ลกั ษณะ
ล�ำ ตวั ปอ้ ม แบนขา้ งมาก จะงอยปากทู่ ปากกวา้ ง มมุ ปากอยเู่ ลยขอบหลงั ตามาก ปากลา่ ง
มฟี นั 2 แถวขนาดใกลเ้ คยี งกนั ครบี หลงั มี 2 ตอน ตอนหนา้ เปน็ กา้ นครบี แขง็ สน้ั จ�ำ นวน 6-7 กา้ น
ตอนหลังเป็นก้านครีบแข็ง 1 ก้าน ก้านครีบอ่อน 19-21 ก้าน ครีบอกมีขนาดใกล้เคียงกับครีบท้อง
ครบี กน้ มกี า้ นครบี แขง็ 2 กา้ นแยกออกมาดา้ นหนา้ กา้ นครบี ออ่ น 16-19 กา้ น ครบี หางเปน็ แฉกเวา้ ลกึ
เกลด็ บริเวณใต้เส้นขา้ งตวั รปู สีเ่ หลยี่ มผืนผ้าปลายมน
หวั และล�ำ ตวั ดา้ นหลงั มสี เี ขยี วเขม้ หรอื สนี า้ํ เงนิ ดา้ นขา้ งสเี ทาถงึ สขี าวเงนิ มแี ถบวงรสี ดี �ำ
5-8 แถบเรยี งอย่เู หนอื เส้นข้างตัว โดย 2 แถบแรกมกั อยูบ่ นเส้นข้างตวั
ขนาด
ขนาดใหญ่สดุ ทีม่ ีการรายงานความยาวเหยยี ด 120 เซนติเมตร
นเิ วศวิทยา
อาศัยอยใู่ นทะเล มักพบบรเิ วณแนวปะการัง บางคร้ังเขา้ มาอาศยั ในแหล่งนา้ํ กรอ่ ย
ชีววทิ ยาและการประมง
เป็นกลุ่มปลาที่มีพฤติกรรมรวมฝูงขนาดเล็ก อาหารหลักได้แก่ สัตว์นํ้าวัยอ่อนขนาดเล็ก
สัตว์หน้าดิน รูปแบบการเติบโตเป็นแบบอัลโลเมตริก ความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับนํ้าหนัก
อยใู่ นรปู แบบสมการ W=0.02480L22.792คา่ พารามเิ ตอรก์ ารเตบิ โต (K) เทา่ กบั 0.1 ตอ่ ปี คา่ ความยาว
อนนั ต์ (Loo) เทา่ กบั 114 เซนตเิ มตร ชว่ งสบื พนั ธห์ุ ลกั ในชว่ งเดอื นตลุ าคมถงึ พฤศจกิ ายน (Sher et
al., 2013)
ความถท่ี ีพ่ บ และมลู คา่ สตั ว์นํ้าท่ีทา่ ขน้ึ ปลาชุมชน
จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าโอกาสที่จะพบปลาสละติดเครื่องมือประมงอวนลอย
ชายฝั่ง ประมาณ 2 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี
แตจ่ ะพบไดม้ ากในชว่ งเดอื นมกราคมถงึ มีนาคม ราคากโิ ลกรัมละ 80-100 บาท
149
1 cm
Carangidae
Scomberoides tol (Cuvier, 1832)
ปลาสเี สียด
ปลาขานกยาง
Needlescaled queenfish
150
ลักษณะ
ลำ�ตัวป้อม แบนข้างมาก จะงอยปากทู่ ปากกว้าง มุมปากยาวไม่ถึงขอบหลังตา ปากล่าง
มฟี นั 2 แถวขนาดใกลเ้ คยี งกนั ครบี หลงั มี 2 ตอน ตอนหนา้ เปน็ กา้ นครบี แขง็ สน้ั จ�ำ นวน 6-7 กา้ น
ตอนหลังเป็นก้านครีบแข็ง 1 ก้าน ก้านครีบอ่อน 19-21 ก้าน ครีบอกมีขนาดใกล้เคียงกับครีบท้อง
ครบี กน้ มกี า้ นครบี แขง็ 2 กา้ นแยกออกมาดา้ นหนา้ กา้ นครบี ออ่ น 18-20 กา้ น ครบี หางเปน็ แฉกเวา้ ลกึ
เกลด็ บรเิ วณใต้เสน้ ขา้ งตวั รปู ทรงคลา้ ยเขม็
ล�ำ ตวั ดา้ นหลงั มสี นี า้ํ เงนิ ดา้ นทอ้ งมสี ขี าว มแี ถบวงรสี ดี �ำ 5-8 แถบเรยี งอยเู่ หนอื เสน้ ขา้ งตวั
โดย 4-5 แถบแรกมกั อยบู่ นเส้นขา้ งตัว ปลายครบี หลังมีสีด�ำ
ขนาด
ขนาดท่ีพบใหญ่ทส่ี ดุ ทีม่ ีการรายงานความยาวถึงสว่ นหยกั ลกึ ของหาง 47 เซนติเมตร
นิเวศวทิ ยา
อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทะเล
ชีววทิ ยาและการประมง
มพี ฤตกิ รรมรวมฝงู ขนาดเลก็ บรเิ วณผวิ นา้ํ อาหารกลมุ่ หลกั ไดแ้ ก่ ลกู ปลาขนาดเลก็ รปู แบบ
การเติบโตเป็นแบบอัลโลเมตริก ความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับนํ้าหนักอยู่ในรูปแบบสมการ
W=0.01740L22.746 (Letourneur et al., 1998) ค่าพารามิเตอร์การเติบโต (K) เท่ากับ 0.9 ต่อปี
ค่าความยาวอนันต์ (Loo) เท่ากับ 46 เซนติเมตร (CMFRI, 2015) สืบพันธุ์และวางไข่ในช่วงเดือน
กุมภาพันธ์ถึงเดือนกรกฎาคม แต่ช่วงที่มีการสืบพันธุ์หลักคือเดือนกุมภาพันธ์ (อภิชาติ, 2530)
โดยมขี นาดแรกสบื พนั ธุ์เทา่ กับ 26 เซนติเมตร (CMFRI, 2015)
ความถที่ ีพ่ บ และมูลค่าสัตว์น้ําท่ีทา่ ข้นึ ปลาชมุ ชน
จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าโอกาสที่จะพบปลาสีเสียดเขียวติดเครื่องมือประมง
อวนลอยชายฝั่ง ประมาณ 1 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับ
ตลอดทั้งปี แต่จะพบได้มากในช่วงเดอื นกุมภาพันธ์ถงึ เมษายน ราคากโิ ลกรมั ละ 50-60 บาท
151
1 cm
Leiognathidae
ปลาแปน้ กระสวยEubleekeria splendens (Cuvier, 1829)
Splendid ponyfish
152
ลกั ษณะ
ล�ำ ตวั ลกึ และแบนขา้ ง ปากเมอ่ื ยดื ออกแลว้ ปลายชล้ี งดา้ นลา่ ง บรเิ วณใตป้ ากเปน็ แนวตรง
บริเวณหน้าผากเป็นโหนกโค้ง สันของกระดูกขอบตาบนเป็นหยัก ซี่กรองเหงือกมีจำ�นวน 23-28 ซี่
ไม่มเี กล็ดปกคลุมบนแกม้ มแี ตเ่ กล็ดปกคลมุ บนอก
ลำ�ตัวด้านหลังสีเทาเงิน ด้านท้องสีเงิน เส้นข้างตัว ฐานครีบอก ขอบของครีบหลังและ
ครบี กน้ มสี เี หลอื ง ปลายครบี หลงั มแี ตม้ สดี �ำ มแี ถบสเี ทาเลก็ ๆ เปน็ รปู ซกิ แซกปรากฎบรเิ วณตอนบน
ของล�ำ ตวั
ขนาด
ทพ่ี บทว่ั ไปมคี วามยาวเหยยี ด 10 เซนตเิ มตร ขนาดใหญท่ ส่ี ดุ มคี วามยาวถงึ 15 เซนตเิ มตร
นิเวศวิทยา
อาศัยตามแนวชายฝั่ง บริเวณที่พื้นเป็นทรายปนโคลน จนถึงระดับความลึก 65 เมตร
ช่วงระยะวยั ออ่ นพบอาศัยในบริเวณปา่ ชายเลนจนถงึ ระดับความลึก 10 เมตร
ชวี วทิ ยาและการประมง
เปน็ ปลาทอ่ี าศยั อยรู่ วมกนั เปน็ ฝงู อาหารหลกั ไดแ้ ก่ สตั วห์ นา้ ดนิ ไดอะตอม แพลงกต์ อน
ไขป่ ลาและตวั ออ่ นสตั วน์ า้ํ รปู แบบการเตบิ โตเปน็ แบบอลั โลเมตรกิ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความยาว
กับนํ้าหนักอยู่ในรูปแบบสมการ W=0.03930L2 2.803(Letourneur et al., 1998) ค่าพารามิเตอร์
การเตบิ โต (K) เทา่ กบั 0.8 ตอ่ ปี มขี นาดความยาวอนนั ต์ (Loo) เทา่ กบั 19 เซนตเิ มตร (Ahmad et
al., 2003) สืบพันธุ์และวางไข่ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม (Donaldo, 1979) โดยมีขนาด
แรกสืบพันธุ์เพศผู้เท่ากับ 8.9 เซนติเมตร และขนาดแรกสืบพันธุ์เพศเมียเท่ากับ 9.4 เซนติเมตร
(Jayabalan, 1988)
ความถที่ ่พี บ และมูลคา่ สัตวน์ าํ้ ที่ท่าข้นึ ปลาชุมชน
จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ ปลาแปน้ กระสวยตดิ เครอ่ื งมอื ประมงอวนลอยชายฝง่ั
โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู และอวนลอยกุ้ง ทุกครั้งของการทำ�ประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้
ในผลจบั ตลอดทง้ั ปี แตม่ จี �ำ นวนมากขน้ึ ในชว่ งเดอื นมนี าคมถงึ เดอื นเมษายน ราคากโิ ลกรมั ละ 10 บาท
153
1 cm
Leiognathidae
Gazza minuta (Bloch, 1795)
ปลาแป้นเขยี้ ว
Toothpony
154
ลกั ษณะ
ลำ�ตัวรูปไข่และแบนข้าง แนวหลังและแนวท้องมีความโค้งเท่า ๆ กัน ปากสามารถยืด
ออกมาได้ เมอ่ื ยดื ออกปากจะชต้ี รงมาขา้ งหนา้ มฟี นั เขย้ี วทง้ั ปากบนและปากลา่ ง หวั และอกไมม่ เี กลด็
ครบี หลงั มกี า้ นครบี แขง็ 8 กา้ น กา้ นครบี ออ่ น 16 กา้ น ครบี กน้ มกี า้ นครบี แขง็ 3 กา้ น กา้ นครบี ออ่ น
13-14 กา้ น ครบี อกมีก้านครบี ออ่ น 14-19 ก้าน
ลำ�ตัวมีสีเงิน ด้านหลังมีสีเทา ด้านข้างมีเส้นสีคลํ้า เรียงไม่เป็นระเบียบ ครีบหลังสีคลํ้า
ครบี อกและครีบท้องไมม่ สี ี ตอนหนา้ ของครบี กน้ มสี เี หลอื ง ครีบหางสีคอ่ นขา้ งเหลอื ง
ขนาด
พบทวั่ ไปมคี วามยาวเหยียด 10 เซนติเมตร ขนาดใหญท่ ่สี ดุ มีความยาว 14 เซนติเมตร
นิเวศวทิ ยา
พบอาศัยในเขตแนวชายฝง่ั ปลาวัยรุน่ มักเข้าไปอาศยั ในแหล่งนาํ้ กร่อย
ชีววิทยาและการประมง
อาหารหลกั ไดแ้ ก่ ปลาขนาดเล็ก ไสเ้ ดือนทะเล และกลุ่มครสั เตเชยี นขนาดเลก็ รปู แบบ
การเติบโตเป็นแบบอัลโลเมตริก ความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับนํ้าหนักอยู่ในรูปแบบสมการ
W=0.05420L2 2.831(Letourneur et al., 1998) ค่าพารามิเตอร์การเติบโต (K) เท่ากับ 1.3 ต่อปี
ความยาวอนันต์ (Loo) เทา่ กบั 22.5 เซนตเิ มตร (Corpuz et al., 1985) สบื พันธแ์ุ ละวางไขใ่ นช่วง
เดือนกรกฎาคมถึงมกราคม โดยมีขนาดแรกสืบพันธุ์ของเพศผู้เท่ากับ 8.1 เซนติเมตร และขนาด
แรกสืบพันธุ์ของเพศเมียเท่ากับ 9.1 เซนติเมตร ความดกของไข่เฉลี่ยเท่ากับ 11,645-26,735 ฟอง
(Jayabalan, 1988)
ความถ่ที ่พี บ และมูลค่าสตั ว์น้ําที่ท่าข้ึนปลาชมุ ชน
จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าปลาแป้นเขี้ยวติดเครื่องมือประมงอวนลอยชายฝั่ง
โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู และอวนลอยกงุ้ ประมาณ 3 ครง้ั ใน 10 ครง้ั ท�ำ การประมง โดยสามารถ
พบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี และพบมากขึ้นในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน
ราคากโิ ลกรัมละ 10 บาท
155
1 cm
Leiognathidae
ปลาแปน้ ยกั ษ์Leiognathus equulus (Forsskal, 1775)
ปลาแปน้ ใหญ่
Common ponyfish
156
ลักษณะ
ลำ�ตัวลึกและแบนข้าง ปากเมื่อยืดออกแล้วปลายชี้ลงด้านล่าง บริเวณใต้ปากเว้าเข้า
บริเวณหน้าผากเป็นโหนกโค้ง สันของกระดูกขอบตาบนเป็นหยัก ซี่กรองเหงือกมีจำ�นวน 18-22 ซี่
หวั และอกไมม่ เี กลด็ ครบี หลงั มกี า้ นครบี แขง็ 8 กา้ น กา้ นครบี ออ่ น 16-17 กา้ น ครบี กน้ มกี า้ นครบี แขง็
3 กา้ น กา้ นครบี ออ่ น 13-14 กา้ น ครบี อกมีก้านครบี ออ่ น 19-22 ก้าน
ลำ�ตวั ด้านหลงั สเี ทา ด้านทอ้ งมีสเี งิน มแี ถบสเี ทาเลก็ ๆ ปรากฏบริเวณตอนบนของลำ�ตวั
ขอบครบี หลงั สดี �ำ บรเิ วณกา้ นครบี ออ่ น ปลายครบี หางสคี ลา้ํ ครบี อก ครบี ทอ้ ง และครบี กน้ สเี หลอื งออ่ น
ถึงใส
ขนาด
พบทว่ั ไปมคี วามยาวเหยยี ด 18 เซนตเิ มตร ขนาดใหญท่ ส่ี ดุ มคี วามยาวถงึ 24 เซนตเิ มตร
นเิ วศวิทยา
อาศยั ตามแนวชายฝง่ั ทะเล บรเิ วณทพ่ี น้ื เปน็ โคลน จนถงึ ระดบั ความลกึ 70 เมตร ปลาวยั ออ่ น
พบอาศยั ในบรเิ วณปา่ ชายเลนจนถึงระดับความลกึ 10 เมตร
ชวี วทิ ยาและการประมง
เป็นปลาที่อาศยั อยู่รวมกนั เปน็ ฝูง อาหารหลักไดแ้ ก่ ไส้เดอื นทะเล ครสั เตเชียนขนาดเล็ก
ไดอะตอม ปลาขนาดเลก็ และไขป่ ลา รปู แบบการเตบิ โตเปน็ แบบอลั โลเมตรกิ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง
ความยาวกับนํ้าหนักอยู่ในรูปแบบสมการ W=0.02960L2 2.944 (Letourneur et al., 1998)
ค่าพารามิเตอร์การเติบโต (K) เท่ากับ 0.7 ต่อปี ความยาวอนันต์ (Loo) เท่ากับ 22 เซนติเมตร
(Silvestre et al., 2004) โดยมขี นาดแรกสบื พนั ธเ์ุ ทา่ กบั 8.4 เซนตเิ มตร (Chabanne et al., 1969)
ความดกของไขเ่ ฉล่ยี เทา่ กบั 129,955-+79,343 ฟอง (Lee et al., 2005)
ความถ่ที ่ีพบ และมูลค่าสตั ว์น้าํ ที่ท่าขน้ึ ปลาชมุ ชน
จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าปลาแป้นยักษ์ติดเครื่องมือประมงอวนลอยชายฝั่ง
โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู เกอื บทุกครงั้ ของการท�ำ การประมง โดยสามารถพบสตั วน์ า้ํ น้ไี ดใ้ นผลจับ
ตลอดทงั้ ปี และพบมากข้ึนในชว่ งเดอื นมกราคมถึงเดือนมนี าคม ราคากิโลกรัมละ 50-80 บาท
157
1 cm
Lutjanidae
ปลากะพงทองLutjanus johnii (Bloch, 1792)
ปลากะพงเกลด็ ห่าง
John’s snapper
158
ลักษณะ
ลำ�ตัวลึกปานกลาง แบนข้าง คอดหางยาว นัยน์ตาอยู่ชิดกับแนวสันหัว จะงอยปาก
ค่อนข้างแหลม ปากกว้าง ริมฝีปากหนา เกล็ดใหญ่หลุดง่าย ครีบหลังมีก้านครีบแข็ง 10 ก้าน
กา้ นครบี ออ่ น 13-14 กา้ น ครบี กน้ แหลมมน ครบี อกยาว สว่ นปลายเรยี วแหลม ครบี ทอ้ งอยใู่ ตค้ รบี อก
ครบี หางตัดตรงหรือเวา้ เลก็ น้อย
บริเวณหลังและข้างลำ�ตัวส่วนบนมีสีแดงส้มอมดำ� ท้องสีขาว บนเกล็ดแต่ละเกล็ดมีจุด
สีนํ้าตาลอมแดง ใต้ครีบหลังสว่ นทา้ ยมแี ต้มสีดำ�ขนาดใหญ่
ขนาด
ขนาดใหญท่ ่สี ดุ มีความยาว 97 เซนติเมตร
นิเวศวทิ ยา
อาศัยชายฝั่งทะเล และพื้นที่ห่างฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณรอบ ๆ แนวปะการัง ปลาวัยอ่อน
อาศยั อยูบ่ รเิ วณป่าชายเลน
ชวี วทิ ยาและการประมง
มพี ฤตกิ รรมหากนิ ตามพน้ื ทอ้ งนา้ํ อาหารไดแ้ ก่ ปลา และสตั วไ์ มม่ กี ระดกู สนั หลงั ขนาดเลก็
รูปแบบการเติบโตเป็นแบบอัลโลเมตริก ความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับนํ้าหนักอยู่ในรูปแบบ
สมการ W=0.039L22.733 (Alavi et al., 2016) ค่าพารามิเตอร์การเติบโต (K) เท่ากับ 0.3 ต่อปี
ความยาวอนันต์ (Loo) เท่ากับ 72.4 เซนติเมตร (Badrudin, 1985) การสืบพันธุ์และวางไข่ในช่วง
เดอื นตลุ าคมถงึ มกราคม (Jeyaseelan, 1998) ขนาดแรกสบื พนั ธเ์ุ ทา่ กบั 39.0 เซนตเิ มตร (Lau et
al., 2000) ความดกของไข่สูงสดุ เทา่ กบั 2,539,592 ฟอง (Kamalei, 2001)
ความถที่ พี่ บ และมลู ค่าสตั ว์นาํ้ ทที่ า่ ขึน้ ปลาชมุ ชน
จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าปลากะพงทองติดเครื่องมือประมงอวนลอยชายฝั่ง
โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู และอวนลอยปู ประมาณ 1 ครง้ั ใน 10 คร้งั ท�ำ การประมง โดยสามารถ
พบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี และพบมากขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ราคา
กโิ ลกรัมละ 120-150 บาท
159
1 cm
Lutjanidae
ปลากะพงเหลืองLutjanus madras (Valenciennes, 1831)
Indian snapper
160
ลกั ษณะ
ล�ำ ตวั ปอ้ ม แนวของสว่ นหวั ตง้ั ชนั ปานกลาง ฟนั บนเพดานปากเปน็ รปู สามเหลย่ี มสว่ นทา้ ย
ยน่ื ยาว ฟนั บนลน้ิ เปน็ ตมุ่ ขนาดเลก็ ครบี หลงั มกี า้ นครบี แขง็ 10 กา้ น กา้ นครบี ออ่ น 13 กา้ น ครบี อก
มีก้านครีบอ่อน 16-17 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน ก้านครีบอ่อน 8 ก้าน ครีบหางตัดตรง
หรือเว้าเลก็ น้อย เกล็ดเหนือเสน้ ขา้ งตัวเรยี งตวั เป็นแนวเฉียง
ล�ำ ตวั ดา้ นหลงั สนี า้ํ ตาลมเี สน้ สเี หลอื งพาดเฉยี งเหนอื เสน้ ขา้ งตวั ล�ำ ตวั ดา้ นขา้ งสขี าวมแี ถบ
สีเหลืองพาดตามแนวยาวใตเ้ สน้ ขา้ งตัว ครบี ทอ้ งสีขาวหรือสีเหลอื งอ่อน ครีบอนื่ ๆ สีเหลอื ง
ขนาด
พบทั่วไปมคี วามยาวเหยียด 20 เซนตเิ มตร ขนาดใหญ่ท่สี ุดมีความยาว 30 เซนติเมตร
นิเวศวิทยา
อาศยั ในทะเล บรเิ วณแนวปะการงั และกองหนิ ใตน้ า้ํ ทร่ี ะดบั ความลกึ 5-90 เมตร พบตาม
ป่าชายเลน ปากแมน่ าํ้ ชายฝั่งทะเล จะพบมากบริเวณทเี่ ป็นแนวหญา้ ทะเล
ชวี วทิ ยาและการประมง
การศกึ ษาชวี วทิ ยาและการประมงของสตั วช์ นดิ นย้ี งั มนี อ้ ย มรี ายงานวา่ พารามเิ ตอรก์ ารเตบิ โต
(K) เท่ากับ 0.5 ต่อปี ความยาวอนันต์ (Loo) เท่ากับ 29.4 เซนติเมตร (Pradeep, 2017) และ
เป็นสัตว์นํ้าพลอยจับได้ที่ค่อนข้างจับได้จำ�นวนน้อยจากการประมงอวนลอยชายฝั่ง โดยเฉพาะ
อวนลอยปูม้า และอวนปลาทู ดังนั้นเสนอแนะว่าการศึกษาทางชีววิทยาประมงของสัตว์นํ้าชายฝั่ง
ชนิดนี้ เป็นประเด็นที่น่าสนใจและเป็นข้อมูลพื้นฐานสำ�หรับการบริหารจัดการทรัพยากรประมง
แบบหลากชนดิ ในอนาคต
ความถี่ทีพ่ บ และมูลค่าสัตว์นํ้าท่ที ่าขึ้นปลาชมุ ชน
จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ โอกาสทจ่ี ะพบปลาปลากะพงเหลอื งตดิ เครอ่ื งมอื ประมง
อวนลอยชายฝั่ง ประมาณ 1 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับ
ตลอดท้งั ปี แต่จะพบได้มากในชว่ งเดือนกุมภาพันธ์ถงึ เมษายน ราคากโิ ลกรมั ละ 60-100 บาท
161
1 cm
Gerreidae
Gerres filamentosus Cuvier, 1829
ปลาดอกหมากกระโดง
Whipfin silverbiddy
162
ลกั ษณะ
ลำ�ตัวแบนข้าง แนวด้านหน้าของส่วนหัว ชันและโค้งเล็กน้อย ก้านครีบแข็งก้านที่ 2
ของครีบหลัง แบนข้างและยื่นยาว ปลายก้านครีบยาวถึงแนวก้านครีบก้นก้านแรก ครีบอกยาว
ปลายก้านครีบยาวถงึ แนวกา้ นครบี ก้นกา้ นแรก ครบี หางแบบเวา้ ลึก
ล�ำ ตวั สเี งนิ ดา้ นหลงั มสี นี า้ํ ตาลออ่ น มจี ดุ สนี า้ํ ตาลรปู ทรงรเี รยี งตวั เปน็ แถวแนวตง้ั 7-10 แถว
บรเิ วณขา้ งลำ�ตัว
ขนาด
พบทว่ั ไปมีความยาวเหยยี ด 15 เซนติเมตร ขนาดใหญ่ทีส่ ดุ มคี วามยาว 30 เซนตเิ มตร
นเิ วศวิทยา
อาศัยอย่ใู นทะเลบริเวณชายฝ่งั นา้ํ ต้นื ถึงระดบั ความลึก 50 เมตรพืน้ เป็นทราย
ชวี วทิ ยาและการประมง
ครสั เตเชยี มนขีพนฤาตดิกเลรก็รมคกวาารมรสวมั มพฝนั ูงธร์ ะอหาวหา่ งาครวหาลมัยกาเปวก็นบั กนลา้ํ ุ่มหสนิ่งกั มอยีชใู่ ีวนิตรปขู แนบาบดสเลม็กกาเรช่Wนไ=ส0้เ.ด06ือ9น5ทLะ33เ.ล000
(Renuka and Bhat, 2011) คา่ พารามเิ ตอรก์ ารเตบิ โต (K) เทา่ กบั 0.295 ตอ่ ปี มคี า่ ความยาวอนนั ต์
(Loo) เทา่ กบั 42.1 เซนตเิ มตร (Abu, 2017) สบื พนั ธแ์ุ ละวางไขไ่ ดต้ ลอดทง้ั ปี แตม่ ชี ว่ งสบื พนั ธห์ุ ลกั คอื
เดือนเมษายน (ทัศพล, 2550) ขนาดแรกสืบพันธุ์เพศผู้เท่ากับ 12 เซนติเมตร และขนาดแรก
สบื พันธ์ุเพศเมยี เทา่ กับ 19 เซนติเมตร (Sadovy and Cornish, 2000)
ความถี่ท่ีพบ และมลู ค่าสัตวน์ าํ้ ทท่ี า่ ขึน้ ปลาชุมชน
จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าโอกาสที่จะพบปลาดอกหมากกระโดงติดเครื่องมือ
ประมงอวนลอยชายฝั่ง ประมาณ 3 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ใน
ผลจบั ตลอดท้งั ปี แตจ่ ะพบไดม้ ากในชว่ งเดือนมกราคมถงึ มนี าคม ราคากิโลกรมั ละ 50-70 บาท
163
1 cm
Gerreidae
ปลาดอกหมากหลงั โคง้Gerres oyena (Forsskal, 1775)
ปลาดอกหมากยาว
Common silverbiddy
164
ลกั ษณะ
ลำ�ตัวป้อมค่อนข้างยาวและแบนข้าง แนวด้านหน้าของส่วนหัวโค้งเล็กน้อย ครีบหลังเว้า
ก้านครีบแข็งก้านที่ 2 ของครีบหลังไม่ยื่นยาว ครีบอกสั้น ปลายก้านครีบยาวถึงแนวก้านครีบอ่อน
กา้ นแรกของครบี หลงั ครบี หางแบบเวา้ ลกึ
ลำ�ตัวส่วนหลังสีเงินอมนํ้าตาล ด้านท้องสีเงินวาว มีบั้งแนวตั้งสีคลํ้าจาง ๆ 7-8 บั้ง
บรเิ วณด้านข้างลำ�ตวั และจางหายไปเมอื่ มีอายุมากขน้ึ ครบี ท้องและครีบกน้ มีสเี หลือง
ขนาด
พบทวั่ ไปมีความยาวเหยยี ด 15 เซนติเมตร ขนาดใหญ่ท่ีสุดมีความยาว 25 เซนตเิ มตร
นิเวศวทิ ยา
อาศยั อยใู่ นทะเล บรเิ วณชายฝง่ั ทะเลทม่ี พี น้ื เปน็ ทรายปนโคลน ถงึ ระดบั ความลกึ 50 เมตร
มักรวมอยเู่ ปน็ ฝงู
ชวี วทิ ยาและการประมง
อาหารหลัก ได้แก่ กลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็ก รูปแบบการเติบโตเป็นแบบ
อัลโลเมตริก ความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับนํ้าหนักอยู่ในรูปแบบสมการ W=0.012L33.232
(Letourneur et al., 1998) คา่ พารามเิ ตอรก์ ารเตบิ โต (K) เทา่ กบั 1.0 ตอ่ ปี ความยาวอนนั ต์ (Loo)
เท่ากับ 18.2 เซนติเมตร (Benno, 1992) สืบพันธุ์และวางไข่ได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงฤดูกาลสืบพันธุ์
หลักมีสองช่วงคือช่วงเดือนมีนาคม และช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม (Lamtane, 2007) โดยมี
ขนาดแรกสบื พนั ธเ์ุ พศผเู้ ทา่ กบั 19 เซนตเิ มตร และขนาดแรกสบื พนั ธเ์ุ พศเมยี เทา่ กบั 22 เซนตเิ มตร
(Yeeting, 1990)
ความถ่ีที่พบ และมูลค่าสัตว์นาํ้ ท่ที ่าขน้ึ ปลาชุมชน
จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ ปลาดอกหมากหลงั โคง้ ตดิ เครอ่ื งมอื ประมงอวนลอยชายฝง่ั
โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู และอวนลอยกงุ้ ประมาณ 2 ครง้ั ใน 10 ครง้ั ท�ำ การประมง โดยสามารถ
พบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี และพบมากขึ้นในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน ราคา
กิโลกรัมละ 40-80 บาท
165
1 cm
Nemipteridae
Nemipterus japonicus (Bloch, 1791)
ปลาทรายแดงญ่ีปุ่น
ทรายแดงหางยาว
Japanese threadfin bream
166
ลักษณะ
มีรูปร่างป้อม ปากบนมีฟันเขี้ยวขนาดเล็ก 4-5 คู่ ครีบอกยาว ปลายครีบยาวถึงหรือ
เลยรูทวาร ครีบอกมีก้านครีบอ่อน 17-18 ก้าน ครีบหางแบบเว้าลึก ปลายครีบหางพูบนมีลักษณะ
เป็นเส้นยนื่ ยาวออกไป
ล�ำ ตวั ดา้ นหลงั มสี ชี มพู ดา้ นทอ้ งมสี ขี าวเงนิ มแี ถบสเี หลอื ง 11-12 แถบพาดไปตามความยาว
ล�ำ ตวั บนหวั แนวดา้ นหลงั ตามแี ถบสที อง ใตจ้ ดุ เรม่ิ ตน้ ของเสน้ ขา้ งตวั มแี ตม้ สแี ดงอมเหลอื ง ครบี หลงั
สีขาว มีแถบสีเหลืองพาดตอนกลางครีบ ปลายครีบสีแดง ครีบอกสีชมพู ครีบท้องสีขาว เกล็ด
เสริมบริเวณฐานครีบท้องมีสีเหลือง ครีบก้นสีขาว มีเส้นประสีเหลืองอ่อนทั่วครีบ ครีบหางสีชมพู
ปลายครบี หางพูบนและเสน้ ทย่ี ่นื ยาวออกไปมีสเี หลือง
ขนาด
พบทว่ั ไปมคี วามยาวมาตรฐาน 15 เซนตเิ มตร ขนาดใหญท่ ส่ี ดุ มคี วามยาว 25 เซนตเิ มตร
นิเวศวิทยา
เปน็ ปลาหนา้ ดนิ อาศยั อยบู่ รเิ วณทะเลชายฝง่ั ทม่ี ลี กั ษณะเปน็ โคลนหรอื ทราย ตง้ั แตช่ ายฝง่ั
ระดบั ความลกึ 5 ถึง ความลึก 80 เมตร
ชีววทิ ยาและการประมง
มพี ฤตกิ รรมรวมฝงู หากนิ ตามพน้ื ทอ้ งทะเล เปน็ สตั วก์ นิ เนอ้ื อาหารหลกั ไดแ้ ก่ ปลาขนาดเลก็
ครัสเตเชียน หมึก และไส้เดือนทะเล ความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับนํ้าหนักอยู่ในรูปแบบ
สมการ W=0.0105L33.060(Pauly et al., 1984) ค่าพารามิเตอร์การเติบโต (K) เท่ากับ 0.8 ต่อปี
ความยาวอนันต์ (Loo) เท่ากับ 35 เซนติเมตร (Chakraborty et al., 2005) สืบพันธุ์และวางไข่ได้
ตลอดทง้ั ปี (Murty et al., 1992) โดยมขี นาดแรกสบื พนั ธเ์ุ ทา่ กบั 12.8 เซนตเิ มตร (Rajkumar et al.,
2003) ความดกไข่เฉลยี่ เทา่ กบั 18,407-75,874 ฟอง (CMFRI, 2012)
ความถท่ี ีพ่ บ และมูลคา่ สัตว์นาํ้ ท่ีท่าขึ้นปลาชุมชน
จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ ปลาทรายแดงญป่ี นุ่ ตดิ เครอ่ื งมอื ประมงอวนลอยชายฝง่ั
โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู ประมาณ 3 ครั้งใน 10 ครั้งของการทำ�ประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้า
นี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี และพบมากขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน ราคากิโลกรัมละ
80-120 บาท
167
1 cm
Polynemidae
ปลากเุ ราหนวดสเ่ี สน้Eleutheronema tetradactylum (Shaw, 1804)
Fourfinger threadfin
168
ลักษณะ
เปน็ ปลาขนาดใหญ่ ล�ำ ตวั คอ่ นขา้ งยาว ตาขนาดใหญ่ จะงอยปากสน้ั ปากเฉยี งขน้ึ เลก็ นอ้ ย
ขอบด้านทา้ ยของกระดูกหนา้ แผน่ ปดิ เหงือกมรี อยหยกั ครบี หลงั มี 2 ตอน ตอนหนา้ มกี า้ นครีบแข็ง
8 กา้ น ตอนหลงั มกี า้ นครบี แขง็ 1 กา้ น กา้ นครบี ออ่ น 12-15 กา้ น ครบี อกมกี า้ นครบี ออ่ น 12-15 กา้ น
ฐานครีบอยู่ค่อนมาทางด้านท้อง ก้านครีบส่วนล่างยื่นเป็นเส้นยาว 4 เส้น ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง
3 ก้าน ก้านครีบอ่อน 13-17 ก้าน ฐานของครีบก้นยาวกว่าฐานของครีบหลังตอนหลัง ความยาว
คอดหางยาวกว่าความยาวฐานครีบก้น ครีบหางแบบเว้าลึก เกล็ดตามแนวเส้นข้างตัวมีจำ�นวน
59-91 อัน
หวั และหลงั มสี เี ทาปนเขยี ว ดา้ นทอ้ งมสี ขี าวเงนิ ครบี ตา่ ง ๆ มสี เี ทาหรอื สเี หลอื ง ขอบครบี
มีสีเข้ม กา้ นครบี อกทีเ่ ป็นเส้นย่ืนยาวมสี ขี าว
ขนาด
ทพ่ี บทว่ั ไปมคี วามยาวมาตรฐาน 59 เซนตเิ มตร ขนาดใหญส่ ดุ มคี วามยาวถงึ 160 เซนตเิ มตร
นิเวศวิทยา
อาศยั อยูบ่ รเิ วณชายฝงั่ ทะเลและแหล่งน้าํ กรอ่ ย
ชวี วทิ ยาและการประมง
อาหารหลกั ไดแ้ ก่ กงุ้ ปลา และไสเ้ ดอื นทะเล ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความยาวกบั นา้ํ หนกั
อยใู่ นรปู แบบสมการ W=0.007L33.010(Panda et al., 2016) สบื พนั ธแ์ุ ละวางไขใ่ นชว่ งเดอื นสงิ หาคม
ถงึ พฤษภาคม (Kailola et al., 1993) ขนาดแรกสบื พนั ธเ์ุ พศผเู้ ทา่ กบั 22.5 เซนตเิ มตร และขนาดแรก
สบื พนั ธเ์ุ พศเมยี เทา่ กบั 28.5 เซนตเิ มตร (Jeyaseelan, 1998) ความดกของไขเ่ ฉลย่ี เทา่ กบั 341,358
-1,114,757 ฟอง (Zamidi, 2012) เป็นสัตว์นํ้ากลุ่มเป้าหมายที่จับได้จากอวนลอยหรืออวนล้อม
ปลากเุ รา และเป็นผลจับพลอยจับไดจ้ ากอวนลอยชายฝัง่ ชนดิ อ่ืน ๆ
ความถ่ีที่พบ และมูลค่าสตั วน์ ้ําท่ีทา่ ข้ึนปลาชุมชน
จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าโอกาสที่จะพบปลากุเราหนวดสี่เส้น ติดเครื่องมือ
ประมงอวนลอยชายฝง่ั ประมาณ 7 ครง้ั ใน 10 ครง้ั ท�ำ การประมง โดยสามารถพบสตั วน์ า้ํ นไ้ี ดใ้ นผลจบั
ตลอดท้ังปี แต่จะพบได้มากในช่วงเดอื นกมุ ภาพันธถ์ ึงเมษายน ราคากิโลกรมั ละ 120-180 บาท
169
1 cm
Sciaenidae
ปลาจวดหนวดDendrophysa russelii (Cuvier, 1829)
ปลาจวดหน้าสั้น
Goatee croaker
170
ลกั ษณะ
ลำ�ตัวป้อม แบนข้าง จะงอยปากทู่ ปากอยู่ด้านล่าง มีหนวด 1 เส้นใต้คาง ครีบหลังฐาน
ยาวมี 1 ครบี เวา้ ตรงกลาง หนา้ รอยเวา้ มกี า้ นครบี แขง็ 10 กา้ น หลงั รอยเวา้ มกี า้ นครบี แขง็ 1 กา้ น
ก้านครีบอ่อน 25-28 ก้าน ครีบก้น มีก้านครีบแข็ง 2 ก้าน ก้านครีบอ่อน 7 ก้าน ครีบหางรูปทรง
สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน เกล็ดบริเวณจะงอยปากและใต้ตาเป็นแบบขอบเรียบ ส่วนอื่นมีเกล็ดแบบ
ขอบหยกั กระเพาะลมมลี กั ษณะคลา้ ยหัวแครอทมีรยางค์ 14-17 คู่
ล�ำ ตวั ดา้ นหลงั มสี เี ทา ดา้ นทอ้ งมสี ขี าวเงนิ มแี ถบสนี า้ํ ตาลเขม้ บรเิ วณหนา้ ผาก
ขนาด
พบท่วั ไปมคี วามยาวมาตรฐาน 15 เซนตเิ มตร ขนาดใหญท่ ่ีสดุ ยาว 25 เซนติเมตร
นเิ วศวิทยา
อาศัยในทะเล บรเิ วณชายฝั่งทะเล และแหล่งนา้ํ กรอ่ ย
ชีววิทยาและการประมง
รูปแบบการเติบโตเป็นแบบอัลโลเมตริก ความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับนํ้าหนัก
อยใู่ นรปู แบบสมการ W=0.006L33.238(Perkins et al., 2019) คา่ พารามเิ ตอรก์ ารเตบิ โต (K) เทา่ กบั
0.9 ต่อปี ความยาวอนันต์ (Loo) เท่ากับ 17.5 เซนติเมตร (Ingles et al., 1984) การสืบพันธุ์และ
วางไขไ่ ดต้ ลอดทง้ั ปี (Pjayasankar, 1994) ความดกของไขเ่ ฉลย่ี เทา่ กบั 170,400 ฟอง (Bensam and
Vincent, 1969) เป็นสัตว์นํ้ากลุ่มเป้าหมายของอวนลอยหรืออวนล้อมปลาจวดชายฝั่ง แต่สามารถ
ตดิ เครอ่ื งมืออวนลอยชายฝ่งั ชนิดอน่ื ๆ
ความถ่ที ีพ่ บ และมูลค่าสัตวน์ าํ้ ที่ท่าข้ึนปลาชุมชน
จากการสัมภาษณช์ าวประมง พบวา่ ทกุ ครงั้ ทท่ี ำ�ประมงจะพบปลาจวดหนวดติดเครอื่ งมือ
ประมงอวนลอยชายฝง่ั โดยสามารถพบสตั วน์ า้ํ นไ้ี ดใ้ นผลจบั ตลอดทง้ั ปี แตจ่ ะพบไดม้ ากในชว่ งเดอื น
มกราคมถึงมีนาคม ราคากิโลกรมั ละ 30-60 บาท
171
1 cm
Sciaenidae
ปลาจวดหนา้ มอมJohnius dussumieri (Cuvier, 1830)
Sin croaker
172
ลกั ษณะ
ล�ำ ตวั ปอ้ ม แบนขา้ ง ดา้ นทอ้ งโคง้ มากกวา่ ดา้ นหลงั จะงอยปากทู่ ปากอยดู่ า้ นลา่ ง ครบี หลงั
ฐานยาวมี 1 ครีบ เว้าตรงกลาง หน้ารอยเว้ามีก้านครีบแข็ง 10 ก้าน หลังรอยเว้ามีก้านครีบแข็ง
1 กา้ น กา้ นครบี ออ่ น 28-30 กา้ น ครบี กน้ มกี า้ นครบี แขง็ 2 กา้ น กา้ นครบี ออ่ น 7-8 กา้ น กา้ นครบี
แข็งก้านที่ 2 สั้นมีความยาวเป็นครึ่งหนึ่งของก้านครีบอ่อนก้านแรก ครีบหางรูปทรงสี่เหลี่ยมขนม
เปียกปูน เกล็ดบริเวณจะงอยปากและใต้ตาเป็นแบบขอบเรียบ ส่วนอื่นมีเกล็ดแบบขอบหยัก เกล็ด
ตามแนวเสน้ ขา้ งตัวมจี ำ�นวน 48-51 เกล็ด กระเพาะลมมลี กั ษณะคลา้ ยหวั แครอทมรี ยางค์ 16 คู่
ลำ�ตัวด้านหลังมีสีนํ้าตาลอมม่วง ด้านท้องมีสีเทาเงิน ครีบหลังส่วนที่เป็นก้านครีบแข็ง
มีสีนํ้าตาลดำ� ครีบหลังส่วนที่เป็นก้านครีบอ่อนมีสีนํ้าตาล ครีบอก ครีบท้องและครีบก้นมีสีเหลือง
ครบี หางมีสีนํา้ ตาล
ขนาด
พบทั่วไปมคี วามยาวเหยยี ด 14 เซนติเมตร ขนาดใหญ่ทสี่ ดุ ยาวถึง 40 เซนตเิ มตร
นเิ วศวิทยา
อาศยั ในทะเล บริเวณชายฝง่ั ทะเลและแหล่งน้าํ กรอ่ ย
ชวี วิทยาและการประมง
การศึกษาชีววิทยาและการประมงของสัตว์ชนิดนี้ยังมีน้อย เป็นปลากินเนื้อ ได้แก่
สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังและปลาขนาดเล็ก เป็นสัตว์นํ้าพลอยจับได้ที่ค่อนข้างจับได้จำ�นวนมาก
จากการประมงอวนลอยชายฝง่ั โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู ดงั นน้ั เสนอแนะวา่ การศกึ ษาทางชวี วทิ ยา
ประมงของสัตว์นํ้าชายฝั่งชนิดนี้ เป็นประเด็นที่น่าสนใจและเป็นข้อมูลพื้นฐานสำ�หรับการบริหาร
จัดการทรพั ยากรประมงแบบหลากชนดิ ในอนาคต
ความถีท่ ี่พบ และมลู ค่าสัตว์นํา้ ทที่ ่าขึน้ ปลาชุมชน
จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ ทกุ ครง้ั ทท่ี �ำ ประมงจะพบปลาจวดหนา้ มอมตดิ เครอ่ื งมอื
ประมงอวนลอยชายฝง่ั โดยสามารถพบสตั วน์ า้ํ นไ้ี ดใ้ นผลจบั ตลอดทง้ั ปี ราคากโิ ลกรมั ละ 60-80 บาท
173
1 cm
Sciaenidae
ปลาจวดค่อมNibea soldado (Lacepede, 1802)
ปลาจวดเทา
Soldier croaker
174
ลักษณะ
เป็นปลาที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ลำ�ตัวลึก หลังโค้ง จะงอยปากมน ปากกว้างอยู่ปลายสุด
เฉียงเล็กน้อย มุมปากยื่นเลยขอบหลังตา ไม่มีหนวดใต้คาง ใต้คางมีรู 3 คู่ คู่แรกชิดกัน ฟันมีทั้ง
ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ครีบหลังฐานยาวมี 1 ครีบ เว้าตรงกลาง หน้ารอยเว้า ก้านครีบแข็ง
10 ก้าน หลังรอยเว้า มีก้านครีบแข็ง 1 ก้าน ก้านครีบอ่อน 27-33 ก้าน ครีบก้น มีก้านครีบแข็ง
2 ก้าน ก้านที่ 2 ยาว แข็งแรง ก้านครีบอ่อน 7 ก้าน ครีบหางรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน เกล็ด
บรเิ วณหวั เปน็ แบบขอบเรยี บ สว่ นอน่ื มเี กลด็ แบบขอบหยกั เกลด็ บนเสน้ ขา้ งตวั เปน็ แนวยาวถงึ ปลายหาง
มเี กลด็ ขนาดเลก็ บนครบี ออ่ นของครบี หลงั และครบี กน้ กระเพาะลมมลี กั ษณะคลา้ ยหวั แครอทมรี ยางค์
18-22 คู่
ลำ�ตัวสีขาวเงิน ครีบหลังมีจุดสีดำ�เล็ก ๆ กระจายทั่วไป ครีบอก ครีบท้อง ครีบก้น และ
ครบี หางมีสีเหลือง
ขนาด
ทว่ั ไปพบมคี วามยาวมาตรฐาน 40 เซนตเิ มตร ขนาดใหญท่ ส่ี ดุ มคี วามยาวถงึ 60 เซนตเิ มตร
นเิ วศวิทยา
อาศัยอยู่บรเิ วณชายฝงั่ ทะเลน้ําตน้ื และแหลง่ นํ้ากรอ่ ย
ชีววิทยาและการประมง
การศกึ ษาชวี วทิ ยาและการประมงของสตั วช์ นดิ นย้ี งั มนี อ้ ย อาหารหลกั ไดแ้ ก่ สตั วห์ นา้ ดนิ
และลูกปลาขนาดเล็ก รูปแบบการเติบโตเป็นแบบอัลโลเมตริก ความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับ
นํ้าหนักอยู่ในรูปแบบสมการ W=0.007L3 3.100 (Abu et al., 2017) เป็นสัตว์นํ้าพลอยจับได้
จำ�นวนมากจากการประมงอวนลอยชายฝั่ง โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู และอวนลอยกุ้ง ดังนั้น
เสนอแนะว่าการศึกษาทางชีววิทยาประมงของสัตว์นํ้าชายฝั่งชนิดนี้ เป็นประเด็นที่น่าสนใจและ
เป็นขอ้ มลู พน้ื ฐานสำ�หรับการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรประมงแบบหลากชนดิ ในอนาคต
ความถ่ีทพ่ี บ และมลู ค่าสัตว์น้ําท่ีทา่ ขนึ้ ปลาชุมชน
จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ โอกาสทจ่ี ะพบปลาจวดคอ่ มตดิ เครอ่ื งมอื ประมงอวนลอย
ชายฝั่ง ประมาณ 8 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี
แต่จะพบได้มากในช่วงเดอื นพฤษภาคมถึงกรกฎาคม ราคากโิ ลกรมั ละ 40-60 บาท
175
1 cm
Sciaenidae
Otolithes ruber (Bloch & Schneider, 1801)
ปลาจวดสองซี่
ปลาจวดเตียนเขยี้ ว, ปลาจวดเขย้ี วโง้ง
Tigertooth croaker
176
ลกั ษณะ
เปน็ ปลาขนาดกลางถงึ ใหญ่ ล�ำ ตวั คอ่ นขา้ งยาว แบนขา้ งเลก็ นอ้ ย ปากกวา้ ง เฉยี งขน้ึ ดา้ นบน
มีฟันทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่บนขากรรไกรทั้งสอง มีฟันเขี้ยวขนาดใหญ่ 1-2 คู่ บนขากรรไกร
อันใดอันหนึ่งหรือทั้งสองอัน ครีบหลังฐานยาวมี 1 ครีบ เว้าตรงกลาง หน้ารอยเว้ามีก้านครีบแข็ง
9-10 ก้าน หลังรอยเว้า มีก้านครีบแข็ง 1 ก้าน ก้านครีบอ่อน 26-30 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง
2 ก้าน ก้านครีบอ่อน 7 ก้าน ครีบหางรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน กระเพาะลมมีลักษณะคล้าย
หวั แครอทมรี ยางค์ 32-36 คู่
ล�ำ ตวั ดา้ นหลงั มสี นี า้ํ ตาล ดา้ นทอ้ งสเี งนิ วาว ครบี อก ครบี ทอ้ ง และครบี กน้ มสี นี า้ํ ตาลออ่ น
ขนาด
พบทว่ั ไปมคี วามยาวมาตรฐาน 40 เซนตเิ มตร ขนาดใหญท่ ส่ี ดุ มคี วามยาว 70 เซนตเิ มตร
นิเวศวทิ ยา
อาศยั ในทะเล บรเิ วณชายฝ่งั ทะเลนํา้ ต้ืนถึงระดบั ความลึก 40 เมตร
ชวี วิทยาและการประมง
จัดเป็นกลุ่มปลากินเนื้อ อาหารหลัก ได้แก่ ปลา และกุ้ง รูปแบบการเติบโตเป็นแบบ
อัลโลเมตริก ความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับนํ้าหนักอยู่ในรูปแบบสมการ W=0.0300L2 2.630
(Chu et al., 2011) คา่ พารามเิ ตอรก์ ารเตบิ โต (K) เทา่ กบั 0.5 ตอ่ ปี ความยาวอนนั ต์ (Loo) เทา่ กบั
69.6 เซนติเมตร (Mathews et al., 1985) สืบพันธ์ุและวางไข่ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน
(Ghasem et al., 2018) โดยมีขนาดแรกสืบพันธุ์เท่ากับ 22.1 เซนติเมตร (Lee and Baz, 1989)
ความดกของไขเ่ ฉลย่ี เทา่ กบั 53,676 ฟอง (Abou et al., 2004) เปน็ สตั วน์ า้ํ ทจ่ี บั เปน็ เปา้ หมายหลกั
ของอวนลอยหรืออวนล้อมปลาจวดชายฝั่ง และสัตว์นํ้าพลอยจับได้ของเครื่องมือประมงอวนลอย
ชายฝั่งชนดิ อื่น ๆ
ความถี่ท่ีพบ และมลู คา่ สตั ว์น้ําทท่ี า่ ขนึ้ ปลาชุมชน
จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าปลาจวดสองซี่ติดเครื่องมือประมงอวนลอยชายฝั่ง
โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู ประมาณ 7 ครง้ั ใน 10 ครง้ั ท�ำ การประมง โดยสามารถพบสตั วน์ า้ํ นไ้ี ดใ้ น
ผลจบั ตลอดทง้ั ปี และพบมากขน้ึ ในชว่ งเดอื นพฤษภาคมถงึ กรกฎาคม ราคากโิ ลกรมั ละ 100-150 บาท
177
1 cm
Sciaenidae
ปลาจวดหางกระรอกPanna microdon (Bleeker, 1849)
ปลาจวดยาว, ปลาจวดคอมา้
Panna croaker
178
ลกั ษณะ
เปน็ ปลาขนาดกลาง ล�ำ ตวั คอ่ นขา้ งยาว แบนขา้ งเลก็ นอ้ ย จะงอยปากแหลม ปากเฉยี งขน้ึ
ดา้ นบน ขากรรไกรบนและลา่ งยาวเกอื บเทา่ กนั มฟี นั ทง้ั ขนาดเลก็ และขนาดใหญบ่ นขากรรไกรทง้ั สอง
แตไ่ มม่ ฟี นั เขย้ี ว ครบี หลงั มกี า้ นครบี แขง็ 9-10 กา้ น กา้ นครบี ออ่ น 33-36 กา้ น ครบี กน้ มกี า้ นครบี แขง็
2 กา้ น กา้ นครบี อ่อน 6-7 ก้าน ครบี หางแหลม เกล็ดบรเิ วณหวั และคอเป็นแบบขอบเรยี บ บรเิ วณ
ลำ�ตัวเป็นเกล็ดแบบขอบหยัก บนเส้นข้างตัวปกคลุมด้วยเกล็ดขนาดเล็กหลายชั้น กระเพาะลม
มลี กั ษณะคลา้ ยหวั แครอทมรี ยางค์ 1 คู่ ยน่ื ออกมา รยางคแ์ ตล่ ะขา้ งแตกแขนงเปน็ 2 แขนงไปทาง
ส่วนหัวและสว่ นหาง
ล�ำ ตวั ดา้ นหลงั มสี เี ทา ดา้ นขา้ งและดา้ นทอ้ งมสี เี งนิ ครบี อกและครบี ทอ้ งมสี เี หลอื ง ครบี หลงั
ครีบก้นและครบี หางมีสเี ทา
ขนาด
พบทว่ั ไปมคี วามยาวมาตรฐาน 20 เซนตเิ มตร ขนาดใหญท่ ส่ี ดุ มคี วามยาว 30 เซนตเิ มตร
นเิ วศวทิ ยา
อาศัยในทะเล บริเวณชายฝั่งทะเลนํ้าตื้นและแหล่งนํ้ากร่อย ปลาระยะวัยอ่อนและ
ปลาระยะวยั รุน่ มักพบในป่าชายเลน
ชวี วิทยาและการประมง
การศึกษาชีววิทยาและการประมงของสัตว์ชนิดนี้ยังมีน้อย อาหารหลัก ได้แก่ เควย
ไสเ้ ดอื นทะเล และปลาขนาดเลก็ เปน็ สตั วน์ า้ํ เปา้ หมายจากการประมงอวนลอยหรอื อวนลอ้ มปลาจวด
และสัตว์นํ้าพลอยจับได้จากเครื่องมือประมงอวนลอยชายฝั่งประเภทอื่น ๆ ชาวประมงสามารถ
จับได้จำ�นวนมาก ดังนั้นเสนอแนะว่าการศึกษาทางชีววิทยาประมงของสัตว์นํ้าชายฝั่งชนิดนี้
เปน็ ประเดน็ ทน่ี า่ สนใจและเปน็ ขอ้ มลู พน้ื ฐานส�ำ หรบั การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรประมงแบบหลากชนดิ
ในอนาคต
ความถี่ทีพ่ บ และมูลค่าสัตว์น้ําท่ีทา่ ขน้ึ ปลาชมุ ชน
จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ สามารถจบั ปลาจวดหางกระรอกไดท้ กุ ครง้ั ของการท�ำ
ประมงอวนลอยชายฝั่ง โดยเฉพาะจากเครื่องมือประมงอวนลอยปลาทู สามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ใน
ผลจบั ตลอดทง้ั ปี แตจ่ ะพบไดม้ ากในชว่ งเดอื นพฤษภาคมถงึ กรกฎาคม ราคากโิ ลกรมั ละ 60-80 บาท
179
1 cm
Sciaenidae
ปลาจวดหางตดัPennahia anea (Bloch, 1793)
ปลาจวดหน้านวล
Donkey croaker
180
ลักษณะ
ลำ�ตวั ค่อนขา้ งกวา้ ง จะงอยปากแหลม ปากกวา้ ง เฉยี งขึน้ ด้านบน มีฟนั ท้ังขนาดเล็กและ
ขนาดใหญบ่ นขากรรไกรทง้ั สอง แตไ่ มม่ ฟี นั เขย้ี ว ครบี หลงั ฐานยาวมี 1 ครบี เวา้ ตรงกลาง หนา้ รอยเวา้
มกี า้ นครบี แขง็ 9-10 กา้ น หลงั รอยเวา้ มกี า้ นครบี แขง็ 1 กา้ น กา้ นครบี ออ่ น 22-24 กา้ น ครบี กน้ มี
กา้ นครบี แขง็ 2 กา้ น กา้ นครบี ออ่ น 7 กา้ น ครบี หางแบบตดั ตรง เกลด็ บรเิ วณหวั และดา้ นขา้ งล�ำ ตวั
เป็นแบบขอบเรียบ ส่วนอื่นมีเกล็ดแบบขอบหยัก กระเพาะลมมีลักษณะคล้ายหัวแครอทมีรยางค์
17-22 คู่
บริเวณหัวและล�ำ ตัวดา้ นหลงั มสี ีนา้ํ ตาลออ่ นอมเทา ดา้ นท้องมีสขี าวเงิน
ขนาด
พบทว่ั ไปมคี วามยาวมาตรฐาน 20 เซนตเิ มตร ขนาดใหญท่ ส่ี ดุ มคี วามยาว 30 เซนตเิ มตร
นเิ วศวิทยา
อาศยั ในทะเล บริเวณชายฝงั่ ทะเลถึงระดับความลึก 60 เมตร
ชวี วิทยาและการประมง
เปน็ กลมุ่ ปลากนิ เนอ้ื อาหารหลกั ไดแ้ ก่ กงุ้ ปลา และสตั วน์ า้ํ ขนาดเลก็ อน่ื ๆ ความสมั พนั ธ์
ระหว่างความยาวกับนํ้าหนักอยู่ในรูปแบบสมการ W=0.012L33.094 (Muktha et al., 2015) ค่า
พารามิเตอร์การเติบโต (K) เท่ากับ 0.5 ต่อปี ความยาวอนันต์ (Loo) เท่ากับ 36 เซนติเมตร
(Maheswarudu et al., 2013) สืบพันธุ์และวางไข่ได้ตลอดทั้งปี โดยมีขนาดแรกสืบพันธุ์เท่ากับ
16.6 เซนตเิ มตร (Muktha et al., 2015) เปน็ สตั วน์ า้ํ เปา้ หมายของการท�ำ ประมงโดยเครอ่ื งมอื อวนลอย
หรอื อวนล้อมปลาจวด และเปน็ สัตวน์ าํ้ พลอยจบั ได้จากเคร่อื งมอื ประมงอวนลอยชายฝงั่ ชนดิ อืน่ ๆ
ความถ่ีทีพ่ บ และมูลคา่ สัตวน์ าํ้ ท่ีท่าขึ้นปลาชมุ ชน
จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าปลาจวดหางตัดติดเครื่องมือประมงอวนลอยชายฝั่ง
โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู ประมาณ 5 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้
ในผลจับตลอดทั้งปี และพบมากขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ราคากิโลกรัมละ
40-60 บาท
181
1 cm
Mullidae
Upeneus sulphureus Cuvier, 1829
ปลาแพะเหลือง
Sulphur goatfish
182
ลักษณะ
ลำ�ตัวยาวเล็กน้อย คางมีหนวดเรียวยาว 2 เส้น ปากเล็ก ปากบนและปากล่างมีแถบ
ของฟันซี่เล็ก บนเพดานปากด้านข้างแต่ละข้างมีแถบฟันหนึ่งแถบ แนวกลางเพดานปากส่วนหน้า
มีฟัน 2 หย่อมเล็ก ๆ ครีบหลังมี 2 ตอน ตอนหน้ามีก้านครีบแข็ง 8 ก้าน ก้านแรกมีขนาดเล็ก
ตอนหลงั มกี า้ นครบี ออ่ น 9 กา้ น ครบี อกมกี า้ นครบี ออ่ น 14-17 กา้ น ครบี กน้ มกี า้ นครบี แขง็ 1 กา้ น
ก้านครีบอ่อน 7 ก้าน ไม่มีเกล็ดบริเวณจะงอยปาก เกล็ดบริเวณแนวเส้นข้างตัว 33-36 เกล็ด
ชอ่ งวา่ งระหวา่ งครีบหลังมเี กล็ดคนั่ กลาง 5 ½เกลด็ แนวหลังของคอดหางมเี กล็ด 12-13 เกลด็
ดา้ นหลงั มีสอี อกเขยี วเงินหรือชมพู คอ่ ย ๆ เปลีย่ นเปน็ สีเงนิ บรเิ วณด้านขา้ งและด้านท้อง
ขา้ งล�ำ ตวั มแี ถบสเี หลอื งสม้ 2 แถบพาดตามแนวยาว ครบี หลงั มแี ถบสเี หลอื งคลา้ํ 2 แถบ ขอบปลายสดุ
ของครีบหลังตอนหน้าเป็นสีดำ� ครีบท้องและครีบก้นมีสีเหลืองคลํ้า ครีบหางไม่มีแถบสีดำ�พาด
ขอบท้ายครบี มสี ีคล้ํา หนวดมสี ีขาว
ขนาด
พบทว่ั ไปมคี วามยาวเหยยี ด 14 เซนตเิ มตร ขนาดใหญ่ทสี่ ดุ มคี วามยาว 20 เซนติเมตร
นเิ วศวทิ ยา
พบอาศัยอยู่ในทะเล บริเวณพื้นโคลน ที่ระดับความลึก 20-60 เมตร และมักพบอาศัย
ในแหลง่ นาํ้ กร่อย
ชีววทิ ยาและการประมง
การศึกษาชีววิทยาและการประมงของสัตว์ชนิดนี้ยังมีน้อย เป็นกลุ่มปลากินเนื้อ โดย
อาหารหลัก ได้แก่ สัตว์หน้าดิน กุ้ง หอย และไส้เดือนทะเล จัดเป็นสัตว์นํ้าพลอยจับได้ที่บ่อยครั้ง
ตดิ เครอ่ื งมอื ประมงอวนลอยชายฝง่ั โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู และอวนลอยกงุ้ ดงั นน้ั เสนอแนะวา่
การศกึ ษาทางชวี วทิ ยาประมงของสตั วน์ า้ํ ชายฝง่ั ชนดิ น้ี เปน็ ประเดน็ ทน่ี า่ สนใจและเปน็ ขอ้ มลู พน้ื ฐาน
ส�ำ หรับการบรหิ ารจัดการทรัพยากรประมงแบบหลากชนดิ ในอนาคต
ความถ่ีทพ่ี บ และมลู ค่าสตั วน์ ้ําท่ที า่ ขึ้นปลาชุมชน
จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าโอกาสที่จะพบปลาแพะเหลืองติดเครื่องมือประมง
อวนลอยชายฝั่ง ประมาณ 3 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับ
ตลอดท้งั ปี แตจ่ ะพบได้มากในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ราคากิโลกรัมละ 40-60 บาท
183
1 cm
Drepaneidae
ปลาใบปอDrepane punctata (Linnaeus, 1758)
ปลาใบโพธจิ์ ดุ
Spotted sicklefish
184
ลักษณะ
ลำ�ตัวรูปไข่และแบนข้างมาก จะงอยปากเป็นแนวตรง ปากอยู่ปลายสุดและยืดออกได้
เฉียงลงล่างเมื่อยืดออก ปากบนและปากล่างมีแถบของฟันแบบซี่เล็กยาวปลายแหลม ไม่มีฟัน
บนเพดานปาก ครีบหลังมีก้านครีบแข็ง 8-10 ก้าน ก้านครีบอ่อน 20-22 ก้าน ครีบอกรูปเคียว
ปลายครบี ยาวถงึ คอดหาง มกี า้ นครบี ออ่ น 16-18 กา้ น ครบี กน้ มกี า้ นครบี แขง็ 3 กา้ น กา้ นครบี ออ่ น
16-19 ก้าน ปลาขนาดเล็กมีครีบหางกลมหรือรูปลิ่มป้าน ตัวเต็มวัยมีครีบหางเกือบตัดตรง เกล็ด
บริเวณแนวเสน้ ข้างตัว 46-50 เกลด็
หัวและลำ�ตัวสีเงิน ด้านข้างตอนบนของลำ�ตัวมีจุดสีดำ�ขนาดเล็กเรียงตัวเป็นแถวแนวตั้ง
จำ�นวน 5-10 แถวจากแนวใต้ครีบหลังถึงคอดหาง ครีบมีสีเหลืองคลํ้า ครีบหลังและครีบก้นปลาย
ครีบสีคลํ้า
ขนาด
ขนาดใหญท่ สี่ ดุ มคี วามยาวมาตรฐาน 40 เซนติเมตร
นเิ วศวิทยา
พบอาศยั อยบู่ รเิ วณชายฝง่ั ทม่ี พี น้ื เปน็ ทรายหรอื โคลน แนวปะการงั รวมถงึ แหลง่ นา้ํ กรอ่ ย
ชวี วทิ ยาและการประมง
อาหารหลกั ไดแ้ ก่ แพลงกต์ อนสตั ว์ กงุ้ ลกู ปลาขนาดเลก็ ไสเ้ ดอื นทะเล และสตั วห์ นา้ ดนิ
รูปแบบการเติบโตเป็นแบบอัลโลเมตริก ความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับนํ้าหนักอยู่ในรูปแบบ
สมการ W=0.023L3 3.100(Perkins et al., 2019) คา่ พารามเิ ตอรก์ ารเติบโต (K) เท่ากบั 0.1 ตอ่ ปี
ความยาวอนนั ต์ (Loo) เทา่ กบั 46.5 เซนตเิ มตร (Edwards et al., 1985) สบื พนั ธแ์ุ ละวางไขใ่ นชว่ ง
เดอื นสงิ หาคม ขนาดแรกสบื พนั ธเ์ุ ทา่ กบั 25 เซนตเิ มตร (Lau et al., 2000) ความดกไขเ่ ฉลย่ี เทา่ กบั
149,251-796,932 ฟอง (Mahadevan and Devadoss, 1972)
ความถี่ทีพ่ บ และมลู คา่ สัตวน์ าํ้ ทท่ี ่าข้ึนปลาชุมชน
จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ โอกาสทจ่ี ะพบปลาใบปอตดิ เครอ่ื งมอื ประมงอวนลอย
ชายฝั่ง ประมาณ 1 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี
แตจ่ ะพบไดม้ ากในช่วงเดอื นพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ ราคากโิ ลกรัมละ 80-100 บาท
185
1 cm
Terapontidae
ปลาข้างลายแถบโค้งTerapon jarbua (Forsskal, 1775)
ปลาข้างตะเภาลายโคง้
Jarbua terapon
186
ลกั ษณะ
ลำ�ตัวป้อมและแบนข้างปานกลาง ขอบฝาปิดเหงือกตอนหน้ามีหยักฟันเลื่อยโดยเฉพาะ
บริเวณมุมมีหนามขนาดใหญ่ที่สุด หนามบนฝาปิดเหงือกแข็งและยาวมาก ยื่นยาวเลยส่วนขอบยื่น
ของฝาปิดเหงือก กระดูกบริเวณท้ายทอยขยายขนาดใหญ่ โดยที่ขอบด้านท้ายเป็นหยักฟันเลื่อย
โผล่ออกมาภายนอก ครีบหลังมีก้านครีบแข็ง 11-12 ก้าน ก้านครีบอ่อน 9-11 ก้าน ครีบก้นมีก้าน
ครีบแข็ง 3 กา้ น ก้านครบี ออ่ น 7-10 กา้ น ครีบหางเป็นแฉกเว้าตืน้
ลำ�ตัวด้านหลังสีออกเทาเงิน ด้านท้องสีขาวเงิน ลำ�ตัวมีแถบแนวนอนสีนํ้าตาลเข้มซึ่ง
เป็นแถบโค้งลงลา่ ง 3-4 แถบ ครีบหลงั ส่วนที่เป็นครบี แข็งมแี ต้มจดุ สีดำ�อยู่บริเวณตอนบนระหว่าง
กา้ นครบี แข็งก้านท่ี 3 ถงึ กา้ นที่ 6 ครีบหางมีแถบสดี ำ�พาด
ขนาด
พบทว่ั ไปมคี วามยาวเหยยี ด 22-27 เซนตเิ มตร ขนาดใหญส่ ดุ มคี วามยาวถงึ 35 เซนตเิ มตร
นเิ วศวิทยา
อาศยั ตามบริเวณชายฝ่งั ทะเล แหลง่ น้ํากรอ่ ยและนํา้ จืด
ชีววิทยาและการประมง
การศึกษาชีววิทยาและการประมงของสัตว์ชนิดนี้ยังมีน้อย กินสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
หรือปลาขนาดเล็กเป็นอาหาร เป็นสัตว์นํ้าพลอยจับได้ที่ค่อนข้างจับได้จำ�นวนน้อยจากการประมง
อวนลอยชายฝั่ง โดยเฉพาะอวนลอยปลาทู ดังนั้นเสนอแนะว่าการศึกษาทางชีววิทยาประมง
ของสัตว์นํ้าชายฝั่งชนิดนี้ เป็นประเด็นที่น่าสนใจและเป็นข้อมูลพื้นฐานสำ�หรับการบริหารจัดการ
ทรพั ยากรประมงแบบหลากชนดิ ในอนาคต
ความถ่ที ่พี บ และมลู ค่าสตั วน์ ํ้าท่ีท่าขึ้นปลาชมุ ชน
จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ ปลาขา้ งลายแถบโคง้ ตดิ เครอ่ื งมอื ประมงอวนลอยชายฝง่ั
โดยเฉพาะอวนปลาทู ประมาณ 3 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ใน
ผลจับตลอดท้งั ปี ราคากิโลกรัมละ 50-80 บาท
187
1 cm
Terapontidae
Therapon theraps Cuvier, 1982
ปลาขา้ งลายเกลด็ ใหญ่
ปลาข้างตะเภาเกล็ดใหญ่, ปลาขา้ งตะเภาลายตรง
Large-scaled terapon
188
ลกั ษณะ
ลำ�ตัวป้อมและแบนข้าง ขอบฝาปิดเหงือกตอนหน้ามีหยักฟันเลื่อยโดยเฉพาะบริเวณมุม
มีหนามขนาดใหญ่ที่สุด หนามอันล่างบนฝาปิดเหงือกยาวและแข็งมาก ยื่นยาวเลยส่วนขอบยื่น
ของฝาปิดเหงอื ก ครีบหางแฉกเว้าต้ืน
ล�ำ ตวั ดา้ นหลงั สคี ลา้ํ ดา้ นทอ้ งสขี าวเงนิ ล�ำ ตวั มแี ถบแนวนอนสนี า้ํ ตาลเขม้ 4 แถบ ครบี หลงั
สว่ นทเ่ี ปน็ ครบี แขง็ มแี ตม้ จดุ สดี �ำ อยบู่ รเิ วณตอนบนระหวา่ งกา้ นครบี แขง็ กา้ นท่ี 3 กบั กา้ นท่ี 7 ครบี หาง
มแี ถบสีด�ำ พาด
ขนาด
พบทั่วไปมีความยาวเหยียด 22 เซนตเิ มตร ขนาดใหญส่ ดุ มคี วามยาวถงึ 30 เซนติเมตร
นิเวศวทิ ยา
อาศยั ตามบรเิ วณชายฝัง่ ทะเล บางครัง้ เข้าไปอาศัยอยู่บรเิ วณแหล่งนํ้ากรอ่ ย
ชีววิทยาและการประมง
อาหารหลัก ได้แก่ ปลาขนาดเล็ก ครัสเตเชียน ไส้เดือนทะเล ไข่ปลา และแมงกะพรุน
รูปแบบการเติบโตเป็นแบบอัลโลเมตริก ความสัมพันธ์ระหว่างความยาวกับนํ้าหนักอยู่ในรูปแบบ
สมการ W=0.0097L33.139(Willing et al., 1989.) คา่ พารามเิ ตอรก์ ารเตบิ โต (K) เทา่ กบั 0.6 ตอ่ ปี
ความยาวอนันต์ (Loo) เท่ากับ 34 เซนตเิ มตร (Ingles et al., 1984.)
ความถ่ีที่พบ และมูลค่าสัตวน์ ้ําที่ทา่ ขึ้นปลาชุมชน
จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าโอกาสที่จะพบปลาข้างลายเกล็ดใหญ่ติดเครื่องมือ
ประมงอวนลอยชายฝั่ง ประมาณ 2 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ใน
ผลจบั ตลอดทง้ั ปี แตจ่ ะพบไดม้ ากในชว่ งเดอื นพฤษภาคมถงึ กรกฎาคม ราคากโิ ลกรมั ละ 40-60 บาท
189
1 cm
Gobiidae
ปลาบ่จู ุดเขยี วใหญ่Acentrogobius caninus (Valenciennes, 1837)
Tropical sand goby
190
ลกั ษณะ
หัวกลม ทู่ แบนข้างเล็กน้อย ส่วนต้นของลำ�ตัวเป็นทรงกระบอก ส่วนท้ายแบนด้านข้าง
ปากบนและปากลา่ งเสมอกนั ครบี ทอ้ งเชอ่ื มตอ่ กนั ตรงกลางและมแี ผน่ เนอ้ื เยอ่ื เชอ่ื มตอ่ ระหวา่ งขอบ
ด้านนอกของครีบทำ�ใหเ้ ปน็ รปู ถว้ ย ครบี หางกลมมน
ลำ�ตัวมีสีเขียวมะกอก ส่วนท้องสีขาว บริเวณหัวมีจุดสีนํ้าเงินหรือฟ้าขนาดเล็ก แวววาว
เหนือช่องเปิดเหงือกมีจุดสีเขียวปนนํ้าเงินค่อนข้างใหญ่ปรากฏชัดเจน แนวกลางตัวมีจุดสีคลํ้าเรียง
4 จุด
ขนาด
โดยทว่ั ไปพบมีความยาวมาตรฐาน 13 เซนติเมตร
นเิ วศวทิ ยา
อาศัยตามแนวชายฝงั่ และในบริเวณแหลง่ น้ํากร่อย
ชวี วทิ ยาและการประมง
การศึกษาชีววิทยาและการประมงของสัตว์ชนิดนี้ยังมีน้อย หากินบริเวณผิวหน้าดิน
อาหารหลกั ไดแ้ ก่ สตั วห์ นา้ ดนิ และปลาวยั ออ่ น รปู แบบการเตบิ โตเปน็ แบบอลั โลเมตรกิ ความสมั พนั ธ์
ระหว่างความยาวกับนํ้าหนักอยู่ในรูปแบบสมการ W=0.013L2 2.908(Perkins et al., 2019) เป็น
สตั วน์ า้ํ พลอยจบั ไดท้ ค่ี อ่ นขา้ งจบั ไดจ้ �ำ นวนนอ้ ยจากการประมงอวนลอยชายฝง่ั โดยเฉพาะอวนลอยกงุ้
ดังนั้นเสนอแนะว่าการศึกษาทางชีววิทยาประมงของสัตว์นํ้าชายฝั่งชนิดนี้ เป็นประเด็นที่น่าสนใจ
และเป็นขอ้ มูลพน้ื ฐานสำ�หรับการบริหารจดั การทรัพยากรประมงแบบหลากชนิดในอนาคต
ความถ่ีที่พบ และมูลค่าสตั วน์ ้ําทที่ ่าขนึ้ ปลาชมุ ชน
จากการสมั ภาษณช์ าวประมง พบวา่ โอกาสทจ่ี ะพบปลาบจู่ ดุ เขยี วใหญต่ ดิ เครอ่ื งมอื ประมง
อวนลอยชายฝั่ง ประมาณ 2 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับ
ตลอดทั้งปี แตจ่ ะพบได้มากในช่วงเดือนธนั วาคมถงึ กมุ ภาพันธ์ ไมม่ ีคา่ ทางเศรษฐศาสตร์
191
1 cm
Ephippidae
ปลาคลดุEphippus orbis (Bloch, 1787)
ปลาขา้ วเมา่
Spadefish
192
ลกั ษณะ
ล�ำ ตวั ทรงกลมและแบนขา้ งมาก แนวหลงั ของสว่ นหวั ตง้ั ชนั มาก ปากบนและปากลา่ งมฟี นั
ปลายตดั ซเ่ี รยี ว มเี กลด็ ขอบเรยี บ ครบี หลงั เปน็ ครบี เดย่ี วตอ่ เนอ่ื ง และมหี ยกั เวา้ ลกึ กอ่ นถงึ สว่ นของ
ครบี ออ่ น ก้านครบี แขง็ ก้านท่ี 3-5 ยนื่ ยาวมาก ครบี อกส้นั และกลม
ลำ�ตวั เป็นสเี งนิ และมกั มบี ั้งสคี ล้ําจาง ๆ 4-5 บงั้ บริเวณดา้ นข้างตอนบนของล�ำ ตัว
ขนาด
ขนาดใหญท่ ี่สุดมีความยาวเหยียด 19 เซนติเมตร
นเิ วศวทิ ยา
อาศยั อยูใ่ นแหล่งนา้ํ ตื้นชายฝ่งั ทีม่ ีพนื้ เปน็ โคลน
ชวี วิทยาและการประมง
การศึกษาชีววิทยาและการประมงของสัตว์ชนิดนี้ยังมีน้อย อาหารหลักได้แก่ ปลา และ
สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ตามหน้าดิน รูปแบบการเติบโตเป็นแบบอัลโลเมตริก
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความยาวกบั นา้ํ หนกั อยใู่ นรปู แบบสมการ W=0.150L22.660(Wang et al., 2011)
เป็นสัตว์นํ้าพลอยจับได้ที่ค่อนข้างจับได้จำ�นวนน้อยจากการประมงอวนลอยชายฝั่ง โดยเฉพาะ
อวนลอยปลาทู ดงั นน้ั เสนอแนะวา่ การศกึ ษาทางชวี วทิ ยาประมงของสตั วน์ า้ํ ชายฝง่ั ชนดิ น้ี เปน็ ประเดน็
ทน่ี า่ สนใจและเปน็ ขอ้ มลู พน้ื ฐานส�ำ หรบั การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรประมงแบบหลากชนดิ ในอนาคต
ความถี่ท่พี บ และมูลค่าสตั ว์นา้ํ ท่ที า่ ข้ึนปลาชุมชน
จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าโอกาสที่จะพบปลาคลุดติดเครอ่ื งมือประมงอวนลอย
ชายฝั่ง ประมาณ 1 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี
แต่จะพบได้มากในชว่ งเดือนพฤศจิกายนถึงกมุ ภาพนั ธ์ ราคากโิ ลกรัมละ 70-80 บาท
193
1 cm
Scatophagidae
ปลาตะกรับScatophagus argus (Linnaeus, 1766)
ปลาขีต้ งั
Spotted sicklefish
194
ลักษณะ
ลำ�ตัวรูปทรงสี่เหลี่ยม แบนข้างมาก แนวด้านหน้าของหัวตั้งชัน ปากขนาดเล็ก วางตัว
ในแนวนอน ยืดออกไม่ได้ ปากบนและปากล่างมีแถบของฟันแบบซี่เล็กยาวปลายแหลม ครีบหลัง
เปน็ ครบี เดย่ี วตอ่ เนอ่ื งและมสี ว่ นเวา้ ลกึ ระหวา่ งสว่ นของครบี แขง็ และครบี ออ่ น ครบี หลงั มกี า้ นครบี แขง็
11 กา้ น กา้ นครบี ออ่ น 16-18 กา้ น ครบี อกมกี า้ นครบี ออ่ น 16 กา้ น ครบี ทอ้ งมกี า้ นครบี แขง็ 1 กา้ น
ก้านครีบอ่อน 5 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 4 ก้าน ก้านครีบอ่อน 14-15 ก้าน ครีบหางกลม
ถงึ ตัดตรง ล�ำ ตัวปกคลมุ ด้วยเกล็ดขอบหยักขนาดเล็ก
บริเวณหลัง หัว และด้านข้างมีสีเขียวปนนํ้าตาลอ่อน ด้านท้องสีขาวหรือครีม ส่วนบน
ของล�ำ ตวั มแี ต้มสีด�ำ กลมหรอื รปู ไขข่ นาดใหญป่ ระอยู่ ปลาขนาดใหญ่ แตม้ สเี หลา่ นีจ้ ะมีขนาดเลก็
ขนาด
ขนาดทพ่ี บทว่ั ไปมคี วามยาวเหยยี ดประมาณ 13-15 เซนตเิ มตร ขนาดใหญท่ ส่ี ดุ ประมาณ
35 เซนตเิ มตร
นิเวศวิทยา
พบอาศัยอยูบ่ รเิ วณแหลง่ นํา้ กร่อย หรือป่าชายเลน
ชวี วทิ ยาและการประมง
ปลาตะกรับกินอาหารกลุ่มหลัก ได้แก่ ปลาที่มีขนาดเล็กกว่า สัตว์หน้าดิน สาหร่าย
ไดอะตอม ครสั เตเชยี น หอย และไสเ้ ดอื นทะเล มสี มการความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความยาวกบั นา้ํ หนกั
คือ W=0.0562TL22.7021ขนาดความยาวอนันต์ (Loo) เท่ากับ 17.87 เซนติเมตร ค่าพารามิเตอร์
การเติบโต (K) เท่ากับ 0.4 ต่อปี ขนาดแรกสืบพันธุ์เท่ากับ 9.92 เซนติเมตร (Sawusdee, 2010)
สามารถสบื พนั ธไ์ุ ดท้ ง้ั ปี แตช่ ว่ งฤดกู าลสบื พนั ธห์ุ ลกั คอื ชว่ งเดอื นเมษายนถงึ ตลุ าคม จ�ำ นวนความดก
ของไขเ่ ฉลย่ี เทา่ กบั 266,585± ฟอง (ธเนศ และ นริ ชา, 2554) เปน็ สตั วน์ า้ํ พลอยจบั ไดจ้ ากเครอ่ื งมอื
ประมงอวนลอยปทู ีม่ คี วามสําคญั ทางเศรษฐกิจทัง้ ในตลาดปลาสวยงามและตลาดปลาเน้ือ
ความถี่ที่พบ และมลู คา่ สตั วน์ าํ้ ทีท่ ่าข้นึ ปลาชุมชน
จากการสัมภาษณ์ชาวประมงพบวา่ การประมงโดยเฉพาะเครื่องมอื อวนลอยปมู ้าสามารถ
จับสัตว์นี้ได้ค่อนข้างบ่อยโดยโอกาสที่จะติดเครื่องมือประมงอวนลอยประมาณ 3 ครั้ง ใน 10 ครั้ง
ของการทำ�ประมง และสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับตลอดทั้งปี แต่จะพบได้มากในช่วงเดือน
กรกฎาคมถึงกันยายน ราคากโิ ลกรมั ละ 60-120 บาท ขึ้นอยกู่ บั ขนาดสตั ว์นา้ํ
195
1 cm
Siganidae
ปลาสลดิ หนิ แขก Siganus javus (Linnaeus, 1766)
ปลาสลิดทะเลแถบ
Streaked spinefoot
196
ลกั ษณะ
ล�ำ ตวั คอ่ นขา้ งลกึ และแบนขา้ ง จะงอยปากสน้ั และทู่ กา้ นครบี แขง็ ของครบี หลงั และครบี กน้
แข็งแรงและหนา ครีบหางเป็นแบบหางแฉกตื้น เกล็ดมีขนาดเล็กมาก บนแก้มมีเกล็ดปกคลุม
แนวกลางของอกระหว่างสันกระดูกครบี ทอ้ งมีเกล็ดปกคลุม
ลำ�ตัวด้านหลังเป็นสีทองแดงคลํ้าและจางลงเรื่อย ๆ สู่บริเวณด้านท้อง หัวและด้านบน
ของลำ�ตวั มจี ดุ สฟี า้ กระจายอยู่ทวั่ ไป และดา้ นล่างของลำ�ตัวมีเสน้ ลายลูกคล่ืนสีฟ้าเงนิ หลายเส้น
ขนาด
พบท่ัวไปมีความยาวเหยยี ด 30 เซนติเมตร ขนาดใหญ่สดุ มีความยาว 55 เซนตเิ มตร
นเิ วศวทิ ยา
อาศัยในแหลง่ นาํ้ ตื้นตามแนวชายฝ่ัง แหลง่ นา้ํ กร่อย แนวโขดหินใต้นํ้าหรอื แนวปะการงั
ชวี วิทยาและการประมง
อาหารกลมุ่ หลกั ไดแ้ ก่ สตั วน์ า้ํ ทม่ี ขี นาดเลก็ กวา่ เชน่ สตั วห์ นา้ ดนิ หญา้ ทะเล สาหรา่ ยทะเล
สาหรา่ ยสเี ขียวแกมนํ้าเงนิ ไดอะตอม แพลงก์ตอนพืช แพลงกต์ อนสตั ว์ และแมงกะพรุน เป็นปลา
ที่มีพิษที่ก้านครีบแข็ง แต่สามารถนำ�เนื้อมารับประทานได้ และนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม
เป็นกลุม่ สัตวน์ าํ้ พลอยจบั ได้จากการประมงอวนลอยชายฝง่ั
ความถ่ีท่ีพบ และมลู ค่าสตั ว์นาํ้ ท่ีท่าขน้ึ ปลาชุมชน
จากการสัมภาษณ์ชาวประมง พบว่าโอกาสที่จะพบปลาสลิดหินแขกติดเครื่องมือประมง
อวนลอยชายฝั่ง ประมาณ 2 ครั้งใน 10 ครั้งทำ�การประมง โดยสามารถพบสัตว์นํ้านี้ได้ในผลจับ
ตลอดทั้งปี แตจ่ ะพบได้มากในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน ราคากโิ ลกรัมละ 60-80 บาท
197
1 cm
Trichiuridae
ปลาดาบเงนิ Trichiurus lepturus Linnaeus, 1758
Largehead hairtail
198