั้งใจฟังครู อธิบาย ตอบ คำถามได้ทุกครั้ง เมื่อครูถาม และ ถามครูทุกครั้งเมื่อ ไม่เข้าใจหรือ สงสัย - ตั้งใจฟังครู อธิบาย ตอบ คำถามได้เป็น บางครั้งเมื่อครู ถาม และถามครู เป็นบางครั้งเมื่อ ไม่เข้าใจหรือ สงสัย - ตั้งใจฟังครู อธิบายบ้าง เล็กน้อยตอบ คำถามไม่ได้เมื่อ ครูถาม และ ไม่ถามครูเมื่อ ไม่เข้าใจหรือ สงสัย - ไม่ตั้งใจฟัง ครูอธิบาย ตอบคำถาม ไม่ได้เมื่อครู ถาม และ ไม่ถามครู เมื่อ ไม่เข้าใจหรือ สงสัย 1


65 2. มุ่งมั่นในการ ทำงาน (A) - ตั้งใจและรับผิด ชอบในการปฏิบัติ หน้าที่ที่ได้รับมอบ หมายให้สำเร็จมี การปรับปรุงและ พัฒนาการทำงาน ให้ดีขึ้นด้วย ตนเอง - ทำงานด้วย ความขยัน อดทน และพยายามให้ งานสำเร็จตาม เป้า หมายภายใน เวลาที่กำหนด ไม่ย่อท้อต่อ ปัญหาแก้ปัญหา อุปสรรคในการ ทำงาน และชื่น ชมผลงานด้วย ความภาคภูมิใจ - ตั้งใจและรับผิด ชอบในการปฏิบัติ หน้าที่ที่ได้รับมอบ หมายให้สำเร็จมี การปรับปรุงและ พัฒนาการทำงาน ให้ดีขึ้น - ทำงานด้วย ความขยัน อดทน และพยายามให้ งานสำเร็จตาม เป้าหมาย ไม่ย่อท้อต่อ ปัญหาในการ ทำงานและชื่นชม ผลงานด้วยความ ภาคภูมิใจ - ตั้งใจและ รับผิดชอบใน การปฏิบัติ หน้าที่ที่ได้รับ มอบหมายให้ สำเร็จมีการ ปรับปรุงการ ทำงานให้ดีขึ้น - ทำงานด้วย ความขยันและ พยายามให้งาน สำเร็จตาม เป้าหมายและ ชื่นชมผลงาน ด้วยความ ภาคภูมิใจ - ไม่ตั้งใจ ปฏิบัติ หน้าที่การ งาน - ไม่ขยัน อดทนใน การทำงาน 1


66 แบบประเมินใบงาน ประเด็นการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน น ้าหนัก ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. เนื้อหา สอดคล้องกับ หัวข้อ สามารถเขียน สอดคล้องกับหัวข้อ หรือเรื่องที่ก าหนด สามารถเขียน สอดคล้องกับ หัวข้อหรือเรื่องที่ ก าหนดใน บางส่วน เขียนไม่ค่อย สอดคล้องกับหัวข้อ หรือเรื่องที่ก าหนด เขียนไม่ สอดคล้องกับ หัวข้อหรือ เรื่องที่ก าหนด 2 2. การสรุป ความรู้ มีการสรุปความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องที่ ศึกษาได้ชัดเจน ครบถ้วน สมบูรณ์ มีการสรุปความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องที่ ศึกษาได้ชัดเจนดี มีการสรุปความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องที่ ศึกษาได้ มีการสรุป ความรู้ไม่ ชัดเจน 2 3. การตอบ ค าถาม ครบถ้วน ตอบค าถามได้ ครบถ้วน ตรงประเด็นและ เข้าใจง่าย ตอบค าถามได้ 60% ขึ้นไป และ ตรงประเด็น ตอบค าถามได้ 30% ขึ้นไป และ ตรงประเด็น เล็กน้อย ตอบค าถามได้ น้อยกว่า 30% และตรง ประเด็น เล็กน้อย 1 เกณฑ์การประเมิน 16-20 หมายถึง ทักษะการปฏิบัติงานอยู่ในระดับดีมาก 11-15 หมายถึง ทักษะการปฏิบัติงานอยู่ในระดับดี 6-10 หมายถึง ทักษะการปฏิบัติงานอยู่ในระดับพอใช้ 0-5 หมายถึง ทักษะการปฏิบัติงานอยู่ในระดับควรปรับปรุง เกณฑ์การให้คะแนน น าคะแนนทั้งหมดรวมกันได้คะแนนเต็ม 20 คะแนน แล้วหาร 2 จะได้คะแนนเต็ม 10 คะแนน


67 แบบประเมินการนำเสนอผลงาน คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงใน ช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดับ ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 ความคิดสร้างสรรค์ 3 วิธีการนำเสนอผลงาน 4 การนำไปใช้ประโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน ............/................./................... เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


68 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงใน ช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ ชื่อ–สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การ ยอมรับฟัง คนอื่น การ ทำงาน ตามที่ ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ำใจ การมี ส่วนร่วม ในการ ปรับปรุง ผลงาน กลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ ................................................... ผู้ ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน


69 เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


70 11. บันทึกหลังแผนการจัดการเรียนรู้ 11.1 ด้านความรู้ (K) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11.4 ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11.5 แนวทางแก้ไข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ผู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวโชติกา สีกาวี) …..………./……………../………….


71


72 แบบประเมินคุณภาพแผนการจัดการเรียนรู้ คำชี้แจง แบบประเมินนี้จัดทำขึ้นเพื่อตรวจสอบคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชำชีววิทยา เรื่อง หลักฐานและแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การจัดกำรเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับสืบเสาะหา ความรู้ (5E) โรงเรียนสามเงาวิทยาคม โปรดพิจารณำและแสดงความคิดเห็นของท่านโดยทำ เครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของท่านว่ามีความหมาะสมต่อแผนการจัดการเรียนรู้ และขอความอนุเคราะห์ผู้เชี่ยวชำญบันทึกรำยละเอียดในส่วนข้อเสนอแนะเพื่อนำ ไปใช้ในการ ปรับปรุง แผนการจัดการเรียนรู้ต่อไป เกณฑ์การให้คะแนนมีดังนี้ รายการประเมินที่มีความเหมาะสมมากที่สุด ให้ 5 คะแนน รายการประเมินที่มีความเหมาะสมมาก ให้ 4 คะแนน รายการประเมินที่มีความเหมาะสมปานกลาง ให้ 3 คะแนน รายการประเมินที่มีความเหมาะสมน้อย ให้ 2 คะแนน รายการประเมินที่มีความเหมาะสมน้อยที่สุด ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การประเมิน 4.51-5.00 หมายถึง รายการประเมินที่มีความเหมาะสมมากที่สุด 3.51-4.50 หมายถึง รายการประเมินที่มีความเหมาะสมมาก 2.51-3.50 หมายถึง รายการประเมินที่มีความเหมาะสมปานกลาง 1.51-2.50 หมายถึง รายการประเมินที่มีความเหมาะสมน้อย 1.00-1.50 หมายถึง รายการประเมินที่มีความเหมาะสมน้อยที่สุด


73 รายการประเมิน ระดับความคิดเห็น 5 4 3 2 1 1. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.1 สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ 1.2 สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ 1.3 สามารถวัด/ประเมินผลได้ 2. สาระสำคัญ 2.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 2.2 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ ชัดเจน เข้าใจง่าย 2.3 เหมาะสมกับระดับชั้นของผู้เรียน 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 3.2 สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ 3.3 เหมาะสมกับระดับชั้นของผู้เรียน 3.4 กำหนดเนื้อหาเหมาะสมกับเวลาเรียน 4. เนื้อหา 4.1 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 4.2 สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ 4.3 เหมาะสมกับเวลาที่ทำการสอน 5. กิจกรรมการเรียนรู้ 5.1 สอดคล้องกับเนื้อหา 5.2 สอดคล้องกับการวัดและประเมินผล 5.3 เร้าความสนใจ ให้ผู้เรียนกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ 5.4 เหมาะสมกับระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 4 5.5 เรียงลำดับกิจกรรมได้เหมาะสม 6. สื่อ อุปกรณ์ และแหล่งการเรียนรู้ 6.1 เหมาะสมกับวัยและความสามารถของผู้เรียน 6.2 เหมาะสมกับเนื้อหาและกิจกรรม 6.3 เร้าความสนใจต่อผู้เรียน


74 รายการประเมิน ระดับความคิดเห็น 5 4 3 2 1 7. การวัดและประเมินผล 7.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 7.2 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 7.3 สามารถวัดและประเมินผลสิ่งที่ระบุไว้ได้ 7.4 วัดและประเมินผลได้ครอบคลุมสาระการเรียนรู้ ตามที่ระบุไว้ 7.5 เครื่องมือที่ใช้วัดเหมาะสมกับผู้เรียน


75 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักฐานและแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 คำชี้แจง : 1. ข้อสอบปรนัย 5 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ 2. ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อละ 1 คำตอบ แล้วทำเครื่องหมาย X ใน กระดาษคำตอบ ผลการเรียนรู้ที่1 สืบค้นข้อมูล และอธิบายเกี่ยวกับหลักฐานที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้อธิบายการเกิด วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต 1. หลักฐานในข้อใดเป็นหลักฐานที่ละเอียดที่สุดในการระบุความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต 1. ชีวภูมิศาสตร์ 2. ซากดึกดำบรรพ์ 3. เอ็มบริโอเปรียบทียบ 4. ชีววิทยาระดับโมเลกุล 5. กายวิภาคเปรียบเทียบ 2. ซากดึกดำบรรพ์ที่พบในยุคแรกๆได้แก่ข้อใด 1. แบคทีเรียและพยาธิตืดหมู 2. สาหร่ายสีเขียวและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง 3. สาหร่ายสีเขียวและปลาไม่มีขากรรไกรแรกเริ่ม 4. พืชที่มีท่อลำเลียงชั้นต่ำและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง 5. พืชที่มีท่อลำเลียงชั้นต่ำและปลาไม่มีขากรรไกรแรกเริ่ม 3. การที่มือและแขนของมนุษย์ มีกระดูกชิ้นต่างๆเหมือนกับ ปีกของนก ครีบของโลมาหรือ วาฬ ขาของสุนัขนั้น เราเรียกการมีโครงสร้างที่คล้ายกันแต่อาจจะมีหน้าที่ การทำงานต่างกันว่าอะไร 1. Micro evolution 2. Analogous structure 3. Convergent evolution 4. Homologous structure 5. ไม่มีข้อใดถูก


76 4. ขอใดจัดเป็นโครงสร้างที่มีตนกำเนิดต่างกัน 1. ปกนกและปกค้างคาว 2. ปกค้างคาวและแขนคน 3. ปกค้างคาวและปีกแมลง 4. ปกนกและขาหนาของจระเข 5. แขนคนและครีบหนาของวาฬ 5. ขอใดกล่าวเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพไม่ถูกตอง 1. ซากดึกดำบรรพที่มีอายุน้อยจะพบในหินชั้นบน 2. ซากดึกดำบรรพที่มีอายุมากจะพบในหินชั้นล่าง 3. ซากดึกดำบรรพสามารถบอกวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตได้ 4. ซากดึกดำบรรพสามารถบอกลำดับการเกิดของสิ่งมีชีวิตบนโลกได้ 5. ซากดึกดำบรรพที่มีอายุน้อยจะมีลักษณะแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตปจจุบัน 6. โครงสร้างของสิ่งมีชีวิตใดแตกต่างจากข้ออื่น 1. ขาแมว 2. ปีกฝีเสื้อ 3. แขนมนุษย์ 4. ปีกค้างคาว 5. รยางค์คู่หน้าของวาฬ 7. เมื่อมีการค้นพบฟอสซิลในชั้นของหินตะกอน ข้อใดกล่าวถูกต้อง 1. ฟอสซิลที่พบตื้นที่สุดเป็นฟอสซิลที่เก่าแก่น้อยที่สุด 2. ฟอสซิลที่พบลึกที่สุดเป็นฟอสซิลที่มีลักษณะคล้ายกับสิ่งมีชีวิตปัจจุบันมากที่สุด 3. ฟอสซิลที่พบในชั้นของหินตะกอน จะไม่มีสารประกอบพวกหินปูน ซิลิกอน ออกไซด์ 4. ฟอสซิลที่พบแสดงความซับซ้อนของโครงสร้างของสิ่งมีชีวิตในอดีต ยิ่งอยู่ในชั้นที่ ลึกลงไปเท่าไหร่ เราก็จะพบสิ่งมีชีวิตที่มีความซับซ้อน 5. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา


77 9. สิ่งมีชีวิตใดมีโอกาสเกิดซากดึกดำบรรพ์น้อยที่สุด 1. มด 2. หอย 3. ปลาย 4. ปะการัง 5. พลานาเรีย 10. หลักฐานในข้อใดแสดงว่าเต่าและนกมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน 1. กายวิภาคเปรียบเทียบ ซากดึกดำบรรพ์ 2. ซากดึกดำบรรพ์ ร่องรอยของอวัยวะที่ไม่ใช้งาน 3. การเจริญของเอ็มบริโอในช่วงแรก กายวิภาคเปรียบเทียบ 4. การเจริญของเอ็มบริโอในช่วงแรก ร่องรอยของอวัยวะที่ไม่ใช้งาน 5. ไม่มีข้อใดถูก ผลการเรียนรู้ที่ 2 อธิบาย และเปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของ ฌอง ลา มาร์ก และทฤษฎีเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของชาลส์ ดาร์วิน 11. นักวิทยาศาสตร์คนแรก ๆ ที่นำเสนอวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต คือใคร 1. ฌอง ลามาร์ก 2. ชาลส์ ดาร์วิน 3. ชาร์สล์ ไลเอลล์ 4. เกรเกอร์ เมนเดล 5. อัลเฟรด รัสเซล วอลเลส 12. กรณีใดต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่สนับสนุนทฤษฎี Natural selection 1. จิ้งจกเปลี่ยนสีตามสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย 2. กำเนิดแตงโมไร้เมล็ดเพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค 3. มีพลาสโมเดียมสายพันธุ์ที่ต้านยารักษาโรคมาลาเรียเพิ่มขึ้น 4. นกกะทาวางไข่จำนวนมากขึ้นเมื่อช่วงกลางวันยาวนานขึ้น 5. เชื้อเอดส์แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของมนุษย์


78 13. ปัจจัยใดสำคัญที่สุดในการเกิดวิวัฒนาการของนกฟินช์ในหมู่เกาะกาลาปากอส ซึ่งมี หลายสปีชีส์ต่างๆกัน 1. การเกิดภัยธรรมชาติ 2. การอพยพย้ายถิ่นตามฤดูกาล 3. กลไกการแยกทางการสืบพันธุ์ 4. การแยกกันทางสภาพภูมิศาสตร์ 5. การผสมพันธุ์แบบข้ามสายพันธุ์ 14. ปัจจัยใดที่ทำใหจะงอยปากของนกฟนซ์ในหมูเกาะลาปากอสแตกต่างกัน 1. จำนวนประชากร 2. ลักษณะภูมิอากาศ 3. ลักษณะภูมิประเทศ 4. ลักษณะของอาหารที่กิน 5. ความแตกต่างของสายพันธุ์ 15. “ยีราฟสายพันธุคอยาวสามารถกินยอดไม้ที่สูงได้มากกวายีราฟสายพันธุคอสั้น ทำใหมี โอกาสรอดชีวิตได้มากกวา” จากข้อความข้างตนสนับสนุนแนวคิดของนักวิทยาศาสตรท่านใด 1. เอินส เมียร 2. ชาลส ดาร์วิน 3. ฌอง ลามารก 4. ชาลส ไลเอลล์ 5. อัลเฟรด วอลเลซ 16. “ในอนาคต มนุษย์อาจมีสัดส่วนศีรษะโตขึ้นแต่แขนขาลีบเล็กลงเพราะใช้ความคิดมาก และเครื่องทุ่นแรงหลายชนิดทำงานแทน” คำกล่าวนี้สอดคล้องกับแนวคิดใด 1. เอินส เมียร 2. ชาลส ดาร์วิน 3. ฌอง ลามารก 4. ชาลส ไลเอลล์ 5. อัลเฟรด วอลเลซ


79 17. “ความแปรผัน ย่อมจะต้องมีบางลักษณะที่เหมาะสมกับ สิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตที่มี ลักษณะดังกล่าวย่อมจะดำรงชีวิตได้ดีและสามารถสืบพันธุ์ถ่ายทอดลักษณะไปยังรุ่นต่อไป” ข้อความนี้ สอดคล้องกับหลักการใด 1. กฏการรวมกลุ่มอย่างอิสระของเมนเด 2. แนวคิดการเกิดวิวัฒนาการของ ชาลล์ ดาร์วิน 3. กฎการแปรผันทางพันธุกรรมของฮาร์ดี และไวน์เบิร์ก 4. แนวคิดในทฤษฎีการคัดเลือกโดยธรรมชาติของ ชาลล์ ดาร์วิน 5. ลกฎแห่งการถ่ายทอดลักษณะที่เกิดขึ้นใหม่ของฌอง ลามาร์ก 18. หลักฐานในข้อใดสนับสนุนกฎการใช้และไม่ใช้ของลามาร์ก 1. ผู้ชายไม่ต้องให้นมลูกจึงไม่มีต่อมน้ำนม 2. กิ้งกือเดินเร็วกว่าตะขาบจึงมีขาจำนวนมากกว่า 3. ค้างคาวรับฟังเสียงด้วยระบบโซนาร์จึงไม่มีใบหู 4. คนที่ฝึกว่ายน้ำมาตั้งแต่เด็กเมื่อโตขึ้นจะมีไหล่กว้าง 5. ไม่มีข้อใดถูก 19. ขอใดกล่าวเกี่ยวกับวิวัฒนาการของลามารกได้ถูกตอง 1. สิ่งมีชีวิตจะปรับตัวใหเหมาะสมตอการดำรงชีวิตในสิ่งแวดลอม 2. สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะไม่เหมาะสมจะถูกคัดทิ้งออกจากกลุ่มประชากร 3. โครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงในรุนพอแม่จะไม่สามารถถ่ายทอดไปยังรูนลูกเสมอไป 4. โครงสร้างที่มีการใชงานมากจะมีขนาดใหญ่ แต่โครงสร้างที่ไม่ได้ใชงานจะมีขนาด เล็ก 5. สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเหมาะสมต่อสิ่งแวดลอมเท่านั้นที่จะสามารถถ่ายทอด พันธุกรรมตอไปได้ 20. ทฤษฏี natural selection ของชารล์ ดาร์วิน หมายถึง อะไร 1. เป็นการต่อสู้ดิ้นรนของสิ่งมีชีวิตที่จะปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติ 2. ธรรมชาติมีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนในการคัดเลือกเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต 3. สิ่งมีชีวิตมีทิศทางของการเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของธรรมชาติ 4. ลักษณะผันแปรของสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมหนึ่งๆ จะถูกคัดเลือก เอาไว้และสะสมเพิ่มมากขึ้น 5. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา


80 แบบแสดงความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ โดยพิจารณาความสอดคล้องระหว่างตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้และข้อสอบ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว30242 รายวิชาชีววิทยา 2 คำชี้แจง ขอความอนุเคราะห์ท่านผู้เชี่ยวชาญ ได้พิจารณาว่าข้อสอบที่สร้างขึ้น สอดคล้องกับตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้ที่กำหนดหรือไม่ โดยใช้เครื่องหมาย ( ) ลงในช่องคะแนนการพิจารณา พร้อมทั้ง เขียนข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการนำไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป โดยคะแนนการพิจารณามีดังนี้ +1 หมายถึง แน่ใจ ว่าข้อสอบมีความสอดคล้องกับตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ที่กำหนด 0 หมายถึง ไม่แน่ใจ ว่าข้อสอบมีความสอดคล้องกับตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ที่กำหนด -1 หมายถึง แน่ใจ ว่าข้อสอบไม่มีความสอดคล้องกับตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ที่กำหนด ตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม น้ำหนัก ข้อเสนอ -1 0 +1 แนะ สืบค้นข้อมูล และอธิบาย เกี่ยวกับ หลักฐานที่ สนับสนุนและ ข้อมูลที่ใช้ อธิบายการเกิด วิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต 1. หลักฐานในข้อใดเป็นหลักฐานที่ละเอียดที่สุดใน การระบุความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต 1. ชีวภูมิศาสตร์ 2. ซากดึกดำบรรพ์ 3. เอ็มบริโอเปรียบทียบ 4. ชีววิทยาระดับโมเลกุล 5. กายวิภาคเปรียบเทียบ 2. ซากดึกดำบรรพ์ที่พบในยุคแรกๆได้แก่ข้อใด 1. แบคทีเรียและพยาธิตืดหมู 2. สาหร่ายสีเขียวและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง 3. สาหร่ายสีเขียวและปลาไม่มีขากรรไกรแรกเริ่ม 4. พืชที่มีท่อลำเลียงชั้นต่ำและสัตว์ไม่มีกระดูกสัน หลัง 5. พืชที่มีท่อลำเลียงชั้นต่ำและปลาไม่มีขากรรไกร แรกเริ่ม


81 ตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม น้ำหนัก ข้อเสนอ -1 0 +1 แนะ 3. การที่มือและแขนของมนุษย์ มีกระดูกชิ้นต่างๆ เหมือนกับ ปีกของนก ครีบของโลมาหรือวาฬ ขา ของสุนัขนั้น เราเรียกการมีโครงสร้างที่คล้ายกันแต่ อาจจะมีหน้าที่ การทำงานต่างกันว่าอะไร 1. Micro evolution 2. Analogous structure 3. Convergent evolution 4. Homologous structure 5. ไม่มีข้อใดถูก 4. ขอใดจัดเป็นโครงสร้างที่มีตนกำเนิดต่างกัน 1. ปกนกและปกค้างคาว 2. ปกค้างคาวและแขนคน 3. ปกค้างคาวและปีกแมลง 4. ปกนกและขาหนาของจระเข 5. แขนคนและครีบหนาของวาฬ 5. ขอใดกล่าวเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพไม่ถูกตอง 1. ซากดึกดำบรรพที่มีอายุน้อยจะพบในหินชั้นบน 2. ซากดึกดำบรรพที่มีอายุมากจะพบในหินชั้นล่าง 3. ซากดึกดำบรรพสามารถบอกวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิตได้ 4. ซากดึกดำบรรพสามารถบอกลำดับการเกิดของ สิ่งมีชีวิตบนโลกได้ 5. ซากดึกดำบรรพที่มีอายุน้อยจะมีลักษณะ แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตปจจุบัน


82 ตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม น้ำหนัก ข้อเสนอ -1 0 +1 แนะ 6. นักวิทยาศาสตร์คาดคะเนความสูงของม้าจาก อดีตถึง ปัจจุบันจากหลักฐานข้อใด 1. พบซากม้าทั้งตัวจึงวัดได้ 2. พบภาพถ่ายในอดีตจึงคาดคะเนได้ 3. มีจดหมายเหตุของคนโบราณบอกไว้ 4. ประมาณจากซากขาหน้าและขาหลังที่พบ 5. จากหลักฐานภาพวาดรูปม้าในถ้ำที่ฝรั่งเศส 7. โครงสร้างของสิ่งมีชีวิตใดแตกต่างจากข้ออื่น 1. ขาแมว 2. ปีกฝีเสื้อ 3. แขนมนุษย์ 4. ปีกค้างคาว 5. รยางค์คู่หน้าของวาฬ 8. เมื่อมีการค้นพบฟอสซิลในชั้นของหินตะกอน ข้อใดกล่าวถูกต้อง 1. ฟอสซิลที่พบตื้นที่สุดเป็นฟอสซิลที่เก่าแก่ น้อยที่สุด 2. ฟอสซิลที่พบลึกที่สุดเป็นฟอสซิลที่มีลักษณะ คล้ายกับสิ่งมีชีวิตปัจจุบันมากที่สุด 3. ฟอสซิลที่พบในชั้นของหินตะกอน จะไม่มี สารประกอบพวกหินปูน ซิลิกอนออกไซด์ 4. ฟอสซิลที่พบแสดงความซับซ้อนของ โครงสร้างของสิ่งมีชีวิตในอดีต ยิ่งอยู่ในชั้นที่ลึกลง ไปเท่าไหร่ เราก็จะพบสิ่งมีชีวิตที่มีความซับซ้อน 5. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา


83 ตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม น้ำหนัก ข้อเสนอ -1 0 +1 แนะ 9. สิ่งมีชีวิตใดมีโอกาสเกิดซากดึกดำบรรพ์น้อย ที่สุด 1. มด 2. หอย 3. ปลาย 4. ปะการัง 5. พลานาเรีย 10. มนุษย์สปชีสแรกที่อพยพออกจากแอฟริกามา อยู่ในบริเวณเอเชียและหมูเกาะอินโดนีเซียคือ มนุษย์สปชีสใด 1. H. habilis 2. H. erectus 3. A. afarensis 4. H. sapiens sapiens 5. H. sapiens neanderthalensis 11. ขอใดเป็นลักษณะสำคัญของมนุษย์โครแมน ยอง 1. ขนาดสมองเล็กกวามนุษย์ปจจุบัน 2. มนุษย์กลุ่มแรกที่ยายออกจากแอฟริกา 3. มีความสามารถในการวาดภาพและแกะสลัก 4. ขนาดลําตัวของเพศชายใหญ่กวาเพศหญิง 1.2 เทา 5. กะโหลกศีรษะมีกระดูกคิ้วยื่น จมูกกว้าง และ คางสั้น


84 ตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม น้ำหนัก ข้อเสนอ -1 0 +1 แนะ 12. เมื่อทำการเปรียบเทียบลำดับของกรดอะมิโน ในโปรตีนฮีโมโกลบินจะพบว่าข้อใดเป็นจริง 1. ลำดับของกรดอะมิโนในโปรตีนฮีโมโกลบินใน สัตว์ทุกชนิดมีจำนวนเท่ากัน แต่การจัดเรียงตัว ต่างกัน 2. ลำดับของกรดอะมิโนในโปรตีนฮีโมโกลบินใน พืชและสัตว์ทุกชนิดมีจำนวนต่างกัน แต่การ จัดเรียงตัวเหมือนกัน 3. ฮีโมโกลบินที่พบในมนุษย์มีความก้าวหน้าและ ซับซ้อนจนไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับ ฮีโมโกลบินของสัตว์อื่นได้ 4. เราพบฮีโมโกลบินในมนุษย์เท่านั้น ซึ่ง วิวัฒนาการมาจากรงควัตถุอื่นๆ ที่สัตว์ใช้ในการ ลำเลียงออกซิเจนในเลือด 5. ความแตกต่างของลำดับกรดอะมิโนในโปรตีน ฮีโมโกลบินระหว่างมนุษย์และลิงมีน้อยกว่า ระหว่างมนุษย์และหนู


85 ตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม น้ำหนัก ข้อเสนอ -1 0 +1 แนะ 13. หลักฐานในข้อใดแสดงว่าเต่าและนกมาจาก บรรพบุรุษเดียวกัน 1. กายวิภาคเปรียบเทียบ ซากดึกดำบรรพ์ 2. ซากดึกดำบรรพ์ ร่องรอยของอวัยวะที่ไม่ใช้ งาน 3. การเจริญของเอ็มบริโอในช่วงแรก กายวิภาค เปรียบเทียบ 4. การเจริญของเอ็มบริโอในช่วงแรก ร่องรอย ของอวัยวะที่ไม่ใช้งาน 5. ไม่มีข้อใดถูก 14. กระบวนการในข้อใดไม่เป็นกลไกที่นำไปสู่การ เกิดวิวัฒนาการ 1. การคัดเลือกสายพันธุ์พืช และสัตว์โดยมนุษย์ 2. การผสมพันธุ์แบบสุ่มของสมาชิกในประชากร ที่มีขนาดใหญ่ 3. การผสมพันธุ์ระหว่างกระรอกสปีชีส์เดียวกัน แต่เคยอยู่แยกกันคนละเกาะ 4. การเลือกกินเฉพาะผีเสื้อที่มีสีฉูดฉาดเห็นได้ ชัดในธรรมชาติโดยผู้ล่าต่างๆ 5. การเกิดมิวเทชันในระดับยีนทำให้สมาชิก บางส่วนในประชากรมีลูกน้อยลง


86 ตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม น้ำหนัก ข้อเสนอ -1 0 +1 แนะ อธิบาย และ เปรียบเทียบ แนวคิดเกี่ยวกับ วิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิตของ ฌอง ลามาร์ก และทฤษฎี เกี่ยวกับ วิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต ของชาลส์ ดาร์วิน 15. นักวิทยาศาสตร์คนแรก ๆ ที่นำเสนอ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต คือใคร 1. ฌอง ลามาร์ก 2. ชาลส์ ดาร์วิน 3. ชาร์สล์ ไลเอลล์ 4. เกรเกอร์ เมนเดล 5. อัลเฟรด รัสเซล วอลเลส 16. กรณีใดต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่สนับสนุนทฤษฎี Natural selection 1. จิ้งจกเปลี่ยนสีตามสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย 2. กำเนิดแตงโมไร้เมล็ดเพื่อสนองความต้องการ ของผู้บริโภค 3. มีพลาสโมเดียมสายพันธุ์ที่ต้านยารักษาโรค มาลาเรียเพิ่มขึ้น 4. นกกะทาวางไข่จำนวนมากขึ้นเมื่อช่วง กลางวันยาวนานขึ้น 5. เชื้อเอดส์แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของมนุษย์ 17. ปัจจัยใดสำคัญที่สุดในการเกิดวิวัฒนาการของ นกฟินช์ในหมู่เกาะกาลาปากอส ซึ่งมีหลายสปีชีส์ ต่างๆกัน 1. การเกิดภัยธรรมชาติ 2. การอพยพย้ายถิ่นตามฤดูกาล 3. กลไกการแยกทางการสืบพันธุ์ 4. การแยกกันทางสภาพภูมิศาสตร์ 5. การผสมพันธุ์แบบข้ามสายพันธุ์


87 ตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม น้ำหนัก ข้อเสนอ -1 0 +1 แนะ 18. ปัจจัยใดที่ทำใหจะงอยปากของนกฟนซ์ในหมู เกาะลาปากอสแตกต่างกัน 1. จำนวนประชากร 2. ลักษณะภูมิอากาศ 3. ลักษณะภูมิประเทศ 4. ลักษณะของอาหารที่กิน 5. ความแตกต่างของสายพันธุ์ 19. “ยีราฟสายพันธุคอยาวสามารถกินยอดไม้ที่สูง ได้มากกวายีราฟสายพันธุคอสั้น ทำใหมีโอกาสรอด ชีวิตได้มากกวา” จากข้อความข้างตนสนับสนุน แนวคิดของนักวิทยาศาสตรท่านใด 1. เอินส เมียร 2. ชาลส ดาร์วิน 3. ฌอง ลามารก 4. ชาลส ไลเอลล์ 5. อัลเฟรด วอลเลซ 20. “ในอนาคต มนุษย์อาจมีสัดส่วนศีรษะโตขึ้นแต่ แขนขาลีบเล็กลงเพราะใช้ความคิดมากและเครื่อง ทุ่นแรงหลายชนิดทำงานแทน” คำกล่าวนี้ สอดคล้องกับแนวคิดใด 1. เอินส เมียร 2. ชาลส ดาร์วิน 3. ฌอง ลามารก 4. ชาลส ไลเอลล์ 5. อัลเฟรด วอลเลซ


88 ตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม น้ำหนัก ข้อเสนอ -1 0 +1 แนะ 21. “ความแปรผัน ย่อมจะต้องมีบางลักษณะที่ เหมาะสมกับ สิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะ ดังกล่าวย่อมจะดำรงชีวิตได้ดีและสามารถสืบพันธุ์ ถ่ายทอดลักษณะไปยังรุ่นต่อไป” ข้อความนี้ สอดคล้องกับหลักการใด 1. กฏการรวมกลุ่มอย่างอิสระของเมนเด 2. แนวคิดการเกิดวิวัฒนาการของ ชาลล์ ดาร์วิน 3. กฎการแปรผันทางพันธุกรรมของฮาร์ดี และ ไวน์เบิร์ก 4. แนวคิดในทฤษฎีการคัดเลือกโดยธรรมชาติ ของ ชาลล์ ดาร์วิน 5. ลกฎแห่งการถ่ายทอดลักษณะที่เกิดขึ้นใหม่ ของฌอง ลามาร์ก 22. หลักฐานในข้อใดสนับสนุนกฎการใช้และไม่ใช้ ของลามาร์ก 1. ผู้ชายไม่ต้องให้นมลูกจึงไม่มีต่อมน้ำนม 2. กิ้งกือเดินเร็วกว่าตะขาบจึงมีขาจำนวนมากกว่า 3. ค้างคาวรับฟังเสียงด้วยระบบโซนาร์จึงไม่มีใบหู 4. คนที่ฝึกว่ายน้ำมาตั้งแต่เด็กเมื่อโตขึ้นจะมีไหล่ กว้าง 5. ไม่มีข้อใดถูก


89 ตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม น้ำหนัก ข้อเสนอ -1 0 +1 แนะ 23. ขอใดกล่าวเกี่ยวกับวิวัฒนาการของลามารกได้ ถูกตอง 1. สิ่งมีชีวิตจะปรับตัวใหเหมาะสมตอการ ดำรงชีวิตในสิ่งแวดลอม 2. สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะไม่เหมาะสมจะถูกคัดทิ้ง ออกจากกลุ่มประชากร 3. โครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงในรุนพอแม่จะไม่ สามารถถ่ายทอดไปยังรูนลูกเสมอไป 4. โครงสร้างที่มีการใชงานมากจะมีขนาดใหญ่แต่ โครงสร้างที่ไม่ได้ใชงานจะมีขนาดเล็ก 5. สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเหมาะสมต่อสิ่งแวดลอม เท่านั้นที่จะสามารถถ่ายทอดพันธุกรรมตอไปได้ 24. จากการสังเกตพบว่าผีเสื้อที่มีสีสันกลมกลืนกับ สีของเปลือกไม้จะมีจำนวนมากกว่าผีเสื้อชนิดอื่นๆ ข้อสังเกตนี้จะใช้ข้อมูลใดมาอธิบายสนับสนุนได้ เหมาะสมที่สุด 1. หลักการของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก 2. ทฤษฎีการคัดเลือกโดยธรรมชาติของดาร์วิน 3. สัญชาตญาณในการหลบหนีศัตรูของสิ่งมีชีวิต 4. การถ่ายทอดลักษณะที่เกิดขึ้นใหม่ของลา มาร์ก 5. การผ่าเหล่าอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลง ของสิ่งแวดล้อม


90 ตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม น้ำหนัก ข้อเสนอ -1 0 +1 แนะ 25. ทฤษฏี natural selection ของชารล์ ดาร์วิน หมายถึง อะไร 1. เป็นการต่อสู้ดิ้นรนของสิ่งมีชีวิตที่จะปรับตัว ให้เข้ากับธรรมชาติ 2. ธรรมชาติมีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนในการคัดเลือก เผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต 3. สิ่งมีชีวิตมีทิศทางของการเปลี่ยนแปลงตาม ความต้องการของธรรมชาติ 4. ลักษณะผันแปรของสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมกับ สภาพแวดล้อมหนึ่งๆ จะถูกคัดเลือกเอาไว้และ สะสมเพิ่มมากขึ้น 5. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา ลงชื่อ .......................................................... ผู้ประเมิน (..........................................................)


91 แบบประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับสืบเสาะ หาความรู้ (5E) เรื่อง หลักฐานและแนวคิดที่เกี่ยวกับวิวัฒนาการ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 คำชี้แจง 1. แบบประเมินชุดนี้ มีจำนวน 20 ข้อ 2. ให้นักเรียนอ่านข้อความแต่ละข้อแล้วพิจารณาว่าตรงกับความรู้สึกหรือความพึงพอใจของ นักเรียนในระดับใดแล้วทำเครื่องหมาย () ลงในช่องที่ตรงกับความรู้สึกหรือความพึงพอใจที่เป็นจริง ของนักเรียน ข้อคำถาม ระดับความพึงพอใจ หมายเหตุ น้อย ที่สุด น้อย ปาน กลาง มาก มาก ที่สุด ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. นักเรียนมีอิสระทางความคิด และจิตนาการ 2. นักเรียนและครูมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ ร่วมกันมากขึ้น 3. นักเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมมากขึ้น 4. นักเรียนได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนทั้งรายบุคคลและ รายกลุ่ม 5. นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองมากขึ้น ด้านบรรยากาศการเรียนรู้ 6. การเรียนรู้รูปแบบดังกล่าวสร้างบรรยากาศที่ดีใน ห้องเรียน 7. นักเรียนมีความสนุกและให้ความสนใจต่อกิจกรรม การเรียน 8. นักเรียนมีความกระตือรือร้นที่จะอยากเรียนยิ่งขึ้น 9. นักเรียนพบว่าครูคอยให้คำแนะนำและให้ความ ช่วยเหลือแก่นักเรียน 10. นักเรียนสามารถแสดงออกทั้งแนวคิดและการมี ส่วนร่วมได้อย่างอิสระ


92 ข้อคำถาม ระดับความพึงพอใจ หมายเหตุ น้อย ที่สุด น้อย ปาน กลาง มาก มาก ที่สุด ด้านสื่อการเรียนรู้ 11. นักเรียนมีส่วนร่วมในการเลือกใช้สื่อการเรียนรู้ ด้วยตนเอง 12. นักเรียนเข้าถึงแหล่งข้อมูลของการเรียนรู้ด้วย ตนเอง 13. นักเรียนได้รับการชี้แนะจากครูในการเลือกใช้สื่ออุปกรณ์การเรียนรู้ 14. นักเรียนมีอิสระในการเลือกแหล่งเรียนรู้ด้วย รูปแบบการเรียนรู้ดังกล่าวนี้ 15. การค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหาจากแหล่งต่างๆ นักเรียนและครูมีส่วนร่วมร่วมกัน ด้านประโยชน์ที่ได้รับ 16. นักเรียนเกิดทักษะที่จำเป็นในชีวิตประจำวันจาก การเรียนรู้ด้วยรูปแบบดังกล่าว 17. นักเรียนสามารถศึกษาค้นคว้าความรู้ได้ด้วยตัวเอง จากการเรียนรู้ด้วยรูปแบบดังกล่าว 18. นักเรียนเข้าใจเนื้อหาบทเรียนมากยิ่งขึ้น 19. นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความารู้จากบทเรียนเข้า กับปัญหาในชีวิตประจำวันได้ 20. นักเรียนมีความสามารถที่จะเข้าถึงอย่างเท่าทันต่อ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ข้อเสนออื่นๆ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. ...................................


93 แบบประเมินค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ของประเด็นแบบสอบถามความพึงพอใจ ของนักเรียนต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับสืบเสาะ หาความรู้ (5E) เรื่อง หลักฐานและแนวคิดที่เกี่ยวกับวิวัฒนาการ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 คำชี้แจง โปรดพิจารณาความสอดคล้องของประเด็นข้อคำถามเพื่อใช้ในแบบสอบถามความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับสืบเสาะหาความรู้ (5E) แต่ละข้อว่ามีความถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ เมื่อพิจารณาแล้วให้ใส่เครื่องหมาย () ลงในช่อง ความคิดเห็น โดยใช้เกณฑ์การพิจารณา ดังนี้ +1 หมายถึง เห็นด้วย 0 หมายถึง ไม่แน่ใจ -1 หมายถึง ไม่เห็นด้วย ข้อ ข้อคำถาม ระดับความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ +1 0 -1 ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1 นักเรียนมีอิสระทางความคิด และจิตนาการ 2 นักเรียนและครูมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ ร่วมกันมากขึ้น 3 นักเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมมากขึ้น 4 นักเรียนได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนทั้งรายบุคคลและ รายกลุ่ม 5 นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองมากขึ้น ด้านบรรยากาศการเรียนรู้ 6 การเรียนรู้รูปแบบดังกล่าวสร้างบรรยากาศที่ดีใน ห้องเรียน 7 นักเรียนมีความสนุกและให้ความสนใจต่อกิจกรรม การเรียน 8 นักเรียนมีความกระตือรือร้นที่จะอยากเรียนยิ่งขึ้น 9 นักเรียนพบว่าครูคอยให้คำแนะนำและให้ความ ช่วยเหลือแก่นักเรียน


94 ข้อ ข้อคำถาม ระดับความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ +1 0 -1 10 นักเรียนสามารถแสดงออกทั้งแนวคิดและการมี ส่วนร่วมได้อย่างอิสระ ด้านสื่อการเรียนรู้ 11 นักเรียนมีส่วนร่วมในการเลือกใช้สื่อการเรียนรู้ ด้วยตนเอง 12 นักเรียนเข้าถึงแหล่งข้อมูลของการเรียนรู้ด้วย ตนเอง 13 นักเรียนได้รับการชี้แนะจากครูในการเลือกใช้สื่ออุปกรณ์การเรียนรู้ 14 นักเรียนมีอิสระในการเลือกแหล่งเรียนรู้ด้วย รูปแบบการเรียนรู้ดังกล่าวนี้ 15 การค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหาจากแหล่งต่างๆ นักเรียนและครูมีส่วนร่วมร่วมกัน ด้านประโยชน์ที่ได้รับ 16 นักเรียนเกิดทักษะที่จำเป็นในชีวิตประจำวันจาก การเรียนรู้ด้วยรูปแบบดังกล่าว 17 นักเรียนสามารถศึกษาค้นคว้าความรู้ได้ด้วยตัวเอง จากการเรียนรู้ด้วยรูปแบบดังกล่าว 18 นักเรียนเข้าใจเนื้อหาบทเรียนมากยิ่งขึ้น 19 นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความารู้จากบทเรียนเข้า กับปัญหาในชีวิตประจำวันได้ 20 นักเรียนมีความสามารถที่จะเข้าถึงอย่างเท่าทันต่อ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงชื่อ .......................................................... ผู้ประเมิน (..........................................................)


95 ภาคผนวก ค คุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย


96 ตารางที่ ค.1 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียน กลับด้านร่วมกับสืบเสาะหาความรู้ (5E) จากผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน รายการประเมิน ̅ S.D. ความหมาย 1. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.1 สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ 4.67 0.00 มากที่สุด 1.2 สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ 4.67 0.00 มากที่สุด 1.3 สามารถวัด/ประเมินผลได้ 4.67 0.00 มากที่สุด 2. สาระสำคัญ 2.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 5.00 0.00 มากที่สุด 2.2 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ ชัดเจน เข้าใจง่าย 4.67 0.47 มากที่สุด 2.3 เหมาะสมกับระดับชั้นของผู้เรียน 4.67 0.47 มากที่สุด 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4.67 0.47 มากที่สุด 3.2 สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ 4.67 0.47 มากที่สุด 3.3 เหมาะสมกับระดับชั้นของผู้เรียน 4.67 0.47 มากที่สุด 3.4 กำหนดเนื้อหาเหมาะสมกับเวลาเรียน 4.67 0.47 มากที่สุด 4. เนื้อหา 4.1 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 4.67 0.47 มากที่สุด 4.2 สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ 4.67 0.47 มากที่สุด 4.3 เหมาะสมกับเวลาที่ทำการสอน 4.67 0.47 มากที่สุด 5. กิจกรรมการเรียนรู้ 5.1 สอดคล้องกับเนื้อหา 4.67 0.47 มากที่สุด 5.2 สอดคล้องกับการวัดและประเมินผล 4.67 0.47 มากที่สุด 5.3 เร้าความสนใจ ให้ผู้เรียนกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ 5.00 0.00 มากที่สุด 5.4 เหมาะสมกับระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 4 5.00 0.00 มากที่สุด 5.5 เรียงลำดับกิจกรรมได้เหมาะสม 4.67 0.47 มากที่สุด 6. สื่อ อุปกรณ์ และแหล่งการเรียนรู้ 6.1 เหมาะสมกับวัยและความสามารถของผู้เรียน 5.00 0.00 มากที่สุด 6.2 เหมาะสมกับเนื้อหาและกิจกรรม 5.00 0.00 มากที่สุด


97 รายการประเมิน ̅ S.D. ความหมาย 6.3 เร้าความสนใจต่อผู้เรียน 5.00 0.00 มากที่สุด 7. การวัดและประเมินผล 7.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 5.00 0.00 มากที่สุด 7.2 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 4.67 0.47 มากที่สุด 7.3 สามารถวัดและประเมินผลสิ่งที่ระบุไว้ได้ 4.67 0.47 มากที่สุด 7.4 วัดและประเมินผลได้ครอบคลุมสาระการเรียนรู้ ตามที่ระบุไว้ 4.67 0.47 มากที่สุด 7.5 เครื่องมือที่ใช้วัดเหมาะสมกับผู้เรียน 4.67 0.47 มากที่สุด เฉลี่ยรวม 4.71 0.41 มากที่สุด จากตารางสรุปว่า ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 ท่าน ได้ประเมินแผนการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียน กลับด้านร่วมกับสืบเสาะหาความรู้ (5E) มีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.71 หมายความว่า แผนการ จัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับสืบเสาะหาความรู้ (5E) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับ ความเหมาะสมมากที่สุด


98 ตารางที่ ค.2 ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน ข้อที่ ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ X IOC ความหมาย คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 1 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 2 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 3 1 0 1 2 0.67 สอดคล้อง 4 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 5 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 6 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 7 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 8 1 1 0 2 0.67 สอดคล้อง 9 1 1 0 2 0.67 สอดคล้อง 10 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 11 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 12 0 1 1 2 0.67 สอดคล้อง 13 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 14 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 15 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 16 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 17 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 18 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 19 1 1 0 2 0.67 สอดคล้อง 20 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 21 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 22 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 23 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 24 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 25 1 1 1 3 1 สอดคล้อง


99 จากตารางสรุปได้ว่า เมื่อนำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเสนอต่อผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน เพื่อตรวจสอบความเที่ยงตรงกับผลการเรียนรู้ โดยวิธีการหาค่าความสอดคล้อง IOC ผลการประเมินได้ค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.67 - 1.00 จากการคัดเลือกแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนทั้งหมด 25 ข้อ ให้เหลือเพียง 20 ข้อ ในการที่จะนำไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง


Click to View FlipBook Version