The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นวัตกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Bota Library, 2021-09-15 08:29:52

นวัตกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชน

นวัตกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชน

บทที่่� 2 รูปู แบบการสร้า้ งนวัตั กรรมการท่อ่ งเที่่ย� วโดยชุมุ ชน นวััตกรรมการท่่องเที่่ย� วโดยชุมุ ชน

3. หนังสน้ั เรอ่ื ง “พบหวั ใจ@ลานสกา” ถ่ายทอดเรื่องราวโดยเด็กร่นุ ใหมในชุมชนทเ่ี ตบิ โตทา่ มกลางสวนมงั คดุ

รูปภาพที่ 29 ตัวอย่างหนังสั้นพบหวั ใจ @ลานสกา
การท�ำ การตลาดโดยการประชาสมั พนั ธผ์ า่ นหนังส้ัน ชื่อเร่ืองว่า พบหวั ใจ@ลานสกา : ลานสกาพาราไดซ์
(https://youtu.be/PDU-hpcyYlU) มคี วามยาวของเนอื้ เรือ่ ง 15.17 นาที โดยในหนังสัน้ เร่อื งนี้ไดถ้ า่ ยทอด
เส้นทางการทอ่ งเที่ยวทง้ั หมดรวมถงึ ร้านอาหาร ที่พกั และแหลง่ ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ภายในอำ�เภอลานสกา
ที่สามารถทำ�ใหผ้ ู้รับชมดูหนังเรอ่ื งนี้ไดร้ บั ความร้วู ่าอ�ำ เภอลานสกา มีของดีอะไรอยบู่ ้าง และเพ่ือเป็นการสอ่ื สาร
แหลง่ ท่องเที่ยวของลานสกาที่ไมน่ ่าเบอื่ และสร้างความเพลดิ เพลนิ ให้ผรู้ บั ชม

4. ปัจั จัยั ที่ม่� ีีอิิทธิิพลต่อ่ นวััตกรรมการท่อ่ งเที่่ย� วโดยชุุมชน

เมื่�อเริ่�มการดำำ�เนิินการพััฒนาและสร้้างนวััตกรรมการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชนไปบ้้างแล้้วนั้้�น แน่่นอนว่่า
ทุุกพื้้�นที่่�หรืือทุุกชุุมชนที่่�พััฒนา มีีความเป็็นไปได้้ที่�่จะประสบความสำำ�เร็็จหรืือเกิิดความล้้มเหลวในการสร้้างและ
พััฒนานวััตกรรมการท่่องเที่่�ยวนั้้�นๆ ซึ่�งอาจจะขึ้�นอยู่่�กัับปััจจััยต่่างๆที่�่อยู่�รายรอบของชุุมชนที่�่มีีอิิทธิิพล ส่่งผล
ให้้เกิิดความสำำ�เร็็จและความล้ม้ เหลวเกิิดขึ้�น

49

นวััตกรรมการท่่องเที่ย�่ วโดยชุุมชน บทที่่� 2 รููปแบบการสร้า้ งนวััตกรรมการท่อ่ งเที่่�ยวโดยชุุมชน

รปู ภาพท่ี 30 แผนภาพปจั จัยที่มีอิทธิพลตอ่ นวตั กรรมการท่องเที่ยวโดยชมุ ชน
จากรููปภาพที่่� 30 แสดงให้้เห็็นว่่าปััจจััยภายนอก ได้้แก่่ ปััจจััยด้้านเครืือข่่าย ปััจจััยด้้านผู้้�นำ�ำ และการเมืือง

ท้้องถิ่่�น และปััจจััยด้้านเทคโนโลยีีสารสนเทศ เป็็นปััจจััยผลัักให้้เกิิดนวััตกรรมการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน โดยมีีปััจจััย
ภายในเป็็นตััวกลางที่่�จะทำ�ำ ให้้นวััตกรรมการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน โดยมีีชุุมชนเป็็นผู้้�ขับเคลื่�อนปััจจััยดัังกล่่าว
ซึ่�งแต่่ละปัจั จััยมีีรายละเอีียดดัังต่่อไปนี้้� (ศุภุ มาส แหวนวิเิ ศษ และคณะ, 2560) (รัตั ติยิ า พรมกัลั ป์์ และคณะ, 2562)
(พรพิิมล ขำำ�เพชร และรุ่�งรวีี จิิตภัักดีี , 2562)

1) ปััจจััยด้้านเครืือข่่าย สำำ�หรัับการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน เครืือข่่ายการทำ�ำ งานถืือว่่าเป็็นเรื่�องสำำ�คััญ
เพราะการทำำ�งานจำำ�เป็็นจะต้้องเสริิมสร้้างพลัังในการแก้้ไขปััญหาและการเปลี่่�ยนแปลงสิ่�งต่่างๆ โดยผ่่านกระบวนการ
แลกเปลี่่�ยนเรีียนรู้�ระหว่่างกััน ตามวััตถุุประสงค์์และเป้้าหมายร่่วมกัันของทุุกฝ่่าย เพื่่�อให้้การรวมเป็็นเครืือข่่าย
การท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชนในพื้้�นที่่� จะช่่วยให้้การจััดการบริิการนัักท่่องเที่�่ยวเป็็นไปตามศัักยภาพในการรองรัับ
และสอดคล้้องกัับความสามารถของชุุมชนท้้องถิ่�่นในแต่่ละพื้้�นที่่� ลดความขััดแย้้งหรืือการมุ่�งแข่่งขัันธุุรกิิจกัันเอง
อีีกทั้้�งมีีอิิทธิิพลต่่อนวััตกรรมเชิิงสร้้างสรรค์์การท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชนของประเทศไทย เนื่่�องจาก เครืือข่่าย
เป็็นความสััมพัันธ์์ของการดำำ�เนิินงานที่่�มีีกิิจกรรมและเป้้าหมายร่่วมกัันของสมาชิิกภายในชุุมชนและภายนอกชุุมชน
ไม่่ว่่าจะเป็็นความร่่วมมืือในการแลกเปลี่่�ยนข้้อมููลข่่าวสาร ประสบการณ์์ ที่่�ขึ้�นอยู่่�ภายใต้้ผลประโยชน์์ร่่วมกััน

2) ปััจจััยด้้านผู้้�นำ�ำ และการเมืืองท้้องถิ่�่น มีีอิิทธิิพลต่่อนวััตกรรมเชิิงสร้้างสรรค์์การท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน
ของประเทศไทย เนื่่�องจากผู้้�สร้้างนวััตกรรมคืือมนุุษย์์ และมนุุษย์์ที่�่จะสร้้างนวััตกรรมดีี ๆ ให้้ประสบความสำำ�เร็็จ
จะต้้องมีีการเชื่�อมโยงทีีมงานมีีการนำำ�องค์์ความรู้้�ต่่าง ๆ ทั้้�งจากภายในและภายนอกองค์์กร รวมทั้้�งวิิสััยทััศน์์
ของผู้้�นำ�ำ องค์์กรมีีความสำำ�คััญในการผลัักดัันและสร้้างสรรค์์นวััตกรรม ตลอดจนมีีบทบาทสำ�ำ คััญในการส่่งเสริิม
สนัับสนุนุ การท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน
3) ปััจจััยด้้านเทคโนโลยีีสารสนเทศ คืือเส้้นชีีวิิตของอุุตสาหกรรมการท่่องเที่�่ยว เนื่่�องจากอุุตสาหกรรม
การท่่องเที่่�ยวเป็็นอุุตสาหกรรมที่่�มีีการติิดต่่อสื่ �อสารระหว่่างบุุคคลของธุุรกิิจย่่อยในห่่วงโซ่่อุุปทานของภาคธุุรกิิจ
การท่่องเที่�่ยว ดัังนั้้�น ยุุคสัังคมแห่่งการเรีียนรู้�โดยข้้อมููลข่่าวสารมีีความสำ�ำ คััญนั้้�น ทั้้�งนี้้�การนำ�ำ เทคโนโลยีีสารสนเทศ
มาปรัับใช้้เพื่่�อสร้้างสรรค์์ให้้เป็็นนวััตกรรมขึ้�นมาและเกิิดประโยชน์์ต่่อประสิิทธิิภาพในการดำ�ำ เนิินงานหรืือสร้้าง

50

บทที่�่ 2 รูปู แบบการสร้้างนวัตั กรรมการท่่องเที่ย�่ วโดยชุมุ ชน นวััตกรรมการท่อ่ งเที่�ย่ วโดยชุุมชน

ความได้้เปรีียบทางการแข่่งขัันแก่่ธุุรกิิจ นวััตกรรมการสื่�อสารเป็็นการบููรณาการการใช้้เทคโนโลยีีมาสนัับสนุุน
ส่่งเสริิมอุุตสาหกรรมการท่่องเที่่�ยวสามารถสร้้างมููลค่่าเพิ่่�มให้้กัับอุุตสาหกรรมการท่่องเที่่�ยวและสร้้างภาพลัักษณ์์
ความเป็็นไทย ด้้วยการนำ�ำ นวััตกรรมการสื่�อสารมาใช้้ในการท่่องเที่่�ยว 3 ด้้าน ได้้แก่่ ด้้านการสื่�อสาร ด้้านการสืืบค้้น
และด้้านการจััดสรร การนำ�ำ เทคโนโลยีีสารสนเทศเพื่่�อให้้เกิิดเป็็นนวััตกรรมในการบริิการแก่่ลููกค้้าที่่�มาใช้้บริิการ
ของโรงแรม เช่่น การส่่งอีีเมล์์เพื่่�อขอบคุุณลููกค้้า การเพิ่่�มช่่องทางการสื่�อสารลููกค้้าผ่่านทางโซเซีียลมีีเดีีย
สามารถสร้้างความแตกต่่างในอุตุ สาหกรรมโรงแรมที่�ต่ อบสนองความต้้องการของลููกค้้าได้้

4) ปััจจััยด้้านการมีีส่่วนร่่วม นวััตกรรมการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชนเป็็นความร่่วมมืือระหว่่างประชาชนและ
ผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วยเสีีย ในกระบวนการวางแผน และการตััดสิินใจ เนื่่�องด้้วยชุุมชนจำ�ำ เป็็นจะต้้องอาศััยการมีีส่่วนร่่วม
ซึ่ �งจะต้้องอาศััยการมีีส่่วนร่่วมซึ่ �งจะต้้องเริ่ �มต้้นจากชุุมชนอัันเป็็นเจ้้าของสถานที่�่เข้้าของวััฒนธรรมเป็็นผู้้�ดำ�เนิินการ
ผ่า่ นกระบวนการต่า่ งๆ อย่า่ งมีีประสิทิ ธิิภาพและประสิทิ ธิิผล

5) ปััจจััยด้้านการสื่�อสารภายใน การติิดต่่อสื่�อสารเป็็นสิ่�งที่่�สำำ�คััญที่่�สุุดในการดำำ�เนิินการการท่่องเที่�่ยว
โดยชุุมชน โดยเริ่�มการดำำ�เนิินงานจาก การโทรศััพท์์ การแจ้้งโดยตรง การฝากบอกต่่อ การประชุุมประจำำ�เดืือน
การประชุุมย่่อย ซึ่�งในปััจจุุบัันสมาชิิกสามารถติิดต่่อสื่�อสารผ่่านช่่องทางแอพพริิเคชั่�นต่่างๆ ซึ่�งมีีความสะดวก
สบายในการติิดต่อ่ สื่อ� สาร ทำ�ำ ให้้เข้า้ ถึงึ ได้ง้ ่า่ ย และรวดเร็ว็

6) ปััจจััยด้้านการจััดการ มีีอิิทธิิพลต่่อนวััตกรรมเชิิงสร้้างสรรค์์การท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชนของประเทศไทย
เนื่่�องจากการบริิหารจััดการคืือการทำ�ำ ให้้กลุ่�มบุุคคลในองค์์กรเข้้ามาทำำ�งานร่่วมกัันเพื่่�อบรรลุุวััตถุุประสงค์์ร่่วมกััน
ขององค์์กร สำำ�หรัับการบริิหารจััดการเพื่่�อการท่่องเที่่�ยว ยกตััวอย่่างเช่่น ด้้านการเข้้าถึึง (Accessibility) ซึ่�งเป็็น
องค์์ประกอบที่�่สำำ�คััญของการท่่องเที่�่ยว ดัังนั้้�น การบริิหารจััดการแหล่่งท่่องเที่่�ยวต้้องมีีการจััดการความพร้้อม
ของแหล่ง่ ท่่องเที่�่ยวในการรองรัับการเดิินทางของนัักท่อ่ งเที่�ย่ วให้้เพีียงพอและเหมาะสม

7) การอนุุรัักษ์์ เป็็นการรู้�จักใช้้ทรััพยากรการท่่องเที่�่ยวให้้เกิิดประโยชน์์ควบคู่่�ไปกัับการรัักษาทรััพยากร
ที่�่มีีอยู่�เพื่่�อการใช้้ประโยชน์์ของชุุมชนอย่่างยั่�งยืืน การท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชนเป็็นการส่่งเสริิมให้้ชุุมชนเป็็น
แหล่่งท่่องเที่่�ยว ที่่�ดึึงทรััพยากรของชุุมชน ทั้้�งทรััพยากรธรรมชาติิ วััฒนธรรม ประเพณีี และวิิถีีชีีวิิต เป็็นต้้น
เพื่่�อตอบสนองความต้้องการของนัักท่่องเที่�่ยว หากทรััพยากรของชุุมชนเสื่�อมโทรมหรืือสููญหายไป ก็็อาจจะไม่่น่่า
ดึึงดููดใจแก่่นัักท่่องเที่�่ยว ฉะนั้้�นหน้้าที่่�ของชุุมชนจำ�ำ เป็็นจะต้้องมีีการดููแลและฟื้�้นฟููทรััพยากรของชุุมชนให้้มีี
ความสมดุุลกัับภููมิิปััญญาและอััตลัักษณ์์ทางวััฒนธรรม เพื่่�อการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชนเป็็นเครื่�องมืือสำ�ำ คััญประการหนึ่�ง
ในการช่่วยสร้า้ งความเข้้มแข็ง็ ให้ก้ ัับชุุมชนในการจััดการทรัพั ยากรธรรมชาติิและวัฒั นธรรม

แต่่ละปััจจััยต่่างยึึดโยงสััมพัันธ์์กััน เพื่่�อพััฒนาให้้ชุุมชนเป็็นชุุมชนที่่�ประสบความสำำ�เร็็จในการพััฒนา
นวััตกรรมการท่่องเที่�่ยว อย่่างไรก็็ตาม หากขาดปััจจััยใด ปััจจััยหนึ่่�งไปแล้้วนั้้�น นวััตกรรมการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน
ก็็ยากที่่�จะสำ�ำ เร็็จ หรืืออาจจะล้้มเหลว และเพื่่�อให้้เห็็นเป็็นภาพชััดเจนของความสััมพัันธ์์ระหว่่างปััจจััยสำำ�หรัับ
นวััตกรรมการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน ที่่�เป็็นความต้้องการของชุุมชนโดยแท้้จริิง ที่�่มีีเครืือข่่ายจากมีีส่่วนเกี่่�ยวข้้อง
ทำ�ำ หน้้าที่่�ชี้�แนะ แนะนำ�ำ สนัับสนุุนให้้คำำ�ปรึึกษา เพิ่่�มศัักยภาพด้้านการท่่องเที่่�ยวที่�่เหมาะสมให้้กัับชุุมชน ภายใต้้
การจััดการทรััพยากรของชุุมชน นอกจากนี้้�ชุุมชนต้้องมีีส่่วนร่่วมในทุุกขั้�นตอน ตั้�งแต่่เริ่�มการวิิเคราะห์์ปััญหา
การวางแผนการดำำ�เนิินการรัับผลประโยชน์์ รวมทั้้�งติิดตามและประเมิินผล เป็็นต้้น ทุุกปััจจััยต้้องบููรณาการเข้้าด้้วยกััน
เป็น็ องค์์รวม

51

นวััตกรรมการท่อ่ งเที่่�ยวโดยชุุมชน บทที่�่ 2 รููปแบบการสร้้างนวัตั กรรมการท่่องเที่่ย� วโดยชุุมชน

สรุปุ ท้า้ ยบท

1. นวััตกรรมการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน คืือ การพััฒนาและยกระดัับทรััพยากรการท่่องเที่�่ยวของชุุมชน
ผ่่านกระบวนการทางความคิิดเชิิงสร้้างสรรค์์และเพิ่่�มมููลค่่าให้้กัับทรััพยากรในรููปแบบของการมีีส่่วนร่่วมอััน
จะก่่อให้้เกิิดสิ่�งใหม่่ๆ ในการบริิหารจััดการการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน ตลอดจนรองรัับกัับการเปลี่�่ยนแปลงของ
พฤติิกรรมนัักท่่องเที่่�ยวเฉพาะกลุ่�ม บรรลุุเป้้าประสงค์์ของชุุมชนที่�่วางไว้้ และสร้้างประโยชน์์ให้้กัับชุุมชนอย่่างสููงสุุด

2. นวััตกรรมการท่่องเที่�่ยวมีีความสำำ�คััญในหลากหลายมิิติิ ส่่งเสริิมให้้เกิิดความคิิดสร้้างสรรค์์ เสริิมสร้้าง
ขีีดความสามารถในการแข่่งขัันทางการตลาดการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน ได้้สร้้างสิินค้้าใหม่่ให้้กัับการท่่องเที่�่ยว
สร้้างความแปลกใหม่่ ความสนุุก ความเพลิิดเพลิินให้้กัับนัักท่่องเที่�่ยว ช่่วยให้้กลุ่�มหรืือองค์์กรในชุุมชนมีีการ
บริิหารจััดการเพื่่�อนำ�ำ พาไปสู่่�ความสำ�ำ เร็็จ พััฒนาการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน และก่่อให้้เกิิดความร่่วมมืือกัับภาคส่่วนต่่างๆ

3. ประเภทของนวััตกรรมการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน มีี 3 ประเภท ได้้แก่่ นวััตกรรมด้้านผลิิตภััณฑ์์หรืือบริิการ
อาจจะออกมาในรููปแบบตััวผลิิตภััณฑ์์ของสิินค้้า ที่�่ออกมาในรููปแบบบรรจุุภััณฑ์์ใหม่่ ฉลากใหม่่ ที่่�แปลกไปจากเดิิม
หรืือรููปแบบของการให้้บริิการแก่่นัักท่่องเที่่�ยวที่่�เป็็นการเพิ่่�มประสบการณ์์การท่่องเที่�่ยวแก่่นัักท่่องเที่�่ยว มีีความ
สร้้างสรรค์์ และเกิิดกระบวนการลงมืือทำำ� นวััตกรรมกระบวนการ นวััตกรรมประเภทนี้้�เป็็นนวััตกรรมที่่�เกิิด
ผลกระทบด้้านสัังคมมากกว่่านวััตกรรมตััวอื่�นๆ เนื่่�องจากเป็็นนวััตกรรมที่่�นำ�ำ มาสร้้างสรรค์์และปรัับปรุุงการบริิหาร
จััดการภายในองค์์กรหรืือกลุ่�มที่่�ดำำ�เนิินการจััดการการท่่องเที่่�ยวในพื้้�นที่่�นั้้�นๆ นวััตกรรมการวางตำำ�แหน่่ง
เป็็นนวััตกรรมที่่�เกี่�่ยวข้้องกัับการตลาดการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน ซึ่�งเป็็นนวััตกรรมที่่�ค่่อยข้้างเห็็นได้้ชััดมากที่�่สุุด
ในปััจจุุบััน การสื่�อสารทางการตลาด การเข้้าถึึงกลุ่�มนัักท่่องเที่่�ยวที่�่เป็็นกลุ่�มเฉพาะ การพููดคุุยตก ลงชื้�อขาย
โปรแกรมการท่่องเที่่�ยว การให้้ข้้อมููลผ่่านทางสื่�ออิิเล็็กทรอนิิกส์์ การบอกต่่อ การบริิการหลัังจากท่่องเที่่�ยว เป็็นต้้น

4. ปััจจััยที่�่มีีอิิทธิิพลต่่อนวััตกรรมการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน เมื่�อเริ่�มการดำำ�เนิินการพััฒนาและสร้้างนวััตกรรม
การท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชนไปบ้้างแล้้วนั้้�น แน่่นอนว่่าทุุกพื้้�นที่่�หรืือทุุกชุุมชนที่่�พััฒนา มีีความเป็็นไปได้้ที่่�จะประสบ
ความสำ�ำ เร็็จหรืือเกิิดความล้้มเหลวในการสร้้างและพััฒนานวััตกรรมการท่่องเที่�่ยว ซึ่�งประกอบด้้วยปััจจััยภายนอก
ได้้แก่่ ปััจจััยด้้านเครืือข่่าย ปััจจััยด้้านผู้้�นำำ�และการเมืืองท้้องถิ่่�น และปััจจััยด้้านเทคโนโลยีีสารสนเทศ เป็็นปััจจััย
ผลัักให้้เกิิดนวััตกรรมการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน โดยมีีปััจจััยภายในเป็็นตััวกลางที่�่จะทำ�ำ ให้้นวััตกรรมการท่่องเที่�่ยว
โดยชุมุ ชน โดยมีีชุุมชนเป็็นผู้้�ขับเคลื่อ� นปััจจััยดัังกล่า่ ว

ดัังนั้้�น กระบวนการสร้้างนวััตกรรมเชิิงสร้้างสรรค์์สำำ�หรัับการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชนให้้เกิิดความยั่�งยืืน
และปััจจััยที่่�มีีผลต่่อนวััตกรรมเชิิงสร้้างสรรค์์สำ�ำ หรัับการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชนของประเทศไทยสู่�แนวทางการพััฒนา
และข้้อเสนอแนะให้้กัับชุุมชนที่่�ดำ�ำ เนิินการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน และหรืือหน่่วยงานภาครััฐ หน่่วยงานภาคเอกชน
หรืือผู้้�ที่�สนใจเกี่�่ยวกัับการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน ที่่�ต้้องการส่่งเสริิม สนัับสนุุนการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน ซึ่�งจะเป็็น
ประโยชน์ต์ ่่อพื้้น� ที่อ่�ื่�น ๆ ต่อ่ ไปในอนาคต

52

บทที่่� 2 รูปู แบบการสร้า้ งนวััตกรรมการท่อ่ งเที่่ย� วโดยชุมุ ชน นวัตั กรรมการท่อ่ งเที่่�ยวโดยชุมุ ชน

เอกสารอ้า้ งอิงิ

Cheuy, S. (2017). THE COMMUNITY INNOVATION. Retrieved from TAMARACK INSTITUTE.
Zaidi, A. (2018). Three Types of Innovation – Product, Process and Business Model. Retrieved

from MANAGEMENT INSIGHTS.
ชููศัักดิ์� อิินทมนต์์ และศรััณยา เลิิศพุุทธรัักษ์์. (2562). รููปแบบการจััดการธุุรกิิจนวััตกรรมโฮมสเตย์์ในชุุมชน

สำ�ำ หรัับนัักท่อ่ งเที่่�ยว. วารสารมหาวิิทยาลัยั ศิลิ ปากร, 39(6), 85-103.
นาวา มาสวนจิิก และคณะ. (2562). การจััดการนวััตกรรมการท่่องเที่่�ยวเชิิงสุุขภาพอย่่างยั่�งยืืนในภาคตะวัันออก

เฉีียงเหนือื . มหาสารคาม: มหาวิิทยาลันั ราชภัฎั มหาสารคาม .
ประยููร อิิมอวััตร์์ และคณะ. (2562). นวััตกรรมการจััดการการท่่องเที่่�ยวเชิิงประวััติิศาสตร์์และวััฒนธรรมชุุมชน

ตามแนวทางประชารััฐ ในอำ�ำ เภอเวีียงชััย จัังหวััดเชีียงราย. สารสารวิิชาการนวััตกรรมสื่่�อสารทางสัังคม,
7(2), 145-156.
พรพิิมล ขำ�ำ เพชร และรุ่�งรวีี จิิตภัักดีี . (2562). นวััตกรรมเชิิงสร้้างสรรค์์ในการจััดการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน.
วารสารบริิหารธุุรกิิจ เศรษฐศาสตร์์และการสื่่�อสาร, 14(1), 108-121.
ภััทรบดิินทร์์ สุุทธภัักดีี. (2559). แนวทางการพััฒนานวััตกรรมเพื่่�อการบริิหารจััดการการท่่องเที่�่ยวของชุุมชน
ริิมกว๊๊านพะเยา. กรุุงเทพมหานคร: บริิหารธุุรกิิจมหาบััณฑิิต คณะพาณิิชยศาสตร์์และการบััญชีี
มหาวิิทยาละยธรรมศาสตร์์ .
รััตติิยา พรมกััลป์์ และคณะ. (2562). ปััจจััยที่�่มีีอิิทธิิพลต่่อการจััดการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชนเชิิงสร้้างสรรค์์.
วารสารมนุุษยศาสตร์์และสัังคมศาสตร์์ มหาวิทิ ยาลัยั ราชภััฏสุรุ ินิ ทร์์, 21(1), 13-28.
รุ่�งรวีี จิิตภัักดีี และคณะ. (2561). การพััฒนาศัักยภาพวิิสาหกิิจชุุมชนเครืือข่่ายการท่่องเที่่�ยวชุุมชนอำ�ำ เภอ
ลานสกาสู่่ก� ารเป็น็ แหล่่งท่่องเที่�ย่ วเชิงิ คุุณภาพตามแนวไทยแลนด์์ 4.0. กรุุงเทพมหานคร.
ศุุภมาส แหวนวิิเศษ และคณะ. (2560). ปััจจััยแห่่งความสำ�ำ เร็็จในกระบานการมีีส่่วนร่่วมของชุุมชนต้้นแบบ
การจััดการการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชนอย่่างยั่�งยืืน กรณีีศึึกษาตำำ�บลน้ำำ�� เชี่�่ยว จัังหวััดตราด. วารสารธรรมศาสตร์์,
36(1), 66-95.
สมพงษ์์ หลีีเคราะห์์ และคณะ. (2561). โครงการแนวทางการขัับเคลื่่�อนนวััตกรรมการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน
จัังหวััดสตููล. กรุุงเทพมหานคร: สำำ�นัักงานคณะกรรมการส่่งเสริิมวิิทยาศาสตร์์ วิิจััยและนวััตกรรม
(สกสว.) ฝ่่ายวิิจััยเพื่่อ� ท้อ้ งถิ่่น� .
หทััยภััทร ก้้งเส้้งและคณะ. (2563). นวััตกรรมการท่่องเที่�่ยวทางวััฒนธรรม กรณีีศึึกษาการท่่องเที่�่ยวบ้้านเกิิด
หลวงปู่่�ทวดเหยีียบน้ำ��ำ ทะเลจืืด ตำำ�บลดีีหลวง อำ�ำ เภอสทิิงพระ จัังหวััดสงขลา. วารสารวิิชาการวิิทยาลััย
บริิหารศาสตร์์, 3(3), 48-64.

53

นวััตกรรมการท่่องเที่่ย� วโดยชุุมชน บทที่�่ 3 การมีีส่่วนร่ว่ มของชุุมชนและการเตรีียม
ความพร้้อมในการสร้า้ งนวัตั กรรมการท่่องเที่�ย่ วโดยชุมุ ชน

บทที่่� 3

การมีีส่ว่ นร่่วมของชุมุ ชน
และการเตรีียมความพร้อ้ มในการสร้้าง
นวัตั กรรมการท่อ่ งเที่ย�่ วโดยชุุมชน

การท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน เป็็นรููปแบบการท่่องเที่�่ยวที่�่เปิิดโอกาสให้้คน
ในชุุมชนเข้้ามามีีส่่วนร่่วมในการจััดการการท่่องเที่�่ยวเริ่ �มตั้ �งแต่่การให้้ข้้อมููล
ท้้องถิ่�่น การระบุุปััญหาและทางเลืือกในการแก้้ปััญหาการเตรีียมการจััดการ
การควบคุุมการใช้้แรงงานในชุุมชนและทรััพยากรในชุุมชน เป็็นต้้น ในบทนี้้�
ผู้เ้� ขีียนมีีวััตถุุประสงค์์ ดัังต่่อไปนี้้�

1. เพื่่�อให้้เข้้าใจความหมายและรููปแบบของบทบาทและการมีีส่่วนร่่วม
ของชุุมชนต่่อการจััดการท่่องเที่ย�่ วโดยชุุมชน

2. เพื่่�อให้้ทราบและเข้้าใจองค์์ประกอบของการส่่วนร่่วมของชุุมชน
ต่่อการจััดการท่่องเที่่�ยวโดยชุมุ ชน

3. เพื่่�อให้้ทราบศัักยภาพของชุุมชนในการพััฒนาการท่่องเที่่�ยวโดย
ชุมุ ชน

4. เพื่่�อให้้ทราบขั้้�นตอนการเตรีียมความพร้้อมของชุุมชนสำ�ำ หรัับ
การพัฒั นาการท่่องเที่่�ยว

5. เพื่่�อให้้เข้้าใจถึึงนวััตกรรมการจััดการการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน
อย่า่ งมีีส่ว่ นร่่วม

54

บทที่่� 3 การมีีส่ว่ นร่ว่ มของชุุมชนและการเตรียี ม นวััตกรรมการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน
ความพร้้อมในการสร้า้ งนวััตกรรมการท่อ่ งเที่ย่� วโดยชุมุ ชน

55

นวััตกรรมการท่อ่ งเที่ย่� วโดยชุมุ ชน บทที่่� 3 การมีีส่ว่ นร่่วมของชุุมชนและการเตรีียม
ความพร้้อมในการสร้้างนวัตั กรรมการท่่องเที่�ย่ วโดยชุมุ ชน

1. นิิยามความหมายของการมีีส่ว่ นร่ว่ มของชุมุ ชนต่่อการจัดั การ
ท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน

(พระกิิตติิภพ สุุทนโต และคณะ, 2561) ได้้ให้้ความหมายของการการมีีส่่วนร่่วมของชุุมชนไว้้ว่่า
เป็็นการเปิิดโอกาสให้้ประชาชน ได้้เข้้ามามีีบทบาท ในการศึึกษาแลกเปลี่�่ยน ความรู้� ความคิิด ความร่่วมมืือ
การตััดสิินใจ การแก้ไ้ ขปััญหา และการวางแผน ในการดำ�ำ เนินิ การท่อ่ งเที่ย�่ ว

รูปภาพที่ 31 การมีสว่ นร่วมของชาวบา้ นในต�ำ บลขนาบนากในการออกแบบการท่องเที่ยวระบบนเิ วศปา่ จาก
ครบวงจร ต�ำ บลขนาบนาก

56

บทที่�่ 3 การมีีส่่วนร่ว่ มของชุมุ ชนและการเตรียี ม นวัตั กรรมการท่อ่ งเที่่ย� วโดยชุุมชน
ความพร้้อมในการสร้้างนวัตั กรรมการท่อ่ งเที่่�ยวโดยชุมุ ชน

(มณีีรััตน์์ ธีีรพัันธุ์�เสถีียร, 2562) การมีีส่่วนร่่วมของชุุมชนเกิิดจากจิิตใจของคนในชุุมชนที่่�ต้้องการเข้้าร่่วม
ในการดำ�ำ เนิินการท่่องเที่่�ยว เพื่่�อให้้บรรลุุวััตถุุประสงค์์ของกลุ่�มคนที่�่สอดคล้้องกัับวิิถีีชีีวิิตทางสัังคม ซึ่�งการเร้้า
ให้้คนในชุุมชนเข้้ามามีีส่่วนร่่วมนั้้�น ผู้้�เข้้าร่่วมจะต้้องมีีความเข้้าใจในวิิธีีการดำำ�เนิินชีีวิิต ค่่านิิยม ประเพณีี และ
เกิดิ ความสมัคั รใจเข้า้ ร่่วมกิิจกรรมในท้า้ ยสุุด

(วริิศรา สมเกีียรติิกุุลและกมล เรืืองเดช, 2561) การมีีส่่วนร่่วมของชุุมชน เป็็นการเปิิดโอกาสให้้คน
ในชุุมชนมีีส่่วนร่่วมในการบริิหารจััดการทรััพยากรการท่่องเที่่�ยวเพื่่�อการพััฒนาแหล่่งท่่องเที่�่ยวของชุุมชน
ในทุุกขั้�นตอนตั้�งแต่่กระบวนการต้้นน้ำำ�� กลางน้ำ�ำ� และปลายน้ำ�ำ� ซึ่�งผลที่�่ได้้จากการมีีส่่วนร่่วมคืือชุุมชน
เกิดิ ความตระหนักั และเกิิดการรับั ผิดิ ชอบต่อ่ การท่่องเที่�่ยวร่ว่ มกััน

(Wiyaboon, 2019) การมีีส่่วนร่่วมของชุุมชนเป็็นกระบวนการที่�่กลุ่�มบุุคคล ครอบครััวหรืือชุุมชน
พััฒนาตนเองภายใต้้ขีีดความสามารถของพื้้�นที่่� เพื่่�อรัับผลประโยชน์์จากการดำำ�เนิินการของการท่่องเที่่�ยว
ซึ่�งเริ่�มตั้�งแต่่ขั้�นตอนการตััดสิินใจไปจนถึึงการประเมิินผล อีีกทั้้�งระบวนการมีีส่่วนร่่วมนี้้�สามารถให้้ชุุมชนเกิิด
ความรัักและหวงแหนท้้องถิ่่น� ของตนเอง

(Thetsane, 2019) การมีีส่่วนร่่วมของชุุมชน คืือวิิธีีการศึึกษาและพััฒนาการท่่องเที่่�ยว ภายใต้้
การมีีส่่วนร่่วมของคนในท้้องถิ่่�น ผ่่านกระบวนการตััดสิินใจร่่วมกัันของคนในชุุมชนเพื่่�อจััดการการพััฒนา
แหล่่งท่่องเที่�่ยวให้้เกิิดความยั่�งยืืน สิ่�งสำ�ำ คััญที่่�สุุดคืือให้้ชุุมชนตััดสิินใจรููปแบบและหน้้าที่่�ของการพััฒนา
การท่่องเที่่�ยวและสามารถควบคุมุ การท่อ่ งเที่่�ยวในพื้้�นที่่�ของตนได้อ้ ย่่างเต็ม็ ที่่�

ดัังนั้้�น การมีีส่่วนร่่วมของชุุมชนต่่อการจััดการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน คืือ กระบวนการที่�่เปิิดโอกาส
ให้้คนในชุุมชนที่�่เป็็นผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีียกัับการจััดการการท่่องเที่�่ยว ได้้มีีส่่วนในการคิิดร่่วมกัันวางแผน
ตััดสิินใจ ดำำ�เนิินการ และมีีส่่วนร่่วมในการรัับประโยชน์์ทางการท่่องเที่�่ยวร่่วมกััน ซึ่�งการมีีส่่วนร่่วมนี้้�
เป็็นการสร้้างความเข้้มแข็็งให้้กัับคนในชุุมชนสำำ�หรัับการพััฒนาและส่่งเสริิมการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน
อย่า่ งยั่�งยืนื

57

นวัตั กรรมการท่อ่ งเที่่ย� วโดยชุุมชน บทที่�่ 3 การมีีส่่วนร่ว่ มของชุมุ ชนและการเตรียี ม
ความพร้้อมในการสร้า้ งนวััตกรรมการท่อ่ งเที่่ย� วโดยชุุมชน

2. องค์์ประกอบของการมีีส่่วนร่ว่ มของชุมุ ชนต่่อการจัดั การท่อ่ งเที่่�ยวโดยชุมุ ชน

การท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน เป็็นแนวทางการพััฒนาชุุมชนที่่�สำำ�คััญที่�่จะทำ�ำ ให้้ชุุมชนเข้้ามามีีส่่วนร่่วมและ
ได้้รัับประโยชน์์จากการท่่องเที่�่ยว ซึ่�งจากการรวบรวมเอกสาร (พระกิิตติิภพ สุุทนโต และคณะ, 2561)
(อรวรรณ เกิิดจัันทร์์, 2557) (ณััฐพร ดอกบุุญนาคและคณะ, 2556) พบว่่าการมีีส่่วนร่่วมในการจััดการ
การท่่องเที่ย�่ วโดยชุุมชนที่�่ดีีและประสบผลสำ�ำ เร็จ็ จะต้้องมีีองค์์ประกอบ 5 องค์ป์ ระกอบดัังต่อ่ ไปนี้้�

รููปภาพที่่� 32 องค์ป์ ระกอบของการมีีส่ว่ นร่ว่ มของชุุมชนทั้้ง� 5 องค์์ประกอบ
1) ชุุมชนต้้องวางแผนและตััดสิินใจร่่วมกััน ก่่อนจะเริ่�มทำ�ำ การท่่องเที่่�ยวในชุุมชน คนในชุุมชนจะต้้อง

มีีการพููดคุุย วางแผน เพื่่�อค้้นหาทรััพยากรและอััตลัักษณ์์ของชุุมชนในการพััฒนาการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน
เมื่�อค้้นหาทรััพยากรและอััตลัักษณ์์ของชุุมชนได้้แล้้ว ต้้องร่่วมกัันตััดสิินใจเลืือกรููปแบบการท่่องเที่่�ยวในชุุมชน
ที่�่ชััดเจน อีีกทั้้�งชุุมชนต้้องเตรีียมความพร้้อมสิ่�งอำ�ำ นวยความสะดวกและการบริิการต่่างๆสำำ�หรัับรองรัับนัักท่่องเที่่�ยว
ร่่วมกัันประชุุมวางแผนการพััฒนาให้้กัับหน่่วยงานในท้้องถิ่่�นและหน่่วยงานที่�่เกี่่�ยวข้้องทราบ เพื่่�อขอร่่วมมืือกััน
พััฒนาชุุมชนในด้้านต่่างๆ ซึ่�งการวางแผนและการตััดสิินใจร่่วมกััน ในองค์์ประกอบนี้้�ชุุมชนสามารถใช้้วิิธีีการต่่าง ๆ
ที่่�เป็็นการรัับฟัังข้้อเสนอแนะจากสมาชิิกในชุุมชน เช่่น การระดมสมอง (Brain storming) การจััดกิิจกรรม
ประชุุมเชิิงปฏิิบััติกิ าร (Work shop) การยกมืือเสนอข้อ้ คิดิ เห็น็ โดยมีีผู้้�นำ�ำ ชุุมชนเป็น็ ประธาน เป็็นต้้น

58

บทที่�่ 3 การมีีส่ว่ นร่่วมของชุุมชนและการเตรียี ม นวััตกรรมการท่่องเที่ย�่ วโดยชุุมชน
ความพร้อ้ มในการสร้้างนวัตั กรรมการท่่องเที่ย�่ วโดยชุมุ ชน

2) ชุุมชนต้้องร่่วมกัันดำำ�เนิินการตามแผน เมื่�อชุุมชนมีีแผนและตััดสิินใจร่่วมกัันในการจััดการ
การท่่องเที่�่ยวแล้้ว สมาชิิกที่�่เกี่�่ยวข้้องต้้องร่่วมกัันดำ�ำ เนิินการตามแผนที่�่วางไว้้เพื่่�อให้้แผนบรรลุุเป้้าหมายของชุุมชน
ตามหน้้าที่�่และความสามารถที่�่ได้้รัับมอบหมาย อาทิิ กฎและระเบีียบในการให้้บริิการนัักท่่องเที่่�ยวที่่�เดิินทาง
เข้้ามาท่อ่ งเที่�่ยวในชุุมชน เป็น็ ต้้น

3) ชุุมชนต้้องได้้รัับประโยชน์์ร่่วมกััน การดำ�ำ เนิินการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน มัักจะมีีผลประโยชน์์
ทางตรงที่่�เป็็นเม็็ดเงิินและทางอ้้อมที่�่เป็็นคุุณค่่าทางจิิตใจ ฉะนั้้�นคนในชุุมชนจะต้้องได้้รัับสิิทธิิประโยชน์์ร่่วมกััน
ไม่ว่ ่่าจะอย่า่ งใดอย่า่ งหนึ่่ง� หรืือ ทั้้�งสองอย่่างควบคู่่�กันั

4) ชุุมชนต้้องสามารถติิดตาม ประเมิินผลและตรวจสอบได้้ เมื่�อการท่่องเที่่�ยวได้้มีีการดำ�ำ เนิินการ
มาแล้้ว ชุุมชนจะต้้องทำ�ำ การติิดตามและประเมิินผล เพื่่�อปรัับปรุุงและแก้้ไขในสิ่�งที่�่บกพร่่องร่่วมกััน ไม่่ใช่่แค่่
คนใดหนึ่่�งหนึ่่�งในชุุมชน แต่่จะต้้องร่่วมกัันแก้้ไข ทั้้�งต้้องตรวจสอบการจััดการทุุกอย่่างได้้โดยชุุมชนเอง
โดยปราศจากข้้อกล่่าวหา

5) ดำำ�เนิินการภายใต้้ความยั่�งยืืนของชุุมชน สิ่�งสำ�ำ คััญที่�่สุุดของการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน คืือ
การอยู่่�บนฐานทรััพยากรธรรมชาติิในชุุมชน ซึ่�งจะต้้องคำำ�นึึงถึึงความยั่�งยืืน เมื่ �อมีีการท่่องเที่่�ยวเข้้ามาแล้้ว
ผู้้�ที่�มีีส่่วนร่่วมจะต้้องคำ�ำ นึึงถึึงความยั่�งยืืนของทรััพยากรเป็็นหลััก เนื่่�องจากคนในชุุมชนเป็็นทั้้�งเจ้้าของและ
ผู้�ใ้ ช้ต้ ลอดไป

ดัังนั้้�น องค์์ประกอบของการมีีส่่วนร่่วมต่่อการจััดการการท่่องเที่�่ยว เปรีียบเสมืือนเข็็มทิิศที่�่จะชี้�นำำ�
ให้้คนในชุุมชนเกิิดกระบวนการมีีส่่วนร่่วม อีีกทั้้�งเป็็นสิ่�งที่�่สำำ�คััญที่�่สุุดที่่�จะให้้เกิิดกระบวนการมีีส่่วนร่่วมเกิิดขึ้�น
ในชุุมชน ซึ่�งจะช่ว่ ยพััฒนาชุุมชนในเชิิงลึึกเพื่่�อการจัดั การการท่อ่ งเที่่ย� ว

รปู ภาพที่ 33 การมีส่วนรว่ มในการจัดทำ�ปฏทิ ินชาวนาในตำ�บลขนาบนาก

59

นวัตั กรรมการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน บทที่่� 3 การมีีส่่วนร่ว่ มของชุุมชนและการเตรีียม
ความพร้้อมในการสร้้างนวััตกรรมการท่อ่ งเที่�่ยวโดยชุุมชน

3. ศัักยภาพชุมุ ชนในการพัฒั นาการท่่องเที่ย่� วโดยชุุมชน

ศัักยภาพชุุมชน เป็็นความสามารถของชุุมชนในพััฒนาการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน โดยอาศััยปััจจััยที่่�มีีอยู่�
ภายในชุุมชนเป็็นสำ�ำ คััญ ได้้แก่่ ทรััพยากร ความสััมพัันธ์์ของคนภายในชุุมชนที่�่อยู่่�ภายใต้้ฐานของทรััพยากรการ
ที่่�มีีอย่่างมีีอััตลัักษณ์์ และเกิิดความภาคภููมิิใจในชุุมชนของตนเอง นำำ�ไปสู่่�การเกิิดมููลค่่าเศรษฐกิิจแก่่ชุุมชน
ซึ่ง� ประกอบด้้วยศัักยภาพ (คณะกรรมการนโยบายการท่อ่ งเที่�ย่ วแห่่งชาติ,ิ 2559) ดัังต่่อไปนี้้�

1) ศัักยภาพด้้านการบริิหารจััดการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน ศัักยภาพที่่�สำ�ำ คััญของการพััฒนาการท่่องเที่�่ยว
โดยชุุมชน คืือ สมาชิิกในชุุมชนร่่วมกัันจััดตั้�งกลุ่�มดำ�ำ เนิินงานเพื่่�อส่่งเสริิมการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชนขึ้�น มีีโครงสร้้าง
ระบบหน้้าที่�่การทำำ�งาน และผ่่านการรัับรองจากหน่่วยงานทางราชการ ซึ่�งการจััดตั้�งกลุ่�มดัังกล่่าวจะต้้องมีีเงื่�อนไข
ที่�่ระบุุอย่่างชััดเจน มีีเป้้าหมาย วิิสััยทััศน์์ และยุุทธศาสตร์์ที่่�ดำ�ำ เนิินงานพััฒนาการท่่องเที่่�ยวภายใต้้ความสมดุุลใน
3 มิิติิ ได้้แก่่ เศรษฐกิิจ สัังคม และสิ่�งแวดล้้อม ผ่่านกระบวนการมีีส่่วนร่่วมของสมาชิิก เกิิดการกระจายรายได้้
และแบ่่งผลประโยชน์์อย่่างเท่่าเทีียมกััน ตลอดจนมีีกฎ ระเบีียบและข้้อตกลงร่่วมกัันในการพััฒนาการท่่องเที่�่ยว
โดยชุมุ ชนภายใต้ค้ วามยั่ง� ยืนื

2) ศัักยภาพด้้านการจััดการเศรษฐกิิจ สัังคม และคุุณภาพชีีวิิตที่�่ดีี การท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชนเป็็น
การท่่องเที่�่ยวเพื่่�อชุุมชน ดัังนั้้�น การพััฒนาการท่่องเที่�่ยวต้้องเป็็นการส่่งเสริิมคุุณภาพชีีวิิตที่�่ดีีให้้แก่่คนในชุุมชน
อย่่างเท่่าเทีียมกััน โดยให้้ความสำ�ำ คััญกัับเด็็ก สตรีี คนชรา คนพิิการ และคนกลุ่�มน้้อยต่่างๆ ให้้มีีส่่วนร่่วม
ได้้รัับผลประโยชน์์ร่่วมกััน อาทิิ การใช้้สิินค้้าและผลิิตภััณฑ์์ชุุมชนที่่�มาจากภููมิิปััญญาท้้องถิ่�่นในแต่่ละกิิจกรรม
การท่่องเที่�่ยว การสร้้างยุุวมััคคุุเทศก์์ในชุุมชน การเปิิดโอกาสให้้กลุ่�มคนพิิการแสดงความสามารถพิิเศษ เป็็นต้้น
3) ศัักยภาพด้้านการอนุุรัักษ์์ส่่งเสริิมมรดกทางวััฒนธรรมชุุมชน การที่�่ชุุมชนมีีจุุดดึึงดููดหรืือคุุณค่่า
ทางด้้านมรดกและวััฒนธรรม จะสามารถสร้้างประสบการณ์์และความน่่าสนใจกัับนัักท่่องเที่�่ยวได้้เป็็นอย่่างดีี
เนื่่�องจากเรื่�องราวมรดกทางวััฒนธรรม เป็็นสิ่�งที่่�คนในชุุมชนสั่�งสมกัับมาตั้�งแต่่อดีีต มีีความเป็็นอััตลัักษณ์์
เฉพาะท้้องถิ่่�น หากชุุมชนมีีการพััฒนาจััดทำำ�ข้้อมููลและเผยแพร่่เรื่�องราวมรดกทางวััฒนธรรมผ่่านกิิจกรรมการ
ท่่องเที่่�ยว ก็็จะเป็็นอีีกศัักยภาพหนึ่่�งในการพััฒนาที่่�ดึึงดููดในคนมาท่่องเที่่�ยวในชุุมชน และเป็็นความเพิ่่�ม
ความหลากหลายให้ก้ ับั การท่่องเที่�ย่ วของชุุมชนอีีกด้ว้ ย

60

บทที่่� 3 การมีีส่่วนร่่วมของชุมุ ชนและการเตรีียม นวััตกรรมการท่อ่ งเที่�่ยวโดยชุุมชน
ความพร้้อมในการสร้า้ งนวััตกรรมการท่อ่ งเที่�ย่ วโดยชุุมชน

4) ศัักยภาพด้้านการจััดการทรััพยากรธรรมชาติิหรืือสิ่�งแวดล้้อมอย่่างเป็็นระบบยั่�งยืืน การบริิหาร
จััดการทรััพยากรธรรมชาติิและสิ่�งแวดล้้อม เป็็นความสามารถของชุุมชนในการควบคุุม ดููแล และดำำ�เนิินการ
การจััดพื้้�นที่่�ผ่่านการร่่วมกัันวางแผนจากคนในชุุมชน เพื่่�อให้้การท่่องเที่่�ยวที่่�จะเกิิดขึ้�นส่่งผลกระทบในทางลบ
ต่่อชุุมชนน้้อยที่�่สุุด ตลอดจนเสริิมสร้้างจิิตสำำ�นึึกและการเรีียนรู้�ให้้กัับคนในชุุมชนและนัักท่่องเที่�่ยวด้้าน
ทรััพยากรธรรมชาติิและสิ่�งแวดล้้อมอย่่างยั่�งยืืน อาทิิ การจััดทำำ�ฐานข้้อมููลทรััพยากรธรรมชาติิและสิ่�งแวดล้้อม
ในชุุมชนเพื่่�อนำำ�ไปใช้้ในกิิจกรรมการท่่องเที่่�ยวการกำำ�หนดพื้้�นที่่�ตามกิิจกรรมการท่่องเที่�่ยว (Zoning) และ
การกำ�ำ หนดขีีดความสามารถในการรองรัับนักั ท่อ่ งเที่ย่� ว (Carrying Capacity) เป็็นต้้น

5) ศัักยภาพด้้านคุุณภาพการบริิการการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน การบริิการถืืออุุปทานหนึ่่�งของระบบ
การท่่องเที่�่ยว และถืือว่่าเป็็นหััวใจหลัักของการตััดสิินใจเลืือกใช้้บริิการทางการท่่องเที่่�ยวของนัักท่่องเที่่�ยว
ดัังนั้้�นการพััฒนาการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชนจะต้้องมีีการบริิการที่่�ครบรููปแบบและตอบสนองต่่อความต้้องการ
ของนัักท่่องเที่�่ยว ทำ�ำ ให้้นัักท่่องเที่�่ยวเกิิดความพึึงพอใจ กลัับมาใช้้บริิการซ้ำำ�� หรืือบอกต่่อๆกััน ซึ่�งการบริิการ
ของการท่่องเที่ย�่ วโดยชุุมชน ได้แ้ ก่่

- นักั สื่�อความหมายที่�่สามารถถ่่ายทอดเรื่อ� งราวของชุมุ ชนได้้อย่่างถููกต้้องชััดเจน
- ความปลอดภัยั ในชีีวิติ และทรััพย์์สิิน
- ความสะอาดของที่่�พััก ห้้องน้ำำ�� และแหล่่งท่่องเที่่ย� วในชุมุ ชน
- อาหารสะอาด ถููกสุุขลัักษณะ และ ใช้ว้ ัตั ถุุดิบิ ในท้้องถิ่่น� เป็็นส่่วนประกอบในการประกอบอาหาร
- จุุดจำำ�หน่่ายของฝากและสินิ ค้้าที่่ร� ะลึกึ
จะเห็็นได้้ว่่าศัักยภาพชุุมชนในการพััฒนาการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชนมีีหลากหลายศัักยภาพ ซึ่�งในแต่่ละ
ศัักยภาพนั้้�นล้้วนเกิิดขึ้ �นจากฐานทรััพยากรของชุุมชนทั้้�งสิ้ �นผ่่านการขัับเคลื่ �อนโดยกลุ่ �มพััฒนาการท่่องเที่�่ยว
โดยชุุมชนจนเกิิดเป็็นการจััดการที่�่มีีระบบระเบีียบอย่่างชััดเจน กลายเป็็นแหล่่งท่่องเที่�่ยวที่�่มีีมาตรฐานจากการ
มีีส่ว่ นร่่วมของคนในชุุมชนและเกิดิ ประโยชน์์อย่่างสูงู สุดุ

61

นวัตั กรรมการท่่องเที่่ย� วโดยชุมุ ชน บทที่่� 3 การมีีส่่วนร่่วมของชุมุ ชนและการเตรียี ม
ความพร้้อมในการสร้้างนวััตกรรมการท่่องเที่�่ยวโดยชุมุ ชน

4. การเตรีียมความพร้อ้ มในการพััฒนาการท่อ่ งเที่่�ยว

การท่่องเที่่�ยว ถืือเป็็นเครื่�องมืือสำำ�คััญสำ�ำ หรัับการพััฒนาชุุมชน เนื่่�องจากการท่่องเที่่�ยวเป็็นการ
นำ�ำ ฐานทรััพยากรในชุุมชนมาพััฒนาเพื่่�อตอบสนองความต้้องการแก่่บุุคคลภายนอก(นัักท่่องเที่่�ยว) แต่่การ
จะยกระดัับชุุมชนให้้เป็็นชุุมชนท่่องเที่่�ยวนั้้�นเป็็นเรื่�องที่่�ยาก และต้้องใช้้ระยะเวลาพอสมควร อีีกทั้้�งจะต้้องอาศััย
ความร่่วมมืือและการมีีส่่วนร่่วมของคนในชุุมชนเป็็นหลััก การท่่องเที่�่ยวจึึงจะก่่อเกิิดขึ้�นได้้ (องค์์การบริิหาร
การพััฒนาพื้้�นที่�่พิิเศษเพื่่�อการท่่องเที่ย�่ วอยางยั่�งยืืน, 2558) (กระทรวงการท่อ่ งเที่ย่� วและกีีฬา, 2550)
การเตรีียมความพร้้อมในการพััฒนาการท่่องเที่�่ยว เป็็นกระบวนการกำ�ำ หนดความสำำ�เร็็จให้้แก่่ชุุมชน
ท่่องเที่่�ยวเพราะจะต้้องเริ่�มจากการวิิเคราะห์์ศัักยภาพของชุุมชน การสัังเคราะห์์ การระดมความคิิดเห็็น
ผลกระทบที่่จ� ะเกิิดขึ้�น และแนวทางการแก้ไ้ ขปััญหา ผ่า่ นกระบวนการมีีส่ว่ นร่่วมของคนในชุุมชน

รููปภาพที่่� 34 กระบวนการเตรีียมความพร้อ้ มในการพัฒั นาการท่่องเที่ย่� วทั้้ง� 4 ระยะ

62

บทที่�่ 3 การมีีส่่วนร่ว่ มของชุมุ ชนและการเตรีียม นวัตั กรรมการท่อ่ งเที่ย่� วโดยชุมุ ชน
ความพร้้อมในการสร้้างนวััตกรรมการท่่องเที่ย่� วโดยชุมุ ชน

ระยะที่�่ 1 การค้น้ หาศักั ยภาพการท่่องเที่่ย� วของชุมุ ชนและการรวมกลุ่�มพัฒั นาการท่่องเที่�ย่ วโดยชุมุ ชน
ขั้้�นที่่� 1 สำ�ำ รวจความต้้องการของสมาชิิกในชุุมชน วิิเคราะห์์ข้้อมููลด้้านการท่่องเที่่�ยว พิิจารณาหากเกิิด
การท่่องเที่�่ยวขึ้�นในชุุมชนจะส่่งผลกระทบด้้านบวกและลบอย่่างไรบ้้าง ซึ่�งในขั้�นตอนนี้้�อาจจะมีีเฉพาะผู้้�นำำ�
หรืือคนในชุมุ ชนที่่�สนใจ
ขั้้�นที่�่ 2 สร้้างการมีีส่่วนร่่วม เมื่�อวิิเคราะห์์ข้้อมููลด้้านการท่่องเที่่�ยวและผลกระทบแล้้วในขั้�นตอนนี้้�
เป็็นการเปิิดโอกาสให้้ผู้้�ที่�สนใจเข้้ารวมเป็็นสมาชิิกกลุ่�มพััฒนาการท่่องเที่�่ยวชุุมชน เช่่น กลุ่�มเยาวชน กลุ่�มสตรีี
กลุ่�มออมทรััพย์์ กลุ่�มแม่่บ้้าน และผู้้�นำำ�ที่่�เป็็นทางการและผู้้�นำำ�ทางธรรมชาติิมาพููดคุุยเรื่�องผลดีี-ผลเสีีย อีีกครั้�ง
เพื่่อ� ให้เ้ ขาเหล่่านั้้�นได้ร้ ่่วมกันั ตัดั สินิ ใจเรื่อ� งนี้้�ร่่วมกันั อีีกครั้ง�
ขั้้�นที่�่ 3 ศึึกษาชุุมชนร่่วมกัับชาวบ้้าน (Social Mapping ) ขั้�นตอนนี้้�เป็็นการสำ�ำ รวจข้้อมููลทางกายภาพ
และข้้อมููลประวััติิศาสตร์์ของชุุมชน ในภููมิิปััญญา วััฒนธรรม ประเพณีีชุุมชน ศึึกษาความสััมพัันธ์์ของชุุมชน
กัับการใช้้ทรััพยากรธรรมชาติิ และทรััพยากรเพื่่�อการท่่องเที่�่ยว ศึึกษากลุ่�มต่่าง ๆ ในชุุมชนซึ่�งผลการศึึกษานี้้�
จะทำำ�ให้้เห็น็ ศักั ยภาพ-ข้้อจำำ�กััดของชุมุ ชน และปััญหาของชุมุ ชนร่่วมกันั
ขั้้�นที่�่ 4 วิิเคราะห์์ศัักยภาพชุุมชนร่่วมกััน วิิเคราะห์์ศัักยภาพในด้้านต่่างๆ ทั้้�งในด้้านศัักยภาพของชุุมชน
ข้้อจำำ�กััด โอกาสและความเสี่�่ยง ในขั้�นตอนนี้้�จะทำ�ำ ให้้ชุุมชนได้้มองเห็็นได้้ด้้วยตนเอง และสามารถเชื่�อมโยง
เรื่�องท่่องเที่�่ยวกัับการพััฒนาชุุมชนได้้ การวิิเคราะห์์ข้้อมููลในครั้�งนี้้�จะทำ�ำ ให้้เกิิดการจััดลำำ�ดัับความสำ�ำ คััญของ
ปัญั หา และอาจพบว่่าเพื่่อ� แก้ป้ ััญหาให้ต้ รงจุดุ อาจจะไม่่จำำ�เป็น็ ต้้องใช้เ้ รื่อ� งการท่่องเที่�ย่ วเลยก็็เป็น็ ได้้
ระยะที่่� 2 การพัฒั นาศัักยภาพแหล่ง่ ท่่องเที่่ย� วและบุคุ ลากรด้้านการท่อ่ งเที่�่ยว
ขั้้�นที่�่ 5 ร่่วมกัันพััฒนาศัักยภาพและแก้้ไขจุุดอ่่อน อาทิิ รวบรวมองค์์ความรู้� ซึ่�งแต่่ละชุุมชนจะแตกต่่างกััน
ออกไปมีีเอกลัักษณ์์เฉพาะชุุมชน เช่่น บางชุุมชนเด่่นด้้านการพััฒนาชุุมชน บางชุุมชนเด่่นระบบการจััดการนิิเวศ
ที่่�ใช้้ภููมิิปััญญาท้้องถิ่่�นได้้เหมาะสม เป็็นต้้น ซึ่�งชุุมชนต้้องร่่วมกัันดึึงเอกลัักษณ์์ ให้้เห็็นร่่วมกัันก่่อนนำ�ำ สู่่�การ
เผยแพร่่ออกไป ปรัับปรุุงแหล่่งท่่องเที่�่ยวให้้เหมาะสม สอดคล้้อง ปลอดภััย ไม่่ทำำ�ลายระบบนิิเวศเดิิมมากนััก
เช่่น การปรัับทางเดิินในป่่าเขา เป็็นต้้น ปรัับปรุุงบ้้านพัักและความสะอาดภายในชุุมชนให้้เป็็นมาตรฐานของ
ชุุมชนแต่่ละแห่่งที่่�ตกลงร่่วมกััน โดยมีีคณะกรรมการของชุุมชน ตรวจสอบอย่่างสม่ำ�ำ� เสมอ ฝึึกอบรมบุุคลากร
ด้้านการท่่องเที่่�ยวในชุุมชน เช่่น นัักสื่�อความหมาย ซึ่�งในขั้�นตอนนี้้�จะเห็็นความสามารถของชุุมชน ในการ
รองรัับการท่่องเที่�่ยวทั้้�งความพร้้อมจำ�ำ นวนบุุคลากร และขีีดความสามารถในการรองรัับทั้้�งพื้้�นที่�่ทางธรรมชาติิ
และรูปู แบบกิิจกรรมที่�่สอดคล้้องกับั วิิถีีชีีวิิตของชุมุ ชน

63

นวััตกรรมการท่อ่ งเที่ย่� วโดยชุุมชน บทที่่� 3 การมีีส่ว่ นร่่วมของชุุมชนและการเตรีียม
ความพร้อ้ มในการสร้้างนวัตั กรรมการท่อ่ งเที่ย่� วโดยชุุมชน

ขั้้�นที่่� 6 การจััดทำ�ำ โปรแกรมการท่่องเที่�่ยว เส้้นทางการท่่องเที่�่ยว กิิจกรรมการท่่องเที่�่ยวที่่�พััฒนาต่่อจาก
การค้้นหาและพััฒนาศัักยภาพ ตลอดจนนัักสื่�อความหมายทางการท่่องเที่่�ยว เพื่่�อให้้นัักท่่องเที่่�ยวได้้สััมผััส
วิิถีีชีีวิิตอัันแท้้จริิงของคนในชุุมชนภายใต้้ฐาน/ทุุนของชุุมชน สร้้างกระบวนการมีีส่่วนร่่วมและเกิิดการปฏิิสััมพัันธ์์
ระหว่่างนัักท่่องเที่�่ยวกัับคนในชุุมชนให้้มากที่่�สุุด โดยสื่�อสารผ่่านการสื่�อความหมายในรููปแบบต่่างๆ อาทิิ
แผ่่นป้้าย มัคั คุุเทศก์์ ปราชญ์ช์ ุมุ ชน เป็น็ ต้น้
ขั้้�นที่่� 7 วางรููปแบบการบริิหารจััดการ ในขั้�นตอนนี้้�จะเป็็นการจััดตั้�งองค์์กรขึ้�นมาทำ�ำ งาน หรืืออาจใช้้
องค์์การที่่�ชุุมชนมีีอยู่�เดิิมแต่่เพิ่่�มเติิมบทบาทหน้้าที่่� มีีการกำำ�หนดวััตถุุประสงค์์ให้้ชััดเจน กำำ�หนดรููปแบบ
ของการท่่องเที่�่ยว โปรแกรมและราคาการจััดสรรผลประโยชน์์ สู่่�ชาวบ้้านและชุุมชน และมาตรการในการ
ป้้องกัันผลกระทบ โดยอาจจะเป็็นการสร้้างกฎ-กติิกา เพื่่�อเป็็นแนวทางปฏิิบััติิทั้้�งชาวบ้้านและนัักท่่องเที่�่ยว
ระยะที่่� 3 ชุุมชนมีีความพร้อ้ มด้้านการท่่องเที่่�ยว

ขั้�นที่�่ 8 ทดลองดำำ�เนิินกิิจกรรมการท่่องเที่่�ยว ในขั้�นตอนนี้้�อาจมีีการจััดท่่องเที่�่ยวนำ�ำ ร่่อง เพื่่�อทดสอบ
ความพร้้อมของชุุมชน โดยการเชิิญบุุคคลหรืือหน่่วยงานภายนอกที่�่มีีประสบการณ์์หรืือเกี่่�ยวข้้องกัับการท่่องเที่�่ยว
โดยชุุมชนเข้้าร่่วมกิิจกรรม ให้้แสดงความคิิดเห็็นและข้้อเสนอแนะ เพื่่�อเป็็นทิิศทางต่่อไปในอนาคต

ขั้�นที่่� 9 ประเมิินผล ในขั้�นตอนประเมิินผล อาจแยกออกมาเป็็น 2 ส่่วน คืือ การประเมิินผลการทำำ�งาน
ของคณะทำ�ำ งานท่่องเที่�่ยวและสรุุประเมิินผลความพึึงพอใจของนัักท่่องเที่�่ยวที่�่ได้้ใช้้บริิการทางการท่่องเที่่�ยว
ของชุุมชน เพื่่อ� หาข้้อผิิดพลาดและแก้้ไขอย่่างทัันท่่วงทีี

ขั้�นที่่� 10 พััฒนาองค์์กรการฝึึกอบรม เช่่น การบริิหารจััดการ การสร้้างการมีีส่่วนร่่วม การสื่�อความหมาย
เป็็นต้้นการศึึกษาดููงาน สำำ�หรัับแกนนำำ�องค์์กรชุุมชนเพื่่�อจััดการท่่องเที่่�ยว เพื่่�อเสริิมโลกทััศน์์ พััฒนาทัักษะ
การบริิหาร การจััดการในชุุมชนอื่�น ๆ ที่�่มีีลัักษณะคล้้าย ๆ กััน เพื่่�อเป็็นตััวอย่่างนำ�ำ ไปประยุุกต์์ หรืือเป็็นบทเรีียน
ที่ช�่ ุมุ ชนต้้องพึึงระวัังผลกระทบที่�่อาจเกิดิ ขึ้น� ได้้ และวางมาตรการป้้องกันั ไว้แ้ ต่เ่ ริ่ม� แรก

ระยะที่�่ 4 ชุมุ ชนเชื่่อ� มโยงการตลาด
ขั้้�นที่่� 11 ชุุมชนเตรีียมพร้้อมสู่�การตลาด เมื่ �อชุุมชนพััฒนาโปรแกรมการท่่องเที่่�ยว และมีีความพร้้อม
ในการจััดการการท่่องเที่�่ยว ขั้�นตอนที่่�สำ�ำ คััญที่่�สุุดคืือ การเชื่�อมโยงทางการตลาดการท่่องเที่่�ยวโดยการสร้้าง
Branding ของชุมุ ชน แผนการตลาดของชุุมชน และส่่งต่อ่ คนรุ่�นใหม่เ่ ข้า้ มาร่ว่ มกันั บริิหารจััดการ
เมื่�อชุุมชนดำ�ำ เนิินการพััฒนาการท่่องเที่�่ยวทั้้�ง 4 ระยะ 11 ขั้�นตอนแล้้ว ชุุมชนจะสามารถดำำ�เนิินการ
ให้้บริิการการท่่องเที่่�ยว ซึ่�งทั้้�ง 11 ขั้�นตอนนั้้�นสามารถสลัับสัับเปลี่�่ยนได้้ขึ้�นอยู่่�กัับโอกาสและสถานการณ์์
ของชุุมชน สิ่�งที่่�ยากที่�่สุุดคืือ ชุุมชนที่่�ขัับเคลื่�อนการท่่องเที่�่ยวคนในชุุมชนยัังไม่่คุ้�นเคย และไม่่เชื่�อมั่�นว่่า
จะให้้ประโยชน์์ต่่อคนในชุุมชนได้้ คณะทำ�ำ งานจำ�ำ เป็็นจะต้้องเสริิมสร้้างทััศนคติิใหม่่เรื่�องการท่่องเที่่�ยวให้้คน
ในท้้องถิ่่�น ให้้เกิิดความอยากรู้้�จััก อยากลอง และเกิิดความภาคภููมิิใจในตนเองมากขึ้�น เมื่ �อชุุมชนเห็็นคุุณค่่า
จากการท่่องเที่่�ยว การท่่องเที่�่ยวก็ไ็ ด้้เกิิดขึ้�นจากความสมััครใจของคนในชุุมชน

64

บทที่่� 3 การมีีส่ว่ นร่่วมของชุมุ ชนและการเตรีียม นวัตั กรรมการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน
ความพร้อ้ มในการสร้า้ งนวััตกรรมการท่่องเที่ย่� วโดยชุมุ ชน

5. การสร้า้ งนวััตกรรมการจัดั การการท่่องเที่�ย่ วโดยชุมุ ชนอย่่างมีีส่่วนร่่วม

การสร้้างนวััตกรรมการจััดการการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชนอย่่างมีีส่่วนร่่วม เป็็นการบููรณาการการทำ�ำ งาน
และประสานงานกัันระหว่่างหน่่วยงานทุุกฝ่่ายที่�่มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีียกัับการจััดการการท่่องเที่�่ยว ไม่่ว่่าจะเป็็น
คนในชุุมชน หน่่วยงานท้้องถิ่�่น หน่่วยงานเอกชน หรืือแม้้แต่่สถาบัันการศึึกษา เพื่่�อสร้้างเครืือข่่ายความร่่วมมืือ
กัันอย่่างเข้้มแข็็ง ซึ่�งการสร้้างนวััตกรรมการมีีส่่วนร่่วมในการจััดการการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน (ชััยรััตน์์ จุุสปาโล
และคณะ, 2563) (วรพงศ์์ ผูกู ภู่�และคณะ, 2562) (Goodwin, 2014) สามารถสรุุปได้้ดังั ต่่อไปนี้้�

1) การบริิหารจััดการการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชนอย่่างมีีส่่วนร่่วม : ด้้านการบริิหารจััดการ การท่่องเที่่�ยว
โดยชุุมชนเป็็นการเปิิดโอกาสให้้คนในชุุมชนเข้้ามาดำำ�เนิินการบริิหารและจััดการการท่่องเที่�่ยวด้้วยตนเองเป็็นหลััก
ตั้�งแต่่ต้้นทางจนถึึงปลายทางผ่่านกระบวนการมีีส่่วนร่่วมของคนในชุุมชน ซึ่�งเริ่�มจากการกำ�ำ หนดเป้้าหมาย
และวิิสััยทััศน์์ของชุุมชนตนเองเพื่่�อเป็็นเป้้าหมายสำ�ำ หรัับการจััดการการท่่องเที่่�ยวในพื้้�นที่่� โดยใช้้การท่่องเที่่�ยว
เป็็นเครื่�องมืือการกระจายรายได้้สู่�ฐานราก ยกระดัับคุุณภาพชีีวิิต และสร้้างจิิตสำำ�นึึกรัักบ้้านเกิิดให้้กัับคนในชุุมชน
ซึ่ �งในปััจจุุบัันโลกเปลี่�่ยนพฤติิกรรมนัักท่่องเที่�่ยวเปลี่�่ยนแปลงไปชุุมชนจะต้้องปรัับเปลี่่�ยนความคิิดและ
ปรัับตััวต่่อความเปลี่่�ยนแปลงทำ�ำ ให้้ชุุมชนเข้้มแข็็งให้้ยิ่�งขึ้�นกว่่าเดิิม สร้้างความเข้้มแข็็งและทำำ�งานแบบมืืออาชีีพ
มากขึ้�น อีีกทั้้�งชุุมชนต้้องมีีการจััดตั้�งองค์์กรสำำ�หรัับการบริิหารจััดการภายในชุุมชน ขึ้�น เพื่่�อเป็็นการแบ่่งหน้้าที่�่
รัับผิิดชอบและผลัักดันั ให้้องค์์กรชุุมชนดำำ�เนิินการด้ว้ ยความโปร่ง่ ใส

2) การบริิหารจััดการการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชนอย่่างมีีส่่วนร่่วม : ด้้านผลิิตภััณฑ์์ทางการท่่องเที่่�ยว
(กิิจกรรม) ผลิิตภััณฑ์์การท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชนคืือบริิการด้้านการท่่องเที่่�ยว สิ่�งอำำ�นวยความสะดวก เส้้นทาง
การท่่องเที่่�ยว และกิิจกรรมการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชนที่่�ส่่งเสริิมให้้เกิิดการเรีียนรู้� (Learning) ความตื่�นเต้้น
(Exciting) ความแปลกใหม่่ (Innovation) และเกิิดประสบการณ์์จากการท่่องเที่�่ยว (local Experience)
รวมถึึงผลิิตภััณฑ์์ชุุมชนที่่�เป็็นในรููปแบบของของฝากของที่่�ระลึึก ที่�่จะต้้องพััฒนาให้้เกิิดความประทัับใจของผู้้�
มาเยืือนอย่่างสููงสุุด เพื่่�อนำ�ำ ไปสู่่�กระบวนการหลัังการบริิการคืือการกลัับมาในพื้้�นที่�่ชุุมชนซ้ำ��ำ และเกิิดการบอกต่่อ
ปากต่อ่ ปาก

3) การบริิหารจััดการการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชนอย่่างมีีส่่วนร่่วม : ด้้านการรัับผิิดชอบต่่อชุุมชนและ
สิ่�งแวดล้้อมในพื้้�นที่�่ การมีีส่่วนร่่วมของชุุมชนในการบริิหารจััดการท่่องเที่�่ยวถืือเป็็นหััวใจสำ�ำ คััญของการรัับผิิดชอบ
ต่่อชุุมชน เพราะเป็็นการเพิ่่�มผลประโยชน์์สููงสุุดให้้กัับชุุมชน และสามารถลดผลกระทบที่่�อาจจะเกิิดขึ้�นระหว่่าง
การบริิหารจััดการการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน ตลอดจนให้้ความสำำ�คััญกัับชุุมชนที่่�ยัังอ่่อนแอและด้้อยโอกาสจาก
สัังคมภายนอก ก่่อให้้ชุุมชนมีี “ประสบการณ์์ทางสัังคมโดยรวม” นอกจากการรัับผิิดชอบต่่อชุุมชนแล้้ว
การรัับผิิดชอบต่่อสิ่�งแวดล้้อมในชุุมชนก็็เป็็นสิ่�งสำำ�คััญในการบริิหารจััดการชุุมชนด้้วยเช่่นเดีียวกััน เพื่่�อให้้ชุุมชน
เกิิดความยั่�งยืืน ชุุมชนจะต้้องกำ�ำ หนดรููปแบบการบริิหารจััดการที่�่มีีการคำำ�นึึงถึึงทรััพยากรสิ่�งแวดล้้อมที่�่มีีอย่่างจำำ�กััด
ลดกิิจกรรมการท่่องเที่่�ยวที่�่ก่่อให้้เกิิดมลภาวะและมลพิิษแก่่ชุุมชน รวมไปถึึงการสร้้างจิิตสำำ�นึึกเป็็นสิ่�งสำำ�คััญ
ในหมู่�ผู้้�มีีส่่วนได้ส้ ่่วนเสีียทั้้�งหมดอีีกด้ว้ ย

65

นวัตั กรรมการท่่องเที่ย่� วโดยชุุมชน บทที่�่ 3 การมีีส่ว่ นร่่วมของชุุมชนและการเตรียี ม
ความพร้้อมในการสร้้างนวััตกรรมการท่อ่ งเที่่ย� วโดยชุุมชน

4) การบริิหารจััดการการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชนอย่่างมีีส่่วนร่่วม : ด้้านเครืือข่่ายและการมีีส่่วนร่่วม
นอกเหนืือที่�่ชุุมชนเป็็นเป็็นผู้้�บริิหารจััดการการท่่องเที่่�ยวเป็็นหลัักแล้้ว การบริิหารจััดการที่่�ดีีจำ�ำ เป็็นต้้องได้้รัับ
การส่่งเสริิมและสนัับสนุุนจากผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีีย (stakeholder) ไม่่ว่่าจะเป็็นหน่่วยงานภาครััฐ หน่่วยงานเอกชน
ตลอดจนสถาบัันทางการศึึกษา ที่่�มีีแนวคิิดหลัักในการทำำ�งานที่�่มุ่�งเน้้นความร่่วมมืือ การเรีียนรู้� และการทำำ�งาน
ด้้านการท่อ่ งเที่�ย่ วร่่วมกัันกัับชุุมชน

การสร้้างนวััตกรรมการจััดการการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชนอย่่างมีีส่่วนร่่วม ไม่่ใช่่เป็็นเรื่�องที่่�แปลกใหม่่
หรืือเป็็นเรื่�องยากสำำ�หรัับการการจััดการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน แต่่เป็็นเรื่�องใกล้้ตััวที่่�ชุุมชนจะต้้องปรัับเปลี่�่ยนแนวคิิด
และปรัับตััวเองให้้เท่่าทัันต่่อการเปลี่่�ยนแปลงของกระแสการท่่องเที่่�ยวในปััจจุุบััน เพื่่�อเป็็นการเสริิมสร้้างความ
เข้้มแข็็งให้้กัับชุุมชน และเป็็นประสานแนวคิิดของทุุกคนให้้เห็็นเป็็นภาพเดีียวกััน ในการจััดการท่่องเที่่�ยวชุุมชน
ในอนาคตที่่�จะส่่งต่่อให้้กัับคนรุ่�นใหม่่ ดัังเช่่นวิิสาหกิิจแปรรููปผลิิตภััณฑ์์จากและการท่่องเที่�่ยวระบบนิิเวศจากครบวงจร

ศููนย์์อำ�ำ นวยการและประสานการพััฒนาพื้้�นที่่�ลุ่�มน้ำ��ำ ปากพนัังอัันเนื่่�องมาจากพระราชดำำ�ริิ และทีีมนัักวิิจััย
มหาวิิทยาลััยวลััยลัักษณ์์ ภายใต้้โครงการพััฒนาศัักยภาพชุุมชน และเครืือข่่าย ภููมิิปััญญาต้้นจากเพื่่�อสร้้าง
ผลิิตภััณฑ์์สร้้างสรรค์์ สู่�ตลาดเชิิงพาณิิชย์์ มีีแนวทางยกระดัับและพััฒนาภููมิิปััญญาท้้องถิ่�่นต้้นจากลุ่�มน้ำ�ำ� ปากพนััง
เพื่่�อสร้้างผลิิตภััณฑ์์สร้้างสรรค์์สู่�ตลาดเชิิงพาณิิชย์์อย่่างยั่�งยืืน โดยการต่่อยอดภููมิิปััญญาการออกแบบผลิิตภััณฑ์์
สร้้างสรรค์์เพื่่�อส่่งเสริิมผลิิตภััณฑ์์อาหารและอาหารเสริิมจากต้้นจาก โดยศึึกษาอััตลัักษณ์์ตำำ�หรัับอาหารพื้้�นบ้้าน
และคุุณค่่าทางโภชนาการจากทรััพยากรป่่าจากในพื้้�นที่�่ตำำ�บลขนาบนาก เพื่่�อเพิ่่�มคุุณค่่าและมููลค่่าการท่่องเที่�่ยว
ด้้วยเหตุุนี้้�จึึงมีีการจััดตั้�งวิิสาหกิิจชุุมชนแปรรููปผลิิตภััณฑ์์จาก และการท่่องเที่�่ยวระบบนิิเวศป่่าจากครบวงจร
รวมทั้้�งศููนย์์การเรีียนรู้�ระบบนิิเวศป่่าจากครบวงจรบ้้านบางตะลุุมพอ โดยการอนุุเคราะห์์สถานที่�่ของ
นางบุญุ ศรีี เพชรเกตุุ โดยเริ่ม� ต้น้ มีีจำ�ำ นวนสมาชิกิ ทั้้ง� หมดจำำ�นวน 24 คน

รูปภาพที่ 35 กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน รููปภาพที่่� 36 กระบวนการมีีส่ว่ นร่ว่ มของประชาชน
ใน ตำ�บลขนาบนากในการระดมความคดิ เห็นพัฒนา ในชุุมชนร่ว่ มกัับทีีมมหาวิิทยาลััยวลัยั ลักั ษณ์์ เพื่่�อจัดั ตั้�ง
ผลติ ภณั ฑ์จาก กลุ่�มวิสิ าหกิิจในชุุมชน

66

บทที่่� 3 การมีีส่ว่ นร่ว่ มของชุมุ ชนและการเตรียี ม นวัตั กรรมการท่่องเที่ย่� วโดยชุุมชน
ความพร้้อมในการสร้า้ งนวัตั กรรมการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน

โดยวิิสาหกิิจชุุมชนแปรรููปผลิิตภััณฑ์์จาก และการท่่องเที่�่ยวระบบนิิเวศป่่าจากครบวงจร มีีการกำำ�หนด
วิิสััยทััศน์์และพัันธกิิจไว้้ เพื่่�อเป็็นหมายหมายในการดำำ�เนิินงาน คืือ จะผลิิตสิินค้้าที่�่มีีประโยชน์์ต่่อผู้้�บริิโภคและ
สัังคม มุ่�งเน้้นในการพััฒนาสิินค้้าที่่�มีีคุุณภาพ และนำ�ำ เทคโนโลยีีการผลิิตสมััยใหม่่มาใช้้ให้้เกิิดประโยชน์์ และ
มุ่�งสร้า้ งแบรนด์์ เพื่่�อครองใจผู้้�บริโิ ภคตลอดไป

ด้้านวิิสััยทััศน์์ของวิิสาหกิิจชุุมชนแปรรููปผลิิตภััณฑ์์จาก และการท่่องเที่�่ยวระบบนิิเวศป่่าจากครบวงจร
คืือ ยกระดัับ และพััฒนา ภููมิิปััญญาท้้องถิ่�่นต้้นจากลุ่�มน้ำำ�� ปากพนััง เพื่่�อสร้้างผลิิตภััณฑ์์ สร้้างสรรค์์สู่�ตลาด
เชิิงพาณิชิ ย์์อย่่างยั่ง� ยืืน

และมีีวััตถุุประสงค์์การดำ�ำ เนิินงานของกลุ่�ม 3 ข้้อ คืือ 1) เป็็นแหล่่งความรู้�ในการแปรรููปผลิิตภััณฑ์์
จากต้้นจาก ทั้้�งต้้นน้ำ��ำ กลางน้ำ�ำ� และ ปลายน้ำ�ำ� 2) เพื่่�อสร้้างรายได้้เสริิมจากการแปรรููปเป็็นน้ำ��ำ ตาลจากผง
น้ำำ�� ผึ้้�งจาก และน้ำ��ำ ส้้มจาก และ 3) เพื่่�อเป็็นแหล่่งเงิินทุุนสำำ�หรัับสมาชิิกในการประกอบอาชีีพอื่�นๆต่่อไป

รปู ภาพที่ 37 วงจรการบริหารงานวสิ าหกิจแปรรูปผลติ ภณั ฑ์จากและการท่องเที่ยวระบบนิเวศป่า
จากครบวงจรแบบ PDCA (Plan Do Act and Check )

67

นวัตั กรรมการท่อ่ งเที่�่ยวโดยชุุมชน บทที่�่ 3 การมีีส่่วนร่่วมของชุุมชนและการเตรียี ม
ความพร้อ้ มในการสร้า้ งนวัตั กรรมการท่่องเที่่ย� วโดยชุุมชน

ด้้านการบริิหารงาน กลุ่�มวิิสาหกิิจแปรรููปผลิิตภััณฑ์์จากและการท่่องเที่�่ยวระบบนิิเวศป่่าจากครบวงจร
มีีการบริิหารแบบ PDCA (Plan Do Act and Check ) ซึ่ง� มีีรายละเอีียดดัังต่่อไปนี้้�

1) Plan ลงพื้้�นที่�่เก็็บข้้อมููล สำำ�รวจปััญหาและสอยถามความต้้องการของกลุ่�มวิิสาหกิิจ เพื่่�อหาแนวทาง
ร่่วมกัันแก้้ไข ซึ่�งใช้้การกำำ�หนดกลยุุทธ์์วิิเคราะห์์ SWOT โดยสามารถระบุุ ปััญหา ได้้ดัังนี้้� ปััญหาด้้านสภาพอากาศ
ปััญหาด้้านฉลาก อย. บนฉลากสิินค้้าและผลิิตภััณฑ์์ชุุมชน ปััญหาเกี่�่ยวกัับกระบวนการจััดการกลุ่�ม อาทิิ
การทำำ�บััญชีีกลุ่ �ม

2) Do ดำำ�เนิินการแก้้ไขปััญหา โดยการจััดโครงการศึึกษาดููงานเรื่�องกระบวนการจััดการกลุ่�ม การจััดทำ�ำ
ระบบบััญชีีต้้นทุุน การผลิิตสิินค้้าปลอดภััยมาตรฐาน อย. และเครื่�องหมายทางการค้้า ฮาลาล การจััดอบรม
กลยุทุ ธ์์การบริหิ าร การตลาดออนไลน์์และการพััฒนาบรรจุุภัณั ฑ์ห์ ีีบห่อ่ เพื่่�อเพิ่่ม� มูลู ค่า่

3) Check มีีการจััดประชุุม ติิดตามงานและจััดทำ�ำ รายงานความก้้าวหน้้า มีีการติิดต่่อสื่�อสารและ
สอบถามผ่่านไลน์์กลุ่�ม การสัังเกตพฤติิกรรมของผู้�้เข้้าร่่วมระหว่่างการจััดโครงการ การทดสอบความรู้้�ก่่อน
การอยรมและแบบประเมินิ ความพึึงพอใจ สรุุปและจััดทำำ�กิิจกรรม

4) Act มีีการจััดประชุุม ถอดบทเรีียนร่่วมกัับคณาจารย์์ ผู้้�รับบริิการ ผู้้�จ้างงาน เพื่่�อสรุุปประเด็็น
สำำ�คััญจากการทำ�ำ กิิจกรรม แลกเปลี่่�ยนการเรีียนรู้� ข้้อเสนอแนะแนวทางการแก้้ไขปััญหาและอุุปสรรคในการทำำ�งาน
และเชื่�อมโยงไปสู่่�การพััฒนาเพื่่�อขยายผลต่่อไป รวมทั้้�งประโยชน์์และแนวทางในการประยุุกต์์ที่�่ได้้จากโครงการ

รูปภาพท่ี 38 การระดมความคดิ เหน็ ของประชาชน รปู ภาพที่ 39 ภาพถา่ ยรวมหลงั เสรจ็ จากการระดม
ในตำ�บลขนาบนาก นำ�โดยนาง อมรทพิ ย์ เพชรเกตุ ความคิดเหน็ ระหว่างประชาชนและคณะทำ�งาน
ประธานกลมุ่ วิสาหกจิ จากมหาวิทยาลัยวลัยลกั ษณ์

68

บทที่่� 3 การมีีส่ว่ นร่่วมของชุุมชนและการเตรียี ม นวัตั กรรมการท่่องเที่ย�่ วโดยชุุมชน
ความพร้อ้ มในการสร้า้ งนวัตั กรรมการท่อ่ งเที่ย่� วโดยชุมุ ชน

ด้้านโครงสร้้างกลุ่ �มวิิสาหกิิจแปรรููปผลิิตภััณฑ์์จากและการท่่องเที่�่ยวระบบนิิเวศป่่าจากครบวงจร
จำ�ำ นวน 24 คน ประกอบด้้วย ประธาน จำ�ำ นวน 1 คน รองประธาน จำำ�นวน 1 คน เลขานุุการ จำำ�นวน 1 คน
บััญชีี จำ�ำ นวน 1 คน ประชาสััมพัันธ์์ จำำ�นวน 1 คน ฝ่่ายผลิิตภััณฑ์์ หััวหน้้าฝ่่าย จำ�ำ นวน 1 คน และสมาชิิก
จำำ�นวน 11 คน ฝ่่ายท่่องเที่่�ยว ประกอบด้้วย หััวหน้้าฝ่่าย 1 และสมาชิิก จำ�ำ นวน 13 คน ซึ่�งกลุ่�มมีีความต้้องการ
ที่�่จะขัับเคลื่�อนสมาชิิกเพื่่�อรองรัับด้้านการท่่องเที่�่ยวเชิิงศึึกษาดููงาน และเป็็นศููนย์์เรีียนรู้�แก่่คนภายนอก
เกี่�ย่ วกัับระบบนิเิ วศป่า่ จาก ดังั รูปู ภาพที่�่ 40

รูปภาพที่ 40 โครงสร้างสมาชกิ วสิ าหกจิ แปรรูปผลติ ภณั ฑ์จากและการทอ่ งเที่ยวระบบนเิ วศป่าจากครบวงจร
ที่เกิดจากการมีส่วนรว่ มของกลมุ่

69

นวััตกรรมการท่่องเที่ย�่ วโดยชุมุ ชน บทที่�่ 3 การมีีส่ว่ นร่ว่ มของชุุมชนและการเตรีียม
ความพร้้อมในการสร้า้ งนวัตั กรรมการท่อ่ งเที่�ย่ วโดยชุุมชน

ด้้านกิิจกรรมและเส้้นทางการท่่องเที่�่ยวของวิิสาหกิิจแปรรููปผลิิตภััณฑ์์จากและการท่่องเที่�่ยวระบบนิิเวศป่่า
จากครบวงจร มีีทั้้�งสิ้น� 4 ฐานกิิจกรรม และ 1 เส้้นทางการท่อ่ งเที่�่ยว ดัังนี้้�

การจะนำำ�ผลผลิิตจากต้้นจากมาใช้้ และสร้้างอาชีีพนั้�นต้้องเรีียนรู้�ขั้�นตอน
ฐานท่ี 1 เรียนร้ปู ่าจาก การทำำ�น้ำำ�� ตาลจากแต่่ละขั้�นตอนว่่าควรทำ�ำ อย่่างไร ตั้�งแต่่กระบวนการต้้นน้ำ��ำ

ไปถึงึ ปลายน้ำ�ำ� อาทิิ การตีีงวง ปาดตาล เก็บ็ น้ำ�ำ�หวานจาก การเคี่ย่� วน้ำ��ำ ตาล

รปู ภาพท่ี 41 กิจกรรมการเรยี นรู้ รูปภาพท่ี 42 กิจกรรมท�ำ นำ้�ตาลจาก
องคป์ ระกอบต้นจาก

ฐานท่ี 2 เย็บจาก การเย็็บจาก เป็็นภููมิิปััญญาวิิถีีชีีวิิตของคนในอดีีตของคนในตำำ�บล
ขนาบนาก ที่�่ได้้นำำ�ใบจากไปใช้้ประโยชน์์ในการทำำ�บ้้านเรืือน หรืือหลัังคาบ้้าน
ในการพักั อาศััย ซึ่ง� นักั เรีียนผู้�้เข้า้ ร่่วมได้ล้ งมืือปฏิบิ ััติิจริงิ

รููปภาพที่่� 43 กิิจกรรมสานหมาจาก รปู ภาพท่ี 44 กิจกรรมเย็บตับจาก
(ภาชนะใส่่น้ำ�ำ� )

70

บทที่�่ 3 การมีีส่่วนร่่วมของชุมุ ชนและการเตรีียม นวััตกรรมการท่่องเที่ย่� วโดยชุุมชน
ความพร้อ้ มในการสร้้างนวััตกรรมการท่อ่ งเที่�ย่ วโดยชุุมชน

ฐานที่ 3 เรียนรูก้ ารทำ�ขนมจาก ขนมจาก เป็็นขนมที่่�หากิินได้้ง่่ายในอดีีต ซึ่�งปััจจุุบัันหาทานได้้
ค่่อนข้้างยากแล้้วเป็็นการนำำ�ส่่วนประกอบของต้้นจาก คืือใบจากที่่�
สามารถนำำ�มาใช้้ประโยชน์์ในการห่่อขนมได้้ และในการทำ�ำ ขนมจาก
ได้้ใช้้น้ำำ��ตาลจากมาเป็็นส่่วนผสมที่่�ใช้้แทนน้ำำ��ตาลทราย ซึ่�งน้ำ��ำ ตาลจาก
เป็็นน้ำ��ำ ตาลที่�่มีีค่่าดััชนีีน้ำ�ำ� ตาลต่ำำ�� สามารถนำำ�มาใช้้เป็็นน้ำำ�� ตาลทางเลืือก
เพื่่�อสุุขภาพ เนื่่�องจากน้ำ��ำ ตาลจากมีีผลในการดููดซึึมเข้้าสู่�กระแสเลืือด
อย่่างช้้าๆ ในปริิมาณต่ำ��ำ ตัับอ่่อนไม่่ต้้องทำำ�งานหนัักในการหลัังอิินซููลิิน
ออกมาในปริิมาณมากอย่่างรวดเร็็ว เกิิดการตอบสนองทางชีีวเคมีี
ของร่่างการที่�่สมดุุล จึึงเป็็นน้ำ�ำ� ตาลทางเลืือกที่�่ช่่วยลดความเสี่�่ยงและ
ความรุุนแรงของโรคเบาหวานได้้

รูปภาพท่ี 45 กิจกรรมการท�ำ ขนมจาก

71

นวััตกรรมการท่อ่ งเที่ย�่ วโดยชุมุ ชน บทที่่� 3 การมีีส่ว่ นร่่วมของชุุมชนและการเตรียี ม
ความพร้้อมในการสร้้างนวััตกรรมการท่อ่ งเที่่�ยวโดยชุมุ ชน

ฐานที่�่ 4 เรียนรู้�การทำ�ำ น้ำำ��ตาลเกร็็ด เรีียนรู้�วิธีีการแปรรููปน้ำำ�� ตาลจากน้ำำ��ผึ่่�งจากเป็็นน้ำ��ำ ตาลเกร็็ด
และลงมืือปฏิิบััติิจริิง ซึ่�งน้ำำ�� ตาลเกร็็ดเป็็นการพััฒนาและเพิ่่�มมููลค่่า
ให้้กัับสิินค้้า ที่่�ได้้พััฒนามาจากการทำ�ำ น้ำ��ำ ตาลปี๊๊�บมาแปรรููปเป็็น
น้ำำ��ตาลเกร็็ด ซึ่�งมีีราคาที่�่สููงกว่่าการผลิิตน้ำ��ำ ตาลปี๊๊�บแบบปกติิ
ซึ่�งน้ำ��ำ ตาลเกร็็ดเป็็นน้ำ��ำ ตาลทางเลืือกที่�่ช่่วยลดความเสี่�่ยงและ
ความรุุนแรงของโรคเบาหวานได้้ และพบปริิมาณแร่่ธาตุุโพแทสเซีียม
มากกว่่าโซเดีียม ซึ่�งโพแทสเซีียมเป็็นแร่่ธาตุุที่�่ให้้ความเค็็มโดย
ไม่่ส่่งผลเสีียต่่อการเพิ่่�มระดัับความดัันโลหิิต แต่่มีีส่่วนช่่วยลดระดัับ
ความดัันโลหิิตได้้จากกระบวนการที่่�มีีส่่วนขยายหลอดเลืือดและ
ขับั โซเดีียมออกจากร่่างกาย

รูปภาพท่ี 46 กจิ กรรมการแปรรปู นำ�้ ตาลจาก

72

บทที่่� 3 การมีีส่ว่ นร่่วมของชุมุ ชนและการเตรีียม นวัตั กรรมการท่อ่ งเที่่ย� วโดยชุุมชน
ความพร้้อมในการสร้้างนวัตั กรรมการท่อ่ งเที่่ย� วโดยชุุมชน

รูปภาพที่ 47 เสน้ ทางการทอ่ งเที่ยววสิ าหกิจแปรรปู ผลติ ภัณฑ์จากและการทอ่ งเที่ยวระบบนเิ วศป่าจากครบวงจร
เมื่ �อกลุ่ �มสมาชิิกวิิสาหกิิจแปรรููปผลิิตภััณฑ์์จากและการท่่องเที่่�ยวระบบนิิเวศป่่าจากครบวงจรได้้กิิจกรรม

การท่่องเที่�่ยวที่่�แสดงถึึงอััตลัักษณ์์ของพื้้�นที่่�ที่่�สอดคล้้องกัับพัันธกิิจและวิิสััยทััศน์์แล้้ว จากนั้้�นเป็็นการนำ�ำ กิิจกรรม
การท่่องเที่่�ยวมาร้้อยเรีียงเป็็นเส้้นทางการท่่องเที่่�ยวโดยเชื่ �อมโยงแหล่่งท่่องเที่�่ยวหลัักของปากพนัังเพื่่�อเพิ่่�มความ
น่า่ สนใจให้้กับั เส้้นทางการท่อ่ งเที่�ย่ ว

73

นวััตกรรมการท่่องเที่�ย่ วโดยชุมุ ชน บทที่่� 3 การมีีส่ว่ นร่่วมของชุมุ ชนและการเตรียี ม
ความพร้้อมในการสร้้างนวัตั กรรมการท่อ่ งเที่่ย� วโดยชุมุ ชน

สรุปุ ท้้ายบท

1. ความหมายของการมีีส่่วนร่่วมของชุุมชนต่่อการจััดการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน คืือ กระบวนการ
ที่่�เปิิดโอกาสให้้คนในชุุมชนที่�่เป็็นผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีียกัับการจััดการการท่่องเที่่�ยว ได้้มีีส่่วนในการคิิดร่่วมกัันวางแผน
ตััดสิินใจ ดำำ�เนิินการ และมีีส่่วนร่่วมในการรัับประโยชน์์ทางการท่่องเที่่�ยวร่่วมกััน ซึ่�งการมีีส่่วนร่่วมนี้้�
เป็็นการสร้้างความเข้้มแข็็งให้้กัับคนในชุุมชนสำ�ำ หรัับการพััฒนาและส่่งเสริิมการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชนอย่่างยั่�งยืืน

2. องค์์ประกอบของการมีีส่่วนร่่วมของชุุมชนต่่อการจััดการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน มีี 5 องค์์ประกอบ
ได้้แก่่ ชุุมชนต้้องวางแผนและตััดสิินใจร่่วมกััน ร่่วมกัันดำำ�เนิินการตามแผน ได้้รัับประโยชน์์ร่่วมกััน สามารถติิดตาม
ประเมิินผลและตรวจสอบได้้ ดำ�ำ เนิินการภายใต้ค้ วามยั่�งยืนื ขึ้น� ของชุุมชน

3. ศัักยภาพชุุมชนในการพััฒนาการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน เป็็นความสามารถของชุุมชนในพััฒนา
การท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน โดยอาศััยปััจจััยที่�่มีีอยู่่�ภายในชุุมชนเป็็นสำำ�คััญ ได้้แก่่ ทรััพยากร ความสััมพัันธ์์ของคน
ภายในชุุมชนที่�่อยู่่�ภายใต้้ฐานของทรััพยากรการที่่�มีีอย่่างมีีอััตลัักษณ์์ และเกิิดความภาคภููมิิใจในชุุมชนของตนเอง
นำ�ำ ไปสู่่�การเกิิดมููลค่่าเศรษฐกิิจแก่่ชุุมชน ซึ่�งประกอบด้้วยศัักยภาพ ด้้านการบริิหารจััดการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน
ด้้านการจััดการเศรษฐกิิจ สัังคม และคุุณภาพชีีวิิตที่�่ดีี ด้้านการอนุุรัักษ์์ส่่งเสริิมมรดกทางวััฒนธรรมชุุมชน
ด้้านการจััดการทรััพยากรธรรมชาติิหรืือสิ่�งแวดล้้อมอย่่างเป็็นระบบยั่่�งยืืน ด้้านคุุณภาพการบริิการการ
ท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน

4. การเตรีียมความพร้้อมในการพััฒนาการท่่องเที่่�ยว ประกอบด้้วย 4 ระยะ 11 ขั้�นตอน ได้้แก่่
ระยะที่�่ 1 การค้้นหาศัักยภาพการท่่องเที่่�ยวของชุุมชนและการรวมกลุ่�มพััฒนาการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชน
ระยะที่�่ 2 การพััฒนาศัักยภาพแหล่่งท่่องเที่่�ยวและบุุคลากรด้้านการท่่องเที่่�ยว ระยะที่่� 3 ชุุมชนมีีความพร้้อม
ด้า้ นการท่่องเที่�ย่ ว ระยะที่�่ 4 ชุมุ ชนเชื่�อมโยงการตลาด

5. การสร้้างนวััตกรรมการจััดการการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชนอย่่างมีีส่่วนร่่วม จะต้้องบููรณาการและ
ประสานงานกัันระหว่่างหน่่วยงานทุุกฝ่่ายที่่�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีียกัับการจััดการการท่่องเที่่�ยว ไม่่ว่่าจะเป็็นคนในชุุมชน
หน่่วยงานท้้องถิ่่�น หน่่วยงานเอกชน หรืือแม้้แต่่สถาบัันการศึึกษา เพื่่�อสร้้างเครืือข่่ายความร่่วมมืือกัันอย่่างเข้้มแข็็ง
ซึ่�งการสร้้างนวััตกรรมการมีีส่่วนร่่วมในการจััดการการท่่องเที่�่ยวโดยชุุมชน สามารถสรุุปได้้ดัังต่่อไปนี้้�
1) ด้้านการบริิหารจััดการ 2) ด้้านผลิิตภััณฑ์์ทางการท่่องเที่่�ยว 3) ด้้านรัับผิิดชอบต่่อชุุมชนและสิ่�งแวดล้้อม
และ 4) ด้า้ นเครือื ข่า่ ย

74

บทที่่� 3 การมีีส่่วนร่่วมของชุมุ ชนและการเตรีียม นวัตั กรรมการท่อ่ งเที่�่ยวโดยชุุมชน
ความพร้้อมในการสร้า้ งนวัตั กรรมการท่อ่ งเที่่�ยวโดยชุมุ ชน

เอกสารอ้้างอิงิ

Goodwin, H. (2014). Cape Town Declaration on Responsible Tourism. International Conference
on Responsible Tourism in Destinations, (pp. 1-6). Cape Town.

Thetsane, R. M. (2019). Local Community Participation in Tourism Development: The Case of Katse
Villages in Lesotho. Athens Journal of Tourism, 6(2), 123-140.

Wiyaboon, S. (2019). Community Participation in Local Development Projects. The Journal of
The International Buddhist Studies College, 4(1), 18-24.

กระทรวงการท่่องเที่่�ยวและกีีฬา. (2550). คู่�่มืือเครืือข่า่ ยการท่อ่ งเที่ย�่ วโดยชุุมขน . กรุงุ เทพมหนคร .
การท่่องเที่ย�่ วแห่่งประเทศไทย. (2563). Thailand Rural Tourism Awards 2020 สุดุ ยอดหมู่่�บ้้านท่อ่ งเที่่�ยว

ชนบท. กรุุงเทพมหานคร: การท่อ่ งเที่่�ยวแห่่งประเทศไทย.
คณะกรรมการนโยบายการท่่องเที่ย่� วแห่ง่ ชาติ.ิ (2559). เกณฑ์์การพััฒนาการท่่องเที่ย่� วโดยชุมุ ชนของประเทศไทย.

กรุงุ เทพมหานคร .
ชััยรััตน์์ จุุสปาโล และคณะ. (2563). การเสริิมสร้้างศัักยภาพการจััดการการท่่องเที่�่ยวโดยชุมุ ชนอย่่างมีีส่่วนร่่วม

บนฐานอััตลัักษณ์์ผลิิตภััณฑ์์ท่่องเที่�่ยวในพื้�้นที่�่ลุ่�มน้ำำ�� ทะเลสาบสงขลา. สำำ�นัักงานคณะกรรมการส่่งเสริิม
วิทิ ยาศาสตร์์วิิจัยั และนวัตั กรรม.
ณััฐพร ดอกบุุญนาคและคณะ. (2556). การมีีส่่วนร่่วมของชุุมชนในการจััดการการท่่องเที่�่ยว กรณีีศึึกษาชุุมชน
ในตลาดร้้อยปีีสามชุุก อำ�ำ เภอสามชุุก จัังหวััดสุุพรรณบุุรีี. พระนครศรีีอยุุธยา: มหาวิิทยาลััย
เทคโนโลยีีราชมงคลสุุวรรณภููมิิ .
พระกิิตติิภพ สุุทนโต และคณะ. (2561). การมีีส่่วนร่่วมของประชานชนในการบริิหารงานขององค์์การบริิหาร
ส่่วนตำ�ำ บลนางาม อำำ�เภอมััญจาคีีรีี จังั หวัดั ขอนแก่่น. มหาวิทิ ยาลััยมหามงกุุฏราชวิทิ ยาลััย .
มณีีรััตน์์ ธีีรพัันธุ์�เสถีียร. (2562). ศัักยภาพของชุุมชนในการจััดการท่่องเที่�่ยวเชิิงเกษตร : กรณีีศึึกษาวิิสาหกิิจ
ชุุมชนเกษตร เพื่่�อสุุขภาพบ้้านปััถวีี อำำ�เภอมะขาม จัังหวััดจัันทบุุรีี . จัันทรบุุรีี: บริิหารธุุรกิิจมหาบััณฑิิต
สาขาวิชิ าการบริิหารธุุรกิจิ มหาวิทิ ยาลัยั ราชภััฏรำ�ำ ไพพรรณีี.
มธุุรส ปราบไพรีี. (2543). ศัักยภาพของชุุมชนในการจััดการแหล่่งท่่องเที่�่ยว : กรณีีชุุมชนไทยทรงดำ�ำ บ้้านเขาย้้อย
ตำ�ำ บลเขาย้อ้ ย อำำ�เภอเขาย้อ้ ย จังั หวัดั เพชรบุรุ ีี . เชีียงใหม่่: มหาวิทิ ยาลััยเชีียงใหม่.่
วรพงศ์์ ผููกภู่�และคณะ. (2562). การจััดการท่่องเที่่�ยวโดยชุุมชนบนฐานแนวคิิดเศรษฐกิิจพอเพีียงภายใต้้
พลวััตของการเปลี่�่ยนแปลง : บ้้านแม่่กำำ�ปอง ตำ�ำ บลห้้วยแก้้ว อำ�ำ เภอออน จัังหวััดเชีียงใหม่่. สำ�ำ นัักงาน
คณะกรรมการส่ง่ เสริมิ วิิทยาศาสตร์ว์ ิิจััยและนวัตั กรรม.

75

นวัตั กรรมการท่อ่ งเที่ย่� วโดยชุมุ ชน บทที่�่ 3 การมีีส่่วนร่่วมของชุมุ ชนและการเตรียี ม
ความพร้อ้ มในการสร้้างนวัตั กรรมการท่อ่ งเที่ย่� วโดยชุุมชน

วริิศรา สมเกีียรติิกุุลและกมล เรืืองเดช. (2561). การมีีส่่วนร่่วมในการจััดการสิ่�งแวดล้้อมของชุุมชน เพื่่�อพััฒนา
แหล่่งท่่องเที่่�ยว: กรณีีศึึกษา ชุุมชนตำ�ำ บลน้ำ�ำ� ผุุด อำ�ำ เภอละงูู จัังหวััดสตููล. วารสารวิิชาการมหาวิิทยาลััย
ราชภัฏั อุุตรดิติ ถ์,์ 13(1), 47-63.

สำ�ำ นัักงานพััฒนาชุุมชนจัังหวััดตรััง. (2561). เอกสารประกอบการประกวดชุุมชนท่่องเที่่�ยว OTOP นวััตวิิถีี
ประจำำ�ปีี 2561. จังั หวััดตรังั .

เสาวคนธ์์ เหลืืองทองคำำ�. (2557). การมีีส่่วนร่่วมของชุุมชนในการพััฒนาการท่่องเที่่�ยวแบบยั่่�งยืืน : กรณีีศึึกษา
อำ�ำ เภอปราณบุุรีี จัังหวััดประจวบคีีรีีขัันธ์์. พิิษณุุโลก: ศิิลปศาสตรมหาบััณฑิิต สาขาการจััดการโรงแรม
และการท่่องเที่�่ยว มหาวิทิ ยาลััยนเรศวร.

องค์์การบริิหารการพััฒนาพื้้�นที่�่พิิเศษเพื่่�อการท่่องเที่�่ยวอยางยั่�งยืืน. (2558). Community-based Tourism
ท่่องเที่�่ยวโดยชุมุ ชน. กรุุงเทพมหานคร: บริษิ ัทั โคคููน แอนด์์ โค จำ�ำ กัดั .

อรวรรณ เกิิดจัันทร์์. (2557). การมีีส่่วนร่่วมของชุุมชนท้้องถิ่�นในการจััดการการท่่องเที่�่ยวเชิิงนิิเวศป่่าชายเลน
คลองโดน จัังหวััดสมุุทรสงคราม. กรุุงเทพมหานคร: ศิิลปศาสตรมหาบััณฑิิต สาขากรจััดการการท่่องเที่่�ยว
คณะการท่่องเที่่�ยวและโรงแรม มหาวิิทยาลััยธุุรกิิจบัณั ฑิติ .

อรอนงค์์ เฉีียบแหลม. (2561). การพััฒนาเส้้นทางท่่องเที่�่ยวเชิิงนิิเวศในตำำ�บลขนาบนาก อำำ�เภอปากพนััง
จัังหวััดนครศรีีธรรมราช. กรุุงเทพมหานคร: สำ�ำ นัักงานคณะกรรมการส่่งเสริิมวิิทยาศาสตร์์ วิิจััยและ
นวััตกรรม.

76



นวัตกรรมการท่องเทย่ี วโดยชุมชน บทที่�่ 4 กลยุทุ ธ์์และการวางแผนการพัฒั นา
นวััตกรรมท่อ่ งเที่�ยวโดยชุุมชน

บทท่ี 4

กลยทุ ธแ์ ละการวางแผนการพฒั นา
นวัตกรรมท่องเท่ยี วโดยชมุ ชน

ในปัจจุบันการท่องเท่ียวโดยชุมชนมีความหลากหลายมากข้ึนกว่าอดีต
ทั้งพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์และบริการที่เปล่ียนแปลงไปจากเดิม
อย่างรวดเร็ว ท�ำให้เกิดการรองรับและปรับขนาดขนาดของตลาดการท่องเท่ียว
ชุมชนท่องเที่ยวสามารถสร้างสีสันและทางเลือกให้กับความต้องการของ
นักท่องเท่ียวในปัจจุบันได้ จากทุนของทรัพยากรเดิม อาทิ ท�ำเลที่ต้ัง ทุนทาง
วัฒนธรรม ทุนทางสังคม ขีดความสามารถในการแข่งขัน ทุนใหม่ ทุนที่สะสม
ประสบการณ์และความรู้ของปราชญ์ในชุมชน จนเกิดเป็นกลยุทธ์และการ
วางแผนพัฒนานวัตกรรมการท่องเท่ียวโดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบสารสนเทศ
ที่ติดต่อกับโลกภายนอกและปัจจัยเร่งที่ท�ำให้ชุมชนเป็นท่ีรู้จักในวงกว้างมาก
ยง่ิ ขน้ึ ซงึ่ ในบทนผี้ ู้เขยี นมวี ัตถุประสงค์การเรยี นรดู้ งั ต่อไปน ้ี
1. เพ่ือให้เข้าใจบริบทของกลยุทธ์และการวางแผนการพัฒนา
นวตั กรรมการทอ่ งเท่ียวโดยชุมชน
2. เพ่ือให้เข้าใจวงจรชีวิตของแหล่งท่องเท่ียวและกลยุทธ์ทางการตลาด
ท่องเทยี่ ว
3. เพ่ือให้ทราบถึงเครื่องมือในการช่วยก�ำหนดการพัฒนานวัตกรรม
การทอ่ งเทีย่ วโดยชุมชน
4. เพ่ือให้เข้าใจลักษณะของกลยุทธ์ในการพัฒนานวัตกรรมการ
ทอ่ งเทีย่ วโดยชุมชน
5. เพื่อให้ทราบและเข้าใจแนวทางการพัฒนายุทธศาสตร์การท่องเที่ยว
โดยชมุ ชน

78

บทที่่� 4 กลยุุทธ์แ์ ละการวางแผนการพััฒนา นวตั กรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชน
นวััตกรรมท่อ่ งเที่�ยวโดยชุุมชน

79

นวตั กรรมการทอ่ งเท่ียวโดยชุมชน บทที่ 4 กลยทุ ธแ์ ละการวางแผนการพฒั นา
นวัตกรรมทอ่ งเทยี่ วโดยชุมชน

1. ความหมายของกลยทุ ธแ์ ละการวางแผนพัฒนาการท่องเทีย่ วโดยชมุ ชน

(Mair, 2014) กล่าวว่า การวางแผนและพัฒนาการท่องเที่ยวนั้นเป็นแนวทางการด�ำเนินการเพ่ือก�ำหนด
นโยบายของการท่องเท่ียวโดยชุมชน เพ่ือเป็นการชี้แนะลู่ทางว่า การท่องเที่ยวในพื้นที่นั้นควรจะพัฒนาไปใน
ทิศทางไหนถึงจะเกิดประโยชน์กับชุมชนท่องเที่ยวสูงสุด ซ่ึงการวางแผนและพัฒนาการท่องเที่ยวน้ันจะต้องอาศัย
การมีส่วนร่วมของคนในชมุ ชน และเพื่อใหบ้ รรลกุ ารวางแผนและพฒั นาการท่องเทีย่ วโดยชมุ ชน จำ� เปน็ ตอ้ งเนน้
การเติบโตทางเศรษฐกจิ และการตลาดอยา่ งสูงสดุ
(อรลชั ชา ศิวรักษแ์ ละคณะ, 2559) ไดท้ �ำการสรปุ ประเด็นต่อการพัฒนาการทอ่ งเทีย่ วจากการประชุม
สหประชาชาติว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา ว่าการพัฒนาการท่องเท่ียวจ�ำเป็นจะต้องค�ำนึงถึง 3 ประเด็นหลัก
ได้แก่ 1) การอนรุ ักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม และทรัพยากรธรรมชาติ เป็นการอนรุ ักษ์ระบบนิเวศเพ่อื ความหลากหลายทาง
ชีวภาพในระดับท้องถิ่น และระดับโลก 2) การตลาดการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ เน้นการท่องเที่ยวเพื่อศึกษา
เรียนรู้ ลงมือปฏิบัติจริงในแหล่งท่องเท่ียว 3) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเน้นการพัฒนาแบบมีส่วนร่วมจาก
ประชาชน หรอื ชมุ ชนในท้องถิน่
(สมจินต์ ชาญกระบ่ี และนรินทร์ สังข์รักษา, 2560) กล่าวว่า การจัดท�ำกลยุทธ์และการวางแผนการ
ท่องเที่ยวโดยชุมชนน้ัน จ�ำเป็นจะต้องมีเป้าประสงค์และแนวทางด�ำเนินการไปสู่การใช้และปฏิบัติจริง ท้ังยังต้อง
มีกระบวนการตัดสินในอย่างมีส่วนร่วมของคนในชุมชนเพ่ือตอบสนองปัญหาและความต้องการในปัจจุบันของ
ชุมชนท่องเท่ียว ตลอดจนเกิดความร่วมมือกันในหน่วยงานต่างๆ ท่ีมีความเก่ียวข้องในอ�ำนาจและหน้าท่ีท่ีสามารถ
ขับเคลือ่ นนโยบายอย่างเป็นระบบ
(Srisorn, Chayanon, & Punluekdej, 2020) กล่าวว่า ยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเท่ียวอย่างย่ังยืน
ถูกพัฒนาจากวิสัยทัศน์ ซึ่งเป็นการน�ำเอากลยุทธ์ทางการตลาดของการท่องเท่ียวชุมชนมาพัฒนาร่วมกัน เพ่ือให้
เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแก่ชุมชนท่องเท่ียว การพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเท่ียว เป็นการพัฒนาเพ่ิมเสริมสร้างศักยภาพ
การทอ่ งเทยี่ ว การพฒั นาการจดั การการทอ่ งเที่ยว เปน็ กระบวนการทีจ่ ะชว่ ยให้การทอ่ งเทย่ี วเป็นระบบ

ดังน้ัน กลยุทธ์ และการวางแผนการพัฒนานวัตกรรมท่องเท่ียวโดยชุมชน เป็นการสร้างกรอบ
เป้าประสงค์การด�ำเนินการของการท่องเท่ียวโดยชุมชน เพื่อน�ำไปสู่การปฏิบัติจริง ตลอดจนเป็นการสร้าง
การรับรู้ทางการตลาดต่อนักท่องเท่ียว อันจะมีความส�ำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นโอกาสในการ
วางแผนการกระจายรายได้สู่ชุมชนในชนบท และการจ้างงานในท้องถิ่นแต่อย่างไรก็ตาม การท่องเท่ียว
ชุมชนต้องตอบสนองชุมชนด้วย

80

บทที่ 4 กลยุทธแ์ ละการวางแผนการพฒั นา นวตั กรรมการทอ่ งเทย่ี วโดยชมุ ชน
นวัตกรรมท่องเท่ยี วโดยชุมชน

เมื่อพูดถึงกลยุทธ์และการวางแผนการพัฒนาสินค้าใดก็ตามในอุตสาหกรรมต่างๆ ก็มักจะมีการกล่าวถึง
เรื่องของผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมน้ันๆ ซ่ึงก่อนจะออกมาเป็นแผนการพัฒนาหรือกลยุทธ์ จ�ำเป็นจะต้องทราบว่า
ผลิตภัณฑ์นั้นอยู่ข้ันใด ในทุกผลิตภัณฑ์มักจะมีวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle) เพ่ือวิเคราะห์
การเติบโตและสถานะปัจจุบันของผลิตภัณฑ์ เพ่ือจะสามารถวิเคราะห์กลยุทธ์และวางแผนที่แตกต่างกันในแต่ละ
ขนั้ ของวงจรชีวติ ซง่ึ แนวคิดดงั กล่าวในข้างต้นกจ็ ะมคี วามคล้ายคลงึ กบั การทอ่ งเทยี่ วเชน่ เดยี วกัน

2. วงจรชีวิตของแหลง่ ทอ่ งเที่ยว (Tourism Life Cycle)

วิวัฒนาการของแหล่งท่องเท่ียวมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งรูปแบบของ Butler เป็นวงจรที่อธิบายถึง
วิวัฒนาการหรือเส้นทางพัฒนา (path) ของแหล่งท่องเท่ียวได้อย่างชัดเจน ซึ่งเริ่มจากขั้นตอนการเจริญเติบโต
การชะลอตวั (Stagnation) และการถดถอย (decline) ของแหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว (ม่ิงสรรพ์ ขาวสะอาดและคณะ, 2556)
(ประภัสสร ผ่องใส, 2558) ซง่ึ สามารถสรุปขัน้ ตอนของวงจรชีวิตของแหลง่ ท่องเที่ยว 6 ขน้ั ตอน ดงั น ้ี

รูปภาพที่ 48 ภาพแสดงวงจรชวี ติ ของแหล่งท่องเที่ยว ดัดแปลงจาก (Butler, 1980)

81

นวตั กรรมการทอ่ งเทย่ี วโดยชุมชน บทท่ี 4 กลยทุ ธแ์ ละการวางแผนการพฒั นา
นวตั กรรมท่องเทย่ี วโดยชุมชน

1) ขั้นการส�ำรวจ (Exploration Stage) เป็นขั้นตอนการเร่ิมต้น ซ่ึงขั้นตอนนี้ชุมชนยังไม่มีสิ่งอ�ำนวย
ความสะดวกใดๆ ทจี่ ะให้บริการแกน่ ักทอ่ งเทย่ี ว หรือเรียกส้นั ๆ วา่ การค้นพบแหล่งใหม่
2) ช่วงเร่ิมต้น/เกี่ยวพัน (Involvement) สืบเนื่องจากการค้นพบแหล่งใหม่ เร่ิมมีนักท่องเที่ยวท่ีเป็น
กลุ่มเฉพาะรักการแสวงหา การเดินทางหรือสิ่งอ�ำนวยความสะดวกต่างๆ ยังไม่พร้อมเท่าที่ควร ตัวของชุมชนก็จะ
พยายามตอบสนองความต้องการของนกั ท่องเที่ยวด้วยการพฒั นาแหล่งตามความร้คู วามสามารถของตนเอง
3) ข้ันพัฒนา (Development Stage) ระยะท่ีเริ่มเป็นที่รู้จักของบุคคลภายนอก นักท่องเที่ยวจะเดินทาง
เข้ามายังแหล่งท่องเที่ยวเพ่ิมมากขึ้นจากเดิน เริ่มมีการสร้างสิ่งอ�ำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว และเกิด
ธุรกิจต่างๆ ที่เก่ียวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ให้การ
สนบั สนนุ ในด้านตา่ งๆ
4) ขั้นอิ่มตัว หรือ ข้ันตอนที่เป็นปึกแผ่น (Consolidation Stage) นักท่องเที่ยวมีจ�ำนวนลดน้อยลง
สภาวะของเศรษฐกิจในพื้นท่ีจะผูกติดกับการท่องเท่ียว โฆษณาแนวกว้างและพยายามท่ีจะขยายช่วงเวลาของฤดูกาล
ท่องเทยี่ วออกไป
5) ข้ันชะลอตัว (Stagnation Stage) เม่ือผ่านช่วงท่ีมีนักท่องเท่ียวเป็นจ�ำนวนมากเข้ามายังพ้ืนที่ เกิด
ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อแหล่งท่องเท่ียวในระยะยาว แหล่งท่องเที่ยวเร่ิมเสื่อมโทรม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้าน
สภาพแวดล้อม ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม นักท่องเที่ยวเร่ิมหันไปหาแหล่งท่องเที่ยวท่ีก�ำลังพัฒนา องค์กร
หนว่ ยงาน ทัง้ ภาครฐั และเอกชน ลดบทบาทในการพฒั นาพนื้ ท่ีเพอ่ื สง่ เสริมการท่องเทีย่ ว
6) ขั้นตกต่ําหรือขั้นการฟื้นตัว (Decline or Rejuvenating Stage) หรือ ระยะปรับปรุง จะเกิดข้ึนกับ
แหล่งท่องเที่ยวเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หากชุมชนใดที่อยู่ในภาวะตกต่�ำ แสดงให้เห็นว่า ส่ิงที่ก่อสร้างทั้งที่ดินและ
ทรัพย์สินน้ันจะมีโอกาสท่ีจะเปลี่ยนมือกันสูง ผู้ประกอบการมีการแข่งขันการลดราคาภายในตลาด หากชุมชนใด
เกดิ การฟื้นตวั ก็จะสามารถทำ� ใหแ้ หลง่ ท่องเที่ยวกลับมาเป็นทน่ี ิยมอีกครั้ง
ผู้เขียนขอยกกรณีศึกษาจากงานวิจัยที่เก่ียวข้องกับหัวข้อวงจรชีวิตของแหล่งท่องเท่ียว ซ่ึงเป็นกรณีศึกษา
เร่ืองความเปราะบางและความย่ังยืนของแหล่งท่องเที่ยวเพ่ือการพัฒนาของพ้ืนท่ีบริเวณชายฝั่งอ่าวบ้านดอนและ
เกาะนอกชายฝั่ง จังหวัดสุราษฎรธ์ านี
จากการศกึ ษาวิจยั ของ (ร่งุ รวี จิตภกั ดี และปวีณา กายพนั ธ,์ 2554) ไดท้ ำ� การศกึ ษาตามข้ันตอนข้างตน้
สามารถวิเคราะห์ความเปราะบางและความย่ังยืนโดยการจําแนกแหล่งท่องเท่ียวของพื้นท่ีอ่าวบ้านดอนและเกาะ
นอกชายฝง่ั ตามข้ันวงจรชีวติ ของแหล่งท่องเท่ียวได้ดงั น้ี
1) ข้ันค้นพบ (Introduction Tourism Area) เกาะพะลวย ต้ังอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของอ�ำเภอ
ดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี สภาพทั่วไปเป็นเขาหินปูนเกือบทั้งหมด เกาะพะลวยถือว่าเป็นเกาะอนุรักษ์พลังงาน
แห่งเดียวในประเทศไทย (Green Island) ท่ีมีการน�ำพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมใช้ในชุมชน ซึ่งถือว่าเป็น
เอกลักษณ์ท่ีสามารถดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นอกจากนี้แล้วยังมีกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
อ่นื ๆ อกี อาทิ อา่ วสองพนี่ อ้ ง การชมนกเงือก เปน็ ต้น

82

บทท่ี 4 กลยุทธแ์ ละการวางแผนการพัฒนา นวตั กรรมการท่องเทีย่ วโดยชมุ ชน
นวตั กรรมท่องเที่ยวโดยชุมชน

เกาะพะลวยเป็นพ้ืนท่ีที่เพิ่งเร่ิมการด�ำเนินการท่องเท่ียว และเป็นพื้นท่ีตัวอย่างของขั้นวงจรชีวิตของแหล่ง
ท่องเที่ยวมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะทรัพยากรทางทะเล ชุมชนยังไม่หนาแน่น แต่
มีจุดเปราะบาง คือมีชุมชนใหม่ที่อพยพมาจากเกาะสมุยเป็นส่วนมาก ชุมชนไม่ได้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และถือเป็น
แหล่งทอ่ งเที่ยวแหง่ ใหม่ของจงั หวัดสุราษฎร์ธานี
2) ชว่ งเรมิ่ ต้น/เก่ยี วพัน (Involvement) ชุมชนลีเลด็ อำ� เภอพนุ พิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นชุมชน
หน่ึงท่ีเป็นชุมชนที่มีการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศโดยชุมชน และท่ีได้รับความสนใจจากหน่วยงานในการส่งเสริม
การท่องเท่ียว ดังเช่น องค์กร CHARM REST ส�ำนักงานจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ด้วยความเป็นไปได้ของแหล่ง
ทอ่ งเท่ยี วท่หี ลากหลาย
ซ่ึงท�ำให้ชุมชนลีเล็ดอยู่ในขั้นเริ่มต้น (Involvement Stage) นี้กําลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว
และมีการหล่ังไหลมาของนักท่องเท่ียวแต่ก็มีจ�ำนวนไม่มากถ้าเทียบจากภาพรวมของพ้ืนที่ทั้งหมดของจังหวัด
สุราษฎร์ธานี และพื้นที่ดังกล่าวมีการพัฒนาสาธารณูปโภคในเบื้องต้นพ้ืนท่ีที่น่าสนใจและมีแนวโน้มท่ีจะก้าวไป
สู่ขนั้ ของการพฒั นา
แต่อย่างไรก็ตามส่ิงที่ต้องศึกษาต่อไปในพ้ืนท่ีคือ การพัฒนาการท่องเท่ียวในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิง
อนุรักษ์โดยชุมชน (Community Based Tourism) ซึ่งชุมชนต้องการให้การท่องเท่ียวเป็นเพียงรายได้เสริม
จากการวิเคราะห์แหล่งในขั้นน้ีชาวบ้านได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการท่องเที่ยวบ้างแล้ว เพียงแต่ขาดการ
สนบั สนุนทเ่ี พียงพอในการใหค้ วามรู้เกยี่ วกบั การบรหิ ารจัดการทอ่ งเทย่ี ว และการจัดการแหล่งทอ่ งเทย่ี ว
3) ขั้นพัฒนา เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฏร์ธานี เดิมทีเป็นเพียงเกาะท่ีมีชาวประมงอาศัยอยู่เพียงเท่านั้น
และเป็นพ้ืนท่ีท่ีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสถึง 14 ครั้ง พร้อมทั้งทรงจารึก
พระอักษร “จปร รศ.108” ไว้ท่นี ้�ำตกธารเสดจ็ ด้วยทรัพยากรธรรมชาติและเร่อื งเล่าความเป็นมาจากอดตี สง่ ผล
ท�ำให้เกาะพะงันเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเท่ียวท้ังชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้หลั่งไหลมาท่องเที่ยวในพื้นที่อย่าง
ไม่ขาดสาย (อิสระพงษ์ พลธานี และอมุ าพร บุญเพชรแกว้ , 2561)
จนท�ำให้หน่วยงานของภาครัฐและเอกชนในพ้ืนท่ีเล็งเห็นความส�ำคัญและโอกาสที่จะพัฒนาพ้ืนท่ีให้เป็น
แหล่งท่องเท่ียวท่ีส�ำคัญของจังหวัดสุราษฏร์ธานี อาทิ การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคท่ีมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น
การสรา้ งโรงแรมทีพ่ ักเพอื่ ตอบสนองความตอ้ งการของตลาดนกั ท่องเทีย่ วไดอ้ ย่างชัดเจน
4) ขั้นอิ่มตัว (Consolidation) ทั้งน้ีพื้นที่ท่ีเกิดผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่นมากท่ีสุดในพ้ืนที่ท่ีศึกษาวิจัย
อ่าวบ้านดอนและเกาะนอกชายฝั่ง คือ เกาะสมุย แหล่งท่องเที่ยวท่ีส�ำคัญในจังหวัดจังหวัดสุราษฏร์ธานีต้ังแต่
ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ตลาดนักท่องเที่ยวมีการเติบโตข้ึนเรื่อยๆ นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้ว เกาะสมุย
ยังมีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวท้ังด้านที่พัก การคมนาคมจนส่ง และการบริการท่ีเกี่ยวข้อง จนท�ำให้เกิด
การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพในบางแหลง่ บนเกาะ

83

นวัตกรรมการท่องเทยี่ วโดยชุมชน บทท่ี 4 กลยทุ ธ์และการวางแผนการพฒั นา
นวตั กรรมทอ่ งเท่ยี วโดยชมุ ชน

ผลกระทบจากการหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเท่ียวท�ำให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนท่องถ่ิน ในด้านความ
เพียงพอของน้�ำใช้ และพื้นที่ท�ำกินแหล่งท่องเที่ยวประกอบด้วย ต.อ่างทอง ต.มะเร็ต ต.บ่อผุด อ�ำเภอเกาะสมุย
โดยเฉพาะต�ำบลบ่อผุด ท่ีเป็นที่ตั้งของหาดเฉวงซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวท่ีก�ำลังอยู่ในสภาวะท่ีน่าสนใจ จากการ
สัมภาษณ์ชุมชน ผู้ประกอบการ และนักท่องเท่ียว มีแนวโน้มความไม่พึงพอใจในความแออัด เน่ืองจากนักท่องเท่ียว
เพมิ่ จ�ำนวนมากขนึ้ และการรองรบั ไดข้ องแหล่งเป็นจ�ำนวนมาก
ในด้านผู้ประกอบการในเกาะสมุยยังคงพอใจในผลประกอบการ ปัญหาท่ีส�ำคัญอันเกิดจากการเจริญเติบโต
ของการท่องเท่ียว คือ ปัญหาขยะ สิ่งก่อสร้างรบกวนทัศนียภาพ และปัญหาน้�ำท่วมในเกาะเน่ืองจากการสร้าง
โรงแรมท่ีพักปิดทางระบายน�้ำ อ�ำเภอเกาะสมุย เป็นพ้ืนที่ตัวอย่างของขั้นวงจรชีวิตของแหล่ง ท่องเที่ยวข้ันเป็น
ปึกแผ่นทางการท่องเที่ยว (Consolidation and Stagnation Tourism Area) อ�ำเภอเกาะสมุยมีการเปล่ียนแปลง
ของสภาพธรรมชาติในบริเวณแหล่งท่องเที่ยว เน่ืองจากการที่มีจ�ำนวนนักท่องเท่ียวเพ่ิมมากขึ้น จึงส่งผลให้เกิด
ปัญหาส่ิงแวดล้อม เศรษฐกจิ และสงั คมในแหลง่ ทอ่ งเท่ียว
ปัญหาดังกล่าวอาจมีแนวโน้มท�ำให้แหล่งท่องเที่ยวของอ�ำเภอเกาะสมุยไปสู่ขั้นตกต�่ำ (Decline) คงที่
(Continued stagnation) หรืออาจมีการเปล่ียนแปลงรูปแบบแหล่งท่องเที่ยวไปอย่างส้ินเชิง (Rejuvenation)
ลำ� ดบั วงจรชีวติ ของแหล่งทอ่ งเทีย่ ว ในพ้นื ทีอ่ ่าวบ้านดอน แสดงในรปู ภาพที่ 49

รูปภาพท่ี 49 ลำ�ดับวงจรชีวิตของแหลง่ ท่องเท่ยี ว ในพนื้ ที่อา่ วบา้ นดอน
ที่มา : (รงุ่ รวี จิตภักดี และปวีณา กายพันธ,์ 2554)

84

บทที่ 4 กลยทุ ธแ์ ละการวางแผนการพฒั นา นวตั กรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชน
นวตั กรรมท่องเทย่ี วโดยชมุ ชน

ดังน้ัน ก่อนท่ีจะมีการก�ำหนดกลยุทธ์ของการท่องเท่ียวชุมชน จ�ำเป็นต้องทราบและวิเคราะห์วงจรชีวิต
ของแหล่งท่องเท่ียว (Tourism Life Cycle) ซ่ึงวงจรชีวิตดังกล่าวจะสามารถบ่งชี้ได้ว่าการท่องเท่ียวโดยชุมชน
ในพ้ืนที่น้ันๆ ต้องมีกลยุทธ์ใดเพื่อให้เกิดคุณค่าและประโยชน์สูงสุดแก่คนในชุมชนและนักท่องเที่ยว อีกท้ังวงจรชีวิต
ของแหล่งท่องเที่ยวจะสามารถบ่งบอกถึงศักยภาพแหล่งท่องเที่ยว จ�ำนวนนักท่องเที่ยว สิ่งอํานวยความสะดวก
การมีสว่ นร่วมของชมุ ชน และผลกระทบด้านส่งิ แวดลอ้ มเนอ่ื งจากการทอ่ งเทย่ี วไดเ้ ช่นเดียวกนั
เม่ือผู้ศึกษาได้เข้าใจวงจรชีวิตของแหล่งท่องเที่ยวแล้วว่าแหล่งท่องเท่ียวที่ตนสนใจศึกษาน้ันอยู่ในวงจร
ขั้นใดของระบบวงจรชีวิตแหล่งท่องเท่ียวทั้งหมด ในล�ำดับถัดไปเป็นเนื้อหาที่จะเจาะลึกลงไปยังแก่นแท้ของการ
ด�ำเนินการท่องเท่ียว หาเหตุและผล ผ่านการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน โดยการใช้เครื่องมือในการพัฒนานวัตกรรม
ทอ่ งเทยี่ วโดยชุมชนรปู แบบทีแ่ ตกตา่ งไปจากเดิม ดังน้ี

3. เคร่อื งมือในการช่วยก�ำหนดการพฒั นาการท่องเที่ยวโดยชมุ ชน

โดยท่ัวไปแล้วเครื่องมือที่ใช้ส�ำหรับพัฒนาการท่องเท่ียวโดยชุมชน จะใช้เครื่องมือการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม
ทั่วไป (SWOT Analysis) แต่ในปัจจุบันยังมีเครื่องมืออ่ืนๆท่ีสามารถระบุตัวตนของชุมชนได้อย่างชัดเจนและเข้าถึง
ชุมชนอย่างแก่นแท้ ไดแ้ ก่ Appreciative Inquiry

รูปภาพท่ี 50 โมเดล 4D เครอ่ื งมอื ในการช่วยกำ�หนดการพัฒนาการท่องเทย่ี วโดยชุมชน
ดัดแปลงจาก (UXinsight, 2019)

85

นวตั กรรมการท่องเทย่ี วโดยชมุ ชน บทที่ 4 กลยุทธ์และการวางแผนการพฒั นา
นวตั กรรมทอ่ งเทย่ี วโดยชุมชน

องค์กรการท่องเที่ยวโดยชุมชนและการจัดการทรัพยากรที่ย่ังยืน (The Mountain Institute, 2000)
ได้ให้ค�ำนิยามทฤษฎี Appreciative Inquiry ไว้ว่า เป็นกระบวนการท่ีขับเคล่ือนของหน่วยเล็กๆในสังคม ซ่ึงเป็น
การสร้างค�ำถามในเชิงบวก เพ่ือค้นหาสาเหตุส�ำคัญที่ท�ำให้ระบบด�ำเนินไปอย่างดีท่ีสุด สามารถน�ำไปใช้ได้กับการ
สนทนากลุ่ม ไปจนถึงกลุ่มคนจ�ำนวนมากระดับองค์กร ซ่ึงเครื่องมือดังกล่าวประกอบด้วย ประกอบด้วย 4D ได้แก่
ข้ันการค้นพบ (Discovery) ข้ันการต้ังการจ�ำกัดความ (Dream) ข้ันการออกแบบ/การพัฒนา (Design) ข้ันตอน
การสง่ มอบ (Delivery) (UXinsight, 2019) (Cooperrider, 1986) ดงั รายละเอียดตอ่ ไปน้ ี
1. Discovery ข้ันการค้นพบ คือ ขั้นตอนแรกของการพัฒนา เป็นการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ
ท่ีเกิดขึ้นในชุมชน ผ่านการมีส่วนร่วมในการคิดวิเคราะห์ ซ่ึงวัตถุประสงค์หลักๆของข้ันตอนนี้คือ การระบุและ
ก�ำหนดบริบทของปัญหาว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรและต้องการที่จะพัฒนาอะไรในพ้ืนท่ีชุมชน ค้นหาปัญหาท่ีประสบ
ในชมุ ชน วิเคราะหป์ ัญหาที่เกดิ ข้ึน สงั เคราะห์ถึงปญั หาที่แทจ้ ริง
2. Dream/Definition ข้ันการต้ังการจ�ำกัดความ เมื่อเกิดการค้นหาปัญหาจากขั้นตอนของการค้นพบแล้ว
ข้ันตอนถัดมาคือการตั้งค�ำถามถึงความฝันของชุมชนในอุดมคติ เป็นการจินตนาการถึงภาพฝันในอนาคตที่จะ
บังเกิดข้ึนบนพื้นฐานทรัพยากรในชุมชน ทั้งในด้านของประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม ผ่านการ
มีส่วนรว่ มของชุมชนเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนา
3. Development : Start to Design ขั้นการออกแบบ/การพัฒนา โครงสร้างและกระบวนการ
เพ่ือให้ความฝันท่ีต้ังไว้ในข้ันตอนที่ 2 นั้นเกิดเป็นจริงได้ท้ังในเป้าหมายระยะส้ันและระยะยาว อีกทั้งเป็นการ
สร้างทางแก้ไข หรือแนวคิดสร้างต้นแบบทดสอบแนวคิด แล้วปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ได้ต้นแบบที่จะสามารถน�ำไปสู่
ผ้ใู ชง้ านไดอ้ ยา่ งตรงใจ
4. Delivery : Test and Release: ข้ันตอนน้ีคือการส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือบริการที่พัฒนาขึ้นมา
และสามารถแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้งานหรือลูกค้าได้ ไปให้ถึง เป็นขั้นที่ต้องลงมือท�ำตามข้อเสนอ มีการต้ังกฎเกณฑ์
พัฒนา
จากที่กล่าวมาในข้างต้น ท�ำให้ผู้อ่านมีความรู้เกี่ยวกับทฤษฎี 4D แต่เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการใช้มาก
ยิ่งข้ึน ผู้เขียนขอน�ำเสนองานวิจัยเรื่องแนวทางการยกระดับพืชเศรษฐกิจท้องถ่ินสู่การพัฒนาอาชีพชุมชนอย่างยั่งยืน:
“ตน้ จาก” ต�ำบลขนาบนาก อ�ำเภอปากพนัง จงั หวดั นครศรีธรรมราช ท่ีมกี ารใช้ 4D เป็นเครอ่ื งมอื ในการพฒั นา
ศกั ยภาพ ดังน้ี

86

บทที่ 4 กลยทุ ธแ์ ละการวางแผนการพัฒนา นวัตกรรมการทอ่ งเท่ียวโดยชมุ ชน
นวัตกรรมท่องเทีย่ วโดยชมุ ชน

(ร่งุ รวี จิตภกั ดี และคณะ, 2561) ทำ� การศกึ ษาวจิ ยั แนวทางยกระดบั พืชเศรษฐกจิ ทอ้ งถนิ่ สกู่ ารพัฒนาอาชีพ
ชุมชนอยา่ งย่งั ยนื “ตน้ จาก” ในตำ� บลขนาบนาก อำ� เภอปากพนัง จังหวดั นครศรีธรรมราช เป็นต�ำบลที่มีความ
อดุ มสมบรู ณ์ในด้านทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม มลี ักษณะเด่นคือระบบนเิ วศ 3 น้�ำ อันเป็นปัจจยั ทที่ ำ� ให้
ในพ้ืนทีม่ พี ืชพันธตุ์ น้ จากเป็นจำ� นวนมาก “ตน้ จาก” นบั วา่ เปน็ พืชเศรษฐกิจทสี่ �ำคัญของลุ่มน�ำ้ ปากพนัง โดยเฉพาะ
ตำ� บลขนาบนาก ถงึ แม้ว่าเคยมีผ้ศู ึกษาเกีย่ วกบั พืชเศรษฐกจิ ตน้ จาก ตำ� บลขนาบนาก จากการลงพืน้ ทีใ่ นปี 2559
นกั วิจยั พบว่า ต�ำบลขนาบนาก มีนกั เขียนชมุ ชน คือนายสุรินทร์ สุวรรณรตั น์ ที่ได้รวบรวมเรอ่ื งราวของต้นจาก
เขยี นเป็นหนังสอื ชือ่ ว่า “จากพืชมหัศจรรยท์ บ่ี ้านขนาบนาก” นายสรุ นิ ทร์ สวุ รรณรัตน์ ได้กล่าวถงึ คุณประโยชน์
ของต้นจาก วา่ สามารถนำ� มาแปรรปู เป็นผลติ ภัณฑ์ทหี่ ลากหลาย ไมว่ า่ จะเป็น ใบ ดอก ผล ก้าน และต้งั ใจจะมา
ช่วยน�ำชมุ ชนฟืน้ ฟูภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ของต้นจาก
จากนัน้ ได้มกี ารลงพน้ื ท่รี ะดมความคดิ เห็นในประเด็นสรา้ งความมั่นคงในอาชีพท�ำไร่จาก และค้นหาความ
ต้องการพัฒนา”จาก” ชมุ ชนเสนอ ปัญหา ความตอ้ งการ ผ่านเครอื่ งมือ 4D ในการยกระดบั พืชเศรษฐกิจสูก่ าร
เพ่ิมรายได้ของชุมชน และตอ้ งการตอ่ ยอดผลิตภณั ฑจ์ ากต้นจาก อันได้ใบจาก ทช่ี มุ ชนสว่ นใหญ่ละเลย สนใจแต่
เพยี งน้ำ� ตาลจาก แตใ่ บจาก นัน้ นบั ว่ามีคณุ ค่าทางเศรษฐกจิ เชน่ กันในการสร้างรายได้ และพัฒนาผลติ ภณั ฑ์เข้าสู่
ตลาดที่ตรงกับความต้องการของผปู้ ระกอบการ และผ้บู รโิ ภค
ชุมชนขนาบนากท่ีปลูกจาก มีศกั ยภาพทีจ่ ะพฒั นา ยกระดบั พืชจาก ท้ังดา้ นกายภาพภูมศิ าสตร์ และ
ด้านบุคลากร จากการจดั เวทีระดมความคดิ แนวทางการพฒั นาชมุ ชน โดยให้รปู แบบ 4 D คือ Discovery
Dream/Definition Development Delivery พบว่า
1. Discovery คือ การค้นพบ เสาะแสวงหาสง่ิ ท่ดี ีของชุมชนทเ่ี ช่อื มโยงกบั การประกอบอาชีพ เก่ยี วกบั
ต้นจาก จากการระดมความเหน็ และสมั ภาษณ์พบว่า
“มผี ูร้ ใู้ นชุมชนขนาบนาก ซึ่งประกอบอาชพี ท�ำจากมาเกือบ 30 ปี ทงั้ ทำ� นำ�้ ตาลจาก และจักสานใบจาก
คือตบั จาก ทีห่ าไดง้ า่ ยในชุมชน และท�ำรายได้ใหแ้ ก่ ตน และชุมชน” นายสรุ นิ ทร์ สุวรรณรตั น์ และ นายกวี จนั ทษี
ให้ขอ้ มูล
“ชาวบ้านสว่ นใหญท่ ม่ี ที ี่ดนิ เพื่อทำ� นา และทำ� ปา่ จาก จะไม่ยากจน แตอ่ าจจะมีชาวบ้านบางส่วน ร้อยละ 5
ทีอ่ าจจะมหี น้ีสินส่วนตวั จากการก้ยู ืมจากสถาบนั การเงินทถี่ กู กฎหมาย และผดิ กฎหมาย” นางสมศรี แกว้ ใส
ให้ขอ้ มลู
จะเห็นได้วา่ จากการคน้ หาตวั เองของชุมชนในทางบวก ชมุ ชนขนาบนากจะมีจดุ เดน่ ในเร่ืองทรัพยากร
ทางธรรมชาตทิ ส่ี มบรู ณ์ และสามารถน�ำมาเลย้ี งชีพได้
2. Dream/Definition คือ ฝนั ใหไ้ กล ในการต้ังคำ� ถามถงึ ความฝันของชมุ ชนในอดุ มคติ จากการระดม
ความคิดเหน็ และจดั ลำ� ดับฝันของชมุ ชน ในหลากหลายอาชีพทำ� จาก และ ชาวไรจ่ าก ให้มกี ารลงเขยี นฝัน 3 อยา่ ง
ท่ีต้องการพัฒนาชมุ ชนตน แล้วจดั กลุ่มรวบรวม พบวา่ สง่ิ ท่ชี าวไรจ่ าก สะทอ้ นออกมาจากความฝนั คือ ต้องการ
มีทร่ี วมสนิ ค้าท่ีผลิตจากตน้ จาก เชน่ น�้ำตาลจาก ติหมาจาก เครื่องจักสานจากในจาก และมีความต้องการถ่ายทอด
ภูมิปญั ญาจาก ต้นจาก ส่คู นทัว่ ไป ในระยะสัน้ นี้ ชมุ ชนคดิ ว่าหากมที ่ีรวมสนิ ค้า ทเี่ ป็นรปู ธรรม หากมสี ิง่ รวมตัว
เชงิ วตั ถุกอ่ น กจ็ ะสามารถดงึ ดูดให้กลมุ่ ชาวบา้ นมารวมตัว และเกิดการสรา้ งกลมุ่ ไดใ้ นอนาคต

87

นวัตกรรมการท่องเทยี่ วโดยชุมชน บทท่ี 4 กลยทุ ธแ์ ละการวางแผนการพฒั นา
นวัตกรรมทอ่ งเท่ียวโดยชมุ ชน

3. Development : Start to Design คือ การออกแบบ โครงสร้างและกระบวนการ ในการวิจัยครั้งนี้
ได้เชิญนักวิชาการมีร่วมออกแบบ จากความฝันท่ีชุมชนต้องการ เราต้องมีศูนย์รวมผลิตภัณฑ์จากชาวบ้านต�ำบล
ขนาบนาก ท�ำให้เมื่อผลิตสินค้าออกมาแล้ว จะได้มีท่ีรองรับสินค้า และย้อนไปที่ส่ิงชุมชนมีคือความอุดมสมบูรณ์
ของทรัพยากรในพื้นท่ี โดยเฉพาะ ต้นจาก ซ่ึงชุมชนได้รายได้หลักจากการท�ำน�้ำตาลจาก ท่ีมีกรรมวิธี ท่ีใช้เวลา
มากพอสมควร และซับซ้อน และชุมชนต้องการส่ิงใหม่ แต่มีอยู่แล้วหากเอาวัสดุดิบจากต้นจากที่เหลือใช้ เช่น
ก้าน ใบ มาใช้ประโยชนแ์ ละสรา้ งมูลค่า ให้มากย่งิ ขึน้
4. Delivery : Test and Release: ขั้นตอนนี้คือการส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือบริการที่พัฒนาขึ้นมา
จากการออกแบบดังกล่าวจึงเกิดการร่วมทดลองท�ำ เป็นการเพ่ิมมูลค่าตับจากท่ีมีวิธีท�ำที่เป็นภูมิปัญญาด้ังเดิม
น�ำไปสู่การถ่ายทอดเป็นลายลักษณ์อักษร และเพิ่มมูลค่าตับจากราคา 7 บาท มาใช้เป็นองค์ประกอบหลักของ
ขน�ำจาก การน�ำตับจากมามุงหลังคา ในบ้านขน�ำ 1 หลังซ่ึงมีพื้นที่กว้าง ยาว 3 × 5 ตารางเมตร บ้าน 1 หลัง
จะใช้ตบั จากประมาณ 320 ตับ เพือ่ มุงหลังคาบ้าน และกน้ั ฝาบา้ น รวมเป็นมูลคา่ ของตบั จากในราคาตบั ละ 7 บาท
คดิ เปน็ จ�ำนวนเงนิ 2,240 บาท ราคาประเมนิ ทั้งหลงั รวมค่าไม้ คา่ แรงวนั ละ 300 บาทตอ่ 4 คน หากวตั ถพุ ร้อม
ชุมชนพร้อมจะใช้เวลาในการท�ำไม่เกิน 2 สัปดาห์ คิดราคาใช้จ่ายเสร็จส้ินในการท�ำขน�ำหลังคาจากจากการร่วม
ทดลองสรา้ งบา้ นขนำ� จากโมเดล เป็นเงนิ ประมาณ 45,000 บาท ในการวิจยั คร้งั นี้ มีขอ้ เสนอแนะในชอ่ งทางการ
ตลาดของขน�ำจาก นอกจากต้ังขายในชุมชน ควรจะน�ำสู่ตลาดโดยการใช้ Social Network ในการขาย เพราะ
ลักษณะขน�ำท่ีท�ำจะเป็นรูปแบบน๊อคดาวน์ ส่งเป็นชิ้นส่วนไปประกอบได้ จะท�ำให้สามารถสร้างมูลค่าในระยะยาว
ตอ่ ไป
จากเนื้อหาทฤษฎีและกรณีศึกษาเร่ืองเครื่องมือที่ช่วยก�ำหนดการพัฒนาการท่องเท่ียวโดยชุมชนแล้วนั้น
ผู้เขียนหวังว่า ผู้อ่านจะเข้าใจหลักการและเห็นว่าการพัฒนานวัตกรรมการท่องเท่ียวโดยชุมชนมิใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หากแต่ต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชนในการวิเคราะห์ชุมชนของตนเองตามท่ีเห็นจริงและยอมรับ
ได้ว่าชุมชนของตนนั้นมีส่ิงใดที่เป็นต้นทุน ขาดตกบกพร่องเร่ืองใด อันเป็นปัจจัยท่ีท�ำให้ชุมชนยากที่จะประสบ
ความส�ำเร็จ ดังนั้นชุมชนจะต้องวางแผนหรือกลยุทธ์ท่ีจะท�ำให้การท่องเที่ยวโดยชุมชนของตนเกิดความยั่งยืน
ไมต่ กอยใู่ นขัน้ อิม่ ตัวหรือตกต�ำ่ เพราะอาจจะสง่ ผลกระทบเรอื่ งความเปน็ อยแู่ ละรายไดเ้ สรมิ ทช่ี มุ ชนควรจะได้รบั

88

บทที่ 4 กลยทุ ธ์และการวางแผนการพัฒนา นวตั กรรมการท่องเทีย่ วโดยชุมชน
นวตั กรรมท่องเท่ยี วโดยชุมชน

4. กลยทุ ธ์การพัฒนานวตั กรรมทางการตลาดของการทอ่ งเท่ียวโดยชุมชน

เปน็ ทท่ี ราบกันดีอย่แู ลว้ ว่าการทอ่ งเที่ยวเปน็ อตุ สาหกรรมท่ีแตกตา่ งจากอตุ สาหกรรมอ่ืนๆ ซง่ึ มลี กั ษณะ
เฉพาะตัวคือ สินคา้ และบริการไมส่ ามารถจบั ตอ้ งไดแ้ ละไม่มีตัวตน นกั ทอ่ งเทยี่ วใช้อารมณใ์ นการตดั สินใจชอ้ื สนิ ค้า
และบรกิ ารทางการท่องเทย่ี วมากกว่าสนิ ค้าอืน่ ๆ ในท้องตลาดไม่สามารถเก็บไวใ้ ช้ในวนั ถดั ไป และไมส่ ามารถจัดสง่
บรกิ ารการท่องเทยี่ วใหแ้ ก่นักทอ่ งเทย่ี ว (ลูกค้า) ได้ ซง่ึ นกั ท่องเทย่ี ว (ลกู ค้า) จะต้องเดนิ ทางมาชื้อบรกิ ารเอง
ด้วยลกั ษณะเฉพาะตัวท่กี ลา่ วในขา้ งตน้ ท�ำให้สามารถแบง่ เครอื่ งมือหรือกลยุทธท์ างการตลาดทอ่ งเท่ยี วท่ีสามารถ
ควบคมุ หรือพฒั นาได้ เพือ่ การท่องเทย่ี วโดยชุมชน ได้แก่ (ณัฏฐินี ทองดี และกนก บญุ ศกั ด์,ิ 2560) (สมชาย
ชมภูน้อย, 2560) (ดิษวัชร ลอแต และคณะ, 2561)
1) กลยุทธผ์ ลิตภัณฑ์ (Product) ผลติ ภณั ฑ์ทางการท่องเที่ยวแตกตา่ งจากผลิตภัณฑต์ วั อน่ื ๆ ในธรุ กิจ
ซง่ึ ผลิตภณั ฑท์ างการทอ่ งเท่ยี วน้ันไม่สามารถจบั ต้องได้ก่อนตดั สนิ ใจชอ้ื ซ่งึ การตดั สินใจช้ือน้นั อย่ทู ่คี วามคาดหวงั
ของลกู ค้าหรือนักทอ่ งเท่ียว ซึ่งผลติ ภัณฑท์ างการทอ่ งเท่ยี วไม่ได้ออกมาในรปู แบบของสนิ คา้ ท่เี ปน็ ลักษณะของการ
จบั ตอ้ งได้ แต่เปน็ ในลกั ษณะของการให้บริการแก่นักท่องเทยี่ วเพื่อใหเ้ กิดความพึงพอใจอย่างสงู สุดของนกั ท่องเท่ียว
เกิดความแปลกใหม่ของผลติ ภัณฑแ์ ละมีความสร้างสรรค์ สามารถดึงดูดใจนกั ทอ่ งเที่ยว ไดแ้ ก่ กิจกรรมการทอ่ งเที่ยว
โปรแกรมทางการท่องเทย่ี วเฉพาะกลมุ่ สงิ่ อ�ำนวยความสะดวกระหว่างการท่องเท่ยี ว การดูแลในระหว่างการ
ทอ่ งเท่ียว อาหารจากวัตถดุ บิ ในชมุ ชนทน่ี �ำมารังสรรค์โดยการสร้างมูลคา่ เพ่มิ เปน็ ต้น
2) กลยุทธร์ าคา (Price) คุณคา่ ของผลิตภัณฑก์ ิจกรรมการทอ่ งเทย่ี วในรูปตัวเงิน นักทอ่ งเทีย่ วจะ
เปรยี บเทียบระหว่างคุณค่าที่ได้รับรู้ (Perceived Value) ของผลติ ภณั ฑท์ างการท่องเที่ยว แตก่ ารก�ำหนดราคา
ของสนิ คา้ ทางการทอ่ งเที่ยวนัน้ ค่อนข้างทจ่ี ะกำ� หนดล�ำบาก เน่ืองจากจำ� เป็นจะตอ้ งค�ำนงึ ถึงชุมชนเปน็ ผ้ใู หบ้ รกิ าร
(Supply side) หรอื เจา้ ของทรพั ยากรท่ีเป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปัญญา สภาพแวดล้อม และธรรมชาตทิ ี่อยู่
ในชุมชน โดยอาศัยลกู คา้ หรือนกั ท่องเทย่ี วผู้มาเยอื น (Demand side) โดยการก�ำนหดราคาข้นึ อยู่กับปจั จัย
ดังต่อไปนี้ ฤดกู าล (Seasonal) มาตรฐานในการบริการ (Service Standard) ทิศทางและแนวโน้มความนยิ ม
(Trend) และลกั ษณะของตวั สนิ ค้าทางการท่องเทีย่ ว
3) กลยทุ ธ์ช่องการจำ� หน่าย (Place) สินคา้ และบรกิ ารทางการท่องเที่ยวน้ัน สามารถเปล่ียนแปลง
ตามกระแสนิยมของโลกปัจจุบนั ได้ตลอดเวลา โดยไมม่ กี ฎตายตัว ซ่ึงขึ้นอยูก่ บั การพดู คยุ กับภายในชุมชน และ
การให้ความช่วยเหลอื จากหน่วยงานภายนอกทด่ี ูแลเรือ่ งของการตลาดการท่องเท่ยี วโดยชมุ ชน แต่อยา่ งไรก็ได้
ชอ่ งทางการจดั จ�ำหนา่ ยของการทอ่ งเท่ยี วโดยชุมชนสามารถแบง่ เปน็ กล่มใหญ่ๆ ดงั ต่อไปน้ี
3.1. ชมุ ชนจัดจำ� หนา่ ยสินค้าและบริการทางการทอ่ งเที่ยวโดยตรงใหก้ ับลูกค้า (Direct Sale)
หรือ (B To C –Business to Customer) ช่องทางนี้เป็นช่องทางทีช่ มุ ชนทอ่ งเทย่ี วนยิ มใช้มากทส่ี ุด เนือ่ งจาก
ไมม่ ีคา่ ใชจ้ า่ ยใดเพ่ิมเติม แตอ่ าจจะมขี อ้ เสยี คือไมส่ ามารถขายได้อยา่ งทวั่ ถึง อาทิ จัดจำ� หนา่ ยผ่านช่องทางโซเซยี ล
มเี ดยี การพูดปากต่อปาก การรบั โทรศัพท์ หรือการเดนิ เขา้ มาตดิ ต่อในชมุ ชน

89

นวัตกรรมการท่องเทย่ี วโดยชุมชน บทที่ 4 กลยทุ ธแ์ ละการวางแผนการพฒั นา
นวตั กรรมทอ่ งเทีย่ วโดยชุมชน

3.2. ชุมชนจัดจ�ำหนา่ ยสนิ คา้ และบรกิ ารผ่านคนกลาง (B To B – Business to Business)
คนกลางในทีน่ ีห้ มายถึงบรษิ ัททวั ร์ที่เปน็ ลกั ษณะบรษิ ทั ที่มงุ่ เนน้ การท่องเทย่ี วลกั ษณะเฉพาะ ซ่ึงการจดั จ�ำหนา่ ย
ในชอ่ งทางนีส้ ามารถทำ� ให้นกั ท่องเทีย่ วรู้จกั ตัวตนของชมุ ชนมากยิง่ ข้ึน
4) กลยทุ ธก์ ารสง่ เสริมการตลาด (Promotion) หรือการส่งเสริมการขายถอื ว่าเป็นกลยุทธท์ ส่ี �ำคัญ
ในจัดการการตลาดสนิ ค้าทางด้านการทอ่ งเทีย่ ว เน่ืองจากการส่งเสรมิ การตลาดนี้ เปน็ การตดิ ตอ่ สอื่ สารข้อมูล
ระหวา่ งชุมชนทจี่ ัดการท่องเทยี่ วกบั นกั ท่องเทีย่ ว เพือ่ สร้างกระตนุ้ ทศั นคติ การรบั รู้ และการตัดสนิ ใจเดนิ ทาง
ท่องเที่ยว โดยเปน็ สว่ นประสมในการติดต่อสอ่ื สาร (Communication Mix) เป็นการติดตอ่ ส่ือสารด้วยการใชบ้ ุคคล
ในการขาย (Personal Selling) และการติดตอ่ สือ่ สารโดยไมใ่ ชบ้ ุคคล (Non Personal Selling) มีเคร่ืองมอื
ในการติดต่อส่อื สารมีหลากหลายประเภท หรือ อาจจะเลอื กใช้การส่ือสารแบบประสมประสานกัน (Integrated
Marketing Communication)
5) กลยุทธบ์ คุ ลากร (People) บคุ ลากรในท่ีนี้ คอื สมาชกิ ในชมุ ชนทีเ่ ป็นตัวกลางในการเช่ือมกันระหว่าง
นักท่องเทีย่ วและทรัพยากรการท่องเท่ียวในชุมชนนนั้ ๆ ซงึ่ บุคคลากรที่เป็นตวั กลางน้ันจะตอ้ งเป็นผูท้ ไี่ ดร้ ับการ
คดั เลอื ก อบรมในการตอ้ นรับและดูแลนกั ท่องเท่ยี ว เชน่ การอบรมการเปน็ เจา้ บ้านท่ีดี เพ่ือตอบสนองความ
คาดหวงั ของนักท่องเที่ยว (ลูกค้า) นอกจากนี้แลว้ บุคลากรในท่ีนย้ี งั รวมไปถึงผนู้ �ำชุมชน ปราชญ์ชมุ ชน เป็นตน้
บุคลากรจงึ มีความสำ� คญั ทีต่ อ้ งพัฒนาอย่างต่อเน่ืองท้งั ในสว่ นทเี่ กยี่ วข้องโดยตรงกบั การจดั การทอ่ งเทย่ี ว และ
เกีย่ วข้องทางออ้ มซงึ่ นักท่องเทีย่ วจะตอ้ งพบเจอเมื่อเดนิ ทางเขา้ ไปในชมุ ชน ทุกคนในชุมชนตอ้ งยนิ ดแี ละเตม็ ใจ
ทจ่ี ะต้อนรับนกั ท่องเทีย่ ว พร้อมท่จี ะสง่ ตอ่ ประสบการณ์ทีม่ คี ณุ ค่าใหก้ บั นักทอ่ งเท่ยี ว
6) กลยุทธ์กระบวนการ (Process) เป็นขัน้ ตอนในการจดั การท่องเทย่ี ว ระเบียบวิธีการในการบริการ
ทีน่ ำ� เสนอใหก้ ับผใู้ ช้บรกิ ารเพ่อื มอบการบรกิ ารอย่างถกู ตอ้ ง ซ่ึงกระบวนการบรกิ ารการทอ่ งเทย่ี วนัน้ ในมมุ มอง
ของนักทอ่ งเท่ียวตอ้ งเปน็ กระบวนการท่ีไมย่ ่งุ ยากและไม่ซับซ้อนตอ่ การใชบ้ รกิ าร มคี วามรวดเร็ว ถกู ต้องและ
แม่นยำ� ตงั้ แตค่ รัง้ แรกที่สัมผสั กบั ชมุ ชน
7) กลยทุ ธส์ ภาพทางกายภาพ (Physical Evidence) สิง่ ทนี่ กั ทอ่ งเทีย่ วจะสามารถสัมผสั ได้ด้วยการ
น�ำเสนอภาพลกั ษณท์ ีด่ ีของสถานบรกิ าร อย่างเปน็ รปู ธรรม และแสดงให้เห็นถึงความเปน็ อตั ลักษณ์ของชมุ ชน
จากการตกแต่งและใสส่ ีสนั อาทิ สถานทจี่ อดในในชุมชน หอ้ งน�ำ้ สาธารณะในชมุ ชน รา้ นอาหารในชมุ ชนป้าย
บอกทางในชมุ ชน แผนทเี่ สน้ ทางการท่องเทีย่ วในชมุ ชน ซึง่ ภมู ิทศั นห์ รือสภาพทางกายภาพนี้จะสามารถสรา้ งมลู คา่
ใหก้ ับชุมชนเพ่มิ มากขึ้น และนักท่องเที่ยวเกดิ ความพึงพอใจท่ีแตกต่างไปจากสถานทที่ อ่ งเท่ียวอน่ื ๆ

ดังนั้น การศึกษาเครื่องมือและกลยุทธ์ทางการตลาดของการท่องเท่ียวโดยชุมชนนั้น นับว่ามีความส�ำคัญ
อย่างย่ิง เนื่องจากหากชุมชนท่องเที่ยวมีการด�ำเนินการวางแผนการตลาดดีก็จะสามารถสร้างคุณค่า (Value
Creation) ให้กับชุมชนของตนเอง อีกท้ังจะสามารถก�ำหนดคุณลักษณะ (Attributes) ให้กับทรัพยากรการ
ท่องเที่ยวในชุมชน ให้เกิดจุดเด่นที่จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ อีกทั้งท�ำให้นักท่องเที่ยวเกิดความรู้สึกคุ้มค่า
กับค่าใช้จ่ายท่ีได้เสียใจ เม่ือนักท่องเท่ียวเกิดความประทับใจ นักท่องเที่ยวก็จะเกิดกระบวนการบอกต่อและ
เกิดการเทีย่ วซ�ำ้ กอ่ ใหเ้ กิดคุณประโยชน์ต่างๆ แก่ชมุ ชนทอ่ งเทย่ี วมากยง่ิ ข้ึน

90

บทท่ี 4 กลยทุ ธ์และการวางแผนการพฒั นา นวตั กรรมการท่องเทยี่ วโดยชุมชน
นวัตกรรมทอ่ งเทยี่ วโดยชมุ ชน

5. การวางกลยทุ ธ์ในการพัฒนานวตั กรรมการทอ่ งเทย่ี วโดยชมุ ชน

หลังจากที่ได้ท�ำการศึกษากลยุทธ์ทางการตลาดเละเครื่องมือการพัฒนาการท่องเที่ยวแล้ว การวางกลยุทธ์
ท่ีถูกต้องและสอดคล้องกับบริบทของชุมชนก็เป็นส่ิงส�ำคัญด้วยเช่นเดียวกัน ท้ังยังต้องเป็นการตอบสนองความ
ต้องการของกลุ่มเป้าหมายและตลาดเป้าหมายแล้ว เพื่อขับเคล่ือนไปข้างหน้า มองเห็นอนาคตได้อย่างถูกต้อง
รักษาระดับของการบริหารและฐานของลูกค้า การวางแผนกลยุทธ์เป็นกระบวนการกำ� หนดกลยุทธ์และการน�ำ
กลยุทธ์ไปใช้ การก�ำหนดวัตถุประสงค์ขององค์การ การเลือกกลยุทธ์ท่ีจะท�ำให้องค์การสามารถไปสู่วัตถุประสงค์
น้ันได้ ซ่ึงการก�ำหนดแนวทางการวางกลยุทธ์ในการพัฒนาการท่องเที่ยว จ�ำเป็นจะต้องก�ำหนดค�ำถามกับชุมชน
ท่องเทย่ี วเพ่อื หาคำ� ตอบสูก่ ารพฒั นาเปน็ ลำ� ดบั ขั้นตอนต่อไปน้ี
1. สถานการณ์การท่องเท่ียวชุมชนตอนน้ีก้าวไปในทิศทาง/รูปแบบไหน (ใช้วิธีการเทียบในวงจรชีวิตของ
สินคา้ ทอ่ งเท่ยี ว)
2. สภาพแวดล้อมทั่วไปของชุมชนท่องเที่ยวเป็นอย่างไรบ้าง (SWOT Analysis / การวิเคราะห์
Appreciative Inquiry หรอื 4 D )
3. ชุมชนท่องเท่ียวมีแนวทางอย่างไรบ้างที่จะก้าวไปถึงจุดท่ีคาดหวังไว้ (รางวัลหรือมาตรฐานต่าง)
เม่ือท�ำการต้ังค�ำถามเพื่อค้นหาค�ำตอบแล้ว ล�ำดับต่อไปเป็นกระบวนการวางแผนกลยุทธ์/ยุทธศาสตร์ในการ
พฒั นาการท่องเท่ยี วโดยชุมชน ซ่งึ มที งั้ หมด 4 ขน้ั ตอน (ศริ วิ ชิ ดโนทยั , 2558) (พจนา สวนศร,ี 2546) ดงั ต่อไปน้ี

ขนั้ ท่ี 1 ชมุ ชนกำ� หนดวิสัยทศั น ์ เปน็ การตงั้ ค�ำถามวา่ “ในอนาคตอกี 5 ปี 10 ปี ขา้ งหนา้ คนในชมุ ชน
อยากเห็นชุมชนเป็นอย่างไร” ชุมชนจะต้องวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันของชุมชน เพื่อก�ำหนดจุดยืนของตนเอง
ในการด�ำเนินการท่องเที่ยวโดยชุมชน ซ่ึงวิสัยทัศน์นี้เปรียบเสมือนเส้นทางที่บอกว่าชุมชนจะต้องเดินไปเส้นทางไหน
โดยวิสยั ทศั น์ท่ีดจี ะต้อง
เป็นประโยคสั้นๆ เข้าใจและจดจ�ำไดง้ า่ ย
สามารถวดั ผลความสำ� เรจ็ ไดใ้ นอนาคตอันใกล้ (1-5 ปี)
สรา้ งแรงบรรดาลใจ ก�ำลงั ใจแก่คนในชมุ ชน
ขั้นท่ี 2 ชุมชนก�ำหนดพันธกิจ เป็นการก�ำหนดขอบเขตการด�ำเนินงานการท่องเท่ียวของชุมชน เพ่ือให้
บรรลุและสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ และเป็นแนวทางการพัฒนาการท่องเท่ียวว่าการท่องเท่ียวควรเป็นรูปแบบใด
จึงจะเหมาะสมกับชมุ ชน และเกิดประโยชน์กบั ชมุ ชนมากทสี่ ดุ
ขั้นที่ 3 ก�ำหนดเป้าประสงค์หรือจุดมุ่งหมาย ก�ำหนดทิศทางท่ีจะน�ำไปสู่ความส�ำเร็จ โดยมีผลลัพธ์ท่ี
สามารถวัดได้ในเชิงประจักษ์ โดยจะต้องน�ำเอาพันธกิจมาพิจารณาว่า หากชุมชนจะด�ำเนินการใดๆ ให้ประสบ
ความส�ำเร็จนั้นชมุ ชนจะต้องได้รบั ประโยชน์อยา่ งเทา่ เทียมกัน โดยเป้าประสงค์ทห่ี รอื จะต้อง
เปน็ เป้าประสงค์ทม่ี ีความเช่อื มโยงกบั วสิ ัยทัศนห์ รือพันธกจิ
เป็นการเขยี นระบุเปน็ ข้อๆอย่างชัดเจนว่าท�ำเพ่อื อะไร

91

นวัตกรรมการท่องเทีย่ วโดยชมุ ชน บทที่ 4 กลยทุ ธแ์ ละการวางแผนการพัฒนา
นวัตกรรมทอ่ งเท่ยี วโดยชุมชน

ขน้ั ท่ี 4 การก�ำหนดกลยทุ ธ/ยทุ ธศาสตร์ เป็นการน�ำเอาเปา้ ประสงค์หรือจดุ มุ่งหมายมาตัง้ คำ� ถามว่า
“ท�ำอย่างไร และทำ� ไดโ้ ดยวธิ กี ารใด” ออกมาในรปู แบบของชดุ กจิ กรรมการพัฒนาดา้ นต่างๆ เพื่อน�ำมาเปล่ียนแปลง
ชุมชนท่องเท่ียวใหส้ อดคลอ้ งกบั วิสัยทศั น์ท่ตี ้ังไว้ โดยมีการนำ� เอาสภาพแวดลอ้ มของชมุ ชนท่องเท่ยี ว นวัตกรรม
และกระแสความนยิ มตา่ งๆ เขา้ มามสี ่วนช่วยในการกำ� หนดกลยทุ ธ์ยุทธศาสตร์

รปู ภาพท่ี 51 พรี ะมิดการวางกลยทุ ธ์ในการพัฒนาการทอ่ งเทีย่ วชุมชน
ในบทน้ีผู้เขียนมีกรณีศึกษาของงานวิจัยท่ีเคยท�ำการศึกษาและน่าสนใจ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจ
แก่ผอู้ า่ นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น จากงานวจิ ัยของ (รุ่งรวี จติ ภักดี และประเสริฐ ชญั จกุ รณ,์ 2553) เรือ่ งการจดั การแผนการ
ทอ่ งเทย่ี วเชงิ นเิ วศโดยชุมชนลีเล็ด อ.พุนพนิ จ.สุราษฎรธ์ านี ซ่งึ มีรายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปน้ี
ชุมชนลีเล็ด ตั้งอยู่ในอ�ำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นชุมชนหน่ึงที่มีการจัดการท่องเท่ียวเชิงนิเวศ
โดยชุมชน และได้รับความสนใจจากหน่วยงานในการส่งเสริมการท่องเท่ียว ดังเช่น องค์กร CHARM REST
ส�ำนักงานจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ด้วยความเป็นไปได้ของแหล่งท่องเท่ียวท่ีหลากหลาย และการรวมกลุ่มอย่างมี
ส่วนร่วมของชุมชนโดยมีผู้น�ำท่ีสนับสนุนการจัดการท่องเท่ียว อันจะน�ำไปสู่การตั้งวิสัยทัศน์และวัตถุประสงค์
เพอ่ื กำ� หนดเป็นยุทธศาสตรข์ องชมุ ชนไดอ้ ย่างเป็นระบบ
วิสัยทัศน์ของชุมชนลีเล็ด ชาวลีเล็ดมีความปลอดภัยในชีวิต มีการศึกษาเศรษฐกิจสมศักด์ิศรี มีครอบครัว
มติ รสหายอุ่นไมตรี มสี ทิ ธิเสรสี ่งิ แวดลอ้ มพรอ้ มสมดลุ
วัตถุประสงค์การท่องเที่ยวของชุมชนลีเล็ด คือ ด�ำเนินการโดยไม่คาดหวังถึงรายได้และผลก�ำไรท่ีจะได้รับ
ด�ำเนนิ เพือ่ เป็นเครอื่ งมือในในการจัดการทรัพยากรชายฝ่ัง และดำ� เนนิ เพอื่ การพัฒนาทรพั ยากรบคุ คล

92

บทท่ี 4 กลยุทธ์และการวางแผนการพฒั นา นวตั กรรมการท่องเทยี่ วโดยชมุ ชน
นวตั กรรมทอ่ งเทย่ี วโดยชุมชน

จากวิสัยทัศน์และวัตถุประสงค์การท่องเที่ยวของชุมชนลีเล็ดท�ำให้เกิดยุทธศาสตร์ภายใต้วิสัยทัศน์และ
วัตถุประสงค์ดังกล่าว ดังต่อไปนี้ 1) ด้านการท่องเที่ยว มุ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มีความยั่งยืน มีการบริการ
ประทับใจ สามารถรองรับการมีงานท�ำ เป็นรายได้เสริมด้วยกระบวนการการมีส่วนร่วมจากชุมชน และเอ้ือประโยชน์
ต่อธุรกิจชุมชน อันจะส่งผลให้คนมีรายได้เสริมจากการท่องเที่ยว 2) ด้านส่ิงแวดล้อม จัดท�ำแผนฟื้นฟูอนุรักษ์
สิ่งแวดล้อมอย่างย่ังยืน โดยเฉพาะด้านขยะ มุ่งเน้นให้มีการจัดการแบบครบวงจร ด้วยกลไกภายในชุมชนอย่าง
เยาวชน โรงเรียน และคนในชุมชน ส่งเสริมให้คนในชุมชนหวงแหนพื้นท่ีของตนเอง นอกจากน้ีแล้วในด้าน
สิ่งแวดล้อมมุ่งเน้นที่ป่าชายเลน อันเป็นทรัพยากรหลักของชุมชนลีเล็ด ส่งเสริมและจัดการภายใต้ความร่วมมือ
ขององค์การส่วนปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน เร่ืองการแบ่งแนวเขตการใช้สอยพื้นท่ี นอกจากน้ีแล้วยังมียุทธศาสตร์
ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ความเปน็ อยู่ สรา้ งอาชีพท่ีย่งั ยืน ใหท้ รพั ยากรท่มี อี ย่ใู ห้เกดิ ประโยชน์อยา่ งสูงสดุ

กล่าวโดยสรุปการวางกลยุทธ์ในการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นเร่ืองของการเรียนรู้และตั้งเป้าหมาย
ร่วมของคนในชุมชนท้องถิ่น เพราะหากชุมชนไม่มีส่วนร่วมและหวังพ่ึงจากหน่วยงานภายนอก จะท�ำให้ชุมชน
ยากที่จะประสบความสำ� เร็จ

6. การวางแผนการพฒั นานวตั กรรมการท่องเทีย่ วโดยชมุ ชน

การท่องเท่ียวโดยชุมชน ถือว่าเป็นเคร่ืองมือในการพัฒนาคนและชุมชน สร้างความภาคภูมิใจ สร้างการ
รับรู้ให้แก่สังคมภายนอก ตลอดจนพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชน ในเรื่องของการบริหารจัดการส่ือสารและ
ท�ำงานเป็นทีม ซึ่งในปัจจุบันนั้นการท่องเที่ยวโดยชุมชนในประเทศไทยเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้นจากอดีต
ท�ำให้เกิดชุมชนท่องเท่ียวน้องใหม่ และบางชุมชนก็ถึงสภาวะอิ่มตัว ซึ่งจะสามารถเห็นได้ว่า กิจกรรมการการ
ท่องเที่ยว และโปรแกรมการท่องเท่ียว ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่นัก ดังนั้นหากมีการวางแผนการพัฒนานวัตกรรม
การท่องเท่ียวโดยชุมชน ก็จะเป็นเคร่ืองมือที่จะช่วยให้ชุมชนท่องเที่ยวอยู่รอด และเติบโตเป็นรายได้เสริมให้กับ
คนในชุมชนต่อไป โดยการวางแผนพัฒนานวัตกรรมการท่องเท่ียว ดังแสดงในรูปภาพท่ี 52 และมีรายละเอียด
ดงั ตอ่ ไปนี้

รปู ภาพที่ 52 เป็นภาพแสดงโมเดลของการวางแผนการพฒั นานวตั กรรมการทอ่ งเทย่ี วโดยชุมชน
ดดั แปลงจาก (Mair, 2014)

93

นวัตกรรมการท่องเที่ยวโดยชมุ ชน บทที่ 4 กลยุทธ์และการวางแผนการพัฒนา
นวตั กรรมทอ่ งเที่ยวโดยชุมชน

จากภาพท่ี 52 โมเดลน้เี ปน็ โมเดลแสดงกระบวนการวางแผนการพัฒนานวัตกรรมการท่องเทีย่ วโดยชุมชน
แสดงให้เห็นว่าผู้น�ำชุมชนและคนในชุมชน เป็นส่วนส�ำคัญอย่างยิ่งในกระบวนการนี้ ที่ให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่ม
นักพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา หน่วยงานที่รับผิดชอบและดูแลเก่ียวกับการท่องเท่ียวโดยชุมชน จากนั้น
โมเดลได้มุ่งเน้นไปยังข้ันตอนที่สาม เป็นข้ันตอนของการสร้างความตระหนักรู้และคุณค่าของชุมชน จากนั้นน�ำไป
สู่เร่ืองของการทบทวนโครงสร้างองค์กร ตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ และการตลาดการท่องเท่ียวโดยชุมชน
เม่ือด�ำเนินการพัฒนาแล้วก็ขึ้นข้ันน�ำไปใช้กับนักท่องเที่ยวว่านักท่องเที่ยวมีความพึงพอใจมากน้อยเพียงใด โดยการ
ติดตามและการประเมินผลการพัฒนาการท่องเที่ยว และตรวจสอบในข้ันสุดท้าย สิ่งที่ส�ำคัญอย่างยิ่งคือ การมี
ส่วนร่วมของคนในชุมชนในการพัฒนาสินค้าและบริการทางการท่องเท่ียว ซ่ึงจะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมให้ชุมชน
สามารถพัฒนาตนเองให้เกิดความเข็มแข็งได้ ตลอดจนเห็นและเข้าใจถึงความส�ำคัญของวัฒนธรรมท้องถ่ินและ
ภาคภูมใิ จในคณุ ค่านั้นเป็นหลัก
นอกจากน้ีแลว้ ผูเ้ ขยี นมีความคดิ เหน็ วา่ แนวคิดของ (พจนา สวนศร,ี 2546) ท่กี ลา่ วว่า กอ่ นท�ำการวางแผน
พัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนน้ัน ชุมชนจะต้องมีการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของชุมชนเพื่อท�ำการวางแผนพัฒนา
การทอ่ งเทย่ี วดังตารางที่ 6 เพ่อื จบั คเู่ พื่อหาโอกาสและช่องว่างในการพฒั นา
ตาราง 6 การจับคเู่ พื่อหาโอกาสและช่องว่างในการพฒั นา

Opportunities Threats

ช่องทางและโอกาสต่อการพัฒนา สภาพภายนอกทไี่ มเ่ อื้อตอ่ การดำ�เนนิ
ชมุ ชน อาทิ การทำ�การตลาด การ การการทอ่ งเท่ยี วแตช่ มุ ชนมคี วามพร้อมใน
Strengths พัฒนาการท่องเทย่ี ว การพฒั นาทรพั ยากร การรกั ษาจดุ แข็ง อาทิ การทำ�โปรโมชัน่ ของ

มนษุ ย์ ชุมชน

แมว้ ่าภายในชุมชนไมพ่ ร้อมแต่มี ชมุ ชนอยู่สภาวะท่ีเสย่ี งทง้ั ภานในชมุ ชนและ
โอกาส ชุมชนสามารถใช้จุดน้เี พื่อรับ ภัยจากนอกชมุ ชน ทง้ั น้ชี ุมชนจะต้องหาวิธี
ความชว่ ยเหลือจากองคก์ รนอกชุมชน ปอ้ งกนั ผลกระทบเพื่อรักษาสถานการณ์การ
Weaknesses ได ้ อาทิ การพฒั นาทรัพยากรมนษุ ย์ ท่องเท่ยี วชมุ ชนใหด้ มี ากทีส่ ดุ อาทิ การศึกษา
การพัฒนาโครงสรา้ งองค์กร การจดั การ เชิงลกึ การวจิ ยั ด้านผลกระทบ วงจรชวี ติ การ
ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละวัฒนธรรม การ ท่องเที่ยว
พัฒนาการบรกิ าร การเป็นเจา้ บ้านทด่ี ี

ผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า การวางแผนการพัฒนานวัตกรรมการท่องเท่ียวโดยชุมชน เป็นสิ่งท่ีส�ำคัญอย่างย่ิง
ที่จะท�ำให้การท่องเที่ยวโดยชุมชนแต่ละชุมชนมีผลิตภัณฑ์และบริการการท่องเท่ียวรูปแบบที่แปลกใหม่ ท่ีแตกต่าง
จากรูปแบบเดิม ๆ แต่ยังอยู่บนฐานอัตลักษณ์ เสน่ห์ของชุมชน และเกิดความยั่งยืนในการด�ำเนินการท่องเที่ยว
โดยกระบวนการการวิเคราะห์และสกดั สง่ิ ทม่ี ีอยใู่ นชมุ ชนโดยคนชุมชนเพ่อื ชุมชน

94

บทที่ 4 กลยทุ ธแ์ ละการวางแผนการพัฒนา นวัตกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชน
นวัตกรรมทอ่ งเทีย่ วโดยชุมชน

สรุุปท้้ายบท

การจัดท�ำกลยุทธ์และการวางแผนการพัฒนานวัตกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชน เป็นการศึกษาและพัฒนา
ชุมชนท่องเท่ียวในเชิงลึก ดังนั้นผู้อ่านจ�ำเป็นจะต้องศึกษาประเด็นตามลำ� ดับขั้นตอน เพื่อให้บรรลุผลดังนี้ ล�ำดับแรก
ก่อนการวางกลยุทธ์หรือพัฒนาใดๆ ผู้ศึกษาจะต้องศึกษาวงจรชีวิตของแหล่งท่องเท่ียว พิจารณาว่าแหล่งท่องเที่ยว
ของตนอยใู่ นขั้นใด ใน 6 ขน้ั เลอื กใช้เครอ่ื งมือในการช่วยก�ำหนดการพัฒนา ชมุ ชนมปี ัญหาอะไรท่ปี ระสบพบเจอ
ในขณะนี้ ความฝันของชุมชนในอนาคต และจะพัฒนาออกมาในรูปแบบใด ซ่ึงในล�ำดับน้ีชุมชนจะต้องอาศัยการ
ส่วนร่วมอย่างมากท่ีสุด ทราบปัญหาและความต้องการของชุมชนแล้ว เลือกกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดคล้อง
กับปัญหา และความต้องการของชุมชน จากน้ัน วางกลยุทธ์ในการพัฒนาการท่องเท่ียวชุมชน ก�ำหนดเป้าหมาย
และทิศทาง เพ่ือให้คนในชุมชนปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน ท้ายสุดจะเป็นการวางแผนการพัฒนานวัตกรรม
การท่องเท่ียวโดยชุมชนในภาพใหญ่ที่มีคนนอกชุมชนเข้ามาเก่ียวข้องในการพัฒนานวัตกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชน
ซึ่งในแต่ละขนั้ ตอนสามารถสรปุ รายละเอยี ดไดด้ ังตอ่ ไปน้ี
1. บริบททั่วไปของกลยุทธ์ และการวางแผนการพัฒนานวัตกรรมท่องเท่ียวโดยชุมชน มีความส�ำคัญ
ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมาก เป็นโอกาสในการ กระจายรายได้สู่ชุมชนในชนบท และการจ้างงานในท้องถ่ิน
แต่อย่างไรก็ตาม การท่องเท่ียวชุมชนต้องตอบสนองชุมชนด้วย ซ่ึงกระการวางแผนและพัฒนานวัตกรรมท่องเท่ียว
โดยชมุ ชน สามารถดำ� เนนิ ได้ตามล�ำดับตอ่ ไปนี้
2. วงจรชีวิตของแหล่งท่องเที่ยว วิวัฒนาการของแหล่งท่องเที่ยวมีหลากหลายรูปแบบ ซ่ึงรูปแบบของ
Butler เป็นวงจรท่ีอธิบายถึงวิวัฒนาการหรือเส้นทางพัฒนาของแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างชัดเจน ประกอบด้วย 6 ข้ัน
คือ ขั้นการส�ำรวจ (Exploration Stage) ขั้นเร่ิมต้น (Involvement Stage) ขั้นพัฒนา (Development Stage)
ขั้นอ่ิมตัว หรือ ข้ันตอนที่เป็นปึกแผ่น (Consolidation Stage) ข้ันชะลอตัว (Stagnation Stage) ข้ันตกต่ํา
หรือข้นั การฟนื้ ตัว (Decline or rejuvenating Stage) หรอื ระยะปรบั ปรงุ
3. เครื่องมือในการช่วยก�ำหนดการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน ประกอบด้วย 4 D ได้แก่ Discovery
ขั้นการค้นพบ คือ ข้ันตอนแรกของการพัฒนา Dream/Definition ข้ันการตั้งการจ�ำกัดความ เม่ือเกิดการค้นหา
ปัญหาจากข้ันตอนของการค้นพบแล้วก็วางเป้าหมาย จากนั้นเป็นข้ันของ Development : Start to Design
ข้ันการออกแบบ/การพัฒนา โครงสร้างและกระบวนการ เพ่ือให้ความฝันท่ีต้ังไว้ในขั้นตอนที่ 2 ประสบความส�ำเร็จ
และข้ันตอนสุดท้ายคือ Delivery : Test and Release: ขั้นตอนนี้คือการส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือบริการที่พัฒนา
ขึน้ มา
4. กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมทางการตลาดของการท่องเที่ยวโดยชุมชน นับว่ามีความส�ำคัญอย่างย่ิง
ต่อการวางแผนพัฒนานวัตกรรมทางการตลาดท่องเท่ียวโดยชุมชน ซ่ึงหากมีการวางกลยุทธ์หรือวางแผนที่ดีก็จะท�ำ
ให้ชุมชนเป็นที่รู้จักส�ำหรับนักท่องเท่ียวและหน่วยงานท่ีจะเข้ามาช่วยพัฒนา ประกอบด้วย กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์
(Product) กลยุทธ์ราคา (Price) กลยุทธ์ช่องทางการจัดจ�ำหน่าย(Place) กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด (Promotion)
กลยุทธ์บุคลากร (People) กลยุทธ์กระบวนการ(Process) กลยุทธ์ภูมิทัศน์ หรือสภาพทางกายภาพ (Physical
Evidence)

95

นวตั กรรมการท่องเทยี่ วโดยชมุ ชน บทท่ี 4 กลยทุ ธแ์ ละการวางแผนการพัฒนา
นวตั กรรมท่องเทยี่ วโดยชมุ ชน

5. การวางกลยุทธ์ในการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน การก�ำหนดแนวทางการวางกลยุทธ์ในการพัฒนา
การท่องเที่ยว จ�ำเป็นจะต้องก�ำหนดค�ำถามกับชุมชนท่องเที่ยวเพื่อหาค�ำตอบสู่การพัฒนาเป็นล�ำดับขั้นตอนต่อไป
คือ 1. สถานการณ์การท่องเท่ียวชุมชนตอนนี้ก้าวไปในทิศทาง/รูปแบบไหน 2. สภาพแวดล้อมท่ัวไปของชุมชน
ท่องเที่ยวเป็นอย่างไรบ้าง (SWOT Analysis/4D) 3. ชุมชนท่องเที่ยวมีแนวทางอย่างไรบ้างที่จะก้าวไปถึงจุดที่
คาดหวังไว้ เม่ือชุมชนสามารถตอบได้ทั้ง 3 ค�ำถามในข้างต้นแล้ว จะท�ำให้ชุมชนก�ำหนด วิสัยทัศน์ พันธกิจ
เป้าประสงค์ และกลยุทธไ์ ด้
6. การวางแผนการพัฒนานวัตกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชน วางแผนการพัฒนานวัตกรรมการท่องเที่ยว
โดยชุมชน แสดงให้เห็นว่าผู้น�ำชุมชนและคนในชุมชน เป็นส่วนส�ำคัญอย่างยิ่งในกระบวนการน้ี ท่ีให้ความช่วยเหลือ
แก่กลุ่มนักพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา หน่วยงานท่ีรับผิดชอบและดูแลเก่ียวกับการท่องเที่ยวโดยชุมชน
จากนั้นโมเดลได้มุ่งเน้นไปยังขั้นตอนท่ีสาม เป็นขั้นตอนของการสร้างความตระหนักรู้และคุณค่าของชุมชน จากนั้น
น�ำไปสู่เรื่องของการทบทวนโครงสร้างองค์กร ตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ และการตลาดการท่องเที่ยว
โดยชุมชน

96

บทท่ี 4 กลยุทธแ์ ละการวางแผนการพัฒนา นวัตกรรมการท่องเที่ยวโดยชมุ ชน
นวตั กรรมท่องเทย่ี วโดยชมุ ชน

เอกสารอ้างองิ

Butler, R. (1980). The Concept Of a Tourist Area Cycle Of Evolution: Implications For Management
Of Resources. CANADIAN GEOGRAPH, 5-12.
Cooperrider, D. (1986). Appreciative inquiry: Toward a methodology for understanding and
enhancing organizational innovation. Cleveland: Unpublished Ph.D. dissertation, Case
Western Reserve University.
Sugandini, D., Irhas Effendi, M., Sasmito Aribowo, A., & Sri Utami, Y. (2018). Marketing strategy on
community based tourism in Special Region of Yogyakarta. Journal of Environmental
Management and Tourism, 9(4), 733-743.
Mair, D. G. (2014). Community Tourism Planning A Self-Assessment Instrument. Annals of Tourism
Research, 31(3).
The Mountain Institute. (2000). Community-Based Tourism for Conservation and Development:
A Resource Kit: The Mountain Institute.
Suansri, P. (2003). Community Based Tourism Handbook. Thailand: Responsible Ecological Social
Tour-REST.
UXinsight. (2019, May 01). What is the framework for Innovation? Design Council’s evolved Double
Diamond. Retrieved from UXinsight: https://uxinsight.org/what-is-the-framework-for-
innovation-design-councils-evolved-double-diamond/
Srisorn, W., Chayanon, S., & Punluekdej, T. (2020). Thailand’s Tourism Development Strategy.
Paper presented at the International Academic Multidisciplines Research Conference,
Switzerland.
ณฏั ฐนิ ี ทองดี และกนก บุญศกั ด์.ิ (2560). การจดั การตลาดการทอ่ งเท่ียวโดยชมุ ชนของแหลง่ มรดกทางวัฒนธรรม
ลุ่มน�้ำโขง ชี มูล เพ่ือเช่ือมโยงการท่องเที่ยว ประเทศไทย ลาว และเวียดนาม. วารสารวิจัยเพ่ือพัฒนาเชิง
พืน้ ท,่ี 2.
ดิษวัชร ลอแต และคณะ. (2561). การพยากรณ์การตัดสินใจเลือกใช้บริการบริษัทที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตบน
โทรศัพท์มือถือในเขตอ าเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ด้วยการวิเคราะห์การถดถอยพหุโลจิสติก. หาดใหญ่
วชิ าการ.
ประภสั สร ผ่องใส. (2558). ผลกระทบด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมจากการทอ่ งเทย่ี วในวัดพระมหาเจดียช์ ัยมงคล
ต่อชุมชนท้องถ่ินต�ำบลผาน้�ำย้อย อ�ำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด. ขอนแก่น : บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
สาขาวิชาการจัดการทอ่ งเท่ยี ว คณะวทิ ยาการจัดการ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น.
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษร์ธานี. (2560). โครงการบริการวิชาการ เส้นทางท่องเท่ียวชุมชนดอนสัก-พะลวย.
Retrieved from เกาะพะลวย: https://donsak.sru.ac.th/
ม่ิงสรรพ์ ขาวสะอาดและคณะ. (2556). เศรษฐศาสตร์ว่าด้วยการท่องเท่ียว. กรุงเทพมหานคร: ล็อคอินดีไซน์เวิร์ด .

97

นวัตกรรมการท่องเท่ยี วโดยชุมชน บทที่ 4 กลยทุ ธแ์ ละการวางแผนการพฒั นา
นวัตกรรมทอ่ งเท่ียวโดยชมุ ชน

รุ่งรวี จิตภักดี และคณะ. (2561). โครงการวิจัยแนวทางยกระดับพืชเศรษฐกิจท้องถิ่นสู่การพัฒนาอาชีพชุมชน
อย่างยั่งยืน “ต้นจาก” ต�ำบลขนาบนาก อ�ำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช. กรุงเทพมหานคร:
สำ� นกั งานกองทุนสนับสนุนการวิจัย .
รุ่งรวี จิตภักดี และประเสริฐ ชัญจุกรณ์. (2553). การจัดการแผนการท่องเท่ียวเชิงนิเวศโดยชุมชนลิเล็ด อ.พุนพิน
จ.สรุ าษฎร์ธาน.ี นครศรีธรรมราช: ส�ำนักงานคณะกรรมการวจิ ยั แหง่ ชาติ .
รงุ่ รวี จิตภกั ดี และปวีณา กายพันธ.์ (2554). ความเปราะบางและความย่ังยนื ของแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วเพ่อื การพัฒนา
ของพ้นื ทบ่ี รเิ วณชายฝง่ั อ่าวบ้านดอนและเกาะนอกชสยฝัง่ จงั หวดั สรุ าษฏร์ธานี .
ศิริวิช ดโนทัย. (ม.ป.ป.). กระบวนการวางแผนกลยุทธ์. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
พระนครเหนอื .
สมจนิ ต์ ชาญกระบี่ และนรนิ ทร์ สงั ขร์ ักษา. (2560). ยทุ ธศาสตรก์ ารทอ่ งเทย่ี วเชงิ สรา้ งสรรค์ของจังหวดั สพุ รรณบุรี.
Veridian E-Journal,Silpakorn University ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ,
2, 2410-2425.
สมชาย ชมภูนอ้ ย. (2560). แนวทางการเพ่ิมมูลค่าการทอ่ งเทยี่ วชุมชน กรณีศึกษา ชุมชนบ้านเชยี ง จังหวัดอดุ รธาน.ี
อรลชั ชา ศิวรกั ษแ์ ละคณะ. (2559). คู่มือสำ� หรบั ฝกึ อบรมชุมชนทอ่ งเที่ยว. กรงุ เทพมหานคร: วนิดาการพมิ พ.์
อิสระพงษ์ พลธานี และอุมาพร บุญเพชรแก้ว. (2561). ความพึงพอใจของนักท่องเท่ียวชาวต่างชาติที่มีต่อศักยภาพ
แหล่งท่องเที่ยวเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นเนวทางส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเท่ียวอย่างย่ังยืน.
วารสารเทคโนโลยภี าคใต,้ 1, 13-20.

98


Click to View FlipBook Version