ความรทู้ ่ัวไปเกี่ยวกบั กีฬาแบดมินตนั
และมารยาท ความมีน้าใจนักกีฬาแบดมนิ ตนั
สาระการเรียนรู้
๑. ความรูท้ ่วั ไปเก่ียวกบั กีฬาแบดมนิ ตนั
๒. ความปลอดภยั ในการเลน่ กีฬาแบดมนิ ตนั
๓. มารยาทและความมีนา้ ใจของกีฬาแบดมินตนั
๑. ความร้ทู วั่ ไปเกี่ยวกบั กีฬาแบดมนิ ตัน
แบดมินตัน (Badminton) เป็ นกีฬาประเภทหน่ึงท่ีได้รับความนิยม
อยา่ งแพรห่ ลายเน่ืองจากมีอปุ กรณเ์ พียงไมแ้ รก็ เกต (Racquet) และลกู ขนไก่ รวมถงึ ผเู้ ลน่
เพียง ๒ คนก็สามารถเล่นได้ หรือมีสถานท่ีเพียงเล็กนอ้ ยก็สามารถเล่นได้เช่นกัน จึง
เหมาะสาหรบั ผทู้ ่ไี มต่ อ้ งการออกกาลงั กายอยา่ งหกั โหมเกินไป
๑. ความร้ทู ั่วไปเกี่ยวกบั กีฬาแบดมินตนั
ในประเทศไทยมกี ารเล่นแบดมินตันราว พ.ศ. ๒๔๕๖ โดยเร่ิมเล่นแบบมี
ตาข่าย โดย พระยานิพัทธ์กุลพงศ์ ได้สร้างสนามขึนท่ีบ้าน ซ่ึงส่วนมากจะเล่น
ในราชส้านักใน พ.ศ. ๒๔๙๔ พระยาจินดารักษ์ก่อตังสมาคมขึนว่า
“สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย” พร้อมทังได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของ
แบดมินตันนานาชาติ กีฬาแบดมินตันได้มีการบรรจุไว้ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์
ซีเกมส์ การแขง่ ขันกีฬาของประเทศในเครือจักรภพ สหราชอาณาจักร
รวมทงั โอลิมปิกซึง่ เป็นเครื่องยนื ยันว่าแบดมนิ ตนั เปน็ กฬี าสากล
๒. ความปลอดภัยในการเลน่ กีฬาแบดมนิ ตัน
๑. พืนสนามควรเรียบและไม่ลื่น บรเิ วณรอบสนามไม่ควรมสี ิ่งกดี ขวางใดๆ อนั จะ
เปน็ การขัดขวางการเลน่ กอ่ ใหเ้ กิดอนั ตราย แสงท่ใี ชไ้ ม่ควรสว่างหรอื มดื จนเกินไป
๒. อปุ กรณ์ไม้แรก็ เกต เสา ตาขา่ ย ควรอยู่ในสภาพพรอ้ มเลน่ ไม่ช้ารดุ เสียหาย
๓. ผ้เู ล่นควรมีสุขภาพทีแ่ ข็งแรงสมบูรณ์ มีสมรรถภาพทางกายและทักษะการเล่นทด่ี ี
ไมท่ ้าให้เกิดอันตรายต่อกล้ามเนือและสุขภาพ
๔. ในขณะเลน่ คูใ่ นการเขา้ ตีลกู ที่อยรู่ ะหว่างกลางของผเู้ ล่น ควรใหเ้ สยี งกนั เพอื่ ป้องกันการวงิ่ ชนกัน
๕. หลีกเลี่ยงการเล่นท่รี ุนแรงหรือพลกิ แพลงใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายตอ่ ตนเองและผ้อู ่ืน
๓. มารยาทและความมนี า้ ใจของกีฬาแบดมินตัน
๑. จะต้องเป็นผมู้ ีน้าใจเป็นนกั กฬี า พรอ้ มทจี่ ะให้อภัยแก่ความ
ผิดพลาดทุกโอกาสโดยไมค่ ้านึงถึงผลแพช้ นะมากจนเกนิ ไป
๒. ยิมแย้มแจม่ ใสตอ่ คแู่ ขง่ ขัน แสดงออกถึงมติ รภาพออ่ นโยนดว้ ยการสมั ผสั มือ
หรอื มารยาทของผเู้ ล่นท่ดี จี ะต้องเป็นผมู้ ีนา้ ใจเป็นนกั กีฬาเปดิ โอกาสให้ค่แู ข่งขัน
ไดอ้ บอนุ่ รา่ งกาย ไมเ่ อาเปรยี บคแู่ ขง่ ขันในการเสี่ยง
โดยให้โอกาสค่แู ขง่ ขนั เปน็ ผู้เลอื กกอ่ น
๓. ใชค้ า้ พูดสุภาพ รจู้ ักขอบคณุ เม่อื อีกฝา่ ยเก็บลูกให้
๓. มารยาทและความมีนา้ ใจของกีฬาแบดมนิ ตัน
๔. ไมแ่ สดงกริ ยิ าทไ่ี มด่ เี มือ่ ตนทา้ เสยี เอง ด้วยท่าทางหรอื ค้าพูด หรอื คา้ ต้าหนผิ ู้เลน่
ฝา่ ยเดยี วกัน พยายามควบคมุ สติและอารมณข์ องตนเองใหม้ น่ั คงอยู่เสมอ
๕. ในขณะที่ดา้ เนินการแขง่ ขนั อยูห่ ากจะหยุดพัก เช่น ขอเปล่ียนแรก็ เกต เปลย่ี นรองเท้า
ขอดม่ื น้า หรือเช็ดเหงอ่ื ต้องขออนุญาตผู้ตดั สนิ ทุกครงั เมือ่ ได้รับอนุญาตแล้วจึงปฏิบัตไิ ด้
๖. ไม่ควรสง่ ลูกลอดใต้ตาขา่ ยไปใหค้ แู่ ข่งขัน เพราะถือว่าขาดมารยาทอยา่ งรนุ แรง
๓. มารยาทและความมนี า้ ใจของกฬี าแบดมนิ ตนั
๗. ยอมรับและเชอื่ ฟังกรรมการผูต้ ดั สนิ โดยไม่โตแ้ ยง้
และเมือ่ เสร็จสินการแข่งขันควรแสดงความเคารพผู้ตดั สิน
๘. เมอื่ การแขง่ ขันเสร็จสินลง ถา้ เป็นฝ่ายชนะจะตอ้ งไมแ่ สดงความดี
ใจจนเกินควรตอ้ งเข้าไปจับมือคู่แข่งขนั ทนั ทีพร้อมแสดงความเสียใจ
ถา้ เปน็ ฝ่ายแพ้ไมค่ วรแสดงอารมณฉ์ นุ เฉียวควรควบคุมอารมณ์ และ
รีบไปแสดงความยนิ ดกี บั คแู่ ขง่ โดยทนั ทเี หมอื นกัน
๓. มารยาทและความมนี ้าใจของกีฬาแบดมนิ ตัน
๑.ไมค่ วรปรบมอื หรอื ส่งเสยี งเชยี ร์ ในระหว่างท่ผี ู้เลน่ ก้าลังตลี กู
โต้ตอบกันอยูค่ วรปรบมือสง่ เสียงเชียร์เมอื่ ลกู “เสีย” แล้ว
๒. ใหเ้ กียรตแิ กน่ กั กีฬาทงั ๒ ฝ่าย ๓. ในขณะการแข่งขนั ยงั ดา้ เนินอยู่ไมค่ วร
ด้วยการปรบมือเม่อื มกี ารแนะน้าค่แู ข่งขัน รบกวนสมาธขิ องผแู้ ขง่ หรือผู้ชมดว้ ยกนั
๔. ควรปรบมือเมือ่ ผู้เลน่ ๕. ไมแ่ สดงออกด้วยกริ ิยา หรือวพิ ากษว์ จิ ารณ์การตัดสินของ
ฝา่ ยใดฝ่ายหนึ่งเล่นไดด้ ี กรรมการขณะท้าการแขง่ ขัน แมว้ ่าจะมขี อ้ ผิดพลาด
และสวยงาม
๖. เม่ือการแขง่ ขันสนิ สดุ ลง ควรปรบมอื เปน็ เกียรติแก่
นกั กฬี าทังสองฝ่าย
๓. มารยาทและความมนี ้าใจของกฬี าแบดมนิ ตนั
ปัจจัยของการเป็นนกั กฬี าทด่ี ี และมีน้าใจนักกฬี า
๑. การมคี วามรับผิดชอบ โดยการสรา้ งเสรมิ ความมุ่งม่นั เตม็ ท่ใี นสิ่งท่ีก้าลังปฏิบัตอิ ยดู่ ว้ ยการ
ทมุ่ เทใหก้ บั การซ้อมและการแขง่ ขัน ยอมรบั ทุกความผดิ พลาดและพยามยามปรบั ปรุงให้ดยี ่งิ ขนึ
๒. การเคารพและให้ความส้าคัญกับ กฎ กติกา ผตู้ ัดสนิ และผู้ชม
๓. การสรา้ งความตระหนักถึงความสงา่ งามของนกั กฬี าทดี่ ี และเปน็ ทีย่ อมรบั ของผชู้ ม เชน่ การจบั มือกันก่อนแขง่ ขัน
และหลังการแขง่ ขนั เพื่อแสดงการยอมรับและเหน็ คณุ คา่ ในการเลน่ ของคู่ต่อสู้และยินดกี ับชยั ชนะของค่ตู อ่ สู้
๔. การมคี วามยตุ ธิ รรมและหลกี เลยี่ งทศั นคตทิ ่ีไมด่ ีตอ่ เกมการแขง่ ขนั โดยการแสดงออกดว้ ย
ความตรงไปตรงมาในเกมการแขง่ ขัน ไมใ่ ช้กลวิธกี ารโกงทกุ รปู แบบในเกมการแขง่ ขนั เพยี งเพอ่ื การต้องการชัยชนะ
ทกั ษะการเล่นแบดมนิ ตนั
(การจบั ไม้ การจบั ลูก
ฟุตเวริ ์ก)
สาระการเรยี นรู้
๑. การจบั ไม้แร็กเกต
๒. การจับลูกขนไก่
๓. การฟตุ เวิร์ก
การจับไมแ้ ร็กเกต
การจับไม้ นั้นจะต้องจับไม่แน่นจนเกินไป ปล่อยสบายๆ
แต่เม่ือตีแล้วอย่าให้หลุดมือ และต้องไม่จับไม้หน้าเดียวเม่ือลูก
มาทางด้านหลังมือ (Backhand) จะไม่สามารถตีลูกได้เพราะ
มือจะบิดหากกาแน่นน้ิวติดกันจะไม่สามารถตีลูกได้หลายด้าน
ยกเว้นจะตไี ปข้างหนา้ เท่าน้นั และไมส่ ามารถใชข้ อ้ มอื ได้
การจับไมแ้ ร็กเกต ๑. จับไมด้ ้วยมอื ที่ถนัด กามือไมแ่ นน่ หรือ
หลวมมากจนเกนิ ไป
การจับไมแ้ ร็กเกต ทีถ่ ูกต้องจะชว่ ย
๒. น้วิ ชี้ น้วิ กลาง นวิ้ นาง นว้ิ กอ้ ย
ให้สามารถตลี ูก ได้ดที ั้งลกู หนา้ มือและ รวมทั้งน้ิวหวั แมม่ ือจับไม้แรก็ เกต
หลังมอื วธิ ีจับไม้แบบรูปตัววี
(V-shape) มีวิธีดงั น้ี เรียงเปน็ แนวมมุ ๔๕ องศา
๓. ใหร้ อ่ งนิ้วระหวา่ งนิว้ ชกี้ บั นวิ้ หวั แมม่ อื
อยูต่ รงกลางหัวไมท้ ี่ตงั้ ขน้ึ พอดี
การจบั ลูกขนไก่
ลกู ขนไก่เป็นอปุ กรณ์ประกอบการเล่นกีฬาแบดมนิ ตัน
การจับลกู ขนไก่มคี วามสาคัญเป็นอยา่ งมากในการส่งลกู
๑. จบั ทีห่ วั ไม้คอร์ก (Cork)
ของลูก โดยใช้น้ิวหัวแม่มือ น้ิวชี้
และน้วิ กลางจับลูก
การจบั ลูกขนไก่
๒. จบั ทป่ี ลายขนไก่ ด้านใน
ของลูกโดยใช้นว้ิ หวั แม่มอื กบั นิ้วช้ี
การจับลกู ขนไก่
๓. จบั โดยการวางลกู อย่บู นฝ่ามอื
การฟุตเวริ ก์
ฟุตเวิร์ก หรือจังหวะเท้าสาหรับการเล่นแบดมินตันมีความสาคัญมากท่ีสุด
เพราะกีฬาแบดมินตันนั้นผู้เล่นจะต้องมีการเคลื่อนย้ายตัวในการตีลูกตลอดเวลา ฟุต
เวิร์กท่ีดีจะทาให้การออกตัวสืบเท้า พาตัวพุ่งไปสู่ทิศทางต่างๆ รอบสนามได้ด้วย
ความคลอ่ งแคล่วว่องไว โดยมีหลักการสาคัญคอื
๑. จะต้องวงิ่ เขา้ ไปหาลูกเสมอ
๒. จะต้องพงุ่ ตวั เข้าไปตีลกู ให้เรว็ ทส่ี ดุ และตลี กู
ขณะท่ีอยูใ่ นระดบั ท่สี ูงทีส่ ดุ
การฟตุ เวิรก์ ๑. ผเู้ ล่นยนื แยกเท้าท้งั สองห่างกันเล็กน้อย
ทง้ิ น้าหนักตวั ลงบนปลายเทา้ ทง้ั สอง
การฟุตเวริ ์กท่ดี ี
๒. เม่ือลูกลอยมาในลักษณะใดจะทาให้ผเู้ ล่น
มวี ิธีการปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ พรอ้ มท่ีจะพงุ่ ออกไปรับ สามารถเคลอื่ นยา้ ย
ตัวไปครอบคลมุ พนื้ ทีส่ นามได้ทั้งหมด
๓. จังหวะเทา้ จะขน้ึ อยู่กับสถานการณ์
ในกรณีทีต่ อ้ งวงิ่ ในระยะทางไกล ควรก้าวเทา้
ยาวๆเม่อื ถึงจงั หวะทเ่ี ขา้ ประชิดลกู ก็อาจจะช่วย
ฟตุ เวิร์กสั้นลงเพ่ือเสาะหาจงั หวะในการตลี ูก
การฟุตเวิร์ก ๔. จงั หวะเท้าในการตลี กู หน้ามือ เท้าซา้ ย
อยู่หน้า เทา้ ขวาอยู่หลัง และลูกหลังมอื เทา้
การฟุตเวริ ์กทดี่ ี
ขวาจะอยูห่ นา้ เท้าซ้ายจะอย่หู ลัง
มวี ธิ ีการปฏิบตั ิ ดังน้ี
๕. กาหนดระยะห่างจากตัวผเู้ ลน่ สาหรบั
การตีลกู ได้อย่างถนดั และเต็มที่ควรอยูใ่ น
ระหว่าง ๒-๓ ฟตุ จากลาตวั
การฟตุ เวิรก์ ท่ีดเี ร่ิมจากทา่ เตรยี มทีด่ ี
ทกั ษะการเล่นแบดมินตนั
การสง่ ลกู & การรับลกู เสริ ฟ์
สาระการเรียนรู้
๑. การส่งลูกหนา้ มือ
๒. การส่งลูกหลังมือ
๓. รปู แบบการส่งลูก
๔. เทคนคิ การส่งลูก
๕. การรบั ลูกเสริ ฟ์
การส่งลูก
การส่งลูก เป็นสิ่งท่ีสาคัญที่ผู้เล่นจาเป็นต้องนาไปใช้ทั้งใน
ประเภทเดี่ยวและประเภทคู่ แม้ว่าการส่งลูกหรือเรียกว่าการเสิร์ฟ
จะไม่ใช่ลูกอันตรายเทียบเท่ากับลูกหลักที่ใช้ในเกมรุก เช่น ลูกตบ
ลูกตัดหยอด และลูกหยอดก็ตาม แต่ในเกมแบดมินตัน การส่งลูก
ต้องใช้อยู่ตลอดเกม หากผู้เล่นฝ่ายใดมีความสามารถในการส่งลูก
ทดี่ ี จะมีสว่ นทาใหผ้ ู้เลน่ ประสบชยั ชนะไดโ้ ดยง่าย
การสง่ ลูก
เป้าหมายในการสง่ ลูก
๑. เพื่อใช้เป็นลกู นาในการเปดิ เกมรุก
๒. เพอ่ื บงั คับให้คู่ตอ่ สูต้ ีลูกโตก้ ลบั มาดว้ ยความยากลาบาก
๓. เพ่ือบงั คับให้คตู่ ่อสู้อยู่หา่ งจากจุดศนู ยก์ ลางของสนาม เกดิ ภาวะเสียเปรยี บ
๔. เพ่ือเป็นการทาคะแนน
การส่งลูก ๑. การสง่ ลูกหน้ามือ
ยนื ใหเ้ ท้าซ้ายอยขู่ ้างหน้ายอ่ เขา่ เล็กน้อย ๑ ๒ ใช้มอื ซา้ ยจับลูกขนไก่งอแขนเลก็ นอ้ ย มอื ขวา
จบั ไม้แบบรปู ตวั วีพร้อมทจี่ ะส่งลกู
เทา้ ทงั้ สองขา้ งจะไม่ยกพ้นพื้นสนามเวลาสง่ ลูก
๓ ตามองเป้าหมายท่จี ะสง่ ลกู ปล่อยลูก พรอ้ มกบั ตวัดแขนมาข้างหนา้ เมอ่ื
หนา้ ไมส้ มั ผสั กบั ลกู ใหก้ ระดกขอ้ มอื ช่วยสง่ ลกู ไปยงั ทิศทางท่ีตอ้ งการ
การสง่ ลูก ๒. การสง่ ลูกหลงั มอื
๑ ยนื ใหเ้ ทา้ ขวาอย่ขู า้ งหนา้ ๒ ตามองเปา้ หมายทจี่ ะสง่ ลูก ปลอ่ ยลูก
ยอ่ เข่าเล็กน้อย เท้าท้งั สองขา้ ง พร้อมกับตวัดแขนมาข้างหนา้ เม่ือหน้าไม้สมั ผัสกับลูก
จะไม่ยกพน้ พนื้ สนามเวลาส่งลูก ให้กระดกข้อมอื ชว่ ยสง่ ลกู ไปยงั ทศิ ทางทีต่ อ้ งการ
ใชม้ ือซ้ายจับลกู ขนไก่ บริเวณ
ปลายขนไกด่ ้านซา้ ยของลาตวั
หลังมือดา้ นขวาอยูด่ ้านหนา้
งอแขนเล็กนอ้ ย มือขวาจับไม้อยู่
ระดับเอวพร้อมทีจ่ ะสง่ ลูก
การสง่ ลกู
๓. รูปแบบการส่งลกู
การส่งลกู โด่ง เปน็ การตีลูกโยนโดง่ จากหน้ามอื ดา้ นลา่ ง ซ่งึ เป็นลกู ทตี่ ี
ดว้ ยความแรงโดยใชก้ ารเหวยี่ งของแขนพรอ้ มกับการตวดั ขอ้ มือผสมผสานกับ
การถา่ ยน้าหนักตัวจากเทา้ หลงั ไปเทา้ หน้า การส่งลูกโยนโด่งแบบนี้ วถิ ีของลกู
จะเป็นมมุ กวา้ ง และจดุ ท่ีลกู ตกต้องอย่รู ะหว่างเสน้ ส่งลูกยาวประเภทคู่กบั เสน้
เขตหลัง การสง่ ลกู ทด่ี ีส่วนความสงู ไม่ต่ากว่า ๘ ฟุต การสง่ ลกู แบบนี้
นิยมใชใ้ นการเลน่ ประเภทเดย่ี ว นอกเหนอื จากมีผลบังคับใหค้ ูต่ อ่ สู้ออกจากจุด
ศนู ย์กลางของสนามและปอ้ งกันการรกุ จากการตบของคตู่ ่อสู้ ยังชว่ ยใหฝ้ ่ายที่
ส่งลูกมเี วลาเตรียมตวั ที่จะรบั การตโี ต้ตอบของฝ่ายตรงขา้ มได้
การสง่ ลกู
๓. รูปแบบการสง่ ลกู
การส่งลกู สัน้ การสง่ ลูกแบบน้ีสามารถตไี ด้ทัง้ ด้านหน้ามือและหลังมอื
เปา้ หมายให้ลูกท่สี ่งตกเข้าไปในบรเิ วณเสน้ ส่งลูกส้ันของคตู่ อ่ สู้ ไม่ควรเกิน ๖ นิว้
วิถีและน้าหนักของการส่งลกู แบบนใี้ ช้ความชานาญจากการฝกึ ใหเ้ กิดความแมน่ ยา
โดยการใช้ขอ้ มอื มากกวา่ แรงเหวยี่ งของแขนกะนา้ หนกั ให้พอทล่ี กู วงิ่ ไปขา้ มพน้ เฉยี ด
ตาข่าย แล้วส่วนหัวของลูกขนไกจ่ ะท่ิมลงตา่ ตกลงบริเวณเสน้ สง่ ลกู สน้ั
การส่งลกู สน้ั น้ีนิยมใช้กับเกมประเภทคู่
การสง่ ลกู
๔. เทคนคิ การสง่ ลกู
๑. การจับไม้ในการส่งลูกประเภทเดี่ยวและคู่
ควรจับแตกตา่ งกนั ดงั นี้
๑.๑ การจบั ไมแ้ บบสัน้ คอื จบั ให้ค่อนไปทาง ๑.๒ การจบั ไม้แบบยาว คือ การจับไมค้ อ่ น
รอยต่อของกา้ นกับดา้ มไม้ เป็นการตีลูกดว้ ย ไปทางปลายสดุ ของดา้ มไม้ ซึ่งจะชว่ ย
ขอ้ มือ ซ่งึ จะช่วยในการตีลูกในเกมประเภทคไู่ ด้ ในการตหี รือส่งลกู ดว้ ยแรงเหวี่ยงแขน ซึ่ง
อย่างรวดเร็ว ทัง้ หนา้ มือและหลงั มือ เหมาะสาหรบั เกมประเภทเดีย่ ว
การส่งลูก
๔. เทคนิคการส่งลกู
๒. ผู้สง่ ลูกหรือผ้เู สริ ฟ์ ควรวเิ คราะห์คตู่ อ่ สู้ของตนวา่
มคี วามสามารถมากหรือน้อยในการรบั ลกู เสริ ฟ์ แบบใด จึงควรสง่ ลูก
ในแบบนน้ั เป็นหลัก จากน้ันค่อยๆ ปรบั เปลีย่ นจุดตา่ งๆ
ในการสง่ ลูกตามตาแหนง่ ของผูร้ บั ที่ยืนรบั ในตาแหน่งเสียเปรยี บ
๓. ผสู้ ง่ ลูกควรเปลี่ยนตาแหนง่ และจงั หวะในการสง่ ลกู ไม่ควรส่งหรอื เสริ ์ฟลูก
ไปในเป้าหมายเดียวจะทาใหค้ ตู่ อ่ สู้จบั จังหวะและทศิ ทางการสง่ ได้
การสง่ ลกู
๔. เทคนคิ การส่งลกู
๔. เมอื่ ส่งลูกแล้วควรวเิ คราะหส์ ถานการณใ์ นเกมการเล่นของค่ตู อ่ สู้ทนั ทีและ
เตรียมตง้ั รับเพราะฝ่ายรบั อาจจะหยอดกลับมาภายหลังรบั ลกู
๕. เมอ่ื สง่ ลกู แลว้ ผสู้ ง่ ตอ้ งยืนเตรยี มพร้อมในทา่ ทางทปี่ อ้ งกัน
หรอื โจมตไี ด้ทนั ทแี ละรวดเรว็
การรบั ลกู เสริ ฟ์
การรับด้วยการหยอด ในกรณฝี า่ ยส่งลูกส่งลูกสนั้ มา
ฝ่ายรบั จะตอ้ งรบั แล้วหยอดกลับใหเ้ รยี ดตาข่ายมากทสี่ ุด
การรบั ดว้ ยการตดั หยอด ในกรณีทีฝ่ า่ ยสง่ ลกู โยนโดง่ ไปท้ายคอร์ต (Court) ฝา่ ยรบั ไม่สามารถ
ตบได้ ใหฝ้ า่ ยรบั รับแลว้ หยอดกลับไปให้เรยี ดตาขา่ ยแล้วตกใกลๆ้ ตาขา่ ยของฝา่ ยตรงขา้ มใหม้ ากทส่ี ดุ
การรบั ด้วยการตลี กู กลบั ไปคร่งึ คอร์ต การรับด้วยการตกี ลับไป
โดยการตใี หเ้ ลยผ้สู ่งไปเล็กน้อย ไม่สงู และไม่ถงึ หลงั คอร์ต เปน็ การโยนลกู โดง่ โดยใหต้ ลี กู
การรบั ดว้ ยการตีกลับไปเปน็ ลกู ดาด โดยให้เขา้ ตลี ูกที่ ใหโ้ ด่งมากๆ และตอ้ งให้ไปถงึ ท้าย
คอร์ตของฝ่ายรับ
สง่ มาเรว็ ในขณะท่ีลูกขา้ มตาข่ายมาซง่ึ ยงั อยู่ในระดบั สงู แล้วตโี ดยใช้
แรงข้อมือผลกั หรือดนั ไปยังจดุ ด้านหลังคอร์ตในระดับหน้าอกหรอื คอ
มนิ ตนั
ทกั ษะการตลี กู ๑
สาระการเรียนรู้
๑. การตลี กู โยนหนา้ มอื
๒. การตลี ูกโยนหลงั มือ
๓. การตลี กู งดั โยน
๑. การตีลูกโยนหนา้ มอื
การตีลูก อันเป็นหลักของการเล่นแบดมินตัน มี ๔ ประเภท
ไดแ้ ก่ ลกู โยน ลูกตบ ลูกดาดและลกู หยอด แตล่ ะประเภทมีวธิ กี ารตี
การวางเทา้ ฟุตเวริ ก์ กับจังหวะการตลี กู แตกต่างกนั
๑. การตีลกู โยนหน้ามอื
ลูกโยน คือ ลูกที่ตีพุ่งโด่งข้ามไปในระดับสูง และย้อนตกลงมาใน
มมุ ๙๐ องศา ในแดนตรงกันข้าม เป็นลูกท่ีตีจากเหนือศีรษะ หรือลูกท่ีงัดจาก
ดา้ นลา่ งก็ได้ ตไี ด้ทัง้ หนา้ มอื (Forehand) และหลงั มอื (Backhand)
๑. การตลี ูกโยนหน้ามอื
ลกู โยนหนา้ มือ แรงท่ีตีเกิดจากการประสานงาน
ของแรงทีเ่ หวย่ี งแรงตวดั การสะบัดของขอ้ มือ จังหวะ
การฟุตเวิร์กทถ่ี ูกตอ้ ง ถา่ ยนํ้าหนกั ตัวจากเทา้ หลงั ไปสู่
เทา้ หนา้ โดยที่แรงตที ่ีผา่ นแร็กเกตไปสมั ผัสกับลูกทถ่ี ูก
จงั หวะรวมแรงดดี ผลัก ดนั ใหล้ กู พุ่งสงู โดง่
ไปยังสนามตรงขา้ มตามเปา้ หมายท่ีต้องการ
๒. การตลี ูกโยนหลงั มอื
ลูกโยนหลงั มอื แรงที่ตี
เกิดจากการประสานงานเช่นเดยี วกันกบั การตี
ลกู หนา้ มือ แตก่ ารวางฟตุ เวิรก์ สลบั กัน
และไม่มีแรงเหวีย่ งแรงตวัด และการสะบดั ลําแขน
ที่มาจากหัวไหล่กับแรงทเี่ กดิ จากการสะบดั ข้อมือ
๓. การตีลูกงัดโยน
ลกู งดั โยน คือการตีลูกโดยชอ้ นตวดั ตีลูก
จากด้านลา่ งสะบดั ขึน้ ด้านบนเป็นการชอ้ นตลี กู จาก
ทต่ี ํ่าไปที่สงู เป็นลกู ท่ไี มต่ ้องใชแ้ รงเหวี่ยงตีมากนัก
ลกู ทเ่ี ข้าประชดิ ด้านหน้าของสนาม เช่น การเขา้ รับลูก
แตะหยอด หรือการรับ ลูกตบ เป็นต้น สามารถใช้ตี
ไดท้ ้ังหน้ามือและหลังมือ
การตลี กู โยน มีวธิ กี ารดังน้ี
๑. ยนื ในทา่ เตรยี มพร้อม นํา้ หนกั อยู่บริเวณปลายเทา้
๒. การตีลูกโยนหนา้ มือ ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหนา้ เฉียงไปทางขวาเลก็ น้อย (สาํ หรบั
คนถนดั ขวา) เหว่ยี งไมต้ ลี ูกทางด้านหน้ามือขณะลูกลอยอยู่เหนือศีรษะ ปลอ่ ยหน้าไมต้ ามลูกไปดว้ ย
๓. การตลี กู โยนหลงั มือ กา้ วเทา้ ไปขา้ งหน้าเฉียงไปทางซ้ายเลก็ น้อย (สาํ หรับคนถนัดขวา)
เหว่ยี งไมต้ ีลูกทางดา้ นหลังมือ ขณะลูกลอยอยูเ่ หนอื ศีรษะ ปลอ่ ยหนา้ ไมต้ ามลูกไปดว้ ย
แบบฝกึ การตีลูกโยน
ให้นกั เรียนแบง่ เปน็ สองฝ่าย โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
เริม่ สง่ ลูกเสริ ฟ์ ฝ่ายรับจะตอ้ งตีลูกโยนกลับไปให้
ข้ามตาข่ายโดยใช้การตีลูกโยนแบบใดกไ็ ด้ ส่วน
ฝ่ายส่งลูกเมอ่ื สง่ เสร็จแล้วใหร้ บี วิง่ ไปตอ่ แถว
เพือ่ นคนสดุ ทา้ ย คนต่อไปให้วง่ิ มารบั ลูก ซึง่ นกั เรียน
ตอ้ งตลี กู โยนกลบั ไปกลบั มาโดยเปล่ยี นตวั ผู้เลน่ ไป
เร่อื ย ๆ ใครตแี ล้วให้รบี วง่ิ ไปตอ่ แถวเพ่อื นคนสุดทา้ ย
โดยกลมุ่ ไหนท่เี ปลยี่ นตวั ผู้เลน่ ไมท่ นั หรือ
รบั ลูกไมไ่ ด้จะเปน็ ฝา่ ยเสยี คะแนน
แบบฝึกการตีลกู โยน
ให้นักเรยี นตีลูกโยนกับกาํ แพง เพ่ือฝกึ
คาดคะเนนา้ํ หนกั ในการตี ทศิ ทางการตี
จากน้ันใหก้ ําหนดจดุ ทล่ี ูกตกกระทบ เพอ่ื เพิ่ม
ความแม่นยําในการบงั คับทศิ ทางของลูกขนไก่
ทกั ษะการเล่น
แบดมินตนั
(ทักษะการตลี ูก ๒)
สาระการเรยี นรู้
๑. ทกั ษะการตลี กู ดาด
๑.๑ การตีลกู ดาดหนา้ มอื
๑.๒ การตีลกู ดาดหลังมือ
๒. ทกั ษะการตลี กู หยอด
๒.๑ การตลี กู หยอดหนา้ มอื
๒.๒ การตลี ูกหยอดหลงั มอื
๑. ทักษะการตีลกู ดาด
ลูกดาด เป็นการตีลูกขนไก่ที่ความสูงระดับไหล่ เป็นการตีลูกเพ่ือให้
ข้ามตาข่ายอย่างรวดเรว็ และไมส่ งู กว่าตาข่ายมากนัก สามารถตีได้ท้ังด้านหน้า
มือและหลังมือ จะตตี รงจุดไหนของ สนามก็ไดใ้ นเมื่อลกู ลอยมาในระดบั ไหล่
๑.๑ การตีลูกดาดหน้ามอื
ทา่ เตรียมมอื ถอื ไม้แบดมนิ ตันด้านขวา (สําหรบั คนถนดั ขวา)
บิดลาํ ตัวไปทางขวาเล็กน้อยตามทศิ ทางของลูก
๑.๑ การตลี ูกดาดหนา้ มอื
เหวย่ี งไม้ไปทางด้านหลงั พรอ้ มกบั หกั ข้อมือขึน้ ขณะท่ตี ี
ใหส้ ะบดั ขอ้ มอื ไปขา้ งหน้าดว้ ยความเร็ว
๑.๒ การตลี กู ดาดหลังมอื
บิดลําตัวไปทางซ้าย เหว่ียงไม้ไปทางด้านหลัง
หวั แมม่ ือขวาจะชี้เข้าหาตัว เหวี่ยงแขนออกทาง
ด้านข้าง หัวไม้อยู่ทางด้านหลัง หันตัวคืน นํ้า
หนกั ตัวอยู่บนเท้าหน้า เหวี่ยงไม้ตามทางท่ีตีลูก
ไ ป จ น สุ ด แ ล ะ ดึ ง แ ข น ก ลั บ ม า อ ยู่ ใ น ท่ า
เตรียมพร้อม
๒. ทักษะการตีลกู หยอด
ลกู หยอด ถือว่าเป็นลูกพื้นฐานหลักที่สําคัญในกีฬาแบดมินตันทั้งประเภทเด่ียว
และประเภทคู่ ลูกหยอดเป็นลูกที่ผู้เล่นสามารถตีได้ท้ังด้านหน้ามือและหลังมือ จาก
ระดับท่ีต่ํากว่าตาข่าย ด้วยการตีลูกขนไก่ให้ย่อยข้ามไปตกที่บริเวณด้านหน้าของคู่แข่ง
รูปแบบการตีลูกหยอดหนา้ ตาข่าย แบ่งเปน็
๒. ทกั ษะการตลี กู หยอด
การตลี กู หยอดหนาตาขาย ลักษณะลูกหยอดหนาตาขายเปนลูกที่มีระยะทางการ
ว่ิงของลูกขนไกส้ันที่สุด และผูที่ตีลูกหยอดหนาตาขายควรท่ีจะตีลูกขนไกในระดับสูงใกล
กบั ตาขายมากทีส่ ดุ และผเู ลนตองเคลอื่ นที่เขาหาลกู ในการกาวเทาและยืดลําตัว จะทําให
ลกู ขามไปยังฝายคูตอสไู ดงายยง่ิ ข้นึ การตลี กู หยอดหนาตาขาย แบงออกเปน