The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิทยานิพนธ์ หลักสูตรศิลปมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ สาขาวิชานาฏศิลป์ไทย เรื่อง กลวิธีการรำตรวจพลของอสุรผัดในการแสดงโขน ของนายขรรค์ชัย หอมจันทร์ 2566

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

กลวิธีการรำตรวจพลของอสุรผัดในการแสดงโขน ของนายขรรค์ชัย หอมจันทร์ 2566

วิทยานิพนธ์ หลักสูตรศิลปมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ สาขาวิชานาฏศิลป์ไทย เรื่อง กลวิธีการรำตรวจพลของอสุรผัดในการแสดงโขน ของนายขรรค์ชัย หอมจันทร์ 2566

282 ตารางที่ 61 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัดอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ที่มา:ผู้วิจัย วิเคราะห์กระบวนท่ารำ จากการวิเคราะห์ท่ารำในลำดับที่57 กราวยักษ์จะใช้กระบวนท่ายืน มือวงแบบยักษ์ ส่วน กระบวนท่ารำของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว และกระบวนรำในหลักสูตรเป็นท่าโยธาเหมือนกันมือวง แบบลิง ลำดับที่57 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัด อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ท่ายืน ท่าโยธา ท่าโยธา เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดง เฉียงตัวทางซ้าย เวที เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดง เฉียงตัวทางซ้าย เวที


283 ตารางที่ 62 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัดอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ที่มา:ผู้วิจัย วิเคราะห์กระบวนท่ารำ จากการวิเคราะห์ท่ารำในลำดับที่ 58 ในจังหวะนี้กราวยักษ์ไม่ปรากฏท่ารำ ส่วนกระบวนท่า รำของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว และกระบวนท่ารำในหลักสูตรจะใช้ท่าโยธาเหมือนกัน มือวงลิง ลำดับที่58 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัด อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ท่าโยธา ท่าโยธา เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดงด้านซ้ายเวที เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดงด้านซ้ายเวที


284 ตารางที่ 63 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัดอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ที่มา:ผู้วิจัย วิเคราะห์กระบวนท่ารำ จากการวิเคราะห์ท่ารำในลำดับที่ 59 ในจังหวะนี้กราวยักษ์ไม่ปรากฏท่ารำ ส่วนกระบวนท่า รำของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว และกระบวนท่ารำในหลักสูตรจะใช้ท่ายิ้มเหมือนกัน มือวงลิง กลวิธีการรำตรวจพลอสุรผัดของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว กลวิธีลักษณะท่ายืนยิ้มในแบบยักษ์ใหญ่ เพื่อที่จะเน้นถึงความสง่างามของท่วงท่า ลำดับที่59 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัด อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ท่ายิ้ม ท่ายิ้ม เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที


285 ตารางที่ 64 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัดอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ที่มา:ผู้วิจัย วิเคราะห์กระบวนท่ารำ จากการวิเคราะห์ท่ารำในลำดับที่ 60 ในจังหวะนี้กราวยักษ์ไม่ปรากฏท่ารำ ส่วนกระบวนท่า รำของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว และกระบวนท่ารำในหลักสูตรจะใช้ท่าเรียกซ้าย เรียกขวาเหมือนกัน มือวงลิง ลำดับที่60 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัด อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ท่าเรียกซ้าย เรียกขวา ท่าเรียกซ้าย เรียกขวา เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดง ด้านหน้าเวที เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที


286 ตารางที่ 65 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัดอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ที่มา:ผู้วิจัย วิเคราะห์กระบวนท่ารำ จากการวิเคราะห์ท่ารำในลำดับที่ 61 ในจังหวะนี้กราวยักษ์ไม่ปรากฏท่ารำ ส่วนกระบวนท่า รำของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว และกระบวนท่ารำในหลักสูตรจะใช้ท่ายกไปเหมือนกัน มือวงลิง ลำดับที่61 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัด อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ท่ายกไป ท่ายกไป เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที


287 ตารางที่ 66 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัดอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ที่มา:ผู้วิจัย วิเคราะห์กระบวนท่ารำ จากการวิเคราะห์ท่ารำในลำดับที่ 62 ในจังหวะนี้กราวยักษ์ไม่ปรากฏท่ารำ ส่วนกระบวนท่า รำของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว และกระบวนท่ารำในหลักสูตรจะใช้ท่าที่โน้นเหมือนกัน มือวงลิง ลำดับที่62 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัด อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ท่าที่โน้น ท่าที่โน้น เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที


288 ตารางที่ 67 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัดอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ที่มา:ผู้วิจัย วิเคราะห์กระบวนท่ารำ จากการวิเคราะห์ท่ารำในลำดับที่ 63 ในจังหวะนี้กราวยักษ์ไม่ปรากฏท่ารำ ส่วนกระบวนท่า รำของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว และกระบวนท่ารำในหลักสูตรจะใช้ท่ายืนเหมือนกัน มือวงลิง ลำดับที่63 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัด อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ท่ายืน ท่ายืน เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที


289 ตารางที่ 68 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัดอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ที่มา:ผู้วิจัย วิเคราะห์กระบวนท่ารำ จากการวิเคราะห์ท่ารำในลำดับที่ 64 ในจังหวะนี้กราวยักษ์ไม่ปรากฏท่ารำ ส่วนกระบวนท่า รำของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว และกระบวนท่ารำในหลักสูตรจะใช้ท่าเก็บเหมือนกันมือวงลิง ลำดับที่64 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัด อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ท่าเก็บ ท่าเก็บ เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที


290 ตารางที่ 69 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัดอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ที่มา:ผู้วิจัย วิเคราะห์กระบวนท่ารำ จากการวิเคราะห์ท่ารำในลำดับที่ 65 ในจังหวะนี้กราวยักษ์ไม่ปรากฏท่ารำ ส่วนกระบวนท่า รำของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว และกระบวนท่ารำในหลักสูตรจะใช้ท่าเงื้อเหมือนกัน มือวงลิง ลำดับที่65 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัด อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ท่าเงื้อ ท่าเงื้อ เวทีการแสดงกลางโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที เวทีการแสดง กลางโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที


291 ตารางที่ 70 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัดอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ที่มา:ผู้วิจัย วิเคราะห์กระบวนท่ารำ จากการวิเคราะห์ท่ารำในลำดับที่ 66 ในจังหวะนี้กราวยักษ์ไม่ปรากฏท่ารำ ส่วนกระบวนท่า รำของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว และกระบวนท่ารำในหลักสูตรจะใช้ท่ากระทืบเท้ากลับเหมือนกัน มือวงลิง ลำดับที่66 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัด อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ท่ากระทืบเท้ากลับ ท่ากระทืบเท้ากลับ เวทีการแสดงกลางโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที เวทีการแสดงกลางโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที


292 ตารางที่ 71 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัดอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ที่มา:ผู้วิจัย วิเคราะห์กระบวนท่ารำ จากการวิเคราะห์ท่ารำในลำดับที่ 67 ในจังหวะนี้กราวยักษ์ไม่ปรากฏท่ารำ ส่วนกระบวนท่า รำของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว และกระบวนท่ารำในหลักสูตรจะใช้ท่าเสือลากหางกลับเหมือนกัน มือวงลิง ลำดับที่67 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัด อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ท่าเสือลากหาง ท่าเสือลากหาง เวทีการแสดง ท้ายโรง ทิศนักแสดงด้านหน้าเวที เวทีการแสดง ท้ายโรง ทิศนักแสดง ด้านหน้าเวที


293 ตารางที่ 72 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัดอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ที่มา:ผู้วิจัย วิเคราะห์กระบวนท่ารำ จากการวิเคราะห์ท่ารำในลำดับที่ 68 ในจังหวะนี้กราวยักษ์ไม่ปรากฏท่ารำ ส่วนกระบวนท่า รำของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว และกระบวนท่ารำในหลักสูตรจะใช้ท่าหลับม่านเหมือนกัน มือวงลิง กลวิธีการรำตรวจพลอสุรผัดของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว กลวิธีการเอี้ยวตัวและการชำเลืองมอง ลำดับที่68 กราวตรวจพลยักษ์ รำตรวจพลอสุรผัด อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว รำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) ท่าหลบม่าน ท่าหลบม่าน เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดง เฉียงตัวไปทาง ประตูซ้าย เวทีการแสดง หัวโรง ทิศนักแสดง เฉียงตัวไปทาง ประตูซ้าย


294 จากตารางที่สรุป เรื่องของกระบวนท่าที่มีความแตกต่างกัน ในการรำกราวยักษ์ รำตรวจพล อสุรผัดของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว และรำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร)ผู้วิจัยสามารถจะแบ่ง ออกเป็น 2 ช่วง คือช่วงที่ 1 ช่วง กระบวนท่ารำที่ได้จากอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ - โขน) ปีพุทธศักราช 2551 ที่รับการถ่ายทอดจากนายกรี วรศะริน ศิลปินแห่งชาติโดยตรง และช่วงที่ 2 อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ - โขน) ได้มีการปรับปรุงเพื่อใช้ในการเรียนการสอนของนาฏศิลป์ โขนและในหลักสูตร นาฏศิลป์ชั้นกลาง พ.ศ. 2524 ชั้นปีที่ 2 ทั้งสองส่วนได้นำกระบวนท่าของกราวยักษ์ฉากที่ 1 มาเป็น หลักในการออกแบบและปรับปรุงกระบวนท่ารำกราวตรวจพลซึ่งมีโครงสร้างท่ารำไม่แตกต่างกัน ระหว่างกราวยักษ์ฉาก 1 และกราวตรวจพลของตัวลิง เช่นชุดท่ากระทบฟันคว่ำมือ ท่าเสี้ยว การเต้นป๊ะเท่งป๊ะตรวจพล การปลอบ ส่วนในกระบวนท่ารำตรวจพลอสุรผัด ชุดของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ใช้ในช่วงแรกเป็นการใช้ในสัดส่วนของท่าลิงมีจำนวน 5 ท่า ได้แก่ ท่าหย่องด้านซ้าย ท่าหย่อง ด้านขวา ท่ากระโดดลงวง ท่าตีลังกาล้อเกวียน ท่าเกา และในรูปแบบกราวที่ปรับปรุงขึ้นใหม่โดย อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ได้นำเอากระบวนท่ารำกราวยักษ์ฉากที่ 1 เข้ามาใช้ในสัดส่วน จำนวน 39 ท่า แต่ที่สำคัญลักษณะความเฉพาะของตัวอสุรผัดที่ยังปรากฏในการรำตรวจพลชุดนี้คือ ลักษณะท่ามือเป็นวงลิงและท่าเกาที่ยังบ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครลูกผสมระหว่างตัว ยักษ์และตัวลิง มีการใช้หลักการขั้นตอนในการรำตรวจพลที่เหมือนกัน การใช้เวทีที่สรุปได้ว่า เหมือนกันมีการแบ่งเวทีเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนด้านหัวโรงส่วนด้านหน้ากลางโรง และส่วนด้านท้าย โรง โดยในกระบวนท่ารำในการแสดงบนเวทีก็จะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย มีเพียงการใช้ อุปกรณ์ที่ประกอบการแสดงซึ่งกราวยักษ์จะใช้อุปกรณ์ในการแสดงคือ กระบอง ส่วนการรำตรวจพล อสุรผัดของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว และรำตรวจพลอสุรผัด (ตามหลักสูตร) จะใช้อุปกรณ์ใน การแสดง คือ พระขัน ผู้วิจัยจึงได้ทำการนำเสนองานวิจัยและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยจาก ผู้เชี่ยวในแต่ละด้าน โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์และการศึกษารวบรวมหาข้อมูล ข้อเท็จจริงในด้านต่าง ๆ จึงเกิดเป็นการรำตรวจพลอสุรผัดในการแสดงโขนดังข้อมูลที่ได้กล่าวมาในข้างต้น


295 บทที่ 6 สรุป อภิปรายผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ งานวิจัยเรื่อง กลวิธีการรำตรวจพลของอสุรผัดในการแสดงโขน เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาและบทบาทของอสุรผัดในการแสดงโขนและเพื่อศึกษา กลวิธีการรำตรวจพลเฉพาะตัวของอสุรผัดในการแสดงโขน โดยศึกษาจากกระบวนท่ารำ จากอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ - โขน) ปีพุทธศักราช 2551 ตามแนวทางของ นายกรี วรศะริน ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์-โขน) ปีพุทธศักราช 2531 เป็นศิลปินผู้เชี่ยวชาญสอนนาฏศิลป์โขนของวิทยาลัยนาฏศิลป์ กรมศิลปากร ซึ่งมีวิธีการดำเนินการวิจัยตามกระบวนการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยศึกษาจากเอกสาร หนังสือ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง วิทยานิพนธ์ สูจิบัตร เอกสารทางวิชาการต่าง ๆ อีกทั้งผู้วิจัย ลงภาคสนามเพื่อฝึกปฏิบัติท่ารำและกลวิธีการแสดงการรำตรวจพลของยักษ์กุมาร นำมาเรียบเรียง เป็นรายงานการวิจัย เพื่อรวมรวมองค์ความรู้ ดังสรุป อภิปรายผลการวิจัย และข้อเสนอแนะต่อไปนี้ 1. สรุปผลการวิจัย ผู้วิจัยได้สรุปผลของการวิจัยตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้ 1.1 เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาและบทบาทของอสุรผัดในการแสดงโขน จากการศึกษาพบว่า วรรณกรรมเรื่องรามเกียรติ์ได้มีตัวละครหนึ่งที่ได้ปรากฏอยู่วรรณกรรม คือ ตัวอสุรผัด ซึ่งมีบทบาทและความสำคัญเป็นอย่างมาก ตัวละครตัวนี้มีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งจะแตกต่างจากตัวละครอื่น ๆ ในเรื่องรามเกียรติ์ตัวละครอสุรผัด จะเป็นตัวละครที่เกิดในรุ่นลูก ของตัวละครที่สำคัญในเรื่องรามเกียรติ์ ได้แก่ หนุมาน การกำเนิดตัวละครอสุรผัดเกิดจากตัวละคร ที่มีความแตกต่างจากเผ่าพันธุ์กัน คือ หนุมาน (ลิง) ผู้เป็นพ่อ และนางเบญกาย (นางยักษ์) ผู้ที่เป็นแม่ ที่กำเนิดอสุรผัด จึงทำให้อสุรผัด จึงมีลักษณะพิเศษ คือตัวเป็นยักษ์หัวเป็นลิง ลักษณะพิเศษดังกล่าว แสดงออกทางกายภาพเห็นได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ “อสุรผัด” ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของอสุรผัด ด้วยในส่วนด้านบทบาทหน้าที่สำคัญในวรรณกรรม เรื่องรามเกียรติ์และได้ปรากฏในการแสดงโขน ตอนอสุรผัดอาสาออกศึกและตอนศึกสุริยาภพ ในด้านบทบาทหน้าที่ของตัวอสุรผัด ก็มีความสำคัญ เป็นอย่างมาก ได้แก่ บทบาทลูกที่กตัญญูต่อบิดา บทบาทหลานท้าวทศคีรีวงศ์บทบาททหารพระพรต และพระสัตรุตแต่ละบทบาทของตัวอสุรผัดก็มีความสำคัญ ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น บทบาท ลูกที่กตัญญูต่อบิดาที่จะแสดงออกคือเหตุการณ์ที่อสุรผัดต้องออกตามหาผู้เป็นพ่อของตน


296 ตามคำบอกเล่าของมารดาเพราะตั้งแต่อสุรผัด ได้เกิดขึ้นมาก็ไม่เคยได้เห็นพ่อของตนเอง ถึงแม้น พ่อจะไม่เคยเลี้ยงดูมา ความรัก และความกตัญญูของอสุรผัด ก็ต้องทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุด ในด้านบทบาทหลานท้าวทศคิรีวงศ์อสุรผัดเป็นลูกของนางเบญกายและมีพระอัยกาคือท้าวทศคีรีวงศ์ เป็นผู้ที่เลี้ยงดูตั้งแต่กำเนิดได้มอบความรักความเมตาและเป็นผู้ฝึกวิชาความรู้ให้แก่อสุรผัด อสุรผัด จึงมีความกตัญญูต่อท้าวทศคีรีวงศ์เป็นอย่างมากรัก และเคารพเหมือนพ่อคนหนึ่ง และอีกหน้าหนึ่ง คือบทบาททหารพระพรต และพระสัตรุตเป็นทหารเอกเป็นผู้ที่มีฤทธิ์เดช และมีพละกำลังที่แข็งแรง และมีความสามารถในการรบ เป็นทหารผู้ที่มีความเก่งกาจมีความจงรักภักดีต่อนายของตนเอง เป็นอย่างมาก เหมือนพ่อของตน คือ หนุมาน ตอนนี้อสุรผัดได้บทบาทเป็นทหารพระพรต และพระสัตรุต มีความเสียสละ เก่งกาจ ทำหน้าที่นายทหารของกองทัพพระพรตได้อย่างเต็มกำลัง สมกับเป็นทหารคู่กาย และตอนอสุรผัดตามพ่อในตอนนี้บทบาทของตัวอสุรผัดในแต่สถานการณ์ แสดงให้เห็นถึงความเหมาะสมของฐานะของตนเอง ว่ามีหน้าที่ความรับผิดชอบในด้านใด ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ให้เหมาะสมกับบทบาทหน้าที่นั้นเพื่อแสดงให้เห็นว่า บทบาทหน้าที่ในการแสดงโขนก็มีความสำคัญไม่น้อยกับบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์ 1.2 เพื่อวิเคราะห์กลวิธีการรำตรวจพลเฉพาะตัวของอสุรผัดในการแสดงโขน จากการศึกษาพบว่า การรำตรวจพลเฉพาะตัวของอสุรผัดในการแสดงโขนจะแบ่ง ออกเป็น 2 ช่วง คือช่วงที่ 1 ช่วง กระบวนท่ารำที่ได้จากอาจารย์ประสิทธิ์ปิ่นแก้ว ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ - โขน) ปีพุทธศักราช 2551 ที่รับการถ่ายทอดจากอาจารย์กรี วรศะริน ศิลปินแห่งชาติโดยตรง และช่วงที่ 2 อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ - โขน) ได้มีการปรับปรุงเพื่อใช้ในการเรียนการสอนของนาฏศิลป์ โขนและในหลักสูตร นาฏศิลป์ชั้นกลาง พ.ศ. 2524 ชั้นปีที่ 2 ทั้งสองส่วนได้นำกระบวนท่าของกราวยักษ์ฉากที่ 1 มาเป็นหลักในการออกแบบและปรับปรุงกระบวนท่ารำกราวตรวจพล ส่วนในกระบวนท่ารำตรวจพล อสุรผัดชุดของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ใช้ในช่วงแรกเป็นการใช้ในลัดส่วนของท่าลิงมีจำนวน 5 ท่า ได้แก่ ท่าหย่องด้านซ้าย ท่าหย่องด้านขวา ท่ากระโดดลงวง ท่าตีลังกาล้อเกวียน ท่าเกา และ ในรูปแบบกราวที่ปรับปรุงขึ้นใหม่โดยอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ได้นำเอากระบวนท่ารำกราวยักษ์ ฉากที่ 1 เข้ามาใช้ในสัดส่วนท่ารำจำนวน 39 ท่า แต่ที่สำคัญลักษณะความเฉพาะของตัวอสุรผัด ที่ยังปรากฏในกราวตรวจพลชุดนี้คือลักษณะท่ามือเป็นวงลิงและท่าเกาที่ยังบ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ ของตัวละครลูกผสมระหว่างตัวยักษ์และตัวลิง ส่วนกลวิธีที่สำคัญของ อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ผู้วิจัยได้จำแนกออกเป็น 2ลักษณะ ดังนี้ 1. ลักษณะการใช้เท้า การถ่ายน้ำหนักของเหลี่ยมท่าขยับเดิน แตะส้นเท้าแล้วก้าวเดินออก 3 ก้าว แต่ละก้าวเปิดส้นเท้าหน้าเล็กน้อยเพื่อถ่ายน้ำหนักลากเท้าหลัง มาประเท้า ยืดกระทบแล้วเก็บมากลางเวที ขยับยกเท้าขวายืดกระทบลงท่าลงหย่องซ้าย เหลียวซ้าย ตะลึกตึก ยืดกระทบมือเข้าอกทั้งสองข้างลงในท่าหย่องลิง ด้านขวา เหลียวขวา ต่อด้วยท่ากระโดด


297 ลงวงแบบลิง กระทืบฟันคว่ำมือ กระโดดติดแล้วออกท่ารำหกคะเมน ท่าพาสุริน 2 การใช้ลำตัว การใช้ศีรษะ ซึ่งได้ดึงเอกลักษณะของผู้ที่ศึกษาตัวโขนลิง มาใช้ได้อย่างเต็มที่ จะเห็นได้ว่าลักษณะ ท่าจะเป็นท่ายักษ์แต่มีลีลากิริยาเป็นลิง 2. การอภิปรายผลการวิจัย จากการศึกษากลวิธีการรำตรวจพลเฉพาะตัวของอสุรผัดในการแสดงโขน อภิปรายผลได้ดังนี้ กระบวนท่ารำตรวจพลเฉพาะตัวของอสุรผัดในการแสดงโขนโดยศึกษากระบวนท่ารำ จากอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้วศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ - โขน) ปีพุทธศักราช 2551 ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาโดยการฝึกปฏิบัติท่ารำ สัมภาษณ์ การสังเกตและการสนทนาแล้วนำข้อมูล ที่ได้มาวิเคราะห์ และนำเสนอผลการวิจัยกระบวนท่ารำตรวจพลเฉพาะตัวของอสุรผัดในการแสดงโขน ผู้วิจัยได้กลวิธีกระบวนท่ารำตรวจพลเฉพาะตัวของอสุรผัด ในการแสดงโขนที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะของตัวละคร แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ 1. ลักษณะกระบวนท่าที่อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ - โขน) ปีพุทธศักราช 2551 ที่รับการถ่ายทอดอาจารย์กรี วรศะริน ศิลปินแห่งชาติ เป็นกระบวนท่ารำที่มีความแตกต่างจากกราวยักษ์ฉาก 1 ในช่วงต้น ในท่าขยับเดินแตะส้นเท้า แล้วก้าวเดินออก 3 ก้าว ซึ่งแต่ละก้าวจะต้องเปิดส้นเท้าหน้าเล็กน้อย เพื่อเป็นการถ่ายน้ำหนักตัว เพื่อความสวยงามของท่ารำจากนั้นลากเท้าหลังมาประเท้า แล้วยืดกระทบขยับ แล้วเก็บมากลางเวที ขยับยกเท้าขวายืดกระทบลง ท่าลงหย่องซ้าย เหลียวซ้าย ตะลึกตึก ยืดกกระทบมือเข้าอกทั้งสองข้าง ลงในท่าหย่องลิง ด้านขวา เหลียวขวา ต่อด้วยท่ากระโดดลงวงแบบลิงกระทืบฟันคว่ำมือ กระโดดติด แล้วตีลังกาล้อเกวียนแล้วต่อด้วยปฏิบัติท่ารำตรวจพลอสุรผัดฉาก 1 ในแบบลิงแล้วปฏิบัติท่ารำ ตรวจอสุรผัดตามแบบหลักสูตรนาฏศิลป์ชั้นกลาง พ.ศ. 2524 2. กลวิธีและเทคนิคการใช้ร่างกาย การใช้ทักษะโขน ในการรำตรวจพลอสุรผัดเป็นกิริยา ท่าทางของลิงและที่สำคัญของอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ผู้วิจัยได้จำแนกออกเป็น 2 ลักษณะดังนี้ 1. ลักษณะการใช้เท้าการถ่ายน้ำหนักของเหลี่ยม ท่าขยับเดินแตะส้นเท้าแล้วก้าวเดินออก 3 ก้าว แต่ละก้าวเปิดส้นเท้าหน้าเล็กน้อยเพื่อถ่ายน้ำหนัก จากนั้นลากเท้าหลังมาประเท้า ยืดกระทบแล้วเก็บ มากลางเวที ขยับยกเท้าขวายืดกระทบลงท่าลงหย่องซ้าย เหลียวซ้าย ตะลึกตึก ยืดกกระทบมือเข้าอก ทั้งสองข้างลงในท่าหย่องลิง ด้านขวา เหลียวขวา ต่อด้วยท่ากระโดดลงวงแบบลิง กระทืบฟันคว่ำมือ กระโดดติดแล้วท่ารำหกคะเมน ท่าพาสุริน 2. ลักษณะการใช้ลำตัว ลักษณะการใช้ศีรษะ โดยเฉพาะ การใช้หน้าซึ่งได้ดึงเอาลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้ที่ศึกษาตัวโขนลิง นำมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ตามที่ผู้ฝึกโขนลิงได้ฝึกมา จะสามารถเห็นได้ว่าลักษณะท่าจะเป็นท่ายักษ์ที่มีความสง่า ตามแบบยักษ์ แต่จะมีลีลากิริยาเป็นอาการของลิงในการรำตรวจพลอสุรผัดซึ่งจะไปสอดคล้องกับ สมศักดิ์ ทัดติ


298 ที่กล่าวในการสัมภาษณ์ว่า การรำตรวจอสุรผัดจะคัดเลือกนักแสดงให้ได้ความเหมาะสมหรือผู้แสดง นั้นควรจะเป็นผู้ที่เรียนโขนลิงมากกว่า ผู้แสดงที่เป็นตัวยักษ์ ถึงแม้มีโครงสร้างกระบวนท่ารำกราว ของตัวยักษ์ก็ตาม เนื่องจากผู้ที่เรียนโขนลิงได้ฝึกกระบวนท่ารำด้านลิงมาอย่างมีความแม่นยำ จึงสามารถปฏิบัติกระบวนท่ารำตรวจอสุรผัดได้ดีกว่าผู้ที่เรียนโขนยักษ์มา แต่ท่วงทีและลีลาเหมาะสม กับผู้แสดงที่เป็นตัวลิงมากกว่าและได้สอดคล้องกับประเมษฐ์ บุณยะชัยซึ่งกล่าวไว้อีกว่าตัวอสุรผัด มีลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนใครด้วยชาติกำเนิดของตน ลักษณะทางร่างกายของอสุรผัดจะเหมือนพ่อ เพราะอสุรผัดเป็นลูกของหนุมาน จึงมีร่างกายที่แตกต่างกว่าตัวละครอื่น คือร่างกายเป็นยักษ์ แต่งเครื่องทรงยักษ์หัวเป็นลิง และได้อาศัยอยู่เมืองยักษ์ตั้งแต่กำเนิดมา จึงมีความยักษ์มาครึ่งหนึ่ง แต่มีจะมีความเป็นลิงที่อยู่ในสายเลือดของผู้เป็นพ่อ คือ หนุมาน จึงได้การแสดงกิริยาท่าทางออกมา เป็นลิงจากข้อมูลดังกล่าวก็ได้ไปสอดคล้องกับไกรลาส จิตร์กุล (2548, น.101) ได้ศึกษาการตรวจพล ของพญาวานรในการแสดงโขน พบว่า การจัดกระบวนทัพตรวจพลในการแสดงโขนมีความเชื่อมโยง กับวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ฉบับรัชการที่ 1 และตำราพิชัย ซึ่งในการจัดแสดงตอนตรวจพลนิยม จัดแสดงในรูปแบบโขนหน้าจอเพียงรูปแบบเดียว แต่มีการจัดขนาดกระบวนทัพหรือกองทัพ 3 ขนาด ได้แก่การจัดกระบวนท่าขนาดใหญ่การจัดกระบวนทัพขนาดกลางและการจัดกระบวนทัพแบบเล็ก ในการตรวจพลของพญาวานร ซึ่งต้องใช้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมาประกอบกัน เป็นท่า ให้สอดคล้องเชื่อมโยงกันเป็นท่ารำของพญาวานรแต่ละตัวนั้น นอกจากนี้พบว่าในท่ารำตรวจพลนั้น มีกระบวนท่าทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่กระบวนท่ารำหลัก กระบวนท่ารำเฉพาะกลุ่มและกระบวนท่ารำ เฉพาะตัว 3. ข้อเสนอแนะงานวิจัย 3.1. ข้อเสนอแนะในการนำงานวิจัยไปใช้ 3.1.1 สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ หรือสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ที่จัดการเรียนการสอน ด้านนาฏศิลป์ไทย สามารถนำองค์ความรู้จากงานวิจัยนี้ไปใช้ประกอบการเรียนการสอนปฏิบัติ ชุดการรำตรวจพลอสุรผัด เพื่อเป็นการอนุรักษ์การแสดงชุดนี้ให้คงอยู่สืบไป 3.1.2 ผู้ที่ศึกษางานวิจัยที่เป็นผู้ถ่ายทอดท่ารำ สามารถนำไปปฏิบัติหน้าที่ในการเรียน สอนทักษะนาฏศิลป์โขน โดยสามารถทบทวนองค์ความรู้ด้านท่ารำตรวจพล เพื่อเป็นสื่อใน การเรียนการสอนได้หรือนำไปใช้ในด้านการแสดงโขนต่อไป 3.1.3 กลวิธีการรำต่าง ๆ ที่ปรากฏในผลการวิจัยครั้งนี้ผู้ที่สนใจศึกษาสามารถ นำไปปรับใช้ ให้เหมาะสมกับตนเองในการรำชุดอื่น ๆ


299 3.2 ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยครั้งต่อไป 3.2.1 การศึกษาเกี่ยวกับการสืบทอดการรำตรวจพลอสุรผัดในการแสดงโขนทำให้ ทราบถึงความเป็นมา แนวคิดการประดิษฐ์กระบวนท่ารำ ตลอดจนการสืบทอดการแสดงชุดนี้ ดังนั้น จึงควรมีการศึกษาการสืบทอดการแสดงชุดอื่น ๆ เพื่อให้ทราบถึงความเป็นมา แนวคิด การประดิษฐ์ กระบวนท่ารำ ตลอดจนการสืบทอดการแสดงมากขึ้น เพื่อเป็นองค์ความรู้ทางด้านนาฏศิลป์ไทยต่อไป 3.2.2 ควรศึกษากระบวนท่ารำตรวจพล ที่มีความใกล้เคียงกันเพื่อนำไปสร้างองค์ความรู้ ทางด้านนาฏศิลป์ไทยต่อไป 3.2.3 ศึกษาวิเคราะห์กระบวนท่ารำ การรำตรวจพลของตัวละครลิง ซึ่งเป็นตัวละครที่มี บทบาทมากในเรื่องรามเกียรติ์ เพื่อเป็นการสร้างองค์ความรู้เพิ่มเติม


300


300 บรรณานุกรม กรมศิลปากร. (2509). สารกรมศิลปกร. กรุงเทพฯ: ประชาชน. กรมศิลปากร. (2539). สารกรมศิลปกร. กรุงเทพฯ: ประชาชน. กรมศิลปากร. (2545). ตำราพิไชยสงคราม ฉบับที่1. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร. กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). โคลงภาพรามเกียรติ์ เล่ม 1. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์การศาสนา. กุสุมา รักษมณี และคณะ. (2557). มหากาพย์รามายณะของวาลมีกิฉบับ ภาษาไทย. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์ พับลิชชิ่ง. ไกรลาส จิตร์กุล. (2548). การตรวจพลของพญาวานรในการแสดงโขน . (วิทยานิพนธ์ ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร. ขรรค์ชัย บุนปาน และคณะ. (2543). พจนานุกรมนอกราชบัณฑิตฯ. กรุงเทพฯ: มติชน. ขวัญใจ คงถาวร. (2548). การรำตรวจพลของตัวพระในการแสดงละครในเรื่องอิเหนา. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร. ทรงวิทย์ ดลประวิทย์. (2541). โคตรงวงศ์ทศกัณฑ์. กรุงเทพฯ: มติชน. ธนพันธุ์ เมธาพิทักษ์. (2537). ลิเก ละคร โขน หนังของไทย. กรุงเทพฯ: หอสมุดกลาง 09. ธนพันธุ์ เมธาพิทักษ์. (2537). จิตรกรรมไทยความงดงามที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย. กรุงเทพฯ: หอสมุดกลาง 09. ธนิต อยู่โพธิ์. (2511). โขน. พิมพ์ครั้งที่ 3. พระนคร: ศิวพร. ธนิต อยู่โพธิ์. (2539). โขน. กรุงเทพฯ: องค์การค้าของคุรุสภา. ธีรภัทร์ ทองนิ่ม. (2555). โขน. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์. ธีรภัทร์ ทองนิ่ม. (2556). โขน. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์. ธีรภัทร์ ทองนิ่ม. (2561). โขน. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: มิตรสยาม. นาคะ ประทีป. (2551). สมญาภธิานรามเกียรต์. กรุงเทพฯ : คลังวิทยา. นิดดา หงส์วิวัฒน์. (2545). เล่าเรื่องรามเกียรติ์ จากจิตรกรรมฝาผนังรอบพระระเบียง วัดพระศรี รัตนศาสดาราม. กรุงเทพฯ: แสงแดดเพื่อนเด็ก. นพวัฒน์ สมพื้น. (2536). เครื่องศิราภรณ์(ศึกษาเฉพาะกรณีหัวโขน). กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร.


301 พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช, พระบาทสมเด็จ. (2514). รามเกียรติ์ เล่ม 3. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ: ศิลปาบรรณาคาร. พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช, พระบาทสมเด็จ. (2515). รามเกียรติ์ เล่ม 4. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ: ศิลปาบรรณาคาร. พหลยุทธ กนิษฐบุตร. (2545). กระบวนการรำและกลวิธีการแสดงบททศกัณฐ์ในการแสดงโขน ตอน นางลอย ของครูจตุพร รัตนวราหะ. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร. ไพโรจน์ ทองคำสุก. (2549). แนวคิดและวิธีแสดงโขนลิง. (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร. ไพฑูรย์ เข้มแข็ง. (2537). จารีตการฝึกหัดและการแสดงโขนของตัวพระราม. (วิทยานิพนธ์ ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร. ประพันธ์ สุคนธะชาติ. (2534). หัวโขนพงศ์ในเรื่องรามเกียรติ์. กรุงเทพฯ: อมรินทร์ พริ้นติ้ง กรุ๊พ. มัทนี รัตนิน. (2546). ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับศิลปะการกำกับการแสดงละครเวที. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ. (2562). โขนศาสตร์และ ศิลปแผ่นดินไทย. กรุงเทพฯ: มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ. ราชบัณฑิตยสถาน. (2542). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ: นามมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์. ราชบัณฑิตยสถาน. (2552). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ: นามมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์. วรศักดิ์ เพียรชอบ. (2527). หลักและวิธีสอนพลศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช. วันทนีย์ ม่วงบุญ. (2539). ลักษณะประติมานวิทยาของหุ่นเรื่องรามเกียรติ์. กรุงเทพฯ: สถาบัน นาฏดุริยางคศิลป์, กรมศิลปากร. สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม. (2565). ที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ นายประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว. กรุงเทพฯ: พีริ้นท์. สนิธวรรณ บุณยศิริพันธุ์. (2512). ตำราพิไชยสงคราม. กรุงเทพฯ: ท่าพระจันทร์ สุรพล วิรุฬห์รักษ์. (2543). นาฏยศิลป์ปริทรรศน์. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.


302 สุรเดช เนียมคำ. (2558). รำตรวจพลวิรุญ จำบัง. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์, กรุงเทพมหานคร. สุมิตร เทพวงษ์. (2548). นาฏศิลป์ สำหรับครูประถมศึกษา - อุดมศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์. สุภางค์ จันทวานิช. (2559). การวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยเชิงคุณภาพ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. เสถียร โกเศศ (พระยาอนุมานราชธน). (2518). เล่าเรื่องไตรภูมิ. กรุงเทพฯ: คลังวิทยา. เสาวณิต วิงวอน. (2554). วรรณคดีการละคร. กรุงเทพฯ: ภาควิชาวรรณคดี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. เอื้อมพร หลินเจริญ. (2554). เทคนิคการวิเคราะห์วิจัยเชิงคุณภาพ. วารสารการวัดผลการศึกษา, 17(1) กรกฎาคม, 27.


303 บุคลานุกรม กิตติ จารุประยูร. นาฏศิลปินชายโขนลิงสำนักการสังคีต กรมศิลปากร. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 5 กันยายน 2565 กิตติพงษ์ ไตรพงษ์. นาฏศิลปินชายโขนลิงสำนักการสังคีต กรมศิลปากร. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 20 สิงหาคม 2565 จฬรรณ์ ถาวรนุกูลพงส์. ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตอกหนังใหญ่ วัดขนอน จังหวัดราชบุรี. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 24 มกราคม 2564. ไชยยะ ทางมีศรี. ผู้เชี่ยวชาญทางด้านดนตรีไทย. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 4 สิงหาคม 2565. ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว. ศิลปินแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย โขนลิง สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 17 ธันวาคม 2565. ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว. ศิลปินแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย โขนลิง สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 25 ธันวาคม 2565. ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว. ศิลปินแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย โขนลิง สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 22 มกราคม 2563. ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว. ศิลปินแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย โขนลิง สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 9 มีนาคม 2563 ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว. ศิลปินแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย โขนลิง สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 22 สิงหาคม 2563 ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว. ศิลปินแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย โขนลิง สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 28 กันยายน 2563 ประเมษฐ์ บุญยะชัย. ศิลปินแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย โขน สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2565. พรเสิศ พิพัฒน์รุ่งเรือง. ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย โขนลิง สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 5 กันยายน 2565.


304 ไพโรจน์ ทองคำสุก. (ราชบัณฑิต) สำนักการสังคีต กรมศิลปากร. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2563. ไพโรจน์ ทองคำสุก. (ราชบัณฑิต) สำนักการสังคีต กรมศิลปากร. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 15 มกราคม 2564. ไพโรจน์ ทองคำสุก. (ราชบัณฑิต) สำนักการสังคีต กรมศิลปากร. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 20 มกราคม 2564. พรเทพ เลี้ยงสอน. ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทยโขนลิง สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2564. วิโรจน์ อยู่สวัสดิ์. ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทยโขนลิง สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 4 ตุลาคม 2564. วิโรจน์ อยู่สวัสดิ์. ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทยโขนลิง สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 15 มกราคม 2565. วิโรจน์ อยู่สวัสดิ์. ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย โขนลิง สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 1 กันยายน 2565. สมศักดิ์ ทัดติ. ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย โขนยักษ์สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 5 กันยายน 2565. สุรัตน์ จงดา. ผู้ช่วยอธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 17 พฤษภาคม 2565. เอกภชิต วงศ์สิปปกร. นาฏศิลปินชายโขนลิง สำนักการสังคีต กรมศิลปากร. (ผู้ให้สัมภาษณ์) ขรรค์ชัย หอมจันทร์. (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อ 24 กันยายน 2565.


305 ภาคผนวก


306 ภาคผนวก ก อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ - โขน) ปีพุทธศักราช 2551


307 ประวัติและผลงานอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ภาพที่59 อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ที่มา: ผู้วิจัย อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว อายุ ปี เกิดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2484 ที่ตำบลบางมด อำเภอบางขุนเทียน จังหวัดธนบุรี บิดาชื่อ นายเฉญ ปิ่นแก้ว มารดาชื่อ นางล้วน ปิ่นแก้ว ภรรยาชื่อ นางสุปราณี ปิ่นแก้ว มีบุตรหญิง 1 คน ปัจจุบันคุณครูประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว บ้านเลขที่ 59 ซอยวัฒนสุขนิเวศน์ ถนนบางกอกน้อย - ตลิ่งชัน แขวงบางขุนเทียน เขตบางกอกน้อย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 1. ประวัติการศึกษา พุทธศักราช 2495 สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา จากโรงเรียนศิลปะเดชศึกษาคาร (วัดบางขุนเทียนกลาง) พุทธศักราช 2506 สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง จากโรงเรียนนาฏศิลป


308 พุทธศักราช 2524 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ศึกษาศาสตรบัณฑิต (ศษ.บ.) คณะ นาฏศิลป์และดุริยางค์ จากวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา (ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคล) พุทธศักราช 2531 สำเร็จการศึกษาหลักสูตรเตรียมผู้บริหารสถานศึกษาระดับสูง กรม ศิลปากร และกรมพลศึกษา วิชาเอกบริหารของสถาบันพัฒนาผู้บริหารการศึกษา สำนักงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 2. การศึกษาศิลปะการแสดงโขน อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว เริ่มชอบการเล่นโขน โดยในวัยเด็กได้ตามคุณลุงไปงานวัดและ ที่งานวัดมีการแสดงโขน คุณลุงได้พาไปเห็นโขนตัวลิงออกมาเต้นโขนก็เกิดความประทับใจ ต้องการ เล่นโขนเป็นตัวลิง จึงขอคุณลุงไปสอบเข้าโรงเรียนนาฏศิลป ต่อมาเมื่อคุณครูประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจึงได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนนาฏศิลป โดยเรียนสาขาโขนลิง ได้รับ การถ่ายทอดวิชาด้านโขนลิงและวิชาความรู้ต่าง ๆ จากครูกรี วรศะริน จนกระทั่งเรียนจบวิชาชีพ ชั้นสูง 2 แล้วได้สอบบรรจุเข้าสอนที่กองการสังคีต เป็นระยะเวลาพอสมควรจึงเข้าศึกษาต่อ ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ระหว่างเรียนก็ทำงานที่โรงเรียนนาฏศิลปะ กองการสังคีตด้วย อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว หลังจากได้รับการถ่ายทอดความรู้ด้านโขนลิงแล้ว ก็แสดงโขนลิง แทบทุกตัวมาโดยตลอด เนื่องจากมีความสนใจในการเรียนโขนลิงมาก จึงได้รับความเอ็นดู การถ่ายทอดและโอกาสร่วมแสดงโขนกับคุณครูอยู่บ่อยครั้ง จากครูกรี วรศะริน ครูอเนก คราประยูร ครูสงัด โอชะกะ ครูบุญชัย เฉลยทอง ครูฤกษ์ชัย เชวงรัตน์ ครูช่วย สุดแสดง ครูฉลาด พกุลานนท์ และครูแสวง อัฏฏะวัชระ 3. ประวัติการทำงาน คุณครูประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว เริ่มรับราชการในตำแหน่งศิลปินจัตวา กองการสังคีต กรมศิลปากร เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พุทธศักราช 2506 และได้รับการเลื่อนตำแหน่งตามลำดับ ดังนี้ 1 สิงหาคม พุทธศักราช 2508 ศิลปินตรี แผนกนาฏศิลป์ กองการสังคีต กรมศิลปากร 1 กันยายน พุทธศักราช 2515 ศิลปินโท แผนกนาฏศิลป์ กองการสังคีต กรมศิลปากร 1 กันยายน พุทธศักราช 2518 นาฏศิลปิน 4 แผนกนาฏศิลป์ กองการสังคีต กรมศิลปากร 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2520 อาจารย์ 1 ระดับ 4 วิทยาลัยนาฏศิลปะ กองศิลปศึกษา กรมศิลปากร


309 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2522 อาจารย์ 2 ระดับ 6 วิทยาลัยนาฏศิลป กองศิลปศึกษา กรมศิลปากร 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2526 อาจารย์ 2 ระดับ 6 วิทยาลัยนาฏศิลป กองศิลปศึกษา กรมศิลปากร 1 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2531 ผู้ช่วยผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฏศิลป ระดับ 6 1 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2533 ผู้ช่วยผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฏศิลป ระดับ 7 27 ธันวาคม พุทธศักราช 2537 ผู้ช่วยผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฏศิลป ระดับ 8 11 ธันวาคม พุทธศักราช 2538 ผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฏศิลป ระดับ 8 พุทธศักราช 2544 ผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฏศิลป ระดับ 9 พุทธศักราช 2545 เกษียณอายุราชการ พุทธศักราช 2546 ดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญการสอนนาฏศิลป์ไทย (โขนลิง) สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป กระทรวงวัฒนธรรม 3 ตุลาคม พุทธศักราช 2564 ถึงแก่กรรม 4. ประวัติผลงานทางด้านนาฏศิลป์ไทย ผลงานด้านการแสดงโขน อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว มีผลงานด้านการแสดงครั้งแรก ในขณะศึกษาอยู่ชั้นต้นปีที่ 1 ที่โรงเรียนนาฏศิลปะ ได้รับหน้าที่ให้แสดงชุด สีดาลุยไฟ และปราบบรรลัยกัลป์ ที่โรงละครศิลปากร ต่อมาได้รับการเลื่อนขึ้นเรียนในชั้นต้นปีที่ 2 ได้รับการคัดเลือกให้แสดงเป็นทหาร ในโรงละคร อิงประวัติศาสตร์ แสดงเรื่องอนุภาพต่อพ่อขุนรามคำแหง บทประพันธ์ของพลตรีหลวงวิจิตรวาทการ โดยแสดงโขนเป็นตัวเขนลิงบ้าง เสนาลิงบ้างและได้แสดงเป็นหนุมาน ในการแสดงโขน ชุดเบ็ดเตล็ด เช่น หนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา หนุมานรบกับวิรุณจำบัง เป็นต้น ตลอดระยะเวลาที่แสดงโขนได้ แสดงตั้งแต่เป็นเขนลิง สิบแปดมงกุฎ และพญาวานร เช่น พาลี สุครีพ หนุมาน หนุมานทรงเครื่อง องคตและนิลนนท์


310 5. ผลงานด้านการสร้างสรรค์นาฏศิลป์ไทย อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว นอกจากผลงานการแสดงแล้วยังได้สร้างสรรค์ผลงานการแสดง อื่น ๆ ได้แก่ 5.1 ประดิษฐ์ท่ารำฉุยฉายพาลี (หลักสูตรการเรียนของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์) 5.2 ประดิษฐ์ท่าเต้นโขนลิงประกอบการแสดงเรื่องรามเกียรติ์ ชุด โขนวานรพงศ์ของ กรมศิลปากร ในงานพระราชพิธีพระเมรุพระศพสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากรมหลวง นราธิวาสราชนครินทร์ 5.3 กำกับการแสดงโขนอีกมากมาย เช่น การแสดงโขน ชุด พิเภกสวามิภักดิ์ ณ โรงละครแห่งชาติการแสดงโขนเรื่องกำแหงหนุมานข้าราชบริพารผู้ภักดี ณ ศาลาเฉลิมกรุง วันที่ 2 - 6 กรกฎาคม พุทธศักราช 2551 เป็นต้น 5.4 ควบคุมการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอนยกรบ ณ โรงละครแห่งชาติ 5.5 ควบคุมและฝึกซ้อมการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอนจองถนน ณ สังคีตศาลา กรุงเทพมหานคร 5.6 ควบคุมและฝึกซ้อมการแสดงโขนในงาน Pacific Polymer conference ณ กรุงเทพมหานคร 5.7 เขียนหนังสือคู่มือประกอบการสอนวิชานาฏศิลป์ไทย (โขน) ระดับปริญญา สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เรื่องฉุยฉายพาลีและหนุมานทรงเครื่อง 5.8 ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสายนาฏศิลป์โขน พุทธศักราช 2521 5.9 ที่ปรึกษาของวิทยาลัยนาฏศิลป์กรรมการสอบและดูแลการเรียนการสอน 5.10 ส่งเสริมกิจกรรมการสอบแข่งขันด้านนาฏศิลป์และดนตรี รางวัลสมเด็จพระเจ้า บรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ 5.11 กรรมการสอบนาฏศิลป์โขนภาคปฏิบัติและสัมภาษณ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลฯ 5.12 เป็นอาจารย์สอนพิเศษด้านโขนตัวลิงให้กับมหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคล


311 6. รางวัลและเกียรติคุณที่ได้รับ 6.1รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.) พุทธศักราช 2545 6.2 รับรางวัลราชมงคลสรรเสริญ เป็นผู้ที่มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม พุทธศักราช 2548 จากเทคโนโลยีราชมงคล 6.3 รับปริญ ญ าศิลปกรรมศาสตรดุษฎีบัณ ฑิตกิตติมศักดิ์ (นาฏกรรมไทย) จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง วันที่ 24 ธันวาคม พุทธศักราช 2550 6.4 รับโล่เกียรติคุณที่ได้สนับสนุนจัดงานราตรีละอองดาว 39 ของนักศึกษาวิชาทหาร กรมการรักษาแผ่นดิน 6.5 รับพระราชทานรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น ในด้านศิลปวัฒนธรรม คณะนาฏศิลป์และ ดุริยางค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 7. การทำคุณประโยชน์เพื่อสังคม 7.1 เป็นวิทยากรบรรยายเรื่อง “สืบสานศิลปะไทย”ของคณะคุรุศาสตร์จุฬาลงกรณ มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยนาฏศิลป์ 7.2 กรรมการที่ปรึกษาในการเรียบเรียงวิทยานิพนธ์ศิลปะของคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 7.3 ประธานและรองประธานกรรมการการจัดงาน และการแสดงศิลปวัฒนธรรม สี่ภาคของวิทยาลัยนาฏศิลป ในสังกัดกองศิลปศึกษา กรมศิลปากร 7.4 เป็นกรรมการร่างพระราชกฤษฎีกาข้อบังคับระเบียบประกาศประกอบร่างพระราชบัญญัติ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ 7.5 กรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเฟสปิกเกมส์ พุทธศักราช 2542 7.6 กรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ พุทธศักราช 2542 7.7 กรรมการจัดทำหลักสูตรเพลงพื้นบ้านภาคกลาง 7.8 กรรมการโครงการพัฒนาศูนย์สารสนเทศด้านนาฏดุริยางคศิลป์ 7.9 กรรมการประชุมวิชาการนานาชาติ 7.10 กรรมการโครงการดนตรี โขน ละครจรกรุงเก่า 7.11 กรรมการมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย 7.12 กรรมการวิเคราะห์และจัดทำเกณฑ์ผู้สอนในสถาบันศึกษา 7.13 เป็นวิทยากรให้ความรู้แก่นักศึกษากับสถานศึกษาที่มีความสนใจ


312 ภาคผนวก ข ภาพการดำเนินการงานวิจัย


313 ภาพที่ 60 การสอบหัวข้อวิทยานิพนธ์ ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 61 การสอบหัวข้อวิทยานิพนธ์ ที่มา: ผู้วิจัย


314 ภาพที่ 62 สัมภาษณ์ข้อมูลกับผู้เชี่ยวชาญอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 63 การรับการถ่ายทอดกระบวนท่ารำกราวตรวจพลอสุรผัดจากอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ที่มา: ผู้วิจัย


315 ภาพที่ 64 การรับการถ่ายทอดกระบวนท่ารำกราวตรวจพลอสุรผัดจากอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 65 การรับการถ่ายทอดกระบวนท่ารำกราวตรวจพลอสุรผัดจากอาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ที่มา: ผู้วิจัย


316 ภาพที่ 66 สัมภาษณ์ข้อมูลกับอาจารย์วิโรจน์ อยู่สวัสดิ์ ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่67 สัมภาษณ์ข้อมูลกับอาจารย์วิโรจน์ อยู่สวัสดิ์ ที่มา: ผู้วิจัย


317 ภาพที่ 68 สัมภาษณ์ข้อมูลกับอาจารย์วิโรจน์ อยู่สวัสดิ์ ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 69 สัมภาษณ์ข้อมูลกับอาจารย์วิโรจน์ อยู่สวัสดิ์ ที่มา: ผู้วิจัย


318 ภาพที่ 70 สัมภาษณ์ข้อมูลกับอาจารย์วิโรจน์ อยู่สวัสดิ์ ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 71 สัมภาษณ์ข้อมูลกับอาจารย์วิโรจน์ อยู่สวัสดิ์ ที่มา: ผู้วิจัย


319 ภาพที่ 72 สัมภาษณ์ข้อมูลกับอาจารย์วิโรจน์ อยู่สวัสดิ์ ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่73 สัมภาษณ์ข้อมูลกับอาจารย์วิโรจน์ อยู่สวัสดิ์ ที่มา: ผู้วิจัย


320 ภาพที่ 74 สัมภาษณ์ข้อมูลกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.ธีรภัทร์ทองนิ่ม ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 75 สัมภาษณ์ข้อมูลกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.ธีรภัทร์ทองนิ่ม ที่มา: ผู้วิจัย


321 ภาพที่ 76 สัมภาษณ์ข้อมูลกับดร.นิวัฒน์ สุขประเสริฐ ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 77 สัมภาษณ์ข้อมูลกับอาจารย์สมศักดิ์ ทัดติ ที่มา: ผู้วิจัย


322 ภาพที่ 78 สัมภาษณ์ข้อมูลกับอาจารย์อาจารย์ประเมษฐ์ บุณยะชัย ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่79 สัมภาษณ์ข้อมูลกับอาจารย์กิตติพงษ์ ไตรพงษ์ ที่มา: ผู้วิจัย


323 ภาพที่ 80 สัมภาษณ์ข้อมูลกับอาจารย์ไชยยะ ทางมีศรี ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 81 สัมภาษณ์ข้อมูลกับอาจารย์กิตติ จารุประยูร ที่มา: ผู้วิจัย


324 ภาพที่ 82 สัมภาษณ์ข้อมูลกับอาจารย์พรเสิศ พิพัฒน์รุ่งเรือง ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 83 สัมภาษณ์ข้อมูลกับอาจารย์พรเทพ เลี้ยงสอน ที่มา: ผู้วิจัย


325 ภาพที่ 84 บันทึกท่ารำ ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 85 บันทึกท่ารำ ที่มา: ผู้วิจัย


326 ภาพที่ 86 บันทึกท่ารำ ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 87 เครื่องแต่งกายของอสุรผัด ที่มา: ผู้วิจัย


327 ภาพที่ 88 เครื่องแต่งกายของอสุรผัด ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 89 เครื่องแต่งกายของอสุรผัด ที่มา: ผู้วิจัย


328 ภาพที่ 90 เครื่องแต่งกายของอสุรผัด ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 91 เครื่องแต่งกายของอสุรผัด ที่มา: ผู้วิจัย


329 ภาพที่ 92 สอบป้องกันวิทยานิพนธ์ ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 93 สอบป้องกันวิทยานิพนธ์ ที่มา: ผู้วิจัย


330 ภาคผนวก ค หนังสือรับรองจริยธรรมและหนังสือตอบรับตีพิมพ์บทความ


Click to View FlipBook Version