49
3. เปน็ หนา้ ท่ีของผู้บริหารทุกคน
4. ต้องคำนึงถงึ ประสทิ ธภิ าพของแผนงาน
กระบวนการในการวางแผน
ลกั ษณะของแผนที่ดี
1. มีลักษณะชเี้ ฉพาะมากกวา่ มีลักษณะกว้าง ๆ หรือกล่าวทั่ว ๆ ไป
2. มกี ารจำแนกความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ร้แู ละไมร่ ู้ให้ชดั เจน
3. มกี ารเชือ่ มโยงอย่างเป็นเหตเุ ป็นผล และสามารถนำไปปฏบิ ัติได้
4. มีลักษณะยืดหย่นุ สามารถปรับปรุงและพัฒนาได้
5. ไดร้ บั การยอมรับจากผ้ทู ่เี ก่ียวขอ้ งทกุ ฝ่าย
เรือ่ งท่ี 2 การมีสว่ นรว่ มในการวางแผนพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม
การมีส่วนร่วม หมายถึง การเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการพัฒนาทั้งในการแก้ไขปัญหา
และป้องกันปัญหา โดยเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการคิดริเร่ิมร่วมกำหนดนโยบาย ร่วมวางแผน ตัดสินใจและปฏิบัติตามแผน
ร่วมตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐทุกระดับร่วมติดตามประเมินผลรับผิดชอบในเรื่องต่าง ๆ u3629 อันมีผลกระทบกับประชาชน
ชุมชนและภาคสว่ นต่างๆ ในพ้ืนที่
การมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นกระบวนการที่ประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องมีโอกาสได้เข้าร่วมในการแสดงทัศนะ
ร่วมเสนอปัญหา ประเด็นสำคัญทเี่ กีย่ วข้อง ร่วมคิดร่วมตดั สนิ ใจ รว่ มแกไ้ ขปัญหา ร่วมตดิ ตาม และรว่ มรับประโยชน์
ประชาชนกับการมสี ่วนรว่ มในการพฒั นาสงั คม
มนุษย์ถูกจัดให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพที่สุดในสังคม และยังเป็นองค์ประกอบท่ีถูกจัดให้เป็นหน่วยย่อยของสังคม
สังคมจะเจริญหรือมีการพัฒนาไปได้หรือไม่ข้ึนอยู่กับคุณภาพของประชาชนที่เป็นองค์ประกอบในสังคมน้ัน ๆ การที่สังคมจะ
พัฒนาได้อย่างมีคุณภาพจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเริ่มต้นลำดับแรกท่ีการพัฒนาหน่วยที่ย่อยท่ีสุดของสังคมก่อนคือ การพัฒนา
คน และการพฒั นาในลำดับต่อมาเรม่ิ กันที่ครอบครัว แลว้ ตอ่ ยอดไปจนถงึ ระดบั ชมุ ชน สังคม และประเทศ ตอ่ ไป
2.1. การพัฒนาตนเอง และครอบครวั
การพัฒนาตนเอง เป็นการพัฒนาตนเองด้วยตนเอง เป็นการเสริมสร้าง เพ่ิมพูนความรู้ ประสบการณ์ บคุ ลิก ลักษณะ
อุปนิสัยที่ดี ตลอดจนความสามารถในการจัดการดา้ นอารมณ์ ซ่ึงจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อืน่ และมีส่วนช่วยทำ
ให้สังคมเกิดความสงบสุขการจะให้ทุกคน ทุกกลุ่มในหมู่บ้านมีบทบาทในการตัดสินใจท่ีจะดำเนินการใด ๆเพ่ือหมู่บ้านได้
ประชาชนแต่ละคนควรชว่ ยกนั แสดงความคิดเห็นท่เี ปน็ ประโยชน์แก่ส่วนรวมและตอ้ งเพิม่ ความรู้ ความสามารถพัฒนาตนเองให้
เปน็ ผรู้ อบรู้อยู่เสมอ มีข้อมลู เพียงพอเปน็ ประโยชน์ และมสี าระสำคญั สอดคลอ้ งกบั เร่ืองที่จะดำเนนิ การ การพัฒนาตนเองจึงถือ
เป็นจดุ เรม่ิ ตน้ ทสี่ ำคัญของการพฒั นาครอบครัว ชุมชน และสงั คม
50
การพัฒนาครอบครัว คือการท่ีสมาชิกของครอบครัวร่วมกันพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิกของครอบครัวให้ดีข้ึน
สมาชกิ แต่ละคนของครอบครัวตอ้ งรบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ีของตน มีความเอื้อเฟ้อื มคี ุณธรรม รู้จักการพึ่งพาตนเอง มีความรว่ มมือ
รว่ มใจมีความคิดรเิ ร่มิ สร้างสรรค์ มีความเช่ือมั่น เอ้อื อาทรต่อกนั และพัฒนาตนเองในทกุ ๆ ด้านอยู่เสมอ สถาบันครอบครัวเป็น
หนว่ ยที่เลก็ ท่ีสุดในการพัฒนา ดงั นนั้ การพัฒนาครอบครวั อยา่ งตอ่ เนื่องและมีคุณภาพ จะส่งผลดตี อ่ การพัฒนาชุมชนและสังคม
และเป็นตัวขับเคลื่อนความเจริญก้าวหน้าให้แก่ประเทศในอนาคตในการพัฒนาชนบทหรือการพัฒนาเมืองนั้น การแสวงหา
แนวทางและวิธีการเพิ่มพูนความรู้ ประสบการณ์ ให้คนในพื้นท่ีน้ันๆ มีความสามารถและเรียนรู้ท่ีจะเข้ามามีส่วนร่วมในการ
ดำเนินงาน ถือเป็นปัจจัยพน้ื ฐานท่สี ำคัญ ท้ังนี้ การพฒั นาคนทดี่ ีที่สุด คือ การรวมกลุ่มประชาชนให้เปน็ องค์กรเพอื่ พัฒนาคนใน
กลุ่ม เพราะกลุ่มคนเหล่าน้ันจะก่อให้เกิดการเรียนรู้ฝึกการคิดและการแก้ปัญหา และสร้างเสริมบุคลิกภาพ ผ่านกระบวนการ
ทำงานร่วมกัน ซึ่งจะช่วยให้คนได้รับการพัฒนาในด้านความคิด ทัศนคติ ความมีเหตุผล ซ่ึงเป็นรากฐานที่สำคัญของระบ อบ
ประชาธปิ ไตย
1.2 การพฒั นาชุมชน และสงั คม
การพัฒนาชุมชน และสังคม หมายถึง การทำกิจกรรมท่ีมีผลต่อคุณภาพชีวิตของทุกคนในชุมชนร่วมกัน ดังนั้นการ
พฒั นาชุมชนและสังคม จงึ ต้องใช้การมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชนและสังคม ร่วมกนั คิดเกี่ยวกับปัญหาตา่ งๆ ตัดสินใจและ
ลงมือปฏิบตั ริ ่วมกันในกิจกรรมเพอ่ื แกป้ ญั หาที่เปน็ ปัญหาสว่ นรวม เหตุที่ต้องให้ประชาชนเขา้ มามสี ่วนรว่ ม เน่ืองจากประชาชนรู้
ว่าความต้องการของตนเองคอื อะไร ปัญหาคอื อะไร จะแก้ปญั หานน้ั อย่างไร
1.3 หลักการพฒั นากับการมสี ว่ นร่วมของประชาชน
1.3.1 การมีส่วนร่วมในการค้นหาปัญหาและสาเหตุของปัญหาเป็นขั้นตอนที่สำคัญท่ีสุด เพราะถ้าประชาชนไม่เข้าใจ
ปัญหาและวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาด้วยตนเองไม่ได้ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ตามมาก็จะไม่เกิดประโยชน์ เนื่องจากประชาชน
ขาดความรู้ ความเข้าใจ และไม่สามารถมองเห็นความสำคัญของกิจกรรมน้ันสิ่งท่ีสำคัญที่สุด คือ ประชาชนท่ีอยู่กับปัญหาและ
รู้จักปัญหาของตนเองดีท่ีสดุ แต่ในกรณีท่ีมองปัญหาไม่ออกก็อาจจะขอความร่วมมือจากเพื่อน ประชาชนในชุมชนใกล้เคียงหรือ
เจ้าหนา้ ที่ของรฐั ท่รี ับผดิ ชอบในเรือ่ งนนั้ ๆ มาชว่ ยวิเคราะหป์ ญั หาและหาสาเหตุของปญั หากไ็ ด้
1.3.2 การมีส่วนร่วมในการวางแผนการดำเนินงานในการวางแผนการดำเนินงานหรือกิจกรรม เจ้าหน้าที่ของรัฐควรท่ี
จะต้องเข้าใจประชาชนและเข้าไปมีส่วนร่วมในการวางแผน โดยคอยให้คำแนะนำ ปรึกษา หรือชี้แนะกระบวนการดำเนินงาน
ให้กบั ประชาชนจนกว่าจะเสร็จส้ินกระบวนการ
1.3.3 การมีส่วนร่วมในการลงทุนและปฏิบัติงานเจ้าหน้าท่ีรัฐควรจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและจิตสำนึกให้ประชาชน
โดยให้รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ ให้เกิดสำนึกในการดูแล รักษา หวงแหนส่ิงนั้น ถ้าการลงทุนและการปฏิบัติงานทั้งหมดมาจาก
ภายนอก ในกรณีท่ีเกิดความเสียหายประชาชน จะไม่รู้สำนกึ หรอื เดือดร้อนต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น เน่อื งจากไมใ่ ชข่ องตนเอง
จึงไม่มีการบำรุงรักษา ไมต่ ้องหวงแหนนอกจากจะมีการเข้ามามีส่วนร่วมในการปฏบิ ัตงิ านด้วยตนเอง จะทำให้เกดิ ประสบการณ์
ตรง โดยเรียนรู้จากการดำเนินกิจกรรมอย่างใกล้ชิดและสามารถดำเนินกิจกรรมชนิดนั้นด้วยตนเอง ต่อไปได้ ขณะเดียวกัน
51
บุคคลควรมคี ่านิยมทีเ่ กอื้ หนนุ ในการพฒั นาสงั คมอีกดว้ ย ได้แก่ การเสยี สละ การมรี ะเบยี บวินัย ความอดทน ขยนั ขนั แข็ง มานะ
อดออม
ไมส่ ุรยุ่ สุรา่ ย ซื่อสตั ย์ การเอือ้ เฟือ้ เผื่อแผ่ ตรงต่อเวลา ฯลฯ
1.3.4 การมีส่วนร่วมในการติดตามและประเมินผลงานควรให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการติดตามและ
ประเมินผลงานเพือ่ ที่จะสามารถบอกไดว้ า่ งานที่ทำไปน้นั เป็นไปตามแผนหรอื ไม่เพียงใด ผลทเี่ กิดข้ึนสอดคล้องกับเป้าหมายและ
วัตถุประสงค์ท่ีกำหนดไว้หรือไม่ เพียงใด มีปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานหรือไม่ ควรปรับปรุงแก้ไขอย่างไร ดังนั้น ในกา ร
ติดตามและประเมินผลควรให้ประชาชนในชุมชนน้ันและบคุ คลภายนอกชุมชนมีสวนรว่ มอย่างเต็มที่ ซ่ึงจะทำให้ประชาชนเห็น
คุณคา่ ของการทำกจิ กรรมนั้นรว่ มกนั
ตัวอย่างท่ี 1 : การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์วัฒนธรรมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมของหมู่บ้าน
วัฒนธรรมถลาง บ้านแขนน หมู่บ้านวัฒนธรรมถลาง จังหวัดภูเก็ต จัดเป็นหมู่บ้านท่ีสืบสานความรู้ดั้งเดิมของภูเก็ตต้ังแต่สมัย
ท้าวเทพกระษัตรี อีกท้ังวัฒนธรรมในการปรุงอาหารซึ่งเป็นอาหารตำรับเจ้าเมืองในสมัยโบราณของภูเก็ต และศิลปวัฒนธรรม
ด้านนาฏศิลป์ของภูเก็ต เช่น การรำมโนราห์ ได้มีการถ่ายทอดและเปิดโอกาสให้ผู้ท่ีสนใจเขา้ ร่วมสืบสานวัฒนธรรมดั้งเดิม และ
สามารถทีจ่ ะพัฒนาเป็นชมุ ชนทีม่ ีความเข้มแข็ง ซง่ึ เปน็ ผลสืบเน่อื งมาจากการสง่ เสริมการมสี ่วนร่วมของประชาชนในการสืบสาน
วฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ใหด้ ำรงอยู่อย่างยั่งยืน
ตัวอย่างที่ 2 : การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในเขตวนอุทยานแห่งชาติ สิรินาถ จังหวัดภูเก็ต
เป็นผลสืบเนื่องจากการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม โดยการเข้าไปขุดคลอง การปล่อยน้ำเสียจากสถาน
ประกอบการ ส่งผลให้ประชาชนท่ีอยู่บริเวณโดยรอบได้รับผลกระทบ และเสียหาย จากการทำลายทรัพ ยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนและภาครัฐได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดระบบการบำบัดน้ำเสีย และการขุดลอกคูคลอง เพื่อ
ป้องกนั และอนุรักษส์ ่งิ แวดล้อมให้คงอยใู่ นสภาพท่ีเปน็ ธรรมชาตติ ่อไป
ตัวอย่างท่ี 3 : การบริหารจัดการของเสีย โดยเตาเผาขยะและการบำบัดของเสียของเทศบาลนครภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
สืบเนื่องจากปริมาณขยะที่มีมากถึง 500 ตันต่อวัน ซึ่งเกินความสามารถในการกำจัด โดยเตาเผาท่ีมีอยู่สามารถกำจัดขยะได้
250 ตนั ต่อวัน หลุมฝังกลบของเทศบาลมีเพียง 5 บ่อ ซึ่งถกู ใช้งานจนหมด และไม่สามารถรองรบั ขยะไดอ้ กี ประชาชนได้เขา้ ไปมี
ส่วนร่วมโดยใหค้ วามร่วมมอื ในการคดั แยกขยะก่อนท้ิง ซึง่ แยก
ตามลกั ษณะของขยะ เชน่
1. ขยะอินทรยี ์ หรือขยะเปยี กทีส่ ามารถย่อยไดต้ ามธรรมชาติ เทศบาลนครภูเก็ต ไดน้ ำไปทำปยุ๋ หมกั สำหรบั เกษตรกร
2. ขยะรไี ซเคิล เช่น แกว้ พลาสติก กระดาษ ทองแดง เปน็ ตน้ นำไปจำหน่าย
3. ขยะอนั ตราย เชน่ ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ เปน็ ต้น นำไปฝังกลบและทำลาย
4. ขยะทั่วไป นำเข้าเตาเผาขยะเพื่อทำลายในการจัดกระบวนการดังกล่าว สง่ ผลให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการส่งเสริม
สิ่งแวดล้อมท่ีดีให้กับจังหวัดภูเก็ต อีกท้ังเป็นการบูรณาการในการดำเนินกิจกรรมร่วมกันระหว่างส่วนราชการ เทศบาลนคร
ภูเก็ต และภาคประชาชน เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับประชาชนในการร่วมกัน
สรา้ งสรรค์ส่ิงแวดล้อมท่ีดเี พอ่ื คนในภเู ก็ต
52
การเผยแพร่สกู่ ารปฏิบตั ิ
โครงการ
โครงการ (Project) เป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งในการวางแผนพัฒนาที่ช่วยให้เห็นภาพ และทิศทางการพัฒนา มี
ขอบเขตท่ีสามารถติดตามและประเมินผลได้ ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของแผน จัดทำขึ้นเพ่ือพัฒนาหรือแก้ปัญหาใดปัญหา
หน่ึงขององค์กรแผนงานที่ปราศจากโครงการย่อมเป็นแผนงานท่ีไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถนำไปปฏบิ ัติให้เป็นรูปธรรมได้ โครงการ
จงึ มีความสัมพันธก์ บั แผนงาน
การเขียนโครงการขึ้นมารองรับแผนงานเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นย่ิง เพราะจะทำให้ง่ายในการปฏิบัติและง่าย
ตอ่ การติดตามและประเมินผล เพราะถา้ โครงการบรรลุผลสำเร็จนน่ั หมายความว่า แผนงานและนโยบายนนั้ บรรลผุ ลสำเรจ็ ด้วย
โครงการจึงเปรียบเสมือนพาหนะที่นำแผนปฏิบัติการไปสู่การดำเนินงานให้เกิดผล เพ่ือไปสู่จุดหมายปลายทางตามท่ีต้องการ
อกี ทั้งยงั เปน็ จดุ เชื่อมโยงจากแผนงานไปสู่แผนเงนิ และแผนคนอีกดว้ ยโครงการมลี ักษณะสำคัญ ดังนี้
1. เปน็ ระบบ มีขัน้ ตอนการดำเนินงาน
2. มีวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง ชัดเจน
3. มรี ะยะเวลาแน่นอน (มีจดุ เรมิ่ ตน้ และจดุ สน้ิ สุดในการดำเนินงาน)
4. เป็นเอกเทศและมผี ู้รับผิดชอบโครงการอยา่ งชัดเจน
5. ต้องใช้ทรัพยากรในการดำเนนิ การ
6. มีเจ้าของงานหรอื ผจู้ ัดสรรงบประมาณ
การเขียนโครงงาน
โครงงานเป็นกจิ กรรมการเรียนการสอนท่เี น้นผ้เู รียนเป็นสำคัญอย่างแท้จริง เพราะผเู้ รียนเป็นผทู้ ี่สร้างความรู้ด้วย
ตนเอง เร่มิ จากการเลือกหัวข้อหรือปัญหาทม่ี าจากความสนใจความสงสยั หรือความอยากรู้อยากเห็นของตนเอง หัวข้อของ
โครงงานควรเป็นเร่ืองใหม่ ทีเ่ ฉพาะเจาะจง และทสี่ ำคัญต้องเหมาะสมกับความรู้ความสามารถของตน การเขียนโครงงานเป็น
การกำหนดกรอบในการทำงาน การเขียนโครงงานโดยท่ัวไปจะมีองค์ประกอบเช่นเดียวกับ
การเขยี นโครงการ แตโ่ ครงงานเปน็ งานทที่ ำเสร็จแล้วจะมีชน้ิ งานด้วยเม่ือมโี ครงงาน และดำเนินการจดั ทำโครงงาน
เสร็จเรยี บร้อยแลว้ ชนิ้ สดุ ท้ายคอื การเขียนรายงานโครงงาน
3.2.1 องค์ประกอบของการเขียนรายงานโครงงาน
รายงานของการจัดทำโครงการมีองค์ประกอบหรือรายการท่คี วรนำเสนอ ดังน้ี
1) ช่อื โครงงาน ชื่อผูท้ ำโครงงาน
2) คำนำ - สารบญั
3) ท่ีมาของโครงงาน อธบิ ายเหตผุ ลในการทำโครงงานนี้
4) วตั ถปุ ระสงค์ของการทำโครงงาน
5) วิธีดำเนินการควรแยกเปน็ 3 ขนั้ ตอน
53
ข้นั ตอนท่ี 1 การเตรียมการ
ขน้ั ตอนท่ี 2 กระบวนการ วิธีดำเนินงานโครงงาน
ขน้ั ตอนที่ 3 ผลงานโครงงาน ประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับ
6) สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ
54
ใบงานครง้ั ท่ี 5
รายวิชา การพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม
ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
4. จงอธบิ ายความหมายของคำว่า “การวางแผน” และ “ความสำคัญของการวางแผน”
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. ใหอ้ ธบิ ายถึง “วตั ถุประสงคข์ องการวางแผน” และ “ข้อดีของการวางแผน”
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
6. โครงการมีลักษณะสำคญั อยา่ งไร จงอธบิ าย
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. การมีส่วนรว่ มต่อชมุ ชน มคี วามสำคัญอยา่ งไร .
55
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. การจัดทำโครงการหรือการเขียนรายงานโครงงานมีองค์ประกอบอะไรบา้ ง
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ช่อื ........................................................................รหสั นักศึกษา...................................ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
เฉลยใบงานครั้งท่ี 5
รายวิชา การพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม
ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
1. จงอธิบายความหมายของคำว่า “การวางแผน” และ “ความสำคัญของการวางแผน”
ตอบ การวางแผน (Planning) หมายถึง กระบวนการในการกำหนดวัตถุประสงค์เพื่อการตัดสินใจ เลือกแนวทางใน
การทำงานใหด้ ที ส่ี ดุ เพอื่ ให้บรรลตุ ามท่ีตอ้ งการในระยะเวลาท่ีกำหนด
ความสำคญั ของการวางแผน
1. เพื่อลดความไมแ่ นน่ อนและความเสย่ี งให้เหลอื น้อยท่ีสดุ
2. สรา้ งการยอมรบั ในแนวคดิ ใหม่ ๆ
3. เพอ่ื ให้การดำเนินงานบรรลเุ ปา้ หมาย
4. ลดขัน้ ตอนการทำงานทซี่ ้ำซ้อน
5. ทำใหเ้ กิดความชัดเจนในการทำงาน
2. ให้อธบิ ายถงึ “วตั ถปุ ระสงคข์ องการวางแผน” และ “ข้อดีของการวางแผน”
ตอบ วัตถปุ ระสงค์ในการวางแผน คอื
1. ทำให้รทู้ ิศทางในการทำงาน
56
2. ทำให้ความไม่แนน่ อนลดลง
3. ลดความเสียหายหรอื การซำ้ ซอ้ นของงานท่ีทำ
4. ทำให้รู้มาตรฐานในการควบคมุ ใหเ้ ปน็ ไปตามทก่ี ำหนด
ข้อดขี องการวางแผน คอื
1. ทำให้เกิดการปรับปรุงการทำงานใหด้ ีขึ้น
2. ทำให้เกิดการประสานงานดียงิ่ ขึน้
3. ทำใหก้ ารปรบั ปรุงและการควบคมุ ดขี ้นึ
4. ทำให้เกดิ การปรบั ปรุงการบริหารเวลาใหด้ ขี ้ึน
3. โครงการมลี กั ษณะสำคัญอย่างไร จงอธบิ าย
ตอบ โครงการมีลักษณะสำคัญ ดงั นี้
1. เป็นระบบ มขี น้ั ตอนการดำเนินงาน
2. มีวตั ถุประสงคเ์ ฉพาะเจาะจง ชัดเจน
3. มรี ะยะเวลาแน่นอน (มจี ุดเรมิ่ ตน้ และจุดส้นิ สดุ ในการดำเนินงาน)
4. เป็นเอกเทศและมีผรู้ ับผดิ ชอบโครงการอยา่ งชัดเจน
5. ตอ้ งใช้ทรพั ยากรในการดำเนินการ
6. มเี จา้ ของงานหรอื ผู้จดั สรรงบประมาณ
4. การมีสว่ นรว่ มต่อชุมชน มีความสำคัญอย่างไร
ตอบ กระบวนการมสี ่วนร่วมนับเปน็ หวั ใจสำคญั ของการพัฒนาในทุกระดบั เป็นการเปดิ โอกาสให้ประชาชนร่วมคิด
วเิ คราะห์ ตัดสินใจ การวางแผน การปฏบิ ัติตามแผน การติดตามประเมินผลในกิจกรรม/โครงการของชุมชน เป็นการสร้าง
ปลกู ฝังจติ สำนกึ ในการความเปน็ เจ้าของกจิ กรรมและโครงการ
5. การจัดทำโครงการหรือการเขยี นรายงานโครงงานมีองคป์ ระกอบอะไรบา้ ง
ตอบ การจัดทำโครงการมีองค์ประกอบหรือรายการทคี่ วรนำเสนอ ดังน้ี
1) ชื่อโครงงาน ชื่อผู้ทำโครงงาน
2) คำนำ - สารบัญ
3) ที่มาของโครงงาน อธิบายเหตผุ ลในการทำโครงงานน้ี
4) วัตถปุ ระสงคข์ องการทำโครงงาน
5) วิธีดำเนนิ การควรแยกเป็น 3 ขัน้ ตอน
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการ
ขนั้ ตอนท่ี 2 กระบวนการ วิธีดำเนินงานโครงงาน
57
ขน้ั ตอนที่ 3 ผลงานโครงงาน ประโยชน์ทไี่ ด้รับ
6) สรุปผลและข้อเสนอแนะ
แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) ครงั้ ที่ 5
รายวิชา การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม รหสั วชิ า สค31003
58
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
คำชแี้ จง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพยี งขอ้ เดียว
1. จงบอกความหมายของขอ้ มลู ทถ่ี ูกต้อง
ก. ข้อมูลเปน็ จุดแข็ง จุดอ่อนของชมุ ชน
ข. ขอ้ มลู เปน็ สงิ่ ทีน่ ำมาวางแผนพฒั นาชุมชน
ค. ข้อมูลเป็นข้อเท็จจริงตา่ งๆที่รวบรวมได้ตามวิธีการทีถ่ ูกต้อง
ง. ขอ้ มูลเป็นตัวกำหนดทิศทางการพัฒนาชมุ ชนการจดั เกบ็ ข้อมูลจึงมีความจำเป็นและตอ้ งรู้ขอ้ มูลรอบด้าน
2. แผนทีเ่ ปน็ ข้อมลู ด้านใด
ก. การศึกษา
ข. ภูมศิ าสตร์
ค. ประวัตศิ าสตร์
ง. ทรัพยากรสิง่ แวดล้อม
3. ขอ้ ใดคือประโยชน์ของข้อมูลดา้ นการศึกษา
ก. เป็นการวางแผนพฒั นาสงั คมอย่างถูกต้อง
ข. เปน็ การจัดเกบ็ ระบบอย่างครบถว้ นครอบคลมุ ทุกประเด็น
ค. การศึกษาเปน็ เคร่ืองมือในการพัฒนาใหค้ นมีความรู้ ความคดิ
ง. กระบวนการเรียนรู้ การสร้างสรรค์สิ่งทเ่ี ป็นความก้าวหน้า
4. ถา้ นักศึกษาต้องการศกึ ษาพฤติกรรมการทำงานของเพื่อนในห้องควรจะเกบ็ รวบรวมข้อมูลดว้ ยวิธใี ดจึงจะเหมาะสม
ก. การพูด
ข. การสงั เกต
ค. การสมั ภาษณ์
ง. จากคะแนนสอบ
5. การวเิ คราะห์แบง่ ออกไดเ้ ป็นก่ปี ระเภท
ก. 1 ประเภท
ข. 2 ประเภท
ค. 3 ประเภท
ง. 4 ประเภท
59
6. ข้อมูลที่เกบ็ รวบรวมมาจากการสำรวจดว้ ยแบบสอบถามหรอื จากตัวเลขเรียกวา่
ก. ขอ้ มลู ดิบ
ข. ขอ้ มูลทั่วไป
ค. ข้อมูลท่ยี ังไม่กลนั่ กรอง
ง. ข้อมูลวเิ คราะหแ์ ล้ว
7. ข้อใดตอ่ ไปนี้หมายถึงแหล่งข้อมูล
ก. หนงั สอื พิมพ์
ข. อินเตอร์เนต็
ค. หนงั สอื ในหอสมุด
ง. ถูกทุกข้อ
8. ข้อใดตอ่ ไปนี้ไมใ่ ช่ขอ้ มลู ชุมชน
ก. ขอ้ มูลของประเทศ
ข. ข้อมลู ด้านประวัตศิ าสตร์
ค. รวบรวมและแปลข้อมูล
ง. ขอ้ มูลด้านกายภาพชุมชน
9. การเผยแพร่ขอ้ มลู ในข้อใดท่ถี ือว่าชดั เจนที่สดุ
ก.วทิ ยุ
ข. โทรทศั น์
ค. หนังสอื พิมพ์
ง. การตดิ ป้ายประกาศ
10. ข้อใดไมใ่ ชห่ ลกั การพัฒนาชมุ ชน
ก. หลักการสมทบ
ข. หลกั ธรรมาภิบาล
ค. หลักการพง่ึ ตนเอง
ง. หลกั การมสี ่วนรว่ ม
60
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre-test) คร้ังท่ี 5
รายวิชา การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม รหัสวิชา สค31003
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
1. ง
2. ข
3. ค
4. ข
5. ข
6. ก
7. ง
8. ก
9. ค
10. ข
61
แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) คร้งั ที่ 5
รายวิชา การพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม รหัสวชิ า สค31003
ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
คำชี้แจง จงเลือกคำตอบทถี่ ูกต้องที่สุดเพยี งขอ้ เดียว
1. จงบอกความหมายของข้อมลู ทีถ่ กู ต้อง
ก. ข้อมูลเปน็ จุดแข็ง จุดอ่อนของชมุ ชน
ข. ข้อมลู เป็นสิง่ ท่ีนำมาวางแผนพฒั นาชุมชน
ค. ขอ้ มลู เป็นขอ้ เทจ็ จริงตา่ งๆท่รี วบรวมไดต้ ามวธิ กี ารทีถ่ ูกต้อง
62
ง. ข้อมลู เป็นตัวกำหนดทิศทางการพัฒนาชุมชนการจัดเก็บข้อมลู จึงมีความจำเป็นและต้องร้ขู อ้ มลู รอบด้าน
2. แผนทเ่ี ป็นข้อมูลด้านใด
ก. การศึกษา
ข. ภูมิศาสตร์
ค. ประวตั ิศาสตร์
ง. ทรพั ยากรสง่ิ แวดล้อม
3. ขอ้ ใดคือประโยชน์ของข้อมูลดา้ นการศึกษา
ก. เป็นการวางแผนพฒั นาสงั คมอย่างถูกต้อง
ข. เป็นการจัดเกบ็ ระบบอยา่ งครบถ้วนครอบคลมุ ทุกประเด็น
ค. การศึกษาเปน็ เคร่ืองมือในการพฒั นาใหค้ นมคี วามรู้ ความคิด
ง. กระบวนการเรยี นรู้ การสร้างสรรค์ส่ิงท่เี ปน็ ความกา้ วหน้า
4. ถ้านกั ศึกษาต้องการศกึ ษาพฤติกรรมการทำงานของเพื่อนในห้องควรจะเกบ็ รวบรวมข้อมูลดว้ ยวธิ ีใดจึงจะเหมาะสม
ก. การพูด
ข. การสงั เกต
ค. การสมั ภาษณ์
ง. จากคะแนนสอบ
5. การวิเคราะห์แบ่งออกไดเ้ ป็นกป่ี ระเภท
ก. 1 ประเภท
ข. 2 ประเภท
ค. 3 ประเภท
ง. 4 ประเภท
6. ขอ้ มูลท่ีเกบ็ รวบรวมมาจากการสำรวจดว้ ยแบบสอบถามหรือจากตัวเลขเรยี กว่า
ก. ข้อมูลดิบ
ข. ขอ้ มลู ท่วั ไป
ค. ข้อมูลที่ยงั ไม่กล่ันกรอง
ง. ขอ้ มลู วิเคราะหแ์ ล้ว
7. ข้อใดต่อไปนีห้ มายถึงแหล่งข้อมูล
63
ก. หนังสอื พมิ พ์
ข. อินเตอร์เน็ต
ค. หนงั สือในหอสมดุ
ง. ถกู ทุกข้อ
8. ขอ้ ใดต่อไปน้ีไม่ใช่ข้อมูลชุมชน
ก. ข้อมลู ของประเทศ
ข. ข้อมลู ด้านประวตั ศิ าสตร์
ค. รวบรวมและแปลข้อมูล
ง. ข้อมลู ด้านกายภาพชมุ ชน
9. การเผยแพร่ขอ้ มลู ในข้อใดทีถ่ ือว่าชัดเจนที่สดุ
ก.วิทยุ
ข. โทรทศั น์
ค. หนังสอื พิมพ์
ง. การติดปา้ ยประกาศ
10. ข้อใดไมใ่ ชห่ ลักการพัฒนาชุมชน
ก. หลักการสมทบ
ข. หลักธรรมาภบิ าล
ค. หลักการพงึ่ ตนเอง
ง. หลักการมีส่วนร่วม
64
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) ครง้ั ท่ี 5
รายวชิ า การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม รหัสวชิ า สค31003
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
1. ง
2. ข
3. ค
4. ข
5. ข
6. ก
7. ง
8. ก
9. ค
10. ข