The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือชนิดสัตว์นํ้าชายฝั่งประมงอวนลอยพื้นบ้านจังหวัดนครศรีธรรมราช

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Bota Library, 2021-09-03 10:58:23

คู่มือชนิดสัตว์นํ้าชายฝั่งประมงอวนลอยพื้นบ้านจังหวัดนครศรีธรรมราช

คู่มือชนิดสัตว์นํ้าชายฝั่งประมงอวนลอยพื้นบ้านจังหวัดนครศรีธรรมราช

Keywords: คู่มือชนิดสัตว์นํ้าชายฝั่งประมงอวนลอยพื้นบ้านจังหวัดนครศรีธรรมราช

ลกั ษณะ แมงดาทะเล
มรี ปู ร่างกลม โคง้ นูนทางด้านหลงั มีรา่ งกายแบง่ เปน็ 2 สว่ น รา่ งกายส่วนหนา้ มีลักษณะ

รปู โคง้ ครง่ึ วงกลมคลา้ ยเกอื กมา้ ซง่ึ เปน็ สว่ นของรา่ งกายทป่ี ระกอบดว้ ยสว่ นหวั และสว่ นอก ดา้ นหลงั
มีตารวม 1 คู่ ตาเดี่ยว 1 คู่ ด้านท้องมีรยางค์ 6 คู่ ร่างกายส่วนหลังคือส่วนท้อง ขอบด้านข้าง
มีหนามยื่นออกมา 6 คู่ หนามเคลื่อนไหวได้ ด้านท้องมีเหงือกใช้สำ�หรับการหายใจในนํ้า ต่อจาก
สว่ นทอ้ งมหี างกลมเปน็ แท่งเรียวยาว ปลายแหลม ด้านล่างไมเ่ ปน็ ร่อง ด้านบนไม่มีหนามปกคลุม
ขนาด

พบท่ัวไปมเี ส้นผ่านศนู ยก์ ลาง 15 เซนติเมตร เพศผู้มีขนาดเล็กกว่าเพศเมยี
นเิ วศวทิ ยา

พบทั่วไปบริเวณชายฝั่งทะเล หรือหาดโคลน รวมทั้งตามลำ�คลองที่เป็นป่าชายเลน และ
ในทะเลที่ระดับนํ้าตื้น โดยพบว่าขณะที่เป็นตัวอ่อนจะอยู่ทะเลลึก และเมื่อโตเต็มวัย อายุมากกว่า
9 ปี จะอยอู่ าศัยตามแนวชายฝง่ั
ชวี วทิ ยาและการประมง

ส่วนใหญ่กินหอยสองฝา ไส้เดือนทะเล รวมทั้งซากพืชซากสัตว์เป็นอาหาร ช่วงชีวิต
ส่วนใหญ่อยู่ในทะเลเปิดและเมื่อตัวเต็มวัยจะอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งเนื่องจากวงจรชีวิตต้องวางไข่
ในพนื้ ที่ชายฝง่ั แมงดาทะเลทโี่ ตเตม็ วัยจะมีอายุไมน่ อ้ ยกวา่ 8 ปี โดยเฉล่ียจะมีอายปุ ระมาณ 11 ปี
จงึ มีความพร้อมส�ำ หรับการสบื พันธ์ุ โดยฤดูกาลสืบพันธุ์จะเป็นช่วงฤดรู ้อนระหวา่ งเดอื นกมุ ภาพันธ์
จนถงึ ถงึ เดอื นกนั ยายน พฤตกิ รรมของแมงดาทะเลจะขน้ึ มาวางไขต่ ามแนวชายหาดในชว่ งนา้ํ ทะเล
ขึ้นสูงสุดเป็นระยะเวลา 2-3 วัน โดยตัวผู้จะเกาะบนหลังตัวเมียและแมงดาทะเลเพศเมียจะใช้ขา
คทู่ ่ี 6 ในการขดุ ทรายเพอ่ื ใชใ้ นการวางไข่ ซง่ึ ความดกไขข่ องแมงดาทะเลมจี �ำ นวน 4,000-10,000 ฟอง
โดยเฉลี่ยประมาณ 7,000 ฟอง (Chatterji, 1992) ตัวผู้จะปล่อยนํ้าเชื้อผสมกับไข่ในหลุมที่ตัวเมีย
ขดุ ทนั ที จากนน้ั ตวั เมยี จงึ ท�ำ การกลบไขด่ ว้ ยทรายหรอื โคลนตามลกั ษณะพน้ื ทแ่ี หลง่ วางไข่ ประมาณ
14 วันหลังไข่แมงดาทะเลได้รับการปฏิสนธิเปลือกไข่จะแตกเนื่องจากแรงเสียดสีของเม็ดทราย
ลูกแมงดาทะเลที่ฟักตัวออกมามีรูปร่างเหมือนตัวเต็มวัย และตัวอ่อนแมงดาทะเลจะล่องลอยตาม
กระแสนํ้า ตัวอ่อนแมงดาทะเลต้องมีการลอกคราบหลายครั้ง (10-20 ครั้งต่อปี) เพื่อเติบโต และ
อัตราการลอกคราบจะลดลงเมื่อโตเต็มวัย (Khan, 2003)

แมงดาทะเลหางกลมเปน็ สัตวท์ มี่ พี ิษ พิษเป็นสาร Tetrodotoxin ผูท้ ี่ได้รับพิษจะมอี าการ
ชาตามปาก แขนขา แล้วตามด้วยอาการอัมพาต ผู้ป่วยที่เสียชีวิตเกิดจากการหยุดหายใจเนื่องจาก
กล้ามเน้อื หายใจไมท่ ำ�งาน สว่ นแมงดาทะเลหางเหลีย่ มหรอื แมงดาจานเป็นชนิดทร่ี บั ประทานได้
ความถี่ที่พบ และมลู ค่าสัตว์นํา้ ที่ทา่ ขึน้ ปลาชุมชน

จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าสามารถจับแมงดาทะเลหางกลมได้ทุกครั้งของการ
ทำ�ประมง โดยเฉพาะจากอวนลอยปูม้า พบได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายนถึงเดือน
ตุลาคม แมงดาทะเลหางกลม จดั เปน็ สัตวน์ ้ําทไี่ มม่ ีมลู ค่าทางเศรษฐกิจเนือ่ งจากมีพษิ บริโภคไม่ได้

49

1 cm
Squillidae
Erugosquilla woodmasoni (Kemp, 1911)

กง้ั ตัก๊ แตน

Smooth squillid mantis shrimp

50

ลกั ษณะ ๊กัง ๊ัตกแตน
ตามีขนาดใหญ่ ตั้งเฉียงอยู่บนก้านตา แผ่นกรีมีรูปร่างเกือบเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส สันนูน

กลางกระดองไม่สมบูรณ์ ส่วนหน้าเรียบ ด้านข้างตอนท้ายของกระดองไม่มีลักษณะเว้าลึก ปล้อง
ปลายสุดของก้าม มีฟันจำ�นวน 6 ซี่ ส่วนอกปล้องที่ 5-7 มีแง่ยื่นออกไปด้านข้างปล้องละ 2 คู่
ปล้องที่ 5 แง่ยื่นส่วนหน้าเป็นหนามสั้นและไม่แหลม ชี้ตรงไปทางด้านข้าง แง่ยื่นส่วนท้ายเป็นรูป
สามเหลย่ี มปลายแหลมมขี นาดเลก็ กวา่ แงย่ น่ื สว่ นหนา้ ปลอ้ งท่ี 6 แงย่ น่ื สว่ นหนา้ เรยี วยาวเกอื บเปน็ รปู
สามเหลย่ี มสว่ นปลายแหลมและแงย่ น่ื สว่ นทา้ ยเปน็ รปู สามเหลย่ี มปลายแหลม มขี นาดใหญก่ วา่ แงย่ น่ื
สว่ นหนา้ ปลอ้ งท่ี 7 แงย่ น่ื สว่ นหนา้ มขี นาดเลก็ และยาวเรยี วกวา่ แงย่ น่ื สว่ นหนา้ ของปลอ้ งท่ี 6 และ
แงย่ น่ื สว่ นทา้ ยมขี นาดใหญก่ วา่ แงย่ น่ื สว่ นหนา้ มปี ลายแหลม สว่ นทอ้ งผวิ เรยี บ มสี นั นนู 8 สนั หาง
มคี วามกว้างมากกว่าความยาว หนามปลายหางมีลกั ษณะเรียวยาว

ลำ�ตัวใส เส้นหนวดมีสีแดง สันนูนบนกระดองมีสีส้ม ปล้องปลายก้ามมีสีขาว โคนก้าม
บริเวณข้อต่อมีสันสีเหลืองและผิวด้านนอกมีเม็ดสีดำ�กระจายทั่วไป สันนูนตรงกลางส่วนอกและ
ส่วนท้องมีสีส้ม สันนูนด้านข้างมีสีเหลืองอ่อน หนามของสันนูนต่าง ๆ มีสีชมพู หางมีสีม่วงคลํ้า
หนามมสี แี ดงปลายหนามสชี มพู หนามซเ่ี ลก็ มสี เี หลอื ง แพนหางสว่ นฐานมสี เี หลอื ง หนามทอ่ี ยบู่ รเิ วณ
ขอ้ ตอ่ มสี ชี มพู แพนหางคนู่ อกทป่ี ลอ้ งโคนและปลอ้ งปลายมสี นี า้ํ เงนิ สเี ขม้ มากในบรเิ วณทเ่ี ปน็ ขอ้ ตอ่
ของทง้ั 2 ปลอ้ ง แพนหางคู่ในมสี นี ํ้าเงิน
ขนาด

โดยทว่ั ไปพบความยาวเหยียด 15 เซนตเิ มตร
นิเวศวิทยา

อาศัยอยู่บริเวณพ้นื ท้องทะเลชายฝั่ง ท่มี ีลักษณะเปน็ โคลน
ชวี วทิ ยาและการประมง

อาหารกลุ่มหลักได้แก่ กลุ่มกุ้ง เควย และปลาวัยอ่อน เป็นต้น การศึกษาชีววิทยาและ
การประมงของสตั วช์ นดิ นย้ี งั มนี อ้ ย ดงั นน้ั เสนอแนะวา่ การศกึ ษาทางชวี วทิ ยาประมงของสตั วน์ า้ํ ชายฝง่ั
ชนดิ นเ้ี ปน็ ประเดน็ ทน่ี า่ สนใจและเปน็ ขอ้ มลู พน้ื ฐานส�ำ หรบั การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรประมงชายฝง่ั
ในอนาคต
ความถ่ที พ่ี บ และมูลคา่ สัตว์น้าํ ทที่ า่ ข้นึ ปลาชุมชน

จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าโอกาสที่จะติดเครื่องมือประมงอวนลอยบ่อยครั้ง
ประมาณ 8 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี ขนาด
ความยาวตลอดตวั 13-20 เซนตเิ มตร ราคากโิ ลกรมั ละ 100-400 บาท แตข่ นาดความยาวตลอดตวั
มากกว่า 25 เซนติเมตร หรือนํ้าหนักมากกว่า 300 กรัมต่อตัว และเป็นกั้งที่ยังมีชีวิต จะมีราคาสูง
ประมาณกิโลกรัมละ 1,100 บาท

51

1 cm
Squillidae
Harpiosquilla raphidea (Fabricius, 1798)

ก้งั ตั๊กแตนหางจดุ

Giant harpiosquillid mantis shrimp

52

ลักษณะ
ตามีขนาดใหญ่ตั้งเฉียงอยู่บนก้านตา แผ่นกรี มีความยาวมากกว่าความกว้าง และ

มีตอนหน้าที่เรียวยาว กระดองมีสันนูนกลางกระดองบริเวณส่วนหน้าไม่แยกเป็น 2 แฉก ด้านข้าง
กระดองเป็นร่องลึก ปล้องปลายสุดของก้าม มีฟันจำ�นวน 8 ซี่ ส่วนอกปล้องที่ 5 มีแง่ยื่นออกไป
ด้านข้างทั้ง 2 ข้าง เป็นหนามแหลม ปล้องที่ 6, 7 และ 8 มีสันนูนปลายเป็นหนาม ส่วนท้อง
ปลอ้ งท่ี 1-5 มสี นั นูน บางสนั มปี ลายเปน็ หนาม

ลำ�ตัวมีสีเขียวคลํ้า สันนูนมีสีเขียวเข้ม ขาเดินมีสีเหลือง หางมีจุดกลมใหญ่สีนํ้าตาลหรือ
สเี ขยี วเขม้ 1 จดุ ปลอ้ งโคนและปลอ้ งปลายของแพนหางคนู่ อกมสี เี หลอื ง แตบ่ รเิ วณสว่ นปลายของ
ปลอ้ งโคนมเี มด็ สดี �ำ กระจายอยู่ และหนามทข่ี อบดา้ นนอกมเี หลอื ง แพนหางคใู่ นมสี ดี �ำ แตส่ ว่ นปลาย
มสี เี หลอื ง
ขนาด

พบทว่ั ไปมคี วามยาวเหยยี ด 16-29 เซนตเิ มตร ขนาดใหญท่ ส่ี ดุ มคี วามยาว 33 เซนตเิ มตร
นเิ วศวิทยา

อาศยั อยบู่ รเิ วณพน้ื ทอ้ งทะเลชายฝง่ั บรเิ วณพน้ื ทอ้ งทะเลโคลนนา้ํ ตน้ื ตง้ั แต่ 2 เมตร ไปถงึ
45 เมตร รวมทงั้ พ้ืนทีบ่ ริเวณนํ้ากรอ่ ย
ชีววิทยาและการประมง

อาศัยอยู่ในรูหรือหลุมหลบซ่อน เพื่อเป็นที่หลบหลีกศัตรูหรือผู้ล่า รวมทั้งใช้เพื่อสืบพันธ์ุ
และกินอาหาร โดยอาหารหลักได้แก่ กลุ่มกุ้ง และเควย ความดกไข่ของตัวเมียมีจำ�นวนสูงถึง
50,000 ฟอง คา่ สมั ประสทิ ธก์ิ ารเตบิ โตประมาณ 1.5 เซนตเิ มตรตอ่ ปี มรี ปู แบบการเตบิ โตเปน็ แบบ
อลั โลเมตรกิ (Wardiatno and Mashar, 2012) ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความยาวทง้ั หมดกบั นา้ํ หนกั ตวั
ของกงั้ ต๊กั แตนเพศผูแ้ ละเพศเมียอยู่ในรูปสมการ W = 0.014L2 2.911 และ W = 0.016L2 2.856
ตามล�ำ ดับ (อัญชลีย์ และคณะ, 2556)
ความถ่ีที่พบ และมูลค่าสตั วน์ ้ําท่ที า่ ขึน้ ปลาชุมชน

จากการสมั ภาษณ์ชาวประมง พบว่าโอกาสทจี่ ะพบสัตว์น้าํ ชนดิ นค้ี ่อนขา้ งน้อย ประมาณ
5 ครั้งใน 10 ครั้งของการทำ�ประมง พบได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือน
ตุลาคม มูลค่าของกง้ั ตัก๊ แตนหางจุดที่ทา่ ข้ึนปลาชุมชนกโิ ลกรมั ละ 100 บาท

53

1 cm
Squillidae

Miyakella nepa (Latreille in Latreille, Le Peletier, Serville & Guerin, 1828)

ก๊ังตก๊ั แตนเขยี ว

กัง้ ตั๊กแตนสามแถบ
Smalleyed squillid mantis shrimp

54

ลักษณะ
ตามขี นาดเลก็ ตง้ั ตามขวางอยบู่ นกา้ นตา แผน่ กรมี รี ปู รา่ งเกอื บเปน็ สเ่ี หลย่ี มจตั รุ สั สนั นนู

กลางกระดองแยกเป็น 2 แฉกบริเวณด้านหน้าของรูบนกระดอง ปล้องปลายสุดของก้าม มีฟัน
จ�ำ นวน 6 ซ่ี สว่ นอกปลอ้ งที่ 5-7 มีหนามยนื่ ออกมาด้านขา้ ง มปี ลาย 2 แฉก

ลำ�ตัวมีสีเขียว สันต่าง ๆ บนหลังมีสีเขียวเข้ม มีแถบสีดำ�บนกระดอง ปล้องท้องปล้อง
ที่ 2 และ 5 และบริเวณรยางค์ของหาง
ขนาด

โดยทวั่ ไปพบความยาวเหยยี ด 17 เซนติเมตร
นิเวศวทิ ยา

อาศัยอยู่บริเวณพื้นท้องทะเลชายฝั่ง ถึงระดับความลึก 25 เมตร ที่มีลักษณะเป็นทราย
หรือโคลน
ชีววิทยาและการประมง

เป็นกลุ่มสัตว์นํ้าเป้าหมายที่มีค่าทางเศรษฐกิจ หากินบริเวณพื้นท้องนํ้า อาหารกลุ่มหลัก
ไแคดวล้แาะมกWส่ มั เพ=คนัว0ธย.0ร์ ะ4กห7ุ้ง0วLาก่ ง2ั้งน2.า้ํล4ห5ูก5น7ป(กัรลชกาบันคมิหวขุ อายมแสยลอาะวงคขฝณอางะกเ,ปง้ั2ต็น5ก๊ั ต5แ8้นต)นมมเีรพีราศูปยผงแแู้ าบลนบะวกเ่าพาสศราเเมมตายีิบรโถคตสอื เืบปWพ็นันแ=ธบุ์ไ0บด.0อ้ท6ั้ังล2ปโ2ลีLแเ2มต2ต.่ช31รว่ 4ิกง6
ฤดูกาลสืบพันธุ์หลักคือช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนโดยขนาดแรกสืบพันธุ์ของ
เพศเมีย มีความยาวเทา่ กบั 10 เซนติเมตร จ�ำ นวนความดกไข่เฉลีย่ เทา่ กบั 420,000 ฟอง (Zamri,
2016)
ความถ่ีทพ่ี บ และมูลค่าสัตว์น้ําท่ที ่าข้ึนปลาชุมชน

จัดเป็นสัตว์นํ้าที่ชาวประมงต้องการจะจับ จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าโอกาส
ที่จะติดเครื่องมือประมงประมาณ 5 ครั้งใน 10 ครั้งของการทำ�ประมง ซึ่งจับได้ค่อนข้างบ่อยครั้ง
และพบได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนตุลาคม มูลค่าของกั้งตั๊กแตนเขียว
ท่ีท่าข้นึ ปลาชุมชนกโิ ลกรัมละ 100 บาท ขนึ้ กบั ขนาดตวั หากขนาดใหญ่มลู คา่ จะสงู ขึ้น

55

1 cm
Squillidae
Oratosquillina interrupta (Kemp, 1911)

ก้งั ต๊ักแตนสนั แดง

Mantis shrimp

56

ลกั ษณะ
ตามีขนาดใหญ่ ตั้งเฉียงอยู่บนก้านตา แผ่นกรีมีรูปร่างเกือบเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส สันนูน

กลางกระดองไม่สมบูรณ์ มีส่วนหน้าแยกเป็น 2 แฉก ตรงฐานของรอยแยกมีผิวเรียบ ปล้องปลาย
สดุ ของกา้ ม มฟี นั จ�ำ นวน 6 ซ่ี สว่ นอกปลอ้ งท่ี 5-7 มแี งย่ น่ื ออกไปดา้ นขา้ งปลอ้ งละ 2 คู่ ขอบดา้ นนอก
ของแพนหางคนู่ อก มหี นามท่เี คลือ่ นไหวได้ 8-9 อัน

ล�ำ ตวั มสี เี ขยี ว สนั นนู บนกระดองเปน็ สแี ดงถงึ เขยี ว โคนกา้ มมสี เี หลอื ง ผวิ ดา้ นนอกมสี ชี มพู
ขาเดินมีสีขาว ส่วนท้องมีสันนูนสีแดง ด้านข้างมีสันนูนสีเขียว หางมีจุดกลมใหญ่สีนํ้าตาล 1 จุด
หนามตรงส่วนหางมีสีเขียวตรงปลายเป็นสีชมพู แพนหางคู่นอกสีเหลืองมีเส้นกลางปล้องเป็นสีดำ�
หนามที่ขอบด้านนอกเป็นสีชมพู แพนหางคู่ในมีสีดำ�ตรงปลายมีสเี หลือง
ขนาด

โดยทัว่ ไปความยาวเหยยี ดทพ่ี บประมาณ 13 เซนติเมตร
นิเวศวทิ ยา

อาศัยอยบู่ รเิ วณพ้นื ทอ้ งทะเลชายฝ่งั ท่มี ีลกั ษณะเป็นโคลนหรอื โคลนปนทราย
ชีววทิ ยาและการประมง

เป็นกลุ่มสัตว์นํ้าเป้าหมายทางการประมง มีพฤติกรรมการบริโภคเป็นผู้ล่า โดยมีอาหาร
เปน็ กลมุ่ กงุ้ กง้ั หอยสองฝา เปน็ ตน้ มรี ปู แบบการเตบิ โตเปน็ แบบอลั โลเมตรกิ ยงั มรี ายงานการศกึ ษา
ทางดา้ นชีววทิ ยาประมงนอ้ ยสำ�หรับกงั้ ชนดิ น้ี
ความถ่ที ่ีพบ และมูลคา่ สตั วน์ ํ้าท่ที า่ ขึน้ ปลาชมุ ชน

จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าโอกาสที่จะติดเครื่องมือประมงประมาณ 5 ครั้งใน
10 ครั้งของการทำ�ประมง และพบได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนตุลาคม
มลู คา่ ของกง้ั ตก๊ั แตนสนั แดงทท่ี า่ ขน้ึ ปลาชมุ ชนกโิ ลกรมั ละ 100 บาท ขน้ึ กบั ขนาดตวั หากขนาดใหญ่
มูลค่าจะสูงข้ึน

57

1 cm

Penaeidae

กงุ้ ตะกาดMetapenaeus afffinis (H. Milne Edwards, 1837 [in Milne Edwards, 1834-1840])

ก้งุ โอคกั เล็ก
Jinga shrimp

58

ลกั ษณะ กุ้ง
กรียาว เรียว มีลักษณะเกือบตรง ปลายกรียกสูงขึ้นเล็กน้อย โคนกรีไม่ยกสูงขึ้นเป็น

รปู สามเหลย่ี ม มฟี นั เฉพาะขอบดา้ นบน 8-10 ซ่ี เปลอื กหมุ้ สว่ นหวั และอกมขี นสน้ั ปกคลมุ สนั บรเิ วณ
เปลอื กหมุ้ สว่ นหวั และอกเหน็ ชดั เจน สว่ นทอ้ งและสว่ นหางมขี นขนาดเลก็ ปกคลมุ ทว่ั ไป ปลายหาง
ไม่มีหนามแหลม ขาเดินคู่แรกมีหนามตรงปล้องที่ 3 สั้นมาก ขาเดินคู่ที่ 5 ไม่มีเอกโซโปไดต์

ลำ�ตัวมจี ุดประสเี หลืองอมน้าํ ตาลหรือนาํ้ ตาลทองตลอดความยาวตวั พื้นล�ำ ตัวสเี ขยี วจาง
ขาวา่ ยน้าํ สแี ดงอมชมพู แพนหางสีนํา้ ตาลแดง
ขนาด

เพศเมียสว่ นใหญ่จะขนาดใหญ่กวา่ เพศผู้ โดยทัว่ ไปพบเพศเมีย ความยาวล�ำ ตวั ประมาณ
18 เซนติเมตร และ เพศผู้ 14 เซนติเมตร
นิเวศวิทยา

อาศัยบริเวณชายฝั่งที่เป็นพื้นโคลน หรือโคลนปนทราย กุ้งวัยอ่อนมักพบอาศัยในเขต
น้าํ กรอ่ ยและแนวหญา้ ทะเล แตโ่ ดยส่วนมากชาวประมงพบท่คี วามลึกประมาณ 6 เมตร
ชีววทิ ยาและการประมง

เป็นกลุ่มสตั ว์น้ําเป้าหมายท่ีมคี ่าทางเศรษฐกจิ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งความยาวท้งั หมดกบั
นา้ํ หนกั ของเพศผแู้ ละเพศเมยี เปน็ ดงั สมการ W = 0.007L33.014และ W = 0.007L33.015 ตามล�ำ ดบั
การเติบโตเป็นแบบไอโซเมตริก โดยค่าพารามิเตอร์ของการเติบโตค่าความยาวสูงสุดเท่ากับ 17.64
เซนติเมตร และค่าสัมประสิทธิ์การเติบโต เท่ากับ 0.140 ต่อปี (โกสินทร์, 2555) ความสัมพันธ์
ระหว่างความยาวตลอดตัว (TL) กับความยาวเปลือกหัว (CL) อยู่ในรูปสมการเส้นตรงของเพศผู้
และเพศเมียเป็นดังสมการ TL=36.4730+3.0824CL และ TL=28.3040+3.2536CL ตามลําดับ
มขี นาดแรกเร่มิ สบื พันธข์ุ องเพศเมยี เท่ากับ 12.2 เซนตเิ มตร สามารถวางไขไ่ ด้ตลอดปี มีช่วงวางไข่
มาก 2 ช่วง คือ ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน และเดือนกันยายนถึงธันวาคม ของทุกปี
(ธเนศ และคณะ, 2555)
ความถ่ีท่ีพบ และมลู คา่ สัตวน์ ้าํ ทีท่ ่าขึ้นปลาชมุ ชน

จัดเป็นสัตว์นํ้าที่ชาวประมงต้องการจะจับ จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าโอกาส
ทจ่ี ะตดิ เครอ่ื งมอื ประมงประมาณ 3 ครง้ั ใน 10 ครง้ั ของการท�ำ ประมง พบไดต้ ลอดทง้ั ปี โดยเฉพาะ
ชว่ งเดอื นมนี าคมถงึ เดอื นเมษายน มลู คา่ ของกงุ้ ตะกาดทท่ี า่ ขน้ึ ปลาชมุ ชนกโิ ลกรมั ละ 140-150 บาท

59

1 cm

Penaeidae

กุ้งหางแดงPenaeus silasi Muthu & Motoh, 1979

กุง้ แชบ๊วย, กงุ้ แชบ๊วยขาว, กุง้ ขาว, ก้งุ กะทิ
False white prawn

60

ลกั ษณะ
กรียาว เรียว มีลักษณะเกือบตรง ปลายกรียกสูงขึ้นเล็กน้อย โคนกรีไม่ยกสูงขึ้นเป็นรูป

สามเหลย่ี ม ขอบดา้ นบนมฟี นั 7-9 ซ่ี ขอบดา้ นลา่ งมฟี นั 4-5 ซ่ี เปลอื กหมุ้ สว่ นหวั และอกมผี วิ เรยี บ
เป็นมันไม่มีขนปกคลุม ส่วนท้องด้านบนของปล้องที่ 1-3 มีผิวเรียบ ปล้องที่ 4 มีสันประมาณ 2/3
ของครึ่งหลังของปล้อง และมีตลอดจนถึงปล้องสุดท้าย ส่วนหางมีผิวเรียบ หางมีความยาวเท่ากับ
หรือนอ้ ยกว่าปล้องที่ 6 ของส่วนท้อง ไม่มหี นามบริเวณดา้ นขา้ งของสว่ นหาง

ลำ�ตัวมีสีเทาหรือเทาปนเขียว มีจดุ สีน้าํ ตาล เขยี วแก่และเขยี วอ่อนกระจายอยปู่ ระปราย
สนั บนปลอ้ งทอ้ งและกรี มสี นี า้ํ ตาลปนแดง หนวดคทู่ ่ี 2 มสี นี า้ํ ตาลแดง ขาเดนิ มสี เี หลอื ง ขาวา่ ยนา้ํ
และแพนหางมีสแี ดง อาจมสี ีเหลอื งปนอยู่ดว้ ย
ขนาด

ขนาดที่พบทั่วไปความยาวลำ�ตัวขนาดใหญ่สุดของเพศเมีย 20 เซนติเมตร เพศผู้ 15.3
เซนตเิ มตร
นิเวศวิทยา

อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทเี่ ป็นพนื้ โคลน จนถงึ ระดับความลึก 36 เมตร
ชวี วทิ ยาและการประมง

การศกึ ษาชวี วทิ ยาและการประมงของสตั วช์ นดิ นย้ี งั มนี อ้ ย ผลจบั จากการประมงอวนลอย
ชายฝั่งมีจำ�นวนมาก โดยเฉพาะจากอวนลอยกุ้ง ดังนั้นเสนอแนะว่าการศึกษาทางชีววิทยาประมง
ของสัตว์นํ้าชายฝั่งชนิดนี้ เป็นประเด็นที่น่าสนใจและเป็นข้อมูลพื้นฐานสำ�หรับการบริหารจัดการ
ทรพั ยากรประมงแบบหลากชนดิ ในอนาคต
ความถี่ทพ่ี บ และมูลคา่ สตั วน์ ้ําท่ที า่ ขึ้นปลาชุมชน

จัดเป็นสัตว์นํ้าที่ชาวประมงต้องการจะจับ จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าสามารถ
จบั ตดิ เครอ่ื งมอื ทกุ ครง้ั ของการท�ำ ประมง และพบไดต้ ลอดทง้ั ปโี ดยเฉพาะพน้ื ทบ่ี รเิ วณสนั ดอนทราย
พบมากสุดในช่วงเดือนถึงธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ มูลค่าของกุ้งหางแดงที่ท่าขึ้นปลาชุมชน
กิโลกรัมละ 250 บาท

61

1 cm
Matutidae

ปหู นมุ านลายMatuta planipes Fabricius, 1798

Flower moon crab

62

ปูลกั ษณะ
กระดองกลม นนู มคี วามกวา้ งมากกวา่ ความยาวเลก็ นอ้ ย ฟนั ระหวา่ งตาเปน็ รปู สามเหลย่ี ม

ขนาดเล็ก 1 คู่ หนามข้างกระดองหยักเป็นฟันเลื่อยขนาดเล็ก อันสุดท้ายมีขนาดใหญ่และยื่นยาว
กา้ มมขี นาดเทา่ กนั ทง้ั สองดา้ น ขาแผแ่ บนออกลกั ษณะคลา้ ยใบพาย ใชใ้ นการเดนิ วา่ ยนา้ํ และขดุ ทราย
เพื่อฝังตัว กระดองมีลวดลายสีนํ้าตาลเป็นเส้นประกระจายคล้ายร่างแห ขาเดินสีเหลืองเข้มมีแต้ม
สีน้าํ ตาลกระจายทวั่ ไป ส่วนปลายของขาเดินเปน็ สีขาว
ขนาด

ขนาดทพี่ บทั่วไปมคี วามกวา้ งกระดองด้านนอกประมาณ 6-7 เซนตเิ มตร
นิเวศวิทยา

อาศยั อยตู่ ามพน้ื ทราย ในเขตนา้ํ ขน้ึ นา้ํ ลง และพบในแนวหญา้ ทะเล หรอื บรเิ วณพน้ื ทราย
ปนโคลนท่ีระดบั ความลึก 10-15 เมตร
ชวี วทิ ยาและการประมง

กนิ อาหารกลมุ่ หลกั ไดแ้ ก่ ซากพชื ซากสตั ว์ บางครง้ั เปน็ ผลู้ า่ สตั วห์ นา้ ดนิ ไมม่ กี ระดกู สนั หลงั
ขนาดเลก็ เชน่ กลมุ่ หอย ปขู นาดเลก็ มรี ปู แบบการเตบิ โตเปน็ แบบอลั โลเมตรกิ โดยมคี วามสมั พนั ธ์
ระหวา่ งความกวา้ งกระดองกบั นา้ํ หนกั ของเพศผแู้ ละเพศเมยี ดงั สมการ W=0.615L2 2.397และ W=
0.520L22.724 โดยขนาดแรกสืบพนั ธ์คุ วามกว้างกระดองประมาณ 3.2 เซนตเิ มตร (Meher, 2003)
นบั เปน็ สตั วน์ ้าํ กลุ่มพลอยจับได้ทีช่ าวประมงท้งิ โดยไมไ่ ดน้ ำ�มาใชป้ ระโยชน์
ความถท่ี ่พี บ และมลู คา่ สัตวน์ ้ําท่ที ่าขน้ึ ปลาชุมชน

จากการสัมภาษณ์ชาวประมงพบว่าสามารถจับสัตว์นํ้าชนิดนี้ได้บ้าง แต่ไม่ค่อยบ่อย
โดยโอกาสทจ่ี ะตดิ เครอ่ื งมอื ประมงอวนลอยประมาณ 1 ครง้ั ใน 10 ครง้ั ของการท�ำ ประมง สามารถ
พบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี เป็นสัตว์กลุ่มที่ชาวประมงไม่ต้องการจะจับเนื่องจากไม่มีมูลค่า
ทางเศรษฐกจิ

63

1 cm
Dorippidae

ปูเปเ้ ล็กDorippoides facchino (Herbst, 1785)

ปชู ะนี
Porter crab

64

ลกั ษณะ
กระดองรปู ไข่ มคี วามกวา้ งมากกวา่ ความยาว มขี นสน้ั ปกคลมุ ผวิ กระดองเรยี บ แตม่ ตี มุ่ เลก็ ๆ

บริเวณกระดองส่วนหน้าและกระดองบริเวณเหงือก บริเวณกระดองส่วนหน้าระหว่างตามีฟันรูป
สามเหลี่ยม 2 ซี่ มีร่องบนกระดองชัดเจน ปูเพศผู้ที่มีขนาดเล็กและปูเพศเมีย มีก้ามขนาดเท่ากัน
ทง้ั สองขา้ ง ปเู พศผทู้ ม่ี ขี นาดใหญม่ กี า้ มขา้ งขวาใหญก่ วา่ กา้ มขา้ งซา้ ย ปลายกา้ มหนบี เฉยี งลง ขาเดนิ
คทู่ ่ี 2 และ 3 ยาว แบน มขี นปกคลมุ บรเิ วณขอบหลงั ของขาเดนิ ขาเดนิ คทู่ ่ี 4 และคทู่ ่ี 5 มขี นปกคลมุ
ขายกขน้ึ มาบนกระดองและมปี ลายเปน็ ขอเกย่ี ว ซง่ึ เหมาะแกก่ ารน�ำ วตั ถตุ า่ ง ๆ มาแบกไวบ้ นกระดอง
โดยปเู ปเ้ ล็กจะแบกดอกไมท้ ะเลไว้เพือ่ ปดิ บังและป้องกันตัว

กระดองมสี เี ทาถงึ นา้ํ ตาลอมแดง กา้ มมสี ขี าว มแี ตม้ สนี า้ํ ตาลบนแขน ขาเดนิ มสี ขี าว ดา้ นบน
มสี แี ดงอมน้ําตาลจาง ๆ
ขนาด

ขนาดท่พี บโดยท่วั ไปมีความกว้างกระดองด้านนอก 3-4 เซนติเมตร
นเิ วศวทิ ยา

อาศัยอยูบ่ ริเวณพื้นโคลนหรอื ทราย ทร่ี ะดับความลกึ 15-100 เมตร
ชวี วทิ ยาและการประมง

เปน็ สตั ว์นาํ้ กล่มุ พลอยจบั ได้ทช่ี าวประมงทิง้ โดยไม่ไดน้ ำ�มาใชป้ ระโยชน์
ความถี่ที่พบ และมลู ค่าสตั วน์ า้ํ ทที่ ่าขึน้ ปลาชุมชน

จากการสมั ภาษณช์ าวประมงพบวา่ โอกาสทจ่ี ะจบั สตั วน์ า้ํ ชนดิ นไ้ี ดจ้ ากการประมงอวนลอย
ชายฝั่งน้อยมาก โดยโอกาสที่จะติดเครื่องมือประมงอวนลอยประมาณ 1 ครั้ง ใน 10 ครั้งของการ
ทำ�ประมง สามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี และพบบ่อยครั้งขึ้นในช่วงเดือนกันยายนถึง
เดือนตลุ าคม เป็นสตั วก์ ล่มุ ทีช่ าวประมงไมต่ อ้ งการจะจับเนือ่ งจากไมม่ ีมูลค่าทางเศรษฐกิจ

65

1 cm
Portunidae

ปกู ะตอยCharybdis (Charybdis) affinis Dana, 1852

Smoothshelled swimming crab

66

ลกั ษณะ
กระดองรปู ไขม่ ขี นสน้ั ปกคลมุ มสี นั เกดิ จากตมุ่ เรยี งเปน็ แถวเฉพาะบรเิ วณกระดองสว่ นหนา้

ฟันระหว่างตาเป็นรูปสามเหลี่ยม 3 คู่ คู่กลางมีขนาดใหญ่ปลายมนยื่นยาวกว่าคู่อื่น คู่ที่ 2 และ 3
เป็นรูปสามเหลี่ยม ฟันข้างกระดองแหลม 6 ซี่ ซี่แรกเป็นรอยบากที่ส่วนปลาย ก้ามทั้งสองข้าง
มีขนาดใกล้เคียงกนั ขอบด้านหน้าแขนมีหนามขนาดใหญ่ 3 อัน ขาเดนิ เรียวยาว ขาคูท่ ่ี 5 แผ่แบน
แบบใบพาย

กระดอง ก้าม และขาเดินมีสีเขียวขี้ม้าเข้ม ผิวด้านล่างก้ามเป็นสีขาวนวล มีแถบสีแดง
บริเวณก้ามหนีบหลายแห่ง ขาเดินมีสีส้มปนเหลือง ขนที่ขอบมีสีนํ้าตาลปนเหลือง ปลายฟัน
ขา้ งกระดองเปน็ สนี ้ําตาลและขาว
ขนาด

โดยทวั่ ไปมคี วามกวา้ งกระดองดา้ นนอก 6 เซนติเมตร
นิเวศวิทยา

อาศัยอยตู่ ามหน้าดินท่ีเปน็ ทรายหรือทรายปนโคลน เขตต่ํากว่าระดับนํ้าลงต่าํ สุด
ชีววทิ ยาและการประมง

การศึกษาชีววิทยาและการประมงของสัตว์ชนิดนี้ยังมีน้อย และเป็นสัตว์นํ้าพลอยจับได้
ที่จับได้จำ�นวนมากจากการประมงอวนลอยชายฝั่ง โดยเฉพาะอวนลอยปูม้า ดังนั้นเสนอแนะว่า
การศกึ ษาทางชวี วทิ ยาประมงของสตั วน์ า้ํ ชายฝง่ั ชนดิ น้ี เปน็ ประเดน็ ทน่ี า่ สนใจและเปน็ ขอ้ มลู พน้ื ฐาน
ส�ำ หรบั การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรประมงแบบหลากชนดิ ในอนาคต
ความถท่ี ี่พบ และมลู คา่ สตั ว์น้ําท่ีทา่ ข้ึนปลาชมุ ชน

จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ ทกุ ครง้ั ทท่ี �ำ ประมงจะพบปกู ะตอยตดิ เครอ่ื งมอื ประมง
อวนลอยชายฝง่ั โดยเฉพาะอวนลอยปมู า้ โดยสามารถพบสตั วน์ า้ํ นไ้ี ดใ้ นผลจบั ตลอดทง้ั ปี แตจ่ ะพบได้
มากในชว่ งเดอื นพฤศจกิ ายนถงึ กมุ ภาพนั ธ์ ไมม่ มี ลู คา่ ทางเศรษฐกจิ แตบ่ างครง้ั มผี มู้ ารบั ซอ้ื ราคาถกู
กิโลกรมั ละ 20-30 บาท เพ่อื ทำ�ปทู อดกรอบ

67

1 cm
Portunidae

ปูกะตอยเขยี วCharybdis (Charybdis) anisodon (De Haan, 1850)

Twospined arm swimming crab

68

ลักษณะ
กระดองรปู ไข่ เรยี บ ไมม่ ขี นสน้ั ปกคลมุ มสี นั เกดิ จากตมุ่ เรยี งเปน็ แถวเฉพาะบรเิ วณกระดอง

ส่วนหน้า ฟันระหว่างตามี 3 คู่ คู่กลางปลายตัดตรง คู่ที่ 2 และ 3 เป็นรูปสามเหลี่ยมปลายป้าน
แยกออกจากกันด้วยร่องรูปตัววี ฟันข้างกระดองมี 6 ซี่ ซี่แรกเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายป้าน คู่ที่ 2
มีขนาดเล็กกว่าคู่แรก คู่สุดท้ายมีขนาดใหญ่ ยื่นยาวกว่าคู่อื่น ก้ามทั้งสองข้างมีขนาดใกล้เคียงกัน
ขอบด้านหน้าแขนมหี นามขนาดใหญ่ 2 อัน ขาเดินเรยี วยาว ขาค่ทู ี่ 5 แผแ่ บนแบบใบพาย

กระดองด้านหลงั มีสเี ขยี วอ่อน ดา้ นท้องสีขาว
ขนาด

โดยทว่ั ไปมคี วามกว้างกระดองดา้ นนอก 7.5 เซนติเมตร
นเิ วศวิทยา

อาศัยอยู่ตามหน้าดินที่เป็นพื้นโคลนถึงระดับความลึก 15 เมตร หรืออาจเข้ามาอาศัย
อยู่บรเิ วณหาดทราย
ชีววทิ ยาและการประมง

การศึกษาชีววิทยาและการประมงของสัตว์ชนิดนี้ยังมีน้อย และเป็นสัตว์นํ้าพลอยจับได้
จำ�นวนมากจากการประมงอวนลอยชายฝั่ง โดยเฉพาะอวนลอยปูม้า ดังนั้นเสนอแนะว่าการศึกษา
ทางชวี วทิ ยาประมงของสัตว์น้าํ ชายฝง่ั ชนดิ น้ี เปน็ ประเดน็ ทีน่ า่ สนใจและเปน็ ข้อมูลพืน้ ฐานส�ำ หรับ
การบริหารจัดการทรัพยากรประมงแบบหลากชนิดในอนาคต
ความถ่ที ่พี บ และมูลค่าสตั วน์ ้ําที่ทา่ ขน้ึ ปลาชุมชน

จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าทุกครั้งที่ทำ�ประมงจะพบปูกะตอยเขียวติดเครื่องมือ
ประมงอวนลอยชายฝั่ง โดยเฉพาะอวนลอยปูม้า โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี
แตจ่ ะพบไดม้ ากในชว่ งเดือนพฤศจกิ ายนถงึ กมุ ภาพันธ์ ไมม่ มี ลู ค่าทางเศรษฐกจิ

69

1 cm
Portunidae

ปกู ะตอยCharybdis (Charybdis) callianassa (Herbst, 1789)

Swimming crab

70

ลักษณะ
กระดองรูปไข่ มีความกว้างมากกว่าความยาว โค้งนูนปกคลุมด้วยขนสั้น มีสันเกิดจาก

ตุ่มเรียงเป็นแถวบนกระดอง ฟันระหว่างตาเป็นรูปสามเหลี่ยม 3 คู่ คู่กลางมีขนาดใหญ่ปลายมน
ยน่ื ยาวกวา่ คอู่ น่ื คทู่ ่ี 2 เปน็ รปู สามเหลย่ี มกวา้ งแตส่ น้ั กวา่ คแู่ รก คทู่ ่ี 3 มขี นาดเลก็ สดุ ปลายคอ่ นขา้ ง
แหลม ฟันข้างกระดอง 6 ซี่ ซี่แรกเป็นรอยบากที่ส่วนปลายและมีหยักเล็ก ๆ ซี่ที่ 2-5 เป็นหนาม
แหลมมหี ยกั เล็ก ๆ ทง้ั ขอบหน้าและขอบหลัง คู่ที่ 6 เปน็ หนามแหลมมีหยกั เลก็ ๆ เฉพาะขอบหน้า
ก้ามทั้งสองข้างมีขนาดใกล้เคียงกัน ขอบด้านหน้าแขนมีหนามขนาดใหญ่ 2 อัน ขาเดินเรียวยาว
ขาคทู่ ี่ 5 แผ่แบนแบบใบพาย
ขนาด

โดยท่วั ไปพบมคี วามกวา้ งกระดองด้านนอก 4.6 เซนติเมตร ความยาว 2.9 เซนติเมตร
นเิ วศวิทยา

อาศยั อยใู่ นทะเล ตามหนา้ ดนิ ทเ่ี ปน็ ทราย โคลน และพน้ื ทท่ี ม่ี เี ปลอื กหอย ทร่ี ะดบั ความลกึ
5-11 เมตร
ชีววทิ ยาและการประมง

การศึกษาชีววิทยาและการประมงของสัตว์ชนิดนี้ยังมีน้อย โดยพบว่าค่าพารามิเตอร์
การเติบโต (K) เท่ากับ 1.6 ต่อปี ความยาวอนันต์ (Loo) เท่ากับ 6 เซนติเมตร (Ahmed, 2000)
ปูกะตอยชนิดนี้เป็นสัตว์นํ้าพลอยจับได้จำ�นวนมากจากการประมงอวนลอยชายฝั่ง โดยเฉพาะอวน
ลอยปูม้า ดังนั้นเสนอแนะว่าการศึกษาทางชีววิทยาประมงของสัตว์นํ้าชายฝั่งชนิดนี้ เป็นประเด็น
ทน่ี า่ สนใจและเปน็ ขอ้ มลู พน้ื ฐานส�ำ หรบั การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรประมงแบบหลากชนดิ ในอนาคต
ความถี่ที่พบ และมูลค่าสัตว์นํา้ ที่ทา่ ขึ้นปลาชมุ ชน

จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าทุกครั้งที่ทำ�ประมงจะพบปูกะตอยเขียวติดเครื่องมือ
ประมงอวนลอยชายฝั่ง โดยเฉพาะอวนลอยปูม้า โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี
แตจ่ ะพบไดม้ ากในชว่ งเดอื นพฤศจกิ ายนถึงกมุ ภาพนั ธ์ ไม่มมี ลู คา่ ทางเศรษฐกจิ

71

1 cm
Portunidae

ปูลายCharybdis (Charybdis) feriata (Linnaeus, 1758)

ปูกางเขน, ปูม้าเข้ารตี
Crucifix crab

72

ลักษณะ
กระดองเรยี บ ฟนั ระหวา่ งตาเปน็ หนามปลายมน 3 คู่ ฟนั ขา้ งกระดอง 6 ซเ่ี ปน็ รปู สามเหลย่ี ม

ฐานกวา้ ง ปลายหนามแหลมชอ้ี อกดา้ นหนา้ ยกเวน้ ฟนั ซท่ี ่ี 1 เปน็ รปู สามเหลย่ี มปลายตดั มรี อยบาก
ตรงกลาง ฟนั ซส่ี ดุ ทา้ ยมขี นาดเลก็ ทส่ี ดุ กา้ มยาวและมขี นาดใกลเ้ คยี งกนั ทง้ั สองขา้ ง กา้ มและขาเดนิ
มรี อยประสสี ม้ ขาวและนํ้าตาลทั่วไป ขาคทู่ ่ี 5 แผแ่ บนแบบใบพาย

บนกระดองมีลวดลายสีส้มปนชมพูในพื้นสีนํ้าตาล ทำ�ให้เห็นเป็นรูปกางเขนอยู่ตรงกลาง
กระดอง และรปู ตัว Y ควาํ่ 2 ข้างกระดอง
ขนาด

พบท่ัวไปมคี วามกว้างกระดองด้านนอก 12-15 เซนตเิ มตร มีรายงานความกวา้ งกระดอง
ใหญส่ ุด 20 เซนตเิ มตร
นิเวศวิทยา

อาศัยอยู่ตามหน้าดินที่เป็นทรายหรือทรายปนโคลน ตั้งแต่แนวชายฝั่งทะเล ถึงที่ระดับ
ความลกึ 60 เมตร
ชีววทิ ยาและการประมง

รูปแบบการเติบโตแบบอัลโลเมตริก โดยความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับนํ้าหนักอยู่ใน
รปู แบบสมการ W=0.338CW22.830(Campos, 2008) คา่ พารามเิ ตอรก์ ารเตบิ โต (K) เทา่ กบั 1.3 ตอ่ ปี
อายุสมมติของสัตว์นํ้าที่ความยาวเท่ากับศูนย์ (t0) เท่ากับ 0.5 ต่อปี และความยาวอนันต์ (Loo)
เท่ากับ 17.6 เซนติเมตร (CMFRI, 2017) การสืบพันธุ์และวางไข่สามารถสืบพันธุ์ได้ทั้งปี แต่ช่วง
ฤดกู าลสบื พนั ธห์ุ ลกั คอื ชว่ งเดอื นมกราคมถงึ เมษายน โดยมขี นาดแรกสบื พนั ธข์ุ องเพศผู้ ความกวา้ ง
กระดองดา้ นในเทา่ กบั 4.7 เซนตเิ มตร และความกวา้ งกระดองดา้ นในเพศเมยี เทา่ กบั 5.3 เซนตเิ มตร
(Nieves et al., 2015) ปลู ายจดั วา่ เปน็ สตั วน์ า้ํ พลอยจบั ไดจ้ ากการท�ำ ประมง แมว้ า่ จะไมไ่ ดถ้ กู จดั เปน็
สตั ว์น้ําเศรษฐกิจหลกั แต่สำ�หรบั ชาวประมงนบั วา่ มีความส�ำ คญั เพราะสามารถจำ�หน่ายได้
ความถีท่ ีพ่ บ และมลู คา่ สัตวน์ ํา้ ท่ีทา่ ขน้ึ ปลาชุมชน

จากการสมั ภาษณช์ าวประมงพบวา่ การประมงโดยเฉพาะเครอ่ื งมอื อวนลอยปมู า้ สามารถจบั
สัตว์นี้ไดบ้ อ่ ยครง้ั โดยโอกาสทจี่ ะติดเครื่องมอื ประมงอวนลอยประมาณ 5 ครัง้ ใน10 ครง้ั ของการ
ท�ำ การประมง และสามารถพบสตั วน์ า้ํ นไ้ี ดใ้ นผลจบั ตลอดทง้ั ปี แตจ่ ะพบไดม้ ากในชว่ งเดอื นพฤศจกิ ายน
ถงึ มกราคม ราคากโิ ลกรมั ละ 80-100บาท ขนึ้ อยกู่ ับขนาดสตั วน์ าํ้

73

1 cm
Portunidae

ปูตายาวPodophthalmus vigil (Fabricius, 1798)

ปูเรดาร์
Long-eyed swimming crab

74

ลักษณะ
กระดองเปน็ รปู สเ่ี หลย่ี มคางหมมู สี เี ขยี วขม้ี า้ มคี วามกวา้ งมากกวา่ ความยาวประมาณ 2.5 เทา่

มีตุ่มเล็ก ๆ กระจายบนกระดอง ก้านตายาวมาก พาดอยู่ในเบ้าตา ขอบเบ้าตาด้านล่างยื่นยาวกว่า
ขอบเบา้ ตาดา้ นบน ขอบกระดองเรยี บ มฟี นั ขา้ งกระดอง 2 ซ่ี ซแ่ี รกเปน็ ฟนั เบา้ ตานอกมขี นาดใหญ่
และซท่ี ่ี 2 มขี นาดเลก็ กา้ มเรยี วยาว กา้ มซา้ ยและขวามขี นาดใกลเ้ คยี งกนั ปลายกา้ มและขามสี มี ว่ ง
ในเพศผู้ และสีเหลืองในเพศเมีย ขาเดนิ เรียวยาว ขาค่สู ุดทา้ ยแผแ่ บนแบบใบพาย
ขนาด

พบทัว่ ไปมคี วามกวา้ งกระดองด้านนอก 15 เซนตเิ มตร
นิเวศวทิ ยา

อาศัยอยู่ตามหน้าดินที่เป็นทรายหรือโคลน ตั้งแต่เขตชายฝั่งถึงระดับความลึก 77 เมตร
และแหล่งหญ้าทะเลทั่วไปซึ่งเป็นแหล่งหลบซ่อนศัตรู โดยจะว่ายนํ้าและหลบศัตรูตามใบและ
ตน้ หญ้าทะเล
ชีววิทยาและการประมง

รูปแบบการเติบโตเป็นแบบอัลโลเมตริก โดยความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับนํ้าหนัก
อยู่ในรูปแบบสมการ W=0.368L22.397 สืบพันธุ์และวางไข่ได้ตลอดทั้งปี แต่มีช่วงสืบพันธุ์หลักคือ
เดือนมกราคม และเดือนตุลาคม โดยมีขนาดแรกสืบพันธุ์ของเพศผู้เท่ากับ 11.5 เซนติเมตร และ
ขนาดแรกสบื พนั ธข์ุ องเพศเมยี เทา่ กบั 9.5 เซนตเิ มตร ความดกของไขเ่ ฉลย่ี เทา่ กบั 265,000-495,900
ฟอง (Ikhwanuddin, 2015) เปน็ สตั วน์ า้ํ พลอยจบั ไดท้ ต่ี ดิ มากบั อวนลอยชายฝง่ั โดยเฉพาะอวนจมปมู า้
ปัจจุบันเป็นหนึ่งในปูที่นิยมจับมาบริโภค โดยจะนำ�มาต้มแกะเนื้อเพื่อจำ�หน่าย ข้อสังเกตกลิ่นของ
เน้ือปูตายาวจะแรงกวา่ ปูมา้ หรือปูชนิดอนื่ ๆ
ความถ่ที ่พี บ และมูลค่าสตั วน์ ํ้าที่ท่าขึน้ ปลาชมุ ชน

จากการสมั ภาษณช์ าวประมงพบวา่ การประมงโดยเฉพาะเครอ่ื งมอื อวนลอยปมู า้ สามารถจบั
สัตว์นไี้ ดบ้ ่อยคร้งั โดยโอกาสทจี่ ะตดิ เครื่องมือประมงอวนลอยประมาณ 8 ครง้ั ใน10 คร้งั ของการ
ท�ำ การประมง และสามารถพบสตั วน์ า้ํ นไ้ี ดใ้ นผลจบั ตลอดทง้ั ปี แตจ่ ะพบไดม้ ากในชว่ งเดอื นตลุ าคม
ถึงพฤศจิกายน ราคากโิ ลกรมั ละ 60-80 บาท ข้นึ อยู่กับขนาดสตั วน์ า้ํ

75

1 cm
Portunidae

ปูมา้Portunus pelagicus (Linnaeus, 1758)

Blue swimming crab

76

ลกั ษณะ
กระดองกว้าง แบน ผิวกระดองมีตุ่มเล็ก ๆ สีพื้นเป็นสีเขียวขี้ม้า มีลายสีขาวขอบสีฟ้า

เปน็ จดุ หรอื ขดี กระจายทว่ั ไป กา้ นตายาวปกติ ฟนั ขา้ งกระดองมี 9 ซ่ี ฟนั ขา้ งกระดองซท่ี ่ี 9 มขี นาดใหญ่
และยาวที่สุด ปลายแหลมชี้ไปด้านข้าง ก้ามเรียวยาว ผิวเกลี้ยงกว่ากระดอง ขาเดินสั้นกว่าก้าม
ขาคูท่ ี่ 5 แผ่แบนแบบใบพาย ปลายขาเดนิ เป็นสฟี ้าสด มีแผงขนสีแดงทง้ั ขอบบนและขอบล่าง
ขนาด

พบทั่วไปมีความกว้างกระดองด้านนอกประมาณ 10-14 เซนติเมตร แต่พบว่ามีขนาด
ความกว้างใหญส่ ดุ 20 เซนตเิ มตร
นเิ วศวทิ ยา

อาศัยอยู่ตามหน้าดินที่เป็นทรายหรือทรายปนโคลน ตั้งแต่เขตชายฝั่งถึงระดับความลึก
50 เมตร ชอบอาศยั อยบู่ รเิ วณสนั ดอนทราย และแหลง่ หญา้ ทะเล พบปมู า้ ชกุ ชมุ ในพน้ื ทซ่ี ง่ึ ความเคม็
อย่ใู นช่วง 29-32
ชวี วิทยาและการประมง

อาหารกลุ่มหลักได้แก่ ไส้เดือนทะเล แพลงก์ตอนสัตว์ หอยสองฝา ปลาที่มีขนาดเล็ก กุ้ง
มีรูปแบบการเติบโตเป็นแบบอัลโลเมตริกโดยความสัมพันธ์ระหว่างนํ้าหนักกับความกว้างกระดอง
ดา้ นในของปมู า้ เพศผแู้ ละเพศเมยี คอื W=0.149ICW22.971และ W=0.152ICW22.933คา่ พารามเิ ตอร์
การเติบโต (K) ของปูม้าเพสผู้และเพศเมีย เท่ากับ 1.2 ต่อปี และ 1.5 ต่อปี อายุของสัตว์นํ้าเมื่อ
ความกวา้ งกระดองเทา่ กบั ศนู ย์ (t0) เทา่ กบั -0.04 ตอ่ ปี ความกวา้ งกระดองดา้ นในอนนั ต์ (ICWoo)
ของปูม้าเพศผู้และเพศเมีย เท่ากับ 15.92 เซนติเมตร และ 15.52 เซนติเมตร สืบพันธุ์และวางไข่
ได้ตลอดทั้งปี แต่จะมี 2 ช่วงหลักคือ ช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน และช่วงเดือนกรกฎาคม โดยมี
ขนาดแรกสบื พนั ธข์ุ องปมู า้ เพศผมู้ คี วามกวา้ งกระดองดา้ นใน เทา่ กบั 7.79 เซนตเิ มตร และเพศเมยี
เท่ากับ 7.90 เซนติเมตร ความดกของไข่เฉลี่ยเท่ากับ 254,612-1,872,023 ฟอง (สดุ ารตั น,์ 2562
Shields and Wood, 1993; Afzaal, Z., 2018; ) เปน็ สตั วน์ า้ํ เปา้ หมายของการท�ำ ประมง โดยเฉพาะ
จากเครื่องมืออวนลอยปูม้า และยังสามารถจับได้โดยเครื่องมือประมงอื่น ๆ เช่น ลอบปูม้า และ
อวนลาก เป็นตน้
ความถีท่ ี่พบ และมลู ค่าสตั ว์นํ้าที่ท่าขนึ้ ปลาชุมชน

จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ ปมู า้ เปน็ สตั วน์ า้ํ ชนดิ เดน่ ในพน้ื ทจ่ี งั หวดั นครศรธี รรมราช
และสามารถจับปูม้าได้ทุกครั้งของการทำ�ประมง พบสัตว์นํ้าชนิดนี้ได้ตลอดทั้งปี แต่จะพบได้มาก
ในชว่ งเดือนกรกฎาคมถงึ กันยายน ราคากิโลกรมั ละ180-500 บาท ตามขนาดของสัตวน์ า้ํ

77

1 cm
Portunidae

ปูดาวPortunus sanguinolentus (Herbst, 1783)

ปูมา้ สามจุด
Three-spot swimming crab

78

ลกั ษณะ
กระดองกว้าง แบน ก้านตายาวปกติ ไม่มีขนปกคลุมแต่มีตุ่มละเอียดกระจายทั่วไป

ฟันข้างกระดองมี 9 ซี่ ฟันข้างกระดองซี่ที่ 9 มีขนาดใหญ่และยาวที่สุด ปลายแหลมชี้ไปด้านข้าง
ก้ามเรียวยาว ขาเดินส้นั กวา่ ก้าม ขาคู่ที่ 5 แผแ่ บนแบบใบพาย

กระดองมสี เี ขยี วขม้ี า้ ปนสนี า้ํ ตาล ทา้ ยกระดองมจี ดุ สมี ว่ งปนแดง ขอบสขี าวคอ่ นขา้ งกลม
3 จดุ ปลายกา้ มหนบี สมี ว่ งแดง ปลายขาทุกคูม่ ีสีม่วงปนน้าํ ตาล
ขนาด

ขนาดใหญ่สุดมีความกว้างกระดองดา้ นใน 20 เซนตเิ มตร
นิเวศวิทยา

อาศัยอยู่ตามหน้าดินที่เป็นทรายหรือทรายปนโคลน ตั้งแต่เขตชายฝั่งถึงระดับความลึก
30 เมตร
ชีววิทยาและการประมง

อาหารกลุ่มหลักได้แก่ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่อาศัยอยู่บริเวณหน้าดิน ไส้เดือนทะเล
แพลงกต์ อนสัตว์ หอยสองฝา มีรายงานค่าพารามเิ ตอรก์ ารเติบโต (K) เท่ากบั 1.2 ต่อปี ความยาว
อนนั ต์ (Loo) เทา่ กับ 17.8 เซนติเมตร อายุของสตั ว์น้ําเมือ่ ความยาวเท่ากบั ศนู ย์ (t0) เทา่ กับ -0.08
ตอ่ ปี (Gyanaranjan et al., 2013) สบื พนั ธแ์ุ ละวางไขใ่ นชว่ งเดอื นธนั วาคมถงึ มกราคม (Lakshmi
and Thirumilu, 2012) โดยมีขนาดแรกสืบพันธุ์ของเพศผู้เท่ากับ 9.5-10.0 เซนติเมตร และขนาด
แรกสืบพันธุ์ของเพศเมียเท่ากับ 9.1-9.5 เซนติเมตร (Soundarapandian, 2013) ความดกของไข่
เฉล่ียเทา่ กบั 420,000-1,150,000 ฟอง (Lalitha, 1985)
ความถีท่ พ่ี บ และมลู ค่าสตั วน์ ํ้าทท่ี ่าขนึ้ ปลาชมุ ชน

จากการสัมภาษณ์ชาวประมงพบว่า สามารถจับปูดาวได้บ่อยครั้ง โดยโอกาสที่จะติด
เครื่องมือประมงอวนลอยประมาณ 7 ครั้ง ใน 10 ครั้งของการทำ�ประมง สามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้
ตลอดทั้งปี แต่จะพบจำ�นวนมากขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม ราคากิโลกรัมละ 100
-180 บาท

79

1 cm
Portunidae

ปูทะเลScylla paramamosain Estampador, 1950

ปขู าว, ปดู ำ�
Green mud crab

80

ลกั ษณะ
กระดองทรงรีรูปไข่ ผิวเรียบมัน ก้านตายาวปกติ ฟันระหว่างตามี 4 ซี่ปลายแหลม

ฟนั ขา้ งกระดองมี 9 ซ่ี มขี นาดใกลเ้ คยี งกนั กา้ มมขี นาดใหญ่ แขง็ แรง ขาคทู่ ่ี 5 แผแ่ บนแบบใบพาย
กระดองมสี พี น้ื เปน็ สเี ขยี วหรอื สเี ขยี วออ่ น กา้ มสว่ นบนมสี เี ขยี วถงึ นา้ํ เงนิ อมเขยี ว สว่ นลา่ ง

มีสเี หลอื งออ่ นถึงสม้ อมเหลอื ง
ขนาด

พบทว่ั ไปมคี วามกวา้ งกระดองดา้ นนอก 15-18 เซนตเิ มตร มพี บขนาดใหญส่ ดุ ความกวา้ ง
กระดอง 20 เซนตเิ มตร
นเิ วศวิทยา

อาศยั อยู่ในรูบรเิ วณปา่ ชายเลน หรอื กองหนิ ใตน้ ้าํ ใกลแ้ นวปะการัง
ชวี วทิ ยาและการประมง

ปทู ะเลมพี ฤตกิ รรมหากนิ ในเวลากลางคนื โดยอาหารกลมุ่ หลกั ไดแ้ ก่ หอยสองฝา หอยฝาเดยี ว
กุ้ง ปู ปลา และเศษพืช เป็นต้น สามารถแบ่งระยะการสืบพันธุ์และวางไข่ออกเป็นสองช่วง
ชว่ งการผสมพนั ธร์ุ ะหวา่ งเดอื นพฤศจกิ ายนถงึ ธนั วาคม และวางไขร่ ะหวา่ งเดอื นเมษายนถงึ พฤษภาคม
ขนาดแรกสืบพันธุ์ของเพศเมียมีความกว้างกระดองเฉลี่ยเท่ากับ 11.56 เซนติเมตร (รัชฎา, 2547)
มีรายงานว่าความสมั พนั ธ์ระหว่างความยาวกับนา้ํ หนกั อยใู่ นรปู แบบสมการ W=0.2241CW33.000
(Islam, 2018) ค่าพารามิเตอร์การเติบโต (K) เท่ากับ 2.39 ต่อปี ความยาวอนันต์ (Loo) เท่ากับ
15.0 เซนตเิ มตร (Le Vay et al., 2007) มขี นาดแรกสบื พนั ธ์ุ ของปขู าวเพศเมยี มคี วามกวา้ งกระดอง
เฉลย่ี เทา่ กบั 10.6 เซนตเิ มตร (Le et al., 2007) ความดกของไขป่ ระมาณ 1,800,000-2,800,000 ฟอง
ขน้ึ อยกู่ บั ขนาดของปทู ะเล (อาภรณ,์ 2558) ปทู ะเลนบั เปน็ สตั วน์ า้ํ ชนดิ พลอยจบั ไดจ้ ากอวนลอยชายฝง่ั
แตเ่ ปน็ สตั วท์ ช่ี าวประมงสามารถน�ำ ไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ และเปน็ สตั วน์ า้ํ ทม่ี คี วามส�ำ คญั ทางเศรษฐกจิ
ความถี่ทพ่ี บ และมูลค่าสัตวน์ า้ํ ท่ที ่าข้ึนปลาชมุ ชน

จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ โอกาสทป่ี ดู �ำ จะตดิ เครอ่ื งมอื ประมงอวนลอย โดยเฉพาะ
อวนลอยปู ประมาณ 1 ครง้ั ใน 10 ครง้ั ท�ำ การประมง โดยสามารถพบสตั วน์ า้ํ นไ้ี ดใ้ นผลจบั ตลอดทง้ั ปี
แต่จะพบได้มากในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม ราคากิโลกรัมละ 300-500 บาท ขึ้นอยู่กับขนาด
สตั วน์ ้ํา

81

1 cm
Portunidae

ปูมา้ แบนXiphonectes hastatoides (Fabricius, 1798)

Swimming crab

82

ลักษณะ
กระดองแบน มขี นสน้ั ปกคลมุ ทว่ั ไป ผวิ กระดองมหี ยอ่ มของตมุ่ กระจายทว่ั ไป ฟนั ระหวา่ งตา

เป็นรูปสามเหลี่ยม 4 ซี่ คู่กลางเล็กและแหลมกว่าคู่ข้าง คู่ข้างเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายมนและ
กว้างมาก ฟันข้างกระดอง 9 ซี่ปลายแหลม ซี่สุดท้ายมีขนาดใหญ่และยาวที่สุด มุมท้ายกระดอง
เปน็ หนามแหลมปลายยกสงู ขน้ึ กา้ มทง้ั สองขา้ งมขี นาดเทา่ กนั ขอบบนแขนมหี นาม 4 อนั ขอบลา่ ง
แขนมีหนาม 2 อัน ปลายกา้ มหนบี เรียวแหลม ขาเดนิ เรียวยาว ขาคทู่ ่ี 5 แบนเหมอื นใบพาย

ลำ�ตัวมีสีเขียวขี้ม้าปนนํ้าตาล มีตุ่มเล็ก ๆ สีดำ�ทั่วไป ฟันข้างกระดองและหนามมีขีดสีดำ�
รยางค์ต่าง ๆ มีขีดสชี มพูเหลือบวาวแบบมกุ ขาคูท่ ่ี 5 ปลอ้ งท้ายสดุ มีจุดสีด�ำ ตรงปลายชัดเจน
ขนาด

ขนาดทพ่ี บทว่ั ไปเพศผมู้ คี วามกวา้ งกระดองดา้ นนอก 24-44 มลิ ลเิ มตร เพศเมยี มคี วามกวา้ ง
กระดอง 29-44 มลิ ลเิ มตร
นเิ วศวิทยา

อาศัยอยูต่ ามหนา้ ดินท่ีเป็นโคลนหรอื ทราย ตั้งแตเ่ ขตชายฝัง่ ถงึ ระดบั ความลึก 100 เมตร
ชวี วทิ ยาและการประมง

การศึกษาชีววิทยาและการประมงของสัตว์ชนิดนี้ยังมีน้อย และเป็นสัตว์นํ้าพลอยจับได้
ที่ค่อนข้างจับได้จำ�นวนน้อยจากการประมงอวนลอยชายฝั่ง โดยเฉพาะอวนลอยปูม้า ดังนั้น
เสนอแนะว่าการศึกษาทางชีววิทยาประมงของสัตว์นํ้าชายฝั่งชนิดนี้ เป็นประเด็นที่น่าสนใจและ
เป็นขอ้ มลู พ้ืนฐานส�ำ หรบั การบริหารจดั การทรพั ยากรประมงแบบหลากชนดิ ในอนาคต
ความถี่ท่พี บ และมูลค่าสัตวน์ ้าํ ที่ท่าขนึ้ ปลาชมุ ชน

จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ ทกุ ครง้ั ทท่ี �ำ ประมงจะพบปมู า้ แบนตดิ เครอ่ื งมอื ประมง
อวนลอยชายฝั่ง โดยเฉพาะอวนลอยปูม้า ประมาณ 1 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถ
พบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี แต่จะพบได้มากในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ไม่มีมูลค่า
ทางเศรษฐกจิ

83

1 cm
Dasyatidae

ปลากระเบนหัวแหลมDasyatis zugei (Muller and Henle, 1841)

ปลากระเบนจมูกแหลม, ปลากระเบนปากแหลม, จงม้ง
Sharpnose stingray

84

ลกั ษณะ ปลา
แผน่ ลำ�ตวั เปน็ รปู ห้าเหล่ยี ม มคี วามยาวมากกว่าความกว้าง จะงอยปากยาว ปลายแหลม

มแี ถวหนามขนาดเลก็ ทแ่ี นวกลางดา้ นบนโคนหาง หางสน้ั มเี งย่ี ง 1-2 อนั และมแี ผน่ หนงั ทง้ั ดา้ นบน
และด้านล่างของหาง โคนเงี่ยงมีต่อมพิษ หากโดนทิ่มแทงและได้รับพิษเข้าสู่ร่างกาย ทำ�ให้ได้รับ
บาดเจบ็ และปวดอย่างรนุ แรง

แผน่ ลำ�ตัวมีสนี ้ําตาลเขม้ ด้านทอ้ งมสี ขี าว
ขนาด

พบทว่ั ไปมคี วามกวา้ งแผน่ ล�ำ ตวั 18 เซนตเิ มตร ขนาดใหญท่ ส่ี ดุ มคี วามกวา้ ง 29 เซนตเิ มตร
นเิ วศวทิ ยา

อาศยั อยบู่ รเิ วณพน้ื ทอ้ งทะเล ตง้ั แตช่ ายฝง่ั ทะเล จนถงึ ระดบั ความลกึ 100 เมตร อาหาร
ได้แก่ ครัสเตเชียนขนาดเลก็ ปลาขนาดเล็ก
ชวี วทิ ยาและการประมง

อาหารกลมุ่ หลกั ไดแ้ ก่ สตั วไ์ มม่ กี ระดกู สนั หลงั ทอ่ี าศยั อยบู่ รเิ วณหนา้ ดนิ รปู แบบการเตบิ โต
เปน็ แบบอลั โลเมตรกิ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความยาวกบั นา้ํ หนกั อยใู่ นรปู แบบสมการ W= 0.046L2.860
(White and Dharmadi, 2007) การศกึ ษาชวี วทิ ยาประมงของสตั วน์ า้ํ ชนดิ นใ้ี นประเทศไทยยงั มนี อ้ ย
ดังนั้นจึงเป็นชนิดสัตว์นํ้าที่น่าสนใจสำ�หรับการศึกษาทางด้านชีววิทยาและพลวัตประชากร เพื่อ
ประกอบการวางแผนจัดการทรัพยากรประมงในอนาคต
ความถี่ท่พี บ และมลู ค่าสตั ว์นา้ํ ทท่ี ่าขน้ึ ปลาชมุ ชน

จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ บอ่ ยครง้ั ทจ่ี ะตดิ เครอ่ื งมอื ประมงอวนลอย ประมาณ
7 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง สามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี ราคากิโลกรัมละ 70-
100 บาท

85

1 cm
Muraenesocidae

ปลายอดจากMuraenesox cinereus (Forsskal, 1775)

ปลามังกร
Daggertooth pike conger

86

ลักษณะ
ตวั ยาว แบนขา้ งเลก็ นอ้ ย ความยาวหวั เปน็ 8 เทา่ ของระยะหา่ งระหวา่ งตา ตามขี นาดใหญ่

จะงอยปากยาว ขากรรไกรบนยื่นยาวออกและปลายงุ้มลง ฟันบนเพดานปากเป็นรูปสามเหลี่ยม
ขอบฟันด้านหน้าเป็นแนวตรง ฟันบนขากรรไกรล่างมีมากกว่า 1 แถว ครีบหลังมีก้านครีบอ่อน
ตั้งแต่จุดเริ่มต้นถึงรูทวารจำ�นวน 66-78 ก้าน ไม่มีเกล็ด มีรูเล็ก ๆ บนเส้นข้างตัวก่อนถึงรูทวาร
จ�ำ นวน 40-47 รู ครบี หลงั ครีบก้นและครบี หางติดต่อกนั

ด้านหลังสนี ํ้าตาลออ่ น ดา้ นท้องสีขาว ครีบใสขอบครบี มีสีคล้าํ
ขนาด

พบความยาวเหยียดสูงสุด 80 เซนติเมตร
นิเวศวิทยา

อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลถึงระดับความลึก 100 เมตร และอาศัยอยู่บริเวณแหล่ง
นํา้ กร่อยที่มพี นื้ นุ่ม
ชวี วิทยาและการประมง

มพี ฤตกิ รรมหากนิ เวลากลางคนื อาหารกลมุ่ หลกั ไดแ้ ก่ ปลา สตั วห์ นา้ ดนิ และครสั เตเชยี น
รูปแบบการเติบโตเป็นแบบอัลโลเมตริก มีรายงานว่าความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับนํ้าหนัก
อยู่ในรูปแบบสมการ W=0.0002TL33.421(Perkins et al., 2019) ค่าพารามิเตอร์การเติบโต (K)
ของเพศผแู้ ละเพศเมยี เทา่ กบั 0.33 และ 0.19 ตอ่ ปี ความยาวอนนั ต์ (Loo) เทา่ กบั 126 เซนตเิ มตร
(Watari, 2013) สืบพันธุ์และวางไข่ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกุมภาพันธ์ (CMFRI, 2015) จัดเป็น
สตั วน์ า้ํ พลอยจบั ไดท้ ต่ี ดิ เครอ่ื งมอื ประมงอวนลอยชายฝง่ั แตเ่ ปน็ ชนดิ ทช่ี าวประมงสามารถน�ำ ไปใช้
ประโยชนไ์ ด้
ความถ่ีทพี่ บ และมูลคา่ สัตวน์ าํ้ ท่ีทา่ ข้นึ ปลาชุมชน

จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ โอกาสทจ่ี ะพบปลายอดจากตดิ เครอ่ื งมอื ประมงอวนลอย
โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู และอวนลอยกงุ้ ประมาณ 5 ครง้ั ใน 10 ครง้ั ท�ำ การประมง โดยสามารถ
พบสตั วน์ า้ํ นไ้ี ดใ้ นผลจบั ตลอดทง้ั ปี แตจ่ ะพบไดม้ ากในชว่ งเดอื นมกราคมถงึ เมษายน ราคากโิ ลกรมั ละ
30-80 บาท ขึน้ อย่กู บั ขนาดสัตว์นํา้

87

1 cm
Engraulidae

ปลาหางไกจ่ ุดทองCoilia dussumieri Valenciennes, 1848

Gold-spotted grenadier anchovy

88

ลกั ษณะ
ลำ�ตัวแบนข้าง ยาวเรียวแหลมไปทางส่วนหาง สันท้องมีเกล็ดที่เปลี่ยนรูปเป็นแผ่นแข็ง

สันคมจำ�นวน 12-15 อัน มีหนามแหลมสั้นหน้าครีบหลัง 1 อัน ครีบหลังฐานสั้น ครีบอกมีก้าน
ครบี ออ่ น 9-11 กา้ น ตอนบนมกี า้ นครบี ออ่ น 6 กา้ นยน่ื ยาวมาก ครบี กน้ ฐานยาวเชอ่ื มตอ่ กบั ครบี หาง
ครีบหางแหลม มขี นาดเลก็

ล�ำ ตวั ดา้ นหลงั สนี า้ํ ตาล ดา้ นขา้ งสเี งนิ มแี ถบสเี งนิ พาดตลอดแนวขา้ งล�ำ ตวั สว่ นลา่ งมจี ดุ
สที องเรียงเป็นแถวยาว 1-2 แถว
ขนาด

ขนาดที่พบทั่วไปมีความยาวเหยียด 13-17 เซนติเมตร ขนาดใหญ่สุดมีความยาว 20
เซนตเิ มตร
นเิ วศวทิ ยา

อาศัยอย่บู รเิ วณชายฝั่งทะเล และแหลง่ นา้ํ กรอ่ ย
ชวี วิทยาและการประมง

อาหารกลุ่มหลักได้แก่ โคพีพอด กุ้ง ปลาวัยอ่อน และไข่ปลา รูปแบบการเติบโตเป็นแบบ
อลั โลเมตรกิ โดยมรี ายงานความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความยาวกบั นา้ํ หนกั อยใู่ นรปู แบบสมการ W=0.00
9TL2 2.640(Hossain et al., 2015) ค่าพารามิเตอร์การเติบโต (K) เทา่ กบั 0.840 ต่อปี ความยาว
อนนั ต์ (Loo) เทา่ กบั 28.5 เซนตเิ มตร สบื พนั ธแ์ุ ละวางไขใ่ นชว่ งเดอื นพฤษภาคมถงึ มถิ นุ ายน ขนาด
แรกสบื พนั ธเ์ุ ทา่ กบั 12 เซนตเิ มตร ความดกของไขเ่ ฉลย่ี เทา่ กบั 1,000-5,000 ฟอง (Whitehead et
al., 1988; Fernandez and Devaraj, 1989)
ความถี่ท่พี บ และมูลคา่ สัตวน์ า้ํ ทีท่ า่ ขนึ้ ปลาชมุ ชน

จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าโอกาสที่จะพบปลาหางไก่จุดทองติดเครื่องมือ
ประมงอวนลอยชายฝั่ง โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู ประมาณ 2 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง
โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี แต่จะพบได้มากในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม
ราคากิโลกรัมละ 30-50 บาท

89

1 cm
Engraulidae

ปลาแมวSetipinna taty (Valenciennes, 1848)

Scaly hairfin anchovy

90

ลักษณะ
ล�ำ ตวั แบนขา้ งมาก หวั เลก็ ปากกวา้ งมาก เฉยี งขน้ึ สนั ทอ้ งมเี กลด็ ทเ่ี ปลย่ี นรปู เปน็ แผน่ แขง็

สันคมจำ�นวน 32-40 อัน มีหนามแหลมหน้าครีบหลัง 1 อัน ครีบหลังมีฐานสั้น ครีบก้นมีฐานยาว
มีก้านครีบอ่อนแบบไม่แตกแขนง 3 ก้าน ก้านครีบอ่อนแบบแตกแขนง 45-47 ก้าน ครีบอกตั้งอยู่
สว่ นลา่ งของล�ำ ตวั กา้ นครบี กา้ นแรกยน่ื ยาวถงึ ฐานครบี กน้ ครบี หางเปน็ แฉกลกึ มเี กลด็ บนครบี หลงั
และครบี กน้

ล�ำ ตวั ดา้ นหลงั สนี า้ํ ตาล ดา้ นขา้ งสเี งนิ ครบี อก ครบี หลงั และครบี หางมสี เี หลอื ง ปลายครบี
หางสีคลา้ํ
ขนาด

พบทว่ั ไปมคี วามยาวมาตรฐาน 10 เซนตเิ มตร ขนาดใหญส่ ดุ มคี วามยาวถงึ 14 เซนตเิ มตร
นิเวศวิทยา

อาศยั อยบู่ รเิ วณชายฝง่ั ทะเล เปน็ ปลาผวิ นา้ํ มพี ฤตกิ รรมการรวมฝงู และพบอาศยั บรเิ วณ
แหลง่ นา้ํ กรอ่ ย
ชวี วิทยาและการประมง

เป็นปลาทมี่ ีความสำ�คญั ในห่วงโซอ่ าหารของทะเล เพราะเปน็ อาหารของปลาหรือสัตว์นํ้า
ขนาดใหญ่ อาหารกลุ่มหลักได้แก่ ครัสเตเซียน กุ้ง กั้ง และแพลงก์ตอนสัตว์ รูปแบบการเติบโต
เป็นแบบอัลโลเมตริก มีรายงานความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับนํ้าหนักอยู่ในรูปแบบสมการ
W=0.008SL33.110(Wang, et al., 2016) คา่ พารามเิ ตอรก์ ารเตบิ โต (K) เทา่ กบั 0.33 ตอ่ ปี ความยาว
อนันต์ (Loo) เท่ากับ 20.5 เซนติเมตร (Pauly, 1978)
ความถ่ีที่พบ และมลู ค่าสตั ว์นํ้าทท่ี ่าข้ึนปลาชุมชน

จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าโอกาสที่จะพบปลาแมวติดเครื่องมือประมงอวนลอย
ชายฝั่ง โดยเฉพาะจากอวนลอยปลาทู ประมาณ 5 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถพบ
สัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี แต่จะพบได้มากในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน ราคากิโลกรัมละ
20-50 บาท

91

1 cm
Engraulidae

Stolephorus tri (Bleeker, 1852)

ปลาไส้ตนั

ปลากะตัก
Spined anchovy

92

ลกั ษณะ
ลำ�ตัวยาว แบนข้าง ครีบหลังอยู่กึ่งกลางระหว่างจะงอยปากและฐานครีบหาง มีหนาม

หนา้ ครีบหลัง 1 อนั หนามหนา้ ครบี ท้อง 6-7 อัน ครีบก้นมกี ้านครีบอ่อนแบบไม่แตกแขนง 3 กา้ น
และแบบแตกแขนง 17-18 ก้าน จดุ เรม่ิ ตน้ ครีบกน้ อยู่ในแนวใต้ครีบหลงั สว่ นทา้ ย ครีบหางเวา้ ลกึ

ล�ำ ตวั สคี รมี มจี ดุ สดี �ำ เรยี งเปน็ เสน้ คอู่ ยใู่ นแนวกลางสนั หลงั จากทา้ ยทอยถงึ ครบี หาง มแี ถบ
สเี งนิ พาดตามความยาวของลำ�ตัวจากหวั ถึงคอดหาง ครบี หางใส ขอบด้านนอกมสี ีด�ำ
ขนาด

โดยทัว่ ไปพบขนาดความยาวมาตรฐาน 10 เซนติเมตร
นิเวศวิทยา

อาศยั ตามแนวชายฝัง่ ทะเล มักอยู่รวมกันเปน็ ฝูงขนาดใหญบ่ ริเวณผิวน้าํ
ชีววทิ ยาและการประมง

อาหารกลมุ่ หลกั ไดแ้ ก่ แพลงกต์ อนพชื เชน่ ไดอะตอม และแพลงกต์ อนสตั ว์ เชน่ ตวั ออ่ น
ของครัสเตเชียน โคพีพอด หรือไข่ของหอยสองฝา รายงานว่าความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับ
นํ้าหนักอยู่ในรูปแบบสมการ W=0.009L33.000(Federizon, 1993) ค่าพารามิเตอร์การเติบโต (K)
เท่ากับ 1.25 ต่อปี ความยาวอนันต์ (Loo) เท่ากับ 14.8 เซนติเมตร (Federizon, 1993) สามารถ
สืบพันธุ์และวางไข่ได้ตลอดทั้งปี โดยฝั่งอ่าวไทยมีช่วงสืบพันธุ์และวางไข่หลัก ช่วงเดือนกุมภาพันธ์
ถงึ เมษายน และช่วงเดือนกรกฎาคมถงึ สงิ หาคม
ความถ่ีที่พบ และมูลคา่ สัตวน์ ้ําทที่ า่ ข้นึ ปลาชุมชน

จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ โอกาสทจ่ี ะพบปลาไสต้ นั ตดิ เครอ่ื งมอื ประมงอวนลอย
ชายฝง่ั โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู ประมาณ 2 ครง้ั ใน 10 ครง้ั ท�ำ การประมง โดยสามารถพบสตั วน์ า้ํ
นี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี แต่จะพบได้มากในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ราคากิโลกรัมละ 30-
40 บาท

93

1 cm
Engraulidae

ปลาแมวThryssa hamiltonii Gray, 1835

Hamilton’s thryssa

94

ลักษณะ
ลำ�ตัวแบนข้าง ปากกว้างมาก เฉียงขึ้น มีฟันขนาดเล็กไม่เป็นฟันเขี้ยว สันท้องมีเกล็ด

ทเ่ี ปลย่ี นรปู เปน็ แผน่ แขง็ สนั คมจ�ำ นวน 26-31 เกลด็ มหี นามแหลมสน้ั หนา้ ครบี หลงั 1 อนั ครบี หลงั
มีฐานครีบสั้น ครีบก้นมีฐานครีบยาว มีก้านครีบอ่อนแบบไม่แตกแขนง 3 ก้าน ก้านครีบอ่อนแบบ
แตกแขนง 32-39 ก้าน ครบี หางแบบเวา้ ลึก

หวั มสี เี หลอื งออ่ น ล�ำ ตวั สขี าวเงนิ ดา้ นหลงั สเี ทา มแี ตม้ สดี �ำ บรเิ วณปลายกระดกู ปดิ เหงอื ก
ครีบหลังสีเหลืองขอบครีบสีดำ� ครีบอกและครีบท้องสีเหลืองอ่อน ครีบก้นสีขาว ครีบหางสีเหลือง
ปลายครีบสดี �ำ
ขนาด

พบทว่ั ไปมีความยาวมาตรฐาน 17 เซนตเิ มตร ขนาดใหญส่ ดุ มีความยาว 20 เซนติเมตร
นิเวศวทิ ยา

อาศยั อย่บู รเิ วณชายฝ่ังทะเล และพบอาศัยบรเิ วณแหลง่ นาํ้ กรอ่ ย
ชวี วิทยาและการประมง

เป็นปลาผิวนํ้า มีพฤติกรรมการรวมฝูง อาหารกลุ่มหลักได้แก่ ครัสเตเซียน กุ้ง กั้ง และ
แพลงก์ตอนสัตว์ รูปแบบการเติบโตเป็นแบบไอโซเมทริก (Baloch et al., 2012) ความสัมพันธ์
ระหว่างความยาวกับนํ้าหนักอยู่ในรูปแบบสมการ W=0.025TL33.362 (Hussain et al., 2010)
ค่าพารามิเตอร์การเติบโต (K) เท่ากับ 1.32 ต่อปี อายุของสัตว์นํ้าเมื่อความยาวเท่ากับศูนย์ (t0)
เท่ากับ -0.10 ต่อปี ความยาวอนันต์ (Loo) เท่ากับ 22.9 เซนติเมตร (Hoedt, 1992) สืบพันธุ์และ
วางไข่ในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม (Hussain et al., 2010) จัดเป็นสัตว์นํ้ากลุ่มพลอยจับได้ที่
ชาวประมงสามารถน�ำ ขนึ้ มาใชป้ ระโยชน์ได้
ความถ่ีทพี่ บ และมลู ค่าสตั ว์น้าํ ทีท่ ่าข้นึ ปลาชุมชน

จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าสามารถพบปลาแมวทุกครั้งของการทำ�ประมงอวน
ปลาทู และบางครง้ั อาจจะเจอไดบ้ า้ งแตไ่ มบ่ อ่ ยจากอวนลอยกงุ้ โดยสามารถพบสตั วน์ า้ํ นไ้ี ดใ้ นผลจบั
ตลอดทงั้ ปี แต่จะพบไดม้ ากในชว่ งเดือนมกราคมถงึ มนี าคม ราคากโิ ลกรมั ละ 30-50 บาท

95

1 cm
Engraulidae

ปลาแมวหวั แหลมThryssa kammalensis (Bleeker, 1849)

Kammal thryssa

96

ลักษณะ
ล�ำ ตวั แบนขา้ ง จะงอยปากแหลมยน่ื ลา้ํ ออกมาคลมุ ปลายขากรรไกรลา่ ง กระดกู ขากรรไกรบน

ยาวถงึ ขอบกระดกู ปดิ เหงอื ก มฟี นั ขนาดเลก็ ไมเ่ ปน็ ฟนั เขย้ี ว สนั ทอ้ งมเี กลด็ ทเ่ี ปลย่ี นรปู เปน็ แผน่ แขง็
สนั คมจ�ำ นวน 23-25 เกลด็ มหี นามแหลมสน้ั หนา้ ครบี หลงั 1 อนั ครบี หลงั มฐี านสน้ั มกี า้ นครบี ออ่ น
11 ก้าน ครีบก้นมีฐานยาว มีก้านครีบอ่อนแบบไม่แตกแขนง 3 ก้าน ก้านครีบอ่อนแบบแตกแขนง
30-33 กา้ น ครีบหางแบบเวา้ ลกึ

ล�ำ ตวั มสี เี งนิ ดา้ นหลงั สเี ทา มแี ถบสดี �ำ บรเิ วณหนา้ ผากและแตม้ สดี �ำ บรเิ วณปลายกระดกู
ปิดเหงอื ก
ขนาด

ขนาดใหญท่ ี่สดุ มีความยาวมาตรฐาน 10 เซนตเิ มตร
นิเวศวิทยา

อาศยั อยบู่ รเิ วณชายฝ่ังทะเล
ชวี วิทยาและการประมง

เปน็ กลมุ่ ปลาผวิ นา้ํ มกั มพี ฤตกิ รรมการรวมฝงู อาหารกลมุ่ หลกั ไดแ้ ก่ ครสั เตเซยี น กงุ้ กง้ั
และแพลงกต์ อนสตั ว์ รปู แบบการเตบิ โตเปน็ แบบอลั โลเมตรกิ และมรี ายงานวา่ มคี วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง
ความยาวกบั นา้ํ หนกั อยใู่ นรปู แบบสมการ W=0.008SL33.130(Wang et al., 2016) คา่ พารามเิ ตอร์
การเตบิ โต (K) เทา่ กบั 0.33 ตอ่ ปี ความยาวอนนั ต์ (Loo) เทา่ กบั 14.0 เซนตเิ มตร (Hu et al., 2015)
ความถที่ พี่ บ และมลู ค่าสตั ว์นํา้ ทที่ ่าขึ้นปลาชมุ ชน

จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ โอกาสท่ีจะพบปลาแมวหัวแหลมตดิ เครอื่ งมอื ประมง
อวนลอยชายฝง่ั โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู ประมาณ 2 ครง้ั ใน 10 ครง้ั ท�ำ การประมง โดยสามารถ
พบสตั วน์ า้ํ นไ้ี ดใ้ นผลจบั ตลอดทง้ั ปี แตจ่ ะพบไดม้ ากในชว่ งเดอื นมนี าคมถงึ เมษายน ราคากโิ ลกรมั ละ
30-50 บาท

97

1 cm
Pristigasteridae

ปลาอปี ดุ ตาโตIlisha melastoma (Bloch & Schneider, 1801)

Indian ilisha

98


Click to View FlipBook Version