๒.๑ การตลี ูกหยอดหนา้ มือ
- ยืนในทาเตรยี มเคลือ่ นที่เขาหาลกู โดยเรมิ่ จากเทาที่อยู
ใกลลกู เมอื่ ไดระยะกาวเทาขวาออกไปยงั ตาํ แหนงที่ลูกจะตก
- เหยียดแขนขวาออกไปยงั ลูกน้ําหนักตวั ตกไปที่เทาขวา
แขนซายเหยียดไปทางดานหลังซงึ่ เปนการทรงตัว
- หงายหนาไมขึ้น สะบัดขอมือใหหนาไมกระทบลูกเพียง
เบาๆ เพียงเพื่อใหลูกลอยเฉียดตาขายแลวตกลงทนั ทีใหใกลตา
ขายมากทสี่ ุด
- หกั ขอมอื ตามลูกไป แลวถอยเทากลับมาอยูในทาเตรียม
พรอม
๒.๒ การตีลกู หยอดหลงั มือ
- ยนื ในทาเตรียมพรอม บิดลําตัวไปทางซายกาวเทาขวา
ไปขางหนา ๑ กาว
- เหยียดแขนขวาออกไปยังตําแหนงท่ีจะตีลูก นํ้าหนัก
ตวั ตกลงบนเทาขวา ไหลขวาจะหนั เขาหาตาขาย
- สะบัดขอมอื ขึ้นใหไมกระทบลูก โดยกระดกขึ้นทาง
ดานหลงั มือ ลกู หยอดหนาตาขายนี้ผเู ลนจะยืนหนาตาขาย
ระหวางเสนสงลูกกบั ตาขาย
- จังหวะการเลนลูกจะตองรวดเร็วกาวเทายาว เทาขวากาว
กอนเสมอ แรงมาจากการกระดกขอมือบังคับลูกขนไกใหขามตาขาย
ในวถิ ีทางตรง และตกลงชดิ ตาขายในแดนคูตอสู
ทักษะการเลน่
แบดมนิ ตนั
ทกั ษะการตบลกู
สาระการเรยี นรู้
ทกั ษะการตีลกู ตบ
๑. ทกั ษะการตีลูกตบแบบหน้ามือ
๒. ทักษะการตลี กู ตบแบบหลงั มอื
ทักษะการตีลกู ตบ
ลูกตบ จะทําใหคูตอสูรับไดยาก คือ ลูกท่ีพุงขนานเสนขางเพราะเป็น
การตบลูกวิถีตรงมีระยะทางวิถีสั้นที่สุด ลูกตบตองมีวิถีความส้ันยาวไมซํ้ากันตบ
ยาวบางสน้ั บาง จะทําใหคตู อสูตงั้ แนวการรบั ดวยความลังเลใจ เมอ่ื ผูเลนตบลูก
ขามไปแลว ควรเตรียมตัวเพอ่ื หาจังหวะเลนลูกตอไปโดยเตรียมตัวหาจังหวะชูไม
ไวตบลูกซํ้าสอง ถาคูตอสูหยอดขามมาใหเรา เราตองเคล่ือนเขาหาลูกโดยเร็ว
และตลี กู ขณะอยสู งู สดุ
ทกั ษะการตีลกู ตบ
ลกู ตบ เป็นลกู ทีเ่ ด็ดขาดทีต่ ีจากเบอ้ื งสูงกดลงสเู่ ป้าหมายใหพ้ งุ่ สพู่ นื้ ในวิถีตรงทม่ี คี วามเรว็
และแรงที่สุด เพอ่ื ใหค้ แู่ ขง่ ขนั รับลกู ไมไ่ ด้หรือรับยาก เป็นการตเี พอ่ื ทําคะแนนในการแขง่ ขัน
ลกู ตบใชใ้ นโอกาสต่าง ๆ คอื
ทักษะการตีลกู ตบ
1) เมอ่ื คูต่ ่อสูโ้ ยนลูกขา้ มตาข่ายเพียงคร่ึงสนามหรือส่งลกู มาไม่ถงึ หลงั
2) เมื่อต้องการบีบใหค้ ู่ต่อสูเ้ สยี หลัก และออกจากจดุ ศูนย์กลาง
3) เมอ่ื ต้องการให้ค่ตู ่อสู้พะวงอยู่กับการตง้ั รับ
4) เพอ่ื ผลของการหลอกล่อ ทาํ ใหค้ ตู่ ่อสกู้ ังวลใจ
5) เม่ือตอ้ งการยตุ ิการตอบโตห้ รือเสียหลกั การทรงตวั บุกทําคะแนน
ทกั ษะการตลี ูกตบ
วถิ ที างที่ดีของลูกตบ
วิถีทางท่ดี ขี องลูกตบ จะตอ้ งพุ่งจากแร็กเกตข้ามตาข่ายไปเสน้ ตรง พุ่งเฉียด
ผ่านตาขา่ ย โดยไม่เปิดโอกาสให้คตู่ ่อสดู้ กั ลูกสวนโต้กลับมาได้ ดว้ ยความเรว็ และรนุ แรง
การตบลกู ไม่ควรตบข้ามไปในวถิ เี ดยี ว ควรบังคบั ใหล้ ูกตบขา้ มไปใน
ลักษณะสนั้ บา้ ง ยาวบ้างสลบั กันไป โดยมเี ปา้ หมาย คอื
ทกั ษะการตีลกู ตบ
1) การตบลกู ใหห้ ่างจากตวั ผู้รับ เป็นการบบี บงั คับให้คู่ต่อสู้ผละ
ออกจากศูนยก์ ลาง สนามเพอ่ื ไปรับลกู ณ อกี จดุ หนงึ่
2) การตบลูกพุ่งเข้าหาตัวผู้รับ เป็นการตบลูกสวนทางกับการเลือก
เปา้ หมายการตีลูก แต่จะพุ่งเข้าหาตัวคู่ต่อสู้ อาจจะทําให้เกิดความเพลี่ยงพลํ้าอย่าง
งา่ ย ๆ กไ็ ด้
ทักษะการตีลกู ตบแบบหนา้ มือ
๑. ยนื ทา่ เตรียม
๒. หันดา้ นขา้ งซ้ายของลําตวั เข้าหาทางที่ลกู ขนไกพ่ งุ่ มา
๓. หกั ขอ้ มอื ให้หัวไม้หอ้ ยตา่ํ ลง เล็งเปา้ หมายทจ่ี ะเหวยี่ งไม้ข้นึ ตี
ที่จุดปะทะลกู ซ่งึ อยสู่ งู ดา้ นหน้าของลําตวั
๔. เหวี่ยงไมข้ ้ึนหาลกู ขนไก่ เพ่มิ แรงจับไว้ไม่ใหแ้ น่น คอ่ ยเหยยี ด
แขนออกมือเคลอ่ื นไปที่ข้างหน้า
๕. ขณะที่ตีหน้าไม้จะกดให้ลูกขนไกพ่ งุ่ ลงยังพน้ื ตวดั ข้อมอื ลงให้
มากท่สี ุด
ทกั ษะการตลี กู ตบแบบหลงั มือ
๑. ยืนในท่าเตรยี มพรอม
๒. ยกไมไ้ ปทางดา้ นหลงั กา้ วเทา้ ขวาข้ามไปทาง เทา้ ซา้ ย ๑ ก้าว
๓. เหว่ียงแขนขึ้น เหยียดแขนตรง สะบัดข้อมือไปข้างหน้าอย่าง
รวดเรว็ และรุนแรง
๔. ขณะตีลูก หน้าไม้จะคว่ําลง ตีลูกขนไก่ที่อยู่ด้านหน้าของลําตัว
อย่างแรงเตม็ ที่ ลกู ขนไกจ่ ะพงุ่ อยา่ งรวดเร็วและรนุ แรง
๕. เหว่ียงแขนตามลกู และกลบั มาอยู่ในทา่ เตรยี มพรอ้ ม
สาระการเรียนรู้
ประเภทการเล่นกฬี าแบดมินตันในสนาม
การเลน่ แบดมนิ ตันประเภทเดี่ยว
การเล่นแบดมินตันประเภทคู่
ประเภทการเล่นกีฬาแบดมินตันในสนาม
การเล่นแบดมินตนั ประเภทเดี่ยว
การเล่นประเภทเดี่ยวจะประกอบดว้ ยผเู้ ล่น ๒ คน ข้างละ ๑ คน การสง่ ลกู
เริ่มแรกจะส่งทางสนามด้านขวามือ สง่ ทแยงสลับไปมา
ประเภทการเลน่ กฬี าแบดมนิ ตันในสนาม
สงิ่ ท่ีผู้เลน่ แบดมินตันเดยี่ วควรคานึง มีดงั นี้
๑. จะต้องศึกษาเทคนิคการตีลูกขนไก่ จังหวะของการตจี ะต้องสามารถทจ่ี ะตลี กู ขนไก่
ไดจ้ ากทุกจุดของสนาม และต้องสามารถบงั คับลูกให้ตกในทกุ ๆ จดุ ของสนามของคู่
ตอ่ สูใ้ นแต่ละสถานการณ์ได้
๒. จะตอ้ งศึกษาเกี่ยวกับการเคล่อื นไหวจากจุดหนึง่ ไปอีกจุดหนึ่งเพ่อื ทจี่ ะรบั ลกู ขน
ไก่จะตกี ลบั ไปดว้ ยความมน่ั ใจ และการทรงตวั ทแ่ี นน่ อน
ประเภทการเล่นกฬี าแบดมนิ ตันในสนาม
สง่ิ ที่ผู้เล่นแบดมนิ ตนั เดี่ยวควรคานงึ มดี งั น้ี
๓. จะต้องมีความสามารถทจ่ี ะพบกับเกมท่ีมีคู่ตอ่ สู้ทเี่ ลน่ ไดด้ แี ละแขง็ แรง ฉะนั้น
จะตอ้ งฝึกฝนตนเองใหม้ คี วามสามารถในการเคลื่อนไหวไดเ้ หมาะสมและ
สามารถแกส้ ถานการณไ์ ด้
๔. จะตอ้ งศึกษาเกี่ยวกับการเคล่อื นไหวอยา่ งเหมาะสมและใชไ้ ด้ในทกุ สถานการณ์
ประเภทการเลน่ กีฬาแบดมนิ ตันในสนาม
ยทุ ธวิธีการเล่นประเภทเดี่ยว
การยืน ตอ้ งรักษาศูนย์กลางเพ่ือเตรียมพร้อมที่จะรักษาพื้นที่ของสนาม
ได้อย่างทั่วถึง จุดศูนย์กลางของประเภทเด่ียวอยู่ท่ีเส้น กลางท่ีห่างออกจาก
เส้นส่งลูกสั้นมาหลังสนาม เมื่อผู้เล่นยืนคร่อมเส้นกลางจะทาให้ยืนค่อนไป
ข้างหน้าเพ่ือรักษาพ้ืนท่ีและจะได้ครอบคลุมสนามหน้าตาข่ายให้สมบูรณ์ข้ึน ผู้
เล่นสามารถว่ิงเข้าไปรับลูกหยอดได้ทันท่วงที และสามารถตีลูกในระดับสูงได้
อกี ด้วย จึงทาให้มุมการตกี ว้างข้นึ
ประเภทการเล่นกฬี าแบดมินตนั ในสนาม
ยุทธวิธกี ารเลน่ ประเภทเดยี่ ว
ตาแหน่งการยนื ในการส่งลูก การตอบโต้ (ลูกโยน) การท่ีจะบังคับให้คู่ต่อสู้
ผู้เล่นควรยืนห่างเส้นหน้าประมาณ ๓ ต้องวิ่งไกลท่ีสุดเสียแรงมากที่สุดและตอบโต้กลับมา
ฟุต เพื่อให้ส่งลูกได้สูงและไกลที่สุด ไม่ ด้วยความยากลาบากมากท่ีสุด ได้แก่ การตีลูกไปสู่
ควรส่งลกู สัน้ ในการเล่นประเภทเดีย่ ว เว้น เป้าหมายที่ห่างไกลจากจุดศูนย์กลาง ซึ่งได้แก่ สี่มุม
แต่คู่ต่อสู้จะยืนห่างไปด้านหลังของสนาม สนามของฝ่ายตรงข้าม ผู้เล่นตีลูกไปได้แม่นยาเท่าใด
และเมื่อส่งลูกไปแล้วให้รีบถอยไปอยู่ตรง จะมีผลบังคับให้คู่ต่อสู้ต้องผละจากจุดศูนย์กลางมาก
กึ่งกลางของสนามของตน เท่านั้น และเปดิ ช่องวา่ งใหก้ ว้างขึ้นสาหรบั บกุ โจมตี
ประเภทการเลน่ กฬี าแบดมินตนั ในสนาม
ยทุ ธวิธกี ารเลน่ ประเภทเด่ียว
การตอบโต้ (ลูกต่าและลูกหยอด)
ถ้าการส่งลูกต่า ผู้รับลูกจะต้องรีบเคล่ือน
ตัวเข้าหาลูกและตีลูกข้างหน้าทันที เพื่อ
รักษาระดับการตีลูกให้สูงและใช้การตีลูก
กดให้ต่า ถ้าเข้าชา้ กจ็ ะต้องเล่นลูกงดั ใต้มือ
ลูกจะข้ามทาให้อกี ฝ่ายกดต่ากลบั มา ลูกทแยง ลูกทแยงสนามที่ใช้ได้ถูกสถานการณ์
ควรสลับกับการเล่นลูกครึ่งตบครึ่งตัดทแยงสนาม
(ลูกครึ่งตบคร่ึงตัด คือ การตบตวัดลูกจากซ้ายไปขวา
หรือจากขวาไปซ้าย) จะช่วยเพ่ิมมุมการรุกโจมตีมากข้ึน
เป็นลกู ที่ได้ผลมากลูกหน่งึ
ประเภทการเล่นกฬี าแบดมนิ ตนั ในสนาม
การเลน่ แบดมินตนั ประเภทคู่
แบดมนิ ตนั ประเภทคู่ หมายถึง เกมการเล่นเป็นคู่มีฝ่ายละสองคนรวมกันเป็น
๔ คนเกมการเลน่ ประเภทคนู่ ี้เปน็ การเลน่ ทรี่ วดเร็วต้องใช้ความวอ่ งไว รวดเร็วในการตีลูก
รับลูก มกี ารช่วยเหลือซ่ึงกันและกันอยู่เสมอ การเล่นประเภทคู่แบ่งเป็น ๓ ประเภท คือ
คชู่ าย คหู่ ญิง และคผู่ สม
หลักสาคัญในการเล่นประเภทคู่ คือ จะต้องมีการประสานงานระหว่างคู่ที่ดีท่ีสุด
จึงจะเป็นการเล่นที่ได้ผล นอกจากนั้นการประสานงานจะต้องฝึกความเป็นฝ่ายรุกไว้ให้
นานที่สุด
ประเภทการเลน่ กีฬาแบดมนิ ตันในสนาม
รปู แบบของการยืนประเภทคู่
แบดมนิ ตันเป็นเกมการเล่นประเภทคู่ ที่ตอ้ งมี
ความสมั พันธใ์ นคู่ของตัวเองจึงตอ้ งฝึกแบบการ
ยืน การกาหนดตาแหน่งของผเู้ ล่นวา่ ควรจะยนื
อยทู่ ่ีใดเปน็ สาคัญ รูปแบบการยืนทน่ี ิยมใช้ใน
ประเภทคู่ มดี งั น้ี
ประเภทการเล่นกฬี าแบดมนิ ตนั ในสนาม
รปู แบบของการยนื ประเภทคู่ ยืนคนละข้างสนาม (Side by Side)
การเล่นแบบนี้ผู้เล่นจะรับผิดชอบเฉพาะสนามด้านข้าง
ของตน ผู้เล่นท้ังสองยืนเคียงข้างกันตลอดเวลา ผู้เล่นที่อยู่
ทางด้านขวาตอ้ งตีลกู ใดๆก็ตามท่ีพุ่งมาในสนามด้านขวาจาก
ตาข่ายถึงส้นหลังสุด เช่นเดียวกับผู้เล่นที่ยืนอยู่ทางด้าน
ซ้ายมือการเล่นแบบนี้จะได้ผลเมื่อผู้เล่นทั้งสองคนมีฝีมือ
เท่าๆ กัน ถ้าทั้งสองคนมฝี ีมือต่างกนั จะทาให้เสยี เปรียบฝา่ ย
ตรงข้าม เพราะฝ่ายตรงข้ามจะเลือกตีใส่ผู้เล่นที่มีฝีมืออ่อน
กว่าหวังโยกหลังเฉพาะผู้เล่นในซีกใดซีกหน่ึงของสนามเพียง
คนเดยี ว
ประเภทการเล่นกีฬาแบดมินตันในสนาม
รปู แบบของการยนื ประเภทคู่
ยืนแบบหน้า-หลัง (Up and Back)
การเล่นแบบนี้คนหน่ึงยืนอยู่ข้างหน้าคอยระวังรักษา
ตลอดแนวหน้าตาข่าย อีกคนหน่ึงอย่ขู า้ งหลังคอยระวังตลอด
สนามด้านหลัง เหมาะสาหรับผู้เล่นท่ีมีฝีมือและความ
แข็งแกร่งแตกต่างกันมากจึงเป็นแบบมาตรฐานสา หรับการ
เล่นคู่ผสมเมื่อทาการส่งลูกแล้วคนหน่ึงให้ไปยืนคุมทาง
ดา้ นหนา้ ของสนาม เมอื่ ตนเปน็ ฝา่ ยรับลกู จากการสง่ ลูกให้อีก
คนคมุ หลงั โดยจะแบง่ หน้าท่ีเชน่ น้ีตลอดหรือสลับกันก็ได้
ประเภทการเลน่ กฬี าแบดมนิ ตันในสนาม
รูปแบบของการยนื ประเภทคู่
ยืนแบบเยื้องกัน (Diagonal) เป็นการยนื รวมแบบ การเล่นที่ยืน
เคียงข้างกับการยืนหน้าหลัง โดยแบ่งสนามตามแนวทแยงมุม ผู้เล่นท่ี
อยู่ทางขวามือต้องตลี ูกทางดา้ นขวาครั้งหนึง่ และคุมหนา้ ตาข่ายทั้งหมด
ส่วนผู้ซ่ึงอยู่ทางซ้ายมือต้องรับผิดชอบลูกที่อยู่ทางซ้ายจากเส้นส้ันถึง
เส้นหลังและคุมด้านหลังสนามท้ังหมด ทั้งสองมีการหมุนแทนท่ีกันใน
แบบทวนเข็มนาฬิกา คือ คนที่ว่ิงเข้าไปรับลูกหยอดเวลาถอยกลับจะ
ถอยออกมาทางด้านซ้ายเสมอ และผู้เล่นอีกคนที่อยู่ด้านหลังจัเคลื่อน
ย้ายตวั มาซีกขวา เพ่อื ป้องกันไมใ่ ห้สนามมที วี่ า่ ง
ประเภทการเลน่ กีฬาแบดมินตนั ในสนาม
รปู แบบของการยนื ประเภทคู่
ยืนแบบหมุนเวียน (Rotation) เป็นการยืนแบบผสมผสาน
ระหว่างวิธีการยืนแบบท่ี ๑-๓ ผู้เล่นคู่หมุนวนกันไปทั้งสองคนใน
ทิศทางทวนเข็มนาฬิกา เมื่อผเู้ ลน่ ดา้ นขวาต้องเคลื่อนตัวเข้ามาทางตา
ข่าย ผู้เล่นท่ียืนอยู่ทางด้านหลังก็จะเคล่ือนตัวมาทางด้านหน้า การ
เล่นแบบน้นี ยิ มเล่นกนั มาก ยนื แบบรวมและวน เหมาะสาหรับผู้เล่นท่ีได้ฝึกฝนมานานพอสมควรแล้ว
การยนื แบบนี้เป็นการรวมข้อดีของการยืนทั้ง ๔ แบบเข้าด้วยกัน เม่ือเป็นฝ่ายส่ง
ลูกผู้เล่นท่ีจะยืนแบบหน้าหลัง เม่ือคู่ต่อสู้ตีลูกมาก็จะแยกกลับมากันคนละข้าง
สนามเพ่ือป้องกันการเป็นฝ่ายรับเมือ่ ได้โอกาสบกุ ก็เปล่ียนเป็นแบบยืนหน้า-หลงั ผู้
ยืนอยู่ทางด้านหน้าคอยตีให้ลูกขนไก่ต่ากว่าตาข่ายเมื่อคู่ต่อสู้ใช้ลูกโด่งผู้อยู่
ด้านหลังจะตามลูกแลว้ ผ้อู ยดู่ ้านหนา้ คอยซา้ วนกันไปมา
ประเภทการเล่นกีฬาแบดมนิ ตันในสนาม
วิธีส่งลกู การเลน่ ประเภทคู่
การสง่ ลกู ประเภทคู่ มกั จะใช้การสง่ ลกู แบบเฉียดตาข่าย อย่าให้สูงเหนือตาข่ายมากเพราะลูก
อันตราย นิยมส่งลูกสั้น เป็นการบังคับให้ผู้รับลูกตีกลับมาด้วยลูกสั้นหรือลูกโด่ง ซึ่งทาให้ฝ่ายส่งลูกมี
โอกาสทจี่ ะสามารถตที าคะแนนได้ จุดทค่ี วรสง่ ลกู นั้นคอื มุมท้งั สองขา้ งของสนามในการสง่ ลกู สน้ั
วธิ ีรบั ลกู การเล่นประเภทคู่
การฝกึ รับลูก ควรยืนใกล้เสน้ สง่ ลูกส้ันและพยายามทจ่ี ะหาทางตีโต้กลับไปอย่างรวดเร็ว ทาให้
อีกฝ่ายแก้สถานการณ์ยาก การรบั ลกู ในการเล่นประเภทคู่ต้องพยายามท่ีจะตีลูกกดต่าลงไว้เสมอ เพ่ือ
หลีกเลีย่ งการท่จี ะเปน็ ฝา่ ยรบั ด้วยลูกดาด ลกู หยอด และตลี ูกทแยง ข้ามตาขา่ ยไป