The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการสอน หน่วยที่ 8 การต่อวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nawapat Uthairat, 2020-04-20 03:59:51

เอกสารประกอบการสอน หน่วยที่ 8 การต่อวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส

เอกสารประกอบการสอน หน่วยที่ 8 การต่อวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส

Keywords: การต่อวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส

หน่วยที่ 8
การต่อวงจรควบคุมมอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส

หัวข้อเรือ่ ง
หน่วยที่ 8 ประกอบด้วยหวั ข้อเรื่องต่อไปน้ี
8.1 วงจรสตารต์ ตรงมอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส
8.2 วงจรกลบั ทางหมุนมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส
8.3 วงจรสตาร์ตมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา
8.4 วงจรควบคมุ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบเรยี งลาดับ
8.5 วงจรควบคมุ ความเรว็ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส

สาระสาคัญ
มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส เป็นท่ีนิยมกันแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรม ใช้กับระบบ

แรงดันไฟฟ้า 380 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตซ์ โดยผู้ปฏิบัติงานสามารถควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับผ่าน
อุปกรณ์แมกเนติกคอนแทกเตอร์ และสวิตช์ปุ่มกด เพื่อให้มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถทางานได้ตามเง่ือนไข เช่น
การควบคุมเริ่มเดิน การหยุดการทางาน การควบคุมกลับทิศทางการหมุนโดยการสลับเฟสคู่ใดคู่หนึ่งของ
สายไฟฟ้าท่ีเข้ามอเตอร์ไฟฟ้า การควบคุมแบบสตาร์-เดลตา เพื่อเป็นการลดแรงดันขณะสตาร์ต (เร่ิมเดิน)
ใหก้ ับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีขนาดตั้งแต่ 5 กิโลวตั ต์ขึ้นไป การควบคุมแบบเรียงลาดบั โดยการควบคุมให้มอเตอร์
ตัวที่ 1 ทางานก่อน มอเตอร์ตัวท่ี 2 ซึ่งนิยมนาไปใช้กับระบบสายพานลาเลียง และการควบคุมความเร็ว
ของมอเตอรไ์ ฟฟา้ โดยการเปลย่ี นแปลงจานวนขั้วแม่เหลก็

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
จุดประสงคท์ ว่ั ไป
1. เพอื่ ให้เขา้ ใจชือ่ อุปกรณ์ทใี่ ช้ในวงจรควบคมุ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส
2. เพ่ือให้เขา้ ใจการตอ่ วงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส
3. เพอ่ื ให้เขา้ ใจการทางานของวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส
4. เพ่อื ให้ปฏิบตั งิ านใช้อุปกรณส์ าหรับวงจรควบคมุ มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส
5. เพอ่ื ใหป้ ฏบิ ัตงิ านต่อวงจรควบคมุ มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส
จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม
1. บอกชอื่ อุปกรณท์ ใ่ี ชใ้ นวงจรควบคมุ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ไดถ้ ูกตอ้ ง
2. อธบิ ายการตอ่ วงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส ไดถ้ ูกตอ้ ง
3. อธบิ ายการทางานของวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ไดถ้ ูกต้อง

4. เลอื กใชอ้ ปุ กรณส์ าหรับวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ไดถ้ กู ต้อง
5. ตอ่ วงจรควบคมุ มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส ได้ถกู ต้อง
6. ปฏบิ ตั กิ ารเตรียมวัสดุ อปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื ในการปฏิบัตงิ านต่อวงจรได้อย่างถูกต้อง
ตามกาหนดเวลา อย่างมีเหตุผลตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
7. ใช้วัสดุ อปุ กรณ์ เคร่อื งมือ ในการปฏบิ ตั งิ านต่อวงจรได้อยา่ งถูกต้อง ประหยัด คุ้มคา่
ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

หน่วยท่ี 8
การตอ่ วงจรควบคุมมอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส

การควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส ระบบไฟฟา้ 380 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตซ์ ซง่ึ เป็น
มอเตอร์ไฟฟ้าทีน่ ยิ มกันแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรม สาหรับการควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส
ทจี่ ะกลา่ วถึงในบทเรยี นน้ีจะเป็นการควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส โดยใช้แมกเนตกิ คอนแทกเตอร์
และสวติ ชป์ ุ่มกด เพื่อให้ผปู้ ฏิบตั ิงานสามารถควบคมุ มอเตอร์ไฟฟ้า ทางานได้ตามเงื่อนไข ดงั นี้

8.1 วงจรสตารต์ ตรงมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส
การเริ่มเดิน และหยุดเดินของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส น้ัน สามารถควบคุมโดยการใช้

แมกเนติกคอนแทกเตอร์ จานวน 1 ตัว เช่นเดียวกับมอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั 1 เฟส รว่ มกบั อุปกรณต์ ่าง ๆ
ดังภาพท่ี 8.1 ท่ีติดต้ังบริเวณตู้ควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า สาหรับการควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า โดยท่ีวงจรควบคุม
มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส และลาดบั ขน้ั การทางานของวงจร แสดงดังภาพท่ี 8.2 ถึง 8.6

ตู้ควบคุมมอเตอรไ์ ฟฟา้

L1 L2 L3

แมกเนตกิ คอนแทกเตอร์ จานวน 1 ตวั

RUN
STOP START

380 โวลท์ มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส

ภาพที่ 8.1 การควบคมุ มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส

L1 L2 L3 N PE L1 K1 K1
F2

F1
F3

K1 S1

F3
S2

M3M1 K1 2 H1
∿ N 3

1

31 _ 2
3311 _ 3

ภาพที่ 8.2 วงจรสตาร์ตตรงมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส (ก)

รายการอปุ กรณ์

F1 Main Fuses
F2 Control Fuse
F3 Overload Relay
S1 Pushbutton Switch “OFF”
S2 Pushbutton Switch “ON”
K1 Magnetic Contactor
H1 Pilot Lamp
M1 Three Phase Motor

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1

K1 H1

N 23
1

ภาพท่ี 8.3 วงจรสตารต์ ตรงมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส (ข)

ลาดบั ข้ันการทางานของวงจร
1. เมื่อผู้ปฏิบัติงานทาการจ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับขนาด 380 โวลท์ ให้กับวงจรกาลังและ

แรงดันไฟฟ้าขนาด 220 โวลท์ ให้กับวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งขณะน้ียังไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ที่ทางาน
เน่ืองจากหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์และสวิตช์ที่ในแถวท่ี 1 และแถวที่ 3 ดังภาพท่ี 8.3 ยังอยู่
ในสภาวะเปิด จึงทาให้ไฟฟ้าไม่สามารถที่จะไหลผ่านในวงจรไปยังคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์และ
หลอดสญั ญาณได้

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1

K1 H1
N

123
ภาพที่ 8.4 วงจรสตารต์ ตรงมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส (ค)

ลาดับขัน้ การทางานของวงจร
2. เม่ือผู้ปฏิบัติงานกดสวิตช์ S2 ทาให้หน้าสมั ผสั ของสวิตช์เปล่ียนเป็นหน้าสัมผัสสภาวะปิดเพื่อ

ตอ่ วงจร และจ่ายไฟฟ้าให้กบั คอยลข์ องแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 เม่ือแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1ทางาน
ส่งผลให้หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ท่ีอยู่ในแถวที่ 2 และแถวท่ี 3 ดังภาพที่ 8.4 เปลี่ยน
สภาวะจากหน้าสมั ผัสแบบเปิดเป็นหน้าสัมผัสแบบปดิ ขณะนีม้ อเตอร์ไฟฟา้ ทางาน

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1

K1 H1
N

123
ภาพท่ี 8.5 วงจรสตารต์ ตรงมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส (ง)

ลาดับข้นั การทางานของวงจร
3. เม่ือผู้ปฏิบัติงานปล่อยสวิตช์ S2 หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ในแถวที่ 2

ยังคงทาหน้าที่ต่อวงจร จ่ายไฟฟ้าให้กับคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ทางานต่อเน่ือง ดังภาพที่
8.5 ส่วนหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ในแถวท่ี 3 ทาหน้าท่ีจ่ายไฟฟ้าให้กับหลอดสัญญาณ
H1 ทางาน

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1

K1 H1

N 23
1

ภาพที่ 8.6 วงจรสตารต์ ตรงมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส (จ)

ลาดบั ขน้ั การทางานของวงจร
4. เม่ือผู้ปฏิบัติงานต้องการหยุดการทางานของวงจร ให้กดที่สวิตช์ S1 ทาให้หน้าสัมผัสของ

สวิตช์เปล่ียนเป็นหน้าสัมผัสสภาวะเปิดเพื่อตัดวงจร ดังภาพท่ี 8.6 ส่งผลให้ไม่มีไฟฟ้าเข้าไปเล้ียงคอยล์ของ
แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ทาให้ แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 หยุดการทางาน ส่วนหน้าสัมผัสของแมกเนติก
คอนแทกเตอร์ K1 ในแถวที่ 2 และ 3 ก็จะเปล่ียนสภาวะจากหน้าสัมผัสแบบปิดเป็นหน้าสัมผัสแบบเปิด ทาให้
หลอดสัญญาณ H1 หยุดการทางาน ขณะน้ีมอเตอรไ์ ฟฟ้าหยดุ การทางาน

8.2 วงจรกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส
การควบคุมการกลับทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส ผ้ปู ฏิบัติงานสามารถควบคมุ โดย

การใช้แมกเนติกคอนแทกเตอร์ จานวน 2 ตัว ร่วมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังภาพที่ 8.7 เพื่อทาการควบคุม
มอเตอร์ไฟฟ้า สามารทางานได้ตามเง่ือนไข กล่าวคือ เม่ือแมกเนติกคอนแทกเตอร์ ตัวท่ี 1 ทางานมอเตอร์ไฟฟ้า
จะหมุนทิศทางตามเข็มนาฬิกา และแมกเนติกคอนแทกเตอร์ ตัวที่ 2 ทางาน มอเตอร์ไฟฟ้าจะหมุนทิศทาง
ทวนเข็มนาฬิกา

ตู้ควบคมุ มอเตอรไ์ ฟฟ้า

L1 L2 L3

แมกเนตกิ คอนแทกเตอร์ จานวน 2 ตวั

FORWARD REVERSE
STOP FORWARD REVERSE

380 โวลท์ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส

ภาพที่ 8.7 การควบคมุ การกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส

ส่วนการที่จะทาให้มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถกลับทางหมุนได้น้ัน ทาได้โดยการสลับข้ัวของ
แหลง่ จ่ายไฟฟา้ กระแสสลบั คใู่ ดคูห่ นง่ึ ท่ีเข้าสู่มอเตอรไ์ ฟฟ้า เชน่ ถา้ ต้องการสลับข้วั สายไฟฟา้ L1 กบั L3 ให้
นาสายไฟฟ้า L1 ต่อเข้าที่ข้ัว W1 ของมอเตอร์ไฟฟ้า และนาสายไฟฟ้า L3 ต่อเข้าท่ีขั้ว U1 ของมอเตอร์ไฟฟ้า
ดังภาพท่ี 8.8 และ 8.9 นอกจากน้ีผปู้ ฏิบัติงานจะต้องทาการออกแบบวงจรใหม้ ีหน้าสัมผสั ปกติปิด เพอ่ื ทจี่ ะ
ทาหนา้ ที่ปอ้ งกันไม่ให้แมกเนติกคอนแทกเตอร์ ตัวที่ 1 และตัวที่ 2 ทางานพร้อมกัน นิยมเรียกว่า อินเทอร์ล็อก
คอนแทก (Interlock Contact)

L1 L2 L3 L1 L2 L3 L1 L2 L3 L1 L2 L3

U1 V1 W1 U1 V1 W1 U1 V1 W1 U1 V1 W1

M M M M

3∿ 3∿ 3∿ 3∿

ทิศทางหมนุ ตามเขม็ นาฬกิ า ทิศทางหมุนทวนเข็มนาฬกิ า

ภาพท่ี 8.8 การสลับข้ัวของแหลง่ จ่ายไฟฟา้ กระแสสลบั คใู่ ดคหู่ นงึ่ มาตรฐาน มอก.11-2531

L1 L2 L3 L1 L2 L3 L1 L2 L3 L1 L2 L3

U1 V1 W1 U1 V1 W1 U1 V1 W1 U1 V1 W1

M M M M

3∿ 3∿ 3∿ 3∿

ทิศทางหมุนตามเขม็ นาฬกิ า ทิศทางหมนุ ทวนเข็มนาฬกิ า

ภาพท่ี 8.9 การสลบั ขั้วของแหลง่ จา่ ยไฟฟา้ กระแสสลับคู่ใดค่หู น่งึ มาตรฐาน มอก.11-2553

ส่วนวงจรท่ีใช้การควบคุมเพ่ือกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส และลาดบั ข้ันการ
ทางานของวงจรกลับทางหมุน แสดงดังภาพท่ี 8.10 ถึงภาพที่ 8.32 ได้แก่ วงจรกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้า
กระแสสลับ 3 เฟส แบบชัว่ ขณะ แบบทันทที ันใด และแบบหลงั จากหยดุ

8.2.1 วงจรกลบั ทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบชวั่ ขณะ

L1 L2 L3 N PE L1
F1 F2

F3

K1 K2 S1

S2 K1 K2
F3 S3

MM1 3∿ K1 K2 H1 H2
N1 2 3 4

333111 __ 3_ 333222 ___ 4_

ภาพท่ี 8.10 วงจรกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส แบบชวั่ ขณะ (ก)

รายการอปุ กรณ์
F1 Main Fuses
F2 Control Fuse
F3 Overload Relay
S1 Toggle Switch “ON-OFF”
S2 Pushbutton Switch “Forward”
S2 Pushbutton Switch “Reverse”
K1 Magnetic Contactor “Forward”
K2 Magnetic Contactor “Reverse”
H1 Pilot Lamp for “Forward”
H2 Pilot Lamp for “Reverse”
M1 Three Phase Motor

L1
F2

F3
S1

S2 K1 K2
S3

K1 K2 H1 H2

N1 234

ภาพที่ 8.11 วงจรกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส แบบชัว่ ขณะ (ข)

ลาดบั ขัน้ การทางานของวงจร
1. เมื่อผู้ปฏิบัติงานทาการจ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับขนาด 380 โวลท์ ให้กับวงจรกาลังและ

แรงดันไฟฟ้าขนาด 220 โวลท์ ให้กับวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งขณะน้ียังไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ที่ทางาน
เนื่องจากหน้าสัมผัสของอุปกรณ์ที่อยู่ในแถวที่ 1 แถวที่ 2 แถวท่ี 3 และแถวที่ 4 ดังภาพท่ี 8.11 ยังอยู่ใน
สภาวะเปิด จึงทาให้ไฟฟ้าไม่สามารถไหลผ่านภายในวงจรไปยังคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์และ
หลอดสัญญาณได้ ส่วนหน้าสัมผัสของสวิตช์ S1 ต้องอยู่ในสภาวะปกติปิดเพื่อที่จะให้ไฟฟ้าไหลผ่านเข้ามา
ภายในวงจร

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K2
S3

K1 K2 H1 H2

N1 234

ภาพที่ 8.12 วงจรกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบช่วั ขณะ (ค)

ลาดบั ขั้นการทางานของวงจร
2. เมื่อผู้ปฏิบัติงานกดสวิตช์ S2 เพื่อทาให้หน้าสัมผัสของสวิตช์ S2 ในแถวท่ี 1 เปล่ียนเป็น

หน้าสัมผัสสภาวะปิดเพ่ือต่อวงจร และหน้าสัมผัสของสวิตช์ S2 ในแถวที่ 2 เปล่ียนเป็นหน้าสัมผัสสภาวะ
เปิด ซ่ึงหน้าสัมผัสของสวติ ช์ S2 ในแถวท่ี 1 ที่เปลยี่ นหน้าสัมผัสเปน็ สภาวะปิดนั้น จะทาหนา้ ที่ต่อวงจรจ่าย
ไฟฟ้าให้กับคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 เมื่อแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ทางาน ส่งผลให้
หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ท่ีอยู่ในแถวท่ี 3 ดังภาพท่ี 8.12 เปลี่ยนสภาวะของหน้าสัมผัส
จากหน้าสัมผสั แบบเปิดเปน็ หน้าสัมผัสสภาวะปิด ขณะนี้มอเตอร์ไฟฟ้าจะทางาน และหมุนไปยังทิศทางตาม
เข็มนาฬกิ า

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K2
S3

K1 K2 H1 H2

N1 234

ภาพท่ี 8.13 วงจรกลับทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบชว่ั ขณะ (ง)

ลาดับขน้ั การทางานของวงจร
3. หลังจากท่ีหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ที่อยู่ในแถวท่ี 3 เปลี่ยนสภาวะเป็น

หน้าสัมผัสสภาวะปิด ดังภาพท่ี 8.13 แล้ว ก็จะทาหน้าท่ีจ่ายไฟฟ้าให้กับหลอดสัญญาณ H1 ทางานสาหรับ
วงจรน้ีถ้าผู้ปฏิบัติงานต้องการให้ แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ทางานต่อเน่ือง ผู้ปฏิบัติงานก็จะต้องกดที่
สวติ ช์ S2 ค้างไว้ เพราะถ้าปล่อยสวติ ช์ S2 กจ็ ะส่งผลให้ แมกเนตกิ คอนแทกเตอร์ K1 หยดุ การทางานพร้อม
กับหลอดสัญญาณ เนื่องจาก หน้าสัมผัสของสวิตช์ S2 ที่อยู่ในแถวที่ 1 จะกลับมาเป็นสภาวะเปิดและตัดไฟฟ้า
ออกจากคอยลข์ องแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 น่ันเอง

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K2
S3

K1 K2 H1 H2

N1 234

ภาพท่ี 8.14 วงจรกลบั ทางหมุนมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส แบบช่ัวขณะ (จ)

ลาดับขน้ั การทางานของวงจร
4. เมื่อผู้ปฏิบัติงานกดที่สวิตช์ S3 เพ่ือทาให้หน้าสัมผัสของสวิตช์ S3 ในแถวท่ี 1 เปลี่ยนเป็น

หน้าสัมผัสสภาวะเปิดเพ่ือตัดวงจร และหน้าสัมผัสของสวิตช์ S3 ท่ีอยู่ในแถวที่ 2 จะเปลี่ยนเป็นหน้าสัมผัส
สภาวะปิด ซึ่งหน้าสัมผัสของสวิตช์ S2 ในแถวท่ี 2 ท่ีเปล่ียนหน้าสัมผัสเป็นสภาวะปิดนั้น จะทาหน้าที่ต่อ
วงจรจ่ายไฟฟ้าให้กับคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 เมื่อแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ทางาน ส่งผล
ใหห้ น้าสัมผัสของแมกเนตกิ คอนแทกเตอร์ K2 ทอี่ ยู่ในแถวท่ี 4 ดังภาพท่ี 8.14 เปล่ียนสภาวะของหน้าสัมผัส
จากหน้าสัมผัสแบบเปิดเป็นหน้าสัมผัสสภาวะปิด ขณะนี้มอเตอร์ไฟฟ้าจะทางาน และหมุนไปยังทิศทาง
ทวนเข็มนาฬิกา

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K2
S3

K1 K2 H1 H2

N1 234

ภาพท่ี 8.15 วงจรกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบชวั่ ขณะ (ฉ)

ลาดับขนั้ การทางานของวงจร
5. หลังจากที่หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ท่ีอยู่ในแถวที่ 4 ได้เปล่ียนสภาวะเป็น

หน้าสัมผัสสภาวะปิด ดังภาพที่ 8.15 แล้ว ก็จะทาหน้าที่จ่ายไฟฟ้าให้กับหลอดสัญญาณ H2 ทางานสาหรับ
วงจรนี้ถ้าผู้ปฏิบัติงานต้องการให้ แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ทางานต่อเนื่อง ซึ่งผู้ปฏิบัติงานก็จะต้องกด
สวิตช์ S2 ค้างไว้เช่นกัน เหตุผลเพราะถ้าทาการปล่อยสวิตช์ S3 ก็จะส่งผลให้ แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2
หยุดการทางาน เนื่องจาก หน้าสัมผัสของสวิตช์ S3 ในแถวท่ี 4 จะกลับมาเป็นสภาวะเปิด และตัดไฟฟ้าออก
จากคอยล์ของแมกเนตกิ คอนแทกเตอร์ K2 นน่ั เอง

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K2
S3

K1 K2 H1 H2

N1 234

ภาพท่ี 8.16 วงจรกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบชั่วขณะ (ช)

ลาดบั ขน้ั การทางานของวงจร
6. เม่ือผู้ปฏิบัติงานต้องการหยุดจะการทางานของวงจร ให้กดท่ีสวิตช์ S1 สง่ ผลใหห้ น้าสัมผสั ของ

สวิตช์เปลี่ยนเป็นหน้าสัมผัสสภาวะเปิด ดังภาพที่ 8.16 ก็ส่งผลให้แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 และ K2 น้ัน
ไม่สามารถทางานได้ เนื่องจากสวติ ช์ S1 ทาหน้าท่ีตัดวงจรไฟฟ้า จึงส่งผลให้ไม่มีไฟฟ้าเข้าไปเล้ียงคอยล์ของ
แมกเนตกิ คอนแทกเตอร์ทงั้ 2 ตัว และเม่อื ตอ้ งการท่จี ะใหว้ งจรกลับมาใชง้ านไดเ้ หมือนเดิมจะต้องทาการกด
ทส่ี วติ ช์ S1 อกี คร้ังเพือ่ ให้หน้าสมั ผัสของสวติ ช์ S1 กลับมาตอ่ เหมอื นเดมิ

8.2.2 วงจรกลับทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบทันทที นั ใด

L1 L2 L3 N PE L1
F1 F2

F3

K1 K2 S1

S2 K1 K1 K2 K2

F3
S3

M K2 K1

M1 3∿ K1 H1 K2 H2
N1 56
23 4

333111 _4 32 333222 1_ 56

ภาพท่ี 8.17 วงจรกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส แบบทนั ทีทันใด (ก)

รายการอุปกรณ์
F1 Main Fuses
F2 Control Fuse
F3 Overload Relay
S1 Pushbutton Switch “OFF”
S2 Pushbutton Switch “Forward”
S3 Pushbutton Switch “Reverse”
K1 Magnetic Contactor “Forward”
K2 Magnetic Contactor “Reverse”
H1 Pilot Lamp for “Forward”
H1 Pilot Lamp for “Reverse”
M1 Three Phase Motor

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1 K2 K2

S3 K1
K2

K1 H1 K2 H2

N1 2 3 45 6

ภาพที่ 8.18 วงจรกลับทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส แบบทันทีทันใด (ข)

ลาดับขัน้ การทางานของวงจร
1. เม่ือผู้ปฏิบัติงานทาการจ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับขนาด 380 โวลท์ ให้กับวงจรกาลังและ

แรงดันไฟฟ้าขนาด 220 โวลท์ ให้กับวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า ซ่ึงขณะนี้ยังไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ที่ทางาน
เนื่องจากหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์และสวิตช์ ที่อยู่ในแถวท่ี 1 ถึงแถวที่ 6 ดังภาพที่ 8.18 ยัง
อยใู่ นสภาวะเปิด จึงทาให้ไฟฟ้าไม่สามารถไหลผ่านภายในวงจรไปยังคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์และ
หลอดสัญญาณได้

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1 K2 K2

S3 K1
K2

K1 H1 K2 H2

N1 2 3 45 6

ภาพที่ 8.19 วงจรกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบทนั ทีทนั ใด (ค)

ลาดบั ขัน้ การทางานของวงจร
2. เมื่อผู้ปฏิบัติงานกดสวิตช์ S2 เพื่อทาให้หน้าสัมผัสของสวิตช์ S2 ในแถวท่ี 1 เปลี่ยนเป็น

หน้าสัมผัสสภาวะปิดเพ่ือต่อวงจร และหน้าสัมผัสของสวิตช์ S2 ในแถวที่ 4 เปล่ียนเป็นหน้าสัมผัสสภาวะ
เปิด ซง่ึ หน้าสมั ผัสของสวิตช์ S2 ในแถวที่ 1 ท่ีเปล่ียนหน้าสัมผัสเป็นสภาวะปิดน้ัน จะทาหน้าที่ต่อวงจรเพื่อ
จ่ายไฟฟ้าให้กับคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 เม่ือแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ทางาน ส่งผลให้
หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ท่ีอยู่ในแถวท่ี 2 แถวท่ี 3 และแถวที่ 4 ดังภาพท่ี 8.19 เปล่ียน
สภาวะของหน้าสัมผัสเป็นปิดและหน้าสัมผัสแบบเปิด ตามลาดับ ขณะน้ีมอเตอร์ไฟฟ้าจะทางาน และหมุน
ไปยังทศิ ทางตามเขม็ นาฬิกา

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1 K2 K2

S3 K1
K2

K1 H1 K2 H2

N1 2 3 45 6

ภาพท่ี 8.20 วงจรกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบทนั ทีทันใด (ง)

ลาดบั ขั้นการทางานของวงจร
3. เม่ือผู้ปฏิบัติงานปล่อยสวติ ช์ S2 ก็จะส่งผลให้หนา้ สัมผัสของแมกเนตกิ คอนแทกเตอร์ K1 ใน

แถวที่ 2 ยังคงทาหน้าท่ีต่อวงจร จ่ายไฟฟ้าให้กับคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ทางานต่อเนื่อง
นิยมเรียกหน้าสัมผัสน้ีว่า เมนเทนน่ิงคอนแทก (Maintaining Contact) หรือเรียกว่า ล็อกอิทเซลฟคอนแทก
(Lock Itself Contact) ดังภาพที่ 8.20 หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ในแถวท่ี 3 ทาหน้าที่
จ่ายไฟฟ้าให้กับหลอดสัญญาณ H1 ทางาน สว่ นหน้าหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ในแถวท่ี 3
ทาหน้าท่ีป้องกันไม่ให้ แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ทางานพร้อมกับ แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 หรือท่ี
นยิ มเรียกว่า อนิ เทอร์ล็อกคอนแทก (Interlocked Contact)

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1 K2 K2

S3 K1
K2

K1 H1 K2 H2

N1 2 3 45 6

ภาพที่ 8.21 วงจรกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส แบบทนั ทีทนั ใด (จ)

ลาดับขน้ั การทางานของวงจร
4. เม่ือผู้ปฏิบัติงานต้องการที่จะควบคุมให้แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ทางาน (มอเตอร์หมุน

ทวนเข็มนาฬิกา) ให้ทาการกดสวิตช์ S3 ทาให้หน้าสัมผัสของสวิตช์ S3 ในแถวท่ี 1 เปลี่ยนเป็นหน้าสัมผัส
สภาวะเปิดเพื่อทาหน้าที่ต่อวงจร และหน้าสัมผัสของสวิตช์ S3 ในแถวที่ 4 เปลี่ยนเป็นหน้าสัมผัสสภาวะปิด
ดังภาพที่ 8.21 ซ่ึงหน้าสัมผัสของสวิตช์ S3 ในแถวที่ 1 ท่ีเปลี่ยนหน้าสัมผัสเป็นสภาวะเปิดน้ัน จะทาหน้าที่
ตัดวงจรท่ีจ่ายไฟฟ้าให้กับคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ส่งผลใหแ้ มกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 หยุด
การทางานและ หน้าสัมผสั ของแมกเนตกิ คอนแทกเตอร์ K1 ทุกตัวกลบั สสู่ ภาวะเดมิ

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1 K2 K2

S3 K1
K2

K1 H1 K2 H2

N1 2 3 45 6

ภาพที่ 8.22 วงจรกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส แบบทนั ทีทนั ใด (ฉ)

ลาดบั ขนั้ การทางานของวงจร
5. หลังจากแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 หยดุ การทางานแล้ว หน้าสมั ผัสของสวติ ช์ S3 ในแถวท่ี

4 ที่ได้เปล่ียนหน้าสัมผัสสภาวะเปิด เป็นสภาวะปิดน้ัน ก็จะทาหน้าท่ีต่อวงจรเพื่อจ่ายไฟฟ้าให้เข้าไปเลี้ยง
คอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ทางาน ส่งผลให้หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ท่อี ยู่ใน
แถวที่ 1 แถวที่ 5 และแถวที่ 6 ดังภาพท่ี 8.22 ก็จะเปลี่ยนสภาวะของหน้าสัมผัสเป็นแบบเปิด และหน้าสัมผัส
แบบปดิ ตามลาดบั ขณะนม้ี อเตอรไ์ ฟฟา้ จะทางาน และหมุนไปยงั ทศิ ทางทวนเข็มนาฬกิ า

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1 K2 K2

S3 K1
K2

K1 H1 K2 H2

N1 2 3 45 6

ภาพที่ 8.23 วงจรกลับทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส แบบทันทีทนั ใด (ช)

ลาดบั ข้ันการทางานของวงจร
6. เม่ือผู้ปฏิบัติงานปล่อยสวิตช์ S3 หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ในแถวท่ี 4

ยังคงทาหน้าที่ต่อวงจร จ่ายไฟฟ้าให้กับคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ทางานต่อเน่ือง ดังภาพท่ี
8.23 หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ในแถวที่ 6 ทาหน้าท่ีจ่ายไฟฟ้าให้กับหลอดสัญญาณ H2
ทางาน ส่วนหน้าหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ที่อยู่ในแถวท่ี 1 ทาหน้าท่ีเพื่อป้องกันไม่ให้
แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ทางานพร้อมกันกับ แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 หรือเรียกว่า อินเทอร์ล็อก
คอนแทก นั่นเอง และถ้าต้องการควบคุมให้แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ทางาน (มอเตอร์ไฟฟ้าหมุนตาม
เข็มนาฬกิ า) ใหก้ ดสวติ ช์ S2 อกี ครง้ั โดยไม่ตอ้ งกดสวติ ช์ S1

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1 K2 K2

S3 K1
K2

K1 H1 K2 H2

N1 2 3 45 6

ภาพท่ี 8.24 วงจรกลบั ทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบทนั ทีทันใด (ซ)

ลาดบั ขัน้ การทางานของวงจร
7. เมื่อผู้ปฏิบัติงานต้องการหยุดการทางานของวงจร ให้กดที่สวิตช์ S1 ทาให้หน้าสัมผัสของ

สวิตช์เปล่ียนเป็นหน้าสมั ผสั สภาวะเปดิ เพ่ือตัดวงจร ดังภาพท่ี 8.24 สง่ ผลให้ไมม่ ีไฟฟา้ เขา้ ไปเล้ียงคอยล์ของ
แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ส่งผลทาให้ แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 หยุดการทางาน ส่วนหน้าสัมผัสของ
แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ทุกตัวกลับสสู่ ภาวะเดมิ นน่ั เอง ขณะน้มี อเตอรไ์ ฟฟา้ หยุดการทางาน

8.2.3 วงจรกลับทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบหลังจากหยุด

L1 L2 L3 N PE L1
F1 F2

F3

S1
K1 K2

S2 K1 K1 K2 K2

F3 S3

M K2 K1

M1 3∿ K1 H1 K2 H2
N1 56
23 4
333111 4_ 32
333222 1_ 65

ภาพที่ 8.25 วงจรกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบหลังจากหยุด (ก)

รายการอุปกรณ์
F1 Main Fuses
F2 Control Fuse
F3 Overload Relay
S1 Pushbutton Switch “OFF”
S2 Pushbutton Switch “Reverse”
S3 Pushbutton Switch “Forward”
K1 Magnetic Contactor “Forward”
K2 Magnetic Contactor “Reverse”
H1 Pilot Lamp for “Forward”
H1 Pilot Lamp for “Reverse”
M1 Three Phase Motor

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1 K2 K2
S3

K2 K1

K1 H1 K2 H2

N1 23 45 6

ภาพท่ี 8.26 วงจรกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบหลงั จากหยดุ (ข)

ลาดบั ขนั้ การทางานของวงจร
1. เมื่อผู้ปฏิบัติงานทาการจ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับขนาด 380 โวลท์ ให้กับวงจรกาลังและ

แรงดันไฟฟ้าขนาด 220 โวลท์ ให้กับวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ท่ีทางาน
เนื่องจากหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์และสวิตช์ ที่อยู่ในแถวท่ี 1 ถึงแถวที่ 6 ดังภาพท่ี 8.26 ยังอยู่
ในสภาวะเปิด จึงทาให้ไฟฟ้าไม่สามารถไหลผ่านภายในวงจรไปยังคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์และ
หลอดสญั ญาณได้

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1 K2 K2
S3

K2 K1

K1 H1 K2 H2

N1 23 45 6

ภาพที่ 8.27 วงจรกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบหลังจากหยุด (ค)

ลาดบั ข้ันการทางานของวงจร
2. เมื่อผู้ปฏิบัติงานกดสวิตช์ S2 เพ่ือทาให้หน้าสัมผัสของสวิตช์ S2 ในแถวที่ 1 เปลี่ยนเป็น

หน้าสัมผัสสภาวะเปิด และหน้าสัมผัสของสวิตช์ S2 ที่อยู่ในแถวที่ 4 เปล่ียนเป็นหน้าสัมผัสสภาวะปิด ซึ่ง
หน้าสัมผัสของสวิตช์ S2 ในแถวที่ 4 ที่เปล่ียนหน้าสัมผัสเป็นสภาวะปิดนั้น จะทาหน้าที่ต่อวงจรเพื่อจ่าย
ไฟฟ้าให้กับคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 เมื่อแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ทางาน ก็จะส่งผลให้
หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ท่ีอยู่ในแถวท่ี 1 แถวที่ 5 และแถวที่ 6 ดังภาพที่ 8.27 เปล่ียนสภาวะ
ของหน้าสัมผัสเป็นเปิด และหน้าสัมผัสแบบปิดตามลาดับ ขณะน้ีมอเตอร์ไฟฟ้าจะทางาน และหมุนไปยัง
ทิศทางทวนเขม็ นาฬกิ า

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1 K2 K2
S3

K2 K1

K1 H1 K2 H2

N1 23 45 6

ภาพที่ 8.28 วงจรกลับทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส แบบหลังจากหยดุ (ง)

ลาดับขน้ั การทางานของวงจร
3. เมื่อผู้ปฏิบัติงานปล่อยสวติ ช์ S2 หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ในแถวที่ 5 ยังคง

ทาหน้าท่ีต่อวงจร จ่ายไฟฟ้าให้กับคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ทางานต่อเน่ือง ดังภาพท่ี 8.28
หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ในแถวที่ 6 ทาหนา้ ทจี่ า่ ยไฟฟ้าให้กบั หลอดสญั ญาณ H2 ทางาน
สว่ นหน้าหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ที่อยู่ในแถวท่ี 1 ก็จะทาหน้าท่ีป้องกันไม่ให้ แมกเนติก
คอนแทกเตอร์ K1 ทางานพร้อมกันกับ แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 เช่นเดียวกับวงจรการกลับทางหมุน
มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบทันทที นั ใด

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1 K2 K2
S3

K2 K1

K1 H1 K2 H2

N1 23 45 6

ภาพท่ี 8.29 วงจรกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบหลังจากหยดุ (จ)

ลาดับขนั้ การทางานของวงจร
4. เมื่อผู้ปฏิบัติงาน ต้องการท่ีจะควบคุมเพ่ือให้แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ทางาน (มอเตอร์ไฟฟ้า

หมุนตามเข็มนาฬิกา) ให้ทาการกดที่สวิตช์ S1 หน้าสัมผัสของสวิตช์ S1 ก็จะเปลี่ยนจากหน้าสัมผัสสภาวะ
ปิด เป็นหน้าสัมผัสสภาวะเปิด เพื่อตัดวงจร ดังภาพท่ี 8.29 จึงทาให้ไม่มีไฟฟ้าเข้าไปเล้ียงบริเวณคอยล์ของ
แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ส่งผลให้แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 หยุดการทางาน และในส่วนหน้าสัมผัส
ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ทกุ ตวั ก็จะกลับส่สู ภาวะเดมิ ขณะน้มี อเตอรไ์ ฟฟ้าหยดุ การทางาน

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1 K2 K2
S3

K2 K1

K1 H1 K2 H2

N1 23 45 6

ภาพที่ 8.30 วงจรกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส แบบหลงั จากหยดุ (ฉ)

ลาดบั ขน้ั การทางานของวงจร
5. เมื่อผู้ปฏิบัติงานต้องการที่จะควบคุมให้แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ทางาน ให้กดสวิตช์ S3

ทาให้หนา้ สัมผสั ของสวิตช์ S3 ที่อยู่ในแถวที่ 1 เปลย่ี นเปน็ หน้าสัมผัสสภาวะปิดเพื่อต่อวงจร และหนา้ สมั ผัส
ของสวิตช์ S3 ในแถวท่ี 4 เปล่ียนเป็นหน้าสัมผัสสภาวะเปิด ดังภาพท่ี 8.30 ซ่ึงหน้าสัมผัสของสวิตช์ S3 ใน
แถวท่ี 1 ที่เปล่ียนหน้าสัมผัสเป็นสภาวะปิดนั้น จะทาหน้าที่ต่อวงจรเพื่อจ่ายไฟฟ้าให้กับคอยล์ของแมกเนติก
คอนแทกเตอร์ K1 ส่งผลให้แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ทางาน และ หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์
K1 ที่อยู่ในแถวท่ี 2 แถวที่ 3 และแถวที่ 4 เปล่ียนสภาวะของหน้าสัมผัสเป็นปิดและหน้าสัมผัสแบบเปิด
ตามลาดับ ขณะนม้ี อเตอรไ์ ฟฟา้ จะทางาน และหมุนไปยังทศิ ทางตามเข็มนาฬกิ า

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1 K2 K2
S3

K2 K1

K1 H1 K2 H2

N1 23 45 6
ภาพท่ี 8.31 วงจรกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบหลังจากหยุด (ช)

ลาดับขั้นการทางานของวงจร
6. เมื่อผู้ปฏิบัติงานปล่อยสวิตช์ S3 หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ในแถวท่ี 2 ยังคง

ทาหน้าที่ต่อวงจร จ่ายไฟฟ้าให้กับคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ทางานต่อเน่ือง ดังภาพที่8.31
หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ในแถวที่ 3 ทาหนา้ ท่ีจา่ ยไฟฟา้ ให้กับหลอดสัญญาณ H1 ทางาน
ส่วนหน้าหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ท่ีอยู่ในแถวที่ 4 จะทาหน้าท่ีป้องกันไม่ให้แมกเนติก
คอนแทกเตอร์ K2 ทางานพรอ้ มกับ แมกเนติกคอนแทกเตอร์นั่นเอง

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K1 K2 K2
S3

K2 K1

K1 H1 K2 H2

N1 23 45 6

ภาพที่ 8.32 วงจรกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส แบบหลงั จากหยุด (ซ)

ลาดบั ขั้นการทางานของวงจร
7. เมื่อผู้ปฏิบัติงานต้องการหยุดการทางานของวงจร ให้กดท่ีสวิตช์ S1 ทาให้หน้าสัมผัสของ

สวิตช์เปล่ียนเป็นหน้าสัมผัสสภาวะเปิดเพ่ือตดั วงจร ดงั ภาพที่ 8.32 ส่งผลให้ไม่มไี ฟฟ้าเขา้ ไปเล้ียงคอยล์ของ
แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ทาให้ แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 หยุดการทางาน ส่วนหน้าสัมผัสของแมกเนติก
คอนแทกเตอร์ K2 ทุกตวั กลับสู่สภาวะเดิมนั่นเอง ขณะนี้มอเตอร์ไฟฟ้าหยุดการทางาน และถ้าผู้ปฏิบัติงาน
ต้องการท่ีจะควบคุมให้แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ทางาน (มอเตอร์หมุนทวนเข็มนาฬิกา) อีกคร้ัง
ผู้ปฏบิ ตั ิงานจะต้องทาการกดท่สี วติ ช์ S1 เพือ่ หยุดการทางานของแมกเนตกิ คอนแทกเตอร์ กอ่ นเช่นกัน

8.3 วงจรสตาร์ตมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา

วงจรสตาร์ตมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา นิยมใช้กบั มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ

3 เฟส ชนิดกรงกระรอก ทมี่ ีขนาดมากกว่า 5 กิโลวตั ต์ ไปจนถงึ ขนาด 20 กิโลวัตต์ ซง่ึ การสตารต์ มอเตอรไ์ ฟฟ้า

จะตอ้ งเรมิ่ เดินด้วยขดลวดท่ีสเตเตอร์แบบสตาร์ และเม่ือความเร็วรอบของมอเตอร์ไฟฟา้ เป็น 75 เปอร์เซ็นต์

ของความเร็วซิงโครนสั (Synchronous Speed : NS = 120f ) จึงเปลยี่ นมาต่อแบบเดลตา จากภาพท่ี 8.32
P
จะเห็นได้ว่าเริม่ เดินด้วยขดลวดที่สเตเตอร์ที่ต่อแบบสตาร์ จะหยุดการทางานไปชั่วขณะแล้วจึงต่อวงจรขดลวด

ที่สเตเตอร์แบบเดลตา ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าสูงข้ึนประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ของกระแสล็อกโรเตอร์ ขณะท่ีวงจร

ตอ่ ขดลวดที่สเตเตอร์แบบเดลตา ซ่ึงกระแสล็อกโรเตอร์ (Locked Rotor Amp or LRA) หมายถึง กระแสไฟฟ้า

กระชากขณะสตาร์ต กล่าวคอื เปน็ กระแสไฟฟ้าในขณะเร่ิมเดนิ เม่อื จ่ายแรงดนั ไฟฟ้าเตม็ พกิ ดั ใหม้ อเตอร์ไฟฟ้า

กระแสไฟฟา้ (A)

กระแสไฟฟา้ ขณะ กระแสไฟฟ้า ขณะ
เรมิ่ เดิน แบบสตาร์ เริ่มเดิน แบบเดลตา

เวลา (t)

ช่วงเวลาท่เี ปล่ียนจากการต่อขดลวด
ท่ีสเตเตอรแ์ บบสตาร์ เป็น แบบเดลตา

ภาพที่ 8.33 กระแสไฟฟา้ ขณะเริม่ เดนิ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา

การควบคมุ การสตาร์ตมอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา สามารถควบคุมโดย
การใช้แมกเนติกคอนแทกเตอร์ จานวน 3 ตัว ร่วมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังภาพท่ี 8.34 เพ่ือทาการควบคุม
มอเตอร์ไฟฟ้า ให้สามารทางานได้ตามเงื่อนไข กล่าวคือ เมื่อแมกเนติกคอนแทกเตอร์ ตัวท่ี 1 และตัวท่ี 2
ทางานพร้อมกัน มอเตอร์จะทางานแบบสตาร์ และเมื่อแมกเนติกคอนแทกเตอร์ ตัวที่ 1 และตัวที่ 3 ทางาน
พรอ้ มกัน มอเตอรจ์ ะทางานแบบเดลตา ซึง่ จะเหน็ ไดว้ ่าแมกเนติกคอนแทกเตอร์ ตัวที่ 1 นน้ั ทาหนา้ ที่เปน็ ตัว
หลักเพ่ือจ่ายไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ไฟฟ้า ส่วนแมกเนติกคอนแทกเตอร์ที่ทาหน้าท่ีต่อขดลวดสเตเตอร์แบบ
สตาร์ และต่อขดลวดสเตเตอร์แบบเดลตา ผู้ปฏิบัติงานจะต้องออกแบบให้มีอินเทอร์ล็อกคอนแทก
(Interlock Contact) ซึง่ กนั และกัน ดงั วงจรท่ีออกแบบในภาพท่ี 8.37 และภาพท่ี 8.46

ตคู้ วบคมุ มอเตอรไ์ ฟฟา้

L1 L2 L3

แมกเนติกคอนแทกเตอร์ จานวน 3 ตัว

STAR DELTA
STOP STAR DELTA

380 โวลท์ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส 380/660 โวลต์

ภาพที่ 8.34 การควบคุมการสตารต์ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา ดว้ ยมือ

อUาร1์เมเจอร์ L1 L1
U2 L2
W2 V2 Wอา2ร์เมเจอUร์1 L3
W1 V1
L2 W1 U2

L3 V2 V1

การต่อขดลวดแบบสตาร์ การต่อขดลวดแบบเดลตา

ภาพที่ 8.35 การต่อขดลวดมอเตอร์ไฟฟา้ 3 เฟส แบบสตาร์ และแบบเดลตา

W2 U2 V2 W2 U2 V2
U1 V1 W1 W2 U2 V2
U1 V1 W1
L1 L2 L3
U1 V1 W1

L1 L2 L3

แบบสตาร์ แบบเดลตา

ภาพที่ 8.36 การต่อมอเตอร์ไฟฟา้ 3 เฟส แบบสตาร์ และแบบเดลตา

8.3.1 วงจรสตาร์ตมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา ดว้ ยมอื

L1 L2 L3 N PE

F1

K1 K2 K3
F3

MW1 V2
U2
V1 W2

U1 3∿ รายการอปุ กรณ์
F1 Main Fuses
M1 F2 Control Fuse
F3 Overload Relay
L1 S1 Pushbutton Switch “OFF”
F2 S2 Pushbutton Switch “Star”
S3 Pushbutton Switch “Delta”
F3 K1 Line Magnetic Contactor
K2 Star Magnetic Contactor
S1 K3 Delta Magnetic Contactor
H1 Pilot Lamp for “Star”
S2 K1 K2 K3 H2 Pilot Lamp for “Delta”
M1 Three Phase Motor
S3 K2

K3 K2

K2 K1 K3 H1 H2
N1 2 3 4 5

333222 3_ 42 333111 __ _3 333333 1_ 5_

ภาพท่ี 8.37 วงจรสตาร์ตมอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา ดว้ ยมอื (ก)

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K2 K3
S3 K2

K3 K2

K2 K1 K3 H1 H2
N1 2 3 45

ภาพท่ี 8.38 วงจรสตารต์ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา ดว้ ยมอื (ข)

ลาดบั ขนั้ การทางานของวงจร
1. เมื่อผู้ปฏิบัติงานทาการจ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับขนาด 380 โวลท์ ให้กับวงจรกาลังและ

แรงดันไฟฟ้าขนาด 220 โวลท์ ให้กับวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า ซ่ึงขณะน้ียังไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ท่ีทางาน
เนื่องจากหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์และสวิตช์ ที่อยู่ในแถวท่ี 1 ถึงแถวท่ี 5 ดังภาพท่ี 8.38 ยังอยู่
ในสภาวะเปิด จึงทาให้ไฟฟ้าไม่สามารถไหลผ่านภายในวงจรไปยังคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์และ
หลอดสญั ญาณได้

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K2 K3

S3 K2

K3 K2

K2 K1 K3 H1 H2
N1 2 3 45

ภาพท่ี 8.39 วงจรสตารต์ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา ด้วยมอื (ค)

ลาดบั ข้นั การทางานของวงจร
2. เม่ือผู้ปฏิบัติงานกดท่ีสวิตช์ S2 ส่งผลให้หน้าสัมผัสของสวิตช์ S2 ในแถวท่ี 1 เปลี่ยนเป็น

หน้าสัมผัสสภาวะปิด ทาหน้าท่ีต่อวงจรจ่ายไฟฟ้าให้กับคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ทางาน
ในขณะน้มี อเตอร์ไฟฟา้ จะยงั ไม่ทางาน

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K2 K3
S3 K2

K3 K2

K2 K1 K3 H1 H2
N1 2 3 45

ภาพท่ี 8.40 วงจรสตารต์ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา ดว้ ยมือ (ง)

ลาดบั ขน้ั การทางานของวงจร
3. เมื่อแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ทางาน ส่งผลใหห้ น้าสัมผัสของแมกเนตกิ คอนแทกเตอร์ K2

ทอ่ี ยู่ในแถวท่ี 2 และแถวที่ 4 ดังภาพที่ 8.40 เปล่ยี นสภาวะของหน้าสัมผสั เป็นปิด ต่อวงจรเพ่ือจา่ ยไฟใหก้ ับ
คอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ทางาน ในขณะน้ีมอเตอร์ไฟฟ้าจะทางานต่อขดลวดแบบสตาร์ (K1
ทางานพร้อมกับ K2) และหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ที่อยู่ในแถวท่ี 3 ก็จะเปล่ียนสภาวะ
เป็นหน้าสัมผัสแบบเปิด ทาหน้าที่ป้องกันไม่ให้ แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K3 ทางานพร้อมกับ แมกเนติก
คอนแทกเตอร์K2 สว่ นหนา้ สัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ในแถวท่ี 4 กจ็ ะทาหน้าท่ีจ่ายไฟฟ้าใหก้ ับ
หลอดสัญญาณ H1 ทางาน

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K2 K3

S3 K2

K3 K2

K2 K1 K3 H1 H2
N1 2 3 45

ภาพที่ 8.41 วงจรสตารต์ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา ดว้ ยมือ (จ)

ลาดบั ข้นั การทางานของวงจร
4. เมื่อผู้ปฏิบัติงานทาการปล่อยสวิตช์ S2 หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ท่ีอยู่ใน

แถวท่ี 2 และหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ในแถวที่ 3 ดังภาพท่ี 8.41 จะยังคงทาหน้าท่ีต่อ
วงจรเพ่ือจา่ ยไฟฟ้าใหก้ บั คอยล์ของแมกเนตกิ คอนแทกเตอร์ K1 และ K2 ทางานตอ่ เนอื่ ง

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K2 K3

S3 K2

K3 K2

K2 K1 K3 H1 H2
N1 2 3 45

ภาพที่ 8.42 วงจรสตารต์ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา ดว้ ยมือ (ฉ)

ลาดับข้ันการทางานของวงจร
5. เม่ือผู้ปฏิบัติงานต้องการเปลี่ยนการทางานของมอเตอร์ไฟฟ้าจากการต่อวงจรขดลวดแบบ

สตาร์เป็นวงจรการต่อขดลวดแบบเดลตา ให้ทาการกดที่สวิตช์ S3 เพ่ือทาหน้าท่ีตัดไฟฟ้าท่ีเข้าไปยังคอยล์
ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ออกจากวงจร สง่ ผลให้หน้าสมั ผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ที่อยใู่ น
แถวท่ี 2 แถวท่ี 3 และแถวท่ี 4 กลับสู่สภาวะเดมิ

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K2 K3

S3 K2

K3 K2

K2 K1 K3 H1 H2
N1 2 3 45

ภาพท่ี 8.43 วงจรสตาร์ตมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา ดว้ ยมือ (ช)

ลาดับขั้นการทางานของวงจร
6. เม่ือหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ท่ีอยู่ในแถวท่ี 3 กลับมาเป็นสภาวะปิด ก็จะ

ทาหน้าท่ีต่อวงจรเพื่อจ่ายไฟฟ้าให้กับคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K3 ในขณะนี้มอเตอร์ไฟฟ้าจะ
ทางานต่อขดลวดแบบเดลตา (K1 ทางานพร้อมกับ K3) และเมื่อแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K3 ทางาน ส่งผล
ให้หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K3 ท่ีอยู่ในแถวที่ 1 และแถวท่ี 4 ดังภาพท่ี 8.43 เปล่ียนสภาวะ
ของหน้าสมั ผสั เป็นเปิดและปดิ ตามลาดบั

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K2 K3

S3 K2

K3 K2

K2 K1 K3 H1 H2
N1 2 3 45

ภาพท่ี 8.44 วงจรสตาร์ตมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา ดว้ ยมือ (ซ)

ลาดับข้นั การทางานของวงจร
7. เมื่อหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K3 ที่อยู่ในแถวท่ี 1 เปล่ียนสภาวะเป็นเปิด จะทา

หน้าท่ีป้องกันเพ่ือไม่ให้ แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ทางานพร้อมกับแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K3 ในส่วน
หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K3 ในแถวท่ี 5 ก็จะทาหน้าท่ีจ่ายไฟฟ้าให้กับหลอดสัญญาณ H2
ทางาน

L1
F2

F3

S1

S2 K1 K2 K3
S3 K2

K3 K2

K2 K1 K3 H1 H2
N1 2 3 45

ภาพที่ 8.45 วงจรสตารต์ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา ด้วยมอื (ฌ)

ลาดับขั้นการทางานของวงจร
8. เม่ือผู้ปฏิบัติงานต้องการหยุดการทางานของวงจร ให้กดที่สวิตช์ S1 ทาให้หน้าสัมผัสของ

สวิตช์เปลี่ยนเป็นหน้าสัมผัสสภาวะเปิดเพือ่ ตดั วงจร ดังภาพท่ี 8.45 สง่ ผลให้ไม่มไี ฟฟ้าเขา้ ไปเลยี้ งคอยลข์ อง
แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 และ K3 ทาให้แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1, K3 และ H1 หยุดการทางาน
ส่งผลให้หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 และ K3 ทุกตัว กลับสู่สภาวะเดิมน่ันเอง ซึ่งขณะนี้
มอเตอร์ไฟฟา้ หยดุ การทางน

8.3.2 วงจรสตาร์ตมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา อตั โนมตั ิ

L1 L2 L3 N PE

F1

K1 K2 K3
F3

MW1 V2

V1 U2

U1 3∿ W2

L1 รายการอปุ กรณ์
F2 F1 Main Fuses
F2 Control Fuse
F3 F3 Overload Relay
S1 S1 Pushbutton Switch “OFF”
S2 Pushbutton Switch “ON”
S2 K1 K1 Line Magnetic Contactor
K2 Star Magnetic Contactor
K4T K3 Delta Magnetic Contactor
K3 K4T Timer relay
M1 Three Phase Motor
K3 K2 K3

K1 K4T K3 K2
N1 2 3 4

333111 __ 32_ __ __ 4_ 333333 42 3__ 333222 3_ __

ภาพท่ี 8.46 วงจรสตาร์ตมอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา อตั โนมัติ (ก)

L1
F2

F3

S1

S2 K1
K4T

K3

K3 K2 K3

K1 K4T K3 K2
N1 2 3 4

ภาพที่ 8.47 วงจรสตาร์ตมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา อตั โนมตั ิ (ข)

ลาดบั ข้ันการทางานของวงจร
1. เม่ือผู้ปฏิบัติงานทาการจ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับขนาด 380 โวลท์ ให้กับวงจรกาลังและ

แรงดันไฟฟ้าขนาด 220 โวลท์ ให้กับวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งขณะน้ียังไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ท่ีทางาน
เนื่องจากหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์และสวิตช์ ที่อยู่ในแถวที่ 1 และแถวที่ 2 ดังภาพที่ 8.47
ยงั อยู่ในสภาวะเปิด จงึ ทาให้ไฟฟ้าไม่สามารถไหลผา่ นภายในวงจรไปยังคอยลข์ องอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้

L1
F2

F3

S1

S2 K1
K4T

K3

K3 K2 K3

K1 K4T K3 K2
N1 2 3 4

ภาพท่ี 8.48 วงจรสตาร์ตมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา อตั โนมัติ (ค)

ลาดบั ขั้นการทางานของวงจร
2. เมื่อผู้ปฏิบัติงานกดสวิตช์ S2 เพ่ือทาให้หน้าสัมผัสของสวิตช์ S2 ในแถวท่ี 1 เปล่ียนเป็น

หน้าสัมผัสสภาวะปิด ทาหน้าที่ต่อวงจรจ่ายไฟฟ้าให้กับคอยล์ของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 และ K2
ทางาน ดังภาพที่ 8.48 ซึ่งในขณะน้ีมอเตอร์ไฟฟ้าจะทางานต่อขดลวดแบบสตาร์ (K1 ทางานพร้อมกับ K2)
ซึ่งในขณะเดียวกัน รีเลย์ตั้งเวลา K4T ทางานพร้อมไปด้วย หน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 แบบปิด
ทอ่ี ยู่ในแถวที่ 2 ก็จะเปลี่ยนสภาวะของหน้าสัมผัสเปน็ แบบปิด สว่ นหนา้ สัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์
K2 อีกตัวที่อยู่ในแถวท่ี 3 ก็จะเปลี่ยนสภาวะของหน้าสัมผัสเป็นแบบเปิด ซ่ึงจะทาหน้าที่ป้องกันเพื่อไม่ให้
แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K3 ทางานพรอ้ มกบั แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2

L1
F2

F3

S1

S2 K1
K4T

K3

K3 K2 K3

K1 K4T K3 K2
N1 2 3 4

ภาพที่ 8.49 วงจรสตาร์ตมอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา อตั โนมตั ิ (ง)

ลาดับขน้ั การทางานของวงจร
3. เมื่อผู้ปฏิบัติงานปล่อยสวิตช์ S2 ในส่วนหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ท่ีอยู่ใน

แถวท่ี 1 ดังภาพที่ 8.49 ทาหน้าที่ตอ่ วงจร เพ่ือจา่ ยไฟฟ้าให้เข้าไปยังคอยล์ของแมกเนตกิ คอนแทกเตอร์ K1,
K2 และ K4T ทางานตอ่ เนือ่ ง

L1
F2

F3

S1

S2 K1
K4T

K3

K3 K2 K3

K1 K4T K3 K2
N1 2 3 4

ภาพท่ี 8.50 วงจรสตาร์ตมอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตา อัตโนมัติ (จ)

ลาดับขั้นการทางานของวงจร
4. เมื่อรีเลย์ต้ังเวลา K4T ทางานถึงเวลาที่ตั้งไว้ จะทาหน้าท่ี ตัดแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2

ออกจากวงจร ดังภาพท่ี 8.50 ส่งผลให้สภาวะหน้าสัมผัสของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ท่ีอยู่ในแถวท่ี 3
กลับมาเปน็ สภาวะหน้าสมั ผัสแบบปดิ


Click to View FlipBook Version