กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ (จดั กจิ กรรมใหส้ อดคล้องกบั สมรรถนะทพี่ ึงประสงค)์
ขัน้ นาเข้าส่บู ทเรียน
1. ครเู ลา่ ให้นักศึกษาฟงั เกี่ยวกบั ความเป็นมาของแนวคิดปรชั ญาสกู่ ารจดั การสมยั ใหมใ่ ห้นกั ศึกษา
ฟงั
2. ครสู อบถามนกั ศึกษาถงึ แนวคิดในการสรา้ งความเปน็ เลศิ ทางธุรกจิ ว่ามีอะไรบ้าง และวิเคราะหส์ ง่ิ
ท่ีครผู สู้ อนเลา่ เรื่องราวใหฟ้ งั
ขั้นสอน
1. ครูยกตัวอย่างทรพั ยากรการจดั การของบริษัทชนั้ นาของประเทศไทยนักศึกษาฟงั
2. ครเู รมิ่ ทาการบรรยายรายละเอียดที่สาคัญตา่ ง ๆ ของบทเรยี น พร้อมทง้ั ยกตวั อย่างประกอบและ
ซกั ถามนกั ศึกษาไปพร้อมคาบรรยาย
3. ครูอธบิ ายเรือ่ ง สภาพแวดลอ้ มของการจัดการ พรอ้ มท้งั ยกตัวอย่างประกอบและซักถามนกั ศกึ ษา
ไปพร้อมคาบรรยาย
4. ครูบรรยายเรื่องการจดั การในศตวรรษที่ 21 พรอ้ มท้ังยกตัวอยา่ งประกอบและซกั ถามนกั ศกึ ษา
ไปพร้อมคาบรรยาย
5. ครูใหน้ กั ศกึ ษาชว่ ยกันวเิ คราะหเ์ นอื้ หาตา่ ง ๆ ท่ไี ดเ้ รยี นมาแล้วออกมาอภปิ รายใหเ้ พือ่ น
ขนั้ สรุป
ครูสรปุ และเปิดโอกาสให้นกั ศกึ ษาร่วมแสดงความคิดเห็นจากบทเรยี นทเี่ รยี นหากไมเ่ ข้าใจส่วนไหนให้
สอบถามได้
ส่ือการจัดการเรยี นรู้
แหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี น
2. หนังสอื ทเี่ ก่ียวขอ้ ง
3. ส่ือการสอน Power Point
4. วดิ ที ศั น์
การประเมินผลการจัดการเรียนรู้ (ให้สอดคล้องกับสมรรถนะที่พงึ ประสงค)์
ก่อนเรยี น
สงั เกตจากความสนใจ ตัง้ ใจเรียน รว่ มสนทนาและแสดงความคดิ เหน็
ขณะเรียน
1. สังเกตความตง้ั ใจ การมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมกลมุ่ มีความรับผิดชอบในงานทมี่ อบหมายให้ การแสดง
ความคิดเหน็ ซกั ถาม และสังเกตความเป็นระเบยี บเรียบร้อย มวี นิ ยั มภี มู ิค้มุ กนั ด้านยาเสพติด
หลงั เรียน
สงั เกตการณจ์ ดบันทกึ การร่วมสรุปเนอื้ หาและทาแบบทดสอบให้ถกู ตอ้ ง 80% ข้ึนไป
แบบทดสอบหรอื ใบงาน (ถา้ ม)ี
แบบทดสอบ หน่วยท่ี 3
พิจารณาเลือกคาตอบท่ถี กู ต้องทส่ี ุดเพียงคาตอบเดียว
1. ขอ้ ใดกลา่ วความหมายของการวางแผนถูกต้อง
ก. เป็นกระบวนการกาหนดอดีตจากอนาคต
ข. เปน็ กระบวนการทางความคดิ และการตัดสนิ ใจ
ค. เปน็ การกาหนดอนาคตจากผลการปฏบิ ัติในอดตี
ง. เป็นการตัดสนิ ใจในปจั จุบันเพอ่ื ให้ได้ผลในอนาคต
2. ถ้าไม่มีการวางแผน ขอ้ ใดกล่าวผดิ
ก. กระบวนการบรหิ ารก็จะไม่เกิดขนึ้
ข. กาหนดทิศทางวางวิสัยทัศน์อยา่ งถกู ตอ้ ง
ค. กาหนดมาตรฐานในการควบคุมเปน็ ไปอย่างถกู ตอ้ ง
ง. การวเิ คราะหป์ ระเมนิ ปัญหาและสถานการณ์ถกู ต้อง
3. ข้อใดเปน็ แผนที่ใช้คร้ังเดยี ว
ก. ปฏทิ นิ ข. นโยบาย
ค. กฎเกณฑ์ ง. มาตรฐาน
4. การใชข้ ้อมลู การตลาดในอดตี เป็นฐานเพื่อกาหนดเปา้ หมายในอนาคตคอื ขอ้ ใด
ก. การวิเคราะหจ์ ดุ คุ้มทุน ข. การจัดทางบประมาณ
ค. การพยากรณ์เชิงปรมิ าณ ง. การพยากรณเ์ ชงิ คุณภาพ
5. การใช้ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกองค์การมาศึกษาข้อมูลภายในองค์การและเสนอแนะการแก้ปญั หาคือข้อใด
ก. การวเิ คราะห์จุดคุ้มทุน ข. การจัดทางบประมาณ
ค. การพยากรณเ์ ชงิ ปรมิ าณ ง. การพยากรณเ์ ชิงคุณภาพ
6. ขอ้ ใดเปน็ แผนการจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสมกับสภาพแวดลอ้ มท่เี ปลยี่ นแปลง
ก. แผนธุรกิจ ข. แผนกลยุทธ์
ค. แผนยุทธวิธี ง. แผนปฏบิ ตั ิการ
7. ขอ้ ใดไมใ่ ช่จุดมุ่งหมายของแผนกลยุทธ์
ก. ยึดมั่นในศกั ยภาพไม่ปรับเปล่ียนตามสภาพแวดลอ้ ม
ข. ยดึ ม่นั ในการผสมผสานสร้างคณุ ค่าให้ทนั สภาพแวดล้อม
ค. พบจดุ แขง็ และเพ่ิมความแขง็ แกรง่ จากสถานการณ์ใหม่
ง. พบจุดออ่ นหลกี เลย่ี งแกไ้ ขโดยการรวมตวั กับทรัพยากรใหม่
8. ข้อใดคอื ความมุง่ หวังหรือตาแหน่งธุรกิจในอนาคตทีเ่ หมาะสมกบั ทรัพยากรสภาพแวดล้อมในอนาคต
ก. คา่ นิยม ข. พันธกิจ
ค. วิสยั ทศั น์ ง. วตั ถปุ ระสงค์
9. ผลติ ภณั ฑใ์ หม่ ๆ ท่ีเรม่ิ แนะนาตลาด ควรกาหนดในตาแหน่งขอ้ ใด
ก. ววั นม ข. ดาวเดน่
ค. สนุ ขั ข้เี กยี จ ง. เด็กเจา้ ปญั หา
10. ข้อใดเปน็ วงจรชีวิตผลิตภัณฑใ์ นข้ันเจรญิ เตบิ โต
ก. ววั นม ข. ดาวเดน่
ค. สุนขั ข้เี กยี จ ง. เด็กเจา้ ปัญหา
เฉลยแบบทดสอบหรอื ใบงาน
1. ข
2. ข
3. ก
4. ค
5. ง
6. ข
7. ง
8. ค
9. ง
10. ข
บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ผลการเรียนของนักเรยี น
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ผลการสอนของครู
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 4
ชือ่ วชิ าหลกั การจดั การ สอนครั้งที่ 8-9
ช่ือหน่วย การเปล่ยี นแปลงและพฒั นาองค์การ ชั่วโมง 8
ชอื่ เรือ่ งหรอื ชื่องาน การเปล่ียนแปลงและพฒั นาองคก์ าร จานวนชั่วโมง 8
หัวขอ้ เรื่องและงาน
1. ตวั แบบการวิเคราะห์การปรบั ตัวเพ่ือการเปล่ียนแปลงและพัฒนาองคก์ าร
2. มิตขิ องการเปลีย่ นแปลงและพฒั นาองค์การ
3. ปัจจยั ท่นี าไปสู่การเปล่ยี นแปลงและพฒั นาองคก์ าร
4. ผนู้ าการเปลีย่ นแปลงและพฒั นาองคก์ าร
5. ปจั จัยทม่ี ีอทิ ธพิ ลต่อความสาเรจ็ ในการเปล่ียนแปลงและพัฒนาองคก์ าร
6. ประเภทของการเปลีย่ นแปลงและพัฒนาองคก์ าร
สาระสาคัญ
การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนา มคี วามหมายใกลเ้ คยี งกันมาก แต่การพัฒนาเปน็ ส่วนหน่ึงของการ
เปล่ียนแปลงองค์การอย่างมีแบบแผน ในอันที่จะทาให้องค์การสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปล่ียนแปลงของ
สภาพแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้ความรู้และเทคนิควิธีทางด้านพฤติกรรมศาสตร์เข้ามา
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการเปลี่ยนแปลงองค์การ
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายมติ ขิ องการเปลี่ยนแปลงและพฒั นาองคก์ ารได้
2. จาแนกปจั จัยทนี่ าไปสกู่ ารเปล่ียนแปลงและพฒั นาองค์การได้
3. อธิบายผนู้ าแหง่ การเปล่ยี นแปลงและพฒั นาองค์การได้
4. จาแนกปัจจยั ท่ีมีอทิ ธิพลต่อความสาเร็จในการเปล่ยี นแปลงและพฒั นาองคก์ ารได้
5. นักศกึ ษาเปน็ ผู้มรี ะเบยี บวินยั
สมรรถนะทพี่ งึ ประสงค์
ดา้ นพทุ ธิพิสัย
1. อธบิ ายมิติของการเปล่ียนแปลงและพัฒนาองค์การได้
2. จาแนกปัจจยั ที่นาไปส่กู ารเปล่ียนแปลงและพฒั นาองค์การได้
3. อธิบายผู้นาแหง่ การเปลย่ี นแปลงและพัฒนาองคก์ ารได้
ดา้ นทกั ษะพสิ ยั
วเิ คราะหป์ จั จัยที่มอี ทิ ธิพลตอ่ ความสาเร็จในการเปลีย่ นแปลงและพฒั นาองค์การได้
ดา้ นจิตพสิ ัย
นักศกึ ษาเปน็ ผู้มรี ะเบียบวนิ ัย
บูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง/3D
นกั ศกึ ษาสามารถนาความรจู้ ากการศึกษาเลา่ เรยี นไปประกอบการตดั สนิ ใจและเพอื่ เป็นภูมคิ มุ้ กนั ให้
ตัวเอง ดว้ ยการเปน็ ผมู้ ีความสนใจใฝ่รู้ ตงั้ ใจเรยี น
เน้ือหาสาระพอสังเขป
1. ตวั แบบการวเิ คราะหก์ ารปรับตวั เพอื่ การเปล่ียนแปลงและพฒั นาองคก์ าร
การเปล่ยี นแปลงและการพัฒนา มคี วามหมายใกล้เคยี งกันมาก แตก่ ารพัฒนาเป็นส่วนหน่ึงของการ
เปลี่ยนแปลงองค์การอย่างมีแบบแผน ในอันที่จะทาให้องค์การสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของ
สภาพแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้ความรู้และเทคนิควิธีทางด้านพฤติกรรมศาสตร์เข้ามา
ประยุกต์ใช้ในการเปล่ียนแปลงองค์การ การเปล่ียนแปลงกับเสถียรภาพ เฮลเรีย เกล และสโลคัม ไดพ้ ฒั นาตัว
แบบสาคัญเพอ่ื ใช้ในการวิเคราะหค์ วามสัมพนั ธ์ระหว่างการเปลยี่ นแปลงกับการปรบั ตวั ขององคก์ าร เรยี กว่า ตัว
แบบการวิเคราะหก์ ารปรับตวั การมีเสถียรภาพและความอยรู่ อดขององคก์ าร ดงั รปู
รูปท่ี 9 แบบการวิเคราะหก์ ารปรบั ตัวและความอย่รู อดขององค์การ
2. มิติของการเปลี่ยนแปลงและพฒั นาองค์การ
การเปล่ยี นแปลงองค์การในมิติใดนั้น ขึ้นอยู่กบั ปจั จัยหลายประการ โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมภายใน
และภายนอกท่ีเกิดขึ้น รวมท้ังการวิเคราะห์ข้อมูลเก่ียวกับสภาพแวดล้อมและความจาเป็น ท่ีองค์การ
เปลี่ยนแปลง โดยทั่วไปแลว้ มิตสิ าคัญทอ่ี งคก์ ารจะตอ้ งเปลยี่ นแปลงมดี ังน้ี
1. การเปลย่ี นแปลงเปา้ หมายและกลยุทธ์
2. การเปล่ียนแปลงเทคโนโลยี
3. การออกแบบระบบการทางานใหม่
4. การเปลย่ี นแปลงโครงสร้าง
5. การเปลย่ี นแปลงกระบวนการ
3. ปจั จัยทน่ี าไปสูก่ ารเปลี่ยนแปลงและพัฒนาองคก์ าร
การเปล่ียนแปลง เป็นสาเหตุสาคัญท่ีผู้บริหารต้องตัดสินใจทาการพัฒนาองค์การ เพราะเมื่อ
สิง่ แวดลอ้ มเปลยี่ นแปลง ทกุ องค์การย่อมจะตอ้ งพยายามปรับตัวให้เหมาะสมและสอดคล้องโดยที่องค์การต่าง
ต้องปรับปรุงและเปลย่ี นแปลงตนเองอยตู่ ลอดเวลาเพ่อื ความเปน็ อย่รู อด ความมั่นคง และการเจรญิ เตบิ โตอยา่ ง
ตอ่ เนอ่ื ง ปจั จัยทีจ่ ะนาไปส่กู ารเปล่ยี นแปลง ได้แก่
1. รปู แบบ
2. วงจรชีวิตขององคก์ าร
3. การเปลยี่ นแปลงขององคก์ าร
4. ปัจจยั ที่มผี ลตอ่ การเปล่ียนแปลง
4. ผูน้ าการเปล่ยี นแปลงและพัฒนาองคก์ าร
ตวั แทนการเปลยี่ นแปลงหรอื ผู้นาการเปล่ียนแปลง หมายถึง บุคคลหรอื กลุ่มบุคคลท่ีเป็นสมาชิกของ
องค์การ หรือมาจากภายนอกองค์การ โดยมีวัตถุประสงค์หลักที่จะใช้ความรู้ ทักษะ ความสามารถ และ
ประสบการณ์ เพ่ืออานวยความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงขององค์การให้เกิดข้ึนและดาเนินการไปอย่างมี
ประสิทธภิ าพ ดว้ ยคุณสมบตั ิ และหน้าที่ ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. ทกั ษะในการตดิ ต่อส่ือสารระหว่างบคุ คล
2. ความสามารถในการประมวลผล วเิ คราะห์และแกไ้ ขปัญหา
3. ความสามารถในการเรยี นรูส้ ่ิงตา่ ง ๆ จากประสบการณ์
4. ความสามารถในการรบั รู้สถานการณแ์ ละความรสู้ ึกของผู้อน่ื
5. ปจั จยั ทมี่ ีอิทธิพลตอ่ ความสาเรจ็ ในการเปลี่ยนแปลงและพฒั นาองคก์ าร
การเปลี่ยนให้ประสบความสาเร็จนั้นผู้บริหารจาเป็นต้องตระหนักถึงปัจจัยที่สาคัญหลายประการ
โดยเฉพาะอย่างย่ิงจะต้องพิจารณาในสว่ นของผู้นาในการเปลี่ยนแปลง การชี้ชดั ให้ไดว้ ่าจะเปลย่ี นแปลงอะไร จะใช้
การเปลี่ยนแปลงประเภทใด มีใครบ้างจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง และควรประเมินการ
เปล่ียนแปลง ดังรปู
รปู ท่ี 10 ความสาเรจ็ ในการเปล่ยี นแปลง
6. ประเภทของการเปลีย่ นแปลงและพัฒนาองค์การ
ประเภทของการเปล่ียนแปลงองคก์ าร มนี ักทฤษฎอี งค์การได้ศกึ ษารูปแบบการเปล่ยี นแปลงองคก์ าร
ไวม้ ากมาย สามารถสรปุ เปน็ ประเภทได้ดงั น้ี
1. ตวั แบบของกระบวนการเปลย่ี นแปลง ดังรูป
รูปที่ 11 กระบวนการเปล่ยี นแปลง
2. ตัวแบบการเปล่ียนแปลงองค์การแบบสามข้ันตอน ดังรูป
รปู ที่ 12 การเปลี่ยนแปลงองค์การแบบ 3 ข้นั ตอน
3. ตัวแบบการเปลย่ี นแปลงองค์การอยา่ งมีแบบแผน ดงั รปู
รูปท่ี 13 การเปลี่ยนแปลงองค์การอย่างมีแบบแผน
4. ตัวแบบการเปล่ยี นแปลงองค์การด้วยการวจิ ยั เชิงปฏบิ ัติการ ดังรปู
รปู ท่ี 14 การเปลยี่ นแปลงองค์การด้วยการวจิ ัยเชิงปฏิบตั ิการ
5. ตัวแบบการเปลีย่ นแปลงองคก์ ารดว้ ยการลดขนาดองค์การ ทาไดห้ ลายวิธี เช่น
5.1 ทาการเปลี่ยนแปลงองค์การในด้านโครงสรา้ ง
5.2 การคงสภาพโครงสรา้ งเดมิ ไว้ แตใ่ ห้ลดบุคลากรจากการตดั ตาแหนง่ งานบางตาแหน่งออกไป
ลดบุคลากรฝา่ ยอานวยการ และให้บุคลากรเกษียณเรว็ ขึ้น
5.3 การเปล่ียนแปลงวิธีการบริหาร
6. ตวั แบบการเปล่ยี นแปลงองคก์ ารดว้ ยการรื้อปรบั ระบบ ดังรูป
รปู ท่ี 15 การเปล่ียนแปลงองค์การด้วยการร้ือปรบั ระบบ
กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้ (จัดกจิ กรรมให้สอดคล้องกับสมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค)์
ขน้ั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น
1. ครเู ล่าให้นักศกึ ษาฟงั เก่ียวกบั มติ ิของการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาองคก์ ารใหน้ กั ศกึ ษาฟัง
2. ครสู อบถามนักศึกษาว่าปจั จยั ทนี่ าไปสกู่ ารเปล่ียนแปลงและพฒั นาองค์การมีอะไรบา้ ง วิเคราะห์
สิง่ ที่ครผู สู้ อนเล่าเรอ่ื งราวใหฟ้ งั
ข้ันสอน
1. ครยู กตวั อยา่ งผนู้ าแห่งการเปลี่ยนแปลงและพฒั นาองค์การใหน้ ักศกึ ษาฟงั
2. ครูเริม่ ทาการบรรยายรายละเอียดทส่ี าคัญต่าง ๆ ของบทเรียน พร้อมทงั้ ยกตวั อยา่ งประกอบและ
ซกั ถามนกั ศกึ ษาไปพร้อมคาบรรยาย
3. ครใู หน้ ักศกึ ษาช่วยกันวิเคราะหป์ จั จยั ที่มอี ทิ ธพิ ลตอ่ ความสาเรจ็ ในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา
องคก์ าร พร้อมทง้ั ยกตวั อยา่ งประกอบและซกั ถามนกั ศกึ ษาไปพร้อมคาบรรยาย
ข้ันสรุป
ครูสรปุ และเปดิ โอกาสใหร้ ่วมแสดงความคิดเห็นจากบทเรียนทเ่ี รยี นมา หากไมเ่ ขา้ ใจในสว่ นไหน ให้
สอบถามได้
สอื่ การจัดการเรียนรู้
แหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน
2. หนังสอื ทเ่ี กย่ี วข้อง
3. ส่ือการสอน Power Point
4. วิดที ัศน์
การประเมนิ ผลการจดั การเรียนรู้ (ให้สอดคลอ้ งกบั สมรรถนะท่ีพงึ ประสงค)์
ก่อนเรยี น
สังเกตจากความสนใจ ตงั้ ใจเรยี น ร่วมสนทนาและแสดงความคดิ เห็น
ขณะเรยี น
1. สังเกตความตัง้ ใจ การมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมกลมุ่ มีความรับผิดชอบในงานทม่ี อบหมายให้
การแสดงความคิดเหน็ และซักถาม
2. สงั เกตความเป็นระเบียบเรียบร้อยและมีวินัย มภี ูมิคุม้ กันด้านยาเสพตดิ
หลงั เรียน
สงั เกตการณจ์ ดบันทึก การร่วมสรปุ เนื้อหาและทาแบบทดสอบใหถ้ ูกต้อง 80% ขนึ้ ไป
แบบทดสอบหรือใบงาน (ถ้าม)ี
แบบทดสอบ หนว่ ยท่ี 4
พิจารณาเลือกคาตอบทีถ่ กู ตอ้ งท่ีสุดเพยี งคาตอบเดยี ว
1. ขอ้ ใดเป็นการเปล่ยี นแปลงโดยใช้เทคโนโลยี มกี ารวิจัยดา้ นพฤติกรรมและวัฒนธรรมองคก์ าร
ก. Organizational Change ข. Organizational Development
ค. Organizational Effectiveness ง. Organizational Environment
2. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ ง
ก. การเปลย่ี นแปลงเหมอื นกับการพัฒนา ข. การเปล่ียนแปลงและพัฒนาแตกตา่ งกนั
ค.การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาใช้ควบคกู่ นั ง. การพฒั นาเป็นส่วนหน่ึงของการเปลยี่ นแปลง
3. ขอ้ ใดเป็นตาแหนง่ การปรบั ตวั ตลอดเวลาแตเ่ สถียรภาพต่า
ก. 1 ข. 3
ค. 4 ง. 5
4. มิติการเปลย่ี นแปลงข้อใด เป็นของรัฐบาลคณะคืนความสขุ ใหป้ ระชาชน
ก. เป้าหมายและกลยุทธ์ ข. โครงสร้าง
ค. กระบวนการ ง. คน
5. ขอ้ ใดเปน็ จดุ เร่ิมตน้ ของปจั จยั ที่นาไปสู่การเปล่ียนแปลงพฒั นาองค์การ
ก. รูปแบบ ข. วงจรชวี ิตองค์การ
ค. การเปลี่ยนแปลงองค์การ ง. ปจั จัยที่มอี ทิ ธิพลต่อการเปลีย่ นแปลง
6. ข้อใดเป็นการเปลี่ยนแปลงองคก์ ารเม่ือสามารถแบ่งปันกับคู่แข่งขนั ไดแ้ ลว้
ก. วงจรชีวติ ช่วงการเกิด ข. วงจรชวี ติ เติบโตเต็มท่ี
ค. วงจรช่วงเติบโต ง. วงจรชีวิตชว่ งเส่ือม
7. ข้อใดทาหน้าท่ีชกั จงู และเกล้ยี กล่อมใหผ้ ้อู ืน่ คลอ้ ยตามมองเห็นประโยชน์การเปลี่ยนแปลง
ก. การตดิ ต่อส่อื สาร ข. การประมวลและวิเคราะห์
ค. การรจู้ ักสภาพแวดลอ้ ม ง. การเรียนรู้จากประสบการณ์
8. เมอ่ื ผู้นาหรือตัวแทนการเปล่ียนแปลงพัฒนาองค์การได้ริเร่ิมกลไกการเปลี่ยนแปลงแลว้ ลาดบั ขั้นตอนไป
คือขอ้ ใด
ก. กาหนดบุคลากร ข. กาหนดงบประมาณ
ค. กาหนดมติ ิการเปลี่ยนแปลง ง. กาหนดประเภทการเปลีย่ นแปลง
9. การเปล่ยี นหลักสตู รใหมข่ องกรมอาชวี ศกึ ษาเป็นการเปลี่ยนแปลงประเภทใด
ก. ตัวแบบของกระบวนการ ข. ตัวแบบอย่างมแี บบแผน
ค. ตวั แบบวิจยั เชิงปฏิบัติการ ง. ตัวแบบการร้ือปรับระบบขององคก์ าร
10. ขอ้ ใดเป็นหวั ใจของการเปลีย่ นแปลงพฒั นาองคก์ ารใหป้ ระสบผลสาเร็จ
ก. สภาพแวดล้อมภายใน ข. สภาพแวดล้อมภายนอก
ค. ผู้นาหรือตัวแทนการเปลยี่ นแปลง ง. ถูกทุกขอ้
เฉลยแบบทดสอบหรอื ใบงาน
1. ข
2. ง
3. ค
4. ข
5. ง
6. ค
7. ก
8. ค
9. ข
10. ง
บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้
ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ผลการเรยี นของนักเรียน
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ผลการสอนของครู
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 5
ช่อื วชิ าหลกั การจัดการ สอนครง้ั ท่ี 10-11
ชอื่ หน่วย การนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นการจัดการ ช่ัวโมง 10
ชอ่ื เรือ่ งหรือชื่องาน การนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นการจัดการ จานวนชวั่ โมง 10
หัวขอ้ เรือ่ งและงาน
1. ความหมายและความสาคัญของเทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. องคก์ ารธุรกิจกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
3. องค์ประกอบของระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ
3.1 องคป์ ระกอบด้านเทคโนโลยี
3.2 องคป์ ระกอบดา้ นการจัดการและองค์การ
4. เทคโนโลยกี ารตดิ ต่อส่ือสารไรส้ าย
5. การประยกุ ต์วงจรสารสนเทศเข้ากบั ระบบธรุ กจิ
6. กรณตี ัวอยา่ งการใช้เทคโนโลยกี บั โลกใหมข่ องธุรกจิ ในยคุ อิเล็กทรอนกิ ส์
สาระสาคญั
องค์การเปน็ โครงสร้างทางสังคมท่ีรวมกันอยู่ไดโ้ ดยอาศัยการใชท้ รัพยากรทางการจัดการทส่ี มั พนั ธ์
กับสภาพแวดล้อม เพื่อให้ได้ผลผลิตออกมาตามวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ในองค์การธุรกิจหน่ึง ๆ จะมี
ประเด็นต่าง ๆ ที่เก่ียวกับระบบสารสนเทศทางธุรกิจช่วยอานวยความสะดวกหรือสนับสนุนการตัดสินใจ
เกี่ยวกับ ส่วนประสมของผลิตภัณฑ์ สายผลิตภัณฑ์ กลยุทธ์ทางธุรกิจในการขยายตัว การรวมตัว และการ
หดตัว การปรบั ขนาดขององค์การและโครงสรา้ งองค์การ การรวมอานาจและการกระจายอานาจ การหวังผล
กาไรและไม่หวังผลกาไร ท้ังภาครัฐบาลและภาคเอกชน สารสนเทศระบบงานภายในองค์การ ท้ังตาแหน่งสาย
งานและตาแหน่งทปี่ รกึ ษา จนกล่าวไดว้ ่า สารสนเทศเป็นศูนย์กลางของการเลอื กใช้เทคโนโลยี เพอื่ การตัดสินใจ
ด้านการบริหารจัดการให้บรรลุผลสาเร็จตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์การ ด้วย “เทคโนโลยี
สารสนเทศ”
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. บอกความหมายและความสาคัญของเทคโนโลยสี ารสนเทศได้
2. อธิบายองค์การธุรกจิ กับเทคโนโลยสี ารสนเทศได้
3. เขียนองค์ประกอบของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศได้
4. สามารถประยุกตแ์ ละเลือกใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
5. เขา้ กับระบบธุรกจิ ได้
6. นักศึกษาเปน็ ผ้รู จู้ ักใช้ทรพั ยากร คุ้มค่า ประหยัด
สมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
ดา้ นพทุ ธพิ สิ ัย
1. อธบิ ายกรณศี ึกษาแนวคิดทฤษฎอี งคก์ ารได้
2. อธิบายกรณศี ึกษาการวางแผนได้
3. อธิบายกรณศี กึ ษาการจดั องค์การได้
4. อธิบายกรณีศกึ ษาการสัง่ การได้
5. อธิบายกรณีศกึ ษาการควบคมุ ได้
6. อธิบายกรณีศึกษาการจัดการสมัยใหมไ่ ด้
7. อธบิ ายกรณีศึกษาการเปล่ียนแปลงและพฒั นาองคก์ ารได้
8. อธบิ ายกรณศี ึกษาการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นการจัดการได้
ด้านทักษะพิสัย
วเิ คราะห์กรณศี กึ ษาจรยิ ธรรมในการจดั การได้
ด้านจติ พิสัย
นกั ศึกษาเปน็ ผู้มีสมั มาคาราวะ สภุ าพ อ่อนน้อม
บูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง/3D
นกั ศึกษาสามารถนาความรู้จากการศกึ ษาเล่าเรียนไปประกอบการตัดสนิ ใจและเพื่อเปน็ ภูมคิ ุม้ กันให้
ตวั เอง ด้วยการเปน็ ผู้มีเหตุผล พอประมาณ และพอเพียง
เนื้อหาสาระพอสังเขป
1. กรณีศึกษาแนวความคดิ ทฤษฎีองคก์ าร
กรณีศึกษาที่ “ไซเบอร์สเปซ ทอยส์” โรงงานผลิตตุ๊กตาไร้สารพิษช่ือบริษัท ไซเบอร์สเปซ ทอยส์
ทตี่ ั้ง 16 – 19 ถนนพุทธมณฑลสาย 5 อาเภอนครชยั ศรี จังหวดั นครปฐม ทาตกุ๊ ตาและของเดก็ เลน่ ด้วยแปง้ มัน
สาปะหลังและใยพืช เป็นโรงงานขนาดกลางมีอาคารเพียง 4 หลัง บนที่ดิน 14 ไร่ ผลิตสินค้าตามใบสั่งตาม
ฤดกู าล เช่น ครสิ ต์มาส ปใี หม่และของชาร่วยงานพิธงี านร่นื เรงิ ต่าง ๆ ขณะน้ีเปา้ หมายทางการตลาดจึงมเี ฉพาะ
ตลาดท่ีมีความจาเปน็ จรงิ จงึ ส่ังทาของเท่าน้ัน
สถานการณ์ของการประกอบการขา้ งตน้ ทาใหม้ ีงานชุกในบางช่างบางเดอื นเท่านัน้ นโยบายบริษัทในการ
ผลิตมีการจ้างงานช่ัวคราวตามความจาเป็น ทาให้มีพนักงาน 2 ประเภท คือ พนักงานประจากับพนักงาน
ชั่วคราว ซงึ่ ส่วนใหญ่ได้จากชานเมือง กทม. เช่นหนองแขม อ้อมนอ้ ย ออ้ มใหญ่ สมทุ รสาคร ศาลายา นครชยั ศรี
นครปฐม ซึ่งคนงาน บางสว่ นยังไม่หายตืน่ กลัวจากอุบัตภิ ัยไฟไหม้โรงงานผลติ ตุ๊กตาชื่อ “เคเคอร์” ท่ีใช้วัตถุดิบใย
สงั เคราะห์ โพลิยสั เตอรแ์ ละผ้าเปน็ สว่ นสาคญั ทาใหส้ านกั งานแรงงานจงั หวัดและอุตสาหกรรมจังหวดั นครปฐมเข้า
มาตรวจงาน โรงงานไซเบอร์สเปซ ทอยส์ บ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นโรงงานใหม่ท่ีต้องผ่านกฎเกณฑ์ ระเบียบ
ต่าง ๆ เพ่ือการจัดตั้งโรงงานและต้องปฏิบัติงานตามกฎหมายท่ีเก่ียวข้องหลายฉบับ ทาให้คุณการุณ สุริยแสง
ผ้จู ัดการใหญ่ ซึ่งอดีตเคยเปน็ ผู้จัดการโรงงานทอผา้ ใหญแ่ ห่งหนง่ึ ที่มีพนักงานกวา่ 900 คน แตม่ าอยใู่ นโรงงาน
แห่งนี้เพียง 2 ปี และมีจานวนคนงานไม่แน่นอนแล้วยังแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังกล่าวข้างต้นเสียอีก
เหตุการณ์ที่เป็นปัญหาจึงเกิดข้ึนเมื่อ คุณการุณ ให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคล คุณประดิษฐ์ ประวัติดี
กาห นดวิธี การให้ รางวัล เป็ นโบ นัสกั บ พ นัก งานปร ะจาท่ี ต้องท างานเพิ่ ม ข้ึนในช่ วงเร่ง รั ดก ารผลิ ตเ ท่ าน้ัน
สว่ นพนกั งานงานช่ัวคราวจะใหโ้ บนัสต่อเมือ่ ชั่วโมงลว่ งเวลาสูงกว่าเกณฑ์ทก่ี าหนด ดูตารางแสดงชัว่ โมงลว่ งเวลา
กบั โบนสั ทใี่ ห้ประกอบ
รูปที่ 18 ตารางแสดงช่ัวโมงเวลากบั โบนสั
เกณฑเ์ ฉลยี่ (1) มีช่ัวโมงล่วงเวลาไม่ตา่ กว่า 350 ชว่ั โมงตอ่ 7 เดือน สาหรับพนักงานประจาและ (2)
พนักงานช่ัวคราว 140 ชั่วโมง 7 เดือน (3) เศษเกินปัดไปใช้อัตราโบนัสช้ันสูงกว่า 1 ชั้น (4) เงินโบนัสไม่
เกี่ยวกับเงินค่าล่วงเวลาที่กิจการต้องจ่ายตามข้อบังคับกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม อยู่แล้ว (5)
เงินเดือนข้ันต่าของพนักงานประจาชั้น 1 เดือนละ 3,000.– ชั้น 2 เดือนละ 4,000.- ช้ัน 3 เดือนละ 6,000.-
บาท
ขณะเดียวกับท่ีออกเกณฑ์การให้โบนสั ก็เริ่มเข้มงวดกับระเบียบการสูบบุหร่ีภายในบริเวณโรงงาน
และการหา้ มสูบบุหร่ีภายในตวั อาคาร จับได้ให้ไล่ออกทันที นอกจากน้ีการออกนอกบริเวณโรงงานจะกระทาได้
ต่อเม่ือหัวหน้างานอนุญาตโดยตอกบัตรเข้าออกที่ รปภ. หนา้ ประตโู รงงานคร้ังละไมเ่ กิน 20 นาที ต่อ/วัน ภายใน
พฤษภาคม มีคนถูกให้ออก 3 คน เป็นพนักงานชั่วคราวท้ังส้ิน ต่อมาเดือนมิถุนายน ให้ออกจากงาน 5 คน
เปน็ พนักงานประจา 1 คน
2 ปีต่อมา คุณการุณ ถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเพราะความเครียด คุณสถาพร สายลมเย็น
ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ได้รับตาแหน่งแทนคุณการุณ หลังจากรักษากรอยู่ 7 เดือน จึงต้องการให้บริษัทมีการ
เปลย่ี นแปลงปรบั ปรุงและพัฒนาทง้ั การผลิต การตลาดและการจดั การพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์
คาถาม
1. อธบิ ายและยกตัวอยา่ งความสัมพนั ธ์ขององคก์ ารและการจัดการของบริษัทแหง่ น้ีมาใหเ้ ข้าใจ
2. ให้วิเคราะห์การบริหารงานของบริษัทน้ีว่า ใช้ทฤษฎีองค์การและการจัดการ แบบใดแล้วให้
เหตผุ ลประกอบ
3. คุณการณุ มภี าระผนู้ าแบบไหน โดยยกตัวอย่างประกอบ
4. ถา้ คณุ เปน็ คุณสถาพร จะทาอยา่ งไร จะเรม่ิ จัดการงานแบบไหน ใช้หลักอะไร
2. กรณีศกึ ษาการวางแผน
กรณีศึกษา บริษัทออโต – สแปรพ์ าร์ท จ.ก.
อกี 2 วันขา้ งหน้า คุณชัยพร พนักงานแผนการวางแผน ซงึ่ รับผิดชอบการเขียนร่างแผนงานจะต้อง
รายงานเสนอตอ่ ท่ีประชมุ จึงไดห้ ารือกบั หวั หน้าหน่วยคอื คณุ ปติ ิ ดังนั้น
ชัยพร : “ในเร่ืองแผนการสั่งซื้อสินค้าชนิดใหม่ คือ “Z” สาหรับเดือนกรกฎาคมว่าระหว่างเดือน กรกฎาคม
จนถงึ ตลุ าคม มีเพียง 12,000 ช้ิน เทา่ น้ัน ดงั นั้นเราไมค่ วรสัง่ สนิ ค้าใหม้ าไมใ่ ชห่ รือครับ”
ปิติ : “แต่ว่า จากคาพูดจาของหัวหน้าแผนกในวันก่อน เขาบอกว่า ฝ่ายขายเร่ิมทาการขายสินค้า ‘Z’ อย่างจริงจัง
ดังนั้นตามท่ตี กลงกันไว้ในตอนแรก และเพื่อเป็นการลดต้นทุนสินค้า เขา้ ควรส่ังซื้อเดือนละ 10,000 ช้ิน ตั้งแต่
เดอื นตลุ าคม เป็นตน้ ไป”
ชัยพร : “หรือครับ แต่ฝ่ายขายเคยตอบวา่ ลูกค้าเองกย็ งั มีสต๊อกอยมู่ ากนะครบั ”
ปติ ิ : “ใชแ่ ล้ว แต่คุณสมเกยี รติ ผผู้ ลิตสนิ ค้าได้บอกย้ามาหลายครั้งแล้วว่า ให้รกั ษาสัญญาทก่ี าหนดให้ซ้ือเดือน
ละ 10,000 ช้ิน ต้ังแต่เดือนตุลาคม เป็นต้นไปคงเพราะมีการส่ังซื้อวัตถุดิบไว้แล้วเป็นจานวนมาก หัวหน้า
สว่ นของคณุ เอง กย็ งั พูดกาชับมากว่า “เข้าใจสเป็คและตน้ ทุนแลว้ ใช่ไหม” มาดว้ ยครบั ”
ชัยพร : “แตว่ ่าทางเรากไ็ ม่อยากถกู ฝ่ายบญั ชีตอ่ วา่ ดว้ ยเรอื่ งสนิ ค้าเกนิ สต๊อกในช่วงปลายภาค”
ปิติ : “แย่จรงิ ถ้าง้นั เราลองมาหาทางลดจานวนการสงั่ ซ้ือจะดมี ั้ย”
ชัยพร : “แต่วา่ หัวหนา้ ครบั อีกหนอ่ ยถ้าถูกส่งั ใหเ้ พิ่มจานวนขึน้ อีก ก็คงแย”่
ตามกรณีนี้ ส่ิงที่อยากให้พิจารณา คือ หัวหน้าหน่วย (คุณปิติ) จะให้คุณชัยพรร่างแผนการจัดซ้ือ
สินคา้ Z ดว้ ยแนวคิดใด คุณปิติจะตอ้ งเข้าประชุมการจดั ซื้อที่จะมีข้ึนในอกี 2 วัน ข้างหน้า ดังนัน้ จงึ ต้องการให้
คณุ ชัยพร ร่างแผนงานโดยเร็ว แต่ที่ว่าคาปรึกษาในเรื่องนมี้ ีเพียงนิดเดยี วคือ “เราไม่ควรสั่งสินค้าให้มากไม่ใช่
หรอื ครับ” (ปิต)ิ และ “เราลองมาหาทางลดจานวนการส่งั ซอื้ ลงดไี หม”
คาถาม
ถ้าท่านอยู่ในฐานะของหวั หนา้ หน่วยอยา่ งคุณปิติ ท่านจะมีการปฏบิ ัติเก่ยี วกบั รา่ งแผนการจดั ซ้อื อยา่ งไร
ขอให้ทา่ นเลอื กระหว่างข้อ ก. ถึงข้อ จ. มา 1 หวั ข้อ ที่ใกลเ้ คียงกบั แนวคดิ ของทา่ นมากที่สุด
ก. เป้าหมายการจดั ซอื้ สนิ คา้ “Z” นัน้ มีความชดั เจน กล่าวคือ กาหนดใหซ้ อ้ื เดือนละ 10,000 ชิ้น นับแต่
เดอื นตลุ าคม และก่อนหน้าน้ี ผู้จดั การฝ่ายได้กล่าว “จะทาการซือ้ เดือนละ 10,000 ชนิ้ ใหจ้ งได้” ดังนั้นควรให้
คุณชยั พร จัดร่างแผนโดยใช้เปา้ หมายที่กาหนดไว้
ข. เน่ืองด้วยมีปัจจัยความไม่แน่นอนอยู่มากจึงไม่ควรยึดมั่นกับการ “ซื้อเดือนละ 10,000 ชิ้น
นบั ตง้ั แตเ่ ดือนตุลาคมเปน็ ต้นไป” จึงควรใหค้ ณุ ชัยพร รา่ งแผนงานโดยใช้แนวคดิ ของเขาเอง
ค. ตวั ของหวั หนา้ หนว่ ย คือ คณุ ปติ ิ ควรท่ีจะกระตอื รอื รน้ มากขึ้น โดยหาข้อมูลจากฝา่ ยขายหรือจาก
หนว่ ยงานอ่ืน เพื่อทาการตัดสนิ ใจวา่ “ซือ้ เดอื นละ 10,000 ชนิ้ นับตั้งแต่เดือนตุลาคม เปน็ ต้นไป เปน็ สิ่งที่ถูกตอ้ ง
หรือไม่” และใหค้ ุณชยั พรร่างแผนงานภายใต้การตดั สินใจนี้
ง. หวั หน้าหน่วย คอื คุณปิติ ควรปรึกษาหารอื กบั หวั หน้าแผนกใหด้ ีเก่ียวกบั แนวโน้มการสั่งสินคา้ “Z”
และเรื่องสถานการณ์อ่ืน ๆ “ซ้ือสินค้าเดือนละ 10,000 ช้ิน นับต้ังแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป หลังจากน้ันจึง
ชีแ้ นะวิธีทาแผนงานแก่คุณชยั พร”
จ. ควรพิจารณาร่วมกับคุณชัยพรให้มากขึ้นในเรื่อง “จัดทาแผนงานต้ังแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้น
ไป” อย่างไร และให้คุณชยั พร ร่างแผนงานขน้ึ ด้วยแนวคิดของเขาเองในฐานะทเ่ี ปน็ พนักงานหน่วยจัดซอื้
3. กรณีศึกษาการจดั การองคก์ าร
กรณีศกึ ษา : บรษิ ัทสนิ เธาว์ จ.ก.
บริษัทสินเธาว์ จากัด จดทะเบียนเป็นบริษัทจากัดในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีเป้าหมายผลิตเกลือ
สนิ เธาว์ จากแหล่งเกลือใตด้ ิน และได้สัมปทาน 40 ปี จากรฐั บาลในรปู ของเหมอื งเกลอื การผลิตเกลอื สินเธาว์
จึงเป็นผลผลิตช่วงต้นเท่าน้ัน ในปีท่ี 1 และ (2540-2542) เพื่อรอการติดตั้งโรงงานแปรรปู หรอื แยกธาตุเกลือ
จะเดินเคร่ืองได้จะมีผลผลิตช่วงกลางและช่างปลายเปน็ ปุ๋ยเปน็ PVC และเคมภี ัณฑ์อื่น ๆ การลงทุนในระยะแรก
พ.ศ. 2540-2542 จะแบ่งเป็นทุนดาเนินการ 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการสัมปทาน ค่าใช้จ่ายจด
ทะเบียนในโรงงานใบอนญุ าตเปิดการผลติ และกิจกรรมธรุ การ เร่ิมจากการประชมุ คณะผกู้ ่อการจนมีมติพิเศษ
ให้จัดต้ังบริษัทจัดทาหนงั สอื บริคณสนธิ จดทะเบยี นเป็นบริษัทจากัด ออกหนังสือบอกกล่าวป่าวร้องระดมทุน
และกันเงินอีกสว่ นหน่ึง เปน็ ทนุ จดทะเบียน 200 ลา้ นบาท
เร่ิมมีการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2539 เพ่ือกาหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายใน
การดาเนนิ ธุรกิจอตุ สาหกรรม ที่จะทัง้ ผลิตและขายผลผลิตแกอ่ ุตสาหกรรมข้างเคียงและอุตสาหกรรมต่อเนอื่ ง
โดยคาดว่าจะมี ROI = 5% สาหรับปี พ.ศ. 2541 และ 10% ในปี พ.ศ. 2542 แตเ่ ม่ือมีผลผลิตช่วงปลายแล้ว
คาดวา่ จะได้ ROI = 15% เป็นอย่างต่าในปี พ.ศ.2543
ให้นกั ศึกษาใช้กระบวนการจัดต้ังองค์การ 6 ขั้นตอน มาจดั องค์การให้บริษัทนี้จนครบกระบวนการ
โดยแสดงแผนภมู ิ เป็นขั้นตอน จนถงึ ขั้นแสดงแผนผังของบริษทั ได้และเสนอแนะวิธปี ระเมนิ ผล วิเคราะห์ปรับ
แผนหรอื โครงสร้างขององค์การด้วย
4. กรณีศึกษาการนา (การชีน้ า 1)
แบบฝกึ หดั กรณศี ึกษาเพ่อื การแกไ้ ขปัญหา เรื่อง ดแี น่หรอื
เหตุการณ์เกิดขึ้นในบริษัทสวนสวรรค์จากัด ขายอุปกรณ์ทาสวนและเครื่องตัดหญ้า ซ่ึงมีอนาคตทาง
การตลาดดีมาก เพราะเป็นยุคธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เฟ่ืองโดยเฉพาะที่อยู่อาศัย ได้แก่ หมู่บ้าน
จั ด ส ร ร แ ล ะ ผู้ รัก ก าร ท า ส วน ไม้ ด อ ก ไม้ ป ร ะ ดั บ ใน เขต บ้ าน บ ริ ษั ท น้ี จึ งมี จั งห วะ ท าง ก า รต ล าด ดี ห ลั ง จ า ก
ประคับประคองตัวมานานตลอด พ.ศ.2529 - 2532 ธุรกิจเริ่มดีในช่วง พ.ศ. 2533 ถึงปัจจุบัน จึงขยายสาขา
ออกไปตา่ งจังหวดั ใหญ่ ๆ 4 จังหวดั คอื นครราชสมี า เชียงใหม่ หาดใหญ่สงขลา และชลบุรี
คุณสุริยัน แสงประเทือง อายุ 34 ปี ได้เข้ามาทางานกับบริษัทนี้เป็นเวลา 9 ปีเศษ ใน 4 ปีแรก
ทาหน้าท่ีเป็นพนักงานขาย และใน 5 ปีหลัง ได้รับแต่งต้ังเป็นผู้จัดการสาขาจังหวัดนครราชสีมา มีหน้าท่ี
รับผิดชอบการบริหารงานสาขา และตรวจสอบควบคุมงานโดยมีผู้ใต้บังคับบัญชาคือ พนักงานขาย 7 คน และ
หน่วยธรุ การมีหวั หนา้ หน่วยธุรการ 1 คน และเสมียนพนักงานอกี 3 คน รวมท้ังสานักงานสาขาของบรษิ ทั มี 11 คน
รวมท้ังต้งั คุณสรุ ิยันด้วย
ผู้จัดการฝ่ายกิจการสาขาของบริษัทสวนสวรรค์ จก. ในกรุงเทพฯ คือ คุณประสาน เพชรดี
ได้ตดิ ตามผลงานของคุณสรุ ยิ ันมาตลอดโดยทราบจากรายงานของคณุ สุริยนั ว่าบริหารงานดเี ลศิ ทุกปี
แต่เมื่อวานน้ีเอง คุณประสานได้รับจดหมายฉบับหน่ึงจากคุณโสภิณ ดีสูงเนิน อายุ 40 ปี เป็น
หัวหน้างานหน่วยธุรการของคุณสุริยา เป็นจดหมายลาออกโดยให้เหตุผลว่า “ทนต่อสภาพงานและ
ความสัมพันธ์เลวร้ายไม่ไหว” ดังน้ัน คุณประสาน จึงได้สอบถามข้อมูลกับฝ่ายบริหารงานบุคคลทันที
ได้ข้อมูลแล้วจึงวิเคราะห์ทราบว่าย้อนหลังไปต้ังแต่ พ.ศ. 2536 เป็นต้นมามีอัตราคนเข้า-ออกงาน
ท่ีสาขานครราชสีมาสูงมาก โดยเฉพาะตาแหน่งเสมียนพนักงานเป็นอัตรา 40% เม่ือเทียบกับสาขาต่าง ๆ ทั้ง
4 จงั หวัด
เรอื่ งน้ีถา้ คณุ เป็นคุณประสาน จะจัดการงานในลักษณะแก้ไขและป้องกันปัญหาที่เกดิ ข้ึนได้อย่างไร
เพราะอาจเกิดขึ้นอีกเพราะตัวคุณสุริยันเองหรือว่าเกิดจากคุณสมบัติของพนักงานไม่ตรงกับความต้องการ
ของงานและอาจเกิดจากปญั หาส่วนตัวของคุณโสภิณ ท่ีทางานดีมาตง้ั แตต่ ้นก็ได้ ทงั้ น้ีไม่ใช่เพื่อตัดสนิ วา่ ใครผิด
ใครถูก แตถ่ ือวา่ เปน็ ปัญหาทต่ี ้องรว่ มกันแกไ้ ขแตย่ ังติดใจวา่ คณุ สรุ ิยนั ดีแน่หรือ
5. กรณีศึกษาการนา (การชี้นา 2)
จุดหวั เล้ยี งหัวต่อของขา้ พเจ้า
เม่ือปที แ่ี ล้วผมเปน็ ผู้จดั การตลาดของบรษิ ัทต่อตวั ถงั รถยนตโ์ ดยสารและรถบรรทุก 10 ลอ้ ชอ่ื บรษิ ัท
พานทอง ตัวถังรถ จก. อาเภอพานทอง จังหวัดชลบรุ ี มีคุณสมหวัง ภักดีกลุ เปน็ ผู้จดั การฝา่ ยขายระดบั อาเภอ
ทาหน้าท่ีหาตลาดและหางานป้อนโรงงานรบั ผิดชอบเขตอาเภอศรีราชาและเมืองพัทยา ผมช่ืนชมผลงานของ
คุณสมหวังมากเพราะเขาทายอดขายได้ดี แต่มีกิจกรรมทางสังคมค่อนข้างมาก เพราะเป็นสมาชิกสโมสร
โรตาร่ีสมาชิกนักธุรกิจหนุ่มเมืองพัทยา สมาชิกสโมสรกอล์ฟ ปัญญาบางพระ สังกัด “ก๊วนพลัง-หนุ่ม” ฯลฯ
ผู้จัดการใหญ่ติดต่อส่ือสารเชิงอรูปนัยกับผมว่าให้ “กาจัดคุณสมหวัง” เพราะสังคมจัดเกินไป ผม
รบั ทราบด้วยความคิดท่ีสับสนระหว่างที่ตามสายบังคับบัญชากับความเป็นจริงและผลประโยชน์ขององค์การ
เหมือนระฆังช่วย เม่ือ 3 เดือนท่ีแล้วผมถูกทาบทามดึงตัวอย่างแรงจากบริษัทระยอง โคชแอนด์ทรัด จก.
ให้เป็นผู้อานวยการฝ่ายการตลาด ซ่ึงมีตาแหน่งสูงกว่า อานาจหน้าที่และความรับผิดชอบมากกว่าท่ีเดิม
และแน่ละค่าตอบแทนมากกว่าที่เดิมเกือบเท่าตัว ก่อนท่ีผมจะไปดารงตาแหน่งใหม่ ท่ีใหม่อย่างเร่งด่วนน้ี
ผมควรใชโ้ อกาสน้ี “กาจดั ” คณุ สมหวังหรือไม่ อย่างไร
ในเม่อื ตัวผมเองมีความจงรักภกั ดตี อ่ องคก์ ารค่อนขา้ ง “แตกร้าว” อยูอ่ ยา่ งน้ี ผมควรจะอยู่กบั บริษัท
เดิมดหี รือไมโ่ ดยปิดปากเงียบ หรือ “ไปเลย” แลว้ เตือนคุณสมหวังใหร้ ู้ตวั คณุ เปน็ ผมจะทาอยา่ งไรดี
6. กรณีศึกษาการนา (การชน้ี า 3)
เร่ือง บรษิ ทั รงุ่ โรจน์บรรจุภัณฑ์ จากดั
บริษัทรุ่งโรจน์บรรจุภัณฑ์ จากัด รังสิต ปทุมธานี จ่ายค่าตอบแทนให้กับพนักงานขายเป็นเงินเดือน
โบนัส และส่วนแบ่งจากยอดขาย (คอมมิวช่ัน) โบนัสจะจ่ายให้ในเดือนธันวาคมของทุกปี เป็นหน้าที่และอยู่
ในดุลยพินิจของผู้บรหิ ารหน่วยงาน ซึ่งพิจารณาจาก (1) การใช้จา่ ยซึ่งเงนิ ของบริษัท (2) การรู้จักวางแผนงาน
และทางานตามแผนและ (3) ดูจากความประพฤติของพนักงานในแต่ละเกณฑ์ดังกล่าวมีคะแนนเต็ม 10 คะแนน
สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท ถ้าคะแนนเตม็ ทั้ง 3 เกณฑ์ พนกั งานผู้น้ันจะได้ 15,000 บาท แล้วยังจะได้จากโบนัสซ่ึง
มากจากส่วนแบ่งกาไรหลังจากหักภาษีแล้ว พนักงานเคยได้อย่างต่า 2.5 เดือน อย่างสูง 4.5 เดือน
ของเงินเดือนท่ีได้รับอยอู่ ีกดว้ ย
ตัวอยา่ งเช่น คณุ วิชัย เนตรวิเชยี รได้รับเงินเดือน 8,000 บาท ไดร้ ับโบนัส 3.0 เปน็ เงิน 24,000 บาท
และได้คะแนนตามเกณฑ์ท้ัง 3 เต็ม 30 คะแนน จะได้เพิ่มมาอีก 15,000 บาท ในเดือนธันวาคมของทุกปีนั้น
เขาจะไดร้ ับเงินรางวัลการทางานท้ังส้ิน 39,000 บาท
เร่ืองก็มีอยู่ว่า คุณสถาพร เลิศวิไล ผู้จัดการฝ่ายขายให้โบนัส คุณสมพงษ์ คงเกษม 26,000 บาท
และคุณสมพงษ์ได้ทราบข่าวว่า คุณเชิดชาย สิงห์ทอง ได้โบนัสถึง 35,000 บาท ซึ่งคุณสมพงษ์เห็นว่า
ไม่ยุติธรรม โดยชี้ให้เห็นว่า ตัวเขาเอง (คุณสมพงษ์) สามารถทายอดขายให้กับกิจการได้ถึง 7,000,000 บาท
ในปีนี้ ส่วนคุณเชิดชาย ขอดขายตกลงมากกว่า 800,000 บาท แต่คุณสถาพรไม่สนใจที่คุณสมพงษ์มาร้อง
เรียน กลับช้ีข้อบกพร่องให้เห็นว่า คุณสมพงษ์ ชอบสวมเส้ือสีฉูดฉาด ส่งรายงานการขายช้ากว่ากาหนด ชอบ
รับประทานอาหารแพง ๆ พักโรงแรมดี ๆ ยิ่งไปกว่าน้ันการใช้รถของบริษทั ยังมีจานวนกิโลเมตรต่อการเยี่ยม
ลูกค้า 1 ครั้งสูงกว่าของคุณเชิดชายถึง 11% คุณสถาพรจึงปิดแฟ้มเรื่องร้องเรียนของคุณสมพงษ์ ทันที
โดยเขียนบันทึกท้ายเรื่องให้เหตุผลว่า “ผมได้เตือนคุณแล้วในที่ชุมชนใหญ่ของฝ่ายขายภาคครึ่งปีเมื่อเดือน
มถิ นุ ายน เรอื่ งคุณแตง่ กายไม่เหมาะสม” เรื่องน้คี ุณสมพงษไ์ มย่ อมแน่นอน
1. มีปญั หาอะไรเกดิ ข้นึ ในเร่อื งการจูงใจ
2. ระบบการให้รางวัลเพือ่ การจงู ใจของบรษิ ัทนีเ้ ป็นเช่นไร จงวิเคราะหแ์ ละวิจารณ์
3. ถา้ คณุ เปน็ คุณสถาพรจะแก้ปัญหาอย่างไร และจะกาหนดวิธีการจูงใจเสียใหมห่ รือไมอ่ ยา่ งไร
7. กรณีศกึ ษาการควบคุม
กรณศี ึกษาเชิงปฏิบตั แิ ละแกป้ ัญหา : ปัญหาการควบคุมฝ่ายจัดซอ้ื ของเทวัญ
คณุ เทวญั พรปราณี เจา้ ของบรษิ ทั พรปราณี จากดั ดารงตาแหน่งผู้จัดการใหญ่บริษัทฯ ด้วยมผี บู้ รหิ าร
ระดับผู้จัดการฝ่ายต่าง ๆ ทีมีฝีมือด้านบริหารและอยู่มานานบริษัทฯ ได้ผลิตตาข่ายแห อวนไนล่อน
มาต้ังแต่ พ.ศ. 2521 เม่ือเริ่มแรกมีคู่แข่งเพียงไม่กี่ราย แต่ปัจจุบันเฉพาะท่ีพระประแดงใกล้ป้อมพระจุล
มีโรงงานเชน่ เดยี วกันนี้ 3-4 รายและยงั มีทอ่ี ่ืน ๆ อีก
ในระยะ 10 ปี แรกของโรงงานไม่มีปัญหาเกี่ยวกับวัตถุดิบ คือ เส้นเอ็นไนล่อนขนาดต่าง ๆ
เพราะสั่งซ้ือตรงจากประเทศญ่ีปุ่น และบางประเทศยุโรป พ.ศ. 2532 วัตถุดิบเร่ิมหายาก และมีราคาแพง
จึงเร่ิมส่ังซื้อจากไต้หวันเพิ่มข้ึนอีก ปัจจุบันใช้วัตถุดิบ เฉล่ีย 650 ตัน/เดือน ทั้งสั่งตรงจากต่างประเทศ
และจากตวั แทนจาหนา่ ยในกรุงเทพฯ คา่ วัตถุดิบเพิ่มขึ้นจาก พ.ศ.2530 ถึง 25% แตเ่ น่ืองจากมอี ุปสงค์มากข้ึน
ในจังหวัดชายทะเลภาคใต้ คุณเทวัญ จึงขยายกิจการไป 3 แห่ง ที่จังหวัดตราด กระบี่ และนราธิวาส
แตล่ ะแห่งเฉล่ยี แล้วต้องใช้วัตถดุ บิ 300 ตัน/เดือน แต่การจัดซื้อดาเนินการที่ โรงงานใหญ่สมุทรปราการ โดยมี
คณุ นพคุณ มโนสุจริต อายุ 54 ปี เป็นผู้จัดการฝ่ายจดั ซ้ือ ซึ่งมีอายุงาน 9ปี ทาหนา้ ทจี่ ัดซือ้ และจัดส่งวัตถุดิบ
อะไหล่ วัสดุอุปกรณ์อ่ืน ๆ (ไม่นบั รวมเครื่องจกั ร) เดือนละประมาณ 16,000,000 บาท
ฝ่ายจัดซ้ือมีตาแหน่งผู้ช่วย 2 คน เจ้าหน้าท่ีจัดหา สืบราคา จัดประกวดราคา 3 คน เสมียน
พนักงาน 6 คน คุณนพคุณ มีห้องทางานอยู่บนสานักงานใหญ่ ไม่ได้อยู่ที่สานักงานติดกับคลังสินค้า โดยมี
คุณวสันต์ แต้เจริญพานิช เป็นผู้ช่วย และคุณวนิดา สายสมร เป็นเลขานุการ คุณวสันต์ เป็นผู้ช่วยอาวุโส
มีอายุงาน 7 ปี ผลงานและความซ่อื สตั ย์ ไวใ้ จได้ คณุ เทวัญ คดิ ได้วา่ เหมาะสมท่จี ะแทนคุณนพคุณไดเ้ มอ่ื จาเป็น
เม่ือ 4 เดือนท่ีแล้วสานักงานผู้ตรวจสอบบัญชี (ผู้ตรวจสอบภายนอก) ร่วมกับฝ่ายบัญชีและฝ่าย
บริหารงานบุคคลของบริษัทฯ ได้ตรวจสอบหลักฐานและวิเคราะห์งานของฝ่ายจัดซื้อ แล้วมีความเห็นว่า (1)
ควรรวมฝ่ายจัดซื้ อเข้ากับฝ่ายคลั งสิ นค้ าตามนโยบายลดขนาดขององค์การและให้ โ ครงสร้างเป็นแนวระดั บ
เพอื่ แยกความรับผิดชอบและใหข้ ้ันตอนการทางานน้อยลงให้งานเสรจ็ เรว็ ข้ึน หรือ (2) กระจายฝ่ายจัดซ้อื เป็น
หนว่ ยจัดซ้ือประจาโรงงานแตล่ ะจังหวัด
จงึ เกิดข่าวลือว่าถ้าปีหน้าคุณนพ คุณตอ้ งเกษียณอายุงาน จะไม่มตี าแหน่งนีอ้ ีกและเจ้าหน้าที่จัดซื้อ
แต่ละจังหวดั จะใชค้ นทอ้ งถิ่นให้เป็นหัวหน้าหน่วยงานจ๋ิวแต่แจ๋ว เร่ืองน้คี ุณวสนั ต์ทราบมาบ้างแลว้ จึงจะขอเข้า
มาพบคุณเทวญั
1. มปี ญั หาอะไรเกดิ ขึ้นทฝี่ ่ายจัดซื้อ
2. ลกั ษณะงานของฝา่ ยจัดซ้อื ควรจะใชแ้ บบกระจายอานาจ และความรับผิดชอบ หรือควรรวมศนู ย์
ซงึ่ จะเหมาะสมต่อการควบคุมงาน ให้แสดงเหตุผลสนับสนุน
3. เรื่องนส้ี มควรหรือไม่ทคี่ ุณวสันต์ นาไปปรึกษาคณุ เทวญั
4. ถ้าคณุ เป็นคณุ เทวญั จะอธบิ ายเร่อื งนีก้ บั คุณวสนั ตว์ า่ อย่างไร
8. กรณศี ึกษาการจดั การสมัยใหม่
การจัดการงานของกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์
บริษัทต่าง ๆ ของกลุม่ เจริญโภคภณั ฑ์ ภายใต้การนาของคุณธานินท์ เจียรวนท์ ประธานกลุ่ม ซีพี
ไดก้ าหนดภารกิจสาคญั ประการหน่ึงวา่ “ถ้าตอ้ งการทาธรุ กจิ ใหญ่ ธุรกิจนัน้ จะตอ้ งเก่ยี วข้องกบั คนส่วนใหญ่”
และมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนแน่วแน่ว่า “ซีพีจะต้องเป็นธุรกิจระดับนานาชาติ” ซึ่งคุณธนินท์ ได้กล่าวกับ
คณะผ้บู รหิ ารระดับสงู ของบรษิ ทั เม่ือ พ.ศ.2533 “ในอีก 10 ปี ซีพีจะต้องใหญแ่ บบมิตซูบิชใิ หไ้ ด้” เปน็ การก้าวไปที
ละขั้น แต่มั่นคงแบบนักธุรกิจจีนที่สั่งสอนกันต่อมาว่า “แปะเฉียะกอเท้า ไจ่จ่ิงเจ็กโป่ว” แปลว่า
ไม้คาน 100 เฉียะ และก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว บัดนี้คากล่าวน้ัน ใกล้ความจริงเข้าไปทุกทีแล้ว จากภาพ
ที่เราเห็นและบทบาทการดาเนินธุรกิจที่เราติดตามศึกษาอยู่ ซีพีเดิมโตจากธุรกิจขนาดเล็กของบรรพบุรุษ
แซเ่ จยี่ ค้าเมล็ดพันธุ์พืช ช่ือรา้ น “เจียไต๋” อยู่ใกลว้ ดั เกาะสัมพนั ธวงศ์ มาประมาณ 75 ปี แล้ว ตอ่ มาคณุ ธนนิ ท์
รับดาเนินงานสานต่อธุรกิจ ขยายเข้าสู่เกษตรอุตสาหกรรมประเภทอาหาร คือเลือกทาการค้าและก้าวเดิน
บนเส้นทางของธุรกิจที่ถนัดก่อนอย่างอื่นโดยซ้ือพันธุ์ไก่อาหาร เนื้อ “บรอยเลอร์” จากออสเตรเลียมาเป็น
พันธ์ุต้นตระกูลจนสามารถสร้างเครือข่ายการเพาะเล้ียงเข้าสู่ระบบเกษตรรายย่อย แล้วสนับสนุนด้านยา
และอาหารสัตว์ มีระบบการรับซ้ือที่ยตุ ิธรรม ทาให้มีวัตถดุ ิบป้อนโรงงานจาหน่ายขายส่งเข้าตลาดในประเทศ
และต่างประเทศได้ท้ังไกส่ ดแช่แข็ง เน้ือสกุ รและอาหารแปรรูป ทาใหซ้ พี ีเป็นเจ้าตลาดเนื้อสัตวแ์ ละอาหารสตั ว์
ได้ไม่ยาก
ซีพี ก้าวสูงขน้ึ ไปได้อีกเพราะรู้จกั เลอื กซอื้ เลอื กใชเ้ ทคโนโลยีที่เหมาะสม รู้จักเลอื กผูร้ ่วมทนุ ท่ีสามารถ
ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับซีพีได้ ปัจจุบันซีพีมีกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก
หลายแห่ง ในอนาคตอนั ใกลน้ ี้ซพี ีอาจเปน็ กลุม่ ธุรกิจที่ใหญ่ทสี่ ดุ ของกลุ่มอาเซียนก็ได้ ซ่งึ วิสัยทศั น์ของประธาน
กลุ่มคือ คุณธานินท์ นั้นส่องไปได้ไกลและชัดเจนจากรายการโทรทัศน์ Nation News Talk มีสาระ
สาคัญทางการบริหารงานดังนี้
1. “ถ้าตอ้ งการทาธุรกิจให้ใหญ่ ธรุ กจิ นนั้ จะต้องเก่ยี วข้องกบั คนสว่ นใหญ่” เช่น ขายปจั จัย 4 ซึ่ง ซพี ี
เลือกปัจจัยแรกคอื อาหาร ตามมาด้วยพลังงาน โทรคมนาคม และยานพาหนะ เปน็ ตน้
2. “ธุรกิจต้องรบั ผิดต่อลกู ค้าและสังคม และต้องทาใหส้ าเรจ็ กาไรจะตามมาเอง” มคี วามตอนหนึ่ง
ว่า “คุณพ่อสอนว่า ถ้าเราขายเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ดใี หแ้ ก่ลูกค้า เมือ่ ลูกค้านาไปปลูกไม่ขึ้น และไดร้ ับความเสียหาย
ลูกค้าก็ค้าขายไม่ได้แน่นอนท่ีสุดก็ไม่มีเงินมาซื้อเมล็ดพันธุ์พืชไปปลูกใหม่อีก เราก็เสียหายด้วย” คากล่าวนี้
เป็นไปตามข้อคิดจนี ทีส่ อนพ่อค้าวา่ กาไรมากกาไรน้อย กาไรนอ้ ยกาไรมาก
3. การทาธุรกิจต้องเลือกทาในแนวถนัดและรู้จักเลือกลงทุน เลือกผู้มาลงทุนร่วมหรือร่วมค้าที่มี
เทคโนโลยที ่ีเราต้องการ มีสถานะภาพท่มี ั่นคง จะทาให้ธุรกิจของเรามีความเสยี่ งน้อยลง เชน่ “ซพี ี ไมส่ ามารถ
ผลิตเทคโนโลยียาก ๆ ไดเ้ อง เช่น การสรา้ งดาวเทยี ม ไอซหี ลอดภาพโทรทศั น์และไปโอเทคโนโลยบี างอย่าง แต่
รู้จักเลอื กซื้อหรือร่วมทุนเพื่อนาเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมมาใช้ตรงกับความต้องการของประเทศและโอกาสทาง
ธรุ กจิ ” คุณธานนิ ท์ ให้ความเห็นไว้ในการให้สมั ภาษณค์ รงั้ น้ี
จากข้อมูลข้างต้น ทาให้เราพอจะเห็นวิสัยทัศน์ของซีพีและความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้บริหารของกลุ่ม
บริษัทนี้ ที่ได้ฟนั ฝา่ อุปสรรคมาไดจ้ นถึงวนั น้แี ละจะตอ้ งก้าวเดนิ ไปในอนาคตซึ่งตอ้ งเผชญิ ปญั หาและอุปสรรคอยู่
บ้าง ดงั นัน้ ผู้ศกึ ษาติดตามเรอ่ื งน้ีจะได้ทราบแนวทางจากข้อความเพิ่มเติมที่จะช่วยให้ทราบปัญหาและช่วยใน
การวิเคราะห์ปญั หากบั หาทางเลือกในการแกป้ ญั หาของกรณีศึกษานีไ้ ด้ตอ่ ไปคอื
รายละเอียดเพมิ่ เติมเพื่อช่วยในการวิเคราะห์กรณศี ึกษา
1. จากธุรกิจขนาดเล็กของครอบครัวเมื่อ 75 ปีที่ผ่านมา บัดน้ีได้ก้าวล้านาหน้าธุรกิจขนาดใหญ่ชั้น
นาคือ กลุ่มบรษิ ัทของปูนซีเมนต์ไทย ทีต่ ่างประเทศรู้จักกันดวี ่า “กลุ่ม SCT” ทม่ี ีกาลังผลติ มหึมา แต่อยู่คนละ
กลุ่มอุตสาหกรรมกับซีพี คือซีพีอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโทรคมนาคม ส่วนกลุ่มซีเมนต์ไทยหรือที่
เรียกวา่ ปูนไทย ในกลุ่มวัสดุก่อสร้างกล่าวได้วา่ ซีพีกล่าวมาได้รวดเรว็ และมน่ั คงในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ทา
ให้ยนื อยู่ในแถวหน้าของผู้ประกอบการช้ันนาของประเทศและของภูมิภาคเพราะมีผู้นาที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล
กล้าตัดสินใจรู้จักใช้โอกาส ระบบบรหิ ารท่ีมีความคล่องตัวสูงไม่ล่าชา้ แบบอนุรักษ์นิยม ไม่มากขั้นหลายตอน
แบบระบบราชการที่ทาได้เช่นน้ีเพราะมีคณะผู้บริหารที่มีความคิดก้าวหน้า ทาหน้าท่ีเปน็ เสนาธิการบางกลุ่ม
เป็นแม่ทัพนายกองท่ีสาคัญมาช่วยกันคิด ช่วยกนั ทา ช่วยกันแก้ปัญหา แต่ท่ีบรษิ ัทเทเลคอมเอเชีย มีอัตราการ
เข้า - ออกคอ่ นข้างสูง โดยเฉพาะสายช่วงที่มีอายงุ าน 4 ปี
2. ปัจจุบัน ซีพี เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ท่ีมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าและต่อสังคมทาให้ภาพพจน์นี้จะ
กลายเปน็ ทนุ มหาศาลในอนาคต ในภาษาทางธรุ กิจเรียกวา่ มี “Brand-name equity”
3. การรู้จักเลือกทุน เลือกผู้ร่วมค้าและผรู้ ่วมทนุ ประกอบกับการเห็นโอกาสทางธุรกิจ จะทาให้ซพี ี
ยิง่ โตเรว็ เชน่ การเข้าไปทาธรุ กิจในจีนทันทีทีม่ ีโอกาสเพราะจีนมีประชากรมาก เป็นตลาดสินคา้ อุปโภคบรโิ ภค
ขนาดใหญ่ ซีพีจึงเลือกผลิตยาและอาหารสัตว์ประกอบกับภาวะนิสัยในการบริโภคของคนจีนเปลี่ยนไป
และพัฒนาขึ้น เช่น จากการใช้จักรยานเร่ิมเปลี่ยนเป็นจักรยานยนต์ ซีพีจึงซื้อเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น
และผลิตจักรยานยนต์ขายในจีน และกาลังรุกคืบหน้าเข้าไปในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและการซ่อมบารุง
อากาศยาน เป็นต้น ส่วนในประเทศไทยมีตัวอย่างเห็นได้ชัด คือ ก่อน พ.ศ.2538 มีภาวะขาดแคลนโทรศัพท์
เนื่องจากระบบบริ หารราชการไม่สามารถตอบสนองความต้องการของป ระชาชนแล ะธุรกิจอุตสาหกรรม
ภายในประเทศที่กาลังเพ่ิมและเติบโตอย่างรวดเร็ว สถานการณ์น้ีอาจทาให้เศรษฐกิจของชาติถดถอยหรือ
ไม่ทันประเทศคู่แข่งทางการค้าในภูมิภาคเดียวกันได้ ในเร่ืองการช่วงชิงความเป็นศูนย์กลางทางโทรคมนาคม
และศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค ซีพีจึงจัดตั้งบริษัทเทเลคอมเอเชีย จากัด (DTAC) ขึ้นมาประมูล
การวางข่ายโทรศัพท์และดาเนนิ การส่วนหนึ่งตามระยะเวลาของสญั ญาให้ทันกับความต้องการของประชาชน
และทันเวลา ทันความก้าวหน้าของชาติ การสัมปทานครั้งน้ีถือว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจที่งดงามมาก ทาให้
ซีพกี ้าวหนา้ เข้าสู่อุตสาหกรรมท่ีใช้เทคโนโลยรี ะดับสงู คอื โทรคมนาคม
เมอื่ บริษัทเจรญิ เตบิ โตข้ึน คนมาขึ้น ปัญหาจะตามมาแล้วการบริหารจะยากข้ึนด้วย เชน่ การสรรหา
และไดค้ นมาไมย่ ากเพราะชื่อเสียงของบริษทั ดี ซพี ีจึงจัดตั้งศูนย์สรรหาทรพั ยากรมนษุ ย์กลาง แตก่ ารไดค้ นดีมา
ใช้งานแล้วจะรักษาคนดีเหล่านั้นไว้ได้อย่างไรเป็นปัญหาในอนาคต ถ้าซีพีสามารถเป็นแบบอย่างในการ
บรหิ ารธุรกจิ ท่ีสงั คมยอมรบั และอ้างองิ ได้ จะเป็นตวั อย่างจูงใจ ธรุ กิจอน่ื ใหย้ กระดบั การบริหารงานให้มคี ุณภาพ
แข่งขันกันเองทงั้ ในประเทศและกับคู่แขง่ ต่างประเทศด้วย
คาถาม
1. จากกรณีศึกษาของการจดั การในกลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพี ให้แสดงความเห็นว่า การ
บริหารธรุ กิจแบบครอบครวั ในประเทศไทย สมควรจะเปลยี่ นแปลงเปน็ ธุรกิจที่ใช้นกั บริหารมืออาชีพเขา้ มาช่วย
และมีการกระจายหุ้นเพ่ือการเป็นบริษัทมหาชนในอนาคตหรือไม่อย่างไร จะแสดงแนวโน้มและให้เหตุผล
ประกอบการอธิบาย
2. การก้าวไปทีละก้าวแต่ม่ันคง จะย้อนแย้งกับความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วขององค์การ
การตดั สินใจที่ทันโอกาสทางธุรกิจและความเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยหี รือไม่อย่างไร ให้แสดง
ความคดิ เห็น
3. ในกรณีศึกษานี้ ให้ระบุปัญหาที่น่าจะเกิดข้ึนในอนาคตกับซีพีในประเทศไทยว่ามีอย่างไร 3
ประการสาคญั แล้วใหว้ เิ คราะหป์ ญั หาพรอ้ มเสนอแนวทางแก้ไข
4. อนาคตของกลุ่มเจริญโภคภณั ฑ์ท่ีไปลงทุนในจีนจะเป็นเช่นใด เชน่ การจัดการที่ต่างภาษาและ
แตกต่างในวัฒนธรรมบางประการรวมถึงระบบเศรษฐกิจและการเมืองท่ีต่างกันด้วยให้แสดงแนวโน้มและ
อปุ สรรคปญั หาที่อาจเกิดขึน้
9. กรณีศึกษาการเปลีย่ นแปลงและพฒั นาองคก์ าร
กรณีศึกษาเร่ืองหนา้ ท่ี การจัดการในองค์การของรัฐ (การบริหารระบบราชการไทย)
รูปที่ 19 หน้าท่ีการจัดการการบริหารประเทศไทย
10. กรณีศึกษาการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ในการจัดการ
กรณีศึกษา บริษทั LINE
LINE Application น้ันเป็นโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงกลางปี 2010 โดยการร่วมมือของบริษัท
Naver Japan Corporation และ บริษัท Livedoor โดยมี NHN japan เป็นผู้พัฒนาฟิลเจอร์ต่าง ๆ ของไลน์
และในส่วนของการตลาดด้านธุรกิจนน้ั แยกให้บริษัทแม่มีเกาหลี NHN Corporation จัดการหลังท่ีเปิดตวั ได้
เพียงไม่นาน ก็ได้รับการตอบรับถึงหลายสิบล้านยูสเซอร์ในญี่ปุ่น ประเด็นแรกที่ใช้ในการสร้างโปรแกรม
แชท LINE ข้ึนมาก็มีสาเหตุมาจากสถานการณ์แผ่นดินไหวท่ีภูมิภาค Tohoku เม่ือต้นปี 2011 นั้นเอง
ในตอนน้ันระบบการติดต่อทางการโทรศัพท์ล่มอย่างไม่เป็นท่า ทาให้ NHN japan ตัดสินใจออกแบบ App
ที่สามารถใช้ได้ท้ังบนมือถือ บนแท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์พีซี ซ่ึงจะทางานบนเครือข่ายข้อมูลที่สามารถ
แชทตอบโต้ได้รวดเร็วและตอ่ เนือ่ งดว้ ยความท่ีไลน์มีคุณสมบัตขิ องโปรแกรมแชทครบถ้วน ตั้งแต่ แชท ส่งไฟล์รูป
ไฟล์วีดีโอ ไฟล์เสียง ระบบการค้นหาเพื่อนด้วย QR Code หรือจะเกมไว้คลายเครียด ยังมีอีกส่ิงหนึ่งที่มือถือ
ไดว้ ่าเปน็ จดุ เด่นของแอพพลิเคชั่นน้กี ว็ ่าได้ น่ันกค็ อื “Sticker” นน่ั เอง
คาถาม
1. จงระบปุ ัจจยั ที่ชว่ ยให้ LINE ประสบความสาเรจ็ ในเวลารวดเร็ว ตอบเปน็ ขอ้ ๆ อธิบายใหเ้ ข้าใจ
2. จงระบุธรุ กิจในเครือขา่ ย LINE และชอ่ งทางการนาเสนอเพ่ือครองใจครอบครองตลาดไอที
3. ท่านสามารถนา LINE มาใชใ้ นการจดั การได้อย่างไร ตอบเป็นขอ้ ๆ อธบิ ายพอเข้าใจ
11. กรณีศึกษาจรยิ ธรรมในการจัดการ
ส่ิงท่ีไดร้ ับการกลา่ วขวญั เมือ่ เกิดความสญู เสยี ความรนุ แรง อาทิ ตึกถล่ม โปะ๊ ลม่ โรงงานถกู ไฟไหม้ ก็คอื
ความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คมและจริยธรรมในการประกอบธรุ กิจ
ในเร่อื งของจริยธรรมนัน้ เปน็ เร่อื งของรปู แบบของการตีความว่า พฤติกรรมใดผิดพฤตกิ รรมใดถกู สิง่ ใดดี
ส่ิงใดเลว ควรทาหรือไม่ควรทา จริยธรรมน้ีจะเก่ียวข้องกับมนุษย์ทุกสถาบันไม่ว่าจะเป็นสถาบันครอบครัว
สถาบันการศกึ ษา หรอื สถาบันวชิ าชพี สถาบันต่าง ๆ พยายามทจี่ ะสอนให้คนมีจรยิ ธรรมแต่การท่ีได้ผลสมั ฤทธ์ิ
ตามคาสอนหรือไม่ขึ้นอยู่กบั จิตสานึกของผ้เู รียนรู้ว่าจะยอมรับและนาไปปฏิบตั ิมากน้อยเพียงใด จรยิ ธรรมจึง
จะเกิดผล
นักธุรกิจหรือผู้บริหารก็เช่นเดียวกัน ในปัจจุบันหลายท่าน คงได้ยินว่าในเวลาท่ีประกอบธุรกิจ
มักจะมีการพูดว่า เราควรมีจริยธรรมในการดาเนินธุรกิจ พฤติกรรมท่ีผิดจริยธรรมอาทิการให้ข่าวสาร
รั่วไหลออกไป เพื่อผลประโยชน์ในการซื้อขายหลักทรัพย์แก่เพ่ือนฝูงที่ใกล้ชิดหรือการโฆษณาท่ีหลอกลวง
โปป้ ดมดเท็จแก่ผู้บริโภค การวมหวั กันข้ึนราคา เหล่านี้ ควรจะเลิกไปเสีย เพราะเป็นพฤตกิ รรมท่ีผิดจรยิ ธรรม
ในการดาเนินธรุ กจิ
แต่ก็ยังมีอีกหลายคน มีความคิดว่าหากมัวแต่คิดเรื่องนี้แล้ว ธุรกิจจะไปรอดได้อย่างไร เมื่อไหร่ท่ี
นักบริหารมีความคิดเช่นน้ี ก็คงไม่ต้องพูดกัน รอจนกว่าผลลัพธ์และความเสียหายมาเยือนก็แล้วกัน
และเมื่อถึงวันน้ัน เราก็คงเศร้ากันอีก เพราะไม่ใช่เพียงแต่ทรัพย์สินเสียหายเท่าน้ันแต่อาจหมายถึงชีวิตของ
ผู้ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จะต้องมารับกรรม เพราะการกระทาของท่าน และรัฐก็คงจะต้องเสียเวลามาคอยตาม
แก้ไขกันอีก หมนุ กนั เป็นวงล้ออยา่ งไม่รู้จบเชน่ เดิม
การพิจารณาว่าอะไรเป็นสง่ิ ท่ไี ม่ควรทา หรือไม่ผดิ จริยธรรมนั้น เราพิจารณากันได้อยา่ งไรในเรื่องนี้
ผรู้ กู้ ลา่ วว่า เราสามารถพิจารณาได้ใน 3 ประเด็น คอื
1. ตน้ ทุน : ผลประโยชน์ ต้องมองใหก้ ว้าง
2. ไมข่ ดั กบั สิทธิมนษุ ยชน
3. เสมอภาคและยุติธรรม
กิจกรรมการจดั การเรียนรู้ (จัดกจิ กรรมใหส้ อดคลอ้ งกับสมรรถนะที่พงึ ประสงค)์
ขั้นนาเข้าส่บู ทเรยี น
เพ่ือกระตุ้นความสนใจและเช่ือมโยงการเรียนรู้ ครูผู้สอนอธิบายแนวคิดทฤษฎีองค์การ และ
กรณีศึกษาการจดั การ โดยครูผู้สอนคอยสรุปประเดน็ สาคญั
ขั้นสอน
1. บรรยายเนอ้ื หาตามหวั ข้อในเอกสารประกอบการสอน ประกอบ Power Point พร้อมยกตวั อยา่ ง
ประกอบ เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนเขา้ ใจมากย่ิงข้ึน
2. เพ่ือสง่ เสรมิ การศึกษา คน้ ควา้ และหลอมรวมเปน็ องคค์ วามรู้ด้วยตนเอง ให้ผเู้ รียนไปศกึ ษาค้นควา้ ขอ้ มูล
เกี่ยวกับกรณีศึกษาการจดั การ จดั ทาเป็นรายงานและอภปิ รายหน้าชนั้ เรียน
ขนั้ สรุป
1. ให้ผู้เรียนชว่ ยกันตอบคาถามและครูผู้สอนสรปุ ซ้าในประเดน็ เน้อื หาท่ีสาคัญ เพ่ือให้ผเู้ รียนเขา้ ใจ
กรณีศึกษาการจัดการย่ิงขึ้น
2. นาผลการตรวจสมุดแบบฝึกหัดท่ีนักศึกษานาส่งและจากการสังเกตพฤตกิ รรม ขณะทากิจกรรม
ของแตล่ ะคนมาแจ้ง และช้ีแจงให้ผเู้ รียนทราบ เพือ่ นาไปปรับปรงุ แก้ไขให้ดีข้นึ
3. ครูผ้สู อนนัดหมายให้ผู้เรียนเตรียมตวั เกยี่ วกับเน้ือหาท่จี ะเรยี นในหน่วยการเรียนตอ่ ไป
สื่อการจดั การเรยี นรู้
แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี น
2. หนงั สือทเ่ี ก่ียวข้อง
3. สอ่ื การสอน Power Point
4. วดิ ที ัศน์
การประเมนิ ผลการจดั การเรยี นรู้ (ใหส้ อดคล้องกบั สมรรถนะที่พงึ ประสงค์)
ก่อนเรยี น
สังเกตจากความสนใจ ตัง้ ใจเรยี น ร่วมสนทนาและแสดงความคิดเหน็
ขณะเรยี น
1. สังเกตความตงั้ ใจ การมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมกลมุ่ มคี วามรบั ผดิ ชอบในงานทมี่ อบหมายให้
การแสดงความคิดเห็นและซักถาม
2. สังเกตความเปน็ ระเบียบเรียบร้อยและมีวินยั มภี ูมิค้มุ กันดา้ นยาเสพติด
หลังเรียน
สังเกตการณจ์ ดบนั ทกึ การร่วมสรปุ เนือ้ หาและทาแบบทดสอบให้ถกู ต้อง 80% ขน้ึ ไป
บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้
ผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
..................................................................................................................... ...............................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................... ..............................
ผลการเรียนของนกั เรยี น
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
................................................................................................................................ ....................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ผลการสอนของครู
.................................................................................................................................................. ..................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................... .
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 6
ชื่อวิชาหลกั การจดั การ สอนครง้ั ที่ 12-13
ชอ่ื หนว่ ย จรยิ ธรรมในการจัดการ ชั่วโมง 8
ช่อื เรือ่ งหรอื ชื่องาน จรยิ ธรรมในการจัดการ จานวนช่ัวโมง 8
หวั ข้อเรอ่ื งและงาน
1. ความหมายและความสาคญั ของจริยธรรม
2. โครงสรา้ งของจริยธรรม
3. วิธกี ารฝึกอบรมพฒั นาและปลกู ฝงั จรยิ ธรรม
4. จริยธรรมในการใชส้ ารสนเทศ
5. องคก์ ารแห่งคุณธรรม จริยธรรม และการจัดการความรู้
6. บทสรปุ เนื้อหาจรยิ ธรรมในการจดั การ
สาระสาคญั
จรยิ ธรรมของแต่ละบุคคลย่อมจะมีพัฒนาการไปในรปู แบบต่าง ๆ การพฒั นาจรยิ ธรรมจะมีลาดบั
ขั้นตอน แบบอย่าง และมีองคป์ ระกอบคลา้ ยคลงึ กัน คอื การอาศัยปจั จัยท่ดี ลบันดาลทาให้เกิดจริยธรรมจาก
ตวั เราเอง กับปจั จยั ท่ดี ลบันดาลใหเ้ กิดจริยธรรมจากภายนอก
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. บอกความหมายและความสาคัญของจรยิ ธรรมได้
2. บอกโครงสรา้ งของจริยธรรมได้
3. อธบิ ายวิธีการฝกึ อบรมเพ่ือพฒั นาและปลกู ฝงั จรยิ ธรรมได้
4. อธิบายองค์การแหง่ คณุ ธรรมจริยธรรม และการจดั การเรยี นรูไ้ ด้
5. นกั ศกึ ษาเป็นผู้ขยัน อดทน และซ่ือสตั ย์
สมรรถนะที่พึงประสงค์
ด้านพทุ ธิพิสยั
1. บอกความหมายและความสาคญั ของจรยิ ธรรมได้
2. บอกโครงสร้างของจริยธรรมได้
3. อธิบายองค์การแห่งคุณธรรมจริยธรรม และการจดั การเรยี นร้ไู ด้
ด้านทักษะพิสยั
แสดงวธิ ีการฝกึ อบรมเพอ่ื พัฒนาและปลูกฝังจริยธรรมได้
ดา้ นจิตพสิ ัย (คณุ ธรรม จรยิ ธรรม)
นักศกึ ษาเป็นผขู้ ยนั อดทน และซอื่ สตั ย์
บูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง/3D
นกั ศึกษาสามารถนาความรู้จากการศกึ ษาเล่าเรียนไปประกอบการตัดสนิ ใจและเพ่อื เปน็ ภมู ิค้มุ กนั ให้
ตวั เอง ดว้ ยการเปน็ ผ้มู ีความสนใจใฝ่รู้ ตัง้ ใจเรียน
เนอื้ หาสาระพอสงั เขป
1. ความหมายและความสาคญั ของจริยธรรม
จริยธรรม หมายถึง มาตรฐานของความประพฤตหิ รอื ศลี ธรรมท่ีกอ่ ตัวขึ้นมาจากอารมณ์และทัศนคติ
ของสังคมใดสังคมหนึ่ง ทั้งในอดตี และปัจจุบัน จริยธรรมทางธุรกิจจึงเก่ียวกับความถูกหรือผิด ท่ีสังคมแต่ละ
กลุม่ คาดหมายไว้การปฏิบตั ิหรือไมป่ ฏิบตั ิอย่างใดอย่างหนงึ่ อาจ “ผิด” ในทัศนะคติของคนหนึ่ง บริษัท วงการ
หรือประเทศหน่ึง แต่ในท่ีอื่น คนอืน่ ประเทศอน่ื อาจจะ “ถกู ”
2. โครงสรา้ งของจรยิ ธรรม
2.1 ความรับผิดชอบ
2.2 ความซื่อสัตย์
2.3 ความมีเหตุผล
2.4 ความกตญั ญกู ตเวที
2.5 การรักษาระเบียบวินัย
2.6 ความสามคั คี
2.7 ความยตุ ิธรรม
2.8 ความเสียสละ
2.9 การประหยดั
2.10 ความเมตากรุณา
2.11 ความอตุ สาหะ
3. วิธกี ารฝึกอบรมพฒั นาและปลูกฝังจรยิ ธรรม
จริยธรรมของแต่ละบุคคลย่อมจะมีพัฒนาการไปในรูปแบบต่าง ๆ การพัฒนาจริยธรรมจะมีลาดับ
ขน้ั ตอน แบบอย่าง และมอี งคป์ ระกอบคลา้ ยคลึงกนั คือ การอาศัยปจั จัยท่ดี ลบันดาลทาใหเ้ กิดจรยิ ธรรมจากตัว
เราเอง กบั ปัจจัยที่ดลบนั ดาลใหเ้ กิดจริยธรรมจากภายนอก
4. จรยิ ธรรมในการใช้สารสนเทศ
จรยิ ธรรมท่ีเก่ียวข้องกับการใชส้ ารสนเทศ ประกอบด้วย 4 ประเด็น คือ
4.1 ความเป็นสว่ นตวั
4.2 ความถกู ต้อง
4.3 ความเป็นเจ้าของ
5. องคก์ ารแหง่ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และการจดั การความรู้
คุณธรรม มี 3 อย่างที่สาคญั ได้แก่
5.1 ความดี
5.2 ความถกู ตอ้ ง
5.3 ความเป็นธรรม
การจัดการความรู้ คือ นาสิ่งที่ทา มาพินิจพิจารณาให้คนที่ทาน้ันเอง มาพินิจพิจารณาแล้วเรียนรู้
จากท่ีทา ประมวลวิเคราะห์ สังเคราะห์ ออกมาเป็นความรู้ บันทึกไว้เพ่ือใช้ประโยชน์ในภายหลัง
เพอ่ื แลกเปล่ียนเรยี นรู้กับกลุ่มอ่นื ๆ หนว่ ยงานอนื่ ๆ
6. บทสรปุ เน้อื หาจรยิ ธรรมในการจดั การ
แนวความคิดที่จะให้คนประพฤติดีปฏิบัติงาน เป็นที่ปรารถนาของสังคม ต้องการคนดีมีคุณธรรม
องค์การทกุ แหง่ รับบุคคลากรเข้าปฏบิ ัติงานจะคดั เลอื กบุคคลที่มีความรคู้ วามสามารถมีประสบการณ์
ในการทางานนัน้ ๆ พร้อมกนั นน้ั จะพิจารณาจริยธรรม คณุ ธรรม คุณธรรม มนุษย์สมั พนั ธ์ นน้ั กค็ ือ
ปรชั ญา “ความรคู้ คู่ ุณธรรม” และแปรเปน็ “ธรุ กิจคจู่ รยิ ธรรม” การปลกู ฝังเสรมิ สรา้ ง ฝกึ อบรมจรยิ ธรรมตอ้ ง
คานึงถึงพ้ืนฐาน 3 ประการ ดงั ต่อไปนี้
รปู ท่ี 20 การปลูกฝัง เสรมิ สรา้ ง ฝกึ อบรบจรยิ ธรรม
กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ (จัดกจิ กรรมให้สอดคลอ้ งกบั สมรรถนะท่ีพงึ ประสงค์)
ข้ันนาเข้าสูบ่ ทเรียน
เพ่ือกระตุ้นความสนใจและเชื่อมโยงการเรียนรู้ ครูผู้สอนอธิบายโครงสร้างของจริยธรรม โดย
ครูผ้สู อนคอยสรปุ ประเดน็ สาคญั ขน้ั สอน
ขนั้ สอน
1. ผู้เรียนฟังครูบรรยายเน้ือหาตามหัวข้อในเอกสารประกอบการสอน ประกอบ Power Point
พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ เพ่ือให้ผู้เรยี นเขา้ ใจมากย่ิงขึ้น
2. เพื่อส่งเสรมิ การศึกษา คน้ คว้าและหลอมรวมเป็นองค์ความร้ดู ้วยตนเอง ให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มตาม
ความสมัครใจและจานวนเท่า ๆ กัน แสดงวิธีการฝึกอบรมเพ่ือพัฒนาและปลูกฝังจริยธรรมและศึกษาค้นคว้า
สาระสาคญั และนาเสนอหนา้ ช้ันเรียน
ขน้ั สรปุ
1. ให้ผู้เรียนช่วยกันตอบคาถามและครูผู้สอนสรปุ ซ้าในประเด็นเน้ือหาท่สี าคัญ โดยเฉพาะองค์การ
แหง่ คุณธรรมจรยิ ธรรม และการจัดการเรียนรู้เพอื่ ใหผ้ ้เู รียนนามาพจิ ารณาใช้ในชีวติ ประจาวันได้
2. นาผลการตรวจสมุดแบบฝึกหัดท่ีนักศึกษานาส่งและจากการสังเกตพฤติกรรม ขณะทากิจกรรม
ของแตล่ ะคนมาแจง้ และช้ีแจงใหผ้ ู้เรียนทราบ เพอื่ นาไปปรบั ปรงุ แกไ้ ขใหด้ ขี นึ้
3. ครผู ู้สอนนดั หมายใหผ้ ู้เรียนเตรยี มตัวเกย่ี วกับเนือ้ หาท่ีจะเรียนในหน่วยการเรยี นตอ่ ไป
สื่อการจดั การเรยี นรู้
แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียน
2. หนงั สอื ที่เก่ียวข้อง
3. ส่ือการสอน Power Point
4. วิดีทัศน์
การประเมินผลการจัดการเรยี นรู้ (ให้สอดคล้องกับสมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์)
กอ่ นเรยี น
สงั เกตจากความสนใจ ตง้ั ใจเรียน รว่ มสนทนาและแสดงความคดิ เหน็
ขณะเรียน
1. สงั เกตความตง้ั ใจ การมีสว่ นรว่ มกิจกรรมกลุม่ มคี วามรับผิดชอบในงานทีม่ อบหมายให้
การแสดงความคดิ เหน็ และซกั ถาม
2. สงั เกตความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ยและมีวินยั มภี มู คิ ้มุ กนั ดา้ นยาเสพติด
หลังเรยี น
สงั เกตการณจ์ ดบนั ทึก การร่วมสรปุ เนือ้ หาและทาแบบทดสอบใหถ้ กู ตอ้ ง 80% ขึ้นไป
แบบทดสอบหรอื ใบงาน (ถา้ มี)
แบบทดสอบ หน่วยท่ี 6
พิจารณาเลอื กคาตอบทถี่ กู ตอ้ งทีส่ ดุ เพยี งคาตอบเดยี ว
1. ขอ้ ใดเป็นธรรมที่เป็นขอ้ ปฏิบตั ิ
ก. จรยิ า ข. จรรยา
ค. จรยิ ธรรม ง. จรรยาบรรณ
2. ขอ้ ใดไมถ่ ูกต้อง
ก. คุณธรรมทางจริยธรรมมีพ้นื ฐานจากการกระทา
ข. จรยิ ธรรมเน้นหลักการและเหตผุ ลจากการกระทา
ค. การมคี วามรู้ ความสามารถทาให้เป็นทย่ี อมรบั ในสังคม
ง. มนุษย์เปน็ สัตว์สงั คม ตอ้ งทาตนให้เปน็ ท่ยี อมรับในสงั คม
3. จากคากลา่ วทว่ี ่า “เป็นแคก่ ๊ิกกันเทา่ นัน้ เอง” เป็นสเี ทาเข้มในข้อใด
ก. ความสามัคคี ข. ความซ่อื สัตย์
ค. ความมเี หตุผล ง. ความยตุ ธิ รรม
4. ถา้ อยใู่ นสงั คมต้องไมผ่ กู พันกับอารมณ์และความยึดมั่นของตนเองเปน็ ใหญ่ คอื ขอ้ ใด
ก. การประหยัด ข. ความอตุ สาหะ
ค. ความมีเหตผุ ล ง. การรักษาระเบียบวนิ ยั
5. ขอ้ ใดเปน็ กลไกสาคัญในการพัฒนาจริยธรรม
ก. การสรา้ งจิตใจใหม้ คี ณุ ธรรม
ข. การฝกึ ฝนพฒั นาเอาใจใส่อยู่เปน็ นิจ
ค. การฝกึ ฝนภาวะทางจติ มุ่งม่ันทาดี
ง. การอบรมส่งั สอนปลูกฝงั หลักจรยิ ธรรม
6. ขอ้ ใดเปน็ หลกั การปลกู ฝังจริยธรรมที่ถูกตอ้ ง
ก. การฝกึ เลือกคณุ คา่ คณุ ประโยชน์
ข. นาสถาบนั ครอบครัวเป็นเอกลกั ษณส์ บื ทอดค่านิยม
ค. การใช้ความรู้คขู่ นานด้านบวกสรา้ งความดี
ง.สมาชิกทุกคนตอ้ งไดร้ บั การฝกึ อบรมพัฒนาจริยธรรม
7. ขอ้ ใดเปน็ การปลกู ฝงั จริยธรรมจากภายใน
ก. สถาบนั ครอบครัว เป็นผู้ส่งเสริมจรยิ ธรรม
ข. สถานศกึ ษา ศาสนา เป็นแหลง่ ปลูกฝังจริยธรรม
ค. การฝกึ หดั ทบทวนจากตาราเอกสารดา้ นจริยธรรมอยู่เป็นนิจ
ง. การฝกึ ฝนเสรมิ สร้างลักษณะนสิ ยั ด้านจรยิ ธรรมอยู่เปน็ นิจ
8. ขอ้ ใดปลูกฝังจริยธรรมให้เป็นเดก็ ดีอย่างยั่งยืน
ก. หนูต้องเกบ็ รักษาของเลน่ ใหด้ ีมรี ะเบียบนะคะ
ข. หนูต้องแบง่ ของเล่นใหเ้ พื่อนเล่นดว้ ยจะไดร้ กั กันนะคะ
ค. หนนู า่ รกั จังเลยคะ ที่แบง่ ของเล่นให้เพ่ือนเลน่ ด้วยกนั นะคะ
ง. หนูเก่งมากมากทสี่ ามารถแยง่ ของเล่นเพอ่ื นมาเปน็ ของหนไู ด้
9. ขอ้ ใดไมใ่ ช่หลักของจรยิ ธรรมในการใชส้ ารสนเทศทถี่ ูกตอ้ ง
ก. ความเป็นธรรม ข. ความถูกต้อง
ค. ความเป็นส่วนตัว ง. ความเป็นเจ้าของ
10. ข้อใดปอ้ งกันความเสีย่ งด้านจริยธรรมองคก์ ารได้อยา่ งย่งั ยืน
ก. จริยธรรมองค์การ ข. จรรยาบรรณธุรกิจ
ค. องค์ความรู้องค์การ ง. การจัดการความรู้
เฉลยแบบทดสอบหรอื ใบงาน
1. ค
2. ค
3. ข
4. ง
5. ค
6. ค
7. ง
8. ค
9. ค
10. ค
บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้
ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................. ......................................
....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
ผลการเรยี นของนักเรยี น
............................................................................................................................. .......................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................... .............................................
......................................................................................................................................... ...........................
....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
....................................................................................................................................................................
........................................................................................................... .........................................................
ผลการสอนของครู
.............................................................................................................................. ......................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................... .....................
....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
................................................................................................................................................................ ....
....................................................................................................................................................................
แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 7
ช่ือวิชาหลักการจัดการ สอนครัง้ ท่ี 14-15
ช่ือหนว่ ย กรณศี ึกษาการจัดการ ชวั่ โมง 4
ช่อื เรื่องหรอื ชื่องาน กรณีศกึ ษาการจัดการ จานวนชั่วโมง 4
หวั ข้อเรื่องและงาน
1. กรณศี ึกษาแนวความคดิ ทฤษฎีองคก์ าร
2. กรณศี กึ ษาการวางแผน
3. กรณศี ึกษาการจดั การองคก์ าร
4. กรณีศกึ ษาการนา (การช้นี า 1)
5. กรณศี ึกษาการนา (การชน้ี า 2)
6. กรณีศกึ ษาการนา (การชี้นา 3)
7. กรณศี กึ ษาการควบคุม
8. กรณีศกึ ษาการเปล่ียนแปลงและพฒั นาองค์การ
9. กรณีศกึ ษาการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นการจดั การ
10. กรณีศกึ ษาจริยธรรมในการจัดการ
สาระสาคญั
ศกึ ษาเกีย่ วกบั กรณีศกึ ษาการจดั การ
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายกรณีศกึ ษาแนวคิดทฤษฎอี งคก์ ารได้
2. อธบิ ายกรณีศึกษาการวางแผนได้
3. อธบิ ายกรณศี ึกษาการจัดองค์การได้
4. อธบิ ายกรณีศกึ ษาการสงั่ การได้
5. อธิบายกรณศี กึ ษาการควบคมุ ได้
6. อธิบายกรณีศึกษาการจัดการสมัยใหมไ่ ด้
7. อธิบายกรณีศกึ ษาการเปลยี่ นแปลงและพัฒนาองคก์ ารได้
8. อธบิ ายกรณศี ึกษาการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ในการจดั การได้
9. กรณศี กึ ษาจริยธรรมในการจดั การได้
10. นักศึกษาเปน็ ผูม้ สี ัมมาคาราวะ สภุ าพ ออ่ นนอ้ ม
สมรรถนะทพ่ี ึงประสงค์ (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
ดา้ นพุทธิพิสัย
1. อธิบายกรณศี ึกษาแนวคดิ ทฤษฎีองค์การได้
2. อธิบายกรณีศึกษาการวางแผนได้
3. อธบิ ายกรณศี กึ ษาการจัดองคก์ ารได้
4. อธิบายกรณีศึกษาการสง่ั การได้
5. อธิบายกรณศี ึกษาการควบคุมได้
6. อธิบายกรณีศกึ ษาการจดั การสมยั ใหมไ่ ด้
7. อธิบายกรณศี ึกษาการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาองค์การได้
8. อธบิ ายกรณศี ึกษาการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นการจัดการได้
ด้านทกั ษะพิสยั
วิเคราะหก์ รณศี กึ ษาจรยิ ธรรมในการจัดการได้
ด้านจติ พสิ ัย
นกั ศึกษาเป็นผู้มสี ัมมาคาราวะ สุภาพ ออ่ นนอ้ ม
บรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง/3D
นกั ศกึ ษาสามารถนาความรู้จากการศกึ ษาเลา่ เรียนไปประกอบการตัดสินใจและเพ่อื เปน็ ภมู ิคุ้มกันให้
ตวั เอง ดว้ ยการเปน็ ผู้มีเหตุผล พอประมาณ และพอเพียง
เนอื้ หาสาระพอสงั เขป
1. กรณศี กึ ษาแนวความคิดทฤษฎอี งค์การ
กรณศี กึ ษาท่ี “ไซเบอร์สเปซ ทอยส์”
โรงงานผลติ ตุ๊กตาไรส้ ารพิษชอื่ บริษัท ไซเบอรส์ เปซ ทอยส์ ท่ีต้ัง 16 – 19 ถนนพทุ ธมณฑลสาย 5
อาเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ทาตุ๊กตาและของเด็กเล่นด้วยแป้งมันสาปะหลังและใยพืช เป็นโรงงาน
ขนาดกลางมีอาคารเพียง 4 หลัง บนทีด่ ิน 14 ไร่ ผลิตสินค้าตามใบสง่ั ตามฤดูกาล เชน่ คริสต์มาส ปใี หม่
และของชาร่วยงานพธิ ีงานร่ืนเริงตา่ ง ๆ ขณะนี้เป้าหมายทางการตลาดจึงมีเฉพาะตลาดท่ีมีความจาเป็นจริงจึง
สง่ั ทาของเท่านั้น
สถานการณ์ของการประกอบการขา้ งตน้ ทาใหม้ ีงานชกุ ในบางช่างบางเดือนเทา่ น้ัน นโยบายบริษทั ในการ
ผลิตมีการจ้างงานชั่วคราวตามความจาเป็น ทาให้มีพนักงาน 2 ประเภท คือ พนักงานประจา
กับพนักงานช่ัวคราว ซึ่งส่วนใหญ่ได้จากชานเมือง กทม. เช่นหนองแขม อ้อมน้อย อ้อมใหญ่ สมุทรสาคร
ศาลายา นครชัยศรี นครปฐม ซึ่งคนงาน บางส่วนยังไม่หายต่ืนกลัวจากอุบัติภัยไฟไหม้โรงงานผลิตตุ๊กตา
ชอ่ื “เคเคอร์” ท่ีใช้วัตถุดิบใยสังเคราะห์ โพลิยัสเตอร์และผ้าเป็นส่วนสาคัญทาให้สานักงานแรงงานจังหวัดและ
อุตสาหกรรมจงั หวัดนครปฐมเข้ามาตรวจงาน โรงงานไซเบอรส์ เปซ ทอยส์ บ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นโรงงานใหมท่ ี่
ตอ้ งผ่านกฎเกณฑ์ ระเบียบต่าง ๆ เพ่อื การจัดตงั้ โรงงานและตอ้ งปฏบิ ัติงานตามกฎหมายที่เก่ยี วข้องหลายฉบับ
ทาให้คณุ การุณ สุริยแสง ผจู้ ัดการใหญ่ ซ่ึงอดีตเคยเป็นผู้จดั การโรงงานทอผ้าใหญ่แหง่ หน่ึง ท่ีมพี นักงานกว่า
900 คน แต่มาอยู่ในโรงงานแห่งน้ีเพียง 2 ปี และมีจานวนคนงานไม่แน่นอนแล้วยังแบ่งเป็น 2 ประเภท
ดังกลา่ วข้างต้นเสียอกี
เหตกุ ารณ์ทเ่ี ป็นปญั หาจึงเกดิ ข้ึนเมอื่ คณุ การณุ ใหผ้ ู้จัดการฝ่ายบคุ คล คุณประดิษฐ์ ประวัติดี กาหนด
วิธีการให้รางวัลเป็นโบนัสกับพนักงานประจาท่ีต้องทางานเพ่ิมข้ึนในช่วงเร่งรัดการผลิตเท่าน้ัน ส่วนพนักงาน
งานชั่วคราวจะให้โบนสั ต่อเมื่อชั่วโมงล่วงเวลาสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ดตู ารางแสดงชว่ั โมงล่วงเวลากบั โบนัสท่ี
ใหป้ ระกอบ
รูปที่ 21 ตัวอย่างจานวนเงินโบนสั
เกณฑ์เฉล่ยี (1) มชี วั่ โมงลว่ งเวลาไมต่ ่ากว่า 350 ชว่ั โมงตอ่ 7 เดอื น สาหรับพนักงานประจาและ (2)
พ นักงานชั่วคราว 140 ช่ัวโมง 7 เดือน (3) เศษเกินปั ดไป ใช้อัตราโบ นั สชั้นสูงกว่า 1 ชั้น (4)
เงินโบนัสไมเ่ กี่ยวกับเงนิ คา่ ลว่ งเวลาทกี่ ิจการต้องจ่ายตามขอ้ บงั คบั กระทรวงแรงงานและสวัสดกิ ารสังคมอยู่แลว้
(5) เงนิ เดือนขัน้ ต่าของพนกั งานประจาช้ัน 1 เดอื นละ 3,000.– ชั้น 2 เดอื นละ 4,000.- ช้ัน 3 เดอื นละ 6,000.-
บาท
ขณะเดียวกับท่ีออกเกณฑ์การให้โบนสั ก็เร่ิมเข้มงวดกับระเบียบการสูบบุหรี่ภายในบริเวณโรงงาน
และการหา้ มสูบบุหรีภ่ ายในตัวอาคาร จับได้ใหไ้ ล่ออกทันที นอกจากนกี้ ารออกนอกบรเิ วณโรงงานจะกระทาได้
ต่อเม่ือหัวหน้างานอนญุ าตโดยตอกบัตรเข้าออกที่ รปภ. หน้าประตูโรงงานครั้งละไม่เกิน 20 นาที ต่อ/วัน ภายใน
พ ฤ ษ ภ า ค ม มี ค น ถู ก ให้ อ อ ก 3 ค น เป็ น พ นั ก ง า น ช่ั ว ค ร า ว ทั้ ง สิ้ น ต่ อ ม า เดื อ น มิ ถุ น า ย น
ใหอ้ อกจากงาน 5 คน เปน็ พนักงานประจา 1 คน
2 ปีต่อมา คณุ การุณ ถงึ แก่กรรมดว้ ยโรคหัวใจลม้ เหลวเพราะความเครียด คุณสถาพร สายลมเย็น ผชู้ ่วย
ผู้จดั การใหญ่ไดร้ ับตาแหน่งแทนคณุ การณุ หลังจากรกั ษากรอยู่ 7 เดือน จึงตอ้ งการใหบ้ รษิ ทั มกี ารเปลย่ี นแปลง
ปรบั ปรงุ และพฒั นาทัง้ การผลิต การตลาดและการจัดการพฒั นาทรัพยากรมนษุ ย์
คาถาม
1. อธิบายและยกตัวอยา่ งความสัมพันธ์ขององคก์ ารและการจัดการของบริษัทแห่งนีม้ าให้เขา้ ใจ
2. ให้วิเคราะห์การบริหารงานของบริษัทนี้ว่า ใช้ทฤษฎีองค์การและการจัดการ แบบใดแล้วให้
เหตผุ ลประกอบ
3. คุณการณุ มภี าระผู้นาแบบไหน โดยยกตัวอย่างประกอบ
4. ถา้ คุณเปน็ คณุ สถาพร จะทาอยา่ งไร จะเร่ิมจดั การงานแบบไหน ใช้หลักอะไร
2. กรณศี ึกษาการวางแผน
กรณีศกึ ษา บรษิ ัทออโต – สแปรพ์ ารท์ จ.ก.
อกี 2 วันขา้ งหน้า คุณชัยพร พนักงานแผนการวางแผน ซึ่งรับผิดชอบการเขียนร่างแผนงานจะต้อง
รายงานเสนอตอ่ ที่ประชมุ จึงได้หารอื กบั หัวหนา้ หนว่ ยคือ คุณปิติ ดังนั้น
ชัยพร : “ในเรื่องแผนการส่ังซ้ือสินค้าชนิดใหม่ คือ “Z” สาหรับเดือนกรกฎาคมว่าระหว่างเดือน
กรกฎาคมจนถงึ ตลุ าคม มเี พยี ง 12,000 ชิ้น เทา่ น้นั ดังนน้ั เราไมค่ วรสงั่ สนิ คา้ ให้มาไม่ใชห้ รือครบั ”
ปิติ : “แตว่ ่า จากคาพูดจาของหัวหน้าแผนกในวันก่อน เขาบอกวา่ ฝา่ ยขายเร่ิมทาการขายสินคา้ Z อย่าง
จริงจัง ดังน้ันตามที่ตกลงกนั ไว้ในตอนแรก และเพื่อเป็นการลดต้นทุนสินค้า เข้าควรส่ังซ้ือเดือนละ
10,000 ชิ้น ตง้ั แต่เดอื นตุลาคม เป็นตน้ ไป”
ชัยพร : “หรือครับ แตฝ่ า่ ยขายเคยตอบว่า ลูกคา้ เองก็ยังมีสตอ๊ กอยมู่ ากนะครบั ”
ปิติ : “ใช้แล้ว แต่คุณสมเกียรติ ผู้ผลิตสินค้าได้บอกย้ามาหลายครั้งแล้วว่า ให้รักษาสัญ ญา
ท่ีกาหนดใหซ้ อ้ื เดือนละ 10,000 ช้นิ ตงั้ แตเ่ ดือนตุลาคม เป็นต้นไปคงเพราะมกี ารสง่ั ซือ้ วัตถุดบิ ไว้แล้ว
เป็นจานวนมาก หัวหน้าส่วนของคุณเอง ก็ยังพูดกาชับมากว่า “เข้าใจสเป็คและต้นทุนแล้วใช่ไหม”
มาด้วยครบั ”
ชัยพร : “แต่ว่าทางเรากไ็ มอ่ ยากถูกฝา่ ยบญั ชีตอ่ วา่ ด้วยเรื่องสนิ คา้ เกนิ สตอ๊ กในช่วงปลายภาค”
ปติ ิ : “แย่จริง ถ้างน้ั เราลองมาหาทางลดจานวนการสง่ั ซ้อื จะดีมั้ย”
ชัยพร : “แต่วา่ หวั หน้าครบั อกี หนอ่ ยถา้ ถูกส่ังให้เพมิ่ จานวนข้ึนอกี ก็คงแย่”
ตามกรณีน้ี ส่ิงท่ีอยากให้พิจารณา คือ หัวหน้าหน่วย (คุณปิติ) จะให้คุณชัยพรร่างแผนการจัดซ้ือ
สินคา้ Z ด้วยแนวคิดใด คุณปิติจะต้องเขา้ ประชุมการจัดซ้อื ทจ่ี ะมีขึ้นในอกี 2 วนั ข้างหน้า ดังนั้นจงึ ตอ้ งการให้
คณุ ชัยพร รา่ งแผนงานโดยเร็ว แต่ท่ีว่าคาปรึกษาในเรื่องนมี้ ีเพียงนิดเดยี วคือ “เราไม่ควรส่ังสินคา้ ให้มากไม่ใช้
หรอื ครับ” (ปิต)ิ และ “เราลองมาหาทางลดจานวนการสงั่ ซอื้ ลงดไี หม”
คาถาม
ถ้าท่านอยู่ในฐานะของหวั หนา้ หนว่ ยอยา่ งคุณปติ ิ ท่านจะมีการปฏบิ ัติเก่ียวกบั รา่ งแผนการจดั ซอื้ อยา่ งไร
ขอให้ท่านเลือกระหว่างขอ้ ก. ถึงข้อ จ. มา 1 หัวขอ้ ท่ใี กล้เคยี งกับแนวคิดของทา่ นมากทสี่ ุด
ก. เปา้ หมายการจัดซอื้ สนิ คา้ “Z” น้นั มคี วามชดั เจน กลา่ วคอื กาหนดให้ซ้ือเดอื นละ 10,000 ชน้ิ นบั แต่
เดือนตลุ าคม และก่อนหน้าน้ี ผูจ้ ดั การฝ่ายไดก้ ล่าว “จะทาการซอ้ื เดอื นละ 10,000 ช้ินให้จงได้” ดังนั้นควรให้
คุณชยั พร จดั รา่ งแผนโดยใช้เป้าหมายท่กี าหนดไว้
ข. เน่ืองด้วยมีปัจจัยความไม่แน่นอนอยู่มากจึงไม่ควรยึดม่ันกับการ “ซื้อเดือนละ 10,000 ชิ้น
นบั ต้งั แต่เดอื นตุลาคมเปน็ ตน้ ไป” จึงควรให้คุณชยั พร ร่างแผนงานโดยใชแ้ นวคิดของเขาเอง
ค. ตัวของหัวหน้าหน่วย คือ คณุ ปิติ ควรที่จะกระตือรอื ร้นมากขึน้ โดยหาข้อมูลจากฝา่ ยขายหรอื จาก
หน่วยงานอ่ืน เพื่อทาการตัดสินใจว่า “ซือ้ เดอื นละ 10,000 ช้ิน นับตง้ั แต่เดือนตลุ าคม เปน็ ต้นไป เปน็ ส่ิงที่ถูกตอ้ ง
หรือไม่” และใหค้ ณุ ชัยพรรา่ งแผนงานภายใตก้ ารตัดสินใจนี้
ง. หวั หนา้ หน่วย คือ คุณปิติ ควรปรึกษาหารอื กับหัวหนา้ แผนกให้ดีเกย่ี วกบั แนวโนม้ การสง่ั สนิ ค้า “Z”
และเร่ืองสถานการณ์อื่น ๆ “ซื้อสินค้าเดือนละ 10,000 ชิ้น นับต้ังแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป หลังจากนั้นจึง
ชีแ้ นะวิธีทาแผนงานแก่คุณชัยพร”
จ. ควรพิจารณาร่วมกับคุณชัยพรให้มากข้ึนในเรื่อง “จัดทาแผนงานตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
เป็นต้นไป” อย่างไร และให้คุณชัยพร ร่างแผนงานขึ้นด้วยแนวคิดของเขาเองในฐานะที่เป็นพนักงานหน่วย
จดั ซื้อ
3. กรณีศกึ ษาการจดั การองค์การ
กรณีศกึ ษา : บรษิ ทั สินเธาว์ จ.ก.
บริษัทสินเธาว์ จากัด จดทะเบียนเป็นบริษัทจากัดในจังหวัดกาฬสินธ์ุ โดยมีเป้าหมายผลิตเกลือ
สนิ เธาว์ จากแหล่งเกลือใต้ดิน และได้สัมปทาน 40 ปี จากรัฐบาลในรปู ของเหมอื งเกลอื การผลิตเกลอื สนิ เธาว์
จึงเป็นผลผลติ ชว่ งต้นเทา่ นน้ั ในปีท่ี 1 และ (2540-2542) เพือ่ รอการติดต้ังโรงงานแปรรูปหรอื แยกธาตุเกลอื จะ
เดินเคร่ืองไดจ้ ะมผี ลผลติ ชว่ งกลางและชา่ งปลายเป็นปุ๋ยเป็น PVC และเคมีภัณฑ์อ่ืน ๆ การลงทุนในระยะแรก พ.ศ.
2540-2542 จะแบง่ เปน็ ทุนดาเนนิ การ 50 ลา้ นบาท ซึ่งเป็นค่าใชจ้ ่ายในการสมั ปทาน ค่าใช้จ่ายจดทะเบียนใน
โรงงานใบอนุญาตเปิดการผลิต และกิจกรรมธุรการ เร่ิมจากการประชุมคณะผู้ก่อการจนมีมติพิเศษให้จัดต้ัง
บริษัทจัดทาหนังสอื บรคิ ณสนธิ จดทะเบยี นเป็นบริษัทจากดั ออกหนังสอื บอกกลา่ วป่าวรอ้ งระดมทนุ และกนั เงนิ
อีกสว่ นหนึง่ เป็นทุนจดทะเบยี น 200 ล้านบาท
เร่ิมมีการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2539 เพื่อกาหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมาย
ในการดาเนินธุรกิจอุตสาหกรรม ท่ีจะทั้งผลิตและขายผลผลิตแก่อุตสาหกรรมข้างเคียงและอุตสาหกรรม
ต่อเน่ือง โดยคาดว่าจะมี ROI = 5% สาหรับปี พ.ศ. 2541 และ 10% ในปี พ.ศ. 2542 แตเ่ ม่ือมีผลผลิตช่วง
ปลายแลว้ คาดวา่ จะได้ ROI = 15% เปน็ อย่างตา่ ในปี พ.ศ.2543
ให้นกั ศึกษาใช้กระบวนการจัดตัง้ องค์การ 6 ข้นั ตอน มาจดั องค์การให้บริษัทนี้จนครบกระบวนการ
โดยแสดงแผนภูมิ เป็นข้ันตอน จนถึงข้ันแสดงแผนผงั ของบริษทั ได้และเสนอแนะวธิ ปี ระเมินผล วิเคราะห์ปรับ
แผนหรือโครงสรา้ งขององค์การด้วย
4. กรณศี กึ ษาการนา (การช้ีนา 1)
แบบฝกึ หดั กรณศี กึ ษาเพื่อการแก้ไขปญั หา เรอ่ื ง ดีแนห่ รอื
เหตุการณ์เกิดข้ึนในบริษัทสวนสวรรค์จากัด ขายอุปกรณ์ทาสวนและเคร่ืองตัดหญ้า ซ่ึงมีอนาคตทาง
การตลาดดีมาก เพราะเป็นยุคธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เฟ่ืองโดยเฉพาะที่อยู่อาศัย ได้แก่ หมู่บ้านจัดสรร
และผู้รกั การทาสวนไมด้ อกไม้ประดับในเขตบ้านบริษทั น้จี ึงมีจังหวะทางการตลาดดีหลงั จากประคบั ประคองตัว
มานานตลอด พ.ศ.2529-2532 ธุรกิจเริ่มดีในช่วง พ.ศ. 2533 ถงึ ปจั จุบัน จึงขยายสาขาออกไปตา่ งจงั หวัดใหญ่ ๆ
4 จงั หวัด คือ นครราชสมี า เชยี งใหม่ หาดใหญส่ งขลา และชลบุรี
คุณสรุ ิยนั แสงประเทอื ง อายุ 34 ปี ได้เขา้ มาทางานกับบรษิ ทั นเ้ี ป็นเวลา 9 ปเี ศษ ใน 4 ปี แรกทาหนา้ ที่
เปน็ พนักงานขาย และใน 5 ปีหลัง ได้รับแต่งตัง้ เป็นผู้จัดการสาขาจังหวัดนครราชสีมา มหี นา้ ที่และรบั ผิดชอบ
การบริหารงานสาขา และตรวจสอบควบคุมงานโดยมผี ู้ใตบ้ ังคับบัญชาคือ พนกั งานขาย 7 คน และหนว่ ยธุรการมี
หวั หน้าหน่วยธุรการ 1 คน และเสมยี นพนักงานอีก 3 คน รวมท้ังสานกั งานสาขาของบริษัท มี 11 คน รวมท้ังต้ัง
คุณสุรยิ นั ดว้ ย
ผู้จัดการฝ่ายกิจการสาขาของบริษัทสวนสวรรค์ จก. ในกรุงเทพฯ คือ คุณประสาน เพชรดี
ได้ติดตามผลงานของคุณสุริยันมาตลอดโดยทราบจากรายงานของคุณสุรยิ นั ว่าบริหารงานดเี ลิศทกุ ปี
แต่เม่ือวานน้ีเอง คุณประสานได้รับจดหมายฉบับหนึ่งจากคุณโสภิณ ดีสูงเนิน อายุ 40 ปี เป็น
หัวหน้างานหน่วยธุรการของคุณสุริยา เป็นจดหมายลาออกโดยให้เหตุผลว่า “ทนต่อสภาพงานและ
ความสมั พันธเ์ ลวร้ายไม่ไหว” ดังน้ัน คุณประสาน จงึ ไดส้ อบถามข้อมลู กับฝ่ายบริหารงานบุคคลทนั ที ได้ขอ้ มูล
แล้วจึงวเิ คราะห์ทราบว่าย้อนหลังไปต้ังแต่ พ.ศ. 2536 เป็นต้นมามีอัตราคนเข้า-ออกงานท่ีสาขานครราชสีมา
สงู มาก โดยเฉพาะตาแหนง่ เสมยี นพนกั งานเปน็ อัตรา 40% เมื่อเทียบกับสาขาตา่ ง ๆ ท้งั 4 จังหวัด
เรื่องนี้ถา้ คุณเป็นคุณประสาน จะจัดการงานในลักษณะแก้ไขและป้องกนั ปัญหาท่ีเกดิ ขึ้นได้อย่างไร
เพราะอาจเกิดขึ้นอกี เพราะตวั คุณสุรยิ นั เองหรือวา่ เกิดจากคุณสมบัติของพนักงานไม่ตรงกับความตอ้ งการของ
งาน และอาจเกิดจากปัญหาส่วนตัวของคุณโสภิณ ทท่ี างานดีมาต้ังแต่ต้นก็ได้ ทั้งน้ีไมใ่ ช่เพื่อตัดสินวา่ ใครผิด
ใครถูก แตถ่ ือวา่ เปน็ ปญั หาท่ีต้องรว่ มกันแกไ้ ขแตย่ งั ตดิ ใจวา่ คณุ สุริยัน ดแี นห่ รอื
5. กรณศี กึ ษาการนา (การชน้ี า 2)
(การชีน้ า 2)
จุดหัวเลยี้ งหวั ตอ่ ของขา้ พเจ้า
เม่อื ปีทแี่ ลว้ ผมเปน็ ผจู้ ดั การตลาดของบริษัทต่อตวั ถังรถยนต์โดยสารและรถบรรทกุ 10 ลอ้ ชือ่ บรษิ ัท
พานทอง ตัวถังรถ จก. อาเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี มีคุณสมหวัง ภักดีกุล เป็นผู้จัดการฝ่ายขายระดับ
อาเภอ ทาหน้าท่ีหาตลาดและหางานป้อนโรงงานรับผิดชอบเขตอาเภอศรีราชาและเมืองพัทยา ผมช่ืนชม
ผลงานของคุณสมหวังมากเพราะเขาทายอดขายได้ดี แต่มีกิจกรรมทางสังคมค่อนขา้ งมาก เพราะเป็นสมาชิก
สโมสรโรตาร่ีสมาชิกนกั ธรุ กิจหนมุ่ เมอื งพัทยา สมาชิกสโมสรกอลฟ์ ปญั ญาบางพระ สังกัด “ก๊วนพลงั -หนมุ่ ”
ผู้จัดการใหญ่ติดต่อสื่อสารเชิงอรูปนัยกับผมว่าให้ “กาจัดคุณสมหวัง” เพราะสังคมจัดเกินไป ผม
รบั ทราบด้วยความคิดท่ีสับสนระหว่างที่ตามสายบังคับบัญชากับความเป็นจริงและผลประโยชน์ขององค์การ
เห มื อ น ร ะ ฆั ง ช่ วย เมื่ อ 3 เดื อ น ที่ แ ล้ วผ ม ถู ก ท าบ ท าม ดึ งตั วอ ย่ า งแ ร งจ า ก บ ริ ษั ท ร ะ ย อ ง
โคชแอนด์ทรดั จก. ใหเ้ ป็นผู้อานวยการฝา่ ยการตลาด ซ่ึงมีตาแหน่งสูงกว่า อานาจหนา้ ท่ีและความรบั ผิดชอบ
มากกว่าท่ีเดิม และแน่ละค่าตอบแทนมากกว่าท่ีเดิมเกือบเท่าตัว ก่อนท่ีผมจะไปดารงตาแหน่งใหม่ ท่ีใหม่
อย่างเรง่ ดว่ นนี้ ผมควรใช้โอกาสนี้ “กาจัด” คุณสมหวังหรือไม่ อยา่ งไร
ในเมือ่ ตวั ผมเองมคี วามจงรักภักดตี อ่ องคก์ ารคอ่ นข้าง “แตกร้าว” อยู่อยา่ งน้ี ผมควรจะอย่กู บั บรษิ ัท
เดมิ ดีหรอื ไมโ่ ดยปิดปากเงียบ หรือ “ไปเลย” แลว้ เตอื นคุณสมหวงั ใหร้ ูต้ ัวคณุ เป็นผมจะทาอยา่ งไรดี
6. กรณีศึกษาการนา (การชน้ี า 3)
(การชน้ี า 3)
เรอ่ื ง บริษัทรุ่งโรจน์บรรจภุ ัณฑ์ จากัด
บริษัทรุ่งโรจน์บรรจุภัณฑ์ จากัด รังสิต ปทุมธานี จ่ายค่าตอบแทนให้กับพนักงานขายเป็นเงินเดือน
โบนัส และส่วนแบ่งจากยอดขาย (คอมมิวช่ัน) โบนัสจะจ่ายให้ในเดือนธันวาคมของทกุ ปี เป็นหน้าทแี่ ละอยู่
ในดุลยพนิ ิจของผู้บรหิ ารหน่วยงาน ซ่ึงพิจารณาจาก (1) การใช้จา่ ยซ่ึงเงินของบรษิ ัท (2) การรู้จักวางแผนงาน
และทางานตามแผนและ (3) ดูจากความประพฤติของพนักงานในแต่ละเกณฑ์ดังกล่าวมีคะแนนเต็ม 10 คะแนน
สงู สุดไมเ่ กิน 5,000 บาท ถา้ คะแนนเตม็ ท้งั 3 เกณฑ์ พนกั งานผ้นู ั้นจะได้ 15,000 บาท แลว้ ยงั จะไดจ้ ากโบนัส
ซงึ่ มากจากส่วนแบง่ กาไรหลงั จากหักภาษีแล้ว พนักงานเคยได้อย่างต่า 2.5 เดือน อย่างสูง 4.5 เดอื น ของ
เงนิ เดอื นที่ได้รบั อยู่อีกดว้ ย
ตัวอย่างเช่น คุณวิชัย เนตรวิเชียร ได้รับเงินเดือน 8,000 บาท ได้รับโบนัส 3.0 เป็นเงิน
24,000 บาท และได้คะแนนตามเกณฑ์ทั้ง 3 เต็ม 30 คะแนน จะได้เพ่ิมมาอีก 15 ,000 บาท
ในเดอื นธนั วาคมของทุกปีนน้ั เขาจะได้รบั เงินรางวัลการทางานทั้งส้ิน 39,000 บาท
เรือ่ งก็มีอยู่ว่า คุณสถาพร เลิศวิไล ผู้จัดการฝ่ายขายให้โบนัส คุณสมพงษ์ คงเกษม 26,000 บาท และ
คุณสมพงษ์ไดท้ ราบขา่ วว่า คุณเชดิ ชาย สิงหท์ อง ได้โบนสั ถึง 35,000 บาท ซง่ึ คณุ สมพงษ์เห็นวา่ ไมย่ ตุ ธิ รรม
โดยช้ีให้เหน็ ว่า ตัวเขาเอง (คุณสมพงษ์) สามารถทายอดขายให้กับกิจการได้ถึง 7,000,000 บาท ในปีนี้ ส่วนคุณ
เชิ ด ชา ย ขอ ด ขาย ต ก ล งม าก ก ว่า 8 0 0 ,0 0 0 บ าท แ ต่ คุ ณ ส ถาพ รไม่ ส น ใจ ท่ี คุ ณ ส ม พ งษ์
มารอ้ งเรยี น กลับชขี้ อ้ บกพร่องให้เห็นว่า คุณสมพงษ์ ชอบสวมเสื้อสีฉูดฉาด ส่งรายงานการขายชา้ กว่ากาหนด ชอบ
รับประทานอาหารแพง ๆ พักโรงแรมดี ๆ ย่ิงไปกว่านั้นการใช้รถของบริษัทยังมีจานวนกิโลเมตร
ต่อการเยย่ี มลูกค้า 1 คร้งั สงู กว่าของคุณเชิดชายถึง 11% คุณสถาพรจึงปดิ แฟ้มเรอ่ื งร้องเรยี นของคุณสมพงษ์ทนั ที
โดยเขียนบันทึกท้ายเรื่องให้เหตุผลว่า “ผมได้เตือนคุณแล้วในที่ชุมชนใหญ่ของฝ่ายขายภาคครึ่งปีเมื่อเดือน
มิถุนายน เรอ่ื งคุณแต่งกายไม่เหมาะสม” เรอ่ื งนี้คณุ สมพงษ์ไมย่ อมแนน่ อน
1. มีปัญหาอะไรเกดิ ขนึ้ ในเรอ่ื งการจงู ใจ
2. ระบบการให้รางวัลเพื่อการจูงใจของบริษัทน้ีเป็นเชน่ ไร จงวเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์
3. ถา้ คณุ เป็นคณุ สถาพรจะแก้ปัญหาอย่างไร และจะกาหนดวิธีการจูงใจเสยี ใหม่หรอื ไม่อย่างไร
1. กรณศี กึ ษาการควบคมุ
กรณีศึกษาเชิงปฏิบตั ิและแกป้ ัญหา : ปัญหาการควบคมุ ฝ่ายจดั ซอื้ ของเทวญั
คุณเทวัญ พรปราณี เจ้าของบริษัท พรปราณี จากัด ดารงตาแหน่งผู้จัดการใหญ่บริษัทฯ ด้วย
มีผ้บู ริหารระดับผู้จัดการฝ่ายต่าง ๆ ทีมีฝมี ือด้านบริหารและอยมู่ านานบริษัทฯ ได้ผลิตตาข่ายแห อวนไนลอ่ น
มาตั้งแต่ พ.ศ. 2521 เมื่อเร่ิมแรกมคี ู่แขง่ เพียงไม่ก่ีราย แต่ปัจจุบนั เฉพาะที่พระประแดงใกล้ป้อมพระจลุ มี
โรงงานเชน่ เดียวกันนี้ 3-4 รายและยังมีที่อนื่ ๆ อกี
ในระยะ 10 ปี แรกของโรงงานไม่มปี ัญหาเกี่ยวกบั วตั ถดุ ิบ คอื เสน้ เอ็นไนล่อนขนาดตา่ ง ๆ เพราะ
ส่งั ซื้อตรงจากประเทศญ่ีปุ่น และบางประเทศยุโรป พ.ศ. 2532 วัตถุดิบเริ่มหายาก และมีราคาแพงจึงเร่ิม
สัง่ ซื้อจากไตห้ วนั เพ่มิ ข้ึนอีก ปจั จุบนั ใช้วัตถดุ ิบ เฉล่ีย 650 ตัน/เดือน ทง้ั สั่งตรงจากประเทศและจากตวั แทน
จาหน่ายในกรุงเทพฯ ค่าวัตถุดิบเพิ่มข้ึนจาก พ.ศ.2530 ถึง 25% แต่เน่ืองจากมีอุปสงค์มากขึ้นในจังหวัด
ชายทะเลภาคใต้ คุณเทวัญ จึงขยายกิจการไป 3 แห่ง ท่ีจังหวัดตราด กระบี่ และนราธิวาส แต่ละแห่ง
เฉลี่ยแล้วต้องใชว้ ัตถุดิบ 300 ตัน/เดือน แต่การจัดซื้อดาเนนิ การที่ โรงงานใหญ่สมทุ รปราการ โดยมีคุณนพ
คณุ มโนสุจรติ อายุ 54 ปี เป็นผูจ้ ัดการฝา่ ยจัดซื้อ ซ่งึ มีอายุงาน 9 ปี ทาหนา้ ที่จดั ซ้ือและจัดส่งวตั ถุดิบ
อะไหล่ วัสดุอุปกรณ์อ่ืน ๆ (ไมน่ บั รวมเครอ่ื งจกั ร) เดอื นละประมาณ 16,000,000 บาท
ฝา่ ยจัดซื้อมีตาแหน่งผู้ช่วย 2 คน เจ้าหน้าท่ีจัดหา สืบราคา จัดประกวดราคา 3 คน เสมียน
พนักงาน 6 คน คณุ นพคุณมหี ้องทางานอยู่บนสานักงานใหญ่ ไมไ่ ดอ้ ยู่ที่สานักงานติดกบั คลงั สินค้า โดยมคี ุณ
วสนั ต์ แต้เจริญพานชิ เป็นผู้ชว่ ย และคณุ วนดิ า สายสมร เป็นเลขานุการ คุณวสนั ต์ เป็นผู้ช่วยอาวโุ ส มอี ายุ
งาน 7 ปี ผลงานและความซอ่ื สตั ย์ ไว้ใจได้ คุณเทวัญ คิดไดว้ ่าเหมาะสมที่จะแทนคณุ นพคุณไดเ้ มอ่ื จาเปน็
เม่ือ 4 เดือนที่แล้วสานกั งานผตู้ รวจสอบบัญชี (ผู้ตรวจสอบภายนอก) รว่ มกับฝ่ายบัญชีและฝ่าย
บริหารงานบคุ คลของบรษิ ทั ฯ ได้ตรวจสอบหลกั ฐานและวิเคราะหง์ านของฝ่ายจัดซอ้ื แล้วมคี วามเห็นวา่ (1) ควรรวม
ฝา่ ยจัดซ้ือเข้ากับฝ่ายคลังสินค้าตามนโยบายลดขนาดขององค์การและให้โครงสร้างเป็นแนวระดับเพ่ือแยกความ
รบั ผิดชอบและให้ขั้นตอนการทางานน้อยลงให้งานเสรจ็ เร็วขึ้น หรือ (2) กระจายฝ่ายจัดซ้ือเป็นหน่วยจัดซ้ือ
ประจาโรงงานแต่ละจังหวัด
จงึ เกิดข่าวลือว่าถ้าปีหน้าคุณนพ คุณตอ้ งเกษียณอายงุ าน จะไม่มตี าแหน่งนีอ้ ีกและเจ้าหน้าท่ีจดั ซ้ือ
แตล่ ะจังหวดั จะใช้คนทอ้ งถ่ินใหเ้ ปน็ หวั หน้าหนว่ ยงานจิ๋วแตแ่ จว๋ เร่ืองน้คี ณุ วสันต์ทราบมาบา้ งแล้วจึงจะขอเข้า
มาพบคณุ เทวญั
1. มปี ัญหาอะไรเกิดขึ้นท่ีฝ่ายจัดซื้อ
2. ลักษณะงานของฝ่ายจัดซื้อควรจะใช้แบบกระจายอานาจ และความรับผิดชอบ หรอื ควรรวมศูนย์
ซึ่งจะเหมาะสมตอ่ การควบคมุ งาน ให้แสดงเหตผุ ลสนบั สนนุ
3. เร่อื งน้ีสมควรหรือไมท่ ่คี ณุ วสนั ต์ นาไปปรกึ ษาคณุ เทวัญ
4 ถา้ คุณเป็นคุณเทวัญ จะอธิบายเร่อื งนก้ี ับคุณวสนั ต์วา่ อย่างไร
7. กรณศี ึกษาการจดั การสมัยใหม่
การจดั การงานของกลุ่มเจรญิ โภคภัณฑ์
บริษัทตา่ ง ๆ ของกลุม่ เจริญโภคภณั ฑ์ ภายใตก้ ารนาของคุณธานินท์ เจียรวนท์ ประธานกลุ่ม ซีพี
ได้กาหนดภารกจิ สาคัญประการหนง่ึ วา่ “ถ้าต้องการทาธรุ กจิ ใหญ่ ธุรกิจนนั้ จะต้องเกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่”
แล ะ มี วิ สั ย ทั ศ น์ ที่ ชั ด เจ น แ น่ วแ น่ ว่า “ ซี พี จ ะต้ อ งเป็ น ธุรกิ จระ ดั บ น าน าชา ติ ” ซึ่ งคุ ณ ธนิ น ท์
ไดก้ ล่าวกับคณะผูบ้ ริหารระดับสูงของบรษิ ทั เมื่อ พ.ศ.2533 “ในอีก 10 ปี ซีพีจะต้องใหญ่แบบมติ ซูบิชใิ หไ้ ด้” เป็น
การก้าวไปทีละข้นั แต่ม่ันคงแบบนกั ธุรกจิ จีนที่ส่ังสอนกันต่อมาวา่ “แปะเฉียะกอเทา้ ไจจ่ ิง่ เจก็ โปว่ ” แปลว่า ไม้
คาน 100 เฉยี ะ และกา้ วไปข้างหนา้ ทีละก้าว บดั น้คี ากล่าวน้ัน ใกล้ความจรงิ เขา้ ไปทุกทีแล้ว จากภาพที่เราเห็น
และบทบาทการดาเนินธุรกิจท่ีเราติดตามศึกษาอยู่ ซีพีเดิมโตจากธรุ กิจขนาดเล็กของบรรพบุรุษ แซ่เจี่ย ค้า
เมล็ดพันธุ์พืช ชื่อร้าน “เจียไต๋” อยู่ใกล้วัดเกาะสัมพันธวงศ์ มาประมาณ 75 ปี แล้ว ต่อมาคุณธนินท์ รับ
ดาเนินงานสานต่อธุรกิจ ขยายเข้าสู่เกษตรอุตสาหกรรมประเภทอาหา คือเลือกทาการค้าและก้าวเดินบน
เส้นทางของธุรกจิ ที่ถนัดก่อนอยา่ งอื่นโดยซอ้ื พันธไุ์ กอ่ าหาร เน้ือ “บรอยเลอร์” จากออสเตรเลียมาเป็นพันธ์ต้น
ตระกลู จนสามารถสรา้ งเครอื ขา่ ยการเพาะเลีย้ งเขา้ สู่ระบบเกษตรรายย่อย แลว้ สนับสนนุ ดา้ นยาและอาหารสตั ว์
มีระบบการรบั ซ้อื ทยี่ ุติธรรม ทาให้มีวตั ถดุ ิบปอ้ นโรงงานจาหน่ายขายสง่ เขา้ ตลาดในประเทศและต่างประเทศได้
ท้งั ไก่สดแช่แข็ง เนื้อสกุ รและอาหารแปรรปู ทาใหซ้ พี ีเปน็ เจา้ ตลาดเนือ้ สตั วแ์ ละอาหารสตั วไ์ ด้ไมย่ าก
ซพี ี ก้าวสูงขน้ึ ไปไดอ้ ีกเพราะรู้จกั เลอื กซือ้ เลอื กใชเ้ ทคโนโลยที ีเ่ หมาะสม ร้จู ักเลือกผู้รว่ มทุนท่ีสามารถ
ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับซีพีได้ ปัจจุบันซีพีมีกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก
หลายแหง่ ในอนาคตอนั ใกล้นซ้ี พี อี าจเป็นกลมุ่ ธุรกจิ ทใ่ี หญ่ท่สี ุดของกลุ่มอาเซียนก็ได้ ซึง่ วสิ ยั ทัศนข์ องประธาน
กลุ่มคือ คุณธานินท์ นั้นส่องไปได้ไกลและชัดเจนจากรายการโทรทัศน์ Nation News Talk มีสาระสาคัญ
ทางการบรหิ ารงานดงั นี้
1. “ถา้ ต้องการทาธุรกจิ ให้ใหญ่ ธรุ กจิ นน้ั จะต้องเกีย่ วขอ้ งกับคนสว่ นใหญ่” เช่น ขายปัจจยั 4 ซ่งึ ซีพี
เลือกปจั จยั แรกคอื อาหาร ตามมาด้วยพลงั งาน โทรคมนาคม และยานพาหนะ เปน็ ตน้
2. “ธุรกิจต้องรับผิดตอ่ ลูกค้าและสังคม และต้องทาให้สาเร็จ กาไรจะตามมาเอง” มคี วามตอนหน่ึง
ว่า “คุณพ่อสอนว่า ถา้ เราขายเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ดีใหแ้ ก่ลกู ค้า เมอ่ื ลูกค้านาไปปลูกไม่ขึน้ และได้รับความเสียหาย
ลูกค้าก็ค้าขายไม่ได้แน่นอนที่สุดก็ไม่มีเงินมาซื้อเมล็ดพันธ์ุพืชไปปลูกใหม่อีก เราก็เสียหายด้วย” คากล่าวน้ี
เป็นไปตามข้อคิดจนี ทีส่ อนพ่อคา้ วา่ กาไรมากกาไรน้อย กาไรน้อยกาไรมาก
3. การทาธุรกิจต้องเลือกทาในแนวถนัดและรู้จักเลือกลงทุน เลือกผู้มาลงทุนร่วมหรือร่วมค้าท่ีมี
เทคโนโลยีที่เราต้องการ มีสถานะภาพที่มน่ั คง จะทาให้ธรุ กจิ ของเรามีความเสยี่ งน้อยลง เช่น “ซพี ี ไมส่ ามารถ
ผลิตเทคโนโลยียาก ๆ ได้เอง เช่น การสรา้ งดาวเทยี ม ไอซีหลอดภาพโทรทัศน์และไปโอเทคโนโลยบี างอย่าง แต่
รจู้ ักเลอื กซ้ือหรือร่วมทุนเพ่ือนาเทคโนโลยที ่ีเหมาะสมมาใช้ตรงกับความต้องการของประเทศและโอกาสทาง
ธุรกจิ ” คณุ ธานินท์ ให้ความเหน็ ไว้ในการใหส้ มั ภาษณค์ รั้งน้ี
จากข้อมูลข้างต้น ทาให้เราพอจะเห็นวิสัยทัศน์ของซีพีและความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้บริหารของกลุ่ม
บริษัทนี้ ที่ได้ฟันฝ่าอุปสรรคมาได้จนถึงวนั นีแ้ ละจะต้องกา้ วเดินไปในอนาคตซึ่งต้องเผชิญปญั หาและอปุ สรรค
อยบู่ า้ ง ดงั น้นั ผู้ศึกษาติดตามเรื่องนจี้ ะได้ทราบแนวทางจากข้อความเพิม่ เตมิ ทจี่ ะชว่ ยให้ทราบปญั หาและช่วยใน
การวิเคราะหป์ ัญหากับหาทางเลอื กในการแกป้ ญั หาของกรณศี ึกษาน้ไี ดต้ ่อไปคือ
รายละเอยี ดเพม่ิ เติมเพอื่ ช่วยในการวิเคราะห์กรณศี กึ ษา
1. จากธรุ กจิ ขนาดเล็กของครอบครัวเม่ือ 75 ปีทผ่ี ่านมา บดั น้ีได้ก้าวล้านาหน้าธุรกิจขนาดใหญ่ชั้น
นาคอื กลมุ่ บริษัทของปนู ซีเมนต์ไทย ทตี่ า่ งประเทศรู้จกั กันดวี า่ “กลุ่ม SCT” ทีม่ กี าลงั ผลติ มหึมา แต่อยู่คนละ
กลุ่มอุตสาหกรรมกับซีพี คือซีพีอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโทรคมนาคม ส่วนกลุ่มซีเมนต์ไทยหรือที่
เรยี กวา่ ปนู ไทย ในกลุ่มวัสดุกอ่ สรา้ งกล่าวได้ว่าซีพกี ล่าวมาได้รวดเร็วและมนั่ คงในช่วงเวลา 10 ปีที่ผา่ นมา ทา
ให้ยืนอยู่ในแถวหนา้ ของผู้ประกอบการชั้นนาของประเทศและของภูมิภาคเพราะมีผู้นาท่ีมีวิสัยทัศน์กว้างไกล
กล้าตัดสินใจรู้จักใช้โอกาส ระบบบริหารที่มีความคล่องตัวสูงไม่ล่าช้าแบบอนุรักษ์นิยม ไม่มากขน้ั หลายตอน
แบบระบบราชการที่ทาได้เช่นน้ีเพราะมีคณะผู้บริหารท่ีมีความคิดก้าวหน้า ทาหน้าท่ีเป็นเสนาธิการบางกลุ่ม
เป็นแม่ทัพนายกองท่ีสาคัญมาช่วยกันคิด ช่วยกันทา ช่วยกันแกป้ ัญหา แตท่ ี่บริษัทเทเลคอมเอเชีย มอี ัตราการ
เข้า-ออกค่อนข้างสูง โดยเฉพาะสายช่วงท่มี อี ายุงาน 4 ปี
2. ปัจจุบัน ซีพี เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ท่ีมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าและต่อสังคมทาให้ภาพพจน์น้ีจะ
กลายเป็นทุนมหาศาลในอนาคต ในภาษาทางธรุ กิจเรียกว่ามี “Brand-name equity”
3. การร้จู ักเลือกทุน เลือกผู้ร่วมค้าและผู้ร่วมทนุ ประกอบกบั การเหน็ โอกาสทางธรุ กิจ จะทาให้ซพี ี
ย่ิงโตเรว็ เชน่ การเขา้ ไปทาธุรกจิ ในจีนทันทีทีม่ ีโอกาสเพราะจนี มีประชากรมาก เป็นตลาดสินคา้ อุปโภคบรโิ ภค
ขนาดใหญ่ ซีพีจึงเลือกผลิตยาและอาหารสัตว์ประกอบกับภาวะนิสัยในการบริโภคของคนจีนเปลี่ยนไปและ
พัฒนาขึ้น เช่น จากการใช้จักรยานเร่ิมเปลี่ยนเป็นจักรยานยนต์ ซีพีจึงซ้ือเทคโนโลยีจากญ่ีปุ่นและผลิต
จกั รยานยนตข์ ายในจนี และกาลงั รกุ คืบหน้าเขา้ ไปในอุตสาหกรรมปโิ ตรเลียมและการซอ่ มบารุงอากาศยาน เป็น
ต้น ส่วนในประเทศไทยมตี วั อย่างเห็นได้ชัด คอื กอ่ น พ.ศ.2538 มีภาวะขาดแคลนโทรศัพท์ เนื่องจากระบบบริหาร
ราชการไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนและธรุ กิจอตุ สาหกรรมภายในประเทศท่ีกาลังเพิ่ม
และเติบโตอย่างรวดเรว็ สถานการณน์ ี้อาจทาให้เศรษฐกิจของชาติถดถอยหรือไมท่ ันประเทศคู่แขง่ ทางการค้า
ในภูมิภาคเดียวกันได้ ในเร่ืองการช่วงชิงความเป็นศูนย์กลางทางโทรคมนาคมและศูนย์กลางทางการเงินของ
ภมู ิภาค ซีพีจึงจัดต้ังบริษัทเทเลคอมเอเชีย จากัด (DTAC) ข้ึนมาประมูลการวางข่ายโทรศัพท์และดาเนินการ
สว่ นหน่ึงตามระยะเวลาของสัญญาให้ทันกับความตอ้ งการของประชาชนและทันเวลา ทันความก้าวหน้าของ
ชาติ การสัมปทานครั้งน้ีถือว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจที่งดงามมาก ทาให้ซีพีก้าวหน้าเข้าสู่อุตสาหกรรมท่ีใช้
เทคโนโลยรี ะดับสงู คือโทรคมนาคม
เม่ือบริษัทเจริญเติบโตข้ึน คนมาข้ึน ปัญหาจะตามมาแล้วการบริหารจะยากข้ึนด้วย เช่น
การสรรหาและไดค้ นมาไม่ยากเพราะชื่อเสยี งของบรษิ ทั ดี ซพี ีจึงจัดต้ังศนู ยส์ รรหาทรัพยากรมนษุ ยก์ ลาง แต่การ
ได้คนดีมาใช้งานแล้วจะรักษาคนดีเหลา่ น้ันไว้ได้อย่างไรเป็นปัญหาในอนาคต ถ้าซีพีสามารถเปน็ แบบอย่างใน
การบริหารธุรกิจที่สังคมยอมรบั และอ้างอิงได้ จะเป็นตัวอย่างจูงใจ ธุรกิจอื่นให้ยกระดับการบริหารงานให้มี
คุณภาพแข่งขันกนั เองทัง้ ในประเทศและกับคู่แขง่ ตา่ งประเทศดว้ ย
คาถาม
1. จากกรณีศึกษาของการจัดการในกลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพี ให้แสดงความเห็นว่า การ
บริหารธรุ กจิ แบบครอบครวั ในประเทศไทย สมควรจะเปล่ยี นแปลงเป็นธรุ กจิ ที่ใชน้ ักบรหิ ารมอื อาชีพเขา้ มาชว่ ย
และมีการกระจายหุ้นเพื่อการเป็นบริษัทมหาชนในอนาคตหรือไม่อย่างไร จะแสดงแนวโน้มและให้เหตุผล
ประกอบการอธบิ าย
2. การก้าวไปทีละก้าวแต่ม่ันคง จะย้อนแย้งกับความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ วขององค์การ
การตัดสินใจที่ทันโอกาสทางธุรกจิ และความเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีหรือไม่อย่างไร ให้แสดง
ความคดิ เห็น
3. ในกรณีศึกษานี้ ให้ระบุปัญหาท่ีน่าจะเกิดข้ึนในอนาคตกับซีพีในประเทศไทยว่ามีอย่างไร 3
ประการสาคญั แล้วให้วเิ คราะหป์ ัญหาพร้อมเสนอแนวทางแกไ้ ข
4. อนาคตของกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ที่ไปลงทุนในจีนจะเป็นเช่นใด เชน่ การจัดการที่ต่างภาษาและ
แตกต่างในวัฒนธรรมบางประการรวมถึงระบบเศรษฐกิจและการเมืองท่ี ต่างกันด้วยให้แสดงแนวโน้มและ
อปุ สรรคปัญหาทอ่ี าจเกดิ ขึน้
8. กรณีศกึ ษาการเปลีย่ นแปลงและพฒั นาองค์การ
กรณีศึกษาเรอ่ื งหนา้ ท่ี การจดั การในองคก์ ารของรฐั
(การบรหิ ารระบบราชการไทย)
รูปท่ี 22 การบรหิ ารระบบราชการไทย
9. กรณีศกึ ษาการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นการจดั การ
กรณศี ึกษา บรษิ ัท LINE
LINE Application น้ันเป็นโปรแกรมที่ถูกสร้างข้ึนในช่วงกลางปี 2010 โดยการร่วมมือของบริษัท
Naver Japan Corporation และ บริษัท Livedoor โดยมี NHN japan เปน็ ผู้พฒั นาฟเิ จอร์ตา่ ง ๆ ของไลน์ และ
ในส่วนของการตลาดด้านธรุ กิจนัน้ แยกให้บรษิ ทั แมม่ เี กาหลี NHN Corporation จดั การหลงั ที่เปดิ ตัวได้เพยี งไม่
นาน ก็ได้รับการตอบรับถึงหลายสิบล้านยูสเซอร์ในญ่ีปุ่น ประเด็นแรกท่ีใช้ในการสร้างโปรแกรมแชท LINE
ขึน้ มาก็มีสาเหตุมาจากสถานการณ์แผ่นดินไหวที่ภูมิภาค Tohoku เม่ือต้นปี 2011 นั้นเอง ในตอนนั้นระบบ
การติดต่อทางการโทรศพั ทล์ ่มอย่างไมเ่ ป็นท่า ทาให้ NHN japan ตัดสินใจออกแบบ App ท่ีสามารถใชไ้ ด้ทั้งบน
มอื ถือ บนแท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์พีซี ซ่ึงจะทางานบนเครือข่ายข้อมูลท่ีสามารถแชทตอบโต้ได้รวดเร็วและ
ตอ่ เน่ืองดว้ ยความทไ่ี ลนม์ คี ุณสมบัติของโปรแกรมแชทครบถว้ น ตั้งแต่ แชท ส่งไฟลร์ ูป ไฟลว์ ดี โี อ ไฟลเ์ สยี ง ระบบ
การค้นหาเพ่ือนด้วย QR Code หรือจะเกมไว้คลายเครียด ยังมีอีกสิ่งหน่ึงที่มือถือได้ว่าเป็นจุดเด่นของ
แอพพลิเคชน่ั นกี้ ว็ ่าได้ นัน่ ก็คือ “Sticker” นน่ั เอง
คาถาม
1. จงระบปุ ัจจัยท่ชี ว่ ยให้ LINE ประสบความสาเรจ็ ในเวลารวดเรว็ ตอบเป็นข้อ ๆ อธิบายใหเ้ ข้าใจ
2. จงระบุธรุ กจิ ในเครอื ข่าย LINE และช่องทางการนาเสนอเพื่อครองใจครอบครองตลาดไอที
3. ท่านสามารถนา LINE มาใช้ในการจัดการไดอ้ ยา่ งไร ตอบเปน็ ขอ้ ๆ อธิบายพอเขา้ ใจ
1. กรณีศึกษาจริยธรรมในการจัดการ
ส่ิงท่ไี ด้รบั การกลา่ วขวญั เมอื่ เกดิ ความสญู เสีย ความรนุ แรง อาทิ ตึกถลม่ โปะ๊ ลม่ โรงงานถูกไฟไหม้ ก็คอื
ความรับผิดชอบต่อสงั คมและจรยิ ธรรมในการประกอบธุรกจิ
ในเร่อื งของจริยธรรมนน้ั เป็นเรอื่ งของรปู แบบของการตีความว่า พฤตกิ รรมใดผิดพฤติกรรมใดถกู สงิ่ ใดดี
สง่ิ ใดเลว ควรทาหรือไม่ควรทา จริยธรรมนีจ้ ะเกี่ยวข้องกบั มนษุ ยท์ ุกสถาบนั ไม่ว่าจะเปน็ สถาบันครอบครวั
สถาบันการศึกษา หรือสถาบนั วชิ าชีพ สถาบันตา่ ง ๆ พยายามท่จี ะสอนใหค้ นมีจริยธรรมแตก่ ารทีไ่ ด้ผลสมั ฤทธิ์
ตามคาสอนหรอื ไมข่ น้ึ อยู่กบั จิตสานกึ ของผเู้ รียนรวู้ า่ จะยอมรับและนาไปปฏิบัตมิ ากน้อยเพียงใด จริยธรรมจงึ จะ
เกดิ ผล
นกั ธรุ กจิ หรอื ผบู้ รหิ ารกเ็ ชน่ เดยี วกนั ในปัจจุบนั หลายทา่ น คงได้ยนิ ว่าในเวลาท่ปี ระกอบธุรกจิ มกั จะ
มกี ารพดู ว่า เราควรมีจรยิ ธรรมในการดาเนนิ ธรุ กจิ พฤติกรรมท่ผี ิดจริยธรรมอาทกิ ารใหข้ ่าวสารร่วั ไหลออกไป
เพ่อื ผลประโยชน์ในการซื้อขายหลกั ทรพั ยแ์ กเ่ พอื่ นฝงู ท่ีใกล้ชดิ หรือการโฆษณาท่ีหลอกลวง โปป้ ดมดเทจ็ แก่
ผู้บรโิ ภค การวมหวั กนั ข้นึ ราคา เหลา่ น้ี ควรจะเลิกไปเสยี เพราะเป็นพฤตกิ รรมที่ผิดจรยิ ธรรมในการดาเนิน
ธรุ กิจ
แต่กย็ ังมีอีกหลายคน มคี วามคดิ ว่าหากมัวแตค่ ดิ เรอื่ งน้แี ลว้ ธุรกจิ จะไปรอดได้อย่างไร เมอื่ ไหรท่ ี่นกั
บรหิ ารมีความคิดเชน่ นี้ กค็ งไม่ตอ้ งพดู กัน รอจนกว่าผลลัพธแ์ ละความเสยี หายมาเยือนกแ็ ลว้ กนั และเมอ่ื ถงึ วัน
น้นั เราก็คงเศร้ากันอกี เพราะไมใ่ ช่เพยี งแตท่ รพั ยส์ ินเสียหายเท่านั้นแต่อาจหมายถงึ ชวี ิตของผู้ทไ่ี มร่ ้อู ิโหนอ่ เิ หน่
จะตอ้ งมารบั กรรม เพราะการกระทาของทา่ น และรัฐก็คงจะตอ้ งเสียเวลามาคอยตามแก้ไขกนั อีก หมุนกันเป็น
วงลอ้ อย่างไม่รจู้ บเช่นเดมิ
การพิจารณาว่าอะไรเป็นสิง่ ที่ไม่ควรทา หรอื ไมผ่ ิดจริยธรรมน้นั เราพิจารณากนั ไดอ้ ยา่ งไรในเรอ่ื งนี้
ผรู้ ้กู ล่าวว่า เราสามารถพจิ ารณาได้ใน 3 ประเดน็ คอื
1. ต้นทนุ : ผลประโยชน์ ต้องมองให้กว้าง
2. ไม่ขดั กับสทิ ธิมนษุ ยชน
3. เสมอภาคและยุติธรรม