The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ครั้งที่ 4-5 แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาการ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by g_shock_33, 2022-05-26 06:51:27

ครั้งที่ 4-5 แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาการ

ครั้งที่ 4-5 แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาการ

1

ตารางวิเคราะห์เนอ้ื หาส

หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับกา
ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

สาระการพัฒนาสังคม รายวิชาการพัฒนา
จำนวน 1 หน

ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษ

ครง้ั ท่ี เนอื้ หา ง่าย

4 1. หลักการพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม 

2. ความหมาย ความสำคญั ประโยชนข์ องข้อมูลด้าน

- ภมู ศิ าสตร์ - ประวัตศิ าสตร์ -

- เศรษฐศาสตร์ - การเมือง

- การปกครอง - ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี

- หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง - ทรัพยากร ส่ิงแวดล้อม

- สาธารณสุข - การศกึ ษา

3. การจัดทำแผน

- ทศิ ทางนโยบาย

- โครงการ
- ผู้รับผดิ ชอบ
- จัดลำดบั ความสำคัญ

รวมจำนวนช่ัวโมง

2

สาระการเรยี นรรู้ ายวิชา

ารศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

4 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

าตนเอง ชุมชน สังคม รหัสวิชา สค31003

น่วยกิต 40 ชั่วโมง

ษาตามอธั ยาศยั อำเภอเมืองนราธวิ าส

วเิ คราะหเ์ น้อื หา วิธีการจัดการเรียนรู้

ย ปาน ยาก เนอื้ หา กรต. ครูสอน สอนเสรมิ โครงงาน จำนวน

กลาง ลึกซึง้ ชวั่ โมง

  - - (2) (1) - -3

 -  - -9
- (7) (2)










- -  (3) - -8
 (5)

- - - 14 6 - - 20

ตารางวเิ คราะห์เนอื้ หาส

หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดบั กา
ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564

สาระการพฒั นาสังคม รายวิชาการพัฒนา
จำนวน 1 หน

ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษ

คร้งั ที่ เน้อื หา ง

5 1. การมีส่วนรว่ มในการวางแผนพัฒนาตนเอง 
1. การมีสว่ นรว่ มในการวางแผนพัฒนาตนเอง

2. การเผยแพรส่ กู่ ารปฏิบัติ
1. การเขยี นรายงาน
2. การเขียนโครงงาน

3. บทบาทหน้าที่ผู้นำ/สมาชิกที่ดขี องชุมชน สังคม
1. บทบาทหน้าทผ่ี ้นู ำ/สมาชิกท่ดี ีของชมุ ชน สงั คม

รวมจำนวนชั่วโมง

3

สาระการเรยี นรู้รายวชิ า

ารศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
4 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
าตนเอง ชุมชน สังคม รหัสวิชา สค31003
นว่ ยกิต 40 ช่ัวโมง
ษาตามอธั ยาศัยอำเภอเมืองนราธวิ าส

วิเคราะหเ์ น้อื หา วิธีการจดั การเรยี นรู้

งา่ ย ปาน ยาก เน้ือหา กรต. ครู สอนเสริม โครงงาน จำนวน

กลาง ลกึ ซง้ึ สอน ชัว่ โมง

  - - (2) (2) - -4

  - - (9) (3) - - 12

  - - (3) (1) - -4

- - - - 14 6 - - 20

4

แผนการจัดการเรียนรู้รายสปั ดาห์ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย ครั้งท่ี 4
รายวชิ า การพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม รหัสวชิ า สค31003
เวลาเรยี น 20 ชัว่ โมง
(พบกลุ่ม 6 ช่ัวโมง การเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง 14 ชวั่ โมง)
วนั ท่ี …..….. เดือน ……………………พ.ศ. 2564

มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ
มีความรู ความเขาใจ หลักการพัฒนา ชุมชน สังคม สามารถวิเคราะห์ข้อมูล และเป็นผู้นำผู้ตาม ในการพัฒนา

ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม.ใหสอดคลองกับสภาพการเปลยี่ นแปลงของเหตุการณปจจุบนั

ตวั ชว้ี ดั
1. หลักการพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม
1. เพอ่ื ให้ผเู้ รียนมคี วามรู้ ความเข้าใจหลักการพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม
2. ความหมาย ความสำคญั ประโยชน์ของข้อมูลดา้ นตา่ งๆ
1. บอกความหมายและความสำคญั ของแผนชีวติ และแผนพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม
3. การจัดทำแผน
1.จงู ใจให้สมาชิกของชมุ ชนมสี ่วนร่วมในการจัดทำแผนชีวติ และแผนชุมชน สงั คมได้

เน้ือหา
1. หลกั การพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม
2. ความหมาย ความสำคัญ ประโยชน์ของข้อมูลด้าน
- ภมู ศิ าสตร์
- ประวตั ิศาสตร์
- เศรษฐศาสตร์
- การเมือง
- การปกครอง
- ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี
- หน้าท่พี ลเมือง
- ทรัพยากร สง่ิ แวดล้อม
- สาธารณสุข
- การศึกษา
3. การจัดทำแผน
. - ทิศทางนโยบาย
- โครงการ
- ผูร้ บั ผดิ ชอบ
- จัดลำดับความสำคัญ

5

วิธีการเรียน : แบบพบกลุ่ม (ON-Site)

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
1. ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน ( 30 นาที )

การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation)
1.1 ครูทกั ทายนักศกึ ษา และนำเขา้ สบู่ ทเรียนโดยแจง้ ข่าวสารเหตกุ ารณป์ จั จบุ ัน ใหน้ ักศกึ ษาทราบ

พร้อมท้ังแลกเรียนเปล่ียนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ร่วมกันวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นร่วมกันในชั้น
เรียน และทบทวนบทเรยี นจากครัง้ ที่แล้ว เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อดงึ ความรูแ้ ละประสบการณ์เดมิ ของนักศึกษา เน้น
การมสี ่วนรว่ ม มีการแลกเปลย่ี นเรียนรู้ สะทอ้ นความคิด และอภปิ ราย โดยใหเ้ ชื่อมโยงกบั ความรใู้ หม่

1.2 ครนู ำเข้าสูบ่ ทเรียนโดยครูเปิดวีดที ัศน์ เร่อื ง การพฒั นาตนเอง จาก ลงิ ค์
https://www.youtube.com/watch?v=0wtSk_DqFBU ใหน้ ักศกึ ษารบั ชมเพื่อให้นักศึกษามีความรู้ ความเขา้ ใจ
พร้อมท้ังยกตวั อยา่ งความสำคัญของการพฒั นาตนเอง ใหน้ ักศึกษาทราบ เพื่อเชื่อมโยงสู่บทเรียนต่อไป

1.3 ครแู ละนักศกึ ษาสรปุ ส่งิ ทไี่ ดอ้ ภิปรายร่วมกนั และนักศกึ ษาบนั ทกึ ลงในแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน.

2. ขนั้ จดั กิจกรรมการเรียนการสอน ( 4 ชัว่ โมง )
การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning)

2.1 ครอู ธิบายเนื้อหาจากหนังสอื เรียนรายวิชาการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม ในหวั ข้อเรือ่ งต่อไปนี้ หลกั การ
พฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม ,ความหมาย ความสำคญั ประโยชน์ของข้อมลู ดา้ นต่างๆและการจัดทำแผน พร้อมใหน้ กั ศึกษา
จดบนั ทึกรายละเอยี ดลงในแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน.

2.2 ครูใหน้ ักศึกษาแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลมุ่ ๆละเท่าๆกนั เพื่อศึกษาข้อมลู เกี่ยวกับ เร่อื ง หลักการพัฒนาตนเอง
ชมุ ชน สังคม ,ความหมาย ความสำคญั ประโยชน์ของข้อมูลด้านตา่ งๆและการจัดทำแผน

2.3 ครใู ห้นกั ศึกษา ทำกจิ กรรมสรปุ ความร้เู ปน็ แผนผังความคิด ลงในกระดาษบรู๊ฟ ในหวั ขอ้ ดงั นี้
กลมุ่ ท่ี 1 หลกั การพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม
กลมุ่ ท่ี 2 ความหมาย ความสำคญั ประโยชนข์ องข้อมูลดา้ นตา่ งๆ
กลมุ่ ท่ี 3 การจดั ทำแผน

2.4 ครูใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทนมาออกมานำเสนอหนา้ ห้องเรียน และครเู ป็นผู้ตรวจสอบความ
ถูกต้อง ให้ความรเู้ พิม่ เตมิ และข้อเสนอแนะ โดยให้นักศึกษาจดบันทึกสิ่งท่ีไดจ้ ากการฟงั และสรปุ ลงในแบบบันทึกการ
เรยี นรู้ กศน.

2.5 ครูสอนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเรื่อง ความสะอาด ความสุภาพ ความขยนั
ความประหยดั ความซื่อสัตย์สุจรติ ความสามัคคี ความมีน้าใจ ความมวี ินยั ศาสน์ กษัตริย์ รกั ความเปน็ ไทย และยึดมั่นใน
วถิ ีชีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข

6

3. ขนั้ สรุปและประเมนิ ผล (1 ชว่ั โมง)
ขน้ั ประเมินผล (E : Evaluation)

3.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เร่อื ง การพฒั นาตนเอง แบบปรนยั จำนวน 10 ข้อ จากชุด
แบบทดสอบ หรือจาก Google From พร้อมเฉลยและประเมินผล ใหน้ ักศกึ ษาบนั ทึกคะแนนลงในแบบบันทึกการเรียนรู้
กศน.

3.2 ครูใหน้ กั ศึกษาทำแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) แบบปรนยั วชิ า การพฒั นาตนเอง จำนวน 10
ขอ้ ผา่ นทาง Google Form พรอ้ มเฉลยและประเมนิ ผล ให้นกั ศึกษาบนั ทึกคะแนนลงในแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน.

3.3 ครูใหน้ กั ศึกษาสรุปการทำความดีและคณุ ธรรมท่ีได้ปฏิบตั ิ พรอ้ มบันทกึ ลงในสมุดบนั ทึกความดี
เพอ่ื การประเมินคุณธรรม

4. ขั้นมอบหมายงาน
การปฏิบัตแิ ละนำไปประยุกต์ (I : Implementation)

4.1 ครมู อบหมายให้นกั ศกึ ษาไปอ่านทบทวนเนื้อหาเพ่ิมเติมจากหนังสอื เรยี น เร่ือง หลักการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน
สงั คม ,ความหมาย ความสำคัญ ประโยชน์ของข้อมลู ด้านต่างๆ และการจัดทำแผน จากหนังสือเรียนออนไลน์รายวิชาการ
พฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม จากลิงค์ http://203.159.251.144/pattana/download และสรุปลงในแบบบนั ทกึ การ
เรยี นรู้ กศน.

4.2 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาค้นคว้าเน้ือหาจากหนังสือเรียนออนไลน์ รายวิชาการพัฒนาตนเอง ชุมชน
สงั คมลิงค์ http://203.159.251.144/pattana/download และศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ท่ี 4 เรื่อง การพัฒนาตนเอง
และทำใบงานที่ 4 (โดยครูจะส่งใบงานทาง Google classroom) และให้นักศึกษาส่งงานทาง LINE ตามวันเวลาที่ครู
กำหนด

5. ขั้นติดตามผล (30 นาที)
5.1 ครูตดิ ตามงานทไ่ี ด้มอบหมายนกั ศึกษา เพอ่ื ติดตามความคบื หนาทางแอปพลเิ คชนั Line ดงั นี้
5.1.1 ตดิ ตามงานที่ได้รับมอบหมายสปั ดาห์ท่ผี ่านมา
5.1.2 ตดิ ตามการทำกิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพชีวติ (กพช.)
5.1.3 ตดิ ตามสอบถามสขุ ภาพของนกั ศึกษา (การฉดี วคั ซนี /การตรวจสุขภาพ/ความสะอาด/การแต่ง
กาย)
5.1.4 ตดิ ตามสอบถามการทำความดใี นแตล่ ะวัน สัปดาหท์ ี่ผ่านมาและติดตามการบันทกึ

กิจกรรมท่ีทำความดลี งในสมุดบันทึกบันทึกความดเี พ่ือการประเมนิ คุณธรรม
5.1.5 ติดตามสอบถามเกีย่ วกับงานอดิเรก สนุ ทรยี ภาพ การเลน่ กีฬา การใช้เวลาว่างให้เป็น

ประโยชน์ ฯลฯ
5.1.6 ติดตามความก้าวหนา้ การทำโครงงาน

7

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี นวิชา สค31003 การพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม หรอื หนงั สือเรยี นออนไลน์ ลงิ ค์

http://203.159.251.144/pattana/download
2. คมู่ อื นกั ศกึ ษา
3. วดี ีทัศน์, Youtube เกีย่ วกับ การพัฒนาตนเอง จาก ลิงค์

https://www.youtube.com/watch?v=0wtSk_DqFBU
4. แบบทดสอบย่อย เรอื่ ง การพัฒนาตนเอง จำนวน 10 ข้อ (ชดุ แบบทดสอบ หรอื Google Form)
5. แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) รายวิชาการพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม จำนวน 10 ข้อ (ชุดแบบทดสอบ

หรอื Google Form)
6. ใบความรูท้ ่ี 4 เรื่อง การพัฒนาตนเอง
7. ใบงานที่ 4
8. แบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.

การวดั และประเมนิ ผล
1. การสังเกตพฤติกรรมการมีรายบคุ คล/รายกลุ่ม
2. การตรวจแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.
3. ประเมินการนำเสนอผลงาน/ชิ้นงาน
4. การตรวจใบงาน
5. การตรวจแบบทดสอบ
6. การประเมินคณุ ธรรม

8

วธิ ีการเรยี น : แบบหนงั สอื เรยี น มอบหมายงาน (ON - Hand)

กระบวนการจัดการเรียนรู้
1. ขั้นนำเขา้ สูบ่ ทเรียน ( 30 นาที )

การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation)
1.1 ครูสำรวจความพรอ้ มของนกั ศกึ ษาในการเรยี นรู้ สำหรบั นักศกึ ษาไม่มีอินเตอร์เน็ต และเครอ่ื งมือส่ือสาร โดย

นำหนังสอื เรียน ใบความรู้ และใบงาน ใหผ้ ู้เรยี นได้เรียนรทู้ บ่ี ้าน ในรายวิชา การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม จากหนังสือท่ี
ครูไดน้ ำไปให้ พรอ้ มใหน้ กั ศึกษา ศกึ ษาใบความรู้ จดั ทำใบงาน พร้อมทงั้ ทำแบบทดสอบก่อนเรียน

1.2 ครูนำตัวอย่างการเรียนรู้แบบโครงงาน ไปให้นักศึกษา ศึกษาเรียนรู้ที่บ้าน เพื่อเช่ือมโยงเข้าสู่บทเรียนและ
มอบหมายงานตอ่ ไป

1.3 นักศึกษาสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ในตัวอย่างรูปเล่มโครงงาน บันทึกลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. และนำส่ง
ตามวนั เวลาทค่ี รกู ำหนด

2. ขน้ั จดั กิจกรรมการเรียนการสอน ( 4 ชว่ั โมง )
การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรยี นรู้ (N : New ways of learning)

2.1 ครมู อบหมายใหน้ ักศึกษาไปศกึ ษาหาความรู้ เรื่อง การพัฒนาตนเอง จากหนงั สือ รายวชิ าการพฒั นาตนเอง
ชมุ ชน สงั คม ในหวั ข้อต่อไปน้ี

1 หลกั การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม
2 ความหมาย ความสำคัญ ประโยชนข์ องข้อมลู ดา้ นต่างๆ
3 การจดั ทำแผน
2.2 ครูมอบหมายใหน้ กั ศึกษาไปศึกษาคน้ ควา้ เนื้อหาจากหนงั สือเรียนรายวิชาการพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม
และทำใบงาน ดงั นี้
ใบงานท่ี 4 เร่อื ง การพฒั นาตนเอง
2.3 ครูสอนและสอดแทรกคณุ ธรรม 11 ประการ ในเรอื่ ง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตญั ญู
กตเวทีความขยัน ความประหยัด ความซื่อสัตย์ ความมีน้ำใจ ความมีวินัย ศาสน์ กษัตริย์ รักความเป็นไทย และยึดมั่นใน
วถิ ชี ีวติ และการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ ผา่ นใบความรู้ ใบงาน

3. ขัน้ สรปุ และประเมินผล (1 ช่วั โมง )

ขน้ั ประเมนิ ผล (E : Evaluation)
3.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ จากชุด แบบทดสอบ พร้อมเฉลยและ

ประเมินผล ใหน้ ักศึกษาบันทึกคะแนนลงในแบบบันทกึ การเรยี นรู้ กศน.

3.2 ครูให้นักศึกษาสรุปการทำความดีและคุณธรรมท่ีได้ปฏิบัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบันทึกความดี เพื่อการ

ประเมนิ คณุ ธรรม

9

4. ข้ันมอบหมายงาน
การปฏิบตั แิ ละนำไปประยกุ ต์ (I : Implementation)

4.1 ครมู อบหมายใหน้ กั ศกึ ษาศกึ ษาเรยี นรจู้ ากหนงั สือเรียน รายวิชาการพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม โดยศกึ ษาใน
เรอ่ื ง หลกั การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม ,ความหมาย ความสำคญั ประโยชนข์ องข้อมูลด้านตา่ งๆ
และการจัดทำแผน และสรุปลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.

4.2 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาค้นคว้าเน้ือหาจากหนังสือเรียนออนไลน์ รายวิชาการพัฒนาตนเอง ชุมชน
สังคม จากล้ิง http://203.159.251.144/pattana/download และศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ท่ี 4 เรื่อง การพัฒนา
ตนเอง และทำใบงานท่ี 4 (โดยครูจะสง่ ใบงานทาง Google classroom) และใหน้ กั ศึกษาสง่ งานทาง LINE

5. ขนั้ ติดตามผล (30 นาที)
5.1 ครูตดิ ตามงานทีไ่ ด้มอบหมายนกั ศึกษา เพ่อื ตดิ ตามความคืบหนาทางแอปพลเิ คชัน Line ดงั น้ี
5.1.1 ตดิ ตามงานท่ีไดร้ บั มอบหมายสปั ดาหท์ ผ่ี ่านมา
5.1.2 ติดตามการทำกิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพชวี ิต (กพช.)
5.1.3 ตดิ ตามสอบถามสขุ ภาพของนักศึกษา (การฉดี วัคซนี /การตรวจสุขภาพ/ความสะอาด/การแต่ง
กาย)
5.1.4 ติดตามสอบถามการทำความดใี นแต่ละวัน สปั ดาหท์ ี่ผา่ นมาและติดตามการบนั ทึก

กิจกรรมที่ทำความดีลงในสมุดบนั ทกึ บันทึกความดีเพื่อการประเมินคุณธรรม
5.1.5 ตดิ ตามสอบถามเก่ยี วกับงานอดิเรก สนุ ทรยี ภาพ การเลน่ กฬี า การใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็น

ประโยชน์ ฯลฯ
5.1.6 ติดตามความกา้ วหนา้ การทำโครงงาน

สอื่ และแหล่งการเรียนรู้
1. หนังสอื เรียนวิชาการพฒั นาแผนและโครงการอาชีพ
2. คมู่ ือนักศกึ ษา
3. ใบความรู้
4. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ
5..แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) วชิ าการพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม จำนวน 10 ข้อ
6. ใบงานที่ 4
7. แบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน.

การวัดและประเมินผล
1. การสงั เกตพฤตกิ รรมการมีรายบคุ คล/รายกลมุ่
2. การตรวจแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน.
3. ประเมินการนำเสนอผลงาน/ชน้ิ งาน
4. การตรวจใบงาน
5. การตรวจแบบทดสอบ
6. การประเมินคุณธรรม

10

วธิ กี ารเรียน : แบบผ่านช่องทาง ETV (ON-Air)

กระบวนการจดั การเรียนรู้
1. ข้ันนำเข้าสู่บทเรียน ( 30 นาที )

การกำหนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation)
1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนำเข้าสู่บทเรียนโดยให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นในเรื่อง การพัฒนาตนเอง ตาม

ความเข้าใจของนักศึกษา โดยครูยกตัวอย่างความสำคัญของการพัฒนาตนเอง จากอินเตอร์เน็ต พร้อมท้ังแลกเปล่ียน
เรียนรู้ ร่วมกันวิเคราะห์ และแสดงความคิดเหน็ รว่ มกนั ในกลุ่ม LINE พร้อมทั้งทำแบบทดสอบก่อนเรยี น (ชุดแบบทดสอบ
หรือ Google Form) ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม พร้อมอธิบายถึงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องจัด
กจิ กรรมการเรยี นรูปแบบ ( ON-Air )

1.2 ครนู ำเขา้ สบู่ ทเรียนโดย ใหน้ กั ศกึ ษาสมัครเปน็ สมาชิก ETV ตามลิ้งตอ่ ไปน้ี
http://203.159.251.144/pattana/download เพอื่ ใหน้ ักศกึ ษามรี หัสผา่ นเพ่ือเข้าไปศึกษาหาความรู้ตาม ตารางออน
แอร์ ในแตล่ ะวันของสถานีวทิ ยโุ ทรทศั นเ์ พ่ือการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตามล้งิ รายการโทรทัศน์สง่ เสรมิ การศึกษา
นอกระบบโรงเรียน
http://www.etvthai.tv/Video/VDO_Detail_Ext.aspx?ContentID=320&videoid=1087&v=1&p=5 และและ
นกั ศึกษาสามารถติดตามข่าวสารได้ในเฟสบุ๊ค ETV Channel ตามล้งิ ตอ่ ไปน้ี https://www.facebook.com/Etv-
Channel-1512499252411798/

2. ข้นั จดั กิจกรรมการเรยี นการสอน ( 4 ชัว่ โมง )

การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรยี นรู้ (N : New ways of learning)
2.1 ครมู อบหมายใหน้ ักศึกษาเข้าไปศึกษาหาความรู้ ของสถานวี ทิ ยโุ ทรทัศนเ์ พื่อการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ

ตามเวบ็ ไซต์ www.etvthai.tv โดย เขา้ สรู่ ะบบดว้ ยรหัสผา่ นทนี่ ักศึกษาสมัครไว้แลว้ โดยสามารถดูตาราง ออนแอร์ได้
ตามลิง้ http://www.etvthai.tv/Front_ETV/FETV_Schedule.aspx และสามารถดูรายการย้อนหลังได้ ตามล้งิ
http://www.etvthai.tv/home/home_External.aspx

อกี ชอ่ งทางการศึกษาหาความรู้โดยผ่าน ทีวดี ิจิตอลชอ่ ง 52 (กศน.) สามารถตดิ ตามขา่ วสารและตารางออนแอร์
ไดใ้ นเฟสบุ๊ค : ETV สอื่ ดจิ ิทลั เพอ่ื การศึกษา สำนักงาน กศน. ตามล้งิ น้ี https://www.facebook.com/etv.digital/

2.2 ครมู อบหมายให้นักศกึ ษาเรียนร้แู บบ (ON-Air)
ในเร่อื งการเรยี นรใู้ นรูปแบบโครงงานในหัวข้อต่อไปนี้

1 หลักการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม
2 ความหมาย ความสำคัญ ประโยชนข์ องข้อมลู ดา้ นต่างๆ
3 การจดั ทำแผน
และใหน้ กั ศกึ ษาสรุปลงในแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน. นำสง่ ผา่ นทาง Google Classroom หรือ แอปพลิเคชัน LINE
2.3 ครสู อนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเรอ่ื ง ความสะอาด ความสภุ าพ ความกตัญญู
กตเวที ความขยัน ความประหยัด ความซื่อสัตย์ ความมีนำ้ ใจ ความมีวนิ ัย ศาสน์ กษัตริย์ รักความเป็นไทย และยึดมั่นใน
วถิ ีชวี ิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ ผา่ นทาง LINE กลุ่ม

11

3. ขัน้ สรปุ และประเมนิ ผล (1 ช่ัวโมง )
ขัน้ ประเมินผล (E : Evaluation)

3.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรยี น แบบปรนัย จำนวน 10 ขอ้ จากชุด แบบทดสอบ หรอื จาก Google
From พรอ้ มเฉลยและประเมินผลให้นกั ศกึ ษาบันทึกคะแนนลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน.

3.2 ครูให้นักศึกษาสรุปการทำความดีและคุณธรรมที่ได้ปฏิบัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบันทึกความดี เพื่อการ
ประเมนิ คุณธรรม
4. ขัน้ มอบหมายงาน
การปฏิบตั แิ ละนำไปประยุกต์ (I : Implementation)

4.1 ครูมอบหมายให้นักศกึ ษาไปอ่านทบทวนเนื้อหาเพิ่มเตมิ จากหนงั สือเรียน รายวชิ าการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน
สังคม จากลงิ้ http://203.159.251.144/pattana/download (แบบเรียนออนไลน)์ โดยศึกษาในเรื่อง หลักการพฒั นา
ตนเอง ชุมชน สังคม ,ความหมาย ความสำคญั ประโยชน์ของข้อมูลดา้ นต่างๆ และการจัดทำแผน และสรปุ ลงในแบบ
บนั ทึกการเรียนรู้ กศน.

4.2 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาค้นคว้าเน้ือหาจากหนังสือเรยี นออนไลน์ รายวิชาการพัฒนาตนเอง ชุมชน
สังคม จากลิ้ง http://203.159.251.144/pattana/download และศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ท่ี 4 เร่ือง การพัฒนา
ตนเอง และทำใบงานที่ 4 และให้นักศึกษาส่งงาน (โดยครูจะส่งใบงานทาง Google classroom) และให้นักศึกษาส่งงาน
ทาง LINE
5. ขั้นตดิ ตามผล (30 นาท)ี

5.1 ครูติดตามงานทไี่ ด้มอบหมายนกั ศึกษา เพ่อื ตดิ ตามความคบื หนาทางแอปพลิเคชัน Line ดงั นี้
5.1.1 ติดตามงานท่ีได้รบั มอบหมายสปั ดาหท์ ผ่ี า่ นมา
5.1.2 ติดตามการทำกิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพชีวิต (กพช.)
5.1.3 ตดิ ตามสอบถามสุขภาพของนกั ศึกษา (การฉดี วัคซีน/การตรวจสุขภาพ/ความสะอาด/การแต่ง

กาย)
5.1.4 ติดตามสอบถามการทำความดใี นแตล่ ะวัน สปั ดาหท์ ี่ผา่ นมาและติดตามการบนั ทึก

กจิ กรรมท่ีทำความดีลงในสมุดบนั ทกึ บนั ทึกความดีเพ่ือการประเมนิ คุณธรรม
5.1.5 ตดิ ตามสอบถามเก่ียวกับงานอดเิ รก สุนทรยี ภาพ การเล่นกฬี า การใชเ้ วลาว่างให้เปน็

ประโยชน์ ฯลฯ
5.1.6 ตดิ ตามความกา้ วหน้าการทำโครงงาน

12

สื่อและแหลง่ การเรียนรู้
1. www.etvthai.tv
2.ทีวีดจิ ิตอลชอ่ ง 52 (กศน.)
3. เฟสบคุ๊ https://www.facebook.com/etv.digital/ และ
https://www.facebook.com/Etv-Channel-1512499252411798/
4. Google Classroom / แอปพลิเคชัน LINE
5. หนงั สอื เรยี นวชิ าการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม หรือ หนังสือเรยี นออนไลน์
ลิงค์ http://203.159.251.144/pattana/download
6. ค่มู ือนกั ศกึ ษา
7. วีดีทศั น์, Youtube เกี่ยวกบั การพฒั นาตนเอง จาก ลงิ ค์

https://www.youtube.com/watch?v=0wtSk_DqFBU
8. แบบทดสอบก่อนเรียน แบบปรนัย จำนวน 10 ขอ้ (ชุดแบบทดสอบ หรอื Google Form)
9. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) วิชาการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม จำนวน 10 ขอ้

(ชุดแบบทดสอบ หรือ Google Form)
10. ใบงานที่ 4
11. แบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.

การวัดและประเมนิ ผล
1. การสังเกตพฤติกรรมการมรี ายบุคคล/รายกลุม่
2. การตรวจแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน.
3. ประเมินการนำเสนอผลงาน/ชน้ิ งาน
4. การตรวจใบงาน
5. การตรวจแบบทดสอบ
6. การประเมนิ คุณธรรม

13

วิธีการเรียน : ผ่านแอปพลเิ คชัน (ON-Demand)

กระบวนการจดั การเรียนรู้
1. ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน ( 30 นาที )

การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation)
1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนำเข้าสู่บทเรียนโดยให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นในเร่ือง การพัฒนาตนเอง ตาม

ความเข้าใจของนักศึกษา โดยครูยกตัวอย่างความสำคัญของการพัฒนาตนเอง จากอินเตอร์เน็ต พร้อมทั้งแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ ร่วมกันวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นร่วมกันในช้ันเรียน พร้อมทั้งทำแบบทดสอบก่อนเรียน (ชุดแบบทดสอบ
หรือ Google Form) ผ่านทาง Google Classroom หรือแอปพลิเคชัน LINE กลุ่ม พร้อมอธิบายถึงเหตุผลความจำเป็น
ที่ตอ้ งจดั กจิ กรรมการเรียนรูปแบบ (ON-Demand)

1.2 ครูนำเข้าสูบ่ ทเรยี นโดยเปิดวีดีทศั น์ เรือ่ ง การพฒั นาตนเอง จาก ลงิ ค์
https://www.youtube.com/watch?v=0wtSk_DqFBU ใหน้ กั ศกึ ษารับชมเพอ่ื ให้นักศึกษาสามารถร่วมกนั วิเคราะห์
และแลกเปลยี่ นเรยี นรู้แสดงความคดิ เห็นผา่ นทาง Google Classroom หรอื แอปพลิเคชัน LINE เพ่ือเช่อื มโยงเข้าสู่
บทเรียนต่อไป

1.3 ครูและนักศึกษาสรุปส่ิงท่ีอภิปรายร่วมกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และบันทึกลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.
ผา่ นทาง Google Classroom หรือ แอปพลิเคชนั LINE

2. ขั้นจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ( 4 ช่ัวโมง )

การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning)
2.1 ครมู อบหมายให้นกั ศกึ ษาไปศกึ ษาหาความรู้ เรอื่ ง หลักการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม ,ความหมาย

ความสำคัญ ประโยชนข์ องข้อมูลดา้ นต่างๆ และการจัดทำแผน จากหนังสอื เรยี นออนไลน์ รายวชิ าการพฒั นาตนเอง
ชมุ ชน สงั คม ลงิ ค์ http://203.159.251.144/pattana/download และ ศึกษาหาความรู้ ผา่ นเว็บไซต์ www.etvthai.tv
และ ช่อง Yutube หรอื จากสือ่ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และใหส้ รุปลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. ในหัวขอ้ ต่อไปนี้

1 หลกั การพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม
2 ความหมาย ความสำคญั ประโยชน์ของข้อมูลด้านตา่ งๆ
3 การจัดทำแผน
2.2 ครสู อนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเรื่อง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตัญญู
กตเวทีความขยัน ความประหยัด ความซื่อสัตย์ ความมีน้ำใจ ความมีวินัย ศาสน์ กษัตริย์ รักความเป็นไทย และยึดมั่นใน
วถิ ชี วี ิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ ผ่านทาง LINE กลุม่
3. ข้นั สรปุ และประเมินผล (1 ชว่ั โมง )

ขน้ั ประเมนิ ผล (E : Evaluation)
3.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ จากชุด แบบทดสอบ หรือจาก Google

From พรอ้ มเฉลยและประเมนิ ผล ใหน้ ักศึกษาบันทกึ คะแนนลงในแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน.
3.2 ครูให้นักศึกษาสรุปการทำความดีและคุณธรรมที่ได้ปฏิบัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบันทึกความดี เพ่ือการ

ประเมินคณุ ธรรม

14

4. ขัน้ มอบหมายงาน
การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยกุ ต์ (I : Implementation)

4.1 ครูมอบหมายใหน้ ักศึกษาไปอ่านทบทวนเน้ือหาเพ่ิมเติมจากหนงั สอื เรยี น ในหวั ขอ้ ต่อไปนี้ หลกั การพัฒนา
ตนเอง ชุมชน สงั คม ,ความหมาย ความสำคัญ ประโยชน์ของข้อมูลดา้ นตา่ งๆและการจดั ทำแผน จากหนงั สือเรียน
ออนไลน์ รายวชิ าการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม จากลงิ ค์ http://203.159.251.144/pattana/download และสรปุ ลง
ในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน.

4.2 ครูมอบหมายให้นักศกึ ษาไปศกึ ษาคน้ ควา้ เน้ือหาจากหนังสือเรยี นออนไลน์ รายวชิ าการพัฒนาตนเอง ชุมชน
สังคม ลิงค์ http://203.159.251.144/pattana/download และศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ ท่ี 4 เรอ่ื ง การพัฒนา
ตนเอง และทำใบงานท่ี 4 (โดยครจู ะส่งใบงานทาง Google classroom) และใหน้ กั ศึกษาส่งงานทาง LINE ตามวนั เวลาที่
ครูกำหนด
5. ขนั้ ติดตามผล (30 นาที)

5.1 ครตู ดิ ตามงานทีไ่ ดม้ อบหมายนกั ศึกษา เพือ่ ตดิ ตามความคบื หนาทางแอปพลิเคชนั Line ดังนี้
5.1.1 ติดตามงานท่ีได้รบั มอบหมายสัปดาหท์ ผี่ ่านมา
5.1.2 ตดิ ตามการทำกิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ (กพช.)
5.1.3 ตดิ ตามสอบถามสุขภาพของนกั ศึกษา (การฉีดวัคซีน/การตรวจสุขภาพ/ความสะอาด/การแต่ง

กาย)
5.1.4 ติดตามสอบถามการทำความดีในแต่ละวนั สัปดาหท์ ี่ผา่ นมาและติดตามการบนั ทึก

กิจกรรมที่ทำความดลี งในสมุดบนั ทึกบันทึกความดีเพื่อการประเมนิ คุณธรรม
5.1.5 ติดตามสอบถามเกี่ยวกับงานอดเิ รก สนุ ทรียภาพ การเล่นกีฬา การใช้เวลาว่างให้เป็น

ประโยชน์ ฯลฯ
5.1.6 ตดิ ตามความกา้ วหน้าการทำโครงงาน

ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรียนวชิ า สค31003 การพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม หรอื หนงั สือเรยี นออนไลน์ ลิงค์

http://203.159.251.144/pattana/download
2. ค่มู ือนักศกึ ษา
3. วดี ที ัศน์, Youtube เก่ยี วกบั การพัฒนาตนเอง จาก ลงิ ค์

https://www.youtube.com/watch?v=0wtSk_DqFBU
4. แบบทดสอบย่อยก่อนเรียน แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ (ชุดแบบทดสอบ หรอื Google Form)
5. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) วิชา สค31003 การพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม จำนวน 10 ขอ้

(ชดุ แบบทดสอบ หรือ Google Form)
6. ใบความรู้ที่ 4 เรือ่ ง การพัฒนาตนเอง
7. ใบงานท่ี 4
8. แบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.

15

การวัดและประเมินผล
1. การสังเกตพฤติกรรมการมรี ายบคุ คล/รายกลมุ่
2. การตรวจแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน.
3. ประเมินการนำเสนอผลงาน/ชิน้ งาน
4. การตรวจใบงาน
5. การตรวจแบบทดสอบ
6. การประเมินคุณธรรม

16

การเรยี นรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ครัง้ ท่ี 4

(จำนวน 14 ชว่ั โมง)
สาระการพัฒนาสังคม
รายวิชา สค31003 การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

คำส่ัง ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มเป็น 3 กลุ่ม และไปทำกิจกรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต) โดยการไปศึกษาค้นคว้า อ่าน

หนังสือ จดบันทึก จากหนังสือแบบเรียน ตำรา หนังสือ และส่ืออื่นๆ ในห้องสมุดประชาชนจังหวัด ห้องสมุดประชาชน

อำเภอ โรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา วิทยาลัยชุมชนในพื้นที่อำเอเมืองนราธิวาสหรืออำเภออื่นๆ หรือไป

สอบถามขอความรูจ้ ากบคุ คล ในหวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี

กลมุ่ ที่ 1 หลักการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม

กลุ่มที่ 2 ความหมาย ความสำคัญ ประโยชนข์ องข้อมูลดา้ นตา่ งๆ

- ภมู ศิ าสตร์ - ประวตั ศิ าสตร์

- เศรษฐศาสตร์ - การเมือง

- การปกครอง - ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี

- หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง - ทรัพยากร สง่ิ แวดลอ้ ม

- สาธารณสุข - การศึกษา

กล่มุ ที่ 3 การจดั ทำแผน ในเร่ือง

- ทศิ ทางนโยบาย

- โครงการ
- ผู้รบั ผดิ ชอบ

- จัดลำดบั ความสำคัญ
ขน้ั ตอนของการไปเรียนรู้ต่อเนอ่ื ง (กรต.) ของนักศึกษา มีดงั นี้

1. แผนการเรียนรู้ต่อเน่ือง (กรต.) ในแต่ละแต่ละสัปดาห์ แต่ละครั้งท่ีครู กศน.ตำบล/ครู ศรช. หรือครูประจำ

กลุ่มกลมุ่ มอบหมาย

2. ใหบ้ ริหารเวลาและใช้เวลาในการศึกษาเรียนร้ดู ้วยตนเองและทำกิจกรรมการเรียนรู้ต่อเน่ือง (กรต.) สัปดาห์ละ

15 ชัง่ โมงเปน็ อย่างน้อย

3. อ่านหนังสือ สอบถามผู้รู้ และจดบันทึกทุกคร้ังทีมีการทำกิจกรรม กรต. และเก็บหลักฐานไว้ทุกครั้งเพื่อส่ง

ครูกศน.ตำบล/ครศู รช. หรอื ครปู ระจำกลุ่ม ตรวจให้คะแนนการทำ กรต.

4. จดั ทำรายงานเป็นเล่ม ตามแบบรายงานที่ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกำหนดและให้

ส่งในวันท่ีมกี ารนำเสนอผลการทำกรต. ในเร่อื งนั้นๆ

5. ตัวแทนกลุ่มนำเสนอด้วยตนเอง (กรณีที่ทำกรต.คนเดียว) โดยให้นำเสนอผลงานตามข้อ4 กลุ่มละ/คนละไม่

เกิน 10 นาที ในวันพบกลมุ่ ครงั้ ต่อไป

17

ใบความรู้ ครัง้ ที่ 4
รายวชิ า สค31003 การพัฒนาตนเอง สังคม ชุมชน

ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย

การพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม
เรอ่ื งที่ 1 การพัฒนาตนเอง
1.1 ความหมายของ “การพัฒนา”

การพัฒนา (Development) หมายถึง การทำให้ดีข้ึน เจรญิ ขึ้น เป็นการทำให้สิ่งต่าง ๆ มีคุณค่าเพ่ิมข้ึน ในการ
พัฒนา อาจพฒั นาจากสงิ่ ทีม่ ีอยู่เดิม หรือสร้างสรรคส์ ่ิงใหมข่ นึ้ มาก็ได้
1.2 ความหมายของ “การพัฒนาตนเอง”

การพัฒนาตนเอง (Self Development) หมายถึง ความต้องการของบุคคลในการท่ีจะเพ่ิมพูนความรู้
ความสามารถของตนจากที่เป็นอยู่ ให้มีความรู้ ความสามารถเพิ่มข้ึน เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และหน่วยงาน
ในการพฒั นาตนเองสามารถทำได้ท้ังการพัฒนาทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคม และสตปิ ัญญา เพ่ือจะได้เปน็ สมาชิกท่ีมี
คุณภาพของสงั คม สามารถดำเนินชวี ติ อยใู่ นชุมทชนและสงั คมรว่ มกับผอู้ ื่นไดอ้ ย่างมีความสุข
1.3 ขน้ั ตอนการพัฒนาตนเอง

การพัฒนาตนเองเป็นการพัฒนาคุณสมบัติที่อยู่ในตัวบุคคล เป็นการจัดการตนเองให้มีเป้าหมายชีวิตท่ีดี ท้ังใน
ปจั จุบันและอนาคต การพัฒนาตนเอง จะทำให้บคุ คลสำนึกในคุณค่าความเปน็ คนไดม้ ากย่ิงข้ึน ปราณี รามสตู และจำรัส
ด้วงสวุ รรณ (2545 : 125-129) ไดก้ ลา่ วถึง หลักการพฒั นาตนเอง แบง่ ออกเปน็ 3 ขั้นตอน ดงั นี้

ข้ันที่ 1 การตระหนักรู้ถึงความจำเป็นในการปรับปรุงตนเอง เป็นความต้องการในการท่ีจะพัฒนาตนเอง เพ่ือให้
ชวี ิตประสบความสำเร็จ ความจำเป็นในการปรบั ปรงุ ตนเองมที ้ังดา้ นร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคม และสตปิ ัญญา

ข้ันท่ี 2 การวิเคราะห์ตนเอง โดยการสังเกตตนเอง ประเมินตนเอง และสังเกตพฤติกรรมของผู้อื่น รวมท้ัง
เปรียบเทียบบุคลกิ ภาพท่สี ังคมต้องการ

ขั้นท่ี 3 การวางแผนพฒั นาตนเองและการตงั้ เป้าหมาย
1.4 แนวทางการพฒั นาตนเอง

ในการพฒั นาตนเอง มแี นวทางการพฒั นาในแตล่ ะดา้ น ดังนี้
1.4.1 การพัฒนาด้านจิตใจ ควรพัฒนาสภาพของจิตที่มีความรู้สึกท่ีดีต่อตนเองและส่ิงแวดล้อมมองโลกในแง่ดี
เชงิ สรา้ งสรรค์
1.4.2 การพัฒนาด้านร่างกาย ควรพัฒนารูปร่างหน้าตา กิริยาท่าทางการแสดงออก น้ำเสียง การสื่อความหมาย
รวมไปถงึ สุขภาพอนามยั และการแตง่ กายเหมาะกับกาลเทศะ รูปร่างและผวิ พรรณ
1.4.3 การพัฒนาด้านวาจา อารมณ์และความเฉลียวฉลาดทางอารมณ์ ควรพัฒนาความสามารถในการควบคุม
ความรสู้ กึ นกึ คิดและการแสดงออก ควบคมุ อารมณท์ ่ีเป็นโทษต่อตนเองและผู้อ่ืน

18

1.4.4 การพัฒนาด้านสติปญั ญา ควรพัฒนาความรอบรู้ ความฉลาด ไหวพริบปฏิภาณ การวเิ คราะห์ การตัดสนิ ใจ
ความสามารถในการแสวงหาความรู้ และฝกึ ทกั ษะใหม่ ๆเรียนรวู้ ถิ ีทางการดำเนนิ ชวี ิตท่ดี ี

1.4.5 การพฒั นาด้านสงั คม ควรพฒั นาการปฏบิ ัตติ น ทา่ ทตี อ่ สิ่งแวดลอ้ มประพฤติตนตามบรรทัดฐานทางสงั คม
1.4.6 การพฒั นาด้านความรู้ ความสามารถ ควรพัฒนาความรู้ ความสามารถท่มี อี ยู่ให้กา้ วหนา้ ยง่ิ ขึ้น
1.4.7 การพัฒนาตนเองสู่ความต้องการของตลาดแรงงาน ควรพัฒนาความรู้ความสามารถ ทักษะ ความชำนาญ
ทางอาชพี ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน
1.5 วิธกี ารพัฒนาตนเอง
วิธีในการพัฒนาตนเองสามารถกระทำได้หลายวิธี ท้ังน้ีขึ้นอยู่กับความสนใจความถนัด ศักยภาพและความพร้อม
ของแต่ละบุคคล ส่ิงสำคัญคือต้องลงมือปฏิบัติเพื่อเพ่ิมพูนความรู้และประสบการณ์ของตนเองอยู่เสมอ ท้ังน้ีเพ่ือให้บรรลุ
วตั ถปุ ระสงคข์ องชวี ติ ตามท่กี ำหนดไว้ วธิ กี ารในการพัฒนาความรู้และประสบการณ์ มดี งั น้ี
1.5.1 การหาความรูเ้ พมิ่ เตมิ อาจใช้วธิ กี าร ดงั ตอ่ ไปนี้

1) การอา่ นหนงั สือเป็นประจำและอยา่ งต่อเนื่อง
2) การเข้ารว่ มประชุมหรอื เข้ารับการฝกึ อบรม
3) การสอนหนังสอื หรอื การบรรยายต่าง ๆ
4) การร่วมกิจกรรมตา่ ง ๆ ของชมุ ชนหรอื องค์การต่าง ๆ
5) การร่วมเปน็ ทป่ี รกึ ษาแก่บคุ คลหรอื หน่วยงาน
6) การศกึ ษาต่อหรอื เพิม่ เติมจากสถาบนั การศกึ ษาหรือมหาวิทยาลัยเปดิ
7) การพบปะเย่ยี มเยียนบุคคลหรอื หนว่ ยงานต่าง ๆ
8) การเปน็ ผแู้ ทนในการประชมุ ต่าง ๆ
9) การจัดทำโครงการพิเศษ
10) การปฏบิ ัตงิ านแทนหัวหนา้ งาน
11) การคน้ คว้าหรือวิจัย
12) การศึกษาดงู าน
1.5.2 การเพิม่ ความสามารถและประสบการณ์ อาจใชว้ ิธกี าร ดังต่อไปน้ี
1) การลงมอื ปฏบิ ัตจิ รงิ
2) การฝึกฝนโดยผู้ทรงคณุ วุฒหิ รือหวั หนา้ งาน
3) การอ่าน เอกสาร การฟังและการถามผู้ทรงคณุ วฒุ ิหรือหัวหนา้ งาน
4) การทำงานร่วมกบั บุคคลอ่นื
5) การค้นคว้าวจิ ัย
6) การหมุนเวยี นเปล่ยี นงานหรือหนา้ ทค่ี วามรับผิดชอบ

1.6 ประโยชนข์ องการพฒั นาตนเอง
บคุ คลทพี่ ัฒนาตนเองอยู่เสมอ จะได้รับประโยชน์ทั้งท่ีเกิดกับตนเองโดยตรงรวมถึงประโยชน์จากการเกี่ยวข้องกับ

บคุ คลอ่นื และสังคม ดงั นี้
1.6.1 ประโยชน์ทจ่ี ะเกิดขน้ึ กบั ตนเอง

19

1) ประสบความสำเร็จในการดำรงชีวติ
2) ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชพี การงาน
3) มสี ุขภาพอนามยั สมบรู ณ์
4) มีความเชอื่ มั่นในตนเอง
5) มีความสงบสุขทางจิตใจ
6) มคี วามเปน็ อยแู่ ละสภาพแวดลอ้ มทีด่ ี
1.6.2 ประโยชนจ์ ากการเก่ยี วข้องกับบคุ คลอ่นื และสังคม
1) ได้รบั ความเช่ือถอื และไว้วางใจจากเพ่ือนร่วมงานและบุคคลอ่นื
2) สามารถรว่ มมือและประสานงานกบั บคุ คลอืน่
3) มคี วามรับผิดชอบและความมานะอดทนในการปฏิบตั ิงาน
4) มคี วามคดิ ริเร่มิ สรา้ งสรรค์เพือ่ พัฒนางาน
5) มีความจรงิ ใจ ความเสียสละ และความซอื่ สัตยส์ จุ ริต
6) รกั และเคารพหมูค่ ณะ และการทำประโยชนเ์ พอื่ สว่ นรวม
7) ได้รบั การยกยอ่ ง และยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน

เร่ืองท่ี 2 การพฒั นาชมุ ชน
การพัฒนาชุมชน เป็นการนำคำสองคำมารวมกัน คอื คำวา่ “การพัฒนา” กบั คำว่า “ชมุ ชน” ซึ่งความหมายของ

คำวา่ “การพฒั นา” ไดก้ ลา่ วถงึ แลว้ ในเร่อื งของการพัฒนาตนเองในทน่ี ้ีจะกล่าวถึงความหมายของชมุ ชน
2.1 ความหมายของ “ชุมชน”

ชุมชน (Community) หมายถึง กลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในอาณาเขตเดียวกันมีความรู้สึกเป็นพวกเดียวกัน มีความ
ศรัทธา ความเช่ือ เช้ือชาติ การงาน มีความสนใจ และปฏิบัติตนในวิถีชีวิตประจำวันที่คล้ายคลึงกัน มีความเอื้ออาทรต่อ
กนั
2.2 ความหมายของ “การพัฒนาชมุ ชน”

การพัฒนาชุมชน (Community Development) หมายถึง การทำให้ชุมชนมคี วามเปลี่ยนแปลงไปในทางท่ีดีขึ้น
หรือเจริญขึ้น ท้ังในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ช่วยยกระดับให้คุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนดี
ขึ้น โดยที่ประชาชนในชุมชนร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการ วางแผน ลงมือดำเนินการ ติดตามผล ถอด
บทเรียนและร่วมรับประโยชน์ ทั้งนี้โดยใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่ในชุมชนให้มากที่สุด และขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลและ
องคก์ รต่าง ๆ สนบั สนนุ ในกรณเี ท่าทีจ่ ำเปน็

2.3 ปรัชญาขน้ั มลู ฐานของงานพัฒนาชุมชน
ในการพฒั นาชมุ ชน มีปรัชญาซง่ึ เป็นความเชื่อพ้นื ฐานทีส่ ำคัญของการดำเนินงาน สรุปได้ ดังน้ี
2.3.1 บุคคลแต่ละคนย่อมมีความสำคัญ และมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน จึงมีสิทธิอันพึงได้รับการ

ปฏิบัติดว้ ยความยุติธรรม และได้รับการปฏิบตั ิอยา่ งมีเกยี รติ โดยไม่เลอื กปฏบิ ัติ
2.3.2 บคุ คลแต่ละคนย่อมมีสทิ ธิ และสามารถท่จี ะกำหนดวิธกี ารดำรงชวี ติ ของตนไปในทศิ ทางทต่ี นต้องการ
2.3.3 บุคคลแต่ละคนถ้าหากมีโอกาสแล้ว ย่อมมีความสามารถท่ีจะเรียนรู้เปลี่ยนแปลงทัศนะ ประพฤติปฏิบัติ

และพัฒนาขีดความสามารถ ให้มีความรับผิดชอบตอ่ สงั คมสูงขึ้นได้

20

2.3.4 มนุษย์ทุกคนมีพลังในเรื่องความเป็นผู้นำ ความคิดริเริ่มและความคิดใหม่ ๆ ซึ่งซ่อนเร้นอยู่ ขณะเดียวกัน
พลงั ความสามารถเหล่าน้ีสามารถเจรญิ เติบโต และนำออกมาใช้ได้ ถ้าพลงั ทซ่ี อ่ นเรน้ เหลา่ นไ้ี ด้รบั การพฒั นา

2.3.5 การพัฒนาพลังและขีดความสามารถของชุมชนในทุกด้านเป็นส่ิงที่พึงปรารถนา และมีความสำคัญย่ิงต่อ
ชวี ิตของบคุ คล ชุมชน และรฐั
2.4 แนวคิดพน้ื ฐานของการพฒั นาชุมชน

แนวคิดพื้นฐานของการพัฒนาชุมชน มีความสำคัญต่อการพัฒนาชุมชนซึ่งสมาชิกของชุมชน ผู้นำชุมชน หรือ
นักพัฒนาจากภายนอกชุมชนควรนำมาใช้เป็นหลักในการกำหนดแนวทางการพัฒนาชุมชน แนวคดิ พืน้ ฐานของการพัฒนา
ชุมชน มดี ังน้ี

2.4.1 การมีส่วนร่วมของประชาชน (People’s Participation) เป็นหัวใจของการพัฒนาชุมชน โดยยึดหลักของ
การมีส่วนร่วมที่ว่า ประชาชนมีส่วนร่วมในการคิด ตัดสินใจวางแผนปฏิบัติการ บำรุงรักษา ติดตาม ประเมินผล และรับ
ประโยชน์

2.4.2 การพ่ึงตนเอง (Self-reliance) เป็นแนวทางในการพัฒนาท่ีสำคัญประการหน่ึง ที่ต้องพัฒนาให้ประชาชน
สามารถพ่ึงตนเองได้มากขึ้น โดยมีรัฐคอยให้การช่วยเหลือสนับสนุน ในส่วนที่เกินขีดความสามารถของประชาชน ตาม
โอกาสและหลักเกณฑท์ เ่ี หมาะสม

2.4.3 ความคิดริเริ่มของประชาชน (People’s Initiative) ในการทำงานกับประชาชนต้องยึดหลักการที่ว่า
ความคิดริเริ่มต้องมาจากประชาชน ซึ่งต้องใช้วิถีแห่งประชาธิปไตย และหาโอกาสกระตุ้นให้การศึกษา ให้ประชาชนเกิด
ความคดิ และแสดงออกซง่ึ ความคิดเหน็ อันเป็นประโยชนต์ อ่ ชมุ ชน หมู่บา้ น ตำบล ของตน

2.4.4 ความต้องการของชุมชน (Community Needs) ในการพัฒนาชุมชนต้องให้ประชาชน และองค์กร
ประชาชน คดิ และตดั สนิ ใจบนพนื้ ฐานความตอ้ งการทแ่ี ท้จรงิ ของชมุ ชน เพ่ือให้เกิดความคดิ ท่ีว่างานพฒั นาชมุ ชนเป็นของ
ประชาชน และจะชว่ ยกนั ดูแลรักษาตอ่ ไป

2.4.5 การศึกษาตลอดชีวิต (Life-long Education) การทำงานพัฒนาชุมชนถือเป็นกระบวนการให้การศึกษา
ตลอดชีวิตแก่ประชาชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคน การให้การศึกษาดังกล่าวต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปตราบเท่าท่ี
บคุ คลยังดำรงชีวิตอยูใ่ นชุมชน
2.5 หลกั การพัฒนาชุมชน
จากปรัชญา และแนวคิดพื้นฐานของการพัฒนาชุมชน ได้นำมาใช้เป็นหลักการพัฒนาชุมชน ซ่ึงนักพัฒนาต้องยึดเป็น
แนวทางปฏิบตั ิ ดงั น้ี

2.5.1 หลกั ความมศี ักดิ์ศรี และศกั ยภาพของประชาชน และเปดิ โอกาสให้ประชาชนใชศ้ ักยภาพท่ีมีอยู่ให้มากที่สุด
จึงต้องให้โอกาสประชาชนในการคิดวางแผนเพื่อแก้ปัญหาชุมชนด้วยตัวของเขาเอง นักพัฒนาควรเป็นผู้กระตุ้น แนะนำ
สง่ เสริม

2.5.2 หลักการพึ่งตนเองของประชาชน ต้องสนับสนุนให้ประชาชนพึ่งตนเองได้ โดยการสร้างพลังชุมชนเพื่อ
พัฒนาชุมชน ส่วนหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรภายนอกจะสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง และช่วยเหลือในส่วนท่ีเกิน
ความสามารถของประชาชนและชมุ ชน

2.5.3 หลักการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมคิด ตัดสินใจ วางแผน ปฏิบัติตาม
แผน และติดตามประเมินผลในกิจกรรม หรือโครงการใด ๆท่ีจะทำในชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้มีสว่ นร่วมอย่างแท้จริงใน
การดำเนินงาน อันเปน็ การปลกู ฝังจิตสำนกึ ในเรื่องความเปน็ เจ้าของโครงการและกจิ กรรมพัฒนา

21

2.5.4 หลักประชาธิปไตย ในการทำงานพัฒนาชุมชนจะต้องเริ่มด้วยการพูดคุยประชุมหารือร่วมกันคิด ร่วมกัน
ตัดสินใจ และทำร่วมกัน รวมถึงรับผิดชอบร่วมกันภายใต้วาคมช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน ตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย
นอกจากหลกั การพฒั นาชุมชนที่กล่าวมาแลว้ องค์การสหประชาชาติ ยังได้กำหนดหลักการดำเนินงานพัฒนาชุมชนไว้ 10
ประการ ดังน้ี

1. ตอ้ งสอดคลอ้ งกับความตอ้ งการที่แทจ้ ริงของประชาชน
2. ต้องเปน็ โครงการเอนกประสงคท์ ่ีช่วยแกป้ ัญหาได้หลายดา้ น
3. ตอ้ งเปลี่ยนแปลงทัศนคตไิ ปพรอ้ ม ๆ กับการดำเนนิ งาน
4. ตอ้ งใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมอยา่ งเต็มที่
5. ต้องแสวงหาและพฒั นาใหเ้ กดิ ผู้นำในท้องถนิ่
6. ตอ้ งยอมรับใหโ้ อกาสสตรี และเยาวชนมีส่วนรว่ มในโครงการ
7. รัฐตอ้ งเตรยี มจัดบรกิ ารให้การสนับสนนุ
8. ตอ้ งวางแผนอย่างเปน็ ระบบ และมีประสทิ ธภิ าพทกุ ระดับ
9. สนับสนนุ ให้องคก์ รเอกชน อาสาสมคั รต่าง ๆ เขา้ มามสี ว่ นรว่ ม
10. ต้องมกี ารวางแผนให้เกิดความเจรญิ แก่ชุมชนทีส่ อดคลอ้ งกับความเจริญในระดับชาติ

เร่ืองท่ี 3 การพัฒนาสงั คม
3.1 ความหมายของการพฒั นาสงั คม

การพัฒนาสังคม (Social Development) หมายถึง กระบวนการเปล่ียนแปลงที่ดีทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม
การเมือง การปกครอง และวัฒนธรรม เพ่ือให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยทู่ ่ีดีขึน้ ท้ังด้านที่อย่อู าศัย อาหาร เคร่ืองนงุ่ ห่ม
สุขภาพอนามัยการศึกษา การมงี านทำ มรี ายไดเ้ พียงพอตอ่ การครองชีพ ประชาชนได้รับความเสมอภาค ความยุตธิ รรม มี
คณุ ภาพชีวติ ทด่ี ี ท้งั น้ี ประชาชนตอ้ งมสี ่วนรว่ มในกระบวนการเปลยี่ นแปลงในทุกขน้ั ตอน อย่างมีระบบ
3.2 ความสำคัญของการพัฒนาสังคม

เม่ือบุคคลมาอยู่รวมกันเป็นสังคม ปัญหาต่าง ๆ มักจะเกิดตามมาเสมอยิ่งสังคม มีขนาดใหญ่ ปัญหาก็ย่ิงจะมีมาก
และมีความสลับซับซ้อนเป็นเงาตามตัว ปัญหาหนึ่งอาจจะกลายเป็นสาเหตุของอีกหลายปัญหาหน่ึง เกี่ยวโยงกนั เป็นลกู โซ่
ถ้าปล่อยไว้ก็จะเพ่ิมความรุนแรง เพิ่มความสลับซับซ้อน และขยายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ ยากต่อการแก้ไขประชาชนใน
สงั คมนัน้ ก็จะไมม่ ี ความสงบสขุ ดงั นนั้ ความสำคญั ของการพฒั นาสงั คม อาจกล่าว
เป็นข้อ ๆ ได้ ดงั น้ี

3.2.1 ทำใหป้ ญั หาของสงั คมลดน้อยลง และหมดไปในทสี่ ุด
3.2.2 ป้องกนั ไมใ่ ห้ปัญหาน้ันหรอื ปัญหาในลกั ษณะเดยี วกันเกิดขึน้ อีก
3.2.3 ทำให้สงั คมเกิดความเจริญก้าวหนา้
3.2.4 ทำให้ประชาชนในสังคมสมานสามัคคแี ละอยรู่ ่วมกันอย่างมคี วามสุข ตามฐานะของแต่ละบุคคล
3.2.5 ทำใหส้ งั คมเกิดความเปน็ ปึกแผน่ มีความม่ันคง
3.3 แนวคิดในการพัฒนาสังคม

22

การพัฒนาสังคมมีขอบเขตกว้างขวาง เพราะปัญหาของสังคมมีมาก และสลับซับซ้อน การแก้ปัญหาสังคมจึงต้อง
ทำอย่างรอบคอบ และต้องอาศัยความร่วมมือกันของบุคคลจากหลาย ๆ ฝ่าย และโดยเฉพาะอย่างย่ิงประชาชนในสั งคม
นั้น ๆ จะต้องรับรู้ พร้อมที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา การพัฒนาสังคมจึงเป็นทั้ง
กระบวนการวธิ ีการ กรรมวธิ เี ปลี่ยนแปลง และแผนการดำเนนิ งาน ซึ่งมรี ายละเอียด ดังน้ี

3.3.1 กระบวนการ (Process) การพัฒนาสังคมต้องกระทำต่อเนื่องกันอย่างมีระบบเพ่ือให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
จากลักษณะหน่ึงไปส่อู ีกลกั ษณะหนึ่ง ซง่ึ ตอ้ งเป็นลักษณะทีด่ กี วา่ เดิม

3.3.2 วิธีการ (Method) การพัฒนาสังคมต้องกำหนดวิธีการในการดำเนินงานโดยเน้นความร่วมมือของ
ประชาชนในสังคมนั้นกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลท่ีจะทำงานร่วมกันวิธีการดังกล่าวนี้ต้องเป็นท่ียอมรับร่วมกันว่าสามารถนำ
การเปลย่ี นแปลงมาส่สู ังคมไดอ้ ย่างถาวร
และมปี ระโยชนต์ ่อสงั คม

3.3.3 กรรมวิธีเปล่ียนแปลง (Movement) การพัฒนาสังคมต้องทำให้เกิดการเปล่ียนแปลง ให้ได้ และจะต้อง
เปลยี่ นแปลงไปในทางท่ีดขี นึ้ โดยเฉพาะอย่างย่งิ คอื การเปล่ยี นแปลงทศั นคติ เพื่อให้คนในสังคมเกิดสำนกึ ในการมีสว่ นร่วม
รับผดิ ชอบต่อผลประโยชนข์ องส่วนรวม และรกั ความเจริญกา้ วหน้าอันจะนำไปสกู่ ารเปลย่ี นแปลงทางวตั ถตุ ่อไป

3.3.4 แผนการดำเนินงาน (Plan) การพัฒนาสังคมต้องทำอย่างมีแผน มีขั้นตอนสามารถตรวจสอบ และ
ประเมินผลได้ แผนงานน้ีจะต้องมีทุกระดับ นับต้ังแต่แผนระดับชาติหรือแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ลงมา
จนถึงแผนพฒั นาระดับผปู้ ฏิบตั ใิ นระดบั พน้ื ที่
3.4 การพัฒนาสงั คมไทย

การพัฒนาสังคมไทย สามารถกระทำท้ังการพัฒนาสังคมในเมืองและการพัฒนาสังคมชนบทควบคู่กันไป แต่
เนื่องจากสังคมชนบทเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนสว่ นใหญ่ของประเทศ ดังน้ัน การพัฒนาจึงทมุ่ เทไปท่ีชนบทมากกว่าใน
เมือง การพัฒนาสังคมสามารถดำเนินการพัฒนาหลาย ๆ ด้าน ไปพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะด้านท่ีส่งผลต่อการพัฒนาด้าน
อน่ื ๆได้แก่ การศึกษา และการสาธารณสุข

การพัฒนาด้านการศึกษา การศึกษาเปน็ ปัจจัยสำคัญที่สุดในการวดั ความเจริญของสังคม สำหรบั ประเทศไทย การพัฒนา
ด้านการศึกษายังไม่เจริญก้าวหน้าอย่างเต็มท่ี โดยเฉพาะอย่างย่ิงสังคม ในชนบทของไทยยังมีประชาชนท่ีไม่รู้หนังสือและ
ไมจ่ บการศกึ ษาภาคบงั คับอยคู่ อ่ นขา้ งมาก

ความสำคญั ของการศึกษาที่มีต่อบุคคลและสังคม
การศึกษาก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ทำให้คนมีความรู้ ความเข้าใจในวิทยาการใหม่ ๆ กระตุ้นให้

เกิดความคิดสร้างสรรค์ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ตลอดท้ังมีเหตุผลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ การพัฒนาด้านการศึกษา ก็คือ
การพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพของบุคคล และเม่ือบุคคลซึ่งเป็นสมาชิกของสังคมมีคุณภาพแล้ว ก็จะทำให้สังคมมี
การพัฒนาตามไปด้วย สถาบัน ท่ีสำคัญในการพัฒนาการศึกษา ได้แก่ บ้าน วัด โรงเรียน หน่วยงานอื่น ๆ ท้ังของรัฐและ
เอกชน

การพัฒนาด้านสาธารณสุข การสาธารณสุข เป็นการป้องกันและรักษาโรค ทำนุบำรุงให้ประชาชนมีสุขภาพและ
พลานามัยท่ีดี มีความสมบูรณ์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ สังคมจะเจรญิ รุ่งเรืองก้าวหน้าได้ จำเป็นต้องมีพลเมอื งที่มีสุขภาพ

23

อนามัยดี ดังน้ัน ในการพัฒนาประเทศจึงจำเป็นต้องจัดให้มีการพัฒนาด้านสาธารณสุข เพราะการพัฒนาด้านน้ีมี
ความสำคญั ทั้งตอ่ ตัวบุคคลและสงั คม

การบริหารงานของทุกรัฐบาล มีเป้าหมายมุ่งไปท่ีการสร้างความกินดีอยู่ดี มีคุณภาพชีวิตท่ีดีให้แก่ประชาชน
เพ่ือให้คนมีความสุข มีรายได้ม่ันคง มีสุขภาพดี ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง และสังคมอยู่เย็นเป็นสุข มีความ
สมานฉันท์ และเอ้ืออาทรต่อกัน ในด้านการพัฒนาทางสังคมน้ัน อาจกล่าวได้ว่า มีความมุ่งหมายเพ่ือให้คนมีความเจริญ
มั่นคงใน 10 ด้าน ดงั นี้

1. ด้านการมีงานทำและรายได้
2. ดา้ นครอบครัว
3. ด้านสขุ ภาพอนามยั
4. ด้านการศึกษา
5. ด้านความปลอดภัยในชวี ติ และทรัพย์สนิ (ส่วนบุคคล)
6. ด้านทอ่ี ยอู่ าศัยและส่ิงแวดลอ้ ม
7. ด้านสิทธิและความเปน็ ธรรม
8. ดา้ นสังคม วฒั นธรรม
9. ด้านการสนับสนนุ ทางสงั คม
10. ดา้ นการเมอื ง ธรรมาภิบาล และความม่ันคงของสังคม

ใบงานคร้ังที่ 4
รายวิชา การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม

ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย

1. จงอธบิ ายความหมายของคำว่า “การพฒั นาตนเอง”
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………….…………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

24

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………

2. การพัฒนาชุมชน / สงั คม ควรพจิ ารณาถึงส่ิงใดบา้ ง
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………….…………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………

3. จงหาความหมายและความสำคัญของข้อมูลต่อไปน้ี
3.1 ข้อมลู ด้านภมู ิศาสตร์
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
3.2 ข้อมูลด้านเศรษฐศาสตร์
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………

4. การพฒั นาสังคม มีความสำคัญอย่างไร จงอธบิ าย .
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………….…………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………

ชื่อ...................................................................รหสั นกั ศกึ ษา...................................ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย

25

เฉลยใบงานครงั้ ท่ี 4
รายวชิ า การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม

ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย

1. จงอธบิ ายความหมายของคำว่า “การพัฒนาตนเอง”
ตอบ การพัฒนาตนเอง การเปล่ียนแปลงตัวเองใหเ้ หมาะสมเพื่อตอบสนองความตอ้ งการและเปา้ หมาย ของ

ตนเอง หรอื เพ่ือให้สอดคล้องกับสง่ิ ทสี่ ังคมคาดหวงั

2. การพัฒนาชมุ ชน / สังคม ควรพิจารณาถึงสิ่งใดบ้าง
ตอบ 1. พจิ ารณาถงึ บริบทของชุมชนเป็นหลกั ในการเริ่มงาน
2. การดงึ ประชากรเข้ามาเกย่ี วข้องหรอื มสี ่วนรว่ ม
3. การทำงานต้องค่อยเปน็ คอ่ ยไป
4.การใหค้ วามสำคญั กบั คนในชุมชนเปน็ หลกั
5. การใชว้ ิธีดำเนนิ งานแบบประชาธิปไตย

3. จงหาความหมายและความสำคัญของข้อมูล และยกตัวออย่าง ตอ่ ไปน้ี
1. ขอ้ มูลดา้ นภูมิศาสตร์
ตอบ ภูมิศาสตร์ หมายถึง วิชาท่ีศึกษาถึงความสัมพนั ธร์ ะหว่างโลกกบั มนุษย์ ภมู ิศาสตร์มีขอบขา่ ยครอบคลุม

ถงึ สิ่งตา่ งๆท่มี นษุ ย์เขา้ มามีบทบาทเกี่ยวข้องอยา่ งกวา้ งขวางและทุกมิติในลักษณะท่ีเก่ยี วขอ้ งสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกนั เหตุน้ี
ภมู ศิ าสตรจ์ งึ มีสาขาๆขยายออกไปมากท้ังในเชิงวทิ ยาสาสตร์ และสังคมศาสตร์

2. ขอ้ มูลด้านเศรษฐศาสตร์
ตอบ ในสมยั โบราณ ประชากรยงั มจี ำนวนนอ้ ย ทุกคนดำรงชีวิตอย่างผกู พนั ธรรมชาติอยู่ดว้ ยกนั ลา่ สัตว์ เกบ็
พืชผลทมี่ ีขน้ึ เองตามธรรมชาติเป็นอาหารนำวสั ดทุ ี่ได้จากธรรมชาติมาเปน็ เครื่องนุงห่มทำทีอ่ ยู่อาศยั ใช้พืชสมนุ ไพรเปน็ ยา
บำบดั รกั ษาโรค จนเม่ือประชาชนเพิม่ จำนวนมากขึน้ มนษุ ยจ์ ึงตอ้ งปรับตัว โดยพยายามคิดคน้ วธิ กี ารทำมาหากิน รู้จดั การ
ถนอมอาหารไวก้ นิ นานๆรจู กั สรา้ งสรรค์ ประดษิ ฐ์เคร่ืองมือ เคร่อื งใชไ้ วใ้ นชวี ติ ประจำวัน ตลอดจนรจู้ ักวธิ กี าร

4.การพฒั นาสังคม มีความสำคญั คือ
ตอบ 1. ทำให้ปัญหาของสังคมลดน้อยลง และหมดไปในที่สุด
2. ป้องกันไมใ่ ห้ปัญหานั้นหรอื ปญั หาในลักษณะเดยี วกันเกิดขึ้นอกี
3. ทำให้สังคมเกดิ ความเจรญิ ก้าวหน้า
4. ทำให้ประชาชนในสังคมสมานสามัคคแี ละอยรู่ ่วมกนั อย่างมคี วามสขุ ตามฐานะของแตล่ ะบุคคล
. 5. ทำใหส้ ังคมเกิดความเป็นปึกแผ่น มคี วามม่ันคง

26

แบบทดสอบกอ่ นเรียน (Pre-test) ครง้ั ที่ 4
รายวชิ า การพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม รหัสวิชา สค31003

ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย

คำชีแ้ จง จงเลอื กคำตอบทีถ่ ูกตอ้ งที่สุดเพยี งขอ้ เดียว
1. ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด

ก. ชุมชน คอื สถานที่อยู่อาศยั ของชาวบา้ น
ข. ชมุ ชน คอื ชุมชนทมี่ ีความเอ้ืออาทรต่อกัน
ค. ชมุ ชน คอื การท่ีคนอย่รู ่วมกนั มวี ตั ถปุ ระสงค์รว่ มกัน
ง. ถูกทุกข้อ

2. ข้อใดยกตวั อยา่ งประโยชน์ทไ่ี ด้รับจากการพฒั นาตนเอง ตอ่ สังคม ชุมชน
ก. รู้จักเหตุผล
ข. เสมอต้นเสมอปลาย
ค. ไม่กลัวความยากลำบาก
ง. สร้างความรักใคร่ สามัคคีแก่ชมุ ชน

3. ขอ้ ใดคือความหมายของการทำประชาพิจารณ์
ก. การจดั ทำแผน
ข. การสำรวจตนเอง
ค. การประเมนิ ผลงาน
ง.การสรปุ หรือจดั ขึ้นเพ่ือเกบ็ รวบรวมข้อมลู จากกระบวนการมสี ว่ นร่วมของประชาชน

4. ข้อใดไมใ่ ชล่ ักษณะของการวางแผนที่ดี
ก. ไมเ่ ปน็ ทางการ
ข. มคี วามชัดเจน

27

ค. มีความคลอ่ งตัว
ง. มคี วามคลอบคลุม

5. ใครมีส่วนสำคัญต่อการมสี ่วนรว่ มในการวางแผนพัฒนามากทีส่ ุด
ก. รฐั บาล
ข. พระสงฆ์
ค. ผใู้ หญบ่ า้ น
ง. ประชาชนทุกคน

6. ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของการจดั ทำแผน
ก. การแก้ปัญหาชุมชน
ข. การแสดงประสิทธิภาพของผู้นำ
ค. ทำใหเ้ กิดวธิ กี ารดำเนนิ งานที่ถกู ต้อง
ง. กำหนดทิศทางหรอื แนวทางการพฒั นาให้เป็นรปู ธรรม

7. ขอ้ ใดหมายถึงการออกเสยี งประชามติ
ก. การออกเสียงเลือกต้ัง ส.ส.
ข. การออกเสยี งเลอื กตั้งนายก อบต.
ค. การแสดงความเห็นตอ่ การรา่ งรฐั ธรรมนญู
ง. ถูกทุกข้อ

8. ข้อใดคือความหมายของการพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม
ก. ไมม่ ีมนษุ ย์คนใดทดี่ ีพร้อมทุกอย่างจนไม่ต้องพัฒนาตนเองอีก
ข. มนุษยท์ ุกคนมีค่าในตนเอง สามารถพัฒนาตนเองได้แทบทกุ เร่ือง
ค. มนุษย์สามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลาเม่ือพบข้อบกพรอ่ งของตน
ง. เปน็ การปรับปรงุ เปลี่ยนแปลงตนเองใหด้ ขี ้ึนกวา่ เดิมโดยต้องคดิ ให้รอบดา้ นว่าเดิมตัวตนของเราเปน็

อยา่ งไร

9. ขอ้ ใดอธบิ ายความสำคญั ของการพฒั นาตนเองชุมชนสังคมได้ถกู ตอ้ งท่สี ดุ
ก. พร้อมรบั สถานการณ์ทีเ่ กิดข้ึน
ข. การนำไปสู่การหาแนวทางแก้ไขขอ้ บกพร่องของตนเองต่อไป
ค. การเลือกวิธีการแก้ไขใหเ้ หมาะสมกับตนเองพร้อมทั้งกำหนดขนั้ ตอนการดำเนินการ
ง. ดำเนนิ ชวี ิตตามท่ีต้องการและคาดหวังไดส้ ามารถพฒั นาตนเองได้ทันกับสังคมทเี่ ปลีย่ นไป

10. ความสำคัญในการพัฒนาตนเองคือข้อใด

28

ก. พรอ้ มรบั สถานการณ์ทเ่ี กดิ ขึ้น
ข. มีความเอ้ือเฟ้ือเผ่อื แผ่รูจ้ กั การให้
ค. มีความซ่อื สัตย์ตอ่ ตนเองและผู้อื่นท้ังต่อหนา้ และหลบั หลัง
ง. มนษุ ย์ทุกคนมคี ุณคา่ ในตนเองสามารถพัฒนาตนเองแทบทกุ เรื่อง

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre-test) ครงั้ ที่ 4
รายวชิ า การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม รหัสวิชา สค31003

ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย

1. ง
2. ง
3. ง
4. ก
5. ง
6. ข
7. ข
8. ง
9. ง
10. ก

29

แบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) ครง้ั ท่ี 4
รายวิชา การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม รหัสวชิ า สค31003

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

คำชแี้ จง จงเลอื กคำตอบที่ถูกตอ้ งที่สดุ เพยี งขอ้ เดียว
1. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้องที่สุด

ก. ชมุ ชน คือ สถานที่อยู่อาศัยของชาวบา้ น
ข. ชุมชน คือ ชมุ ชนที่มีความเอ้อื อาทรต่อกัน
ค. ชมุ ชน คือ การทคี่ นอยู่รว่ มกนั มีวัตถปุ ระสงค์รว่ มกนั
ง. ถูกทุกข้อ

30

2. ขอ้ ใดยกตัวอยา่ งประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากการพัฒนาตนเอง ตอ่ สงั คม ชุมชน
ก. รจู้ ักเหตผุ ล
ข. เสมอต้นเสมอปลาย
ค. ไม่กลวั ความยากลำบาก
ง. สรา้ งความรักใคร่ สามัคคีแกช่ ุมชน

3. ข้อใดคือความหมายของการทำประชาพิจารณ์
ก. การจัดทำแผน
ข. การสำรวจตนเอง
ค. การประเมนิ ผลงาน
ง.การสรปุ หรือจัดขึ้นเพื่อเกบ็ รวบรวมข้อมลู จากกระบวนการมสี ว่ นร่วมของประชาชน

4. ขอ้ ใดไม่ใชล่ ักษณะของการวางแผนที่ดี
ก. ไม่เปน็ ทางการ
ข. มคี วามชัดเจน
ค. มคี วามคลอ่ งตัว
ง. มีความคลอบคลุม

5. ใครมสี ว่ นสำคัญต่อการมสี ่วนรว่ มในการวางแผนพฒั นามากทส่ี ุด
ก. รฐั บาล
ข. พระสงฆ์
ค. ผูใ้ หญบ่ า้ น
ง. ประชาชนทุกคน

6. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ความสำคัญของการจัดทำแผน
ก. การแก้ปัญหาชมุ ชน
ข. การแสดงประสทิ ธภิ าพของผนู้ ำ
ค. ทำให้เกดิ วธิ กี ารดำเนนิ งานท่ีถูกต้อง
ง. กำหนดทิศทางหรอื แนวทางการพฒั นาให้เป็นรปู ธรรม

7. ขอ้ ใดหมายถึงการออกเสยี งประชามติ
ก. การออกเสียงเลอื กตั้ง ส.ส.

31

ข. การออกเสยี งเลือกต้ังนายก อบต.
ค. การแสดงความเห็นตอ่ การร่างรฐั ธรรมนูญ
ง. ถูกทุกข้อ

8. ขอ้ ใดคือความหมายของการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม
ก. ไม่มีมนุษย์คนใดทด่ี ีพร้อมทุกอย่างจนไม่ต้องพฒั นาตนเองอีก
ข. มนุษย์ทุกคนมีค่าในตนเอง สามารถพัฒนาตนเองไดแ้ ทบทกุ เรื่อง
ค. มนษุ ยส์ ามารถพฒั นาตนเองได้อยา่ งต่อเน่ืองตลอดเวลาเมื่อพบข้อบกพร่องของตน
ง. เป็นการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตนเองใหด้ ีข้นึ กว่าเดิมโดยต้องคิดใหร้ อบดา้ นวา่ เดิมตัวตนของเราเปน็ อยา่ งไร

9. ข้อใดอธบิ ายความสำคญั ของการพฒั นาตนเองชมุ ชนสังคมได้ถกู ต้องทส่ี ุด
ก. พรอ้ มรับสถานการณ์ทเ่ี กดิ ข้นึ
ข. การนำไปสู่การหาแนวทางแก้ไขขอ้ บกพร่องของตนเองต่อไป
ค. การเลือกวิธกี ารแก้ไขให้เหมาะสมกับตนเองพร้อมทง้ั กำหนดข้ันตอนการดำเนนิ การ
ง. ดำเนนิ ชวี ติ ตามที่ต้องการและคาดหวงั ไดส้ ามารถพฒั นาตนเองได้ทันกับสงั คมท่ีเปล่ียนไป

10. ความสำคญั ในการพัฒนาตนเองคือข้อใด
ก. พร้อมรบั สถานการณ์ท่ีเกดิ ขนึ้
ข. มคี วามเอ้ือเฟ้ือเผือ่ แผร่ จู้ ักการให้
ค. มีความซ่ือสัตย์ตอ่ ตนเองและผู้อน่ื ท้งั ต่อหน้าและหลับหลัง
ง. มนุษย์ทุกคนมีคุณค่าในตนเองสามารถพัฒนาตนเองแทบทุกเรื่อง

32

เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) ครง้ั ท่ี 4
รายวิชา การพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม รหัสวชิ า สค31003

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย

1. ง
2. ง
3. ง
4. ก
5. ง
6. ข
7. ข
8. ง
9. ง
10. ก

33

แผนการจดั การเรียนรรู้ ายสปั ดาห์ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ครง้ั ที่ 5
รายวชิ า การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม รหสั วิชา สค31003

เวลาเรียน 20 ชว่ั โมง
(พบกลุม่ 6 ช่วั โมง การเรยี นร้ดู ้วยตนเอง 14 ชัว่ โมง)

วนั ท่ี …..….. เดอื น ……………………พ.ศ. 2564

มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ
มีความรู ความเขาใจ หลักการพัฒนา ชุมชน สังคม สามารถวิเคราะห์ข้อมูล และเป็นผู้นำผู้ตาม ในการพัฒนาตนเอง

ครอบครวั ชุมชน สังคม.ใหสอดคลองกบั สภาพการเปลยี่ นแปลงของเหตกุ ารณปจจุบัน
ตวั ช้วี ดั

1. การมสี ่วนร่วมในการวางแผนพฒั นาตนเอง
1. วเิ คราะหแ์ ละนำเสนอข้อมูลตนเอง ครอบครัว ชุมชน/สังคม ด้วยเทคนิคและวิธีการทหี่ ลากหลาย

2 การเผยแพรส่ ู่การปฏบิ ตั ิ
1. เปน็ ผู้นำและผตู้ ามในการจดั ทำประชาคม ประชาพิจารณข์ องชุมชน

3. บทบาทหนา้ ท่ผี ู้นำ/สมาชิกทด่ี ขี องชุมชน สังคม
1. กำหนดแนวทางในการดำเนินการเพ่ือนำไปสกู่ ารทำแผนชวี ิตครอบครัว ชุมชน สังคม

เน้ือหา
1. การมสี ่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาตนเอง
1. การมีสว่ นร่วมในการวางแผนพฒั นาตนเอง
2 การเผยแพรส่ ่กู ารปฏบิ ตั ิ
1. การเขียนรายงาน

34

2. การเขียนโครงงาน
3. บทบาทหนา้ ทีผ่ ูน้ ำ/สมาชิกท่ีดีของชุมชน สังคม

1.บทบาทหนา้ ท่ผี ้นู ำ/สมาชกิ ทด่ี ขี องชุมชน สงั คม

วิธีการเรียน : แบบพบกลมุ่ (ON-Site)

กระบวนการจัดการเรียนรู้
1. ข้ันนำเข้าส่บู ทเรยี น ( 30 นาที )
การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O : Orientation)

1.1 ครูทกั ทายนักศกึ ษา และนำเขา้ สู่บทเรียนโดยแจ้งข่าวสารเหตุการณป์ จั จบุ ัน ใหน้ กั ศกึ ษาทราบ
พร้อมทั้งแลกเรียนเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ร่วมกันวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นร่วมกันในช้ันเรียน
และทบทวนบทเรียนจากครั้งที่แล้ว เรื่อง การพัฒนาตนเอง เพื่อดึงความรู้และประสบการณ์เดิมของนักศึกษา เน้นการมีส่วน
รว่ ม มีการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ สะท้อนความคิด และอภิปราย โดยใหเ้ ช่ือมโยงกับความรู้ใหม่

1.2 ครนู ำเข้าสู่บทเรียนโดยครเู ปดิ วดี ที ศั น์ เรื่อง การมสี ว่ นร่วมในการวางแผนพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม จาก ลงิ ค์
https://www.youtube.com/watch?v=MI8oEEs2dyk ใหน้ กั ศกึ ษารบั ชมเพื่อใหน้ ักศึกษามีความรู้ ความเขา้ ใจ พร้อมท้ัง
ยกตวั อยา่ งความสำคญั การมีสว่ นรว่ มในการวางแผนพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม ให้นักศึกษาทราบ เพ่ือเชือ่ มโยงสูบ่ ทเรยี น
ต่อไป

1.3 ครแู ละนกั ศึกษาสรปุ สง่ิ ท่ีไดอ้ ภิปรายร่วมกัน และนักศึกษาบันทึกลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน.

35

2. ขัน้ จดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ( 4 ชวั่ โมง )
การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning)

2.1 ครอู ธิบายเนื้อหาจากหนงั สอื เรยี นรายวชิ าการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม ในหัวข้อเร่อื งต่อไปน้ี การมสี ่วนร่วมใน
การวางแผนพัฒนาตนเอง , การเผยแพร่สู่การปฏบิ ัติและบทบาทหนา้ ที่ผู้นำ/สมาชกิ ท่ดี ีของชุมชน สังคม พร้อมใหน้ กั ศึกษาจด
บันทกึ รายละเอียดลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.

2.2 ครใู ห้นักศึกษาแบ่งกลุ่มออกเปน็ 3 กลมุ่ ๆละเท่าๆกัน เพือ่ ศกึ ษาข้อมลู เก่ียวกับ เรอ่ื ง การมสี ่วนร่วมในการวางแผน
พฒั นาตนเอง , การเผยแพรส่ ู่การปฏิบัติและบทบาทหนา้ ท่ีผ้นู ำ/สมาชกิ ทด่ี ขี องชุมชน สงั คม

2.3 ครใู หน้ ักศึกษา ทำกิจกรรมสรปุ ความรู้เป็นแผนผงั ความคิด ลงในกระดาษบรู๊ฟ ในหัวขอ้ ดงั นี้
กลมุ่ ท่ี 1 การมีส่วนร่วมในการวางแผนพฒั นาตนเอง

- การมีสว่ นร่วมในการวางแผนพัฒนาตนเอง
กลมุ่ ที่ 2 การเผยแพรส่ กู่ ารปฏิบัติ

- การเขยี นรายงาน
- การเขยี นโครงงาน
กลุ่มที่ 3 บทบาทหน้าทผ่ี นู้ ำ/สมาชกิ ทด่ี ีของชมุ ชน สงั คม
- บทบาทหนา้ ทีผ่ ู้นำ/สมาชิกท่ีดีของชมุ ชน สังคม
2.4 ครูใหแ้ ตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนมาออกมานำเสนอหนา้ ห้องเรียน และครเู ปน็ ผตู้ รวจสอบความ
ถูกต้อง ให้ความรู้เพิม่ เติมและขอ้ เสนอแนะ โดยให้นักศึกษาจดบนั ทึกส่ิงท่ีไดจ้ ากการฟัง และสรุปลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้
กศน.
2.5 ครสู อนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเรอ่ื ง ความสะอาด ความสภุ าพ ความขยนั
ความประหยัด ความซอื่ สัตย์สุจริต ความสามคั คี ความมีน้าใจ ความมวี ินัย ศาสน์ กษัตริย์ รกั ความเปน็ ไทย และยดึ มั่นในวิถี
ชวี ิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุข

3. ขน้ั สรุปและประเมนิ ผล (1 ช่ัวโมง)
ขั้นประเมนิ ผล (E : Evaluation)

3.1 ครูใหน้ ักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน เร่อื ง การมสี ่วนร่วมในการวางการพัฒนาตนเอง แบบปรนยั จำนวน 10
ขอ้ จากชุด แบบทดสอบ หรือจาก Google From พร้อมเฉลยและประเมินผล ใหน้ กั ศกึ ษาบันทึกคะแนนลงในแบบบนั ทกึ การ
เรยี นรู้ กศน.

36

3.2 ครูใหน้ กั ศึกษาทำแบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) แบบปรนัย วิชา การมีส่วนรว่ มในการวางการพัฒนา
ตนเอง จำนวน 10 ข้อ ผา่ นทาง Google Form พรอ้ มเฉลยและประเมินผล ใหน้ ักศึกษาบนั ทึกคะแนนลงในแบบบนั ทึกการ
เรยี นรู้ กศน.

3.3 ครใู หน้ กั ศึกษาสรปุ การทำความดีและคุณธรรมทไี่ ด้ปฏิบัติ พรอ้ มบนั ทึกลงในสมดุ บันทกึ ความดี
เพอื่ การประเมนิ คุณธรรม

4. ขั้นมอบหมายงาน
การปฏบิ ตั ิและนำไปประยกุ ต์ (I : Implementation)

4.1 ครมู อบหมายใหน้ กั ศึกษาไปอา่ นทบทวนเนื้อหาเพ่ิมเตมิ จากหนงั สือเรยี น เร่ือง การมีส่วนร่วมในการวางแผน
พัฒนาตนเอง , การเผยแพรส่ ู่การปฏบิ ตั ิและบทบาทหนา้ ท่ีผนู้ ำ/สมาชกิ ท่ดี ขี องชุมชน สังคม จากหนังสือเรยี นออนไลน์รายวิชา
การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม จากลิงค์ http://203.159.251.144/pattana/download และสรปุ ลงในแบบบนั ทกึ การ
เรยี นรู้ กศน.

4.2 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาค้นควา้ เน้อื หาจากหนังสอื เรยี นออนไลน์ รายวิชาการพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม
ลิงค์ http://203.159.251.144/pattana/download และศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ท่ี 5 เร่ือง การมีส่วนร่วมในการพัฒนา
ตนเอง และทำใบงานที่ 5 (โดยครูจะส่งใบงานทาง Google classroom) และให้นักศึกษาส่งงานทาง LINE ตามวันเวลาที่ครู
กำหนด

5. ขน้ั ติดตามผล (30 นาที)
5.1 ครูติดตามงานท่ไี ด้มอบหมายนกั ศึกษา เพ่ือตดิ ตามความคืบหนาทางแอปพลเิ คชนั Line ดงั นี้
5.1.1 ตดิ ตามงานท่ีได้รับมอบหมายสปั ดาหท์ ่ผี า่ นมา
5.1.2 ติดตามการทำกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชวี ิต (กพช.)
5.1.3 ติดตามสอบถามสขุ ภาพของนกั ศึกษา (การฉดี วัคซีน/การตรวจสขุ ภาพ/ความสะอาด/การแต่งกาย)
5.1.4 ติดตามสอบถามการทำความดีในแตล่ ะวัน สัปดาหท์ ่ีผา่ นมาและติดตามการบันทึก

กิจกรรมท่ีทำความดีลงในสมุดบันทึกบนั ทึกความดเี พ่ือการประเมินคุณธรรม
5.1.5 ติดตามสอบถามเกี่ยวกับงานอดิเรก สุนทรียภาพ การเลน่ กีฬา การใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็น

ประโยชน์ ฯลฯ
5.1.6 ติดตามความกา้ วหน้าการทำโครงงาน

สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นวชิ า สค31003 การพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม หรอื หนังสือเรยี นออนไลน์ ลงิ ค์

http://203.159.251.144/pattana/download
2. ค่มู อื นกั ศกึ ษา
3. วีดที ัศน์, Youtube เกย่ี วกับ การมีส่วนร่วมในการวางแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม จาก ลิงค์

https://www.youtube.com/watch?v=MI8oEEs2dyk

37

4. แบบทดสอบย่อย เรอื่ ง การมสี ว่ นรว่ มในการพฒั นาตนเอง จำนวน 10 ข้อ (ชดุ แบบทดสอบ หรอื Google Form)
5. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) รายวชิ าการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม จำนวน 10 ข้อ (ชุดแบบทดสอบ หรือ
Google Form)
6. ใบความรู้ท่ี 5 เรื่อง การมีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง
7. ใบงานที่ 5
8. แบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.

การวดั และประเมินผล
1. การสังเกตพฤติกรรมการมีรายบคุ คล/รายกล่มุ
2. การตรวจแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.
3. ประเมินการนำเสนอผลงาน/ชิน้ งาน
4. การตรวจใบงาน
5. การตรวจแบบทดสอบ
6. การประเมนิ คณุ ธรรม

38

วิธีการเรยี น : แบบหนงั สอื เรียน มอบหมายงาน (ON - Hand)

กระบวนการจดั การเรียนรู้
1. ขั้นนำเขา้ ส่บู ทเรยี น ( 30 นาที )
การกำหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรยี นรู้ (O : Orientation)

1.1 ครูสำรวจความพร้อมของนักศึกษาในการเรียนรู้ สำหรับนักศึกษาไม่มีอินเตอร์เน็ต และเครื่องมือสื่อสาร โดยนำ
หนังสือเรียน ใบความรู้ และใบงาน ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ท่ีบ้าน ในรายวิชา การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม จากหนังสือที่ครูได้
นำไปให้ พรอ้ มให้นักศกึ ษา ศึกษาใบความรู้ จดั ทำใบงาน พรอ้ มทั้งทำแบบทดสอบก่อนเรยี น

1.2 ครูนำตัวอย่างการเรียนรู้แบบโครงงาน ไปให้นักศึกษา ศึกษาเรียนรู้ท่ีบ้าน เพ่ือเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนและ
มอบหมายงานตอ่ ไป

1.3 นักศึกษาสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในตัวอย่างรูปเล่มโครงงาน บันทึกลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. และนำส่งตามวัน
เวลาทคี่ รกู ำหนด

2. ข้นั จดั กิจกรรมการเรยี นการสอน ( 4 ชวั่ โมง )
การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรยี นรู้ (N : New ways of learning)

2.1 ครูมอบหมายใหน้ กั ศกึ ษาไปศกึ ษาหาความรู้ เรื่อง การมีสว่ นรว่ มในการพัฒนาตนเอง จากหนงั สอื รายวชิ าการ
พฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม ในหวั ขอ้ ต่อไปน้ี

กลมุ่ ที่ 1 การมสี ่วนร่วมในการวางแผนพฒั นาตนเอง
- การมสี ่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาตนเอง

กลุ่มท่ี 2 การเผยแพรส่ กู่ ารปฏิบตั ิ
- การเขยี นรายงาน
- การเขียนโครงงาน

กลุ่มท่ี 3 บทบาทหน้าทผ่ี นู้ ำ/สมาชกิ ทดี่ ขี องชมุ ชน สังคม

39

- บทบาทหนา้ ท่ีผนู้ ำ/สมาชิกทดี่ ีของชุมชน สงั คม
2.2 ครูมอบหมายให้นกั ศกึ ษาไปศึกษาค้นคว้าเนื้อหาจากหนงั สอื เรยี นรายวิชาการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม และทำ
ใบงาน ดังน้ี
ใบงานที่ 5 เร่ือง การมีส่วรว่ มในการพัฒนาตนเอง
2.3 ครสู อนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเรื่อง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตญั ญู
กตเวทีความขยนั ความประหยัด ความซ่ือสตั ย์ ความมีนำ้ ใจ ความมีวินัย ศาสน์ กษตั ริย์ รักความเป็นไทย และยึดม่ันในวิถีชวี ิต
และการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข ผา่ นใบความรู้ ใบงาน

3. ขนั้ สรปุ และประเมินผล (1 ช่วั โมง )
ขนั้ ประเมนิ ผล (E : Evaluation)

3.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ จากชุด แบบทดสอบ พร้อมเฉลยและ
ประเมินผล ใหน้ ักศกึ ษาบนั ทกึ คะแนนลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน.

3.2 ครูให้นักศึกษาสรุปการทำความดีและคุณธรรมท่ีได้ปฏิบัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบันทึกความดี เพ่ือการประเมิน
คุณธรรม

4. ข้ันมอบหมายงาน
การปฏิบัตแิ ละนำไปประยุกต์ (I : Implementation)

4.1 ครูมอบหมายใหน้ กั ศกึ ษาศึกษาเรียนรู้จากหนังสือเรยี นรายวชิ าการพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม โดยศกึ ษาในเร่อื ง
การมีสว่ นรว่ มในการวางแผนพฒั นาตนเอง , การเผยแพร่สู่การปฏิบัติและบทบาทหน้าท่ีผนู้ ำ/สมาชกิ ทดี่ ีของชมุ ชน สังคม และ
สรปุ ลงในแบบบันทกึ การเรยี นรู้ กศน.

4.2 ครมู อบหมายให้นกั ศึกษาไปศึกษาคน้ ควา้ เนอ้ื หาจากหนังสือเรยี นออนไลน์ รายวิชาการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม
จากล้ิง http://203.159.251.144/pattana/download และศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ท่ี 5 เรอื่ งการมสี ่วนร่วมในการพฒั นา
ตนเอง และทำใบงานท่ี 5 (โดยครูจะส่งใบงานทาง Google classroom) และให้นกั ศึกษาสง่ งานทาง LINE

5. ข้นั ติดตามผล (30 นาที)
5.1 ครตู ิดตามงานทีไ่ ด้มอบหมายนักศึกษา เพ่ือติดตามความคืบหนาทางแอปพลเิ คชนั Line ดังนี้
5.1.1 ติดตามงานที่ได้รบั มอบหมายสปั ดาห์ท่ีผ่านมา
5.1.2 ตดิ ตามการทำกจิ กรรมพัฒนาคุณภาพชวี ิต (กพช.)
5.1.3 ตดิ ตามสอบถามสขุ ภาพของนกั ศกึ ษา (การฉดี วคั ซนี /การตรวจสขุ ภาพ/ความสะอาด/การแตง่ กาย)
5.1.4 ติดตามสอบถามการทำความดใี นแตล่ ะวนั สัปดาห์ท่ีผา่ นมาและติดตามการบนั ทึก

กิจกรรมท่ีทำความดีลงในสมุดบันทกึ บันทึกความดเี พ่ือการประเมินคุณธรรม
5.1.5 ตดิ ตามสอบถามเกย่ี วกับงานอดเิ รก สุนทรียภาพ การเล่นกีฬา การใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็

40

ประโยชน์ ฯลฯ
5.1.6 ตดิ ตามความกา้ วหน้าการทำโครงงาน

สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสือเรียนวิชาการพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ
2. ค่มู อื นักศกึ ษา
3. ใบความรู้
4. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบปรนัย จำนวน 10 ขอ้
5..แบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) วชิ าการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม จำนวน 10 ขอ้
6. ใบงานที่ 5
7. แบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน.

การวัดและประเมินผล
1. การสังเกตพฤติกรรมการมีรายบุคคล/รายกลมุ่
2. การตรวจแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน.
3. ประเมินการนำเสนอผลงาน/ชนิ้ งาน
4. การตรวจใบงาน
5. การตรวจแบบทดสอบ
6. การประเมินคณุ ธรรม

วิธกี ารเรยี น : แบบผ่านชอ่ งทาง ETV (ON-Air)

กระบวนการจัดการเรียนรู้
1. ข้ันนำเข้าสู่บทเรยี น ( 30 นาที )
การกำหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรยี นรู้ (O : Orientation)

1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนำเข้าสู่บทเรียนโดยให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นในเรื่อง การมีส่วนร่วมในการพัฒนา
ตนเอง ตามความเข้าใจของนักศึกษา โดยครูยกตัวอย่างความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง จากอินเตอร์เน็ต
พร้อมท้ังแลกเปล่ียนเรียนรู้ ร่วมกันวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นร่วมกันในกลุ่ม LINE พร้อมท้ังทำแบบทดสอบก่อนเรียน

41

(ชุดแบบทดสอบ หรือ Google Form) ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม พร้อมอธิบายถึงเหตุผลความจำเป็นท่ี
ตอ้ งจดั กจิ กรรมการเรียนรปู แบบ ( ON-Air )

1.2 ครูนำเขา้ สู่บทเรยี นโดย ใหน้ กั ศกึ ษาสมัครเป็นสมาชิก ETV ตามล้งิ ตอ่ ไปนี้
http://203.159.251.144/pattana/download เพอื่ ให้นักศกึ ษามีรหสั ผ่านเพอื่ เขา้ ไปศึกษาหาความรตู้ าม ตารางออนแอร์ ใน
แตล่ ะวนั ของสถานีวิทยโุ ทรทัศนเ์ พื่อการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตามล้ิง รายการโทรทัศนส์ ง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบ
โรงเรยี น http://www.etvthai.tv/Video/VDO_Detail_Ext.aspx?ContentID=320&videoid=1087&v=1&p=5 และและ
นักศึกษาสามารถตดิ ตามข่าวสารได้ในเฟสบุ๊ค ETV Channel ตามลิง้ ตอ่ ไปนี้ https://www.facebook.com/Etv-Channel-
1512499252411798/

2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน ( 4 ช่ัวโมง )

การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning)
2.1 ครมู อบหมายให้นักศกึ ษาเขา้ ไปศกึ ษาหาความรู้ ของสถานวี ิทยโุ ทรทศั น์เพ่ือการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการตาม

เวบ็ ไซต์ www.etvthai.tv โดย เขา้ สู่ระบบด้วยรหสั ผา่ นที่นักศึกษาสมัครไว้แล้ว โดยสามารถดตู าราง ออนแอร์ได้ ตามลงิ้

http://www.etvthai.tv/Front_ETV/FETV_Schedule.aspx และสามารถดูรายการย้อนหลงั ได้ ตามลิ้ง

http://www.etvthai.tv/home/home_External.aspx

อีกชอ่ งทางการศึกษาหาความรู้โดยผ่าน ทวี ีดิจติ อลช่อง 52 (กศน.) สามารถติดตามข่าวสารและตารางออนแอร์ได้ใน

เฟสบุ๊ค : ETV สอื่ ดจิ ิทลั เพ่อื การศกึ ษา สำนักงาน กศน. ตามล้งิ นี้ https://www.facebook.com/etv.digital/

2.2 ครมู อบหมายใหน้ ักศกึ ษาเรยี นรแู้ บบ (ON-Air) ใน

เรอ่ื งการเรียนรู้ในรปู แบบโครงงานในหวั ข้อตอ่ ไปน้ี

1. การมสี ่วนรว่ มในการวางแผนพฒั นาตนเอง

- การมีส่วนรว่ มในการวางแผนพัฒนาตนเอง

2. การเผยแพร่สูก่ ารปฏิบัติ

- การเขยี นรายงาน

- การเขียนโครงงาน

3. บทบาทหนา้ ทีผ่ ู้นำ/สมาชกิ ทีด่ ขี องชมุ ชน สงั คม

- บทบาทหน้าท่ผี ูน้ ำ/สมาชิกที่ดีของชมุ ชน สงั คม

และใหน้ กั ศึกษาสรปุ ลงในแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน. นำส่งผ่านทาง Google Classroom หรอื แอปพลเิ คชัน LINE

2.3 ครูสอนและสอดแทรกคณุ ธรรม 11 ประการ ในเร่ือง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตัญญู

กตเวที ความขยัน ความประหยัด ความซื่อสัตย์ ความมีน้ำใจ ความมีวินัย ศาสน์ กษัตริย์ รักความเป็นไทย และยึดม่ันในวิถี

ชีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข ผ่านทาง LINE กลมุ่

3. ข้ันสรปุ และประเมนิ ผล (1 ชั่วโมง )
ข้นั ประเมนิ ผล (E : Evaluation)

42

3.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ จากชุด แบบทดสอบ หรือจาก Google
From พรอ้ มเฉลยและประเมนิ ผลใหน้ กั ศกึ ษาบนั ทึกคะแนนลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน.

3.2 ครูให้นักศึกษาสรุปการทำความดีและคุณธรรมที่ได้ปฏิบัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบันทึกความดี เพื่อการประเมิน
คณุ ธรรม

4. ขั้นมอบหมายงาน
การปฏิบตั แิ ละนำไปประยกุ ต์ (I : Implementation)

4.1 ครูมอบหมายใหน้ ักศึกษาไปอ่านทบทวนเนอื้ หาเพ่ิมเตมิ จากหนังสอื เรียน รายวิชาการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม
จากล้ิง http://203.159.251.144/pattana/download (แบบเรียนออนไลน์) โดยศึกษาในเร่อื ง การมสี ่วนรว่ มในการ
วางแผนพฒั นาตนเอง , การเผยแพรส่ ู่การปฏิบตั ิและบทบาทหน้าทผ่ี ้นู ำ/สมาชกิ ท่ีดขี องชุมชน สังคม และสรุปลงในแบบบันทกึ
การเรียนรู้ กศน.

4.2 ครูมอบหมายใหน้ ักศึกษาไปศกึ ษาคน้ คว้าเนือ้ หาจากหนังสอื เรยี นออนไลน์ รายวิชาการพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม
จากลิ้ง http://203.159.251.144/pattana/download และศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ที่ 5 เรื่อง การมสี ่วนรว่ มในการพฒั นา
ตนเอง และทำใบงานที่ 5 และให้นักศึกษาส่งงาน (โดยครูจะส่งใบงานทาง Google classroom) และให้นักศึกษาส่งงานทาง
LINE

5. ขัน้ ตดิ ตามผล (30 นาท)ี
5.1 ครตู ดิ ตามงานที่ไดม้ อบหมายนกั ศึกษา เพอื่ ตดิ ตามความคบื หนาทางแอปพลเิ คชัน Line ดังน้ี
5.1.1 ติดตามงานที่ไดร้ ับมอบหมายสัปดาหท์ ี่ผา่ นมา
5.1.2 ตดิ ตามการทำกิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพชีวติ (กพช.)
5.1.3 ติดตามสอบถามสขุ ภาพของนกั ศึกษา (การฉดี วคั ซีน/การตรวจสขุ ภาพ/ความสะอาด/การแต่งกาย)
5.1.4 ติดตามสอบถามการทำความดใี นแต่ละวัน สัปดาห์ที่ผา่ นมาและตดิ ตามการบนั ทึก

กิจกรรมท่ีทำความดีลงในสมุดบันทกึ บนั ทึกความดีเพ่ือการประเมินคุณธรรม
5.1.5 ติดตามสอบถามเก่ียวกับงานอดเิ รก สุนทรยี ภาพ การเลน่ กีฬา การใชเ้ วลาวา่ งให้เป็น

ประโยชน์ ฯลฯ
5.1.6 ติดตามความกา้ วหน้าการทำโครงงาน

สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้
1. www.etvthai.tv
2.ทีวดี จิ ติ อลช่อง 52 (กศน.)
3. เฟสบคุ๊ https://www.facebook.com/etv.digital/ และ
https://www.facebook.com/Etv-Channel-1512499252411798/
4. Google Classroom / แอปพลิเคชัน LINE

43

5. หนงั สือเรียนวชิ าการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม หรือ หนังสอื เรยี นออนไลน์
ลงิ ค์ http://203.159.251.144/pattana/download

6. คมู่ อื นักศกึ ษา

7. วีดีทศั น์, Youtube เกย่ี วกบั การมีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม จากลิงค์
https://www.youtube.com/watch?v=MI8oEEs2dyk

8. แบบทดสอบก่อนเรยี น แบบปรนัย จำนวน 10 ขอ้ (ชุดแบบทดสอบ หรอื Google Form)
9. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) วิชาการพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม จำนวน 10 ข้อ
(ชดุ แบบทดสอบ หรือ Google Form)
10. ใบงานที่ 5
11. แบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน.

การวดั และประเมนิ ผล
1. การสังเกตพฤติกรรมการมรี ายบคุ คล/รายกลุม่
2. การตรวจแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน.
3. ประเมินการนำเสนอผลงาน/ชิ้นงาน
4. การตรวจใบงาน
5. การตรวจแบบทดสอบ
6. การประเมินคุณธรรม

44

วิธีการเรยี น : ผ่านแอปพลิเคชัน (ON-Demand)

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
1. ขั้นนำเข้าสู่บทเรยี น ( 30 นาที )
การกำหนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O : Orientation)

1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนำเข้าสู่บทเรียนโดยให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นในเรื่อง การมีส่วนร่วมในการพัฒนา
ตนเอง ตามความเข้าใจของนักศึกษา โดยครูยกตัวอย่างความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง จากอินเตอร์เน็ต
พร้อมทัง้ แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ ร่วมกนั วิเคราะห์ และแสดงความคิดเหน็ รว่ มกันในช้ันเรยี น พร้อมทง้ั ทำแบบทดสอบก่อนเรียน (ชุด
แบบทดสอบ หรือ Google Form) ผ่านทาง Google Classroom หรือแอปพลเิ คชนั LINE กลมุ่ พร้อมอธิบายถงึ เหตผุ ลความ
จำเปน็ ท่ีตอ้ งจัดกิจกรรมการเรียนรปู แบบ (ON-Demand)

1.2 ครนู ำเขา้ สบู่ ทเรียนโดยเปิดวีดที ศั น์ เรือ่ ง การมสี ว่ นรว่ มในการวางแผนพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม จาก ลิงค์
https://www.youtube.com/watch?v=MI8oEEs2dyk ใหน้ ักศึกษารบั ชมเพื่อให้นักศกึ ษาสามารถร่วมกันวเิ คราะห์และ
แลกเปลย่ี นเรยี นรูแ้ สดงความคดิ เห็นผา่ นทาง Google Classroom หรือ แอปพลเิ คชนั LINE เพื่อเชือ่ มโยงเข้าสู่บทเรียนต่อไป

1.3 ครูและนักศึกษาสรุปส่ิงที่อภิปรายร่วมกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และบันทึกลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. ผ่าน
ทาง Google Classroom หรอื แอปพลเิ คชนั LINE
2. ขนั้ จัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ( 4 ชว่ั โมง )
การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรยี นรู้ (N : New ways of learning)

2.1 ครูมอบหมายให้นกั ศกึ ษาไปศึกษาหาความรู้ เรอ่ื ง การมสี ว่ นร่วมในการวางแผนพัฒนาตนเอง , การเผยแพร่สกู่ าร
ปฏบิ ัติและบทบาทหนา้ ทีผ่ นู้ ำ/สมาชิกทดี่ ขี องชุมชน สังคม จากหนังสอื เรียนออนไลน์ รายวิชาการพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม

45

ลิงค์ http://203.159.251.144/pattana/download และ ศกึ ษาหาความรู้ ผา่ นเวบ็ ไซต์ www.etvthai.tv และ ชอ่ ง
Yutube หรือจากสื่อและแหลง่ เรยี นรู้ต่างๆ และใหส้ รปุ ลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. ในหัวข้อต่อไปน้ี

1. การมสี ว่ นรว่ มในการวางแผนพฒั นาตนเอง
- การมีส่วนรว่ มในการวางแผนพฒั นาตนเอง

2. การเผยแพร่สกู่ ารปฏบิ ัติ
- การเขียนรายงาน
- การเขยี นโครงงาน

3. บทบาทหน้าทผี่ ู้นำ/สมาชกิ ทด่ี ขี องชมุ ชน สงั คม
- บทบาทหนา้ ทผ่ี นู้ ำ/สมาชิกทด่ี ีของชุมชน สังคม

2.2 ครูสอนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเร่อื ง ความสะอาด ความสภุ าพ ความกตัญญู
กตเวทีความขยนั ความประหยัด ความซ่ือสตั ย์ ความมีน้ำใจ ความมีวินัย ศาสน์ กษัตริย์ รักความเป็นไทย และยึดมั่นในวถิ ีชวี ิต
และการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข ผา่ นทาง LINE กล่มุ

3. ขน้ั สรปุ และประเมนิ ผล (1 ช่ัวโมง )
ขั้นประเมินผล (E : Evaluation)

3.1 ครูให้นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรียน แบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ จากชุด แบบทดสอบ หรือจาก Google
From พร้อมเฉลยและประเมนิ ผล ใหน้ กั ศกึ ษาบันทึกคะแนนลงในแบบบันทกึ การเรยี นรู้ กศน.

3.2 ครูให้นักศึกษาสรุปการทำความดีและคุณธรรมที่ได้ปฏิบัติ พรอ้ มบันทึกลงในสมุดบันทึกความดี เพ่ือการประเมิน
คุณธรรม

4. ข้นั มอบหมายงาน
การปฏบิ ัติและนำไปประยกุ ต์ (I : Implementation)

4.1 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปอ่านทบทวนเนื้อหาเพิ่มเติมจากหนงั สือเรยี น ในหัวข้อต่อไปน้ี การมสี ่วนรว่ มในการ
วางแผนพัฒนาตนเอง , การเผยแพรส่ กู่ ารปฏิบตั ิและบทบาทหน้าทผ่ี ู้นำ/สมาชิกท่ีดีของชุมชน สังคมจากหนังสอื เรยี นออนไลน์
รายวชิ าการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม จากลงิ ค์ http://203.159.251.144/pattana/download และสรุปลงในแบบบนั ทึก
การเรยี นรู้ กศน.

4.2 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาค้นควา้ เนื้อหาจากหนงั สอื เรยี นออนไลน์ รายวชิ าการพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม
ลงิ ค์ http://203.159.251.144/pattana/download และศกึ ษาเน้ือหาจากใบความรู้ท่ี 5 เรอ่ื ง การมีสว่ นรว่ มในการพฒั นา
ตนเอง และทำใบงานที่ 5 (โดยครูจะสง่ ใบงานทาง Google classroom) และใหน้ กั ศึกษาสง่ งานทาง LINE ตามวนั เวลาที่ครู
กำหนด
5. ขนั้ ติดตามผล (30 นาท)ี

5.1 ครูติดตามงานที่ไดม้ อบหมายนกั ศึกษา เพอื่ ตดิ ตามความคบื หนาทางแอปพลเิ คชนั Line ดงั น้ี

46

5.1.1 ติดตามงานท่ีไดร้ บั มอบหมายสปั ดาห์ท่ผี า่ นมา
5.1.2 ตดิ ตามการทำกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชวี ิต (กพช.)
5.1.3 ตดิ ตามสอบถามสุขภาพของนกั ศกึ ษา (การฉดี วคั ซีน/การตรวจสขุ ภาพ/ความสะอาด/การแตง่ กาย)
5.1.4 ติดตามสอบถามการทำความดีในแต่ละวัน สปั ดาห์ท่ีผ่านมาและตดิ ตามการบนั ทึก
กจิ กรรมที่ทำความดลี งในสมุดบันทึกบันทึกความดีเพื่อการประเมนิ คุณธรรม
5.1.5 ติดตามสอบถามเก่ียวกับงานอดิเรก สนุ ทรียภาพ การเล่นกีฬา การใช้เวลาว่างให้เปน็
ประโยชน์ ฯลฯ
5.1.6 ตดิ ตามความกา้ วหน้าการทำโครงงาน

สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสือเรยี นวิชา สค31003 การพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม หรือหนังสือเรียนออนไลน์ ลิงค์

http://203.159.251.144/pattana/download
2. คู่มือนกั ศึกษา
3. วดี ที ัศน์, Youtube เก่ียวกบั การมีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม จากลงิ ค์

https://www.youtube.com/watch?v=MI8oEEs2dyk
4. แบบทดสอบย่อยก่อนเรียน แบบปรนัย จำนวน 10 ขอ้ (ชดุ แบบทดสอบ หรอื Google Form)
5. แบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) วชิ า สค31003 การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม จำนวน 10 ขอ้ (ชดุ

แบบทดสอบ หรือ Google Form)
6. ใบความรูท้ ี่ 5 เรือ่ ง การมีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง
7. ใบงานท่ี 5
8. แบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน.

การวดั และประเมินผล
1. การสงั เกตพฤตกิ รรมการมรี ายบุคคล/รายกลมุ่
2. การตรวจแบบบันทกึ การเรยี นรู้ กศน.
3. ประเมินการนำเสนอผลงาน/ชิน้ งาน
4. การตรวจใบงาน
5. การตรวจแบบทดสอบ
6. การประเมนิ คุณธรรม

การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง (กรต.) คร้งั ที่ 5

(จำนวน 14 ช่ัวโมง)
สาระการพัฒนาสังคม
รายวชิ า สค31003 การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม
ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย

47

คำส่ัง ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มเป็น 3 กลุ่ม และไปทำกิจกรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต) โดยการไปศึกษาค้นคว้า อ่านหนังสือ
จดบันทึก จากหนังสอื แบบเรยี น ตำรา หนังสือ และสอ่ื อื่นๆ ในห้องสมุดประชาชนจังหวัด ห้องสมุดประชาชนอำเภอ โรงเรียน
ประถมศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา วิทยาลัยชุมชนในพื้นที่อำเอเมืองนราธิวาสหรืออำเภออื่นๆ หรือไปสอบถามขอความรู้จาก
บุคคล ในหวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี

กลมุ่ ที่ 1 การมสี ว่ นรว่ มในการวางแผนพฒั นาตนเอง
- การมสี ว่ นรว่ มในการวางแผนพฒั นาตนเอง

กลุ่มที่ 2 การเผยแพรส่ ูก่ ารปฏิบัติ
- การเขียนรายงาน
- การเขียนโครงงาน

กลุม่ ท่ี 3 บทบาทหนา้ ทผ่ี ้นู ำ/สมาชกิ ท่ีดีของชมุ ชน สังคม
- บทบาทหน้าท่ีผูน้ ำ/สมาชิกทด่ี ีของชมุ ชน สังคม

ข้ันตอนของการไปเรยี นรู้ตอ่ เนอ่ื ง (กรต.) ของนกั ศึกษา มดี งั น้ี
1. แผนการเรยี นรู้ต่อเน่ือง (กรต.) ในแต่ละแตล่ ะสัปดาห์ แต่ละครั้งที่ครู กศน.ตำบล/ครู ศรช. หรือครปู ระจำกลุม่ กลุ่ม

มอบหมาย
2. ให้บริหารเวลาและใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองและทำกิจกรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต.) สัปดาห์ละ 15

ชัง่ โมงเป็นอย่างนอ้ ย
3. อ่านหนังสือ สอบถามผู้รู้ และจดบันทึกทุกคร้ังทีมีการทำกิจกรรม กรต. และเก็บหลักฐานไว้ทุกคร้ังเพ่ือส่งครูกศน.

ตำบล/ครศู รช. หรอื ครปู ระจำกล่มุ ตรวจให้คะแนนการทำ กรต.
4. จัดทำรายงานเปน็ เล่ม ตามแบบรายงานที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกำหนดและให้ส่งใน

วนั ทีม่ กี ารนำเสนอผลการทำกรต. ในเรื่องนนั้ ๆ
5. ตัวแทนกลุ่มนำเสนอดว้ ยตนเอง (กรณีที่ทำกรต.คนเดียว) โดยให้นำเสนอผลงานตามข้อ4 กลุ่มละ/คนละไมเ่ กิน 10

นาที ในวนั พบกลมุ่ ครง้ั ต่อไป

48

ใบความรู้คร้งั ที่ 5
รายวชิ า สค31003 การพัฒนาตนเอง สังคม ชมุ ชน

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

การมสี ว่ นร่วมในการวางแผนพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม
เร่ืองท่ี 1 การวางแผน

การวางแผน (Planning) หมายถึง กระบวนการในการกำหนดวัตถุประสงค์เพ่ือการตัดสินใจ เลือกแนวทางในการ
ทำงานใหด้ ีทส่ี ดุ เพื่อให้บรรลตุ ามทตี่ ้องการในระยะเวลาที่กำหนด
ความสำคญั ของการวางแผน

1. เพอื่ ลดความไมแ่ น่นอนและความเส่ยี งให้เหลือน้อยทส่ี ุด
2. สร้างการยอมรบั ในแนวคิดใหม่ ๆ
3. เพื่อใหก้ ารดำเนนิ งานบรรลุเปา้ หมาย
4. ลดข้ันตอนการทำงานทซ่ี ำ้ ซ้อน
5. ทำให้เกดิ ความชดั เจนในการทำงาน
วัตถปุ ระสงคใ์ นการวางแผน
1. ทำใหร้ ู้ทิศทางในการทำงาน
2. ทำใหค้ วามไมแ่ นน่ อนลดลง
3. ลดความเสียหายหรือการซ้ำซอ้ นของงานท่ที ำ
4. ทำให้รมู้ าตรฐานในการควบคุมใหเ้ ป็นไปตามทีก่ ำหนด
ขอ้ ดีของการวางแผน
1. ทำให้เกดิ การปรบั ปรงุ การทำงานใหด้ ขี ึน้
2. ทำให้เกิดการประสานงานดยี ่งิ ขึ้น
3. ทำให้การปรบั ปรงุ และการควบคมุ ดีข้ึน
4. ทำให้เกดิ การปรับปรงุ การบริหารเวลาใหด้ ขี ึ้น
หลกั พ้ืนฐานการวางแผน
1. ต้องสนบั สนุนเปา้ หมายและวตั ถุประสงคข์ ององค์กร
2. เป็นงานอนั ดบั แรกของกระบวนการจดั การ


Click to View FlipBook Version